00:00:00 → 00:00:03 This is Thai PBS podcast. Vi the
00:00:03 → 00:00:06 world by the voice
00:00:06 → 00:00:08 การหมดใจครับมันก็คือสิ่งนั้นเหมือนจะมี
00:00:08 → 00:00:10 ความหมายกับเราน้อยลงหรือกระทั่งหมดความ
00:00:10 → 00:00:11 หมายกับเราก็ได้แล้วเราก็จะไม่ได้เห็น
00:00:11 → 00:00:13 ความหวังหรือเห็นประโยชน์อะไรกับการไป
00:00:13 → 00:00:15 ยุ่งกับสิ่งนั้นเพราะรู้สึกว่าเหมือนทำไป
00:00:15 → 00:00:18 ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรไม่ได้ดีขึ้นหมดใจ
00:00:18 → 00:00:20 กับเลิกสนใจเนี่ยบางทีเลิกสนใจอาจจะเป็น
00:00:20 → 00:00:22 แค่แบบเหอชั่วคราวเพราะว่าความหมดใจมันจะ
00:00:22 → 00:00:26 มีความเซ็งความเบื่อความรู้สึกผิดหวัง
00:00:26 → 00:00:28 ความไม่ได้ดั่งใจบางอย่างไอ้พวกนี้มันจะ
00:00:28 → 00:00:31 ค่อยๆกัดกินกัดกล่อนจากเดิมที่เรารู้สึก
00:00:31 → 00:00:33 อยากจะใส่ใจหรือเห็นความหวังกับมันอย่าง
00:00:33 → 00:00:35 เงี้ยครับมันจะค่อยๆหายไปจนกระทั่งรู้สึก
00:00:35 → 00:00:37 ว่าแบบไม่มีประโยชน์ะไม่เอาดีกว่าแต่บาง
00:00:37 → 00:00:39 ครั้งอาจจะเป็นเราเองที่ท็อกสิคใส่คนอื่น
00:00:39 → 00:00:42 ตัวเราอาจจะไม่ได้ให้บางสิ่งที่อีกฝ่าย
00:00:42 → 00:00:47 กำลังปรารถนาเลยทำให้คนอื่นหมดใจกับเรา
00:00:47 → 00:00:50 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:50 → 00:00:54 การโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงษ์สถิตพรค่ะ
00:00:54 → 00:00:57 This is Thai PBS Podcast วันนี้เรา
00:00:57 → 00:01:01 พูดคุยกันถึงเรื่องของความหมดใจนะคะคนหมด
00:01:01 → 00:01:05 ใจเออมันเป็นยังไงหมดใจต่อทุกสิ่งหมดใจ
00:01:05 → 00:01:08 ต่อความรู้สึกนะไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ
00:01:08 → 00:01:11 เรื่องงานเรื่องของความรักเรื่องส่วนตัว
00:01:11 → 00:01:13 อะไรก็แล้วแต่เนี่ยแล้วแบบไหนที่เรียกว่า
00:01:13 → 00:01:17 หมดใจหรือยังพอจะมีแรงไปต่อนะคะคุยกับดร.
00:01:17 → 00:01:20 สุวุฒวงธานสวัสดิ์นักจิตวิทยาการปรึกษา
00:01:20 → 00:01:22 ค่ะสวัสดีค่ะคุณเอิญครับสวัสดีครับคุณรี
00:01:22 → 00:01:25 สวัสดีครับคุณผู้ฟังหมดใจวันนี้มาในแนว
00:01:25 → 00:01:29 หมดใจในความหมายแนวทางเชิงจิตวิทยาเนาะใน
00:01:29 → 00:01:32 ความรู้สึกของเราทั่วไปโดยความหมดใจคือ
00:01:32 → 00:01:34 มันไม่มีใจให้แล้วอ่ะมันคือมันไม่มีอะไร
00:01:34 → 00:01:37 ที่จะให้แล้วไม่มีความรู้สึกต่อสิ่งๆนั้น
00:01:37 → 00:01:39 ดีกว่าอใช่ครับอันนี้ความหมายแบบนี้มั้ย
00:01:39 → 00:01:41 เป็นอย่างงั้นเลยครับออเพราะการมีใจหมาย
00:01:41 → 00:01:44 ถึงการที่เรามีความใส่ใจและมีความสนใจและ
00:01:44 → 00:01:46 อยากทุ่มเทเวลาหรือทุ่มเทพลังกายพลัง
00:01:46 → 00:01:48 กำลังใจของเราเนี่ยให้กับสิ่งหนึ่งที่มี
00:01:48 → 00:01:52 ความหมายกับเราเป็นคนเป็นงานเป็นอาชีพ
00:01:52 → 00:01:55 เป็นกิจกรรมแล้วแต่นี่คือถ้าเรามีใจเราจะ
00:01:55 → 00:01:57 ให้เวลาและให้ความสนใจกับสิ่งนั้นถูกมั้ย
00:01:57 → 00:01:59 ครับออือฮึแต่การหมดใจมันก็คือตรงข้ามเลย
00:01:59 → 00:02:02 ง่ายๆว่าเอ่อสิ่งนั้นเหมือนจะมีความหมาย
00:02:02 → 00:02:03 กับเราน้อยลงหรือจนกระทั่งหมดความหมายกับ
00:02:04 → 00:02:05 เราไปแล้วะทีนี้พอหมดความหมายกับเราไป
00:02:05 → 00:02:07 ปึ๊บเราก็จะไม่ได้เห็นความหวังหรือเห็น
00:02:08 → 00:02:10 ประโยชน์อะไรกับการไปยุ่งกับสิ่งนั้นเรา
00:02:10 → 00:02:13 จะไม่ได้อยากใช้พลังใช้เวลาใช้ความสนใจไป
00:02:13 → 00:02:16 กับสิ่งนั้นละเพราะรู้สึกว่าเหมือนทำไปก็
00:02:16 → 00:02:18 ไม่ได้ประโยชน์โจทย์อะไรไม่ได้ดีขึ้นอื
00:02:18 → 00:02:22 อันเนี้ยครับเเรียกว่าหมดใจอืมันค่อยๆ
00:02:22 → 00:02:24 เป็นค่อยๆค่อยๆเป็นค่อยๆไปใช่ครับมันมี
00:02:24 → 00:02:27 แบบที่แบบว่าอยู่ๆแบบฟึบเจอเหตุการณ์อะไร
00:02:27 → 00:02:31 สักอย่างนึงหมดไม่มีเหลือเลยก็เป็นไปได้
00:02:31 → 00:02:33 ครับทีนี้แสดงว่าการกระทบกระเทือนทางจิต
00:02:34 → 00:02:36 ใจต้องต้องค่อนข้างแรงพอสมควรเพราะจริงๆ
00:02:36 → 00:02:39 แล้วหมดใจกับฤกษ์สนใจเนี่ยมันอาจจะเป็น
00:02:39 → 00:02:42 สิ่งที่ไม่ได้เหมือนกันบางทีเลิกสนใจอาจ
00:02:42 → 00:02:45 จะเป็นแค่แบบเหอชั่วคราวอ่าเออเราสนใจ
00:02:45 → 00:02:48 สิ่งนี้เรามีใจอยากรู้สิ่งนี้แต่พอจุดนึง
00:02:48 → 00:02:50 มันมีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าอเราอาจจะ
00:02:50 → 00:02:52 แบบเอ้ยเลิกสนใจอันนี้แล้วไปสนใจอีกอย่าง
00:02:52 → 00:02:55 แทนค่ะอ่าอันเนี้ยมันจะไม่ใช่แบบเรียก
00:02:55 → 00:02:57 อะไรมันจะไม่ใช่แบบเซ็งเบื่อเพราะว่าความ
00:02:57 → 00:03:00 หมดใจมันจะมีความเซ็งความเบื่อความรู้สึก
00:03:00 → 00:03:03 ผิดหวังความไม่ได้ดั่งใจบางอย่างไอ้พวก
00:03:03 → 00:03:06 นี้มันจะค่อยๆกัดกินกัดกล่อนจากเดิมที่
00:03:06 → 00:03:08 เรารู้สึกอยากจะใส่ใจหรือเห็นความหวังกับ
00:03:08 → 00:03:10 มันอย่างเงี้ยครับมันจะค่อยๆหายไปจน
00:03:10 → 00:03:12 กระทั่งรู้สึกว่าแบบไม่มีประโยชน์ะไม่เอา
00:03:12 → 00:03:15 ดีกว่าอือ่าแต่มันจะคนละอย่างกับเลิกสนใจ
00:03:15 → 00:03:17 หรือเปลี่ยนความสนใจค่ะเพราะว่าอันนั้น
00:03:17 → 00:03:19 เนี่ยมันจะเป็นเหมือนกับว่าไอ้สิ่งที่เรา
00:03:19 → 00:03:22 ที่เราเคยให้ความสนใจเนี่ยมันอาจจะไม่ได้
00:03:22 → 00:03:24 เลวร้ายไม่ได้แย่แต่แค่มันแบบเอ้ยมีอัน
00:03:24 → 00:03:27 อื่นสนุกกว่าอือันนี้ไม่ได้สนุกเท่าอัน
00:03:27 → 00:03:29 นั้นและอีกอันมันดูใหม่กว่าอีกอันนึงน่า
00:03:29 → 00:03:32 สนใจมากกว่ามันจะเป็นการสลับไปสนใจสิ่ง
00:03:32 → 00:03:36 อื่นเรียกว่าอ่าเลิกสนใจอหรือว่ารู้รู้จน
00:03:36 → 00:03:40 แบบเออเกือบหมดละรู้จนหมดละก็ไม่มีอะไรละ
00:03:40 → 00:03:42 ก็แค่นี้เราก็เปลี่ยนใช่ครับแต่หมดใจนี่
00:03:42 → 00:03:44 คือมักจะมีความผิดหวังความเซ็งความเบื่อ
00:03:44 → 00:03:47 หน่ายเข้ามาเกี่ยวข้องอืถ้าพูดคำว่าหมดใจ
00:03:47 → 00:03:50 ส่วนใหญ่จะไปนึกถึงเรื่องของเอ่อมุมมอง
00:03:50 → 00:03:53 ของความสัมพันธ์ความสัมพันธ์เนาะแบบความ
00:03:53 → 00:03:56 รักหรืออะไรงี้ที่เราเห็นกันบ่อยๆแบบว่า
00:03:56 → 00:03:58 ไม่ได้รักแล้วอ่ะหมดใจไปแล้วหรืออะไรเงี้
00:03:58 → 00:04:00 เนาะมีแบบมีส่วนใหญ่ก็จะมีเป็นงานเนาะมี
00:04:01 → 00:04:03 เป็นงานเอ้ยมีความรักตะกี้ที่เราคุยกันมี
00:04:03 → 00:04:05 ความรักความสัมพันธ์แล้วก็มีเรื่องของงาน
00:04:05 → 00:04:07 อือฮึอือซึ่งความรักเหมือนตะกี้ที่พี่ตรี
00:04:07 → 00:04:10 บอกเลยครับว่าบางทีพอเราให้ใจเราให้ความ
00:04:10 → 00:04:13 สำคัญให้เวลาให้การดูแลเอาใจใส่แต่บางที
00:04:13 → 00:04:15 เราไม่เคยได้รับการปฏิบัติกลับมาในทางที่
00:04:15 → 00:04:18 ดีเท่าไหร่บางทีอาจจะแบบไม่เคยชื่นชมเรา
00:04:18 → 00:04:20 ไม่เคยเห็นค่าเราแถมไปชื่นชมคนอื่นนอก
00:04:20 → 00:04:23 บ้านนอกคนอื่นอะไรเงี้ยครับบางทีสิ่งพวก
00:04:23 → 00:04:26 นี้มันก็ทำให้เราค่อยๆเสียความมีกำลังใจ
00:04:26 → 00:04:28 หรือความแบบรู้สึกมีความหวังกับความ
00:04:28 → 00:04:31 สัมพันธ์เนี้ยอมันก็ค่อยๆหมดหมดใจไปเราก็
00:04:31 → 00:04:33 อยากจะเก็บใจมาไว้กับตัวเพื่อเซฟตัวเอง
00:04:33 → 00:04:34 มากกว่าอันเนี้ยมักจะเป็นเรื่องความ
00:04:35 → 00:04:37 สัมพันธ์อือพอฟังเอิ้นแบบนี้แล้วเนี่ยพอ
00:04:37 → 00:04:40 บอกว่าเออเราให้ความรักหรือทุ่มเทอะไรไป
00:04:40 → 00:04:43 เนี่ยดูแลเอาใจใส่อย่างดีเนี่ยเราก็อยาก
00:04:43 → 00:04:45 ได้สิ่งนั้นกลับมาอือแต่มันก็จะมีคำพูด
00:04:45 → 00:04:48 บอกว่าความรักไม่ต้องการสิ่งตอบแทนอ่า
00:04:48 → 00:04:51 ครับอันนี้เรื่องนี้จะต้องบอกว่าคำที่คำ
00:04:51 → 00:04:54 ที่บอกว่าความรักไม่ต้องการสิ่งตอบแทนอาจ
00:04:54 → 00:04:56 จะใช้ได้กับบางคนแต่เรื่องนี้ผมต้องบอก
00:04:56 → 00:04:59 ว่าเราให้เกียรติคนทุกคนอืทุกคนมีสิทธิ์
00:04:59 → 00:05:01 เลือกที่จะรักแบบไหนก็ได้เอาที่ตัวเอง
00:05:01 → 00:05:04 สะดวกค่ะอ่าถ้าเป็นรักแบบพ่อแม่ที่ให้ลูก
00:05:04 → 00:05:07 บางคนก็จะเป็นลักษณะว่าเฮ้ยเราให้ไปเรามี
00:05:07 → 00:05:09 มากพอเราให้ไปแล้วเราหวังแค่อยากเห็นลูก
00:05:09 → 00:05:12 ยืนหยัดได้ค่ะเออแล้วตัวเราเนี่ยโดยพื้น
00:05:12 → 00:05:14 ฐานเป็นคนชอบพึ่งตัวเองแล้วไม่อยากรบกวน
00:05:14 → 00:05:16 ค่ะเราเลยไม่ได้คิดว่าการให้ลูกคือการลง
00:05:16 → 00:05:19 ทุนอืเราคิดว่าการให้ลูกคือการที่ทำให้คน
00:05:19 → 00:05:21 ที่เรารักมีชีวิตที่ดีเราคิดแค่นั้นเลยอ
00:05:21 → 00:05:24 อันนั้นน่ะก็จะสามารถตรงคอนเซปตที่ว่าเรา
00:05:24 → 00:05:27 รักแบบไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทนได้เนาะแต่
00:05:27 → 00:05:29 บางคนเนี่ยครับเขาอาจจะมีความรู้สึกว่า
00:05:29 → 00:05:31 ตัวเค้าในฐานะพ่อแม่เาให้ลูกด้วยความรัก
00:05:31 → 00:05:36 ก็ใช่แต่ในอีกมุมนึงเขาก็อยากเห็นว่าลูก
00:05:36 → 00:05:39 ได้ปฏิบัติกับเค้าอย่างรู้สึกได้ถึงความ
00:05:39 → 00:05:42 รักด้วยหรือเปล่าบางทีในฐานะพ่อแม่หรือ
00:05:43 → 00:05:45 ผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็กคนนึงนะครับเค้าก็มี
00:05:45 → 00:05:47 ความหวังว่าอยากพึ่งพากันได้บ้างแต่ไม่
00:05:47 → 00:05:49 ใช่การเอาเปรียบนะอันนี้ต้องแยกกันครับ
00:05:49 → 00:05:52 เอาเปรียบเอาเปรียบเด็กจะเป็นอีกแบบนึงลง
00:05:52 → 00:05:53 ทุนกับเด็กจะเป็นอีกแบบนึงอันนี้คือไม่
00:05:53 → 00:05:55 ใช่เป็นเรื่องการให้ใจแล้วแต่เป็นเรื่อง
00:05:55 → 00:05:58 การให้เงินให้การลงทุนให้การแบบคล้ายๆว่า
00:05:58 → 00:06:00 ให้โอกาสเพื่อที่หวังว่าสิ่งนั้นจะทำผล
00:06:01 → 00:06:03 กำไรให้เราอันนี้จะไม่ใช่เรื่องใจอือ่า
00:06:03 → 00:06:05 แต่เนี่ยเรากำลังพูดถึงว่าการให้ใจบาง
00:06:05 → 00:06:07 ครั้งมันมีเหมือนกันที่เราเองก็อยากได้
00:06:07 → 00:06:10 รับคำชมได้รับคำขอบคุณได้รับการระลึกถึง
00:06:10 → 00:06:13 ประโยชน์ที่เราเคยให้บางทีพอทำให้ไปให้มา
00:06:13 → 00:06:16 ปรากฏนะสมมุตินะให้ลูกไปปึ๊บลูกเอาเงิน
00:06:16 → 00:06:18 พ่อแม่ไปเข้าเล่นบ่อนการพนันค่ะปึ๊บไป
00:06:19 → 00:06:21 เลี้ยงผู้หญิงเออแล้วก็เอาของที่บ้านแอบ
00:06:21 → 00:06:25 ไปจำเออเอาเลือกสวนไล่นาที่บ้านไปจำนอง
00:06:25 → 00:06:28 จำนำอะไรแล้วแต่แล้วแบบให้คนอื่นได้
00:06:28 → 00:06:30 ประโยชน์แต่ว่าตัวแต่แต่พ่อแม่นี่คือถูก
00:06:30 → 00:06:34 เอาเปรียบตลอดเวลาถ้าเราบอกว่ารักรักต้อง
00:06:34 → 00:06:38 ไม่หวังผลตอบแทนอือผมว่าอันเนี้ยมันจะ
00:06:38 → 00:06:40 เป็นปัญหาละอ่าเพราะว่าพ่อแม่เค้าจำเป็น
00:06:40 → 00:06:43 ต้องเซฟตัวเองค่ะอ่ากลุ่มเนี้ยครับเก็จะ
00:06:43 → 00:06:45 มีความรู้สึกค่อยๆหมดใจว่าทำให้ลูกคนนี้
00:06:45 → 00:06:48 ไปมันไม่ได้ใฝ่ดีมันไม่ได้มีความแบบ
00:06:48 → 00:06:49 กระตือรือรือล้นที่จะใช้ชีวิตให้ดีหรือ
00:06:49 → 00:06:52 ว่าจะแบบเห็นใจครอบครัวเราเลยอืมีแต่เอา
00:06:52 → 00:06:54 เงินไปถลุงมีแต่เอาเงินมาให้คนอื่นแล้ว
00:06:54 → 00:06:56 ชีวิตมันก็ไม่ได้ดีขึ้นค่ะตรงเนี้ยบางที
00:06:56 → 00:06:59 พ่อแม่ก็สามารถเจ็บปวดได้เหมือนกันอืเจ็บ
00:06:59 → 00:07:01 ปวดเป็นน่ะเป็นมนุษย์ที่เจ็บปวดเป็นเพราะ
00:07:01 → 00:07:03 งั้นเขาก็อาจจะรู้สึกหมดใจแล้วไม่อยากให้
00:07:03 → 00:07:06 ะเรื่องความรักก็เหมือนกันเราอาจจะแบบเคย
00:07:06 → 00:07:09 คบหากับคนๆนึงเราขับรถรับส่งเราดูแลดีเรา
00:07:09 → 00:07:12 แบบคิดวางแผนการเงินเราทำทุกอย่างเพื่อ
00:07:12 → 00:07:15 เค้าแต่เค้ากลับแบบแทบเห็นแทบจะเห็นเรา
00:07:15 → 00:07:18 เป็นแค่คนขับรถของเค้าอือประโยชน์ด้าน
00:07:18 → 00:07:21 ประโยชน์ใช่แค่ว่าเป็นตู้ ATM ให้ขอเงิน
00:07:21 → 00:07:24 อืหรือเป็นคนแบบคอยไปอำนวยความสะดวกอย่าง
00:07:24 → 00:07:26 เงี้ยครับบางทีสิ่งพวกนี้พออยู่ไปนานๆเรา
00:07:26 → 00:07:29 จะเริ่มรู้สึกถูกเอาเปรียบเพราะเราเหมือน
00:07:29 → 00:07:31 รักอยู่ข้างเดียวแต่อีกฝ่ายนึงเหมือน
00:07:31 → 00:07:33 คล้ายๆเห็นเราเป็นแค่เครื่องมือในการหลอก
00:07:33 → 00:07:35 เกาะกินผลประโยชน์อืสิ่งพวกเนี้ยเรา
00:07:35 → 00:07:39 สามารถหมดใจได้ค่ะหรือแม้กระทั่งคนที่ไม่
00:07:39 → 00:07:42 เคยได้รับอะไรเลยสักอย่างเดียวอาจจะไม่
00:07:42 → 00:07:44 ได้แบบว่าทุ่มเทเสียสละหรืออะไรขนาดนั้น
00:07:44 → 00:07:46 แต่ก็ก็ไม่เห็นอย่างความรักของพ่อแม่มา
00:07:46 → 00:07:49 หรืออะไรเงี้ยหรือความรักของเพื่อนด้วย
00:07:49 → 00:07:51 กันหรืออะไรเงี้ยหรือหรือสิ่งที่ทำอยู่
00:07:51 → 00:07:54 สิ่งที่รักอยู่มันไม่เห็นมีอะไรกับก็หมด
00:07:54 → 00:07:56 ใจได้เหมือนกันนะได้ครับหมดใจได้จริงๆ
00:07:56 → 00:07:58 แล้วเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความรักเนาะตะกี้
00:07:58 → 00:08:01 มีพูดถึงเรื่องงานด้วยอือบางทีมีบางคนที่
00:08:01 → 00:08:04 เขาอุทิศให้กับองค์กรอุทิศให้กับหัวหน้า
00:08:04 → 00:08:07 เพราะเขาอาจจะเคยรู้สึกนับถือมากๆอือฮึมี
00:08:07 → 00:08:12 คนร้องไห้ตรงนี้มีคนร้องไห้อยู่คนนึง
00:08:12 → 00:08:14 เอ่อเราอุทิศให้องค์กรอุทิศให้กับประเทศ
00:08:14 → 00:08:17 ชาติอะไรก็แล้วแต่แต่ปรากฏว่าสิ่งที่มัน
00:08:17 → 00:08:20 ตอบแทนมาคือแบบอมันไม่ใช่คำสรรเสริญไม่
00:08:20 → 00:08:22 ใช่คำไม่ใช่การให้เกียรติไม่ใช่การให้
00:08:22 → 00:08:26 เครดิตแต่อาจจะเป็นการขโมยผลงานออือาจจะ
00:08:26 → 00:08:29 เป็นการทำใบแล้วแบบเหมือนตัวเองก็เอาหน้า
00:08:29 → 00:08:32 ไปคนเดียวค่ะแล้วส่วนมีอะไรเสียก็โยนมา
00:08:32 → 00:08:34 ทางเราออฮะอย่างเงี้ยครับบางทีสิ่งพวกนี้
00:08:34 → 00:08:37 มันก็ทำให้หมดศรัทธาหมดใจได้เหมือนกันอื
00:08:37 → 00:08:40 คือมันเกิดจากได้ทั้งคนที่ให้หรือคนที่
00:08:40 → 00:08:43 ไม่เคยได้รับหรือหรืออะไรได้หมดเลยเนาะ
00:08:43 → 00:08:45 ไม่เคยได้รับก็อาจจะมีความแบบรู้สึกคาด
00:08:45 → 00:08:47 หวังไม่ได้อาจจะให้แล้วไม่เคยได้รับเลย
00:08:47 → 00:08:50 อะไรอย่างเงี้ยฮะอืแล้วมันนอกเหนือจากที่
00:08:50 → 00:08:53 แบบว่าทำให้หมดใจได้มันยังมีในด้านอื่นๆ
00:08:53 → 00:08:56 อีกมั้ยแบบอ่าเรื่องที่เราแบบเคยชินคุ้น
00:08:56 → 00:08:59 ชินแล้วเออไม่ตื่นเต้นและก็เปลี่ยนไปสนใจ
00:08:59 → 00:09:02 อย่างอื่นแทนอย่างที่เมื่อกี้คุยกันหรือ
00:09:02 → 00:09:05 ว่าแบบตัวเราเองนี่แหละที่เรารู้สึกว่า
00:09:05 → 00:09:08 เราไม่เห็นคุณค่าในตัวเองเราไม่เห็นคุณ
00:09:08 → 00:09:10 ค่าในตัวเองอาจจะเป็นส่วนนึงด้วยก็ได้
00:09:11 → 00:09:13 ครับแต่คำว่าหมดใจเนี่ยโดยส่วนใหญ่เนาะ
00:09:13 → 00:09:16 มันมักจะต้องมีบุคคลสัก 2 คนนะครับอืมัน
00:09:16 → 00:09:19 จะมันจะไม่ใช่แค่ตัวเราแบบจู่ๆนั่งนั่ง
00:09:19 → 00:09:21 นึกแล้วก็หมดใจใช่ไม่มีค่าในตัวอก็ไม่คง
00:09:21 → 00:09:23 ไม่ใช่อย่างงั้นอ่าอันนั้นมันจะเป็นการ
00:09:23 → 00:09:24 สูญเสียความเชื่อมั่นหรือความมั่นใจในตัว
00:09:24 → 00:09:27 เองอืออ่าแต่หมดใจเมันเหมือนกับว่าเหมือน
00:09:27 → 00:09:31 ที่ผมบอกอ่ะครับมันจะต้องมีอาจจะเป็นงาน
00:09:31 → 00:09:33 เป็นกิจกรรมเป็นบุคคลหรือเป็นอะไรสัก
00:09:33 → 00:09:37 อย่างที่เรามีใจให้สิ่งนั้นอ่าแล้วพอเรา
00:09:37 → 00:09:40 มีใจให้สิ่งนั้นปรากฏว่าสิ่งนั้นมันค่อย
00:09:40 → 00:09:42 เรียกว่าหมดความหมายกับเราลงไปคือทำให้
00:09:42 → 00:09:45 เราผิดหวังบางอย่างทำแล้วก็ไม่เห็นดีขึ้น
00:09:45 → 00:09:47 เลยเออใช่ครับมันก็เลยมีความรู้สึกหมดใจ
00:09:47 → 00:09:50 ต่อสิ่งนั้นอือฮึอือหมดใจต่อสิ่งนั้นไป
00:09:50 → 00:09:52 ซึ่งจริงๆแล้วไอ้สาเหตุของมันเนี่ยครับ
00:09:52 → 00:09:54 มันคงไม่ใช่แค่ทำไปแล้วไม่ได้คืนเนาะบาง
00:09:54 → 00:09:57 ครั้งมันเป็นเรื่องของแบบเ้าเรียกว่าความ
00:09:57 → 00:10:00 หนักหน่วงของตัวความสัมพันธ์หรือตัวงาน
00:10:00 → 00:10:02 อันนี้อันนี้บางทีความหนักหน่วงมักจะเกิด
00:10:02 → 00:10:05 ขึ้นในงานอันนี้จะพูดง่ายกว่าอือฮึเช่นทำ
00:10:05 → 00:10:08 ไปปึ๊บก็ไม่เห็นทำมากี่ปีก็ไม่เห็นชีวิต
00:10:08 → 00:10:11 จะดีขึ้นเลยหรือยิ่งทำยิ่งหนักทำไมงานมัน
00:10:11 → 00:10:13 หนักขึ้นทุกวันแต่ว่าไม่เห็นมีคนมาเพิ่ม
00:10:13 → 00:10:15 มาช่วยเรามันก็จะเหมือนเราแบบไม่เคยถูก
00:10:15 → 00:10:17 มองเห็นความเหนื่อยความหนักหน่วงไม่ไม่
00:10:17 → 00:10:20 ได้มีใครมาเห็นใจแล้วแบบมาช่วยอประคับ
00:10:20 → 00:10:23 ประคองน่ะยิ่งทำยิ่งเหนื่อยยิ่งทำยิ่งถูก
00:10:23 → 00:10:26 เพิกเฉยอือไม่มีจุดสิ้นสุดไอ้สิ่งพวกนี้
00:10:26 → 00:10:29 ก็ทำให้หมดใจได้เหมือนกันเออไม่อยากทำ
00:10:29 → 00:10:33 อย่างที่เอิ้ลบอกคือทำไปเถอะอืทำไปเถอะทำ
00:10:33 → 00:10:36 แทบตายไม่สักทีไม่เห็นดีขึ้นสักทีเลยไม่
00:10:36 → 00:10:39 ไม่ได้มีทางด้านไหนให้เรารู้สึกใช่ครับ
00:10:39 → 00:10:42 อ่าก็มันจะค่อยๆบั่นทอนบั่นทอนมันคงไม่
00:10:42 → 00:10:44 ใช่อยู่อยู่เรื่องนึงแล้วมาแบบอุ๊ยฉันหมด
00:10:44 → 00:10:46 ใจมันไม่ยิ่งเรื่องการทำงานมันต้องค่อย
00:10:46 → 00:10:50 ถูกสะสมมาจากปัจจัยหลายๆอย่างเรื่อยๆอ่ะ
00:10:50 → 00:10:52 เนาะใช่ค่ะใช่แล้วก็มีเรื่องของความรู้
00:10:52 → 00:10:55 สึกที่เราไม่มีอำนาจในการตัดสินใจไม่มี
00:10:55 → 00:10:57 อิทธิพลต่อการตัดสินใจซึ่งบางทีมักจะเป็น
00:10:57 → 00:10:59 เรื่องชั้นผู้น้อยอันนี้เราเข้ามีคนร้อง
00:10:59 → 00:11:02 ไห้อีกแล้วนะครับเข้ามาสู่เรื่องงานอฮ
00:11:02 → 00:11:05 เหมือนกับว่าตัดสินใจอะไรไปก็ไม่ถูกฟังอื
00:11:05 → 00:11:08 อ่าไม่สามารถร่วมตัดสินใจหรือแสดงความคิด
00:11:08 → 00:11:10 เห็นได้เพราะตัดสินใจไปแสดงความคิดเห็นไป
00:11:10 → 00:11:14 ก็ถูกปฏิเสธอืหมดใจมั้ยหมดใจหมดเซ็งอ่ะ
00:11:14 → 00:11:17 มันเซ็งอ่ะเออนอกจากปฏิเสธแล้วยังไม่ให้
00:11:17 → 00:11:19 เหตุผลอีกต่างหากด้วยคือบางทีก็อยากรู้นะ
00:11:19 → 00:11:21 ว่าแบบอ๊ทำไมหล่าหรืออะไรอย่างงี้ใช่มั้
00:11:21 → 00:11:24 คะบางทีเราถูกเพิกเฉยไม่ถูกสนใจเออก็มัน
00:11:24 → 00:11:29 ก็เราก็แค่เด็กคนนึงเออท้อแท้ต้อแตยิ่ง
00:11:29 → 00:11:32 คุยยิ่งท้อแท้เอ๊ะหัวข้อใครวะเนี่ยแล้วก็
00:11:32 → 00:11:35 มีเรื่องของความรู้สึกไม่ยุติธรรมอือ่า
00:11:35 → 00:11:39 เช่นแบบโอ้โหมันมีอะไรนะเนี่ยมันน้องรัก
00:11:39 → 00:11:42 พี่ใช่มั้ล่ะอย่างเงี้ยเรามันแบบเหมือน
00:11:42 → 00:11:44 ไม่ใช่น้องรักเราไม่ใช่ลูกรักเรื่องนี้
00:11:44 → 00:11:45 ความสัมพันธ์ก็เกี่ยวนะบางทีเป็นเรื่อง
00:11:45 → 00:11:48 ของความสัมพันธ์ในบ้านที่ที่บางทีในบ้าน
00:11:48 → 00:11:51 เนี่ยอาจจะมีลูกรักกับลูกที่ไม่ถูกรักมัน
00:11:51 → 00:11:53 ก็จะแบบหรืออาจจะเป็นลักษณะว่าวัฒนธรรม
00:11:53 → 00:11:56 ทางฝั่งเอเชียประเทศหนึ่งที่มักจะยกย่อง
00:11:56 → 00:11:58 ลูกชายเป็นหลักผู้หญิงก็จะเป็นเหมือนทาตุ
00:11:58 → 00:12:00 ในบ้านความไม่ยุติธรรมนี้ก็ทำให้หมดใจได้
00:12:00 → 00:12:02 เหมือนกันอืเนาะทั้งเรื่องงานทั้งเรื่อง
00:12:02 → 00:12:05 ความผัพันธ์ในครอบครัวถ้าเป็นความในเชิง
00:12:05 → 00:12:07 ของการหมดใจในในครอบครัวตัวเราเองหรือ
00:12:07 → 00:12:10 ความสัมพันธ์หรืออะไรเงี้ยโอมันยากมากเลย
00:12:10 → 00:12:12 นะที่จะหมดใจเพราะว่าคือเหมือนกับแบบเออ
00:12:12 → 00:12:14 เหมือนเราต้องทำความเข้าใจอ่ะเออก็ก็มัน
00:12:14 → 00:12:16 เป็นวัฒนธรรมแบบนี้นะอ่ะอย่างที่บอกใช่
00:12:16 → 00:12:21 มั้ย 2 คือก็เข้าใจแหละอือๆอ่าเพราะว่า
00:12:21 → 00:12:23 อย่างอย่างที่เคยได้ยินมาเค้าบอกว่าพ่อ
00:12:23 → 00:12:26 แม่จะรักคนที่อาจจะดูอ่อนแอที่สุดอ่ะคน
00:12:26 → 00:12:29 ที่ที่ดูแข็งแกร่งอาจจะไม่ได้ถูกใส่ใจไม่
00:12:29 → 00:12:31 ได้ถูกอะไรเลยถูกละเลยอ่ะอ่ะว่าอย่างงั้น
00:12:31 → 00:12:33 เถอะเพราะว่าเขาสามารถดูแลตัวเองได้แต่จะ
00:12:33 → 00:12:36 ไปประคบประหงมไปดูแลไปโอ๋เอาใจกับคนที่ดู
00:12:36 → 00:12:39 แบบอ่อนแอกว่าอาจจะไม่ค่อยได้เรื่องหรือ
00:12:39 → 00:12:41 อาจจะแบบในมุมมองสายตาของพ่อแม่แต่จริงๆ
00:12:41 → 00:12:43 ถ้าในหมู่บนพี่น้องอาจจะไม่รู้สึกว่าเอ๊ะ
00:12:43 → 00:12:45 เอ่อนแอกว่ายังไงกันนะหรืออะไรงี้หรือ
00:12:45 → 00:12:48 เปล่าออือก็เป็นใช่ครับมันเลยเกิดความรู้
00:12:48 → 00:12:50 สึกไม่ยุติธรรมเพราะว่าเขาอยากถูกมองเห็น
00:12:50 → 00:12:53 น่ะอยากถูกมองเห็นว่าเาก็มีความตั้งใจ
00:12:53 → 00:12:55 ปรารถนาดีให้กับที่บ้านอ่ะแต่บางบ้านเค้า
00:12:55 → 00:12:58 ก็เอียงจริงๆนะเอียงๆจริงเอียงแบบเอียง
00:12:58 → 00:13:01 เลยเอียงเลยอันนี้ก็หมดใจได้เหมือนกัน
00:13:01 → 00:13:03 แล้วก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเค้าอยากจะออก
00:13:03 → 00:13:06 จากบ้านไปใช่ครับใช่บางคนก็รั้นพยายามสู้
00:13:06 → 00:13:08 สู้เพื่อแบบอยากได้ความยุติธรรมอยากได้
00:13:08 → 00:13:10 ความรักก็มีเพราะเค้าอาจจะเป็นคนใฝ่ดี
00:13:10 → 00:13:14 เป็นคนแบบที่รักพ่อแม่จริงๆแต่แน่นอนใน
00:13:14 → 00:13:17 การทำสิ่งที่ดีๆให้พ่อแม่มันเป็นคนละ
00:13:17 → 00:13:21 เรื่องกับความน้อยใจเราสามารถน้อยใจด้วย
00:13:21 → 00:13:23 หมายถึงว่าน้อยใจไปได้พร้อมกับการแสดง
00:13:23 → 00:13:25 ความรักให้พ่อแม่หรือทำบางอย่างให้กับ
00:13:25 → 00:13:29 ครอบครัวอยู่ได้อือืแต่ทีเนี้ยถ้าเา้ามี
00:13:29 → 00:13:31 ความมีความรู้สึกปรารถนาดีและห่วงใย
00:13:31 → 00:13:34 ครอบครัวมากเขาจะยังคงอยู่อย่างงั้นต่อไป
00:13:34 → 00:13:37 แม้ก็แม้จะน้อยใจก็ตามอือือ่าแต่บางคนอาจ
00:13:37 → 00:13:39 จะปลงได้บางคนอาจจะแบบเออเ้าเป็นอย่าง
00:13:39 → 00:13:41 งั้นแหละเปลี่ยนไม่ได้แต่เขาก็เลือกคิด
00:13:41 → 00:13:44 แค่ว่าเาก็คงทำสิ่งดีๆให้พ่อแม่ก็พอแต่
00:13:44 → 00:13:46 ไม่อยากไปนั่งน้อยใจมันไม่เป็นประโยชน์อื
00:13:46 → 00:13:48 อืบางคนเป็นอย่างงั้นแต่บางคนก็คือทำจน
00:13:48 → 00:13:50 กระทั่งรู้สึกว่าแบบไม่เอาละเราเจ็บมามาก
00:13:50 → 00:13:53 พอแล้วให้ให้พ่อแม่อยู่กับลูกรักไปแล้ว
00:13:53 → 00:13:56 กันก็มีต้องบอกว่าอันเนี้มันไม่ใช่ความ
00:13:56 → 00:13:58 ผิดแต่มันเป็นจุดที่คล้ายๆถูกเพิกเฉยมัน
00:13:58 → 00:14:02 นานเกินไปนานเกินไปจนเขารู้สึกว่าแบบขอ
00:14:02 → 00:14:04 เซฟตัวเองก่อนแล้วกันแต่แน่นอนเ้าไม่ได้
00:14:04 → 00:14:06 ปรารถนาร้ายกับพ่อแม่นะแต่เค้ารู้สึกว่า
00:14:06 → 00:14:10 เค้าอยากจะถอยออกมาเพื่อเซฟตัวเองอก็ไม่
00:14:10 → 00:14:12 ไม่ผิดนะที่เราจะเซฟตัวเองหรือถอยถอยออก
00:14:12 → 00:14:15 มาอะไรเงี้ยเพราะมันไม่ได้เกิดการทำร้าย
00:14:15 → 00:14:17 กันเราไม่ได้ไปทำร้ายอะไรแล้วเราไม่ได้
00:14:17 → 00:14:20 เจตนาร้ายด้วยออผมเคยเจอเคยเจอเคสที่แบบ
00:14:20 → 00:14:25 เอ่อเป็นคุณแม่ท่านนึงที่เค้ามีลูก 2 คน
00:14:25 → 00:14:27 เนาะคนนึงลูกชายคนนึงลูกสาวอืแล้วก็ลูก
00:14:28 → 00:14:30 ชายเนี่ยก็คือเสพยาเข้าแล้วก็ติดการพนัน
00:14:30 → 00:14:32 ทำผู้หญิงท้องอะไรเงี้ยโอ้โหส่วนลูกสาวก็
00:14:33 → 00:14:36 คือแบบทำงานเป็นคนทำงานสุจริตแล้วก็ใฝ่ดี
00:14:36 → 00:14:38 อะไรอย่างเงี้ยทีเนี้ยไม่ว่าพี่ชายจะไป
00:14:38 → 00:14:40 ก่อเรื่องอะไรมาก็ตามสุดท้ายน้องคนเนี้ย
00:14:40 → 00:14:43 ต้องเอาเงินไปตามล้างตามเช็ดให้หมดเลยอื
00:14:43 → 00:14:47 ไม่ว่าจะเป็นพนันติดหนี้ใครมาทำอะไรสัก
00:14:47 → 00:14:49 อย่างแบบผิดกฎหมายผิดจราจรต้องเอาเงินไป
00:14:50 → 00:14:52 ประกันตัวโอสุดท้ายน้องคนนี้คือรับเลเลย
00:14:52 → 00:14:55 แล้วแม่ก็ไม่เคยเซฟเลยว่าแบบอเฮ้ยแกเป็น
00:14:55 → 00:14:58 น้องแกก็ต้องช่วยพี่เงี้ยอ้าวอ้าเหรอเออ
00:14:58 → 00:15:00 สุดท้ายสุดท้ายคือเขาก็แบบทุกข์ใจมากจน
00:15:00 → 00:15:02 แบบตัดสินใจพอดีกว่าเพราะว่าตัวเค้าเอง
00:15:02 → 00:15:05 อ่ะช่วยพี่คนเนี้ยทำหลายอย่างมั้กระทั่ง
00:15:05 → 00:15:07 ต้องแบบไปกู้เงินไปสร้างบ้านให้เพราะว่า
00:15:07 → 00:15:10 แม่ขออย่างเงี้ยขอสร้างบ้านให้พี่ชายอยู่
00:15:10 → 00:15:13 ตัวเองก็เป็นหนี้พี่ชายไม่เสียสักบาทเออ
00:15:13 → 00:15:16 แถมมีคนแบบก็ทำอะไรก็ได้เคก็เลยตัดสินใจ
00:15:16 → 00:15:19 ว่าพอเค้าขอแบบเซฟตัวเองแล้วเพราะว่าไม่
00:15:19 → 00:15:22 มีใครเซฟเ้าเลยมันต้องสุดแล้วจริงๆเนาะ
00:15:22 → 00:15:25 มันถึงแบบว่าเอ้ยไม่ไหวละอกล้ำกลืนฝืนทน
00:15:25 → 00:15:27 มาตลอดแหละคิดว่าอย่างงั้นนะใช่ใช่เพราะ
00:15:27 → 00:15:29 งั้นเรื่องหมดใจเนี่ยผมคิดว่ามันเกิดขึ้น
00:15:29 → 00:15:32 ได้และสำหรับบางคนนะครับถ้าเราได้ฟัง
00:15:32 → 00:15:35 เรื่องเต็มๆเวอร์ชั่นเต็มอือฮึอทั้งหมด
00:15:35 → 00:15:37 ที่เได้เจอมาเป็นระยะเวลาที่แบบครบถ้วน
00:15:37 → 00:15:39 ที่เขาเจอเนี่ยเราจะรู้สึกได้ว่าโอ้โห
00:15:39 → 00:15:41 เป็นเราเราก็ถอยเหมือนกันไม่อยากจะถาม
00:15:41 → 00:15:43 ด้วยว่าทำไมทนมาได้ตั้งนานด้วยอืส่วนใหญ่
00:15:43 → 00:15:45 จะเป็นเรื่องความรักนะครับแล้วก็ความรัก
00:15:45 → 00:15:46 แล้วก็เป็นเรื่องความกตัญญูเป็นเรื่องของ
00:15:47 → 00:15:50 ความแบบที่เรียกว่าเอ่อถ้าเราถ้าเราถอย
00:15:50 → 00:15:52 ออกมาเราอาจจะเป็นลูกไม่ดีเราอาจจะเป็น
00:15:52 → 00:15:55 ลูกอกตัญญูหรือเปล่าบางทีมันก็มีคอนเซปต
00:15:55 → 00:15:57 เรื่องลูกกตัญญูเนี่ยครับที่ที่ค้านให้
00:15:57 → 00:16:00 เรายังคงอยู่ก็เป็นแสดงว่าแสดงว่าน้องคน
00:16:00 → 00:16:01 เนี้ยน้องผู้หญิงคนเนี้ยเเป็นคนที่มีจิต
00:16:02 → 00:16:05 ใจพื้นเพดีมากมากเลยคือเอย่างน้อยคือแบบ
00:16:05 → 00:16:08 อ่ะไม่ถามว่าไม่สนใจก็ได้นะไอ้พี่ชายคน
00:16:08 → 00:16:11 เนี้ยอเออหรือว่าจะไม่แคร์แม่ก็ได้นะแต่
00:16:11 → 00:16:16 มันมีคนไทยอ่ะเนาะความกตัญญูมันเป็นข้อ
00:16:16 → 00:16:17 แรกเลยอ่ะในในครอบครัวถ้ามากกว่ากตัญญู
00:16:18 → 00:16:20 คือเมีจิตใจที่ดีเพราะเค้าเองก็เป็นห่วง
00:16:20 → 00:16:21 แม่เหมือนกันเป็นห่วงครอบครัวอย่างเงี้ย
00:16:21 → 00:16:25 ครับอแต่ถ้าไม่ทำโอ้โหแล้วยิ่งเสพยาอย่าง
00:16:25 → 00:16:26 เงี้ยอาลวงศ์อาละวาดหรือทำร้ายคนใน
00:16:26 → 00:16:29 ครอบครัวได้เหมือนกันนะใช่ใช่ครับโอมัน
00:16:29 → 00:16:31 มันเป็นอะไรที่แบบไม่จบไม่สิ้นน่ะคือทำไป
00:16:31 → 00:16:33 เถอะจนกว่าจะหมดอายุไขกันไปอ่ะโอ๊ยอันนี้
00:16:33 → 00:16:36 ถ้าเป็นตัวเองอาจจะไม่ทนอาจจะไม่ทนใช่
00:16:36 → 00:16:38 ครับอาจจะแบบว่าอ่ะใช่เพราะงั้นเรื่องนี้
00:16:38 → 00:16:40 ผมเลยคิดว่าเรื่องหมดใจเนี่ยผมคงไม่ห้าม
00:16:40 → 00:16:44 ใครอ่ะเฮ้ยเพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้ถ้า
00:16:44 → 00:16:46 ทุกอย่างมันแบบถึงอ่ะเออใช่เพราะว่าอย่าง
00:16:46 → 00:16:49 บางคนสตอี่เ้ามาเนี่ยมันอาจจะอดทนมานาน
00:16:49 → 00:16:51 แล้วก็ได้นะใช่ครับแต่เขาแค่เพิ่งมาเล่า
00:16:51 → 00:16:54 ในจุดที่แบบเ้าเออจุดนึงให้ฟังแต่จริงๆ
00:16:54 → 00:16:57 มันอาจจะมีอะไรที่มันมากกว่านั้นใช่เราจะ
00:16:57 → 00:17:00 ไปบอกว่าเฮ้ยแค่นี้เองจะไปหมดใจอะไรไม่
00:17:00 → 00:17:03 ได้หรอกใช่มั้ยคะอืคือความพยายามตามความ
00:17:03 → 00:17:07 อดทนมันก็ต้องมีผลตอบแทนที่ดีไม่ใช่ว่า
00:17:07 → 00:17:12 เอิ่มอดทนไปแล้วยังไงไม่เห็นปลายทางใน
00:17:12 → 00:17:15 อนาคตฉันต้องเหนื่อยฉันต้องแบกคืออันนี้
00:17:15 → 00:17:17 มันเหมือนยิ่งกว่าเดอีกอ่ะใช่ๆครับเพราะ
00:17:17 → 00:17:20 งั้นคนรอบตัวคนรอบข้างเนี่ยเวลาเรารับรู้
00:17:20 → 00:17:22 เรื่องของใครสักคนที่เขาหมดใจหรือหมดความ
00:17:22 → 00:17:25 รู้สึกอ่ะครับอือฮึขอขอให้ฟังด้วยสตินะ
00:17:25 → 00:17:27 อย่าเพิ่งไปคิดว่าแบบเราจะต้องทำหน้าที่
00:17:27 → 00:17:30 ในการแบบเติมไฟหรือว่าต้องจุดไฟให้เขามี
00:17:30 → 00:17:33 กำลังใจคือบางทียิ่งยิ่งไปจุดกำลังใจนั่น
00:17:33 → 00:17:35 แหละยิ่งเป็นพิษกับเเลยอ่ะอือเพราะเค้า
00:17:35 → 00:17:38 บอกว่าที่ผ่านมาฉันยังไม่พออีกเหรอแกรู้
00:17:38 → 00:17:41 มั้ยฉันไปเจออะไรมาบ้างเออเงี้ยมาเป็น
00:17:41 → 00:17:44 มั้ยเอออ้าวแล้วอย่างเคสนี้คือแม่เ้ายัง
00:17:44 → 00:17:47 ไงบ้างแล้วอ่ะคะหมายถึงว่ารู้มยว่าลูกสาว
00:17:47 → 00:17:51 แบบที่แบบเอ้ยไม่ช่วยละพอละก็พอตอนแรก
00:17:51 → 00:17:54 จริงๆตอนแรกลูกสาวก็พยายามสื่อสารแต่แม่
00:17:54 → 00:17:56 เค้าก็แบบพยายามพูดแบบก็มันมีแค่แก่แหละ
00:17:56 → 00:18:00 ที่ช่วยได้เอ้าโยนให้อ่ะโยนอะไรเงี้ยครับ
00:18:00 → 00:18:02 สงสารพี่แกเนี่ยพี่แกเป็นอย่างงี้แกเพิก
00:18:02 → 00:18:04 เฉยได้ยังไงอะไรอย่างเงี้ยครับซึ่งก็
00:18:04 → 00:18:07 พยายามทำต่ออยู่พักนึงแต่สุดท้ายเนี่ย
00:18:07 → 00:18:09 นั่นหมายความว่าต่อให้พยายามสื่อสารแม่ก็
00:18:09 → 00:18:12 ยังคงจะแบบติดอยู่อย่างเงี้ยโอเออสุดท้าย
00:18:13 → 00:18:15 สุดท้ายเคสนี้เจ้าตัวก็เลยต้องหักห้ามใจ
00:18:15 → 00:18:18 ว่าโอเคเราคงไม่หวังให้แม่เปลี่ยนะแต่ตัว
00:18:18 → 00:18:21 เราจะต้องเซฟตัวเองด้วยการถอยออกมาแจ้ง
00:18:21 → 00:18:24 ให้ทราบว่าเราแบบไม่ไหวแล้วก็ถอยแน่นอน
00:18:24 → 00:18:27 การถอยนั้นแม่เาก็จะตีพอยตีพายโวยวายแล้ว
00:18:27 → 00:18:30 ก็จะด่ามึงทิ้งแม่มันทิ้งพี่มันทิ้ง
00:18:30 → 00:18:31 ครอบครัวอะไรอย่างเงี้ย
00:18:32 → 00:18:35 อ่าซึ่งแน่นอนตัวเค้ามีแต่ซวยกับซวยคือทำ
00:18:35 → 00:18:39 ให้ก็ไม่มีทางจบถูกป่ะอือแต่พอไม่ทำก็โดน
00:18:39 → 00:18:41 ด่าอือเรียกว่าทางขึ้นทางร่องคือโดนกับ
00:18:41 → 00:18:44 โดนอ้าแล้วไอ้ที่ทำมาก่อนหน้านี้คืออะไร
00:18:44 → 00:18:46 อ่ะแม่ไม่เห็นเลยหรอใช่ครับเพราะงั้นมัน
00:18:46 → 00:18:49 ไม่มีทางพอเค้าก็เลยจำเป็นต้องเซฟตัวเอง
00:18:49 → 00:18:51 ด้วยการหยุดแต่แน่นอนเขาเจ็บปวดเเจ็บปวด
00:18:51 → 00:18:53 มากกับสิ่งที่แม่ว่าเ้าเพราะตัวเขามีความ
00:18:53 → 00:18:57 จิตใจดีที่รักที่รักแม่จริงๆแม่มืดบอดใจ
00:18:57 → 00:19:00 บอดไปหมดแล้วนะเนี่ยมีครับเราดูตามข่าว
00:19:00 → 00:19:03 ตามรายรายการที่เราเห็นทั่วๆไปโอ้โห
00:19:03 → 00:19:05 มนุษย์เป็นได้ขนาดนั้นแหละครับมันไม่ได้
00:19:05 → 00:19:07 เหนือไม่ได้เหนือความคาดหมายไม่ได้เกิน
00:19:07 → 00:19:09 จริงไปเลยโอเครียดเหมือนกันเนาะฟังแบบนี้
00:19:09 → 00:19:12 แล้วอ่ะสงสารเลยคือใครที่เป็นแบบนี้อยู่
00:19:12 → 00:19:16 คือเอาที่อัดบางทีถอยมาสักก้านึง 2-3 ก
00:19:16 → 00:19:18 อ่ะมันอาจจะดีขึ้นก็ได้พอแล้วถ้าเกิด
00:19:18 → 00:19:21 สมมุติยังพอมีแรงมีพลังต่อหรือมองอะไรได้
00:19:21 → 00:19:24 อยากจะกลับเข้าไปแบบจะช่วยเหลือจะอะไรก็
00:19:24 → 00:19:26 อ่ะอันนี้แล้วแต่ไม่ว่ากันแต่ว่าตัวเอง
00:19:26 → 00:19:28 เพราะว่าถ้าถ้าทำให้มากเกินไปจะเป็นการ
00:19:28 → 00:19:31 สปอยเอืทำให้เได้สั่งใจไปหมดทีนี้เราจะ
00:19:31 → 00:19:35 ซวยเองเราจะเดือดร้อนเองอือฮึแล้วคนที่
00:19:35 → 00:19:37 กำลังอยู่ในภาวะหมดใจเนี่ยส่วนใหญ่เขาจะ
00:19:37 → 00:19:40 มีอาการบุคลิกลักษณะแบบไหนมั้ยแบบเก็บตัว
00:19:40 → 00:19:44 เงียบมันก็จะมีความซึมความเบื่อหน่ายความ
00:19:44 → 00:19:47 เก็บตัวความอยากถอยอความรู้สึกไม่สดชื่น
00:19:47 → 00:19:50 อย่างเงี้ยครับไม่อยากคุยกับใครใช่ๆรู้
00:19:50 → 00:19:51 สึกชีวิตไร้ความหมายไอ้พวกนี้แหละคือ
00:19:51 → 00:19:54 อาการของคนที่แบบมีความหมดใจ
00:19:54 → 00:19:58 จากเดิมที่เคยแบบโอ้โหอ่าจากเดิมที่แบบมี
00:19:58 → 00:20:00 ความกระฉับกระเฉงมีความสนใจมีความมุ่ง
00:20:00 → 00:20:03 มั่นอืหมดใจปั๊บเจะแห้งกับสิ่งนั้นไปเลย
00:20:03 → 00:20:06 ทีนี้ถ้าเกิดเค้ามีสิ่งอื่นที่เค้าอสนใจ
00:20:06 → 00:20:09 ทดแทนอือฮึเค้าอาจจะทิ้งจากบางสิ่งแล้วไป
00:20:09 → 00:20:11 ทำให้สิ่งอื่นก็คือมีใจให้สิ่งอื่นต่อได้
00:20:11 → 00:20:14 อือฮึเช่นเหมือนหมดใจจากความรักกับบางคน
00:20:14 → 00:20:17 บางคนออฮะแต่แล้วพอเจอตัวละครใหม่ที่แบบ
00:20:17 → 00:20:19 โอ้ฉันรักเธอจังเลยออฮึเขาก็อาจจะหมดใจ
00:20:19 → 00:20:21 กับคนนึงเป็นความเบื่อหน่ายแล้วก็ไปให้ใจ
00:20:21 → 00:20:24 เป็นความสดชื่นกับอีกคนนึงแทนก็ได้อแล้ว
00:20:24 → 00:20:26 ก็คนที่ถูกหมดใจต้องดูด้วยนะอันเนี้มัน
00:20:26 → 00:20:28 เป็นสัญญาณที่ถึงแม้จะสัญญาณเงียบแต่มัน
00:20:28 → 00:20:31 เป็นสัญญาณที่ดังที่สุดที่เราจะได้ยินเลย
00:20:31 → 00:20:34 ว่าใช่ครับเข้าหมดใจแล้วเป็นความเงียบที่
00:20:34 → 00:20:39 ดังที่สุดใช่เพลงมาเพลงมาเพลงมาค่ำเกิน 7
00:20:39 → 00:20:42 วินาทเออซึ่งซึอันเนี้ต้องบอกว่าบางครั้ง
00:20:42 → 00:20:45 คนที่หมดใจเ้าอาจจะเจอความทุกข์ทรมานแต่
00:20:45 → 00:20:48 แต่อันนี้ผมพูดอีกข้างนึงเลยนะว่าบาง
00:20:48 → 00:20:50 ครั้งตัวเราอาจจะเป็นคนที่ถูกหมดใจหมาย
00:20:50 → 00:20:53 ถึงว่ามีคนที่หมดใจกับเราอเออเออว่ะที
00:20:53 → 00:20:55 เนี้ยต้องบอกว่าบางทีอ่ะต้องแยกให้ออก
00:20:55 → 00:20:56 ครับบางครั้งอาจจะเป็นเราเองที่ท็อกสิค
00:20:56 → 00:20:59 ใส่คนอื่นเลยทำให้คนอื่นเหมาะใจกับเราอือ
00:20:59 → 00:21:01 ฮึแต่มันจะมีบางอันที่จริงๆเราไม่ได้ไม่
00:21:01 → 00:21:04 ได้ท็อกสิคอะไรเลยแต่บังเอิญว่าตัวเราอาจ
00:21:04 → 00:21:06 จะไม่ได้ให้บางสิ่งที่อีกฝ่ายกำลัง
00:21:06 → 00:21:08 ปรารถนา
00:21:08 → 00:21:10 เช่นยกตัวอย่างยกตัวอย่างอือฮึอีกฝ่าย
00:21:10 → 00:21:13 เนี่ยเค้าเป็นคนค่อนข้างหมกมุ่นในกาม
00:21:13 → 00:21:17 อารมณ์หมกมุ่นในกามารมณ์โอส่วนตัวเราไม่
00:21:17 → 00:21:21 ใช่คนที่แบบจะหมกมุ่นกับสิ่งนี้ออมันมี
00:21:21 → 00:21:23 เรื่องอื่นให้คิดเยอะแยะอะไรมากกว่าอ่าฮะ
00:21:23 → 00:21:25 ใช่ครับแล้วกลายเป็นว่าอีกคนนึงเขาก็ไป
00:21:25 → 00:21:27 เจอผู้หญิงที่แบบสามารถตอบสนองเรื่องนั้น
00:21:27 → 00:21:30 ได้อ่าก็ไม่เค้าก็เลยอาจจะหมดใจกับเรา
00:21:30 → 00:21:33 อือฮึแล้วก็ไปอยู่กับคนอื่นแทนทำไงล่ะที
00:21:33 → 00:21:36 นี้อ่ะทีนี้เลยต้องดูให้ดีว่าเรื่อง
00:21:36 → 00:21:38 เรื่องความรักความใคร่พวกเนี้ยครับอือฮึ
00:21:38 → 00:21:41 มันไม่มีถูกไม่มีผิดมันขึ้นกับความพอดี
00:21:42 → 00:21:45 เป็นหลักถ้าถ้าพอดีกันอ่ะสมมุตินะเป็นคน
00:21:45 → 00:21:48 ไม่ได้ฝักใฝ่เหมือนกันมันพอดีมันจบถ้า
00:21:48 → 00:21:50 เป็นคนฝักใฝ่เหมือนกันมันก็พอดีกันมันก็
00:21:50 → 00:21:54 จบอืแต่ถ้าเกิดมันแบบฝักใฝ่ไม่เท่ากันตรง
00:21:54 → 00:21:57 เนี้ยมันจะเป็นความไม่พอดีอืออ่าแต่ถ้า
00:21:57 → 00:21:59 เราชัดเจนว่าตัวเราเป็นคนไม่ได้ให้น้ำ
00:21:59 → 00:22:02 หนักกับเรื่องนี้มากและตัวเราเหมือนกับ
00:22:02 → 00:22:03 รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันไม่ได้เป็น
00:22:03 → 00:22:06 สิ่งเลวร้ายอ่ะและเราเหมือนกับว่ามีชีวิต
00:22:06 → 00:22:07 แบบที่พอดีมากกว่าเนี้ที่จะไม่ต้องยืมลบ
00:22:07 → 00:22:10 พวกนั้นเยอะบางทีเราแค่ต้องยอมรับความ
00:22:10 → 00:22:12 จริงว่าสิ่งเนี้ยมันเกิดขึ้นเพราะความไม่
00:22:12 → 00:22:15 พอดีอืและเราจะต้องอนุญาตให้เขาหมดใจกับ
00:22:15 → 00:22:17 เราเพื่อไปหาจุดที่เขาใช้มากกว่าค่ะแต่
00:22:17 → 00:22:19 เราอาจจะไม่ต้องโทษตัวเองก็ได้อืเพราะว่า
00:22:19 → 00:22:21 ต่อให้เรายื้อไว้และพยายามเปลี่ยนตัวเอง
00:22:21 → 00:22:23 ให้เป็นคนแบบที่เขาชอบเราอาจจะไม่ชอบตัว
00:22:23 → 00:22:26 เองก็ได้ไม่แน่นสุดท้ายแล้วเราก็จะรู้สึก
00:22:26 → 00:22:30 ว่าเออเออการที่เาไปหาความพอดีหรือความ
00:22:30 → 00:22:33 สบายใจแรงของเขาเราอาจจะมีความสุขมากกว่า
00:22:33 → 00:22:35 ที่อยู่ตรงนั้นอยู่อสบายใจใช่ครับสำคัญ
00:22:35 → 00:22:37 คือระมัดระวังอย่าไปโทษตัวเองทั้งหมด
00:22:37 → 00:22:39 เพราะบางอย่างมันเป็นความมันเป็นเรื่อง
00:22:39 → 00:22:43 ความไม่พอดีก็เรามักจะเจออีกฝ่ายโยนความ
00:22:43 → 00:22:45 ผิดให้ตลอดอ่ะก็เป็นไปได้ครับเพราะอีก
00:22:45 → 00:22:47 ฝ่ายเขาสิเรู้สึกแบบผิดหวังไม่ได้หนัง
00:22:47 → 00:22:50 หวังอ่ะเออก็โทษกันไปเรื่อยอันนี้อันนี้
00:22:50 → 00:22:53 คือหมายถึงว่าแบบได้ทุกเพศเลยนะไม่ได้แบบ
00:22:53 → 00:22:56 ว่าจะมาชายยงชายหญิงหรืออะไรอย่างงี้เนาะ
00:22:56 → 00:22:59 อือืมแล้วอย่างี้คือถ้าเกิดอย่างสมมุติ
00:22:59 → 00:23:02 ถ้าในกรณีที่เค้าหมดใจไปอ่ะอันนี้เราทำ
00:23:02 → 00:23:05 อะไรไม่ได้แต่ถ้าวันนึงที่เราหมดใจกับ
00:23:05 → 00:23:07 สิ่งอะไรก็แล้วแต่ในสิ่งที่เราชอบทำสิ่ง
00:23:07 → 00:23:11 ที่เรารักหรือว่าเราให้คุณค่ากับมันเงี้ย
00:23:11 → 00:23:14 เราจะทำไงให้ตัวเรากลับมาแบบ
00:23:14 → 00:23:17 เหมือนเดิมได้ก็ผมว่าจริงๆก่อนจะกลับมา
00:23:17 → 00:23:20 ครับให้เราหาคำตอบหรือหาคำอธิบายให้เจอ
00:23:20 → 00:23:24 ก่อนว่าเราหมดใจจากอะไรอะไรของสิ่งนั้นทำ
00:23:24 → 00:23:25 ให้เราหมดใจซึ่งบางทีมันมีเหมือนกันนะ
00:23:25 → 00:23:28 เช่นเราอาจจะเผลอตั้งความคาดหวังสูงไป
00:23:28 → 00:23:31 หน่อยอืเช่นเราอาจจะเล่นกีฬาบางอย่างแล้ว
00:23:31 → 00:23:34 แล้วเกิดตั้งความคาดหวังว่าแบบจะต้องเป็น
00:23:34 → 00:23:37 ทีมชาติอ่าเออมันเลยกลายเป็นว่าเราไม่ใช่
00:23:37 → 00:23:39 ตั้งเป้าเพื่อความบันเทิงหรือความแบบเล่น
00:23:39 → 00:23:41 กีฬาเก่งขึ้นธรรมดาแล้วแต่เรามีความคาด
00:23:41 → 00:23:44 หวังที่สูงมากแล้วพอมาได้หนังหวังก็เลย
00:23:44 → 00:23:47 หมดใจอือืทั้งๆที่กีฬาชนิดนั้นอาจจะไม่
00:23:47 → 00:23:49 ผิดสมมุติถ้าเป็นแบบนี้อาจจะหมายความว่า
00:23:49 → 00:23:51 ตัวเราอ่ะคาดหวังบางอย่างสูงไปอาจจะต้อง
00:23:51 → 00:23:54 ตัดสิ่งนี้ลงลดทอนลงบ้างลดทอนความคาดหวัง
00:23:54 → 00:23:56 บางอย่างลงแล้วตัวเราอ่ะอาจจะกลับมารู้
00:23:56 → 00:23:58 สึกมีใจให้สิ่งนั้นมากขึ้นอือย่างเงี้ย
00:23:58 → 00:24:00 ครับเพราะงั้นต้องดูให้ดีว่าอะไรทำให้เรา
00:24:00 → 00:24:03 หมดใจหรือบางสิ่งเราทำงานให้เค้าแล้วเแบบ
00:24:03 → 00:24:05 เอาเปรียบเราฝั่งเดียวค่ะอันนี้ก็ชัดเจน
00:24:05 → 00:24:07 ว่าเราไม่สามารถมีใจให้กับคนที่เอาเปรียบ
00:24:07 → 00:24:10 แล้วฝั่งเดียวได้ตัวเราอาจจะต้องคล้ายๆ
00:24:10 → 00:24:13 ขยับไปทำงานอื่นที่มีคนให้ปฏิบัติกับเรา
00:24:13 → 00:24:16 อย่างยุติธรรมอย่างเงี้ยครับอือฮึอือเรา
00:24:16 → 00:24:18 บางอย่างหมดใจไปแล้วไม่ต้องมายุ่งกับมัน
00:24:18 → 00:24:20 ต่อก็ได้คือหมดแล้วหมดเลยก็ได้อือฮึแต่
00:24:20 → 00:24:23 บางๆบางบางคนก็ไม่สามารถที่จะออกจากจุด
00:24:23 → 00:24:26 ตรงนั้นได้คือมันหมดใจไปแล้วแหละแต่มันก็
00:24:26 → 00:24:28 ต้องอยู่อ่ะเนาะก็ต้องอยู่บางคนก็ต้องอด
00:24:28 → 00:24:30 ทนก็มีครับเพราะว่าไม่มีทางเลือกอื่นแต่
00:24:30 → 00:24:32 ถ้าดีที่สุดเจอเจอทางเลือกอื่นที่เหมาะ
00:24:32 → 00:24:35 กับตระเวงผมก็เชียร์อือแต่ถ้าเกิดไม่เจอ
00:24:35 → 00:24:38 อยู่ไปก่อนอาจจะต้องปรับมุมมองว่าไอ้ตรง
00:24:38 → 00:24:40 นี้เราอยู่เพื่อไม่ใช่เพื่อแบบการถูกยอม
00:24:40 → 00:24:42 รับะเราอยู่เพื่อเงินอยู่เพื่อนเพื่อ
00:24:42 → 00:24:44 เลี้ยงชีพแล้วแล้วเอาเงินนั้นไปทำ
00:24:44 → 00:24:47 ประโยชน์อย่างอื่นที่เรามีใจดีกว่าอืก็มี
00:24:47 → 00:24:49 เหมือนกันครับคือบางทีหมดใจได้แต่อย่า
00:24:49 → 00:24:51 เพิ่งหมดความอดทนเพราะว่ามันชีวิตมันถูก
00:24:51 → 00:24:53 หล่อเลี้ยงด้วยจุดตรงนี้ณตรงนี้ใช่แล้ว
00:24:54 → 00:24:55 แต่ความจำเป็นเรื่องแล้วแต่เหตุจำเป็นแต่
00:24:55 → 00:24:59 ละชีวิตเลยครับอืคือแม้กระทั่งเป็นคนที่
00:24:59 → 00:25:02 หมดใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่ได้จะผิดเ
00:25:02 → 00:25:05 อาจจะเจออะไรที่มันแบบทำให้รู้สึกแบบหมด
00:25:05 → 00:25:08 ใจหรือคนที่ถูกหมดใจจากใครสักคนนึงที่เขา
00:25:08 → 00:25:11 เคยเห็นคุณค่าแล้วแบบวันนึงเาหมดใจไปกับ
00:25:11 → 00:25:13 เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้
00:25:13 → 00:25:18 อ่ะเนาะอใช่ครับอืก็น่าจะไม่ยากเกินไปนัก
00:25:18 → 00:25:20 ได้แหละนะฮะเอาใจช่วยทุกคนเลยครับที่
00:25:20 → 00:25:23 กำลังหมดใจขอให้เจอสิ่งที่คุณให้ใจครับผม
00:25:23 → 00:25:26 ไม่รู้ร้องไห้ไปกี่ช็อตแล้วเนี่ย
00:25:26 → 00:25:28 ขอบคุณคุณเอิ้ลค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้ว
00:25:29 → 00:25:31 ค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการ
00:25:31 → 00:25:33 โรงหมอทางไทย PBS พcastค่ะวันนี้ลาไปก่อน
00:25:33 → 00:25:37 นะคะสวัสดีค่ะ This is Thai PBS
00:25:37 → 00:25:40 Podcast สารปนเปื้อนมากับผักและผลไม้รูป
00:25:40 → 00:25:42 แบบใดได้บ้างกลุ่มใดน่าห่วงที่สุดล้าง
00:25:42 → 00:25:45 ด้วยวิธีใดช่วยให้หลงเหลืออยู่น้อยที่สุด
00:25:45 → 00:25:47 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.เอกราชบำรุงพืชผู้
00:25:47 → 00:25:51 เชี่ยวชาญด้านโภชนาการมาเล่าให้ฟังครับ
00:25:51 → 00:25:54 การทำความสะอาดไอ้พวกยาฆ่าแมลงสารเคมีตก
00:25:54 → 00:25:57 ค้างต้องบอกก่อนว่าความสะอาดในที่เนี้ย
00:25:57 → 00:26:01 เราก็แบ่งเป็นกายภาพเคมีและจุลินทรีย์ 3
00:26:01 → 00:26:04 ด้านกายภาพคือหินดินทรายที่ติดซึ่งน้ำมัน
00:26:04 → 00:26:07 ก็ล้างออกเคมีนี่น้ำสะอาดถามว่าล้างออก
00:26:07 → 00:26:09 มั้ยล้างออกแต่ประสิทธิภาพอีกเรื่องนึงนะ
00:26:09 → 00:26:12 ส่วนจุลินทรีย์นะบางทีน้ำมันก็ล้างออกแต่
00:26:12 → 00:26:14 บางอย่างเฮ้ยมันอาจจะแบบมีการปนเปื้อนไม่
00:26:14 → 00:26:16 ออกแต่เรามาปกประกอบอาหารมันก็ถูกทำลาย
00:26:16 → 00:26:18 ได้ด้วยความร้อนแต่ไม่ใช่ว่าความร้อน
00:26:18 → 00:26:21 สามารถทำลายทุกสิ่งนะแต่ในแง่ของ Food
00:26:21 → 00:26:24 Safety เราอย่าลืมว่าคุณค่าทางโภชนาการ
00:26:24 → 00:26:27 มันต้องไปด้วยกับความปลอดภัยของอาหารแม้
00:26:27 → 00:26:29 กระทั่งผักออร์แกนิคนะอาจารย์บอกเลยว่าก็
00:26:29 → 00:26:32 อย่าชะล่าใจเพราะอาจารย์ให้นักศึกษาเนี่ย
00:26:32 → 00:26:35 ทำการศึกษาวิจัยเก็บตัวอย่างพืชผัก
00:26:35 → 00:26:37 ออร์แกนิคผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคมา 100 ตัว
00:26:37 → 00:26:40 อย่างตามซุเปอร์มาร์เก็ตที่เขียนว่า
00:26:40 → 00:26:42 ออร์แกนิคนะจะไทยและประเทศก็ตามแต่พอเอา
00:26:42 → 00:26:45 มาตรวจปุ๊บที่เจอยาข้ามแมลงตกค้างเนี่ย
00:26:45 → 00:26:47 เกือบ 10 ตัวอย่างคำว่าเจอเนี่ยอาจารย์
00:26:47 → 00:26:49 ต้องบอกอย่างงี้ก่อนมันมีอยู่ 2 อย่างนะ
00:26:49 → 00:26:54 ครับเจอในระดับที่เกินเกณฑ์อ่าหรือเจอใน
00:26:54 → 00:26:57 ระดับที่ยอมรับได้ของพวกยาฆ่าแมลงตกค้าง
00:26:57 → 00:27:00 เนี้ยมันเกินเนี่ยถามว่าเกินต่อให้ไม่
00:27:00 → 00:27:03 เกินมาตรฐานแต่ถามว่ามีสารพิษปนเปื้อน
00:27:03 → 00:27:06 อยู่มั้ยมีแต่เขาประเมินแล้วว่ามันร่าง
00:27:06 → 00:27:08 กายสามารถขับออกได้แต่อย่าลืมว่าถ้าเด็ก
00:27:08 → 00:27:11 เล็กกินล่ะการกำจัดสารพิษของตับการขับออก
00:27:11 → 00:27:14 ของไตของเด็กเล็กก็ไม่เท่ากับผู้ใหญ่ที่
00:27:14 → 00:27:16 กินออืออแล้วถ้าผู้สูงอายุล่ะแล้วถ้าหญิง
00:27:17 → 00:27:19 ตั้งครรภ์อยู่ล่ะมันเกินเนี่ยแล้วถ้าเรา
00:27:19 → 00:27:23 คุณได้รับใบบ่อยๆถ้านานๆทีอ่ะไม่ก็ไม่
00:27:23 → 00:27:25 เป็นไรอ่ะช่างมันแต่ถ้าเกิดว่าเรารับบ่อย
00:27:25 → 00:27:28 ๆบ่อยๆบ่อยๆมันก็สะสมเข้ามาสะสมเข้ามา
00:27:28 → 00:27:31 สะสมเข้ามาแล้วประสิทธิภาพในการขับสารพิษ
00:27:31 → 00:27:33 ของแต่ละคนมันก็ต่างกันไงการที่เราจะมาทำ
00:27:33 → 00:27:36 ความสะอาดเนี่ยโอหมันมีหลายวิธีถ้าวิธี
00:27:36 → 00:27:39 เบสิคสุดเลยคือล้างด้วยน้ำสะอาดมันจะ
00:27:39 → 00:27:42 กำจัดอะไรได้ฝุ่นนะสิ่งสกปรกที่ติดอยู่
00:27:42 → 00:27:44 ที่อาจารย์บอกอันเนี้ย
00:27:44 → 00:27:48 มันก็จะแบบเฮ้ยล้างออกได้หมดแล้วผักผลไม้
00:27:48 → 00:27:50 ทุกชนิดแม้จะมีเปลือกนะแล้วเราไม่กิน
00:27:50 → 00:27:54 เปลือกก็ต้องล้างก็ต้องล้างแต่การล้างของ
00:27:54 → 00:27:58 ผักผลไม้เนี่ยอาจารย์บอกเลยว่าควรจะล้าง
00:27:58 → 00:28:00 ก่อนบริโภคหรือใช้ปรุงประกอบเอ่อใน
00:28:00 → 00:28:03 โซเชียลแม่ค้าที่ขายผลไม้ช่วงองุ่นดังๆ
00:28:03 → 00:28:06 อ่ะเห็นเลยว่าเขาเอาน้ำกับเกลือมาใส่แล้ว
00:28:06 → 00:28:08 ก็เอาองุ่นเนี่ยที่เด็ดมาแล้วองุ่นร่วง
00:28:08 → 00:28:10 บ้างอะไรบ้างใส่โรงพยาบาลแล้วเค้าก็เคล้า
00:28:10 → 00:28:13 คลุกเคล้าเกลือถามว่ามันช่วยได้มั้ย
00:28:13 → 00:28:15 ประสิทธิภาพของเกลือนะครับที่ทำการศึกษา
00:28:15 → 00:28:17 วิจัยเนี่ยเขาใช้เกลือ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 4
00:28:17 → 00:28:20 ลิตรทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีลดสารตกค้าง
00:28:20 → 00:28:24 ได้เนี่ยสูงสุดเนี่ยประมาณ 38% น้ำส้มใส
00:28:24 → 00:28:27 ชูก็ประมาณเดียวกันกับเกลือเลยด่างทับทิม
00:28:27 → 00:28:30 เนี่ยดีขึ้นมาหน่อยได้ประมาณ 50% แต่ที่
00:28:31 → 00:28:35 ดีที่สุดลดได้สูงสุด 95% คือผงฟู
00:28:35 → 00:28:37 [เพลง]
00:28:37 → 00:28:41 This is Thai PBS Podcast
00:28:41 → 00:28:45 ติดตามรายการของ thaps podcast ได้ทาง
00:28:45 → 00:28:46 เว็บไซต์ www.thaipspodcast.com
00:28:46 → 00:28:49 thapbspodcast.com
00:28:49 → 00:28:52 แอปพลิเคช Thai PBBS Podcast รวมถึงฟัง
00:28:52 → 00:28:57 ผ่านพcastช่องทางอื่นๆ Spotify YouTube
00:28:57 → 00:29:00 Apple Podcast และ Soundcloud เ้า
00:29:00 → 00:29:03 [เพลง]