00:00:06 → 00:00:10 ในปี ค.ศ. 1997 หญิงชาวฝรั่งเศสชื่อว่า เจนนี คัลมอง (Jeanne Calment)
00:00:10 → 00:00:16 เสียชีวิตด้วยวัย 122 ปี กับอีก 164 วัน บนโลกใบนี้
00:00:16 → 00:00:20 ทำให้เธอเป็นคนที่มีอายุมากที่สุด เท่าที่มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
00:00:20 → 00:00:22 อายุของเธอช่างน่าอัศจรรย์
00:00:22 → 00:00:26 จนมีเศรษฐีเสนอเงินถึง 1 ล้านเหรียญ ให้กับคนที่ทำลายสถิตินั้น
00:00:26 → 00:00:30 แต่ในความเป็นจริง การมีอายุถึงขนาดนั้นหรือมากกว่านั้น
00:00:30 → 00:00:34 เป็นลักษณะที่พบได้น้อยมาก และอาจไม่มีมนุษย์คนใด
00:00:34 → 00:00:36 ที่อาจทำอย่างนั้นได้
00:00:36 → 00:00:39 ร่ายกายของมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อรองรับการแก่ชราอย่างมาก
00:00:39 → 00:00:42 มันทำได้ถึงแค่ประมาณ 90 ปี
00:00:42 → 00:00:46 แต่การแก่ชรานั้นคืออะไรกันแน่
00:00:46 → 00:00:50 และมันต่อต้านความพยายามที่จะอยู่รอด ของร่างกายเราได้อย่างไร
00:00:50 → 00:00:53 เรารู้กันว่าการแก่ตัวคืออะไร
00:00:53 → 00:00:55 สำหรับบางคน มันหมายถึงการเติบโตขึ้น
00:00:55 → 00:00:58 ในขณะที่บางคน มันคือการแก่ตัว
00:00:58 → 00:01:04 ฉะนั้น การหานิยามทางวิทยาศาสตร์ที่ตายตัว สำหรับการแก่ชรานี้จึงเป็นความท้าทาย
00:01:04 → 00:01:08 ที่เราสามารถบอกได้ก็คือ การแก่ชรา เกิดขึ้นเมื่อกระบวนการตามธรรมชาติ
00:01:08 → 00:01:11 และปฏิสัมพันธ์ต่อสิ่งแวดล้อม เช่น แสงอาทิตย์
00:01:11 → 00:01:15 และพิษในอากาศ น้ำ และการบริโภคของเรา
00:01:15 → 00:01:17 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
00:01:17 → 00:01:20 และหน้าที่ของโมเลกุลและเซลล์ของร่างกาย
00:01:20 → 00:01:23 การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นผลักดัน ให้เกิดการเสื่อมถอย
00:01:23 → 00:01:27 และต่อมา เป็นความล้มเหลว ของร่างกายทั้งหมดของสิ่งมีชีวิต
00:01:27 → 00:01:31 กลไกจริง ๆ ของการแก่ชรา ยังเป็นที่เข้าใจไม่ชัดเจนนัก
00:01:31 → 00:01:35 แต่เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ ได้บ่งบอกถึงลักษณะทางสรีรวิทยาเก้าประการ
00:01:35 → 00:01:38 ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
00:01:38 → 00:01:41 ไปจนถึงการเปลี่ยนความสามารถ ในการเจริญขึ้นใหม่ของเซลล์
00:01:41 → 00:01:44 ว่าเป็นตัวที่มีบทบาทสำคัญ
00:01:44 → 00:01:48 ประการแรก เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายของเราสะสมความเสียหายทางพันธุกรรม
00:01:48 → 00:01:51 ในรูปแบบของดีเอ็นเอที่เสื่อม
00:01:51 → 00:01:54 มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เมื่อดีเอ็นเอของร่างกายถูกสร้างขึ้น
00:01:54 → 00:01:57 และเกิดในเซลล์ที่ไม่แบ่งตัวอีกด้วย
00:01:57 → 00:02:02 ออแกเนลที่เรียกว่า ไมโตคอนเดรีย มีแนวโน้มที่จะได้รับความเสียหายนี้เป็นพิเศษ
00:02:02 → 00:02:06 ไมโตคอนเดรียผลิตอะดีโนซีน ไตรฟอสเฟต
00:02:06 → 00:02:07 หรือ เอทีพี
00:02:07 → 00:02:11 ซึ่งเป็นแหล่งพลังงาน สำหรับกระบวนการระดับเซลล์
00:02:11 → 00:02:14 รวมถึงไมโตคอนเดรียยังกำกับกิจกรรม ของเซลล์อีกมากมาย
00:02:14 → 00:02:18 และมีบทบาทสำคัญ ในการกำหนดให้เซลล์ตาย
00:02:18 → 00:02:21 ถ้าการทำงานของไมโตคอนเดรียลดลง
00:02:21 → 00:02:25 เซลล์ และจากนั้น ทั้งอวัยวะ ก็จะเสื่อมลงเช่นกัน
00:02:25 → 00:02:29 การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในรูปแบบการแสดงออกของยีน
00:02:29 → 00:02:32 ที่รู้จักกันว่า การเปลี่ยนแปลง อิพิจีเนติก (epigenetic)
00:02:32 → 00:02:35 ที่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อและเซลล์ของร่างกาย
00:02:35 → 00:02:38 ยีนถูกทำให้ไม่แสดงออก หรือแสดงออกในระดับที่ต่ำในเด็กแรกเกิด
00:02:38 → 00:02:41 กลายเป็นสิ่งที่เด่นชัดในผู้ใหญ่
00:02:41 → 00:02:44 ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาของ โรคการเสื่อมสภาพ
00:02:44 → 00:02:48 เช่น อัลไซเมอร์ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
00:02:48 → 00:02:52 แม้ว่าเราจะสามารถหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลง ทางพันธุกรรมที่เป็นอันตรายเหล่านี้ได้
00:02:52 → 00:02:55 เซลล์ของเราเองก็ไม่อาจช่วยเราได้
00:02:55 → 00:02:58 ความจริงก็ยังเป็นดังเดิม ซึ่งก็คือ การเจริญใหม่ระดับเซลล์
00:02:58 → 00:03:00 ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต
00:03:00 → 00:03:02 เสื่อมถอยเมื่อเรามีอายุมากขึ้น
00:03:02 → 00:03:06 ดีเอ็นเอในเซลล์ของเรา ที่ถูกขดเก็บอยู่ในโครโมโซม
00:03:06 → 00:03:11 ซึ่งแต่ละส่วนมีบริเวณปกป้อง ที่ตรงปลายเรียกว่า ทีโลเมีย
00:03:11 → 00:03:14 พวกมันหดสั้นลงทุกครั้ง ที่มีการสร้างเซลล์ใหม่
00:03:14 → 00:03:17 เมื่อทีโลเมียสั้นเกินไป
00:03:17 → 00:03:20 เซลล์หยุดแบ่งตัวและตาย
00:03:20 → 00:03:23 ลดความสามารถของร่างกาย ในการสร้างตัวเองขึ้นใหม่
00:03:23 → 00:03:26 เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ก็แก่ตัวมากขึ้น เช่นเดียวกับ
00:03:26 → 00:03:30 กระบวนการที่หยุดวัฏจักรเซลล์ ได้ทันเวลาเมื่อเกิดความเสี่ยง
00:03:30 → 00:03:33 เช่น เมื่อเซลล์มะเร็งแบ่งตัวเพิ่มขึ้น
00:03:33 → 00:03:36 แต่การตอบสนองยังเกิดมากขึ้น เมื่อเรามีอายุมากขึ้น
00:03:36 → 00:03:40 เป็นการหยุดการเจริญของเซลล์ และลดความสามารถในการเจริญใหม่
00:03:40 → 00:03:44 การแก่ชรายังเกี่ยวข้องกับสเต็มเซลล์ ที่อยู่ในเนื้อเยื่อต่าง ๆ
00:03:44 → 00:03:49 และมีคุณสมบัติในการแบ่งตัว โดยปราศจากข้อจำกัดเพื่อซ่อมแซมเซลล์เดิม
00:03:49 → 00:03:52 เมื่อเราอายุมากขึ้นสเต็มเซลล์ก็ลดลง
00:03:52 → 00:03:55 และมักจะเสียความสามารถ ในการเจริญขึ้นใหม่นี้ไป
00:03:55 → 00:03:59 ส่งผลต่อการเจริญใหม่ของเนื้อเยื่อ และการคงหน้าที่เดิมของอวัยวะ
00:03:59 → 00:04:04 การเปลี่ยนแปลงอื่นเกี่ยวข้องกับความสามารถ ของเซลล์ในการทำงานตามปกติ
00:04:04 → 00:04:08 เมื่ออายุมากขึ้น พวกมันหมดความสามารถ ในการควบคุมคุณภาพโปรตีน
00:04:08 → 00:04:12 ทำให้เกิดการสะสมของสารอาหาร ที่ถูกทำลายและอาจเป็นพิษ
00:04:12 → 00:04:17 ซึ่งนำไปสู่กิจกรรมเมตาบอลิซึมที่มากเกินไป ที่อาจทำให้พวกมันเป็นอันตรายได้
00:04:17 → 00:04:20 การสื่อสารในเซลล์ยังช้าลง
00:04:20 → 00:04:24 สุดท้ายแล้ว ความสามารถในการทำหน้าที่ ของร่างกายก็ลดลง
00:04:24 → 00:04:27 ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เรายังไม่เข้าใจ เกี่ยวกับการแก่ชรา
00:04:27 → 00:04:32 แต่สุดท้ายแล้ว อายุที่ยืนนานอย่างที่เราเข้าในกัน เกี่ยวข้องกับการบริโภค
00:04:32 → 00:04:33 การออกกำลังกาย
00:04:33 → 00:04:34 ยาและการรักษา
00:04:34 → 00:04:35 หรืออะไรอย่างอื่นหรือเปล่า
00:04:35 → 00:04:39 เทคโนโลยีในอนาคต อย่างเช่น นาโนบอทที่ซ่อมเซลล์ได้
00:04:39 → 00:04:40 หรือยีนบำบัด
00:04:40 → 00:04:43 จะยืดอายุเราออกไปได้หรือเปล่า
00:04:43 → 00:04:46 และเราต้องการที่จะมีอายุยืนนาน กว่าที่ตอนนี้เราเป็นอยู่หรือไม่
00:04:46 → 00:04:50 ลองตั้งอายุ 122 ปีไว้เป็นแรงบันดาลใจ
00:04:50 → 00:04:53 เราไม่รู้หรอกว่า ความสงสัยใคร่รู้ของเรา จะพาเราไปพบอะไรอีก