00:00:00 → 00:00:02 เราจะไปรู้กับวิธีในเรื่องของการรับ
00:00:02 → 00:00:05 ประทานขิงเพื่อที่จะเสริมภูมิคุ้มกันปรับ
00:00:05 → 00:00:09 ตัวรับหน้าฝนกันค่ะฤดูฝนของประเทศไทยเป็น
00:00:09 → 00:00:12 ฤดูกาลที่ต่อเนื่องจากฤดูร้อนเริ่มตั้ง
00:00:12 → 00:00:15 แต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือน
00:00:15 → 00:00:19 ตุลาคมหรือต้นเดือนพฤศจิกายนจึงถือว่า
00:00:19 → 00:00:22 เป็นฤดูกาลที่มีระยะเวลายาวนานที่สุดโดย
00:00:22 → 00:00:25 ในช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างแปร
00:00:25 → 00:00:28 ปรวนและเปลี่ยนแปลงง่ายซึ่งอาจส่งผลให้
00:00:28 → 00:00:32 ภูมิต้านทานในร่างกายต่ำลงและยังมีโอกาส
00:00:32 → 00:00:35 ทำให้ร่างกายผิดปกติเกิดอาการเจ็บป่วยได้
00:00:35 → 00:00:38 ง่ายการใช้สมุนไพรไทยใกล้ตัวอย่างขิงจึง
00:00:38 → 00:00:41 เป็นตัวเลือกหนึ่งที่นิยมใช้เพื่อเสริม
00:00:41 → 00:00:45 ภูมิคุ้มกันในหน้าฝนขิงเป็นสมุนไพรที่รู้
00:00:45 → 00:00:48 จักกันเป็นอย่างดีมีฤทธิ์ร้อนช่วยเพิ่ม
00:00:48 → 00:00:51 ภูมิต้านทานให้กับร่างกายค่ะขิงมี
00:00:51 → 00:00:54 คุณสมบัติในการช่วยต้านไข้หวัดนอกจากนี้
00:00:54 → 00:00:57 ยังมีสรรพคุณในการช่วยแก้อาการท้องอืด
00:00:57 → 00:01:00 ท้องเฟ้อช่วยขับลมโดยสามารถนำมาปรุงอาหาร
00:01:00 → 00:01:04 ได้หลากหลายเช่นไก่ผัดขิงหมูผัดซอสขิง
00:01:04 → 00:01:07 หรือจะนำมาต้มเป็นน้ำขิงก็สามารถทำได้
00:01:07 → 00:01:11 เช่นกันขิงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยเฉพาะรส
00:01:11 → 00:01:15 และกลิ่นจากการศึกษาวิจัยพบว่าขิงมีน้ำ
00:01:15 → 00:01:18 มันระเหยง่ายและสารสำคัญหลายชนิดที่ทำให้
00:01:18 → 00:01:22 ขิงมีกลิ่นฉุนรสเผ็ดร้อนขิงช่วยแก้หวัด
00:01:22 → 00:01:25 บรรเทาอาการน้ำมุกไหลอาการคลื่นเหี้นเจ็บ
00:01:25 → 00:01:29 คอไอและมีเสมหะขิงค่ะสามารถรับประทานได้
00:01:29 → 00:01:32 ได้ทั้งสดและแห้งนะคะกรณีที่อยากรับ
00:01:32 → 00:01:35 ประทานสดต้องเป็นขิงแก่ค่ะและต้องรับ
00:01:35 → 00:01:39 ประทานประมาณ 5 กรัมค่ะล้างให้สะอาดทุบ
00:01:39 → 00:01:43 ให้แตกต้มดื่มครั้งละเ 1 สด 3 ถ้วยแก้ว
00:01:43 → 00:01:48 วันละ 3 ครั้งหลังอาหารหรือฝาขิงสด 4-5
00:01:48 → 00:01:52 แว่นเคี้ยวกินหรือชงเป็นชาดื่มโดยนำขิงมา
00:01:52 → 00:01:56 ปอกเปลือกล้างให้สะอาดหั่นเป็นแว่นใส่่
00:01:56 → 00:01:59 หม้อที่เตรียมน้ำไว้ตั้งไฟต้มจนเดือดยกลง
00:01:59 → 00:02:03 กรองเอาขิงออกชิมรสตามชอบดื่มวันละ 3-4
00:02:03 → 00:02:07 ครั้งข้อควรระวังสำหรับการใช้ขิงคือการ
00:02:07 → 00:02:10 ใช้ร่วมกับยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของ
00:02:10 → 00:02:12 เลือดยาละลายลิ่มเลือดและผู้ป่วยที่มี
00:02:12 → 00:02:15 ปัญหาเรื่องการจับตัวของเกล็ดเลือดและไม่
00:02:15 → 00:02:19 ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหานิ่วในถุงน้ำดี
00:02:19 → 00:02:24 สรุปแล้วรับประทานขิงดีหรือไม่แม้ว่าขิง
00:02:24 → 00:02:27 จะไม่ได้ช่วยป้องกันโรคแต่มีงานวิจัยหลาย
00:02:27 → 00:02:30 ๆชิ้นที่บอกว่าขิงนั้นมีสารต้านอนุมูล
00:02:30 → 00:02:34 อิสระและสารต้านการอักเสบอยู่มากมายโดยพบ
00:02:34 → 00:02:37 ว่าทิงสามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้าม
00:02:37 → 00:02:40 เนื้อหลังจากการออกกำลังกายได้นอกจากนี้
00:02:40 → 00:02:43 สารในขิงบางตัวยังทำหน้าที่ป้องกันการ
00:02:43 → 00:02:46 เจริญเติบโตและการกลายพันธ์ของเซลล์
00:02:46 → 00:02:49 มะเร็งได้หลากหลายชนิดแต่ก็ยังอยู่ในขั้น
00:02:49 → 00:02:51 ตอนการวิจัยในระดับหลอดทดลองและสัตว์ทด
00:02:51 → 00:02:54 ลองเท่านั้นและต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
00:02:54 → 00:02:58 อีกสรุปแล้วควรรับประทานคิงดีหรือไม่คำ
00:02:58 → 00:03:01 ตอบคือรับประนประทานได้ค่ะและรับประทาน
00:03:01 → 00:03:04 ได้ดีด้วยควรรับประทานจากอาหารธรรมชาติ
00:03:04 → 00:03:08 เป็นหลักเช่นต้มน้ำขิงดื่มแทนน้ำหวานน้ำ
00:03:08 → 00:03:11 อัดลมหรือชาหวานต่างๆโดยที่เราต้องไม่ใส่
00:03:11 → 00:03:14 น้ำตาลหรือน้ำผึ้งมากเกิน 1 ช้อนชาต่อ
00:03:14 → 00:03:18 แก้วต่อวันหรืออาจจะนำขิงไปผัดคู่กับ
00:03:18 → 00:03:22 เนื้อสัตว์ประเภทต่างๆเช่นปลาผัดขิงก็จะ
00:03:22 → 00:03:25 ได้คุณค่าทางโภชนาการที่ดียิ่งขึ้นต้อง
00:03:25 → 00:03:29 บอกว่าสมุนไพรไทยเป็นมรดกทางภูมิปัญญาทาง
00:03:29 → 00:03:32 วัฒนทำไทยอย่างหนึ่งที่มีการนำเอาพืช
00:03:32 → 00:03:36 สมุนไพรพื้นบ้านมาเป็นยารักษาโรครวมถึงนำ
00:03:36 → 00:03:40 มาใช้ในการป้องกันหรือรักษาอาการเจ็บป่วย
00:03:40 → 00:03:43 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูฝนมีสมุนไพรไทย
00:03:43 → 00:03:46 หลายชนิดที่ช่วยในการป้องกันช่วยเสริม
00:03:46 → 00:03:49 ภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคหวัดได้นอกจาก
00:03:49 → 00:03:53 นี้นะคะยังมีสมุนไพรอื่นๆที่ช่วยต้านหวัด
00:03:53 → 00:03:57 ในช่วงหน้าฝนมีดังต่อไปนี้ค่ะมะขามป้อม
00:03:57 → 00:04:00 รู้หรือไม่ว่าผลไม้อย่างมะขามป้อมนั้นมี
00:04:00 → 00:04:03 วิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 3 เท่าและยังเป็น
00:04:03 → 00:04:07 หนึ่งในตำรับยาที่ช่วยบรรเทาอาการไอคันคอ
00:04:07 → 00:04:11 เจ็บคอมีเสมหะพริกไทยนอกจากจะเพิ่มความ
00:04:11 → 00:04:14 เผ็ดร้อนให้กับอาหารแล้วยังมีสรรพคุณใน
00:04:14 → 00:04:18 การช่วยขับเสมหะแก้ไอแก้เจ็บคอทำให้จมูก
00:04:18 → 00:04:21 โล่งจนหายจากอาการคัดจมูกและไข้หวัดที่
00:04:21 → 00:04:24 สำคัญผู้ที่เป็นไข้หวัดหากรับประทานพริก
00:04:24 → 00:04:27 ไทยดำจะช่วยในการขับเหงื่อและช่วยลด
00:04:27 → 00:04:30 อุณหภูมิร่างกายได้ตะไคร้เป็นอีกหนึ่ง
00:04:30 → 00:04:33 สมุนไพรใกล้ตัวที่มีประโยชน์ในช่วงหน้าฝน
00:04:33 → 00:04:36 โดยเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการเพิ่มภูมิ
00:04:36 → 00:04:40 คุ้มกันต้านอนุมูลอิสระแก้อักเสบและต้าน
00:04:40 → 00:04:44 ไข้หวัดได้สรรพคุณของรากตะไคร้ช่วยบำรุง
00:04:44 → 00:04:49 ธาตุขับปัสสาวะแกขัดเบาแกนิ่วรวมถึงรักษา
00:04:49 → 00:04:51 กลักเลื่อนได้อีกด้วยโดยสามารถนำต้น
00:04:51 → 00:04:55 ตระไคร้มาต้มกับน้ำสะอาดเพื่อจิบบ่อยๆได้
00:04:55 → 00:04:59 ตลอดทั้งวันกระเทียมเป็นสมุนไพรที่ใช้ใน
00:04:59 → 00:05:02 การรรักษาโรคหวัดมาอย่างยาวนานเนื่องจาก
00:05:02 → 00:05:04 มีสรรพคุณในการต้านเชื้อไวรัสและ
00:05:04 → 00:05:07 แบคทีเรียส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่าง
00:05:07 → 00:05:11 กายนอกจากนี้ยังช่วยลดอาการคัดจมูกช่วย
00:05:11 → 00:05:15 กำจัดเชื้อราที่พรงจมูกลดอาการหวัดน้ำมูก
00:05:15 → 00:05:18 ไหลคลายเมือกที่พรงจมูกทำให้หายใจได้
00:05:18 → 00:05:22 สะดวกมากขึ้นได้รู้จักสมุนไพรทายใกล้ตัว
00:05:22 → 00:05:25 แล้วอย่างไรก็ดีคุณผู้ชมลองหามาปรุงอาหาร
00:05:25 → 00:05:28 เพื่อรับประทานเป็นตัวช่วยช่วงหน้าฝนนี้
00:05:28 → 00:05:31 ในการต้านหวัดถการเจ็บป่วยและเสริมสร้าง
00:05:31 → 00:05:34 เกราะภูมิคุ้มกันที่ดีให้ร่างกายนะคะ
00:05:34 → 00:05:38 ขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:05:38 → 00:05:41 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:05:41 → 00:05:44 ไลคกดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:05:44 → 00:05:47 ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมราย
00:05:47 → 00:05:51 การสดคลิปวีดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:05:51 → 00:05:54 คะ