00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับยินดีต้อนรับเข้าสู่
00:00:02 → 00:00:04 Channel เรื่องเล่าจากร่างกายนะครับผม
00:00:04 → 00:00:07 บอกแล้วนะครับแต่แพทย์ชะพลจราจรค่ะดานะ
00:00:07 → 00:00:09 ครับสำหรับวันนี้เราก็ยังอยู่เรื่องเดิม
00:00:09 → 00:00:12 นะครับเป็นตอนที่ 2 ของกลัวพ่อว่ารู้ไหม
00:00:12 → 00:00:15 ครับว่ากลุ่มกันของคนทำงานยังไงในตอนที่
00:00:15 → 00:00:16 แล้วนะครับเราคุยกันไว้ว่าภูมิระบบภูมิ
00:00:16 → 00:00:19 คุ้มกันนะครับเราสามารถมองได้ว่ามันแบ่ง
00:00:19 → 00:00:20 เป็น 3 ด้านใหญ่ๆนะครับคือการที่ 1 และ
00:00:20 → 00:00:23 ด่านที่ 2 ขนาดที่ 3 นะครับที่นี่ในตอน
00:00:23 → 00:00:25 ที่ 1 เราคุยถึงการที่ 1 ไปแล้วนะครับถ้า
00:00:25 → 00:00:27 ใครยังไม่ได้ดูนะครับก็สามารถกลับไปดู
00:00:27 → 00:00:30 ก่อนได้นะครับก็ปุพื้นกว้างไว้ให้ฟังนะ
00:00:30 → 00:00:32 ครับวันนี้เราจะมาคุยถึงการที่สองค่ะ
00:00:32 → 00:00:34 อย่างที่สามนะครับแล้วก็ในตอนที่แล้ว
00:00:34 → 00:00:36 เนี่ยผมก็พูดได้ว่าอยากที่ 2 ที่ 3 ที่จะ
00:00:36 → 00:00:39 ไม่เป็นระบบเดียวกันนะครับทีนี้คำถามก็
00:00:39 → 00:00:41 คือว่าท่านเป็นระบบเดียวกันเนี่ยการที่
00:00:41 → 00:00:43 สองอย่างที่สามเนี่ยมันทำงานต่างกันยังไง
00:00:43 → 00:00:45 นะครับวันนี้เราจะมาคุยเรื่องนี้กันนะ
00:00:45 → 00:00:48 ครับที่คำตอบสำหรับคำถามนี้นะครับแบบภาพ
00:00:48 → 00:00:50 ใหญ่เลยนะครับที่ไม่เอารายละเอียดก็คือ
00:00:50 → 00:00:53 ว่าถ้าเราได้ถึงเวลาไปฉีดวัคซีนนะครับเรา
00:00:53 → 00:00:55 จะเห็นว่ามันจะฉีดวัคซีนเนี่ยวันที่ 2 นะ
00:00:55 → 00:00:57 ครับวันแรกวันที่ 2 เนี่ยเราจะเรียกอาการ
00:00:57 → 00:01:00 ระบมถูกมั้ยคะบางคนระบมที่เรียนที่จนะ
00:01:00 → 00:01:03 ครับหรือบางคนอยากจะมีอาการที่เรียกว่า
00:01:03 → 00:01:05 บางคนมีอาการข้างเคียงนะครับจริงๆมันคือ
00:01:05 → 00:01:07 อาการที่เราคาดหวังว่ามันจะเกิดขึ้นก็คือ
00:01:07 → 00:01:09 ว่าจะมีอาการของไข้นะครับก็คงจะมีค่า
00:01:09 → 00:01:11 เนื้อคั่นตัวรู้สึกเหงาสารนะครับอ่อน
00:01:11 → 00:01:14 เพลียเบื่ออาหารในวันที่ 2 นะครับซึ่ง
00:01:14 → 00:01:16 อาการเหล่านี้มันเป็นการทำงานของระบบภูมิ
00:01:16 → 00:01:19 คุ้มกันด่านที่ 2 นะครับที่นี่ด่างที่ 3
00:01:19 → 00:01:22 ในคืออะไรปกติเราฉีดวัคซีนสิ่งเธอต้องการ
00:01:22 → 00:01:24 นั่นคือว่าเราต้องการให้ร่างกายเราได้มี
00:01:24 → 00:01:26 ภูมิสำหรับเชื้อนั้นถูกไหมครับซึ่งอันนี้
00:01:26 → 00:01:29 เป็นการทำงานของงานที่ 3 ซึ่งจะทำงานช้า
00:01:29 → 00:01:31 กว่าเพราะว่าร่างกายจะต้องใช้เวลาในการ
00:01:31 → 00:01:34 สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาแล้วให้กระบวนการ
00:01:34 → 00:01:37 ที่ร่างกายไม่ค่อยๆสร้างภูมิขึ้นมานะครับ
00:01:37 → 00:01:39 ซึ่งต้องใช้เวลา 7-10 วันเป็นอย่างน้อย
00:01:39 → 00:01:42 เนี่ยมันก็คือการทำงานของด่านที่ 3 โอเค
00:01:42 → 00:01:44 ทีนี้พอเถียรภาพพวกคราวแล้วนะครับเวลาที่
00:01:44 → 00:01:46 2 ขณะที่สามที่เราจะคุยกันเนี่ยมันคือ
00:01:46 → 00:01:48 อะไรนะครับเดี๋ยวเราจะเป็นมาลงรายละเอียด
00:01:48 → 00:01:50 เพิ่มเติมกันสักเล็กน้อยนะครับจะได้เข้า
00:01:50 → 00:01:53 ใจเกี่ยวกับการทำงานของยาที่ 2 รายการที่
00:01:53 → 00:01:55 3 และมากขึ้นเริ่มต้นจากชื่อก่อนนะครับ
00:01:55 → 00:01:58 ก็คือแบบที่ 2 มันมีชื่อเรียกอย่างทางการ
00:01:58 → 00:02:01 ว่าอินเนสมูนิตี้นะครับ More in the
00:02:01 → 00:02:03 เนี่ยมึงแปลว่าแต่กำเนิดนะครับซึ่งก็หมาย
00:02:03 → 00:02:04 ความว่าได้ที่ 2 เนี่ยมันสามารถเริ่มทำ
00:02:04 → 00:02:08 งานได้ตั้งแต่เราเกิดมาเลยนะครับออดันที่
00:02:08 → 00:02:10 3 เนี่ยมันมีชื่อเรียกนะครับปฏิทินชื่อ 2
00:02:10 → 00:02:13 ชื่อด้วยกันชื่อและแว็กซ์ควายอินฟินิตี้
00:02:13 → 00:02:15 นะครับแต่ความที่แปลว่าต้องได้รับมาก่อน
00:02:15 → 00:02:18 ซึ่งความหมายของมันคือว่าจากที่ 3 จะทำ
00:02:18 → 00:02:20 งานได้ไม่ต้องได้รับเชื้อเข้ามาเกาะนอีก
00:02:20 → 00:02:22 ชื่อหนึ่งของด่านที่ 3 ในมีชื่อว่าอันดับ
00:02:22 → 00:02:25 ที่ฟิวมูนิตี้นะครับซึ่งอันดับคำนี้เนี่ย
00:02:25 → 00:02:27 ที่แปลว่าปรับนะครับปรับให้เหมาะสมเนี่ย
00:02:27 → 00:02:30 ว่าปรับตัวเนี่ยมันหมายความว่าด่านที่ 3
00:02:30 → 00:02:33 เนี่ยในการตอบสนองเขามาเนี่ยมันจะเป็นการ
00:02:33 → 00:02:36 ตอบสนองที่มีการปรับเพื่อให้บอกกับเชื้อ
00:02:36 → 00:02:38 โรคตัวนั้นก่อนซึ่งก็คือปรับให้มีความ
00:02:38 → 00:02:41 จำเพาะก่อนที่นี่พอมาคุยตรงนี้เนี่ยเราก็
00:02:41 → 00:02:43 ได้สามารถสรุปได้นะครับว่าความต่าง
00:02:43 → 00:02:45 ระหว่างที่สองค่ะอย่างที่สามเนี่ยอย่าง
00:02:45 → 00:02:47 แรกก็คือด่านที่ 2 เนี่ยมันจะตอบสนองเร็ว
00:02:47 → 00:02:50 กว่าหมายความว่าเมื่อโชคเข้ามาปุ๊บเซลล์
00:02:50 → 00:02:52 ที่เกี่ยวข้องกับการที่ 3 หรือว่าสมาชิก
00:02:52 → 00:02:55 เวทีเนี่ยก็จะตอบสนองไปเลยนะครับทีนี้การ
00:02:55 → 00:02:57 ตอบสนองของด่านที่ 2 เนี่ยมันจะไม่มีความ
00:02:57 → 00:03:00 จำเพาะนะครับมาถึงว่ามันรู้เหล่านี้คือ
00:03:00 → 00:03:02 อีกหนึ่งแปลกปลอมที่เข้ามานะครับสุกสัญญา
00:03:02 → 00:03:04 น่าจะเป็นเชื้อโรคแล้วมันก็ตอบสนองไปด้วย
00:03:04 → 00:03:07 ที่มันไม่ได้รู้ว่าสิ่งเนี้ยเป็นชื่อโรค
00:03:07 → 00:03:09 ชนิดไหนนะครับคือไม่มีความจำเพาะดังนั้น
00:03:09 → 00:03:12 วิธีการตอบสนองของบรรดาจะไม่คล้ายกันหมด
00:03:12 → 00:03:13 หมายความว่าเราจะเป็นเชื้อตัวไหนก็ตามมา
00:03:13 → 00:03:16 ฉันไหมครับใช้กระบวนท่าเดียวในการต่อสู้
00:03:16 → 00:03:19 แต่ด่านที่ 3 เนี่ยต้องการข้อมูลของเชื้อ
00:03:19 → 00:03:22 โรคมาเกาะนั่นหมายความว่าเมื่อโชคบุกเข้า
00:03:22 → 00:03:24 มาแล้วมันไม่สามารถตอบสนองทันทีมันต้องรอ
00:03:24 → 00:03:26 ข้อมูลก่อนว่าเชื้อโรคที่บุกเข้ามาเนี่ย
00:03:26 → 00:03:29 มีหน้าตาแบบไหนจากนั้นเดี๋ยวมันค่อยไปหา
00:03:29 → 00:03:32 วิธีที่จะตอบสนองให้มีความจำเพาะสำหรับ
00:03:32 → 00:03:35 เชิญๆดังๆนะครับอย่างที่สองแล้วนะที่ 3
00:03:35 → 00:03:37 เนี่ยก็คือจะต่างกันของความเร็วดันที่สอง
00:03:37 → 00:03:40 เนี่ยตอบสนองเร็วแต่ว่าไม่จำเพาะด้านที่ 3
00:03:40 → 00:03:43 เนี่ยจะต้องรอแต่ว่าการตอบสนองเนี่ยจาก
00:03:43 → 00:03:46 จำเพาะมากกว่าก็ทำให้มีข้อดีก็คือมี
00:03:46 → 00:03:48 ประสิทธิภาพมากกว่าที่นี้นะครับเรามาดูใน
00:03:48 → 00:03:51 แง่ของเป้าหมายนะครับของการกับสองแบบแบบ
00:03:51 → 00:03:54 ที่ 2 อย่างที่สามเนี่ยต่างกันยังไงอย่าง
00:03:54 → 00:03:55 ที่สองเนี่ยต้องบอกว่ามันเหมือนกับโฟกัส
00:03:55 → 00:03:58 หลักๆเลยเป็นเรื่องของการที่จะพยายาม
00:03:58 → 00:04:01 จำกัดนะครับพื้นที่มีการติดเชื้อไม่ให้
00:04:01 → 00:04:04 มันกระจายออกไปเป้าหมายการนึงนะครับของ
00:04:04 → 00:04:06 อย่างที่ 2 นะครับก็คือพยายามที่จะให้
00:04:06 → 00:04:08 เชื้อที่เข้ามาแล้วนะครับในบริเวณนั้น
00:04:08 → 00:04:11 เนี่ยถูกชะล้างนะครับถูกเจอจางหรือว่าหา
00:04:11 → 00:04:13 วิธีที่จะขจัดเชื้อนะเนี่ยออกไปจากร่าง
00:04:13 → 00:04:16 กายวิธีการเรียนมันก็ไม่จะออกมาในรูปแบบ
00:04:16 → 00:04:19 ของอาการต่างๆที่เราคุ้นเคยกันนะครับเช่น
00:04:19 → 00:04:22 การมีน้ำตาไหลนะครับการมีน้ำมูกการดี
00:04:22 → 00:04:24 เสมหะนะครับหรือว่าจะเป็นเรื่องของทาน
00:04:24 → 00:04:27 อาหารก็จะเรื่องของอาการท้องเสียนะครับ
00:04:27 → 00:04:29 โดยที่ร่างกายจะใช้วิธีการหลั่งสารนะครับ
00:04:29 → 00:04:32 หลังของเหลวหลังน้ำต่างๆเนี่ยเข้าไปใน
00:04:32 → 00:04:34 บริเวณนั้นเยอะๆนะครับน้ำที่เข้ามาใน
00:04:34 → 00:04:36 บริเวณนั้นเพิ่มมากขึ้นเนี่ยมันก็เหมือน
00:04:36 → 00:04:38 กับมาเพียงที่จะมาเจอจางนะครับความเป็น
00:04:38 → 00:04:41 พิษนะครับหรือถ้าเป็นลักษณะของน้ำมูก
00:04:41 → 00:04:43 เสมหะหรือน้ำตาเนี่ยมันก็คือการพยายาม
00:04:43 → 00:04:45 ชาร์จล้างนะครับสิ่งที่แปลกปลอมหรือว่า
00:04:45 → 00:04:48 ผู้ฉโลกเรียนให้ออกไปจากร่างกายโดยพวกน้ำ
00:04:48 → 00:04:50 มูกนะครับเสริมผ่านไม่ค่อยเป็นเมื่อคิด
00:04:50 → 00:04:54 ถึงจะมาจับพวกตัวเชื้อโรคนะครับแล้วก็ตาม
00:04:54 → 00:04:58 ผิวที่บุกด้านในของขอท่อทางเดินหายใจนะ
00:04:58 → 00:05:00 ครับทางเดินหานะมันก็จะมีเรื่องของคนเล็ก
00:05:00 → 00:05:03 ๆเต็มที่จะคอยพันโบกให้ตัวเมื่อพวกนี้มัน
00:05:03 → 00:05:05 อยู่ดอกไม้นะครับทำให้เรารู้สึกว่าอยากจะ
00:05:05 → 00:05:07 สั่งน้ำมูกหรือว่าอยากที่จะขับเสมหะเนี่ย
00:05:07 → 00:05:10 ออกมานั้นนะครับก็คือเป้าหมายนะครับของ
00:05:10 → 00:05:12 การตอบสนองของฐานที่ 2 นะครับที่นี่สอบ
00:05:12 → 00:05:14 อย่างที่ 3 ในจริงๆเราจะไม่เห็นเป็น
00:05:14 → 00:05:17 ลักษณะเป็นออกมาเป็นอาการที่เรารับรู้ว่า
00:05:17 → 00:05:19 นี่คืออาการนะครับเพราะว่านะครับด้านที่ 3
00:05:19 → 00:05:21 เนี่ยก็อย่างที่บอกนั่นคือกระบวนการที่
00:05:21 → 00:05:23 พี่เอ็มซ่านะครับการตอบสนองผู้กันที่
00:05:23 → 00:05:25 เฉพาะกับเชื้อนั้นก็คือจะสร้างสิ่งที่
00:05:25 → 00:05:27 เรียกว่าดิบดีออกมาเพื่อมาจับกับเชื้อโรค
00:05:27 → 00:05:30 ซึ่งการรับส่งคนงานที่ 3 นะครับจะทำให้
00:05:30 → 00:05:32 การตอบสนองแล้วการต่อสู้ประชุมโรงเรียนมี
00:05:32 → 00:05:34 ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นนะครับก็คือดีกว่า
00:05:34 → 00:05:36 ได้ที่ 2 ซึ่งต่อสู้แบบที่ไม่รู้ว่าหน้า
00:05:36 → 00:05:39 ตาของเชื้อโรคเนี่ยเป็นยังไงแล้วที่สำคัญ
00:05:39 → 00:05:41 มากอีกอย่างนึงนะครับของการที่ 3 ว่าคือ
00:05:41 → 00:05:44 ว่ามันมีความจำครับหมายถึงว่ามันสามารถ
00:05:44 → 00:05:46 แยกเซฟข้อมูลนะครับหรือจำข้อมูลได้ว่า
00:05:46 → 00:05:49 เช่นโรคที่บุกเข้ามาเนี่ยหน้าตาเป็นแบบ
00:05:49 → 00:05:51 นี้ในอนาคตนะครับส่วนเราขายโปรจะข้างนี้
00:05:51 → 00:05:53 ไปแล้วครั้งหน้ามีเชื้อและบุกเข้ามาอีกนะ
00:05:53 → 00:05:56 ครับเชื่อตัวเดิมนะครับร่างกายเราก็จะ
00:05:56 → 00:05:58 สามารถที่ยันดีแทคได้เลยนะครับรู้ทันที
00:05:58 → 00:06:00 ว่าตัวนี้เคยเข้ามาแล้วนะครับแล้วก็ก็
00:06:00 → 00:06:02 สามารถที่จะหาวิธีการตอบสนองแบบที่จำเพาะ
00:06:02 → 00:06:05 เนี่ยออกมาได้เลยโดยที่ไม่ต้องมาผ่าน
00:06:05 → 00:06:07 กระบวนการทั้งหมดนะครับอีกรอบนะครับ
00:06:07 → 00:06:09 เหมือนที่เกิดขึ้นในตอนที่เชื้อโรคบุก
00:06:09 → 00:06:12 เข้ามาครั้งแรกโอเคพอเห็นเค้าๆนะครับว่า
00:06:12 → 00:06:14 เป้าหมายของแต่ละด่านเนี่ยมันต่างกันยัง
00:06:14 → 00:06:16 ไงนะครับคราวนี้นะครับผมอยากจะชวนลงลึกไป
00:06:16 → 00:06:19 ฆ่านึงนะครับเป็นดูว่าในทีมนะครับและ
00:06:19 → 00:06:21 สมาชิกของระบบภูมิคุ้มกันที่เราคุยกันไป
00:06:21 → 00:06:24 เนี่ยทางด้านที่ 2 ให้การที่ 3 มันมีใคร
00:06:24 → 00:06:26 บ้างนะครับแล้วมันแบ่งหน้าที่กันทำงานยัง
00:06:26 → 00:06:28 ไงบ้างนะครับปกติเวลาเราพูดถึงระบบภูมิ
00:06:28 → 00:06:30 คุ้มกันในผมเชื่อว่าหลายคนจะนึกถึงไม่
00:06:30 → 00:06:33 เลือดขาวถูกไหมครับซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนะ
00:06:33 → 00:06:35 ครับเพราะว่ามันเลือดขาวในถือว่าเป็น
00:06:35 → 00:06:37 เหมือนกับตัวหลักนะครับหรือว่าเป็นศูนย์
00:06:37 → 00:06:40 กลางครับที่เชื่อม Network ต่างๆเข้าด้วย
00:06:40 → 00:06:43 กันแต่ว่าไม่ขาวเลยไม่ใช่แค่สิ่งเดียวนะ
00:06:43 → 00:06:46 ครับในระบบภูมิคุ้มกันระบบโครงการแบบมัน
00:06:46 → 00:06:48 มีสมาชิกเนี่ยที่เข้ามาเกี่ยวข้องในมาก
00:06:48 → 00:06:50 มายนะครับทั้งส่วนที่เป็นอวัยวะนะครับ
00:06:50 → 00:06:52 เป็นเนื้อเยื่อและก็เป็นเซลล์ต่างๆมากมาย
00:06:52 → 00:06:55 ที่นี่เน็ตเวิร์กของภูมิคุ้มกันนะครับก็
00:06:55 → 00:06:57 จะเริ่มพูดถึงตั้งแต่ผิวหนังนะครับอย่าง
00:06:57 → 00:06:59 ที่เราคุยกันในตอนที่แล้วว่าผิวหนังผิวโค
00:06:59 → 00:07:02 ซ่าแล้วคะเป็นฐานแรกนะครับป้องกันในช่วง
00:07:02 → 00:07:05 บกเข้ามาลองเหลือไปจากนั้นก็จะมีเอาเอา
00:07:05 → 00:07:07 ต่างๆมากมายนะครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
00:07:07 → 00:07:09 ใครกระดูกนะครับเสมือนเป็นโรงงานครับที่
00:07:09 → 00:07:11 ผลิตเป็นเลือดต่างๆนะครับซึ่งก็รวมถึงได้
00:07:11 → 00:07:14 เลยขาวซึ่งเป็นเหมือนกับพระเอกของระบบ
00:07:14 → 00:07:17 ภูมิคุ้มกันนะครับก็อวัยวะอย่างตับแล้วก็
00:07:17 → 00:07:20 มามาเนี่ยก็เกี่ยวข้องด้วยนะครับยกตัว
00:07:20 → 00:07:22 อย่างนะครับปั๊บเนี่ยก็จะมีพวกเขียวเซลล์
00:07:22 → 00:07:25 ภูมิคุ้มกันเข้าไปอยู่เยอะมากนะครับคำถาม
00:07:25 → 00:07:27 คือทำไมนะครับเพราะว่าจะจำกันได้นะครับ
00:07:27 → 00:07:29 ตอนที่เราคุยเรื่องของการทำงานของกลับนะ
00:07:29 → 00:07:31 ครับอันหนึ่งที่ผมเคยเล่าไว้นะครับก็คือ
00:07:31 → 00:07:34 ว่าปกติเมื่อเรากินอาหารเสร็จแล้วนะครับ
00:07:34 → 00:07:36 แล้วก็อาหารให้ทุกเดือนลำไส้ผ่านผนังลำ
00:07:36 → 00:07:38 ไส้เล็กเนี่ยมันจะถูกส่งผ่านเข้าไปที่
00:07:38 → 00:07:40 ซื้อเลื่อนใหญ่เส้นหนึ่งซึ่งวิ่งตรงไปที่
00:07:40 → 00:07:43 ตับที่นี่จะเห็นว่าตอบเหมือนเป็นด่านหน้า
00:07:43 → 00:07:46 นะครับที่จะรับสารอาหารที่มาจากลำไส้เล็ก
00:07:46 → 00:07:48 โดยตรงซึ่งก็แน่นอนว่าอาหารที่เรากินเข้า
00:07:48 → 00:07:51 ไปในบางครั้งก็จะมีเชื้อโรคปนเพื่อนๆเข้า
00:07:51 → 00:07:53 ไปด้วยนะครับซึ่งตอบใกล้จะมีพวกเซลล์ภูมิ
00:07:53 → 00:07:55 คุ้มกันอยากจะอยู่จำนวนมากนะครับเพื่อจะ
00:07:55 → 00:07:58 ไม่ครับคอยไปกรองนะครับให้แน่ใจว่าการดูด
00:07:58 → 00:07:59 ซึมที่เข้าไปเนี่ยมันไม่มีเชื้อ
00:07:59 → 00:08:02 จุลินทรีย์ก็จะเกาะโรคให้กับร่างกายก็ได้
00:08:02 → 00:08:05 ที่นอกเหนือจากไขกระดูกนะครับตับม้ามนะ
00:08:05 → 00:08:07 ครับก็จะมีเรื่องของต่อมน้ำเหลืองนะครับ
00:08:07 → 00:08:09 รับท่อน้ำเหลืองซึ่งต่อมน้ำเหลืองเนี่ย
00:08:09 → 00:08:12 มันก็คือมันก็คือเป็นต่อมาครับเป็นเล็กๆ
00:08:12 → 00:08:14 นะครับเล็กอาจจะประมาณสักเครื่องหนึ่งของ
00:08:14 → 00:08:16 เป็นถั่วเขียวนะครับประมาณสักครึ่งเซนนะ
00:08:16 → 00:08:19 ครับเลยกว่านั้นออกกระจายอยู่โทษร่างกาย
00:08:19 → 00:08:21 นะครับตั้งแต่หัวถึงเท้านะครับนอกเหนือ
00:08:21 → 00:08:23 จากนั้นนะครับก็จะมีอวัยวะที่หลายคนอาจจะ
00:08:23 → 00:08:25 ไม่คุ้นเคยนะครับอย่างเช่นป้อมไทยมาสนะ
00:08:25 → 00:08:27 ครับต้องไทยมาสเนี่ยก็จะอยู่แถวๆเบย์
00:08:27 → 00:08:29 เนี่ยนะครับก็คือเป็นด้านคอด้านหลังๆนะ
00:08:29 → 00:08:31 ครับเดี๋ยวบางคนจะเลื่อนยอดออกก็ได้นะ
00:08:31 → 00:08:33 ครับซึ่งต้องใช้มาสค์ name ก็จะเป็นต่อม
00:08:33 → 00:08:36 ที่เหมือนกับทำหน้าที่เป็นโรงเรียนนะครับ
00:08:36 → 00:08:39 สอนในเลือดขาวก็คือว่าจะไม่เลิกขาวเกิด
00:08:39 → 00:08:41 ที่ใครกระดูกนะครับจะมีไม่เหลือขาบางส่วน
00:08:41 → 00:08:44 เดินทางที่ต่อมไทมัสเพื่อมาเจริญและพัฒนา
00:08:44 → 00:08:47 นะครับถึงจะรู้ว่าเข้าโรงเรียนต่อก็ได้นะ
00:08:47 → 00:08:48 ครับเพื่อจะทำหน้าที่บางอย่างที่จำเพาะ
00:08:48 → 00:08:51 สำหรับเซลล์นั้นๆโดยสรุปนะครับประเด็น
00:08:51 → 00:08:54 สำคัญที่อยากให้เห็นภาพคือว่าระบบภูมิ
00:08:54 → 00:08:57 คุ้มกันเนี่ยมันเป็นเน็ตเวิร์คนะครับของ
00:08:57 → 00:09:00 อวัยวะต่างๆนะครับหลายอวัยวะในร่างกายแม้
00:09:00 → 00:09:02 แต่อยู่ในวัดที่หลักๆทำหน้าที่ในระบบอื่น
00:09:02 → 00:09:04 นะครับเช่นทางเดินอาหารเนี่ยมันก็ถือว่า
00:09:04 → 00:09:07 เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันด้วยโอเค
00:09:07 → 00:09:09 คราวนี้นะครับเราจะมาคุยถึงพระเอกกันบ้าง
00:09:09 → 00:09:11 นะครับก็คือเซลล์เม็ดเลือดขาวนะครับที่
00:09:11 → 00:09:13 เราบอกว่าเป็นพระเอกเพราะว่าไม่เลือดขาว
00:09:13 → 00:09:15 ที่มันเหมือนเป็นตัวที่คอยเชื่อมทั้งได้
00:09:15 → 00:09:17 เบิกทั้งหมดเข้าด้วยกันนะครับที่นี่ก็
00:09:17 → 00:09:19 อย่างที่บอกนะครับไม่ลดขาวแล้วมันมี
00:09:19 → 00:09:21 สมาชิกค่อนข้างเยอะนะครับแล้วก็มีความ
00:09:21 → 00:09:23 หน้าที่การทำงานในที่ค่อนข้างซับซ้อนมาก
00:09:23 → 00:09:26 มายนะครับเดี๋ยวที่เราจะคุยกันคำจะมีชื่อ
00:09:26 → 00:09:28 ค่อนข้างเยอะนะครับอันนี้ผมอยากจะบอกว่า
00:09:28 → 00:09:30 เกาะเลยนะครับว่าจริงที่เล่าทั้งหมดนี้
00:09:30 → 00:09:32 ไม่ได้ตั้งใจให้จำชื่อทุกชื่อนะครับไม่
00:09:32 → 00:09:34 ได้อยากให้รู้จักหน้าที่ทุกหน้าที่ของ
00:09:34 → 00:09:36 เมล็ดขาวแต่ที่เล่ามันจะเป็นการยกตัว
00:09:36 → 00:09:38 อย่างให้เห็นนะครับโดยเฉพาะตัวที่สำคัญ
00:09:38 → 00:09:41 สำคัญนะครับที่นี่ผมเชื่อว่าถ้าได้ยินสัก
00:09:41 → 00:09:44 ครั้งในเวลาจากพอคุ้นหูนะครับข้างหน้าก็
00:09:44 → 00:09:46 ได้ยินที่อื่นมันจะจำได้ง่ายขึ้นนะครับ
00:09:46 → 00:09:48 แต่ว่าจริงๆหลักๆที่เราให้ฟังหน่อยคือแค่
00:09:48 → 00:09:50 อยากให้เห็นภาพนะครับว่าให้ระบบภูมิคุ้ม
00:09:50 → 00:09:53 กันหรือว่าไม่เลือดขาวเนี่ยมันทำงานร่วม
00:09:53 → 00:09:55 กันยังไงนะครับอันนี้ผมอยากจะขอเริ่มจาก
00:09:55 → 00:09:57 เม็ดเลือดขาวที่อยู่ในด่านที่สองก่อนนะ
00:09:57 → 00:09:59 ครับตัวแรกที่อยากจะแนะนำให้รู้จักนะครับ
00:09:59 → 00:10:02 มีชื่อว่าแม็คโครก็อาจนะครับคำว่ามาขอฝาก
00:10:02 → 00:10:04 ชื่อเนี่ยค่อนข้างอธิบายลักษณะหน้าตาของ
00:10:04 → 00:10:06 เซลล์นะครับเขาว่าแม็คโครเนี่ยมันแปลว่า
00:10:06 → 00:10:09 ใหญ่ถูกไหมครับส่วนคำว่าฝากนะครับมันแปล
00:10:09 → 00:10:11 ว่ากินเพราะว่าเซลล์ตัวนี้นะคะมันเป็น
00:10:11 → 00:10:13 เซลล์ที่ตอนที่ 2 กล้องจุลทรรศน์เข้าไป
00:10:13 → 00:10:16 เนี่ยเราจะเห็นว่ามันใหญ่กว่าเส้นอื่นเรา
00:10:16 → 00:10:19 ก็มันทำหน้าที่เด็กกินพวกแตกทีเรียนะครับ
00:10:19 → 00:10:21 หรือว่าชูรสต่างๆจุลินทรีย์ต่างๆที่เข้า
00:10:21 → 00:10:23 มาในร่างกายของเราได้ที่นี่มากก็ฝากเนี่ย
00:10:23 → 00:10:27 เราจากที่อยู่ของมันนะครับนะก็ฝากปกติมัน
00:10:27 → 00:10:29 จะอยู่ในโดยที่เราเป็นเนื้อเยื่อต่างๆของ
00:10:29 → 00:10:32 ร่างกายนะครับที่นี่ปลาพูดถึงเยอะเนี่ยผม
00:10:32 → 00:10:34 อยากจะวาดภาพให้เห็นนึงก่อนนะครับคือถ้า
00:10:34 → 00:10:36 เรามองร่างกายของเรานะครับให้มองสุดแล้ว
00:10:37 → 00:10:38 บอกว่าเส้นเลือดนะครับเป็นเหมือนเป็น
00:10:38 → 00:10:41 เน็ตเวิร์คนะครับของขอทางหลวงนะครับเป็น
00:10:41 → 00:10:44 ถนนทางหลวงและเป็นถนนไฮเวย์เนี่ยที่วิ่ง
00:10:44 → 00:10:47 ตามส่วนต่างของร่างกายพวกนี้ต่างๆก็จะ
00:10:47 → 00:10:49 หมายถึงเหมือนกันเป็นทีมต่างๆนะครับอาจจะ
00:10:49 → 00:10:52 เป็นอำเภอเป็นจังหวัดต่างๆนะครับก็คือ
00:10:52 → 00:10:55 เป็นแต่ละท้องถิ่นนะครับที่นี่นะคะฝากมัน
00:10:55 → 00:10:57 จะเหมือนกับตำรวจและทหารที่อยู่ในท้อง
00:10:57 → 00:11:00 ถิ่นนั้นก็คือมีหน้าที่คอยดูแลอยู่ที่
00:11:00 → 00:11:02 เต็มที่มันอยู่อาศัยอยู่นะครับที่นี้นะ
00:11:02 → 00:11:05 ครับถ้าเรามีเธอโลกนะครับเข้าในร่างกาย
00:11:05 → 00:11:07 เราได้นะครับเช่นอาจจะเราไปเหยียบตะปูนะ
00:11:07 → 00:11:09 ครับโดนมีดบาดบริเวณนั้นก็จะมีชื่อว่า
00:11:09 → 00:11:12 เข้าไปนะครับเช่นมีบัตรที่นิ้วจะล็อคจะ
00:11:12 → 00:11:15 เข้าไปที่ New นะก็ฝากที่จะใส่อยู่แถวๆ
00:11:15 → 00:11:17 เยอะ Benz New นะครับพอมันเห็นเชื้อ
00:11:17 → 00:11:19 จุลินทรีย์ปุ๊บมันก็จะรับรู้แล้วว่าตอน
00:11:19 → 00:11:21 นี้มีพวกชนกเข้ามาแล้วมันก็จะเข้าไปจับ
00:11:21 → 00:11:24 กินนะครับที่นี่หน้าที่ของมันไม่ได้แค่
00:11:24 → 00:11:26 จับกินเที่ยวอย่างเดียวแต่มันยังสามารถ
00:11:26 → 00:11:28 ที่จะส่งสารเคมีนะครับที่นี่สารเคมีที่
00:11:28 → 00:11:31 มันหลั่งออกมานั้นก็จะเป็นการส่งสัญญาณนะ
00:11:31 → 00:11:32 ครับเพื่อแจ้งเข้าไปในกระแสเลือดนะครับ
00:11:33 → 00:11:36 ให้รับรู้ว่าตรงนี้มีชนกบุกเข้ามาแล้วนะ
00:11:36 → 00:11:39 แล้วก็ขอกำลังเสริมครับที่นี่มันก็จะมี
00:11:39 → 00:11:41 พวกเธอไม่ได้แถวนอื่นๆในเลือดนะครับที่
00:11:41 → 00:11:44 รับได้รับสัญญาณก็จะเข้ามาช่วยกำลังเสริม
00:11:44 → 00:11:46 ครับโดยเฉพาะตัวที่ชื่อว่าหนูโรฟิลล์นะ
00:11:46 → 00:11:48 ครับซึ่งเดี๋ยวเราจะคุยกันต่อนะครับเป็น
00:11:48 → 00:11:50 ตัวที่ 2 ที่จะเล่าให้ฟังนะครับจะได้กลับ
00:11:50 → 00:11:52 มาที่มาฝากด้วยจากที่มันกินฉันโลกนะครับ
00:11:52 → 00:11:54 อันที่ 1 ก็คือมันฆ่าเชื้อโรคด้วยกันกิน
00:11:54 → 00:11:57 อะที่สองคือมันส่งสัญญาณนะครับเรียบออก
00:11:57 → 00:12:00 กำลังเสริมมาเข้ามาหน้าที่ที่ 3 นะครับก็
00:12:00 → 00:12:02 คือมานะครับหน้าที่นะครับในการนำเชื้อโรค
00:12:02 → 00:12:05 นะครับไปส่งต่อให้กับร้านที่ 3 หรือพูด
00:12:05 → 00:12:08 ง่ายๆคือมันเป็นการสื่อสารให้ด่านที่ 3
00:12:08 → 00:12:10 ไม่รู้ว่าตอนนี้มีเชื้อโรคเข้ามาแล้วแล้ว
00:12:10 → 00:12:12 ไม่ใช่แค่แจ้งให้เรารู้เฉยๆแต่ให้ดูด้วย
00:12:12 → 00:12:15 ว่าหน้าตาของฉันโลกมันเป็นแบบนี้ก็คือส่ง
00:12:15 → 00:12:17 ข้อมูลให้ได้ที่ 3 ดูเพื่อให้ด่านที่ 3
00:12:17 → 00:12:19 นะครับเซลล์ที่อยู่ในด่านที่ 3 เนี่ย
00:12:19 → 00:12:22 เริ่มต้นทำงานแล้วก็คิดวิธีตอบสนองนะครับ
00:12:22 → 00:12:25 ที่มีความจำเพาะกับเชื้อโรคตัวนั้นๆโอเค
00:12:25 → 00:12:27 อันนั้นก็เป็นแมคโครฟาจนะครับเข้าๆนะครับ
00:12:27 → 00:12:30 ที่นี่สมาชิกตัวที่สองนะครับของไป LED
00:12:30 → 00:12:32 ขาวด่านที่ 2 เนี่ยที่อยากแนะนำให้รู้จัก
00:12:32 → 00:12:34 นะครับก็มีชื่อว่ายูโรฟิลล์ครับนิวโทรฟิล
00:12:34 → 00:12:36 เหลือเป็นเม็ดเลือดที่อาศัยหลักๆอยู่ใน
00:12:36 → 00:12:39 เลือดนะครับก็คือจะไหลเวียนอยู่ในเลือดนะ
00:12:39 → 00:12:41 ครับไปทั่วร่างกายไม่ได้ประจำอยู่ที่ท้อง
00:12:41 → 00:12:44 ถิ่นใหม่นะครับที่นี่มีแต่ตัวนี้นะคะเวลา
00:12:44 → 00:12:46 เราไปตรวจเลือดนะครับที่จะไปเจาะเลือด
00:12:46 → 00:12:48 ตรวจที่โรงพยาบาลนะครับแล้วก็จะดูค่าไม่
00:12:48 → 00:12:51 เลือดขาวเนี่ยปกติไม่ได้ขาวที่เราดูส่วน
00:12:51 → 00:12:53 ใหญ่ที่เราเห็นเนี่ยมันก็คือพวกตัวนี้นะ
00:12:53 → 00:12:55 ครับก็คือตัวที่ชื่อว่าดูโรฟิลล์นะครับ
00:12:55 → 00:12:57 ปกติยูโรฟิลล์มันก็จะไหลเวียนในเลือดไป
00:12:57 → 00:12:59 เรื่อยๆนะครับจะได้พอมารับสัญญานนะครับ
00:12:59 → 00:13:02 เช่นมากตัวส่งสัญญาณมามันก็จะรับรู้ว่า
00:13:02 → 00:13:05 อ๋อตรงนี้มีสัญญาณมานะครับสิ่งที่มันทำ
00:13:05 → 00:13:08 คือมันก็จะชิดนะครับเข้าอยู่ติดๆกับขอบ
00:13:08 → 00:13:12 ผนังของเส้นเลือดนะครับแล้วก็ค่อยทะลุรู
00:13:12 → 00:13:14 ของเส้นเลือดเนี่ยออกมาแล้วเข้าไปที่
00:13:14 → 00:13:17 บริเวณนั้นนี่โรฟิลล์และมันก็เป็นนี้เป็น
00:13:17 → 00:13:20 กำลังเสริมนะครับวิธีฆ่าแบคทีเรียของ rito
00:13:20 → 00:13:22 ฟิวส์แล้วมันก็ใช้วิธีจับกินเหมือนกันนะ
00:13:22 → 00:13:24 ครับเมนูฟิววันนี้ขนาดเล็กกว่ามาโครฟ้านะ
00:13:24 → 00:13:27 ครับก็คือมันไม่ได้เป็นแม็คโครนะครับส่วน
00:13:27 → 00:13:29 L ก็ได้กินแบบหนึ่งตอนหนึ่งนะครับก็ตัว
00:13:29 → 00:13:31 มันก็กินไปที่ตัวนึงนะครับที่นี่นอกเหนือ
00:13:31 → 00:13:33 จากการจับกินนะครับมีโรฟิลล์เนี่ยก็ยัง
00:13:33 → 00:13:35 ส่งสัญญาณเหมือนกันนะครับก็เป็นการส่ง
00:13:35 → 00:13:37 สัญญาณด้วยกำลังเสริมและเพิ่มเข้าไปอีกนะ
00:13:37 → 00:13:39 ครับนี่การส่งสัญญาณคอมพิวเตอร์ฟิวส์แล้ว
00:13:39 → 00:13:41 ก็จะเป็นสารเคมีเหมือนกันนะครับซึ่งก็จะ
00:13:41 → 00:13:43 ไปเรียกทีมของภูมิคุ้มกันอย่างเข้ามาอีก
00:13:43 → 00:13:46 จำนวนมากนะครับซึ่งก็จะมีมาทำหน้าที่เรา
00:13:46 → 00:13:49 ต่างที่ค่ะมาต่อสู้นะครับแล้วก็ส่วนก็ส่ง
00:13:49 → 00:13:51 สัญญาณเพื่อไปบอกระบบที่ต้องซ่อมแซมร่าง
00:13:51 → 00:13:54 กายนะครับก็คือว่าเป็นระบบที่หลังจากที่
00:13:54 → 00:13:56 เคลียร์การต่อสู้จบสิ้นไปแล้วเนี่ยก็จะมี
00:13:56 → 00:13:59 ระบบซ่อมแซมตามมาโทรให้นิวโทรฟิลจะทำหน้า
00:13:59 → 00:14:02 ที่แจ้งไปว่าต่อแต่ตอนนี้การต่อสู้อยู่นะ
00:14:02 → 00:14:04 แต่ระบบซ่อมแซมให้เตรียมตัวไว้เตรียมที่
00:14:04 → 00:14:06 จะเข้ามาซ่อมแซมและจากที่การต่อสู้เนี่ย
00:14:06 → 00:14:09 จบสิ้นลงแล้วอาการต่างๆนะคะที่เรารู้จัก
00:14:09 → 00:14:12 ในชื่อของการอักเสบนะครับก็คือมีอาการบวม
00:14:12 → 00:14:16 แดงร้อนนะครับมันก็มาจากผลของการทำงานของ
00:14:16 → 00:14:18 นิวโทรฟิลเนี่ยส่วนหนึ่งนะครับก็คือสาร
00:14:18 → 00:14:21 เคมีที่มีรถฟิวส์เลียไปเนี่ยมันนำไปสุวะ
00:14:21 → 00:14:24 การเหล่านั้นซึ่งกระบวนการอักเสบเนี่ยผม
00:14:24 → 00:14:26 จะยังไม่เล่าในที่ศกนี้นะครับผมคิดว่าผม
00:14:26 → 00:14:28 จะนำเป็นเล่าแยกเป็นเอกที่สนเลยนะครับ
00:14:28 → 00:14:31 เพราะว่าการเกษตรมันเป็นขั้นตอนที่สำคัญ
00:14:31 → 00:14:34 มากนะครับแล้วก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจมาก
00:14:34 → 00:14:36 มายตอนนี้เลยค่ะอยากให้เห็นนะคะว่าหนูจะ
00:14:36 → 00:14:39 ฟิวส์เนี่ยเข้ามามีบทบาทในระบบนี้ยังไงนะ
00:14:39 → 00:14:41 ครับที่นี่ดูจะฟิวส์เนี่ยเราจะคิดไป
00:14:41 → 00:14:43 เที่ยวเสร็จนะครับมันก็จะตายเพราะว่า
00:14:43 → 00:14:45 แบคทีเรียแล้วมีตัวฟิวส์นะครับที่ตายครับ
00:14:45 → 00:14:48 ผมทับถมกันมากๆมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่เรา
00:14:48 → 00:14:51 เห็นแล้วก็เรารู้จักในชื่อว่าน้องนะครับ
00:14:51 → 00:14:54 แล้วก็ถึงเซลล์ผมโครงการด่านที่ 2 ตัวที่
00:14:54 → 00:14:56 ศาลที่อยากแนะนำให้รู้จักนะครับก็มีชื่อ
00:14:56 → 00:14:59 ว่าแม้เซลล์นะครับที่นี่แม้เซลล์เนี่ยมัน
00:14:59 → 00:15:01 ก็จะเหมือนกับนักฟ้าและก็คือแสดงบ้างจะไป
00:15:01 → 00:15:04 ตามถิ่นอยู่ที่ไหนที่ 1 นะครับก็คืออาศัย
00:15:04 → 00:15:06 อยู่ในเนื้อเยื่อแต่วิธีการต่อสู้ของ Mask
00:15:06 → 00:15:09 sale ในจะตามไปจากน่ากลัวฝากนะครับก็แม่
00:15:09 → 00:15:11 ก็ฝากไม่ใช่วิธีการกินเป็นหลักก็ไหมครับ
00:15:11 → 00:15:13 แต่แม้เซลล์เนี่ยมันจะไม่กินทั่วโลกนะ
00:15:13 → 00:15:15 ครับจะมาใส่ว่าตัวมันเองจะมีถุงนะครับภาย
00:15:15 → 00:15:18 ในถุงนี้จะมีสารเคมีมากมายนะครับถ้าอยู่
00:15:18 → 00:15:20 ภายในตัวมันนะครับที่นี่เพราะมันรับรู้
00:15:20 → 00:15:21 ว่าพี่จะโลกเข้ามาเนี่ยมันจะต่อสู้กับ
00:15:21 → 00:15:24 เชื้อโรคด้วยอาวุธเคมีนะครับก็คือมันจะ
00:15:24 → 00:15:26 ปล่อยสารเคมีเหล่านี้นะครับซึ่งสารเคมี
00:15:26 → 00:15:28 เหล่านี้ก็จะมีชื่อเรียกมากมายนะครับเช่น
00:15:28 → 00:15:31 ใส่ตู้ขายนะครับเขาว่าหรือคนไทยเองครับ
00:15:31 → 00:15:33 และที่สำคัญที่ชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยิน
00:15:33 → 00:15:36 ก็คือคำว่าฮิตามีนะครับซึ่งก็เป็นสารเคมี
00:15:36 → 00:15:38 ตัวสำคัญนะครับที่ทำให้เกิดการที่เรารู้
00:15:38 → 00:15:41 จักกันนะครับว่าอาการแพ้นะครับก็คืออาการ
00:15:41 → 00:15:44 ของการที่ดีน้ำมูกไหลนะครับมีเสมหะก็น้ำ
00:15:44 → 00:15:47 ตาไหลไอจามทั้งหลายแล้วเนี่ยมาจากสารพิษ
00:15:47 → 00:15:50 จะมีนะครับทั้งนั้นที่พวกยาแก้แพ้ที่เรา
00:15:50 → 00:15:52 กินกันนะครับมันก็เลยมีชื่อเรียกอีกชื่อ
00:15:52 → 00:15:55 ที่เขานิยมเรียกกันว่าก็คือเป็นยาที่ว่า
00:15:55 → 00:15:58 อันติส B นะครับก็คือแอนตี้สารเคมีตัวนี้
00:15:58 → 00:16:00 เซลล์ตัวจะไปที่อยากแนะนำให้รู้จักนะแต่
00:16:00 → 00:16:03 ว่าเซลล์ dendritic Cell นะครับเดนไดรต์
00:16:03 → 00:16:05 นะครับหรือว่าเรียนรู้เด็กเซลล์เนี่ยความ
00:16:05 → 00:16:07 ชื่นครับชื่อของมันมีความหมายว่าจริงก้าน
00:16:07 → 00:16:09 สาขานะครับเพราะว่าเซลล์นี้นะครับเราสอง
00:16:09 → 00:16:12 กล้องจุลทรรศน์เนี่ยก็จะมีมันก็มีขาหลายๆ
00:16:12 → 00:16:14 ขานะครับมีกิ่งก้านสาขานี้มากมายนะครับ
00:16:14 → 00:16:16 ที่นี่เซลล์ตัวนี้มันค่อนข้างๆกันนะก็ฝาก
00:16:16 → 00:16:19 นะครับก็คือมันจะมีขาหน้าที่สามารถพญาคำ
00:16:19 → 00:16:22 หาเชื้อโรคนะครับแต่ละผ้ามันจะโลกเนี่ย
00:16:22 → 00:16:24 สิ่งที่มันทำว่าคือมันจะกินเชื้อโรคเข้า
00:16:24 → 00:16:27 ไปเพื่อฆ่าเชื้อโรคนะครับเมื่อเชื้อโรค
00:16:27 → 00:16:29 เข้าในตัวมาแล้วนะครับมันก็จะมีพวก
00:16:29 → 00:16:31 เอนไซม์นะครับที่สามารถย่อยหรือว่าขอ
00:16:31 → 00:16:34 เสมือนกระสอบทั่วโลกเป็นชีสนะครับสระเรา
00:16:34 → 00:16:36 ก็นำส่วนบางส่วนนึงนะครับของเชื้อโรคหรือ
00:16:36 → 00:16:39 มาแปะไว้ที่ผิวจากนั้นนะครับตัวมันเองก็
00:16:39 → 00:16:41 จะเดินทางไปที่ต่อมน้ำเหลืองนะครับเพื่อ
00:16:41 → 00:16:44 อะไรเพื่อที่จะเอาตัวทั่วโลกนะครับที่มัน
00:16:44 → 00:16:46 เอามาแปะไว้ที่ผิวเนี้ยไปให้กับเซลล์ตัว
00:16:46 → 00:16:48 นะครับซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวในด่าน
00:16:48 → 00:16:51 ที่ 3 นะครับมีชื่อว่าทีเซลล์ดูที่เซลล์
00:16:51 → 00:16:53 ในก็จะได้รับข้อมูลเป็นคำว่าเชื้อโรคที่
00:16:53 → 00:16:56 บุกเข้ามาเนี่ยมันมีหน้าตาแบบไหนเพื่อ
00:16:56 → 00:16:58 เป็นเตรียมการตอบสนองนะครับที่มีความ
00:16:58 → 00:17:00 จำเพาะกับเชื้อโรคที่หน้าตาแบบนั้น
00:17:00 → 00:17:02 ขอตำแหน่งที่อยู่นะครับเด่นรัฐเช็กแซวมัน
00:17:02 → 00:17:04 ก็จะอาศัยอยู่ตามเนื้อเยื่อใหม่กันนะครับ
00:17:04 → 00:17:06 แต่มันจะชอบอยู่ตามเยอะที่เป็นเรียกว่า
00:17:06 → 00:17:09 ผิวมีโคซ่านะครับที่เราคุยกันไปก็คืออ่อ
00:17:09 → 00:17:11 มันก็เป็นด่านหน้านะครับก็คือผิวส่วนที่
00:17:11 → 00:17:14 สัมผัสกับโลกภายนอกนะครับเช่นในช่องจมูก
00:17:14 → 00:17:16 นะครับในช่องปากนะครับช่องทางเดินอาหาร
00:17:16 → 00:17:18 ต้องเจริญหายใจตรงที่ผิวเดี๋ยวมันจะไป
00:17:18 → 00:17:21 ประจำอยู่แถวนั้นเพราะว่ามันง่ายต่อการ
00:17:21 → 00:17:23 ที่จะค้นพบเจอโรครักเมื่อถึงเซลล์ไม่ได้
00:17:23 → 00:17:25 ขาวตัวสุดท้ายนะครับผมทานที่ 2 ที่อยากจะ
00:17:25 → 00:17:29 พูดถึงนะครับมีชื่อย่อนะคะว่า NK Cell
00:17:29 → 00:17:31 นะครับปกติก็จะยอมเรียกว่า NK Cell นะ
00:17:31 → 00:17:34 ครับมันย่อมาจากคำว่านะเช่า Killer Cell
00:17:34 → 00:17:36 นะครับเข้ามาถือว่าเป็นเซลล์นักฆ่านะครับ
00:17:36 → 00:17:39 ตามชื่อเลยเซลล์ตัวนี้มันจะตามไปนะครับ
00:17:39 → 00:17:41 คือมันจะไม่ได้มองหาชื่อโรคนะครับแล้วมัน
00:17:41 → 00:17:43 ก็ไม่ได้โจมตีเชื้อโรคเลยตรงแต่สิ่งที่
00:17:43 → 00:17:46 มันมองหาก็คือเซลล์ของร่างกายของเรานะ
00:17:46 → 00:17:49 ครับที่ผิดปกติก็คือว่าปกติถ้าเซลล์ของ
00:17:49 → 00:17:51 เรานะครับถูกติดเชื้อนะครับหรือก็เช่นติด
00:17:51 → 00:17:54 เชื้อไวรัสนะครับเซลล์น่ะมันจะป่วยแล้ว
00:17:54 → 00:17:56 เซลล์มันคิดว่ามันไปไม่ไหวถ้ามันจะมีก็มี
00:17:56 → 00:17:58 การส่งสัญญาณขึ้นมาที่ผิวเซลล์นะครับ
00:17:58 → 00:18:01 เพื่อแจ้งให้คนอื่นรู้แต่ตอนนี้มันป่วย
00:18:01 → 00:18:04 มากนะครับแล้วมันไปต่อไม่ไหว NK Cell
00:18:04 → 00:18:06 เดี๋ยวมันจะรับรู้นะครับเสร็จแล้วก็จะ
00:18:06 → 00:18:08 สั่งมาที่ไปโจมตีที่เซลล์นั้นโดยตรงเพื่อ
00:18:08 → 00:18:10 ที่จะฆ่าเซลล์นั้นเป้าหมายก็คือเพื่อไม่
00:18:10 → 00:18:13 ให้ไวรัสมันแพร่จากเซลล์ที่ป่วยเนี่ยไป
00:18:13 → 00:18:15 เซลล์อื่นๆที่อยู่ข้างเคียงนะครับจะได้
00:18:15 → 00:18:18 เซลล์ที่ปกติตัวนะครับที่เป็นเป้าหมายของ
00:18:18 → 00:18:20 nk Cell และก็คือเซลล์มะเร็งก็คือเมื่อ
00:18:20 → 00:18:22 เซลล์ตัวไหนก็ตามครับที่เริ่มมีการกลาย
00:18:22 → 00:18:24 พันธุ์จนมันมีพฤติกรรมที่เหมือนกับเป็น
00:18:24 → 00:18:27 เซลล์มะเร็งขึ้นมาเนี่ย NK Cell ในก็จะ
00:18:27 → 00:18:29 สามารถรับรู้นะครับแล้วก็จะฆ่าเซลล์ตัว
00:18:29 → 00:18:31 นั้นทิ้งนะครับเพื่อให้เซลล์นะครับแบ่ง
00:18:31 → 00:18:33 ตัวเพิ่มจำนวนนะครับแล้วกลายเป็นโรค
00:18:33 → 00:18:34 มะเร็งในที่สุดนะครับแล้วทั้งหมดนี้นะ
00:18:34 → 00:18:37 ครับก็คือการทำงานของอย่างที่สองเค้าๆนะ
00:18:37 → 00:18:39 ครับที่อยากให้เห็นนะครับแค่นี้เราจะย้าย
00:18:39 → 00:18:42 มาดูได้ที่ 3 กันบ้างนะครับด้านที่ 3 ใน
00:18:42 → 00:18:44 ปกติเวลาเราพูดถึงนะครับมันจะมีเซลล์ที่
00:18:44 → 00:18:46 มันเป็นเซลล์พระเอกนะครับอยู่ตัวหนึ่ง
00:18:46 → 00:18:48 เป็นไม่เลือดขาวนะครับที่มีชื่อว่า
00:18:48 → 00:18:50 ลิมโฟไซต์นะครับลืมพอซ้ายเนี่ยมันยังแบ่ง
00:18:50 → 00:18:53 เป็น 2 ประเภทนะครับก็คือชื่อว่ามีเซลล์
00:18:53 → 00:18:56 นะครับกับคำว่าทีเซลล์นะครับซึ่งคำว่าบี
00:18:56 → 00:18:58 กับทีในที่จะมันเป็นชื่อย่อนะครับออกมา
00:18:58 → 00:19:01 จากชื่อเต็มของอวัยวะการค้นพบครั้งแรกนะ
00:19:01 → 00:19:03 ครับเป็นเช็ดตัวดีเซลในค้นพบครั้งได้จาก
00:19:03 → 00:19:06 การศึกษาอวัยวะที่ชื่อว่าเบอร์ซ่านะครับ
00:19:06 → 00:19:08 เบอร์ซ่าเอา fabby เชียวนะครับซึ่งพบนกนะ
00:19:08 → 00:19:11 ครับส่วนทีเซลส์เนี่ยแยกมาเราค้นพบครั้ง
00:19:11 → 00:19:14 แรกเนี่ยตอนที่ศึกษาในต้องไทยมากนะครับก็
00:19:14 → 00:19:16 เลยเลือกเป็นวัดทีเซลล์นะครับซึ่งก็ยอม
00:19:16 → 00:19:19 ทว่าไทยมาสที่หน้าที่การกำลังของ brt
00:19:19 → 00:19:21 เซลล์ในถ้าบอกว่ามีความซับซ้อนสูงมากนะ
00:19:21 → 00:19:24 ครับแล้วก็จริงๆแล้วมันก็มีการแบ่งชนิด
00:19:24 → 00:19:26 ย่อยไปอีกนะครับอย่างที่เซลล์ก็จะมีแบ่ง
00:19:26 → 00:19:28 เป็นขอให้ประทีเซลล์นะครับใส่โต Talk
00:19:28 → 00:19:31 สิ่งทีเซลล์นะครับแล้วก็เป็นให้คุณ
00:19:31 → 00:19:32 ราชวิธีเซลล์นะครับหรือว่าสไปเซอร์ T
00:19:32 → 00:19:35 cells ซึ่งก็จะมีหน้าที่ต่างกันไปซึ่ง
00:19:35 → 00:19:37 ตรงนี้ผมจะขอไม่พูดถึงรายละเอียดนะครับ
00:19:38 → 00:19:40 แล้วก็จริงๆบอกว่าผมเองก็ได้เข้าใจทั้ง
00:19:40 → 00:19:42 หมดนะครับเพราะว่ามันมีความซับซ้อนในศึก
00:19:42 → 00:19:44 มากแต่อย่างไรก็แล้วแต่นะครับที่อยากให้
00:19:44 → 00:19:46 เห็นภาพนะครับก็คืออย่างนี้ครับเริ่มจาก T
00:19:46 → 00:19:49 cells นะครับอย่างที่เราคุยไปก่อนหน้านะ
00:19:49 → 00:19:51 ครับก็คือว่าพอดันที่สองในเขตตัวจะโล่นะ
00:19:51 → 00:19:54 ครับมันจะมีสมาชิกสำคัญของการที่ 2 2
00:19:54 → 00:19:56 ตัวนะครับที่จะมาค่อยแจ้งนภิศาก็คือ
00:19:56 → 00:19:59 แม็คโครฝากกับเด่นเร็คเซลล์นะครับหนูก็จะ
00:19:59 → 00:20:01 นำเชื้อโรคและมาให้ด่านที่ 3 ดูทายนิสัย
00:20:01 → 00:20:03 จากที่ 3 ไม่ที่รับข้อมูลตรงนี้ไปก็คือ
00:20:03 → 00:20:06 ตัว T cells นะครับนี่ในพกเสี่ยวทั้งหมด
00:20:06 → 00:20:08 นะมันจะมีที่แสนที่สามารถหรือว่ารู้หน้า
00:20:08 → 00:20:10 ตาของเจ้าตัวนี้เนี่ยอยู่จำนวนหนึ่งนะ
00:20:10 → 00:20:12 ครับอาจจะแค่ตัวเดียวนะครับที่เที่ยวตัว
00:20:12 → 00:20:14 นั้นนะครับจะถูกคัดเรื่องนะครับแล้วก็ให้
00:20:14 → 00:20:16 เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆนะครับจาก 1
00:20:16 → 00:20:19 เป็น 2 2004 เป็นกองทัพของทีเซลล์ที่
00:20:19 → 00:20:20 หน้าตาเหมือนกันหมดนะครับจะเรียกว่าเป็น
00:20:21 → 00:20:23 กองทัพโคลนนิ่งของ T cells ตัวนี้ก็ได้
00:20:23 → 00:20:25 นะครับแล้วที่จะเอาตัวนั้นนะครับก็จะถูก
00:20:25 → 00:20:27 ปล่อยเข้าไปนะครับในกระแสเลือดเพื่อที่จะ
00:20:27 → 00:20:30 ไปต่อสู้กับเชื้อโรคที่มีหน้าตากับที่มัน
00:20:30 → 00:20:33 ถูกสร้างมาเพื่อให้ต่อสู้ด้วยสำหรับดีเซล
00:20:33 → 00:20:35 นะครับดีเซลเดี๋ยวจะบอกว่ามันไม่ได้ไปต่อ
00:20:35 → 00:20:37 สู้กับเชื้อโรคโดยตรงนะครับวิธีการรบ
00:20:37 → 00:20:40 ดีเซลคือว่ามันจะไปเหมือนกับไปตัวมันเอง
00:20:40 → 00:20:42 สมาธิจะไปรับรู้หน้าตาของเชื้อโรคได้โดย
00:20:42 → 00:20:44 ตรงนะครับเสร็จแล้วเนี่ยมันก็จะมาปรึกษา
00:20:44 → 00:20:47 กับตัว shaper ดีเซลนะครับก็จะมาทำงาน
00:20:47 → 00:20:50 ร่วมกันถ่ายให้ปฏิเสธเอวแล้วเห็นด้วยนะ
00:20:50 → 00:20:52 ครับตัวดีเซลเนี่ยก็จะสร้างสิ่งที่เราว่า
00:20:52 → 00:20:55 อธิบดีออกมานะครับซึ่งอธิบดีที่สร้างขึ้น
00:20:55 → 00:20:57 มานะครับจะถูกสร้างมาให้มีความจำเพาะนะ
00:20:57 → 00:20:59 ครับก็คือมีหน้าตาที่จับได้กับหน้าตาของ
00:20:59 → 00:21:01 เชื้อโรคเนี่ยโดยและแล้วมันก็จะปล่อยให้
00:21:01 → 00:21:03 ตัวอันนี้ Body เนี่ยให้กระจายออกไปใน
00:21:03 → 00:21:06 เลือดที่เนี่ยสิบดีจริงๆก็ไม่เป็นค่าตัว
00:21:06 → 00:21:08 เชื้อโรคโดยตรงนะครับอันนี้ Body มันจำทำ
00:21:08 → 00:21:10 หน้าที่นะครับไปเคลือบตัวเชื้อโรคซะมาก
00:21:10 → 00:21:12 กว่านะครับก็คือจะจับที่ผิวของเธอโลกนะ
00:21:12 → 00:21:15 ครับเครือเพราะตัวฉันโลกซึ่งจุลินทรีย์นะ
00:21:15 → 00:21:17 ครับหรือว่าช่วยลดต้นขาตามนะครับที่ถูก
00:21:17 → 00:21:19 อธิบดีนี้เคลือบอยู่นะครับมันจะทำให้ถูก
00:21:19 → 00:21:23 จับกินได้ง่ายขึ้นและวิธีนะครับที่รู้จัก
00:21:23 → 00:21:25 ค่าตัวเชื้อโรคตัวนี้นะครับก็คือให้ตัว
00:21:25 → 00:21:27 อธิบดีสดีเคลือบเนี่ยมันจะไปกระตุ้นอีก
00:21:27 → 00:21:30 ระบบนึงนะครับเป็นระบอบโปรตีนนะครับเป็น
00:21:30 → 00:21:32 ทีมของโปรตีนที่ซับซ้อนนะครับก็มีชื่อว่า
00:21:32 → 00:21:35 component System นะครับจะได้ component
00:21:35 → 00:21:37 System เดี๋ยวจะทำหน้าที่มันก็เป็นตัว
00:21:37 → 00:21:41 ที่จะมาเจาะๆคือจอดตัวเชื้อโรคจนเกิดรู
00:21:41 → 00:21:43 พรุนเล่นเค้าจะนั่งจะโลกมันแตกแล้วก็ตาย
00:21:43 → 00:21:45 ไปอันนี้ก็เป็นวิธีฆ่าเชื้อโรคของดีเซลนะ
00:21:45 → 00:21:48 ครับแต่สิ่งที่สำคัญมากๆของอย่างที่ 3
00:21:48 → 00:21:50 อย่างนะครับก็คือว่าเรื่องของความจำครับ
00:21:50 → 00:21:53 ก็อย่างนี้ครับปกติในการโจมตีของแถวที่ 3
00:21:53 → 00:21:55 ในจะบอกว่ามันมีความรุนแรงนะครับดังนั้น
00:21:55 → 00:21:57 นะครับเมื่อการต่อสู้เนี่ยผ่านพ้นไปแล้ว
00:21:57 → 00:22:00 นะครับ B Cell สักทีเซลล์ที่ทำหน้าที่
00:22:00 → 00:22:02 ป.ป.สออกมาเนี่ยมันกระตุกเกาะกำจัดนะครับ
00:22:02 → 00:22:05 เพราะถ้าคนไกลนี้มันจำเดินต่อไปนะคะมันมี
00:22:05 → 00:22:07 ความเสี่ยงที่คุณกับเราเนี่ยมันจะมาโจมตี
00:22:07 → 00:22:09 ร่างกายของเราเองนะครับที่นี่มันจะมีบี
00:22:09 → 00:22:11 กับ T cells ส่วนนึงนะครับที่จะถูกเก็บ
00:22:11 → 00:22:14 เอาไว้นะครับเพื่ออะไรเพื่อเป็นความทรงจำ
00:22:14 → 00:22:16 มันก็ว่าถ้าสูตรข้างหน้ามีเชื้อโรคที่น่า
00:22:16 → 00:22:19 แต่แบบนี้เข้ามาอีกนะครับดีสวัสดีชาวส่วน
00:22:19 → 00:22:22 เนี้ยมันก็จะสามารถที่จะจำโชคกันได้แล้ว
00:22:22 → 00:22:24 ก็สามารถตอบสนองเนี่ยท่านทีนะครับไม่ต้อง
00:22:24 → 00:22:26 มาเริ่มต้นกระบวนการทั้งหมดใหม่ตั้งแต่
00:22:26 → 00:22:28 ต้นนะครับคือไม่ต้องมาพันดันที่สองเรา
00:22:28 → 00:22:30 ค่อยมารอที่ 3 วันที่เกิดขึ้นในครั้งแรก
00:22:30 → 00:22:32 และนั้นก็คือกระบวนการของดาบที่ 3 นะครับ
00:22:32 → 00:22:34 ที่อยากให้เห็นภาพนะครับที่นี่ก่อนที่จะ
00:22:35 → 00:22:37 จบให้พี่ส่วนนี้นะครับผมอยากจะชวนกลับมา
00:22:37 → 00:22:39 คุยเรื่องวัคซีนอีกทีนะครับคือผมอยากเห็น
00:22:39 → 00:22:41 เฉยว่าเวลาที่เราฉีดวัคซีนเนี่ยมันคือการ
00:22:41 → 00:22:44 ที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ 1 2 และสสาร
00:22:44 → 00:22:46 ยังไงนะครับเมื่อเราไปฉีดวัคซีนนะครับ
00:22:46 → 00:22:49 เข็มที่ทะลุผิวหนังเราเข้าไปนะครับก็คือ
00:22:49 → 00:22:51 การทำลายนะครับได้ที่หนึ่งของระบบภูมิ
00:22:51 → 00:22:53 คุ้มกันตัวไหมครับเราเชื้อโรคที่ถูกฉีด
00:22:53 → 00:22:55 เข้าไปนะครับไว้เป็นเชื่อตายนะครับหรือ
00:22:55 → 00:22:57 เป็นบางส่วนของเธอโลกเนี่ยก็จะไปกระตุ้น
00:22:57 → 00:23:01 ผมกันอย่างที่สองนะครับซึ่งผลจะออกไปตอน
00:23:01 → 00:23:03 แรกก็คือมันก็จะมีอาการของออกผลข้างเคียง
00:23:03 → 00:23:05 นะครับที่เรารู้จักกันนะครับคือเรื่องของ
00:23:05 → 00:23:08 ใครนะครับออกคั่นคั่นตัวนะครับเบื่ออาหาร
00:23:08 → 00:23:10 ต่างๆนะครับแล้วจากนั้นนะครับก็จะเป็นการ
00:23:10 → 00:23:12 ทำงานของด่านที่ 3 นะครับก็คือต้องใช้
00:23:12 → 00:23:15 เวลานะครับอย่างน้อยก็ 7-10 วันนะครับใน
00:23:15 → 00:23:17 การที่จะสร้างการตอบสนองแบบที่จำเพาะกมา
00:23:17 → 00:23:20 เเต่สิ่งที่ระวังจะวัคซีนก็คือเรื่องของ
00:23:20 → 00:23:22 ความจำโทรไหมครับก็เป็นงานอีกหน้าที่
00:23:22 → 00:23:25 หนึ่งของด่านที่ 3 เพื่อแท้เกิดภูมิคุ้ม
00:23:25 → 00:23:27 กันที่สามารถที่จะจำเชื้อนั้นได้เนี่ย
00:23:27 → 00:23:30 เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนไว้หลายปีถ้าไม่
00:23:30 → 00:23:32 เชื่อเข้ามาใหม่ข้างกายก็สามารถที่จะตอบ
00:23:32 → 00:23:35 สนองได้ทันทีนะครับแล้วตอบสนองแบบจำเพาะ
00:23:35 → 00:23:37 นะครับก็คือมีการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพ
00:23:37 → 00:23:39 สุดแล้วทั้งหมดนี้นะครับก็คือเรื่องของ
00:23:39 → 00:23:42 ภูมิคุ้มกันนะครับที่ผมอยากจะเล่าให้ฟัง
00:23:42 → 00:23:45 นะครับก็คิดว่าจะใครไม่เคยรู้มาก่อนนะคะ
00:23:45 → 00:23:47 ว่าให้ระบบภูมิคุ้มกันโรงเรียนทำงานยังไง
00:23:47 → 00:23:50 ชื่อว่าฟังตรงนี้นะก็น่าจะพอเห็นภาพนะ
00:23:50 → 00:23:52 ครับสำหรับเนื้อหาในพิสณฑ์หน้านะครับผม
00:23:52 → 00:23:54 คิดว่าผมฉันเล่าเรื่องของการเกษตรให้ฟัง
00:23:54 → 00:23:56 นะครับซึ่งการเกษตรวันจริงก็คือการทำงาน
00:23:56 → 00:23:59 ของหลังที่ 2 นะครับแต่ว่าในตอนหน้าในที่
00:23:59 → 00:24:01 ผมอยากจะเล่ามันก็ไม่เชิงเรื่องของการ
00:24:01 → 00:24:03 ป้องกันเชื้อโรคนะครับและป้องกันครับผู้
00:24:03 → 00:24:06 รุกรานนะครับแต่ผมอยากจะพูดถึงการเกษตรใน
00:24:06 → 00:24:08 กระบวนการที่มันเพิ่มความเสี่ยงของโรค
00:24:08 → 00:24:10 ต่างๆที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อนะครับที่
00:24:10 → 00:24:12 ปัจจุบันเดี๋ยวพบมากในเรื่อยๆหลายๆรอบนะ
00:24:12 → 00:24:15 ครับเช่นโรคเบาหวานนะครับรบกวนนะครับหรือ
00:24:15 → 00:24:18 ว่าภาวะเส้นเลือดหัวใจอุดฟันนะครับตอน
00:24:18 → 00:24:20 หน้าเนี่ยผมจะเล่าให้ฟังนะคะว่าไอ้กลไกนะ
00:24:20 → 00:24:22 ครับของกระบวนการที่ใช้ต่อสู้กับเชื้อโรค
00:24:22 → 00:24:24 เนี่ยมันได้เพิ่มความเสี่ยงของโรคเหล่า
00:24:24 → 00:24:27 นี้ได้ยังไงนะครับแล้วก็จะจากกันไปก็อย่า
00:24:27 → 00:24:28 ลืมนะครับใครยังไม่ได้กด Subscribe นะ
00:24:28 → 00:24:31 ครับกดก็ดีนะครับก็กดเลยนะครับเพราะถ้ามี
00:24:31 → 00:24:33 อย่าไปสดใหม่นะครับก็จะมีการแจ้งเตือนให้
00:24:33 → 00:24:35 ดูนะครับแล้วมันจะกันใหม่ในคลิปหน้านะ
00:24:35 → 00:24:38 ครับสวัสดีครับ
00:24:38 → 00:24:48 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับยินดีต้อนรับเข้าสู่
00:00:02 → 00:00:04 Channel เรื่องเล่าจากร่างกายนะครับผม
00:00:04 → 00:00:07 บอกแล้วนะครับแต่แพทย์ชะพลจราจรค่ะดานะ
00:00:07 → 00:00:09 ครับสำหรับวันนี้เราก็ยังอยู่เรื่องเดิม
00:00:09 → 00:00:12 นะครับเป็นตอนที่ 2 ของกลัวพ่อว่ารู้ไหม
00:00:12 → 00:00:15 ครับว่ากลุ่มกันของคนทำงานยังไงในตอนที่
00:00:15 → 00:00:16 แล้วนะครับเราคุยกันไว้ว่าภูมิระบบภูมิ
00:00:16 → 00:00:19 คุ้มกันนะครับเราสามารถมองได้ว่ามันแบ่ง
00:00:19 → 00:00:20 เป็น 3 ด้านใหญ่ๆนะครับคือการที่ 1 และ
00:00:20 → 00:00:23 ด่านที่ 2 ขนาดที่ 3 นะครับที่นี่ในตอน
00:00:23 → 00:00:25 ที่ 1 เราคุยถึงการที่ 1 ไปแล้วนะครับถ้า
00:00:25 → 00:00:27 ใครยังไม่ได้ดูนะครับก็สามารถกลับไปดู
00:00:27 → 00:00:30 ก่อนได้นะครับก็ปุพื้นกว้างไว้ให้ฟังนะ
00:00:30 → 00:00:32 ครับวันนี้เราจะมาคุยถึงการที่สองค่ะ
00:00:32 → 00:00:34 อย่างที่สามนะครับแล้วก็ในตอนที่แล้ว
00:00:34 → 00:00:36 เนี่ยผมก็พูดได้ว่าอยากที่ 2 ที่ 3 ที่จะ
00:00:36 → 00:00:39 ไม่เป็นระบบเดียวกันนะครับทีนี้คำถามก็
00:00:39 → 00:00:41 คือว่าท่านเป็นระบบเดียวกันเนี่ยการที่
00:00:41 → 00:00:43 สองอย่างที่สามเนี่ยมันทำงานต่างกันยังไง
00:00:43 → 00:00:45 นะครับวันนี้เราจะมาคุยเรื่องนี้กันนะ
00:00:45 → 00:00:48 ครับที่คำตอบสำหรับคำถามนี้นะครับแบบภาพ
00:00:48 → 00:00:50 ใหญ่เลยนะครับที่ไม่เอารายละเอียดก็คือ
00:00:50 → 00:00:53 ว่าถ้าเราได้ถึงเวลาไปฉีดวัคซีนนะครับเรา
00:00:53 → 00:00:55 จะเห็นว่ามันจะฉีดวัคซีนเนี่ยวันที่ 2 นะ
00:00:55 → 00:00:57 ครับวันแรกวันที่ 2 เนี่ยเราจะเรียกอาการ
00:00:57 → 00:01:00 ระบมถูกมั้ยคะบางคนระบมที่เรียนที่จนะ
00:01:00 → 00:01:03 ครับหรือบางคนอยากจะมีอาการที่เรียกว่า
00:01:03 → 00:01:05 บางคนมีอาการข้างเคียงนะครับจริงๆมันคือ
00:01:05 → 00:01:07 อาการที่เราคาดหวังว่ามันจะเกิดขึ้นก็คือ
00:01:07 → 00:01:09 ว่าจะมีอาการของไข้นะครับก็คงจะมีค่า
00:01:09 → 00:01:11 เนื้อคั่นตัวรู้สึกเหงาสารนะครับอ่อน
00:01:11 → 00:01:14 เพลียเบื่ออาหารในวันที่ 2 นะครับซึ่ง
00:01:14 → 00:01:16 อาการเหล่านี้มันเป็นการทำงานของระบบภูมิ
00:01:16 → 00:01:19 คุ้มกันด่านที่ 2 นะครับที่นี่ด่างที่ 3
00:01:19 → 00:01:22 ในคืออะไรปกติเราฉีดวัคซีนสิ่งเธอต้องการ
00:01:22 → 00:01:24 นั่นคือว่าเราต้องการให้ร่างกายเราได้มี
00:01:24 → 00:01:26 ภูมิสำหรับเชื้อนั้นถูกไหมครับซึ่งอันนี้
00:01:26 → 00:01:29 เป็นการทำงานของงานที่ 3 ซึ่งจะทำงานช้า
00:01:29 → 00:01:31 กว่าเพราะว่าร่างกายจะต้องใช้เวลาในการ
00:01:31 → 00:01:34 สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาแล้วให้กระบวนการ
00:01:34 → 00:01:37 ที่ร่างกายไม่ค่อยๆสร้างภูมิขึ้นมานะครับ
00:01:37 → 00:01:39 ซึ่งต้องใช้เวลา 7-10 วันเป็นอย่างน้อย
00:01:39 → 00:01:42 เนี่ยมันก็คือการทำงานของด่านที่ 3 โอเค
00:01:42 → 00:01:44 ทีนี้พอเถียรภาพพวกคราวแล้วนะครับเวลาที่
00:01:44 → 00:01:46 2 ขณะที่สามที่เราจะคุยกันเนี่ยมันคือ
00:01:46 → 00:01:48 อะไรนะครับเดี๋ยวเราจะเป็นมาลงรายละเอียด
00:01:48 → 00:01:50 เพิ่มเติมกันสักเล็กน้อยนะครับจะได้เข้า
00:01:50 → 00:01:53 ใจเกี่ยวกับการทำงานของยาที่ 2 รายการที่
00:01:53 → 00:01:55 3 และมากขึ้นเริ่มต้นจากชื่อก่อนนะครับ
00:01:55 → 00:01:58 ก็คือแบบที่ 2 มันมีชื่อเรียกอย่างทางการ
00:01:58 → 00:02:01 ว่าอินเนสมูนิตี้นะครับ More in the
00:02:01 → 00:02:03 เนี่ยมึงแปลว่าแต่กำเนิดนะครับซึ่งก็หมาย
00:02:03 → 00:02:04 ความว่าได้ที่ 2 เนี่ยมันสามารถเริ่มทำ
00:02:04 → 00:02:08 งานได้ตั้งแต่เราเกิดมาเลยนะครับออดันที่
00:02:08 → 00:02:10 3 เนี่ยมันมีชื่อเรียกนะครับปฏิทินชื่อ 2
00:02:10 → 00:02:13 ชื่อด้วยกันชื่อและแว็กซ์ควายอินฟินิตี้
00:02:13 → 00:02:15 นะครับแต่ความที่แปลว่าต้องได้รับมาก่อน
00:02:15 → 00:02:18 ซึ่งความหมายของมันคือว่าจากที่ 3 จะทำ
00:02:18 → 00:02:20 งานได้ไม่ต้องได้รับเชื้อเข้ามาเกาะนอีก
00:02:20 → 00:02:22 ชื่อหนึ่งของด่านที่ 3 ในมีชื่อว่าอันดับ
00:02:22 → 00:02:25 ที่ฟิวมูนิตี้นะครับซึ่งอันดับคำนี้เนี่ย
00:02:25 → 00:02:27 ที่แปลว่าปรับนะครับปรับให้เหมาะสมเนี่ย
00:02:27 → 00:02:30 ว่าปรับตัวเนี่ยมันหมายความว่าด่านที่ 3
00:02:30 → 00:02:33 เนี่ยในการตอบสนองเขามาเนี่ยมันจะเป็นการ
00:02:33 → 00:02:36 ตอบสนองที่มีการปรับเพื่อให้บอกกับเชื้อ
00:02:36 → 00:02:38 โรคตัวนั้นก่อนซึ่งก็คือปรับให้มีความ
00:02:38 → 00:02:41 จำเพาะก่อนที่นี่พอมาคุยตรงนี้เนี่ยเราก็
00:02:41 → 00:02:43 ได้สามารถสรุปได้นะครับว่าความต่าง
00:02:43 → 00:02:45 ระหว่างที่สองค่ะอย่างที่สามเนี่ยอย่าง
00:02:45 → 00:02:47 แรกก็คือด่านที่ 2 เนี่ยมันจะตอบสนองเร็ว
00:02:47 → 00:02:50 กว่าหมายความว่าเมื่อโชคเข้ามาปุ๊บเซลล์
00:02:50 → 00:02:52 ที่เกี่ยวข้องกับการที่ 3 หรือว่าสมาชิก
00:02:52 → 00:02:55 เวทีเนี่ยก็จะตอบสนองไปเลยนะครับทีนี้การ
00:02:55 → 00:02:57 ตอบสนองของด่านที่ 2 เนี่ยมันจะไม่มีความ
00:02:57 → 00:03:00 จำเพาะนะครับมาถึงว่ามันรู้เหล่านี้คือ
00:03:00 → 00:03:02 อีกหนึ่งแปลกปลอมที่เข้ามานะครับสุกสัญญา
00:03:02 → 00:03:04 น่าจะเป็นเชื้อโรคแล้วมันก็ตอบสนองไปด้วย
00:03:04 → 00:03:07 ที่มันไม่ได้รู้ว่าสิ่งเนี้ยเป็นชื่อโรค
00:03:07 → 00:03:09 ชนิดไหนนะครับคือไม่มีความจำเพาะดังนั้น
00:03:09 → 00:03:12 วิธีการตอบสนองของบรรดาจะไม่คล้ายกันหมด
00:03:12 → 00:03:13 หมายความว่าเราจะเป็นเชื้อตัวไหนก็ตามมา
00:03:13 → 00:03:16 ฉันไหมครับใช้กระบวนท่าเดียวในการต่อสู้
00:03:16 → 00:03:19 แต่ด่านที่ 3 เนี่ยต้องการข้อมูลของเชื้อ
00:03:19 → 00:03:22 โรคมาเกาะนั่นหมายความว่าเมื่อโชคบุกเข้า
00:03:22 → 00:03:24 มาแล้วมันไม่สามารถตอบสนองทันทีมันต้องรอ
00:03:24 → 00:03:26 ข้อมูลก่อนว่าเชื้อโรคที่บุกเข้ามาเนี่ย
00:03:26 → 00:03:29 มีหน้าตาแบบไหนจากนั้นเดี๋ยวมันค่อยไปหา
00:03:29 → 00:03:32 วิธีที่จะตอบสนองให้มีความจำเพาะสำหรับ
00:03:32 → 00:03:35 เชิญๆดังๆนะครับอย่างที่สองแล้วนะที่ 3
00:03:35 → 00:03:37 เนี่ยก็คือจะต่างกันของความเร็วดันที่สอง
00:03:37 → 00:03:40 เนี่ยตอบสนองเร็วแต่ว่าไม่จำเพาะด้านที่ 3
00:03:40 → 00:03:43 เนี่ยจะต้องรอแต่ว่าการตอบสนองเนี่ยจาก
00:03:43 → 00:03:46 จำเพาะมากกว่าก็ทำให้มีข้อดีก็คือมี
00:03:46 → 00:03:48 ประสิทธิภาพมากกว่าที่นี้นะครับเรามาดูใน
00:03:48 → 00:03:51 แง่ของเป้าหมายนะครับของการกับสองแบบแบบ
00:03:51 → 00:03:54 ที่ 2 อย่างที่สามเนี่ยต่างกันยังไงอย่าง
00:03:54 → 00:03:55 ที่สองเนี่ยต้องบอกว่ามันเหมือนกับโฟกัส
00:03:55 → 00:03:58 หลักๆเลยเป็นเรื่องของการที่จะพยายาม
00:03:58 → 00:04:01 จำกัดนะครับพื้นที่มีการติดเชื้อไม่ให้
00:04:01 → 00:04:04 มันกระจายออกไปเป้าหมายการนึงนะครับของ
00:04:04 → 00:04:06 อย่างที่ 2 นะครับก็คือพยายามที่จะให้
00:04:06 → 00:04:08 เชื้อที่เข้ามาแล้วนะครับในบริเวณนั้น
00:04:08 → 00:04:11 เนี่ยถูกชะล้างนะครับถูกเจอจางหรือว่าหา
00:04:11 → 00:04:13 วิธีที่จะขจัดเชื้อนะเนี่ยออกไปจากร่าง
00:04:13 → 00:04:16 กายวิธีการเรียนมันก็ไม่จะออกมาในรูปแบบ
00:04:16 → 00:04:19 ของอาการต่างๆที่เราคุ้นเคยกันนะครับเช่น
00:04:19 → 00:04:22 การมีน้ำตาไหลนะครับการมีน้ำมูกการดี
00:04:22 → 00:04:24 เสมหะนะครับหรือว่าจะเป็นเรื่องของทาน
00:04:24 → 00:04:27 อาหารก็จะเรื่องของอาการท้องเสียนะครับ
00:04:27 → 00:04:29 โดยที่ร่างกายจะใช้วิธีการหลั่งสารนะครับ
00:04:29 → 00:04:32 หลังของเหลวหลังน้ำต่างๆเนี่ยเข้าไปใน
00:04:32 → 00:04:34 บริเวณนั้นเยอะๆนะครับน้ำที่เข้ามาใน
00:04:34 → 00:04:36 บริเวณนั้นเพิ่มมากขึ้นเนี่ยมันก็เหมือน
00:04:36 → 00:04:38 กับมาเพียงที่จะมาเจอจางนะครับความเป็น
00:04:38 → 00:04:41 พิษนะครับหรือถ้าเป็นลักษณะของน้ำมูก
00:04:41 → 00:04:43 เสมหะหรือน้ำตาเนี่ยมันก็คือการพยายาม
00:04:43 → 00:04:45 ชาร์จล้างนะครับสิ่งที่แปลกปลอมหรือว่า
00:04:45 → 00:04:48 ผู้ฉโลกเรียนให้ออกไปจากร่างกายโดยพวกน้ำ
00:04:48 → 00:04:50 มูกนะครับเสริมผ่านไม่ค่อยเป็นเมื่อคิด
00:04:50 → 00:04:54 ถึงจะมาจับพวกตัวเชื้อโรคนะครับแล้วก็ตาม
00:04:54 → 00:04:58 ผิวที่บุกด้านในของขอท่อทางเดินหายใจนะ
00:04:58 → 00:05:00 ครับทางเดินหานะมันก็จะมีเรื่องของคนเล็ก
00:05:00 → 00:05:03 ๆเต็มที่จะคอยพันโบกให้ตัวเมื่อพวกนี้มัน
00:05:03 → 00:05:05 อยู่ดอกไม้นะครับทำให้เรารู้สึกว่าอยากจะ
00:05:05 → 00:05:07 สั่งน้ำมูกหรือว่าอยากที่จะขับเสมหะเนี่ย
00:05:07 → 00:05:10 ออกมานั้นนะครับก็คือเป้าหมายนะครับของ
00:05:10 → 00:05:12 การตอบสนองของฐานที่ 2 นะครับที่นี่สอบ
00:05:12 → 00:05:14 อย่างที่ 3 ในจริงๆเราจะไม่เห็นเป็น
00:05:14 → 00:05:17 ลักษณะเป็นออกมาเป็นอาการที่เรารับรู้ว่า
00:05:17 → 00:05:19 นี่คืออาการนะครับเพราะว่านะครับด้านที่ 3
00:05:19 → 00:05:21 เนี่ยก็อย่างที่บอกนั่นคือกระบวนการที่
00:05:21 → 00:05:23 พี่เอ็มซ่านะครับการตอบสนองผู้กันที่
00:05:23 → 00:05:25 เฉพาะกับเชื้อนั้นก็คือจะสร้างสิ่งที่
00:05:25 → 00:05:27 เรียกว่าดิบดีออกมาเพื่อมาจับกับเชื้อโรค
00:05:27 → 00:05:30 ซึ่งการรับส่งคนงานที่ 3 นะครับจะทำให้
00:05:30 → 00:05:32 การตอบสนองแล้วการต่อสู้ประชุมโรงเรียนมี
00:05:32 → 00:05:34 ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นนะครับก็คือดีกว่า
00:05:34 → 00:05:36 ได้ที่ 2 ซึ่งต่อสู้แบบที่ไม่รู้ว่าหน้า
00:05:36 → 00:05:39 ตาของเชื้อโรคเนี่ยเป็นยังไงแล้วที่สำคัญ
00:05:39 → 00:05:41 มากอีกอย่างนึงนะครับของการที่ 3 ว่าคือ
00:05:41 → 00:05:44 ว่ามันมีความจำครับหมายถึงว่ามันสามารถ
00:05:44 → 00:05:46 แยกเซฟข้อมูลนะครับหรือจำข้อมูลได้ว่า
00:05:46 → 00:05:49 เช่นโรคที่บุกเข้ามาเนี่ยหน้าตาเป็นแบบ
00:05:49 → 00:05:51 นี้ในอนาคตนะครับส่วนเราขายโปรจะข้างนี้
00:05:51 → 00:05:53 ไปแล้วครั้งหน้ามีเชื้อและบุกเข้ามาอีกนะ
00:05:53 → 00:05:56 ครับเชื่อตัวเดิมนะครับร่างกายเราก็จะ
00:05:56 → 00:05:58 สามารถที่ยันดีแทคได้เลยนะครับรู้ทันที
00:05:58 → 00:06:00 ว่าตัวนี้เคยเข้ามาแล้วนะครับแล้วก็ก็
00:06:00 → 00:06:02 สามารถที่จะหาวิธีการตอบสนองแบบที่จำเพาะ
00:06:02 → 00:06:05 เนี่ยออกมาได้เลยโดยที่ไม่ต้องมาผ่าน
00:06:05 → 00:06:07 กระบวนการทั้งหมดนะครับอีกรอบนะครับ
00:06:07 → 00:06:09 เหมือนที่เกิดขึ้นในตอนที่เชื้อโรคบุก
00:06:09 → 00:06:12 เข้ามาครั้งแรกโอเคพอเห็นเค้าๆนะครับว่า
00:06:12 → 00:06:14 เป้าหมายของแต่ละด่านเนี่ยมันต่างกันยัง
00:06:14 → 00:06:16 ไงนะครับคราวนี้นะครับผมอยากจะชวนลงลึกไป
00:06:16 → 00:06:19 ฆ่านึงนะครับเป็นดูว่าในทีมนะครับและ
00:06:19 → 00:06:21 สมาชิกของระบบภูมิคุ้มกันที่เราคุยกันไป
00:06:21 → 00:06:24 เนี่ยทางด้านที่ 2 ให้การที่ 3 มันมีใคร
00:06:24 → 00:06:26 บ้างนะครับแล้วมันแบ่งหน้าที่กันทำงานยัง
00:06:26 → 00:06:28 ไงบ้างนะครับปกติเวลาเราพูดถึงระบบภูมิ
00:06:28 → 00:06:30 คุ้มกันในผมเชื่อว่าหลายคนจะนึกถึงไม่
00:06:30 → 00:06:33 เลือดขาวถูกไหมครับซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนะ
00:06:33 → 00:06:35 ครับเพราะว่ามันเลือดขาวในถือว่าเป็น
00:06:35 → 00:06:37 เหมือนกับตัวหลักนะครับหรือว่าเป็นศูนย์
00:06:37 → 00:06:40 กลางครับที่เชื่อม Network ต่างๆเข้าด้วย
00:06:40 → 00:06:43 กันแต่ว่าไม่ขาวเลยไม่ใช่แค่สิ่งเดียวนะ
00:06:43 → 00:06:46 ครับในระบบภูมิคุ้มกันระบบโครงการแบบมัน
00:06:46 → 00:06:48 มีสมาชิกเนี่ยที่เข้ามาเกี่ยวข้องในมาก
00:06:48 → 00:06:50 มายนะครับทั้งส่วนที่เป็นอวัยวะนะครับ
00:06:50 → 00:06:52 เป็นเนื้อเยื่อและก็เป็นเซลล์ต่างๆมากมาย
00:06:52 → 00:06:55 ที่นี่เน็ตเวิร์กของภูมิคุ้มกันนะครับก็
00:06:55 → 00:06:57 จะเริ่มพูดถึงตั้งแต่ผิวหนังนะครับอย่าง
00:06:57 → 00:06:59 ที่เราคุยกันในตอนที่แล้วว่าผิวหนังผิวโค
00:06:59 → 00:07:02 ซ่าแล้วคะเป็นฐานแรกนะครับป้องกันในช่วง
00:07:02 → 00:07:05 บกเข้ามาลองเหลือไปจากนั้นก็จะมีเอาเอา
00:07:05 → 00:07:07 ต่างๆมากมายนะครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
00:07:07 → 00:07:09 ใครกระดูกนะครับเสมือนเป็นโรงงานครับที่
00:07:09 → 00:07:11 ผลิตเป็นเลือดต่างๆนะครับซึ่งก็รวมถึงได้
00:07:11 → 00:07:14 เลยขาวซึ่งเป็นเหมือนกับพระเอกของระบบ
00:07:14 → 00:07:17 ภูมิคุ้มกันนะครับก็อวัยวะอย่างตับแล้วก็
00:07:17 → 00:07:20 มามาเนี่ยก็เกี่ยวข้องด้วยนะครับยกตัว
00:07:20 → 00:07:22 อย่างนะครับปั๊บเนี่ยก็จะมีพวกเขียวเซลล์
00:07:22 → 00:07:25 ภูมิคุ้มกันเข้าไปอยู่เยอะมากนะครับคำถาม
00:07:25 → 00:07:27 คือทำไมนะครับเพราะว่าจะจำกันได้นะครับ
00:07:27 → 00:07:29 ตอนที่เราคุยเรื่องของการทำงานของกลับนะ
00:07:29 → 00:07:31 ครับอันหนึ่งที่ผมเคยเล่าไว้นะครับก็คือ
00:07:31 → 00:07:34 ว่าปกติเมื่อเรากินอาหารเสร็จแล้วนะครับ
00:07:34 → 00:07:36 แล้วก็อาหารให้ทุกเดือนลำไส้ผ่านผนังลำ
00:07:36 → 00:07:38 ไส้เล็กเนี่ยมันจะถูกส่งผ่านเข้าไปที่
00:07:38 → 00:07:40 ซื้อเลื่อนใหญ่เส้นหนึ่งซึ่งวิ่งตรงไปที่
00:07:40 → 00:07:43 ตับที่นี่จะเห็นว่าตอบเหมือนเป็นด่านหน้า
00:07:43 → 00:07:46 นะครับที่จะรับสารอาหารที่มาจากลำไส้เล็ก
00:07:46 → 00:07:48 โดยตรงซึ่งก็แน่นอนว่าอาหารที่เรากินเข้า
00:07:48 → 00:07:51 ไปในบางครั้งก็จะมีเชื้อโรคปนเพื่อนๆเข้า
00:07:51 → 00:07:53 ไปด้วยนะครับซึ่งตอบใกล้จะมีพวกเซลล์ภูมิ
00:07:53 → 00:07:55 คุ้มกันอยากจะอยู่จำนวนมากนะครับเพื่อจะ
00:07:55 → 00:07:58 ไม่ครับคอยไปกรองนะครับให้แน่ใจว่าการดูด
00:07:58 → 00:07:59 ซึมที่เข้าไปเนี่ยมันไม่มีเชื้อ
00:07:59 → 00:08:02 จุลินทรีย์ก็จะเกาะโรคให้กับร่างกายก็ได้
00:08:02 → 00:08:05 ที่นอกเหนือจากไขกระดูกนะครับตับม้ามนะ
00:08:05 → 00:08:07 ครับก็จะมีเรื่องของต่อมน้ำเหลืองนะครับ
00:08:07 → 00:08:09 รับท่อน้ำเหลืองซึ่งต่อมน้ำเหลืองเนี่ย
00:08:09 → 00:08:12 มันก็คือมันก็คือเป็นต่อมาครับเป็นเล็กๆ
00:08:12 → 00:08:14 นะครับเล็กอาจจะประมาณสักเครื่องหนึ่งของ
00:08:14 → 00:08:16 เป็นถั่วเขียวนะครับประมาณสักครึ่งเซนนะ
00:08:16 → 00:08:19 ครับเลยกว่านั้นออกกระจายอยู่โทษร่างกาย
00:08:19 → 00:08:21 นะครับตั้งแต่หัวถึงเท้านะครับนอกเหนือ
00:08:21 → 00:08:23 จากนั้นนะครับก็จะมีอวัยวะที่หลายคนอาจจะ
00:08:23 → 00:08:25 ไม่คุ้นเคยนะครับอย่างเช่นป้อมไทยมาสนะ
00:08:25 → 00:08:27 ครับต้องไทยมาสเนี่ยก็จะอยู่แถวๆเบย์
00:08:27 → 00:08:29 เนี่ยนะครับก็คือเป็นด้านคอด้านหลังๆนะ
00:08:29 → 00:08:31 ครับเดี๋ยวบางคนจะเลื่อนยอดออกก็ได้นะ
00:08:31 → 00:08:33 ครับซึ่งต้องใช้มาสค์ name ก็จะเป็นต่อม
00:08:33 → 00:08:36 ที่เหมือนกับทำหน้าที่เป็นโรงเรียนนะครับ
00:08:36 → 00:08:39 สอนในเลือดขาวก็คือว่าจะไม่เลิกขาวเกิด
00:08:39 → 00:08:41 ที่ใครกระดูกนะครับจะมีไม่เหลือขาบางส่วน
00:08:41 → 00:08:44 เดินทางที่ต่อมไทมัสเพื่อมาเจริญและพัฒนา
00:08:44 → 00:08:47 นะครับถึงจะรู้ว่าเข้าโรงเรียนต่อก็ได้นะ
00:08:47 → 00:08:48 ครับเพื่อจะทำหน้าที่บางอย่างที่จำเพาะ
00:08:48 → 00:08:51 สำหรับเซลล์นั้นๆโดยสรุปนะครับประเด็น
00:08:51 → 00:08:54 สำคัญที่อยากให้เห็นภาพคือว่าระบบภูมิ
00:08:54 → 00:08:57 คุ้มกันเนี่ยมันเป็นเน็ตเวิร์คนะครับของ
00:08:57 → 00:09:00 อวัยวะต่างๆนะครับหลายอวัยวะในร่างกายแม้
00:09:00 → 00:09:02 แต่อยู่ในวัดที่หลักๆทำหน้าที่ในระบบอื่น
00:09:02 → 00:09:04 นะครับเช่นทางเดินอาหารเนี่ยมันก็ถือว่า
00:09:04 → 00:09:07 เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันด้วยโอเค
00:09:07 → 00:09:09 คราวนี้นะครับเราจะมาคุยถึงพระเอกกันบ้าง
00:09:09 → 00:09:11 นะครับก็คือเซลล์เม็ดเลือดขาวนะครับที่
00:09:11 → 00:09:13 เราบอกว่าเป็นพระเอกเพราะว่าไม่เลือดขาว
00:09:13 → 00:09:15 ที่มันเหมือนเป็นตัวที่คอยเชื่อมทั้งได้
00:09:15 → 00:09:17 เบิกทั้งหมดเข้าด้วยกันนะครับที่นี่ก็
00:09:17 → 00:09:19 อย่างที่บอกนะครับไม่ลดขาวแล้วมันมี
00:09:19 → 00:09:21 สมาชิกค่อนข้างเยอะนะครับแล้วก็มีความ
00:09:21 → 00:09:23 หน้าที่การทำงานในที่ค่อนข้างซับซ้อนมาก
00:09:23 → 00:09:26 มายนะครับเดี๋ยวที่เราจะคุยกันคำจะมีชื่อ
00:09:26 → 00:09:28 ค่อนข้างเยอะนะครับอันนี้ผมอยากจะบอกว่า
00:09:28 → 00:09:30 เกาะเลยนะครับว่าจริงที่เล่าทั้งหมดนี้
00:09:30 → 00:09:32 ไม่ได้ตั้งใจให้จำชื่อทุกชื่อนะครับไม่
00:09:32 → 00:09:34 ได้อยากให้รู้จักหน้าที่ทุกหน้าที่ของ
00:09:34 → 00:09:36 เมล็ดขาวแต่ที่เล่ามันจะเป็นการยกตัว
00:09:36 → 00:09:38 อย่างให้เห็นนะครับโดยเฉพาะตัวที่สำคัญ
00:09:38 → 00:09:41 สำคัญนะครับที่นี่ผมเชื่อว่าถ้าได้ยินสัก
00:09:41 → 00:09:44 ครั้งในเวลาจากพอคุ้นหูนะครับข้างหน้าก็
00:09:44 → 00:09:46 ได้ยินที่อื่นมันจะจำได้ง่ายขึ้นนะครับ
00:09:46 → 00:09:48 แต่ว่าจริงๆหลักๆที่เราให้ฟังหน่อยคือแค่
00:09:48 → 00:09:50 อยากให้เห็นภาพนะครับว่าให้ระบบภูมิคุ้ม
00:09:50 → 00:09:53 กันหรือว่าไม่เลือดขาวเนี่ยมันทำงานร่วม
00:09:53 → 00:09:55 กันยังไงนะครับอันนี้ผมอยากจะขอเริ่มจาก
00:09:55 → 00:09:57 เม็ดเลือดขาวที่อยู่ในด่านที่สองก่อนนะ
00:09:57 → 00:09:59 ครับตัวแรกที่อยากจะแนะนำให้รู้จักนะครับ
00:09:59 → 00:10:02 มีชื่อว่าแม็คโครก็อาจนะครับคำว่ามาขอฝาก
00:10:02 → 00:10:04 ชื่อเนี่ยค่อนข้างอธิบายลักษณะหน้าตาของ
00:10:04 → 00:10:06 เซลล์นะครับเขาว่าแม็คโครเนี่ยมันแปลว่า
00:10:06 → 00:10:09 ใหญ่ถูกไหมครับส่วนคำว่าฝากนะครับมันแปล
00:10:09 → 00:10:11 ว่ากินเพราะว่าเซลล์ตัวนี้นะคะมันเป็น
00:10:11 → 00:10:13 เซลล์ที่ตอนที่ 2 กล้องจุลทรรศน์เข้าไป
00:10:13 → 00:10:16 เนี่ยเราจะเห็นว่ามันใหญ่กว่าเส้นอื่นเรา
00:10:16 → 00:10:19 ก็มันทำหน้าที่เด็กกินพวกแตกทีเรียนะครับ
00:10:19 → 00:10:21 หรือว่าชูรสต่างๆจุลินทรีย์ต่างๆที่เข้า
00:10:21 → 00:10:23 มาในร่างกายของเราได้ที่นี่มากก็ฝากเนี่ย
00:10:23 → 00:10:27 เราจากที่อยู่ของมันนะครับนะก็ฝากปกติมัน
00:10:27 → 00:10:29 จะอยู่ในโดยที่เราเป็นเนื้อเยื่อต่างๆของ
00:10:29 → 00:10:32 ร่างกายนะครับที่นี่ปลาพูดถึงเยอะเนี่ยผม
00:10:32 → 00:10:34 อยากจะวาดภาพให้เห็นนึงก่อนนะครับคือถ้า
00:10:34 → 00:10:36 เรามองร่างกายของเรานะครับให้มองสุดแล้ว
00:10:37 → 00:10:38 บอกว่าเส้นเลือดนะครับเป็นเหมือนเป็น
00:10:38 → 00:10:41 เน็ตเวิร์คนะครับของขอทางหลวงนะครับเป็น
00:10:41 → 00:10:44 ถนนทางหลวงและเป็นถนนไฮเวย์เนี่ยที่วิ่ง
00:10:44 → 00:10:47 ตามส่วนต่างของร่างกายพวกนี้ต่างๆก็จะ
00:10:47 → 00:10:49 หมายถึงเหมือนกันเป็นทีมต่างๆนะครับอาจจะ
00:10:49 → 00:10:52 เป็นอำเภอเป็นจังหวัดต่างๆนะครับก็คือ
00:10:52 → 00:10:55 เป็นแต่ละท้องถิ่นนะครับที่นี่นะคะฝากมัน
00:10:55 → 00:10:57 จะเหมือนกับตำรวจและทหารที่อยู่ในท้อง
00:10:57 → 00:11:00 ถิ่นนั้นก็คือมีหน้าที่คอยดูแลอยู่ที่
00:11:00 → 00:11:02 เต็มที่มันอยู่อาศัยอยู่นะครับที่นี้นะ
00:11:02 → 00:11:05 ครับถ้าเรามีเธอโลกนะครับเข้าในร่างกาย
00:11:05 → 00:11:07 เราได้นะครับเช่นอาจจะเราไปเหยียบตะปูนะ
00:11:07 → 00:11:09 ครับโดนมีดบาดบริเวณนั้นก็จะมีชื่อว่า
00:11:09 → 00:11:12 เข้าไปนะครับเช่นมีบัตรที่นิ้วจะล็อคจะ
00:11:12 → 00:11:15 เข้าไปที่ New นะก็ฝากที่จะใส่อยู่แถวๆ
00:11:15 → 00:11:17 เยอะ Benz New นะครับพอมันเห็นเชื้อ
00:11:17 → 00:11:19 จุลินทรีย์ปุ๊บมันก็จะรับรู้แล้วว่าตอน
00:11:19 → 00:11:21 นี้มีพวกชนกเข้ามาแล้วมันก็จะเข้าไปจับ
00:11:21 → 00:11:24 กินนะครับที่นี่หน้าที่ของมันไม่ได้แค่
00:11:24 → 00:11:26 จับกินเที่ยวอย่างเดียวแต่มันยังสามารถ
00:11:26 → 00:11:28 ที่จะส่งสารเคมีนะครับที่นี่สารเคมีที่
00:11:28 → 00:11:31 มันหลั่งออกมานั้นก็จะเป็นการส่งสัญญาณนะ
00:11:31 → 00:11:32 ครับเพื่อแจ้งเข้าไปในกระแสเลือดนะครับ
00:11:33 → 00:11:36 ให้รับรู้ว่าตรงนี้มีชนกบุกเข้ามาแล้วนะ
00:11:36 → 00:11:39 แล้วก็ขอกำลังเสริมครับที่นี่มันก็จะมี
00:11:39 → 00:11:41 พวกเธอไม่ได้แถวนอื่นๆในเลือดนะครับที่
00:11:41 → 00:11:44 รับได้รับสัญญาณก็จะเข้ามาช่วยกำลังเสริม
00:11:44 → 00:11:46 ครับโดยเฉพาะตัวที่ชื่อว่าหนูโรฟิลล์นะ
00:11:46 → 00:11:48 ครับซึ่งเดี๋ยวเราจะคุยกันต่อนะครับเป็น
00:11:48 → 00:11:50 ตัวที่ 2 ที่จะเล่าให้ฟังนะครับจะได้กลับ
00:11:50 → 00:11:52 มาที่มาฝากด้วยจากที่มันกินฉันโลกนะครับ
00:11:52 → 00:11:54 อันที่ 1 ก็คือมันฆ่าเชื้อโรคด้วยกันกิน
00:11:54 → 00:11:57 อะที่สองคือมันส่งสัญญาณนะครับเรียบออก
00:11:57 → 00:12:00 กำลังเสริมมาเข้ามาหน้าที่ที่ 3 นะครับก็
00:12:00 → 00:12:02 คือมานะครับหน้าที่นะครับในการนำเชื้อโรค
00:12:02 → 00:12:05 นะครับไปส่งต่อให้กับร้านที่ 3 หรือพูด
00:12:05 → 00:12:08 ง่ายๆคือมันเป็นการสื่อสารให้ด่านที่ 3
00:12:08 → 00:12:10 ไม่รู้ว่าตอนนี้มีเชื้อโรคเข้ามาแล้วแล้ว
00:12:10 → 00:12:12 ไม่ใช่แค่แจ้งให้เรารู้เฉยๆแต่ให้ดูด้วย
00:12:12 → 00:12:15 ว่าหน้าตาของฉันโลกมันเป็นแบบนี้ก็คือส่ง
00:12:15 → 00:12:17 ข้อมูลให้ได้ที่ 3 ดูเพื่อให้ด่านที่ 3
00:12:17 → 00:12:19 นะครับเซลล์ที่อยู่ในด่านที่ 3 เนี่ย
00:12:19 → 00:12:22 เริ่มต้นทำงานแล้วก็คิดวิธีตอบสนองนะครับ
00:12:22 → 00:12:25 ที่มีความจำเพาะกับเชื้อโรคตัวนั้นๆโอเค
00:12:25 → 00:12:27 อันนั้นก็เป็นแมคโครฟาจนะครับเข้าๆนะครับ
00:12:27 → 00:12:30 ที่นี่สมาชิกตัวที่สองนะครับของไป LED
00:12:30 → 00:12:32 ขาวด่านที่ 2 เนี่ยที่อยากแนะนำให้รู้จัก
00:12:32 → 00:12:34 นะครับก็มีชื่อว่ายูโรฟิลล์ครับนิวโทรฟิล
00:12:34 → 00:12:36 เหลือเป็นเม็ดเลือดที่อาศัยหลักๆอยู่ใน
00:12:36 → 00:12:39 เลือดนะครับก็คือจะไหลเวียนอยู่ในเลือดนะ
00:12:39 → 00:12:41 ครับไปทั่วร่างกายไม่ได้ประจำอยู่ที่ท้อง
00:12:41 → 00:12:44 ถิ่นใหม่นะครับที่นี่มีแต่ตัวนี้นะคะเวลา
00:12:44 → 00:12:46 เราไปตรวจเลือดนะครับที่จะไปเจาะเลือด
00:12:46 → 00:12:48 ตรวจที่โรงพยาบาลนะครับแล้วก็จะดูค่าไม่
00:12:48 → 00:12:51 เลือดขาวเนี่ยปกติไม่ได้ขาวที่เราดูส่วน
00:12:51 → 00:12:53 ใหญ่ที่เราเห็นเนี่ยมันก็คือพวกตัวนี้นะ
00:12:53 → 00:12:55 ครับก็คือตัวที่ชื่อว่าดูโรฟิลล์นะครับ
00:12:55 → 00:12:57 ปกติยูโรฟิลล์มันก็จะไหลเวียนในเลือดไป
00:12:57 → 00:12:59 เรื่อยๆนะครับจะได้พอมารับสัญญานนะครับ
00:12:59 → 00:13:02 เช่นมากตัวส่งสัญญาณมามันก็จะรับรู้ว่า
00:13:02 → 00:13:05 อ๋อตรงนี้มีสัญญาณมานะครับสิ่งที่มันทำ
00:13:05 → 00:13:08 คือมันก็จะชิดนะครับเข้าอยู่ติดๆกับขอบ
00:13:08 → 00:13:12 ผนังของเส้นเลือดนะครับแล้วก็ค่อยทะลุรู
00:13:12 → 00:13:14 ของเส้นเลือดเนี่ยออกมาแล้วเข้าไปที่
00:13:14 → 00:13:17 บริเวณนั้นนี่โรฟิลล์และมันก็เป็นนี้เป็น
00:13:17 → 00:13:20 กำลังเสริมนะครับวิธีฆ่าแบคทีเรียของ rito
00:13:20 → 00:13:22 ฟิวส์แล้วมันก็ใช้วิธีจับกินเหมือนกันนะ
00:13:22 → 00:13:24 ครับเมนูฟิววันนี้ขนาดเล็กกว่ามาโครฟ้านะ
00:13:24 → 00:13:27 ครับก็คือมันไม่ได้เป็นแม็คโครนะครับส่วน
00:13:27 → 00:13:29 L ก็ได้กินแบบหนึ่งตอนหนึ่งนะครับก็ตัว
00:13:29 → 00:13:31 มันก็กินไปที่ตัวนึงนะครับที่นี่นอกเหนือ
00:13:31 → 00:13:33 จากการจับกินนะครับมีโรฟิลล์เนี่ยก็ยัง
00:13:33 → 00:13:35 ส่งสัญญาณเหมือนกันนะครับก็เป็นการส่ง
00:13:35 → 00:13:37 สัญญาณด้วยกำลังเสริมและเพิ่มเข้าไปอีกนะ
00:13:37 → 00:13:39 ครับนี่การส่งสัญญาณคอมพิวเตอร์ฟิวส์แล้ว
00:13:39 → 00:13:41 ก็จะเป็นสารเคมีเหมือนกันนะครับซึ่งก็จะ
00:13:41 → 00:13:43 ไปเรียกทีมของภูมิคุ้มกันอย่างเข้ามาอีก
00:13:43 → 00:13:46 จำนวนมากนะครับซึ่งก็จะมีมาทำหน้าที่เรา
00:13:46 → 00:13:49 ต่างที่ค่ะมาต่อสู้นะครับแล้วก็ส่วนก็ส่ง
00:13:49 → 00:13:51 สัญญาณเพื่อไปบอกระบบที่ต้องซ่อมแซมร่าง
00:13:51 → 00:13:54 กายนะครับก็คือว่าเป็นระบบที่หลังจากที่
00:13:54 → 00:13:56 เคลียร์การต่อสู้จบสิ้นไปแล้วเนี่ยก็จะมี
00:13:56 → 00:13:59 ระบบซ่อมแซมตามมาโทรให้นิวโทรฟิลจะทำหน้า
00:13:59 → 00:14:02 ที่แจ้งไปว่าต่อแต่ตอนนี้การต่อสู้อยู่นะ
00:14:02 → 00:14:04 แต่ระบบซ่อมแซมให้เตรียมตัวไว้เตรียมที่
00:14:04 → 00:14:06 จะเข้ามาซ่อมแซมและจากที่การต่อสู้เนี่ย
00:14:06 → 00:14:09 จบสิ้นลงแล้วอาการต่างๆนะคะที่เรารู้จัก
00:14:09 → 00:14:12 ในชื่อของการอักเสบนะครับก็คือมีอาการบวม
00:14:12 → 00:14:16 แดงร้อนนะครับมันก็มาจากผลของการทำงานของ
00:14:16 → 00:14:18 นิวโทรฟิลเนี่ยส่วนหนึ่งนะครับก็คือสาร
00:14:18 → 00:14:21 เคมีที่มีรถฟิวส์เลียไปเนี่ยมันนำไปสุวะ
00:14:21 → 00:14:24 การเหล่านั้นซึ่งกระบวนการอักเสบเนี่ยผม
00:14:24 → 00:14:26 จะยังไม่เล่าในที่ศกนี้นะครับผมคิดว่าผม
00:14:26 → 00:14:28 จะนำเป็นเล่าแยกเป็นเอกที่สนเลยนะครับ
00:14:28 → 00:14:31 เพราะว่าการเกษตรมันเป็นขั้นตอนที่สำคัญ
00:14:31 → 00:14:34 มากนะครับแล้วก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจมาก
00:14:34 → 00:14:36 มายตอนนี้เลยค่ะอยากให้เห็นนะคะว่าหนูจะ
00:14:36 → 00:14:39 ฟิวส์เนี่ยเข้ามามีบทบาทในระบบนี้ยังไงนะ
00:14:39 → 00:14:41 ครับที่นี่ดูจะฟิวส์เนี่ยเราจะคิดไป
00:14:41 → 00:14:43 เที่ยวเสร็จนะครับมันก็จะตายเพราะว่า
00:14:43 → 00:14:45 แบคทีเรียแล้วมีตัวฟิวส์นะครับที่ตายครับ
00:14:45 → 00:14:48 ผมทับถมกันมากๆมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่เรา
00:14:48 → 00:14:51 เห็นแล้วก็เรารู้จักในชื่อว่าน้องนะครับ
00:14:51 → 00:14:54 แล้วก็ถึงเซลล์ผมโครงการด่านที่ 2 ตัวที่
00:14:54 → 00:14:56 ศาลที่อยากแนะนำให้รู้จักนะครับก็มีชื่อ
00:14:56 → 00:14:59 ว่าแม้เซลล์นะครับที่นี่แม้เซลล์เนี่ยมัน
00:14:59 → 00:15:01 ก็จะเหมือนกับนักฟ้าและก็คือแสดงบ้างจะไป
00:15:01 → 00:15:04 ตามถิ่นอยู่ที่ไหนที่ 1 นะครับก็คืออาศัย
00:15:04 → 00:15:06 อยู่ในเนื้อเยื่อแต่วิธีการต่อสู้ของ Mask
00:15:06 → 00:15:09 sale ในจะตามไปจากน่ากลัวฝากนะครับก็แม่
00:15:09 → 00:15:11 ก็ฝากไม่ใช่วิธีการกินเป็นหลักก็ไหมครับ
00:15:11 → 00:15:13 แต่แม้เซลล์เนี่ยมันจะไม่กินทั่วโลกนะ
00:15:13 → 00:15:15 ครับจะมาใส่ว่าตัวมันเองจะมีถุงนะครับภาย
00:15:15 → 00:15:18 ในถุงนี้จะมีสารเคมีมากมายนะครับถ้าอยู่
00:15:18 → 00:15:20 ภายในตัวมันนะครับที่นี่เพราะมันรับรู้
00:15:20 → 00:15:21 ว่าพี่จะโลกเข้ามาเนี่ยมันจะต่อสู้กับ
00:15:21 → 00:15:24 เชื้อโรคด้วยอาวุธเคมีนะครับก็คือมันจะ
00:15:24 → 00:15:26 ปล่อยสารเคมีเหล่านี้นะครับซึ่งสารเคมี
00:15:26 → 00:15:28 เหล่านี้ก็จะมีชื่อเรียกมากมายนะครับเช่น
00:15:28 → 00:15:31 ใส่ตู้ขายนะครับเขาว่าหรือคนไทยเองครับ
00:15:31 → 00:15:33 และที่สำคัญที่ชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยิน
00:15:33 → 00:15:36 ก็คือคำว่าฮิตามีนะครับซึ่งก็เป็นสารเคมี
00:15:36 → 00:15:38 ตัวสำคัญนะครับที่ทำให้เกิดการที่เรารู้
00:15:38 → 00:15:41 จักกันนะครับว่าอาการแพ้นะครับก็คืออาการ
00:15:41 → 00:15:44 ของการที่ดีน้ำมูกไหลนะครับมีเสมหะก็น้ำ
00:15:44 → 00:15:47 ตาไหลไอจามทั้งหลายแล้วเนี่ยมาจากสารพิษ
00:15:47 → 00:15:50 จะมีนะครับทั้งนั้นที่พวกยาแก้แพ้ที่เรา
00:15:50 → 00:15:52 กินกันนะครับมันก็เลยมีชื่อเรียกอีกชื่อ
00:15:52 → 00:15:55 ที่เขานิยมเรียกกันว่าก็คือเป็นยาที่ว่า
00:15:55 → 00:15:58 อันติส B นะครับก็คือแอนตี้สารเคมีตัวนี้
00:15:58 → 00:16:00 เซลล์ตัวจะไปที่อยากแนะนำให้รู้จักนะแต่
00:16:00 → 00:16:03 ว่าเซลล์ dendritic Cell นะครับเดนไดรต์
00:16:03 → 00:16:05 นะครับหรือว่าเรียนรู้เด็กเซลล์เนี่ยความ
00:16:05 → 00:16:07 ชื่นครับชื่อของมันมีความหมายว่าจริงก้าน
00:16:07 → 00:16:09 สาขานะครับเพราะว่าเซลล์นี้นะครับเราสอง
00:16:09 → 00:16:12 กล้องจุลทรรศน์เนี่ยก็จะมีมันก็มีขาหลายๆ
00:16:12 → 00:16:14 ขานะครับมีกิ่งก้านสาขานี้มากมายนะครับ
00:16:14 → 00:16:16 ที่นี่เซลล์ตัวนี้มันค่อนข้างๆกันนะก็ฝาก
00:16:16 → 00:16:19 นะครับก็คือมันจะมีขาหน้าที่สามารถพญาคำ
00:16:19 → 00:16:22 หาเชื้อโรคนะครับแต่ละผ้ามันจะโลกเนี่ย
00:16:22 → 00:16:24 สิ่งที่มันทำว่าคือมันจะกินเชื้อโรคเข้า
00:16:24 → 00:16:27 ไปเพื่อฆ่าเชื้อโรคนะครับเมื่อเชื้อโรค
00:16:27 → 00:16:29 เข้าในตัวมาแล้วนะครับมันก็จะมีพวก
00:16:29 → 00:16:31 เอนไซม์นะครับที่สามารถย่อยหรือว่าขอ
00:16:31 → 00:16:34 เสมือนกระสอบทั่วโลกเป็นชีสนะครับสระเรา
00:16:34 → 00:16:36 ก็นำส่วนบางส่วนนึงนะครับของเชื้อโรคหรือ
00:16:36 → 00:16:39 มาแปะไว้ที่ผิวจากนั้นนะครับตัวมันเองก็
00:16:39 → 00:16:41 จะเดินทางไปที่ต่อมน้ำเหลืองนะครับเพื่อ
00:16:41 → 00:16:44 อะไรเพื่อที่จะเอาตัวทั่วโลกนะครับที่มัน
00:16:44 → 00:16:46 เอามาแปะไว้ที่ผิวเนี้ยไปให้กับเซลล์ตัว
00:16:46 → 00:16:48 นะครับซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวในด่าน
00:16:48 → 00:16:51 ที่ 3 นะครับมีชื่อว่าทีเซลล์ดูที่เซลล์
00:16:51 → 00:16:53 ในก็จะได้รับข้อมูลเป็นคำว่าเชื้อโรคที่
00:16:53 → 00:16:56 บุกเข้ามาเนี่ยมันมีหน้าตาแบบไหนเพื่อ
00:16:56 → 00:16:58 เป็นเตรียมการตอบสนองนะครับที่มีความ
00:16:58 → 00:17:00 จำเพาะกับเชื้อโรคที่หน้าตาแบบนั้น
00:17:00 → 00:17:02 ขอตำแหน่งที่อยู่นะครับเด่นรัฐเช็กแซวมัน
00:17:02 → 00:17:04 ก็จะอาศัยอยู่ตามเนื้อเยื่อใหม่กันนะครับ
00:17:04 → 00:17:06 แต่มันจะชอบอยู่ตามเยอะที่เป็นเรียกว่า
00:17:06 → 00:17:09 ผิวมีโคซ่านะครับที่เราคุยกันไปก็คืออ่อ
00:17:09 → 00:17:11 มันก็เป็นด่านหน้านะครับก็คือผิวส่วนที่
00:17:11 → 00:17:14 สัมผัสกับโลกภายนอกนะครับเช่นในช่องจมูก
00:17:14 → 00:17:16 นะครับในช่องปากนะครับช่องทางเดินอาหาร
00:17:16 → 00:17:18 ต้องเจริญหายใจตรงที่ผิวเดี๋ยวมันจะไป
00:17:18 → 00:17:21 ประจำอยู่แถวนั้นเพราะว่ามันง่ายต่อการ
00:17:21 → 00:17:23 ที่จะค้นพบเจอโรครักเมื่อถึงเซลล์ไม่ได้
00:17:23 → 00:17:25 ขาวตัวสุดท้ายนะครับผมทานที่ 2 ที่อยากจะ
00:17:25 → 00:17:29 พูดถึงนะครับมีชื่อย่อนะคะว่า NK Cell
00:17:29 → 00:17:31 นะครับปกติก็จะยอมเรียกว่า NK Cell นะ
00:17:31 → 00:17:34 ครับมันย่อมาจากคำว่านะเช่า Killer Cell
00:17:34 → 00:17:36 นะครับเข้ามาถือว่าเป็นเซลล์นักฆ่านะครับ
00:17:36 → 00:17:39 ตามชื่อเลยเซลล์ตัวนี้มันจะตามไปนะครับ
00:17:39 → 00:17:41 คือมันจะไม่ได้มองหาชื่อโรคนะครับแล้วมัน
00:17:41 → 00:17:43 ก็ไม่ได้โจมตีเชื้อโรคเลยตรงแต่สิ่งที่
00:17:43 → 00:17:46 มันมองหาก็คือเซลล์ของร่างกายของเรานะ
00:17:46 → 00:17:49 ครับที่ผิดปกติก็คือว่าปกติถ้าเซลล์ของ
00:17:49 → 00:17:51 เรานะครับถูกติดเชื้อนะครับหรือก็เช่นติด
00:17:51 → 00:17:54 เชื้อไวรัสนะครับเซลล์น่ะมันจะป่วยแล้ว
00:17:54 → 00:17:56 เซลล์มันคิดว่ามันไปไม่ไหวถ้ามันจะมีก็มี
00:17:56 → 00:17:58 การส่งสัญญาณขึ้นมาที่ผิวเซลล์นะครับ
00:17:58 → 00:18:01 เพื่อแจ้งให้คนอื่นรู้แต่ตอนนี้มันป่วย
00:18:01 → 00:18:04 มากนะครับแล้วมันไปต่อไม่ไหว NK Cell
00:18:04 → 00:18:06 เดี๋ยวมันจะรับรู้นะครับเสร็จแล้วก็จะ
00:18:06 → 00:18:08 สั่งมาที่ไปโจมตีที่เซลล์นั้นโดยตรงเพื่อ
00:18:08 → 00:18:10 ที่จะฆ่าเซลล์นั้นเป้าหมายก็คือเพื่อไม่
00:18:10 → 00:18:13 ให้ไวรัสมันแพร่จากเซลล์ที่ป่วยเนี่ยไป
00:18:13 → 00:18:15 เซลล์อื่นๆที่อยู่ข้างเคียงนะครับจะได้
00:18:15 → 00:18:18 เซลล์ที่ปกติตัวนะครับที่เป็นเป้าหมายของ
00:18:18 → 00:18:20 nk Cell และก็คือเซลล์มะเร็งก็คือเมื่อ
00:18:20 → 00:18:22 เซลล์ตัวไหนก็ตามครับที่เริ่มมีการกลาย
00:18:22 → 00:18:24 พันธุ์จนมันมีพฤติกรรมที่เหมือนกับเป็น
00:18:24 → 00:18:27 เซลล์มะเร็งขึ้นมาเนี่ย NK Cell ในก็จะ
00:18:27 → 00:18:29 สามารถรับรู้นะครับแล้วก็จะฆ่าเซลล์ตัว
00:18:29 → 00:18:31 นั้นทิ้งนะครับเพื่อให้เซลล์นะครับแบ่ง
00:18:31 → 00:18:33 ตัวเพิ่มจำนวนนะครับแล้วกลายเป็นโรค
00:18:33 → 00:18:34 มะเร็งในที่สุดนะครับแล้วทั้งหมดนี้นะ
00:18:34 → 00:18:37 ครับก็คือการทำงานของอย่างที่สองเค้าๆนะ
00:18:37 → 00:18:39 ครับที่อยากให้เห็นนะครับแค่นี้เราจะย้าย
00:18:39 → 00:18:42 มาดูได้ที่ 3 กันบ้างนะครับด้านที่ 3 ใน
00:18:42 → 00:18:44 ปกติเวลาเราพูดถึงนะครับมันจะมีเซลล์ที่
00:18:44 → 00:18:46 มันเป็นเซลล์พระเอกนะครับอยู่ตัวหนึ่ง
00:18:46 → 00:18:48 เป็นไม่เลือดขาวนะครับที่มีชื่อว่า
00:18:48 → 00:18:50 ลิมโฟไซต์นะครับลืมพอซ้ายเนี่ยมันยังแบ่ง
00:18:50 → 00:18:53 เป็น 2 ประเภทนะครับก็คือชื่อว่ามีเซลล์
00:18:53 → 00:18:56 นะครับกับคำว่าทีเซลล์นะครับซึ่งคำว่าบี
00:18:56 → 00:18:58 กับทีในที่จะมันเป็นชื่อย่อนะครับออกมา
00:18:58 → 00:19:01 จากชื่อเต็มของอวัยวะการค้นพบครั้งแรกนะ
00:19:01 → 00:19:03 ครับเป็นเช็ดตัวดีเซลในค้นพบครั้งได้จาก
00:19:03 → 00:19:06 การศึกษาอวัยวะที่ชื่อว่าเบอร์ซ่านะครับ
00:19:06 → 00:19:08 เบอร์ซ่าเอา fabby เชียวนะครับซึ่งพบนกนะ
00:19:08 → 00:19:11 ครับส่วนทีเซลส์เนี่ยแยกมาเราค้นพบครั้ง
00:19:11 → 00:19:14 แรกเนี่ยตอนที่ศึกษาในต้องไทยมากนะครับก็
00:19:14 → 00:19:16 เลยเลือกเป็นวัดทีเซลล์นะครับซึ่งก็ยอม
00:19:16 → 00:19:19 ทว่าไทยมาสที่หน้าที่การกำลังของ brt
00:19:19 → 00:19:21 เซลล์ในถ้าบอกว่ามีความซับซ้อนสูงมากนะ
00:19:21 → 00:19:24 ครับแล้วก็จริงๆแล้วมันก็มีการแบ่งชนิด
00:19:24 → 00:19:26 ย่อยไปอีกนะครับอย่างที่เซลล์ก็จะมีแบ่ง
00:19:26 → 00:19:28 เป็นขอให้ประทีเซลล์นะครับใส่โต Talk
00:19:28 → 00:19:31 สิ่งทีเซลล์นะครับแล้วก็เป็นให้คุณ
00:19:31 → 00:19:32 ราชวิธีเซลล์นะครับหรือว่าสไปเซอร์ T
00:19:32 → 00:19:35 cells ซึ่งก็จะมีหน้าที่ต่างกันไปซึ่ง
00:19:35 → 00:19:37 ตรงนี้ผมจะขอไม่พูดถึงรายละเอียดนะครับ
00:19:38 → 00:19:40 แล้วก็จริงๆบอกว่าผมเองก็ได้เข้าใจทั้ง
00:19:40 → 00:19:42 หมดนะครับเพราะว่ามันมีความซับซ้อนในศึก
00:19:42 → 00:19:44 มากแต่อย่างไรก็แล้วแต่นะครับที่อยากให้
00:19:44 → 00:19:46 เห็นภาพนะครับก็คืออย่างนี้ครับเริ่มจาก T
00:19:46 → 00:19:49 cells นะครับอย่างที่เราคุยไปก่อนหน้านะ
00:19:49 → 00:19:51 ครับก็คือว่าพอดันที่สองในเขตตัวจะโล่นะ
00:19:51 → 00:19:54 ครับมันจะมีสมาชิกสำคัญของการที่ 2 2
00:19:54 → 00:19:56 ตัวนะครับที่จะมาค่อยแจ้งนภิศาก็คือ
00:19:56 → 00:19:59 แม็คโครฝากกับเด่นเร็คเซลล์นะครับหนูก็จะ
00:19:59 → 00:20:01 นำเชื้อโรคและมาให้ด่านที่ 3 ดูทายนิสัย
00:20:01 → 00:20:03 จากที่ 3 ไม่ที่รับข้อมูลตรงนี้ไปก็คือ
00:20:03 → 00:20:06 ตัว T cells นะครับนี่ในพกเสี่ยวทั้งหมด
00:20:06 → 00:20:08 นะมันจะมีที่แสนที่สามารถหรือว่ารู้หน้า
00:20:08 → 00:20:10 ตาของเจ้าตัวนี้เนี่ยอยู่จำนวนหนึ่งนะ
00:20:10 → 00:20:12 ครับอาจจะแค่ตัวเดียวนะครับที่เที่ยวตัว
00:20:12 → 00:20:14 นั้นนะครับจะถูกคัดเรื่องนะครับแล้วก็ให้
00:20:14 → 00:20:16 เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆนะครับจาก 1
00:20:16 → 00:20:19 เป็น 2 2004 เป็นกองทัพของทีเซลล์ที่
00:20:19 → 00:20:20 หน้าตาเหมือนกันหมดนะครับจะเรียกว่าเป็น
00:20:21 → 00:20:23 กองทัพโคลนนิ่งของ T cells ตัวนี้ก็ได้
00:20:23 → 00:20:25 นะครับแล้วที่จะเอาตัวนั้นนะครับก็จะถูก
00:20:25 → 00:20:27 ปล่อยเข้าไปนะครับในกระแสเลือดเพื่อที่จะ
00:20:27 → 00:20:30 ไปต่อสู้กับเชื้อโรคที่มีหน้าตากับที่มัน
00:20:30 → 00:20:33 ถูกสร้างมาเพื่อให้ต่อสู้ด้วยสำหรับดีเซล
00:20:33 → 00:20:35 นะครับดีเซลเดี๋ยวจะบอกว่ามันไม่ได้ไปต่อ
00:20:35 → 00:20:37 สู้กับเชื้อโรคโดยตรงนะครับวิธีการรบ
00:20:37 → 00:20:40 ดีเซลคือว่ามันจะไปเหมือนกับไปตัวมันเอง
00:20:40 → 00:20:42 สมาธิจะไปรับรู้หน้าตาของเชื้อโรคได้โดย
00:20:42 → 00:20:44 ตรงนะครับเสร็จแล้วเนี่ยมันก็จะมาปรึกษา
00:20:44 → 00:20:47 กับตัว shaper ดีเซลนะครับก็จะมาทำงาน
00:20:47 → 00:20:50 ร่วมกันถ่ายให้ปฏิเสธเอวแล้วเห็นด้วยนะ
00:20:50 → 00:20:52 ครับตัวดีเซลเนี่ยก็จะสร้างสิ่งที่เราว่า
00:20:52 → 00:20:55 อธิบดีออกมานะครับซึ่งอธิบดีที่สร้างขึ้น
00:20:55 → 00:20:57 มานะครับจะถูกสร้างมาให้มีความจำเพาะนะ
00:20:57 → 00:20:59 ครับก็คือมีหน้าตาที่จับได้กับหน้าตาของ
00:20:59 → 00:21:01 เชื้อโรคเนี่ยโดยและแล้วมันก็จะปล่อยให้
00:21:01 → 00:21:03 ตัวอันนี้ Body เนี่ยให้กระจายออกไปใน
00:21:03 → 00:21:06 เลือดที่เนี่ยสิบดีจริงๆก็ไม่เป็นค่าตัว
00:21:06 → 00:21:08 เชื้อโรคโดยตรงนะครับอันนี้ Body มันจำทำ
00:21:08 → 00:21:10 หน้าที่นะครับไปเคลือบตัวเชื้อโรคซะมาก
00:21:10 → 00:21:12 กว่านะครับก็คือจะจับที่ผิวของเธอโลกนะ
00:21:12 → 00:21:15 ครับเครือเพราะตัวฉันโลกซึ่งจุลินทรีย์นะ
00:21:15 → 00:21:17 ครับหรือว่าช่วยลดต้นขาตามนะครับที่ถูก
00:21:17 → 00:21:19 อธิบดีนี้เคลือบอยู่นะครับมันจะทำให้ถูก
00:21:19 → 00:21:23 จับกินได้ง่ายขึ้นและวิธีนะครับที่รู้จัก
00:21:23 → 00:21:25 ค่าตัวเชื้อโรคตัวนี้นะครับก็คือให้ตัว
00:21:25 → 00:21:27 อธิบดีสดีเคลือบเนี่ยมันจะไปกระตุ้นอีก
00:21:27 → 00:21:30 ระบบนึงนะครับเป็นระบอบโปรตีนนะครับเป็น
00:21:30 → 00:21:32 ทีมของโปรตีนที่ซับซ้อนนะครับก็มีชื่อว่า
00:21:32 → 00:21:35 component System นะครับจะได้ component
00:21:35 → 00:21:37 System เดี๋ยวจะทำหน้าที่มันก็เป็นตัว
00:21:37 → 00:21:41 ที่จะมาเจาะๆคือจอดตัวเชื้อโรคจนเกิดรู
00:21:41 → 00:21:43 พรุนเล่นเค้าจะนั่งจะโลกมันแตกแล้วก็ตาย
00:21:43 → 00:21:45 ไปอันนี้ก็เป็นวิธีฆ่าเชื้อโรคของดีเซลนะ
00:21:45 → 00:21:48 ครับแต่สิ่งที่สำคัญมากๆของอย่างที่ 3
00:21:48 → 00:21:50 อย่างนะครับก็คือว่าเรื่องของความจำครับ
00:21:50 → 00:21:53 ก็อย่างนี้ครับปกติในการโจมตีของแถวที่ 3
00:21:53 → 00:21:55 ในจะบอกว่ามันมีความรุนแรงนะครับดังนั้น
00:21:55 → 00:21:57 นะครับเมื่อการต่อสู้เนี่ยผ่านพ้นไปแล้ว
00:21:57 → 00:22:00 นะครับ B Cell สักทีเซลล์ที่ทำหน้าที่
00:22:00 → 00:22:02 ป.ป.สออกมาเนี่ยมันกระตุกเกาะกำจัดนะครับ
00:22:02 → 00:22:05 เพราะถ้าคนไกลนี้มันจำเดินต่อไปนะคะมันมี
00:22:05 → 00:22:07 ความเสี่ยงที่คุณกับเราเนี่ยมันจะมาโจมตี
00:22:07 → 00:22:09 ร่างกายของเราเองนะครับที่นี่มันจะมีบี
00:22:09 → 00:22:11 กับ T cells ส่วนนึงนะครับที่จะถูกเก็บ
00:22:11 → 00:22:14 เอาไว้นะครับเพื่ออะไรเพื่อเป็นความทรงจำ
00:22:14 → 00:22:16 มันก็ว่าถ้าสูตรข้างหน้ามีเชื้อโรคที่น่า
00:22:16 → 00:22:19 แต่แบบนี้เข้ามาอีกนะครับดีสวัสดีชาวส่วน
00:22:19 → 00:22:22 เนี้ยมันก็จะสามารถที่จะจำโชคกันได้แล้ว
00:22:22 → 00:22:24 ก็สามารถตอบสนองเนี่ยท่านทีนะครับไม่ต้อง
00:22:24 → 00:22:26 มาเริ่มต้นกระบวนการทั้งหมดใหม่ตั้งแต่
00:22:26 → 00:22:28 ต้นนะครับคือไม่ต้องมาพันดันที่สองเรา
00:22:28 → 00:22:30 ค่อยมารอที่ 3 วันที่เกิดขึ้นในครั้งแรก
00:22:30 → 00:22:32 และนั้นก็คือกระบวนการของดาบที่ 3 นะครับ
00:22:32 → 00:22:34 ที่อยากให้เห็นภาพนะครับที่นี่ก่อนที่จะ
00:22:35 → 00:22:37 จบให้พี่ส่วนนี้นะครับผมอยากจะชวนกลับมา
00:22:37 → 00:22:39 คุยเรื่องวัคซีนอีกทีนะครับคือผมอยากเห็น
00:22:39 → 00:22:41 เฉยว่าเวลาที่เราฉีดวัคซีนเนี่ยมันคือการ
00:22:41 → 00:22:44 ที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ 1 2 และสสาร
00:22:44 → 00:22:46 ยังไงนะครับเมื่อเราไปฉีดวัคซีนนะครับ
00:22:46 → 00:22:49 เข็มที่ทะลุผิวหนังเราเข้าไปนะครับก็คือ
00:22:49 → 00:22:51 การทำลายนะครับได้ที่หนึ่งของระบบภูมิ
00:22:51 → 00:22:53 คุ้มกันตัวไหมครับเราเชื้อโรคที่ถูกฉีด
00:22:53 → 00:22:55 เข้าไปนะครับไว้เป็นเชื่อตายนะครับหรือ
00:22:55 → 00:22:57 เป็นบางส่วนของเธอโลกเนี่ยก็จะไปกระตุ้น
00:22:57 → 00:23:01 ผมกันอย่างที่สองนะครับซึ่งผลจะออกไปตอน
00:23:01 → 00:23:03 แรกก็คือมันก็จะมีอาการของออกผลข้างเคียง
00:23:03 → 00:23:05 นะครับที่เรารู้จักกันนะครับคือเรื่องของ
00:23:05 → 00:23:08 ใครนะครับออกคั่นคั่นตัวนะครับเบื่ออาหาร
00:23:08 → 00:23:10 ต่างๆนะครับแล้วจากนั้นนะครับก็จะเป็นการ
00:23:10 → 00:23:12 ทำงานของด่านที่ 3 นะครับก็คือต้องใช้
00:23:12 → 00:23:15 เวลานะครับอย่างน้อยก็ 7-10 วันนะครับใน
00:23:15 → 00:23:17 การที่จะสร้างการตอบสนองแบบที่จำเพาะกมา
00:23:17 → 00:23:20 เเต่สิ่งที่ระวังจะวัคซีนก็คือเรื่องของ
00:23:20 → 00:23:22 ความจำโทรไหมครับก็เป็นงานอีกหน้าที่
00:23:22 → 00:23:25 หนึ่งของด่านที่ 3 เพื่อแท้เกิดภูมิคุ้ม
00:23:25 → 00:23:27 กันที่สามารถที่จะจำเชื้อนั้นได้เนี่ย
00:23:27 → 00:23:30 เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนไว้หลายปีถ้าไม่
00:23:30 → 00:23:32 เชื่อเข้ามาใหม่ข้างกายก็สามารถที่จะตอบ
00:23:32 → 00:23:35 สนองได้ทันทีนะครับแล้วตอบสนองแบบจำเพาะ
00:23:35 → 00:23:37 นะครับก็คือมีการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพ
00:23:37 → 00:23:39 สุดแล้วทั้งหมดนี้นะครับก็คือเรื่องของ
00:23:39 → 00:23:42 ภูมิคุ้มกันนะครับที่ผมอยากจะเล่าให้ฟัง
00:23:42 → 00:23:45 นะครับก็คิดว่าจะใครไม่เคยรู้มาก่อนนะคะ
00:23:45 → 00:23:47 ว่าให้ระบบภูมิคุ้มกันโรงเรียนทำงานยังไง
00:23:47 → 00:23:50 ชื่อว่าฟังตรงนี้นะก็น่าจะพอเห็นภาพนะ
00:23:50 → 00:23:52 ครับสำหรับเนื้อหาในพิสณฑ์หน้านะครับผม
00:23:52 → 00:23:54 คิดว่าผมฉันเล่าเรื่องของการเกษตรให้ฟัง
00:23:54 → 00:23:56 นะครับซึ่งการเกษตรวันจริงก็คือการทำงาน
00:23:56 → 00:23:59 ของหลังที่ 2 นะครับแต่ว่าในตอนหน้าในที่
00:23:59 → 00:24:01 ผมอยากจะเล่ามันก็ไม่เชิงเรื่องของการ
00:24:01 → 00:24:03 ป้องกันเชื้อโรคนะครับและป้องกันครับผู้
00:24:03 → 00:24:06 รุกรานนะครับแต่ผมอยากจะพูดถึงการเกษตรใน
00:24:06 → 00:24:08 กระบวนการที่มันเพิ่มความเสี่ยงของโรค
00:24:08 → 00:24:10 ต่างๆที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อนะครับที่
00:24:10 → 00:24:12 ปัจจุบันเดี๋ยวพบมากในเรื่อยๆหลายๆรอบนะ
00:24:12 → 00:24:15 ครับเช่นโรคเบาหวานนะครับรบกวนนะครับหรือ
00:24:15 → 00:24:18 ว่าภาวะเส้นเลือดหัวใจอุดฟันนะครับตอน
00:24:18 → 00:24:20 หน้าเนี่ยผมจะเล่าให้ฟังนะคะว่าไอ้กลไกนะ
00:24:20 → 00:24:22 ครับของกระบวนการที่ใช้ต่อสู้กับเชื้อโรค
00:24:22 → 00:24:24 เนี่ยมันได้เพิ่มความเสี่ยงของโรคเหล่า
00:24:24 → 00:24:27 นี้ได้ยังไงนะครับแล้วก็จะจากกันไปก็อย่า
00:24:27 → 00:24:28 ลืมนะครับใครยังไม่ได้กด Subscribe นะ
00:24:28 → 00:24:31 ครับกดก็ดีนะครับก็กดเลยนะครับเพราะถ้ามี
00:24:31 → 00:24:33 อย่าไปสดใหม่นะครับก็จะมีการแจ้งเตือนให้
00:24:33 → 00:24:35 ดูนะครับแล้วมันจะกันใหม่ในคลิปหน้านะ
00:24:35 → 00:24:38 ครับสวัสดีครับ
00:24:38 → 00:24:48 [เพลง]