ไขมันพอกตับคืออะไร และมีผลต่อสุขภาพตับอย่างไร

วิธีลดไขมันพอกตับ ให้กลับมาทำงานปกติ | Top to Toe EP.108

จากช่อง : THE STANDARD PODCAST


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 ตับเนี่ยเป็นอวัยวะที่สำคัญมากของร่างกาย

00:00:0300:00:06 ของเรานะครับแล้วถ้าเกิดว่าเราดูแลตับเรา

00:00:0600:00:08 ได้ดีเนี่ยสุขภาพของเราเนี่ยก็จะดีแล้วก็

00:00:0800:00:11 ยืนยาวแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ตับเราอ่ะมัน

00:00:1100:00:14 ทำงานหนักมันเป็นโรคมันไม่สบายมันป่วย

00:00:1400:00:16 เนี่ยคราวเนี้ยเราจะมีโรคต่างๆตามมาเป็น

00:00:1600:00:19 ทวนเลยสิ่งแรกที่ผมอยากจะเริ่มปูพื้นฐาน

00:00:1900:00:21 เกี่ยวกับสุขภาพของตับนะครับก็คือเรื่อง

00:00:2100:00:25 ของไขมันพอกตับครับจริงๆไขมันพอกตับเนี่ย

00:00:2500:00:28 คือจุดเริ่มต้นของการที่ตับของเราเนี่ยจะ

00:00:2800:00:32 เริ่มเป็นโรคโรกตับหรือดต่างๆมีที่มาจาก

00:00:3200:00:35 ไขมันพอกตับทั้งสิ้นถ้าเกิดว่าเราดูแลตัว

00:00:3500:00:38 เองไม่ให้ไขมันพอกตับได้นะครับรับรองได้

00:00:3800:00:41 ว่าตับเราเนี่ยจะค่อนข้างสุขภาพดีแล้วก็

00:00:4100:00:43 ไม่เสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายๆเกี่ยวกับตับ

00:00:4300:00:46 ในอนาคตนะครับเดี๋ยววันนี้ท็อ to จะมา

00:00:4600:00:49 เล่าให้ฟังว่าเราสามารถที่จะต้องการไขมัน

00:00:4900:00:52 ไม่ให้พอกตับได้ยังไงแล้วคนที่มีไขมันพอก

00:00:5200:00:56 ตับอยู่แล้วหรือตับเคยอักเสบมีพังผืดแล้ว

00:00:5600:00:58 เนี่ยเราสามารถที่จะรวสโรคต่างๆที่เกี่ยว

00:00:5800:01:02 กับตับไม่ว่าจะเป็นทางผืดการอักเสบไขมัน

00:01:0200:01:04 พอกตับได้เพียงแค่คุณลดน้ำหนักเท่านั้น

00:01:0400:01:07 เองง่ายนิดเดียวเดี๋ยวไปดูกันครับ This

00:01:0700:01:09 is the Standard podcast Eye

00:01:0900:01:11 Opening for your

00:01:1100:01:15 ears Top to Toe podcast สุขภาพที่

00:01:1500:01:19 ใช้วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด

00:01:1900:01:23 เท้าเรามารู้จักกันก่อนว่าสุขภาพของตับ

00:01:2300:01:25 เนี่ยครับจากตอนที่มัน Healthy สุดๆตอน

00:01:2500:01:28 ที่มันแบบป่วยหนักสุดๆเนี่ยมันมีกี่ระยะ

00:01:2800:01:31 นะครับอย่างแรกเลยตตับที่สุขภาพดีทำงาน

00:01:3100:01:34 ได้เต็มที่สบายใจเนี่ยผมเรียกมันว่าระยะ

00:01:3400:01:38 0นนะครับเมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มมีไขมันมา

00:01:3800:01:41 พอกตับแต่ยังไม่มีการอักเสบของตับเนี่ยนะ

00:01:4100:01:44 ครับจะเป็นระยะที่ 1 นะครับเมื่อไหร่ก็

00:01:4400:01:47 ตามที่ไขมันเริ่มพอกตับมากขึ้นแล้วตับมี

00:01:4700:01:50 การอักเสบอักเสบเมื่อไหร่เป็นระยะที่ 2

00:01:5000:01:54 และนะครับถ้าอักเสบมากยิ่งขึ้นมากยิ่ง

00:01:5400:01:58 ขึ้นจะเริ่มมีพังผืดมีพังผืดเป็นระยะที่ 3

00:01:5900:02:02 เรียกว่าไฟ proc แลถ้าเกิดว่ามีพังผืด

00:02:0200:02:05 เยอะกระจายตัวไปทั่วตับเนี่ยจะเกิดภาวะ

00:02:0500:02:08 ที่เรียกว่าตับแข็งเราเรียกมันว่าระยะที่

00:02:0800:02:12 4 นะครับและสุดท้ายนะครับหนักที่สุดเลย

00:02:1200:02:15 ก็คือตับแบบเยินมากเสียหายหนักมากจะเป็น

00:02:1500:02:19 มเร็งตับนั่นคือระยะที่ 5 นะครับข่าวดีก็

00:02:1900:02:21 คือว่าถ้าตับเราอยู่ในระยะที่เป็นระยะที่

00:02:2100:02:25 1 คือไขมันพอกตับระยะที่ 2 มีการอักเสบ

00:02:2500:02:28 ระยะที่ 3 มีพังผืแต่ยังไม่เยอะมากเรา

00:02:2800:02:31 สามารถที่จะวรสอาการเหล่านั้นเพื่อให้ตับ

00:02:3100:02:34 ของเราเนี่ยกลับไปมีสุขภาพที่ดีแล้วก็ลด

00:02:3400:02:36 ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายเกี่ยวกับตับ

00:02:3600:02:39 ได้เลยนะครับเพียงแค่เราลดน้ำหนักเท่า

00:02:3900:02:42 นั้นเองถามว่าต้องลดน้ำหนักเยอะหรือน้อย

00:02:4200:02:44 แค่ไหนเนี่ยผมมีตัวเลขด้วยนะครับเริ่มจาก

00:02:4400:02:47 ระยะที่ 1 คือมีไขมันพอกตับก่อนแต่ว่ามัน

00:02:4700:02:49 ยังไม่อักเสบเนี่ยเพียงแค่คุณลดน้ำหนัก

00:02:4900:02:52 ประมาณ 5% เท่านั้นตับของคุณเนี่ยก็จะ

00:02:5200:02:55 กลับไปมีสุขภาพดีแล้วนะครับแต่ถ้าเกิดว่า

00:02:5500:02:57 คุณเริ่มเข้าสู่ระยะที่ 2 คือตับของคุณ

00:02:5700:03:00 เนี่ยเริ่มมีอารอักเสบคือไขมันสะสมเยอะ

00:03:0000:03:03 อยู่อ่ะลดน้ำหนักเยอะขึ้นหน่อยเป็นประมาณ

00:03:0300:03:07 ซัก 7 -10% แลถ้าเกิดว่าตับของคุณเนี่ย

00:03:0700:03:09 เข้าสู่ภาวะที่เป็นระยะที่ 3 คือเริ่มมี

00:03:0900:03:11 พังผืดแต่ยังไม่เยอะมากคือตับยังไม่แข็ง

00:03:1100:03:16 เนี่ยถ้าคุณลดน้ำหนักได้ 10% เนี่ยตับของ

00:03:1600:03:20 คุณจะย้อนกลับไปมีสุขภาพดีได้เวลาที่ผม

00:03:2000:03:22 พูดว่าย้อนกลับไปสุขภาพดีได้เนี่ยครับมัน

00:03:2200:03:24 อาจจะไม่ได้แบบโอ้โหย้อนกลับไป Healthy

00:03:2400:03:26 100% เหมือนตอนที่ยังไม่เคยเป็นโรคอะไร

00:03:2600:03:28 นะครับเพียงแค่มันสามารถจะย้อนกลับไปทำ

00:03:2800:03:31 งานได้ดีมากขึ้นเนี่ยมันก็แทบจะพลิกหน้า

00:03:3100:03:33 มือเป็นหลังมือแล้วนะครับร่างกายคุณเนี่ย

00:03:3300:03:36 จะดีขึ้นแบบเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัดเลย

00:03:3600:03:39 นะครับคือตัวเลขเนี้ยมาจากไหนจริงๆแล้ว

00:03:3900:03:42 มันเป็น clinical trial คือมีคนศึกษาเลย

00:03:4200:03:45 นะครับเอาคนไข้ที่มีปัญหาโรคสัตว์แต่ละ

00:03:4500:03:48 ระยะแล้วก็พาคนไข้เนี่ยมาดูแลสุขภาพคุม

00:03:4800:03:52 อาหารออกกำลังกายทำ If ต่างๆแล้วก็

00:03:5200:03:54 มอนิเตอร์น้ำหนักที่ลดน้อยลงแล้วก็

00:03:5400:03:57 มอนิเตอร์กับสุขภาพของตับนะครับก็เจอว่าโ

00:03:5700:04:00 มันย้อนได้จริงๆนะครับเป็นสิ่งที่ผมเดิน

00:04:0000:04:02 แล้วผมรู้สึกว่ามันว้าวมากแล้วก็มัน

00:04:0200:04:05 inspiring มากๆเลยว่าเป็นสิ่งที่ทุกคน

00:04:0500:04:08 สามารถจะทำได้นะถ้าเกิดว่าเราใจสู้อ่ะแค่

00:04:0800:04:12 ลดน้ำหนักนิดเดียวอ่ะ 5% 7% 10% เนี่ย

00:04:1200:04:14 จริงๆถ้าลองคำนวณดูเนี่ยมันไม่ได้เยอะเลย

00:04:1400:04:16 นะครับเราไม่จำเป็นต้องรีบลดน้ำหนักด้วย

00:04:1600:04:19 เดือนนึงอ่ะเราอาจจะตั้งเป้าค่อยๆลดลดที

00:04:1900:04:23 ละครึ่งกลก 1 กกเอาจริงๆอ่ะเดือนนึงอ่ะ

00:04:2300:04:27 ไม่จำเป็นต้องรีบลดนะครับลดทีละไม่เกิน 1

00:04:2700:04:29 กกเนี่ยค่อนข้างเซฟกับร่างกายการลดน้ำ

00:04:2900:04:32 หนักเร็วแล้วมากเกินไปใน 1 เดือนเนี่ย

00:04:3200:04:34 จริงๆอันตรายด้วยซ้ำเพราะฉะนั้นเกมของการ

00:04:3400:04:37 ลดไขมันในตับและการดูแลสุขภาพตับเนี่ย

00:04:3700:04:41 เป็นเกมระยะยาวค่อยๆทำแต่ควรจะเริ่มยิ่ง

00:04:4100:04:43 เริ่มเร็วยิ่งดีทีนี้ย้อนกลับมานิดนึงว่า

00:04:4300:04:46 เราจะรู้ได้ไงอ่ะว่าตอนเนี้ยเรามีไขมัน

00:04:4600:04:51 พอกตับหรือเปล่าคำตอบคือจริงๆอ่ะมันบอก

00:04:5100:04:53 ยากมากเลยไม่มีทางรู้เลยครับว่าตอนเนี้ย

00:04:5300:04:56 ไขมันพอกตับอยู่หรือเปล่าจนกว่าคุณจะไป

00:04:5600:04:59 ตรวจร่างกายประจำปีหรือจนกว่าคุณจะไปทำทำ

00:04:5900:05:02 imaging analysis คือการอาจจะต้อง Ultra

00:05:0200:05:03 Sound บางอย่างต้องให้คุณหมอเนี่ยเเป็น

00:05:0300:05:06 คนวินิจฉัยแล้วก็คอยดูค่าเลือต่างๆแล้ว

00:05:0600:05:08 คอยเตือนเราแล้วว่าเฮ้ยมีแนวโน้มแล้วนะ

00:05:0800:05:11 ที่ไขมันจะพอกตับอยู่เฉยๆอ่ะมันแทบจะบอก

00:05:1100:05:14 ไม่ได้เลยว่าไขมันพอกตับอยู่หรือเปล่า

00:05:1400:05:17 สิ่งที่พอจะบอกได้คืออย่างแรกเลยถ้าเรามี

00:05:1700:05:20 พุงนะครับคืออ้วนลงพุงเนี่ยแน่นอนมีแนว

00:05:2000:05:23 โน้มที่จะมีไขมันพอกต่ำมากกว่าเพื่อนถาม

00:05:2300:05:25 ว่าต้องอ้วนแค่ไหนวถึงจะเรียกว่าอ้วนลง

00:05:2500:05:28 พุงอ่าจริงๆเค้าก็มีตัวเลขไกดไลายเข่าๆนะ

00:05:2800:05:31 ครับคือรอบเอวถ้าถ้าเกิดว่าเป็นผู้ชายที่

00:05:3100:05:35 มีรอบเอวเกินกว่า 40 นิ้วผู้หญิงมีรอบเอว

00:05:3500:05:38 เกินกว่า 35 นิ้วอันเนี้ยเรียกว่ามีภาวะ

00:05:3800:05:41 อ้วนลงพุงและแล้วก็น่าจะมีความเสี่ยงสูง

00:05:4100:05:44 มากแหละที่เจอแน่ๆว่าจะมีไขมันไปพอกอยู่

00:05:4400:05:47 บริเวณตับนะครับถ้าเราไปตรวจเลือดแล้วน้ำ

00:05:4700:05:50 ตาลของเราเนี่ยมันมากกว่า 100 มีโอกาสสูง

00:05:5000:05:52 ที่ไขมันจะพอกตับเพราะถ้าเกิดว่าน้ำตาล

00:05:5200:05:56 มันยังเยอะเลยร่างกายเก็บน้ำตาลส่วนเกิน

00:05:5600:05:58 ในรูปของไขมันไขมันก็ไปพอกตับอยู่แล้วนะ

00:05:5900:06:01 ครับค้าค่าไตกีสไลดที่มันเยอะเกิน 150 มี

00:06:0100:06:06 โอกาสสูงค่า hdl ต่ำก็มีโอกาสสูงและที่

00:06:0600:06:08 สำคัญครับการตรวจค่าตับถ้าเกิดว่าค่าตับ

00:06:0800:06:12 ของเราเนี่ยมีค่ามากกว่า 40 นะครับจริงๆ

00:06:1200:06:15 40 เป็นลิมิตและถ้ามันเกิน 40 เนี่ยมัน

00:06:1500:06:18 เป็นการบอกว่าตับของเราเนี่ยมีภาวะอักเสบ

00:06:1800:06:22 ตับเนี่ยต้องโดนอะไรมาซักอย่างมีสารพิษ

00:06:2200:06:24 เยอะเกินไปหรือว่ามีไขมันสะสมมากเกินไป

00:06:2400:06:27 ค่าตับมันเลยสูงขึ้นแต่เท่านั้นยังไม่พอ

00:06:2700:06:30 ครับจริงๆแล้วคนที่มีภาวะไขมันพอกตับ

00:06:3000:06:33 เนี่ยคนผอมคนที่ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย

00:06:3300:06:36 ก็มีแนวโน้มมีความเสี่ยงที่จะเป็นไขมัน

00:06:3600:06:39 พอกตับได้เช่นกันโดยที่ไม่รู้ตัวนะครับ

00:06:3900:06:41 เพราะฉะนั้นมีอีกหนึ่งอินดิเคเตอร์ที่ผม

00:06:4100:06:44 อยากจะให้ทุกคนลองไปสังเกตดูนั่นคือ

00:06:4400:06:46 เปอร์เซ็นต Fat ครับเปอร์เซ็นต Fat เนี่ย

00:06:4600:06:49 อาจจะพอบอกได้นะครับว่าร่างกายของเรานมี

00:06:4900:06:51 ไขมันเยอะเกินไปหรือเปล่าถ้ามันเยอะเกิน

00:06:5100:06:53 ไปเกินกว่าค่ามาตรฐานเนี่ยแน่นอนมีแนว

00:06:5400:06:56 โน้มว่ามันจะไปสะสมในตับนะครับตัวเลขที่

00:06:5600:07:00 ผมไปรวบรวมมานะครับเฟเฟผู้ชายไม่ควรมี

00:07:0000:07:04 เปอร์เซ็นต์ Fat มากกว่า 20 ในขณะที่ผู้

00:07:0400:07:06 หญิงเนี่ยไม่ควรมีเปอร์เซ็นต์ Fat มาก

00:07:0600:07:10 กว่า 25 นะครับอันนี้คือเซฟเลยถ้าต่ำกว่า

00:07:1000:07:12 20 ในผู้ชายต่ำกว่า 25 ในผู้หญิงเนี่ย

00:07:1200:07:15 โอกาสที่ไขมันจะพอกตัดเนี่ยน้อยครับแต่

00:07:1500:07:17 ถ้าเกิดว่าเมื่อไหร่ก็ตามผู้ชายเนี่ยมี

00:07:1700:07:19 เปอร์เซ็นต์แฟตอาจจะมากกว่า 20 เกิน 25

00:07:1900:07:22 เนี่ยมาและผู้หญิงเนี่ยถ้าเกิน 30 เนี่ย

00:07:2200:07:25 ค่อนข้างจะชัวร์เลยว่ามีแนวโน้มสูงว่าไข

00:07:2500:07:27 มันจะพอกตับนะครับแล้วมีตัวเลขนึงที่น่า

00:07:2800:07:31 ตกใจคือประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลกเนี่ยครับมี

00:07:3100:07:35 คนที่มีภาวะไขมันพอกตับเนี่ย 40% คือใน 10

00:07:3500:07:39 คนของประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลกเนี่ย 4 คนเจอ

00:07:3900:07:41 ภาวะไขมันพอกตับโดยที่อาจจะไม่รู้ตัวด้วย

00:07:4200:07:44 ซ้ำไปนะครับในเด็กเนี่ยมีประมาณ 10%

00:07:4400:07:47 เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนส่วน

00:07:4700:07:50 ใหญ่เกือบครึ่งนึงเนี่ยจะเจอปัญหากับโรค

00:07:5000:07:53 ตับเวลาที่เราแก่ตัวแก่ตัวไปเพราะว่าเรา

00:07:5300:07:57 สะสมไขมันในตับเยอะขึ้นเยอะขึ้นโดยที่เรา

00:07:5700:07:59 ไม่รู้ตัวนั่นเองทีนี้เรามาดูดีกว่าว่า

00:07:5900:08:02 เราจะดูแลตัวเองได้ยังไงบ้างเพื่อที่จะลด

00:08:0200:08:05 โอกาสเป็นโรคตับเรื้อดังหรือว่าลดไขมัน

00:08:0500:08:08 พอกตับนะครับผมไปอ่านเปอร์ที่เป็น

00:08:0800:08:10 clinical trial มาเยอะมากๆและสิ่งที่ผม

00:08:1000:08:14 เจอก็คือว่าทุกเปอร์พูดเป็นเสียงเดียวกัน

00:08:1400:08:17 ครับคืออันดับหนึที่ควรทำคือลดน้ำหนักนะ

00:08:1700:08:19 ครับผมก็พยายามไปหาคำตอบว่าเออทำไมอ่ะการ

00:08:1900:08:22 ลดน้ำหนักมันถึงได้ผลขนาดนั้นครับก็เลยไป

00:08:2200:08:26 พยายามหาความรู้ว่าตับเนี่ยมันสะสมไขมัน

00:08:2600:08:29 ได้ยังไงหรอผมก็เลยไปเจอว่าจริงๆแล้วไข

00:08:3000:08:32 มันที่มันมาสะสมที่ตับเนี่ยมันมาจาก 3

00:08:3200:08:35 ทางครับทางที่ 1 มันมาจากอาหารที่เรากิน

00:08:3600:08:38 โดยตรงก็คือถ้าเรากินไขมันไม่ว่าจะเป็น

00:08:3800:08:41 คอเลสเตอรอลของทออะไรที่เป็นไขมันเยอะๆ

00:08:4100:08:44 เนี่ยนะครับนั่นแหละมันก็เป็นหนึ่งซอสที่

00:08:4400:08:47 ทำให้ไขมันไปสะสมที่ตับได้ซึ่งไขมันจาก

00:08:4700:08:49 อาหารโดยตรงเนี่ยนะครับคิดเป็นประมาณแค่

00:08:4900:08:52 10% เท่านั้นที่จะ contribute ไปเป็นไข

00:08:5200:08:55 มันที่ตับนะครับทางที่ 2 ที่ไขมันจะมา

00:08:5500:08:58 สะสมที่ตับได้นะครับคือตับเนี่ยมันสร้าง

00:08:5800:09:02 ไขมันขึ้นมาเองเองจากน้ำตาลแล้วก็จาก

00:09:0200:09:04 อะมิโนแอซิดก็คือหน่วยเล็กที่สุดของ

00:09:0400:09:08 โปรตีนนะครับนั่นหมายความว่าถ้าเรากินน้ำ

00:09:0800:09:12 ตาลกินแป้งมากเกินไปหรือบางคนเล่นก้ามเ

00:09:1200:09:15 โอ้โหกะที่จะกินโปรตีนเยอะๆๆบางทีถ้าเกิด

00:09:1500:09:18 กินโปรตีนหรืออมิโนแอซิดที่มากจนเกินไปจน

00:09:1800:09:20 เกินใช้เนี่ยนะครับตับเนี่ยมันสามารถที่

00:09:2000:09:22 จะเปลี่ยนน้ำตาลแล้วก็อะมิโนแอซิดให้กลาย

00:09:2200:09:25 เป็นแฟตตี้ Acid หรือว่ากรดไขมันแล้วก็

00:09:2500:09:28 เก็บสะสมไว้ในตับได้เช่นกันนะครับซึ่งรูท

00:09:2800:09:31 เนี้ยไอ้รูทการเปลี่ยนไอ้น้ำตาลหรือว่า

00:09:3100:09:33 กรดอะมิโนแอซิดให้กลายเป็นกรดไขมันเนี่ย

00:09:3300:09:36 นะครับคิดเป็นประมาณ 30% ของไขมันที่อยู่

00:09:3600:09:39 ในตับนะครับทีนี้มันเหลืออีก 60% ที่เป็น

00:09:3900:09:42 ก้อนใหญ่มากๆเลยว่ามันมาจากไหนก็เจอว่า

00:09:4200:09:45 อีก 60% ของไขมันที่สะสมในตับเนี่ยครับ

00:09:4500:09:48 มันเกิดจากการที่ตับเนี่ยมันอัทหรือมันไป

00:09:4800:09:53 ดึงกดไขมันที่ล่องลอยอยู่ในเลือดครับซึ่ง

00:09:5300:09:56 กรดไขมันที่ล่องลอยอยู่ในเลือดเนี่ยมันมา

00:09:5600:09:59 จากการที่ Fat cell หรือเซลล์ไขมันหรือ

00:09:5900:10:01 เนื้อเยื่อไขมันที่เราสะสมในร่างกายเนี่ย

00:10:0100:10:05 มันปล่อยไขมันที่เก็บสะสมไว้เนี่ยออกมา

00:10:0500:10:08 กระจายออกมาให้อยู่ในเลือดแล้วพอมันมีไอ้

00:10:0800:10:10 เจ้ากดไขมันอยู่ในเลือดเยอะๆเนี่ยนะครับ

00:10:1000:10:13 ตับเขาคก็ต้องทำหน้าที่ในการดึงมันออกมา

00:10:1300:10:15 เพราะว่ายิ่งมันมีในเลือดเยอะมันอันตราย

00:10:1500:10:18 เนาะตับมันก็ไปดึงออกมาเก็บสะสมไว้ที่ตัว

00:10:1800:10:20 เองเพราะงั้นไอ้กรดไขมันเหล่านั้นที่ถูก

00:10:2000:10:22 ปล่อยมาจากเซลล์ไขมันเนี่ยแหละมันก็จะ

00:10:2200:10:26 ทยอยมาสะสมที่ตับเพราะฉะนั้นต้นเหตุสำคัญ

00:10:2600:10:30 ของไขมันที่สะสมในตับมันก็มาจากปริมาณของ

00:10:3000:10:33 Fat cells ที่อยู่ในร่างกายนั่นเองนั่น

00:10:3300:10:36 คือเหตุผลว่าทำไมทุกๆ clinical trios

00:10:3600:10:39 ทุกๆ intervention ที่คนพยายามอ่าดูแลคน

00:10:3900:10:42 ไข้ทำให้คนไข้เนี่ยไขมันในตับลดน้อยลงอ่ะ

00:10:4200:10:45 ถึงเจอว่าการลดน้ำหนักเนี่ยมันช่วยมากๆ

00:10:4500:10:47 เพราะว่าการลดน้ำหนักไม่ว่าจะกี่กโลก็ตาม

00:10:4700:10:50 ทำให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดน้อยลงปริมาณ

00:10:5000:10:53 ไขมันในร่างกายลดน้อยลงก็คือจำนวนเซลล์ไข

00:10:5300:10:56 มันมันน้อยลงมีเซลล์ไขมันลดน้อยลงปริมาณ

00:10:5600:10:58 กรดไขมันที่อยู่ในเลือดก็จะลดน้อยลงตามไป

00:10:5800:11:02 ด้วยตับก็จะไปเก็บสะสมกรดไขมันเหล่านั้น

00:11:0200:11:06 ในเลือดลดน้อยลงทำให้ไขมันในตับก็ลดน้อย

00:11:0600:11:09 ลงตามไปด้วยนั่นเองนั่นคือเหตุผลเลยว่า

00:11:0900:11:12 ทำไมลดน้ำหนักถึงเวิร์คทีนี้เรารู้แล้ว

00:11:1200:11:15 เนาะว่าการลดน้ำหนักเนี่ยช่วยได้รวรอาการ

00:11:1500:11:18 ทั้งหมดที่เป็นไขมันพอกตับกลับมาทำให้ตับ

00:11:1800:11:20 Healthy ได้ครับแล้วจะลดยังไงนะครับแน่

00:11:2000:11:24 นอนหนีไม่พ้นคุมอาหารครับก็คือต้องคุม

00:11:2400:11:27 แป้งคุมน้ำตาลคุมอาหารต่างๆที่เป็น

00:11:2700:11:30 process Food นะครับสิ่งที่ควรจะกินน่ะ

00:11:3000:11:32 เป็นอาหารที่ดีกับร่างกายทั้งนั้นไม่ว่า

00:11:3200:11:34 จะเป็นคอมเพลกคาร์โบไฮเดรตนะครับเนื้อ

00:11:3500:11:38 สัตว์ที่ไม่ค่อยมีไขมันผักผลไม้ไฟเบอร์นะ

00:11:3800:11:41 ครับถั่วธัญพืชอะไรเงี้ยกินได้เลยนะครับ

00:11:4100:11:43 ที่สำคัญคือ Good Fat หรือไขมันดีด้วย

00:11:4300:11:45 ครับหลายคนอาจจะแบบโอ๊ยอยากลดไขมันเราก็

00:11:4500:11:48 ควรจะเลี่ยงไขมันทุกอย่างเลยซึ่งไม่จริง

00:11:4800:11:51 นะครับจริงๆร่างกายต้องการไขมันพูดบ่อย

00:11:5100:11:54 มากเลยร่างกายต้องการไขมันและไขมันที่ดี

00:11:5400:11:57 ด้วยถามว่าบางคนสงสัยว่าเอเรื่องนี้กิน

00:11:5700:11:59 คีโตกินไขมันเยอะๆเนี่ยอันตรายายกับ

00:11:5900:12:02 สุขภาพของตับมเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเอาไข

00:12:0200:12:05 มันดีเข้าไปในร่างกายในปริมาณที่เหมาะสม

00:12:0500:12:08 ร่างกายเนี่ยมันจะเรียนรู้ว่าโอเคเรามีไข

00:12:0800:12:11 มันดีให้พร้อมใช้นะร่างกายมันจะเลือกใช้

00:12:1100:12:13 ไขมันดีมากขึ้นแทนที่จะใช้น้ำตาลอย่าง

00:12:1300:12:16 เดียวนะครับเพราะงั้นถ้าเกิดร่างกายเปิด

00:12:1600:12:18 สวิตชเปิดโหมดในการใช้ไขมันเป็นแหล่งพลัง

00:12:1800:12:21 งานแล้วเราก็ต่อให้เรากินไขมันดีเข้าไปใน

00:12:2100:12:23 ปริมาณที่เยอะกว่าคนทั่วไปเนี่ยร่างกายก็

00:12:2300:12:25 จะใช้ไขมันเหล่านั้นครับมันก็จะไม่ได้

00:12:2500:12:28 สะสมแล้วไขมันดีเองเนี่ยมันก็ช่วยทางอ้อม

00:12:2800:12:30 ในการไปจัดการกับไขมันที่ไม่ดีให้เราด้วย

00:12:3000:12:33 เพราะฉะนั้นกินไขมันดีไปเหอะไม่ต้องกังวล

00:12:3300:12:35 เลยนะครับสิ่งที่ควรจะเลี่ยงคือพวกเนื้อ

00:12:3500:12:38 สัตว์เนื้อสัตว์ติดมันหรือว่าเนื้อแดงถ้า

00:12:3800:12:40 เป็นไปได้นะครับเครื่องดื่มหวานๆรวมถึง

00:12:4000:12:44 อาหารที่ปรุงด้วยอุณหภูมิสูงๆอย่างเช่น

00:12:4400:12:46 การไปกินปิ้งยากอะไรเงี้ยอุณหภูมิสูงมากๆ

00:12:4700:12:49 นะครับพวกนั้นเนี่ยมันกินเข้าไปแล้วเนี่ย

00:12:4900:12:52 กระเพาะอาหารรวมถึงตับเนี่ยต้องทำงานหนัก

00:12:5200:12:54 ขึ้นเพราะว่ามันมีสารหลายอย่างที่ค่อน

00:12:5400:12:56 ข้างเป็นอันตรายกับร่างกายทำให้ตับทำงาน

00:12:5600:12:59 หนักนะครับนอกจากเราจะไปโฟกัสว่าเรากิน

00:12:5900:13:01 กินอะไรแล้วนะครับมีอีกหนึ่งอย่างที่เป็น

00:13:0100:13:03 ทริกที่ผมอยากจะแชร์นั่นคือทริกของการกิน

00:13:0300:13:06 อาหารแบบมีสติภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า my

00:13:0600:13:09 full eating ครับมีอยู่อย่างนึงครับที่

00:13:0900:13:11 เป็นกับดักของร่างกายแล้วเราจะไม่รู้ตัว

00:13:1100:13:13 นะครับคือสมองของเราเนี่ยครับกว่ามันจะ

00:13:1300:13:16 รู้ตัวว่าเฮ้ยเรากินอาหารเพียงพอแล้วและ

00:13:1600:13:18 อิ่มแล้วแล้วควรจะหยุดกินแล้วนะครับมันจะ

00:13:1800:13:20 มีดียอยู่ประมาณ

00:13:2000:13:23 20-30 นาทีนะครับคือระหว่างที่เราเริ่ม

00:13:2300:13:25 กินอาหารไปเมื่อไหร่ก็ตามที่อาหารตกลงไป

00:13:2500:13:27 ถึงกระเพาะอาหารแล้วกระเพาะของเราเริ่ม

00:13:2700:13:29 พ้องเนี่ยครับแน่นอนมันจะเริ่มมีสัญญาณ

00:13:2900:13:31 วิ่งไปบอกสมองว่าเอ้ยตอนเนี้ยร่างกายเรา

00:13:3100:13:34 กำลังเริ่มได้อาหารแล้วนะแล้วมันก็จะมี

00:13:3400:13:36 ฮอร์โมนตัวนึงเริ่มหลังคือฮอร์โมนที่ชื่อ

00:13:3600:13:39 ว่าเลปตินครับแล้วเลปตินเนี่ยเมื่อมันมาก

00:13:3900:13:41 ขึ้นมากขึ้นแล้วฮอร์โมนเลปตินเมื่อมันสูง

00:13:4100:13:44 ขึ้นสูงขึ้นร่วมกับอินซูลินที่มันสูงขึ้น

00:13:4400:13:46 สูงขึ้นเนี่ยทั้งเลปตินและอินซูลินเนี่ย

00:13:4600:13:49 มันก็จะวิ่งไปบอกสมองว่าโอเคตอนนี้เราได้

00:13:4900:13:53 อาหารพอแล้วแต่กว่ามันจะไปบอกสมองว่า

00:13:5300:13:56 อาหารพอแล้วเนี่ยบางทีอ่ะเรากินโดยที่เรา

00:13:5600:13:59 ไม่รู้ตัวเพราะเรายังไม่รู้สึกว่าเราอิ่ม

00:13:5900:14:01 เลยสมองยังไม่ได้บอกเราก็กินไปเรื่อยจน

00:14:0100:14:04 โมเมนที่สมองบอกเราเนี่ยบางทีเรากินเยอะ

00:14:0400:14:06 เกินไปแล้วเกินความต้องการของร่างกายแล้ว

00:14:0600:14:08 เมื่อไหร่เราพาตัวเองไปถึงจุดนั้นเนี่ย

00:14:0800:14:11 เราจะได้รับสารอาหารเกินความจำเป็นแล้ว

00:14:1100:14:13 มันก็จะกลายเป็นไขมันสะสมในร่างกายได้นะ

00:14:1300:14:15 ครับเพราะฉะนั้นทริกที่ผมอยากจะแชร์นะ

00:14:1500:14:19 ครับคืออย่ารอให้สมองบอกว่าอิ่มเราถึง

00:14:1900:14:23 หยุดกินเราควรจะมีสติแล้วบอกตัวเองได้ว่า

00:14:2300:14:26 เมื่อไหร่เราควรจะพอนะครับถามว่าแล้วเรา

00:14:2600:14:29 จะรู้ได้ไงอ่ะว่าเราควรจะบอกตัวเองตอนตอน

00:14:2900:14:31 ไหนว่าเราควรจะหยุดกินได้แล้วนะครับมันมี

00:14:3100:14:35 สเกลความอิ่มอยู่ครับทุกคนตั้งแต่ 1 ถึง

00:14:3500:14:39 10 1 นี่นะครับมันคือโอโหแบบหิวมากจน

00:14:3900:14:42 ทรมานจนแบบว่าไม่มีแรงคือป่วยแล้วอ่ะหมด

00:14:4200:14:45 แรงเลยนะครับกับ 10 นี่คืออิ่มมากคืออิ่ม

00:14:4500:14:48 จนแบบก็รู้สึกไม่สบายตัวจนอิ่มจนรู้สึก

00:14:4800:14:51 เจ็บตัวได้เช่นกันนะครับนั่นคือ 1-10 นะ

00:14:5100:14:54 ครับทางที่ดีเนี่ยเราควรจะทำให้ร่างกาย

00:14:5400:14:56 ของเราเนี่ยอยู่ในสเกลประมาณ

00:14:5600:14:59 4-7 อยู่เสมอนะครับจะดีที่สุดเลยนะครับ

00:14:5900:15:02 ถามว่า 4-7 เนี่ยเราควรจะรู้สึกยังไงนะ

00:15:0200:15:05 ครับเรามาเริ่มที่ 7 ก่อนนะครับ 7 เนี่ย

00:15:0500:15:09 มันคือการที่เรารู้สึกอิ่มแต่ยังไม่อึด

00:15:0900:15:12 อัดแล้วก็รู้สึกฟินว่าเออจริงๆรู้สึกฟิน

00:15:1200:15:15 และหยุดกินเนี่ยก็สามารถที่จะออกไปทำ

00:15:1500:15:18 กิจกรรมได้แล้วนะครับไม่รู้สึกว่าโหรู้

00:15:1800:15:20 สึกโหยโหยอาหารเพราะรู้สึกว่าได้รับเพียง

00:15:2000:15:24 พอแล้วนั่นคือ 7 คืออิ่มฟินและไม่ทรมานนะ

00:15:2400:15:26 ครับระดับ 6 เนี่ยคือกระเพาะเรายังว่าง

00:15:2600:15:28 เรายังกินต่อได้อีกนิดหน่อยแล้วเราก็รู้

00:15:2800:15:31 สึกฟินและคือหยุดตอนเนี้ยก็ยังโอเคอยู่

00:15:3100:15:34 จริงๆเนี่ยผมอยากเชิญชวนให้ทุกคนหยุดกิน

00:15:3400:15:36 เมื่อเรารู้สึกฟินกับอาหารมื้อนานแล้วยัง

00:15:3600:15:39 เหลือพื้นที่ในกระเพาะคือยังพอกินได้อีก

00:15:3900:15:42 หน่อยผมว่าเป็นเลเวลที่ดีที่สุดเลยนะครับ

00:15:4200:15:45 คือเลเวล 6 เลเวล 5 คือรู้สึกกลางๆคือ

00:15:4500:15:47 เมื่อไหร่ก็ตามที่อยู่ระหว่างกลางของมื้อ

00:15:4700:15:49 อาหารเช่นมื้อเช้ากับมื้อกลางวันเนี่ยไอ้

00:15:4900:15:51 ช่วงระยะเวลากลางๆความรู้สึกตอนนั้นเนี่ย

00:15:5100:15:54 คือเป็นเลเวล 5 นะครับคือพร้อมที่จะกินนั

00:15:5400:15:57 แหละกับเลเวล 4 นะครับคือเลเวลที่กระเพาะ

00:15:5700:16:00 เราเริ่มร้องและเมื่อไหร่ก็ตามที่กระเพาะ

00:16:0000:16:02 เริ่มร้องรู้สึกว่าอืแบบควรจะกินอะไรได้

00:16:0300:16:05 แล้วเนี่ยนั่นคือเลเวลที่ 4 สิ่งที่ผม

00:16:0500:16:09 อยากจะแชร์คือว่าเราควรจะกินเมื่อเราอยู่

00:16:0900:16:12 ในระยะที่ 4 และเราควรจะหยุดกินเมื่ออยู่

00:16:1200:16:15 ในระยะที่ 6 นั่นก็คือเราควรจะกินเมื่อ

00:16:1500:16:19 ท้องเราเริ่มบอกว่าหิวถึงควรจะกินกับเรา

00:16:1900:16:23 ควรจะหยุดกินเมื่อเรายังรู้สึกว่ายังพอ

00:16:2300:16:25 กินได้อีกหน่อยนาแต่จริงๆถ้าหยุดกินแล้ว

00:16:2500:16:28 ก็โอเคแล้วนะแฮปปี้แล้วนั่นคือจุดที่ดี

00:16:2800:16:31 ที่สุดที่ควรจะบอกตัวเองนะครับไม่ควรจะรอ

00:16:3100:16:34 ให้สมองบอกว่าเฮ้ยไม่ไหวแล้วหยุดแล้ว

00:16:3400:16:36 เพราะถ้ารอจังหวะที่สมองบอกให้หยุดกิน

00:16:3600:16:40 เนี่ยคุณจะกินโอเวอร์แล้วมันก็จะแน่นแล้ว

00:16:4000:16:42 ทำให้เกิดความไม่สบายตัวแล้วแน่นอนนะครับ

00:16:4200:16:45 แล้วความอิ่มเนี่ยนะครับจริงๆแล้วคนเราจะ

00:16:4500:16:48 รู้สึกอิ่มเนี่ยมันเกิดจาก 3 อย่างประกอบ

00:16:4800:16:51 กันก็คือ physical คือร่างกายบอกคือหนัง

00:16:5100:16:54 ท้องมันตึงมากๆกระเพาะมันพองมากๆบวกกับ

00:16:5400:16:57 emotional คือความรู้สึกนะครับคือถ้าเรา

00:16:5700:17:00 กินอาหารที่เราอยากกินเราจะรู้สึกอิ่มไว

00:17:0000:17:03 ลองสังเกตตัวเองดูนะแต่ถ้าเราต้องกิน

00:17:0300:17:05 อาหารมื้อนั้นแล้วมื้อนั้นแบบเป็นอาหาร

00:17:0500:17:07 ที่เราไม่อยากกินเลยอร่อยก็ไม่อร่อยแต่

00:17:0700:17:10 ต้องฝืนกินน่ะเราจะรู้สึกว่าไม่พอต่อให้

00:17:1000:17:12 หนังท้องเราตึงแล้วเราก็ยังรู้สึกไม่พอ

00:17:1200:17:15 กับอย่างสุดท้ายคือโซเชียลครับคือถ้าเรา

00:17:1500:17:17 ไปกินกับเพื่อนอันนี้ลองสังเกตดูนะถ้าเรา

00:17:1700:17:20 ไปกินกับเพื่อนแล้วเราเป็นคนกินช้าบางที

00:17:2000:17:23 เพื่อนบอกกินเสร็จแล้วอิ่มแล้ววางจานแล้ว

00:17:2300:17:25 เราจะถูกสะกดจิจากเพื่อนว่าถ้าเพื่อนบอก

00:17:2500:17:27 ว่าอิ่มแล้วหยุดกินแล้วเนี่ยมันจะทำให้

00:17:2700:17:30 เรารู้สึกอิ่มตามไปด้วยนะครับเพราะฉะนั้น

00:17:3000:17:32 พอเรารู้ว่า fullness หรือความอิ่มเนี่ย

00:17:3200:17:34 มันเกิดจาก physical คือหนังท้องตึงบวก

00:17:3400:17:37 กับ Emotion ก็คือแบบว่าเราแฮปปี้กับ

00:17:3700:17:40 อาหารมื้อนั้นกับโซเชียลนะครับเพราะ

00:17:4000:17:42 ฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนโฟกัสกับ Emotion

00:17:4200:17:45 หรือว่าความพึงพอใจหรือความฟินระหว่าง

00:17:4500:17:47 มื้ออาหารนั้นนะครับสมมุติว่ามื้ออาหาร

00:17:4700:17:50 นั้นเนี่ยโหเรากำลังกินแบบ Enjoy มากเลย

00:17:5000:17:53 แล้วเราไม่มีสติเราก็จะกินไปเรื่อยๆถูกมย

00:17:5300:17:56 ทริกคือเราควรจะมีการพสหรือการหยุด

00:17:5600:17:58 ระหว่างกินมื้อนั้นด้วยต่อให้อาหารมื้อ

00:17:5800:18:00 นั้นเนี่ยมันจะอร่อยแล้วก็ถูกปากคุณมาก

00:18:0000:18:02 แค่ไหนนะครับหลังจากที่คุณกินไปสักพักนึง

00:18:0200:18:05 แล้วแล้วก็รู้สึกว่าเฮ้ยร่างกายไม่โหย

00:18:0500:18:07 แล้วเนี่ยผมอยากให้คุณชะลอการกินกินให้

00:18:0700:18:10 ช้าลงหรือมีการหยุดการกินเม้าท์มอยกับ

00:18:1000:18:13 เพื่อนบ้างทิ้งเวลาไว้สักช่วงนึงแล้ว

00:18:1300:18:16 สังเกตอาการดูสิว่ามันเริ่มมีสัญญาณจาก

00:18:1600:18:18 สมองว่าบอกแล้วว่ามันอิ่มหรือยังถ้าเกิด

00:18:1800:18:20 เมื่อไหร่เราได้สัญญาณนั้นแล้วเนี่ยก็

00:18:2000:18:22 เป็นสัญญาณว่าเราควรจะหยุดการกินแล้วก็

00:18:2200:18:24 ไม่ควรจะกินอะไรเข้าไปเพิ่มแล้วนะครับ

00:18:2400:18:26 เหลือพื้นที่ในท้องไว้บ้างก็จะเป็นความ

00:18:2600:18:29 อิ่มที่พอดีพอดีนั่นเองนะนะครับงั้นใส่่

00:18:2900:18:31 ใจที่ Emotion ก็จะช่วยได้เป็นการเตือน

00:18:3200:18:34 สติเรานั่นเองนะครับยังมีอีก 2 อย่างที่

00:18:3400:18:37 สามารถจะลดไขมันในตับได้นั่นก็คือการออก

00:18:3700:18:40 กำลังกายแล้วก็การทำ If นะครับผมเจอ

00:18:4000:18:43 clinical trials เยอะมากๆที่บอกว่า 2

00:18:4300:18:46 อย่างนี้เวิรคถามว่าทำไมมันถึงเวิร์คครับ

00:18:4600:18:48 ย้อนกลับไปที่ไขมันสะสมในตับได้ยังไงนะ

00:18:4900:18:51 ครับนอกจากตับจะสะสมไขมันได้แล้วตับยัง

00:18:5100:18:54 สามารถใช้ไขมันได้ด้วยซึ่งตับจะใช้ไขมัน

00:18:5400:18:59 ได้ใน 2 กรณีครับกรณีที่ 1 ก็คือว่าตับหา

00:18:5900:19:02 น้ำตาลไม่เจอก็คือน้ำำตาลอ่ะมันมีน้อยแน่

00:19:0200:19:04 นอนตับต้องสร้างพลังงานถ้าไม่มีน้ำตาลตับ

00:19:0500:19:07 ต้องดึงไขมันที่เก็บเอาไว้มาใช้นั่นเองนะ

00:19:0800:19:10 ครับถามว่าอะไรที่จะช่วยพาไปถึงจุดที่น้ำ

00:19:1000:19:13 ตาลหายไปล่ะก็คือ If นั่นเองถึงช่วยนะ

00:19:1300:19:15 ครับอย่างที่ 2 ครับคือตับยังทำหน้าที่ใน

00:19:1500:19:19 การส่งไขมันที่เก็บไว้ออกไปนอกร่างกายส่ง

00:19:1900:19:21 ไปยังเลือดหรือว่าส่งไปยังส่วนต่างๆ

00:19:2100:19:24 อวัยวะต่างๆที่ต้องใช้พลังงานนะครับเพราะ

00:19:2400:19:27 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราพาตัวเองไปออกกำลัง

00:19:2700:19:30 กายคือมีอวัยยวะหลายอย่างทำงานหนักมาก

00:19:3000:19:32 ยิ่งขึ้นต้องการพลังงานตับได้สัญญาณนั้น

00:19:3200:19:35 ปึ๊บตับเนี่ยก็จะแพ็คไขมันที่เก็บสะสมไว้

00:19:3600:19:38 อยู่ในรูปของ vldl ก็คือเป็นถุงไขมัน

00:19:3800:19:42 เนี่ยส่งออกไปในเลือดเพื่อส่งไปยังอวัยวะ

00:19:4200:19:45 ต่างๆถ้าเกิดว่าเราออกกำลังกายบ่อยๆตับก็

00:19:4500:19:48 สามารถจะปล่อยไขมันออกไปได้เยอะขึ้นไขมัน

00:19:4800:19:50 ในตับเนี่ยมันก็จะลดลงนั่นเองนั่นคือเหตุ

00:19:5000:19:54 ผลว่าทำไมการทำ If หรือว่าการออกกำลังกาย

00:19:5400:19:56 อย่างสม่ำเสมอเนี่ยก็สามารถจะช่วยลด

00:19:5600:19:59 ปริมาณไขมันที่พอกอยู่ในตับได้นะครับนอก

00:19:5900:20:02 จากนี้ครับเลี่ยงบุหรี่เลี่ยงแอลกอฮอล์

00:20:0200:20:04 เลี่ยงการได้รับสารพิษไม่ว่าจะมาจากอาหาร

00:20:0400:20:07 process Food หรือการกินยาที่มากเกินไป

00:20:0700:20:10 เกินความจำเป็นเนี่ยก็สามารถจะช่วยให้ตับ

00:20:1000:20:12 เนี่ยมันสุขภาพดีขึ้นแล้วก็ลดไขมันในตับ

00:20:1300:20:15 ได้ด้วยนะครับสุดท้ายครับคือการป้องกัน

00:20:1500:20:18 ไม่ให้ตับติดเชื้อก็คือไวรัสตับอักเสบ

00:20:1800:20:20 นั่นเองนะครับเพรางั้นใครที่ไม่เคยเช็ค

00:20:2000:20:22 ว่าตัวเองมีภูมิคุ้มกันหรือเปล่าไปเช็ค

00:20:2200:20:24 แล้วก็ฉีดวัคซีนนะครับถ้าตับไม่ติดเชื้อ

00:20:2400:20:27 เนี่ยครับตับก็จะมีสุขภาพดีแล้วก็สามารถ

00:20:2700:20:30 ที่จะ process ไขมันได้ดีมากยิ่งขึ้นแล้ว

00:20:3000:20:33 ก็โอกาสที่จะไขมันพอกตับก็จะลดน้อยลงนั่น

00:20:3300:20:35 เองครับเพราะฉะนั้นโดยสรุปนะครับจุดเริ่ม

00:20:3500:20:38 ต้นของสุขภาพตับที่ดีคือการป้องกันไม่ให้

00:20:3800:20:42 ไขมันเนี่ยมันพอกตับวิธีการที่ง่ายที่สุด

00:20:4200:20:44 ที่ผมบอกทุกคนและทุกคนทำได้คือการลดน้ำ

00:20:4400:20:48 หนักครับตั้งแต่ 5% ไปจนถึง 10% แต่ต้อง

00:20:4800:20:51 ค่อยๆลดนะครับเดือนนึงเนี่ยอย่าเกิน 1 กล

00:20:5100:20:53 นะครับจะเซฟมากนะครับเริ่มต้นตั้งแต่วัน

00:20:5300:20:56 นี้ได้เลยนะครับจนถึงสิ้นปีดูซิว่าอีก 5-6

00:20:5600:20:58 เดือนที่เหลือเนี่ยเราสามารถที่จะลดน้ำ

00:20:5800:21:00 หนักได้ได้กิโลยิ่งลดได้มากเท่าไหร่ไขมัน

00:21:0100:21:03 ที่จะพอกตับก็จะลดลงมากขึ้นเท่านั้นนะ

00:21:0300:21:05 ครับอีกหนึ่งอย่างที่อยากให้ทำคือไปลอง

00:21:0500:21:07 ชั่งน้ำหนักแล้วก็วัดเปอร์เซ็นต์ body

00:21:0700:21:10 fat หน่อยซิว่าตอนนี้เปอร์เซ็นต์ body

00:21:1000:21:12 fat เราเท่าไหร่ผู้ชายอยเกิน 20 ผู้หญิง

00:21:1200:21:16 อยเกิน 25 ถ้าเกิดว่าใครเกินอยู่ลองตั้ง

00:21:1600:21:18 เป้ากับตัวเองดูครับครึ่งหลังของปีลอง

00:21:1800:21:21 พยายามลดเปอร์เซ็นต์ body fat ในร่างกาย

00:21:2100:21:24 ลงรับรองว่าไขมันตับของคุณเนี่ยก็จะลด

00:21:2400:21:27 น้อยลงนะครับแล้วก็อย่าลืมทำ If แล้วก็

00:21:2700:21:30 ออกกำลังกายอย่างสสม่เสมอเพียงแค่ทำเท่า

00:21:3000:21:33 นี้นะครับรับรองว่าไขมันที่พอกตับอยู่

00:21:3300:21:37 เยอะๆเนี่ยมันจะค่อยๆหายไปหายไปแล้วตับ

00:21:3700:21:39 ของคุณเนี่ยก็จะกลับมามีสุขภาพดีแล้วก็ทำ

00:21:3900:21:42 งานเต็มที่ได้ใกล้เคียง 100% เหมือนเมื่อ

00:21:4200:21:44 ก่อนอย่างแน่

00:21:4400:21:49 นอน Top to Toe The Standard podcast

00:21:4900:21:53 Eye Opening for your ears