เมตาบอลิซึมคืออะไรและทำหน้าที่อย่างไรในร่างกาย

คนกินน้อยอ้วนง่าย!ลดไม่ลง คนกินเยอะแต่ผอมลีนไม่อ้วน! ไขปริศนา เมตาบอลิซึม | สุขภาพสนทนา Podcast

จากช่อง : สุขภาพสนทนา


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:06 แค่หายใจก็อ้วนแล้วจริงหรอคะหรือบางที เห็นเพื่อนกินบุฟเฟตจุกๆทุกวันทำไมหุ่น

00:00:0600:00:13 ยังเป๊ะปังไม่มีไขมันส่วนเกินให้เห็นเลย ล่ะคะในขณะที่เราแค่ดมกลิ่นอาหารก็รู้สึก

00:00:1300:00:18 ว่าน้ำหนักขึ้นแล้วหรือกินนิดเดียวก็อ้วน ง่ายซะงั้นคุณกำลังเจอปริศนานี้อยู่ใช่

00:00:1800:00:22 ไหมคะ ครับผมเชื่อว่าคำถามเหล่านี้วนเวียน

00:00:2200:00:29 อยู่ในใจใครหลายคนและวันนี้สุขภาพสนทนามี คำตอบให้คุณครับสร้างสุขภาพดีที่เริ่มต้น

00:00:2900:00:33 จากความเข้าใจ ถูกต้องเลยค่ะก่อนที่เราจะ

00:00:3300:00:38 ดำดิ่งสู่แก่นแท้ของเรื่องราวอย่าลืมกด Subscribe และกดกระดิ่งแจ้งเตือนช่องของ

00:00:3800:00:41 เราไว้ด้วยนะคะจะได้ไม่พลาดทุกสาระสุขภาพ

00:00:4100:00:44 ดีๆที่เราตั้งใจนำเสนอค่ะ วันนี้เราจะพา

00:00:4400:00:51 คุณไปไขปริศนาความแตกต่างในการจัดการน้ำ หนักของแต่ละคนเจาะลึกถึงหัวใจสำคัญอย่าง

00:00:5100:00:57 Metabบolิึมหรือระบบเผาผลาญที่เป็นเบื้อง หลังทั้งหมดครับเราจะมาดูกันว่า

00:00:5700:01:03 Metabบolิึมคืออะไรทำงานอย่างไรมีปัจจัย อะไรบ้างที่ส่งผลต่อการเผาผลาญของเราและ

00:01:0300:01:10 ที่สำคัญที่สุดเราจะสามารถบูostระบบเผา ผลาญของเราให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นอย่างไร

00:01:1000:01:16 เพื่อสุขภาพและรูปร่างที่คุณต้องการครับ เอาล่ะค่ะเรามาเริ่มต้นกันที่คำถามพื้น

00:01:1600:01:23 ฐานที่สุดแต่สำคัญที่สุด หรือการเผาผลาญคืออะไรกันแน่คะหลายคนอาจ

00:01:2300:01:30 จะคิดว่ามันคือแค่การเผาผลาญไขมันหรือเผา ผลานแคลอรี่เท่านั้นแต่จริงๆแล้วมันซับ

00:01:3000:01:33 ซ้อนกว่านั้นมากเลยค่ะ ครับMetabบolิึมคือ

00:01:3300:01:38 กระบวนการทางเคมีทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน ร่างกายของเราเพื่อรักษาสิ่งมีชีวิตให้

00:01:3800:01:44 ดำรงอยู่ได้ครับพูดง่ายๆคือเป็นกระบวนการ ที่เปลี่ยนอาหารที่เรากินเข้าไปให้กลาย

00:01:4400:01:50 เป็นพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ในกิจกรรม ต่างๆครับไม่ว่าจะเป็นการหายใจการเต้นของ

00:01:5000:01:53 หัวใจการคิดการเคลื่อนไหวหรือแม้แต่การ

00:01:5300:01:56 ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอครับ ใช่ค่ะและ

00:01:5600:02:04 กระบวนการเมาบอลิึมนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน หลักๆนะคะนั่นคือanาบอลisึมและคาบอลึมค่ะ

00:02:0400:02:10 anาบolisึมคือกระบวนการสร้างและสะสมพลัง งานครับเช่นการสร้างกล้ามเนื้อการสร้าง

00:02:1000:02:16 เนื้อเยื่อใหม่ๆจากสารอาหารที่เรากินเข้า ไปครับส่วนคาตาบอลิึึมคือกระบวนการสลาย

00:02:1600:02:23 สารอาหารเพื่อให้ได้พลังงานครับเช่นการ สลายกลูโคสไขมันหรือโปรตีนเพื่อให้ร่าง

00:02:2300:02:26 กายมีพลังงานไปใช้ในกิจกรรมต่างๆครับ และ

00:02:2600:02:33 ทำไมmetabบึมถึงสำคัญต่อน้ำหนักของเราคะ คำตอบง่ายๆก็คือน้ำหนักของเรานั้นเป็นผล

00:02:3300:02:39 ลัพธ์ของสมดุลพลังงานค่ะถ้าเรากินพลังงาน เข้าไปมากกว่าที่เราใช้ร่างกายก็จะเก็บ

00:02:3900:02:45 สะสมไว้ในรูปของไขมันซึ่งทำให้น้ำหนัก เพิ่มขึ้นแต่ถ้าเราใช้พลังงานมากกว่าที่

00:02:4500:02:51 เรากินเข้าไปร่างกายก็จะดึงพลังงานที่ สะสมไว้มาใช้ทำให้น้ำหนักลดลงนั่นเองค่ะ

00:02:5100:02:58 ถูกต้องครับและอัตราการเผาผลาญพลังงานของ แต่ละคนนั้นจะบ่งบอกว่าร่างกายเราใช้พลัง

00:02:5800:03:03 งานไปมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวันครับซึ่งการ ใช้พลังงานในร่างกายของเรานั้นไม่ได้

00:03:0300:03:08 จำกัดแค่ตอนที่เราออกกำลังกายเท่านั้นนะ ครับแต่ยังมีพลังงานที่เราใช้ไปในกิจกรรม

00:03:0800:03:14 อื่นๆตลอดทั้งวันด้วยครับโดยเราสามารถ แบ่งการใช้พลังงานในร่างกายได้เป็น 4

00:03:1400:03:17 องค์ประกอบหลักๆครับ องค์ประกอบแรกและเป็น

00:03:1700:03:23 ส่วนที่ใหญ่ที่สุดเลยนะคะนั่นก็คือบาcle metabolic rate หรือ BMR ค่ะหรือเรียก

00:03:2300:03:30 ง่ายๆว่าอัตราการเผาผลาญพลังงานพื้นฐาน นั่นเอง BMR คือปริมาณพลังงานที่ร่างกาย

00:03:3000:03:37 ของเราใช้ไปในขณะที่เราพักผ่อนเพื่อรักษา กระบวนการพื้นฐานของชีวิตค่ะเช่นการหายใจ

00:03:3700:03:46 การเต้นของหัวใจการทำงานของสมองไตตับและ อวัยวะอื่นๆพูดง่ายๆคือถ้าเรานอนอยู่เฉยๆ

00:03:4600:03:49 ทั้งวันร่างกายเราก็ยังคงเผาผลาญพลังงาน

00:03:4900:03:52 เพื่อดำรงชีวิตอยู่ค่ะ ครับโดยเฉลี่ยแล้ว

00:03:5200:03:58 BMR คิดเป็นประมาณ 60-75% ของพลังงานทั้งหมดที่เราใช้ไปในแต่ละวัน

00:03:5800:04:05 เลยนะครับดังนั้น BMR ที่สูงก็หมายความ ว่าร่างกายของเราเผาผลาญพลังงานได้มาก

00:04:0500:04:11 กว่าแม้ในขณะที่เราพักผ่อนครับซึ่งเป็น หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้บางคนดูเหมือน

00:04:1100:04:14 จะกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนครับ องค์ประกอบที่

00:04:1400:04:20 2 คือ Thermic effect of Food หรือ TEF ค่ะนี่คือพลังงานที่ร่างกายใช้ในการ

00:04:2000:04:26 ย่อยดูดซึมและแปรรูปสารอาหารที่เรากิน เข้าไปค่ะการย่อยอาหารไม่ใช่แค่การกิน

00:04:2600:04:31 แล้วจบนะคะร่างกายเราต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อจัดการกับอาหารเหล่านั้นและกระบวน

00:04:3100:04:35 การนี้ก็ใช้พลังงานด้วยค่ะ ใช่ครับ TEF

00:04:3500:04:41 โดยทั่วไปคิดเป็นประมาณ 10% ของพลังงาน ทั้งหมดที่เราใช้ไปในแต่ละวันครับซึ่ง

00:04:4100:04:48 อาหารแต่ละประเภทก็มี TEF ที่แตกต่างกัน ไปครับยกตัวอย่างเช่นโปรตีนจะมี TEF สูง

00:04:4800:04:54 กว่าคาร์โบไฮเดรตและไขมันมากครับนั่นหมาย ความว่าร่างกายต้องใช้พลังงานในการย่อย

00:04:5400:04:59 โปรตีนมากกว่านั่นเองครับซึ่งเป็นเหตุผล หนึ่งที่ทำการกินโปรตีนให้เพียงพอถึง

00:04:5900:05:02 สำคัญต่อการลดน้ำหนักและการรักษาน้ำหนัก

00:05:0200:05:05 ครับ องค์ประกอบที่ 3 คือ Activity Energy

00:05:0500:05:12 Expenditure หรือ AE ค่ะนี่คือพลังงาน ที่เราใช้ไปจากการออกกำลังกายหรือกิจกรรม

00:05:1200:05:19 ทางกายที่ตั้งใจทำเช่นการวิ่งการยกเวทการ ปั่นจักรยานยิ่งเราออกกำลังกายหนักและนาน

00:05:1900:05:22 เท่าไหร่เราก็ยิ่งใช้พลังงานในส่วนนี้มาก

00:05:2200:05:25 เท่านั้นค่ะ ครับและองค์ประกอบสุดท้ายที่

00:05:2500:05:30 มักมักจะถูกมองข้ามไปแต่กลับมีความสำคัญ ไม่แพ้กันเลยนะครับนั่นก็คือ Non

00:05:3000:05:36 Exercise Activity Thermogenesis หรือ Need ครับ Need คือพลังงานที่เราใช้ไป

00:05:3600:05:41 กับการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันที่ไม่ ใช่การออกกำลังกายโดยตรงครับเช่นการเดิน

00:05:4100:05:49 ไปมาการยืนการขยับตัวการทำงานบ้านการนั่ง กระดิกเท้าหรือแม้แต่การลุกไปหยิบน้ำดื่ม

00:05:4900:05:51 ครับ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยใช่

00:05:5100:05:57 มั้ยคะแต่ลองคิดดูสิคะว่าถ้าเราทำงานที่ ต้องยืนตลอดวันเทียบกับคนที่นั่งทำงาน

00:05:5700:06:03 อยู่กับที่พลังงานที่ใช้ในส่วนของหนีดก็ จะต่างกันลิบลับเลยค่ะและความแตกต่างเล็ก

00:06:0300:06:09 ๆน้อยๆนี้เองที่สามารถสะสมเป็นพลังงานที่ ใช้ไปมหาศาลได้ตลอดทั้งวันซึ่งส่งผลต่อ

00:06:0900:06:16 สมดุลพลังงานและน้ำหนักของเราได้อย่างมี ในสำคัญเลยค่ะสรุปแล้วนะครับmetabบคือหัว

00:06:1600:06:22 ใจสำคัญในการจัดการพลังงานของร่างกายเรา ครับและอัตราการเผาผลาญของเราก็ไม่ได้

00:06:2200:06:29 ขึ้นอยู่แค่ BMR เท่านั้นแต่ยังรวมถึง TF AE และด้วยครับความเข้าใจในองค์ประกอบ

00:06:2900:06:35 เหล่านี้จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมว่า ทำไมร่างกายของแต่ละคนถึงมีการตอบสนองต่อ

00:06:3500:06:38 อาหารและการใช้พลังงานที่แตกต่างกันออกไป

00:06:3800:06:41 ครับ ใช้เลยค่ะการรู้ว่าร่างกายเราใช้พลัง

00:06:4100:06:48 งานไปกับอะไรบ้างทำให้เราเข้าใจได้ว่า ทำไมบางคนถึงดูเหมือนจะเผาผลาญได้งีกว่า

00:06:4800:06:54 และทำไมบางคนถึงรู้สึกว่าตัวเองอ้วนง่าย กว่าซึ่งความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นเรื่อง

00:06:5400:06:59 ของความโชคดีหรือโชคร้ายอย่างเดียวเสมอไป ค่ะแต่มีปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามาเกี่ยว

00:06:5900:07:03 ข้องและสิ่งที่เราจะพูดถึงต่อไปคือปัจจัย

00:07:0300:07:05 เหล่านั้นมีอะไรบ้างค่ะ เอาล่ะครับเมื่อ

00:07:0500:07:12 เราเข้าใจแล้วว่าmetabบิึมคืออะไรและมี องค์ประกอบอะไรบ้างทีนี้เรามาดูกันต่อ

00:07:1200:07:17 ครับว่าปัจจัยอะไรบ้างที่มีอิทธิพลต่อ ความเร็วของเมmetabบิึมของเราซึ่งเป็น

00:07:1700:07:21 เหตุผลหลักว่าทำไมบางคนกินเยอะแต่ไม่อ้วน

00:07:2100:07:24 และบางคนกินน้อยก็ยังอ้วนง่ายครับ ปัจจัย

00:07:2400:07:29 แรกเลยที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือพันธุกรรมค่ะ เราไม่สามารถเลือกพ่อแม่ได้ใช่มั้ยคะและ

00:07:2900:07:34 ยีนที่เราได้รับมาก็มีส่วนสำคัญในการ กำหนดอัตราการเผาผลาญพื้นฐาน BMR ของเรา

00:07:3400:07:40 ค่ะบางคนอาจจะมียีนที่ทำให้มี BMR สูงโดย ธรรมชาติทำให้ร่างกายเผาผลาพลังงานได้มาก

00:07:4000:07:43 กว่าแม้ในขณะที่พักผ่อน ครับงานวิจัยหลาย

00:07:4300:07:48 ชิ้นบ่งชี้ว่าพันธุกรรมมีส่วนประมาณ 40-70%

00:07:4800:07:54 ในการกำหนดแนวโน้มการมีน้ำหนักตัวมากหรือ น้อยของบุคคลครับนั่นรวมถึงแนวโน้มที่

00:07:5400:08:01 ร่างกายจะสะสมไขมันและการตอบสนองต่ออาหาร บางชนิดด้วยครับบางคนอาจจะมียีนที่เกี่ยว

00:08:0100:08:06 ข้องกับการจัดการอินซูลินที่ไม่ค่อยดีทำ ให้ไวต่อการสะสมคาร์โบไฮเดรตบางประเภทมาก

00:08:0600:08:09 กว่าคนอื่นครับ ปัจจัยต่อมาคือเพศและอายุ

00:08:0900:08:15 ค่ะโดยทั่วไปแล้วผู้ชายมักจะมีอัตราการ เผาผลาญพื้นฐาน BMR ที่สูงกว่าผู้หญิงค่ะ

00:08:1500:08:19 เหตุผลหลักเป็นเพราะผู้ชายมักจะมีมวล กล้ามเนื้อที่มากกว่าและมีเปอร์เซ็นต์ไข

00:08:1900:08:22 มันในร่างกายที่น้อยกว่าผู้หญิงค่ะ ใช่

00:08:2200:08:28 ครับและเมื่อเราอายุมากขึ้นอัตราการเผา ผลาญของเราก็มีแนวโน้มที่จะลดลงครับโดย

00:08:2800:08:36 เฉลี่ยแล้ว BMR จะลดลงประมาณ 1-2% ทุกๆ ทศวรรษหลังอายุ 20 ปีครับสาเหตุหลักมาจาก

00:08:3600:08:41 การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อตามธรรมชาติเมื่อ อายุมากขึ้นซาโคพีเนียและการเปลี่ยนแปลง

00:08:4100:08:44 ของฮอร์โมนครับ นั่นหมายความว่ายิ่งเรา

00:08:4400:08:49 อายุเยอะขึ้นเรายิ่งต้องใส่ใจกับการรักษา มูลวกล้ามเนื้อและควบคุมปริมาณอาหารให้

00:08:4900:08:51 มากขึ้นเพราะร่างกายเราเผาผลาญได้น้อยลง

00:08:5100:08:54 นั่นเองค่ะ ปัจจัยที่สำคัญมากๆอีกอย่างนึง

00:08:5400:09:00 คือองค์ประกอบร่างกายครับอย่างที่เกริ่น ไปแล้วนะครับว่ากล้ามเนื้อเป็นเนื้อเยื่อ

00:09:0000:09:05 ที่มีการเผาผลาญพลังงานสูงกว่าไขมันมาก ครับแม้ในขณะพักผ่อนกล้ามเนื้อก็ยังเผา

00:09:0500:09:08 ผลาญพลังงานมากกว่าไขมันถึงประมาณ 3 เท่า

00:09:0800:09:11 เลยทีเดียวครับ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคน

00:09:1100:09:16 ที่มีมวลกล้ามเนื้อมากจึงมีแนวน้อมที่มี อัตราการเผาผลาญที่สูงกว่าและอ้วนยากกว่า

00:09:1600:09:21 คนที่มวลกล้ามเนื้อน้อยค่ะดังนั้นการ สร้างและรักษามวลกล้ามเนื้อจึงเป็นหนึ่ง

00:09:2100:09:23 ในกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการ

00:09:2300:09:26 เผาผลาญของเรานั่นเองค่ะ นอกจากนี้ฮอร์โมน

00:09:2600:09:32 ก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุม เมาบอลิครับฮอร์โมนหลายชนิดทำหน้าที่เป็น

00:09:3200:09:36 ตัวส่งสัญญาณที่ควบคุมการใช้พลังงานการ

00:09:3600:09:39 สะสมไขมันและความรู้สึกหิวของเราครับ ยก

00:09:3900:09:44 ตัวอย่างเช่นฮอร์โมนไทรรอยด์ค่ะต่อม ไทรรอยด์ของเราผลิตฮอร์โมนที่ควบคุมเกือบ

00:09:4400:09:49 ทุกกระบวนการเผาผลาญในร่างกายหากต่อม ไทรอยด์ทำงานผิดปกติเช่นผลิตฮอร์โมนน้อย

00:09:4900:09:56 เกินไปภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำก็จะทำให้การ เผาผลาญช้าลงและน้ำหนักขึ้นง่ายในทางกลับ

00:09:5600:10:02 กันถ้าผลิตมากเกินไปภาวะไทรรอยด์เป็นพิษ ก็จะเผาผลาญเร็วผิดปกติทำให้น้ำหนักลดลง

00:10:0200:10:05 อย่างรวดเร็วค่ะ ครับแล้วก็มีอินซูลินครับ

00:10:0500:10:11 ฮอร์โมนนี้มีหน้าที่หลักในการนำน้ำตาลใน เลือดเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานแต่

00:10:1100:10:16 ถ้าเรากินอาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือ คาร์โบไฮเดรตแปรรูปบ่อยๆร่างกายอาจจะเกิด

00:10:1600:10:22 ภาวะดื้ออินซูลินได้ครับซึ่งจะทำให้เซลล์ ตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดีน้ำตาลในเลือด

00:10:2200:10:28 ยังคงสูงและตับอ่อนก็จะผลิตอินซูลินออกมา มากขึ้นซึ่งอินซูลินที่สูงก็ส่งเสริมการ

00:10:2800:10:31 สะสมไขมันครับ นอกจากนี้ยังมีคอร์ติซอล

00:10:3100:10:37 หรือฮอร์โมนความเครียดค่ะเมื่อเราเครียด ร่างกายจะหลั่งคอร์ติซอลออกมาซึ่งคอร์ติ

00:10:3700:10:43 ที่สูงอย่างต่อเนื่องสามารถส่งผลเสียต่อ การเผาผลาญได้ค่ะเช่นเพิ่มการสะสมไขมัน

00:10:4300:10:45 บริเวณหน้าท้องและอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาล

00:10:4500:10:48 ในเลือดและอินซูลินด้วยค่ะ และยังมี

00:10:4800:10:53 ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิวและความ อิ่มอย่างเลปตินและเกลินครับเลปตินเป็น

00:10:5300:10:59 ฮอร์โมนที่หลั่งมาจากเซลล์ไขมันทำหน้าที่ ส่งสัญญาณไปยังสมองว่าเราอิ่มแล้วส่วน

00:10:5900:11:04 เกลินเป็นฮอร์โมนที่หลั่งมาจากกระเพาะ อาหารทำหน้าที่ส่งสัญญาณว่าเราหิวครับหาก

00:11:0400:11:11 ระบบการทำงานของฮอร์โมนเหล่านี้ผิดปกติไป เช่นเกิดภาวะดื้อเล็บสมองก็จะไม่รับ

00:11:1100:11:13 สัญญาณว่าเราอิ่มแล้วทำให้เรากินเยอะขึ้น

00:11:1300:11:16 โดยไม่รู้ตัวครับ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด

00:11:1600:11:23 ปัจจัยที่สำคัญมากๆที่เราสามารถควบคุมได้ นั่นก็คือไลฟ์สไตล์ของเราเองค่ะไลฟ์สไตล์

00:11:2300:11:28 มีผลอย่างมากต่ออัตราการเผาผลาญของเรา ครับระดับกิจกรรมทางกายของเรานั้นสำคัญ

00:11:2800:11:34 อย่างยิ่งครับอย่างที่บอกไปในส่วนแรกนะ ครับว่าการออกกำลังกายโดยตรง ae และการ

00:11:3400:11:40 เคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน neat ล้วนแล้ว แต่เพิ่มการเผาผลาญพลังงานของเราครับคน

00:11:4000:11:46 ที่ใช้ชีวิตประจำวันด้วยการเคลื่อนไหวมาก ๆเช่นเดินเยอะยืนเยอะก็จะเผาผลาญได้ดี

00:11:4600:11:49 กว่าคนที่นั่งอยู่กับที่ตลอดเวลาครับ และ

00:11:4900:11:55 การนอนหลับที่มีคุณภาพและปริมาณที่เพียง พอก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะการนอนหลับไม่เพียง

00:11:5500:12:00 พอหรือไม่ดีสามารถส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน ที่ควบคุมความหิวและความอิ่มอย่างเล็บิน

00:12:0000:12:06 และเกลินได้ทำให้เราอยากอาหารมากขึ้นโดย เฉพาะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและยังส่ง

00:12:0600:12:09 ผลต่อความไวของอินซูลินด้วยค่ะ และอย่าง

00:12:0900:12:15 ที่พูดถึงไปแล้วนะครับว่าความเครียดก็ส่ง ผลกระทบต่อเมาบอลิึมของเราได้ครับการจัด

00:12:1500:12:17 การความเครียดที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อ

00:12:1700:12:21 การรักษาสมดุลของเมบลิึมครับ รวมถึงประเภท

00:12:2100:12:26 ของอาหารที่เรากินเข้าไป diet composition ด้วยค่ะอาหารแต่ละชนิดมีผล

00:12:2600:12:32 ต่อการเผาผลาญแตกต่างกันอย่างที่เราทราบ กันว่าโปรตีนมี effect of food สูงดัง

00:12:3200:12:38 นั้นการกินโปรตีนให้เพียงพอจึงช่วยเพิ่ม การเผาผลาญได้เล็กน้อยในขณะที่อาหารแปร

00:12:3800:12:40 รูปหรือน้ำตาลสูงอาจส่งผลเสียต่อ

00:12:4000:12:44 เมตabอลิึมในระยะยาวค่ะ สรุปได้ว่าอัตรา

00:12:4400:12:49 การเผาผลาญของแต่ละคนนั้นเป็นผลรวมของ ปัจจัยที่ซับซ้อนและหลากหลายครับทั้ง

00:12:4900:12:54 ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้อย่างพันธุกรรม และอายุและปัจจัยที่เราควบคุมได้อย่าง

00:12:5400:12:59 องค์ประกอบร่างกายฮอร์โมนที่อาจจะปรับ ปรุงได้ด้วยไลฟ์สไตล์และไลฟ์สไตล์โดยรวม

00:12:5900:13:05 ของเราครับการเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วย ให้เราวางแผนการดูแลสุขภาพและน้ำหนักได้

00:13:0500:13:07 อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ เอาล่ะค่ะ

00:13:0700:13:14 มาถึงประเด็นที่หลายคนคงกำลังประสบพบเจอ และสงสัยกันอย่างมากเลยนะคะนั่นก็คือทำไม

00:13:1400:13:21 ฉันกินน้อยแต่ก็ยังอ้วนง่ายจังเลยหรือบาง ทีก็รู้สึกว่าแค่หักหายใจก็อ้วนแล้วคำพูด

00:13:2100:13:26 เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความรู้สึก ส่วนตัวนะคะแต่มันมีคำอธิบายทาง

00:13:2600:13:29 วิทยาศาสตร์เบื้องหลังค่ะ ครับสาเหตุหลัก

00:13:2900:13:34 ประการหนึ่งที่ทำให้บางคนรู้สึกว่ากิน น้อยก็อ้วนง่ายคือเรื่องของภาวะ

00:13:3400:13:39 metabolism ต่ำหรือ slow metabolism ครับซึ่งภาวะนี้อาจจะเกิดขึ้นได้จากหลาย

00:13:3900:13:45 ปัจจัยครับอย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วครับ ว่า metabolism ของแต่ละคนไม่เท่ากันบาง

00:13:4500:13:50 คนอาจจะมี BMR ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตาม ธรรมชาติอยู่แล้วจากปัจจัยทางพันธุกรรม

00:13:5000:13:53 ครับ นอกจากพันธุกรรมแล้วการใช้ชีวิตแบบ

00:13:5300:13:59 นั่งๆนอนขาดการเคลื่อนไหวการมีมวลกล้าม เนื้อน้อยหรือภาวะความผิดปกติของฮอร์โมน

00:13:5900:14:06 บางชนิดเช่นภาวะไทรรอยด์ทำงานต่ำก็สามารถ ทำให้เมาบอลิึมของเราช้าลงได้ค่ะเมื่อ

00:14:0600:14:13 เมาบอลิึมช้าลงร่างกายก็จะเผาผลาญพลังงาน ได้น้อยลงทำให้แม้จะกินอาหารในปริมาณที่

00:14:1300:14:19 คนอื่นกินแล้วไม่อ้วนแต่สำหรับเราก็อาจจะ เกินความต้องการและนำไปสู่การสะสมไขมัน

00:14:1900:14:22 ได้ค่ะ อีกประเด็นที่สำคัญมากและมักจะเกิด

00:14:2200:14:28 ขึ้นกับคนที่พยายามอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก คือการปรับตัวของร่างกายเมื่อได้รับพลัง

00:14:2800:14:33 งานน้อยเกินไปหรือที่เรียกว่า Adaptive Thermogenesis หรือ Starvation Mode

00:14:3300:14:38 ครับเมื่อร่างกายของเราได้รับพลังงานไม่ เพียงพอเป็นระยะเวลานานร่างกายของเราจะ

00:14:3800:14:44 ฉลาดมากครับมันจะปรับตัวเข้าสู่โหมด ประหยัดพลังงานครับโดยจะลดอัตราการเผา

00:14:4400:14:47 ผลาญลงเพื่อรักษาสมดุลและพลังงานสำรองไว้

00:14:4700:14:50 ให้ได้มากที่สุด ใช่ค่ะร่างกายจะคิดว่า

00:14:5000:14:56 กำลังอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหารเหมือนสมัย มนุษย์ถ้ำที่อาหารหายากดังนั้นมันจะ

00:14:5600:15:02 พยายามเก็บพลังงานไว้ให้มากที่สุดและลด การใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นลงผลก็คืออัตรา

00:15:0200:15:08 การเผาผลาญ BMR ของเราจะลดลงทำให้การลด น้ำหนักเป็นไปได้ยากขึ้นและเมื่อเรากลับ

00:15:0800:15:11 มากินอาหารตามปกติน้ำหนักก็อาจจะดีดขึ้น

00:15:1100:15:14 มาอย่างรวดเร็วได้ง่ายกว่าเดิมค่ะ และนี่

00:15:1400:15:20 เองครับที่นำไปสู่ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า โยโยโยเอฟเฟectครับคือการลดน้ำหนักอย่าง

00:15:2000:15:25 รวดเร็วด้วยวิธีที่หักโหมเช่นอดอาหาร อย่างรุนแรงแล้วก็กลับมาน้ำหนักขึ้นอย่าง

00:15:2500:15:32 รวดเร็วอีกครั้งวนเวียนอยู่แบบนี้การเกิด โยโยเอฟเฟคซ้ำๆบ่อยๆสามารถส่งผลเสียต่อ

00:15:3200:15:38 เมาบอลิึมในระยะยาวได้ครับทำให้ร่างกาย ยิ่งปรับตัวลดการเผาผลาญลงเรื่อยๆและทำ

00:15:3800:15:41 ให้การลดน้ำหนักครั้งต่อไปยากขึ้นไปอีก

00:15:4100:15:44 ครับ นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังค้นพบ

00:15:4400:15:50 ว่าจุลินทรีย์ในลำไส้กัสไมโครไบโอมก็มีบท บาทสำคัญอย่างมากต่อการเผาผลาญพลังงานและ

00:15:5000:15:55 การจัดการน้ำหนักของเราค่ะจุลินทรีย์ใน หลำไส้ของเรามีอิทธิพลต่อการดูดซึมสาร

00:15:5500:16:01 อาหารการสกัดพลังงานจากอาหารและการผลิต สารบางชนิดที่ส่งผลต่อการเผาผลาญและ

00:16:0100:16:03 ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิวความอิ่ม

00:16:0300:16:07 ค่ะ ครับคนที่มีจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่สมดุล

00:16:0700:16:12 หรือมีความหลากหลายน้อยอาจจะมีแนวโน้มที่ จะดูดซึมพลังงานจากอาหารได้มีประสิทธิภาพ

00:16:1200:16:18 มากขึ้นหรือมีการตอบสนองของฮอร์โมนที่ส่ง เสริมการสะสมไขมันมากขึ้นครับซึ่งเป็นอีก

00:16:1800:16:24 หนึ่งสาเหตุครับที่อธิบายว่าทำไมบางคน กิ่งเท่ากันแต่ก็ยังมีน้ำหนักที่แตกต่าง

00:16:2400:16:26 กันครับ และอย่างที่เรากล่าวไปแล้วในส่วน

00:16:2600:16:32 ที่แล้วนะคะว่าความผิดปกติของฮอร์โมนบาง ชนิดก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บางคนกิน

00:16:3200:16:38 น้อยก็ยังอ้วนได้ง่ายค่ะโดยเฉพาะอย่าง ยิ่งภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำไฮโปไทรอยดิ

00:16:3800:16:43 ที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ไม่เพียงพอ ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการเผาผลาในร่างกาย

00:16:4300:16:49 ช้าลงอย่างมากทำให้รู้สึกอ่อนเผื่อน้ำ หนักขึ้นง่ายท้องผูกและมีอาการอื่นๆร่วม

00:16:4900:16:52 ด้วยค่ะ นอกจากไทรรอยด์แล้วฮอร์โมนอื่นๆ

00:16:5200:16:58 ที่เราพูดถึงไปแล้วเช่นอินซูลินและ คอร์ติซอลหากทำงานผิดปกติก็สามารถส่งผล

00:16:5800:17:03 ต่อการสะสมไขมันได้ครับโดยเฉพาะการที่ ร่างกายมีการหลั่งอินซูลินในระดับสูง

00:17:0300:17:06 อย่างต่อเนื่องซึ่งจะส่งเสริมการนำกลูโคส

00:17:0600:17:09 ไปเก็บเป็นไขมันได้ง่ายขึ้นครับ สรุปแล้ว

00:17:0900:17:15 นะคะสำหรับคนที่รู้สึกว่ากินน้อยก็อ้วน ง่ายนั้นมันไม่ได้เป็นแค่ความรู้สึกไปเอง

00:17:1500:17:20 ค่ะแต่มีสาเหตุทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน อยู่เบื้องหลังไม่ว่าจะเป็นเมตabอิึมที่

00:17:2000:17:26 ช้าตามธรรมชาติการที่ร่างกายปรับตัวเข้า สู่โหมดประหยัดพลังงานจากการอดอาหารผลของ

00:17:2600:17:32 โยโยเอฟเฟคความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำ ไส้หรือความผิดปกติของฮอร์โมนบางชนิดค่ะ

00:17:3200:17:37 ครับการทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วย ให้เราสามารถวางแผนการจัดการน้ำหนักได้

00:17:3700:17:43 อย่างถูกต้องและยั่งยืนมากขึ้นครับแทนที่ จะโทษตัวเองหรือท้อแท้กับการลดน้ำหนักที่

00:17:4300:17:49 ไม่ได้ผลครับสิ่งสำคัญคือการมองหาสาเหตุ ที่แท้จริงและแก้ไขจากต้นเหตุครับมาถึง

00:17:4900:17:56 อีกด้านนึงของเหรียญนะครับคือคำถามที่ว่า ทำไมบางคนกินเยอะเหลือเกินแต่ไม่เห็นจะ

00:17:5600:18:02 อ้วนเลยคนกลุ่มนี้มีจริงครับและไม่ใช่ เรื่องของโชคชั่วอย่างเดียวเสมอไปแต่มี

00:18:0200:18:05 กลไกทางวิทยาศาสตร์ที่อธิบายได้ครับ ใช่

00:18:0500:18:11 ค่ะกลไกหลักๆที่ทำให้บางคนกินเยอะแต่ไม่ อ้วนก็คือการมีเมาบอลิึมสูงโดยธรรมชาติ

00:18:1100:18:16 นั่นเองค่ะอย่างที่เราได้อธิบายไปแล้วใน ส่วนของพันธุกรรมกรรมและองค์ประกอบร่าง

00:18:1600:18:21 กายบางคนอาจจะมียีนที่ส่งเสริมให้มี BMR ที่สูงกว่าผ้าเฉลี่ยทำให้ร่างกายเผาผลาน

00:18:2100:18:24 พลังงานได้มากกว่าแม้ในขณะที่พักผ่อนหรือ

00:18:2400:18:28 ทำกิจกรรมปกติค่ะ ครับนอกจาก BMR ที่สูง

00:18:2800:18:34 แล้วคนกลุ่มนี้มักจะมี Non Exercise Activity Thermogenesis NET ที่สูง

00:18:3400:18:41 ครับพวกเขาอาจจะเป็นคนขี้กระสับกระส่าย ไม่ชอบอยู่นิ่งๆชอบเดินไปเดินมาขยับตัว

00:18:4100:18:46 ตลอดเวลาหรือทำงานที่ต้องเคลื่อนไหวร่าง กายเยอะเยอะโดยไม่รู้ตัวครับการใช้พลัง

00:18:4600:18:52 งานในส่วนของ Net ที่สูงนี้สามารถสะสม เป็นพลังงานที่เผาผลาญไปได้มหาศาลตลอด

00:18:5200:18:55 ทั้งวันซึ่งช่วยชดเชยพลังงานที่ได้รับจาก

00:18:5500:18:58 อาหารที่กินเข้าไปเยอะนั่นเองครับ และอีก

00:18:5800:19:03 ประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องของ effect of food TEF ที่สูงค่ะบางคนอาจจะมี

00:19:0300:19:08 ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานเพื่อย่อยและ ดูดซึมอาหารที่สูงกว่าคนทั่วไปโดยเฉพาะ

00:19:0800:19:14 อย่างยิ่งถ้าพวกเขามักจะเลือกกินอาหารที่ มีโปรตีนสูงซึ่งโปรตีนมี TEF สูงกว่า

00:19:1400:19:19 คาร์โบไฮเดรตและไขมันอย่างมีในสำคัญทำให้ ร่างกายต้องใช้พลังงานในการย่อยอาหาร

00:19:1900:19:22 เหล่านั้นมากกว่าค่ะ ดังนั้นสำหรับคนที่

00:19:2200:19:27 รู้สึกว่าตัวเองกินน้อยก็ยังอ้วนง่ายหรือ ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญของตัว

00:19:2700:19:34 เองให้ดีขึ้นไม่ต้องถ้อใจไปนะครับเรามี กลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้เพื่อboบูost

00:19:3400:19:36 metabบisึมของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

00:19:3600:19:39 ครับ กลยุทธ์แรกและสำคัญที่สุดเลยก็คือการ

00:19:3900:19:44 สร้างและรักษามวลกล้ามเนื้อค่ะอย่างที่ เราได้บอกไปแล้วว่ากล้ามเนื้อเป็นเนื้อ

00:19:4400:19:49 เยื่อที่มีการเผาผลาญพลังงานสูงการออก กำลังกายแบบมีแรงต้านหรือ resistance

00:19:4900:19:55 training เช่นการยกเวทการใช้น้ำหนักตัว หรือการออกกำลังกายด้วยยางยีดจะช่วย

00:19:5500:19:59 กระตุ้นการสร้างและรักษามวลกล้ามเนื้อได้ อย่างมีประสิทธิภาพค่ะยิ่งเรามีกล้าม

00:19:5900:20:04 เนื้อมากเท่าไหร่ร่างกายเราก็จะเผาผลาญ พลังงานได้มากขึ้นเท่านั้นแม้ในขณะที่เรา

00:20:0400:20:07 พักผ่อนค่ะ ครับการออกกำลังกายแบบมีแรง

00:20:0700:20:13 ต้านไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่ม BMR เท่านั้นนะ ครับแต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทำให้

00:20:1300:20:18 รูปร่างกระชับขึ้นด้วยครับและควรทำอย่าง น้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์นะครับเพื่อให้

00:20:1800:20:21 เห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ กลยุทธ์ที่ 2

00:20:2100:20:27 คือการกินโปรตีนให้เพียงพอค่ะโปรตีนไม่ ได้แค่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อนะคะแต่ยังช่วย

00:20:2700:20:31 เพิ่ม termic effect of food TEF ได้ อย่างมีประสิทธิภาพด้วยลองพยายามให้

00:20:3100:20:37 โปรตีนเป็นส่วนหนึ่งของทุกมื้ออาหารดูนะ คะไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ไม่ติดมันปลาไข่

00:20:3700:20:42 ถั่วหรือผลิตภัณฑ์จากนมการกินโปรตีนจะ ช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้นและยังช่วย

00:20:4200:20:45 กระตุ้นการเผาผลาญได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้

00:20:4500:20:51 การนอนหลับที่มีคุณภาพและปริมาณที่เพียง พอก็เป็นสิ่งที่เราต้องใส่ใจครับพยายาม

00:20:5100:20:58 นอนให้ได้ 7-9 ช่โมงต่อคืนนะครับเพราะการ นอนไม่พอจะส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนที่ควบคุม

00:20:5800:21:04 ความหิวและความอิ่มอย่างเล็บินและเกรลิน ทำให้เราหิวบ่อยขึ้นและยังส่งผลต่อความไว

00:21:0400:21:07 ของอินซูลินด้วยครับซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผล

00:21:0700:21:10 เสียต่อการเผาผลาญของเราครับ การจัดการ

00:21:1000:21:14 ความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เรา สามารถปรับปรุงได้ค่ะอย่างที่เราทราบกัน

00:21:1400:21:19 ว่าความเครียดเรื้อรังจะเพิ่มระดับ ฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งส่งเสริมการสะสมไข

00:21:1900:21:24 มันบริเวณหน้าท้องลองหาวิธีผ่อนคลายความ เครียดที่เหมาะกับตัวเองนะคะไม่ว่าจะเป็น

00:21:2400:21:31 การทำสมาธิโยคะฟังเพลงหรือใช้เวลากับ ธรรมชาติการลดความเครียดจะช่วยปรับสมดุล

00:21:3100:21:33 ฮอร์โมนและส่งเสริมการเผาผลาญที่ดีขึ้น

00:21:3300:21:36 ค่ะ และอย่ามองข้ามเรื่องของการเคลื่อนไหว

00:21:3600:21:41 ตลอดวันหรือการเพิ่มนี้นะครับแม้ว่าคุณจะ ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้วแต่การนั่ง

00:21:4100:21:47 นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานๆก็ยังส่งผล เสียต่อสุขภาพและเมตabolิึมได้ครับลองลุก

00:21:4700:21:53 ขึ้นเดินทุกๆ 30 นาทีใช้บันไดแทนลิฟตเดิน คุยโทรศัพท์หรือหาโอกาสเคลื่อนไหวร่างกาย

00:21:5300:21:58 เล็กๆน้อยๆตลอดวันครับการเพิ่มนี้สามารถ สร้างความแตกต่างอย่างมากในการเผาผลาญ

00:21:5800:22:01 พลังงานรวมในแต่ละวันครับ และสุดท้ายแต่

00:22:0100:22:06 สำคัญไม่แพ้กันคือการดื่มน้ำเปล่าให้ เพียงพอค่ะการดื่มน้ำช่วยให้กระบวนการ

00:22:0600:22:12 เมตabลิึมในร่างกายทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพบางงานวิจัยยังพบว่าการดื่ม

00:22:1200:22:16 น้ำเย็นอาจช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้ เล็กน้อยเพราะร่างกายต้องใช้พลังงานในการ

00:22:1600:22:19 ปรับอุณหภูมิน้ำให้เท่ากับอุณหภูมิร่าง

00:22:1900:22:22 กายค่ะ ครับการboบูostmetabolisึมนั้นไม่

00:22:2200:22:27 ได้หมายถึงการหาวิธีลดน้ำหนักแบบเร่งรวน นะครับแต่การปรับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ให้

00:22:2700:22:32 เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายของเราสามารถเผา ผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

00:22:3200:22:35 ในระยะยาวครับและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ

00:22:3500:22:39 ความสม่ำเสมอและความยั่งยืนครับ ใช่เลยค่ะ

00:22:3900:22:43 และสิ่งหนึ่งที่เราอยากจะเน้นย้ำคือการ เปลี่ยนแปลงใดๆที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและ

00:22:4300:22:48 น้ำหนักควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปแล้ว เหมาะกับร่างกายของแต่ละบุคคลนะคะการลด

00:22:4800:22:54 น้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วเกิน ไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ค่ะ

00:22:5400:22:59 หากมีข้อสงสัยหรือข้อกังวลใดๆควรปรึกษา แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจะดีที่

00:22:5900:23:05 สุดค่ะคุณผู้ฟังและคุณผู้ชมทุกท่านค่ะวัน นี้เราได้ขายปริศนาความแตกต่างระหว่างคน

00:23:0500:23:11 ที่กินน้อยก็อ้วนง่ายกับกินเยอะก็ไม่ค่อย อ้วนกันไปแล้วนะคะเราได้เรียนรู้ว่า

00:23:1100:23:18 เมตabลิึมคืออะไรมีองค์ประกอบสำคัญอะไร บ้างและปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่ออัตรา

00:23:1800:23:25 การเผาผลาญของเราไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม เพศอายุองค์ประกอบร่างกายฮอร์โมนไปจนถึง

00:23:2500:23:28 ไลฟ์สไตล์ที่เราสามารถควบคุมได้ค่ะ ครับ

00:23:2800:23:34 เราได้เห็นแล้วนะครับว่าการกินน้อยก็อ้วน ง่ายไม่ใช่แค่ความรู้สึกแต่มีกลไกทาง

00:23:3400:23:39 วิทยาศาสตร์รองรับรวมถึงการปรับตัวของ ร่างกายเมื่อได้รับพลังงานไม่ทอและเราก็

00:23:3900:23:45 ได้พูดถึงกลยุทธ์สำคัญในการboบูost metabolism ของเราให้ทำงานได้ดีขึ้นโดย

00:23:4500:23:50 เน้นที่การสร้างมวลกล้ามเนื้อการกิน โปรตีนให้เพียงพอการนอนหลับที่มีคุณภาพ

00:23:5000:23:53 การจัดการความเครียดและการเคลื่อนไหวร่าง

00:23:5300:23:56 กายตลอดวันครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำ

00:23:5600:24:02 ความเข้าใจร่างกายของตัวเองค่ะและตระหนัก ว่าแต่ละคนมีความแตกต่างกันไม่มีสูตร

00:24:0200:24:08 สำเร็จตายตัวที่ใช้ได้กับทุกคนแต่การปรับ เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสมกับตัวเราบน

00:24:0800:24:14 พื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องจะเป็นกุญแจ สำคัญสู่สุขภาพที่ดีและน้ำหนักที่ยั่งยืน

00:24:1400:24:17 ค่ะ ครับแล้วหวังว่าข้อมูลในวันนี้จะเป็น

00:24:1700:24:21 ประโยชน์และสร้างความเข้าใจใหม่ๆให้กับ ทุกท่านที่กำลังสงสัยในเรื่องนี้อยู่นะ

00:24:2100:24:24 ครับ ถ้าคุณผู้ฟังและคุณผู้ชมชอบเนื้อหา

00:24:2400:24:30 แบบนี้อย่าลืมกดไลค์กดแชร์และแสดงความคิด เห็นใต้คลิปนี้ด้วยนะคะเราอยากรู้ว่าคุณ

00:24:3000:24:33 มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างค่ะ และสำหรับใคร

00:24:3300:24:39 ที่ยังไม่ได้กดติดตามช่องสุขภาพสนทนาอย่า ลืมกด Subscribe และกดกระดิ่งแจ้งเตือน

00:24:3900:24:44 เพื่อไม่ให้พลาดทุกสาระสุขภาพดีๆที่เรานำ มาฝากกันในทุกสัปดาห์นะครับแล้วพบกันใหม่

00:24:4400:24:47 ในตอนหน้าสำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อนนะ

00:24:4700:24:51 ครับสวัสดีครับ สวัสดีค่ะ