00:00:00 → 00:00:07 คุณผู้ฟังเคยรู้สึกแบบอยู่ดีๆก็เหมือนโลก ถล่มมั้คะแบบใจสั่นเหงื่อแตกหายใจไม่ออก
00:00:07 → 00:00:13 เหมือนจะควบคุมอะไรไม่ได้เลยครับอาการแบบ นั้นแหละครับที่มันถาโถมเข้ามาน่ากลัวมาก
00:00:13 → 00:00:19 เลยนะคะวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องนี้ล่ะ ค่ะภาวะที่เรียกว่าโรคแพิคหรือ panic
00:00:19 → 00:00:25 disอเดอร์ใช่ครับเราจะมาดูกันว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่มีอาการอะไรที่ต้อง
00:00:25 → 00:00:30 สังเกตบ้างแล้วก็เอ่อสาเหตุมันมาจากไหน ได้บ้าง
00:00:30 → 00:00:36 สุขภาพสนทนาสร้างสุขภาพดีที่เริ่มต้นจาก ความเข้าใจและก่อนที่เราจะไปเจาะลึกเนื้อ
00:00:36 → 00:00:42 หากันอย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งแจ้ง เตือนช่องสุขภาพสนทนาของเราไว้ด้วยนะคะจะ
00:00:42 → 00:00:48 ได้ไม่พลาดทุกเรื่องราวสุขภาพดีๆที่เรานำ มาฝากกันค่ะค่ะแล้วข้อมูลที่เราคุยกันนี่
00:00:48 → 00:00:53 ก็มาจากการศึกษาเจาะลึกเรื่องสัญญาณเตือน ของโรคแพนิคเลยใช่มั้คะครับผมกลั่นกรองมา
00:00:53 → 00:00:59 เพื่อคุยกันวันนี้เลยงั้นเริ่มเลยนะคะไอ้ เจ้า attack เนี่ยเอ่อมันไม่ใช่แค่กรู
00:00:59 → 00:01:05 กลัวกังวลงวธรรมดาๆดาเนาะไม่ใช่เลยครับ มันเป็นคลื่นความรู้สึกที่รุนแรงมากๆเกิด
00:01:05 → 00:01:11 ปุบปั๊บแล้วก็มักจะมาซ้ำๆโดยที่บางทีก็ ไม่มีอะไรมากระตุ้นชัดเจนด้วยซ้ำใช่มั้ย
00:01:11 → 00:01:17 คะใช่ครับอันนี้แหละครับคือจุดสำคัญของ โรคแพนิคเลยคืออาการมันเกิดขึ้นเองได้คน
00:01:17 → 00:01:22 ที่เป็นเขาจะรู้สึกยังไงคะตอนนั้นส่วน ใหญ่จะบรรยายคล้ายๆกันครับเหมือนแบบหายใจ
00:01:22 → 00:01:29 ไม่ออกหัวใจจะหลุดออกมาวิงเวียนมากๆ อื้อหือเราก็มีความกลัวจับใจเลยกลัวว่าจะ
00:01:29 → 00:01:35 ตายกลัวคุมตัวเองไม่ได้กำลังจะเป็นบ้า อะไรแบบนั้นโหแค่ฟังก็น่ากลัวแล้วค่ะถึง
00:01:35 → 00:01:41 มันจะเกิดแค่แป๊บเดียวไม่กี่นาทีแต่ความ รู้สึกตอนนั้นมันเข้มข้นรุนแรงมากจริงๆ
00:01:41 → 00:01:47 ครับแล้วพอเจอครั้งแรกนี่สิคะมันไม่ได้จบ แค่นั้นใช่มั้ยคะใช่เลยครับปัญหาใหญ่มัน
00:01:47 → 00:01:53 ตามมาคือความกังวลว่าว่ามันจะมาอีกครับผม กลัวว่าเดี๋ยวมันจะมาอีกหรือที่เรียกว่า
00:01:53 → 00:01:59 anticipatory anxiety เนี่ยแหละครับอื ทำให้ไม่อยากไปไหนไม่อยากทำอะไรเลยถูก
00:01:59 → 00:02:04 ต้องครับเริ่มหลีกเลี่ยงสถานที่สถานการณ์ ต่างๆอันนี้แหละที่กระทบชีวิตประจำวันมาก
00:02:04 → 00:02:10 ๆค่ะทีนี้มาดูสัญญาณเตือนที่ชัดๆกันบ้าง ดีกว่าค่ะมีทั้งทางกายทางใจเลยใช่มั้ยคะ
00:02:10 → 00:02:16 ครับอาการทางกายเนี่ยน่าสนใจมากเพราะมัน คล้ายกับโรคอื่นโดยเฉพาะโรคหัวใจอ๋อใช่
00:02:16 → 00:02:22 เลยค่ะที่ได้ยินบ่อยๆก็คือใจสั่นรุนแรง หัวใจเต้นเร็วเต้นผิดจังหวะไปเลยครับ
00:02:22 → 00:02:28 เหงือแตกตัวสั่นมือสั่นก็มาพร้อมกันแล้ว ก็หายใจลำบากหายใจไม่อิ่มเหมือนมีอะไรจุก
00:02:28 → 00:02:36 คอหรือสำลักใช่ครับแล้วก็อาการสำคัญอีก อย่างคือเจ็บหน้าอกแน่นหน้าอกอันนี้เอง
00:02:36 → 00:02:42 ที่ทำให้คนรีบไปโรงพยาบาลกันเพราะนึกว่า เป็นโรคหัวใจถูกต้องครับนอกจากนี้ก็อาจจะ
00:02:42 → 00:02:51 มีคลีนไส้เวียนหัวรู้สึกเนาร้อนๆวูบวาบ หรือชาตามตัวร่วมด้วยได้อื้อหืออาการเยอะ
00:02:51 → 00:02:57 เหมือนกันนะคะแล้วอาการทางใจล่ะคะสำคัญ แค่ไหนสำคัญไม่แพ้กันเลยครับแกนหลักเลย
00:02:57 → 00:03:04 คือความกลัวที่มันรุนแรงมากๆกลัวอะไรบ้าง คะกลัวคุมตัวเองไม่ได้กลัวเสียสติกลัว
00:03:04 → 00:03:10 กำลังจะตายอันนี้คือความรู้สึกหลักๆเลย ครับฟังดูทรมานมากค่ะบางคนอาจจะมีอาการ
00:03:10 → 00:03:17 แปลกๆเพิ่มเติมด้วยเช่นรู้สึกว่าสิ่งรอบ ตัวมันดูไม่จริงดูแปลกไปหรือรู้สึกเหมือน
00:03:17 → 00:03:22 ตัวเองลอยๆออกจากร่างโหมีแบบนั้นด้วยหรอ คะเรียกว่าอะไรนะคะครับเรียกว่า
00:03:22 → 00:03:29 Derrealization กับ de personalization ครับเป็นอาการที่น่ากลัวมากเหมือนกันมี
00:03:29 → 00:03:35 ข้อสังเกตมั้คะว่าอาการแบบไหนถึงจะเรียก ว่าเป็น panic attack ชัดๆมีครับข้อมูล
00:03:35 → 00:03:40 ชี้ว่าถ้ามีอาการต่างๆที่เราว่ามาเนี่ย อย่างน้อยสัก 4 อย่างเกิดพร้อมกันแล้วก็
00:03:40 → 00:03:47 รุนแรงสุดๆภายใน 10 นาทีแรกอันนี้น่าจะ เป็นสัญญาณของ Panic attack ครับอ๋อ
00:03:47 → 00:03:51 ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะแล้วสาเหตุหรอคะมันมาจาก
00:03:51 → 00:03:57 อะไรได้บ้างทำไมบางคนถึงเป็นครับเรื่อง สาเหตุเนี่ยเอิ่มมันค่อนข้างซับซ้อนนะ
00:03:57 → 00:04:04 ครับมีหลายปัจจัยเลยค่ะอย่างแรกก็ปัจจัย ทางชีวภาพพวกสารสื่อประสาทในสมองไม่สมดุล
00:04:04 → 00:04:10 เช่นเซโรโทนินโนเรพิเนฟรินหรือกาบาอ๋อที่ ควบคุมอารมณ์ความเครียดพวกนี้ใช่ครับแล้ว
00:04:10 → 00:04:15 ก็เรื่องพันธุกรรมด้วยถ้ามีคนในครอบครัว เป็นก็อาจจะเสี่ยงมากขึ้นหน่อยแล้วปัจจัย
00:04:15 → 00:04:20 อื่นๆหรอคะนอกเหนือเรื่องในร่างกายก็มี ปัจจัยทางจิตใจสิ่งแวดล้อมครับเช่นความ
00:04:20 → 00:04:26 เครียดมากๆไม่ว่าจะแบบรุนแรงปลุกปรับหรือ สะสมมานานๆความเครียดสะสมนี่น่าสนใจนะคะ
00:04:26 → 00:04:31 บางทีเราอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเครียด อยู่ใช่ครับข้อมูลบางส่วนก็ชี้ว่าความ
00:04:31 → 00:04:37 เครียดเล็กๆน้อยๆที่ไม่จัดการเนี่ยแหละ อาจเป็นตัวกระตุ้นที่คนมองข้ามไปอืมนอก
00:04:37 → 00:04:44 จากนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆในชีวิตการ ใช้สารเสพติดคาเฟอีนหรือว่าเคยมีแผลใจใน
00:04:44 → 00:04:49 อดีตก็เกี่ยวด้วยใช่มั้คะเกี่ยวหมดเลย ครับเป็นปัจจัยร่วมกันได้แต่ที่สำคัญมากๆ
00:04:49 → 00:04:56 เลยก็คือโรคนี้มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือ ว่าเราเป็นคนอ่อนแอใช่มั้คะไม่ใช่เลยครับ
00:04:56 → 00:05:03 ต้องย้ำตรงนี้เลยมันไม่ใช่โรคจิตไม่ใช่ ความอ่อนแอแต่เป็นภาวะทางสุขภาพจิตที่
00:05:03 → 00:05:10 สำคัญคือมันรักษาได้นะครับค่ะอันนี้สำคัญ มากเลยการรู้ตัวยอมรับแล้วก็ไปหาผู้
00:05:10 → 00:05:17 เชี่ยวชาญเนี่ยเป็นก้าวแรกเลยเนาะถูกต้อง ครับไปพบแพทย์จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา
00:05:17 → 00:05:23 เพื่อให้วินิจฉัยให้แน่ใจแล้วก็วางแผน รักษาการรักษามีแบบไหนบ้างคะก็มีทั้งการ
00:05:23 → 00:05:31 ใช้ยาเพื่อช่วยปรับสมดุลสารสื่อประสาทที่ มันอาจจะพร่องไปค่ะแล้วก็มีการทำจิตบำบัด
00:05:31 → 00:05:38 อย่างที่นิยมและมีหลักฐานรองรับเยอะก็คือ CBT หรือการบำบัดความคิดและพฤติกรรมใช่
00:05:38 → 00:05:45 มั้ฮะอ๋อ CBT นี่ช่วยยังไงคะคือเขาจะช่วย ให้เราเรียนรู้ที่จะจับความคิดความเชื่อ
00:05:45 → 00:05:52 ที่มันมักจะนำไปสู่อาการแพนิคแล้วก็หา วิธีปรับเปลี่ยนมันอื้อหือรวมไปถึงการฝึก
00:05:52 → 00:05:59 เผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวแบบค่อยเป็นค่อย ไปไม่หักโหมฟังดูเป็นระบบดีจังค่ะครับ
00:05:59 → 00:06:07 แล้วก็แน่นอนว่าการดูแลสุขภาพโดยรวมก็ สำคัญมากออกกำลังกายสม่ำเสมอพับผ่อนให้พอ
00:06:07 → 00:06:13 กินอาหารดีๆเลี่ยงพวกตัวกระตุ้นอย่างกาแฟ แอลกอฮอล์อันนี้ก็ช่วยได้เยอะครับค่ะสรุป
00:06:13 → 00:06:19 แล้วถึงแม้ว่าโรคแพนิคจะทำให้รู้สึกแย่ มากๆแต่จริงๆแล้วมันมีทางออกมีวิธีรับมือ
00:06:19 → 00:06:26 ได้ถ้าเราเข้าใจมันใช่มั้ยคะถูกต้องที่ สุดครับการเข้าใจสัญญาณและรู้วิธีจัดการ
00:06:26 → 00:06:32 ที่ถูกต้องนี่แหละคือกุญแจสำคัญเลยสุด ท้ายนี้อยากชวนคุณผู้ฟังลองคิดตามนิดนึง
00:06:32 → 00:06:38 นะคะว่าการที่เราสังเกตเห็นสัญญาณเหล่า นี้ได้เร็วขึ้นไม่ว่าจะในตัวเองหรือคน
00:06:38 → 00:06:44 ใกล้ตัวมันมีความหมายยังไงบ้างคะครับการ รู้ทันตั้งแต่เนิ่นๆเนี่ยมันอาจจะไม่ได้
00:06:44 → 00:06:49 แค่ช่วยให้รับมือกับอาการเฉพาะหน้าได้ดี ขึ้นเท่านั้นแต่อาจจะช่วยลดผลกระทบในระยะ
00:06:49 → 00:06:56 ยาวต่อชีวิตต่อคุณภาพชีวิตของเราได้อย่าง ไรบ้างอันนี้น่าคิดต่อนะครับถ้าชอบเนื้อ
00:06:56 → 00:07:02 หาแบบนี้ฝากกดติดตามกดไลค์กดแชร์ให้คนที่ คุณห่วงใยและเป็นกำลังใจให้กับช่องสุขภาพ
00:07:02 → 00:07:07 สนทนาได้มีแรงสร้างสรรค์เรื่องราวดีต่อไป นะครับ