00:00:00 → 00:00:04 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast talk ความรู้
00:00:04 → 00:00:09 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่
00:00:09 → 00:00:12 สวัสดีครับหลายคนคงสนใจเรื่องการทำ IF
00:00:12 → 00:00:15 หรือ intermittent fasting กันเยอะเลยนะ
00:00:15 → 00:00:18 ครับคืออดอาหารเป็นช่วงเนี่ยแต่ก็คงมีคน
00:00:18 → 00:00:22 สงสัยเหมือนกันว่าเอ๊ะทำไมบางทีทำแล้วไม่
00:00:22 → 00:00:25 เห็นผลหรือบางทีรู้สึกแย่ลงด้วยซ้ำค่ะข้อ
00:00:26 → 00:00:29 มูลที่เราดูกันวันนี้เนี่ยชี้ว่าอาจจะมี
00:00:29 → 00:00:32 เอ่อเอ่อตัวแม่คอยคุมเกมอยู่เบื้องหลังอื
00:00:32 → 00:00:35 ซึ่งก็คือฮอร์โมนคอร์ดิซอลนั่นเองครับถ้า
00:00:35 → 00:00:38 ฮอร์โมนตัวนี้แบบว่าอารมณ์ไม่ดีทำงานผิด
00:00:39 → 00:00:42 ปกติขึ้นมาเนี่ยการทำ IF ก็อาจจะส่งผล
00:00:42 → 00:00:45 เสียไปเลยใช่เลยค่ะประเด็นนี้สำคัญมากๆ
00:00:45 → 00:00:49 เลยนะคะข้อมูลที่เรามีก็ระบุชัดเจนว่า IF
00:00:49 → 00:00:51 เนี่ยจะให้ผลดีที่สุดก็ต่อเมื่อร่างกาย
00:00:51 → 00:00:55 เราสงบผ่อนคลายแต่ว่าถ้ามีความเครียดสะสม
00:00:55 → 00:00:58 ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจก็ตามนะคะหรือมี
00:00:58 → 00:01:00 ปัจจัยอื่นไปกระตุ้นให้คอร์ดิซอนหลังมาก
00:01:00 → 00:01:03 เกินไปที่ข้อมูลเขาเรียกว่าตัวแม่พิโรธ
00:01:03 → 00:01:06 อ่ะค่ะครับตัวแม่พิโรธผลลัพธ์มันจะกลับ
00:01:06 → 00:01:09 กันเลยค่ะคือแหล่งข้อมูลเขาเปรียบเทียบ
00:01:09 → 00:01:12 ได้เห็นภาพมากว่าเหมือนกลไกที่ทำงานแบบ
00:01:12 → 00:01:15 ไม่ลืมหูลืมตาสลายทุกอย่างเลยไม่ว่าจะ
00:01:15 → 00:01:18 เป็นไขมันดีหรือแม้แต่โปรตีนกล้ามเนื้อทำ
00:01:18 → 00:01:22 ให้ระบบโดยรวมมันรวนไปหมดโหฟังดูน่ากลัว
00:01:22 → 00:01:25 เหมือนกันนะครับแล้วเอ่อกลไกที่ว่าตัวแม่
00:01:25 → 00:01:29 พิโรจเนี่ยครับมันทำงานยังไงในร่างกายเรา
00:01:29 → 00:01:32 ที่ทำให้การตั้งใจทำ IFD ของเราเนี่ยมัน
00:01:32 → 00:01:36 กลับให้ผลตรงกันข้ามไปได้เลยอ๋อค่ะคือข้อ
00:01:36 → 00:01:39 มูลชี้ว่าการทำ IF แบบที่ไม่เหมาะกับสภาพ
00:01:39 → 00:01:43 ร่างกายเราณเวลานั้นๆน่ะค่ะเช่นอดนานเกิน
00:01:43 → 00:01:45 ไปในช่วงที่ร่างกายอาจจะยังไม่พร้อมหรือ
00:01:45 → 00:01:48 ว่ากินสารอาหารไม่เพียงพอออกกำลังกายหนัก
00:01:48 → 00:01:51 เกินไปพักผ่อนน้อยไปอะไรพวกเนี้ยค่ะครับ
00:01:51 → 00:01:54 ผมสิ่งเหล่านี้แหละค่ะคือตัวกระตุ้นชั้น
00:01:54 → 00:01:58 ดีเลยที่จะทำให้คอร์ดิซอทำงานหนักขึ้นที
00:01:58 → 00:02:00 แทนที่เราจะได้ประโยชน์จากออโทเฟีหรือ
00:02:00 → 00:02:03 กระบวนการที่ร่างกายกำจัดเซลล์เก่าๆของ
00:02:03 → 00:02:06 เสียคล้ายๆการทำความสะอาดบ้านน่ะเนาะครับ
00:02:06 → 00:02:09 การดีท็อกซ์ตัวเองตามธรรมชาติใช่ค่ะมัน
00:02:09 → 00:02:11 อาจจะกลายเป็นสภาวะที่เรียกว่า
00:02:11 → 00:02:15 ไฮเปอร์เฟจีแทน Hyperag ค่ะคือร่างกาย
00:02:15 → 00:02:17 เริ่มสลายเนื้อเย่อดีๆของตัวเองมาใช้เป็น
00:02:17 → 00:02:20 พลังงานเหมือนกับว่าเอ่อรื้อส่วนประกอบ
00:02:20 → 00:02:23 ของบ้านมาใช้เป็นฟืนแทนซะงั้นเลยโอ้โหฟัง
00:02:23 → 00:02:27 ดูแล้วความตั้งใจดีๆนี่อาจจะส่งผลเสียได้
00:02:27 → 00:02:29 เลยนะครับถ้าเรามองข้ามเรื่องความเครียด
00:02:29 → 00:02:33 หรือสัญญาณจากร่างกายไปแล้วผลที่ตามมาของ
00:02:33 → 00:02:36 การสลายพลังงานแบบผิดปกติแบบไฮเปอร์เฟี
00:02:36 → 00:02:39 ที่ว่าเนี่ยมันมีอะไรอีกบ้างครับนอกจาก
00:02:39 → 00:02:42 เสียกล้ามเนื้อไปเฉยๆมีอีกค่ะที่น่าสนใจ
00:02:42 → 00:02:46 มากๆคือข้อมูลระบุว่าการสลายพลังงานแบบ
00:02:46 → 00:02:48 ไม่เลือกหน้าแบบนี้เนี่ยมันทำให้เกิดสิ่ง
00:02:48 → 00:02:51 ที่เรียกว่า dirty คีทone dirty คีโทน
00:02:51 → 00:02:54 คีโตนสกปรกประมาณนั้นเลยค่ะคือเป็นคีโทน
00:02:54 → 00:02:57 ที่ไม่สะอาดเพราะมันมาพร้อมกับการอักเสบ
00:02:57 → 00:03:00 เก็บทั่วร่างกายเลยแทนที่จะเป็นคลีนคีโทน
00:03:00 → 00:03:03 ที่ควรจะเป็นพลังงานสะอาดๆแล้วก็ช่วยซ่อม
00:03:03 → 00:03:07 แซมเซลล์อ๋อครับที่แย่ไปกว่านั้นอีกนะคะ
00:03:07 → 00:03:10 คือไขมันที่ถูกสลายออกมาจากที่นึงเนี่ย
00:03:10 → 00:03:12 อาจจะไม่ได้ถูกเผาผลาญทิ้งไปนะเอ้าแล้ว
00:03:12 → 00:03:15 มันไปไหนล่ะครับมันอาจจะถูกนำไปเก็บสะสม
00:03:15 → 00:03:18 ผิดที่ผิดทางแทนค่ะเช่นไปพอกที่ช่องท้อง
00:03:18 → 00:03:21 มากขึ้นไปอีกโหงามไส้เลยนะครับแบบนี้ใช่
00:03:21 → 00:03:24 ค่ะผลลัพธ์มันเลยออกมาแบบยุ่งเหยิงมากๆ
00:03:24 → 00:03:26 เลยนี่แหละค่ะเป็นคำอธิบายว่าทำไมบางคน
00:03:26 → 00:03:30 ถึงเจอสภาวะที่แบบยิ่งอดยิ่งกินน้อยยิ่ง
00:03:30 → 00:03:32 อ้วนแถมแรงก็ไม่มีเข้าใจเลยครับสุดท้ายก็
00:03:32 → 00:03:37 คงทนไม่ไหวแตกไปถูกต้องค่ะความตั้งใจก็
00:03:37 → 00:03:40 พังทลายไปเลยแล้วแบบนี้แสดงว่าไม่ใช่แค่
00:03:40 → 00:03:42 คนที่มีน้ำหนักเกินหรือคนอ้วนที่ต้อง
00:03:42 → 00:03:45 ระวังเรื่องนี้คนที่ดูผอมๆหรือหุ่นดีอยู่
00:03:45 → 00:03:48 แล้วก็มีความเสี่ยงเหมือนกันเหรอครับใช่
00:03:48 → 00:03:50 เลยค่ะอันนี้เป็นจุดที่ข้อมูลเตือนไว้
00:03:50 → 00:03:53 เหมือนกันว่าคนผอมหรือคนที่รูปร่างสมส่วน
00:03:53 → 00:03:56 อยู่แล้วก็ประมาทไม่ได้เลยนะคะเพราะว่า
00:03:56 → 00:03:59 กลุ่มกลุ่มนี้จะมีพลังงานสะสมน้อยกว่าพอ
00:03:59 → 00:04:02 ระบบเริ่มรวนจากคอร์ติที่สูงเกินไปเนี่ย
00:04:02 → 00:04:05 ผลกระทบมันอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าด้วยซ้ำ
00:04:05 → 00:04:09 อ๋อครับส่วนในคนที่มีไขมันสะสมเยอะก็ไม่
00:04:09 → 00:04:11 ได้หมายความว่าจะปลอดภัยนะคะคือไม่ใช่ว่า
00:04:11 → 00:04:13 ไขมันเยอะแล้วจะดึงมาใช้ได้เรื่อยๆไม่มี
00:04:13 → 00:04:17 ปัญหาถ้าถึงจุดที่ร่างกายเครียดจัดๆจนตัว
00:04:17 → 00:04:20 แม่เขาไม่ยอมให้เผาผลานตามปกติแล้วเนี่ย
00:04:20 → 00:04:22 มันก็จะเกิดการสลายเราย้ายที่เก็บไขมัน
00:04:22 → 00:04:26 แทนที่จะกำจัดออกไปอยู่ดีค่ะฟังดูแล้วการ
00:04:26 → 00:04:28 ทำ IF เนี่ยมันมีรายละเอียดซับซ้อนกว่า
00:04:28 → 00:04:31 แค่เรื่องอดหรือไม่อดเยอะเลยนะครับแล้ว
00:04:31 → 00:04:34 ถ้าอย่างงั้นลำดับความสำคัญที่ถูกต้องใน
00:04:34 → 00:04:38 การดูแลสุขภาพตามแนวทางของข้อมูลนี้ควรจะ
00:04:38 → 00:04:40 เป็นยังไงครับก่อนที่เราจะไปคิดถึงเรื่อง
00:04:40 → 00:04:42 IF ข้อมูลชุดนี้เน้นลำดับความสำคัญไว้
00:04:42 → 00:04:45 ชัดเจนเลยค่ะคือต้องเริ่มจากพื้นฐานก่อน
00:04:46 → 00:04:50 เลยอันดับแรกคือ 1 กินให้ดีมีคุณภาพสาร
00:04:50 → 00:04:53 อาหารต้องครบถ้วนครับผม 2 นอนหลับให้
00:04:53 → 00:04:57 เพียงพอมีคุณภาพการนอนที่ดี 3 ออกกำลัง
00:04:57 → 00:05:00 กายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายไม่หักโหม
00:05:00 → 00:05:03 เกินไปครับแล้วหลังจากทำ 3 ข้อนี้ได้ดี
00:05:03 → 00:05:06 แล้วเนี่ยค่อยมาพิจารณาเรื่องการอดหรือ
00:05:06 → 00:05:09 การเว้นช่วงการกินหรือ IF เนี่ยเป็นลำดับ
00:05:09 → 00:05:12 สุดท้ายเลยค่ะอ๋อแสดงว่าพื้นฐานสำคัญที่
00:05:12 → 00:05:15 สุดสำคัญที่สุดเลยค่ะอาจจะเป็นไปได้นะคะ
00:05:15 → 00:05:18 ว่างานวิจัยบางชิ้นที่เคยพบผลเสียของ IF
00:05:18 → 00:05:21 เนี่ยจริงๆแล้วอาจจะเกิดขึ้นเพราะผู้เข้า
00:05:21 → 00:05:23 ร่วมวิจัยมีปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ที่ไม่
00:05:23 → 00:05:26 สมบูรณ์ตั้งแต่แรกก็ได้ครับทำให้ผลลัพธ์
00:05:26 → 00:05:29 แย่ๆที่เห็นจริงๆแล้วอาจจะเป็นผลงานของ
00:05:29 → 00:05:33 ตัวแม่หรือคอร์ติที่ทำงานผิดปกตินั่นเอง
00:05:33 → 00:05:36 ไม่ใช่เพราะ IF โดยตรงเข้าใจครับซึ่งผล
00:05:36 → 00:05:39 กระทบมันก็คงไม่ได้หยุดแค่เรื่องน้ำหนัก
00:05:39 → 00:05:41 ตัวหรือไขมันอย่างเดียวไม่หยุดแค่นั้นแน่
00:05:41 → 00:05:45 นอนค่ะมันส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั้งระบบ
00:05:45 → 00:05:48 เลยทั้งเรื่องฮอร์โมนอื่นๆที่อาจจะแปร
00:05:48 → 00:05:51 ปรวนไประบบภูมิคุ้มกันที่อาจจะแย่ลงหรือ
00:05:51 → 00:05:55 แม้แต่อารมณ์ที่สวิงขึ้นลงไม่คงที่ด้วย
00:05:55 → 00:05:58 ค่ะสรุปได้ว่าการจะทำ IF ให้ได้ผลดีเนี่ย
00:05:59 → 00:06:01 มันไม่ใช่แค่เรื่องของการอดกี่ชั่วโมง
00:06:01 → 00:06:03 หรือกินกี่แคลอรี่แต่ต้องมองภาพรวมของ
00:06:04 → 00:06:06 สุขภาพทั้งหมดเลยโดยเฉพาะต้องคอยสังเกต
00:06:06 → 00:06:09 สัญญาณความเครียดและการทำงานของตัวแม่
00:06:09 → 00:06:12 หรือฮอร์โมนคอร์ติซอลคนสำคัญคนนี้นี่เอง
00:06:12 → 00:06:15 นะครับใช่เลยค่ะการทำความเข้าใจสภาวะร่าง
00:06:15 → 00:06:18 กายตัวเองสังเกตสัญญาณต่างๆที่ร่างกายส่ง
00:06:18 → 00:06:21 ออกมาเนี่ยเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเลย
00:06:21 → 00:06:23 ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกใช้วิธีการอด
00:06:23 → 00:06:27 อาหารแบบไหนก็ตามอ๋อแล้วก็สำหรับใครที่สน
00:06:27 → 00:06:29 ใจอยากจะเจาะลึกประเด็นนี้ให้มากขึ้นไป
00:06:29 → 00:06:32 อีกนะคะข้อมูลที่เราดูกันวันนี้เนี่ยเขา
00:06:32 → 00:06:35 ก็แนะนำให้ไปลองฟัง EP 41 ของคุณหมอพระท
00:06:35 → 00:06:38 ดูค่ะครับผมซึ่งเป็นการวิเคราะห์ที่เขา
00:06:38 → 00:06:41 บอกว่าค่อนข้างเข้มข้นละเอียดมากแล้วก็
00:06:41 → 00:06:44 อาจจะเอ่อแสดงหูสักหน่อยสำหรับคนที่เชื่อ
00:06:44 → 00:06:48 มั่นในแนวทาง IF แบบเดิมๆอยู่บ้างนะคะน่า
00:06:48 → 00:06:51 สนใจครับก็น่าจะเป็นอีกมุมมองนึงคำถาม
00:06:51 → 00:06:54 สำคัญที่น่าจะเก็บไปคิดต่อหลังจากฟัง
00:06:54 → 00:06:57 เรื่องนี้จบก็คือแล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ
00:06:57 → 00:07:00 ว่าระดับคอรีซอลหรือแม่ของเราเนี่ยกำลัง
00:07:00 → 00:07:03 ส่งสัญญาณว่าไม่ปกติอยู่หรือเปล่าก่อนที่
00:07:03 → 00:07:06 เราจะเริ่มหรือคิดจะเพิ่มระดับความเข้ม
00:07:06 → 00:07:10 ข้นของการทำ IF ของเรานั่นสิคะบางทีการ
00:07:10 → 00:07:13 หันกลับมาใส่ใจสังเกตแล้วก็ฟังเสียงร่าง
00:07:13 → 00:07:16 กายตัวเองอย่างละเอียดอาจจะเป็นคำตอบแรก
00:07:16 → 00:07:22 ที่สำคัญที่สุดก็ได้นะครับ
00:07:22 → 00:07:33 [เพลง]