00:00:00 → 00:00:02 คราวนี้คุยกันถึงหัวข้อที่เมื่อสักครู่
00:00:02 → 00:00:04 คุณเจี๊ยบเกิดมานะครับเกี่ยวกับเรื่องแผล
00:00:04 → 00:00:07 เป็นนะครับจริงๆปัญหาแผลเป็นเนี่ยชื่อมัน
00:00:07 → 00:00:10 คือแผลเป็นแต่คนที่เป็นน่ะสไตล์เอานะฮะ
00:00:10 → 00:00:13 โดยเฉพาะยิ่งถ้าเหมือนกับเกิดในหัวข้อของ
00:00:13 → 00:00:16 พวกเราก็คือถ้าคนที่เป็นแผลเป็นนั่นก็คือ
00:00:16 → 00:00:18 ผู้หญิงนะครับเพราะว่าแน่นอนคุณผู้หญิงก็
00:00:18 → 00:00:22 ย่อมต้องมีความรักสวยรักงามมากนะครับถ้า
00:00:22 → 00:00:24 เป็นถ้าเป็นคุณผู้ชายบางทีเป็นแผลแผลเป็น
00:00:24 → 00:00:28 เนี่ยบางทีเอาไปอวดอ้างกันได้ด้วยเฮ้ยเรา
00:00:28 → 00:00:32 มันนักเลงสมัยก่อนแบบเฮ้ยย่านน้ำอะไร
00:00:32 → 00:00:35 อย่างเงี้ยนะฮะก็อาจจะคุยกันในเชิงนั้นไป
00:00:35 → 00:00:38 แต่ว่าจริงๆแล้วลึกๆผมว่าไม่ว่าจะเป็นผู้
00:00:38 → 00:00:40 ชายผู้หญิงนะครับมันก็ไม่มีใครอยากมีแผล
00:00:40 → 00:00:43 เป็นที่เป็นร่องรอยทิ้งไว้นะครับคราวนี้
00:00:43 → 00:00:47 พูดถึงแผลเป็นเนี่ยเอ่อถ้าพูดถึงนิยามมัน
00:00:47 → 00:00:49 แบบเป็นแผลเป็นมันก็คือร่องรอยที่มัน
00:00:49 → 00:00:51 เหลือหลังจากที่ผิวหนังของเราเนี่ยมีบาด
00:00:51 → 00:00:54 แผลนะครับซึ่งบาดแผลเนี่ยนะครับอาจจะเป็น
00:00:54 → 00:00:58 บาดแผลที่อ่าเกิดจากการรักษาก็ได้อ่ะเรา
00:00:58 → 00:01:00 ที่เราคุยกันหัวข้อวันนี้ก็คือหลังจากการ
00:01:00 → 00:01:03 พาไปข้อมูลนะฮะหรือว่าจะต้องผ่าตัดใดๆก็
00:01:03 → 00:01:05 ตามในช่องท้องอ่ะคุณผู้หญิงก็อาจจะมี
00:01:05 → 00:01:08 เรื่องราวของการขาดเนื้องอกมดลูกผ่าตัด
00:01:08 → 00:01:11 ที่รังไข่หรืออะไรก็ตามนะครับ
00:01:11 → 00:01:13 อันนี้ก็เป็นแผลแบบที่ 1 นะครับซึ่งเป็น
00:01:13 → 00:01:15 เรียกว่าแผลเป็นที่มันมาตามหลังการผ่าตัด
00:01:15 → 00:01:18 อันที่ 2 เนี่ยก็จะเป็นลักษณะแผลเป็นที่
00:01:18 → 00:01:22 บางทีเกิดเกิดในคือความบังเอิญหญิงยกตัว
00:01:22 → 00:01:25 อย่างเช่นเราไปเป็นแผลเช่นอาจจะเกิด
00:01:25 → 00:01:28 อุบัติเหตุเกิดอุบัติเหตุนะครับโอ้โหโดน
00:01:28 → 00:01:32 รถชนของกว่าของวัตถุของแข็งทิ่มแทงเข้าไป
00:01:32 → 00:01:34 ก็จะเกิดเป็นแผลอะไรอย่างเงี้ยนะครับคราว
00:01:34 → 00:01:37 นี้เวลาเราพูดถึงแผลเนี่ยแน่นอนตอนเริ่ม
00:01:37 → 00:01:39 เกิดแผลเราก็เรียกว่าแผลสดแผลใหม่ๆนะครับ
00:01:39 → 00:01:42 แต่ว่าอ่าถ้าเกิดพูดถึงแผลเป็นจริงๆเนี่ย
00:01:42 → 00:01:45 ก็เราก็จะหมายถึงว่างอยที่เหลือภายหลัง
00:01:45 → 00:01:48 จากที่มันพ้นระยะเวลาของการสมัครของแผล
00:01:48 → 00:01:50 และจะไม่ว่าแผลนั้นจะเกิดจากการผ่าตัด
00:01:50 → 00:01:53 รักษาโรคหรือว่าเกิดจากอุบัติเหตุฉุกเฉิน
00:01:53 → 00:01:56 อะไรก็ตามเนี่ยนะครับร่องรอยที่เหลือนะ
00:01:56 → 00:01:58 ครับหลังจากที่บาดแผลประมาณกันเสร็จแล้ว
00:01:58 → 00:02:00 เนี่ยเราก็จะคงอยู่กับร่างกายเราเนี่ยอัน
00:02:00 → 00:02:03 นี้ล่ะครับที่เราเรียกกันเป็นนะครับซึ่ง
00:02:03 → 00:02:05 แน่นอนก็เหมือนที่เกริ่นไปตอนต้นไม่ว่ามี
00:02:05 → 00:02:08 เมื่อไหร่มันก็จะกวนใจเรายิ่งถ้ามีขนาด
00:02:08 → 00:02:11 ใหญ่นะครับหรือว่าอยู่ในตำแหน่งที่เอ่อ
00:02:11 → 00:02:13 เห็นด้วยครับเช่นอยู่บนใบหน้าหรืออยู่บน
00:02:13 → 00:02:17 นอกร่มผ้าเนี่ยนะครับก็อาจจะทำให้คนที่มี
00:02:17 → 00:02:19 แผลเป็นเนี่ยน่าจะเป็นผู้หญิงผู้ชายก็จะ
00:02:19 → 00:02:21 เสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตนะครับคราว
00:02:21 → 00:02:24 นี้ลักษณะของแผนเป็นเนี่ยนะครับก็จะมี
00:02:24 → 00:02:28 เอ่ออธิบายแยกๆอยู่ได้ประมาณสัก 4-5 แบบ
00:02:28 → 00:02:29 นะครับ
00:02:29 → 00:02:33 ใช้เป็นแบบที่ 1 เลยนะครับจะเป็นแผลที่มี
00:02:33 → 00:02:35 ลักษณะเป็นแผลนูนเหมือนที่เรานึกออกว่า
00:02:35 → 00:02:37 เป็นแผลนูนที่ที่เหมือนเป็นตัวหนอนเนี่ย
00:02:37 → 00:02:41 นะครับมันมีลักษณะบางทีเป็นหนอนใหญ่ๆสีดำ
00:02:41 → 00:02:43 ๆทั้งๆอะไรอย่างเงี้ยนะครับอันนี้เรา
00:02:43 → 00:02:46 เรียกแผลเป็นแบบเนี้ยว่าแผลกี่รอยนะครับ
00:02:46 → 00:02:49 เอ่อลักษณะของแสงคือรอยเนี่ยนะครับความ
00:02:49 → 00:02:52 นูนของแผลเนี่ยนะครับเอ่อมันมักจะนูนไง
00:02:52 → 00:02:56 กินบริเวณเหมือนกับนอกมาจากขอบของแผลมากๆ
00:02:56 → 00:02:58 อย่างสมมุติเราลงแผลเนี่ยแผลผ่าตัดคลอดบน
00:02:58 → 00:03:00 เราอาจจะเห็นเหมือนแบบเป็นบิกินี่ใช่ไหม
00:03:00 → 00:03:03 ครับที่เป็นแนวนอนขนาดด้วยกับแนวขอบ
00:03:03 → 00:03:05 กางเกงในนะครับหรือว่าของบางท่านถ้าเป็น
00:03:05 → 00:03:07 ผ่าตัดสมัยก่อนเนี่ยก็จะเป็นแนวตั้งก็คือ
00:03:07 → 00:03:10 อยู่ในตั้งแต่ใต้สะดือลงมาลงมาจนถึงหัวตา
00:03:10 → 00:03:13 เนี่ยนะครับค่ะเอ่อยังไงก็ตามแผลผ่าตัด
00:03:13 → 00:03:15 เนี่ยเวลาคุณหมอผ่าตัดเนี่ยผ่าคลอดเรา
00:03:15 → 00:03:17 เนี่ยก็จะเป็นแผลรอยเส้นบางๆเป็นรอยเส้น
00:03:17 → 00:03:21 มีดบางๆนะครับซึ่งปกติเนี่ยนะครับการหาย
00:03:21 → 00:03:23 ของแผลเองเนี่ยนะครับเอ่อธรรมชาติเนี่ยจะ
00:03:24 → 00:03:26 มีการสร้างบริเวณของแนวแผลเนี่ยให้มีความ
00:03:26 → 00:03:28 นูนอยู่แล้วนะครับเราเรียกว่าเป็นลักษณะ
00:03:28 → 00:03:31 เป็นไฮเปอร์โทฟี่ขึ้นมานะครับเพื่อเป็น
00:03:31 → 00:03:34 ปฏิกิริยาที่ทำให้เหมือนกับมันช่วยยึดตึง
00:03:34 → 00:03:37 แผลให้เหมือนกับถ้าบริเวณนั้นมันมีการนูน
00:03:37 → 00:03:39 มีการหนาเนี่ยแผลมันก็จะแยกออกจากกันยาก
00:03:39 → 00:03:43 ขึ้นใช่ไหมครับทำให้พอปฏิกิริยาครับมันจะ
00:03:43 → 00:03:45 นูนในช่วงที่มันซ่อมแซมตัวเองแล้วพอถึง
00:03:45 → 00:03:47 ช่วงที่แผลหายไปอีกแล้วเนี่ยความนูนนั้น
00:03:47 → 00:03:51 ก็จะค่อยๆบางเอ่อเหมือนกับแบนราบลงก็จะดู
00:03:51 → 00:03:53 เรียบไปได้นะครับซึ่งลักษณะตรงนี้เนี่ย
00:03:53 → 00:03:56 เอ่อก็จะเป็นลักษณะของการนูนที่อยู่บนแนว
00:03:56 → 00:03:59 แผลเป็นเส้นบางๆของขอบเขตแผลเท่านั้นเอง
00:03:59 → 00:04:02 แต่แผลที่เราพูดถึงคีลอยด์เนี่ยมันเป็น
00:04:02 → 00:04:04 แผลที่นูนแล้วมันนูนกระจายออกมากระจายออก
00:04:04 → 00:04:06 มาเป็นบริเวณกว้างนะครับจนเห็นเป็นเหมือน
00:04:06 → 00:04:09 ตัวหนอนใหญ่ๆซึ่งดูแล้วน่าเกลียดซึ่งเวลา
00:04:09 → 00:04:10 เราเป็นแผลเป็นที่เรียกว่าคีลอยด์เนี่ย
00:04:10 → 00:04:14 มันมักจะมีอาการบางทีก็จะมีอาการคันระคาย
00:04:14 → 00:04:16 เคืองนะครับหรือว่ามีอาการเหมือนกับแบบ
00:04:16 → 00:04:19 ขัดเคืองอย่างเวลาไปถูกับอย่างแนวแผลผ่า
00:04:19 → 00:04:22 ตัดคลอดเนี่ยมันจะเข้าไปถูกกว่าขอบกางเกง
00:04:22 → 00:04:25 กางเกงในขอบเสื้อผ้าไปแบบใส่เนี่ยก็จะมี
00:04:25 → 00:04:28 ความรู้สึกว่าเอ่อไม่สะดวกสบายนะครับอัน
00:04:28 → 00:04:30 นี้เป็นลักษณะแผลเป็นนูนที่เราเรียกว่า
00:04:30 → 00:04:33 คีย์ลอยนะครับแผลเป็นลักษณะที่ 2 นี่ตรง
00:04:33 → 00:04:36 ข้ามกับแผลเป็นนวลคือเป็นลักษณะที่บุ๋มลง
00:04:36 → 00:04:38 ไปกลายเป็นหลุมนะครับพวกนี้เรามักจะเจอ
00:04:38 → 00:04:40 ได้จากการบางทีเราเป็นแผลเป็นสิวอะไร
00:04:40 → 00:04:42 เงี้ยเป็นสิวอักเสบต่างๆเนี่ยนะครับหรือ
00:04:42 → 00:04:44 ว่าไปเจาะมันเข้าเนี่ยแล้วก็เกิดการ
00:04:44 → 00:04:47 อักเสบและใครเนี่ยเวลามีการซ่อมแซมก็หาย
00:04:47 → 00:04:49 ไปเนี่ยตรงบริเวณนั้นกลายเป็น 100 ปุ่ม
00:04:49 → 00:04:52 ตรงไปเลยก็มีนะครับแผลเป็นลักษณะหนึ่งอีก
00:04:52 → 00:04:55 อันนึงก็คือจะเป็นแผลเป็นที่เหมือนกับมี
00:04:55 → 00:04:58 การยืดกว้างออกมาจากรอยแผลเดิมสมมุติเป็น
00:04:58 → 00:05:01 รอยแผลเย็บเดิมนะครับอาจจะเป็นแนวคีลอยด์
00:05:01 → 00:05:03 ที่มันเป็นหนอนยาวๆอยู่แต่ว่าแผลพวกเนี้ย
00:05:03 → 00:05:07 มันอาจจะยืดกว้างเหมือนกับเหมือนกับบางที
00:05:07 → 00:05:09 ขอบเนี่ยจะไม่เป็นเรียบๆเหมือนตัวหนอนละ
00:05:09 → 00:05:11 แต่บริเวณขอบด้านข้างของแผลเนี่ยมันจะ
00:05:11 → 00:05:13 เป็นเหมือนแบบเหมือนเป็นดาวลูกดาวกระจาย
00:05:13 → 00:05:16 ออกมานะฮะอันนี้มักจะเป็นมักจะเกิดในแผล
00:05:16 → 00:05:18 ที่มีการอักเสบหรือว่ามีการดึงรั้งสูง
00:05:18 → 00:05:22 เช่นอยู่ในบริเวณที่มีความตึงของผิวหนัง
00:05:22 → 00:05:24 สูงๆนะครับเช่นบริเวณที่เราขยับเคลื่อน
00:05:24 → 00:05:27 ไหวบ่อยๆเช่นบริเวณแขนขาอะไรพวกนี้ก็
00:05:27 → 00:05:29 สะอาดเกิดได้มันจะไม่เหมือนกับแผลเป็นที่
00:05:29 → 00:05:31 อยู่ตรงบริเวณหน้าท้องเนี่ยที่เราคุยกัน
00:05:31 → 00:05:33 ในวันนี้ก็อันนี้บริเวณหน้าท้องเนี่ยเรา
00:05:33 → 00:05:35 ไม่ไม่มีแรงดึงรั้งมากนักเพราะฉะนั้นมัน
00:05:36 → 00:05:38 ก็มักจะไม่เกิดอย่างนี้ไม่แพ้แบบเนี้ยเรา
00:05:38 → 00:05:40 จะเรียกว่า Star contracture นะครับมัน
00:05:40 → 00:05:43 จะเจอบ่อยๆตรงบริเวณเคลื่อนไหวหรือแค่
00:05:43 → 00:05:45 เหมือนกับอยู่ใกล้ๆกับขอบต่อเช่นข้อศอก
00:05:45 → 00:05:48 ข้อมืออะไรพวกเนี้ยเวลาเราขยับบ่อยๆมันจะ
00:05:48 → 00:05:50 มีนะครับอันนี้ก็เป็นลักษณะของแผลเป็น
00:05:50 → 00:05:55 ต่างๆ 4-5 ลักษณะที่เราเจอกันคราวนี้
00:05:55 → 00:05:59 นะครับถ้าแนวของแผลเนี่ยมันมันสอดคล้อง
00:05:59 → 00:06:02 ให้กับแนวรอยย่นของผิวหนังนะครับเราจะ
00:06:02 → 00:06:04 เห็นแผลเป็นไม่ค่อยชัดผมยกตัวอย่างนะครับ
00:06:04 → 00:06:07 ทำไมสมัยนี้อย่างแท้ผ่าตัดคลอดเนี่ยเรา
00:06:07 → 00:06:10 นิยมผ่านแนวบิกินี่เพราะว่าเรานึกถึงรอย
00:06:10 → 00:06:13 ย่นผิวหนังของเราตรงบริเวณหน้าท้องนะครับ
00:06:13 → 00:06:16 เรานั่งอยู่บนเก้าอี้นะครับแล้วเราลอง
00:06:16 → 00:06:18 โน้มตัวลงนิดหน่อยเหมือนกับก้มตัวลงหน่อย
00:06:18 → 00:06:20 เราจะเห็นนะครับว่าท้องเราเนี่ยมันจะย้วย
00:06:20 → 00:06:23 ลงไปบางคนไม่มีก็แล้วแต่นะแต่มันจะย้วย
00:06:23 → 00:06:25 เป็นรอยพับเห็นมั้ยมันจะเป็นรอยพับตามแนว
00:06:25 → 00:06:26 ขวางไง
00:06:26 → 00:06:30 ค่ะคุณหมอ
00:06:30 → 00:06:32 มองไม่เห็นเลยนะครับไม่เห็นแม้กระทั่งรอย
00:06:32 → 00:06:34 พับอะไรเนี่ย
00:06:34 → 00:06:37 ดีใจด้วยนะฮะก็คือถ้าเป็นแผลแนวเนี้ยที่
00:06:37 → 00:06:39 มันตรงกับรอยพับผิวหนังเนี่ยบางทีมันจะ
00:06:39 → 00:06:42 กลืนกันไปทำให้เรามองไม่ค่อยออกนะครับมัน
00:06:42 → 00:06:44 จะเห็นไม่ค่อยชัดแต่ว่าถ้าเป็นการผ่าตัด
00:06:44 → 00:06:47 คลอดในสมัยก่อนเนี่ยพี่อย่างที่บอกคือลง
00:06:47 → 00:06:50 แผนแนวดิ่งก็คือจากใต้สะดือลงมาเนี่ยก็
00:06:50 → 00:06:52 เห็นว่าแนวแผลเนี่ยมันจะขวางกับแนวย่นของ
00:06:52 → 00:06:55 ผิวหนังซึ่งมันควรจะเป็นแนวนอนอันเนี้ยนะ
00:06:55 → 00:06:57 ครับจะเป็นลักษณะของแผลที่มีแรงมีแรงดึง
00:06:57 → 00:06:58 หลังสูง
00:06:58 → 00:07:00 แล้วก็อันนี้จะก่อให้เกิดแผลเป็นคีลอยด์
00:07:00 → 00:07:03 ได้มากแล้วก็รับจะเห็นลักษณะของแผลเป็น
00:07:03 → 00:07:06 ได้ชัดกว่านะครับเพราะฉะนั้นถ้าเราเข้าใจ
00:07:06 → 00:07:08 แนวของแผลเมื่อเทียบกับรอยัลของผิวหนัง
00:07:08 → 00:07:12 เนี่ยนะครับการเกิดแผลในลักษณะที่เป็นแผล
00:07:12 → 00:07:15 ผ่าตัดเนี่ยนะครับจึงมักจะมีแนวโน้มที่จะ
00:07:15 → 00:07:17 เกิดแผลเป็นน้อยกว่าแผลที่เกิดจาก
00:07:17 → 00:07:19 อุบัติเหตุเพราะสาเหตุที่เกิดจาก
00:07:19 → 00:07:20 อุบัติเหตุเนี่ยมันจะเป็นแผลที่ลุ่มวิ่ง
00:07:20 → 00:07:23 ไงขอบมันไม่แบบเราเราเป็นแผลผ่าตัดคุณหมอ
00:07:23 → 00:07:25 ก็จะลงมีดตามแนวยาวๆมันแถมก็จะเรียกไงฮะ
00:07:25 → 00:07:28 แต่ว่าแผลที่มันขาดทะลึ่งทะลึ่งเนี่ยนะ
00:07:28 → 00:07:31 ครับอันเนี้ยจะทำให้เกิดแผลเป็นได้ง่าย
00:07:31 → 00:07:34 กว่าแล้วก็จะเห็นชัดกว่านะครับคราวนี้
00:07:34 → 00:07:37 เมื่อเราพูดถึงแผลเป็นที่เกิดขึ้นเนี่ยนะ
00:07:37 → 00:07:39 ครับแน่นอนเราก็ต้องสนใจกันว่าเอ๊ะแล้ว
00:07:39 → 00:07:43 ทำไมบางคนผ่าตัดเป็นแผนเป็นบางคนผ่านแล้ว
00:07:43 → 00:07:46 เห็นเป็นเลยนะครับอันนี้ก็จะมีเอ่อปัจจัย
00:07:46 → 00:07:49 ที่มันเกี่ยวข้องกับโอกาสในการเกิดแผล
00:07:49 → 00:07:51 เป็นหลายๆอย่างนะครับซึ่งแน่นอนว่าถ้าพูด
00:07:51 → 00:07:54 ถึงเอ่อหัวข้อของเราวันนี้ที่บอกว่าคน
00:07:54 → 00:07:57 โบราณบอกว่าห้ามรับประทานไข่นะครับหมอได้
00:07:57 → 00:07:59 ยินสูตรอื่นอีกรับประทานข้าวเหนียวอะไร
00:07:59 → 00:08:02 อย่างนี้มีหลายอย่างเลยหรือของมาหมักดองๆ
00:08:02 → 00:08:11 อักเสบ
00:08:11 → 00:08:15 มาเรื่อยๆนะแผลเป็นอะไรเพราะฉะนั้นจริงๆ
00:08:15 → 00:08:17 แล้วแผลเป็นเนี่ยกินไข่ได้นะครับอันนี้
00:08:17 → 00:08:21 เฉลยหัวข้อของเราวันนี้ก่อนเลยนะครับ
00:08:21 → 00:08:23 ถ้าเราพูดสารอาหาร 5 อย่างเนี่ยนะครับ
00:08:23 → 00:08:26 คาร์โบไฮเดรตไขมันโปรตีนเกลือแร่วิตามิน
00:08:26 → 00:08:28 เนี่ยโปรตีนเนี่ยซ่อมแซมส่วนที่สุดตลอด
00:08:28 → 00:08:32 ใช่มั้ยเรามีแผลเนี่ยเราสึกหรอเพราะ
00:08:32 → 00:08:34 ฉะนั้นจริงๆการบริโภคไข่หรือโปรตีนเนี่ย
00:08:34 → 00:08:37 ไม่คันเก่ากันนะฮะน่าจะเป็นตัวไปช่วยซ่อม
00:08:37 → 00:08:40 แซมส่วนที่สุดของมากกว่าเพราะฉะนั้นคนที่
00:08:40 → 00:08:42 หลังจากผ่าตัดใหม่ๆเนี่ยจริงๆเราอยากให้
00:08:42 → 00:08:45 ผ่านโปรตีนด้วยซ้ำไปนะฮะเพราะฉะนั้นเอ่อ
00:08:45 → 00:08:47 ความเชื่อที่ว่าห้ามกินไข่เนี่ยไม่จริงนะ
00:08:47 → 00:08:49 ครับ
00:08:49 → 00:08:54 กินปกติ
00:08:54 → 00:08:58 งั้นสาเหตุมันมาจากอะไรนะครับประการที่ 1
00:08:58 → 00:09:01 เลยนะครับเป็นจากตัวคนไข้เองนะครับเป็น
00:09:01 → 00:09:03 จำนวนคนไข้เองเนี่ยก็จะมาจากลักษณะของ
00:09:03 → 00:09:06 พันธุกรรมนะครับเราพบว่าพันธุกรรมหรือ
00:09:06 → 00:09:09 เชื้อชาติเนี่ยนะครับเราจะเจอคนลักษณะของ
00:09:09 → 00:09:12 คนเป็นแผลเป็นคีลอยด์แผลเป็นนูนได้เยอะใน
00:09:12 → 00:09:14 คนกลุ่มที่มีผิวคล้ำนะครับอย่างเช่นคน
00:09:14 → 00:09:18 แอฟริกันคนผิวดำอะไรพวกนี้จะเจอผิวจะเจอ
00:09:18 → 00:09:21 แผลเป็นได้มากกว่าคนผิวขาวหรือยังคนยุโรป
00:09:21 → 00:09:24 อะไรอย่างนี้นะครับเป็นเอเชียก็ถือว่า
00:09:24 → 00:09:26 อยู่กลางป่านะครับก็จะเป็นแผลเป็นแบบกลาง
00:09:26 → 00:09:29 ๆนะครับเพราะฉะนั้นลักษณะเนี่ยนอกเหนือ
00:09:29 → 00:09:31 จากเชื้อชาติต่างๆเนี่ยลักษณะพันธุกรรม
00:09:31 → 00:09:33 ที่กำหนดมาโดยธรรมชาติเนี่ยมันก็เหมือน
00:09:33 → 00:09:35 กับว่าบางคนเนี่ยเป็นแผนอะไรนิดหน่อยเป็น
00:09:35 → 00:09:38 แผลเป็นและขณะที่บางคนเนี่ยก็ก็ไม่เห็นจะ
00:09:38 → 00:09:40 เป็นแผลเป็นอะไรทั้งๆที่ไม่ได้ดูแลนะครับ
00:09:40 → 00:09:41 เพราะฉะนั้นอันที่ 1 เนี่ยเป็นเรื่องที่
00:09:41 → 00:09:45 เราได้มาตั้งแต่เราเกิดนะครับเรื่องที่ 2
00:09:45 → 00:09:47 นะครับปัจจัยที่มีผลกระทบนั้นก็อย่างที่
00:09:47 → 00:09:49 บอกแล้วนะครับว่าแผนนั้นเนี่ยมันเป็นแผล
00:09:49 → 00:09:52 ที่ขอบเรียบหรือว่าขอบความนุ่มนะครับ
00:09:52 → 00:09:54 เพราะฉะนั้นอ่าถ้าเป็นแผลขอบเรียบเช่น
00:09:54 → 00:09:57 เป็นการผ่าตัดโดยห้องยิ่งถ้าผ่าตัดตามแนว
00:09:57 → 00:09:59 มีดหมออยู่ในแนวฮอร์โมนตรงหน้าท้องไม่ได้
00:09:59 → 00:10:03 อยู่ในแนวตั้งเนี่ยไม่ฝืนแนวแนวของรอยัล
00:10:03 → 00:10:05 ของผิวหนังเนี่ยอันนี้ก็จะเกิดแผลเป็น
00:10:05 → 00:10:08 น้อยกว่าน้อยกว่าแผลที่เกิดแบบเกิด
00:10:08 → 00:10:10 อุบัติเหตุแล้วมันขอกันร่วมกับนิ่งนะครับ
00:10:11 → 00:10:14 อันที่ 3 เนี่ยนะครับลักษณะของแผลที่มี
00:10:14 → 00:10:16 การอักเสบติดเชื้อนะครับแผลตรงไหนมีการ
00:10:16 → 00:10:19 ติดเชื้อเนี่ยการซ่อมแซมของแผลจะไม่ค่อย
00:10:19 → 00:10:21 ดีนะครับเซลล์ที่ใช้ในการซ่อมแซมเนี่ยมัน
00:10:21 → 00:10:24 จะเกิดความเสียหายแล้วก็ทำให้ลักษณะของ
00:10:24 → 00:10:26 การซ่อมแซมว่ามันหลีกเบี้ยวแล้วก็เกิด
00:10:26 → 00:10:29 ความสะดุ้งคันเร่งก็ทำให้เกิดการนูนเป็น
00:10:29 → 00:10:32 แผลเป็นได้ง่ายนะครับลักษณะอันที่ 4 นะ
00:10:32 → 00:10:36 ครับก็คือเรื่องของการดึงพลังของแผนอย่าง
00:10:36 → 00:10:38 ที่เราบอกว่าแผลตรงไหนที่มันมีการดึงรั้ง
00:10:39 → 00:10:41 สูงๆนะครับอ่าเราดูยังไงเราดูตรงที่
00:10:41 → 00:10:44 สมมุติเราจับผิวหนังของเราเนี่ยนะฮะเรา
00:10:44 → 00:10:46 จับต้องอ้าวง่ายๆเลยจับตรงๆเราตรงหน้า
00:10:46 → 00:10:50 ท้องเนี่ยดึงมาแหมมันยืดได้สบายไงฮะมีมี
00:10:50 → 00:10:52 ร้านไขมันอยู่ข้างใต้เยอะๆเนี่ยนะครับแผล
00:10:52 → 00:10:54 พวกเนี้ยมันจะไม่ค่อยมีแรงดึงรั้งนะครับ
00:10:54 → 00:10:57 เพราะฉะนั้นงานบริเวณแถวเนี้ยจะเป็นแผล
00:10:57 → 00:11:00 เป็นได้น้อยแต่ว่าถ้าเราไปดูแผลบริเวณตึง
00:11:00 → 00:11:04 ๆเช่นสมมุติเราเราไปนึกถึงบริเวณ
00:11:04 → 00:11:07 หน้าแข้งของเราหน้าแข้งเราจะดึงมาเนี่ย
00:11:07 → 00:11:11 แทบไม่มีแทบไม่มีหนังดึงไม่ขึ้นเลยบางที
00:11:11 → 00:11:12 มันตึงเพราะติดกระดูกเนี่ยนะครับหรือว่า
00:11:12 → 00:11:14 แผลบริเวณที่
00:11:14 → 00:11:17 แถวๆปลายนิ้วอะไรฝ่ามืออะไรต่างๆพวกนี้
00:11:18 → 00:11:21 ซึ่งเราดึงเราก็ดึงผิวหนังอะไรขึ้นมาไม่
00:11:21 → 00:11:22 ได้มากยกเว้นถ้าเราอ้วนจริงๆอะไรเงี้ยนะ
00:11:22 → 00:11:26 ครับตรงที่มีการดึงรั้งสูงๆเนี่ยพูดง่ายๆ
00:11:26 → 00:11:30 ว่าพอมันตึงแผลมันตึงมากๆเนี่ยแนวแผล
00:11:30 → 00:11:31 เนี่ยมันเหมือนจะถูกขอบๆเนี่ยดึงให้แยก
00:11:31 → 00:11:34 ออกจากกันตลอดเวลาเพราะฉะนั้นเมื่อแผลมัน
00:11:34 → 00:11:36 มีแนวโน้มจะแย่อาจจะทำเนื่องจากแรงตึงมัน
00:11:36 → 00:11:39 สูงเนี่ยนะครับเอ่อธรรมชาติเขาก็รู้ครับ
00:11:39 → 00:11:41 เขาก็จะเหมือนกับพยายามสร้างเซลล์ในการ
00:11:41 → 00:11:43 ซ่อมแซมผิวหนังเนี่ยโดยการคอกให้มันหนา
00:11:43 → 00:11:46 ขึ้นนะครับเพื่อป้องกันไม่ให้แถมมันแยกไง
00:11:46 → 00:11:49 ยิ่งพวกหมาพอกหนาเท่าไหร่มันก็จะกลายเป็น
00:11:49 → 00:11:52 นูนกลายเป็นคีย์ลอยได้มากขึ้นเพราะฉะนั้น
00:11:52 → 00:11:55 แรงตึงแผลตึงผิวของของพื้นที่ผิวหนังตรง
00:11:55 → 00:11:58 นั้นก็มีความสำคัญนะครับอันสุดท้ายครับจะ
00:11:58 → 00:12:00 เป็นเรื่องของเทคนิคในการเย็บของคุณหมอ
00:12:00 → 00:12:03 ครับการเย็บของคุณหมอเนี่ยนะครับนะก็จะมี
00:12:03 → 00:12:06 ตั้งแต่ความถี่ความห่างในการเย็บนะครับ
00:12:06 → 00:12:09 อย่างที่เราบอกไปในหัวข้อเมื่อเมื่อสัก
00:12:09 → 00:12:12 ครู่นะครับว่าแผลที่ยิ่งมีแรงตึงผิวสูงๆ
00:12:12 → 00:12:14 อ่ะเหมือนกับแรงตึงแล้วมันดึงให้แผลแยก
00:12:14 → 00:12:16 ออกจากกันนะครับมันมีโอกาสจะเกิดแผลเป็น
00:12:16 → 00:12:19 ได้ง่ายเพราะฉะนั้นยิ่งคุณหมอเย็บแผลด้วย
00:12:19 → 00:12:22 ความถี่มากๆเท่าไหร่ยิ่งเย็บแผลติดกัน
00:12:22 → 00:12:29 เยอะๆทีมากๆเนี่ยมันจะลดแรงตึงผิวครับ
00:12:29 → 00:12:32 เกิดแรงตึงได้สูงก็จะมีโอกาสแผลเป็นได้
00:12:32 → 00:12:35 ง่ายนะครับวิธีการเย็บก็เกิดวัสดุในการ
00:12:35 → 00:12:37 เย็บก็มีความสำคัญครับวัสดุในการเย็บ
00:12:37 → 00:12:41 เนี่ยถ้าวัสดุที่เย็บนั้นมีปฏิกิริยาต่อ
00:12:41 → 00:12:45 ร่างกายมากก็จะมีโอกาสเกิดแผลได้แผลเป็น
00:12:45 → 00:12:47 ได้มากกว่าเพราะเหมือนกับผิวหนังร่างกาย
00:12:47 → 00:12:49 เรามันก็จะเหมือนกับเกิดปฏิกิริยาแล้วก็
00:12:49 → 00:12:52 พอกนูนขึ้นมาเป็นไอ้ขี่ลอยมานะครับในขณะ
00:12:52 → 00:12:54 ที่วัสดุที่มีปฏิกิริยาต่อร่างกายน้อย
00:12:54 → 00:12:56 เนี่ยนะครับพวกนี้ก็จะเกิดแผลเป็นน้อย
00:12:56 → 00:12:59 กว่าซึ่งจริงๆแล้วเนี่ยวัสดุที่มี
00:13:00 → 00:13:02 ปฏิกิริยากับร่างกายน้อยนะครับมักจะเป็น
00:13:02 → 00:13:05 วัสดุที่เราเย็บแบบไหมไหมเป็นเย็บคำๆอ่ะ
00:13:05 → 00:13:07 เย็บเป็นคำๆเหมือนเย็บแล้วก็ผูกเป็น
00:13:07 → 00:13:10 เงื่อนทีนึงซึ่งเวลาที่เราเย็บเสร็จเนี่ย
00:13:10 → 00:13:14 คนไข้มักจะต้องมาตัดไหม 7 วัน 10 วันนะ
00:13:14 → 00:13:16 ครับในขณะที่ใหม่ละลายเนี่ยนะครับมันจะ
00:13:16 → 00:13:19 เป็นหมายที่เอ่อมันจะแทรกอยู่ในร่างกาย
00:13:19 → 00:13:21 เราพอมันอยู่ในร่างกายเรานานๆอยู่มันคือ
00:13:21 → 00:13:23 หนังอะไรนานๆเราไม่ได้ตัดออกเนี่ยมันย่อม
00:13:24 → 00:13:25 มีโอกาสจะเกิดปฏิกิริยากับผิวหนังได้มาก
00:13:25 → 00:13:28 กว่าเพราะฉะนั้นถ้าเป็นในลักษณะของการผ่า
00:13:28 → 00:13:30 ตัดที่เป็นศัลยกรรมพลาสติกเนี่ยนะครับ
00:13:30 → 00:13:32 อย่างคนผิวหน้าอะไรต่างๆเหล่านี้โดยทั่วๆ
00:13:33 → 00:13:36 ไปมักจะเป็นการเย็บแบบไหมต่างๆเมานะครับ
00:13:36 → 00:13:39 แต่แน่นอนตรงไหนตัดมันก็ต้องมีการตัดไป
00:13:39 → 00:13:42 มันก็มีการเจ็บตัวไงนะครับเพราะฉะนั้นถ้า
00:13:42 → 00:13:44 เป็นการเย็บอย่างสมมุติอ่าเราพูดถึงหัว
00:13:44 → 00:13:45 ข้อของเราในวันนี้คุณผู้หญิงที่ผ่าคลอด
00:13:45 → 00:13:48 หรือว่าผ่าตัดเนื้องอกในท้องๆเนี่ยตรง
00:13:48 → 00:13:50 หน้าท้องมันแรงตึงผิวมันไม่ได้มากเหมือน
00:13:50 → 00:13:53 บริเวณหน้าบริเวณแขนขาที่มันตึงๆอ่ะพวก
00:13:53 → 00:13:56 เนี้ยบางทีก็เราเลยนิยมใช้ใหม่ละลายถึง
00:13:56 → 00:13:58 แม้เราจะรู้ว่าปฏิกิริยามันอาจจะมีมาก
00:13:58 → 00:14:02 กว่าไอ้ใหม่ตัดแต่ว่ามันก็มันก็สะดวกคน
00:14:02 → 00:14:04 ไข้มากกว่าฮะที่ว่าคนไข้ไม่ต้องมาโดนตัด
00:14:04 → 00:14:08 ใหม่ให้เจ็บป่วยอีก
00:14:08 → 00:14:10 เพราะฉะนั้นก็จะเห็นว่าปัจจัยที่เกี่ยว
00:14:10 → 00:14:13 ข้องเนี่ยล้วนแล้วแต่เกี่ยวกับลักษณะของ
00:14:13 → 00:14:15 แผลหรือว่าการดูแลแผลทั้งสิ้นนะครับมัน
00:14:15 → 00:14:16 ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องกินไข่อะไรอย่างนี้
00:14:16 → 00:14:19 เราเข้าใจกันนะครับ
00:14:19 → 00:14:22 แสดงว่ากินไข่ได้กินข้าวเหนียวได้ใช่ไหม
00:14:22 → 00:14:26 คะของหมักดองครับเอาตามที่เราต้องการเรา
00:14:26 → 00:14:29 อยากทานเราก็ผ่านก็ก็ไม่ได้ถึงกับไว้ต้อง
00:14:29 → 00:14:31 ไปห้ามอะไรเพราะว่ามันไม่ได้มีผลว่าจะทำ
00:14:31 → 00:14:34 เป็นมากหรือน้อยไปอย่างไรนะครับเหมือนที่
00:14:34 → 00:14:36 ผ่านมาเรามักจะเชื่อว่าแบบกินไข่แล้วโอเค
00:14:36 → 00:14:40 ทำให้แผลมันๆเขาเรียกอะไรนะคะมัน
00:14:40 → 00:14:43 เขาเรียกมันหายเร็วขึ้นแต่ถ้ากินมากไปมัน
00:14:43 → 00:14:45 จะกลายเป็นแผลเป็นอะไรอย่างนี้ค่ะก็เลย
00:14:45 → 00:14:46 ยิ่งไม่กล้ากินเข้าไปใหญ่อย่างเงี้ยค่ะ
00:14:46 → 00:14:49 ใช่เพราะว่าเราเข้าใจว่าอย่างที่บอกครับ
00:14:49 → 00:14:51 โปรตีนซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออ้าวเรากิน
00:14:51 → 00:14:54 โปรตีนมันก็ดีอยู่มันก็แบบว่าอร่อยถ้ามัน
00:14:54 → 00:14:57 กินเยอะไปแล้วมันจะซ่อมมากมั้ยอะไรอย่าง
00:14:57 → 00:14:58 เงี้ยไม่นะครับ
00:14:58 → 00:15:02 อันนี้ให้เข้าใจกันไว้นะครับแต่อย่างกรณี
00:15:02 → 00:15:06 บางคนเนาะแบบไม่กล้ากินเลยอ่ะคุณหมอมันก็
00:15:06 → 00:15:11 ยิ่งทำแบบให้เราขาดโปรตีนเราแพ้ยิ่งเพราะ
00:15:11 → 00:15:14 บางทีอาจจะอยากกินแต่พ่อแม่บอกว่าเฮ้ย
00:15:14 → 00:15:16 อย่ากินอย่ากิน
00:15:16 → 00:15:19 ใช่ครับอันนี้อันนี้ก็เป็นความเข้าใจที่
00:15:19 → 00:15:22 ถ้าเราได้ฟังหัวข้อวันนี้แล้วนะครับจริงๆ
00:15:22 → 00:15:24 แล้วเราอยากให้ได้โปรตีนเยอะมากกว่าเพราะ
00:15:24 → 00:15:28 ฉะนั้นถ้าพูดถึงสมมุติจะพูดอย่างนี้นะ
00:15:28 → 00:15:31 อะไรที่มันมีความเชื่อมันก็ฝังไว้ในจิตใจ
00:15:31 → 00:15:32 กันมาใช่ป่ะ
00:15:32 → 00:15:36 อะไรเงี้ยเราคิดบ้านเนี่ยญาติเรากินไข่ก็
00:15:36 → 00:15:38 เห็นเป็นแผลเป็นคนไม่กินไข่ก็ไม่เป็นแผล
00:15:38 → 00:15:41 เป็นอะไรเงี้ยมันก็มาจากการสังเกตแต่ว่า
00:15:41 → 00:15:44 อยากจะบอกว่าถ้าเราสังเกตมากๆเหมือนหมอ
00:15:44 → 00:15:46 เจอคนไข้ทั่วๆไปฮะไม่เกี่ยวนะฮะกินไข่ไม่
00:15:46 → 00:15:48 กินไข่เนี่ยจะเป็นแผลเป็นไม่เป็นแผลเป็น
00:15:48 → 00:15:52 ก็เกิดจากหัวข้อที่หมอเซ็งนะครับแต่ว่า
00:15:52 → 00:15:55 ถ้าเราแบบเอาล่ะเรารู้ว่ามันโปรตีนมัน
00:15:55 → 00:15:56 สำคัญแต่ว่าเราก็ไม่อยากกินไข่เพราะว่า
00:15:56 → 00:16:00 เราก็ยังเชื่อว่าไข่มันไม่มันมีผลก็ทาน
00:16:00 → 00:16:02 โปรตีนอย่างอื่นก็ได้โปรตีนจากเนื้อสัตว์
00:16:02 → 00:16:06 กินเนื้อกินไก่กินนมอะไรก็ได้ฮะก็ต้องไม่
00:16:06 → 00:16:07 ขัดกับความเชื่อแล้วใช่มั้ยไม่ได้กินไข่
00:16:07 → 00:16:12 แล้วนี่ถูกมั้ย
00:16:12 → 00:17:14 ครับ
00:17:14 → 00:17:18 ก็คือการเตรียมตัวนะครับก่อนจากการผ่าตัด
00:17:18 → 00:17:20 เนี่ยนะครับนะก็คือ
00:17:20 → 00:17:22 ควรจะปรึกษาคุณหมอแล้วก็ให้ประวัติเกี่ยว
00:17:22 → 00:17:25 กับโรคที่เกี่ยวข้องต่างๆนะครับไม่ว่าจะ
00:17:25 → 00:17:28 เป็นลักษณะการผ่าเคยผ่าตัดในอดีตนะครับ
00:17:28 → 00:17:30 โชว์ให้คุณหมอดูว่าลักษณะแผลเดิมที่เรา
00:17:30 → 00:17:32 เคยเป็นยังไงมันเป็นแผลเป็นมากน้อยแค่ไหน
00:17:32 → 00:17:35 นะครับตรงนี้จะทำให้คุณหมอพอโยงได้ว่าแผล
00:17:35 → 00:17:37 เป็นตรงนี้ที่เขาเคยเกิดอยากรู้ว่าเราเคย
00:17:37 → 00:17:40 เราเคยเกิดมาในอดีตเนี่ยมันเป็นแผลที่
00:17:40 → 00:17:43 โอเคเป็นแผลเป็นเพราะว่าแนวแผลมันดันฝืน
00:17:43 → 00:17:46 กับรอยย่นของผิวหนังอันนั้นก็เป็นเรื่อง
00:17:46 → 00:17:48 ที่เข้าใจได้หรือว่าเอ๊ะมันเกิดจากการที่
00:17:48 → 00:17:51 ไอ้แผนเนี่ยมันเป็นแผลลูกนิ่งแล้วเราเข้า
00:17:51 → 00:17:53 ใจได้หรือว่าเกิดแผลเป็นเพราะว่าบริเวณ
00:17:53 → 00:17:55 นั้นเป็นบริเวณที่มีแรงตึงผิวสูงอันนั้น
00:17:55 → 00:17:58 เข้าใจได้นะครับแต่ถ้าคุณหมอดูแล้วเอ๊ะ
00:17:58 → 00:18:00 แถวเป็นเก่าของเรามันก็ตรงตามแนวย่นของ
00:18:00 → 00:18:03 ผิวหนังแล้วก็ดูแล้วไม่น่ามีแรงตึงผิวสูง
00:18:03 → 00:18:05 แต่ก็ยังเกิดแผลเป็นอันนี้แหละครับที่คุณ
00:18:06 → 00:18:08 หมอจับพึงระวังไว้เลยว่าเอถ้าอย่างเงี้ย
00:18:08 → 00:18:10 คนให้คนเนี้ยเมื่อจะเย็บแผลเขาเนี่ยคน
00:18:10 → 00:18:13 เนี้ยอาจจะมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้สูงกรรม
00:18:13 → 00:18:15 พันธุ์จากลักษณะผิวหนังของเขาเองเพราะ
00:18:15 → 00:18:17 ฉะนั้นคุณหมอก็จะได้มีการเตรียมการว่า
00:18:17 → 00:18:19 เดี๋ยวถ้าเย็บผิดแผลเนี่ยจะต้องเย็บให้
00:18:19 → 00:18:21 ถี่ขึ้นกว่าปกติ
00:18:21 → 00:18:24 อันนี้มันก็จะเป็นวิธีคิดอันนึงนะครับอัน
00:18:24 → 00:18:26 ที่ 2 เนี่ยนะครับนะ
00:18:26 → 00:18:29 ก่อนการผ่าตัดเนี่ยนะครับควรจะ
00:18:29 → 00:18:32 ให้ประวัติเรื่องการใช้ยาต่างๆอย่างยาที่
00:18:32 → 00:18:35 จะมีผลต่อยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
00:18:35 → 00:18:38 นะครับพวกนี้เช่นพวกเราทานยาแก้ปวดทาง
00:18:38 → 00:18:41 แอสไพรินทางยาอะไรต่างๆที่ทำให้เลือดแข็ง
00:18:41 → 00:18:43 ตัวไม่ดีอย่างบางทีเราก็ไม่รู้นะครับเช่น
00:18:43 → 00:18:46 เราทานพวกเอ่อน้ำมันปลาอะไรอย่างเงี้ยพวก
00:18:46 → 00:18:49 นี้ก็มีพวกเอ่อกฎไขมันที่มันมีผลต่อการ
00:18:49 → 00:18:51 แข็งตัวของเลือดได้ด้วยพวกนี้เราจะต้องงด
00:18:51 → 00:18:54 ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 7 วันขึ้นไปนะ
00:18:54 → 00:18:56 ครับแล้วก็โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นคนที่
00:18:56 → 00:19:00 บริโภคพวกสมุนไพรต่างๆครับบางทีเราเรานึก
00:19:00 → 00:19:03 ถึงแต่ยาใช่ป่ะเวลาคุณหมอถามแต่ว่าพอเรา
00:19:03 → 00:19:05 พูดถึงวิตามินอะไรต่างๆเนี่ยเรานึกได้แต่
00:19:05 → 00:19:08 ว่าพวกสมุนไพรต่างๆเนี่ยเราลืมแบบว่าเรา
00:19:08 → 00:19:10 ใช้อยู่อันนี้ก็ต้องระมัดระวังเพราะว่า
00:19:10 → 00:19:12 เอ่อถ้าเราไม่รู้ว่าส่วนประกอบมันมีอะไร
00:19:12 → 00:19:15 บ้างเนี่ยนะครับก็ควรจะนำไอ้บรรจุภัณฑ์
00:19:15 → 00:19:17 ของมันหรืออะไรเงี้ยมาให้คุณหมอท่านดูว่า
00:19:17 → 00:19:20 เรามีสารอะไรที่มีผลต่อการแข็งตัวของ
00:19:20 → 00:19:22 เลือดไหมเพราะว่าถ้าแผลไหนๆเนี่ยนะครับ
00:19:22 → 00:19:24 ที่หลังจากผ่าตัดไปแล้วเนี่ยมันมีเลือด
00:19:24 → 00:19:26 ออกอยู่เรื่อยๆเนี่ยพอมันเลือดออกเยอะๆ
00:19:26 → 00:19:28 เนี่ยมันจะเกิดการอักเสบเกิดการติดเชื้อ
00:19:28 → 00:19:30 ได้ง่ายกว่าก็จะเป็นสาเหตุทำให้แผลเนี่ย
00:19:30 → 00:19:33 มันไม่ติดนะครับแผลเกิดขึ้นแย่หรือว่า
00:19:33 → 00:19:35 เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดการอักเสบและเป็น
00:19:35 → 00:19:38 แผลเป็นบางมาได้นะครับ
00:19:38 → 00:19:40 ประการอีกอันนึงที่อยากให้เตรียมตัวก็คือ
00:19:40 → 00:19:45 แพ้ต่างๆที่จะหายได้ดีนะครับนะสามารถสมาน
00:19:45 → 00:19:47 ตัวได้เร็วซึ่งยิ่งสมานตัวได้เร็วเนี่ย
00:19:47 → 00:19:50 แผลนั้นก็จะเกิดแผลเป็นได้น้อยนะครับแพ้
00:19:50 → 00:19:52 เหล่านี้ควรจะเป็นแผลที่มีการไหลเวียนของ
00:19:52 → 00:19:56 เลือดดีมีเลือดมาเลี้ยงดีนะครับอ่าอย่าง
00:19:56 → 00:19:59 ยกตัวอย่างสังเกตง่ายๆครับถ้าเราเป็นแผล
00:19:59 → 00:20:02 บริเวณผิวหนังสีน้ำตาลเนี่ยนะครับอย่าง
00:20:02 → 00:20:04 เช่นแผลบนผิวหนังที่เราเห็นภายนอกแผลบน
00:20:04 → 00:20:05 หน้าท้องอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยมันจะมีโอกาส
00:20:06 → 00:20:08 เกิดแผลที่ถ้าบางทีถ้าเราไม่เย็บไม่ดูแล
00:20:08 → 00:20:10 อะไรมันเนี่ยนะครับมันมีโอกาสแบบที่แผลจะ
00:20:10 → 00:20:13 ไม่ติดหรือแผนติดเชื้อได้สูงเพราะให้มัน
00:20:13 → 00:20:15 สัมผัสอยู่ภายนอกนะครับแล้วก็บริเวณที่
00:20:15 → 00:20:18 เป็นผิวหนังสีน้ำตาลเนี่ยมันมีเส้นเลือด
00:20:18 → 00:20:20 ที่มาเลี้ยงน้อยกว่าบริเวณอื่นที่เป็นผิว
00:20:21 → 00:20:23 หนังสีแดงๆอย่างยกตัวอย่างสมมุติแผลใน
00:20:23 → 00:20:25 เยื่อบุปากในกระทุ้งแก้มของเราเนี่ยนะ
00:20:25 → 00:20:28 ครับนะริมฝีปากเราเนี่ยเราไปกัดปากเป็น
00:20:28 → 00:20:30 แผลนะครับไม่ต้องเย็บแผลไม่ต้องอะไรเนี่ย
00:20:30 → 00:20:33 แผลมันก็ค่อนข้างจะหายได้เร็วกว่าอย่าง
00:20:33 → 00:20:35 หรืออย่างสมมุติเราเทียบง่ายๆเลยแผลของ
00:20:35 → 00:20:37 การผ่าตัดคลอดบุตรเนี่ยเราลงแผลบริเวณ
00:20:37 → 00:20:39 หน้าท้องที่เป็นผิวหนังสีน้ำตาลใช่ไหม
00:20:39 → 00:20:42 ครับแต่ว่าแผลที่เราคลอดบุตรทางช่องคลอด
00:20:42 → 00:20:45 ที่คลอดตรงสี่แยกคุณหมอตัดสีแบบว่าอัน
00:20:45 → 00:20:47 นั้นเราตัดตรงบริเวณที่เป็นช่องคลอดเรา
00:20:47 → 00:20:50 ที่เป็นสีชมพูๆนะครับแผลบริเวณที่เราเห็น
00:20:50 → 00:20:53 มันเอ่อเนื้อเยื่อเห็นเป็นสีชมพูๆเช่น
00:20:53 → 00:20:56 บริเวณฝีปากช่องปากหรือว่าเอ่อช่องคลอด
00:20:56 → 00:20:58 ของเราเนี่ยที่เราเห็นเป็นชมพูเพราะว่า
00:20:58 → 00:21:00 พื้นที่นั้นมันมีเลือดมาเลี้ยงเยอะครับมี
00:21:00 → 00:21:02 เส้นเลือดฝอยอยู่ข้างใต้ทำให้เราเห็นเป็น
00:21:02 → 00:21:05 สีแดงๆสมมุติเพราะฉะนั้นแผลแถวเนี้ยมันจะ
00:21:05 → 00:21:08 หายเร็วกว่ามีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่านะ
00:21:08 → 00:21:10 ครับเพราะฉะนั้นเอ่อ
00:21:10 → 00:21:14 ถ้าเราเป็นคนที่อันนี้พูดถึงการเตรียมตัว
00:21:14 → 00:21:17 คือถ้าเราเป็นคนที่สูบบุหรี่อันนี้ครับ
00:21:17 → 00:21:20 เรารู้อยู่แล้วว่าบุหรี่เนี่ยจะมีผลต่อ
00:21:20 → 00:21:22 การแข็งตัวของเลือดและมีผลต่อการไหลเวียน
00:21:22 → 00:21:25 ของเลือดนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าสูบ
00:21:25 → 00:21:27 บุหรี่เนี่ยต้องงดสูบบุหรี่นะก่อนผ่าตัด
00:21:27 → 00:21:29 อย่างน้อยๆประมาณสัก 2 สัปดาห์ขึ้นไปนะ
00:21:29 → 00:21:32 ครับเพื่อป้องกันภาวะที่เนื้อเยื่อบริเวณ
00:21:32 → 00:21:34 แผลเนี่ยจะขาดเลือดมาเลี้ยงทำให้เกิด
00:21:34 → 00:21:36 เนื้อเยื่อตายแล้วก็เกิดการอักเสบหรือ
00:21:36 → 00:21:40 เป็นแผลเป็นได้นะครับอันนี้ต้องดูแลแล้ว
00:21:40 → 00:21:42 ก็ถ้าพูดถึงบุหรี่แล้วตุลาคมก็เหมือนกัน
00:21:42 → 00:21:44 ครับหลีกเลี่ยงการดื่มสุราอย่างน้อยๆ
00:21:44 → 00:21:47 เนี่ยภายในอายุ 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัดนะ
00:21:47 → 00:21:52 ครับอันนี้ก็สำคัญนะครับแล้วก็เอ่อการดู
00:21:52 → 00:21:54 แลรักษาความสะอาดผิวหนังอันนี้ก็มีความ
00:21:54 → 00:21:57 สำคัญนะครับนะก่อนจะผ่าตัดคืนก่อนจะผ่า
00:21:57 → 00:21:59 ตัดเนี่ยควรจะอาบน้ำชำระร่างกายสระผมให้
00:22:00 → 00:22:02 สะอาดนะครับนะแล้วก็หลีกเลี่ยงการใช้
00:22:02 → 00:22:05 เครื่องสำอางที่มันไปเป็นเหมือนกับไปทำ
00:22:05 → 00:22:07 ให้เกิดแบบเหมือนกับสารเคมีที่อยู่บนผิว
00:22:07 → 00:22:10 หนังอีกนะครับนะเพราะฉะนั้นเมื่อผิวหนัง
00:22:10 → 00:22:13 เราสะอาดเนี่ยเมื่อผ่าตัดเกิดมันก็ลด
00:22:13 → 00:22:15 โอกาสที่จะติดเชื้ออะไรต่างๆได้
00:22:15 → 00:22:19 อันนี้ก็เป็นการเตรียมตัวทั่วๆไปนะครับนะ
00:22:19 → 00:22:22 ก่อนที่เราจะผ่าตัดนะครับก็คือดูแลให้ให้
00:22:22 → 00:22:25 มันเหมือนกับมีเลือดไหลเวียนดีอันนึง
00:22:25 → 00:22:27 อย่างที่เราบอกว่าทำไมต้องแจ้งคุณหมอต้อง
00:22:27 → 00:22:29 โรคประจำตัวเพราะโลกที่เราเป็นกันอยู่
00:22:29 → 00:22:31 เช่นเบาหวานเนี่ยนะครับเบาหวานเนี่ยจะทำ
00:22:31 → 00:22:34 ให้การไหลเวียนของเส้นเลือดเนี่ยไม่ดีเรา
00:22:34 → 00:22:36 จะเห็นว่าคนเป็นเบาหวานเนี่ยเวลาเป็นแผล
00:22:36 → 00:22:38 เนี่ยถ้าเป็นแผลตามปลายมือปลายเท้าเนี่ย
00:22:38 → 00:22:40 ต้องดูแลตัวเองให้ดีเลยเพราะว่าไม่งั้น
00:22:40 → 00:22:42 แผลนึงเส้นเลือดไปเลี้ยงไม่ดีเนี่ยมี
00:22:42 → 00:22:44 โอกาสที่แผลจะไม่หายอย่างบางคนเป็นเบา
00:22:44 → 00:22:46 หวานเป็นแผลที่เท้าเนี่ยนะครับอ่าดูแล
00:22:46 → 00:22:49 รักษาทางแผงก็ไม่หายจะติดเชื้อก็ต้องค่อย
00:22:49 → 00:22:51 ๆปรับบางทีก็ต้องโดนตัดนิ้วเท้าตัดราง
00:22:51 → 00:22:54 ขึ้นมาที่ขาตัดอะไรขึ้นมาเรื่อยๆอันนี้ก็
00:22:54 → 00:22:56 เป็นตัวอย่างเป็นของการที่ถ้ามีเลือดไหล
00:22:56 → 00:22:59 เวียนไม่ดีเนี่ยมันจะเกิดผลเสียต่อแผลนะ
00:22:59 → 00:23:01 ครับเพราะฉะนั้นโรคเบาหวานแล้วก็ต้องถูก
00:23:01 → 00:23:05 ควบคุมให้ดีก่อนจะผ่าตัดนะครับคราวนี้อ่า
00:23:05 → 00:23:08 ถ้าเกิดสมมุติว่าโอเคก่อนผ่าตัดเราดูแล
00:23:08 → 00:23:11 เวลาผ่านเสร็จแล้วอ่าหลังจากนั้นเนี่ยเรา
00:23:11 → 00:23:14 จะป้องกันยังไงได้บ้างนะครับนะหลังจากผ่า
00:23:14 → 00:23:17 ตัดเนี่ยนะครับก็หลักการเดียวกันครับแผล
00:23:17 → 00:23:19 ที่ดีเนี่ยนะครับจะต้องมีเลือดมาไหลเวียน
00:23:19 → 00:23:21 ดีนะครับนะครับแล้วก็ไม่มีการติดเชื้อ
00:23:21 → 00:23:24 เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลแผลเราเองไม่ให้
00:23:24 → 00:23:27 เปลี่ยนชื่อนะครับเดี๋ยวนี้ปัจจุบันวัสดุ
00:23:27 → 00:23:30 ปิดแผลถ้าเป็นสมัยก่อนเนี่ยเราปิดแผลแบบ
00:23:30 → 00:23:33 ไม่กันน้ำเวลาผมกลับไปบ้านในอาบน้ำไม่ได้
00:23:33 → 00:23:35 เลยเพราะว่าถ้ามีน้ำเป็นปนเปื้อนกับแผล
00:23:35 → 00:23:37 เนี่ยมันจะเปียกชื้นทำให้แผลติดเชื้อได้
00:23:37 → 00:23:40 ง่ายแล้วก็การหายของแผลก็จะไม่ดีเกิดเป็น
00:23:40 → 00:23:43 ได้ง่ายนะครับปัจจุบันนี้เรามีเป็นวัสดุ
00:23:43 → 00:23:46 กันน้ำนะครับปิดแผลไปทีเดียวเนี่ยไม่ต้อง
00:23:46 → 00:23:48 ไม่ต้องมาเปิดทำความสะอาดแผลอะไรอีกเลยจน
00:23:48 → 00:23:50 กระทั่งบางที่คุณหมอนัดมา 7 วันมาเปิดแผล
00:23:50 → 00:23:53 ทีเดียวเลยนะครับเวลาอยู่ที่บ้านเนี่ยก็
00:23:53 → 00:23:56 ต้องดูแลวัสดุที่ปิดแผลนี้ให้ดีเหมือนกัน
00:23:56 → 00:23:58 นะครับสมมุติเราอาบน้ำเนี่ยแน่นอนเหมือน
00:23:58 → 00:24:01 กันน้ำแต่ว่ามันก็ไม่กันน้ำมากจนขนาดถ้า
00:24:01 → 00:24:04 มันถ้าแผลมันเปียกโชกนะครับเพราะฉะนั้นก็
00:24:04 → 00:24:06 อาบน้ำเสร็จก็ต้องหมั่นแบบรีบทำความสะอาด
00:24:06 → 00:24:08 บริเวณผิวหนังรอบๆนี้ซับให้แห้งก่อน
00:24:09 → 00:24:11 บริเวณอื่นนะครับเพื่อลดโอกาสที่ไอ้
00:24:11 → 00:24:14 พลาสเตอร์ที่มันจะเปิดเผยอแล้วก็ทำให้น้ำ
00:24:14 → 00:24:17 หรืออะไรต่างๆเข้าไปข้างในได้ซึ่งก็หมาย
00:24:17 → 00:24:19 ถึงว่ามันก็จะนำเชื้อโรคต่างๆเข้าไปด้วย
00:24:19 → 00:24:22 ถ้ามันอับชื้นนะครับอันต่อมาเนี่ยนะครับ
00:24:22 → 00:24:26 เราอาจจะได้ยินว่าหลังผ่าตัดเนี่ยคุณหมอ
00:24:26 → 00:24:28 มักจะแนะนำให้คนไข้เนี่ยเคลื่อนไหวตัว
00:24:28 → 00:24:32 เร็วๆนะครับไม่ใช่เจ็บแผลนอนซมอยู่บน
00:24:32 → 00:24:34 เตียงอะไรเงี้ยนะครับอันนึงที่เราพูดกัน
00:24:34 → 00:24:37 อยู่บ่อยๆก็คือล้างผ่าตัดโดยพวกนี้ในช่อง
00:24:37 → 00:24:39 ท้องเนี่ยเช่นผ่าตัดคลอดหรือผ่าตัดเนื้อ
00:24:39 → 00:24:40 งอกผ่าตัดซี๊ดอย่างที่เราบอกเนี่ยนะครับ
00:24:40 → 00:24:44 ถ้าเราไม่ขยับตัวนะครับมันมีโอกาสที่อาจ
00:24:44 → 00:24:46 จะเกิดพังผืดซึ่งเป็นเยื่อบางๆเนี่ยมัน
00:24:46 → 00:24:49 ยึดติดอวัยวะข้างในนะครับอันนี้เราพูดถึง
00:24:49 → 00:24:51 ในช่วงท้องของเราพังผืดก็เป็นลักษณะหนึ่ง
00:24:51 → 00:24:53 นะครับเพราะฉะนั้นที่เรากระตุ้นให้ขยับ
00:24:53 → 00:24:55 เคลื่อนไหวเร็วๆนะครับถึงจะเจ็บแผลบ้าง
00:24:55 → 00:24:57 แต่อยากให้ลุกเดินให้เร็วที่สุดอยากให้
00:24:57 → 00:24:59 ขยับตัวให้เร็วที่สุดตรงเนี้ยมันจะลดการ
00:24:59 → 00:25:02 เกิดพังผืดได้แต่ว่าลักษณะเดียวกันเนี่ย
00:25:02 → 00:25:05 นะครับถ้าเราพูดถึงที่ผิวหนังคือพูดถึงใน
00:25:05 → 00:25:07 เรื่องของแผลเป็นไม่ได้พูดถึงพังผืดข้าง
00:25:07 → 00:25:10 ในช่องท้องเนี่ยนะครับถ้าเป็นเนี่ยอย่าง
00:25:10 → 00:25:13 ที่เราบอกเอ่อถ้าเกิดมันมีลักษณะของของ
00:25:13 → 00:25:14 เลือดไหลเวียนที่ดี
00:25:14 → 00:25:17 เลือดไหลเวียนที่ดีตรงนี้ก็จะช่วยให้
00:25:17 → 00:25:18 บริเวณ
00:25:18 → 00:25:22 บริเวณผิวหนังที่เป็นแผลเนี่ยมันมีการ
00:25:22 → 00:25:24 ซ่อมแซมของผิวหนังที่ดีมันก็จะลดโอกาสการ
00:25:24 → 00:25:27 เกิดแผลเป็นหรือการอักเสบได้ดังนั้นการ
00:25:27 → 00:25:30 ที่เราได้เคลื่อนไหวขยับตัวนะครับแทนที่
00:25:30 → 00:25:32 จะนอนอยู่นิ่งๆเราเคลื่อนไหวเนี่ยเลือด
00:25:32 → 00:25:35 มันก็จะสูบฉีดไหลเวียนมาอยู่รอบๆบริเวณ
00:25:35 → 00:25:38 แนวแผลนะครับเพราะฉะนั้นก็อยากกระตุ้นให้
00:25:38 → 00:25:41 คนไข้ทุกท่านที่ผ่าตัดจนเขาหรือผ่าตัดใน
00:25:41 → 00:25:44 ช่องท้องเนี่ยถ้าพอจะทุเลาอาการปวดได้
00:25:44 → 00:25:46 เช่นโอเคมันอาจจะปวดแผลบ้างอ่ะแต่พอเราทำ
00:25:46 → 00:25:48 ไงแก้ปวดแล้วมันดีขึ้นไงอยากลุกให้ขยับ
00:25:48 → 00:25:51 ตัวนะครับอย่างคุณหมอพอคุณหมอท่านถอดน้ำ
00:25:51 → 00:25:53 เกลือถอดสายส่วนปัสสาวะออกแล้วขยับตัวได้
00:25:53 → 00:25:55 สะดวกแล้วเนี่ยอยากลุกให้กระตุ้นให้ขยับ
00:25:55 → 00:25:58 ตัวให้เร็วที่สุดนะครับทั้งนี้เพื่อเพิ่ม
00:25:58 → 00:26:01 การไหลเวียนของเลือดนะครับอันต่อมาเนี่ย
00:26:01 → 00:26:04 นะครับสมมุติเรากลับบ้านแล้วเนี่ยนะครับ
00:26:04 → 00:26:07 เราจะต้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆก็ตามที่
00:26:07 → 00:26:10 มันไปเพิ่มการเพิ่มแรงดึงให้แผลเยอะแล้ว
00:26:10 → 00:26:14 กันอ่ะพอยกตัวอย่างง่ายๆสมมุติเราเป็นแผล
00:26:14 → 00:26:17 ผ่าตัดคลอดแนวบิกินี่ใช่ไหมครับ
00:26:17 → 00:26:20 สมมุติเรากลับไปบ้านเนี่ยนะครับแล้วเรา
00:26:20 → 00:26:24 ก้มตัวก้มตัวเนี่ยก้มตัวลงเนี่ยมันเหมือน
00:26:24 → 00:26:28 ท้องมันย่นเข้าหากันกับแนวแผลอันนี้จะไม่
00:26:28 → 00:26:31 ทำให้เกิดแรงดึงนะครับแต่ถ้าเรายืดตัวถูก
00:26:31 → 00:26:34 ไหมเรายืดตัวยืดตัวชูมือสูงแอ่นท้องขึ้น
00:26:34 → 00:26:37 มาเนี่ยมันก็เหมือนแผลถูกยึดให้แยก
00:26:37 → 00:26:40 เพราะมันเกิดกรณีที่แผลมีแรงดึงให้แยกออก
00:26:40 → 00:26:42 จากกันเนี่ยร่างกายมันจะต่อสู้ด้วยการ
00:26:42 → 00:26:45 พยายามเหมือนกับพยายามซ่อมแซมผิวหนังตรง
00:26:45 → 00:26:47 นี้ให้มันหนาขึ้นให้มันแข็งแรงขึ้นเพื่อ
00:26:47 → 00:26:50 ป้องกันแย่แน่นอนเพราะมันหนาเกินไปมันก็
00:26:50 → 00:26:53 จะกลายเป็น 4 แผลเป็นเพราะฉะนั้นเวลาอยู่
00:26:53 → 00:26:56 ที่บ้านเนี่ยถามว่าท่าทางใดกิจกรรมใดเรา
00:26:56 → 00:26:58 ทำได้เนี่ย 1 เราทำได้เท่าที่เราไม่เจ็บ
00:26:58 → 00:27:01 แต่เลือกกรุณาเลือก 5 ทางที่มันไม่ไปเกิด
00:27:01 → 00:27:05 แรงดึงของแผลนะครับเช่นหูไปยืดตัวเหยียบ
00:27:05 → 00:27:08 จะหยิบขวดนมลูกชงสูงๆอะไรอย่างเงี้ยอัน
00:27:08 → 00:27:11 นี้ก็ต้องระมัดระวังนะครับคือคือก้มตัวลง
00:27:11 → 00:27:13 หดตัวลงอ่ะได้แต่ว่าถ้ายืดแขนให้แยกจาก
00:27:13 → 00:27:17 กันเนี่ยจะเสี่ยงต่อการเกิดแผลเพชร
00:27:17 → 00:27:20 เอ่อการดูแลแผลที่ดีอันนึงเนี่ยก็พยายาม
00:27:20 → 00:27:23 หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลเนี่ยไอ้สัมผัสแดกนะ
00:27:23 → 00:27:25 ครับนะไปโดนแดดไปโดนอะไรอย่างเงี้ยเพราะ
00:27:25 → 00:27:27 ว่าพวกเนี้ยนะครับอันนี้เราพูดถึงหลัง
00:27:27 → 00:27:29 หลังจากตัดใหม่หรือหลังจากเปิดแผลเปิดภาพ
00:27:29 → 00:27:33 ขุนแผนแล้วเนี่ยนะครับเพราะว่าเอ่อ
00:27:33 → 00:27:36 เวลาหลังตัดไหมเนี่ยพบพบแผลเนี่ยมันไป
00:27:36 → 00:27:40 สัมผัสกับแสงแดดมากๆเลยนะครับแรงกระตุ้น
00:27:40 → 00:27:43 จากแสงแดดเนี่ยจะทำให้เหมือนกับเซลล์เม็ด
00:27:43 → 00:27:46 สีที่อยู่ด้านใต้แผลเนี่ยนะครับนะมันมี
00:27:46 → 00:27:48 การหนาตัวมากขึ้นเหมือนเราโดนแดดมากๆแล้ว
00:27:48 → 00:27:49 ผิวหนังเราดำเราคล้ำอ่ะ
00:27:49 → 00:27:53 เหมือนกันครับถ้าเขาโดนแดดเยอะๆเนี่ยตรงๆ
00:27:53 → 00:27:56 เนี่ยเขาจะมีการคล้ำกลายเป็นแผลเป็นคีลอย
00:27:56 → 00:27:59 นูนแล้วก็มันเป็นสีดำน่าเกลียดเห็นได้ชัด
00:27:59 → 00:28:02 นะครับแล้วตรงนี้ต้องเลี่ยงด้วยถามว่านาน
00:28:02 → 00:28:04 แค่ไหนก็พยายามหลบหลบแดดสักประมาณเดือน
00:28:04 → 00:28:06 นึงเนี่ยนะครับถ้ามันจะไม่เกิดเป็นแผล
00:28:06 → 00:28:08 เป็นสีคล้ำเนี่ยอันนี้ก็มันก็มักจะพ้นไป
00:28:09 → 00:28:11 แล้วล่ะถ้าเกิดเลยนะครับหรือว่าบางคนเขา
00:28:11 → 00:28:13 อาจจะโอเคถ้ามันต้องออกแดดจริงๆเนี่ยก็
00:28:13 → 00:28:17 ใช้พวกเอ่อโลชั่นหรือครีมทากันแดดแบบที่
00:28:17 → 00:28:19 มี SPF มากๆเช่น xm 50 หรือมากกว่าเนี่ย
00:28:19 → 00:28:23 ถ้าปกคลุมบริเวณแผลไว้ก่อนแดดอันนั้นก็ดี
00:28:23 → 00:28:26 เหมือนกันนะครับ
00:28:26 → 00:28:27 แล้วก็ถ้าแผลตรงไหนอย่างที่เราบอกครับ
00:28:27 → 00:28:30 บริเวณที่มีการขยับเขยื้อนเยอะๆเช่นแขนขา
00:28:30 → 00:28:32 ขยับยื่นหรือว่าเป็นแผลบริเวณรอยรอบปาก
00:28:32 → 00:28:35 เนี่ยแล้วเราเย็บต่างๆแต่เราก็ต้องพูดอ่ะ
00:28:35 → 00:28:37 เราก็ต้องกินต้องขยับตัวใช่มั้ยครับเอ่อ
00:28:37 → 00:28:39 แทนหลังจากแผลหายแล้วหรือว่ามีการตัดไหม
00:28:39 → 00:28:42 เสร็จแล้วเนี่ยอาจจะใช้พลาสเตอร์ปิดแผล
00:28:42 → 00:28:44 เนี่ยยึดตึงบริเวณแผลไว้เหมือนกับช่วย
00:28:45 → 00:28:47 เพิ่มแรงให้แผลมันไม่แยกออกจากกันเหมือน
00:28:47 → 00:28:49 กับปิดไว้นานขึ้นอันนี้ก็จะช่วยได้นะครับ
00:28:49 → 00:28:52 รวมถึงการที่พยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปเกิด
00:28:52 → 00:28:55 การกดทับ
00:28:55 → 00:28:57 แล้วก็
00:28:57 → 00:29:00 มันรับประทานยาตามที่คุณหมอให้มาหลังจาก
00:29:00 → 00:29:02 ผ่าตัดนะครับหลังผ่าตัดนี้คุณหมอมักจะมี
00:29:02 → 00:29:05 ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อ
00:29:05 → 00:29:08 ของแผลนะครับหลายๆท่านก็เอายากลับมาบ้าน
00:29:08 → 00:29:11 มากินกับยาแก้ปวดเออมันปวดแผลเพราะหายปวด
00:29:11 → 00:29:13 ก็เริ่มจะปฏิชีวนะไม่เห็นความสำคัญของมัน
00:29:13 → 00:29:16 ไงปรากฏว่าถ้าเราไม่ทานจนครบแล้วเกิดการ
00:29:16 → 00:29:19 ติดเชื้อเนี่ยนะครับอันนี้อันตรายเลย
00:29:19 → 00:29:20 เพราะฉะนั้นเราต้องสังเกตเหมือนกันลักษณะ
00:29:20 → 00:29:23 แผลของเราเนี่ยนะครับถ้าไม่มีมีลักษณะคือ
00:29:23 → 00:29:26 มีการบวมแดงร้อนนะครับที่บริเวณผิวหนัง
00:29:26 → 00:29:28 รอบๆแผลเนี่ยนะครับหรือบางทีเนี่ยมี
00:29:28 → 00:29:30 ลักษณะเป็นเลือดออกมาจากแผลหรือว่ามีหนอง
00:29:30 → 00:29:31 ไหลออกจากแผลอันนี้ต้องรีบกลับไปควบคุม
00:29:31 → 00:29:34 คุณหมอถึงจะยังไม่ถึงวันนัดก็ตามเพราะว่า
00:29:34 → 00:29:36 อันนั้นแสดงว่าอาจจะมีการอักเสบติดเชื้อ
00:29:36 → 00:29:38 เกิดขึ้นแล้วนะครับจะได้รีบรักษาไม่งั้น
00:29:38 → 00:29:41 แผลที่ติดเชื้อเนี่ยมันจะมีโอกาสเกิดแผล
00:29:41 → 00:29:45 เป็นได้มากเลยนะครับคราวนี้ถ้าหลังจาก
00:29:45 → 00:29:47 นั้นเนี่ยนะครับจะมีอะไรช่วยได้บ้างนะ
00:29:47 → 00:29:52 ครับเอ่อวิตามินอีนะครับอืมสารสกัดต่างๆ
00:29:52 → 00:29:55 จากวิตามินอีเช่นพวกครีมต่างๆเป็นครีมไม่
00:29:55 → 00:29:58 มีวิตามินอีอยู่เนี่ยช่วยนะครับในการซ่อม
00:29:58 → 00:30:01 แซมของแผลโดยช่วยลดการเกิดแผลเป็นเพราะ
00:30:01 → 00:30:04 ฉะนั้นผู้แผลถูกตัดไหมแล้วเปิดแผลอาบน้ำ
00:30:04 → 00:30:06 ได้แล้วเนี่ยการพาวิตามินอีครีมบ่อยๆที่
00:30:06 → 00:30:09 บริเวณแนวแผลเนี่ยก็จะลดการเกิดแผลเป็น
00:30:09 → 00:30:11 ได้เหมือนกันนะครับนอกจากวิตามินอีแล้ว
00:30:11 → 00:30:13 เนี่ยเดี๋ยวนี้ก็จะมีวิวัฒนาการที่เกี่ยว
00:30:13 → 00:30:17 กับพวกเขาเรียกว่าซิลิโคนนะครับเป็น
00:30:17 → 00:30:19 ซิลิโคนแต่เป็นซิลิโคนคนละแบบที่เราเอามา
00:30:19 → 00:30:21 ใช้เป็นซิลิโคนเสริมจมูกหรือว่าหรือว่า
00:30:21 → 00:30:23 ซิลิโคนเสริมเต้านมอะไรนั่นนะฮะแต่เป็น
00:30:23 → 00:30:25 ลักษณะของสารซิลิโคนเนี่ยนะครับก็ทำเป็น
00:30:25 → 00:30:29 รูปเจลหรือบางคนก็ทำเป็นแผ่นๆนะครับเป็น
00:30:29 → 00:30:30 แผ่นแปะเหมือนพลาสเตอร์ที่เป็นซิลิโคน
00:30:30 → 00:30:33 อันเนี้ยถ้าเรามาแปะไว้บนตัวแผลหรือเอามา
00:30:33 → 00:30:36 พามันแผลเนี่ยนะครับมันจะช่วยลดการเกิด
00:30:36 → 00:30:39 แผลเป็นนูนหรือคีลอยได้นะครับถ้าเป็นใน
00:30:39 → 00:30:42 แนวของสมุนไพรไทยก็จะมีพวกว่านหางจระเข้
00:30:42 → 00:30:45 อะไรต่างๆที่เขาทำเป็นเจลพวกเนี้ยอันนี้
00:30:45 → 00:30:47 ก็จะช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้เหมือนกันนะ
00:30:47 → 00:30:50 ครับคราวนี้ถามว่าวัสดุพวกเนี้ยไอ้ครีม
00:30:50 → 00:30:53 เจลต่างๆเนี่ยเราใช้ได้นานแค่ไหนนะครับ
00:30:53 → 00:30:57 เอ่อการหายบวมแผลเนี่ยนะครับพอแผลสมานตัว
00:30:57 → 00:30:58 กันเสร็จแล้วเราตัดไหมอะไรเสร็จแล้วเนี่ย
00:30:58 → 00:31:01 นะครับยางเรายังมีโอกาสที่จะเกิดแผลดึง
00:31:01 → 00:31:03 รั้งหรือว่าเป็นขี้น้อยเนี่ยไปได้ประมาณ
00:31:03 → 00:31:04 สัก 4-6 สัปดาห์
00:31:04 → 00:31:08 ที่เราสังเกตครับถ้าแผลของเราเนี่ยสมมติ
00:31:08 → 00:31:10 มันทำท่าจะนูนนะครับแต่รอยนูนนั้นยังเป็น
00:31:10 → 00:31:13 รอยนูนแดงๆนะครับถ้าเป็นแผลเป็นที่แดงๆ
00:31:13 → 00:31:16 เหมือนตัวหนอนแดงๆเราเรียกว่า
00:31:16 → 00:31:21 แบบแดงๆเนี่ยนะครับอันนี้เป็นคีลอยที่แผล
00:31:21 → 00:31:24 เนี่ยมันยังสมานตัวไม่ไม่สิ้นสุดเพราะ
00:31:24 → 00:31:26 ฉะนั้นถ้ายังเล็กคีลอยด์เนี่ยเรายัง
00:31:26 → 00:31:30 สามารถพาพวกวิตามินอีทาพวกซิลิโคนเจลต่าง
00:31:30 → 00:31:33 ๆพวกเนี้ยเพื่อลดโอกาสการเป็นแผลเป็นได้
00:31:33 → 00:31:36 นะครับแต่ถ้าเราทิ้งไว้นานๆนะครับจน 4-6
00:31:36 → 00:31:38 สัปดาห์ไปแล้วเนี่ยไอ้แผนเป็นทิศแดงๆ
00:31:38 → 00:31:41 เนี่ยมันจะเปลี่ยนเป็นแผลเป็นที่เป็นสี
00:31:41 → 00:31:43 ผิวหนังปกติแล้วเป็นแผลสีน้ำตาลเราเรียก
00:31:43 → 00:31:46 ว่า Dark Key ลอยนะครับลักษณะพวกเนี้ย
00:31:46 → 00:31:49 มันจะเป็นแผลที่นิ่งไปแล้วฮะคือมันมันจะ
00:31:49 → 00:31:50 ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้วเพราะ
00:31:50 → 00:31:53 ฉะนั้นถ้าเกิดเป็นแผลเป็นนูนสีน้ำตาลนะ
00:31:53 → 00:31:55 ครับดำๆน่าเกลียดน่าเกลียดที่เรากลัวกัน
00:31:55 → 00:31:59 เนี่ยถ้าถึงตรงนั้นแล้วการใช้ยาหรือเจล
00:31:59 → 00:32:02 ทาเนี่ยจะไม่ค่อยได้ประโยชน์นะฮะ
00:32:02 → 00:32:04 อ่าอันนั้นจะต้องเข้าสู่กระบวนการรักษา
00:32:04 → 00:32:06 แผลเป็นนะครับ
00:32:06 → 00:32:09 ทุกวันนี้เขารักษากันยังไงบ้างคะคุณหมอ
00:32:09 → 00:32:12 เมื่อกี้เราพูดถึงการป้องกันแผลเป็นนะ
00:32:12 → 00:32:15 ครับ
00:32:15 → 00:32:18 วิธีการรักษาแผลเป็นเนี่ยนะครับอันที่ 1
00:32:18 → 00:32:21 นะครับคุณหมอจะมีการฉีกพวกสเตียรอยด์ครับ
00:32:21 → 00:32:24 เท่าที่ชั้นใต้ผิวหนังตรงบริเวณที่เป็น
00:32:24 → 00:32:26 ก้อนแผลเป็นนั่นแหละ
00:32:26 → 00:32:29 หลังจากที่ฉีดสเตียรอยด์นะครับเข้าไปใน
00:32:29 → 00:32:32 ตรงนี้มันจะทำให้เกิดปฏิกิริยาทำให้ตัว
00:32:32 → 00:32:36 ไอ้แผลเป็นที่นูนเนี่ยมันนุ่มเลยนะครับลด
00:32:36 → 00:32:39 ขนาดลงนะครับแล้วก็ลดอาการที่มียางลบ
00:32:39 → 00:32:41 อย่างที่บอกแผลเป็นนูนๆบางทีมันขาดอาการ
00:32:41 → 00:32:44 ตรงเนี้ยก็จะดีขึ้นไปด้วยนะครับคราวนี้
00:32:44 → 00:32:46 เราฉีดยังไงนะครับปกติเนี่ยเราจะฉีดเป็น
00:32:46 → 00:32:50 แนวไปตามแนวของแผลนะครับแล้วก็มักจะฉีด 1
00:32:50 → 00:32:52 ครั้งเนี่ยก็จะเว้นไปซักประมาณ 2-4
00:32:52 → 00:32:54 สัปดาห์แล้วก็นัดมาฉีดอีกทีถ้ามันยังยุบ
00:32:54 → 00:32:57 ไม่หมดนะครับอันนี้ต้องต้องระมัดระวัง
00:32:57 → 00:32:58 ต้องฉีกโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเหมือนกัน
00:32:58 → 00:33:00 เพราะว่าบางครั้งถ้าเราฉีดแล้วฉีดเยอะ
00:33:00 → 00:33:03 เกินไปไงเนี่ยนะครับมันมันยุคจนกลายเป็น
00:33:03 → 00:33:07 แผลเป็นรอยบุ๋มก็มีนะครับผมผมเคยเจอคนไข้
00:33:07 → 00:33:11 ที่ที่เขาปลูกฝีอ่ะครับสมัยก่อนเราปลูกฝี
00:33:11 → 00:33:14 หรือหินวัคซีนครับแล้วก็โตขึ้นมามันดัน
00:33:14 → 00:33:17 เป็นแผลนูนขึ้นมาเนี่ยนะครับอ่าแล้วไปถูก
00:33:17 → 00:33:19 ขีดไอ้เจ้าสเตียรอยด์เนี่ยจนกระทั่งมัน
00:33:19 → 00:33:20 กลายเป็นเหมือนกับเป็นรอยบุ๋มลงไปซึ่ง
00:33:21 → 00:33:24 กลายเป็นดูน่าเกลียดกว่าด้วยซ้ำไป
00:33:24 → 00:33:27 แสดงว่ามันมากเกินมันจะคล้ายๆกับการที่
00:33:27 → 00:33:30 แบบบางคนไปฉีดสิวที่มันเป็นแผลนูนไหมคะ
00:33:30 → 00:33:32 คุณหมอเข้าไปฉีดแล้วพอสักพักนึงมันก็จะ
00:33:33 → 00:33:35 ยุบลงมันคือตัวเดียวกันไหมคะใช่ครับมัน
00:33:35 → 00:33:37 เป็นกลุ่มเดียวกันก็คือสามารถอย่างที่เรา
00:33:37 → 00:33:41 บอกครับเราถึงต้องฉีดเผยแพร่ครับถ้าเราไป
00:33:41 → 00:33:43 ฉีดกันเองตามคลินิกหมอกระเป๋าเลยที่ไม่
00:33:43 → 00:33:45 ใช่หมอบางทีก็ฉีดมากหรือน้อยเกินไปเนี่ย
00:33:45 → 00:33:49 อย่างน้อยก็ไม่ได้ผลคิดมากนะครับอันนี้
00:33:49 → 00:33:51 สำคัญทำไมเราถึงต้องพกเอ่อแพทย์ผิวหนัง
00:33:51 → 00:33:54 โดยเฉพาะนะครับมันถึงจะปลอดภัยนะครับแล้ว
00:33:54 → 00:33:56 ถามว่าถ้าเราหยุดฉีดแล้วสมมุติเป็นการ
00:33:56 → 00:33:59 รักษาด้วยการใช้คืออะไรฉีดเนี่ยหยุดฉีดไป
00:33:59 → 00:34:01 สักระยะนึงเนี่ยมันจะเกิดแผลเป็นใหม่ได้
00:34:01 → 00:34:06 ไหมเป็นได้ครับนะครับคราวนี้เป็นไปได้
00:34:06 → 00:34:07 เนี่ยเราจึงมักจะสมมุติเราฉีดไปเนี่ย
00:34:07 → 00:34:10 สมมุติเราบอกว่าทุก 2-4 สัปดาห์กับรถแถม
00:34:10 → 00:34:12 มันยุบมันเรียบดีแล้วเรียบร้อยเนี่ยเราจะ
00:34:12 → 00:34:15 ต้องรับติดตามดูอาการต่อไปอีกสัก 2-3
00:34:15 → 00:34:18 เดือนนะครับถึงจะพบว่าเออมันแผลมันไม่
00:34:18 → 00:34:21 เกิดซ้ำแล้วนะครับหรือว่าเอ่อบางทีเนี่ย
00:34:21 → 00:34:24 นะครับเอ่อเราตามดูไป 2-3 เดือนเนี่ย
00:34:24 → 00:34:25 บางทีฉีดใหม่ๆเนี่ยแผลมันยังไม่บวมแต่ว่า
00:34:25 → 00:34:28 พอฉีดไปนานๆเนี่ยไอ้เจ้าสเตียรอยด์ไปทำ
00:34:28 → 00:34:31 ให้ให้ชั้นไขมันที่อยู่ใต้บริเวณผิวหนัง
00:34:31 → 00:34:34 ที่เป็นแผลเป็นเนี่ยไขมันมันเกิดสลายตัว
00:34:34 → 00:34:37 มันตัวลงอันนี้ก็จะกลายเป็นแผลบุ๋มหลัง
00:34:37 → 00:34:40 จาก 2-3 เดือนไปก็ได้เพราะฉะนั้นอันนี้ก็
00:34:40 → 00:34:43 ถ้ามันบูมก็จะแก้ไขได้ยากมากเลย
00:34:43 → 00:34:46 นะครับเพราะฉะนั้นวิธีที่ 1 ก็คือการฉีด
00:34:46 → 00:34:49 นะครับซึ่งการฉีดเนี่ยยังหมายถึงที่หมอ
00:34:49 → 00:34:51 บอกตอนต้นครับประวัติคนไข้ตอนแรกสมมุติ
00:34:51 → 00:34:54 เคยผ่าตัดในท้องก่อนเนี่ยนะครับเคยทอด
00:34:54 → 00:34:56 คราวที่แล้วเนี่ยตอนแรกตอนแรกเรายังไม่มี
00:34:56 → 00:34:58 แผลเนี่ยเราก็ไม่รู้ว่ามันมีแผลเป็นหรือ
00:34:58 → 00:35:00 เปล่าใช่ไหมแต่พอคลอดครั้งแรกเสร็จเดินมา
00:35:00 → 00:35:02 หาหมอเนี่ยโอ้โหแผลเก่าเนี่ย
00:35:02 → 00:35:05 เวลาที่เราผ่าตัดคลอดนะครับพอคุณหมอเห็น
00:35:05 → 00:35:08 แผลเก่าเนี่ยคุณหมอจะตัดเลาะมันตอนที่ผ่า
00:35:08 → 00:35:10 ตัดเลยก็คือตัดเอาให้แผลเป็นคีย์ลัดออก
00:35:10 → 00:35:12 เลยแล้วเวลาคุณหมอเย็บใหม่ก่อนที่จะเย็บ
00:35:12 → 00:35:15 ผิวหนังเลยนะครับคุณหมอจะใช้วิธีฉีดไอ้
00:35:15 → 00:35:17 โชคเสียลอยเนี่ยเข้าไปในชั้นผิวหนังในวัน
00:35:17 → 00:35:20 ที่เย็บเลยครับเหมือนกับกีดกันมันตั้งแต่
00:35:20 → 00:35:23 ตอนนั้นเลยแล้วถึงจะเย็บแผลอ่าอันนี้ก็จะ
00:35:23 → 00:35:25 ช่วยให้ลดการเกิดแผลเป็นแต่ว่ากระบวนการ
00:35:25 → 00:35:27 นี้เราไม่ได้ทำทุกรายนะครับเราก็จะดูใน
00:35:27 → 00:35:29 ไลน์ที่เอ่อมีประวัติเดิมว่าเห็นเคยเห็น
00:35:29 → 00:35:34 แผลเก่าเค้าว่ามันเป็นคีรีใหญ่ๆนะครับอืม
00:35:34 → 00:35:37 นอกเหนือจากการฉีดอันนี้อ้าวออกการฉีด
00:35:37 → 00:35:39 สเตียรอยด์เนี่ยก็มีข้อเสียอันนึงเหมือน
00:35:39 → 00:35:41 กันครับคือมันค่อนข้างเจ็บครับ
00:35:41 → 00:35:44 มันจะเจ็บๆมันเหมือนกับไม่รถฉีดเพื่อ
00:35:44 → 00:35:46 เหมือนกับดันสเตียรอยด์เข้าไปในชั้นแผล
00:35:46 → 00:35:49 เป็นที่มันแข็งๆนูนๆเนี่ยมันเหมือนแทรก
00:35:49 → 00:35:50 เข้าไปในตรงนี้มันจะค่อนข้างเจ็บทีเดียว
00:35:50 → 00:35:53 นะครับจะเป็นการฉีดยาที่เจ็บนะครับอ่าไป
00:35:54 → 00:35:55 สุวิทย์จากวิธีแรกการฉีดสเตียรอยด์เนี่ย
00:35:55 → 00:35:59 นะครับวิธีที่ 2 ก็คือมีการใช้เลเซอร์นะ
00:35:59 → 00:36:01 ครับเลเซอร์ชนิดที่เป็นที่เราเรียกว่า vb
00:36:01 → 00:36:03 นะครับหรือเลเซอร์ที่เป็นเหมือนกับเค้า
00:36:03 → 00:36:06 สไตล์เลเซอร์นะครับเลเซอร์พวกเนี้ยจะ
00:36:06 → 00:36:09 สามารถฉีดเพื่อลดเอ่อปริมาณพวกไอ้เส้น
00:36:09 → 00:36:12 เลือดที่นูนๆนะครับหรืออาการแดงๆจากแผล
00:36:12 → 00:36:15 เป็นที่เล็กคีลอยด์ได้แล้วก็มันก็ลดการ
00:36:15 → 00:36:18 บวมนะครับทำให้แผลเป็นเนี่ยมันดูเหมือน
00:36:18 → 00:36:21 กับตื้นลงบางลงไอ้ที่เคยเป็นแต่เป็นงู
00:36:21 → 00:36:24 ใหญ่ก็จะเหมือนกับแคบลงนะครับเพราะฉะนั้น
00:36:24 → 00:36:26 การใช้เลเซอร์ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งนะ
00:36:26 → 00:36:29 ครับแต่แน่นอนมันก็ต้องเอ่อก็ต้องไปหาคุณ
00:36:29 → 00:36:32 หมอผิวหนังที่เขามีสถานสถานที่นั้นมี
00:36:32 → 00:36:34 เลเซอร์ต่างๆนั้นอยู่ก็ถ้าเป็นหมอผู้
00:36:34 → 00:36:37 เชี่ยวชาญนะครับอันสุดท้ายนะครับวิธีที่ 3
00:36:37 → 00:36:41 ก็คือผ่าตัดแก้ไขแผลเป็นก็เลยนะครับโดย
00:36:41 → 00:36:44 หลักการของการผ่าตัดก็คือถ้าเป็นแผลเป็น
00:36:44 → 00:36:46 เก่าที่เรารู้ตั้งแต่ก่อนผ่าตัดแล้วพอเรา
00:36:46 → 00:36:48 หาข้อตรงนี้เราก็ถือโอกาสตัดตอนนั้นแหละ
00:36:48 → 00:36:52 ตอนที่เราตอนที่เราผ่าไปเลยใช่ไหมครับแต่
00:36:52 → 00:36:54 คนไข้บางท่านก็อันนี้เป็นการแบบมีลูกครบ
00:36:54 → 00:36:56 แล้วนี่ไม่ผ่าครั้งสุดท้ายแล้วปรากฏว่า
00:36:56 → 00:36:58 ผ่านไปแล้วมันเป็นแผลเป็นทีหลังเนี่ย
00:36:58 → 00:37:01 อันเนี้ยเราอาจจะต้องใช้วิธีคือฉีดยาชานะ
00:37:01 → 00:37:04 ครับหรือฉีดให้ฉีดอาจจะให้ยาให้หลับสัก
00:37:04 → 00:37:08 ครู่นึงนะครับแล้วก็ใช้เอ่อมีดผ่าตัด
00:37:08 → 00:37:11 เนี่ยนะครับตัดบริเวณแผลเป็นทั้งหมดออกนะ
00:37:11 → 00:37:14 ครับตัดเหมือนกับตัดตามขอบของไอ้ลอยตัว
00:37:14 → 00:37:16 หนอนนั่นเลยเสร็จแล้วก็ทำการเย็บใหม่นะ
00:37:16 → 00:37:19 ครับซึ่งการเย็บใหม่เนี่ยมันจะทำให้แผล
00:37:19 → 00:37:21 มันเรียบขึ้นแล้วก็ไม่มีอะไรนูนเป็นหนอน
00:37:21 → 00:37:24 หรือเป็นตะขาบเนี่ยนะครับบางครั้งนะครับ
00:37:24 → 00:37:26 ถ้าเราตัดตรงส่วนของไอ้แผลเป็นแล้วเนี่ย
00:37:26 → 00:37:30 แผลมันขอบมันจะรุ่งริ่งเราอาจจะต้องตัดนะ
00:37:30 → 00:37:32 ครับเพื่อเหมือนกับต้องตัดผิวหนังบางส่วน
00:37:32 → 00:37:35 ที่ปกติเนี่ยออกแล้วก็จัดให้แนวแผลมัน
00:37:35 → 00:37:37 เป็นเส้นสูงขึ้นเราอย่างสมมุติถ้าเรานึก
00:37:37 → 00:37:39 ว่าแผนเป็นเหมือนกับตะขาบเป็นกระด้ง
00:37:39 → 00:37:41 กระดิ่งเงี้ยแล้วตัดตามแนวแผลไม่ได้เพราะ
00:37:41 → 00:37:43 ว่ามันจะกลายเป็นของที่เหมือนเหมือนดาว
00:37:43 → 00:37:45 กระจายนะครับทำให้เวลาเราเย็บกลับมาเนี่ย
00:37:45 → 00:37:48 มันจะเกิดแรงดึงหลังเพราะฉะนั้นนอกเหนือ
00:37:48 → 00:37:51 จากตัดแผลเป็นไอ้แนวที่เป็นเหมือนตะขาบ
00:37:51 → 00:37:52 ออกแล้วเนี่ยเราอาจต้องตัดผิวหนังเป็น
00:37:52 → 00:37:55 บริเวณกว้างกว่านั้นนะครับเพื่อให้มัน
00:37:55 → 00:37:58 เป็นแนวเส้นตรงเวลาเย็บเนี่ยแผลมันจะได้
00:37:58 → 00:37:59 ตรงขึ้น
00:37:59 → 00:38:04 อย่างนี้นะครับแล้วก็เอ่อในกรณีของการ
00:38:04 → 00:38:07 สมมติถ้าแผนเดิมเนี่ยอยู่ในตำแหน่งของแผล
00:38:07 → 00:38:11 ที่ตึงไงนะครับเวลาที่เราตัดแต่งแนวแผน
00:38:11 → 00:38:14 เนี่ยนะครับเราอาจจะต้องเปลี่ยนทิศทางใน
00:38:14 → 00:38:17 การในการเย็บแผลนะครับโดยการเดินใหม่
00:38:17 → 00:38:20 เนี่ยในทิศทางที่มันจะลดแรงตึงผิวของแผล
00:38:20 → 00:38:21 ได้
00:38:21 → 00:38:23 กระบวนการอันนี้เราเรียกมันว่า 4 Part 4
00:38:23 → 00:38:26 นะครับอันนี้ก็อธิบายว่าอาจจะยุ่งยากนิด
00:38:26 → 00:38:28 นึงแต่ว่าเอาเป็นว่ากระบวนการที่ในทางการ
00:38:28 → 00:38:30 แพทย์เค้าก็รู้กันว่าแผลมีแรงตึงสูงเนี่ย
00:38:30 → 00:38:33 มันอาจจะตัดแต่งแนวแผลเบี่ยงมันใหม่เพื่อ
00:38:33 → 00:38:35 ทำให้มันมีแรงดึงน้อยลง
00:38:35 → 00:38:38 แล้วมันก็จะเป็นแผลเป็นน้อยลงได้
00:38:38 → 00:38:40 นะครับอันนี้ก็เป็น 3 ขั้นตอนที่เราทำกัน
00:38:40 → 00:38:43 เพื่อรักษาแผลเป็นนะครับ
00:38:43 → 00:38:47 แล้วกรณีที่มันมีมากๆบนบนแขนนะคะจากการ
00:38:47 → 00:38:50 ปลูกอ่าฉีดยาตอนเด็กหรือปลูกฝีอะไรเงี้ย
00:38:50 → 00:38:52 ค่ะ
00:38:52 → 00:38:56 เป็นวิธีรักษาแบบไหนคือแบบกรณีที่มันใหญ่
00:38:56 → 00:38:58 จริงๆอ่ะค่ะ
00:38:58 → 00:39:01 ก็ใหญ่จริงๆนะครับนะเอ่อก็คงต้องแนะนำนะ
00:39:01 → 00:39:13 ครับไปถึงการผ่าตัดแต่งแผลนั่นแหละ
00:39:13 → 00:39:15 ส่วนการฉีดบางทีเขาก็ฉีดสเตียรอยด์ก็
00:39:15 → 00:39:17 อย่างที่บอกเมื่อกี้ก็ฉีดมาแล้วอ่ะครับ
00:39:17 → 00:39:19 มันไม่ยุบเลยยุบแล้วมันเกิดขึ้นใหม่อย่าง
00:39:19 → 00:39:22 เงี้ยอันนี้หรือมันไม่หมดหรือมันบุ๋มอะไร
00:39:22 → 00:39:24 เงี้ยวิธีแก้คือก็ต้องตัดผิวหนังตรงที่
00:39:24 → 00:39:26 มันบุ๋มหรือมันยังนูนเหลืออยู่เนี่ยออก
00:39:26 → 00:39:29 แล้วก็เย็บใหม่
00:39:29 → 00:39:31 นะครับอันนั้นจะเป็นวิธีแก้ที่ดีที่สุด
00:39:31 → 00:39:34 อย่างกรณีนี้คือเป็นของน้องสาวอ่ะค่ะคือ
00:39:34 → 00:39:37 ก็ผ่านมา 10 กว่าปีแล้วคือมันใหญ่ขึ้น
00:39:37 → 00:39:40 เรื่อยๆแล้วน้องบอกว่ามันคันด้วยอ่ะค่ะ
00:39:40 → 00:39:43 คุณหมอคะอันนี้ควรเอาออกไหมคะ
00:39:43 → 00:39:47 อันนี้แผลเป็นอยู่นะครับจริงๆถามว่าแผล
00:39:47 → 00:39:50 เป็นอ่ะของคำอันตรายต่อสุขภาพเนี่ยมันไม่
00:39:51 → 00:40:52 ได้มีอันตรายอะไร
00:40:53 → 00:40:56 เป็นปัจจัยเรื่องของความความงามมากกว่า
00:40:56 → 00:41:00 ไหมคะจะใช่ครับบางทีถ้าเราคิดว่าความงาม
00:41:00 → 00:41:04 แล้วแต่ว่าเราต้องลงมีดตัดผิวหนังออกแล้ว
00:41:04 → 00:41:06 ก็เย็บมันใหม่ก็คือต้องกลับมาเจ็บตัวใหม่
00:41:06 → 00:41:08 ทั้งยังแก้แผลนี้มันหายเจ็บอยู่แล้วอ่ะ
00:41:08 → 00:41:10 อันนี้บางทีก็อาจจะคิดหนักเหมือนกันบางที
00:41:10 → 00:41:12 ถ้ามันอยู่ในจุดนี้ไม่สำคัญเท่าไหร่อ่ะ
00:41:12 → 00:41:16 เขาก็คงไม่ทำแต่ว่าอย่างที่เราทราบกันนะ
00:41:16 → 00:41:20 ฮะเพื่อความสวยแค่ไหนก็สู้
00:41:20 → 00:41:23 โบท็อกฉีดฟิลเลอร์อะไรเงี้ยไม่ต้องทายาทา
00:41:23 → 00:41:26 ก็ได้นะฮะเอาน้ำแข็งไปๆฉีดได้เลยนะฮะสู้
00:41:26 → 00:41:27 ตายนะฮะ
00:41:27 → 00:41:29 ถ้าเป็นผู้ชายเนี่ยเขาคงไม่คงไม่เอาอ่ะ
00:41:29 → 00:41:32 เค้ายอมยอมทิ้งแผลเป็นไว้ไม่ยอมเจ็บตัว
00:41:32 → 00:41:35 ใหม่นะ
00:41:35 → 00:41:39 วันนี้ก็นะได้ความรู้กันครบถ้วนรอบด้าน
00:41:39 → 00:41:42 เลยนะคะสำหรับการดูแลแผลเป็นหรือว่าการ
00:41:42 → 00:41:43 ป้องกันด้วยนะคะ
00:41:43 → 00:41:46 คุณหมอมีประเด็นอยากจะฝากทิ้งท้ายเพิ่ม
00:41:46 → 00:41:49 เติมไหมคะสำหรับเรื่องของแผลเป็นเนี่ยค่ะ
00:41:49 → 00:41:51 ครับ
00:41:51 → 00:41:54 แน่นอนครับอย่างมันเป็นปัจจัยหลายๆอย่าง
00:41:54 → 00:41:57 ที่เราควบคุมไม่ได้นะครับอย่างบางทีแผล
00:41:57 → 00:41:59 เป็นที่เราเจอเนี่ยนะเป็นคุณหมอคนเดียว
00:41:59 → 00:42:02 กับสมมุติผมเย็บแผลเองนะครับเราก็เย็บ
00:42:02 → 00:42:05 ด้วยความถี่มากๆไม่แผลที่เดียวกันที่ความ
00:42:05 → 00:42:08 ตึงผิวมันก็เท่ากันตลอดแผนใช่ไหมแต่บางที
00:42:08 → 00:42:11 ตามแนวแผลเนี่ยบางทีเป็นคีย์ลอยเป็นท่อนๆ
00:42:11 → 00:42:15 แต่ว่าบางตงบางทีก็เรียบอันนี้ก็ยังเจอ
00:42:15 → 00:42:16 ได้เลยเพราะฉะนั้นมันเป็นลักษณะของผิว
00:42:16 → 00:42:19 หนังแต่ละคนนะครับดังนั้นก็ถือว่าเนื่อง
00:42:19 → 00:42:22 จากมันไม่ได้อันตรายนะครับก็ถ้ามันอยู่ใน
00:42:22 → 00:42:24 พื้นที่ที่ไม่น่าเกลียดอยู่ในอ่าสมมติว่า
00:42:24 → 00:42:27 เราเราเป็นแผลผ่าคลอดเนี่ยอยู่ในร่มผ้า
00:42:27 → 00:42:30 บางทีนี่เราใส่กางเกงสูงขึ้นมาปิดมันได้
00:42:30 → 00:42:34 เนี่ยบางทีก็คงไม่ต้องซีเรียสถึงกลับไปทำ
00:42:34 → 00:42:36 อะไรกับมันมากอ่ะนะครับนะเพราะฉะนั้นก็ก็
00:42:36 → 00:42:40 เอ่ออยากให้พิจารณาว่าก็มันไม่ได้ไปขอ
00:42:40 → 00:42:43 อันตรายครับเพราะฉะนั้นก็แล้วดูตามความ
00:42:43 → 00:42:46 จำเป็นนะครับแล้วก็วิธีการป้องกันย่อมดี
00:42:46 → 00:42:48 กว่าวิธีแก้อย่างที่เราบอกว่าเตรียมตัว
00:42:48 → 00:42:51 ก่อนผ่าตัดนะครับรักษาเบาหวานหลีกเลี่ยง
00:42:51 → 00:42:53 การสูบบุหรี่ดื่มสุราอะไรต่างๆให้ดีนะ
00:42:53 → 00:42:56 ครับอันนี้ก็ดูแลความสะอาดแผลให้ดีลดความ
00:42:56 → 00:42:58 แบบชื้นตรงเนี้ยน่าจะดีกว่าการมาแก้ไขที
00:42:58 → 00:43:01 หลังครับบางทีต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆ
00:43:01 → 00:43:06 เลยค่ะสวัสดีค่ะครับสวัสดี