00:00:01 → 00:00:05 แลคตาซอยงาดำเข้มประโยชน์ทุกคำหอมงาดำ
00:00:05 → 00:00:08 อร่อยมากมีแผลที่เท้าต้องระวังโรค
00:00:08 → 00:00:12 แบคทีเรียกินเนื้อคนเสียชีวิตได้ใน 48
00:00:12 → 00:00:16 ชมงรับมือโรคแบคทีเรียกินเนื้อคนก่อน
00:00:16 → 00:00:20 อันตรายถึงชีวิตดูแลแผลอย่างไรไม่ให้เกิด
00:00:20 → 00:00:23 แผลเป็นติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในราย
00:00:23 → 00:00:27 การที่ hth วันนี้
00:00:27 → 00:00:30 [เพลง]
00:00:30 → 00:00:33 สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการเ and
00:00:33 → 00:00:36 Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ
00:00:36 → 00:00:39 คุ้มกันรู้ทันโรคไปกับ TNN He ค่ะและ
00:00:39 → 00:00:42 ดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงชัดดาวจังวังกรแพทย์
00:00:42 → 00:00:45 เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อมที่จะ
00:00:46 → 00:00:48 รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณผู้ชม
00:00:48 → 00:00:53 มาเข้าถึงสาระสุขภาพดีๆกันค่ะ
00:00:53 → 00:01:03 [เพลง]
00:01:04 → 00:01:06 สำหรับสัปดาห์นี้นะคะเราจะมารู้จักโรค
00:01:06 → 00:01:10 แบคทีเรียกินเนื้อคนกันโรคนี้นะคะมีการ
00:01:10 → 00:01:12 แพร่ระบาดที่ประเทศญี่ปุ่นโดยพบผู้ป่วย
00:01:12 → 00:01:15 กว่า 1,000 คนเลยทีเดียวเรามารู้จักโรค
00:01:15 → 00:01:19 นี้กันมากยิ่งขึ้นค่ะโรคแบคทีเรียกิน
00:01:19 → 00:01:21 เนื้อคนเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ
00:01:21 → 00:01:24 แบคทีเรีย strepto คอคัสชนิด a เชื้อ
00:01:24 → 00:01:28 แบคทีเรียสปตคอคัสชนิด a นี้เป็นเชื้อก่อ
00:01:28 → 00:01:31 โรคที่มีมานานแล้วและมีมากกว่า 200 สาย
00:01:31 → 00:01:33 พันธุ์ก่อให้เกิดอาการแสดงของโรคได้หลาย
00:01:33 → 00:01:37 รูปแบบตั้งแต่อาการน้อยหรือปานกลางได้แก่
00:01:38 → 00:01:41 การติดเชื้อของคอหอยต่อมทอนซินและระบบทาง
00:01:41 → 00:01:44 เดินหายใจหรืออาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ
00:01:44 → 00:01:47 ที่ผิวหนังและเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนัง
00:01:47 → 00:01:50 ส่วนหนึ่งของผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรงซึ่ง
00:01:50 → 00:01:54 จะพบได้เป็นส่วนน้อยได้แก่มีการอักเสบ
00:01:54 → 00:01:57 อย่างรุนแรงของผิวหนังชั้นลึกหรือเกิด
00:01:57 → 00:02:01 ภาวะช็อกที่อาจมีอาการุแรงถึงขั้นเสีย
00:02:01 → 00:02:04 ชีวิตได้โดยหนึ่งในอาการแสดงของโรคและ
00:02:04 → 00:02:07 อยู่ในระบบที่เฝ้าระวังของประเทศไทยคือ
00:02:07 → 00:02:11 โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet f ซึ่งเป็น
00:02:11 → 00:02:13 โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตามพระ
00:02:14 → 00:02:17 ราชบัญญัติโรคติดต่อพุทศักราช
00:02:17 → 00:02:21 25558 โรคไข้อีำอีแดงหรือว่า scarlet
00:02:21 → 00:02:24 ฟีเวอร์นั้นเป็นโรคที่เกิดได้ในเด็กและ
00:02:24 → 00:02:28 เกิดได้ในทุกช่วงอายุค่ะโรคไข้อีดำอีแดง
00:02:28 → 00:02:30 เป็นการติดเชื้อแบคที
00:02:30 → 00:02:34 และหายใจรับละอองฝอยของเสมหะน้ำมูกน้ำลาย
00:02:34 → 00:02:38 ที่มีเชื้อหรือละอองเชื้อโรคสัมผัสกับตา
00:02:38 → 00:02:41 จมูกปากหรือสัมผัสผ่านมือสิ่งของเครื่อง
00:02:41 → 00:02:46 ใช้เช่นจานชามแก้วน้ำเป็นต้นอาการที่พบ
00:02:46 → 00:02:51 คือเจ็บคอปวดศีรษะไข้และอาจมีผืนนุนสากๆ
00:02:51 → 00:02:54 ตามร่างกายจากเชื้อสร้างสรรค์พิษสัมผัส
00:02:54 → 00:02:57 แล้วจะมีลักษณะคล้ายกับกระดาษทรายกลุ่ม
00:02:57 → 00:02:59 เสี่ยงของโรคจะเป็นเด็กวัยเรียนอายุ 5
00:02:59 → 00:03:03 5-1 ปีที่อยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากเช่น
00:03:03 → 00:03:06 เด็กนักเรียนในโรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็ก
00:03:06 → 00:03:09 ทั้งนี้เพื่อลดความสับสนนะคะคุณผู้ชมการ
00:03:09 → 00:03:12 ได้รับเชื้อสปตคอกคัสชนิด a นั้นจะทำให้
00:03:12 → 00:03:16 เกิดกลุ่มอาการได้ 2 กลุ่มดังนี้ค่ะ 1
00:03:16 → 00:03:19 โรคต่อมทอนซินอักเสบเป็นกลุ่มโรคไข้อีดำ
00:03:19 → 00:03:23 อีแดงและโรคผิวหนังชนิดต่างๆตั้งแต่ผิว
00:03:23 → 00:03:26 หนังชั้นตื้นอิกจนถึงชั้นเนื้อเยื่ออ่อน
00:03:26 → 00:03:31 ใต้ผิวหนังหรือที่เรียกว่าเครทฟิติหรือ
00:03:31 → 00:03:34 โรคแบคทีเรียกินเนื้อคนที่เป็นข่าวโรค
00:03:34 → 00:03:38 แบคทีเรียกินเนื้อคนหรือโรคเนื้อเน่าเคริ
00:03:38 → 00:03:43 ซินั้นเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่เนื้อ
00:03:43 → 00:03:47 เยื่อใต้ผิวหนังอาทิไขมันใต้ผิวหนังพัง
00:03:47 → 00:03:51 ผืดและกล้ามเนื้อจะมีความรุนแรงมาก
00:03:51 → 00:03:54 อันตรายถึงชีวิตหากรักษาไม่ทันเพราะเชื้อ
00:03:55 → 00:03:57 จะทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังโดยกล้าม
00:03:57 → 00:04:01 เนื้อที่มักพบบ่อยคือที่แขาบริเวณที่มี
00:04:01 → 00:04:04 การผลาตัดและลำตัวการติดเชื้อโรค
00:04:04 → 00:04:08 แบคทีเรียกินเนื้อคนเกิดขึ้นจากเชื้อได้
00:04:08 → 00:04:11 เข้าไปในบาดแผลที่ผิวหนังที่พบบ่อยคือบาด
00:04:11 → 00:04:16 แผลทั่วไปรอยถลอกแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกแผล
00:04:16 → 00:04:19 ที่เกิดจากแมลงกัดแผลถูกเข็มแทงและแผลผ่า
00:04:19 → 00:04:23 ตัดหรือแม้แต่อาการฟกช้ำที่ไม่มีบาดแผล
00:04:23 → 00:04:25 ภายนอกก็ก่อให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย
00:04:25 → 00:04:28 กลุ่มนี้ได้เช่นกันโดยเป็นการติดเชื้อทาง
00:04:28 → 00:04:30 กระแสเลือดก็ได้
00:04:30 → 00:04:33 อาการของโรคแบคทีเรียกินเนื้อขนมีดังต่อ
00:04:33 → 00:04:36 ไปนี้ค่ะโดยทั่วไปจะมีไข้สูงหนาวสั่น
00:04:36 → 00:04:40 คลื่นไส้อาเจียนเหงื่อออกเป็นลมหมดสติ
00:04:40 → 00:04:42 ทั้งนี้อาการของโรคแบ่งตามระยะเวลาที่
00:04:42 → 00:04:46 เกิดโรคได้ดังต่อไปนี้อาการของโรควันที่ 1
00:04:46 → 00:04:50 ถึงวันที่ 2 มีอาการปวดบริเวณที่เกิดโรค
00:04:50 → 00:04:53 บวมและแดงลักษณะจะคล้ายกับผิวหนังอักเสบ
00:04:53 → 00:04:56 โรคแบคทีเรียกินนเนื้อคนเกิดในชั้นลึก
00:04:56 → 00:05:00 กว่านั้นซึ่งมองไม่เห็นอาการปจะรุนแรงมาก
00:05:00 → 00:05:03 ขึ้นซึ่งไม่สอดคล้องกับอาการทางผิวหนัง
00:05:03 → 00:05:07 ที่ตรวจพบไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะได้ผู้
00:05:07 → 00:05:10 ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการไข้ครัเนื้อครั่น
00:05:10 → 00:05:13 ตัวหัวใจเต้นเร็วและมีลักษณะอาการขาดน้ำ
00:05:13 → 00:05:16 อาการของโรควันที่ 2 ถึงวันที่ 4 พบว่า
00:05:16 → 00:05:19 บริเวณที่บวมจะกว้างกว่าบริเวณผิวหนังที่
00:05:19 → 00:05:23 แดงมีผืนพุผ่องซึ่งมงบอกว่าผิวหนังขาด
00:05:23 → 00:05:27 เลือดและมีเลือดออกผิวมีสีออกคล้ำเนื่อง
00:05:27 → 00:05:30 จากผิวหนังเริ่มตายเมื่อกดผิวจะพบว่าแข็ง
00:05:30 → 00:05:33 ไม่สามารถคลำขอบของกล้ามเนื้อได้อาการของ
00:05:34 → 00:05:36 โรควันที่ 4 ถึงวันที่ 5 จะมีความดัน
00:05:36 → 00:05:40 โลหิตต่ำและมีภาวะโลหิตเป็นพิษผู้ป่วยจะ
00:05:40 → 00:05:43 ไม่ค่อยรู้สึกตัวทั้งนี้ต้องบอกว่าโรคนี้
00:05:43 → 00:05:47 มีอัตราเสียชีวิตที่ค่อนข้างสูงเนื่องจาก
00:05:47 → 00:05:50 เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษการติดเชื้ออาจจะทำ
00:05:50 → 00:05:52 ให้เส้นประสาทกล้ามเนื้อและหลอดเลือดถูก
00:05:52 → 00:05:57 ทำลายอาจจะต้องตัดอวัยวะทิ้งทั้งนี้นะคะ
00:05:57 → 00:06:00 เท้าเป็นอวัยวะที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
00:06:00 → 00:06:02 แบคทีเรียกินเนื้อคนได้มากที่สุดและที่
00:06:02 → 00:06:05 สำคัญค่ะกลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยง
00:06:05 → 00:06:08 ในการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคนได้
00:06:08 → 00:06:11 สำหรับประเทศไทยแต่ละปีจะพบผู้ป่วยโรค
00:06:11 → 00:06:16 แบคทีเรียกินเนื้อคนประมาณ 100-200 คนพบ
00:06:16 → 00:06:19 ผู้ป่วยมากในช่วงฤดูฝนและพบในเพศชายมาก
00:06:19 → 00:06:22 กว่าเพศหญิงตำแหน่งที่เกิดมากที่สุดคือ
00:06:22 → 00:06:26 ที่บริเวณขารองลงมาเป็นบริเวณเท้าเมื่อ
00:06:26 → 00:06:29 เชอโรคที่พบในดินในน้ำทั่วๆไปเข้าไปในแผล
00:06:29 → 00:06:32 น้จะทำให้เกิดการอักเสบลูกลามได้ง่ายราย
00:06:32 → 00:06:35 ที่รุนแรงอาจเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด
00:06:35 → 00:06:39 ภาวะไตวายช็อกและอาจเสียชีวิตได้ที่สำคัญ
00:06:39 → 00:06:42 หากมาพบแพทย์ช้าเมื่อมีอาการรุนแรงถึง
00:06:42 → 00:06:45 ขั้นช็อกแล้วจะทำให้อัตราการเสียชีวิต
00:06:45 → 00:06:48 เพิ่มสูงขึ้นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลา
00:06:48 → 00:06:52 และความรุนแรงด้วยประชาชนที่มีความเสี่ยง
00:06:52 → 00:06:55 ในการเกิดโรคแบคทีเรียกินเนื้อคนนั้นได้
00:06:55 → 00:06:58 แก่ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำหรือเป็นโรค
00:06:58 → 00:07:02 เกี่ยวกับเส้นเลือดเช่นเบาหวานภาวะไตวาย
00:07:02 → 00:07:04 มะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมี
00:07:04 → 00:07:08 บำบัดผู้สูงอายุคนอ้วนผู้ที่กินกลุ่มยา
00:07:08 → 00:07:11 สเตียรอยด์หรือยาชุดผู้ที่ดื่มสุราดื่ม
00:07:11 → 00:07:15 แอลกอฮอล์เป็นประจำในช่วงนี้ค่ะเราจะไป
00:07:15 → 00:07:17 คุยกับอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในราย
00:07:17 → 00:07:22 ละเอียดเกี่ยวกับโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน
00:07:22 → 00:07:25 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:07:25 → 00:07:30 เลยนะคะ
00:07:30 → 00:07:33 [เพลง]
00:07:33 → 00:07:37 โรคแบคทีเรียกินเนื้อคนมีสาเหตุเกิดจาก
00:07:37 → 00:07:40 อะไรได้คะเอ่ออันดับแรกเนี่ยต้องทำความ
00:07:40 → 00:07:43 เข้าใจเรื่องอ่าเกี่ยวกับชื่อโรคก่อนนะ
00:07:43 → 00:07:46 ครับนะคือตัวแบคทีเรียกินเนื้อคนเนี่ยมัน
00:07:46 → 00:07:50 เป็นอ่าการเรียกตามอ่าลักษณะการดำเนินของ
00:07:50 → 00:07:53 โลกครับผมซึ่งในภาษาไทยอันเนี้ยมันถอด
00:07:53 → 00:07:55 ความมาจากภาษาอังกฤษนะครับภาษาอังกฤษเรา
00:07:55 → 00:07:58 จะเรียกว่าอ่า Fresh eating disease นะ
00:07:58 → 00:08:02 ครับหรือว่า fr eating bacteria นะครับ
00:08:02 → 00:08:05 ซึ่งในศัพท์ทางการแพทย์จริงๆเนี่ยเราจะ
00:08:05 → 00:08:08 เรียกชื่อโรคตัวนี้ว่า ning F itis นะ
00:08:08 → 00:08:11 ครับซึ่งในภาษาไทยเนี่ยยังไม่มีบัญญัติ
00:08:11 → 00:08:13 ศัพท์เรื่องของตัวชื่อโรคอย่างเป็นทางการ
00:08:13 → 00:08:16 เราก็อาจจะได้ยินอ่าโดยทั่วไปว่าเรียกว่า
00:08:16 → 00:08:20 เป็นโรคแบคทีเรียกินเนื้อครับผมซึ่งตัว
00:08:20 → 00:08:23 สาเหตุเนี่ยมันเกิดจากการที่มีเชื้อโรคนะ
00:08:23 → 00:08:25 ครับเข้าสู่บริเวณเนื้อเยื่ออ่อนตามผิว
00:08:25 → 00:08:28 หนังนะครับมีการอ่าแทรกผ่านของตัวเชื้อ
00:08:28 → 00:08:32 โรคเนี่ยผ่านชั้นผิวหนังหนังกำพร้าหนัง
00:08:32 → 00:08:35 แท้ลงผ่านชั้นไขมันลงไปถึงตรงชั้นกล้าม
00:08:35 → 00:08:37 เนื้อเกิดการติดเชื้อของเนื้อเยื่อบริเวณ
00:08:37 → 00:08:40 ที่อยู่ส่วนลึกของผิวหนังได้ครับผมแล้ว
00:08:40 → 00:08:43 โรคแบคทีเรียกินเนื้อคนค่ะเกิดจากการติด
00:08:43 → 00:08:46 เชื้อ strepto คอคัสชนิด a จะแสดงอาการใน
00:08:46 → 00:08:50 ระบบใดได้บ้างคะอาจารย์อ่าตัวเชื้อสปต
00:08:50 → 00:08:52 คคัสอ่าในกรุ๊ป A อ่ะครับผมก็เป็นเชื้อ
00:08:52 → 00:08:55 โรคที่เราพบได้ในในสิ่งแวดล้อมทั่วไปอยู่
00:08:55 → 00:08:57 แล้วนะครับบางส่วนน่ะก็อยู่บนผิวหนังของ
00:08:57 → 00:09:01 เราเองนะครับซึ่งโรคอ่าเชื้อโรคตัวนี้
00:09:01 → 00:09:03 ครับสามารถก่อโรคที่บริเวณไหนของร่างกาย
00:09:03 → 00:09:06 ก็ได้ครับไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินหายใจ
00:09:06 → 00:09:08 ระบบไหลเวียนเลือดนะครับหรือว่าระบบผิว
00:09:08 → 00:09:12 หนังได้เหมือนกันแต่ในกรณีที่มีการติด
00:09:12 → 00:09:14 เชื้อกลุ่มนี้อครับในบริเวณผิวหนังเนี่ย
00:09:14 → 00:09:17 มันก็จะทำให้เกิดเรื่องเ่าโรคติดเชื้อ
00:09:17 → 00:09:19 แบคทีเรียกินเนื้อคนได้ครับผม strepto
00:09:19 → 00:09:23 คอกคัสชนิด a ทำให้เป็นโรคไข้อีดำอีแดง
00:09:23 → 00:09:26 หรือว่าสาต F ได้ด้วยใช่หรือไม่และอาการ
00:09:26 → 00:09:29 เป็นอย่างไรคะอาจารย์อ่าถ้าค่าอีดำแดง
00:09:29 → 00:09:31 เนี่ยครับผมก็คือจะทำให้เกิดผิวหนัง
00:09:31 → 00:09:35 อักเสบนะครับผมแล้วก็ลักษณะของตัวผิวหนัง
00:09:35 → 00:09:37 ที่มีการอักเสบเนี่ยมันก็จะมีลักษณะของ
00:09:37 → 00:09:41 อ่าเกิดเป็นผิวหนังอักเสบแดงบวมแดงขึ้นนะ
00:09:41 → 00:09:44 ครับผมร่วมกับอาการมีไข้ครับในสมัยก่อน
00:09:44 → 00:09:46 เราก็เลยจะเรียกว่าอ่าเป็นไข้อีดำอีแดง
00:09:46 → 00:09:49 ได้ครับผมที่ญี่ปุ่นค่ะที่คนเป็นเยอะ
00:09:49 → 00:09:52 เพราะอะไรคะและในประเทศไทยเองเราต้อง
00:09:52 → 00:09:55 กังวลหรือเปล่าคะในช่วงปลายปี
00:09:55 → 00:09:59 2566 อครับถึงช่วงต้นปี 2 25 67 เนี่ย
00:10:00 → 00:10:02 มันมีรายงานอุบัติการเรื่องของการเกิด
00:10:02 → 00:10:05 แบคทีเรียกินเนื้อในประเทศญี่ปุ่นสูงกว่า
00:10:05 → 00:10:08 นะครับซึ่งต้องเรียนตามตรงว่าจริงๆแล้ว
00:10:08 → 00:10:11 เนี่ยมันมีการติดเชื้อมาเรื่อยๆแต่อยู่ดี
00:10:11 → 00:10:14 ๆเนี่ยมันมีอุปัติการณ์สูงขึ้นในช่วงอ่า
00:10:14 → 00:10:18 ปลายปีที่ผ่านมานะครับซึ่งจากการสอบสวน
00:10:18 → 00:10:21 โรคเบื้องต้นเนี่ยเราพบว่ามันเป็นการอ่า
00:10:21 → 00:10:24 แพร่กระจายทางการสัมผัสบริเวณผิวหนังโดย
00:10:24 → 00:10:29 ตรงนะครับโดยอาจจะมีอ่าการปนเปื้อนของสาร
00:10:29 → 00:10:30 คัดหลั่งที่มีเชื้อโรคอยู่แล้วมีการ
00:10:30 → 00:10:33 สัมผัสผิวหนังหรือว่าบาดแผลครับทำให้
00:10:33 → 00:10:37 เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นส่วนในกรณี
00:10:37 → 00:10:39 ของประเทศไทยเนี่ยตัวโรคแบคทีเรียกิน
00:10:39 → 00:10:42 เนื้อคนเนี่ยเราเจอค่อนข้างบ่อยนะครับผม
00:10:42 → 00:10:45 เราเจอได้อยู่เรื่อยๆแต่ว่าไม่ได้มีราย
00:10:45 → 00:10:48 งานอุบัติการณ์ว่ามันมีความสูงผิดปกติใคร
00:10:48 → 00:10:50 คือกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคแบคทีเรียกิน
00:10:50 → 00:10:53 เนื้อคนคะจริงๆเรื่องของการติดเชื้อ
00:10:53 → 00:10:56 แบคทีเรียกินเนื้อคนเนี่ยครับผมก็คือ
00:10:56 → 00:10:59 สามารถเกิดได้ในทุกเพศทุกวัยนะครับผมแต่
00:10:59 → 00:11:01 แต่ว่าอาการเนี่ยจะรุนแรงขึ้นในคนไข้ที่
00:11:01 → 00:11:04 เป็นกลุ่มเสียงนะครับ 1 ก็คือกลุ่มคนไข้
00:11:04 → 00:11:06 ที่มีโรคเรื้อรังอยู่เดิมครับอย่างเช่น
00:11:06 → 00:11:09 โรคเบ้าหวานที่ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดีครับ
00:11:09 → 00:11:13 ภาวะไตวายเรื้อรังภาวะตับแข็งนะครับโรค
00:11:13 → 00:11:17 อ้วนนะครับผมอ่าหรือว่ากลุ่มคนที่มีความ
00:11:17 → 00:11:19 ผิดปกติทางระบบภุมิคุ้มกันนะครับอย่าง
00:11:19 → 00:11:23 เช่นการติดเชื้อ hiv อ่าคนไข้ที่ได้รับยา
00:11:23 → 00:11:26 กดภูมิอยู่คนไข้ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของ
00:11:26 → 00:11:30 การให้เคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งอาการเป็น
00:11:30 → 00:11:33 อย่างไรถ้าเชื้อเข้าแพลจำเป็นต้องเสีย
00:11:33 → 00:11:37 ชีวิตทุกรายหรือไม่คะโดยปกติแล้วเนี่ยเ่อ
00:11:37 → 00:11:39 ส่วนใหญ่ครับเชื้อพวกนี้เนี่ยจะเข้าสู่
00:11:39 → 00:11:43 บาดแผลนะครับแล้วก็ทำให้เกิดการติดเชื้อ
00:11:43 → 00:11:46 บริเวณรอบๆบาดแผลครับเวลาที่มันมีการติด
00:11:46 → 00:11:48 เชื้อแล้วเนี่ยเราอาจจะรู้สึกได้ว่ามันมี
00:11:48 → 00:11:51 อาการปวดบวมแดงร้อนบริเวณบาดแผลเพิ่มมาก
00:11:51 → 00:11:54 ขึ้นนะครับในบางรายเนี่ยอาจจะเริ่มมี
00:11:54 → 00:11:57 ลักษณะของการมีเนื้อตายบริเวณรอบๆบาดแผล
00:11:57 → 00:12:00 หรือว่ามีหนองขึ้นมามาได้เหมือนกันครับผม
00:12:00 → 00:12:05 แต่ทีนี้อ่าไม่ใช่ทุกรายที่มีการติดเชื้อ
00:12:05 → 00:12:07 แล้วจะนำไปสู่การเป็นแบคทีเรียกินเนื้อคน
00:12:07 → 00:12:10 นะครับผมอ่าแต่ว่าในกรณีที่มันมีการติด
00:12:10 → 00:12:14 เชื้อลึกลงไปในในชั้นส่วนลึกของบาดแผล
00:12:14 → 00:12:16 เนี่ยอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงและ
00:12:16 → 00:12:18 กลายเป็นแบคทีเรียกินเนื้อคนได้นะครับ
00:12:18 → 00:12:21 ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่มีลักษณะของการติด
00:12:21 → 00:12:23 เชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคนแล้วแล้วไม่ได้
00:12:23 → 00:12:27 รับการรักษาอย่างทันทุ่งทีอ่ะครับมีโอกาส
00:12:27 → 00:12:29 ที่จะเสียชีวิตค่อนข้างสูงแล้วจะรู้ได้
00:12:29 → 00:12:31 อย่างไรรคะว่ามีอาการติดเชื้อของ
00:12:31 → 00:12:36 แบคทีเรียกินเนื้อคนถ้ามีบาดแผลนะครับผม
00:12:36 → 00:12:39 เราอาจจะรู้สึกได้ว่ามันมีอาการปวดบวมแดง
00:12:39 → 00:12:42 ร้อนบริเวณบาดแผลเพิ่มมากขึ้นนะครับหรือ
00:12:42 → 00:12:44 มีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบริเวณรอบๆบาด
00:12:45 → 00:12:48 แผลอย่างเช่นผิวหนังเริ่มมีสีดำคล้ำมี
00:12:48 → 00:12:51 เนื้อตายนะครับผมหรือว่ามีหนองปริมาณมาก
00:12:51 → 00:12:54 อยู่บริเวณรอบๆแผลนะครับหรือผิวหนัง
00:12:54 → 00:12:56 บริเวณใกล้เคียงอ่ะครับมีลักษณะเป็นตุ่ม
00:12:56 → 00:12:59 น้ำพองสีดำขึ้นมาครับผม
00:12:59 → 00:13:02 หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นอย่างเช่นมีรู้
00:13:02 → 00:13:05 สึกว่าอาการคล้ายเป็นหวัดมีไข้คั้นเนื้อ
00:13:05 → 00:13:09 คั้นตัวครับในบางรายที่อาการรุนแรงเนี่ย
00:13:09 → 00:13:11 อาจจะมีอาการสสับสนหรือว่ามีอาการซึมลง
00:13:11 → 00:13:15 ได้นะครับการดำเนินโรคของโรคแบคทีเรียกิน
00:13:15 → 00:13:17 เนื้อคนค่ะอาจารย์ใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่
00:13:17 → 00:13:20 คะโรคแบคทีเรียกินเนื้อคนเนี่ยเราจะแบ่ง
00:13:20 → 00:13:24 อ่าออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆตามชนิดของเชื้อ
00:13:24 → 00:13:28 ที่ที่มักจะตรวจพบนะครับผมอ่าในส่วนใหญ่
00:13:28 → 00:13:31 แล้วเนี่ยในเชื้อกลุ่มแรกเลยเนี่ยมันก็จะ
00:13:31 → 00:13:34 พบว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียหลายๆตัว
00:13:34 → 00:13:37 พร้อมกันนะครับซึ่งพวกนี้เนี่ยการดำเนิน
00:13:37 → 00:13:40 โลกเนี่ยจะใช้ระยะเวลาเนี่ยหลักชั่วโมงจน
00:13:40 → 00:13:43 ถึงหลักวันโดยส่วนใหญ่แล้วเนี่ยคนไข้มัก
00:13:43 → 00:13:46 จะอาการแย่ลงหลังจากติดเชื้อเนี่ยประมาณ
00:13:46 → 00:13:49 อ่า 2-3 วันหลังจากที่ได้รับเชื้อไปแล้ว
00:13:49 → 00:13:51 ครับผมส่วนอีกกลุ่มนึงเนี่ยก็คือเป็น
00:13:51 → 00:13:55 กลุ่มที่มีการติดเชื้อพวกสปตคอคัสกรุ๊ป A
00:13:55 → 00:13:58 นะครับผมหรือว่าอ่าเชื้อกลุ่มสลค cus
00:13:58 → 00:14:00 เนี่ยพพวกเนี้ยอาการจะค่อนข้างรุนแรงแล้ว
00:14:00 → 00:14:03 ก็ดำเนินโรคค่อนข้างเร็วโดยส่วนใหญ่แล้ว
00:14:03 → 00:14:05 เนี่ยอาการจะลุกลามภายในไม่กี่ชั่วโมงนะ
00:14:05 → 00:14:09 ครับซึ่งถ้าเ่อได้รับการวินิจฉัยช้ารักษะ
00:14:09 → 00:14:11 เข้าสู่การรักษาช้าเนี่ยอาจจะทำให้เสีย
00:14:11 → 00:14:14 ชีวิตเร็วกว่ากลุ่มอื่นนะครับผมส่วนกลุ่ม
00:14:14 → 00:14:18 สุดท้ายเนี่ยก็จะเป็นกลุ่มของการติดเชื้อ
00:14:18 → 00:14:22 พวกที่สามารถสร้างให้เกิดแก๊สบริเวณผิว
00:14:22 → 00:14:25 หนังได้ก็จะเป็นเชื้อจำพวกตระกูลคอสเมนะ
00:14:25 → 00:14:28 ครับซึ่งพวกนี้เรามักจะเจอในกลุ่มที่มี
00:14:28 → 00:14:31 ภาวะเื้อตาอยู่แล้วแล้วมีการติดเชื้อซ้ำ
00:14:31 → 00:14:34 เข้ามาครับผมซึ่งพวกเนี้ยอาการจะไม่ค่อย
00:14:34 → 00:14:37 รุนแรงนักแล้วก็การดำเนินโรคเนี่ยใช้เวลา
00:14:37 → 00:14:41 หลักวันเราสามารถใช้น้ำประปาล้างแผลได้
00:14:41 → 00:14:44 หรือไม่คะน้ำประปาบ้านเราอ่ะครับก็อาจจะ
00:14:44 → 00:14:47 ต้องยอมรับส่วนนึงอครับว่าระบบของการฆ่า
00:14:47 → 00:14:50 เชื้อหรือว่าระบบท่อการนำส่งน้ำเนี่ยมัน
00:14:50 → 00:14:52 อาจจะยังไม่ได้สะอาดได้ 100% นะครับเพราะ
00:14:52 → 00:14:55 ฉะนั้นเนี่ยถ้าเป็นไปได้เนี่ยอาจจะใช้
00:14:55 → 00:14:58 เป็นน้ำดื่มจะปลอดภัยกว่าในกรณีที่เรา
00:14:58 → 00:15:02 เกิดบาดแผลอ่าไม่ว่าจะเกิดที่บริเวณไหนก็
00:15:02 → 00:15:05 ตามของร่างกายออครับผมก็แนะนำว่า 1 อาจจะ
00:15:05 → 00:15:08 ดูแลความสะอาดของแผลเบื้องต้นด้วยการล้าง
00:15:08 → 00:15:10 ด้วยน้ำเกลือหรือว่าน้ำสะอาดเนี่ยอย่าง
00:15:10 → 00:15:13 น้อย 1-2 ลิตรแล้วก็แนะนำว่าให้รีบมาพบ
00:15:13 → 00:15:16 แพทย์ที่ใกล้บ้านนะครับผมเพื่อวางแผนการ
00:15:16 → 00:15:20 รักษาแล้วก็ตรวจประเมินการรักษาอ่าของแผล
00:15:20 → 00:15:24 เนี่ยอย่างต่อเนื่องครับผมในกรณีที่เรา
00:15:24 → 00:15:26 ได้รับการตรวจรักษาโดยแพทย์แล้วเนี่ยรู้
00:15:26 → 00:15:30 สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงของบริเวณที่เกิด
00:15:30 → 00:15:33 บาดแผลอย่างเช่นมีอาการปวดบวมแดงร้อน
00:15:33 → 00:15:35 บริเวณรอบๆแผลมากขึ้นนะครับซึ่งอันเนี้ย
00:15:35 → 00:15:38 เป็นสัญญาที่บ่งบอกว่าแผลดังกล่าวเนี่ย
00:15:38 → 00:15:40 มันมีภาวะแทรกซ้อนแล้วเนี่ยให้รีบกลับไป
00:15:40 → 00:15:43 พบแพทย์ทันทีครับผมในการวินิจฉัยและการ
00:15:43 → 00:15:47 วินิจฉัยแยกโรคของโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน
00:15:47 → 00:15:50 ทำได้อย่างไรบ้างคะตัวโรคแบคทีเรียกิน
00:15:50 → 00:15:52 เนื้อคนเนี่ยครับมันจะมีลักษณะพิเศษที่
00:15:52 → 00:15:54 แตกต่างจากโรคการติดเชื้อบริเวณผิวหนัง
00:15:54 → 00:15:57 อื่นๆนะครับโดยปกติแล้วเนี่ยเวลาที่มีการ
00:15:57 → 00:15:59 ติดเชื้อบริเวณผิวหนังอย่างเช่นมีการ
00:15:59 → 00:16:02 อักเสบเป็นหนองนะครับโดยส่วนใหญ่แล้ว
00:16:02 → 00:16:06 เนี่ยอ่าอาการเนี่ยมันจะจำเพาะอยู่จำกัด
00:16:06 → 00:16:09 วงอยู่อ่าบริเวณที่มีการติดเชื้ออย่าง
00:16:09 → 00:16:12 เช่นถ้าเรามีฝีมีหนองนะครับมันก็จะมีการ
00:16:12 → 00:16:14 เจ็บบริเวณรอบๆที่เป็นฝีหนองเหมือนเท่า
00:16:14 → 00:16:17 นั้นนะครับผมแต่ถ้ามีการติดเชื้อ
00:16:17 → 00:16:19 แบคทีเรียกินเนื้อคนแล้วเนี่ยการติดเชื้อ
00:16:19 → 00:16:22 เนี่ยมันลงลึกลงไปถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้าม
00:16:22 → 00:16:26 เนื้อแล้วมันก็จะมีการเซาะอ่าบริเวณรอบๆ
00:16:26 → 00:16:30 อ่ะครับผมลักษณะอาการปวดเนี่ยมันจะเกิน
00:16:30 → 00:16:32 กว่าตัวขอบเขตของแผลที่เราเห็นด้วยตา
00:16:32 → 00:16:34 เปล่าโดยส่วนใหญ่แล้วเนี่ยคนไข้มักจะมี
00:16:34 → 00:16:37 อาการปวดค่อนข้างรุนแรงซึ่งดูแล้วเนี่ย
00:16:37 → 00:16:40 อาจจะไม่สัมพันธ์กับขนาดของแผลครับการ
00:16:40 → 00:16:43 วินิจฉัยโรคแบคทีเรียกินเนื้อคนนั้นค่ะ
00:16:43 → 00:16:46 อาจารย์สามารถดูได้ด้วยตาเปล่าหรือไม่คะ
00:16:46 → 00:16:48 ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยการตรวจวินิจฉัยเนี่ย
00:16:48 → 00:16:51 มันจะทำได้หลักๆอยู่ 2 วิธีนะครับวิธีแรก
00:16:51 → 00:16:53 เนี่ยก็คือการตรวจร่างกายบริเวณที่มีบาด
00:16:53 → 00:16:57 แผลครับผมอ่าในกรณีที่แพทย์เนี่ยตรวจอ่า
00:16:57 → 00:17:00 ดูบาดแผลแล้วเนี่ยสงสัยว่าอาจจะมีการติด
00:17:00 → 00:17:02 เชื้อของแบคทีเรียกินเนื้อเนี่ยแพทย์อาจ
00:17:02 → 00:17:06 จะใช้วิธีการตรวจดยการฉีดยาชาบริเวณรอบๆ
00:17:06 → 00:17:09 บาดแผลแล้วก็กรีกขยายบาดแผลเพิ่มเติมนะ
00:17:09 → 00:17:12 ครับผมเพื่อตรวจดูว่าบริเวณเยื่อหุ้ม
00:17:12 → 00:17:15 กล้ามเนื้อตรงบริเวณรอบๆแผลเนี่ยมันมีการ
00:17:15 → 00:17:18 เซาะหรือว่ามีการหลุดร่อนของบริเวณอ่า
00:17:18 → 00:17:20 เนื้อเยื่อรอบๆตนั้นหรือเปล่าซึ่งถ้ามัน
00:17:20 → 00:17:24 มีการเซาะหรือว่าการหลุดร่อนของเยื่อหุ้ม
00:17:24 → 00:17:26 กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเนี่ยมันก็จะบ่งบอก
00:17:26 → 00:17:29 ว่ามันมีการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อได้
00:17:29 → 00:17:32 ครับผมแล้วโรคแบคทีเรียกินเนื้อคนสามารถ
00:17:32 → 00:17:35 รักษาได้อย่างไรบ้างคะเนื่องจากการติด
00:17:35 → 00:17:38 เชื้อแบคทีเรียกินเนื้อครับผมเอ่อในส่วน
00:17:38 → 00:17:41 ของบริเวณที่ติดเชื้อเนี่ยมันอยู่ในชั้น
00:17:41 → 00:17:43 ลึกนะครับลงไปที่บริเวณเยื่อหุ้มกล้าม
00:17:43 → 00:17:45 เนื้อครับผมเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาที่มีการ
00:17:45 → 00:17:47 ติดเชื้อเราก็จะต้องมีการกำจัดเชื้อนั้น
00:17:47 → 00:17:51 ออกนะครับอ่าด้วยการกรีดเปิดบริเวณที่มี
00:17:51 → 00:17:53 การติดเชื้อแล้วก็ล้างทำความสะอาดเอา
00:17:53 → 00:17:55 เชื้อโรคที่อยู่บริเวณเยืหุ้มกล้ามเนื้อ
00:17:55 → 00:17:59 เนี่ยออกนะครับถ้าโชคดีในรายที่มีแค่การ
00:17:59 → 00:18:01 ติดเชื้อแต่ยังไม่มีลักษณะของการเกิด
00:18:01 → 00:18:04 เนื้อตายหรือว่าอ่าเนื้อเยื่อรอบๆเนี่ยมี
00:18:04 → 00:18:06 การเปลี่ยนแปลงอ่ะครับเราอาจจะทำแค่การ
00:18:06 → 00:18:10 กรีดระบายเชื้อโรคออกเฉยๆแต่ถ้าในกรณีที่
00:18:10 → 00:18:13 อ่าเกิดภาวะเนื้อตายแล้วหรือว่ามันมีการ
00:18:13 → 00:18:16 ลุกลามไปยังบริเวณอวัยวะข้างเคียงนะครับ
00:18:16 → 00:18:19 เราอาจจะมีจำเป็นจะต้องมีการตัดเอาผิว
00:18:19 → 00:18:21 หนังส่วนที่ตายออกนะครับหรือว่าเนื้อ
00:18:21 → 00:18:23 เยื่อข้างเคียงส่วนที่มันมีเนื้อตายออก
00:18:23 → 00:18:25 เหมือนกันสำหรับคนที่เสียชีวิตเพราะ
00:18:25 → 00:18:28 แบคทีเรียกินเนื้อคนค่ะเพราะอะไรคะ
00:18:28 → 00:18:30 อาจารย์อส่วนหนึ่งเนี่ยก็คือตัวเชื้อ
00:18:30 → 00:18:34 เนี่ยมันก็จะรุกลามไปยังเนื้อเยื่อบริเวณ
00:18:34 → 00:18:37 ข้างเคียงนะครับอาจจะข้ามจากอวยวะนึงไป
00:18:37 → 00:18:40 อีกอวัยวะนึงได้ครับแล้วก็บางส่วนเนี่ยก็
00:18:40 → 00:18:42 จะลุกลามเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดนะครับ
00:18:42 → 00:18:44 ผมก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด
00:18:44 → 00:18:47 ได้เหมือนกันซึ่งเมื่อเชื้อเนี่ยเข้าสู่
00:18:47 → 00:18:49 กระแสเลือดแล้วเนี่ยเชื้อเนี่ยก็จะสามารถ
00:18:49 → 00:18:52 ก่อให้เกิดโรคในอวัยวะไหนก็ได้นะครับผม
00:18:52 → 00:18:55 ซึ่งถ้าในกรณีที่มีการติดเชื้อสู่เข้าสู่
00:18:55 → 00:18:58 กระแสเลือดแล้วเนี่ยก็จะทำให้อาการรุนแรง
00:18:58 → 00:19:00 ขึ้นคนไข้เนี่ยอาจจะมีภาวะช็อจากการติด
00:19:00 → 00:19:03 เชื้อในกระแสเลือดได้ขอบพระคุณอาจารย์นะ
00:19:03 → 00:19:05 คะที่มาให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของ
00:19:05 → 00:19:09 โรคแบคทีเรียกินเนื้อคนค่ะในช่วงนี้นะคะ
00:19:09 → 00:19:13 เรามารู้จักเคล็ดลับในการดูแลแพลเพื่อไม่
00:19:13 → 00:19:16 ให้เป็นแพลเป็นกันลองฟังดู
00:19:16 → 00:19:19 ค่ะเริ่มแรกเมื่อเป็นแผลจะต้องให้ความ
00:19:19 → 00:19:22 สำคัญกับการทำความสะอาดแผลเพื่อลดความ
00:19:22 → 00:19:25 เสี่ยงในการติดเชื้อโรคโดยตามรายงานของ
00:19:25 → 00:19:27 National Library of Medicine ได้มี
00:19:27 → 00:19:30 การให้คำแนะนำนำในการรักษาบาดแผลโดยต้อง
00:19:31 → 00:19:33 รักษาความสะอาดของแผลอย่างเคร่งครัดตลอด
00:19:33 → 00:19:36 เวลาโดยเริ่มตั้งแต่เกิดแผลไปตลอดจนแผล
00:19:36 → 00:19:40 หายซึ่งทันทีหลังจากร่างกายได้รับบาดแผล
00:19:40 → 00:19:44 ให้รักษาความสะอาดด้วยการล้างด้วยน้ำน้ำ
00:19:44 → 00:19:47 เกลือน้ำสบู่อ่อนๆที่สำคัญจะต้องล้างมือ
00:19:47 → 00:19:50 และเช็ดมือให้แห้งก่อนหรือสัมผัสบาดแผล
00:19:50 → 00:19:54 ทุกครั้งพยายามรักษาแผลนะคะให้มีความชุ่ม
00:19:54 → 00:19:57 ชื้นตลอดเวลายกตัวอย่างเช่นการทาครีมที่
00:19:57 → 00:20:00 มีความชุ่มชื้นหรือว่ามอยจุไรเซอค่ะเพราะ
00:20:00 → 00:20:04 ว่าจะลดการระคายเคืองที่เกิดขึ้นกับแผล
00:20:04 → 00:20:07 ทุกครั้งหลังจากทำความสะอาดบาดแผลแล้วจะ
00:20:07 → 00:20:10 ต้องพยายามรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณ
00:20:10 → 00:20:12 ดังกล่าวทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการ
00:20:12 → 00:20:16 เกิดแพลเป็นด้วยและโดยทั่วไปการรักษาบาด
00:20:16 → 00:20:20 แผลให้มีความชุ่มชืนนั้นจะส่งผลต่อการก่อ
00:20:20 → 00:20:23 ให้เกิดแผลเป็นลดลงด้วยนอกจากนี้การรับ
00:20:23 → 00:20:27 ประทานอาหารที่ช่วยการสมานแผลเช่นนมไข่
00:20:27 → 00:20:31 ตับอะโวคาโดก็จะช่วยป้องกันการเกิดแผล
00:20:31 → 00:20:32 เป็นได้อีก
00:20:33 → 00:20:37 ด้วยใช้ผ้าปิดแผลการใช้ผ้าปิดแผลจะเป็น
00:20:37 → 00:20:41 การป้องกันไม่ให้มือไปสัมผัสกับแผลโดยตรง
00:20:41 → 00:20:43 และยังเป็นการป้องกันไม่ให้บาดแผลได้รับ
00:20:43 → 00:20:46 ความเสียหายหนักกว่าเดิมช่วยรักษาความ
00:20:46 → 00:20:50 ชุ่มชื้นให้ผิวที่เป็นแผลและช่วยป้องกัน
00:20:50 → 00:20:53 ไม่ให้แผลสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบใน
00:20:53 → 00:20:56 ส่วนของผ้าปิดแผลที่แนะนำให้ใช้ควรเป็น
00:20:56 → 00:21:00 ผ้าปิดแผลพยางปิดแผลพลาสเตอร์รวมถึงจะ
00:21:00 → 00:21:03 ต้องหมั่นเปลี่ยนผ้าปิดแผลบ่อยๆด้วยเช่น
00:21:03 → 00:21:08 กันป้องกันแผลจากการสัมผัสแสงแดดแน่นอน
00:21:08 → 00:21:11 ว่าโดยปกติแล้วนะคะเราควรที่จะต้องทาครีม
00:21:11 → 00:21:14 กันแดดทุกวันเพื่อเป็นวิธีที่ช่วยป้องกัน
00:21:14 → 00:21:17 มะเร็งผิวหนังและช่วยป้องกันผิวได้รับ
00:21:17 → 00:21:21 ความเสียหายอื่นๆจากการสัมผัสแสงแดดด้วย
00:21:21 → 00:21:24 แต่ในกรณีที่เพิ่งได้รับบาดแผลมานั้นรวม
00:21:24 → 00:21:27 ถึงกรณีที่เราต้องการลดรอยแผลเป็นที่อาจ
00:21:27 → 00:21:29 จะเกิดขึ้น
00:21:29 → 00:21:31 ก็ควรที่จะต้องปกป้องผิวจากแสงแดดอย่าง
00:21:31 → 00:21:35 จริงจังค่ะทางที่ดีอย่าให้แผลสัมผัสกับ
00:21:35 → 00:21:40 แสงแดดโดยตรงห้ามแกะแคะเกาแผลเป็นอันขาด
00:21:40 → 00:21:43 ค่ะคุณผู้ชมเพราะการแกะแคะเกานะคะถึงแม้
00:21:43 → 00:21:47 ว่าเราจะคุ้นชินกับการเกาการคันค่ะเมื่อ
00:21:47 → 00:21:50 เกิดแผลเป็นแต่การที่เราไปแกะแคะเกาที่
00:21:50 → 00:21:53 ว่านี้จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและทำให้
00:21:53 → 00:21:55 เกิดการระคายเคืองกับแพรมากยิ่งขึ้นค่ะ
00:21:55 → 00:21:58 และทำให้เกิดแพร้เป็นได้ง่ายทางที่ดีที่
00:21:58 → 00:22:02 สุดควรหลีกเลี่ยงการแคะการสัมผัสแกะเกาใด
00:22:02 → 00:22:05 ๆบริเวณบาดแผลจะช่วยลดการทิ้งรอยแผลเป็น
00:22:05 → 00:22:06 ได้ดี
00:22:06 → 00:22:10 ค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระสุขภาพดีๆ
00:22:10 → 00:22:13 ที่ TNN นำมาฝากคุณผู้ชมในวันนี้หวังเป็น
00:22:13 → 00:22:15 อย่างยิ่งว่าคุณผู้ชมจะสามารถนำสาระ
00:22:15 → 00:22:19 สุขภาพดีๆที่ได้ไปดูแลตัวเองและครอบครัว
00:22:19 → 00:22:22 ให้ปลอดภัยห่างไกลจากโรคร้ายกันค่ะและ
00:22:22 → 00:22:25 ขอบคุณคุณผู้ชมนะคะที่ติดตามรับชมรายการ
00:22:25 → 00:22:27 TE and Health มาโดยตลอดค่ะคุณผู้ชม
00:22:27 → 00:22:30 สามารถติดตามรับชมรายการ tn and Health
00:22:30 → 00:22:32 เป็นประจำได้ค่ะทุกวันเสาร์นะคะเวลาดี
00:22:32 → 00:22:34 15:00 นถึง
00:22:34 → 00:22:38 15:30 นที่นี่ TNN ช่อง 16 ค่ะและที่
00:22:39 → 00:22:42 สำคัญต้องไม่ลืมนะคะกดไลค์กดแชร์กด
00:22:42 → 00:22:44 Subscribe กดกระดิ่งติดตามกิ๊งๆเป็น
00:22:44 → 00:22:47 กำลังใจให้หมอดาวและทีมงาน tn And He
00:22:47 → 00:22:49 ในช่องทางโซเชียล Network ต่างๆไม่ว่าจะ
00:22:49 → 00:22:51 เป็น YouTube tiktok Facebook
00:22:51 → 00:22:53 Instagram และ LINE official เพื่อที่
00:22:53 → 00:22:56 จะเข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกัน
00:22:56 → 00:22:59 และรู้ทันโรคไปด้วยกันค่ะสำหรับวันนี้หมอ
00:22:59 → 00:23:02 ดาวและทีมงาน TNN H ต้องขอตัวลาคุณผู้ชม
00:23:02 → 00:23:05 ไปก่อนสวัสดี
00:23:05 → 00:23:27 [เพลง]
00:23:27 → 00:23:31 ค่ะแ