00:00:00 → 00:00:13 [เพลง]
00:00:13 → 00:00:16 สวัสดีครับคุณหมอครับสวัสดีครับทุกคนครับ
00:00:16 → 00:00:18 สวัสดีครับสวัสดีครับพี่หมอสวัสดีสวัสดี
00:00:19 → 00:00:22 ครับทุกคนครับวันนี้พร้อมเพียงกันทุกๆคน
00:00:22 → 00:00:28 เลยครับผมพอดีเสาร์อาทิตย์อยู่เวรก็เลยสิ
00:00:28 → 00:00:32 ไปหน่อยเวลากูวุ่นๆวันเนี้ยจะพูดต่อ
00:00:32 → 00:00:36 เนื่องนะฮะในเรื่องของไตเสื่อมหรือหรือ
00:00:36 → 00:00:39 การฟื้นฟูไตอ่ะเ้าเรียกการฟื้นฟูไตแล้ว
00:00:39 → 00:00:43 กันนะแต่ว่าจะพยายามเน้นในภาคปฏิบัติที่
00:00:43 → 00:00:48 จะเอาไปใช้ถ้าใครอยากจะใช้นะฮะเราก็มี
00:00:48 → 00:00:53 เรื่องของภาทฤษฎีหรือหรือการพูดถึงเ่อ
00:00:53 → 00:00:57 สาเหตุแล้วก็องค์ความรู้ในแง่ของ ow C
00:00:57 → 00:01:00 High Good Fat เกี่ยวกับไตเสื่อมนะนไป
00:01:00 → 00:01:06 แล้วนะแล้วก็หมอก็พยายามที่จะจะแชร์ใน
00:01:06 → 00:01:09 เรื่ององค์ความรู้อย่างหนึ่งก็คือเราใช้
00:01:09 → 00:01:12 ในกลุ่มโปรตีนพืชเา้าเรียกว่า my Add on
00:01:13 → 00:01:17 my แ on ในการที่จะฟื้นฟูไตนะแต่ก็ไม่
00:01:17 → 00:01:21 ได้ให้รายละเอียดหรือมีข้อสรุปอะไร
00:01:21 → 00:01:26 ที่ที่คนจะจะจะต้องเข้าใจอ่ะนะฮะนะจริงๆ
00:01:26 → 00:01:30 แล้วก็คือการแอด on โปรตีนพืชเนี่ย
00:01:30 → 00:01:33 จุดมุ่งหมายก็คือไม่ได้ช่วยไตโดยตรงอ่ะนะ
00:01:33 → 00:01:36 ฮะแต่จริงๆแล้วก็คือจะช่วยกล้ามเนื้อนั่น
00:01:36 → 00:01:39 แหละนะฮะเพราะว่าในที่สุดแล้วคู่แฝดนะของ
00:01:39 → 00:01:41 การฟื้นฟูไตก็คือการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
00:01:41 → 00:01:46 กล้ามเนื้อฟื้นฟูไตก็ฟื้นฟูนะครับผมเพราะ
00:01:46 → 00:01:50 ว่าไตจะต้องอาศัยสต๊อกที่เป็นยุ้งฉางใน
00:01:50 → 00:01:54 เรื่องของสารอาหารในการฟื้นฟูโดยจะต้อง
00:01:54 → 00:01:58 เอ่ามีกล้ามเนื้อเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนะ
00:01:58 → 00:02:02 แล้วก็อันนี้เนี่ยยนะเอ่อการฟื้นฟูกล้าม
00:02:02 → 00:02:05 เนื้อการสร้างกล้ามเนื้อเพิ่ม Muscle mas
00:02:05 → 00:02:09 เนี่ยนะเราจะต้องใช้ตัวโปรตีน
00:02:09 → 00:02:12 พืชแต่ว่ายังไงก็ตามนะ
00:02:12 → 00:02:15 เอ่อในที่สุดแล้วเนี่ยตัวโปรตีนพืชที่
00:02:15 → 00:02:19 แอดออนเข้าไปเนี่ยเขาก็จะไปมีผลต่อไตบ้าง
00:02:19 → 00:02:22 ล่ะนะฮะบ้างล่ะแต่ก็ไม่ได้มากมายเท่ากับ
00:02:22 → 00:02:25 โปรตีนสัตว์เพราะว่าเราจะเพิ่มปริมาณ
00:02:25 → 00:02:29 โปรตีนสัตว์นักก็ไม่ได้ของเสียที่จะทำให้
00:02:29 → 00:02:33 ไทำงานหนักมันจะเป็นการโหลดหน้าที่ของไต
00:02:33 → 00:02:37 ซึ่งเขาก็ยอบแยบหรือว่าเหมือนกับว่าแบบ
00:02:37 → 00:02:41 เอ่อเอ่อเดี้ยงอยู่พอสมควรแล้วอ่ะนะฮะก็
00:02:41 → 00:02:44 เป็นเป็นสูตรเนี้ยที่ที่จะมาช่วยช่วย
00:02:44 → 00:02:48 เหลือกันเนาะวันวันเนี้ยจะเป็นการคล้ายๆ
00:02:48 → 00:02:51 กับสรุปแล้วก็เอ่อพูดถึงแนวทางปฏิบัติโดย
00:02:51 → 00:02:54 เฉพาะเน้นที่เหตุที่ผลนะฮะนะเพราะฉะนั้น
00:02:54 → 00:02:57 ในบางช่วงบางตอนเนี่ยหมอจะค่อนข้างย่อแต่
00:02:57 → 00:03:01 ว่าถ้าใครเลคเชอร์ได้ก็เลกไปเลยโดยเฉพาะ
00:03:01 → 00:03:05 ช่วงที่พูดถึงเรื่องของการใช้โปรตีนนะฮะ
00:03:05 → 00:03:08 เนี่ยเรื่องการใช้โปรตีนมาดูแลไตอ่ะหรือ
00:03:08 → 00:03:11 ฟื้นฟูไตเนาะอันนี้วันนี้เราเริ่มอย่าง
00:03:11 → 00:03:16 งี้ก่อนว่าคนที่ใช้โภชนาการแบบคาฟต่ำ
00:03:16 → 00:03:21 เนี่ยนะจะเป็นรูปแบบไหนก็ตามคีลคฟ CD kcd
00:03:21 → 00:03:26 เนี่ยหลายๆคนจะมีปัญหากับไตในช่วงแรกๆนะ
00:03:26 → 00:03:29 ฮะเวลาเราตรวจไอ้ตัวค่ามอนิเตอร์เกี่ยว
00:03:29 → 00:03:33 กับไตเนี่ยเอ่อเตินบางคนก็จะพุ่งขึ้นไป
00:03:33 → 00:03:37 บางคน BN สูงถ้าเป็นการโหลดโปรตีนเยอะๆนะ
00:03:37 → 00:03:42 ฮะแล้วก็ค่า egfr มันจะลดลงแล้วก็พวกเมัน
00:03:42 → 00:03:44 จะเป็นในช่วงระยะสัก 2 หรือ 3 เดือนแรก
00:03:45 → 00:03:49 ของการเข้าสู่เ่อภาวะโภชนาการาฟต่ำซึ่ง
00:03:49 → 00:03:52 ใครจะได้ไปถึงขั้นไหนนะจะถึงคีต adap เลย
00:03:52 → 00:03:56 มยหรือจะแค่ Fat adapt ketosis เ่อ
00:03:56 → 00:04:00 Dirty คีโตนคีคีโตนอะไรก็แล้วแต่นะฮะแต่
00:04:00 → 00:04:05 ถ้ามีปัญหากับไตเนี่ยนะก็จะสังเกตได้ว่า
00:04:05 → 00:04:09 egfr มันทำไมจะลดลงนะฮะเอ่อแล้วเพราะ
00:04:09 → 00:04:12 อะไรแล้วควรจะแก้ยังไงนะนี้ก็จะมีอยู่ 2
00:04:12 → 00:04:16 กลุ่มนะฮะที่เวลาเข้ามาใช้ชการคต่ำแล้วจะ
00:04:16 → 00:04:20 มีปัญหาก็คือคนที่อ้วนน้ำหนักเกินนะหรือ
00:04:20 → 00:04:23 คนที่น้ำหนักเกินนี่แหละนะฮะแล้วพอมาใช้
00:04:23 → 00:04:26 โภชนาการคาฟต่ำแล้วไม่ว่าจะเป็นบอ type
00:04:26 → 00:04:28 แบบไหนแล้วปรากฏว่าแหมมันได้ผลดีเหลือ
00:04:28 → 00:04:33 เกินนะฮะน้ำหนักมันลงฮวบๆๆหรือลงค่อนข้าง
00:04:33 → 00:04:38 เยอะในช่วงแรกนะก็พวกเนี้ยนะจะมีปัญหากับ
00:04:38 → 00:04:42 ไปโดยเฉพาะค่าเตีนกับ efr อีกกลุ่มนึงก็
00:04:42 → 00:04:47 คือในคนที่ผอมนะฮะนะอ่าบางคนเนี่ยตรวจ
00:04:47 → 00:04:50 เลือด Follow อ่าสักเดือน 2 เดือนเนี่ยนะ
00:04:50 → 00:04:55 เห็นข้อแตกต่างเลยว่าอ่าอะไรอ่ะไอ้อัตรา
00:04:55 → 00:04:58 การกล่องของไตอิปมามันลดลงนะฮะก็ต้องตกอก
00:04:59 → 00:05:02 ตกใจทนี้สำหรับในคนที่ผอมเนี่ยสาเหตุ
00:05:02 → 00:05:06 เพราะว่าสัดส่วนของร่างกายเขาไม่ดีนะไม่
00:05:06 → 00:05:10 ดีนะคือไม่ได้ผอมแต่ว่ามันจะมี
00:05:10 → 00:05:13 เปอร์เซ็นต์ visceral Fat เปอร์เซ็นอ่า
00:05:13 → 00:05:15 body fat หรือเปอร์เซ็นตมวลกล้ามเนื้อ
00:05:15 → 00:05:20 เนี่ยที่ที่ไม่เป็นไปตามอ่า
00:05:20 → 00:05:25 ตามตามความตามอัตราส่วนอะไรต่างๆตามเคิฟ
00:05:25 → 00:05:29 อะไรเงี้ยนะฮะนะโดยจะพบว่าอ่ากลุ่มที่
00:05:29 → 00:05:32 ยิ่งมีมวลกล้ามเนื้อน้อยมากเท่าไหร่อ่าก็
00:05:33 → 00:05:36 มักจะมีผลต่อไตมากเท่านั้นนะฮะไตกับกล้าม
00:05:36 → 00:05:39 เนื้อมันจะไปด้วยกันนะนะเพราะฉะนั้นเวลา
00:05:39 → 00:05:41 เราฟื้นเนี่ยครับผมเราก็ต้องฟื้นทั้ง 2
00:05:41 → 00:05:46 อวัยวะนะอ่าทีนี้มาดูว่าแล้วไตที่เสื่อม
00:05:46 → 00:05:49 เนี่ยเพราะอะไรอ่อเดี๋ยวบอกก่อนว่า
00:05:49 → 00:05:53 อันเนี้ยนะเอ่อในข้อปฏิบัติในครั้งเที่จะ
00:05:53 → 00:05:55 พูดเนี่ยนะฮะมันจะเป็นข้อสรุปในแนวทาง
00:05:55 → 00:06:00 ปฏิบัติที่คนที่มีปัญหาเอ่อเ่าไม่ว่าจะ
00:06:00 → 00:06:04 อยู่ในเ่อรูปแบบโภชนาการอย่างไรนะฮถ้า
00:06:04 → 00:06:07 อยากจะทำเนี่ยนะฮะโดยเฉพาะครับผมทั่วไป
00:06:07 → 00:06:11 ที่ไปตรวจแล้วปรากฏว่าเอ่อภาวะไตเสื่อม
00:06:11 → 00:06:15 อ่าที่เรียกว่าไตเรื้อรัง ckd เนี่ยถ้า
00:06:15 → 00:06:20 เป็นเลเวลที่ 2 นะหรือ 3A 3B หรือแม้แต่
00:06:20 → 00:06:25 ระยะที่ 4 Stage 4 ต้นๆโดยที่ถ่าไอ้ตัว
00:06:25 → 00:06:29 egfr เนี่ยยังไม่ไม่ต่ำกว่า 30 เนี่ยก็
00:06:29 → 00:06:32 สามารถใช้แนวทางที่หมอว่าเนี่ยได้นะฮะ
00:06:32 → 00:06:36 แล้วก็ลองไปใช้ดูนะมันได้ผลนะแล้วหลายคน
00:06:36 → 00:06:39 เนี่ยมันกู้ไตขึ้นมาได้ถึง 1 หรือ 2
00:06:39 → 00:06:45 เลเวลเลยนะฮะบางคนเนี่ยอยู่ใน ckd ระยะ 3B
00:06:45 → 00:06:49 แต่มันสามารถขึ้นมาเกือบๆ 90 ได้เลยนะอัน
00:06:49 → 00:06:53 นี้ก็มีนะอืครับผมก็ลองดูทนี้โดยทั่วไป
00:06:53 → 00:06:57 เนี่ยเอ่อไตที่มันเสื่อมเสื่อมเพราะอะไร
00:06:57 → 00:07:01 เสื่อมเพราะเรื่องของพลังงานที่ผิดและมาก
00:07:01 → 00:07:05 เกินนะฮะนะนะแต่ปัญหาใหญ่เลยคือพลังงาน
00:07:05 → 00:07:09 ผิดนะพลังงานที่เราได้รับในการกินอาหาร
00:07:09 → 00:07:13 นี่แหละมันผิดนะเ่อแล้วก็อีกส่วนนึงก็คือ
00:07:13 → 00:07:19 มันเยอะเกินนะพอพลังงานมันผิดนะแล้วตัว
00:07:19 → 00:07:22 กายหยาบเนี่ยนะเริ่มมีการตอบสนองว่า
00:07:22 → 00:07:26 เหมือนการขาดพลังงานนะงั้นตัวไตเนี่ยจะ
00:07:26 → 00:07:29 เป็นอวัยวะสำคัญอันดับแรกเลยนะที่จะเกิด
00:07:29 → 00:07:32 ความผิดปกติในแง่การตอบสนองในเรื่องพลัง
00:07:32 → 00:07:34 งานที่ว่า
00:07:34 → 00:07:38 นี้แล้วอันต่อมาเนี่ยเมื่อเริ่มมีความ
00:07:38 → 00:07:41 เสื่อมเมื่อค่า egfr หรือค่ากีีเริ่มผิด
00:07:41 → 00:07:46 ปกตินะก็จะมาพานในอันดับที่ 2 เนี่ยนะฮะ
00:07:46 → 00:07:51 ก็คือภาวะการคือคนมันก็จะกลัวนั่นแหละนะ
00:07:51 → 00:07:54 ก็คือคนมันถูกกรอกหัวนะว่าจะเป็นอะไร
00:07:54 → 00:07:57 เกี่ยวกับไตแล้วเนี่ยก็คือต้องลดโปรตีน
00:07:57 → 00:08:01 ต้องตัดโปรตีนจากสัตว์ออกไปกินโปรตีนจาก
00:08:01 → 00:08:07 พืชนะต้องอ่าอ่าไม่กินต้องควบคุมปริมาณ
00:08:07 → 00:08:10 น้ำต้องกินต้องงดการกินเค็มอะไรอย่าง
00:08:10 → 00:08:14 เงี้ยนะฮะนะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยปรากฏว่า
00:08:14 → 00:08:17 การเสียสมดุลของเรื่องโปรตีนนะเรื่อง
00:08:17 → 00:08:21 เกลือแร่ต่างๆนะซึ่งอันเนี้ยมันเป็นตัว
00:08:21 → 00:08:24 ที่จะฟื้นไตอ่ะนะฮะนะรวมทั้งในแง่ของพลัง
00:08:24 → 00:08:30 งานที่ผิดๆถูกๆนะเพราะฉะนั้นก็ยิ่งทำผมนะ
00:08:30 → 00:08:34 เออมามามีผลต่อไตเพราะว่าจริงๆแล้วตัวที่
00:08:34 → 00:08:37 จะฟื้นไตเนี่ยก็คือตัวพลังงานที่ถูกต้อง
00:08:37 → 00:08:42 โดยเฉพาะจาก High f f นะนะแล้วก็ต้อง
00:08:42 → 00:08:46 ใช้โปรตีนนะที่เหมาะสมและกินอย่างถูกด้วย
00:08:46 → 00:08:51 นะฮะนะแล้วก็ต้องใช้พวกเกลือแร่แร่ธาตุ
00:08:51 → 00:08:55 อะไรต่างๆที่ถูกต้องด้วยนะเพราะฉะนั้น
00:08:55 → 00:08:59 ทั้งพลังงานในจากแฟตทั้งโปรตีนททั้งเกลือ
00:08:59 → 00:09:05 แร่คือสิ่งที่จะฟื้นไตนะแต่นะคนใน
00:09:05 → 00:09:10 ปัจจุบันปรากฏว่าสิ่งเหล่านี้เขาเขามัวจะ
00:09:10 → 00:09:13 มาจำกัดมัวจะมากลัวมัวจะมากังวลอยู่อ่ะนะ
00:09:13 → 00:09:16 ฮะเพงั้นไตที่พังมันก็เลย
00:09:16 → 00:09:21 กู้แล้วมันก็ก้าวหน้าไปเรื่อยๆสตจต่างๆ
00:09:21 → 00:09:25 มันก็เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นขึ้นนะเนี่ยก็ไม่
00:09:25 → 00:09:29 รู้จะว่ายังไงนะฮะเพราะว่าสิ่งที่เไม่
00:09:29 → 00:09:32 ครับครับนะแล้วไม่มั่นใจที่จะกินก็คือ
00:09:32 → 00:09:38 สิ่งที่จะกู้ตนะแล้วก็สิ่งที่ไม่ถูกต้อง
00:09:38 → 00:09:42 เนี่ยมันเป็นตัวทำให้ไพังๆๆไปเรื่อยๆ
00:09:42 → 00:09:46 นะทีนี้โดยทั่วไปอ่ะเราก็คงรับรู้แล้วว่า
00:09:46 → 00:09:49 ในเรื่องของไตเรื้อรังซี kd เนี่ยนะ
00:09:49 → 00:09:52 สาเหตุจริงๆนะสาเหตุจริงๆน่ะมันก็คือ 2
00:09:52 → 00:09:56 เรื่องนะฮะนะสาเหตุส่วนใหญ่เกิน 93% ก็
00:09:56 → 00:09:59 คือเกิดจากภาวะดื้ออินซูลินนะโดยฮอร์โมน
00:10:00 → 00:10:03 ตัวพ่ออินซูลินนี่แหละนะเขามีบทบาทที่
00:10:03 → 00:10:06 สำคัญที่สุดที่ทำให้หลอดเลือดที่ไตโดย
00:10:06 → 00:10:08 เฉพาะตัวกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดนะ
00:10:09 → 00:10:11 ที่เข้าแล้วก็ออกจากไตอ่ะนะฮะเพื่อจะไป
00:10:11 → 00:10:16 กรองเนะไปกรองเลือดกรองของเสียในเลือดนะ
00:10:16 → 00:10:20 มันเกิดการหดเองนะฮะเพราะฉะนั้นเมื่อเกิด
00:10:20 → 00:10:25 การหดนะไอ้การกรองเนี่ยมันจะลดลงนะเพราะ
00:10:25 → 00:10:28 ฉะนั้นเมื่อการกรองลดลงของเสียขั่งค้าง
00:10:28 → 00:10:32 เพิ่มขึ้นนะค่าที่ใช้ในการตรวจวัดโดย
00:10:32 → 00:10:37 เฉพาะีิีมันก็จะเพิ่มนะแล้วเวลาคำนวณใน
00:10:37 → 00:10:40 สูตรนะอัตราการกอมันก็จะลดลงเป็นอย่างนี้
00:10:40 → 00:10:45 นะนะอันที่ 1 อันที่ 2 เนี่ยก็คืออ่า
00:10:45 → 00:10:49 เมื่ออัตราการกรองลดลงนะเมื่อสาเหตุที่
00:10:49 → 00:10:52 สำคัญที่สุดนะก็
00:10:52 → 00:10:56 คือก็คือตัวอินซูลินเนี่ยที่ยังมีการถูก
00:10:56 → 00:10:59 กระตุ้นมาจากอาหารที่มันไม่ถูกต้องนะนะฮะ
00:10:59 → 00:11:02 แล้วอาหารที่ไม่ถูกต้องนี่แหละก็คืออาหาร
00:11:02 → 00:11:06 นะที่จะไปมีผลที่ทำให้หน่วยกองของไตเนี่ย
00:11:06 → 00:11:09 เกิดความผิดปกตินะอาหารที่ว่าเนี่ยที่
00:11:10 → 00:11:12 สำคัญที่สุดเลยคือน้ำตาลแล้วน้ำตาลมันก็
00:11:12 → 00:11:16 เหนียวนะพอมันเหนียวเนี่ยนะแล้วมันกรอง
00:11:16 → 00:11:20 ได้ไม่ดีอีกนะฮะการ Flow ของเลือดนะมี
00:11:20 → 00:11:25 ปัญหาอ่าเกิดการช้าลงเกิดการหดเกร็งนะ
00:11:25 → 00:11:29 เพราะฉะนั้นเนี่ยไอ้ตัวเหนียวๆตัวของเสีย
00:11:29 → 00:11:32 ๆตัวของที่เป็นพิษของที่ไม่ดีต่างๆก็เลย
00:11:32 → 00:11:37 มาเกาะจับกันนะเหนียวหนึบหนับจับกันที่
00:11:38 → 00:11:41 อยู่ที่ท่อไตที่ท่อในการกรองของไตนี่แหละ
00:11:41 → 00:11:46 นะเพราะฉะนั้นก็เลยยิ่งทำให้เกิดการโปรก
00:11:46 → 00:11:52 นะของอ่าโลกตัวโลกนะก้าวหน้าไปเรื่อยๆนะ
00:11:52 → 00:11:56 นี้นี้เวลาที่ไตเสื่อมไตไม่ดีแล้วมาตรวจ
00:11:56 → 00:11:59 เนี่ยนะมันจะมีสัญลักษณ์หรือมีการเปลี่ยน
00:11:59 → 00:12:03 แปลงผิดปกติทางด้าน metabolic มาเกอร์ใด
00:12:03 → 00:12:07 บ้างที่จะสะท้อนกลับไปนะฮะนะตัวสะท้อนที่
00:12:07 → 00:12:10 สำคัญเนี่ยก็คือค่าน้ำตาลกับไขมันนั่นเอง
00:12:10 → 00:12:15 นะครับอ่าเราพบว่าเนี่ยนะ่าน้ำตาลสูงและ
00:12:15 → 00:12:20 มีอ่าความดันโลหิตสวิงร่วมด้วยนะหรือสูง
00:12:20 → 00:12:23 ไปเลยแล้วเนี่ยนะอันนี้ต้องสงสัยแล้วว่า
00:12:23 → 00:12:26 นะภาวะน้ำตาลสูงอันเนี้ยจะเป็นหรือไม่
00:12:26 → 00:12:29 เป็นเบาหวานหรืออะไรก็ตามนะจะมีมีความ
00:12:29 → 00:12:32 เกี่ยวข้องกับเรื่องไตนะที่เกิดการเสื่อม
00:12:32 → 00:12:38 ลงนะต่อมาก็คือไตรกีสไลเพิ่ม hdl ลดลงนะ
00:12:38 → 00:12:43 ฮะนะอันนี้จะ Back Up กลับไปที่ไตนะเป็น
00:12:43 → 00:12:47 หลักเลยนะฮะของพวกนี้นะเนี่ยนะมันมันมัน
00:12:47 → 00:12:50 ก็มีอะไรที่เคยอธิบายกันไปแล้วหลายๆตัวนะ
00:12:50 → 00:12:53 ฮะสำหรับที่จะเชื่อมโยงกับค่าแลบพวกนี้นะ
00:12:53 → 00:12:59 โดยเฉพาะตัว hdl นะตัว ldl เนี่ยอ่าสูงก็
00:12:59 → 00:13:04 ได้ลดก็ได้นะคือคือไม่แน่นอนไม่แน่นอนแต่
00:13:04 → 00:13:10 นะตัว ldl ที่สูงนะฮะนะตัว ldl ที่สูงโดย
00:13:10 → 00:13:13 เฉพาะการกินพนาการคต่ำเนี่ยแล้วมันเป็น
00:13:13 → 00:13:17 ลักษณะ ldl typ a ตัวใหญ่ๆอันนี้เขาจะ
00:13:17 → 00:13:22 มีผลดีต่อไตมากกว่านะฮะนะต่อไตมากกว่า
00:13:22 → 00:13:24 เพราะว่าพวกนี้ส่วนใหญ่เนี่ย hdl มันจะ
00:13:24 → 00:13:27 สูงด้วยนะฮะและ ldl มันสูงแต่มักจะเป็น
00:13:27 → 00:13:32 type A นะแต่ถ้าเมื่อไหร่มี 1 2 3 นะ
00:13:32 → 00:13:36 ร่วมกับ ldl ที่สูงอันนี้มักจะเป็น Small
00:13:36 → 00:13:41 เนนะฮะที่จะไปมีผลในการทำลายไตนะฮะเพราะ
00:13:41 → 00:13:45 มันก็เป็นตัวออกซิไดซ์ตัวนึงนะที่จะก่อ
00:13:45 → 00:13:49 ให้เกิดการอักเสบนะหรือเกิดความผิดปกติ
00:13:49 → 00:13:55 ที่จะเป็นตัวเพิ่มการทำลายไตนะฮะนะหรือลด
00:13:55 → 00:13:57 การฟื้นฟูไตทางอ้อม
00:13:57 → 00:14:02 นะเอ่อค่าไตเสื่อมจากแลบเนี่ยนะมันก็จะมี
00:14:02 → 00:14:07 ค่าต่างๆที่จะบอกเราได้นะเช่น BN นะอ่า
00:14:07 → 00:14:10 บัตรยูเรียไนโตรเจนเตินอัตราการกองอันนี้
00:14:10 → 00:14:14 ก็ต้องตรวจกันอยู่แล้วนะฮะนะสำหรับเ่าใคร
00:14:14 → 00:14:18 ก็ตามที่มีข้อสงสัยในเรื่องของเตินกับ
00:14:18 → 00:14:21 egfr คือเตีนเนี่ยมันก็จะเกี่ยวกับ
00:14:21 → 00:14:23 เรื่องของกล้ามเนื้อมวลกล้ามเนื้อนะฮะและ
00:14:23 → 00:14:27 การใช้งานของกล้ามเนื้อนะเนี่ยเวัดอันนี้
00:14:27 → 00:14:31 นะฮะแต่บางคนเนี่ยก็เ่าถ้ามีขนาดของร่าง
00:14:31 → 00:14:35 กายเนี่ยนะตัวเล็กตัวผอมตัวอ้วนนะอ่าถ้า
00:14:35 → 00:14:39 ไม่แน่ไม่นอนนะแล้วไปทำให้ค่า egfr เนี่ย
00:14:39 → 00:14:43 รู้สึกว่าจะมีความผิดปกติอ่าลดลงไปเยอะ
00:14:43 → 00:14:46 เลยนะทั้งๆที่เราก็คิดว่าเราปกติดีเนี่ย
00:14:46 → 00:14:48 เราจะตรวจแลบอีกตัวนึงนะฮะเเรียกว่า
00:14:48 → 00:14:52 ซิสติน C นะฮะนะอันนี้มันเป็นโปรตีน
00:14:52 → 00:14:56 โมเลกุลเล็กนะที่ตัวกล้ามเนื้อเนี่ยเนื้อ
00:14:56 → 00:14:58 เยื่อกล้ามเนื้อนี่แหละนะมันก็จะสร้างออก
00:14:58 → 00:15:02 มามานะนะแต่มันสร้างออกมาในอัตราคงที่ของ
00:15:02 → 00:15:05 แต่ละวันของแต่ละวันนะฮะเพราะฉะนั้นพวก
00:15:05 → 00:15:10 เนี้ยมันจะถูกกรองที่ไตออกหมดเลยนะอ่าค่า
00:15:10 → 00:15:12 มันจะ
00:15:12 → 00:15:16 อ่าจะมีค่านี้นะถ้าเข้าจะต้องไม่เกิน
00:15:16 → 00:15:19 เนี่ยนะอยู่ในระดับไม่เกิน 1 อ่ะส่วนใหญ่
00:15:19 → 00:15:24 นะฮส่วนใหญ่นะ 0.6 ถึงไม่เกิน 1.2 เนะฮะ
00:15:24 → 00:15:29 นะแต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามิตอินซนะฮะมากกว่า
00:15:29 → 00:15:33 นะโดยเฉพาะเ่อมากกว่า 1.5 หรือมากกว่า 2
00:15:33 → 00:15:37 ขึ้นไปเนี่ยนะอันนี้ว่าถือว่าเ่อพยาธิ
00:15:37 → 00:15:41 สภาพของไตเนี่ยมีการเปลี่ยนแปลงที่แน่นอน
00:15:41 → 00:15:44 นะฮะที่แน่นอนนะเพราะฉะนั้นค่าเนี้ยมันจะ
00:15:44 → 00:15:48 เป็นค่าที่แม่นยำอ่าในการบอกมากกว่าตัว
00:15:48 → 00:15:53 ีิีนะแล้วก็อ่าตัวเนี้ยสามารถไปใช้ในการ
00:15:53 → 00:15:57 คำนวณ egfr ได้นะฮะนะแต่ว่าต้องตรวจเลือก
00:15:58 → 00:16:00 หาค่านี้นี้ก่อนค่าตรวจในเมืองไทยก็ตรวจ
00:16:00 → 00:16:04 ตามโรงพยาบาลมหาลัยต่างๆนะฮะนะอัตราค่า
00:16:04 → 00:16:07 ตรวจก็อยู่ที่ประมาณ 330 -350 ใครไม่แน่
00:16:07 → 00:16:13 ใจต้องตรวจตัวนี้นะฮะนะก็เรียกว่า tin C
00:16:13 → 00:16:18 นะก็เป็นตัววัดตัวนึงที่ค่อนข้างแม่น
00:16:19 → 00:16:23 ยำทีนี้ก็นี่แหละนะหน้าที่สำคัญมากที่สุด
00:16:23 → 00:16:26 ของไตก็คือการขับของเสียที่สะสมอยู่ใน
00:16:26 → 00:16:30 หลอดเลือดออกทิ้งไปนะทีนี้ของเสียที่
00:16:30 → 00:16:33 สำคัญที่สุดนะและธรรมชาติเนี่ยสร้างไต
00:16:33 → 00:16:38 ขึ้นมาเพื่อที่จะพยายามแก้ไขหรือลดเอ่อ
00:16:38 → 00:16:42 ของเสียชนิดนี้ก็คือโปรตีนโปรตีนนะนนี้
00:16:42 → 00:16:46 โปรตีนถ้ามันพอดีพอดีพอดีเนี่ยนะอ่าการทำ
00:16:46 → 00:16:50 หน้าที่ของไตก็จะธรรมดานะฮะไม่ไม่เกิด
00:16:50 → 00:16:53 ปัญหาแต่เมื่อไหร่ก็ตามโปรตีนเกินนะฮะ
00:16:53 → 00:16:57 โปรตีนเกินเมื่อไหร่นะเนี่ยก็จะเริ่มมีผล
00:16:57 → 00:17:00 ต่อความเสื่อมนะหรือการทำหน้าที่ที่บก
00:17:00 → 00:17:05 พร่องไปเรื่อยๆของไตนะฮะทีนี้โปรตีนเกิน
00:17:05 → 00:17:09 หรือตัวโปรตีนเนี่ยที่เกิดการสลายตัวเอ่อ
00:17:09 → 00:17:12 เปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆในร่างกายแล้วเนี่ย
00:17:12 → 00:17:15 มันทำไมถึงมีผลนะฮะนะเพราะว่าโครงสร้าง
00:17:15 → 00:17:18 ตัวโปรตีนเนี่ยมันไม่เหมือนน้ำตาลกับไข
00:17:18 → 00:17:19 มันซึ่งอันนั้นเนี่ยมันมีแต่คาร์บอน
00:17:19 → 00:17:23 ไฮโดรเจนออกซิเจนแต่โปรตีนเนี่ยเขาจะมี
00:17:23 → 00:17:26 เรื่องของไนโตรเจนโมเลกุลขึ้นมาอีกตัวนึง
00:17:26 → 00:17:32 นะฮะนะซึ่งตัวนี้เนี่ยนะเมื่อมีการที่อ่า
00:17:32 → 00:17:35 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของตัวโปรตีนต่างๆนะ
00:17:35 → 00:17:37 ฮะตัวไนโตรเจนก็จะถูกเปลี่ยนเป็น
00:17:37 → 00:17:41 แอมโมเนียกับยูเรียนะฮะแอมโมเนียนี่อ่าจะ
00:17:41 → 00:17:45 ต้องไปมีผลต่อตับนะนะที่จะเปลี่ยนกลาย
00:17:45 → 00:17:48 เป็นยูเรียแล้วยูเรียมีไปที่ไตเพื่อจะกอง
00:17:49 → 00:17:53 ออกนะฮะอย่างไรก็ตามเนี่ยตัวโปรตีนเนี่ย
00:17:53 → 00:17:56 ก็ยังมีธาตุตัวอื่นๆนะอีกเล็กๆน้อยๆก็คือ
00:17:57 → 00:18:00 ซัลเฟอร์และฟอสฟฟรัสนะฮะซัลเฟอร์และ
00:18:00 → 00:18:04 ฟอสฟอรัสแล้วก็หน่วยเล็กที่สุดของโปรตีน
00:18:04 → 00:18:07 คือกรดอะมิโนนะฮะกรดอะมิโนงั้นร่างกาย
00:18:08 → 00:18:10 เนี่ยเมื่อจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกด
00:18:10 → 00:18:13 อะมิโนโดยเฉพาะกรดอะมิโนที่มันเยอะๆเยอะๆ
00:18:14 → 00:18:19 นะเนี่ยอ่าพวกนี้เนี่ยเ่ามันก็จะถูก
00:18:19 → 00:18:22 เปลี่ยนเป็นกรดนะฮะนะเป็นกรดเป็นไฮโดรเจน
00:18:22 → 00:18:26 ไอออนนั่นแหละนะนะแล้วไฮโดรเจนไอออนเนี่ย
00:18:26 → 00:18:29 ถ้ามันอยู่ในภาวะที่ปกติเนี่ยความเป็นกด
00:18:30 → 00:18:33 ของตัวกดอะมิโนโปรตีนหรือความเป็นกดของกด
00:18:33 → 00:18:37 ไขมันเนี่ยนะจากอาหารไขมันเนี่ยนะพวกนี้
00:18:37 → 00:18:40 มันจะกลายเป็นไฮโดรเจนไอออนที่จะไปจับกับ
00:18:40 → 00:18:43 คลอไรด์นะก็จะเป็นน้ำย่อยในกระเพาะนะ
00:18:43 → 00:18:46 ไฮโดรคลอริก Acid นะฮะส่วนใหญ่คือไปเป็น
00:18:46 → 00:18:52 แบบนี้นะฮะตามวงจรของมันนะฮะแต่ถ้าเกินนะ
00:18:52 → 00:18:56 ถ้าเกินหรือร่างกายมีความผิดปกติใดๆก็ตาม
00:18:56 → 00:19:00 นะฮะนะก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของโมเลกุล
00:19:00 → 00:19:06 อ่าที่เป็นธาตุไนโตรเจนนะของตัวอะมิโน
00:19:06 → 00:19:09 แอซิดนี่แหละที่จะกลายเป็นสารแอมโมเนีย
00:19:09 → 00:19:12 กับยูเรียนะซึ่งอันนี้เนี่ยถ้ามันเยอะๆ
00:19:12 → 00:19:15 เยะๆๆๆก็จะมีผลต่อตับต่อไตนะโดยเฉพาะ
00:19:15 → 00:19:20 ยูเรียมีผลต่อไตนะฮะทนี้เมื่อกี้นี้พูด
00:19:20 → 00:19:21 ถึง
00:19:21 → 00:19:25 อ่าธาตุอีก 2 ตัวเคือฟอสฟอรัสกับตัว
00:19:25 → 00:19:28 ซัลฟูริกนะฮะนะตัวไฮโดรเจนไออนเนี่ยนะ
00:19:28 → 00:19:32 ทั้งจากโปรตีนกับไขมันเนี่ยนะก็จะเกิด
00:19:32 → 00:19:36 เอ่อความเป็นกรดนะของเค้าเรียกว่ากรด
00:19:36 → 00:19:39 ซัลฟูริกกับกดฟอสฟอริกนะฮะกรด 2 ตัวเนี่ย
00:19:39 → 00:19:42 นะฮกด 2 ตัวเนี่ยที่ไม่ใช่ไฮโดรคลอริกนะ
00:19:42 → 00:19:46 ฮะกด 2 ตัวนี่เป็นกรดที่จะต้องขับออกนะฮะ
00:19:46 → 00:19:50 นะเป็นตามธรรมชาติเลยที่ร่างกายจะต้องมี
00:19:50 → 00:19:53 การอ่าเอากรดจากโปรตีน 2 ตัวเนี้ยคือซัน
00:19:54 → 00:19:57 ฟริกกับฟอสฟอริกเนี่ยให้ไตเป็นตัวขับออก
00:19:57 → 00:20:02 พอไตขับกด 2 อย่างเยออกไปนะก็จะทำให้
00:20:02 → 00:20:05 เลือดมีความเป็นด่างเล็กน้อยซึ่งอันนั้น
00:20:05 → 00:20:09 เนี่ยก็คือเป็นภาวะโฮมสหรือสมดุลของร่าง
00:20:09 → 00:20:11 กายนะที่เราเรียกว่าเลือดจะต้องมีความ
00:20:11 → 00:20:14 เป็นด่างเล็กน้อยพ
00:20:14 → 00:20:20 7.34 ถึง 7.43 นะฮะเกิน 7 นิดๆนะครับผม
00:20:20 → 00:20:25 นะเพราะฉะนั้นไตนะทำหน้าที่ในการขับกรดนะ
00:20:25 → 00:20:32 และของเสียที่เป็นออ่าที่เป็นดักของตัว
00:20:32 → 00:20:35 ธาตุไนโตรเจนนะออกจากร่าง
00:20:35 → 00:20:40 กายเพื่อที่จะปรับความสะอาดให้กับเลือด
00:20:40 → 00:20:44 และทำให้เลือดมีสภาวะเป็นด่างอ่อนๆนะฮะ
00:20:44 → 00:20:47 นี่คือหน้าที่ตามธรรมชาติของไตนะเพราะ
00:20:47 → 00:20:51 ฉะนั้นเนี่ยของเสียมีเยอะแยะแต่นะของเสีย
00:20:51 → 00:20:54 สำคัญก็คือของเสียจากโปรตีนที่ธรรมชาติเ
00:20:54 → 00:20:59 กำหนดมาอย่างนี้นะฮะแต่ถ้าพูดโดยรวมแล้ว
00:20:59 → 00:21:03 เนี่ยถามว่าอะไรที่ทำให้ไตเนี่ยไม่สะอาด
00:21:03 → 00:21:07 มากที่สุดสิ่งนั้นก็คือก็คือน้ำตาลหรือคา
00:21:07 → 00:21:12 แปรรูปต่างๆนี่แหละครับผมแต่จริงๆแล้วไอ้
00:21:12 → 00:21:14 พวกโปรตีนแปรรูปไขมันแปรรูป
00:21:14 → 00:21:19 เอ่อหรือว่าสารแต่งเติมอาหารอะไรอย่าง
00:21:20 → 00:21:22 เงี้ยนะทุกอย่างเนี่ยก็ถือว่าเป็นพิษหมด
00:21:23 → 00:21:28 นะฮะนะแต่ถ้าอืจะตอบนะชนิดเดียวเนี่ยนะก็
00:21:28 → 00:21:32 คือตอว่าน้ำตาลเป็นพิษต่อไตมากที่สุด
00:21:32 → 00:21:37 นะแล้วไตอ่าก็จะกลัวน้ำตาลมากที่สุดและ
00:21:37 → 00:21:40 น้ำตาลจะมาพร้อมกับฮอร์โมนตัวพ่ออินซูลิน
00:21:40 → 00:21:44 เพราะฉะนั้นไตก็จะกลัวน้ำตาลกลัวอินซูลิน
00:21:44 → 00:21:49 และนะเกิดการหดตัวเกร็งตัวของหลอดเลือดนะ
00:21:49 → 00:21:54 ที่ไปเลี้ยงไตนะแล้วพอตัวที่ว่ามันเป็น
00:21:54 → 00:21:57 พิษเนี่ยนะคือน้ำตาลเนี่ยค้างค้างที่
00:21:57 → 00:22:00 หน่วยกองของไมันมีความเหนียวมันไม่ลื่น
00:22:00 → 00:22:03 ปื๊ดลๆปื๊ดเหมือนไขมันเหมือนคอเลสเตอรอล
00:22:03 → 00:22:08 จะจับสารอื่นๆอะไรต่างๆนะนะแล้วก็ทำให้
00:22:08 → 00:22:12 หน่วยกองของไตเสียหายนะจนกระทั่งเกิดภาวะ
00:22:12 → 00:22:17 ไตเสื่อมไต ckd ที่เราเรียกกันนะเพราะ
00:22:17 → 00:22:21 ฉะนั้นเนี่ยในการมองให้ออกนะฮะของหน้าที่
00:22:21 → 00:22:26 การทำงานของไตไตเขาไม่ได้กลัวโปรตีนไตเขา
00:22:26 → 00:22:29 ไม่ได้มีปัญหากับโปรตีนนะเขาอยากทำหน้า
00:22:29 → 00:22:32 ที่ของเขาตามความถนัดของเขาที่ธรรมชาติ
00:22:32 → 00:22:37 ส่งมาก็คือการจัดการนะเกี่ยวกับเรื่องของ
00:22:37 → 00:22:42 สารที่เป็นดักเอ produc ของตัวโปรตีนนะฮะ
00:22:42 → 00:22:46 นะเพราะฉะนั้นถ้าเราจะฟื้นไตต้องเข้าใจไต
00:22:46 → 00:22:51 นะนะก็คือหลีกเลี่ยงใดๆที่มันจะเป็นน้ำ
00:22:51 → 00:22:55 ตาลเป็นอินซูลินนะหรือเป็นสารไม่ดีสาร
00:22:55 → 00:22:59 เสียเป็นสิ่งสกปรกเป็นสารแต่งเติมเป็น
00:22:59 → 00:23:01 อะไรที่แปรรูปอะไรต่างๆเยอะแยะนี่แหละนะ
00:23:02 → 00:23:08 ฮะนะแต่อย่าไปอ่าอ่าเอาเป็นเอาตายกับการ
00:23:08 → 00:23:12 จำกัดหรือการกลัวในเรื่องของโปรตีนนักนะ
00:23:12 → 00:23:16 ฮะเพราะว่าไตก็อยากได้โปรตีนเขาก็จะพบว่า
00:23:16 → 00:23:19 นะถ้าเราใส่โปรตีนถูกต้องปริมาณถูกต้อง
00:23:19 → 00:23:24 คุณภาพดีนะสัตว์ส่วนดีมื้ออาหารการปรุง
00:23:24 → 00:23:29 อาหารที่อ่าถูกหมดเลยนะฮะนะพวกนี้กลับจะ
00:23:29 → 00:23:34 ไปช่วยซ่อมแซมไตนะเพราะโปรตีนอ่าจะเป็น
00:23:34 → 00:23:38 ตัวทำให้ไตทำงานได้เก่งๆทำงานแบบที่เขา
00:23:38 → 00:23:43 ถนัดพอเขาทำงานได้เทำงานที่ชอบเทำงานตาม
00:23:44 → 00:23:47 ที่เขาต้องทำเขาไม่มีตัวที่ทำให้เขาต้อง
00:23:47 → 00:23:52 หวาดกลัวนะเนี่ยไก็จะแข็งแรงขึ้นแล้วก็จะ
00:23:52 → 00:23:57 ฟื้นฟูไตได้งั้นการฟื้นฟูไตต้องขึ้นอยู่
00:23:57 → 00:23:59 กับพลังังงานและ
00:23:59 → 00:24:03 โปรตีนให้รู้ตรงนี้ก่อนนะฮะคือมองให้ออก
00:24:03 → 00:24:06 อย่าไปกลัวโปรตีนอย่าไปจำกัดโปรตีนและ
00:24:06 → 00:24:10 อย่าไปเป็นโอ้ยเป็นเอาเป็นเอาตายนะนะ
00:24:10 → 00:24:12 เพราะฉะนั้นไม่งั้นเนี่ยพอแนะนำเรื่อง
00:24:12 → 00:24:15 โปรตีนอะไรไปบอกไม่ได้ไม่ได้เป็นไตกลัวๆๆ
00:24:15 → 00:24:19 ไม่เอาดีกว่านะครับผมนะครับเพราะฉะนั้น
00:24:19 → 00:24:22 การแพทย์มันก็คนละแนวทางกันไปหน่อยอนะฮะ
00:24:22 → 00:24:25 เราก็ต้องใช้วินญาณแล้วก็แยกแยะเอาเองนะ
00:24:25 → 00:24:30 ฮะอทีนี้สัญญาอ่าที่สำคัญของภาวไตรเสื่อม
00:24:30 → 00:24:33 นะฮะนะเมื่อคราวที่แล้วหมอก็ฉายอันนี้ไป
00:24:33 → 00:24:38 แล้วแล้วมีคำถามว่าอะไรนะใน 12 ข้อเนี่ย
00:24:38 → 00:24:43 สำคัญที่สุดนะจำได้ยังข้อ
00:24:44 → 00:24:49 ที่ 3 เอตื่นขึ้นมาแต่ทีนี้จะบอกว่าจริงๆ
00:24:49 → 00:24:52 แล้วเนี่ยภาวไตรเสื่อมมันมีสัญญาณที่นอก
00:24:52 → 00:24:56 ไตก่อนนะฮะนะแล้วสัญญาณสำคัญอันดับที่ 1
00:24:56 → 00:25:00 เลยนะฮะคืออ่อนเพียไม่มีแรงพอร่างกายไม่
00:25:00 → 00:25:04 มีแรงใครก็ไม่มีแรงเพราะความอ่อนเพียการ
00:25:04 → 00:25:07 ไม่มีแรงก็คือการขาดพลังงานเฮะ lack of
00:25:07 → 00:25:11 Energy นะพอร่างกายขาดพลังงานไตก็ขาด
00:25:11 → 00:25:16 พลังงานแล้วไตเนี่ยนะก็จะเสื่อมนะฮะเป็น
00:25:16 → 00:25:20 อันดับ 1 อันดับที่ 2 นะฮะคือเกิดการสวิง
00:25:20 → 00:25:26 ของความดันุนะไม่ใช่ความดันสูงนะฮะนะ
00:25:26 → 00:25:30 อันเนี้ยความดันที่เรียกว่าสวิงเนี่ยนะฮะ
00:25:30 → 00:25:36 ก็คือมีสูงมีต่ำมีปกตินะโดยเฉพาะมักจะ
00:25:36 → 00:25:40 ค่อนไปทางสูงแต่ก็กลับลงมาได้นะฮนะเเรียก
00:25:40 → 00:25:43 ว่าความดันมันสวิงนะฮะแต่ถ้าเป็นความดัน
00:25:43 → 00:25:45 สูงวัดเมื่อไหร่มันก็
00:25:45 → 00:25:49 สูงเนี่ยอันที่ 2 จะเป็นเรื่องความดันหิต
00:25:49 → 00:25:53 มันสวิงนะฮะอันที่ 3 ก็คือการนอน
00:25:53 → 00:25:58 ไม่การนอนหลับและเกิดการตุมกางดึกสนจะ
00:25:58 → 00:26:01 ตื่นขึ้นมาทำอะไรนี่ก็แล้วแต่คือสัญญาณ
00:26:01 → 00:26:06 นอกไตเนี่ยจะเป็นสัญญาณนะก่อนเลยนะฮะก่อน
00:26:06 → 00:26:10 เลยนะฮะแล้วหลังจากนั้นเนี่ยนะพอสัญญาณ
00:26:10 → 00:26:13 ทางที่ตัวไตออกมาเนี่ยก็คือสัญญาณเรื่อง
00:26:13 → 00:26:16 การปัสสวะ
00:26:16 → 00:26:19 ก็เป็นไปตามนี้
00:26:19 → 00:26:25 นะทีนี้มาถึงว่าแล้วไตเนี่ยเ่ารวมๆแล้วเ
00:26:25 → 00:26:32 ชอบอะไรนะฮะนะเขาก็จะชอบพลังงานนะอ่าที่
00:26:32 → 00:26:38 เหมาะสมเพียงพอนะไม่ขาดไม่เกินนะไม่ผิดนะ
00:26:38 → 00:26:44 ฮะนะก็คือพังงานจากไขมันดีนะนะนี่แหละนะ
00:26:44 → 00:26:48 อ่าก็จะต้องได้เ้าเรียกว่า summation ใน 1
00:26:48 → 00:26:53 วันแล้วเนี่ยต้องพอนะพอนะฮะนะเ่อพอก็คือ
00:26:53 → 00:26:57 เกิน 80% ขึ้นไปนะพลังงานจะเป็นเรื่อง
00:26:57 → 00:27:02 ใหญ่ที่สุดเลยนะของไตที่จะฟื้นฟูนะฮะลอง
00:27:02 → 00:27:06 ลงมาก็คือตัวในการฟื้นฟูไตอ่ะเคยบอกแล้ว
00:27:06 → 00:27:09 ว่าไตเนี่ยหรือเสี้ยงจี๊เนี่ยมันเป็นก้อน
00:27:09 → 00:27:12 โปรตีนนะแต่มันก็จะมีตัวไขมันหิมตัวมี
00:27:12 → 00:27:17 คอเลสเตอรอลมีโอเมก้า 3 นะนี่แหละนะตัว
00:27:17 → 00:27:21 เนี้ยนะฮะตัวสำคัญคือโปรตีนนะฮะเพราะสิ่ง
00:27:21 → 00:27:23 ที่บอกไปเนี่ยก็คือตัวไขมันตัว
00:27:23 → 00:27:25 คอเลสเตอรอลและโอเมก้า 3 มันก็อยู่ใน
00:27:25 → 00:27:30 โปรตีนนี่แหละนะแล้วเราก็นับมาอ่าเป็นสาร
00:27:30 → 00:27:34 อาหารประเภทโปรตีนอยู่แล้วนะฮะครับผมนี้
00:27:34 → 00:27:38 โปรตีนที่ว่าเนี้ยนะฮะนะก็คือเป็นโปรตีน
00:27:38 → 00:27:40 ที่เป็นโครงสร้างหลักของอวัยวะภายในคนเรา
00:27:40 → 00:27:44 หรือเครื่องในนะเนี่ยเขาเรียกว่าโปรตีน
00:27:44 → 00:27:49 คุณภาพเพราะฉะนั้นเนี่ยในการฟื้นฟูการจะ
00:27:49 → 00:27:53 กู้ไตคืนเราก็ต้องใส่อ่าโปรตีนคุณภาพที่
00:27:53 → 00:27:59 จะไปประกอบกันนะกลายเป็นตัวไตให้ได้นะฮะ
00:27:59 → 00:28:03 แล้วต้องใส่อย่างพอดีไม่เกินนะไม่เกินนะ
00:28:03 → 00:28:07 ฮะนะอันเนี้ยไม่เกินไม่ขาดนะช่วงการฟื้น
00:28:07 → 00:28:13 ฟูนะฮะนะเพราะถ้าเกินเมื่อไหร่นะโปรตีน
00:28:13 → 00:28:16 ที่เกินก็จะมามีผลเกิดเป็นของเสียให้ใจทำ
00:28:16 → 00:28:19 งานหนักอยู่แล้วนะฮะนะถ้าขาดมันก็ซ่อมไม่
00:28:19 → 00:28:22 ได้ฟื้นฟูไม่ได้เพราะฉะนั้นเนี่ย
00:28:22 → 00:28:27 อ่าสำคัญเลยก็คือต้องพอดีนะฮะพอดีเมื่อ
00:28:27 → 00:28:31 ไหร่พอดีก็เป็นไปตามสูตรนะฮะของการกิน
00:28:31 → 00:28:35 โปรตีนในแบบ ow C High Good Fat ซึ่ง
00:28:35 → 00:28:38 ก็จะมีการกินโปรตีนไขมันสูงโปรตีนไขมัน
00:28:38 → 00:28:42 ปานกลางแล้วก็โปรตีนไขมันต่ำถึงต่ำมากนะ
00:28:42 → 00:28:47 ให้ครบ 100% นะโดยเฉพาะอ่ามื้อแรกต้องมาก
00:28:47 → 00:28:51 กว่าครึ่งนึงนะฮะนะ 50 60 70% แล้วที่
00:28:51 → 00:28:54 เหลือไปกินเอามื้อเย็นนะแล้วตัวมื้อเย็น
00:28:54 → 00:28:58 นี่แหละก็จะเป็นโปรตีนที่จะมาซ่อมไตในตอน
00:28:58 → 00:28:59 กลาง
00:28:59 → 00:29:04 คืนต่อไปน้ำนะฮะไตชอบน้ำนะฮะนะต้องมีน้ำ
00:29:04 → 00:29:09 น้ำในที่นี้คือน้ำเปล่านะไม่ต้องเป็นน้ำ
00:29:09 → 00:29:12 กรดไม่ต้องเป็นน้ำมะนาวหรือเป็นน้ำอ่า
00:29:12 → 00:29:18 ผลไม้อ่าน้ำอะไรแปลกๆนะฮะนะอ่าอีกอย่าง
00:29:18 → 00:29:21 นึงก็คือที่สำคัญคือไม่ต้องเป็นน้ำด่างนะ
00:29:21 → 00:29:25 ฮะไตไม่ได้ชอบน้ำด่างเออไตไม่ได้ชอบน้ำ
00:29:25 → 00:29:28 ด่างและอีตัวน้ำด่างที่กินเข้าไปก็ที่บอก
00:29:28 → 00:29:30 ว่ากินนแล้วให้เลือดมันเป็นกดเกินเข้าไป
00:29:30 → 00:29:34 มันไม่เลือดเป็นกดนะฮะเหล่อครับผมเออไม่
00:29:34 → 00:29:38 ต้องน้ำด่างนะฮะนะก็กินน้ำธรรมดานี่แหละ
00:29:38 → 00:29:44 นะกินให้ให้พอนะให้ได้นะต่อไปคือเกลือแร่
00:29:44 → 00:29:47 เออเกลือแร่เนี่ยนะเพราะอะไรเพราะว่า
00:29:47 → 00:29:52 เกลือแร่เนี่ยเอ่อมันเป็นสิ่งที่จะมาช่วย
00:29:52 → 00:29:55 ในเรื่องของประสิทธิภาพการกรองของไตนะฮะ
00:29:55 → 00:29:58 นะคือเกลือแร่ที่ที่สำคัญเราก็รู้แล้วว่า
00:29:58 → 00:30:03 มันเป็นโปแตสเซียมโซเดียมแมกนีเซียมอ่า
00:30:03 → 00:30:07 แล้วก็คลอไรด์นะมีแคลเซียมบ้างนิดหน่อยนะ
00:30:07 → 00:30:11 ฮแต่หลักๆก็คือแคสเซียโซเดียมแมกนีเซียม
00:30:11 → 00:30:16 นะตามสูตรนะของปริมาณที่ต้องการต่อวันนะ
00:30:16 → 00:30:22 โปแทสเซียมต้องการ 4,700 ใช่มอ่านะแล้วก็
00:30:22 → 00:30:26 โซเดียมก็ประมาณไม่ต่ำกว่า 2,300 มิลกรัม
00:30:26 → 00:30:30 นะแล้วโปรเอแล้วแมกนีเซียมแมกนีเซียมก็
00:30:30 → 00:30:34 400 600 หรือบาหรือไม่หรือไม่ต้องหรือ
00:30:34 → 00:30:38 อาจจะถึง 800 มิลลิกรัมต่อวันนะฮะเพราะ
00:30:38 → 00:30:41 ฉะนั้นสูตรที่สำคัญเลยเนี่ยก็คือตัว
00:30:41 → 00:30:45 โปแตสเซียมกับโซเดียม 2 ต่อ 1 นะฮะ
00:30:45 → 00:30:49 โปแทสเซียม 4,700 นะอ่าโซเดียมเนี่ย 2,300
00:30:49 → 00:30:52 เนี่ยนะฮะเพราะฉะนั้นอย่างน้อยเราต้องได้
00:30:52 → 00:30:55 อย่างนี้นะฮะนะแล้วก็แหล่งที่มาของเกลือ
00:30:55 → 00:31:00 แร่นี่อ่าก็ต้องมาจากอาหารเป็นหลักนะฮะมา
00:31:00 → 00:31:03 จากอาหารแต่ความถูกต้องของอาหารก็ยังจะ
00:31:03 → 00:31:07 ต้องมีอย่างเช่นโปแตสเซียมเนี่ยอ่าจะต้อง
00:31:07 → 00:31:12 มาพร้อมกับไขมันห้ามมาพร้อมกับแป้งพร้อม
00:31:12 → 00:31:18 กับคาฟพร้อมไม้พร้อมกับอินซูลินนี่ไม่ได้
00:31:18 → 00:31:22 มาจบนะฮะนะไม่ได้เลยนะฮะนะเนี่ยยสำคัญมาก
00:31:22 → 00:31:25 ครับผมแล้วโดยเฉพาะเกลือและโปแทสเซียม
00:31:25 → 00:31:28 เนี่ยนอกจากเพิ่มประสิทธิภาพการกรองของไต
00:31:28 → 00:31:32 แล้วตัวโปแตสเซียมยังไปทำให้ตัวกล้าม
00:31:32 → 00:31:35 เนื้อเรียบของหลอดเลือดที่เข้าและออกจาก
00:31:35 → 00:31:38 ไตเนี่ยนะฮะเ่อตรงบริเวณที่จะเกิดการกรอง
00:31:38 → 00:31:42 เนี่ยมันเกิดการคลายตัวมากยิ่งขึ้นนะมัน
00:31:42 → 00:31:45 มีการคลายตัวเยอะขึ้นนะฮะเพราะฉะนั้น
00:31:45 → 00:31:51 เนี่ยเอ่อถ้าเกิดอินซูลินไม่มานะฮะนะแล้ว
00:31:51 → 00:31:57 โปรตีนนะดีนะมีคุณภาพนะมีน้ำแล้วก็มี
00:31:57 → 00:32:01 โปแตสเซียมมีแมกนีเซียมอ่ามีโซเดียมนะที่
00:32:02 → 00:32:05 ดีที่ถูกต้องนะฮะถ้าอย่างเนี้ยไอ้ตัวหลอด
00:32:05 → 00:32:09 เลือดเนี่ยก็จะเกิดการขยายตัวเต็มที่นะ
00:32:09 → 00:32:14 ทั้งเข้าและออกไปนะฮะแล้วก็ตัวท่อในการ
00:32:14 → 00:32:17 กรองเนี่ยนะฮะและการดูดกลับเหล่าเนี้ยนะ
00:32:17 → 00:32:20 เป็นกล้ามเนื้อเรียบเนี่ยมันก็จะแข็งแรง
00:32:20 → 00:32:24 นะก็ทำหน้าที่ต่างๆของมันฟื้นฟูกลับคืนมา
00:32:24 → 00:32:27 นะครับได้นะฮะ
00:32:27 → 00:32:30 สุดท้ายก็คือความเป็นกรดก็ตามที่บอกไป
00:32:30 → 00:32:35 เมื่อกี้นะฮะนะจะต้องปรับสภาพนะของเลือด
00:32:36 → 00:32:39 ให้มีความเป็นกรดนะฮะนะแต่ความเป็นกรด
00:32:39 → 00:32:43 หลักๆเนี่ยก็คือความเป็นกรดอ่าที่มาจาก
00:32:43 → 00:32:46 ไอ้ตัว N produc ของตัวกดอะมิโนที่ว่า
00:32:46 → 00:32:49 เมื่อกี้เนี่ยก็คือกดซัลฟูริกกับกด
00:32:49 → 00:32:53 ฟอสฟอริกนะฮะอ่าขณะเดียวกันเนี่ยเราก็มี
00:32:53 → 00:32:57 หน้าที่ในการจะเติมกดเปรี้ยวจากจากภายนอก
00:32:57 → 00:33:02 เนี่ยเข้าไปช่วยนะนะเข้าไปช่วยนะสักหน่อย
00:33:02 → 00:33:07 นึงนะอ่าเราเติมอะไรก็มีกดอ่าอะซิติกเกด
00:33:07 → 00:33:11 ซิติกนะฮะกดมาริกอะไรอย่างงี้นะฮะเนี่ยเ
00:33:11 → 00:33:14 เราต้องอันนี้เคือสิ่งที่ไตอ่ะชอบเขาจะ
00:33:14 → 00:33:18 ชอบแบบนี้นะฮะชอบแบบนี้นะก็จะต้องมีราย
00:33:18 → 00:33:21 ละเอียดของสิ่งต่างๆเนี่ยที่ใส่เข้าไปใน
00:33:21 → 00:33:25 ภาคปฏิบัติในลักษณะหลักๆแบบนี้เลยหลักๆ
00:33:25 → 00:33:27 แบบนี้เลย
00:33:27 → 00:33:31 ซึ่งทั้งหมดเนี่ยก็จะมีฮอร์โมนนะ 2 3
00:33:31 → 00:33:35 ตัวมาเป็นตัวกำกับงั้นดังนั้นการฟื้นฟูไท
00:33:35 → 00:33:40 จะต้องเลือกอาหารที่ให้พลังงานและโปรตีน
00:33:40 → 00:33:45 นะให้ถูกให้เป็นให้ได้อย่างเพียงพอนะฮะนะ
00:33:45 → 00:33:49 แต่อย่างไรเล่านะฮะคนส่วนใหญ่ก็พยายามที่
00:33:49 → 00:33:54 จะหลีกเลี่ยงอ่าไม่กินกินน้อยๆกินพลังงาน
00:33:54 → 00:33:58 ผิดๆกินโปรตีนผิดๆอะไอย่างเงี้ยนะก็ไม่
00:33:58 → 00:34:02 รู้จะว่ายังไงนะฮะก็คือในแนวทางนะที่เค้า
00:34:03 → 00:34:07 รักษาไตกันเนี่ยนะฮะนะเค้าไม่มีหรอกที่จะ
00:34:07 → 00:34:10 มาจากเรื่อง good Healthy Fat น้ำมัน
00:34:10 → 00:34:14 อ่าออยน้ำมันสกัดเย็นมันไม่มีนะฮะนะไม่มี
00:34:14 → 00:34:18 ครับให้ไม่กินเค็มกินจืดๆอย่างเดียวเออนะ
00:34:18 → 00:34:22 อันต่อมาก็คือโปรตีนเนี่ยให้กินให้น้อยนะ
00:34:22 → 00:34:26 แล้วก็ไปแปลงสภาพอะไรซะมั่วซั่วไปหมดเลย
00:34:26 → 00:34:30 นะอืครับผมเออน้ำก็อันนี้บวกลบบางคนก็
00:34:30 → 00:34:33 ต้องจำกัดอย่างเกลือแร่เนี่ยห้ามกินเค็ม
00:34:33 → 00:34:37 โปแตสเซียมไม่ได้อ่าอะไรก็ไม่รู้อ่ะนะฮะ
00:34:37 → 00:34:43 นะครับผมความเป็นกฎอืมก็คิดว่าเาเไม่เข้า
00:34:43 → 00:34:47 ใจเ้าไม่รู้อ่ะนะฮะไม่รู้หรือหรือยังไงก็
00:34:47 → 00:34:52 ไม่รู้ล่ะนะฮะนะครับผมอเนี่ยอ่ามันก็ต้อง
00:34:52 → 00:34:57 เป็นเป็นเป็นแบบนี้นะฮะอเอ่อที่ทีนี้
00:34:57 → 00:35:01 เดี๋ยวนะเออเอาอย่างงี้
00:35:01 → 00:35:05 ก่อนทีนี้หมออยากจะกลับมาทวนนิดนึงนะฮะ
00:35:05 → 00:35:08 ที่เราพูดกันถึงเรื่องของอ่า lack of
00:35:08 → 00:35:11 Energy เนี่ยนะ Energy Balance Energy
00:35:11 → 00:35:13 Balance ของร่างกายกายหยาบกายละเอียด
00:35:13 → 00:35:17 เนี่ยนะฮะวันนี้ก็นั่งสรุปให้นะฮะคือมัน
00:35:17 → 00:35:19 เป็นอย่างงี้นะเรื่องกฎเกณฑ์ของพลังงาน
00:35:19 → 00:35:21 เนี่ยอ่าเ้าเรียกว่ากดพลังงานในร่างกาย
00:35:21 → 00:35:25 หรือ Energy Balance เนี่ยนะก็คือพลัง
00:35:25 → 00:35:28 งานในร่างกายเราเราเนี่ยจะมีการรับรู้และ
00:35:28 → 00:35:32 การควบคุมอ่าโดยกายละเอียดนะฮะกายละเอียด
00:35:32 → 00:35:36 ก็คือกายแห่งจิตนี่แหละนะฮะนะแล้วไอ้
00:35:36 → 00:35:40 เอนเนอร์ยีเนี่ยเยีเนี่ยนะฮะนะเ่าซึ่ง
00:35:40 → 00:35:43 ศาสตร์สมัยก่อนเนี่ยเขาคก็เรียกอ่าชี่
00:35:43 → 00:35:48 พลังชี่นะฮะหรือปราณนะฮะหรือปรานหรือของ
00:35:48 → 00:35:51 ที่เบสเเรียกอะไรก็ไม่รู้หมอก็ลืมไปแล้ว
00:35:51 → 00:35:54 นะฮะเพราะว่าการแพทย์ทิเบศก็เป็นอีกการ
00:35:54 → 00:35:57 แพทย์นึงนะฮะที่เป็นการแพทย์ในระดับที่
00:35:57 → 00:36:00 ที่ที่ถูกองค์การ Who ประกาศให้เป็นการ
00:36:01 → 00:36:05 แพทย์ออ๋อแพครับผมหลักไม่ใช่จักกะไม่ใช่
00:36:05 → 00:36:09 จักอไม่ใช่ครับออไม่ใช่เออครับมันมีชื่อ
00:36:10 → 00:36:15 ของเค้าอ่ะมีชื่อของเเออเออนะทีนี้นะแล้ว
00:36:15 → 00:36:18 ทีนี้พลังงานเนี่ยนะมีปฏิกิริยาการตอบ
00:36:18 → 00:36:22 สนองต่อพลังงานอ่าอ่าด้วยอะไรนะด้วย
00:36:22 → 00:36:25 ฮอร์โมนนั่นแหละนะฮะเอคือปฏิกิริยาการตอบ
00:36:25 → 00:36:28 สนองของพลังงานที่ที่ที่ที่อยู่ในร่างกาย
00:36:28 → 00:36:32 เนี่ยนะฮะนะอ่ากายละเอียดเนี่ยนะเขาก็จะ
00:36:32 → 00:36:36 ใช้ฮอร์โมน 2 2 ตัวตัวพ่อตัวแม่นี่แหละ
00:36:36 → 00:36:39 เป็นการตอบสนองนะฮะถ้าผมพลังงานในร่างกาย
00:36:39 → 00:36:43 เนี่ยส่วนใหญ่จะเกิดการตอบสนองและการอ่า
00:36:43 → 00:36:46 ดูแลควบคุมเนี่ยโดยคอร์ติซอลคอร์ติซอลจาก
00:36:46 → 00:36:50 ตอมหมวกไตนะซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวแม่นะฮะนะ
00:36:50 → 00:36:52 เพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆแล้วพลังของกาย
00:36:52 → 00:36:57 ละเอียดนะหรือพลังชหรืออ่าปราณต่างๆเหล่า
00:36:57 → 00:37:02 เนี้ยนะฮะนะเขาจะมีมีตัวคอยกำกับเลยอ่ะนะ
00:37:02 → 00:37:06 ฮะนะก็คือตัวคอร์ติซอลนะฮะคอร์ติซอลนี่
00:37:06 → 00:37:09 แหละนะฮะนะเราถึงได้ยกย่องให้คอร์ติซอล
00:37:09 → 00:37:13 เป็นฮอร์โมนตัวแม่นะนะเจัดการภายในร่าง
00:37:13 → 00:37:18 กายนะตาม 7 จักระอะไรต่างๆที่เวกี้เนสบอก
00:37:18 → 00:37:23 นี่แหละนะมันโคจรอะไรเค้า่ะนะอ่ะใช่ครับอ
00:37:23 → 00:37:26 ถ้าเมื่อไหร่เป็นพลังงานจากภายนอกที่รับ
00:37:26 → 00:37:29 เข้าสู่ล่างนะฮะเขาจะมีการกำหนดตัว
00:37:29 → 00:37:32 ฮอร์โมนนะที่เป็น King of ฮอร์โมนก็คือ
00:37:32 → 00:37:35 อินซูลินฮอร์โมนตัวพ่อออกมาในการบริหาร
00:37:35 → 00:37:39 จัดการซึ่งเราก็จะเห็นว่าอ่าถ้าพลังงาน
00:37:39 → 00:37:41 จากภายนอกที่เข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะเป็น
00:37:41 → 00:37:45 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันอินซูลินก็จะเกิด
00:37:45 → 00:37:50 การนะอ่าบริหารจัดการให้มีการสะสมเ่อเก็บ
00:37:50 → 00:37:56 กับสะสมนะก็คือกฎเกณฑ์อันเนี้ยนะหรือประ
00:37:56 → 00:37:59 ปฏิกิริยาเนี่ยนะเราต้องเข้าใจแล้วล่ะว่า
00:37:59 → 00:38:04 เออพลังงานมันสำคัญน่ะนะพลังงานเมีความ
00:38:04 → 00:38:08 สำคัญไงนะฮะนะร่างกายถึงได้ต้องมีทั้ง
00:38:08 → 00:38:12 เอ่อการตอบสนองกำหนดฮอร์โมนตัวพ่อตัวแม่
00:38:12 → 00:38:14 ซึ่งเป็นฮอร์โมนยิ่งใหญ่ที่สุดในบ้านน่ะ
00:38:14 → 00:38:18 นะที่จะออกมาทำทำการจัดการอะไรอย่างเงี้ย
00:38:18 → 00:38:21 เไม่ได้ให้เอาตัวลูกๆตัวหลานๆหรือตัวญาติ
00:38:21 → 00:38:26 ๆหรืออ่าตัวอะไรอ่ะนะตัวคีตคีโตนอะไรต่าง
00:38:26 → 00:38:28 ๆเหล่าเงี้เนี่ยก็ยังสู้ 2 ตัวนี้ไม่ได้
00:38:28 → 00:38:31 ตัวพ่อตัวแม่นะเพราะฉะนั้นเนี Balance
00:38:31 → 00:38:35 เนี่ยนะก็เลยสำคัญใน 2 เรื่องนี้นะฮะ
00:38:35 → 00:38:39 สำหรับฮอร์โมนนะฮะนะแล้วจะทั้งอินซูลิน
00:38:39 → 00:38:42 และคอร์ติซอลก็จะมาเป็นตัวอธิบายนะแล้ว
00:38:42 → 00:38:47 เมื่อไหร่ก็ตามนะฮะนะในแง่ของอ่าความเป็น
00:38:47 → 00:38:50 ไปของพลังงานในร่างในร่างกายเราเนี่ยนะฮะ
00:38:50 → 00:38:55 นะส่วนใหญ่ในที่สุดเนี่ยนะจะเกิดภาวะหวง
00:38:55 → 00:38:57 พลังงานคือทั้งทั้งพ่อทั้งแม่เนี่ยจะ
00:38:57 → 00:39:01 พยายามอ่าเขาเรียกว่าสะสมน่ะนะหรือเก็บ
00:39:01 → 00:39:05 พลังงานเอาไว้นะนะเพื่อกันตายนะจะมี
00:39:05 → 00:39:08 สถานการณ์มีเหตุการณ์หรือมีคอนดิอะไรก็
00:39:08 → 00:39:12 ตามนะเ่อเกิดขึ้นเนี่ยนะฮะเขาจะมีการแจก
00:39:12 → 00:39:15 จ่ายพลังงานหรือใช้พลังงานให้น้อยที่สุด
00:39:15 → 00:39:19 นะฮะนะและพยายามจะสงวนหรือเก็บกัพลังงาน
00:39:19 → 00:39:22 ไว้ให้ได้มากที่สุดเอันนี้ก็คือบทบาทของ
00:39:22 → 00:39:25 โดยเฉพาะอินซูลินนี่ชัดเจนอยู่แล้วนะฮะ
00:39:25 → 00:39:27 เขาไม่อะไรหรอกกูเก็บอย่างเดียวนะฮะนะแต่
00:39:27 → 00:39:31 อย่างคออเนี่ยมีทั้งเก็บมีทั้งใช้นะฮะแต่
00:39:31 → 00:39:34 จะใช้เท่าที่จำเป็นนะอย่างไรก็ดีในการจัด
00:39:34 → 00:39:38 การพลังงานเนี่ยของตัวพ่อตัวแม่เนี่ยเขา
00:39:38 → 00:39:42 ไม่ได้จัดการให้พอดีนะฮะนะจำจำคำคำนี้ไว้
00:39:42 → 00:39:46 ด้วยนะฮะนะว่าในเรื่องกละเอียดโดยการ
00:39:46 → 00:39:48 บริหารจัดการของฮอร์โมน 2 ตัวนี้จะไม่ได้
00:39:49 → 00:39:52 มีการจัดการอะไรให้มันให้มันพอดีอ่ะให้
00:39:52 → 00:39:56 มันสมดุลให้มันพอดีนะส่วนใหญ่ก็จะมีแต่
00:39:56 → 00:40:01 น้อยไปมากไปขาดไปเกินไปนะอทีนี้เมื่อไหร่
00:40:01 → 00:40:06 ก็ตามอ่าที่ที่ตัวเราอ่ะตัวเราอ่ะตัวเรา
00:40:06 → 00:40:09 เนี่ยนะตัวเราก็มีทั้งกายหยาบกายละเอียด
00:40:09 → 00:40:12 นี่แหละนะฮะนะมีการทำผิดกฎเกณฑ์ของระบบ
00:40:12 → 00:40:16 พลังงานนะที่เขาตั้งกันไว้แบบที่พูดไป
00:40:16 → 00:40:19 เมื่อกี้เนี่ยนะฮะผิดกฎเกณฑ์ผิด 3 แบบนะ
00:40:19 → 00:40:26 ฮะนะเนี่ยคือภาวะอ่าที่เอนเนอร์ยีมันอิา
00:40:26 → 00:40:29 นะฮะนะที่จะไปเรียกว่า LA of Energy
00:40:29 → 00:40:32 อะไรก็ตามเถะนะฮะ eny inbalance เมื่อ
00:40:32 → 00:40:35 ไหร่เนี่ยมันจะเกิดจาก 3 เรื่องเอันที่ 1
00:40:35 → 00:40:40 นะร่างกายเนี่ยนะโดยธรรมชาติของร่างกาย
00:40:40 → 00:40:47 ที่ที่ที่ที่อยู่ในในในโลกเราเนี่ยนะฮะนะ
00:40:47 → 00:40:50 เขาไม่ได้ต้องการกลุ่มพลังงานเอ้ไม่
00:40:50 → 00:40:52 ต้องการพลังงานจากกลุ่มอาหารประเภทคฟเป็น
00:40:52 → 00:40:56 หลักนะฮะอันนี้มันเป็นแค่พลังงานฉุกเฉิน
00:40:57 → 00:41:00 นะหรือเป็นพลังงานเรียกว่าพลังงานที่แบบ
00:41:00 → 00:41:04 นี่ที่จะออกมาใช้อย่างรวดเร็วหรือว่า
00:41:04 → 00:41:09 เ่าสู้หรือหนีนะฮะนะอันนี้อันนี้มันเป็น
00:41:09 → 00:41:12 พลังงานฉุกเฉินนะฮะนะอันนี้นะฮะแล้วแล้ว
00:41:12 → 00:41:15 ก็เป็นแบบชั่วครั้งชั่วคราวไม่ใช่จะนำมา
00:41:15 → 00:41:18 ใช้เป็นพลังงานน่ะแต่มนุษย์เราผิดกฎผิด
00:41:18 → 00:41:21 เกณฑ์ที่ในปัจจุบันส่วนใหญ่ทั่วโลกก็คือ
00:41:21 → 00:41:24 เอาค้าฟมาเป็นพลังงานหลักและไม่เข้าใจ
00:41:24 → 00:41:28 หรือละเลยนะที่จะใช้พลังงานตามธรรมชาติ
00:41:28 → 00:41:30 ที่เขากำหนดก็คือพลังงานจากไขมันเป็นพลัง
00:41:30 → 00:41:31 งานหลัก
00:41:31 → 00:41:35 เนแล้วถามว่าพลังงานจากไขมันเอามาจากไหน
00:41:36 → 00:41:39 อ่ะก็เอามาจากพืชไม่ได้เอามาจากสัตว์นะฮะ
00:41:39 → 00:41:44 นะอ่าเพพลังงานส่วนใหญ่นะเราจะเอามาจาก
00:41:44 → 00:41:49 พืชนะกว่า 80% นะในพืชเหล่านั้นเนี่ยจะ
00:41:49 → 00:41:52 เป็นแบบไหนก็ตามนะเราก็ต้องเอาพลังงานจาก
00:41:52 → 00:41:56 เข้ามาแต่ในการที่จะได้พลังงานเพียงเพียง
00:41:56 → 00:42:01 พอเนี่ยนะมันจะไปกินแบบชนิดเอ่อเป็นวัว
00:42:01 → 00:42:05 เป็นควายอะไรงี้มันก็ไม่ได้นะฮะครับผมเออ
00:42:05 → 00:42:08 มันก็ต้องมีการมี process นะฮะมันถึงได้
00:42:08 → 00:42:12 มีมาเป็นน้ำมันพืชสกัดเย็นเนี่ยนะอันนี้
00:42:12 → 00:42:15 ก็คือ process Food ที่สำคัญและดีที่สุด
00:42:15 → 00:42:21 อันดับ 1 ของโลกนะก็คือนี่แหละนะเอ่อน้ำ
00:42:21 → 00:42:24 มันพืชสกัดเย็นอันที่ 1 นะร่างกายไม่
00:42:24 → 00:42:28 ต้องการคาฟนะครับเป็นพลังงานหลักอันที่ 2
00:42:28 → 00:42:31 เนี่ยในเรื่องของพลังงานรวมออันนี้พลัง
00:42:31 → 00:42:35 งานรวมแล้วนะฮะพลังงานรวมจากกลุ่มอาหาร
00:42:35 → 00:42:38 หลักทั้งหมดนะฮะคือค้าโปรตีนไขมันพวกนี้
00:42:38 → 00:42:41 ก็ในที่สุดเ่อสามารถแปลงเป็นพลังงานได้
00:42:41 → 00:42:46 หมดนะนะการตีความของพลังงานรวมทั้งจาก
00:42:46 → 00:42:50 อาหารหลัก 3 ตัวนี้นะฮะนะร่างกายต้องการ
00:42:50 → 00:42:53 แต่พอดีพอดีนะ
00:42:54 → 00:42:58 ฮะพลังงานรวมเนี่ยเนี่ยนะ summation นะ
00:42:58 → 00:43:02 เค้าเรียกว่า summation Energy นะนะนะ
00:43:02 → 00:43:05 การ Balance summation นะของเอนเนอร์ยี
00:43:05 → 00:43:10 ของร่างกายนี้นะร่างกายต้องการแบบพอดีนะ
00:43:10 → 00:43:15 ฮะคือจะพอดีต่อวันหรือจะพอดีต่ออ่าต่อทุก
00:43:15 → 00:43:18 ๆ 10 วันก็ได้นะฮะคือการัชของพลังงานและ
00:43:18 → 00:43:21 สารอาหารของร่างกายตามธรรมชาติเนี่ยก็จะ
00:43:21 → 00:43:26 ทุกๆทุกๆ 10 วันนะเป็นไปจำครับผม 80 20
00:43:26 → 00:43:31 นะฮะเนี่ยออันนี้พลังงานรวมต้องพอดีแต่คน
00:43:31 → 00:43:36 ส่วนใหญ่นะถึงจะจัดการกับนะพลังงานจากคาฟ
00:43:36 → 00:43:40 ได้แล้วนะฮะนะแต่ในที่สุดเนี่ยนะคาฟ
00:43:40 → 00:43:44 โปรตีนอ่าแฟตในกลุ่มที่กินโชนาการคาฟต่ำ
00:43:44 → 00:43:49 เนี่ยก็เกิดนะความผิดเพี้ยนนะของพลังงาน
00:43:49 → 00:43:52 ไปนะก็คืออาจจะไปมากที่โปรตีนหรือไปมาก
00:43:52 → 00:43:56 ที่แฟตอะไรก็ไม่รู้อ่ะนะฮะนี่แหละมากไม่
00:43:56 → 00:43:59 ได้นะฮะพลังงานรวมต้องพอดีนะฮะเพราะร่าง
00:43:59 → 00:44:02 กายเไม่ต้องการนะถ้ามันมากนะก็จะเกิดการ
00:44:02 → 00:44:05 ปิดปกติเกิดการตอบสนองเป็นอ้วนน้ำหนัก
00:44:05 → 00:44:09 เกินนะหรือไม่ก็กลายเป็นปัญหา
00:44:09 → 00:44:12 สุขภาพสุดท้ายข้อ 3 ของกฎพลังงานก็คือ
00:44:12 → 00:44:17 ร่างกายนะต้องการพลังงานหลักนะฮะพลังงาน
00:44:17 → 00:44:22 จากกลุ่มอาหารหลักเนี่ยอจะต้องได้ครบนะใน
00:44:22 → 00:44:26 สัดส่วนที่เหมาะสมพอดีของแต่ละบุคคลด้วย
00:44:26 → 00:44:30 นะคืออันนี้ใช้คำว่าสัดส่วนนะฮะนะโฟกัส
00:44:30 → 00:44:34 ที่คำว่าสัดส่วนเหมาะสมนะแล้วก็แต่ละคน
00:44:34 → 00:44:37 เพราะว่าแต่ละคนต้องการไม่เท่ากันนะฮะ
00:44:37 → 00:44:41 ต้องการไม่เท่ากันอนี้ก็ต้องพยายามเรียน
00:44:41 → 00:44:45 รู้และเข้าใจตัวเองว่าจะกินคาฟเท่าไหร่จะ
00:44:45 → 00:44:48 กินโปรตีนเท่าไหร่จะกินแฟตเท่าไหร่นะฮะนะ
00:44:48 → 00:44:52 เนี่ยในสัดส่วนที่เหมาะสมพอดีของแต่ละ
00:44:52 → 00:44:56 บุคคลนะพวกนี้ก็คือต้องปรับเอาในแต่ละ
00:44:56 → 00:44:58 บุคคลต้องเรียนรู้อ่ะ
00:44:58 → 00:45:03 นะเนี่ยคนอ้วนและสมส่วนค่อนอ้วนจะต้องได้
00:45:03 → 00:45:08 รับพลังงานอ่าที่สมดุลพอดีนะฮะนะที่จะ
00:45:08 → 00:45:13 ช่วยให้ได้สารอาหารอย่างเพียงพอนะฮะเพราะ
00:45:13 → 00:45:16 ฉะนั้นเนี่ยนะในคนที่ค่อนข้างอ้วนน้ำหนัก
00:45:16 → 00:45:21 เกินนะอพลังงานนี่อก็จะต้องได้ในระดับนึง
00:45:21 → 00:45:25 เค้าเรียกว่าระดับสมดุลที่จะเปลี่ยนจาก
00:45:25 → 00:45:29 สภาพของพลังงานมาเป็นสารอาหารแล้วเกิด
00:45:29 → 00:45:33 ความเพียงพอเพราะฉะนั้นคนพวกนี้นะก็ยังจะ
00:45:33 → 00:45:36 ต้องกินให้ได้พลังงานและสารอาหารที่พอนะ
00:45:36 → 00:45:38 ที่
00:45:38 → 00:45:42 พอคนพวกนี้ไม่ต้องการพลังงานที่จะนำไป
00:45:42 → 00:45:46 เก็บสะสมนะฮะเพราะฉะนั้นกินยังไงที่จะพอ
00:45:46 → 00:45:49 ก็คือกินในการควบคุมอินซูลินนะให้อยู่ใน
00:45:49 → 00:45:53 ระดับเซอ Level นะฮะ
00:45:53 → 00:45:56 นี่ไม่งั้นก็จะเกิดภาวะอ่าไฮเปอร์
00:45:56 → 00:45:59 อินซูลินนีเมียเกิดการสะสมพลังงานอะไร
00:45:59 → 00:46:04 ต่างๆเนี่ยก็เลยอ้วนอะไรอย่างนี้นะฮะอัน
00:46:04 → 00:46:06 นี้มันกลายเป็นอย่างงนี้ไปนะฮะเพราะ
00:46:06 → 00:46:09 ฉะนั้นถ้าเราอยู่ในสภาวะแบบนี้ก็ต้องทำ
00:46:09 → 00:46:12 อย่างงนี้ให้ได้นะฮะคือต้องแปลงคำพูดออก
00:46:12 → 00:46:16 มาเป็นสูตรนะสูตรอ่าที่จะกินน่ะนะอันต่อ
00:46:16 → 00:46:20 มาก็คือถ้าเป็นคนผอมหรือสมส่วนค่อนผอม
00:46:20 → 00:46:23 ท่านต้องได้รับพลังงานมากในระดับที่จะทำ
00:46:23 → 00:46:28 ให้น้ำหนักตัวไม่ลดลลงลดลงลดลงนะคือพลัง
00:46:28 → 00:46:32 งานเนี่ยจะต้องมากมากๆเพราะฉะนั้นต้องกิน
00:46:32 → 00:46:36 พลังงานเยอะนะแล้วจะต้องอ่าถึงจุดนึง
00:46:36 → 00:46:39 เนี่ยนะจะต้องสังเกตนะแล้วก็เหมือนกับ
00:46:39 → 00:46:44 เรคคอร์ดไว้ว่านะจะต้องทรงค่าพลังงานนะ
00:46:45 → 00:46:47 ทั้ง 3 ตัวเนี่ยคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน
00:46:47 → 00:46:50 อ่าแล้วน้ำหนักตัวเนี่ยมันค่อนข้าง stable
00:46:50 → 00:46:54 นะฮะให้ได้ให้ได้นะและเมื่อทำการปรับค่า
00:46:54 → 00:46:58 พลังงานที่ว่านี้ได้อย่างคงที่แล้วนะใน
00:46:58 → 00:47:04 ลำดับต่อไปจะต้องกินและออกกำลังกายเพื่อ
00:47:04 → 00:47:07 ให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมและสร้างปริมาณ
00:47:07 → 00:47:11 มวลกล้ามเนื้อให้เพิ่มมากขึ้นด้วยครับผม
00:47:11 → 00:47:15 นั้นรู้สึกว่าคนผอมก็จะต้องมีอะไรที่จะ
00:47:15 → 00:47:20 ต้องทำนะค่อนข้างเยอะไปนิดนึงนะฮะนะแต่
00:47:20 → 00:47:22 อ้วนก็จะเป็นอย่างนี้นะฮะซึ่งทั้งหมด
00:47:22 → 00:47:24 เนี่ยมันก็ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนขึ้นอยู่กับ
00:47:24 → 00:47:30 บอ Type นะแล้วก็ขึ้นอยู่กับนะอะไรอ่ะ
00:47:30 → 00:47:34 ความรู้และการบริหารจัดการของคนเรานะ
00:47:34 → 00:47:37 เพราะฉะนั้นเรามักผิดกฎเกณฑ์ของระบบพลัง
00:47:37 → 00:47:41 งานที่ 3 เรื่องเนี้ยนะฮะนะก็คือ 1 การ
00:47:41 → 00:47:44 overc 2 ก็คือ
00:47:44 → 00:47:49 เอ่อพลังงานรวมนะมากเกินนะมากเกินนะฮะคือ
00:47:49 → 00:47:54 การมช Energy นะมันวเกินไปนะฮะอันต่อมาก็
00:47:54 → 00:47:58 คือสัดส่วนนะของกลุ่มอาหารหลัก
00:47:58 → 00:48:02 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนอ่าไขมันเนี่ยไม่เหมาะ
00:48:02 → 00:48:07 สมนะฮะไม่เหมาะสมอแล้วทั้งหมดนี้ก็เลย
00:48:07 → 00:48:10 เกิดภาวะอ่าที่เาเรียกว่า Energy
00:48:10 → 00:48:14 inbalance นี่แหละนะฮะนะนะเราจะใช้คำว่า
00:48:14 → 00:48:19 ขาดพลังงานก็ได้นะแต่ก่อนหมอก็ไม่รู้จะ
00:48:19 → 00:48:21 อะไร LA of Energy ก็เลยแปลว่าอย่าง
00:48:21 → 00:48:23 เงี้เดี๋ยวนี้ก็มีคำหรูๆ Energy im
00:48:23 → 00:48:28 Balance เออนะมักจะมีสาเหตุมาจากเ่อกิน
00:48:28 → 00:48:31 พลังงานทั้งวันไม่พอกินไม่ถึงกินขาดไปกิน
00:48:31 → 00:48:35 น้อยไปหรือกินมั่วกินไม่ถูกนะฮะไม่ได้กิน
00:48:35 → 00:48:40 เรว Food อะไรอย่างี้นะหลายอย่างนะนะอัน
00:48:40 → 00:48:44 อีกอันนึงก็คืออาหารในมื้อแรกเนี่ยนะฮะใน
00:48:44 → 00:48:49 พลังงานจะต้อง 2 ใน 3 ของทั้งวันนะนะแล้ว
00:48:49 → 00:48:52 ก็ต้องเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ให้ได้นะ
00:48:52 → 00:48:58 ฮะเพราะว่ากายละเหียดของคนเราเนี่ยนะฮะนะ
00:48:58 → 00:49:02 ที่ที่มันโดนอ่าที่มันตื่นแล้วเนี่ยนะฮะ
00:49:02 → 00:49:05 ที่มันถูกตื่นขึ้นมาแล้วแล้วก็เ่ารับแดด
00:49:05 → 00:49:08 รับลมเอ่อเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อทำงานอะไร
00:49:08 → 00:49:12 ต่างๆเหล่านี้เนี่ยนะฮะครับเขาเนี่ยก็จะ
00:49:12 → 00:49:15 ต้องมีการใช้พลังงานอย่างสมเหตุสมผลเพราะ
00:49:15 → 00:49:18 ฉะนั้นปริมาณพลังงานเนี่ยที่จะต้องได้และ
00:49:18 → 00:49:22 ใช้นะก็คืออยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2 ใน 3 นะฮะ
00:49:22 → 00:49:27 ของทั้งวันครับผมนะเพราะงั้นมื้อแรกถ้า
00:49:27 → 00:49:31 เค้าเรียกว่ากินแบบอะไรอ่ะกินแบบอะไรนะ
00:49:31 → 00:49:36 เค้าเรียกว่ากินกินรองท้องกินไม่ถึงกินพอ
00:49:36 → 00:49:40 ให้ได้กินกินนิดๆหน่อยๆกินแบบแหยงๆอะไร
00:49:40 → 00:49:44 อย่างเงี้ยนะฮะครับผมครับร่างกายก็จะตี
00:49:44 → 00:49:47 เป็นว่าอ่า Energy imbalance เพราะ
00:49:47 → 00:49:50 ฉะนั้นตัวฮอร์โมนต่างๆทั้งอินซูลินทั้ง
00:49:50 → 00:49:54 คอร์ติซอลก็จะต้องเกิดการเนี่ยไม่ได้ทำ
00:49:54 → 00:49:58 งานอยู่ในร่องในรอยแล้วนะฮะนะขออครับผม
00:49:58 → 00:50:02 เพราะฉะนั้นเนี่ยเหตุที่ว่าจะต้องกินใน 1
00:50:02 → 00:50:06 วันที่ถูกต้องและอกินมื้อแรกยังไงกินมื้อ
00:50:06 → 00:50:08 เย็นยังไงแล้วไม่กินแล้วมันจะเกิดอะไร
00:50:08 → 00:50:11 ขึ้นเนี่ยส่วนนึงก็เป็นอย่างเงี้แะนะ
00:50:11 → 00:50:17 ฮะซึ่งผลพวงนะจาก Energy imbalance ก็จะ
00:50:17 → 00:50:20 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะฮอร์โมน
00:50:20 → 00:50:24 นะและต่อมต่างๆแล้วอวัยวะที่ไวต่อการรับ
00:50:24 → 00:50:27 รู้ในเรื่องของ Energy imbalance ที่สุด
00:50:27 → 00:50:32 ก็คือไตไตไๆอ่าไม่ใช่สมองนะฮะการหมุน
00:50:32 → 00:50:35 เวียนเลือดที่เสียหายเพราะว่าอินซูลินนะ
00:50:36 → 00:50:41 อ่าจะออกมานะอ่าโดยส่วนใหญ่มันก็คือขาด
00:50:41 → 00:50:45 พลังงานที่มันเกินในเรื่องของคาฟนั่นแหละ
00:50:45 → 00:50:48 นะฮะอินซูลินถูกกระตุ้นออกมานะหลอดเลือด
00:50:48 → 00:50:51 มันก็หดนะเอ่อการกรองก็บก
00:50:51 → 00:50:55 พร่องครับผมต่อมไร้ท่อต่อมมีท่ออันอันนี้
00:50:55 → 00:50:57 ก็คือไทรรอยด์
00:50:57 → 00:51:01 นะแล้วก็ระบบฮอร์โมนก็เป็นไทรรอยด์ลองลง
00:51:01 → 00:51:04 มาก็เป็นคอร์ติซอลคือคอร์ติซอลยังมาที
00:51:04 → 00:51:09 หลังนะฮะคอร์ติซอลยังมาทีหลังนะเนี่ยแต่
00:51:09 → 00:51:12 ว่าไตเนี่ยเรับรู้ก่อนนะฮะแล้วตัวต้นตอ
00:51:12 → 00:51:16 ที่มาประสานงานกับความผิดของเรื่องพลัง
00:51:16 → 00:51:19 งานก็คืออินซูลิน
00:51:19 → 00:51:25 นะอันนี้เราก็ยังจำได้เนาะนะว่าครับกาย
00:51:25 → 00:51:29 เราเนี่ยเขาจะให้ความสำคัญนะกะตับนะที่เ
00:51:29 → 00:51:32 เรียกคอนซูมพลังงานอันดับ 1 นะหัวใจ
00:51:32 → 00:51:36 อันดับ 2 อันดับ 3 ไตอันดับ 4 นะแล้วตัว
00:51:36 → 00:51:38 ที่เขายังไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก
00:51:38 → 00:51:40 เกี่ยวกับเรื่องพลังงานก็คือกล้ามเนื้อนะ
00:51:41 → 00:51:44 กล้ามเนื้อครับผมเนี่ยเขาจะให้ 1 2 3 4
00:51:44 → 00:51:47 รวมทั้งกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดนะ
00:51:47 → 00:51:50 กล้ามเนื้อกระบังลมอะไรต่างๆนะเอาไอ้พวก
00:51:50 → 00:51:54 เนี้ยนะอ่าแล้วที่เหลือค่อยไปปล่อยให้
00:51:54 → 00:51:57 กล้ามเนื้อนะต่อจากกล้ามเนื้อก็เป็นไรอ่ะ
00:51:57 → 00:52:02 ขนผมเล็บผิวหนักอะไรอย่างเงี้ยนะเพราะ
00:52:02 → 00:52:04 งั้นเราจะเห็นว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มี
00:52:04 → 00:52:08 ปัญหาเรื่องพลังงานและสารอาหารนะฮะเนี่ย
00:52:08 → 00:52:10 นะร่างกายก็จะต้องเก็บทั้งพลังงานและสาร
00:52:10 → 00:52:13 อาหารหรือหรือแจกแจงให้สิ่งเหล่านี้ได้
00:52:13 → 00:52:19 รับอือ่าให้เต็มที่ก่อนนะนะแล้วเขาจะสลัด
00:52:19 → 00:52:22 นะหรือเขาจะไม่ค่อยให้ความสำคัญนะกล้าม
00:52:22 → 00:52:26 เนื้อแกฝ่อก็ฝ่อไปนะเอ่ออะไรอ่ะผมร่วงแก
00:52:27 → 00:52:30 ก็ร่วงไปขนกรุดแกก็กรุดไปผิวหนังไม่สวย
00:52:30 → 00:52:34 ไม่ดีเกิดเป็นอะไรนะเเรียกว่าหนังย่นเ้า
00:52:34 → 00:52:37 เรียกเซลลูไลท์อะไรต่างๆอ่าผิวเปลือกส้ม
00:52:37 → 00:52:42 เออแกก็เปลี่ยนไปนะแต่ให้ใจสมองไตกล้าม
00:52:42 → 00:52:45 น้มกล้ามเนื้อนะให้มันค่อนข้างดีที่สุด
00:52:45 → 00:52:49 ให้ได้ก่อนนะนะเพราะฉะนั้นกล้ามเนื้อเอย
00:52:49 → 00:52:53 อะไรเอยที่พูดไปเมื่อกี้นี้นะร่างกายไม่
00:52:53 → 00:52:56 ค่อยได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับดับแรกๆ
00:52:56 → 00:53:01 เนาะครับผมทีนี้ต่อไปเนี่ยเราต้องมาลงราย
00:53:01 → 00:53:04 ละเอียดในเรื่องของโปรตีนนะในการจะนำมา
00:53:05 → 00:53:10 ฟื้นฟูไปนะฮะนะซึ่งหมอจะแบ่งออกเป็น 3
00:53:10 → 00:53:13 รูปแบบนะฮะนะซึ่งทั้งหมดนี้ต้องเลคเชอตาม
00:53:13 → 00:53:17 นะฮะนะนะไม่ว่าจะเป็นอ่าไตเนี่ยเต้องการ
00:53:17 → 00:53:19 อะไรต้องการโปรตีนธรรมชาติที่เป็นเลว Food
00:53:19 → 00:53:24 นะฮะนะเอ่อแล้วในทางตรงกันงข้ามนะโปรตีน
00:53:24 → 00:53:27 ที่ไเไม่ต้องการแต่คนเราไม่มีความเข้าใจ
00:53:27 → 00:53:30 ไม่มีความรู้พยายามจะยัดเยียดแล้วใส่
00:53:30 → 00:53:33 โปรตีนเหล่าเนี้ยนะซึ่งในที่สุดก็จะมี
00:53:33 → 00:53:36 ปัญหานะต่อค่าไตที่มันจะแย่ลงแล้วมันก็
00:53:36 → 00:53:39 ซ่อมแซมฟื้นฟูไตไม่ได้แล้วนำไปสู่การ
00:53:39 → 00:53:43 บำบัดทดแทนไตก็คือการล้างไตนี่แหละนะฮะ
00:53:43 → 00:53:47 เนี่ยอครับผมจะมาในตัวแดงๆเนี่ยกันเหลือ
00:53:47 → 00:53:51 เกินน่ะนะฮะนะเนี่ยเราต้องใส่ใจนี่นะฮะ
00:53:51 → 00:53:55 โปรตีนธรรมชาติเรวฟู้ดนะนะอันนี้เนี่ยอ่า
00:53:55 → 00:53:58 เอาเป็นเอาตายให้ได้นะฮะนะแล้วก็ต้องมาก
00:53:58 → 00:54:01 กว่าด้วยนะเพราะต้องเผื่อแผ่ไปที่กล้าม
00:54:01 → 00:54:03 เนื้อด้วยกล้ามเนื้อกับไตนี่เต้องซ่อมไป
00:54:04 → 00:54:08 พร้อมกันนะเไม่แยกนะไม่แยกนะก็คือข้อ
00:54:08 → 00:54:12 เนี้ยนะเนี่ยข้อ 4 กับข้อ 5 เนี่ยนะเก้ำ
00:54:12 → 00:54:16 กึ่งกันนะฮะนะแล้วก็ตัวระบบพลังงานไม่ว่า
00:54:16 → 00:54:16 จะเป็น
00:54:17 → 00:54:21 อ่าเป็นสัดส่วนของคาฟของประกวดไขมันอิสระ
00:54:21 → 00:54:25 ของคีโตนอะไรต่างๆเนี่ยนะเขาจะใกล้ๆกันนะ
00:54:25 → 00:54:28 นะมันต่างจากตับหัวใจสมอง
00:54:28 → 00:54:35 นะทีนี้การซ่อมไเนี่ยนะฮะนะนะมันยังจะมี
00:54:35 → 00:54:37 ตัวโปรตีนเสริมเนี่ยเขาเรียกว่าโปรตีน
00:54:37 → 00:54:40 Balance นะฮะเเรียกว่า Balance โปรตีนนะ
00:54:40 → 00:54:44 หรือ Balance อิโน Acid นะอันนี้ก็ต้องมี
00:54:44 → 00:54:49 การนำมาใช้เป็นบางช่วงเป็นบางเลเวลของ
00:54:49 → 00:54:53 ภาวะไตเสื่อมด้วยนะฮะนะด้วยดครับผมซึ่ง
00:54:53 → 00:54:55 มันจะมีทั้งข้อดีข้อเสียเดี๋ยวเราจะคุย
00:54:55 → 00:54:57 รายละเอียด
00:54:57 → 00:55:00 กันนี้มารู้เรื่องของโปรตีนและกรดอะมิโน
00:55:00 → 00:55:05 ก่อนนะฮะนะก็ 1 หน้านี่แหละฮะนะเนี่ยเป็น
00:55:05 → 00:55:10 ข้อที่หมอจะสรุปไว้ให้และนะฮะว่าหน่วย
00:55:10 → 00:55:14 ย่อยที่สุดของโปรตีนนะฮะในแง่อ่าที่จะนำ
00:55:14 → 00:55:17 ไปซ่อมแซมแล้วก็สร้างกล้ามเนื้อสร้างไต
00:55:17 → 00:55:20 ใหม่อะไรเงี้ยหรือฟื้นฟูไตหรืออวัยวะอื่น
00:55:20 → 00:55:25 ๆก็ตามนะก็คือกดอะมิโนกดอะมิโนนะฮะแต่แต่
00:55:25 → 00:55:29 ไอ้ตัวกดอะมิโนเนี่ยมันจะมีสิ่ง 2 อย่าง
00:55:29 → 00:55:33 ที่เราจะต้องรู้นะแล้วจำแล้วจำนะฮะนะที
00:55:33 → 00:55:36 นี้เขาบอกว่ากรดอะมิโนจะทำให้เลือดเป็น
00:55:36 → 00:55:39 กรดนะฮะนะเพราะว่ามีโมเลกุลของฟอสฟอรัส
00:55:40 → 00:55:43 แล้วก็ซัลเฟอร์แบบที่พูดไปเมื่อกี้นี้นะ
00:55:43 → 00:55:46 ซึ่งจะเป็นตัวจับกับไฮโดรเจนไอออนกลาย
00:55:46 → 00:55:51 เป็นกรดนะฟอสฟอริกนะแล้วก็อ่าซัลฟูริกนะ
00:55:51 → 00:55:53 ฮะนะ
00:55:54 → 00:55:55 เอ่อ
00:55:55 → 00:56:00 นอกจากนี้เนี่ยนะอันนี้รู้สึกซันเฟอร์จับ
00:56:00 → 00:56:01 เป็น
00:56:01 → 00:56:06 กดเอ๊ะพิมพ์ผิดไปมั้งเอ่อก็ให้รู้ว่ามัน
00:56:06 → 00:56:09 มีฟอสฟอริกกับซัลฟูริกแล้วกันนะฮะอันนี้
00:56:09 → 00:56:12 น่าจะพิมพ์เดี๋ยวจะไปแก้ให้นะ
00:56:13 → 00:56:17 เอ่อนอกจากนี้เนี่ยนะยังมีเรื่องของเสีย
00:56:17 → 00:56:20 ที่เป็นแอมโมเนียยูเลียนะฮะซึ่งทั้งหมด
00:56:20 → 00:56:24 เนี้ยจะต้องถูกคือไตต้องทำหน้าที่ในการ
00:56:24 → 00:56:27 เคลียร์สิ่งเหล่านี้นะฮะนะแต่โมเนียเนี่ย
00:56:27 → 00:56:30 เคลียร์ที่ตับก่อนนะฮะนะไตจะเคลียร์
00:56:30 → 00:56:35 ยูเรียยูเรียนะฟอสฟอริกฟรินะฮะนะเนี่ยพวก
00:56:36 → 00:56:39 นี้เนี่ยคือไตเต้องมาจัดการตามหน้าที่ของ
00:56:39 → 00:56:44 เานะให้ได้ให้ได้นะฮะแล้วเราก็จะต้องให้
00:56:44 → 00:56:47 สิ่งนะที่จะต้องเปลี่ยนเป็นสิ่งเหล่านี้
00:56:47 → 00:56:51 ให้กับเขาเพื่อให้เขาหวนกลับมาทำงานตาม
00:56:51 → 00:56:57 ปกตินะตามปกตินะเพราะฉะนั้นเนี่ยอะไรล่ะ
00:56:57 → 00:57:00 ที่จะทำให้เกิดความเป็นกรดในเลือดได้นะฮะ
00:57:00 → 00:57:04 ไฮโดรเจนไอออนเนี่ยมันก็มาจาก 2 กดเป็น
00:57:04 → 00:57:08 หลักเลยอ่ะนะฮะก็คือกรดไขมันกับกดอะมิโน
00:57:08 → 00:57:11 นะไฮโดรเจนไอออนเหล่านี้ไม่ได้มาจาก
00:57:11 → 00:57:15 คาร์โบไฮเดรตนะฮะนะนะคาร์โบไฮเดรตไม่ได้
00:57:15 → 00:57:20 ทำให้เกิดไฮโดรเจนไอออนนะอืมครับผมเแล้ว
00:57:20 → 00:57:23 เพราะฉะนั้นเวลาที่จะฟื้นฟูไตซ่อมแซมไต
00:57:24 → 00:57:27 เนี่ยก็มองย้อนกลับไปนะฮะนะถ้าจะทำให้
00:57:27 → 00:57:29 สิ่งเหล่านี้เกิดกับไตแล้วไตกลับมาทำหน้า
00:57:29 → 00:57:34 ที่ได้นะก็ต้องใส่สิ่งต้นทางก็คือโปรตีน
00:57:34 → 00:57:38 กับไขมันโปตีนเป็นหลักครับผมแล้วถ้าจะใส่
00:57:38 → 00:57:43 คาฟก็ใส่บ้างเล็กน้อยนะฮะนะไม่ใช่ใส่คาฟ
00:57:43 → 00:57:47 าฟๆนะเป็นแป้งปอดโปรตีนเป็นกินอะไรกันก็
00:57:47 → 00:57:51 ไม่รู้อ่ะนะฮะนะครับผมครับมีแต่สิ่งที่จะ
00:57:51 → 00:57:55 เปลี่ยนเป็นน้ำตาลนะฮะครับผมอ่ะอ่าแล้วที
00:57:55 → 00:58:00 นี้แหล่งโปรตีนธรรมชาตินะฮะนะอ่าอ่าก็จะ
00:58:00 → 00:58:04 มีเนี่ยนะที่เป็นเร Food ก็คือเนี่ยนะ
00:58:04 → 00:58:08 แหล่งโปรตีนที่ให้กดอะมิโนจำเป็นกับอ่ากด
00:58:08 → 00:58:13 อะมิโนที่อ่ากดอมิโนที่กดอมิโนจำเป็นแต่
00:58:14 → 00:58:17 ว่ามันไม่ครบไม่สมบูรณ์นะฮะนะแต่อันนี้ก็
00:58:17 → 00:58:20 คือสิ่งที่เราต้องได้รับนะฮะเวลาจะซ่อม
00:58:20 → 00:58:24 แซมไนะก็คือแหล่งโปรตีนจากอาหารเร food
00:58:24 → 00:58:28 นะ 2 อย่างนี้นะฮะอ่าไข่ทั้งฟองกินชีสกิน
00:58:28 → 00:58:30 เนื้อสัตว์ติดหนังติดมันกินน้ำซุปต้ม
00:58:30 → 00:58:34 กระดูกกินถั่วเหลืองหมักหมักนะฮะต้องหมัก
00:58:34 → 00:58:37 ด้วยนะฮะนะตัวเหลืองวลาไม่ได้นะฮะซ่อมไต
00:58:37 → 00:58:42 ไม่ได้นะมีแต่แป้งนะเอ่ออันนี้คือแหล่ง
00:58:42 → 00:58:46 โปรตีนธรรมชาติเรฟที่จะเอาไปซ่อมไตนะฮะนะ
00:58:46 → 00:58:50 ต้องกินให้มากด้วยนะฮะนะนนี้แหล่งโปรตีน
00:58:50 → 00:58:53 เสริมนะที่เราเรียกว่า
00:58:53 → 00:58:57 อ่าโปรโปรตีนบานหรืออมิโนแอซิดบานเนี่ยนะ
00:58:57 → 00:59:02 ฮะนะก็จะมีเป็นโปรตีนผงและกรดอะมิโนผงนะ
00:59:02 → 00:59:05 ซึ่งก็จะมีรายละเอียดอย่างนี้นะมีทั้งมา
00:59:05 → 00:59:08 จากสัตว์จากพืชอะไรต่างๆนะฮะนะรวมทั้ง
00:59:08 → 00:59:12 คล้ายๆกับเป็นกลุ่มอ่าอาหารเสริมต่างๆที่
00:59:12 → 00:59:16 มันแปรรูปสุดตรงมาพอสมควรนะนะสิ่งเหล่า
00:59:16 → 00:59:20 นี้ไม่ถึงขนาดว่าห้ามไม่ให้กินนะฮะนะนะ
00:59:20 → 00:59:25 แต่จะต้องมีการกินเสริมและมีอ่ากรมวิวิธี
00:59:25 → 00:59:28 การกินเนี่ยๆเทคนิคการกินโปรตีนเสริม
00:59:28 → 00:59:30 เนี่ยโปรตีนเสริมอันเนี้ยนะฮะ
00:59:30 → 00:59:35 เนี่ยก็คือต้องทำอะไรบ้างนะฮะนะ 1 จำกัด
00:59:35 → 00:59:39 ปริมาณที่จะกินที่จะกินนะ 2 ต้องมีเงื่อน
00:59:39 → 00:59:43 ไขที่จะกินนะฮะนะก็คือจะต้องมีการออกแรง
00:59:43 → 00:59:46 ออกกำลังนะฮะคือเขาเรียกว่าจะต้องไปส่ง
00:59:46 → 00:59:49 สัญญาณกับกล้ามเนื้อก่อนนะฮะเพราะสิ่ง
00:59:49 → 00:59:51 เหล่านี้ส่วนใหญ่เนี่ยอ่าไม่ได้กินไป
00:59:51 → 00:59:54 เพื่อไตนะฮะไม่ได้ไปซ่อมไตแต่ไปซ่อมกล้าม
00:59:54 → 00:59:57 เนื้อนะนะครับผมที่จะให้กล้ามเนื้อเนี่ย
00:59:57 → 01:00:00 เป็นโกดังที่จะกลายเป็นสารอาหารมาซ่อมไต
01:00:00 → 01:00:03 ภายหลังโดยเฉพาะตอนที่เรานอน
01:00:04 → 01:00:07 นะอันต่อมาก็คือเนี่ย
01:00:07 → 01:00:11 เอ่อก็มีมีหลายอย่างนะมีเงื่อนไขในการกิน
01:00:11 → 01:00:14 อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะซึ่งจะต้องมีข้อ
01:00:14 → 01:00:16 ระวังเพราะสิ่งเหล่านี้มันแปรรูปพอมันแปร
01:00:16 → 01:00:20 รูปปุ๊บเนี่ยนะฮะนะปริมาณไขมันมันจะน้อย
01:00:20 → 01:00:23 นะหรือเาสกัดออกหมดนะเพราะฉะนั้นมันจะ
01:00:23 → 01:00:27 เป็นกลุ่มีโปรตีนนะที่มันจะกระตุ้น
01:00:27 → 01:00:31 อินซูลินแรงนะฮะนะโดยนะทั้งอินซูลินทั้ง
01:00:31 → 01:00:35 คอร์ติซอลมากันแต่อินซูลินจะมากันเยอะมาก
01:00:35 → 01:00:40 นะฮะเนี่ยอือนะแล้วก็อาจจะเป็นการรูปที่
01:00:40 → 01:00:43 ใส่อะไรต่ออะไรเยอะแยะไปหมดนะหรือมี
01:00:43 → 01:00:47 โอเมก้า 6 นะร่วมด้วยนะ
01:00:47 → 01:00:50 ฮะอันนี้เป็นหลักๆเลยของโปรตีนและกรด
01:00:50 → 01:00:53 อะมิโนนะฮะนะแต่สำหรับไตแล้วเนี่ยเรา
01:00:54 → 01:00:57 เลือกจะเฉพาะโปรตีนธรรมชาติที่เป็นเร Food
01:00:57 → 01:01:00 เป็นหลักครับ
01:01:00 → 01:01:05 ผมทีนี้ตรงเนี้ยตรงนี้สำคัญมากนะฮะนะคือ
01:01:05 → 01:01:09 ตรงแดงๆเนี่ยนะฮะกับบรรทัดเนี้ยที่กรด
01:01:09 → 01:01:13 อะมิโนเปลี่ยนเป็นน้ำตาลและโปรตีนนะฮะอัน
01:01:13 → 01:01:17 นี้คือการตอกย้ำให้ทราบนะถึงสิ่งสำคัญ
01:01:17 → 01:01:21 สิ่งหนึงในกลุ่มอาหารโปรตีนนะที่เราจะมา
01:01:21 → 01:01:26 กินนะที่เราจะมากินไม่ว่าจะเป็นเวฟโปรตีน
01:01:26 → 01:01:31 ธรรมชาติหรือจะแปรโร่งแปรรูปนะก็ตามนะฮะ
01:01:31 → 01:01:34 เราต้องทราบว่าหน่วยเล็กที่สุดของโปรตีน
01:01:34 → 01:01:41 คืออะมิโนนะฮะนะถ้ากินเกินกดอะมิโนเกินจะ
01:01:41 → 01:01:44 เปลี่ยนเป็นน้ำตาลนะแล้วการเปลี่ยนอันนี้
01:01:44 → 01:01:48 จะเปลี่ยนประมาณอ่ามากกว่า 80% นะฮะของ
01:01:48 → 01:01:51 อะมิโนแอซิดที่มันเกินจากการกินโปรตีน
01:01:51 → 01:01:55 เกินนะนะส่วนที่ไม่ถึง 20 ก็เปลี่ยนเป็น
01:01:55 → 01:02:00 เตี้คีโตนนะฮะแต่น้ำตาลจะมากกว่านะ
01:02:00 → 01:02:05 ฮะในทิศทางที่จะมีการเปลี่ยนเป็นน้ำตาล
01:02:05 → 01:02:08 และเป็นเตี้คีโตนเนี่ยนะฮะนะก็จะมีการ
01:02:08 → 01:02:11 เปลี่ยนเป็นแอมโมเนียและยูเรียควบคู่กัน
01:02:11 → 01:02:17 ไปด้วยนะฮะก็เป็นภาระหนักต่อตัดแลไตนะฮะ
01:02:17 → 01:02:20 โดยนะสิ่งที่จะมาเปลี่ยนก็คือฮอร์โมนตัว
01:02:20 → 01:02:23 แม่ที่ชื่อว่าคอร์ติซอลนะฮอร์โมนเครียด
01:02:23 → 01:02:29 คอร์ซ่อนะครับผมอันนี้เป็นเป็นอะไรที่จะ
01:02:29 → 01:02:32 ต้องมาร์คไว้เลยนะฮะต้องเข้าใจจุดนี้นะฮะ
01:02:32 → 01:02:38 ถึงได้บอกว่าต้องกินพลังงานรวมแบบพอดีนะ
01:02:38 → 01:02:42 พอดีนะโดยเฉพาะในยามที่เราเจ็บป่วยหรือ
01:02:42 → 01:02:46 ผิดปกติหรือจะซ่อมนั่นอ่าสร้างหนี้อะไร
01:02:46 → 01:02:49 อย่างเงี้ยนะฮะนะเอาค่าพอดีไว้ก่อนนะอย่า
01:02:49 → 01:02:52 เกินอย่าเกินเกินแล้วเดี๋ยวมันเกิดเรื่อง
01:02:52 → 01:02:53 นะ
01:02:53 → 01:02:56 ฮะทีนี้อีกเรื่องนึงเนี่ยในเรื่องของ
01:02:56 → 01:02:59 โปรตีนและกรดอะมิโนเนี่ยนะฮะนะร่างกายจะ
01:03:00 → 01:03:03 มีการเอากรดอะมิโนในกล้ามเนื้อมาใช้เป็น
01:03:03 → 01:03:08 พลังงานนะเมื่อเมื่อมีการฟานะยาวนานต่อ
01:03:08 → 01:03:12 เนื่องอ่าเกิน 18 ชั่วโมงขึ้นไปนะฮะเพราะ
01:03:12 → 01:03:15 ฉะนั้นเนี่ยเ่อตัว timing นะฮะนะที่เป็น
01:03:15 → 01:03:19 ตัวอ่าเป็นตัวตัดสินเนี่ยคือเวลาที่ 18
01:03:19 → 01:03:22 ชมงขึ้นไป
01:03:22 → 01:03:25 นะร่างกายจะ
01:03:25 → 01:03:27 ซึ่งอันเนี้ยมันเป็นแอชของอะไรก็ของ
01:03:27 → 01:03:30 คอร์ติซอลนั่นแหละนะฮะนะเขาจะมีการเอากด
01:03:30 → 01:03:32 อะมิโนในกล้ามเนื้อมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน
01:03:32 → 01:03:36 มาเปลี่ยนเป็นพลังงานนะเนี่ยซึ่งตัวที่เ
01:03:36 → 01:03:38 มาเปลี่ยนเนี่ยนะนะส่วนใหญ่ก็คือมา
01:03:39 → 01:03:42 เปลี่ยนเป็นน้ำตาลนั่นแหละนะฮะนะถ้ามีการ
01:03:42 → 01:03:46 ฟาสยาวนานเกิน 18 ชั่วโมงขึ้นไปและมีการ
01:03:46 → 01:03:50 ทำการฟา 18 ช่วโมงเนี่ยนะอย่างบ่อยครั้ง
01:03:50 → 01:03:53 นะอย่างบ่อยครั้งนะฮะก็คือจริงๆแล้วไอ้
01:03:53 → 01:03:56 เรื่องฟาเกิน 18 ชมเนี่ยส่วนใหญ่เแนะนำ
01:03:56 → 01:03:59 ให้ทำ 1 - 2 ไม่เกิน 2 ครั้งนะต่อ
01:03:59 → 01:04:05 สัปดาห์นะหรือทุกๆ 10 วันเนี่ยนะฮะนะนะ
01:04:05 → 01:04:10 สามารถโปรลอง Fast เนี่ยได้นะ 1 หรือ 2
01:04:10 → 01:04:14 วันนะฮะอีกอันนึงก็คือมีเงื่อนไขในเรื่อง
01:04:14 → 01:04:17 ของการออกแรงออกกำลังอย่างมากหนักหักโหม
01:04:17 → 01:04:22 และมีความเยาวนานนะที่ติดต่อกันนะเช่นนี้
01:04:22 → 01:04:25 ก็เดียวอย่างเดียวกันนี่แหละคอร์ติซอลก็
01:04:25 → 01:04:28 จะอ่าเอากรดอะมิโนในกล้ามเนื้อมาเปลี่ยน
01:04:28 → 01:04:29 เป็นพลัง
01:04:29 → 01:04:33 งานมวนกล้ามเนื้อก็จะถูกทำลายและสลายให้
01:04:33 → 01:04:36 ลดลงนะฮะเพราะฉะนั้นตรงเนี้ยตรงนี้ก็คือ
01:04:36 → 01:04:40 เป็นเรื่องสำคัญนะที่จะต้องรับรู้นะฮะและ
01:04:40 → 01:04:42 จะต้องมีความเข้าใจนะฮะ
01:04:43 → 01:04:46 เนี่ย
01:04:46 → 01:04:50 เอ่อยังมีอีกคำถามนึงนะฮะนะอีกคำถามนึง
01:04:50 → 01:04:55 จากจากเรื่องของการฟาเนี่ยนะฮะนะเขาบอก
01:04:55 → 01:05:01 ว่าเอ้อนะในเวลาที่เราอดเนี่ยระหว่างแฟต
01:05:01 → 01:05:06 นะกับเอ่อกดอะมิโนเนี่ยนะฮะนะที่มาจาก
01:05:06 → 01:05:10 กล้ามเนื้อเนี่ยอะไรจะถูกนำมาใช้ก่อนอะไร
01:05:10 → 01:05:15 จะถูกนำมาใช้ก่อนนะฮะจริงๆแล้วเนี่ยนะสัด
01:05:15 → 01:05:20 ส่วนเนี่ยนะมันคือ 60 40 นะฮะแล้วก็
01:05:20 → 01:05:23 แอคชั่นในในเรื่องเนี้ยก็คือจะเป็น
01:05:23 → 01:05:26 แอคชั่นของฮอร์โมนตัวแม่คอร์ติซอลนะนะอื
01:05:27 → 01:05:30 ครับผมแต่ว่าถ้าจะตอบเนี่ยตอบคำถามอัน
01:05:30 → 01:05:32 เนี้ยตามเงื่อนไขเนี่ยก็คือ 1 จำนวน
01:05:32 → 01:05:37 ชั่วโมงนะว่ามีการอดนานแค่ไหนนะฮะนะจำนวน
01:05:37 → 01:05:42 ชั่วโมงนะฮะนะ Cut Off ที่ 18 ชมงนะแต่
01:05:42 → 01:05:45 ถ้าคุณ 19 ชมงหรือ 23/1 อะไรเงี้ยจำนวน 1
01:05:46 → 01:05:48 ชั่วโมง 1 ช่วโมงที่เพิ่มขึ้นเนี่ยนะฮะ
01:05:48 → 01:05:51 ฮอร์โมนเครียดคอร์ติซอลจะมากขึ้นมากขึ้น
01:05:51 → 01:05:55 เป็นเค้าเรียก Multi เป็นทวีคูณน่ะนะฮะนะ
01:05:55 → 01:05:59 ก็แน่นอนถ้าคอร์ติซอลมามากเนี่ยนะ
01:05:59 → 01:06:03 คอร์ติซอลเนี่ยเ้าเล็งนะเมีรีตที่เขาจะไป
01:06:03 → 01:06:08 โฟกัสในการทำลายเก็คือคือกล้ามเนื้อนะ
01:06:08 → 01:06:12 เพราะงั้นคอร์ติซอลยิ่งมากนะเาก็จะเอาแต่
01:06:12 → 01:06:15 ไอ้ตัวกล้ามเนื้อมาเล่นแล่แปรธาตุเนี่ยนะ
01:06:15 → 01:06:19 ฮะเไม่สนหรอกนะเ่อในเรื่องของแฟตเฟิร์ด
01:06:19 → 01:06:21 อะไรต่างๆนะฮะ
01:06:21 → 01:06:25 เออีกอันนึงเี่ก็คือสต๊อกของกล้ามเนื้อ
01:06:25 → 01:06:29 กับไขมันเนี่ยเรามีอะไรมากมายแค่ไหนนะฮะ
01:06:29 → 01:06:32 ซึ่งอันเนี้ยมันจะมีคนอยู่ 2 แบบนะที่เรา
01:06:32 → 01:06:36 พูดกันไปก็คือคนอ้วนกับคนปอนะคนอ้วนนะ
01:06:36 → 01:06:39 สต๊อกกล้ามเนื้อสต๊อกไขมันสต๊อกสารอาหาร
01:06:39 → 01:06:43 มันมีเยอะเออมันมีเยอะนะเพราะฉะนั้นเนี่ย
01:06:43 → 01:06:48 ครับผมเวลาที่เราจะฟ้านะเอ่อแล้วถามว่า
01:06:48 → 01:06:52 เอ่อมันจะมีปัญหาอะไรมยนะมันก็ส่วนใหญ่
01:06:52 → 01:06:55 อ่ะนะมันก็ไม่ค่อยมีปัญหาแล้วก็ไม่ค่อยไป
01:06:55 → 01:06:58 ติ๊กเกอร์ไอ้คอร์ติซอลออกมาเยอะแยะนะฮะ
01:06:58 → 01:07:00 เพราะว่ามันมีทั้งพลังงานมีทั้งกล้ามนง
01:07:00 → 01:07:03 กล้ามเนื้อมีทั้งสารอาหารเที่จะมารอให้
01:07:03 → 01:07:08 ใช้หรือจะมามาๆมาสลายอ่ะมาสลายตัวนะในการ
01:07:08 → 01:07:11 ทดแทนของการที่ไม่ได้กินน่ะนะอยู่แล้วอ่ะ
01:07:11 → 01:07:14 นะฮะเพราะงั้นคอร์ติซอลพวกเนี้ยเขาก็จะ
01:07:14 → 01:07:17 ไม่มาวุ่นวายอะไรมากมายนักก็อาจจะมาบ้าง
01:07:18 → 01:07:20 นะฮะนะเพราะฉะนั้นคนอ้วดเนี่ยเอ่อโดย
01:07:20 → 01:07:23 เฉพาะสายเนื้อพุงเครียดหรือเอสโตรเจน type
01:07:23 → 01:07:27 เนี่ยพวกนี้เนี่ยแอชของคอร์ติซอลที่จะ
01:07:27 → 01:07:31 เอ่อพุ่งขึ้นหรือว่าจะมามีการที่จะสลาย
01:07:31 → 01:07:33 ก้ามน้งกล้ามเนื้อให้เป็นกรดอะมิโนหรือ
01:07:33 → 01:07:36 ว่าเป็นน้ำตาลอะไรต่างๆเหล่าเยพวกนี้มัน
01:07:36 → 01:07:40 ก็น้อยอ่ะนะมันก็ต่างกับแคนผอมไงคนผอม
01:07:40 → 01:07:43 เนี่ยเปอร์เซ็นต์พลังงานสะสมเปอร์เซ็นต์
01:07:43 → 01:07:45 body fat เปอร์เซ็นต์มวลกล้ามเนื้อ
01:07:45 → 01:07:48 Muscle mas เ่ามันไม่ได้เยอะอยู่แล้วนะ
01:07:48 → 01:07:53 ฮะถ้าคุณเล่นโปรลองฟ้ายาวขึ้นไปเรื่อยๆ
01:07:53 → 01:07:56 อะไรอย่างเงี้ยนะนะโดยเฉพาะถ้าเกิน 23/1
01:07:56 → 01:08:00 ขึ้นไปอะไรเงี้ยนะโอ้พวกนี้นะ 1 ช่วโมง
01:08:00 → 01:08:04 ที่คุณโปรลองไปนี่คอสซ่อมันก็พุ่งๆๆๆๆโอ
01:08:04 → 01:08:07 ครับผมอ่าแต่มันก็จะทำยังไงล่ะกินก็ไม่
01:08:07 → 01:08:11 ได้กินกล้ามเนื้อก็ไม่มีไขมันก็ไม่สะสมนะ
01:08:11 → 01:08:14 เพราะงั้นคอร์ติซอลในคนผอมเนี่ยนะเขาจะ
01:08:14 → 01:08:16 จัดการกับแฟตหรือกดอะมิโนที่กล้ามเนื้อ
01:08:16 → 01:08:20 ยังไงเก็จะถัวเฉลี่ยนะเขาจะถัวเฉลี่ยก็
01:08:20 → 01:08:25 แล้วแต่ว่านะมีอะไรมากกว่ากันนะคนผอมหลาย
01:08:25 → 01:08:29 คนนะเขาก็ไม่ได้มียุ้งฉังในการที่จะเก็บ
01:08:29 → 01:08:33 ไขมันครับผมแน่นอนคิอก็ต้องเล่นงานกล้าม
01:08:33 → 01:08:36 เนื้อเป็นหลักนะฮะอันนี้เขเกิดการถัว
01:08:36 → 01:08:39 เฉลี่ยนะฮะถัวเฉลี่ยนะซึ่งทุกอย่างเนี่ย
01:08:39 → 01:08:44 ก็แล้วแต่นะชั่วโมงในการฟานะเว่าจะโปรลอง
01:08:44 → 01:08:48 ไปขนาดไหนนะแล้วก็ตัวแฟตกับตัวอะมิโนจาก
01:08:48 → 01:08:53 กล้ามเนื้อเขาจะใช้อะไรนะแต่โดยเฉลี่ยนะ
01:08:53 → 01:08:54 ฮะโดยเฉลี่ย
01:08:54 → 01:08:57 ในแง่ของคอร์ติซอลเนี่ยเขาจะมีแนวโน้มที่
01:08:57 → 01:09:01 จะใช้กล้ามเนื้อนะใช้อะมิโนกล้ามเนื้อ
01:09:01 → 01:09:05 สลายเป็นอะมิโนมากกว่าที่จะใช้เรื่องของ
01:09:05 → 01:09:08 แฟตเพราะว่าย้อนกลับไปเมื่อกี้ตามกฎเกณฑ์
01:09:08 → 01:09:12 พลังงานเนี่ยนะอ่าหมอบอกไปแล้วว่าทั้ง
01:09:12 → 01:09:16 คอร์ติซอลและอินซูลินเนี่ยเขาเขาอยากที่
01:09:16 → 01:09:19 จะเก็บพลังงานไว้อ่ะนะเขาไม่ค่อยอยากจะ
01:09:19 → 01:09:24 จ่ายหรืออยากจะสลายนักหรอกนะเพราะว่าเค
01:09:24 → 01:09:28 เกลัวตายนะยังไงก็ใชที่จำเป็นแล้วมักจะ
01:09:28 → 01:09:31 เก็บนะฮะเพราะฉะนั้นยิ่งถ้าบทบาทข้อที่
01:09:31 → 01:09:35 เศร้าเด่นในกรณีของโปรลอง Fast เนี่ยนะก็
01:09:35 → 01:09:39 แน่นอนล่ะนะเอ่อกล้ามเนื้อถูกสลายมากกว่า
01:09:39 → 01:09:42 นะก็อย่างเงี้ยนะฮะเป็นไปตามเหตุตามผล
01:09:42 → 01:09:43 เด้อ
01:09:43 → 01:09:46 อือ
01:09:46 → 01:09:51 อือเนี่ยเขาก็บอกว่านะยิ่งนะถ้าคุณทำบ่อย
01:09:51 → 01:09:55 ๆเนี่ยแล้วน้ำหนักมันลดลงลดลงลดลงเนี่ยนะ
01:09:55 → 01:10:00 ฮะน้ำหนักที่หายไปนะทุกๆ 1 กลเนี่ยเ
01:10:00 → 01:10:03 เปรียบเทียบนะในงานวิจัยนะฮะนะเาบอกว่า
01:10:03 → 01:10:07 ฮอร์โมนเครียดเนี่ยมันจะเกิดการการสวิง
01:10:07 → 01:10:11 อ่ะการพุ่งขึ้นน่ะ multiply เ
01:10:11 → 01:10:17 นะเป็นเท่าทวีคูณว่า
01:10:17 → 01:10:21 นั้นเพราะฉะนั้นยิ่งผอมนะแล้วก็ยิ่งลดน้ำ
01:10:21 → 01:10:26 หนักนะแล้วก็ยิ่งกินไม่ถึงนะฮะนะแล้วมาทำ
01:10:26 → 01:10:31 ไนะพวกนี้ก็จะพังๆๆแล้วสิ่งพังไม่ใช่
01:10:31 → 01:10:36 กล้ามเนื้อนะฮะไตพังด้วยไตพังด้วยใช่นะ
01:10:36 → 01:10:41 ครับเออ่ะทีนี้เรามาดูเป็นส่วนๆไปนะในราย
01:10:41 → 01:10:45 ละเอียดนะนะถ้าใครอยากเลเชอก็เลคชอร์นะฮะ
01:10:45 → 01:10:48 คือในแง่ของโปรตีนเนี่ยนะเรากินโปรตีน
01:10:48 → 01:10:51 ธรรมชาติที่เป็นเรว Food นะฮะโปรตีน
01:10:51 → 01:10:55 ธรรมชาติที่เป็นเรฟสำหรับการซ่อมแซมไตคือ
01:10:55 → 01:10:59 อะไรบ้างนะฮะนะอันดับ 1 เลยคือไข่ทั้งฟอง
01:10:59 → 01:11:03 นะฮะนะอ่าไม่ใช่เรือกกินแต่ไข่ขาวนะฮะคุณ
01:11:03 → 01:11:08 ต้องกินไข่ทั้งฟองนะฮะนะอันต่อมาก็คือกิน
01:11:08 → 01:11:12 เนื้อสัตว์ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำแล้ว
01:11:12 → 01:11:16 เนื้อสัตว์เนี่ยนะก็ต้องติดหนังติดมันนะ
01:11:16 → 01:11:20 พอสมควรนะแต่ไม่ได้ไปกินเนื้อสัตว์ที่มี
01:11:21 → 01:11:25 ไขมันสูงเป็น 3 ชั้นหรือเบคอนเยอะๆนะฮะ
01:11:25 → 01:11:30 รวมทั้งอ่อการกินนะเนื้อสัตว์ที่จะซ่อม
01:11:30 → 01:11:33 แซมไตได้ดีกว่าก็คือสัตว์บกมากกว่าสัตว์
01:11:33 → 01:11:39 น้ำนะไม่ใช่เป็นทินแต่ปลาปาๆนะไม่ใช่นะฮะ
01:11:39 → 01:11:42 นะนอกจากนี้สัตว์เนื้อแดงดีกว่าสัตว์
01:11:42 → 01:11:47 เนื้อขาวถ้าจะซ่อมไตนะฮะครับเเพราะงั้น
01:11:47 → 01:11:50 เวลาคนเป็นโรคไตจะซ่อมไตถูกแนะนำให้กิน
01:11:50 → 01:11:54 แต่อกไก่ปั่นกินแต่ไข่ขาวเอ่ากินแต่ปลา
01:11:54 → 01:11:59 ปลาลๆเนื้อขาวปามันจะฟื้นไตได้มยเนสไม่
01:11:59 → 01:12:03 ได้ก็ไม่ได้ครับผมโปรตีนที่จะฟื้นไตคือ
01:12:03 → 01:12:07 ไข่ทั้งฟองโดยเฉพาะต้องเน้นการกินไข่แดง
01:12:07 → 01:12:11 นะฮะครับกินเนื้อสัตว์ติดหนังติดมันที่
01:12:11 → 01:12:15 เป็นเนื้อแดงอยู่บนบกนะให้มากกว่าอยู่ใน
01:12:15 → 01:12:18 น้ำนะฮะเนี่ย
01:12:18 → 01:12:23 เออนะต้องเนื้อแดงๆนะนะกินเครื่องในอะไร
01:12:23 → 01:12:30 อย่างงี้ได้นะฮะนะถ้าจะกินโปรตีนนะจากนม
01:12:30 → 01:12:34 ก็ไม่คือต้องกินโปรตีนที่มาจากผลิตภัณฑ์
01:12:34 → 01:12:37 นมที่ไม่ใช่นมคือไม่ให้กินนมนะฮะคุณจะ
01:12:37 → 01:12:40 ซ่อมไตอย่ากินนมอย่ากินโยเกิร์ตนะฮะนะ
01:12:40 → 01:12:45 เอ่อนมและโยเกิร์ตใกล้ๆกันนะเราต้องเอา
01:12:45 → 01:12:48 ผลิตภัณฑ์นมนะคือคือแปลงนมเนี่ยเป็น
01:12:48 → 01:12:52 ผลิตภัณฑ์นมคือชีสนะชีสเป็นโปรตีนเรานับ
01:12:52 → 01:12:56 เป็นโปรตีนนะฮะครับผมนะเออแล้วถ้าจะกิน
01:12:56 → 01:13:01 เป็นไขมันนะก็กินเป็นเนยหรือกี้นะฮะนะอัน
01:13:01 → 01:13:05 นี้ทีนี้
01:13:05 → 01:13:10 เอ่อถ้าจะกินเป็นโปรตีนพืชนะฮะนะที่เป็น
01:13:10 → 01:13:17 ถั่วนะก็จะต้องไม่กินถั่วถั่ถันะนะต้อง
01:13:17 → 01:13:22 กินถั่วที่หมักแล้วหรือถั่วที่เพาะงอกนะอ
01:13:22 → 01:13:27 เอามาดีานะฮะนะหรือนี่แหละส่วนใหญ่เราก็
01:13:27 → 01:13:32 กินถั่วหมักอ่ะนะก็ถั่วเน่าเทมเป้นัโตกนะ
01:13:32 → 01:13:35 ฮะครับผมกินเต้าหู้กินฟองเต้าหู้ไม่ได้นะ
01:13:35 → 01:13:40 ฮะนะกินน้ำเต้าหู้ไม่ได้นะหรือกินถั่ว
01:13:40 → 01:13:44 ถั่วๆนะเป็นกะมงกำมืออะไรอย่างเงี้ยไม่
01:13:44 → 01:13:50 ได้นะฮะนะต้องเป็นถั่วที่ไปเพาะงอกนะแล้ว
01:13:50 → 01:13:55 ก็มา Dr ฟีดนะแล้วก็อัดอ่าออกมาเเรียกว่า
01:13:55 → 01:13:58 เป็นโปรตีนบารนะฮะนะหรือไม่ก็ถั่วที่ผ่าน
01:13:58 → 01:14:05 การหมักหมักนะโดยโปรตีนพืชจะต้องน้อยๆๆ้้
01:14:05 → 01:14:10 กว่าโปรตีนสัตว์ออืครับผมอันนี้เ้าเรียก
01:14:10 → 01:14:15 ว่าโปรตีนธรรมชาติโปรตีนธรรมชาติเรฟนะฮะ
01:14:15 → 01:14:21 กินอย่างนี้นะแต่เอ่อปัญหาอย่างนึงก็ก็
01:14:21 → 01:14:25 คือถึงแม้จะเป็นโปรตีนเรวฟู้ดเนี่ยแต่ก็
01:14:25 → 01:14:28 กินเกินไม่ได้ต้องกินพอดีเพราะถ้าโปรตีน
01:14:29 → 01:14:32 เกินเมื่อไหร่ก็จะเกิดกดอะมิโนที่เกินและ
01:14:32 → 01:14:35 ก็จะเกิดการทำงานหนักของไตรวมทั้งการ
01:14:35 → 01:14:38 เปลี่ยนเป็นน้ำตาลพอเปลี่ยนเป็นน้ำตาลมัน
01:14:38 → 01:14:42 ก็จะเป็นสิ่งที่ไตเกลัวและมันเป็นสิ่งที่
01:14:42 → 01:14:46 สกปรกต่อไตรวมทั้งมันจะดึงให้ฮอร์โมน
01:14:46 → 01:14:51 อินซูลินมาทำให้หลอดเลือดไตตีบไม่ได้เอ
01:14:51 → 01:14:59 เข้าใจยังนะครับผมเออออันต่อมาก็คือนะใน
01:14:59 → 01:15:03 โปรตีนธรรมชาติพวกเนี้ยนะฮะเเวลาเอาไป
01:15:03 → 01:15:08 ปรุงเนี่ยนะฮะไปปรุงยังไงนะฮะนะไปปรุงถูก
01:15:08 → 01:15:12 หรือเปล่านะฮะถ้าคุณไปปรุงแล้วคุณไปใส่
01:15:12 → 01:15:17 พวกน้ำตาลไปใส่ค้าแปรรูปไปปิ้งไปย่างไปไฟ
01:15:17 → 01:15:21 แรงไปทอดไฟแรงไปทอดกับน้ำมงน้ำมันอะไร
01:15:21 → 01:15:26 ต่างๆแล้วก็ไปแตกแ่งเติมสารเคมีสารกันบูด
01:15:26 → 01:15:30 นะใส่หวานมันเค็มนะใส่นั่นนี่ปรุงอะไร
01:15:30 → 01:15:35 ต่างๆเพิ่มรถเพิ่มรถเครับผมเนี่ยถึงแม้
01:15:35 → 01:15:37 ว่าจะเป็นโปรตีนธรรมชาติแล้วไปโดนของพวก
01:15:38 → 01:15:42 นี้ก็ไม่ได้นะฮะไม่ได้ที่จะฟื้นฟูไตนะฮะ
01:15:42 → 01:15:46 พังหมดแหละนะฮะไตมันจะพังอันนี้ต้องรู้
01:15:46 → 01:15:49 โดย Common Sense นะเอครับ
01:15:49 → 01:15:54 ผมอันนี้คือสิ่งที่เราจะต้องกินโปรตีนที่
01:15:54 → 01:15:59 สำคัญรองลงมานะจากตัวน้ำมันสกัดเย็นนะเรา
01:15:59 → 01:16:03 ได้พลังงานถูกต้องแล้วนะต่อไปทีนี้โปรตีน
01:16:03 → 01:16:06 ที่ผู้ป่วยโรคไตจะต้องหลีกเลี่ยงไม่นำมา
01:16:06 → 01:16:11 กินอ่าเพราะไตเขาไม่ได้ชอบโปรตีนเหล่านี้
01:16:11 → 01:16:15 และโปรตีนเหล่านี้ช่วยซ่อมแซมไตไม่ได้เลย
01:16:15 → 01:16:19 นะหรือได้น้อยมากมิหนำซ้ำจะต้องจะยิ่งไป
01:16:19 → 01:16:23 ทำให้ไตทำงานหนักแล้วก็่าแลบแย่ลงนะฮะ
01:16:23 → 01:16:27 โปรตีนเหล่านี้คืออะไรนะก็ส่วนนึงก็คือ
01:16:27 → 01:16:31 ที่พูดไปเมื่อกี้เนี่ยนะก็คืออะไรพวกไข่
01:16:31 → 01:16:36 ขาวเอครับเออพวกโปรตีนจากกลุ่มอะไรอ่ะอ่า
01:16:37 → 01:16:40 กลุ่มสัตว์น้ำอ่ะนะฮะนะซึ่งมันมีไขมันต่ำ
01:16:40 → 01:16:42 ๆมากอ่ะเพราะพวกนี้มันก็จะกระตุ้น
01:16:42 → 01:16:45 อินซูรินแล้วกินแล้วมันก็ไม่อิ่มนะฮะไม่
01:16:45 → 01:16:49 อิ่มนะฮะครับผมหรือเป็นพวกีนโปรตีนกินแต่
01:16:49 → 01:16:54 อกไก่ปันนะฮะกินแต่ปลาๆๆนะปลาตัวใหญ่
01:16:54 → 01:16:57 เนื้อขาวอะไรอย่างงี้นะเ่าไม่ได้ฮะเอาของ
01:16:57 → 01:17:02 พวกนี้มากินนี่นะมันต่างจากเนื้อแดงสัตว์
01:17:02 → 01:17:05 บนบกนะซึ่งอันนี้เมีไขมันสูงไขมันปานกลาง
01:17:05 → 01:17:09 อ่ะนะฮะนะครับผมเราจะใช้กลุ่มโปรตีนจาก
01:17:09 → 01:17:13 สัตว์เล็กสัตว์น้อยรวมทั้งมีไขมันต่ำๆมาก
01:17:13 → 01:17:18 อะไรอย่างงี้อ่าไม่ได้นะฮะไม่ได้นะเอ่อนะ
01:17:18 → 01:17:24 ไข่ขาวปลาอกไก่เนื้อสัตว์สีขาวๆนะหรือเ่อ
01:17:24 → 01:17:31 พวกโปรตีนผงโปรตีนแปรรูปนะเวโปรตีนนะน้ำ
01:17:31 → 01:17:36 เต้าหู้นมต่างๆโยเกิร์ต
01:17:36 → 01:17:41 เออคือคือนมเนี่ยนมเนี่ยนะฮะนะส่วนใหญ่ก็
01:17:41 → 01:17:44 คือเป็นปัญหาที่น้ำตาลที่ซ่อนอยู่ในนมนี่
01:17:44 → 01:17:48 แหละนะฮะนะสิ่งเหล่านี้
01:17:48 → 01:17:51 มันคือบางอย่างเนี่ยอย่างนมเอาไปแปลงเป็น
01:17:51 → 01:17:53 โยเกิร์ตแล้วเนี่ยแต่มันก็น้ำตาลก็ยังมี
01:17:53 → 01:17:56 อ่ะนะโดยเฉพาะทั้งน้ำตาลที่แต่งเติมรวม
01:17:56 → 01:17:59 ทั้งไอ้ตัวน้ำตาลแลคโตสเนี่ยนะฮะนะหรือจะ
01:17:59 → 01:18:03 เป็นกาแลคโตสก็ตามนะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่
01:18:03 → 01:18:07 โปรตีนในรูปแบบที่ไตเต้องการนะเขาจะยิ่ง
01:18:07 → 01:18:12 เสียหายนะและทำงานหนักมากขึ้นให้ครับให้
01:18:12 → 01:18:18 เข้าใจแล้วก็หลีกเลี่ยงนะฮะหลีกเลี่ยงนะ
01:18:19 → 01:18:24 อแล้วก็จะเห็นว่าเนี่ยคือจริงๆโปรตีนส่วน
01:18:24 → 01:18:27 ที่เป็นสีแดงๆเนี่ยมันก็คือโปรตีนที่เรา
01:18:27 → 01:18:31 ถูกแนะนำให้กินนี่แหละใช่ครับการเออว่า
01:18:31 → 01:18:35 สัดส่วนของไอ้ตัวโปรตีนไอ้ตัวไขมันต่างๆ
01:18:35 → 01:18:38 ที่มาด้วยกับโปรตีนในกลุ่มพวกเนี้ยมันต่ำ
01:18:38 → 01:18:43 ไงเาเรียกว่าไขมันอ่าไม่อิ่มตัวเไม่อิ่ม
01:18:43 → 01:18:46 ตัวมันก็ไม่อิ่มอ่ะนะนะเพราะฉะนั้นจะกิน
01:18:46 → 01:18:50 ปลากินไก่เอ่อกินเต้าหู้อะไรอย่าเงี้ยมัน
01:18:50 → 01:18:55 ก็ไม่อิ่มอ่ะนะฮะเออนะหิวทั้งวันนะฮะหิว
01:18:55 → 01:18:58 ทั้งวันพอหิวทำไงอ่ะหิวทั้งวันก็เพราะว่า
01:18:58 → 01:19:02 อินซูลินนะถูกกระตุ้นให้ออกมานะฮะนะมันจะ
01:19:02 → 01:19:05 กินแล้วมันไม่อิ่มเมื่อไหร่ก็ตามที่กิน
01:19:05 → 01:19:08 แล้วไม่อิ่มคุณจะซ่อมไตไม่ได้นะนะความ
01:19:08 → 01:19:12 อิ่มจะเป็นเ่อไครทีเรียตัวนึงที่บอกว่า
01:19:12 → 01:19:15 ถึงหรือไม่ถึงตัวโปรตีนเนี่ยนะถ้าถึงนะ
01:19:16 → 01:19:19 กล้ามเนื้อเอยไตเอยมันจะซ่อมได้นะมันจะ
01:19:19 → 01:19:22 อิ่มแต่ถ้าไม่อิ่มนี่ No มันซ่อมไม่ได้ฮะ
01:19:22 → 01:19:24 มันซ่อมไม่ได้นะฮะ
01:19:24 → 01:19:28 นะแล้วก็ที่สำคัญก็คือต้องมีการกระจายการ
01:19:28 → 01:19:31 กินเป็นมื้อนั่นแหละนะฮะก็จะเป็น 2 มื้อ
01:19:31 → 01:19:35 มื้อแรกมื้อเย็นหรือจะมีระหว่างมื้อนะแต่
01:19:36 → 01:19:38 รูปแบบของโปรตีนที่กินก็ต้องเป็นรูปแบบ
01:19:38 → 01:19:42 ข้างต้นนะฮะที่เป็นโปรตีนธรรมชาติเรฟที่
01:19:42 → 01:19:45 พูดกันไปนะแล้วก็พยายามที่จะปรุงหรือดัด
01:19:45 → 01:19:50 แปลงให้อยู่ในกฎในเกณฑ์นะแล้วพวกเนี้ยนะ
01:19:50 → 01:19:55 ถ้าเมากเพอเถึงเขาก็จะมาซ่อมไตฟื้นฟูไตนะ
01:19:55 → 01:19:58 เพราะว่าอวัยวะในการที่จะถูกซ่อมแซมซ่อม
01:19:58 → 01:20:04 แซมด้วยโปรตีนอืนบางครั้งบางคราวเนี่ยนะ
01:20:04 → 01:20:08 เราจะต้องมีการใช้ตัวเสริมนะฮะตัวเสริมนะ
01:20:08 → 01:20:13 ฮะตัวเสริมนะตัวเสริมก็เาเรียกว่าการบาน
01:20:13 → 01:20:18 โปรตีนนะฮะบานโปรตีนอย่าค่ะนะการบาลานซ์
01:20:18 → 01:20:22 โปรตีนหรือบาลานซ์กดอะมิโนเนี่ยนะฮะอัน
01:20:22 → 01:20:27 นี้ก็มีความสำคัญนะในคนบางคนนะฮะที่ระบบ
01:20:27 → 01:20:31 การย่อยการดูดซึมหรือการขาดอาหารสารอาหาร
01:20:31 → 01:20:36 ค่อนข้างมากอนะฮะมากนะแต่ว่าเราต้องมี
01:20:36 → 01:20:39 หลักการนะฮะหลักการที่จะเอามาเสริมนะ
01:20:40 → 01:20:42 เมื่อกี้นี้ก็บอกไปแล้วนะแต่นี้หมอจะมา
01:20:42 → 01:20:45 พูดถึงข้อดีข้อเสียของโปรตีน
01:20:45 → 01:20:49 เสริมหลักๆส่วนใหญ่ของโปรตีนเสริมเนี่ย
01:20:49 → 01:20:53 มักจะเป็นโปรตีนพืชนะฮะนะแต่มันก็มีทั้ง
01:20:53 → 01:20:57 สัตว์และพืชเนี่ยนะแต่คนส่วนใหญ่ก็จะกล้า
01:20:57 → 01:21:01 ๆกลัวๆกับโปรตีนสัตว์ก็มักจะใช้โปรตีนพืช
01:21:01 → 01:21:05 เป็นตัวเสริมในเรื่องการฟื้นฟูตนะแต่ยัง
01:21:05 → 01:21:08 ไงก็ตามนะการบาลานซ์โปรตีนเนี่ยต้องจำ
01:21:08 → 01:21:11 หลักอย่างหนึ่งไว้ว่านะโดยรวมแล้วเนี่ย
01:21:11 → 01:21:15 โปรตีนสัตว์จะต้องประมาณ 70% ประมาณ 2 ใน
01:21:15 → 01:21:19 3 นะฮะโปรตีนพืชโปรตีนเสริมอะไรต่างๆ
01:21:19 → 01:21:23 เนี่ยจะต้องแค่ไม่เกิน 1 ใน 3 นะฮะน้อย
01:21:23 → 01:21:28 เข้าไว้จะดีกว่านะฮะครับผมทีนี้ข้อเสีย
01:21:28 → 01:21:32 โปรตีนพืชคืออะไรนะฮะนะอันที่ 1 เนี่ยเ่อ
01:21:32 → 01:21:35 ด้วยความเป็นพืชเนี่ยมันมีสารแอนตินิวทรี
01:21:35 → 01:21:38 ค่อนข้างเยอะนะค่อนข้างมากนะเพราะฉะนั้น
01:21:38 → 01:21:40 ร่างกายมันจะได้ของไม่ดีเหล่าเนี้ยเข้าไป
01:21:40 → 01:21:44 ร่วมด้วยนะนะคือมันก็มันก็แตกต่างจาก
01:21:44 → 01:21:47 โปรตีนสัตว์นั่นแหละนะฮนะนะโดยเฉพาะการ
01:21:47 → 01:21:50 แปรรูปมาเนี่ยนะมันก็ไม่ใช่อะไรที่เป็น
01:21:50 → 01:21:55 วิถีทางธรรมชาตินักนะนะมันก็จะต้องอมีบาง
01:21:55 → 01:21:58 สิ่งบางอย่างเนี่ยที่ปะปนมาด้วยนะฮะนะ
01:21:58 → 01:22:01 หรือตัวโปรตีนจากพืชเองเนี่ยนะมันก็จะมี
01:22:01 → 01:22:04 สารโดยตรงอยู่แล้วที่เเรียกว่าแอนตี้นิตร
01:22:04 → 01:22:09 นะฮะนะต่อไปก็คือพวกเนี้ยมันมีความเป็น
01:22:09 → 01:22:15 แป้งนะฮะแป้งนะกับโอเมก้า 6 นะซึ่งเป็นกด
01:22:15 → 01:22:18 ไขมันไม่มีตัวเชิงซ้อนเนี่ยปะปนอยู่ค่อน
01:22:18 → 01:22:21 ข้างเยอะค่อนข้างเยอะนะฮะซึ่งสิ่งเหล่า
01:22:21 → 01:22:24 เนี้ยมันจะเป็นตัวเรียกอินซูลินออกมาซึ่ง
01:22:24 → 01:22:28 ไตเก็ไม่ต้องการนะไตเไม่ได้ต้องการ
01:22:28 → 01:22:32 เนออีกข้อนึงก็คือโปรตีนพืชจะเป็นสิ่งที่
01:22:32 → 01:22:37 หาดีๆได้ยากนะหาดีๆได้ยากนะโปรตีนที่ค่อน
01:22:37 → 01:22:41 ข้างจะแนะนำกันก็เป็นถั่วดาวอินคานะฮะ
01:22:41 → 01:22:43 เป็นดาวอินคาแล้วก็เป็นอาจจะเป็นถั่ว
01:22:43 → 01:22:46 ลันเตานะแต่ถั่วลันเตาแป้งก็ยังเยอะอยู่
01:22:46 → 01:22:51 นะฮะแล้วก็ิกโปรตีนิกโปรตีนก็จะมีทั้งอ่า
01:22:51 → 01:22:54 มีทั้งเมล็ดกันชงมีทั้ง
01:22:54 → 01:22:58 เอ่ออะไรอ่ะมีทั้งโปรตีนถั่วเหลือง
01:22:58 → 01:23:02 ออร์แกนิคมีั่วลันเตาแล้วก็มีโปรตีนข้าว
01:23:02 → 01:23:08 รู้สึกจะมี 4 อย่างเนี้ยอืมครับผมแต่ที
01:23:08 → 01:23:13 นี้ข้อดีนะฮะข้อดีของการใช้ตัวโปรตีน
01:23:13 → 01:23:15 เสริมหรือบาลานซ์โปรตีนเหล่าเนี้ยนะซึ่ง
01:23:15 → 01:23:19 ส่วนมากจะเป็นมาจากพืชนข้อดีของมันในการ
01:23:19 → 01:23:23 ที่จะฟื้นฟูไตคืออะไรนะฮะคืออันที่ 1
01:23:23 → 01:23:27 เนี่ยเวลาจะฟื้นฟูไตเนี่ยเราต้องเราต้อง
01:23:27 → 01:23:31 ค่อนข้างที่จะเพิ่มปริมาณโปรตีนนะฮะโดย
01:23:31 → 01:23:36 เฉพาะถ้าไม่ใช่ไตในระยะที่อัตราการกรอง
01:23:37 → 01:23:41 ต่ำกว่า 20 นะฮะหรือต่ำกว่า 30 ก็ตามแล้ว
01:23:41 → 01:23:45 แต่พวกเนี้ยพวกเนี้ยนะปริมาณเน็ตโปรตีน
01:23:45 → 01:23:49 เนี่ยมันจะถูกจำกัดให้ไม่เกิน 30 อ่า 30
01:23:49 → 01:23:53 กรัมต่อวันนะฮะแต่ถ้าถ้าพ้นจากระดับเนี้ย
01:23:53 → 01:24:00 จะเป็นอ่า ekg เอ้ยจะเป็นเอ่อ ckd ระยะ
01:24:00 → 01:24:05 3B 4 ต้นๆนะฮะ 3A 2 นะอะไรอย่างเงี้ย
01:24:05 → 01:24:10 นะฮะเอ่อพวกเนี้ยพวกนี้มันมันมันไม่ไม่
01:24:10 → 01:24:13 ได้ไปจำกัดโปรตีนถึงขนาดนั้นน่ะถึงขนาด
01:24:13 → 01:24:17 เน็ตโปรตีน 30 กรัม per Day อนะฮะนะพวก
01:24:17 → 01:24:20 เนี้ยโปรตีนเรายังค่อนข้างกินได้เหมือนๆ
01:24:20 → 01:24:24 กับปริมาณอ่าการคำนวณโปรตีนของคนทั่วๆไป
01:24:24 → 01:24:28 นั่นแหละนะฮะเพียงแต่ว่าจะต้องเ่าิกหรือ
01:24:28 → 01:24:32 เลือกโปรตีนค่อนข้างเนียบนะเอ่อพอสมควร
01:24:32 → 01:24:35 แบบที่เล่าๆวันนี้แหละนะฮะนะไอ้นั่นไม่
01:24:35 → 01:24:39 ได้ไอ้นี่ได้อะไรอย่างเงี้ยนะฮะเอเพราะ
01:24:39 → 01:24:43 ฉะนั้นพวกเนี้ยในกรณีที่จะใช้านโปรตีน
01:24:43 → 01:24:48 เนี่ยเขาก็จะแค่นะเอาโปรตีนเนี่ยมาเสริม
01:24:48 → 01:24:52 เข้าไปอีกเล็กน้อยนะแต่ว่าโปรตีนในระดับ
01:24:52 → 01:24:54 เดิมเนี่ยที่คำนวณออกมาได้แล้วที่จะกิน
01:24:54 → 01:24:58 ต่อวันเนี่ยก็ยังเท่าๆเดิมอยู่นะฮะเเรียก
01:24:58 → 01:25:01 ว่าการ Add on ที่เป็น Balance โปรตีน
01:25:01 → 01:25:05 ซึ่งเรามักจะใช้โปรตีนจากพืชเราไม่ได้แ on
01:25:05 → 01:25:08 หรือเพิ่มเพื่อจะไปซ่อมโดยการใช้โปรตีน
01:25:09 → 01:25:12 จากสัตว์นะฮะเพราะไม่งั้นแล้วเนี่ยมันจะ
01:25:12 → 01:25:15 เกิดเเรียกว่าของเสียหรือ End produc
01:25:15 → 01:25:18 ของความเป็นกดก็ดีของไอ้ตัวยูเรียอะไร
01:25:18 → 01:25:21 ต่างๆก็ดีไมันยิ่งทำงานหนัก
01:25:21 → 01:25:25 นะเพราะฉะนั้นในข้อแรกเนี่ยนะฮะเนื่องจาก
01:25:25 → 01:25:28 เราใช้เป็นการ Add on นะนะ Balance
01:25:28 → 01:25:32 โปรตีนนะฮะนะเพราะงั้นโปรตีนจากพืชก็เลย
01:25:32 → 01:25:36 จะได้สิทธิ์นะมากกว่าการที่จะไปแอด on
01:25:36 → 01:25:40 โปรตีนจากสัตว์นะฮะเนี่ย
01:25:40 → 01:25:44 อืแล้วก็อันที่ 2 ก็คือของเสียที่เกิด
01:25:44 → 01:25:48 ขึ้นที่ว่าไปเมื่อกี้นี้นะฮะโปรตีนจากพืช
01:25:48 → 01:25:51 กับจากสัตว์เนี่ยถ้าจะแอด on นะโปรตีนจาก
01:25:51 → 01:25:54 พืชมันจะน้อยกนะฮะคือกฎอะมิโนของพืชมัน
01:25:54 → 01:25:58 ไม่สมบูรณ์นะเพราะฉะนั้นเวลาที่มันเกิด
01:25:58 → 01:26:02 อ่าเป็นอ่าของเสียเนี่ยนะฮะนะแอมโมเนีย
01:26:02 → 01:26:06 ยูเรียหรือกรดอะไรต่างๆพวกเนี้ยนะพวกนี้
01:26:06 → 01:26:09 มันเกิดน้อยกว่าโปรตีนจากสัตว์นะก็จะได้
01:26:09 → 01:26:14 ลดลาวาศอกการทำงานของไตโลกนะ
01:26:14 → 01:26:20 ฮะอืครับผมเยอะๆนะคนมันจะกลัวในเรื่องของ
01:26:20 → 01:26:23 ปฏิกิริยาการกระตุ้น M
01:26:23 → 01:26:28 นะ M ใช่ครับผมเขาก็เลยนี่แหละถ้าจะแอด on
01:26:28 → 01:26:31 อะไรเงี้ยก็ต้องเลือกมากินโปรตีนจากพืชนะ
01:26:31 → 01:26:39 โปรตีนจากพืชแทนนะอืนี่นะมันก็มันก็หลัก
01:26:39 → 01:26:42 การมันก็จะจะเป็นอย่างเงี้ยนะฮะข้อดีข้อ
01:26:42 → 01:26:51 เสียนะฮะคือข้อดีของโปรตีนพืชเนี่ยนะ
01:26:51 → 01:27:01 เดี๋ยว
01:27:01 → 01:27:04 ข้อดีอีกอย่างนึงของโปรตีนพืชที่จะแอดออน
01:27:04 → 01:27:08 เข้าไปเนี่ยก็คือมันมีผลมากเลยต่อการ
01:27:08 → 01:27:11 สร้างกล้ามเนื้อนะฮะต่อการสร้างกล้าม
01:27:11 → 01:27:14 เนื้อนะถ้าเราสร้างกล้ามเนื้อเราจะสร้าง
01:27:14 → 01:27:19 ไตอ่าพร้อมๆกันไปนะแต่บทบาทเด่นเลยของการ
01:27:19 → 01:27:23 แอด on โปรตีนพืชเพื่อจะให้ไปสร้างกล้าม
01:27:23 → 01:27:26 เนื้อนะเพราะฉะนั้นถ้าเราเนี่ยกระตุ้น
01:27:26 → 01:27:29 กล้ามเนื้ออ่าบอกว่าเดี๋ยวจะมีโปรตีน
01:27:29 → 01:27:33 เสริมเข้ามานะอ่าให้ออกแรงออกกำลังให้เวท
01:27:33 → 01:27:36 อะไรก็ตามนะฮะนะแล้วให้กล้ามเนื้อเนี่ย
01:27:36 → 01:27:40 เตรียมสภาพนะที่จะรับโปรตีนคือโปรตีนพืช
01:27:40 → 01:27:43 เนี่ยมันกระตุ้นอินซูลินนะฮะนะแล้วความ
01:27:43 → 01:27:45 ที่มันเป็นโปรตีนมีอินซูลินมาแล้วกล้าม
01:27:45 → 01:27:49 เนื้อเนี่ยเรอที่จะรอที่จะรับสารอาหารแบบ
01:27:49 → 01:27:53 เนี้ยนะแล้วกินในช่วงเอ่ออ่ามื้อเย็นอะไร
01:27:53 → 01:27:56 ต่างๆที่ถูกต้องแล้วเนี่ยนะฮะสิ่งเหล่า
01:27:56 → 01:27:58 นี้ก็จะไปเสริมสร้างแล้วก็บำรุงซ่อมแซม
01:27:58 → 01:28:00 ฟื้นฟูกล้ามเนื้อแล้วก็สร้างมวลกล้าม
01:28:00 → 01:28:04 เนื้อนะพอกล้ามเนื้อเราเนี่ยมันมีสต๊อกนะ
01:28:04 → 01:28:07 มีทั้งสต๊อกไกลโคเจนสต๊อกทั้งโปรตีนแล้ว
01:28:07 → 01:28:11 ก็สารอาหารอะไรต่างๆนะเนี่ยเ่ามันสต๊อก
01:28:11 → 01:28:15 อันเนี้ยนะในตอนกลางคืนเนี่ยนะฮะมันก็จะ
01:28:15 → 01:28:19 ช่วยเผื่อแผ่นะสิ่งที่ว่าเหล่าเนี้ยไปที่
01:28:19 → 01:28:23 ไตเพื่อไปซ่อมแซนไตนะก็จะเป็นอย่างนี้นะ
01:28:23 → 01:28:28 ฮะซ่อมกล้ามเนื้อคือซ่อมไตนะฮะนะก็จะเป็น
01:28:28 → 01:28:31 ทางเดียวกันครับนะ
01:28:31 → 01:28:36 อก็ประมาณนี้นะเกี่ยวกับรายละเอียดของ
01:28:36 → 01:28:38 โปรตีนนะฮะได้ครับ
01:28:38 → 01:28:39 [เพลง]
01:28:39 → 01:28:41 ผมทีนี้
01:28:41 → 01:28:47 อ่าไตเสื่อมไวนะจนต้องถึงขั้นล้างไตหรือ
01:28:47 → 01:28:51 การจะซ่อมแซมเนื้อไตนะให้หายเสื่อมให้ดี
01:28:51 → 01:28:57 นะฮะก็จะต้องใช้หลักการ 6 ข้อนี้นะฮะอ่า
01:28:57 → 01:29:01 อันนี้เรารู้แล้วนะเราเข้าใจเรื่องพังงาน
01:29:01 → 01:29:04 น้ำสารอาหารนะเนี่ยโปรตีนเนี่ยโปรตีน
01:29:05 → 01:29:07 สัตว์ต้องมากกว่าพืชเพราะโปรตีนสัตว์ก็มี
01:29:07 → 01:29:10 คอเลสเตอรอลมีโอเมก้า
01:29:10 → 01:29:15 3 แล้วก็เกลืออ่านี้ก็พูดไปแล้วเนาะกดนะ
01:29:15 → 01:29:20 กดกดอะซิติกกดมาริกนะฮะฮอร์โมนนะฮะ
01:29:20 → 01:29:22 ฮอร์โมน
01:29:22 → 01:29:26 ฮอร์โมนเนี่ยนะโดฮอร์โมนกลูคากอนแล้วก็
01:29:26 → 01:29:32 แอนตินิติเปตนะนะอันนี้ก็รู้ไปแล้วนะฮะ
01:29:32 → 01:29:36 คือคือการกินแบบเอ่อให้ถูกต้องใน 1 วัน
01:29:36 → 01:29:40 เนี่ยแล้วก็มื้อแรกกินโปรตีนกับไขมันเป็น
01:29:40 → 01:29:44 หลักให้พยายามลดหรือตัดคาฟเนี่ยนะฮะเมื่อ
01:29:44 → 01:29:47 เราทำได้อย่างเงี้ยอินซูลินเไม่ออกมาหรือ
01:29:47 → 01:29:50 เออกมาระดับเซอเลเวลเนะฮอร์โมนลูกเทพออก
01:29:50 → 01:29:55 มาโดยเฉพาะโกดฮอร์โมนนะฮะโกดฮอร์โมน
01:29:55 → 01:29:59 นะทีนี้โกดฮอร์โมนที่ออกมาเนี่ยนะส่วน
01:29:59 → 01:30:03 ใหญ่เนี่ยนะเค้าก็มุ่งล่ะนะที่จะไปสร้าง
01:30:03 → 01:30:06 ไอกล้ามเนื้อนี่แหละนะจะซ่อมแซมจะสร้าง
01:30:06 → 01:30:08 กล้ามเนื้อเพราะว่ากล้ามเนื้อมีการ
01:30:08 → 01:30:11 movement น่ะนะแล้วก็มันจะสร้างตัวมัน
01:30:11 → 01:30:14 เพิ่มเพิ่มมวลของมันเในตอนกลางวันนะฮะ
01:30:14 → 01:30:17 เพรางั้นบทบาทส่วนใหญ่ของโกดฮอร์โมนเนี่ย
01:30:17 → 01:30:20 ก็เลยที่อาจะไปสร้างกล้ามเนื้อในตอนกลาง
01:30:20 → 01:30:24 วันเป็นส่วนใหญ่นะฮะนะนะส่วนกลูคากอน
01:30:24 → 01:30:27 เนี่ยกลูคากอนนี่ก็เป็นฮอร์โมนน่ะอ่าที่
01:30:27 → 01:30:31 จะมาแต่ตัวกลูคากอนนี่แหละนะก็จะเป็นตัว
01:30:31 → 01:30:35 หลักเลยอ่ะนะฮะนะที่จะมีเอี่ยวหรือว่ามี
01:30:35 → 01:30:37 บทบาทที่จะไปสร้างไตที่มันเสื่อมในตอน
01:30:37 → 01:30:41 กลางวันในตอนกลางวันนะ
01:30:41 → 01:30:45 ฮะครับผมตอนกลางคืนเนี่ยโกดฮอร์โมนที่
01:30:45 → 01:30:48 กลับมาในตอนกลางคืนอันเนี้ยเจะมาสร้างไตเ
01:30:48 → 01:30:53 จะมาฟื้นฟูไตนะฮะแล้วก็ก็ตัว anp เนี่ยจะ
01:30:54 → 01:30:59 เป็นตัวดึงดึงน้ำนะอ่าดึงน้ำไว้ในระบบ
01:30:59 → 01:31:03 เลือดนะแล้วก็ทำให้เกิดการขยายตัวของท่อ
01:31:03 → 01:31:07 เลือดนะทำให้
01:31:07 → 01:31:11 อ่าทำให้เกลือเนี่ยนะเกลือที่เรากินสะสม
01:31:11 → 01:31:15 ไว้นี่แหละนะฮะมันเก็บน้ำไว้ที่ไตนะแล้ว
01:31:15 → 01:31:18 เกิดการกรองเกิดกระบวนการฟังก์ชันโดยการ
01:31:18 → 01:31:20 กรองของเสีย
01:31:20 → 01:31:27 ออกแล้วขณะเดียวกันตัว an เนี่ยก็จะไม่จะ
01:31:27 → 01:31:31 ไปคือจะไปจะไม่จะยับยั้งการกระตุ้นระบบ
01:31:31 → 01:31:35 าติอ่ะทำให้เราไม่ปวดถงฉี่นะ
01:31:35 → 01:31:41 ฮะครับผมแล้วเสร็จแล้วเนี่ยพอเช้าๆพอ
01:31:41 → 01:31:46 คอร์ติซอลมาปุ๊บนะแอรีนมาปุ๊บนะแีนก็จะมา
01:31:46 → 01:31:51 กระตุ้นนะาติเราก็จะปวดท้องฉี่นะก็ตื่น
01:31:51 → 01:31:55 เช้ามาพร้อมกับเข้าห้องน้ำไปฉีนะฮะครับผม
01:31:55 → 01:31:58 แต่ตอนกลางคืนนี่นะคอร์ติซอลไม่มาหลับ
01:31:58 → 01:32:04 สนิทนะอ่าโกสฮอร์โมนมากูฮากอนมาเมานะแล้ว
01:32:04 → 01:32:09 ก็เก็บน้ำได้ไตกรองของเสียได้ไตฟื้นฟูได้
01:32:09 → 01:32:13 นะอ่าก็ไม่ปวดท้องชีไม่ต้องตื่นกลางดึกมา
01:32:13 → 01:32:17 ชีอะไรอย่างงี้เนอะอ่ะพอเข้าใจเนาะแล้ว
01:32:17 → 01:32:21 อาหารในมุเย็น 1 2 3 4 อันนี้สำคัญมาก
01:32:22 → 01:32:26 นะอ่าแล้วก็มีตัวเสริมนะฮะนะนี่แหละนี่ก็
01:32:26 → 01:32:28 เป็นโปรตีนธรรมชาตินะฮะการกินน้ำซุปต้ม
01:32:28 → 01:32:33 กระดูกบนบอดเนี่ยนะพวกนี้ได้คอลลาเจนแต่
01:32:33 → 01:32:36 เป็นคอลลาเจนธรรมชาตินะแม้ว่ากดอะมิโนมัน
01:32:36 → 01:32:41 ไม่ครบนะนะแต่อ่ามันเป็นของธรรมชาติที่จะ
01:32:41 → 01:32:46 ไปเป็นผลดีต่อไตนะครับผมคือถ้าไม่ครบ
01:32:46 → 01:32:51 เนี่ยอ่าของเสียเนี่ยมันก็จะน้อยนะจะน้อย
01:32:51 → 01:32:55 นะนะถ้าเป็นกดอ่าที่มันไม่สมบูรณ์เนี่ย
01:32:55 → 01:32:58 เหมือนกับพืชอ่ะนะ
01:32:58 → 01:33:02 ฮะเพราะฉะนั้นถ้าเป็นสัตว์เนี่ยมันเป็น
01:33:02 → 01:33:05 โปรตีนที่สมบูรณ์นะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้า
01:33:06 → 01:33:09 เยอะๆของเสียมันก็เยอะนะฮะไตมันก็จะทำาน
01:33:09 → 01:33:17 หนักอครับผมก็มีผงผักมีมะนาวนะมีเกลือ
01:33:17 → 01:33:21 นะเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อหลักการกินก็
01:33:21 → 01:33:24 ประมาณเหมือนกันเนี่ยนะฮะไม่ว่าคุณจะเป็น
01:33:24 → 01:33:28 ถ้ายังไม่ถึงขนาด egfr ต่ำกว่า 20 นะฮะนะ
01:33:28 → 01:33:33 ก็ใช้สูตรแบบนี้แหละนะฮะนะนะเนี่ยลักษณะ
01:33:33 → 01:33:38 โปรตีนก็ายของเก่าแบบเดิมแบบเนี้ยนะมื้อ
01:33:38 → 01:33:42 แรกมเย็นวเดอะไรอย่างงี้นะฮะนะแล้วก็
01:33:42 → 01:33:44 โปรตีนเหล่านี้กระตุ้นอินซูลินกระตุ้น
01:33:44 → 01:33:47 คอร์ติซอลนะรวมทั้งจะกระตุ้นฮอร์โมนฝั่ง
01:33:47 → 01:33:51 ลูกเทพก็โกดฮอร์โมนไทรอยด์แลกลูคากอน
01:33:51 → 01:33:57 นะส่วนโปรตีน 5 อย่างนะฮะนะที่อ่าแม้ว่า
01:33:57 → 01:34:01 จะเป็นโปรตีนธรรมชาติเรฟแต่เนี่ยอย่างเอา
01:34:01 → 01:34:06 ไปปรุงไม่ถูกนะฮะนะไข่สนิมนะฮะโปรตีนผง
01:34:06 → 01:34:10 หรือนมอะไรงี้ไม่กินนะแต่ให้กินนมที่เป็น
01:34:10 → 01:34:14 ผลิตภัณฑ์นมนะฮะโดยเฉพาะชีสเท่านั้นนะกับ
01:34:14 → 01:34:19 พวกเนยนะหรือกีอ่าส่วนเนื้อแดงของสัตว์บก
01:34:19 → 01:34:24 อันนี้ก็ก็แล้วแต่นะฮะก็ก็ต้องกินนั่น
01:34:24 → 01:34:27 แหละนะแต่ไม่ต้องเยอะนะฮะนะเพราะส่วนใหญ่
01:34:27 → 01:34:33 เราจะกินโปรตีนไขมันปานกลางนะเป็น
01:34:33 → 01:34:38 หลักก็โปรตีนพืชเสริมก็จะเป็นแบบนี้นะฮะ
01:34:38 → 01:34:40 นะ
01:34:40 → 01:34:46 เแล้วเรื่องเกลือนะก็ต้องระวังนะฮะเนี่ย
01:34:46 → 01:34:49 นะเกลือโซเดียมที่ไม่ใช่เกลือจริงๆจาก
01:34:49 → 01:34:54 ธรรมชาติมี 6 ประเภทนะแบบนี้นะฮะ
01:34:54 → 01:34:56 นะครับ
01:34:57 → 01:35:03 ผมนี่ก็ลองไปดูเอานะฮะก็อย่าลืมน่ะว่า
01:35:03 → 01:35:07 สูตรเนี่ยนะก็คือโปแตสเซียมต่อโซเดียม 2:1
01:35:08 → 01:35:13 2 ต1นะฮะแล้วตัวโปแตสเซียมที่สำคัญเลย
01:35:13 → 01:35:19 เนี่ยนะก็ต้องมาจากพืชผักนะที่อ่าไม่
01:35:19 → 01:35:22 กระตุ้นอินซูลินนะฮะนะจะมีหรือไม่มีไขมัน
01:35:22 → 01:35:25 ก็ได้นะฮะนะเช่นผักใบเนี่ยมันก็มีแต่
01:35:25 → 01:35:29 ไฟเบอร์นะกับโปแทสเซียมร่ธาตุอะไรต่างๆ
01:35:29 → 01:35:32 แล้วมันไม่กระตุ้นอินซูลินนะแต่ถ้าเป็น
01:35:32 → 01:35:36 ครับผมตัวที่มีไขมันก็มักจะเป็นตัวผลไม้ 3
01:35:36 → 01:35:39 อย่างที่ว่านั่นแหละมะพร้าวนะอะโวคาโด
01:35:39 → 01:35:41 แล้วก็
01:35:41 → 01:35:45 มะกะทีนี้วิธีการประเมินว่าว่าร่างกาย
01:35:45 → 01:35:49 ซ่อมแซมตไตได้หรือยังนะฮะนอกจากการ
01:35:49 → 01:35:52 ประเมินทางผลแลปแล้วเราจะประเมินเมือนจาก
01:35:52 → 01:35:53 อะไรได้บ้างนะ
01:35:53 → 01:35:58 เนี่ยมวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นนะฮะนะ
01:35:58 → 01:36:00 เพราะว่าไตกับกล้ามเนื้อเนี่ยมันคือก้อน
01:36:00 → 01:36:04 โปรตีนมันคือก้อนโปรตีนนะเพราะว่าหลักการ
01:36:04 → 01:36:10 ในการซ่อมไตนะฟื้นฟูไตต้องอ่ามีสต๊อกของ
01:36:10 → 01:36:13 สารอาหารที่จะเก็บสะสมไว้นั่นก็คือกล้าม
01:36:13 → 01:36:17 เนื้อนะมวลกล้ามเนื้อที่มากพอจะเป็นตัว
01:36:17 → 01:36:21 ช่วยฟื้นฟูไตที่สำคัญที่สุดนะเพราะงั้นคน
01:36:21 → 01:36:26 อ้วนกับคนผอมในการฟื้นฟูไตอ่าคนอ้วนต้อง
01:36:26 → 01:36:30 ได้เปรียบกว่าอยู่แล้วใช่มล่ะครับผมคนผอม
01:36:30 → 01:36:33 ก็ต้องมีงานทำเยอะหน่อยนะเพราะต้องสร้าง
01:36:34 → 01:36:37 กล้ามเนื้อไปด้วยนะฮะแล้วก็ต้องกินเยอะ
01:36:37 → 01:36:41 พลังงานต้องเยอะโปรตีนต้องเยอะโปรตีนต้อง
01:36:41 → 01:36:44 เยอะนะเป็นโปรตีนที่ถูกต้องด้วยที่ถูก
01:36:44 → 01:36:50 ต้องอย่ากินผิษนะครับนะตามสูตรที่บอกไป
01:36:50 → 01:36:53 อีกอันนึงนึงก็คือตัวประเมินคือความอิ่ม
01:36:53 → 01:36:57 นะฮะความอิ่มนะฮะนะแล้วความอิ่มเนี่ยจะ
01:36:57 → 01:37:01 ต้องนะโฟกัสในมื้อแรกของวันให้ได้ก่อนนะ
01:37:01 → 01:37:04 ฮะคือการกระจายการกินเป็นมื้อใน 1 วัน
01:37:04 → 01:37:09 เนี่ยนะฮะความอิ่มนะอ่าจะต้องเนี่ยจะต้อง
01:37:09 → 01:37:13 ให้เกิดในมื้อแรกของวันเลยนะให้อิ่มยาวๆ
01:37:13 → 01:37:18 ไป 70 80% เลยล่ะนะฮะครับผมอันนี้อันนี้
01:37:18 → 01:37:22 ความอิ่มนะนะกินอิ่มนอนจะนอนหลับนะฮะนะ
01:37:22 → 01:37:25 เพราะว่าถ้าอิ่มยาวไปแล้วเนี่ยมื้อเย็น
01:37:25 → 01:37:29 เติมอีกนิดๆหน่อยๆนะเนี่ยมันก็หลับนะฮะนะ
01:37:29 → 01:37:33 โปรตีนคืออิ่มคือพลังงานคือโปรตีนและพลัง
01:37:33 → 01:37:38 งานพอหรือถึงพอหรือถึงนะฮะเพราะฉะนั้น
01:37:38 → 01:37:40 เมื่อโปรตีนและพลังงานพอหรึถึงไตและกล้าม
01:37:41 → 01:37:44 เนื้อจะซ่อมและสร้างไปด้วยกันได้นะเพราะ
01:37:44 → 01:37:50 ว่าวัตถุดิบนะทั้งคนงานและทั้งไอ้ตัวอิ
01:37:50 → 01:37:53 หินปูนทรายเนี่ยเนี่ยมันพร้อมนะฮะนะการ
01:37:53 → 01:37:57 ซ่อมกล้ามเนื้อเท่ากับซ่อมแซมไตนะฮะ
01:37:57 → 01:38:02 อ่าอีกอันนึงในการประเมินว่าจะซ่อมไตได้ม
01:38:02 → 01:38:07 คืออาหารในมื้อสุดท้ายของวันนะอาหารใน
01:38:07 → 01:38:09 มื้อสุดท้ายของวันเนี่ยก็คือเป็นอาหาร
01:38:09 → 01:38:14 เก็บตกอ่ะนะฮะนะ 1 พลังงานทั้งวันพอนะ
01:38:14 → 01:38:17 หรือยังไม่พอถ้ายังไม่พอก็เติมไปให้พอนะ
01:38:17 → 01:38:21 ฮะเนี่ยพลังงานทั้งวันนะแต่อ่าต้องเติม
01:38:21 → 01:38:26 อย่างถูกต้องนะอโปรตีนคุณภาพอ่าได้ครบ
01:38:26 → 01:38:31 หรือยังโปรตีนจากสัตว์ต้องเยอะนะและพออ่า
01:38:31 → 01:38:35 ปรุงให้ถูกนะฮะนะนะไม่เกินไม่เกินถ้าจะ
01:38:35 → 01:38:40 ซ่อมแซมกันเนี่ยนะฮะเนี่ยโปรตีนต้องได้นะ
01:38:40 → 01:38:43 ถ้าไม่พอก็ซ่อมไม่ได้นะทั้งพลังงานทั้ง
01:38:43 → 01:38:49 โปรตีนนะฮะนอกจากนี้อ่าความครบคลันนะฮะนะ
01:38:49 → 01:38:53 ของสารอาหารอ่าหลักคาฟโปรตีนไขมันในมื้อ
01:38:53 → 01:38:57 สุดท้ายหรือมื้อเย็นนะอ่าคาฟต้องมีแต่
01:38:57 → 01:39:01 เป็นคาฟเชิงซ้อนนะฮะนะจะกินได้ขนาดไหนนะ
01:39:01 → 01:39:05 ผักหัวผักใบนะหรือกินแป้งเชิงซ้อนได้บ้าง
01:39:05 → 01:39:09 นะแล้วก็เกลือแร่วิตามินนะโปรไบโอติกนะฮะ
01:39:09 → 01:39:13 แล้วเราหลับนะกินแล้ว
01:39:13 → 01:39:15 หลับ
01:39:15 → 01:39:21 เหมดแล้วมีใครสงสัยมั้ยเรื่องเรื่องไต
01:39:21 → 01:39:26 ยาวไปมยชั่วโมงกว่าๆเนาใช่ครับ
01:39:27 → 01:39:32 ผมชั่วโมง 40 ครับอันเนี้ยมันเป็นข้อสุนะ
01:39:32 → 01:39:35 เป็นข้อสรุปนะที่จะต้องเอาไปใช้แล้ว
01:39:36 → 01:39:39 พยายามนั่งคิดนั่งนึกตามเหตุและผลที่จะ
01:39:40 → 01:39:42 ต้องกินนะ
01:39:42 → 01:39:47 ฮะการซ่อมไตเนี่ยนะฮะว่า pathology ของไต
01:39:47 → 01:39:52 เนี่ยนะมันเกิดจากเส้นเลือดมันตีบนะฮะนะ
01:39:52 → 01:39:55 เพราะฮอร์โมนนะแล้วอะไรล่ะเป็นตัวกระตุ้น
01:39:55 → 01:39:59 ฮอร์โมนก็คืออาหารในกลุ่มไหนอ่ะนะเสร็จ
01:39:59 → 01:40:03 แล้วหน่วยกองของมันเนี่ยมันสกปรกนะเอ่อ
01:40:03 → 01:40:06 มันกองไม่ออกเพราะว่ามีการทับถมนะของไอ้
01:40:06 → 01:40:11 ตัวเหนียวๆเหนียวหนึบๆเนี่ยนะของพวกนี้
01:40:11 → 01:40:13 เนี่ยเราเอามือเราไปจับซิต้องรีบไปล้าง
01:40:13 → 01:40:18 มือมั้ยมันรำคาญน่ะมันเหนียวนะฮะแล้วนี่
01:40:18 → 01:40:21 แหละก็นำมาซึ่งไตมันเสื่อมแล้วไมันเป็น
01:40:21 → 01:40:24 ขนาดนี้แล้วยังจะกินให้มันผิดกินให้มัน
01:40:24 → 01:40:26 ไม่ถูกกินให้มันไม่ถึงกินให้มันไม่พออีก
01:40:26 → 01:40:28 หรอนะ
01:40:28 → 01:40:33 ฮะนะครับผมปลับเนะแล้วทีนี้จะกินอะไรอ่ะ
01:40:33 → 01:40:37 กินยังไงกินเมื่อไหร่ปรุงยังไงอ่าสัดส่วน
01:40:37 → 01:40:40 เท่าไหร่ปริมาณเท่าไหร่อะไรอย่างเงี้ยเก็
01:40:40 → 01:40:45 ต้องรู้ก็ต้องรู้อแล้วที่เาแนะนำกันล่ะนะ
01:40:45 → 01:40:50 เก็ก็ต้องคิดวิจารณญาณตามเหตุตามผลล่ะเออ
01:40:50 → 01:40:54 กินกินแป้งปอดโปรตีนกินไข่ขาวกินขนมครก
01:40:54 → 01:40:58 กินอกไก่ปั่นกินอะไรนมอะไรก็ไม่รู้อ่ะนะ
01:40:59 → 01:41:03 ฮะเอ่อกินไปแล้วนี่มันไปไปอะไรเอมันใช่
01:41:03 → 01:41:07 พลังงานที่ไตหรือว่าร่างกายหรืออวัยวะอ่า
01:41:07 → 01:41:11 ทั้งตับทั้งหัวใจทั้งสมองทั้งไตเต้องการ
01:41:11 → 01:41:14 มย
01:41:14 → 01:41:19 นะแล้วก็ฮอร์โมนอะไรมันจะออกมาว่าการล่ะ
01:41:19 → 01:41:22 นะใช่มั้ยล่ะนะมันจะซ่อมสำเร็จมั้ยซ่อม
01:41:22 → 01:41:26 ได้มั้ยเนี่ยเออแล้วมันจะไปเป็นภาระเกิด
01:41:26 → 01:41:30 อะไรอ่ะของไม่ดีของสียงของเสียอะไรต่างๆ
01:41:30 → 01:41:33 รู้สึกสาขึ้นมา
01:41:33 → 01:41:38 เลยก็คือเท่าที่หมอสังเกตคนไข้อ่ะส่วน
01:41:38 → 01:41:43 ใหญ่ก็คือมันมีแต่การโปสน่ะนะแต่มันโปสไป
01:41:43 → 01:41:47 ในทางที่จะต้องไปล้างตายครับผมเราไม่เห็น
01:41:47 → 01:41:51 อย่างงั้นน่ะนะนะนะทีนี้เราจะยังโจ่งขึ้ม
01:41:51 → 01:41:55 ยังกงิ้วเลยอย่างเงี้ยได้มั้ยล่ะนะเอาว่า
01:41:55 → 01:42:00 เป็นผีบ้านะครับผมไอ้ข้อมูลมันก็เป็น
01:42:00 → 01:42:01 อย่างเงี้
01:42:01 → 01:42:07 นะเอ้อก็จะทำยังไงได้นะเอ่อแล้วแต่คนจะ
01:42:07 → 01:42:11 เชื่อตามเหตุตามผลแหละเนาะปลายทางก็ล้าง
01:42:11 → 01:42:16 ไตทั้งนั้นแหละครับนั่นแหละ
01:42:16 → 01:42:22 เออเดี๋ยวนี้ล้างฟรีด้วยเปิดเปิดูรอเปิด
01:42:22 → 01:42:23 ศู
01:42:23 → 01:42:24 รอ
01:42:25 → 01:42:29 เอ้อแต่มันไม่สนุกหรอกนะในในความเป็นจริง
01:42:29 → 01:42:33 ของการไปล้างไตเนี่ยใช่ครับใช่ครับต้อง
01:42:33 → 01:42:36 รีบตื่นนะอ่าเอารองเท้าอ่ะจ้าง
01:42:37 → 01:42:40 มอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วก็ไปวางต่อคิวทำ
01:42:40 → 01:42:44 บัตรครับผมใช่ครับก็รีบแต่งเนื้อแต่งตัว
01:42:44 → 01:42:48 อ่าออกไปนะนั่นแหละ
01:42:48 → 01:42:52 เอ้อตีเท่าไหร่เท่าไหร่ก็ไม่รู้อ่ะนะก็
01:42:52 → 01:42:56 เริ่มโอ้ล้างถี่ด้วยสิครับพี่หมอก็แล้ว
01:42:56 → 01:43:01 แต่กินนี่แหละนะฮะใช่ครับเไปอยู่ทั้งที
01:43:01 → 01:43:05 เห็นเเไปอยู่กันทั้งวันเลยครับผม
01:43:05 → 01:43:09 เออมันมันมีดีดีขึ้นจากแผนปัจจุบันอะไร
01:43:09 → 01:43:11 อย่างงี้บ้างมครับพี่หมอถ้าเกิดเขาไม่
01:43:11 → 01:43:14 ปรับพฤติกรรมอะไรอย่างเงี้ยฮะไม่มีใครดี
01:43:14 → 01:43:17 ขึ้นแหมไม่มีความหวัง
01:43:18 → 01:43:22 เลยเปิดูรอไง
01:43:22 → 01:43:26 ดีขึ้นจริงๆก็คือคนไข้ปลูกถ่ายไตฮะนะถึง
01:43:26 → 01:43:30 จะดีขึ้นอแต่ล้างไตเนี่ยก็ล้างไตรอ้าเ้า
01:43:30 → 01:43:34 เรียกล้างไตรอตายไม่ได้รอหาย
01:43:34 → 01:43:38 อือแล้วก็มันหม่นหมองนะฮะเพราะว่าเมื่อ
01:43:38 → 01:43:41 กาลเวลาผ่านไปแล้วคุณล้างไม่เลิกอ่ะล้าง
01:43:41 → 01:43:45 ไม่หยุดรวมทั้งไม่มีหนทางที่จะหวนคืนกลับ
01:43:45 → 01:43:48 เนี่ยคือมันกลายเป็นตัวอะไรตัวนึงที่หมด
01:43:48 → 01:43:49 คุณค่า
01:43:49 → 01:43:55 นะมันแบบรอเวลาจริงๆเส้นเซิลก็พังหมดนะ
01:43:55 → 01:44:02 พี่หมอนะยะเกับอะไรก็ไม่รู้อ่ะนะ
01:44:02 → 01:44:10 ออทีนี้ก็มีเคสมาให้ดูอ่า 3-4 เคสน่ะนะฮะ
01:44:10 → 01:44:14 ครับผมเอเคสนี้ก็น่าศึกษานะคือเคสเนี้ย
01:44:14 → 01:44:17 แค่เช็คอัพธรรมดานะฮะนะ
01:44:17 → 01:44:22 เออแล้วก็แล้วก็อ่าเป็นเบาหวานเดี๋ยวนะ
01:44:22 → 01:44:27 เนี่ยคือคือเขาคก็ไม่รู้อ่ะนะเอ่อเค้าก็
01:44:27 → 01:44:30 เนี่ยไปตรวจนะไปตรวจที่แปริ้วอ่ะนะ
01:44:30 → 01:44:34 เกษมราชเอ่อก็บอกว่าขออนุญาตสอบถามว่าผล
01:44:34 → 01:44:36 แลบอย่างเงี้ยควรจะปรับอาหารยังไง
01:44:36 → 01:44:39 ปัจจุบันไม่ได้ออกกำลังกายนะทานโปรตีน
01:44:40 → 01:44:44 เช็คอ่าเสริมในบางมื้อเป็นไงโปรตีนเช็คอ
01:44:44 → 01:44:49 ก็กระตุ้นอินซูลินบานเบอะวนะอื ldl ต่ำ
01:44:49 → 01:44:53 แต่ทำไมน้ำตาลในเลือดสูงนะฮะนะนะเนี่ยก็
01:44:53 → 01:44:57 อินซูลินมาเพียบนนะแล้วก็บังคับให้ใช้แต่
01:44:57 → 01:45:00 น้ำตาลเป็นพลังงานเนะเพราะฉะนั้นเนี่ยนะ
01:45:00 → 01:45:04 ไอ้เรือพวกนี้ไม่ต้องทำงานอะไรจอดจอดนิ่ง
01:45:04 → 01:45:09 สงบนะฮะมันก็เลยไม่เยอะครับผมนะเนี่ยยัง
01:45:09 → 01:45:14 ไม่ได้กินยาเบาหวานเลยนะควบคุมอาหารอยู่อ
01:45:14 → 01:45:17 ควบคุมอาหารยังไงอ่ะไปกินโปรตีนเช็คอ่ะ
01:45:17 → 01:45:21 หนูเอ้ยนะอือแต่คุณหมอก็จะ่ายยาลดไขมันมา
01:45:21 → 01:45:25 ให้ทานค่ะคุณหมอบอกว่าเพื่อลดความเสี่ยง
01:45:25 → 01:45:29 โรคหัวใจในผู้ที่เป็นเบาหวานอายุเกิน 40
01:45:29 → 01:45:32 ปีเอ้อ
01:45:32 → 01:45:36 อืทำไมอ่ะมันเหมือนให้ความสำคัญกับการลด
01:45:36 → 01:45:39 ไขมันแต่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องอาหง
01:45:39 → 01:45:44 อาหารเรื่องเบาหวงเบาหวานเลยเออนะเแวใน
01:45:44 → 01:45:47 ฟันเออแล้วเสร็จแล้วเนี่ยในระหว่างการที่
01:45:47 → 01:45:50 ตอบเนี่ยเาก็บอกว่าเ่อไม่ได้กินของททอด
01:45:50 → 01:45:54 ของมันอยู่แล้วนะจะมีหลุดการทำขนม
01:45:54 → 01:45:58 เบเกอรี่บ้างช่วงเสาร์อาทิตย์นะไขมันไม่
01:45:58 → 01:46:01 มีเกินหรอกนะฮะนะก็คือกินไขมันต่ำนั่น
01:46:01 → 01:46:05 แหละ ow Fat นะฮะนะแต่หมอก็ให้กินยาลดไข
01:46:05 → 01:46:09 มันเข้าไปอีกนะฮะเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัว
01:46:09 → 01:46:14 ใจเลยทานยาตามหมอสั่งอยากรู้แนวทางท่าน
01:46:14 → 01:46:17 อื่นๆดูบ้างอืก็แสดงว่าเขาไม่รู้อะไรเลย
01:46:17 → 01:46:21 นะนะอืครับผมตอนนี้คุณหมอหมอให้ยารสไขมัน
01:46:21 → 01:46:26 มาทานเลยสงสัยว่ามีใครเจอแบบนี้มยน้ำตาล
01:46:26 → 01:46:31 สูงนะอ่าแล้วไขมันอ่ะต่ำแต่ต้องมานั่งกิน
01:46:31 → 01:46:35 ยาลดไขมันเนี่ยนะเก็สมควรที่จะสงสัยอยู่
01:46:35 → 01:46:39 หรอกเพราะว่ามันแปลกันยังไงไม่รู้
01:46:39 → 01:46:44 เนี่ยอ่าเพราะฉะนั้นคนี้ fing บั 134 นะ
01:46:45 → 01:46:50 MC 5.9 นะแล้วก็เรื่องของไตนะฮะคนนี้
01:46:50 → 01:46:54 เติน 0.5 ก็คือกล้ามเนื้อน้อยเพราะฉะนั้น
01:46:54 → 01:46:58 egfr ค่านี้เชื่อไม่ได้นะฮะเชื่อไม่ได้
01:46:58 → 01:47:03 นะเนี่ยเพราะว่ากล้ามเนื้อมันน้อยนะฮะมัน
01:47:03 → 01:47:05 น้อยนะครับ
01:47:05 → 01:47:10 ผมแล้วก็เอ่ออย่างอื่นก็คือไรปิดโปรไฟล์
01:47:10 → 01:47:14 เนี่ย Total เ 170 นะแล
01:47:14 → 01:47:19 ldl 97
01:47:19 → 01:47:26 นะคิดว่ายังไง่ะเนี่ย 97 เนี่ยก็ยังยังจะ
01:47:26 → 01:47:34 ให้ให้มันมากินน่ะนะนะ hdl 60 ไตกี 67
01:47:34 → 01:47:38 นะฮะแล้วก็บอกว่าไม่ได้กินมันนะกินอ่าคาฟ
01:47:38 → 01:47:43 แปรรูปกินโปรตีนเช็คอย่างเงี้ยนะฮะนะอื
01:47:43 → 01:47:47 ครับผมคือคล้ายๆกินคลีนนะฮะนะไม่กินของ
01:47:47 → 01:47:51 ทอดกันนะกินโปรตีนเช็คเสริมเป็นบางวันเรา
01:47:51 → 01:47:54 ไม่ได้ออกกำลังกายเลยนะฮะแต่เห็นมั้ยว่า
01:47:54 → 01:48:01 tyg นะฮะนะพุ่งเลยนะแดงเถือกเลยนะอตับฮะ
01:48:01 → 01:48:05 ตับยังดื้ออินซูลินเยอะอยู่นะฮะเใช่ครับ
01:48:05 → 01:48:11 ผมนี่ตับเข้าดื้ออินซูลินนะฮะนะส่วนเอ่อ
01:48:11 → 01:48:15 ยังไม่ได้วินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานนะเพราะ
01:48:15 → 01:48:21 ว่า a1c 5.9 นะแต่ว่าปิบัไปแล้ว 100 ฟมอ
01:48:21 → 01:48:26 มาแล้วก็เคสเนี้มันขาดพลังงานเนี่ยมันก็
01:48:26 → 01:48:30 คืออ่า eny inbalance นะฮะเราใช้คำนี้ดี
01:48:30 → 01:48:35 กว่านะนั่นแหละนะมันขาดพลังงานหนูก็ไป
01:48:35 → 01:48:38 เติมพลังงานน่ะนะ
01:48:38 → 01:48:42 เออต้องไปเติมพลังงานนะนะแล้วก็เปลี่ยน
01:48:42 → 01:48:45 พลังงานด้วยนะอันนี้ความเข้าใจที่ไม่ถูก
01:48:45 → 01:48:49 ต้องทั้งหมดนะแล้วพวกเนี้ยนะมันหิวมันโหย
01:48:49 → 01:48:54 ฮะนะเนี่ยเอ่อพวกนี้มันจะมันจะเคฟวิ่งอ่ะ
01:48:54 → 01:48:57 มันจะหิวโหยอ่ะนะมันมันกินจุ๊บจิ๊บอ่ะนะ
01:48:57 → 01:49:01 เอาไม่อยู่หรอกนะคือไม่ใช่วิถีทางโชนาการ
01:49:01 → 01:49:06 คาบต่ำอะไรเลยนะฮะอืก็คนนี้นะตับด้วย
01:49:06 → 01:49:11 อินซูลินแล้วเนาะนะแล้วก็ขาดพลังงานนะ
01:49:11 → 01:49:16 ฮอร์โมนเครียดคอร์ติซอลน่าจะทำงานเ่อพอๆ
01:49:16 → 01:49:19 กับอินซูลินแหละอื
01:49:19 → 01:49:22 อืนี่ถ้าสมมุติว่าเขาออกกำลังกายร่วมด้วย
01:49:22 → 01:49:27 สงสัยคอสอจะมาพุ่งพลาดแน่นอนครับผมนะคือ
01:49:27 → 01:49:31 ต้องปรับอาหารก่อนแล้วเวทใช่แล้วค่อยเวท
01:49:31 → 01:49:33 เออเอาปรับอาหารดีกว่าปรับอาหารให้ให้
01:49:33 → 01:49:37 ผ่านก่อนนะใช่นะ
01:49:37 → 01:49:41 ครับแต่ว่าคนนี้เขาก็เพิ่งจะมาเข้าสาย
01:49:41 → 01:49:45 สุขภาพอ่ะแหละนะเหมือนกับว่าเหมือนกับว่า
01:49:45 → 01:49:49 ยังค้านๆกันอยู่อ่ะนะฮะน้ำตาลสูงแต่ไขมัน
01:49:49 → 01:49:54 ตต่ำแล้วต้องไปกินยาลดไขมันส่วนน้ำตาลสูง
01:49:54 → 01:49:57 ไม่รู้่ะมันยังไม่มียาให้กินนะ
01:49:57 → 01:50:01 ฮะเอก็เลยอะไรก็ไม่รู้อ่ะไปทำไอ้เรื่อง
01:50:01 → 01:50:04 เล็กๆน้อยๆไอ้เรื่องที่จะต้องปรับไม่ปรับ
01:50:04 → 01:50:08 อืก็เป็นอย่างนี้แหละก็ก็ในที่สุดเดี๋ยว
01:50:08 → 01:50:14 เหอะไตวายอ่ะเฮ้อครับผมเพุ่งเป้าอะไร ldl
01:50:14 → 01:50:18 อย่างเดียวเออนะนะแล้ว ldl เค้ามันเนี่ย
01:50:18 → 01:50:21 97 เนี่ยแล้วยังจะพุ่งเป้าให้เป็นเท่า
01:50:21 → 01:50:24 ไหร่ล่ะเนสเต่ำกว่า 70 อีกแล้วครับผมต่ำ
01:50:24 → 01:50:27 กว่า 55 แล้วมั้งหรือไม่ก็ให้ต่ำกว่า 40
01:50:27 → 01:50:33 ไปเลยนะเลทาท่าก็เข้าแล้วเข้าแล้วนะ
01:50:33 → 01:50:39 เออครับผมเป็นยังไงอ่ะนะเอ่อวบลงมาซะต่ำ
01:50:39 → 01:50:42 กว่า 40 เลย
01:50:42 → 01:50:45 อืปท่าต้องเข้าแล้ว
01:50:45 → 01:50:48 ฮะครับผมทีนี้คนนี้เนี่ยนะฮะเอ่อเค้าก็
01:50:48 → 01:50:52 เก่งเนาะเก็เก่งเไม่มีใครครับอ่ามาให้
01:50:52 → 01:50:55 ความเห็นเนี่ยเค้าเข้าแชท gpt เลยฮะแล้ว
01:50:55 → 01:50:59 ดูไอ้แชท gpt มันตอบสิเออเก็ตอบดีนะเนี่ย
01:50:59 → 01:51:03 แชท gpt ตอบดีๆอ่ะนะฮะแต่ว่าในที่สุดแล้ว
01:51:03 → 01:51:08 ก็คือให้ปรึกษาแพทย์ให้ปรึกษา
01:51:08 → 01:51:13 แพทย์ก็ไม่ได้ตัดสินนะก็คือคนเนี้ยเคกิน
01:51:13 → 01:51:15 เ่อโปรตีนที่มีไขมันต่ำมันกระตุ้น
01:51:15 → 01:51:18 อินซูลินเพิ่มนะฮะนะไม่แปลกหรอกที่ตับจะ
01:51:18 → 01:51:20 ดื้ออินซูลิน
01:51:20 → 01:51:23 นะไม่ได้กินไขมันหรือของทอดของอะไรเลย
01:51:23 → 01:51:26 อะไรอย่างเงี้ยนะ
01:51:26 → 01:51:32 อืมก็แล้วก็คงไม่อิ่มนักหรอกนะเออใช่ครับ
01:51:32 → 01:51:34 ผ่าน
01:51:35 → 01:51:38 เอออันนี้ก็
01:51:38 → 01:51:43 เอ่อก็อยู่ในกลุ่มอาหารโลกไตนะฮะนะ
01:51:43 → 01:51:47 เอ้อคือคนเนี้ยเค้าเข้ามาถามเรื่องเนี้ย
01:51:47 → 01:51:52 ฮะว่าว่าเรื่องดอฟินมอเนี่ยนะก็คือมิอ
01:51:52 → 01:51:57 เนี่ยนะมันสู้มสูงนะฮะเนี่ยมันสูง
01:51:57 → 01:52:03 145 นะเนี่ยคือ 7 น 8 นเนี่ยนะมันสูงนะ
01:52:03 → 01:52:06 แต่ก่อนน้ำตาลตอนเย็นเนี่ยก่อนที่จะเข้า
01:52:06 → 01:52:10 นอนเ่ะมัน 96 นะแต่มาตอนเช้าเนี่ยมันพุ่ง
01:52:10 → 01:52:15 ขึ้นไป 145 150
01:52:15 → 01:52:19 นะเบอกว่าร่างกายกำลังบอกอะไรภาวะน้ำตาล
01:52:19 → 01:52:24 ุ่งอรุณนะใช่หรือเปล่านะหรือมีสาเหตุอะไร
01:52:24 → 01:52:28 นอกจากนี้ให้มาพูดคุยกันนะให้พูดกันคือคน
01:52:28 → 01:52:32 ๆนี้เนี่ยนะฮะก็มีความเจ็บป่วยนะที่เป็น
01:52:32 → 01:52:36 เบาหวานขึ้นตาตั้งแต่เอ่อเดือนมิถุนานะฮะ
01:52:36 → 01:52:40 ของปีที่แล้วกลางปีนะฮะเสร็จแล้วเนี่ย
01:52:40 → 01:52:45 เอ่อก็ไปรักษาที่วัดไรขิงนะแล้วก็ประมาณ
01:52:45 → 01:52:50 ปลายเดือนสิงหาคมนะอ่าก็เขาก็นัดไปตรวจนะ
01:52:50 → 01:52:56 ฮะนะนัดไปตรวจนะก็ปรากฏว่าในช่วงเนี้ยนะ
01:52:56 → 01:52:58 เขาก็พยายามเข้ากลุ่มแล้วก็พยายามที่จะ
01:52:58 → 01:53:02 ปรับอาหงอาหารอะไรต่างๆเป็นคล้ายๆกับเ่อ
01:53:02 → 01:53:06 kcd นะฮะนะ kcd เพราะว่าบหวานมันขึ้นตา
01:53:06 → 01:53:10 แล้วอ่ะนะมันก็คงรอไม่ได้แล้วนะฮะเพราะ
01:53:10 → 01:53:14 ฉะนั้นมิถุนายนกรกฎาคมสิงหาคมเนี่ยนะอ่า 2
01:53:14 → 01:53:16 เดือนเนี่ยนะ 2 เดือน 3 เดือนเนี่ย 30
01:53:16 → 01:53:20 สิงหาคมนะฮะครับผมมอไม่นัตรวจแล้วครับตา
01:53:20 → 01:53:23 ตอนนี้ไม่บวมไม่อักเสบแล้วปกติดีทั้ง 2
01:53:23 → 01:53:27 ข้างนะเอ่อใช้การปรับอาหารวิธีเดียวไม่
01:53:28 → 01:53:31 ได้เนี่ยคือเขาอ่ะใช้ปรับอาหารนะก็คือกิน
01:53:31 → 01:53:36 kcd นะฮะไม่ได้กินสมุนไพรไม่ได้กินยาใดๆ
01:53:36 → 01:53:40 เลยมีเพียงรักษาตาตามขั้นตอนที่หมอทำให้
01:53:40 → 01:53:44 คือการยิงเลเซอร์แล้วก็ฉีดวุ้นอ่าเข้า
01:53:44 → 01:53:48 เข้าที่อ่าลูกตาเนี่ย 3 ครั้งนะฮะนะเติม
01:53:48 → 01:53:50 วุ้นที่ลูกตา
01:53:50 → 01:53:54 นะเค้าทำ I 23/1 คือกินวันละมื้อไม่กิน
01:53:54 → 01:53:58 แป้งไม่กินของหวานไม่กินคาฟกินเนื้อสัตว์
01:53:58 → 01:54:02 ติดมันอ่าเนื้อสัตว์ติดมันกินไข่แล้วก็
01:54:02 → 01:54:05 จิบน้ำเปล่าอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะน้ำหนัก
01:54:06 → 01:54:10 จาก 91 เหลือ 78 นะเนี่ยน้ำตาลปลายนิ้ว
01:54:10 → 01:54:13 ตรวจล่าสุดนะ 100 อันอันนี้เมื่อเดินนะ
01:54:13 → 01:54:16 ไม่เพลียแล้วตัวเบาอะไรต่างๆนะอันนี้ก็
01:54:16 → 01:54:20 คือเมาอวดนะฮะนะในช่วงเดือนสิงหาคมต่อมา
01:54:20 → 01:54:23 เดือนตุลาคมเนี่ยนะฮะนะก็บอกว่าบัดเนี้ย
01:54:24 → 01:54:27 ได้มีการกิน CD kcd มา 4 เดือนแล้ววัน
01:54:27 → 01:54:32 นี้ตรวจเลือดล่าสุด a1c 4.9 นะฮะนะลดมา
01:54:32 → 01:54:36 จาก 12.3 6.9 แล้วก็มา 4.9 ตามลำดับน้ำ
01:54:36 → 01:54:41 ตาลปลายนิ้วยังค่อนข้างสูงนะฮะเนี่ย
01:54:41 → 01:54:46 นี้อันนี้ก็คือผลแลบเดือนตุลาคมนะฮะเดือน
01:54:46 → 01:54:49 ตุลาคมเป็นอย่างนี้นะซึ่งเขาก็มาสรุปตรง
01:54:49 → 01:54:52 จุดนี้นะฮะนะเพราะว่าอันเนี้ยก็เพิ่งไป
01:54:52 → 01:54:56 ตรวจมาเมื่อเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นี่แหละ
01:54:56 → 01:55:00 นะฮะแต่มันยังมี D มิอนะฮะแต่ก็ไม่ได้
01:55:00 → 01:55:03 ตรวจบอื่นๆน่ะนะแล้วเก็เลยถามว่าน้ำตาล
01:55:03 → 01:55:07 สูงอย่างงี้คือฟมอได้มยทีนี้คนนี้เนี่ยพอ
01:55:07 → 01:55:11 เอามาเข้าตารางนะฮะนะของค่าแลบเดือน
01:55:11 → 01:55:13 ตุลาคมคิดว่าคนนี้น่าจะเป็นพุงเครียดนะ
01:55:13 → 01:55:17 น้ำหนักมันเยอะอ่ะ 91 แล้วลดมาเหลือ 78
01:55:17 → 01:55:21 ภายใน 4 เดือนนะฮะนะแล้วเดือนตุลาคมเนี่ย
01:55:21 → 01:55:26 ฟมอยังชัดเจนนะฮะทั้งๆที่ a1c ลดไปแล้วนะ
01:55:26 → 01:55:30 ฮะเพราะว่ากิน kcd นะ bu สูงทีเดียวนะ
01:55:30 → 01:55:33 เพราะว่ามันเป็นไโปรตีนจากเนื้อแดงไ
01:55:33 → 01:55:38 โปรตีนเนื้อแดงนะฮะนะเตินดีนะฮะ egfr ก็
01:55:38 → 01:55:42 น่าจะดีนะไม่ได้ตรวจกดยูริกนะแล้วก็การทำ
01:55:42 → 01:55:45 งานของตัไม่ได้ตรวจนะฮะนี้ค่าแลบเนี่ยค่า
01:55:46 → 01:55:51 แลบต่างๆเนี่ยเราจะเห็นว่าคนนี้นะนะเอ่อ
01:55:51 → 01:55:58 ทีนี้ทำไม 3 จุดอ๋อใช่ๆนะคนนี้ก็คือดื้อ
01:55:58 → 01:56:03 อินซูลินที่ตับอ่อนและตับนะฮะยังดื้ออยู่
01:56:03 → 01:56:07 นะฮะนะแล้วก็พลังงานเกินนะฮะเ่าโปรตีน
01:56:07 → 01:56:12 เกินนะทั้งโปรตีนและพลังงานเกินเนี่ยนะฮะ
01:56:12 → 01:56:16 ส่วนใหญ่คอร์ติซอลเนี่ยนะคอร์ติซอลเนี่ย
01:56:16 → 01:56:20 ก็พยายามที่จะเปลี่ยนเปลี่ยนพลังงานต่างๆ
01:56:20 → 01:56:25 ที่เกินเหล่าเนี้ยนะฮะนะแต่ว่าก็จะเห็น
01:56:25 → 01:56:29 ว่าไอ้ตัวไกินเนี่ยมันชูขึ้นไป 179
01:56:29 → 01:56:36 นะนะแล้วก็ตัว hdl เนี่ยก็ถูกเปติไบสนะมา
01:56:36 → 01:56:40 เปลี่ยนอ่ามาเปลี่ยนนะจ่ายพลังงานไปที่ไต
01:56:40 → 01:56:44 อ่ะนะฮะเนี่ยไตมันถึงได้ค่อนข้างดีไงเตีน
01:56:44 → 01:56:49 ถึง 0.83 นะนะ hdl มันก็คือคือเป็นพุม
01:56:49 → 01:56:54 เครียดนะฮะนะไอ้ความเครียดนี่แหละนะเ่อ
01:56:54 → 01:56:57 มันพยายามที่จะเก็บสะสมพลังงานนะเพราะ
01:56:57 → 01:57:00 พลังงานมันเกินแล้วพลังงานเหล่านี้ก็น่า
01:57:00 → 01:57:02 จะไปเก็บที่
01:57:02 → 01:57:08 รอโปรตีนเกินนะพลังงานจากอ่าสัตว์เนื้อ
01:57:08 → 01:57:10 แดงน่าจะเป็น c16 นัแหละ
01:57:10 → 01:57:14 นะเพราะฉะนั้นคนนี้เนี่ยดูแล้วยังแดง
01:57:14 → 01:57:19 เถือกไปหมดเลยก็ยังไม่รอดนะฮะยังไปผิดทิศ
01:57:19 → 01:57:21 ผิดทางเนอะ
01:57:21 → 01:57:26 นะเนี่ยเวลาเราแอปโพสที่ว่ากิน CD kcd
01:57:26 → 01:57:30 แล้วก็แตกิสไลยยังสูงอยู่ทั้งๆที่กินมา
01:57:30 → 01:57:33 ตั้งประมาณ 8 เดือนแล้วเนี่ย 8 เดือนแต่
01:57:33 → 01:57:38 อันนี้มันเป็นค่าแลบหลังจากกินมา 4 เดือน
01:57:38 → 01:57:43 เนาะนะไตกีสลยเยอะๆมาจากอะไรบ้างนะมาจาก
01:57:43 → 01:57:47 คาฟนะฮะโดยเฉพาะน้ำตาลแป้งผลไม้นะหรือคาฟ
01:57:47 → 01:57:51 แฝนนะแต่คนนี้ไม่ได้กินเพราะกิน kcd มา
01:57:51 → 01:57:54 จากโปรตีนที่ล้นเกินโอเคใช่นะฮะมีโปรตีน
01:57:54 → 01:58:00 ล้นเกินมาจากไขมันนะฮะนะที่มากับโปรตีนก็
01:58:00 → 01:58:04 น่าจะใช่นะแต่ไม่รู้เทำอะไรกินทอดหรือ
01:58:04 → 01:58:08 เปล่านะการปรุงด้วยครับผมใช่นั่นแหละการ
01:58:08 → 01:58:13 ปรุงใช่ส่วนใหญ่จะปรุงทอดกับย่างเออเออ
01:58:13 → 01:58:15 นั้นใชนี่
01:58:15 → 01:58:20 แหละนะ ldl ที่เพิ่มขึ้นสูงมามาก
01:58:20 → 01:58:28 ๆ HD ไกิสไลดสูงด้วยนะแต่ hdl คนี้ต่ำอ
01:58:28 → 01:58:31 ครับผมเพราะว่ามันก็พยายามนะฮะที่จะ
01:58:31 → 01:58:35 พยายามที่จะเอาเอาพลังงานออกไปอ่ะมันเกิน
01:58:35 → 01:58:38 น่ะมันเกินนะฮะนะอันนี้ก็คือพยายามเอาออก
01:58:38 → 01:58:43 ทางไตโดย hdl ไปสลายนะกลายเป็นไตกิสลไป
01:58:43 → 01:58:49 ให้ไตใช้นะฮะเจนียังดีนะ egfr น่าจะดีแต่
01:58:49 → 01:58:52 ว่าตัว BN สูงเพราะว่าเพราะว่าแอมโมเนีย
01:58:52 → 01:58:57 ยูเรียน่าจะเยอะนะเพรากินแต่แต่โปรตีน
01:58:57 → 01:59:01 สัตว์ใหญ่นะฮะเพราะว่ากินแบบ kcd นะเขา
01:59:01 → 01:59:03 เน้นโปรตีนสัตว์ใหญ่อยู่แล้วนะไอ้พวก
01:59:03 → 01:59:07 โปรตีนสัตว์น้งสัตว์น้ำหรือไอ้พวกมีป่งมี
01:59:07 → 01:59:11 ปีกอะไรต่างๆนี่ก็ถือว่าเป็นแค่เป็นแค่
01:59:11 → 01:59:16 ตัวน้ำจิ้มเป็นเป็นแค่ตัวเสริมออืครับผม
01:59:16 → 01:59:17 เป็นตัวกินวัวเป็นท่อนอะไรอย่างงั้นเป็น
01:59:18 → 01:59:24 โปรตีนหลักนะฮะครับว่าไงล่ะ
01:59:24 → 01:59:27 ไพโร
01:59:27 → 01:59:30 ครับไม่รู้จะว่ายัง
01:59:30 → 01:59:35 ไงเอ่ออันเนี้ยเนี่ยอันนี้เป็นของต่าง
01:59:35 → 01:59:38 ประเทศนะฮะต่างประเทศเนี่ยนะคือตอนเนี้ย
01:59:38 → 01:59:42 ในต่างประเทศเนี่ยเขาคก็ฮิตทฤษฎี orio N1
01:59:42 → 01:59:47 นั่นแหละนะฮะงั้นใครที่อ่ากินพวกไอ้ CD
01:59:47 → 01:59:51 kcd มาแล้วก็ไอ้ตัวคอเลสเตอรอล ldl มัน
01:59:51 → 01:59:55 ชูตเยอะๆเนี่ยนะฮะนะบางคนเนี่ยเห็นมอย่าง
01:59:55 → 01:59:58 พวกกินซีดีเนี่ยไตกีสไลก็มาด้วยเพราะต่าง
01:59:59 → 02:00:02 ประเทศเขไม่ได้กินน้ำมันสกัดเย็นกันนะเขา
02:00:02 → 02:00:05 ก็กินไอ้พวกไขมันอิ่มตัวที่มาด้วยนะฮะนะ
02:00:05 → 02:00:07 เพราะฉะนั้นพวกนี้ก็ไม่แปลกที่ไตกีสไลน
02:00:07 → 02:00:10 มันก็จะเกิน 100 กันนะคนนี้ก็ั
02:00:10 → 02:00:14 คอเลสเตอรอล 500 กว่า ldl 400 กลางๆนะฮะ
02:00:14 → 02:00:19 นะ hdl 61 ก็คล้ายๆคนเมื่อกี้อ่ะนะฮะ
02:00:19 → 02:00:23 แล้วก็ไอ้ไตกิลก็ 100 กว่านะฮะนะอันนี้
02:00:23 → 02:00:28 คือค่าแลบเมื่อช่วงประมาณ 25 มกราคมนะฮะ
02:00:28 → 02:00:31 ของปีนี้นะหลังจากนั้นผ่านไป 3 สัปดาห์
02:00:31 → 02:00:34 วันที่ 15 กุมภาพันธ์เนี่ยนะฮะในช่วง 3
02:00:34 → 02:00:38 สัปดาห์เนี่ยนะเขาก็ใช้หลักการแบบ orio
02:00:38 → 02:00:43 N1 เนี่ยคือเติมคาฟเติมคาฟต่างๆนะเเพิ่ม
02:00:43 → 02:00:46 ไปที่ประมาณเนี่ยอ่าแล้วแต่แต่ละวันบาง
02:00:46 → 02:00:48 วันก็เพิ่ม 20 บางวันก็เพิ่ม 50 กรัมอะไร
02:00:48 → 02:00:51 อย่างเงี้ยเแล้วเขาก็มาเจาะเลือด Follow
02:00:51 → 02:00:56 up นะฮะปรากฏว่าเนี่ย Total คอเลสเตอรอล
02:00:56 → 02:01:00 จาก 500 กว่าก็เหลือ 300 กว่านะฮะ 52 3
02:01:00 → 02:01:04 เหลือ 325 มันหายไปตั้งเกือบ 200 แค่ 3
02:01:04 → 02:01:10 สัดาอ่าและ ldl เนี่ยจาก 441 เนี่ยลดลงมา
02:01:10 → 02:01:10 เหลือ
02:01:11 → 02:01:14 245 เนี่ยมันก็หายไปเกือบ 200 อ่ะแค่ 3
02:01:14 → 02:01:18 สัปดาห์มันลดลงไปตั้ง 200 แล้วอ่ะนะเนี่ย
02:01:18 → 02:01:22 ไกสลายก็จาก 118 นะพอเติมคาฟเข้าไปเห็น
02:01:22 → 02:01:28 มั้ยนะก็เหลือ 51 นะแล้ว hdl ก็ขึ้นจาก 61
02:01:28 → 02:01:33 เป็น 71 นะฮะอ่าอันนี้มีเปรียบเทียบเนี่ย
02:01:33 → 02:01:38 นะ 25 มกราคมกับ 15 กุมภาพันธ์เนี่ยเนี่ย
02:01:38 → 02:01:43 เห็นมะกลับมาปกติปกติหมดเลยนะฮะเนี่ยยัง
02:01:43 → 02:01:47 มีตัว ldl สูงไปหน่อยนะฮะแค่ 3 สัปดาห์
02:01:47 → 02:01:51 เองนะแล้วก็ตัวอัตราส่วนไกไลหาร hdl เก็
02:01:51 → 02:01:53 คุมตับอ่อนได้ดีเบต้าเซลของตับอ่อนยัง
02:01:53 → 02:01:57 ฟังก์ชันดีนะแต่คนนี้ไม่ได้ตรวจตับไม่ได้
02:01:57 → 02:02:01 ตรวจน้ำตรงน้ำตาลเนนะแต่ดูจากเนี่ยเลมแนน
02:02:01 → 02:02:06 แล้วก็ตัว a b อะไรต่างๆนะก็ดีหมดนะฮะนะ
02:02:06 → 02:02:08 เนี่ย 3 สัปดาห์ันนี้มีการลดเนื้อจาก
02:02:08 → 02:02:13 สัตว์ใหญ่มีการเพิ่มคาฟแล้วก็ตัดกาแฟด้วย
02:02:13 → 02:02:16 นะตัด
02:02:16 → 02:02:21 กาแฟสจะเป็นภูเครียด
02:02:22 → 02:02:23 ก็หมด
02:02:23 → 02:02:25 แล้วครับ
02:02:25 → 02:02:28 ผมเพราะฉะนั้นอย่าลืมว่าในเรื่องของการ
02:02:28 → 02:02:33 ฟื้นฟูไตนะฮะนะจะต้องเป็นการลงมือทำกับ
02:02:33 → 02:02:38 ความเป็นจริงตามเหตุและผลนะฮะในการปรับ
02:02:38 → 02:02:40 เปลี่ยนเรื่องโภชนาการเป็นเรื่องสำคัญที่
02:02:40 → 02:02:45 สุดนะที่จะฟื้นไตได้แต่มันก็มีองค์ความ
02:02:45 → 02:02:50 รู้มีแง่คิดมีเหตุและมีผลนะว่าที่ต้องทำ
02:02:50 → 02:02:52 ในแนวทางแบบ low C High Fat เนี่ย
02:02:52 → 02:02:57 เพราะอะไรนะฮะแล้วก็ค่อยเจาะเลือดประเมิน
02:02:57 → 02:03:00 และดูการดีขึ้นอะไรต่างๆนะของค่าแลบการ
02:03:00 → 02:03:04 เปลี่ยนแปลงค่าแลบก็แล้วกันครับผมเพราะ
02:03:04 → 02:03:07 ไม่งั้นแล้วถ้าไม่ลงมือทำก็บอกยากตัดสิน
02:03:08 → 02:03:13 ยากใช่ครับผมแล้วถ้ายังไปกลัวๆนะโอยไม่
02:03:13 → 02:03:19 ได้เป็นโรคไตนะต้องจำกัดโปรตีนต้องตัด
02:03:19 → 02:03:23 เกลือนะต้องระวังเรื่องโปแตสเซียมอะไร
02:03:23 → 02:03:28 ต่างๆนะใช่ครับผมแล้วก็กินอะไรอ่ะก็กิน
02:03:28 → 02:03:31 แต่สิ่งที่มันกระตุ้นคาฟาฟาอ่ะ
02:03:31 → 02:03:34 นะแล้วเป็นยังไงอ่ะพอกินแต่สิ่งที่
02:03:34 → 02:03:37 กระตุ้นคาฟแล้วมีแต่คาฟเยอะๆนะอินซูลินมา
02:03:37 → 02:03:42 เยอะนะสารอาหารเหล่านี้นะก็ไม่เห็นที่จะ
02:03:42 → 02:03:46 ไปทั้งกล้ามเนื้อไปทั้งไตเลยนะแล้วทั้ง
02:03:46 → 02:03:49 กล้ามเนื้อก็ไม่เพิ่มแล้วไตเอยก็ฟีบเอ้ย
02:03:49 → 02:03:52 จ้าเนื้อก็ไม่เพิ่มแล้วก็ยังรีบเล็กลงอ่ะ
02:03:52 → 02:03:54 แล้วตัวไตเอง
02:03:54 → 02:03:56 ก็
02:03:56 → 02:04:00 egfr น้น้อยลงครับผม
02:04:00 → 02:04:02 ครับจะว่า
02:04:02 → 02:04:09 ไงหมดแล้วฮะมีข้อสงสัยอะไร
02:04:09 → 02:04:11 มั้ยไม่มีครับ
02:04:11 → 02:04:16 ผมก็เรื่องไตระวังอาหารนี่มื้อเย็นมื้อ
02:04:16 → 02:04:17 เย็น
02:04:17 → 02:04:21 อื
02:04:21 → 02:04:26 คนผอมๆเนี่ยฟื้นไปยากยากหน่อยนะใช้เวลา
02:04:26 → 02:04:30 เยอะหน่อยนะแล้วก็ต้องทำอะไรที่แบบต้องมี
02:04:30 → 02:04:35 วินัยเ่าพอสมควรพอสมควรเลยล่ะนะฮะคือ
02:04:35 → 02:04:38 เรื่อง ckd เนี่ยนะไตเสื่อมไตวายไตเรื้อ
02:04:39 → 02:04:40 หลังอะไรต่างๆ
02:04:40 → 02:04:44 เอ่อมากกว่า 90% มันก็เป็นเรื่องของดื้อ
02:04:44 → 02:04:47 อินซูลินอยู่แล้วนะฮะแล้วตัวฮอร์โมนสำคัญ
02:04:47 → 02:04:51 เลยที่มันแอชในคนที่ในคนที่ไม่รู้ไม่เข้า
02:04:52 → 02:04:54 ใจอะไรเนี่ยมันก็คือตัวอินซูลินนั่นแหละ
02:04:54 → 02:04:59 นะฮะครับผมเพราะในขณะที่คุณมาเป็นปัญหาไต
02:04:59 → 02:05:01 เนี่ยนะแล้วเสร็จแล้วเนี่ยเวลาคุณกลับไป
02:05:01 → 02:05:03 แก้เนี่ยคุณก็ยังไปเหมือนกระตุ้นอินซูลิน
02:05:04 → 02:05:08 อยู่นั่นแหละนะไม่จากหายเป็นอะไรไปเลยนะ
02:05:08 → 02:05:12 เนี่ยแล้วก็จะยังไงขึ้นล่ะนะมันจะดีขึ้น
02:05:12 → 02:05:16 ได้ยังไงนะฮะแล้วก็น้ำตาลเนี่ยไตเค้าก็
02:05:16 → 02:05:19 เป็นตัวยอมรับอยู่แล้วล่ะว่ามันคือสิ่ง
02:05:19 → 02:05:23 ที่เป็นพิษนะนะสิ่งที่เป็นพิษต่อเค้าอ่ะ
02:05:23 → 02:05:25 มากที่สุดนะแล้วอินซูลินเป็นอะไรที่เค้า
02:05:25 → 02:05:29 กลัวมากที่สุดนะเนี่ยเพราะฉะนั้นหลอด
02:05:30 → 02:05:33 เลือดก็เกร็งอยู่นั่นแหละนะฮะ
02:05:33 → 02:05:37 นะแล้วก็ของเสียก็คั่งค้างแล้วก็จับ
02:05:37 → 02:05:39 เหนียวหนุบหนับหนึบ
02:05:39 → 02:05:42 เออไม่ไปไหนหรอก
02:05:42 → 02:05:47 นะ
02:05:47 → 02:05:50 อื
02:05:50 → 02:05:53 ก็ครั้งที่แล้วที่เ่อหมอพูดเรื่องไตไปก็
02:05:53 → 02:05:56 คือพยายามเน้นเรื่องเรื่องของ
02:05:56 → 02:06:00 เอ่อพลังงานโดยเฉพาะพลังงานจากแฟตแๆนะฮะ
02:06:00 → 02:06:04 นะที่จะมาช่วยตายในรูปแบบของคีโตนจะเป็น
02:06:04 → 02:06:08 เดี้เป็นคนคีนก็ขอให้มันมีไอ้ตัว Fat
02:06:08 → 02:06:11 adap หรือคีต adap เนี่ยนะมากน้อยอะไรก็
02:06:11 → 02:06:16 ไม่ว่าหรอกนะแล้วก็เนี่ยเที่ยวนี้วันนี้
02:06:16 → 02:06:20 ก็คือพยายามปรับหรือเติมโปรตีนให้ถูกนะฮะ
02:06:20 → 02:06:24 เพราะว่าการฟื้นฟูไตซ่อมแซมไตก็ 2 เรื่อง
02:06:24 → 02:06:27 พลังงานถึงซึ่งเราเรียกว่าเป็นคนงานที่ดี
02:06:27 → 02:06:32 นะฮะแล้วก็ตัววัตถุดิบนะอิฐหินปูนทรายถึง
02:06:32 → 02:06:37 นะฮะนะแล้วเราก็อิ่มแล้วก็หลับนะเ่าแล้ว
02:06:37 → 02:06:41 ก็ทำอะไรต่างๆด้วยเหตุด้วยผลในการกินให้
02:06:41 → 02:06:45 ถูกต้องใน 1 วันนะอย่างเนี้ยไตก็จะฟื้น
02:06:45 → 02:06:49 ได้ฮะฟื้นได้หรือใครที่กินโลคะ
02:06:49 → 02:06:52 อยู่แล้วเนี่ยนะฮะนะเนี่ยพอได้องค์ความ
02:06:52 → 02:06:55 รู้แบบเนี้ยได้ไอเดียแบบเนี้ยนะมันก็จะ
02:06:55 → 02:06:58 ปรับได้นะเพราะฉะนั้นไอ้ค่าไตอะไรต่างๆ
02:06:59 → 02:07:05 ที่เ่อสต 2 สตจะเข้าใกล้ 3A แล้วจะหล่น 60
02:07:05 → 02:07:08 ลงไปแล้วอะไรต่างๆเหล่าเนี้นะมันก็จะดี
02:07:08 → 02:07:12 ขึ้นนะฮะนะถ้าเข้าใจแล้วก็ลองไปทำดูนะลอง
02:07:12 → 02:07:15 ไปเปลี่ยนอ่าเน้นเรื่องพลังงานเน้นเรื่อง
02:07:15 → 02:07:18 โปรตีนแล้วก็พวกเกลือร่งเกลือแร่ฮอร์โมน
02:07:18 → 02:07:23 น้ำนะเนี่ยให้ได้นะกฎอีกอย่างนึงแค่นั้น
02:07:23 → 02:07:28 แหละนะ
02:07:28 → 02:07:33 ฮะเป็นยังไงเรื่องไตสนุกมั้ยสนุกครับผม
02:07:33 → 02:07:35 สนุก
02:07:35 → 02:07:41 ครับเอาไพโรจฟังแล้วว่ายังไงอ่ะว่าเนี่ย
02:07:41 → 02:07:45 ไอ้คือคือเ้าเรียกว่าองค์ความรู้หรือว่า
02:07:45 → 02:07:48 เหตุและผลเนี่ยมันเป็นอย่างเงี้ยนะที่เรา
02:07:48 → 02:07:50 จะดูแลเรื่องไทปรับเรื่อง
02:07:50 → 02:07:53 ไทแต่บางทีเราเหมือนน้ำปับนะเราก็พูดกับ
02:07:54 → 02:07:57 ใครก็ไม่ได้หรอกนะใช่ก็เป็นเรื่องของพลัง
02:07:57 → 02:08:00 งานที่ว่าส่วนใหญ่ไตที่มันเสื่อมหรือว่า
02:08:00 → 02:08:03 เป็นโรคไตก็มามันจากดื้ออินซูลิน
02:08:03 → 02:08:06 ดิฟฟังก์ชันหรืออะไรพวกเนี้ยหรือหรือแม้
02:08:06 → 02:08:10 กระทั่ง resistance น่ะอืมันก็ต้องใช้
02:08:10 → 02:08:13 พลังงานจากไขมันอยู่แล้วอ่ะครับเพราะว่า
02:08:13 → 02:08:16 ไปกินคาฟไม่ได้กินคาฟก็ยิ่งไปกันใหญ่เออ
02:08:16 → 02:08:20 แต่ทำไมเยังให้กินคาฟล่ะ
02:08:20 → 02:08:23 ก็ไม่รู้เหมือนกันเออแล้วเไม่เไม่คิดอะไร
02:08:24 → 02:08:26 เหรอว่าเอ๊ถูกหรอผิดหรือเปล่าอะไรอย่าง
02:08:26 → 02:08:29 เงี้ยไม่เห็นมีใครโพ่งกับมาเลยที่จะสงสัย
02:08:29 → 02:08:32 อะไรอย่างเงี้ย
02:08:32 → 02:08:38 สนการก้มหน้าก้มตาเอใช่พิษก็พิษนะ
02:08:38 → 02:08:41 อินซูลินก็อินซูลินนะเพราะว่าที่ี่หมายก็
02:08:41 → 02:08:43 ล้างไจรอ
02:08:43 → 02:08:47 ว้าใช่ส่วนใหญส่วนใหญ่มาเป็นเป็นการท่อง
02:08:47 → 02:08:53 ่องจำต่อๆกันมาครับ
02:08:53 → 02:08:57 ผมพูดพูดถึงน้ำด่างนี่ผมเคยกินนะพี่หมอ
02:08:57 → 02:09:03 อือผมเอาน้ำขี้เถ่ามากินสมัยก่อนเอืเรียบ
02:09:03 → 02:09:07 ร้อยเลยตกตกกลางคืนปั๊บนี่ร้อนวูบวาบวูบ
02:09:07 → 02:09:11 วาบวูวาเลยนอนไม่
02:09:11 → 02:09:15 หลับแล้วเคยเคยลองกินสลับกันนะครับเคยเคย
02:09:15 → 02:09:18 ไอ้ช่วงแรกๆอนะยังไม่เจอพี่หมออ่ะก็ลอง
02:09:18 → 02:09:22 ไม่กินไม่กินก็ปกติแล้วทิ้งไว้มากินอีก
02:09:22 → 02:09:24 สักรอบนึงเป็นอีกแล้วก็ไม่กินอีกแล้วก็
02:09:24 → 02:09:30 ลองอยู่ 3 รอบก็เลิกกินเลยเททิ้ง
02:09:30 → 02:09:33 เลยแล้วกินไม่เยอะด้วยนะครับกินแค่แก้ว
02:09:33 → 02:09:37 แก้วถ้วยชาถ้วยชาถ้วยเดียวเองอืหมายถึง
02:09:37 → 02:09:41 กินเพียวๆเลยเหรอครับกินผสมครับกินผสมแค่
02:09:41 → 02:09:45 ถ้วยชานะใช่คือเอาตักประมาณสัก 1 ช้อน
02:09:45 → 02:09:49 โต๊ะแล้วก็ใส่ถ้วยชาแล้วก็ก็ผสมน้ำเปล่า
02:09:49 → 02:09:52 อย่างเงี้ยครับแต่แต่ช่วงนั้นคือเป็นช่วง
02:09:52 → 02:09:54 ที่ผมออกกำลังกายหนักด้วยนะแล้วก็มีปัญหา
02:09:54 → 02:09:57 คอตีซ่ออยู่ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ตัวด้วย
02:09:57 → 02:10:01 อ่ะครับอเออยังก็ยังหาเหตุผลไม่ได้ว่าตอน
02:10:01 → 02:10:03 นั้นมันเกิดอะไรแต่ตอนแต่แต่ว่าอาการมัน
02:10:03 → 02:10:05 ชัดก็เลยเลิก
02:10:05 → 02:10:10 กินมารู้วันนี้อีกยไม่มีประโยชน์ก็เลยเออ
02:10:10 → 02:10:13 ไม่ได้ช่วยอะไรไม่ได้ช่วยช่วยทำให้นอนไม่
02:10:13 → 02:10:16 หลับะพี่หมอแล้วหูมันวูบวาบเหมือนเป็นคน
02:10:16 → 02:10:20 คนวัยทองอ่ะพี่หมอ
02:10:20 → 02:10:23 เหมือนจะเยอะไปหน่อยนึงมั้ง 1 ช้อนโต๊ะ
02:10:23 → 02:10:27 นั่น 1 ชน 1 ช้อนโต๊ะ 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ
02:10:27 → 02:10:31 ครับน่าจะเยอะนะผมก็ไม่เคยได้ผมผมก็เคย
02:10:31 → 02:10:35 ทานแต่ไม่ได้ทานบ่อยก็ไม่มีผลอะไรนะแต่
02:10:35 → 02:10:38 ว่านกินน้อยกว่าทัดเยอะพอสมควรน่าจะ
02:10:38 → 02:10:43 ประมาณแค่น่า้อนชายกมั้งลงไปกระพงกระเพาะ
02:10:43 → 02:10:47 อะไรต่างๆแล้วก็ดูดซึมแค่ไหนก็ไม่รู้อ่ะ
02:10:47 → 02:10:50 อืแต่แต่ดูแล้วก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง
02:10:50 → 02:10:53 แล้วก็แล้วก็มีอาการผิดปกติอย่างที่บอก
02:10:53 → 02:10:56 อ่ะครับ 2-3 รอบก็เลยก็เลิกกิน
02:10:56 → 02:11:00 เลยครับคือกินอะไรก็ตามเนี่ยเลือดน่ะมัน
02:11:00 → 02:11:03 ไม่เป็นด่างหรอกเลือดมันจะเป็นด่างไม่ได้
02:11:03 → 02:11:06 นะฮะการปรับมดุลที่จะให้เลือกคนด่าเนี่ย
02:11:06 → 02:11:11 มันต้องปรับที่ที่ไตและที่
02:11:11 → 02:11:15 ปัสสาวะสุดท้ายก็ย้อนกลับมาให้ไตก็ทำหน้า
02:11:15 → 02:11:19 ที่ในการขับกดออกแล้วเลือดมันจะไปตับ
02:11:19 → 02:11:21 มันก็ย้อนกลับมาที่ต้องกินให้เป็นกินให้
02:11:21 → 02:11:25 ถูกที่พี่หมอบอกอ่ะใช่แล้วก็ร่างกายมัน
02:11:25 → 02:11:29 สนุนเองด้วยเคยเห็นมพวก LINE ที่เาแชร์
02:11:29 → 02:11:33 กันน่ะนะฮะที่บอกว่ากินอันนั้นนเลือดจะ
02:11:33 → 02:11:35 เป็นดังอันนี้เลจะเป็นด่างอะไรแล้วก็ไป
02:11:35 → 02:11:39 เขียนค่า PS มั่วๆอะไรก็ไม่รู้อ่ะนะอคือ
02:11:39 → 02:11:41 แล้วก็มันก็มีคนคนไม่มีความรู้เลยเนี่ย
02:11:42 → 02:11:44 เชื่อแล้วก็วิร์ส่งต่อกัน
02:11:44 → 02:11:47 มาน่ากลัว
02:11:47 → 02:11:49 มาก
02:11:49 → 02:11:55 ดีดีๆตอนนั้นเราก็ไม่มีความรู้เหมือน
02:11:55 → 02:11:59 กันไม่แต่แต่ในมุมของผมเป็นคือผมอาจจะไม่
02:11:59 → 02:12:01 ได้ชำนาญแต่ในความเป็นหมอเนี่ยเราก็รู้ไง
02:12:01 → 02:12:04 ว่า PS ของเลือดเนี่ยจริงๆเลือดมันเป็น
02:12:04 → 02:12:08 ถ้าเราเอาเอาถ้าเราตีว่าพ7เนี่ยมันเป็น
02:12:08 → 02:12:11 กลางอืเลือดเนี่ยมันจะเป็นกรดเอ้โทษมัน
02:12:11 → 02:12:13 เป็นด่างนิดๆนะเพราะว่ามันจะอยู่ประมาณ
02:12:13 → 02:12:19 7.3 กว่าๆถึง 7.4 กว่าๆอืจริงๆต้องถือ
02:12:19 → 02:12:22 ว่ามันเป็นด่างนะมันไม่ได้เป็นกรด
02:12:22 → 02:12:25 อเป็นด่างอ่อนๆใช่แล้วการที่เลือดเป็น
02:12:25 → 02:12:31 ด่างอ่อนๆได้ก็คือไตขับกดออกให้
02:12:31 → 02:12:35 อืทีนี้เวลาเราเครียดน่ะเวลาคอร์ติซอลเทำ
02:12:35 → 02:12:39 งานอย่างเช่นคอร์ติซอลเรับรู้แล้วล่ะว่า
02:12:39 → 02:12:44 พลังงานเนี่ยไม่พอนะพลังงานไม่ถูกอ่าจะ
02:12:44 → 02:12:46 เกินจะขาดหรือเเรียกว่า Energy imbalance
02:12:46 → 02:12:50 เนี่ยนะคอก็ Action เมื่อไหร่เนี่ยเมื่อ
02:12:50 → 02:12:53 นั้นเนี่ยเมื่อนั้นเนี่ยเลือดเลือดมันจะ
02:12:54 → 02:12:56 เป็น
02:12:56 → 02:13:01 ด่างเพราะว่าคิอเนี่ยเวลาแอชที่ไตเนี่ย
02:13:01 → 02:13:04 เขาจะพยายามกระตุ้นให้ไตขับกด
02:13:04 → 02:13:09 ออกแล้วจะขับออกแบบค่อนข้างวอร์อ่ะคือขับ
02:13:09 → 02:13:14 เกินเลยอ่ะขับเกินเลยซะจนนะความ
02:13:14 → 02:13:18 เป็นคือคือความเป็นด่างในเรื่องมันก็
02:13:18 → 02:13:23 เพิ่มขึ้นเพราะว่ามันขับกดออกมากมากๆๆๆพอ
02:13:23 → 02:13:25 เลือดมันเป็นด่างมากขึ้นเนี่ยมันจะมา
02:13:25 → 02:13:31 กระตุ้นที่ระบบหายใจนะให้เกิดการหายใจ
02:13:31 → 02:13:34 เร็วนะเร็วหาย
02:13:34 → 02:13:39 ใจายนั่นแหละก็เลยจะเกิดการแบบหอบเหนื่อย
02:13:39 → 02:13:42 หอบนะ
02:13:42 → 02:13:44 [เพลง]
02:13:44 → 02:13:50 อือันนี้คือคอร์ติซอลอเที่ว่าเครียดพอ
02:13:50 → 02:13:53 เครียดฮอร์โมนคอร์ติซอลเนี่ยมันจะทำให้
02:13:53 → 02:13:57 เลือดเป็นด่ามากขึ้นมันจะทำให้ไตขับกดออก
02:13:57 → 02:14:01 มากขึ้นบ่อยขึ้นนะ
02:14:01 → 02:14:07 แหละแล้วก็มันจะเกิดการหอบแบบแบบในลักษณะ
02:14:07 → 02:14:13 ที่เป็นแบบอะไรอ่ะหอบแบบเครียดออบแบบคน
02:14:13 → 02:14:17 เครียดแล้วเวลารักษาเนี่ยนะเคก็เลยจะต้อง
02:14:17 → 02:14:21 เอาถุงพลาสติกอ่ะมาคุม
02:14:21 → 02:14:26 โปงมาคุมโปงอ่ะนะเพื่อเก็บกัสแซยอ่ะที่มี
02:14:26 → 02:14:32 สภาพความไม่กดเนะเอาไว้ในทางเดินหายใจอื
02:14:32 → 02:14:33 ครับ
02:14:33 → 02:14:38 ผมเออก็ไม่มีอะไรอ่ะจะบอกให้ว่าเมื่อไหร่
02:14:38 → 02:14:42 ก็ตามที่ฮอร์โมนเครียดเยอะแล้วเออกฤทธิ์
02:14:42 → 02:14:45 ต่อไตเนี่ยจะทำให้ไตขับกดมากขึ้นแล้ว
02:14:45 → 02:14:46 เลือดเราจะเป็น
02:14:46 → 02:14:51 ดาบแล้วเลือกมนุษย์ที่เป็นด่าอันนี้มัน
02:14:51 → 02:14:52 เสียความ
02:14:52 → 02:14:57 สมดุลมันจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยติดเชื้อ
02:14:57 → 02:15:03 ได้
02:15:03 → 02:15:08 [เพลง]
02:15:08 → 02:15:11 ง่ายเลือดยิ่งเป็นด่างมากก็ยิ่งจะมีโอกาส
02:15:11 → 02:15:16 ติด
02:15:16 → 02:15:20 เชื้อ
02:15:20 → 02:15:23 มีอะไรีมสงสัย
02:15:23 → 02:15:24 [เพลง]
02:15:24 → 02:15:30 อะไแล้วเราจะไปแนะนำใครเยังไงดีล่ะกับไอ้
02:15:30 → 02:15:36 แนวทางเรื่องไตเสื่อม ckd แบบกินครับแบบ
02:15:36 → 02:15:38 เนี้ยมันก็
02:15:38 → 02:15:44 ต้องตามสต็ปของคุณหมอเลยครับ 1 6 ข้อ 1
02:15:44 → 02:15:47 2 3 4 5 6 เแล้วก็การเติมพลังงานที่
02:15:47 → 02:15:50 ถูกต้องต้องผมว่าตามสเต็ปตามเหตุตามผลมัน
02:15:50 → 02:15:55 จะโอเคกว่าดีกว่าถ้า
02:15:55 → 02:15:59 ว่าก็เปลี่ยนความคิดคนที่บางคนมันเเชื่อ
02:15:59 → 02:16:01 ไปแล้วก็อาจจะเปลี่ยนยากไปหน่อยครับผม
02:16:01 → 02:16:05 เนี่ยอันเนี้ยสำคัญนะต้องเปลี่ยนที่ 6
02:16:05 → 02:16:08 ข้อเนี้ยแล้วอาหารมื้อเย็นมื้อเย็นต้อง
02:16:08 → 02:16:12 ให้ถูกนะครับเพราะว่าไตมันจะซ่อมตอนกลาง
02:16:12 → 02:16:16 คืนตอนเรานอนหลับนะอืแล้ววัถุิสำคัญเลยก็
02:16:16 → 02:16:21 คือมื้อเย็นไม่เย็นเสง
02:16:21 → 02:16:29 จีครับผมเสงจริงโอเมก้า 3 ตัววัตุดิบ
02:16:29 → 02:16:33 วัถุดิบ
02:16:33 → 02:16:37 อือผมไม่รู้ว่าอาจารย์เจอประสบการณ์คล้าย
02:16:37 → 02:16:41 ๆผมมยนะฮะคือคือคนไข้โลกเรื้อหลังเนี่ยนะ
02:16:41 → 02:16:45 ฮะที่เราเจอตอนเช็คอัพหรือมามามาปรึกษา
02:16:45 → 02:16:48 เราเนี่ยอจะพบว่าคนใข
02:16:48 → 02:16:52 ที่ไม่ค่อยเชื่อฟังหหมออ่ะในวงเล็บหมอแผน
02:16:52 → 02:16:57 หลักนะแนวทางการกินยาการกินอาหารแบบแบบ
02:16:57 → 02:17:00 สนารอเมริกันเหรือ 5 หมู่มีแนวโน้มที่จะ
02:17:01 → 02:17:05 ฟังเราแล้วก็ย้ายมาตรงนี้มากกว่าใช่แต่คน
02:17:05 → 02:17:07 ไข้ที่เค้าอาจจะเปิดใจฟังเราจริงอ่ะแต่
02:17:07 → 02:17:11 เค้ายังเค้าก็ยังยึดติดกับหมอประจำเค้า
02:17:11 → 02:17:14 อ่ะที่ที่เ้ารักษาด้วยด้วยแนวทางกระแส
02:17:14 → 02:17:18 หลักเนี่ยมันจะยากกว่าอันนี้ที่ผมสังเกต
02:17:18 → 02:17:22 เลยนะแต่คนไข้ที่ดูว่าเป็นคนไข้ดื้อคนไข้
02:17:22 → 02:17:25 คุมน้ำตาลไม่อยู่คนไข้ขาดยาอะไรพวกเนี้ย
02:17:25 → 02:17:30 เออหึกินบงกินบ้างไม่รู้แต่ไอพวกเนี้ยพวก
02:17:30 → 02:17:34 ที่มันดูแล้วมันคนไข้ดื้อคนไข้ไม่เชื่อ
02:17:34 → 02:17:37 ฟังหมออ่ะอะไรแบบเนี้ยนะอือคุยไปคุยมา
02:17:37 → 02:17:39 เนี่ยมันมันกลายเป็นว่าเดี๋ยวเนี้ยผมรู้
02:17:40 → 02:17:42 สึกว่าผมคุยกับคนไข้ดื้อพวกเนี้ยรู้
02:17:42 → 02:17:46 เรื่องกว่าหรือว่าเห็นแววว่าเา้าจะดีขึ้น
02:17:46 → 02:17:49 เนี่ยได้มากกว่าคนคนไข้ที่เชื่อฟังหมอที่
02:17:49 → 02:17:54 เป็นแนวทางหลักอีกใช่เหมือนเกำลังหาคำตอบ
02:17:54 → 02:17:58 หาคำตอบอะไรต่างๆที่มันจะโป๊ะเชะถูกใจเ้า
02:17:58 → 02:18:00 หรือว่าเเรียกกระทุ้งเยือกเไปึงขั้วหัวใจ
02:18:00 → 02:18:05 อ่ะนะแล้วจะโอเคด้วยเลยเงี้เออเคคกังคือ
02:18:05 → 02:18:09 กลายเป็นโอเคง่ายกว่าง่ายกว่าคนไข้ที่ที่
02:18:09 → 02:18:12 ทำตามหมออย่างเคร่งครัดซะอีกอ่ะ
02:18:12 → 02:18:16 ใช่เป็นความจริงครับผมเออเป็นความ
02:18:16 → 02:18:23 จริง
02:18:23 → 02:18:28 เ้อก็อย่างงี้แหละอืผมว่าเาต้องมีข้อมูล
02:18:28 → 02:18:33 อะไรบางอย่างที่ไม่เชื่อ
02:18:33 → 02:18:38 หมอมันก็ไม่มันอาจจะมีข้อมูลก็มีฮะบางคนเ
02:18:38 → 02:18:40 ก็อาจก็มีเหมือนกันที่เาเริ่มมาฟังพวก
02:18:40 → 02:18:43 ไคโตอะไรแบบเนี้ยแต่ผมจะบอกให้ว่าพวก
02:18:43 → 02:18:46 เนี้ยยังไม่ใช่ส่วนใหญ่ในความรู้สึกผมนะ
02:18:46 → 02:18:49 ไม่เคยนั่งจดแต่ว่ากะๆเอาเนี่ยไม่เกิน
02:18:49 → 02:18:53 30% อแต่ 70% ที่ที่ว่าคนไข้ดื้อแล้ว
02:18:53 → 02:18:56 เค้ากลับจะฟังเราเนี่ยเพราะว่าเค้ารักษา
02:18:56 → 02:18:59 แผนหลักไปเ้าก็ไม่มีอะไรดีขึ้นแล้วสุด
02:18:59 → 02:19:01 ท้ายมันก็ตะบะแตกไงคือมันก็ไม่สามารถที่
02:19:01 → 02:19:04 จะคุมอาหารอะไรได้แคร่งคัดไปได้ตลอดอ่ะ
02:19:04 → 02:19:07 มันก็กินผิดมั่งถูกมั่งหลุดมั่งอะไรมั่ง
02:19:07 → 02:19:10 แล้วพอมันเป็นเยอะเอาไม่อยู่น้ำตาลขึ้นยา
02:19:11 → 02:19:13 ก็เริ่มหนักพอยามันเริ่มหนักมันกระตุ้น
02:19:13 → 02:19:16 อินซูรินมันก็มีอาการสวิงของน้ำตาลบางวัน
02:19:16 → 02:19:19 กินข้าวไม่ลงน้ำตาลต่ำมันก็จะเป็นลมเอา
02:19:19 → 02:19:22 บางวันก็พอพอกินอร่อยก็เกินอะไรแบบเนี้ย
02:19:22 → 02:19:26 นะยิ่งทีก็ยิ่งใช้ยาหนักแล้วบางทีเอายาพก
02:19:26 → 02:19:28 พกยามาด้วยนะบอกเนี่ยคุณหมอประจำจ่ายยามา
02:19:28 → 02:19:31 ขนาดนี้อะไรอย่างเงี้ยนะเอามาให้เราดูถาม
02:19:31 → 02:19:34 ไปถามมาบอกคุยไปคุยมาปรากฏกินอยู่สักไม่
02:19:34 → 02:19:37 ถึงครึ่งของที่หมอสั่งเงี้ยอือืหรือบางคน
02:19:37 → 02:19:41 ก็แอบลดรเอ่อพงไข้เบาหวานไททูเนี่ยบางคน
02:19:41 → 02:19:45 น่ะลดลดอินซูลินฉีดเองอ่ะเพราะว่าฉีดตาม
02:19:45 → 02:19:47 หมอสั่งน่ะมันช็อกอยู่เรื่อยอยู่อยู่ที่
02:19:47 → 02:19:49 บ้านไม่มีใครช่วยได้คือเค้าจำเป็นต้องเอา
02:19:49 → 02:19:54 หนีตายอะไรแบบเนี้ยมันก็มีอืพอมาคุยกับ
02:19:54 → 02:19:56 เราเราบอกเลองหยุดฉีดดูก็ได้แล้วก็ถ้ามัน
02:19:56 → 02:19:59 ขึ้นมากก็เดี๋ยวค่อยว่ากันมีอะไรก็ศึกษา
02:19:59 → 02:20:02 เราได้อะไรอย่าเงี้ยแต่ก็ให้ให้ให้ตามหมอ
02:20:02 → 02:20:16 หลักไปก่อนเพราะเราไม่ใช่เจ้าของไข้
02:20:16 → 02:20:22 อื
02:20:22 → 02:20:27 ฮัลโหลพี่โพสต์เรื่องโปรตีนพืชไปอ่ะนะ
02:20:27 → 02:20:30 ครับผมอันนั้นน่ะจริงๆแล้วเนี่ยมันมัน
02:20:30 → 02:20:33 เป็นโปรตีนพืชที่ให้กินเพื่อสร้างกล้าม
02:20:33 → 02:20:38 เนื้อแล้วไปมีผลทางอ้อมต่อไต
02:20:38 → 02:20:43 อืมาคู่กันเลยครับผมเออคือโปรตีนพืชพวก
02:20:43 → 02:20:46 เนี้ยจริงๆก็ทำให้ไตทำงานหนักเท่าๆกับ
02:20:46 → 02:20:47 โปรตีนสัตว์
02:20:47 → 02:20:51 แต่เขาจะมีผลต่อกล้ามเนื้อมากกว่าไตแต่ใน
02:20:51 → 02:20:54 ที่สุดเดี๋ยวกล้ามเนื้อจะไปช่วย
02:20:54 → 02:20:57 ไตโดยเฉพาะคนผอมๆคนผอม
02:20:58 → 02:21:02 ๆเพราะว่าคนผอมๆเนี่ยมันสร้างโปมันสร้าง
02:21:02 → 02:21:05 กล้ามเนื้อได้จากโปรตีนพืช
02:21:05 → 02:21:10 อ่าได้ได้เยอะกว่าได้เยอะกว่านะดีกว่าที่
02:21:10 → 02:21:15 จะไปกินแต่โปรตีนสัตว์เพียวๆนะมันมีมันมี
02:21:15 → 02:21:18 สัดส่วนของของสัตว์ต่อพืพืชโดยมีพืชเข้า
02:21:18 → 02:21:21 มาเนี่ยมันจะสร้างกล้ามเนื้อได้ง่ายกว่า
02:21:21 → 02:21:25 แล้วก็ได้เยอะกว่าอครับ
02:21:25 → 02:21:29 ผมเนี่ยเป็นพวกสายแป้งหรือว่าสายพุมตับ
02:21:29 → 02:21:33 ไทรรอยด์อะไร
02:21:33 → 02:21:39 งี้พอดีมีอีกคนนึงที่ที่เคยไทรรอยด์เป็น
02:21:39 → 02:21:43 พิษนะฮะที่เชื่อโสอะไรอ่ะที่
02:21:43 → 02:21:47 เค้าอันเนี้ยเป็นเคสแรกๆอ่ะที่เรามาเป็น
02:21:47 → 02:21:49 เป็นตัวอย่างเคสน่ะยังไม่ได้เอาลงตาราง
02:21:49 → 02:21:54 เลยพอดีแสดไปบอกว่ามีผลแลปครั้งล่าสุด
02:21:54 → 02:21:57 มั้ยเพราะว่าแต่ก่อนเนี่ย Total
02:21:57 → 02:22:00 คอเลสเตอรอลมัน 700 กว่าแล้วก็ L ldl
02:22:00 → 02:22:05 มัน 600 กว่าตั้งแต่ช่วงประมาณกรกฎาคมปี
02:22:05 → 02:22:08 ที่แล้วน่ะจนถึงบัดนี้แล้วไม่รู้ค่าแลป
02:22:08 → 02:22:11 เป็นตายร้ายดียังไงคนนี้เเป็นนักวิ่งเป็น
02:22:11 → 02:22:16 ทรงไทรรอยด์นะแล้วก็มีภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
02:22:16 → 02:22:22 ด้วย
02:22:22 → 02:22:27 ก็น่าศึกษานะถ้าเกิดว่า
02:22:27 → 02:22:31 เอ่อเนี่ยค่าแลบมันดูสูงๆอย่างเงี้ยนะแต่
02:22:31 → 02:22:36 ตอนนั้นมันยังไม่มีทฤษดีออริ N1 เนี่ย
02:22:36 → 02:22:40 นะก็เพิ่งจะมามีตอนหลังเนี่ยก็ไม่รู้ว่า
02:22:40 → 02:22:43 เค้าเไปปรับหรือยังเพราะเค้า่ะมันสายแป้ง
02:22:43 → 02:22:48 อยู่แล้วอ่ะนะแล้วก็ออกกำลังกายเยอะน่ะนะ
02:22:48 → 02:22:52 ครับผมคือเหมือนกันนะฮะโปรลอง If โปรลอง
02:22:52 → 02:22:57 ฟ้าและออกกำลังกายเยอะๆนะพวกนี้นี่พวกนี้
02:22:57 → 02:23:02 นี่ไม่ใช่นะฮะนะแล้วก็แล้วก็กินยังไม่ถูก
02:23:02 → 02:23:05 อ่ะนะทั้งพลังงานทั้งโปรตีนอะไรต่างๆ
02:23:05 → 02:23:09 เนี่ยพวกนี้ยังไงเนี่ยไตไตก็แย่อย่างคน
02:23:09 → 02:23:12 ที่ว่าเนี่ยที่ว่า Total คสอ 700 กว่า ldl
02:23:12 → 02:23:18 600 กว่าเก็ยังน่าจะสัก 40 ได้มั้งนะ
02:23:18 → 02:23:23 ปรากฏว่าไตเนี่ย efr ก็เหลือ 60 กว่าๆอื
02:23:23 → 02:23:28 เพราะว่ามันว Training อ่ะนะนะก็คือวิ่ง
02:23:28 → 02:23:33 Exercise นะต้องปรับลดลงอ่ะนะแล้วก็แล้ว
02:23:33 → 02:23:38 ก็อาหารเนี่ยเออก็ต้องปรับให้ถูกนะอืแต่
02:23:38 → 02:23:42 ว่าบัดนี้ก็ยาวนานมาเกินครึ่งปีไปแล้วนะ 8
02:23:42 → 02:23:45 เดือนก็ไปแล้วไม่รู้เป็นย
02:23:45 → 02:23:49 ไงครับผมไอ้ไอตอนสั่งให้ตัวเองวิ่งเนี่ย
02:23:49 → 02:23:53 มันก็ยากอะนะครับไอ้ที่สั่งตัวเองให้หยุด
02:23:53 → 02:23:56 วิ่งนี่ยากกว่านะพี่
02:23:56 → 02:24:02 หมอกว่ากว่าผมจะอะไรนะยอมยอมไม่วิ่งยอม
02:24:02 → 02:24:06 แบบวิ่งน้อยลงนี่มันสู้กับใจตัวเองพอสม
02:24:06 → 02:24:09 ควรเลยนะมันก็ถามคำถามตัวเองเหมือนกันนะ
02:24:09 → 02:24:14 กูจะวิ่งอะไรนักหนาวะมันเสพติดมันเสพติด
02:24:14 → 02:24:18 เออมันก็แปลกเหมือนกันนะแต่ดูแต่ดูหน้า
02:24:18 → 02:24:21 ตอนเก่าเก่าๆนี่ก็โทรมอ่ะยิ่งวิ่งยิ่ง
02:24:21 → 02:24:26 โทรมโมกินไม่พอด้วยแหละกินไม่พอพอผมใช้
02:24:26 → 02:24:30 ของผมร่างกายมันใช้ปุ่มกดระเบิดตัวเองเลย
02:24:30 → 02:24:35 เราหยุดวิ่งโก็
02:24:35 → 02:24:41 โหดเปลี่ยนกันเดินใช่มั้ยครับครับผมเดิน
02:24:41 → 02:24:43 ที่เปลี่ยนเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นเดินใช่มั้ย
02:24:43 → 02:24:44 ฮะ
02:24:44 → 02:24:48 ไม่เดินเดินได้อย่างเดียวครับตอนนี้
02:24:48 → 02:24:51 เดินเดินใช้ใช้วิธีการ
02:24:51 → 02:24:54 เดินคือตั้งแต่หายจากสตกมานี่ยังไม่ได้
02:24:54 → 02:24:56 กลับไปวิ่งเลยใช่มั้ยครับยังยังวิ่งไม่
02:24:57 → 02:24:59 ได้ครับเพราะมันยังการทรงโตยังไม่ค่อย
02:24:59 → 02:25:02 โอเคครับคุณหมออ๋อมันเป็นโอเคมันเป็นที่
02:25:02 → 02:25:06 ฝั่งไอ้สมองเราด้วยเนาะที่มันยังใช่มัน
02:25:06 → 02:25:09 ยังกลับมาไม่ 100% เนาะใช่ครับผมใช่ครับ
02:25:09 → 02:25:11 ผมก็เลยใช้วิธีการเดินพี่เนตเ้าไม่ใช่
02:25:11 → 02:25:15 วิ่งธรรมดานะพี่วิ่งวิ่งเสร็จวิ่งเสร็จเ
02:25:15 → 02:25:19 ตบด้วยเบียร์
02:25:19 → 02:25:22 ิ่งเสียตบด้วยเบียร์ตบด้วยเบียร์
02:25:22 → 02:25:26 โปุ่มระเบิดตัวเองมันมีปุ่มระเบิดตัวเอง
02:25:26 → 02:25:30 โอน่าจะเจอพี่หมอก่อนนะพี่เนตผมไม่เจอพี่
02:25:30 → 02:25:35 หมอนี่ก็น่าจะแย่ว่ะใช่ๆๆเออวิ่งเอาเป็น
02:25:35 → 02:25:39 เอาตายเลยตอนนั้นน่ะ
02:25:39 → 02:25:44 โอ้โหตบด้วยเบียร์
02:25:44 → 02:25:49 นี่เอ้าคุณพ่อผมยังชอบวิ่งเลยครับแกอายุ
02:25:49 → 02:25:52 77 แล้วนะ
02:25:52 → 02:25:55 อืหลังๆก็วิ่งน้อยนะวิ่งแกแต่อดวิ่งไม่
02:25:55 → 02:26:01 ได้อ่ะต้องขอสักนิดนึง
02:26:01 → 02:26:04 อ่ะมันก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะแต่ถ้าเราไป
02:26:05 → 02:26:07 วิ่งเยอะไปมันก็มีปัญหา
02:26:07 → 02:26:11 ใช่แต่แต่เหมือนเ้ามีความความเชื่อของเขา
02:26:11 → 02:26:14 ไงว่าเออไม่ไม่วิ่งไม่ได้อะไรแบบเนี้ย
02:26:14 → 02:26:17 หรือถ้าเอามาจะมาเดินอย่างเดียวเหมือนกับ
02:26:17 → 02:26:21 มันมันไม่เหนื่อยพออ่ะมันไม่ได้อ่ะอะไร
02:26:21 → 02:26:24 แบบเนี้ยอืใช่ครับหรือหรือถ้าหากว่าไม่
02:26:24 → 02:26:27 ได้มีเวลาจะมาออกกำลังกายกันมากมายเนี่ย
02:26:27 → 02:26:30 ถ้ามาเดินอยู่ก็ต้องเดินเป็นชั่วโมงใช่่
02:26:30 → 02:26:33 มยก็วิ่งมันเต็มที่ไปเลยสัก 10 นาทีพอ
02:26:33 → 02:26:36 อะไรแบบเนี้ยเพเมีความรู้สึกอย่างงั้น
02:26:36 → 02:26:40 ต้องวิ่งออืใช่ครับ
02:26:40 → 02:26:44 ผมผมไปแบบสายแบบวิ่งแบบชอบเก็บบรรยากาศ
02:26:44 → 02:26:48 รอบทางข้างทางอะไรครับผมวิ่งในเมืองอะไร
02:26:48 → 02:26:50 หรือวิ่งตามสถานที่ต่างๆครับผม
02:26:50 → 02:26:56 ไปเลยเสพ
02:26:56 → 02:27:01 ติดเหมือนที่แชร์งานวิจัยของเดนมาร์กให้
02:27:01 → 02:27:07 ดูอ่ะนะอ๋อครับผมให 25 ปีอ่ะ 25
02:27:07 → 02:27:13 ปีแล้วก็ถึงอะไร 2017 น่ะ
02:27:13 → 02:27:19 1990 8 กีฬานะที่ทำให้อายุไขยืน
02:27:19 → 02:27:25 ยาวได้เทนนิสเลยเออแต่กีฬาที่ลดความ
02:27:25 → 02:27:28 เครียดอันดับ 1 คือแบดมินตันนะฮะ
02:27:28 → 02:27:31 แบดมินตันเนี่ยคือกีฬาลดความเครียดอันดับ
02:27:31 → 02:27:34 1 คือแบดมินตันอันดับ 2 เตะฟุตบอลอันดับ
02:27:34 → 02:27:39 3 ชกกระสอบทรายอันดับ 4 ว่าย
02:27:39 → 02:27:44 น้ำแล้วก็อันดับ 5 ก็คือพวกเดิน
02:27:44 → 02:27:47 อ่าเดินแบบจอกกิ้ง
02:27:47 → 02:27:49 เดินเดินเร็วหน่อยเดินเร็วไม่ใช่จอกกิ้ง
02:27:49 → 02:27:51 เดิน
02:27:51 → 02:27:54 เร็ครับมันมันมีคนญี่ปุ่นที่เขาสอนสโลว
02:27:55 → 02:27:57 จ๊อกอ่ะครับพี่หมออันนี้เป็นไงบ้างอ่ะ
02:27:57 → 02:28:01 ครับของฮากิทานากะครับใชออาจารย์ผมเลยนะ
02:28:02 → 02:28:05 คนนั้นน่ะเอาหรอชอบดูแกไม่อาจารย์พี่เลย
02:28:05 → 02:28:10 เหรอไม่ใช่ไม่ที่วิ่งระเบิดระเบิดตัวเองอ
02:28:10 → 02:28:15 นะไม่ใช่เค้าอสอนดีแต่เราเราทำไม่ดีเออ
02:28:15 → 02:28:17 แต่ผมผมก็วิ่งตามที่เบอกหมายถึงว่าช่วง
02:28:17 → 02:28:21 แรกๆ่ะครับสโลวจ๊อกอ่ะวิ่งๆแบบใช่ๆกึ่ง
02:28:21 → 02:28:25 เดินกึ่งวิ่งอ่ะมันบอกไม่ถูกเหมือนกัน
02:28:25 → 02:28:31 อือดีคุมเ้จังหวะหัวใจได้ด้วยแล้วก็หายใจ
02:28:31 → 02:28:33 อ่า
02:28:33 → 02:28:40 ใ่แต่ว่าตอนนั้นเราก็อัดจะเอาจำนวนกิโลไง
02:28:40 → 02:28:43 อื
02:28:43 → 02:28:48 โอเคครับผมมีอะไรถามเพิ่มเติมมั้ย
02:28:48 → 02:28:52 ครับยังไม่มีครับไม่มีตอนนี้ 2 ชมครึ่งละ
02:28:52 → 02:28:56 อุยอได้เวลาอันสม
02:28:56 → 02:28:58 ควรโอเค
02:28:58 → 02:29:02 นั้นปิดไลฟเนาะพี่หมอเนาะแล้วทำไมช่วงนี้
02:29:02 → 02:29:04 ก็ไม่มีบเลิบกันเลย
02:29:04 → 02:29:10 ล่ะเงียบเลย
02:29:10 → 02:29:15 อ่ะนี่นี่ก็เงียบ
02:29:15 → 02:29:17 ครับ
02:29:17 → 02:29:20 น่าจะเลยช่วงเวลาตรวจกันนะครับมันเลยปลาย
02:29:20 → 02:29:24 ปีมาแล้วะพักนึงอย่างตรวจตอนนี้เ้าก็ไม่
02:29:24 → 02:29:28 เคยมีอะไรตรวจประจำปีมันไม่มีแล้วอ่ะครับ
02:29:28 → 02:29:32 แล้วก็เลยไม่รู้สรุปว่าเอาไงกันดีถ้าเกิด
02:29:32 → 02:29:36 ว่า ow C แล้วไขมันสูง
02:29:36 → 02:29:41 นะทุกคนเงียบไปหมดเไม่มีใครออกมาโพส
02:29:42 → 02:29:44 เรื่องค่าหลงค่าแลบหรือว่า
02:29:44 → 02:29:49 เรื่องจะไปในแนวแวทางไหนจะทำอะไรนะนี้
02:29:49 → 02:29:53 หมายถึงในในห้อง Fast เราไม่ทั่วไปหมดเลย
02:29:53 → 02:29:55 อ่ะทั่วหมด
02:29:55 → 02:29:59 เออไม่มีไม่มีมาโพสต์ผลหลงผลแลบแล้วมาถาม
02:29:59 → 02:30:02 แล้วนะส่วนมากเจะปล่อยให้เป็นหน้าที่หมอ
02:30:02 → 02:30:06 ครับมีไม่กี่คนล่ะครับ
02:30:06 → 02:30:13 เหรอก็คือกินยาเออนล่ะไม่ไม่คิดสนใจที่จะ
02:30:13 → 02:30:18 แปรผลจะอะไรเองหรอฮะใช่ครับผมเอออ้าวแล้ว
02:30:18 → 02:30:22 ก็เนี่ยต่างประเทศเนี่ยเเไปฮิตเติมคาฟ
02:30:22 → 02:30:26 เติมอะไรกันน่ะแล้วก็ได้ผลแล้วก็มาโพสต์ๆ
02:30:26 → 02:30:30 อะไรกันเงี้ยนะอืในประเทศไทยเราไม่มีใคร
02:30:30 → 02:30:35 อยากจะทำตามหรืออะไรตอนนี้ตอนนี้ที่ฮิตๆ
02:30:35 → 02:30:41 กันก็ไอ้นี่ละครับอะไรนะใส่ cgm อ่ะครับ
02:30:41 → 02:30:47 โอโอ๋อหลายคนก็ออกมามาๆมาใส่มาเทสกันอะไร
02:30:47 → 02:30:49 กันเยอะขึ้น
02:30:49 → 02:30:56 เอ่อมันมีมันมีอะไรอ่ะประมาณ 1,700 กว่า
02:30:56 → 02:30:59 บาทอะไรเงี้ยแต่มันได้อาทิตย์เดียวอ่า
02:30:59 → 02:31:03 ครับที่ที่ผมสั่งได้ประมาณ 15 วันครับ
02:31:03 → 02:31:09 1000 1,500 ครับของโแน่าน่าจะประมาณวัน
02:31:09 → 02:31:13 2 วันนี้น่าจะถึงแล้วครับผมอเพราะว่าตอน
02:31:13 → 02:31:16 ตอนๆตอนผมสั่งเ้าบอกว่ารอของก่อนก็เจ้า
02:31:16 → 02:31:22 เดียวกับก็ของเอ่อคุณครูธันญ่าออืใช่ครับ
02:31:22 → 02:31:27 ผมที่ที่เค้าขายตัว gki ครับคเดียวกัน
02:31:27 → 02:31:30 [เพลง]
02:31:30 → 02:31:35 อืถ้ามันไอ้ cgm นี่นะถ้ามันเปลี่ยนเป็น
02:31:35 → 02:31:41 ckm นี่มันจะมันขนาดไหนอือใช่ๆๆเออใช่ที
02:31:41 → 02:31:43 นี้ทีนี้พูดถึงว่าตัวคีโตนเนี่ยการตรวจ
02:31:43 → 02:31:46 คีโตนมันแพงกว่าการตรวจน้ำตาลไง
02:31:46 → 02:31:50 อืออย่างอย่าสมมุติอย่างที่ผมซื้อของคู
02:31:50 → 02:31:53 ทันย่าเเนี่ยตัวแถบตรวจเนี่ยมาตกวันละ
02:31:53 → 02:31:56 สมมุติถ้าราคาที่ที่ไม่ใช่ล็อตเก่าเข้ามา
02:31:56 → 02:32:00 เซลเนาะมันตกประมาณวันละ 100 บาทเผมผมกะ
02:32:00 → 02:32:04 คร่าวๆนะคือคีโตนอาจจะไปไปละ 80 บาทน้ำ
02:32:04 → 02:32:06 ตาลอาจจะ 20 บาทอะไรอย่างเงี้ยต่อต่อ 1
02:32:06 → 02:32:10 เทสที่เราตรวจใช่มเพราะฉะนั้นถ้ามันเป็น
02:32:10 → 02:32:12 จาก cgm เนี่ยถ้ามันมันเปลี่ยนจากการดู
02:32:12 → 02:32:17 กูโค้ดมันนั่งดูคีโตนเลยผมผมว่ามันจะมัน
02:32:17 → 02:32:19 จะเจ๋งกว่าการดูไอ้ cgm แบบมากๆเลยแต่แต่
02:32:20 → 02:32:22 ราคามันจะขนาดไหนมันคงแพงอ่ะผมคิดว่านะ
02:32:22 → 02:32:26 ถ้ามันทำได้น่าจะแพงกว่า
02:32:26 → 02:32:29 ครับหรือหรือไม่งั้นก็คือต้องใช้แบบว่า
02:32:29 → 02:32:32 ไม่ต้องตรวจบ่อยคือไม่ต้องมานั่งดูกันทุก
02:32:32 → 02:32:35 เท่าไหร่ผมไม่แน่ใจ ttm มาดูทุกกี่นาที
02:32:35 → 02:32:39 แต่แต่แต่แต่แต่ cqm เนี่ยไอ้ ckm เงี้ย
02:32:39 → 02:32:43 สมมุติเป็นเป็นคเป็นเป็นคีโตนเนี่ยอาจจะ
02:32:43 → 02:32:45 ดูทุก 2-3 ชั่วโมงอะไรอย่างงี้ก็ได้ไม่
02:32:45 → 02:32:48 ต้องไปนั่งดูบ่อยเหมือนต่าน่ะแต่ว่าถ้า
02:32:48 → 02:32:50 เรารู้ว่าเรากินอะไรหลุดกินอะไรพลาดช่วง
02:32:50 → 02:32:54 ฟีช่วงฟาดอนมมอมีผลขนาดไหนคือมันจะเห็น
02:32:54 → 02:32:55 ภาพ
02:32:55 → 02:32:58 ไงมันมันมันจะเห็นภาพแล้วมันจะเห็นชัด
02:32:58 → 02:33:00 กว่าไอ้ไอ cgm
02:33:00 → 02:33:03 อ่ะเพะพอคียโตนเมันคือตัวบอกเลยว่าคุณ
02:33:03 → 02:33:12 อยู่คุณอยู่ฝั่งไหนคุณจะซ่อมหรือคุณจะ
02:33:12 → 02:33:17 เก็บก็อาจจะมีอาจจะมีการทำออกมาก็ได้ใน
02:33:17 → 02:33:21 อนาคตตอนนี้ก็จ่อกันนิ้วพุ่นไป
02:33:21 → 02:33:26 ก่อนผมยอมผมผมเลยสั่ง cdm ดูไว้ไว้ก่อน
02:33:26 → 02:33:30 ครับเผื่อเผื่อดูค่าน้ำตาลแล้วค่อยมาเจาะ
02:33:30 → 02:33:35 กีโตแล้วค่อยมาหารค่าเองครับผมถ้าเจาะที
02:33:35 → 02:33:45 เดียว 2 ครั้งก็ไม่ไหว
02:33:45 → 02:33:49 แล้ว
02:33:49 → 02:33:50 ย้า
02:33:50 → 02:33:55 ๆโอเคครับงั้นขอบคุณพี่หมอขอบคุณทุกคนนะ
02:33:55 → 02:33:59 ครับฮัลโหลกำลังถามคุณหมอพอดีนะครับอๆถาม
02:33:59 → 02:34:04 ต่อนะครับเอ่อิ่งจี๊เงจีที่ที่จะสั่งในาร
02:34:04 → 02:34:08 Heart And So ครับ
02:34:08 → 02:34:14 ผมสั่งยากใช่มยใช่ครับผมก็เลยไปเจออีกอีช
02:34:14 → 02:34:17 นึงในไอ Herb แต่เป็น
02:34:17 → 02:34:19 เป็นตัวคล้ายๆกันเลยครับเป็นสกัดเย็น
02:34:19 → 02:34:22 เหมือนกันครับผมแต่คละ
02:34:22 → 02:34:29 ยี่ห้อครับผมก็อ่านรีิตามรีวิวดูเพว่าก็
02:34:29 → 02:34:32 สรรพคุณคล้ายๆกันเลยครับ
02:34:32 → 02:34:39 ผมจากวัวกินหญ้าเนอะใช่ๆัววัวกินหญ้าแล้ว
02:34:39 → 02:34:43 ก็ไดฟชครับผม
02:34:43 → 02:34:50 อืลองดูก็ได้นะลองดูานี่แหละใช่ของ
02:34:50 → 02:34:55 ซอยใช่ของรัสเซียครับผมซอยเเหมือนกับ
02:34:55 → 02:35:00 จำกัดส่งแค่ออสเตรเลียแคนาดาอเมริกา 3
02:35:00 → 02:35:12 ประเทศก็เลยแบบใครส่งไม่ได้ก็เลยเศร้า
02:35:12 → 02:35:14 เลยเอา
02:35:15 → 02:35:20 ออ๋อครับ
02:35:20 → 02:35:25 ผมโอเตอนนี้ก็เริ่มๆปั่นน้ำสลัดให้คุณแม่
02:35:25 → 02:35:26 ลองทาน
02:35:26 → 02:35:31 ดูให้แกลองชิมรสชาติก่อนว่าแนวทางการกิน
02:35:31 → 02:35:33 จะเป็นประมาณอย่างงี้อย่างงี้วางแนวทาง
02:35:33 → 02:35:36 ให้แกแต่แกเริ่มค่อยๆ
02:35:36 → 02:35:41 ปรับแกก็ว่าเริ่มโอโอเคเริ่มกินกินได้พอ
02:35:41 → 02:35:46 กินได้แล้วเดี๋ยวค่อยๆให้แกเข้ามาเต็มตัว
02:35:46 → 02:35:48 เหมือน
02:35:48 → 02:35:53 กับจับแกโยกจากอาหารปกติมาเป็นแนวทางนี้
02:35:53 → 02:35:59 แกก็เลยค่อยๆปรับตัว
02:35:59 → 02:36:06 ครับต้องลดาฟให้ได้ใช่ครับผมรถคาฟแล้วก็
02:36:06 → 02:36:09 รถ
02:36:09 → 02:36:14 ใช่บอกกันแล้วมื่อแรกคือรถาฟออกไป
02:36:14 → 02:36:17 เลย
02:36:17 → 02:36:21 แล้วให้แกกินกินแล้วรู้สึกว่าแกอิ่มตั้ง
02:36:21 → 02:36:26 แต่มื้อแรกแกจะมื้อแบบกินจุ๊บๆบๆๆจะหายไป
02:36:26 → 02:36:30 อะไรครับผมเพราะแกเป็นคนที่ว่าชอบกินอะไร
02:36:30 → 02:36:44 นิดๆหน่อยนิดหน่อยแต่กินบ่อยกิน
02:36:44 → 02:36:50 ที
02:36:50 → 02:36:53 ฮัลโหล
02:36:53 → 02:36:59 ฮัลโหลฮัลโหลดีมยครับฮัลโหลดีมั้ยครับ
02:36:59 → 02:37:04 ฮัลโหลครับปิดได้โอเคครับนั้นขอบคุณพี่
02:37:04 → 02:37:07 หมอขอบคุณทุกคนเลยนะครับอครับผมครับ
02:37:07 → 02:37:10 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับผมขอบคุณครับ
02:37:10 → 02:37:12 สวัสดีครับ
02:37:12 → 02:37:14 [เพลง]
02:37:14 → 02:37:16 ครับ
02:37:16 → 02:37:18 เฮ้
02:37:18 → 02:37:20 เฮ
02:37:21 → 02:37:28 เฮ้
02:37:28 → 02:37:43 [เพลง]
02:37:43 → 02:37:46 เ้