00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice สวัสดีครับผมวีรพงษ์ทวีศักดิ์
00:00:08 → 00:00:12 ดิฉันสุธิราพรปรีเปรมและนี่คือศัลยกรรม
00:00:12 → 00:00:15 ความสุขรายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความ
00:00:15 → 00:00:20 สุขมากขึ้นมีความทุกข์น้อยลงพี่อ้อยครับ
00:00:20 → 00:00:24 พี่อ้อยเคยได้ยินคำว่าพจนานุกรมฉบับ
00:00:24 → 00:00:26 บัณฑิตอะไรสักอย่าง
00:00:26 → 00:00:28 ราชบัณฑิตยสถานราชบัณฑิตเออใช่มั้ยใช่ม
00:00:29 → 00:00:32 เคยค่ะแล้วเมีเมีคณะกรรมการหรือเมีคนที่
00:00:32 → 00:00:36 ดูแลเรื่องนี้ใช่ที่มีหน้าที่ในการอธิบาย
00:00:36 → 00:00:38 ว่าคำศัพท์นี่แปลว่าอะไรอะไรอย่างงี้ใช่
00:00:38 → 00:00:41 มั้ยหลายๆครั้งคนก็สงสัยว่าเอ๊ยคำนี้จริง
00:00:41 → 00:00:44 ๆแปลว่าอะไรนะแล้วก็พออธิบายปึ๊บก็จะต้อง
00:00:44 → 00:00:47 ไปให้คณะกรรมการเนี่ยฟันธงว่าจริงๆนี่
00:00:47 → 00:00:49 ต้องใช้อย่างงี้ถึงจะถูกต้องอะไรอย่าง
00:00:49 → 00:00:51 เงี้นะผมว่าถ้าเกิดว่าผมทำงานเป็นคณะ
00:00:51 → 00:00:55 กรรมการเผมคงปวดหัวพี่อ้อยทำไมถูมั้ยฮะ
00:00:55 → 00:00:58 ค่ะเพราะว่าศัพท์สมัยนี้มันมีใหม่ๆเยอะ
00:00:58 → 00:01:01 มากอ๋อต้องมันนั่งต้องมานั่งเอ๊ะมันแปล
00:01:01 → 00:01:05 ว่าอะไรอะไรอย่างเงี้นะอ๋อแต่แต่ถ้าเป็น
00:01:05 → 00:01:09 ศัพท์วัยรุ่นคำแสลงนี่อือไม่น่าจะเอาขึ้น
00:01:09 → 00:01:12 ราชบัณฑิตยโบางทีมันดังมากเก็เอาขึ้นนะอ
00:01:12 → 00:01:17 เหรออือๆๆอย่างเช่นวันนี้ขอเสนอคำว่าแต่
00:01:17 → 00:01:18 ละมืแต่ละ
00:01:18 → 00:01:23 [เพลง]
00:01:23 → 00:01:27 เโอ้อันนี้วัยรุ้นตัว
00:01:27 → 00:01:31 จริงแต่ว่าอันนี้แต่ละมืแต่ละเดนี่เขายัง
00:01:31 → 00:01:35 คณะกรรมการเยังไม่ได้บรรจุเข้าไป
00:01:35 → 00:01:38 นะเรารีบชิงเอามาคุเรารีบชิงก่อนเลยนะ
00:01:38 → 00:01:42 เป็นพจนานุกรมฉบับพี่อ้อยกับพี่
00:01:42 → 00:01:46 วีตกลงคุณผู้ฟังครับแต่ละมืแต่ละเนี่มัน
00:01:47 → 00:01:51 แปลว่าอะไรพี่อ้อยฮะอืเออเรามาต้อง
00:01:51 → 00:01:54 วิเคราะห์กันมั้ยแต่ละมืแต่ละเดเนี่ยเอา
00:01:54 → 00:01:56 งี้ก่อนมันเป็นภาษาอีสานเออมันเป็นภาษา
00:01:56 → 00:01:59 อีสานแต่ว่าก่อนที่จะแปลว่าอะไรเนี่ยอือๆ
00:01:59 → 00:02:02 ถ้าเกิดเกิดว่าคนที่พูดคำเนี้ยความหมาย
00:02:02 → 00:02:05 เ้านี่มันเป็นในเชิงแบบมีความสุขหรือมี
00:02:05 → 00:02:09 ความทุกข์่ะสดใสหรือขุ่นมัวคือภาษาวัย
00:02:09 → 00:02:13 รุ่นเนี่ยจริงๆมันก็เดายากอือๆๆว่าว่าคำ
00:02:14 → 00:02:17 พูดนะเพราะว่ามันเป็นเหมือนแสลงอืเออเรา
00:02:17 → 00:02:20 ก็เดายากว่าเอ๊ตกลงมันดีหรือไม่ดีแต่ถ้า
00:02:20 → 00:02:25 ให้สวแปลนะเวลานี้อ่ะไปเดือดร้อนสวอีก
00:02:25 → 00:02:27 แล้วเดี๋ยวสสเทำไมไม่
00:02:27 → 00:02:28 [เสียงหัวเราะ]
00:02:28 → 00:02:33 ันแปลว่าอะไรฮะพี่ห้อยเหมือนเหมือนหนัก
00:02:33 → 00:02:36 หนาอ่ะอืว่าเหมือนกับกว่าจะผ่านไปวันนึง
00:02:37 → 00:02:39 วันนึงอ่ะออะไรอย่างเงี้ยคิดเองนะคะก็คือ
00:02:40 → 00:02:42 เป็นคำบ่นน่ะพูดง่ายๆเออคำบ่นคำใช่เป็นคำ
00:02:42 → 00:02:45 บ่นนะซึ่งหมายความว่าคำบ่นนี่หมายความว่า
00:02:45 → 00:02:48 อะไรหมายความว่าก็ไม่ได้อารมณ์คงไม่ได้สด
00:02:48 → 00:02:51 ใสเบิกบานเท่าไหร่หรอกใช่มั้ยฮเป็นคำบ่น
00:02:51 → 00:02:55 แบบไม่ได้พึงพอใจกับสิ่งนี้หรอกนะใช่ๆอัน
00:02:55 → 00:02:57 นี้แสดงว่าบทนิบนเกี่ยวกับเกี่ยวกับ
00:02:57 → 00:03:00 เรื่องอะไรเออเรามาวิเคราะห์กันนะพี่อ้อย
00:03:00 → 00:03:05 เรามาตั้งตัวเป็นคณะกรรมการคณะ
00:03:05 → 00:03:08 ราชบัณฑิตยสถานเมื่อกี้พี่อ้อยบอกว่าเป็น
00:03:08 → 00:03:12 เป็นภาษาอีสานอือเออเสียงมันเป็นมืไงพี่
00:03:12 → 00:03:15 มื้อเป็นไม่ใช่มื้อด้วยนะมืนะแต่ละมื
00:03:15 → 00:03:17 เนี่ยแต่ละมื้อนี่เป็นภาษาอีสานแปลว่าแต่
00:03:17 → 00:03:22 ละวันน่ะใช่เออมื้อมืเนี่ยแปลว่าอย่าง
00:03:22 → 00:03:24 อีสานเบอกว่ามื้อนี่คือแปลว่าวันนี้วัน
00:03:24 → 00:03:28 นี้ Day ก็แปลว่าวันนี้อ่าใช่แต่ละมื้อ
00:03:28 → 00:03:32 นี่ก็คือว่าวันนะแล้วคำว่า Day ก็แปลว่า
00:03:32 → 00:03:35 วันนี้เหมือนกันอันนี้เป็นภาษาอังกฤษนะฮะ
00:03:35 → 00:03:39 ใช่มั้ยอันนี้ผมก็พอเรียนมาเหมือน
00:03:39 → 00:03:43 กันแสดงว่าแต่ละมืแต่ละเนี่มันเป็นคำซ้ำ
00:03:43 → 00:03:47 นะคือพูดง่ายๆว่าแต่ละวันประมาณแบบโอ้โห
00:03:47 → 00:03:50 ชีวิตประมาณว่าแกรู้มยว่าชีวิตชันในแต่ละ
00:03:50 → 00:03:53 วันต้องเจออะไรบ้างอะไรเงี้ยเหมือนอะไรนะ
00:03:53 → 00:03:57 วันๆันกว่าจะผ่านอะไรอย่างี้ใช่ทีนี้วันๆ
00:03:57 → 00:04:00 เวลาที่เราเจออะไรบ้างเนี่ยผมมีความรู้
00:04:00 → 00:04:02 สึกว่าคำเนี้ยที่ชอบแล้วมันเกี่ยวกับเรา
00:04:02 → 00:04:05 ด้วยเกี่ยวกับรายการแสนตกรรมความสุขเนี่ย
00:04:05 → 00:04:08 ก็คือว่าเบื้องต้นก่อนนะคนที่พูดแบบนี้ก็
00:04:08 → 00:04:10 แสดงว่ารู้มั้ยวันนึงเจออะไรบ้างอะไรอย่า
00:04:10 → 00:04:13 เงี้ยแล้วพูดแบบนี้ก็แสดงว่าสิ่งที่เจอทำ
00:04:13 → 00:04:16 ให้เาขุ่นมัวใช่ไม่ได้อยากเจอหรอกค่ะราะ
00:04:17 → 00:04:19 นี้ศัลกรรมความสุขเนี่ยพี่อ้อยรายการเรา
00:04:19 → 00:04:23 นี่เป้าหมายคือเราเรามีความเชื่อทำให้มี
00:04:23 → 00:04:27 ความสุขเพิ่มขึ้นมีความทุกข์น้อยลงอ่าไม่
00:04:27 → 00:04:30 ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราเจออะไรด้วยด้วยนะ
00:04:30 → 00:04:34 ไม่ขึ้นเราเจออะไรก็ได้ค่ะนะแล้วแต่ว่า
00:04:34 → 00:04:36 เราจะมีความสุขหรือมีความทุกข์ไม่ได้ขึ้น
00:04:36 → 00:04:39 อยู่กับว่าเราเจออะไรใช่แต่มันขึ้นอยู่
00:04:39 → 00:04:43 กับขึ้นอยู่กับอะไรขึ้นอยู่กับมุมมองกับ
00:04:43 → 00:04:46 สิ่งที่เกิดขึ้นที่เราเจอเออก็ขึ้นอยู่
00:04:46 → 00:04:49 กับ mindset ขึ้นอยู่กับวิธีคิดใช่มั้ย
00:04:49 → 00:04:53 ที่เราไปเจอเพราะงั้นแสดงว่าถ้าเกิดว่า
00:04:53 → 00:04:58 ใครที่เป็นแฟนประจำฟังรายการศัลกรรมคววาม
00:04:58 → 00:05:02 สุขเนี่ยค่ะค่ะก็จะไม่มีวิจะไม่มีความรู้
00:05:02 → 00:05:06 สึกแบบแต่ละมืแต่ละเอ่ะใช่มั้ยก็ต้อง
00:05:06 → 00:05:10 พัฒนานะพี่วีอยู่ๆฟังรายการเราแล้วแล้ว
00:05:10 → 00:05:14 บอกว่าเอ้ยไม่มีผลคำนี้ก็คงไม่ใช่ไม่มี
00:05:14 → 00:05:16 เลยอ่าโอโหอันนี้ดีมากพี่อ้อยเพราะอะไร
00:05:16 → 00:05:19 รู้มั้ยเพราะค่ะขนาดเราซึ่งเป็นผู้จัดราย
00:05:19 → 00:05:22 การอย่าเงี้ยอือบางวันเราก็เจออะไรบาง
00:05:22 → 00:05:26 อย่างที่มันส่งผลกระทบกับเราเหมือนกันใช่
00:05:26 → 00:05:29 ซึ่งเราก็จะต้องใช้ความพยายามประมาณนึง
00:05:29 → 00:05:32 ค่ะทีนี้ผมอยากจะเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
00:05:32 → 00:05:34 อยากฟังค่ะประมาณแต่ละมื้อแต่ละเแต่ว่า
00:05:34 → 00:05:37 มันยิ่งกว่าแต่ละมืแต่ละเดเยแต่ละโมเมนต์
00:05:37 → 00:05:41 เลยแหละอุ้ยแต่ละขณะเลยเนี่ยค่ะๆมันเกิด
00:05:41 → 00:05:44 เหตุการณ์ขึ้นเมื่อวานนี้เองพี่อ้อยนะอผม
00:05:44 → 00:05:47 ขับรถไปแล้วระหว่างที่จอดติดไฟแดงอยู่นั
00:05:47 → 00:05:50 น่ะก็หมายถึงว่าช่วงนั้นไม่น่าจะเกินสัก
00:05:50 → 00:05:54 30 วินีหรือ 1 นาทีแค่นั้นเองอ่ะอแค่
00:05:54 → 00:05:56 นั้นน่ะไม่เกิน 1 นาทีนั้นน่ะแล้วช่วงที่
00:05:56 → 00:06:00 เราจอดนิ่งๆอยู่ตรงไฟแดงเนี่ยมันเจอเหตุ
00:06:00 → 00:06:02 การณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้เราเกิดความรู้
00:06:02 → 00:06:05 สึกอะไรบางอย่างพลิกกลับไปกลับมากลับมา
00:06:05 → 00:06:07 กลับไปตลอดเวลาเลยอยยเคแป๊บเดียวนั้นเลย
00:06:07 → 00:06:12 นะฮะและถ้าเราไม่มีวิธีคิดหรือไม่ไม่มี
00:06:12 → 00:06:15 mindset ที่เข้มแข็งเนี่ยนะครับดีไม่ดี
00:06:16 → 00:06:18 ผมยังอาจจะต้องแบกอะไรบางอย่างที่คุณมัว
00:06:18 → 00:06:22 มาถึงตอนนี้เลยเหตุการณ์แค่ 1 นาทีเนี่ย
00:06:22 → 00:06:25 นะคะอ่าใช่อุ้ยมันคืออะไรเรื่องมันมีอยู่
00:06:25 → 00:06:30 ว่าเรื่องเป็นอย่างงี้ครับท่านสารวัตร
00:06:30 → 00:06:33 คือผมจอดรถติดไฟแดงเสร็จปึ๊บเนี่ยรถคัน
00:06:33 → 00:06:38 หน้าผมเนี่ยเขาคก็บีบแตปินๆนะฮะปิดปปิ
00:06:38 → 00:06:42 เพราะว่ามีผู้ชายคนนึงเนี่ยที่อยู่ตรงไฟ
00:06:42 → 00:06:45 แดงก็มาหากินด้วยกันน่ะเอาผ้ามาเช็ดกระจก
00:06:45 → 00:06:49 รถอ๋อเออยเคยเจอมั้ยฮะเคยเจอค่ะอย่าเงี้ย
00:06:49 → 00:06:52 แล้วพอทำท่าจเช็ดปุ๊บเ้าก็ปริ้นๆเลยนะฮะ
00:06:52 → 00:06:55 ปิ้นๆเลยก็คือแปลว่าไม่ให้เช็ดแล้วก็โบก
00:06:55 → 00:06:58 ไม้โบกมือเชออืออย่างแบบเข้มงวดเลยว่าไม่
00:06:58 → 00:07:02 ให้เช็ดไม่ให้เช็ดนะคคนนั้นก็โค้งๆๆๆแล้ว
00:07:02 → 00:07:06 ก็ผมเป็นคันที่ 2 ไงแล้วพอเค้าเอี้ยวตัว
00:07:06 → 00:07:09 มาปุ๊บผมก็เห็นว่าแขนเาพิการข้างนึงนะอือ
00:07:09 → 00:07:13 ถามว่าเราอ่ะเห็นคนเช็ดกระจกรถที่สี่แยก
00:07:13 → 00:07:17 ไฟแดงเนี่ยเราเราชอบมั้ยอ่ะไม่ชอบเพราะ
00:07:17 → 00:07:20 อะไรอ่ะพี่้อยคือเท่าที่เจอเนี่ยอันนี้
00:07:20 → 00:07:26 เป็นเคสที่ที่เคยมีข่าวว่าเป็นเด็กผู้ชาย
00:07:26 → 00:07:30 แล้วก็แบบเอ่อจะมาเช็ดให้ได้เออแล้วพอเ
00:07:30 → 00:07:35 เจ้าของรถไม่โอเคก็แบบเหมือนกับมือทุบรถ
00:07:35 → 00:07:37 มั่งอะไรมั่งอะไรอย่างเงี้ยค่ะเออๆแสง
00:07:37 → 00:07:40 พฤติกรรมใช่มั้ยพฤติกรรมไม่น่าพึงประสงค์
00:07:40 → 00:07:43 เท่าไหร่นะแต่อันนี้เนี่ยก็คือเขาก็ไม่
00:07:43 → 00:07:45 ได้เป็นผู้ใหญ่แล้วแต่เขาก็ไม่ได้มี
00:07:45 → 00:07:48 พฤติกรรมแบบนั้นเพียงแต่ว่าคนที่เอามา
00:07:48 → 00:07:51 เช็ดกระจกรถตรงสี่แยกไฟแดงเนี่ยพี่อ้อย
00:07:52 → 00:07:55 ปกติผ้าที่เขาเช็ดเป็นยังไงอ่ะดำปี๋อือ
00:07:55 → 00:08:01 แล้วเมาเช็ดให้ทำให้กระจกเราสะอาดขึ้นออ
00:08:01 → 00:08:04 คือกระจกเราใสๆอยู่ดีๆนะค่ะก็เอาภ้า
00:08:04 → 00:08:07 เพื้อนๆมาปึ๊บๆๆๆเนี่ยเปื้อนเลยนะใช่ใช่
00:08:07 → 00:08:10 ป่ะเพราะฉะนั้นอย่างนี้เราชอบมั้ยอ่ะพี่
00:08:10 → 00:08:14 อ้อยไม่ชอบไม่ชอบนะแล้วก็โหมีแต่สิ่งไม่
00:08:14 → 00:08:18 ชอบอ่ะอืแต่ว่าแว๊บนึงเราเห็นเนี่ยตอนนี้
00:08:18 → 00:08:20 พอเราเห็นว่าเค้ากำลังมุ่งหน้ามาที่เรา
00:08:20 → 00:08:24 แล้วพี่อ้อยคเราก็รู้สึกแบบถามว่าชอบมยก็
00:08:24 → 00:08:28 ไม่ชอบนะแต่ว่าแว๊บนึงเราก็ก็สงสารเ้า
00:08:28 → 00:08:30 เหมือนกันค่ะแต่มันก็มีแนวความคิดหลาย
00:08:30 → 00:08:34 อย่างเกิดขึ้นนะว่าอก็ก็สงสารเค้าเค้าก็
00:08:34 → 00:08:37 ยังทำมาหากินนะอะไรอย่างเงี้ยสมมุตินะอก็
00:08:37 → 00:08:40 แต่เราก็ไม่รู้จะทำยังไงนะค่ะแล้วเวลาที่
00:08:40 → 00:08:43 เา้ามุ่งตรงมาที่ผมเนี่ยผมก็กำลังจะโบก
00:08:43 → 00:08:46 มือว่าไม่ไม่ไม่ต้องเช็ดแต่อีกมือนึงอ่ะ
00:08:46 → 00:08:49 มือซ้ายผมเนี่ยเตรียมหยิบหยิบเหรียญละอ่า
00:08:49 → 00:08:52 ๆก็คือจะให้เานะฮะพฤติกรรมเหมือนพี่อ้อย
00:08:52 → 00:08:56 เลยคือก็ไม่ได้ชอบหรอกแต่ก็สงสารเค้าแต่
00:08:56 → 00:08:58 ก็จะให้เค้าอะไรอย่าเงี้ยนะก็ระหว่างที่
00:08:58 → 00:09:02 กำลังเเดินมาเนี่ยกำลังลดกระจกลงเรายัง
00:09:02 → 00:09:06 ไม่ทันลดกระจกลงเลยเเช็ดแล้วออืแล้วกระจก
00:09:06 → 00:09:11 ใสๆเปื้อนเลยอืกระจกทำให้กระจกเราขุ่นมัว
00:09:11 → 00:09:15 มั้ยอืขุ่นมัวกระจกอ่ะขุ่นมัวไปละเออ
00:09:15 → 00:09:19 กระจกใจใจเราขุยังไงก็น่าจะขุ่นนะเออเรา
00:09:19 → 00:09:22 ก็แบบถามว่าขุ่นมัวมั้ยใจนี่ไม่ขุ่นมัวนะ
00:09:22 → 00:09:25 เพราะว่ากระจกเนี่ยเดี๋ยวเราเช็ดได้อ๋อ
00:09:25 → 00:09:28 เออจนถึงตอนนี้ใจเรายังไม่ขุ่นมัวนะออแต่
00:09:28 → 00:09:31 ถามว่าเราโกรธเค้ามั้ยก็ไม่โกรธเพราะว่า
00:09:31 → 00:09:35 เราก็เห็นใจเ้าประมาณนึงอือแต่ก็รถกระจกล
00:09:35 → 00:09:38 บอกเไม่ต้องเช็ดแล้วค่ะเอาไป 10 บาทค่ะๆ
00:09:38 → 00:09:42 ก็เ 10 บาทค่ะแล้วเก็เดินไปออพอเเดินไป
00:09:42 → 00:09:45 เนี่ยเค้าก็ไปคันต่อไปค่ะใช่มั้ยแล้วเรา
00:09:45 → 00:09:49 ก็เห็นกระจกเราอื้อหือกระจกใสๆเปื้อนเลย
00:09:49 → 00:09:53 แต่เดี๋ยวเราก็ไปเช็ดไม่เป็นไรนะฮะอแล้วเ
00:09:53 → 00:09:58 เดินไปคันที่ 3 อืเขาก็ทำท่าคันที่ 3 ก็
00:09:58 → 00:10:02 กำลังจะบีบแตปิ้นเลยนะออๆแต่ว่าผมก็มอง
00:10:02 → 00:10:06 กระจกหลังไปเกิดอะไรขึ้นเหยุดเชะงักอ
00:10:06 → 00:10:10 ชะงักเสร็จเนี่ยเขาโยนผ้าทิ้งกับพื้นเลย
00:10:10 → 00:10:12 นะฮะโยนผ้าทิ้งกับพื้นเอ้ยเกิดอะไรขึ้น
00:10:12 → 00:10:16 น่ะผมก็มองกระจกข้างมาอีกฝั่งนึงปรากฏว่า
00:10:16 → 00:10:20 ด้านซ้ายเนี่ยมีมอเตอร์ไซค์คันนึงมาอือนะ
00:10:20 → 00:10:23 ก็มาเทียบกับรถคันที่เขากำลังจะเช็ดนะ
00:10:23 → 00:10:26 มอเตอร์ไซค์คันที่มาเทียบเนี่ยเป็นตำรวจ
00:10:26 → 00:10:29 จราจรอื
00:10:29 → 00:10:33 คือแสดงว่าตำรวจจราจรก็คงจะแบบว่าพยายาม
00:10:33 → 00:10:36 กำลพฤติกรรมเหล่านี้เพราะว่ามันสร้างความ
00:10:36 → 00:10:39 เดือดร้อนรำคาญให้ให้ผู้คนอะไรอย่าเงี้ย
00:10:39 → 00:10:42 นะฮะใชแต่ว่าตำรวจจราจรปุ๊บพอเห็นปุ๊บ
00:10:42 → 00:10:46 เนี่ยอะคงอาการแบบตกใจอือก็ทิ้งทิ้งผ้า
00:10:46 → 00:10:50 เลยทิ้งผ้าปุ๊บก็เดินเดินถอยเข้าไปเดิน
00:10:50 → 00:10:54 ถอยเข้าไปที่ริมถนนนะตำรวจนี่โอโหยชี้
00:10:54 → 00:10:57 หน้าด่าใหญ่เลยแบบประมาณอย่างเงี้ยนะแบบอ
00:10:57 → 00:11:00 อือคือพอเราเห็นอย่างงั้นปุ๊บตอนนี้
00:11:00 → 00:11:02 อารมณ์ความรู้สึกผมสวิงกลับไปกลับมามาก
00:11:02 → 00:11:08 เลยอือคือก็ไม่ชอบสิ่งที่เขาทำนะก็รู้ว่า
00:11:08 → 00:11:12 เค้าทำไม่ถูกต้องค่ะแต่พอเจออย่างงี้ก็
00:11:12 → 00:11:16 สงสารเหมือนกันอือนะคือมันไม่รู้ว่าพี่
00:11:16 → 00:11:19 อ้อยจะเข้าใจคุณผู้ฟังจะเข้าใจผมมเนี่ย
00:11:19 → 00:11:23 น่าน่าจะเข้าใจนะเพราะว่าในเค้าเรียกว่า
00:11:23 → 00:11:27 อะไร 1 ช่วงเวลาสั้นๆอืความคิดมันจะพรั่ง
00:11:27 → 00:11:31 พลูอืมันจะพลั่งพลูแล้วเหตุการณ์ที่มัน
00:11:31 → 00:11:34 เหมือนภาพยนตร์น่ะที่มันมีนี่มีนั่นเข้า
00:11:34 → 00:11:36 มาอะไรอย่างเงี้ยเพราะฉะนั้นความคิดความ
00:11:36 → 00:11:39 รู้สึกมันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาโอหเยอะไป
00:11:39 → 00:11:42 หมดเลยเสี้ยววินาทีปุ๊บๆๆๆอย่างี้เลยออัน
00:11:42 → 00:11:44 นี้ไม่ใช่แต่ละมืแต่ละ Day นะแต่ละ
00:11:44 → 00:11:47 โมเมนต์อย่างเดียวแต่ละวินีแต่แต่ละวินี
00:11:47 → 00:11:50 เลยค่ะ 30 วินีไม่เกิน 1 นาทีเนี่ยเกิด
00:11:50 → 00:11:52 เหตุการณ์อย่างนี้แล้วพอตำรวจกำลังชี้
00:11:52 → 00:11:55 หน้าด่าปุ๊บในใจอีกแว๊บนึงนะยังมีต่ออีก
00:11:55 → 00:11:58 นะเนี่ยแค่ไม่กี่วินาทีเนี่ยมันเหมือนกับ
00:11:58 → 00:12:01 ตำหนิตำรวจเลยๆโอ้โหคนเแบบก็ทำมาหากินสู้
00:12:01 → 00:12:04 ชีวิตนะอะไรเงี้ยแต่ว่าก็ไม่ถูกต้องอีก
00:12:04 → 00:12:08 ที่เราจะไปคิดอย่างงั้นใช่ใช่มั้ยฮะก็เลย
00:12:08 → 00:12:10 พอผมกลับมาเนี่ยพี่อ้อยผมก็มาสำรวจความ
00:12:10 → 00:12:13 รู้สึกตัวเองว่าสิ่งนี้มันเกิดอะไรขึ้นนะ
00:12:13 → 00:12:16 ออือก็คือมันเต็มไปด้วยสิ่งที่เราเห็น
00:12:16 → 00:12:21 ด้วยไม่เห็นด้วยชอบไม่ชอบพอใจไม่พึงพอใจ
00:12:21 → 00:12:26 แล้วก็สงสารแล้วก็สะใจแล้วก็รังเกียจ
00:12:26 → 00:12:30 พฤติกรรมตำรวจแล้วก็เข้าใจเข้าอะไโหูมั่ว
00:12:30 → 00:12:33 ไปหมดเลยในที่สุดถามว่าผมถามตัวเองว่า
00:12:33 → 00:12:38 แล้วมีข้อสรุปมั้ยก็คือเออข้อสรุปว่าจริง
00:12:38 → 00:12:41 ๆแล้วที่ถูกที่ควรมันต้องเป็นยังไงค่ะ
00:12:41 → 00:12:44 หรือว่ามีข้อสรุปในเชิงปฏิบัติมยเนี่ยไม่
00:12:44 → 00:12:47 มีเพราะว่ามันในที่สุดก็ปึ๊บไฟเขียวมาก็
00:12:47 → 00:12:52 ไปแยกย้ายชีวิตคนก็ดำเนินต่อไปเออย่าง
00:12:52 → 00:12:55 เงี้ยแต่ผมเกิดคำถามตัวเองว่าแล้วมันมี
00:12:55 → 00:13:00 ข้อสรุปมั้ยไม่มีคือผมผมก็เลยนึกถึงเลย
00:13:00 → 00:13:02 ว่าโอ้โหเนี่ยตอนเนี้ยเราจะมาแบ่งปัน
00:13:02 → 00:13:05 เรื่องแต่ละมืแต่ละเเนี่ยอือถ้าเราบอกว่า
00:13:05 → 00:13:09 ในทางที่ที่ควรจะเป็นนะอเราเจออะไรก็ได้
00:13:09 → 00:13:12 เราก็จะมี mindset มีกฎเกณฑ์มีหลักในการ
00:13:12 → 00:13:15 ที่เราจะเผชิญกับมันสิ่งนั้นเนี่ยโดยที่
00:13:15 → 00:13:19 เราไม่ขุ่นมัวค่ะแต่ถามว่า 1 นาทีเมื่อ
00:13:19 → 00:13:22 สักครู่เนี้ยมันเต็มไปด้วยความแต่ว่าขุ่น
00:13:22 → 00:13:26 มัวก็ไม่ใช่แต่มันสวิงนะมันพลิกกลับไป
00:13:26 → 00:13:30 กลับมากลับมากลับไปมันเกิดความสั่นเล็กๆ
00:13:30 → 00:13:34 นะอืแต่ถามว่าขุ่นมัวมั้ยไม่ขุ่นมัวเพราะ
00:13:34 → 00:13:38 ว่าไอ้กระจกที่เปื้อนเนี่ยเรารู้ว่าเช็ด
00:13:38 → 00:13:40 ได้เดี๋ยวกลับไปเราก็เช็ดมันก็ใสเหมือน
00:13:40 → 00:13:44 เดิมแต่ไอ้ที่เช็ดยากกว่ากระจกอ่ะใจคือใจ
00:13:45 → 00:13:49 อ่ะอื้อหือมันแต่พี่อ้อยคิดว่าอย่างงี้
00:13:49 → 00:13:54 พี่วีอือคือพี่วีคือระดับครูอาจารย์เนาะอ
00:13:54 → 00:13:58 ที่เป็นเรื่องใหม่เสร็จเนาะอือยังยังสั่น
00:13:58 → 00:14:02 สะทึงเรือนในข้างในอือ่าพลิกไปพลิกมา
00:14:02 → 00:14:04 อย่างที่บอกอือๆแต่ว่าถ้าเป็นคนทั่วไปอ่ะ
00:14:05 → 00:14:10 พี่อ้อยมองว่าเคน่าจะขุ่นมัวอืก็เลยมอง
00:14:10 → 00:14:12 ว่ามันเป็นเหมือนสจของการเรียนรู้ของแต่
00:14:12 → 00:14:16 ละคนน่ะก็คือถ้าคนทั่วไปที่ไม่ได้มาเรียน
00:14:16 → 00:14:20 รู้เรื่องไซตอะไรมากมายเขาก็คงจะขุ่นมัว
00:14:20 → 00:14:23 แน่ๆอืแต่ว่ามันสำคัญตรงที่ว่าเราจัดการ
00:14:23 → 00:14:26 กับความขุ่นมัวอย่างไรอืของพี่พี่วีเ
00:14:26 → 00:14:30 เนี่ยไปอีกสเต็ปนึงละว่าไม่ขุ่นมัวอือๆ
00:14:30 → 00:14:33 อย่างเงี้ยค่ะอืเอออันนี้น่าสนใจนะตรงที่
00:14:33 → 00:14:37 ว่าพอพอเราบอกเราไม่ขุ่นมัวปุ๊บเนี่ยแต่
00:14:37 → 00:14:41 เราเนี่ยถามว่าถึงข้อสรุปหรือยังว่าแบบ
00:14:41 → 00:14:44 นี้เนี่ยเจอคราวหน้าเราจะ 1 2 ก็ยังไม่
00:14:44 → 00:14:48 เจอข้อสรุปนะใช่ๆเพราะเราไม่สามารถฟันธง
00:14:48 → 00:14:53 ได้ว่าอย่างชัดเจนว่ากรณีนี้ใครถูกผิด
00:14:53 → 00:14:55 อะไรเงี้ยว่ามันมันไม่ได้เลยผมก็เลยมี
00:14:55 → 00:14:59 ความรู้สึกว่าเจอเจอวิธีส่วนตัวว่าออมัน
00:14:59 → 00:15:02 เจออะไรบางอย่างเนี่ยเราสามารถที่จะเลือก
00:15:02 → 00:15:04 ได้ว่าเราจะขุ่นมัวหรือสดใสอะไรอย่าเงี้
00:15:04 → 00:15:08 นะอืแล้วสถานการณ์งงี้ทำยังไงค่ะผมมีที่
00:15:08 → 00:15:12 วางด้วยนะโอ้ดีจังเลยก็คือถ้าเจอแบบนี้นะ
00:15:12 → 00:15:14 ค่ะทำไงค่ะบอกว่าถ้าไม่อยากขุณมัวก็สดใส
00:15:14 → 00:15:16 อะไรอันนี้เรื่องนึงแต่ถ้าเกิดเจอที่ที่
00:15:16 → 00:15:20 มันแบบว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่ฝักใฝ่ฝใดยัง
00:15:20 → 00:15:25 งงๆอยู่นะก็เอาไปวางไว้ตรงกลางที่เรายัง
00:15:25 → 00:15:28 แบบจะเรียกว่าอะไรดีอ่ะที่เราที่เราไม่
00:15:28 → 00:15:30 รู้อ่ะ
00:15:30 → 00:15:34 ที่เราไม่รู้ที่ที่เราก็ยังสงสัยต่อไปอ่ะ
00:15:34 → 00:15:38 อืยังไม่รู้อ่ะยังไม่แน่ใจยังที่บอกยัง
00:15:38 → 00:15:41 ไม่ได้ข้อสรุปตรงนั้นเออใช่ก็ก็วางไว้
00:15:41 → 00:15:46 ก่อนวางไว้ก่อนออวางไว้ก่อนคือออนิ่งๆยัง
00:15:46 → 00:15:48 ไม่เหมือนข้อเหมือนทำข้อสอบอ่ะพี่อ้อยค่ะ
00:15:48 → 00:15:52 ๆทำข้อสอบเนี่ยก็คือถ้าเรารู้เราก็กาไป
00:15:52 → 00:15:56 เลยออข้อนี้ถูกแต่ถ้าเราไม่รู้เราก็กาไป
00:15:56 → 00:15:59 เลยแล้วข้อนั้นก็ผิดเอออันนี้มันถูกหรือ
00:15:59 → 00:16:02 ผิดไงแต่เวลาทำข้อสอบพี่้อยเคยเจอบางข้อ
00:16:03 → 00:16:07 มั้ยข้ามไปก่อนข้ามไปก่อนใช่โหข้ามซะเยอะ
00:16:07 → 00:16:10 เลยพอตอนใกล้หมดเวลานน่าตั้งเลยพี่นาที
00:16:10 → 00:16:12 นั้นต้องมั่ว
00:16:12 → 00:16:15 แล้วค่ะแต่ว่าไอ้ไอ้กรยุทธของการข้ามไป
00:16:15 → 00:16:18 ก่อนเนี่ยอดีๆๆผมคิดว่ามันช่วยได้อย่าง
00:16:18 → 00:16:21 น้อยที่สุดเวลาที่เรายังไม่ชัดเจนเราก็
00:16:21 → 00:16:26 ข้ามไปก่อนค่ะๆแล้วก็ไม่สดใสก็ยังไม่สดใส
00:16:26 → 00:16:30 ก็ยังเฉยๆไปแล้วก็ไม่ขุณมัวด้วยค่ะอะไ
00:16:30 → 00:16:32 อย่างเงี้ยนะฮะโออันนี้วิธีนี้เนี่ยพี่
00:16:32 → 00:16:36 อ้อยว่าใช้ได้ถึงกับคนที่เป็นกรณีที่พี่
00:16:36 → 00:16:40 อ้อยพูดเมื่อกี้ด้วยอ่าคือคุณจะคือคนที่
00:16:40 → 00:16:45 เรียนรู้ mind เซตมาเชี่ยวชาญคุณจะพอฝึก
00:16:45 → 00:16:49 ใช้บ้ามาบ้างอหรือคุณจะไม่เคยฝึกใช้มาเลย
00:16:49 → 00:16:52 แต่ถ้าคุณสร้างพื้นที่ข้ามไปก่อนเนี่ยอือ
00:16:52 → 00:16:56 ได้เนี่ยโอ้โหมันมันดีมากพัฒนาคือการ
00:16:56 → 00:17:00 พัฒนาค่ะที่ยังไม่ถลไปถึงขั้นการขุ่นมัว
00:17:00 → 00:17:03 ไม่พอใจเอ่าไม่ถลำตัวแล้วก็ไปโพสต์ด่า
00:17:03 → 00:17:08 เค้าสมมุติสมมตินะสมัยนี้นะก็คือถ้ามีใคร
00:17:08 → 00:17:10 บันทึกคลิปเหตุการณ์ที่ผมเล่าให้ฟังเมื่อ
00:17:10 → 00:17:14 กี้ได้นี่นะคค่ะน่าจะมีถ้าแบบว่าไม่รู้
00:17:14 → 00:17:17 จักของการวางตัวเองไว้ในหมู่ผู้ไม่ฝัก
00:17:17 → 00:17:20 ฝ่ายไผ่ฝ่ายใดนะแล้วก็ข้ามๆไปก่อนเนี่นะ
00:17:20 → 00:17:24 วางไว้ก่อนเนี่ยนะก็จะไม่ด่าใครก็ด่าใคร
00:17:24 → 00:17:25 สักคนนึง
00:17:25 → 00:17:31 แหละใช่ๆมันต้องระบายต้องระบายแล้วก็ถ้า
00:17:31 → 00:17:33 ด่าใครเมื่อไหร่ก็ตามเราขุ่นมัวแน่นอนใช่
00:17:33 → 00:17:36 ๆใช่มั้ยฮะแล้วระหว่างที่กำลังคุยกับพี่
00:17:36 → 00:17:40 อ้อยนี่ท้ายผมเจออะไรบางอย่างนะว่าอกรณี
00:17:40 → 00:17:44 อย่างเงี้ยมันสามารถที่จะไปช่วยคนที่มี
00:17:44 → 00:17:48 อารมณ์นี้บ่อยๆแต่ละมืแต่ละเเนี่ยออือก็
00:17:48 → 00:17:51 คือถ้าถ้าเริ่มแบบว่าตามแนวคิดของสกรรม
00:17:51 → 00:17:54 ความสุขก่อนนะอือฮึเรามานั่งอันแรกเลยที่
00:17:54 → 00:17:57 ผมมีความรู้สึกเลยว่าคนที่จะพูดแบบนี้
00:17:57 → 00:18:00 เนี่ยเคก็จะมีความคิดคิดว่ารู้มยว่าชีวิต
00:18:00 → 00:18:03 ฉันนี่ต้องเจออะไรบ้างในแต่ละวันเนี่ยอื
00:18:03 → 00:18:07 ไม่เป็นชันไม่รู้หรอกอ่าอย่างเงี้ยใช่ๆโห
00:18:07 → 00:18:09 คุณผู้ฟังครับผมนี่อยากให้คุณฟังเห็นสี
00:18:09 → 00:18:12 หน้าพี่อ้อยเวลาพูดคำเมื่อกี้อ้าวหน้าออก
00:18:12 → 00:18:16 ด้วยเหรอคะเออโอ้โหมาจากอินมาจากอินเนอร์
00:18:16 → 00:18:20 ภายในล้วนๆแต่แต่คนที่พูดแบบนี้เนี่ยเขา
00:18:20 → 00:18:23 จะมีความคิดอย่างนึงว่าถ้าเกิดเาไม่เจอ
00:18:23 → 00:18:27 แบบนั้นแล้วเขจะมีความสุขเออๆใช่มั้เเจอ
00:18:27 → 00:18:29 แบบนี้ก็เลยขุ่นมัวแล้วก็ทุกไงถ้าไม่เจอ
00:18:29 → 00:18:32 แบบนั้นแล้วจะมีความสุขเนี่ยซึ่งในชีวิต
00:18:32 → 00:18:36 มนุษย์ในความเป็นจริงมันไม่มีเออใช่ๆใช่
00:18:36 → 00:18:39 ป่ะไม่มีเพราะฉะนั้นเนี่ยรายการเราเนี่ย
00:18:39 → 00:18:42 ก่อนที่เราจะไปเจอโฟลเดอร์หรือช่องว่าง
00:18:42 → 00:18:45 ที่บอกว่าอืเอาวางไว้ตรงนี้ก่อนอือเอาไว้
00:18:45 → 00:18:48 ก่อนเดี๋ยวค่อยมาทำใหม่ข้อสอบเนี้ยค่ะ
00:18:48 → 00:18:50 ก่อนที่จะมาเจออันนั้นเนี่ยเราจะต้องมี
00:18:50 → 00:18:54 วิธีผมเชื่อว่าเรามีวิธีคิดได้ว่าไอ้ที่
00:18:54 → 00:18:57 เราเจอเนี่ยรู้มั้ยไม่ไม่เป็นฉันไม่รู้
00:18:57 → 00:19:01 ไม่ไม่เข้าใจหรอกเนี่ยอือๆถ้าเรามีวิธี
00:19:01 → 00:19:04 ยังไงที่ทำให้เราต้องเจอสิ่งนั้นแต่ว่า
00:19:04 → 00:19:07 เราไม่ขุ่นมัวอือๆผมคิดว่าอันเนี้ยถ้าหา
00:19:07 → 00:19:10 เจอจะดีมากในแต่ว่ามันไม่มีข้อสรุปนะ
00:19:10 → 00:19:14 เพราะว่าอเราไม่รู้ว่าเค้าเจออะไรใช่ๆใช่
00:19:14 → 00:19:18 มั้ยฮะคือถ้าจะอธิบายเนี่ยพี่อ้อยก็คือ
00:19:18 → 00:19:22 แสกรความสุขเนี่ยรวมกันทุกตอนเนี่ยแทบจะ
00:19:22 → 00:19:26 มากองอยู่ในตอนนี้แหละอือไอ้แต่ละมืด
00:19:26 → 00:19:30 เหมือนสารพัดสารพัดน่ะเอสารพัดเจออ่ะค่ะ
00:19:30 → 00:19:33 แต่ว่าอย่างนึงก็คือว่าทุกอย่างที่เราเจอ
00:19:33 → 00:19:37 เนี่ยยืนยันเลยว่าอเรายังคงมีชีวิตที่แบบ
00:19:37 → 00:19:41 ไม่ขุ่นมัวได้อืด้วยด้วยความคิดด้วย
00:19:41 → 00:19:45 mindset ด้วยวิธีคิดของเราเองค่ะนะฮะแต่
00:19:45 → 00:19:48 ว่าไม่มีทางแน่นอนที่บอกว่าเราไม่จะไม่
00:19:48 → 00:19:52 เจอจะไม่เจอไม่มีไม่มีจริงใช่มั้ยฮะแต่
00:19:52 → 00:19:55 เราต้องเหมือนกับถ้าเราบอกว่าเราคิดไม่
00:19:55 → 00:19:57 เจอสิ่งนี้เนี่ยล่าสุดนี่นะผมไปเจอคนนึง
00:19:57 → 00:20:00 เค้าก็บ่นเรื่องเกี่ยวกับว่าแต่ละมื้อแต่
00:20:00 → 00:20:04 ละเดนของเขาคคือทำงานเนี่ยเบอกว่าเคเจอ
00:20:04 → 00:20:08 แบบผู้บริหารที่แบบโอหเบอกถึงขั้นต้องมา
00:20:08 → 00:20:11 ปรึกษาว่าถ้าเจอแบบนี้ทำไงอย่างเงี้ยอือ
00:20:11 → 00:20:15 นั่นหมายความว่าเค้ามีความคิดสุดเออหมาย
00:20:15 → 00:20:17 ความว่าถ้าเกิดเขาคมีผู้บริหารที่เป็นแบบ
00:20:17 → 00:20:20 นี้แล้วเไม่ไหวเนี่ยแล้วผมบอกว่าวิธีแก้
00:20:20 → 00:20:23 คุณไงนออคุุณแก้ยังไงก็ได้นะผมบอกแต่คุณ
00:20:23 → 00:20:27 อย่าลาออกนะอืเพราะอะไรรู้ป่ะค่ะคุณลาออก
00:20:27 → 00:20:30 ไปอยู่ไหนก็ได้ผู้บริหารแบบนี้มีทุกที่
00:20:30 → 00:20:35 เออจริงใช่มั้ยค่ะเออคือถ้าเราเจออะไรที่
00:20:35 → 00:20:41 เราไม่พึงพอใจอือย่าหนีอือถ้าหนีมันจะ
00:20:41 → 00:20:45 อยู่ทุกที่ใช่ๆใช่มั้ยฮะเนี่ยน่าเสียดาย
00:20:45 → 00:20:48 นะที่ผมอยากจะคุณผู้ฟังที่ฟังตอนนี้จริงๆ
00:20:48 → 00:20:50 เรายังไม่ได้พูดเป็นเรื่องๆเพราะว่ามัน
00:20:50 → 00:20:54 ไม่สามารถเป็นเรื่องๆค่ะคือคือจริงๆพื้น
00:20:54 → 00:20:57 ฐานของแต่ละมืแต่ละ Day เนี่ยคือมันจะ 100
00:20:57 → 00:21:00 วันพันกว่ากเรื่องเพราะฉะนั้นมันจะจำแนก
00:21:00 → 00:21:03 ไม่ได้หรอกว่ามันจะเป็นเรื่องไหนทวีแต่
00:21:03 → 00:21:08 ว่ามันมันรุมมันสุมเข้ามาใน 1 วันอืๆ
00:21:08 → 00:21:11 เพราะฉะนั้นเนี่ยตอนนี้เราอาจจะยังไม่มี
00:21:11 → 00:21:14 วิธีการที่เราจะเผชิญไอ้แต่ละมืแต่ละ Day
00:21:15 → 00:21:17 ของคุณนะของคุณผู้ฟังนะเพราะว่าเราไม่รู้
00:21:18 → 00:21:21 ว่ามันคืออะไรมัน 10,000 ประการใช่มั้ยฮะ
00:21:21 → 00:21:25 แต่ว่ายืนรายการเรายืนยันว่าแต่ละเรื่อง
00:21:25 → 00:21:30 มีวิธีคิดอที่เราจะเผชิญกับสิ่งนั้นเสมอ
00:21:30 → 00:21:32 เพื่อเราจะได้ไม่ขุ่นมัวพี่วียังมีเวลา
00:21:32 → 00:21:34 มั้ยพี่อ้อยจะยกตัวอย่างตัวเองนี่มีอีก
00:21:34 → 00:21:38 ประมาณ 2-3 นาที 23 นาทีอ่ะค่ะก็เล่าถึง
00:21:38 → 00:21:42 สมัยก่อนเนาะที่ทั้งเจ้าหนี้รุมลูกหนีโรง
00:21:42 → 00:21:45 เรียนอะไรทุกอย่างเลยแบบต้องทำงานหาเงิน
00:21:45 → 00:21:49 ใช้หนี้ไม่ได้ดูแลครอบครัวแล้วก็งานก็ดู
00:21:49 → 00:21:50 แบบหนักมาก
00:21:51 → 00:21:54 อืแต่ว่าพี่อ้อยอ่ะสู้คำเนี้ยเมื่อกี้พี่
00:21:54 → 00:21:58 วีพูดไปแล้วอือๆก็คือถ้าเราไม่สู้เราเรา
00:21:58 → 00:22:01 หนีไปที่ใหม่มันก็มันก็ต้องไปเจออีกหรือ
00:22:01 → 00:22:03 อะไรอย่างเงี้ยคราวนี้สถานการณ์วันนั้น
00:22:03 → 00:22:05 น่ะของพี่อ้อยพี่อ้อยแบบไม่รู้จะสู้ยังไง
00:22:05 → 00:22:08 แหละแต่ว่าพี่อ้อยจะสู้แล้วพี่อ้อยก็มา
00:22:08 → 00:22:11 คิดเอ๊ะทำยังไงนะทำยังไงนะก็เลยคิดว่า
00:22:11 → 00:22:14 เฮ้ยชีวิตมันก็ไม่ได้หนักตลอดนะแม้เราจะ
00:22:14 → 00:22:17 แบบมีช่วงเยที่มันแบบเอ้ 1 วันพันกว่า
00:22:17 → 00:22:20 เรื่องเนี่ยแต่ว่าก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้
00:22:20 → 00:22:22 หนักอย่างงี้นะในอนาคตเราก็ไม่รู้นะว่า
00:22:22 → 00:22:25 มันจะยังไงมันมีขึ้นมีลงอยู่แล้วแล้วก็
00:22:25 → 00:22:29 เราไม่ต้องทำทุกเรื่องในเวลานี้อเออเรา
00:22:29 → 00:22:33 ค่อยๆจัดการมันไปบางเรื่องเนี่ยแค่เวลา
00:22:33 → 00:22:37 ผ่านไปมันก็แบบเหมือนจบไปไม่ไม่ไม่เกิด
00:22:37 → 00:22:40 อะไรขึ้นอ่ะอืเออไม่ไม่ต้องไปทำทุกเรื่อง
00:22:40 → 00:22:44 แล้วก็เราลองดูซิว่าอะไรที่สำคัญต้องทำทำ
00:22:44 → 00:22:47 ก่อนหรือยังไม่ต้องทำวางไว้ได้อะไรประมาณ
00:22:47 → 00:22:51 เนี้ยแล้วก็พี่อ้อยก็คิดว่าจริงๆแล้วการ
00:22:51 → 00:22:54 ที่เราผ่านสถานการณ์แบบเนี้ยเออมันทำให้
00:22:54 → 00:22:57 เราดีขึ้นนะแกร่งขึ้นนะเราแบบเหมือนกับ
00:22:57 → 00:23:01 เราได้ฝึกสติฝึกการรับมือกับปัญหาฝึกความ
00:23:01 → 00:23:04 อดทนฝึกโอ้เยอะแยะไปหมดเลยมองโลกใบใหม่
00:23:04 → 00:23:07 อะไรอย่างเงี้ยค่ะอแล้วก็เลยค่อยๆทำ
00:23:07 → 00:23:11 อืโอนี่คุณผู้ฟังครับพี่อ้อยเล่ามาปุ๊บ
00:23:11 → 00:23:14 เนี่ยทำให้ผมได้ solution ได้วิธีการที่
00:23:14 → 00:23:17 เราจะเจอกับแต่ละมืแต่ละเเลยเพราะว่ามัน
00:23:17 → 00:23:20 100 วันพันเหตุการณ์เ 1 วัน 1 วันไม่ใช่
00:23:20 → 00:23:22 100 วัน 1 วันพันเหตุการณ์เนี่ยพี่อ้อย
00:23:22 → 00:23:25 ใช้เทคนิคนี้ก็คือมาเลยเป็นพันเหตุการณ์
00:23:26 → 00:23:29 ก็ได้แต่ว่าเราจะหยิบมันมาแล้วก็จัดลำดับ
00:23:30 → 00:23:34 ความสำคัญค่ะแล้วก็ค่อยๆดูทีละเรื่องค่ะ
00:23:34 → 00:23:39 เรื่องไหนทำอะไรได้ค่ะทำแล้วก็ค่อยๆจัด
00:23:39 → 00:23:42 การกับมันทีละเรื่องเพราะว่าคนเราเนี่ย
00:23:43 → 00:23:47 ติดตรงนี้พี่วีเออสมมุติมี 10 เรื่องอื
00:23:47 → 00:23:51 คุณจะเอามาหยุมรวมกันหมดเลยคุณก็ดึงออกมา
00:23:51 → 00:23:55 ไม่ได้อ่ะเออๆแต่ถ้าคุณทำทีละ 1 เออคุณ
00:23:55 → 00:23:58 แม้จัดลำดับความสำคัญไม่ถูกต้องนะเออแต่
00:23:58 → 00:24:02 คุณก็ได้จัดการไป 1 อ่าค่อยๆนะฮเพราะ
00:24:02 → 00:24:06 ฉะนั้นอันนี้ก็เป็นวิธีในการเผชิญกับ 1
00:24:06 → 00:24:09 วันพ่านเหตุการณ์นะหรือภาษาวัยรุ่นก็คือ
00:24:09 → 00:24:12 แต่ละมืแต่ละ Day ตามแนวทางของพี่อ้อยนะ
00:24:12 → 00:24:15 ฮะเพราะฉะนั้นคุณผู้ฟังครับตอนนี้เนี่ย
00:24:15 → 00:24:20 อาจจะเป็นแค่เหมือนกับเป็นตอนนานๆทีเรามา
00:24:20 → 00:24:22 สรุปกันทีนึงนะว่ารายการเราเนี่ยคือ
00:24:22 → 00:24:26 สัญกรรมความสุขเราขอยืนยันว่าทุกสิ่งที่
00:24:26 → 00:24:29 เราเจอในชีวิตเนี่ยเรายังคงสามารถที่จะ
00:24:29 → 00:24:33 แบบไม่ขุ่นมัวกับมันได้โดยใช้คมความคิด
00:24:33 → 00:24:36 หรือแง่คิดมุมมองของเราเองแต่ละเรื่องนะ
00:24:36 → 00:24:41 ฮะแต่ว่าหลายเรื่องเนี่ยเราอาจจะต้องฝึก
00:24:41 → 00:24:44 ค่ะแล้วฝึกบ่อยๆให้มันอยู่ในเนื้อในตัว
00:24:44 → 00:24:48 เราจะได้ไม่คุนมัวไม่ว่าเราเจออะไรนะครับ
00:24:48 → 00:24:51 คำนี้สำคัญพี่วีฝึกจนเป็นเนื้อเป็นตัวอ่า
00:24:51 → 00:24:53 ให้เราเป็นให้มันอยู่ในเนื้อในตัวเรา
00:24:53 → 00:24:57 เงี้ยนะครับเพราะฉะนั้นก็รายการสันติกร
00:24:57 → 00:24:58 ความสุขในวันนี้นะครับ
00:24:58 → 00:25:01 ผมพี่วีและพี่อ้อยก็ต้องลาไปก่อนครับ
00:25:01 → 00:25:04 สวัสดีครับสวัสดี
00:25:04 → 00:25:08 ค่ะติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอพลิเคชัน
00:25:08 → 00:25:11 ของ Thai PBS podcast spotify
00:25:11 → 00:25:13 soundcloud Google podcast Apple
00:25:14 → 00:25:17 podcast และ YouTube Channel Thai PBS
00:25:17 → 00:25:20 podcast Thai PBS podcast View the
00:25:21 → 00:25:23 world via The
00:25:23 → 00:25:27 [เพลง]
00:25:27 → 00:25:31 Voice อ