00:00:00 → 00:00:03 Single Being podcast about Living
00:00:03 → 00:00:07 your Best Single Life โดยหมอผิง
00:00:07 → 00:00:11 แพทย์หญิงธิดารุจิพัฒนกุล
00:00:11 → 00:00:14 ด้วย algorithm ของ netflix เนี่ยมันก็จะ
00:00:14 → 00:00:17 แบบว่าีดสิ่งที่คิดว่าเหมาะกับคนดูใช่
00:00:17 → 00:00:19 ไหมมคะซึ่งสิ่งที่มันฟีดมาให้หมอก็คือ
00:00:19 → 00:00:22 สารคดีที่ชื่อว่า you are what you
00:00:22 → 00:00:25 eat a Twin experiment เล่าถึงการทด
00:00:25 → 00:00:28 ลองที่เกี่ยวกับเรื่องของโภชนาการอาหาร
00:00:28 → 00:00:31 แล้วก็กับสุขภาพมันก็เปิดมาด้วยเรื่องของ
00:00:31 → 00:00:33 Standard American Diet ก็คือการรับ
00:00:33 → 00:00:35 ประทานอาหารแบบคนอเมริกันทั่วไปเนี่ยมัน
00:00:35 → 00:00:38 sad อครับเขาก็เลยเป็นที่มาของการที่
00:00:38 → 00:00:41 อยากจะทำงานวิจัยในเรื่องนี้ซึ่งวันเหมอ
00:00:41 → 00:00:43 จะมาเล่าให้ฟังถึงงานวิจัยนี้เลยแหละโดย
00:00:43 → 00:00:46 ที่จะลงลึกไปกว่าที่ในสารคดีพูดด้วยเพราะ
00:00:46 → 00:00:48 หมอว่ามันเป็นงานวิจัยที่น่าสนใจแล้วก็
00:00:48 → 00:00:50 หมอจะพูดถึงความเห็นของตัวเองด้วยว่ามี
00:00:50 → 00:00:52 อะไรที่หมอเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยกับ
00:00:52 → 00:00:54 สารคดีดังชุดนี้นะ
00:00:55 → 00:01:04 คะดีที่อยู่เดียว Presented By ประกัน
00:01:05 → 00:01:08 ชีวิตสวัสดีค่ะคุณกำลังอยู่กับหมอผิง
00:01:08 → 00:01:11 แพทย์หญิงธิดาการรุจิพัฒนกุลและ Single
00:01:11 → 00:01:13 be พแสที่อยากให้คุณสนุกแล้วก็มีความสุข
00:01:14 → 00:01:16 กับการอยู่ตัวคนเดียวแล้วก็ฟังไปกับหมอ
00:01:16 → 00:01:19 ค่ะวันนี้นะคะหมออยากจะมาคุยถึงเรื่องราว
00:01:19 → 00:01:23 ที่หมอได้ดูซีรีย์นะคะเอ่อสารคดีมากกว่า
00:01:23 → 00:01:26 ที่ netflix เมื่อประมาณอาทิตย์ก่อนนะคะ
00:01:26 → 00:01:29 ก็เป็นคืนวันศุกร์แหละก็แบบ netflix แ
00:01:29 → 00:01:31 Chill นะคะไม่ได้ชิกับใครนะคะชิอยู่ตัว
00:01:31 → 00:01:33 คนเดียวแล้วก็แบบด้วย algorithm ของ
00:01:33 → 00:01:36 netflix เนี่ยมันก็จะแบบว่าฟีดสิ่งที่
00:01:36 → 00:01:39 คิดว่าเหมาะกับคนดูใช่ไหมมคะซึ่งสิ่งที่
00:01:39 → 00:01:42 มันฟีดมาให้หมอก็คือสารคดีที่ชื่อว่า you
00:01:42 → 00:01:44 are what you eat a Twin
00:01:44 → 00:01:48 experiment นะคะเป็นแบบโหเนิมากเลยอ่ะ
00:01:48 → 00:01:51 ซึ่งตรงใจมากเลย alor มันแม่นมากมันพูด
00:01:51 → 00:01:54 ถึงแบบว่าเป็นสารคดีที่มี 4 ep นะคะเล่า
00:01:54 → 00:01:57 ถึงการทดลองที่เกี่ยวกับเรื่องของ
00:01:57 → 00:02:00 โภชนาการอาหารแล้วก็กับสุขภาพนะคแบบฟีด
00:02:00 → 00:02:02 ขึ้นมาปุ๊บหมอก็โอ้โหถ้าจะแม่นขนาดนี้ก็
00:02:02 → 00:02:05 ต้องกดดูนะก็กดดูไปมันก็เปิดมาด้วยเรื่อง
00:02:05 → 00:02:08 ของ Standard American Diet ก็คือการ
00:02:08 → 00:02:10 รับประทานอาหารแบบคนอเมริกันทั่วไปเนี่ย
00:02:10 → 00:02:14 เาบอกว่ามันก็คือแบบมัน sad อ่ะคะมันคือ S
00:02:14 → 00:02:16 Standard American Diet นะ sad มากๆ
00:02:16 → 00:02:19 เพราะว่ามันทำให้คนอเมริกันเนี่ยมีแบบ
00:02:19 → 00:02:23 เรื่องของปัญหาโรคอ้วนลงพุงเบาหวานหลอด
00:02:23 → 00:02:25 เลือดหัวใจความดันโลหิตสูงรวมไปถึงซึม
00:02:25 → 00:02:28 เศร้าด้วยนะคะซึ่งเขาคิดว่าส่วนนึงอ่ะมัน
00:02:28 → 00:02:31 มาจากหลายปัจจัยแต่ส่วนนึงมันน่าจะมาจาก
00:02:31 → 00:02:33 เรื่องของการรับประทานอาหารที่ไม่ได้ดี
00:02:33 → 00:02:35 กับสุขภาพนะคะแล้วก็เรื่องของการที่ไม่
00:02:35 → 00:02:38 ได้ออกกำลังกายอะไรต่างๆเาก็เลยเป็นที่มา
00:02:38 → 00:02:41 ของการที่อยากจะทำงานวิจัยในเรื่องนี้
00:02:41 → 00:02:43 ซึ่งวันเนี้ยหมอจะมาเล่าให้ฟังถึงงาน
00:02:43 → 00:02:46 วิจัยนี้เลยแหละโดยที่จะลงลึกไปกว่าที่ใน
00:02:46 → 00:02:48 สารคดีพูดด้วยเพราะหมอว่ามันเป็นงานวิจัย
00:02:48 → 00:02:50 ที่น่าสนใจแล้วก็หมอจะพูดถึงความเห็นของ
00:02:50 → 00:02:52 ตัวเองด้วยว่ามีอะไรที่หมอเห็นด้วยกับไม่
00:02:52 → 00:02:55 เห็นด้วยกับสารคดีดังชุดนี้นะคะบอกเลยว่า
00:02:55 → 00:02:58 สารคดีนี้เนี่ยยมันค่อนข้างดังทีเดียวนะ
00:02:58 → 00:03:00 คะเป็นที่เกล่าขวัญถึงในอเมริกาแต่ใน
00:03:00 → 00:03:03 เมืองไทยหมอไม่แน่ใจว่าคนชอบดูมากน้อยแค่
00:03:03 → 00:03:06 ไหนแต่ว่าคือเรื่องของเรื่องเนี่ยมันว่า
00:03:06 → 00:03:08 ด้วยเรื่องานวิจัยอาหารซึ่งเราต้องเข้าใจ
00:03:08 → 00:03:10 ว่างานวิจัยอาหารน่ะมันมีข้อสับสนค่อน
00:03:10 → 00:03:13 ข้างเยอะเพราะเวลาเราทำงานวิจัยอาหารเรา
00:03:13 → 00:03:15 ก็จะถามกลุ่มตัวอย่างเนาะว่าคุณกินอะไร
00:03:15 → 00:03:19 บ้างเมื่อวานคุณกินอะไรซึ่งการถามย้อน
00:03:19 → 00:03:22 กลับไปว่ากินอะไรมาบ้างต่างๆเนี่ยมันค่อน
00:03:22 → 00:03:24 ข้างยากเพราะคนเราจริงๆอ่ะมันจำไม่ค่อย
00:03:24 → 00:03:27 ได้หรอกแล้วมันก็จะมีใบแอสมีแบบการตอบไม่
00:03:27 → 00:03:30 จริงอะไรต่างๆมันก็เลยความยากของการทำ
00:03:30 → 00:03:33 วิจัยทางอาหารนะคะแล้วอาหารเองมันก็เกิด
00:03:33 → 00:03:36 จากปัจจัยหลายๆปัจจัยนะคะไม่ว่าจะเป็น
00:03:36 → 00:03:39 พันธุกรรมเอยหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆนะคะดัง
00:03:39 → 00:03:42 นั้นงานวิจัยเนี้ยเขาคก็เลยพยายามจะแบบ
00:03:42 → 00:03:46 จำกัดข้อที่แบบทำให้เกิดความสับสนโดยการ
00:03:46 → 00:03:50 ที่เขาเอาคู่แฝดที่เป็นแฝดไข่ใบเดียวกัน
00:03:50 → 00:03:52 เนี่ยมาทดลองเพราะว่าถ้าเป็นแฝดที่เป็น
00:03:52 → 00:03:55 identical Twins เลยเนี่ยก็คือแปลว่า
00:03:55 → 00:03:58 ชุดพันธุกรรมเคอ่ะจะเหมือนกันคู่แฝด 2 คน
00:03:58 → 00:04:01 จะเหมือนกันเขาก็พยายามไปหาอาสาสมัครคู่
00:04:02 → 00:04:04 แฝดที่เป็น identical Twin ที่มียีน
00:04:04 → 00:04:07 เหมือนกันเนี่ยมาแล้วก็เอาคู่แฝดเนี่ยมา
00:04:08 → 00:04:10 อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ควบคุมกินอาหารที่
00:04:10 → 00:04:14 เขากำหนดให้แล้ววัดสิ่งต่างๆเพื่อที่จะดู
00:04:14 → 00:04:18 ว่าอาหารส่งผลกับสุขภาพมากน้อยแค่ไหนโดย
00:04:18 → 00:04:21 งานวิจัยเนี่ยมีเวลาทั้งหมด 8 สัปดาห์
00:04:21 → 00:04:23 จริงๆเนี่ยในงานวิจัยจริงซึ่งทำโดยสนฟ
00:04:23 → 00:04:25 University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของสหรัฐ
00:04:25 → 00:04:28 อเมริกาเนี่ยเขาหากลุ่มตัวอย่างเป็นคู่
00:04:28 → 00:04:32 แฝดแฝดหมเหมือนได้ทั้งหมด 22 คู่ 44 คนนะ
00:04:32 → 00:04:36 คะเป็นผู้ชาย 10 ผู้หญิง 34 มีอายุเฉลี่ย
00:04:36 → 00:04:39 เนี่ยอยู่ที่ 39 ปีแต่คู่แฝดที่ถูกเลือก
00:04:39 → 00:04:43 มาเล่าถึงใน netflix documentary เนี้ย
00:04:43 → 00:04:47 มีอยู่ 4 คู่นะคะซึ่ง 4 คู่เนี้ยก็จะมี
00:04:47 → 00:04:50 ลักษณะที่ต่างกันไปเชื้อชาติต่างกันไป
00:04:50 → 00:04:53 ปัญหาที่ต่างกันไปแล้วเขาก็เอาทั้ง 4 คู่
00:04:54 → 00:04:57 เนี้ยสุ่มนะคะก็คือคู่แฝดคนนึงเนี่ยจะถูก
00:04:57 → 00:05:00 ให้กินเป็นอาหารที่เป็นวีแกนเลยเนี่ย 4
00:05:00 → 00:05:03 สัปดาห์โดยเป็นอาหารที่เาส่งมาให้กินเลย
00:05:03 → 00:05:06 นะคะแล้วต้องกินตามที่เขาส่งให้เป็นเวลา 4
00:05:06 → 00:05:09 สัปดาห์อีกคนนึงเนี่ยกินแบบเป็นอาหารที่
00:05:09 → 00:05:11 มีเนื้อสัตว์แต่ก็เป็น Healthy เหมือนกัน
00:05:11 → 00:05:12 นะคะก็คือ 2 คนเนี่ยคนนึงอ่ะไม่ได้กิน
00:05:12 → 00:05:15 เนื้อสัตว์กินวีแกนอีกคนกินเนื้อสัตว์แต่
00:05:15 → 00:05:17 ว่าเป็น Healthy ทั้งคู่เป็นเวลา 4
00:05:17 → 00:05:19 สัปดาห์แล้วอีก 4 สัปดาห์เนี่ยกินเหมือน
00:05:19 → 00:05:22 เดิมแต่ว่าให้ทำกินเองเพื่อที่จะดูว่า
00:05:22 → 00:05:25 สามารถที่จะทำกินเองได้มากน้อยแค่ไหนแล้ว
00:05:25 → 00:05:27 ค่าที่เขาวัดเลยเนี่ยก็คือเขาต้องการ
00:05:27 → 00:05:29 ประเมินว่ากินแล้วดีกับสุขภาพมั้ยใช่มั้ย
00:05:29 → 00:05:32 คะเขาก็วัดสิ่งที่เรียกว่าค่าเลือดเช่น
00:05:32 → 00:05:36 คอเลสเตอรอลในเลือดน้ำตาลระดับฮอร์โมน
00:05:36 → 00:05:40 อินซูลินวิตามิน B12 ดูน้ำหนักตัวดูการ
00:05:40 → 00:05:42 เปลี่ยนแปลงของเปอร์เซ็นต body fat นะคะ
00:05:42 → 00:05:45 มวลกล้ามเนื้อแล้วก็เจาะลึกลงไปถึงกัด
00:05:46 → 00:05:48 ไมโครบหรือว่าจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่นะว่า
00:05:48 → 00:05:50 มีการเปลี่ยนแปลงของประชากรจุลินทร์ในลำ
00:05:50 → 00:05:53 ไส้ใหญ่มแล้วก็เจาะลึกลงไปถึงเมียหรือว่า
00:05:53 → 00:05:55 ความยาวของสาย DNA ซึ่งเป็นตัวที่บอกอายุ
00:05:55 → 00:05:58 ทางชีวภาพของร่างกายก็คือเป็นการทดลองที่
00:05:58 → 00:06:01 เจาะลึกมากๆเลยแหละสิ่งที่น่าสนใจก็คือ
00:06:01 → 00:06:04 ว่าหลังจากที่ถูกจับมากิน wean 8
00:06:05 → 00:06:07 สัปดาห์นะคะกับอีกกลุ่มนึงที่กินเนื้อ
00:06:07 → 00:06:11 สัตว์ 8 สัปดาห์สิ่งที่เห็นชัดก็คือค่า
00:06:11 → 00:06:14 ldl คอเลสเตอรอลค่ะพบว่าในกลุ่มที่ต้อง
00:06:14 → 00:06:17 กิน wean เนี่ยมีค่าไขมันคอเลสเตอรอลซึ่ง
00:06:17 → 00:06:20 เป็นไขมันตัวไม่ดี Bad คอเลสเตอรอลเนี่ย
00:06:20 → 00:06:23 ต่ำลงกว่าอีกกลุ่มนึงอย่างมีนัยยะสำคัญนะ
00:06:23 → 00:06:26 คะแต่ว่าโดยค่าอื่นๆเนี่ยจริงๆอ่ะค่อน
00:06:26 → 00:06:29 ข้างดีขึ้นทั้ง 2 กลุ่มเพราะว่าเถูกจะมา
00:06:29 → 00:06:32 กินแบบ Healthy ขึ้นหมดถูกมั้ยคะแต่ว่า
00:06:32 → 00:06:35 กลุ่มที่กินวนเนี่ยมีค่า ldl คอเลสเตอรอล
00:06:35 → 00:06:38 ลดลงมากกว่านะคะอย่างมีนัยยะสำคัญแต่โดย
00:06:38 → 00:06:41 ภาพรวมอื่นๆเนี่ยก็คือสุขภาพดีขึ้นทั้ง 2
00:06:41 → 00:06:44 กลุ่มแล้วก็ในส่วนของน้ำหนักเนี่ยก็พบว่า
00:06:44 → 00:06:45 จริงๆกลุ่มที่กินวีแกนเนี่ยก็จะมี
00:06:45 → 00:06:48 เปอร์เซ็น body fat ที่ลดลงมากกว่านะคะ
00:06:48 → 00:06:50 แล้วก็ในส่วนของเทเยหรือว่าอายุทางชีวภาพ
00:06:51 → 00:06:53 ของร่างกายเนี่ยก็พบว่ากลุ่มที่เป็น vagan
00:06:53 → 00:06:56 เนี่ยมีอายุทางชีวภาพที่ดีกว่านะคะก็คือ
00:06:56 → 00:07:00 มีการยาวขึ้นของสายเเมียนะคะค่ะซึ่งสิ่ง
00:07:00 → 00:07:04 ที่นักวิจัยเค้าบอกสรุปในตอนท้ายของ
00:07:04 → 00:07:06 สารคดีก็คือเขาอยากจะบอกว่าการกินอาหาร
00:07:06 → 00:07:09 หรือว่าไลฟ์สไตล์ของคนเราเนี่ยมันมีผลกับ
00:07:10 → 00:07:12 การเปลี่ยนแปลงของยีนการแสดงออกของยีน
00:07:12 → 00:07:15 จริงๆขนาดคู่ที่เป็นคู่แฝ่ที่มีพันธุกรรม
00:07:15 → 00:07:16 เหมือนกันเนี่ยพอจับมากินต่างกันสุขภาพก็
00:07:16 → 00:07:19 ยังต่างกันเลยนะคะแล้วก็ระยะเวลาเนี่ยแค่
00:07:19 → 00:07:21 8 สัปดาห์ซึ่งถือว่าสั้นมากเนี่ยก็ยัง
00:07:21 → 00:07:23 เห็นผลดังนั้นเนี่ยก็อยากจะเป็นเหมือนแรง
00:07:23 → 00:07:25 บันดาลใจให้คนเนี่ยหันมาดูแลตัวเองในการ
00:07:25 → 00:07:27 กินให้ดีขึ้นนะคะแล้วก็อยากจะบอกว่าการ
00:07:27 → 00:07:31 กินแบบ PL Bas มันดีกับสุขภาพมากกว่านะ
00:07:31 → 00:07:34 คะแล้วก็หลังจากจบงานวิจัยเนี่ยกลุ่มคู่
00:07:34 → 00:07:36 แฝดที่เข้าร่วมในงนวิจัยหลายๆคนเนี่ยก็
00:07:36 → 00:07:38 หันมาทานแนเบสมากขึ้นทั้งเหตุผลที่ว่า
00:07:38 → 00:07:40 ช่วงที่กินแล้วเขารู้สึกดีกับตัวเองมาก
00:07:40 → 00:07:43 กว่าจริงๆทั้งเรื่องสุขภาพกายสุขภาพใจ
00:07:43 → 00:07:45 แล้วก็ยังรวมไปถึงเหตุผลทางสิ่งแวดล้อม
00:07:45 → 00:07:48 ด้วยนะคะซึ่งจริงๆเรื่องของการกินแนเบส
00:07:48 → 00:07:50 กับสิ่งแวดล้อมหมอเคยพูดถึงเหมือนกัน
00:07:50 → 00:07:52 เรื่องของคาร์บอน printing จากการกิน
00:07:52 → 00:07:55 อาหารนะคะใน EP ที่ 87 เรื่องกินแบบรัก
00:07:55 → 00:07:58 ร่างและรักโลกใครสนใจก็ไปดูกันได้ทีนี้
00:07:58 → 00:08:01 กลับมาที่เองงานวิจัยเนี้ยดูแล้วหมอคิด
00:08:01 → 00:08:03 ว่ายังไงนะข้อดีก็คือหมอว่ามันเป็นสิ่ง
00:08:03 → 00:08:06 ที่ดีนะเพราะว่าจริงๆเรื่องที่เราพูดกัน
00:08:06 → 00:08:08 เนี่ยว่าการกินแบบ plan Base หรือ
00:08:08 → 00:08:10 weekend มันดีกับสุขภาพไม่ใช่เรื่องใหม่
00:08:10 → 00:08:12 แต่ต้องยอมรับว่ามันก็ยังเป็นอะไรที่ไม่
00:08:13 → 00:08:16 ได้แสคือคนยังไม่ได้แบบรับรู้ข้อมูลนี้
00:08:17 → 00:08:19 อยู่ต้องยอมรับว่าข้อมูลดีมากไม่แสทีนี้
00:08:19 → 00:08:21 ถ้าเขมาทำเป็น documentary ใน netflix
00:08:21 → 00:08:23 แล้วข้อมูลเหล่าเนี้ยมันแสขึ้นว่าโอเคการ
00:08:23 → 00:08:25 กิน PL Base มันดีกับสุขภาพหมอว่าก็เป็น
00:08:25 → 00:08:28 เรื่องดีนะคะอย่างแม้แต่ American Heart
00:08:28 → 00:08:31 association หรือว่าสมาคมแพทย์หัวใจจ
00:08:31 → 00:08:34 สหรัฐอเมริกาเนี่ยก็ยังแนะนำว่าถ้าเลือก
00:08:34 → 00:08:38 ได้เลือกโปรตีนดีที่มาจากพืชเนี่ยก็จะดี
00:08:38 → 00:08:42 กว่าสำหรับสุขภาพหัวใจนะคะแต่ว่าข้อเสีย
00:08:42 → 00:08:44 คือจริงๆสารคดีตัวเนี้ยมันก็มีข้อถกเฉียง
00:08:44 → 00:08:47 เหมือนกันนะคะว่า 1 คือกลุ่มตัวอย่างมัน
00:08:47 → 00:08:50 น้อยไปมันค่อนข้างเป็นกลุ่มคน Healthy
00:08:50 → 00:08:52 หมดดังนั้นเนี่ยมันอาจจะไม่ได้เป็นตัวแทน
00:08:52 → 00:08:55 ที่จะบอกถึงคนทุกกลุ่มได้นะคะแล้วก็ระยะ
00:08:55 → 00:08:57 เวลา 8 สัปดาห์มันสั้นเกินไปนะคะแล้วก็
00:08:58 → 00:09:00 มันไม่มีการเขาเรียกว่า Follow up คือ
00:09:00 → 00:09:03 การดูผลตามหลังว่าโอเคหลังจากจบ 8
00:09:03 → 00:09:06 สัปดาห์ไปแล้วเป็นยังไงต่อนะคะซึ่งตรง
00:09:06 → 00:09:08 เนี้ยมันก็เลยยังไม่ได้แบบเป็นงานวิจัย
00:09:08 → 00:09:10 ที่สมบูรณ์นักอีกอันนึงซึ่งอันเนี้ยค่อน
00:09:10 → 00:09:13 ข้างเป็นแบบอะไรที่เขาเถียงกันมากคือถ้า
00:09:13 → 00:09:15 เราดูตอนแรกของ EP แรกอ่ะมันจะมีอาจารย์
00:09:15 → 00:09:17 คนนึงที่ชื่อว่า Christopher gardner
00:09:17 → 00:09:19 ซึ่งเป็นอาจารย์ของ stanford ที่ออกมาพูด
00:09:19 → 00:09:21 ถึงงานวิจัยนี้ก็คือเป็นหนึ่งในผู้ร่วม
00:09:21 → 00:09:23 งานวิจัยเนี้ยแต่ปรากฏว่าอาจารย์คนเนี้ย
00:09:23 → 00:09:26 เองเนี่ยงานวิจัยเคอ่ะได้รับทุนสนับสนุน
00:09:26 → 00:09:29 จาก Beyond Meet ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิต
00:09:29 → 00:09:32 เนื้อแบบ Plant Base ตรงเนี้ยคนก็เลยบอก
00:09:32 → 00:09:34 ว่าก็ในเมื่ออาจารย์เนี่ยได้ทุนมาจาก
00:09:34 → 00:09:36 บริษัทผลิตเนื้อแบบ Plant Base มันก็
00:09:36 → 00:09:39 เป็นไปได้ว่างานวิจัยมันอาจจะไบแสหรือ
00:09:39 → 00:09:41 เปล่าเช่นอย่างในสารคดีเนี้ยก็ไม่ได้มี
00:09:41 → 00:09:44 การพูดว่าถ้าจะกิน Plant เบสเนี่ยจริงๆ
00:09:44 → 00:09:46 แล้วควรจะเลี่ยง Plant based Meat ก็
00:09:46 → 00:09:49 คือพวกเนื้อเทียมที่ทำมาที่แบบจัดเป็น
00:09:49 → 00:09:51 อาหารแปรรูปเพราะจริงๆมันก็มีหลายงาน
00:09:51 → 00:09:53 วิจัยที่พบว่าเนื้อเทียมที่เป็นอาหารแปร
00:09:53 → 00:09:56 รูปก็ไม่ได้ดีกับสุขภาพควรจะเป็น Plant
00:09:56 → 00:09:58 Base ที่เป็นอาหารจริงๆที่ไม่ใช่อาหาร
00:09:58 → 00:10:00 แปรรูปมากมากกว่านะคะอันนั้นก็คือเป็นจุด
00:10:00 → 00:10:03 ที่คนจะมาเถียงว่า documentary หรือ
00:10:03 → 00:10:06 สารคดีชุดเนี้ยมันน่าจะมีข้ออ่อนด้อยตรง
00:10:06 → 00:10:09 นี้แต่ว่าโดยภาพรวมโดยสรุปเนี่ยหมอก็อยาก
00:10:09 → 00:10:11 ชวนให้ไปดูนะหมอว่ามันเป็นสารคดีที่สนุก
00:10:11 → 00:10:14 ดีคือเอาเป็นว่ามันเป็น edutainment แหละ
00:10:14 → 00:10:16 ก็คือดูแล้วก็ได้ความรู้แล้วก็
00:10:16 → 00:10:18 Entertainment แล้วก็ภาพรวมคือจริงๆ
00:10:18 → 00:10:21 Plant based Diet หรือการกินแบบเน้น
00:10:21 → 00:10:23 พืชเป็นหลักมันดีกับสุขภาพอยู่แล้วนะคะ
00:10:23 → 00:10:27 แต่ว่าควรจะโฟกัสที่ Healthy Plant Base
00:10:27 → 00:10:30 นะคะอาหารที่มาจากพืชที่เป็นอาหารจริงๆ
00:10:31 → 00:10:34 เลี่ยงอาหารแปรรูปถ้าเป็นอาหารแปรรูปต่อ
00:10:34 → 00:10:35 ให้ขึ้นชื่อว่า Plant Base ก็ไม่ได้ดี
00:10:35 → 00:10:38 กับสุขภาพนะคะแล้วก็ถ้าจะให้ดีจริงๆเนี่ย
00:10:38 → 00:10:42 ไปอ่านเปอร์ต่อด้วยนะคะซึ่งหมอก็มีโพสต์
00:10:42 → 00:10:45 ตัวเปอร์จริงของเรื่องเนี้ยเอาไว้แล้วใน x
00:10:45 → 00:10:48 นะคะก็ไปดูกันได้นะคะแล้วก็หวังเป็นอย่าง
00:10:48 → 00:10:50 ยิ่งนะคะว่า EP เนี้ยจะทำให้คุณผู้ฟัง
00:10:51 → 00:10:53 เนี่ยฟัง Single Being and shill ได้
00:10:53 → 00:10:56 นะคะก็อยากให้ฟังแล้วก็ได้ความรู้แล้วก็
00:10:56 → 00:10:58 เพลิดเพลินกับสาระไปด้วยกันนะคะใครที่คิด
00:10:59 → 00:11:02 คิดว่าฟังแล้วสนุกมีความสุขได้สาระนะคะก็
00:11:02 → 00:11:05 ฝากแชร์ไปให้กับคนที่คุณรักให้รักดูแล
00:11:05 → 00:11:08 ชีวิตไปด้วยกันนะ
00:11:08 → 00:11:11 คะขอบคุณมากนะคะที่ติดตามฟังด้วยกันมาใน
00:11:11 → 00:11:14 EP นี้ติดตามกันต่อในศุกร์หน้านะคะว่า
00:11:14 → 00:11:16 หมอจะหยิบยกเรื่องราวอะไรสนุกๆแล้วก็มี
00:11:16 → 00:11:18 สาระมาเล่าให้ฟังอีก
00:11:18 → 00:11:23 ค่ะ Single Being podcast about
00:11:23 → 00:11:26 Living your Best Single Life โดย
00:11:26 → 00:11:30 หมอผิงแพทย์หญิงธิดารพัฒนกุล
00:11:30 → 00:11:36 ดีที่อยู่เดียว Presented by ไทยประกัน
00:11:36 → 00:11:39 [เพลง]
00:11:39 → 00:11:42 ชีวิต