00:00:51 → 00:00:53 มันน่าสงสารอย่างงี้อะ
00:00:53 → 00:00:56 คุณแนนบุคลิกสองขั้วแล้วเนี่ย
00:00:56 → 00:00:59 ตอนแรกมันก็ขำๆดีแต่ดูๆไปมันสงสารอะคุณหมอ
00:00:59 → 00:01:01 คุณหมอว่าคุณแนนผิดปกตินะเนี่ย
00:01:01 → 00:01:03 สรุปแนนเป็นไบโพลาร์หรอคะคุณหมอ
00:01:03 → 00:01:04 ไม่รู้อาจจะ
00:01:05 → 00:01:07 ก่อนจะไปขั้วไหนขั้วนั้นเข้ารายการก่อนคุณหมอค่ะ
00:01:07 → 00:01:08 สวัสดีกันก่อน
00:01:08 → 00:01:10 สวัสดีคุณผู้ชมค่ะ สวัสดีค่ะ
00:01:10 → 00:01:12 มาแล้วค่ะรายการคุยกับหมออัจจิมานะคะ
00:01:12 → 00:01:18 วันนี้เปิดรายการมาด้วยบางทีโลกดูสดใสแต่แบบไปๆมาๆทำไมมันเศร้าจัง
00:01:18 → 00:01:20 หมอว่าคุณแนนอะไบโพลาร์แน่ๆเลย
00:01:21 → 00:01:23 แล้วยิ่งช่วงนี้คนเป็นกันเยอะด้วยใช่ไหมคะคุณหมอ
00:01:23 → 00:01:24 ใช่
00:01:24 → 00:01:27 แสดงว่าวันนี้เราจะชวนคุณผู้ชมคุยกันเรื่องของไบโพลาร์หรอคะ
00:01:27 → 00:01:27 ถูกต้อง
00:01:27 → 00:01:31 หรือว่าที่เขามีศัพท์ภาษาไทยเรียกง่ายๆว่าอะไรนะคะคุณหมอ
00:01:31 → 00:01:32 คนบุคลิกสองขั้ว
00:01:34 → 00:01:38 ก็มาติดตามกันแล้วกันว่าเป็นยังไง แล้วจะดูแลกันยังไงได้บ้างนะคะ
00:01:38 → 00:01:41 ตายแล้วดิฉันจะเป็น 2 ขั้วไหมเนี่ย
00:01:47 → 00:01:49 มาค่ะ เริ่มต้นช่วงหมอชวนคุยสัปดาห์นี้
00:01:49 → 00:01:53 เราจะพูดกันถึงโรค โรคนึงซึ่งเราได้ยินในหน้าหนังสือพิมพ์
00:01:53 → 00:01:55 หรือว่าหน้าข่าวตามอินเตอร์เน็ตเยอะแยะ
00:01:55 → 00:01:58 ไม่เป็นไบโพลาร์ก็เป็นซึมเศร้า
00:01:58 → 00:02:00 แล้ววันนี้เราก็จะคุยกันเรื่องนี้
00:02:00 → 00:02:02 นั้นก็คือโรค
00:02:02 → 00:02:05 คนบลุคลิก 2 ขั้วไบโพลาร์
00:02:06 → 00:02:08 เรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีไหมคะคุณหมอ
00:02:08 → 00:02:08 ได้
00:02:08 → 00:02:12 ว่าเจ้า ไบโพลาร์หรือบุคลิก 2 ขั้วแท้ที่จริงแล้วมันคือโรคอะไรคะคุณหมอ
00:02:13 → 00:02:18 ก็คือเป็นโรคที่เขามีความผิดปกติทางอารมณ์โดนที่เขาจะมีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์
00:02:18 → 00:02:23 ในช่วงของอารมณ์ที่มีความแตกต่างกันมากก็คือมีช่วงอารมณ์ที่แบบเศร้ามาก
00:02:23 → 00:02:26 กับช่วงอารมณ์แบบดีมากๆ
00:02:26 → 00:02:28 ถ้าแบบซึมเศรร้าจะเรียกว่าDepression ภาษาอังกฤษ
00:02:28 → 00:02:28 ค่ะ
00:02:28 → 00:02:32 แต่ถ้าเกิดว่าเป็นช่วงอารมณ์ดีมากๆก็จะเรียกว่า Mania
00:02:33 → 00:02:38 ซึ่งระยะเวลาในแต่ละช่วงของเขาจะอยู่เป็นสัปดาห์หรืออาจจะอยู่เป็นเดือนก็ได้
00:02:38 → 00:02:38 ค่ะ
00:02:38 → 00:02:42 หรือเขาอาจจะเป็นคนที่มีช่วงอารมณ์ปกติคั่นกลางก็ได้เหมือนกัน
00:02:42 → 00:02:45 มันก็เลยจะกลายเป็นคนที่แบบเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวน
00:02:45 → 00:02:48 แล้วก็บางคนก็จะมีซึมเศร้าเด่นๆ
00:02:49 → 00:02:52 ก็จะคิดว่าตัวเองซึมเศร้า แต่จริงๆแล้วมันก็จะเป็นอาการ
00:02:52 → 00:02:55 อันนึงของภาวะที่เป็นไบโพลาร์
00:02:56 → 00:02:56 ค่ะ
00:02:56 → 00:03:01 ซึ่งจริงๆแล้วในกลุ่มคนต้องบอกว่าส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเขา
00:03:01 → 00:03:02 จริงๆ
00:03:02 → 00:03:09 ทั้งในทุกด้าน ไม่ว่าจะด้านการงาน ด้านการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ
00:03:09 → 00:03:13 แล้วก็ส่งผลต่อการดูแลตัวเองด้วยเพราะว่าบางทีที่
00:03:14 → 00:03:16 เกิดภาวะซึมเศร้ามากๆเนี่ยคุณแนน
00:03:16 → 00:03:17 ไม่อยากทำอะไรจริงๆ
00:03:17 → 00:03:18 ไม่อยากกินข้าว
00:03:18 → 00:03:19 ไม่อยากอาบน้ำ
00:03:19 → 00:03:21 ไม่อยากกินข้าว ไม่อยากอาบน้ำ ไม่อยากแต่งหน้า ฉันไม่อยากทำอะไรทั้งสื้น
00:03:22 → 00:03:25 จะอยู่เฉยๆแล้วก็ isolated ก็คือแยกตัว
00:03:25 → 00:03:26 ค่ะ
00:03:26 → 00:03:31 ความสนใจในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำก็จะลดลง
00:03:32 → 00:03:35 หรือเบื่ออาหาร หรือบางคนไม่เบื่ออาหาร
00:03:36 → 00:03:41 กินมากเกินก็มีเหมือนกันก็คือใช้อาหารเป็นตัวเยียวยา
00:03:42 → 00:03:46 คราวนี้มันก็จะมีอีกกลุ่มนึงคือกลุ่มคนที่นอนไม่หลับ
00:03:46 → 00:03:46 ค่ะ
00:03:46 → 00:03:47 หลับยาก
00:03:47 → 00:03:50 คือต้องบอกว่าอันนี้อาจจะเป็นอาการนึงของคนที่เป็นซึมเศร้า
00:03:51 → 00:03:57 หรือคนที่เป็นซึมเศร้าหลับไม่ตื่นสักที 10ชั่วโมง11ชั่วโมง12ชั่วโมง
00:03:57 → 00:04:01 คือนอนแล้วก็ตื่นขึ้นมานอนต่อก็มันไม่อยากลุกไม่อยากทำอะไร
00:04:01 → 00:04:02 ค่ะ
00:04:02 → 00:04:09 เป็นมากๆก็จะคิดถึงอยู่แต่ว่าฉันอยู่ไปทำไมเนี่ยมันไม่มีคุณค่าตายดีกว่า
00:04:09 → 00:04:14 แล้วบางทีมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบคุณแนน แล้วอาจจะฆ่าตัวตายไปเลย
00:04:14 → 00:04:16 เหมือนที่เราเห็นในข่าวกันเยอะๆนะคะ
00:04:16 → 00:04:16 ใช่ๆ ใช่ๆ
00:04:16 → 00:04:18 อันนี้เป็นขั้วของซึมเศร้า
00:04:18 → 00:04:19 ค่ะ
00:04:19 → 00:04:22 แต่ว่ามันมีขั้วที่เป็นขั้วที่เป็นอารมณ์ดี
00:04:22 → 00:04:26 คือจริงๆแล้วขั้วManic หรือขั้วอารมณ์ดีบางทีจะมาด้วยอารมณ์ดีก็ได้
00:04:26 → 00:04:28 หรือบางทีมาด้วยแบบหงุดหงิด
00:04:28 → 00:04:30 อะไรก็ไม่ทันใจเลยมันไว
00:04:30 → 00:04:30 ค่ะ
00:04:30 → 00:04:33 เพราะว่ากลุ่มคนพวกนี้เขาจะมีความมั่นใจในตัวเองมาก
00:04:33 → 00:04:36 แล้วเขาจะรู้สึกว่า ฉันยิ่งใหญ่
00:04:36 → 00:04:43 คือซึมเศร้าจนรู้สึกว่าตัวเองเล็กเหลือเกิน ไร่ค่า ถ้าเป็นอีกขั้วนึงเขาก็จะรู้สึกว่าฉันเจ๋งมาก ยิ่งใหญ่
00:04:43 → 00:04:46 พูดเยอะพูดไม่หยุดไม่ค่อยนอน
00:04:46 → 00:04:47 ค่ะ
00:04:47 → 00:04:53 แล้วความคิดมันจะแล่นอยู่ตลอดเวลา แล้วเดี๋ยวอยากทำนู้น อยากทำนี้ อยากทำหลายๆอย่างในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
00:04:53 → 00:04:53 ค่ะ
00:04:53 → 00:04:58 และแต่ถ้ามีปัญหาอะไรเขาก็จะหมกมุ่นอย่างมากกับกิจกรรมที่ทำให้เกิดปัญหา
00:04:58 → 00:05:02 คนพวกนี้อะคุณแนนอาจจะมาแสดงอาการด้วยหลายแบบ
00:05:02 → 00:05:07 เช่น ลงทุนใช้เงินไปเยอะมากโดยที่แบบขาดความยับยั้งชั่งใจ
00:05:07 → 00:05:12 คือบางคนก็อาจจะมาซึมเศร้าอย่างเดียว Manic อย่างเดียวหรือบางคนก็เด่นซึมเศร้า
00:05:12 → 00:05:12 บางคนก็เด่นManic
00:05:13 → 00:05:20 แต่ว่าต้องบอกว่าจริงๆเราพบว่าในคนที่บุคลิก 2 ขั้วพบได้ ถึง 2-5%ของประชากรโดยทั่วๆไป
00:05:20 → 00:05:24 ส่วนใหญ่แล้วจริงๆแล้วจะพบแบบซึมเศร้าบ่อย
00:05:24 → 00:05:24 ค่ะ
00:05:24 → 00:05:25 มากกว่าManic
00:05:25 → 00:05:30 แต่ว่าการดำเนินโรคของกลุ่มคนที่เป็นพวกมักจะเป็นเรื้อรัง
00:05:30 → 00:05:31 ค่ะ
00:05:31 → 00:05:36 แล้วก็ถึงแม้ว่ารับประทานยาหายแล้วก็อาจจะกลับเป็นซ้ำได้อีก
00:05:36 → 00:05:39 แล้วก็อาจจะเพราะว่าด้วยความกดดันต่างๆรอบๆตัว
00:05:39 → 00:05:40 ใช่ๆ
00:05:40 → 00:05:44 ทำให้เกิดเห็นคนเป็นโรคไบโพลาร์หรือบุคลิก2ขั้วเยอะมากขึ้น
00:05:44 → 00:05:50 ทีนี้อยากทราบว่าจริงๆแล้วสาเหตุที่มันทำให้เป็นโรคนี้มันมีปัจจัยอะไรบางคะคุณหมอ
00:05:50 → 00:05:52 คือจริงๆเขาบอกว่าเป็นจากพันธุกรรมรึเปล่า
00:05:52 → 00:05:56 คือต้องว่าปัจจุบันเรายังไม่ทราบว่ามันถ่ายทอดยังไง
00:05:56 → 00:05:57 ค่ะ
00:05:57 → 00:06:02 มันถ่ายทอดผ่านยีนยังไงโรคไบโพลาร์ แต่พบบ่อยขึ้นในครอบครัวเป็นไบโพลาร์
00:06:02 → 00:06:06 ก็จะพบว่าเขามีโอกาสที่จะเป็นไบโพลาร์มากกว่าในกลุ่มประชากรทั่วไป
00:06:06 → 00:06:12 แต่ที่พบแน่ๆคือคนกลุ่มพวกนี้ เขามีปัญหาในเรื่องของสารสื่อประสาทในสมอง
00:06:13 → 00:06:22 ไม่ว่าจะเป็นเคมีในส่วนของ Serotonin ที่เกี่ยวกับอารมณ์หรือฮอร์โมนที่เอามาไว้สำหรับตอบสนองต่อความเครียด
00:06:22 → 00:06:26 คือการทำงานที่มันผิดปกติของเขาในสมอง
00:06:26 → 00:06:30 มันจะมีโรคจิตอีกประเภทนึงพวกนั้นก็ความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมองเหมือนกัน
00:06:30 → 00:06:36 คือเดียวนี้เขาเชื่อว่าจิตเวชมันเป็นโรคภาวะที่มันมีความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง
00:06:37 → 00:06:42 แต่ว่ามันมีปัจจัยทางชีวภาพที่ทำให้สารสื่อประสาทในสมองพวกนี้มันทำงานผิดปกติ
00:06:42 → 00:06:46 อย่างที่คุณแนนบอกว่าการเปลี่ยนแปลงมาได้จากหลายอย่าง
00:06:46 → 00:06:46 ค่ะ
00:06:46 → 00:06:49 สเตรทในชีวิตอันนี้ส่งผลมาก
00:06:50 → 00:06:56 อย่างเช่น กิจการล้มเหลว ล้มละลาย ตกงาน งานเครียด
00:06:57 → 00:07:06 หรือถูกทอดทิ้ง หย่าร้างคือกลุ่มพวกนี้จริงๆแล้วมันเป็นปัจจัยที่กระตุ้นที่ทำให้เกิดความเครียดขึ้นมา
00:07:06 → 00:07:09 ซึ่งก็เพราะว่ามันลิ้งค์กับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่ายกายนะคะ
00:07:09 → 00:07:13 ซึ่งอาจจะเป็นลิ้งกับโรคหลายๆโรคที่เป็นโรคเกี่ยวกับมัดเตอริลิซึม
00:07:13 → 00:07:18 แล้วก็เป็นโรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมนคือการทำงานของพวกการสร้างพวกสารเคมีในร่างกาย
00:07:18 → 00:07:23 นอกจากนี้แล้วมันมีอีกภาวะนึงที่เขาพบ 70-90% คุณแนนเขาพบว่า
00:07:23 → 00:07:25 กลุ่มคนมีปัญหาโรคของลำไส้
00:07:27 → 00:07:32 มีปัญหาโรคของลำไส้มีปัญหาภาวะโรคไส้รั่ว มีปัญหาภาวะโรคลำไส้แปรปรวน
00:07:32 → 00:07:34 หรือมีปัญหาโรคลำไส้อักเสบ
00:07:35 → 00:07:40 ซึ้งกลุ่มเนี้ยมันส่งผลต่อการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง
00:07:40 → 00:07:45 แล้วมันก็เป็นตัวนึงที่ทำให้เกิดภาวะความแปรปรวนของสารสื่อประสาทในสมอง
00:07:45 → 00:07:46 เข้าใจและ
00:07:46 → 00:07:49 แล้วไปกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคไบโพลาร์ขึ้นมา
00:07:49 → 00:07:50 ค่ะ
00:07:50 → 00:07:52 จากไส้สะเทือนถึงสมองเลยนะคะ
00:07:52 → 00:07:53 ใช่
00:07:53 → 00:07:58 แล้วต้องบอกว่าปัจจุบันมันเป็นแบบนี้เยอะเเพราะว่าการกินอยู่หลับนอนของคนมันเปลี่ยนไป
00:07:58 → 00:08:02 การใช้ยาเสพติดหรือการดื่มแอลกอฮอล์พวกนี้ก็ส่งผล
00:08:02 → 00:08:07 คือมันเป็นได้ทั้งเหตุและเป็นได้ทั้งตัวTrigger คือตัวกระตุ้นทำให้อาการบุคลิกหลายขั้วมันเด่น
00:08:08 → 00:08:10 สาเหตุจริงๆมันกว้าง
00:08:10 → 00:08:10 ค่ะ
00:08:11 → 00:08:16 มันมีทั้งสาเหตุที่เป็นเหตุจริงๆ แล้วมันมีทั้งตัวที่มันเป็นตัวกระตุ้น
00:08:17 → 00:08:21 เราได้รู้จักกันไปแล้วว่าอาการมันเป็นยังไง ปัจจัยที่ทำให้เกิดมีอะไรกันบ้าง
00:08:21 → 00:08:26 เดี๋ยวช่วงหน้าเราจะมาดูวิธีการป้องกันและรักษากันบ้างว่าจะทำยังไง
00:08:26 → 00:08:28 ตอนนี้พักสักครู่ค่ะ
00:08:30 → 00:08:31 หมอชวนคุยช่วงที่ 2
00:08:31 → 00:08:36 สนับสนุนโดย ออติซินผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดูแลรูปร่าง
00:08:37 → 00:08:40 กลับมาคุยด้วยกันต่อช่วงที่สองของรายการช่วงนี้สนับสนุนโดย
00:08:40 → 00:08:44 ออติซินผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดูแลรูปร่างนะคะ
00:08:45 → 00:08:49 หุ่นดีด้วยออติซินกันไปแล้วคราวนี้เรามาดูแลเรื่องของลำไส้เรื่องของสมองกันบ้าง
00:08:49 → 00:08:52 จะได้ไม่เป็นไบโพลาร์นะคะ
00:08:52 → 00:08:57 เมื่อกี้ทำความรู้จักกันไปแล้วแล้วก็รู้ปัจจัยกันไปแล้วว่าอะไรส่งผลให้มีความเสี่ยงจะเป็นกันบ้าง
00:08:57 → 00:09:01 ทีนี้ถ้าเราเป็นไบโพลาร์แล้วคุณหมอคะ
00:09:01 → 00:09:04 มันจะส่งผลอะไรต่อร่างกายเราบางอะคะ
00:09:04 → 00:09:09 ได้ทุกระบบเลยเพราะว่าต้องบอกว่ามันเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง
00:09:09 → 00:09:14 ที่มันมีความไม่สมดุลงั้นสมองจริงๆแล้วมันก็ควบคุมการทำงานแทบจะทุกอย่างของร่างกาย
00:09:14 → 00:09:19 จริงๆแล้วตัวไบโพลาร์เองก็ส่งผลต่อระบบการทำงานของสมองเพราะฉะนั้น
00:09:19 → 00:09:23 คนกลุ่มที่เป็นไบโพลาร์เขาอาจจะมี อย่างเช่นอาการหงุดหงิด
00:09:24 → 00:09:30 อาการก้าวร้าวถ้าเป็นในเฟดของซึมเศร้าเขาอาจจะความรู้สึกเหมือนกับมีความรู้สึกผิด
00:09:30 → 00:09:36 เศร้าอย่างรุนแรงมันเป็นความผิดปกติที่ไปกระทบการทำงานในเรื่องของ
00:09:36 → 00:09:43 การจัดการกับพฤติกรรมของในคนแต่ละคนแล้วนอกจากนี้แล้วในช่วงที่เขาซึมเศร้า
00:09:44 → 00:09:53 ก็อาจจะส่งผลทำให้การสั่งงานของสมองมันช้าลงแล้วก็อาจจะส่งผลทำให้มันปัญหาในเรื่องของการนอน
00:09:54 → 00:10:00 อย่างที่บอกว่านอนไม่หลับหรือว่านอนมากเกินไปคนไขก็อาจจะไปใช้วิธีการกินยานอนหลับ
00:10:00 → 00:10:06 ซึ่งจริงแล้วมันไม่ได้แก้ปัญหาที่เป็นปัญหาแท้จริงของเขาการที่ไม่นอน
00:10:06 → 00:10:10 มันก็เป็นตัวกระตุ้นทำให้อาการซึมเศร้ามากขึ้นกระตุ้นให้อาการไบโพลาร์มันมากขึ้นกว่าเดิม
00:10:11 → 00:10:14 ผลที่มันส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของระบบสมองแล้ว
00:10:14 → 00:10:17 ระบบการทำงานของระบบหลอดเลือดหัวใจก็ด้วย
00:10:17 → 00:10:23 คุณแนนเคยเป็นมั้ยเวลาที่เราอยู่ๆเราก็รู้สึกแบบเครียดขึ้นมาว่าฉันกลัวตาย
00:10:23 → 00:10:29 สมมุตินะกลัวตายขึ้นมาอันนี้คือมันผลกระทบต่อระบบการทำงานของหลอดเลือดและหัวใจ
00:10:29 → 00:10:31 เราจะมีอาการใจสั้น หัวใจเราเต้นเร็วผิดกว่าปกติ
00:10:32 → 00:10:36 การทำงานของหัวใจทำงานมากขึ้นกว่าเดิมแล้วก็การทำงานของหลอดเลือด
00:10:36 → 00:10:39 ก็ทำให้มีการบีบตัวทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น
00:10:39 → 00:10:44 ซึ่งถ้าเกิดว่าเราไม่ดีอยู่แล้วมันก็อาจจะส่งผลอื่นๆได้นะคะ
00:10:45 → 00:10:49 แต่อีกระบบหนึ่งที่โรคนี้มีผลก็คือระบบฮอร์โมน
00:10:50 → 00:10:55 เพราะว่าจริงๆแล้วการทำงานของสารสื่อประสาททั้งหลายมันส่งผลไปที่การทำงานของสมอง
00:10:56 → 00:11:01 แล้วก็สมองก็ยังมีหน้าที่ในการส่งผ่านฮอร์โมนหรือสารเคมีที่อ่อนกว่าสมอง
00:11:01 → 00:11:04 ไปที่อวัยวัยวะที่สร้างฮอร์โมนตัวอื่น
00:11:04 → 00:11:10 งั้นถ้าสมมุติข้างบนมันผิดปกติการส่งผ่านคำสั่งมาข้างล่าง
00:11:10 → 00:11:16 มันก็ผิดปกตินั้นก็คือมันก็คือส่งผลทำให้การทำงานของฮอร์โมนต่างๆในร่างกาย
00:11:16 → 00:11:18 ก็ยิ่งผิดปกติเข้าไปใหญ่
00:11:18 → 00:11:18 ค่ะ
00:11:18 → 00:11:24 นอกจากนี้ระบบอื่นๆที่ไบโพลาร์จะส่งผลก็คืออย่างเช่นโรคเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อ
00:11:24 → 00:11:27 คนกลุ่มนี้ก็จะมีอาการปวดเมื่อยซึ่งไม่รู้ว่ามันเกิดมาจากอะไร
00:11:27 → 00:11:32 แล้วบางทีไปส่งผลต่อการทำงานของระบบผิวหนังก็ได้
00:11:32 → 00:11:35 โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสมมุติว่ามีโรคภูมิเพี้ยนอยู่แล้ว
00:11:35 → 00:11:35 ค่ะ
00:11:35 → 00:11:40 ซึ่งเขาพบว่ามันเกี่ยวเนื่องกันก็คือโรคที่มีการอักเสบของร่างกาย
00:11:40 → 00:11:41 เรื้อรัง
00:11:41 → 00:11:46 เป็นซีสเรื้อรังในรักแร้หรือส่วนอื่นๆที่มันมีต้อมไขมันอยู่เยอะๆ
00:11:46 → 00:11:52 แต่คุณแนนรู้ไหมไอโรคที่มันลิ้งค์กันทั้งหมด มันลิ้งค์ไปที่ระบบทางเดินอาหาร
00:11:52 → 00:12:01 มันลิ้งค์ไปที่ระบบลำไส้ คนที่มีปัญหา ระบบลำไส้ ลำไส้อักเสบ ลำไส้ทำงานผิดปกติ
00:12:01 → 00:12:06 เป็นโรคไส้รั่ว ในกลุ่มคนพวกนี้เขาพบว่ากลุ่มคนพวกนี้สารสื่อประสาทในสมอง
00:12:06 → 00:12:08 ทำงานผิดปกติ
00:12:08 → 00:12:11 เขาพบในกลุ่มมคนพวกนี้มีความเสี่ยงของการเป็นโรคภูมิเพี้ยนออโตอิมมูน
00:12:11 → 00:12:12 ค่ะ
00:12:12 → 00:12:16 ผิวหนังอักเสบเรื้อรังแล้วทำไมมันมาอยู่รวมกันหมดเป็นกระจุกเดียวกัน
00:12:17 → 00:12:22 จริงๆแล้วเขาพบว่าคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับจิตประสาทำไม่ว่าจะเป็นซึมเศร้า
00:12:22 → 00:12:29 หรือไม่ว่าจะเป็นไบโพลาร์การศึกษาล่าสุดเขาพบว่ามันลิ้งค์กับภาวะการทำงาน
00:12:29 → 00:12:31 ของแบคทีเรียในลำไส้
00:12:33 → 00:12:36 คนที่มีแบคทีเรียดีก็จะเป็นโรคพวกนี้น้อยลง
00:12:36 → 00:12:37 ค่ะ
00:12:37 → 00:12:42 ทำไมมันถึงเป็นมากขึ้นในคนปัจจุบันเพราะอะไรโรคมันวิวัฒนาการมาก
00:12:42 → 00:12:43 ค่ะ
00:12:43 → 00:12:49 ยาปฏิชีวนะวิวัฒนาการมากเป็นอะไรนิดหน่อยก็กินยาปฏิชีวนะ มันกวาดแบคทีเรียตัวดี
00:12:49 → 00:12:54 เข้าไปหมดในร่างกาย ร่างกายก็จะมีแต่แบคทีเรียที่เป็นแบคทีเรียก่อโรค
00:12:54 → 00:12:59 หรือเป็นบางทีแล้วมีเชื้อราเยอะในร่างกายคนที่เป็นโรคนี้มักจะเจอว่ามีเชื้อราเยอะ
00:13:01 → 00:13:11 แล้วนอกจากนี้เราก็ยังพบว่าในกลุ่มคนที่เป็นภูมิเพี้ยนมันมีโอกาสที่จะลิ้งค์กับกลุ่มโรคพวกนี้
00:13:11 → 00:13:14 แต่ว่าการศึกษามันยังไม่มากพอมันมีแต่ข้อสังเกตุ
00:13:14 → 00:13:14 ค่ะ
00:13:14 → 00:13:20 แต่เขาก็พบว่าแบคทีเรียตัวดีระบบลำไส้ที่ดีมันจะส่งผลทำให้การทำงานของสมองมันดีขึ้น
00:13:20 → 00:13:20 ค่ะ
00:13:21 → 00:13:24 เพราะฉะนั้นพอเรามาถึงคำถามว่า
00:13:24 → 00:13:26 แล้วเราป้องกันได้ยังไง
00:13:26 → 00:13:28 ที่คุณแนนถามตอนต้นรายการ
00:13:28 → 00:13:28 ค่ะ
00:13:28 → 00:13:35 จริงๆแล้วสุขภาพจิตมันลิ้งค์กับการใช้ชีวิตมันลิ้งค์กับสุขภาพลำไส้
00:13:35 → 00:13:38 มันลิ้งค์กับว่าคุณกินคุณอยู่คุณหลับนอนยังไง
00:13:38 → 00:13:38 ค่ะ
00:13:39 → 00:13:43 ท้ายที่สุดมัน Back to the Basic ว่าคุณดูแลสุขภาพตัวเองยังไง
00:13:44 → 00:13:47 ต้องบอกว่าแบคทีเรียในลำไส้มันคือภูมิต้านทานที่ดี
00:13:47 → 00:13:48 ค่ะ
00:13:48 → 00:13:52 แล้วเราต้องปลูกแบคทีเรียตัวดีเข้าไป งั้นการรับประทานโพรไบโอติก
00:13:52 → 00:13:54 หมอเชื่อว่ามันเป็นวิธีป้องกันที่ดีอันหนึ่ง
00:13:54 → 00:13:59 แล้วเราต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยอะไรก็ตามที่ทำให้ระบบพวกนี้มันแย่ลง
00:13:59 → 00:14:04 เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อันเฮลตี้มิลทั้งหลาย
00:14:04 → 00:14:09 ไม่ว่าจะเป็น Junk food ทั้งหลาย หรือ ขนม อาหารหวาน
00:14:09 → 00:14:11 เบเกอรี่ที่มันหวานมากๆนะคะ
00:14:11 → 00:14:16 เราก็อาจจะต้องเปลี่ยนไปกิน Real Foods มากขึ้นกินอาหารปรุงแต่งให้มันน้อยลง
00:14:16 → 00:14:21 เครื่องดื่มที่มีรสหวานอร่อยๆทั้งหลายเราก็อาจจะหลีกเลี่ยงเราก็อาจจะดื่มแต่น้ำเปล่า
00:14:21 → 00:14:26 การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอก็ส่งผลต่อภูมิต้านทานของร่างกาย
00:14:26 → 00:14:30 เราก็ต้องมีการพักผ่อนร่างกายที่ร่างกายจะได้มีการรีแพร์หรือมีการซ่อมแซมที่ดี
00:14:30 → 00:14:31 ค่ะ
00:14:31 → 00:14:38 คราวนี้ถ้าเป็นมากๆแล้วเราอาจจะต้องหาหมอคุมอาการอาจจะรับประทานยาร่วมด้วย
00:14:38 → 00:14:42 แต่ในขณะที่เรารับประทานยาเราก็ต้องพยายามที่จะหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นทั้งหลาย
00:14:42 → 00:14:47 อย่างที่บอก ปรับการใช้ชีวิตใหม่เพื่อ 1 เราไม่ต้องทานยาไปตลอด
00:14:47 → 00:14:49 2 เราจะมีช่วงที่เราสามารถที่จะดีขึ้น
00:14:49 → 00:14:53 3 เราต้องจัดการกับสเตรทในชีวิตของเราให้ได้
00:14:53 → 00:14:54 ค่ะ
00:14:54 → 00:14:58 ตัดสิ่งที่มันไม่ใช่ ไม่จำเป็นที่ทำให้เราทุกข์ตัดทิ้งให้หมด
00:14:58 → 00:15:03 เรียนรู้ที่จะทำไงที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ผ่อนคลาย
00:15:04 → 00:15:08 แล้วก็ดำเนินชีวิตให้มีสุขภาพดีแล้วก็ให้มีความสุข
00:15:08 → 00:15:11 หมอว่ามันก็จะช่วยป้องกันโรคพวกนี้ได้
00:15:11 → 00:15:11 ค่ะ
00:15:11 → 00:15:15 ทีจริงเป็นวิธีการปฏิบัติตัวที่ป้องกันได้ทุกโรคจริงๆนะคะคุณหมอ
00:15:15 → 00:15:16 จริงๆแล้วมันเบสิกมากๆ
00:15:16 → 00:15:22 แต่ว่ามันก็ทำให้ทุกอย่างระบบมันสมดุล มันก็จะไม่ส่งผลเสียระบบนั้นระบบนี้
00:15:22 → 00:15:22 ถูกค่ะ
00:15:23 → 00:15:28 วันนี้เราได้ทำความรู้จักกับไบโพลาร์หรือว่าบุคลิก 2 ขั้วกันแบบละเอียดมากๆ
00:15:28 → 00:15:33 แล้วก็ยังแถมยังรู้วิธีการป้องกันด้วยเพราะฉะนั้นเราก็อย่าลืมนำไปปฎิบัติตัวจะได้ห่างไกล
00:15:33 → 00:15:34 จากโรคนี้
00:15:34 → 00:15:39 ส่วนใครที่มีความทุกข์กับโรคไข้เจ็บต่างๆอยากปรึกษาคุณหมอได้ไหมคะ
00:15:39 → 00:15:41 ได้ค่ะ ได้หลายช่องทางเลย
00:15:41 → 00:15:44 ก็เดี๋ยวจะมาตอบให้หน้าจอแบบนี้นะคะ
00:15:44 → 00:15:48 ก่อนจากกันอย่าลืมฝากกดไลค์กดแชร์ช่องทางต่างๆของเราด้วย
00:15:48 → 00:15:54 ยูทูปชาแนลนะคะก็เสิร์ชชื่อรายการ คุยกับหมออัจจิมา หรือว่าจะมาเป็นเสียงกับพอดแคสต์ก็ได้เช่นเดียวกันนะคะ
00:15:54 → 00:15:57 วันนี้เวลาหมดแล้วคุณหมอและแนนลาไปก่อนนะคะ
00:15:57 → 00:15:58 สวัสดีค่ะ