00:00:06 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:14 รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราวของสุขภาพ
00:00:14 → 00:00:17 และแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์ผู้เชี่ยว
00:00:17 → 00:00:20 ชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:24 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
00:00:24 → 00:00:29 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา
00:00:29 → 00:00:33 สวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง for
00:00:33 → 00:00:36 Health podcast อยู่กับดิฉันฟ้า
00:00:36 → 00:00:38 ธัญลักษณ์สุดสวยนักประชาสัมพันธ์คณะ
00:00:38 → 00:00:41 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ฟัง
00:00:41 → 00:00:44 ท่านไหนเป็นสายปิ้งย่างต้องห้ามพลาดเนื้อ
00:00:44 → 00:00:47 หาของวันนี้ค่ะเพราะการกินหมูกระทะสุกๆ
00:00:47 → 00:00:50 ดิบๆหรือการใช้ตะเกียบคีบหมูดิบนะคะทำให้
00:00:50 → 00:00:54 เราเสี่ยงเป็นโรคไข้หูดับได้ค่ะวันนี้จึง
00:00:54 → 00:00:56 หยิบยกประเด็นของเรื่องโรคไข้หูดับมาพูด
00:00:56 → 00:00:59 คุยกันเราจะมาทำความรู้จักนะคะว่าโรคไข้
00:00:59 → 00:01:03 หูดับเกิดจากอะไรและอาการอะไรคะที่จะดำไป
00:01:03 → 00:01:05 บ่งบอกทำให้เรารู้ว่าเรากำลังป่วยเป็นโรค
00:01:05 → 00:01:09 นี้และสำหรับปัจจุบันค่ะวิธีการรักษาเป็น
00:01:09 → 00:01:12 ยังไงบ้างนอกจากสายปิ้งย่างแล้วยังมี
00:01:12 → 00:01:14 กลุ่มไหนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะต้อง
00:01:14 → 00:01:17 ระมัดระวังถึงเรื่องโรคไข้หูดับอีกบ้างนะ
00:01:17 → 00:01:21 คะรวมถึงวิธีการค่ะเราสามารถป้องกันให้
00:01:21 → 00:01:24 เราปลอดภัยแล้วก็ห่างไกลจากโรคนี้ได้ยัง
00:01:24 → 00:01:27 ไงบ้างซึ่งอาจารย์หมอก็พร้อมที่จะให้ข้อ
00:01:27 → 00:01:30 มูลกับผู้ฟังทุกท่านแล้วค่ะขอต้อนรับผู้
00:01:30 → 00:01:33 ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงสแนณธรเชาวศิลป์
00:01:33 → 00:01:37 อาจารย์ประจำภาควิชาโสดสนิทวิทยาคณะ
00:01:37 → 00:01:39 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สวัสดีค่ะ
00:01:39 → 00:01:42 สวัสดีค่ะอาจารย์หมอคะอย่างที่เกริ่นเข้า
00:01:42 → 00:01:45 รายการค่ะทำไมสายปิ้งย่างคนรักพวก
00:01:45 → 00:01:47 บุฟเฟ่ต์หรือว่าหมูกระทะนี้จะต้องคอย
00:01:47 → 00:01:50 ระมัดระวังในเรื่องของโรคไข้หูดับเป็นไป
00:01:50 → 00:01:52 ได้หรอหรือว่าความห่างไกลจากโรคนี้ยังไง
00:01:52 → 00:01:54 บ้างก่อนอื่นอยากให้อาจารย์หมอเล่าให้ฟัง
00:01:54 → 00:01:59 ค่ะว่าโรคไข้หูดับในคืออะไรคะค่ะโรคไข้หู
00:01:59 → 00:02:02 ดับเนาะก็คือตามชื่อเลยว่าตอนที่ไม่สบาย
00:02:02 → 00:02:05 ป่วยเนี่ยก็จะมีทั้งไข้และมักจะมีผลตามมา
00:02:05 → 00:02:08 ก็คือมีอาการสูญเสียการได้ยินหรือว่าหู
00:02:08 → 00:02:11 ดับนะคะคราวนี้เนี่ยอยู่ดีๆมันเกิดภาวะ
00:02:11 → 00:02:13 แบบนี้ได้ยังไงเนาะมันเกี่ยวพันกับเรื่อง
00:02:13 → 00:02:15 ปิ้งย่างยังไงใช่มั้ยคะตามที่คุณฟ้าถาม
00:02:15 → 00:02:18 เมื่อกี้อ่ะเนาะก็คือว่าจริงๆแล้วเนี่ย
00:02:18 → 00:02:21 ตัวไข้หูดับมันเกิดจากเชื้อแบคทีเรียตัว
00:02:21 → 00:02:24 นึงชื่อว่าเชื้อ streptocus สู่ is นะคะ
00:02:24 → 00:02:27 ซึ่งซึ่งเชื้อตัวเนี้ยมีอยู่ในระบบทาง
00:02:27 → 00:02:29 เดินหายใจของหมู
00:02:29 → 00:02:32 บางทีถ้าหมูติดเชื้อตัวนี้หมูป่วยนะคะ
00:02:32 → 00:02:35 แล้วเราก็บังเอิญว่ากินหมูที่ไม่สุกด้วย
00:02:35 → 00:02:37 ความร้อนก็คือยังเป็นหมูที่ดิบอยู่นะ
00:02:37 → 00:02:40 อย่างหมูกะทะสายปิ้งย่างเนี่ยบางทีเรา
00:02:40 → 00:02:42 ปิ้งหมูแล้วปิ้งไม่หิวใช่ไหมใช่ค่ะแล้วก็
00:02:42 → 00:02:45 บังเอิญว่าหมูตรงนั้นน่ะติดเชื้อเราก็เลย
00:02:45 → 00:02:47 ได้รับเชื้อเข้ามาทางระบบทางเดินอาหารของ
00:02:47 → 00:02:50 เรานะคะหลังจากนั้นเนี่ยตัวเชื้อเนี่ยก็
00:02:50 → 00:02:53 จะเข้าสู่กระแสเลือดนะคะไปที่ระบบสมอง
00:02:53 → 00:02:56 เนาะเกิดการติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมองนะคะ
00:02:56 → 00:03:00 ตัวสมองกับหูเนี่ยมันติดกันนะตัวเชื้อตัว
00:03:00 → 00:03:02 นี้พอมันไปเยื่อหุ้มสมองปุ๊บมันก็จะเข้า
00:03:02 → 00:03:05 สู่หูชั้นในทำให้มีปัญหาเรื่องของหูดาบ
00:03:05 → 00:03:07 หรือว่าสูญเสียการได้ยินตามมาได้ซึ่ง
00:03:07 → 00:03:09 อาการที่เป็นโยโย่ตอนแรกคนไข้ก็จะมีทั้ง
00:03:09 → 00:03:13 ไข้คอแข็งซึมช้านะคะอาจจะมีเรื่องของ
00:03:13 → 00:03:15 อาการติดเชื้อที่ข้อก็ได้ติดเชื้อที่หลัง
00:03:15 → 00:03:20 ดวงตาก็ได้เช่นกันค่ะเพราะฉะนั้นหลายคน
00:03:20 → 00:03:22 อาจจะคิดว่าไม่ค่อยกินหมูกระทะราคาไม่มี
00:03:22 → 00:03:25 ความเสี่ยงแต่ว่าชอบในแนวของอาหารเหนือ
00:03:25 → 00:03:28 ลาบดิบลูกอย่างเงี้ยมีโอกาสที่เขาจะเป็น
00:03:28 → 00:03:31 ได้ไม่ยากเลยนอกจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบการ
00:03:31 → 00:03:34 รับประทานหมูสุกๆดิบๆแล้วค่ะยังมีอาชีพ
00:03:34 → 00:03:36 ไหนหรือใครที่เสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้
00:03:36 → 00:03:39 บ้างคะค่ะเนื่องจากเชื้อตัวนี้มันอยู่ใน
00:03:39 → 00:03:41 หมูที่ยังไม่สุกด้วยไม่ปรุงสุกด้วยความ
00:03:41 → 00:03:42 ร้อนเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยใครก็ตามที่
00:03:42 → 00:03:45 สัมผัสกับเนื้อหมูสดนะคะหมูดิบนะคะอาจจะ
00:03:45 → 00:03:49 เป็นคนขายหมูหรือว่าครอบครัวแม่ครัวที่
00:03:49 → 00:03:51 ต้องปรุงอาหารแล้วก็สัมผัสกับเนื้อหมูดิบ
00:03:51 → 00:03:53 แล้วบังเอิญว่าหมูนั้นติดเชื้อนะคะแล้ว
00:03:54 → 00:03:56 บังเอิญว่าเราก็มีแผลบริเวณผิวหนังพอดี
00:03:56 → 00:03:59 เนาะตัวเชื้อตัวนี้ก็จะเข้าสู่บาดแผล
00:03:59 → 00:04:01 บริเวณผิวหนังแล้วก็เข้าไปตามกระแสเลือด
00:04:01 → 00:04:05 ได้เช่นกันนะคะหรือบังเอิญว่าอ่าเรามือ
00:04:05 → 00:04:09 เราไปอ่าถูกกับหมูที่ที่ติดเชื้อเนื้อหมู
00:04:09 → 00:04:11 ที่ติดเชื้อเนอะแล้วก็บังเอิญไปโดนตาเรา
00:04:11 → 00:04:15 มันก็เข้าสู่เยื่อบุตาได้เช่นกันก็ได้ค่ะ
00:04:15 → 00:04:19 เราอาจจะระวังเรื่องของแผลที่มือแล้วใส่
00:04:19 → 00:04:23 ถุงมือแล้วแต่อ่าเราไม่ได้ระวังหยิบจับไป
00:04:23 → 00:04:25 โดนตาก็เป็นไปได้เป็นไปได้เช่นกันค่ะ
00:04:25 → 00:04:29 อาจารย์หมอคะแล้วแบบนี้ในปัจจุบันเนี่ย
00:04:29 → 00:04:31 การรักษาโรคให้หูดับเนี่ยเป็นยังไงบ้างคะ
00:04:31 → 00:04:34 แล้วเราสามารถหายขาดจากโรคนี้ได้ 100%
00:04:34 → 00:04:38 หรือเปล่าอ่าโดยปกติแล้วเนี่ยกว่าจะคนไข้
00:04:38 → 00:04:40 จะรู้อาการว่ามีหูดับแล้วเนี่ยคือเขาก็
00:04:40 → 00:04:45 ผ่านอ่าการไม่สบายที่ค่อนข้างรุนแรงเนาะ
00:04:45 → 00:04:46 เพราะว่าตัวเชื้อเนี่ยมันค่อนข้างรุนแรง
00:04:46 → 00:04:50 นะคะเวลาที่เขาได้รับเชื้อโรคนี้มาปุ๊บก็
00:04:50 → 00:04:53 จะใช้เวลา 3-5 วันเริ่มมีอาการละไข้สูงคอ
00:04:53 → 00:04:55 แข็งซึมมีเยื่อหุ้มเยื่อหุ้มสมองอักเสบนะ
00:04:55 → 00:04:57 คะอันนี้ส่วนมากต้องนอนโรงพยาบาลยาวเลย
00:04:57 → 00:05:00 ให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำอย่างน้อย
00:05:00 → 00:05:03 ประมาณ 2-3 อาทิตย์นะหลังจากนั้นพอเชื้อ
00:05:03 → 00:05:06 อะไรตายมาตายหมดแล้วเนี่ยมันก็ยังทิ้ง
00:05:06 → 00:05:09 ร่องรอยไว้นะคะคำว่าร่องรอยก็อย่างเช่น
00:05:09 → 00:05:11 อาจจะมีปัญหาเรื่องของการสูญเสียการได้
00:05:11 → 00:05:14 ยินนะคะอันนี้ทิ้งร่องรอยไว้ละมีปัญหา
00:05:14 → 00:05:16 เรื่องระบบทรงตัวก็ได้เพราะว่าหูของเรา
00:05:16 → 00:05:19 เนี่ยตัวหูชั้นในเนี่ยอ่านอกจากจะรับฟัง
00:05:19 → 00:05:21 เสียงแล้วมันยังควบคุมการทรงตัวด้วยนะคะ
00:05:21 → 00:05:23 เพราะฉะนั้นเนี่ยคนไข้ก็จะเสียทั้งปัญหา
00:05:23 → 00:05:25 เรื่องของการได้ยินกลับมีปัญหาเรื่องของ
00:05:25 → 00:05:28 การทรงตัวนะคะมีปัญหาเรื่องของการมองเห็น
00:05:28 → 00:05:30 ก็อาจจะเป็นได้เพราะฉะนั้นอันนี้ก็จะเป็น
00:05:30 → 00:05:32 ผลในระยะยาวถามว่ารักษาตัวเชื้อตายไหมตาย
00:05:33 → 00:05:36 แต่ว่าตัวเชื้อจะทิ้งร่องรอยนะให้เกิดอ่า
00:05:36 → 00:05:40 ภาวะอาจจะเป็นความพิการเนาะในระยะยาวได้
00:05:40 → 00:05:41 ค่ะ
00:05:41 → 00:05:44 พอรู้แบบนี้รู้สึกว่ามันน่ากลัวมากไม่ใช่
00:05:44 → 00:05:47 เรื่องหมูๆเลยค่ะอาจารย์หมอค่ะอาจจะเกิด
00:05:47 → 00:05:50 ผลกระทบที่รุนแรงต่อร่างกายเราได้เลย
00:05:50 → 00:05:53 เพราะว่าจากที่เราเคยเดินด้วยปกติเขามี
00:05:53 → 00:05:55 ปัญหาอะไรกับหูเราอาจจะมีการวิงเวียนหรือ
00:05:55 → 00:05:58 เหมือนทรงตัวไม่อยู่ก็เป็นไปได้อันนี้ก็
00:05:58 → 00:06:02 เป็นอีกประเด็นหนึ่งค่ะแล้วแบบนี้มีสถิติ
00:06:02 → 00:06:05 ไหมคะอาจารย์หมอคะว่าเดือนไหนจะมีคนที่
00:06:05 → 00:06:08 เป็นโรคนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างนี้ค่ะจริงๆ
00:06:08 → 00:06:10 เรื่องของไข้หูดับเนี่ยก็จะมีมาเรื่อยๆ
00:06:10 → 00:06:14 เนาะทุกๆปีก็จะมีมาเรื่อยๆค่ะจริงๆเนี่ย
00:06:14 → 00:06:16 ถ้าเป็นสถิติของตัวกรมควบคุมโรคที่เขาเคย
00:06:16 → 00:06:20 รายงานไว้นะคะคือในปี 2564 นี้ก็จะเจอคน
00:06:20 → 00:06:22 ไข้ที่มีไข้หูดับเนี่ยทั่วประเทศเนี่ย
00:06:22 → 00:06:26 ประมาณ 557 คนแล้วก็เสียชีวิต 24 รายนะคะ
00:06:26 → 00:06:29 ปี 65 นะคะก็คือปีที่แล้วเนาะอ่าทั้ง
00:06:30 → 00:06:32 ประเทศเนี่ยมี 300 86 คนนะคะก็เสียชีวิต
00:06:32 → 00:06:36 9 รายนะคะแล้วในเชียงใหม่เองล่ะปี 65
00:06:36 → 00:06:39 เนี่ยปี 2565 เนี่ยก็คือมีผู้ป่วยเนาะ
00:06:39 → 00:07:41 เรื่องค่ายหูดับเนี่ย 26
00:07:41 → 00:07:43 มาจากที่ไหนเราก็ไม่ได้ใช่ไหมคะอาจารย์
00:07:43 → 00:07:46 หมอคะเราเลยต้องระมัดระวังตัวเองในเรื่อง
00:07:46 → 00:07:48 ของการใช้ตะเกียบเมื่อสักครู่นี้นะจ๊ะหมอ
00:07:48 → 00:07:51 พูดว่าเรามองข้ามนะเรื่องเล็กๆเรื่องนี้
00:07:51 → 00:07:55 ไปใช้ตะเกียบคีบหมูดิบเราก็ทานด้วย
00:07:55 → 00:07:58 ตะเกียบตัวนั้นค่ะเราหลีกเลี่ยงได้อะไร
00:07:58 → 00:08:01 ที่เราสามารถป้องกันได้เราก็ทำได้เลยนะคะ
00:08:01 → 00:08:05 ใครที่ฟังอยู่เป็นสายปิ้งย่างนะคะเคยมอง
00:08:05 → 00:08:08 ว่าเรื่องโรคไข้หูดับเนี่ยไกลตัวมากๆแต่
00:08:08 → 00:08:10 พอได้คุยกับอาจารย์หมอวันนี้เป็นเรื่อง
00:08:10 → 00:08:13 ที่ใกล้ตัวเราอย่างมากเลยค่ะคือมันดู
00:08:13 → 00:08:15 เหมือนเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราเนาะแต่ว่า
00:08:15 → 00:08:17 จริงๆแล้วเนี่ยมันเป็นเรื่องที่เราป้อง
00:08:17 → 00:08:19 กันได้ไม่ยากถ้าเรามีความตระหนักอ่ะต้อง
00:08:19 → 00:08:22 คุยให้ฟังอย่างนี้เนาะก็คือ 5 วิธีป้อง
00:08:22 → 00:08:24 กันหลักๆเนี่ยการป้องกันมันไม่ยากอยู่
00:08:24 → 00:08:27 แล้วคือตราบใดที่เรากินหมูที่สุดเนาะเรา
00:08:27 → 00:08:29 ไม่กินหมูที่ดิบใช่มั้ยคะถ้าเราไปปิ้ง
00:08:29 → 00:08:32 ย่างเนาะเราอาจจะต้องอ่าระวังไว้เสมอว่า
00:08:32 → 00:08:34 อย่างที่เมื่อกี้คุณฟ้าบอกอ่ะว่ามันอาจจะ
00:08:34 → 00:08:36 มีการปนเปื้อนได้เพราะฉะนั้นเนี่ยเราต้อง
00:08:36 → 00:08:38 มีสติในการกินนิดนึงใช่มั้ยคะว่าเฮ้ย
00:08:38 → 00:08:41 ตะเกียบอันนี้นะสำหรับคีบหมูดิบ
00:08:41 → 00:08:43 เนาะพอหมูมันสุกแล้วเราถึงใช้ตะเกียบอีก
00:08:43 → 00:08:45 อันนึงครีบหมูสุกเพื่อรับประทานต่ออย่าง
00:08:45 → 00:08:47 เงี้ยค่ะมันจะได้ไม่เกิดการปนเปื้อนนะคะ
00:08:47 → 00:08:53 หรือว่าการที่เราจะไปอ่าปรุงอาหารสัมผัส
00:08:53 → 00:08:55 กับหมูดิบแล้วบังเอิญเรามีบาดแผลที่มือ
00:08:55 → 00:08:57 เนี่ยอันนี้ต้องป้องกันดีๆและล้างมือให้
00:08:57 → 00:09:00 สะอาดอันนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ที่สามารถ
00:09:00 → 00:09:04 ป้องกันป้องกันตรงนี้ได้ค่ะก็มีพบมา
00:09:04 → 00:09:06 เรื่อยๆเลยใช่ไหมคะว่าผู้ป่วยอาจจะระวัง
00:09:06 → 00:09:09 ในเรื่องของการทานแต่ว่าอาจจะมีแผลที่มือ
00:09:09 → 00:09:12 แล้วก็ติดเชื้อตัวนี้เข้ามาได้ใช่ค่ะหรือ
00:09:12 → 00:09:15 ว่าเราไปปาร์ตี้กันอย่างนี้เพื่อนๆหลายคน
00:09:15 → 00:09:19 หมูยังไม่ทันสุกเลยเรารีบแล้วอย่างนี้ทาน
00:09:19 → 00:09:21 เข้าไปถ้าเราเจอกับหมูป่วยเดี๋ยวอาจทำให้
00:09:21 → 00:09:24 เราเจ็บป่วยมันก็ไม่คุ้มกันเลยนะคะ
00:09:24 → 00:09:28 อาจารย์หมอคะค่ะคราวนี้ก็จะมีคนไข้บาง
00:09:28 → 00:09:31 กลุ่มเนาะที่แบบอาจจะมีความเสี่ยงมากกว่า
00:09:31 → 00:09:33 ปกติหน่อยถ้าสมมุติว่าติดเชื้อแล้วอาจจะ
00:09:33 → 00:09:36 ติดเชื้อรุนแรงนะคะจริงๆอ่ะทุกคนที่กิน
00:09:36 → 00:09:38 หมูดิบก็จะมีความเสียหมดแหละใช่มั้ยเพราะ
00:09:38 → 00:09:40 เราก็ไม่รู้นะว่าไอ้หมูเนี่ยมีเชื้อหรือ
00:09:40 → 00:09:42 เปล่าหรือยังไงแต่ตราบใดก็ตามที่เราทำให้
00:09:42 → 00:09:45 มันสุกด้วยความร้อนนะคะตรงนี้ก็จะไม่ค่อย
00:09:45 → 00:09:47 มีปัญหาแต่คราวนี้บังเอิญว่าสมมุติว่าได้
00:09:47 → 00:09:50 รับเชื้อเข้าไปก็จะมีกลุ่มคนบางกลุ่มนะคะ
00:09:50 → 00:09:53 ที่เขาอาจจะติดเชื้อง่ายทำให้มีอาการรุน
00:09:53 → 00:09:56 แรงเช่นคนที่มีภาวะภูมิคุ้มกันที่อาจจะ
00:09:57 → 00:10:00 น้อยกว่าคนอื่นเช่นคนไข้ที่มีปัญหาเรื่อง
00:10:00 → 00:10:03 เป็นเบาหวานเนาะหรือว่าอายุอาจจะเยอะและ
00:10:03 → 00:10:05 เป็นผู้สูงอายุนะคะพรุ่งนี้ภูมิคุ้มกันก็
00:10:05 → 00:10:09 อาจจะสู้เด็กๆไม่ได้เนาะหรือว่าตัวคนไข้
00:10:09 → 00:10:11 ที่เคยผ่าตัดอื่นๆเช่นผ่าตัดม้ามออกไป
00:10:11 → 00:10:14 เนี่ยเรื่องภูมิคุ้มกันเขาก็จะลดลงเช่น
00:10:14 → 00:10:16 กันหรือว่าในคนที่กินดื่มแอลกอฮอล์
00:10:16 → 00:10:20 เรื้อรังนะคะใช่พวกนี้ก็จะมีปัญหาเรื่อง
00:10:20 → 00:10:23 ตับอะไรเล็กๆน้อยๆค่ะก็มีโอกาสที่เวลาติด
00:10:23 → 00:10:24 เชื้อแล้วเนี่ยมันก็จะมีความรุนแรงมาก
00:10:24 → 00:10:27 ขึ้นค่ะแต่ถ้าแบบนี้ในครอบครัวนึงเนี่ย
00:10:27 → 00:10:31 ได้รับหมูที่มาจากแหล่งเดียวกันแล้วทาน
00:10:31 → 00:10:34 สุกๆดิบๆด้วยการทั้งบ้านค่ะภูมิตรงนี้จะ
00:10:34 → 00:10:36 มีไหมคะว่าคนนี้แข็งแรงอาจจะไม่ติดหรือ
00:10:36 → 00:10:39 ว่าไม่จริงไม่ได้ไหมคะเป็นไปได้เพราะว่า
00:10:39 → 00:10:42 จริงๆเคยมีคนมาถามเหมือนกันว่าเออจริงๆ
00:10:42 → 00:10:44 อ่ะเรากินเนื้อหมูดิบหนูว่ากินชามเดียว
00:10:45 → 00:10:47 กันแต่ทำไมคนนี้เป็นโรคอีกคนนึงไม่เป็น
00:10:47 → 00:10:49 โรคอะไรอย่างเงี้ยค่ะจริงๆเนี่ยมันก็ขึ้น
00:10:49 → 00:10:51 อยู่กับหลายอย่างเช่นอ่าเชื้อที่ได้รับ
00:10:51 → 00:10:53 น่ะเราได้รับไปเยอะหรือว่าน้อยเพราะว่า
00:10:53 → 00:10:55 บางทีเนี่ยอาจจะภูมิธรรมเดียวกันก็จริง
00:10:55 → 00:10:59 แต่ว่าเชื้อมันอาจจะไม่ได้ทั่วทั่วถึง
00:10:59 → 00:11:02 อีกประเด็นนึงก็คือว่าภูมิคุ้มกันของคน
00:11:02 → 00:11:05 ไข้แต่ละคนมากน้อยเท่าไหร่ใช่ถ้าสมมุติ
00:11:05 → 00:11:08 ว่าภูมิคุ้มกันเขาน้อยมีโอกาสติดเชื้อ
00:11:08 → 00:11:10 ง่ายอาการแสดงอาการแสดงของเชื้อการติด
00:11:10 → 00:11:14 เชื้อก็จะรุนแรงกว่าปกติเนอะแต่ยังไงก็
00:11:14 → 00:11:16 ตามแล้วก็ไม่อยากให้คนที่เรารักหรือ
00:11:16 → 00:11:18 เพื่อนๆที่ทานร่วมกันเนี่ยมีใครในนั้น
00:11:18 → 00:11:21 เจ็บป่วยเราสามารถป้องกันได้แต่ต้นเลยก็
00:11:21 → 00:11:24 คือทานให้มันสุกดีกว่าเนาะสุกมากกว่า 80%
00:11:24 → 00:11:26 ขึ้นไปใช่ไหมคะอาจารย์หมอค่ะหรือควรจะ
00:11:27 → 00:11:29 ร้อยเลยจริงๆถ้าร้อยเลยก็น่าจะดีนะถ้าๆ
00:11:29 → 00:11:31 ถ้าคนนั้น
00:11:31 → 00:11:35 สเต็กหมูอ่ะโดยมากเค้าจะสุกใช่แต่ว่าถ้า
00:11:35 → 00:11:37 เป็นเนื้อบางที่อาจจะมีแบบอะไรนะมีเดียม
00:11:37 → 00:11:39 แรงหรืออะไรอย่างงั้นแต่ถามว่าจริงๆแล้ว
00:11:39 → 00:11:42 อ่ะด้วยอาหารที่ไม่ได้ปรุงสุกด้วยความ
00:11:42 → 00:11:46 ร้อนเนาะถ้าอย่างหมูเนี่ยถ้าหมูยังดิบ
00:11:46 → 00:11:49 อยู่เนี่ยโอกาสติดเชื้อสเต็กตัวเขาสู่ is
00:11:49 → 00:11:51 นี้ก็มีใช่มั้ยคะอันที่ 1 หรือว่าจริงๆ
00:11:51 → 00:11:52 อาจจะเป็นเรื่องอื่นก็ได้นะเช่นเป็นพยาธิ
00:11:52 → 00:11:55 ก็ได้ใช่มั้ยเนาะ
00:11:55 → 00:11:58 ใช่ค่ะอย่างตัวเนื้อก็เช่นเดียวกันมี
00:11:58 → 00:12:00 เรื่องของตัวพยาธิได้เช่นเดียวกันอะไร
00:12:00 → 00:12:01 อย่างนี้ค่ะก็คืออาจจะเป็นสิ่งที่เราต้อง
00:12:01 → 00:12:03 ระวังไว้คือด้วยตัวเนื้อที่เป็นเหมือน
00:12:03 → 00:12:05 เนื้อวัวอะไรอย่างนี้ไม่ได้มีตัวเชื้อ
00:12:05 → 00:12:07 Step ตัวเขา classrooe is หรอกแต่ว่าก็
00:12:07 → 00:12:10 จะมีการติดเชื้ออื่นที่เป็นไปได้เท่านั้น
00:12:10 → 00:12:13 ค่ะหลายคนฟังแล้วก็อาจจะกำลังยิ้มค่ะอุ้ย
00:12:13 → 00:12:16 ดีจังเลยเราเนี่ยไม่ได้ชอบทานหมูดิบเท่า
00:12:16 → 00:12:19 ไหร่แต่เราชอบทานเนื้อดีเขาก็คิดว่าอาจจะ
00:12:19 → 00:12:22 ปลอดภัยจากโรคนี้เลยหรือเปล่าแต่เมื่อสัก
00:12:22 → 00:12:24 ครู่นี้นะคะหมอบอกว่าถึงเราจะไม่ได้รับ
00:12:24 → 00:12:26 เชื้อตัวนี้เราก็มีโอกาสที่จะเจ็บป่วยจาก
00:12:26 → 00:12:30 การกินสุกๆดิบๆเนี่ยด้วยเชื้ออื่นๆนำมา
00:12:30 → 00:12:34 ได้ด้วยค่ะใช่เลยค่ะคุณฟ้าค่ะก็ถึงช่วง
00:12:34 → 00:12:35 สุดท้ายของรายการค่ะอย่าให้อาจารย์หมอ
00:12:35 → 00:12:39 ทิ้งท้ายถึงผู้ฟังหลายๆท่านที่อาจจะชื่น
00:12:39 → 00:12:42 ชอบการกินหมูมากๆเลยหมูกระทะนี้ทุก
00:12:42 → 00:12:45 อาทิตย์แล้วก็รวมถึงในบ้านที่ซื้อหมูจาก
00:12:45 → 00:12:49 แหล่งที่เราไม่แน่ใจอ่ะค่ะว่ามาจากที่ไหน
00:12:49 → 00:12:51 อาจจะเป็นตลาดสดหรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:12:51 → 00:12:53 อยากให้คุณหมอช่วยย้ำเตือนผู้ฟังอีกครั้ง
00:12:53 → 00:12:56 นึงค่ะค่ะหลักการป้องกันง่ายๆเนาะคืออัน
00:12:57 → 00:12:59 นี้เราต้องนึกภาพใหญ่ก่อนว่าถ้าบังเอิญ
00:12:59 → 00:13:01 เราโชคไม่ดีกินหมูดิบแล้วเราบังเอิญติด
00:13:01 → 00:13:05 เชื้อตัวนี้ก็ถือว่าเป็นโชคที่ไม่ดีมากๆ
00:13:05 → 00:13:08 เพราะว่าเวลาติดเนี่ยรุนแรงเนาะต้องนอน
00:13:09 → 00:13:11 โรงพยาบาลมีเคยมีสถิติของโรงพยาบาลมหาราช
00:13:11 → 00:13:13 เหมือนกันนะที่อาจารย์เขาทำรายงานไว้
00:13:13 → 00:13:16 เมื่อประมาณสัก 10 กว่าปีก่อนเนาะในคนที่
00:13:16 → 00:13:20 เป็นเรื่องของไข้หูดับเนี่ย 20% คือเสีย
00:13:20 → 00:13:22 ชีวิตเลยนะของโรงพยาบาลเรานี่เป็นสันติ
00:13:22 → 00:13:24 โรงพยาบาลเราเมื่อ 10 กว่าปีก่อนที่เคย
00:13:24 → 00:13:27 รายงานไว้เนาะคราวนี้ในผู้ที่รอดชีวิตมา
00:13:27 → 00:13:32 เนี่ยก็อ่าก็มีผลข้างเคียงอื่นตามมานะคะ
00:13:32 → 00:13:35 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการได้ยินนะคะในคน
00:13:35 → 00:13:36 ที่มีเรื่องของเยื่อหุ้มสมองอักเสบเนี่ย
00:13:36 → 00:13:38 เกิน 90% คือมีปัญหาเรื่องการได้ยินแน่
00:13:38 → 00:13:41 นอนถ้ามีปัญหาเรื่องการได้ยินแล้วเนี่ย
00:13:41 → 00:13:46 อ่าคือไม่เกิน 30% ที่มีโอกาสกลับฟื้นคืน
00:13:46 → 00:13:48 มาซึ่งฟื้นคืนมาเนี่ยไม่ได้หมายความว่า
00:13:48 → 00:13:50 ฟื้น 100% ด้วย
00:13:50 → 00:13:53 คุณภาพอีก 70% คือฟื้นน้อยเพราะฉะนั้น
00:13:53 → 00:13:55 เนี่ยวิธีป้องกันง่ายๆถ้าเราตระหนักถึง
00:13:55 → 00:13:58 ความความรุนแรงของมันแล้วเนาะการป้องกัน
00:13:58 → 00:14:01 ง่ายๆก็คือหมูที่รับประทานต้องปรุงสุก
00:14:01 → 00:14:03 ด้วยความร้อนความร้อนนี่ก็คือความเห็น
00:14:03 → 00:14:05 ความร้อนที่เกิน 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป
00:14:05 → 00:14:09 ถ้าเป็นไปได้คือรอสักประมาณ 10 นาทีก็จะ
00:14:09 → 00:14:12 ดีนะคะคือสุกแน่ๆอะไรอย่างนี้เนาะหรือถ้า
00:14:12 → 00:14:14 เราสังเกตง่ายๆก็คือเวลาตัดหมูไปแล้วปุ๊บ
00:14:14 → 00:14:17 มันจะไม่มีลักษณะเป็นเนื้อแดงๆอยู่ชายไม่
00:14:17 → 00:14:19 มีลักษณะเป็นเลือดอยู่ค่ะอันนี้ในแง่ของ
00:14:19 → 00:14:22 การรับประทานเนาะในแง่ของการป้องกันถ้า
00:14:22 → 00:14:24 เราเป็นคนที่ต้องหั่นหมูดิบนะคะหั่นเนื้อ
00:14:24 → 00:14:27 หมูสดเงี้ยค่ะอันนี้เราก็ต้องดูว่าถ้า
00:14:27 → 00:14:29 สามารถใส่ถุงมืออุปกรณ์ป้องกันตัวอะไรได้
00:14:29 → 00:14:32 ใส่เลยค่ะโดยเฉพาะถ้าสมมุติว่ามีแผล
00:14:33 → 00:14:36 บริเวณผิวหนังบริเวณมือค่ะอันนี้คือควร
00:14:36 → 00:14:40 ใส่ป้องกันนะคะแล้วก็การเลือกซื้อหมูนี่
00:14:40 → 00:14:43 ก็สำคัญเนาะพยายามเลือกซื้อหมูจากอ่าสถาน
00:14:43 → 00:14:46 ที่เขามีมารับรองจากกรมไปทุกฉากนะคะหรือ
00:14:46 → 00:14:48 ว่าเราจะสังเกตเห็นง่ายๆก็ได้ว่าถ้าหมู
00:14:48 → 00:14:51 ราคาดูถูกเกินไปนะเนาะหรือว่าลักษณะหมูดู
00:14:51 → 00:14:54 มีกลิ่นคาวไร่หรือว่าดูมีรอยช้ำอะไรอย่าง
00:14:54 → 00:14:56 นี้ค่ะอันนี้เราอาจจะต้องพึงระวังนิดนึง
00:14:56 → 00:15:00 คิดว่าวันนี้โชคดีจังเลยได้เจอแหล่งซื้อ
00:15:00 → 00:15:03 หมู่ที่ราคาดีค่ะก็ดูถึงคุณภาพด้วยนะคะ
00:15:03 → 00:15:06 ว่ามีอย่างข้อที่อาจารย์หมอกล่าวมาหรือ
00:15:06 → 00:15:08 เปล่าเนื้อเป็นยังไงยังมีความสดหรือเปล่า
00:15:08 → 00:15:12 แล้วจะให้ดีต้องมีเรื่องของใบที่กรม
00:15:12 → 00:15:14 อนามัยใช่ไหมคะ
00:15:14 → 00:15:17 ถูกต้องเลยวันนี้โชคดีมากเลยค่ะเราได้พูด
00:15:17 → 00:15:20 คุยกับอาจารย์หมอถึงเรื่องที่เราอาจจะมอง
00:15:20 → 00:15:23 ข้ามค่ะคิดว่าไกลตัวเราจังเลยหรือว่าน้อง
00:15:23 → 00:15:25 ๆที่ฟัง podcast อยู่แล้วก็เป็นวัยรุ่น
00:15:25 → 00:15:28 ฉันไปกินลาบดิบหรอกเพราะเขาก็จะเตือนว่า
00:15:28 → 00:15:31 ถ้ากินลาบดิบเนี่ยอาจจะลาบหมูดิบอาจจะ
00:15:31 → 00:15:34 เสี่ยงเป็นไข้หูดับนะก็คิดว่าไกลตัวแต่พอ
00:15:34 → 00:15:36 วันนี้อ้าวหมูกระทะก็เสี่ยงเป็นได้นะ
00:15:36 → 00:15:40 เริ่มพึงตระหนักถึงเรื่องโรคไข้หูดับมาก
00:15:40 → 00:15:42 ขึ้นค่ะต้องขอบพระคุณอาจารย์หมอมากๆเลยนะ
00:15:42 → 00:15:47 คะอ่ายินดีค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะและขอ
00:15:47 → 00:15:49 ขอบคุณผู้ฟังทุกท่านที่อยู่ด้วยกันตรงนี้
00:15:49 → 00:15:53 ค่ะนอกจากนี้นะคะผู้ฟังยังสามารถติดตาม
00:15:53 → 00:15:55 ข่าวสารของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:15:55 → 00:15:58 เชียงใหม่ได้อีกหลากหลายช่องทางค่ะไม่ว่า
00:15:58 → 00:16:01 จะเป็นบนเว็บไซต์ Facebook YouTube
00:16:01 → 00:16:05 Twitter telegram Instagram podcast
00:16:05 → 00:16:09 PM คำที่ช่องค้นหาว่า metcmu นะคะ med
00:16:09 → 00:16:13 cmu เพียงเท่านี้ค่ะก็จะมีข้อมูลเกี่ยว
00:16:13 → 00:16:16 กับการดูแลสุขภาพอีกมากมายเลยค่ะสำหรับ
00:16:16 → 00:16:19 วันนี้นะคะต้องมาทุกท่านไปก่อนครั้งหน้า
00:16:19 → 00:16:22 จะเป็นเรื่องอะไรอย่าลืมติดตามกันต่อนะคะ
00:16:22 → 00:16:23 สวัสดีค่ะ
00:16:23 → 00:16:26 [เพลง]
00:16:26 → 00:16:32 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา
00:00:06 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:14 รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราวของสุขภาพ
00:00:14 → 00:00:17 และแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์ผู้เชี่ยว
00:00:17 → 00:00:20 ชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:24 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
00:00:24 → 00:00:29 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา
00:00:29 → 00:00:33 สวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง for
00:00:33 → 00:00:36 Health podcast อยู่กับดิฉันฟ้า
00:00:36 → 00:00:38 ธัญลักษณ์สุดสวยนักประชาสัมพันธ์คณะ
00:00:38 → 00:00:41 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ฟัง
00:00:41 → 00:00:44 ท่านไหนเป็นสายปิ้งย่างต้องห้ามพลาดเนื้อ
00:00:44 → 00:00:47 หาของวันนี้ค่ะเพราะการกินหมูกระทะสุกๆ
00:00:47 → 00:00:50 ดิบๆหรือการใช้ตะเกียบคีบหมูดิบนะคะทำให้
00:00:50 → 00:00:54 เราเสี่ยงเป็นโรคไข้หูดับได้ค่ะวันนี้จึง
00:00:54 → 00:00:56 หยิบยกประเด็นของเรื่องโรคไข้หูดับมาพูด
00:00:56 → 00:00:59 คุยกันเราจะมาทำความรู้จักนะคะว่าโรคไข้
00:00:59 → 00:01:03 หูดับเกิดจากอะไรและอาการอะไรคะที่จะดำไป
00:01:03 → 00:01:05 บ่งบอกทำให้เรารู้ว่าเรากำลังป่วยเป็นโรค
00:01:05 → 00:01:09 นี้และสำหรับปัจจุบันค่ะวิธีการรักษาเป็น
00:01:09 → 00:01:12 ยังไงบ้างนอกจากสายปิ้งย่างแล้วยังมี
00:01:12 → 00:01:14 กลุ่มไหนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะต้อง
00:01:14 → 00:01:17 ระมัดระวังถึงเรื่องโรคไข้หูดับอีกบ้างนะ
00:01:17 → 00:01:21 คะรวมถึงวิธีการค่ะเราสามารถป้องกันให้
00:01:21 → 00:01:24 เราปลอดภัยแล้วก็ห่างไกลจากโรคนี้ได้ยัง
00:01:24 → 00:01:27 ไงบ้างซึ่งอาจารย์หมอก็พร้อมที่จะให้ข้อ
00:01:27 → 00:01:30 มูลกับผู้ฟังทุกท่านแล้วค่ะขอต้อนรับผู้
00:01:30 → 00:01:33 ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงสแนณธรเชาวศิลป์
00:01:33 → 00:01:37 อาจารย์ประจำภาควิชาโสดสนิทวิทยาคณะ
00:01:37 → 00:01:39 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สวัสดีค่ะ
00:01:39 → 00:01:42 สวัสดีค่ะอาจารย์หมอคะอย่างที่เกริ่นเข้า
00:01:42 → 00:01:45 รายการค่ะทำไมสายปิ้งย่างคนรักพวก
00:01:45 → 00:01:47 บุฟเฟ่ต์หรือว่าหมูกระทะนี้จะต้องคอย
00:01:47 → 00:01:50 ระมัดระวังในเรื่องของโรคไข้หูดับเป็นไป
00:01:50 → 00:01:52 ได้หรอหรือว่าความห่างไกลจากโรคนี้ยังไง
00:01:52 → 00:01:54 บ้างก่อนอื่นอยากให้อาจารย์หมอเล่าให้ฟัง
00:01:54 → 00:01:59 ค่ะว่าโรคไข้หูดับในคืออะไรคะค่ะโรคไข้หู
00:01:59 → 00:02:02 ดับเนาะก็คือตามชื่อเลยว่าตอนที่ไม่สบาย
00:02:02 → 00:02:05 ป่วยเนี่ยก็จะมีทั้งไข้และมักจะมีผลตามมา
00:02:05 → 00:02:08 ก็คือมีอาการสูญเสียการได้ยินหรือว่าหู
00:02:08 → 00:02:11 ดับนะคะคราวนี้เนี่ยอยู่ดีๆมันเกิดภาวะ
00:02:11 → 00:02:13 แบบนี้ได้ยังไงเนาะมันเกี่ยวพันกับเรื่อง
00:02:13 → 00:02:15 ปิ้งย่างยังไงใช่มั้ยคะตามที่คุณฟ้าถาม
00:02:15 → 00:02:18 เมื่อกี้อ่ะเนาะก็คือว่าจริงๆแล้วเนี่ย
00:02:18 → 00:02:21 ตัวไข้หูดับมันเกิดจากเชื้อแบคทีเรียตัว
00:02:21 → 00:02:24 นึงชื่อว่าเชื้อ streptocus สู่ is นะคะ
00:02:24 → 00:02:27 ซึ่งซึ่งเชื้อตัวเนี้ยมีอยู่ในระบบทาง
00:02:27 → 00:02:29 เดินหายใจของหมู
00:02:29 → 00:02:32 บางทีถ้าหมูติดเชื้อตัวนี้หมูป่วยนะคะ
00:02:32 → 00:02:35 แล้วเราก็บังเอิญว่ากินหมูที่ไม่สุกด้วย
00:02:35 → 00:02:37 ความร้อนก็คือยังเป็นหมูที่ดิบอยู่นะ
00:02:37 → 00:02:40 อย่างหมูกะทะสายปิ้งย่างเนี่ยบางทีเรา
00:02:40 → 00:02:42 ปิ้งหมูแล้วปิ้งไม่หิวใช่ไหมใช่ค่ะแล้วก็
00:02:42 → 00:02:45 บังเอิญว่าหมูตรงนั้นน่ะติดเชื้อเราก็เลย
00:02:45 → 00:02:47 ได้รับเชื้อเข้ามาทางระบบทางเดินอาหารของ
00:02:47 → 00:02:50 เรานะคะหลังจากนั้นเนี่ยตัวเชื้อเนี่ยก็
00:02:50 → 00:02:53 จะเข้าสู่กระแสเลือดนะคะไปที่ระบบสมอง
00:02:53 → 00:02:56 เนาะเกิดการติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมองนะคะ
00:02:56 → 00:03:00 ตัวสมองกับหูเนี่ยมันติดกันนะตัวเชื้อตัว
00:03:00 → 00:03:02 นี้พอมันไปเยื่อหุ้มสมองปุ๊บมันก็จะเข้า
00:03:02 → 00:03:05 สู่หูชั้นในทำให้มีปัญหาเรื่องของหูดาบ
00:03:05 → 00:03:07 หรือว่าสูญเสียการได้ยินตามมาได้ซึ่ง
00:03:07 → 00:03:09 อาการที่เป็นโยโย่ตอนแรกคนไข้ก็จะมีทั้ง
00:03:09 → 00:03:13 ไข้คอแข็งซึมช้านะคะอาจจะมีเรื่องของ
00:03:13 → 00:03:15 อาการติดเชื้อที่ข้อก็ได้ติดเชื้อที่หลัง
00:03:15 → 00:03:20 ดวงตาก็ได้เช่นกันค่ะเพราะฉะนั้นหลายคน
00:03:20 → 00:03:22 อาจจะคิดว่าไม่ค่อยกินหมูกระทะราคาไม่มี
00:03:22 → 00:03:25 ความเสี่ยงแต่ว่าชอบในแนวของอาหารเหนือ
00:03:25 → 00:03:28 ลาบดิบลูกอย่างเงี้ยมีโอกาสที่เขาจะเป็น
00:03:28 → 00:03:31 ได้ไม่ยากเลยนอกจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบการ
00:03:31 → 00:03:34 รับประทานหมูสุกๆดิบๆแล้วค่ะยังมีอาชีพ
00:03:34 → 00:03:36 ไหนหรือใครที่เสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้
00:03:36 → 00:03:39 บ้างคะค่ะเนื่องจากเชื้อตัวนี้มันอยู่ใน
00:03:39 → 00:03:41 หมูที่ยังไม่สุกด้วยไม่ปรุงสุกด้วยความ
00:03:41 → 00:03:42 ร้อนเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยใครก็ตามที่
00:03:42 → 00:03:45 สัมผัสกับเนื้อหมูสดนะคะหมูดิบนะคะอาจจะ
00:03:45 → 00:03:49 เป็นคนขายหมูหรือว่าครอบครัวแม่ครัวที่
00:03:49 → 00:03:51 ต้องปรุงอาหารแล้วก็สัมผัสกับเนื้อหมูดิบ
00:03:51 → 00:03:53 แล้วบังเอิญว่าหมูนั้นติดเชื้อนะคะแล้ว
00:03:54 → 00:03:56 บังเอิญว่าเราก็มีแผลบริเวณผิวหนังพอดี
00:03:56 → 00:03:59 เนาะตัวเชื้อตัวนี้ก็จะเข้าสู่บาดแผล
00:03:59 → 00:04:01 บริเวณผิวหนังแล้วก็เข้าไปตามกระแสเลือด
00:04:01 → 00:04:05 ได้เช่นกันนะคะหรือบังเอิญว่าอ่าเรามือ
00:04:05 → 00:04:09 เราไปอ่าถูกกับหมูที่ที่ติดเชื้อเนื้อหมู
00:04:09 → 00:04:11 ที่ติดเชื้อเนอะแล้วก็บังเอิญไปโดนตาเรา
00:04:11 → 00:04:15 มันก็เข้าสู่เยื่อบุตาได้เช่นกันก็ได้ค่ะ
00:04:15 → 00:04:19 เราอาจจะระวังเรื่องของแผลที่มือแล้วใส่
00:04:19 → 00:04:23 ถุงมือแล้วแต่อ่าเราไม่ได้ระวังหยิบจับไป
00:04:23 → 00:04:25 โดนตาก็เป็นไปได้เป็นไปได้เช่นกันค่ะ
00:04:25 → 00:04:29 อาจารย์หมอคะแล้วแบบนี้ในปัจจุบันเนี่ย
00:04:29 → 00:04:31 การรักษาโรคให้หูดับเนี่ยเป็นยังไงบ้างคะ
00:04:31 → 00:04:34 แล้วเราสามารถหายขาดจากโรคนี้ได้ 100%
00:04:34 → 00:04:38 หรือเปล่าอ่าโดยปกติแล้วเนี่ยกว่าจะคนไข้
00:04:38 → 00:04:40 จะรู้อาการว่ามีหูดับแล้วเนี่ยคือเขาก็
00:04:40 → 00:04:45 ผ่านอ่าการไม่สบายที่ค่อนข้างรุนแรงเนาะ
00:04:45 → 00:04:46 เพราะว่าตัวเชื้อเนี่ยมันค่อนข้างรุนแรง
00:04:46 → 00:04:50 นะคะเวลาที่เขาได้รับเชื้อโรคนี้มาปุ๊บก็
00:04:50 → 00:04:53 จะใช้เวลา 3-5 วันเริ่มมีอาการละไข้สูงคอ
00:04:53 → 00:04:55 แข็งซึมมีเยื่อหุ้มเยื่อหุ้มสมองอักเสบนะ
00:04:55 → 00:04:57 คะอันนี้ส่วนมากต้องนอนโรงพยาบาลยาวเลย
00:04:57 → 00:05:00 ให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำอย่างน้อย
00:05:00 → 00:05:03 ประมาณ 2-3 อาทิตย์นะหลังจากนั้นพอเชื้อ
00:05:03 → 00:05:06 อะไรตายมาตายหมดแล้วเนี่ยมันก็ยังทิ้ง
00:05:06 → 00:05:09 ร่องรอยไว้นะคะคำว่าร่องรอยก็อย่างเช่น
00:05:09 → 00:05:11 อาจจะมีปัญหาเรื่องของการสูญเสียการได้
00:05:11 → 00:05:14 ยินนะคะอันนี้ทิ้งร่องรอยไว้ละมีปัญหา
00:05:14 → 00:05:16 เรื่องระบบทรงตัวก็ได้เพราะว่าหูของเรา
00:05:16 → 00:05:19 เนี่ยตัวหูชั้นในเนี่ยอ่านอกจากจะรับฟัง
00:05:19 → 00:05:21 เสียงแล้วมันยังควบคุมการทรงตัวด้วยนะคะ
00:05:21 → 00:05:23 เพราะฉะนั้นเนี่ยคนไข้ก็จะเสียทั้งปัญหา
00:05:23 → 00:05:25 เรื่องของการได้ยินกลับมีปัญหาเรื่องของ
00:05:25 → 00:05:28 การทรงตัวนะคะมีปัญหาเรื่องของการมองเห็น
00:05:28 → 00:05:30 ก็อาจจะเป็นได้เพราะฉะนั้นอันนี้ก็จะเป็น
00:05:30 → 00:05:32 ผลในระยะยาวถามว่ารักษาตัวเชื้อตายไหมตาย
00:05:33 → 00:05:36 แต่ว่าตัวเชื้อจะทิ้งร่องรอยนะให้เกิดอ่า
00:05:36 → 00:05:40 ภาวะอาจจะเป็นความพิการเนาะในระยะยาวได้
00:05:40 → 00:05:41 ค่ะ
00:05:41 → 00:05:44 พอรู้แบบนี้รู้สึกว่ามันน่ากลัวมากไม่ใช่
00:05:44 → 00:05:47 เรื่องหมูๆเลยค่ะอาจารย์หมอค่ะอาจจะเกิด
00:05:47 → 00:05:50 ผลกระทบที่รุนแรงต่อร่างกายเราได้เลย
00:05:50 → 00:05:53 เพราะว่าจากที่เราเคยเดินด้วยปกติเขามี
00:05:53 → 00:05:55 ปัญหาอะไรกับหูเราอาจจะมีการวิงเวียนหรือ
00:05:55 → 00:05:58 เหมือนทรงตัวไม่อยู่ก็เป็นไปได้อันนี้ก็
00:05:58 → 00:06:02 เป็นอีกประเด็นหนึ่งค่ะแล้วแบบนี้มีสถิติ
00:06:02 → 00:06:05 ไหมคะอาจารย์หมอคะว่าเดือนไหนจะมีคนที่
00:06:05 → 00:06:08 เป็นโรคนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างนี้ค่ะจริงๆ
00:06:08 → 00:06:10 เรื่องของไข้หูดับเนี่ยก็จะมีมาเรื่อยๆ
00:06:10 → 00:06:14 เนาะทุกๆปีก็จะมีมาเรื่อยๆค่ะจริงๆเนี่ย
00:06:14 → 00:06:16 ถ้าเป็นสถิติของตัวกรมควบคุมโรคที่เขาเคย
00:06:16 → 00:06:20 รายงานไว้นะคะคือในปี 2564 นี้ก็จะเจอคน
00:06:20 → 00:06:22 ไข้ที่มีไข้หูดับเนี่ยทั่วประเทศเนี่ย
00:06:22 → 00:06:26 ประมาณ 557 คนแล้วก็เสียชีวิต 24 รายนะคะ
00:06:26 → 00:06:29 ปี 65 นะคะก็คือปีที่แล้วเนาะอ่าทั้ง
00:06:30 → 00:06:32 ประเทศเนี่ยมี 300 86 คนนะคะก็เสียชีวิต
00:06:32 → 00:06:36 9 รายนะคะแล้วในเชียงใหม่เองล่ะปี 65
00:06:36 → 00:06:39 เนี่ยปี 2565 เนี่ยก็คือมีผู้ป่วยเนาะ
00:06:39 → 00:07:41 เรื่องค่ายหูดับเนี่ย 26
00:07:41 → 00:07:43 มาจากที่ไหนเราก็ไม่ได้ใช่ไหมคะอาจารย์
00:07:43 → 00:07:46 หมอคะเราเลยต้องระมัดระวังตัวเองในเรื่อง
00:07:46 → 00:07:48 ของการใช้ตะเกียบเมื่อสักครู่นี้นะจ๊ะหมอ
00:07:48 → 00:07:51 พูดว่าเรามองข้ามนะเรื่องเล็กๆเรื่องนี้
00:07:51 → 00:07:55 ไปใช้ตะเกียบคีบหมูดิบเราก็ทานด้วย
00:07:55 → 00:07:58 ตะเกียบตัวนั้นค่ะเราหลีกเลี่ยงได้อะไร
00:07:58 → 00:08:01 ที่เราสามารถป้องกันได้เราก็ทำได้เลยนะคะ
00:08:01 → 00:08:05 ใครที่ฟังอยู่เป็นสายปิ้งย่างนะคะเคยมอง
00:08:05 → 00:08:08 ว่าเรื่องโรคไข้หูดับเนี่ยไกลตัวมากๆแต่
00:08:08 → 00:08:10 พอได้คุยกับอาจารย์หมอวันนี้เป็นเรื่อง
00:08:10 → 00:08:13 ที่ใกล้ตัวเราอย่างมากเลยค่ะคือมันดู
00:08:13 → 00:08:15 เหมือนเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราเนาะแต่ว่า
00:08:15 → 00:08:17 จริงๆแล้วเนี่ยมันเป็นเรื่องที่เราป้อง
00:08:17 → 00:08:19 กันได้ไม่ยากถ้าเรามีความตระหนักอ่ะต้อง
00:08:19 → 00:08:22 คุยให้ฟังอย่างนี้เนาะก็คือ 5 วิธีป้อง
00:08:22 → 00:08:24 กันหลักๆเนี่ยการป้องกันมันไม่ยากอยู่
00:08:24 → 00:08:27 แล้วคือตราบใดที่เรากินหมูที่สุดเนาะเรา
00:08:27 → 00:08:29 ไม่กินหมูที่ดิบใช่มั้ยคะถ้าเราไปปิ้ง
00:08:29 → 00:08:32 ย่างเนาะเราอาจจะต้องอ่าระวังไว้เสมอว่า
00:08:32 → 00:08:34 อย่างที่เมื่อกี้คุณฟ้าบอกอ่ะว่ามันอาจจะ
00:08:34 → 00:08:36 มีการปนเปื้อนได้เพราะฉะนั้นเนี่ยเราต้อง
00:08:36 → 00:08:38 มีสติในการกินนิดนึงใช่มั้ยคะว่าเฮ้ย
00:08:38 → 00:08:41 ตะเกียบอันนี้นะสำหรับคีบหมูดิบ
00:08:41 → 00:08:43 เนาะพอหมูมันสุกแล้วเราถึงใช้ตะเกียบอีก
00:08:43 → 00:08:45 อันนึงครีบหมูสุกเพื่อรับประทานต่ออย่าง
00:08:45 → 00:08:47 เงี้ยค่ะมันจะได้ไม่เกิดการปนเปื้อนนะคะ
00:08:47 → 00:08:53 หรือว่าการที่เราจะไปอ่าปรุงอาหารสัมผัส
00:08:53 → 00:08:55 กับหมูดิบแล้วบังเอิญเรามีบาดแผลที่มือ
00:08:55 → 00:08:57 เนี่ยอันนี้ต้องป้องกันดีๆและล้างมือให้
00:08:57 → 00:09:00 สะอาดอันนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ที่สามารถ
00:09:00 → 00:09:04 ป้องกันป้องกันตรงนี้ได้ค่ะก็มีพบมา
00:09:04 → 00:09:06 เรื่อยๆเลยใช่ไหมคะว่าผู้ป่วยอาจจะระวัง
00:09:06 → 00:09:09 ในเรื่องของการทานแต่ว่าอาจจะมีแผลที่มือ
00:09:09 → 00:09:12 แล้วก็ติดเชื้อตัวนี้เข้ามาได้ใช่ค่ะหรือ
00:09:12 → 00:09:15 ว่าเราไปปาร์ตี้กันอย่างนี้เพื่อนๆหลายคน
00:09:15 → 00:09:19 หมูยังไม่ทันสุกเลยเรารีบแล้วอย่างนี้ทาน
00:09:19 → 00:09:21 เข้าไปถ้าเราเจอกับหมูป่วยเดี๋ยวอาจทำให้
00:09:21 → 00:09:24 เราเจ็บป่วยมันก็ไม่คุ้มกันเลยนะคะ
00:09:24 → 00:09:28 อาจารย์หมอคะค่ะคราวนี้ก็จะมีคนไข้บาง
00:09:28 → 00:09:31 กลุ่มเนาะที่แบบอาจจะมีความเสี่ยงมากกว่า
00:09:31 → 00:09:33 ปกติหน่อยถ้าสมมุติว่าติดเชื้อแล้วอาจจะ
00:09:33 → 00:09:36 ติดเชื้อรุนแรงนะคะจริงๆอ่ะทุกคนที่กิน
00:09:36 → 00:09:38 หมูดิบก็จะมีความเสียหมดแหละใช่มั้ยเพราะ
00:09:38 → 00:09:40 เราก็ไม่รู้นะว่าไอ้หมูเนี่ยมีเชื้อหรือ
00:09:40 → 00:09:42 เปล่าหรือยังไงแต่ตราบใดก็ตามที่เราทำให้
00:09:42 → 00:09:45 มันสุกด้วยความร้อนนะคะตรงนี้ก็จะไม่ค่อย
00:09:45 → 00:09:47 มีปัญหาแต่คราวนี้บังเอิญว่าสมมุติว่าได้
00:09:47 → 00:09:50 รับเชื้อเข้าไปก็จะมีกลุ่มคนบางกลุ่มนะคะ
00:09:50 → 00:09:53 ที่เขาอาจจะติดเชื้อง่ายทำให้มีอาการรุน
00:09:53 → 00:09:56 แรงเช่นคนที่มีภาวะภูมิคุ้มกันที่อาจจะ
00:09:57 → 00:10:00 น้อยกว่าคนอื่นเช่นคนไข้ที่มีปัญหาเรื่อง
00:10:00 → 00:10:03 เป็นเบาหวานเนาะหรือว่าอายุอาจจะเยอะและ
00:10:03 → 00:10:05 เป็นผู้สูงอายุนะคะพรุ่งนี้ภูมิคุ้มกันก็
00:10:05 → 00:10:09 อาจจะสู้เด็กๆไม่ได้เนาะหรือว่าตัวคนไข้
00:10:09 → 00:10:11 ที่เคยผ่าตัดอื่นๆเช่นผ่าตัดม้ามออกไป
00:10:11 → 00:10:14 เนี่ยเรื่องภูมิคุ้มกันเขาก็จะลดลงเช่น
00:10:14 → 00:10:16 กันหรือว่าในคนที่กินดื่มแอลกอฮอล์
00:10:16 → 00:10:20 เรื้อรังนะคะใช่พวกนี้ก็จะมีปัญหาเรื่อง
00:10:20 → 00:10:23 ตับอะไรเล็กๆน้อยๆค่ะก็มีโอกาสที่เวลาติด
00:10:23 → 00:10:24 เชื้อแล้วเนี่ยมันก็จะมีความรุนแรงมาก
00:10:24 → 00:10:27 ขึ้นค่ะแต่ถ้าแบบนี้ในครอบครัวนึงเนี่ย
00:10:27 → 00:10:31 ได้รับหมูที่มาจากแหล่งเดียวกันแล้วทาน
00:10:31 → 00:10:34 สุกๆดิบๆด้วยการทั้งบ้านค่ะภูมิตรงนี้จะ
00:10:34 → 00:10:36 มีไหมคะว่าคนนี้แข็งแรงอาจจะไม่ติดหรือ
00:10:36 → 00:10:39 ว่าไม่จริงไม่ได้ไหมคะเป็นไปได้เพราะว่า
00:10:39 → 00:10:42 จริงๆเคยมีคนมาถามเหมือนกันว่าเออจริงๆ
00:10:42 → 00:10:44 อ่ะเรากินเนื้อหมูดิบหนูว่ากินชามเดียว
00:10:45 → 00:10:47 กันแต่ทำไมคนนี้เป็นโรคอีกคนนึงไม่เป็น
00:10:47 → 00:10:49 โรคอะไรอย่างเงี้ยค่ะจริงๆเนี่ยมันก็ขึ้น
00:10:49 → 00:10:51 อยู่กับหลายอย่างเช่นอ่าเชื้อที่ได้รับ
00:10:51 → 00:10:53 น่ะเราได้รับไปเยอะหรือว่าน้อยเพราะว่า
00:10:53 → 00:10:55 บางทีเนี่ยอาจจะภูมิธรรมเดียวกันก็จริง
00:10:55 → 00:10:59 แต่ว่าเชื้อมันอาจจะไม่ได้ทั่วทั่วถึง
00:10:59 → 00:11:02 อีกประเด็นนึงก็คือว่าภูมิคุ้มกันของคน
00:11:02 → 00:11:05 ไข้แต่ละคนมากน้อยเท่าไหร่ใช่ถ้าสมมุติ
00:11:05 → 00:11:08 ว่าภูมิคุ้มกันเขาน้อยมีโอกาสติดเชื้อ
00:11:08 → 00:11:10 ง่ายอาการแสดงอาการแสดงของเชื้อการติด
00:11:10 → 00:11:14 เชื้อก็จะรุนแรงกว่าปกติเนอะแต่ยังไงก็
00:11:14 → 00:11:16 ตามแล้วก็ไม่อยากให้คนที่เรารักหรือ
00:11:16 → 00:11:18 เพื่อนๆที่ทานร่วมกันเนี่ยมีใครในนั้น
00:11:18 → 00:11:21 เจ็บป่วยเราสามารถป้องกันได้แต่ต้นเลยก็
00:11:21 → 00:11:24 คือทานให้มันสุกดีกว่าเนาะสุกมากกว่า 80%
00:11:24 → 00:11:26 ขึ้นไปใช่ไหมคะอาจารย์หมอค่ะหรือควรจะ
00:11:27 → 00:11:29 ร้อยเลยจริงๆถ้าร้อยเลยก็น่าจะดีนะถ้าๆ
00:11:29 → 00:11:31 ถ้าคนนั้น
00:11:31 → 00:11:35 สเต็กหมูอ่ะโดยมากเค้าจะสุกใช่แต่ว่าถ้า
00:11:35 → 00:11:37 เป็นเนื้อบางที่อาจจะมีแบบอะไรนะมีเดียม
00:11:37 → 00:11:39 แรงหรืออะไรอย่างงั้นแต่ถามว่าจริงๆแล้ว
00:11:39 → 00:11:42 อ่ะด้วยอาหารที่ไม่ได้ปรุงสุกด้วยความ
00:11:42 → 00:11:46 ร้อนเนาะถ้าอย่างหมูเนี่ยถ้าหมูยังดิบ
00:11:46 → 00:11:49 อยู่เนี่ยโอกาสติดเชื้อสเต็กตัวเขาสู่ is
00:11:49 → 00:11:51 นี้ก็มีใช่มั้ยคะอันที่ 1 หรือว่าจริงๆ
00:11:51 → 00:11:52 อาจจะเป็นเรื่องอื่นก็ได้นะเช่นเป็นพยาธิ
00:11:52 → 00:11:55 ก็ได้ใช่มั้ยเนาะ
00:11:55 → 00:11:58 ใช่ค่ะอย่างตัวเนื้อก็เช่นเดียวกันมี
00:11:58 → 00:12:00 เรื่องของตัวพยาธิได้เช่นเดียวกันอะไร
00:12:00 → 00:12:01 อย่างนี้ค่ะก็คืออาจจะเป็นสิ่งที่เราต้อง
00:12:01 → 00:12:03 ระวังไว้คือด้วยตัวเนื้อที่เป็นเหมือน
00:12:03 → 00:12:05 เนื้อวัวอะไรอย่างนี้ไม่ได้มีตัวเชื้อ
00:12:05 → 00:12:07 Step ตัวเขา classrooe is หรอกแต่ว่าก็
00:12:07 → 00:12:10 จะมีการติดเชื้ออื่นที่เป็นไปได้เท่านั้น
00:12:10 → 00:12:13 ค่ะหลายคนฟังแล้วก็อาจจะกำลังยิ้มค่ะอุ้ย
00:12:13 → 00:12:16 ดีจังเลยเราเนี่ยไม่ได้ชอบทานหมูดิบเท่า
00:12:16 → 00:12:19 ไหร่แต่เราชอบทานเนื้อดีเขาก็คิดว่าอาจจะ
00:12:19 → 00:12:22 ปลอดภัยจากโรคนี้เลยหรือเปล่าแต่เมื่อสัก
00:12:22 → 00:12:24 ครู่นี้นะคะหมอบอกว่าถึงเราจะไม่ได้รับ
00:12:24 → 00:12:26 เชื้อตัวนี้เราก็มีโอกาสที่จะเจ็บป่วยจาก
00:12:26 → 00:12:30 การกินสุกๆดิบๆเนี่ยด้วยเชื้ออื่นๆนำมา
00:12:30 → 00:12:34 ได้ด้วยค่ะใช่เลยค่ะคุณฟ้าค่ะก็ถึงช่วง
00:12:34 → 00:12:35 สุดท้ายของรายการค่ะอย่าให้อาจารย์หมอ
00:12:35 → 00:12:39 ทิ้งท้ายถึงผู้ฟังหลายๆท่านที่อาจจะชื่น
00:12:39 → 00:12:42 ชอบการกินหมูมากๆเลยหมูกระทะนี้ทุก
00:12:42 → 00:12:45 อาทิตย์แล้วก็รวมถึงในบ้านที่ซื้อหมูจาก
00:12:45 → 00:12:49 แหล่งที่เราไม่แน่ใจอ่ะค่ะว่ามาจากที่ไหน
00:12:49 → 00:12:51 อาจจะเป็นตลาดสดหรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:12:51 → 00:12:53 อยากให้คุณหมอช่วยย้ำเตือนผู้ฟังอีกครั้ง
00:12:53 → 00:12:56 นึงค่ะค่ะหลักการป้องกันง่ายๆเนาะคืออัน
00:12:57 → 00:12:59 นี้เราต้องนึกภาพใหญ่ก่อนว่าถ้าบังเอิญ
00:12:59 → 00:13:01 เราโชคไม่ดีกินหมูดิบแล้วเราบังเอิญติด
00:13:01 → 00:13:05 เชื้อตัวนี้ก็ถือว่าเป็นโชคที่ไม่ดีมากๆ
00:13:05 → 00:13:08 เพราะว่าเวลาติดเนี่ยรุนแรงเนาะต้องนอน
00:13:09 → 00:13:11 โรงพยาบาลมีเคยมีสถิติของโรงพยาบาลมหาราช
00:13:11 → 00:13:13 เหมือนกันนะที่อาจารย์เขาทำรายงานไว้
00:13:13 → 00:13:16 เมื่อประมาณสัก 10 กว่าปีก่อนเนาะในคนที่
00:13:16 → 00:13:20 เป็นเรื่องของไข้หูดับเนี่ย 20% คือเสีย
00:13:20 → 00:13:22 ชีวิตเลยนะของโรงพยาบาลเรานี่เป็นสันติ
00:13:22 → 00:13:24 โรงพยาบาลเราเมื่อ 10 กว่าปีก่อนที่เคย
00:13:24 → 00:13:27 รายงานไว้เนาะคราวนี้ในผู้ที่รอดชีวิตมา
00:13:27 → 00:13:32 เนี่ยก็อ่าก็มีผลข้างเคียงอื่นตามมานะคะ
00:13:32 → 00:13:35 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการได้ยินนะคะในคน
00:13:35 → 00:13:36 ที่มีเรื่องของเยื่อหุ้มสมองอักเสบเนี่ย
00:13:36 → 00:13:38 เกิน 90% คือมีปัญหาเรื่องการได้ยินแน่
00:13:38 → 00:13:41 นอนถ้ามีปัญหาเรื่องการได้ยินแล้วเนี่ย
00:13:41 → 00:13:46 อ่าคือไม่เกิน 30% ที่มีโอกาสกลับฟื้นคืน
00:13:46 → 00:13:48 มาซึ่งฟื้นคืนมาเนี่ยไม่ได้หมายความว่า
00:13:48 → 00:13:50 ฟื้น 100% ด้วย
00:13:50 → 00:13:53 คุณภาพอีก 70% คือฟื้นน้อยเพราะฉะนั้น
00:13:53 → 00:13:55 เนี่ยวิธีป้องกันง่ายๆถ้าเราตระหนักถึง
00:13:55 → 00:13:58 ความความรุนแรงของมันแล้วเนาะการป้องกัน
00:13:58 → 00:14:01 ง่ายๆก็คือหมูที่รับประทานต้องปรุงสุก
00:14:01 → 00:14:03 ด้วยความร้อนความร้อนนี่ก็คือความเห็น
00:14:03 → 00:14:05 ความร้อนที่เกิน 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป
00:14:05 → 00:14:09 ถ้าเป็นไปได้คือรอสักประมาณ 10 นาทีก็จะ
00:14:09 → 00:14:12 ดีนะคะคือสุกแน่ๆอะไรอย่างนี้เนาะหรือถ้า
00:14:12 → 00:14:14 เราสังเกตง่ายๆก็คือเวลาตัดหมูไปแล้วปุ๊บ
00:14:14 → 00:14:17 มันจะไม่มีลักษณะเป็นเนื้อแดงๆอยู่ชายไม่
00:14:17 → 00:14:19 มีลักษณะเป็นเลือดอยู่ค่ะอันนี้ในแง่ของ
00:14:19 → 00:14:22 การรับประทานเนาะในแง่ของการป้องกันถ้า
00:14:22 → 00:14:24 เราเป็นคนที่ต้องหั่นหมูดิบนะคะหั่นเนื้อ
00:14:24 → 00:14:27 หมูสดเงี้ยค่ะอันนี้เราก็ต้องดูว่าถ้า
00:14:27 → 00:14:29 สามารถใส่ถุงมืออุปกรณ์ป้องกันตัวอะไรได้
00:14:29 → 00:14:32 ใส่เลยค่ะโดยเฉพาะถ้าสมมุติว่ามีแผล
00:14:33 → 00:14:36 บริเวณผิวหนังบริเวณมือค่ะอันนี้คือควร
00:14:36 → 00:14:40 ใส่ป้องกันนะคะแล้วก็การเลือกซื้อหมูนี่
00:14:40 → 00:14:43 ก็สำคัญเนาะพยายามเลือกซื้อหมูจากอ่าสถาน
00:14:43 → 00:14:46 ที่เขามีมารับรองจากกรมไปทุกฉากนะคะหรือ
00:14:46 → 00:14:48 ว่าเราจะสังเกตเห็นง่ายๆก็ได้ว่าถ้าหมู
00:14:48 → 00:14:51 ราคาดูถูกเกินไปนะเนาะหรือว่าลักษณะหมูดู
00:14:51 → 00:14:54 มีกลิ่นคาวไร่หรือว่าดูมีรอยช้ำอะไรอย่าง
00:14:54 → 00:14:56 นี้ค่ะอันนี้เราอาจจะต้องพึงระวังนิดนึง
00:14:56 → 00:15:00 คิดว่าวันนี้โชคดีจังเลยได้เจอแหล่งซื้อ
00:15:00 → 00:15:03 หมู่ที่ราคาดีค่ะก็ดูถึงคุณภาพด้วยนะคะ
00:15:03 → 00:15:06 ว่ามีอย่างข้อที่อาจารย์หมอกล่าวมาหรือ
00:15:06 → 00:15:08 เปล่าเนื้อเป็นยังไงยังมีความสดหรือเปล่า
00:15:08 → 00:15:12 แล้วจะให้ดีต้องมีเรื่องของใบที่กรม
00:15:12 → 00:15:14 อนามัยใช่ไหมคะ
00:15:14 → 00:15:17 ถูกต้องเลยวันนี้โชคดีมากเลยค่ะเราได้พูด
00:15:17 → 00:15:20 คุยกับอาจารย์หมอถึงเรื่องที่เราอาจจะมอง
00:15:20 → 00:15:23 ข้ามค่ะคิดว่าไกลตัวเราจังเลยหรือว่าน้อง
00:15:23 → 00:15:25 ๆที่ฟัง podcast อยู่แล้วก็เป็นวัยรุ่น
00:15:25 → 00:15:28 ฉันไปกินลาบดิบหรอกเพราะเขาก็จะเตือนว่า
00:15:28 → 00:15:31 ถ้ากินลาบดิบเนี่ยอาจจะลาบหมูดิบอาจจะ
00:15:31 → 00:15:34 เสี่ยงเป็นไข้หูดับนะก็คิดว่าไกลตัวแต่พอ
00:15:34 → 00:15:36 วันนี้อ้าวหมูกระทะก็เสี่ยงเป็นได้นะ
00:15:36 → 00:15:40 เริ่มพึงตระหนักถึงเรื่องโรคไข้หูดับมาก
00:15:40 → 00:15:42 ขึ้นค่ะต้องขอบพระคุณอาจารย์หมอมากๆเลยนะ
00:15:42 → 00:15:47 คะอ่ายินดีค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะและขอ
00:15:47 → 00:15:49 ขอบคุณผู้ฟังทุกท่านที่อยู่ด้วยกันตรงนี้
00:15:49 → 00:15:53 ค่ะนอกจากนี้นะคะผู้ฟังยังสามารถติดตาม
00:15:53 → 00:15:55 ข่าวสารของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:15:55 → 00:15:58 เชียงใหม่ได้อีกหลากหลายช่องทางค่ะไม่ว่า
00:15:58 → 00:16:01 จะเป็นบนเว็บไซต์ Facebook YouTube
00:16:01 → 00:16:05 Twitter telegram Instagram podcast
00:16:05 → 00:16:09 PM คำที่ช่องค้นหาว่า metcmu นะคะ med
00:16:09 → 00:16:13 cmu เพียงเท่านี้ค่ะก็จะมีข้อมูลเกี่ยว
00:16:13 → 00:16:16 กับการดูแลสุขภาพอีกมากมายเลยค่ะสำหรับ
00:16:16 → 00:16:19 วันนี้นะคะต้องมาทุกท่านไปก่อนครั้งหน้า
00:16:19 → 00:16:22 จะเป็นเรื่องอะไรอย่าลืมติดตามกันต่อนะคะ
00:16:22 → 00:16:23 สวัสดีค่ะ
00:16:23 → 00:16:26 [เพลง]
00:16:26 → 00:16:32 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา