00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายคนนะครับคงเคยได้
00:00:03 → 00:00:06 ยินเรื่องของการรับประทานอาหารให้ตรงตาม
00:00:06 → 00:00:08 หมู่เลือดของเรานะครับว่ามันจะสามารถช่วย
00:00:08 → 00:00:11 ส่งเสริมสุขภาพให้เรามีร่างกายที่แข็งแรง
00:00:11 → 00:00:14 มีอายุยืนยาวแล้วก็ลดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
00:00:14 → 00:00:17 ได้นะครับเรื่องนี้มันมีที่มาที่ไปอย่าง
00:00:17 → 00:00:19 ไรวันนี้ผมจะมาเล่าให้ทุกท่านฟังนะครับ
00:00:19 → 00:00:22 แล้วก็จะทิ้งลิงค์ของงานวิจัยที่ผมไปหามา
00:00:22 → 00:00:24 แล้วก็ท่านสามารถไปอ่านได้ด้วยตัวเองเลย
00:00:24 → 00:00:27 นะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธานีธนียวรรณ
00:00:27 → 00:00:28 นะครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศ
00:00:28 → 00:00:31 สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย
00:00:31 → 00:00:34 ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับเรื่องของหมู่
00:00:34 → 00:00:37 เลือดที่เราว่ากันเนี่ยคือหมูเลือด abo
00:00:37 → 00:00:39 นะครับซึ่งผมคิดว่าหลายคนคงจะรู้จักกันดี
00:00:39 → 00:00:42 นะครับหมู่เลือด abo ของเรานั้นได้ถูกค้น
00:00:42 → 00:00:46 พบในปี 1901 นะครับโดยคนแลนสไตล์เนอร์นะ
00:00:46 → 00:00:49 ครับแล้วหลังจากนั้นก็มีการค้นพบหมู่
00:00:49 → 00:00:51 เลือดอื่นๆอีกมากมายเลยนะครับยกตัวอย่าง
00:00:51 → 00:00:54 เช่นหมู่เลือด rh ซึ่งหลายๆคนอาจจะเคยได้
00:00:54 → 00:00:56 ยินนะครับแต่มันก็ไม่ได้มีแค่ 2 หมู่
00:00:56 → 00:00:59 เลือดนี้เท่านั้นนะครับมันมีเยอะแยะไปหมด
00:00:59 → 00:01:04 นะครับเช่น
00:01:04 → 00:01:07 ไปหมดเลยนะครับแล้วเราก็เล่าได้ไม่หมดแน่
00:01:07 → 00:01:11 นอนนะครับแต่เอาเป็นว่าเราจะโฟกัสกันที่
00:01:11 → 00:01:14 หมู่เลือด abo นะครับเพราะว่ามันเป็นหมู่
00:01:14 → 00:01:17 เลือดที่เราค้นพบหมู่แรกในโลกแล้วมันก็มี
00:01:17 → 00:01:20 การศึกษาเยอะแยะไปหมดนะครับหมู่เลือด abo
00:01:20 → 00:01:23 นั้นมีความเกี่ยวข้องกับโรคภัยไข้เจ็บ
00:01:23 → 00:01:26 จริงๆนะครับยกตัวอย่างเช่นหมู่เลือด O นะ
00:01:26 → 00:01:29 ครับหมู่เลือด O จะมีโอกาสเป็นโรคแผลใน
00:01:29 → 00:01:32 กระเพาะแผลในลำไส้เล็กเยอะกว่าเอาเพื่อน
00:01:32 → 00:01:35 นะครับแต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาหารที่
00:01:35 → 00:01:38 ทานเข้าไปนะครับมันเกี่ยวข้องกับการติด
00:01:38 → 00:01:40 เชื้อชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่า HP Online
00:01:40 → 00:01:43 นะครับซึ่งมันก็ทำให้เรามีปัญหาเรื่องแผล
00:01:43 → 00:01:45 ในกระเพาะได้นะครับตัวนี้ก็มีความเกี่ยว
00:01:45 → 00:01:47 ข้องกันจริงนะครับนอกนั้นมีดังนี้แต่ละ
00:01:47 → 00:01:49 กลุ่มก็มีความเกี่ยวข้องกับโรคอื่นๆด้วย
00:01:49 → 00:01:53 เช่นกันนะครับหมู่เลือด abo นั้นถูกควบ
00:01:53 → 00:01:57 คุมอยู่โดยโครโมโซมคู่ที่ 9 นะครับอ่าถ้า
00:01:57 → 00:02:00 เป็น RS เนี่ยจะโครตที่ 1 ถ้าใครมาเสีย
00:02:00 → 00:02:02 ชีวิตก็อาจจะพอเข้าใจถ้าใครไม่ใช่สาย
00:02:02 → 00:02:05 วิทย์ก็ผ่านตรงนี้ไปแล้วกันนะครับทีนี้พอ
00:02:05 → 00:02:06 เรารู้สึกว่า
00:02:06 → 00:02:09 มันเป็นหมู่เลือดหลักของเราแล้วมันก็มี
00:02:09 → 00:02:12 ความเกี่ยวข้องกับโรคภัยไข้เจ็บก็เลยเป็น
00:02:12 → 00:02:15 ที่มาของการที่เราคิดว่าเอ๊ะอย่างนี้
00:02:15 → 00:02:17 เนี่ยถ้าเรารับประทานอาหารให้ตรงกับหมู่
00:02:17 → 00:02:19 เลือดเฮ้ยมันน่าจะช่วยส่งเสริมเรื่อง
00:02:19 → 00:02:23 สุขภาพของเราได้นะครับก็เลยเป็นที่มาของ
00:02:23 → 00:02:30 คุณ Peter ดีอะโน่นะครับอ่าคนนี้เนี่ยเขา
00:02:30 → 00:02:31 ก็เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งนะครับ
00:02:31 → 00:02:34 หนังสือเล่มนี้เนี่ยขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
00:02:34 → 00:02:39 นะครับออกมาในปี 1996 นะครับชื่อว่า
00:02:39 → 00:02:43 for you คือพวกง่ายๆคือทานอาหารให้ตรง
00:02:43 → 00:02:46 กับหมู่เลือดนะครับโดยแนวคิดของเขานั้น
00:02:46 → 00:02:49 เริ่มจากการที่สมัยก่อนเนี่ยเขาคิดว่าคน
00:02:49 → 00:02:53 ที่เกิดขึ้นมาแรกๆในโลกนั้นมีหมู่เลือด O
00:02:53 → 00:02:56 เป็นหลักนะครับหมู่เลือด O มันก็เป็นตรง
00:02:56 → 00:02:58 กับในช่วงแรกที่คนเราเนี่ยจำเป็นจะต้อง
00:02:58 → 00:03:01 ล่าสัตว์นะครับเพื่อที่จะรับประทานอาหาร
00:03:01 → 00:03:04 ดังนั้นก็แปลว่าอาหารในช่วงเวลานั้นเนี่ย
00:03:04 → 00:03:07 มักจะเป็นเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ก็เลย
00:03:07 → 00:03:10 เป็นที่มาของการที่แนะนำว่าคนที่มีหมู่
00:03:10 → 00:03:13 เลือด O นั้นถ้าจะทานให้ตรงกับ
00:03:13 → 00:03:16 นิสัยตัวเองหรือว่าลักษณะร่างกายของตัว
00:03:16 → 00:03:19 เองควรจะทานอาหารจำเทศที่มีเนื้อสัตว์
00:03:19 → 00:03:22 เยอะหน่อยนะครับอ่าก็เป็นกลุ่มคล้ายๆ
00:03:22 → 00:03:25 Carnival กลุ่มคล้ายๆ Palio เป็นต้นนะ
00:03:25 → 00:03:25 ครับ
00:03:26 → 00:03:29 หลังจากที่มีกลุ่มโอที่เป็นกลุ่มล่าสัตว์
00:03:29 → 00:03:32 เป็นหลักแล้วต่อมาก็จะเป็นกลุ่มที่ลงหลัก
00:03:32 → 00:03:35 ปักฐานทำเกษตรกรรมเพิ่มมากขึ้นนะครับ
00:03:35 → 00:03:39 กลุ่มนี้ก็จะเป็นหมู่เลือด A นะครับหมู่
00:03:39 → 00:03:41 เลือด A ก็เลยมีคำแนะนำว่าเราควรจะรับ
00:03:41 → 00:03:43 ประทานอาหารกลุ่มที่เป็นมังสวิรัติขึ้นมา
00:03:43 → 00:03:46 เพราะว่าเราปลูกพืชปลูกผักพวกนี้นะครับ
00:03:46 → 00:03:50 หมู่เลือด A ก็จะเหมาะกับอาหารกลุ่มที่
00:03:50 → 00:03:51 เป็นพืชผัก
00:03:51 → 00:03:54 หมู่เลือดดีล่ะหมูเลือดดีจะเป็นกลุ่มคน
00:03:54 → 00:03:57 เร่ร่อนที่มีการเลี้ยงสัตว์นะครับดังนั้น
00:03:57 → 00:04:00 ก็จะสามารถรับประทานผลิตภัณฑ์น้ำมันจาก
00:04:00 → 00:04:03 สัตว์โดยเฉพาะนมพวกชีสนะครับพวกนี้หรือ
00:04:03 → 00:04:06 ว่าการที่เรามีการเลี้ยงสัตว์เราก็ทาน
00:04:06 → 00:04:07 เนื้อสัตว์พวกนี้ได้นะครับดังนั้นอาหาร
00:04:07 → 00:04:10 กลุ่มนี้ก็จะแนะนำให้คนหมู่เลือด B รับ
00:04:10 → 00:04:13 ประทานนะครับแล้วหมูนั่นเองกับ USB ก็มี
00:04:13 → 00:04:16 การแต่งงานกันมีลูกออกลูกออกหลานขึ้นมานะ
00:04:16 → 00:04:19 ครับก็เลยกลายเป็นหมู่ AB ขึ้นมาหมู่ AB
00:04:19 → 00:04:21 เนี่ยอาหารที่เขาแนะนำก็จะอยู่ระหว่าง
00:04:21 → 00:04:24 กึ่งกลางระหว่างหมู่ A และหมู่ B นะครับ
00:04:24 → 00:04:27 นี่ก็เป็นที่มาของอาหารตามช่วงต่างๆซึ่ง
00:04:27 → 00:04:32 ถ้าเราลองดูนะครับเราฟังผิวเผินเราอาจจะ
00:04:32 → 00:04:35 ไม่ได้คิดอะไรมากมันก็จะน่าจะตรงกับใน
00:04:35 → 00:04:38 สิ่งที่เขากินในช่วงนั้นของเขานะครับแต่
00:04:38 → 00:04:40 ว่าเราลองคิดให้มันลึกลงไปกว่านั้นจริงๆ
00:04:40 → 00:04:44 มันมีปัญหาเหมือนกันนะครับปัญหาอะไรปัญหา
00:04:44 → 00:04:47 แรกก็คือว่าเราแน่ใจได้ยังไงว่าหมู่เลือด
00:04:47 → 00:04:50 O เนี่ยเป็นหมู่เลือดแรกของโลกเพราะว่า
00:04:50 → 00:04:53 จริงๆมันมีข้อค้านบางอย่างที่บางคนเนี่ย
00:04:53 → 00:04:55 คิดว่าน่าจะเป็นหมู่เลือด ab ด้วยซ้ำไป
00:04:55 → 00:04:58 ที่จะเป็นหมู่แรกของโลกนะครับแต่ตรงนี้
00:04:58 → 00:05:01 เนี่ยก็หลักมันก็ยังตีกันไปตีกันมาอยู่นะ
00:05:01 → 00:05:03 ครับดังนั้นผมไม่สามารถสรุปอะไรให้ท่านใน
00:05:03 → 00:05:06 กรณีของหมู่เลือดไหนที่มันถือกำเนิดเป็น
00:05:06 → 00:05:10 หมู่เลือดแรกของโลกได้นะครับต่อมา
00:05:10 → 00:05:14 มันมีอะไรตรงไหนที่บ่งบอกว่าอาหารซึ่งตรง
00:05:14 → 00:05:17 กับพฤติกรรมในช่วงเวลานั้นสามารถทำให้
00:05:17 → 00:05:22 อายุยืนยาวได้ไม่มีนะครับไม่มีสมมุติว่า
00:05:22 → 00:05:25 ถ้าเรามีโอกาสย้อนกลับไปเมื่อมนุษย์ถือ
00:05:25 → 00:05:28 กำเนิดขึ้นมาบนโลกของเรานี้ที่ยังล่า
00:05:28 → 00:05:30 สัตว์อยู่ที่เป็นกรุ๊ป O เนี่ยถ้าเราเอา
00:05:30 → 00:05:33 ผักเอาผลไม้ให้เขากินมันจะมีปัญหาอะไรไหม
00:05:33 → 00:05:37 นะครับมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถูกไหมครับ
00:05:37 → 00:05:40 ถ้าเราถ้าเราไปบอกว่าอาหารเนื้อสัตว์เท่า
00:05:40 → 00:05:43 นั้นที่เขารับประทานได้ตอนนั้นก็แปลว่า
00:05:43 → 00:05:45 ถ้าอย่างอื่นมันขาดไม่ได้เลยเหรอทานแล้ว
00:05:45 → 00:05:48 จะมีปัญหาเหรอถูกไหมครับก็ตรงนี้เนี่ยมัน
00:05:48 → 00:05:51 มีข้อขัดแย้งข้อที่เราค้านได้เสมอเลยนะ
00:05:51 → 00:05:55 ครับหากว่าจะเป็นเช่นนั้นมันก็ต้องมาคิด
00:05:55 → 00:06:00 ดูดีๆนะครับตรงนี้ก็จะมีคนคัดค้านปัญหาก็
00:06:00 → 00:06:03 คือเราคงไม่มีโอกาสได้ย้อนเวลากลับไปใน
00:06:03 → 00:06:05 ช่วงนั้นนะครับเพื่อที่จะทำการทดลองวิจัย
00:06:05 → 00:06:07 ว่าเฮ้ยกินของแบบนี้ให้มันไม่ตรงกับหมู่
00:06:07 → 00:06:09 เลือดแล้วมันจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าเรา
00:06:09 → 00:06:11 เลยต้องมาวิจัยในปัจจุบันกันนี่แหละครับ
00:06:11 → 00:06:15 แล้ววิจัยในปัจจุบันนี้มีคนทำขึ้นมาแล้ว
00:06:15 → 00:06:17 จริงๆนะครับซึ่งผมก็จะแปะลิงก์ไว้ให้ท่าน
00:06:17 → 00:06:19 ไปดูด้วยเขาทำงานวิจัยอย่างไรนะครับเขาก็
00:06:19 → 00:06:23 ดูเลยนะครับว่าเนี่ยให้แต่ละคนรับประทาน
00:06:23 → 00:06:26 อาหารตามหมู่เลือดซึ่งคุณปีเตอร์เนี่ยเขา
00:06:26 → 00:06:30 แนะนำไว้นะครับหากินกินไปเลยนะครับแล้ว
00:06:30 → 00:06:34 เข้ามาดูว่าเออในกลุ่มคนที่รับประทาน
00:06:34 → 00:06:36 อาหารทั้งหมดเนี่ยมันจะมีบางคนกินไม่ตรง
00:06:36 → 00:06:39 หูเลือดตัวเองแต่ก็กินเป็นอาหารที่แนะนำ
00:06:39 → 00:06:42 นะครับอยู่ในที่คุณปีเตอร์เขาแนะนำเช่น
00:06:42 → 00:06:45 สมมุติว่าหมู่เลือด B แต่ไปกินอาหารของ
00:06:45 → 00:06:48 หมูด้วย A อย่างนี้นะครับหมูด้วยโอไปกิน
00:06:48 → 00:06:51 ของหมู่เลือด A อย่างนี้เป็นต้นเขาก็ดู
00:06:51 → 00:06:54 แบบนี้ว่ามันมีปัญหาอะไรไหมเขาพบว่าเออคน
00:06:54 → 00:06:58 ที่กินอาหารไม่ตรงกับหมู่เลือดตัวเองก็
00:06:58 → 00:07:02 ได้รับประโยชน์จากอาหารที่รับประทานเข้า
00:07:02 → 00:07:05 ไปนะครับยกตัวอย่างเช่นอาหารของหมู่เลือด
00:07:05 → 00:07:09 A แนะนำว่าเป็นพวกพืชผักซะส่วนใหญ่ก็คือ
00:07:09 → 00:07:12 เป็นพวกมังสวิรัตินะครับเรารู้อยู่แล้วนะ
00:07:12 → 00:07:14 ครับว่าอาหารบางสิ่งบางรักนั้นสามารถที่
00:07:14 → 00:07:17 จะลดโรคหลอดเลือดอุดตันต่างๆโรคหลอดเลือด
00:07:17 → 00:07:21 หัวใจหลอดเลือดสมองต่างๆได้นะครับพอเรา
00:07:21 → 00:07:23 ให้คนที่ไม่ใช่หมู่เลือด A รับประทาน
00:07:23 → 00:07:26 อาหารแบบนี้เข้าไปเราก็เห็นประโยชน์ครับ
00:07:26 → 00:07:29 แต่เขาไม่ได้เป็นหมู่เลือด A เลยตรงนี้
00:07:29 → 00:07:32 ที่เป็นข้อคัดค้านอย่างนึงแล้วว่าเฮ้ย
00:07:32 → 00:07:34 สมมุติฐานที่เขาตั้งมาตอนแรกมันอาจจะไม่
00:07:34 → 00:07:38 ถูกต้องใช่ไหมครับแล้วเขาก็ไปเจอว่าคนที่
00:07:38 → 00:07:40 รับประทานอาหารตรงกับหมู่ของตัวเองมันก็
00:07:40 → 00:07:43 ได้ประโยชน์เอ๊ะอย่างนี้ถ้าเกิดตรงกับไม่
00:07:43 → 00:07:45 ตรงของตัวเองมันได้ประโยชน์เหมือนกันก็
00:07:45 → 00:07:49 ไม่ได้มีอะไรที่เราจำเป็นจะต้องรับประทาน
00:07:49 → 00:07:52 อาหารให้มันตรงกับหมู่ของเราถูกไหมครับนะ
00:07:52 → 00:07:55 พองานวิจัยตัวนี้ออกมาเราก็เลยเป็นที่มา
00:07:55 → 00:07:57 ของการที่ว่าอ๋อนี่แหละอย่างน้อยมันมีข้อ
00:07:57 → 00:08:00 พิสูจน์ที่ออกมาคัดค้านกับทางทฤษฎีอันนี้
00:08:00 → 00:08:04 แล้วนะครับว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นนะแล้ว
00:08:04 → 00:08:07 ตัวอาหารที่รับประทานที่คุณปีเตอร์เขาแนะ
00:08:07 → 00:08:09 นำไว้แต่ละอย่างนะครับมันเป็นอาหารซึ่ง
00:08:09 → 00:08:12 เขาคัดแล้วคัดอีกว่าน่าจะมีประโยชน์นะ
00:08:12 → 00:08:15 ครับโดยอาหารพวกที่มันมีโทษเยอะๆเนี่ยเขา
00:08:15 → 00:08:17 ตัดออกไปจากตรงนี้หมดนะครับ
00:08:17 → 00:08:21 ถามว่าถ้าเราอยากจะรับประทานอาหารตามหมู่
00:08:21 → 00:08:25 เลือดเนี่ยมันจะได้อะไรขึ้นมานะครับข้อ
00:08:25 → 00:08:28 แรกก็คืออาหารที่เขาคัดมาให้ตามแต่ละหมู่
00:08:28 → 00:08:30 เลือดนั้นมันเป็นอาหารที่ค่อนข้างที่จะดี
00:08:30 → 00:08:33 ทั้งหมดเลยนะครับมีข้อยกเว้นข้อเดียวเลย
00:08:33 → 00:08:36 อาหารสำหรับหมู่เลือด B นะครับเพราะว่า
00:08:36 → 00:08:39 อาหารสบู่เลือด B เนี่ยมันจะเป็นกลุ่มที่
00:08:39 → 00:08:41 เราเรียกว่า derry product ได้ก็คือนม
00:08:41 → 00:08:44 และผลิตภัณฑ์จากนมซึ่งบางคนทานไม่ได้นะ
00:08:44 → 00:08:47 ครับอาจจะแพ้นมนะครับมีอาการท้องเสียท้อง
00:08:47 → 00:08:50 อืดนะครับเรอลมในท้องเยอะแล้วก็ได้นะครับ
00:08:50 → 00:08:53 หรือบางคนทานแล้วมันเป็นสิวเพิ่มขึ้นนะ
00:08:53 → 00:08:56 ครับก็ไม่เหมาะกับการใช้อาหารของหมู่
00:08:56 → 00:08:59 เลือด B โดยท่านอาจจะอยู่ในหมู่เลือด B
00:08:59 → 00:09:02 แต่ว่าท่านแพ้แลคโตสแล้วก็กินนมเข้าไปมัน
00:09:02 → 00:09:04 ก็ไม่ได้ถูกไหมครับอันนี้ก็ไม่เหมาะสม
00:09:04 → 00:09:06 เหมือนกันนะ
00:09:06 → 00:09:09 ถ้าท่านจะทานอาหารตามหมู่เลือดเนี่ยท่าน
00:09:09 → 00:09:12 ทานได้นะครับมันไม่มีข้อเสียอะไรยกเว้น
00:09:12 → 00:09:15 ว่าถ้าท่านแพ้อาหารจำเพจนั้นน่ะอันนี้ทาน
00:09:15 → 00:09:16 ไม่ได้แน่ๆอยู่แล้วต่อให้มันตรงกับหมู่
00:09:16 → 00:09:19 เลือดท่านท่านก็ทานไม่ได้นะครับ
00:09:19 → 00:09:22 ดังนั้นข้อดีจากอันนี้มันอาจจะไม่ได้มี
00:09:22 → 00:09:25 อย่างที่ท่านคิดนะครับข้อเสียมันไม่มี
00:09:25 → 00:09:27 เหมือนกันยกเว้นว่าถ้าท่านแพ้อาหารเหล่า
00:09:27 → 00:09:31 นั้นนะครับแต่ข้อเสียมันจะมีในกรณีที่
00:09:31 → 00:09:34 เกี่ยวข้องกับการทำอาหารมากกว่า
00:09:34 → 00:09:38 ท่านลองคิดดูถ้าท่านทำตามเป๊ะๆเลยนะครับ
00:09:38 → 00:09:40 เช่นเราเป็นหมูเลือด B เราต้องกินอย่าง
00:09:40 → 00:09:43 นี้เป๊ะๆท่านจะทำเป๊ะได้ทุกวันหรือเปล่า
00:09:43 → 00:09:46 ท่านไปทำอาหารท่านก็จะต้องซื้อแต่ไอ้ของ
00:09:46 → 00:09:50 แบบเนี้ยทุกวันนะครับไปกินข้าวข้างนอกถ้า
00:09:50 → 00:09:53 เขาไม่ได้ทำมาท่านกินได้ไหมไม่ได้ไปต่าง
00:09:53 → 00:09:55 ประเทศเขาถามมาไม่ตรงกับเอ่อหมู่เลือดของ
00:09:55 → 00:09:58 ท่านท่านก็กินไม่ได้นะครับดังนั้นก็จะมี
00:09:58 → 00:10:00 ความยากลำบากตรงนี้ขึ้นมา
00:10:00 → 00:10:02 และความยากลำบากที่มากๆอีกอย่างหนึ่งก็
00:10:02 → 00:10:06 คือสมมุตินะครับในครอบครัวของท่านเนี่ย
00:10:06 → 00:10:09 พ่อเป็น a แม่เป็น B ลูกคนหนึ่งเป็น AB
00:10:09 → 00:10:13 ลูกอีกคนนึงเป็นโอขึ้นมาเฮ้ยแล้วอย่างนี้
00:10:13 → 00:10:16 แปลว่าเราต้องมีอาหาร 4 อย่างอยู่ใน
00:10:16 → 00:10:18 ครอบครัวเดียวเลยเหรอเพื่อให้แต่ละคนรับ
00:10:18 → 00:10:22 ประทานมันยากนะครับที่เราจะต้องทำอาหาร 4
00:10:22 → 00:10:24 ชนิดที่ไม่เหมือนกันเลยนะครับให้คนใน
00:10:24 → 00:10:27 ครอบครัวเราทานอันนี้มันก็ลำบากไปอีกนะ
00:10:27 → 00:10:31 ครับนี่ยังไม่นับรวมถึงในกรณีที่เรามีลูก
00:10:31 → 00:10:32 เกิดมา
00:10:32 → 00:10:37 ลูกเกิดมาใช่ไหมครับต้องทานอะไรครับนมถูก
00:10:37 → 00:10:39 ไหมครับลูกเกิดมาให้เราเราป้อนผักเขากิน
00:10:39 → 00:10:43 เลยไหมไม่เราให้เนื้อเขากินไหมไม่ถูกไหม
00:10:43 → 00:10:46 ครับแล้วเขากินอะไรนมนมแม่หรือนมผงที่ชง
00:10:46 → 00:10:48 นี่แหละครับอ้าว
00:10:48 → 00:10:50 นมนี่มันอยู่ในกลุ่มไหนอ่ะ
00:10:50 → 00:10:52 หมู่เลือดดีครับ
00:10:52 → 00:10:56 ผลิตภัณฑ์จากนมเฮ้ยเดี๋ยวเราเริ่มแปลกละ
00:10:56 → 00:10:59 นมมนุษย์เนี่ยถือเป็นไดอารี่ product ไหม
00:10:59 → 00:11:05 หรือถือเป็นโปรตีนจากสัตว์
00:11:05 → 00:11:07 ถ้าเกิดว่าเป็นหมู่ไหนเรากินนมแม่อันนี้
00:11:07 → 00:11:10 มันผิดหมูไหมเนี่ยนะครับอันนี้ผมก็มาดูนะ
00:11:10 → 00:11:13 ครับอันนี้อันนี้ขำๆจริงๆมันมีคำอธิบาย
00:11:13 → 00:11:15 ของเขาอยู่แล้วครับว่านมแม่เนี่ยดื่มได้
00:11:15 → 00:11:18 ไม่มีปัญหาอะไรนะครับแต่ผมก็เอาให้เราคิด
00:11:18 → 00:11:20 เล่นๆแล้วกันนะครับว่าจริงๆมันรายละเอียด
00:11:20 → 00:11:22 มันมีปัญหาพวกนี้ขึ้นมาได้ทำให้เราต้องมา
00:11:22 → 00:11:25 นั่งคิดกันเยอะแยะไปหมดนะครับดังนั้น
00:11:25 → 00:11:28 เนี่ยการกินอาหารที่มันตรงกับหมูเลือด
00:11:28 → 00:11:29 เนี่ยมันอาจจะไม่ได้ประโยชน์อย่างที่ท่าน
00:11:29 → 00:11:32 คิดแล้วนะครับโทษของมันก็ไม่ได้มีอะไรยก
00:11:32 → 00:11:34 เว้นของหมู่เลือด B เท่านั้นที่อาจจะมี
00:11:34 → 00:11:37 ปัญหาได้หรือคนที่แพ้นะครับทานนมไม่ได้นะ
00:11:37 → 00:11:39 ครับแล้วก็อาจจะมีความยากลำบากในการ
00:11:39 → 00:11:41 เตรียมอาหารอะไรพวกนี้ขึ้นมา
00:11:41 → 00:11:45 อาหารในแต่ละหมู่เขาพยายามจะคัดที่มันมี
00:11:45 → 00:11:48 ประโยชน์นะครับแล้วก็ไม่มีโทษดังนั้นคน
00:11:48 → 00:11:50 ที่รับประทานอาหารไปบางครั้งเนี่ยรู้สึก
00:11:50 → 00:11:52 ว่าเฮ้ยตัวเองได้ประโยชน์รู้สึกน้ำหนักลด
00:11:52 → 00:11:54 ทุกอย่างดีขึ้นหมดเลยมันต้องเป็นเพราะว่า
00:11:54 → 00:11:58 ทานอาหารตรงตามหมู่เลือดแน่นอนเลยไม่ใช่
00:11:58 → 00:12:00 ครับถ้าท่านไปดูรายละเอียดจริงๆอาหาร
00:12:00 → 00:12:02 เหล่านั้นเนี่ยมันถูกคัดมาให้มันดีอยู่
00:12:02 → 00:12:05 แล้วต่อให้ท่านทานผิดหมู่อ่ะมันก็จะดี
00:12:05 → 00:12:09 ขึ้นนะครับเหมือนในงานวิจัยตัวนี้นะครับ
00:12:09 → 00:12:13 แต่ทานของหมู a แต่มันดีขึ้นน้ำหนักลดก็
00:12:13 → 00:12:15 เพราะว่ามันเป็นมังสวิรัติเรารู้อยู่แล้ว
00:12:15 → 00:12:18 มันต้องดีอย่างนั้นหรือไม่งั้นเรามีอาหาร
00:12:18 → 00:12:19 อย่างอื่นเช่น
00:12:19 → 00:12:21 อาหารเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งช่วยลดเรื่อง
00:12:21 → 00:12:24 ของโรคหัวใจเรื่องของคอเลสเตอรอลต่างๆ
00:12:24 → 00:12:28 หรือ Dash Diet อย่างนี้นะครับกลุ่มพวก
00:12:28 → 00:12:30 นี้เรารู้อยู่แล้วมันช่วยในการลดเรื่อง
00:12:30 → 00:12:32 ของความดันสูงอาจจะช่วยเรื่องความดันสูง
00:12:32 → 00:12:33 เรื่องอะไรพวกนี้
00:12:33 → 00:12:36 มันไม่ใช่อาหารที่ตรงตามหมู่เลือดเลยสัก
00:12:36 → 00:12:39 นิดนะครับมันมีการผสมผสานกันอยู่แต่มัน
00:12:39 → 00:12:42 ได้ผลมันได้ผลนะครับดังนั้นตรงนี้ก็เป็น
00:12:42 → 00:12:45 อีกข้อขาหนึ่งที่ไม่ได้สนับสนุนความคิด
00:12:45 → 00:12:49 ของคุณปีเตอร์คนนี้นะครับอีกอย่างหนึ่ง
00:12:49 → 00:12:51 ซึ่งคุณปีเตอร์เนี่ยเขายกขึ้นมาก็คือ
00:12:51 → 00:12:54 เรื่องของเล็กตินนะครับเล็กตินคืออะไร
00:12:54 → 00:12:57 เล็กตินก็เป็นสารอย่างหนึ่งที่มีความหลาก
00:12:57 → 00:12:59 หลายเยอะมากเลยนะครับมีหลากหลายชนิดเต็ม
00:13:00 → 00:13:02 ไปหมดเลยมันอยู่ในพืชตระกูลถั่วบางอย่าง
00:13:02 → 00:13:06 นะครับแล้วมันสามารถที่จะไปจับกับน้ำตาล
00:13:06 → 00:13:09 ได้โดยคุณพิวเตอร์เนี่ยเขาให้ความเห็นว่า
00:13:09 → 00:13:13 ตัวเล็กติ่งตัวนี้นะครับถ้าเรารับประทาน
00:13:13 → 00:13:15 เล็กดินที่มันไม่ถูกชนิดกับหมู่เลือดของ
00:13:15 → 00:13:18 เรานั้นมันจะไปจับกับน้ำตาลแล้วก็ทำให้
00:13:18 → 00:13:21 เม็ดเลือดของเราเนี่ยเกาะกลุ่มกันเป็น
00:13:21 → 00:13:24 ก้อนนะครับแล้วก็อาจจะมีปัญหาในทางเดิน
00:13:24 → 00:13:27 อาหารเกิดการอักเสบต่างๆแล้วก็นำไปสู่โรค
00:13:27 → 00:13:30 ภัยต่างๆธรรมดานะครับแต่
00:13:30 → 00:13:34 เราก็มีการทดลองต่อมานะครับว่าไอ้เล็กซิม
00:13:34 → 00:13:36 ตัวนี้เนี่ยมันไม่ได้เลือกหมู่เลือดครับ
00:13:36 → 00:13:40 มันทำให้ตัวเลือดของเราจะเป็นก้อนได้ไม่
00:13:40 → 00:13:42 ว่าจะหมู่เลื่อนไหนก็ตามไม่ขึ้นอยู่กับ
00:13:42 → 00:13:43 ชนิดเล็กด้วย
00:13:43 → 00:13:47 ในทางปฏิบัติจริงๆนั้นเราไม่ต้องกลัวหรอก
00:13:47 → 00:13:49 ครับว่า
00:13:49 → 00:13:52 ผมบอกว่าให้มันไม่ตรงหมู่เลือดมันมันก็
00:13:52 → 00:13:53 จับให้หมู่เลือดเราเป็นก้อนได้มันมาจาก
00:13:53 → 00:13:55 ถั่วก็ยังมีรกห้ามกินถั่วหรือเปล่าไม่
00:13:55 → 00:13:58 ครับของพวกนี้ถั่วที่เขาเอามาทำแล้วเรา
00:13:58 → 00:14:01 เกิดการจับตัวของหมูหรือเป็นก้อนๆพวกนี้
00:14:01 → 00:14:04 เวลาที่เราประกอบอาหารหรือเราเอามาทาน
00:14:04 → 00:14:08 เนี่ยกรรมวิธีที่เราเอาไปทำให้มันสามารถ
00:14:08 → 00:14:10 ทานได้มันจะกำจัดอิเล็กตรินตัวนี้อยู่
00:14:10 → 00:14:13 แล้วทำให้มันหมดฤทธิ์หมดสภาพไม่สามารถทำ
00:14:13 → 00:14:16 ให้เกิดปัญหาอะไรใดๆต่อเราได้ดังนั้น
00:14:16 → 00:14:19 เรื่องของเล็กตินไม่มีความจำเป็นจะต้อง
00:14:19 → 00:14:23 กังวลแต่อย่างไรนะครับอ่าตรงนี้ก็มีเหตุ
00:14:23 → 00:14:26 ผลมีหลักฐานมีข้อค้าอะไรออกมาเต็มไปหมดนะ
00:14:26 → 00:14:29 ครับก็เลยอยากจะมาเล่าให้เราฟังดังนั้นนะ
00:14:29 → 00:14:33 ครับโดยสรุปสำหรับผมนะครับส่วนตัวแล้วผม
00:14:33 → 00:14:36 คิดว่าการรับประทานอาหารตามหมู่เลือดนั้น
00:14:36 → 00:14:40 มันไม่ได้มีหลักฐานอะไรสนับสนุนเลยสักนิด
00:14:40 → 00:14:43 เดียวนะครับมีหลักฐานที่ตรงกันข้ามมี
00:14:43 → 00:14:46 ปัญหาคือหลักฐานค้านนะครับอย่างไรก็ตาม
00:14:46 → 00:14:49 ถ้าท่านมีความสบายใจที่จะรับประทานอาหาร
00:14:49 → 00:14:51 ประเภทนี้ที่ตรงตามหมู่เลือดของตัวเอง
00:14:51 → 00:14:54 แล้วคิดว่ามันได้ประโยชน์หรือว่าทานไป
00:14:54 → 00:14:56 แล้วมันได้ประโยชน์จริงๆและคิดว่าสามารถ
00:14:56 → 00:14:58 ที่จะทานอาหารอย่างนั้นได้ตลอดชีวิตตลอด
00:14:58 → 00:15:02 ไปไม่ได้ลำบากอะไรนักหนาในการหาอาหารชนิด
00:15:02 → 00:15:04 นั้นมาทานไปเที่ยวที่ไหนท่านก็หาอาหารทาน
00:15:04 → 00:15:07 ได้นะครับอันนี้ท่านสามารถทานต่อได้มัน
00:15:07 → 00:15:10 ไม่ได้เกิดโทษอะไรแต่อย่างใดกับท่านอีก
00:15:10 → 00:15:12 ข้อยกเว้นก็คือถ้าท่านแพ้อาหารในกลุ่ม
00:15:12 → 00:15:15 นั้นท่านก็เรียกมันไปนะครับหรือท่านที่
00:15:15 → 00:15:17 รับประทานนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมสัตว์ไม่
00:15:17 → 00:15:20 ได้ท่านก็ต้องเรียกตรงนั้นไปนะครับไม่ใช่
00:15:20 → 00:15:22 ว่าโอ้ดันทุรังว่าเราเป็นหมู่เลือด B เรา
00:15:22 → 00:15:24 ต้องกินไอ้ของพวกนี้นะไม่ได้นะครับเดี๋ยว
00:15:24 → 00:15:27 ท่านก็ปวดท้องท้องอืดอันนี้ก็จะมาเอ่อจะ
00:15:27 → 00:15:29 มาโทษด็อกเตอร์ปีเตอร์ก็ไม่ได้เหมือนกัน
00:15:29 → 00:15:30 นะครับเขาก็ไม่ได้แนะนำให้ท่านทานแบบนั้น
00:15:30 → 00:15:34 นะครับก็ทำแบบนี้แล้วกันสุดท้ายนี้คือ
00:15:34 → 00:15:37 อาหารอะไรที่เราทานเนี่ยอย่างที่ผมบอกเลย
00:15:37 → 00:15:40 ครับสมดุลไม่สุดโต่งไปทางใดทางหนึ่งนะ
00:15:40 → 00:15:43 ครับดีที่สุดเลยนะครับสุดโต่งยังไงไม่
00:15:43 → 00:15:47 สมดุลยังไงง่ายๆเลยครับท่านลองดูว่าถ้า
00:15:47 → 00:15:50 ท่านมีลูกมีหลานหรือถ้าท่านมีพ่อแม่ที่
00:15:50 → 00:15:53 แก่เฒ่ามากๆเนี่ยเขาทานอะไรแล้วทานรู้สึก
00:15:53 → 00:15:57 สบายใจบ้างนั่นแหละครับทางสายกลางอาหาร
00:15:57 → 00:16:01 ที่สมดุลนะครับเราต้องทำแบบนี้นะครับโอเค
00:16:01 → 00:16:03 วันนี้ก็เท่านี้นะครับใครมีอะไรสงสัยก็
00:16:03 → 00:16:05 สอบถามมาแล้วกันนะครับขอบคุณมากครับ
00:16:05 → 00:16:08 สวัสดีครับ