กระบวนการซัลเฟชในตับทำงานอย่างไรและมีความสำคัญอย่างไร

หมอภทร Podcast Talk ตอน Case ค่าแลปยูริกต่ำผิดปกติ อาจบ่งชี้่ถึง Liver Sulfation ที่ไม่ดี

จากช่อง : Advanced LCHF longevity


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcส

00:00:0300:00:06 ความรู้สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่หลายคน

00:00:0600:00:09 เวลาไปตรวจสุขภาพแล้วเห็นผลแลบออกมาดี๊ๆ

00:00:0900:00:12 ก็จะสบายใจใช่ไหมครับแต่เคยคิดกันมั้ครับ

00:00:1200:00:15 ว่าบางทีไอ้ค่าที่ดูดีสุดๆเนี่ยแหละอาจจะ

00:00:1500:00:17 เป็นสัญญาณเตือนอะไรบางอย่างที่ซองอยู่

00:00:1700:00:20 วันนี้เราจะมาขายความลับเรื่องนี้กันครับ

00:00:2000:00:23 โอเคครับเพื่อให้เห็นภาพชัดๆนะครับเรามา

00:00:2300:00:26 เริ่มกันที่เคสจริงๆเคส 1 กันเลยดีกว่า

00:00:2600:00:29 เป็นเคสที่โอ้โหถ้าดูผลตรวจเลือดเพลิน

00:00:2900:00:32 เผินเนี่ยต้องบอกว่าน่าอิจฉามากแต่เชื่อ

00:00:3200:00:34 มั้ครับว่าเบื้องหลังตัวเลขสวยๆเหล่านั้น

00:00:3400:00:38 น่ะมันมีเรื่องราวซ่อนอยู่นี่คืออาการของ

00:00:3800:00:40 คนไข้หญิงคนนึงนะครับลองดูสิครับมีทั้ง

00:00:4000:00:44 ปวดหัวบ่อยๆมีอาการแพนิคนอนก็หลับๆตื่น

00:00:4400:00:47 ไม่สนิทแถมยังปวดคอปวดบ่าเรื้อรังอีกคุ้น

00:00:4700:00:50 ๆมั้ครับหลายคนน่าจะเป็นกันนะอาการแบบ

00:00:5000:00:53 ออฟฟิศsyนrมชัดๆเลยแล้วเราก็มักจะพูดว่า

00:00:5300:00:56 อ๋อเครียดแหละทำงานหนักไปหน่อยใช่ไหมครับ

00:00:5600:00:59 แต่ทีนี้ครับพอไปดูผลแลบเท่านั้นแหละถึง

00:00:5900:01:03 กับต้องขยี้ตาเลยคือค่าต่างๆมันดูดีมาก

00:01:0300:01:06 โดยเฉพาะ 2 ตัวนี้นะครับยูริแค่ 2.2 2

00:01:0600:01:10 เองแล้วก็ไขมันเลวหรือ LDL เนี่ยต่ำเตี้ย

00:01:1000:01:13 เรี่ยดินมากแค่ 38 คือมันต่ำกว่าเกณฑ์

00:01:1300:01:16 มาตรฐานไปอีกดูเผินๆนี่คือสุขภาพดีสุดๆ

00:01:1600:01:19 เลยนะอ่ะแล้วคำถามสำคัญมันอยู่ตรงนี้แหละ

00:01:1900:01:22 ครับว่าในบรรดาค่าที่ดูดีเลิศเลอเพร์เfค

00:01:2200:01:25 พวกนี้ตัวไหนกันแน่ที่เป็นสัญญาณเตือนที่

00:01:2600:01:29 แท้จริงแล้วไอ้ค่าที่ดีมากๆเนี่ยมันจะ

00:01:2900:01:33 กลายเป็นสัญญาณของปัญหาไปได้ยังไงกันเอา

00:01:3300:01:36 ล่ะครับเพื่อจะไขปริศนานี้ได้เนี่ยเรา

00:01:3600:01:39 ต้องไปทำความรู้จักกับพระเอกเอ่อต้อง

00:01:3900:01:42 เรียกว่าเป็นพระเอกที่ถูกเข้าใจผิดมาตลอด

00:01:4200:01:46 นั่นก็คือกรดยูริกนั่นเองครับคือพอพูดถึง

00:01:4600:01:49 กรดยูริกปุ๊บภาพแรกที่ลอยมาเลยคืออะไร

00:01:4900:01:52 ครับโรคเก๊าใช่มั้ยเราจะถูกสอนมาว่ามัน

00:01:5200:01:55 เป็นของเสียเป็นตัวร้ายแต่เดี๋ยวก่อนนั่น

00:01:5500:01:57 เป็นแค่ด้านเดียวของเหรียญครับความจริง

00:01:5700:02:00 แล้วในอีกบทบาทนึงที่สำคัญมากๆเนี่ยกฎ

00:02:0000:02:03 ยูริกคือหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่

00:02:0300:02:05 สำคัญที่สุดในกระแสเลือดของเราเลย

00:02:0500:02:08 ใช่เลยครับได้ยินไม่ผิดเลยหน้าที่หลักของ

00:02:0800:02:12 มันคือการปกป้องร่างกายไม่ใช่การทำร้าย

00:02:1200:02:14 และไอ้ความจริงข้อนี้นี่แหละครับคือ

00:02:1400:02:16 จิ๊กซอชิ้นที่สำคัญที่สุดเลยที่จะช่วยให้

00:02:1600:02:20 เราเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดของคนไข้เคสนี้

00:02:2000:02:23 แล้วคำถามต่อมาก็คือโอเครู้แล้วว่ากรวด

00:02:2300:02:26 ยูริกมันสำคัญแล้วการที่มันต่ำเนี่ยมันไป

00:02:2600:02:29 เกี่ยวข้องอะไรคำตอบของเรื่องนี้มันอยู่

00:02:2900:02:32 ที่อวัยวะชิ้นหนึ่งที่ทำงานหนักเยี่ยง

00:02:3200:02:35 ธาตุในร่างกายเราครับนั่นก็คือตับของเรา

00:02:3500:02:38 นั่นเองโดยเฉพาะกระบวนการนึงที่เรียกว่า

00:02:3800:02:39 sulvation

00:02:3900:02:42 sulvation ชื่ออาจจะฟังดูยากนิดนึงนะ

00:02:4200:02:45 ครับแต่ถ้าให้อธิบายง่ายๆเลยนะมันก็

00:02:4500:02:47 เหมือนกับเป็นหน่วยเก็บกวาดพิเศษของตับนะ

00:02:4700:02:50 ครับที่มีหน้าที่จัดการกับขยะพิษบาง

00:02:5000:02:53 ประเภทโดยเฉพาะพวกสารพิษฮอร์โมนหรือยา

00:02:5300:02:56 ต่างๆที่เข้ามาในร่างกายขั้นตอนของมันก็

00:02:5600:02:59 ตรงไปตรงมามากครับคือพอมีสารพิษเข้ามาที่

00:02:5900:03:02 ตับปุ๊บตับก็จะดึงเอาวัตถุดิบที่ชื่อว่า

00:03:0200:03:05 ซัลเฟตมาใช้จัดการกับมันพอจัดการเสร็จ

00:03:0500:03:07 เปลี่ยนให้มันหมดพิษแล้วก็จะส่งไปทิ้งนอก

00:03:0700:03:10 ร่างกายง่ายๆแค่นั้นเลยครับแต่มันมี

00:03:1100:03:13 เงื่อนไขสำคัญอยู่ข้อนึงนะคือตับก็มี

00:03:1300:03:18 ซัลเฟตพอใช้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะครับถ้า

00:03:1800:03:21 ตับเราทำงานหนักมากเจอกับสารพิษเยอะแยะ

00:03:2100:03:24 เต็มไปหมดจนไอ้วัตถุดิบที่ว่าเนี้ยไอ้

00:03:2400:03:28 เจ้าซันลเฟตเนี่ยมันดันมีไม่พอใช้อ่าตรง

00:03:2800:03:30 นี้ละครับคือจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องเลย

00:03:3100:03:33 มาถึงตรงนี้เราจะเริ่มเอาจิ๊กสอดทั้งโหมด

00:03:3300:03:36 มาต่อกันแล้วนะครับทั้งเรื่องของกรดยูริก

00:03:3600:03:39 ฮีโร่ที่ถูกเข้าใจผิดกับเรื่องของตับที่

00:03:3900:03:42 ทำงานหนักเกินพิกัดเดี๋ยวเรามาดูกันว่า

00:03:4200:03:46 มันเกี่ยวกันยังไงคือพอซันเฟสขาดแคนปุ๊บ

00:03:4600:03:49 ร่างกายเราฉลาดมากครับมันไม่ยอมแพ้ง่าย

00:03:4900:03:51 มันจะเข้าสู่โหมดเอาตัวรอดทันทีมันจะ

00:03:5100:03:53 เริ่มมองหาแหล่งกรรมถรรพ์ซึ่งเป็นส่วน

00:03:5400:03:56 ประกอบสำคัญของซัลเฟตจากที่อื่นๆในร่าง

00:03:5600:04:00 กายเพื่อดึงมาใช้ในภารกิจล้างพิษที่สำคัญ

00:04:0000:04:04 นี้ก่อนแล้วทายสิครับว่ามันไปขโมยมาจาก

00:04:0400:04:08 ไหนคำตอบก็คือมันไปดึงมาจากคลังสารต้าน

00:04:0800:04:11 อนุมูลอิสระของร่างกายเราเองนี่แหละครับ

00:04:1100:04:14 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือใช่แล้วครับกรดยูริก

00:04:1400:04:18 ของเรานั่นเองพูดง่ายๆก็คือตับยอมสละ

00:04:1800:04:20 เกราะป้องกันตัวเองเพื่อเอากำลังไปสู้กับ

00:04:2000:04:23 สารพิษก่อนเป็นสถานการณ์ที่แบบจำเป็นต้อง

00:04:2300:04:27 ทำอ่ะครับและนี่แหละครับคือคำตอบว่าทำไม

00:04:2700:04:30 ค่าโกรธยูริของคนไข้เคสนี้ถึงได้ต่ำเตี้ย

00:04:3000:04:33 เรี่ยดินเหลือแค่ 2.2 2 มันไม่ใช่สัญญาณ

00:04:3300:04:35 ที่ดีเลยนะครับแต่มันเป็นสัญญาณขอความ

00:04:3500:04:38 ช่วยเหลือเป็นสัญญาณว่ากรดยูริกกำลังถูก

00:04:3800:04:40 ร่างกายดึงไปใช้งานอย่างหนักหน่วงเพื่อ

00:04:4000:04:42 ช่วยพยุงการทำงานของตับที่กำลังจะล้มอยู่

00:04:4200:04:46 แล้วนั่นเองสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาเนี่ยมัน

00:04:4600:04:49 เหมือนโดมิโนที่ล้มต่อๆกันเลยครับคือพอ

00:04:4900:04:52 สารพิษมันเยอะซัลเฟตก็หมดตับก็เลยต้องไป

00:04:5200:04:55 ดึงกรดยูริกมาใช้พอกรดยูริกในเลือดต่ำลง

00:04:5500:04:58 เกราะป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระของร่าง

00:04:5800:05:01 กายก็อ่อนแอลงไปด้วยสุดท้ายร่างกายก็เลย

00:05:0100:05:03 เกิดภาวะที่เรียกว่าเครียดออกซิเดชสูง

00:05:0300:05:06 ขึ้นซึ่งไอ้ภาวะนี้เนี่ยแหละครับที่อาจจะ

00:05:0600:05:08 เป็นต้นตอของอาการแปลกๆทั้งหลายทั้งปวด

00:05:0800:05:11 หัวเรื้อรังอ่อนเพลียที่คนไข้เป็นอยู่

00:05:1100:05:14 นั่นเองเรื่องราวมันดูสมเด็จสมผลใช่มั้ย

00:05:1400:05:17 ครับแต่เดี๋ยวก่อนเราลองกลับมาดูที่ผลแลบ

00:05:1700:05:19 อีกทีมันยังมีเบาะแสอีกชิ้นนึงซ่อนอยู่

00:05:1900:05:21 ที่จะมาช่วยยืนยันเรื่องราวทั้งหมดนี้

00:05:2100:05:24 ครับเบาะแสที่ว่าเนี่ยมันไม่ได้อยู่ที่

00:05:2400:05:26 ค่าใดค่าหนึ่งเดี่ยวๆครับแต่มันอยู่ที่

00:05:2600:05:30 ความสัมพันธ์หรืออัตราส่วนระหว่างค่าaซับ

00:05:3000:05:35 2 ตัวนั่นก็ก็คือ SGOT กับ SGPT ของเคส

00:05:3500:05:38 นี้ถ้าเราลองเอาค่า SGOT คือ 14 มาหาร

00:05:3800:05:42 ด้วยค่า SGPT คือ 32 เราจะได้ตัวเลขออกมา

00:05:4200:05:45 คือ 0.44 ซึ่งตามหลักแล้วเนี่ยถ้าอัตรา

00:05:4500:05:47 ส่วนนี้มันต่ำกว่า 0.8 8 มันอาจจะเป็น

00:05:4700:05:50 ตัวบ่งชี้ถึงภาวะไขมันพอกตับหรือเป็น

00:05:5000:05:52 สัญญาณว่าตับกำลังทำงานหนักมากซึ่งมันก็

00:05:5200:05:55 เป๊ะเลยตรงกับเรื่องราวที่เราคุยกันมา

00:05:5500:05:58 ทั้งหมดเลยครับเห็นมั้ยครับนี่คือบทเรียน

00:05:5800:06:01 ที่สำคัญมากของการดูผลแลบเลยนะคือค่าตัว

00:06:0100:06:05 เลขค่าเดียวเนี่ยมันก็เป็นแค่จุดๆนึงแต่

00:06:0500:06:08 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าต่างๆนี่แหละครับ

00:06:0800:06:10 ที่จะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เราฟัง

00:06:1000:06:12 งั้นเรามาสรุปสิ่งที่เราได้เรียนรู้กันใน

00:06:1200:06:15 วันนี้หน่อยนะครับ 1 คือกรดยูริกที่ต่ำ

00:06:1500:06:18 ต่ำกว่า 3 อาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปมันอาจ

00:06:1800:06:21 เป็นสัญญาณเตือนได้ 2 มันอาจจะกำลังบอก

00:06:2100:06:24 เราว่าระบบต้านอนุมูลอิสระของร่างกาย

00:06:2400:06:27 กำลังถูกใช้งานอย่างหนัก 3 ซึ่งมันมักจะ

00:06:2700:06:29 เกี่ยวโยงกับตับที่กำลังทำงานหนักเกินไป

00:06:2900:06:32 ในขบวนการล้างพิษและสุดท้ายการดูอัตรา

00:06:3200:06:36 ส่วนของค่าต่างๆอย่าง sgtot/sgpt

00:06:3600:06:38 เนี่ยมันให้ข้อมูลเชิงลึกได้มากกว่าการดู

00:06:3800:06:41 แค่ตัวเลขเดี่ยวๆเยอะเลยครับเรื่องราวใน

00:06:4100:06:43 วันนี้ก็เป็นเหมือนการเปิดมุมมองใหม่ๆใน

00:06:4300:06:46 การดูผลสุขภาพของเราเองนะครับมันทำให้เรา

00:06:4600:06:49 ต้องกลับมาถามตัวเองว่าแล้วผลตรวจเลือด

00:06:5000:06:52 ของเราล่ะมันกำลังบอกเล่าเรื่องราวอะไร

00:06:5200:06:57 ที่เราอาจจะกำลังมองข้ามไปอยู่หรือเปล่า

00:06:5700:07:00 >> สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับสู่การเจาะลึกข้อ

00:07:0000:07:03 มูลสุขภาพกับเราอีกครั้งนะคะคือปกติเวลา

00:07:0300:07:06 เราพูดถึงกรดยูริกเนี่ยเอ่อส่วนใหญ่เราจะ

00:07:0600:07:09 นึกถึงอะไรที่มันสูงๆใช่มั้ยคะกลัวเป็น

00:07:0900:07:13 โรคเก๊าปวดข้ออะไรแบบนั้นไปแต่ว่าวันนี้

00:07:1300:07:16 นะคะเราจะมาลองมองอีกมุมมุมนึงค่ะเป็น

00:07:1600:07:18 เรื่องที่อาจจะไม่ค่อยมีใครนึกถึงเท่า

00:07:1800:07:21 ไหร่นั่นก็คือภาวะที่กรดยูริกมันต่ำผิด

00:07:2100:07:25 ปกติคือต่ำกว่า 3 มลกรัต่อเดซิลิตรซึ่ง

00:07:2500:07:27 เอ่อมันอาจจะเป็นสัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับ

00:07:2700:07:30 สุขภาพที่เราคาดไม่ถึงก็ได้นะคะวันนี้เรา

00:07:3000:07:33 มีข้อมูลมาจากแหล่งข้อมูลชุดนึงค่ะชื่อ

00:07:3300:07:37 ว่าการแปรผลแลบยูริกต่ำและต่มาสำรวจกัน

00:07:3700:07:40 ค่ะว่าไอ้ค่ากรดยูริคที่มันต่ำๆแบบนี้

00:07:4000:07:43 เนี่ยมันกำลังบอกอะไรเราโดยเฉพาะความ

00:07:4300:07:45 เชื่อมโยงที่น่าสนใจมากๆกับการทำงานของ

00:07:4500:07:48 ตับในกระบวนการที่เรียกว่า Salvation น่ะ

00:07:4800:07:51 ค่ะภารกิจของเราวันนี้ก็คือการกลั่นเอา

00:07:5100:07:54 เอ่อแก่นความรู้สำคัญจากข้อมูลนี้ออกมานะ

00:07:5400:07:57 คะทั้งคำอธิบายกลไกต่างๆแล้วก็มีกรณี

00:07:5700:08:00 ศึกษาที่น่าสนใจด้วยเพื่อให้เห็นภาพชัดๆ

00:08:0000:08:03 กันไปเลยว่าทำไมเรื่องกรดยูริกต่ำเนี่ย

00:08:0300:08:06 มันถึงสำคัญแล้วเราควรจะมองผลตรวจสุขภาพ

00:08:0600:08:09 ในมุมที่กว้างขึ้นยังไงได้บ้างเอาล่ะค่ะ

00:08:0900:08:12 มาเริ่มแกะกล่องเรื่องนี้กันเลย

00:08:1200:08:15 >> ครับผมประเด็นนี้เริ่มต้นได้น่าสนใจมาก

00:08:1500:08:18 ครับคือมันชี้ให้เห็นเลยว่าค่าบางอย่างใน

00:08:1800:08:21 ผลเลือดเนี่ยที่เรามองเผินๆเออมันดู

00:08:2100:08:24 เหมือนจะดีหรือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติอย่าง

00:08:2400:08:28 เช่นค่าที่มันต่ำๆเนี่ยครับในทางเอ่อการ

00:08:2800:08:30 แพทย์หรือชีวเคมีจริงๆแล้วเนี่ยมันอาจจะ

00:08:3000:08:34 มีความหมายซ่อนอยู่ลึกกว่านั้นหรืออาจจะ

00:08:3400:08:36 เป็นเหมือนสัญญาณเตือนบางอย่างที่เราต้อง

00:08:3600:08:39 พิจารณาให้รอบด้านมากขึ้นคือการมองแค่ตัว

00:08:3900:08:41 เลขสูงหรือต่ำเทียบกับค่าอ้างอิงอย่าง

00:08:4100:08:44 เดียวเนี่ยบางทีมันอาจจะไม่พอสักเสมอไป

00:08:4400:08:45 ครับ

00:08:4500:08:47 >> น่าสนใจมากเลยค่ะงั้นเรามาเริ่มกันที่

00:08:4700:08:51 กรณีศึกษาที่เขา้าหยิบยกมาในแหล่งข้อมูล

00:08:5100:08:54 นี้เลยนะคะเป็นเรื่องของผู้หญิงคนนึงค่ะ

00:08:5400:08:57 คือมีอาการที่น่าเห็นใจหลายอย่างเลยทั้ง

00:08:5700:09:01 ปวดหัวบ่อยๆมีอาการแบบแพนิคนอนก็ไม่ค่อย

00:09:0100:09:04 หลับแล้วก็ปวดคอบาดไหลเรื้อรังด้วยค่ะ

00:09:0400:09:07 พฤติกรรมการกินก็น่าสนใจนะคะคือเขาจะกิน

00:09:0700:09:10 น้อยๆแต่กินบ่อยมากแบบแทบจะทั้งวันเลยไม่

00:09:1000:09:13 ค่อยชอบกินขักเท่าไหร่ไม่ค่อยกินข้าวหรือ

00:09:1300:09:16 ตักเข้ามาก็กินไม่หมดดูเหมือนจะเน้นแป้ง

00:09:1600:09:20 แต่ก็ปริมาณน้อยค่า BMI หรือดัชนีมลกายก็

00:09:2000:09:23 อยู่ประมาณ 20 ค่ะถือว่าค่อนข้างผอมเลย

00:09:2300:09:27 แต่จุดที่ทำให้เคสนี้มันเอ่อพีคขึ้นมา

00:09:2700:09:30 หรือเป็นประเด็นสำคัญขึ้นมาเนี่ยไม่ใช่

00:09:3000:09:33 อาการภายนอกพวกนี้นะคะแต่เป็นผลตรวจเลือด

00:09:3300:09:35 ที่ไปเจอความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับตับ

00:09:3500:09:36 ของเขาน่ะค่ะ

00:09:3600:09:39 >> ใช่ครับข้อมูลที่น่าสังเกตมากๆเลยอย่าง

00:09:3900:09:43 แรกก็คืออัตราส่วนของเอนไซมตับ 2 ตัวคือ

00:09:4300:09:48 SGOT ต่อ SGPT นะครับผลออกมาเนี่ยต่ำมาก

00:09:4800:09:50 อยู่ที่ 14:32

00:09:5000:09:53 พอคิดเป็นอัตราส่วนแล้วเนี่ยมันได้แค่

00:09:5300:09:56 0.44 44 เท่านั้นเองซึ่งจะเห็นเลยว่า

00:09:5600:10:00 ค่า SGPT เนี่ยสูงกว่าค่า SGOT อย่างชัด

00:10:0000:10:02 เจนเลยครับคือโดยหลักการทั่วไปแล้วนะครับ

00:10:0200:10:05 ในคนที่ตับสุขภาพดีโดยเฉพาะในผู้หญิง

00:10:0500:10:10 เนี่ยค่า SGPT ควรจะใกล้เคียงกับ SGOT

00:10:1000:10:12 หรือจริงๆแล้วทั้ง 2 ตัวนี้ควรจะค่อนข้าง

00:10:1200:10:16 ต่ำคือต่ำกว่า 20 ด้วยซ้ำไปส่วนในผู้ชาย

00:10:1600:10:19 อาจจะสูงกว่านิดหน่อยควรต่ำกว่า 28 การ

00:10:1900:10:24 ที่อัตราส่วน SGOT SGPT มันต่ำขนาดนี้

00:10:2400:10:27 โดยที่ SGPT สูงกว่า SGOT เยอะๆเนี่ยมัน

00:10:2700:10:30 เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งครับที่บ่งชี้ว่าอาจ

00:10:3000:10:33 จะมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับการทำ

00:10:3300:10:34 งานของเซลล์ตับได้

00:10:3400:10:36 >> แล้วก็มาถึงจุดสำคัญที่เชื่อมโยงกับหัว

00:10:3600:10:39 ข้อหลักของเราในวันนี้นะค่ะนอกจากเรื่อง

00:10:3900:10:41 เอนไซม์ตับแล้วเนี่ยค่ากรดยูริกในเลือด

00:10:4100:10:45 ของเธอก็ต่ำมากเหมือนกันค่ะวัดได้แค่ 2.2

00:10:4500:10:48 2 มกรัต่อเดซีลิตรเท่านั้นเองตรงนี้แหละ

00:10:4800:10:51 ค่ะที่มันแบบน่าสนใจเป็นพิเศษเลยเพราะ

00:10:5100:10:54 ปกติเราคุ้นๆกันแต่ว่ากรดยูริกสูงสิถึงจะ

00:10:5400:10:57 เป็นปัญหาใช่มั้ยคะเสี่ยงเป็นเก๊าทแล้ว

00:10:5700:11:00 ทำไมล่ะคะพอมันต่ำมากๆแบบนี้ถึงกลายเป็น

00:11:0000:11:02 เรื่องที่เราต้องมาให้ความสนใจหรืออาจจะ

00:11:0200:11:03 ต้องกังวลกันล่ะคะ

00:11:0300:11:06 >> นั่นเป็นคำถามที่ดีมากๆเลยครับเพราะมัน

00:11:0600:11:09 สะท้อนความเข้าใจโดยทั่วไปของเราจริงๆแต่

00:11:0900:11:13 ว่าจริงๆแล้วนะครับกรดยูริกเนี่ยมันไม่

00:11:1300:11:15 ได้มีแต่โทษอย่างเดียวนะครับมันมีบทบาท

00:11:1500:11:19 ที่สำคัญมากๆในร่างกายเราด้วยบทบาทหนึ่ง

00:11:1900:11:22 ที่สำคัญมากเลยก็คือมันทำหน้าที่เป็นสาร

00:11:2300:11:25 ต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่สุดตัวนึงใน

00:11:2500:11:28 กระแสเลือกของเราเลยนะครับมีส่วนช่วยปก

00:11:2800:11:30 ป้องเซลล์ปกป้องหลอดเลือดจากความเสียหาย

00:11:3000:11:33 ที่เกิดจากอนุมูลอิสระดังนั้นเนี่ยพอ

00:11:3300:11:36 ระดับกรดยูริกในเลือดมันลดต่ำลงไปมากๆจน

00:11:3600:11:40 ผิดปกติมันอาจจะไม่ได้แปลว่าดีเสมอไปนะ

00:11:4000:11:43 แต่เอ่อมันอาจจะกำลังสะท้อนถึงปัญหาบาง

00:11:4300:11:45 อย่างในระบบการป้องป้องกันและต่อต้าน

00:11:4500:11:48 อนุมูลอิสระของร่างกายซึ่งระบบเนี้ยมัน

00:11:4800:11:50 สัมพันธ์ใกล้ชิดกับการทำงานของตับมาก

00:11:5000:11:53 เพราะตับเป็นอวัยวะหลักเลยที่ต้องจัดการ

00:11:5300:11:55 กับสารพิษต่างๆที่อาจจะเข้ามาก่ออนุมูล

00:11:5500:11:58 อิสระในร่างกายเราได้ครับถ้าเราจะเชื่อม

00:11:5800:12:01 โยงเรื่องนี้ให้เห็นภาพใหญ่ขึ้นนะครับเรา

00:12:0100:12:03 ต้องเข้าใจกระบวนการหนึ่งที่สำคัญมากใน

00:12:0300:12:06 ตับก่อนนั่นคือกระบวนการกำจัดสารพิษหรือ

00:12:0600:12:09 ที่เราเรียกว่า detoxification ซึ่งมันมี

00:12:0900:12:12 หลายเฟสหลายระยะซึ่งสำคัญมากๆครับกระบวน

00:12:1200:12:15 การsulฟชเนี่ยหน้าที่มันเหมือนเป็นแม่

00:12:1500:12:18 บ้านของร่างกายเลยครับคือคอยจับเอาสาร

00:12:1800:12:21 ต่างๆที่ร่างกายไม่ต้องการแล้วหรืออาจจะ

00:12:2100:12:24 เป็นพิษเช่นพวกฮอร์โมนบางชนิดที่ใช้เสร็จ

00:12:2400:12:28 แล้วสารสื่อประสาทบางตัวยาหรือสารพิษจาก

00:12:2800:12:32 สิ่งแวดล้อมมาเติมหมู่ซัลเฟตซอลเฟตเข้าไป

00:12:3200:12:35 เพื่อให้สารพวกนั้นมันละลายน้ำได้ดีขึ้น

00:12:3500:12:37 และก็ขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะหรือน้ำ

00:12:3700:12:40 ดีได้ง่ายขึ้นครับกระบวนการนี้เลยจำเป็น

00:12:4000:12:43 ต้องใช้ซัลเฟตในปริมาณที่เพียงพอครับที

00:12:4300:12:46 นี้ปัญหามันอาจจะเกิดขึ้นได้ถ้าหากว่า

00:12:4600:12:49 ร่างกายเรามีซัลเฟตไม่พอหรือในกรณีที่ตับ

00:12:4900:12:53 ต้องทำงานหนักมากๆในการกำจัดสารพิษต่างๆ

00:12:5300:12:56 แบบว่าโอเวอร์โหลADไปเลยเช่นอาจจะได้รับ

00:12:5600:12:59 สารเคมีเยอะกินยาบางอย่างต่อเนื่องหรือ

00:12:5900:13:02 แม้แต่มีความเครียดสูงมากๆร่างกายอาจจะ

00:13:0200:13:04 ต้องพยายามหาแหล่งกรรมถร์ซัลเฟอร์ซึ่ง

00:13:0500:13:07 เป็นส่วนประกอบสำคัญของซัลเฟตจากที่อื่น

00:13:0700:13:10 มาใช้แบบเร่งด่วนเพื่อให้กระบวนการซัลเฟช

00:13:1000:13:13 มันยังพอเดินหน้าต่อไปได้และหนึ่งในสาร

00:13:1300:13:16 ที่ร่างกายอาจจะเอ่อสลายเพื่อดึงเอา

00:13:1600:13:20 กรรมถัน์มาแชงในภาวะแบบนี้หรือถ้าจะมอง

00:13:2000:13:23 อีกมุมคือเมื่อตับทำงานหนักในกระบวนการ

00:13:2300:13:26 กำจัดสารพิษมันจะเกิดอนุมูลอิสระขึ้นมา

00:13:2600:13:29 เยอะมากร่างกายก็เลยต้องใช้สารต้านอนุมูล

00:13:3000:13:34 อิสระในปริมาณมหาศาลเพื่อมาต่อสู้กับภาวะ

00:13:3400:13:37 นี้ซึ่งกรดยูริกเนี่ยเป็นสารต้านอนุมูล

00:13:3700:13:40 อิสระตัวหลักในเลือดก็จะถูกดึงมาใช้ไป

00:13:4000:13:43 เยอะมากเช่นกันผลที่ตามมาก็คือระดับของ

00:13:4300:13:46 กรดยูริกในกระแสเลือดก็อาจจะลดต่ำลงอย่าง

00:13:4600:13:47 ผิดปกติได้ครับ

00:13:4700:13:51 >> โยงแล้วนะคะแปลว่าถ้ากระบวนการซัลเฟชที่

00:13:5100:13:53 ตับเนี่ยมันทำงานได้ไม่เต็มที่หรือว่า

00:13:5300:13:56 ต้องทำงานหนักมากๆมันไม่ได้แค่ทำให้การ

00:13:5600:13:59 กำจัดสารพิษแย่ลงอย่างเดียวแต่ยังส่งผล

00:13:5900:14:01 กระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงระดับสารต้านอนุมูล

00:14:0100:14:03 อิสระอย่างกรดยูริกด้วยหรอคะ

00:14:0300:14:06 >> ถูกต้องเลยครับถ้ากระบวนการเซัลเฟชมันติด

00:14:0600:14:09 ขัดหรือไม่เพียงพอเนี่ยสารพิษต่างๆทั้ง

00:14:0900:14:12 จากข้างนอกและที่ร่างกายสร้างเองก็อาจจะ

00:14:1200:14:15 ถูกกำจัดออกไปได้น้อยลงเกิดการสะสมหรือ

00:14:1500:14:18 ว่าไหลเวียนอยู่ในร่างกายเรามากขึ้นซึ่ง

00:14:1800:14:20 ภาวะนี้เองครับที่จะนำไปสู่สิ่งที่เรียก

00:14:2000:14:24 ว่าความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิชัหรือve

00:14:2400:14:27 stress ที่สูงขึ้นในร่างกายซึ่งหมายถึง

00:14:2700:14:29 ภาวะที่มันเกิดความไม่สมดุลกันระหว่าง

00:14:2900:14:32 อนุมูลอิสระที่สร้างความเสียหายกับความ

00:14:3200:14:35 สามารถของร่างกายเราในการต่อต้านหรือซ่อม

00:14:3500:14:38 แซมความเสียหายนั้นและเมื่อร่างกายตกอยู่

00:14:3800:14:41 ในภาวะ oxidative stress สูงๆเนี่ยมันก็

00:14:4100:14:43 เหมือนกับมีไฟไหม้เล็กๆเกิดขึ้นทั่วร่าง

00:14:4300:14:45 กายเราเลยนะครับร่างกายก็ยิ่งต้องการนัก

00:14:4500:14:48 ดับเพลิงซึ่งก็คือสารต้านอนุมูลอิสระมาก

00:14:4800:14:51 ขึ้นไปอีกเพื่อมาควบคุมสถานการณ์ร่างกาย

00:14:5100:14:53 ก็จะยิ่งเร่งดึงเอาสารต้านอนุมูลอิสระที่

00:14:5400:14:56 มีอยู่รวมถึงกรดยูริกเนี่ยมาใช้อย่างสิ้น

00:14:5600:14:59 เปลืองมากขึ้นมันเลยกลายเป็นเหมือนวงจร

00:14:5900:15:01 ที่อาจจะส่งผลให้ระดับกรดยูริกลดตมลงไป

00:15:0100:15:04 เรื่อยๆได้ครับแต่ต้องเน้นย้ำตรงนี้นิด

00:15:0400:15:07 นึงนะครับว่าการที่เราเห็นแค่กรดยูริกต่ำ

00:15:0700:15:09 กว่า 3 มกรัต่อเดซลิตรเนี่ยไม่ได้หมาย

00:15:0900:15:13 ความว่าเราฟันธงได้เลยนะว่าคนๆนั้นมี

00:15:1300:15:16 ปัญหากับกระบวนการชัที่ต่แน่นอนอ

00:15:1600:15:19 >> มันไม่ใช่การวินิจฉัยโดยตรงขนาดนั้นครับ

00:15:1900:15:22 แต่ให้มองว่ามันเป็นเหมือนข้อสังเกตหรือ

00:15:2200:15:25 ตัวชี้วัดทางอ้อมที่สำคัญตัวหนึ่งที่

00:15:2500:15:29 กำลังบอกเราว่าร่างกายอาจจะกำลังเผชิญกับ

00:15:2900:15:31 ภาระในการกำจัดสารพิษที่สูงมากผิดปกติ

00:15:3100:15:34 อยู่แล้วก็มีการใช้กลไกการต้านอนุมูล

00:15:3400:15:37 อิสระซึ่งรวมถึงกรดยูริกเนี่ยไปอย่างมาก

00:15:3700:15:40 จนทำให้ระดับของสารต้านอนุมูลอิสระตัว

00:15:4000:15:42 หลักตัวหนึ่งในเลือดมันลดต่ำลงอย่างเห็น

00:15:4200:15:43 ได้ชัดเจนครับ

00:15:4300:15:45 >> การเอาข้อมูลหลายๆอย่างมาประกอบกันเนี่ย

00:15:4500:15:48 มันช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้นจริงๆค่ะคือทั้ง

00:15:4800:15:51 อัตราส่วน SGOT SGPT ที่ต่ำมากผิดปกติ

00:15:5200:15:55 แค่ 0.44 44 ที่ชี้ว่าตับอาจจะมีปัญหา

00:15:5500:15:58 บวกกับค่ากรดยูริกที่ต่ำมากแค่ 2.2 2

00:15:5800:16:01 ซึ่งอาจจะสะท้อนถึงภาระงานหนักของตับใน

00:16:0100:16:03 การกำจัดสารพิษหรือการใช้สารต้านอนุมูล

00:16:0300:16:06 อิสระไปเยอะมันยิ่งสนับสนุนข้อสงสัยว่า

00:16:0600:16:08 น่าจะมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับ

00:16:0800:16:11 การทำงานของตับของเขาจริงๆนะคะซึ่งใน

00:16:1100:16:14 แหล่งข้อมูลที่เราดูกันอยู่ก็เลยมีคำแนะ

00:16:1400:16:17 นำต่อว่าสำหรับกรณีที่เจอค่าลักษณะนี้ควร

00:16:1700:16:19 จะต้องมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันแล้ว

00:16:1900:16:22 ก็ประเมินการทำงานของตับให้ละเอียดให้รอบ

00:16:2200:16:25 ด้านมากขึ้นเช่นอาจจะตรวจค่าGMม GT หรือ

00:16:2500:16:28 GMA GT ซึ่งเป็นอีกเอนไซมนึงที่ช่วยดู

00:16:2800:16:31 การทำงานของตับแล้วก็อาจจะรวมถึงท่อน้ำดี

00:16:3100:16:34 ด้วยหรือการตรวจการทำงานของตับแบบเต็มรูป

00:16:3400:16:36 แบบหรือ LFT liver ฟังก์ชัน Test ที่จะ

00:16:3600:16:39 ดูค่าเอนไซมและสารอื่นๆหลายตัวเลยแล้วก็

00:16:3900:16:41 อาจจะรวมถึงการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ด

00:16:4100:16:44 เลือดหรือ CBC Complete Blood C เพื่อ

00:16:4400:16:46 ดูภาพรวมของเซลล์เม็ดเลือดต่างๆด้วยค่ะ

00:16:4600:16:49 ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะผิดปกติ

00:16:4900:16:52 เรื้อรังได้เหมือนกันการมีข้อมูลพวกนี้

00:16:5200:16:54 เพิ่มก็จะช่วยให้ประเมินสถานการณ์ได้แม่น

00:16:5400:16:55 ยำขึ้นค่ะ

00:16:5500:16:59 >> ใช่ครับการมีข้อมูลรอกด้านขึ้นจะช่วยให้

00:16:5900:17:02 เข้าใจปัญหาได้ดีขึ้นแน่นอนแล้วก็ในแหล่ง

00:17:0200:17:04 ข้อมูลนี้ยังมีข้อควรระวังเพิ่มเติมอีก

00:17:0400:17:07 ประเด็นนึงซึ่งก็น่าสนใจนะครับแล้วก็

00:17:0700:17:09 เกี่ยวกับการแปรผลแลบโดยรวมโรมเลยคือ

00:17:0900:17:12 เรื่องการดูผลค่าไขมันในเลือดหรือ Lipid

00:17:1200:17:17 Profile พวกค่าคอเลสเตอรอลรวม LDL HDL

00:17:1700:17:20 แล้วก็ไตรกลีซอไรด์โดยเฉพาะค่า LDL ที่คน

00:17:2000:17:23 ส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่ายิ่งต่ำยิ่งดีใช่

00:17:2300:17:26 มั้ยครับเขาเตือนว่าเราไม่ควรจะด่วนสรุป

00:17:2600:17:29 แค่เห็นค่า LDL ต่างๆอย่างในเคสที่ยกมา

00:17:2900:17:33 อาจจะวัด LDL ได้ต่ำมากเช่นอาจจะแค่ 38

00:17:3300:17:37 MGDL แล้วก็รีบดีใจว่าโอ้โหสุขภาพดี

00:17:3700:17:40 เยี่ยมเพราะจริงๆแล้วค่าตัวเลขที่วัดได้

00:17:4000:17:42 เนี่ยมันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมาก

00:17:4200:17:45 ครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งเอ่อน้ำยาที่ใช้ใน

00:17:4500:17:48 การตรวจแล้วก็การตั้งค่าการควบคุมคุณภาพ

00:17:4800:17:51 หรือ QC ของแต่ละห้องแลบซึ่งอาจจะแตกต่าง

00:17:5100:17:54 กันไปในแต่ละที่ทำให้ค่าอ้างอิง Reference

00:17:5400:17:57 Range มันไม่เท่ากันครับบางแลบอาจจะตั้ง

00:17:5700:18:00 ค่าอ้างอิง LDL ไว้ค่อนข้างสูงทำให้ค่า 38

00:18:0100:18:04 ดูต่ำมากๆแต่ในขณะที่แลบอีกที่อาจจะตั้ง

00:18:0400:18:07 ค่าอ้างอิงไว้ต่ำกว่าทำให้ค่า 38 อาจจะ

00:18:0700:18:09 ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติของที่นั่นก็ได้ดัง

00:18:0900:18:13 นั้นการดูแค่ตัวเลขดิบๆว่าสูงหรือต่ำ

00:18:1300:18:15 เทียบกับค่าอ้างอิงอย่างเดียวเนี่ยอาจจะ

00:18:1500:18:18 ยังบอกภาพรวมได้ทั้งหมดสิ่งที่สำคัญกว่า

00:18:1800:18:21 ในการแปรผลค่าไขมันหรือจริงๆก็รวมถึงค่า

00:18:2200:18:25 แลบอื่นๆด้วยนะครับก็คือการพิจารณาค่า

00:18:2500:18:28 ความสัมพันธ์หรืออัตราส่วนระหว่างค่าต่าง

00:18:2800:18:31 ๆประกอบกันครับตัวอย่างเช่นการดูอัตรา

00:18:3100:18:34 ส่วนระหว่างไตรกีซerideกับ HDL TGHDR

00:18:3400:18:37 ratio หรืออัตราส่วนระหว่างคอเลสเตอรอล

00:18:3700:18:41 รวมกับ HDL TCHDL ratti ซึ่งอัตราส่วน

00:18:4100:18:43 พวกนี้มักจะให้ข้อมูลเชิงเหลือเกี่ยวกับ

00:18:4300:18:46 ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดหรือภาวะ

00:18:4600:18:49 ดื้ออินซูลินได้ดีกว่าการดูค่า LDL หรือ

00:18:4900:18:52 ค่าอื่นๆแค่ค่าเดียวโดดๆการมองภาพรวมและ

00:18:5200:18:55 ความสัมพันธ์แบบนี้จะช่วยให้เราเข้าใจ

00:18:5500:18:58 สถานะสุขภาพที่แท้จริงได้แม่นยำขึ้นซึ่ง

00:18:5800:19:00 ก็เป็นหลักการเดียวกับที่เราดูค่ากรด

00:19:0000:19:03 ยูริกต่ำร่วมกับค่าเอนไซมต่นั่นเองครับ

00:19:0300:19:05 คือต้องดูภาพรวมและความเชื่อมโยงกัน

00:19:0500:19:08 >> โหฟังดูแล้วเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความ

00:19:0800:19:10 เข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นจริงๆนะคะไม่ใช่แค่

00:19:1000:19:14 ดูผ่านๆว่าค่าไหนสูงค่าไหนต่ำแล้วทั้งหมด

00:19:1400:19:16 นี้มันหมายความว่ายังไงถ้าจะให้สรุปสิ่ง

00:19:1600:19:19 ที่เราเจาะลึกกันมาในวันนี้ก็คือค่ากรด

00:19:1900:19:22 ยูริกที่ต่ำกว่า 3 mgl

00:19:2200:19:25 ใช่สัญญาณที่ดีเสมอไปอย่างที่หลายคนคิดนะ

00:19:2500:19:28 คะแต่มันอาจจะเป็นตัวบ่งชี้ทานอ้อมว่าตับ

00:19:2800:19:31 ของเราอาจจะกำลังทำงานหนักมากในกระบวนการ

00:19:3100:19:35 กำจัดสารพิษที่เรียกว่าจนต้องดึงเอา

00:19:3500:19:38 ทรัพยากรสำคัญอย่างสารต้านอนุมูลอิสระคือ

00:19:3800:19:41 กรดยูริกเนี่ยมาใช้มากเกินไปจนระดับใน

00:19:4100:19:43 เลือดมันลดต่ำลงผิดปกติซึ่งเราก็ได้เห็น

00:19:4300:19:46 ตัวอย่างจากกรณีศึกษาแล้วว่าเมื่อค่ากรด

00:19:4600:19:49 ยูริกต่ำๆนี้เกิดขึ้นร่วมกับสัญญาณอื่น

00:19:4900:19:52 เช่นอัตราส่วนเอนไซม์ตับที่ผิดปกติมันก็

00:19:5200:19:54 ยิ่งช่วยชี้เป้าไปที่ปัญหาการทำงานของตับ

00:19:5500:19:58 ได้ชัดเจนขึ้นและอีกบทเรียนสำคัญก็คือเรา

00:19:5800:20:00 ต้องระมัดระวังในการตีความค่าแลบใดค่า

00:20:0100:20:03 หนึ่งแบบเดี่ยวๆโดยไม่พิจารณาความ

00:20:0300:20:06 สัมพันธ์กับค่าอื่นๆหรือบริบททางสุขภาพ

00:20:0600:20:07 โดยรวมด้วยค่ะ

00:20:0700:20:09 >> ถูกต้องเลยครับการทำความเข้าใจความเชื่อม

00:20:0900:20:12 โยงที่ซับซ้อนแต่ก็สมเหตุสมผลเหล่านี้

00:20:1200:20:14 เนี่ยมันช่วยเปิดมุมมองให้เรามองผลการ

00:20:1400:20:17 ตรวจสุขภาพประจำปีหรือผลเลือดต่างๆได้ลึก

00:20:1700:20:19 ซึ้งกว่าเดิมนะครับทำให้เราตระหนักว่า

00:20:1900:20:22 ระบบต่างๆในร่างกายเราเนี่ยมันทำงาน

00:20:2200:20:24 สัมพันธ์กันอย่างน่าทึ่งจริงๆและบางครั้ง

00:20:2400:20:26 ค่าที่ดูเหมือนปกติหรือแม้กระทั่งดู

00:20:2600:20:29 เหมือนจะดีเยี่ยมในแวบแรกเช่นค่ากรดยูริก

00:20:2900:20:32 ต่ำๆหรือค่า LDL ต่ำๆเนี่ยอาจจะมีความ

00:20:3200:20:35 หมายอื่นซ่อนอยู่ก็ได้หากเราพิจารณาในภาพ

00:20:3500:20:37 รวมที่กว้างขึ้นหรือดูความสัมพันธ์กับ

00:20:3700:20:40 ปัจจัยอื่นๆประกอบกันครับและเรื่องราวที่

00:20:4000:20:43 เราคุยกันวันนี้ก็นำไปสู่คำถามที่น่าขบ

00:20:4300:20:46 คิดเป็นการบ้านทิ้งท้ายไว้นะครับในเมื่อ

00:20:4600:20:48 กระบวนการเซาเฟชั่นที่ตับนี้มีความสำคัญ

00:20:4800:20:50 อย่างยิ่งเลยต่อการจัดการกับทั้งสารพิษ

00:20:5000:20:52 ที่เราอาจจะได้รับจากสิ่งแวดล้อมในชีวิต

00:20:5200:20:56 ประจำวันไม่ว่าจะเป็นอาหารอากาศน้ำหรือ

00:20:5600:20:58 สารเคมีต่างๆแล้วก็ยังรวมถึงการจัดการกับ

00:20:5800:21:00 สารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองอย่างฮอร์โมน

00:21:0000:21:04 หรือสารสื่อประสาทบางชนิดด้วยคำถามคือหาก

00:21:0400:21:06 กระบวนการสำคัญนี้ต้องทำงานหนักอย่างต่อ

00:21:0600:21:08 เนื่องเป็นเวลานานหรือว่ามีทรัพยากรที่

00:21:0800:21:10 จำเป็นอย่างเช่นซัลเฟตไม่เพียงพออยู่

00:21:1000:21:14 เรื่อยๆถึงแม้ว่าจะยังไม่มีอาการเจ็บป่วย

00:21:1400:21:18 ที่ชัดเจนแสดงออกมาในทันทีมันอาจจะส่งผล

00:21:1800:21:22 กระทบต่อสุขภาพองค์รวมในระยะยาวในรูปแบบ

00:21:2200:21:26 ที่เราอาจจะคาดไม่ถึงได้อย่างไรบ้างนี่

00:21:2600:21:28 อาจจะเป็นอีกแง่มุมหนึ่งของการดูแลสุขภาพ

00:21:2800:21:31 เชิงป้องกันที่น่าจะมีการศึกษาและให้ความ

00:21:3100:21:34 สำคัญกันมากขึ้นต่อไปนะครับ

00:21:3400:21:52 [เพลง]