00:00:00 → 00:00:03 [เสียงดนตรี]
00:00:03 → 00:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.
00:00:06 → 00:00:08 Listen for a better life.
00:00:08 → 00:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
00:00:11 → 00:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel
00:00:14 → 00:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล
00:00:16 → 00:00:20 [เสียงดนตรี]
00:00:20 → 00:00:22 วันนี้คุณกินอะไร
00:00:22 → 00:00:27 อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร
00:00:27 → 00:00:29 วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย
00:00:29 → 00:00:33 เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา
00:00:33 → 00:00:38 กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋
00:00:38 → 00:00:40 แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
00:00:40 → 00:00:44 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
00:00:44 → 00:00:47 [เสียงดนตรี]
00:00:47 → 00:00:49 สวัสดีค่ะ มาพบกันอีกครั้งนะคะ
00:00:49 → 00:00:54 สำหรับ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋
00:00:54 → 00:00:59 วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารดูแลสุขภาพปอด
00:00:59 → 00:01:01 ในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมานี่
00:01:01 → 00:01:05 เราก็จะมีปัญหาหรือว่า มีเรื่องของโรคติดเชื้อทั้งหลายที่เข้ามา
00:01:05 → 00:01:08 แล้วก็วุ่นวายกับเรื่องของปอดของเรา
00:01:08 → 00:01:11 วันนี้เราจะมาดูกันว่าปอดเรามีหน้าที่ทำอะไร
00:01:11 → 00:01:14 แล้วเราจะมีอาหารอะไรไหม ที่จะช่วยทำให้ปอดเรานี่
00:01:14 → 00:01:17 ใช้งานได้นานขึ้น แล้วก็มีสุขภาพที่ดีขึ้นค่ะ
00:01:17 → 00:01:23 [เสียงดนตรี]
00:01:23 → 00:01:26 ในส่วนของปอดนะคะ หรือระบบทางเดินหายใจดีกว่า
00:01:26 → 00:01:28 เราใช้คำว่า ระบบทางเดินหายใจ
00:01:28 → 00:01:32 ระบบทางเดินหายใจก็เริ่มตั้งแต่ เราหายใจจากจมูกเข้าไปเลย
00:01:32 → 00:01:36 มันก็จะมีช่องทาง ผ่านจมูกลงไปที่หลอดลม
00:01:36 → 00:01:40 หลอดลมใหญ่ แล้วก็แตกแขนงไปสู่ หลอดลมย่อย ๆ แล้วก็ไปที่ปอด
00:01:41 → 00:01:46 หลัก ๆ ของปอดคือเป็นอวัยวะ ที่มีหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซ
00:01:46 → 00:01:48 ก็คือพอเลือดผ่านเข้ามาปุ๊บนี่
00:01:48 → 00:01:50 เลือดนี่ก็ออกซิเจนต่ำ
00:01:50 → 00:01:52 เลือดก็จะไปผ่านหรือไปฟอกที่ปอด
00:01:52 → 00:01:53 แล้วใส่ออกซิเจนเข้าไปในเลือด
00:01:54 → 00:01:56 ที่เราเรียกเลือดดำเลือดแดง
00:01:56 → 00:01:58 เลือดที่ออกซิเจนต่ำ พอเข้าไปสู่ปอดปุ๊บ
00:01:58 → 00:02:01 เติมออกซิเจน เราเรียกว่าเป็นเลือดแดง
00:02:01 → 00:02:02 แล้ววิ่งไปที่หัวใจ
00:02:02 → 00:02:05 วิ่งไปที่หัวใจปั๊บ แล้วก็สูบฉีดไปทั่วร่างกาย
00:02:05 → 00:02:08 โรคหรืออะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับที่ปอดของเรา
00:02:08 → 00:02:11 ก็จะทำให้การแลกเปลี่ยน หรือการฟอกอากาศตรงนี้
00:02:12 → 00:02:13 มันทำได้แย่ลง
00:02:13 → 00:02:17 แล้วก็อาจจะนำมาสู่อาการหลาย ๆ อย่าง ที่จะบอกว่าเป็นโรคปอด
00:02:17 → 00:02:18 ไม่ว่าจะเป็นเหนื่อยง่าย
00:02:18 → 00:02:21 ไม่ว่าจะมีอาการไอ หรืออะไรก็ตาม
00:02:21 → 00:02:23 เดี๋ยวเราจะมาคุยกันในรายละเอียดอีกทีหนึ่ง
00:02:23 → 00:02:28 โรคที่พบได้บ่อย ๆ ในเรื่องของปอด หรือว่าทางเดินหายใจของเรามีอะไรบ้าง
00:02:28 → 00:02:32 ไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นหลอดลมอักเสบ การติดเชื้อ
00:02:32 → 00:02:34 อันนี้ก็จะเป็นอันนึงก็คือเรื่องของหลอดลม
00:02:34 → 00:02:38 ถัดลงมานี่ ก็จะเป็นเรื่องของตัวเนื้อปอดแล้ว
00:02:38 → 00:02:41 ตัวเนื้อปอดก็จะมีตั้งแต่เรื่องของการอักเสบ
00:02:41 → 00:02:43 อักเสบเราแยกย่อยเป็น 2 กลุ่มเลยค่ะ
00:02:43 → 00:02:45 คืออักเสบที่มาจากการติดเชื้อ
00:02:45 → 00:02:48 และอักเสบที่ไม่ได้มาจากการติดเชื้อ
00:02:48 → 00:02:52 อักเสบที่มาจากการติดเชื้อ ที่ตอนนี้เราเห็นบ่อย ๆ คืออะไรคะ
00:02:52 → 00:02:53 โควิด เห็นไหมคะ
00:02:53 → 00:02:55 มันก็จะมีตั้งแต่เชื้อแบคทีเรีย
00:02:55 → 00:02:58 เชื้อราก็ได้ เชื้อไวรัสก็ได้
00:02:58 → 00:03:01 วัณโรคก็เป็นอันหนึ่ง เป็นกลุ่มแบคทีเรียอันหนึ่ง
00:03:01 → 00:03:04 ซึ่งจะทำให้เกิดเรื่องของปอดอักเสบได้
00:03:04 → 00:03:08 อันที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น
00:03:08 → 00:03:11 อาจจะเป็นเรื่องของภูมิแพ้ สารพิษ
00:03:11 → 00:03:15 หรือว่าจะเป็นการสูดควันอะไรอย่างนี้เข้าไป
00:03:15 → 00:03:17 อันนี้ก็จะทำให้ปอดอักเสบได้เหมือนกันเนอะ
00:03:18 → 00:03:22 อีกอันนึงก็จะเป็นกลุ่มโรค ที่มันเป็นโรคประจำตัว
00:03:22 → 00:03:24 หรือว่าโรคที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง
00:03:24 → 00:03:26 แล้วทำให้มีการอักเสบที่ปอด
00:03:26 → 00:03:27 อันนี้ก็เจอได้เหมือนกัน
00:03:27 → 00:03:30 ถัดไป อันนี้เป็นโรคมะเร็ง
00:03:30 → 00:03:33 อันนี้เราก็จะเจอเป็นพวกของเนื้องอก เป็นพวกของมะเร็ง
00:03:34 → 00:03:37 ตั้งแต่ว่าเป็นมะเร็งที่เป็นที่ตัวปอดเอง
00:03:37 → 00:03:40 อันนี้คือเป็นตัวเริ่มต้นเลยคือมะเร็งปอด
00:03:40 → 00:03:44 อันที่ 2 ก็คือ เป็นมะเร็งที่มีการแพร่กระจายมาที่ปอด
00:03:44 → 00:03:49 ถัดไป เมื่อกี้เราพูดไปแล้วว่า มันจะมีเรื่องของหลอดลมที่เนื้อปอด
00:03:49 → 00:03:52 อีกอันหนึ่งเราจะเรียกว่าเยื่อหุ้มปอด
00:03:52 → 00:03:54 โรคของเยื่อหุ้มปอดทำให้เกิดอะไร
00:03:54 → 00:03:59 โรคของเยื่อหุ้มปอดก็จะทำให้มีน้ำ เกิดขึ้นบริเวณของเยื่อหุ้มปอด
00:03:59 → 00:04:04 นึกภาพว่าเรามีปอดนะคะ แล้วมันเป็นถุงที่ขยายออก
00:04:04 → 00:04:06 เสร็จแล้วทีนี้เรามีช่องอก
00:04:06 → 00:04:09 มันก็เหมือนเป็นลูกโป่งที่อยู่ในขวด
00:04:09 → 00:04:11 ทีนี้เวลาที่ลูกโป่งขยายออกปั๊บนี่
00:04:11 → 00:04:13 มันก็จะไปชนขวดพอดี
00:04:13 → 00:04:16 แล้วถ้าสมมุติว่าในขวดมันมีน้ำอยู่
00:04:16 → 00:04:18 ลูกโป่งมันขยายไม่ได้ นึกออกใช่ไหมคะ
00:04:18 → 00:04:20 เพราะฉะนั้น พอลูกโป่งมันขยายไม่ได้
00:04:20 → 00:04:23 การแลกเปลี่ยนก๊าซมันก็ทำได้ไม่เต็มที่
00:04:23 → 00:04:27 อันนี้ก็อาจจะทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย หรือว่ามีน้ำในเยื่อหุ้มปอดได้
00:04:27 → 00:04:30 อันนี้จะต่างกับน้ำท่วมปอดในบางคนนะคะ
00:04:30 → 00:04:32 ก็จะบอกมีน้ำอยู่ในเยื่อหุ้มปอด
00:04:32 → 00:04:34 หรือบางคนจะบอกว่ามีน้ำท่วมปอด อย่างนี้เป็นต้นเนอะ
00:04:35 → 00:04:36 อันนี้ก็จะเป็นอีกโรคนึง
00:04:36 → 00:04:40 ส่วนถามว่า โรคที่ทำให้เยื่อหุ้มปอดมีปัญหา อันนี้มีอะไรได้บ้าง
00:04:40 → 00:04:42 อันแรกเลย ก็เหมือนกันค่ะ เป็นการอักเสบ
00:04:42 → 00:04:44 อันที่ 2 ก็อาจจะเป็นโรคของเขาเอง
00:04:44 → 00:04:50 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวมะเร็ง ที่มีการแพร่กระจายก็ตามหรืออะไรก็ตาม
00:04:50 → 00:04:53 อันนี้ก็จะเป็นโรคของเยื่อหุ้มปอด ที่ทำให้มีน้ำในเยื่อหุ้มปอดได้ค่ะ
00:04:54 → 00:04:56 ในส่วนของตัวเนื้อปอดนะคะ
00:04:56 → 00:05:00 นอกเหนือจากในส่วนที่จะเป็น เรื่องของการอักเสบที่บอกเมื่อสักครู่นี้
00:05:00 → 00:05:01 การติดเชื้อ ไม่ติดเชื้อ
00:05:01 → 00:05:05 อีกอันหนึ่งที่เราจะเจอ ก็คือเรื่องของถุงลมโป่งพองหรือว่าหอบหืด
00:05:05 → 00:05:07 ถ้าเป็นหอบหืดนี่ เราจะพูดถึง
00:05:07 → 00:05:11 ความผิดปกติที่เกิดขึ้น จากการที่หลอดลมมันหดตัว
00:05:11 → 00:05:14 พอหลอดลมหดตัวปั๊บ ลมมันก็จะเข้าไม่ได้
00:05:14 → 00:05:17 บางทีเราจะได้ยินเสียง วี้ด ๆ วี้ด ๆ อย่างนี้ค่ะ
00:05:17 → 00:05:19 อันนี้ก็จะเป็นเรื่องของหลอดลมหดตัว
00:05:19 → 00:05:22 แล้วก็จะเป็นเรื่องของหอบหืดนะคะ
00:05:22 → 00:05:25 อันที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องของถุงลมโป่งพอง
00:05:25 → 00:05:28 ถุงลมโป่งพองอันนี้เป็นโรคปอดเรื้อรัง
00:05:28 → 00:05:32 อาจจะเกิดจากการอักเสบหรือว่าระคายเคือง เช่น สูบบุหรี่นาน ๆ
00:05:32 → 00:05:35 แล้วทำให้ถุงลมมันโป่งพอง
00:05:35 → 00:05:39 หรือในบางรายที่เขาเคยมีโรคการอักเสบที่ปอด
00:05:39 → 00:05:41 พออักเสบเสร็จแล้ว ปอดมันถูกทำลายไป
00:05:42 → 00:05:45 พอถูกทำลายปุ๊บ ถุงลมมันก็จะโป่งพองออกมา
00:05:45 → 00:05:48 ทีนี้ตรงนี้ค่ะ ก็จะมีปัญหา
00:05:48 → 00:05:51 อันที่ 4 ก็จะเป็นเส้นเลือดที่จะไปที่ปอดนะคะ
00:05:52 → 00:05:55 ถ้าเกิดว่าเส้นเลือดที่ปอดนี่ ก็จะมีเลือดเข้าไป
00:05:55 → 00:05:58 ถ้าสมมุติมันมีการอุดตัน อุดกั้น
00:05:58 → 00:05:59 หรือมีอะไรมาอุดก็แล้วแต่
00:05:59 → 00:06:01 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
00:06:01 → 00:06:03 จะทำให้เลือดมันไปที่ปอดไม่ได้
00:06:03 → 00:06:05 ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนไม่ได้
00:06:06 → 00:06:09 สิ่งที่ตามมาก็คือ คนไข้ออกซิเจนก็จะลดลง
00:06:09 → 00:06:12 อาจจะเหนื่อยขึ้น หรือบางคนนี่ ความดันมันจะลดลง
00:06:13 → 00:06:15 มีการเสียชีวิตได้สบายมาก
00:06:15 → 00:06:17 ที่เราเรียกว่าเส้นเลือดที่ปอดอุดตันนะคะ
00:06:17 → 00:06:19 อันนี้ก็จะเป็นอีกโรคหนึ่งที่จะเกิดขึ้น
00:06:20 → 00:06:22 ถามว่าเกิดจากอะไร อาจจะเป็นลิ่มเลือดที่หลุดไป
00:06:22 → 00:06:25 หรือว่าอาจจะเป็น การแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ
00:06:25 → 00:06:27 เช่น บางคนกินยาบางอย่าง
00:06:27 → 00:06:31 หรือโรคบางโรค ที่ทำให้การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
00:06:31 → 00:06:33 แล้วทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันบริเวณนั้นค่ะ
00:06:34 → 00:06:40 [เสียงดนตรี]
00:06:40 → 00:06:41 สำหรับในส่วนของสาเหตุ
00:06:41 → 00:06:44 จริง ๆ นี่มันก็ขึ้นกับในแต่ละอย่างเนอะ
00:06:44 → 00:06:47 อันแรกนี่ ถ้าสมมุติว่า มันเป็นเรื่องของการติดเชื้อใช่ไหมคะ
00:06:47 → 00:06:51 ในส่วนของการติดเชื้อ ที่จะสามารถทำให้เกิดเรื่องของปอดอักเสบ
00:06:51 → 00:06:52 มีได้ตั้งแต่ตัวไวรัส
00:06:52 → 00:06:56 ซึ่งก็มีหลายชนิดมาก ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดที่เราเจอบ่อย ๆ
00:06:56 → 00:06:57 โควิดก็ได้
00:06:57 → 00:07:01 อันที่ 2 คือแบคทีเรีย ก็มีเจอได้เหมือนกัน
00:07:01 → 00:07:04 เชื้อแบคทีเรียซึ่งจะมีอยู่หลายชนิดเลย
00:07:04 → 00:07:08 รวมถึงตัววัณโรคเอง ก็เป็นชนิดหนึ่งของแบคทีเรียได้เหมือนกัน
00:07:08 → 00:07:11 อันที่ 3 ก็จะเป็นเรื่องของเชื้อรา
00:07:11 → 00:07:14 เชื้อราก็เจอได้พอสมควรในกรณีที่
00:07:14 → 00:07:18 อย่างเช่นในโรคของตัวเชื้อราบางชนิด ที่เกิดจากนกพิราบ
00:07:18 → 00:07:21 อันนี้ก็สามารถจะเจอในปอดได้เหมือนกันนะคะ
00:07:21 → 00:07:23 โรคปอดที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อนะคะ
00:07:23 → 00:07:27 ก็อย่างเช่น ยกตัวอย่างเช่น เป็นโรคของหอบหืดนะคะ
00:07:27 → 00:07:29 เรื่องของหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง
00:07:29 → 00:07:32 หรือว่าถุงลมโป่งพองที่เราคุ้นเคยกัน
00:07:32 → 00:07:36 โรคของมะเร็งปอด อันนี้ก็จะเป็นอีก 2-3 อย่างที่เราจะเจอ
00:07:36 → 00:07:39 ในขณะที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ
00:07:39 → 00:07:42 ในส่วนของหอบหืดกับหลอดลมอุดกั้นนี่
00:07:42 → 00:07:44 ความต่างมันมีนิดเดียวค่ะ
00:07:44 → 00:07:45 ในส่วนของหอบหืดนี่
00:07:46 → 00:07:48 มันจะมีช่วงเวลาที่หลอดลมมันหดตัว
00:07:48 → 00:07:51 พอหดตัวปั๊บนี่ คนไข้ก็จะมีอาการเหนื่อย
00:07:51 → 00:07:53 หายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม
00:07:53 → 00:07:56 อาจจะได้ยินเสียงวี้ด ๆ ขึ้นมา
00:07:56 → 00:07:58 ทีนี้เวลาที่เป็นนี่
00:07:58 → 00:08:01 ในกลุ่มของหอบหืดนี่ เขาจะมีช่วงที่มีอาการ
00:08:01 → 00:08:03 แล้วก็ช่วงที่หายสนิท
00:08:03 → 00:08:07 คือพอรักษาหายแล้ว ก็จะมีช่วงอาการที่เป็นคนปกติเลย
00:08:07 → 00:08:11 ในขณะที่ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าเรื้อรัง
00:08:11 → 00:08:14 มันก็จะคล้าย ๆ กันกับกลุ่มที่เป็นหอบหืด
00:08:14 → 00:08:17 ก็คือจะมีช่วงที่หลอดลมหดตัว
00:08:17 → 00:08:19 หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่าย
00:08:19 → 00:08:22 แล้วก็จะมีเสียงวี้ดในทรวงอกเราได้นะคะ
00:08:22 → 00:08:25 แต่ว่าอันนี้ ด้วยความที่มันเป็นเรื้อรัง
00:08:25 → 00:08:26 มีลักษณะของการทำลาย
00:08:27 → 00:08:30 หรือว่ามีลักษณะของการเสียหาย บริเวณปอดค่อนข้างมาก
00:08:30 → 00:08:32 สิ่งที่จะตามมาก็คือ
00:08:32 → 00:08:36 มันจะไม่มีช่วงเวลาที่เขาจะดีเหมือนปกติ
00:08:36 → 00:08:37 จะมีช่วงเวลาที่แย่มาก
00:08:37 → 00:08:39 แล้วก็จะมีช่วงเวลาที่แย่น้อย
00:08:40 → 00:08:41 แล้วก็ใช้ชีวิตได้
00:08:41 → 00:08:44 อาจจะต้องอยู่ด้วยกัน ที่จะมียาควบคุมไว้อะไรแบบนี้
00:08:44 → 00:08:48 เพราะฉะนั้น อันนี้ก็จะเป็นความต่างนิดนึง ในกรณีของโรคหอบหืด
00:08:48 → 00:08:51 แล้วก็หลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง
00:08:52 → 00:08:55 อันที่ 3 ก็จะเป็นเรื่องของมะเร็งปอด
00:08:55 → 00:08:57 ในแง่ของมะเร็งปอดเองนี่
00:08:57 → 00:08:58 จะมีอยู่ 2 สาเหตุ
00:08:58 → 00:09:00 อันแรกเราจะเรียกว่า เป็นมะเร็งที่เริ่มต้นที่ปอดเลย
00:09:01 → 00:09:03 ก็คือเริ่มต้นเป็นก้อนเนื้อที่ปอด
00:09:03 → 00:09:05 อันที่ 2 ก็คือเป็นมะเร็งที่อื่น
00:09:05 → 00:09:07 แล้วมีการกระจายมาที่ปอดนะคะ
00:09:07 → 00:09:11 อันนี้ก็จะเป็นอีก 3 สาเหตุ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ
00:09:11 → 00:09:17 นอกเหนือจากเรื่องของตัวหลอดลม เรื่องของตัวปอดแล้วนี่
00:09:17 → 00:09:23 มันก็จะมีอีกอันหนึ่งที่จะทำให้เกิดอาการ ทางเรื่องของระบบทางเดินหายใจได้
00:09:23 → 00:09:26 ก็คือเรื่องของเยื่อหุ้มปอด
00:09:26 → 00:09:30 ซึ่งอันนี้ก็อาจจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นจาก เยื่อหุ้มปอดเอง เช่น การอักเสบ
00:09:30 → 00:09:32 ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
00:09:32 → 00:09:34 อันนี้ก็จะทำให้เกิดน้ำได้นะคะ
00:09:35 → 00:09:38 หรือว่ามีการเกิดมะเร็ง ที่มันมีการแพร่กระจายมา
00:09:38 → 00:09:42 ตรงนี้ก็จะทำให้เกิดเรื่องของน้ำ ที่ในบริเวณของเยื่อหุ้มปอดได้เช่นกัน
00:09:42 → 00:09:47 อันสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกันก็คือ เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงที่ปอดนะคะ
00:09:47 → 00:09:50 เราอาจจะเคยได้ยินบอกว่า เส้นเลือดปอดอุดตัน
00:09:50 → 00:09:53 เส้นเลือดปอดมันมีลิ่มเลือดไปอุด
00:09:53 → 00:09:56 อันนี้ก็จะทำให้เลือดมันไหลเข้ามาไม่ได้
00:09:56 → 00:09:57 พอมันไหลเข้ามาไม่ได้ปุ๊บ
00:09:58 → 00:10:00 ก็จะไม่มีเลือดผ่านเข้ามาที่ปอด
00:10:00 → 00:10:03 ก็จะไม่ถูกแลกเปลี่ยนออกซิเจน
00:10:03 → 00:10:05 ในเลือดเราก็จะมีออกซิเจนตกลง
00:10:05 → 00:10:09 ถ้าเราวัดออกซิเจน Z หรือว่า หรือว่าเป็นความเข้มข้นออกซิเจนปลายนิ้ว
00:10:09 → 00:10:10 มันก็จะต่ำ
00:10:11 → 00:10:12 คนไข้ก็จะเหนื่อยง่าย
00:10:12 → 00:10:14 แล้วถ้าเลือดมันไหลผ่านมาไม่ได้จริง ๆ
00:10:14 → 00:10:16 สิ่งที่จะตามมาอีกก็คือความดันตก
00:10:16 → 00:10:18 หรือว่าคนไข้อาจจะเสียชีวิตได้
00:10:18 → 00:10:20 อันนี้ก็จะเป็นสาเหตุหลัก ๆ
00:10:20 → 00:10:25 ในกรณีของโรคที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของ ระบบทางเดินหายใจ แล้วก็ปอดค่ะ
00:10:25 → 00:10:31 [เสียงดนตรี]
00:10:31 → 00:10:36 สำหรับอาการของคนไข้ที่มีปัญหา เรื่องของระบบทางเดินหายใจและปอด
00:10:36 → 00:10:37 หลัก ๆ เลยก็คือเหนื่อยง่าย
00:10:37 → 00:10:39 อาจจะมีอาการไอนะคะ
00:10:39 → 00:10:43 ไอในที่นี้ มีทั้งไอแห้ง ๆ ไอมีเสมหะ หรือว่าไอเป็นเลือด
00:10:43 → 00:10:46 อันนี้นี่จะมาด้วยกันทั้งแพ็กเกจนะคะ
00:10:46 → 00:10:48 ในส่วนของอาการเหนื่อยง่าย
00:10:48 → 00:10:49 หอบนะคะ
00:10:49 → 00:10:51 หายใจมีเสียงวี้ด
00:10:51 → 00:10:52 หายใจลำบาก
00:10:52 → 00:10:54 ในแง่ของการหอบเหนื่อยนี่
00:10:54 → 00:10:55 หลายคนนี่ก็จะแบบ
00:10:55 → 00:10:58 เอ๊ะ จะรู้ได้ยังไงนะว่ามันเป็น หอบเหนื่อย เหนื่อยเพลียหรืออะไรอย่างนี้
00:10:58 → 00:11:01 ส่วนใหญ่มันจะทำให้ เราไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน
00:11:01 → 00:11:05 เช่น สมมุติเราเคยเป็นนักกีฬา เราวิ่งได้ทีละ 10 กิโลอย่างนี้
00:11:05 → 00:11:08 เราเหลือวิ่งได้ประมาณสัก 1-2 กิโล แล้วเราก็เหนื่อยแล้ว
00:11:08 → 00:11:12 การใช้ชีวิตประจำวันในผู้ใหญ่ หรือว่าในผู้สูงอายุ
00:11:12 → 00:11:13 บางทีเขาก็ไม่ได้ไปวิ่งหรอกค่ะ
00:11:14 → 00:11:17 แต่แค่ว่า เอ๊ะ ตอนนี้จากเดิมนี่ เดินไปไหนมาไหนเองได้
00:11:17 → 00:11:19 ตอนนี้ก็ไม่ค่อยอยากเดินแล้ว
00:11:19 → 00:11:23 หรือว่าแค่ใช้ชีวิตประจำวัน อาบน้ำ กินข้าว ก็เริ่มเหนื่อยแล้ว อันนี้ผิดปกติ
00:11:23 → 00:11:25 ในส่วนของการรักษานะคะ
00:11:25 → 00:11:27 ก็ขึ้นกับสาเหตุเป็นหลักเลย
00:11:27 → 00:11:29 ถ้าจะเป็นเรื่องของการอักเสบติดเชื้อนี่
00:11:30 → 00:11:31 เราก็จะต้องหาให้ได้ว่า
00:11:31 → 00:11:35 สาเหตุหรือว่าเชื้อโรคที่เป็นตัวก่อโรค คือเชื้ออะไร
00:11:35 → 00:11:39 แล้วเราก็จะให้ยารักษา จำเพาะเจาะจงกับเชื้ออันนั้น
00:11:39 → 00:11:45 อันที่ 2 ค่ะ ถ้าสมมุติว่าเราให้การรักษา ในแง่ของให้ยาฆ่าเชื้อจำเพาะเจาะจงแล้วนี่
00:11:45 → 00:11:47 ในแง่ของการรักษาตามอาการทั้งหลาย
00:11:47 → 00:11:49 ยกตัวอย่างเช่น การให้ออกซิเจน
00:11:49 → 00:11:52 การให้สารน้ำ หรือว่าการดื่มน้ำให้เพียงพอ
00:11:52 → 00:11:56 เพื่อจะให้ร่างกายสามารถที่จะไอ เอาเสมหะออกมาได้
00:11:56 → 00:11:58 อันนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นตัวช่วย
00:11:58 → 00:12:04 นอกจากนั้น มันก็ควรจะต้องมีการป้องกัน ทั้งตัวเองแล้วก็คนรอบข้าง
00:12:04 → 00:12:07 ถ้ามันมีการอักเสบติดเชื้อขึ้นมา เราก็ควรจะต้องใส่แมสก์
00:12:07 → 00:12:10 ใส่แมสก์ทั้งคนที่ติดเชื้ออยู่
00:12:10 → 00:12:12 เพื่อจะไม่ให้มีการแพร่กระจายของเชื้อ
00:12:12 → 00:12:14 ในขณะเดียวกันนี่ คนทั่วไป
00:12:14 → 00:12:18 ถ้าจะเป็นการป้องกันไม่ให้ตัวเองได้รับเชื้อ
00:12:18 → 00:12:20 ก็ควรที่จะใส่แมสก์เหมือนกัน
00:12:20 → 00:12:21 อันนี้ในแง่ของเชื้อโรค
00:12:21 → 00:12:26 การใส่แมสก์ไม่ใช่เป็นแค่การป้องกัน ในส่วนของเชื้อโรคเท่านั้น
00:12:26 → 00:12:31 ในแง่ของพวกของสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ หรือสารที่ทำให้ก่อเกิดมะเร็งนี่
00:12:31 → 00:12:33 เราก็จะสามารถป้องกันได้ บางส่วนด้วยเช่นกันค่ะ
00:12:33 → 00:12:37 สำหรับเรื่องของถุงลมโป่งพองหรือว่าหอบหืด
00:12:37 → 00:12:40 หลัก ๆ นี่ มันจะมีเรื่องของหลอดลมหดตัว
00:12:40 → 00:12:43 แล้วก็หายใจแล้วลำบาก ได้ยินเสียงวี้ด
00:12:43 → 00:12:46 อันนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีเรื่องของ ยาขยายหลอดลมเป็นหลัก
00:12:46 → 00:12:51 แล้วก็จะมียาอื่น ๆ ที่รักษาจำเพาะ ในเรื่องของแต่ละโรคไป
00:12:51 → 00:12:57 ทีนี้โดยทั่วไป หอบหืดหรือว่าถุงลมโป่งพอง จะกำเริบ ถ้าถูกกระตุ้น
00:12:57 → 00:12:58 ในแง่ของถุงลมโป่งพองหรือหอบหืด
00:12:59 → 00:13:02 ถ้าเป็นรุนแรง บางทีอาการก็จะถูกกระตุ้นได้ง่าย
00:13:02 → 00:13:05 อะไรเอ่ยที่จะเป็นตัวกระตุ้น ให้โรคพวกนี้มันกำเริบขึ้น
00:13:05 → 00:13:06 การติดเชื้อ
00:13:07 → 00:13:10 เพราะฉะนั้นก็ควรจะฉีดวัคซีน ถ้าป้องกันได้
00:13:10 → 00:13:13 ใส่แมสก์เป็นประจำ อยู่ในที่อากาศถ่ายเท
00:13:13 → 00:13:17 แล้วก็ไม่ไปอยู่ใกล้ชิดกับคนที่มี ปัญหาเรื่องของการติดเชื้อ
00:13:17 → 00:13:18 ที่ตรงบริเวณทางเดินหายใจ
00:13:18 → 00:13:20 เพราะว่าเราอาจจะได้รับเชื้อเข้ามา
00:13:20 → 00:13:23 ถ้าเกิดว่าเป็นมะเร็งจากที่อื่น แล้วกระจายมาที่ปอด
00:13:23 → 00:13:27 อันนี้ก็ถือว่าเป็นระยะที่มีการลุกลามแล้ว หรือว่าเรียกว่าระยะที่ 4
00:13:27 → 00:13:31 อันนี้การรักษาหลัก ๆ ก็คงจะเป็นการควบคุมอาการของโรค
00:13:31 → 00:13:34 ซึ่งก็จะไปดูตามชนิดของมะเร็งนะคะ
00:13:34 → 00:13:37 ในส่วนของถ้าเป็นมะเร็ง ที่เริ่มต้นที่ปอดเองนี่
00:13:37 → 00:13:41 ถ้าเป็นก้อนเล็ก ๆ ก็จะรักษาด้วยการผ่าตัด
00:13:41 → 00:13:43 หรือว่าถ้าระยะที่มันมากขึ้นกว่านั้น
00:13:43 → 00:13:46 ก็จะมีการใช้ยาเคมีบำบัด การฉายแสง
00:13:46 → 00:13:50 การรักษาโดยการใช้ยามุ่งเป้า หรือการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด
00:13:50 → 00:13:54 ตอนนี้มันก็จะมีเทคโนโลยีค่อนข้างมาก สำหรับเรื่องของการรักษามะเร็ง
00:13:54 → 00:13:57 แล้วในอนาคตก็น่าจะมีมากขึ้นอีกนะคะ
00:13:57 → 00:14:03 [เสียงดนตรี]
00:14:03 → 00:14:06 อาหารที่จะช่วยบำรุงปอดให้ห่างไกลโรคนะคะ
00:14:06 → 00:14:09 หลัก ๆ ก็จะเป็นกลุ่มของสารต้านอนุมูลอิสระ
00:14:09 → 00:14:14 ซึ่งมีมากอยู่ในผัก ผลไม้ แล้วก็กลุ่มธัญพืช
00:14:14 → 00:14:18 อันนี้ถามว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระอันไหน ที่เราสนใจเป็นพิเศษหรือเปล่า
00:14:18 → 00:14:20 ในแง่ของทางระบาดวิทยา เราก็จะบอกว่า
00:14:20 → 00:14:26 กลุ่มที่จะเป็นวิตามินเอ วิตามินซี หรือว่าซีลีเนียม
00:14:26 → 00:14:29 อันนี้ก็จะช่วยในเรื่องของ การป้องกันมะเร็งปอด
00:14:30 → 00:14:33 ทีนี้มันจะมีความสำคัญอยู่นิดนึง เวลาที่เราหานี่
00:14:33 → 00:14:35 เราจะบอกว่าวิตามินเอมันดูดีเนอะ
00:14:35 → 00:14:39 กินผักผลไม้เยอะ ๆ มีวิตามินเอเยอะ วิตามินซีเยอะ จะช่วยป้องกันมะเร็งปอด
00:14:40 → 00:14:41 แต่ว่าต้องบอกนิดนึงค่ะ
00:14:41 → 00:14:47 ถ้าเราไปซื้อพวก supplement หรือว่ายาเม็ด ที่มีเบตาแคโรทีนเยอะ ๆ
00:14:47 → 00:14:48 โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงนะคะ
00:14:48 → 00:14:51 อันนี้จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด
00:14:51 → 00:14:54 เบตาแคโรทีน แนะนำให้กินจากอาหาร
00:14:54 → 00:14:57 โดยทั่วไปเวลาเรากินเบตาแคโรทีนจากอาหารนี่
00:14:57 → 00:15:01 มันจะไม่ทำให้เกิดภาวะเป็นพิษ หรือจะไม่ได้รับมากเกินไป
00:15:01 → 00:15:04 แต่ถ้าเราไปซื้อเป็นเม็ดมา
00:15:04 → 00:15:05 แล้วกินเข้าไป
00:15:05 → 00:15:09 โดสที่มากเกินไป ในที่นี้คือมากกว่า 20-30 มิลลิกรัม
00:15:10 → 00:15:13 มันเพิ่มความเสี่ยง ที่จะทำให้เกิดมะเร็งปอดได้
00:15:13 → 00:15:17 สำหรับผักที่จะมีกลุ่มของ เบตาแคโรทีนค่อนข้างมากนี่
00:15:17 → 00:15:21 เอาง่าย ๆ เลย คือผักที่มีสีเหลือง สีส้ม สีแดง
00:15:21 → 00:15:23 พวกนี้จะมีเบตาแคโรทีนค่อนข้างเยอะ
00:15:23 → 00:15:28 มีอะไรบ้างเอ่ย อันแรก แคร์รอต ฟักทอง หรือมะเขือเทศ
00:15:29 → 00:15:33 สีเขียวเข้ม ๆ อย่างเช่นบรอกโคลีเอง ก็ถือว่ามีเรื่องของวิตามินบี
00:15:33 → 00:15:36 แล้วก็มีวิตามินเอ วิตามินซีสูงด้วย
00:15:36 → 00:15:39 ในส่วนของสีเหลืองส้มทั้งหลายที่เราว่ามานี่
00:15:39 → 00:15:43 ถ้าเป็นมะเขือเทศนี่ นอกเหนือจากจะมีพวกเบตาแคโรทีนแล้วนี่
00:15:43 → 00:15:44 เขายังมีไลโคปีนอีก
00:15:44 → 00:15:48 ซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์ หรือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเหมือนกัน
00:15:48 → 00:15:50 เพราะฉะนั้นในกลุ่มของอาหารพวกนี้
00:15:50 → 00:15:53 เราสามารถที่จะรับประทานเพิ่มขึ้นได้นะคะ
00:15:53 → 00:15:56 เพื่อจะให้ร่างกายมีเบตาแคโรทีนเพิ่มขึ้น
00:15:56 → 00:15:59 มีกลุ่มของพวกของสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น
00:15:59 → 00:16:02 ผักที่มันเป็นสีเขียวเข้ม ๆ
00:16:02 → 00:16:04 มันก็ยังคงมีวิตามินซีด้วย
00:16:04 → 00:16:07 ก็จะช่วยเพิ่มแอนติออกซิแดนท์ได้อีกทางหนึ่ง
00:16:07 → 00:16:09 นอกเหนือจากกลุ่มผักพวกนี้
00:16:09 → 00:16:10 ก็จะมีกลุ่มของผลไม้
00:16:10 → 00:16:14 กลุ่มผลไม้ที่จะเป็นกลุ่มที่จะมีวิตามินซีสูง
00:16:14 → 00:16:16 อันนี้เราคงจะพอทราบกันอยู่แล้วเนอะ
00:16:16 → 00:16:21 ถ้าจะเป็นพวกของแคนตาลูป แอปเปิล หรือว่ากลุ่มที่เป็นเบอร์รี
00:16:21 → 00:16:24 พวกนี้นอกจากจะมีเรื่องของวิตามินซีแล้วนี่
00:16:24 → 00:16:27 มันก็อาจจะมีพวกสารต้านอนุมูลอิสระ ในรูปแบบอื่น ๆ
00:16:27 → 00:16:28 อย่างเช่นเบอร์รีอย่างนี้ค่ะ
00:16:28 → 00:16:32 ก็จะมีพวกลูทีน ซีแซนทีน ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ
00:16:32 → 00:16:34 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
00:16:34 → 00:16:35 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของปอด
00:16:35 → 00:16:39 หรือว่าช่วยลดเรื่องของความเสี่ยง ในการเกิดมะเร็งปอดได้ด้วยเช่นกันค่ะ
00:16:39 → 00:16:44 กลุ่มถัดมาก็จะเป็นพวกของธัญพืช หรือว่าพวกถั่วเมล็ดแห้งนะคะ
00:16:44 → 00:16:48 พวกนี้ก็จะมีวิตามินอีและมีซีลีเนียมเยอะขึ้น
00:16:48 → 00:16:52 อันนี้ก็จะเป็นเรื่องของ สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเช่นเดียวกัน
00:16:53 → 00:16:54 ในส่วนของเนื้อสัตว์เองนี่
00:16:54 → 00:16:57 มันอาจจะไม่ได้มีเรื่องของ สารต้านอนุมูลอิสระหรืออะไร
00:16:57 → 00:17:02 แต่ว่าเราแค่จะบอกว่า ถ้าสมมุติว่า เราต้องการจะลดการอักเสบในร่างกาย
00:17:03 → 00:17:05 ให้ได้เรื่องของกรดไขมันที่ดี
00:17:05 → 00:17:08 ไม่มีเรื่องของตัวไขมันอิ่มตัวเยอะ ๆ
00:17:08 → 00:17:12 เราก็อาจจะเลือกในกลุ่มของปลา หรือว่าพวกอาหารทะเล
00:17:12 → 00:17:16 กลุ่มนี้ก็จะเป็นทางเลือกที่ดี ในแง่ที่เราจะได้พวกของน้ำมันปลา
00:17:16 → 00:17:18 แล้วก็จะช่วยลดเรื่องของการอักเสบ
00:17:18 → 00:17:21 ในส่วนของเครื่องดื่มที่จะช่วยทำให้ มีแอนติออกซิแดนท์
00:17:21 → 00:17:23 ก็อาจจะเป็นกลุ่มของชานะคะ
00:17:24 → 00:17:29 พวกนี้นี่ก็อาจจะทำให้ได้รับพวกของ สารต้านอนุมูลอิสระร่วมด้วยค่ะ
00:17:29 → 00:17:30 ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีนะคะ
00:17:30 → 00:17:33 นอกเหนือจากน้ำเปล่า ก็อาจจะใช้เป็นพวกชาได้ค่ะ
00:17:34 → 00:17:39 [เสียงดนตรี]
00:17:39 → 00:17:42 อันสุดท้าย เราจะคุยกันในเรื่องของ
00:17:42 → 00:17:45 เทคนิคที่จะดูแลสุขภาพปอดของเราให้แข็งแรง
00:17:45 → 00:17:50 เริ่มต้นเลยก็คือ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้ปอดเราแย่ลง
00:17:50 → 00:17:52 เหมือนที่เราคุยกัน
00:17:52 → 00:17:54 ถ้าปอดเราเป็นเครื่องฟอกอากาศ
00:17:54 → 00:17:57 เราจะไม่เอาเครื่องฟอกอากาศเรา ไปอยู่ในจุดที่มันมีฝุ่นควัน
00:17:57 → 00:17:59 หรือว่าอันตรายเยอะ ๆ นะคะ
00:17:59 → 00:18:02 ก็จะต้องอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเท
00:18:02 → 00:18:06 หรือว่าอยู่ในที่ที่มีสภาพแวดล้อม ที่ค่อนข้างดีนิดนึง
00:18:06 → 00:18:08 ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ เราก็ควรจะต้องมีตัวช่วย
00:18:08 → 00:18:11 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้หน้ากากอนามัย
00:18:11 → 00:18:12 หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ค่ะ
00:18:13 → 00:18:16 ทั้งเป็นคนสูบเอง และทั้งเป็นผู้สูบบุหรี่มือสอง
00:18:16 → 00:18:19 อันนี้ก็จะเป็นพฤติกรรมที่จะทำร้ายปอดเรานะคะ
00:18:20 → 00:18:22 ในเรื่องของอาหารที่จะช่วยป้องกัน
00:18:22 → 00:18:24 หรือว่าช่วยเป็นประโยชน์กับปอด
00:18:24 → 00:18:26 ส่วนใหญ่หลัก ๆ เลยนี่
00:18:26 → 00:18:29 ก็จะเป็นกลุ่มที่จะมี พวกของสารต้านอนุมูลอิสระ
00:18:29 → 00:18:34 มีวิตามินซีที่เยอะขึ้น วิตามินเอหรือเบตาแคโรทีนที่เยอะขึ้น
00:18:34 → 00:18:36 แล้วก็อาจจะมีสารกลุ่มหนึ่งก็คือซีลีเนียม
00:18:36 → 00:18:40 ซึ่งพวกนี้ก็จะช่วยทำให้ สุขภาพปอดของเราดีขึ้นนะคะ
00:18:40 → 00:18:44 อาจจะไม่ใช่แค่สุขภาพปอด แต่เป็นสุขภาพโดยรวม
00:18:44 → 00:18:46 แต่ภาพรวมตรงนี้ก็จะบอกว่า
00:18:46 → 00:18:49 หลัก ๆ ก็คือเป็นอาหาร ที่มีเรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระ
00:18:49 → 00:18:51 วิตามินซีที่เพียงพอ
00:18:51 → 00:18:54 วิตามินเอ เบตาแคโรทีน หรือว่าซีลีเนียมค่ะ
00:18:54 → 00:18:57 นอกจากนี้นะคะ ก็จะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
00:18:57 → 00:19:00 เพื่อช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายดีขึ้น
00:19:01 → 00:19:04 จะมีเรื่องของการฝึกการหายใจเข้าออกลึก ๆ
00:19:04 → 00:19:06 เพื่อจะให้ปอดขยายได้เต็มที่
00:19:06 → 00:19:08 จะได้ไม่มีภาวะปอดแฟบ
00:19:08 → 00:19:11 แล้วก็สุดท้ายก็คือ จะเป็นเรื่องของการออกกำลังกาย
00:19:11 → 00:19:12 เวลาที่เราออกกำลังกาย
00:19:12 → 00:19:14 ก็จะช่วยทำให้มีการสูบฉีดของเลือดที่ดีขึ้น
00:19:14 → 00:19:16 มีกันแลกเปลี่ยนก๊าซที่ดีขึ้น
00:19:17 → 00:19:21 ที่สำคัญค่ะ เราควรจะต้องออกกำลังกาย ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท
00:19:21 → 00:19:22 เวลาที่เราจะออกกำลังกายนะคะ
00:19:22 → 00:19:27 เราก็ควรจะเลือกสถานที่ที่ออกกำลังกาย ให้มีอากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก
00:19:27 → 00:19:29 เช่น อาจจะไปตามสวนสาธารณะ
00:19:29 → 00:19:31 หรือว่าถ้าสมมุติว่าเราจะเข้าไปอยู่ในยิมนี่
00:19:31 → 00:19:32 ก็ไม่ควรจะแออัดจนเกินไป
00:19:32 → 00:19:34 ที่สำคัญเราก็ต้องแน่ใจนิดนึง
00:19:34 → 00:19:38 ว่าในยิมที่เราไป จะต้องไม่มีใครที่มีโรคติดต่อ
00:19:38 → 00:19:41 ที่มีการแพร่กระจายในเรื่องของทางเดินหายใจ
00:19:41 → 00:19:43 แล้วก็คงไม่เหมาะด้วย บอกว่าถ้าเราออกกำลังกายในยิม
00:19:44 → 00:19:46 แล้วเราต้องมานั่งใส่แมสก์
00:19:46 → 00:19:48 หรือว่าใส่เรื่องของหน้ากากอนามัย
00:19:48 → 00:19:51 เพราะว่ามันจะทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซแย่ลง
00:19:51 → 00:19:54 การที่จะทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ มันคั่งขึ้นเนอะ
00:19:54 → 00:19:57 เพราะฉะนั้น ก็อาจจะต้องเลือกสถานที่นิดนึง ในแง่ของการออกกำลังกาย
00:19:58 → 00:20:01 แต่ว่าการออกกำลังกาย ก็จะช่วยทำให้สุขภาพปอดเราดีขึ้นค่ะ
00:20:01 → 00:20:04 แล้วก็สุดท้ายนะคะ จริง ๆ เราก็จะแนะนำว่า
00:20:04 → 00:20:08 ควรจะต้องจิบน้ำบ่อย ๆ หรือว่ากินน้ำเยอะ ๆ นิดนึง
00:20:08 → 00:20:09 โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ค่ะ
00:20:10 → 00:20:12 ในผู้สูงอายุ หลาย ๆ ครั้งนี่
00:20:12 → 00:20:15 ก็จะมีปัญหาในเรื่องของการจัดการกับเสมหะ
00:20:15 → 00:20:18 เขาจะไม่มีแรงไอนะคะ
00:20:18 → 00:20:21 อาจจะเป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง หรืออะไรก็ตาม
00:20:21 → 00:20:24 ตรงนี้นี่ ถ้าสมมุติว่า อยู่ในภาวะแห้งหรือขาดน้ำ
00:20:24 → 00:20:29 ก็จะทำให้เขาไม่สามารถที่จะเคลียร์ หรือว่าจัดการกับเสมหะได้
00:20:29 → 00:20:31 โอกาสที่จะสำลักอะไรก็มีด้วย
00:20:31 → 00:20:34 เพราะฉะนั้น ถ้าเขาไอไม่ออก
00:20:34 → 00:20:36 เอาเสมหะออกมาไม่ได้นะคะ
00:20:36 → 00:20:38 เราก็ต้องให้เขาดื่มน้ำให้เยอะขึ้นนิดนึง
00:20:38 → 00:20:42 เพื่อจะช่วยทำให้เสมหะมันนุ่ม มันไม่เหนียวมากเกินไป
00:20:42 → 00:20:44 แล้วก็สามารถที่จะไอออกมาได้นะคะ
00:20:44 → 00:20:46 จริง ๆ การดื่มน้ำให้เพียงพอ
00:20:46 → 00:20:51 อันนี้ก็จะมีคุณสมบัติหรือว่ามีความสำคัญ ดีพอ ๆ กับการใช้ยาละลายเสมหะเลยค่ะ
00:20:51 → 00:20:57 [เสียงดนตรี]
00:20:57 → 00:20:59 พูดมาวันนี้ค่ะ เนื้อหามันแน่นมาก
00:20:59 → 00:21:04 หลัก ๆ ก็คือว่าปอดมีหน้าที่ แลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจน
00:21:04 → 00:21:06 เพราะฉะนั้นนี่ เริ่มต้นเลย
00:21:06 → 00:21:11 ไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดที่จะทำให้ การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนเราแย่ลง
00:21:11 → 00:21:12 ไม่สูบบุหรี่
00:21:12 → 00:21:14 ไม่อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี
00:21:14 → 00:21:16 ไม่มีควันพิษนะคะ
00:21:16 → 00:21:21 ถ้าเราเลี่ยงไม่ได้ เราก็ควรจะต้องใส่แมสก์ ใส่หน้ากากอนามัยนะคะ
00:21:21 → 00:21:24 คำถามต่อไปว่า เครื่องฟอกอากาศจำเป็นไหม
00:21:24 → 00:21:25 อันนี้ขึ้นกับแต่ละบ้านเลย
00:21:25 → 00:21:28 มันเป็นแค่ Option หรือมันเป็นแค่ทางเลือกทางหนึ่ง
00:21:28 → 00:21:33 ที่จะช่วยทำให้เราอยู่ในจุดที่ มีอากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น
00:21:33 → 00:21:37 แล้วก็ฟอก ช่วยเราฟอกอากาศภายนอกนะคะ
00:21:37 → 00:21:39 ในส่วนของภายในก็คือป้องกันตัวเอง
00:21:39 → 00:21:42 ก็คือสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงนะคะ
00:21:42 → 00:21:44 ในเรื่องของการเลือกอาหารนี่
00:21:44 → 00:21:48 ก็ควรจะต้องเลือกอาหารที่มีเรื่องของ กินอาหารให้หลากหลาย
00:21:48 → 00:21:49 พักผ่อนให้เพียงพอ
00:21:49 → 00:21:50 ออกกำลังกาย
00:21:50 → 00:21:53 เพื่อจะช่วยให้มีการแลกเปลี่ยนก๊าซที่ดี
00:21:54 → 00:21:55 แล้วก็การเลือกอาหารนี่
00:21:55 → 00:22:00 หลัก ๆ เราก็จะให้กินพวกที่เป็นพวกของ สารต้านอนุมูลอิสระ
00:22:00 → 00:22:05 มีวิตามินซี วิตามินเอ เบตาแคโรทีน แล้วก็ซีลีเนียมสูงนะคะ
00:22:05 → 00:22:11 อันนี้ก็จะเป็นหลัก ๆ ในแง่ของ การที่จะช่วยในเรื่องของการดูแลสุขภาพปอด
00:22:11 → 00:22:16 พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้
00:22:16 → 00:22:18 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.
00:22:18 → 00:22:20 ที่ Mahidol Channel Podcast
00:22:20 → 00:22:23 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel
00:22:23 → 00:22:24 YouTube Mahidol Channel
00:22:25 → 00:22:26 Apple Podcasts
00:22:26 → 00:22:27 Spotify
00:22:27 → 00:22:28 Anchor
00:22:28 → 00:22:29 Joox
00:22:29 → 00:22:35 ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
00:22:35 → 00:22:38 [เสียงดนตรี]
00:22:38 → 00:22:42 Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้