00:00:02 → 00:00:08 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:15 สัปดาห์นี้ค่ะเราจะมาพูดถึงโรคแพนิคภาวะ
00:00:15 → 00:00:18 ตื่นตระหนกที่ทำลายสุขภาพจิตกันหลายคนค่ะ
00:00:18 → 00:00:21 เคยได้ยินโรคแพนิคนะคะไม่ว่าจะเป็นคนที่
00:00:21 → 00:00:24 มีชื่อเสียงค่ะในประเทศไทยอย่างเช่นคุณ
00:00:24 → 00:00:27 หมอเจี๊ยบลลนาค่ะคุณแต้วณัฐพรหรือแม้
00:00:27 → 00:00:30 กระทั่งพี่หนุ่มกัญชัยนะคะหลายๆท่านค่ะ
00:00:30 → 00:00:33 ออกมาเปิดเผยนะคะว่าตัวเขาเนี่ยเคยประสบ
00:00:33 → 00:00:36 ปัญหาเรื่องของแพนิคว่าแล้วโรคแพนิคคือ
00:00:36 → 00:00:38 อะไรไปชมพร้อมๆกัน
00:00:38 → 00:00:43 ค่ะโรคแพนิคหรือ Panic disorder หรือโรค
00:00:43 → 00:00:45 ตื่นตระหนกเป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่ง
00:00:45 → 00:00:49 ที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิด
00:00:49 → 00:00:52 ปกติโดยระบบประสาทนี้เป็นระบบที่ควบคุม
00:00:52 → 00:00:54 การทำงานของร่างกายหลายส่วนจึงทำให้เกิด
00:00:55 → 00:00:58 อาการหลายอย่างร่วมกันเช่นหัวใจเต้นเร็ว
00:00:58 → 00:01:01 เหงื่อออกมากทองไส้ปั่นป่วนวิงเวียนซึ่ง
00:01:01 → 00:01:04 อาการจะเกิดขึ้นแบบฉับพลันแม้ไม่มีสาเหตุ
00:01:04 → 00:01:07 หรือมีเรื่องให้ต้องตกใจผู้ป่วยจะมีความ
00:01:07 → 00:01:09 รู้สึกกลัวตื่นตระหนกเป็นอย่างมากไม่กล้า
00:01:09 → 00:01:12 ออกไปไหนหมกมุนเรื่องสุขภาพจนส่งผลกระทบ
00:01:12 → 00:01:15 ต่อชีวิตประจำวันค่ะโรคนี้มักเกิดในวัย
00:01:15 → 00:01:18 ผู้ใหญ่ตอนต้นและสามารถเกิดร่วมกับโรค
00:01:18 → 00:01:21 อื่นได้เช่นโรคซึมเศร้าแล้วอาการของโรค
00:01:21 → 00:01:25 แพนิคเป็นอย่างไรมาดูกันค่ะ 1 มีอาการรู้
00:01:25 → 00:01:27 สึกเสียขวัญขึ้นมาแบบกระทันหันคือเกิด
00:01:27 → 00:01:30 ความกลัวอย่างรุนแรงหรือความรู้สึกไม่
00:01:30 → 00:01:34 สบายใจเป็นการเกิดขึ้นมาโดยไม่คาดคิด 2
00:01:34 → 00:01:37 ใจสั่นมีอาการหัวใจเต้นเร็วหรือผิดปกติ
00:01:37 → 00:01:41 ระหว่างเกิดความกลัว 3 หายใจถี่รู้สึก
00:01:41 → 00:01:45 เหมือนหายใจไม่ออกหรือหายใจไม่ออกจริงๆ 4
00:01:45 → 00:01:47 ตัวสั่นแบบคุมตัวเองไม่ได้ในช่วงตื่น
00:01:47 → 00:01:51 ตระหนก 5 เหงื่อออกมากเกินไปแม้ว่าสภาพ
00:01:51 → 00:01:54 แวดล้อมจะไม่ร้อนก็ตามข้อที่ 6 ค่ะรู้สึก
00:01:54 → 00:01:58 เจ็บหน้าอกนะคะเวลาที่เรารู้สึกไม่สบายใจ
00:01:58 → 00:02:02 หรือว่ากดดันหรือมีมีอาการตื่นตระหนกค่ะ 7
00:02:02 → 00:02:05 รู้สึกสำลักหรือมีก้อนในลำคอ 8 คลื่นไส้
00:02:05 → 00:02:08 หรือปวดท้องในช่วงที่ตื่นตระหนก 9 มี
00:02:08 → 00:02:11 อาการวิงเวียนศีรษะหรือหน้ามืดรู้สึกจะ
00:02:11 → 00:02:14 เป็นลมในระหว่างการตื่นตระหนก 10 กลัวที่
00:02:14 → 00:02:18 จะสูญเสียการควบคุมหรือกลัวที่จะเป็นบ้า 3
00:02:18 → 00:02:20 อาการแพนิคที่จะทำให้คุณรู้สึกหวาดกลัว
00:02:21 → 00:02:24 มากรู้สึกเป็นอันตรายนะคะรู้สึกที่แย่กับ
00:02:24 → 00:02:28 ชีวิตนั่นก็คือ 1 รู้สึกเหมือนหัวใจวาย
00:02:28 → 00:02:31 หลายๆคนที่มีอาการตื่นจเป็นครั้งแรกอาจจะ
00:02:31 → 00:02:33 คิดว่าตนเองกำลังจะหัวใจวายเพราะอาการ
00:02:33 → 00:02:36 เจ็บหน้าอกนั้นรุนแรงมากแต่เมื่อเข้ารับ
00:02:36 → 00:02:38 การตรวจสอบร่างกายแล้วพบว่าสุขภาพของหัว
00:02:39 → 00:02:42 ใจนั้นแข็งแรงดี 2 รู้สึกเหมือนกำลังจะ
00:02:42 → 00:02:45 ตายเมื่อมีอาการตื่นตระหนกจะมีความรู้สึก
00:02:45 → 00:02:48 หวาดกลัวมากจนคิดว่าตัวเองกำลังจะตายเพว
00:02:48 → 00:02:50 นี้เป็นเรื่องน่ากลัวและน่าสับสนอย่าง
00:02:50 → 00:02:52 เหลือเชื่อค่ะเพราะจู่ๆก็จะเกิดอาการตื่น
00:02:52 → 00:02:55 ตระหนกอย่างรุนแรงและยิ่งไม่ทราบว่าต้น
00:02:55 → 00:02:58 เหตุหรือสาเหตุของอาการมาจากที่ไหนจะยิ่ง
00:02:58 → 00:03:01 ทำให้คุณเกิดความรู้สึกกลัวมากขึ้น 3
00:03:01 → 00:03:04 กลัวตนเองกำลังจะเป็นบ้าอาการตื่นตระหนก
00:03:04 → 00:03:06 จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็น
00:03:06 → 00:03:09 บ้าค่ะเป็นเพราะบ่อยครั้งอาการเหล่านี้
00:03:09 → 00:03:11 เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจนและยิ่งมี
00:03:11 → 00:03:14 อาการทางกายภาพร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็นตัว
00:03:14 → 00:03:18 สั่นเหงื่อออกหรือหัวใจเต้นเร็วสิ่งเหล่า
00:03:18 → 00:03:20 นี้จะยิ่งทำให้คนที่อยู่ในอาการตื่น
00:03:20 → 00:03:22 ตระหนกยิ่งคิดเข้าไปอีกว่าตัวเองกำลังจะ
00:03:22 → 00:03:26 เป็นบ้าจริงๆสำหรับปัจจัยเสี่ยงที่เป็น
00:03:26 → 00:03:30 ตัวกระตุ้นทำให้เกิดอาการแพนิคคือ
00:03:30 → 00:03:32 1 อาจเกิดจากสมองส่วนควบคุมความกลัวที่
00:03:32 → 00:03:36 เรียกว่าอมิกดาลาทำงานผิดปกติ 2 กรรม
00:03:36 → 00:03:39 พันธ์คนที่มีญาติหรือประวัติครอบครัวเป็น
00:03:39 → 00:03:42 โรคแพนิคมีแนวโน้มเป็นได้มากกว่าคนทั่วไป
00:03:42 → 00:03:46 3 การใช้สารเสพติด 4 ความผิดปกติของ
00:03:46 → 00:03:49 ฮอร์โมนอาจทำให้สารเคมีในสมองเสียสมดุล
00:03:49 → 00:03:53 ได้ 5 มีประสบการณ์เคยผ่านเหตุการณ์เลว
00:03:53 → 00:03:55 ร้ายในชีวิต 6 พฤติกรรมต่างๆที่เป็นตัว
00:03:55 → 00:03:58 กระตุ้นเช่นทำงานกับคอมพิวเตอร์และมือถือ
00:03:58 → 00:04:02 นานๆเผชิญกับความกดดันอยู่ในสภาวะที่เร่ง
00:04:02 → 00:04:05 รีบเครียดวิตกกังวลไม่ออกกำลังกายพักผ่อน
00:04:05 → 00:04:09 น้อย 7 เครียดสะสมเกิดจากการใช้ชีวิต
00:04:09 → 00:04:12 อย่างจริงจังเคร่งเครียดอยู่ในสภาวะกดดัน
00:04:12 → 00:04:15 เป็นประจำโรคแพนิคไม่อันตรายแต่ควรต้อง
00:04:15 → 00:04:18 รักษาค่ะโรคแพนิคไม่มีอันตรายไม่ทำให้ผู้
00:04:18 → 00:04:21 ป่วยตายหรือเป็นโรคร้ายแรงก็จริงค่ะแต่ทำ
00:04:21 → 00:04:24 ให้เกิดความกังวลใจซึ่งข้อแนะนำจากแพทย์
00:04:24 → 00:04:27 ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวทในกรณีโรคแพนิคคือ
00:04:27 → 00:04:30 การรู้เท่าทันอารมณ์ของตนและหากไม่สามารถ
00:04:30 → 00:04:33 จัดการภาวะที่เกิดขึ้นได้ข้อแนะนำอีกข้อ
00:04:33 → 00:04:36 ที่สำคัญคือการปรึกษาจิตแพทย์เพื่อค้นหา
00:04:36 → 00:04:41 สาเหตุของอาการและดำเนินการรักษาต่อไปค่ะ
00:04:41 → 00:04:44 ขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:04:44 → 00:04:47 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:04:47 → 00:04:50 ไลคกดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:04:50 → 00:04:54 ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมราย
00:04:54 → 00:04:58 การสดคลิปวีีดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:04:58 → 00:05:01 คะ