00:00:00 → 00:00:02 คือเรื่องของจำนวนชั่วโมงการนอนนะคะ
00:00:02 → 00:00:04 ปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นความเชื่อที่เรา
00:00:04 → 00:00:07 ได้ยินกันมาตั้งแต่สมัยเรียนสุขศึกษาสมัย
00:00:07 → 00:00:09 เด็กๆแล้วนะคะก็มี Magic Number 1 ที่
00:00:09 → 00:00:12 เราจะได้ยินกันอยู่บ่อยๆคือเราควรนอนวัน
00:00:12 → 00:00:15 ละ 8 ชั่วโมงใช่ไหมคะจริงหรือเปล่านะคะ
00:00:15 → 00:00:18 สวัสดีคะแท้จริงเป็นทะเหล็กสีสวาทนะคะ
00:00:18 → 00:00:21 ปัจจุบันจิตแพทย์นะคะพอดีมีโอกาสได้เรียน
00:00:21 → 00:00:23 ต่อเรื่องของการนอนนะคะปัจจุบันก็เลยดูแล
00:00:23 → 00:00:28 ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องของการนอนด้วยค่ะ
00:00:28 → 00:00:31 ในความเป็นจริงแล้วนะคะการนอนของเราเนี่ย
00:00:31 → 00:00:34 ค่ะในวัยผู้ใหญ่นะคะจำนวนชั่วโมงการนอน
00:00:34 → 00:00:38 ที่เหมาะสมนะคะอยู่ที่ประมาณ 6 ถึง 10
00:00:38 → 00:00:41 ชั่วโมงนะคะอันนี้แล้วแต่คนนะคะการที่จะ
00:00:41 → 00:00:44 ดูว่าเรานอนพอนอนไม่พอนะคะไม่ได้ดูที่
00:00:44 → 00:00:47 จำนวนชั่วโมงเป็นหลักนะคะแต่ว่าให้ดูว่า
00:00:47 → 00:00:49 หนึ่งคืนนั้นหลังจากเที่ยวนอนแล้วนะคะวัน
00:00:49 → 00:00:52 รุ่งขึ้นนะคะเรามีอาการง่วงตอนกลางวัน
00:00:52 → 00:00:54 เหลืออยู่หรือเปล่านะคะถ้ามีอาการง่วงตอน
00:00:54 → 00:00:56 กลางวันด้วยอู่เนี่ยอาจจะเกิดจากการนอน
00:00:56 → 00:00:59 ไม่พอในคืนที่ผ่านมาค่ะและถ้าไม่มีอาการ
00:00:59 → 00:01:01 ง่วงตอนกลางวันอ่ะค่ะอันนี้ก็ถือว่าเมื่อ
00:01:01 → 00:01:05 คืนนี้เรานอนด้วยเกมคอแล้วค่ะ
00:01:05 → 00:01:08 แต่ละคนนะคะก็คือมีกัมมะพันธุในเรื่องของ
00:01:08 → 00:01:11 ช่วงเวลาการนอนไม่เหมือนกันนะคะเคยมีงาน
00:01:11 → 00:01:15 วิจัยชิ้นหนึ่งนะคะที่เขาเอาคนทั่วไปนะคะ
00:01:15 → 00:01:18 ที่แบบสุขภาพดีทั่วไปนะคะมาใช้ชีวิตแบบ
00:01:18 → 00:01:21 ยุค Clean rust เรียวหรือว่าเป็นยุคก่อน
00:01:21 → 00:01:24 ปฏิวัติอุตสาหกรรมนะคะให้กินเมื้อหิวนะคะ
00:01:24 → 00:01:27 แล้วก็นอนม่วงๆนะคะเขาพบว่าคนทั้งหมด
00:01:27 → 00:01:30 เนี่ยนะคะก็มีช่วงเวลานอนเนี่ยที่ทับกัน
00:01:30 → 00:01:32 คือคนทั้งหมดเนี่ยนอนในช่วงเวลาเดียวกัน
00:01:32 → 00:01:36 มีอยู่แค่ 15 นาทีเท่านั้นเองนะคะแล้วอ้า
00:01:36 → 00:01:38 ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงเนี่ยมีคนที่ตื่นอยู่
00:01:38 → 00:01:41 นะคะอันนี้เนี่ยเป็นความจำเป็นนะคะที่
00:01:41 → 00:01:44 อยู่ในกรรมพันธุ์ของแต่ละคนนะคะเพราะว่า
00:01:44 → 00:01:47 สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเนี่ยมีชีวิตรอดมาจน
00:01:47 → 00:01:50 ถึงปัจจุบันนะคะเพราะฉะนั้นช่วงเวลาการ
00:01:50 → 00:01:52 นอนของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกันนะคะเราอาจ
00:01:52 → 00:01:56 จะเป็นคนกลุ่มที่นอนเร็วตื่นเช้านะคะอาจ
00:01:56 → 00:01:58 จะง่วงตั้งแต่ 2 ทุ่มนะคะแล้วก็ตื่น
00:01:58 → 00:02:01 ประมาณตี 3 ตี 4 ก็ได้นะคะหรือว่านี้ก็
00:02:01 → 00:02:04 คือเขาเรียกว่าเป็น Early Bird นะคะหรือ
00:02:04 → 00:02:07 ว่ากลุ่มที่ 2 นะคะเป็นนกฮัมมิ่งเบิร์ดนะ
00:02:07 → 00:02:09 คะมิ่งเบิร์ดจะกลางๆนะคะจะเข้านอนประมาณ
00:02:10 → 00:02:13 3-4 ทุ่มนะคะแล้วก็ตื่นประมาณ 6 7 โมง
00:02:13 → 00:02:17 เช้านะคะอีกกลุ่มนึงค่ะเป็นนกฮูกนะคะนก
00:02:17 → 00:02:20 ฮูกเนี่ยก็คือจะนอนได้ก็คือหลังเที่ยงคืน
00:02:20 → 00:02:24 ไปนะคะแล้วก็จะตื่นซ้ายนะคะกลุ่มคนที่
00:02:24 → 00:02:26 เป็นนกพวกนี้บางทีก็ตื่น 9 โมง 10 โมงนะ
00:02:26 → 00:02:29 คะให้คนที่เป็นนกฮูกเนี่ยเขาเข้ามานอน
00:02:29 → 00:02:31 เร็ว 2 ทุ่ม 3 ทุ่มนี้จะหลับไม่ได้นะคะ
00:02:31 → 00:02:34 เพราะว่าช่วงเวลาที่มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่
00:02:34 → 00:02:37 เหมาะสมในการนอนของเขาเนื่องจากว่าคน
00:02:37 → 00:02:40 กลุ่มเหล่านี้นะคะมีช่วงเวลาในการหลัง
00:02:40 → 00:02:43 เมลาโทนินเนี่ยที่ไม่เท่ากันนะคะคนกลุ่ม
00:02:43 → 00:02:45 ที่เป็น Early Bird นะคะหรือว่ากลุ่มที่
00:02:45 → 00:02:48 นอนเร็วตื่นเช้าเนี่ยฮอร์โมนเมลาโทนิน
00:02:48 → 00:02:51 เนี่ยจะหลังตั้งแต่ประมาณ 6 โมงทุ่มนึงนะ
00:02:51 → 00:02:54 คะในขณะที่กลุ่มที่เป็นนกฮูกนะคะแม่ละ
00:02:54 → 00:02:56 เท่านี้เขาก็จะไปหลังเอาใกล้ๆเที่ยงคืนนะ
00:02:56 → 00:03:00 คะทีนี้มีคำถามตามมาว่า x แล้วก็หัวข้อ
00:03:00 → 00:03:03 มูลล่ะเคยได้ยินนะคะว่า Growth Hormone
00:03:03 → 00:03:06 เนี่ยควรจะเราควรจะรีบนอนนะคะแล้วก็ควรจะ
00:03:06 → 00:03:09 ได้นอนในเวลาตั้งแต่ช่วงประมาณ 10:00 น
00:03:09 → 00:03:11 02:00 ก็เป็นช่วงเวลาที่ Growth Hormone
00:03:11 → 00:03:15 หลังได้ดีที่สุดนะคะในเรื่องของการนอน
00:03:15 → 00:03:17 เนี่ยเราพบว่า Growth Hormone เนี่ย
00:03:17 → 00:03:20 สัมพันธ์กับช่วงเวลาของการหลับลึกนะคะ
00:03:20 → 00:03:23 ซึ่งช่วงเวลาของการหลับลึกเนี่ยก็แปลผัน
00:03:23 → 00:03:27 ไปตามช่วงเวลาเข้านอนของแต่ละบุคคลนะคะ
00:03:27 → 00:03:30 การหลับลึกเนี่ยจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งคืน
00:03:30 → 00:03:33 แรกของการนอนนะคะในกลุ่มที่เป็นนก
00:03:33 → 00:03:36 ฮัมมิ่งเบิร์ดนะคะเข้านอน 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม
00:03:36 → 00:03:39 นะคะ Growth Hormone เขาก็จะหลังจากนั้น
00:03:39 → 00:03:42 นะคะประมาณ 1-2 ชั่วโมงนะคะกลุ่มที่เป็น
00:03:42 → 00:03:45 นกฮูกนะคะเข้านอนหลังเที่ยงคืนนะคะรส
00:03:45 → 00:03:48 ฮอร์โมนก็จะหลังในช่วงตี 1 ตี 2 แถวๆนี้
00:03:48 → 00:03:51 นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเรามีการหลับลึก
00:03:51 → 00:03:53 เกิดขึ้นนะคะเราก็จะได้ Growth Hormone
00:03:54 → 00:03:56 ค่ะ
00:03:56 → 00:04:00 อีกคำถามนึงนะคะที่จะเจออยู่บ่อยๆเนื้อหา
00:04:00 → 00:04:02 หรือว่าเป็นความเชื่อหนึ่งที่เราเจออยู่
00:04:02 → 00:04:05 บ่อยๆก็คือเราคิดว่าเลยถ้าเกิดว่าเรานอน
00:04:05 → 00:04:08 หลับได้คุณภาพดีแล้วนะคะตื่นมาในตอนเช้า
00:04:08 → 00:04:11 นะคะเราควรจะรู้สึกสดชื่นนะคะอันนี้จริง
00:04:11 → 00:04:15 หรือเปล่านะคะมีการทดลองที่เราคนไทยนะคะ
00:04:15 → 00:04:18 เออไม่ใช่คนใครดีกว่ามีการทดลองนะคะที่
00:04:18 → 00:04:21 เราคนทั่วๆไปที่นอนหลับได้ปกตินะคะไป
00:04:21 → 00:04:25 นอนนี่แหละนะคะคนคัดคนที่ร่วมกันทดลองทุก
00:04:25 → 00:04:28 คนนะคะนอนหลับได้ปกติหมดเลยนะคะ 100 คนนะ
00:04:28 → 00:04:31 คะเขาให้เอามามาเรทความรู้สึกหรือว่าให้
00:04:31 → 00:04:34 คะแนนความรู้สึกหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า
00:04:34 → 00:04:38 นะคะว่าเขารู้สึกสดชื่นมากน้อยแค่ไหนโดย
00:04:38 → 00:04:40 100 คนนั้นเนี่ยมีการวัดคลื่นไฟฟ้าสมอง
00:04:40 → 00:04:44 และพบว่าทุกคนนอนหลับได้ปกติดีทั้งหมดนะ
00:04:44 → 00:04:44 คะ
00:04:44 → 00:04:47 ถ้าเราพบว่ามีเพียง 15-20 เปอร์เซ็นต์
00:04:47 → 00:04:50 เท่านั้นเองนะคะที่ให้คะแนนว่ามีความสด
00:04:50 → 00:04:54 ชื่นในตอนเช้านะคะมีอยู่ประมาณ 80 ถึง 85
00:04:54 → 00:04:57 เปอร์เซ็นต์เลยนะคะที่ให้คะแนนว่าเขาไม่
00:04:57 → 00:04:59 ได้รู้สึกสดชื่นเท่าไหร่หลังกัดหลังจาก
00:04:59 → 00:05:02 การตื่นหน่อยนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อ
00:05:02 → 00:05:05 คุณภาพของการนอนเนี่ยจึงไม่ได้สะท้อนออก
00:05:05 → 00:05:08 มาจากความรู้สึกหลังจากการตื่นนอนนะคะ
00:05:08 → 00:05:11 ความรู้สึกสดชื่นหลังการตื่นนอนเนี่ยเกิด
00:05:11 → 00:05:15 จากอะไรนะคะเกิดจากกิจวัตรประจำวันที่เรา
00:05:15 → 00:05:19 ทำหลังจากที่เราตื่นนอนนะคะถ้าเกิดว่าเรา
00:05:19 → 00:05:22 ตื่นนอนมาแล้วนะคะแล้วกดปุ่มสนูทไปเรื่อย
00:05:22 → 00:05:25 ๆนะคะกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอนนะคะหรือว่า
00:05:25 → 00:05:28 เล่นมือถือนะคะสิ่งเหล่านี้นะคะจะทำให้
00:05:28 → 00:05:30 ความรู้สึกไม่สดชื่นนะคะหรือมีอาการ
00:05:30 → 00:05:34 เหมือนเมาขี้ตานะคะอยากนอนต่อนะคะยืด
00:05:34 → 00:05:37 เยื้อเรื้อรังไปเรื่อยๆนะคะแต่ถ้าเกิดว่า
00:05:37 → 00:05:40 ตื่นนอนแล้วนะคะลุกจากที่นอนทันทีนะคะมี
00:05:40 → 00:05:44 มอนิ่งรูทีนดีๆมีกิจวัตรประจำวันนะคะเปิด
00:05:44 → 00:05:47 ม่านนะคะขอรับแสงแดดนะคะอาบน้ำล้างหน้า
00:05:47 → 00:05:51 แปรงฟันนะคะมีการขยับร่างกายมี Social
00:05:51 → 00:05:53 interaction หรือว่ามีการพูดคุยกับคนใน
00:05:53 → 00:05:56 ครอบครัวนะคะสิ่งเหล่านี้นะคะจะทำให้ความ
00:05:56 → 00:05:59 รู้สึกสดชื่นหลังตื่นนอนนะคะเกิดขึ้นได้
00:05:59 → 00:06:02 มากขึ้นนะคะ
00:06:02 → 00:06:07 เล็กๆคนนะคะมีความเชื่อว่านะคะการตื่นนอน
00:06:07 → 00:06:10 กลางดึกนะคะเป็นเรื่องที่ไม่ดีนะคะคนเรา
00:06:10 → 00:06:13 นะคะควรจะหลับลึกหลับสนิทตลอดคืนนะคะแต่
00:06:13 → 00:06:16 ในความเป็นจริงแล้วนะคะในเรื่องของการนอน
00:06:16 → 00:06:20 นะคะในคนที่นอนหลับได้เป็นปกตินะคะการ
00:06:20 → 00:06:24 ตื่นนอนกลางดึกอย่างเกิดขึ้นได้ประมาณ 10
00:06:24 → 00:06:27 ถึง 12 ครั้งนะคะเป็นเรื่องปกติเลยนะคะ
00:06:27 → 00:06:30 เป็นตัวเลขที่ทุกคนวาล์วน่ะรู้สึกว่าเอง
00:06:30 → 00:06:32 ขนาดนั้นเลยเหรอนะคะเพราะว่าจริงๆแล้ว
00:06:32 → 00:06:35 เนี่ยะเรารู้สึกว่าการตื่นแค่ครั้งหรือ
00:06:35 → 00:06:38 สองครั้งเนี่ยเราก็เกือบตอนเช้านี้เราจะ
00:06:38 → 00:06:40 รู้สึกว่าเต็มที่เนี่ยตื่นมา 2-3 ครั้งก็
00:06:40 → 00:06:43 เยอะมากแล้วนะคะแต่มีความเป็นจริงแล้วนะ
00:06:43 → 00:06:47 คะเวลาคนจะมานอนในแล็บนะคะหรือว่าคนที่
00:06:47 → 00:06:50 นอนหลับได้เป็นปกติแล้วเข้ามาทดสอบการนอน
00:06:50 → 00:06:53 นะคะก็จะพบว่าการตื่นกลางดึกเนี่ยเกิด
00:06:53 → 00:06:56 ขึ้นได้โดยเฉลี่ยเป็นปกติเนี่ยสิบถึงสิบ
00:06:56 → 00:06:59 สองครั้งนะคะแต่เมื่อไหร่ก็ตามนะคะที่
00:06:59 → 00:07:02 สมองเราตื่นขึ้นมาแล้วนะคะตลับไปหลับต่อ
00:07:02 → 00:07:05 ได้ภายในระยะเวลา 2-3 นาทีนะคะสิ่งเหล่า
00:07:05 → 00:07:08 นี้นะคะเป็นข้อมูลที่สมองเขามีจำนะคะ
00:07:08 → 00:07:10 เพราะฉะนั้นเราตื่นมาในตอนเช้านี้เราจึง
00:07:10 → 00:07:13 จำไม่ได้นะคะดังนั้นการตื่นกลางดึกเนี่ย
00:07:13 → 00:07:17 จึงไม่ใช่ปัญหานะคะแต่ทำไมถึงกว่าเป็น
00:07:17 → 00:07:19 หลักต่อไม่ได้สิ่งนั้นคือสิ่งที่เราควรจะ
00:07:19 → 00:07:22 โฟกัสว่าเป็นอาจจะเป็นปัญหาที่ทำให้มี
00:07:22 → 00:07:26 ปัญหาการนอนค่ะ
00:07:26 → 00:07:29 มีความช่วยอันหนึ่งเรื่องของการนอนชดเชย
00:07:29 → 00:07:33 นะคะเอ่อในบางคนนะคะที่แบบช่วงวันจันทร์
00:07:33 → 00:07:36 ถึงวันศุกร์นะคะแล้วเขานอนเรามีโอกาสนอน
00:07:36 → 00:07:39 น้อยนะคะเพราะว่าเป็นช่วงที่ต้องตื่นเช้า
00:07:39 → 00:07:42 มาทำงานนะคะว่าจะกลับบ้านแล้วก็ได้นอนอีก
00:07:42 → 00:07:45 ทีเนี่ยก็ค่อนข้างดึกนะคะก็ถ้าไม่มีจำนวน
00:07:45 → 00:07:49 ชั่วโมงการนอนที่สั้นลงนะคะเอ่อในเสาร์
00:07:49 → 00:07:51 อาทิตย์นี้มีการนอนชดเชยเกิดขึ้นนะคะก็
00:07:51 → 00:07:55 อาจจะมีการนอนยาวขึ้นนะคะเข้านอนดึกขึ้น
00:07:55 → 00:07:59 ตื่นสายขึ้นนะคะบางคนเนี่ยเข้านอนดึกขึ้น
00:07:59 → 00:08:01 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาจันทร์ถึงศุกร์
00:08:01 → 00:08:04 เนี่ยถึง 3-4 ชั่วโมงเลยนะคะแล้วก็อาจจะ
00:08:04 → 00:08:07 ไปตื่นเอาเที่ยงหรือบ่ายของวันเสาร์หรือ
00:08:07 → 00:08:11 วันอาทิตย์นะคะสิ่งเหล่านี้เนี่ยในทาง
00:08:11 → 00:08:13 วิทยาศาสตร์การนอนนะคะเราเรียกว่าเป็น
00:08:13 → 00:08:16 โซเชียล 7 แรกนะคะเหมือนเราบินข้ามประเทศ
00:08:16 → 00:08:19 นะคะใช้ time zone ที่แตกต่างกันระหว่าง
00:08:19 → 00:08:22 เสาร์อาทิตย์กับจันทร์ถึงศุกร์นะคะซึ่ง
00:08:22 → 00:08:24 สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้นาฬิกาชีวิตของเรา
00:08:24 → 00:08:28 รวนๆนะคะแล้วก็จะทำให้ในวันอาทิตย์นะคะ
00:08:28 → 00:08:31 เพื่อที่จะเข้านอนเพื่อที่จะตื่นเช้าใน
00:08:31 → 00:08:34 วันจันทร์นะคะก็ได้วันที่หลับยากนะคะแล้ว
00:08:34 → 00:08:37 ก็อาจจะทำให้มีการง่วงนอนในช่วงวันจันทร์
00:08:37 → 00:08:40 ได้ค่ะดังนั้นเนี่ยไม่ว่าเสาร์อาทิตย์
00:08:40 → 00:08:43 หรือจันทร์ถึงศุกร์นะคะก็จะแนะนำให้เข้า
00:08:43 → 00:08:49 นอนตรงเวลาตื่นอยู่ตรงเวลาโดยสม่ำเสมอค่ะ
00:08:49 → 00:08:51 เอ่อความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของความฝัน
00:08:51 → 00:08:55 ในการนอนนะคะมนุษย์เราในฝันทุกคืนนะคะ
00:08:55 → 00:08:58 เล็กคนก็จะงงว่าไอ้จริงเหรอทำไมรู้สึก
00:08:58 → 00:09:00 เหมือนเมื่อคืนไม่ฟันเลยนะคะหรืออาทิตย์
00:09:00 → 00:09:03 นึงเนี่ยฝันน้อยจังเลยนะคะหรือบางคนไม่
00:09:03 → 00:09:06 เคยฝันเลยแต่ในความเป็นจริงแล้วเนี่ยเรา
00:09:06 → 00:09:09 ฝันทุกคืนนะคะกินแล้วอาจจะจำได้หรือจำไม่
00:09:09 → 00:09:13 ได้นะคะหน้าที่ของความฝันนะคะความฝัน
00:09:13 → 00:09:16 เนี่ยเขาจะมีหน้าที่ในการเก็บความจำระยะ
00:09:16 → 00:09:19 สั้นเป็นความจำระยะยาวนะคะแล้วเขาก็จะ
00:09:19 → 00:09:21 ช่วยในเรื่องของ Emotion แนว processing
00:09:21 → 00:09:24 หรือว่าการจัดการอารมณ์นะคะเรื่องอะไรที่
00:09:24 → 00:09:27 เป็นเรื่องเครียดๆในชีวิตประจำวันและเรา
00:09:27 → 00:09:30 จัดการไม่ได้นะคะเวลาเราฝันเนี่ยค่ะสมอง
00:09:30 → 00:09:33 เขาก็จะช่วยจัดการลดความเข้มข้นทางอารมณ์
00:09:33 → 00:09:36 ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันนะคะช่วยให้เรา
00:09:36 → 00:09:39 เนี่ยจัดการความเครียดได้ดีขึ้นนะคะเพราะ
00:09:39 → 00:09:42 ฉะนั้นเนี่ยเราอยากให้รู้สึกกลัวความฝัน
00:09:42 → 00:09:45 นะคะเล็กคนจะกลัวความฝันมีคนเนี่ยก็จะ
00:09:45 → 00:09:48 เชื่อว่าช่วงเวลาที่หลับฝันเนี่ยคือช่วง
00:09:48 → 00:09:52 เวลาที่หลับไม่สนิทหลับไม่ลึกนะคะจริงๆ
00:09:52 → 00:09:54 แล้วเนี่ยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความฝัน
00:09:54 → 00:09:57 เนี่ยคือก่อนที่เราจะเข้าสู่ความฝันได้นะ
00:09:57 → 00:09:59 คะเราจะต้องเข้าสู่ระยะหลับลึกเกาะนะคะ
00:09:59 → 00:10:03 การที่เราหลับลึกแล้วถึงจะหลับฝันนะคะการ
00:10:03 → 00:10:05 ที่เข้าสู่ความฝันได้เนี่ยแปลว่าเราผ่าน
00:10:05 → 00:10:09 ระยะการหลับลึกมาแล้วนะคะส่วนระยะการหลับ
00:10:09 → 00:10:12 ฝันเนี่ยถ้าดูจากคลื่นไฟฟ้าสมองเนี่ยก็จะ
00:10:12 → 00:10:15 พบว่าระยะที่หลับฝันเนี่ยอ้ะคลื่นไฟฟ้า
00:10:15 → 00:10:18 สมองจะค่อนข้างเร็วนะคะเมื่อเทียบกับระยะ
00:10:18 → 00:10:21 หลับลึกนะคะแต่ไม่ได้หมายความว่าตื่นนะคะ
00:10:21 → 00:10:23 เพราะฉะนั้นเนี่ยการหลับฝันเนี่ยก็เป็น
00:10:23 → 00:10:28 ธรรมชาติกันนอนตามปกติเลยค่ะ
00:10:28 → 00:10:31 เวลาเราบ่นเรื่องของการนอนไม่หลับนะคะบาง
00:10:31 → 00:10:33 ทีไปบ่นกับผู้หลักผู้ใหญ่นะคะก็เราจะได้
00:10:33 → 00:10:36 คำแนะนำว่าเออมันขึ้นนี้ก็เข้านอนเร็วๆสิ
00:10:36 → 00:10:40 นะคะปรากฎว่านะคะคำแนะนำเหล่านี้เนี่ยทำ
00:10:40 → 00:10:43 ให้ปัญหาการนอนไม่หลับเนี่ยเป็นมากขึ้นนะ
00:10:43 → 00:10:46 คะเอาเมื่อไหร่จะมีใช้เวลาบนที่นอนมาก
00:10:46 → 00:10:50 ขึ้นนะคะไม่ได้เพิ่มโอกาสในการนอนหลับมาก
00:10:50 → 00:10:53 ขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นเราควรขึ้นที่นอน
00:10:53 → 00:10:55 เมื่อมีอาการง่วงเท่านั้นนะคะถ้าเกิดว่า
00:10:55 → 00:10:58 ไม่ง่วงเนี่ยก็ไม่ต้องขึ้นที่นอนนะคะ
00:10:58 → 00:11:01 เมื่อถ้าเราใช้เวลาบนที่นอนมากขึ้นการนอน
00:11:01 → 00:11:05 เนี่ยก็อาจจะทำให้เกิดการนอนแบบเป็นแฟ็ก
00:11:05 → 00:11:08 เม้นนะคะหรือว่าไม่สามารถนอนหลับยาวตลอด
00:11:08 → 00:11:10 คืนได้นะคะการนอนมันจะเกิดขึ้นแบบเป็น
00:11:10 → 00:11:14 ช่วงๆนะคะถ้าให้อธิบายง่ายๆนะคะสมมุติว่า
00:11:14 → 00:11:16 เรามีตัวเลขการนอนของเราจำนวนชั่วโมงที่
00:11:16 → 00:11:19 เพียงพออยู่ที่ 6 ชั่วโมงนะคะสมมติเป็น
00:11:19 → 00:11:21 ตัวเลขกลมๆคือ 6 ชั่วโมงนะคะจริงอาจจะมาก
00:11:21 → 00:11:24 หรือน้อยกว่านั้นก็ได้แล้วแต่คนนะคะ 6
00:11:24 → 00:11:27 ชั่วโมงเปรียบเสมือนส้ม 6 ลูกนะคะถ้าเกิด
00:11:27 → 00:11:30 ว่าเราอยากให้ส้มเนี่ยเขาแพ็คกันดีนะคะ
00:11:30 → 00:11:34 แล้วก็ควรจะใส่ถาดสำหรับ 6 ลูกนะคะก็จะทำ
00:11:34 → 00:11:36 ให้การนอนของเราเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดคืน
00:11:36 → 00:11:39 นะคะแต่ถ้าเกิดว่าเราไปใส่ถาดสำหรับ 8
00:11:39 → 00:11:42 ลูกนะคะเหมือนกับการใช้เวลาบนเตียง 8
00:11:42 → 00:11:45 ชั่วโมงนะคะทรงก็จะกลิ้งไปกลิ้งมาในนี้นะ
00:11:45 → 00:11:48 คะมีที่ว่างนะคะก็จะทำให้เกิดการตื่นกลาง
00:11:48 → 00:11:51 ดึกแล้วกลับไปหลับต่อไม่ได้ค่ะหากดูคลิป
00:11:51 → 00:11:53 เมื่อกี้นะครับแล้วชอบนะครับอย่าลืมกด
00:11:53 → 00:11:55 Like ให้กำลังใจทีมงานนะครับแล้วก็กด
00:11:55 → 00:11:58 Subscribe นะครับก็ติดตามช่อง Health at
00:11:58 → 00:12:01 home นะครับและเกิดท่านใดนะครับมีเรื่อง
00:12:01 → 00:12:03 สุขภาพนะครับที่อยากให้เราทำคลิปอธิบายนะ
00:12:03 → 00:12:06 ครับก็เมนชั่นเข้ามาได้เลยนะครับคอมเม้น
00:12:06 → 00:12:08 ใน Comment ในคลิปนี้ก็ได้นะครับผมและทีม
00:12:08 → 00:12:17 งานจะได้ทำคลิปให้ทุกท่านได้ดูกันครับว่า
00:12:17 → 00:12:20 ม.ค