00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับยินดีต้อนรับสู่การพูดคุยของ
00:00:02 → 00:00:06 เราวันนี้นะครับวันนี้เราหยิบเรื่องที่
00:00:06 → 00:00:08 เอ่อผมว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินหรืออาจจะ
00:00:09 → 00:00:12 กำลังสนใจอยู่เลยก็ได้ก็คือ Apple Cider
00:00:12 → 00:00:16 Vinเกอร์หรือที่เราเรียกสั้นๆกันว่า ACV
00:00:16 → 00:00:19 นะครับน้ำส้มใสชูหมักจาก Apple คือเห็นคน
00:00:19 → 00:00:21 พูดถึงกันเยอะมากเลยโดยเฉพาะในแวดวง
00:00:21 → 00:00:24 สุขภาพเรื่องลดน้ำหนักในฮิตมาก
00:00:24 → 00:00:27 >> ใช่ค่ะเป็นกระแสที่มาแรงจริงๆค่ะ
00:00:27 → 00:00:30 >> วันนี้เราก็เลยเอ่อลองรวบรวมข้อมูจากหลาย
00:00:30 → 00:00:32 ๆที่มาคุยกันหน่อยครับเป้าหมายเราก็คือ
00:00:33 → 00:00:34 อยากจะมาทำความเข้าใจกันนี่แหละครับว่า
00:00:34 → 00:00:38 จริงๆแล้วเจ้า ACV เนี่ยมันคืออะไรกันแน่
00:00:38 → 00:00:40 แล้วกลไกที่เขาวาดดีอย่างงั้นอย่างี้มัน
00:00:40 → 00:00:43 เป็นยังไงมีประโยชน์จริงมยตามงานวิจัย
00:00:43 → 00:00:47 หรือว่าเอ่อต้องใช้อย่างไรให้ปลอดภัยข้อ
00:00:47 → 00:00:49 ควรระวังสำคัญๆมีอะไรบ้างจากข้อมูลที่เขา
00:00:49 → 00:00:52 ให้มานะครับงั้นเรามาเริ่มกันที่คำถามแรก
00:00:52 → 00:00:55 สุดเลยหรือเปล่าครับว่า ACV นี่มันทำมา
00:00:55 → 00:00:57 จากอะไรครับแล้วมันต่างจากน้ำส้มสายชูที่
00:00:57 → 00:01:00 เราใช้ทำกับข้าวทั่วไปยังไงบ้างบ้างครับ
00:01:00 → 00:01:03 >> ค่ะจริงๆแล้วนะคะ ACV ก็ถือเป็นน้ำส้มใส
00:01:03 → 00:01:05 ชูชนิดนึงเลยค่ะเพียงแต่ว่าวัตถุดิบหลัก
00:01:05 → 00:01:08 ที่ใช้คือแอปเปิ้ลกระบวนการทำแบบง่ายๆที่
00:01:08 → 00:01:11 ข้อมูลส่วนใหญ่พูดคล้ายๆกันก็คือเริ่มจาก
00:01:11 → 00:01:14 เอาแอปเปิ้ลสดหรือบางทีก็ใช้น้ำแอปเปิ้ล
00:01:14 → 00:01:17 มาหมักกับยีสก่อนค่ะตัวยีสเนี่ยก็จะเข้า
00:01:17 → 00:01:19 ไปเอ่อทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำตาลในแอปเปิ้ล
00:01:19 → 00:01:21 ให้กลายเป็นแอลกอฮอล์
00:01:21 → 00:01:24 >> อ๋อเหมือนทำวนอะไรแบบนั้นก่อนใช่มั้ครับ
00:01:24 → 00:01:27 >> คล้ายๆกันค่ะแต่ยังไม่จบแค่นั้นพอมันเป็น
00:01:27 → 00:01:30 แอลกอฮอล์แล้วก็จะมีขั้นตอนที่ 2 คือเติม
00:01:30 → 00:01:33 แบคทีเรียอีกกลุ่มนึงเข้าไปซึ่งแบคทีเรีย
00:01:33 → 00:01:36 กลุ่มนี้แหละค่ะที่จะเปลี่ยนแอลกอฮอล์ให้
00:01:36 → 00:01:39 กลายเป็นกรดอซิติหรือacซิติaซidอันเนี้
00:01:39 → 00:01:42 คือสารสำคัญหลักเลยที่ให้ ACV มีรส
00:01:42 → 00:01:45 เปรี้ยวมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แล้วก็
00:01:45 → 00:01:47 เป็นตัวที่เชื่อกันว่ามีส่วนสำคัญกับ
00:01:47 → 00:01:49 ประโยชน์ต่างๆที่เราได้ยินกันมาค่ะ
00:01:49 → 00:01:53 >> ผมเคยได้ยินคำว่า Mother ใน ACV ด้วยครับ
00:01:53 → 00:01:54 อันนี้มันคืออะไรล่ะครับ
00:01:54 → 00:01:58 >> อ๋อค่ะ Mother หรือบางทีก็เรียกแม่เนาะ
00:01:58 → 00:02:01 มันจะเจอใน ACV ที่ไม่ได้ผ่านการกรองหรือ
00:02:01 → 00:02:03 ที่ฉลากเขียนว่า raw หรือ unfilter น่ะ
00:02:03 → 00:02:07 ค่ะลักษณะมันจะเป็นแบบเส้นใยขุ่นๆลอยอยู่
00:02:07 → 00:02:09 ซึ่งเกิดตามธรรมชาติในการหมักนี้ล่ะค่ะเ
00:02:09 → 00:02:12 เชื่อกันว่าใน Mother เนี้ยมันจะมีพวก
00:02:12 → 00:02:15 จุลินทรีย์ดีเอนไซมหรือโปรตีนบางอย่าง
00:02:15 → 00:02:18 อยู่เยอะหลายคนก็เลยมองว่า ACV แบบที่มี
00:02:18 → 00:02:21 Mother น่าจะมีประโยชน์มากกว่าแบบใสๆ
00:02:21 → 00:02:23 เพราะยังคงสารพวกนี้ไว้อยู่
00:02:23 → 00:02:26 >> อ๋อเข้าใจแล้วครับเหมือนเป็นส่วนที่ยังมี
00:02:26 → 00:02:28 ชีวิตยังมีจุลินทรีย์อยู่
00:02:28 → 00:02:31 >> ประมาณนั้นค่ะนอกจากกรดอซิติกกับมาสเซอร์
00:02:31 → 00:02:35 แล้วนะคะใน ACV ก็อาจจะมีสารอื่นๆปนอยู่
00:02:35 → 00:02:38 บ้างแต่ปริมาณก็น้อยมากๆแล้วก็แตกต่างกัน
00:02:38 → 00:02:42 ไปค่ะเช่นเพคตินที่เป็นไฟเบอร์ละลายน้ำ
00:02:42 → 00:02:45 จากตัวแอปเปิ้ลเองหรืออาจจะมีวิตามินแร่
00:02:45 → 00:02:48 ธาตุติดมาบ้างนิดหน่อยจริงๆแต่ถ้าถามถึง
00:02:48 → 00:02:50 สารออกฤทธิ์หลักๆที่คนให้ความสนใจก็คือ
00:02:50 → 00:02:52 กรดอซิติกนี่แหละค่ะ
00:02:52 → 00:02:56 >> ครับเข้าใจเลยงั้นหัวใจหลักๆก็คือกรด
00:02:56 → 00:02:58 อซิติกนี่เองที่นี่นี้มาถึงเรื่องที่คน
00:02:58 → 00:03:01 อยากรู้มากที่สุดเลยครับเรื่องประโยชน์
00:03:01 → 00:03:03 โดยเฉพาะที่เขาว่าช่วยลดน้ำหนักได้ช่วย
00:03:03 → 00:03:06 คุมน้ำตาลในเลือดอันนี้ข้อมูลว่ายังไง
00:03:06 → 00:03:06 บ้างครับ
00:03:06 → 00:03:09 >> ใช่ค่ะประเด็นนี้เป็นเหมือนเอ่อจุดขาย
00:03:09 → 00:03:12 สำคัญเลยที่ทำให้ ACV ฮิตมากข้อมูลจาก
00:03:12 → 00:03:15 หลายๆแหล่งที่เราดูกันมานะคะไม่ว่าจะเป็น
00:03:15 → 00:03:18 คลิปหรือบทความสุขภาพก็จะพูดถึงสรรพคุณ
00:03:18 → 00:03:21 พวกเล่ะค่ะกลไกที่เขาอธิบายกันไว้ก็มี
00:03:21 → 00:03:23 หลายอย่างเหมือนกันนะคะอย่างแรกที่เกี่ยว
00:03:23 → 00:03:25 กับเรื่องน้ำหนักก็คือตัวกรดอะซิติกเอง
00:03:25 → 00:03:29 เลยค่ะมีข้อมูลบางส่วนที่ชี้ว่ากรดอสิติก
00:03:29 → 00:03:31 อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดการ
00:03:32 → 00:03:35 ไขมันในร่างกายเช่นอาจจะช่วยกระตุ้นให้
00:03:35 → 00:03:37 ร่างกายดึงไขมันที่สะสมไว้ออกมาใช้เป็น
00:03:37 → 00:03:40 พลังงานมากขึ้นหรืออาจจะไปช่วยลดการสะสม
00:03:40 → 00:03:42 ของไขมันใหม่แล้วก็อาจจะมีส่วนช่วยเรื่อง
00:03:42 → 00:03:44 การเผาผลานิดหน่อยด้วยค่ะ
00:03:44 → 00:03:47 >> อือืน่าสนใจครับ
00:03:47 → 00:03:50 >> กลไกต่อมาที่พูดถึงกันก็คือเพคตินค่ะอัน
00:03:50 → 00:03:52 นี้เป็นไฟเบอร์ที่มาจากแอปเปิลอย่างที่
00:03:52 → 00:03:54 บอกว่าเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ก็มี
00:03:54 → 00:03:57 สมมุติฐานว่าเพคตินอาจจะช่วยชะลอพอการดูด
00:03:57 → 00:04:00 ซึมไขมันกับน้ำตาลในลำไส้แล้วพอเป็น
00:04:00 → 00:04:02 ไฟเบอร์พอมันอยู่ในกระเพาะมันก็อาจจะพอง
00:04:02 → 00:04:05 ตัวได้นิดหน่อยช่วยให้เรารู้สึกอิ่มได้
00:04:05 → 00:04:06 นานขึ้น
00:04:06 → 00:04:07 >> อ๋อ
00:04:07 → 00:04:10 พออิ่มนานขึ้นก็น่าจะทำให้เรากินน้อยลงไป
00:04:10 → 00:04:11 เองแบบนี้หรือเปล่าครับ
00:04:11 → 00:04:14 >> ใช่เลยค่ะนั่นก็เป็นอีกกลไกที่เขาพูดถึง
00:04:14 → 00:04:17 กันคือACฟีอาจจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม
00:04:17 → 00:04:20 หลังกินข้าวทำให้โดยรวมแล้วอาจจะกินอาหาร
00:04:20 → 00:04:23 ในปริมาณที่ลดลงนอกจากนี้นะคะยังมีข้อมูล
00:04:24 → 00:04:26 ที่เชื่อมลงไปถึงเรื่องการตอบสนองต่อ
00:04:26 → 00:04:29 อินซุอซูลินด้วยค่ะว่า ACV อาจจะช่วยให้
00:04:29 → 00:04:32 เซลล์ในร่างกายเราเนี่ยตอบสนองต่อฮอร์โมน
00:04:32 → 00:04:34 อินซูลินได้ดีขึ้นซึ่งอินซูลินก็เป็น
00:04:34 → 00:04:37 ฮอร์โมนสำคัญที่คุมระดับน้ำตาลในเลือดใช่
00:04:37 → 00:04:40 ไหมคะถ้าเซลล์ตอบสนองดีขึ้นก็อาจจะส่งผล
00:04:40 → 00:04:43 ดีต่อการควบคุมน้ำตาลโดยรวมได้ค่ะ
00:04:43 → 00:04:46 >> ฟังดูมีหลายกลไกที่เอ่อเกี่ยวข้องเหมือน
00:04:46 → 00:04:49 กันนะครับแล้วถ้าในแง่ของงานวิจัยล่ะครับ
00:04:50 → 00:04:53 มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนเรื่อง
00:04:53 → 00:04:54 พวกนี้มากน้อยแค่ไหน
00:04:54 → 00:04:58 >> ปี 2009 เค้าให้ผู้เข้าร่วมทดลองที่มี
00:04:58 → 00:05:01 ภาวะน้ำหนักเกินดื่มเครื่องดื่มที่ผสม ACV
00:05:01 → 00:05:04 ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวันติดต่อกัน 12
00:05:04 → 00:05:08 สัปดาห์หรือประมาณ 3 เดือนผลก็คือกลุ่ม
00:05:08 → 00:05:10 ที่ดื่ม ACV เนี่ยน้ำหนักตัวลดลงเฉลี่ย
00:05:10 → 00:05:16 ประมาณกลค่ะ 1.2-1.7 ก.รอบเอวก็ลดไขมันใน
00:05:16 → 00:05:19 ช่องท้องก็ลดลงแบบมีนัยยะสำคัญทางสถิติ
00:05:19 → 00:05:21 เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดื่มนะคะ
00:05:22 → 00:05:26 >> ลูกกว่าๆใน 3 เดือนอืมก็ถือว่าลดนะครับ
00:05:26 → 00:05:29 >> ใช่ค่ะแล้วก็มีงานวิจัยอีกชิ้นจากญี่ปุ่น
00:05:29 → 00:05:33 เหมือนกันทำในผู้ป่วยโรคอ้วน 11 คนนาน 12
00:05:33 → 00:05:36 สัปดาห์ก็ให้ผลไปในทางเดียวกันค่ะคือ
00:05:36 → 00:05:38 กลุ่มที่ดื่มเครื่องดื่มผสม ACB มีน้ำ
00:05:38 → 00:05:43 หนักตัว BMI ไขมันในช่องท้องรอบเอวแล้วก็
00:05:43 → 00:05:46 ไตรกรซลลดลงเทียบกับกลุ่มควบคุม
00:05:46 → 00:05:49 >> ฟังดูเหมือนจะมีหลักฐานสนับสนุนอยู่นะ
00:05:49 → 00:05:49 ครับ
00:05:49 → 00:05:53 >> ใช่ค่ะแต่ก็มีจุดที่ต้องพิจารณาต่อนิดนึง
00:05:53 → 00:05:55 อย่างข้อมูลจากทางกูซกที่เขารวบรวมงาน
00:05:55 → 00:05:59 วิจัยมาเขาพบว่าแม้จะมีงานวิจัยเกี่ยวกับ
00:05:59 → 00:06:02 ACV เยอะมากนะคะแต่ส่วนใหญ่เลยเป็นการ
00:06:02 → 00:06:05 ศึกษาในหลอดทดลองหรือไม่ก็ในสัตว์ทดลองพอ
00:06:05 → 00:06:08 มาดูเฉพาะงานวิจัยที่ทำในคนจริงๆเนี่ย
00:06:08 → 00:06:10 กลับมีจำนวนค่อนข้างน้อยประมาณ 10 กว่า
00:06:10 → 00:06:11 ฉบับเองค่ะ
00:06:11 → 00:06:14 >> อ้าวเหรอครับน้อยเหมือนกันนะ
00:06:14 → 00:06:17 >> ใช่ค่ะแล้วหลายงานวิจัยก็มีขนาดเล็กคือมี
00:06:17 → 00:06:20 คนเข้าร่วมน้อยหรือใช้เวลาศึกษาค่อนข้าง
00:06:20 → 00:06:23 สั้นทำให้จริงๆแล้วยังต้องการการศึกษา
00:06:23 → 00:06:25 เพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลให้มันชัดเจนกว่า
00:06:25 → 00:06:29 นี้อีกอย่างคือน้ำหนักที่ลดลง 1-2 ก.ใน 3
00:06:29 → 00:06:32 เดือนเนี่ยถึงแม้มันจะมีนัยยะสำคัญทาง
00:06:32 → 00:06:35 สถิตินะคะแต่ในทางปฏิบัติจริงๆอาจจะยัง
00:06:35 → 00:06:37 ไม่ได้เยอะมากอย่างที่หลายคนคาดหวังเมื่อ
00:06:37 → 00:06:39 เทียบกับการปรับพฤติกรรมอื่นๆอย่างการคม
00:06:39 → 00:06:41 อาหารหรือออกกำลังกายจริงจัง
00:06:41 → 00:06:43 >> ครับๆเข้าใจได้ครับ
00:06:43 → 00:06:46 >> แต่ถ้าเป็นเรื่องผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
00:06:46 → 00:06:49 อันนี้ดูเหมือนจะมีข้อมูลสนับสนุนที่ค่อน
00:06:49 → 00:06:52 ข้างสอดคล้องกันมากกว่าค่ะงานวิจัยหลาย
00:06:52 → 00:06:55 ชิ้นเลยชี้ว่ากรดอซิติกในน้ำส้มสายชูไม่
00:06:55 → 00:06:58 ใช่แค่ ACV อย่างเดียวนะคะน้ำส้มสายชู
00:06:58 → 00:07:00 หมักอื่นๆก็อาจจะได้ผลคล้ายกันคือสามารถ
00:07:00 → 00:07:03 ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหารลง
00:07:03 → 00:07:05 ได้จริงแล้วก็อาจช่วยเพิ่มความไวของ
00:07:05 → 00:07:08 อินซูลินด้วยซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีกับคนที่
00:07:08 → 00:07:10 มีภาวะดื้ออินซูลินหรือเป็นเบาหวานชนิด
00:07:10 → 00:07:11 ที่ 2 ค่ะ
00:07:11 → 00:07:15 >> อ๋อเรื่องน้ำตานี่ดูจะมีหลักฐานชัดกว่า
00:07:15 → 00:07:16 เรื่องลดน้ำหนัก
00:07:16 → 00:07:20 >> ใช่ค่ะแต่ว่านะคะประเด็นสำคัญมากๆเลยที่
00:07:20 → 00:07:22 ข้อมูลทุกแหล่งที่เราดูมาต่างก็เน้นย้ำ
00:07:22 → 00:07:26 เหมือนกันหมดเลยก็คือเราต้องมองว่า ACV
00:07:26 → 00:07:28 เป็นแค่ตัวช่วยเสริมเท่านั้นจริงจริงค่ะ
00:07:28 → 00:07:32 มันไม่ใช่ยาวิเศษไม่ใช่ทำรัดลดความอ้วน
00:07:32 → 00:07:35 หรือยารักษาเบาหวานได้นะคะการควบคุมอาหาร
00:07:35 → 00:07:38 ให้ดีให้เหมาะสมการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
00:07:38 → 00:07:41 อันยังไงก็ยังเป็นหัวใจหลักที่สำคัญที่
00:07:41 → 00:07:44 สุดเสมอค่ะ ACV อาจจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆที่
00:07:44 → 00:07:46 เข้ามาเสริมได้บ้างเท่านั้นจริงๆ
00:07:46 → 00:07:49 >> ชัดเจนเลยครับคือถึงจะมีข้อมูลดีๆอยู่
00:07:49 → 00:07:51 บ้างโดยเฉพาะเรื่องน้ำตาลแต่ก็ต้องมองตาม
00:07:51 → 00:07:54 ความเป็นจริงว่าเป็นแค่ส่วนเสริมไม่ใช่
00:07:54 → 00:07:57 ตัวหลักแล้วก็ต้องพิจารณาให้รอบด้านด้วย
00:07:57 → 00:07:58 ที
00:07:58 → 00:08:00 มาถึงอีกด้านที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือ
00:08:00 → 00:08:03 เรื่องข้อควรระวังหรือผลข้างเคียงอันเนี้
00:08:03 → 00:08:05 ข้อมูลจากแทบทุกแหล่งที่เราดูมานี่เตือน
00:08:05 → 00:08:06 กันเยอะมากเลยนะครับ
00:08:07 → 00:08:10 >> ถูกต้องเลยค่ะเรื่องนี้สำคัญมากๆเพราะ ACV
00:08:10 → 00:08:13 เนี่ยถึงจะดูเป็นของจากธรรมชาติแต่ด้วย
00:08:13 → 00:08:16 ความที่มันมีความเป็นกรดสูงมากซึ่งตรงนี้
00:08:16 → 00:08:19 ล่ะค่ะที่เป็นที่มาของผลข้างเคียงแล้วก็
00:08:19 → 00:08:21 ความเสี่ยงหลายอย่างเลยอย่างแรกที่ดูจะพบ
00:08:21 → 00:08:24 บ่อยเลยนะคะคือปัญหากับระบบทางเดินอาหาร
00:08:24 → 00:08:26 โดยเฉพาะกระเพาะอาหารค่ะโดยความเป็นกรด
00:08:26 → 00:08:30 ของมันถ้าเราดื่มแบบเข้มข้นไปหรือดื่ม
00:08:30 → 00:08:33 เยอะไปหรือดื่มตอนท้องว่างในคนที่กระเพาะ
00:08:33 → 00:08:36 อาจจะไวต่อกรดอยู่แล้วเนี่ยอาจจะทำให้รู้
00:08:36 → 00:08:39 สึกปวดท้องแสบท้องระคายเคืองได้ง่ายๆเลย
00:08:39 → 00:08:42 ค่ะหรือบางคนก็อาจจะมีอาการท้องอืดอาหาร
00:08:42 → 00:08:46 ไม่ย่อยตามมาคนที่มีปัญหาโรคกระเพ็กรดไหล
00:08:46 → 00:08:48 ย้อนอยู่แล้วอันนี้ยิ่งต้องระวังเป็น
00:08:48 → 00:08:49 พิเศษเลยค่ะ
00:08:49 → 00:08:51 >> อืมอันนี้น่าจะต้องระวังจริงๆครับ
00:08:51 → 00:08:55 >> ใช่ค่ะเรื่องต่อมาที่น่ากังวลไม่แพ้กัน
00:08:55 → 00:08:59 เลยคือผลกระทบต่อสุขภาพฟันค่ะอันนี้ก็มา
00:08:59 → 00:09:02 จากความเป็นกรดสูงโดยตรงเหมือนกันกรดใน
00:09:02 → 00:09:05 ACV เนี่ยมันสามารถไปกัดกร่อนสารเคลือบ
00:09:05 → 00:09:08 ฟันหรืออินาโม่ที่เป็นเหมือนเกาะป้องกัน
00:09:08 → 00:09:11 ชั้นนอกสุดของฟันเราได้ค่ะพอเคลือบฟันมัน
00:09:11 → 00:09:13 บางลงก็จะทำให้เกิดอาการเสี่ยวฟันได้ง่าย
00:09:13 → 00:09:16 ขึ้นแล้วก็เพิ่มความเสี่ยงต่อฟันผุในระยะ
00:09:16 → 00:09:17 ยาวด้วยนะคะ
00:09:17 → 00:09:21 >> โหเรื่องฟันนี่น่ากลัวเหมือนกันนะเพราะ
00:09:21 → 00:09:24 เสี่ยแล้วเสียเลยมันไม่เหมือนผิวหนังที่
00:09:24 → 00:09:25 สร้างใหม่ได้
00:09:25 → 00:09:28 >> ใช่เลยค่ะเพราะฉะนั้นการป้องกันเลยสำคัญ
00:09:28 → 00:09:31 มากเดี๋ยวเราจะคุยกันในส่วนวิธีใช้อีกที
00:09:31 → 00:09:35 นะคะนอกจากนี้ความเป็นกรดก็อาจจะทำให้
00:09:35 → 00:09:38 ระคายเคืองคอและหลอดอาหารได้เหมือนกันโดย
00:09:38 → 00:09:41 เฉพาะถ้าดื่มแบบไม่เจือจางหรือเข้มข้นไป
00:09:41 → 00:09:44 อาจจะรู้สึกแสบคอเจ็บคอได้ค่ะ
00:09:44 → 00:09:45 >> ครับผม
00:09:45 → 00:09:47 >> อีกประเด็นที่ต้องหอย้ำเลยแล้วก็ต้อง
00:09:47 → 00:09:51 ระวังมากๆคือสำหรับผู้ป่วยเบาหวานค่ะ
00:09:51 → 00:09:53 อย่างที่เมื่อกี้เราคุยกันว่า ACV อาจจะ
00:09:53 → 00:09:56 มีผลช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ซึ่งฟัง
00:09:56 → 00:09:59 เผินๆเหมือนจะดีใช่มั้ยคะแต่ถ้าเกิดว่า
00:09:59 → 00:10:02 กำลังใช้ยาลดน้ำตาลอยู่หรือว่าฉีด
00:10:02 → 00:10:05 อินซูลินอยู่การกิน ACV เข้าไปเสริมอีก
00:10:05 → 00:10:07 เนี่ยมันอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
00:10:07 → 00:10:10 เกินไปหรือที่เรียกว่าไฮโปไกรซีเมียได้
00:10:10 → 00:10:11 ค่ะ
00:10:11 → 00:10:13 >> อ๋ออันตรายเลยใช่มั้ยครับ
00:10:13 → 00:10:15 >> อันตรายมากค่ะอาจจะมีอาการหน้ามืดเวียน
00:10:15 → 00:10:19 หัวใจสั่นเหงื่อออกหรือถ้ารุนแรงมากๆอาจ
00:10:19 → 00:10:22 จะหมดสติได้เลยนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยผู้
00:10:22 → 00:10:24 ป่วยเบาหวานทุกคนเลยนะคะก่อนที่จะคลิป
00:10:24 → 00:10:27 เริ่มใช้ ACV ควรจะต้องปรึกษาคุณหมอประจำ
00:10:27 → 00:10:30 ตัวก่อนเสมอเพื่อประเมินความเสี่ยงแล้วก็
00:10:30 → 00:10:32 อาจจะต้องมีการปรับยาถ้าจำเป็นค่ะสำคัญ
00:10:33 → 00:10:34 มากๆเลย
00:10:34 → 00:10:35 >> ครับสำคัญจริงๆครับ
00:10:35 → 00:10:38 >> ยังไม่หมดแค่นั้นนะคะ ACV อาจจะมี
00:10:38 → 00:10:42 ปฏิกิริยากับยาอื่นๆได้ด้วยนอกจากยารักษา
00:10:42 → 00:10:46 เบาหวานแล้วยังอาจมีผลต่อยาบางชนิดเช่นยา
00:10:46 → 00:10:50 ขับปัสสาวะบางกลุ่มที่อาจจะทำให้ร่างกาย
00:10:50 → 00:10:53 เสียโพแทสเซียมอยู่แล้วหรือยาบางตัวที่
00:10:53 → 00:10:56 ใช้รักษาโรคหัวใจหรือแม้แต่ยาระบายบาง
00:10:56 → 00:11:00 ชนิดการใช้ ACV ร่วมกับยาพวกนี้อาจจะไปรบ
00:11:00 → 00:11:03 กวนการดูดซึมยาหรือส่งผลต่อระดับเกลือแร่
00:11:03 → 00:11:07 ในร่างกายโดยเฉพาะโพแทสเซียมหรือส่งผลต่อ
00:11:07 → 00:11:10 ระดับอินซูลินได้อีกคือใครก็ตามที่ทานยา
00:11:10 → 00:11:13 ประจำตัวอยู่ไม่ว่าจะเป็นยาอะไรก็ตามนะคะ
00:11:13 → 00:11:17 ปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อนใช้ ACV จะ
00:11:17 → 00:11:18 ปลอดภัยที่สุดเลยค่ะ
00:11:18 → 00:11:20 >> โหยาตีกันได้หลายตัวเลยนะครับเนี่ย
00:11:20 → 00:11:23 >> ใช่ค่ะแล้วก็มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ
00:11:23 → 00:11:26 ระดับโพสแคลเซียมกับสุขภาพกระดูกด้วยนะคะ
00:11:26 → 00:11:28 มีรายงานเคสเหมือนกันที่พบความเชื่อมโยง
00:11:28 → 00:11:31 ระหว่างการกิน ACV ในปริมาณที่สูงมากๆเลย
00:11:31 → 00:11:35 นะคะคือประมาณ 250 มลตหรือราวๆ 16 ช้อน
00:11:35 → 00:11:36 โต๊กต่อวัน
00:11:36 → 00:11:37 >> โหเยอะมาก
00:11:37 → 00:11:41 >> ใช่ค่ะเยอะมากแล้วก็กินแบบนี้นานเป็นปีพบ
00:11:41 → 00:11:44 ว่าสัมพันธ์กับภาวะที่โพแทสเสเซียมนี้
00:11:44 → 00:11:47 เลิศต่ำแล้วก็ความหนาแน่นของกระดูกลดลง
00:11:47 → 00:11:49 ซึ่งอาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูก
00:11:49 → 00:11:52 พรุนได้แม้ว่าอันนี้จะเป็นกรณีที่กินเยอะ
00:11:52 → 00:11:55 ผิดปกติมากๆนะคะแต่ก็เป็นเหมือนสัญญาณ
00:11:55 → 00:11:58 เตือนให้ระวังการใช้ในปริมาณที่มากเกินไป
00:11:58 → 00:12:00 แล้วก็ต่อเนื่องนานๆค่ะ
00:12:00 → 00:12:01 >> อือื
00:12:01 → 00:12:04 >> สุดท้ายค่ะมีประเด็นเรื่องเชื้อแบคทีเรีย
00:12:04 → 00:12:07 ใน ACV ที่ไม่ได้ผ่านการพสหรือ unpteriz
00:12:07 → 00:12:10 ด้วยค่ะคือแม้ว่า Mother ที่เราคุยกันตอน
00:12:10 → 00:12:13 ต้นจะเชื่อว่ามีประโยชน์ใช่ไหมั้คะแต่ใน
00:12:13 → 00:12:15 กระบวนการผลิตที่ไม่ได้ผ่านความร้อนฆ่า
00:12:15 → 00:12:18 เชื้อเนี่ยมันก็อาจจะมีความเสี่ยงที่จะมี
00:12:18 → 00:12:20 การปนเปื้อนของแบคทีเรียที่ก่อโรคได้
00:12:20 → 00:12:23 เหมือนกันอย่างซมเนลหรืออีโคไลด์
00:12:23 → 00:12:26 ดังนั้นการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่
00:12:26 → 00:12:28 น่าเชื่อถือแล้วก็การสังเกตฉลากก็เป็น
00:12:28 → 00:12:30 เรื่องสำคัญค่ะ
00:12:30 → 00:12:33 >> ฟังดูแล้วข้อควรระวังนี้เยอะมากจริงๆนะ
00:12:33 → 00:12:36 ครับเรียกว่าเป็นดาบ 2 คมชัดๆเลยคือมี
00:12:36 → 00:12:38 ประโยชน์ที่เป็นไปได้แต่ความเสี่ยงก็ไม่
00:12:38 → 00:12:42 น้อยเลยถ้าอย่างนั้นสำหรับคนที่สนใจจะลอง
00:12:42 → 00:12:45 ใช้หรืออาจจะใช้อยู่แล้วจะมีวิธีใช้ยังไง
00:12:45 → 00:12:47 ให้ปลอดภัยที่สุดครับให้ลดความเสี่ยงผู้
00:12:47 → 00:12:48 นี้ลงได้บ้าง
00:12:48 → 00:12:51 >> คำหนามดีมากเลยค่ะเพราะการรู้วิธีใช้ที่
00:12:51 → 00:12:53 ถูกต้องเนี่ยสำคัญพอๆกับการรู้ประโยชน์
00:12:53 → 00:12:56 และโทษเลยนะคะจากข้อมูลที่เรารวบรวมมามี
00:12:56 → 00:12:59 คำแนะนำที่ค่อนข้างตรงกันอยู่หลายข้อเลย
00:12:59 → 00:13:02 ค่ะข้อแรกและสำคัญที่สุดเลยคือต้องเจือ
00:13:02 → 00:13:06 จางเสมออันนี้ย้ำกันทุกที่เลยค่ะห้ามดื่ม
00:13:06 → 00:13:09 ACV แบบเพี้ยวๆเหลือเข้มข้นเด็ดขาดเพราะ
00:13:09 → 00:13:11 ความเป็นกรดสูงของมันจะทำอันตรายต่อช่อง
00:13:11 → 00:13:14 ปากลำคอหลอดอาหารแล้วก็กระเพาะอาหารได้
00:13:14 → 00:13:17 แน่นอนควรจะเริ่มต้นด้วยปริมาณน้อยๆก่อน
00:13:17 → 00:13:21 ค่ะเช่นผสม ACV แค่ 1 ช้อนชากับน้ำเปล่า
00:13:21 → 00:13:24 แก้วใหญ่ๆหน่อยประมาณ 240 มล.ลองดูก่อน
00:13:24 → 00:13:27 ว่าร่างกายรับได้มยถ้าไม่มีปัญหาอะไรอาจ
00:13:27 → 00:13:30 จะค่อยๆเพิ่มปริมาณ ACV ได้แต่โดยรวมแล้ว
00:13:30 → 00:13:33 ไม่ควรเกินวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะก็คือประมาณ
00:13:33 → 00:13:36 15-30 มลต.ค่ะอันเนี้เป็นปริมาณสูงสุด
00:13:36 → 00:13:38 ที่แนะนำกันโดยทั่วไป
00:13:38 → 00:13:40 >> ไม่เกิน 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวันแล้วต้องเจือ
00:13:41 → 00:13:42 จางเยอะๆนะครับ
00:13:42 → 00:13:45 >> ใช่ค่ะแล้วเรื่องเวลาดื่มล่ะคะควรดื่มตอน
00:13:45 → 00:13:46 ไหนดี
00:13:46 → 00:13:49 >> อ้าใช่ครับใช่ครับควรดื่มตอนไหนดีที่สุด
00:13:49 → 00:13:49 ครับ
00:13:49 → 00:13:53 >> อันนี้มีคำแนะนำหลากหลายเหมือนกันค่ะบาง
00:13:53 → 00:13:56 แหล่งก็แนะนำให้ดื่มก่อนอาหารประมาณ 15-30
00:13:56 → 00:13:59 นาทีเชื่อว่าอาจจะช่วยเรื่องความรู้สึก
00:13:59 → 00:14:01 อิ่มแล้วก็อาจจะช่วยเรื่องการย่อยอาหาร
00:14:01 → 00:14:05 ได้ดีขึ้นหรือบางทีก็แนะนำให้ดื่มพร้อม
00:14:05 → 00:14:08 มื้ออาหารไปเลยก็ได้ค่ะอาจจะผสมในเครื่อง
00:14:08 → 00:14:11 ดื่มหรือใช้เป็นน้ำสลัดไปเลยก็ได้ค่ะ
00:14:11 → 00:14:13 >> อ๋อผสมในสลัดก็ได้
00:14:13 → 00:14:15 >> ได้ค่ะสิ่งที่ควรจะหลีกเลี่ยงก็คือการ
00:14:15 → 00:14:18 ดื่มตอนท้องว่างจัดๆโดยเฉพาะในคนที่รู้
00:14:18 → 00:14:21 ตัวว่ามีปัญหาเรื่องกรดในกระเพาะอยู่แล้ว
00:14:21 → 00:14:24 แล้วก็ไม่แนะนำให้ดื่มก่อนนอนทันทีนะคะ
00:14:24 → 00:14:26 เพราะอาจจะไปเพิ่มความเสี่ยงเรื่องกรดไหล
00:14:26 → 00:14:28 ย้อนตอนนอนได้ค่ะ
00:14:28 → 00:14:30 >> ครับผมแล้วเรื่องฟันเหรอครับป้องกันยังไง
00:14:30 → 00:14:31 ดี
00:14:31 → 00:14:34 >> ค่ะข้อต่อมาคือการปกป้องฟันอย่างที่บอก
00:14:34 → 00:14:37 ว่ากรดมันกัดกร่อนเคลือบฟันได้วิธีป้อง
00:14:37 → 00:14:41 กันก็คือหลังจากดื่ม ACV ที่เจือจางแล้ว
00:14:41 → 00:14:44 ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทันทีเลยค่ะเพื่อ
00:14:45 → 00:14:48 ช่วยชะลางกรดที่อาจจะตกค้างออกไปการใช้
00:14:48 → 00:14:50 หลอดดูดเครื่องดื่มก็เป็นอีกวิธีที่ช่วย
00:14:50 → 00:14:53 ได้นะคะช่วยลดการสัมผัสโดยตรงระหว่าง ACV
00:14:53 → 00:14:54 กับผิวฟัน
00:14:54 → 00:14:56 >> ใช้หลอดดูดอืมๆ
00:14:56 → 00:15:00 >> ใช่ค่ะแล้วก็มีข้อควรระวังนิดนึงคืออย่า
00:15:00 → 00:15:02 เพิ่งแปลงฟันทันทีหลังจากดื่มนะคะเพราะ
00:15:02 → 00:15:05 ตอนนั้นเคลือบฟันอาจจะกำลังอ่อนแอจากการ
00:15:05 → 00:15:08 โดนกรดอยู่การไปแปลงซ้ำทันทีอาจจะยิ่ง
00:15:08 → 00:15:11 ทำลายเคลือบฟันได้ควรรออย่างน้อยสัก 30
00:15:11 → 00:15:13 นาทีก่อนค่อยแปรงฟันค่ะ
00:15:13 → 00:15:16 >> อ๋อต้องรอแป๊บนึงก่อนค่อยแปลง
00:15:16 → 00:15:19 >> ใช่ค่ะนอกจากแบบน้ำแล้วเห็นมีแบบเม็ดแบบ
00:15:20 → 00:15:22 กัมมี่ด้วยแบบนั้นมันจะปลอดภัยกว่าไหม
00:15:22 → 00:15:22 ครับ
00:15:22 → 00:15:25 >> อ้าใช่ครับใช่ครับเดี๋ยวนี้มีหลายแบบมาก
00:15:25 → 00:15:29 >> ค่ะรูปแบบเม็ดหรือกัมมี่เนี่ยอาจจะสะดวก
00:15:29 → 00:15:30 กว่าแล้วก็ช่วยเลี่ยงปัญหาเรื่องกรด
00:15:31 → 00:15:34 สัมผัสในช่องปากกับลำคอได้ก็จริงค่ะแต่ก็
00:15:34 → 00:15:37 ต้องดูปัจจัยอื่นด้วยอย่างแรกคือต้องดู
00:15:37 → 00:15:39 ว่าใน 1 เม็ดหรือ 1 ชิ้นเนี่ยมันให้
00:15:39 → 00:15:42 ปริมาณ ACV เทียบเท่าเท่าไหร่เพียงพอตาม
00:15:42 → 00:15:45 ที่เราต้องการมอย่างที่ 2 คือต้องดูส่วน
00:15:45 → 00:15:47 ผสมอื่นๆที่เขาเติมเข้ามาด้วยค่ะโดยเฉพาะ
00:15:47 → 00:15:49 น้ำตาลในรูปแบบกัมมี่ซึ่งอาจจะไม่เหมาะ
00:15:49 → 00:15:51 กับคนที่อยากคุมน้ำตาลหรือลดน้ำหนักอยู่
00:15:51 → 00:15:52 แล้วใช่มั้ยคะ
00:15:52 → 00:15:56 >> จริงด้วยครับอาจจะได้น้ำตาลเพิ่มแทน
00:15:56 → 00:15:59 >> ใช่ค่ะแล้วก็ถึงจะเป็นเม็ดหรือกัมมี่มัน
00:15:59 → 00:16:01 ก็ยังอาจจะมีผลต่อกระเพาะอาหารได้อยู่ดี
00:16:01 → 00:16:03 นะคะถ้าคนนั้นไวต่อกรด
00:16:03 → 00:16:04 >> ครับผม
00:16:04 → 00:16:06 >> แบคทีเรียแล้วก็อยากได้ประโยชน์จาก
00:16:06 → 00:16:09 มาสเซอร์ที่ว่าก็อาจจะเลือกแบบรอunฟilอร
00:16:09 → 00:16:12 จากแหล่งที่น่าเชื่อถือหน่อยแต่ถ้ากังวล
00:16:12 → 00:16:14 เรื่องความสะอาดมากๆหรือว่ามีภูมิคุ้มกัน
00:16:14 → 00:16:17 ไม่ค่อยแข็งแรงการเลือกแบบที่ผ่านการ
00:16:17 → 00:16:20 puชurizก็น่าจะปลอดภัยกว่าค่ะการอ่านฉลาก
00:16:20 → 00:16:23 ดีๆเลือกยี่ห้อที่ไว้ใจได้ก็สำคัญค่ะ
00:16:23 → 00:16:26 >> ฟังมาทั้งหมดนี้ก็พอจะเห็นภาพรวมชัดเจน
00:16:26 → 00:16:29 ขึ้นเยอะเลยนะครับ ACV ดูหมดจะมีประโยชน์
00:16:29 → 00:16:31 บางอย่างที่เป็นไปได้จริงๆจากข้อมูลจาก
00:16:31 → 00:16:34 งานวิจัยบางส่วนโดยเฉพาะเรื่องคุมน้ำตาล
00:16:34 → 00:16:39 แต่ก็เอิ่มไม่ใช่ยาวิเศษอะไรแล้วที่สำคัญ
00:16:39 → 00:16:42 เลยคือมีความเสี่ยงมีข้อควรระวังเยอะมาก
00:16:42 → 00:16:45 ต้องใช้ให้ถูกวิธีแล้วก็ต้องเข้าใจจริงๆ
00:16:45 → 00:16:46 ครับ
00:16:46 → 00:16:49 >> ใช่เลยค่ะประเด็นหลักที่อยากจะย้ำปิดท้าย
00:16:49 → 00:16:52 เลยก็คือ ACV เป็นเพียงเครื่องมือเสริม
00:16:52 → 00:16:55 อย่างนึงเท่านั้นจริงๆค่ะมันไม่สามารถ
00:16:55 → 00:16:58 แล้วก็ไม่ควรจะใช้ทดแทนการดูแลสุขภาพขั้น
00:16:58 → 00:17:01 พื้นฐานที่สำคัญกว่ามากๆได้เลยนั่นก็คือ
00:17:01 → 00:17:03 การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ครบ 5 หมู่ใน
00:17:03 → 00:17:07 ปริมาณที่เหมาะสมการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
00:17:07 → 00:17:09 การนอนหลับพักผ่อนให้พอการจัดการความ
00:17:09 → 00:17:11 เครียดสิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็นรากฐาน
00:17:11 → 00:17:13 ของสุขภาพที่ดีจริงๆค่ะ
00:17:13 → 00:17:16 >> ครับพื้นฐานสำคัญที่สุดเสมอ
00:17:16 → 00:17:19 >> ใช่ค่ะการตัดสินใจว่าจะใช้ ACV หรือไม่
00:17:19 → 00:17:21 ใช้เนี่ยควรจะมาจากความเข้าใจข้อมูลอย่าง
00:17:21 → 00:17:24 รอบด้านเลยทั้งประโยชน์ที่อาจจะคาดหวัง
00:17:24 → 00:17:27 ได้ซึ่งอาจจะไม่ได้มากมายอย่างที่คิดนะคะ
00:17:27 → 00:17:29 และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งก็มี
00:17:29 → 00:17:32 ไม่น้อยเลยและอย่างที่ย้ำไปหลายรอบมากๆ
00:17:32 → 00:17:35 ถ้ามีโรคประจำตัวเช่นเบาหวานโรคกระเพาะ
00:17:35 → 00:17:38 โรคไตหรือกำลังใช้ยาอะไรอยู่เป็นประจำการ
00:17:38 → 00:17:41 ปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อนถือเป็นสิ่ง
00:17:41 → 00:17:42 จำเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะเพื่อความปลอดภัย
00:17:43 → 00:17:44 ของตัวเราเองนะคะ
00:17:44 → 00:17:47 >> ครับผมสรุปได้ว่า ACV ก็อาจจะเป็นส่วน
00:17:47 → 00:17:49 เล็กๆที่เข้ามาช่วยเสริมไลฟ์สไตล์สุขภาพ
00:17:49 → 00:17:52 ดีได้ถ้าเราเลือกใช้อย่างมีความรู้จริงๆ
00:17:52 → 00:17:55 แล้วก็ระมัดระวังมากๆด้วยคือต้องเจือจาง
00:17:55 → 00:17:58 ใช้ในปริมาณน้อยๆไม่เกินที่เขาแนะนำแล้ว
00:17:58 → 00:18:00 ก็ใส่ใจเรื่องการปกป้องฟันมากๆรวมถึง
00:18:00 → 00:18:03 ตระหนักถึงความเสี่ยงข้อห้างใช้ต่างๆการ
00:18:03 → 00:18:05 เข้าใจภาพรวมทั้งหมดทั้งด้านดีด้านเสีย
00:18:05 → 00:18:07 เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเลยครับ
00:18:07 → 00:18:10 >> ถูกต้องที่สุดค่ะอย่ามองว่า ACV เป็นทาง
00:18:10 → 00:18:12 ลัดหรือเป็นคำตอบสำเร็จรูปสำหรับปัญหา
00:18:12 → 00:18:15 สุขภาพนะคะควรใช้เพื่อเสริมสิ่งดีๆที่เรา
00:18:15 → 00:18:18 ทำอยู่แล้วในการดูแลตัวเองไม่ใช่ใช้เพื่อ
00:18:18 → 00:18:20 ทดแทนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลักๆที่
00:18:20 → 00:18:23 จำเป็นค่ะการตัดสินใจที่ดีที่สุดก็คือการ
00:18:23 → 00:18:25 ตัดสินใจที่มาจากข้อมูลที่ครบถ้วนและการ
00:18:25 → 00:18:27 ประเมินสภาพร่างกายสุขภาพของตัวเองอย่าง
00:18:28 → 00:18:29 เหมาะสมค่ะ
00:18:29 → 00:18:31 >> วันนี้เราก็ได้คุยกันถึงข้อข้อมูลเกี่ยว
00:18:31 → 00:18:33 กับ Apple cider vinegar จากหลายๆแหล่ง
00:18:33 → 00:18:35 เลยนะครับก็หวังว่าข้อมูลที่เราลำมาเล่า
00:18:35 → 00:18:37 สู่กันฟังนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย
00:18:37 → 00:18:40 นะครับสำหรับการนำไปพิจารณาแล้วก็ปรับใช้
00:18:40 → 00:18:42 ให้เหมาะสมกับแต่ละคนนะครับขอบคุณสำหรับ
00:18:42 → 00:18:44 การติดตามครับสวัสดีครับ
00:18:44 → 00:18:47 >> ขอบคุณค่ะสวัสดีค่ะ
00:18:48 → 00:18:56 [เพลง]