00:00:00 → 00:00:03 [เสียงดนตรี]
00:00:03 → 00:00:09 ปัจจุบัน สื่อก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ ชีวิตประจำวันของมนุษย์เรา
00:00:09 → 00:00:13 ทำให้การเลี้ยงเด็กก็อาจจะมีสื่อ เข้ามาเกี่ยวข้องในการเลี้ยงเด็กด้วย
00:00:14 → 00:00:16 การใช้สื่อเทคโนโลยีที่มากเกินไป
00:00:16 → 00:00:20 ใช้ชีวิตอยู่กับการสื่อสารทางเดียว ไม่ได้พูดคุยกับคนอื่น
00:00:20 → 00:00:22 ก็จะเหมือนกับไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
00:00:22 → 00:00:28 พัฒนาการทางด้านภาษาและสังคมของเด็ก ไม่ได้สามารถพัฒนาเจริญตามวัย
00:00:28 → 00:00:34 น่าจะเริ่มสงสัยเด็กนี่เป็นออทิสติกไหม หรือว่าเป็นออทิสติกเทียม
00:00:34 → 00:00:38 ปัจจุบันนี้มีชื่อเดียวเลยคือ Autism Spectrum Disorder
00:00:38 → 00:00:39 หรือว่าโรคออทิสติกค่ะ
00:00:39 → 00:00:48 [เสียงดนตรี]
00:00:48 → 00:00:53 คุณพ่อคุณแม่พบว่าเด็กนี่มีพัฒนาการช้า โดยเฉพาะด้านภาษา
00:00:53 → 00:00:56 ยังไม่พูด พูดได้ไม่สมกับวัยนะคะ
00:00:56 → 00:01:01 ก็อาจจะสงสัยว่าเด็กเป็นออทิสติกไหม หรือว่าเป็นออทิสติกเทียม
00:01:01 → 00:01:05 ภาวะออทิสติกเทียมไม่ได้เป็นการวินิจฉัย ในทางการแพทย์
00:01:05 → 00:01:13 คนส่วนใหญ่อาจจะนำคำนี้มาใช้พูดถึง เด็กที่มีลักษณะคล้ายกับภาวะออทิสติก
00:01:13 → 00:01:17 เกิดจากการเลี้ยงดู ที่อาจจะขาดการกระตุ้นพัฒนาการ
00:01:17 → 00:01:20 ไม่ได้มีการปฏิสัมพันธ์กันอย่างเท่าที่ควร
00:01:20 → 00:01:23 โรคออทิสติกเกิดจาก ความผิดปกติของสมอง
00:01:23 → 00:01:27 ส่งผลกับพัฒนาการ ทางด้านภาษาและสังคมค่ะ
00:01:27 → 00:01:32 โดยหลัก ๆ แล้วนี่ พัฒนาการที่ส่งผลกระทบของภาวะออทิสติก
00:01:32 → 00:01:34 จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ด้านด้วยกันค่ะ
00:01:34 → 00:01:37 ด้านแรก ด้านการพูดและการสื่อสารนะคะ
00:01:37 → 00:01:39 บางคนไม่พูดเลย
00:01:39 → 00:01:41 หรือว่าบางคนพูด แต่ฟังแล้วไม่เข้าใจ
00:01:41 → 00:01:43 พูดไม่เป็นคำหรือว่าพูดไม่เป็นภาษา
00:01:43 → 00:01:48 ยังพูดภาษาการ์ตูน หรือว่ามีการพูดตามคนที่ถาม
00:01:48 → 00:01:50 สนทนานี่ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ
00:01:50 → 00:01:52 แล้วก็ด้านที่ 2 ก็คือด้านสังคมนะคะ
00:01:52 → 00:01:56 เด็กก็จะมีลักษณะ ไม่ค่อยมองหน้าสบตาเวลาพูด
00:01:56 → 00:01:57 หรือว่าพูดคุยกับคนอื่นค่ะ
00:01:57 → 00:02:01 หรือว่าเรียกแล้วก็ไม่ค่อยหัน ไม่ค่อยสนใจคนรอบข้าง
00:02:01 → 00:02:04 มักจะอยู่แต่ในโลกของตัวเองค่ะ
00:02:04 → 00:02:07 อย่างที่ 3 เด็กก็จะมีพฤติกรรมซ้ำ ๆ
00:02:07 → 00:02:09 เป็นลักษณะเป็นแพทเทิร์น ยึดติด
00:02:09 → 00:02:11 มีแบบแผน แล้วก็ไม่ค่อยยืดหยุ่น
00:02:11 → 00:02:14 กินอาหาร กินอย่างเดิมซ้ำ ๆ
00:02:14 → 00:02:16 ต้องกินแบบนี้ทุกวัน
00:02:16 → 00:02:19 ถ้าไม่ได้กิน ก็จะมีลักษณะ เหมือนแสดงถึงความหงุดหงิด
00:02:20 → 00:02:21 ไม่พอใจ อารมณ์เสีย
00:02:22 → 00:02:24 หรือว่ามีอารมณ์รุนแรงก้าวร้าวได้
00:02:24 → 00:02:27 หรือว่ามีพฤติกรรมซ้ำ ๆ เช่น การสะบัดมือ
00:02:27 → 00:02:32 เขย่ง โยกตัว หรือว่ากระโดด หมุนวนซ้ำ ๆ อย่างนี้ค่ะ
00:02:32 → 00:02:35 โรคออทิสติก เด็กแต่ละคนนี่จะมีลักษณะ
00:02:35 → 00:02:40 หรือระดับพัฒนาการ หรือระดับอาการที่ค่อนข้างหลากหลาย
00:02:40 → 00:02:41 มีได้ตั้งแต่อาการน้อย
00:02:41 → 00:02:45 ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ ไปเรียนได้
00:02:45 → 00:02:49 โดยที่ยังมีอาการที่เป็นลักษณะบางอย่าง ของออทิสติก
00:02:49 → 00:02:52 ไปจนถึงอาการเยอะ เด็กอาจจะไม่พูดเลย
00:02:52 → 00:02:57 ไม่สามารถสื่อสาร หรือว่าโต้ตอบกับคนรอบข้างได้
00:02:57 → 00:02:59 ช่วยเหลือตัวเองพอได้แต่ว่าน้อย
00:02:59 → 00:03:04 ก็มีได้ตั้งแต่อาการน้อย ไปจนถึงอาการเยอะค่ะ
00:03:04 → 00:03:06 [เสียงดนตรี]
00:03:06 → 00:03:11 การเลี้ยงดูที่อาจจะทำให้เด็กมี ภาวะเหมือนออทิสติกเทียมได้แล้วกันนะคะ
00:03:11 → 00:03:14 ก็ลักษณะอย่างแรก ใช้สื่อเทคโนโลยีมากเกินไป
00:03:14 → 00:03:18 ให้เด็กใช้แท็บเล็ต หน้าจอมือถือ โดยที่ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
00:03:18 → 00:03:21 อย่างที่ 2 ไม่ได้ปล่อยให้เด็กทำอะไรด้วยตัวเอง
00:03:21 → 00:03:24 คุณพ่อคุณแม่อาจจะเป็นห่วง หรือว่ากังวลมากเกินไป
00:03:24 → 00:03:29 จนเด็กขาดการเรียนรู้ การควบคุมตัวเอง แล้วก็การเรียนรู้ในการช่วยเหลือตัวเอง
00:03:29 → 00:03:33 โดยปกติแล้ว เด็กเขาจะเรียนรู้ จากการลงมือทำอยู่แล้วค่ะ
00:03:33 → 00:03:37 เขาได้กล้ามเนื้อมาใหม่ เขาได้ลักษณะการสื่อสารมาใหม่
00:03:37 → 00:03:39 เขาต้องการการทดลอง
00:03:39 → 00:03:41 ทำจริง วิ่งจริง เจ็บจริงอย่างนี้ค่ะ
00:03:41 → 00:03:47 แล้วก็ลักษณะกิจกรรมที่ส่งเสริม ให้เขาเรียนรู้ในการช่วยเหลือตัวเอง
00:03:47 → 00:03:50 ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว
00:03:50 → 00:03:53 เป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ที่เขาควรจะทำได้
00:03:53 → 00:03:55 ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองทำแทน
00:03:55 → 00:03:57 เขาก็ขาดโอกาส
00:03:57 → 00:04:01 เขาก็ไม่ได้โอกาสในการที่จะเรียนรู้ ในการช่วยเหลือตัวเอง
00:04:01 → 00:04:04 แล้วก็อย่างที่ 3 ก็คือ เด็กอยู่คนเดียว ไม่ค่อยมีใครเล่นด้วย
00:04:04 → 00:04:06 คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ค่อยมีเวลานะคะ
00:04:06 → 00:04:11 เด็กก็มักจะอยู่แต่ในโลกของตัวเอง ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
00:04:11 → 00:04:13 แล้วก็ไม่ได้ออกไปเล่นกับเด็กคนอื่น
00:04:13 → 00:04:16 [เสียงดนตรี]
00:04:16 → 00:04:19 ขวบครึ่งหรือว่า 2 ขวบแล้ว ยังไม่พูดที่เป็นคำนะคะ
00:04:19 → 00:04:22 หรือว่าเด็กก็ดูไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง
00:04:22 → 00:04:26 ไม่ค่อยปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เรียกแล้วไม่หันอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:04:26 → 00:04:29 น่าจะเริ่มสงสัยเรื่องของออทิสติก
00:04:29 → 00:04:33 แต่ก็คงต้องประกอบกับ การดูพัฒนาการด้านอื่น ๆ
00:04:33 → 00:04:35 ทางด้านสังคมร่วมด้วย
00:04:35 → 00:04:38 แล้วก็ประเมินเกี่ยวกับ เรื่องการเลี้ยงดูร่วมด้วย
00:04:38 → 00:04:40 [เสียงดนตรี]
00:04:40 → 00:04:45 คำแนะนำในการช่วยเด็ก ที่มีพัฒนาการล่าช้านะคะ
00:04:45 → 00:04:48 โดยเฉพาะทางด้านภาษาแล้วก็สังคมนี่
00:04:48 → 00:04:50 อย่างแรกเลย 2 ขวบปีแรกนี่
00:04:50 → 00:04:55 ควรจะงดการใช้สื่อเทคโนโลยีเลย ในเด็ก 2 ขวบปีแรกนะคะ
00:04:55 → 00:04:58 สำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป
00:04:58 → 00:05:02 ก็อาจจะใช้ได้ แต่ว่าก็ควรจะจำกัดเวลา
00:05:02 → 00:05:04 ไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวันค่ะ
00:05:04 → 00:05:06 ก็ต้องเป็นสื่อที่มีคุณภาพ
00:05:06 → 00:05:12 อาจจะเป็นสื่อเกี่ยวกับการเรียนการสอน ที่ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมแล้วนะคะ
00:05:12 → 00:05:15 ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้เด็ก ใช้สื่อเพียงลำพังค่ะ
00:05:15 → 00:05:21 อย่างที่ 2 ก็ควรจะให้เวลา วันละ 15-30 นาทีก็ได้
00:05:21 → 00:05:23 ในการที่จะเล่นกับเด็ก
00:05:23 → 00:05:26 ก็เป็นการเล่นที่ให้ความสนใจกับเด็ก เพียงผู้เดียว
00:05:26 → 00:05:31 ไม่มีการเปิดโทรทัศน์หรือเปิดแท็บเล็ตอะไร เพื่อมาเป็นสิ่งรบกวน
00:05:31 → 00:05:33 ควรจะตัดสิ่งรบกวนเหล่านี้ออก
00:05:33 → 00:05:35 เล่นตามความสนใจของเด็กจริง ๆ
00:05:35 → 00:05:39 เล่นเป็นคุณครู เล่นเป็นคุณหมอ เล่นเป็นตำรวจ เล่นเป็นเชฟ
00:05:39 → 00:05:41 ตามความสนใจของเด็กค่ะ
00:05:41 → 00:05:45 ก็จะช่วยกระตุ้นให้ทักษะทางสังคมของเด็ก ดีขึ้นมาได้
00:05:45 → 00:05:51 อย่างที่ 3 ก็คือแนะนำให้ เด็กหากิจกรรมอื่น ๆ นอกบ้านทำบ้าง
00:05:51 → 00:05:55 เพื่อดึงออกจากการใช้สื่อเพียงอย่างเดียวค่ะ
00:05:55 → 00:05:58 ไม่ว่าจะเป็นการออกไปออกกำลังกาย เป็นประจำในทุก ๆ วัน
00:05:58 → 00:06:00 วันละ 30 นาที
00:06:00 → 00:06:02 หรือว่าออกไปเล่นนอกบ้าน เล่นกับเด็ก ๆ คนอื่น
00:06:02 → 00:06:06 เด็กก็จะเริ่มเรียนรู้ที่จะมีชีวิต
00:06:06 → 00:06:09 หรือว่าใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้
00:06:09 → 00:06:14 ครอบครัวเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้ พัฒนาการของเด็กนี่
00:06:14 → 00:06:15 มีการพัฒนาการที่ดีขึ้น
00:06:16 → 00:06:19 แล้วก็ถ้าเด็กได้รับการรักษา
00:06:19 → 00:06:23 และรับการใส่ใจจากคุณพ่อคุณแม่ ที่ใส่ใจในพัฒนาการของเด็ก
00:06:23 → 00:06:26 แล้วก็พาเด็กเข้ามารับการประเมิน จากแพทย์เฉพาะทาง
00:06:26 → 00:06:30 วินิจฉัยที่ถูกต้อง ได้รับการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง
00:06:30 → 00:06:32 แล้วก็ได้รับการปรับปรุงการดูแลนี่
00:06:32 → 00:06:36 เชื่อว่าเด็กจะมีพัฒนาการและศักยภาพ ที่ดีขึ้นแน่นอน
00:06:36 → 00:06:42 [เสียงดนตรี]
00:06:43 → 00:06:46 ถ้าคุณมีปัญหาสุขภาพ อย่าลืมมาพบหมอกันนะคะ
00:06:46 → 00:06:48 ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้
00:06:48 → 00:06:50 มหาวิทยาลัยมหิดล
00:06:50 → 00:06:51 ปัญญาของแผ่นดิน