00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับหลายคนนะครับมีความกังวลหลัง
00:00:03 → 00:00:05 จากที่ได้ยินข่าวที่ออกมาบอกว่าผู้ใดที่
00:00:06 → 00:00:09 เกิดก่อนปีพ.ศ. 2535 ในประเทศไทยเนี่ยนะ
00:00:09 → 00:00:12 ครับให้ไปฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ
00:00:12 → 00:00:14 B ด้วยเพราะว่าไวรัสตับอักเสบ B เนี่ย
00:00:14 → 00:00:16 ถ้าเกิดว่าเราติดเข้ามาในร่างกายแล้วเป็น
00:00:16 → 00:00:19 แบบเรื้อรังนะครับมันจะเพิ่มโอกาสในการ
00:00:19 → 00:00:23 เกิดโรคมะเร็งต่ำกว่าคนทั่วไปเกิน 100
00:00:23 → 00:00:25 เท่าเลยทีเดียวนะครับเรื่องราวเรื่องนี้
00:00:25 → 00:00:27 มันมีที่มาที่ไปอย่างไรนะครับแล้ววัคซีน
00:00:27 → 00:00:30 เราจะต้องฉีดยังไงฉีดหรือไม่วันนี้เดี๋ยว
00:00:30 → 00:00:32 ผมจะเล่าให้ฟังนะครับพบกับผมนะครับนาย
00:00:32 → 00:00:34 แพทย์ธนีธนียวัณเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:00:34 → 00:00:37 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดตอดการ
00:00:37 → 00:00:40 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับเรื่องราว
00:00:40 → 00:00:42 เรื่องนี้นะครับผมขอสรุปแบบนี้ก่อนเลยดี
00:00:42 → 00:00:47 กว่าโอกาสในการที่ผู้ใหญ่ของเราเนี่ยไป
00:00:47 → 00:00:50 ติดเชื้อไวรัสตักเสบ B มาในร่างกายแล้วจะ
00:00:50 → 00:00:52 กลายไปเป็นชนิดเรื้อรังที่มันเสี่ยงต่อ
00:00:52 → 00:00:55 มะเร็งนะครับมีอยู่ที่ 5-10%
00:00:55 → 00:00:57 นอกเหนือจากนั้นติดเชื้อมาแล้วร่างกาย
00:00:57 → 00:01:01 สามารถกำจัดออกไปได้เองครับนะฮะดังนั้น
00:01:01 → 00:01:04 ถ้าเกิดคุณเกิดก่อนปีพ.ศ. 2535 ทุกคนเป็น
00:01:04 → 00:01:08 ผู้ใหญ่แล้วแน่ๆนะครับถ้าไปติดมาเนี่ยมี
00:01:08 → 00:01:11 จะมีประมาณ 5-10% ที่ร่างกายจะไม่สามารถ
00:01:11 → 00:01:14 กำจัดเชื้อแล้วมันจะกลายเป็นแบบเรื้อรัง
00:01:14 → 00:01:17 แล้วแบบนี้แหละครับที่น่าเป็นห่วงถ้าเกิด
00:01:17 → 00:01:20 คุณมีเชื้ออยู่ในร่างกายแล้วคุณฉีดวัคซีน
00:01:20 → 00:01:24 จะไม่มีผลใดๆทั้งสิ้นนะครับจะไม่มีผลใดๆ
00:01:24 → 00:01:27 ทั้งสิ้นส่วนถ้าเกิดคุณยังไม่เคยติดเชื้อ
00:01:27 → 00:01:32 มาก่อนนะครับแล้วไปติดเชื้อ 90 กว่าเปอร์
00:01:32 → 00:01:34 คุณจะกำจัดเชื้อออกไปได้เองโดยที่คุณไม่
00:01:34 → 00:01:37 ต้องทำอะไรนะครับแต่มันจะมีบางกลุ่มที่
00:01:37 → 00:01:40 เกิดอาการรุนแรงขึ้นมาก็ได้แล้วก็อีก
00:01:40 → 00:01:43 5-10% กลายไปเป็นแบบเรื้อรังก็ได้ถ้า
00:01:43 → 00:01:46 เกิดว่าคุณไม่แน่ใจนะครับคุณสามารถไปตรวจ
00:01:46 → 00:01:49 ที่โรงพยาบาลได้ว่าคุณเคยติดเชื้อมาก่อน
00:01:49 → 00:01:53 หรือไม่แล้วมีภูมิหรือยังนะครับการดูว่า
00:01:53 → 00:01:55 ติดเชื้อมาก่อนหรือไม่เราจะตรวจตัวที่
00:01:55 → 00:02:00 เรียกว่า HBS แอนติเจนนะครับและการที่จะ
00:02:00 → 00:02:04 ตรวจว่าคุณมีภูมิหรือยังเราจะตรวจ HBS
00:02:04 → 00:02:07 anอนตี้บอี้นะครับดังนั้นถ้าเกิดคุณไป
00:02:07 → 00:02:11 ตรวจแล้วคุณมีภูมิแล้วคุณก็ไม่ต้องฉีดนะ
00:02:11 → 00:02:15 ครับถ้าเกิดคุณไม่มีภูมิและคุณต้องไม่มี
00:02:15 → 00:02:17 เชื้ออยู่ในร่างกายอันนี้แหละครับที่จะ
00:02:17 → 00:02:21 ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตอักเสบ B ซึ่งมัน
00:02:21 → 00:02:24 จะฉีดทั้งหมด 3 เข็มด้วยกันก็คือฉีดวัน
00:02:24 → 00:02:27 นี้วันแรกแล้วก็เว้นไปอีก 1 เดือนเป็น
00:02:27 → 00:02:29 เข็มที่ 2 ส่วนเข็มที่ 3 เนี่ยจะไปฉีดใน
00:02:29 → 00:02:32 เดือนที่ 6 นะครับหรืออย่างเร็วที่สุดก็
00:02:32 → 00:02:35 เดือนที่ 4 นะครับเข็มนึงเท่าที่ผมสืบ
00:02:35 → 00:02:37 ราคามามันประมาณ 300 บาทก็ไม่น่าแพงมากนะ
00:02:38 → 00:02:41 ครับแต่เดี๋ยวนี้มันมีอีกยี่ห้อนึงซึ่ง
00:02:41 → 00:02:44 สามารถฉีดได้ 2 เข็มแล้วก็จบเลยก็คือฉีด
00:02:44 → 00:02:46 วันนี้และอีกเดือนนึงไปฉีดแต่ผมไม่แน่ใจ
00:02:46 → 00:02:49 ว่าตัวนี้เนี่ยในประเทศไทยมันมีเข้ามา
00:02:49 → 00:02:52 หรือยังนะครับยังไงก็ต้องลองศึกษาดูว่า
00:02:52 → 00:02:55 ที่ประเทศไทยมีอย่างไรนะครับอ่าอันนี้คือ
00:02:55 → 00:02:58 กรณีที่คุณจะฉีดวัคซีนนะครับอันนี้ก็คือ
00:02:58 → 00:03:03 โดยสรุปเลยคุณไปตรวจก่อนนะฮะมีภูมิไม่
00:03:03 → 00:03:06 ต้องฉีดไม่มีภูมิและต้องไม่มีเชื้อถึงจะ
00:03:06 → 00:03:09 ฉีดแต่ถ้าเกิดว่ามีคนสงสัยว่าเอาแล้วงี้
00:03:09 → 00:03:12 ไปฉีดเลยได้มั้ยนะครับโดยที่ไม่ไปตรวจอ่า
00:03:12 → 00:03:14 มันก็จะเป็นอย่างนี้ครับถ้าเกิดคุณไม่ไป
00:03:14 → 00:03:17 ตรวจเลยแล้วไปฉีดถ้าคุณมีภูมิแล้วฉีดเข้า
00:03:17 → 00:03:20 ไปอีกได้มยได้ไม่ได้อันตรายสามารถทำได้
00:03:20 → 00:03:23 ครับแต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับถ้าเกิดคุณ
00:03:23 → 00:03:25 ไม่ไปตรวจเนี่ยคุณจะไม่มีทางรู้ว่าคุณมี
00:03:25 → 00:03:28 โรคติดเชื้อไวรัสกับเศษ B เรื้อรังหรือ
00:03:28 → 00:03:33 ไม่นะครับถ้าเกิดคุณไม่รู้แล้วคุณไปฉีด
00:03:33 → 00:03:36 นอกเหนือจากคุณเสียเงินฟรีแล้วคุณยังสูญ
00:03:36 → 00:03:38 เสียโอกาสในการติดตามต่อเนื่องเพื่อป้อง
00:03:38 → 00:03:43 กันแล้วก็เจอตรวจเจอไวรัสพวกเนี้ยตั้งแต่
00:03:43 → 00:03:48 ตอนแรกๆแล้วก็คุณจะเสียโอกาสในการติดตาม
00:03:48 → 00:03:50 ว่ามันจะเกิดมะเร็งขึ้นมาเมื่อไหร่ยังไง
00:03:50 → 00:03:53 นะครับดังนั้นเนี่ยถ้าถามผมนะคุณควรจะไป
00:03:54 → 00:03:58 ตรวจเพราะเหตุผลส่วนใหญ่ที่คนกลายไปเป็น
00:03:58 → 00:04:00 ไวรัสอปเสษ B เรื้อรังมันเกิดจากการติด
00:04:00 → 00:04:04 เชื้อมาตั้งแต่ตอนคลอดครับติดมาจากแม่
00:04:04 → 00:04:06 แล้วมันก็จะไม่มีอาการอะไรเลยคุณจะไม่รู้
00:04:06 → 00:04:08 สึกผิดปกติอะไรเลยถ้าเกิดคุณรู้สึกผิด
00:04:08 → 00:04:12 ปกติแปลว่าโรคมันไปไกลแล้วนะครับอ่านี้
00:04:12 → 00:04:15 คือสรุปให้ฟังสั้นๆเลยนะฮะทีนี้มาเข้า
00:04:15 → 00:04:19 เรื่องกันดีกว่าไวรัสตับอักเสบมันคืออะไร
00:04:19 → 00:04:23 นะครับก็ต้องบอกว่ามันมีไวรัสหลายตัวเลย
00:04:23 → 00:04:28 ที่สามารถทำให้ตับมันอักเสบได้นะครับแล้ว
00:04:28 → 00:04:30 ไวรัสตับอักเสบที่เราพูดพูดกันบ่อยๆเนี่ย
00:04:30 → 00:04:33 จะมีทั้งหมด 5 ตัวหลักๆนะครับเราเรียกว่า
00:04:33 → 00:04:37 heat virus hea คือมาจากคำว่าheพาheพา
00:04:37 → 00:04:39 นี่แปลว่าตับนะครับไอตินี่คือแปลว่า
00:04:39 → 00:04:42 อักเสบแฮปปาตแปลว่าตับอักเสบนะครับก็จะมี
00:04:42 → 00:04:45 ไวรัสอักเสบ A B C D E นะครับ 5 ตัว
00:04:45 → 00:04:47 นี้จะเป็น 5 ตัวหลักที่เราเจอกันนะครับ
00:04:47 → 00:04:51 แต่มันก็จะมีไวรัสตอักเสบอย่างอื่นซึ่ง
00:04:51 → 00:04:55 ไม่มีความสำคัญเช่นสมัยก่อนเราจะมีที่
00:04:55 → 00:04:58 ชื่อว่าเซ็น Virus นะครับ Tortino virus
00:04:59 → 00:05:02 แล้วก็เฮปาติ G ไวรัส 3 ตัวนี้เนี่ยตอน
00:05:02 → 00:05:05 แรกเขาไปเจอนะแต่ว่าสุดท้ายเขาพิสูจน์ว่า
00:05:05 → 00:05:07 มันไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเกิดตับ
00:05:07 → 00:05:09 อักเสบดังนั้นเราเลยไม่สนใจมันแต่มันก็จะ
00:05:09 → 00:05:12 มีไวรัสที่ไม่ใช่ไวรัสในกลุ่มเนี้ยแต่ทำ
00:05:12 → 00:05:16 ให้ตับอักเสบได้เช่นadดิโนไวรัสนะครับที่
00:05:16 → 00:05:19 บางคนเคยติดเข้าไปแล้วมีอาการเจ็บคอเป็น
00:05:19 → 00:05:24 หวัดตัวมันก็ตัวร้อนขึ้นมานะครับตาแดงนะ
00:05:24 → 00:05:27 ครับน่ามูกไหลจามพวกเนี้ยตัวเนี้ยก็
00:05:27 → 00:05:30 สามารถลงตับทำให้ตับอักเสบได้ EBV ไว
00:05:30 → 00:05:32 virus นะครับ STINE bar virus ที่ทำ
00:05:32 → 00:05:35 ให้เกิดต่อมน้ำเหลืองโตพวกเนี้ยก็สามารถ
00:05:35 → 00:05:37 ที่จะทำให้เราเนี่ยเกิดตามอักเสบได้แล้ว
00:05:38 → 00:05:40 ตัว EBV เนี่ยถ้ามันติดเข้าไปในร่างกายนะ
00:05:40 → 00:05:42 ครับมันจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตเลยแหละ
00:05:42 → 00:05:44 เมื่อไหร่ที่ร่างกายเราอ่อนแอมันก็จะออก
00:05:44 → 00:05:46 มาแล้วอาจจะออกมาในรูปของมะเร็งต่อมน้ำ
00:05:46 → 00:05:49 เหลืองด้วยนะครับตัวอีกตัวนึงที่ควรจะรู้
00:05:49 → 00:05:53 จักไว้ก็คือ CMV ไวรัสไซโตมกาโลวรัสตัว
00:05:53 → 00:05:55 นี้ก็สามารถทำให้ตับอักเสบได้เช่นกันนะ
00:05:55 → 00:05:58 ครับแล้วเมื่อไหร่ร่างกายเราอ่อนแอมันก็
00:05:58 → 00:06:00 ก็จะออกมาครับมันอาจจะออกมาทำให้มีจอ
00:06:00 → 00:06:03 ประสาทตาของเราเสียติดเชื้อเข้าไปในระบบ
00:06:03 → 00:06:06 ประสาทนะครับแล้วก็มีผลทำให้ลำไส้อักเสบ
00:06:06 → 00:06:08 ได้อีกต่างหากนะครับซึ่งตัวนี้เราจะเจอ
00:06:08 → 00:06:11 ได้ในคนที่ภูมิด้านทานต่ำมากๆเช่นเป็นโรค
00:06:11 → 00:06:14 ที่ไม่ได้รับการรักษาหรือคนที่กินยากด
00:06:14 → 00:06:17 ภูมิเช่นผู้ป่วยปลูกถ่ายอายวะอวัยวะเป็น
00:06:17 → 00:06:20 ต้นนะครับอ่าพวกนี้คือกลุ่มที่มันสามารถ
00:06:20 → 00:06:22 ทำให้ตับอักเสบได้แต่ตัวมันเองอ่ะไม่ได้
00:06:22 → 00:06:25 เป็นตัวที่ชื่อว่าไวรัสตับอักเสบตรงๆนะ
00:06:25 → 00:06:28 ครับส่วนตัวที่ชื่อว่าไวรัสแต่ตเสบตรงๆมี
00:06:28 → 00:06:31 a b c d e พวกนี้มันต่างกันยังไงนะ
00:06:31 → 00:06:35 ครับ a เนี่ยมันสามารถติดมาจากการกินที่
00:06:35 → 00:06:38 ปนเปื้อนอุจจาระของคนที่มีไวรัสตอักเสบ A
00:06:38 → 00:06:42 อยู่ในร่างกายพวกเนี้ยถ้าเกิดติดในเด็กนะ
00:06:42 → 00:06:46 ไม่ได้อันตรายอะไรมันหายเองนะครับมีมัน
00:06:46 → 00:06:49 หายเองอาการก็ไม่ค่อยมีอะไรมากมีไข้มีปวด
00:06:49 → 00:06:51 ท้องมีจุกมีคลื่นไส้จีนแล้วเดี๋มันก็หาย
00:06:51 → 00:06:54 ไปเองแต่ถ้าติดในผู้ใหญ่อ่ะเช่นอายุเกิน
00:06:54 → 00:06:56 17 แล้วคุณไปติดไวรัสกับอักเสบเองเนี่ย
00:06:56 → 00:06:59 อาการอาจจะรุนแรงดังนั้นถ้าเกิดว่าคุณไม่
00:06:59 → 00:07:02 เคยติดตัวนี้มาก่อนไม่เคยมีภูมิเนี่ยก็
00:07:02 → 00:07:04 แล้วคุณเป็นผู้ใหญ่แล้วนะครับตัวเนี้ยควร
00:07:04 → 00:07:07 จะไปฉีดเพราะว่าถ้าอาการเป็นขึ้นมามัน
00:07:07 → 00:07:11 หนักหนักนะครับงั้นควรจะไปฉีดนะครับไวรัส
00:07:11 → 00:07:14 จากอักเสบ A ไม่มียาที่ไปรักษามันได้นะ
00:07:14 → 00:07:16 ครับเรารักษาประคับประคองจนกระทั่งคุณ
00:07:16 → 00:07:19 ผ่านช่วงเวลาที่อักเสบหนักๆไปเท่านั้นเอง
00:07:19 → 00:07:21 ไวรัสตเสบ B เดี๋ยวเราจะพูดกันในวันนี้นะ
00:07:21 → 00:07:26 ครับไวรัสตักเสบ C ตัวนี้เราไม่มีวัคซีน
00:07:26 → 00:07:29 นะครับแล้วมันก็ติดกันทางเลือดซะเป็นส่วน
00:07:29 → 00:07:32 ใหญ่นะครับอ่าไวรัสอักเสบ C โชคดีอย่าง
00:07:32 → 00:07:35 นึงคือเดี๋ยวนี้เรามียาที่รักษามันให้หาย
00:07:35 → 00:07:38 ขาดได้นะครับถ้าใครเป็นอ่าไปรักษาครับมัน
00:07:38 → 00:07:42 หายขาดได้ไวรัสตับปฏิเสบ D ตัวนี้จะไม่
00:07:42 → 00:07:45 ติดเดี่ยวๆมันจะมาพร้อมกับไวรัสตับอักเสบ
00:07:45 → 00:07:48 B แล้วถ้าติดคู่กันทั้งคู่เนี่ยจะทำให้
00:07:48 → 00:07:50 อาการของโรคมันรุนแรงมากจะตับอักเสบแบบ
00:07:50 → 00:07:53 รุนแรงเลยทีเดียวนะครับส่วนตัวสุดท้าย
00:07:53 → 00:07:56 ไวรัสตับอักเสบ E ตัวนี้เนี่ยมันก็จะติด
00:07:57 → 00:07:59 คล้ายๆกับไวรัสตปเสบ A ครับมันจะสามารถ
00:07:59 → 00:08:01 ติดมาทางอุจจาระของคนที่มีไวรัสตักเสบ
00:08:01 → 00:08:04 Eเนี่ยปนเปื้อนได้ในคนทั่วไปติดตัวนี้
00:08:04 → 00:08:06 เข้าไปอ่ะไม่ค่อยเกิดเรื่องครับแต่คนที่
00:08:06 → 00:08:10 มีปัญหาคือคนท้องถ้าเกิดคนท้องเนี่ยได้
00:08:10 → 00:08:13 ไวรัส E ร่างกายแล้วล่ะก็โอกาสเสียชีวิต
00:08:13 → 00:08:16 จะสูงมากนะครับแล้วจริงๆมันมีการศึกษาว่า
00:08:16 → 00:08:19 ถ้าเป็นคนไข้คนอ่ากลุ่มฟิลิปปินส์อย่าง
00:08:19 → 00:08:22 เงี้ยถ้าได้ไวรัสเซปเนี่ยอาจจะมียีนบาง
00:08:22 → 00:08:24 อย่างหรือพันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้โรค
00:08:24 → 00:08:29 ของเขาเนี่ยเป็นรุนแรงมากขึ้นได้นะครับมา
00:08:29 → 00:08:32 เข้าเรื่องกันที่ไวรัสตักเสบ B ไวรัสอเสบ
00:08:32 → 00:08:34 B เนี่ยตัวมันเองมันเป็นไวรัสที่มี
00:08:34 → 00:08:37 พันธุกรรมเป็นแบบ DNA นะครับมันเข้าไปใน
00:08:37 → 00:08:39 ร่างกายคนเนี่ยนะครับมันก็จะแบ่งตัวแล้ว
00:08:39 → 00:08:41 มันก็สามารถเข้าไปรวมตัวกับ DNA ของ
00:08:41 → 00:08:44 มนุษย์ได้นะครับพอมันเข้าไปรวมตัวกับ DNA
00:08:44 → 00:08:47 ของมนุษย์ได้นั่นแหละครับที่จะทำให้เซลล์
00:08:47 → 00:08:50 ตับเนี่ยมันแบ่งตัวผิดปกติแล้วระยะยาว
00:08:50 → 00:08:53 สามารถที่จะกลายไปเป็นมะเร็งตับได้ครับนะ
00:08:53 → 00:08:56 ครับมันจะสามารถกลายไปเป็นมะเร็งตับได้
00:08:56 → 00:08:59 มากกว่าคนที่ไม่ได้เป็นโรคนี้กว่า 100
00:08:59 → 00:09:02 เท่าเลยทีเดียวซึ่งถือว่าเยอะมากๆนะครับ
00:09:02 → 00:09:05 แล้วโดยปกติเวลาที่เราติดเชื้อตัวนี้เข้า
00:09:05 → 00:09:07 ไปในร่างกายเนี่ยไวรัสมันก็จะแบ่งตัวอยู่
00:09:08 → 00:09:10 ในเซลล์ตับเรานะครับพอมันแบ่งตัวในเซลล์
00:09:10 → 00:09:13 ตับเนี่ยภูมิต้านทานของเราก็จะมาเห็นว่า
00:09:13 → 00:09:16 เฮ้ยเซลล์ผิดปกติติดไวรัสมันก็จะมาทำลาย
00:09:16 → 00:09:18 เซลล์เหล่านี้นะครับโดยเซลล์ที่มันมา
00:09:18 → 00:09:22 ทำลายเนี่ยจะชื่อว่าไซโตท็อกtซลพอมันมา
00:09:22 → 00:09:24 ทำลายปุ๊บอ่าเซลล์ตัวที่มันติดเชื้อเนี่ย
00:09:24 → 00:09:27 ก็ตายไปก็จะเกิดการอักเสบขึ้นมาและนั่น
00:09:27 → 00:09:30 แหละครับที่จะทำให้คุณมีอาการในช่วงฉับ
00:09:30 → 00:09:32 พลันที่เราเรียกว่า Acute heat นะครับก็
00:09:32 → 00:09:36 คือจะมีปวดท้องนะครับปวดท้องขวาบนจุกแน่น
00:09:36 → 00:09:38 คลื่นไส้อาเจียนไม่อยากอาหารนะครับบางคน
00:09:38 → 00:09:41 ท้องเสียเล็กน้อยมีไข้ได้นะครับแล้วก็มี
00:09:41 → 00:09:44 ตัวเหลืองตาเหลืองเป็นดีซ่านขึ้นมาได้นะ
00:09:44 → 00:09:47 ครับถ้าเกิดใครที่มีภาวะนี้นะส่วนใหญ่
00:09:47 → 00:09:50 แล้วจะโชคดีเพราะมันแปลว่าภูมิต้านทานของ
00:09:50 → 00:09:52 คุณเนี่ยแข็งแรงพอที่จะกำจัดเชื้อออกไป
00:09:52 → 00:09:56 จากร่างกายได้นะครับอ่าแข็งแรงพอนะแต่บาง
00:09:57 → 00:10:00 คนมันก็จะมีการอักเสบแบบรุนแรงที่เรา
00:10:00 → 00:10:03 เรียกว่า fuman hepatitis อันนี้แหละถ้า
00:10:03 → 00:10:06 เกิดมันอักเสบจนขั้นรุนแรงคือค่าเอนไซม์
00:10:06 → 00:10:09 ตับขึ้นพุ่งเป็นหลายร้อยนะครับแล้วก็
00:10:09 → 00:10:12 อาการมีไข้สูงไม่ดีแล้วนะครับค่าการแข็ง
00:10:12 → 00:10:15 ตัวของเลือดเริ่มผิดปกตินะครับดีซ่านเป็น
00:10:15 → 00:10:17 แบบรุนแรงมากนะครับแล้วก็เริ่มไม่ได้สติ
00:10:17 → 00:10:20 อันเนี้ยแปลว่าเป็นตับอักเสบแบบรุนแรงมาก
00:10:20 → 00:10:23 ทางแพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัสแล้ว
00:10:23 → 00:10:24 เพื่อรักษานะครับแล้วก็อาจจะต้องมีการ
00:10:25 → 00:10:28 รักษาพิเศษอื่นๆนะฮะแต่ถ้าแค่อักเสบ
00:10:28 → 00:10:31 ธรรมดาไม่ได้รุนแรงมากแพทย์จะไม่ให้ยา
00:10:31 → 00:10:33 ต้านไวรัสเพราะว่ามันหายได้เองแล้วนั่น
00:10:33 → 00:10:35 แปลว่าภูมิต้านทานของคุณดีมากกำจัดเชื้อ
00:10:35 → 00:10:38 ได้เกลี้ยงเลยแต่ถ้าเกิดว่าภูมิต้านทาน
00:10:38 → 00:10:42 ของคุณมันไม่ดีล่ะเช่นเอ่อเดินมาแล้วเห็น
00:10:42 → 00:10:43 เซลล์ติดเชื้อไม่ทำอะไรเดินผ่านไปเลย
00:10:44 → 00:10:46 อย่างเงี้ยอันนี้แหละครับที่คุณจะกลายไป
00:10:46 → 00:10:50 เป็นการติดเชื้อไวรัสเซป B เรื้อรังคนเรา
00:10:50 → 00:10:53 ติดเชื้อไวรัสอเสบ B มาจากไหนได้บ้างส่วน
00:10:53 → 00:10:58 มากนะครับติดมาจากแม่ที่มีเชื้อไวรัส
00:10:58 → 00:11:04 ปักเส B นะครับอ่าแม่สู่ลูกอันนี้แหละที่
00:11:04 → 00:11:07 เรากังวลเพราะว่าถ้าเกิดคุณติดจากแม่สู่
00:11:07 → 00:11:10 ลูกตอนเด็กๆเนี่ยภูมิต้านทานของเรามันยัง
00:11:10 → 00:11:13 ไม่ค่อยแข็งแรงมันก็จะไม่ค่อยสนใจมันเห็น
00:11:13 → 00:11:17 เชื้ออยู่ในตัวเซลล์ตับมันก็ไม่ทำอะไรคน
00:11:17 → 00:11:20 พวกเนี้ยเกือบทั้งหมดอ่ะจะกลายไปเป็นคน
00:11:20 → 00:11:23 ที่มีเชื้อไวรัสตบ B เรื้อรังอยู่ในร่าง
00:11:23 → 00:11:25 ร่างกายแล้วโอกาสที่เขา้าจะกลายไปเป็น
00:11:25 → 00:11:29 มะเร็งตับจะสูงกว่าคนทั่วไปเป็นรเท่าจริง
00:11:29 → 00:11:34 ๆนะครับอ่าอันนี้คือทางที่ 1 แต่ก็คงมีคน
00:11:34 → 00:11:36 สงสัยว่าแล้วมันมีวิธีในการป้องกันไม่ให้
00:11:36 → 00:11:38 เด็กเนี่ยติดเชื้อไวรัส B จากแม่มั้ยถ้า
00:11:38 → 00:11:41 แม่ตรวจเจอเนี่ยข้อแรกก็คือต้องฝากกัน
00:11:41 → 00:11:44 ก่อนถ้าฝากกันเนี่ยเค้าก็จะตรวจแม่แน่ๆ
00:11:44 → 00:11:46 อยู่แล้วว่าแม่มีเชื้อหรือไม่มีเชื้อนะ
00:11:46 → 00:11:49 ครับแล้วถ้าเกิดสมมุติว่ามีเชื้อจริงๆตอน
00:11:49 → 00:11:53 ที่คลอดเนี่ยเราจะมีการฉีด
00:11:53 → 00:11:57 2 อย่างอย่างแรกคือ B immunoglobuline
00:11:57 → 00:12:01 เป็นantibodี้สำเร็จรูปไปจัดการกับตัว
00:12:01 → 00:12:04 heat B ไวรัสที่มันเข้ามาในลูกนะครับ
00:12:04 → 00:12:07 ตัวที่ 2 ที่ต้องฉีดก็คือวัคซีนนะครับอ่า
00:12:07 → 00:12:10 ตรงเนี้ยหมอเด็กเขาจะจัดการให้เราเองนะ
00:12:10 → 00:12:12 ครับถ้าเราไปตรวจเจอเขาก็จัดการฉีดให้เรา
00:12:12 → 00:12:15 เรียบร้อยเลยนะครับก็จะป้องกันไม่ให้ลูก
00:12:15 → 00:12:18 ติดเชื้อได้นะครับอ่านี่คือทางแรกนะที่
00:12:18 → 00:12:20 เราสามารถติดเชื้อเข้ามาในร่างกายแล้ว
00:12:20 → 00:12:23 เป็นทางหลักและติดเชื้อแบบรื้อรังได้ทาง
00:12:23 → 00:12:26 ที่ 2 ครับติดจากเด็กสู่เด็กด้วยกันเอง
00:12:26 → 00:12:30 เออมันติดยังไงนะครับเช่นคุณใช้แปลงสีฟัน
00:12:30 → 00:12:32 อันเดียวกันเล่นกันแล้วไปกัดเพื่อนอีกคน
00:12:32 → 00:12:34 นึงอย่างเงี้ยนะครับหรือว่ามีแผลแล้วไป
00:12:34 → 00:12:37 โดนตรงที่มันมีเชื้ออยู่คุณก็จะติดไปได้
00:12:37 → 00:12:41 นะครับทีนี้การติดเชื้อไวรัสระดับเกสบ B
00:12:41 → 00:12:44 อีกอย่างหนึ่งก็คือการติดทางเพศสัมพันธ์
00:12:44 → 00:12:47 นะฮะอันนี้ก็โดยเฉพาะใครที่มีเพศสัมพันธ์
00:12:48 → 00:12:51 อ่ากับคนหลากหลายนะครับมีคู่นอนเยอะอัน
00:12:51 → 00:12:53 นี้ก็จะมีโอกาสมากขึ้นนะครับคนที่ใช้สาร
00:12:53 → 00:12:56 เสพติดแบบฉีดเข้าในร่างกายเราก็มีการแบ่ง
00:12:57 → 00:12:59 เข็มซึ่งกันและกันพวกเนี้ยก็ติดได้ง่ายๆ
00:12:59 → 00:13:03 นะครับแต่อย่าลืมนะครับการติดในผู้ใหญ่
00:13:03 → 00:13:05 โอกาสที่จะเป็นแบบเรื้อรังเนี่ยมันจะน้อย
00:13:05 → 00:13:09 กว่านะครับทีนี้มาพูดถึงโอกาสในการติดดี
00:13:09 → 00:13:12 กว่าโอกาสในการติดเชื้อไวรัสแต่ปักเสษ B
00:13:12 → 00:13:16 เนี่ยมาจากเลือดมันติดได้ง่ายมากๆง่ายมาก
00:13:16 → 00:13:20 เลยนะครับติดง่ายกว่า HIV อ่ะมหาศาลน่ะ
00:13:20 → 00:13:22 เป็นสิทธิ์ 10 เป็น 100 เท่าเลยอ่ะนะครับ
00:13:22 → 00:13:25 คือมันติดง่ายๆง่ายสุดๆเลยเพราะไอ้ไวรัส
00:13:25 → 00:13:29 ตัวนี้เนี่ยมันมักจะมีปริมาณสูงมากเวลา
00:13:29 → 00:13:32 อยู่ในเลือดเราถ้าเราไม่รู้นะครับแล้วมัน
00:13:32 → 00:13:35 ก็อยู่บนพื้นผิวตามที่ต่างๆได้อย่างน้อย
00:13:35 → 00:13:38 ก็ 7 วันน่ะมันอยู่นานนะเช่นถ้าเกิดว่า
00:13:39 → 00:13:41 เอ่อมันมีเลือดของคนที่มีไวรัสต่าง B
00:13:41 → 00:13:43 เนี่ยแปะอยู่ที่โต๊ะของผมอย่างเงี้ยแล้ว
00:13:43 → 00:13:46 ผมมีแผลถ้าผมไม่มีภูมิผมไปจับๆอยู่นิด
00:13:46 → 00:13:50 เดียวเนี่ยติดแล้วอ่ะติดเลยอ่ะง่ายมากเลย
00:13:50 → 00:13:54 ง่ายกว่าอีกนะครับดังนั้นมันจึงเป็นไวรัส
00:13:54 → 00:13:57 ที่เราให้ความสนใจเป็นอย่างมากนะครับอ่ะ
00:13:57 → 00:13:59 ทีนี้พอเรารู้แล้วว่ามันติดยังไงหลังจาก
00:14:00 → 00:14:02 นั้นจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราติดนะครับถ้าคุณ
00:14:02 → 00:14:06 เป็นผู้ใหญ่ส่วนใหญ่แล้วในเวลาประมาณสัก
00:14:06 → 00:14:08 เดือนนึงอ่ะหรือมากกว่านั้นคุณก็จะเกิด
00:14:08 → 00:14:11 อาการตับอักเสบขึ้นมาซึ่งมันเป็นการที่
00:14:11 → 00:14:13 ภูมิต้านทานของคุณกำลังไปทำลายเซลล์ที่
00:14:13 → 00:14:16 ติดไวรัสแล้วถ้าเกิดคุณหายจากตับอักเสบ
00:14:16 → 00:14:19 ตัวนี้หลายครั้งคุณจะมีภูมิป้องกันไวรัส
00:14:19 → 00:14:22 ตักเสบดีแล้วคุณก็จะไม่มีทางเป็นอีกนะ
00:14:22 → 00:14:25 ครับนี้ถือว่าโชคดีนะครับแต่ถ้าเกิดว่า
00:14:25 → 00:14:28 คุณไม่สามารถกำจัดเชื้อได้หมดเช่นเอ่อ
00:14:28 → 00:14:31 เป็นมาตั้งแต่เด็กนะครับหรือคุณได้รับยา
00:14:31 → 00:14:34 กดภูมิบางอย่างหรือภูมิต้านทานคนอ่อนแอ
00:14:34 → 00:14:37 มากไปติดจวนนี้เข้ามาในร่างกายเนี่ยก็
00:14:37 → 00:14:40 กำจัดไม่ได้ก็อาจจะกลายไปเป็นแบบเรื้อรัง
00:14:40 → 00:14:43 คนไหนที่มีเชื้อ HIV อยู่ในร่างกายโดยที่
00:14:43 → 00:14:45 ไม่รู้ตัวแล้วก็ไม่ไปตรวจภูมิต้านทานของ
00:14:45 → 00:14:47 คุณก็อ่อนแอถ้าเกิดคุณไปมีเพศสัมพันธ์กับ
00:14:47 → 00:14:49 คนพวกนี้คุณติดเชื้อเข้ามาในร่างกายคุณก็
00:14:49 → 00:14:53 จะมีปัญหานะครับ
00:14:53 → 00:14:56 ทีนี้สมัยก่อนเนี่ยเค้ายังไม่มีการฉีด
00:14:56 → 00:14:59 วัคซีนวัยน้ำตาเสบ B ให้กับเด็กทุกคน
00:14:59 → 00:15:02 เหมือนเดี๋ยวนี้นะครับเค้าจะเลือกฉีด
00:15:02 → 00:15:05 เฉพาะในคนที่มีความเสี่ยงสูงนะครับแล้ว
00:15:05 → 00:15:07 เดี๋ยวนี้ถ้าเกิดเป็นผู้ใหญ่บางคนที่ไม่
00:15:07 → 00:15:09 อยากจะฉีดวัคซีนเนี่ยก็อาจจะพิจารณาตัว
00:15:09 → 00:15:12 เองดูซิว่าเราเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูง
00:15:12 → 00:15:16 หรือไม่คนที่มีความเสี่ยงสูงเช่นหมอแน่
00:15:16 → 00:15:20 นอนครับพวกพยาบาลหมอนักเทคเทคนิคอะไรที่
00:15:20 → 00:15:22 อยู่ในโรงพยาบาลทั้งหลายแหละเพราะว่าที่
00:15:22 → 00:15:24 นี่ก็คือแหล่งรวมเชื้อคนที่มีเลือดมี
00:15:24 → 00:15:27 ไวรัสเศส B ก็อยู่แถวนั้นคุณก็มีโอกาสติด
00:15:27 → 00:15:31 ได้นะครับกลุ่มที่ 2 คือผู้ป่วยที่ล้างไต
00:15:31 → 00:15:33 นะครับห้องล้างไตมันเป็นห้องที่มีเลือด
00:15:33 → 00:15:36 เยอะแยะไปหมดดังนั้นคนไหนที่เขา้าอาจจะมี
00:15:36 → 00:15:38 เลือดเนี่ยแล้วไปหยดเรามองไม่เห็นเเราอาจ
00:15:38 → 00:15:40 จะไปแปะโดนหรืออะไรสักอย่างเราก็มีโอกาส
00:15:40 → 00:15:43 ที่จะติดวัตตาเกษตร B มาได้ดังนั้นคนพวก
00:15:43 → 00:15:46 เนี้ยก็ควรที่จะต้องฉีดวัคซีนแน่ๆเลยนะ
00:15:46 → 00:15:50 ครับอ่าใครที่ต้องให้เลือดบ่อยๆได้รับ
00:15:50 → 00:15:53 เลือดบ่อยๆอะไรอย่างเงี้ยนะครับก็มีความ
00:15:53 → 00:15:55 จำเป็นที่จะต้องฉีดนะครับใครก็แล้วแต่ที่
00:15:56 → 00:15:57 ยุ่งเกี่ยวกับเลือดเอางี้ดีกว่าควรจะต้อง
00:15:57 → 00:16:00 ฉีดเพราะมันมีโอกาสเหมือนกันที่จะสามารถ
00:16:00 → 00:16:04 ติดเข้าไปในร่างกายได้นะฮะอ่ะอันนี้คือ
00:16:04 → 00:16:08 กรณีที่เรารู้แล้วนะว่ามันเป็นไวรัสแบบ
00:16:08 → 00:16:11 ไหนยังไงนะครับแล้วทำไมมันถึงทำให้เกิด
00:16:11 → 00:16:16 มะเร็งขึ้นมาได้มันติดได้ง่ายแค่ไหนต่อมา
00:16:16 → 00:16:20 ถ้าเกิดว่าคุณเกิดก่อนปี 2535 แล้วไปตรวจ
00:16:20 → 00:16:22 แล้วปรากฏว่าคุณมีเชื้อในร่างกายทำยังไง
00:16:22 → 00:16:26 ต่ออ่าตรงนี้ทำยังไงต่อต้องบอกอย่างี้
00:16:26 → 00:16:31 ครับว่าเราจะไม่ได้ให้ยาต้านไวรัสกับทุกๆ
00:16:31 → 00:16:35 คนเหตุผลเพราะว่าถ้าเราให้ยาต้านไวรัส
00:16:35 → 00:16:38 เข้าไปในตัวคุณเนี่ยโอกาสที่คุณจะกำจัด
00:16:38 → 00:16:40 เชื้อทิ้งไปหมดแบบ 100% แล้วคุณสามารถ
00:16:41 → 00:16:46 หยุดยาต้านไวรัสได้เนี่ยน้อยมากไม่เกิน 4%
00:16:46 → 00:16:49 น้อยมากที่เหลือเนี่ยเนี่ยมักจะต้องกินยา
00:16:49 → 00:16:53 พวกเนี้ยไปตลอดชีวิตดังนั้นเนี่ยทางแพทย์
00:16:53 → 00:16:55 ก็จึงจำเป็นจะต้องมีจุดที่เราเรียกว่า
00:16:55 → 00:16:58 คุ้มค่ากับการให้ยาเพราะยาพวกเนี้ยคุณก็
00:16:58 → 00:17:01 ต้องกินไปตลอดแล้วมันก็แพงด้วยนะครับเรา
00:17:01 → 00:17:04 จะตัดสินใจยังไงว่าคนเหล่าเนี้ยเราจะให้
00:17:04 → 00:17:07 ยาเออ
00:17:07 → 00:17:10 ข้อแรกนะคือไปถึงปุ๊บหมอก็จะตรวจอย่าง
00:17:10 → 00:17:11 อื่นเพิ่มเติมว่านอกเหนือจากไวรัสแต่
00:17:11 → 00:17:14 ปักเสบ B ที่เรามีในร่างกายแล้วเนี่ยเรา
00:17:14 → 00:17:17 มีอะไรอย่างอื่นอีกมั้ยนะครับอ่าเช่นเรา
00:17:17 → 00:17:18 เรามีภูมิต่อไวรัสตักเกสบ A หรือยังถ้า
00:17:18 → 00:17:21 ไม่มีไปฉีดซะเรามีไวรัสตักอักเสบ C มยถ้า
00:17:21 → 00:17:24 มีเราต้องรักษาทั้ง B ทั้ง C พร้อมกันไม่
00:17:24 → 00:17:27 งั้นเดี๋ยวมันจะแย่นะครับเรามี HIV อยู่
00:17:27 → 00:17:29 ในร่างกายหรือเปล่านะครับแล้วไวรัสตักเสบ
00:17:29 → 00:17:32 B ของเราเนี่ยมันรุนแรงแค่ไหนนะครับเวลา
00:17:32 → 00:17:34 ที่เราจะตรวจไวรัส B ถ้าเกิดเราตรวจทุก
00:17:34 → 00:17:36 อย่างเสร็จหมดแล้วอ่ะเรามาเจาะที่ไวรัส
00:17:36 → 00:17:39 ตักเศษ B เราตรวจอะไรบ้างนะครับข้อแรกก็
00:17:39 → 00:17:43 คือว่าเราจะตรวจว่ามีไวรัสตักเศษ B จำนวน
00:17:43 → 00:17:46 เท่าไหร่ในร่างกายนะครับร่วมกับการตรวจ
00:17:46 → 00:17:50 สิ่งนึงซึ่งเรียกว่า HBE แอนติเจนนะครับ
00:17:50 → 00:17:54 HBE แอนติเจนถ้าเรามี HBE อยู่ในร่างกาย
00:17:54 → 00:17:59 เนี่ยมันก็จะมีเกณฑ์ในการที่เราตัดสินว่า
00:17:59 → 00:18:04 จะรักษาต่างจากคนที่ไม่มี HBE นะครับถ้า
00:18:04 → 00:18:08 มี HBE แอนติเจนเป็นบวกนะครับแล้วไวรัสใน
00:18:08 → 00:18:11 ร่างกายเรามันเกิน 20,000 เราจะให้ยาต้าน
00:18:11 → 00:18:12 ไวรัส
00:18:13 → 00:18:16 แต่ถ้าเราไม่มี HBE อยู่ในร่างกายไวรัส
00:18:16 → 00:18:19 ไวรัสของเราเกินแค่ 2,000 เราก็จะให้ยา
00:18:19 → 00:18:22 ต้านไวรัสนะครับแต่ตัวนี้อย่างเดียวไม่
00:18:22 → 00:18:24 ใช่เป็นตัวที่เราใช้พิจารณาว่าจะให้ยา
00:18:24 → 00:18:27 ต้านหรือไม่ให้ยาต้านนะครับเราจะดูอย่าง
00:18:27 → 00:18:31 อื่นอีกเช่นหน้าที่การทำงานของตับนะครับ
00:18:31 → 00:18:33 ดูจากเอนไซม์ค่าตับต่างๆว่ามันสูงขึ้น
00:18:33 → 00:18:37 กว่าปกติมถ้ามันสูงขึ้นครั้งเดียวแล้วหาย
00:18:37 → 00:18:38 ไปเลยอันนี้ไม่เป็นไรแต่ถ้ามันสูงแล้วมัน
00:18:38 → 00:18:40 สูงลอยๆอย่างเงี้ยทุกครั้งมันเจาะมันก็
00:18:40 → 00:18:42 สูงอย่างเงี้ยอันเนี้ยหมอเขาจะให้ยาแล้ว
00:18:42 → 00:18:45 นะครับอันที่ 3 ที่เขาจะตรวจก็คือว่าตัด
00:18:45 → 00:18:47 เนี่ยเริ่มมีพังพังผืดหรือยังนะครับซึ่ง
00:18:47 → 00:18:50 การตรวจพังผืดตับเนี่ยมันตรวจได้ทั้งหมด 2
00:18:50 → 00:18:53 วิธีแรกที่แบบชัวร์แล้วแม่นที่สุดก็คือ
00:18:53 → 00:18:56 การไปเจาะเอาชิ้นเนื้อตับออกมาตรวจนะครับ
00:18:56 → 00:18:58 อ่าอันนี้จะแม่นที่สุดและแต่แน่นอนครับ
00:18:58 → 00:19:01 มันคือการต้องเจาะเข้าไปในตับอ่ะหลายคนก็
00:19:01 → 00:19:05 ไม่อยากทำวิธีในการเจาะตับเนี่ยเดี๋ยวนี้
00:19:05 → 00:19:07 สิ่งที่ปลอดภัยแล้วก็ทำได้ดีที่สุดก็คือ
00:19:07 → 00:19:11 เค้าก็จะให้ยาชาคุณตรงเส้นเลือดที่คอข้าง
00:19:11 → 00:19:14 ขวาตรงนี้นะครับแล้วก็แทงสายเข้าไปในเส้น
00:19:14 → 00:19:15 เลือดดำที่คอ
00:19:15 → 00:19:18 สายตัวนี้ก็จะวิ่งไปที่ตับนะครับแล้วหลัง
00:19:18 → 00:19:20 จากไปถึงที่ตับเขาจะเข็มแทงจากข้างในไป
00:19:20 → 00:19:24 เอาตัวชิ้นเนื้อตับออกมาอ่าอันเนี้ยก็จะ
00:19:24 → 00:19:26 เป็นวิธีที่ทำที่ค่อนข้างปลอดภัยแต่แน่
00:19:26 → 00:19:29 นอนครับมันก็ต้องมีเข็มมาจิ้มเราอยู่ดี
00:19:29 → 00:19:31 มันก็จะมีการเข้ามาในเส้นเลือดแล้วก็ถ้า
00:19:31 → 00:19:34 มันแทงตรงต่ำบางคนก็ถ้ามันมีความผิดพลาด
00:19:34 → 00:19:36 อะไรก็อาจจะทำให้เกิดเลือดออกบริเวณนั้น
00:19:36 → 00:19:39 นะครับเลือดสามารถเข้าไปในถุงน้ำดีได้นะ
00:19:39 → 00:19:41 ครับแล้วก็อ่าปนมากับอุจจาระอะไรอย่างี้
00:19:41 → 00:19:43 ก็ได้เหมือนกันนะครับก็มันก็เกิดเรื่อง
00:19:43 → 00:19:45 พวกนั้นขึ้นมาได้ดังนั้นหลายคนก็ไม่ค่อย
00:19:45 → 00:19:48 อยากจะตรวจวิธีนี้ถ้าไม่ได้จำเป็นจริงๆ
00:19:48 → 00:19:50 วิธีที่ 2 ที่เราสามารถตรวจได้นะครับก็
00:19:50 → 00:19:53 คือการทำอัลตราซาว์ชนิดพิเศษที่เราเรียก
00:19:53 → 00:19:56 ว่าไบรสแกนตัวนี้ก็จะสามารถบอดได้คร่าวๆ
00:19:56 → 00:19:58 แต่มันก็ไม่ 100% เท่ากับการเจาะชิ้น
00:19:58 → 00:20:01 เนื้อดังนั้นเนี่ยของคุณจะต้องตรวจวิธี
00:20:01 → 00:20:04 ไหนจำเป็นจะต้องไปคุยกับหมอเฉพาะทางโรค
00:20:04 → 00:20:07 ตับว่าของคุณเนี่ยเหมาะกับแบบไหนนะครับ
00:20:07 → 00:20:11 อ่าตรงนี้ก็จะเป็นวิธีที่เอ่อเราใช้ตรวจ
00:20:11 → 00:20:14 ว่าเราจำเป็นจะต้องรักษาหรือยังนะครับเรา
00:20:14 → 00:20:18 ดูที่ปริมาณไวรัสดู HP แอนติเจนนะครับดู
00:20:18 → 00:20:21 ค่าการทำงานของตับแล้วก็ดูว่าตับของเรามี
00:20:21 → 00:20:24 พังผืนหรือยังแต่ก็จะมีกลุ่มที่เป็นกลุ่ม
00:20:24 → 00:20:27 พิเศษที่เราอาจจะต้องรักษาเช่นคุณมี
00:20:27 → 00:20:30 ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งตับมาก่อนนะ
00:20:30 → 00:20:33 ครับคุณมีการติดเชื้อไวรัสอักเสบ C ร่วม
00:20:33 → 00:20:36 ด้วยคุณมี HIV หรือว่าคุณอ่าได้รับยากด
00:20:36 → 00:20:40 ภูมิต่างๆเพราะถ้าภูมิต่ำค่าพวกที่เราบอก
00:20:40 → 00:20:42 ไว้ทั้งหมดกฎเกณฑ์พวกเนี้ยมันจะใช้ไม่ได้
00:20:42 → 00:20:44 เนื่องจากว่าภูมิภูมิต้านของคุณไม่สามารถ
00:20:44 → 00:20:46 สู้กับเชื้อพวกนี้ได้เวลาเกิดเรื่องขึ้น
00:20:46 → 00:20:49 มาคุณก็มีปัญหานะครับแล้วก็ภูมิต้านทาน
00:20:49 → 00:20:51 ของเรามันมีความสำคัญในการควบคุมเซลล์ที่
00:20:51 → 00:20:53 จะกลายไปเป็นมะเร็งด้วยดังนั้นถ้าเกิดมัน
00:20:53 → 00:20:56 อ่อนแอปุ๊บเนี่ยก็มีโอกาสที่เซลล์พวก
00:20:56 → 00:20:58 เนี้ยกลายไปเป็นมะเร็งได้สูงกว่าคนที่
00:20:58 → 00:21:02 ภูมิต้านทานปกตินะครับส่วนยาที่หมอเขาจะ
00:21:03 → 00:21:05 จ่ายนะก็มีหลากหลายตัวเลยนะครับแต่ตัว
00:21:05 → 00:21:09 หลักๆที่เรามักจะจ่ายก็คือกับทีนียนะครับ
00:21:09 → 00:21:12 พวกนี้จะเป็นยาหลักๆนะครับรายละเอียดจริง
00:21:12 → 00:21:14 ๆว่ายาพวกนี้ตัวไหนเป็นยังไงนะต้องไป
00:21:14 → 00:21:16 ปรึกษาคุณหมอนะครับผมจะไม่ลงรายละเอียด
00:21:16 → 00:21:18 ให้ในคลิปนี้นะครับเพราะว่ามันค่อนข้าง
00:21:18 → 00:21:21 ที่จะเยอะแล้วจริงๆผมเคยทำคลิปเรื่องวั
00:21:21 → 00:21:24 เกส B นะครับที่เป็นความรู้สำหรับแพทย์ไป
00:21:24 → 00:21:26 แล้วถ้าใครสนใจก็ไปฟังคลิปนั้นละกันมีราย
00:21:26 → 00:21:29 ละเอียดไว้ในนั้นให้เรียบร้อยนะครับอ่ะ
00:21:29 → 00:21:31 อันนี้คือกฎเกณฑ์ในการรักษาว่าจะรักษา
00:21:31 → 00:21:35 หรือไม่นะครับรักษาทำไมเราไม่ได้รักษาให้
00:21:35 → 00:21:38 หายครับเพราะโอกาสที่มันจะหายขาดมันน้อย
00:21:38 → 00:21:40 มากนะครับเรารักษาเพื่อป้องกันไม่ให้คุณ
00:21:40 → 00:21:43 กลายไปเป็นตับแข็งแล้วก็ป้องกันไม่ให้ใคร
00:21:43 → 00:21:47 ให้คุณกลายไปเป็นมะเร็งนะครับไวรัสอักเสบ
00:21:47 → 00:21:51 B เนี่ยถ้าคุณเป็นแบบเรื้อรังในร่างกาย
00:21:51 → 00:21:53 คุณไม่จำเป็นจะต้องเป็นตับแข็งมันถึงจะ
00:21:53 → 00:21:56 กลายไปเป็นมะเร็งนะครับต่อให้คุณไม่มี
00:21:56 → 00:22:00 ภาวะตับแข็งคุณก็กลายไปเป็นมะเร็งได้ดัง
00:22:00 → 00:22:03 นั้นแล้วเนี่ยถึงแม้ว่าตรวจมาอ้าไม่มีพัง
00:22:04 → 00:22:08 ผืดในตับนะครับคุณก็ชะล่าใจไม่ได้ครับคุณ
00:22:08 → 00:22:12 จำเป็นจะต้องตรวจประจำปีนะครับอย่างน้อย
00:22:12 → 00:22:15 ก็ 2 ครั้งอ่ะ 6 เดือน 12 เดือนอะไรอย่าง
00:22:15 → 00:22:18 เงี้ยนะครับเพื่อตรวจให้แน่ใจว่าคุณไม่มี
00:22:18 → 00:22:20 การกลายไปเป็นโรคตับแข็งแล้วก็ไม่กลายไป
00:22:20 → 00:22:25 เป็นมะเร็งตับนะครับอ่าตรงนี้สำคัญนะส่วน
00:22:25 → 00:22:27 ใหญ่จะทุก 6 เดือนที่เราให้ตรวจตรวจอะไร
00:22:27 → 00:22:30 บ้างอ่ะข้อแรกคือตรวจค่าการทำงานของตับ
00:22:30 → 00:22:33 ว่ามันมีความผิดปกติอะไรหรือไม่นะครับดู
00:22:33 → 00:22:35 ค่าการทำงานของไตถ้าเกิดว่าคุณใช้ยาบาง
00:22:35 → 00:22:39 ตัวเช่นทิโนโฟเบียอยู่นะครับอ่าดูว่ามี
00:22:39 → 00:22:41 การทำultตraซาวoundตับมั้ยอัลตราซาว์ดตับ
00:22:41 → 00:22:45 ก็เพื่อที่จะดูว่ามันมีก้อนอะไรผิดปกติ
00:22:45 → 00:22:46 ขึ้นมาที่จำเป็นจะต้องไปตรวจรักษาเพิ่ม
00:22:46 → 00:22:50 เติมหรือเปล่านะครับแล้วเดี๋ยวนี้มันก็จะ
00:22:50 → 00:22:53 มีการตรวจเลือดนะครับที่เรามักจะทำทุก 6
00:22:54 → 00:22:56 เดือนหรือ 1 ปีเพื่อที่จะคัดกรองว่าคุณมี
00:22:57 → 00:22:59 มะเร็งต่ำหรือเปล่าโดยการตรวจเลือดเนี่ย
00:22:59 → 00:23:02 จะมีทั้งหมด 3 ตัวด้วยกันนะครับและถ้าเรา
00:23:02 → 00:23:05 ตรวจร่วมกันเนี่ยมันจะแม่นมากขึ้นนะครับ
00:23:05 → 00:23:08 ตัวแรกแล้วก็มีใช้มานานแล้วคือ AFP แฟ่า
00:23:08 → 00:23:10 ฟีโรโปรteตีนตัวนี้ถ้ามันสูงเกิน 200
00:23:10 → 00:23:12 เนี่ยเราต้องกังวลเลยเอ๊ะมันเป็นมะเร็ง
00:23:12 → 00:23:15 ตับหรือเปล่านะครับหรือมันเป็นมะเร็งชนิด
00:23:15 → 00:23:17 อื่นที่มันมาได้เช่นมะเร็งอันทะนี่ก็ AF
00:23:17 → 00:23:19 สูงเหมือนกันนะครับตัวที่ 2 ที่จะแม่น
00:23:19 → 00:23:24 ขึ้นมานิดนึงก็คือเราเรียกว่า AFP L3%
00:23:24 → 00:23:27 นะครับตัวเนี้ยมันจะเป็น AFP อีกตัวนึง
00:23:27 → 00:23:29 ซึ่งมันมีความผิดปกติไปแล้วเราก็จะเอามา
00:23:29 → 00:23:33 เทียบกับปริมาณ AFP ทั้งหมดเพื่อหาออกมา
00:23:33 → 00:23:35 ว่า AFP L3 เนี่ยมันมีกี่เปอร์เซ็นต์ของ
00:23:35 → 00:23:38 AFP ทั้งหมดนะครับซึ่งถ้ามันเกิน 10%
00:23:38 → 00:23:40 เนี่ยไอ้เนี้ยก็น่าสงสัยแล้วว่าเฮ้ยคุณ
00:23:40 → 00:23:42 อาจจะเป็นมะเร็งเองตับซ่อนอยู่หรือเปล่า
00:23:42 → 00:23:46 นะครับตัวที่ 3 ที่ตรวจเนี่ยก็เป็นตัวที่
00:23:46 → 00:23:49 เราเรียกว่าอ่า DCP นะครับหรืออีกชื่อนึง
00:23:49 → 00:23:52 ของมันก็คือ Pifka 2 นะครับ DCP เนี่ย
00:23:52 → 00:23:56 ย่อมาจากเ่อ Desgamma Carboxy โปรombin
00:23:56 → 00:23:59 นะครับอ่ามันก็เป็นโปรตีนโปรทบนเนี่ยที่
00:23:59 → 00:24:02 มันผิดปกติไปนะครับอีกชื่อนึงที่เมื่อกี้
00:24:02 → 00:24:05 บอกก็คือ Pifka 2 นะครับคืออ่าโปรตีน
00:24:05 → 00:24:10 induced by vitamin K absence or
00:24:10 → 00:24:11 antagonist
00:24:11 → 00:24:15 นะครับอ่าพวกตัวพิฟก้าตัวนี้เนี่ยที่เรา
00:24:15 → 00:24:18 ตรวจมันจะมีข้อเสียอย่างนึงก็คือใครก็ตาม
00:24:18 → 00:24:22 ที่วิตามิน K ต่ำหรือคนไหนที่กินยา
00:24:22 → 00:24:25 วาฟารินอยู่เนี่ยค่าตัวเจะผิดปกติได้นะ
00:24:25 → 00:24:27 ครับ DCP หรือพิฟก้าเนี่ยถ้าเกิดว่ามัน
00:24:27 → 00:24:30 สูงเกิน 40 เนี่ยอ่าอันนี้ต้องสงสัยแล้ว
00:24:30 → 00:24:33 ว่ามีอะไรหรือเปล่านะครับดังนั้นเราจะเรา
00:24:33 → 00:24:35 มักจะใช้ของพวกนี้ร่วมกันในการตรวจ
00:24:35 → 00:24:39 วินิจฉัยว่าเฮ้ยคุณมีปัญหาหรือยังถ้าเกิด
00:24:39 → 00:24:41 ว่าค่ามันสูงปุ๊บเนี่ยแน่นอนครับเราก็
00:24:41 → 00:24:45 ต้องไปดูภาพถ่ายรังสีของตับซึ่งการที่เรา
00:24:45 → 00:24:47 ตรวจอัตรซาวด์ก็เป็นการคัดกรองการตรวจ
00:24:48 → 00:24:49 เลือดก็เป็นการคัดกรองเอามารวมๆกันนะ
00:24:49 → 00:24:51 เนี่ยอาจจะถ้าตัวใดตัวหนึ่งเป็นบวกเนี่ย
00:24:52 → 00:24:54 เราต้องขุดต่อแล้วว่าคุณมีปัญหามเช่นอาจ
00:24:54 → 00:24:57 จะต้องไปทำ CT SCแกนที่เรียกเรียกว่าอ่า
00:24:57 → 00:24:59 CT SCแกน Triple Face เพื่อจะดูว่าคุณ
00:24:59 → 00:25:01 มีก้อนในตับที่เข้าได้กับมะเร็งตับที่
00:25:01 → 00:25:05 จำเป็นจะต้องรักษาหรือไม่นะครับถ้าคุณ
00:25:05 → 00:25:09 เป็นมะเร็งตับไปแล้วการใช้ยาต้านไวรัส
00:25:09 → 00:25:10 เนี่ยมันไม่ได้ทำให้มะเร็งมะเร็งของคุณ
00:25:10 → 00:25:13 มันหายไปไหนนะมันแค่กดไวรัสไว้แต่มันไม่
00:25:13 → 00:25:15 ได้ทำให้มะเร็งหายมะเร็งนี้นี่ก็ต้องไป
00:25:15 → 00:25:18 รักษาอีกแบบนึงของมะเร็งซึ่งจริงๆผมเคย
00:25:18 → 00:25:21 พูดเรื่องของการรักษามะเร็งตับไว้แล้วใน
00:25:21 → 00:25:23 คลิปที่ผมวิเคราะห์กรณีของคุณชูวิทยถ้า
00:25:23 → 00:25:26 ใครจำไม่ได้ก็ไปหาคลิปนั้นฟังนะครับอ่ะ
00:25:26 → 00:25:29 วันนี้คิดว่าก็คงครบถ้วนแล้วก็หลายคนก็คง
00:25:29 → 00:25:32 จะตัดสินใจได้เองนะครับว่าท่านจะทำยังไง
00:25:32 → 00:25:35 ถ้าท่านเกิดก่อนปี 2535
00:25:35 → 00:25:38 นะครับหรือว่าใครที่เกินนั้นแล้วอยากจะไป
00:25:38 → 00:25:40 ตรวจก็ได้นะครับถ้าจะตรวจแนะนำตรวจ 2 ตัว
00:25:40 → 00:25:45 นะครับตัวแรกก็คือตัว HBS แอนติเจนเพื่อ
00:25:45 → 00:25:47 ดูว่าคุณติดเชื้อหรือไม่นะครับตัวที่ 2
00:25:47 → 00:25:51 คือ HBS anอนิบอี้นะครับสำหรับอ่ออีกกรณี
00:25:51 → 00:25:54 นึงสำหรับคนที่เคยฉีดวัคซีนไปแล้วแต่ภูมิ
00:25:54 → 00:25:59 ไม่ขึ้นอ่าโดยทั่วไปเนี่ยภูมิมันจะขึ้นนะ
00:25:59 → 00:26:01 ครับแล้วก็สามารถป้องกันไวรัสแต่บีได้ถึง
00:26:01 → 00:26:04 95% เลยทีเดียวแต่ถ้าเกิดคุณเคยฉีดไปครบ
00:26:04 → 00:26:06 3 เข็มแล้วภูมิไม่ขึ้นถามว่าคุณทำยังไง
00:26:06 → 00:26:10 ได้อีกคุณสามารถฉีดอีกรอบนึงได้ครับฉีด
00:26:10 → 00:26:12 อีกรอบนึงแบบ 3 เข็มให้ครบไปเลยแล้วถ้า
00:26:12 → 00:26:14 เกิดว่าภูมิมันยังไม่ขึ้นอีกนะครับคราว
00:26:15 → 00:26:16 เนี้ยมันก็ไม่ขึ้นจริงๆแล้วนะครับถ้าแบบ
00:26:16 → 00:26:19 นั้นคุณไม่ต้องฉีดและต้องระมัดระวังตัว
00:26:19 → 00:26:22 เอาเองถ้าเกิดว่าคุณไปมีเหตุผลที่ทำให้
00:26:22 → 00:26:25 คุณมีโอกาสติดเชื้อไวรัสเส B เข้ามาใน
00:26:25 → 00:26:28 ร่างกายได้เช่นไปสัมผัสคนที่เขา้ามีเลือด
00:26:28 → 00:26:30 ออกแล้วเาเป็นเฮปาติ B อยู่ในร่างกาย
00:26:30 → 00:26:33 เนี่ยอันนั้นคุณต้องรีบไปหาหมอเพราะว่า
00:26:33 → 00:26:37 หมอจะมีการฉีดตัวเฮปเต B อิมlineให้คุณ
00:26:37 → 00:26:39 เพื่อป้องกันไม่ให้คุณติดเชื้อตัวนั้น
00:26:39 → 00:26:43 เข้ามานะครับอ่ะอันนี้ก็ครบถ้วนนะครับไป
00:26:43 → 00:26:45 ตรวจนะครับว่าคุณเป็นหรือไม่เป็นภูมิหรือ
00:26:45 → 00:26:48 ไม่มีภูมิถ้าไม่มีภูมิก็พิจารณาว่าคุณจะ
00:26:48 → 00:26:51 ฉีดหรือไม่ฉีดนะครับอ่าวัคซีนตัวนี้ราคา
00:26:51 → 00:26:53 ไม่ได้แพงอะไร 300 บาทต่อเข็มนะครับผล
00:26:53 → 00:26:55 ข้างเคียงก็คือมีปวดตรงบริเวณที่ฉีดแล้ว
00:26:55 → 00:26:59 ก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นมันเป็นเอ่อมันเป็น
00:26:59 → 00:27:02 วัคซีนที่ค่อนข้างปลอดภัยสูงมากนะครับ
00:27:02 → 00:27:03 แล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเกี่ยวข้องกับมัน
00:27:03 → 00:27:07 เลยนะครับที่สำคัญก็คือตัวเนี้ยอัตราการ
00:27:07 → 00:27:10 ป้องกันมันสูงมากๆถึง 95% นะครับถ้าเกิด
00:27:10 → 00:27:13 ว่าคุณบอกว่าเอ้ยเราเป็นผู้ใหญ่และเราติด
00:27:13 → 00:27:15 ไปอาการคงไม่รุนแรงมั้งไม่ฉีดอันนี้ก็
00:27:16 → 00:27:18 แล้วแต่คุณนะครับแต่ถ้าเป็นผมนะผมรู้สึก
00:27:18 → 00:27:21 ว่าถ้าผมติดขึ้นมาผมก็อยากจะให้มันไม่มี
00:27:21 → 00:27:24 อาการอะไรเลยให้มันเป็นศูนยไปเลยได้มั้ย
00:27:24 → 00:27:26 ได้ครับด้วยวด้วยวัคซีนป้องกันไวรัส
00:27:27 → 00:27:30 ตปเสษตรBงั้นถ้าเป็นผมผมจะฉีดถ้าผมไม่มี
00:27:30 → 00:27:33 ภูมิแต่ส่วนคุณจะเลือกฉีดหรือไม่ฉีดนั้น
00:27:33 → 00:27:36 อันนี้ก็แล้วแต่แต่ละคนจะตัดสินใจนะครับ
00:27:36 → 00:27:38 โอเควันนี้เท่านี้นะครับขอบคุณมากครับ
00:27:38 → 00:27:41 สวัสดีครับ