00:00:03 → 00:00:08 Med CMU Podcast Fun for help
00:00:08 → 00:00:11 Fel Podcast
00:00:11 → 00:00:14 รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราวของสุขภาพ
00:00:14 → 00:00:17 และแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์ผู้เชี่ยว
00:00:17 → 00:00:20 ชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยาศาสตร์
00:00:20 → 00:00:23 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
00:00:23 → 00:00:30 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา
00:00:30 → 00:00:33 สวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง For
00:00:33 → 00:00:35 health podcast อยู่กับดิฉันฟ้า
00:00:35 → 00:00:38 ธัญลักษณ์สดสวยนักประชาสัมพันธ์คณะ
00:00:38 → 00:00:42 แพทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ฟังขา
00:00:42 → 00:00:45 หลายคนคงเคยได้ยินใช่ไหมมว่าการดื่มน้ำ
00:00:45 → 00:00:48 เยอะๆดีต่อสุขภาพแต่รู้มั้คะว่าดื่มน้ำ
00:00:48 → 00:00:51 เยอะเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะที่อันตราย
00:00:51 → 00:00:54 เรียกว่าโซเดียมต่ำซึ่งบางครั้งนะคะอาจทำ
00:00:54 → 00:00:58 ให้ถึงขั้นชักหรือว่าหมดสติได้เลยค่ะวัน
00:00:58 → 00:01:00 นี้จึงนำเรื่องนี้มาพูดคุยกันนะคะว่า
00:01:00 → 00:01:04 โซเดียมคืออะไรทำไมสำคัญกับร่างกายของเรา
00:01:04 → 00:01:07 และภาวะโซเดียมต่ำเนี่ยอันตรายขนาดไหน
00:01:07 → 00:01:10 อาการแบบไหนล่ะคะที่บ่งบอกว่าเราอาจจะ
00:01:10 → 00:01:14 กำลังโซเดียมต่ำอยู่นะคะผู้ที่จะมาพูดคุย
00:01:14 → 00:01:16 กับเรานะคะท่านคือผู้ช่วยศาสตราจารย์นาย
00:01:16 → 00:01:19 แพทย์สุรเชษฐวงษ์นิ่มอาจารย์ประจำหน่วย
00:01:19 → 00:01:22 วิชาโรคไตภาควิชาอยุรศาสตร์คณะ
00:01:22 → 00:01:25 แพทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ
00:01:25 → 00:01:27 >> สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ
00:01:27 → 00:01:28 >> สวัสดีครับ
00:01:28 → 00:01:30 >> อาจารย์ขาเชื่อว่าวันนี้ผู้ฟังหลายท่าน
00:01:30 → 00:01:33 ให้ความสนใจอย่างมากเลยค่ะเพราะว่าเราอาจ
00:01:33 → 00:01:35 จะคุ้นเคยกับคำว่าโซเดียมเกินหรือโซเดียม
00:01:35 → 00:01:38 สูงแต่พอเป็นเรื่องเกี่ยวกับโซเดียมต่ำ
00:01:38 → 00:01:41 เอ๊ะมันเป็นยังไงวันนี้เราก็ได้เรียนเชิญ
00:01:41 → 00:01:43 อาจารย์มาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
00:01:43 → 00:01:46 กันนะคะเริ่มต้นกันจากการที่ได้ไปอ่านเจอ
00:01:46 → 00:01:49 ค่ะว่าการดื่มน้ำเยอะๆเนี่ยดีต่อสุขภาพ
00:01:49 → 00:01:51 จริงหรือเปล่าคะอาจารย์
00:01:51 → 00:01:54 >> ครับสำหรับคำตอบเนะครับก็อยากจะบอกว่ามัน
00:01:54 → 00:01:58 ไม่เสมอไปนะครับก็จริงๆการดื่มน้ำพอเหมาะ
00:01:58 → 00:02:01 เนี่ยดีต่อร่างกายมันทำให้ร่างกายสดชื่น
00:02:01 → 00:02:05 แต่ถ้าเราดื่มมากไปดื่มเร็วไปอันเนี้แหละ
00:02:05 → 00:02:08 ครับอาจจะส่งผลทำให้เลือดจืดหรือในภาษาใน
00:02:08 → 00:02:10 วันที่เราคุยกันคือทำให้โซเดียมมันต่ำ
00:02:10 → 00:02:12 หรือมันเจือจางได้
00:02:12 → 00:02:12 >> ค่ะ
00:02:12 → 00:02:16 >> ซึ่งพวกนี้เนี่ยก็จะส่งผลทำให้น้ำเคลื่อน
00:02:16 → 00:02:18 ที่จากในเลือดไปยังเซลล์ต่างๆและสิ่งที่
00:02:18 → 00:02:21 เรากลัวมากสุดคือเซลล์สมองพออยู่ในบริเวณ
00:02:21 → 00:02:23 ที่เป็นกะโหลกปิด
00:02:23 → 00:02:26 >> อาจจะทำให้สมองบูร่วมแล้วก็เป็นจุดเริ่ม
00:02:26 → 00:02:27 ต้นของอันตรายได้ครับ
00:02:27 → 00:02:30 >> ค่ะก็คือเหนื่อยๆมาดื่มน้ำทีเดียวเยอะๆ
00:02:30 → 00:02:32 เนี่ยอาจจะไม่ได้ดีต่อร่างกาย
00:02:32 → 00:02:36 >> ใช่ครับสมัยก่อนเนี่ยมีข่าวในของนักกีฬา
00:02:36 → 00:02:38 โดยเฉพาะนักกีฬาที่วิ่งมาราธอนที่เหงื่อ
00:02:38 → 00:02:41 ออกเยอะเขาจะหิวน้ำมากบางครั้งกินน้ำ
00:02:41 → 00:02:44 เปล่าดื่มน้ำเปล่าหลังวิ่งปริมาณเยอะๆ
00:02:44 → 00:02:46 >> อันเนี้ยทำให้โซเดียมต่ำอย่างรวดเร็วแล้ว
00:02:46 → 00:02:48 ก็รุนแรงจนหมดสติได้เลยครับ
00:02:48 → 00:02:51 >> อื้อหืออาจารย์ขาแล้วทำไมร่างกายเรา
00:02:51 → 00:02:53 ต้องการโซเดียมอ่ะคะ
00:02:53 → 00:02:56 >> โซเดียมเนี่ยจัดเป็นเกลือแร่ที่สำคัญเลย
00:02:56 → 00:02:58 ครับถ้านับเนี่ยเป็นประจุบวกที่สำคัญใน
00:02:58 → 00:03:01 ร่างกายเลยทำหน้าที่ในการช่วยควบคุมพวก
00:03:01 → 00:03:03 สมดุลสารน้ำ
00:03:03 → 00:03:06 >> เอ่อเกลือแร่ต่างๆความดันโลหิตการทำงาน
00:03:06 → 00:03:09 ของระบบประสาทและกล้ามเนื้อก็ถ้าเปรียบ
00:03:09 → 00:03:11 เทียบง่ายๆเนี่ยถ้าเปรียบเทียบร่างกายเรา
00:03:11 → 00:03:14 เป็นซุปเนี่ยครับถ้ามีโซเดียมอย่างพอ
00:03:14 → 00:03:17 เหมาะซุปมันก็กลมกล่อมรสชาติก็ดีแต่ถ้า
00:03:17 → 00:03:20 โซเดียมน้อยเกินไปหรือใช้คำว่ามีน้ำมาก
00:03:20 → 00:03:23 เกินไปซุปมันก็อาจจะจืดชืดและเจือจางก็
00:03:23 → 00:03:25 เหมือนเป็นจุดจุดเริ่มต้นของการรวนหรือ
00:03:25 → 00:03:27 ความผิดปกติต่างๆที่อาจจะตามมาได้
00:03:27 → 00:03:31 >> ค่ะที่บอกว่ามากเกินไปน้อยเกินไปก็อาจจะ
00:03:32 → 00:03:34 ไม่ดีมากเกินไปก็ไม่ดีเช่นกันอย่างที่เรา
00:03:34 → 00:03:37 รู้กันว่าร่างกายถ้าเกิดโซเดียมสูงมาก
00:03:37 → 00:03:39 เกินไปก็อันตรายเหมือนกัน
00:03:39 → 00:03:42 >> เพราะว่าเราจะได้ยินมาก่อนหน้านี้ะในการ
00:03:42 → 00:03:45 รณรงค์ว่าการป้องกันโรคความดันการลดไต
00:03:45 → 00:03:47 เสื่อมต้องหลีกเลี่ยงการกินโซเดียมอันนี้
00:03:47 → 00:03:49 เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยล่ะครับ
00:03:49 → 00:03:49 >> ค่ะ
00:03:49 → 00:03:51 >> แต่ในทางตรงกันข้ามในวันนี้ที่อาจจะมาคุย
00:03:51 → 00:03:54 กันเนี่ยเช่นการดื่มน้ำเยอะเยอะแล้วทำให้
00:03:54 → 00:03:57 โซเดียมมันต่ำเมื่อร่างกายว่าโซเดียมมัน
00:03:57 → 00:03:59 ต่ำมันก็มีผลเสียตามมาเหมือนกันครับ
00:03:59 → 00:04:01 >> อมันบาลานซกันได้มั้คะที่เรารู้สึกว่า
00:04:01 → 00:04:04 เอ๊ะช่วงนี้เราโซเดียมสูงจังเลยก็เลยมี
00:04:04 → 00:04:08 การดื่มน้ำเยอะๆให้ลดโซเดียมในร่างกายลง
00:04:08 → 00:04:12 >> เพราะว่าอาการเราอาจจะไม่ได้รู้ได้ทุก
00:04:12 → 00:04:14 อย่างฉะนั้นจริงๆคือมันดูอาจจะต้องดูผล
00:04:14 → 00:04:18 เลือดมาประกอบั้นการการรักษาเลยเนี่ยว่า
00:04:18 → 00:04:21 เราจะไม่ได้แนะนำว่าเอ๊เรากินโซเดียมเยอะ
00:04:21 → 00:04:24 แล้วให้รีบกินน้ำเยอะตามอันนั้นอือฮึีการ
00:04:24 → 00:04:26 รักษาจะมีความซับซ้อนกว่านั้นนิดหน่อย
00:04:26 → 00:04:26 ครับ
00:04:26 → 00:04:29 >> อันนี้เหมือนการที่อาจจะคาดเดาไปเองแล้ว
00:04:29 → 00:04:32 ก็คิดเองเพราะว่าผลเลือดคือสิ่งที่จะบ่ง
00:04:33 → 00:04:35 บอกว่าเราโซเดียมต่ำหรือสูงใช่มั้คะ
00:04:35 → 00:04:35 อาจารย์
00:04:35 → 00:04:37 >> ใช่ครับส่วนใหญ่การรักษาตอนนี้ก็ใช้ทั้ง
00:04:37 → 00:04:39 ผลเลือดแล้วก็อาการต่างๆคนไข้ประกอบกัน
00:04:40 → 00:04:42 รวมถึงความดันโลหิตในการให้คำแนะนำการ
00:04:42 → 00:04:43 รักษาในเรื่องพวกนี้
00:04:43 → 00:04:47 >> ค่ะมาถึงตรงนี้ค่ะเชื่อว่าผู้ฟังหลายท่าน
00:04:47 → 00:04:49 ค่ะต้องสงสัยแน่ๆค่ะอาจารย์ขาว่าภาวะ
00:04:49 → 00:04:53 โซเดียมต่ำเนี่ยอันตรายถึงขนาดไหนกัน
00:04:53 → 00:04:57 เชียวอันตรายมากแค่ไหนค่ะ
00:04:57 → 00:04:59 >> จริงๆถ้าเกิดโซเดียมต่ำเพียงเล็กน้อย
00:04:59 → 00:05:03 เนี่ยอาจจะไม่มีอาการรวมถึงไม่รู้ตัวเลย
00:05:03 → 00:05:05 ถ้าไม่เจาะเลือดดู
00:05:05 → 00:05:08 >> แต่ในรายที่อย่างที่กล่าวไปว่าถ้าต่ำรวด
00:05:08 → 00:05:12 เร็วหรือต่ำมากๆอันนี้อาจจะมีอาการรุนแรง
00:05:12 → 00:05:14 ได้เลยครับจนถึงขั้นทำให้เกิดเรียกว่า
00:05:14 → 00:05:15 เป็นภาวะฉุกเฉินอาการแพทย์
00:05:15 → 00:05:20 >> ค่ะอาการแบบไหนคะที่เรียกว่าอยู่ในภาวะ
00:05:20 → 00:05:22 ที่โซเดียมต่ำแล้วค่ะ
00:05:22 → 00:05:24 >> ช่วงแรกเนี่ยครับถ้าต่ำกลางๆถึงมากเนี่ย
00:05:25 → 00:05:28 อาจจะมีอาการแบบไม่เฉพาะเจาะจงเช่นอ่อน
00:05:28 → 00:05:32 เพลียเวียนหัวเล็กน้อยแต่ถ้าเกิดเริ่ม
00:05:32 → 00:05:35 เป็นระยะหลังๆหรือเป็นหนักเนี่ยถึงขั้นจะ
00:05:35 → 00:05:40 มีคลื่นไส้อาเจียนปวดศีรษะซึมหมดสติรวม
00:05:40 → 00:05:43 ถึงชักได้ครับซึ่งอันหลังๆเนี่ยครับถือ
00:05:43 → 00:05:45 ว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์เลยต้องรีบ
00:05:45 → 00:05:48 มาโรงพยาบาลเพื่อให้การรักษา
00:05:48 → 00:05:50 >> อาจารย์ขาแล้วแบบนี้ใครมักจะเป็นกลุ่ม
00:05:50 → 00:05:52 เสี่ยงคะ
00:05:52 → 00:05:53 >> กลุ่มเสี่ยงเนี่ย
00:05:53 → 00:05:57 >> ก็เราจะคิดว่าเป็นผู้สูงอายุหรือเปล่าที่
00:05:57 → 00:06:00 เอ๊ะมีอาการเหล่านี้หรือว่าจริงๆแล้วจะ
00:06:00 → 00:06:02 เป็นกลุ่มคนที่ดูแข็งแรงทั่วไปก็เกิดขึ้น
00:06:02 → 00:06:04 ได้อย่างเงี้ยค่ะ
00:06:04 → 00:06:07 >> ถูกต้องส่วนนึงเลยนะครับผู้สูงอายุเนี่ย
00:06:07 → 00:06:09 ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะถ้า
00:06:09 → 00:06:11 เกิดมีกินยาขับปัสสาวะร่วมด้วย
00:06:11 → 00:06:12 >> ออ
00:06:12 → 00:06:17 >> แล้วก็ในคนที่มีโรคเรื้อรังโรคหัวใจโรค
00:06:17 → 00:06:20 ตับโรคไตพวกนี้ก็ก็เป็นกลุ่มเสียงอีกแบบ
00:06:20 → 00:06:23 นึงอืทีนี้กลุ่มคนปกติถามว่าเสี่ยงด้วย
00:06:23 → 00:06:26 มั้ยจริงๆก็เสี่ยงครับอย่างที่บอกไปกรณี
00:06:26 → 00:06:30 ที่คนปกติที่ดื่มน้ำปริมาณมากๆในระยะเวลา
00:06:30 → 00:06:31 รวดเร็ว
00:06:31 → 00:06:32 >> ค่ะ
00:06:32 → 00:06:35 >> อื่นๆอาจจะมีบ้างเช่นคนที่ต้องนอนโรง
00:06:35 → 00:06:39 พยาบาลแล้วเกิดมีการให้สารน้ำที่เกลือแร่
00:06:39 → 00:06:43 อาจจะสมดุลไม่เหมาะสมในระยะเวลานึงก็เจอ
00:06:43 → 00:06:44 ได้บ้างครับ
00:06:44 → 00:06:45 >> อื
00:06:45 → 00:06:47 >> อันนี้คือกลุ่มเสี่ยงนะครับ
00:06:47 → 00:06:51 >> ค่ะก็เป็นไปได้ที่เราทุกคนที่ฟังพสcสวัน
00:06:51 → 00:06:53 นี้อาจจะเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงก็ได้นะคะ
00:06:53 → 00:06:56 อาจารย์ขาเราอาจจะมองข้ามไปว่าเรื่องนี้
00:06:56 → 00:06:59 ไกลตัวแต่มันเกิดขึ้นแล้วก็เราเพิ่งเห็น
00:06:59 → 00:07:02 ในกระแสข่าวที่ผ่านมาคนที่ดูแข็งแรงแล้ว
00:07:02 → 00:07:05 ก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลยอ้าวอยู่ๆมีภาวะ
00:07:05 → 00:07:07 โซเดียมต่ำได้
00:07:07 → 00:07:07 >> ค่ะ
00:07:07 → 00:07:10 >> ในแต่จริงๆไม่ได้เจอบ่อยขนาดนั้นในคนแข็ง
00:07:10 → 00:07:13 แรงครับที่ที่ต้องระวังจริงๆเนี่ยในคน
00:07:13 → 00:07:16 แข็งแรงนะครับก็คือการที่ดื่มน้ำเร็วไป
00:07:16 → 00:07:19 >> เพราะบางทีเราย้อนกลับไปว่าบางคนเชื่อว่า
00:07:19 → 00:07:22 น้ำเป็นสิ่งที่ดีพอร่างกายคันน้ำปั๊บดื่ม
00:07:22 → 00:07:24 ทีละเยอะๆอาจจะเป็นเกินลิตรหรือหลายลิตร
00:07:24 → 00:07:26 ในเวลาอันรวดเร็ว
00:07:26 → 00:07:26 >> อื
00:07:26 → 00:07:28 >> อันนี้จะเป็นตัวที่เทียบแล้วก็คืออันตราย
00:07:28 → 00:07:30 ในเรื่องทำให้โซเดียมต่ำ
00:07:30 → 00:07:32 >> ค่ะคือปริมาณนี่คือสำคัญเลยใช่มั้คะ
00:07:32 → 00:07:33 อาจารย์
00:07:33 → 00:07:35 >> ปริมาณและเวลาครับเพราะถ้าเราดื่มแบบ 2
00:07:35 → 00:07:38 ลิตรทั้งวันที่เป็นตามคำแนะนำการดูแล
00:07:38 → 00:07:42 สุขภาพทั่วไปเป็นสิ่งที่ดีและควรทำครับ
00:07:42 → 00:07:43 >> ด้วยนะครับ
00:07:43 → 00:07:45 >> ถ้าวันแล้วก็ 2 ลิตรเนี่ยโอเค
00:07:45 → 00:07:46 >> ดีมากเลยครับ
00:07:46 → 00:07:48 >> แต่ถ้าเกิดภายในเวลา
00:07:48 → 00:07:49 >> 2 ลิตร 5 นาที
00:07:49 → 00:07:52 อันนี้อาจจะไม่ไหวคือบางคนนึกสภาพว่าดื่ม
00:07:52 → 00:07:54 เป็นขวดเป็นขวดติดกัน
00:07:54 → 00:07:55 >> อื
00:07:55 → 00:07:56 >> มากเกินไป
00:07:56 → 00:07:59 >> มันจะเร็วไปครับแล้วพวกนี้มีแนวโน้มจะ
00:07:59 → 00:08:01 เกิดอาการได้เร็ว
00:08:01 → 00:08:01 >> ค่ะ
00:08:01 → 00:08:02 >> ครับ
00:08:02 → 00:08:06 >> ก็พอพอพอมานึกภาพเราก็เคยเหมือนกันนะคะ
00:08:06 → 00:08:09 อาจารย์ขาบางทีก็อ๋อเราอาจจะเคยทำ
00:08:09 → 00:08:13 พฤติกรรมเหล่านี้แต่ยังไม่ได้เกิดอันตราย
00:08:13 → 00:08:15 ถึงขั้นนั้นนะคะ
00:08:15 → 00:08:17 >> อืก็เลยก็เลยจะเป็นคำแนะนำครับว่าถ้าใน
00:08:17 → 00:08:19 เรื่องนี้เนี่ย
00:08:19 → 00:08:21 เวลาเรารู้สึกกระหายก็อาจจะแค่ดื่มน้ำพอ
00:08:21 → 00:08:22 ดับกระหาย
00:08:22 → 00:08:23 >> ค่ะ
00:08:23 → 00:08:26 >> ไม่ไม่ต้องดื่มเยอะเกินไปเป็นพิเศษครับ
00:08:26 → 00:08:27 >> ก็สามารถป้องกันได้
00:08:27 → 00:08:31 >> ใช่แล้วก็ถ้าไหนคนไหนๆก็คนที่ชอบออกกำลัง
00:08:31 → 00:08:34 กายโดยเฉพาะออกกำลังกายที่เสียเหงื่อเยอะ
00:08:34 → 00:08:37 ออกกำลังกายหนักหน่วงก็การดื่มน้ำเสริม
00:08:37 → 00:08:39 เนี่ยควรจะอาจจะมีน้ำที่มีเกลือแร่ผสม
00:08:39 → 00:08:41 เพราะถ้าบางคนช่วงนั้นเขาจะกระหายเยอะ
00:08:41 → 00:08:43 เป็นพิเศษดื่มน้ำเปล่าไปเยอะๆรวดเดียวก็
00:08:43 → 00:08:45 ก็มีปัญหาได้อ
00:08:45 → 00:08:45 >> อือ
00:08:45 → 00:08:46 >> ครับ
00:08:46 → 00:08:48 >> ร่างกายของเราเนี่ยเวลาที่ออกกำลังกายก็
00:08:48 → 00:08:52 เหมือนเสียเหงื่อใช่มั้ยคะร่างกายขับ
00:08:52 → 00:08:55 เหงื่อออกมาเสียทั้งเกลือแล้วก็น้ำแต่ที
00:08:55 → 00:08:57 นี้ถ้าเราใส่แต่น้ำเปล่าไปเยอะๆมันเลย
00:08:57 → 00:09:00 เหมือนกับโซเดียมในเลือดก็เลยจะต่ำลงครับ
00:09:00 → 00:09:04 >> ค่ะมาถึงตรงนี้ค่ะอาจารย์ขาถ้าผู้ฟังที่
00:09:04 → 00:09:06 มีความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะจะดู
00:09:06 → 00:09:09 แลตัวเองป้องกันตัวเองยังไงได้บ้างคะ
00:09:09 → 00:09:11 >> ก็ในเรื่องการปฏิบัติตัวในเรื่องการดื่ม
00:09:12 → 00:09:14 น้ำอันนั้นตามที่บอกก่อนหน้านี้ครับว่า
00:09:14 → 00:09:17 ดื่มแต่พอดีอย่าดื่มครั้งละเยอะๆมากมาก
00:09:18 → 00:09:21 แล้วก็ถ้าคนที่มีโรคประจำตัวรวมถึงรู้ตัว
00:09:21 → 00:09:24 ว่ากินยาลดความดันหรือยาขับปัสสาวะอยู่
00:09:24 → 00:09:25 คือมันจะมียาความดันกลุ่มที่ขับปัสสาวะ
00:09:25 → 00:09:29 ได้นะครับก็อันนี้ควรตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
00:09:29 → 00:09:31 ไม่ควรซื้อยามากินเองโดยที่ไม่ไปพบแพทย์
00:09:31 → 00:09:32 เลย
00:09:32 → 00:09:35 >> แล้วก็ถ้ามีอาการผิดปกติ
00:09:35 → 00:09:37 >> ไม่ว่าจะรุนแรงหรือไม่รุนแรงแต่มันต่อ
00:09:37 → 00:09:40 เนื่องแล้วไม่หายซะทีแนะนำให้มาตรวจที่
00:09:40 → 00:09:42 โรงพยาบาลครับเพราะว่าเราอาจจะต้องทั้ง
00:09:42 → 00:09:44 ตรวจร่างกายและตรวจเลือดเพิ่มเติมเพื่อหา
00:09:44 → 00:09:45 สาเหตุ
00:09:45 → 00:09:49 >> ค่ะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวพวกเรามากๆเลยนะ
00:09:49 → 00:09:52 คะวันนี้ค่ะอยากให้อาจารย์ทิ้งท้ายถึงผู้
00:09:52 → 00:09:55 ฟังเกี่ยวกับเรื่องของภาวะโซเดียมต่ำค่ะ
00:09:55 → 00:09:57 เพราะว่าเราไม่ค่อยคุ้นเคยกันสักเท่าไหร่
00:09:57 → 00:09:58 ค่ะอาจารย์
00:09:58 → 00:10:01 >> ได้ครับก็อยากสรุปไว้อย่างนี้นะครับว่า
00:10:01 → 00:10:05 น้ำมีประโยชน์ครับแต่การดื่มมากไปหรือ
00:10:05 → 00:10:08 เร็วไปอาจมีอันตรายได้
00:10:08 → 00:10:08 >> ค่ะ
00:10:08 → 00:10:11 >> ภาวะโซเดียมต่ำที่เราคุยกันวันเนี้ครับ
00:10:11 → 00:10:13 อาจจะมีอาการตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงอาการ
00:10:13 → 00:10:16 รุนแรงจนเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ได้
00:10:17 → 00:10:20 ถ้ามีอาการแล้วไม่แน่ใจมีความเสี่ยงอย่า
00:10:20 → 00:10:22 ลืมมาตรวจที่โรงพยาบาลครับ
00:10:22 → 00:10:22 >> ค่ะ
00:10:22 → 00:10:26 >> ซึ่งใครๆก็เสี่ยงได้ครับทั้งผู้สูงอายุคน
00:10:26 → 00:10:29 ที่มีโรคเรื้อรังรวมถึงคนที่ดื่มน้ำมาก
00:10:29 → 00:10:32 เกินไปในเวลาสั้นๆ
00:10:32 → 00:10:34 >> เป็นข้อมูลที่ดีมากๆเลยค่ะที่วันนี้ได้มา
00:10:34 → 00:10:36 พูดคุยกันนะคะเชื่อว่าผู้ฟังหลายท่านนะคะ
00:10:36 → 00:10:39 มีความเอะใจอย่างมากค่ะอาจารย์ขาว่าเอ๊
00:10:39 → 00:10:42 เรื่องนี้ไม่ค่อยคุ้นเคยสักเท่าไหร่นัก
00:10:42 → 00:10:45 หรืออาจจะไกลตัวเราหรือเปล่าในบางครั้ง
00:10:45 → 00:10:46 ที่เราเผลอ
00:10:46 → 00:10:49 คิดว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญมักจะเกิดขึ้น
00:10:49 → 00:10:51 อย่างเงี้ยค่ะวันนี้ได้มาพูดคุยกับ
00:10:51 → 00:10:53 อาจารย์หมอทำให้เราได้รู้ในข้อมูลที่เป็น
00:10:53 → 00:10:55 ประโยชน์มากๆต้องขอบพระคุณอาจารย์มากๆนะ
00:10:55 → 00:10:56 คะ
00:10:56 → 00:10:59 >> ครับยินดีครับสำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
00:10:59 → 00:11:02 >> สวัสดีครับ
00:11:02 → 00:11:05 >> CMU podcast Fun for
00:11:05 → 00:11:11 >> เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา