00:00:00 → 00:00:02 Ep ที่แล้วนะครับผมเล่าไปถึงวิธีการวัด
00:00:02 → 00:00:05 อายุดินเอไปแล้วนะครับว่าอายุดินเอเเนี่ย
00:00:05 → 00:00:08 เป็นสิ่งที่จะช่วยบอกได้ว่าร่างกายของเรา
00:00:08 → 00:00:10 ตอนเทำงานได้ดีเหมือนคนอายุเท่าไหร่ซึ่ง
00:00:10 → 00:00:13 ถ้าเราเจอว่าเราอ่อนกว่าวัยเนี่ยก็เป็น
00:00:13 → 00:00:15 กำลังใจที่ดีแล้วก็ควรจะทำไลฟ์สไตล์แบบ
00:00:15 → 00:00:18 นั้นต่อไปแต่ถ้าเจอว่าอายุ DNA เนี่ยนะ
00:00:18 → 00:00:20 ครับมันมากกว่าอายุตามปฏิทินแสดงว่าคุณ
00:00:20 → 00:00:23 แก่กว่าวัยถึงเวลาแล้วที่คุณต้องปรับ
00:00:23 → 00:00:26 พฤติกรรมอะไรบางอย่างเพื่อที่จะไม่ให้
00:00:26 → 00:00:29 ร่างกายของเราเนี่ยไปสู่โรคร้ายนะครับ EP
00:00:29 → 00:00:32 นี้ครับเดี๋ยวจะมาพูดกันว่าแล้วเราจะลด
00:00:32 → 00:00:36 อายุ DNA ได้ยังไงบ้างนะครับเพื่อให้เรา
00:00:36 → 00:00:39 เนี่ยมีสุขภาพดีแล้วก็เพิ่ม Health span
00:00:39 → 00:00:43 หรือว่าช่วงเวลาที่เรามีสุขภาพที่ดีเพื่อ
00:00:43 → 00:00:46 ที่ทำให้เรามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้าย
00:00:46 → 00:00:48 ตอนที่เราอายุมากยิ่งขึ้นน้อยลงนั่นเองนะ
00:00:48 → 00:00:50 ครับเรียกได้ว่าตอนนี้จะเป็นหัวใจสำคัญ
00:00:50 → 00:00:53 ของรายการ Top to งั้นเดี๋ยวเราไปเริ่ม
00:00:53 → 00:00:55 ลดอายุดีนกันเลยครับ This is the
00:00:55 → 00:00:58 Standard podcast Eye Opening for
00:00:58 → 00:01:00 your ears
00:01:00 → 00:01:03 Top tole podcast สุขภาพที่ใช้
00:01:03 → 00:01:07 วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด
00:01:07 → 00:01:11 เท้าในฐานะที่เป็นนักวิทยาศาสตร์แล้วก็ทำ
00:01:11 → 00:01:14 งานวิจัยด้านสเตมเซลล์แล้วก็สร้างอวัยวะ
00:01:14 → 00:01:17 จากสเตมเซลล์เนี่ยนะครับผมอยากจะบอกกับ
00:01:17 → 00:01:21 ทุกคนเลยนะฮะว่าสุขภาพที่ดีเนี่ยมันเริ่ม
00:01:21 → 00:01:24 ต้นที่เซลล์ครับทุกๆโรคที่เราเป็นเนี่ยนะ
00:01:24 → 00:01:27 ครับมันเกิดจากการที่เซลล์เพียง 1 เซลล์
00:01:27 → 00:01:30 เนี่ยมันเริ่มทำงานผิดพลาดอย่างเช่นเวลา
00:01:30 → 00:01:33 ที่เราเป็นมะเร็งเนี่ยครับมันเกิดจากการ
00:01:33 → 00:01:35 ที่เซลล์เพียงเซลล์เดียวนั่นแหละมัน
00:01:35 → 00:01:38 เพี้ยนไปแล้วมันก็แบ่งตัวไม่หยุดหรือถ้า
00:01:38 → 00:01:41 เกิดว่าเราเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นะ
00:01:41 → 00:01:43 ครับที่เกิดจากพฤติกรรมเนี่ยมันเกิดจาก
00:01:43 → 00:01:46 การที่เรากินน้ำตาลมากเกินไปเกิดภาวะ
00:01:46 → 00:01:50 อินซูลินสปคบ่อยๆจนทำให้ทั้งเซลล์ไขมัน
00:01:50 → 00:01:52 เซลล์กล้ามเนื้อเซลล์ตับเนี่ยนะครับมัน
00:01:52 → 00:01:56 ไม่สามารถที่จะเซนแล้วก็ตอบสนองต่อ
00:01:56 → 00:01:59 ฮอร์โมนอินซูลินได้อีกต่อไปหรือเวลาที่
00:01:59 → 00:02:02 ใครเป็นสตกหรือว่าสมองขาดเลือดเนี่ยนะ
00:02:02 → 00:02:06 ครับแล้วก็ตายแบบฉับพันเนี่ยเป็นเพราะว่า
00:02:06 → 00:02:10 เซลล์สมองเนี่ยนะครับขาดออกซิเจนคือไม่
00:02:10 → 00:02:12 ได้รับออกซิเจนเป็นระยะเวลาแบบสั้นๆมาก
00:02:12 → 00:02:15 เลยอ่ะแค่ 5 นาทีเซลล์สมองก็ตายแล้วนะ
00:02:15 → 00:02:17 ครับเพราะพอไม่มีออกซิเจนเนี่ยก็จะขาด
00:02:17 → 00:02:20 พลังงานแล้วเซลล์สมองเนี่ย sensitive มาก
00:02:20 → 00:02:23 ๆจึงเป็นที่มาว่าทำไมสุขภาพดีจึงเริ่มต้น
00:02:23 → 00:02:27 ที่เซลล์ฮะเวลาที่ผมดูแลร่างกายตัวเอง
00:02:28 → 00:02:30 เนี่ยครับผมก็จะจินตนาการการภาพใหญ่เลย
00:02:30 → 00:02:34 ว่าร่างกายของผมเนี่ยมันคือบริษัทบริษัท
00:02:34 → 00:02:37 นึงนะครับซึ่งมีสมองเนี่ยเป็นเหมือนกับ
00:02:37 → 00:02:41 CEO คือประธานบริษัทเป็นอวัยวะที่สำคัญ
00:02:41 → 00:02:43 ที่สุดและถ้าผมต้องเลือกดูแลอะไรสักอย่าง
00:02:43 → 00:02:46 นึงผมจะดูแลสมองของผมก่อนนะครับทีนี้
00:02:46 → 00:02:49 อวัยวะอื่นๆที่อยู่ในร่างกายของเราเนี่ย
00:02:49 → 00:02:52 ครับมันก็เป็นแผนกต่างๆที่ร่วมกันทำงาน
00:02:52 → 00:02:54 เพื่อให้บริษัทเนี่ยมันมีความก้าวหน้าและ
00:02:54 → 00:02:57 เติบโตเท่ากับว่าทุกแผนกก็สำคัญไม่แพ้กัน
00:02:57 → 00:03:01 ถ้าแผนกไหนหรืออวัยวะไหนเนี่ยมันทำงานได้
00:03:01 → 00:03:04 ไม่มีประสิทธิภาพเป็นจุดอ่อนของทีมและ
00:03:04 → 00:03:07 เริ่มเป็นโรคเนี่ยครับมันก็จะทำให้แผนก
00:03:07 → 00:03:10 อื่นๆเนี่ยมันรวนตามไปด้วยก็เท่ากับว่า
00:03:10 → 00:03:14 จริงๆแล้วเนี่ยเราต้องดูแลพนักงานทั้งหมด
00:03:14 → 00:03:17 ที่อยู่ในบริษัทซึ่งพนักงานเนี่ยก็คือ
00:03:17 → 00:03:19 เซลล์ของเรานั่นเองนะครับแล้วเราจะดูแล
00:03:20 → 00:03:22 เซลล์ของเรายังไงนักวิทยาศาสตร์เนี่ยเขา
00:03:22 → 00:03:26 ก็พยายามไปศึกษามาเรียบร้อยแล้วว่าจริงๆ
00:03:26 → 00:03:28 แล้วเนี่ยการที่เซลล์ของเราเนี่ยมันจะมี
00:03:28 → 00:03:31 สุขภาพที่ไม่ดีแย่ลงหรือแก่เนี่ยครับมัน
00:03:31 → 00:03:34 มีต้นตอหรือมันมีปัญหาอะไรบ้างที่ทำให้
00:03:34 → 00:03:36 เซลล์ประสบปัญหาแล้วก็แก่นะฮะแล้วก็เป็น
00:03:36 → 00:03:40 โรคก็เจอว่าทุกวันนี้มันมี 14 สาเหตุที่
00:03:40 → 00:03:43 เขายอมรับแล้วเรียกมันว่า 14 หรือว่า 14
00:03:43 → 00:03:45 Hall Mark of Cellular aging นะครับ
00:03:45 → 00:03:49 ผมเคยพูด 14 ต้นตอของเซลล์แกะไปแล้วใน EP
00:03:49 → 00:03:52 ที่ 102 ถ้าเกิดใครอยากจะไปดูเต็มๆเนี่ย
00:03:52 → 00:03:55 ไปย้อนดูได้นะครับแต่ถ้าเกิดว่าใครอยากจะ
00:03:55 → 00:03:58 ฟังแบบย่อหรือรู้สึกว่าโห 14 ข้อเคยฟัง
00:03:58 → 00:04:02 แล้วแต่จำไม่ได้เลยมีแบบย่อมมีนะครับถ้า
00:04:02 → 00:04:05 เราพิจารณาดีๆไอ้ 14 สาเหตุที่ทำให้เซลล์
00:04:05 → 00:04:07 แก่แล้วจับกรุ๊ปมันเนี่ยนะครับก็สามารถจะ
00:04:08 → 00:04:11 จับกรุ๊ปง่ายๆว่าถ้าอยากจะดูแลเซลล์ของ
00:04:11 → 00:04:13 เราให้แก่ช้าลงและมีสุขภาพดีขึ้นเนี่ย
00:04:14 → 00:04:16 จำเป็นต้องดูแล 2 อย่างครับอย่างที่ 1
00:04:16 → 00:04:20 คือ DNA หรือว่าคู่มือการทำงานของเซลล์
00:04:20 → 00:04:22 และอย่างที่ 2 คือไมโทคอนเดรียหรือว่า
00:04:22 → 00:04:25 แบตเตอรี่ของเซลล์เดี๋ยวเราไปดูกันนะครับ
00:04:25 → 00:04:28 ว่าเราจะดูแล DNA และดูแลไมโทคอนเดรียยัง
00:04:29 → 00:04:31 ไงเพื่อให้เซลล์ของเราสุขภาพดีแล้วก็แก่
00:04:31 → 00:04:33 ช้าลงครับมาเริ่มกันที่ DNA หรือว่าคู่
00:04:33 → 00:04:35 มือการทำงานของเซลล์นะครับเรียกได้ว่า
00:04:35 → 00:04:38 สำคัญที่สุดของเซลล์เลยเพราะว่าเซลล์
00:04:38 → 00:04:40 จำเป็นต้องใช้คู่มือนี้ในการทำงานถ้าคู่
00:04:40 → 00:04:44 มือนี้เนี่ยมันได้รับความเสียหายเซลล์ก็
00:04:44 → 00:04:46 ได้รับคำสั่งที่ผิดพลาดเซลล์ก็จะทำงานผิด
00:04:46 → 00:04:48 พลาดแล้วก็ทำให้เกิดปัญหานะครับการดูแล
00:04:48 → 00:04:52 DNA เนี่ยทำได้ทั้งหมด 4 วิธีหรือว่า 4
00:04:52 → 00:04:55 strategy นะครับเราไปเริ่มที่วิธีที่ 1
00:04:55 → 00:04:58 ครับเราต้องช่วยป้องกันไม่ให้ DNA เสีย
00:04:58 → 00:05:01 หายหรือถ้ามันมีความเสียหายเกิดขึ้นเรา
00:05:01 → 00:05:04 ต้องช่วยการซ่อมแซม DNA ให้มีประสิทธิภาพ
00:05:04 → 00:05:06 ที่สุดนะครับแล้ว DNA เนี่ยมันเสียหายจาก
00:05:06 → 00:05:09 อะไรบ้างนะครับหลายๆคนน่าจะคุ้นหูแล้วนะ
00:05:09 → 00:05:12 ครับคือเสียหายจาก Free Radical นะครับ
00:05:12 → 00:05:14 ก็คือสารพิษต่างๆที่เข้ามาในร่างกายจาก
00:05:14 → 00:05:17 ภายนอกไม่ว่าจะเป็นแสงแดดสารพิษจากอาหาร
00:05:17 → 00:05:20 สารพิษที่อยู่ในอากาศที่เราหายใจเข้าไปนะ
00:05:20 → 00:05:23 ครับสารพิษจากภายในก็เป็น Free Radical
00:05:23 → 00:05:26 อย่างเช่นความเครียดการอักเสบต่างๆนะครับ
00:05:26 → 00:05:29 ที่เกิดจากการที่เรากินไขมันมากเกินไปน้ำ
00:05:29 → 00:05:31 ตาลมากเกินไปแลทำให้โมเลกุลของเราเนี่ย
00:05:31 → 00:05:33 มันไม่เสถียรเหล่านั้นทั้งหมดเนี่ยก็คือ
00:05:33 → 00:05:35 Free Radical นะครับเพราะฉะนั้นวิธีที่
00:05:35 → 00:05:38 จะทำให้ DNA เราเสียหายได้น้อยลงก็คือ
00:05:38 → 00:05:40 เลี่ยงต้นเหตุที่ทำให้มันเสียหายนั่นเอง
00:05:40 → 00:05:43 นะครับเลี่ยงการพบเจอกับ Free Radical
00:05:43 → 00:05:46 นะครับแต่ถ้าสมมุติว่า DNA เรามันเกิด
00:05:46 → 00:05:48 ความเสียหายยังไง D เราเสียหายอยู่และทุก
00:05:48 → 00:05:50 วันที่เราใช้ชีวิตนะครับเราจำเป็นต้อง
00:05:50 → 00:05:53 ช่วยเหลือมันทำให้มันซ่อมแซมตัวมันเองได้
00:05:53 → 00:05:56 มีประสิทธิภาพมากที่สุดจะช่วยมันยังไง
00:05:56 → 00:05:57 อย่างแรกนะครับเราต้อง suly ร่างกายด้วย
00:05:58 → 00:06:01 วัตถุดิบที่เซเซเนี่ยมันต้องใช้ในการซ่อม
00:06:01 → 00:06:05 แซม DNA ฮะผมเคยพูดไปแล้วถึงตอนเินนะครับ
00:06:05 → 00:06:08 มันมีเอนไซมตัวนึงที่ชื่อว่าเินซึ่งสำคัญ
00:06:08 → 00:06:11 มากในการ Kick Off หรือว่าเป็นตัวเริ่ม
00:06:11 → 00:06:13 กระบวนการซ่อมแซม DNA เมื่อไหร่ก็ตามที่
00:06:13 → 00:06:16 มันได้รับสัญญาณว่า DNA มันเสียหายแล้วที
00:06:16 → 00:06:20 นี้เจ้าเอนไซม์ตัวเครับมันก็จะมีคู่หู
00:06:20 → 00:06:22 หรือว่าเพื่อนที่จะช่วยทำให้มันทำงานได้
00:06:22 → 00:06:24 ดีมากยิ่งขึ้นนะครับส่วนใหญ่แล้วก็เป็น
00:06:24 → 00:06:27 สารไฟต Chemical คือสารที่ได้จากพืชผัก
00:06:27 → 00:06:30 ผลไม้นะครับโดยเฉพาะกลุ่ม Poly phenols
00:06:31 → 00:06:34 นะครับถามว่ามีอะไรบ้างนะครับมี resol
00:06:34 → 00:06:36 curtin curcumin berberine แล้วก็
00:06:36 → 00:06:39 fatin นะฮะนอกจากเราควรจะกินไ Chemical
00:06:39 → 00:06:41 เหล่านี้แล้วก็รวมถึงพืชผักผไม้ให้หลาก
00:06:41 → 00:06:44 หลายแล้วเครับเราควรต้องได้รับ mineral
00:06:44 → 00:06:46 หรือว่าเกลือแร่ที่จำเป็นต้องใช้ในกระบวน
00:06:46 → 00:06:49 การซ่อมแซม DNA ด้วยนะครับซึ่งมิเนอ 3
00:06:49 → 00:06:52 ตัวที่เคยพูดไปนะครับก็มีเซเลเนียมซิงค์
00:06:52 → 00:06:55 หรือว่าสังกสีแล้วก็แมงกานีสนะครับถ้าใคร
00:06:55 → 00:06:58 อยากจะรู้ดีเทลของสารเหล่าเไปดูตอนซ่อม
00:06:58 → 00:07:01 แซม DNA ได้นะครับวัตถุดิบอีกหนึ่งอย่าง
00:07:01 → 00:07:03 ที่เซลล์ต้องใช้ในการซ่อมแซม DNA นะครับ
00:07:03 → 00:07:07 ก็คือ nad Plus หรือว่า n Plus นั่นเอง
00:07:07 → 00:07:08 นะครับเพราะว่าเจ้า n Plus เนี่ยเป็น
00:07:08 → 00:07:10 โคเอนไซม์หรือว่าเป็นตัวช่วยที่ทำให้
00:07:10 → 00:07:12 เอนไซม์ที่ต้องใช้ในกระบวนการเนี้ยมันทำ
00:07:12 → 00:07:15 งานได้หรือว่า Activate ได้นะครับทีนี้
00:07:15 → 00:07:18 ตอนที่เราอายุมากยิ่งขึ้นนะครับไอ้เจ้า
00:07:18 → 00:07:21 ปริมาณของ nad Plus หรือว่าแนทเนี่ยครับ
00:07:21 → 00:07:24 มันน้อยลงตามไวครับสมมุติว่าใครที่อายุ
00:07:24 → 00:07:27 30-40 เนี่ยปริมาณแนตที่ลงเหลืออยู่
00:07:27 → 00:07:29 เนี่ยจะเหลืออยู่แค่ประมาณ 30% ของตอนที่
00:07:29 → 00:07:32 เราเกิดมาใหม่ๆนะครับคนที่อายุ 50 บวก
00:07:32 → 00:07:35 ขึ้นไปนะครับปริมาณแนตเนี่ยก็อาจจะเหลือ
00:07:35 → 00:07:38 เพียงแค่ 10% เท่านั้นนะครับซึ่งปริมาณ
00:07:38 → 00:07:39 แนตที่มันน้อยลงเนี่ยครับก็ทำให้
00:07:39 → 00:07:42 ประสิทธิภาพในการซ่อมแซม DNA เนี่ยมันแย่
00:07:42 → 00:07:44 ลงตามไปด้วยเพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นที่จะ
00:07:44 → 00:07:47 ต้องเติมแหนดเข้าไปในร่างกายนะครับทีนี้
00:07:47 → 00:07:50 ถามว่าเราสามารถจะเติมแนดได้ยังไงบ้างนะ
00:07:50 → 00:07:52 ครับวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มปริมาณของ
00:07:52 → 00:07:55 แหนดในร่างกายคือการกินสิ่งที่เรียกว่า
00:07:55 → 00:07:59 แนด precursor หรือว่าวัตถุดิบที่เซลล์
00:07:59 → 00:08:02 เนี่ยสามารถที่จะนำไปใช้ในการสร้างแนทภาย
00:08:02 → 00:08:05 ในเซลล์เพื่อใช้งานได้นะครับแล้วแนท
00:08:05 → 00:08:07 precursor คืออะไรจริงๆแล้วมันคือกลุ่ม
00:08:07 → 00:08:10 ของวิตามิน B3 เนี่ยครับเราสามารถจะกิน
00:08:10 → 00:08:13 วิตามิน B3 ให้เพียงพอมันก็สามารถที่จะ
00:08:13 → 00:08:16 ช่วยเพิ่มปริมาณแนดได้นะครับแต่มันก็มี
00:08:16 → 00:08:20 วิตามิน B3 บางตัวที่มีความสามารถพิเศษ
00:08:20 → 00:08:23 ที่สามารถที่จะเพิ่มปริมาณแหนดได้ดีกว่า
00:08:23 → 00:08:27 เพื่อนนะครับมันเรียกว่า nr ชื่อเต็มๆคือ
00:08:27 → 00:08:30 นิคิไซซหรือมันก็มีสารสังเคราะห์อีกตัว
00:08:30 → 00:08:33 นึงนะครับที่มีการศึกษาค่อนข้างเยอะชื่อ
00:08:33 → 00:08:37 เต็มๆของมันคือ ninam mon นิคลนะครับ
00:08:37 → 00:08:40 เดี๋ยวผมจะทำตอนนึงขึ้นมาเลยนะครับเพื่อ
00:08:40 → 00:08:43 ที่จะมาคุยถึงทั้งเจ้า nr กับ nmn ว่ามัน
00:08:44 → 00:08:47 สามารถจะเพิ่มแหนดได้ยังไงแล้วเราควรจะ
00:08:47 → 00:08:49 เลือกกินตัวไหนนะครับหลังจากที่เรากิน
00:08:49 → 00:08:52 วัตถุดิบที่เซลล์ต้องใช้ในการซ่อมแซม DNA
00:08:52 → 00:08:54 แล้วนะครับสิ่งที่เราต้องทำต่อไปคือเรา
00:08:54 → 00:08:57 ต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะครับโดยเฉพาะ
00:08:57 → 00:09:00 ตอนกลางคืนเนี่ยเราควรจะหลับลึกให้ได้
00:09:00 → 00:09:02 อย่างน้อยประมาณ 100 นาทีครับถามว่าทำไม
00:09:02 → 00:09:05 เพราะว่ากระบวนการซ่อมแซม DNA เนี่ยมัน
00:09:05 → 00:09:08 เกิดขึ้นขณะที่เราหลับลึกนั่นเองยิ่งเรา
00:09:08 → 00:09:10 หลับลึกมีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่เซลล์ก็
00:09:10 → 00:09:12 สามารถที่จะซ่อม DNA ได้ดีมากยิ่งขึ้น
00:09:12 → 00:09:15 เท่านั้นครับนั่นคือวิธีที่ 1 ในการดูแล
00:09:15 → 00:09:17 DNA strategy ที่ 2 ที่เกี่ยวข้องกับ
00:09:17 → 00:09:19 การดูแล DNA นะครับคือการช่วยให้เซลล์
00:09:19 → 00:09:22 เนี่ยกำจัดขยะภายในเซลล์ให้มันมี
00:09:22 → 00:09:25 ประสิทธิภาพมากที่สุดหรือว่า autopy นั่น
00:09:25 → 00:09:28 เองทำไม autopy ถึงเกี่ยวข้องกับ DNA
00:09:28 → 00:09:30 เพราะว่าถ้าสมมุติว่า DNA ของเราเนี่ย
00:09:31 → 00:09:33 ครับมันทำงานได้ไม่ดีหรือว่าได้รับความ
00:09:33 → 00:09:36 เสียหายเนี่ยผลที่เกิดขึ้นก็คือว่าสิ่ง
00:09:36 → 00:09:39 ที่ DNA มันสั่งให้สร้างเนี่ยครับมันอาจ
00:09:39 → 00:09:43 จะมีการผิดพลาดเช่นเอนไซมเอนไซมที่เกิด
00:09:43 → 00:09:45 จาก DNA ที่เสียหายสั่งผลิตขึ้นมานะครับ
00:09:45 → 00:09:47 จะเป็นเอนไซม์ที่ไม่สามารถจะใช้งานได้
00:09:47 → 00:09:50 แล้วก็กลายเป็นขยะภายในเซลล์เพราะฉะนั้น
00:09:50 → 00:09:52 คนที่ DNA ได้รับความเสียหายเนี่ยก็จะมี
00:09:52 → 00:09:55 ขยะเกิดขึ้นภายในเซลล์ที่ค่อนข้างเยอะนะ
00:09:55 → 00:09:58 ครับแล้วขยะเหล่าเนี้ยมันก็จะขัดขวางการ
00:09:58 → 00:10:01 ทำงานของเซลล์สิ่งที่เราพอจะช่วยเซลล์ได้
00:10:01 → 00:10:03 คือช่วยกระตุ้นให้เซลล์เนี่ยมันสามารถที่
00:10:03 → 00:10:06 จะเกิดกระบวนการ aut fy หรือว่ากำจัดขยะ
00:10:06 → 00:10:09 ได้ดีมากยิ่งขึ้นนะครับวิธีการที่จะช่วย
00:10:09 → 00:10:12 ทำให้เซลล์เนี่ยมี auty มากขึ้นไม่ยากเลย
00:10:12 → 00:10:14 ครับทำให้เซลล์เนี่ยมันขาดพลังงานก็คือ
00:10:14 → 00:10:17 ใช้พลังงานให้มากกว่าที่กินเข้าไปนะครับ
00:10:17 → 00:10:19 ถามว่าใช้พลังงานยังไงออกกำลังกายก็เป็น
00:10:19 → 00:10:22 การช่วยนะครับกินให้น้อยลงหรือว่าทำการ
00:10:22 → 00:10:25 fasting คืออดอาหารระยะเวลานึงหรือทำ
00:10:25 → 00:10:28 caloric restriction ก็คือการควบคุม
00:10:28 → 00:10:30 แคลอรี่กินให้น้อยกว่าที่ต้องการใช้เนี่ย
00:10:30 → 00:10:33 วิธีการเหล่านี้เต้องไปปลุกสวิตช Auto fy
00:10:33 → 00:10:34 ที่ทำให้เซลล์เนี่ยมันเข้าสู่โหมดประหยัด
00:10:34 → 00:10:36 พลังงานแล้วก็พยายามที่กำจัดสิ่งที่เป็น
00:10:37 → 00:10:39 ขยะหรือสิ่งที่มันใช้งานไม่ได้ภายในเซลล์
00:10:39 → 00:10:41 ไปเซลล์ก็จะสะอาดมากยิ่งขึ้นนั่นเองนะ
00:10:41 → 00:10:43 ครับทีนี้มันก็มีสารอาหารบางอย่างนะครับ
00:10:43 → 00:10:45 ถ้าเกิดว่าเรากินเข้าไปแล้วเนี่ยมัน
00:10:45 → 00:10:47 สามารถที่จะไป Boost หรือว่ากระตุ้น aut
00:10:47 → 00:10:49 fy ได้นะครับซึ่งสารเหล่านี้นะครับก็จะ
00:10:49 → 00:10:51 อยู่ในพวก ebs กับ Spice ก็คือสมุนไพร
00:10:51 → 00:10:54 แล้วก็เครื่องเทศนะครับผมแนะนำเลยครับไม่
00:10:54 → 00:10:56 ว่าจะเป็นสมุนไพรและเครื่องเทศของชาติไหน
00:10:56 → 00:11:00 ก็ตามของประเทศไทยของจีนของยุโรปอะไรอย่า
00:11:00 → 00:11:02 เงี้กินให้หลากหลายกินให้หมดครับรับรอง
00:11:02 → 00:11:05 ว่าคุณได้สารที่ไปช่วยกระตุ้นอโต fy แน่
00:11:05 → 00:11:08 นอนนะครับยกตัวอย่างเช่นกระเทียมข่าขิง
00:11:08 → 00:11:10 ขมิ้นเปลือกมังคุดโสมถังเช่าเกากี้พวก
00:11:10 → 00:11:13 เนี้ยช่วยอโตฟาจทั้งนั้นนะครับวิธีที่ 3
00:11:13 → 00:11:17 ที่จะดูแล DNA ของเซลล์นะครับคือการที่
00:11:17 → 00:11:20 ช่วยให้เซลล์แก่ที่ DNA ได้รับความเสีย
00:11:20 → 00:11:23 หายหนักมากๆเนี่ยมันฮาคิหรือว่าฆ่าตัวตาย
00:11:23 → 00:11:26 ได้นะครับต้องเล่าย้อนก่อนว่าปกติแล้ว
00:11:26 → 00:11:29 เนี่ยเวลาที่ DNA ได้รับความเสียหายเนี่ย
00:11:29 → 00:11:31 ครับเซลล์สามารถที่จะซ่อมแซมได้แต่ถ้ามัน
00:11:31 → 00:11:34 เสียหายมากจนถึงจุดนึงเนี่ยเซลล์มันอาจจะ
00:11:34 → 00:11:37 ซ่อมแซมไม่ได้และเซลล์เนี่ยมันจะมีกระบวน
00:11:37 → 00:11:40 การในการฆ่าตัวตายเพื่อป้องกันไม่ให้ไอ้
00:11:40 → 00:11:42 เจ้าเซลล์ที่มันได้รับความเสียหายเนี่ย
00:11:42 → 00:11:44 มันไปทำร้ายเซลล์อื่นๆหรือว่าทำให้ร่าง
00:11:44 → 00:11:46 กายได้รับความเสียหายนะครับแต่มันก็จะมี
00:11:46 → 00:11:49 เซลล์แก่บางเซลล์ครับที่ DNA ได้รับความ
00:11:49 → 00:11:52 เสียหายแต่มันสามารถจะโกงความตายได้เพราะ
00:11:52 → 00:11:54 ว่า DNA ที่ควบคุมการฆ่าตัวตายเนี่ยมันก็
00:11:55 → 00:11:57 ได้รับความเสียหายไปด้วยมันเลยไม่สามารถ
00:11:57 → 00:11:59 จะฆ่าตัวตายได้มันเลยโกงความตายแล้วก็ยัง
00:11:59 → 00:12:01 อาศัยอยู่ในร่างกายของเรากลายเป็นเซลล์
00:12:01 → 00:12:04 ซอมบี้แล้วก็ปล่อยสารอักเสบทำร้ายเซลล์
00:12:04 → 00:12:06 อื่นๆอยู่นะครับหน้าที่ของเราคือทำยังไง
00:12:06 → 00:12:09 ก็ได้ที่ช่วยให้ร่างกายเนี่ยมันสามารถที่
00:12:09 → 00:12:12 จะกำจัดเซลล์ซอมบี้เหล่านี้นะครับถามว่า
00:12:12 → 00:12:15 จะช่วยยังไงช่วยจากการกินครับสารที่
00:12:15 → 00:12:17 สามารถจะช่วยในการจัดการซอมบี้เซลล์ได้นะ
00:12:17 → 00:12:20 ครับส่วนใหญ่ก็เป็นสารที่มีฤทธิ์
00:12:20 → 00:12:24 แอนติออกซ์ tic ก็คือสามารถจะฆ่าเจ้า
00:12:24 → 00:12:26 ซอมบี้เซลล์ได้นะครับซึ่งสารเหล่านี้ก็
00:12:26 → 00:12:29 เป็นสารกลุ่มไฟ Chemical poy phenol
00:12:29 → 00:12:31 อยู่ในพืชผักผลไม้วิธีที่ที่สุดที่ผมเคย
00:12:31 → 00:12:34 บอกไปก็คือพยายามกินพืชผักผลไม้สมุนไพร
00:12:34 → 00:12:36 เครื่องเทศนให้ได้อาทิตย์นึงเนี่ย 30
00:12:36 → 00:12:39 ชนิดไม่ซ้ำกันนะครับเพราะว่าคุณจะได้ไฟต
00:12:39 → 00:12:41 chicos ที่หลากหลายครบถ้วนเพื่อไปช่วยใน
00:12:41 → 00:12:44 การจัดการกับเจ้าซอมบี้เซลล์นี่แหละครับ
00:12:44 → 00:12:46 ถ้าใครอยากรู้ว่าควรจะกินสารอะไรบ้างนะ
00:12:46 → 00:12:49 ครับไปย้อนดูตอนซอมบี้เซลล์ได้นะครับผมิ
00:12:49 → 00:12:51 สารเอาไว้ครบถ้วนแล้วในตอนนั้นนะครับมา
00:12:51 → 00:12:54 ถึงวิธีสุดท้ายวิธีที่ 4 ที่จะสามารถช่วย
00:12:54 → 00:12:57 ดูแลสุขภาพของ DNA นะครับวิธีเยเกี่ยว
00:12:57 → 00:12:59 ข้องกับ epi genetic และมันคือการช่วย
00:13:00 → 00:13:03 ให้จีนที่มันควรจะเปิดเมันเปิดจีนที่มัน
00:13:03 → 00:13:05 ควรจะปิดเนี่ยมันปิดนะครับก็คือการที่เรา
00:13:06 → 00:13:08 ไปช่วย Reset สวิตชที่ควบคุมการทำงานของ
00:13:08 → 00:13:11 จีนเนี่ยให้มันอยู่ถูกที่มากยิ่งขึ้นนะฮะ
00:13:11 → 00:13:13 Ep ที่แล้วเนี่ยผมพูดไปแล้วนะครับว่าแต่
00:13:13 → 00:13:16 ละจีนเนี่ยมันจะมีสวิตชที่ทำหน้าที่ในการ
00:13:16 → 00:13:19 ควบคุมว่าจีนนั้นน่ะจะเปิดหรือมันจะปิดนะ
00:13:19 → 00:13:21 ครับและในความเป็นจริงเนี่ยไอ้เจ้าสวิตช์
00:13:21 → 00:13:23 นั้นเนี่ยสิ่งที่มันจับต้องได้จริงๆแล้ว
00:13:23 → 00:13:25 มันคืออะไรจริงๆแล้วมันคือโมเลกุลทางเคมี
00:13:25 → 00:13:28 ที่ชื่อว่าเินะครับโครงสร้างทางเคมีของ
00:13:28 → 00:13:31 มันคือ C h3 นั่นเองนะฮะแล้วเราได้
00:13:31 → 00:13:34 โมเลกุล C3 หรือว่าเิลตอนไหนก็คือตอนที่
00:13:34 → 00:13:36 เรากินอาหารให้ครบถ้วนครบหมูเนี่ยครับ
00:13:36 → 00:13:39 เริ่มจากการที่เรากินผักผลไม้เลยครับเวลา
00:13:39 → 00:13:41 ที่เรากินผักใบเนี่ยครับเราจะได้สิ่งที่
00:13:41 → 00:13:44 เรียกว่า Fate หรือว่าวิตามิน b9 นะครับ
00:13:44 → 00:13:46 พอร่างกายเราได้ b9 หรือว่า forage แล้ว
00:13:46 → 00:13:48 เนี่ยร่างกายจะเปลี่ยน forage ให้กลายไป
00:13:48 → 00:13:51 เป็น mey forage ทีนี้เจ้า mey forage
00:13:51 → 00:13:53 เนี่ยครับมันจะถือสวิตชเอาไว้อยู่นะครับ
00:13:53 → 00:13:57 แล้วมันก็จะส่งสวิตช์ตัวนี้ต่อให้กับเมอน
00:13:57 → 00:14:00 ซึ่งเป็นกรดอมินแอซิดตัวนึงนะครับเมตานก็
00:14:00 → 00:14:02 จะส่งสวิตช์ตัวนี้ต่อให้กับสารที่ชื่อว่า
00:14:03 → 00:14:06 s หรือว่าแมนะครับชื่อเต็มๆของมันคือ S
00:14:06 → 00:14:10 osy meine นะครับและเจ้าแซมเนี่ยครับจะ
00:14:10 → 00:14:13 เป็นไม้สุดท้ายที่จะส่งโมเลกุลเมิต่อให้
00:14:13 → 00:14:16 กับ DNA กระบวนการที่โมเลกุลเิไปแปะอยู่
00:14:16 → 00:14:21 ที่ DNA ได้นะครับมันเรียกว่า DNA mey
00:14:21 → 00:14:23 มันก็คือการที่สวิตเนี่ยมันสามารถที่จะไป
00:14:23 → 00:14:25 ควบคุม DNA ได้นั่นเองนะครับเล่ามาถึงตงเ
00:14:25 → 00:14:28 ก็จะเห็นว่ากว่าที่สวิตหรือว่าเจ้า
00:14:28 → 00:14:31 โมเลกุลเมิที่อยู่ในอาหารเนี่ยมันจะถูก
00:14:31 → 00:14:34 ส่งผ่านไปถึง DNA ได้เนี่ยต้องใช้ตัวละคร
00:14:34 → 00:14:37 หลายตัวมากเลยนะครับเพราะฉะนั้นเราจึงมี
00:14:37 → 00:14:39 ความจำเป็นที่ต้องได้รับสารอาหารก็คือตัว
00:14:39 → 00:14:41 ละครเหล่านั้นแหละที่ต้องมาร่วมกันทำงาน
00:14:41 → 00:14:43 ในการส่งผ่านสวิต์ไปที่ DNA เนี่ยให้ครบ
00:14:43 → 00:14:45 ถ้วนมันถึงจะช่วยให้เซลล์เนี่ยสามารถจะ
00:14:45 → 00:14:48 รีเซตการทำงานของ DNA ได้นะครับคำถามคือ
00:14:48 → 00:14:50 ถ้าเกิดว่าเราอยากจะได้สวิตหรือว่า
00:14:50 → 00:14:53 โมเลกุลเิที่มากเพียงพอที่จะไปใช้ในการ
00:14:53 → 00:14:56 ควบคุมการทำงานของ DNA เนี่ยเราควรจะกิน
00:14:56 → 00:14:58 อะไรเราควรจะกินอาหาร 2 กลุ่มครับกลุ่ม
00:14:58 → 00:15:01 ที่ 1 คือคือกลุ่มวิตามิน B Complex
00:15:01 → 00:15:03 ซึ่งมีวิตามิน B 4 ตัวที่จำเป็นต้องใช้
00:15:03 → 00:15:06 ในกระบวนการนี้นะครับคือ b9 หรือว่า Fate
00:15:06 → 00:15:10 B12 b6 แล้วก็ B2 ควรจะกินให้ครบนะครับ
00:15:10 → 00:15:12 อีกกลุ่มนึงที่ควรจะกินเนี่ยคือกลุ่ม
00:15:12 → 00:15:16 อมิโนแอซิดมีอยู่ 3 ตัวที่จำเป็นมากๆตัว
00:15:16 → 00:15:20 แรกคือเมอนตัวที่ 2 คือเซีนตัวที่ 3 คือ
00:15:20 → 00:15:23 บีเทนนะครับถ้าเกิดว่าคุณกินอาหารที่เป็น
00:15:23 → 00:15:25 เนื้อนมไข่อยู่แล้วเพียงพอเนี่ยรับรองว่า
00:15:25 → 00:15:28 ได้กรดอะมิโนเหล่าเครบถ้วนแน่นอนนะครับ
00:15:28 → 00:15:31 สมมุติว่าเรากินอาหารที่มีเมิหรือว่าสวิต
00:15:31 → 00:15:33 ที่สามารถเอาไปใช้ในการควบคุม DNA ไว้มาก
00:15:34 → 00:15:36 เพียงพอแล้วเนี่ยนะครับเท่านั้นยังไม่พอ
00:15:36 → 00:15:38 ครับเพราะว่าเราจำเป็นต้องไปเตะสวิตช์ที่
00:15:38 → 00:15:40 มันอยู่ผิดที่เนี่ยออกไปก่อนสวิตช์ใหม่
00:15:40 → 00:15:42 เนี่ยมันถึงสามารถจะเอาไปแปะได้นะครับ
00:15:42 → 00:15:44 แล้วการเตะสวิตช์ที่มันอยู่ผิดที่เนี่ยจะ
00:15:44 → 00:15:46 ต้องทำยังไงร่างกายเราเนี่ยมันต้องใช้
00:15:46 → 00:15:49 เอนไซมตัวนึงครับที่ทำหน้าที่ในการเตะ
00:15:49 → 00:15:51 สวิตช์ที่มันอยู่ผิดที่เอนไซม์ตัวนั้น
00:15:51 → 00:15:55 เนี่ยมันมีชื่อย่อว่า T ชื่อเต็มๆของมัน
00:15:55 → 00:15:58 คือ 101 translocation enzyme นะครับ
00:15:58 → 00:16:00 ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้จะทำงานได้ดีเนี่ยต้อง
00:16:00 → 00:16:03 มีคู่หูด้วยนะครับซึ่งคู่หูของเอนไซม์ตัว
00:16:03 → 00:16:05 เนี้ยมันมีสารสำคัญอยู่ 3 ตัวครับคือ
00:16:05 → 00:16:09 วิตามิน a วิตามิน D แล้วก็สารที่ชื่อว่า
00:16:09 → 00:16:13 akg หรือว่า Alpha คีตกูสครับเพราะ
00:16:13 → 00:16:15 ฉะนั้นถ้าเราอยากจะช่วย DNA ให้มันเตะ
00:16:15 → 00:16:18 สวิตที่มันอยู่ผิดที่ออกไปได้ต้องกิน
00:16:18 → 00:16:22 วิตามิน a วิตามิน D แล้วก็ akg หรือว่า
00:16:22 → 00:16:26 ALA ket Cut ให้เพียงพอด้วยนะครับ akg
00:16:26 → 00:16:28 เนี่ยเป็นสารที่ร่างกายสามารถที่จะสร้าง
00:16:28 → 00:16:29 ขึ้นเองได้ได้อยู่แล้วนะครับถ้าเกิดว่า
00:16:29 → 00:16:32 เรากินอมินอาซิที่ชื่อว่ากลูตามีนแล้วว่า
00:16:32 → 00:16:34 กลูตาเมตเนี่ยมากเพียงพอเดี๋ยวร่างกายก็
00:16:34 → 00:16:37 จะเปลี่ยนกลูตามีนกลูตาเมตเป็น akg เองนะ
00:16:37 → 00:16:39 ครับสมมุติว่าเราเตะสวิตช์ที่มันอยู่พที่
00:16:39 → 00:16:41 ออกไปได้และทีงนี้กระบวนการที่จะเอา
00:16:41 → 00:16:44 สวิตช์ตัวใหม่เข้าไปแทนที่เนี่ยนะครับก็
00:16:44 → 00:16:47 ต้องใช้เซมอีกตัวนึงครับซึ่งเอนไซมตัวเ
00:16:47 → 00:16:51 มันชื่อว่า dn MT หรือว่า DNA mey
00:16:51 → 00:16:54 transference ซึ่งก็มีลูกคู่ในการทำงาน
00:16:54 → 00:16:56 เช่นกันนะครับเอนไซม์ตัวนี้จะทำงานได้ดี
00:16:56 → 00:17:00 ก็ต่อเมื่อเรากินเคิมิหรือว่าคิ egcg
00:17:00 → 00:17:04 หรือว่า epi แกล carin แอนะครับซึ่งมีใน
00:17:04 → 00:17:07 ชาเขียวเซีซึ่งมีในองุ่นหอมใหญ่แอปเปิล
00:17:07 → 00:17:11 โคลี่แล้วก็ลูอินซึ่งมีเยอะในคึนช่ายพริก
00:17:11 → 00:17:15 ไทยเลมอนแล้วก็พวก erb ที่มีกลิ่นหอมๆ
00:17:15 → 00:17:17 ต่างๆที่เป็นสมุนไพรนะครับมาถึงตรงนี้
00:17:17 → 00:17:19 หลายคนอาจจะมีคำถามว่าแล้วไงอ่ะเรากินสาร
00:17:19 → 00:17:22 อาหารเหล่านี้ครบถ้วนแล้วเดี๋ยว DNA มัน
00:17:22 → 00:17:24 จะรู้ใช่มยมันสามารถที่จะเอาสวิตช์เหล่า
00:17:24 → 00:17:26 นี้ไปใช้แล้วก็รีเซตตำแหน่งให้มันถูกต้อง
00:17:26 → 00:17:29 ได้เองไคำตอบก็คือว่าใช่ครับครับถ้าเรา
00:17:29 → 00:17:31 suly สารเหล่าเนี้ยให้ร่างกายมากเพียงพอ
00:17:31 → 00:17:34 DNA เนี่ยมันจะเอาสารเหล่าเนี้ยไป Reset
00:17:34 → 00:17:37 สวิตชด้วยตัวมันเองแต่มีข้อแม้นะครับเรา
00:17:37 → 00:17:39 ต้อง maintain Healthy Lifestyle ด้วย
00:17:39 → 00:17:42 นั่นคือเราต้องพักผ่อนให้เพียงพอเราต้อง
00:17:43 → 00:17:45 ออกกำลังกายด้วยเพราะว่า Healthy ไสล
00:17:45 → 00:17:48 เหล่านั้นเนี่ยมันจะส่งสัญญาณบอกเซล์แล้ว
00:17:48 → 00:17:51 ก็บอก DNA ว่าเฮ้ยเธอต้อง Reset สวิตใหม่
00:17:51 → 00:17:53 นะเพราะสัญญาณเหล่านั้นเนี่ยมันจำเป็นใน
00:17:53 → 00:17:56 การที่จะให้ DNA เนี่ยมันสามารถจะเอาสวิต
00:17:56 → 00:17:59 เหล่าเนี้ยไปใช้ในการีตได้ด้วยตัวนั่นเอง
00:17:59 → 00:18:01 ครับนั่นคือทั้งหมดในการดูแลสุขภาพของ DNA
00:18:02 → 00:18:04 นะครับเดี๋ยวเราไปต่อกันที่การดูแลสุขภาพ
00:18:04 → 00:18:06 ของแบตเตอรี่ของเซลล์หรือที่เรียกว่า
00:18:06 → 00:18:09 ไมโทคอนเดรียกันดีกว่าเราสามารถจะดูแล
00:18:09 → 00:18:13 ไมโทคอนเดรียได้ 2 วิธีนะครับคือ 1 คือ
00:18:13 → 00:18:15 เพิ่มปริมาณของไมโทคอนเดรียหรือว่าเพิ่ม
00:18:16 → 00:18:19 ปริมาณของแบตเตอรี่ในเซลล์กับ 2 คือเพิ่ม
00:18:19 → 00:18:22 ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่หรือว่าทำให้
00:18:22 → 00:18:24 แบตเตอรี่เนี่ยมันมีสุขภาพที่ดีครับไป
00:18:24 → 00:18:26 เริ่มอันแรกครับว่าเราสามารถจะเพิ่ม
00:18:26 → 00:18:28 ปริมาณของเจ้าแบตเตอรี่หรือว่าว่า
00:18:28 → 00:18:31 ไมโตคอนเดรียได้ยังไงบ้างหลักการคือทำให้
00:18:31 → 00:18:34 ร่างกายรู้ว่าร่างกายต้องการใช้พลังงาน
00:18:34 → 00:18:37 และพลังงานที่มีในตอนเนี้ยมันไม่เพียงพอ
00:18:37 → 00:18:39 แล้ววิธีการก็คือออกกำลังกายครับเวลาที่
00:18:39 → 00:18:42 เราออกกำลังกายนะครับร่างกายจะใช้พลังงาน
00:18:42 → 00:18:44 มันก็จะรู้ว่าโหเหนื่อยเนาะพลังงานไม่พอ
00:18:44 → 00:18:46 แล้วเราจำเป็นต้องสร้างแบตเตอรี่เพิ่ม
00:18:46 → 00:18:49 ขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานของร่าง
00:18:49 → 00:18:51 กายหลักการเนี่ยมีอยู่เท่านั้นเลยครับพา
00:18:51 → 00:18:53 ตัวเองไปออกกำลังกายนะครับแต่มันก็จะมี
00:18:53 → 00:18:55 สารอาหารบางอย่างที่เราสามารถที่จะกิน
00:18:55 → 00:18:58 เข้าไปเพื่อกระตุ้นการสร้างแบตเตอรี่ใหม่
00:18:59 → 00:19:01 เรียกว่า mitochondrial biogenesis นะ
00:19:01 → 00:19:03 ครับสารอาหารเหล่านั้นมีอะไรบ้างมี 2
00:19:03 → 00:19:06 กลุ่มครับกลุ่มแรกเนี่ยมันคือไขมันชนิด
00:19:06 → 00:19:08 ที่ดีหรือว่า Good Fat ก็คือ epa แล้วก็
00:19:08 → 00:19:10 dha หรือว่ากลุ่มโอเมก้า 3 นั่นเองนะ
00:19:10 → 00:19:13 ครับอาหารอีกกลุ่มนึงนะครับก็คือกลุ่มที่
00:19:13 → 00:19:16 เรียกว่า ampk activators ก็คือเป็นสาร
00:19:16 → 00:19:20 ที่สามารถจะไปกระตุ้นการทำงานของเอนไซม
00:19:20 → 00:19:23 ampk เพราะว่าเอนไซมตัวเนี้ยจะทำหน้าที่
00:19:23 → 00:19:25 ในการออกคำสั่งให้เกิดการสร้างใหม่ของ
00:19:25 → 00:19:27 ไมโทคอนเดรียนั่นเองนะครับแล้ว ampk
00:19:27 → 00:19:29 activator เนี่ยเนี่ยมันมีสารอะไรบ้าง
00:19:29 → 00:19:34 อ่ะก็จะมี resveratrol thine apin ยูริ
00:19:34 → 00:19:37 แล้วก็ spermidine นะครับไปหาทานกันได้นะ
00:19:37 → 00:19:40 ครับต่อมาครับเราจะเพิ่มประสิทธิภาพของ
00:19:40 → 00:19:42 เจ้าไมโทคอนเดรียได้ยังไงบ้าง 1 คือการ
00:19:42 → 00:19:45 กินแนต precursor และ 2 นะครับคือการกิน
00:19:45 → 00:19:48 แอนติออกซิแดนท์สำหรับไมโทคอนเดรียโดย
00:19:48 → 00:19:50 เฉพาะครับขอเล่านิดนึงก่อนว่าทุกครั้งที่
00:19:51 → 00:19:53 เจ้าไมโทคอนเดรียเนี่ยมันสร้างพลังงานให้
00:19:53 → 00:19:56 เราจากวัตถุดิบ 2 อย่างก็คือน้ำตาลแล้วก็
00:19:56 → 00:19:59 ออกซิเจนเนี่ยนะครับมันจะเกิดสารพิษเกิด
00:20:00 → 00:20:02 ขึ้นที่เรียกว่า fre Radical และทำร้าย
00:20:02 → 00:20:04 เจ้าไมโทคอนเดรียก็ทำให้แบตเตอรี่เนี่ย
00:20:04 → 00:20:06 มันเสื่อมทุกครั้งที่มันสร้างพลังงานให้
00:20:06 → 00:20:09 เรานะครับวิธีที่เราจะช่วยทำให้แบตเตอรี่
00:20:09 → 00:20:10 มันมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้คือการกิน
00:20:11 → 00:20:15 แอนติออกซิแดนท์
00:20:15 → 00:20:19 มีตัวอะไรบ้างล่ะก็จะมีโคเอนไซม q1 glut
00:20:19 → 00:20:24 ไทโอน as santin แนีแอลคานิทีนแอลไลซีน
00:20:24 → 00:20:28 แล้วก็ Alpha โปิ Acid นะครับก็จะเห็นว่า
00:20:28 → 00:20:31 มเหล่าเนี้ยก็จะมีสารเหล่านี้อยู่มันก็
00:20:31 → 00:20:33 สามารถที่จะช่วยให้เจ้าแบตเตอรี่หรือว่า
00:20:34 → 00:20:36 ไมโตคอนเดรียเนี่ยมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้นะ
00:20:36 → 00:20:40 ครับนี่แล้วเจ้าแนท precursor มันเกี่ยว
00:20:40 → 00:20:42 ข้องอะไรกับประสิทธิภาพการทำงานของ
00:20:42 → 00:20:45 ไมโทคอนเดรียล่ะสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่รู้
00:20:45 → 00:20:47 นะครับคือแนดเนี่ยจำเป็นมากในการสร้าง
00:20:47 → 00:20:50 พลังงานเพราะมันเป็นโคเอนไซม์หรือว่าเป็น
00:20:50 → 00:20:53 ตัวช่วยของเอนไซมที่ต้องใช้ในการเปลี่ยน
00:20:53 → 00:20:56 น้ำตาลและออกซิเจนไปเป็นพลังงานนะครับ
00:20:56 → 00:20:58 เพราะฉะนั้นปริมาณแหนดที่มีอยู่ในเซลล์
00:20:58 → 00:21:00 เนี่ยครับครับจึงส่งผลต่อประสิทธิภาพใน
00:21:00 → 00:21:02 การทำงานของไมโทคอนเดรียด้วยนะครับที่
00:21:02 → 00:21:04 เล่ามาทั้งหมดเนี่ยผมขอทวนอีกครั้งนึง
00:21:04 → 00:21:06 แล้วกันนะครับการที่เราจะดูแลเซลล์เนี่ย
00:21:06 → 00:21:10 ดูแล 2 อย่างคือ DNA และก็ไมโทคอนเดรีย
00:21:10 → 00:21:13 เนาะทำให้เซลล์ในอวต่างๆเนี่ยมันแก่ช้าลง
00:21:13 → 00:21:15 แล้วก็มีสุขภาพดีขึ้นแล้วก็ทำงานได้เป็น
00:21:15 → 00:21:18 ปกติมากยิ่งขึ้นนะครับทีนี้มันยังมีอีก 2
00:21:18 → 00:21:20 เซลล์ที่ผมอยากพูดถึงเพราะว่าอยากให้ทุก
00:21:20 → 00:21:22 คนดูแลนะครับเพราะมันจำเป็นต่อสุขภาพของ
00:21:22 → 00:21:25 เรานะครับเซลล์แรกมันคือ STEM cells นะ
00:21:25 → 00:21:28 ครับหรือว่าเซลล์ต้นกำเนิดเจ้าสเตมเซลล์
00:21:28 → 00:21:29 เนี่ยมันมีมีความสำคัญมากเลยนะครับเพราะ
00:21:30 → 00:21:33 ว่าเวลาที่เซลล์ของเรามันเสียหายตายไป
00:21:33 → 00:21:35 หรือว่าอวัยวะไหนเนี่ยได้รับความเสียหาย
00:21:35 → 00:21:37 นะครับก็เป็นสเตมเซลล์นี่แหละที่มันแบ่ง
00:21:37 → 00:21:40 ตัวเพิ่มขึ้นแล้วก็สร้างเซลล์ใหม่ทดแทน
00:21:40 → 00:21:42 เซลล์ที่มันสูญเสียไปนะครับแต่เวลาที่เรา
00:21:42 → 00:21:45 อายุมากขึ้นเนี่ยปริมาณสเตมเซลล์เนี่ยมัน
00:21:45 → 00:21:47 ก็ลดลงไปเรื่อยๆทำให้การซ่อมแซมอวัยวะของ
00:21:47 → 00:21:49 เราเนี่ยมันทำได้ช้าลงนะฮะแล้วมันมีวิธี
00:21:49 → 00:21:52 ในการเพิ่มสเตมเซลล์มั้ยต้องบอกว่าจริงๆ
00:21:52 → 00:21:54 แล้วสตมเซลลมันมีอยู่จำกัดครับมันไม่ได้
00:21:54 → 00:21:56 เพิ่มง่ายๆเลยนะครับแต่มันก็มีงานวิจัย
00:21:56 → 00:21:59 ครับที่เจอว่าการทำ If หรือว่า fasting
00:21:59 → 00:22:02 ในระยะเวลานานๆนะครับมากกว่า 1 วันคือทำ 2
00:22:02 → 00:22:05 วัน 3 วันเนี่ยยิ่งทำ If นานขึ้นนานขึ้น
00:22:05 → 00:22:07 นะครับก็สามารถที่จะกระตุ้นการทำงานของ
00:22:07 → 00:22:10 สเตมเซลล์ได้ดีมากขึ้นเท่านั้นนะครับและ
00:22:10 → 00:22:11 ก็มีอีกหนึ่งวิธีที่ผมเรียกว่ามันเป็น
00:22:11 → 00:22:14 ความหวังะกันที่สามารถที่จะช่วยเพิ่ม
00:22:14 → 00:22:17 ปริมาณของสเตมเซลล์หรือว่าช่วยในการซ่อม
00:22:17 → 00:22:20 แซมอวัยวะต่างๆที่มันสึกหล่อได้คือการใช้
00:22:20 → 00:22:22 เทคโนโลยี STEM เซลล์หรือว่าสตม Cell
00:22:22 → 00:22:26 therapy คือการฉีดหรือว่าการนำพา
00:22:26 → 00:22:28 สเตมเซลล์เข้าไปในร่างกายนะครับเดี๋ยว F
00:22:28 → 00:22:30 Episode หน้าผมจะมาพูดถึงเทคโนโลยีในการ
00:22:30 → 00:22:34 ใช้สเตมเซลล์ในการรักษาแล้วก็ซ่อมแซมร่าง
00:22:34 → 00:22:37 กายของเราเต็มๆเลย 1 ตอนนะครับติดไว้ก่อน
00:22:37 → 00:22:39 อีกหนึเซลล์ที่ขอพูดถึงตอนนี้นะครับที่
00:22:39 → 00:22:41 จำเป็นมากที่เราต้องดูแลนะครับก็คือ
00:22:41 → 00:22:43 จุลินทรีย์ครับก่อนหน้านี้เราพูดมาทั้ง
00:22:43 → 00:22:45 หมดเนี่ยมันคือเซลล์มนุษย์คือเซลล์ร่าง
00:22:45 → 00:22:48 กายของเราเรียกว่าเป็นพนักงานของบริษัท
00:22:48 → 00:22:50 นี้นะครับแต่จุลินทรีย์ที่มันอาศัยอยู่
00:22:50 → 00:22:51 กับร่างกายของเราเนี่ยเปรียบเสมือนกับ
00:22:51 → 00:22:54 outsource ที่มาช่วยทำให้กิจกรรมต่างๆ
00:22:54 → 00:22:56 ของบริษัทเนี่ยมันดำเนินไปได้ด้วยดีนะ
00:22:56 → 00:22:58 ครับจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องกินโพิ
00:22:58 → 00:23:01 แล้วก็เติมจุลินทรีย์ตัวดีเข้ามานะครับ
00:23:01 → 00:23:03 เพื่อช่วยทำให้ร่างกายของเราเนี่ยมันทำ
00:23:03 → 00:23:05 งานได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับจากที่พูด
00:23:06 → 00:23:08 มาทั้งหมดเนี่ยนะครับทุกคนก็จะเห็นว่าเรา
00:23:08 → 00:23:11 ทุกคนเนี่ยสามารถจะลดอายุ DNA ได้นะครับ
00:23:12 → 00:23:14 เพราะว่าจริงๆแล้วหลักการในการลดอายุ DNA
00:23:14 → 00:23:16 เนี่ยมันเกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ที่ดีทั้ง
00:23:16 → 00:23:19 สิ้นนะครับผมอยากจะบอกทุกคนเลยนะครับว่า
00:23:19 → 00:23:22 สุขภาพที่ดีเนี่ย 90% เกิดจากไลฟ์สไตล์
00:23:22 → 00:23:25 10% เท่านั้นเกิดจากพันธุกรรมนะครับ
00:23:25 → 00:23:27 เพราะฉะนั้นถ้าคุณ maintain Healthy
00:23:27 → 00:23:29 Lifestyle ด้วยการกินอาหารที่ดีนอนพัก
00:23:29 → 00:23:32 ผ่อนให้เพียงพอพาตัวเองไปออกกำลังกายแล้ว
00:23:32 → 00:23:35 ก็ดูแลสุขภาพจิตใจของคุณให้แจ่มใสอยู่
00:23:35 → 00:23:37 เสมอเนี่ยทั้งหมดเหล่านี้แหละครับมันก็
00:23:37 → 00:23:40 สามารถที่จะช่วยให้คุณลดอายุ DNA ได้นะ
00:23:40 → 00:23:42 ครับซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ผมตอกย้ำใน Top
00:23:42 → 00:23:46 to มาเสมอแล้วก็เป็นที่มาว่าทำไมพวกเรา
00:23:46 → 00:23:48 ถึงสร้าง Top to ขึ้นมาเพื่อหวังที่จะ
00:23:48 → 00:23:52 ให้ทุกคนเนี่ยดูแล DNA มีสุขภาพที่ดีแล้ว
00:23:52 → 00:23:55 ก็เพิ่ม Health span หรือว่าระยะเวลาที่
00:23:55 → 00:23:57 เราจะมีสุขภาพที่ดีนั่นเองนะครับก็หวัง
00:23:57 → 00:24:00 ว่าหลังหลังจากที่ทุกคนเนี่ยฟัง Top to
00:24:00 → 00:24:02 แล้วเนี่ยก็อยากจะให้เอาทริกที่เราแชร์
00:24:02 → 00:24:05 ให้เนี่ยนำไปใช้ในการดูแลตัวเองผมการันตี
00:24:05 → 00:24:08 ได้เลยว่าถ้าคุณทำในสิ่งที่ Top to บอก
00:24:09 → 00:24:13 Health span ของคุณจะยาวขึ้นแน่
00:24:13 → 00:24:17 นอน Top to Toe The Standard podcast
00:24:17 → 00:24:22 Eye Opening for your ears