00:00:00 → 00:00:01 แล้วในการตรวจแบบแพทย์แผนจีนเนี่ยหนึ่งใน
00:00:01 → 00:00:03 นั้นในการดูภายในเนี่ยคือจะดูลิ้น
00:00:03 → 00:00:04 >> ลิ้นบอกได้ด้วยเหรอคะ
00:00:05 → 00:00:07 >> ลิ้นเล็กๆแล้วก็ปลายแหลมๆเนี่ยเลือดไม่พอ
00:00:07 → 00:00:10 เลือดร้อนปลายแหลมส่วนใหญ่มักจะแดงก็คือ
00:00:10 → 00:00:12 อาจจะเป็นคนที่แบบเร่งรีบนอนไม่หลับ
00:00:12 → 00:00:15 หงุดหงิดง่ายลิ้นที่ดีจะขนาดเหมาะสมสี
00:00:15 → 00:00:19 ชมพูอ่อนมีฝ้าขาวจางๆคนที่เป็นวัยทองอ่ะ
00:00:19 → 00:00:20 แลบลิ้นออกมาไม่มีฝ้าลิ้นเลย
00:00:20 → 00:00:23 >> พี่พอได้ม
00:00:23 → 00:00:25 >> หมอไม่ได้ใส่แว่นแต่หมอใส่แว่นนะฮ
00:00:26 → 00:00:28 >> กดจุดนี่ก็ถือเป็นการรักษาแบบแพทย์แผนจีน
00:00:28 → 00:00:32 มันรักษาได้จริงมั้ยพวกหิวบ่อยล่ะบางที
00:00:32 → 00:00:34 เห็นกินเห็นกินอยู่อย่างงั้นน่ะ
00:00:34 → 00:00:36 >> ค่ะอันนี้จะเป็นจุดเราจะเรียกว่าเออเชื่อ
00:00:36 → 00:00:38 ก็คือจุดบนใบหูแต่อันนี้จะอยู่หน้าหูคือ
00:00:38 → 00:00:41 ติ่งจะงอยออกมานี้ข้างหน้าช่วงที่เรารู้
00:00:41 → 00:00:44 สึกหิวๆอยู่เรากดเลยแล้วท้องเราจะหยุด
00:00:44 → 00:00:47 >> อันนี้ถามเบื่อคนอื่นพี่คงไม่ค่อยจำเป็น
00:00:47 → 00:00:48 >> ไม่หิวบ่อย
00:00:48 → 00:00:51 >> พี่ไม่ค่อยกินนอนไม่หลับมันกดตรงไหนได้
00:00:51 → 00:00:54 บ้างจุดสุดท้ายที่อยากจะรู้ชะลอไวแล้วก็
00:00:54 → 00:00:56 แก่ช้า
00:00:56 → 00:01:00 ถ้ากดผิดจุดล่ะมันจะอันตรายมั้
00:01:00 → 00:01:02 เข้าใจศาสตร์แพทย์จีนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
00:01:02 → 00:01:05 กับแพทย์จีนณัฐการครีเอเตอร์สายสุขภาพที่
00:01:05 → 00:01:08 จะมาแชร์เคล็ดลับปรับสมดุลกายใจด้วยภูมิ
00:01:08 → 00:01:12 ปัญญาจีนที่สืบทอดมากว่าหลายพันปี
00:01:12 → 00:01:15 ก่อนจะไปชมคลิปนี้พี่ตั๊กมี 1 คำถามที่
00:01:15 → 00:01:19 อยากจะให้ทุกคนถามตัวเองว่าคุณรู้จักร่าง
00:01:19 → 00:01:22 กายและใจของตัวเองดีมากน้อยแค่ไหนถ้าคำ
00:01:22 → 00:01:26 ตอบคือไม่แน่ใจ Life Expo 2025 คือ
00:01:27 → 00:01:29 โอกาสที่คุณจะได้สำรวจตรวจตัวเองทั้งใน
00:01:29 → 00:01:32 เรื่องของสุขภาพกายและสุขภาพจิตและการ
00:01:32 → 00:01:35 สร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิตของคุณใน
00:01:35 → 00:01:39 เวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม 15-16 พฤศจิกายน
00:01:39 → 00:01:43 นี้เรามาเจอกันที่ UOB Life MS Life
00:01:43 → 00:01:46 Expo 2025 อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของคำ
00:01:46 → 00:01:50 ตอบมาค้นหาตัวคุณที่ดีกว่าเดิมด้วยกันค่ะ
00:01:50 → 00:02:02 คำ Explore the better
00:02:02 → 00:02:05 วันนี้เราจะคุยกันถึงเรื่องของแพทย์แผน
00:02:05 → 00:02:08 จีนเราจะมาดูกันว่าแพทย์แผนจีนกับแพทย์
00:02:08 → 00:02:10 แผนปัจจุบันเนี่ยวิธีการรักษามันแตกต่าง
00:02:10 → 00:02:13 กันยังไงสำหรับคุณหมอท่านนี้คุณหมอการ
00:02:13 → 00:02:18 หลายท่านเคยเห็นแล้วในโลกโซเชียลคุณหมอคะ
00:02:18 → 00:02:20 ถามเลยตรงๆแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผน
00:02:20 → 00:02:23 ปัจจุบันของเราเนี่ยวิธีการรักษาหลักการ
00:02:23 → 00:02:24 มันต่างกันยังไง
00:02:24 → 00:02:27 >> แพทยแผนจีนแต่โบราณมาเนี่ยเราจะดูคนไข้
00:02:27 → 00:02:28 เป็นองค์รวม
00:02:28 → 00:02:29 >> ค่ะ
00:02:29 → 00:02:31 >> ก็จะไม่ได้มองว่าโรคของทางศาสตแพทย์แผน
00:02:31 → 00:02:34 ปัจจุบันเขาให้อะไรมาแต่ว่าเราจะตรวจคน
00:02:34 → 00:02:39 ไข้ใหม่หมดเลยดูสีหน้าจับชีพจรดูลิ้นแล้ว
00:02:39 → 00:02:42 ก็ดูองค์รวมบางครั้งคนไข้อาจจะได้รับคำ
00:02:42 → 00:02:45 วินิจฉัยว่าอ่าพลังชีพของตับติดขัดนะคะ
00:02:45 → 00:02:47 ทั้งๆที่คนไข้อาจจะเป็นโรคไตเป็นต้นยกตัว
00:02:47 → 00:02:50 อย่างทีเนี้ยเวลาศัพท์ของทางสายแพทย์แผน
00:02:50 → 00:02:53 จีนเนี่ยเราพอเรามีความรู้เนี่ยเราก็จะ
00:02:53 → 00:02:56 เข้าใจว่ามันไม่ได้เท่ากับกันกับแผน
00:02:56 → 00:02:58 ปัจจุบันเสียทีเดียวเวลาแล้วเวลาเราตรวจ
00:02:58 → 00:03:01 รักษาเนี่ยเราก็จะเอ่อใช้ทางศาสตร์แพทย่
00:03:01 → 00:03:05 แผนจีนในการวิเคราะห์แล้วก็จ่ายยาแล้วจะ
00:03:05 → 00:03:06 ไม่ได้อ้างอิงของทางศาสตร์แพทย์แผน
00:03:06 → 00:03:08 ปัจจุบันทั้งหมด
00:03:08 → 00:03:08 >> ค่ะ
00:03:08 → 00:03:11 >> ดูยังไงก็พิติการรักษามันแตกต่างกันเนาะ
00:03:11 → 00:03:13 >> แตกต่างกันเลยอย่างสมมุติว่าแพทย์แผน
00:03:13 → 00:03:16 ปัจจุบันของเราเนี่ยนะฮะสมมุติเราเอ่อเรา
00:03:16 → 00:03:17 ปวดท้อง
00:03:17 → 00:03:17 >> อือ
00:03:17 → 00:03:20 >> นะคะก็ก็เจาะไปเลยจะเป็นกระเพาะหรือจะ
00:03:20 → 00:03:24 เป็นอะไรใช่มั้ใช่ๆแพนจีนก็จะต้องไล่ดู
00:03:24 → 00:03:27 ทั้งหมดใช่ไล่ดูอ่ะถ้าเกิดว่าปวดท้องมา
00:03:27 → 00:03:29 เราก็จะดูว่ากินอะไรมาก็ถามซักประวัติ
00:03:29 → 00:03:31 เบื้องต้นทั่วไปใช่มั้คะแต่บางครั้งคนไข้
00:03:31 → 00:03:34 ไม่ได้มาจากอาหารเลยก็คือก็กินปกติเหมือน
00:03:34 → 00:03:36 เดิมทุกครั้งนะคะแต่ถ้าถ่ำลึกลงไปเนี่ยคน
00:03:36 → 00:03:39 ไข้อาจจะนอนดึกนอนไม่หลับช่วงนี้มีความ
00:03:39 → 00:03:40 เครียดอือฮึ
00:03:40 → 00:03:43 >> ก็คือเราจะมองว่าพลังชี่ของตับที่ติดขัด
00:03:43 → 00:03:46 เนี่ยจะไปกระทบพลังของม้ากระเพาะโดยตรงอื
00:03:46 → 00:03:48 >> จนทำให้บางครั้งเนี่ยกดไหลย้อนหลายคนอาจ
00:03:48 → 00:03:49 จะกินยาวรดกด
00:03:49 → 00:03:51 >> กินยาวรสกดกินยาวรสกดกดแต่ว่าไม่หายซะที
00:03:51 → 00:03:53 เพราะว่าบางครั้งมันไม่ได้เกิดขึ้นจากทาง
00:03:53 → 00:03:56 เดินอาหารตัวของเขามีปัญหาแต่ว่าในทาง
00:03:56 → 00:03:58 สัพพันธจีนเราจะมองถึงพลังงานของตับที่
00:03:58 → 00:04:01 คอยช่วยในการไหลเวียนของม้ากระเพาะเนี่ย
00:04:01 → 00:04:01 >> ค่ะ
00:04:01 → 00:04:03 >> พลังงานของตับเขาติดขัดปุ๊บมามกระเพาะมัน
00:04:03 → 00:04:05 ก็เลยติดขัดตาม
00:04:05 → 00:04:05 >> ค่ะ
00:04:05 → 00:04:07 >> เพราะฉะนั้นหลายๆคนที่แบบพอเครียดแล้วจะ
00:04:07 → 00:04:10 เจ็บกระเพาะเครียดแล้วตีขึ้นอ่าอันนี้ก็
00:04:10 → 00:04:12 คือเราจะไปรักษาที่พลังงานของตับ
00:04:12 → 00:04:14 >> พอรักษาได้อย่างตรงจุดคนไข้หลายๆคนก็จะ
00:04:14 → 00:04:16 รู้สึกผ่อนคลายขึ้นการรักษาของแพทย์แผน
00:04:16 → 00:04:19 จีนเนี่ยจริงๆเราจะดูภาษาจีนจะเรียกว่า
00:04:19 → 00:04:22 ปิ้งยินกับปิ้งจีนก็คือกลไกการเกิดโรคกับ
00:04:22 → 00:04:23 สาเหตุการเกิดโรค
00:04:23 → 00:04:24 >> อื
00:04:24 → 00:04:27 >> ใช่เราจะไม่ได้ดูว่าเอ่อเอาไว้วันนี้มี
00:04:27 → 00:04:29 ปัญหาแต่ก่อนที่เอาไว้มีปัญหาคนไข้อาจจะ
00:04:29 → 00:04:31 มีระบบอื่นที่มีปัญหาก่อนมากระทบ
00:04:31 → 00:04:34 >> แล้วคนไข้ไปตรวจเจอโรคนี้เราก็จะดูถึง
00:04:34 → 00:04:37 สาเหตุแล้วก็กลไกการเกิดโรคของเขาเราถึง
00:04:37 → 00:04:39 ไปรักษากลไกตรงเนี้ยพอกลไกการเกิดโรคหาย
00:04:39 → 00:04:43 ไปมันก็ไม่มีโรคตามมาคนไข้ก็เลยดีขึ้น
00:04:43 → 00:04:46 >> ศาสตร์การแพทย์จีนเนี่ยให้ความสำคัญกับ
00:04:46 → 00:04:47 เค้าเรียกอะไรพลัง
00:04:47 → 00:04:47 >> ช
00:04:47 → 00:04:50 >> ชะต้องต้องสมดุล
00:04:50 → 00:04:53 ต้องไม่พร่องไม่ติดขัดเพราะงั้นพลังชี่
00:04:53 → 00:04:54 คืออะไรคะ
00:04:54 → 00:04:57 >> ปอดเนี่ยคือเป็นตัวควบคุมกำหนดลมหายใจ
00:04:57 → 00:04:59 แล้วก็ดูแลการไหลเวียนของพลังชีพ
00:04:59 → 00:05:02 >> งั้นตอนที่ทุกคนกำลังมีความเจ็บปวดอยู่
00:05:02 → 00:05:06 ไม่ว่าอะไรก็ตามคะของร่างกายกำลังบาดเจ็บ
00:05:06 → 00:05:08 ออกกำลังกายมาแล้วเจ็บอะไรเงี้ยแล้วถ้า
00:05:08 → 00:05:11 เราจับไม่ทันน่ะแล้วเราก็ไปกระวนกระวาย
00:05:11 → 00:05:14 กับอาการเจ็บนั้นเราจะยิ่งเป็นหนักมากอ่ะ
00:05:14 → 00:05:16 อย่างยกตัวอย่างเช่นคนไข้ที่ได้รับการบาด
00:05:16 → 00:05:19 เจ็บเราจะได้ข่าวว่าทนพิษบาดแผลไม่ไหวอ่ะ
00:05:19 → 00:05:22 >> อ่าเพราะว่าเขาช็อกก่อน
00:05:22 → 00:05:25 >> ทีนี้ถ้าเกิดว่าเราดูแลพลังชอดได้ดีก็คือ
00:05:25 → 00:05:27 กำหนดลมหายใจ
00:05:27 → 00:05:31 >> ก็จะทำให้หัวใจเราเนี่ยไม่ดีดก็คือเราจะ
00:05:31 → 00:05:34 ไม่ช็อกง่ายเราจะควบคุมความเจ็บปวดนั้น
00:05:34 → 00:05:37 ได้เหมือนพระท่านเขาบอกว่าเราจะเห็นความ
00:05:37 → 00:05:40 เจ็บปวดก็คืออันนี้ก็คือทางสาแพทยแผนจีน
00:05:40 → 00:05:43 เราก็มองแบบนั้นว่าถ้าเกิดว่าเรารู้ลมหาย
00:05:43 → 00:05:45 ใจหายใจได้ดีเราจะสามารถทนความเจ็บปวด
00:05:46 → 00:05:49 นั้นได้โดยที่ไม่ทรมานแล้วก็ความเจ็บปวด
00:05:49 → 00:05:50 นั้นไม่เอาชีวิตเราไปได้
00:05:50 → 00:05:54 >> งั้นงั้นแสดงถ้าหลักธรรมะเนี่ยให้สูตรลม
00:05:54 → 00:05:56 หายใจค่าออกกำหนดลมหายใจงั้นตรงนั้นก็ดี
00:05:56 → 00:05:57 สิครับ
00:05:57 → 00:05:59 >> ดีค่ะดีมากเพราะว่าถึงเวลาที่เราเจ็บปวด
00:05:59 → 00:06:02 ขึ้นมาแล้วเรากลับมาหายใจเนี่ยเราจะทน
00:06:02 → 00:06:06 อยู่กับนั้นได้การออกกำลังกายการหายใจ
00:06:06 → 00:06:09 สมาธิหรือแม้กระทั่งการนอนเอ่อช่วงเวลา
00:06:09 → 00:06:13 ที่คนเราเนี่ยจะมีลมหายใจที่สม่ำเสมอจะมี
00:06:13 → 00:06:17 ออกกำลังกายจะหายใจลึกขึ้นอ่าทำสมาธิแล้ว
00:06:17 → 00:06:18 ก็การนอนหลับสนิทค่ะ
00:06:18 → 00:06:21 >> ทีเนี้ยถ้าคนปัจจุบันนะไม่ออกกำลังกายไม่
00:06:21 → 00:06:24 เคยทำสมาธิแถมยังอดหลับอดนอนไปสังเกตลม
00:06:24 → 00:06:26 หายใจของคนกลมนี้ได้
00:06:26 → 00:06:28 >> เจะไม่รู้ตัวว่าเขาหายใจอยู่หรือเปล่า
00:06:28 → 00:06:31 หรือหยุดหายใจหรือหายใจสั้นเขาจะแทบไม่
00:06:31 → 00:06:35 รู้ตัวปัญหาของโรคของคนกลุ่มเนี้ยก็กดไหล
00:06:35 → 00:06:39 ย้อนซึมเศร้าแพนิคอารมณ์แปรปรวนวิตกกังวล
00:06:39 → 00:06:39 >> อ
00:06:39 → 00:06:42 >> ก็คือก็จะสะท้อนต่ออารมณ์ออกมาได้
00:06:42 → 00:06:46 >> ถ้าสมมุติว่าเกิดเราเราดูแลพลังชี่ของเรา
00:06:46 → 00:06:50 ไม่ดีมีการบกพร่องมีการติดขัดขัดข้องหรือ
00:06:50 → 00:06:53 เลือดไหลเวียนไม่ดีมันมันสมันเกี่ยวข้อง
00:06:53 → 00:06:53 กันหมด
00:06:53 → 00:06:56 >> สมก็คือพลังชที่อยู่ได้เนี่ยถ้าถ้าในหลอด
00:06:56 → 00:06:59 เลือดของเราอ่าตัวที่เป็นชี่เนี่ยจะคอย
00:06:59 → 00:07:02 ดันเลือดเหมือนหัวใจที่ปั๊มเนี่ยมันมีแรง
00:07:02 → 00:07:04 อ่าก็จะเป็นตัวดันเลือดเลือดเนี่ยจะ
00:07:04 → 00:07:06 เปรียบเป็นพลังหยิน
00:07:06 → 00:07:09 >> ชี้เนี่ยจะเปรียบเป็นพลังหยางพลังหยาง
00:07:09 → 00:07:12 เนี่ยคือกำลังแรงการขับเคลื่อนหยินเนี่ย
00:07:12 → 00:07:14 จะเป็นแบบสารน้ำความสงบนิ่ง
00:07:14 → 00:07:16 >> เพราะงั้นในเลือดของเราเนี่ยมันมีทั้งหิน
00:07:16 → 00:07:17 และหยาง
00:07:17 → 00:07:19 คอยแบบคอยไหลเวียนแล้วก็มีสารน้ำไหลเวียน
00:07:19 → 00:07:20 ไป
00:07:20 → 00:07:20 >> ค่ะ
00:07:20 → 00:07:23 >> ทีนี้ถ้าเกิดว่าชี้ชะงักก็คือติดขัดไม่
00:07:23 → 00:07:27 ไหลเวียนเลือดก็จะกลายเป็นก้อนอ่ะทีนี้
00:07:27 → 00:07:28 เราอาจจะไม่ได้เป็นก้อนทางร่างกายขนาด
00:07:28 → 00:07:31 นั้นแต่ว่าอย่างเรานั่งนานๆเนี่ยบางคนจะ
00:07:31 → 00:07:33 ปวดคอบาอะไรอ่าเพราะเลือดบริเวณนี้พลัง
00:07:33 → 00:07:35 ชีพบริเวณเนี้ยติดขัดทำให้เลือดบริเวณนี้
00:07:35 → 00:07:36 ติดขัด
00:07:36 → 00:07:39 >> อ่าหลายคนไปกวาซาหรือไปครอบแก้วแล้วจะเคย
00:07:39 → 00:07:41 เห็นมั้คะที่นักกีฬาครอบแก้วแล้วเป็นม่วง
00:07:41 → 00:07:43 ๆอ่าอันนี้ก็คือเราจะมีเลือดติดขัดบริเวณ
00:07:43 → 00:07:45 นี้เราก็เลยเห็นเป็นสี
00:07:45 → 00:07:49 >> ม่วงๆขึ้นค่ะติดขัดก่อนเริ่มต้นเลือดถึง
00:07:49 → 00:07:50 จะติดขัด
00:07:50 → 00:07:51 >> ออ
00:07:51 → 00:07:53 >> อ่าส่วนใหญ่นะคะเพราะอย่างออกกำลังกายไม่
00:07:53 → 00:07:56 ดีหนักเกินไปอยู่เฉยๆนานๆก็จะทำให้เลือด
00:07:57 → 00:07:58 ลมไหลเวียนไม่ดี
00:07:58 → 00:08:00 >> อีกอันนึงแพทย์แผนจีนมีเรื่องของการจับ
00:08:00 → 00:08:02 ชีพจรเงี้ยเค้าเรียกว่าแมะ
00:08:02 → 00:08:03 >> อือค่ะ
00:08:03 → 00:08:06 >> ตรงเนี้ยเนี่ยนะฮะการแมะหรือจับชีพจรมัน
00:08:06 → 00:08:08 สามารถวิเคราะห์โลกได้ยังไงบ้าง
00:08:08 → 00:08:10 >> จริงๆการจับชีวจรเนี่ยเราจะมีหลายตำแหน่ง
00:08:11 → 00:08:13 แต่ว่าตำแหน่งที่เรานิยมก็คือ
00:08:13 → 00:08:14 >> ตำแหน่งข้อมือ
00:08:14 → 00:08:16 >> ตหนข้อมือสมมุติพี่พี่อยู่ตรงนี้พี่
00:08:16 → 00:08:17 สามารถจับอย่างงี้ได้
00:08:17 → 00:08:19 >> อมือเรามาตรงนี้
00:08:19 → 00:08:21 >> แบบนั้นไม่ได้เพราะว่าเพราะมันจะมี 3 จุด
00:08:21 → 00:08:24 ที่เราจะต้องสังเกตกระดูกที่นูนขึ้นมาหา
00:08:24 → 00:08:25 กระดูกที่นูนขึ้นมาตรงนี้จะเป็นนิ้วกลาง
00:08:25 → 00:08:26 จับ
00:08:26 → 00:08:29 >> ใช่ค่ะแล้วก็อันนี้เราก็วางไปวางข้างๆกัน
00:08:29 → 00:08:32 ก็คือจุดแรกของอันนี้ข้างซ้ายของหมอเนา
00:08:32 → 00:08:33 >> อ่าพี่พี่เห็นมันตุ๊กๆๆ
00:08:34 → 00:08:37 >> อ่าก็จะเป็นหัวใจตับแล้วก็ไต่
00:08:37 → 00:08:37 >> ค่ะ
00:08:37 → 00:08:42 >> ในการสังเกตใช่เขาก็จะเต้นเต้นดีอยู่ถ้า
00:08:42 → 00:08:43 เราอยากจับเนี่ยเราจับเป็นประจำได้ถ้า
00:08:44 → 00:08:46 เกิดว่าเอ๊ยทำไมมันช้าเกินไปหรือว่าจับ
00:08:46 → 00:08:49 แล้วอยู่ๆหายไปไม่ขึ้นมาก็อาจจะพูดถึงแรง
00:08:49 → 00:08:51 เราเนี่ยมันไม่ถึงในช่วงนั้นหรืออาจจะมี
00:08:51 → 00:08:52 ปัญหาอะไรอยู่
00:08:52 → 00:08:54 >> อแต่ต้องกดพอสมควรมั้คะลึกนิดนึง
00:08:55 → 00:08:56 >> เราจะจับอยู่ 3 ระดับ
00:08:56 → 00:08:57 >> ค่ะ
00:08:57 → 00:08:58 >> แบบไม่กดก่อนสัมผัสเบาๆ
00:08:58 → 00:08:59 >> อ่ะไม่กดวางเฉยๆ
00:08:59 → 00:09:01 >> อ่าวางเฉยๆถ้าเกิดว่าเราเจอเนี่ย
00:09:01 → 00:09:02 >> อ่ะเจอๆ
00:09:02 → 00:09:05 >> อ่าถ้าเจอแปลว่าชีพจรมันลอย
00:09:05 → 00:09:05 >> ลอย
00:09:05 → 00:09:07 >> ลอยเราจะได้
00:09:07 → 00:09:10 >> ส่วนใหญ่จะเจอกับคนที่กำลังเป็นหวัดอยู่
00:09:10 → 00:09:12 หรือว่าแรงคือแรงพลังงานของเราเนี่ยมัน
00:09:13 → 00:09:15 ต้องมีพลังงานที่ไหลเวียนลงลึก
00:09:15 → 00:09:18 >> ทุกอย่างมันต้องพอดีเออพี่ลอยทำไมรู้ล่ะ
00:09:18 → 00:09:20 >> ถ้าลอยเกินไปแพ้
00:09:20 → 00:09:23 >> ใช่มันก็จะเกี่ยวกับปอดระบบลมหายใจทาง
00:09:23 → 00:09:25 เดินหายใจหรือว่าช่วงนี้เป็นอะไรอยู่อะไร
00:09:25 → 00:09:27 อย่างเงี้ยหรือโดนลมแรงๆมา
00:09:27 → 00:09:28 >> จับชีวจรมันก็ลอยได้
00:09:28 → 00:09:29 >> แล้ว
00:09:29 → 00:09:32 >> ลงไปลึกกว่านั้นอีกนิดนึงเราจะเป็นช่วง
00:09:32 → 00:09:34 ตรงกลางเนี่ยก็จะดูว่าเขาเต้นดีมั้ปกติ
00:09:34 → 00:09:37 แล้วเราจะลงลึกแบบเนี้ยก็จะจับเจอชีพจร
00:09:37 → 00:09:37 ปกติ
00:09:37 → 00:09:38 >> ค่ะ
00:09:38 → 00:09:42 >> ค่ะแล้วก็ลงลึกไปอีกถ้ามันหายไป
00:09:43 → 00:09:45 >> หายมั้ยอ่ะไม่หายแปลว่าเราเรียกประโยชน์
00:09:45 → 00:09:48 เกินก็คือยังมีรากของชีพจรอยู่บางคนก็คือ
00:09:48 → 00:09:51 จับแล้วหายเลยบางคนจับแค่ระดับแรกพอกดไป
00:09:51 → 00:09:53 ปุ๊บหายอันนี้ก็จะมองว่าพลังชี่เขาไม่
00:09:53 → 00:09:55 เพียงพอกำลังเขาไม่เพียงพอ
00:09:55 → 00:09:58 >> แต่ละชีพจรอยากให้เอ่อหมอการอธิบายอีกที
00:09:58 → 00:10:02 แต่ละอันน่ะนะชีพจรอ่อนชีพจรตึงหรือยังไง
00:10:02 → 00:10:04 ขอให้บอกรายละเอียดอีกนิดนึงครับ
00:10:04 → 00:10:07 >> ได้ถ้าเกิดว่าบางครั้งเนี่ยคนไข้มาเนี่ย
00:10:07 → 00:10:10 จับไปปุ๊บตึงเหมือนเส้นกีตาร์ตึงมากๆ
00:10:10 → 00:10:12 >> แต่แต่ต้องเป็นหมอนะถึง
00:10:12 → 00:10:16 >> ใช่ถึงเข้าใตรงใช่มันจะแบบตึงมากก็จะบอก
00:10:16 → 00:10:18 อ่ะคนนี้เขาจะค่อนข้างเครียดค่อนข้าง
00:10:18 → 00:10:21 เครียดนอนน้อยหรือมีงานคิดเยอะอะไรอย่าง
00:10:21 → 00:10:25 เงี้ยแต่ถ้าเกิดว่าจับมาปุ๊บไหลคล่องฟูดี
00:10:25 → 00:10:28 แล้วอยู่ในวัยอ่าวัยแบบกำลังแข็งแรงเนี่ย
00:10:28 → 00:10:29 อันนี้อาจจะเป็นปกติ
00:10:29 → 00:10:29 >> ค่ะ
00:10:29 → 00:10:32 >> แต่ว่าถ้าเกิดว่าจับคนที่เขาอาจจะช่วยตอน
00:10:32 → 00:10:35 อาจจะไม่ถึงขั้นเอ่อลื่นชีพจรใหญ่ขนาด
00:10:35 → 00:10:37 นั้นเนี่ยแต่ว่าจับเจอในถ้าไหนผู้หญิงอาจ
00:10:37 → 00:10:40 จะอยู่ในแบบกำลังตั้งครรภหรือว่ากำลังแบบ
00:10:40 → 00:10:42 ช่วงมีรอบเดือนกำลังมาอะไรอย่างเงี้ยมัน
00:10:42 → 00:10:45 ก็เลือดมันจะฟูขึ้นบางครั้งเนี่ยเราเจอคน
00:10:45 → 00:10:49 ไข้ที่ชีพจรอ่อนมากๆก็คือจับไปแบบจับเจอ
00:10:49 → 00:10:52 แค่นิดนึงพอกดลึกเนี่ยนิดเดียวนะนิดนึง
00:10:52 → 00:10:56 แตะลงไปหน่อยเนี่ยเจออ่อนๆแต่กดลึกลงไป
00:10:56 → 00:10:58 ไม่เจอเลยก็คือหายคือมันอ่อนมากแล้วจะ
00:10:58 → 00:11:01 เป็นชีพจรที่เราจะเรียกว่าชีไหม้หรือ
00:11:01 → 00:11:04 ชีปจรพร่องชีพจรอ่อนอันนี้ก็คือกำลังภาย
00:11:04 → 00:11:06 ในของเขาเนี่ยค่อนข้างอ่อนแอ
00:11:06 → 00:11:08 >> เป่วยเป็นไรบอกได้
00:11:08 → 00:11:10 >> อ่าอาจจะเป็นพลังชี่
00:11:10 → 00:11:12 >> อ่าพลังชี่มันมีหลายอย่างก็คือพลัง
00:11:12 → 00:11:15 กำลังของปอดกำลังของมามเราก็จะดู
00:11:15 → 00:11:17 ลึกว่าตำแหน่งไหนอ่อนแอเป็นพิเศษ
00:11:17 → 00:11:19 >> แต่ส่วนใหญ่ก็อาจจะเป็นโรคเรื้อรังมาจน
00:11:19 → 00:11:21 ร่างกายเวลาเขาพูดเนี่ยเสียงเขาอาจจะไม่
00:11:21 → 00:11:23 ก้องกลางวันแล้วเขาจะไม่
00:11:23 → 00:11:24 >> หมดแรง
00:11:24 → 00:11:26 >> ใช่เสียงมันจะแบบอ่อนลงเหนื่อยง่าย
00:11:26 → 00:11:27 >> อันนี้คือชีพจรอ่อน
00:11:27 → 00:11:30 >> ใช่แล้วก็ถ้าเกิดว่าเป็นชีพจรตึงอย่างที่
00:11:30 → 00:11:33 เมื่อสักครู่นี้เราพูดเขาก็จะแบบเส้นมัน
00:11:33 → 00:11:34 จะแข็งตึงๆ
00:11:34 → 00:11:35 >> ค่ะ
00:11:35 → 00:11:37 >> มันจะสามารถบวกเป็น 2 ชีพจรได้ก็อีกชีพจร
00:11:37 → 00:11:42 นึงคือชีพจรเส้นเล็กมันจะแบบว่ามันจะตึง
00:11:42 → 00:11:44 แล้วก็เล็กคือมันจะไม่กว้างมันจะแบบเส้น
00:11:44 → 00:11:47 มันจะเล็กลงปกติหลอดเลือดเราจะอย่างงี้
00:11:47 → 00:11:49 แต่เชี้ยวจากคนไข้เนี่ยมันแค่นี้เองเออก็
00:11:49 → 00:11:51 คือเลือดมันไม่เต็ม
00:11:51 → 00:11:53 >> เลือดมันน้อยบ่งบอกถึงเลือด
00:11:53 → 00:11:54 >> แล้วชีพจรจมล่ะ
00:11:54 → 00:11:57 >> ชีพจรจมเนี่ยถ้าเรากดไปเนี่ยเบาๆไม่เจอ
00:11:57 → 00:12:00 ลึกลงไปหน่อยไม่เจอต้องลกลึกลงไปอีกอ่า
00:12:00 → 00:12:03 ถึงจะเจออันนี้ก็คือชีวจรมันลึกลงไป
00:12:03 → 00:12:03 >> ดีมั้ยคะ
00:12:03 → 00:12:06 >> จริงๆถ้าเกิดว่าอยู่ในหน้าหนาวในคนปกติ
00:12:06 → 00:12:10 เนี่ยชีพจรอาจจะจมโดยธรรมชาติแต่ว่าเอ่อ
00:12:10 → 00:12:13 ถ้าเกิดว่าเป็นคนปกติแล้วมันจมเนี่ยแปล
00:12:13 → 00:12:17 ว่ามีภาวะโรคที่อยู่ลึกภายในเปรียบเทียบ
00:12:17 → 00:12:20 ว่าแบบโรคไข้หวัดอะไรเงี้ยจะเราจะเจอผิว
00:12:20 → 00:12:21 มันจะลอย
00:12:21 → 00:12:25 >> แต่ถ้าโรคที่มันแบบมีเอ่อพิษสะสมข้างใน
00:12:25 → 00:12:25 ลึกๆเนี่ย
00:12:25 → 00:12:26 >> มันลึก
00:12:26 → 00:12:29 >> ใช่มันทำให้เกิดโรคข้างในลึกๆเนี่ยมันจะ
00:12:29 → 00:12:32 ชีวจมันจะจมอีกอันนึงเนี่ยถ้าเป็นคนปกติ
00:12:32 → 00:12:36 นะก็คือคนที่น้ำหนักตัวเยอะจะจมเป็น
00:12:36 → 00:12:40 ธรรมดาก็คือเอ่อชั้นไขมันใช่ๆ
00:12:40 → 00:12:42 >> ใช่ก็คืออันนี้ก็ต้องดูหลายๆปัจจัย
00:12:42 → 00:12:44 ชีพจรเร็วล่ะ
00:12:44 → 00:12:47 >> ชีพจรเร็วจะมีพิษความร้อน
00:12:47 → 00:12:49 มันก็จะเร็วขึ้นมาทีนี้มันก็จะมีหลาย
00:12:49 → 00:12:52 กลุ่มอ่ะยกตัวอย่างเช่นเราเป็นไข้ตัวร้อน
00:12:52 → 00:12:54 จะไปจับเลยเนี่ยมันจะแบบตึดๆ
00:12:54 → 00:12:57 >> ตึๆๆมันจะแรงมากใช่หรือว่าชีวจรในเด็กๆ
00:12:57 → 00:12:59 แต่ชีวจรเด็กๆเนี่ยเขาจะเร็วเป็นปกติ
00:12:59 → 00:13:01 อัตราการเต้นของเขาจะเร็วกว่าผู้ใหญ่ใช่
00:13:01 → 00:13:03 แต่ในผู้ใหญ่ถ้าเกิดว่าตัวร้อนเนี่ยมันจะ
00:13:03 → 00:13:04 แรงเร็ว
00:13:04 → 00:13:08 >> แล้วก็อีกอันนึงเนี่ยก็คือชีพจรเร็วจาก
00:13:08 → 00:13:12 เลือดไม่พออันนี้จะเป็นอีกเลเวลนึงคือไม่
00:13:12 → 00:13:14 ได้รับพิษภายนอกไม่ได้เป็นไข้หวัดตัวร้อน
00:13:14 → 00:13:16 แต่ว่าพอเลือดเราไม่พอปุ๊บหัวใจเราทำงาน
00:13:16 → 00:13:17 หนักขึ้น
00:13:17 → 00:13:18 >> ต้องทำไง
00:13:18 → 00:13:19 >> ชีจก็ได้รัว
00:13:19 → 00:13:22 >> จริงๆในการฟื้นฟูเลือดหัวใจเนี่ยมันต้อง
00:13:22 → 00:13:26 ทั้งกินให้ดีออกกำลังกายพอดีสม่ำเสมอนอน
00:13:26 → 00:13:27 ให้พอ
00:13:27 → 00:13:30 >> ใช่มันถึงจะฟื้นฟูเลือดขึ้นมาได้แต่ว่า
00:13:30 → 00:13:32 จริงๆแล้วเราไม่ได้ดูแต่ชีพจรบางคนอาจจะ
00:13:32 → 00:13:34 ยื่นมาแล้วก็อ่ะเป็นอะไร
00:13:34 → 00:13:34 >> อื
00:13:34 → 00:13:37 >> อ่าบอกได้คร่าวๆแต่ว่าถ้าคนไข้จะรักษา
00:13:37 → 00:13:39 ด้วยแบบนี้เอ่อคนไข้กล้ารักษาจริงๆหรอคุณ
00:13:39 → 00:13:41 หมอเขาจะพยายาม
00:13:41 → 00:13:44 องค์รวมละเอียดมากที่สุดหนึ่งในนั้นในการ
00:13:44 → 00:13:47 ดูภายในเนี่ยก็คือจะดูลิ้น
00:13:47 → 00:13:49 >> ลิ้นลิ้นบอกได้ด้วยเหรอฮะ
00:13:49 → 00:13:49 >> ลิ้นเนี่ยเป็น
00:13:49 → 00:13:52 >> ดูอ่ะสมมุติสมมุติขอโต้นะพี่แลบลิ้นให้
00:13:52 → 00:13:55 หมอกันดูหมอกันจะบอกได้เลยว่าลิ้นเป็น
00:13:55 → 00:13:56 คร่าวๆตำแหน่งใช่ค่ะ
00:13:56 → 00:13:58 >> พี่พี่เไม่กล้าแลบเยอะ
00:13:58 → 00:14:00 >> ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราถ่ายรูปแล้วเราก็
00:14:00 → 00:14:04 วิเคราะห์ได้อ่ะถ้าสีลิ้นอมชมพูดีอ่าก็จะ
00:14:04 → 00:14:05 บอกจริงๆแล้วเราแลบลิ้นเนี่ยเราต้องอ้า
00:14:05 → 00:14:07 ปากกว้างเราแล่ออกมาเพื่อที่จะดูว่าลิ้น
00:14:07 → 00:14:08 ใหญ่ลิ้นเล็ก
00:14:09 → 00:14:11 >> ลิ้นสีแดงลิ้นอ
00:14:11 → 00:14:14 >> อ่าได้อยู่ไม่ถึงกับใหญ่บางคนคือใหญ่คือ
00:14:14 → 00:14:15 ใหญ่จุกปาก
00:14:15 → 00:14:17 >> อันนั้นก็คือจะเป็นพลังลิ้น
00:14:17 → 00:14:19 >> เอ่อลิ้นใหญ่มากๆเนี่ยจะมีความชื้นสะสม
00:14:19 → 00:14:20 ข้างใน
00:14:20 → 00:14:21 >> อ๋อเหรอ
00:14:21 → 00:14:23 >> อ่าระบบมกระเพาะของเขาอาจจะดูดซึมสาร
00:14:23 → 00:14:25 อาหารไม่ดีเอาจจะอ่อนเพียง่วงนอนง่ายอ่ะ
00:14:26 → 00:14:28 ถ้าเกิดว่าลิ้นอ้วนใหญ่แล้วก็สีซีดเนี่ย
00:14:28 → 00:14:30 อาจจะพลังหยาง
00:14:30 → 00:14:30 >> อ๋อ
00:14:30 → 00:14:33 >> ก็คือแบบกลัวหนาวง่ายกระเพาะมาไม่มีกำลัง
00:14:33 → 00:14:34 หรือว่า
00:14:34 → 00:14:36 >> ลิ้นเล็กๆแหลมๆแบบแลบมาแล้วแหลม
00:14:36 → 00:14:38 >> อ่าเลือดไม่พอโอเหรอคะ
00:14:39 → 00:14:42 >> ใช่ลิ้นลิ้นเล็กๆแล้วก็ปลายแหลมๆเนี่ย
00:14:42 → 00:14:44 เลือดไม่พอเลือดร้อนปลายแหลมส่วนใหญ่มัก
00:14:44 → 00:14:46 จะแดง
00:14:46 → 00:14:48 >> แล้วก็จะตำแหน่งแหลมๆข้างหน้าเนี่ยจะเป็น
00:14:48 → 00:14:49 ตำแหน่งหัวใจ
00:14:49 → 00:14:52 >> ก็คืออาจจะเป็นคนที่แบบเร่งรีบนอนไม่หลับ
00:14:52 → 00:14:56 หงุดหงิดง่ายใช่แล้วก็ตัวเลือดมันไป
00:14:56 → 00:14:56 ลิ้นก็จะเล็ก
00:14:56 → 00:14:58 >> ลิ้นที่ดีจะเป็นยังไง
00:14:58 → 00:15:00 >> ลิ้นที่ดีจะขนาดเหมาะสมก็คือไม่ใหญ่เกิน
00:15:01 → 00:15:04 ไปไม่ได้แบบเล็กแค่นี้แล้วก็ตัว 4 ลิ้น
00:15:04 → 00:15:07 เนี่ยเราจะเรียกว่าเอ่อสีชมพูอ่อนมีฝ้า
00:15:07 → 00:15:10 ขาวจางๆมีเลย
00:15:10 → 00:15:12 >> ไม่ใช่ไม่มีเลยถ้าไม่มีเลยคือเป็นพลัง
00:15:12 → 00:15:13 หยิ่น
00:15:13 → 00:15:15 >> ก็คือแบบเราจะรู้สึกร้อนข้างในคนที่เป็น
00:15:15 → 00:15:18 วัทองอ่ะจะแบบแลบลิ้นออกมาแบบไม่มีฝ้า
00:15:18 → 00:15:20 ลิ้นเลยอ่ะความอยากอาหารไม่ดีขับถ่ายไม่
00:15:20 → 00:15:22 ดีนอนกลางคืนเหงื่อออกอะไรอย่างเงี้ย
00:15:22 → 00:15:24 >> พี่พอได้มั้
00:15:24 → 00:15:26 >> อันนี้ได้นี้มีฝ้าลิ้นอยู่
00:15:26 → 00:15:28 >> หมอไม่ได้ใส่แว่นหมอใส่แว่น
00:15:28 → 00:15:31 >> เหนออ๋อมันดูดูขนาดนั้น
00:15:31 → 00:15:34 >> ใช่แล้วก็ส่วนใหญ่ที่หมอตรวจเนี่ยหมอก็จะ
00:15:34 → 00:15:37 คือจะดูลิ้นค่อนข้างชัดกว่ามาก
00:15:37 → 00:15:40 >> แสดงว่าสำคัญนะลิ้นลิ้นลสำคัญแล้วในการ
00:15:40 → 00:15:44 ตรวจแบบแพทแผนจีนเนี่ยจะมีการมองการมองสี
00:15:44 → 00:15:47 หน้าอ่ามองลักษณะท่าทางการเดินอะไรอย่าง
00:15:47 → 00:15:50 งี้เนาะแล้วก็เอ่อดมกลิ่นกลิ่นของคนไข้
00:15:50 → 00:15:51 มันกลิ่น
00:15:51 → 00:15:53 >> มันมีกลิ่นอะไรคะ
00:15:53 → 00:15:54 >> กลิ่นอะไรคะ
00:15:54 → 00:15:57 >> คนไข้บางคนเขาจะมีกลิ่นเฉพาะตัว
00:15:57 → 00:15:58 >> เฉพาะตัว
00:15:58 → 00:16:01 >> ใช่ก็คือถ้ากลิ่นที่มันไม่สดชื่นขึ้นมา
00:16:01 → 00:16:03 หรือว่ากลิ่นเราจะแบบกลิ่นเหม็น
00:16:03 → 00:16:06 >> แบบนั้นก็ได้ก็คือเซลล์มันก็จะผัดตัวไม่
00:16:06 → 00:16:08 ดีเซลล์มันเสื่อมลง
00:16:08 → 00:16:08 >> อ๋ออ๋อ
00:16:08 → 00:16:10 >> อ่าแล้วก็จริงๆแล้วดมกลิ่นยังเป็นดมกลิ่น
00:16:11 → 00:16:13 อุจจรปัสสาวะอันนี้คือต้องถามเพิ่ม
00:16:13 → 00:16:13 >> โอ
00:16:13 → 00:16:17 >> ใช่มันก็จะลึกลงไปแล้วก็เอ่อมีการสัมผัส
00:16:17 → 00:16:21 ก็คือจับชีพจรคำท้องอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็
00:16:21 → 00:16:23 มีการซักประวัติอาการถ้าเกิดว่าอย่างเป็น
00:16:23 → 00:16:26 คนไข้เป็นโรคกระเพาะมาแต่ชีพจรตึงมากอ่ะ
00:16:26 → 00:16:29 เราก็อาจจะมองว่าอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับ
00:16:29 → 00:16:30 ระบบทางเดินอาหารเสียทีเดียวอาจจะเกี่ยว
00:16:30 → 00:16:32 กับตับเมื่อสักครู่นี้ที่ยกตัวอย่างก็คือ
00:16:32 → 00:16:34 ใช้ชีพจรในการ
00:16:34 → 00:16:34 >> ค่ะ
00:16:34 → 00:16:37 >> เอ่อในการวิเคราะห์ร่วมด้วยรวมถึงการดู
00:16:37 → 00:16:40 ลิ้นโอ้แพทย์แผนจีนนี่ดูลึกมากเลยเนอ
00:16:41 → 00:16:43 >> ใช่แต่ว่าเราไม่ได้ไปตรวจเลือดไงเราดูแบบ
00:16:43 → 00:16:45 นี้เข้าใจแต่ว่าเท่าที่พี่มองเนี่ยพี่ว่า
00:16:46 → 00:16:48 แตกต่างจากแพทย์แผนปัจจุบันมากเลยแพทย์
00:16:48 → 00:16:50 แผนปัจจุบันเจาะเลื่อนแล้วก็ไล่ดูไปทั้ง
00:16:50 → 00:16:53 หมดอ่ะอย่างเรื่องชีพจรต่างๆเนี่ยต้องให้
00:16:53 → 00:16:56 หมอกดแล้วถึงจะรู้แล้วการดูสีหน้าที่
00:16:56 → 00:17:00 เมื่อกี้บอกหรือกลิ่นอย่างสมมุติพี่เนี่ย
00:17:00 → 00:17:03 จะรู้ได้ไงเพราะพี่แต่งมีครีมมีน้ำหอม
00:17:03 → 00:17:07 หรือสีหน้าพี่แต่งหน้าแล้วถ้าจะให้หมอการ
00:17:07 → 00:17:08 ดูทำไงฮะ
00:17:08 → 00:17:08 >> ถ้าเรา
00:17:08 → 00:17:10 >> ต้องมาตั้งแต่ลุกจากที่นอนเลย
00:17:10 → 00:17:12 >> ใช่ๆจริงๆจะให้แบบคนไข้ถ่ายรูปตอนนั้นมา
00:17:12 → 00:17:16 ให้ดูถึงจะแบบแม่นยำสุดที่คลินิกเขาก็จะ
00:17:16 → 00:17:19 ไม่ได้แต่งหน้ามาหมอมีคนไข้ที่เขาเป็นโรค
00:17:19 → 00:17:23 ไตระยะสุดท้ายแล้วก็เอ่อยังไม่รับฟอกไต
00:17:23 → 00:17:26 แล้วเขาก็เป็นเบาหวานเป็นแผลผูพองที่เท้า
00:17:26 → 00:17:29 >> เป็นหนักมากแล้วก็เดินเข้ามาเนี่ยคือตัว
00:17:29 → 00:17:30 เหลืองแล้ว
00:17:30 → 00:17:32 >> อ่าคุณหมอเขาก็จะแนะนำให้ถ้ายังไม่ฟอกไต
00:17:33 → 00:17:35 ก็ไปให้เลือดก่อนเพราะไตระยะหลังๆเนี่ย
00:17:35 → 00:17:38 คือเขาผลิตเม็ดเลือดได้ไม่ดีเขาก็จะซีดมี
00:17:39 → 00:17:41 ปัญหามากเขาก็จะอ่อนเพลียไม่มีกำลังสี
00:17:42 → 00:17:44 หน้าคือบอกเลยว่าอันนี้หนักละ
00:17:44 → 00:17:46 >> หรือว่าใครที่แบบว่าอ่าอย่างโรคหัวใจหรือ
00:17:46 → 00:17:49 ความดันโรคเกี่ยวกับหลอกเลือดก็จะแสดงถึง
00:17:49 → 00:17:51 สีหน้าแดงในสาขาแพจีนนะคะ
00:17:52 → 00:17:54 >> ถ้าถ้าเป็นโรคหัวใจหรือความดัน
00:17:54 → 00:17:54 >> ใช่
00:17:54 → 00:17:55 >> สีหน้าจะเป็นไง
00:17:55 → 00:17:58 >> แดงขึ้นมาหน้าเราจะแดงกลับมาอ่ะยกตัว
00:17:58 → 00:18:00 อย่างเช่นคนที่ทานแอลกอฮอล์มาหรือว่าใคร
00:18:00 → 00:18:02 ที่แบบว่าช่วงนี้แบบโกรธโมโหแล้วความดัน
00:18:02 → 00:18:05 ความดันขึ้นแล้วหน้าแดงก่ำใช่นี้ก็จะเอ่อ
00:18:06 → 00:18:09 สีหน้าสีแดงเนี่ยจะสะท้อนเกี่ยวกับภาวะ
00:18:09 → 00:18:11 ของหัวใจหัวใจแทงสาจริงๆคือเป็นเลือดหลอด
00:18:11 → 00:18:13 เลือดหัวใจเนาะค่ะ
00:18:13 → 00:18:15 >> ค่ะแล้วก็สีเหลืองจะเกี่ยวกับม้า
00:18:15 → 00:18:17 >> เหรอแต่แต่ผู้ใหญ่เนี่ยเ้าบอกว่าคนอายุ
00:18:17 → 00:18:20 มากๆผิวมันก็จะเหลืองไปตามปกติ
00:18:20 → 00:18:23 >> ใช่เราจะสังเกตว่าเหลืองแห้งออกดำลอง
00:18:23 → 00:18:23 สังเกต
00:18:23 → 00:18:25 >> อันนี้จะจะดูสียังไงฮะ
00:18:25 → 00:18:28 >> เอ่อมันจะไม่สดใสเหมือนเด็กๆขึ้นมาคือเรา
00:18:29 → 00:18:31 จะสังเกตได้เลยทำไมคนที่อายุเยอะหรือว่า
00:18:31 → 00:18:34 พอไอชราขึ้นเนี่ยผิวมันจะดูแห้งหยาบกล้าง
00:18:34 → 00:18:38 หมองค้ำอมเหลืองเพราะว่า 1 ก็คืออายุเขา
00:18:38 → 00:18:40 เยอะขึ้นผลิตเลือดได้ไม่พอ 2 อายุเขาเยอะ
00:18:40 → 00:18:43 ขึ้นพลังงานของไตตกพลังงานของไตเนี่ยจะ
00:18:43 → 00:18:46 ช้อนความอ่อนเยาเนี่ยหายไปมันก็คือไม่
00:18:46 → 00:18:47 อ่อนเยาวการแสดงออกของโรคของไตเนี่ยจะ
00:18:47 → 00:18:49 เป็นสีดำหน้าเขาจะค้ำง่าย
00:18:49 → 00:18:50 >> อ
00:18:50 → 00:18:52 >> แต่ว่าจริงๆแล้วคนที่จะสีหน้าดำได้เนี่ย
00:18:52 → 00:18:54 จากปกติผิวแบบเนี้ยปกติแล้วเปลี่ยนเป็นสี
00:18:54 → 00:18:57 ดำเนี่ยส่วนใหญ่จะเป็นโรคหนักๆเขาถึง
00:18:57 → 00:19:00 อย่างมะเร็งอะไรอย่างเงี้ยถ้าเกิดว่าเป็น
00:19:00 → 00:19:02 ถึงขั้นที่เขาลึกเนี่ยก็จะสีหน้าเขาจะ
00:19:02 → 00:19:03 เปลี่ยน
00:19:03 → 00:19:06 >> งั้นสีสีผิวผิวในหลักของแพทย์แผนจริงควร
00:19:06 → 00:19:07 จะเงาใส
00:19:07 → 00:19:09 >> ถึงแม้ว่าจะเหลืองบ้างก็ตาม
00:19:09 → 00:19:11 >> ใช่อ่ะถ้าเกิดว่าเบสแบบพื้นฐานเราเนี่ย
00:19:11 → 00:19:14 เป็นคนแบบฝั่งนี้ก็จะแบบผิวอมเหลืองอ่า
00:19:15 → 00:19:17 ผิวขาวเหลืองอะไรอย่างเงี้ยแต่ว่าหน้าของ
00:19:17 → 00:19:19 เรายังเงางามดีอิ่มน้ำดี
00:19:19 → 00:19:19 >> อ๋อ
00:19:19 → 00:19:22 >> ใช่จริงๆแล้วตอนที่เรียนเนี่ย
00:19:22 → 00:19:25 >> นักเรียนในห้องก็จะถามอาจารย์ว่าเอ้าแล้ว
00:19:25 → 00:19:27 คนแอฟริกันล่ะเค้าผิวดำนะ
00:19:27 → 00:19:27 >> ใช่
00:19:27 → 00:19:30 >> เออแล้วจะดูยังไงว่าเขาไม่สบายอ่ะอาจารย์
00:19:30 → 00:19:33 ก็บอกว่าจริงๆแล้วผิวสีดำของเขาเนี่ยจะ
00:19:33 → 00:19:35 ต้องเป็นสีดำที่ยังเงางามอยู่อ
00:19:35 → 00:19:41 >> อ่าไม่มีกระ
00:19:41 → 00:19:43 นั้นแหละคือสะท้อนความแข็งแรง
00:19:43 → 00:19:45 >> ค่ะเท่าที่พี่ฟังดูเหมือนกับว่าแพทย์แผน
00:19:46 → 00:19:48 จีนเนี่ยให้ความสำคัญเกี่ยวกับไต
00:19:48 → 00:19:51 >> ให้ความสำคัญมากเพราะว่ามันเป็น
00:19:51 → 00:19:52 >> บอกอะไรฮะไต
00:19:52 → 00:19:54 >> เค้าเป็นคือเราจะเกิดมานั่งคุยกันแบบนี้
00:19:54 → 00:19:57 ไม่ได้ถ้าไม่มีพลังงานของไตของพ่อแม่ก็
00:19:57 → 00:20:00 คือไตเนี่ยเป็นแหล่งกำเนิดชีวิตเป็นตัว
00:20:00 → 00:20:03 กำหนดการเกิดแก่เจ็บตาย
00:20:03 → 00:20:04 >> เหรอค่ะ
00:20:04 → 00:20:07 >> อ่ะถ้าในทางสาแพทย์แผนจีนเนี่ยเราจะไล่
00:20:07 → 00:20:11 ตั้งแต่ตอนที่เป็นไข่ของคุณแม่เอาจิของ
00:20:11 → 00:20:13 คุณพ่ออันนี้คือพลังงานของไต
00:20:13 → 00:20:13 >> ค่ะ
00:20:13 → 00:20:16 >> ทีนี้เราก็มาเจอกันจะทำให้เราตั้งครรภ์อ
00:20:16 → 00:20:19 ตอนที่เด็กทารกอยู่ในครรภ์มารดาเนี่ยก็
00:20:19 → 00:20:21 พลังงานของไตในการเพาะเซลล์ทำให้เด็กเป็น
00:20:22 → 00:20:24 ตัวจากเมล็ดพันธุ์ 2 คนเนี่ยมาเป็นตัวอัน
00:20:24 → 00:20:27 นี้คือพลังงานของไตดูแลงั้นพลังงานของไต
00:20:27 → 00:20:29 มันก็เลยเป็นตัวกำหนดชีวิต
00:20:29 → 00:20:29 >> อื
00:20:29 → 00:20:32 >> อ่าเด็กคนนี้คลอดออกมาเนี่ยเขาจะแบบเป็น
00:20:32 → 00:20:33 คนป่วยง่ายมั้ย
00:20:33 → 00:20:37 อ่ะเขาจะสมองดีมั้ยเริ่มต้นเนี่ยก็คือ
00:20:37 → 00:20:39 แหล่งเพาะพันธุ์ 2 อันก็คือพลังงานของไต
00:20:39 → 00:20:40 ตั้งต้น
00:20:40 → 00:20:40 >> ค่ะ
00:20:40 → 00:20:42 >> เราก็เลยมองว่าพลังงานของไตเนี่ยมันเป็น
00:20:42 → 00:20:46 ตัวกำหนดชีวิตเป็นรากฐานของชีวิต
00:20:46 → 00:20:47 >> ใช่แต่ว่า
00:20:47 → 00:20:50 >> พอเรากำเนิดออกมาแล้วเนี่ย
00:20:50 → 00:20:52 >> เอ่อหลายคนอยากดูแลไต
00:20:52 → 00:20:55 >> หมอจะชอบบอกว่าให้ไปดูแลที่ม้ากระเพาะ
00:20:55 → 00:20:57 เพราะว่าหลังกำเนิดเนี่ยม้ากระเพาะเป็น
00:20:57 → 00:20:59 ตัวหล่อเลี้ยงพลังงาน
00:20:59 → 00:21:02 >> ต่อจากนั้นก็คือดูแลการกินนั่นเองอ
00:21:02 → 00:21:06 >> แล้วหลายคนกินไม่ดีแล้วเป็นโรคไตเสื่อม
00:21:06 → 00:21:09 ไม่ได้แปลว่าพลังงานของไตของเขายังไม่
00:21:09 → 00:21:11 สัมพันธ์กับพลังงานของไตของเขาโดยตรง
00:21:11 → 00:21:11 >> อ่า
00:21:11 → 00:21:15 >> อ่าแต่ว่าเพราะว่าเขากินไม่ดีมันก็เลยไป
00:21:15 → 00:21:17 เร่งปฏิกิริยาทำให้ร่างกายของเราเสื่อมไว
00:21:17 → 00:21:20 ในการปรับหรือรักษาเนี่ยอาจจะต้องมาดูแล
00:21:20 → 00:21:22 ที่มามก็คือดูแลที่การกินก่อนอ
00:21:22 → 00:21:24 >> และหลายๆโรคเนี่ยเกิดจากการกิน
00:21:24 → 00:21:26 >> การกินอย่างเดียวงั้นที่ที่พี่เคยได้ยิน
00:21:26 → 00:21:29 บอกว่ากินเค็มกินเค็มไตจะแย่จริงมั้คะ
00:21:29 → 00:21:30 >> เออจริง
00:21:30 → 00:21:30 >> โอ
00:21:30 → 00:21:32 >> เพราะว่ามันเป็นอย่างงั้นทั้งสาแพงจีน
00:21:32 → 00:21:35 เนี่ยจะมี 5 รสชาติที่ทำร้ายอวัยวะนั้นๆ
00:21:35 → 00:21:38 1ึในนั้นก็คือเค็มมากเกินไปทำร้ายไต
00:21:38 → 00:21:38 >> ไต
00:21:38 → 00:21:41 >> แต่ให้ทายว่าสมุนไพรที่เอ่อช่วยบำรุง
00:21:41 → 00:21:44 รักษาไตก็มีรสชาติเค็มเหมือนกัน
00:21:44 → 00:21:46 >> ใช่มันเป็นเหมือนมันเป็นย้อนแย้งนะแต่ว่า
00:21:46 → 00:21:49 มันต้องเป็นพลังงานที่พอดีคือถ้าเป็น
00:21:49 → 00:21:51 สมุนไพรหรือเป็นอาหารเนี่ยถ้ามันเป็นจาก
00:21:51 → 00:21:52 ธรรมชาติเนี่ย
00:21:52 → 00:21:54 >> บางครั้งเราจะสัมผัสมันไม่ใช่เค็มเหมือน
00:21:54 → 00:21:56 น้ำปลาแต่ว่ามันจะเป็นอย่างผักบางชนิด
00:21:56 → 00:21:59 เนี่ยเขาจะมีรสชาติเค็มแต่เราอาจจะสัมผัส
00:21:59 → 00:22:02 ไม่ได้เฉยๆอันนี้คือรสในทางแพทย์แผนจีนอื
00:22:02 → 00:22:04 >> แต่ในการกินปกติของเราเนี่ยเราบังเอิญว่า
00:22:04 → 00:22:06 ไปใส่เครื่องปรุงเยอะเกินไป
00:22:06 → 00:22:07 >> ไม่ดีใช่มั้คะ
00:22:07 → 00:22:08 >> ก็ไม่ดี
00:22:08 → 00:22:09 >> ใช่
00:22:09 → 00:22:11 >> งั้นกินดีต้องจืดๆ
00:22:11 → 00:22:13 >> กินดีจริงๆมีรสชาติได้ทานอร่อยได้แค่ไม่
00:22:13 → 00:22:14 มากเกินไปเท่าไหร่
00:22:14 → 00:22:16 >> ไม่มากเกินไปคือทุกอย่างต้องไม่มากเกินไป
00:22:16 → 00:22:18 ไม่ใส่เยอะเกินไปอ
00:22:18 → 00:22:20 >> ก็คือเรายังทานอร่อยได้ปกติอย่างคนไข้
00:22:20 → 00:22:22 เป็นโรคไตมาแล้วบอกว่าอ้าแล้วจะกินยังไง
00:22:22 → 00:22:25 ล่ะก็กินธรรมดาได้เลยขอแค่ไม่เพิ่มเติม
00:22:25 → 00:22:29 ที่คุณเป็นโรคไตคุณอาจจะปรุงเยอะมากในตอน
00:22:29 → 00:22:32 แรกหรือว่ากินแต่ก๋วยเตี๋ยว 3 มื้อ
00:22:32 → 00:22:34 อกินแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์เข้ามา
00:22:34 → 00:22:36 ระหว่างวันไม่กินน้ำเปล่ามาร่างกายมันก็
00:22:36 → 00:22:38 ไม่ไหวแต่ถ้าเรากลับมากินเป็นปกติ
00:22:38 → 00:22:42 ธรรมชาติธรรมดาอร่อยได้เป็นปกติเนี่ยก็จะ
00:22:42 → 00:22:43 อยู่ได้ร่างกายก็จะอยู่ได้
00:22:43 → 00:22:46 >> การดูแลพลังงานของไต่ให้สมดุลเนี่ยมันมี
00:22:46 → 00:22:49 อาหารอะไรมั้ยที่มันพอจะช่วยเราได้อันนี้
00:22:49 → 00:22:51 แบบง่ายๆที่เราทำกันเองได้
00:22:51 → 00:22:52 >> อ่ะไปหาซื้อข้าวเหนียวดำหรือข้าว
00:22:52 → 00:22:54 ไลฟ์เบอร์รี่ก็ได้
00:22:54 → 00:22:54 >> อ๋อเหรอ
00:22:54 → 00:22:58 >> อ่าเอามาต้มกับถั่วดำงาดำ
00:22:58 → 00:23:00 >> งาดำถั่วดำเนี่ยเราไปคั่วงด
00:23:00 → 00:23:02 >> เอาไปคั่วให้หอมก่อนแล้วเราก็เอามาต้ม
00:23:02 → 00:23:06 ถ่านอันนี้จะเป็นใครที่อยากดูเอ่อดูแลมด
00:23:06 → 00:23:09 ลูกเอ่อดูแลไข่อสุจิหรือว่าอยากดูแลเส้น
00:23:09 → 00:23:12 ผมดูแลเลือดสูตรนี้ทานได้
00:23:12 → 00:23:14 >> ตัวดำงาดำ
00:23:14 → 00:23:16 >> ตัวดำงาดำก็คืออาหารสีดำเนี่ยจะเข้าสู่
00:23:16 → 00:23:19 พลังงานของไตนอกจากนี้ก็เห็นหูหนูดำอ่าเ
00:23:19 → 00:23:20 ช่วยฟื้นฟูเลือด
00:23:20 → 00:23:23 >> อ๋อโอๆๆอย่างงั้นก็ดีเพราะงั้นเอามาหุง
00:23:23 → 00:23:25 ข้าวแล้วอาจจะใส่งาดำไปคั่วซะนิดนึงพอให้
00:23:25 → 00:23:28 มันมีน้ำมันแล้วอย่างพี่ทานงาดำเนี่ยไม่
00:23:28 → 00:23:31 น่าจะคั่วก่อนน่ะก็ซื้อมาแล้วก็เคี้ยวให้
00:23:31 → 00:23:34 น้ำมันมันแตกอยู่ในปากได้มั้
00:23:34 → 00:23:37 >> อได้แต่ว่าแนะนำให้คั่ว
00:23:37 → 00:23:40 >> แนะนำให้คั่วก่อนบางทีมันไหม้เราไม่รู้
00:23:40 → 00:23:41 คั่ว
00:23:41 → 00:23:42 >> เราไม่รู้ว่าเค้าไหม้
00:23:42 → 00:23:45 >> เราก็เราเราคั่วเองเราก็ทำให้มันหอมใช่
00:23:45 → 00:23:47 เอ่อร่างกายของเราเนี่ยจะสามารถดูดซึมสาร
00:23:47 → 00:23:50 อาหารจากงาดำได้ดีกว่างาดำแบบสด
00:23:50 → 00:23:53 >> แต่จริงๆถ้าเราทานเล่นน่าจะน่าจะสุกมาก
00:23:53 → 00:23:55 >> เพราะงั้นเหมือนกับว่าอาหารอะไรก็ได้ที่
00:23:55 → 00:23:56 มันสีดำ
00:23:56 → 00:23:58 >> สีดำจะเข้าไตแต่อย่ากินแต่สีดำอย่างเดียว
00:23:58 → 00:24:01 นะจริงๆแล้วเพื่อให้ร่างกายสมดุดุลเนี่ย
00:24:01 → 00:24:03 ถึงแม้เราอยากจะดูแลพลังงานของไตเราต้อง
00:24:03 → 00:24:04 กินอาหารองค์รวม
00:24:04 → 00:24:04 >> องค์รวม
00:24:04 → 00:24:07 >> หลากสีไม่ซ้ำซากจำเจ
00:24:07 → 00:24:11 >> กินแบบดูแลไตไปแล้วแล้วถ้ากินแบบทำร้ายไต
00:24:11 → 00:24:13 นอกจากเมื่อกี้บอกทันก๋วยเตี๋ยวอะไรปรุง
00:24:13 → 00:24:14 เนี่ยนะฮะมีอย่างอื่นอีกมั้คะ
00:24:14 → 00:24:18 >> จริงๆแล้วอาหารหลายอย่างเลยที่ไปทำร้ายไต
00:24:18 → 00:24:19 ทางอ้อม
00:24:19 → 00:24:19 >> ค่ะ
00:24:19 → 00:24:22 >> ก็คือไปทำร้ายมามกระเพาะก่อนยกตัวอย่าง
00:24:23 → 00:24:27 เช่นเราเนี่ยชอบกินสนคกินของคาวเสร็จต้อง
00:24:27 → 00:24:30 กินของหวานเครื่องดื่มระหว่างวันกินเสร็จ
00:24:30 → 00:24:33 แล้วต้องมีเบรก 2 3 4 5 ก็คือกินเยอะ
00:24:33 → 00:24:36 เกินไปกินถี่เกินไปกินพลังงานสูงมากเกิน
00:24:36 → 00:24:37 ไปอ
00:24:37 → 00:24:39 >> มเนี่ยเขาจะเป็นในทางสายแพทย์ันจีนนะคะ
00:24:39 → 00:24:42 กระเพาะกับม้าเขาทำงานร่วมกันกระเพาะย่อย
00:24:42 → 00:24:43 >> มดูดซึม
00:24:43 → 00:24:43 >> อือ
00:24:43 → 00:24:45 >> ทีนี้ระหว่างย่อยกับดูดซึมเนี่ยเราต้องมี
00:24:45 → 00:24:48 เวลากินเราก็หยุดกินถ้าเราไปกินทุก
00:24:48 → 00:24:51 ชั่วโมงอ่ะมันก็จะทำให้ม้าเนี่ยดูดซึมไม่
00:24:51 → 00:24:54 เก่งดูดซึมไม่เสร็จทีนี้ไอ้การดูดซึม
00:24:54 → 00:24:56 เนี่ยพอเา้าเข้าหลอดเลือดเนี่ยม้าจะเป็น
00:24:56 → 00:24:58 ตัวดึงพลังงานออกมาจากอะไรอย่างเงี้ยที
00:24:58 → 00:25:01 นี้พอในหลอดเลือดของเราเนี่ยม้ามันดึกดึง
00:25:01 → 00:25:02 ออกไม่หมด
00:25:02 → 00:25:05 >> เลือดอ่ะมันก็จะค่อนข้างสกปรกหมอจะชอบ
00:25:05 → 00:25:06 เรียกว่าเลือดเหนียวหนืด
00:25:06 → 00:25:07 >> อือ
00:25:07 → 00:25:11 >> อ่ามีน้ำตาลมีไขมันอ่ะมีสารตกค้างต่างๆ
00:25:11 → 00:25:15 มากมายที่กำจัดให้เราไม่เสร็จหรือว่าดูด
00:25:15 → 00:25:18 ซึมให้เราออกไปไม่หมดอ่ะมันก็เลยไปตกค้าง
00:25:18 → 00:25:19 ที่ไต
00:25:19 → 00:25:21 >> งั้นเมื่อกี้บอกว่าเลือดเหนียวหนึบถ้า
00:25:21 → 00:25:23 สมมุติว่าโอ้โหกินบ่อยจนกระทั่งนั้นน่ะ
00:25:23 → 00:25:25 แต่กินน้ำวันนึงเป็นฤทธิอ่ะ
00:25:25 → 00:25:28 >> อ้าก็ไม่จริงๆแล้วไม่ช่วยเพราะว่าเอ่อถ้า
00:25:28 → 00:25:31 ไล่ตามนายนาฬิกาชีวิตเนี่ยเส้นลมปาน
00:25:31 → 00:25:33 กระเพาะอาหารจะอยู่ที่ 7:00 น- 9:00 น.
00:25:33 → 00:25:35 เรากินข้าวเช้าเสร็จช่วงเวลาต่อมาเราต้อง
00:25:35 → 00:25:38 หยุดทานเพื่อให้มาน
00:25:38 → 00:25:41 เปิดแล้วก็ระบบปิดถ้าเกิดว่าเรากินมื้อ
00:25:41 → 00:25:43 นึงมื้อใหญ่เลยกินอิ่มบางคนกิน 1 1 มื้อ
00:25:43 → 00:25:44 แต่กินมื้อใหญ่
00:25:44 → 00:25:45 >> อไม่ถูกใช่มั้ฮะ
00:25:45 → 00:25:47 >> เอ้ยจริงๆสามารถทำได้อันนี้ขึ้นอยู่กับ
00:25:47 → 00:25:48 แต่ละบุคคล
00:25:48 → 00:25:48 >> อ๋อ
00:25:48 → 00:25:51 >> ใช่แต่ว่าเราต้องกินให้ถึงคราวนี้ถ้าเรา
00:25:51 → 00:25:53 รู้สึกอิ่มนานแล้วเราก็ไม่ได้กระทบการนอน
00:25:53 → 00:25:55 เนี่ยจริงๆก็ไม่มีปัญหาแต่ว่าแต่ละบุคคล
00:25:55 → 00:25:57 ไม่เหมือนกันเลยนะถ้าเราไม่ไหวอย่าอย่าทำ
00:25:57 → 00:26:00 เพราะเจอปัญหากับคนไข้ที่กินผิดเยอะมาก
00:26:00 → 00:26:00 >> ออ
00:26:00 → 00:26:03 >> ใช่ก็ถ้ากินตามธรรมชาติอย่างง่ายตื่นเช้า
00:26:03 → 00:26:06 มาทานอาหารเช้าทานเสร็จให้หยุดทานหยุดไป
00:26:06 → 00:26:08 จนกว่าเราจะหิวอีกทีนึงบางคนหิวเที่ยนบาง
00:26:08 → 00:26:11 คนไปหิว 15:00 น.ก็ได้บางคนกิน 3 มื้อบาง
00:26:11 → 00:26:12 คนกิน 2 มื้อ
00:26:12 → 00:26:14 >> อ่าไม่ว่ากันแต่ว่าเราต้องมีเวลาพักไอ้
00:26:14 → 00:26:16 ตอนพักเนี่ยกินแต่น้ำเปล่า
00:26:16 → 00:26:17 >> กินน้ำเปล่า
00:26:17 → 00:26:19 >> กินน้ำเปล่าเพื่อให้ม้าเขาได้แบบดูดซึม
00:26:19 → 00:26:22 สารอาหารจากกระเพาะที่มันลงไปลำไส้เนี่ย
00:26:22 → 00:26:24 ให้มามเขาดึงมาเป็นพลังชีและเลือดอวัยวะ
00:26:24 → 00:26:26 ที่ผลิตพลังชีและเลือดให้ร่างกายของเราก็
00:26:26 → 00:26:27 คือม
00:26:27 → 00:26:27 >> อื
00:26:27 → 00:26:29 >> ใครๆสาวๆอยากบำรุงเลือดเนี่ย
00:26:29 → 00:26:32 >> ก็คือมถ้ากินดีปุ๊บมามเขาจะดึงออกไปหมดที
00:26:32 → 00:26:35 นี้ถ้าเรากินไม่ดีกินพลังงานมากเกินไป
00:26:35 → 00:26:38 อาหารที่ทำร้ายม้าคือกลุ่มหวานกินหวาน
00:26:38 → 00:26:40 เยอะเกินไปเนี่ยมามอ่อนแอมอ่อนแอร์ปุ๊บ
00:26:40 → 00:26:43 มั้ไม่ทำงานก็คือฉันไม่ดูดซึมละ
00:26:43 → 00:26:44 >> อ๋อ
00:26:44 → 00:26:46 >> ไม่ดูดซึมปุ๊บคนๆนั้นอาจจะเออเพิ่งกินไป
00:26:46 → 00:26:47 เองหิวอีกแล้ว
00:26:47 → 00:26:49 >> หรือว่าแบบอเหนื่อยเพียจังเลยเพราะว่า
00:26:49 → 00:26:51 ม้ามเขาไม่มีแรงแล้วเขาก็ไม่ทำงานกระเพาะ
00:26:51 → 00:26:54 ก็ย่อยไม่เก่งมก็ไม่ดูดซึมทีนี้ไม่มีตัว
00:26:54 → 00:26:56 ที่ช่วยดึงพลังงานออกจากเลือดให้เราเนี่ย
00:26:56 → 00:26:59 เลือดมันก็ไหลต่ออ่ะไปทำร้ายตับไปทำร้าย
00:26:59 → 00:26:59 ไต
00:26:59 → 00:27:01 >> อเหมือนกับกินแล้วต้องพักบ้าง
00:27:01 → 00:27:02 >> ใช่กินแล้วต้องบ้าง
00:27:02 → 00:27:04 >> กินแล้วอดมื้อกินมื้อไม่หิวก็อาจจะไม่
00:27:04 → 00:27:06 ต้องกินวันนี้เอออิ่มแล้วทำไมจะต้องกิน
00:27:06 → 00:27:08 ทั้งวันทั้งคือบางคนกินทั้งวันจริงๆนะฮะ
00:27:08 → 00:27:12 ใช่ก็คือเราก็สังเกตตัวเราแต่ถ้าในเด็กๆ
00:27:12 → 00:27:14 เนี่ยหมอก็คือให้เขากินเป็นมื้อไม่ต้อง
00:27:15 → 00:27:16 เพิ่มเบรกมากก็ได้คือให้เขากินเป็นมื้อ
00:27:16 → 00:27:18 เนี่ยจบแล้วเขาจะเจริญเติบโตดี
00:27:18 → 00:27:21 >> เป็นการฝึกไปแพทย์แผนปัจจุบันเนี่ย
00:27:21 → 00:27:25 ปัจจุบันนะมักจะไม่แนะนำให้คนเป็นโรคไต
00:27:25 → 00:27:26 กินสมุนไพร
00:27:26 → 00:27:27 >> อือ
00:27:27 → 00:27:30 >> บำรุงไตตรงนี้หมอการมีความเห็นยังไงฮะ
00:27:30 → 00:27:32 >> ก็คือถ้าเรากินมั่วหมอก็ไม่แนะนำถ้าเราจะ
00:27:32 → 00:27:35 ดูข่าวว่าแบบว่าเค้าต้มยามาขวดนึงแล้วเขา
00:27:35 → 00:27:40 ก็ผสมยาแบบยายาแก้ปวดแก่อักเสบอะไรลงไป
00:27:40 → 00:27:43 อ่ะโดยที่ไม่ใช่สมุนไพรล้วนหรือแปว่าเป็น
00:27:43 → 00:27:47 ยาหม้อให้คนไข้ต้มกินเองแต่ว่าคนไข้จะรู้
00:27:47 → 00:27:49 ได้ไงว่าเราเหมาะกับตำรับนั้นถึงแม้ว่า
00:27:49 → 00:27:50 เขาพูดว่าบำรุงไต
00:27:50 → 00:27:51 >> อ่า
00:27:51 → 00:27:54 >> พื้นฐานคำว่าบำรุงไตเนี่ยเอ่อคนไข้รู้
00:27:54 → 00:27:56 มั้ยว่าเขาอ่ะสร้างมาจากพื้นฐานแพทยแผน
00:27:56 → 00:27:59 จีนแพทยแผนไทยหรือว่าแพทยแผนปัจจุบัน
00:27:59 → 00:28:00 >> แพทย์แผนปัจจุบันก็คือคุณเป็นโรคไตเสื่อม
00:28:00 → 00:28:03 คุณมีปัญหาไม่สามารถขับสารน้ำได้อ่าก็จะ
00:28:03 → 00:28:07 มีสมุนไพรจีนกลุ่มนึงสามารถช่วยได้แต่ว่า
00:28:07 → 00:28:09 ตัวเองยังไม่รู้เลยว่าเค้าจัดเป็นตำรับ
00:28:09 → 00:28:13 ไหนแล้วไปกินผิดอ่ะก็ป่วยได้แต่ว่าถ้าเรา
00:28:13 → 00:28:15 เป็นโรคไตเสื่อมแล้วเราอยากรักษาด้วยทั้ง
00:28:15 → 00:28:18 สัตว์ทางเลือกจริงๆไปตรวจเนี่ยเรารับยา
00:28:18 → 00:28:21 อย่างถูกต้องจะช่วยก็คือจากคนที่เป็นแค่ 1
00:28:21 → 00:28:24 2 เนี่ยมันย้อนกลับได้ก็คือช่วยให้การทำ
00:28:24 → 00:28:25 งานของไตดีขึ้น
00:28:25 → 00:28:27 >> จากที่เราขับสารน้ำไม่ออกคุณหมอเขาจะให้
00:28:27 → 00:28:30 ไปฟอกไตแล้วนะอ่าเราก็มารักษาเพื่อฟื้นฟู
00:28:30 → 00:28:31 กำลังภายใน
00:28:32 → 00:28:34 >> อ่าคนไข้ก็ชะลอกันฟอกไตหรือถ้าฟอกแล้วก็
00:28:34 → 00:28:36 อาจจะชะลอไม่ให้ฟอกถี่
00:28:36 → 00:28:38 >> อันนี้สามารถทำได้ถ้าเรารักษาอย่างถูก
00:28:38 → 00:28:41 ต้องคือมันไม่มีคำว่าบำรุงไตแล้วรักษาไต
00:28:41 → 00:28:43 ทุกคนในโลกนี้คือมันไม่เหมือนยาแผน
00:28:43 → 00:28:44 ปัจจุบันตรงนี้
00:28:44 → 00:28:46 >> ค่ะเพราะเคยได้ยินบอกว่าอ้อกินสมุนไพร
00:28:46 → 00:28:49 เนี่ยมันทำให้ไตเสียไตพังเนี่ย
00:28:49 → 00:28:51 >> อือกินผิดพัง
00:28:51 → 00:28:51 >> กินผิดพัง
00:28:51 → 00:28:54 >> อ่ะยกตัวอย่างเช่นช่วงโควิดหลายคนซื้อยา
00:28:54 → 00:28:58 สมุนไพรกินผิดอ่าจะมีตัวนึงก็คือฟ้าทะเล
00:28:58 → 00:28:59 โจรเนี่ยเป็นทั้งยาแพทย์แผ่นไทยแล้วก็
00:29:00 → 00:29:01 เป็นยาแพทย์แผ่นจีน
00:29:01 → 00:29:04 >> อ่าถ้าเป็นโควิดที่จีนเนี่ยเอ่อในตำรับยา
00:29:04 → 00:29:06 จีนเท่าที่หมออ่านมานะ
00:29:06 → 00:29:09 >> เไม่มีฟาทะลโจรในตำรับยาจินเลยนะใช่แต่
00:29:09 → 00:29:11 ว่าประเทศไทยเนี่ยค่อนข้างเน้นให้ทานที
00:29:11 → 00:29:13 นี้ในช่วงแรกเราไม่รู้เนี่ยแล้วเราให้
00:29:13 → 00:29:16 ประชาชนทานผิดๆบางคนก็คือทานแบบอัดๆแล้ว
00:29:16 → 00:29:19 ก็ตับอักเสบใช่มั้ยมันจะมีข่าวช่วงนึงเขา
00:29:19 → 00:29:21 ก็เลยให้เราทานแค่ 5 วันอะไรอย่างเงี้ย
00:29:21 → 00:29:24 >> ทีนี้ในการทานยาฟ้าทะเลโจรเนี่ยเ้าเป็นยา
00:29:24 → 00:29:28 ที่ฤทธิ์ดับเอ่อดับร้อนรุนแรง
00:29:28 → 00:29:30 >> ค่อนข้างลึกคราวนี้ถ้าเรายังไม่ถึงขั้น
00:29:30 → 00:29:33 ที่มันมีพิษร้อนแล้วเราไปทานเนี่ยมันไม่
00:29:33 → 00:29:35 ได้ถูกไปใช้มันไปทำลาย
00:29:35 → 00:29:36 >> เค้าถึงให้ทานแค่ 5 วัน
00:29:36 → 00:29:38 >> ใช่นะฮะแต่ว่าถึงแม้อย่างงั้นถ้าเกิดว่า
00:29:39 → 00:29:41 เราแบบไม่มีสาเหตุของโรคของกลุ่มร้อน
00:29:41 → 00:29:45 เนี่ยเราก็อย่าไปทานมันไม่ได้ช่วยเรามัน
00:29:45 → 00:29:47 จะทำให้เราทำงานหนักเปล่า
00:29:47 → 00:29:49 >> เท่ากับว่ากินยาก็ต้องกินให้ถูกต้อง
00:29:49 → 00:29:52 >> ใช่ต้องกินให้ถูกต้องมันจะปลอดภัยใช่ๆกิน
00:29:52 → 00:29:52 ถูก
00:29:52 → 00:29:54 >> อืๆการกดจุดล่ะ
00:29:54 → 00:29:55 >> อือ
00:29:55 → 00:29:58 >> กดจุดนี่ก็ถือเป็นการรักษาแบบแพทย์แผนจีน
00:29:58 → 00:30:00 ใช่มั้ยฮะตรงนี้เนี่ยมันรักษาด้วยการกด
00:30:00 → 00:30:02 จุดเนี่ยมันรักษาได้จริงมั้ย
00:30:02 → 00:30:03 >> พอพอจะยกตัวอย่างให้ฟังหน่อย
00:30:04 → 00:30:09 >> ได้ๆก็คือออย่างคนที่เป็นกฎไหลย้อนหมอชอบ
00:30:09 → 00:30:12 ให้กดอ่าจุดในกวน
00:30:12 → 00:30:13 >> หมอต้องกดหรือพี่กดเอง
00:30:13 → 00:30:15 >> ถ้าเกิดว่าคนไข้อยู่ที่บ้านอันนี้คือสอน
00:30:15 → 00:30:18 เพราะว่าเป็นการดูแลตัวเองเบื้องต้นเป็น
00:30:18 → 00:30:20 แบบการแก้ปัญหาของตัวเองเบื้องต้นทีนี้ใน
00:30:20 → 00:30:23 การรักษาโรคเนี่ยจริงๆแล้วเราจะใช้การฝัง
00:30:23 → 00:30:27 เข็มใช่มันจะลงลึกกว่าอ่า
00:30:27 → 00:30:29 >> อ่าทีนี้ไอ้การไอ้การกดจุดเนี่ยมันเป็น
00:30:29 → 00:30:32 การที่ช่วยให้คนไข้สามารถบรรเทาได้เบื้อง
00:30:32 → 00:30:34 ต้นเหมือนเราอาจจะไม่ต้องไปกินยาเราแบบ
00:30:35 → 00:30:36 เอาบรรเทาก่อนถ้ามันโอเคโอเคก็โอเคถ้าไม่
00:30:36 → 00:30:38 โอเคเราจะต้องไปหาหมอเพิ่มเติม
00:30:38 → 00:30:40 >> มันกดยังไงอ่ะเดี๋มันกดยังไงเพราะพี่
00:30:40 → 00:30:42 เชื่อว่ามีหลายคนเป็นกดไหลย้อน
00:30:42 → 00:30:44 >> ค่ะก็คือเอา 3 นิ้วของเราทาบที่
00:30:44 → 00:30:47 >> 3 นิ้ว 3 นิ้ว 3 นิ้วไหน 3 นิ้วนี้ค่ะ 3
00:30:47 → 00:30:51 ทาบที่ตรงไอ้ข้อมือของเราเนาะใช่แล้วก็
00:30:51 → 00:30:53 >> ไอ้ปลายนี้อยู่ระหว่างเส้นเอ็นอ่ะครึ่งๆ
00:30:53 → 00:30:55 ดูจะเจอเส้นเอ็นอ่ะ
00:30:55 → 00:30:58 >> ก็คือ 3 3 นิ้วไปนะคะก็คือระยะห่าง
00:30:58 → 00:30:59 ระหว่าง 3 นิ้ว
00:30:59 → 00:31:00 >> อ่า
00:31:00 → 00:31:02 >> ใช่แล้วก็กดระหว่างเส้นเอ็นปุ๊บ
00:31:03 → 00:31:04 >> ใครที่กดคลึงเงี้ยเหรอ
00:31:04 → 00:31:05 >> ใช่กดคลึงใครที่แบบแสบ
00:31:05 → 00:31:08 แสบร้อนทรวงอกเนี่ยก็ให้กดจุดนี้ได้
00:31:08 → 00:31:09 >> กดนันระหว่างระหว่างกำลังเป็น
00:31:10 → 00:31:12 >> ใช่หลายคนจะถามว่ากดกี่นาทีคะกดเท่าไหร่
00:31:12 → 00:31:15 คะก็คือกดจนกาจะเบาขึ้นแต่ละคนเนี่ยไม่
00:31:15 → 00:31:16 เท่ากันไม่เหมือนกัน
00:31:16 → 00:31:18 >> อาการมันเป็นยังไงกดไหลย้อน
00:31:18 → 00:31:21 >> อ่าบางคนจะรู้สึกจุกเสียดแน่นแสบร้อนทรวง
00:31:21 → 00:31:23 อกที่เหมาะกับกฎจุดนี้นะ
00:31:23 → 00:31:27 >> แล้วมันขึ้นมาถึงไหนบางคนเจะบอกว่าปวดบ่า
00:31:27 → 00:31:28 บางคนตึงหัว
00:31:28 → 00:31:29 >> อ๋อ
00:31:29 → 00:31:31 >> ใช่แล้วแต่คนไม่เหมือนกัน
00:31:31 → 00:31:34 >> ให้หมอการแนะนำเรื่องวิธีการกดจุดเชื่อ
00:31:34 → 00:31:36 ว่าหลายคนนอนไม่หลับกดตรงไหนได้บ้าง
00:31:36 → 00:31:40 >> อ่ะจุดแรกที่หมอชอบแนะนำเลยจริงๆแล้วใน
00:31:40 → 00:31:42 การช่วยนอนหลับเนี่ยแนะนำให้คนอื่นกดให้
00:31:42 → 00:31:43 เห็นผลดีสุด
00:31:43 → 00:31:44 >> อ่าให้คนอื่นกดนะอ่า
00:31:45 → 00:31:48 >> กดเองอาจจะแบบว่ากดไปตื่นไปเนาะจุดแรกก็
00:31:48 → 00:31:51 คือจุดยิ่งถางจุดนี้จะเป็นจุดที่อ่าช่วย
00:31:51 → 00:31:54 ลดความเครียดขับสมองแบบมันคิดไม่หยุดซะที
00:31:54 → 00:31:54 >> อ๋อ
00:31:54 → 00:31:58 >> อ่าเรากดคลึงนวดไปจนถึงจุดเสริงไป
00:31:58 → 00:32:01 >> เสินถิงจะอยู่ระหว่างเส้นผมกับหน้าผาก
00:32:01 → 00:32:04 >> ใช่ค่ะแล้วก็เอ่อเสินเนี่ยคือตัวจิตที
00:32:04 → 00:32:06 เนี้ยถ้าเกิดว่าจิตของเราเนี่ยมันไม่กลับ
00:32:06 → 00:32:09 บ้านถิงมันเหมือนเป็นที่อยู่ชื่อจุดนะคะ
00:32:09 → 00:32:11 ทีนี้ถ้าเกิดว่าตัวจิตของเรามันฟุ้งตลอด
00:32:12 → 00:32:14 เนี่ยเราก็มากดตรงนี้อ่าแล้วก็คือนวดขึ้น
00:32:14 → 00:32:17 ไปแค่ทำแค่นี้เราก็จะผ่อนคลายละ
00:32:17 → 00:32:20 >> จริงๆนวดเองก็ได้นะพอได้อยู่นะได้ก็จะ
00:32:20 → 00:32:23 ผ่อนคลายแล้วก็อีกจุดนึงจะเป็นจุดอันเหมน
00:32:23 → 00:32:25 อันนี้จะไม่ได้อยู่บนเส้นลมปานหลัก
00:32:25 → 00:32:26 >> เจะเป็นจุดพิเศษ
00:32:26 → 00:32:27 >> หลังหู
00:32:27 → 00:32:31 >> ใช่อยู่อ่าอยู่ระหว่างปุ่มกะโหลกตรงนี้
00:32:31 → 00:32:33 อ่ะปุ่มกะโหลกมันมีปุ่มปุ่มกก
00:32:33 → 00:32:34 >> ใช่ใช่หลังหูเนี่ย
00:32:35 → 00:32:37 >> ใช่ๆผมตรงหลังหูเราถ้าเราไม่รู้ว่าจุดไหน
00:32:37 → 00:32:39 แน่เนี่ยเราใช้มือแบบนี้แล้วเราก็นวดวน
00:32:40 → 00:32:40 จุดนั้น
00:32:40 → 00:32:41 >> วน
00:32:41 → 00:32:45 >> อ่าวนจุดนั้นนวดึงเราจะสบายมากใคร
00:32:45 → 00:32:46 >> อ๋อนวดตรงนี้สบายเหรอ
00:32:46 → 00:32:46 >> ใช่ๆ
00:32:46 → 00:32:48 >> อันนี้ช่วยเรื่องนอนหลับใช่มั้อันนี้ช่วย
00:32:48 → 00:32:50 นอนหลับมันจะทำให้แบบเราสงบง่าย
00:32:50 → 00:32:54 >> สงบแล้วก็นอนหลับจุดเนี้เนี่ยตำราจะบอก
00:32:54 → 00:32:56 ว่าจะทำให้เราสามารถนอนหลับได้ยาวขึ้นไม่
00:32:56 → 00:32:57 ตื่นกลางดึก
00:32:57 → 00:32:57 >> อค่ะ
00:32:57 → 00:32:59 >> ใช่แล้วก็คึดใช่
00:32:59 → 00:33:02 >> นะฮะนานแค่ไหนก็ให้เรารู้สึกของเราเอง
00:33:02 → 00:33:04 >> ผ่อนคลายไม่ต้องแบบว่าเมื่อไหร่จะหลับ
00:33:04 → 00:33:07 เมื่อไหร่จะหลับอะไรี้ถ้าจิตยิ่งแยจิตเรา
00:33:07 → 00:33:10 ไม่พร้อมที่จะเปิดรับอ่ะมันก็จะ
00:33:10 → 00:33:11 >> ไม่รับ
00:33:11 → 00:33:14 >> ก็คือทางสามีจะมองว่าหัวใจเนี่ยเป็นตัวนำ
00:33:14 → 00:33:15 กาย
00:33:15 → 00:33:18 >> ก็คือเราหัวใจเนี่ยเป็นตัวกำหนดเราทีนี้
00:33:18 → 00:33:21 ถ้าเกิดว่าหัวเราเนี่ยเปิดหัวใจละการ
00:33:21 → 00:33:22 รักษามันจะง่ายขึ้น
00:33:22 → 00:33:24 >> อืนอนกลล่ะ
00:33:24 → 00:33:26 >> อืนอนกลเนี่ยเป็นปัญหามากอันนี้เราจะ
00:33:26 → 00:33:30 เรียกว่าจุดเทียนถูกดเข้าไปเอ่อข้างหลัง
00:33:30 → 00:33:33 ตรงนี้จะเป็นหลอดลมเลยอ่ะทีนี้พอกดไป
00:33:33 → 00:33:34 เนี่ย
00:33:34 → 00:33:36 >> กึ๊ดๆๆๆนะได้ยินเสียงนะ
00:33:36 → 00:33:38 >> อ่าใช่ถ้าเกิดว่ากดอันตรายเนี่ยคือตรงนี้
00:33:38 → 00:33:39 อันนี้คือจุดอันตราย
00:33:39 → 00:33:42 >> เรากดไปเราจะอึดอัดเลยหายใจไม่ได้แต่ว่า
00:33:42 → 00:33:43 ตรงนี้เนี่ยจะ
00:33:43 → 00:33:45 >> ตรงนี้คือจุดเทียนทูคือรักษาคือหลายคนจะ
00:33:45 → 00:33:47 ถามว่ามันอันตรายมั้จริงๆจุดนี้จะไม่ได้
00:33:47 → 00:33:50 อันตรายมากคือกดแล้วเขาก็จะมันจะกระตุ้น
00:33:50 → 00:33:54 หลอดลมของเขาเนี่ยให้มันไม่ติดขัดไม่ตีบ
00:33:54 → 00:33:57 บางทีเรานอนแล้วแบบทั้งระบบไหล่เว้นเลือด
00:33:57 → 00:33:59 ที่มันติดขัดหลอดลมตีบมันก็จะ
00:33:59 → 00:33:59 >> ค่ะ
00:33:59 → 00:34:00 >> คืออะไรเงี้ยคน
00:34:00 → 00:34:01 >> อันนี้คือคนที่นอนกลน
00:34:01 → 00:34:02 >> อือ
00:34:02 → 00:34:04 >> ถ้าสมมติสมมุติว่าสมมุติพี่นอนกรนนะแต่
00:34:04 → 00:34:06 พี่ไม่ได้กรนนะนอนกรนพี่ก็จะกดก่อนนอนถูก
00:34:06 → 00:34:07 มั้ฮะหรือยังไงหรือ
00:34:08 → 00:34:10 >> อ่าถ้าเกิดว่าเราอยากบรรเทาอาการนอนโกน
00:34:10 → 00:34:14 ของตัวเองเนี่ยให้ดูแลตั้งแต่การกินเพราะ
00:34:14 → 00:34:16 ว่าถ้ากินไม่ดีมันจะเกิดเสมหะแล้วทำให้
00:34:16 → 00:34:19 หลอดลมหลอดเลือดของเราเนี่ยไหล่เวียนไม่
00:34:19 → 00:34:19 สะดวก
00:34:19 → 00:34:20 >> อ
00:34:20 → 00:34:22 >> ก็จะมีปัญหาได้งั้นเราก็ควบคุมการกินของ
00:34:22 → 00:34:25 เราแล้วก็สามารถตบเส้นลมปานปอด
00:34:25 → 00:34:26 >> ก็คือตบแบบ
00:34:26 → 00:34:27 >> อ๋อ
00:34:27 → 00:34:29 >> ใช่กระตุ้นเส้นลมปานปอดให้เขามีกำลัง
00:34:29 → 00:34:30 >> อ๋อ
00:34:30 → 00:34:33 >> ในทำในตอนกลางวันทุกๆวันเราก็จะพลังงาน
00:34:33 → 00:34:36 ของปอดเพียงพอเปอดเนี่ยเดูแลลมหายใจดูแล
00:34:36 → 00:34:37 หลอดลมใช่
00:34:37 → 00:34:38 >> ให้ปอดให้ดี
00:34:38 → 00:34:39 >> ใช่มันก็จะสบายตัวขึ้น
00:34:39 → 00:34:42 >> แล้วถ้าคนนั้นน่ะข้างๆตัวเรากลนเลือดเลย
00:34:42 → 00:34:46 เราจะเอามือไปไปกดเค้าเจะหยุดมั้ยจะหยุด
00:34:46 → 00:34:47 ช่วงที่เรากด
00:34:47 → 00:34:48 >> จริงป่ะ
00:34:48 → 00:34:50 >> จริงจะหยุดช่วงที่เรากดนะเหมือนตอนที่หมอ
00:34:50 → 00:34:53 เรียนที่จีนใช่มั้ยแล้วเอ่ออันนี้คือ
00:34:53 → 00:34:54 เรื่องของน้ำมูกไหลไม่หยุด
00:34:54 → 00:34:57 >> ก็คือเป็นหวัดแล้วก็รำคาญมากมูกไหลก็เลย
00:34:58 → 00:34:59 ฝังเข็มตรงจุดนี้
00:34:59 → 00:35:01 >> พอฝังปุ๊บแห้งสนิท
00:35:01 → 00:35:04 >> แต่แต่ว่าพอถอนออกมาไหลเหมือนเดิม
00:35:04 → 00:35:07 >> ก็คือบางจุดเนี่ยมันเป็นจุดระงับมันไม่
00:35:07 → 00:35:09 ใช่จุดรักษาเหมือนเรากินยาแก้แผลอ่ะถาม
00:35:09 → 00:35:12 ว่าหายหายผมแผลมั้ไม่ได้หายมันแค่ระงับ
00:35:12 → 00:35:13 >> แค่แหยุด
00:35:13 → 00:35:15 >> ใช่เพราะนั้นการกดจุดในบางจุดเนี่ยมัน
00:35:15 → 00:35:17 เป็นแค่การระงับ
00:35:17 → 00:35:17 >> ระงับ
00:35:17 → 00:35:19 >> ใช่ส่วนในการรักษาเนี่ยมันก็เลยต้องต่อ
00:35:19 → 00:35:22 เนื่องยาวนานการรักดูแลตัวเองอ
00:35:22 → 00:35:24 >> อ๋องั้นเอื้อมมือไปได้ใครที่บ้านเถูกใจ
00:35:24 → 00:35:26 เลยเนี่ยจับ
00:35:26 → 00:35:30 >> จับหันๆหันไปกดได้ก็หยุดได้ชั่วแค่ตรงใช่
00:35:31 → 00:35:32 ชั่วคราวอ
00:35:32 → 00:35:33 >> เครียดล่ะเครียดได้จุดไหน
00:35:33 → 00:35:36 >> อ่ะความเครียดจะแนะนำให้กด
00:35:36 → 00:35:36 >> นี้
00:35:36 → 00:35:39 >> ใช่อันนี้มันจะเป็น 4 จุดก็คือฝั่งนี้
00:35:39 → 00:35:41 ฝั่งนี้แล้วก็ง่ามง่ามนิ้วตำแหน่งเดียว
00:35:41 → 00:35:42 กันงมนิ้วโป้ง
00:35:42 → 00:35:43 >> ตำแหน่งของหัวแม่โป้งทั้งนั้น
00:35:43 → 00:35:44 >> ใช่ๆก็คือรุ่น
00:35:44 → 00:35:46 >> อ่าอหัวแม่โป้งค่ะ
00:35:46 → 00:35:48 >> ตรงนี้ใช่ก็คือพอกดเนี่ยถ้าเครียดมากๆ
00:35:48 → 00:35:51 เนี่ยจุดที่จะเจ็บมากๆก็คือตรงนี้
00:35:51 → 00:35:54 >> ก็คือระหว่างเพราะว่ามันเป็นจุดจุดอ่า
00:35:54 → 00:35:57 >> ดูแลพลังงานของตับความเครียดเนี่ยกระทบ
00:35:57 → 00:36:00 พลังชี่และเลือดของตับทำให้ผู้หญิงหิง
00:36:00 → 00:36:03 หน้าดำหน้าฝ้าหน้ามองค้ำอารมณ์แปรปรวน
00:36:03 → 00:36:04 เนี่ย
00:36:04 → 00:36:06 >> แล้วถ้าหน้าดำๆหมองๆเนี่ยกดนี้ไปเรื่อยๆ
00:36:06 → 00:36:08 มันจะช่วยมั้ยจุดนี้ช่วยได้มากจุดนี้
00:36:08 → 00:36:11 เนี่ยเราจะในทางสาวจีนจะมองว่าเมี่ยนโข่
00:36:11 → 00:36:15 เหอกู่โฉแปลว่าเมี่ยนแปลว่าใบหน้าโข่แปล
00:36:15 → 00:36:18 ว่าปากใช้จุดเหอกู่กดลงไปเฉยๆ
00:36:18 → 00:36:20 >> ใช่กดในการผ่อนคลายเราไปเรื่อยๆจุดนี้
00:36:20 → 00:36:21 อยู่บนเส้นลมปาน
00:36:21 → 00:36:22 >> อ๋อ
00:36:22 → 00:36:24 >> งั้นเวลาเราโมโหเราเครียดใครแล้วเราต้อง
00:36:24 → 00:36:24 นั่งกดนะ
00:36:24 → 00:36:27 >> อ่ะกดไว้กดไว้แล้วก็หายใจด้วย
00:36:27 → 00:36:28 >> ผ่อนคลาย
00:36:28 → 00:36:32 >> เออดีๆเอออืจุดไหนที่เรื่องหายใจที่มัน
00:36:32 → 00:36:34 ติดๆขัดๆมีมั้ฮะ
00:36:34 → 00:36:36 >> อ่ะก็ที่หมอยกตัวอย่างไปเมื่อสักครู่นี้
00:36:36 → 00:36:37 >> คือที่ว่าน้ำมูกไหลใช่มั้คะ
00:36:38 → 00:36:40 >> ใช่ก็คือกดตรงเนี้ยไปเราจะโล่งขึ้นแล้วก็
00:36:40 → 00:36:41 ใครที่แบบ
00:36:41 → 00:36:42 >> คนที่เป็นไซนัสอ่ะ
00:36:42 → 00:36:43 >> ภูมิแพ้
00:36:43 → 00:36:45 >> ภูมิแพ้คือบางครั้งเราตื่นมาแล้วเราคัด
00:36:45 → 00:36:47 จมูกแต่น้ำมูกยังไม่ไหล
00:36:47 → 00:36:50 >> มันคัดอยู่ข้างในคนไข้หลายคนเนี่ยจะชอบ
00:36:50 → 00:36:51 สั่งแรงๆ
00:36:51 → 00:36:54 >> ไปนานๆไซนัสก็บวมเรื่อยๆทีนี้เราก็ต้องกด
00:36:54 → 00:36:55 ก่อนเพื่อกระตุ้นการไหลเวของเลือด
00:36:55 → 00:36:57 >> อ๋อนวดไปนะคะนวด
00:36:57 → 00:37:00 >> ใช้นวดแล้วก็ถูอ่ะแบบถปีกจมูกถูขึ้นไป
00:37:00 → 00:37:03 ขึ้นไปแล้วก็ถ้าในเด็กก็ผู้ใหญ่ด้วยก็ได้
00:37:03 → 00:37:05 ก็คือยิ่งถางเหมือนเดิม
00:37:05 → 00:37:08 >> อ่าตัวนี้จะเป็นแบบระบายโพรงกะโหลกอไม่
00:37:08 → 00:37:11 ให้สารคัดหลังไปอุดตันเราจะเบาหน้าขึ้น
00:37:11 → 00:37:13 แล้วมันก็สั่งน้ำมูกออกมาคล่องขึ้น
00:37:13 → 00:37:14 >> ทำไปเรื่อยๆนะ
00:37:14 → 00:37:16 >> ใช่ทำไปเรื่อยๆน้ำมูกมันจะไหล
00:37:16 → 00:37:16 >> อ๋อ
00:37:16 → 00:37:19 >> มันจะแบบมันจะไหลหมดมันไม่สะสมค่ะ
00:37:19 → 00:37:22 >> พวกหิวบ่อยล่ะบางทีเห็นกินเห็นกินอยู่
00:37:22 → 00:37:23 อย่างงั้นน่ะ
00:37:23 → 00:37:25 >> ค่ะอันนี้จะเป็นจุดเราจะเรียกว่าเออเชื่อ
00:37:25 → 00:37:27 ก็คือจุดบนใบหูแต่อันนี้จะอยู่หน้าหู
00:37:27 → 00:37:30 >> ใช่ก็คือติ่งถึงจะอยออกมานี้ข้างหน้า
00:37:30 → 00:37:32 >> ่ะกดลงไปเหรอ
00:37:32 → 00:37:35 >> ช่วงที่เรารู้สึกแบบหิวๆอยู่อ่ะเรากดเลย
00:37:35 → 00:37:36 แล้วท้องเราจะหยุด
00:37:36 → 00:37:39 >> อันนี้ถามเบืคนอื่นพี่คงไม่ค่อยจำเป็น
00:37:39 → 00:37:40 >> ไม่หิวบ่อย
00:37:40 → 00:37:43 >> พี่ไม่ค่อยกินก็คือพอกดไปเนี่ยอย่างถ้า
00:37:43 → 00:37:46 เกิดว่าใครหิวตอนคืนแบบว่าเอ๊ะตอนเย็นก็
00:37:46 → 00:37:48 กินนะทำไมอยู่แบบท้องร้องโคกคากอะไรอย่าง
00:37:48 → 00:37:51 เงี้ยก็กดเอาไว้แล้วเราก็ท่าอ่ะกด 2 ข้าง
00:37:51 → 00:37:52 >> มันจะทำให้กระเพาะ
00:37:52 → 00:37:53 >> กดลงไปเลยใช่มั้
00:37:53 → 00:37:56 >> กดลงไปเลยกระเพาะเราจะสงบง่าย
00:37:56 → 00:37:59 >> ใช่เจะเป็นจุดอ่าลดความอยาก
00:37:59 → 00:38:01 >> อันนี้ช่วยเรื่องหูอื้อเอออันนี้ถามเผื่อ
00:38:01 → 00:38:04 ตัวเองเพราะพี่เป็นภูมิแพ้นะพี่ชอบหูอื้อ
00:38:04 → 00:38:05 ด้านด้านหนึ่ง
00:38:05 → 00:38:07 >> ด้านเดียวสั่งน้ำมูกแรงมั้ยคะ
00:38:07 → 00:38:08 >> อื
00:38:08 → 00:38:10 >> แอบมีแต่ว่าวันไหนไม่มีน้ำมูกก็ไม่สั่ง
00:38:10 → 00:38:12 >> ก็อื้ออ๋อว่าไม่สั่ง
00:38:12 → 00:38:14 >> มันอื้อมันอื้อเหมือนขึ้นเครื่องบินเลย
00:38:14 → 00:38:16 เพราะว่าตอนเป็นภูมิแพ้มันอื้อขึ้นมา
00:38:16 → 00:38:18 >> อืตลอดอ๋อตอนเป็นภูมิแพ้อย่างเดียวหรือ
00:38:18 → 00:38:19 ว่าตอนนี้ตอนนี้
00:38:19 → 00:38:19 >> เป็นภูมิแพ้
00:38:19 → 00:38:22 >> ตอนภูมิแพ้ขึ้นมันก็จะบวมขึ้นมาอันนี้จะ
00:38:22 → 00:38:24 ไปกดสามารถถูถูจมูกก่อนนะ
00:38:24 → 00:38:26 >> แล้วก็มาถูหูของเรา
00:38:26 → 00:38:27 >> ทำนิ้ว
00:38:27 → 00:38:29 ถูขึ้นไปถูแบบนี้ได้
00:38:29 → 00:38:30 >> อ๋อมันอื้อ
00:38:30 → 00:38:33 >> ค่ะก็จะไปกระตุ้นระบบใบหูของเรา
00:38:33 → 00:38:35 >> ตอนแรกนึกว่าเอ๊ะอายุมากมันคงแก่หูอื้อ
00:38:35 → 00:38:37 ไม่อ่ะไม่เกี่ยวเลย
00:38:37 → 00:38:38 >> เกี่ยวกับภูมิแพ้ใช่มั้
00:38:38 → 00:38:40 >> ภูมิแพ้มันตันอยู่ข้างเดียวเพราะจมูกด้าน
00:38:40 → 00:38:43 นี้มันจะบวมอยู่อ๋อมันจะมีรูจมูกเราเรา
00:38:43 → 00:38:45 ส่องดูเราจะเห็นด้านนี้บวม
00:38:45 → 00:38:47 >> นะคะเพราะงั้นมันจะอื้ออยู่ข้างเดียว
00:38:47 → 00:38:47 >> อ
00:38:47 → 00:38:48 >> อันนี้นวดช่วยได้
00:38:48 → 00:38:51 >> นวดช่วยได้กดกดตรงนี้เพิ่มด้วยได้ค่ะก็
00:38:51 → 00:38:53 ระหว่างร่องนิ้ว
00:38:53 → 00:38:55 >> นิ้วก้อยกับนิ้วอ่ะตรงนี้
00:38:55 → 00:38:58 >> อ๋อมันจะมีร่องเนี่ยใช่ตรงนี้กดไปอ่ะคึ
00:38:58 → 00:39:01 ได้ใครหูอื้อหูมีเสียงอะไรอย่างเงี้ยได้
00:39:01 → 00:39:03 ค่ะจุดสุดท้ายที่อยากจะรู้เชื่อว่าหลายคน
00:39:04 → 00:39:05 อยากรู้คือชะลอไว
00:39:05 → 00:39:05 >> อือ
00:39:05 → 00:39:07 >> แล้วก็แก่ช้า
00:39:07 → 00:39:08 >> ค่ะ
00:39:08 → 00:39:08 >> จุดไหนคะ
00:39:08 → 00:39:11 >> อ่าถ้าอย่างอันเนี้ยที่เราเล่ามาทั้งหมด
00:39:11 → 00:39:13 เนี่ยคือการดูแลพลังงานของไตเนี่ยจะช่วย
00:39:13 → 00:39:16 ชะลอไวให้เราจุดนึงเลยที่แนะนำถ้าเกิดว่า
00:39:16 → 00:39:19 อยากให้แบบผิวพรรณสมองปอดโปร่งเนี่ยให้
00:39:19 → 00:39:22 เริ่มต้นที่เท้าก็คือกดจุดที่ฝ่าเท้าจุด
00:39:22 → 00:39:25 แรกที่แนะนำก็คือจุดหยงเฉือนมันจะอยู่ใต้
00:39:25 → 00:39:29 ฝ่าเท้าเป็นฝาเท้าใช่ก็คือจะอยู่ตรงแบบ
00:39:29 → 00:39:30 มันจะมีเนื้อที่บุ๋มลงไป
00:39:30 → 00:39:31 >> อ่าบุ๋ม
00:39:31 → 00:39:32 >> กับข้างบน
00:39:32 → 00:39:34 >> ข้างล่างเดี๋ยวขึ้นสมมุติว่าเท้าเออให้
00:39:34 → 00:39:35 คิดภาพไปด้วย
00:39:35 → 00:39:38 >> ค่ะแล้วก็เราก็นวดคลึงจุดนั้นได้หรือว่า
00:39:38 → 00:39:41 เราจะเอาเราเนี่ยแช่เท้าในน้ำอุ่น
00:39:41 → 00:39:46 >> ใช่แล้วก็เอาลูกเอ่อกอล์ฟมาคึงคึงฝ่าเท้า
00:39:46 → 00:39:47 เราก็ได้กได้ใช่มั้ฮะมันจะเล็ก
00:39:47 → 00:39:51 >> ใช่ๆก็จะคึงึงไปแล้วก็กระตุ้นการไหลเวียน
00:39:51 → 00:39:53 ของเลือดที่เท้าเนี่ยมันก็จะสะท้อนสมอง
00:39:53 → 00:39:54 หน้าตาให้เรา
00:39:54 → 00:39:56 >> แล้วก็จุดนี้เป็นจุดแรกบนเส้นเส้นรวมปัน
00:39:56 → 00:39:57 ของไต
00:39:57 → 00:39:57 >> ค่ะ
00:39:57 → 00:40:00 >> อ่าก็จะช่วยฟื้นฟูพลังงานของไตขึ้นมา
00:40:00 → 00:40:02 >> แต่บางคนเค้าก็ชอบไปนวดเท้า
00:40:02 → 00:40:03 >> ใช่ๆช่วยได้ได้
00:40:03 → 00:40:06 >> ช่วยได้เหมือนกันนะฮะถ้ากดผิดจุดล่ะมันจะ
00:40:06 → 00:40:08 อันตรายมั้คะ
00:40:08 → 00:40:09 >> ถ้าเกิดไม่กดแบบอย่างเงี้ย
00:40:09 → 00:40:12 >> ออตรงหลอดลมนี่อันตรายไม่ต้องแตอนหายใจ
00:40:12 → 00:40:13 ไม่ได้ให้จดตรงนี้
00:40:13 → 00:40:16 >> จุดถ้าเกิดว่าจุดแบบปกติธรรมดาแบบแขนขา
00:40:16 → 00:40:17 ไม่เป็นอะไร
00:40:17 → 00:40:19 >> ใช่ในผู้ใหญ่เนี่ยเรากดจุดเพื่อบรรเทา
00:40:20 → 00:40:22 อาการหรือเป็นตัวส่งเสริมการดูแลสุขภาพ
00:40:22 → 00:40:25 เนาะแต่ว่าในเด็กตั้งแต่แบบแรกเกิดเลยนะ
00:40:25 → 00:40:27 ถ้าเกิดเาแบบตัวร้อนท้องร่วง
00:40:27 → 00:40:28 >> อื
00:40:28 → 00:40:29 >> แล้วก็มีวิธีการนวด
00:40:29 → 00:40:32 >> โดยที่ไม่ใช้ยาให้เขาอย่างหมอเนี่ยมีลูก 4
00:40:32 → 00:40:35 ขวบเลี้ยงเองมาตลอดก็คือเราจะใช้ยาแผน
00:40:35 → 00:40:37 ปัจจุบันค่อนข้างน้อยมากอ่ายาฆ่าเชื้อ
00:40:37 → 00:40:40 ปฏิชีวนะเนี่ยตัวหมอเองไม่จ่ายให้ลูกคือ
00:40:40 → 00:40:43 ไม่ไม่ซื้อมาให้ลูกทานเลยก็คือถ้าให้ทาน
00:40:43 → 00:40:46 มากสุดก็คือพารadิกอ่าในช่วงที่เขาแบบ
00:40:46 → 00:40:48 เป็นไข้หวัดไข้หวัดใหญ่เราให้เค้าทานยา
00:40:49 → 00:40:53 เนาะทีนี้ในการเอ่อรักษาในเด็กเล็กเอ่อ
00:40:53 → 00:40:56 โดยที่แบบชลรอการใช้ยาที่จะไป
00:40:56 → 00:40:58 >> หรือที่เหมือนไม่อยากใช้ยา
00:40:58 → 00:41:01 >> อ่าเหมือนไม่อยากใช้ยาก็คือเราจะมีนวด
00:41:01 → 00:41:03 >> อ่านวดให้คนไข้อย่างถ้าเกิดว่าเด็กมาตัว
00:41:04 → 00:41:04 ร้อน
00:41:04 → 00:41:07 >> คนไข้ก็ให้นวดเข้าหัวใจนะคะ
00:41:07 → 00:41:11 >> ใช่เด็กนวดแบบเนี้ยนวดเอ่อ 300-500 ครั้ง
00:41:11 → 00:41:14 ต่อนาทีคือค่อนข้างไวนิดนึงนวดบ่อยๆไข้
00:41:14 → 00:41:16 เขาจะลดลงตอนนั้นได้เลย
00:41:16 → 00:41:18 >> เหรอคะนวดบ่อยๆเงี้เหรอคะ
00:41:18 → 00:41:20 >> ใช่ก็คือนวดครั้งนึงนวดจนคุณแม่เมื่อย
00:41:20 → 00:41:21 กล้ามขึ้นเลย
00:41:21 → 00:41:21 >> อ๋อ
00:41:21 → 00:41:24 >> ใช่เขาก็จะเป็นตัวขับอันนี้ก็คือถ้าพูด
00:41:24 → 00:41:27 ถึงงานวิจัยในการใช้เราจะเรียกว่าทุยหน่า
00:41:27 → 00:41:29 เอ่อเสี่ยวเอ๋อทยหน่าก็คือทุยหน่าเด็กใน
00:41:29 → 00:41:32 การช่วยอ่าทั้งฟื้นฟูระบบร่างกายป้องกัน
00:41:33 → 00:41:36 โรคแล้วก็รักษาโรคบางชนิดเนี่ยช่วยได้มาก
00:41:36 → 00:41:38 ๆหรือว่าถ้าจะควบคู่กับการใช้ยาแผน
00:41:38 → 00:41:40 ปัจจุบันเนี่ยเราจะแบบไม่ได้ใช้เยอะเกิน
00:41:40 → 00:41:42 ไปอย่างที่หมอบอกว่าเราเราจะไม่ได้เอกอะ
00:41:42 → 00:41:45 ใส่ยาปฏิชีวนะไม่ได้เอกอินญาฆ่าเชื้ออะไร
00:41:45 → 00:41:48 อย่างเงี้ยใช่ก็คือใช้การฟื้นฟูภายในด้วย
00:41:48 → 00:41:49 การนวดให้เด็กขึ้นมา
00:41:49 → 00:41:53 >> ออก็ดีเนใครที่อยากสนใจอยากใช้ศาสตร์
00:41:53 → 00:41:56 แพทย์แผนจีนในเรื่องการดูแลสุขภาพเนี่ย
00:41:56 → 00:41:59 หมอกรรมมีคำแนะนำยังไงบ้างคะ
00:41:59 → 00:42:02 >> เอ่อถ้าเป็นศาสตร์แพทย์แผนจีนในการดูแล
00:42:02 → 00:42:04 สุขภาพปกติไม่ว่าจะเราป่วยแล้วหรือยังไม่
00:42:04 → 00:42:07 ป่วยดูแลจริงๆดูแลเหมือนกันหมดคือใช้
00:42:07 → 00:42:10 ชีวิตตามธรรมชาติตำราจีนโบราณเนี่ยมันจะ
00:42:10 → 00:42:13 มีตำรานึงที่ฮ่องเต้คุยกับหมอหลวงอ่ะ
00:42:13 → 00:42:16 ฮ่องเต้ถามว่าทำยังไงให้เราแบบใช้ชีวิต
00:42:16 → 00:42:19 แบบอย่างเป็นปกติเนี่ยได้อายุนานๆอายุยืน
00:42:19 → 00:42:21 เป็น 100 ปีหมอหลวงก็บอกให้ใช้ชีวิตตาม
00:42:21 → 00:42:25 หยินหยางก็คือใช้ชีวิตตามเวลาธรรมชาติ
00:42:25 → 00:42:27 ตื่นเช้ากินข้าวอื
00:42:27 → 00:42:30 >> พักผ่อนคือมีจังหวะชีวิตที่ดีมันก็ทำให้
00:42:30 → 00:42:32 พลังงานของเราเนี่ยยืนยาว
00:42:32 → 00:42:35 >> อือันนี้เห็นด้วยเลยคือเราก็กลับสู่
00:42:35 → 00:42:36 ธรรมชาตินะฮะ
00:42:36 → 00:42:38 >> ถึงเวลาเราก็พระอาทิตย์ตกก็เข้าบ้านนานๆ
00:42:39 → 00:42:41 จะไปตะลึงตึกๆเนี่ยไม่เป็นไร
00:42:41 → 00:42:43 >> นะคะก็ทำตามนาฬิกาชีวิต
00:42:43 → 00:42:43 >> อ
00:42:43 → 00:42:45 >> อันนี้น่าจะดีค่ะ
00:42:45 → 00:42:47 >> ดูคลิปจบแล้วนะคะพี่ตั๊กอยากจะฟัง
00:42:47 → 00:42:50 คอมเมนต์จากทุกคนนะคะช่วยบอกมาหน่อยชอบ
00:42:50 → 00:42:53 อะไรไม่ชอบอะไรอยากจะให้เราปรับปรุงตรง
00:42:53 → 00:42:55 ไหนก็เม้นต์บอกมาได้เลยนะคะหรืออยากจะให้
00:42:55 → 00:42:58 พี่ตั๊กทำคเทนเรื่องอะไรเชิญใครมานั่งคุย
00:42:58 → 00:43:01 ก็บอกมาได้พี่ตั๊กและทีมงานพร้อมรับฟัง
00:43:01 → 00:43:04 ความคิดเห็นของทุกคนนะคะอยากจะปรับปรุง
00:43:04 → 00:43:06 รายการให้ดีขึ้นเรื่อยๆเพื่อแฟนรายการตั๊
00:43:06 → 00:43:10 ทkทุกคนค่ะแล้วก็อย่าลืมนะคะกดไลค์กดแชร์
00:43:10 → 00:43:13 กดติดตามทางช่อง Life Dot ของเราจะได้
00:43:13 → 00:43:19 ไม่พลาดสาระดีๆจากรายการตั๊กท้อค่ะ