00:00:00 → 00:00:03 ก็หัวข้อที่เราหยิบยกมาพูดคุยในวันนี้นะ
00:00:03 → 00:00:06 คะก็เป็นหัวข้อที่ติดค้างกันไว้ในเนื้อหา
00:00:06 → 00:00:09 ของสัปดาห์ที่แล้วที่เราคุยกับครูติ๋ว
00:00:09 → 00:00:14 นันทนาวงศ์บุญชูนะคะว่าเออการที่เราจะลง
00:00:14 → 00:00:16 ลึกในไลฟ์สไตล medicine เนี่ยมันเป็นยัง
00:00:16 → 00:00:19 ไงแล้วชีวิตมันจะดีด้วยไสไตล์ magicine
00:00:19 → 00:00:22 เนี่ยมันต้องทำยังไงบ้างวันนี้นะคะก็เช่น
00:00:22 → 00:00:25 เคยค่ะสำหรับวิทยากรประจำวันจันทร์ของเรา
00:00:25 → 00:00:27 นะคะคุณนันทนาวงศ์บุญชูผู้เชี่ยวชาญด้าน
00:00:27 → 00:00:30 จิตวิทยาแล้วก็ศาสตร์การบำบัดเยียวยาและ
00:00:30 → 00:00:32 การโค้ชหรือว่าครูติ๋วของเราครูติ๋ว
00:00:32 → 00:00:36 สวัสดีค่ะสวัสดีครับครูติ๋วครับสวัสดีค่ะ
00:00:36 → 00:00:40 สวัสดีคุณผู้ฟังสวัสดีขวัญแล้วก็โอ๊คนะคะ
00:00:40 → 00:00:42 ค่ะเป็นยังไงกันบ้าง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา
00:00:42 → 00:00:47 มีไลฟ์สไตล์กันอย่างไรไลฟ์สไตล์เอ่อค่อน
00:00:47 → 00:00:50 ข้างนอนยากนิดนึงค่ะพอดีบริเวณใกล้บ้าน
00:00:50 → 00:00:54 ฉลองสงกรานต์กันอย่างคึกคักอาจจะเป็น
00:00:54 → 00:00:57 อุปสรรคกับการนอนนิดนึง
00:00:57 → 00:01:01 ค่ะค่ะโอ๊เป็นยังไงบ้างไปอัดฉีดออกซิเจน
00:01:01 → 00:01:06 เอ่อพลังดีๆมาที่ลำปางใช่มั้ยใช่ครับก็
00:01:06 → 00:01:11 ถือว่าได้เติมพลังนะดีกว่าค่ะเอติ๋วครับ
00:01:11 → 00:01:13 ก็ถือว่าได้เติมพลังเพราะว่าได้เจอกับ
00:01:13 → 00:01:16 ญาติพี่น้องครอบครัวนะฮะได้ทักทายตามภาษา
00:01:16 → 00:01:19 แล้วก็เอ่อพูดคุยสารทุขุสุิบมันก็เป็นการ
00:01:19 → 00:01:23 แบบอัปเดตเอ่อซึ่งกันและกันแล้วก็แลก
00:01:23 → 00:01:27 เปลี่ยนมุมมองแลกเปลี่ยนกำลังใจกันค่ะอื
00:01:27 → 00:01:29 อืม
00:01:29 → 00:01:34 แลกเปลี่ยนกำลังใจด้วยเออสิ่งนี้นะ
00:01:34 → 00:01:37 เป็นยาอย่างนึงในไลฟ์สไตล์ medicine นะ
00:01:37 → 00:01:42 ความสุขความปิติยินดีเนี่ยเป็นยาอย่าง
00:01:42 → 00:01:46 ยิ่งเป็นยาอายุวัฒนะได้ด้วยนะอืเออค่ะก็อ
00:01:46 → 00:01:50 ไปไปนู่นเลยค่ะแต่ว่าเรามาปูพื้นฐานกัน
00:01:50 → 00:01:53 ก่อนดีกว่าค่ะครูติ๋วว่าไสไตล์medิซีine
00:01:53 → 00:01:55 เนี่ยคืออะไรแล้วก็แบบเหมือนกับว่า
00:01:55 → 00:01:57 ไลฟ์สไตล์มันจะมาเป็นเรื่องของการบำบัด
00:01:57 → 00:02:01 เยียวยาได้ยังไงแล้วก็เอ๊ะเราจะมีชีวิตดี
00:02:01 → 00:02:05 ด้วยไลฟ์สไตล์แมิซีineได้จริงๆหรอคะออื
00:02:05 → 00:02:08 นี่แหละที่ครูเกริ่นไปว่าของโอ๊คที่พูดมา
00:02:08 → 00:02:12 ถึงเอ่อยาอันนั้นมันมียอนเลยคราวนี้ครูก็
00:02:12 → 00:02:17 เลยอยากจะมาขยายความให้ฟังถึงเรื่องของ
00:02:17 → 00:02:20 ไestyล medicine เนาะค่ะไสล medicine
00:02:20 → 00:02:23 เนี่ยค่ะเหมือนที่ขวัญเกริ่นสักครู่ว่า
00:02:23 → 00:02:26 มันจะช่วยได้จริงหรอมันช่วยได้และใน
00:02:26 → 00:02:30 ปัจจุบันเนี่ยในต่างเทศขยายเยอะมากเลยค่ะ
00:02:30 → 00:02:35 มันเป็นเรื่องของเวชศาสตร์วิถีชีวิตค่ะอื
00:02:35 → 00:02:39 เอ่อไสล medicine เนาะหรือว่าเวทศาสตร์
00:02:39 → 00:02:44 วิถีชีวิตมันอย่างี้ขวัญแนวทางการแพทย์
00:02:44 → 00:02:47 เนี่ยถ้าเป็นแพทย์แผนปัจจุบันก็จะมุ่ง
00:02:47 → 00:02:50 เน้นอย่างหนึ่งคราวนี้ไสไตล medicine
00:02:50 → 00:02:53 เนี่ยค่ะมันเป็นแนวทางการแพทย์ครับที่
00:02:53 → 00:02:57 มุ่งเน้นไปในการป้องกัน
00:02:57 → 00:03:00 เน้องกันอ่าจะเน้นป้องกันมากขึ้นแล้วก็
00:03:00 → 00:03:04 รักษาโรคเรื้อรังเนี่ยค่ะผ่านการปรับ
00:03:04 → 00:03:08 เปลี่ยนพฤติกรรมและวิธีการใช้ชีวิตประจำ
00:03:08 → 00:03:11 วันของเรานี่แหละค่ะตั้งแต่ตื่นเช้ายัน
00:03:11 → 00:03:16 เข้านอนเนี่ยซึ่งกระบวนการเยียวยารักษา
00:03:16 → 00:03:18 ป้องกันเนี่ยมัน
00:03:18 → 00:03:24 จะเหมือนกับไม่ต้องพึ่งพาการใช้ยาแล้วก็
00:03:24 → 00:03:25 ลดการผ่าตัด
00:03:25 → 00:03:29 ซึ่งในในการแพทย์แผนปัจจุบันเนี่ยก็จะมี
00:03:29 → 00:03:33 การใช้ยาและการผ่าตัดเป็นหลักถูกมั้ยคะ
00:03:33 → 00:03:35 ครับอื
00:03:35 → 00:03:38 แต่คราวนี้เนี่ยค่ะก่อนว่าไงนะคือกำลังจะ
00:03:38 → 00:03:42 บอกว่าถ้าเป็นลักษณะของการที่เรามาปรับ
00:03:42 → 00:03:45 เปลี่ยนพฤติกรรมเนี่ยแสดงว่าคนที่จะใช้
00:03:45 → 00:03:48 ลักษณะการไลฟ์สไตล์เมิซีนเนี่ยเขาจะต้อง
00:03:48 → 00:03:52 มีวินัยมากพอสมควรเลยสิคะอันเนี้แหละมัน
00:03:52 → 00:03:54 จะเป็นความท้าทาย
00:03:55 → 00:03:59 อ่าใช่เลยใช่เลยเพราะว่าตรงเนี้ยมันคือ
00:03:59 → 00:04:01 เรื่องของแนวคิดด้วยค่ะค่ะซึ่งความแตก
00:04:02 → 00:04:06 ต่างระหว่างไสไตล์ medicine กับการแพทย์
00:04:06 → 00:04:09 แผนปัจจุบันน่ะค่ะมันมีในเรื่องของแนวคิด
00:04:09 → 00:04:13 พื้นฐานด้วยค่ะการแพทย์แผนปัจจุบันเนี่ย
00:04:13 → 00:04:18 จะมุ่งเน้นไปที่การรักษาอาการถูกมั้ยคะ
00:04:18 → 00:04:22 รักษาตามอาการหรือว่าโรคที่เกิดขึ้นแล้ว
00:04:22 → 00:04:27 เนี่ยก็จะมีการใช้ยาผ่าตัดหรือการหัถการ
00:04:27 → 00:04:32 ทางการแพทย์ที่เรารู้จักกันดีถูกมค่ะส่วน
00:04:32 → 00:04:37 ในไสไตล์ medicine เนี่ยค่ะแนวคิดคือจะ
00:04:37 → 00:04:42 เน้นที่การป้องกันอืค่ะอ่าการปรับเปลี่ยน
00:04:42 → 00:04:46 คือลงไปแก้ที่สาเหตุเลยอ่ะค่ะว่าสาเหตุ
00:04:46 → 00:04:50 ที่ทำให้เป็นปัญหาสุขภาพเรียกว่าเราต้อง
00:04:50 → 00:04:52 ไปหาสาเหตุที่แท้จริงเลยนะค่ะว่าสาเหตุ
00:04:52 → 00:04:58 ที่แท้จริงของโรคอ่ะคืออะไรครับอือ่ามัน
00:04:58 → 00:05:01 ก็จะเชื่อมาถึงคำว่าวินัยที่ขวัญได้
00:05:01 → 00:05:04 เกริ่นไปเมื่อสักครู่ด้วยนะคะเหมือนกับ
00:05:04 → 00:05:09 ที่ครูเอ่อพูดถึงคำว่าสาเหตุที่แท้จริง
00:05:09 → 00:05:13 ของปัญหาสุขภาพอ่ะค่ะยกตัวอย่างเช่นโรค
00:05:13 → 00:05:16 นึงซึ่งในปัจจุบันเนี่ยเป็นกันเยอะมากนะ
00:05:16 → 00:05:22 คะคือโรคกดไหลย้อนอือใช่ค่ะอย่ากันนั้น
00:05:22 → 00:05:26 กันนี้เลยขวัญก็เป็นโอ๊คเป็นป่ะไม่เป็น
00:05:26 → 00:05:30 โอ้ดียินดีอันนี้อันนี้ก็ดีมากโอ๊เพราะ
00:05:30 → 00:05:34 ว่าเป็นแล้วมันทรมานแสบร้อนในอกเหลือเกิน
00:05:34 → 00:05:36 เออใช่คนเป็นนี่ชอบบ่นประมาณอะไรแล้วมัน
00:05:36 → 00:05:40 ทรมานนานใช่มั้ยใช่ค่ะมันสะท้อนได้นะซึ่ง
00:05:40 → 00:05:44 ตรงเนี้ยค่ะคุยกับแพทย์และเพสัชกรจำนวน
00:05:44 → 00:05:48 มากเลยอ่ะค่ะได้ข้อมูลที่น่าสนใจหรือแม้
00:05:48 → 00:05:52 กระทั่งศาสตร์การบำบัดและการโค้ชเนี่ยค่ะ
00:05:52 → 00:05:56 ค่ะครับความเห็นตรงกันเลยโลภกฎไหลย้อน
00:05:56 → 00:06:00 เนี่ยมันเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์อืมันเป็น
00:06:00 → 00:06:01 เรื่อง
00:06:01 → 00:06:05 ของพฤติกรรมครับค่ะความคิดเนี่ยค่ะก็เป็น
00:06:05 → 00:06:09 พฤติกรรมเมื่อสักครู่ที่ได้ยินคุณโอ๊ค
00:06:09 → 00:06:12 เนี่ยพูดถึงว่าคุณเนี่ยไม่ได้เป็นโรคนี้
00:06:12 → 00:06:17 อ่ะส่วนนึงของโรคกดไหลย้อนเนี่ยมันเคยมี
00:06:17 → 00:06:22 เอ่อบ้าน AF นะเทำเพลงนึงอ่ะชื่อว่าโกรธ
00:06:22 → 00:06:25 กดไหลย้อนเคยได้ยินมั้ยอ๋อ
00:06:25 → 00:06:29 อืซึ่งมันเป็นอย่างนั้นจริงๆนะคะส่วน
00:06:29 → 00:06:33 หนึ่งของกฎไหลย้อนเนี่ยมาจากอะไรมาจากกรด
00:06:33 → 00:06:37 ค่ะค่ะแล้วเวลาที่ร่างกายเรามีความเครียด
00:06:37 → 00:06:42 อ่ะค่ะร่างกายเราจะเป็นกรดอืครับ
00:06:42 → 00:06:46 อืมพอกรดมันเกินมันไหลย้อนขึ้นมาคือมันมี
00:06:46 → 00:06:49 ปัจจัยอย่างอื่นมาประกอบด้วยอ่ะนะคะค่ะ
00:06:49 → 00:06:52 แต่แค่ความเป็นกฎอย่างเดียวอ่ะสามารถนำ
00:06:52 → 00:06:56 โรคมาให้เราได้มหาศาลอืมเมื่อกี้ที่โอ๊ค
00:06:56 → 00:06:58 พูดน่ะสะท้อนได้เลยว่าแสดงว่าโอ๊ตกลับไม่
00:06:58 → 00:07:00 ค่อยเครียด
00:07:00 → 00:07:04 ออก็ต้องเครียดบ้างเครียเครียดเครียดก็มี
00:07:04 → 00:07:10 บ้างนะแต่ว่าก็อืถ้าเวลาเอ่อเวลาที่จะ
00:07:10 → 00:07:12 อยู่กับความเครียดนะจะไม่ได้แบบทุกช่วง
00:07:12 → 00:07:16 เวลากับวันก็ปล่อยให้เครียดในช่วงนั้นไป
00:07:16 → 00:07:18 ไอ้ช่วงที่ไม่ต้องอย่าไปเครียดมั้เอโ๊ก
00:07:18 → 00:07:22 อาจจะเป็นคนที่วางได้เร็วด้วยแหละค่ะจากจ
00:07:22 → 00:07:25 ใช่จากที่รู้จักโอ๊คมาคือน้องเป็นคนยืด
00:07:25 → 00:07:28 หยุ่นเอ่อประมาณนี้เยี่ยมอ่าเนี่ยก็เป็น
00:07:28 → 00:07:30 เรื่องของmindซตซึ่งเดี๋ยวเราจะคุยกันต่อ
00:07:30 → 00:07:34 ไปเป็นเรื่องสำคัญมากๆและส่วนหนึ่งโอ๊คก็
00:07:34 → 00:07:37 ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาด้วยถูกมั้ยก็
00:07:37 → 00:07:39 ด้วยครับวิ่งกับลูกนี่ก็โอ้โหวันละหลาย
00:07:40 → 00:07:42 ชั่วโมงแล้วฮะ
00:07:42 → 00:07:44 นี่แหละนี่แหละนี่แหละคือไสไตล์ medicine
00:07:44 → 00:07:47 อย่างหนึ่งอ่ะคราวนี้เรามาขยายความกันต่อ
00:07:47 → 00:07:50 ดีกว่าค่ะได้เลยค่ะในเมื่อสักครู่เรา
00:07:50 → 00:07:52 เกริ่นจะไปถึงแนวคิดพื้นฐานเนาะแนวคิดที่
00:07:52 → 00:07:57 แตกต่างกันค่ะคราวนี้วิธีการรักษาค่ะวิธี
00:07:57 → 00:08:00 การรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันเนี่ยอย่าง
00:08:00 → 00:08:05 ที่บอกเนาะก็จะเน้นการใช้ยาผ่าตัดหรือแม้
00:08:05 → 00:08:08 กระทั่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เป็น
00:08:08 → 00:08:10 เครื่องมือหลักที่ก็จะมีเครื่องมือมากมาย
00:08:10 → 00:08:14 หลายอย่างถูกมยค่ะครับส่วนในเรื่องของ
00:08:14 → 00:08:18 ไสไตล medicine เนี่ยค่ะจะใช้การปรับ
00:08:18 → 00:08:23 เปลี่ยนพฤติกรรมกรรมอ่าเห็นมั้เน้นที่การ
00:08:23 → 00:08:25 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลยค่ะไม่ว่าจะเป็นใน
00:08:25 → 00:08:29 เรื่องของพฤติกรรมการกินถูกมยค่ะการออก
00:08:29 → 00:08:33 กำลังกายการจัดการความ
00:08:33 → 00:08:37 เครียดและสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเลยนะการนอน
00:08:37 → 00:08:40 หลับค่ะอือือครับ
00:08:40 → 00:08:43 อ้าและสุดท้ายนะก่อนที่จะมาขยายความ
00:08:43 → 00:08:46 เรื่องการนอนหลับนะคือการมีความสัมพันธ์
00:08:46 → 00:08:48 ที่ดี
00:08:48 → 00:08:51 ความสัมพันธที่อ่าความสัมพันธ์ที่ดีต่อ
00:08:51 → 00:08:55 ใครถ้าในชางจิตวิทยาเชิงลึกนะเแบ่งความ
00:08:55 → 00:08:58 สัมพันธ์เป็นของ 2 อย่าง 1 ความสัมพันธ์
00:08:58 → 00:09:01 ภายนอกกับความสัมพันธ์ภายในความสัมพันธ์
00:09:01 → 00:09:04 ภายนอกคือเรากับคนอื่นๆค่ะไม่ว่าจะเป็น
00:09:04 → 00:09:07 ที่ทำงานครอบครัวถูกมั้ยถ้าเรามีความ
00:09:07 → 00:09:09 สัมพันธ์ที่ดีอ่ะมีความสุขมันก็ไม่เครียด
00:09:09 → 00:09:14 ไงอืครับอ่าและความสัมพันธ์อีกอย่างคือ
00:09:14 → 00:09:18 ความสัมพันธ์ของเรากับตัวเราเองค่ะถูก
00:09:18 → 00:09:20 มั้ยถ้าเราเนี่ยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดี
00:09:20 → 00:09:23 กับตัวเราคือมันจะขัดแย้งกับตัวเองอ่ะมัน
00:09:23 → 00:09:26 จะเปรียบเหมือนการขับรถแล้วเหยียบคันเร่ง
00:09:26 → 00:09:29 เหยียบเบรกอ่ะเวลาที่เราขัดแย้งกับตัวเอง
00:09:29 → 00:09:33 อ่ะมันจะเกิดความเครียดสูงมากอือืค่ะ
00:09:33 → 00:09:36 อืและส่วนนึง
00:09:36 → 00:09:41 ที่เป็นคีย์ของไestyle medicine ในเชิง
00:09:41 → 00:09:44 การรักษานะคะที่เราเกริ่นไปเนาะว่าเป็น
00:09:44 → 00:09:48 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอ่ะค่ะการนอนหลับ
00:09:48 → 00:09:50 เนี่ยนะมันมีเดี๋ยวเราต้องมาคุยกันด้วย
00:09:50 → 00:09:54 หลักวัน sleep therapy การนอนหลับเนี่ย
00:09:54 → 00:09:57 เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆมากของมากๆเลยนะคะ
00:09:57 → 00:10:00 ค่ะเพราะว่าอะไรเพราะเวลาที่เราหลับอ่ะ
00:10:00 → 00:10:05 ค่ะร่างกายเขาจะทำหน้าที่ได้เต็มรูป
00:10:05 → 00:10:09 แบบเค้าจะซ่อมบำรุงเยียวยาและในตอนที่เรา
00:10:09 → 00:10:14 หลับเนี่ยแหละฮอร์โมนฝั่งดีการซ่อมแซม
00:10:14 → 00:10:17 ส่วนที่สึกหลอทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นในตอน
00:10:17 → 00:10:20 ที่เราหลับมันจึงต้องมีศาสตร์การบำบัด
00:10:20 → 00:10:24 เรื่องการนอนเลยที่ทำอย่างไรการนอนของเรา
00:10:24 → 00:10:26 จะมีคุณภาพอ
00:10:27 → 00:10:28 อื
00:10:28 → 00:10:34 โอ้อันนี้น่าสนใจนะอยากนอนอย่างมีคุณภาพ
00:10:34 → 00:10:37 อยากนอนหลับได้ลึกๆอะไรอย่างเงี้ยค่ะไม่
00:10:37 → 00:10:41 สะดุ้งตื่นระหว่างกลางคืนใช่มั้พี่อยใช่
00:10:41 → 00:10:45 แล้วคืออยากอยากให้คนที่แบบนอนหลับยาก
00:10:45 → 00:10:49 แล้วพอเาตื่นอีกกังดึกอย่างเงี้ยค่ะโอ้โห
00:10:49 → 00:10:51 กว่าจะหลับได้อีกรอบเนี่ยใช้เวลานานมาก
00:10:51 → 00:10:56 อ่ะค่ะอืเมื่อสักครู่เนี่ยไปจัดอีกรายการ
00:10:56 → 00:11:01 นึงมาค่ะปรากฏว่าคนเป็นสิ่งนี้มากค่ะคือ
00:11:01 → 00:11:05 นอนไม่หลับหรือนอนหลับแล้วก็มาสะดุ้งตื่น
00:11:05 → 00:11:08 กลางดึกซึ่งมันเชื่อมโยงกันถึงในเรื่อง
00:11:08 → 00:11:13 ของจิตใต้สำนึกหรือจิตที่มันเก็บข้อมูล
00:11:13 → 00:11:17 ไว้แล้วมันก็ทำให้เราอ่ะมีอาการมี
00:11:17 → 00:11:20 พฤติกรรมของการนอนไม่หลับโอเดี๋ยวเรื่อง
00:11:20 → 00:11:24 นี้ก็จะมาขยายความยาวกันต่อไปเรากลับมา
00:11:24 → 00:11:27 ม้วนหางและกลับมา
00:11:27 → 00:11:32 ที่เราจะมาคุยกันถึงความแตกต่างของการ
00:11:32 → 00:11:36 แพทย์แผนปัจจุบันและไสล medicine ใน
00:11:36 → 00:11:40 เรื่องของบทบาทของผู้ป่วยการแพทย์แผน
00:11:40 → 00:11:46 ปัจจุบันน่ะค่ะก็จะเหมือนกับผู้ป่วยเนี่ย
00:11:46 → 00:11:50 มักจะเป็นผู้รับการรักษาถูกมั้ยจะเป็น
00:11:50 → 00:11:54 passive คือยังไงอคือไม่สบายขึ้นมาก็รอ
00:11:54 → 00:11:58 รับยาก็ไปเป็นผู้ใช้บริการของสถานพยาบาล
00:11:58 → 00:12:05 นั้นๆอืใช่เลยหมอนัดทุกกี่เดือนใช่ใช่มย
00:12:05 → 00:12:09 อ่าเนี่ยแหละก็จะเป็นในลักษณะนี้ซึ่งถ้า
00:12:09 → 00:12:13 เป็นไสล medicine น่ะค่ะผู้ป่วยเนี่ยจะมี
00:12:13 → 00:12:16 บทบาทสำคัญในเรื่องของการ active ในการดู
00:12:16 → 00:12:21 แลสุขภาพตัวเองโดยที่จะมีทีมแพทย์ทีม
00:12:21 → 00:12:25 สุขภาพโค้ชนักบำบัดเนี่ยคอยเป็นเหมือนที่
00:12:25 → 00:12:28 ปรึกษาเป็นพี่เลี้ยงที่ทำงานร่วมกันค่ะ
00:12:28 → 00:12:32 ค่ะตรงเมันจะเห็นชัดเจนเลยนะว่าถ้าเป็น
00:12:32 → 00:12:35 การแพทย์แผนปัจจุบันเนี่ยเป็นแบบ passive
00:12:35 → 00:12:39 คือรอรับอย่างเดียวนึกออกมั้ยค่ะอแต่ถ้า
00:12:39 → 00:12:42 เป็นไสล medicine เนี่ยทำงานร่วมกันค่ะ
00:12:42 → 00:12:46 เราจะต้องมาเวิร์คด้วยกันเหมือนการบำบัด
00:12:46 → 00:12:50 CBT หรือการบำบัดต่างๆที่เราเคยเราเคย
00:12:50 → 00:12:53 พูดคุยกันมาในสัปดาห์ก่อนๆนะคะค่ะมันจะ
00:12:53 → 00:12:55 ต้องมีการทำการบ้านมันต้องมีการเวิร์ค
00:12:55 → 00:12:59 ด้วยเทคนิคต่างๆถูกมยอครับพอพูดถึงคำว่า
00:12:59 → 00:13:03 เทคนิคเชื่อว่าคุณขวัญของเราก็ต้องนึกถึง
00:13:03 → 00:13:06 เทคนิคที่เป็นsignatเจอร์ของเธอเทคนิค
00:13:06 → 00:13:10 stop ใช่ค่ะเออเห็นมย 2 ท่านก็จะเชี่ยว
00:13:10 → 00:13:13 ชาญในเรื่องของเทคนิคการบำบัดได้และ
00:13:13 → 00:13:14 เทคนิค
00:13:14 → 00:13:18 Stop คราวนี้คราวนี้มาขยายความต่อว่าข้อ
00:13:18 → 00:13:21 แตกต่างของการแพทย์แผนปัจจุบันแล้วก็ไลฟ
00:13:21 → 00:13:26 SyลMedicซineในส่วนของมุมมองต่อโรคนะคะ
00:13:26 → 00:13:29 คืออย่างงี้ครับการแพทย์แผนปัจจุบันเนี่ย
00:13:29 → 00:13:35 ค่ะมักจะแยกส่วนต่างๆตามโรคตามระบบของ
00:13:35 → 00:13:39 ร่างกายหรือแม้แต่ตามความเชี่ยวชาญเฉพาะ
00:13:39 → 00:13:43 ทางเหมือนอ่ะถ้าเป็นไม่สบายนี่ก็ไปอ่ะหมอ
00:13:43 → 00:13:48 ขอหูจมูกไปหมอผิวหนังไปหมอใดๆก็แบ่งเฉพาะ
00:13:48 → 00:13:52 เจาะจงเป็นทางไปเฉพาะทางเ้าถึงเรียกว่าไป
00:13:52 → 00:13:56 หาแพทย์เฉพาะทางเนาะค่ะส่วนไสล Medicine
00:13:56 → 00:14:02 เนี่ยค่ะจะมองสุขภาพเป็นแบบโิหรือเป็นแบบ
00:14:02 → 00:14:07 องค์รวมนั่นเองอืครับมันจะเชื่อมโยงร่าง
00:14:07 → 00:14:09 กายจิต
00:14:09 → 00:14:13 ใจสังคมสิ่งแวดล้อมซึ่งในปัจจุบัน
00:14:13 → 00:14:17 เพิ่มเติมค่ะนอกจากร่างกายจิตใจนะจิต
00:14:17 → 00:14:22 วิญญาณครับโอ้ด้วยเอ้อคำว่าจิตวิญญาณนี่
00:14:22 → 00:14:26 ไม่ใช่ศาสนานะจิตวิญญาณนี่คืออารมณ์ความ
00:14:26 → 00:14:32 รู้สึกลึกๆอ่ะที่มันลึกกว่าจิตใจโดยทั่ว
00:14:32 → 00:14:36 ไปมันลึกกว่ามายภาษาฝรั่งเขาใช้ sou อื
00:14:36 → 00:14:41 หรือ spiritual อืและมีด้วยนะถ้าอยากคุย
00:14:41 → 00:14:43 spiritual medicine ก็ก็มีเหมือนกันอ่า
00:14:43 → 00:14:47 มันจะล้ำไปอีกมันจะมียอไสล medicine
00:14:47 → 00:14:51 ว่าเค้าเรียกว่าเป็นของใหม่แล้วนะตอนนี้
00:14:52 → 00:14:53 มีลึกกว่านั้นค่ะเค้าเรียกว่าเป็น
00:14:53 → 00:14:57 วิทยาศาสตร์ทางจิตที่เอาในเรื่องของจิตใจ
00:14:57 → 00:15:00 จิตวิญญาณเนี่ยเข้ามาเพราะเรารู้แล้วว่า
00:15:00 → 00:15:03 มันเป็นตัวคุมทุกอย่างในสเต็ปเนี้ยนะ
00:15:03 → 00:15:06 มนุษย์เราเนี่ยจะเรียนรู้ถึง physical
00:15:06 → 00:15:11 mental emotional และสูงสุดคือ
00:15:11 → 00:15:12 spiritual
00:15:12 → 00:15:15 Physical คือเรื่องอะไรเรื่องร่างกายถูก
00:15:15 → 00:15:18 มั้ยเราต้องเรียนรู้พื้นฐานคือร่างกายของ
00:15:18 → 00:15:22 เราพอร่างกายเสร็จขยับมาที่ความคิดเพราะ
00:15:22 → 00:15:25 ความคิดเหมือนที่เราเคยคุยกันถึง CBT
00:15:26 → 00:15:29 ความคิดมีผลต่อพฤติกรรมค่ะมีผลต่ออารมณ์
00:15:29 → 00:15:33 แล้วก็มีผลต่อร่างกายด้วยค่ะครับพอเรียน
00:15:33 → 00:15:36 รู้เรื่องความคิดก็จะขยับขึ้นมาอีกอารมณ์
00:15:36 → 00:15:39 ค่ะเรียนรู้เรื่องอารมณ์เพราะอารมณ์ก็
00:15:39 → 00:15:42 เป็นตัวควบคุมอีกอือฮอร์โมนต่างๆที่เกิด
00:15:42 → 00:15:47 ขึ้นมาจากไหนก็มาจากอารมณ์ครับและขั้นสูง
00:15:47 → 00:15:50 สุดของปีระมิดคืออะไรคือ spiritual
00:15:50 → 00:15:53 เนี่ยนี่แหละที่มันจะคุมทั้งหมดเลยโออัน
00:15:53 → 00:15:56 นี้มันจะขยายความลึกมากๆซึ่งมีโอกาสเราจะ
00:15:56 → 00:16:00 มาคุยกันต่อไปค่ะอ่าเชื่อว่าคุณขวัญของ
00:16:00 → 00:16:04 โน้ตไว้ในหัวแล้วตึ๊กๆงอกคุณขวัญของเราจะ
00:16:04 → 00:16:08 มีความสามารถพิเศษในการงอกคำถามซึ่งคุณ
00:16:08 → 00:16:11 ผู้ฟังก็จะได้ประโยชน์อย่างยิ่งเลยครับ
00:16:11 → 00:16:15 คราวนี้ในเรื่องของความแตกต่างอีกอย่าง
00:16:15 → 00:16:18 นึงซึ่งสำคัญมากๆนะคะก็คือเรื่องของผล
00:16:19 → 00:16:23 ลัพธ์ระยะยาวค่ะในการแพร่แผนปัจจุบัน
00:16:23 → 00:16:28 เนี่ยบางกรณีเนี่ยนะเป็นการรักษาที่ปลาย
00:16:28 → 00:16:33 เหตุซึ่งจะต้องใช้ยาต่อเนื่องเพื่อควบคุม
00:16:33 → 00:16:37 อาการเคยได้ยินมั้ยคะที่บอกว่ากินยาตลอด
00:16:37 → 00:16:39 ชีวิตอ่ะเคยได้ยินมั้เคยได้ยินเคยได้ยิน
00:16:39 → 00:16:43 ค่ะแล้วก็เหมือนบางบางโรคอ่ะบางเบาหวาน
00:16:43 → 00:16:47 ความดันอย่างเงี้ยค่ะเอ่ออือกินยาแต่ว่า
00:16:47 → 00:16:50 สถานการถ้าเบาหวานเค้าเจะไม่เรียกว่าหาย
00:16:50 → 00:16:53 นะคะกูติ๋วเ้าเรียกว่าอาการสงบก็คือ
00:16:53 → 00:16:55 เหมือนกับน้ำตาลอยู่ในการควบคุมอะไรอย่าง
00:16:55 → 00:16:57 เงี้ยอาจจะไม่ต้องกินยาแต่ก็ต้องแวะเวียน
00:16:57 → 00:17:02 ไปหาคุณหมอเช็คตลอดเช็คระดับน้ำตาลใช่ค่ะ
00:17:02 → 00:17:05 ถูกต้องนี่แหละเค้าเรียกว่าเอ่อรักษา
00:17:06 → 00:17:10 เพื่อควบคุมอาการแต่แต่อะไรไสไตล์
00:17:10 → 00:17:14 medicine เนี่ยค่ะจะเข้ามาเพื่อการนี้
00:17:14 → 00:17:20 คือจะมุ่งแก้ไขไปที่รากของปัญหาค่ะครับ
00:17:20 → 00:17:25 เพื่ออะไรเพื่อที่จะสามารถเลิกใช้ยาได้อื
00:17:25 → 00:17:32 ในหลายโลกเนี่ยเพียงแค่กลับมาเอ่อใส่ใจใน
00:17:32 → 00:17:35 คุณภาพชีวิตในไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน
00:17:35 → 00:17:39 เนี่ยสามารถทำให้ร่างร่างกายกลับมาเป็น
00:17:39 → 00:17:44 ปกติถ้าพูดง่ายๆก็คือเลิกป่วยอ่ะค่ะอยู่
00:17:44 → 00:17:49 สบายเพราะว่าเพราะว่าสมดุลในร่างกายเนี่ย
00:17:49 → 00:17:54 มันเกิดมันก็ทำให้โรคต่างๆมาพูดถึงโรคมี
00:17:54 → 00:17:57 เคสนึงครับ
00:17:57 → 00:18:01 คุณป้าคนเนี้ยอายุ 60 กว่าๆ 60 กว่าๆก็
00:18:01 → 00:18:06 เหมือนสว.ทั่วไปคือไปหาหมอตลอดหมอก็จะนัด
00:18:06 → 00:18:09 ทุก 3 เดือน 6 เดือนอือค่ะ
00:18:09 → 00:18:13 ด้วยโรคอะไรความดันเบาหวานหัวใจเนี่ยแหละ
00:18:13 → 00:18:17 โรคประจำตัวทั้งหลายโรคประจำตัวซึ่งพอคุณ
00:18:17 → 00:18:20 ป้ามารับกระบวนการ
00:18:20 → 00:18:24 บำบัดเห็นรากของปัญหาที่แท้จริงสังเกต
00:18:24 → 00:18:27 มั้ยยกตัวอย่างเช่นอะไรยกตัวอย่างเช่น
00:18:27 → 00:18:30 สมมุติว่าเป็นโรคหัวใจนะอย่างเคสที่พูด
00:18:30 → 00:18:33 ถึงเนี่ยเอ่อเอ่อแพทย์เนี่ยวินิจฉัยว่า
00:18:33 → 00:18:40 เป็นโรคหัวใจโตค่ะยาที่ให้จะมีอะไรมียา
00:18:40 → 00:18:44 สลายลิ่มเลือดยาเบสิคเบสิคของยาโรคหัวใจ
00:18:45 → 00:18:48 นะที่พบมากกับเคสที่มาบำบัดหลายเคสก็จะ
00:18:48 → 00:18:51 พูดตรงกันครับ
00:18:51 → 00:18:56 1 ยาสลายลิ่มเลือด 2
00:18:56 → 00:19:02 ยาบำรุงเลือด 3 ยาถ่าย 4 พอพอยาสลายลิ่ม
00:19:02 → 00:19:05 เลือดเนี่ยมันต้องมีตัวของยาเคลือบ
00:19:05 → 00:19:08 กระเพาะด้วยเพราะว่ามันก็จะแรงอ่ะค่ะอีก
00:19:08 → 00:19:12 อย่างนึงเนี่ยคือสิ่งที่จะสรุปให้นะยา
00:19:12 → 00:19:17 ต่างๆอ่ะมันสามารถหักล้างกันด้วยไสล
00:19:17 → 00:19:21 medicine หมายถึงอะไรครูยกตัวอย่าง
00:19:21 → 00:19:25 เช่นBอสไตรินที่ขยายลิ่มเลือดอ่ะค่ะเค้า
00:19:25 → 00:19:28 ต้องการให้เลือดเนี่ยไหลเวียนครับพอเลือด
00:19:28 → 00:19:30 เลือดไหลเวียนดีอ่ะการทำงานของหัวใจมันก็
00:19:30 → 00:19:34 จะเป็นยังไงคะมันก็จะปกติค่ะง่ายดีขึ้น
00:19:34 → 00:19:37 ถูกมั้ยเลือดมันก็จะถูกสูบเฉียดไปเลี้ยง
00:19:37 → 00:19:41 ร่างกายได้ดีขึ้นมันทำได้ด้วยการอะไรมัน
00:19:41 → 00:19:45 ทำได้ด้วยการดื่มน้ำออกกำลังกายถูกมั้ยคะ
00:19:45 → 00:19:48 ลดความเครียดนอนหลับพักผ่อนให้มีประให้
00:19:48 → 00:19:52 เต็มที่ทานอาหารให้มีประโยชน์มันเป็นองค์
00:19:52 → 00:19:56 รวมค่ะเนี่ยค่ะแม้กระทั่งโรคเบาหวานโรค
00:19:56 → 00:20:00 ความดันมีเคสนะที่บอกว่าเป็นโรคหัวใหญ่
00:20:00 → 00:20:03 ค่ะพอสืบค้นไปเนี่ยมีความเครียดกรณีนึง
00:20:03 → 00:20:06 ผู้ชายคนนี้อายุ 70
00:20:06 → 00:20:09 นะอาการกำเล่อเพราะอะไรเพราะทะเลาะกับลูก
00:20:10 → 00:20:15 สาวอืเหรอฮะแบบอ่าพอมีเรื่องเครียดก็เลย
00:20:15 → 00:20:18 ทำให้อาการกำเริบใช่มั้ยคะใช่แล้วค่ะอื
00:20:18 → 00:20:22 ใช่แล้วแล้วคราวนี้อาการกำเริบ
00:20:22 → 00:20:28 ถ้าความอ่อนแอมีสะสมมาหรือถ้ากำเริบมาก
00:20:28 → 00:20:31 มันก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้
00:20:31 → 00:20:36 อือ่าสังเกตมนี่พอพูดถึงเนี่ยเคยเคยดู
00:20:36 → 00:20:41 ละครมั้ยเคยดูละครไทยที่เวลาที่ยกตัว
00:20:41 → 00:20:45 อย่างนะแม่พระเอกถูกขัดใจอ่ะแล้วแม่พระ
00:20:45 → 00:20:47 เอกก็จะโอ๊ะๆ
00:20:47 → 00:20:50 เหมือนเหมือแบบว่าเจ็บจี๊ดที่หัวใจแล้ว
00:20:50 → 00:20:54 เหมือนแบบว่าจะกำลังจะเป็นลมใช่ๆเออภาพ
00:20:54 → 00:20:57 เดียวกันภาพเดียวกันมันเป็นอย่างงั้นจริง
00:20:58 → 00:21:01 ๆนะเวลาที่
00:21:01 → 00:21:06 เวลาที่มันมากๆปี๊ดมากๆอ่ะค่ะค่ะระบบสมอง
00:21:06 → 00:21:08 ระบบประสาทระบบของร่างกายอ่ะมันจะเป็นแบบ
00:21:09 → 00:21:12 นั้นจริงๆครับร่างกายเราเ้าจะชัดดาวนให้
00:21:12 → 00:21:14 เราเลยเพราะว่ามันเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบ
00:21:14 → 00:21:19 ฉับพันแล้วมันปี๊ดมากอ่ะค่ะอือเนี่ยครับ
00:21:19 → 00:21:22 อ่าแล้วในเรื่องของเส้นสมองเนี่ยนะพอเกิด
00:21:22 → 00:21:26 การเปลี่ยนแปลงอ่ะค่ะนิวรอนในสมองอ่ะมัน
00:21:26 → 00:21:30 ก็จะขยับใหญ่ตัวแล้วมันเค้าเรียกว่ามันจะ
00:21:30 → 00:21:33 เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วการเปลี่ยนแปลง
00:21:33 → 00:21:38 นั้นมันก็จะนำพาซึ่งอาการมามากมายคือ
00:21:38 → 00:21:43 อย่างไรก็ดีเนี่ยนะทั้ง 2 แนวทางเนี่ยมัน
00:21:43 → 00:21:46 ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์แผนปัจจุบันหรือว่า
00:21:46 → 00:21:49 ไสไตล์magicซineเนี่ยค่ะค่ะมันก็สามารถ
00:21:49 → 00:21:52 ส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ซึ่งตรงเนี้ยมัน
00:21:52 → 00:21:53 ก็จะ
00:21:53 → 00:21:57 ต้องเอ่อดูในรายละเอียดด้วยอ่ะค่ะว่า
00:21:57 → 00:22:02 อาการของเราเนี่ยอยู่ในระดับไหนอืครับอ่า
00:22:02 → 00:22:07 มีอาการมีพฤติกรรมมีอาการมีพฤติกรรมส่วน
00:22:08 → 00:22:11 ของเฉพาะบุคคลเป็นอย่างไรซึ่งไสไตล
00:22:11 → 00:22:14 medicine เนี่ยเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญ
00:22:14 → 00:22:17 ของการแพ้สมัยใหม่ก็ว่าได้เพราะฉะนั้น
00:22:17 → 00:22:20 เนี่ยครับเหมือนโรคบางอย่างที่เป็นโรค
00:22:20 → 00:22:23 เรื้อรังอ่ะค่ะมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการ
00:22:23 → 00:22:27 ใช้ชีวิตเลยนะค่ะเหมือนโรคเบาหวานเนี่ย
00:22:27 → 00:22:32 ค่ะโรคความดันโรคหัวใจหรือแม้กระทั่งโรค
00:22:32 → 00:22:36 ที่คนน่ะอาจจะไม่คิดว่ามันเป็นโรคแต่ใน
00:22:36 → 00:22:39 ทางการแพทย์ก็เรียกว่าโรคนะคะคือโรคอะไร
00:22:39 → 00:22:43 รู้มั้ยคะนึกไม่ออกเลยคุณดิอ้วอ๋ออ้วนอ๋อ
00:22:43 → 00:22:48 ค่ะอเห็นมั้ยโกอ้วนไม่ว่าจะเป็นความดัน
00:22:48 → 00:22:50 เบาหวานโรคหัวใจเนี่ยนะต้นเหตุของโรคต่าง
00:22:51 → 00:22:58 ๆอ่าอือือืเนี่ยพอพอวิเคราะห์เจาะจงจะ
00:22:58 → 00:23:03 เห็นเลยว่าโรคต่างๆเนี่ยค่ะมันมีความ
00:23:03 → 00:23:06 เชื่อมโยงกันเพราะ
00:23:06 → 00:23:10 ฉะนั้นการแพทย์แบบไลฟ์สไตล medicine
00:23:10 → 00:23:13 เนี่ยค่ะครับจึงมุ่งเน้นไปที่อะไรมุ่ง
00:23:13 → 00:23:17 เน้นไปที่รากของปัญหาหรือสาเหตุที่แท้
00:23:17 → 00:23:23 จริงอืออซึ่งถ้าเป็นการแพทย์สมัยใหม่โดย
00:23:23 → 00:23:26 เฉพาะในปัจจุบันเนี้ยค่ะค่ะมีปัญหากัน
00:23:26 → 00:23:30 เยอะมากในเรื่องของยา
00:23:30 → 00:23:33 หมายหมายถึงรับประทานยากันเยอะหรือว่ายัง
00:23:33 → 00:23:36 ไงคะครูติวถูกรับประทานยากันเยอะแล้วพอ
00:23:36 → 00:23:41 รับประทานยาเยอะก็จะมีเอฟเฟคหรือผลข้าง
00:23:41 → 00:23:46 เคียงของยาเนี่ยตามมาด้วยเช่นกันค่ะอือฮึ
00:23:46 → 00:23:50 เออควันเคยก็เอฟเฟคเอฟเฟคที่เห็นเคยบ่นๆ
00:23:50 → 00:23:53 กันก็เรื่องของโรคอื่นๆที่จะเกี่ยวกับการ
00:23:53 → 00:23:56 กินยาเยอะเป็นเยอะเกินไปหรือว่าต่อเนื่อง
00:23:57 → 00:24:01 กันเป็นเวลานานนะพี่วันใช่ค่ะก็หลายคนที่
00:24:01 → 00:24:06 ต้องรับประทานยาต่อเนื่องเนี่ยก็จะต้อง
00:24:06 → 00:24:09 ทุกๆครั้งที่นัดพบคุณหมอเนี่ยคุณหมอก็จะ
00:24:09 → 00:24:13 ให้ตรวจค่าไตอยู่ด้วยเป็นสม่ำเสมอแล้วแต่
00:24:13 → 00:24:16 คุณหมอจะเอ่อดูตามวงรอบอ่ะนะคะเพราะว่า
00:24:16 → 00:24:19 การกินยาเนี่ยถ้าเป็นโรคประจำตัวเบาหวาน
00:24:19 → 00:24:22 ความดันเนี่ยต้องกินยาอย่างต่อเนื่องตาม
00:24:22 → 00:24:25 คำสั่งแพทย์ซึ่งแพทย์เขาก็จะเฝ้าระมัด
00:24:25 → 00:24:28 ระวังอยู่แล้วในกรณีที่ต้องเช็คค่าไตอยู่
00:24:28 → 00:24:33 ต่อเนื่องเพราะว่าถ้าไม่กินแล้วก็แบบหยุด
00:24:33 → 00:24:35 ยาไปเองเนี่ยก็อย่างที่เป็นข่าวที่เห็น
00:24:35 → 00:24:39 กันก็เอ่อเป็นปัญหากับสุขภาพตามมาภายหลัง
00:24:39 → 00:24:41 ได้แล้วก็เอ่อรุนแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำแต่
00:24:42 → 00:24:44 ว่าถ้าเป็นลักษณะของไลฟ์สไตล์ medicine
00:24:44 → 00:24:47 เนี่ยถ้าเราเป็นโรค 1 โรคอยู่แล้วเนี่ย
00:24:47 → 00:24:51 ค่ะครูติ๋วขาเอ่ออเราสามารถแบบเหมือนกับ
00:24:51 → 00:24:54 รักษาแพทย์แผนปัจจุบันไปแล้วก็เปลี่ยน
00:24:54 → 00:24:58 พฤติกรรมเอ่อทำพฤติกรรมให้เอ่อสอดคล้อง
00:24:58 → 00:25:02 สอดรับกับการที่จะไปแก้ปัญหาตรงรากเนี่ย
00:25:02 → 00:25:04 แล้วรับประทานยาไปด้วยมันก็จะเป็นวิธีการ
00:25:04 → 00:25:07 รักษาที่ควบคู่กันไปแล้วก็ในระยะยาวอ่ะ
00:25:07 → 00:25:11 เราก็อาจจะไม่ต้องใช้ยาในที่สุดอันเนี้ย
00:25:11 → 00:25:14 คือเอ่อหัวใจของศาสตร์ของไลฟสไตล์
00:25:14 → 00:25:17 แมิซีineหรือเปล่าหรือมันอะไรคือหัวใจของ
00:25:17 → 00:25:24 ศาสตร์นี้อ่ะคะอ้า
00:25:24 → 00:25:26 ครูติ๋ว
00:25:26 → 00:25:30 คะครูติ๋วคะ
00:25:30 → 00:25:35 อ่ะอ่ามีเรื่องของสัญญาณก่อนอ่าน่าจะเป็น
00:25:35 → 00:25:39 ปัญหาที่สัญญาณนะคะเดี๋ยวคุยครูติ๋วได้
00:25:39 → 00:25:43 ยินมั้ยคะอ่ะได้ยินแล้วค่ะกลับมาแล้วค่ะ
00:25:43 → 00:25:46 แล้วค่ะอ่าอ่า
00:25:46 → 00:25:48 เมื่อสักครู่หายไปนิดนึงเมื่อกี้ขวัญว่า
00:25:48 → 00:25:51 ยังไงเมื่อกี้เอ่อขวัญถามครูติ๋วว่าใน
00:25:51 → 00:25:56 กรณีที่อ่าคนนึงเนี่ยเขารับประทานยาอยู่
00:25:56 → 00:25:58 ด้วยโรคประจำตัวอยู่แล้วแหละแต่ว่าเอ่อ
00:25:58 → 00:26:01 ถ้าเป็นลักษณะของไสไตล์ medicine เนี่ยก็
00:26:01 → 00:26:06 คือจะเป็นการรักษาแบบควบคู่กันไปได้หรือ
00:26:06 → 00:26:08 เปล่าในกรณีที่อ่าเรารับประทานยาประจำ
00:26:08 → 00:26:11 ประจำรับประทานไปด้วยแล้วไสล medicine
00:26:11 → 00:26:14 เนี่ยเราก็ไปแก้ที่พฤติกรรมเพื่อที่จะให้
00:26:14 → 00:26:17 ท้ายที่สุดเนี่ยเราจะต้องแบบเหมือนกับ
00:26:17 → 00:26:19 สามารถลดยายาไปได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็น
00:26:19 → 00:26:23 ไปได้หรือไม่ต้องใช้ยาเลยอ่าถ้าเป็นคำตอบ
00:26:23 → 00:26:26 ที่ดีที่สุดแต่ว่าอันเนี้ยลักษณะแบบเนี้ย
00:26:26 → 00:26:29 มันคือหัวใจของศาสตร์การรักษาแบบ
00:26:29 → 00:26:32 ไลฟ์สไตล์ medicine หรือเปล่าหรืออะไรคือ
00:26:32 → 00:26:35 หัวใจของศาสตร์นี้อ่ะคะ
00:26:35 → 00:26:38 ค่ะคืออย่างงี้ไสล medicine ที่เข้ามา
00:26:39 → 00:26:42 เนี่ยค่ะชื่อเค้าก็บอกนะว่าค่ะมันเป็น
00:26:42 → 00:26:47 เรื่องของไลฟ์สไตล์ที่คุณจะต้องนำมาใช้
00:26:47 → 00:26:51 กรณีที่ยกยกตัวอย่างเช่นแพทย์ให้ยามาถูก
00:26:51 → 00:26:56 มั้ยคะค่ะครับเพื่อควบคุมอาการเพื่อรักษา
00:26:56 → 00:27:01 คำว่ารักษาคือทำให้มันให้มันอยู่ในสภาวะ
00:27:01 → 00:27:04 ที่เป็นปกติที่สุดโดยการใช้ยาโดยการที่ยา
00:27:04 → 00:27:08 เนี่ยเข้าไปทำบางสิ่งบางอย่างถูกมั้ยครับ
00:27:08 → 00:27:10 คราวนี้
00:27:10 → 00:27:15 ถ้าคุณหยุดยาโดยที่ไม่มีพฤติกรรมอย่าง
00:27:15 → 00:27:19 อื่นเข้ามาทดแทนอือืถูกมั้ยถ้าคุณยังมี
00:27:19 → 00:27:23 พฤติกรรมเดิมค่ะคุณก็จำเป็นที่จะต้องใช้
00:27:23 → 00:27:28 ยาแต่ถ้ามีทางเลือกที่คุณจะปรับ
00:27:28 → 00:27:34 พฤติกรรมยาก็จะสามารถลดลงหรือปรับได้ซึ่ง
00:27:34 → 00:27:36 เมื่อพฤติกรรมเราเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เรา
00:27:36 → 00:27:39 เปลี่ยนน่ะค่ะ
00:27:39 → 00:27:40 ร่างกาย
00:27:40 → 00:27:45 เราเคมีในร่างกายฮอร์โมนสิ่งต่างๆที่เป็น
00:27:45 → 00:27:49 พยาธิสภาพของโรคอ่ะมันจะเปลี่ยนไปโดย
00:27:49 → 00:27:51 อัตโนมัติ
00:27:51 → 00:27:53 อืเมื่อเหตุเปลี่ยนเนี่ยผลก็เปลี่ยนถูก
00:27:53 → 00:27:57 มั้ยเพราะฉะนั้นเนี่ยมันจึงเป็นทางเลือก
00:27:57 → 00:28:02 ที่เข้ามาให้เราเนี่ยได้สามารถพิจารณาได้
00:28:02 → 00:28:04 เพิ่มว่ายกตัวอย่างเช่นเมื่อมีอาการเกิด
00:28:04 → 00:28:10 ขึ้นมาครับสมมุติว่าปวดหัวขึ้นมาไม่สบาย
00:28:10 → 00:28:18 รู้สึกอไม่ไหวและครับมีทางเลือกค่ะว่า
00:28:18 → 00:28:23 คุณจะไปรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบันคือไปหา
00:28:23 → 00:28:28 หมอปวดหัวเหรอคะอ่ะสั่งยาให้เลยค่ะปวดหัว
00:28:28 → 00:28:32 ครับถูกมั้ยก็กินยาแก้วปวดหัวอันนี้คือ
00:28:32 → 00:28:36 เบสิคง่ายๆหรือทางเลือกคือ
00:28:36 → 00:28:43 ไestล medicine อืใช้วิถีชีวิตเป็นยาเช่น
00:28:43 → 00:28:49 ปวดหัวอ้าลองมาพิจารณาว่าเอ๊ะทำไมปวดหัว
00:28:49 → 00:28:53 อ๋อเราไม่ได้นอนเลยครับถูกมั้ยหรือตื่น
00:28:53 → 00:28:59 ทั้งคืนอ่าเป็นได้หรือมีเรื่องที่ต้องตัด
00:28:59 → 00:29:01 สินใจ
00:29:01 → 00:29:06 มีเรื่องกังวลนอนไม่หลับเป็นไปได้มยต้อง
00:29:06 → 00:29:09 ส่งงานเหมือนฟรีแลนซ์อย่างเงี้ยค่ะโอ้
00:29:09 → 00:29:12 เวลางานมาก็เร่งกันเลย 3 วัน 3 คืน 7 วัน
00:29:12 → 00:29:17 7 คืนกดดันนะเออค่ะอ่ามันมีความกดดัน
00:29:17 → 00:29:21 เวลาที่เครียดเนี่ยค่ะร่างกายเนี่ยนะแม้
00:29:21 → 00:29:22 แต่
00:29:22 → 00:29:27 เราอดนอนเราขับรถมากๆเราใช้ร่างกายโดยที่
00:29:27 → 00:29:32 ไม่มีสภาวะสมดุลน่ะร่างกายก็เครียดไม่ใช่
00:29:32 → 00:29:36 แค่ว่าเรามีความทุกข์ใจนะความเครียดเนี่ย
00:29:36 → 00:29:39 ถึงแม้เราจะมีความสุขดีแต่ถ้าเราอ่ะไม่
00:29:39 → 00:29:45 กินเลยไม่นอนเลยความสมดุลก็หายความเครียด
00:29:45 → 00:29:50 ของร่างกายก็ปรากฏค่ะครับอืมันจึงมีคำถาม
00:29:50 → 00:29:54 ที่ว่าเอ๊ะแล้วคนกลุ่มไหนล่ะที่เหมาะกับ
00:29:54 → 00:29:58 การที่จะใช้ไลฟ์สไตล medicine อืเดี๋ยว
00:29:58 → 00:30:02 ถูกมไว้มาตอบกันช่วงหน้าดีกว่าค่ะครูติ๋ว
00:30:02 → 00:30:06 คะว่ากลุ่มไหนเหมาะกับการเอ่อใช้
00:30:06 → 00:30:10 ไลฟ์สไตล์เมิซีนอย่างกลุ่มผู้สูงอายุ
00:30:10 → 00:30:12 เนี่ยยังปรับเปลี่ยนทันมั้ยไปแก้ที่
00:30:12 → 00:30:16 พฤติกรรมทันหรือเปล่าอ่ะมาตอบกันจนอยู่
00:30:16 → 00:30:19 ขนาดนี้ใช่มั้ยอะไรนะคะเออเราจะไม่ต้อง
00:30:19 → 00:30:26 พึ่งยาในตอนหลังได้มั้ยอะไรอ่ะอือๆได้ค่ะ
00:30:26 → 00:30:29 ได้ๆเดี๋ยวช่วงนี้พักกันสักครู่ก่อนนะ
00:30:29 → 00:30:34 คะช่วงที่แล้วเราพูดคุยกันถึงไสลMedิซine
00:30:34 → 00:30:39 ว่าเอ่อมีแนวทางหรือรูปแบบอย่างไรบ้างการ
00:30:39 → 00:30:41 แก้ที่พฤติกรรมทำอย่างไรแล้วเดี๋ยวช่วง
00:30:41 → 00:30:44 นี้เรามาพูดคุยกันต่อว่าแล้วไลฟ์สไตล์
00:30:44 → 00:30:46 medicine เนี่ยเหมาะกับใครขวัญทิ้งคำถาม
00:30:47 → 00:30:50 ไว้กับครูติ๋วว่าแล้วผู้สูงอายุล่ะยัง
00:30:50 → 00:30:52 เปลี่ยนแก้ที่ไปแก้ที่พฤติกรรมยังทันมย
00:30:52 → 00:30:55 ยังได้มยเอออันเนี้ยไลฟ์สไตล์แมิซีนเหมาะ
00:30:55 → 00:31:00 สมกับใครคะใครทำได้
00:31:00 → 00:31:05 บ้างอ้าสัญญาณครูติ๋วน่าจะมีปัญหานะคะฮะ
00:31:05 → 00:31:10 ค่ะก็เรื่องของไลฟ์สไตล์เองจริงๆอ่ะเอ่อ
00:31:10 → 00:31:15 แต่ละช่วงช่วงวัยก็ถือว่าอืมมีความมีความ
00:31:15 → 00:31:18 เหมาะสมมากน้อยต่างกันมั้พี่ขวัญนะเพราะ
00:31:18 → 00:31:21 อย่างคุณหมออ่ะถ้าเป็นแพทย์ปัจจุบันที่
00:31:21 → 00:31:24 คุณบอกว่ามันอาจต้องใช้รูปเอ่ออย่างวัย
00:31:24 → 00:31:28 เด็กก็ระดับนึงค่ะวัยเด็กนี่ต้องต้อง
00:31:28 → 00:31:32 ระมัดระวังเรื่องของถ้ายาเกินเกินปริมาณ
00:31:32 → 00:31:35 ก็อาจจะส่งผลไม่ได้ผลดีในการรักษาก็ได้
00:31:35 → 00:31:39 ค่ะเอ่อหรือว่าใช้ยาแรงเกินไปเด็กก็อาจจะ
00:31:39 → 00:31:41 ได้รับผลเสียชมก็ได้เพราะว่าร้านขายยัง
00:31:41 → 00:31:45 อ่อนน้อยอยู่นะนะฮะวัยรุ่นวัยรุ่นก็ถือ
00:31:45 → 00:31:49 ว่าได้เป็นอีกวัยนึงที่เรียกว่าเอ่อใช้ยา
00:31:49 → 00:31:51 ได้หลากหลายแต่ว่าเพียงว่าวัยรุ่นเนี่ย
00:31:51 → 00:31:55 เป็นวัยที่ความความมั่นใจความใส่ใจตัวเอง
00:31:55 → 00:31:59 เนี่ยเอ่อก็ช่วยในความแข็งแรงแบบเอ้ยเจ็บ
00:31:59 → 00:32:01 ก็ได้ป่วยเล็กน้อยก็เป็นต้องไปไม่อยากไป
00:32:01 → 00:32:04 ขี้เกียจไปต่อคิวได้อืออย่างงี้เป็นต้นนะ
00:32:04 → 00:32:07 ติ๋วนะฮะแล้วไลฟ์สไตล์เมิซีนเหมาะกับใคร
00:32:07 → 00:32:09 ครูติ๋ว
00:32:09 → 00:32:14 อ่ะเหมาะกับทุกคนเลยค่ะที่ต้องการป้องกัน
00:32:14 → 00:32:19 โรคเมื่อสักครู่ที่ถามว่าใช่ที่ถามว่าสว.
00:32:19 → 00:32:22 ได้มั้ยสว.
00:32:22 → 00:32:27 ได้หมดเลยเคสที่พูดถึงว่าโรคหัวใจแล้ว
00:32:27 → 00:32:29 หยุดยาเนี่ยคืออย่างที่ครูเกริ่นน่ะค่ะ
00:32:29 → 00:32:33 ค่ะถ้าหยุดยาคุณจะต้องมีไลฟ์สไตล์หรือมี
00:32:33 → 00:32:37 พฤติกรรมที่มาสอดรับด้วยนะนึกออกมั้ย
00:32:37 → 00:32:38 เหมือนถ้าหยุดยาแล้วเครียดเหมือนเดิม
00:32:38 → 00:32:43 เงี้ยหยุดยาแล้วมีพฤติกรรมที่ไม่สนับสนุน
00:32:43 → 00:32:49 เช่นเอ่อดื่มแอลกอฮอล์ไม่ออกกำลังกายมี
00:32:49 → 00:32:51 ความเครียด
00:32:51 → 00:32:53 วันทั้งวันเนี่ยดื่มน้ำน้อยอะไรอย่าง
00:32:53 → 00:32:56 เงี้ยค่ะมันก็จะไม่สนับสนุนเพราะฉะนั้น
00:32:57 → 00:33:01 เนี่ยถ้าคุณจะหยุดยาคุณจึงต้องมีไลฟ์สไตล
00:33:01 → 00:33:05 medicine เนี่ยเข้ามาแทนที่อือืใช่คราว
00:33:05 → 00:33:09 นี้ถามว่าเหมาะกับใครอย่างที่บอกนะทุกคน
00:33:09 → 00:33:13 ที่ต้องการขีดชั้นใต้เลยป้องกันโรคค่ะไม่
00:33:13 → 00:33:16 ว่าจะอายุเท่าไหร่สุขภาพดีแค่ไหนการเริ่ม
00:33:16 → 00:33:20 ต้นดูแลตัวเองตั้งแต่ที่ยังไม่เจ็บป่วย
00:33:20 → 00:33:24 เนี่ยเป็นแนวทางที่ดีที่สุดวันก่อนเนี่ย
00:33:24 → 00:33:27 อ่านข้อมูลของนาย
00:33:27 → 00:33:32 แพทย์นายแพทย์เฉกท่านเคยเขียนหนังสือที่
00:33:32 → 00:33:37 บอกว่า 120 ปีทำไมจะอยู่ให้ไม่ได้อือายุ
00:33:37 → 00:33:41 ใช่มั้ยอายุใช่มั้ถูกอายุใช่ค่ะท่านมี
00:33:41 → 00:33:45 เป้าหมายไงแล้วท่านดูแลตัวเองได้ดีมาก
00:33:45 → 00:33:46 ท่านเป็นสว
00:33:46 → 00:33:49 ที่ว่ายน้ำชนะคนหนุ่ม
00:33:49 → 00:33:52 ค่ะปัญจานออกกำลังกายนี่แหละค่ะเป็นตัว
00:33:52 → 00:33:58 อย่างที่ดีมากๆเลยอือืนี่แหละที่ที่ย้ำ
00:33:58 → 00:34:01 อันเนี้ข้อนี้สำคัญที่บอกว่าทุกคนที่
00:34:01 → 00:34:05 ต้องการป้องกันโรคคือเหมาะที่จะใช้แนวทาง
00:34:05 → 00:34:09 ของไสไตล medicine แล้วยังมีอีกนะแม้จะ
00:34:09 → 00:34:14 เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังนะ
00:34:14 → 00:34:18 ค่ะก็เหมาะที่จะใช้ไสไตล medicine ไม่ว่า
00:34:18 → 00:34:21 จะเป็นเอ่อในครอบครัวเนี่ยมีประวัติเป็น
00:34:22 → 00:34:24 โรคอะไรเราเคยได้ยินมั้ยที่บอกว่าเป็น
00:34:24 → 00:34:29 พันธุกรรมอ่ะเคยได้ยินเพราะอะไรเพราะอะไร
00:34:29 → 00:34:32 อ่ะมีอะไรคะขวัญคือเหมือนกับว่ามีหลายโรค
00:34:32 → 00:34:35 ที่บอกว่าอันนี้มีสาเหตุจากพันพันธุกรรม
00:34:35 → 00:34:39 แต่ว่าจริงๆแล้วอ่ะมันก็อาจจะเป็นไปได้
00:34:39 → 00:34:42 เรื่องของความเอ่อถ่ายทอดทางพันธุกรรมแต่
00:34:42 → 00:34:45 ทั้งนี้ทั้งนั้นการใช้ชีวิตอยู่ที่เดียว
00:34:45 → 00:34:48 กันครอบครัวเดียวกันกินอาหารเหมือนกัน
00:34:48 → 00:34:52 เอ่อเอ้ใช้เวลาร่วมกันแล้วก็รับสิ่งแวด
00:34:52 → 00:34:55 ล้อมเหมือนๆกันมันก็เลยเป็นการถ่ายทอด
00:34:55 → 00:34:59 อันเนี้ยมันมันไม่น่าจะมีความเชื่อมโยง
00:34:59 → 00:35:02 กันน่ะค่ะเพราะบางครั้งอ่ะเขาอาจจะไม่ได้
00:35:02 → 00:35:05 ถ่ายบางโรคอ่ะค่ะอาจจะไม่ได้เป็นไปตามพ่อ
00:35:05 → 00:35:09 แม่ก็ได้แต่การที่เขารับประทานอาหารคล้าย
00:35:09 → 00:35:11 ๆกันเหมือนกันอย่างต่อเนื่องเนี่ยมันก็
00:35:11 → 00:35:17 เลยเป็นไปตามที่พ่อแม่เคยเป็นใช่ๆถูกต้อง
00:35:17 → 00:35:21 และคำว่าพันธุกรรมอ่ะยังมีอีกนะครับใน
00:35:21 → 00:35:26 เรื่องของสิ่งที่สำคัญมากๆอารมณ์ค่ะอือ
00:35:26 → 00:35:31 ค่ะที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นและอารมณ์นี่
00:35:31 → 00:35:36 แหละถ้าสังเกตนะสิ่งที่เราเชื่อมโยงกันมา
00:35:36 → 00:35:39 โดยตลอดพออารมณ์มันก็จะส่งผลกระทบเชื่อม
00:35:39 → 00:35:43 ลงมาค่ะฟองที่ร่างกายถูกมั้ยยกตัวอย่าง
00:35:43 → 00:35:47 เช่นพ่อแม่มีอารมณ์รุนแรง
00:35:47 → 00:35:51 อารมณ์เนี้ยก็จะถูกส่งต่อมาที่ลูกค่ะครับ
00:35:51 → 00:35:57 ใช่มั้ยคะอ่าแม่มีภาวะซึมเศร้าครับแม่ก็
00:35:57 → 00:36:00 จะส่งต่อสิ่งนี้มาสู่ลูกและสิ่งเหล่า
00:36:00 → 00:36:04 เนี้ยมันก็จะเป็นตัวที่ฟอร์มโรคต่างๆขึ้น
00:36:04 → 00:36:09 มาอืในต่างประเทศเนี่ยเาค้ามีบริษัทที่
00:36:09 → 00:36:14 รับสืบค้นประวัติของพ่อแม่เลยนะหาคู่เหรอ
00:36:14 → 00:36:17 ฮะหมายถึงว่าสืบค้นเลย
00:36:17 → 00:36:22 ว่าพ่อแม่เนี่ยเคยมีประวัติโดยละเอียด
00:36:22 → 00:36:25 อย่างไรละเอียดเลยนะใช้คำว่าโดยละเอียด
00:36:25 → 00:36:29 อ่ะคนที่สืบนี่คือคนที่เป็นลูกหรือใคร
00:36:29 → 00:36:33 เป็นคนสืบครูติวเป็นบริษัทที่รับทำงาน
00:36:33 → 00:36:38 ด้านนี้โดยเฉพาะค่ะอืมหมายถึงครูตัวลูกไป
00:36:38 → 00:36:41 จ้างให้สืบตัวลูกไปจ้างให้สืบเหรอคะตัว
00:36:41 → 00:36:45 ลูกเนี่ยไปจ้างไปจ้างบริษัทเนี้ยให้ทำ
00:36:45 → 00:36:46 สิ่ง
00:36:46 → 00:36:51 เค้าเรียกว่าเหมือนเป็นการสืบค้นเป็นการ
00:36:51 → 00:36:54 คำว่าสืบค้นนี่ไม่ใช่เป็นสายสืบแบบทั่วไป
00:36:54 → 00:36:57 นะแต่สืบค้นเนี่ยคือไปสืบประวัติเช่นยก
00:36:57 → 00:37:02 ตัวอย่างเช่นอ่ะสมมุตินะครับเอ่อพ่อแม่
00:37:02 → 00:37:05 เราป่วยเป็นโรคเนี้ยเขาก็จะมีพฤติกรรมบาง
00:37:05 → 00:37:10 อย่างที่บางครั้งอ่ะค่ะพ่อแม่ก็ลืมแล้วก็
00:37:10 → 00:37:13 ไม่สามารถเล่าเรื่องนี้ให้ลูกได้ครับค่ะ
00:37:13 → 00:37:16 แต่ความเป็นมืออาชีพที่ทำงานด้านเนี้ย
00:37:16 → 00:37:22 เค้าจะสามารถสืบค้นโดยละเอียดค่ะมันก็จะ
00:37:22 → 00:37:27 คล้ายๆการบำบัดที่มันจะมีการต้นตออ๋อเข้า
00:37:27 → 00:37:30 ใจแล้วตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าไปสืบทำไมพ่อ
00:37:30 → 00:37:35 แม่อยู่ก็ถามสิอ๋อค่ะเอ้ยแต่ผมเคยเจออีก
00:37:35 → 00:37:37 อีกงานนึงนะเป็นการงานสืบอย่างนี้เหมือน
00:37:37 → 00:37:41 กันเลยครับแต่ว่าเป็นสืบเอ่อเหมือนกับว่า
00:37:41 → 00:37:45 ค้นหาประวัติของคู่ตัวเองอ่ะโดยเฉพาะใน
00:37:45 → 00:37:48 ต่างประเทศที่เป็นแบบเอ่อเขาเรียกว่านัด
00:37:48 → 00:37:52 เดชนัดก่อนในการที่จะเจอแบบพูดอะไรเงี้ย
00:37:52 → 00:37:56 เขาจะมีการแบบเอ่อกว่าจะตกลงตรงใจแต่งงาน
00:37:56 → 00:37:59 กันได้เ่อบางคนเขาท่านแบบจ้างบริษัทที่
00:37:59 → 00:38:04 แบบสืบประวัติคู่เพื่อจะดูว่าเอ่อประวัติ
00:38:04 → 00:38:08 ก็ทางตระกูลเป็นยังไงอารมณ์อารมณ์ของคนใน
00:38:08 → 00:38:10 ครอบครัวเป็นยังไงอะไรเงี้ยเพื่อที่จะแบบ
00:38:10 → 00:38:13 ดูว่าเหมาะเหมาะมั้ที่จะตัดสินใจร่วม
00:38:13 → 00:38:17 ชีวิตใช่คล้ายๆกันเนาะใช่ค่ะคล้ายๆกัน
00:38:17 → 00:38:21 แล้วก็มีประโยชน์เช่นเดียวกันใช่ค่ะอ่า
00:38:21 → 00:38:25 มันจะมีแพทเทิร์นเลยนะฮะมีเลยพระในเรื่อง
00:38:25 → 00:38:29 เอ่อครอบครัวเช่นสมมุติว่าพ่อแม่เคยแต่ง
00:38:29 → 00:38:32 งานกันด้วยเหตุผลนี้ค่ะตกมาที่รุ่นลูกก็
00:38:32 → 00:38:37 เป็นเหตุผลนี้แม่เคยมีปัญหานี้รุ่นลูกก็
00:38:37 → 00:38:40 จะมีปัญหาเดิมซ้ำรอยแม่มีเหมือน
00:38:40 → 00:38:44 กันลักษณะเนี้ยเกิดขึ้นเยอะมากอือ่ะ
00:38:44 → 00:38:46 เดี๋ยวด้วยเวลาที่จำกัดครูจะไปแบบรวดเร็ว
00:38:46 → 00:38:49 หน่อยแล้วกันเนาะเรายังไม่ค่ะเรายังไม่คบ
00:38:49 → 00:38:53 เลยว่ากลุ่มคนที่เหมาะที่จะเริ่มดูแลด้วย
00:38:53 → 00:38:56 แนวทางของไสไตล medicine เมื่อกี้เราพูด
00:38:56 → 00:38:59 ถึงทุกคนที่ต้องการป้องกันโรค 2 ผู้ที่มี
00:38:59 → 00:39:02 ความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังที่อาจจะมี
00:39:02 → 00:39:05 ประวัติครอบครัวเคยเป็นความดันเบาหวานหัว
00:39:05 → 00:39:07 ใจโรคอ้วนเนี่ยค่ะและเหมือนที่ขวัญพูดเลย
00:39:07 → 00:39:10 ว่าอาหารที่กินเหมือนกันสิ่งแวดล้อม
00:39:10 → 00:39:13 เหมือนกันนี่แหละคือส่วนของกรรมพันธ์
00:39:13 → 00:39:19 พฤติกรรมที่มันเป็นวัฏจักรเป็นวงจรสืบจาก
00:39:19 → 00:39:22 รุ่นสู่รุ่นเนี่ยก็จะเป็นต่อและอย่างที่ 3
00:39:22 → 00:39:26 นะคะผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังแล้วก็เหมาะที่
00:39:26 → 00:39:30 จะมาให้ไสไตล medicine เนี่ยดูแลโดยเฉพาะ
00:39:30 → 00:39:35 โรคที่มีมาที่มีสาเหตุเนี่ยมาจากการใช้
00:39:35 → 00:39:39 วิถีชีวิตเช่นโรคความดันโรคเบาหวานโรคหัว
00:39:39 → 00:39:42 ใจโรคอ้วนโรคไขมันในเลือดเลือดลักษณะ
00:39:42 → 00:39:46 เนี้ยค่ะโรคเหล่าเนี้ยควรจะมาใช้ไสล
00:39:46 → 00:39:49 medicine ในการดูแล
00:39:49 → 00:39:54 หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตมีภาวะความ
00:39:54 → 00:39:57 เครียดความวิตกกังวลภาวะซึมเศร้าเหล่า
00:39:57 → 00:40:01 เนี้ยเอ่อไลฟ์สไตนmedicิซineจะช่วยได้มาก
00:40:01 → 00:40:06 ครับและที่สำคัญผู้ที่มีปัญหาการนอนไม่
00:40:06 → 00:40:11 หลับเหลือรังอืค่ะอืผู้สูงอายุเพราะอะไร
00:40:12 → 00:40:16 ผู้สูงอายุเนี่ยท่านก็จะมีเอ่อพฤติกรรม
00:40:16 → 00:40:19 ที่สั่งสมมานานและเพราะฉะนั้นเนี่ยการที่
00:40:19 → 00:40:22 มาปรับไลฟ์สไตล์เนี่ยก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพ
00:40:22 → 00:40:28 ชีวิตได้ค่ะอ่าครับอ่าและข้อสำคัญอีก 2
00:40:28 → 00:40:31 ข้อสุดท้ายนะที่เหมาะเลยนะก็คือผู้ที่
00:40:31 → 00:40:37 ต้องการฟื้นฟูสุขภาพหลังการเจ็บป่วยที่
00:40:37 → 00:40:41 พักฟื้นไปเนี่ยเป็นโอกาสดีเลยที่จะจะได้
00:40:41 → 00:40:45 มาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เปลี่ยนวิถีชีวิตพอ
00:40:45 → 00:40:46 เปลี่ยน
00:40:46 → 00:40:51 สาเหตุผลลัพธ์ก็เปลี่ยนค่ะค่ะอืสิ่งสำคัญ
00:40:51 → 00:40:54 ที่ต้องเข้าใจก็คือไสล medicine
00:40:54 → 00:41:00 เนี่ยคือไม่ได้เฉพาะเจจงกับกลุ่มใดกลุ่ม
00:41:00 → 00:41:03 หนึ่งโดยเฉพาะแต่เป็นแนวทางที่ทุกคน
00:41:03 → 00:41:07 สามารถนำมาปรับใช้ได้เพียงแค่เอ่อรู้วิธี
00:41:07 → 00:41:11 การแล้วก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนก็สามารถที่
00:41:11 → 00:41:17 จะซัพพอร์ตได้ในทุกช่วงวัยคือตั้งแต่เด็ก
00:41:17 → 00:41:21 ยันแก่เนี่ยสามารถใช้ไสไตล์ medicine ได้
00:41:21 → 00:41:24 เพื่ออะไรเพื่อที่มาปรับให้ร่างกายจิตใจ
00:41:24 → 00:41:28 เนี่ยเกิดความสมดุลค่ะและที่สำคัญนะแม้
00:41:28 → 00:41:32 ว่าใครที่จะเริ่มต้นด้วยเริ่มต้นดูแลตัว
00:41:32 → 00:41:36 เองหรือแม้แต่คนที่มีโรคประจำตัวเนี่ยก็
00:41:36 → 00:41:38 สามารถเค้าเรียกว่าอาจจะไปปรึกษาแพทย์
00:41:38 → 00:41:42 ก่อนก็ได้นะไปปรึกษาแพทย์แพทย์ก่อนแล้วก็
00:41:42 → 00:41:46 ถึงมาค่อยๆปรับวิถีชีวิตซึ่งคุณหมอใน
00:41:46 → 00:41:49 ปัจจุบันก็น่ารักมากๆแพทย์ในปัจจุบัน
00:41:49 → 00:41:54 เนี่ยนะก็จะมีมีหลักอย่างหนึ่งก็จะลดการ
00:41:55 → 00:41:58 ใช้ยาเหมือนกันถ้าไม่จำเป็นคุณหมอก็จะไม่
00:41:58 → 00:42:05 ได้ให้ยามากนะครับอืเนี่ยก็จะค่อยๆปรับมา
00:42:05 → 00:42:07 สู่ไสไตล์ medicine
00:42:07 → 00:42:12 ซึ่งเอ่อความเป็นไลฟ์สไตล์เมิซีนเนี่ยตัว
00:42:12 → 00:42:15 เอ่อผู้เข้ารับการรักษาเนี่ยก็จะต้อง
00:42:15 → 00:42:19 ประเมินสถานะของตัวเองด้วยนะเช่นมีการ
00:42:19 → 00:42:24 เอ่อเช็คสุขภาพสังเกตพฤติกรรมของตัวเอง
00:42:24 → 00:42:28 สังเกตว่าอาหารที่เรากินคืออะไรเราออก
00:42:28 → 00:42:30 กำลังกายบ้างมั้ยความเครียดของเราเป็น
00:42:30 → 00:42:35 อย่างไรการนอนหลับของเราเนี่ยมันอยู่ใน
00:42:35 → 00:42:39 เอ่อคุณภาพที่โอเคมยเช่นมีการหลับยาวยาว
00:42:40 → 00:42:42 หลับลึกอะไรแบบเนี้ยมันจะต้องมีการ
00:42:42 → 00:42:45 ประเมินตัวเองและที่สำคัญเราก็ต้องตั้ง
00:42:45 → 00:42:49 เป้าหมายด้วยนะเออเป้าหมายในการที่
00:42:49 → 00:42:54 จะใส่ใจตัวเองว่าเราจะออกกำลังกายแค่ไหน
00:42:55 → 00:42:58 เราจะขับถ่ายอย่างไร
00:42:58 → 00:42:59 5อ
00:42:59 → 00:43:04 ยังสำคัญและใช้ได้อาหารอากาศอารมณ์ออก
00:43:04 → 00:43:10 กำลังกายและอีกออนึงนะที่สำคัญนะคืออะไร
00:43:10 → 00:43:13 อุจจาระค่ะอื
00:43:13 → 00:43:16 อืมอุจจาระเนี่ยเป็นเรื่องที่สำคัญมากมัน
00:43:16 → 00:43:19 ต้องกินอิ่มนอนหลับขับถ่ายสะดวกนะ
00:43:19 → 00:43:24 ไลฟ์สไตล์เราถึงจะดีครับอ่าแล้วที่สำคัญ
00:43:24 → 00:43:27 ก็คือในเรื่องของการจัดการความเครียดค่ะ
00:43:27 → 00:43:32 อืมนี่แหละที่มันจะทำให้ไลฟ์สไตล์
00:43:32 → 00:43:36 medicine ของเราเนี่ยส่งผลเขาเรียกว่า
00:43:36 → 00:43:41 ได้ผลลัพธ์อย่างดีจนสามารถที่จะลดการใช้
00:43:41 → 00:43:45 ยาลงไปในชีวิตของเราได้แพทย์ท่านนึงเนี่ย
00:43:45 → 00:43:48 พูดได้น่ารักมากเลยอ่ะท่านบอกว่าเรา
00:43:48 → 00:43:52 สามารถมีสุขภาพดีโดยที่ไม่ต้องใช้ยาเลย
00:43:52 → 00:43:59 และมีสุขภาพดียันนาทีสุดท้ายได้ด้วยอือื
00:44:00 → 00:44:04 ถือว่าเป็นเรื่องที่ใครหลายๆคนแหละทุกคน
00:44:04 → 00:44:07 แหละอยากสุขภาพดีจนนาทีสุดท้ายของชีวิต
00:44:07 → 00:44:10 อ่ะไม่มีใครอยากเจ็บป่วยแล้วก็จากโลกนี้
00:44:10 → 00:44:14 ไปด้วยด้วยความเจ็บปวดอ่ะค่ะแล้วตัว
00:44:14 → 00:44:18 ไสไตล์ medicine เนี่ยคือมันปรับเปลี่ยน
00:44:18 → 00:44:21 พฤติกรรมครูติ๋วมันมันเป็นเรื่องที่ค่อน
00:44:21 → 00:44:24 ข้างยากอยู่เหมือนกันนะเหมือนเรารู้อยู่
00:44:24 → 00:44:28 อ่ะอ่าว่าออกกำลังกายมันดีนะเอ่อการไปรับ
00:44:28 → 00:44:33 แสงแดดตอนเช้ามันดีนะการของทอดมันไม่ดี
00:44:33 → 00:44:36 อย่ากินเลยอันเนี้ยเรารู้หมดเลยข้อมูลต
00:44:36 → 00:44:38 ต่างๆเหล่าเนี้ยแต่ทำยาก
00:44:38 → 00:44:41 มันมีวิธีอะไรที่ทำให้เราจูงใจมันให้แบบ
00:44:41 → 00:44:46 สามารถเอ่อทำได้ง่ายขึ้นสักนิดคะเราต้อง
00:44:47 → 00:44:50 ยอมรับกันก่อนมั้ยอ้าอ
00:44:50 → 00:44:55 เทปโอ๊คมาแล้วออมาแล้วมานัจะพี่พี่ขวัญ
00:44:55 → 00:44:59 ให้ชมกันค่ะถูกต้องถูกต้องอ่ะอย่างแรกก็
00:44:59 → 00:45:02 ยอมรับและยอมรับที่จะตั้งใจที่จะเปลี่ยน
00:45:02 → 00:45:06 แปลงพฤติกรรมอซึ่งมันต้องเริ่มจากนี่เลย
00:45:06 → 00:45:11 ค่ะ Awareness อืเราอ่ะจะต้องมีการ
00:45:11 → 00:45:13 ตระหนักรู้ค่ะตระหนักรู้ว่ามันเป็นเรื่อง
00:45:13 → 00:45:18 สำคัญนะที่เราจะต้องเริ่มที่จะเปลี่ยน
00:45:18 → 00:45:22 แปลงครับแล้วก็เริ่มต้นจากการยอมรับเลย
00:45:22 → 00:45:25 อ่าเห็นมั้ยเทพโอ๊คมาและเราต้องยอมรับ
00:45:25 → 00:45:28 ความจริงว่าพฤติกรรมในปัจจุบันของเรา
00:45:28 → 00:45:33 เนี่ยมันส่งผลอย่างไรต่อชีวิตต่อสุขภาพ
00:45:33 → 00:45:35 ค่ะครับถูกมั้ย
00:45:35 → 00:45:39 พอเรารู้ความจริงแล้วอ่ะมันก็จะเห็นการ
00:45:39 → 00:45:43 เชื่อมโยงว่าเฮ้ยเรามีพฤติกรรมในอดีต
00:45:43 → 00:45:46 อย่างไรปัจจุบันเป็นอย่างไรและถ้าอนาคต
00:45:46 → 00:45:49 เราต้องการเปลี่ยนแปลงเนี่ยมันก็จะทำได้
00:45:49 → 00:45:53 ง่ายขึ้นนั่นก็คือการที่ตระหนักรู้ในตัว
00:45:53 → 00:45:59 เองหรือเข้ามาสังเกตตัวเองถูกมั้ยอ
00:45:59 → 00:46:03 ค่ะสังเกตแล้วว่าตัวเองมีอาการแบบนี้เอ้ย
00:46:03 → 00:46:07 ควรจะทำไงต่อใช่แล้วใช่แล้วใช่แล้วเนี่ย
00:46:07 → 00:46:09 แหละมันก็เหมือนที่เรา stop เนาะแล้วก็
00:46:09 → 00:46:13 กลับมาสังเกตตัวเองว่าเอ้ยเรารู้สึกอะไร
00:46:13 → 00:46:17 ยังไงค่ะพอเราพอเราเอ่อเริ่มตระหนักรู้
00:46:17 → 00:46:21 แล้วอ่ะค่ะเราก็จะต้องมีความตั้งใจนิดนึง
00:46:21 → 00:46:25 เหมือนที่ขวัญบอกแล้วว่าวินัยเนาะค่ะมี
00:46:25 → 00:46:30 ความตั้งใจที่แท้จริงที่ต้องมา
00:46:30 → 00:46:34 จากเอ่อพลังจากภายในอ่ะมาจากความปรารถนา
00:46:34 → 00:46:37 ในตัวเองปนาอือค่ะอ่าคือมันต้องเริ่มจาก
00:46:38 → 00:46:42 ตัวเองอ่ะไม่ใช่ว่ามีใครมาบอกไม่ใช่มีคน
00:46:43 → 00:46:47 ในครอบครัวมากดดันคนในที่ทำงานมากดดันแต่
00:46:47 → 00:46:49 มันจะต้องมา
00:46:49 → 00:46:53 จากภายในของเราครับมาจากความต้องการของ
00:46:53 → 00:46:55 เราค่ะและ
00:46:55 → 00:46:58 การเชื่อมโยงถึงการเปลี่ยนแปลงอ่ะมันจะ
00:46:58 → 00:46:59 เกิดขึ้น
00:46:59 → 00:47:03 ว่าค่านิยมของเราที่เราให้ความสำคัญน่ะ
00:47:03 → 00:47:08 เช่นถ้าเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับ
00:47:08 → 00:47:13 สุขภาพถูกมั้ยค่ะครับมันก็จะอยากทำให้ตัว
00:47:13 → 00:47:17 เองอ่ะมีสุขภาพดีอ่ะครับอือืซึ่งตรงเนี้ย
00:47:17 → 00:47:21 นะมันจะเชื่อมไปถึงตรงนี้ภาษาจิตวิทยาเขา
00:47:21 → 00:47:23 เรียกบิ๊กวาย
00:47:23 → 00:47:27 ด้วยมันต้องมีเหตุผลที่ใหญ่ค่ะเหตุผลที่
00:47:27 → 00:47:30 แรงพอว่า
00:47:30 → 00:47:33 การค้นหาแล้วก็เข้าใจเหตุเหตุผลที่ลึก
00:47:33 → 00:47:35 ซึ้งว่าทำไมคุณถึงอยากเปลี่ยนแปลงแล้ว
00:47:35 → 00:47:39 เปลี่ยนแปลงแล้วคุณจะได้อะไรถูกมั้ยอ่า
00:47:39 → 00:47:41 อ่าเป็นยังไงต้องมีเป้าหมายต้องมีเป้า
00:47:41 → 00:47:45 หมายอ่ะอย่างอ่ะยกตัวอย่างตัวเองก็ได้อ่ะ
00:47:45 → 00:47:49 น้ำหนักเกินมาเยอะและรู้สึกอืก็ไม่ได้รู้
00:47:49 → 00:47:52 สึกเดือดร้อนอะไรจนกระทั่งเจ็บหัวเข่าอ่า
00:47:52 → 00:47:55 อันเนี้ยมันก็เลยเป็นเหมือนเป็นเป้าใหญ่
00:47:55 → 00:47:58 แล้วว่าถ้าฉันยังไม่ลดน้ำหนักหมายความว่า
00:47:58 → 00:48:02 ฉันจะเจ็บเข่าต่อไปแล้วตอนยามแก่ฉันจะอาจ
00:48:02 → 00:48:06 จะมีข้อเข่าเสื่อมมันก็มันเหมือนเป็นเห็น
00:48:06 → 00:48:10 ๆอนาคตอยู่ว่าถ้าทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ
00:48:10 → 00:48:13 เนี่ยรับรองได้ว่าอนาคตจะไม่ผิดคลาดจาก
00:48:13 → 00:48:15 นี้แน่นอนถ้าคุณยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม
00:48:15 → 00:48:18 อันเนี้ยเป็นแบบนั้นมั้คะที่การวางเป้า
00:48:18 → 00:48:21 มองเป้าของตัวเองอ่ะค่ะครูติ๋ว
00:48:21 → 00:48:24 ถูกต้องเลยค่ะมันถึงจะต้อง
00:48:24 → 00:48:29 มีวิธีการปรับความคิดและพฤติกรรมไงค่ะ
00:48:29 → 00:48:33 ครับอ่าพอเรามาปรับความคิดและพฤติกรรมนะ
00:48:33 → 00:48:37 มันก็จะต้องมีการสร้างกิจวัตรเหมือนกัน
00:48:37 → 00:48:42 นะอ่าสร้างกิจวัตรว่าเราจะนอนตอนไหนตื่น
00:48:42 → 00:48:50 ตอนไหนค่ะมันจะมีการจัดสภาพแวดล้อมที่
00:48:50 → 00:48:56 เอื้ออำนวยอืสิ่งที่ให้ความสำคัญมากๆนะ
00:48:56 → 00:49:00 ที่ครูเกินไปเนี่ยค่ะการนอนเนี่ยนะมัน
00:49:00 → 00:49:04 เป็นเรื่องที่สำคัญขันมากพฤติกรรมแรกที่
00:49:04 → 00:49:09 เราควรจะปรับคือการนอนพอเราปรับเรื่องการ
00:49:09 → 00:49:12 นอนได้เนี่ยค่ะเหมือนเราสร้างสภาวะให้
00:49:12 → 00:49:15 ร่างกายเนี่ยมันได้มี
00:49:15 → 00:49:19 การเยียวยาโดย
00:49:19 → 00:49:24 ธรรมชาติมันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ว่า
00:49:24 → 00:49:28 แค่นอนเปลี่ยนชีวิตสังเกตมั้ยเวลาที่คน
00:49:28 → 00:49:31 ป่วยแล้วเข้าโรงพยาบาลเนี่ยค่ะโรงพยาบาล
00:49:31 → 00:49:36 เค้าจะให้เรานอนเวลาเท่าไหร่อืม 20:00 19
00:49:36 → 00:49:39 20:00 น. 20:00 น.อ่ะค่ะเค้าจะเริ่มแบบ
00:49:39 → 00:49:44 ปิดไฟถ้านอนห้องรวมนะคะครูติ๋วอืมถูกมั้ย
00:49:44 → 00:49:47 ค่ะอ่า 20:00 น.
00:49:47 → 00:49:51 เนี่ยถ้าเป็นห้องรวมก็หญ้าห้ามเยี่ยมและ
00:49:51 → 00:49:56 ใช่ใช่อ้าอันเนี้ยค่ะเป็นการปรับพฤติกรรม
00:49:56 → 00:50:02 ที่จะส่งผลดีและง่ายซึ่งคนอาจจะทำยากนิด
00:50:02 → 00:50:05 นึงมันจึงต้องใช้คำว่าวินัยที่เข้ามา
00:50:05 → 00:50:09 เกี่ยวและมันจะต้องมีแชionในการที่คุณจะ
00:50:09 → 00:50:12 สุขภาพดีไปทำไมตรงนี้ก็เป็นเรื่องของ
00:50:12 → 00:50:15 mindsตที่เราจะต้องมาปรับพฤติกรรมทางด้าน
00:50:15 → 00:50:20 ความคิดด้วยค่ะอือ่ะเทคนิคอ่าเดี๋ยวครูจะ
00:50:20 → 00:50:25 ให้เทคนิคเลยะกันเทคนิคการปรับความคิด
00:50:25 → 00:50:27 นะทำอย่าง
00:50:27 → 00:50:33 ไรที่เราจะผ่อนคลายเทคนิคผ่อนคลายมันคือ
00:50:33 → 00:50:38 การสแกนร่างกายค่ะที่เราอ่ะสามารถ
00:50:38 → 00:50:42 จินตนาการสแกนให้ร่างกายเนี่ยผ่อนคลาย
00:50:42 → 00:50:47 ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าค่ะพอผ่อนคลาย
00:50:47 → 00:50:51 เนี่ยความคิดมันจะเปลี่ยน
00:50:51 → 00:50:54 อัตโนมัติเวลาที่เราจัดการความคิดถึงความ
00:50:54 → 00:50:55 วิตก
00:50:55 → 00:51:00 กังวลมันจะสามารถคือถ้าเราจัดการความคิด
00:51:00 → 00:51:04 เรื่องวิตกกังวลได้เนี่ยนะมันจะมีผลอย่าง
00:51:04 → 00:51:06 มากเลยและสิ่งนึงที่ช่วยได้เหมือนที่เรา
00:51:06 → 00:51:09 คุยกันในสัปดาห์ที่แล้วนะคือการเขียนมัน
00:51:09 → 00:51:14 ออกมาค่ะอืใช่ค่ะเขียนอ่าจดบันทึกเลยเรา
00:51:14 → 00:51:17 มีเรื่องกังวลเรื่องอะไรมีงานอะไรที่ยัง
00:51:17 → 00:51:18 ไม่ได้
00:51:18 → 00:51:22 ทำคิดมันซะก่อนเลยแล้วก็ฝึกที่จะยอมรับ
00:51:23 → 00:51:24 ง่าย
00:51:24 → 00:51:28 ๆสิ่งเหล่าเนี้ยมันจะช่วยให้พฤติกรรมต่าง
00:51:28 → 00:51:32 ๆของเราค่อยๆขยับแม้แต่การบำบัดความคิด
00:51:32 → 00:51:35 และพฤติกรรม CBT ที่เราเคยคุยกันไปแล้ว
00:51:35 → 00:51:38 เนี่ยค่ะก็สามารถนำเทคนิคต่างๆเนี่ยเข้า
00:51:38 → 00:51:43 มาใช้เพื่ออะไรเพื่อมาจัดการให้ความ
00:51:43 → 00:51:45 เครียดของเราอ่ะมันลดลงเพราะความเครียด
00:51:45 → 00:51:50 เนี่ยเป็นสาเหตุสำคัญเป็นต้นเหตุพอเวลา
00:51:50 → 00:51:53 เครียดร่างกายเราก็เป็นกฎและเนี่ยเป็น
00:51:53 → 00:51:56 ส่วนสำคัญของการใช้ไสล medicine ถ้า
00:51:56 → 00:51:59 คีย์เวิร์ดที่ครูจะให้ง่ายๆนะทำอย่างไร
00:51:59 → 00:52:02 ที่เรามีความสุขมีความสุขเราก็ไม่เครียด
00:52:02 → 00:52:06 นั่นแหละพอร่างกายเรามีความสุขนะเคมีใน
00:52:06 → 00:52:09 ร่างกายเซลล์ในร่างกายมันจะเกิดการจัด
00:52:09 → 00:52:16 เรียงโดยอัตโนมัติค่ะขวัญอืค่ะก็บกทำให้
00:52:16 → 00:52:20 จิตใจเราสงบแล้วอืทำให้เรารู้สึกมีความ
00:52:20 → 00:52:23 สุขอย่างที่โอ๊คพูดตอนต้นว่าได้แลก
00:52:23 → 00:52:26 เปลี่ยนเติมเต็มกำลังใจให้กันในเวลาที่
00:52:26 → 00:52:28 ได้พบกับเครือญาติมันก็เป็นอย่างนึงใช่
00:52:28 → 00:52:32 มั้คะครูติ๋วใช่ครูถึงเกริ่นตั้งแต่แรก
00:52:32 → 00:52:34 เลยว่ามันเป็นบีอนก่อนที่เราจะมาคุย
00:52:34 → 00:52:37 เรื่องไลฟ์สไตล์medิซีนเลยเพราะการที่เรา
00:52:37 → 00:52:40 มีความสุขไม่ว่าจะเป็นจากการที่เราได้คุย
00:52:40 → 00:52:43 กับญาติรู้สึกว่าคุณโอ๊คจะใช้คำว่าอะไรนะ
00:52:43 → 00:52:46 แลกเปลี่ยนกำลังใจอะไรหรือเปล่าตรงเนี้ย
00:52:46 → 00:52:49 มันสำคัญมากๆนะพอคุณกำลังใจดีคุณมีความ
00:52:49 → 00:52:52 สุขพอมีความสุขแล้วเนี่ยร่างกายเราอ่ะมัน
00:52:52 → 00:52:58 จะจัดสรรให้เราเองครับอืค่ะถูกมั้ยก็ถือ
00:52:58 → 00:53:02 ว่าวิถีชีวิตที่ถ้าเป็นไปด้วยไสไตล
00:53:02 → 00:53:05 medicine เนี่ยก็เป็นการแก้ปัญหาที่
00:53:05 → 00:53:09 สาเหตุแล้วก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทำให้เรา
00:53:09 → 00:53:14 มีชีวิตได้สุขภาพดียืนยาวแล้วก็ยั่งยืน
00:53:14 → 00:53:17 แบบเหมือนกับว่าจริงคือแบบถาวรน่ะไม่ใช่
00:53:17 → 00:53:20 แบบว่ารับประทานยาแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป
00:53:20 → 00:53:24 อาการหายแต่ว่าเราไม่ได้แก้ที่สาเหตุจริง
00:53:24 → 00:53:26 ๆเดี๋ยวเขาก็กลับมาใหม่อันเนี้ใช่มั้ยคะ
00:53:26 → 00:53:29 คุณจิ๋วใช่ถูกต้องเลยมีการเปรียบเปยที่
00:53:29 → 00:53:33 เคยเกิดขึ้นนะเขาบอกว่าเหมือนการทุบ
00:53:33 → 00:53:38 สังกสีอ่ะการกินยาที่เอ่อทุบสังกสีอ่ะ
00:53:38 → 00:53:41 ครับมันจะเหมือนยุบลงไปแล้วมันก็จะปวดอีก
00:53:41 → 00:53:44 ข้างนึงอ่ะปวดอ๋อนึกออกมั้อ่าคราวนี้การ
00:53:44 → 00:53:48 กินยาเนี่ยกินยาเนี่ยเหมือนจะไปรักษา
00:53:48 → 00:53:53 อาการแต่พอหยุดกินยาหรือแม้กระทั่งกินยา
00:53:53 → 00:53:56 ไปรักษาอาการตรงนี้แต่ก็จะไปมีอาการอัน
00:53:56 → 00:53:59 อื่นเพิ่มขึ้นนะเหมือนกินยารักษาบางอย่าง
00:53:59 → 00:54:02 แต่ไตทำงานดักสุดท้ายก็ต้องไปรักษาไตอีก
00:54:02 → 00:54:06 อ่าอันนี้ก็แก้ปัญหากันเหมือนเป็นแบบลูก
00:54:06 → 00:54:08 โซ่อ่ะนะคะแต่ว่าถ้าเป็นไลฟ์สไตล์medิซีน
00:54:08 → 00:54:11 เนี่ยก็แก้ปัญหากันที่สาเหตุเลยสำหรับ
00:54:11 → 00:54:14 เรื่องดีๆวันนี้ก็ขอบคุณครูติ๋วมากเลยค่ะ
00:54:14 → 00:54:17 ที่มามอบความรู้แล้วก็สาระดีๆให้กับราย
00:54:18 → 00:54:21 การสุขภาพดี 22:00 น.นะคะขวัญโอ๊คแล้วก็
00:54:21 → 00:54:24 ครูติ๋วลาคุณผู้ฟังไปก่อนเลยวันนี้หมด
00:54:24 → 00:54:27 เวลาแล้วจริงๆครูติ๋วขาได้เลยแล้วพบกัน
00:54:27 → 00:54:30 สัปดาห์หน้าค่ะครับพบกันวันจันทร์หน้านะ
00:54:30 → 00:54:33 คะสำหรับรายการสุขภาพดี 22:00 น.วันนี้
00:54:33 → 00:54:35 เราทั้ง 3 คนลาคุณผู้ฟังไปก่อนนะคะสวัสดี
00:54:35 → 00:54:40 ค่ะสวัสดีครับสวัสดีค่ะสวัสดี