00:00:00 → 00:00:03 Single Being podcast about Living
00:00:03 → 00:00:07 your Best Single Life โดยหมอผิง
00:00:07 → 00:00:12 แพทย์หญิงธิดารุจิพัฒนกุล
00:00:12 → 00:00:15 Single be EP สุดท้ายของปี 2022 แล้ว
00:00:16 → 00:00:20 นะคะหมอก็อยากจะรวบรวมพแสตลอดปีที่ฟัง
00:00:20 → 00:00:25 แล้วหัวใจพองฟูมาฝากค่ะเพราะหมอรู้สึกว่า
00:00:25 → 00:00:28 ปีที่ผ่านมามันก็เป็นปีที่เครียดพอสมควร
00:00:28 → 00:00:31 หมอได้ยินคนรอบข้างหลายคนบ่นเครียดบ่น
00:00:32 → 00:00:36 เพลียขาดกำลังใจ burn Out พอหมอมาดูๆ
00:00:36 → 00:00:40 แล้วในปีที่ผ่านมาเราก็มีหลาย EP เลยที่
00:00:40 → 00:00:43 มีเรื่องราวดีๆที่น่าจะช่วยให้คุณผู้ฟัง
00:00:43 → 00:00:45 ฟังแล้วหัวใจฟู
00:00:45 → 00:00:49 ค่ะดีที่อยู่เดียว Presented by ไทย
00:00:49 → 00:00:57 ประกันชีวิตเพื่อให้ชีวิตคุณฟิตได้ครบรอบ
00:00:57 → 00:01:00 ด้านสวัสดีคุณผู้ฟังค่ะยินดีต้อนรับทุก
00:01:00 → 00:01:02 ท่านเข้าสู่ Single Being podcast ที่
00:01:02 → 00:01:05 อยากให้คุณฟังแล้วรู้สึกว่าดีที่อยู่
00:01:05 → 00:01:08 เดี่ยวค่ะ Single Being EP สุดท้ายของ
00:01:08 → 00:01:11 ปี 2022 แล้วนะคะหมอก็อยากจะรวบรวม
00:01:11 → 00:01:16 podcast ตลอดปีที่ฟังแล้วหัวใจพองฟูมา
00:01:16 → 00:01:19 ฝากค่ะเพราะหมอรู้สึกว่าปีที่ผ่านมามันก็
00:01:19 → 00:01:22 เป็นปีที่คือถึงแม้โควิดมันจะเบาลงแต่มัน
00:01:22 → 00:01:26 ก็เป็นปีที่เครียดพอสมควรหมอได้ยินคนรอบ
00:01:26 → 00:01:30 ข้างหลายคนบ่นเครียดบ่นเพลียครับขาดกำลัง
00:01:30 → 00:01:33 ใจ burn Out นะคะหมอคิดว่าประเด็นเรื่อง
00:01:33 → 00:01:35 ของ mental Health เรื่องของสุขภาพจิต
00:01:35 → 00:01:37 น่ะมันยังเป็นประเด็นที่มันเป็นปัญหาที่
00:01:37 → 00:01:40 ขยายตัวกว้างขึ้นเรื่อยๆนะคะหมอเองก็แค่
00:01:40 → 00:01:44 อยากจะมีส่วนเล็กๆในการที่จะหาทริปดีๆที่
00:01:44 → 00:01:48 จะช่วยส่งเสริมให้สุขภาพจิตดีขึ้นช่วยให้
00:01:48 → 00:01:53 หัวใจพองฟูพองโตนะคะมาฝากกันนะคะซึ่งพอ
00:01:54 → 00:01:57 หมอมาดูๆแล้วในปีที่ผ่านมาเราก็มีหลาย EP
00:01:57 → 00:02:01 เลยที่มีเรื่องราวดีๆที่น่าจะช่วยให้คุณ
00:02:01 → 00:02:04 ผู้ฟังฟังแล้วหัวใจฟูค่ะเริ่มจาก EP แรก
00:02:04 → 00:02:08 ที่หมออยากจะย้อนกลับไปฟังกันนะคะคือ
00:02:08 → 00:02:11 เรื่องราวที่เกี่ยวกับฮอร์โมนนะคะที่
00:02:11 → 00:02:14 เกี่ยวข้องกับความสุขความสนุกความฟินหรือ
00:02:14 → 00:02:18 ว่าความรักหมอมีสรุปเกี่ยวกับฮอร์โมน
00:02:18 → 00:02:20 เหล่านี้ให้ฟังโดยเฉพาะเรื่องของฮอร์โมน
00:02:20 → 00:02:25 สุขว่าทำยังไงที่เราจะเพิ่มเขาได้ค่ะ
00:02:25 → 00:02:28 เซโรโทนินเนี่ยเป็นสารสื่อประสาทในกลุ่ม
00:02:28 → 00:02:31 โมโนเอมีนนะคะที่ช่วยให้เซลล์สมองส่งข้อ
00:02:31 → 00:02:35 ความระหว่างกันมีบทบาทในเรื่องของอารมณ์
00:02:35 → 00:02:39 การนอนความจำการย่อยอาหารอารมณ์ทางเพศ
00:02:39 → 00:02:42 ขึ้นชื่อว่าเป็นฮอร์โมนความสุขค่ะหรือว่า
00:02:42 → 00:02:45 Natural mood Booster นะคะก็คือทำให้
00:02:45 → 00:02:48 แบบอืรู้สึก feel กอ่ะรู้สึกดีเวลา
00:02:48 → 00:02:50 เซโรโทนินหลั่งออกมาก็จะรู้สึก feel good
00:02:50 → 00:02:54 รู้สึกดีนะคะพบว่าระดับของเซโรโทนินเนี่ย
00:02:54 → 00:02:57 จะต่ำมันก็จะทำให้เกิดสัมพันธ์กับโรคซึม
00:02:57 → 00:03:00 เศร้าและหลายๆคนถ้าเกิดว่าเคยศึกษาเกี่ยว
00:03:00 → 00:03:02 กับยาโรคซึมเศร้าก็จะทราบดีว่าเป็นยาที่
00:03:02 → 00:03:06 มักจะไปเพิ่มระดับของเซโรโทนินในสมองนะคะ
00:03:06 → 00:03:08 ซึ่งนอกจากอารมณ์เศร้าแล้วเนี่ยเซโรโทนิน
00:03:08 → 00:03:12 ต่ำก็ยังทำให้เราวิตกกังวลนอนไม่ดีระบบ
00:03:12 → 00:03:15 ย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีดังนั้นหลายๆคนที่
00:03:15 → 00:03:18 รู้สึกว่าเอ๊ช่วงนี้ชั้นดาวๆอาจจะ
00:03:18 → 00:03:21 เซโรโทนินต่ำหรือเปล่าจะทำยังไงหมอมีวิธี
00:03:21 → 00:03:23 แนะนำค่ะวิธีตามธรรมชาติในการเพิ่ม
00:03:23 → 00:03:26 เซโรโทนินนะคะก็คือพยายามทานอาหารที่มี
00:03:26 → 00:03:30 กรดอะมิโนทริปโตเฟนสูงนะคะเช่นแซลมอนไข่
00:03:30 → 00:03:33 เต้าหู้ถั่วต่างๆการออกกำลังกายนะคะ
00:03:33 → 00:03:36 Aerobic Exercise ออกไปวิ่งนะคะโดย
00:03:36 → 00:03:39 เฉพาะออกไปวิ่ง Outdoor ให้ร่างกายได้ถูก
00:03:39 → 00:03:42 แสงแดดบ้างอันเนี้ยค่ะก็เป็นอะไรที่ Boost
00:03:42 → 00:03:44 เซตินตามธรรมชาติค่ะแต่ถ้าใครที่รู้สึก
00:03:44 → 00:03:48 ว่าอาการซึมเศร้ามันเยอะแล้วก็ทำอย่างที่
00:03:48 → 00:03:50 หมอว่าแล้วยังไม่ดีขึ้นนะคะอย่ากลัวที่จะ
00:03:50 → 00:03:53 ไปพบจิตแพทย์อันนั้นน่าจะดีที่สุดแน่นอน
00:03:53 → 00:03:56 นะคะหลายๆครั้งความสุขมันไม่ได้อยู่แค่
00:03:56 → 00:03:58 ที่ตัวเราแต่มันอยู่ที่ความสัมพันธ์ที่
00:03:58 → 00:04:01 เรามีด้วยซึ่งบางครั้งความสัมพันธ์บาง
00:04:01 → 00:04:04 อย่างเนี่ยมันบั่นทอนจิตใจของเราแต่เราก็
00:04:04 → 00:04:07 เดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้นไม่ได้มัน
00:04:07 → 00:04:10 แบบกลับตัวก็ไม่ได้อ่ะจะไปต่อก็ไปไม่ไหว
00:04:10 → 00:04:12 มันอยู่แบบทุกข์ๆซึ่งบอกว่าอันเนี้ยเป็น
00:04:12 → 00:04:15 หนึ่งในรากของความทุกข์ใจของหลายๆคนเลย
00:04:15 → 00:04:18 ที่ทำให้หัวใจไม่พองฟูนะคะมันก็มี EP นึง
00:04:18 → 00:04:21 ที่หมอชวนเพื่อนสนิทของหมอก็คือคุณหมอโอ๋
00:04:21 → 00:04:23 เพจเลี้ยงลูกนอกบ้านเนี่ยมาคุยถึงเรื่อง
00:04:24 → 00:04:26 ของ toxic relationship และวิธีที่เราจะ
00:04:26 → 00:04:30 เดินออกมาจากนั้นค่ะบางทีแบบแฟนก็ดีนะบาง
00:04:30 → 00:04:34 ทีก็ไม่ดีอะไรอย่างเงี้ยคือฟังแล้วก็ไม่
00:04:34 → 00:04:36 แน่ใจว่าสรุปว่าเอ๊ะเราอยู่ใน toxic
00:04:36 → 00:04:38 relationship หรือเปล่าล่ะมันไม่ใช่ว่า
00:04:38 → 00:04:41 ทุกคู่หรอที่มันก็มีแบบทุกข์บ้างสุขบ้าง
00:04:41 → 00:04:44 อะไรอย่างเงี้ยจะเช็คตัวเองยังไงดีก็คิด
00:04:44 → 00:04:47 ว่าสำคัญเลยเนาะคือการจะมีความรักอะไรสัก
00:04:47 → 00:04:50 อย่างในชีวิตเนี่ยมันต้องไม่ทำให้ตัวเรา
00:04:50 → 00:04:52 เป็นทุกข์มากขึ้นน่ะคือคำว่าเป็นทุกข์มาก
00:04:52 → 00:04:54 ขึ้นแปลว่ามันไม่ได้แปลว่าไม่มีความทุกข์
00:04:54 → 00:04:56 เลยเนาะอคือความสัมพันธ์มันคือการร่วม
00:04:57 → 00:04:59 ทุกข์ร่วมสุขอ่ะมันเพงั้นมันต้องแชร์ทุก
00:04:59 → 00:05:02 แชสุขมันมีสุขและมีทุกข์อยู่แล้วแต่ว่า
00:05:02 → 00:05:05 ถ้ามันทุกข์มากกว่าสุขอ่ะมันต้องเริ่ม
00:05:05 → 00:05:07 กลับมามองแล้วอ่ะว่าเฮ้ยมันเป็นความ
00:05:07 → 00:05:09 สัมพันธ์ที่มันแบบเป็นพิษกับเราอยู่หรือ
00:05:09 → 00:05:12 เปล่าอ่ะอืออันที่ 2 ก็คือความสัมพันธ์
00:05:12 → 00:05:16 ที่เราอยู่แล้วตัวตนของเราอ่ะมันหายไป
00:05:16 → 00:05:20 เรื่อยๆอืคือแท้ที่เราจะรู้สึกรักตัวเอง
00:05:20 → 00:05:22 มากขึ้นรู้สึกดีจังที่เราเป็นที่รักเรา
00:05:22 → 00:05:26 กลับรู้สึกว่าทำไมเราไร้่าแบบนี้ทำไมเรา
00:05:26 → 00:05:30 แย่จังเลยทำไมเถึงดูไม่ใยดีเราทำไมเมีคน
00:05:30 → 00:05:33 อื่นอือทำไมเพูดกับเราเหมือนเราแบบเป็น
00:05:34 → 00:05:37 ใครที่ต่ำต้อยทำไมเทำลายร่างกายเราอือ
00:05:37 → 00:05:40 เมื่อไหร่ก็ตามที่ทำให้ความสัมพันธ์ที่
00:05:40 → 00:05:43 มันทำลายตัวตนเราเนี่ยอต้องเอะใจว่าเนี่ย
00:05:43 → 00:05:46 มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ดีอยู่อือฮึแล้ว
00:05:46 → 00:05:49 ก็ความสัมพันธ์ที่ทำให้เราต้องแบบถอนหาย
00:05:49 → 00:05:52 ใจอยู่บ่อยๆคือแค่ควรจะเป็นความสัมพันธ์
00:05:52 → 00:05:55 ที่เรานึกแล้วเราแบบสร้างพลังชีวิตอ่ะอ๋อ
00:05:55 → 00:05:58 แต่พ้อทุกครั้งที่พอนึกถึงคนๆนี้เหนื่อย
00:05:58 → 00:06:01 ว่ะอาฮะ้าทีเรารู้สึกเหมือนแบบต้องลงสนาม
00:06:01 → 00:06:04 รบเงี้ยอาฮะฮไอ้ความสัมพันธ์ที่ทำให้เรา
00:06:04 → 00:06:06 มันไม่เป็นพื้นที่ปลอดภัยอ่ะการที่เรา
00:06:06 → 00:06:09 กลับมาแบบรู้สึกดีกับตัวเราเห็นคุณค่าของ
00:06:09 → 00:06:13 ตัวเราอือฮึรักและเคารพตัวเราอ่ะมันจะทำ
00:06:14 → 00:06:17 ให้เรารู้ว่าแบบพื้นที่แบบไหนที่มันทำลาย
00:06:17 → 00:06:20 ตัวตนเราอ่ะเราจะไม่ปล่อยให้ตัวเราไปอยู่
00:06:20 → 00:06:22 ตรงนั้นแบบนานน่ะเราจะแบบถ้ามันไม่ใช่เรา
00:06:22 → 00:06:25 จะถอยออกมาเร็วไม่เราจะไม่กลับไปวนูของ
00:06:25 → 00:06:27 toxic relationship เนรวมไปถึงเวลาที่
00:06:27 → 00:06:30 เรากลับมารักตัวเองรู้สึกดีกับตัวเอง
00:06:30 → 00:06:32 รู้สึกว่าเราแบบเราเต็มด้วยตัวเองอ่ะผิง
00:06:32 → 00:06:35 เราก็จะไม่เข้าไปเป็นแบบคนที่ต้องคอยอ้อน
00:06:35 → 00:06:39 วอนร้องขอความรักของใครอ่ะเราจะมีความ
00:06:39 → 00:06:43 สัมพันธ์และมีความรักเพื่อจะแชร์พื้นที่
00:06:43 → 00:06:47 ของความสุขความทุกข์ร่วมกันและบางคนพอจิต
00:06:47 → 00:06:51 ตกนะคะก็อาจจะอยากที่จะหาอะไรทำแก้เหงา
00:06:51 → 00:06:54 หนึ่งในตัวเลือกก็คือเรื่องของการเลี้ยง
00:06:54 → 00:06:57 น้องแมวหรือว่าน้องหมานะคะซึ่งจริงๆแล้ว
00:06:57 → 00:07:01 หมอว่ามันมีทั้งข้อแล้วข้อเสียนะคะแล้วก็
00:07:01 → 00:07:04 หมอเคยเชิญคุณหมอที่เป็นสัตวแพทย์มาให้
00:07:04 → 00:07:07 ข้อคิดนิดนึงถึงคนที่จิตตกแล้วก็อยากจะ
00:07:07 → 00:07:10 เลี้ยงน้องหมาน้องแมวเราไปฟังกันนะคะตัว
00:07:10 → 00:07:12 คนเหงาเนี่ยจริงๆแล้วเมีปัจจัยอะไรบ้าง
00:07:12 → 00:07:15 ที่แบบการเลี้ยงสัตว์มันช่วยเติมเต็มอือ
00:07:15 → 00:07:17 ฮึข้อแรกเนี่ยจริงๆแล้วเหมือนแบบก็อย่าง
00:07:17 → 00:07:19 ที่เห็นน่ะนะครับคือจะเป็นสุนัขเอยเป็น
00:07:19 → 00:07:22 แมวเอยเนี่ยคือเขาแบบค่อนข้างรักเราแบบ
00:07:22 → 00:07:25 ไม่มีเงื่อนไขอืตรงเนี้ยมันเหมือนเป็นการ
00:07:25 → 00:07:28 ฟิความรู้สึกเล็กๆของคนที่แบบอาจจะอยู่คน
00:07:28 → 00:07:31 เดียวแบบอมประมาณว่าจากที่กลับมาบ้านแล้ว
00:07:31 → 00:07:33 ไม่มีใครวันนี้กลับมาบ้านที่คอนโดแล้วอาจ
00:07:33 → 00:07:37 จะมีน้องสุนัขวิ่งมาหาวิ่งมาดีใจเนี่ยอาจ
00:07:37 → 00:07:39 จะทำให้หัวใจพองโตไม่รู้ตอนนี้คุณหมอผิง
00:07:39 → 00:07:41 แบบอาจจะแบบเออเวลาน้องกลับมาบ้านน่าจะดี
00:07:41 → 00:07:43 ใจทุกครั้งอะไรเงี้ยมันก็น่าจะช่วยให้เรา
00:07:43 → 00:07:45 แบบเติมเต็มได้เนาะอะไรดีใจจนฉี่ราชเลย
00:07:45 → 00:07:48 อ่ะค่ะจศิราชอันนี้อาจจะต้องฝึกนิดนึง
00:07:48 → 00:07:51 ครับอือฮึแต่ว่าอย่างคนที่เลี้ยงแมวก็ไม่
00:07:51 → 00:07:53 ต้องน้อยใจไปนะครับเพราะจริงๆต้องบอกว่า
00:07:53 → 00:07:55 แมวน่ะรักเราเหมือนกันแต่เขาอาจจะเป็น
00:07:56 → 00:07:59 สัตว์ที่แสดงออกไม่ค่อยเก่งอืเขาอาจจะ
00:07:59 → 00:08:01 แสดงออกแค่ช่วงแบบตอนเราตื่นเช้ามาหามา
00:08:01 → 00:08:04 ครอเคลียร์อะไรบ้างแต่ว่าจริงๆก็เป็นการ
00:08:04 → 00:08:06 ที่เขาแสดงความรักให้เราเหมือนกันแต่อาจ
00:08:06 → 00:08:08 จะไม่ได้แบบ Express Over acting
00:08:08 → 00:08:11 เหมือนอย่างสุนัขอะไรตลอดเวลานะครับอัน
00:08:11 → 00:08:13 แรกคือเราได้รับความรักแล้วอ่ะนะครับอัน
00:08:13 → 00:08:16 ที่ 2 เนี่ยมันเป็นการเติมเต็มคุณค่าของ
00:08:16 → 00:08:20 การที่แบบได้รู้สึกได้ดูแลใครสักคนอือ่า
00:08:20 → 00:08:22 คนเหงาบางคนอาจจะรู้สึกว่าแบบเอ้ยฉันยัง
00:08:22 → 00:08:26 ไม่มีแฟนฉันอยากจะมีแฟนไว้ดูแลไว้ใส่ใจ
00:08:26 → 00:08:28 ไว้ใกล้ชิดนะครับถ้าเกิดว่าในเคสเนี้ย
00:08:28 → 00:08:30 หลังจากที่คุณมีน้องนหมาแล้วบอกเลยว่าคุณ
00:08:30 → 00:08:33 ได้ดูแลเต็มที่แน่เต็มที่จนแบบว่าอาจจะ
00:08:33 → 00:08:37 เช้าจดเย็นค่ะเออแล้วนเช้าจดเย็นข้อที่ 3
00:08:37 → 00:08:39 เนี่ยที่หมอคิดว่าแบบเป็นข้อดีมากๆเลยคือ
00:08:39 → 00:08:42 เรื่องของการได้ใช้เวลาร่วมกันอืคือคน
00:08:42 → 00:08:44 เหงาหลายคนเนี่ยอุดอู้อยู่บ้านอาจจะรู้
00:08:45 → 00:08:47 สึกว่าแบบเออฉันไม่รู้จะไปไหนอือฮึจะไป
00:08:47 → 00:08:50 กับใครดีแบบไม่ได้มีกิจกรรมอะไรให้ทำเยอะ
00:08:50 → 00:08:53 แต่ว่าแน่นอนว่าคุณมีสุนัขอนะครับอือถึง
00:08:53 → 00:08:55 ตอนนั้นเนี่ยคือเราก็ต้องเริ่มพาเ้าออกไป
00:08:55 → 00:08:58 เล่นละอย่างบอกเลี้ยงแมวเนี่ยจริงๆเราอาจ
00:08:58 → 00:09:00 จะต้องมีเวลาให้กับเค้าเอาของเล่นมาเล่น
00:09:00 → 00:09:03 ใช้เลเซอร์พอยเตอร์อะไรบ้างเพื่อแบบทำ
00:09:03 → 00:09:05 กิจกรรมร่วมกันซึ่งตรรงเนี้ยมันเหมือน
00:09:06 → 00:09:08 เป็นสีสันของชีวิตคนโสดว่าแบบเหมือนบางคน
00:09:08 → 00:09:11 เนี่ยอาจจะรู้สึกแบบชีวิตมันไม่มีกิจกรรม
00:09:11 → 00:09:13 ให้ทำแต่ว่าแน่นอนว่ากิจกรรมมันจะเกิด
00:09:13 → 00:09:16 ขึ้นทันทีอืต้องบอกว่าตรงเนี้ยมันเป็นการ
00:09:16 → 00:09:18 ใช้เวลาที่เราค่อยๆโตไปกับเค้าอ่ะนะครับ
00:09:18 → 00:09:21 เหมือนเราได้เห็นแบบเค้าตั้งแต่เล็กๆนะ
00:09:21 → 00:09:24 ครับแล้วก็ค่อยๆแบบเติบโตไปเรื่อยๆอายุ
00:09:24 → 00:09:26 เยอะไปเรื่อยๆจนถึงวันที่เขาแก่มันก็เลย
00:09:27 → 00:09:29 เหมือนการที่ว่าแบบคนเหงาเนี่ยมีคนักคน
00:09:29 → 00:09:32 นึงมาใช้ชีวิตแบบร่วมไปกับเราในทุกๆวัน
00:09:32 → 00:09:35 ทุกๆเดือนทุกๆปีที่เติบโตขึ้นอสุดท้าย
00:09:35 → 00:09:38 แล้วอ่ะการดูแลสภาพจิตใจของเราก็อยู่ที่
00:09:38 → 00:09:41 การดูแลสุขภาพร่างกายเราด้วยนะคะคือถ้า
00:09:41 → 00:09:43 เราสุขภาพร่างกายดีเรากินดีจริงๆแล้วมัน
00:09:44 → 00:09:46 ก็แก้อาการจิตตกได้เหมือนกันหมอเคยเล่า
00:09:46 → 00:09:49 ให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของวิธีกินแก้จิตตก
00:09:49 → 00:09:51 ค่ะใน EP ที่
00:09:51 → 00:09:54 152 จิตตกต้องกินอะไรจิตตกต้องกินผัก
00:09:54 → 00:09:59 ผลไม้เยอะๆนะคะจิตตกต้องกินปลาอาหารทะเล
00:09:59 → 00:10:02 กินถั่วกินโยเกิร์ตกินธัญพืชไม่ขัดสีแล้ว
00:10:02 → 00:10:05 ก็ดื่มชาเขียวที่ไม่มีน้ำตาลไม่มีนมนะคะ
00:10:05 → 00:10:07 อันเนี้ยก็จะเป็นอาหารที่ Anti
00:10:07 → 00:10:10 inflammatory Food นะคะหรือว่าอาหารที่
00:10:10 → 00:10:12 ต้านการอักเสบซึ่งดีต่ออาการจิตตกมาถึง
00:10:12 → 00:10:15 กลไกว่าอ้าแล้วทำไมการกินพวกเนี้ยมันจะไป
00:10:15 → 00:10:17 เกี่ยวอะไรกับจิตตกได้ยังไงไม่เห็นจะเข้า
00:10:17 → 00:10:20 ใจเลยนะคะจริงๆแล้วอ่ะมันมีจิ๊กซออยู่ค่ะ
00:10:20 → 00:10:24 ก็คือเรื่องของกัดไมโครไบโอมนะคะหรือว่า
00:10:24 → 00:10:26 จุลินทรีย์เล็กๆที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ของเรา
00:10:26 → 00:10:29 นะคะแบคทีเรียต่างๆที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ของ
00:10:29 → 00:10:32 เราเพบว่าการกินน่ะมันจะสัมพันธ์กับ
00:10:32 → 00:10:35 ประเภทของประชากรแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่
00:10:35 → 00:10:37 ซึ่งไอ้้ประชากรแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่เรา
00:10:37 → 00:10:39 เนี่ยก็ไปเกี่ยวข้องกับการสร้างสารสื่อ
00:10:39 → 00:10:43 ประสาทต่างๆของสมองนะคะกัดกับเบนสมองกับ
00:10:44 → 00:10:46 ลำไส้อ่ะมันมีการเชื่อมโยงกันอยู่โดย
00:10:46 → 00:10:48 เฉพาะสารสื่อประสาทที่ชื่อว่าเซโรโทนินนะ
00:10:48 → 00:10:50 คะซึ่งเป็นเหมือนกับสารสื่อประสาทที่ทำ
00:10:50 → 00:10:52 ให้เรารู้สึก feel good ดังนั้นเนี่ยการ
00:10:52 → 00:10:55 ที่เรามีประชากรแบคทีเรียประเภทนึงที่ไม่
00:10:55 → 00:10:57 ดีก็อาจจะส่งผลให้การสร้างของเซโรโทนิน
00:10:57 → 00:11:00 เนี่ยลดลงในขณะที่ถ้าเรามีประชากร
00:11:00 → 00:11:03 แบคทีเรียที่ดีที่สมดุลนะคะการสร้างของ
00:11:03 → 00:11:06 สารสืบประสาทก็สมดุลตามไปด้วยดังนั้นการ
00:11:06 → 00:11:11 กินดีก็ย่อมส่งผลที่ดีต่อการสร้างสารสืบ
00:11:11 → 00:11:14 ประสาทซึ่งก็ส่งผลดีต่ออารมณ์ในทางตรงกัน
00:11:14 → 00:11:18 ข้ามการกินไม่ดีก็ส่งผลต่ออาการจิตตกเช่น
00:11:18 → 00:11:22 กันและหลายครั้งพอเวลาเราจิตตกเราก็จะนอน
00:11:22 → 00:11:25 ไม่หลับซึ่งอันนี้สำคัญมากมันจะเป็นวงจร
00:11:25 → 00:11:28 เนาะจิตตกนอนไม่หลับนอนไม่พอจิตก็ตกหนัก
00:11:28 → 00:11:31 เข้าไปอีกดังนั้นเราก็จะต้องเรียนรู้
00:11:31 → 00:11:34 เทคนิคการนอนให้ดีนะคะหมอเคยเชิญผู้
00:11:34 → 00:11:36 เชี่ยวชาญด้านการนอนโดยเฉพาะเลยอาจารย์
00:11:36 → 00:11:39 ดาวนะคะรองศาสตราจารย์แพทยหญิงนฤชาจากที่
00:11:39 → 00:11:42 จุฬาเนี่ยมาคุยให้ฟังลองไปฟังเทคนิคการ
00:11:42 → 00:11:46 นอนให้ได้คุณภาพจากอาจารย์นะคะสุขอนามัย
00:11:46 → 00:11:49 ในการนอนที่ดีควรจะเป็นยังไงคะอาจารย์ค่ะ
00:11:49 → 00:11:52 ก็ขอเริ่มตั้งแต่การเข้านอนเลยนะคะคือ
00:11:52 → 00:11:55 อยากให้เข้านอนเวลาเดียวกันตื่นเวลาเดียว
00:11:55 → 00:11:58 กันทุกวันอันนี้เป็นคอนเซปแรกเลยนะคะคือ
00:11:58 → 00:12:01 พยายามที่จะสเนนะคะนาฬิกาการหลับของเรา
00:12:01 → 00:12:05 เนี่ยให้เหมาะสมนะคะแล้วก็สิ่งแวดล้อมนะ
00:12:05 → 00:12:09 คะก็มืดเงียบเย็นนะคะก็ในแง่ของการที่เรา
00:12:09 → 00:12:12 จะรับประทานอาหารนะคะก็มื้อใหญ่ไม่ควรภาย
00:12:12 → 00:12:15 ใน 3 ชั่วโมงเหลียกเลี่ยงคาเฟอีน 6 ชม
00:12:16 → 00:12:19 ก่อนนอนแอลกอฮอล์ 4 ชมก่อนนอนนะคะการออก
00:12:19 → 00:12:22 กำลังกายเป็นสิ่งที่ดีนะคะช่วยส่งเสริม
00:12:22 → 00:12:26 การนอนโดยเฉพาะช่วงเช้านะคะมีข้อมูลหรือ
00:12:26 → 00:12:29 ว่าก่อนนอนสักประมาณ 4-6 ชมเพราะว่าเวลา
00:12:29 → 00:12:31 อุณหภูมิร่างกายสูงจากการออกกำลังกาย
00:12:31 → 00:12:33 เนี่ยพอเราเข้านอนเนี่ยมันจะเหมือนส่ง
00:12:33 → 00:12:36 เสริมในช่วงที่อุณหภูมิร่างกายเราลดหลัง
00:12:36 → 00:12:39 เราออกกำลังกายในทางตรงข้ามนะคะไม่แนะนำ
00:12:39 → 00:12:43 ให้ออกกำลังกายใกล้เวลานอนเกินไปนะคะโดย
00:12:43 → 00:12:45 เฉพาะในช่วง 1-2 ช่วโมงก่อนนอนเพราะว่า
00:12:45 → 00:12:48 อุณหภูมิร่างกายเราอาจจะยังสูงอยู่นะคะทำ
00:12:48 → 00:12:52 ให้เรานอนหลับยากนะคะรวมทั้งถึงการที่อาบ
00:12:52 → 00:12:55 น้ำด้วยค่ะไม่แนะนำให้อาบน้ำใกล้เวลานอน
00:12:55 → 00:12:58 โดยเฉพาะถ้าเราอาบน้ำที่ค่อนข้างอุดเพราะ
00:12:58 → 00:13:02 ว่าเหว่าอุณภูมิงกายเราก็จะสูงอาจจะทำให้
00:13:02 → 00:13:06 เรานอนยากอันนี้ให้ลองสังเกตดูนะคะค่ะนอก
00:13:06 → 00:13:08 นั้นเนี่ยก็คืออาจจะเป็นพวกเทคนิคอื่นๆ
00:13:08 → 00:13:12 เพิ่มเติมนะคะเช่นคนที่มีปัญหาเรื่องของ
00:13:12 → 00:13:14 ห้องอาจจะมีเสียงดังก็แนะนำว่าใช้เทคนิค
00:13:14 → 00:13:17 ในแง่ของ White No นะคะมีการใช้เสียงที่
00:13:17 → 00:13:20 เป็น background ขึ้นมาซึ่งเป็นเสียงที่
00:13:20 → 00:13:23 คงที่ตลอดเช่นเสียงพัดลมเสียงพวกอุปกรณ์
00:13:24 → 00:13:26 อื่นๆนะคะซึ่งไม่ใช่เสียงวิทยุหรือ
00:13:26 → 00:13:29 โทรทัศน์ที่จะมีเสียงเปลี่ยนแปลงไปก็จะ
00:13:29 → 00:13:31 ช่วยกรบเสียงที่จะดังขึ้นมาระหว่างคืน
00:13:31 → 00:13:34 หรือการใช้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอพนะคะ
00:13:34 → 00:13:37 ที่อุดหูหรือว่าผ้าปิดตานี้ก็จะช่วยให้
00:13:37 → 00:13:40 นอนได้ดีขึ้นนะคะหลีกเลี่ยงแสงใกล้เวลา
00:13:40 → 00:13:43 นอนค่ะรวมทั้งทุกอย่างค่ะทั้งอุปกรณ์
00:13:43 → 00:13:46 อิเล็กทรอนิกส์ก็จะทำให้นอนยากเพราะว่าไป
00:13:46 → 00:13:49 ลดการหลังของแม่ลาทนินแล้วก็กระตุ้นทำให้
00:13:49 → 00:13:51 เรานอนยากพวกนี้ก็หลีกเลี่ยงใกล้เวลานอน
00:13:51 → 00:13:54 ในทางตรงข้ามค่ะตอนเช้าเนี่ยอยากให้โดน
00:13:54 → 00:13:56 แดดนะคะเพราะฉะนั้นตอนเช้าเนี่ยให้ออกไป
00:13:56 → 00:13:59 รับแดดตอนเช้าเพราะว่าจะทำให้นาฬิกาการ
00:13:59 → 00:14:04 นอนของเราเนี่ยดีขึ้นในคืนถัดไปนะคะอและ
00:14:04 → 00:14:06 สุดท้ายแล้วอ่ะหมอว่าเราอาจจะต้องกลับมา
00:14:06 → 00:14:10 ตั้งต้นกับตัวเองใหม่นะคะว่าอะไรที่เราจะ
00:14:10 → 00:14:13 ทำแล้วชีวิตมันจะสบายขึ้นมีความสุขขึ้น
00:14:13 → 00:14:16 เทคนิคนึงที่หมอเคยเอามาเล่าแล้วหมอก็ชอบ
00:14:16 → 00:14:19 ก็คือเรื่องของการฝึกอยู่แบบช้าๆหรือว่า
00:14:19 → 00:14:21 slow Living ค่ะคุณผู้ฟังลองไปฟังกันนะ
00:14:21 → 00:14:24 คะเผื่อ 2023 เราจะลอง slow Living กัน
00:14:24 → 00:14:27 ดูคือ slow Food คือการที่เราแบบพยายาม
00:14:27 → 00:14:31 ที่จะทำออารเองนะคะใช้แบบผักผลไม้ที่เป็น
00:14:31 → 00:14:35 โลคอลเป็นออร์แกนินะคะมันก็จะมีไินนะมี
00:14:35 → 00:14:38 สารอาหารต่างๆที่ดีกับสุขภาพแอนตี้ออกซิน
00:14:38 → 00:14:41 อะไรเเยอะกว่ามีไฟเบอร์มากกว่ามี added
00:14:41 → 00:14:44 Sugar หรือน้ำตาลส่วนเกินน้อยกว่ามีไข
00:14:44 → 00:14:46 มันทรานน้อยกว่ามีเกลือน้อยกว่าถ้าเราไป
00:14:46 → 00:14:48 เทียบกับ Fast Food นอกจากเนี้ยการที่
00:14:49 → 00:14:51 เราใช้ชีวิตแบบ slow Living ทำแต่อะไร
00:14:51 → 00:14:54 ที่มันสำคัญที่มันใช่ไม่ทำอะไรที่มันมาก
00:14:54 → 00:14:56 เกินไปไม่กดดันตัวเองให้มันต้องทำอะไร
00:14:56 → 00:14:59 เร็วๆเนี่ยมันก็จะส่งผลให้ระดับฮอร์โมน
00:14:59 → 00:15:01 เครียดหรือว่าคอร์ติซอลลดลงเมื่อความ
00:15:01 → 00:15:05 เครียดน้อยลงการนอนหลับดีขึ้นอนุมูลอิสระ
00:15:05 → 00:15:08 แล้วก็การอักเสบระดับโมเลกุลก็ลดลงเซลล์
00:15:08 → 00:15:11 มันก็แก่ช้าลงหมอคิดว่า slow Living อ่ะ
00:15:11 → 00:15:13 มันไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องแบบย้ายออก
00:15:13 → 00:15:15 จากกรุงเทพฯไปอยู่ต่างจังหวัดหรืออะไรแต่
00:15:15 → 00:15:18 จริงๆแล้วมันเป็น mindset ที่เราสามารถจะ
00:15:18 → 00:15:21 ทำได้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราก็สามารถ
00:15:21 → 00:15:24 ที่จะทำได้แล้วก็ข้อสำคัญเลยอ่ะคือมันอาจ
00:15:24 → 00:15:28 จะต้องคล้ายๆกับนิยามความสำเร็จในชีวิต
00:15:28 → 00:15:31 สมัยคือถ้าเรามองความสำเร็จในชีวิตเป็น
00:15:31 → 00:15:34 แบบที่คนอื่นเขามองกันว่าแบบนี้สำเร็จบาง
00:15:34 → 00:15:35 ทีมันอาจจะไม่ใช่แบบที่ฟิตหรือเหมาะกับ
00:15:35 → 00:15:39 เราเนี่ยเราก็อาจจะต้องแบบพยายามที่จะรีบ
00:15:39 → 00:15:41 ที่จะทำเพื่อให้มันสำเร็จเพื่อให้คนอื่น
00:15:41 → 00:15:45 ยอมรับแต่ถ้าเรานิยามความสำเร็จในแบบของ
00:15:45 → 00:15:48 เราโดยให้ความสำคัญกับสิ่งที่มันสำคัญ
00:15:48 → 00:15:50 จริงๆสำหรับเราเท่านั้นน่ะเราก็จะทำอะไร
00:15:50 → 00:15:53 ที่มันน้อยลงได้แล้วก็ใช้ชีวิตที่มันช้า
00:15:53 → 00:15:56 ลงได้การที่เราจะใช้ชีวิตแบบ slow Living
00:15:56 → 00:15:58 ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องแบบอย่าขาดกับ
00:15:58 → 00:16:01 เทคโนโลยีนะคะหมอว่าไม่ใช่เลยเพราะจริงๆ
00:16:01 → 00:16:04 เทคโนโลยีมันก็เป็นทบางอย่างที่มันช่วยใน
00:16:04 → 00:16:06 การใช้ชีวิตได้เพียงแต่ว่าเราควรจะต้อง
00:16:06 → 00:16:09 ไม่ให้มันมาแบบ distract เราอ่ะไม่ให้มัน
00:16:09 → 00:16:11 มาทำให้เราไม่สามารถอยู่กับคนที่รักหรือ
00:16:11 → 00:16:14 ไม่สามารถอยู่กับตัวเองหรือไม่สามารถหยุด
00:16:14 → 00:16:17 มันได้หวังเป็นอย่างยิ่งนะคะว่าเมื่อคุณ
00:16:17 → 00:16:19 ผู้ฟังได้ฟัง podcast EP นี้แล้วจะรู้
00:16:19 → 00:16:23 สึกหัวใจฟูขึ้นมาอีกครั้งถ้าใช่นะคะกดเซฟ
00:16:23 → 00:16:25 หรือว่ากดไลค์เก็บไว้นะคะเผื่อจิตตกเมื่อ
00:16:25 → 00:16:29 ไหร่ก็มาฟังเพลินๆกันได้นะคะหวังเป็น
00:16:29 → 00:16:32 อย่างยิ่งนะคะว่าในปี 2023 จะเป็นปีที่
00:16:32 → 00:16:36 คุณผู้ฟังมีหัวใจพองโตพองฟูมีสุขภาพที่ดี
00:16:36 → 00:16:40 นะคะแล้วก็คิดสิ่งใดก็สมปรารถนาทำความฝัน
00:16:41 → 00:16:43 ที่ฝันไว้ได้เป็นจริงสำเร็จในปีหน้าค่ะ
00:16:43 → 00:16:46 และในปีหน้านะคะก็ยังสามารถรับฟัง Single
00:16:46 → 00:16:49 be ได้เหมือนเดิมค่ะหมอยังไม่ไปไหนค่ะ
00:16:49 → 00:16:51 ยังอยู่กับคุณผู้ฟังอัปเดต EP ใหม่ๆทุก
00:16:51 → 00:16:54 วันศุกร์เหมือนเดิมนะคะขอบคุณทุกๆท่านที่
00:16:54 → 00:16:57 ติดตามฟังกันมาโดยตลอดขอบคุณทุกคอมเมนต์
00:16:57 → 00:17:00 ไลค์แชร์เป็นกำลังใจดีๆในการทำ podcast
00:17:00 → 00:17:02 ของหมอและทีมงาน
00:17:02 → 00:17:06 ค่ะหวังเป็นอย่างยิ่งนะคะว่าเราจะติดตาม
00:17:06 → 00:17:10 ฟังกันไปเรื่อยๆให้รักดูแลชีวิตไปด้วยกัน
00:17:10 → 00:17:13 สวัสดีปีใหม่ 2566
00:17:13 → 00:17:17 ค่ะ Single Being podcast about
00:17:17 → 00:17:20 Living your Best Single Life โดย
00:17:20 → 00:17:25 หมอผิงแพทย์หญิงธิดาการรุจิพัฒนกุล
00:17:25 → 00:17:30 ดีที่อยู่เดียว Presented By ให้รักดูแล
00:17:30 → 00:17:34 ชีวิตไทยประกันชีวิต