00:00:00 → 00:00:03 ท่านเชื่อหรือไม่ว่าปัจจุบันนี้มีเครื่อง
00:00:03 → 00:00:06 มือที่สามารถประเมินได้ว่าใน 10 ปีข้าง
00:00:06 → 00:00:10 หน้าของท่านท่านจะเสียชีวิตด้วยโรคกล้าม
00:00:10 → 00:00:13 เนื้อหัวใจขาดเลือดกี่เปอร์เซ็นต์มาฟัง
00:00:13 → 00:00:19 กันดูนะครับเป็นวิธีการคำนวณง่าย
00:00:19 → 00:00:26 ๆิปนี้สนับสนุนโดยคดิบอคนวัตกรรมบิแคปซูล
00:00:26 → 00:00:30 ผสมผสานระหว่างฟิ Oil และโปรไบโอติกคาริ
00:00:30 → 00:00:34 ไบโอเคลียรดูแลคุณด้วยใจใส่ใจทุกราย
00:00:34 → 00:00:38 ละเอียดคาริไอเลียสวัสดีครับทุกท่านเพจ
00:00:38 → 00:00:40 หมอเฉพาะทางบาทเดียวและ YouTube Channel
00:00:40 → 00:00:42 หมอเฉพาะทางบาทเดียวนะครับกระผมหมอเกมนาย
00:00:42 → 00:00:44 แพทย์อดุลชัยธรรมาแสงเสิร์ชนะครับก็กลับ
00:00:45 → 00:00:48 มาอีกครั้งในเรื่องสุขภาพดีเกินล้านวิวนะ
00:00:48 → 00:00:52 ครับนะคลิปนี้เนี่ยเป็นคลิปที่มีชาวต่าง
00:00:52 → 00:00:57 ชาตินะสนใจกันมากมีคนดูกว่า 10 ล้านวิวนะ
00:00:57 → 00:01:01 เรียกง่ายๆว่ามันเป็นความหมกมุ่นเลยของคน
00:01:02 → 00:01:05 ต่างประเทศเว่าเอ้ยมันจะมีวิธีการไหนที่
00:01:05 → 00:01:09 สามารถที่จะชะล้างหลอดเลือดเราให้กลับไป
00:01:09 → 00:01:11 สะอาดเหมือนใหม่ได้มาดูกัน
00:01:11 → 00:01:15 ก่อนจริงๆเนี่ยเหตุการณ์ประเภทกล้ามเนื้อ
00:01:15 → 00:01:17 หัวใจขาดเลือดเนี่ยในประเทศเราเนี่ยก็พบ
00:01:17 → 00:01:20 เยอะและไม่ได้พบกับในคนที่ไม่ออกกำลังกาย
00:01:20 → 00:01:24 นะพบในคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอเล่า
00:01:24 → 00:01:27 บุหรี่ไม่สูบนะอย่างคลิปเนี่ยอันนี้หมอดู
00:01:27 → 00:01:31 นะของไทยรัฐนะผู้ชายชายวัย 56 ปีแข็งแรง
00:01:31 → 00:01:35 ดีชอบตีแบตมากอยู่ดีๆหัวใจวายตายที่คอร์ด
00:01:35 → 00:01:38 แบตแล้วะมีคลิปด้วยน้าสงสารมากๆเลยไม่มี
00:01:38 → 00:01:42 ใครเห็นส่วนงานวิ่งก็เป็นประจำคน 50 กว่า
00:01:42 → 00:01:48 ปีไปวิ่งนะปกติฟิตวิ่งทุกวันไปมามาเสีย
00:01:48 → 00:01:51 ชีวิตในขณะที่วิ่งบางโรงพยาบาลก็เลยบอก
00:01:51 → 00:01:53 ว่าเฮ้ยก่อนที่คุณจะไปออกกำลังกายเนี่ย
00:01:53 → 00:01:56 คุณต้องเช็คหัวใจให้ดีก่อนนะว่าคุณมีความ
00:01:57 → 00:02:00 เสี่ยงที่วิ่งๆไปแล้วหรือออกกำลังกายไป
00:02:00 → 00:02:02 แล้วเนี่ยหัวใจคุณขาดเลือดหรือเปล่าหรือ
00:02:02 → 00:02:05 กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือเปล่าลิบ
00:02:05 → 00:02:10 เลือดอุดตัดอ่ากับคล CL คอกหลอดเลือดอุด
00:02:10 → 00:02:14 ตัมันไม่เหมือนกันเอาคำว่าคอตกับ clot นะ
00:02:14 → 00:02:18 คอเนี่ยมันคือกลุ่มเม็ดเลือดที่มันรวมตัว
00:02:18 → 00:02:22 กันนะแล้วอุดกันเป็นก้อนสามารถล่องลอยไป
00:02:22 → 00:02:25 ทั่วร่างกายได้อาจจะเกิดจากหัวใจเต้นผิด
00:02:25 → 00:02:28 จังหวะแล้วเกิดคอตตัวนี้ในห้องของหัวใจก็
00:02:28 → 00:02:33 ได้อีกคำนึงที่เราจะพูดวันนี้คือคอก C
00:02:33 → 00:02:37 คอกหินปูนอ่าใช้คำว่าหินปูนก็ได้พล้าก็
00:02:37 → 00:02:42 ได้หรือไขมันอุดตันในหลอดเลือดอ่าใช้คำ
00:02:43 → 00:02:45 พูดอย่างงี้ท่านอาจจะเข้าใจมากกว่านะบาง
00:02:45 → 00:02:48 คนใช้คำว่าไขมันอุดตันในหลอดเลือดบางคน
00:02:48 → 00:02:51 บอกว่าเป็นหินปูนบางคนบอกว่าเป็นตะกรัน
00:02:51 → 00:02:53 อุดตันในหลอดเลือดวันนี้เราจะพูดถึงคำว่า
00:02:53 → 00:02:58 คอกคำว่าคอกมันคืออะไรและมันทำให้หลอด
00:02:58 → 00:03:01 เลือดแข็งหรือเกิดอาเคิได้อย่างไรหรือ
00:03:01 → 00:03:04 หลอดเลือดตีบได้อย่างไรอ่ะมาดูกันมนุษย์
00:03:04 → 00:03:07 เราปกติกินอาหารเข้าไปอาหารเนื้อแดงที่มี
00:03:07 → 00:03:11 โคลีนหรือว่าคาเนทีนพอเรากินเข้าไปแล้ว
00:03:11 → 00:03:14 เนี่ยพวกเนื้อแดงเนื้อสัตว์นะมันจะเข้าไป
00:03:14 → 00:03:17 อยู่ที่ลำไส้ย่อยแล้วไปอยู่ที่ลำไส้ใหญ่
00:03:17 → 00:03:21 ที่ลำไส้ใหญ่เนี่ยในร่างกายเรามันจะมี
00:03:21 → 00:03:24 แบคทีเรียที่ไม่ค่อยดีอยู่ไอ้แบคทีเรีย
00:03:24 → 00:03:28 ที่ไม่ค่อยดีเนี่ยมันจะเปลี่ยนอาหารหรือ
00:03:28 → 00:03:31 เนื้อแดงของเราที่ไปหมักหมมอยู่ในลองไส้
00:03:31 → 00:03:35 ใยเนี่ยให้กลายมีให้กลายเป็นมีสารตัวนึง
00:03:35 → 00:03:37 เป็นสารพิษที่ชื่อว่า
00:03:37 → 00:03:42 TM ไอ้สารพิษตัวเนี้ยมันจะไปตามเส้น
00:03:42 → 00:03:47 เลือดดำปทเวนไปที่ต่และถูกเปลี่ยนให้กลาย
00:03:47 → 00:03:50 เป็นสารพิษอีกชนิดนึงที่ชื่อว่า
00:03:50 → 00:03:54 tmao ท่านจำไว้เลยนะ tmao เนี่ยหมอเคย
00:03:54 → 00:03:57 พูดไปแล้วเรื่องย are what you eat
00:03:57 → 00:04:00 ต่างชาติเขาก็ให้ความสำคัญกันเกี่ยวกับ
00:04:00 → 00:04:03 tmo เพราะมันเป็นสารที่ทำให้เกิดการ
00:04:03 → 00:04:05 อักเสบของหลอด
00:04:05 → 00:04:08 เลือดและเมื่อมันตั้งต้นแบบนี้แล้วเนี่ย
00:04:09 → 00:04:12 เมื่อหลอดเลือดเกิดการอักเสบมันก็จะมี
00:04:12 → 00:04:15 ภาวะหลอดเลือดแข็งตามมาเดี๋ยวจะอธิบายต่อ
00:04:15 → 00:04:18 ว่าหลอดเลือดแข็งเป็นไปได้อย่างไรท่านดู
00:04:18 → 00:04:19 คลิป
00:04:19 → 00:04:22 นี้เมื่อผนังหลอดเลือดเนี่ยเกิดการอักเสบ
00:04:22 → 00:04:25 เกิดขึ้นเนี่ยมันจะมีเม็ดเลือดขาวที่ชื่อ
00:04:25 → 00:04:28 ว่าโมโนไซต์เนี่ยสีฟ้าเนี่ยมันจะแทรกตัว
00:04:28 → 00:04:32 ลงไปทางด้านใต้ของผนังหลอดเลือดจากนั้น
00:04:32 → 00:04:36 เนี่ยมันจะไปรวมตัวกับไอ้ไขมันเขาเหลืองๆ
00:04:36 → 00:04:38 เนี่ยไขมันเหลืองๆืเนี่ยเราจะเรียกว่า
00:04:38 → 00:04:43 ออกซิได ldl นะก็คือไขมัน ldl นั่นแหละ
00:04:43 → 00:04:47 มันจะจับไอ้ตัวไขมันสีเหลืองเนี่ยกินจับ
00:04:47 → 00:04:51 กินเสร็จแล้วมันก็มาเค้าเรียกว่ามาโปะมา
00:04:51 → 00:04:54 ซ่อมผนังหลอดเลือดเหมือนคล้ายๆบางคนว่า
00:04:54 → 00:04:58 บอกเอาปูนมาฉาบเนี่ยจากนั้นเนี่ยพอมัน
00:04:58 → 00:05:02 เริ่มสื่อสกันมันจะหลังสารไซโตคายเรียก
00:05:02 → 00:05:05 โมโนไซต์หรือแมคโครฟาจตัวอื่นๆมาเพิ่ม
00:05:05 → 00:05:10 จำนวนขึ้นแล้วก็เริ่มเพิ่มจำนวนในการกิน
00:05:10 → 00:05:14 ตัวไขมัน ldl แล้วก็ทำให้หลอดเลือดของ
00:05:14 → 00:05:18 ท่านเนี่ยค่อยๆหนาตัวขึ้นเรื่อยๆหนาตัว
00:05:18 → 00:05:22 ขึ้นเรื่อยๆทำให้ผนังของหลอดเลือดหรือท่อ
00:05:22 → 00:05:26 เนี่ยท่อของหลอดเลือดเนี่ยมันตีบลงเรื่อย
00:05:26 → 00:05:30 ๆเรื่อยๆๆๆแล้วพอถึงจุดนึงเนี่ยพอมัน
00:05:30 → 00:05:34 สร้างตัวขึ้นมาเนี่ยมันก็แตกตัวออก
00:05:34 → 00:05:38 นี่นี่คือหลอดเลือดที่เป็นหลอดเลือดจริงๆ
00:05:38 → 00:05:42 นะแล้วเมาตัดทตัดขวางแล้วดูเห็นมไอ้ที่
00:05:42 → 00:05:46 เหลืองๆนั่นก็คือโฟมเซลก็คือเม็ดเลือดขาว
00:05:46 → 00:05:50 ที่มันไปจับตัวไขมันที่ชื่อว่า ldl ออกซิ
00:05:50 → 00:05:55 ldl ก็แล้วกันและค่อยๆเกาะตัวหนาตัวขึ้น
00:05:55 → 00:05:58 หมออยากอธิบายง่ายๆคือว่าเมื่อหลอดเลือด
00:05:58 → 00:06:00 ของเราเนี่ยมันเกิดการอักเสบหรือเกิดแผล
00:06:01 → 00:06:04 เกิดขึ้นเม็ดเลือดขาวเนี่ยโมโนไซต์หรือ
00:06:04 → 00:06:09 แมคโครฟาจมันจะไปพยายามซ่อมแซมไอ้ตัวส่วน
00:06:09 → 00:06:12 ที่เกิดการอักเสบหรือเกิดการบาดเจ็บเกิด
00:06:12 → 00:06:15 ขึ้นโดยวิธีการกระบวนการที่มันซ่อมแซมก็
00:06:15 → 00:06:21 คือมันจะพยายามกินไขมันออกซิไดซ์ ldl นะ
00:06:21 → 00:06:25 แล้วะไปอุดๆๆๆๆเยและหนาตัวขึ้นเรื่อยๆนะ
00:06:25 → 00:06:28 หรือคล้ายๆมีคนไปฉาบปูนน่ะแล้วฉาบไม่เก่ง
00:06:28 → 00:06:31 อ่ะฉาบไปเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆเนี่ยมันก็หนา
00:06:31 → 00:06:34 ตัวใช่ป่ะเลยทำให้ท่อเหรือหลอดเลือดเนี่ย
00:06:34 → 00:06:38 มันตีบลงเรื่อยๆนะนี่คือสาเหตุที่ทำให้
00:06:38 → 00:06:41 เกิดหลอดเลือดแข็งหลอดเลือดตีบเลยนะเพราะ
00:06:41 → 00:06:46 ฉะนั้นท่านรู้รายละเอียดะอ่ะคราวนี้ดูต่อ
00:06:46 → 00:06:49 มันก็จะเป็นคำถามว่าเมื่อมันเกิดปัญหา
00:06:49 → 00:06:51 อย่างนี้แล้วเนี่ยเราสามารถร้องหลอดล้าง
00:06:51 → 00:06:55 หลอดเลือดให้เหมือนล้างท่อได้มยคำตอบตรรง
00:06:55 → 00:06:58 ไปตรงมาคือไม่ได้เพราะอะไรเพราะไอ้ส่วน
00:06:58 → 00:07:01 ที่มันหนาตัวขึ้นเนี่ยมันอยู่ใต้ผนังหลอด
00:07:01 → 00:07:04 เลือดชั้นในของเรานึกออกป่ะมันไปหนาตัว
00:07:04 → 00:07:09 ขึ้นในผนังหลอดเลือดชั้นในส่วนตรงกลางอ่ะ
00:07:09 → 00:07:12 เพราะฉะนั้นเเลยบอกว่าเออมันไม่สามารถทำ
00:07:13 → 00:07:15 ให้ล้างหลอดเลือดให้เป็นเหมือนใหม่ได้
00:07:15 → 00:07:21 หรอกเข้าใจยังนะแต่ถ้าสมมุติว่าท่านกินยา
00:07:21 → 00:07:25 ลดไขมันแบบเข้มๆกินปริมาณสูงๆเนี่ยมันจะ
00:07:25 → 00:07:29 สามารถทำให้ลดไอ้ในส่วนที่เป็นไขมันเนี่ย
00:07:29 → 00:07:33 ที่เกาะหลอดเลือดอ่ะลดลงแล้วเขาก็พูดว่า
00:07:33 → 00:07:36 มันอาจจะทำให้เส้นผ่าศูนย์กลางของท่อ
00:07:36 → 00:07:40 เนี่ยเพิ่มมากขึ้นก็ได้นะประมาณ
00:07:40 → 00:07:42 10% เพราะฉะนั้นนั่นหมายความว่าเมื่อ
00:07:42 → 00:07:45 หลอดเลือดของท่านเนี่ยเกิดภาวะตีบไปแล้ว
00:07:45 → 00:07:48 จะกลับไปขยายเท่าเดิมเนี่ยอาจจะยากแล้ว
00:07:48 → 00:07:52 ล่ะแต่แค่ไม่ให้ว่ามันสร้างขึ้นมาใหม่ใน
00:07:52 → 00:07:56 อนาคตนั่นมีความเป็นไปได้มากกว่าสำหรับคน
00:07:56 → 00:08:00 ที่ไม่อยากกินยาลดไขมันเพราะว่ามีข่าวออก
00:08:00 → 00:08:02 มาว่ากินยาลดไขมันแล้วมันปวดกล้ามน้ง
00:08:02 → 00:08:07 กล้ามเนื้อนะทำยังไงเบอกอย่างงี้ยาลดไข
00:08:07 → 00:08:10 มันที่ท่านกินเนี่ยนะแบบโดสเข้มๆเนี่ย
00:08:10 → 00:08:13 High tens นะกับเ tens กับกินเทียบกับ
00:08:13 → 00:08:18 พบ plb ก็คือยาหล่อเขาบอกว่าผลลัพธ์มัน
00:08:18 → 00:08:20 ไม่แตกต่างกันคืออธิบายง่ายๆคือว่าเขให้
00:08:20 → 00:08:22 ท่านกินยารสไขมันน่ะ
00:08:22 → 00:08:25 กับให้ยาหลอกท่านไปแล้วบอกว่ามันคือยาลด
00:08:25 → 00:08:29 ไขมันท่านมีอาการปวดกล้ามเนื้อเท่าๆกัน
00:08:29 → 00:08:31 เลยประมาณ
00:08:31 → 00:08:34 3% ดังนั้นเ้าก็เลยส่วนใหญ่เขาก็เลยไม่
00:08:34 → 00:08:36 เชื่อว่าเอ้ยมันกินแล้วมันปวดกล้ามเนื้อ
00:08:36 → 00:08:40 จริงหรือเปล่าแต่จริงๆคนที่กินแล้วปวด
00:08:40 → 00:08:43 กล้ามเนื้อนั้นมีแล้วมันมีคำอธิบายเขาบอก
00:08:43 → 00:08:48 ว่าคนที่กินยาลดไขมันเนี่ยนะและเกิดการ
00:08:48 → 00:08:50 ปวดของกล้ามเนื้อเป็นเพราะว่าไอ้ยาลดไข
00:08:50 → 00:08:54 มันเนี่ยมันไปอาจจะทำร้ายหรือทำลาย
00:08:54 → 00:08:58 ไมโทคอนเดรียทำให้ขาดสารที่ชื่อว่าโ
00:08:58 → 00:09:00 เอนไซม
00:09:00 → 00:09:05 q1 จำตัวนี้ให้ดีๆนะโคเอนไซม์ q1 นะและ
00:09:05 → 00:09:09 ทำให้เกิดการเอ่อเค้าเรียกว่าบาดเจ็บของ
00:09:09 → 00:09:12 ตัวกล้ามเนื้อเขาบอกว่าเจาะเลือดดูเนี่ย
00:09:12 → 00:09:16 ค่าคิติไนสหรือ CK เนี่ยเพิ่มขึ้นด้วย
00:09:16 → 00:09:19 งั้นแสดงว่าคนที่มีคนที่กินยาลดไขมันแล้ว
00:09:19 → 00:09:24 ปวดกล้ามเนื้อเปวดจริงนะกล้ามเนื้อมีการ
00:09:24 → 00:09:28 สลายจริงค่าเอนไซม์เตีนไคเนสที่ออกมาจาก
00:09:28 → 00:09:30 กล้ามเนื้อมันสูงขึ้นมาจริงเพราะฉะนั้น
00:09:30 → 00:09:35 เค้าไม่ได้แกล้งบางคนบอกว่าถ้าแบบนี้ผมก็
00:09:35 → 00:09:39 ไม่อยากกินและถ้ากินแล้วปวดกล้ามเนื้อแต่
00:09:39 → 00:09:42 จริงๆแล้วยาลดไขมันเนี่ยมันมีประโยชน์บาง
00:09:42 → 00:09:46 คนก็อยากกินแต่หมอไม่จ่ายให้
00:09:46 → 00:09:49 อ่าเหตุผลที่หมอไม่จ่ายให้เพราะว่าเค้า
00:09:49 → 00:09:54 บอกว่าเ้ยค่า ldl คุณยังไม่สูงปกติสูงแค่
00:09:54 → 00:09:57 ไหนก็แล้วกันถ้า ldl สูงเกิน 200 ส่วน
00:09:57 → 00:10:01 ใหญ่เนี่ยหมอเาจะให้ยาลดไขมันมากินนะท่าน
00:10:01 → 00:10:04 ต้องเข้าใจก่อนนะไม่ใช่คอเลสเตอรอลไม่ใช่
00:10:04 → 00:10:08 Total คอเลสเตอรอลนะแต่เป็น ldl นะ ldl
00:10:08 → 00:10:11 คอเลสเตอรอลมันเป็นส่วนย่อยลงมาอีกถ้าตัว
00:10:11 → 00:10:15 นี้สูงเกิน 200 หมอเขจะให้แต่ในบางคนใน
00:10:15 → 00:10:19 หลายๆคนที่น้อยกว่านั้นหมอเขาก็ไม่ให้หมอ
00:10:19 → 00:10:21 เขบอกมันไม่มีความจำเป็นนะอันนี้คือ
00:10:22 → 00:10:24 เรื่องที่ 1 แล้วคนที่ไม่ถึงอย่างนั้น
00:10:24 → 00:10:27 เนี่ยไม่ถึง 200 แต่ว่าอยากกินน่ะกินแล้ว
00:10:27 → 00:10:30 เนี่ยมันช่วยทำให้ไม่เกิดไ้หลอดเลือดอุด
00:10:30 → 00:10:32 ตัดในอนาคตไม่เกิดไขมันไปเกาะหลอดเลือดใน
00:10:33 → 00:10:37 อนาคตนึกออกมเอยากจะกินมันก็เลยมีไกด LINE
00:10:37 → 00:10:42 ขึ้นมานะปี 2023 เลยก็คือว่าการกำหนดให้
00:10:42 → 00:10:46 ใครกินยารสไขมันหรือไม่กินเนี่ยมันมีวิธี
00:10:46 → 00:10:48 อยู่ถ้าสมมุติว่าคุณเคยมีประวัติกล้าม
00:10:49 → 00:10:51 เนื้อหัวใจขาดเลือดเนี่ยคุณต้องกินและกิน
00:10:51 → 00:10:54 High ose ด้วย High tens City แต่ถ้า
00:10:54 → 00:10:57 สมมุติว่าคุณไม่มีประวัติมาก่อนเหมือนคน
00:10:57 → 00:11:00 ที่ฟังที่หมอพูดเนี่ยเคยมีประวัติกล้าม
00:11:00 → 00:11:03 เนื้อหัวใจขาดเลือดมาก่อนจะมีวิธีการไหน
00:11:03 → 00:11:08 นี่แหละเค้าจะมีวิธีการคำนวณที่ชื่อว่า
00:11:08 → 00:11:12 framingham list of heart attack นะ
00:11:12 → 00:11:15 อันนี้คือเว็บไซต์ที่จะเปิดที่ท่านสามารถ
00:11:15 → 00:11:17 เข้าไปคำนวณได้เองนะหรือท่านเขียนคำว่า
00:11:17 → 00:11:21 Calculator นะ framingham list of
00:11:21 → 00:11:23 heart attack มันจะมีการใส่อายุนะครับ
00:11:23 → 00:11:27 เพศความดันตัวบนนะแล้วก็มีประวัติว่าการ
00:11:27 → 00:11:29 รักษาเคยรักษาความดันมาก่อนมั้ย
00:11:29 → 00:11:35 คอเลสเตอรอลสูงแค่ไหน่าแ 5 hdl สูงมยมี
00:11:35 → 00:11:38 ประวัติเบาหวานหรือสุบุหรี่เริ่มหรือ
00:11:38 → 00:11:40 เปล่าแล้วมันก็จะออกมาเป็น ris Factor
00:11:40 → 00:11:44 ว่าในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าเนี่ยท่านจะ
00:11:44 → 00:11:48 มีโอกาสเกิดโลคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
00:11:48 → 00:11:53 กี่เปอร์เซ็นต์เจ๋งมอย่าลืมเข้าไปกดหา
00:11:53 → 00:11:57 นะถ้าสมมุติว่ามากกว่า 20% ท่านต้องกินยา
00:11:57 → 00:12:00 ลดไขมันและแม้ว่าท่านจะไม่มีประวัติใดๆ
00:12:00 → 00:12:05 ทั้งสิ้นนะถ้าสมมุติว่าน้อย 20 น้อยกว่า
00:12:05 → 00:12:08 20% ท่านอาจจะไม่จำเป็นบางคนกินก็ได้
00:12:08 → 00:12:12 หรือบางคนบอกว่าหมอเไม่จ่ายให้ ldl อ่ะ
00:12:12 → 00:12:14 198 ไม่ถึง
00:12:14 → 00:12:19 200 อยากกินทำไงหมออ่าตรงนี้แหละนี่คือ
00:12:19 → 00:12:24 ปัญหาที่ในคนต่างชาติเนี่ยเขาพบกันก็คือ
00:12:24 → 00:12:28 ไขมันสูงไม่ถึงเกณฑ์แต่อยากที่จะลดปัญหา
00:12:28 → 00:12:31 ที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคตเพราะว่าคำนวณดู
00:12:31 → 00:12:34 แล้วตัวเองเนี่ยมีริสในการเกิดเนี่ยสูง
00:12:34 → 00:12:38 เรามาดูกันก่อนไอ้ fling Ham เนี่ยเอ่อ
00:12:38 → 00:12:41 score เนี่ยมันเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน
00:12:41 → 00:12:45 เาบอกว่า sensitivity กับ spx sity
00:12:45 → 00:12:49 เนี่ย 95 -83 per ภายในระยะเวลา 10 ปี
00:12:49 → 00:12:53 นะแต่ไอ้ค่าเนี้ยหมอเข้าไปดูหลายตำราและ
00:12:53 → 00:12:56 บางคนก็บอกว่าในแรกๆที่มันออกมาใหม่เนี่ย
00:12:56 → 00:12:59 มันเชื่อถือได้แค่ 50% แต่เค้าก็มีการ
00:12:59 → 00:13:03 ปรับปรุงแฟตรปรับปรุงการคำนวณมากมายนะจน
00:13:03 → 00:13:05 ความน่าเชื่อถือเนี่ยมันอยู่ในช่วง 90
00:13:05 → 00:13:08 -80 per ซึ่งก็ค่อนข้างโอเคนะเชื่อถือ
00:13:08 → 00:13:12 ได้ตรงเนี้ยมันก็เลยเป็นที่มาว่าเอ้ยถ้า
00:13:12 → 00:13:15 เมื่อคุณคำนวณสกอร์แล้วเนี่ยความเสี่ยง
00:13:15 → 00:13:17 คุณน้อยกว่า 20 เนี่ยแล้วหมอเไม่จ่ายยา
00:13:17 → 00:13:20 ให้คุณเนี่ยคุณจะทำยังไงมันก็เลยเป็นที่
00:13:20 → 00:13:26 มาว่ากินอะไรมื้อเช้าวันละแก้วสามารถช้า
00:13:26 → 00:13:30 ล้างหล่อดเลือดได้คุณหมอนี่
00:13:30 → 00:13:33 คิดหลากหลายสูตรมากๆเลยนะหลากหลายสูตรมาก
00:13:33 → 00:13:37 ๆซึ่งในแต่ละสูตรเนี่ยมันจะมีอะไรเหมือนๆ
00:13:37 → 00:13:39 กันอยู่มันจะมีอะไรเหมือนๆกันเหมนแล้วหมอ
00:13:39 → 00:13:42 เนี่ยสรุปมาให้อย่างแรกเลยเนี่ยที่คุณหมอ
00:13:42 → 00:13:45 คนนี้เค้าสร้างสูตรในการกินวันละแก้วขึ้น
00:13:45 → 00:13:47 มาเนี่ยมันต้องมีองค์ประกอบอะไรหรือป่ะ
00:13:47 → 00:13:51 กระเทียมเาบอกว่าใช้กระเทียม 3 หัวนะใช้
00:13:51 → 00:13:55 น้ำมะนาวแล้วก็เติมน้ำมากๆถ้าท่านทานตอน
00:13:55 → 00:13:58 เนี้ยมันจะไม่อร่อยเขาบอกว่าให้ใส่น้ำ
00:13:58 → 00:14:02 ผึ้งเข้าไปด้วยแต่ปรากฏว่ามันก็ไม่เวิร์ค
00:14:02 → 00:14:05 คือจริงๆคุณหมอคนเนี้ยเค้าสร้างสูตรเนี่ย
00:14:05 → 00:14:07 หลายสูตรมากๆเลยล่าสุดเนี่ย 3 เดือนที่
00:14:07 → 00:14:11 แล้วเนี่ยเค้าใช้กินกินเป็นแบบน้ำมันเลย
00:14:11 → 00:14:14 นะโอลีฟ Oil อย่าง
00:14:14 → 00:14:18 เงี้ยเอาเป็นว่าหมอดูและหลากหลายคลิปของ
00:14:18 → 00:14:22 เค้าและได้ข้อสรุปมาว่าหลักๆเลยเนี่ยองค์
00:14:22 → 00:14:26 ประกอบที่เขากินนะก็คือน้ำมันปลา 2
00:14:26 → 00:14:29 กระเทียม 3 ขมิ้นชัง
00:14:29 → 00:14:32 3 สูตรนี้นะคือ 3 ตัวเนี้ยจะเป็นหลักๆ
00:14:32 → 00:14:35 นอกนั้นเนี่ยเขาคก็จะใส่อันนั้นอันนี้อัน
00:14:35 → 00:14:38 นี้เพิ่มเข้าไปแต่หลักๆเนี่ยจะมีน้ำมัน
00:14:38 → 00:14:42 ปลากระเทียมแล้วก็ขมิ้น
00:14:42 → 00:14:47 ชันผู้ใหญ่หลายท่านกินขมิ้นชันเป็นเม็ดๆ
00:14:47 → 00:14:50 แต่ก็ไม่พ้นว่าเป็นเส้นเลือดสมองตีบเอา
00:14:50 → 00:14:54 ง่ายๆญาติหมอเนี่ยที่เป็นสมองติเป็นสตกไป
00:14:54 → 00:14:57 เนี่ยกินขมิ้นชันมานานมากเลยนะอยู่ดีๆก็
00:14:57 → 00:15:00 เป็นสมองติเพราะอะไรเพราะว่าบางคนกิน
00:15:00 → 00:15:02 กระเทียมก็กินกระเทียมอย่างเดียวบางคนกิน
00:15:03 → 00:15:05 ขมิ้นชันก็กินขมิ้นชันอย่างเดียวบางคนกิน
00:15:05 → 00:15:08 กระเทียมขมิ้นชันกินน้ำมันปลาแต่ไม่เคย
00:15:08 → 00:15:11 เจาะเลือดดูว่าสิ่งที่ท่านกินไปแล้วเนี่ย
00:15:11 → 00:15:14 มันได้ผลจริงหรือเปล่ามันเป็นรถ ldl จริง
00:15:14 → 00:15:16 หรือเปล่ามันเป็นลดการอักเสบจริงหรือ
00:15:16 → 00:15:19 เปล่าจริงๆแล้วกระเทียมกับกมินชันเนี่ย
00:15:19 → 00:15:22 มันมีสารที่ชื่อว่าโคเอนไซม์คทเนี่ยค่อน
00:15:22 → 00:15:26 ข้างเยอะคือเป็นสารแอนติแอนติออกซินใน
00:15:26 → 00:15:29 หลอดเลือดถ้าท่านย้อนกลับไปจำที่หมอพูด
00:15:29 → 00:15:31 ตอนต้นได้ว่าเมื่อหลอดเลือดมันอักเสบ
00:15:31 → 00:15:34 เนี่ยร่างกายมันก็เลยมีเม็ดเลือดขาวมาจับ
00:15:34 → 00:15:37 ตัวไขมันมากินแล้วก็มาอุดหลอดเลือดใช่มย
00:15:37 → 00:15:40 ถ้าสมมุติว่าลดการอักเสบได้โดยการกิน
00:15:40 → 00:15:42 กระเทียมและขมิ้นชันเนี่ยมันก็ลดปัญหาการ
00:15:42 → 00:15:45 อักเสบได้หรือกินน้ำมันปลาเออน้ำมันปลา
00:15:45 → 00:15:49 เนี่ยมันไปช่วยอะไรเออน้ำมันปลาหรือว่า
00:15:49 → 00:15:51 โอเมก้า 3 เนี่ยอย่างที่บอกว่ามันลดไขมัน
00:15:51 → 00:15:55 ไกลีสไลดได้เลยซึ่งเป็นตัวตั้งต้นนะแล้ว
00:15:55 → 00:15:58 มันก็เป็นลสตัวอะไรอป้ไลปิดโปรตีนพวก
00:15:58 → 00:16:01 เนี้ยพวก App lipid โปรตีนก็ไม่เป็นตัว
00:16:01 → 00:16:04 ที่จะไปสร้าง ldl มันก็ลดได้ด้วยนอกจากเ
00:16:04 → 00:16:08 มันก็ลดการอักเสบของหลอดเลือดได้ทำให้ไอ้
00:16:08 → 00:16:11 เค้าเรียกว่าหลอดเลือดแข็งตัวของท่าน
00:16:11 → 00:16:14 เนี่ยหรือไอ้ไขมันเนี่ยมันมัน stable มัน
00:16:14 → 00:16:19 นิ่งมันไม่แตกตัวออกท่านดูคลิปแล้วใช่ป่ะ
00:16:19 → 00:16:22 ตอนหลังถ้าไขมันของท่านเมันไม่แข็งมันไม่
00:16:22 → 00:16:24 นิ่มเนี่ยสุดท้ายมันแตกตัวออกพอแตกตัวออก
00:16:24 → 00:16:28 ปุ๊บเส้นเลือดท่านก็จะอุดตันเพราะมันจะมี
00:16:28 → 00:16:31 คอตมาอุดอุดเข้าใจใช่ป่ะ
00:16:31 → 00:16:33 เออ
00:16:33 → 00:16:38 อ่ะดังนั้นโดยสรุปโดยสรุปนะวิธีการลดหลอด
00:16:38 → 00:16:41 เลือดแข็งหรือ osis เนี่ยในอนาคตคือนั่น
00:16:41 → 00:16:44 หมายความว่าหมอไม่ได้บอกว่าในอดีตที่มัน
00:16:44 → 00:16:46 เกิดขึ้นไปแล้วท่านสามารถลดได้นะเพราะดู
00:16:47 → 00:16:49 จากคลิปแล้วเนี่ยมันไม่น่าจะลดได้แต่ท่าน
00:16:49 → 00:16:53 สามารถป้องกันการสร้างขึ้นในอนาคตได้คือ 1
00:16:53 → 00:16:55 ท่านอาจจะงดเนื้อสัตว์ตั้งแต่ต้นเพราะว่า
00:16:55 → 00:16:58 ถ้าสมมุติท่านงดเนื้อสัตว์เนี่ยท่านก็ลด
00:16:58 → 00:17:01 การสร้าง tmao ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิด
00:17:01 → 00:17:03 การอักเสบใช่มั้ยแต่ประเด็นคือเมื่อท่าน
00:17:03 → 00:17:07 สูงอายุแล้วเนี่ยท่านงดเนื้อสัตว์มากๆ
00:17:07 → 00:17:10 เนี่ยกล้ามเนื้อท่านก็สลายนึกออกมยหมอก็
00:17:10 → 00:17:13 ไม่ได้อยากให้แบบทุกคนกลายเป็นวกนะคือ
00:17:13 → 00:17:15 ท่านกินเนื้อสัตว์ได้บ้างนะกินเนื้อสัตว์
00:17:15 → 00:17:20 ได้แต่ท่านจะต้องหาวิธีการที่จะลดสาร tmao
00:17:20 → 00:17:23 ที่เกิดขึ้นจากเนื้อสัตว์ทำยังไงท่านอาจ
00:17:23 → 00:17:26 จะต้องกินพวกโปรไบโอติกไปเพิ่มแบคทีเรีย
00:17:26 → 00:17:30 ดีๆในลำไส้ของท่านทำให้แบคทีเรียมันทำงาน
00:17:30 → 00:17:33 แบคทีเรียไม่ดีเนี่ยทำงานน้อยลงแบคทีเรีย
00:17:33 → 00:17:37 ดีๆมีเยอะขึ้นก็จะไม่เกิดการสร้างสาร tmao
00:17:37 → 00:17:40 ตอนสไลด์ต้นที่เคยอธิบายให้ฟังจากนั้น
00:17:40 → 00:17:44 สเต็ปที่ 3 ท่านก็ลด ldl ก็คือท่านอาจจะ
00:17:44 → 00:17:48 กินไขมันน้อยลงหรือท่านจะพยายามเพิ่ม hdl
00:17:48 → 00:17:50 hdl คืออะไร
00:17:50 → 00:17:55 hdl คือเค้าเรียกว่ารถขยะส่วนตัวของท่าน
00:17:55 → 00:17:58 ก็แล้วกัน ldl เนี่ยมันเป็นขยะที่ลอยอยู่
00:17:58 → 00:18:01 ในหลอดเลือดของท่าน hdl เหมือนรถเก็บขยะ
00:18:01 → 00:18:04 เพราะฉะนั้นท่านสามารถออกกำลังกายทำให้
00:18:04 → 00:18:08 hdl เนี่ยมันสูงขึ้นบางคนก็พูดไปว่าไอ้
00:18:08 → 00:18:11 โอเมก้า 3 เนี่ยหรือน้ำมันปลาเนี่ยไป
00:18:11 → 00:18:14 เพิ่ม hdl ได้ด้วยนะหรือถ้าทั้งนี้ทั้ง
00:18:14 → 00:18:17 นั้นอย่างที่บอกว่าท่านอาจจะไปกินยาลดไข
00:18:17 → 00:18:20 มันกลุ่มสตินแต่ถ้าใครกินแล้วเกิดปัญหา
00:18:20 → 00:18:23 พวกปวดกล้ามเนื้อก็งดก็ต้องมาใช้วิธีการ
00:18:23 → 00:18:26 อย่างอื่นอย่างที่หมอพูดไปหรือทานอาหาร
00:18:26 → 00:18:31 ที่มีสารลดการอักเสบพวกโคเอนไซม์คทนหรือ
00:18:31 → 00:18:33 กินพวกอย่างที่บอกว่ากระเทียมหรือขมิ้น
00:18:33 → 00:18:36 ชันร่วมด้วย
00:18:36 → 00:18:42 อ่าพอหาคลิปเกี่ยวกับเรื่องกินอะไรไป unc
00:18:42 → 00:18:45 ั vessel ได้กินอะไรไปล้างหล่อนเลือดได้
00:18:45 → 00:18:49 ก็ไปเจอคลิปพวกเนี้ยหมอที่เค้ากินคนนี้
00:18:49 → 00:18:54 เป็นหมอนะดอ Health เนี่ยเค้ากินโอเมก้า 3
00:18:54 → 00:18:58 Fish Oil นะ Fish Oil อันเนี้ยหมอก็
00:18:58 → 00:19:00 ถือฟิช Oil นะแต่ Fish Oil อันเนี้ยมัน
00:19:00 → 00:19:05 แปลกมันเป็นลักษณะ Double แคปซูลคือมันมี
00:19:05 → 00:19:09 แคปซูลเนี่ยด้านในเนี่ยนะเป็นแคปซูลที่
00:19:09 → 00:19:12 ใส่โปรไบโอติกส่วนแคปซูลด้านนอกเนี่ยเห็น
00:19:12 → 00:19:17 มมันจะใส่ฟิช Oil มันจะใส่ฟิช Oil นะหมอ
00:19:17 → 00:19:19 เนี่ยนะกินไอ้แคปซูลเนี่ยนะดับเบิลแคปซูล
00:19:19 → 00:19:21 เนี่ยนะที่มีฟิช Oil อยู่ข้างในและ
00:19:21 → 00:19:24 โปรไบโอติกอยู่ข้างในเนี่ยมาตั้งแต่ต้นปี
00:19:24 → 00:19:27 ละเดี๋ยวหมอจะกิน 90 วันเหมือนคุณหมอคน
00:19:27 → 00:19:30 เนี้ยแล้วแล้วไปเจาะเลือดดูนอกจากเจาะ
00:19:30 → 00:19:33 เลือดเนี่ยจะไปสแกนดูด้วยนะว่าไอ้เส้น
00:19:33 → 00:19:36 เลือดของหมอเนี่ยมันดีขึ้นหรือเปล่าเพราะ
00:19:36 → 00:19:39 จริงๆก่อนหน้าเนี้ยหมอเคยทำสแกนมาแล้วนะ
00:19:39 → 00:19:44 มีแคลเซียมสกออยู่ต่ำมากๆกินไปแล้วเนี่ย
00:19:44 → 00:19:47 มันจะไปลดไอ้แคลเซียมสกอหรือเปล่าค่า ldl
00:19:47 → 00:19:50 hdl อะไรก็แล้วแต่มันจะเพิ่มขึ้นจริงตาม
00:19:50 → 00:19:54 ที่เ้าโม้หรือเปล่าเดี๋ยวมาดูกันสาระความ
00:19:54 → 00:19:56 รู้ดีๆจากเพจหมอเฉพาะทางบาตเดียวและ
00:19:56 → 00:19:58 YouTube Channel หมอเฉพาะทางบาทเดียวนะ
00:19:58 → 00:20:01 ครับขอบคุณครับสวัสดีครับ
00:00:00 → 00:00:03 ท่านเชื่อหรือไม่ว่าปัจจุบันนี้มีเครื่อง
00:00:03 → 00:00:06 มือที่สามารถประเมินได้ว่าใน 10 ปีข้าง
00:00:06 → 00:00:10 หน้าของท่านท่านจะเสียชีวิตด้วยโรคกล้าม
00:00:10 → 00:00:13 เนื้อหัวใจขาดเลือดกี่เปอร์เซ็นต์มาฟัง
00:00:13 → 00:00:19 กันดูนะครับเป็นวิธีการคำนวณง่าย
00:00:19 → 00:00:26 ๆิปนี้สนับสนุนโดยคดิบอคนวัตกรรมบิแคปซูล
00:00:26 → 00:00:30 ผสมผสานระหว่างฟิ Oil และโปรไบโอติกคาริ
00:00:30 → 00:00:34 ไบโอเคลียรดูแลคุณด้วยใจใส่ใจทุกราย
00:00:34 → 00:00:38 ละเอียดคาริไอเลียสวัสดีครับทุกท่านเพจ
00:00:38 → 00:00:40 หมอเฉพาะทางบาทเดียวและ YouTube Channel
00:00:40 → 00:00:42 หมอเฉพาะทางบาทเดียวนะครับกระผมหมอเกมนาย
00:00:42 → 00:00:44 แพทย์อดุลชัยธรรมาแสงเสิร์ชนะครับก็กลับ
00:00:45 → 00:00:48 มาอีกครั้งในเรื่องสุขภาพดีเกินล้านวิวนะ
00:00:48 → 00:00:52 ครับนะคลิปนี้เนี่ยเป็นคลิปที่มีชาวต่าง
00:00:52 → 00:00:57 ชาตินะสนใจกันมากมีคนดูกว่า 10 ล้านวิวนะ
00:00:57 → 00:01:01 เรียกง่ายๆว่ามันเป็นความหมกมุ่นเลยของคน
00:01:02 → 00:01:05 ต่างประเทศเว่าเอ้ยมันจะมีวิธีการไหนที่
00:01:05 → 00:01:09 สามารถที่จะชะล้างหลอดเลือดเราให้กลับไป
00:01:09 → 00:01:11 สะอาดเหมือนใหม่ได้มาดูกัน
00:01:11 → 00:01:15 ก่อนจริงๆเนี่ยเหตุการณ์ประเภทกล้ามเนื้อ
00:01:15 → 00:01:17 หัวใจขาดเลือดเนี่ยในประเทศเราเนี่ยก็พบ
00:01:17 → 00:01:20 เยอะและไม่ได้พบกับในคนที่ไม่ออกกำลังกาย
00:01:20 → 00:01:24 นะพบในคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอเล่า
00:01:24 → 00:01:27 บุหรี่ไม่สูบนะอย่างคลิปเนี่ยอันนี้หมอดู
00:01:27 → 00:01:31 นะของไทยรัฐนะผู้ชายชายวัย 56 ปีแข็งแรง
00:01:31 → 00:01:35 ดีชอบตีแบตมากอยู่ดีๆหัวใจวายตายที่คอร์ด
00:01:35 → 00:01:38 แบตแล้วะมีคลิปด้วยน้าสงสารมากๆเลยไม่มี
00:01:38 → 00:01:42 ใครเห็นส่วนงานวิ่งก็เป็นประจำคน 50 กว่า
00:01:42 → 00:01:48 ปีไปวิ่งนะปกติฟิตวิ่งทุกวันไปมามาเสีย
00:01:48 → 00:01:51 ชีวิตในขณะที่วิ่งบางโรงพยาบาลก็เลยบอก
00:01:51 → 00:01:53 ว่าเฮ้ยก่อนที่คุณจะไปออกกำลังกายเนี่ย
00:01:53 → 00:01:56 คุณต้องเช็คหัวใจให้ดีก่อนนะว่าคุณมีความ
00:01:57 → 00:02:00 เสี่ยงที่วิ่งๆไปแล้วหรือออกกำลังกายไป
00:02:00 → 00:02:02 แล้วเนี่ยหัวใจคุณขาดเลือดหรือเปล่าหรือ
00:02:02 → 00:02:05 กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือเปล่าลิบ
00:02:05 → 00:02:10 เลือดอุดตัดอ่ากับคล CL คอกหลอดเลือดอุด
00:02:10 → 00:02:14 ตัมันไม่เหมือนกันเอาคำว่าคอตกับ clot นะ
00:02:14 → 00:02:18 คอเนี่ยมันคือกลุ่มเม็ดเลือดที่มันรวมตัว
00:02:18 → 00:02:22 กันนะแล้วอุดกันเป็นก้อนสามารถล่องลอยไป
00:02:22 → 00:02:25 ทั่วร่างกายได้อาจจะเกิดจากหัวใจเต้นผิด
00:02:25 → 00:02:28 จังหวะแล้วเกิดคอตตัวนี้ในห้องของหัวใจก็
00:02:28 → 00:02:33 ได้อีกคำนึงที่เราจะพูดวันนี้คือคอก C
00:02:33 → 00:02:37 คอกหินปูนอ่าใช้คำว่าหินปูนก็ได้พล้าก็
00:02:37 → 00:02:42 ได้หรือไขมันอุดตันในหลอดเลือดอ่าใช้คำ
00:02:43 → 00:02:45 พูดอย่างงี้ท่านอาจจะเข้าใจมากกว่านะบาง
00:02:45 → 00:02:48 คนใช้คำว่าไขมันอุดตันในหลอดเลือดบางคน
00:02:48 → 00:02:51 บอกว่าเป็นหินปูนบางคนบอกว่าเป็นตะกรัน
00:02:51 → 00:02:53 อุดตันในหลอดเลือดวันนี้เราจะพูดถึงคำว่า
00:02:53 → 00:02:58 คอกคำว่าคอกมันคืออะไรและมันทำให้หลอด
00:02:58 → 00:03:01 เลือดแข็งหรือเกิดอาเคิได้อย่างไรหรือ
00:03:01 → 00:03:04 หลอดเลือดตีบได้อย่างไรอ่ะมาดูกันมนุษย์
00:03:04 → 00:03:07 เราปกติกินอาหารเข้าไปอาหารเนื้อแดงที่มี
00:03:07 → 00:03:11 โคลีนหรือว่าคาเนทีนพอเรากินเข้าไปแล้ว
00:03:11 → 00:03:14 เนี่ยพวกเนื้อแดงเนื้อสัตว์นะมันจะเข้าไป
00:03:14 → 00:03:17 อยู่ที่ลำไส้ย่อยแล้วไปอยู่ที่ลำไส้ใหญ่
00:03:17 → 00:03:21 ที่ลำไส้ใหญ่เนี่ยในร่างกายเรามันจะมี
00:03:21 → 00:03:24 แบคทีเรียที่ไม่ค่อยดีอยู่ไอ้แบคทีเรีย
00:03:24 → 00:03:28 ที่ไม่ค่อยดีเนี่ยมันจะเปลี่ยนอาหารหรือ
00:03:28 → 00:03:31 เนื้อแดงของเราที่ไปหมักหมมอยู่ในลองไส้
00:03:31 → 00:03:35 ใยเนี่ยให้กลายมีให้กลายเป็นมีสารตัวนึง
00:03:35 → 00:03:37 เป็นสารพิษที่ชื่อว่า
00:03:37 → 00:03:42 TM ไอ้สารพิษตัวเนี้ยมันจะไปตามเส้น
00:03:42 → 00:03:47 เลือดดำปทเวนไปที่ต่และถูกเปลี่ยนให้กลาย
00:03:47 → 00:03:50 เป็นสารพิษอีกชนิดนึงที่ชื่อว่า
00:03:50 → 00:03:54 tmao ท่านจำไว้เลยนะ tmao เนี่ยหมอเคย
00:03:54 → 00:03:57 พูดไปแล้วเรื่องย are what you eat
00:03:57 → 00:04:00 ต่างชาติเขาก็ให้ความสำคัญกันเกี่ยวกับ
00:04:00 → 00:04:03 tmo เพราะมันเป็นสารที่ทำให้เกิดการ
00:04:03 → 00:04:05 อักเสบของหลอด
00:04:05 → 00:04:08 เลือดและเมื่อมันตั้งต้นแบบนี้แล้วเนี่ย
00:04:09 → 00:04:12 เมื่อหลอดเลือดเกิดการอักเสบมันก็จะมี
00:04:12 → 00:04:15 ภาวะหลอดเลือดแข็งตามมาเดี๋ยวจะอธิบายต่อ
00:04:15 → 00:04:18 ว่าหลอดเลือดแข็งเป็นไปได้อย่างไรท่านดู
00:04:18 → 00:04:19 คลิป
00:04:19 → 00:04:22 นี้เมื่อผนังหลอดเลือดเนี่ยเกิดการอักเสบ
00:04:22 → 00:04:25 เกิดขึ้นเนี่ยมันจะมีเม็ดเลือดขาวที่ชื่อ
00:04:25 → 00:04:28 ว่าโมโนไซต์เนี่ยสีฟ้าเนี่ยมันจะแทรกตัว
00:04:28 → 00:04:32 ลงไปทางด้านใต้ของผนังหลอดเลือดจากนั้น
00:04:32 → 00:04:36 เนี่ยมันจะไปรวมตัวกับไอ้ไขมันเขาเหลืองๆ
00:04:36 → 00:04:38 เนี่ยไขมันเหลืองๆืเนี่ยเราจะเรียกว่า
00:04:38 → 00:04:43 ออกซิได ldl นะก็คือไขมัน ldl นั่นแหละ
00:04:43 → 00:04:47 มันจะจับไอ้ตัวไขมันสีเหลืองเนี่ยกินจับ
00:04:47 → 00:04:51 กินเสร็จแล้วมันก็มาเค้าเรียกว่ามาโปะมา
00:04:51 → 00:04:54 ซ่อมผนังหลอดเลือดเหมือนคล้ายๆบางคนว่า
00:04:54 → 00:04:58 บอกเอาปูนมาฉาบเนี่ยจากนั้นเนี่ยพอมัน
00:04:58 → 00:05:02 เริ่มสื่อสกันมันจะหลังสารไซโตคายเรียก
00:05:02 → 00:05:05 โมโนไซต์หรือแมคโครฟาจตัวอื่นๆมาเพิ่ม
00:05:05 → 00:05:10 จำนวนขึ้นแล้วก็เริ่มเพิ่มจำนวนในการกิน
00:05:10 → 00:05:14 ตัวไขมัน ldl แล้วก็ทำให้หลอดเลือดของ
00:05:14 → 00:05:18 ท่านเนี่ยค่อยๆหนาตัวขึ้นเรื่อยๆหนาตัว
00:05:18 → 00:05:22 ขึ้นเรื่อยๆทำให้ผนังของหลอดเลือดหรือท่อ
00:05:22 → 00:05:26 เนี่ยท่อของหลอดเลือดเนี่ยมันตีบลงเรื่อย
00:05:26 → 00:05:30 ๆเรื่อยๆๆๆแล้วพอถึงจุดนึงเนี่ยพอมัน
00:05:30 → 00:05:34 สร้างตัวขึ้นมาเนี่ยมันก็แตกตัวออก
00:05:34 → 00:05:38 นี่นี่คือหลอดเลือดที่เป็นหลอดเลือดจริงๆ
00:05:38 → 00:05:42 นะแล้วเมาตัดทตัดขวางแล้วดูเห็นมไอ้ที่
00:05:42 → 00:05:46 เหลืองๆนั่นก็คือโฟมเซลก็คือเม็ดเลือดขาว
00:05:46 → 00:05:50 ที่มันไปจับตัวไขมันที่ชื่อว่า ldl ออกซิ
00:05:50 → 00:05:55 ldl ก็แล้วกันและค่อยๆเกาะตัวหนาตัวขึ้น
00:05:55 → 00:05:58 หมออยากอธิบายง่ายๆคือว่าเมื่อหลอดเลือด
00:05:58 → 00:06:00 ของเราเนี่ยมันเกิดการอักเสบหรือเกิดแผล
00:06:01 → 00:06:04 เกิดขึ้นเม็ดเลือดขาวเนี่ยโมโนไซต์หรือ
00:06:04 → 00:06:09 แมคโครฟาจมันจะไปพยายามซ่อมแซมไอ้ตัวส่วน
00:06:09 → 00:06:12 ที่เกิดการอักเสบหรือเกิดการบาดเจ็บเกิด
00:06:12 → 00:06:15 ขึ้นโดยวิธีการกระบวนการที่มันซ่อมแซมก็
00:06:15 → 00:06:21 คือมันจะพยายามกินไขมันออกซิไดซ์ ldl นะ
00:06:21 → 00:06:25 แล้วะไปอุดๆๆๆๆเยและหนาตัวขึ้นเรื่อยๆนะ
00:06:25 → 00:06:28 หรือคล้ายๆมีคนไปฉาบปูนน่ะแล้วฉาบไม่เก่ง
00:06:28 → 00:06:31 อ่ะฉาบไปเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆเนี่ยมันก็หนา
00:06:31 → 00:06:34 ตัวใช่ป่ะเลยทำให้ท่อเหรือหลอดเลือดเนี่ย
00:06:34 → 00:06:38 มันตีบลงเรื่อยๆนะนี่คือสาเหตุที่ทำให้
00:06:38 → 00:06:41 เกิดหลอดเลือดแข็งหลอดเลือดตีบเลยนะเพราะ
00:06:41 → 00:06:46 ฉะนั้นท่านรู้รายละเอียดะอ่ะคราวนี้ดูต่อ
00:06:46 → 00:06:49 มันก็จะเป็นคำถามว่าเมื่อมันเกิดปัญหา
00:06:49 → 00:06:51 อย่างนี้แล้วเนี่ยเราสามารถร้องหลอดล้าง
00:06:51 → 00:06:55 หลอดเลือดให้เหมือนล้างท่อได้มยคำตอบตรรง
00:06:55 → 00:06:58 ไปตรงมาคือไม่ได้เพราะอะไรเพราะไอ้ส่วน
00:06:58 → 00:07:01 ที่มันหนาตัวขึ้นเนี่ยมันอยู่ใต้ผนังหลอด
00:07:01 → 00:07:04 เลือดชั้นในของเรานึกออกป่ะมันไปหนาตัว
00:07:04 → 00:07:09 ขึ้นในผนังหลอดเลือดชั้นในส่วนตรงกลางอ่ะ
00:07:09 → 00:07:12 เพราะฉะนั้นเเลยบอกว่าเออมันไม่สามารถทำ
00:07:13 → 00:07:15 ให้ล้างหลอดเลือดให้เป็นเหมือนใหม่ได้
00:07:15 → 00:07:21 หรอกเข้าใจยังนะแต่ถ้าสมมุติว่าท่านกินยา
00:07:21 → 00:07:25 ลดไขมันแบบเข้มๆกินปริมาณสูงๆเนี่ยมันจะ
00:07:25 → 00:07:29 สามารถทำให้ลดไอ้ในส่วนที่เป็นไขมันเนี่ย
00:07:29 → 00:07:33 ที่เกาะหลอดเลือดอ่ะลดลงแล้วเขาก็พูดว่า
00:07:33 → 00:07:36 มันอาจจะทำให้เส้นผ่าศูนย์กลางของท่อ
00:07:36 → 00:07:40 เนี่ยเพิ่มมากขึ้นก็ได้นะประมาณ
00:07:40 → 00:07:42 10% เพราะฉะนั้นนั่นหมายความว่าเมื่อ
00:07:42 → 00:07:45 หลอดเลือดของท่านเนี่ยเกิดภาวะตีบไปแล้ว
00:07:45 → 00:07:48 จะกลับไปขยายเท่าเดิมเนี่ยอาจจะยากแล้ว
00:07:48 → 00:07:52 ล่ะแต่แค่ไม่ให้ว่ามันสร้างขึ้นมาใหม่ใน
00:07:52 → 00:07:56 อนาคตนั่นมีความเป็นไปได้มากกว่าสำหรับคน
00:07:56 → 00:08:00 ที่ไม่อยากกินยาลดไขมันเพราะว่ามีข่าวออก
00:08:00 → 00:08:02 มาว่ากินยาลดไขมันแล้วมันปวดกล้ามน้ง
00:08:02 → 00:08:07 กล้ามเนื้อนะทำยังไงเบอกอย่างงี้ยาลดไข
00:08:07 → 00:08:10 มันที่ท่านกินเนี่ยนะแบบโดสเข้มๆเนี่ย
00:08:10 → 00:08:13 High tens นะกับเ tens กับกินเทียบกับ
00:08:13 → 00:08:18 พบ plb ก็คือยาหล่อเขาบอกว่าผลลัพธ์มัน
00:08:18 → 00:08:20 ไม่แตกต่างกันคืออธิบายง่ายๆคือว่าเขให้
00:08:20 → 00:08:22 ท่านกินยารสไขมันน่ะ
00:08:22 → 00:08:25 กับให้ยาหลอกท่านไปแล้วบอกว่ามันคือยาลด
00:08:25 → 00:08:29 ไขมันท่านมีอาการปวดกล้ามเนื้อเท่าๆกัน
00:08:29 → 00:08:31 เลยประมาณ
00:08:31 → 00:08:34 3% ดังนั้นเ้าก็เลยส่วนใหญ่เขาก็เลยไม่
00:08:34 → 00:08:36 เชื่อว่าเอ้ยมันกินแล้วมันปวดกล้ามเนื้อ
00:08:36 → 00:08:40 จริงหรือเปล่าแต่จริงๆคนที่กินแล้วปวด
00:08:40 → 00:08:43 กล้ามเนื้อนั้นมีแล้วมันมีคำอธิบายเขาบอก
00:08:43 → 00:08:48 ว่าคนที่กินยาลดไขมันเนี่ยนะและเกิดการ
00:08:48 → 00:08:50 ปวดของกล้ามเนื้อเป็นเพราะว่าไอ้ยาลดไข
00:08:50 → 00:08:54 มันเนี่ยมันไปอาจจะทำร้ายหรือทำลาย
00:08:54 → 00:08:58 ไมโทคอนเดรียทำให้ขาดสารที่ชื่อว่าโ
00:08:58 → 00:09:00 เอนไซม
00:09:00 → 00:09:05 q1 จำตัวนี้ให้ดีๆนะโคเอนไซม์ q1 นะและ
00:09:05 → 00:09:09 ทำให้เกิดการเอ่อเค้าเรียกว่าบาดเจ็บของ
00:09:09 → 00:09:12 ตัวกล้ามเนื้อเขาบอกว่าเจาะเลือดดูเนี่ย
00:09:12 → 00:09:16 ค่าคิติไนสหรือ CK เนี่ยเพิ่มขึ้นด้วย
00:09:16 → 00:09:19 งั้นแสดงว่าคนที่มีคนที่กินยาลดไขมันแล้ว
00:09:19 → 00:09:24 ปวดกล้ามเนื้อเปวดจริงนะกล้ามเนื้อมีการ
00:09:24 → 00:09:28 สลายจริงค่าเอนไซม์เตีนไคเนสที่ออกมาจาก
00:09:28 → 00:09:30 กล้ามเนื้อมันสูงขึ้นมาจริงเพราะฉะนั้น
00:09:30 → 00:09:35 เค้าไม่ได้แกล้งบางคนบอกว่าถ้าแบบนี้ผมก็
00:09:35 → 00:09:39 ไม่อยากกินและถ้ากินแล้วปวดกล้ามเนื้อแต่
00:09:39 → 00:09:42 จริงๆแล้วยาลดไขมันเนี่ยมันมีประโยชน์บาง
00:09:42 → 00:09:46 คนก็อยากกินแต่หมอไม่จ่ายให้
00:09:46 → 00:09:49 อ่าเหตุผลที่หมอไม่จ่ายให้เพราะว่าเค้า
00:09:49 → 00:09:54 บอกว่าเ้ยค่า ldl คุณยังไม่สูงปกติสูงแค่
00:09:54 → 00:09:57 ไหนก็แล้วกันถ้า ldl สูงเกิน 200 ส่วน
00:09:57 → 00:10:01 ใหญ่เนี่ยหมอเาจะให้ยาลดไขมันมากินนะท่าน
00:10:01 → 00:10:04 ต้องเข้าใจก่อนนะไม่ใช่คอเลสเตอรอลไม่ใช่
00:10:04 → 00:10:08 Total คอเลสเตอรอลนะแต่เป็น ldl นะ ldl
00:10:08 → 00:10:11 คอเลสเตอรอลมันเป็นส่วนย่อยลงมาอีกถ้าตัว
00:10:11 → 00:10:15 นี้สูงเกิน 200 หมอเขจะให้แต่ในบางคนใน
00:10:15 → 00:10:19 หลายๆคนที่น้อยกว่านั้นหมอเขาก็ไม่ให้หมอ
00:10:19 → 00:10:21 เขบอกมันไม่มีความจำเป็นนะอันนี้คือ
00:10:22 → 00:10:24 เรื่องที่ 1 แล้วคนที่ไม่ถึงอย่างนั้น
00:10:24 → 00:10:27 เนี่ยไม่ถึง 200 แต่ว่าอยากกินน่ะกินแล้ว
00:10:27 → 00:10:30 เนี่ยมันช่วยทำให้ไม่เกิดไ้หลอดเลือดอุด
00:10:30 → 00:10:32 ตัดในอนาคตไม่เกิดไขมันไปเกาะหลอดเลือดใน
00:10:33 → 00:10:37 อนาคตนึกออกมเอยากจะกินมันก็เลยมีไกด LINE
00:10:37 → 00:10:42 ขึ้นมานะปี 2023 เลยก็คือว่าการกำหนดให้
00:10:42 → 00:10:46 ใครกินยารสไขมันหรือไม่กินเนี่ยมันมีวิธี
00:10:46 → 00:10:48 อยู่ถ้าสมมุติว่าคุณเคยมีประวัติกล้าม
00:10:49 → 00:10:51 เนื้อหัวใจขาดเลือดเนี่ยคุณต้องกินและกิน
00:10:51 → 00:10:54 High ose ด้วย High tens City แต่ถ้า
00:10:54 → 00:10:57 สมมุติว่าคุณไม่มีประวัติมาก่อนเหมือนคน
00:10:57 → 00:11:00 ที่ฟังที่หมอพูดเนี่ยเคยมีประวัติกล้าม
00:11:00 → 00:11:03 เนื้อหัวใจขาดเลือดมาก่อนจะมีวิธีการไหน
00:11:03 → 00:11:08 นี่แหละเค้าจะมีวิธีการคำนวณที่ชื่อว่า
00:11:08 → 00:11:12 framingham list of heart attack นะ
00:11:12 → 00:11:15 อันนี้คือเว็บไซต์ที่จะเปิดที่ท่านสามารถ
00:11:15 → 00:11:17 เข้าไปคำนวณได้เองนะหรือท่านเขียนคำว่า
00:11:17 → 00:11:21 Calculator นะ framingham list of
00:11:21 → 00:11:23 heart attack มันจะมีการใส่อายุนะครับ
00:11:23 → 00:11:27 เพศความดันตัวบนนะแล้วก็มีประวัติว่าการ
00:11:27 → 00:11:29 รักษาเคยรักษาความดันมาก่อนมั้ย
00:11:29 → 00:11:35 คอเลสเตอรอลสูงแค่ไหน่าแ 5 hdl สูงมยมี
00:11:35 → 00:11:38 ประวัติเบาหวานหรือสุบุหรี่เริ่มหรือ
00:11:38 → 00:11:40 เปล่าแล้วมันก็จะออกมาเป็น ris Factor
00:11:40 → 00:11:44 ว่าในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าเนี่ยท่านจะ
00:11:44 → 00:11:48 มีโอกาสเกิดโลคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
00:11:48 → 00:11:53 กี่เปอร์เซ็นต์เจ๋งมอย่าลืมเข้าไปกดหา
00:11:53 → 00:11:57 นะถ้าสมมุติว่ามากกว่า 20% ท่านต้องกินยา
00:11:57 → 00:12:00 ลดไขมันและแม้ว่าท่านจะไม่มีประวัติใดๆ
00:12:00 → 00:12:05 ทั้งสิ้นนะถ้าสมมุติว่าน้อย 20 น้อยกว่า
00:12:05 → 00:12:08 20% ท่านอาจจะไม่จำเป็นบางคนกินก็ได้
00:12:08 → 00:12:12 หรือบางคนบอกว่าหมอเไม่จ่ายให้ ldl อ่ะ
00:12:12 → 00:12:14 198 ไม่ถึง
00:12:14 → 00:12:19 200 อยากกินทำไงหมออ่าตรงนี้แหละนี่คือ
00:12:19 → 00:12:24 ปัญหาที่ในคนต่างชาติเนี่ยเขาพบกันก็คือ
00:12:24 → 00:12:28 ไขมันสูงไม่ถึงเกณฑ์แต่อยากที่จะลดปัญหา
00:12:28 → 00:12:31 ที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคตเพราะว่าคำนวณดู
00:12:31 → 00:12:34 แล้วตัวเองเนี่ยมีริสในการเกิดเนี่ยสูง
00:12:34 → 00:12:38 เรามาดูกันก่อนไอ้ fling Ham เนี่ยเอ่อ
00:12:38 → 00:12:41 score เนี่ยมันเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน
00:12:41 → 00:12:45 เาบอกว่า sensitivity กับ spx sity
00:12:45 → 00:12:49 เนี่ย 95 -83 per ภายในระยะเวลา 10 ปี
00:12:49 → 00:12:53 นะแต่ไอ้ค่าเนี้ยหมอเข้าไปดูหลายตำราและ
00:12:53 → 00:12:56 บางคนก็บอกว่าในแรกๆที่มันออกมาใหม่เนี่ย
00:12:56 → 00:12:59 มันเชื่อถือได้แค่ 50% แต่เค้าก็มีการ
00:12:59 → 00:13:03 ปรับปรุงแฟตรปรับปรุงการคำนวณมากมายนะจน
00:13:03 → 00:13:05 ความน่าเชื่อถือเนี่ยมันอยู่ในช่วง 90
00:13:05 → 00:13:08 -80 per ซึ่งก็ค่อนข้างโอเคนะเชื่อถือ
00:13:08 → 00:13:12 ได้ตรงเนี้ยมันก็เลยเป็นที่มาว่าเอ้ยถ้า
00:13:12 → 00:13:15 เมื่อคุณคำนวณสกอร์แล้วเนี่ยความเสี่ยง
00:13:15 → 00:13:17 คุณน้อยกว่า 20 เนี่ยแล้วหมอเไม่จ่ายยา
00:13:17 → 00:13:20 ให้คุณเนี่ยคุณจะทำยังไงมันก็เลยเป็นที่
00:13:20 → 00:13:26 มาว่ากินอะไรมื้อเช้าวันละแก้วสามารถช้า
00:13:26 → 00:13:30 ล้างหล่อดเลือดได้คุณหมอนี่
00:13:30 → 00:13:33 คิดหลากหลายสูตรมากๆเลยนะหลากหลายสูตรมาก
00:13:33 → 00:13:37 ๆซึ่งในแต่ละสูตรเนี่ยมันจะมีอะไรเหมือนๆ
00:13:37 → 00:13:39 กันอยู่มันจะมีอะไรเหมือนๆกันเหมนแล้วหมอ
00:13:39 → 00:13:42 เนี่ยสรุปมาให้อย่างแรกเลยเนี่ยที่คุณหมอ
00:13:42 → 00:13:45 คนนี้เค้าสร้างสูตรในการกินวันละแก้วขึ้น
00:13:45 → 00:13:47 มาเนี่ยมันต้องมีองค์ประกอบอะไรหรือป่ะ
00:13:47 → 00:13:51 กระเทียมเาบอกว่าใช้กระเทียม 3 หัวนะใช้
00:13:51 → 00:13:55 น้ำมะนาวแล้วก็เติมน้ำมากๆถ้าท่านทานตอน
00:13:55 → 00:13:58 เนี้ยมันจะไม่อร่อยเขาบอกว่าให้ใส่น้ำ
00:13:58 → 00:14:02 ผึ้งเข้าไปด้วยแต่ปรากฏว่ามันก็ไม่เวิร์ค
00:14:02 → 00:14:05 คือจริงๆคุณหมอคนเนี้ยเค้าสร้างสูตรเนี่ย
00:14:05 → 00:14:07 หลายสูตรมากๆเลยล่าสุดเนี่ย 3 เดือนที่
00:14:07 → 00:14:11 แล้วเนี่ยเค้าใช้กินกินเป็นแบบน้ำมันเลย
00:14:11 → 00:14:14 นะโอลีฟ Oil อย่าง
00:14:14 → 00:14:18 เงี้ยเอาเป็นว่าหมอดูและหลากหลายคลิปของ
00:14:18 → 00:14:22 เค้าและได้ข้อสรุปมาว่าหลักๆเลยเนี่ยองค์
00:14:22 → 00:14:26 ประกอบที่เขากินนะก็คือน้ำมันปลา 2
00:14:26 → 00:14:29 กระเทียม 3 ขมิ้นชัง
00:14:29 → 00:14:32 3 สูตรนี้นะคือ 3 ตัวเนี้ยจะเป็นหลักๆ
00:14:32 → 00:14:35 นอกนั้นเนี่ยเขาคก็จะใส่อันนั้นอันนี้อัน
00:14:35 → 00:14:38 นี้เพิ่มเข้าไปแต่หลักๆเนี่ยจะมีน้ำมัน
00:14:38 → 00:14:42 ปลากระเทียมแล้วก็ขมิ้น
00:14:42 → 00:14:47 ชันผู้ใหญ่หลายท่านกินขมิ้นชันเป็นเม็ดๆ
00:14:47 → 00:14:50 แต่ก็ไม่พ้นว่าเป็นเส้นเลือดสมองตีบเอา
00:14:50 → 00:14:54 ง่ายๆญาติหมอเนี่ยที่เป็นสมองติเป็นสตกไป
00:14:54 → 00:14:57 เนี่ยกินขมิ้นชันมานานมากเลยนะอยู่ดีๆก็
00:14:57 → 00:15:00 เป็นสมองติเพราะอะไรเพราะว่าบางคนกิน
00:15:00 → 00:15:02 กระเทียมก็กินกระเทียมอย่างเดียวบางคนกิน
00:15:03 → 00:15:05 ขมิ้นชันก็กินขมิ้นชันอย่างเดียวบางคนกิน
00:15:05 → 00:15:08 กระเทียมขมิ้นชันกินน้ำมันปลาแต่ไม่เคย
00:15:08 → 00:15:11 เจาะเลือดดูว่าสิ่งที่ท่านกินไปแล้วเนี่ย
00:15:11 → 00:15:14 มันได้ผลจริงหรือเปล่ามันเป็นรถ ldl จริง
00:15:14 → 00:15:16 หรือเปล่ามันเป็นลดการอักเสบจริงหรือ
00:15:16 → 00:15:19 เปล่าจริงๆแล้วกระเทียมกับกมินชันเนี่ย
00:15:19 → 00:15:22 มันมีสารที่ชื่อว่าโคเอนไซม์คทเนี่ยค่อน
00:15:22 → 00:15:26 ข้างเยอะคือเป็นสารแอนติแอนติออกซินใน
00:15:26 → 00:15:29 หลอดเลือดถ้าท่านย้อนกลับไปจำที่หมอพูด
00:15:29 → 00:15:31 ตอนต้นได้ว่าเมื่อหลอดเลือดมันอักเสบ
00:15:31 → 00:15:34 เนี่ยร่างกายมันก็เลยมีเม็ดเลือดขาวมาจับ
00:15:34 → 00:15:37 ตัวไขมันมากินแล้วก็มาอุดหลอดเลือดใช่มย
00:15:37 → 00:15:40 ถ้าสมมุติว่าลดการอักเสบได้โดยการกิน
00:15:40 → 00:15:42 กระเทียมและขมิ้นชันเนี่ยมันก็ลดปัญหาการ
00:15:42 → 00:15:45 อักเสบได้หรือกินน้ำมันปลาเออน้ำมันปลา
00:15:45 → 00:15:49 เนี่ยมันไปช่วยอะไรเออน้ำมันปลาหรือว่า
00:15:49 → 00:15:51 โอเมก้า 3 เนี่ยอย่างที่บอกว่ามันลดไขมัน
00:15:51 → 00:15:55 ไกลีสไลดได้เลยซึ่งเป็นตัวตั้งต้นนะแล้ว
00:15:55 → 00:15:58 มันก็เป็นลสตัวอะไรอป้ไลปิดโปรตีนพวก
00:15:58 → 00:16:01 เนี้ยพวก App lipid โปรตีนก็ไม่เป็นตัว
00:16:01 → 00:16:04 ที่จะไปสร้าง ldl มันก็ลดได้ด้วยนอกจากเ
00:16:04 → 00:16:08 มันก็ลดการอักเสบของหลอดเลือดได้ทำให้ไอ้
00:16:08 → 00:16:11 เค้าเรียกว่าหลอดเลือดแข็งตัวของท่าน
00:16:11 → 00:16:14 เนี่ยหรือไอ้ไขมันเนี่ยมันมัน stable มัน
00:16:14 → 00:16:19 นิ่งมันไม่แตกตัวออกท่านดูคลิปแล้วใช่ป่ะ
00:16:19 → 00:16:22 ตอนหลังถ้าไขมันของท่านเมันไม่แข็งมันไม่
00:16:22 → 00:16:24 นิ่มเนี่ยสุดท้ายมันแตกตัวออกพอแตกตัวออก
00:16:24 → 00:16:28 ปุ๊บเส้นเลือดท่านก็จะอุดตันเพราะมันจะมี
00:16:28 → 00:16:31 คอตมาอุดอุดเข้าใจใช่ป่ะ
00:16:31 → 00:16:33 เออ
00:16:33 → 00:16:38 อ่ะดังนั้นโดยสรุปโดยสรุปนะวิธีการลดหลอด
00:16:38 → 00:16:41 เลือดแข็งหรือ osis เนี่ยในอนาคตคือนั่น
00:16:41 → 00:16:44 หมายความว่าหมอไม่ได้บอกว่าในอดีตที่มัน
00:16:44 → 00:16:46 เกิดขึ้นไปแล้วท่านสามารถลดได้นะเพราะดู
00:16:47 → 00:16:49 จากคลิปแล้วเนี่ยมันไม่น่าจะลดได้แต่ท่าน
00:16:49 → 00:16:53 สามารถป้องกันการสร้างขึ้นในอนาคตได้คือ 1
00:16:53 → 00:16:55 ท่านอาจจะงดเนื้อสัตว์ตั้งแต่ต้นเพราะว่า
00:16:55 → 00:16:58 ถ้าสมมุติท่านงดเนื้อสัตว์เนี่ยท่านก็ลด
00:16:58 → 00:17:01 การสร้าง tmao ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิด
00:17:01 → 00:17:03 การอักเสบใช่มั้ยแต่ประเด็นคือเมื่อท่าน
00:17:03 → 00:17:07 สูงอายุแล้วเนี่ยท่านงดเนื้อสัตว์มากๆ
00:17:07 → 00:17:10 เนี่ยกล้ามเนื้อท่านก็สลายนึกออกมยหมอก็
00:17:10 → 00:17:13 ไม่ได้อยากให้แบบทุกคนกลายเป็นวกนะคือ
00:17:13 → 00:17:15 ท่านกินเนื้อสัตว์ได้บ้างนะกินเนื้อสัตว์
00:17:15 → 00:17:20 ได้แต่ท่านจะต้องหาวิธีการที่จะลดสาร tmao
00:17:20 → 00:17:23 ที่เกิดขึ้นจากเนื้อสัตว์ทำยังไงท่านอาจ
00:17:23 → 00:17:26 จะต้องกินพวกโปรไบโอติกไปเพิ่มแบคทีเรีย
00:17:26 → 00:17:30 ดีๆในลำไส้ของท่านทำให้แบคทีเรียมันทำงาน
00:17:30 → 00:17:33 แบคทีเรียไม่ดีเนี่ยทำงานน้อยลงแบคทีเรีย
00:17:33 → 00:17:37 ดีๆมีเยอะขึ้นก็จะไม่เกิดการสร้างสาร tmao
00:17:37 → 00:17:40 ตอนสไลด์ต้นที่เคยอธิบายให้ฟังจากนั้น
00:17:40 → 00:17:44 สเต็ปที่ 3 ท่านก็ลด ldl ก็คือท่านอาจจะ
00:17:44 → 00:17:48 กินไขมันน้อยลงหรือท่านจะพยายามเพิ่ม hdl
00:17:48 → 00:17:50 hdl คืออะไร
00:17:50 → 00:17:55 hdl คือเค้าเรียกว่ารถขยะส่วนตัวของท่าน
00:17:55 → 00:17:58 ก็แล้วกัน ldl เนี่ยมันเป็นขยะที่ลอยอยู่
00:17:58 → 00:18:01 ในหลอดเลือดของท่าน hdl เหมือนรถเก็บขยะ
00:18:01 → 00:18:04 เพราะฉะนั้นท่านสามารถออกกำลังกายทำให้
00:18:04 → 00:18:08 hdl เนี่ยมันสูงขึ้นบางคนก็พูดไปว่าไอ้
00:18:08 → 00:18:11 โอเมก้า 3 เนี่ยหรือน้ำมันปลาเนี่ยไป
00:18:11 → 00:18:14 เพิ่ม hdl ได้ด้วยนะหรือถ้าทั้งนี้ทั้ง
00:18:14 → 00:18:17 นั้นอย่างที่บอกว่าท่านอาจจะไปกินยาลดไข
00:18:17 → 00:18:20 มันกลุ่มสตินแต่ถ้าใครกินแล้วเกิดปัญหา
00:18:20 → 00:18:23 พวกปวดกล้ามเนื้อก็งดก็ต้องมาใช้วิธีการ
00:18:23 → 00:18:26 อย่างอื่นอย่างที่หมอพูดไปหรือทานอาหาร
00:18:26 → 00:18:31 ที่มีสารลดการอักเสบพวกโคเอนไซม์คทนหรือ
00:18:31 → 00:18:33 กินพวกอย่างที่บอกว่ากระเทียมหรือขมิ้น
00:18:33 → 00:18:36 ชันร่วมด้วย
00:18:36 → 00:18:42 อ่าพอหาคลิปเกี่ยวกับเรื่องกินอะไรไป unc
00:18:42 → 00:18:45 ั vessel ได้กินอะไรไปล้างหล่อนเลือดได้
00:18:45 → 00:18:49 ก็ไปเจอคลิปพวกเนี้ยหมอที่เค้ากินคนนี้
00:18:49 → 00:18:54 เป็นหมอนะดอ Health เนี่ยเค้ากินโอเมก้า 3
00:18:54 → 00:18:58 Fish Oil นะ Fish Oil อันเนี้ยหมอก็
00:18:58 → 00:19:00 ถือฟิช Oil นะแต่ Fish Oil อันเนี้ยมัน
00:19:00 → 00:19:05 แปลกมันเป็นลักษณะ Double แคปซูลคือมันมี
00:19:05 → 00:19:09 แคปซูลเนี่ยด้านในเนี่ยนะเป็นแคปซูลที่
00:19:09 → 00:19:12 ใส่โปรไบโอติกส่วนแคปซูลด้านนอกเนี่ยเห็น
00:19:12 → 00:19:17 มมันจะใส่ฟิช Oil มันจะใส่ฟิช Oil นะหมอ
00:19:17 → 00:19:19 เนี่ยนะกินไอ้แคปซูลเนี่ยนะดับเบิลแคปซูล
00:19:19 → 00:19:21 เนี่ยนะที่มีฟิช Oil อยู่ข้างในและ
00:19:21 → 00:19:24 โปรไบโอติกอยู่ข้างในเนี่ยมาตั้งแต่ต้นปี
00:19:24 → 00:19:27 ละเดี๋ยวหมอจะกิน 90 วันเหมือนคุณหมอคน
00:19:27 → 00:19:30 เนี้ยแล้วแล้วไปเจาะเลือดดูนอกจากเจาะ
00:19:30 → 00:19:33 เลือดเนี่ยจะไปสแกนดูด้วยนะว่าไอ้เส้น
00:19:33 → 00:19:36 เลือดของหมอเนี่ยมันดีขึ้นหรือเปล่าเพราะ
00:19:36 → 00:19:39 จริงๆก่อนหน้าเนี้ยหมอเคยทำสแกนมาแล้วนะ
00:19:39 → 00:19:44 มีแคลเซียมสกออยู่ต่ำมากๆกินไปแล้วเนี่ย
00:19:44 → 00:19:47 มันจะไปลดไอ้แคลเซียมสกอหรือเปล่าค่า ldl
00:19:47 → 00:19:50 hdl อะไรก็แล้วแต่มันจะเพิ่มขึ้นจริงตาม
00:19:50 → 00:19:54 ที่เ้าโม้หรือเปล่าเดี๋ยวมาดูกันสาระความ
00:19:54 → 00:19:56 รู้ดีๆจากเพจหมอเฉพาะทางบาตเดียวและ
00:19:56 → 00:19:58 YouTube Channel หมอเฉพาะทางบาทเดียวนะ
00:19:58 → 00:20:01 ครับขอบคุณครับสวัสดีครับ