00:00:06 → 00:00:08 มันเริ่มจะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว
00:00:08 → 00:00:12 และไม่นานมันก็กลายเป็นความรู้สึกกระตุ้น ที่ไม่อาจที่จะเพิกเฉยได้
00:00:12 → 00:00:14 ในที่สุด มันก็เป็นสิ่งเดียวที่คุณคิดออก
00:00:14 → 00:00:15 และด้วยสภาพสิ้นคิดนั้นเอง
00:00:15 → 00:00:21 คุณวิ่งหาห้องน้ำจนกระทั่ง "อาห์"
00:00:21 → 00:00:24 มนุษย์ควรที่จะปัสสาวะ อย่างน้อยวันละสี่ถึงหกครั้ง
00:00:24 → 00:00:28 แต่เป็นประจำ ที่ความกดดันจากชีวิต สมัยใหม่ บังคับให้เราต้องอั้นมันเอาไว้
00:00:28 → 00:00:32 มันเป็นพฤติกรรมที่แย่แค่ไหนกันหรือ แล้วร่างกายของเราสามารถทดได้นานแค่ไหน
00:00:32 → 00:00:34 คำตอบอยู่ที่การทำงานของกระเพาะปัสสาวะ
00:00:34 → 00:00:37 ซึ่งเป็นถุงทรงรี ที่อยู่ในกระดูกเชิงกรานของคุณ
00:00:37 → 00:00:40 มันถูกล้อมรอบด้วยอวัยวะอีกสองสามอย่าง
00:00:40 → 00:00:43 พวกมันร่วมกันทำงานเป็นระบบการขับปัสสาวะ
00:00:43 → 00:00:44 ไตสองข้าง
00:00:44 → 00:00:45 ท่อไตสองข้าง
00:00:45 → 00:00:48 หูรูดทางเดินปัสสาวะทั้งสอง
00:00:48 → 00:00:50 และท่อปัสสาวะ
00:00:50 → 00:00:55 ของเหลวสีเหลืองที่เรียกว่าปัสสาวะ ไหลลงมาจากไต
00:00:55 → 00:00:58 ไตสร้างปัสสาวะจากของผสมระหว่าง น้ำและผลิตภัณฑ์ของเสียในร่างกาย
00:00:58 → 00:01:03 กรองของเหลวที่ไม่ต้องการ ลงในท่อกล้ามเนื้อทั้งสองที่เรียกว่าท่อไต
00:01:03 → 00:01:07 พวกมันพาปัสสาวะลงไปยังอวัยวะกลวง ๆ ที่เรียกว่ากระเพาะปัสสาวะ
00:01:07 → 00:01:11 กล้ามเนื้อที่ผนังของอวัยวะนี้ทำจากเนื้อเยื่อ ที่เรียกว่ากล้ามเนื้อดีทรูเซอร์ (detrusor muscle)
00:01:11 → 00:01:16 ซึ่งคลายตัวเมื่อกระเพาะปัสสาวะถูกเติม ทำให้มันขยายออกได้เหมือนลูกโป่ง
00:01:16 → 00:01:19 เมื่อกระเพาะปัสสาวะเต็ม กล้ามเนื้อเรียบนั้นก็หดตัว
00:01:19 → 00:01:24 หูรูดท่อปัสสาวะภายในก็เปิดออก โดยอัตโนมัติและนอกอำนาจการควบคุม
00:01:24 → 00:01:26 และปัสสาวะก็ถูกปลดปล่อย
00:01:26 → 00:01:29 ของเหลวไหลลงมาเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
00:01:29 → 00:01:32 และหยุดอยู่ที่หูรูดท่อปัสสาวะภายนอก
00:01:32 → 00:01:33 ซึ่งทำงานเหมือนกับก๊อกน้ำ
00:01:33 → 00:01:37 เมื่อคุณอยากจะอั้นปัสสาวะไว้ก่อน คุณก็ปิดมันเอาไว้
00:01:37 → 00:01:40 เมื่อคุณต้องการจะปลดปล่อยมัน คุณก็สั่งการให้มันเปิดออก
00:01:40 → 00:01:42 แต่คุณรู้สึกว่ากระเพาะปัสสาวะเต็มได้อย่างไร
00:01:42 → 00:01:44 เพื่อที่จะรู้ว่าเมื่อไรที่จะต้องไปฉี่
00:01:44 → 00:01:48 ภายในชั้นของกล้ามเนื้อเรียบในกระเพาะปัสสาวะ มีตัวรับแรงยืดเป็นล้าน ๆ
00:01:48 → 00:01:50 ที่ถูกกระตุ้นเมื่อกระเพาะปัสสาวะถูกเติม
00:01:50 → 00:01:54 พวกมันส่งสัญญาณไปตามเส้นประสาท ถึงบริเวณกระเบนเหน็บในไขสันหลัง
00:01:54 → 00:01:57 สัญญาณรีเฟล็กซ์เดินทางกลับมายัง กระเพาะปัสสาวะ
00:01:57 → 00:01:59 ทำให้กล้ามเนื้อเรียบหดตัวเล็กน้อย
00:01:59 → 00:02:03 และการเพิ่มความดันในกระเพาะปัสสาวะ ก็ทำให้คุณรู้สึกว่ามันกำลังจะเต็ม
00:02:03 → 00:02:06 ต่อจากนั้น หูรูดท่อปัสสาวะภายในเปิดออก
00:02:06 → 00:02:08 มันเรียกว่ารีเฟล็กซ์ถ่ายปัสสาวะ (micturition reflex)
00:02:08 → 00:02:11 สมองสามารถจัดการได้ ถ้ามันไม่ใช่เวลาที่เราควรปัสสาวะ
00:02:11 → 00:02:16 โดยการส่งสัญญาณอีกอย่างหนึ่ง เพื่อทำให้หูรูดท่อปัสสาวะภายนอกหดตัว
00:02:16 → 00:02:20 ด้วยปริมาณปัสสาวะประมาณ 150 ถึง 200 มิลลิลิตรที่อยู่ภายใน
00:02:20 → 00:02:22 กล้ามเนื้อที่ผนังกระเพาะปัสสาวะก็ยืดมากพอ
00:02:22 → 00:02:24 ที่คุณจะรู้สึกว่ามีปัสสาวะอยู่ภายใน
00:02:24 → 00:02:28 ที่ประมาณ 400 ถึง 500 มิลลิลิตร ความดันจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
00:02:28 → 00:02:31 กระเพาะปัสสาวะสามารถขยายออก ได้ถึงเพียงจุดหนึ่งเท่านั้น
00:02:31 → 00:02:33 ประมาณ 1,000 มิลลิลิตร มันก็อาจจะระเบิดเอาได้
00:02:33 → 00:02:36 คนส่วนใหญ่จะสูญเสียการควบคุมปัสสาวะ ก่อนที่มันจะระเบิด
00:02:36 → 00:02:37 แต่ในกรณีที่พบได้ยาก
00:02:37 → 00:02:40 เช่นเมื่อในที่ไม่สามารถรู้สึกได้ ว่าต้องการปัสสาวะ
00:02:40 → 00:02:44 กระเพาะปัสสาวะอาจระเบิด ทำให้เจ็บปวด และต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
00:02:44 → 00:02:46 แต่ภายใต้สถานการณ์ปกตินั้น
00:02:46 → 00:02:50 การตัดสินใจที่จะปัสสาวะ หยุดสัญญาณ จากสมองที่ส่งไปยังหูรูดท่อปัสสาวะภายนอก
00:02:50 → 00:02:53 ทำให้เกิดการคลายตัว และปัสสาวะ ก็ถูกนำออกจากกระเพาะปัสสาวะ
00:02:53 → 00:02:56 หูรูดท่อปัสสาวะภายนอก เป็นหนึ่งในกล้ามเนื้อของอุ้งเชิงกราน
00:02:56 → 00:02:59 และมันช่วยค้ำจุนท่อปัสสาวะ และส่วนคอของกระเพาะปัสสาวะ
00:02:59 → 00:03:02 โชคดีที่เรามีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเหล่านี้
00:03:02 → 00:03:04 เพราะว่าการให้ความดันกับระบบ โดยการไอ
00:03:04 → 00:03:05 การจาม
00:03:05 → 00:03:06 การหัวเราะ
00:03:06 → 00:03:09 หรือการกระโดด อาจทำให้ปัสสาวะเล็ดได้
00:03:09 → 00:03:11 แทนที่จะเป็นเช่นนั้น กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้ปัสสาวะอยู่ในที่ที่ควรอยู่
00:03:11 → 00:03:13 จนกระทั่งคุณพร้อมจะปล่อยมันไป
00:03:13 → 00:03:15 แต่การอั้นมันเป็นเวลานาน
00:03:15 → 00:03:17 การปล่อยปัสสาวะเร็วเกินไป
00:03:17 → 00:03:19 หรือการปัสสาวะ โดยไม่มีการค้ำจุนทางกายภาพที่ดี
00:03:19 → 00:03:24 อาจทำให้แถบกล้ามเนื้ออ่อนล้า หรือทำงานมากเกินไปในระยะยาว
00:03:24 → 00:03:26 นั่นนำไปสู่กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ที่ทำงานมากเกินไป
00:03:26 → 00:03:27 การปวดกระเพาะปัสสาวะ
00:03:27 → 00:03:28 การปวดปัสสาวะเฉียบพลัน
00:03:28 → 00:03:30 หรือการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
00:03:30 → 00:03:32 ฉะนั้น เพื่อเป็นการใส่ใจสุขภาพในระยะยาว
00:03:32 → 00:03:34 มันไม่ใช่พฤติกรรมที่ดีเลยที่จะอั้นฉี่
00:03:34 → 00:03:38 แต่อย่างน้อยในช่วงสั้น ๆ ร่างกายและสมองของคุณสามารถช่วยคุณได้
00:03:38 → 00:03:41 เพื่อที่คุณจะได้เลือกเวลาที่เหมาะสม ในการปลดทุกข์ในสุขา