00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมเคยทำคลิปเรื่องเกี่ยวข้อง
00:00:03 → 00:00:06 กับไขมันพอกตับไปในปี 2022 นะครับแล้วตอน
00:00:06 → 00:00:09 นี้ครับมีความก้าวหน้าในทางการแพทย์คือ
00:00:09 → 00:00:12 มันมียาที่ใช้รักษาไขมันพอกตับโดยเฉพาะ
00:00:12 → 00:00:15 เลยนะครับเพิ่งจะได้รับการยอมรับจาก FDA
00:00:15 → 00:00:18 เมื่อปี 2024 ในเดือนมีนาคมนี่เองมีชื่อ
00:00:18 → 00:00:22 ว่ายา Resmetom นะครับวันนี้ผมก็เลยอยาก
00:00:22 → 00:00:24 จะหยิบยกเรื่องนี้มาอัปเดตให้ทุกคนฟังนะ
00:00:24 → 00:00:27 ครับว่ายานี้มันคืออะไรกันแน่มีการทำงาน
00:00:27 → 00:00:29 อย่างไรแล้วก็มีผลข้างเคียงอะไรมั้ยแล้ว
00:00:29 → 00:00:31 ใครจำเป็นเป็นจะต้องกินบ้างนะครับพบกับผม
00:00:31 → 00:00:33 นะครับนายแพทย์ธนีธนียวัณเป็นอาจารย์
00:00:33 → 00:00:35 แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญ
00:00:35 → 00:00:39 โรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:39 → 00:00:41 เรื่องของไขมันพอกตับนะครับถ้าเกิดใครจำ
00:00:41 → 00:00:44 ไม่ได้เนี่ยสามารถย้อนกลับไปฟังคลิปที่ผม
00:00:44 → 00:00:47 ทำไว้แล้วตั้งแต่ปี 2022 ได้นะครับแต่ผม
00:00:47 → 00:00:50 จะสกุคร่าวๆนะครับคือในภาษาทางการแพทย์
00:00:50 → 00:00:54 เนี่ยเราจะนับไขมันพอกตับที่เราจะพูดถึง
00:00:54 → 00:00:56 ในวันนี้คือกรณีที่ไม่ได้เกิดจากการกิน
00:00:56 → 00:00:59 เหล้านะครับมันจะมีชื่อเรียกว่า non
00:00:59 → 00:01:03 alcoholic statheitis นะครับหรือ nash
00:01:03 → 00:01:06 นั่นเอง non alcoholic ก็คือแปลว่าไม่
00:01:06 → 00:01:07 ได้เกิดจากเหล้านะครับไม่ได้เกิดจาก
00:01:07 → 00:01:11 แอลกอฮอล์สเตนี่ยแปลว่าไขมันเฮปติคือการ
00:01:11 → 00:01:14 เกิดตับมันอักเสบนะครับซึ่ง nas เนี่ย
00:01:14 → 00:01:16 เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนชื่อเป็นอีกชื่อนึง
00:01:16 → 00:01:18 แล้วนะครับก็คือ
00:01:18 → 00:01:22 m นะครับก็ใกล้เคียงกันมันย่อมาจากคำว่า
00:01:22 → 00:01:24 metabolic dysfunction associated
00:01:24 → 00:01:27 statohitis นะครับก็คือสรุปเป็นการที่ไข
00:01:27 → 00:01:30 มันเนี่ยมันไปพอกพอกตัดเหตุผลก็เพราะว่า
00:01:30 → 00:01:32 มีการเปลี่ยนแปลงของmetabบolิึมในร่างกาย
00:01:32 → 00:01:36 ที่มันผิดปกติไปนั่นเองนะครับโดยอาการของ
00:01:36 → 00:01:38 มันเนี่ยต้องบอกว่าไม่มีคุณจะไม่มีอาการ
00:01:38 → 00:01:42 อะไรเลยในระยะแรกนะครับจนกระทั่งโรคมัน
00:01:42 → 00:01:44 เป็นเยอะเนี่ยมันก็จะเกิดพังผืดขึ้นมาใน
00:01:44 → 00:01:47 ตับแล้วก็เกิดการอักเสบของตับซึ่งถ้าถึง
00:01:47 → 00:01:50 ขั้นนั้นเนี่ยบางคนก็อาจจะมีอาการจุกแน่น
00:01:51 → 00:01:53 บริเวณลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงข้างขวานะ
00:01:53 → 00:01:56 ครับบางคนก็เริ่มมีตัวเหลืองตาเหลืองขึ้น
00:01:56 → 00:01:58 มาบางคนไปตรวจร่างกายโดยทั่วไปแล้วก็เจาะ
00:01:58 → 00:02:01 เลือดเนี่ยจะเจอว่าเอนไซม์ค่าตับเนี่ยมัน
00:02:01 → 00:02:04 สูงได้นะครับนี่คือกรณีที่เริ่มมีปัญหา
00:02:04 → 00:02:08 แล้วนะครับและถ้าเราปล่อยมันต่อไปเนี่ย
00:02:08 → 00:02:11 ตัวพังผืดในตับมันจะเยอะขึ้นเรื่อยๆจน
00:02:11 → 00:02:14 กระทั่งเกิดภาวะตับแข็งถ้าถึงตอนนั้นแล้ว
00:02:14 → 00:02:17 ล่ะก็มันก็จะมีภาวะอย่างอื่นตามมาเยอะแยะ
00:02:17 → 00:02:20 ไปหมดเช่นท้องมารนะครับมีน้ำอยู่ในท้อง
00:02:20 → 00:02:23 เยอะนะครับมีฤทธิ์สีดวงเพิ่มขึ้นมาได้มี
00:02:23 → 00:02:28 หลอดเลือดในกระเพาะอาหารกับตัวอ่าหลอด
00:02:28 → 00:02:30 อาหารของเราเนี่ยมันโป่งพองนะครับแล้วก็
00:02:30 → 00:02:33 เลือดออกได้มีภาวะเลือดออกง่ายมีภาวะทุก
00:02:33 → 00:02:36 โภชนาการการดูดซึมอาหารก็ผิดปกติไปนะครับ
00:02:36 → 00:02:39 ถ้ามันเป็นมากๆก็จะมีผลต่อไตมีผลต่อสมอง
00:02:39 → 00:02:41 อะไรได้เยอะแยะไปหมดนะครับดังนั้นเนี่ย
00:02:41 → 00:02:44 เรามีความจำเป็นจะต้องเจอมันตั้งแต่แรก
00:02:44 → 00:02:48 แล้วก็รีบดูแลรักษานะครับใครบ้างที่
00:02:48 → 00:02:52 เสี่ยงต่อการเกิดไขมันพอกตับนะครับถ้าเรา
00:02:52 → 00:02:55 ดูจากตัวชื่อ MASH เมื่อตะกี้คือ
00:02:55 → 00:02:58 Metabolic Dysfunction มันแปลว่าคุณมี
00:02:58 → 00:03:01 โรคอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะ
00:03:01 → 00:03:05 metabบolิึมผิดปกติเช่นอ้วนนะครับไขมันใน
00:03:05 → 00:03:07 ร่างกายสูงไม่ว่าจะเป็นไขมัน LDL
00:03:07 → 00:03:10 คอเลสเตอรอลหรือจะเป็นไตรติไรด์ก็ตามนะ
00:03:10 → 00:03:14 ครับคุณมีภาวะไทรรอยด์ต่ำคุณมีภาวะเบา
00:03:14 → 00:03:18 หวานอ่านะครับพวกเนี้ยจะทำให้คุณมีความ
00:03:18 → 00:03:22 เสี่ยงต่อการเกิดไขมันพอกตับได้นะครับดัง
00:03:22 → 00:03:26 นั้นแล้วนะครับทีเนี้ยเราก็ต้องมารู้ว่า
00:03:26 → 00:03:29 เราจะทำยังไงกับมันได้บ้างในคลิปเรื่อง
00:03:29 → 00:03:31 เกี่ยวข้องกับไขมันพอกตับผมเคยอธิบายไป
00:03:31 → 00:03:34 แล้วว่าส่วนใหญ่วิธีการรักษาเนี่ยคือการ
00:03:34 → 00:03:38 ลดน้ำหนักนะครับรักษาโรคร่วมเช่นถ้าเรามี
00:03:38 → 00:03:40 ความดันสูงมีเบาหวานมีไขมันสูงก็ต้องรีบ
00:03:40 → 00:03:43 รักษาแล้วถ้าเกิดรักษาดีๆปรับเปลี่ยนการ
00:03:43 → 00:03:45 ใช้ชีวิตกินอาหารที่ดีนะครับลด
00:03:46 → 00:03:49 คาร์โบไฮเดรตลงบางทีเนี่ยมันก็จะดีขึ้น
00:03:49 → 00:03:51 ได้โดยที่คุณไม่ต้องไปทำอะไรการออกกำลัง
00:03:51 → 00:03:55 กายแบบคาร์ดิโอวันละ 30 นาที 5 ครั้งต่อ
00:03:55 → 00:03:58 สัปดาห์เนี่ยก็จะสามารถช่วยภาวะนี้ได้นะ
00:03:58 → 00:04:02 ครับนี่คือสิ่งที่โดยทั่วไปเทำกันเรื่อง
00:04:02 → 00:04:05 ของการใช้ยาทบทวนคร่าวๆนะครับก็ส่วนใหญ่
00:04:05 → 00:04:08 จะเป็นการใช้ยาลดไขมันนะครับเช่นถ้าเรามี
00:04:08 → 00:04:10 LDL สูงแล้วก็กินยากลุ่มสตินนะครับถ้า
00:04:10 → 00:04:14 เรามีไตรเซลสูงมากแล้วเอาสแตินใช้แล้วมัน
00:04:14 → 00:04:16 ไม่ลงก็อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นกลุ่มอื่น
00:04:16 → 00:04:19 เช่นฟีโนไฟรตหรือเจมFบrซิพวกนี้เป็นต้นนะ
00:04:19 → 00:04:22 ครับก็ช่วยเราได้ถ้าเรามีน้ำหนักเยอะเกิน
00:04:22 → 00:04:24 นะครับเดี๋ยวนี้เราก็มีเรื่องของอ่าปากกา
00:04:24 → 00:04:27 ที่ใช้ลดน้ำหนักนะครับเป็นยาในกลุ่ม GLP1
00:04:27 → 00:04:31 Aconis นะครับเช่นglู lilla glูอย่างนี้
00:04:31 → 00:04:34 เป็นต้นนะครับหรือว่าเซปาไทเป็นต้นนี้
00:04:34 → 00:04:36 ประเทศไทยก็มียาพวกนี้แล้วสามารถชดช่วยลด
00:04:36 → 00:04:40 อ่าให้เราน้ำหนักเนี่ยมันลดลงมาแล้วก็สุด
00:04:40 → 00:04:42 ท้ายเนี่ยทำให้ไขมันพอกต่ำมันดีขึ้นได้นะ
00:04:42 → 00:04:47 ครับในบางกรณีอาจจะมีหมอบางท่านจ่ายยา
00:04:47 → 00:04:50 กลุ่มเบาหวานเช่นไโอกลิตาโซนนะครับหรือ
00:04:50 → 00:04:53 อาจจะให้วิตามินอีระยะสั้นๆนะครับมีคนสอบ
00:04:53 → 00:04:55 ถามเรื่องวิตามินอีนะครับมันไม่ต้องกินไป
00:04:55 → 00:04:58 ตลอดถ้ากินตลอดเนี่ยจะมีปัญหาส่วนใหญ่เรา
00:04:58 → 00:05:00 จะให้แค่ประมาณ 2 เดือนเท่านั้นแล้วก็มา
00:05:00 → 00:05:03 ดูซิว่ามันเป็นยังไงบ้างนะครับนี่คือกรณี
00:05:03 → 00:05:06 การใช้ยาในสมัยก่อนที่เรามีร่วมกับการออก
00:05:06 → 00:05:10 กำลังกายการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตแต่มัน
00:05:10 → 00:05:12 ก็ไม่ได้แปลว่าทำให้เรื่องของไขมันพอกตัก
00:05:12 → 00:05:17 มันหายไปได้ 100% นะครับเขาก็เลยมีการคิด
00:05:17 → 00:05:19 ค้นยาขึ้นมาตัวนึงชื่อ
00:05:19 → 00:05:24 ว่าทีนี้ไอเดียการคิดค้นยาตัวนี้มันมาจาก
00:05:24 → 00:05:27 มันมาจากเรื่องของไทรอยด์ครับเพราะว่า
00:05:27 → 00:05:31 เค้าสังเกตว่าคนที่มีการทำงานของฮอร์โมน
00:05:31 → 00:05:34 ไทรอยด์ที่ดีนะครับหรือบางคนเกิดไทรอยด์
00:05:34 → 00:05:36 เป็นพิษเนี่ยทำไมร่างกายมีการสลายไขมัน
00:05:36 → 00:05:39 แล้วตัวผอมลงนะครับเเลยคิดว่าฮอร์โมน
00:05:39 → 00:05:41 ไทรอยด์เนี่ยน่าจะเอามาช่วยในเรื่องนี้
00:05:41 → 00:05:45 ได้แต่มันก็จะติดปัญหาอยู่ข้อนึงก็คือใน
00:05:45 → 00:05:48 คนที่สมัยก่อนไปใช้วิธีการลดความอ้วนที่
00:05:48 → 00:05:51 ผิดๆเนี่ยโดยการกินฮอร์โมนไทรรอยด์จริงๆ
00:05:51 → 00:05:54 ไม่ได้ในอดีตนะเดี๋ยวนี้ก็ยังมีคนใน
00:05:54 → 00:05:57 TikTok เนี่ยบางคนโฆษณาให้ใช้ยาไทรรอยด์
00:05:57 → 00:05:59 ซึ่งอันตรายนะครับในการลดความ
00:05:59 → 00:06:02 อ้วนตรงเนี้ยมันติดปัญหาที่ว่าถ้าคุณกิน
00:06:02 → 00:06:04 ยาไทรอยด์แล้วมันเยอะเกินไปสิ่งที่เกิด
00:06:04 → 00:06:07 ขึ้นก็อาจจะเกิดหัวใจเต้นผิดปกตินะครับ
00:06:07 → 00:06:09 อาจจะมีปัญหาเรื่องของความดันเรื่องของ
00:06:09 → 00:06:12 อารมณ์แปรปรวนต่างๆซึ่งมันเป็นผลข้างที่
00:06:12 → 00:06:14 เราไม่ต้องการและถ้ามันเป็นนานๆเนี่ยบาง
00:06:14 → 00:06:17 คนก็มีปัญหาเรื่องของกระดูกพรุนซะอีกเ้า
00:06:17 → 00:06:20 เลยลองคิดดูซิว่ามันมีวิธีอะไรมที่จะทำ
00:06:20 → 00:06:24 ให้เราใช้ยาสักอย่างเนี่ยเนี่ยไปกระตุ้น
00:06:24 → 00:06:27 เรื่องของตับได้อย่างเดียวในการให้มันเผา
00:06:27 → 00:06:30 ผลานไขมันก็ปรากฏว่าเขา้าไปค้นพบสิ่งนึง
00:06:30 → 00:06:34 ซึ่งเรียกว่าไทรรอยด์HฮอโมนReceptตorครับ
00:06:34 → 00:06:36 ไทรรอยด์HฮอโมนReceptตอเนี่ยมันเป็นตัว
00:06:36 → 00:06:40 รับฮอร์โมนไทรรอยด์ซึ่งมันมีหลักๆอยู่ 2
00:06:40 → 00:06:43 ชนิดไทรรอยด์receptตอรนะครับไทroอย Horm
00:06:43 → 00:06:45 receptor alpha ซึ่งจะอยู่ที่หัวใจกับ
00:06:46 → 00:06:48 กระดูกเป็นส่วนใหญ่แล้วก็บริเวณอื่นๆแต่
00:06:48 → 00:06:51 ที่ตับเนี่ยมันมีความแตกต่างครับคือมี
00:06:51 → 00:06:55 ไทรรอยด์ฮอร์โมนResรีซปตอรbบ้าอ่าพอมาถึง
00:06:55 → 00:06:58 ตรงนี้เราเริ่มรู้แล้วว่าถ้าเราสามารถหา
00:06:58 → 00:07:01 อะไรสักอย่างที่ไปกระตุ้นไทroรอยด์Hฮอโมน
00:07:01 → 00:07:05 Receptor bบต้าได้มันก็จะตรงเฉพาะกับตับ
00:07:05 → 00:07:08 เลยทีเดียวสามารถทำให้ตับเนี่ยมันเกิดการ
00:07:08 → 00:07:13 สลายไขมันที่มาพอกมันได้ก็เลยเป็นที่มา
00:07:13 → 00:07:16 ของการคิดค้นยาชื่อว่า resmet ขึ้นมาครับ
00:07:16 → 00:07:20 ยาตัวนี้เนี่ยเป็นยาที่ไปกระตุ้นไทรรอยด์
00:07:20 → 00:07:23 Hormone receptor bบ้าที่ต่ำโดยตรงนะ
00:07:23 → 00:07:25 ครับในภาษาทางการแพทย์เราจะเรียกว่าเป็น
00:07:25 → 00:07:27 partial agonist นะครับคือมันกระตุ้น
00:07:27 → 00:07:29 บ้างแต่ไม่ได้เต็ม
00:07:29 → 00:07:32 ที่การที่มันไปกระตุ้นปุ๊บเนี่ยสิ่งที่
00:07:32 → 00:07:34 เกิดขึ้นตามมานะครับคือตับมันจะเริ่มเกิด
00:07:34 → 00:07:37 การเผาผ่านไขมันนะครับในไมโตคอนเดรียนะ
00:07:37 → 00:07:39 ครับคือเกิดสิ่งที่เรียกว่าเบต้า
00:07:39 → 00:07:42 ออกซidationก็จะจัดการกับไขมันไตรคิเซล
00:07:42 → 00:07:45 ที่มันพอกอยู่ที่สับนี่แหละทำให้มันหายไป
00:07:45 → 00:07:48 แล้วปรากฏว่าในการทดลองของเค้านะครับเฟส
00:07:48 → 00:07:54 แรกเนี่ยเค้าให้คนกินแล้วเจอว่า 25% ของ
00:07:54 → 00:07:58 คนที่กินเนี่ยพอครบปีนึงนะครับอาการที่
00:07:58 → 00:08:02 ตับมันเกิดไขมันพอกเนี่ยมันดีขึ้นอย่าง
00:08:02 → 00:08:05 ชัดเจนเลยนะครับนี่หมายความว่าเค้าทำวิธี
00:08:05 → 00:08:06 อื่นๆร่วมไปด้วยนะครับก็คือการปรับ
00:08:06 → 00:08:09 เปลี่ยนการใช้ชีวิตแล้วก็การออกกำลังกาย
00:08:09 → 00:08:11 ด้วยนะครับคือรวมๆแล้วมันดีขึ้นแบบชัดเจน
00:08:11 → 00:08:13 เมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอกหรือ
00:08:13 → 00:08:16 plasิบนั่นเองนะครับแล้วตอนนี้เขาก็ยัง
00:08:16 → 00:08:18 เก็บข้อมูลต่อว่าจะต้องทำยังไงเพิ่มเติม
00:08:18 → 00:08:20 อีกมั้ในอนาคตมันจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
00:08:20 → 00:08:21 นะฮะ
00:08:21 → 00:08:25 ทีนี้พอเรารู้แล้วว่ายาตัวเนี้ยมันได้ผล
00:08:25 → 00:08:29 ทาง FDA เนี่ยเค้าก็ดูแล้วว่าเอออนุมัติ
00:08:29 → 00:08:33 ให้ใช้ได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2024 นะ
00:08:33 → 00:08:35 ครับจนตอนเนี้ยก็มีออกมาให้ใช้แล้วแต่มัน
00:08:35 → 00:08:38 ยังราคาแพงอยู่นะครับดังนั้นอาจจะต้องรอ
00:08:38 → 00:08:40 ดูนิดนึงว่าต่อไปมันจะเปลี่ยนแปลงเรื่อง
00:08:40 → 00:08:44 ของราคายังไงบ้างนะครับยาตัวนี้เนี่ยถ้า
00:08:44 → 00:08:48 อยากรู้เดี๋ยวจะลงรายละเอียดให้นะครับคือ
00:08:48 → 00:08:51 มันเป็นยาที่กินวันละครั้งนะครับกินวันละ
00:08:51 → 00:08:53 ครั้งอย่างต่อเนื่องเรายังไม่มีกำหนดว่า
00:08:53 → 00:08:55 มันจะต้องกินไปนานเท่าไหร่นะครับแต่จะ
00:08:55 → 00:08:58 ต้องมีการตรวจติดตามอยู่เรื่อยๆนะครับคน
00:08:58 → 00:09:02 ที่จะกินเนี่ยไม่ใช่แค่คนที่ต้องมีไขมัน
00:09:02 → 00:09:05 พอกตับอย่างเดียวนะครับแต่จะต้องมีปัญหา
00:09:05 → 00:09:08 ของการที่เริ่มเกิดพังผืดขึ้นมาในตับแล้ว
00:09:08 → 00:09:11 โดยคนที่อยู่ในการทดลองเนี่ยเค้ามีการ
00:09:11 → 00:09:14 ตรวจสแกนตับนะครับแล้วก็ตัดชิ้นเนื้อตับ
00:09:14 → 00:09:18 มาตรวจดูซิว่ามันมีพังผืดเกิดขึ้นหรือยัง
00:09:18 → 00:09:20 นะครับโดยพังผืดเนี่ยจะแบ่งเป็นความ
00:09:20 → 00:09:23 รุนแรงนะครับ 1 2 3 4 0 นี่คือไม่มี
00:09:23 → 00:09:26 พังผืด 1 นี่คือรุนแรงน้อย 4 นี่คือ
00:09:26 → 00:09:29 รุนแรงมากคุณจะต้องอยู่ในระยะ 2-3 เท่า
00:09:29 → 00:09:34 นั้นนะครับ 2-3 เท่านั้นถึงจะสามารถใช้ยา
00:09:34 → 00:09:39 ตัวนี้ได้และจะต้องไม่มีภาวะตับแข็งเพราะ
00:09:39 → 00:09:41 ว่าถ้าตับแข็งไปแล้วเนี่ยการกินยาตัวนี้
00:09:41 → 00:09:44 เข้าไปอาจจะทำให้เกิดตับอักเสบรุนแรงจน
00:09:44 → 00:09:47 ถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้นะครับงั้นก็จะ
00:09:47 → 00:09:51 ห้ามในกรณีนั้นแล้วก็จะไม่นับในกรณีที่มี
00:09:51 → 00:09:54 ไขมันพอกตับจากการดื่มเหล้าด้วยอันนี้ก็
00:09:54 → 00:09:57 ไม่ใช้นะครับจะต้องเป็นภาวะไขมันพอกตับ
00:09:57 → 00:10:00 ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับการดื่มเหล้านะครับ
00:10:00 → 00:10:01 แล้วก็ไม่มีเหตุผลอย่างอื่นเช่นไม่มี
00:10:01 → 00:10:04 ไวรัสตับอักเสบอะไรพวกนี้นะครับแล้วก็จะ
00:10:04 → 00:10:08 ต้องมีการเจาะเอาชินและตับมาตรวจเจอว่ามี
00:10:08 → 00:10:11 พังผืดระยะที่ 2 หรือ 3 เท่านั้นถึงจะ
00:10:11 → 00:10:15 เข้าสู่กระบวนการใช้ยาตัวนี้นะครับยาตัว
00:10:15 → 00:10:18 นี้มีผลข้างเคียงอะไรมั้ยมีครับผลข้าง
00:10:18 → 00:10:20 เคียงที่เจอเจอบ่อยๆเนี่ยคืออาการทางด้าน
00:10:20 → 00:10:22 ของทางเดินอาหารเช่นอาการคลื่นไส้อาเจียน
00:10:22 → 00:10:24 ท้องเสียปวดท้องอันเนี้ยเจอได้บ่อยที่สุด
00:10:24 → 00:10:28 นะครับแต่ผลข้างเคียงที่รุนแรงมีได้ครับ
00:10:28 → 00:10:31 ข้อแรกก็คือเกิดการตับอักเสบรุนแรงขึ้นมา
00:10:31 → 00:10:34 นะครับอันเนี้เจอได้ตับอักเสบรุนแรงเนี่ย
00:10:34 → 00:10:36 ก็จะมีอาการปวดท้องคลื่นแ่อาเจียนนะครับ
00:10:36 → 00:10:40 แล้วก็บางคนมีไข้มีอาการจุกตรงท้องบางคน
00:10:40 → 00:10:42 มีอาการตัวเหลืองตาเหลืองขึ้นมานะครับ
00:10:42 → 00:10:45 อันเนี้ยก็เลยเป็นสิ่งที่เขาจำเป็นจะต้อง
00:10:45 → 00:10:47 มีการตรวจติดตามค่าการทำงานของตับในช่วง
00:10:47 → 00:10:50 เดือนแรกแรกของการรับประทานยาตัวนี้นะ
00:10:50 → 00:10:53 ครับอันที่ 2 ที่เกิดขึ้นได้ก็คือเรื่อง
00:10:53 → 00:10:56 ของนิ่วในถุงน้ำดีนะครับนิ่วในถุงน้ำดี
00:10:56 → 00:10:58 เนี่ยก็เจอได้แล้วก็บางคนเนี่ยนิ่้วมัน
00:10:59 → 00:11:04 หลุดออกมาแล้วไปอุดตันในท่อนำเอนไซม์ของ
00:11:04 → 00:11:06 ตับอ่อนทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบด้วยนะครับ
00:11:06 → 00:11:08 งั้นตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาต้องตัวติดตาม
00:11:09 → 00:11:12 นะครับแล้วก็เป็นคำเตือนในเรื่องของการ
00:11:12 → 00:11:13 จัดยาตัวนี้เลยนะ
00:11:13 → 00:11:16 ครับทีนี้พอเรารู้แล้วว่ายาตัวเนี้ยกิน
00:11:16 → 00:11:19 วันละครั้งนะนะครับอ่ามีผลข้างเคียงยังไง
00:11:19 → 00:11:22 บ้างสิ่งที่เราต้องรู้ต่อไปก็คือมันมีผล
00:11:22 → 00:11:25 กับยาตัวอื่นด้วยแล้วเราต้องระวังหนึ่งใน
00:11:25 → 00:11:29 ยาที่จะมีผลมากๆก็คือยากลุ่มสตินซึ่งคน
00:11:29 → 00:11:32 ที่มีไขมันพอกตับหลายคนเนี่ยมักจะได้สติน
00:11:32 → 00:11:35 นะครับแต่ถ้าเกิดคุณกินยาเรสมทิอมคู่กับ
00:11:35 → 00:11:38 สตินเนี่ยคุณจะต้องลดยาสตินอย่างน้อยก็
00:11:38 → 00:11:41 ครึ่งนึงเพราะมิฉะนั้นเนี่ยอาจจะเกิดภาวะ
00:11:41 → 00:11:43 เป็นพิษของสแตินขึ้นมาได้ก็คืออาจจะทำให้
00:11:43 → 00:11:46 เกิดตับอักเสบอาจจะทำให้เกิดกล้ามเนื้อ
00:11:46 → 00:11:48 สลายอาจจะทำให้ปวดกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น
00:11:48 → 00:11:51 ก็ได้ดังนั้นก่อนจะกินต้องมีการเปลี่ยน
00:11:51 → 00:11:56 โดสยาสตาตินก่อนถ้าใครกินยาต้านเกล็ด
00:11:56 → 00:11:58 เลือดชื่อว่าโพิโดเกรลตรงนี้ก็จำเป็นจะ
00:11:58 → 00:12:01 ต้องปรึกษาคุณหมอเค้านะครับเพราะว่ามัน
00:12:01 → 00:12:03 ไม่สามารถกินร่วมกันได้อาจจะทำให้มีปัญหา
00:12:03 → 00:12:06 ขึ้นมาได้นะครับคนที่กินยากดภูมิต้านทาน
00:12:06 → 00:12:10 ไซโคสปอินห้ามกินเรสมเด็ดขาดมันจะมีปัญหา
00:12:10 → 00:12:12 เยอะเลยทีเดียวนะครับ 3 อย่างเนี้ยเป็น
00:12:12 → 00:12:15 ตัวที่มักจะมีปัญหาเอ่ออีกตัวนึงที่ห้าม
00:12:15 → 00:12:18 กินคู่กับเรสมคือยาลดไขมันไตรเซลตัวนึง
00:12:18 → 00:12:20 ชื่อว่าเจมไฟซิตัวนี้ห้ามกินนะครับไม่
00:12:20 → 00:12:22 งั้นจะมีปัญหาเยอะนะครับก่อนที่เราจะได้
00:12:22 → 00:12:25 ยาเนี่ยเราต้องแน่ใจก่อนว่าเฮ้ยเราไม่มี
00:12:25 → 00:12:28 ปัญหาอะไรนะครับแล้วก็เอ่อมันจะต้องใช้
00:12:28 → 00:12:31 การตรวจติดตามอะไรยังไงบ้างนะครับตรงนี้
00:12:32 → 00:12:35 เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับยาทomทั้งหมดที่
00:12:35 → 00:12:38 ผมคิดว่ามันน่าสนใจนะครับและตรงนี้นะครับ
00:12:38 → 00:12:41 ผมคิดว่าสิ่งที่มันมีความชัดเจนอย่างนึง
00:12:41 → 00:12:45 ก็คือยาตัวเนี้ยเค้าบอกเลยคุณจะสังเกตว่า
00:12:45 → 00:12:48 ยาในแผนปัจจุบันบมีความแตกต่างกับสมุนไพร
00:12:48 → 00:12:51 ต่างๆยังไงบ้างแตกต่างกันนี้บอกว่ามีโดส
00:12:51 → 00:12:55 ชัดเจนนะครับมีตัวยาสำคัญชัดเจนมีการบอก
00:12:55 → 00:12:59 ชัดเจนว่าใครที่ห้ามกินนะครับผลข้างเคียง
00:12:59 → 00:13:02 เป็นยังไงบอกไว้หมดเลยนะครับอ้อยาตัวนี้
00:13:02 → 00:13:05 ยังไม่สามารถให้ใช้ในในเด็กได้นะครับแล้ว
00:13:06 → 00:13:08 ก็ในคนท้องเนี่ยก็ไม่ได้เหมือนกันเพราะ
00:13:08 → 00:13:10 ว่าเขาไม่รู้ว่าจะมีผลอะไรกับคนท้องหรือ
00:13:10 → 00:13:12 เปล่าในแม่ให้นมลูกเนี่ยก็ยังไม่แนะนำที่
00:13:12 → 00:13:16 จะให้นะครับยังให้ได้เฉพาะคนที่เอ่อไม่
00:13:16 → 00:13:17 ใช่เด็กเท่านั้นเองนะครับเกิน 18 ขึ้นไป
00:13:18 → 00:13:20 ถึงจะสึถือว่าให้ได้แล้วก็ต้องมีการตรวจ
00:13:20 → 00:13:23 ติดตามชัดเจนว่าคุณเป็นโรคนี้แน่ๆโดยที่
00:13:23 → 00:13:26 ไม่ใช่โรคอื่นมีการดูว่าคุณมีพังผืดในตับ
00:13:26 → 00:13:29 จริงๆนะครับแล้วก็ไม่มีโรคร่วมอื่นๆที่
00:13:29 → 00:13:31 มันห้ามใช้ยายาตัวอื่นๆถ้าจะกินอยู่ก็จะ
00:13:31 → 00:13:34 ต้องมีการปรับขนาดโดสยาให้ยาไปแล้วก็ต้อง
00:13:34 → 00:13:37 มีการตรวจติดตามภาวะข้างเคียงต่างๆนะครับ
00:13:37 → 00:13:39 เช่นดูค่าการทำงานของตับถ้าเกิดว่ามันผิด
00:13:39 → 00:13:42 ปกติไปมากเลยหลังจากกินยาก็ต้องหยุดยานะ
00:13:42 → 00:13:45 ครับถ้าเกิดว่าไม่ไม่มีปัญหาอะไรก็กินต่อ
00:13:45 → 00:13:47 เนื่องได้ยาวยาวเราก็จะต้องไปตรวจติดตาม
00:13:47 → 00:13:50 ทีนี้ถามว่าตรวจติดตามเนี่ยเราตรวจอะไร
00:13:50 → 00:13:53 เพราะว่าถ้าเข้าการศึกษาเนี่ยเ้าจะต้อง
00:13:53 → 00:13:55 ตรวจด้วยการตัดชิ้นเนื้อต่ำนะครับตัดชี้
00:13:55 → 00:13:57 เนื้อต่ำเนี่ยต้องบอกว่าไม่มีใครเอยากทำ
00:13:57 → 00:14:00 มันเจ็บตัวนะครับอ้ออีกอย่างนึงเค้าตัด
00:14:00 → 00:14:02 กันยังไงดีกว่านะครับเดี๋ยวเนี้ยเวลาการ
00:14:02 → 00:14:05 ตัดชิ้นเนื้อตับนะครับเราจะตัดผ่านทาง
00:14:05 → 00:14:09 เส้นเลือดโดยเราจะเจาะเส้นเลือดตรงคอตรงเ
00:14:09 → 00:14:11 มันเป็นเส้นเลือดดำเส้นนึงนะครับแล้วก็
00:14:11 → 00:14:13 เข้าไปในเส้นเลือดวิ่งเข้าไปที่ตับแล้วก็
00:14:13 → 00:14:15 เอาเข็มนึงแทงเข้าไปดูเนื้อตับแล้วตัดออก
00:14:15 → 00:14:17 มานะนะครับอันเนี้ยจะปลอดภัยค่อนข้างที่
00:14:17 → 00:14:19 จะมากส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงอะไร
00:14:19 → 00:14:23 ยกเว้นบางคนอาจจะมีผลข้างเคียงก็คืออ่า
00:14:23 → 00:14:26 อาจจะทำให้มีเลือดออกมาในตัวน้ำดีได้นะ
00:14:26 → 00:14:28 ครับอันเนี้ก็เจอได้บางคนก็แล้วถ้ามัน
00:14:28 → 00:14:30 เป็นรุนแรงก็อาจจะเลือดออกเยอะได้แล้วก็
00:14:30 → 00:14:34 ต้องทำการรักษาแต่ในสมัยก่อนเนี่ยวิธีการ
00:14:34 → 00:14:35 ตัดชิ้นเนื้อตับเข้ามาเนี่ยเ้าเจาะเข้าไป
00:14:35 → 00:14:38 ทงหน้าท้องนะครับซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อย
00:14:38 → 00:14:40 ทำกันแล้วเพราะว่ามันมีปัญหาเยอะกว่าเรา
00:14:40 → 00:14:43 ทำวิธีนี้ค่อนข้างปลอดภัยนะครับแต่ต่อให้
00:14:43 → 00:14:46 มันปลอดภัยยังไงก็ไม่มีใครอย่าโดนตัดชิ้น
00:14:46 → 00:14:48 เนื้อตับด้วยไม่จำเป็นใช่มั้ยครับดังนั้น
00:14:48 → 00:14:52 วิธีในการประเมินว่าไขมันพอกตับมันดีขึ้น
00:14:52 → 00:14:55 หรือเปล่าไม่ใช่แค่การดูการเจาะเลือดนะ
00:14:55 → 00:14:59 ครับแต่เขาจะดูได้ 2 วิธีแรกคือการใช้
00:14:59 → 00:15:01 ultตraซoundชนิดหนึ่งนะครับเราเรียกว่า
00:15:01 → 00:15:04 fibrแกanตัวนี้สามารถบอกได้เราก็ทำตั้ง
00:15:04 → 00:15:06 แต่ก่อนให้ยากับหลังให้ยาดูซิมันเป็นยัง
00:15:06 → 00:15:09 ไงนะครับแบบที่ 2 คือทำ MRI ชนิดพิเศษ
00:15:09 → 00:15:11 เพื่อที่จะดูว่าไขมันพอกตับมันดีขึ้นหรือ
00:15:11 → 00:15:13 อย่างตรงเนี้ยสามารถคำนวณได้ว่ามันมีไข
00:15:13 → 00:15:15 มันพอกตับเป็นยังไงบ้างหลังจากการใช้ยา
00:15:15 → 00:15:18 แต่ก็ต้องทำก่อนและหลังการใช้ยาเพื่อที่
00:15:18 → 00:15:21 จะดูว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่านะ
00:15:21 → 00:15:23 ครับและถ้าเราทำวิธีหนึ่งเราก็ต้องใช้
00:15:23 → 00:15:25 วิธีเดิมในการประเมินเช่นถ้าเราทำ MRI
00:15:25 → 00:15:27 เราก็ต้อง MRI ตลอดถ้าเราทำ Ultra Sound
00:15:27 → 00:15:29 เราก็ ultra soundาตลอดเราจะไม่สามารถบอก
00:15:29 → 00:15:31 เอา Ultra Sound มาเปรียบที่ใคร MRI ได้
00:15:31 → 00:15:34 เพราะมันคนละวิธีกันนะครับอภาษาอังกฤษเรา
00:15:34 → 00:15:36 เรียกว่า Compare Apple to Apple นะ
00:15:36 → 00:15:38 ครับคือเอา Apple 2 ลูกถ้าเราจะเทียบกัน
00:15:38 → 00:15:40 ก็ต้องเอาของที่มันเหมือนกันมาเทียบกัน
00:15:40 → 00:15:42 ไม่ใช่ Apple เทียบกับกล้วยอย่างเงี้ยมัน
00:15:42 → 00:15:44 คนละอย่างกันมันเทียบกันไม่ได้นะครับอ่ะ
00:15:45 → 00:15:47 นี่ก็คือสิ่งที่อยากจะเอามาอัปเดตให้ทุก
00:15:47 → 00:15:52 คนฟังนะครับแล้วก็มันเป็นสิ่งนึงซึ่งอ่า
00:15:52 → 00:15:55 สอนให้เราคิดเลยว่าเวลาที่เราเจอโรคใหม่ๆ
00:15:55 → 00:15:58 อะไรอย่างเงี้ยวิธีในการแก้ไขโรคเนี่ยมัน
00:15:58 → 00:16:00 มาได้ยังไงอย่างกรณีเนี้ยน่าสนุกมากเลยนะ
00:16:00 → 00:16:02 ครับเ้าไปคิดถึงเรื่องของการทำงานของ
00:16:02 → 00:16:05 ไทรอยด์ซึ่งเรารู้ว่ามันสามารถกระตุ้นให้
00:16:05 → 00:16:08 ไมโตคอนเดรียน่ะทำลายพวกไขมันทิ้งได้นะ
00:16:08 → 00:16:10 ครับเกิดภาวะไโปไลิสisได้เกิดเบต้า
00:16:10 → 00:16:13 ออกซิเดชได้นะครับเขาก็เลยอยากจะเอายาเอา
00:16:13 → 00:16:15 ตัวนี้มาทดลองใช้แต่ว่าก็กลัวว่าจะมีผล
00:16:16 → 00:16:17 ข้างเคียงต่อระบบต่างๆของร่างกายโดยเฉพาะ
00:16:18 → 00:16:21 หัวใจกับกระดูกนะครับหรือสมองหรืออะไรก็
00:16:21 → 00:16:23 แล้วแต่เเลยบอกว่าเฮ้ยถ้ายางงั้นพัฒนายา
00:16:23 → 00:16:25 ให้มันเฉพาะเจาะจงกับที่ไหนหรือเปล่าอัน
00:16:25 → 00:16:28 นี้ก็ต้องใช้ความรู้ทางด้านของพื้นฐานทาง
00:16:28 → 00:16:31 วิทยาศาสตร์เพื่อที่จะคิดค้นเรื่องของยา
00:16:31 → 00:16:34 พวกนี้ขึ้นมานะครับโอเควันนี้ผมก็มา
00:16:34 → 00:16:36 อัปเดตให้ทุกคนฟังเพียงเท่านี้นะครับต้อง
00:16:36 → 00:16:38 บอกว่ายาตัวนี้เนี่ยราคามันยังค่อนข้าง
00:16:38 → 00:16:40 ที่จะสูงอยู่นะครับในประเทศไทยคิดว่าน่า
00:16:40 → 00:16:43 จะมีแล้วแหละแต่ว่าอาจจะไม่สามารถเข้าถึง
00:16:43 → 00:16:46 ได้ทุกคนถ้าใครยังเข้าถึงไม่ได้นะครับ
00:16:46 → 00:16:48 วิธีในการดูแลตัวเองถ้าเกิดว่าเริ่มมีไข
00:16:48 → 00:16:51 มันพอกตับจากการไปตรวจร่างกายตรวจประจำปี
00:16:51 → 00:16:53 มาแล้วเนี่ยสิ่งที่คุณต้องทำนะครับออก
00:16:53 → 00:16:57 กำลังกายคแบบคาร์ดิโอสม่ำเสมอนะครับ 30
00:16:57 → 00:17:02 นาทีต่อวัน 5 ครั้งต่อสัปดาห์นะครับอาหาร
00:17:02 → 00:17:06 พยายามลดคาร์โบไฮเดรตลงพวกขนมอะไรเงี้ย
00:17:06 → 00:17:10 น้ำตาลน้ำอัดลมงดไว้ก่อนน้ำอัดลมที่แบบ 0%
00:17:10 → 00:17:13 ของน้ำตาลเนี่ยอ่าพอจะทานได้บ้างนะครับ
00:17:13 → 00:17:15 แต่ว่าระยะยาวมันก็ไม่ดีเพราะว่ามันไปทำ
00:17:15 → 00:17:18 ให้จุลินทรีย์ตัวดีในลำไส้ของเราเนี่ย
00:17:18 → 00:17:20 เปลี่ยนแปลงไปแล้วก็อาจจะทำให้เกิดโรค
00:17:20 → 00:17:21 ต่างๆขึ้นมา
00:17:21 → 00:17:24 ได้ห้ามกินเหล้าแอลกอฮอล์เด็ดขาดถ้าเรา
00:17:24 → 00:17:27 เป็นภาวะนี้อย่าไปหายาต่างๆมากินเองเพราะ
00:17:27 → 00:17:30 ว่ามันจะทำให้มีปัญหากับตับได้แล้วก็ไม่
00:17:30 → 00:17:32 ต้องไปหาสมุนไพรใดๆทั้งสิ้นมากินนะครับ
00:17:32 → 00:17:35 เพราะว่ามันช่วยเรื่องนี้ไม่ได้นะครับ
00:17:35 → 00:17:37 เมื่อกี้บางคนอาจจะบอกว่าเฮ้เห็นผมบอกว่า
00:17:37 → 00:17:40 มันมีคนกินวิตามินอีได้นี่วิตามินอีเนี่ย
00:17:40 → 00:17:43 ต้องให้หมอเป็นคนสั่งจ่ายนะครับเพราะว่า
00:17:43 → 00:17:45 มันอาจจะไม่ได้ผลแล้วก็อยกินนานเกิน 2
00:17:45 → 00:17:47 เดือนเพราะว่ามันอาจจะมีปัญหาเช่นกันนะ
00:17:48 → 00:17:49 ครับดังนั้นตรงนี้ต้องไปดูวิตามินอีกิน
00:17:49 → 00:17:51 เยอะๆเนี่ยบางคนเกิดภาวะเลือดออกง่ายด้วย
00:17:51 → 00:17:55 นะครับก็เป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวังตรง
00:17:55 → 00:17:57 นี้ไว้ดีๆนะครับอย่าไปกินเกินอย่าไปกิน
00:17:57 → 00:18:00 นานเกินนะครับยายต่างๆให้หมอเเป็นคนสั่ง
00:18:00 → 00:18:03 นะครับถ้ามีความอ้วนแน่นอนการลดความอ้วน
00:18:03 → 00:18:05 จะช่วยทำให้ภาวะนี้ดีขึ้นเบาหวานถ้าคุม
00:18:05 → 00:18:09 ได้ภาวะนี้ก็ดีขึ้นนะครับอ่ะงั้นอันนี้ก็
00:18:09 → 00:18:12 คือเป็นทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเรื่องของไข
00:18:12 → 00:18:14 มันพอกตับที่ผมเอามาอัปเดตให้ฟังเกี่ยว
00:18:14 → 00:18:16 ข้องกับเรื่องของยาตัวใหม่ชื่อ Resmatom
00:18:16 → 00:18:18 นะครับถ้าใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ลอง
00:18:18 → 00:18:21 ติดต่อไปที่คุณหมอที่เป็นคนรักษาเรานะ
00:18:21 → 00:18:23 ครับอาจจะเป็นคุณหมอทางด้านของโรคตับที่
00:18:23 → 00:18:26 ดูแลเราอยู่เป็นพิเศษก็ได้นะครับโอเควัน
00:18:26 → 00:18:29 นี้ก็เท่านี้นะครับถ้าสอบสงสัยก็สอบถามมา
00:18:29 → 00:18:33 นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ