00:00:00 → 00:00:03 ค่ะอาจารย์คะสวัสดีค่ะอาจารย์ค่ะสวัสดี
00:00:03 → 00:00:06 ค่ะคุณนกคุณหยกสวัสดีค่ะค่ะอาจารย์
00:00:06 → 00:00:09 อาจารย์คะเรื่องของจอประสาสตาเสื่อมเนี่ย
00:00:09 → 00:00:12 มันเป็นเรื่องที่ไกลหรือใกล้ตัวเราอย่าง
00:00:12 → 00:00:15 ไรคะอาจารย์มันเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้างคะ
00:00:15 → 00:00:19 ค่ะจริงๆแล้วจอประสาทตาเสื่อมอ่ะค่ะมันก็
00:00:19 → 00:00:22 เป็นโรคที่เจอได้บ่อยนะคะโรคจอประสาทตา
00:00:22 → 00:00:25 เสื่อมจริงๆแล้วเวลาเราพูดกันน่ะค่ะมัน
00:00:25 → 00:00:28 เกิดได้จากหลายสาเหตุมากเลยแต่ว่าเรามัก
00:00:28 → 00:00:31 จะนึกถึงโรคจอประสาทเวลาเราพูดจอประสาทตา
00:00:31 → 00:00:34 เสื่อมเฉยๆเนี่ยเราจะมักถึงโรคจอประสาทตา
00:00:34 → 00:00:37 เสื่อมในผู้สูงอายุอ่ะค่ะหรือว่าเรียกโรค
00:00:37 → 00:00:41 จุดกภาพชัดเสื่อมในผู้สูงอายุอ่ะค่ะค่ะ
00:00:41 → 00:00:46 อค่ะสาเหตุใช่มั้ยคะสาเหตุส่วนใหญ่เนี่ย
00:00:46 → 00:00:49 เกิดจากอายุที่เยอะมากขึ้นนะค่ะแล้วก็มัน
00:00:49 → 00:00:52 จะทำให้ตำแหน่งตรงจุดกภาพของเราเนี่ยเอ่อ
00:00:52 → 00:00:55 ไม่สามารถกำจัดของเสียได้เหมือนตอนที่เรา
00:00:55 → 00:00:59 ยังอายุน้อยๆอ่ะค่ะมันจะทำให้ของเสียพวก
00:00:59 → 00:01:02 นั้นเนี่ยค้างค้างอยู่บริเวณุดสำคัญของ
00:01:02 → 00:01:05 เราก็คือจุดรับภาพชัดทำให้การมองเห็นของ
00:01:05 → 00:01:10 เราเนี่ยเสื่อมลงไปเรื่อยๆค่ะโออื
00:01:10 → 00:01:14 ค่ะวัยวัยสูงอายุขึ้นน่ะค่ะคือต้องวัย
00:01:14 → 00:01:16 อายุประมาณไหนอ่ะคะถึงที่เริ่มมีความ
00:01:16 → 00:01:20 เสื่อมถอยของจอประสาทตาคะอาจารย์ค่ะคือ
00:01:21 → 00:01:24 โดยส่วนใหญ่แล้วโลกเยค่ะจะเกิดในคนที่
00:01:24 → 00:01:28 อายุมากกว่า 50 ปีอ่ะค่ะขึ้นไปก็จะเจอได้
00:01:28 → 00:01:32 ได้เยอะขึ้นน่ะค่ะซึ่งจริงๆแล้วเนี่ย
00:01:32 → 00:01:34 ปัจจัยเสียงที่จะทำให้เกิดโรคเนี้ค่ะนอก
00:01:34 → 00:01:37 จากอายุที่เยอะมากขึ้นแล้วอ่ะค่ะ
00:01:37 → 00:01:40 พันธุกรรมก็เป็นสาเหตุนึงนะคะการสูบ
00:01:40 → 00:01:42 บุหรี่ก็ทำให้กระตุ้นให้เกิดภาวะนี้ีได้
00:01:43 → 00:01:45 โดยการสูบบุหรี่เนี่ยจะมีโอกาสทำให้เกิด
00:01:45 → 00:01:48 ภาวะจอประสาทปลาเสื่อมเนี่ยได้มากขึ้น 2-3
00:01:48 → 00:01:51 เท่าเลยถ้าเทียบกับคนที่ไม่ได้สูบบุริค่ะ
00:01:51 → 00:01:54 อีกอันนึงก็คือคภาวะความดันโลหิตสูงแล้ว
00:01:54 → 00:01:58 ก็ภาวะไขมันในเลือดที่สูงก็ทำให้กระตุ้น
00:01:58 → 00:02:01 เกิดภาวะนี้ได้มากขึ้นค่ะค่ะอยากรู้แล้ว
00:02:01 → 00:02:04 นะคะนน้องหยกและพี่นกก็อยากรู้คุณผู้ฟัง
00:02:05 → 00:02:07 ก็อยากรู้ว่าเราจะเห็นยังไงอ่ะคะอาจารย์
00:02:07 → 00:02:10 ที่มันจะเตือนเราว่าจ่อประสาทตาเราเริ่ม
00:02:10 → 00:02:13 เสื่อมแล้วค่ะมันมองมันมองยังไงคะอาจารย์
00:02:13 → 00:02:15 มันไม่ชัดหรือมันเหมือนสายตาสั้นหรือว่า
00:02:16 → 00:02:19 เอ่อคนเป็นต้อลมมันแสบตาหรือยังไงคะ
00:02:19 → 00:02:24 อาจารย์ค่ะก็คือโดยส่วนใหญ่คนไข้ที่จะหม
00:02:24 → 00:02:26 คือเบื้องต้นเนี่ยในบางคนเนี่ยก็อาจจะไม่
00:02:26 → 00:02:30 มีอาการเลยก็ได้ถ้าเป็นในระยะน้อยๆถ้า
00:02:30 → 00:02:32 สมมุติว่าคนไข้เริ่มมีอาการมากขึ้นอาการ
00:02:32 → 00:02:35 ที่มาแรกๆก็คือจะมาด้วยเรื่องตามัวค่ะ
00:02:35 → 00:02:38 หลังๆก็อาจะมีเรื่องโดยเฉพาะการมัวตรง
00:02:38 → 00:02:43 กลางภาพอาจจะมีภาพเบี้ยวภาพคดเกิดขึ้นได้
00:02:43 → 00:02:46 ค่ะถ้าสมมุติว่ามีอาการเหล่าเนี้ยก็ควร
00:02:46 → 00:02:49 รีบมาพบจักศุแพทย์ค่ะ
00:02:49 → 00:02:53 โอ้โหค่ะอาจารยคะภาพเปรี้ยวภาพดนี่ต้อง
00:02:53 → 00:02:56 เป็นนานแค่ไหนคะถึงว่าจะแบบอ่ะสันนิษฐาน
00:02:56 → 00:03:00 และชั้นแหละจอประสาทตาเสื่อมแน่ๆเลยต้อง
00:03:00 → 00:03:02 เป็นแบบเป็นเดือนหรือแค่ครั้งแรกก็มาพบ
00:03:02 → 00:03:04 แพทย์ได้เลยคะค่ะ
00:03:04 → 00:03:08 อืจริงๆแล้วอาการภาพเบี้ยวภาพดเนี่ยมัน
00:03:08 → 00:03:10 เป็นรอยโรคของจุดรับภาพชัดอ่ะค่ะถ้า
00:03:11 → 00:03:14 สมมุติว่าคนไข้เนี่ยคนโดยปกติเราจะไม่มี
00:03:14 → 00:03:16 การมองเห็นภาพเบี้ยวภาพคดอยู่แล้วเนาะถ้า
00:03:16 → 00:03:19 เราไม่ได้มีจอประสาตาที่ผิดปกติถ้าเรา
00:03:19 → 00:03:22 เห็นภาพเบี้ยวภาพคดในครั้งแรกอ่ะค่ะก็ควร
00:03:22 → 00:03:25 จะรีบมาพบจักสุแพทได้เลยเพราะว่าแสดงว่า
00:03:25 → 00:03:28 มีอาการผิดปกติที่ตรงจุดรับภาพแล้วโดยที่
00:03:28 → 00:03:32 เราอาจจะต้องใช้เราอาจจะดูเส้นตรงๆก็ได้
00:03:32 → 00:03:35 ค่ะแล้วก็ปิดตาทีละข้างแล้วก็ดูเส้นไอ้
00:03:35 → 00:03:38 ตรงๆอันนั้นน่ะค่ะว่ามันเี้ยวมันคดหรือมี
00:03:38 → 00:03:40 เส้นที่มันขาดหายไปบางส่วนหรือเปล่าอย่าง
00:03:41 → 00:03:44 เงี้นะคะโดยการซ้ายปิดตาซ้ายตรวจทีนึงปิด
00:03:44 → 00:03:47 ตาขวาดูเส้นอีกทีนึงอ่ะค่ะเราจะได้รู้ว่า
00:03:47 → 00:03:50 ตาข้างในนของเรากันแน่ที่มันมีปัญหาเพราะ
00:03:50 → 00:03:52 ว่าโดยส่วนใหญ่อ่ะค่ะถ้ามันมีปัญหาจากจุด
00:03:52 → 00:03:56 รภาพเสื่อมมันก็มักจะนะคะมักจะมีอาการที
00:03:56 → 00:03:58 ละข้างหรือความจริงมันจะมีอาการทั้ง 2
00:03:58 → 00:04:01 ข้างเลยก็ได้เราก็ต้องติดตาทีละข้างดูว่า
00:04:01 → 00:04:05 ตาข้างไหนกันแน่ที่มันมีปัญหาค่ะอืค่ะ
00:04:05 → 00:04:07 อาจารย์คะแล้วแว่นสายตาหรืออะไรอย่าง
00:04:07 → 00:04:09 เงี้ยค่ะมันไม่ได้ช่วยให้เราแบบดีขึ้นเลย
00:04:09 → 00:04:12 ใช่มั้ยคะคือถ้าต่อให้เราใส่แว่นก็จะมอง
00:04:12 → 00:04:15 เห็นโค้ดเห็นเบี้ยวอยู่ดีใช่่ะคะออือใช่
00:04:15 → 00:04:18 ค่ะใช่ค่ะเพราะว่าการใส่แว่นสายตาสั้น
00:04:18 → 00:04:21 หรือสายตายาวเนี่ยมันก็เป็นการแก้ภาวะ
00:04:21 → 00:04:23 ปัญหาสายตาสั้นแต่ว่ามันไม่ได้มีเป็นการ
00:04:23 → 00:04:26 แก้ปัญหาที่จุดรับภาพชั้นเสื่อมค่ะค่ะอัน
00:04:26 → 00:04:30 นี้พอดีไปดูเรื่องของการทดสอบเรื่องของ
00:04:30 → 00:04:33 ภาพที่อาจารย์บอกว่าเบี้ยวแล้วก็คดเนี่ย
00:04:33 → 00:04:36 มีการให้มองภาพที่เป็นเหมือนกับตารางนะ
00:04:36 → 00:04:39 ค่ะอาจารย์แล้วก็ให้ถือห่างออกไปนี้ดูใน
00:04:39 → 00:04:42 จอมือถือนะคะห่างออกไปเหมือนจะเป็นภาพ
00:04:42 → 00:04:45 เอ่อตารางไขว้ๆกันอยู่เนี่ยเ่อห่าง 122
00:04:45 → 00:04:48 นิ้วก็คือในยืดของของมือเราเนี่ยแล้วก็
00:04:48 → 00:04:51 มือถือยืดออกไปเนี่ยแล้วก็ปิดตาทีละข้าง
00:04:51 → 00:04:54 อย่างอาจารย์บอกแล้วก็ถ้าเห็นภาพเบี้ยว
00:04:54 → 00:04:58 ภาพคดเนี่ยคือใช่เลยแต่ที่พี่นกทำเนี่ยก็
00:04:58 → 00:05:00 คือยังยังไม่เห็นเท่าไหร่ไรแต่เพื่อนน่ะ
00:05:00 → 00:05:03 ที่บอกว่าเเป็นเนี่ยเขาบอกว่าเมีตาข้าง
00:05:03 → 00:05:05 นึงที่เขาเป็นจอประสาทตาเสื่อมแล้วเขเห็น
00:05:05 → 00:05:11 ดแบบนั้นเลยเอ่อลักษณะการตรวจสอบด้วยการ
00:05:11 → 00:05:14 ถือภาพออกไปยื่นดูด้วยตัวเองอย่างเงี้ย
00:05:14 → 00:05:18 ใช้ได้มั้ยคะอาจารย์ดีเลยค่ะโดยปกติอ่ะ
00:05:18 → 00:05:22 ค่ะจากสุแพทย์ก็จะแนะนำให้คนไข้อ่ะใช้ไอ้
00:05:22 → 00:05:24 ตัวตารางตัวเยค่ะที่เราเรียกว่าแซกกอ่ะ
00:05:24 → 00:05:28 ค่ะในการเทสตัวเองอยู่แล้วเพราะว่าเอ่อใน
00:05:28 → 00:05:31 คนไข้ที่เป็นจอประสาทตาเสื่อมอ่ะค่ะจริงๆ
00:05:31 → 00:05:34 แล้วมันมีทั้งแบบมี 2 แบบก็คือเป็นแบบ
00:05:34 → 00:05:37 แห้งกับแบบเปียกแบบแห้งก็คือเป็นการกอบไป
00:05:37 → 00:05:40 ของตัวจุดรับภาพอันเนี้ยมันจะค่อยๆเป็น
00:05:40 → 00:05:43 ช้าๆคือหมายถึงว่าจะค่อยๆมัวไปเรื่อยๆ
00:05:43 → 00:05:46 อันเนี้ยเจอได้ประมาณสัก 80-90 per ของ
00:05:46 → 00:05:49 คนไข้ทั้งหมดที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม
00:05:49 → 00:05:52 แต่ว่ามันจะมีอีกคนไข้อีกกลุ่มนึงก็คือ
00:05:52 → 00:05:54 เป็นจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียกจะมีประมาณ
00:05:54 → 00:05:57 10-15 per อันนี้จะเกิดจากเส้นเลือดที่
00:05:58 → 00:06:01 มันงอกผิดปกติใต้จอประสาทตาอาจจะทำให้ตา
00:06:01 → 00:06:05 มัวอย่างรวดเร็วแมซ GR เนี่ยเราจะให้คน
00:06:05 → 00:06:09 ไข้ไปตรวจเพื่อที่จะดูว่า 1 คนไข้ที่เป็น
00:06:09 → 00:06:14 จอประสาทตาเสื่อมแบบแห้งเนี่ยมันโมันเอ่อ
00:06:14 → 00:06:16 เปลี่ยนไปเป็นจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียก
00:06:16 → 00:06:19 หรือยังก็คือมีโรคเนี่ยที่เป็นมากขึ้น
00:06:19 → 00:06:22 หรือเปล่าจากที่มันแห้งๆอยู่มันมีเส้น
00:06:22 → 00:06:25 เลือดงอกผิดปกติหรือยังกับกรณีที่คนไข้
00:06:25 → 00:06:28 เป็นแบบเปียกอยู่แล้วแล้วก็เรารักษาจนแบบ
00:06:28 → 00:06:30 หายดีแล้วอะไรอย่าเงี้ยค่ะแล้วเราให้คน
00:06:30 → 00:06:34 ไข้ไปตรวจดูว่าเอ้ยอาการของโรคเนี่ยมัน
00:06:34 → 00:06:38 กลับมาหรือเปล่าค่ะก็จะเป็นสิ่งที่ดีมาก
00:06:38 → 00:06:41 ถ้าสมมุติว่าทุกคนจะสามารถตรวจได้เองที่
00:06:41 → 00:06:44 บ้านใช่ค่ะก็คือใช้แกเนี่ยแหละค่ะเป็นลาย
00:06:44 → 00:06:46 ตารางลองเซิอินเทอร์เน็ตก็ได้ความจริง
00:06:46 → 00:06:47 เดี๋ยวนี้แต่ก่อนเราจะให้เป็นแบบแผ่น
00:06:47 → 00:06:50 กระดาษค่ะแต่เดี๋ยวนี้มันก็มีเอ่อ
00:06:50 → 00:06:51 อินเทอร์เน็ตมันก็อยู่ในหาได้ใน
00:06:51 → 00:06:54 อินเทอร์เน็ตทั่วไปก็มาเทสได้โดยการวาง
00:06:54 → 00:06:56 วางมือไว้ที่ฟุตนึงอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็
00:06:56 → 00:06:59 ปิดตาทีละครั้งแล้วก็จ้องจุดตรงกลางถ้า
00:06:59 → 00:07:02 มันโคตมันเบี้ยวมันหายไปก็รีบมาตรวจก็จะ
00:07:02 → 00:07:06 เป็นการดีค่ะอแสดงว่าแบบเปียกหรือแห้งอัน
00:07:06 → 00:07:09 ไหนมันรุนแรงอาจารย์แบบ
00:07:09 → 00:07:13 เอ่อแบบเปียกจะรุนแรงกว่าค่ะเพราะว่ารอย
00:07:13 → 00:07:16 โรคมันจะเป็นอย่างรวดเร็วคือกรณีที่จอ
00:07:16 → 00:07:19 ประสาทตาเสื่อมแบบแห้งเนี่ยมันจะค่อยๆ
00:07:19 → 00:07:23 เป็นแบบช้าๆก็คือมันจะค่อยๆเสื่อมไปฝอดไป
00:07:23 → 00:07:26 การมองเห็นก็จะค่อยๆมัวลงอย่างช้าๆค่ะแต่
00:07:26 → 00:07:28 กรณีที่เป็นแบบเตียกหรือว่ามีเส้นเลือด
00:07:28 → 00:07:32 งอกผิดปกติเนี่ยเอ่อส่วนใหญ่มันมักจะมัว
00:07:32 → 00:07:34 ลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากไอ้เส้นเลือดที่
00:07:34 → 00:07:37 มันงอกผิดปกติพวกเยค่ะบางทีมันมีการรั่ว
00:07:37 → 00:07:41 ของน้ำหรือว่ามีการรั่วของเลือดออกมา
00:07:41 → 00:07:43 อย่างทันทีทันใดคนไข้ก็อาจจะมาด้วยเรื่อง
00:07:43 → 00:07:47 ตามัวเฉียบพลันได้ค่ะเขาบอกว่าเพื่อนที่
00:07:47 → 00:07:49 ที่พี่พี่นกเล่าให้ฟังเนี่ยเขาบอกว่าเขา
00:07:49 → 00:07:52 เป็นข้างหนึงหมอบอกว่าใช้วิธีหยอดตาเอา
00:07:52 → 00:07:54 แล้วเขาจะหายกลับมาเหมือนเดิมมั้ยคะ
00:07:54 → 00:07:58 อาจารย์ไม่ไม่ไม่เหมือนเดิมคือคือเวลา
00:07:58 → 00:08:00 เป็นจอประสาทตายเสื่อมอ่ะค่ะเราก็ต้องดู
00:08:00 → 00:08:03 ว่ามันเป็นแบบแห้งหรือว่าแบบเปียกค่ะคือ
00:08:03 → 00:08:06 ถ้าเป็นแบบแห้งเนี่ยโดยในปัจจุบันมันก็
00:08:06 → 00:08:09 ยังไม่ได้มีการรักษาให้กลับมาจากแบบจาก
00:08:09 → 00:08:12 เสื่อมเป็นไม่เสื่อมอย่างเงี้ยค่ะก็จะมี
00:08:12 → 00:08:16 แต่การตรวจดูว่ามันจะเทิร์นไปเป็นแบบ
00:08:16 → 00:08:18 เปียกหรือเปล่าแต่ถ้าสมมุติว่าเป็นแบบ
00:08:18 → 00:08:20 เปียกหรือว่ามีเส้นเลือดงอกผิดปกติแล้ว
00:08:20 → 00:08:23 เนี่ยเราก็จะรักษาดยการฉีดยาเข้าตาค่ะ
00:08:23 → 00:08:26 เพื่อลดเส้นเลือดที่มันงอกผิดปกติพวก
00:08:26 → 00:08:30 เนี้ยให้มันเฝาลงไปให้คนไข้เนี่ยกมาเห็น
00:08:30 → 00:08:34 ดีอขึ้นใกล้เคียงปกติขึ้นอยู่กับเอ่อรอย
00:08:34 → 00:08:36 โรคที่เป็นนะคะว่าเป็นมากเป็นน้อยอค่ะแต่
00:08:37 → 00:08:40 ว่าขึ้นได้ฟังแล้วก็บ้างค่ะดูเหมือนว่า
00:08:41 → 00:08:43 มันจะมีทางออกเหมือนกันนะคะน้องโยกเนาะอื
00:08:43 → 00:08:46 ค่ะแต่ว่าโยกก็อดสงสัยไม่ได้ค่ะอาจารย์
00:08:47 → 00:08:50 ว่าถ้าเราฉีดยาค่ะเราต้องฉีดกี่เข็มคะ
00:08:50 → 00:08:52 เข็มเดียวแล้วหายเลยมยแล้วเราต้อง foll
00:08:52 → 00:08:55 ตามอีกแค่อนาดไหนคะในชนิดที่แบบเป็นจอ
00:08:55 → 00:08:58 ประสาทตาเสื่อมแบบชนิดเปียกอ่ะค่ะ
00:08:58 → 00:09:01 อาจารย์โดยส่วนใหญ่อ่ะค่ะในปัจจุบันเนี่ย
00:09:01 → 00:09:04 ไอ้ตัวจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียกเนี่ยเรา
00:09:04 → 00:09:09 จะฉีดยาเบื้องต้นนะคะทุก 1 เดือนค่ะ 3 3
00:09:09 → 00:09:13 เดือนติดกันค่ะแล้วดูประเมินรอยโรคว่าตอบ
00:09:13 → 00:09:16 สนองต่อยาที่ฉีดเข้าไปหรือเปล่าค่ะคือฉีด
00:09:16 → 00:09:18 เข้าไปในตานะคะก็
00:09:18 → 00:09:22 อชีไวในตำแหน่งตาขาวค่ะเข้าไปข้างในรูตา
00:09:22 → 00:09:25 เลยเพื่อให้ยาไปถึงในในตาค่ะก็ฉีทุกเดือน
00:09:25 → 00:09:28 ค่ะ 3 เดือนติดกันแล้วเราก็มาประเมินอีก
00:09:28 → 00:09:31 ทีนึงว่าเอ้ยรอยโรคที่เราฉีดเข้าไปเนี่ย
00:09:31 → 00:09:34 มันตอบสนองมอะไรอย่าเงี้ยค่ะถ้าตอบสนองดี
00:09:34 → 00:09:37 เราอาจจะค่อยๆยืดไปค่ะจาก 1 เดือนหรือ 4
00:09:37 → 00:09:40 สัปดาห์เนี่ยเป็น 6 สัปดาห์ 8 สัปดาห์ 10
00:09:40 → 00:09:43 สัปดาห์จนถึงประมาณ 3 เดือนหรือ 12
00:09:43 → 00:09:48 สัปดาห์ค่ะถ้าเราโรคสงบดีไม่มีเอ่อน้ำ
00:09:48 → 00:09:50 รั่วหรือว่าไม่มีเลือดออกมาอีกเนี่ยเอ่อ
00:09:51 → 00:09:55 เราอาจจะพิจารณาหยุดยากค่ะอืเราก็ต้องส
00:09:55 → 00:09:58 ติดตามไปเรื่อยๆนะคะเพราะว่ามันอาจจะมี
00:09:58 → 00:10:01 โอกาสเอ่อเกิดเป็นซ้ำขึึ้นมาได้อีกค่ะใน
00:10:02 → 00:10:06 คนขปเสียวนะคะฟันฉีดเข้าไปในเอ่อตาขาวนี่
00:10:06 → 00:10:10 ใช้ยาชาใช่มั้ยอาจารย์ใช่ค่ะโดยปกติเราจะ
00:10:10 → 00:10:14 หยอดยาชาเยอะอยู่ค่ะก็คนไข้ก็จะรู้สึกตึง
00:10:14 → 00:10:18 ๆได้อ่ะค่ะเหมือนทำฟันค่ะก็ตึงตึงได้แต่
00:10:18 → 00:10:23 ว่าก็จะลดความเจ็บปวดค่ะอือาจารย์คะพี่นก
00:10:23 → 00:10:26 คะยกขอรบกวนสอบถามแบบนี้ค่ะว่าแล้วเข็มม
00:10:26 → 00:10:28 นึงเนี่ยค่ะเพราะเราต้องฉีดใช่มั้ยคะ
00:10:28 → 00:10:31 ปัจจุบันน่ะมันราคาประมาณเท่าไหร่แล้วก็
00:10:31 → 00:10:34 ครอบคลุมสิทธิ์รักษาของเราหรือเปล่าคะ
00:10:34 → 00:10:39 อาจารย์อืเรื่องเรื่องราคาเนี่ยจริงๆแล้ว
00:10:39 → 00:10:42 อ่ะค่ะขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาลเลยอ่ะ
00:10:42 → 00:10:47 ค่ะว่าว่าเขาจะนำเข้ายามาในราคาเท่าไหร่
00:10:47 → 00:10:50 ซึ่งจริงๆแล้วอ่ะค่ะมันจะมียาที่อยู่ใน
00:10:50 → 00:10:55 กรมบัญชีกลางอยู่ค่ะที่คนไข้สามารถเบิก
00:10:55 → 00:10:59 ได้ทุกสิทธิ์อ่ะค่ะอยู่อยู่ตัวนึงแล้วก็
00:10:59 → 00:11:01 มันจะมียาอีกกลุ่มนึงที่เป็นศิษย์ราชการ
00:11:01 → 00:11:04 อะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คือ
00:11:04 → 00:11:07 ขึ้นอยู่กับแพทย์แต่ละท่านพิจารณาค่ะแต่
00:11:07 → 00:11:10 ว่าโดยปกติเราจะใช้ยาที่อยู่ในกรมบัญชี
00:11:10 → 00:11:13 กลางในการในการฉีดก่อนค่ะเพื่อเพื่อให้คน
00:11:13 → 00:11:16 ไข้เนี่ยใช้ทุกสิทธิ์เนี่ยเบกได้ด้วยอ่ะ
00:11:16 → 00:11:18 ค่ะถ้าสมมุติว่ามันไม่เห็นผผลเราอาจจะ
00:11:18 → 00:11:22 พิจารณาเปลี่ยนยาค่ะค่ะทีนี้ขอย้อนไปเลย
00:11:23 → 00:11:26 อาจารย์ตอนก่อนที่เรายังสายตาเราปกติดี
00:11:26 → 00:11:29 เรายังไม่เห็นภาพคดภาพงออะไรในลักษณะที่
00:11:29 → 00:11:33 เราเทสแล้วเนี่ยตาเราปกติดีเราจะชะลอยัง
00:11:33 → 00:11:35 ไงได้เราจะแบบหลีกเลี่ยงยังไงได้ไม่ให้
00:11:35 → 00:11:39 เราเกิดจอประสาทตาเสื่อมเร็วค่ะอาจจะ
00:11:39 → 00:11:42 สมมุติมาเรา 60 อย่าเงี้ยค่ะก็ยังไม่เป็น
00:11:42 → 00:11:44 อย่างงี้มีใช่มั้ยคะอาจารย์ไม่ใช่ 50
00:11:44 → 00:11:47 เดี๋ยวเราก็เสี่ยงเลยไม่ใช่ใช่มั้ยคะคือ
00:11:47 → 00:11:50 คือจริงๆแล้วอ่ะค่ะความเสี่ยงอ่ะมันไม่
00:11:50 → 00:11:53 ได้มันในโลกจุภาพเสื่อมในผู้สูงอายุมัน
00:11:53 → 00:11:56 ไม่ได้เกิดจากอายุอย่างเดียวอ่ะค่ะจริงๆ
00:11:56 → 00:11:59 แล้วมันมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างก็คืออายุ
00:11:59 → 00:12:01 อายุเป็นส่วนนึงอยู่แล้วเนาเพราะว่ามัน
00:12:01 → 00:12:03 เป็นชื่อตามชื่อโรคอ่ะค่ะโรคสือกภาพ
00:12:04 → 00:12:06 เสื่อมในผู้สูงอายุใช่มั้ยคะอ่าอันนี้
00:12:06 → 00:12:08 เป็นปัจจัยเสียงนึงอันที่ 2 ก็คือ
00:12:08 → 00:12:11 พันธุกรรมค่ะถ้าสมมุติว่ามีพันธุกรรม
00:12:11 → 00:12:15 เนี่ยก็มีโอกาส 3 ก็คือการสูบบุหรี่เยอะๆ
00:12:15 → 00:12:19 ก็คือมันจะเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าและอันที่ 4
00:12:19 → 00:12:22 ก็คือพวกความดันไขมันในเลือดสูงเนี่ยก็จะ
00:12:22 → 00:12:25 เพิ่มถ้าสมมุติว่าเราลดปัจจัยเสี่ยงที่
00:12:25 → 00:12:28 เราลดได้อายุเราลดไม่ได้เนาะปัจจเสียงที่
00:12:28 → 00:12:32 เราลดได้เช่นบุหรี่อย่าไปทานอาหารหวานมัน
00:12:32 → 00:12:34 ใช่มั้คะอไขมันอะไรอย่างเงี้ยค่ะในเลือด
00:12:34 → 00:12:37 อย่างเงี้ยค่ะเราก็จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยง
00:12:37 → 00:12:40 ของการเกิดภาวะถับภาพเสื่อมในผู้สุงอายุ
00:12:40 → 00:12:42 ได้ค่ะ
00:12:42 → 00:12:46 อืฟังแล้วก็เอ่อถ้าใครอยู่ในวัยที่อาจจะ
00:12:46 → 00:12:50 เริ่มต้นน่ะนะคะอาจจะเอ่อเริ่มชักมีความ
00:12:50 → 00:12:52 ดันสูงมั้ยคะอาจารย์เกี่ยวใช่มั้ยคะความ
00:12:52 → 00:12:55 ดันความดันโลหิตความดันไขมันอย่างเงี้ย
00:12:55 → 00:12:58 เออมันมานำเราเราก็มันก็บอกเตือนเราแล้ว
00:12:58 → 00:13:01 ก็ระมัดระวังมันก็จะไม่ทำให้เราไปสู่โรค
00:13:01 → 00:13:05 ของจอประสาทตาเสื่อมได้เริ่มๆกันตั้งแต่
00:13:05 → 00:13:10 วัย 40 นะคะอาจารย์อืโดยส่วนใหญ่มักมักจะ
00:13:10 → 00:13:13 50 ค่ะคือความจริงอ่ะค่ะแต่ว่าถ้าถ้าถึง
00:13:13 → 00:13:16 อายุน้อยกว่าเยค่ะแต่มาด้วยเรื่องเอ่อตา
00:13:16 → 00:13:19 มัวภาพเบี้ยวภาพคด
00:13:19 → 00:13:23 เอ่อมองภาพเบี้ยวภาพคดหรือแบบภาพใหญ่เล็ก
00:13:23 → 00:13:25 ไม่เท่ากันอะไรอย่างเงี้ยค่ะถ้ามีอาการ
00:13:25 → 00:13:28 ผิดปกติเหล่าเนี้ยค่ะก็มาตรวจได้ค่ะเพราะ
00:13:28 → 00:13:33 ว่าออาจจะเป็นโรคกลุ่มโรคจุภาพที่ผิดปกติ
00:13:33 → 00:13:36 ในกลุ่มโรคอื่นๆนะค่ะอาจจะไม่ใช่เอ่อ
00:13:36 → 00:13:39 กลุ่มโรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุแต่จะเป็น
00:13:39 → 00:13:42 โรคอื่นๆที่เกิดได้ในในช่วงวัยที่แตกต่าง
00:13:42 → 00:13:46 กันถ้าผิดปกติก็มาตรวจได้เลยค่ะค่ะเอ่อ
00:13:46 → 00:13:50 อาจารย์คะพอดีตอนนั้นอาจารย์บอกว่าโรค
00:13:50 → 00:13:53 เนี้ยค่ะเป็นทางพันธุกรรมยเลยขอรบกวนสอบ
00:13:53 → 00:13:56 ถามค่ะอาจารย์ว่าตกลงว่าพันธุกรรมที่เกิด
00:13:56 → 00:13:58 ขึ้นน่ะค่ะมีสักกี่เปอร์เซ็นต์อ่ะค่ะ
00:13:58 → 00:14:00 อาจารย์
00:14:00 → 00:14:04 โอในกลุ่มพันธุกรรจริงๆแล้ว
00:14:04 → 00:14:06 เอ่อคือมันมันไม่ได้มีเปอร์เซ็นต์บอกที่
00:14:06 → 00:14:11 ชัดเจนน่ะค่ะแต่ว่าถ้ามีแบบเอ่อพันธุกรรม
00:14:11 → 00:14:14 เนี่ยก็จะมีปัจจัยเสี่ยงในในกลุ่มโลกนี้
00:14:14 → 00:14:16 อ่ะค่ะซึ่งแต่จริงๆแล้วส่วนใหญ่อ่ะค่ะ
00:14:16 → 00:14:19 พันธุกรรมที่เกิดขึ้นเนี่ยมักจะเป็นใน
00:14:19 → 00:14:22 กลุ่มเอ่อที่มีเชื้อชาติที่เป็นแบบปาสี
00:14:22 → 00:14:24 ฟ้าค่ะก็เป็นแบบ
00:14:24 → 00:14:29 เอ่อเียนซส่วนมากค่ะที่จะที่จะเป็นเจอใน
00:14:29 → 00:14:32 กลุ่มโรคจอตาเสื่อมค่ะแต่ว่าไม่ใช่เอเชีย
00:14:32 → 00:14:34 ไม่เจอนะคะแต่ว่าคอเคเชียนเนี่ยมีโอกาส
00:14:34 → 00:14:38 ที่จะเป็นกลุ่มโรคนี้เยอะกว่าอืค่ะออย่าง
00:14:38 → 00:14:42 งั้นคนไทยเราก็พบน้อยกว่าตราสีฟ้าเหรอคะ
00:14:42 → 00:14:46 อาจารย์อืใช่ค่ะโดยโดยสถิติแล้วพบน้อย
00:14:46 → 00:14:51 กว่าแต่ว่าก็ก็มีคนทก็มีในกลุ่มโลกนี้พอ
00:14:51 → 00:14:53 สมควรค่ะ
00:14:53 → 00:14:57 ใช่เมื่อเมื่อเป็นโรคนี้แล้วเนี่ยสิ่งที่
00:14:57 → 00:15:00 จะเอ่อเดือดร้อนที่สุดกระทบกระเทือนที่
00:15:00 → 00:15:03 สุดเนี่ยอย่างเพื่อนพี่นกที่เป็นเนี่ย
00:15:03 → 00:15:05 เขาคก็สามารถขับรถได้ใช้ชีวิตอะไรได้
00:15:05 → 00:15:08 เนี่ยก็จะเจะมีความรู้สึกยังไงคะเค้าก็
00:15:08 → 00:15:12 มองเห็นนะคะมันอาจจะเกิดภาพที่บิดเบี้ยว
00:15:12 → 00:15:15 ยังไงที่เอ่อเค้าเรียกว่ากระทบกระเทือน
00:15:15 → 00:15:17 กับการใช้ชีวิตประจำวันคะอาจารย์จ่อ
00:15:17 → 00:15:20 ประสาทตาเสื่อมเคะค่ะคือจริงๆแล้วอ่ะ
00:15:20 → 00:15:23 กลุ่มโรคเนี้ยมันเป็นกลุ่มโรคที่เป็นเอ่อ
00:15:24 → 00:15:27 คือเป็นสเปกตรัมอ่ะค่ะคือหมายถึงว่ามัน
00:15:27 → 00:15:30 ไม่ได้แปลว่าทุกคนที่เป็นโรคนี้จะมีอาการ
00:15:30 → 00:15:34 ของโรคเนี่ยที่เท่ากันในในทุกๆคนค่ะคือ
00:15:34 → 00:15:38 บางคนอาจจะเป็นน้อยบางคนอาจจะเป็นมากแต่
00:15:38 → 00:15:42 ละคนเนี่ยไม่เท่ากันทีเนี้ยความเป็นมาก
00:15:42 → 00:15:45 เป็นน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าอีกอย่างอีกส่วน
00:15:45 → 00:15:47 นึงก็คือขึ้นอยู่กับการความรู้สึกของแต่
00:15:47 → 00:15:50 ละคนด้วยเนอะหรือการใช้ตาของแต่ละคนเนี่ย
00:15:50 → 00:15:53 มันไม่เท่ากันเออถ้าสมมุติว่าเราเป็นคน
00:15:53 → 00:15:56 ที่ไม่ได้ใช้สายตาเยอะเช่นไม่ได้ทำงานยึด
00:15:56 → 00:16:00 ภ้าปักเปิกอะไรแบบเนี้ยคคแม้จะมัวมากอ่ะเ
00:16:00 → 00:16:03 อาจจะไม่รู้สึกรบกวนชีวิตประจำวันก็ได้
00:16:03 → 00:16:06 เพราะฉะนั้นเนี่ยทีเนี้ยก็คือขึ้นอยู่กับ
00:16:06 → 00:16:09 คนไข้อ่ะค่ะว่าความมัวของคนไข้แต่ละอย่าง
00:16:09 → 00:16:12 เนี่ยแต่แต่ละแต่ละระดับเนี่ยมันรบกวน
00:16:12 → 00:16:14 ชีวิตประจำวันรบกวนชีวิตประจำวันเช่นอะไร
00:16:14 → 00:16:17 บ้างทำงานที่แบบเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
00:16:17 → 00:16:20 ลำบากค่ะเช่นกินข้าวไม่ได้เดินไปเข้าห้อง
00:16:20 → 00:16:23 น้ำไม่ได้ขับรถไม่ได้หรืออะไรแบบเยอ่าน
00:16:23 → 00:16:25 หนังสือไม่ได้อะไรอย่างเงี้ยค่ะมันกระทบ
00:16:25 → 00:16:28 กับชีวิตประจำวันอันเนี้ยก็ถือว่าเป็น
00:16:28 → 00:16:31 ความมัวที่ที่รบกวนชีวิตประจำวันอออ่าน
00:16:31 → 00:16:34 หนังสือนี่ใช่เลยอย่างพลสายตายาวสูงอายุ
00:16:34 → 00:16:36 นี่ก็รู้อยู่แล้วว่าจะอ่านลำบากมากยิ่ง
00:16:36 → 00:16:39 ถ้ามาจ่อประสาทตาเสื่อมซ้ำเนี่ยก็คือจะ
00:16:39 → 00:16:43 โฟกัสไม่ได้เลยหร่ะคะอาจารย์อืใช่ๆค่ะ
00:16:43 → 00:16:47 เพราะว่ามันเสียเรื่องการมองเห็นมองเห็น
00:16:47 → 00:16:52 ตรงกลางค่ะตรงกลางออเยเราแบบไม่สามารถจะ
00:16:52 → 00:16:55 โฟกัสได้อาจจะต้องใช้แว่นขยายช่วยอย่าง
00:16:55 → 00:16:59 เงี้ยค่ะในคนที่เป็นเยอะมากๆมากอ่ะค่ะก็
00:16:59 → 00:17:02 ก็จะมีอุปกรณ์แบบแว่นขยายช่วยหรือมือถือ
00:17:02 → 00:17:05 ก็ขยายตัวหนังสือให้ใหญ่ๆขึ้นอย่างเงี้
00:17:05 → 00:17:08 ค่ะก็พอจะช่วยให้แบบใช้ชีวิตประจำวันได้
00:17:08 → 00:17:11 ได้ง่ายมากขึ้นเปิดไฟ
00:17:11 → 00:17:15 สว่างลอมอย่างงี้นะคะใช่เขาจะบ่นในการที่
00:17:15 → 00:17:18 จะออกไปในการใช้ชีวิตจะไม่ค่อยอยากออกไป
00:17:18 → 00:17:23 ข้างนอกไม่ค่อยพบปะผู้คนอเพราะบางทีแสง
00:17:23 → 00:17:28 จ้ามากๆก็อาจจะทำให้ให้ให้แบบอเอ่อมอง
00:17:28 → 00:17:32 เห็นได้ยากอ่ะค่ะค่ะใก็มี
00:17:32 → 00:17:36 ส่วนอืค่ะน้องหยกคงยังน้องหยกไม่ได้เป็น
00:17:36 → 00:17:40 คนสายตาสั้นเนาะไม่ได้เริ่มแล้วค่ะพี่
00:17:40 → 00:17:44 เริ่มแล้วค่ะความเ้อความชราไม่เคยไม่เคยะ
00:17:44 → 00:17:48 ไม่เคยปล่อยเราแต่ว่าก็ยังไม่ถึงขั้นแบบ
00:17:48 → 00:17:52 จอประสาตาเสื่อมอ่ะค่ะแต่ว่าก็มองเห็นภาพ
00:17:52 → 00:17:55 เรือนราอาจารย์คะแล้วถ้าสมมุติว่าเราแบบ
00:17:55 → 00:17:58 ปล่อยทิ้งไว้นานไม่ได้แก้ไขค่ะอาจารย์มัน
00:17:58 → 00:18:01 จะส่งผลกระทบอะไรมั้ยคะ
00:18:01 → 00:18:06 อืคือถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้รักษาเนี่ย
00:18:06 → 00:18:09 กรณีที่เป็นจอประสาทตาเสื่อมแบบแห้งอ่ะ
00:18:09 → 00:18:11 ค่ะมันก็ไม่ได้มีการรักษาอะไรอยู่แล้วใช่
00:18:11 → 00:18:15 มั้ยคะแต่ถ้ากรณีที่เป็นจอประสาตาเสื่อม
00:18:15 → 00:18:18 แบบเปียกเนี่ยเอ่อมันก็มีการรักษาดยการ
00:18:18 → 00:18:21 ฉีดยาถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้รักษาเนี่ยมัน
00:18:21 → 00:18:24 ก็มีโอกาสที่ไอ้เส้นเลือดที่มันงอกผิด
00:18:24 → 00:18:28 ปกติเหล่านั้นน่ะคะมันจะแตกหมายถึงว่ามัน
00:18:28 → 00:18:31 อาจจะเป็นเยอะขึ้นได้ทำให้มีเลือดออกเยอะ
00:18:31 → 00:18:35 ขึ้นได้ทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ค่ะ
00:18:35 → 00:18:38 เพราะฉะนั้นเนี่ยก็เลยเอ่อแนะนำว่าถ้า
00:18:38 → 00:18:41 สมมุติว่ามีอาการอ่ะค่ะก็ให้รีบมาตรวจ
00:18:41 → 00:18:44 เพราะว่าถ้ารีบรักษาตั้งแต่แรกๆอ่ะค่ะการ
00:18:44 → 00:18:48 มองเห็นเนี่ยก็จะมีโอกาสจะกลับมาใกล้
00:18:48 → 00:18:51 เคียงปกติได้มากกว่าถ้าเราปล่อยไว้โดยที่
00:18:51 → 00:18:54 ไม่ได้รักษาแล้วปล่อยให้จอประสาทตามันถูก
00:18:54 → 00:18:57 ทำลายไปอ่ะค่ะถ้ามันถูกทำลายมากๆมันจะมี
00:18:57 → 00:19:00 อาการขนาดไหนคะอาจารย์ถ้าเราไม่ดูแลมัน
00:19:00 → 00:19:05 เลยอคือโอมันก็มีบางกรณีก็คือมัวจนถึง
00:19:05 → 00:19:08 ขั้นมองไม่เห็นขั้นบอรดได้เลยก็มีค่ะโห
00:19:08 → 00:19:12 โอ้โหอืเพราะว่าเลือดมันออกออกเยอะค่ะก็
00:19:12 → 00:19:15 ก็อาจจะมีโอกาสเป็นแบบนั้นได้พูดได้เลย
00:19:15 → 00:19:17 ว่าจอประสาทตาเสื่อมเนี่ยสัมพันธ์กับหลอด
00:19:17 → 00:19:21 เลือดในตามากเลยใช่มั้ยคะอาจารย์ใช่ค่ะ
00:19:21 → 00:19:24 เพราะว่ามันเกิดจากเอ่อแบบเปียกนะคะเกิด
00:19:24 → 00:19:27 จากเส้นเลือดที่มันงอกผิดปกติใต้จอประสาท
00:19:27 → 00:19:34 ตาค่ะอืค่ะอืจริงๆแล้วก็แนะนำให้ให้ทุกคน
00:19:34 → 00:19:38 ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีอ่ะค่ะอย่างน้ควร
00:19:38 → 00:19:42 จะตรวจตาปีละครั้งค่ะเพราะว่าวัย 40
00:19:42 → 00:19:45 เนี่ยมันจะเป็นวัยที่อาจจะแบบเริ่ม 1 จะ
00:19:45 → 00:19:49 มีแสเริ่มมีแสตายาวตามอายุค่ะคงไข้จะ
00:19:49 → 00:19:52 เริ่มมองแบบมองระยะใกล้อ่านหนังสือไม่ชัด
00:19:52 → 00:19:54 อะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ควรจะแบบมันจะเริ่มมี
00:19:54 → 00:19:57 ปัญหาสุขภาพตาก็ควรจะมาเช็คเป็นระยะๆะก็
00:19:57 → 00:19:59 อย่างน้อยพี่ทีละครั้งค่ะจะได้รู้ว่าเรา
00:19:59 → 00:20:04 มีสุขภาพตาที่ที่ดีหรือเปล่าค่ะอาจารย์มี
00:20:04 → 00:20:07 ประเด็นเรื่องของสูบบุหรี่ทำไมสูบบุหรี่
00:20:07 → 00:20:10 ถึงได้มีผลกับการเพิ่มความเสี่ยงของโรค
00:20:10 → 00:20:14 นี้อ่ะคะอาจารย์อืคือจริงๆแล้วเนี่ยมันก็
00:20:14 → 00:20:17 ไม่ได้มีการอธิบายไว้แต่ว่าการสูบบุหรี่
00:20:17 → 00:20:20 เนี่ยมันมีผลต่อเส้นเลือดค่ะมันมีผลต่อ
00:20:20 → 00:20:25 เอ่อความตีบของเส้นเลือดต่างๆค่ะก็เลยคิด
00:20:25 → 00:20:28 ว่าเออมันก็น่ามันเป็นปัจจัยที่พบได้ที่
00:20:28 → 00:20:32 ทำให้เห็นว่าตอประสาทตาเนี่ยมันเสื่อมไป
00:20:32 → 00:20:36 เร็วโอจริงๆแล้วมันเป็นการสบรีมีผลต่อ
00:20:36 → 00:20:38 เลือดหลอดเลือดจริงๆก็มีผลต่อทางร่างกาย
00:20:38 → 00:20:42 เลยอ่ะค่ะไม่ว่าจะเป็นแบบปอดหัวใจหรือ
00:20:42 → 00:20:46 อะไรแบบเนี้ยสมองอย่างเงี้ยค่ะเออมันมีผล
00:20:46 → 00:20:48 ทั้งตัวอยู่แล้วมันทำให้ได้เลือดตีบค่ะ
00:20:48 → 00:20:50 เพราะว่าส่วนมากผู้ที่สุบุหรี่เนี่ยจะ
00:20:50 → 00:20:52 เป็นเพศชายใช่มั้ยคะเพราะะนั้นเพศชายก็จะ
00:20:53 → 00:20:55 เป็นโรคนี้มากกว่าเพศหญิงมั้ยคะแต่ที่ที่
00:20:55 → 00:20:57 เราเห็นเนี่ยก็ไม่เห็นเพศชายเจะมีความรู้
00:20:57 → 00:20:59 สึกอะไรกับกับเรื่องจอประสาทตาเสื่อมจะ
00:20:59 → 00:21:01 กลายเป็นเพศหญิงซะมากกว่าหรือเไม่ค่อยจะ
00:21:01 → 00:21:04 สนใจใช่มั้ย
00:21:04 → 00:21:08 อาจารย์ก็คือก็คือการสูบบุหรี่ก็ก็คือมัน
00:21:08 → 00:21:11 ไม่ได้บอกว่าจะต้องเป็นเพศชายที่สูบอ่ะ
00:21:11 → 00:21:14 ค่ะจริงๆแล้วก็คือการสูบบุหรี่ก็คือมัน
00:21:14 → 00:21:17 เป็นมันอาจจะเป็นผลทแบบว่าเป็นเรามารีเลท
00:21:17 → 00:21:19 กันทางอ้อมเองเนาะแต่จริงๆแล้วมันก็ไม่
00:21:19 → 00:21:21 ใช่แว่าผู้ชายจะสูบมากกว่าผู้หญิงอะไร
00:21:21 → 00:21:24 อย่าเงี้ยค่ะบางประเทศผู้หญิงก็สูบก็เยอะ
00:21:24 → 00:21:27 ก็เยอะเหมือนกันค่ะเขาก็สรุปแต่ว่าเอ่อ
00:21:27 → 00:21:31 บุหรี่เนี่ยเป็นสาเหตุที่ทำให้ให้เกิดมัน
00:21:31 → 00:21:35 เพิ่มความเสียมได้มากกว่า 2-3 เท่า
00:21:35 → 00:21:38 ค่ะอาจารย์คะกับพี่นเอ่อหยกเลยมีเรื่อง
00:21:38 → 00:21:41 สับถามอีกนิดนึงค่ะว่าถ้าสมมุติว่าเราใช้
00:21:41 → 00:21:44 สายตาบ่อยอย่างเงี้ยค่ะอย่างอย่างวพวกหยก
00:21:44 → 00:21:47 เองหรือว่าคุณผู้ฟังทางบ้านใครเป็นคนชอบู
00:21:47 → 00:21:50 ีใช่แล้วก็เพ่งจอมือถือหรือว่าติดซีรีส์
00:21:50 → 00:21:54 ดูเวลานานๆเงี้ค่ะการใช้สายตามากเกินไปเ
00:21:54 → 00:21:59 เร่งให้จอประสาตาเสื่อมมคะอืเอ่อไม่ไม่
00:21:59 → 00:22:02 เกี่ยวค่ะการใช้สายตาเยอะไม่ได้มีผลต่อ
00:22:02 → 00:22:06 เรื่องจอประสาทตาเสื่อมค่ะแต่ว่าเอ่อมัน
00:22:06 → 00:22:09 มีงานวิจัยที่ว่าถ้าสมมุติว่าเราเอ่ออยู่
00:22:09 → 00:22:12 แต่ใน indoor activity อ่ะค่ะอ่าน
00:22:12 → 00:22:15 หนังสือเล่นมือถือคอมพิวเตอร์อย่างเงี้ย
00:22:15 → 00:22:18 ค่ะจะทำให้เกิดภาวะสายตาสั้นได้มากกว่า
00:22:18 → 00:22:21 การที่เราไปอยู่ Outdoor activity ค่ะ
00:22:21 → 00:22:23 แต่ว่าไม่ได้มีผลกับในเรื่องต่อประสาทตา
00:22:23 → 00:22:28 เสื่อมค่ะอืหน้ามองภาพเริ่มไม่ชัดอ๋อเอง
00:22:28 → 00:22:31 ใชจากตาแห้งจากการใช้งานโดยส่วนใหญ่อ่ะ
00:22:31 → 00:22:34 ค่ะเวลาใช้มือถือเอ่อหรือคอมพิวเตอร์หรือ
00:22:34 → 00:22:37 อ่านหนังสือเยอะๆอ่ะค่ะส่วนใหญ่มันจะทำ
00:22:37 → 00:22:40 ให้เกิดภาวะตาแห้งมากกว่าค่ะเพราะว่าบาง
00:22:40 → 00:22:43 ทีเวลาเราจ้องอะไรนานๆอ่ะค่ะเราจะลืม
00:22:43 → 00:22:46 กระพริบตาโดยธรรมชาติอยู่แล้วอ่ะค่ะอเพรา
00:22:46 → 00:22:49 ั้นถ้าเราเรืนกระพริบตาเนี่ยเราก็จะไม่มี
00:22:49 → 00:22:52 น้ำไปเคลือบกระจกตานะค่ะมันตามันก็จะมัว
00:22:52 → 00:22:55 เวลาเรายิ่งตามัวเราก็จะยิ่งเพ่งค่ะพอ
00:22:55 → 00:22:58 ยิ่งเพ่งตาเราก็จะยิ่งแห้งเพราะฉะเพรา
00:22:58 → 00:23:00 ฉะนั้นสุดท้ายเวลาไปท้ายๆของวันเนี่ยปา
00:23:00 → 00:23:04 เราก็จะแห้งมากกว่าแห้งมากกว่าในช่วงเช้า
00:23:04 → 00:23:06 หลังจากตื่นนอนมาใหม่ๆเพราะว่าเราใช้สาย
00:23:06 → 00:23:10 ตามาทั้งวันแล้วอ่ะค่ะอออแนะนำให้ไม่เกิน
00:23:10 → 00:23:12 2 ชั่วโมงค่ะก็คือดูมือถือหรือ
00:23:12 → 00:23:14 คอมพิวเตอร์ไม่เกิน 2 ชั่วโมงเเราก็ควรจะ
00:23:14 → 00:23:18 พักค่ะแล้วก็พักสายตามองไปไกลๆอย่างเงี้ย
00:23:18 → 00:23:22 ค่ะสักแบบเ 20 วินาทีอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:23:22 → 00:23:26 เคยตั้งระบบคือแบบจะสวยได้ใช่ระบบที่มือ
00:23:26 → 00:23:29 ถือเไม่ให้เราเอาเข้ามาใกล้เพราะว่าเรา
00:23:29 → 00:23:32 เป็นคนสายตาสั้นพอเราแว่นออกเราก็จะเอา
00:23:32 → 00:23:35 มือถือเข้ามาใกล้แป๊บเดียวก็โอโหน้อยมาก
00:23:35 → 00:23:38 เลยนะคะอาจารย์ที่มือถือจะเตือนเราไม่ให้
00:23:38 → 00:23:40 เราดูแล้วเนี่ยโอ้โหมันมันแรงขนาดนั้นเลย
00:23:40 → 00:23:45 นะคะก็เลยยกเลิกการเตือนไปเลยเพราะบางที
00:23:45 → 00:23:46 อาจจะเป็นเนื่องด้วย
00:23:46 → 00:23:51 เอ่อระยะใกล้มากเกินอใช่ระยะส่วนใหญ่บาน
00:23:51 → 00:23:54 ทีเราเล่นเราจะนอนเล่นไงค่ะอเวลาเราไม่
00:23:54 → 00:23:58 ได้นัเล่นมือถือเวลาเรานอนเล่นระยะแขนเรา
00:23:58 → 00:24:03 อ่ะค่ะมันอาจจะไม่ถึงระยะที่ยืดออกไป 1
00:24:03 → 00:24:06 ฟุตใช่ที่ที่ที่มันกำหนดให้แบบว่ามันจะ
00:24:06 → 00:24:10 สบายตาหรืออะไรแบบนี้อค่ะก็ก็อาจจะทำให้
00:24:10 → 00:24:14 มันเตือนบ่อยใช่ก็ก็จริงๆเราก็ไม่ควรนอน
00:24:14 → 00:24:16 เล่นมือถือมันอาจจะต้องลุกขึ้นมานั่งอย่า
00:24:16 → 00:24:19 เงี้ยค่ะอืค่ะพออาจารย์บอกปุ๊บว่าต้อง
00:24:19 → 00:24:23 กระพริบตาบ้างอะไรบใหญใช่รีบทีๆแล้วค่ะตา
00:24:23 → 00:24:25 ตีๆก็รีบกระพริบกระพริบพี่นกเป็นเหมือน
00:24:25 → 00:24:29 กันมั้ยคะอพี่นกก็กระพริบ
00:24:30 → 00:24:34 ก็คือควรไปตรวจตานะคะอาจารย์คน 50 อืมไป
00:24:34 → 00:24:38 ตรวจตากันอาจารย์ใช้น้ำตาเทียมเมื่อเมื่อ
00:24:38 → 00:24:41 ตาแเอ่อตาแห้งตาอะไรก็หยอดน้ำตาเทียมกัน
00:24:41 → 00:24:44 อยู่อย่างสม่ำเสมอวันละ 2 หน 3 หนอย่าง
00:24:44 → 00:24:47 เงี้ยก็ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้มั้ยคะ
00:24:47 → 00:24:48 อาจารย์
00:24:48 → 00:24:52 เอ่อช่วยได้ค่ะเพราะว่าถ้าสมมุติว่าเรา
00:24:52 → 00:24:54 ใช้สายตาเยอะๆเนี่ยตามันจะแห้งมันจะทำให้
00:24:54 → 00:25:00 มีอาการเอ่อตามัวจตาเคืองตาไม่สบายตา
00:25:00 → 00:25:02 อย่างเงี้ยค่ะการใช้น้ำตาเทียมหยอดก็
00:25:02 → 00:25:05 เหมือนเราทาคลืนบำรุงผิวอ่ะค่ะมันก็ช่วย
00:25:05 → 00:25:08 ทำให้แบบกระจกตามันชุ่มชื้นทีเนี้ยจะหยอด
00:25:08 → 00:25:11 เท่าไหร่อ่ะก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานหรือ
00:25:11 → 00:25:14 ว่าอาการของเรามากกว่านะคะว่าเรามีอาการ
00:25:14 → 00:25:16 เราใช้ตาเยอะหรือเปล่าเรามีอาการเยอะ
00:25:16 → 00:25:19 อาการน้อยแค่ไหนอ่ะค่ะถ้าสมมุติว่าเราแบบ
00:25:19 → 00:25:22 ใช้สายตาเยอะแล้วเรามีอาการค่อนข้างมาก
00:25:22 → 00:25:25 อ่ะค่ะบางทีอ่ะค่ะในกรณีที่เป็นเยอะจริงๆ
00:25:25 → 00:25:27 เลยนะค่ะเราอาจจะให้หยอดทุก 2 ช่วโมงเลย
00:25:27 → 00:25:30 ก็ได้ค่ะหรือถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้เยอะ
00:25:30 → 00:25:33 ขนาดนั้นนะค่ะก็ปรับตามอาการได้ค่ะอาจจะ
00:25:33 → 00:25:36 เป็น 4 ครั้งต่อวัน 3 ครั้ง 2 ครั้งก็
00:25:36 → 00:25:40 ขึ้นขึ้นอยู่กับอาการของเราได้ค่ะอือื
00:25:40 → 00:25:45 สบายจริงๆเคยใช้แล้วช่วยได้ค่ะช่วยอืก็
00:25:45 → 00:25:48 คือเรื่องของการที่ใช้ชีวิตตามปกติเขาบอก
00:25:49 → 00:25:52 ว่าเอ่อพวกที่เป็นจอประสาทตาเสื่อมเนี่ย
00:25:52 → 00:25:56 ไม่สามารถแยกหน้าคนอื่นๆได้โอ้นี่เป็น
00:25:56 → 00:25:59 สาเหตุนึงที่ทำให้คนที่เป็นที่ที่รู้จัก
00:25:59 → 00:26:01 เนี่ยเขาบอกว่าเขาไม่อยากออกไปเจอใครบาง
00:26:01 → 00:26:05 ทีเาจำหน้าคนอื่นไม่ได้อาจารย์ก็คือโฟกัส
00:26:05 → 00:26:08 ไม่ได้มันอันนี้ถึงขั้นรุนแรงหรือยังคะ
00:26:08 → 00:26:12 อาจารย์เบอกแยกหน้าคนนี้ใครนะคนนั้นใครนะ
00:26:12 → 00:26:16 ก็คืออันนี้ก็คือเหมือนกับว่ามันก็รบกวน
00:26:16 → 00:26:21 ชีวิตประจำวันนอือือใช่มันก็คือรบกวน
00:26:21 → 00:26:26 ชีวิตประจำวันก็ก็ทำให้เใช้ชีวิตยากเอาจ
00:26:26 → 00:26:30 จะรู้สึกว่าไม่ไม่ไม่สุขสบายใจที่จะแบบ
00:26:30 → 00:26:35 ที่จะไปเอ่อออกข้างนอกค่ะอือสรุปแล้วถ้า
00:26:35 → 00:26:39 เรามาใช้วิธีฉีดยาเข้าไปเรารักษาด้วยวิธี
00:26:39 → 00:26:42 อย่าอย่างที่อาจารย์บอกแล้วเราก็ใช้ชีวิต
00:26:42 → 00:26:46 ให้มันรอบคอบหน่อยนะคะก็คือไม่ไม่ทำให้
00:26:46 → 00:26:49 ความดันเราสูงขึ้นไปกว่านี้เลิกสู่บุหรี่
00:26:49 → 00:26:52 อย่างงี้เราก็มีโอกาสที่จะกลับคืนมาเป็น
00:26:52 → 00:26:56 ปกติได้ใช่มคะอาจารย์
00:26:56 → 00:26:59 เอ่อถ้าเราอาจจะไม่ได้เรียกว่ากลับคืนมา
00:26:59 → 00:27:04 เป็นปกติแต่ว่าอาจจะเป็นการป้องกันไม่ให้
00:27:04 → 00:27:07 เกิดเป็นภาวะโรคจอประสาทตาเสื่อมได้อ่ะ
00:27:07 → 00:27:10 ค่ะอืเพราะว่าถ้าเป็นแล้วคือเป็นเลยนะคะ
00:27:10 → 00:27:13 มันก็มันก็ไม่ได้จะย้อนกลับมาได้ค่ะอเหร
00:27:13 → 00:27:17 คะค่ะใช่เป็นการลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้
00:27:17 → 00:27:20 โรคมันแย่ลงหรือว่าลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำ
00:27:20 → 00:27:25 ให้เป็นโรคมากมากกว่าค่ะอืเป็นแบบนั้นค่ะ
00:27:25 → 00:27:27 ก็ค่อยๆตัวเองแต่ว่าอันดับแรกคือคุณต้อง
00:27:27 → 00:27:30 รู้ก่อนว่าคุณเป็นจอประสาทตาเสื่อมแบบ
00:27:30 → 00:27:33 ชนิดเปียกหรือชนิดแท้งใช่มั้ยคะออเพื่อ
00:27:33 → 00:27:38 เราจะได้รักษาอย่างขือใช่มยคะก็คือเอ่อ
00:27:38 → 00:27:42 ถ้าเป็นข้อแนะนำก็คือว่าเราอาจจะเอ่อลอง
00:27:43 → 00:27:46 เทสตัวเองโดยใช้ล GR ทุกวันไม่ใช่ทุกวัน
00:27:46 → 00:27:49 ขอโทษค่ะอาจจะแบบเป็นแบบเือละครั้งอะไร
00:27:49 → 00:27:53 อย่างเงี้ยค่ะเพื่อที่จะดูว่ามีจุดมี
00:27:53 → 00:27:55 ปัญหาเรื่องจุดับภาพชัดหรือเปล่าโดยการ
00:27:55 → 00:27:58 ตรวจโดยการปิดตาทีละข้างเราก็ใช้ไอ้ตาราง
00:27:58 → 00:28:02 เส้นๆเนี่ยค่ะดูที่ระยะฟุดนึงอย่างเงี้ย
00:28:02 → 00:28:05 ค่ะแล้วก็ปิดตาทีละข้างดูว่ามีความผิด
00:28:05 → 00:28:08 ปกติของจุภาพหรือเปล่าถ้ามีความผิดปกติก็
00:28:08 → 00:28:12 รีบมาพบจักตุแพทย์เพื่อที่จะได้ตรวจแล้ว
00:28:12 → 00:28:15 ก็ประเมินอย่างรวดเร็วว่าเป็นโรคอะไร
00:28:15 → 00:28:17 อย่างเงี้ยนะคะเพราะว่าโรคในกลุ่มสุดรภาพ
00:28:17 → 00:28:21 จริงๆแล้วมันก็มีหลายโรคอ่ะคะโรคสุรภาพ
00:28:21 → 00:28:24 ทัดเสื่อมในผู้สูงอายุเป็นหนึ่งในโรคของ
00:28:24 → 00:28:27 สุรภาพที่ผิดปกติถ้าสมมุติว่าเราเทสแล้ว
00:28:27 → 00:28:31 มีผ้าเบี้ยวผ้าพจน์ปามัวตรงกลางมาตรวจรีบ
00:28:31 → 00:28:33 รักษาแต่เนิ่นๆงเงี้ยค่ะก็จะได้เป็นการ
00:28:34 → 00:28:37 ป้องกันไม่ให้เอ่อเสียการมองเห็นอย่าง
00:28:37 → 00:28:41 ถาวรหรือว่าตาแย่ลงอย่างรวดเร็วก็สามารถ
00:28:41 → 00:28:43 อาจจะมีโอกาสที่จะทำให้การมองเห็นเนี่ย
00:28:44 → 00:28:47 กลับมาใกล้เคียงปกติได้ค่ะพูดถึงเรื่อง
00:28:47 → 00:28:49 การเข้าไปรับการตรวจดีกว่าค่ะเดี๋ยวนี้
00:28:49 → 00:28:53 ที่บอกว่าบัตรประชาชนใบเดียวที่เอ่อบัต
00:28:53 → 00:28:55 ทองเนี่ยเเริ่มกันแล้วเนี่ยถ้าสมมุติว่า
00:28:55 → 00:28:59 อย่างอาจารย์อยู่ลงโรงพยาบาลวัดไรขิง
00:28:59 → 00:29:01 เนี่ยเราจะินเข้าไปเลยอย่างเงี้ยถ้าเรามี
00:29:02 → 00:29:04 สิทธิ์สิทธิ์บัตรทองหรือสิทธิ์ยังไงเนี่ย
00:29:04 → 00:29:07 เราได้เลยใช่มั้ยคะอาจารย์ของหมอตาเนี่ย
00:29:08 → 00:29:11 ลงทุกวันเลยใช่มั้ยคะอาจารย์ใช่ค่ะของของ
00:29:11 → 00:29:14 ของจักตุแพทย์ของโรงพาบาลโรงพาบาลเอ่อ
00:29:14 → 00:29:17 เมตตาเนี่ยก็มีจักตุแพทย์ลงตรวจทุกวันเลย
00:29:17 → 00:29:20 ค่ะถ้าสมมุติว่ามีมีความผิดปกติอะไรอย่าง
00:29:20 → 00:29:23 เงี้ยค่ะก็ให้เข้ามาตรวจได้เลยแต่ว่าใน
00:29:23 → 00:29:27 ส่วนของสิทธิการรักษาค่ะในปัจจุบันอ่ะค่ะ
00:29:27 → 00:29:30 เอ่ออันเนี้ยค่ะขออนุญาตขอโทษทีไม่แน่ใจ
00:29:30 → 00:29:33 จริงๆว่าบัตรประชาชนใบเดียวตอนเนี้ย
00:29:33 → 00:29:36 สามารถใช้ได้หรือยังอ่ะคะเพราะว่าเท่าที่
00:29:36 → 00:29:39 ทราบล่าสุดเหมือนกับเขายังต้องรอดำกำลัง
00:29:39 → 00:29:43 ดำเนินการในกระบวนการนี้อยู่ค่ะถ้าสมมุต
00:29:43 → 00:29:46 ว่าผิดปกติอาจจะเช็คสิทธิ์ของตัวเองแล้ว
00:29:46 → 00:29:49 ก็ไปตรวจตามสิทธิ์ของตัวเองก่อนก็ได้ค่ะ
00:29:49 → 00:29:51 หรือว่าลองโทรมาเช็คที่โรงพยาบาลก่อนก็
00:29:51 → 00:29:55 ได้ค่ะเรื่องิการรักษาว่าตอนนี้ระบบมัน
00:29:55 → 00:29:58 สามารถดำเนินการไปจนถึงขั้นใช้บัตรประชา
00:29:58 → 00:30:03 ชนใบเดียวแล้วแล้วสามารถเอ่อเบิกจ่ายตาม
00:30:03 → 00:30:05 30 บาทได้แล้วโทรศัพท์ไปได้นะคะอาจารย
00:30:05 → 00:30:08 อือเดี๋ยวไม่ใช่เข้ามาแล้วแบบใช้ไม่ได้
00:30:08 → 00:30:10 แล้วก็แบบเ้ยเดี๋ยวจะเสียเวลาอะไรอย่าง
00:30:10 → 00:30:14 เงี้ยค่ะอาจจะต้องรบกวนโทรเชก่อนนิดนึง
00:30:14 → 00:30:16 ค่ะเพราะว่าเพราะว่าระบบมันเหมือนกำลัง
00:30:16 → 00:30:19 ดำเนินการอยู่ค่ะค่ะเพราะว่ายังนำร่อง
00:30:19 → 00:30:22 อยู่ 4 จังหวัดใช่มั้ยคะก็คือมีแค่
00:30:22 → 00:30:26 ร้อยเอ็แล้วก็มีเพชรบุรีแ่แล้วก็นราธิวาส
00:30:26 → 00:30:29 อนี้เดี๋ยวต่อไปของอาจารย์น่าจะเป็นเก 2
00:30:29 → 00:30:33 นะคะนครปฐมวัดไรขิงนะคะก็คพูดถึงเออพูด
00:30:33 → 00:30:36 แล้วก็เพราะว่ารงเป็นโรงพยาบาลด้านสายตา
00:30:36 → 00:30:40 ที่เชี่ยวชาญแล้วก็บางทีบางทีเราก็อาจจะ
00:30:40 → 00:30:43 ไม่สนใจเรื่องของการเบิกจ่ายยังไงเราก็ไป
00:30:44 → 00:30:48 จ่ายตรงกอืเพราะว่าแพทย์ที่ดีอ่ะนะคะก็
00:30:48 → 00:30:52 ไม่อยากรอนานเพราอยากเจิคุณหมอเลยนะออือ
00:30:52 → 00:30:54 ค่ะสุดท้ายอาจารย์มีอะไรแนะนำเกี่ยวกับ
00:30:54 → 00:30:57 เรื่องสายตาบ้างทั้งในเอ่อผู้คนที่ใช้
00:30:57 → 00:30:59 ชีวิตปัจจุบันแล้วก็แดดมันแรงขึ้นทุกวัน
00:30:59 → 00:31:02 นะคะอาจารย์เรื่องของแสงแดดเรื่องของการ
00:31:02 → 00:31:05 ใช้แว่นสระเอ่อแว่นกันแดดเนี่ยบางคนมีมี
00:31:05 → 00:31:08 แว่นสายตาอยู่แล้วเขาก็ยังมาเจอกับแสงแดด
00:31:08 → 00:31:11 อย่านี้เาจะทำยังไงคะอาจารย์เราปกป้องสาย
00:31:11 → 00:31:15 ตาเราชะลอความเสื่อมด้วยยังไงดีคะอืค่ะ
00:31:15 → 00:31:20 จริงๆแล้วอ่ะค่ะก็คือเอ่อการดูแลสุขภาพตา
00:31:20 → 00:31:23 เนาะก็เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถดูแลได้
00:31:23 → 00:31:27 ง่ายๆอ่ะค่ะในปัจจุบันมือถือเนาะ
00:31:27 → 00:31:29 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตต่างๆเนี่ยมันเข้ามา
00:31:29 → 00:31:31 มีบทบาทในชีวิตประจำวันค่อนข้างเยอะอ่ะ
00:31:31 → 00:31:36 ค่ะทำให้เราเนี่ยใช้สายตากันเยอะมากๆค่ะ
00:31:36 → 00:31:41 ก็เออถ้าข้อแนะนำก็คือเอก็ไม่ควรใช้ตาค่ะ
00:31:41 → 00:31:44 นานเกินติดต่อกันนานเกิน 2 ช่วโมงอ่ะค่ะ
00:31:44 → 00:31:47 ก็ควรจะมีการผลักสายตาบ้างถ้าสมมุติว่า
00:31:47 → 00:31:51 ต้องออกแดดโดนแดดจริงๆอ่ะค่ะก็ควรใส่แว่น
00:31:51 → 00:31:54 กันแดดค่ะเพื่อป้องกันแสง UV นะเพราะแสง
00:31:54 → 00:31:58 UV เนี่ยก็จะมีผลต่อเอ่อทั้งกระจกตาเลน
00:31:58 → 00:32:02 ตาแล้วก็ตัวจอประสาทตาของเราได้ค่ะอแบบ
00:32:02 → 00:32:06 บ้านเราก็แรงก็ควรใช้แว่นกันแบบในทุก
00:32:06 → 00:32:10 ครั้งที่ออกไปข้างนอกทำกิจกรรมข้างนอกค่ะ
00:32:10 → 00:32:12 คนสายตาสั้นที่มีแว่นอยู่แล้วปีละครั้ง
00:32:12 → 00:32:16 ค่ะเพื่อประเมินเบื้องต้นก่อนว่าเรามี
00:32:16 → 00:32:18 โอกาสจะเป็นโรคอะไรหรือเปล่าอ่ะค่ะแล้วก็
00:32:18 → 00:32:22 ดูแลเผื่อดูแลสุขภาพตาเบื้องตรวจสุขภาพตา
00:32:22 → 00:32:24 เบื้องต้นด้วยอ่ะค่ะว่ามีคผิดปกติอะไร
00:32:24 → 00:32:27 หรือเปล่าเผื่อถ้าผิดปกติเราก็จะได้รับ
00:32:27 → 00:32:32 การรักษากันตั้งแต่เนินๆค่ะอืค่ะค่ะวัน
00:32:32 → 00:32:35 นี้ก็ขอบพระคุณอาจารย์มากๆเลยนะคะที่มา
00:32:35 → 00:32:37 ให้ความรู้เกี่ยวกับจอประสาทตาเสื่อมนะคะ
00:32:37 → 00:32:41 เป็นสิ่งที่เราอาจจะมองข้ามไปเราอาจจะนึก
00:32:41 → 00:32:44 ไม่ถึงว่าเออโลกนี้ก็เป็นอย่างนี้ได้ก็มี
00:32:44 → 00:32:48 นะคะเราอาจจะหาวิธีการเทสสายตาเรามาดู
00:32:48 → 00:32:50 อย่างที่อาจารย์บอกเรื่องตารางนะคะหรือ
00:32:50 → 00:32:53 ไม่ก็โทรไปปรึกษาที่โรงพยาบาลเมตตา
00:32:53 → 00:32:57 ประชารักษ์วัดไร่ขิงของกรมการแพทย์ได้ใน
00:32:57 → 00:33:00 วันและเวลาราชกาลเลยนะคะอาจารย์ขอบพระคุณ
00:33:00 → 00:33:03 อาจารย์มากๆเลยนะคะค่ะสวัสดีนะคะอาจารย์
00:33:04 → 00:33:06 ขอบพระคุณค่ะขอบพระคุณสวัสดีค่ะขอบพระคุณ
00:33:06 → 00:33:10 ค่ะอาจารย์สวัสดีค่ะ