00:00:00 → 00:00:02 น้ำตาไหลในเด็กนะคะโดยเฉพาะน้อยกว่า 2 ปี
00:00:02 → 00:00:05 นี้เป็นภาวะที่พบบ่อยมากๆเลยส่วนใหญ่ตัว
00:00:05 → 00:00:08 เจนเองเนี่ยที่ทำงานอยู่ในปัจจุบันนี้ก็
00:00:08 → 00:00:11 ได้เจอคุณพ่อคุณแม่นะคะพาน้องที่แบบมี
00:00:11 → 00:00:15 อาการตาแฉะมาที่โรงพยาบาลเนี่ยวันๆนึง
00:00:15 → 00:00:17 เนี่ยก็ไม่น้อยเลยเหมือนกันวันนี้อยากจะ
00:00:17 → 00:00:21 เอาเรื่องนี้นะคะมาเป็น topic ที่จะมาสอน
00:00:21 → 00:00:24 เพื่อนๆให้เพื่อนๆเนี่ยที่มีลูกหรือว่ามี
00:00:24 → 00:00:28 น้องก็แล้วแต่นะคะที่มีภาวะน้ำตาไหลแบบ
00:00:28 → 00:00:31 นี้เนี่ยจะได้รู้ว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร
00:00:31 → 00:00:33 แล้วก็มีวิธีแก้ยังไงก็ไปฟังกันเลยค่ะ
00:00:33 → 00:00:36 สวัสดีค่ะชื่อแพทย์หญิงพรศักดิ์ศรีพลหรือ
00:00:36 → 00:00:39 เรียกว่าเจนนะคะวันนี้เนี่ยก็อยากจะให้
00:00:39 → 00:00:43 ทุกคนนะคะได้รู้ถึงสาเหตุวิธีแก้และอีก
00:00:43 → 00:00:46 อย่างหนึ่งที่สำคัญนะคะว่าเฮ้ยมีวิธี
00:00:46 → 00:00:50 สังเกตว่าถ้าเกิดว่าเอ่อน้องที่หรือว่า
00:00:50 → 00:00:52 ลูกก็ตามเนี่ยที่มีอาการแบบเนี้ยเป็น
00:00:52 → 00:00:55 สัญญาอันตรายละว่าจะต้องพามาพบแพทย์แล้ว
00:00:55 → 00:00:58 ก็อย่านิ่งนอนใจเป็นอันขาดค่ะก่อนอื่นเลย
00:00:58 → 00:01:01 นะคะอยากจะให้เอ่อทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยว
00:01:01 → 00:01:04 กับเรื่องของทางเดินท่อน้ำตาค่ะทางเดิน
00:01:04 → 00:01:06 เข้าน้ำตาของคนเรานะคะไม่ว่าจะเป็นเด็ก
00:01:06 → 00:01:08 หรือว่าผู้ใหญ่เนี่ยมันจะมีลักษณะเหมือน
00:01:08 → 00:01:12 กันหมดเลยค่ะก็คือมันจะมีลักษณะที่เป็นรู
00:01:12 → 00:01:15 เปิดของท่อน้ำตาอยู่ที่บริเวณหัวตาใกล้ๆ
00:01:15 → 00:01:19 สันจมูกนะคะถ้าเกิดว่าทุกคนเนี่ยลองเอาไฟ
00:01:19 → 00:01:21 ฉายแล้วก็ส่องดูนะคะก็จะเห็นเป็นรูเล็กๆ
00:01:21 → 00:01:25 ที่อยู่บริเวณหัวตานะคะทั้งบนและก็ทั้ง
00:01:25 → 00:01:28 ล่างค่ะมีทั้งสองข้างเลยนะอยู่ตรงแถวๆนี้
00:01:28 → 00:01:32 นะคะก็เนี่ยแหละเวลาที่น้ำตามันผลิตออกมา
00:01:32 → 00:01:35 นะคะมันก็จะไหลลงประมาณตรงนี้แล้วหลังจาก
00:01:35 → 00:01:39 นั้นเนี่ยมันก็จะไหลเข้าไปนะคะแล้วก็เข้า
00:01:39 → 00:01:43 ไปตรงสันจมูกแล้วก็ลงคอจะสังเกตว่าสมมุติ
00:01:43 → 00:01:46 ว่าเวลาที่เราหยอดตานะคะยาหยอดตาเนี่ยมัน
00:01:46 → 00:01:48 จะมีแบบเหมือนรสขมพอหยอดเข้าไปเนี่ยเออ
00:01:48 → 00:01:51 รู้สึกว่าผมขออนุญาตเป็นภาวะปกติแสดงว่า
00:01:51 → 00:01:55 ระบบทางเดินท่อน้ำตาของของคนที่ขมคอเนี่ย
00:01:55 → 00:01:58 ก็คือไม่ได้มีภาวะอดกันอันนี้เป็นภาวะ
00:01:58 → 00:02:44 ปกตินะคะ
00:02:44 → 00:02:59 [เพลง]
00:02:59 → 00:03:03 ก็คือน้ำตาไหลผิดปกติค่ะสรุปว่าในเด็ก
00:03:03 → 00:03:07 เนี่ยจะสามารถที่จะสังเกตได้ด้วยด้วยตา
00:03:07 → 00:03:09 เปล่านะคะแต่ว่าถ้าเกิดเป็นผู้ใหญ่เนี่ย
00:03:09 → 00:03:11 มันจะสังเกตง่ายนิดนึงก็คือคนไข้ส่วนใหญ่
00:03:11 → 00:03:14 ก็จะมาบอกเลยนะคะว่าแบบต้องใช้ทิชชู่เช็ด
00:03:15 → 00:03:17 ตลอดเวลาแล้วทิชชู่เปียรับสาเหตุของน้ำตา
00:03:17 → 00:03:20 ไหลในเด็กมีอยู่ 2 อันเท่านั้นนะคะอันแรก
00:03:20 → 00:03:22 ก็คือการที่น้ำตาสร้างมากเกินไป
00:03:22 → 00:03:25 อย่างที่บอกไปช่วงแรกแล้วนะคะว่าการที่
00:03:25 → 00:03:29 Balance ระหว่างการสร้างน้ำตากับการไหล
00:03:29 → 00:03:31 หรือการระบายน้ำตามันต้องสมดุลกันมันถึง
00:03:31 → 00:03:33 จะไม่มีน้ำตาเอ่อมากเกินไปเพราะฉะนั้น
00:03:33 → 00:03:35 เนี่ยข้อแรกก็คือถ้าเกิดสร้างเกินไปถึง
00:03:36 → 00:03:39 แม้ว่าจะระบายได้ดีระบายได้ดีเลยแต่ว่า
00:03:39 → 00:03:42 ถ้าสร้างมากเกินไปสร้างเยอะๆอย่างนี้มัน
00:03:42 → 00:03:45 ก็จะไหลมันก็จะเอ่อขนตาก็จะแฉะเหมือนกัน
00:03:45 → 00:03:48 นะคะอันนี้เป็นสาเหตุที่ 1 ค่ะสำหรับ
00:03:48 → 00:03:51 สาเหตุที่ 2 นะคะก็คือการระบายออกไม่ดี
00:03:51 → 00:03:55 เห็นมั้ยคะว่าถ้าเกิดว่ามีความอุดตัน
00:03:55 → 00:03:58 บริเวณท่อน้ำตาเอามือไปกดตรงเนี้ยเออ
00:03:58 → 00:04:01 ระบายออกไม่ได้เพราะว่ามันตันละก็จะทำให้
00:04:01 → 00:04:04 เป็นไงคะน้ำตาที่สร้างอยู่ตลอดเวลาเนี่ย
00:04:04 → 00:04:07 มันก็ไหลเออขนตาก็จะเปลี่ยนตาก็จะเปียกตา
00:04:07 → 00:04:10 ก็จะแค่นี้มาดูนะคะว่าการสร้างมากเกินไป
00:04:10 → 00:04:14 เนี่ยก็มีอยู่แค่ 3 อย่างด้วยกันนะคะอัน
00:04:14 → 00:04:18 แรกก็คือที่ขนตาค่ะอันที่ 2 นะคะที่เยื่อ
00:04:18 → 00:04:21 บุตาแล้วก็ที่กระจกตาค่ะส่วนการที่น้ำตา
00:04:21 → 00:04:24 ระบายออกไม่ดีก็มีภาวะเดียวก็คือภาวะน้ำ
00:04:24 → 00:04:28 ตาลอุดตันค่ะเรามาดูว่าภาวะขนตาเกี่ยว
00:04:28 → 00:04:31 อะไรขนตาเนี่ยมันจะมีโรคนึงที่พบบ่อยใน
00:04:31 → 00:04:36 เด็กมากๆเลยนั่นก็คือชื่อว่าอีพิฟฟารอน
00:04:36 → 00:04:41 ภาษาอังกฤษนะคะมันหมายถึงการที่ขนตามันจะ
00:04:41 → 00:04:44 เกิดเฉพาะขนตาล่างมันมีการเรียงตัวของ
00:04:44 → 00:04:47 กล้ามเนื้อและก็ผิวหนังที่บริเวณเปลือกตา
00:04:47 → 00:04:50 ชั้นเหล่านี้มันเรียงตัวผิดปกติพอเรียง
00:04:50 → 00:04:53 ตัวผิดปกติเนี่ยมันทำให้เหมือนหลังเนี่ย
00:04:53 → 00:04:55 มันเยอะเกินไปแล้วก็จุดเกาะของผิวหนัง
00:04:55 → 00:04:58 เนี่ยมันไม่โอเคเท่าไหร่มันก็เลยเหมือน
00:04:58 → 00:05:02 กับดันผิวหนังหลังแล้วก็ทำให้ขนตาม้วน
00:05:02 → 00:05:05 แล้วก็แทงเสียดสีเข้าไปนะคะที่กระจกตาก็
00:05:05 → 00:05:07 จะทำให้น้ำตาไหลอยู่ตลอดเวลาทั้งๆที่
00:05:07 → 00:05:11 บางจิตราก็ไม่แดงก็ได้ภาวะนี้นะคะจะว่า
00:05:11 → 00:05:13 อันตรายก็อันตรายได้หรือจะว่าไม่อันตราย
00:05:13 → 00:05:16 ก็ไม่อันตรายได้เหมือนกันส่วนใหญ่แล้วไม่
00:05:16 → 00:05:18 อันตรายเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วจะหายเอง
00:05:18 → 00:05:22 เมื่อโตขึ้นนะคะเปลือกตาตรงแถวนี้มันก็จะ
00:05:22 → 00:05:25 ค่อยๆแบบเหมือนม้วนออกไปมากขึ้นแต่ว่าที่
00:05:25 → 00:05:28 อันตรายเนี่ยพอขนตามันเสียดสีหรือว่าถูไป
00:05:28 → 00:05:31 ถูมากับกระจกตามากๆเนี่ยมันอาจจะทำให้
00:05:31 → 00:05:33 กระจกตาถลอกแล้วก็เป็นแผลขาวๆได้เลยนะคะ
00:05:33 → 00:05:37 ภาวะเนี้ยเอ่อตัวตนเองเนี่ยพบบ่อยมากๆใน
00:05:37 → 00:05:41 เด็กที่มาด้วยอาการน้ำตาไหลค่ะพอส่องไปไฟ
00:05:41 → 00:05:44 ฉายไปหรือว่าตรวจด้วยกล้องขยายไปเนี่ยก็
00:05:44 → 00:05:47 พบเลยว่าเป็นภาวะนี้วินิจฉัยได้ง่ายมาก
00:05:47 → 00:05:50 เลยนะคะก็จะแนะนำคุณพ่อคุณแม่ 2 อย่างของ
00:05:50 → 00:05:52 ภาวะนี้ก็คือ 1 ล้อโตแล้วก็อันที่ 2
00:05:52 → 00:05:55 เนี่ยก็ให้ยาป้ายหรือว่ายาเอ่อเกี่ยวกับ
00:05:55 → 00:05:59 น้ำตาลสร้างแบบเหมือนกระจกตั้งประมาณแผล
00:05:59 → 00:06:02 กระจกนะคะพวกน้ำตาเทียมที่มีความเข้มข้น
00:06:02 → 00:06:05 สูงเนี่ยไปให้หยอดภาวะนี้ 2 ก็คือเยื่อ
00:06:05 → 00:06:07 บุตาค่ะเยื่อบุตานะคะก็จะเป็นภาวะที่
00:06:07 → 00:06:10 เหมือนเยื่อบุตาอักเสบในเด็กก็จะพบบ่อย
00:06:10 → 00:06:13 มากเลยแต่ว่าสมมุติว่าเกิดมาแล้วเนี่ยเออ
00:06:13 → 00:06:16 2 อาทิตย์แล้วเป็นน้ำตาไหลแล้วมีตาแดง
00:06:16 → 00:06:18 ด้วยอันนี้มันก็จะมีกลุ่มโรคที่จะต้องแบบ
00:06:18 → 00:06:22 เหมือนดูลักษณะของตาแดงลักษณะของขี้ตา
00:06:22 → 00:06:25 ลักษณะความเร็วของการที่แบบมันแดงเยอะมาก
00:06:25 → 00:06:27 น้อยแค่ไหนอันนี้มันก็จะมีสาเหตุต่างกัน
00:06:27 → 00:06:30 นะคะก็ได้ตั้งแต่การที่แบบเหมือนติดเชื้อ
00:06:30 → 00:06:33 นะคะติดเชื้อมาจากมารดาหรือเปล่าติดเชื้อ
00:06:33 → 00:06:36 เองหรือเปล่าหรือว่าแบบแพ้สารเคมีที่เวลา
00:06:36 → 00:06:38 แบบเด็กเกิดมาเขาก็จะแบบใต้สารเคมีอะไร
00:06:38 → 00:06:41 เงี้ยบางคนก็จะแพ้ได้เหมือนกันนะคะแต่ถ้า
00:06:41 → 00:06:43 เด็กโตมาหน่อยก็เยื่อบุตาอักเสบเนี่ยมัน
00:06:43 → 00:06:46 ก็เป็นได้หลายสาเหตุเลยนะคะทั้งช่วยไวรัส
00:06:46 → 00:06:48 แบคทีเรียหรือว่าจากระคายเคือง
00:06:48 → 00:06:51 เออรีเตชั่นต่างๆนะคะก็ทำให้ตาแดงได้ซึ่ง
00:06:51 → 00:06:53 อันเนี้ยจะตาแดงชัดเจนเลยถ้าเป็นจากเชื้อ
00:06:53 → 00:06:57 เยื่อบุตานะคะก็จะมีอาการตาแดงมีขี้ตา
00:06:57 → 00:07:00 อันเนี้ยก็มาพบจากสุขแพ้ได้เลยนะคะเหตุ
00:07:00 → 00:07:03 ที่ 3 ของการสร้างมากเกินไปก็คือเรื่อง
00:07:03 → 00:07:07 ของตัวกระจกตาค่ะสมมุติว่ามีกระจกตาที่
00:07:07 → 00:07:10 มันผิดปกติอย่างเช่นกระจกตาถลอกกระจกตา
00:07:10 → 00:07:13 เป็นแผลกระจกตาติดเชื้อถ้ามีความผิดปกติ
00:07:13 → 00:07:16 เหล่านี้จะสามารถที่จะทำให้น้ำตาลไหลแบบ
00:07:16 → 00:07:19 เยอะมากๆได้เลยเพราะว่ากระจกตาเนี่ยมันจะ
00:07:19 → 00:07:22 เป็นอะไรที่แบบร่างกายจะป้องกันเป็นอย่าง
00:07:22 → 00:07:25 ดีมากนะคะสมมติว่ามีแบบเหมือนกระจกตาถลอก
00:07:25 → 00:07:28 นิดเดียวมีเดียวร่างกายพยายามสร้างน้ำตาล
00:07:28 → 00:07:32 มาเพื่อที่จะให้กระจกตานั้นมันสมานแผลได้
00:07:32 → 00:07:35 เองนะคะก็จะทำให้น้ำตาไหลเอิบมากก็คือน้ำ
00:07:35 → 00:07:39 ตาจะสร้างมากๆเลยอันนี้ก็ถ้ามีเกี่ยวกับ
00:07:39 → 00:07:41 กระทรวงตาเนี่ยสิ่งแรกเลยน้องจะแบบค่อน
00:07:41 → 00:07:45 ข้างที่จะทรมานมากแพ้แสงลืมตาไม่ได้แล้ว
00:07:45 → 00:07:48 ก็รู้สึกจากเครื่องตาแบบทรมานอันนี้ก็
00:07:48 → 00:07:50 ต้องต้องรีบมาพบหมอตาที่อยู่ใกล้บ้านเลย
00:07:50 → 00:07:53 ค่ะก็กลุ่มที่สร้างน้ำตาลมากเกินไปก็
00:07:53 → 00:07:56 อย่างที่บอกไปเมื่อกี้แล้วนะคะก็ได้แก่ขน
00:07:56 → 00:08:00 ตา EP เบลอนะคะเยื่อบุตาก็คืออักเสบแล้ว
00:08:00 → 00:08:02 ก็กระจกตาอาจจะเป็นติดเชื้อกระจกแตกถลอก
00:08:02 → 00:08:05 หรือกระจกบาดเจ็บไปหมดเลยค่ะต่อมามาถึง
00:08:05 → 00:08:09 การที่ระบายไม่ดีอันนี้ก็เป็นแบบโรคที่พบ
00:08:09 → 00:08:13 บ่อยเหมือนกันนะคะของเด็กเลยพบได้ 2
00:08:13 → 00:08:15 สาเหตุด้วยกันนะคะอันแรกก็คือมันจะมีสิ่ง
00:08:15 → 00:08:17 ที่เรียกว่า
00:08:17 → 00:08:21 เป็นเหมือนแผ่นบางๆไปกั้นไว้ตรงท่อน้ำตา
00:08:21 → 00:08:24 นะคะจากรูปเนี่ยก็จะเห็นว่ามันจะมีเหมือน
00:08:24 → 00:08:29 แผ่นที่ที่ไฮไลท์เป็นกรอบสีแดงนะคะมันก็
00:08:29 → 00:08:32 จะเป็นแผ่นบางๆแผ่นบางๆสานติดเรียกว่า
00:08:33 → 00:08:35 membay มันจะเป็นเหมือนเลือกบางๆที่คุม
00:08:35 → 00:08:39 ป่าไว้นะคะเอ่อพอคลุมไปไว้เนี่ยมันก็ไม่
00:08:39 → 00:08:44 สามารถที่จะระบายลงไปในคอได้พอไม่ระบายลง
00:08:44 → 00:08:47 ไปในคอเนี่ยมันก็ดันเออกลับมานะคะก็เป็น
00:08:47 → 00:08:50 ภาวะน้ำตาไหลซึ่งอันเนี่ยแก้ได้ง่ายมาก
00:08:50 → 00:08:53 เลยนะคะสาเหตุที่ 2 นะคะในเด็กก็คือ
00:08:53 → 00:08:57 เหมือนกับท่อตรงนี้นะคะมันตันเลยท่อจมูก
00:08:57 → 00:08:59 ตรงเนี้ยอย่างที่เห็นในรูปนะคะมันก็จะ
00:09:00 → 00:09:03 เป็นแบบเหมือนติดกันเลยอะไรเงี้ยอันนี้ก็
00:09:03 → 00:09:05 จะเป็นสาเหตุที่ 2 ที่เกิดขึ้นในเด็กค่ะ
00:09:05 → 00:09:08 การที่มีเยื่อบางๆเนี่ยนะคะสามารถที่จะ
00:09:08 → 00:09:13 รักษาได้เองเลยด้วยการนวดหัวตาหรือนวดท่อ
00:09:13 → 00:09:17 น้ำตานะคะเวลานวดท่อน้ำตาเนี่ยจะเห็นว่า
00:09:17 → 00:09:20 แบบตัวตรงท่อน้ำตาลนี้มันจะมีแผ่นบางๆที่
00:09:20 → 00:09:23 มันกั้นอยู่เวลาที่เรานวดเนี่ยเราจะต้อง
00:09:23 → 00:09:27 ใช้เหมือนแรงดันน่ะค่ะไปเปิดไปเปิดว้าวไป
00:09:27 → 00:09:30 เปิดวาล์วของตัว
00:09:30 → 00:09:33 เหยื่อก็คือเวลานวดเอาง่ายๆเลยนะคะก็คือ
00:09:33 → 00:09:38 กดไปที่บริเวณหัวตาแล้วก็นวดลงเราก็ปล่อย
00:09:38 → 00:09:42 กดที่หัวตาแล้วก็นวดลงนวดลงตามสันจมูก
00:09:42 → 00:09:45 แล้วก็ปล่อยนะคะแรงที่ใช้นวดเนี่ยก็ให้
00:09:45 → 00:09:48 สังเกตผิวของน้องเนี่ยจะต้องมีสีแดง
00:09:48 → 00:09:50 เรื่อยๆบางคนเนี่ยลวดแรงมากจนเหมือนกับ
00:09:50 → 00:09:54 เอ่อมันถลอกอันนี้ก็ไม่ควรอันนี้ก็ขึ้น
00:09:54 → 00:09:57 แรงเกินไปแรงที่เหมาะสมก็คือการที่มัน
00:09:57 → 00:09:59 เอ่อผิวหนัง
00:09:59 → 00:10:03 บริเวณสันจมูกมันเป็นแดงด้วยๆนะคะก็นวด 30
00:10:03 → 00:10:08 ครั้งต่อวันก็คือแบ่งเป็นเช้า 10 เที่ยง
00:10:08 → 00:10:10 10 แล้วก็เย็น 10 ก็เป็น 30 ครั้งต่อวัน
00:10:10 → 00:10:14 ค่ะมีผลแทรกซ้อนถ้าสมมุติว่าบางคนเนี่ย
00:10:14 → 00:10:18 ปล่อยไว้นานๆนะคะมันไม่ได้ระบายอ่ะความ
00:10:18 → 00:10:20 คั่งค้างของพวก
00:10:20 → 00:10:24 เวลาน้ำตามันออกมาเนี่ยมันก็จะมีเซลล์แบบ
00:10:24 → 00:10:26 เซลล์บางทีเซลล์ตายอะไรอย่างนี้มันก็ช้าๆ
00:10:26 → 00:10:29 ลงไปมันก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อการติด
00:10:29 → 00:10:33 เชื้อก็จะเกิดขึ้นเป็นแบบวงตรงบริเวณข้าง
00:10:33 → 00:10:37 ใต้ต่อมือเปิดนะคะถ้าเกิดมันถ้าเกิดเห็น
00:10:37 → 00:10:39 สังเกตเห็นน้องเป็นวงเนี้ยก็อาจจะมีภาวะ
00:10:39 → 00:10:42 ท่อน้ำตากันได้ค่ะแต่จริงๆแล้วนะคะตัว
00:10:42 → 00:10:45 เด็กเองนะคะจะไม่ค่อยมีภาวะนี้ถ้าสมมุติ
00:10:45 → 00:10:49 ว่าผู้ใหญ่มีภาวะอุดตันเนี้ยก็จะเกิดภาวะ
00:10:49 → 00:10:52 ที่ติดเชื้อทางเข้าร่างกายได้ง่ายกว่า
00:10:52 → 00:10:56 เด็กค่ะก็นวดนะคะปกติ 90% จะสามารถหายได้
00:10:56 → 00:10:58 เองภายใน 1 ปีแรกเพราะฉะนั้นเนี่ยยิ่งนวด
00:10:58 → 00:11:00 เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งหายเร็วเท่านั้นนะคะ
00:11:00 → 00:11:05 สมมุติว่านวดแล้วก็ยังไม่หายก็จะมีการแยง
00:11:05 → 00:11:08 ท่อน้ำตานะคะโดยคุณหมอตาเด็กเนี่ยก็จะ
00:11:08 → 00:11:13 แย้งท่อน้ำตานะคะใช้เหมือนเหล็กไปดันไอ้
00:11:13 → 00:11:16 ตัวท่อที่มันติดนั้นน่ะให้มันขยายมากขึ้น
00:11:16 → 00:11:20 จบแล้วนะคะสำหรับภาวะที่ทำให้เกิดน้ำตา
00:11:20 → 00:11:23 ไหลในเด็กใหญ่ๆก็มี 2 สาเหตุนะคะอันแรก
00:11:23 → 00:11:28 คือมีการสร้างมากเกินไปอันที่ 2 คือมีการ
00:11:28 → 00:11:32 อุดตันที่ท่อต่างๆค่ะเห็นไหมคะว่า 2 ภาวะ
00:11:32 → 00:11:36 นี้เป็นภาวะที่รักษาได้ทีนี้ในฐานะหมอต้อ
00:11:36 → 00:11:40 หินนะคะจะมาบอกภาวะอันตรายที่จะให้คุณพ่อ
00:11:40 → 00:11:43 คุณแม่เนี่ยได้เอ่อสังเกตลูกน้อยนะคะเอ่อ
00:11:43 → 00:11:47 ภาวะอันตรายเนี่ยก็คือภาวะต้อหินแต่
00:11:47 → 00:11:49 กำเนิดค่ะจริงๆแล้วภาวะต้อหินกับกำเนิด
00:11:49 → 00:11:53 เนี่ยพบน้อยมากเลยนะคะไม่ได้พบบ่อยเลยใน
00:11:53 → 00:11:56 ชีวิตที่ทำงานมาหลายเป็น 10 ปีเนี่ยก็ยัง
00:11:56 → 00:11:59 ไม่เคยเจอก็เห็นในเด็กเลยยกเว้นแบบ
00:11:59 → 00:12:00 ตอนที่เรียน
00:12:00 → 00:12:04 เป็นแบบเหมือนแพทย์ประจำบ้านหรือเรียน
00:12:04 → 00:12:07 เป็นเหมือนแพทย์ประจำบ้านต่อยอดเรื่องต้อ
00:12:07 → 00:12:09 หินเขาก็เจอในโรงเรียนแพทย์นะแต่ว่าพอออก
00:12:09 → 00:12:12 มาทำงานเองเนี่ยยังไม่เจอเลยนะคะว่าที่
00:12:12 → 00:12:15 อันตรายเนี่ยอันแรกคือมีน้ำตาไหลแน่นอน
00:12:15 → 00:12:18 เราพูดถึงเรื่องน้ำตาไหลอยู่นะคะอันที่ 2
00:12:18 → 00:12:22 คือการแพ้แสงเด็กแบบเจอแสงแล้วแบบเฮ้ยดู
00:12:22 → 00:12:25 ไม่ได้เลยแล้วก็สุดท้ายก็คือมีเรื่องของ
00:12:25 → 00:12:28 ตากระตุกตาขยิบนะคะเวลาที่ตรวจเนี่ยถ้า
00:12:28 → 00:12:33 เกิดเป็นเรื่องความดันตาที่มันมันทำสูง
00:12:33 → 00:12:36 ตลอดเวลาในเด็กเนี่ยมันก็จะทำให้แบบตาลดำ
00:12:36 → 00:12:40 ใหญ่มากเหมือนเด็กใส่บิ๊กอายเลยนะคะดูจาก
00:12:40 → 00:12:43 รูปก็ได้นะคะแล้วก็กระจกตาเนี่ยจะขาวๆ
00:12:43 → 00:12:46 เพราะว่าพอความหนักตาสูงเนี่ยมันจะทำให้
00:12:46 → 00:12:48 แบบเหมือนกระจกตามันมัน
00:12:48 → 00:12:52 เสื่อมไปมันฉีกไปในบางชั้นของกระจกตาแล้ว
00:12:52 → 00:12:56 ก็เป็นเป็นรอยแผลเป็นรอยแผลเป็นค่ะอันนี้
00:12:56 → 00:12:59 ก็เป็นภาวะต้องเห็นเด็กๆไม่ได้พบเยอะแต่
00:12:59 → 00:13:01 ก็สังเกตไว้นะคะคิดว่ามีประโยชน์นะคะก็
00:13:01 → 00:13:05 ฝากกดไลค์กดแชร์คลิปนี้ไปด้วยนะคะสวัสดี
00:13:06 → 00:13:06 ค่ะ
00:13:06 → 00:13:08 [เพลง]