00:00:00 → 00:00:12 [เพลง]
00:00:12 → 00:00:16 เกมันมีตัวสร้างขึ้นมาเออนั่นแหละครับ
00:00:17 → 00:00:18 แล้วเดี๋ยวมันจะวนไปยังไงแต่วันเนี้
00:00:18 → 00:00:22 เดี๋ยวจะมีสรุปให้นิดๆก็ได้เพราะว่ามัน
00:00:22 → 00:00:27 ครับเจอปัญหาพี่พี่อะไรนะ
00:00:27 → 00:00:33 เนี่ยอ๋อที่พงศ์รัดาใช่มั้ยอ๋อใช่ที่วัน
00:00:33 → 00:00:38 นี้ถามวันนี้ถามก็อันเนี้ยเราก็เคยไลฟ์ไป
00:00:38 → 00:00:44 แล้วรวมทั้งเคยให้ดูในเรื่องอะไรนะไอ้พวก
00:00:44 → 00:00:47 บทความต่างๆนะที่มาที่ไปของคอเลสเตอรอล
00:00:48 → 00:00:51 นั่นแหละนะฮะเอออันนี้นะของพี่พงษ์ลดา
00:00:51 → 00:00:55 ปึ่งประเสริฐที่แกก็ถามว่าขออนุญาตถามว่า
00:00:55 → 00:00:59 หากไม่ได้มาจากอาหารนะคอเลสเตอรอลในเลือด
00:00:59 → 00:01:03 เนี่ยจะมาจากอะไรไปกระตุ้นให้มีจำนวนหรือ
00:01:03 → 00:01:09 มีระดับเพิ่มขึ้นหรือลดลงคะ
00:01:09 → 00:01:14 เออเนี่ยก็จะมีมีมาตอบนั่นแหละก็คือจริงๆ
00:01:14 → 00:01:17 การตอบอันเนี้ยก็คือบทความหรือข้อความที่
00:01:17 → 00:01:22 เราเคยไลฟกันไปแล้วอืหลักๆก็คือตัว
00:01:22 → 00:01:24 คอเลสเตอรอลในร่างกายมนุษย์เนี่ยก็เป็น
00:01:25 → 00:01:28 สารที่มีความสำคัญอันดับที่ 3 รองจาก
00:01:28 → 00:01:32 ออกซิเจนกันน้ำนี้นี้คอเลสเตอรอลเนี่ยเา
00:01:32 → 00:01:37 เรียกว่าสารชีวภาพนะของร่างกายนะของสิ่ง
00:01:37 → 00:01:42 มีชีวิตที่เป็นสัตว์นะแล้วอ่าสารชีวภาพ
00:01:42 → 00:01:43 ตัวเนี้ย
00:01:43 → 00:01:48 นะสารชีวภาพตัวเนี้ยมันจัดอยู่ในกลุ่มของ
00:01:48 → 00:01:52 ถ้าเป็นอาหารหลักก็คือเอยู่ในกลุ่มโปรตีน
00:01:52 → 00:01:57 นะเพียงแต่ว่านะเาอยู่สังกัดโปรตีนแต่
00:01:57 → 00:02:00 เวลาเขาจะไปไหนมาไหนทำอะไรยังไงเนี่ยเขา
00:02:00 → 00:02:04 ก็จะไปกับไขมันและเขาก็เลือกชนิดของไขมัน
00:02:04 → 00:02:09 ที่จะไปด้วยก็คือไขมันอิ่มตัวไม่อิ่มตัว
00:02:09 → 00:02:13 ไม่ไปด้วยนะเก็จะไปกับไขมันอิ่มตัวแล้ว
00:02:13 → 00:02:16 หลังจากนั้นก็อันนี้แหละการจับคู่แบบ
00:02:16 → 00:02:21 เนี้ยของเค้าแล้วอยู่ในหมวดหมู่ของอาหาร
00:02:21 → 00:02:28 โปรตีนนะแล้วก็มันก็เลยจะมีระบบนะของใน
00:02:28 → 00:02:32 ระดับโมเลกุล่าคอเลสเตอรอลกับระบบเเรียก
00:02:32 → 00:02:34 ว่า systemic คอเลสเตอรอลเนี่ยก็คือเป็น
00:02:34 → 00:02:36 คอเลสเตอรอลในระดับเซลล์รวมทั้ง
00:02:36 → 00:02:40 คอเลสเตอรอลที่มีการหมุนเวียนเหมุนเวียน
00:02:40 → 00:02:43 พายเท่อะไรต่างๆเนี่ยก็เกิดเรื่องราวขึ้น
00:02:43 → 00:02:44 มาเยอะแยะไปหมด
00:02:44 → 00:02:48 เลยก่อนหน้านี้เนี่ยก็จะมีบทความที่เราก็
00:02:48 → 00:02:51 พยายามเขียนเรียบเคียงเทียบนะเทียบว่านะ
00:02:52 → 00:02:55 ฮะสิ่งต่างๆต่อไปนี้เนี่ยมันมีข้ออธิบาย
00:02:55 → 00:02:58 ไปในแนวทางเดียวกันอ่าหมอยกตัวอย่างที่
00:02:58 → 00:03:01 สำคัญำคัญแล้วก็ต้องผ่านหูผ่านตานะหรือ
00:03:01 → 00:03:04 ต้องเราต้องมีความเข้าใจระดับพื้นฐานใน
00:03:04 → 00:03:09 การกินแบบโคฟเนี่ยอยู่ 4 เรื่องนะเช่นกด
00:03:09 → 00:03:12 ยูริกอ่าคอเลสเตอรอล
00:03:13 → 00:03:15 คีโตนโอเมก้า
00:03:15 → 00:03:19 3 สิ่งเหล่านี้เนี่ยถามว่าจริงๆแล้วหมวด
00:03:19 → 00:03:22 หมู่เขาที่อยู่สังกัดอยู่เนี่ยคืออะไร
00:03:22 → 00:03:24 จริงๆแล้วก็อยู่ในหมวดของ
00:03:24 → 00:03:31 โปรตีนโปรตีนนะฮะนะยกเว้นคีโตนเนี่ยเเป็น
00:03:31 → 00:03:35 สารก้ำกลึงอ่าแต่ว่าตัวอื่นๆเนี่ยโปรตีน
00:03:35 → 00:03:38 หมดเลยคอเลสเตอรอลโปรตีนยูริคแอซิดโปรตีน
00:03:39 → 00:03:42 นะฮะโอเมก้า 3 เนี่ยโปรตีนแต่เพียงแต่ว่า
00:03:42 → 00:03:44 โอเมก้า 3 มันยังมีทั้งรูปแบบที่เป็นพลัง
00:03:44 → 00:03:49 งานและสารอาหารถ้าโอเมก้า 3 ในรูปแบบพลัง
00:03:49 → 00:03:53 งานจะมาจากพืชเป็นหลักอ่าส่วนโอเมก้า 3
00:03:53 → 00:03:56 ที่จะเป็นรูปแบบของความเป็นสารอาหารนะอัน
00:03:56 → 00:04:00 นี้เจัดอยู่ในกลุ่มโปรตีนแน่นอนนะแล้วเขา
00:04:00 → 00:04:02 ก็จะมากับคอเลสเตอรอลด้วยโอเมก้า 3 นี่
00:04:02 → 00:04:06 แหละแล้วก็อยู่ในสัเพราะโอเมก้า 3 ในพืช
00:04:06 → 00:04:08 เนี่ยมันเปลี่ยนเป็นรูปแบบของ epa dha
00:04:09 → 00:04:14 ได้ได้น้อยมากนะประมาณ 4 อ่าประมาณ 4%
00:04:14 → 00:04:17 น่ะสูงสุดไม่เกิน 10% ในแต่ละพืชนะฮะที่
00:04:17 → 00:04:21 จะมีศักยภาพเปลี่ยนอ้าของพวกเมันเหมือน
00:04:21 → 00:04:24 กันในแนวทางการอธิบายไม่ต่างกันนะ
00:04:24 → 00:04:30 คอเลสเตอรอลกดยูริกนะคีโตนโอเมก้า 3 3
00:04:30 → 00:04:33 นะเขาก็จะพูดถึงเรื่องพลังงานนี่แหละเป็น
00:04:33 → 00:04:37 ตัวหลักเลยก็เหมือนกันคอเลสเตอรอลเนี่ยนะ
00:04:37 → 00:04:41 เพราะฉะนั้นเอ่าอันนี้ก็ตอบคำถามพี่พงษ์
00:04:41 → 00:04:44 รดานี่แหละว่า้าไม่ได้มาจากอาหารแล้วมา
00:04:44 → 00:04:47 จากอะไรจริงๆมาจากอาหารก็มีอยู่แหละนะฮะ
00:04:47 → 00:04:52 แต่ก็ประมาณ 20 - 25% นะส่วนใหญ่ 70 -
00:04:52 → 00:04:56 75% นะหรือบางทีถึง 80% เนี่ยตัวเลขพวก
00:04:56 → 00:04:59 นี้ก็จะมาจากร่างกายสร้างขึ้นมาเองนะนะ
00:04:59 → 00:05:03 เพราะมนุษย์เป็นสัตว์นะมนุษย์ก็ประกอบ
00:05:03 → 00:05:05 ด้วยเซลล์นะฮะเซลล์ต่างๆเนี่ยก็จะมี
00:05:05 → 00:05:07 ปฏิกิริยา
00:05:07 → 00:05:11 เอ่อของการดำเนินไปของความเป็นเซลล์นะฮะ
00:05:11 → 00:05:14 นะซึ่งปฏิกิริยาอันนี้เนี่ยมันจะเกิดพลัง
00:05:14 → 00:05:17 งานที่เราเรียกว่า ATP นะฮเพราะั้นเซลล์
00:05:17 → 00:05:20 ต่างๆที่มีปฏิกิริยาทางด้านพลังงานเกิด
00:05:20 → 00:05:26 ขึ้นนะก็จะมีการสร้างคอเลสเตอรอลควบคู่
00:05:26 → 00:05:30 กันไปเป็นแบบขนานกันไปมีพลังงานต้องมี
00:05:30 → 00:05:33 คล้ายๆมีสารอาหารมีสารอาหารก็นะในระบบ
00:05:33 → 00:05:36 ระดับเซลล์ันเนี้ยคือคอเลสเตอรอลนี่แหละ
00:05:36 → 00:05:40 เออนะแล้วจากนั้นเนี่ยเซลล์เนี่ยอ่ามันก็
00:05:41 → 00:05:45 จะมีรายละเอียดที่ว่าคสอเอืเอาไปเก็บสะสม
00:05:45 → 00:05:50 ไว้ไม่ได้ตกผลึกไม่ได้นะมีการอักเสบมีการ
00:05:50 → 00:05:53 ทิ่มแทงมีการบาดเจ็บนะก็ต้องมีการหมุน
00:05:53 → 00:05:57 เวียนถ่ายเทนะเกิดการอ่าเข้าไปอยู่ในระบบ
00:05:57 → 00:06:00 ต่างๆโดยเฉพาะระบบเลือดเราเป็นที่มาของ
00:06:00 → 00:06:04 การตรวจเลือกแล้วก็ไปเจอรูปแบบของเรือนำ
00:06:04 → 00:06:08 ส่งพลังงานและมีการวัดค่าพลังงานอ่าที่
00:06:08 → 00:06:11 เป็นตัวเอ้ยที่เป็นเป็นคอเลสเตอรอลนี่
00:06:11 → 00:06:15 แหละนะฮะออกมาแล้วก็มาเกิดความสูงต่ำเกิด
00:06:15 → 00:06:17 อัตราส่วนเกิดการเข้าตารางเข้าแอปอะไร
00:06:17 → 00:06:21 ต่างๆจนกระทั่งเกิดความวุ่นวายเนาะอนะ
00:06:21 → 00:06:25 คอเลสเตอรอลนะไม่ใช่ไขมันนะที่เป็นพลัง
00:06:26 → 00:06:29 งานแต่เขาเป็นไขมันที่เป็นสารอาหารเจัด
00:06:29 → 00:06:32 อยู่หรือกลุ่มโปรตีนนะจะมีการถูกสร้าง
00:06:32 → 00:06:36 ขึ้นเมื่อระบบพลังงานในเซลล์หรือในร่าง
00:06:36 → 00:06:39 กายเรามีการเปลี่ยนแปลงนะนี้ระบบพลังงาน
00:06:39 → 00:06:41 ในร่างกายในระดับเซลล์เเปลี่ยนแปลง 2 รูป
00:06:41 → 00:06:46 แบบก็คือมีการเผาผลาญอ่าเผาผ่านนี่แหละก็
00:06:46 → 00:06:50 เผาผลนพลังงานนี่แหละฮะนะอ่าสลายพลังงาน
00:06:50 → 00:06:52 เผาผาญพลังงานเผาเสร็จเจะต้องเอาพลังงาน
00:06:52 → 00:06:56 เหล่าเยไปใช้ส่วนจะใช้ได้ใช้ไม่ได้มันจะ
00:06:56 → 00:07:00 มีกรณีปีกย่อยไปนะฮะนะใช้ลาก็ใช้ซ่อมแซม
00:07:00 → 00:07:04 ใช้สร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่นะฮะหรือเผาผลาญ
00:07:04 → 00:07:08 แล้วเอ่อใช้ไม่ได้ก็กลายเป็น vested
00:07:08 → 00:07:11 Energy นะฮะก็คือเป็นพลังงานเปลืองเปล่า
00:07:11 → 00:07:16 ที่จะต้องมีการบริหารจัดการออกจากร่างกาย
00:07:16 → 00:07:17 นะ
00:07:17 → 00:07:21 เอ่ออีกแนวทางนึงเนี่ยนะฮะก็คือการสะสม
00:07:21 → 00:07:25 หรือเก็บกักนะซึ่งเป็นกระบวนการสร้างนะ
00:07:25 → 00:07:28 สร้างนี่คือสร้างเอาไว้นะก็คือเป็นการ
00:07:28 → 00:07:31 สิ้นสุดนะว่าเอาไปเก็บนะฮะเอาไปเก็บเ
00:07:31 → 00:07:34 เรียกว่าไปเก็บนะฮะนะงั้นไม่ว่ากระบวนการ
00:07:34 → 00:07:37 พลังงานในระดับเซลล์เนี่ยจะเป็นสอ่าสลาย
00:07:37 → 00:07:42 เผาผลาญหรือสะสมเก็บกากสร้างนะก็ถือว่าจะ
00:07:42 → 00:07:46 ต้องมีการสร้างคอเลสเตอรอลขึ้นมาแล้วก็
00:07:46 → 00:07:49 ตรงนี้นะฮะนะข้อแรกเนี่ยสไลด์เผาผลาเนี่ย
00:07:49 → 00:07:54 นะพวกนี้คอเลสเตอรอลจะเกิดเยอะเออเพราะ
00:07:54 → 00:07:58 ว่ายิ่งเขาผลาญเยอะเขาผลาญเก่งเขาผาดีๆนะ
00:07:58 → 00:08:01 คอเลสเตอรอลก็ยิ่งเยอะยิ่งเยอะนะเพราะ
00:08:01 → 00:08:04 ฉะนั้นเมื่อไหร่เราปรับโหมดอ่าระบบพลัง
00:08:04 → 00:08:06 งานในร่างกายให้อยู่ใน
00:08:06 → 00:08:11 เอ่อการเผาผลาเผาผลานะฮะนะเนี่ยนะจะด้วย
00:08:11 → 00:08:14 คลละวิธีอะไรก็ตามเถอะนะฮะนะอย่างนี้
00:08:15 → 00:08:17 เนี่ยแน่นอนคอเลสเตอรอลเราเยอะ
00:08:17 → 00:08:21 คอเลสเตอรอลเยอะก็ต้องมีเรือนำส่งเนี่ย
00:08:21 → 00:08:24 เรือนำส่งอนุเรือนำส่งคอเลสเตอรอล
00:08:24 → 00:08:27 คอเลสเตอรอลเหมือนสินค้านะนะเรือน้ำส่ง
00:08:27 → 00:08:31 นี่เเรียกว่าเ่อไรปโปรตีนเพราะนั้นเรือนำ
00:08:31 → 00:08:33 ส่งก็จะต้องนำส่งคอเลสเตอรอลให้หมุนเวียน
00:08:34 → 00:08:37 ถ่ายเทนะออกไปจากกระแสเลือดนะเพราะมันก็
00:08:37 → 00:08:42 เกิดอยู่ตลอดเวลานะส่วนการกักเก็บนะอ่าก็
00:08:42 → 00:08:46 จะมีคอเลสเตอรอลเกิดขึ้นแต่มันจะเกิดน้อย
00:08:46 → 00:08:48 งั้นร่างกายที่ปับถูกปรับเข้าโหมดสะสม
00:08:48 → 00:08:51 พลังงานเนี่ยนะเราจะเห็นในแปิดโปรไฟล์ 4
00:08:52 → 00:08:55 ตัวเนี่ยมันจะดูไม่เยอะนะฮ Total คอสอ ldl
00:08:55 → 00:08:59 hdl อะไรต่างๆก็จะน้อยๆๆอะไรอย่างอย่า
00:08:59 → 00:09:02 งี้นะฮะนะแปลว่าร่างกายส่วนใหญ่น่าจะอยู่
00:09:02 → 00:09:05 ในโหมดนี้นะนะแต่คอเลสเตอรอลในโหมดนี้นะ
00:09:06 → 00:09:08 ผลพวงของคอเลสเตอรอลที่เกิดขึ้นจากกระบวน
00:09:08 → 00:09:10 การพลังงานแบบสะสมเก็บกักไม่ใช่
00:09:10 → 00:09:14 คอเลสเตอรอลที่ดีนะจะน้อยจะมากอะไรก็ตาม
00:09:14 → 00:09:17 นะฮะนะไม่ใช่คอเลสเตอรอลที่ดีนะในที่สุด
00:09:17 → 00:09:21 ก็จะไปเกิดเรื่องในการเจ็บป่วยในการบวกลบ
00:09:21 → 00:09:25 คูหารเกิดความผิดปกติเนาะเพราะฉะนั้นตรง
00:09:25 → 00:09:28 เนี้ยสรุปเลยว่าพลังงานนะไม่ว่าจะอยู่ใน
00:09:28 → 00:09:32 กรณีข้อ 1 ข้อ 2 นะร่างกายจะต้องมีกระบวน
00:09:32 → 00:09:35 การสร้างสารคอเลสเตอรอลซึ่งเป็นสารชีวภาพ
00:09:35 → 00:09:41 ออกมาโดยอัตโนมัติเสมอเสมอนะฮะจากนั้นอีก
00:09:41 → 00:09:43 เรื่องนึงเนี่ยนะฮะที่จะโยงใยเกี่ยวข้อง
00:09:43 → 00:09:46 กับไอ้ตัวคอเลสเตอรอลรวมทั้งอนุภาคนำส่ง
00:09:46 → 00:09:48 คอเลสเตอรอลที่อยู่ในเลือดเนี่ยก็คือ
00:09:48 → 00:09:53 กระบวนการนะของอวัยวะนะในการทำงานเกี่ยว
00:09:53 → 00:09:56 กับคอสอ homeostasis นะพวกนี้ก็คือเป็น
00:09:56 → 00:10:00 การควบคุมนั่นแหละก็จะมี 4 อย่างนี้นะคือ
00:10:00 → 00:10:05 ตับนระบบน้ำดีลำไส้แล้วก็กล้ามนึงนะฮะนี่
00:10:05 → 00:10:09 แหละ 4 อวัยวะนี่เป็น 4 ยะตัวแดงๆนะที่
00:10:09 → 00:10:11 ต้องจำไว้ว่านะเมื่อไหร่ก็ตามที่
00:10:12 → 00:10:16 คอเลสเตอรอลมากหรือน้อยหรือผิดปกตินะ
00:10:16 → 00:10:18 เเวลาที่
00:10:18 → 00:10:22 อ่าเจาะเลือดออกมาแล้วเนี่ยนะฮะนะเราต้อง
00:10:22 → 00:10:24 โยงมาให้ได้ว่าตับเป็นไงระบบน้ำดีเป็นไง
00:10:24 → 00:10:28 ลำไส้เป็นไงกล้ามเนื้อเป็นอย่างไรนะเก็จะ
00:10:28 → 00:10:32 มีผลนะหรือเวลาเราจะปรับแล้วจะแก้เนี่ย
00:10:32 → 00:10:35 เราจะต้องมาดูนะกระบวนการต่างๆเหล่าเซึ่ง
00:10:35 → 00:10:39 เขาเรียกกระบวนการเียนนะฮะนะคือคือขจัด
00:10:39 → 00:10:42 คอเลสเตอรอลออกไปหรือปรับให้มันอยู่ใน
00:10:42 → 00:10:46 เกณฑ์ปกตินะนะก็ต้องดูว่าเป็นยังไงบ้าง
00:10:46 → 00:10:50 การทำหน้าที่ของอวัยวะ 4 อย่างนี้
00:10:50 → 00:10:53 เนาะเพรางั้นสิ่งต่างๆมันเป็นอย่างงนี้นะ
00:10:53 → 00:10:56 ฮะมันเป็นอย่างงี้เอ่อตอนเมีใครอยู่สัก
00:10:56 → 00:11:01 กี่คนคน 2 คนมอ่าสุทัศน์ยังฟังอยู่ใช่
00:11:01 → 00:11:05 มยฟังอยู่ครับพี่หมอหมอมี
00:11:05 → 00:11:09 อ่าอะไรบางอย่างที่จะบอกให้ฟังแล้วเราจะ
00:11:09 → 00:11:13 เข้าใจต่อนะฮะนะมีหลายคนอยู่ครับมีขบวน
00:11:13 → 00:11:18 การสลายเผาผ่านะถามว่าเวลาร่างกายสลายเผา
00:11:18 → 00:11:20 ผลาญโดยเฉพาะในระดับเซลล์เนี่ยมันจะเกิด
00:11:20 → 00:11:23 อะไรขึ้นนะคือมันเกิดพลังงานนะพลังงาน
00:11:23 → 00:11:25 เนี่ยมันอยู่ในรูปของ
00:11:25 → 00:11:29 ATP แต่ในที่สุดแล้ว ATP ก็เป็นสสาร
00:11:29 → 00:11:33 ระหว่างทางตัวหนึ่งนะฮะ ACP เนี่ยจะไป
00:11:33 → 00:11:38 สิ้นสุดที่อะไรฮะรู้มนะจะไปสิ้นสุดที่
00:11:38 → 00:11:43 ความเป็นกรดนะตัว ATP นี่แหละในที่สุด
00:11:43 → 00:11:48 แล้วเนี่ยนะจะเกิดความเป็นกรดฮะนะกดเกดกด
00:11:48 → 00:11:51 ในร่างกายนี้คือกดในระดับเซลล์นะฮะเพราะ
00:11:51 → 00:11:55 ฉะนั้นเนี่ยนะถามว่าการสลายเผาผลาญเนี่ย
00:11:55 → 00:11:58 ถ้าต้นทางที่ร่างกายชอบในการสลายเผาผลา
00:11:58 → 00:12:02 หรือเป็นชาติของร่างกายคืออะไรนะสารอาหาร
00:12:02 → 00:12:05 มี 3 อย่างนะฮะคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน
00:12:05 → 00:12:09 เพราะฉะนั้นโปรตีนกับไขมันโดยเฉพาะในแง่
00:12:09 → 00:12:12 พลังงานเนี่ยไขมันก็ต้องเป็นตัวหลักอเพรา
00:12:12 → 00:12:15 ฉนั้นกระบวนการสลายเผาผลาญไขมันนะในที่
00:12:15 → 00:12:19 สุดเราก็จะได้กดกรดนะฮะแล้วกรดที่เกิด
00:12:19 → 00:12:24 ขึ้นเนี่ยนะเ่อที่สำคัญในระดับเซลล์และ
00:12:24 → 00:12:27 ระบบต่างๆในร่างกายเนี่ยก็จะมีอยู่ 5 กฎ
00:12:28 → 00:12:32 นะกฎเหล่านี้จะมีอยู่ 5 กฎนะซึ่ง
00:12:32 → 00:12:36 เป็นเป็นอ่าเป็นสัจธรรมน่ะในชีวิตของร่าง
00:12:36 → 00:12:41 กายมนุษย์นะฮะนะเนี่ยเค้าเรียกว่ากรดนะ
00:12:41 → 00:12:44 ที่จะอยู่ในเลือดนะฮะนะคือกรดเหล่านี้
00:12:44 → 00:12:47 เมื่อมันออกจากเซลล์เนี่ยเมื่อเซลล์เกิด
00:12:47 → 00:12:50 กระบวนการแล้วเนี่ยนะฮะก็จะนำมาใส่มารวบ
00:12:50 → 00:12:53 รวมไว้ในเลือดเพฉะนั้นเลือดคนเราต้องมี
00:12:53 → 00:12:56 ความเป็นกรดเมื่อโครงสร้างธรรมชาติร่าง
00:12:56 → 00:12:59 กายเนี่ยมีความเป็นกรดในลือดเลือดนะฮะ
00:12:59 → 00:13:02 เมื่อนั้นเนี่ยเลือดก็จะเกิดการหมุนเวียน
00:13:02 → 00:13:05 นะเพราะฉะนั้นเลือดจะหมุนเวียนได้เลือด
00:13:05 → 00:13:09 ต้องเป็นกรดนะไม่ใช่เป็นด่าเป็นกรดนะฮะนะ
00:13:09 → 00:13:13 เนี่ยนะแล้วก็เกิดการหมุนเวียนอะไรต่างๆ
00:13:13 → 00:13:18 ไปนะฮะแต่กฎสำคัญที่สุดนะฮะมีอยู่ 5 กรด
00:13:18 → 00:13:22 นะแล้ว 5 กรฎเนี่ยเราต้องเข้าใจรวมทั้ง
00:13:22 → 00:13:27 บริหารจัดการให้ถูกต้องนะเอาย่อๆก่อนนะ 1
00:13:27 → 00:13:33 กฎที่แรงที่สุดคือคือคิดว่าเป็นกฎอะไรห
00:13:33 → 00:13:36 ลติครับไม่ใช่ฮะกด
00:13:36 → 00:13:41 ไิก็คือกดที่อยู่ในกระเพาะเราจะเห็นว่าพ
00:13:41 → 00:13:44 เนี่ยคือระบบธรรมชาติร่างกายเนี่ยเขาจะจะ
00:13:44 → 00:13:48 นำค่าเ้าเรียกเ้าเรียกว่าค่าอะไรล่ะเนี่ย
00:13:48 → 00:13:53 ค่าค่าพนะฮะพีเนี่ยมันก็จะเป็น 1-14 ถ้า 1
00:13:53 → 00:13:58 เนี่ยกดแรงสุดถ้า 14 เนี่ยกดมันจะอ่อนที่
00:13:58 → 00:14:02 สุดนะนะอหรือเป็นด่างมากที่สุดที่ 14 นะ
00:14:02 → 00:14:06 14 คือกดน้อยสุดออนอ่อนสุดไม่มีความแรง
00:14:06 → 00:14:10 เลยนะฮะแต่ถ้าเบอร์ 1 อ่ะกดพี = 1 เนี่ย
00:14:10 → 00:14:15 โอแรงสุดเลยเพงั้นในระบบร่างกายเนี่ยนะ
00:14:15 → 00:14:19 ถ้าเอาความเป็นกดมาดูอ่ะนะตำแหน่งไหนอ่ะ
00:14:19 → 00:14:23 นะที่เลือดเนี่ยมันส่งอ่าไปแล้วมันก็ต้อง
00:14:23 → 00:14:25 ไปเปลี่ยนเป็นกดที่แรงที่สุดก็คือน้ำย่อย
00:14:25 → 00:14:29 ในกระเพาะเพราะฉะนั้นไฮโดรคลอริกแอซิดพี
00:14:29 → 00:14:34 เท่าไหร่ 1.5 ถึงไม่เกิน 3 ถึงไม่เกิน 3
00:14:35 → 00:14:38 ใครที่พีมันมากกว่า 3 เนี่ยโดยเฉพาะ 3.5
00:14:38 → 00:14:41 ขึ้นไปเนี่ยคราวนี้มันจะเกิดะเกิดปัญหา
00:14:41 → 00:14:44 อะไรกดไหลย้อนนะฮะกดไหลย้อนก็คือความเป็น
00:14:44 → 00:14:47 กรดในกระเพาะมันน้อยมันน้อยนะโดยเฉพาะ
00:14:47 → 00:14:49 น้อยอยกว่า
00:14:49 → 00:14:55 3.5 หรือบางทีแค่ตัวเลขอ่า 3 ขึ้นไปนิดๆ
00:14:55 → 00:14:59 เนี่ยก็เริ่มมีปัญหากันแล้วนะฮะเนี่ยนะ
00:14:59 → 00:15:02 เพราะฉะนั้นกฎอันดับแรกที่แรงที่สุดต้อง
00:15:02 → 00:15:05 อยู่ที่ที่กระเพาะแล้วทำหน้าที่ 2 หน้า
00:15:05 → 00:15:09 ที่อันที่ 1 ย่อยโปรตีนอันที่ 2 ย่อย
00:15:09 → 00:15:13 เชื้อโรคเพราะว่าเชื้อโรคมันเป็นกฎนะฮะเ
00:15:13 → 00:15:16 กินนนนกินนี่อะไรเข้าปากเข้าท้องเข้าไส้
00:15:16 → 00:15:20 ไปนะผ่านกดในกระเพาะเ่าก็เรียบร้อยนะความ
00:15:20 → 00:15:23 เป็นกดมันเลยต้องแรงนะแล้วกดพวกนี้มันก็
00:15:23 → 00:15:27 โอหสุดๆอยู่แล้วใช่มยล่ะเพราะฉนั้นผนัง
00:15:27 → 00:15:31 กระเพาะที่จะรองรับความเป็นกดเยอะๆอ่าพ
00:15:31 → 00:15:36 ส่วนใหญ่เนี่ยก็ประมาณ 1.5 นะถึงถึง
00:15:36 → 00:15:39 ประมาณ 3 นะฮะนะส่วนใหญ่ก็ประมาณนี้แหละ
00:15:39 → 00:15:43 2.5 นะเเรียกเฉลี่ยั้นกดอันดับแรกเลยอัน
00:15:43 → 00:15:47 นี้นะฮะแล้วไฮโดรคลอริกแิดเนี่ยมันยังมี
00:15:47 → 00:15:48 การ
00:15:48 → 00:15:50 เซ็นเซอร์อยู่ 2 เรื่องที่เราต้องรู้นะฮ
00:15:51 → 00:15:54 ก็คือความเป็นกดในกระเพาะนะจะต้องเรียก
00:15:54 → 00:15:59 ว่า signaling ไปที่ตับกับตับอ่อนนะฮะเพ
00:15:59 → 00:16:03 นั้นความเป็นกฎในกระเพาะที่ดีนะก็จะลให้
00:16:03 → 00:16:08 ตับนะและตับอ่อนหลั่งน้ำย่อยนะออกมาช่วย
00:16:08 → 00:16:14 ในการย่อยอาหารต่างๆนะเ่อถ้าเกิดความเป็น
00:16:14 → 00:16:16 กดในกระเพาะไม่ดีโดยเฉพาะเช่นมันกวดไหล
00:16:16 → 00:16:19 ย้งไหลย้อนนะหรือมีปัญหาโรคกระเพาะอะไร
00:16:19 → 00:16:23 ต่างๆนะเพราะงั้นก็ตับกับตับอ่อนนะฮะหรือ
00:16:23 → 00:16:26 แม้แต่ในลำไส้ต่างๆนะที่มันจะถูกการ
00:16:26 → 00:16:28 กระตุ้นจากไฮโดรคลอริกแอซิดเป็นเป็น
00:16:28 → 00:16:31 สัญญาณอย่างนึงในกระเพาะเนี่ยนะมันก็จะ
00:16:31 → 00:16:35 ย่อยต่อไม่ดีไม่ดีนะนะเพราะฉะนั้นอันนี้
00:16:35 → 00:16:38 ต้องเข้าใจเรื่องกดในกระเพาะอันนี้เป็น
00:16:38 → 00:16:41 อันดับ 1 นะฮะไฮโดรคลอริกแอซิดอันที่ 2
00:16:42 → 00:16:43 ที่จะเกี่ยวกับคอเลสเตอรอล
00:16:43 → 00:16:50 คือคือ B aid B Acid คืออะไรคือน้ำดี
00:16:50 → 00:16:55 นะน้ำดีน้ำดีช่วงแรกจะเป็นกรดนะฮะช่วงแรก
00:16:55 → 00:17:00 จะเป็นกรดนะเรียกว่ากรดน้ำดีเ่าแล้วกดน้ำ
00:17:00 → 00:17:05 ดีนี่เกิดที่ไหนนะก็สร้างที่นะเซลล์ท่อ
00:17:05 → 00:17:10 น้ำดีที่อยู่ในเับนะเพียงแต่ว่ามันมีกลไก
00:17:10 → 00:17:13 บางสิ่งบางอย่างตามธรรมชาติที่ว่าความ
00:17:13 → 00:17:17 เข้มข้นมันยังไม่เพียงพอนะฮะที่จะออกมาทำ
00:17:18 → 00:17:20 หน้าที่ในการย่อยไขมันเวลาเรากินอาหารนะ
00:17:20 → 00:17:23 เพราะฉะนั้นกลไกร่างกายโดยธรรมชาติก็เลย
00:17:23 → 00:17:27 จะต้องมีการเอากดไปควบรวมนะก็เลยต้องมี
00:17:27 → 00:17:30 ถุงน้ำดีนะแล้วก็เกิดมีการเชื่อมต่อเป็น
00:17:30 → 00:17:34 ท่อน้ำดีั้นถุงน้ำดีทำหน้าที่ในการก่อให้
00:17:34 → 00:17:40 เกิดซตนะคือความความเข้มข้นของกรดนะและมี
00:17:40 → 00:17:43 การรวบรวมปริมาณของน้ำดีที่มีฤทธิ์เป็น
00:17:43 → 00:17:49 กรดน้ำดีนะเนี่ยเ่าอยู่อยู่อยู่เพื่อจะ
00:17:49 → 00:17:51 อะไรเพื่อจะเกิดการบีบตัวหรือคอนแทคออกมา
00:17:51 → 00:17:56 เพื่อย่อยอาหารประเภทมานะแต่ตรงนี้เนี่ย
00:17:56 → 00:18:00 ตรงนี้เนี่ยนะความเป็นกดตรงนี้เนี่ยก็ยัง
00:18:00 → 00:18:04 มีผลอีกเรื่องนึงเนี่ยก็คือกดน้ำดีเนี่ย
00:18:04 → 00:18:08 นะฮะนะหรือ by aid เนี่ยนะเขาจะเป็นตัว
00:18:08 → 00:18:12 อะไรจะเป็นตัวเอาคอเลสเตอรอล
00:18:12 → 00:18:16 ออกนะเพราะว่าคงสร้างความเป็นน้ำดีจะต้อง
00:18:16 → 00:18:20 มีตัวคอเลสเตอรอลเป็นหลักในการมาเป็นส่วน
00:18:20 → 00:18:24 ประกอบเป็นเมนหลักเลยนะฮะเพราะฉะนั้น
00:18:24 → 00:18:29 เนี่ยกดน้ำดีนะจะเป็นกดที่มีความแรงรองลง
00:18:29 → 00:18:32 มาจากที่กระเพาะนะนี่
00:18:32 → 00:18:35 แหละเพราะฉะนั้นสำคัญตรงนี้นะฮะที่อยากจะ
00:18:35 → 00:18:38 ให้รู้ว่าในที่สุดแล้วคอเลสเตอรอลซึ่ง
00:18:38 → 00:18:42 เป็นผลปวงของพลังงานต่างๆในทั่วร่างกาย
00:18:42 → 00:18:49 เนี่ยนะก็จะต้องมาถูกอ่าพลังงานซึ่งในที่
00:18:49 → 00:18:53 สุดจะไปลงเอยด้วยความเป็นกรดนี่แหละนะฮะ
00:18:53 → 00:18:57 นะก็มาหมุนเวียนเอาคอเลสเตอรอลออกไปนะฮะ
00:18:57 → 00:18:59 คือปรับสมดุลนี่แหละคือร่างกายมันเป็น
00:18:59 → 00:19:02 สิ่งวิเศษเพราะฉะนั้นในที่สุดแล้วนะทุก
00:19:02 → 00:19:05 กระบวนการทุกเรื่องทุกอย่างที่ทำขึ้นมา
00:19:05 → 00:19:09 และจะต้องดำเนินไปนะก็จะไปบรรจบกันนะฮะ
00:19:09 → 00:19:12 งั้นถามว่าคอเลสเตอรอลที่บอกว่าแหมเป็น
00:19:12 → 00:19:15 สารอาหารนะต้องมาควบคู่กับพลังงานในที่
00:19:15 → 00:19:19 สุดแล้วเอ่อเกิดอะไรขึ้นนะฮะนะเคก็ต้องไป
00:19:19 → 00:19:21 ออกที่ตรงเนี้ยซึ่งเราเรียกว่าการเคลียร์
00:19:21 → 00:19:26 แนซึ่งก็จะมีตับมีถุงน้ำดีมีลำไส้นะแล้ว
00:19:26 → 00:19:28 ก็ส่วนหนึงที่เยังคั่งค้าอยู่ในกระแส
00:19:28 → 00:19:31 เลือดเนี่ยนะในกระบวนการซ่อมและสร้าง
00:19:31 → 00:19:35 กล้ามเนื้อจะต้องใช้คอเลสเตอรอลนะนะเพราะ
00:19:35 → 00:19:38 ฉะนั้นเนี่ยนะก็ 4 อวัยวะเหล่าเนี้ยก็คือ
00:19:38 → 00:19:41 ระบบ clearance คอเลสตอรอลที่เกิดขึ้นจาก
00:19:41 → 00:19:44 เซลล์ต่างๆนะที่เกิดปฏิกิริยาทางด้านพลัง
00:19:44 → 00:19:47 งานนะเพราะฉะนั้นเนี่ยทุกอย่างก็จะบรรจบ
00:19:47 → 00:19:51 กันพอดีนะฮะนะก็เลยต้องเล่าเรื่องความ
00:19:51 → 00:19:55 เป็นกดในเลือดแถมขึ้นไปนะฮะนะกดตัวที่ 3
00:19:55 → 00:19:58 คือ lactic aid นะฮะไว้เราค่อยฟังราย
00:19:58 → 00:20:01 ละเอียดทีหลังนะฮะนะซึ่งอันนี้เนี่ยมันก็
00:20:01 → 00:20:04 จะอยู่ที่ส่วนใหญ่มันจะอยู่ที่กล้ามเนื้อ
00:20:04 → 00:20:08 กับอยู่ที่ลำไส้นะฮะโดยเฉพาะพวก
00:20:08 → 00:20:11 โปรไบโอติกเขจะสร้างแกติ Acid เป็นสิ่ง
00:20:11 → 00:20:16 แวดล้อมของเา้านะฮะนะต่อไปอ่าตัวหลักเลย
00:20:16 → 00:20:22 นะบิ Acid คีโตนนะฮนะอันนี้นะร่างคีโตนก็
00:20:22 → 00:20:27 เป็นกรดนะฮะนะนะแล้วคีโตนเนี่ยก็มีทั้งใน
00:20:27 → 00:20:32 ลำไส้และในระบบเลือดนะฮะนะโปรไบโอติกก็
00:20:32 → 00:20:35 สร้างคีโตนได้นะซึ่งเป็นกฎไขมันสายสั้นนะ
00:20:35 → 00:20:39 ฮะคีโตนนะ utc Acid เป็นกฎตัวที่ 4 นะฮะ
00:20:40 → 00:20:42 ตัวสุดท้ายคือคาร์บอนิ Acid ซึ่งอันนี้ก็
00:20:42 → 00:20:48 จะเกี่ยวกับระบบหายใจระบบหายใจนะการมีกด
00:20:48 → 00:20:53 เนี่ยนะก็จะทำให้ร่างกายเนี่ยนะนะจะต้อง
00:20:53 → 00:20:57 มีการขับเคลื่อนนะทั้งไตทั้งการหายใจอะไร
00:20:57 → 00:21:01 ต่างๆนะฮะนะทุกอย่างเนี่ยจะเป็นวงจรที่มา
00:21:01 → 00:21:05 บรรจบกันพอดิบพอดีนะทั้งการสร้างและการ
00:21:05 → 00:21:10 ขับปอกนะนั้นกฎมี 5 อย่างที่สำคัญนะฮะนะ
00:21:10 → 00:21:12 แต่อันดับแรกที่สำคัญที่สุดคือ
00:21:12 → 00:21:16 ไฮโดรคลอริกแิดนะอยู่ในกระเพาะนะแล้วที่
00:21:16 → 00:21:18 เกี่ยวข้องกับคอเลสเตอรอลเพื่อให้เกิดการ
00:21:18 → 00:21:22 หมุนเวียนคอเลสเตอรอลบรรจบครบรอบนะวงจร
00:21:22 → 00:21:25 หรือไซคิของมันเนี่ย osas คอสอ Cycle
00:21:25 → 00:21:30 เนี่ยนะก็ไปลงเอยที่น้ำดินะฮะนะก็เป็นอ
00:21:30 → 00:21:36 buy by asd นะฮะนะซึ่งเมื่อน้ำดีอ่ามี
00:21:36 → 00:21:39 การถูกสร้างขึ้นมาแล้วก็จะเกิดการที่ชัก
00:21:39 → 00:21:43 จวนเอาคอเลสเตอรอลนะออกไปนะก็กลายเป็น
00:21:43 → 00:21:45 เกลือน้ำดีนะจากปฏิกิริยาของกฎกับ
00:21:45 → 00:21:50 คอเลสเตอรอลก็จะกลายเป็นเกลือไปะนะอ่าก็
00:21:50 → 00:21:52 ไม่มีอะไรก็แค่นี้ก่อนนะอันนี้คือตอบคำ
00:21:52 → 00:21:59 ถามพี่ปงรัดานะไปไปมากไปเลยมั้ย
00:21:59 → 00:22:04 ละเอียดยิบเลยครับเออนะดีครับดีครับเออ
00:22:04 → 00:22:07 อันเนี้ยอาจจะไม่ค่อยได้ฟังนะฮะแต่ว่า
00:22:07 → 00:22:10 ต้องรู้โดยเฉพอันนี้เป็นเป็นไรยแรกของเรา
00:22:10 → 00:22:13 เลยนะพี่หมอหะลยแรกของเราเลยเนี่ย
00:22:13 → 00:22:17 คอเลสเตอรอลก็ไม่มีใครไม่มีใครมาพูดไอ้
00:22:17 → 00:22:21 เรื่องเนี่ยวงจรบรรจบกันเของคอเลสเตอรอล
00:22:21 → 00:22:24 แม้แต่ว่าในช่วงแรกอ่ะนะเค้าก็ยังไม่รู้
00:22:24 → 00:22:27 เรื่องคอเลสเตอรอลที่ว่าอันดับที่แรกนะ
00:22:27 → 00:22:31 กลัวคอเลสเตอรอลจากอาหารใช่มอันดับ 2 นะ
00:22:31 → 00:22:34 ตับเป็นตัวผลิตอันดับ 3 มาเซลล์เป็นตัว
00:22:34 → 00:22:38 ผลิตนะเพราะฉะนั้นไซเคิลมันต้องครบวงจร
00:22:38 → 00:22:41 เอ่อผลิตแล้วเพราะอะไรถึงผลิตผลิตแล้วไป
00:22:41 → 00:22:46 ยังไงมายังไงนะอเราไปไปสุดท้ายที่ไหนตาม
00:22:46 → 00:22:49 วงจรธรรมชาตินะฮะแต่ระหว่างนั้นถ้าเกิดมี
00:22:49 → 00:22:52 ความผิดปกติอะไรต่างๆมันก็เกิดเรื่องเกิด
00:22:52 → 00:22:54 ราวก็้
00:22:54 → 00:22:55 ขึ้น
00:22:55 → 00:23:01 อ่าสำหรับวันนี้เนี่ยเราจะมาคุยปัญหานะ
00:23:01 → 00:23:06 ของสมาชิกในเพจนะฮะคุณโอ๊ตนะฮะนะอ่าก็เคส
00:23:06 → 00:23:10 เดียวนั่นแหละนะฮะนะแต่ว่าปัญหาเนี้ยเ้า
00:23:10 → 00:23:13 เรียกว่าปัญหาอ่าเรื่องของระบบฮอร์โมนอ่า
00:23:13 → 00:23:17 ไทรรอยมันมันเป็นเคสของกรุงไทรรอยด์อ่ะนะ
00:23:17 → 00:23:22 ฮะนะก็คือไทรอยด์มันไม่ปกตินะฮะนะอ่าตอน
00:23:22 → 00:23:24 แรกก็ดีอยู่หรอกนะแต่ตอนหลังเนี่ยก็มีออก
00:23:24 → 00:23:28 นอกรู่นอกทางนะก็เกิดปัญหาปัญหาที่เกิด
00:23:28 → 00:23:31 ขึ้นกลายเป็นพรุงไทรรอยด์นะฮะจะเห็นว่าคน
00:23:31 → 00:23:34 ไทรรอยด์เนี่ยหุ่นเขาจะ surrender อยู่
00:23:34 → 00:23:37 แล้วนะฮะนะโดยเฉพาะเวลาเกินโลค High Good
00:23:37 → 00:23:40 Fat อะไรต่างๆนะแล้วเขาก็อยู่ในอ่า
00:23:40 → 00:23:44 ลักษณะโสติที่มัน stable ดีอยู่แล้วนะที
00:23:44 → 00:23:46 นี้พอมาช่วงปีโหม่งปีใหม่เนี่ยก็ไปกิน
00:23:46 → 00:23:51 อะไรต่างๆนะเออนะมันก็เกิดปัญหาปัญหา
00:23:51 → 00:23:55 เนี่ยเเรียกว่าฮอร์โมนไทรอยด์มันพังนะพัง
00:23:55 → 00:23:57 แล้วก็เกิดปัญหามีของแถมก็คืออันนี้ฮะคือ
00:23:57 → 00:24:00 เค้าเรียกปรุงไทรอยด์ปรุงไทรอยด์มันก็จะ
00:24:00 → 00:24:03 เป็นอย่างนี้นะฮะนะคล้ายๆกับปรุงเครียด
00:24:03 → 00:24:06 นี่แหละนะฮะนะแต่อันเนี้ยคือปรุงไทรรอยด์
00:24:06 → 00:24:09 อ่าพุงไทรอยด์แล้วก็ยังมีข้างหลังด้วยนิด
00:24:09 → 00:24:11 หน่อยนะฮะ
00:24:11 → 00:24:14 เนี่ยอันนี้พุงไทรอยด์นะฮะเ้าเรียกพุง
00:24:14 → 00:24:18 ไทรอยด์นะสาเหตุจริงๆเนี่ยมันก็คือโปรตีน
00:24:18 → 00:24:21 มันผิดนะฮะอ่าวันนี้ก็มาคุยตอบคำถามให้
00:24:21 → 00:24:24 ฟัง
00:24:24 → 00:24:27 นะจริงๆแล้วก่อนหน้าที่จะเป็นเคสตัวอย่าง
00:24:27 → 00:24:30 เคสเนี่ยหมอจะพูดถึงเรื่องไทรรอยด์ที่
00:24:30 → 00:24:32 ค่อนข้างละเอียดแต่ตอนนี้ยังเตรียมไม่
00:24:32 → 00:24:35 เสร็จเลยนะมันก็จะซับซ้อนนัแหละนะฮะ
00:24:35 → 00:24:38 เรื่องไทรรอยด์เนี่ยก็เป็นฮอร์โมนเนี่ย
00:24:38 → 00:24:42 แบบที่เราเห็นเแหละนะฮไทรรอยด์เนี่ยนะนะ
00:24:42 → 00:24:45 The middle daugh นะฮะนะเนี่ยก็เป็น
00:24:45 → 00:24:49 ลูกคนกลางแล้วเป็นผู้หญิงด้วยนะแล้วก็
00:24:49 → 00:24:53 เป็นอะไรอ่ะเป็นหญิง We อ่ะนะแต่จริงๆ
00:24:53 → 00:24:56 แล้วเ่อฮอร์โมนไทรรอยด์เนี่ยเเป็นเป็น
00:24:56 → 00:24:59 ฮอร์โมนขยันนะฮะนะนะนิคเนมของฮอร์โมน
00:25:00 → 00:25:04 ไทรอยด์ก็คือเเป็นฮอร์โมนขยันขยันทำงานทำ
00:25:04 → 00:25:09 งานเก่งมากนะฮะนะแต่ในด้านลบเนี่ยนะ
00:25:09 → 00:25:13 ไทรรอยด์ก็จะเป็นฮอร์โมนที่น้อยใจเป็น
00:25:13 → 00:25:17 ฮอร์โมนเนิฟนะเป็นฮอร์โมนเจ้าน้ำตาและ
00:25:17 → 00:25:21 เป็นฮอร์โมนที่ถูกแกล้งแล้วสู้ไม่ได้นะ
00:25:21 → 00:25:25 เราเรียกว่าหญิง We นะ
00:25:25 → 00:25:30 ฮะอ้ามาดูคำถามแล้วกันเดี๋ยวจะไปไกลนะนะ
00:25:30 → 00:25:36 อันนี้นะของคุณโอ๊ตนะฮะนะเ่าวัชราวนะ
00:25:36 → 00:25:39 สวัสดีค่ะคุณหมอและแอดมินเพื่อนสมาชิกขอ
00:25:39 → 00:25:44 ส่งผลเลือดรบกวนแนะนำด้วยค่ะนะอันนี้ก็
00:25:44 → 00:25:46 ไม่เป็นไรนะของโอ๊ตเนี่ยก็เป็นเคสวิทยา
00:25:46 → 00:25:50 ทานนะฮะนะแต่ทั้งหมดเนี่ยหมอสรุปคร่าวๆ
00:25:50 → 00:25:53 ว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติมากหรอกนะฮะนะ
00:25:53 → 00:25:56 เพียงแต่ว่ามันการออกนอกรุนอกทางเนี่ยมัน
00:25:56 → 00:25:59 ทำให้เราใจคอไม่ดีนะฮะนะแล้วก็โอ๊ตเนี่ย
00:26:00 → 00:26:04 ก็เป็นเ่อเ่อเป็นบอ type สายแป้งทรงทรง
00:26:04 → 00:26:07 ไทรรอยด์นี่แหละนะฮะพอที่ใช้ไทลอย typ
00:26:07 → 00:26:10 เนี่ยนะฮะเป็นสายแป้งนะถูกต้องแล้วที่
00:26:10 → 00:26:15 เข้าใจนะเ่ออีกอย่างนึงก็ทรงนี้เนี่ยนะ
00:26:15 → 00:26:18 เวลามันเสียทรงเนี่ยบางทีบางทีมันมันเ้า
00:26:19 → 00:26:21 เรียกอ้วนทั้งตัวฮะมันอ้วนทั้งตัวนะแต่
00:26:21 → 00:26:25 บางคนนะฮะบางคนมันก็จะเป็นอ้วนแบบเนี้ยนะ
00:26:25 → 00:26:29 ก็ผู้หญิงก็อาจจะรู้สึกว่าเอิน่าเกียตนะ
00:26:29 → 00:26:32 มันอะไรก็ไม่รู้อ่ะนะมันยื่นเป็นแหลมๆ
00:26:32 → 00:26:35 เป็นเอ่าสัตว์ตัวอื่นๆก็ดูดีอ่ะนะแต่มัน
00:26:36 → 00:26:40 มาเ้าเรียกว่ามัน Accurate แอ่ามามาสะสม
00:26:40 → 00:26:43 มากมายนะเ่อบริเวณนึงบริเวณใดบริเวณหนึง
00:26:43 → 00:26:48 แล้วมักจะเอ่อเป็นลักษณะมันมีเซลลูไลท์
00:26:48 → 00:26:52 อ่ะนะมันมักจะมีพวกกลุ่มความเหี่ยวนะหรือ
00:26:52 → 00:26:56 มีความย้วยอะไรต่างๆนะฮะอ่ะอันนี้เบอกว่า
00:26:56 → 00:27:00 มีผลเลือดมาให้ดูในช่วงวันที่ 27 มกราคม
00:27:00 → 00:27:05 นะฮะปัจจุบันก็อายุ 52 นะฮะนะก็น่าจะวัย
00:27:05 → 00:27:09 ทองแล้วนะนะอ่าน้ำหนักแต่ไหนแต่ไรแล้วก็
00:27:09 → 00:27:14 จะอยู่ในช่วงนี้แหละนะฮะประมาณ 50 กลนะ
00:27:14 → 00:27:16 อันนี้ก็เป็นบอดี้ type สายแป้งนะก็รู้
00:27:16 → 00:27:20 สึกว่าจะสูงประมาณ 162 หรือไง
00:27:20 → 00:27:24 นะมีการทานแบบทีออยได้ประมาณสักครึ่งปี 6
00:27:24 → 00:27:27 เดือนแล้วล่ะนะฮะก็เก็บอกว่าทำไงบ้างอ
00:27:27 → 00:27:32 นั้นน้ำสลัดไขทั้งฟองนะออออยก็มีการกิน
00:27:32 → 00:27:36 ไล่เรียงไปจากน้อยไปมากสเต็ปอัเนี่ยนะ 4
00:27:36 → 00:27:39 56 จ้อนโต๊ะนะเนี่ยอ่าตัดคาฟสนิทกิน
00:27:39 → 00:27:43 ทีออย 5 วันต่อสัปดาห์นะก็มื้อแรกทีออย
00:27:44 → 00:27:48 เนี่ยก็ผสมสลับกันไปในตัวอมีมะกอกแคมี
00:27:48 → 00:27:52 อะโวคาโดาขี้ม้อนดาวอินคาอ่า mct บ้าง
00:27:52 → 00:27:56 มะพร้าวบ้างนะวนๆสลับกันไปนะอันนี้ก็เป็น
00:27:56 → 00:28:00 ting หรือเป็นการเรติพวกสารอาหารและพลัง
00:28:00 → 00:28:03 งานนะฮะร่างกายจะชอบนะนะ
00:28:03 → 00:28:08 เอ่อในการผสมทาน 2 มื้อไม่ตั้งใจนะไม่
00:28:08 → 00:28:11 ตั้งอ๋อไม่ตั้งใจ If นะฮะก็คือมีการ 2
00:28:11 → 00:28:14 ทาน 2 มื้อต่อวันอ่าทำ If แบบไม่ตั้งใจ
00:28:14 → 00:28:17 แต่มันก็ไม่หิวนะฮะกินมื้อแรกก็ราวๆ
00:28:17 → 00:28:20 เที่ยงไปแล้วนะฮะมื้อ 2 ประมาณ 18:00 นนะ
00:28:20 → 00:28:24 อ่าบางครั้งอาจจะมีมื้อแทรกนะอย่างมื้อ
00:28:24 → 00:28:28 เย็นเนี่ยมีการกินหนมอ่านิดนุงอ่าแทบทุก
00:28:28 → 00:28:32 ครั้งหลังมื้ออาหารนะฮะนะเพะไทรอยดเนี่ยเ
00:28:32 → 00:28:36 เป็นสายแป้งนะฮะก็จะชอบแป้งนะยังไงเนี่ย
00:28:36 → 00:28:41 แป้งเนี่ยมักจะออกจากชีวิตเาได้ยากนะเพะ
00:28:41 → 00:28:44 ฉะนั้นไอ้สายแป้งที่เป็นไทรอย์เนี่ยก็จะ
00:28:44 → 00:28:48 ชอบชอบพวกขนมปังขนมปี๊บเบเกอรี่นะนะแต่
00:28:48 → 00:28:50 บางคนก็ไม่ชอบเป็นปลูกพวกเต้าหู้
00:28:50 → 00:28:52 ผลิตภัณฑ์จากเต้าหู้น้ำเต้าหู้หรือบางคน
00:28:52 → 00:28:55 ก็ไปชอบเป็น Daily produc นะอ่าเป็นนม
00:28:55 → 00:28:58 ชีสเนยอะไรต่างๆนะเป็นโยเกิดอะไรอย่างี้
00:28:59 → 00:29:02 นะนะแต่ส่วนใหญ่ก็จะชอบมาทั้งแป้งนี่แหละ
00:29:02 → 00:29:06 นะฮะนะอ่าทีนี้ถ้าเกิดเป็นพวกสายแป้งแล้ว
00:29:06 → 00:29:09 เป็นปรุงตับพวกนี้เขาจะชอบอะไรพกชอบเหล้า
00:29:09 → 00:29:12 เบียร์ชอบผลไม้ชอบขนมของหวานอ่าทองหยิบ
00:29:12 → 00:29:15 ทองหยอดอยทองนะฮะชอบอะไรที่มันเป็นหวาน
00:29:16 → 00:29:21 ชื่นใจนะผลม้งผลไม้อะไรนะแต่ไทลอยนี่เชอบ
00:29:21 → 00:29:25 แป้งเจะชอบแป้งอนต่อมาดื่มน้ำวันละ 2.5
00:29:25 → 00:29:28 ลิตรนะมีเวท 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์เล่น
00:29:29 → 00:29:32 ฮิต 1 วันต่อสัปดาห์นะแล้วก็ไม่คาร์ดิโอ
00:29:32 → 00:29:36 นะฮะทุกอย่างนะทำในขณะที่ฟ้าแรงดีไม่มีตก
00:29:36 → 00:29:39 นะนะอันนี้ก็เป็นรายละเอียดนะฮะของคนที่
00:29:39 → 00:29:42 อยู่ในแนวทางคการ ow C High Good fash
00:29:42 → 00:29:45 นี่แหละนะฮะอ่าเดินหลังหารเรา 20 นาทีใน
00:29:45 → 00:29:49 มื้อเย็นเนี่ยคือเคือคนนี้เนี่ยคนนี้เ
00:29:49 → 00:29:51 เป็นนักเรียนหน้าห้องแหละนะฮะนะเพราะ
00:29:51 → 00:29:54 ฉะนั้นเก็บรายละเอียดนะแล้วเหนืออื่นใดก็
00:29:54 → 00:29:58 คือทำๆๆปฏิบัตินะฮะนะแล้วก็โอ๊ตก็หาความ
00:29:58 → 00:30:02 รู้ในหลายกลุ่มหลายเพจหลายหมอนะฮะนะแล้ว
00:30:02 → 00:30:05 ก็เข้าใจอ่ะนะฮะนะที่นี่เนี่ยใส่ราย
00:30:05 → 00:30:09 ละเอียดมาแบบอื้อหือเอ่อเป็นตัวอย่างนะฮะ
00:30:09 → 00:30:13 นะเนี่ยคำถามคำอ่ารายละเอียดเนี่ยสำคัญ
00:30:13 → 00:30:18 เนาะไม่ทานผลไม้อ่ามื้อแรกนะไม่กินผักใบ
00:30:18 → 00:30:23 มื้อมื้อแรกแทบไม่ไม่กินผักใบส่วนใหญ่ก็
00:30:23 → 00:30:27 ทำผักดองกินเองเรา 2 ช้อนโต๊ะมีน้ำซุปทำ
00:30:27 → 00:30:31 เองอ่าสักถ้วยนึงแทรกมาเป็นระยะเ่า
00:30:31 → 00:30:34 บาซิลัสก็วันละเม็ดนะฮะนะอันนี้ก็สำคัญ
00:30:34 → 00:30:39 ต่อต่อเรื่องอ่าพื้นฐานของการที่จะสร้าง
00:30:39 → 00:30:44 ไทรรอยด์นะฮะนะต้องมีเซเลเนียมนะนี้ไดฟ้า
00:30:44 → 00:30:46 ทุกวันนะแบบอัตโนมัติเพราะว่าตื่นมาแล้ว
00:30:46 → 00:30:50 ไม่หิวน้ำนะจะเลยยไปอีกนะ 2-3 ชั่วโมง
00:30:50 → 00:30:54 หลังตื่นถึงจะกินน้ำอีกทีนึงนะฮะเพงั้น
00:30:54 → 00:30:59 แต่โอ้นี่ๆมาแล้วมาแล้วนะฮะนะอ่านะเนี่ย
00:30:59 → 00:31:03 ตั้งแต่ธันวาคม 67 ถึงมกราคม 68 นะก็คือ
00:31:03 → 00:31:06 เดือนครึ่งถึง 2 เดือนนี่แหละหลุดกระจาย
00:31:06 → 00:31:10 นะฮะไปเที่ยวยาวๆกลับมาก็เจอรีโนเวทบ้าน
00:31:10 → 00:31:14 เละเทะนะฮะก็ไม่สะดวกในการทำอาหารไม่ได้
00:31:14 → 00:31:20 ออกกำลังกายนะฮะเลยนะฮะพอยก็ไม่ได้อพอย
00:31:20 → 00:31:24 อะไรก็ไม่ได้แตะนะฮะอ่าจนกระทั่งไปตรวจ
00:31:24 → 00:31:27 เลื่อนล่าสุดเมื่อประมาณวันที่ 28 มกราคม
00:31:27 → 00:31:28 เออ
00:31:28 → 00:31:31 เพราะฉะนั้นประมาณเกือบ 2 เดือนนะฮะนะที่
00:31:31 → 00:31:37 มีการที่แบบนี่แหละนะฮะนะทุกอย่างเหลุดนะ
00:31:37 → 00:31:40 เสียไปหมดนะฮะนะคนเลือดก่อนหน้าเนี้ยไม่
00:31:40 → 00:31:44 มีความรู้อะไรมากนะฮะนะกินไไม่มีนะฮะก็
00:31:44 → 00:31:48 คือทำไเนี่ยฮะแล้วก็กินโลคาฟกล้องงูประปา
00:31:48 → 00:31:52 อ่าซดน้ำมันมะกอกเข้าปากยิงผลเลือดีก่อนๆ
00:31:52 → 00:31:56 ก็ยิ่งไม่รู้อะไรเลยนะฮะอ่าก็ยังดีนะฮะนะ
00:31:56 → 00:31:59 อันเนี้ยมีการเรียนรู้มีการทำนะฮะแล้วก็
00:31:59 → 00:32:02 เดี๋ยวค่อยๆนะรวบรวมองค์ความรู้เข้าไป
00:32:02 → 00:32:06 ปรับประเมินนะในผลแลบผลเลือดของตัวเอง
00:32:06 → 00:32:08 เอ่ออย่างโรคประจำตัวเนี่ย 6 ปีก่อนมีการ
00:32:09 → 00:32:12 ตัดไทรรอยด์ออกไป 1 ข้างนะฮะจากนั้น
00:32:12 → 00:32:16 Follow up ทุกปีก็ปกตินะปัจจุบันฉีดยา
00:32:16 → 00:32:20 คุม dmp Day ทุก 3 เดือนนะเพื่อรักษา
00:32:20 → 00:32:23 อาการหยุดเลือดอ่าที่มีเมนสออกมามากนะฮะ
00:32:23 → 00:32:27 จนหมดสติเกล็ดเลือดตกเลือดจางอออันนี้ก็
00:32:27 → 00:32:30 ผ่านวกกรรมเอ่อทางนี้นะฮะต้องให้เกล็ด
00:32:30 → 00:32:35 เลือดนะและเลือดนะฮะอ่าให้เลือดให้เกล็ด
00:32:35 → 00:32:37 เลือดนะตรวจภายในทุกอย่างปกติไม่มีมะเร็ง
00:32:37 → 00:32:42 ไม่มีก้อนใดๆนะโอ้ก็ 52 เนี่ยนะฮะนะก็
00:32:42 → 00:32:45 dmpa เไม่ค่อยฉีดกันแล้วนะฮะพวกยาคุม
00:32:45 → 00:32:48 เนี่ยนะถ้ายังกังวลอยู่ก็กินยาจะดีกว่า
00:32:48 → 00:32:52 มั้งนะฮะกินยาจะดีกว่านะแต่อันนี้แล้วแต่
00:32:52 → 00:32:55 ทางทางหมอทางด้านไกเน่ทางนิเวทก็แนะนำ
00:32:55 → 00:33:00 แล้วกันนะฮะนะแต่แต่นี้ก็อาจจะอาจจะเป็น
00:33:00 → 00:33:04 กลุ่มครอบครัวที่หมดเมนช้ามยนะถ้าเกิด
00:33:04 → 00:33:07 ญาติพี่น้องอะไรต่างๆนะโดยเฉพาะแม่น้าพี่
00:33:07 → 00:33:10 สาวป้าอะไรเงี้ยนะทางสายตรงทางแม่นี่แหละ
00:33:11 → 00:33:15 นะย่ายายอย่างเงี้ยเอ่อเขไปหมดกันที่ 55
00:33:15 → 00:33:19 เนี่ยก็ต้องอาจจะต้องเนี่ยเ่อก็ต้องคีแบบ
00:33:19 → 00:33:24 เนี้ยไปประมาณถึงถึง 55 ปีอ่ะนะอือันนี้
00:33:24 → 00:33:27 ก็แล้วแต่แหละนะฮะก็น่าจะมีหมอดูอยู่นะฮะ
00:33:27 → 00:33:30 คือปัจจุบันเนี่ยไม่มียาประจำตัวใดๆที่
00:33:30 → 00:33:34 ต้องกินนะฮะนะแล้วก็ขับถ่ายปกติถ่ายดีทุก
00:33:34 → 00:33:39 วันเลยนะฮะนะนอนหลับไม่ลึกนะอ่าบางทีอ่า
00:33:39 → 00:33:44 ได้ 4% นะแต่เล็ม 20 นะเ่อกว่า
00:33:44 → 00:33:47 เปอร์เซ็นต์นะฮะเ่อตื่นก็ไม่เพลียตลอด
00:33:47 → 00:33:50 ทั้งวันเยี่มาเต็มนะไม่มีความอ่อนเพียนอน
00:33:50 → 00:33:55 6-7 ช่มต่อวันเที่ยงคืนตื่นราว 18:00 น
00:33:55 → 00:33:59 ก็อันนี้คือทั้งหมดนะฮะที่เป็นประวัตินะ
00:33:59 → 00:34:03 ปัญหาก็คือมีการตัดไทรอยด์ออกไป 1 ข้าง
00:34:03 → 00:34:05 คืออันนี้ไม่บอกไม่บอกว่าเป็นอะไรก็น่าจะ
00:34:05 → 00:34:09 เป็นต่อมมันโตนะฮะหรือเปล่านะฮะนะตัดไป
00:34:09 → 00:34:14 ข้างนึงนะฮะนะหรือเป็นเป็นไทนดูอะไรต่างๆ
00:34:14 → 00:34:17 คือกรณีที่ผู้หญิงเนี่ยนะที่จะมีปัญหา
00:34:17 → 00:34:20 เรื่องไทรรอยด์เนี่ยนะนะแล้วก็เป็นทรงแบบ
00:34:20 → 00:34:23 สายแป้งผอมๆเงี้ยนะส่วนใหญ่อันนี้เนี่ยก็
00:34:23 → 00:34:25 ก็คือทรงไทรรอยด์นี่แหละนะเพราะว่าโรค
00:34:25 → 00:34:28 หรือความผิต่อมไทรอยด์ที่เกิดขึ้นในช่วง
00:34:28 → 00:34:33 ชีวิตเนี่ยเก็จะมาบอกว่าเราอ่ะนะเป็นี้ี้
00:34:33 → 00:34:37 type ตรงนี้เที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอ่า
00:34:37 → 00:34:40 metabolism ของไทรอยนะฮะนะอันนี้ก็ไปบอก
00:34:40 → 00:34:45 ได้ไกลๆนะก็นี้นะปัญหาของการหลุดกระจายนะ
00:34:45 → 00:34:49 ฮะนะเกือบเดือนครึ่ง 2 เดือนนะฮะอ่าไป
00:34:49 → 00:34:52 เกิดอะไรขึ้นบ้างเนี่ยก็เกิดแบบนี้นะฮะ
00:34:52 → 00:34:56 เกิดแบบนี้นะนะเกิดพรุงไทรรอยด์นะจากบอ
00:34:56 → 00:34:58 typ ใส่แป้งทรงไทรอยด์
00:34:58 → 00:35:02 อ่าลักษณะที่จะเกิดอย่างนี้ได้ก็น่าจะมี
00:35:02 → 00:35:06 การสะสมพลังงานนะอแล้วตัวที่มาสะสมพลัง
00:35:06 → 00:35:09 งานก็คือฮอร์โมนอินซูลินนะส่วนจะมากจะ
00:35:09 → 00:35:13 น้อยอ่ะนะคิดว่านะฮะนะคนๆเนี้ยเขามีความ
00:35:13 → 00:35:16 รู้นะก็มีการปฏิบัติตัวมา 6 เดือนแล้ว
00:35:16 → 00:35:21 เนี่ยนะฮนะสิ่งเหล่านี้เนี่ยเอ่อมันก็กึง
00:35:21 → 00:35:24 ๆนั่นแหละนะฮะนะเกือบจะไปต่อได้ดีๆอ่ะนะ
00:35:24 → 00:35:27 ฮะปรากฏว่ามันมาอ struck ซะในเรื่องของ
00:35:27 → 00:35:33 ของการกินสนุกสนานนะในช่วงเทศกาลนะเออมัน
00:35:33 → 00:35:37 ก็เลยกลายเป็นอะไรที่มามันได้มันได้ของ
00:35:37 → 00:35:41 ที่ไม่ค่อยดีมานะฮะนะทั้งๆที่เดิมก็ดี
00:35:41 → 00:35:45 แล้วใช่มนะอันนี้เเรียกว่าไขมันสะสมนะแบบ
00:35:45 → 00:35:50 กรุงไทโรซึ่งอันเนี้ยนะถ้าเรานะส่วนใหญ่
00:35:50 → 00:35:54 นะฮะนะถ้าเราเป็นคนที่เคร่งครัดอยู่ในแนว
00:35:54 → 00:35:57 ของการกินพการคับต่ำถึงแม้ว่าเวลาที่จะ
00:35:57 → 00:36:01 บอกว่าหลุดหๆๆเนี่ยนะหมอเข้าใจนะนะถ้าเ
00:36:01 → 00:36:04 ถ้าเป็นคนมีความสนใจมีความรู้อะไรเยอะๆ
00:36:04 → 00:36:06 เนี่ยพวกนี้ถึงจะหลุดก็ตามแต่มันก็หลุด
00:36:07 → 00:36:11 แบบไม่ได้หลุดแบบแบบแบบหลุดมั่วซั่นะคือ
00:36:11 → 00:36:15 หลุดแบบชนิดที่แบบโอโหกินแบบตายอดตายอยาก
00:36:15 → 00:36:18 ไม่ได้คิดอะไรบ้างเลยนะฮนะก็คิดว่านะส่วน
00:36:19 → 00:36:22 ใหญ่คนที่มีปัญหากลายเป็นไขมันสะสมแบบปุง
00:36:22 → 00:36:26 ไทรอยด์นะการหลุดพวกเนี้ยจะไปหลุดอ่าไม่
00:36:26 → 00:36:29 ได้หลุดคาฟมากนะแต่มักจะไปหลุดเรื่อง
00:36:29 → 00:36:33 โปรตีนนะส่วนใหญ่จะเป็นโปรตีนนะฮะนะ
00:36:33 → 00:36:36 เดี๋ยวเราดูบางสิ่งบางอย่างที่จะมาเป็น
00:36:36 → 00:36:40 ตัวบอกนะอันนี้ก็เป็นผลแลปของเนะฮะเป็นผล
00:36:40 → 00:36:43 แลบของเซึ่งเก็จะมีไล่เรียงมาเรื่อยๆ
00:36:43 → 00:36:47 เนี่ยนะฮะซ้ายสุดเนี่ยก็คือ 27 นะมกราคม
00:36:47 → 00:36:51 68 น้ำตาลก็ยังดีนะฮะน้ำตาลสะสมยังอยู่
00:36:51 → 00:36:55 ในเกณฑ์ิอินซูลินก็ดีอยู่แต่เหลือกไป
00:36:55 → 00:36:57 เทียบกับของเก่าๆเนี่ยมันเหมือนว่า
00:36:57 → 00:37:01 อินซูลินมันปุ้งขึ้นมานะฮะแต่ก็ยังไม่
00:37:01 → 00:37:05 เกิน 8 ไม่เกิน 10 อะไรงี้นะฮะนะแต่ของ
00:37:05 → 00:37:09 เดิมเนี่ยดูสิเห็นมมัน 4 กว่า 5 กว่านะฮะ
00:37:09 → 00:37:13 ting อินนะนะเพราะอะไรเพราะว่าเราเป็น
00:37:13 → 00:37:16 เนี่ยสูงประมาณ 159 60 เนี่ยแต่น้ำหนัก
00:37:16 → 00:37:21 เนี่ยน้ำหนักมันมันเป็นคนผอมเป็นคนเรียก
00:37:21 → 00:37:28 ว่าต่ำเ่ออะไรสมส่วนค่อนปอไปแล้วนะฮะโอนะ
00:37:28 → 00:37:30 เพราะฉะนั้นเนี่ยเออินซูลินเนี่ยมันจะไม่
00:37:30 → 00:37:34 เยอะนะฮะตัวเลขต่างๆแต่ก่อนตรวจไม่เยอะ
00:37:34 → 00:37:37 ใช่มแล้วพอมาหลุดอย่าเงี้ยมันดูเยอะขึ้น
00:37:37 → 00:37:40 ไปนะฮะคือมันเหมือนอยู่ในเกณฑแต่ว่ามันก็
00:37:40 → 00:37:45 เยอะกว่าของเดิมๆอย่างมีนัยยะสแล้วมาดู
00:37:45 → 00:37:49 มนะแต่ก่อนจะไเนี่ยดูแล้วอย่างอันนี้ก็
00:37:49 → 00:37:54 เคยตรวจแล้วก็เอมันก็ดีอันนี้เกือบๆ 1.9
00:37:54 → 00:37:59 แล้วถ้าเกิน 1.9 ก็ถือว่านะอ่าแสดงว่า
00:37:59 → 00:38:04 อินซูลินนะมันไม่ว่องไวะนะฮะนะแต่นี้มัน
00:38:04 → 00:38:08 ค่อนข้างอลิแล้วเนาะนะเก็เลยใช้คำว่าปอย
00:38:08 → 00:38:12 นะอินซูลินมานะความดื้ออินซูลินเริ่มนะ
00:38:12 → 00:38:16 เริ่มจุดประกานะฮะนะก็อย่างอื่นไม่มีอะไร
00:38:16 → 00:38:19 การทำงานของไตดีกดยูริกอะไรก็ดีนะฮะการทำ
00:38:19 → 00:38:24 งานของตับก็อยู่ในเกณฑ์ดีนะอัตราส่วนก็
00:38:24 → 00:38:28 ยังพอไหวนะฮะ 1.7 1.8 นะฮะแต่ถ้าอัตรา
00:38:28 → 00:38:32 ส่วนนี้เกิน 2 เนี่ยก็ไม่ดีไม่แต่นี้ถ้า
00:38:32 → 00:38:36 ดูเฉพาะตัวเอนไซมตับ hpt หรือ al ก็ไม่
00:38:36 → 00:38:40 เกิน 26 นะฮะนะสภาพของตับก็ยังเจ๋งอยู่
00:38:40 → 00:38:46 ยังดีนะฮะแล้วก็ไปิดโปรไฟล์นะหรือไปิด
00:38:46 → 00:38:49 โปรไฟลไนเนิอะไรต่างๆทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์
00:38:49 → 00:38:53 ดีหมดเลยกนะเพราะฉะนั้นอันเนี้ย
00:38:53 → 00:38:58 เอ่ออ่อแล้วก็เนี่ยเคนมีความรู้เห็นเตรวจ
00:38:58 → 00:39:01 อะไรมาเตรวจ Apple B ตรวจ Apple A1 นะ
00:39:02 → 00:39:05 แล้วค่าพวกเนี้นะฮะพอเข้าอัตราส่วนแล้วนะ
00:39:05 → 00:39:10 ฮะนะเนี่ย 0.69 หรือ 0.7 อันนี้ดีมาก
00:39:10 → 00:39:14 ๆอย่าให้เกิน 0.9 นะฮะ
00:39:14 → 00:39:19 นะแล้ว ldl หารด้วย a b นะมากกว่า 1.2
00:39:19 → 00:39:24 อันนี้ 1.53 นะนะก็ดีมากๆเลยนะเพราะ
00:39:24 → 00:39:30 ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้นะ
00:39:30 → 00:39:33 โอก็ไม่มีอะไรสิ่งเหล่านี้เนี่ย
00:39:33 → 00:39:39 เออเป็นตัวช่วยบอกนะว่าหเลือดนะยังอยู่ใน
00:39:39 → 00:39:45 เกณฑ์ดีเออนะยังอยู่ในเกณฑ์ดีนะฮะ
00:39:45 → 00:39:50 นะแต่ว่าอาจจะบอกที่หมอบอกแหละว่าอาจจะ
00:39:50 → 00:39:54 เสียกำลังใจไปหน่อยนะนะว่าไปกินอะไรผิดๆ
00:39:54 → 00:39:59 มานะก็ต้องรีบน่ะรีบปรับนะเ่อรีบเข้า
00:39:59 → 00:40:05 เกณฑ์เ่าของการกินที่ถูก
00:40:05 → 00:40:09 ต้องมีผลแบบอื่นๆด้วยนะฮะเดี๋ยวเราดูต่อ
00:40:09 → 00:40:12 ไปก่อนนะฮะนะอันนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นครั้ง
00:40:12 → 00:40:14 คราวเดียวกันมยน่าจะครั้งคราวเดียวกัน 27
00:40:14 → 00:40:18 มกราคมใช่มยวิตามินดีต่ำนะฮะนะอันนี้ไม่
00:40:18 → 00:40:22 ใช่แล้ววิตามินดีมันต่ำไปนะฮะนะ
00:40:22 → 00:40:28 เนี่ยปกตินี่จะต้องต้องเกิน 30 นะฮะนะอัน
00:40:28 → 00:40:31 นี้มัน low Normal ไปหนนะฮะไม่ค่อยถึง
00:40:31 → 00:40:35 ด้วยนะฮะนะถ้าจะดีๆเลยนะสำหรับคนสายแป้ง
00:40:35 → 00:40:39 ด้วยเนี่ยนะก็น่าจะอยู่ใกล้ๆตัวเลข 50 50
00:40:39 → 00:40:43 60 เนี่ยโอเคกว่านะอินซูลิน 7.6 นะฮะ
00:40:43 → 00:40:47 ส่วนไทรอยเนี่ปกตินะไรอยฟังก์ชันเนะ pH
00:40:47 → 00:40:52 ct3 ct4 นะนะการอักเสบ hs crp นะก็ดี
00:40:52 → 00:40:55 นะฮะนะนี่
00:40:55 → 00:41:01 นะ clp เนี่ยอ่า 0 จุดน้อยกว่า 0.04 นะท
00:41:01 → 00:41:05 ร่างกายไม่มีอักเสบเลยนะส่วนอันนี้นะฮะเ
00:41:05 → 00:41:07 ตรวจแมกนีเซียมตรวจคีโตนด้วยอันนี้แหละคน
00:41:08 → 00:41:11 รู้จริงนะฮะนะแมกนีเซียมอยู่ในเกณฑ์ปกติ
00:41:11 → 00:41:14 นะฮะนะส่วนคีโตน
00:41:14 → 00:41:16 นะ
00:41:16 → 00:41:21 คีโตน 1.7 นะฮะใช่มั้ยนะ
00:41:21 → 00:41:23 เออนะ
00:41:23 → 00:41:28 เนี่ยีนมี 2 ค่าขอจะบอกว่าคีโตนในเลือดนะ
00:41:28 → 00:41:33 1.7 ฮ 1.7 1.7 มิลกรัม per เดซินะฮะนะ
00:41:33 → 00:41:36 อันนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเกิน 0.5
00:41:36 → 00:41:44 ร่างกายคีโตสิสอยู่นะยังเข้าคีโตนอยู่
00:41:44 → 00:41:47 เนี้ไม่มีอะไรอันนี้เป็น
00:41:47 → 00:41:51 Apple b กับ Apple A1
00:41:51 → 00:41:53 เนาทีนี้
00:41:53 → 00:41:57 มีมีผลอันนี้นะฮะนะผลอันนี้จะเป็นตัวบอก
00:41:57 → 00:42:03 อะไรบางอย่างกับเรานะฮะเนี่ยนะ
00:42:03 → 00:42:08 เอ่ออันนี้เป็นผลเรื่องอ่าอย่าง esr
00:42:08 → 00:42:12 เนี่ยนะ 5 นะในผู้หญิงเนี่ยนะในผู้หญิง
00:42:12 → 00:42:15 ส่วนใหญ่มันอยู่อยู่ใกล้ๆ 20 นะฮะนะคนนี้
00:42:15 → 00:42:19 เนี่ยทั้ง hs crp แล้วก็การอิสบจากการตด
00:42:19 → 00:42:23 ตกรเม็ดเลือแดง esr เนี่ยอันนี้ปกติเลย
00:42:23 → 00:42:27 เอ่อทีนี้ compete B เเนี่ยเราจะดูย
00:42:27 → 00:42:30 ละเอียดนะของเม้นเลือแดงเมือขาวเกดเลือด
00:42:30 → 00:42:33 นะฮะนะคนนี้ก็ความเข้มข้นของเลือด
00:42:33 → 00:42:38 ฮีโมโกบินนะ 11.6 นะอันนี้เกิน 10 ขึ้นไป
00:42:38 → 00:42:43 นะนะก็ดีทั้งนั้นไม่ซีดนะฮะิสุขิ 37.5 ก็
00:42:43 → 00:42:47 ปกตินะปริมาณเลบ sal เแงก็ดีนะฮะแต่เราจะ
00:42:47 → 00:42:51 เห็นว่าโอ๊ตเนี่ยมีปัญหาในเรื่องของ
00:42:51 → 00:42:54 forming นะฮะนะรูปร่างของตัวเมอรแดงนะฮะ
00:42:55 → 00:42:57 เนี่ยนะ mcv mch
00:42:57 → 00:43:02 mcc นะอันนี้ต่ำหมดเลยต่ำนะฮะนะก็คือ
00:43:02 → 00:43:05 เม็ดแดงมันเม็ดเล็กนะฮะนะแล้วก็ดูความ
00:43:05 → 00:43:10 เบี่ยงเบนเเลแดงนะฮะ rdw เนี่ยนะมันเกิน
00:43:10 → 00:43:14 มันเกิน 15 นะคือส่วนใหญ่เถ้าเกิน 16
00:43:14 → 00:43:18 ขึ้นไปเนี่ยนะก็คือรูปร่างเมลอแดงมันไม่เ
00:43:18 → 00:43:22 เรียกว่าไม่เสถียนน่ะคือคือมันไม่ Normal
00:43:22 → 00:43:25 ที่จะเป็นแบบแข็งแรงอ่ะนะในระบบเม็ดเลือด
00:43:25 → 00:43:28 แล้วรายงานรูปร่างเ็เลแดงก็ไมโครไซต์ก็
00:43:28 → 00:43:32 เล็ก 2 บวกนะฮะติดสีหรือการเ่อหรือปริมาณ
00:43:32 → 00:43:36 โปรตีนที่อยู่ในตัวเมลอแดงเนี่ย 1 บวกนะ
00:43:36 → 00:43:41 ฮะมันน้อยมันน้อยไฮโปโครเมียนะฮะโไซสอ่า 2
00:43:41 → 00:43:45 บวกรูปร่างก็เป็นหน้ามนะมีเป็นหยดน้ำตา
00:43:45 → 00:43:49 เตียดอกฟิวนะนะก็แสดงว่าเม็ดเลือดแดง
00:43:49 → 00:43:52 เนี่ยแสดงให้เห็นนะฮะนะถึงอะไรฮะส่วนใหญ่
00:43:52 → 00:43:54 ก็จะแสดงให้เห็นถึง
00:43:54 → 00:44:00 โปรตีนเโปรตีนดูไม่ค่อยจะดีเลยนะฮะนะ
00:44:00 → 00:44:02 เพราะว่าองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเม็ด
00:44:02 → 00:44:04 เลือดแดงก็คือโปรตีน
00:44:04 → 00:44:08 นะอันเนี้ยนะการการกินที่ว่าไปหลุดเนี่ย
00:44:08 → 00:44:11 นะลักษณะรายละเอียดของโปรตีนที่กินส่วน
00:44:11 → 00:44:15 ใหญ่มันเป็นโปรตีนแปรรูปหรืออย่างไรนะ
00:44:15 → 00:44:19 เนี่ยเพราะฉะนั้นเนี่ยก็แน่นอนเลยล่ะนะฮะ
00:44:19 → 00:44:22 ที่รูปแรกที่เราโชว์มาว่าการเกิดปัญหาพุง
00:44:22 → 00:44:26 ไทรรอยด์หรือไขมันกลับมาสะสมในแบบของคน
00:44:26 → 00:44:30 ที่มันเป็นบอ type ทรงไทรอยดเนี่ยนะนะตัว
00:44:30 → 00:44:34 เนี้ยเป็นตัวสะท้อนนะฮะ CBC เนี่ยนะตัว
00:44:34 → 00:44:36 เม็ดเลือดเนี่ยนะคือคนเนี้ยก็ไม่ได้
00:44:36 → 00:44:39 เหมือนที่จะเป็นไอ้พวกโลหิตจางพวก
00:44:39 → 00:44:41 พาลาซีเมียแบบแฝงอะไรอย่างงั้นนะฮะแต่
00:44:41 → 00:44:44 เป็นปัญหานะของความผิดติของเม็ดเลือด
00:44:44 → 00:44:48 เนื่องจากสารอาหารมันไม่ครบมันไม่สมบูรณ์
00:44:48 → 00:44:52 นะฮะโดยเฉพาะในกลุ่มโปรตีนคือกลุ่มโปรตีน
00:44:52 → 00:44:56 ที่เกิดการมาสร้างเป็นตัวเม็ดเลือดมีเม็ด
00:44:56 → 00:44:59 เลือดขาวเอาไว้บัตเซลนะอันนี้ก็ไม่มีอะไร
00:44:59 → 00:45:02 6550 นะฮะนะ
00:45:02 → 00:45:06 เอ่ออย่างอื่นก็ differentiate ก็ปกตินะ
00:45:06 → 00:45:11 กดเกล็ดเลือดนะเ่อ 24,000 นะอันนี้ก็ปกติ
00:45:11 → 00:45:15 ก็มีปัญหาที่ตัวเมอแดงเนี่ยซึ่งเมแดงในคน
00:45:15 → 00:45:18 ที่กินในลักษณะจะเป็นโภชนาการแบบไหนก็ตาม
00:45:18 → 00:45:21 เนี่ยถ้ามันรูปร่างมันออกมาอย่างนี้เนี่ย
00:45:21 → 00:45:24 เราก็ถือว่ามีปัญหาบกทางด้าน
00:45:24 → 00:45:27 โภชนาการแล้วก็สารลอาหารตัวหลักเลยในการ
00:45:27 → 00:45:34 สร้างเมืแดงก็คือโปรตีนอโปรตีนนะ
00:45:34 → 00:45:38 ฮะเพราะฉะนั้นในทั้งหมดเนี่ยในในรูปร่าง
00:45:38 → 00:45:42 ของคนทรงไทรรอยด์นะฮะในการที่เราจะมาคุย
00:45:42 → 00:45:45 มาอภิปายอะไรกันอย่างเงี้ยนะฮะในอันนี้
00:45:45 → 00:45:50 เรารู้เบื้องต้นก่อนนะว่านะนะคนเนี้ยมี
00:45:50 → 00:45:53 การกินพลังงานที่ไม่ถูกต้องเเรียก Energy
00:45:53 → 00:45:57 Balance นะคุณจะกินคาบกินโปรตีนกินไขมัน
00:45:57 → 00:46:01 นะเสร็จแล้วกินเนี่ยนะฮะนะถ้าสัตส่วนหรือ
00:46:02 → 00:46:05 ความพอดีไม่พอดีอะไรต่างๆมันก็เกิดขึ้น
00:46:05 → 00:46:08 กับสารอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งนะฮะโดย
00:46:08 → 00:46:10 เฉพาะสารอาหารหลักเนี่ยไม่เป็นไปตามเกณฑ์
00:46:10 → 00:46:14 หรือตามสูตรนะที่จะ Healthy Performance
00:46:14 → 00:46:17 สูตร Healthy Performance ก็คือคฟเท่า
00:46:17 → 00:46:21 ไหร่คฟก็อยู่ในช่วงประมาณ 10 อ่าไม่เกิน
00:46:21 → 00:46:26 20% ของพลังงานรวมนะฮะโปรตีนก็อยู่ใน
00:46:26 → 00:46:30 ช่วงประมาณ 20 อ่าหรือถ้าเป็นคนสร้าง
00:46:30 → 00:46:34 กล้ามเอ่อโอเป็นแบบเอ่ออะไรต่างๆผู้ชาย
00:46:34 → 00:46:37 ที่กำลัง Body Builder กำลังสร้างก้าม
00:46:37 → 00:46:40 เยอะๆเนี่ยก็ต้องอัดโปรตีนเยอะก็จะต้อง
00:46:40 → 00:46:43 อัพ Level ขึ้นไปจาก 20% ของพลังงานทั้ง
00:46:43 → 00:46:46 หมดกลายเป็น 25 หรือไม่เกิน 30 นะแต่ยัง
00:46:46 → 00:46:49 ไงก็ตามโปรตีนเนี่ย TOT แล้วห้ามต่ำกว่า
00:46:49 → 00:46:54 15% ของพลังงานงแล้วที่เหลือก็จะต้อง
00:46:54 → 00:46:57 เป็นไขมันดี Good Healthy f ซึ่งจะเป็น
00:46:57 → 00:47:03 พลังงานหลักนะฮะและมีเอ่อข้อปีกย่อยนิด
00:47:03 → 00:47:06 นึงอ่ะว่ายังไงก็ตามนะเมื่อบวกลบกันแล้ว
00:47:06 → 00:47:10 เนี่ยนะพลังงานเปอร์เซ็นต์ของพลังงานรวม
00:47:10 → 00:47:14 ที่ที่ที่จะเป็นในในส่วนของ Food Healthy
00:47:14 → 00:47:16 Fat เนี่ยจะต้องมากกว่าคาร์โบไฮเดรตกับ
00:47:16 → 00:47:22 โปรตีนบวกกันนะหรือเต็มที่เลยก็คือ 5050
00:47:22 → 00:47:26 นะฮะนะอย่างเช่นอ่า Food Healthy fat
00:47:26 → 00:47:29 50% ของพลังงานรวมนะแล้วเราก็อาจจะกิน
00:47:29 → 00:47:33 คาฟเยอะหน่อย 20% แล้วที่เหลือเป็นโปรตีน
00:47:33 → 00:47:36 30% นะอันนี้ก็เหมือนพวก Body Builder
00:47:36 → 00:47:40 หรือพวกเนอรที่จะสร้างก้ามนะ
00:47:40 → 00:47:45 ฮะแต่ถ้าถ้าเราจะลดคาฟเนี่ยนะเนี่ยเหลือ
00:47:45 → 00:47:48 10% เหลือ 15% เงี้ยนะเพราะฉะนั้นอีก 5%
00:47:48 → 00:47:51 10% เราก็ไปเติมที่ที่ส่วนใหญ่เราก็ไป
00:47:51 → 00:47:55 เติมที่ที่ Fat เป็น f Fat นะเพราะว่า
00:47:55 → 00:47:57 โปรตีนเนี่ยส่วนใหญ่เราก็จะิกอยู่ที่
00:47:57 → 00:48:01 ประมาณ 20 25 ไม่เกิน 30 นะส่วนใหญ่ก็
00:48:01 → 00:48:05 เป็นนะเกณฑ์เฉลี่ยส่วนใหญ่ 20
00:48:05 → 00:48:08 25% อันนี้เนี่ยถึงจะเรียกว่า Energy
00:48:08 → 00:48:13 Balance นะนะ Energy Balance ซึ่งอ่าใน
00:48:13 → 00:48:16 เนี้ยหมอสรุปให้แล้วเราก็พอรู้กันนะเคย
00:48:16 → 00:48:20 ไลฟ์ไปด้วยว่าปฏิกิริยาการตอบสนองต่อ
00:48:20 → 00:48:23 Energy Balance ถ้าอยู่ภายในร่างกายคือ
00:48:23 → 00:48:26 คอร์ติซอลตัวแม่นะเก็จะมองเลยว่า
00:48:26 → 00:48:29 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันมันเป็นไปตามสัด
00:48:29 → 00:48:30 ส่วนที่หมอว่าเมื่อ
00:48:30 → 00:48:34 กี้ส่วนพลังงานภายนอกนะที่จะกินเข้าไปใน
00:48:34 → 00:48:38 ร่างกายนะฮะนะอันนี้คือจากภายนอกที่กินนะ
00:48:38 → 00:48:40 แล้วก็จะเกิดปฏิกิริยาการตอบสนองต่อ
00:48:41 → 00:48:43 ฮอร์โมนอันนี้ก็คืออินซูลินก็จะออกมาว่า
00:48:43 → 00:48:47 กานะแต่ส่วนที่อยู่ภายในร่างกายเนี่ยนะ
00:48:47 → 00:48:50 หลังจากกินเข้าไปแล้วเนี่ยนะมันขาดตกปก
00:48:50 → 00:48:54 อะไรนะมันขาดคาบมันขาดโปรตีนหรือไข
00:48:54 → 00:48:58 มันมันไม่ถึงนะในสัดส่วนหลักการที่บอกมา
00:48:58 → 00:49:01 อะไเงี้นะตัวตอบสนองคือคอร์ติซอล
00:49:01 → 00:49:05 เพราะว่าอินซูลินเนี่ยพีคในการตอบสนอง
00:49:05 → 00:49:08 ส่วนใหญ่เขาก็เป็นพีคอยู่ในช่วง 2-4 ช่ม
00:49:08 → 00:49:11 นะฮะที่เรากินใช่มล่ะแต่ที่เหลือเนี่ยคือ
00:49:11 → 00:49:15 คอร์ติซอลเคอยมาเร็งเลยล่ะนะยกเว้นแต่ว่า
00:49:15 → 00:49:18 โอกินทั้งวัน eat All The Time เงี้ย
00:49:18 → 00:49:20 นะอินซูลินมาแล้วมาอีกมาแล้วมาอีกอะไร
00:49:20 → 00:49:24 อย่าเงี้ยนะฮะนะแต่ยังไงก็ตามนะถ้าเขมา
00:49:24 → 00:49:28 แบบดุดันก้าวร้าวนะฮะนะเก็มาเหวี่ยงขึ้น
00:49:28 → 00:49:31 เหวี่ยงลงนะเพราะฉะนั้นคอร์ติซอลก็ต้อง
00:49:31 → 00:49:35 ตามมาประกบนะนะอย่างเงี้ยนะไม่งั้นเดี๋ยว
00:49:35 → 00:49:39 เกิดการเสียสมดุลแล้วก็บ้านชิบหายวายป่วง
00:49:39 → 00:49:44 นะกนี้การทำผิดกฎพลังงานเก็คือมี 1 2 3
00:49:44 → 00:49:47 แบบนี้นะฮะนะนี้ก็แล้วแต่ว่าโอ๊ตเนี่ยไป
00:49:47 → 00:49:52 ทำผิดกดพลังงานแบบไหนนะฮะซึ่งเราอ่ะเป็นบ
00:49:52 → 00:49:56 typ สายแป้งนะเพราะฉะนั้นเนี่ยเรื่องคิอ
00:49:56 → 00:49:59 เรื่องเรื่องอินซูลินเนะแต่ส่วนใหญ่บทบาท
00:49:59 → 00:50:03 ของคนโดยเฉพาะคนผอมๆนะอ่าสมส่วนค่อนผอม
00:50:03 → 00:50:06 ด้วยอย่าเงี้ยนะพอซอลจะเด่นเคอร์ติซอลก็
00:50:06 → 00:50:10 จะเ่อค่อนข้างมีอิทธิพลมีบทบาทเยอะนะแม่
00:50:10 → 00:50:14 แม่จะใหญ่นะฮะนะส่วนเรื่องอินซูลินเนี่ย
00:50:14 → 00:50:18 มันก็มีอ่ะนะเไปหลุดใช่มยล่ะนะแต่เขาก็จะ
00:50:18 → 00:50:20 ไม่เด่นมากเมื่อกี้ขึ้นไป 7 กว่าอะไรอย่า
00:50:20 → 00:50:26 เงี้ยจาก 55 นะนะแต่จริงๆแล้วลับๆลึกๆนะ
00:50:26 → 00:50:29 เอ่อโครงสร้างร่างกายอันนี้จะมีคอร์ติซอล
00:50:29 → 00:50:35 แอบๆนะที่จะพุ่งพล่างเอนะนะก็แล้วแต่รูป
00:50:35 → 00:50:40 แบบนะฮะนะเนี่ยว่าเราไปผิดไปพลาดยไงแล้ว
00:50:40 → 00:50:44 อันเนี้ยมันมีข้อสรุปว่านะในการผิดพลาด
00:50:44 → 00:50:47 โดยเฉพาะสายแป้งนะเราก็ต้องเอาชาร์จเนี้ย
00:50:47 → 00:50:52 มาให้มาให้เห็นกันนะว่านะถ้าเป็นอวัยวะนะ
00:50:52 → 00:50:56 ฮะที่จะเกิดการไวในการรับรู้การตอบสนอง
00:50:56 → 00:51:02 เรื่องของ Energy imbalance คือไตไนะไต
00:51:02 → 00:51:06 นะไม่ใช่สมองนะเดี๋ยวคราวหน้าพูดเรื่อง
00:51:06 → 00:51:09 ไทรรอยด์เนี่ยก็จะลงไปลึกที่ไต
00:51:09 → 00:51:14 ด้วยเพราะว่าอย่างไตเนี่ยกรณีของไตเลย
00:51:14 → 00:51:18 เนี่ยนะเราจะใช้คำว่า water นะฮะที่จะมา
00:51:18 → 00:51:21 พิจารณาดูว่าไตเนี่ยมันเป็นอะไรก็เหมือน
00:51:21 → 00:51:24 กับกฎเมื่อกี้มันมี 5 กฎแต่อย่างไตเนี่ย
00:51:24 → 00:51:28 นะ Water นะตัว W คืออะไรตัว W ก็คือ
00:51:28 → 00:51:31 Water ก็คือน้ำเพราะไตอ่ะเเป็นอวัยวะตาม
00:51:31 → 00:51:34 ธรรมชาติที่ให้มากรองน้ำให้มาจัดการ
00:51:34 → 00:51:37 บริหารเรื่องน้ำน้ำมากน้มน้อยน้ำขากน้ำ
00:51:37 → 00:51:43 เกินนะฮะนะ Water ก็ W ใช่ม a ก็คือแิก็
00:51:43 → 00:51:46 ต้องมาจัดการกับกดนะฮะเนี่ยไตต้องมาจัด
00:51:46 → 00:51:49 การกับความเป็นกดในเลือดนะฮะเพราะงั้น
00:51:49 → 00:51:52 ปัสสาวะส่วนใหญ่มันจะออกมาพีมันจะเป็นกฎ
00:51:52 → 00:51:54 5.56
00:51:54 → 00:52:02 อะไรนะนะนะเพราะฉะนั้นอ้าวอใช่ม W T T
00:52:02 → 00:52:05 นี่คือไทรรอยนะเพราะฉะนั้นไตจะรอดไม่รอด
00:52:05 → 00:52:08 เนี่ยอยู่ที่ไทรอยแล้วส่วนใหญ่ที่คนปัญหา
00:52:08 → 00:52:12 ไตวายกันแล้วก็แก้ไม่ได้แก้ไม่เป็นแก้ไม่
00:52:12 → 00:52:15 ถูกแก้ไม่รอดก็คือจัดการเรื่องฮอร์โมน
00:52:15 → 00:52:19 ไทรรอยด์ไม่ได้อแล้วไทรรอยด์เนี่ยเเป็น
00:52:19 → 00:52:24 ตัวจัดการพลังงานให้กับไตนะอ่าเจะมาหา
00:52:24 → 00:52:29 อะไรหาน้ำตาลมาให้นะฮะหาอ่าตัวไตกิลนะ
00:52:29 → 00:52:32 แล้วไตกีสไลที่เอามาให้ไตเนี่ยมาจากอะไร
00:52:32 → 00:52:34 ฮะมาจาก
00:52:34 → 00:52:39 hdl เดี๋ยวเขาหน้าคุยเนาะอ่ะไตเนี่ยก็
00:52:39 → 00:52:43 กลับไปดูผลแลปของโอ๊ตเนี่ยไตของโอ๊ตเนี่ย
00:52:43 → 00:52:48 ก็ก็มันจะเป็นประมาณอะไ ckd เกด 2 อ่ะนะ
00:52:48 → 00:52:52 ฮะนะก็ต้องปรับตรงนี้ต้องปรับตรงตรงจริงๆ
00:52:52 → 00:52:54 ก็คือต้องปรับตรงไทรอยด์ฮอร์โมนนี่แหละ
00:52:54 → 00:52:59 อ่ะอ่าเอาววะที่มีความไวในการรับรู้เก็
00:52:59 → 00:53:04 คือไนะฮะนะต่อมาก็คือต่อมไร้ท่อหรือมีท่อ
00:53:04 → 00:53:08 นะนะที่มีความสำคัญในการรับรู้ต่อการเกิด
00:53:08 → 00:53:11 เนก็คือ
00:53:11 → 00:53:15 ไรนะแล้วฮอร์โมนที่ไวไหม้สุดก็คือไทรอย
00:53:15 → 00:53:18 ลองลงมาก็คือ
00:53:18 → 00:53:26 คอซอคซมาตามไทรอยด์นะไทรอย์มากต่อมไรอยไ
00:53:26 → 00:53:29 นะอันเนี้ยมันก็จะวนๆอยู่นะเพะฉะนั้นเรา
00:53:29 → 00:53:33 สายแป้งทรงไทรอยด้วยนะสิ่งเหล่านี้ต้อง
00:53:33 → 00:53:42 คิดให้ดีๆเวลาที่เรา out of eating เออ
00:53:42 → 00:53:48 นะอันนี้ก็เรามาคุยแผ่นเนี้ยนะฮะจะเป็น
00:53:48 → 00:53:53 แผ่นตอบคำถามของโอ๊ตนะฮะ
00:53:53 → 00:53:57 นะคือฮอร์โมนที่มีผลต่อไทรรอยด์คือ
00:53:57 → 00:54:00 อินซูลินเพราะไทรอยด์ก็เป็นฮอร์โมนลูกสาว
00:54:00 → 00:54:04 คนกานะอินซูลินตัวพ่อแต่ถามว่าอินซูลิน
00:54:04 → 00:54:07 ชอบไทรอยด์มยก็ไม่ได้ชอบไม่ได้สว่างนะนะ
00:54:07 → 00:54:10 ฮะนะนะแต่ไทรรอยด์เนี่ยเต้องพึ่งอินซูลิน
00:54:11 → 00:54:15 อ่าเต้องพึ่งฮอร์โมนอินซูลินตัวพ่อจริงๆ
00:54:15 → 00:54:17 แล้วเพราะอะไรรู้มยก็เพราะว่าไทรรอยด์
00:54:17 → 00:54:20 เนี่ยเขเป็นฮอร์โมนที่มากองค์ประกอบนะ
00:54:21 → 00:54:23 องค์ประกอบของไทรรอยด์เนี่ยเกือบจะแทบจะ
00:54:23 → 00:54:27 มีทุกอย่างเลยนะทั้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไข
00:54:27 → 00:54:30 มันทั้งวิตามินแร่ธาตุสารษะเคมีอะไรต่างๆ
00:54:30 → 00:54:33 เยนะที่จะมาทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์เนี่ยเป็น
00:54:33 → 00:54:36 ฮอร์โมนขยันเพเป็นฮอร์โมนที่สมบูรณ์แบบ
00:54:36 → 00:54:38 แล้วเขก็จะเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ในร่าง
00:54:38 → 00:54:41 กายในการเาผานพลังงานเพื่อให้เกิดกรดอะไร
00:54:41 → 00:54:45 ต่างๆนะฮะเพราะงั้นไทรรอยด์ถึงต้องขยัน
00:54:45 → 00:54:48 ต้องออกมาเยอะๆนะฮะนะแต่ก็ไม่เยอะเกินไป
00:54:48 → 00:54:51 จนกระทั่งเป็นิตนะอันนี้เป็นหลักการที่
00:54:51 → 00:54:56 สำคัญไรอยจะเกิดสิ่งเหล่านี้ได้เนี่ยนะ
00:54:56 → 00:55:00 ไดๆต่างๆเนี่ยที่จะเป็นสารอาหารนะที่จะไป
00:55:00 → 00:55:02 ก่อร่างสร้างไทรรอยด์ฮอร์โมนเนี่ยนะมันก็
00:55:02 → 00:55:05 จะต้องมีตัวอินซูลินหรือตัวพ่อเนี่ยพาเ
00:55:05 → 00:55:10 เรียกอัทนะเข้าสู่เซล์นะฮะเพราะฉะนั้น
00:55:10 → 00:55:13 ไทรอยด์ต้องพึ่งอินซูลินถ้าเรากินโคฟเรา
00:55:13 → 00:55:18 กินซีดีเราตัดคาฟโอ้ยเราแบบแหมนะแล้วก็
00:55:18 → 00:55:23 อยู่ในวังวนโภชนาการแบบเนี้ยนานๆนะก็ต้อง
00:55:23 → 00:55:26 ระวังนะว่าอินซูลินเวลามันเดี้ยงไปแล้ว
00:55:26 → 00:55:29 แล้วเนี่ยนะมันจะเอาสารอาหารมันจะเอาอะไร
00:55:29 → 00:55:32 ต่างๆเนี่ยนะเข้าเซลล์อ่ะไม่ได้โดยเฉพาะ
00:55:32 → 00:55:35 ตัวที่ได้รับผลกระทบหนักเลยก็คืออะไรคือ
00:55:35 → 00:55:38 ไทรรอยด์คือไทรรอยด์นะเพรางั้นไทรอยด์มัน
00:55:38 → 00:55:42 ก็จะเดี้ยงไปด้วยนะฮะนะมันก็จะออกมาน้อย
00:55:42 → 00:55:45 มันสร้างได้ไม่เยอะมันจะทำงานเพี้ยนๆไป
00:55:45 → 00:55:49 เพราะว่าองค์ประกอบต่างๆในเอ่อความเป็น
00:55:49 → 00:55:52 เป็นฮอร์โมนที่ดีเนี่ยมันมันเริ่มสูญเสีย
00:55:52 → 00:55:55 ไปอ่ะมันเริ่มอมันเดี้ยงไปเราก็เรียกว่า
00:55:55 → 00:55:57 ไม่ขยับไม่
00:55:57 → 00:56:01 หลักการของเอ่อฮอร์โมนไทรอยด์กับอินซูลิน
00:56:01 → 00:56:06 ตัวพ่อว่าอย่างงี้นะนะคือไทรรอยด์พึ่ง
00:56:06 → 00:56:11 อินซูลินจริงนะฮะแต่เขาพึ่งอินซูลินใน
00:56:11 → 00:56:14 ช่วงที่มาตาม C rit นะฮะนะเราเรียกว่า
00:56:14 → 00:56:17 อินซูลินที่มาตอนเย็นๆตาม physiologic
00:56:17 → 00:56:18 insulin
00:56:18 → 00:56:22 sensitivity นะคือไม่ใช่ว่าเราไม่รู้
00:56:22 → 00:56:25 เรื่องรู้ราวอะไรเลยแล้วเราไปกินกินๆๆนะ
00:56:25 → 00:56:28 แล้วก็กกลายเป็นว่าเราได้คาฟอะไรมาก็ไม่
00:56:28 → 00:56:31 รู้แล้วมากระตุ้นอินซูลินก้า้าวอินซูลิน
00:56:31 → 00:56:33 พุ่งมันทั้งวันทั้งคืนพุ่งแล้วก็ลอยๆๆ
00:56:33 → 00:56:37 อย่าเงี้ยแล้วก็จะไปทำให้ออยไทรงไทรอยด์
00:56:37 → 00:56:39 ต่างๆก็ได้รับสารอาหารเข้าเซลล์มันไม่ใช่
00:56:39 → 00:56:44 นะฮะนะนะหลักการตามฟิลินะที่มันเป็น
00:56:44 → 00:56:46 เรื่องของธรรมชาติตามระบบ
00:56:46 → 00:56:49 วิวัฒนาการก็คือช่วงนี้แหละฮะนะที่ไทรอยด
00:56:49 → 00:56:52 เต้องการใช้อินซูลินนะก็พึ่งพาอินซูลิน
00:56:52 → 00:56:56 คือพึ่งพาอินซูลินตัวพ่อพระที่มาตอนอ่า
00:56:56 → 00:57:01 ตอนเย็นๆตอนค่ำๆนะตามเกึมที่ตามเนี่ยิ
00:57:01 → 00:57:06 อิซูลินที่ต้อง sensitivity ด้วยนะไม่ใช่
00:57:06 → 00:57:10 เวลาไหนก็ได้นะไม่ใช่นะฮะนะทีนี้โดยการ
00:57:10 → 00:57:13 สร้างไทรรอยด์และการ Activate ไทรอยด์
00:57:13 → 00:57:18 ฮอร์โมนจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นตอนอตอนหลัง
00:57:18 → 00:57:22 อินซูลินมาแล้วนะฮะมาแล้วนะฮะนะก็คือ
00:57:22 → 00:57:26 อินซูลินมาตอนไหนอ่ะตอนเย็นอเพราะฉะนั้น
00:57:26 → 00:57:31 อาหารมื้อเย็นเนี่ยนะก็จะต้องจัดจัดของนะ
00:57:31 → 00:57:34 ที่จะเกิดการตอบสนองการทำงานของอินซูลิน
00:57:34 → 00:57:37 เพราะอินซูลินเนี่ยเขมามาเพื่อทำงานนะฮะ
00:57:38 → 00:57:40 หลักการอย่างหนึ่งในชีวิตคนเรานะฮะนะเรา
00:57:40 → 00:57:44 ต้องรู้ว่าเอวะก็ดีนะฮะไม่ว่าจะเป็นไต
00:57:44 → 00:57:49 เป็นต่อมไทรอยด์นะหรือฮอร์โมนก็ดีนะเต้อง
00:57:49 → 00:57:53 มาตามหน้าที่ของนะอินซูลินมาตอนเย็น
00:57:53 → 00:57:57 คอร์ติซอลมาปลุกให้ตื่นตอนเช้าเมื่อเวลาเ
00:57:57 → 00:58:01 มาเนี่ยนะแล้วเต้องการอะไรนะเขมาเพื่อมา
00:58:01 → 00:58:03 ทำหน้าที่ร่างกายส่งมาตามธรรมชาติเพื่อมา
00:58:03 → 00:58:07 ทำหน้าที่นะเพราะฉะนั้นอินซูลินมาเพื่อ
00:58:07 → 00:58:11 เพื่อมาเก็บอะไรฮะมาเก็บคาฟเก็บน้ำตาลนะ
00:58:11 → 00:58:14 ฮะเพราก็ต้องมีคาฟมีน้ำตาลใส่เข้าไปเพรา
00:58:14 → 00:58:16 ั้นมื้อเียนจะมาบอกว่าไม่กูไม่กินน้ำตาล
00:58:16 → 00:58:19 กูไม่กินคาฟเดี๋ยวมันจะอย่างโง้นอย่างงี้
00:58:19 → 00:58:22 เดี๋ยวพรุ่งนี้มันจะน้ำตาลสูงอนี้มันเข้า
00:58:22 → 00:58:25 ใจผิดหมดนะฮะนะอันนี้คุณต้องผ่านเรื่อง
00:58:25 → 00:58:29 ราวของเนี่ยการตอบสนองต่อฮอร์โมนตามลิที่
00:58:29 → 00:58:32 ถูกต้องนะอธิบายเป็นคุ้งเป็นแกวหรือจะยัง
00:58:32 → 00:58:35 ไงก็ตามเป็นเรื่องเล่าอะไรก็ตามแต่ต้องมี
00:58:35 → 00:58:38 เหตุมีผลนะเพราะงั้นเมืเย็นเนี่ยถึงต้อง
00:58:38 → 00:58:41 มีคาฟนะต้องมีคฟจะมีขนาดไหนก็อีกเรื่อง
00:58:41 → 00:58:45 นึงนะอ่าควบคุมจำกัดปริมาณเอาล่ะนะเนี่ย
00:58:45 → 00:58:49 เ่ออินซูลินเข้ามาก็ต้องใส่คฟเข้าไปแล้ว
00:58:49 → 00:58:51 หลักการใส่าฟเนี่ยก็ไม่ได้เติมมั่วซั่
00:58:51 → 00:58:54 เติมเท่าไหร่ก็ได้นะฮะาฟมันจำกัดด้วย
00:58:54 → 00:58:56 ปริมาณอินซูลินตัวพ่อมาเพื่ออะไรฮะเพื่อ
00:58:56 → 00:59:00 เอาคาฟไปสะสมให้ไกลโคเจนเพราะว่าอินซูลิน
00:59:00 → 00:59:04 จะต้องไปเตรียมตับนะฮะนะที่จะเก็บงำพลัง
00:59:04 → 00:59:08 งานที่จะใช้ในวันพรุ่งนี้เพเดี๋ยวแม่จะมา
00:59:08 → 00:59:11 ถามหานะว่า
00:59:11 → 00:59:17 เอ่อไอ้อะไรนะไอ้ข้าวของอ่ะนะหรืออ่าพลัง
00:59:17 → 00:59:20 พลังงานน่ะจริงๆหรือเงินน่ะที่ให้เอามา
00:59:20 → 00:59:22 สะสมไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้เนี่ยจะรีบไปตลาดไป
00:59:22 → 00:59:26 ซื้อของเนี่ยนะนะมามาทำกินแล้วจะได้มี
00:59:26 → 00:59:30 พลังงานตื่นเงี้ยนะเอ่อมันต้องเตรียมไงฮะ
00:59:30 → 00:59:32 อินซูลินก็ต้องมาเตรียมนะก็คือเตรียม
00:59:32 → 00:59:36 กลูโคเจนซีนะฮะให้ตับมีไฮโรเจนอยู่ใน
00:59:36 → 00:59:39 ระดับที่เพียงพอนะขณะเดียวกันถ้าวันนั้น
00:59:39 → 00:59:42 เนี่ยเรามีการออกแรงออกกำลังในตอนเย็น
00:59:42 → 00:59:44 หรือในทั้งวันอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยเรามี
00:59:44 → 00:59:46 การทำลายกล้ามเนื้อนะแต่ต้องซ่อมต้อง
00:59:46 → 00:59:48 สร้างกล้ามเนื้อแล้วก็ต้องใช้ไกลโคเจน
00:59:48 → 00:59:51 เพราฉะนั้นก็บวก้าเพิ่มขึ้นไปอ่าเพื่อจะ
00:59:52 → 00:59:56 ไปเติมกล้ามเนื้อตามเหตุตามผลนะฮะนะเพราะ
00:59:56 → 01:00:00 ฉะนั้นไกลโคเจนนะหรือกลูโคนะฮะที่จะสร้าง
01:00:00 → 01:00:03 พลังงานจากคอันนี้ต้องเกิดขึ้นโดย
01:00:03 → 01:00:04 อินซูลิน
01:00:04 → 01:00:08 เมื่อเกิดขึ้นเกิดอันนี้ขึ้นแล้วเนี่ยนะ
01:00:08 → 01:00:11 หลังจากนั้นถึงจะเกิดหน้าที่ต่อๆไปนะฮะ
01:00:11 → 01:00:14 ตามมานะหน้าที่อันดับ 2 คือหน้าที่ของการ
01:00:14 → 01:00:18 สร้างน้ำดีเพื่อจะเอาคอเลสเตอรอลออกนะฮะ
01:00:18 → 01:00:21 แล้วเพื่อจะเอาพิษออกด้วยนะ
01:00:21 → 01:00:24 detoxification แล้วหน้าที่ต่อไปถึงจะ
01:00:24 → 01:00:28 เป็นหน้าที่ของการ AC ไทรอยนะฮะ Activate
01:00:28 → 01:00:32 วิตามิน D Activate ไทรรอยนะฮะเนี่ยหรือ
01:00:32 → 01:00:37 เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ K2 K อ่า K2
01:00:37 → 01:00:40 MP4 mp7 อะไรต่างๆเหล่าเยโดยตัเหล่า
01:00:40 → 01:00:42 เนี้ยนะฮะนะอันเนี้ยมันจะเป็นหน้าที่
01:00:42 → 01:00:46 ลำดับ 3 4 5 ต่อๆไปนะเพนั้นการ Activate
01:00:46 → 01:00:51 ไทรอยฮอร์โมนที่จะเกิดขึ้นนะนะเกิดขึ้น
01:00:51 → 01:00:54 ที่ไหนฮะเกิดขึ้นที่ต่และต้องเกิดขึ้น
01:00:54 → 01:00:57 หลังจากอินซูลินมาในตอนเย็นแล้วนะฮะแล้ว
01:00:57 → 01:01:01 อินซูลินเนี่ยก็มาเก็บงำสารอาหารต่างๆ
01:01:01 → 01:01:05 เข้าสู่ต่อมไทรอยด์นะเกิดการอัคนะสิ่ง
01:01:05 → 01:01:09 ต่างๆที่จะกลายเป็นไทนฮอร์โมน p4 นะ p4
01:01:09 → 01:01:14 ออกมานะแล้วจะเปลี่ยนหรือ Activate กลาย
01:01:14 → 01:01:18 เป็น p3 เป็นตัวออกฤทธิ์ก็ที่ไหนก็ที่ตับ
01:01:18 → 01:01:23 นะฮะในเวลาไหนก็เวลาหัวค่ำยังไม่เที่ยง
01:01:23 → 01:01:27 คืนหรือก่อนเที่ยงคืนนะฮะเนี่ย
01:01:27 → 01:01:29 ทีนี้การ Activate เนี่ยเราต้องรู้อย่าง
01:01:29 → 01:01:32 หนึ่งนะในปัจจุบันเนี่ยนะสัดส่วนของการ
01:01:32 → 01:01:36 activate เนี่ยมันจะมีที่ตับล้ำไส้และไต
01:01:36 → 01:01:40 นะฮะนะก็คือตับมากสุดนะการ Activate จาก
01:01:40 → 01:01:45 p4 เป็น p3 ที่ตับ 70 - 75% ลำไส้มี
01:01:45 → 01:01:50 ประมาณ 15 -20% นะแล้วที่ไต 10% นะเพราะ
01:01:50 → 01:01:55 ฉะนั้นตรงนี้นะฮะนะถ้าตับลำไส้ไตมีความ
01:01:55 → 01:01:59 ผิดผิดปกตินะตับอักเสบไขมันพอกตับตับเป็น
01:01:59 → 01:02:02 อย่างโง้นอย่างงี้นะฮะอย่างลำไส้เนี่ยก็
01:02:02 → 01:02:05 กินอะไรตะรเข้าไปแล้วท้องอืดนะไม่ย่อย
01:02:06 → 01:02:09 ระบบการย่อยการดูดซึมทำไส้แปรปวนนะลมแก๊ส
01:02:09 → 01:02:14 ตีดันอะไรต่างๆนะฮะหรือไตเนี่ยนะเออไตอ่ะ
01:02:14 → 01:02:19 เทำงานไม่ดีทำงานบกพร่องนะฮะเกิดปัญหา ckd
01:02:19 → 01:02:23 ในระยะ 3A 3B อะไรอย่างงี้นะเนี่ยสตโน้น
01:02:23 → 01:02:26 สตตนี้นะฮะนะก็อย่าหมายเลยว่าไอ้
01:02:27 → 01:02:29 เปอร์เซ็นต์การ Activate ไทรรอยด์มันจะดี
01:02:29 → 01:02:33 แบบนี้มันจะดีแบบนี้นะนะเพราะฉะนั้นนะ
01:02:33 → 01:02:37 เรื่องไทรรอยด์เนี่ยก็ชักมีปัญหาแล้วนะฮะ
01:02:37 → 01:02:41 นะเกี่ยวกับอ่าพึ่งพาอวัยวะอื่นๆนะก็เป็น
01:02:41 → 01:02:45 ฮอร์โมนนังชีช้ำนะเพราะฉะนั้นอะไรต่างๆ
01:02:45 → 01:02:47 เหล่าเนี้ยนะเต้องพึ่งคนนู้นพึ่งคนนี้ไป
01:02:47 → 01:02:53 มดเลยนะฮะนะอ่าอ่ะทีนี้ในเรื่องการกิน
01:02:53 → 01:02:56 อาหารยังจะมีผลอะไรบ้างต่อฮอร์โมนโไทรอย
01:02:56 → 01:02:59 นะฮะนะอันนี้เดี๋ยวจะไปตอบคำถามโอ๊ต
01:02:59 → 01:03:03 นะเรามี 4 เรื่องนะฮะเกี่ยวกับอาหารในการ
01:03:03 → 01:03:06 พิจารณาเรื่องผลที่จะเกิดขึ้นกับฮอร์โมน
01:03:06 → 01:03:09 ไทรอยด์ 1 เขเรียกว่า Energy Balance
01:03:09 → 01:03:12 หรือ im Balance นะซึ่งอันเนี้ยคำว่า
01:03:12 → 01:03:15 เอนเนอร์ยีในเนี้ยนะจะหมายถึงพลังงานก็
01:03:15 → 01:03:17 ได้แต่พลังงานนี้มันจะประกอบด้วยทั้ง
01:03:17 → 01:03:20 แคลอรี่ทั้งสารอาหารนะแล้วต้นทางของพลัง
01:03:20 → 01:03:23 งานเอนเนอร์ยีคำเนี้ยนะก็คือคาร์โบไฮเดรต
01:03:23 → 01:03:25 โปรตีน
01:03:25 → 01:03:28 เขาก็บอกว่า Balance Balance ของเรื่อง
01:03:28 → 01:03:31 เอนเนอร์ยีนะที่กินจากค้าโปรตีนไขพันธุมี
01:03:32 → 01:03:35 ผลมากที่สุดไม่ที่สุดต่อฮอร์โมนไทรอยด์
01:03:36 → 01:03:38 หรือต่อต่อมไทรรอยด์นะในการผลิตฮอร์โมน
01:03:38 → 01:03:42 ไทรอย์เขก็บอกว่าพลังงานรวมนะนะก็คือ
01:03:42 → 01:03:44 เอนเนอร์ยีมันประกอบไปด้วย
01:03:44 → 01:03:51 เอ่อแคลอรี่กับนินเนะตัวแคลอรี่นี่ฮะนะจะ
01:03:51 → 01:03:54 มีผลในแง่การทำงานของฮอร์โมนไทรรอยด์มาก
01:03:54 → 01:03:58 ที่สุดนะก็คือแคลอรี่มันถึงหรือไม่ถึงนะ
01:03:58 → 01:04:02 คนกินน้อยนะคนกินอัตราส่วนหรือปริมาณไม่
01:04:02 → 01:04:06 ถึงไม่พอนะฮะนะการทำงานไทรรอยด์มันก็จะลด
01:04:06 → 01:04:11 ลงอ่าเเรียกว่าไทรรอยด์ทำงานต่ำทำงานน้อย
01:04:11 → 01:04:16 นะฮะเนี่ยอันนี้มีผลมากที่สุดนะฮะเเรียก
01:04:16 → 01:04:19 ว่าแคลอรี่หรือพลังงานรวงนะโดยเฉพาะเวลา
01:04:19 → 01:04:23 ที่เราลดน้ำหนักนะหรือเราอดเราฟาดอะไร
01:04:23 → 01:04:27 ต่างๆเนี่ยนะอันนี้แหละคือเหตุสำคัญเลยนะ
01:04:27 → 01:04:30 ฮะของฮอร์โมน disturbance โดยเฉพาะตัว
01:04:30 → 01:04:34 ไทรอยฮอร์โมนนะฮะเจะทำงานน้อยลงนะก็จะไว
01:04:34 → 01:04:37 ต่อการรับรู้ว่าพลังงานรวมหรือแคลอรี่ไม่
01:04:37 → 01:04:42 พอนะต่อไปสารอาหารนิวตเดนะอันนี้จะมีผล
01:04:42 → 01:04:45 ต่อกระบวนการสร้างฮอร์โมนและการเปลี่ยน
01:04:45 → 01:04:49 รูปนะกลายเป็นฮอร์โมนที่ Active นะเอ่อ
01:04:49 → 01:04:52 คือเพราะฉะนั้นสารอาหารแบบเนี้ย่ามันก็มี
01:04:52 → 01:04:57 ผลลงมาจากเรื่องแคลอรี่หรือพลังกับไทโรนะ
01:04:57 → 01:05:00 แล้วก็มีผลในเรื่องของปริมาณการสร้างรวม
01:05:00 → 01:05:02 ทั้งการ
01:05:02 → 01:05:05 Activate อันนี้คือเรื่องสำคัญที่สุด
01:05:05 → 01:05:08 อันดับหนเลยนะฮะที่ต้องมองให้ออกดูให้
01:05:08 → 01:05:12 เป็นนะฮะว่าพอมนะที่ไปผิดไปพลาดหรือไปกิน
01:05:12 → 01:05:16 อะไรต่างๆนะฮะอันที่ 2 เที่มีผลต่อ
01:05:16 → 01:05:21 ไทรรอยด์มากที่สุดคือคือโปรตีนคือโปรตีน
01:05:21 → 01:05:24 โปรตีนเนี่ยเราพิจารณา 3 เรื่องคือคุณภาพ
01:05:24 → 01:05:29 ของโปรตีนนะฮะต่ำนะหรือไม่ดีอะไรยังไงนะ
01:05:29 → 01:05:33 โดยเฉพาะแปรรูกปริมาณโปรตีนที่กินและความ
01:05:33 → 01:05:37 หลากหลายต้องมีนะฮะนะตัวที่ 3 คือ
01:05:37 → 01:05:40 คาร์โบไฮเดรตมีผลต่อไทรอยด์ในแง่ปริมาณ
01:05:40 → 01:05:44 มากหรือน้อยถ้ามากนะมันก็กระตุ้นอินซูลิน
01:05:44 → 01:05:48 นะแล้วไม่ได้เป็นอินซูลินที่มาแบบท่อพระ
01:05:48 → 01:05:52 แบบนี้นะฮะนะโดยเฉพาะการกระตุ้นในเวลา
01:05:52 → 01:05:57 อื่นๆของวันโดยเฉพาะมื้อแรกนะเนี่ยแต่ถึง
01:05:57 → 01:06:00 จะเป็นมื้อเย็นก็เถอะถ้าปริมาณคาที่กิน
01:06:00 → 01:06:04 มันเกินอินซูลินมาเยอะอินซูลินมาเยอะเท่า
01:06:04 → 01:06:07 ไหร่นะไม่ได้เป็นเซอเลเวลอินซูลินตามความ
01:06:07 → 01:06:10 เหมาะสมเนี่ยนะไทรรอยด์เก็จะไวต่อการรับ
01:06:10 → 01:06:14 รู้นะเขาก็ไม่ได้เหมือนกันนะฮะนะเอ่อเขา
01:06:15 → 01:06:19 ก็เสียหายเหมือนกันนะฮะอ่าแล้วประเภทชนิด
01:06:19 → 01:06:23 ของคาฟนะรวมทั้งสำคัญที่สุดช่วงเวลาในการ
01:06:23 → 01:06:28 กินคาฟนะคุณจะกินคาฟยังไงที่จะมีผลอ่าไป
01:06:28 → 01:06:33 ช่วยให้ไทรรอยด์เนะเขาดีเขาทำงานได้เก่งๆ
01:06:33 → 01:06:37 นะก็ออกมาได้เยอะๆแต่ไม่เกินเป็นพิษนะฮะ
01:06:37 → 01:06:41 เนี่ยนี่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในการกินคา
01:06:41 → 01:06:44 เดี๋ยวคราวหน้าเรามาคุยรายละเอียดเนาต่อ
01:06:44 → 01:06:49 ไปเรื่องไขมันนะไขมันไขมันกับไรอยนะนี้ไข
01:06:49 → 01:06:52 มันจากการกินเรียก DIY
01:06:52 → 01:06:57 Fat นะนะคือไทรรอยด์เนี่ยนะฮะเป็น
01:06:57 → 01:07:00 ฮอร์โมนเผ่าผลาพลังงานคู่ของเขาที่ทำงาน
01:07:00 → 01:07:06 คล้ายๆกันคือเลตเลีนนะฮะเพรางั้นไทรอยด
01:07:06 → 01:07:09 กับเลตินออกผานพลังงานนะฮะแต่เขาก็มีข้อ
01:07:09 → 01:07:12 แตกต่างในการทำงานกันนิดหน่อยอันนี้เรา
01:07:12 → 01:07:15 ต้องเข้าใจนะฮะอ่าอย่างเรื่องไขมันสมมติ
01:07:15 → 01:07:17 เรากิน Food Healthy Fat Oil แล้วล่ะ
01:07:17 → 01:07:21 นะ Diary Fat ที่กินเข้าไปในมื้อเช้า
01:07:21 → 01:07:26 มื้อแรกอ่ะมื้อแรกนะนะเนี่ยเรากินกตัวนี้
01:07:26 → 01:07:29 เข้าไปเนี่ยพร้อมกับโปรตีนที่ดีๆโปรตีนไข
01:07:29 → 01:07:34 มันสูงไขมันปานกานะพวกนี้เลปตินจะจะออกมา
01:07:34 → 01:07:38 เยอะนะออกมาเยอะแล้วก็ทำงานได้เก่งมากเลย
01:07:38 → 01:07:41 เพราะว่าช่วงแรกเนี่ยเรา low to very
01:07:41 → 01:07:43 low คฟหรือแทบจะไม่กินคฟเลยเรากินผักใบ
01:07:43 → 01:07:47 เป็นหลักดมันไม่กระตุ้นอินซูรินนะเพราะ
01:07:47 → 01:07:51 ฉะนั้นอย่างเงี้ยมันเปิดช่องเลยนะให้ตัว
01:07:51 → 01:07:54 ฮอร์โมนอิ่มเนี่ยนะมันออกมาทำงานนะแต่
01:07:54 → 01:07:57 เลปตินเนี่ยเนี่ยคุณสมบัติเขาเนี่ย 1 เ
01:07:57 → 01:08:00 เป็นฮอร์โมนนะที่เเรียกว่าเป็นติ๊กเกอร์
01:08:00 → 01:08:05 นะความอิ่มออ่าค่อยๆลดความหิวนะแล้วเพิ่ม
01:08:05 → 01:08:11 ความอิ่มนะฮะนะหลังจากนั้นนะอ่าเมีค่า
01:08:11 → 01:08:15 ครึ่งชีวิตหรือลทของเลปตินจะยาวนะฮะนะยก
01:08:15 → 01:08:18 เว้นแต่ว่ามีตัวกวนเนี่ยก็คือตัวอินซูลิน
01:08:18 → 01:08:22 กับคอร์ติซอลมานะแต่ถ้าเกิดไม่มาแบบที่
01:08:22 → 01:08:25 เราทำอยู่แนะนำกันอยู่เนี่ยในการกินทีออย
01:08:25 → 01:08:27 นะนี้เล็บตินก็จะอยู่ยาวเลยเพราะฉะนั้น
01:08:27 → 01:08:31 หลายคนก็จะอิ่มไปซะจนเกิน 19 20:00 นก็
01:08:31 → 01:08:35 มีใช่มล่ะนะนี่แหละนะเพราะฉะนั้นเลปติน
01:08:35 → 01:08:39 เนี่ยนะเนี่ยเขาก็จะมีการทำงานในช่วงกลาง
01:08:39 → 01:08:43 วันนะโดยเฉพาะมื้อแรกเป็นต้นไปที่อัญเชิญ
01:08:43 → 01:08:48 ก็ออกมานะแล้วตัวสำคัญคือ Diary Fat ถาม
01:08:48 → 01:08:51 ว่าไทรรอยด์ทำงานมั้ยในตอนกวันทำงานน้อย
01:08:51 → 01:08:54 มากนะทำงานน้อยมากไทรอยด์เนี่ยเต้องพึ่ง
01:08:54 → 01:08:57 อินซูลินเพราะฉะนั้นเต้องมาตอนกลางคืน
01:08:57 → 01:09:00 เพราะฉะนั้น Day มากกว่าไเป็นการทำงานของ
01:09:00 → 01:09:04 เลปตินมากกว่าไทรอย์นะฮะนะไทรอยด์ไม่ค่อย
01:09:04 → 01:09:08 มีบทบาทในตอนกลางวันงั้นถามว่าโอ้โหกิน
01:09:08 → 01:09:10 ตอนเช้าเนี่ยแล้วหมอบกินเพื่อจะได้เผาผาญ
01:09:10 → 01:09:13 พลังงานแล้วร่างกายได้ใช้พลังงานมันมี
01:09:13 → 01:09:16 ฮอร์โมนตัวไหนออกมาว่าการเหรอนะกลุ่ม
01:09:16 → 01:09:20 ฮอร์โมนลูกเทพเขาก็ออกมายากนะฮะนะในตอน
01:09:20 → 01:09:23 กลางวันนะเพราะว่าเเป็นฮอร์โมนกลางคืนโฟส
01:09:23 → 01:09:25 ฮอร์โมนอะไรอย่าเงี้นะนะแม้แต่กลูคากอน
01:09:26 → 01:09:29 กลูคากอนก็มีบ้างออกมานะแต่ก็ไม่ได้โดด
01:09:29 → 01:09:32 เด่นนะฮตัวโดดเด่นคือเลปตินนี้เราต้อง
01:09:32 → 01:09:35 เข้าใจนะ
01:09:35 → 01:09:40 นะอ่ะนะอ่ามากกว่าตอนกลางคืนนะถามว่ากลาง
01:09:40 → 01:09:45 คืนเลปตินออกมามก็ออกมานะแต่ลำดับการออก
01:09:45 → 01:09:47 มาของเลปตินในตอนกลางคืนเนี่ยก็จะมาหลัง
01:09:47 → 01:09:52 ไทรอยเจะมาหลังไทลนะฮะนะเจะต้องดูซ้ายดู
01:09:52 → 01:09:56 ขวาก่อนนะฮะนะเดี๋ยวทำไมถึงต้องดูอย่าง
01:09:56 → 01:09:59 งั้นนะฮะต่อไปไทรรอยด์ไทรอยด์เผาผลนอะไร
01:09:59 → 01:10:03 ฮะเผาผลาไขหมนะคือเลปตินเนี่ยเขาก็เผาผาน
01:10:03 → 01:10:07 พลังงานนะนะแต่พลังงานส่วนใหญ่เป็น Diary
01:10:07 → 01:10:10 Fat แต่ไทรรอยด์เนี่ยเขาไม่ได้เผาผา di
01:10:11 → 01:10:14 Fat เป็นหลักไทรรอยด์เผาผาญไขมันที่สะสม
01:10:14 → 01:10:18 อยู่ในร่างกายนะฮะนะนะแล้วไทรรอยด์เนี่ย
01:10:18 → 01:10:21 ตำแหน่งของไขมันอันไหนล่ะที่ไทรอยด์ไปเผา
01:10:21 → 01:10:26 ผ่านะก็คือไขมันที่ต่ำนะอ่าลองลงมาก็คือ
01:10:26 → 01:10:34 viser Fat และนะและไขมันที่ไตแต่ไตเไม่
01:10:34 → 01:10:37 ได้สะสมไขมันเป็นหลักนะอ่าไทรรอยด์เขาจะ
01:10:37 → 01:10:43 ไปเผาผาญ hdl นะฮะนะที่มันมีไตกีสไลอยู่
01:10:43 → 01:10:47 ในเรือนำส่งด้วยเพราะงั้นถามว่าไทรรอยด์เ
01:10:47 → 01:10:51 สำคัญมยนะสำคัญเพราะว่าเเป็นฮอร์โมนเผ่า
01:10:52 → 01:10:55 ผลาพลังงานเขาจะทำงานตอนไหนนะส่วนใหญ่ตอน
01:10:56 → 01:11:00 กลางคืนนะและมักจะทำงานในช่วงแรกนะหลัง
01:11:00 → 01:11:06 จากอินซูลินดา regulate ไปแล้วนะฮะการเผา
01:11:06 → 01:11:09 ผลาญพลังงานหรือไขมันของไทรรอยด์นะอยู่
01:11:09 → 01:11:13 ที่ตำแหน่งไหนบ้างนะฮะปรากฏว่าถ้าระบบ
01:11:13 → 01:11:16 หมุนเวียนเลือดดีๆไม่มีปัญหาอะไรไอยจะไป
01:11:16 → 01:11:20 ที่ไตก่อนนะลองมาก็คือไปที่ตานะแล้วสุด
01:11:20 → 01:11:22 ท้ายที่เ
01:11:22 → 01:11:28 f เนี่ยนะพวกนี้จะถกปูกไทลอยเผาผานะฮะนะ
01:11:28 → 01:11:32 แล้วก็เผาผลาญในช่วงไหนฮะช่วงกลางคืนก่อน
01:11:32 → 01:11:37 เที่ยงคืนก่อนเคืนหลังจากนั้นจึงมี
01:11:37 → 01:11:43 เลปตินออกมารับลูกต่อนะในการเผาผลาญนะไข
01:11:43 → 01:11:46 มันแต่การมารับลูกในการเผาผลาญไขมันให้
01:11:46 → 01:11:49 ได้พลังงานในช่วงหลังของเลปตินต่อจาก
01:11:49 → 01:11:54 ไทรรอยด์จะเป็นการเผาผลาที่สับิ Fat
01:11:54 → 01:11:55 เลปตินจะเผาที่สับ
01:11:55 → 01:11:59 Fat ตอนกลางคืนนะแต่ตอนกลางวันเรตินจะ
01:11:59 → 01:12:02 เผา DIY
01:12:02 → 01:12:06 Fat อันนี้เพราะอะไรเพราะอะไรนะฮะตรงนี้
01:12:06 → 01:12:11 เป็นหัวใจเลยนะฮะหากไทรอยแลเรตินออกมามาก
01:12:11 → 01:12:15 ๆกและทำงานเก่งๆคำว่าทำงานเก่งๆใช้กับ
01:12:15 → 01:12:20 เลปตินคำว่าทำงานขยันๆใช้กับไทรอยนะฮะนะ
01:12:20 → 01:12:24 จะมีผลทำให้คอร์ติซอลตัวแม่สบายอกสบายใจ
01:12:24 → 01:12:25 และสงบ
01:12:25 → 01:12:29 ไม่ออกมาเพ่นพ่านนะนะไม่ว่าจะเป็นกลางวัน
01:12:29 → 01:12:34 หรือกลางคืนนะฮะนะเขาจะมาแค่รุ่งเช้ามา
01:12:34 → 01:12:38 แล้วรีบกลับไปทันทีนะฮะเพราะว่าไทรรอยด์
01:12:38 → 01:12:43 กับเลปตินอ่าทำงานกลางวันกลางคืนได้
01:12:43 → 01:12:47 โอเคเพราะฉะนั้นเนี่ยเราจะเห็นนะว่าการ
01:12:47 → 01:12:51 ความตรงกันข้ามกันนะฮะนะระหว่างเถ้าอยาก
01:12:52 → 01:12:55 ให้คอร์ติซอลออกมาน้อยๆนะฮะเราต้อง
01:12:55 → 01:12:59 กระตุ้นไทรรอยด์กับเลปตินออกมาให้ถูกเวลา
01:12:59 → 01:13:03 เลปตินตอนมื้อแรกตอนกลางวันนะฮะไทรรอยด์
01:13:03 → 01:13:07 นะตอนกลางคืนตอนก่อนเที่ยงคืนหลังจากนั้น
01:13:07 → 01:13:11 เตินออกมาทำงานต่อจาก
01:13:11 → 01:13:15 ไทรอย์ถ้าทำอย่างนี้นะฮะฮอร์โมนมันจะเป็น
01:13:15 → 01:13:20 การปกันกันนะเลปตินไทรอยด์ทำงานเก่งๆทำ
01:13:20 → 01:13:24 งานขยันๆนะคอร์ติซอลจะน้อยเพราะฉะนั้น
01:13:24 → 01:13:29 คอร์ติซอลน้อยตอนเช้าๆเป็นไงฮะนะนะเราก็
01:13:29 → 01:13:36 จะหลับยาวนะและการเกิด D ฟมอนะจะยากจะไม่
01:13:36 → 01:13:40 เกิดหรือเรียกว่าเป็นวิธีการแก้ไขฟมอคุณ
01:13:40 → 01:13:45 ควบคุมเลปตินกับไทรรอยด์ได้ดีมั้ยล่ะนะ
01:13:45 → 01:13:50 นะไทรรอยด์ต้องทำงานดีๆแบบขยันยันนะฮะอ่า
01:13:50 → 01:13:55 ทนี้คำว่าไทรรอยด์ทำงานแบบขยันเนี่ยนะฮะ
01:13:55 → 01:13:59 นะอ่ามันจะต้องมีอะไรบ้างนะฮะมาทำให้
01:13:59 → 01:14:03 ไทรรอยด์เกิดอ่อคุณสมบัติแบบนี้ขึ้นมาได้
01:14:03 → 01:14:06 นะฮะเดี๋ยวคราวหน้าหมอพูดนะฮะนะมันเยอะ
01:14:06 → 01:14:11 เลยนะฮะนะอ่าหลักๆก็คือปริมาณคาฟเนี่ยนะ
01:14:11 → 01:14:16 ฮะนะที่พอดีพอดีไม่เหลือนะที่จะไปกระตุ้น
01:14:16 → 01:14:20 อินซูลินอ่าให้เกิดการออกมาเปิดโหมดการ
01:14:20 → 01:14:24 เก็บสะสมพลังงานกลายเป็นไตรกีสไลนะฮะนะ
01:14:24 → 01:14:27 ถ้าเงื่อนไขนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่เลปตินจะ
01:14:27 → 01:14:31 สามารถส่งสัญญาณการทำงานที่ถูกต้องต่อจาก
01:14:31 → 01:14:35 ไทรรอยด์ได้เพรางั้นหลายคนเนี่ยมันอาจจะ
01:14:35 → 01:14:38 ได้เผาแค่ไทรรอยด์ทำงานช่วงหลังจาก
01:14:38 → 01:14:43 อินซูลินไปแล้วนะแต่พอโกดฮอร์โมนออกมาพอ
01:14:43 → 01:14:47 อะไรตรออกมาเนี่ยนะเขาเผาไม่ได้เลตินก็
01:14:47 → 01:14:51 ไม่มาเงี้นะฮะนะเนี่ยนะเพราะว่าถ้าเกิด
01:14:51 → 01:14:54 มื้อเย็นกินยังไม่ถูกต้องนะหรือยังมี
01:14:54 → 01:14:57 อินซูลินคาราคาซังเ้าเรียกว่า sustain
01:14:57 → 01:15:00 ลอยอยู่ในกระแสเลือดไม่ยอมไปหลับไปนอนไป
01:15:00 → 01:15:03 พักอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะถ้าอย่างงี้เนี่ย
01:15:03 → 01:15:08 ยากละนะไทรรอยด์ก็เอ่ออาจจะพอทำไปได้
01:15:08 → 01:15:11 อย่างเดียวนะนะตัวคู่หูคือเลปตินเนี่ยทำ
01:15:11 → 01:15:14 ต่อไม่ได้นะทำต่อไม่ได้เพราะฉะนั้นมันก็
01:15:14 → 01:15:17 เผาผลาญไอพวกไขมันสะสมอะไรต่างๆไม่ได้มัน
01:15:17 → 01:15:21 ก็ลดความอ้วนยากนะแต่ว่าอย่าลืมว่า
01:15:21 → 01:15:24 ไทรรอยด์เนี่ยยังไงเก็ช่วยมาเก็บนะใน
01:15:24 → 01:15:27 เรื่องตับเรื่องตายนะฮะนะแล้วก็ vis Fat
01:15:27 → 01:15:32 นะฮะนะแต่บางทีเนี่ยเาเองเนี่ยนะฮะก็ความ
01:15:32 → 01:15:35 ขยันมันก็มีที่สิ้นสุดเบางทีเาก็ได้แค่ไต
01:15:35 → 01:15:39 แค่ตานะร fash ก็เผาไม่ได้นะเพเราต้อง
01:15:39 → 01:15:43 ต้องเข้าใจนะฮะา physiology หรือพวกสรีระ
01:15:43 → 01:15:45 อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะแม้ว่าจะเป็นคล้ายๆ
01:15:45 → 01:15:49 เรื่องเล่าเหะนะบอกว่าช่วยได้แค่เนี้ยนะ
01:15:49 → 01:15:54 เอ่อฟังดีๆฟังดีๆแล้วก็ไปคิดนะฮะนะแล้ว
01:15:54 → 01:15:58 ทำไมเมื่อตัดคาฟหรือกินแบบโลฟกีโตแล้ว
01:15:58 → 01:16:02 ร่างกายไม่ยอมที่จะกีโตสิเผาผลาไขมันได้
01:16:02 → 01:16:05 นะฮะก็แบบที่บอกเมื่อกี้นี่แหละนะอาจจะมี
01:16:05 → 01:16:10 ข้อจำกัดของไทรอยกปตีนนะฮะที่เทำงานได้
01:16:10 → 01:16:14 บางส่วนโดยเฉพาะช่วยตับช่วยไได้นะหรือบาง
01:16:14 → 01:16:17 ทีก็ช่วยไม่ได้เลยนะฮะนะถ้าเเดี้ยงหมด
01:16:17 → 01:16:21 ทั้ง 2 ตัวเนะฮะหรือคอร์ติซอลมาเงี้ยนะฮะ
01:16:21 → 01:16:25 นะคอซอมาอินซูลินมานี่ก็บอกแล้วว่าว่า
01:16:25 → 01:16:28 ฮอร์โมนรูกเทพในกลุ่มพวกนี้นะหอขทำอะไร
01:16:28 → 01:16:32 ต่อไม่ได้นะฮะอย่าหวังเลยว่าไตจะหาย ckd
01:16:32 → 01:16:36 นะหรือสตมันจะดีขึ้นนะฮะตับเิมันจะเป็นไข
01:16:36 → 01:16:38 มันพแต่เอนไซม์ตับสูงขึ้นมันจะลดมันลดไม่
01:16:38 → 01:16:42 ลดั Fat ไม่ลดสับสิเไม่ลดนะน้ำหนักค้าง
01:16:42 → 01:16:45 ตึ่ง
01:16:45 → 01:16:48 นะตอบว่าก็เพราะว่าไทรรอยด์ขี้เกียจเติน
01:16:48 → 01:16:52 ทำงานไม่ได้นะเนื่องจากสารอาหารเน็ตาฟที่
01:16:52 → 01:16:57 จะต้องมีในปริมาณที่ต้องจำกัดควบคุมนะนะ
01:16:57 → 01:17:01 หรือปรับลดลงให้พอดิบพอดีพอเหมาะกับคนๆ
01:17:01 → 01:17:06 นั้นนะฮะนะมันเกิดขึ้นยากนะนะเนี่ยอัน
01:17:06 → 01:17:09 เนี้ยนะถ้าเกิดขึ้นได้ไเราจะขยันเลตินทำ
01:17:09 → 01:17:12 งานเก่งนะเนี่ยอันนี้ก็เป็นข้ออธิบายนะ
01:17:12 → 01:17:17 หมอก็เพิ่งทำเสร็จนะพอพอเข้าใจมยไม่รู้่ะ
01:17:17 → 01:17:21 นะ
01:17:21 → 01:17:25 เนี่ยทีนี้เรามาดูเข้าเรื่องของกรณีของโส
01:17:25 → 01:17:28 นะฮะนะอันนี้หมายถึงทั่วๆไปนะฮะว่า
01:17:28 → 01:17:31 อิทธิพลนะของอาหารที่มีผลต่อไทรรอยด์
01:17:31 → 01:17:35 เนี่ยเราต้องดูในทั้ง 4 เรื่องนะให้ครอบ
01:17:35 → 01:17:36 คุมให้ครอบ
01:17:36 → 01:17:40 คุมทีนี้ถ้าอย่างของโอสเนี่ยนะถ้าเมีความ
01:17:40 → 01:17:44 รู้เนี่ยอนี้บานอาจจะพอไหวนะหรืออาจจะ
01:17:44 → 01:17:49 เกินก็กินผิดนะนะโปรตีนอันเนี้ยเ
01:17:49 → 01:17:52 questionable ก่อนว่าน่าจะเป็นเหตุส่วน
01:17:52 → 01:17:57 คาฟเก็ไม่น่าจะกล้าดีดือนะนะส่วนไขมันเ่ะ
01:17:57 → 01:18:00 ขนาดกินทีองทีออยมา 6 เดือนแล้วเนี่ยนะเ
01:18:00 → 01:18:03 ก็น่าจะรู้แยกแยะถูกต้องหล่ะว่าไขมันทาน
01:18:04 → 01:18:07 ไขมันเอ่อน้ำมันพืชหรืออะไรต่ออะไรก็ตาม
01:18:07 → 01:18:12 นะฮะนะเนี่ยคิดว่านะเป็นโปรตีนฮะนะทีนี้
01:18:12 → 01:18:14 เรามาดูเฉพาะเรื่องโปรตีน
01:18:14 → 01:18:17 นะคือโปรตีนเนี่ยมันเป็นตัวแสดงออกเกี่ยว
01:18:17 → 01:18:19 กับไทรรอยด์หรรือปรุงไทรอยด์เนี่ยค่อน
01:18:19 → 01:18:23 ข้างชัดเจนนะเมื่อไหร่ก็ตามที่คนเนี่ย
01:18:23 → 01:18:27 ถ่ายรูปนะแล้วก็เ้าเรียกว่าคอนเซิร์นมาก
01:18:27 → 01:18:30 เกี่ยวกับปัญหาบริเวณอย่างนี้ของสภาพรูป
01:18:30 → 01:18:34 ร่างเนี่ยนะฮะนะเราก็ชี้ไปเลยเนี่ยปรุง
01:18:34 → 01:18:37 ไทรอยด์ปรุงไทรอยด์อ่าลักษณะปรุงไทรอยด์
01:18:37 → 01:18:40 เนี่ยมันเกิดจากอะไรบ้างมีไขมันสะสมที่
01:18:40 → 01:18:43 ใต้ผิวหนังบริเวณปรุงบ้านเอวนะฮะนะนอกจาก
01:18:43 → 01:18:47 นี้มีไขมันสะสมนะในบริเวณ viser Fat กับ
01:18:47 → 01:18:51 eic Fat คืออวัยวะภายในช่องทพวกนี้มัก
01:18:51 → 01:18:54 จะมีปัญหาเรื่องลำไส้นะเพราะไทรรอยด์กับ
01:18:54 → 01:18:58 ไส้เนี่ยนะมันสะท้อนไปสะท้อนมาตลอดนะ
01:18:58 → 01:19:01 เนี่ยก็จะมีการอะไกระบวนการอะไรต่างๆที่
01:19:01 → 01:19:04 การย่อยการดุซืไม่ดีนะเกิดแก๊สเกิดการ
01:19:04 → 01:19:07 หมักโหมกนะอีกเรื่องนึงคือเกิดสาร
01:19:07 → 01:19:11 ไฮยาลูโรนิคนะฮะนะไฮยาลูโรนิคแิดเนี่ยนะ
01:19:11 → 01:19:14 ฮะสารตัวเนี้ยมีทั้งข้อดีและข้อไม่ดีนะฮะ
01:19:14 → 01:19:20 นะกรณีนะของไฮยาลูโรนิกนะซึ่งเป็นสารน้ำ
01:19:20 → 01:19:25 นะฮะนะที่ที่จะต้องมีเรื่องของฮอร์โมน
01:19:25 → 01:19:28 ไทรอยด์เนี่ยไปกระตุ้นให้เหมุนเวียนนะแต่
01:19:29 → 01:19:31 ถ้าไทรรอยด์เนี่ยในกรณีปรุงไทรอยด์เนี่ย
01:19:31 → 01:19:34 แปลว่าไทรอยด์ทำงานน้อยนะเมื่อไทรอยทำงาน
01:19:34 → 01:19:38 น้อยเนี่ยการหมุนเวียนสารน้ำที่ชื่อไรนิ
01:19:38 → 01:19:40 เนี่ยมันจะเกิดขึ้นไม่ดีเพราะฉะนั้นเนี่ย
01:19:40 → 01:19:44 มันจะคั่งมันจะค้างนะตำแหน่งที่มันคั่ง
01:19:44 → 01:19:47 ค้างนะแล้วทำให้เกิดผิวตึงหรือบวมตึง
01:19:47 → 01:19:50 เนี่ยนะคือไม่ใช่บวมน้ำแต่บวนจากสาร
01:19:50 → 01:19:53 โปรตีนที่เป็นผลมาจากฮอร์โมนไทรอยด์มันทำ
01:19:53 → 01:19:57 งานไม่ดีนะหรือมันขี้เกียจฮะนะจะเกิด 4
01:19:57 → 01:20:02 ตำแหน่งนี้นะฮะก็คือที่ข้อพับมือนะฮะนะ
01:20:02 → 01:20:04 ซึ่งถ้าเกิดมากๆเลือดหมุนเวียนไม่ดีจะ
01:20:04 → 01:20:08 เกิดการอักเสบและเป็นืนะที่เราเรียกว่า C
01:20:08 → 01:20:10 tel
01:20:10 → 01:20:13 Syndrome ต่อมาก็คือหนังตาบนล่างนะก็จะ
01:20:13 → 01:20:17 บวมตาตุ่ยๆนะฮะนะบวมตาบนหนังตาบนหนังตา
01:20:17 → 01:20:20 ล่างนะฮะนะโดยเฉพาะส่วนใหญ่เป็นหนังตา
01:20:20 → 01:20:25 ล่างนะผิวบริเวณหน้าแข้งบวมบวมกดบูมนะฮะ
01:20:25 → 01:20:30 นะนี้ก็คือบวมจากสารน้ำชื่อไฮโลลิคนะฮะ
01:20:30 → 01:20:34 โดยเฉพาะกรณีคนที่มีปัญหาไฮโปรพนะแล้วก็
01:20:35 → 01:20:39 พุงร่างหรือหน้าท้องนะมันเกิดการสะสมไข
01:20:39 → 01:20:42 มันนะแล้วเกิดผิวเซลลูไลท์นะฮะเนี่ยอัน
01:20:42 → 01:20:47 นี้ผู้หญิงเเจอเจะเกลียดเจะกลัวเขจะเป็น
01:20:47 → 01:20:51 ความกังวลนะฮะนะเนี่ยนะกรุงล่างบริเวณ
01:20:51 → 01:20:55 หน้าท้องท้องยุ้ยท้องยย้วยนะเหล่านี้ส่วน
01:20:55 → 01:20:59 ใหญ่แล้วให้โฟกัสเรื่องโปรตีนซึ่งโปรตีน
01:20:59 → 01:21:01 เนี่ยมันจะปิดใน 3 รูปแบบแล้วทำให้
01:21:01 → 01:21:05 ฮอร์โมนไทรอยด์พังหรือฮอรโมนไทรไทรอยด์ทำ
01:21:05 → 01:21:09 งานน้อยลง 1 เรื่องคุณภาพต่ำไม่ดีอ่า
01:21:09 → 01:21:12 โปรตีนไม่ดีพวกนี้ก็คือพวกแปรลูกหรือ
01:21:12 → 01:21:16 โปรตีนแต่งเติมนะฮะนะแล้วก็เป็นโปรตีนแปร
01:21:16 → 01:21:19 รูกที่เป็นโปรตีนผงนะจากพืชจากสัตว์จะ
01:21:19 → 01:21:24 เป็นเวโปรตีนหรือโปรตีนอ่าพวกอ่าอะไรอ่ะ
01:21:24 → 01:21:27 พวกถั่วต่างๆอะไก็ตามนะฮะเนี่ยถ้ากินแล้ว
01:21:27 → 01:21:30 เกิดปัญหาปรุงไทรอยด์ก็ต้องหยุดนะฮะหยุด
01:21:30 → 01:21:34 นะนะเรื่องโปรตีนคุณภาพต่ำไม่ดีเนี่ยมัน
01:21:34 → 01:21:38 เป็นปัญหาต่อไทรรอยด์นะสุดๆนะฮะต้องบอก
01:21:38 → 01:21:42 ก่อนนะฮะและเรามักจะประมาทรวมทั้งไม่เข้า
01:21:42 → 01:21:46 ใจนะฮะนะโดยเฉพาะกลุ่มโปรตีนที่มันเป็น
01:21:46 → 01:21:50 เป็นโปรตีนอะไรอ่ะโปรตีนอ่าโดยเฉพาะเนี่ย
01:21:50 → 01:21:53 คอลลาเจนด้วยนะฮะนะทั้งคอลลาเจนทั้งเว
01:21:53 → 01:21:57 อะไรต่างๆหลายอย่างนะฮะพวกนี้เนี่ยจะมี
01:21:57 → 01:22:01 การแต่งเติมปรุงแต่งอะไรต่างๆนะนะแม้ว่า
01:22:01 → 01:22:05 จะเล็กน้อยก็ตามฮะแล้วตัวสารหัวโจกเลยที่
01:22:05 → 01:22:09 เป็นปัญหาคือคาราจีแนนโตเกินแล้วก็กลัว
01:22:09 → 01:22:13 กรรมนะฮะนะอันนี้เดี๋ยวจะมีให้ดูนะฮะ
01:22:13 → 01:22:16 เนี่ยหมอรวบรวมไว้ประมาณเกือบ 40 รายการ
01:22:16 → 01:22:19 ซึ่ง 40 รายการเนี่ยมีปัญหาต่อไทรรอยด์
01:22:19 → 01:22:21 ทั้ง
01:22:21 → 01:22:25 หมด 39 ส่วนผสมในอาหารสำเร็จเรูปโดยเฉพาะ
01:22:25 → 01:22:29 โปรตีนผงที่มีผลยับยั้งการทำงานของ
01:22:29 → 01:22:34 ไทรรอยด์ฮอร์โมนไทรอยด์จะทำงานต่ำลนะฮะมี
01:22:34 → 01:22:38 อะไรบ้างเนะเรียงไปเลย a ถึง z นะฮะนะไอ้
01:22:38 → 01:22:42 ตัวเลเบลกดาวเนี่ยนะฮะนะอันนี้คือตัวที่
01:22:42 → 01:22:45 เป็นปัญหากับไทรอยด์ฮอร์โมนที่อยู่ใน
01:22:45 → 01:22:49 ชีวิตประจำวันและเราประมาทไม่ได้นะฮะนะ
01:22:49 → 01:22:53 แม้แต่ตัววิตามินซีหลอกเด็ก asic Acid
01:22:53 → 01:22:56 นะที่ให้เด็กกินหรืออมเล่นเปรี้ยวๆหวานๆ
01:22:56 → 01:23:00 ที่หลอกเด็กเนี่ย artificial fl นะฮะนะ
01:23:00 → 01:23:04 ก็คือเนี่ยนะไอ้สารเติมแต่งนะที่เป็นพวก
01:23:05 → 01:23:08 แต่งอะไรแต่งสีแต่งกลิ่นแต่งรสทุกอย่างนะ
01:23:08 → 01:23:12 แต่งกลิ่นฮะแคลเซียมคาร์บอนนะฮะก็มีผลยบ
01:23:12 → 01:23:16 ยั้งกัน้ต่อมไลคาราจีแนนอันนี้ตัวหัวโจก
01:23:16 → 01:23:19 ตัวอันดับหนเลยคือคาราจีแนนเป็นงานวิจัย
01:23:19 → 01:23:22 จากทั่วโลก
01:23:22 → 01:23:28 tintin ต่างๆนะฮะก็มกินนี่แหละนะฮะมกิน
01:23:28 → 01:23:31 นะฮแล้วก็ยังมีเกินในรูปแบบอื่นๆนะนะ
01:23:31 → 01:23:36 เนี่ยแล้วก็อะไรอ่ะกลัวกรรมนะฮะกรมรบิกนะ
01:23:36 → 01:23:39 ฮะเนี่ยกรมโรบิกนี่ก็ตัวร้ายนะฮะนะมีแน
01:23:39 → 01:23:43 หันสำเร็จรูปเต็มไปหมดต้องดูสลากนะตัวกรม
01:23:43 → 01:23:49 กอบินะฮเดี๋ยวนี้ใช้กรมอบินะมิอิอใช่
01:23:49 → 01:23:54 มนะมกินอันนี้ตัวร้ายอันดับ 2 รองจากอจิน
01:23:54 → 01:23:58 นะฮะ Natural fl นะฮะนะแต่งสีแต่งกลิ่น
01:23:58 → 01:24:01 แต่งรสนะแม้ว่าจะใช้คำว่า Natural ก็ตาม
01:24:01 → 01:24:04 นะฮะแต่มันแปลรูปนะฮะแปล
01:24:04 → 01:24:08 รูปเอ่อแล้วก็พวกข้าวต่างๆอะไรต่างๆเนี่ย
01:24:08 → 01:24:13 พวก Extract นะิิอไดออกไซด์นะอันนี้ซูสนะ
01:24:13 → 01:24:18 ฮะนะฟอนะฮะนะอันนี้ก็เป็นรูปแบบปลอมของ
01:24:18 → 01:24:20 วิตามินอนะ
01:24:20 → 01:24:29 ฟอนะเนี่ยแนันะฮะนะก่อนก็จะใช้เยอะนะไนะ
01:24:29 → 01:24:33 ซิออกไซดอันนี้พวกนี้ยับยั้งไอยหมดไอยทำ
01:24:33 → 01:24:39 งานต่ำหมดเขียนหมดนะตัวหัวโจทย์เลย
01:24:39 → 01:24:43 คือน 29 November 2024 เนี่ยนะอันนี้
01:24:43 → 01:24:49 เป็นงานวิจัยที่มีการคูเรื่องนะคีนะะนะ
01:24:49 → 01:24:54 เป็น Common Food ในต่างประเทศนะมีผลต่อ
01:24:54 → 01:24:58 resistance ต่างๆนะฮะโดยเฉพาะรบกวนนะ
01:24:58 → 01:25:02 หรือเป็น disturbance นะฮอร์โมน
01:25:02 → 01:25:09 ไทรอยเอแล้วก็มีผลต่อลำไส้อะไรต่างๆนะ
01:25:09 → 01:25:12 ดกินี้ตัวร้ายๆหมดเลยนะ
01:25:12 → 01:25:18 ฮะอ่าทีนี้เรามาดูต่อนะฮะในเรื่องโปรตีน
01:25:18 → 01:25:21 เนี่ยนอกจากคุณภาพไม่ดีจากการผสมผสานนะ
01:25:21 → 01:25:26 และแปรรูปเยอะๆแล้วปริมาณมากไปน้อยไปนะฮะ
01:25:26 → 01:25:30 เนี่ยการกินโปรตีนน้อยไปต่ำไปนะก็ไม่ไหว
01:25:30 → 01:25:34 ไทรอยด์ก็ไม่รับนะฮะอ่ากินโปรตีนเท่าไหร่
01:25:34 → 01:25:38 ก็ได้นะนะพวกนี้ก็คือกินมากเกินไปนะฮะดี
01:25:38 → 01:25:43 ไม่ดีก็ไม่รู้นะฮะนะกินจนอิ่มมากเกินไป
01:25:43 → 01:25:46 คือกินเท่าไหร่ก็ได้กินจนอิ่มนะอะไรอย่าง
01:25:46 → 01:25:50 งี้นะแล้วกินแบบกระจุกในมื้อนะกินแบบ
01:25:50 → 01:25:52 กระจุกในมื้อ
01:25:52 → 01:25:55 นะคือคำว่ากินแบบประจุกในมื้อเนี่ยอย่าง
01:25:55 → 01:25:59 กรณีเรากินแบบเอ่อโปรตีนใน low C High
01:25:59 → 01:26:02 Good Fat เนี่ยเราแบ่งโปรตีนออกเป็น 4
01:26:02 → 01:26:05 category นะใช่มโปรตีนไขมันสูงกินไม่
01:26:05 → 01:26:09 เกิน 10% โปรตีนไขมันปานกลาง 50% ไขมัน
01:26:09 → 01:26:13 ต่ำๆมากกินรวมกันก็ประมาณ
01:26:13 → 01:26:17 40% นะแต่คำว่ากินโปรตีนแบบกระจุกในมื้อ
01:26:17 → 01:26:20 เนี่ยก็คือไม่รู้หรอกนะจะสูงจากพานกลางจะ
01:26:20 → 01:26:22 ต่ำต่ำมากอะไรต่างๆกินมั่วไปทั้งวันเนี่ย
01:26:22 → 01:26:25 นะฮะแต่เ้าเรียกว่ากินโปรตีนเยอะๆสัตวบก
01:26:25 → 01:26:28 ก็กินตัดน้ำก็กินข้างในก็กินนะแปรรูปก็
01:26:28 → 01:26:31 กินอะไรอย่างเงี้ยนะเนี่ยอันนี้ก็กินแบบ
01:26:31 → 01:26:37 จะจุในมื้อม้อนะแล้วก็กินน้อยแล้วก็กิน
01:26:37 → 01:26:41 เยอะนะสมัยนี้เป็นสมัยโล C กำลังมาแรงนะ
01:26:41 → 01:26:46 คนส่วนใหญ่โลคกีโตก็ไอปโปรตีนนะสมัยก่อน
01:26:46 → 01:26:49 ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็กินโปรตีนแบบ
01:26:49 → 01:26:52 เรียก relatively มันต่ำเกินไปนะเพราะคุณ
01:26:52 → 01:26:55 ไปอิ่มคาบแทนนะนะจริงๆกินแล้วไม่อิ่มหรอก
01:26:55 → 01:26:59 มันอิ่มวูบนึงนะแล้วเดี๋ยวมันก็หิวอีก
01:26:59 → 01:27:03 แล้วนะได้กินน้อยไปเนมีความหลากหลายในการ
01:27:03 → 01:27:08 กินโปรตีนเ่าอันนี้ก็เป็นการกินแบบซ้ำๆ
01:27:08 → 01:27:12 อันนี้ก็จะเกิดกับสายสายแป้งนะเเาก็จะวน
01:27:12 → 01:27:15 เวียนกินอย่างเดียวอ่ะนะกินซ้ำๆกิน 30
01:27:15 → 01:27:19 วันนะกินแล้วไม่เบื่อง่ายอะไรงี้นะซ้ำๆ
01:27:19 → 01:27:24 เดิมๆบ่อยๆทั้งวันทุกวันเข้ามันไก่เข้าขา
01:27:24 → 01:27:29 หมูข้าวหมูกรอบหรืออะไรนะกะเพราไก่ไข่ดาว
01:27:29 → 01:27:33 กะเพราหมูไข่ดาวอะไรอย่างเงี้ยนะกินแบบ
01:27:33 → 01:27:36 กินกระจายแบบผิดๆถูกๆนะคล้ายๆกินแบบ
01:27:36 → 01:27:40 กระจุกในมื้อนี่แหละนะนะอ่ากระจุกในมื้อ
01:27:40 → 01:27:44 นี่ก็คือมื้อนึงอ่ะนะมันมีมีทุกอย่างเลย
01:27:44 → 01:27:50 นะโปรตีนไขมันสูงมากสูงากลางต่ำ่มากแต่
01:27:50 → 01:27:54 กินกระจายเนี่ยนะก็คือกลับหัวกลับหางนะ
01:27:54 → 01:27:58 เอ่อก็ไปกินโปรตีนไขมันต่ำๆมากในมื้อแรก
01:27:58 → 01:28:01 มื้อเช้ากินปาๆๆเงี้ยมื้อเย็นก็มากินไข
01:28:01 → 01:28:04 มันสูงเห็นมันปางกางอะไรเงี้ยนะนะคือ
01:28:04 → 01:28:06 กระจายไม่
01:28:06 → 01:28:10 ถูกอันเนี้ยอันเนี้ยเหล่าเนี้ยมันจะมีผล
01:28:10 → 01:28:14 นะฮะนะมีผลมากๆเลยกับคนที่เคยกินโลคาฟนะ
01:28:14 → 01:28:17 แล้วก็มามีปัญหาเรื่องไทรรอยด์พังเกิด
01:28:17 → 01:28:21 ปัญหาปรุงไทรอยนะไทรอยฮอร์โมนตั้งจาก
01:28:21 → 01:28:24 โปรตีนเป็นหลักนะแต่เก็จะมีตัวอื่นๆที่
01:28:24 → 01:28:29 เป็นพวกแร่ทุ่งแร่ทาสารอาหารนะนะแต่กลับ
01:28:29 → 01:28:31 มาทำหน้าที่ในการเผาผาไขมันเป็น Fat
01:28:31 → 01:28:35 Burning โมนอยู่ในกลุ่มฮอร์โมนลูกเทพ
01:28:35 → 01:28:40 เนานี้ก็หมดและนะเป็นการตอบคำถามนะฮะนะ
01:28:40 → 01:28:42 คิดว่าการหลุดของโอ๊ตน่าจะมีผลมาจาก
01:28:42 → 01:28:47 เรื่องของพวกโปรตีนแปรรูปที่มีการแต่ง
01:28:47 → 01:28:52 เติมหรือปรุงแต่งอะไรต่างๆนะเข้ามา
01:28:52 → 01:28:56 ด้วยเดี๋ยวเข้าหน้าก็ค่อยคุยเรื่องพวกนี้
01:28:56 → 01:28:59 นะฮะว่าเนี่ยคฟหรือคาร์โบไฮเดรต Dependent
01:28:59 → 01:29:05 ฮอร์โมนนะฮะในปัจจุบันมี 4 ตัวนะไทรอย์
01:29:05 → 01:29:07 โปรเจสเตอโรนเลปตินแล้วคอร์ติซอล
01:29:07 → 01:29:09 คอร์ติซอล
01:29:09 → 01:29:12 อย่างไทรอยกติเนี่ยเมื่อกี้เรารู้แล้ว
01:29:12 → 01:29:15 แล้วไทรอยดกติเนี่ยเขาจะตรงกันข้ามกับ
01:29:15 → 01:29:18 คอร์ติซอลถ้าเกิดเบอร์ 1 เบอร์ 3 ทำงาน
01:29:18 → 01:29:21 ได้ดีได้เก่งได้ขยันอ่าเบอร์ 4 หรือ
01:29:21 → 01:29:28 คอร์ติซอลเนี่ยนะเก็จะไม่มานะหรือเขจะเจะ
01:29:28 → 01:29:33 แบบอ่าเจะแบบพอดีเรียบร้อยอ่านะนะส่วน
01:29:33 → 01:29:37 โปรเจสเตอโรนเนี่ยมันแล้วแต่ช่วงเวลานะฮะ
01:29:37 → 01:29:40 อันนี้ก็เฉพาะผู้หญิงด้วยนะฮะนะแต่ว่า
01:29:40 → 01:29:42 ทั้งหมดเนี่ย 4 ตัวเนี้ยไทรอยด์
01:29:42 → 01:29:47 โปรเจสเตอโรนเรตินและคิอนะเป็นค
01:29:47 → 01:29:51 Dependent โดยคิอสร้างจากต่อมหมวกไตนะ
01:29:51 → 01:29:56 แนอ cex นะต่อต่อมหมวกไจชั้นเปลือนะฮะนะ
01:29:56 → 01:30:01 ซึ่งเต้องมีคฟนะฮะมาเป็นตัวตั้งต้นในการ
01:30:01 → 01:30:04 สร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลคอร์ติซอลเป็น
01:30:04 → 01:30:06 ฮอร์โมนนะในกลุ่ม
01:30:06 → 01:30:09 นี้คือคอร์ติซอลต้องมีทั้งคทั้ง
01:30:09 → 01:30:15 คอเลสเตอรอลในการสนะอันนี้ก็หมดเลยหมด
01:30:15 → 01:30:16 แล้ว
01:30:16 → 01:30:21 จากมีใครสงสัยอะไรม
01:30:21 → 01:30:24 เออก็
01:30:24 → 01:30:28 ใช้เวลาไปประมาณชั่วโมงครึ่งนะมี 2 คำถาม
01:30:28 → 01:30:33 มาคุยมาตอบครับพี่หมอมีคุณโอ๊ตบอกว่าเป็น
01:30:33 → 01:30:37 ก้อนที่คอครับแบบคอพอกอ่ะครับออเป็นไทรอย
01:30:38 → 01:30:39 โนตดู
01:30:39 → 01:30:43 โอาบอกว่าน่าจะน่าจะเดี้ยงเพราะมื้อเย็น
01:30:43 → 01:30:47 เพราะมื้อแรกจะเป๊ะมากโดยเฉพาะช่วงหลุด
01:30:47 → 01:30:50 แป้งตั้งแต่มื้อแรกแม้จะพยายามเบรกแต่
01:30:50 → 01:30:53 เบรกยี่ห้อนี้ไม่ดีเลยกำลังจะเริ่มใหม่
01:30:53 → 01:30:56 ขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะอ๋อนี่แหละกลับมาเลยแ
01:30:56 → 01:30:59 โอ๊ยเก่งอยู่แล้วนักเรียนแถว
01:30:59 → 01:31:01 หน้าแล้ว
01:31:01 → 01:31:07 ก็แล้วก็หมอรู้อ่ะว่าโอ๊ตอ่ะมันไม่มันมัน
01:31:07 → 01:31:10 มันยังไงอ่ะมันคือคือเรารู้ว่าสุขภาพดี
01:31:10 → 01:31:13 คืออะไรเรามีองค์ความรู้พวกเนี้ยตัวเมัน
01:31:13 → 01:31:17 จะเป็นตัวกำกับเรานะการออกนอกรู่นอกทาง
01:31:17 → 01:31:21 เผลอไผอ่ะนะมันก็จะได้เป็นบทเรียนน่ะไม่
01:31:21 → 01:31:24 ใช่อะไรนะแล้วเราอ่ะอยู่ในสายเนี่ยยสาย
01:31:24 → 01:31:30 แป้งนะเราเข้าๆออกๆได้เ่อได้เร็วอ่ะนะฮะ
01:31:30 → 01:31:32 ทุกอย่างมันจะเปลี่ยนแปลงเร็วมันจะเกิด
01:31:32 → 01:31:35 คีโตสิสเร็วมันจะแ adap ค adap ค่อนข้าง
01:31:35 → 01:31:38 เร็วนะอย่างไรก็ตามให้แค่มันเป็น
01:31:38 → 01:31:43 ประสบการณ์นฮะนะเพราะว่าหลุดบ่อยไม่ใช่นะ
01:31:43 → 01:31:46 ฮะเวลาเข้าบางทีมันจะเข้ายากเข้าเย็นนะใน
01:31:46 → 01:31:51 บางคนเอก็แล้วแต่เรามีองค์ความรู้นะเรา
01:31:51 → 01:31:55 รีบปรับเปลี่ยนซะแค่นั้นเนาะเออช่วงนี้
01:31:55 → 01:31:59 มันอยู่ในช่วงวัยทองด้วยนะเพราะฉะนั้นบาง
01:31:59 → 01:32:02 ครั้งนะบางครั้งเนี่ยพีเรียดเช่วงเนี้ยนะ
01:32:02 → 01:32:04 เอ่อเราจะไปเปลี่ยนอะไรต่างๆเหล่าเนี้ย
01:32:04 → 01:32:09 มันบางทีมันเปลี่ยนแล้วมันมันมันจะมันจะ
01:32:09 → 01:32:12 เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย
01:32:12 → 01:32:17 ขึ้นเพฮอร์โมนเพร้อมที่จะจะขึ้นจะลงแบบ
01:32:17 → 01:32:22 ชนิดที่จะจะเหวี่ยงจะจะไม่ปกติได้ง่ายๆนะ
01:32:22 → 01:32:26 งั้นก็รีบกลับมานะโลครับ I good Fat TE
01:32:26 → 01:32:32 ออยนะแล้วก็กิน 2 มื้อนะจะมีมื้อว่างบ้าง
01:32:32 → 01:32:33 ก็
01:32:33 → 01:32:36 ได้แล้วก็น่าจะเข้าใจถูกแล้วล่ะที่ว่าเออ
01:32:37 → 01:32:39 เอย่าไปเห็นความสำคัญของเรื่องคาร์ดิ
01:32:39 → 01:32:43 คาร์ดิโอแบบเอาเป็นเอาตายสำหรับคนประเภทอ
01:32:43 → 01:32:47 ไทรอยบอ type เนี่ยนะฮะนะแล้วเรายิ่งสม
01:32:47 → 01:32:51 ส่วนค่อนผอมเี่น้ำหนักล่อแร่่อแร่ 50 51
01:32:51 → 01:32:55 อย่างเงี้ยสูง 159 เงี้ยนะอ่ามันอยู่โ
01:32:55 → 01:32:59 Normal จะหลุดแล้วอ่ะจะหลุดกลายเป็น
01:32:59 → 01:33:04 underway สร้าง
01:33:04 → 01:33:05 [เพลง]
01:33:05 → 01:33:10 เหมือนก็ไม่ได้สร้างง่ายหรอกก้ามเโอ้โห
01:33:10 → 01:33:15 พี่หมอสุดยอดแล้วอ่ามีคุณนิสาบอกมันมี
01:33:15 → 01:33:19 ไทรรอยด์แต่ตรวจเลิศไม่เจอมคะโอ้เยอะแยะ
01:33:19 → 01:33:24 ฮะนะเยอะแยะอันเนี้ยหมอก็เคยโพสต์ไปหาย
01:33:24 → 01:33:28 หลายครั้งแล้วนะฮะนะไทรรอยด์ฮอร์โมนไม่
01:33:28 → 01:33:30 ได้เป็นฮอร์โมนที่จะตรวจแล้วมันสูงมันต่ำ
01:33:30 → 01:33:33 อ่าได้จากผลเลือดนะฮะเราไม่ได้วิเคราะห์
01:33:33 → 01:33:37 จากผลเลือดเป็นหลักนะนะการสูงต่ำของไท
01:33:37 → 01:33:41 ฮอร์โมนที่จะเกิดเป็นตัวโรคโผล่หัวโผล่
01:33:41 → 01:33:44 หางผิดปกติอะไรเนี่ยมันแค่ 20% นะส่วน
01:33:45 → 01:33:48 ใหญ่มันเป็นภาวะสับคิอนะฮะนะสับคิอ
01:33:48 → 01:33:51 ไฮโปไทรอยด์เนี่ยปัจจุบันมีเยอะมากโดย
01:33:51 → 01:33:53 เฉพาะคนที่เปลี่ยนแนวโภชนาการมากิแบบ
01:33:54 → 01:33:56 โลคราฟเราไม่เข้าใจรายละเอียดของ
01:33:56 → 01:33:59 ไทรอยเดี๋ยวคราวหน้าเนี่ยหมอว่าน่าจะเป็น
01:33:59 → 01:34:01 วันเสาร์นัแหละเราจะคุยกันเรื่องราย
01:34:01 → 01:34:05 ละเอียดของฮอร์โมนไทรอยด์ซึ่งน่าจะน่าจะ
01:34:05 → 01:34:08 2-3 ชั่วโมงนแหละนะเพราะว่ารายละเอียด
01:34:08 → 01:34:13 ตรงนี้เราจะคุยในแง่ขององค์ประกอบลึกๆเลย
01:34:13 → 01:34:18 ของของไทรรอยด์นะนะว่าเต้องมีตัวนั้นตัว
01:34:18 → 01:34:22 นี้แล้วเแบบเหมือนสะดุ้งสะเทือนหรือว่า
01:34:22 → 01:34:24 เหมือนเหมือนอ่อนแอเนี่ยเนี่ยจากปัญหา
01:34:24 → 01:34:29 อะไรบ้างนะมันมี 10 สาเหตุนะแล้วทีเนี้ย
01:34:29 → 01:34:31 เราจะเข้าใจเลยไม่ว่าเราจะกินหรือไม่กิน
01:34:31 → 01:34:35 โลคาฟนะหรือว่าเราจะกินโคฟในจุดไหนอ่ะจะ
01:34:35 → 01:34:38 เป็น CD kcd
01:34:38 → 01:34:43 เอ่อหรือกินกินปะปนปนเปี้ยนเตี้อะไรก็ตาม
01:34:43 → 01:34:47 นะนะนะเราต้องให้ความสำคัญในจุดที่เป็น
01:34:47 → 01:34:51 เรื่องของไทรรอยด์ฟังก์ชันนะเอ่อฮอร์โมน
01:34:51 → 01:34:54 ไทรรอยด์เป็นฮอร์โมนที่ที่ต้องเอาอกเอาใจ
01:34:54 → 01:34:55 อ่ะนะ
01:34:55 → 01:35:00 ฮะมันมันเวลามันมันผิดปกติแล้วเนี่ยมันก็
01:35:00 → 01:35:01 จะไป
01:35:01 → 01:35:06 แบบมันสร้างเรื่องสร้างราวเยอะมากนะเพราะ
01:35:06 → 01:35:11 ว่าเเป็นฮอร์โมนสำคัญนะของของในหลายๆ
01:35:11 → 01:35:15 อวัยวะโดยเฉพาะไตนะฮะโดยเฉพาะไตหลายคนกิน
01:35:15 → 01:35:20 โลคราฟแล้วทำไมค่า egfr มันถึงกลายเป็น
01:35:20 → 01:35:23 ckd Stage 2 Stage 3 a 3B อะไร
01:35:23 → 01:35:28 อย่าเงี้ยนะเราต้องแก้เรื่องไทรรอยด์นะ
01:35:28 → 01:35:31 แก้เรื่องไทรรอยด์ให้ได้นะฮะโดยเฉพาะ
01:35:31 → 01:35:33 ไทรรอยด์ที่มาช่วงหัวค่ำนี่แหละเพราะ
01:35:33 → 01:35:37 ฉนั้นอาหารเมื่อเย็นสำคัญมากสำคัญมากนะ
01:35:37 → 01:35:41 ที่จะเรียกว่าเค้าเรียกว่าแก้ไขเรื่อง
01:35:41 → 01:35:45 เรื่องไอ้ปัญหา ckd chronic kidney
01:35:45 → 01:35:48 disease ต่างๆเหล่าเนี้ยนะจะแก้ถูกไม่
01:35:48 → 01:35:53 ถูกนะฮะมื้อเย็นต้องต้องกินเป็นกินถูกนะ
01:35:53 → 01:35:56 แล้วก็ต้องพึ่งไทรอย์นะแบบที่หมอบอกสูตร
01:35:56 → 01:36:00 คำว่า water แก้ไตนะโดยเฉพาะไต ckd เนี่ย
01:36:00 → 01:36:05 W คือ Water นะฮะน้ำนะนะน้ำนี่แหละต้อง
01:36:05 → 01:36:09 ได้ต้องถึงนะฮะนะอันที่ 2 aid นะ aid
01:36:09 → 01:36:14 ได้ยังอ่ะนะเอ่อกลดไขมันนะแฟตตี้แิดนะฮะ
01:36:14 → 01:36:18 กดอะมิโนนะมันต้อง 2 แอซิดนี้นะฮะนะเนี่ย
01:36:18 → 01:36:24 ถึงจะทำให้เกิดไอ้ไตมันสามารถกรองน้ำกับ
01:36:24 → 01:36:28 กดออกไปได้นะคือไตเจะทำงานต่อเมื่อมีสิ่ง
01:36:28 → 01:36:32 ที่ที่ส่งไปให้เค้าทำนะอ่าไม่ใช่ไม่ส่งนะ
01:36:32 → 01:36:35 ฮะนะไม่ใช่ไปเปลี่ยนให้เลือดเป็นโด่งเป็น
01:36:35 → 01:36:39 ด่างนะจำกัดน้งจำกัดน้ำอันนี้ไตก็ยิ่งพัง
01:36:39 → 01:36:44 พังๆก็สู่ภาวะล้างไตแน่นอนนะฮะเราไม่เข้า
01:36:44 → 01:36:48 ใจนะแล้วอันตัว T เนี่ย Water ใช่มั้ย T
01:36:48 → 01:36:50 ก็คืออะไรก็คือไทรรอยด์ไทรอยด์เป็น
01:36:50 → 01:36:53 ฮอร์โมนสำคัญมากในการฟื้นไตในการดูแลไต
01:36:53 → 01:36:58 แล้วในการจัดหาพลังงานมาให้ไตฟื้นตัวนะ
01:36:58 → 01:37:03 ฮะตัว E ตัว E ก็คือก็คือ Energy นะฮะ
01:37:03 → 01:37:06 Energy Energy หรือแคลอรี่อันเนี้ยนะ
01:37:06 → 01:37:09 หรือเป็นพลังงานที่เป็นแคลอรี่อันเนี้ยนะ
01:37:09 → 01:37:12 มันจะต้องมีอะไรนะเส่วนใหญ่ก็เป็นไขมัน
01:37:12 → 01:37:16 นั่นแหละก็คือไตรกฤษนานะก็อาจจะมีคาฟบ้าง
01:37:16 → 01:37:20 นะฮะนะบางช่วงนะแต่ไตกิลต้องเป็นหลักอยู่
01:37:20 → 01:37:22 แล้วนะเพราะฉะนั้นพลังงานในการฟื้นไตเกิน
01:37:22 → 01:37:26 80% ต้องมาจากเรื่องของไตกิราเพราะงั้น
01:37:26 → 01:37:28 การที่เราใส่ Good Healthy Fat เนี่ยก็
01:37:28 → 01:37:31 จะช่วยในเรื่อง Energy หรือแคลอรี่สำหรับ
01:37:31 → 01:37:35 ไตที่จะฟื้นตัวได้นะฮะเพราะว่าคุณจะไอท
01:37:35 → 01:37:39 โปรตีนกินโลคาฟแล้วก็ตัดไขมงไขมันต่างๆ
01:37:39 → 01:37:42 เห็นมอีพวกกินคงกินีนน่ะไตเตยไม่ฟื้นนั้น
01:37:42 → 01:37:46 แหละนะเดี๋ยวก็ดำดิ่งสู่ภาวะเต renal
01:37:46 → 01:37:51 disease ล้างตงล้างไตกันเป็นแถวนะนะแล้ว
01:37:51 → 01:37:56 สุดท้ายตัว R ตัว R ตัว R ก็คือ L นะฮะนะ
01:37:56 → 01:38:00 เเรียกว่า lasing Energy expenditure
01:38:00 → 01:38:04 นะฮะก็คืออะไรก็คือพลังงานนะในช่วงที่นอน
01:38:04 → 01:38:08 หลับนะฮะเพราะฉะนั้นนอนหลับเนี่ยนอนยังไง
01:38:08 → 01:38:13 ที่จะให้อ่าไตมีพลังงานได้ใช้นะฮะเนี่ย
01:38:13 → 01:38:16 มันก็จะเกี่ยวกับไทรรอยด์นะแล้วก็เกี่ยว
01:38:16 → 01:38:19 กับแคลอรี่ที่ส่งมาทั้งมื้อแรกกับมื้อ
01:38:19 → 01:38:22 เย็นนะฮะเนี่ยอันเนี้ยเพราะฉะนั้นถ้าเข้า
01:38:22 → 01:38:25 ใจพวกเนี่ยเดี๋ยวไตฟื้นนะฮะไต ckd มันก็
01:38:26 → 01:38:28 ขึ้นมาเกิน 90 นั
01:38:28 → 01:38:35 แหละอนี้อันนี้อธิบายพ่วงไปอ้ามีใครถาม
01:38:35 → 01:38:36 อะไรอีก
01:38:36 → 01:38:38 มย
01:38:38 → 01:38:42 อ่าสักครู่ครับ
01:38:42 → 01:38:45 อ่าคุณโอ๊ตบอกว่าหมอสูงจะให้ตัดมดลูกทิ้ง
01:38:45 → 01:38:48 ไปเลยอ่ะครับเลือดจะได้หลุดจะได้หยุดแต่
01:38:48 → 01:38:52 เลือกไม่เอาก็เลยอ่าฉีจาคุมแทนจนหมดประจำ
01:38:52 → 01:38:56 เดือนนะครับเออถามโอ๊ตว่าทางญาติพี่น้อง
01:38:56 → 01:38:59 เ้าหมดประจำเดือนกันเฉลี่ยอายุเท่าไหร่
01:38:59 → 01:39:04 อย่างแม่อย่างน้าผู้หญิงอ่ะที่ที่ที่ที่
01:39:04 → 01:39:08 อยู่ฝ่ายแม่หรือพี่สาวฮะเราจะหมดประจำ
01:39:08 → 01:39:12 เดือนในช่วงอายุเท่ากับเขานะฮะนะเพราะ
01:39:12 → 01:39:15 ฉะนั้นเนี่ยในแง่ของการจะใช้ยาต่อเนื่อง
01:39:15 → 01:39:18 ไปถึงเมื่อไหร่เนี่ยก็ส่วนใหญ่ถ้าสมมุติ
01:39:18 → 01:39:21 ว่าแม่หมดประจำเดือนตอนอายุ 52 เราก็ต้อง
01:39:21 → 01:39:26 ใช้ยาไปจนถึงอายุครบ 53 แล้วก็งดยาประมาณ
01:39:26 → 01:39:29 เนี้ยนะคือต้องใช้ยาต่อเนื่องไปอีกประมาณ
01:39:29 → 01:39:34 9 เดือนนะฮะนะแล้วก็อฟยานะฮะแต่เราก็
01:39:34 → 01:39:37 เลียนแบบค่าเฉลี่ยของคนอื่นๆที่ใกล้ชิด
01:39:37 → 01:39:41 เราเอาแม่เราเป็นหลักเอาแม่เราเป็นหลักนะ
01:39:41 → 01:39:45 ฮะนะอาจจะเอาแม่บวกกับพี่สาวนะฮะพี่สาว
01:39:45 → 01:39:50 เราอ่ะนะท้องเดียวกันนี่แหละนะเออเราหา
01:39:50 → 01:39:53 ค่าเฉลี่ยตัวเลขออกมาแล้วก็จัดการในนอง
01:39:53 → 01:39:55 เนี้ยนะ
01:39:55 → 01:39:59 ฮะไม่งั้นเราก็กลัวๆๆแล้วก็เราก็จะได้
01:39:59 → 01:40:02 ฮอร์โมนเกินเลยไป
01:40:02 → 01:40:04 หน่อย
01:40:04 → 01:40:07 เออบางาที่แล้วก็พูดเรื่องเอสโตรเจนอยู่
01:40:07 → 01:40:14 แล้ว
01:40:14 → 01:40:19 นะฮัลโหลเออได้ยินอ่าครับเพราะว่าคราวที่
01:40:19 → 01:40:22 แล้วคุยเรื่องเอสโตเจนอยู่อันนี้เหว่าผู้
01:40:23 → 01:40:26 หญิงเนี่ยเอ่อถ้าเป็นทรงเนี้ยนะสายแป้งเ
01:40:26 → 01:40:28 แล้วก็จะมีปัญหาไทรรอยด์เอสโตรเจนไทรอยด์
01:40:29 → 01:40:31 เอสโตรเจนเนี่ยนะมันก็จะวนเวียนอยู่กับ
01:40:31 → 01:40:34 ต่อมไทรอยมดลู่ปิมดลู่ลังไขเต้านมเนื้อ
01:40:34 → 01:40:40 งอกอ่าซีสอะไรต่างๆกันอย่างเงี้วน
01:40:40 → 01:40:44 ๆก็หลายคนก็ไม่เข้าใจหรือหมอเองไม่เข้าใจ
01:40:44 → 01:40:46 ก็ตัดลูกเดียวอ่ะ
01:40:46 → 01:40:50 นะแต่ตัดแล้วถามว่าฮอร์โมนมันบานมั้ยมัน
01:40:50 → 01:40:54 ก็ไม่ได้บานนะฮะ
01:40:54 → 01:40:56 ถ้าจำเป็นน่ะขนาดใหญ่มันโตมากมัน Pressure
01:40:56 → 01:41:02 เเฟคเยอะอะไรเงี้ยก็ตัดนะฮะนะหรือโอ้โหมะ
01:41:02 → 01:41:05 ลูกก็ใหญ่ก็โตด้วยพื้นที่ผิวมะลูกมันเยอะ
01:41:05 → 01:41:07 แล้วเวลามันเกิด
01:41:07 → 01:41:10 อ่าบดิอ่ะอ่ามันเกิดเลือดออกอะไรอย่า
01:41:10 → 01:41:13 เงี้ยมันก็เลือดออกตีผ้าอนามัยซับๆๆๆๆๆ
01:41:13 → 01:41:16 เนี่ยกลัวจะช็อกต้องไปนอนให้โล่งให้เลือด
01:41:16 → 01:41:19 อะไรอย่างเงี้ยนะอันนี้ก็ต้องยอมแล้วล่ะ
01:41:19 → 01:41:23 นะแต่ถ้าตอนเนี้ยนะอัตซาวแล้วนะังไข่ป่อ
01:41:24 → 01:41:28 แล้วมดลูกป่อแล้วอ่าขนาดมดลมดลูกอะไรต่าง
01:41:28 → 01:41:33 ๆเนี่ยมันเเรียกว่ามันมันมันหดมันฝ่อมัน
01:41:33 → 01:41:37 โทฟี่อ่ะนะฮะนะเก็สบายใจได้เลือดเลมันคง
01:41:37 → 01:41:39 ไม่ออกจนช็อกคก็ต้องต้องเติมเลือดเติม
01:41:39 → 01:41:42 เก็ดเลือดเลย
01:41:42 → 01:41:46 นะ
01:41:46 → 01:41:50 เออครับพี่หมอมีถามจากในเพจครับมีถามอัน
01:41:50 → 01:41:53 นี้เรื่องอาหารแล้วนะครับอ่าพวกบัตเตอรมิ
01:41:53 → 01:41:55 นี่ดีหรือไม่ดีครับพี่
01:41:55 → 01:41:57 หมอ
01:41:57 → 01:42:02 ันมเออเใช้คำว่าัตัต
01:42:02 → 01:42:04 Milk
01:42:04 → 01:42:07 หื
01:42:07 → 01:42:12 อ Butter Mu เหรอใช่บัตเตอร์แปว่าเนยอ่ะ
01:42:12 → 01:42:16 ิ้วนมอ่ะเออเออผมก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน
01:42:16 → 01:42:19 หรือว่าแยกกันนะถามว่าเนยกับนมดีมั้ยอ่ะ
01:42:19 → 01:42:23 เหรอเออมันติดกันนะครับมันเขียนติดกันเลย
01:42:23 → 01:42:27 บัตรมนมเนยเออยังไงก็ไม่รู้ต้องดูราย
01:42:27 → 01:42:30 ละเอียดแล้วล่ะเออครับแล้วก็น้ำเวครับพี่
01:42:30 → 01:42:32 หมอน้ำเวนี่เก็บไว้ในตู้เย็นได้กี่วัน
01:42:32 → 01:42:38 ครับอ๋อน้ำเวก็เหมือนน้ำน้ำผักดองอ่ะฮะ
01:42:38 → 01:42:43 อ๋อคือคืออย่างงี้เราไม่ใช่ว่าว่า
01:42:43 → 01:42:47 จะคือคือจะเก็บไว้เยอะๆอ่ะนะเราต้องรีบหา
01:42:47 → 01:42:51 ทางบริหารจัดการก็กินบ้างนะกินบ้างเอาไป
01:42:51 → 01:42:53 ใส่อ่า
01:42:53 → 01:42:56 ปั่นน้ำสลัดบ้างเอาไปทำดองนนนดองนี่บ้าง
01:42:56 → 01:42:57 อ่ะ
01:42:57 → 01:43:02 นะแล้วก็รีบใช้อ่ะรีบใช้แต่ก็เก็บไว้ก็
01:43:02 → 01:43:06 เก็บไว้ได้เรื่อยๆแหละฮะนะแล้วถ้าเกิดกิน
01:43:06 → 01:43:10 แล้วมันทะแมงทะแม่งอะไรต่างๆก็
01:43:10 → 01:43:15 ทิ้งแต่หมอก็ดูดกินหมอชอบเปรี้ยวๆไงนะ
01:43:15 → 01:43:19 ครับเราก็มาดูดกินบ่อยๆอ่ะเรามาดูกินมัน
01:43:19 → 01:43:22 เหมือนนมเปรี้ยวมพี่หมอเออเราชอบเปรี้ยว
01:43:22 → 01:43:24 อยู่แล้วอ่ะนะ
01:43:24 → 01:43:28 อ๋อบางคนก็อาจจะไม่ค่อยชอบเปรี้ยวไอะไร
01:43:28 → 01:43:31 อย่างงี้ไงก็แล้วแต่ต้องหาทางไปอย่างอื่น
01:43:31 → 01:43:35 ไปดองไปเข้าทางเลยนะ
01:43:35 → 01:43:39 ครับอันนี้ของผมครับพี่หมอไอ้ไอแผนภาพ
01:43:39 → 01:43:43 อะไรนะ ldl ที่พี่หมอส่งมาคราวล่าสุดอ่ะ
01:43:43 → 01:43:45 ครับที่บอกว่าจะคุยอ่ะครับอันนี้ไม่ทราบ
01:43:45 → 01:43:50 ว่าจะยพอจำได้
01:43:50 → 01:43:54 มั้ยอ
01:43:54 → 01:43:58 เรื่องไหนน้อเออที่อยู่ใน message อ่ะ
01:43:58 → 01:44:02 ครับ Mage เมื่อวันจันทร์นะครับเออที่บอก
01:44:02 → 01:44:04 ว่าการสังเคราะห์ละหลัง idl จากเซลล์ของ
01:44:04 → 01:44:07 ตับโดยตรงอ่ะมีบทบาทในการช่วยควบคุม
01:44:07 → 01:44:12 คอเลสเตอรอลทั้งในตับออโอ้เรื่องนี้
01:44:12 → 01:44:14 เรื่องนี้ต้องต้องซับซ้อนนิดนึงต้องใช้
01:44:14 → 01:44:18 เวลาเอาไว้ก่อนออต้องใช้เวลาจริงๆเรื่อง
01:44:18 → 01:44:21 เนี้ยพูดไปแล้วนะก็พูดไปแล้วล่ะพูดไปแล้ว
01:44:21 → 01:44:24 ล่ะแต่ว่ามันเข้าใจเลยว่ามันมีความซับ
01:44:24 → 01:44:28 ซ้อนอือก็คือตับเนี่ยนะฮะตับ
01:44:28 → 01:44:32 เๆนิดนึงก็ได้ว่าตับเนี่ยเวลาที่เาจะ
01:44:32 → 01:44:36 สร้างเรือนำส่งพลังงาน vldl เนี่ยนะเค้า
01:44:36 → 01:44:40 ก็จะต้องสร้างออกมาเป็นพลังงานก็คือเมุ่ง
01:44:40 → 01:44:44 หมายที่จะเอาไตกิสไลนไปส่งแต่ในเรือนำส่ง
01:44:44 → 01:44:47 vldl เนี่ยนอกจากมีไตกิลมี Apple b มี
01:44:47 → 01:44:51 คอเลสเตอรอลเอสเตอร์มีฟรีคอเลสเตอรอลอะไร
01:44:51 → 01:44:55 ตอะไรด้วยไปด้วยอ่ะนะลงเรือลำนี้ไปนะอัน
01:44:55 → 01:44:58 นี้ก็มีเป็นส่วนนึงแต่จุดมุ่งหมายคือการ
01:44:58 → 01:45:02 เอาพลังงานไปเก็บหรือไปใช้ด้วยไปเก็บด้วย
01:45:02 → 01:45:06 อะไรอย่างงี้แต่หลักๆคือเอาไปเก็บนะเนี่ย
01:45:06 → 01:45:10 อันนี้นะอันนี้อันนี้แต่รู้มว่าตับเนี่ย
01:45:10 → 01:45:15 ก็ยังจะมีเรือนำส่งพลังงานที่เป็น ldl
01:45:15 → 01:45:18 สร้างออกมาจากตับเลยโดยไม่ได้สร้างเป็น
01:45:18 → 01:45:23 vldl นะฮะนะแล้วเรือลำเนี้ยเค้าเอา
01:45:23 → 01:45:28 คอเลสเตอรอลจากตับเนี่ยนะส่งออกมาเอออัน
01:45:28 → 01:45:31 นี้ผมเพิ่งรู้ครับพี่หมอเออเเไม่ได้ส่ง
01:45:31 → 01:45:35 เฉพาะเรือ vldl นะเมีเรือ ldl นำส่งด้วย
01:45:35 → 01:45:37 ใช่คือเป็น ldl ออกมาเลยใช่มั้ยครับเป็น
01:45:37 → 01:45:40 ldl ออกมาเลยฮะนะ
01:45:40 → 01:45:45 ออและจะมีการเปลี่ยนแปลงนะกลายเป็น SM
01:45:45 → 01:45:48 หรือเป็น type a หรือ type B ก็แล้วแต่
01:45:48 → 01:45:54 ฮอร์โมนนะออกมาออกมาที่ไหนก็ออกมาระออกมา
01:45:54 → 01:45:59 ในระบบเลือดคือเขาเรียกว่าเป็นเปิเนที่จะ
01:45:59 → 01:46:03 ไปต่อกับ inf ว่าหล่อดเลือดดำใหญ่ในช่อง
01:46:03 → 01:46:06 ครับคือมันออกจากตับแล้วนะอันนี้มันออก
01:46:06 → 01:46:11 จากตับนะไม่ใช่พอเ่าเวรที่เข้าตับนะคือ
01:46:11 → 01:46:14 เป็นเส้นเลือดดำที่ออกจากตับจะไปต่อกับ
01:46:14 → 01:46:18 หลอดเลือดดำใหญ่ที่ขนานกับหลอดเลดแดง
01:46:18 → 01:46:23 เอออต้าในช่องท
01:46:23 → 01:46:26 อันนี้มีทั้ง vldl มีทั้ง ldl เพราะ
01:46:26 → 01:46:31 ฉะนั้นตับลำเลียง ldl ออกจากตับส่งมา
01:46:31 → 01:46:35 ด้วยแล้ว ldl ตัวเนี้ยอ่าเหมือนกับ ldl
01:46:35 → 01:46:38 ที่มันกลายมาจาก vdl ยครับพี่หมอหน้าที่
01:46:38 → 01:46:44 มันอจะคล้ายๆกันจะคล้ายๆกันนะและจะไปเป็น
01:46:44 → 01:46:47 ldl ที่อยู่ในระบบหลอดเลือดแดงคือหลอด
01:46:47 → 01:46:50 เลือดดำเนี่ยก็จะไปผ่านหัวใจแล้วจะไปเข้า
01:46:50 → 01:46:53 สู่หลอดเลือดแดงนะเพราะงั้นทุกสิ่งทุก
01:46:53 → 01:46:57 อย่างในเปติเนทั้ง ldl และ vldl ที่ออก
01:46:57 → 01:47:02 จากตับนะในที่สุดก็จะกลายเป็น ldl นะที่
01:47:02 → 01:47:05 ไปอยู่ในหลอดเลือดดำใหญ่และหลอดเลือด
01:47:05 → 01:47:09 แดงแล้วถ้าเกิดมันเยอะเกินไปมันกลับมา
01:47:09 → 01:47:15 เข้าตับเอ่อทางรีปตงรตออะไรตามปกติไม่ได้
01:47:15 → 01:47:19 นะมันก็มีโอกาสทานไซโตสิแล้วก็ตกตะกอนตาม
01:47:19 → 01:47:21 ชั้นของผนังหลอดเลือดแดงต่าง
01:47:21 → 01:47:26 ๆเขาจะตกที่ผนังหลอดเลือดแดงไม่ได้ตกที่
01:47:26 → 01:47:29 ผนังหลอดเลือดดำ
01:47:29 → 01:47:34 อืการทางเสิในหลอเลือดดำมันมันไม่ไม่ได้
01:47:34 → 01:47:39 เกิดขึ้นนะมันมีปัจจัยที่ทำให้ไม่เกิดนะ
01:47:39 → 01:47:41 แต่มันไปเกิดที่ระบบหลอดเลือด
01:47:41 → 01:47:47 แดงพี่หมอบอกว่าในสภาวะปกติอมันปริมาณ
01:47:47 → 01:47:51 38-40 ก็ไม่น้อยเลยนะพี่หมอเอ่อใช่ฮะใช่
01:47:51 → 01:47:53 จริงๆแล้วไม่น้อยน้อย
01:47:53 → 01:47:57 แต่แต่ถ้าเกิดเมื่อไหร่ก็ตามตับเนี่ยมัน
01:47:57 → 01:48:00 ดื้ออินซูลินเนี่ยมันก็จะผลิตน้อย
01:48:00 → 01:48:04 ลงคือมันจะอยู่ในช่วงประมาณซัก 2 ใน 5
01:48:05 → 01:48:09 ของัคอเลสเตอรอลทั่วร่าง
01:48:09 → 01:48:11 กาย
01:48:11 → 01:48:17 อืคือตับเนี่ยมันผลิตประมาณ 15% นะ
01:48:17 → 01:48:23 15% 15% เนี่ยต้องไงอ่ะก็ต้องคุณต้อง
01:48:23 → 01:48:27 อยู่ในภาวะ ket adap Fat
01:48:27 → 01:48:30 adap มันถึงจะผลิต 15% อันนี้เป็น Normal
01:48:30 → 01:48:33 physiology ของตับที่ธรรมชาติก็สร้างมา
01:48:33 → 01:48:36 ก็ให้ทำหน้าที่แค่เนี้ยนะแล้วพลังงานต้อง
01:48:36 → 01:48:39 อยู่ในระบบน้ำเหลืองนะสิ่งต่างๆที่จะกลาย
01:48:40 → 01:48:44 มาเป็น ldl vldl อะไรต่างๆแล้วออกจากตับ
01:48:44 → 01:48:48 เนี่ยนะภาระของตับเนี่ยมันสร้างโดยเฉพาะ
01:48:48 → 01:48:50 ldl มันสร้างได้แค่
01:48:50 → 01:48:55 15% นะสร้างที่จะเอาคอเลสเตอรอลออกแค่
01:48:55 → 01:48:58 นั้นแต่การที่คุณเ่ะไม่ได้กินเพื่อให้
01:48:58 → 01:49:01 พลังงานเข้าระบบน้ำเหลืองอะไรต่างๆเหล่า
01:49:01 → 01:49:04 เนี้ยนะคุณไปไปกินไม่เป็นกินไม่ถูกอะไร
01:49:04 → 01:49:08 อย่าเงี้ยนะในที่สุดก็ก็เกิด vldl อ่ะนะ
01:49:08 → 01:49:12 ที่ตับจะต้องผลิตออกมาแล้วมันก็กลายเป็น
01:49:12 → 01:49:17 ldl นะเยอะแยะไปหมดเลย
01:49:17 → 01:49:21 นะส่วนใหญ่ก็รวมๆแล้วก็อยู่ในช่วงประมาณ
01:49:21 → 01:49:22 38%
01:49:22 → 01:49:24
01:49:24 → 01:49:25 38%
01:49:25 → 01:49:29 ครับแต่ถ้าเกิดมีภาวะดื้ออินซูลินอีก
01:49:29 → 01:49:32 เนี่ยนะมันก็จะลดลงเหลือประมาณ
01:49:32 → 01:49:35 27%
01:49:35 → 01:49:38 ประมาณเพราะงั้นหลักการก็คือจะให้เาอยู่
01:49:38 → 01:49:42 ในช่วงประมาณปกติ 15% ตามศักยภาพของเขา
01:49:42 → 01:49:45 เนี่ยก็คือคุณก็ต้องกินให้ถูกพลังงานหลัก
01:49:45 → 01:49:50 ๆต้องพอดีนะแล้วก็เข้าในอัตราส่วนของสาร
01:49:50 → 01:49:53 อาหารคาร์โบไฮเดรโปรตีนไขมันนะนะ
01:49:53 → 01:49:57 เอ่อเข้าทางท่อน้ำหลงน้ำเหลืองอะไรต่างๆ
01:49:57 → 01:50:02 เหลือมาเข้าตับอ่าพอดีพอดีอะไรต่างๆแต่
01:50:02 → 01:50:05 เพียงแต่ว่าเราในทางปฏิบัติเราทำไม่ได้
01:50:05 → 01:50:09 ครับเพราะว่าไที่ผลิตตรงจากตับออกมาเนี่ย
01:50:09 → 01:50:12 หน้าที่ของมันก็คือไปไปรับไปแลกเปลี่ยน
01:50:12 → 01:50:15 คอเลสเตอรอลกับ hdl แล้วก็ดูดกลับตับ
01:50:15 → 01:50:20 เหมือนเดิมอย่างงี้ใช่มั้ยฮะฮ่ะ
01:50:20 → 01:50:23 อ๋ออ๋อ
01:50:23 → 01:50:27 ldl ที่ออกมาจากตับก็คือเอาคอเลสเตอรอล
01:50:27 → 01:50:32 ออกมาใช่มอ่าไม่ไม่ byp ไปเลยไม่ต้องไป
01:50:32 → 01:50:35 แลกกับ hdl อีกแล้วอาฮะ
01:50:35 → 01:50:40 ฮะไม่ต้องไปแลกกับ hdl
01:50:40 → 01:50:43 ครับคือจุดประสงค์ของมันคือต้องการเอา
01:50:43 → 01:50:47 คอเลสเตอรอลออกมาจากตัดใช่มฮะใช่เพื่ออ้า
01:50:47 → 01:50:51 เออครับเพื่อจะเอาไปหมุนเวียนนะนะแล้ว
01:50:51 → 01:50:56 กลับมากลับเข้าตับมากลับเข้ากับรตอของตับ
01:50:56 → 01:50:59 อีกทีนึงนะเพราะว่าคอเลสเตอรอลอันเนี้ย
01:50:59 → 01:51:02 เป็นคอเลสเตอรอลที่เซลล์ตับเกิดกระบวนการ
01:51:02 → 01:51:05 ทางด้านพลังงานก็เลยมีคอเลสเตอรอลเกิด
01:51:05 → 01:51:08 ขึ้นนะแล้วมันก็จะต้องเอาคอเลสเตอรอลออก
01:51:08 → 01:51:10 จากเซลล์มันไม่งั้นเดี๋ยวมันจะตกตะกอน
01:51:10 → 01:51:15 กลายเป็นหนามจิ้มแทงอ๋อเป็นคอสอที่มีเรือ
01:51:15 → 01:51:19 มารับไปก็เป็น ldl มารับไปเลยที่ตะผลิตมา
01:51:19 → 01:51:22 ที่บอกว่า 15% เนี่ยใช่มยครับใช่แต่งภาพ
01:51:22 → 01:51:26 ไอ้คอเลสเตอรอลมอสเนี่ยใช่อ๋อก็เลยผลิต
01:51:26 → 01:51:30 อ๋อออกมาแล้วก็ไปวนอยู่ในระบบหลอดเลือดรำ
01:51:30 → 01:51:34 หลอดเลือดแดงว่าไปเออใครถ้าเกิดเซลล์ไหน
01:51:34 → 01:51:37 หรือว่าอวัยวะไหนต้องการใช้ก็เอาไปใช้เออ
01:51:37 → 01:51:39 แต่ว่าโดยปกติจะไม่ค่อยมีใช้ใช่มั้ยพี่
01:51:39 → 01:51:41 หมอเพราะว่าส่วนมากมันจะเยอะเยอะอยู่แล้ว
01:51:41 → 01:51:44 อ่ะนะครับ
01:51:44 → 01:51:48 อ๋อแล้วก็สุดท้ายจะมีความต้องการ
01:51:48 → 01:51:53 คอเลสเตอรอลอ่าในกระแสเลือดจริงๆเนี่ยนะ
01:51:53 → 01:51:57 ก็คือเซลล์ของต่อมหมวกไตชั้นนอกกับไอ้
01:51:57 → 01:52:02 ต่อมอะไรอวัยวเพศนั่นแหละนะผู้ชายผู้หญิง
01:52:02 → 01:52:05 มันจะมีอยู่แค่นั้นแหละนะอที่ผลิตฮอร์โมน
01:52:05 → 01:52:08 ใช่มเซไหนเออเต้องการขณะเดียวกันอวัยวั
01:52:08 → 01:52:12 ที่บอกเนี่ยทั้งเ่าหมวกไตทั้งโกนาดนะเขา
01:52:12 → 01:52:15 จะต้องการยามฉุกเฉินนะฮะนะถ้าคุณไม่
01:52:15 → 01:52:18 ฉุกเฉินเก็ไม่ต้องการนะเพราะฉะนั้นแทบจะ
01:52:18 → 01:52:22 ไม่มีเซลล์ไหนก็ต้องการหรอกนะผมผมก็แก
01:52:22 → 01:52:24 แล้วทำไมตัดมันไม่ชอต Cut กลับมาเลยว่า
01:52:24 → 01:52:27 ต้องให้เข้าไปวนในในในระบบหลอดเลือดก่อน
01:52:27 → 01:52:32 นะอ๋ออเพราะว่ามันก็ต้องกลับตับกลับมาที่
01:52:32 → 01:52:34 ตับอยู่แล้วเหมือนกับประตูหน้าประตูหลัง
01:52:34 → 01:52:36 อ่ะงดูแล้วมันก็เออตลก
01:52:36 → 01:52:40 ดีเพราะเเพราะหลักการของธรรมชาติเนี่ยก็
01:52:40 → 01:52:44 คือเซลล์ใดก็ตามที่มีปฏิกิริยาทาด้านพลัง
01:52:44 → 01:52:46 งานสะสมหรือเผาผลาญจะต้องสร้าง
01:52:46 → 01:52:50 คอเลสเตอรอลคอเลสเตอรอลที่สร้างนี้นะจะ
01:52:50 → 01:52:53 ต้องถูกผลักออกจากเซลล์
01:52:53 → 01:52:55 เป็นตามกฎเกณฑ์เพราะฉะนั้นถึงแม้จะเกิด
01:52:55 → 01:52:58 ขึ้นที่ตับนะทั้งๆที่ตับมีประตูอยู่แต่
01:52:58 → 01:53:02 คุณก็ต้องต้องเต้องผลักออกไปก่อนนะแล้วไป
01:53:02 → 01:53:05 วนหลอดเลือดดำหลอดเลือดแดงแล้วก็กลับมา
01:53:05 → 01:53:09 เข้าทางประตูอ่าให้ถูกต้องมันเป็นกฎเป็น
01:53:09 → 01:53:14 เกณฑ์น่ะพูดพูดง่ายๆว่าคอเลสเตอรอลเนี่ย
01:53:14 → 01:53:17 คือสร้างจากทุกเซลล์ใช่แต่ว่าตัตับเป็นคน
01:53:17 → 01:53:20 บริหารจัดการตัวใหญ่หรือเปล่าพี่หมอใช่
01:53:20 → 01:53:24 เพราะว่าเมื่อกี้พูดไปหยกๆนะว่าในที่สุด
01:53:24 → 01:53:27 แล้วความเป็นกรดเนี่ยพลังงานคือกรดนะฮะ
01:53:27 → 01:53:31 กรดนะฮะนะพลังงานของเราเนี่ยระบบสลายพลัง
01:53:31 → 01:53:34 งานได้เป็น ATP อ่ะแล้ว ATP เนี่ยในที่
01:53:34 → 01:53:38 สุดเปี่นเป็นกรดนะเป็นไฮโดรเจนอะตอมนะฮะ
01:53:38 → 01:53:44 กรดอนี้นะกรดอันนี้นะที่เกิดขึ้นเนี่ยก็
01:53:44 → 01:53:50 จะไปเป็น 5 เรื่องอ่าของร่างกายนะนะแล้ว
01:53:50 → 01:53:54 ในที่สุดในที่สุดนะไอ้ตัวคอเลสเตอรอล
01:53:54 → 01:53:58 เนี่ยนะที่เกิดขึ้นนะจากพลังงานที่มัน
01:53:58 → 01:54:03 เป็นกดเนี่ยนะมันก็จะต้องมีกดมาพา
01:54:03 → 01:54:09 คอเลสเตอรอลออกนะก็คือก็คือกดน้ำดีน้ำดี
01:54:09 → 01:54:12 มีสภาพเป็นกรด
01:54:12 → 01:54:17 ครับแต่ช่วงที่มันเกิดรมิกับคอเลสเตอรอล
01:54:17 → 01:54:23 แล้วนะแล้วก็จะออกเ่าทางท่อนน้ำดีเนี่ยไป
01:54:23 → 01:54:26 ลำไส้อะไรเยนะไม่ได้เป็นกฎแล้วเป็นเกลือะ
01:54:26 → 01:54:30 จากกฎกลายเป็นเกลือ
01:54:30 → 01:54:34 อืแต่ช่วงแรกของความเป็นกรดเนี่ยนะที่มัน
01:54:34 → 01:54:38 เกิดขึ้นเนี่ยนะฮะนะก็จะเป็นกรดที่มีพี
01:54:38 → 01:54:43 อันดับ 2 รองจากกดในกระเพาะนะนะแต่อยู่
01:54:43 → 01:54:48 ที่ที่ระบบน้ำดีของตับนะเเรียกว่าระบบท่อ
01:54:48 → 01:54:49 น้ำดี
01:54:49 → 01:54:52 ตักเเรียกว่าบา
01:54:52 → 01:54:57 แเป็นกรดน้ำดีพี่หมอเรากรดในกระเพาะอย่าง
01:54:57 → 01:55:00 นี้มันเอาทำมาจากคอเลสเตอรอลด้วยมครับไม่
01:55:00 → 01:55:03 ฮะกดในกระเพาะก็ทำมาจากกรดอะมิโนกับกดไข
01:55:03 → 01:55:06 มันเท่านั้น
01:55:06 → 01:55:09 อ๋อเพราะปฏิกิริยาของ
01:55:09 → 01:55:14 เอ่อของกดอะมิโนกับกรดไขมันเนี่ยนะมันก็
01:55:14 → 01:55:18 จะเกิดเป็นไฮโดรเจนไอออนนะนะเกิดขึ้นนะ
01:55:18 → 01:55:22 เป็นไฮโดรเจนอะตอมไฮโดเจนไอออนแล้วเราก็
01:55:22 → 01:55:25 ต้องกินอะไรกินเกลือเพราะว่าการกินโลฟ
01:55:25 → 01:55:28 เนี่ยต้องมีเกลือเข้าไปเยอะๆแล้วเกลือนี้
01:55:28 → 01:55:31 ก็จะมีคลอไรด์นะที่จะเข้าไปรวมกับ
01:55:31 → 01:55:35 ไฮโดรเจนเป็นไฮโดรคลอริกแซอ๋อ
01:55:35 → 01:55:40 ครับคนละคนละส่วนกันเออคนสวยคราวนี้ผมผม
01:55:40 → 01:55:42 ดูแล้วรู้สึกว่าเหมือนกับการที่
01:55:42 → 01:55:45 คอเลสเตอรอลสูงๆเนี่ยมันมันน่าจะเป็น
01:55:45 → 01:55:49 ปัญหาของการเคลียรมากกว่าใช่มพี่หมอใช่
01:55:49 → 01:55:53 เพราะว่าไลโปโปรตีนเซนิเนี่ยก็คือเราเพ่ง
01:55:53 → 01:55:54 เล็งการเคลียร์
01:55:54 → 01:55:58 แนเพราะงั้นในยุคพ.ศนี้ในการตอบคำถาม
01:55:58 → 01:56:02 เรื่องไรปิดโปรไฟล์ 4 ตัวนะเราต้องตอบ
01:56:02 → 01:56:07 ด้วยไลโปโปรตีนเซนิและเราต้องมาโฟกัสระบบ
01:56:07 → 01:56:11 การเคลียร์แล้วนก็เลยต้องดูเต่าดูลำไส้ดู
01:56:11 → 01:56:16 ระบบน้ำดีดูกล้าม
01:56:16 → 01:56:19 เนื้อเราจะได้ไม่ต้องไปมองต้นทางให้มัน
01:56:19 → 01:56:22 มากมายนะนะ
01:56:22 → 01:56:25 อืเพอต้นทามันมันเกิดจากกิจกรรมของเซลล์
01:56:25 → 01:56:28 อยู่แล้วเราไปคุมอะไรมันไม่ได้ใช่แล้วก็
01:56:28 → 01:56:31 เราเองเดี๋ยวก็อยู่เฉยเดี๋ยวก็ต้องเ่อออก
01:56:31 → 01:56:35 กำลังกายเดี๋ยวก็ต้องกินถูกกินผิดเดี๋ยว
01:56:35 → 01:56:38 ก็อะไรอย่างเงี้ยมีพิษไม่มีพิษเอเดี๋ยวก็
01:56:38 → 01:56:40 ดื้ออินซูลินเดี๋ยวก็ดื้อคอร์ติซอลเดี๋ยว
01:56:40 → 01:56:44 ก็หลายอย่างแต่สำคัญปัญหามันอยู่ที่การ
01:56:44 → 01:56:46 เคลียร์แรนนี่แหละถ้าเคลียรแนได้ดีมันก็
01:56:46 → 01:56:51 ไม่คั่งเยอะเออเออถ้าเคลียร์แั้นดีก็ก็ก็
01:56:51 → 01:56:55 หายไปก็หายไปเยอะเพราะฉะนั้นก็ต้องสนใจ
01:56:55 → 01:57:01 เรื่องตับเรื่องกดน้ำดีเรื่องายนะเรื่อง
01:57:01 → 01:57:04 หน้าที่อันดับ 2 ของตับเที่รองจากกลูโค
01:57:04 → 01:57:07 เจนิสร้างไกลโคเจนแล้วก็จะต้องมาวุ่นวาย
01:57:07 → 01:57:12 เกี่ยวกับน้ำดีนี่แหละครับแล้วน้ำดีเป็น
01:57:12 → 01:57:18 กดนะอันดับ 2 รองจากไฮโดรคลอลิก
01:57:18 → 01:57:19 แซ
01:57:19 → 01:57:25 อืถ้าเข้าใจเรื่องักร่างกายนะมันจะวนมา
01:57:25 → 01:57:29 ประจกครบรอบกันพอดีเลยคืออันนี้ก็เพิ่ง
01:57:29 → 01:57:31 รู้เหมือนกันว่าเอ้ยตากมันสร้าง ll ออกมา
01:57:31 → 01:57:34 ได้ได้เลยเว้ยไม่ต้องเปลี่ยนมาก่อนอะไร
01:57:34 → 01:57:39 อย่างเงี้ยฮะได้มีแผน้าอะไรต่างๆด้วยเออ
01:57:39 → 01:57:44 ของโทมัสเสินี่อมตะจริงๆนะพี่หมอใช่แล้ว
01:57:44 → 01:57:48 อีกเรื่องนึงคือคำว่าออกซิ ldl เนี่ยก็
01:57:48 → 01:57:52 เห็นว่าอ่าทั้งในต่างประเทศและในประเทศ
01:57:52 → 01:57:55 เรื่ต่างๆอ่ะเาพูดกันไม่ถูกต้องก็แบบที่
01:57:55 → 01:57:59 โทมัสเิเ้าบอกแหละว่าออกซิได ldl มันไม่
01:57:59 → 01:58:03 เกิดนะก็คือหมายถึง ldl ที่เป็นลอยลำค้าง
01:58:03 → 01:58:05 เติ่งไอ้ plma Residence Time เยอะๆ
01:58:05 → 01:58:07 อยู่ในกระแสเลือดใช่มั้ยแล้วเดี๋ยวจะมี
01:58:07 → 01:58:10 อะไรต่างๆไปออกซิเดชันใช่มั้ยบอกว่ามัน
01:58:10 → 01:58:16 เกิดไม่ได้มันเกิดไม่ได้ฮอือนะนะแต่ที่
01:58:16 → 01:58:19 คุณตรวจออกซิได ldl ได้เนี่ยนะจาก
01:58:19 → 01:58:23 เทคโนโลยีในปัจจุบันเนี้ยมันคือออกซิได
01:58:23 → 01:58:27 ldl ที่เเรียกว่ามันอะไรมันมันมันทาน
01:58:27 → 01:58:30 ไซโตสิเข้าไปแล้วมันหลุดออกมา
01:58:30 → 01:58:34 90% คือนการทานไซโตสิต่างๆเหล่าเนี้ยนะ
01:58:34 → 01:58:38 อ่ามันจะเข้าไปแล้วไปสะสมจริงๆเนี่ยไม่
01:58:38 → 01:58:43 เกิน 10% แต่ 90% เนี่ยมันจะออกมาเป็น
01:58:43 → 01:58:45 ออกซิได
01:58:45 → 01:58:49 ldl อืๆเป็นเป็นเหตุผลอย่างงนี้แหละว่า
01:58:49 → 01:58:54 ออกซ L จรริงๆคือคือไม่ใช่ออกซิได ldl
01:58:54 → 01:58:57 ที่จะจะทำให้เกิดเรื่อง
01:58:57 → 01:59:02 นะมันเป็นออกซิได ldl ที่มันเป็นตัวดีที่
01:59:02 → 01:59:05 มันเข้าไปแล้วแล้วมันออกมาได้อ่าๆคือมัน
01:59:05 → 01:59:09 เกิดเรื่องแล้วแล้วมันก็หลุดออกได้เออแต่
01:59:09 → 01:59:11 เรจรอมันมีแค่ 10% แต่มันอยู่ในผนังหล่อ
01:59:11 → 01:59:15 เลือดแล้วแล้วมันออกไม่ได้อ่าๆๆ
01:59:15 → 01:59:19 ๆแต่คนก็ไม่เข้าใจขบวนการนี้ไงเก็ไปคิด
01:59:19 → 01:59:21 ว่าพอมันลอยๆอยู่แล้วเดี๋ยวมันก็มีอะไรมา
01:59:21 → 01:59:24 ออกเชัแล้วมันก็เลยเป็นอ่าแล้วก็เจาะเลือ
01:59:25 → 01:59:27 จริงๆมันไปแปลงล่างอยู่ในผนังหลอดเลือด
01:59:27 → 01:59:29 เออ
01:59:29 → 01:59:33 อ่าแล้วโชคที่ที่เจอเยอะๆนั่นคือมันหลุด
01:59:33 → 01:59:37 ออกมาได้นคือโชคดีที่มันหลุดออกมาเออ
01:59:37 → 01:59:41 อ๋อกับทิศกลับทางกันเลยนะพี่หมการที่มัน
01:59:41 → 01:59:44 หลุดออกมาเนี่ยมันก็คล้ายๆกับตัว hdl อ่ะ
01:59:44 → 01:59:48 ที่มันซานไตโตสิเข้าไปแล้วมันก็มันก็หลุด
01:59:48 → 01:59:51 ออกมาเพราะว่ามันเหมือนมีแรงดึงดูดเรียก
01:59:51 → 01:59:53 กลับอะไรอย่าเงี้ย
01:59:53 → 01:59:58 ครับเออก็เช่นเดียวกันเค้าเรียกว่าเอ๊
01:59:58 → 02:00:01 เค้าเรียกว่ามันเป็นอะไรเกมนะเค้าเรียก
02:00:01 → 02:00:03 ว่ามัน
02:00:03 → 02:00:07 เป็นมันเป็นเกมอย่างนึงอ่ะนะที่มันเข้า
02:00:07 → 02:00:11 แล้วมันจะกี่เปอร์เซ็นต์ที่มันจะเ่อออกมา
02:00:11 → 02:00:15 ได้นะหรือว่าออกไม่ได้อะไรอย่างเงี้ยนะ
02:00:16 → 02:00:19 อะไรเกมก็ไม่รู้อเค้าเรียกว่าอะไรเกมเป็น
02:00:19 → 02:00:22 เป็นเกมอะไรซักอย่างนึงนี่แหละฮะนะเป็น
02:00:22 → 02:00:27 ครับนะแต่ตัวที่มันเกิดเรื่องเกิดราวก็
02:00:27 → 02:00:30 คือตัวที่มันออกมาไม่ได้แล้วมันถูกจับไว้
02:00:30 → 02:00:36 แล้วมันเแปงอ่ามีไม่เกิน 10% นะของปริมาณ
02:00:36 → 02:00:40 ldl ทั้งหมดที่ plma Resident Time ทำ
02:00:40 → 02:00:41 ให้รอยรำเรือ
02:00:41 → 02:00:43 อยู่
02:00:43 → 02:00:49 อืเพราะฉะนั้น ldl particle ยิ่งเยอะตัว
02:00:49 → 02:00:52 10% เหล่าเนี้ยมันก็จะเยอะๆๆเยอะๆนะแต่
02:00:52 → 02:00:56 มันก็อยู่ในช่วง 10% แต่มันเป็น 10% ที่ L
02:00:56 → 02:00:59 particle มันเยอะแล้วมันก็ออกมาไม่
02:00:59 → 02:01:06 ได้อืแล้วก็ถูกจับอยู่ในนั้นเออขังไว้
02:01:06 → 02:01:09 แล้วก็โดนไม่ด้วขา
02:01:09 → 02:01:15 งาครับมีถามมาจากหน้าเพจครับพี่หมออือ
02:01:15 → 02:01:19 เป็นไฮเปอร์ไทรรอยด์ครับอ่าคุณหมอแนะนำ
02:01:19 → 02:01:23 ให้กลืนกลืนแรกเนี่ยอันนี้ควรทำยังไงต่อ
02:01:23 → 02:01:27 ดีคะทำแล้วใช่มยอันนี้ไม่แน่ใจของคุณ
02:01:27 → 02:01:32 จารุวรครับเหรอเอ่อคทำยังไงดีคะทำก็ไม่
02:01:32 → 02:01:38 เป็นไรทำแล้วก็ลองไปตรวจเรซิลว่ามันมี
02:01:38 → 02:01:41 ความเสียหายของของไทรรอยด์
02:01:41 → 02:01:44 100% เป็นเลยมั้ยถ้า 100% ไปเลยแล้ว
02:01:44 → 02:01:47 เนี่ยก็ต้องกินฮอร์โมนไทรอยด์สังเคราะห์อ
02:01:47 → 02:01:49 ประคับประคอง
02:01:49 → 02:01:54 ไปนะอ๋อเพราะคืนแรกนี่คือไทลอยมันจะพัง
02:01:54 → 02:01:56 เลยใช่มครับพังหมดเลยส่วนใหญ่แต่ว่า
02:01:56 → 02:01:59 ปัจจุบันเนี่ยความเข้มข้นหรือปริมาณที่
02:01:59 → 02:02:02 ให้กลืนเนี่ยเขาก็จะมีเป้าแหละว่าให้กลืน
02:02:02 → 02:02:05 แล้วให้มันเหลือ resid เหลือเหลือที่ยัง
02:02:05 → 02:02:08 พอทำงานได้เท่าไหร่แต่ส่วนใหญ่เนี่ยถ้า
02:02:08 → 02:02:11 มันเป็นทิศรุนแรงก็มักจะทำลายหมดแะถ้าคุณ
02:02:11 → 02:02:15 ไม่ผ่าแต่บางทีผ่ามันก็เอาออกไม่หมดนะนะ
02:02:15 → 02:02:18 เพราะฉะนั้นการคืนแร่ iod 131 เนี่ยเลย
02:02:19 → 02:02:22 มันเป็นอะไรที่เป็นเรียกว่ายาพุ่งเป้าเออ
02:02:22 → 02:02:28 อืเอเป็น target treatment ที่แบบเมันก็
02:02:28 → 02:02:31 ถูกทำลายหมด 100% คุณก็มากินไทรรอยด์ส
02:02:31 → 02:02:35 เคราะห์ช่วยเอาไปเราพยายามปฏิบัติตัวนะใน
02:02:35 → 02:02:40 การเค้าเรียกว่าดูแลต่อมไทรรอยด์ให้ดีๆ
02:02:40 → 02:02:44 ครับแล้วถ้ายังไม่กลืนล่ะครับพี่หมออื
02:02:44 → 02:02:47 เพราะว่ายังไม่ได้บอกว่ากลืนไม่กลืนพูด
02:02:47 → 02:02:50 ยากมันต้องแบบเเรียก app ส่วนตัวในราย
02:02:50 → 02:02:52 ละเอียดเป็นมานานเท่าไหร่แล้วเป็นพิษ
02:02:52 → 02:02:57 รุนแรงมยมีการเอ่อมีระดับความเป็นพิษถึง
02:02:57 → 02:03:01 ขั้นไหนมีหัวใจเต้นผิดจังหวะมีร่างกาย
02:03:01 → 02:03:04 เปลี่ยนแปลงระบบเผาผลาอะไรต่างๆแย่ลงหรือ
02:03:04 → 02:03:08 ว่าไปจนกระทั่งถึงการทำให้เกิดปัญหาทาง
02:03:08 → 02:03:12 ด้านไซคิ prop เเจิตใจอารมณ์เปลี่ยนไปหมด
02:03:12 → 02:03:15 เลยเพราะเราไม่รู้รายละเอียดพวกนี้เลยรู้
02:03:15 → 02:03:18 รายละเอียดนะ
02:03:18 → 02:03:21 อืคนค Seal opinion มั้ยครับพี่หมอหรือ
02:03:21 → 02:03:26 ว่าไม่ๆนะนะเพราะว่าถึงขนาดนี้แล้วแล้วก็
02:03:26 → 02:03:29 วางแผนที่จะคืนร่งคืนแร่แล้วเนี่ยหมอคงจะ
02:03:29 → 02:03:32 ดูหรือว่าเกิดการ Conference หรือเป็น
02:03:32 → 02:03:37 เป็นเคสอะไรที่เิเอเ discus กันแล้วล่ะอื
02:03:38 → 02:03:42 ว่ามันควรแล้วล่ะอืไม่ๆเราให้ความเห็นยาก
02:03:42 → 02:03:45 หรอกเพราะว่าในกรณีแบบเนี้ยมันมันพูดยาก
02:03:45 → 02:03:51 ครับเออต้องรักษาตามตามไกด์ไลน์ไปก่อนเพะ
02:03:51 → 02:03:54 ถ้ามันถ้ามันมีอาการแล้วยังไงก็ต้องรักษา
02:03:54 → 02:03:57 ไปก่อนแล้วค่อยมาฟื้นฟูส่วนอื่นที่หลังเอ
02:03:58 → 02:04:01 เออป่วยเป็นโรคก็รักษาโรคเบื้องต้นให้ดีๆ
02:04:01 → 02:04:05 ก่อนนะคือเคสพวกนี้มันเกิดจากอการเป็นซับ
02:04:05 → 02:04:08 clinical แบบแบบเนื้อรังจนมันพังอย่าง
02:04:08 → 02:04:12 งี้หรือเปล่าพี่หมอว่ามีส่วนมีส่วนนะหรือ
02:04:12 → 02:04:16 บางครั้งเนี่ยมัน Cut Off ในการของเ่อ
02:04:16 → 02:04:19 diagnosis ออกมาเลยนะก็คือมันมันมันถึง
02:04:19 → 02:04:22 จุดที่มันเสียเสียสภาพเสียเสียสมดุลหมด
02:04:22 → 02:04:26 เลยมันก็ป่วยเลยพิษก็หัวพุ่งไปเยอะแยะเลย
02:04:26 → 02:04:29 แล้วก็มันเกิดการเปลี่ยนแปลงของอาการและ
02:04:29 → 02:04:33 การแสดงจนกระทั่งโอ้โหคนไข้คนไข้ก็แย่เลย
02:04:34 → 02:04:39 ล่ะนะคนเกิดภาวะไทรรอย Storm นะโอสตออีก
02:04:39 → 02:04:44 อ่าอันนี้ต้อง admit ICU ต้องโอ้โหเอ่อ
02:04:44 → 02:04:46 ต้องให้ยาเยอะแยะไปหมด
02:04:47 → 02:04:50 อืเล่นต่อมไร้ท่อเนี่ยมันค่อนข้างจะ
02:04:50 → 02:04:53 กระจายเนื้อลัง
02:04:53 → 02:04:56 นะรู้สึกมีปัญหาไทรรอยด์กันหลายคนนะพี่
02:04:56 → 02:04:58 หมอเยอะเยเหมือนกันเออถ้าเป็นกลุ่ม
02:04:58 → 02:05:01 ไทรรอยด์มันก็อย่างงี้แหละมันก็มันก็จะมา
02:05:01 → 02:05:03 กันปรืดไปหมด
02:05:03 → 02:05:06 เลยอืเอาไว้เดี๋ยวคราวหน้าเราคุยราย
02:05:07 → 02:05:09 ละเอียดเยอะเยอะเลยเรื่องไทรรอยด์อ่ะนะ
02:05:09 → 02:05:10 เราจะเข้า
02:05:10 → 02:05:13 ใจยไทรอยด์เนี่ยจะเกี่ยวกับลำไส้อที่ผ่าน
02:05:14 → 02:05:16 มายังไม่เยอะอีกเหรอพี่หมอยังไม่เยอะนะ
02:05:16 → 02:05:20 ยังไม่เยอะโอโหในรอยยูริคเนี่ยยังไม่เยอะ
02:05:20 → 02:05:23 นะยังมีเยอะๆเลยเยอะๆ
02:05:23 → 02:05:27 เลยผมจำได้มันหลายตอนมากเลยนะไทรรอยเนี่ย
02:05:27 → 02:05:30 ต้องให้พี่ไพโรจพไพโรจเกินแกจะชำนาญ
02:05:30 → 02:05:32 เรื่องไทรอยดมาก
02:05:32 → 02:05:38 กว่าผมนี่พอเจอไทรอยดปั๊บนี่มหาพี่ไพโร
02:05:38 → 02:05:41 ก่อนเลยแล้วมันกระจุ๊กกระจิ๊กไปหมดเลยล่ะ
02:05:41 → 02:05:44 ใช่ๆๆมันมันแบบมันกระจุ๊กกระจิ๊กเยอะแยะ
02:05:44 → 02:05:47 ไปหมดเลยอ่ะสาาสารอาหารจะไปฟื้นฟูอะไรผม
02:05:47 → 02:05:51 ก็จำสลัดมันงั่วโซ่ไปหมดเลยเออดีหน่อยมัน
02:05:51 → 02:05:54 ไม่ได้เกิดในผู้ชายไงเพราะผู้ชายส่วนใหญ่
02:05:54 → 02:06:01 คใจนักครับโลกในผู้หญิง
02:06:01 → 02:06:06 เอออ้ามามาถามว่าคุณหมอออกตัวที่ไหน
02:06:06 → 02:06:11 โอโหเออไม่คซกันหน้าเพจนะไอ้ในห้องถามตอบ
02:06:11 → 02:06:17 อะไรงงี้แหละเอออืนี้ทำแก้เหงาครับจะจะ
02:06:17 → 02:06:21 อะไรนะจะพักละ
02:06:21 → 02:06:25 เมีเรื่องอะไรอีกเรื่องแล้วก็มีเรื่อง
02:06:25 → 02:06:27 อาหารนะครับพี่หมอที่พี่หมอบอกว่าเรื่อง
02:06:27 → 02:06:31 อาหารที่จะคุยเนี่ยนะฮะใช่
02:06:31 → 02:06:35 เอ่อคืออย่างงี้อาหารในแนวทางของ low C
02:06:35 → 02:06:37 High Good Fat เนี่ยแล้วที่เราให้กิน
02:06:37 → 02:06:41 ให้ถูกต้องใน 1 วันรวมทั้งมื้อแรกมื้อ
02:06:41 → 02:06:44 หลังกินยังไงนะระหว่างมื้อกินยังไงเพราะ
02:06:44 → 02:06:46 อะไรนะ
02:06:46 → 02:06:52 เอ่อถ้าสมมุติเราเป็นคนปกตินะปกตินะ
02:06:52 → 02:06:56 หรือหรือไม่ได้มีภาวะสุ่มเสี่ยงอะไรยังไง
02:06:56 → 02:06:58 อะไรอย่างเงี้ยนะอันนี้อันนี้มันแล้วแต่
02:06:58 → 02:07:02 นะมันแล้วแต่คนที่ว่าว่าจะกินไม่กินจะกิน
02:07:02 → 02:07:04 นิดๆหน่อยๆจะกินบ้างไม่กินบ้างจะอะไรอย่า
02:07:04 → 02:07:07 เงี้ยอันนี้มันแล้วแต่นะฮะเพราะยังไงเรา
02:07:07 → 02:07:11 ก็ปกติจะกินลองๆดูอะไรต่างๆนะแต่ถ้าเรา
02:07:11 → 02:07:14 ปกติเนี่ยนะจะเป็นอาหารแนวไหนก็ตามเนี่ย
02:07:14 → 02:07:18 มันก็มันก็ไม่ได้ไปเปลี่ยนอะไรในความเป็น
02:07:18 → 02:07:21 ปกติของเราหรอกนะฮะนะอ่าสมมุติว่าคุณปกติ
02:07:21 → 02:07:24 ปิไม่ได้เป็นไรรอย่าเงี้ยนะบความดังแกมัน
02:07:24 → 02:07:28 หัวใจ ncd อะไรไม่ได้เป็นนะอ่าอาจจะน้ำ
02:07:28 → 02:07:31 หนักอลิหรืออะไรนิดๆหน่อยๆตวเลือดตแหบมา
02:07:31 → 02:07:35 อะไรก็ดีแล้วก็คุณจะกินแบบ 5 หมู่แล้วก็
02:07:35 → 02:07:38 คุณก็มี activity มีไสลคุณพอดีพอดีเลย
02:07:38 → 02:07:41 เงี้ยคุณจะได้ปกติไงหรือคุณจะลองมา
02:07:41 → 02:07:44 เปลี่ยน low C CD kcd low C High
02:07:44 → 02:07:48 Fat teil เ่อกีโตอะไรอย่างเงี้ยนะนะไอ้
02:07:48 → 02:07:52 ไอสภาวะความเป็นปกติของคุณเนี่ยมันก็ไม่
02:07:52 → 02:07:55 ได้คือมันก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรกับอาหารที่
02:07:55 → 02:07:58 คุณจะเปลี่ยนไปนักหลอกเพราะว่าอาหารเนี่ย
02:07:58 → 02:08:02 นะเอ่อที่เขาคิดมาว่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้
02:08:02 → 02:08:05 อะไรต่างๆเนี่ยมันก็เป็นสิ่งที่ดีหมดแหละ
02:08:05 → 02:08:07 นะเพราะฉะนั้นเราปกติแล้วเนี่ยจะไปกินแบบ
02:08:07 → 02:08:09 ไหนต่างๆมันจะไม่ได้มาเปลี่ยนความเป็น
02:08:09 → 02:08:13 ปกติของอะไรของเรามากมายนะฮะนะไม่ใช่ว่า
02:08:13 → 02:08:16 เราปกติแล้วอยู่ดีๆเราไปกินซีดีแล้วตัด
02:08:16 → 02:08:19 พืชออกแล้วมันจะเป็นนู่นเป็นนี่กลายเป็น
02:08:19 → 02:08:21 โรคกลายเป็นคืออาหารไม่ได้ไปตัวมาสร้าง
02:08:22 → 02:08:25 โลกนะฮะหมายถึงว่าอาหารในแนวทางที่เเผย
02:08:25 → 02:08:28 แพร่กันทั่วๆไปอ่ะจะเป็นคาฟต่ำหรือจะเป็น
02:08:28 → 02:08:32 เอ่อวนเป็นอะไรก็ตามนะฮะนะเป็นแนเบสเป็น
02:08:32 → 02:08:36 อะไรต่างๆนะคนปกติอ่ะไปไปทดลองไปทดสอบได้
02:08:36 → 02:08:39 หมดแหละฮะนะมันจะไม่เกิดความแตกต่างอะไร
02:08:39 → 02:08:42 อย่างจนกระทั่งกลายเป็นโรคเออไม่ใช่อยู่
02:08:42 → 02:08:47 ดีๆกินอะไรนะกินแพนเบเอ้ยกินแพนเบสมาแล้ว
02:08:47 → 02:08:51 พอมากินซีดีแบบหักดิบแล้วจะป่วยเป็นโรคห
02:08:51 → 02:08:54 หัวใจอะไรอย่างี้เหรออ่าหรือว่าอ่ากิน
02:08:54 → 02:08:58 ซีดีมาแล้วอยู่ดีๆจะไปกินแพ้นบ่งแพ้นเบส
02:08:58 → 02:09:00 อ่าแล้วจะกลายเป็นบวาเี้ยมันก็ไม่ใช่นะ
02:09:00 → 02:09:04 ถ้ามันปกตินะถ้ามันปกติไม่เป็นนะแต่ถ้า
02:09:04 → 02:09:09 เราป่วยเอออันนี้อีกแบบนึงต้องพิจารณานะ
02:09:09 → 02:09:14 ต้องพิจารณาว่าถ้าอยากจะกินก็กินได้ฮะกิน
02:09:14 → 02:09:18 แล้วนะมันตอบโจทย์หรือว่ามันจะลดลาวาสอก
02:09:18 → 02:09:22 ความเจ็บความป่วยนะตัดยาลดยาออกอยาได้ใช่
02:09:22 → 02:09:27 มั้ยหรือเปล่านะแล้วก็ต้องมีการประเมิน
02:09:27 → 02:09:30 เป็นระยะๆะแล้วก็เหนืออื่นใดก็คือองค์
02:09:30 → 02:09:34 ความรู้สำคัญอยู่ไปอยู่ไปอยู่ไปเนี่ยนะ
02:09:34 → 02:09:38 นอกจากทำทำๆปฏิบัติจะตามใครอะไรยังไงก็
02:09:38 → 02:09:41 ตามนะในที่สุดต้องมีองค์ความรู้ที่เรา
02:09:41 → 02:09:43 ต้องรู้ให้มากที่สุดเพื่อเป็นประโยชน์กับ
02:09:43 → 02:09:47 ตัวเราเองแล้วในระยะยาวเพอได้ต่างๆเนี่ย
02:09:47 → 02:09:49 เราต้องอยู่กับเขาและเราต้องมีการ
02:09:49 → 02:09:52 ประยุกต์เปลี่ยนแปลงโรตเนี่ยให้เข้ากับ
02:09:52 → 02:09:55 ตัวเราหรือให้เข้ากับสถานการณ์สิ่งแวด
02:09:55 → 02:09:59 ล้อมชีวิตความเป็นอยู่ของเราอันนี้อยากจะ
02:09:59 → 02:10:04 ให้เข้าใจนะครับนมันก็จะมีตัวอย่างที่ว่า
02:10:04 → 02:10:08 สมมุติว่าเรามีการกินโ C High Fat Oil
02:10:08 → 02:10:12 ะนะอ่าแล้วเราลองเเรียกว่า Rate หรือ
02:10:12 → 02:10:16 circulate ไปเปลี่ยนเป็นเอาไม่กิน TE
02:10:16 → 02:10:20 ออยแต่จะไปไปนับแบบทุกอย่างที่มันเป็นเร
02:10:20 → 02:10:25 Food น่ะแล้วมาจัดอด้วย AI ฮะนะจัดว่า
02:10:25 → 02:10:30 เออเนี่ยจะได้อ่าไขมัน 60% ได้คาฟ 20%
02:10:30 → 02:10:34 ได้แฟตเอ้ยได้โปรตีน 25% อะไรอย่างเงี้ย
02:10:34 → 02:10:41 นะเทำได้ไหมก็ทำได้ก็ทำได้นะฮะเนี่ย
02:10:41 → 02:10:44 อันเนี้ยก็ทำได้แต่
02:10:44 → 02:10:49 ว่าแต่ว่าก็ต้องระวังระวังนะบางครั้งบาง
02:10:49 → 02:10:52 ครั้งเนี่ยมันจะมีปัญญหาเรื่องตัวที่
02:10:52 → 02:10:57 สำคัญคือตัวเลปตินกับไทรอยนะเพราะเวลาเรา
02:10:57 → 02:11:01 เปลี่ยนอ่าโดยเฉพาะการเปลี่ยน lo C High
02:11:01 → 02:11:03 Fat Oil แล้วมาเป็น Real Food โดย
02:11:03 → 02:11:07 เฉพาะในมื้อแรกนะนะต้องระวังเรื่องไรอย
02:11:07 → 02:11:09 กับ
02:11:09 → 02:11:14 เลปตินเพราะว่าเรากินทอยอยู่เนี่ยนะมันจะ
02:11:14 → 02:11:18 เป็นเพ Energy นะแล้วเพ Energy เนี่ย
02:11:18 → 02:11:21 เมื่อมาเข้ากับเอ่อโปรตีนไขมันสูงโปรตีน
02:11:21 → 02:11:24 ไขมันปานกลางปุ๊บเนี่ยิเดะที่เขาจะ
02:11:24 → 02:11:28 กระตุ้นเลปตินเนี่ยเยอะฮะเยอะแล้วประกอบ
02:11:28 → 02:11:29 กับด้วย
02:11:30 → 02:11:33 เอ่อ low เอ้ย very low อ่ะ very low
02:11:33 → 02:11:37 Car นะแล้วก็อินซูลินถูกกดค่อนข้างต่ำเ
02:11:37 → 02:11:41 นะตัวเลปตินเนี่ยเยิ่งทำงานแบบดี๊ดีนะ
02:11:41 → 02:11:46 เพราะฉะนั้นหลายคนกินแล้วทำไมอิบยาวไปนะ
02:11:46 → 02:11:50 เนี่ยที่บอกนะนี่แหละนะก็ต้องระวังตัว
02:11:50 → 02:11:54 เล็บติกับไทรอยนะเพราะ 2 ตัวนี้เนี่ยทั้ง
02:11:54 → 02:12:00 กลางวันกลางคืนนะเขมาเพื่อเผาผันพลังงาน
02:12:00 → 02:12:04 นะเพราะว่าถ้าการเป็นเร Food เนี่ยเร Food
02:12:04 → 02:12:10 นะอ่าที่มันไม่ใช่เป็นเพียวเพียวออยนะฮะ
02:12:10 → 02:12:13 เพราะฉะนั้นพวกเนี้ยบางครั้งเนี่ยการเกิน
02:12:13 → 02:12:18 เลยของโปรตีนกับคาฟที่ปะปนมาในเรฟเนี่ยนะ
02:12:18 → 02:12:22 มันก็จะมีโอกาสที่จะไปกระตุ้นฮอร์โมน
02:12:22 → 02:12:24 คือทุกอย่าง AI คำนวณได้หมดใช่มล่ะนะคุณ
02:12:24 → 02:12:27 ก็ตั้งเลยพลังงานเนี่ยเอาเท่าไหร่เอา
02:12:27 → 02:12:31 2,000 นะแล้วก็มาแจงเลยนะอ่ามาแจงต่อไป
02:12:31 → 02:12:34 เป็นจำนวนกรมของสารอาหารว่าจะกินน้ำมัน
02:12:34 → 02:12:37 เอ้ยจะกินไขมันจากหมูเท่าไหร่จากปลาเท่า
02:12:37 → 02:12:43 ไหร่จะกินผักเท่าไหร่จะกินเอ่อเ่อคาฟเทิม
02:12:43 → 02:12:47 ซ้อนเท่าไหร่สมมติคุณก็ได้หมดแหละนะฮะแต่
02:12:47 → 02:12:50 หลังจากไปเนี่ยมันต้องไปลงเอยที่
02:12:50 → 02:12:53 ฮอร์โมนนะเพราะฉะนั้นเนี่ยในวันนั้นเนี่ย
02:12:53 → 02:12:56 ฮอร์โมนที่จะตอบสนองทั้งกลางวันกลางคืน
02:12:56 → 02:12:59 เนี่ยโปรตีนเป็นยังไงเอ้ยไออินซูลินเป็น
02:12:59 → 02:13:01 ยังไงคอร์ติซอลเป็นยังไงเลปตินเป็นยังไง
02:13:01 → 02:13:04 ไทรอยด์เป็นยังไงนะแล้วก็กลูคากอนโส
02:13:04 → 02:13:07 ฮอร์โมนต่างๆเป็นังไงซึ่งอันนี้ AI วัด
02:13:07 → 02:13:11 ไม่ได้นะหรือแม้แต่ในชีวิตจริงเนี่ยเราก็
02:13:11 → 02:13:14 ไม่สามารถจะไปเจาะตรวจเลือดตรวจเทสทาง
02:13:14 → 02:13:15 ด้าน
02:13:15 → 02:13:19 ฮอร์โมนคือเวลาเราจะไปต่อนะฮะเราจะเริ่ม
02:13:19 → 02:13:22 จากพลังงานที่เป็นเป็นแคลอรี่แล้วเราจะมา
02:13:22 → 02:13:27 ลงเอยที่จำนวนกรัมของสารอาหารในรูปของการ
02:13:27 → 02:13:31 เป็นเน็ตเน็ตคาเน็ตโปรตีนแล้วก็เน็ต Fat
02:13:31 → 02:13:33 แล้วก็เทียบออกมาเป็นจำนวนกรัมที่เป็นสาร
02:13:33 → 02:13:36 อาหารว่าต้องกินเท่าไหร่แล้วเอามาทำกินใน
02:13:36 → 02:13:40 1 วันนะแล้วหลังจากนั้นเนี่ยเราก็ต้องไป
02:13:40 → 02:13:43 ต่อที่ฮอร์โมนว่าแล้วมันมีอะไรฮอร์โมนออก
02:13:43 → 02:13:47 มาซึ่งตรงเนี้ยยังไม่มีใครทำได้นะทั้งใน
02:13:47 → 02:13:51 แง่งานวิจัยหรือว่าในแง่ของ AI
02:13:51 → 02:13:54 คุณกินหมด 1 มื้อในวันเนี้ยแล้วคุณตอบได้
02:13:54 → 02:13:57 มว่าอินซูรินหลังเท่าไหร่อ่ากลอนหลังเท่า
02:13:57 → 02:14:02 ไหร่อ่าเรตินไทรอยหลังเท่าไหร่เพราะ
02:14:02 → 02:14:05 ฉะนั้นเวลาสต็ปไปเรื่อยๆมันต้องอย่างงนี้
02:14:05 → 02:14:09 แต่คนทำผิดคือผิดยังไงฮะนะคือไปคำนวณออก
02:14:09 → 02:14:12 มาแล้วแล้วสุดท้ายไปคำนวณว่าได้แคลอรี่
02:14:12 → 02:14:15 เท่าไหร่แล้วเป็นแฟตเท่าไหร่เป็นคาฟเท่า
02:14:15 → 02:14:18 ไหร่เป็นโปรตีนเท่าไหร่อันนี้มันก็เหมือน
02:14:18 → 02:14:22 ย้อนกลับไปที่เริ่มต้นนแหละแะนะแล้วก็จะ
02:14:22 → 02:14:24 กลายเป็นแค in แ
02:14:24 → 02:14:29 Out อืๆไม่ใช่เราต้องไปดูที่ฮอร์โมนต้อง
02:14:29 → 02:14:31 ไปจบที่ฮอร์โมนต้องไปจบที่ฮอร์โมนไม่ใช่
02:14:31 → 02:14:34 เพราะว่าอาหารกระตุ้นฮอร์โมนใช่นะเพราะ
02:14:34 → 02:14:36 สเต็ปต่อไปของอาหารเมื่อเข้าร่างกายแล้ว
02:14:36 → 02:14:40 เนี่ยเกระตุ้นฮอร์โมนอะไรออกมายังไงและ
02:14:40 → 02:14:44 ฮอร์โมนไปกระตุ้นระบบประสา
02:14:44 → 02:14:49 ตนนะซึ่งก็วัดไม่ได้อีแหละโดยเฉพาะสำคัญ
02:14:49 → 02:14:52 คือตัวแม่ถ้ากินโปรตีนผิดปั๊บนี่ตัวแม่มา
02:14:52 → 02:14:55 เลยเออตัวแม่มาก็ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนแปลง
02:14:55 → 02:14:59 ไปหมดเหมือนเปลี่ยนทีมบริหารอืคือสิ่ง
02:14:59 → 02:15:03 ต่างๆที่ทำแบบเนี้ยนะเอ่อถ้าเราเป็นคน
02:15:03 → 02:15:07 ปกติอ่ะเราทำได้หมดแหละนะเราจะใช้เ่อ
02:15:07 → 02:15:12 เบื่อแลไม่อยากกินทีออยะนะเออจะไปกินเรว
02:15:12 → 02:15:15 Food และอะไรและนะหรือวันนี้ทออย 2 วัน
02:15:15 → 02:15:18 เร Food 5 วันอะไรอย่างเงี้ยนะเอ้ยเร
02:15:18 → 02:15:20 Food 3 วันแล้วก็มีไอ้ cheating C
02:15:20 → 02:15:24 ด้วยด้วย 2 วันอะไรเงี้นะถ้าอันนี้หมาย
02:15:24 → 02:15:27 ถึงว่ามัน emission แล้ว Recover แล้ว
02:15:27 → 02:15:31 Normal ปติแล้วเออทำได้หมดนะแล้วร่างกาย
02:15:32 → 02:15:35 ก็จะไม่เปลี่ยนอะไรนักหรอกนะนิดๆหน่อยๆ
02:15:35 → 02:15:42 แต่ถ้าเกิดไม่ปกติแล้วมาทำตามเขาเนี่ย
02:15:42 → 02:15:46 ระวังระวังแล้วก็สุดท้ายขอให้กลับไปดูที่
02:15:46 → 02:15:49 ว่าการตอบสนองฮอร์โมนกับระบบอสาอัตโนมัติ
02:15:49 → 02:15:54 นะถ้ามันไม่ใช่มันไม่ได้มันกลับมาหิวมัน
02:15:54 → 02:15:59 ไม่อยู่ท้องมันเริ่มความดันขึ้นเจาะเลือด
02:15:59 → 02:16:02 แล้วอ่ามีการสวิงอย่างโงนอย่างงี้อะไร
02:16:02 → 02:16:06 อย่างเงี้ยอันนี้ก็ต้องไม่ได้ไม่ใช่ครับ
02:16:07 → 02:16:10 ไอ้พูดถึงเรื่องหลุดนี่นะพี่หมอเออองมัน
02:16:10 → 02:16:15 ได้หลุดนี่นะ
02:16:15 → 02:16:19 แหมันมันกุกับยากเหมือนกันนะพี่หมอีิ
02:16:19 → 02:16:22 eatting ใช่แล้วอาหารเดี๋ยวนี้มันแบบมัน
02:16:22 → 02:16:26 อร่อยอ่ะเออมันจะอร่อยเออมันแบบกินแล้ว
02:16:26 → 02:16:30 แบบว่าอีกนิดหน้าอีกนิดหน้าตลอดเลย
02:16:30 → 02:16:36 อ่ะต้องต้องนึงตัว
02:16:36 → 02:16:40 นะก็อย่างงี้แหละไม่มีอะไรก็มันก็เป็นยุค
02:16:41 → 02:16:44 สมัยฮะเป็นยุคสมัยก็ต้องเหมือนต้องปรับ
02:16:44 → 02:16:46 ตามยุค
02:16:46 → 02:16:50 สมัยสมัยก่อนมันหากินยากพี่หมอแบบเนี้ย
02:16:50 → 02:16:54 ใช่มันเป็นการบังคับนะให้อดๆอยากๆนะแต่ตน
02:16:54 → 02:16:58 นี้ไม่มานั่งพูดว่าอดอดอยากๆพูดแล้วจะถูก
02:16:59 → 02:17:00 ขี้หน้าด่า
02:17:00 → 02:17:04 ใส่เด็นะนี่พี่พี่โอ๊ตเาหาพวกแล้วเถามว่า
02:17:04 → 02:17:07 แอดทักหุดบ้างมย
02:17:07 → 02:17:10 คะหลุดน่ะมีมีไม่ต้องกลัว
02:17:10 → 02:17:16 หรอกแต่ต้องมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมที่จะที่
02:17:16 → 02:17:20 จะกลับมานะโดนโดนทั้งคู่เลยนะเนี่ยคำถามเ
02:17:20 → 02:17:24 ก็การหลุดเนี่ยก็ดู 2 เรื่องว่าอินซูลิน
02:17:24 → 02:17:28 นะมาเยอะหรือคอร์ติซอลมาเยอะคอร์ติซอลมา
02:17:28 → 02:17:32 เยอะก็นอนไม่หลับอินซูลินมาเยอะดูอะไรอ่ะ
02:17:32 → 02:17:37 นะก็ดูง่วงหลังมื้ออาหาร
02:17:37 → 02:17:41 นะง่วงฮะง่วงหลังมื้ออาหารโดยเฉพาะในช่วง
02:17:41 → 02:17:44 หลังมื้ออาหาร 1-2 ช่วโมง
02:17:44 → 02:17:50 นะนะพวกนี้อินซูลินมันสวิงมันพุ่งนะครับ
02:17:50 → 02:17:53 ร่างกายต้องปิดสวิตช์สมองต้องช่วยโดยการ
02:17:53 → 02:17:56 น็อคหลับไป
02:17:56 → 02:18:01 นะแต่ถ้าเกิดเอ่อถ้าเกิดคอร์ติซอลมาก็
02:18:01 → 02:18:05 ตื่นกลางคืนก็ตื่นอ่าหรือตื่น 1 2:00 น
02:18:05 → 02:18:08 ชีบอยอะไรสังเกตการนอนได้เลยถ้าลุกขึ้นมา
02:18:09 → 02:18:12 ฉี่เมื่อไหร่เรียบร้อยเอออินซูลินเขมา
02:18:12 → 02:18:16 เพื่อให้หลับอิซอมาเพื่อให้ตื่นเออการ
02:18:16 → 02:18:19 หลุดก็จะขึ้นอยู่กับตัวพ่อตัวแม่นี่แหละ
02:18:19 → 02:18:22 เอครับ
02:18:22 → 02:18:26 มีมผมผมจะหลุดเป็นบางมื้อครับบางมื้อเ่น
02:18:26 → 02:18:30 แต่ส่วนมาจะเป็นมื้อเย็นอแต่มื้อแรกนี่
02:18:30 → 02:18:32 ถ้าจะไม่หลุดเลยยกเว้นแต่ว่าไปไปเที่ยว
02:18:32 → 02:18:35 กับครอบครัวที่ที่เอาออยไปกินไม่ได้อะไร
02:18:35 → 02:18:37 อย่าเงี้ย
02:18:37 → 02:18:42 ครับแล้วก็ร่างกายก็มีสูตร 80 20 นะอือๆ
02:18:43 → 02:18:47 ผมใช้คนปกติคนปกติต้องเน้นนะแต่ถ้าคุณไม่
02:18:47 → 02:18:51 ปกติคุณจะไปใช้สูตร 802 นี่คุณก็จะนะฮะ
02:18:51 → 02:18:56 ไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้ใช้สูตร 90 10 95
02:18:56 → 02:19:01 หรือ 99 1 อะไรอย่างเงี้ย 99.99 ไป
02:19:01 → 02:19:05 เลยก็ต้องเข้าใจบริบทของร่างกายหรือเ
02:19:05 → 02:19:09 เรียกนี่แหละนะคือคือเขาต้องรู้รู้ไอ้คำ
02:19:09 → 02:19:12 ว่าเลขยกกำลังอ่ะพังแบบเลขยกกำลังอ่ะพี่
02:19:12 → 02:19:16 หอเออเออคือคือคุณไม่ใช่แบบคุณกินไปนิด
02:19:16 → 02:19:18 นึงอ่ะแต่ว่ามันไม่ได้พังแค่ 10 นะมันพัง
02:19:19 → 02:19:23 เป็นเลขยกกำลังเอืถ้ารู้ตรงนี้คก็จะจะ
02:19:23 → 02:19:29 ตระหนักแล้วว่าอืมันต้องเป๊ะพอสมควร
02:19:29 → 02:19:33 เอแต่ที่ี่หมอบอกให้สังเกตไอนี่ไง vis
02:19:33 → 02:19:37 สังเกตมวลไขมันอะไรอย่างเงี้ยถ้ามันเพิ่ม
02:19:37 → 02:19:41 เมื่อไหร่ก็เรียบร้อยก็คือจุดสะท้อนอย่าง
02:19:41 → 02:19:55 นึงของคิอก็คือนี่แหละ viser แ
02:19:55 → 02:20:01 อืครับผมก็ตคือนะวันนี้น่ะวันเนี้ยพยายาม
02:20:01 → 02:20:07 ดูดูจุดนึงอ่ะที่เป็นจุดจุดเพ่งเล็งพอสม
02:20:07 → 02:20:11 ควรนะก็คือคือการทำงานของไทรรอยด์กับ
02:20:11 → 02:20:13 เลปตินเี่เพราะว่า 2 ฮอร์โมนเเป็นฮอร์โมน
02:20:13 → 02:20:18 เผ่าผลาพลังงานแต่ timing ต่างๆนะฮะที่ก็
02:20:18 → 02:20:21 จะออกมาหรือเงื่อนไขเงื่อนไขความเป็นตัว
02:20:21 → 02:20:24 เขาอ่ะนะที่จะทำงานได้เก่งได้ดีได้ขยัน
02:20:24 → 02:20:29 อะไรอย่าเงี้ยนะอันเนี้ยเมันมีความสำคัญ
02:20:29 → 02:20:32 เรื่องมากหน่อยคือไทรรอยด์แต่อย่างเลปติน
02:20:32 → 02:20:35 เนี่ยตรงไปตรงมาเพราะเลปตินเนี่ยเลปตินเ
02:20:35 → 02:20:39 ก็เป็นฮอร์โมนโปรตีนนะแต่เขา depend on
02:20:39 → 02:20:42 Fat เเพราะฉะนั้นถ้าเรากิน ow Cup เอ่อ
02:20:42 → 02:20:45 Good Fat หรือกินขี้งขี้ออยอะไเงี้ยนะ
02:20:45 → 02:20:48 แล้วกินโปรตีนค่อนข้างเยอะ moderate to
02:20:48 → 02:20:51 High fp โปรตีนอะไรอย่างเงี้ยนะเลตินก็
02:20:51 → 02:20:53 มาอยู่แล้ว
02:20:53 → 02:20:57 นะเลปตินก็ไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรแต่ว่า
02:20:57 → 02:21:01 เลตินเนี่ยก็ขึ้นอยู่กับเรื่องการจัดสรร
02:21:01 → 02:21:05 ปริมาณหรือความพอดีของคาฟที่จะไปมีผลต่อ
02:21:05 → 02:21:06 อินซูลิน
02:21:06 → 02:21:11 แต่ไทรรอยด์นี่เยอะเยอะไปหมดนะเดี๋ยวคราว
02:21:11 → 02:21:15 หน้าเอ่อเอามาคุยครับแต่นัวันกันอีกทีนึง
02:21:15 → 02:21:17 ดวันแล้วแล้วก็อย่าลืมเรื่องนึงเนี่ยที่
02:21:17 → 02:21:21 วันนี้โอ๊ตเนี่ยเป็นตัวอย่างนะฮะก็คือคือ
02:21:21 → 02:21:24 การปรุงแต่งหรือโปรตีนคุณภาพต่ำซึ่งมันจะ
02:21:24 → 02:21:28 มาพร้อมกับตัว additive ต่างๆนะตัวการแปร
02:21:28 → 02:21:32 รูปดูกับปรุงแต่งนะแล้วก็เติมโน่นเติมนี่
02:21:32 → 02:21:36 นะเกือบ 40 รายการเนี่ยเห็นมล่ะนะเพราะ
02:21:36 → 02:21:39 ว่าพวกนี้มีผลต่อไทรอยด์ทั้งหมดเลยแล้วก็
02:21:39 → 02:21:42 ทำให้เกิดสับ clinical ไฮโปไทรอยด์หรือเข
02:21:42 → 02:21:44 เรียกว่าไทรรอยด์ทำงานต่ำไทรอยทำงานน้อย
02:21:44 → 02:21:47 หรือไทรรอยด์ไม่ขยันหรือไทรรอยด์ทำงาน
02:21:47 → 02:21:50 เพี้ยนมันก็เกิดจากของแปรรูปพวกเนี้ยที่
02:21:50 → 02:21:54 มันแบ่ง
02:21:54 → 02:21:57 เติมแต่เรามองไม่เห็นหรอกมันใส่
02:21:57 → 02:22:00 0.00 นะเ่อแต่แล้วมันไม่ได้ใช้รูปว่า
02:22:00 → 02:22:02 คาราจีแนน
02:22:02 → 02:22:08 ดกินะมันไปใช้คำว่า inss น่ะเออนะมันซ้อน
02:22:08 → 02:22:12 ยิ่งกว่าซ้อนซับยิ่งกว่าซับซ้อนน่ะนะมัน
02:22:12 → 02:22:15 คือคือผมเห็นอะไรที่มันเขียนว่าไ SS นี่
02:22:15 → 02:22:19 ผมไม่เอาเลยอ่ะเออเออคือถ้าจะกินก็ไปอยู่
02:22:19 → 02:22:24 ในโคต้า 20 หมดเออนั่นแหละอือเ้อเนี่ยนะ
02:22:24 → 02:22:27 แต่เราจะเข้าใจกันขนาดนี้หรือเปล่าเพราะ
02:22:27 → 02:22:32 ว่ามันเป็นไส้ในที่เป็นเชิงลึกๆๆเลย
02:22:32 → 02:22:34 อือาหาร
02:22:34 → 02:22:37 ฮอร์โมนลึกก็พี่หมอบอกแล้วว่าอะไรอะไรไม่
02:22:38 → 02:22:41 ดีอย่าไปยุ่งมันก็คือจบไงอืเออถ้าอยากไป
02:22:41 → 02:22:45 ยุ่งก็ต้องไปหาพี่เีย
02:22:45 → 02:22:48 โต้งแล้วในแนวทางของเราเนี่ยพอมันลึกไป
02:22:48 → 02:22:52 แล้วเราไปคุยอะไรกับใครก็ไม่ได้ได้ไงถ้า
02:22:52 → 02:22:54 จะคุยกับเค้าได้เราต้องไปนั่งอธิบายเป็น
02:22:54 → 02:22:57 วรรคเป็นเวรเอ่ออีกอะไรอย่างเงี้ยเรา
02:22:57 → 02:22:59 เหนื่อยมากอ่ะเราไม่ได้แปลว่าเค้าจะเชื่อ
02:22:59 → 02:23:02 หรือเค้าจะโอเคยอมรับด้วยนะเพราะฉะนั้น
02:23:02 → 02:23:04 ต้องให้เา้าหาเอง
02:23:04 → 02:23:06 อ่ะ
02:23:06 → 02:23:11 เอออึอก็ทำไว้ให้แล้วอ่ะครับก็ก็ต้อง
02:23:11 → 02:23:16 เหนื่อยหาเองหน่อย
02:23:16 → 02:23:20 เออวันนี้เคสของหมอมอโต้ก็สวยๆอยู่นะเคส
02:23:21 → 02:23:24 นั้นน่ะเอออ๋อครับไม่ได้รู้รายละเอียดมาก
02:23:25 → 02:23:27 นักนะแต่ก็สามารถเอาหลักการของไทรอยด์กับ
02:23:27 → 02:23:30 เลปตินน่ะมาใช้ได้นะคนนั้นก็ไทรอยด์
02:23:30 → 02:23:33 เหมือนกันใช่มั้ยพี่เคนนี้ก็น่าจะเป็นไม่
02:23:33 → 02:23:35 รู้น่าจะไทรรอยด์ฮะน่าจะไทรรอยด์หรือไม่
02:23:35 → 02:23:39 ก็ปรุงตับอ่ะนะอืแต่ตอนเนี้ยปัญหาของเค้า
02:23:39 → 02:23:42 ก็คือไอ้เรื่องอะไรนะน้ำตาลสะสม 6 6
02:23:43 → 02:23:48 กว่าแบเนี้ยมันลงไม่ได้ฟมอก็ก็ 100 100
02:23:48 → 02:23:51 ไปเยอะ่ะ 160 ก็มี 140
02:23:51 → 02:23:54 อ๋อเคสที่หมอมอเตอรบอกว่าออกกำลังกายเยอะ
02:23:54 → 02:23:58 ใช่มั้ยใช่เออปัญหาก็คือคาร์ดิโอคาร์ดิโอ
02:23:58 → 02:23:59 5 วัน
02:23:59 → 02:24:03 อัยยะ 5
02:24:03 → 02:24:08 วันอืแล้วบก็เลยต้องบอกให้อคาร์ดิโอไงให้
02:24:08 → 02:24:12 ตัดคาร์ดิโอออกไปนะโอ้โห fing ปัล่อไป 151
02:24:12 → 02:24:16 เลยนะพี่หมอก็เนี่ยมันเยอะไปหมดแล้วะ
02:24:16 → 02:24:19 นะแล้วอย่างนี้เ่ะนะเรามันต้องใช้กล้าม
02:24:19 → 02:24:21 เนื้อให้ถูกนะฮะนะ
02:24:21 → 02:24:25 เออมันต้องมันมันต้องมาว่ากันรายละเอียด
02:24:25 → 02:24:28 ของกล้ามเนื้อเนี่ยนะจะเป็น slow ทวิต
02:24:28 → 02:24:33 Fast ทวิตสีแดงสีขาวนะถ้าเป็น slow ทวิต
02:24:33 → 02:24:35 สีแดงเนี่ยนะมันก็ต้องเป็นกล้ามเนื้อใน
02:24:35 → 02:24:39 การคาร์ดิโอนะแล้วมันก็จะเลือกใช้แต่
02:24:39 → 02:24:44 ไตรกีสไลไตรกีสไลนะฮะไตรกิลด์คีโตนมีมั้ย
02:24:44 → 02:24:48 นะเนี่ยมันจะใช้แต่ของพวกเนี้ยนะมันไม่
02:24:48 → 02:24:51 ใช้น้ำตาลเนี่ย
02:24:51 → 02:24:55 เพราะฉะนั้นคุณน่ะไปคาร์ดิโอไปวิ่งไปอะไร
02:24:55 → 02:25:00 ก็ไม่รู้จีบจักรยานไปจอกกิ้งเดินเร็วเนับ
02:25:00 → 02:25:04 9 เ่อ 10,000 ก 19,000 อะไรกไม่รู้อ่ะนะ
02:25:04 → 02:25:07 เดี๋ยวนะเรูปแบบการออกกำลังกายนี่เหมือน
02:25:07 → 02:25:10 ผมจะก่อนเลยนะพี่หมอวิ่ง 10 กวันเว้นวัน
02:25:10 → 02:25:16 เนี่ยเออแล้วแต่งก็ลดๆๆนะเออๆๆๆๆเอแต่น้ำ
02:25:16 → 02:25:18 ตาลก็พุ่งๆ
02:25:18 → 02:25:24 ๆอืมอืเพราะว่ามันเหนื่อยมันล้าเกินไปนะ
02:25:24 → 02:25:29 นะแล้วก็เอ่อคอร์ติซอลก็ออกมา
02:25:29 → 02:25:34 นะตอเข้ายิ่งออกมาน้ำตาลยิ่งออกตามมานะอื
02:25:34 → 02:25:37 เพราะมันเป็นกฎเกณฑ์เลยว่าคอร์ติซอลออกมา
02:25:37 → 02:25:42 นะก็ต้องมาสั่งตับนะให้ผลิตน้ำตาลออกมา
02:25:42 → 02:25:48 นะเป็นเป็นกดตายตัวเลยนะอซเ้าก็จะบอกว่า
02:25:48 → 02:25:52 ตับมึงมีน้ำตาลไหรไหนล่ะกลูโคนิโอเจนิ
02:25:52 → 02:25:58 ไกลโคเจนน่ะมีมากพอมั้ยเอ้าถ้าไม่มากพอนะ
02:25:58 → 02:26:02 ถ้าไม่มากพอนะเก็จะไปสลายโปรตีนนะจาก
02:26:02 → 02:26:08 กล้ามเนื้อบริเวณก้นต้นตครับแล้วถ้าเรา
02:26:08 → 02:26:14 ผอมๆอยู่แล้วเนี่ยนะตับก็มีปริมาณ
02:26:14 → 02:26:18 ไกลโคเจนแค่ 50 กรัมอย่าเงี้ยนะน้ำหนัก 51
02:26:18 → 02:26:21 แบบโอ๊ตเงี้ยนะ
02:26:21 → 02:26:23 แล้วไขมันสะสมอะไรก็ไม่มีกล้ามเนื้อก็
02:26:24 → 02:26:28 น้อยอย่างเงี้ยนะเออแล้วถ้าเกิดคอร์ติซอล
02:26:28 → 02:26:31 มาจากการคาร์ดิโอหรือการใช้กล้ามเนื้อสี
02:26:31 → 02:26:36 แดงสโลทวิตเ่อเดินวันละ 10 กลเงี้ยนะก็
02:26:36 → 02:26:37 แย่สิ
02:26:37 → 02:26:41 นะกล้ามเนื้อก็เกิดไม่ได้ยิ่งป่อรีบไป
02:26:41 → 02:26:47 ด้วยนะเอ่อไกลโคเจนที่ดับก็น้อยนะฮะเพราะ
02:26:47 → 02:26:48 ฉะนั้นทั้งกล้ามเนื้อทั้งกระดูกก็จะถูก
02:26:48 → 02:26:52 คอร์ติซอลทำลายไปเรื่อยๆมีโปรตีนที่ไหนเ
02:26:52 → 02:26:58 ก็จะทำลายหมดเพราะเขจะชอบเป็นปฏิบัตกับ
02:26:58 → 02:27:02 โปรตีนสูงมากๆมากๆมาๆเป็น 100 เท่า 300
02:27:02 → 02:27:05 เท่า 400 เท่าเนี่ยนะก็อย่าคิดเลยว่าดอน
02:27:05 → 02:27:09 ฟีนอลหรือน้ำตาลมันจะน้อยๆนะมันเยอะทั้ง
02:27:09 → 02:27:14 นั้นแหละฮะอืมันก็เป็นข้อเสียของคนสายแป้
02:27:14 → 02:27:16 แล้วผมมาผ่านจุดนั้นมาแล้วผมเข้าใจว่า
02:27:16 → 02:27:19 เวลาพวกนี้เลดการออกกำลังลงมันจะรู้สึก
02:27:19 → 02:27:23 แบบมันจะรู้สึกเหมือนชีวิตมันขาดอะไรไป
02:27:23 → 02:27:26 พี่หมอเหมือนเหมือนเรากลัวว่าเราจะ
02:27:26 → 02:27:29 Performance ลดลงเหมือนกับกลัวอะไร
02:27:29 → 02:27:33 สารพัดอ่ะเออเพราะว่าผมก็ครึ่งปีนะ
02:27:33 → 02:27:36 กว่าจะลดลงได้เนี่ยมันไม่ใช่ง่ายๆนะพวก
02:27:36 → 02:27:40 ออกกำลังกายแบบอย่างนั้นน่ะมีคุณกิตติคุณ
02:27:40 → 02:27:45 ครับถามค่าาติอินซูลินครับ 0.9 เนี่ยมีผล
02:27:45 → 02:27:48 อะไรมยเกิดจากอะไรได้บ้างครับเอ่อ fasting
02:27:48 → 02:27:53 inulin 0.9 เหรอเออมันต่าง
02:27:54 → 02:27:57 เอ่อไม่ได้มีประวัติเป็นเบาหวานหรือกำลัง
02:27:57 → 02:27:59 เป็นเบาหวานอยู่มยไม่รู้อ่ะ
02:27:59 → 02:28:03 อ่าครับถ้าไม่ดีมีประวัติเป็นเบาหวานนะฮะ
02:28:03 → 02:28:07 ก็ต้องตรวจซีแป๊บตายนะเอ่อก็ต้องตรวจคาบ
02:28:07 → 02:28:12 ซีแป๊บตายนะอ่าแล้วก็คือต้องเล่าประวัติ
02:28:12 → 02:28:15 ให้ฟังอีกทีให้ละเอียดแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้
02:28:15 → 02:28:17 ไปตอบกันแล้วกันนะฮะก็ต้องมีแพทเทิร์น
02:28:17 → 02:28:21 หรือมีแบบแผนหรือมีไกด์ไลน์ที่จะจะตรวจใน
02:28:21 → 02:28:25 ในกรณีที่มันต่ำกว่าเอ่อส่วนใหญ่เราจะถือ
02:28:25 → 02:28:28 ว่าตัวเลขที่ต่ำกว่ากว่า 2 เนี่ยนะฮะนะ
02:28:28 → 02:28:32 คือตจริงๆก็คือต่ำกว่า 1.8 นะฮะนะถ้า
02:28:32 → 02:28:34 อินซูลินอินซูลินต่ำกว่า 1.8 เนี่ยก็ต้อง
02:28:35 → 02:28:39 ตรวจซีเปตหรือหรือดูประวัติเี่ว่าต้องมี
02:28:39 → 02:28:42 แนวโน้มที่จะต้องตรวจไปในทางดารมั้ย Radar
02:28:42 → 02:28:43 หรือ DM
02:28:43 → 02:28:48 ไวอืแต่ว่าคนที่ฟังก์ชันนี่คืออิซูก็อยู่
02:28:48 → 02:28:52 ในเกณฑ์นัแหละแต่ว่าจะจะทำงานไม่ดีใช่มฮะ
02:28:52 → 02:28:55 พี่หมอใช่ไม่ดีทีนี้ถ้าเกิดไม่ได้เป็นเบา
02:28:55 → 02:28:57 หวานไม่ได้เป็นอะไรเลยแล้วก็แล้วก็เนี่ย
02:28:57 → 02:29:01 พยายามจำกัดาฟตัดาฟอ่าจนกระทั่งอินซูลิน
02:29:01 → 02:29:05 มาอยู่ในเกณฑ์ประมาณเนี้ยนะฮะนะอันนี้ก็
02:29:05 → 02:29:10 เป็นเพราะว่าการกดคฟเยอะเกินไปนะฮะอืมัน
02:29:10 → 02:29:14 จะปรับให้อินซูลินขึ้นมาเกิน 2 นะหรือ
02:29:14 → 02:29:18 อยู่ใกล้ๆ 2 เข้าวนะคือถ้าต่ำแบบนี้ไป
02:29:18 → 02:29:21 เรื่อยๆอ่ะเดี๋ยวไทรอยก็จะตามมาใชอ่าใช่
02:29:21 → 02:29:25 ไทรรอยด์จะมีผลกระทบนะไทรรอยด์คอร์ติซอล
02:29:25 → 02:29:30 ก็จะตามมาติดๆนะอืเมื่อไหร่ที่จะตัดสินใจ
02:29:31 → 02:29:33 ว่าในกรณีไม่เคยเป็นเบาหวานมาเลยแล้วตรวจ
02:29:33 → 02:29:36 ครั้งเดียวแล้วก็วินิจฉัยดารหรือ DM ไวัน
02:29:36 → 02:29:39 เลยก็คือมันต้องต่ำกว่าต้องต่ำกว่า
02:29:39 → 02:29:43 0.25 นะ ting อิซูลินต่ำกว่า
02:29:43 → 02:29:47 0.25 ไม่ว่าคุณจะเป็นใครนะเราถือว่าคุณ
02:29:47 → 02:29:50 เป็น DM ไทวันหรือเป็นดาร
02:29:50 → 02:29:55 นะอย่างน้อยก็คือดารหรือ DM ไวันแล้วถ้า
02:29:55 → 02:29:59 อายุน้อยๆต่ำกว่า 30 มันก็เป็นมี้ี้ก็
02:29:59 → 02:30:03 เป็นคล้ายๆ DM ไวันนี่แหละนะกรณีที่ไม่
02:30:03 → 02:30:05 เคยประวัติไม่เคยมีประวัติเบาหวานหรือ
02:30:05 → 02:30:10 วินิจฉัยเมื่อก่อนเลยนะเราที่ค่า Cut Off
02:30:10 → 02:30:15 ที่ 0.25 ถ้าต่ำกว่านี้ไม่ได้
02:30:15 → 02:30:19 อ๋อแต่ถ้าต่ำกว่า 2 หรือต่ำกว่า 1.8
02:30:19 → 02:30:22 เนี่ยนะฮะนะอันนี้เป็นภาวะก้ำกึ่งโดย
02:30:23 → 02:30:27 เฉพาะ 0.9 ใช่มนะ 0.9 เออก็อย่างน้อย
02:30:27 → 02:30:31 ครั้งนึงในชีวิตคุณต้องตรวจซีเปตโปร
02:30:31 → 02:30:35 อินซูลินนะหรือแอนติ GAT นะคือแอนติบอดี้
02:30:35 → 02:30:39 ที่มันตรวจอ่า DM type One เนี่ยหรือาร
02:30:39 → 02:30:43 เนี่ยมันมีอยู่ 3 ตัวนะแต่ที่เรานิยมตรวจ
02:30:43 → 02:30:47 กันก็เอาซัก 2 ตัวแอนติ GAT กับแอนตี้ i2
02:30:47 → 02:30:50 นะฮะนะส่วนแอนตี้ซิงคเนี่ยมันตัวยากแล้ว
02:30:50 → 02:30:54 แพงแๆนะตั้งประมาณ 7-8 พันน
02:30:54 → 02:30:59 มั้งมี 3 ตัวแิออ่ะนะตวจ 2 ตัวพอนะฮะหรือ
02:30:59 → 02:31:02 ตรวจตัวเดียวอ่ะแี้ GAT เแี้ GAT เนี่ยก็
02:31:02 → 02:31:09 บอกได้ะเรียแี้ GAT แี้ขีดและ G แี้
02:31:09 → 02:31:13 อืแต่ไม่ๆไม่ต้องไปถึงขั้นนั้นหรอกเเอา
02:31:14 → 02:31:20 แค่เ fing อิซูลิน H ir ี a1c นะแล้วก็
02:31:20 → 02:31:25 แล้วก็ตรวจติดไปต่าติดตอ๋อเบอกเบอกว่าไม่
02:31:25 → 02:31:29 เป็นเบาหวานครับแต่ก่อนตรวจตัดาฟเยอะครับ
02:31:29 → 02:31:32 ตรวจรอบที่แล้วเมื่อ 3 เดือนก่อนได้ 2.4
02:31:32 → 02:31:38 ครับโอ้นะไม่ดีฮะไม่ดีฮะถ้าต่ำกว่า 2 อ่า
02:31:38 → 02:31:41 โดยเฉพาะต่ำกว่า 1 เนี่ย 0.9 เนี่ยมันตัด
02:31:41 → 02:31:45 าฟมากเกินไป cheating ฟกลับคืนมา cheating
02:31:45 → 02:31:50 rotating C นะเนี่ยนะร่างกายขอร้องนะฮะ
02:31:50 → 02:31:54 นะว่านะต้องใส่คาฟกลับคืนมาคาฟมันน้อย
02:31:54 → 02:31:59 เกินไปนะแล้วก็อาจจะไม่เหมาะกับบอไท้นะคน
02:31:59 → 02:32:02 แบบเนี้ยน่าจะเป็นสายแป้งเหอฮะเป็นปรุง
02:32:02 → 02:32:06 ตับเป็นไทรรอยด์ยังไงชีวิตต้องมีคาฟอยู่
02:32:06 → 02:32:09 บ้างอย่าอย่าไปเอาสายเนื้อนะครับอย่าไป
02:32:09 → 02:32:12 เลนแบบสายเนื้อหรือจะเป็นสายเนื้อก็ได้
02:32:12 → 02:32:14 แต่ต้องมีบางวันที่จะคุณจะต้องฝึก
02:32:14 → 02:32:18 อินซูลินน่ะต้องเติมคาฟเข้าไปเออสัปดาห์
02:32:18 → 02:32:21 ละ 2 วันสัปดาห์ละ 2 วัน
02:32:21 → 02:32:25 ได้กินของอร่อย
02:32:25 → 02:32:30 อ่ะคุณอรุณทิพย์คุณหมอพอจำได้มยได้
02:32:30 → 02:32:33 ฮาชิโมโตกับด้านี่เเข้ามาถามด้วยนะเบอก
02:32:33 → 02:32:38 ว่าอุทิไม่ฟังเสาร์นะฮะวันเสาร์เนี่ยเออ
02:32:38 → 02:32:41 วันเสาร์เนี่ยฮาชิโมโตเนี่ยนะเป็นราย
02:32:42 → 02:32:47 ละเอียดเลยนะฮะนะเออหักฟังวันเสาร์นะ
02:32:47 → 02:32:51 เดี๋ยวจะให้หมอโต้หมอมต้ช่วยกันคุยด้วย
02:32:51 → 02:32:54 เออๆๆวันเสาร์เนี่ยจะเป็นเรื่องไทรอยด
02:32:54 → 02:32:58 เรื่องไทรอยโรงใหญ่ครั้งใหญ่รรู้สึกว่า
02:32:58 → 02:33:02 เราคุยเคสคุณอรุณทิตเยอะเหมือนกันเนาะเคส
02:33:02 → 02:33:08 ดารเนี่ยอ
02:33:08 → 02:33:11 อื
02:33:11 → 02:33:15 ครับวันนี้มาแบบไม่ได้นักหมายมาก่อนก็ยัง
02:33:15 → 02:33:20 คึกคักพอสมควรเหมือนกันนะเนี่ยโอ
02:33:20 → 02:33:23 คุณกิตติศักดิ์คุณกิตติศักดิ์ครับเอภูม
02:33:23 → 02:33:26 ภูมิเครียดมีก้ามแล้วตอนนี้มายกนิ้วให้
02:33:26 → 02:33:30 ครับโอเออคุณกิตติศักดิ์จำได้มั้พี่หมอจำ
02:33:31 → 02:33:36 ได้นะเออกิตติศักดิ์นี่ก็มาถามอะไรนะฮะ
02:33:36 → 02:33:40 ให้มาถามเรื่องอะไรนะที่ที่ที่ตอบไปอ่ะ
02:33:40 → 02:33:45 ใช่ๆล่าสุดเนี่ยคำถามคมมากเลยผมเเออผมเอา
02:33:45 → 02:33:51 ไปทำบทความต่อด้วยอ่ะ
02:33:51 → 02:33:54 เออคือเหมือนอ้วนๆเนี่ยแล้วดื้ออินซูลิน
02:33:55 → 02:33:58 เนี่ยนะเนี่ยเอแล้วก็ตับเติบดื้ออินซูลิน
02:33:58 → 02:34:02 แล้วตอนนี้มีไอ้ตัวอะไรี fatty Acid กับ
02:34:02 → 02:34:06 non fy fatty Acid เยอะเลยเงี้ยนะเออ
02:34:06 → 02:34:11 จะทำยังไงนะฮะเอวันนี้หมอก็เขียนในเรื่อง
02:34:11 → 02:34:15 ที่เอามาจากหมอมอโต้อนะฮะเอ้อก็คือมันจะ
02:34:15 → 02:34:19 มีตัวไอ้กล้ามเนื้อสีขาวอ่ะซึ่งเป็น Fast
02:34:19 → 02:34:22 T ซิเนี่ยนะฮะนะเนี่ย
02:34:22 → 02:34:25 เอ่อเนี่ยเราต้องกระตุ้นต้องกระตุ้น
02:34:25 → 02:34:30 อันเนี้ยนะให้เาพยายามที่จะใช้น้ำตาลเอ้ย
02:34:30 → 02:34:33 ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่
02:34:33 → 02:34:37 ใช่
02:34:37 → 02:34:40 เดี๋ยวคือคือมันมันคือระบบกล้ามเนื้อ
02:34:40 → 02:34:43 เหล่าเนี้ยนะแม้ว่าร่างกายจะดื้ออินซูลิน
02:34:43 → 02:34:46 แล้วนะกล้ามเนื้อด้วยอินซูลินแล้วนะฮะนะ
02:34:46 → 02:34:51 แต่วิธีการนะนะที่ที่เราจะพยายามลดลาวา
02:34:51 → 02:34:55 ศอกไอ้พวกปดไขมันอิสระต่างๆนะก็ต้องให้
02:34:55 → 02:34:57 กล้ามเนื้อไปใช้เพราะว่าอย่างตับเนี่ย
02:34:57 → 02:35:03 เค้าเเรับไม่ไหวอ่ะนะนะคือตับเนี่ยมันมัน
02:35:03 → 02:35:07 พอมันเป็นแคตี้แิดเอ้มันมันเป็น fy riv
02:35:07 → 02:35:10 แล้วเนี่ยส่วนใหญ่แล้วมันถึงจุดน่ะที่ตับ
02:35:10 → 02:35:14 มันจะบอกว่ามันทำอะไรไม่ได้เออแต่อย่าง
02:35:14 → 02:35:18 กล้ามเนื้อเนี่ยนะกล้ามเนื้อเนี่ยนะโดย
02:35:19 → 02:35:21 เฉพาะกล้ามเนื้อลายเนี่ยนะฮะนะเยังมีทาง
02:35:21 → 02:35:26 ออกนะที่นะถึงจะด้วอินซูลินแล้วแต่เยัง
02:35:26 → 02:35:30 สามารถที่จะรับฟรี fy Acid หรือ non fy
02:35:30 → 02:35:33 Acid ไปใช้ได้เราต้องใช้บริการจากกล้าม
02:35:33 → 02:35:38 เนื้อลนะแล้วก็เราจะต้องทำอะไรก็คือ
02:35:38 → 02:35:42 คาร์ดิโอก็คือใช้กล้ามเนื้อสีแดงนะมาทำ
02:35:42 → 02:35:46 กิจกรรมอันนี้นะฮะไปเรื่อยๆเรืๆก็เลยให้
02:35:46 → 02:35:50 ทำเช้าทำเย็นสำหรับคนอ้วนนะครับเออสำหรับ
02:35:50 → 02:35:52 คนอ้วนนะ
02:35:52 → 02:35:55 นะอย่างน้อยก็ให้น้ำหนักมันลงมาอยู่ใน
02:35:55 → 02:35:58 เกณฑ์ไอ้ Upper
02:35:58 → 02:36:02 Normal เช่น 170 เนี่ยก็ต้องทำให้ให้ลง
02:36:02 → 02:36:05 มาอยู่สักประมาณ 70 72 ให้ได้น้ำหนักนะ
02:36:05 → 02:36:11 ถ้าคุณยัง 90 อยู่นะก็คือคาร์ดิโออ่ะนะ
02:36:11 → 02:36:15 คาร์ดิโอยังไม่ต้องเทก็ได้นะอาจจะมีเวท
02:36:15 → 02:36:19 สลับเบื่อๆสักวัน 2 วันเแต่คาริโอต้อง 5
02:36:19 → 02:36:20 วัน
02:36:20 → 02:36:23 เหมือนต้องทำสลับกันเลยนะผอมเน้นเวทอ้วน
02:36:23 → 02:36:26 เน้นคาร์ดิโอนะพี่หมอนะอใช่อ้วนยต้องเน้น
02:36:26 → 02:36:29 คาร์ดิโออืใช้กล้ามเนื้อให้ถูกนะเพราะ
02:36:29 → 02:36:32 กล้ามเนื้อแต่ละกลุ่มมันใช้พลังงานต่าง
02:36:32 → 02:36:36 กันอ๋อคุณกดีถามเรื่องยูริกไงครับพี่หมอ
02:36:36 → 02:36:39 ที่ฟี fy aid ออกมาแล้วมันจะทำให้ยูริก
02:36:39 → 02:36:45 เพิ่มมอ่ะเอออันนี้เกยกฮอร์โมนเกี่ยวกับ
02:36:45 → 02:36:50 ฮอร์โมนอืแบบที่ต่อไปอ่าๆ
02:36:50 → 02:36:53 จำได้คุณคุณกิตติคุณนี่โอ้โหพี่หมอแม่นนะ
02:36:53 → 02:36:57 เขบอกเป็นสายแป้งทรงไทรรอยด์ครับแต่กิน
02:36:57 → 02:37:02 กินกับคนสายเนื้อโอไม่ได้ระวังระวังเอ่อ
02:37:02 → 02:37:05 แต่ว่าพวกเนี้ยมันมันเป็น
02:37:05 → 02:37:10 อ่าเค้าเรียกว่าอะไรนะเอ่อมันเป็นการ adap
02:37:10 → 02:37:15 ทางยีนได้ได้ได้ดีด้วยนะได้ได้ได้นะนะใน
02:37:15 → 02:37:18 อยู่เกินร้อยหลายคนเนี่ยนะก็เป็นอนุพงษ์
02:37:18 → 02:37:25 มารยาก็ adap ได้นะเอ่อเ่ออะไรนะแแก็ adap
02:37:25 → 02:37:32 ได้เยบเยบก็ adap ได้นะวิมลสิรินะอันๆอัน
02:37:32 → 02:37:35 ๆก็ adap ได้นะฮะนะเนี่ยพวกนี้ adap ได้
02:37:35 → 02:37:37 นะ
02:37:37 → 02:37:41 ฮะคือ adap ได้นี่คือเขเฝืนกินหรือเปล่า
02:37:41 → 02:37:43 ครับหรือว่าร่างกายเ adap ได้เองร่างกาย
02:37:43 → 02:37:48 มัน adap ได้นะฮะแต่บางคนก็ adap ไม่ได้
02:37:48 → 02:37:52 นะบางคนก็ adap ไม่ได้จำจันยาจรรยาได้มย
02:37:52 → 02:37:54 จรรยาก็ adap ไม่ได้นะเดี๋ยวมันจะกลาย
02:37:54 → 02:38:00 เป็น DM ดารอ๋อออคือคือมันก็ต้องดูดูค่า
02:38:00 → 02:38:04 เลือดออกมามันจะฟ้องเองว่าร่างกายมันมัน
02:38:04 → 02:38:07 adap ได้หรือไม่ได้ใช่
02:38:07 → 02:38:10 มคือก็ไม่เสมอไปว่าสายแป้งจะกินแบบสาย
02:38:10 → 02:38:13 เนื้อไม่ได้อะไรอย่าเงี้มันก็กินได้
02:38:13 → 02:38:16 เหมือนกันถ้าร่างกายเยอมใช่ต้องดูแลบดู
02:38:16 → 02:38:21 แลบนะแล้วก็ดูนี่แหละดูอินซูลินคอร์ติซอล
02:38:21 → 02:38:27 นะเอ่อหลับดีมั้ยนะเอ่อแล้วถ้าอินซูลินมา
02:38:27 → 02:38:32 เนี่ยนะเอ่อก็น้ำหนักเพิ่มนะตับกิวเพิ่ม
02:38:32 → 02:38:35 viser Fat เพิ่มโดยเฉพาะถ้าผอมๆ viser
02:38:35 → 02:38:39 Fat ก็จะเพิ่มแต่จริงๆั Fat เพิ่มเนี่ย
02:38:39 → 02:38:41 ก็มันมาทั้งคู่อ่ะทั้งพ่อ
02:38:41 → 02:38:45 แม่อ่า
02:38:45 → 02:38:48 ใช่อย่างผมที่กินเนื้อมากหน่อยเรียบร้อย
02:38:48 → 02:38:51 เลยกลางคืนนี้นี่งุ่นง่านุ่นง่านเลยครับ
02:38:51 → 02:38:56 เออรฉีเลยเราคือบางคนได้บางคนไม่ได้
02:38:56 → 02:38:59 เดี๋ยวนี้แปลกมากนะพี่หมอบางทีเราแบบหิ
02:38:59 → 02:39:03 น้ำเนาะกินก่อนนอนเนี่ยกินกันเป็นแก้วนะ
02:39:03 → 02:39:07 ก็ก็ไม่ลุกฉี่นะพี่หมออือเออแต่ก่อนนี่
02:39:07 → 02:39:10 โอ้โหกินไปนิดเดียวแตะหน่อยเดียวเนี่ยกาง
02:39:10 → 02:39:13 คืนนี้ฉี่ัก 2-3 รอบอตอนที่ยังไม่เจอพี่
02:39:13 → 02:39:19 หมอ
02:39:19 → 02:39:22 ติด
02:39:22 → 02:39:29 ได้เอ้อความรู้มันติดได้เกลือถึงเออก็ไม่
02:39:29 → 02:39:32 เป็นไร
02:39:32 → 02:39:38 หรอกระยะผมเอาพาดติดเชื้อกับลูกน้อง
02:39:38 → 02:39:42 เนี่ยเออเฮ้ยแต่ลูกน้องผมมันเป็นเดือน
02:39:42 → 02:39:45 แล้วนะพี่หมอตั้งแต่ปลายปีจนถึงตอนนี้มัน
02:39:45 → 02:39:48 ยังไม่หายเลยอ่ะเพราะว่าอินซูลินมาเป็น
02:39:48 → 02:39:54 ตัวพวกควบคุมเออเออคืออินซูลิน
02:39:54 → 02:39:58 เนี่ยคือคือพวกนี้ก็คือดือินซูลินนะฮะนะ
02:39:58 → 02:40:00 อ่ะอันนี้ใช่แน่นอนแล้วพอดื้ออินซูลิน
02:40:00 → 02:40:05 แล้วเนี่ยคอร์ติซอลคอร์ติซอลก็พีคแต่เป็น
02:40:05 → 02:40:08 คอร์ติซอลที่พุ่งนะแล้วไม่ใช่คอร์ติซอล
02:40:08 → 02:40:13 ปกติที่จะมามามาช่วยเหลือภูมิคุ้มกันให้
02:40:13 → 02:40:17 ให้ทำลายเชื้อหรือว่าให้สมานคืนเพราะ
02:40:17 → 02:40:19 ฉะนั้นมันก็จะเสียทั้งอินซูลินทั้งต้อง
02:40:19 → 02:40:22 แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นจากไม่ถูกเรื่อง
02:40:22 → 02:40:24 อาหารแล้วก็เป็นติกเกอร์อินซูลิน
02:40:24 → 02:40:29 เก็คืออินซูลินยังไม่ยังไม่ดียังยังยังมี
02:40:29 → 02:40:31 ผล
02:40:31 → 02:40:36 เยอะอแล้วอินซูลินเนี่ยนะมันมีปัญหาแถวเแ
02:40:36 → 02:40:39 next ค่อนข้างเยอะนะ
02:40:39 → 02:40:43 ฮะอินซูลินเนี่ยนะเนี่ยเขาจะอยู่แถวนี้
02:40:43 → 02:40:47 แหละแถว Head แเนี่แหละนะแถวหัวและคอนี่
02:40:47 → 02:40:51 แหละนะนะเพราะฉะนั้นระบบเนี่ยหูคอจมูกนะ
02:40:51 → 02:40:58 อ่อระบบไอคอทอนซินนะต่อมไทรงไทรรอยด์อะไร
02:40:58 → 02:41:01 ต่างๆเหล่าเเนี่ยนะอินซูลินจะเป็นพื้นฐาน
02:41:01 → 02:41:05 ของการควบคุมไซนัสอักเสบออจิไนติภูมิแพ้
02:41:05 → 02:41:10 เยื่อบุกพงจมูกนะแล้วก็ไอ้พวกอันไอ้หู
02:41:10 → 02:41:13 หรือการทรงตัวอะไรต่างๆเที่มันไม่ดีเลย
02:41:13 → 02:41:16 ทั้งหลายเนี่ยนะงานวิจัยมันก็บอกมาหมด
02:41:16 → 02:41:21 แล้วนะว่าปัญหาอยู่ที่อินซูลิน
02:41:21 → 02:41:25 ไม่ใช่น้ำตาลน้ำตาลก็มีส่วนนะนะนะแต่
02:41:25 → 02:41:28 อินซูลินเหรือฮอร์โมนตัวนี้แหละมันมี
02:41:28 → 02:41:32 ปัญหาเยอะมากกว่าทำไมเสมหะไม่หายทำไมการ
02:41:32 → 02:41:37 อักเสบไม่ลดทำไมเอ่อความเรื้อรังอ่ะนะมัน
02:41:37 → 02:41:42 ยังเป็นๆหายๆอยู่ตลอดอะไรอย่างเงี้ยแล้ว
02:41:42 → 02:41:46 ก็อยุคเก่าก่อนแล้วก็น้ำนี่หูไม่เท่ากัน
02:41:46 → 02:41:51 หินปูนี่หูเคลื่อนนะเออเไปตั้งจับบิดคอ
02:41:51 → 02:41:55 บิดหัวอยู่นั่นแหละนะนะเท่ากันเนี่ยก็
02:41:55 → 02:41:59 อ้วกแตกอ้วกแตนลากเขียวลากเหลือนนะเพิ่ง
02:41:59 → 02:42:02 เพิ่งเห็นอะไรนะในติตอกมีคนมาบอกเหมือน
02:42:02 → 02:42:05 กันว่าไปบิดคอบิดนู่นบิดนี่อะไรอย่าง
02:42:05 → 02:42:09 เงี้ยครับนึกถึงมีหมองเออบางคนก็บิดกัน
02:42:09 → 02:42:12 ทุกอาทิตย์เลยนะจะบิดไปที่ไหนอ่ะเดี๋ยวก็
02:42:12 → 02:42:17 เหอะเดี๋ยวก็พลาดพั้แล้วก่อนอย่างหมอคอ
02:42:17 → 02:42:19 จมูกอ่ะที่คลินิกน่ะแหละก็มาบิดอยู่อย่าง
02:42:19 → 02:42:22 งี้แหละครับ
02:42:22 → 02:42:25 โอ้ยไม่ยอมบอกเสักทีว่ามันเป็นผลจาก
02:42:25 → 02:42:28 อินซูลินคุณลดลาวา 2 อินซูลินคุณกำกับควบ
02:42:28 → 02:42:31 คุมอินซูลินเนี่ยนะฮอร์โมนตัวเนี้ยมันเ
02:42:31 → 02:42:34 เรียกา regulate มันลดลงเนี่ยนะนะไอปัญหา
02:42:34 → 02:42:39 เรื่องของการทรงตัวเรื่องของไอีสารน้ำใน
02:42:39 → 02:42:43 หูหรืออะไรต่างๆแต่พวกนี้ก็คือมันมีปัญหา
02:42:43 → 02:42:48 ต่อไอ้ตัวระบบเส้นประสาทเล็กๆอ่ะนะปลาย
02:42:48 → 02:42:52 ประสาทฮะนะมันเกิดความไวเกิน
02:42:52 → 02:42:57 นะระฮอร์โมนตัวเนี้ยไปกระตุ้นไป
02:42:57 → 02:43:01 stimulate อืๆคุณบิดคอเสร็จแล้วคุณก็ไป
02:43:01 → 02:43:04 เข้าเซเว่นแล้วกินบ้าบออะไร
02:43:04 → 02:43:09 รู้น่ะ้านะกระตุ้นอินซูลินเนี่ยเออเดี๋ยว
02:43:09 → 02:43:12 พรุ่งนี้กูมาให้เคบิดคอยอย่างเงี้เหรอเออ
02:43:12 → 02:43:15 ไม่รู้เรื่องู้ลาวเลย
02:43:15 → 02:43:19 เอเจอเยอะเลยอ่ะฮะเไม่รู้หรอกฮะเไม่รู้
02:43:19 → 02:43:23 รู้เรื่องนะฮะนะเออหมอก็ไม่บอกหรอกนะเออ
02:43:23 → 02:43:26 เพราะว่างานวิจัยมันเกิดจากอินซูลินนะฮะ
02:43:26 → 02:43:29 นะไม่ได้เกิดจากน้ำตาลไม่ได้เกิดจาก
02:43:29 → 02:43:33 คอเลสเตอรอลไม่ได้เกิดจากอะไรอ่ะความดัน
02:43:33 → 02:43:36 อะไรต่างๆเพราะว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นผล
02:43:36 → 02:43:40 ตามมาจากอินซูลินไอินซูลินมันพีคอยู่ไงนะ
02:43:40 → 02:43:43 เกลือเกออะไรอย่างเงี้ยนะ
02:43:43 → 02:43:47 เออขาดเกลือนะอ้าพูดถึงเกลือครับคุณ
02:43:47 → 02:43:50 กิตติศักดิ์บอกว่าตอนนี้ก็พยายามกินเกลือ
02:43:50 → 02:43:53 เพิ่มครับมันมีผลทำให้ขับยูริกออกทางฉี่
02:43:53 → 02:43:58 ได้น้อยลงไหมครับอ๋อไม่ครับนะไม่
02:43:58 → 02:44:02 นะตัวขับยูริกทางปัสสาวะก็คือคือ
02:44:02 → 02:44:09 แมกนีเซียมฮะคือแมกนีเซีย
02:44:09 → 02:44:12 อืตัวที่จะไปช่วยกันเป็นตัวระบายใช่มั้ยล
02:44:12 → 02:44:15 ครับถ้าเกิดิกสูงๆ
02:44:15 → 02:44:17 เออ
02:44:17 → 02:44:21 ก็ก็ยังคิดจะนัดกับหมอมอโต้ร้ายเรื่อง
02:44:21 → 02:44:24 ยูริกเลยนะเพราะว่าตอนนั้นหมอมอโต้แยบๆจะ
02:44:24 → 02:44:29 ร้ายเรื่องยูริกนะอือเหมือนกันนฮะเรื่อง
02:44:29 → 02:44:32 คอเลสเตอรอลเรื่องยูริกเรื่องคีโตนเรื่อง
02:44:32 → 02:44:37 โอเมก้า 3 เแต่มันต้องพูดใน 2 แนวทางก็
02:44:37 → 02:44:40 คือพูดในแนวทางเรื่องของพลังงานกับเรื่อง
02:44:40 → 02:44:45 ของความเป็นตัวสารอาหารยูริกก็เป็นโปรตีน
02:44:45 → 02:44:49 นะเ่อคีโตนคีโตนนี่ก็เป็น Miracle
02:44:49 → 02:44:51 substance เป็นสารมหัศจรรย์ไปแล้วไม่ได้
02:44:51 → 02:44:54 เป็นอะไรไม่ได้เป็นโปรตีนไม่ได้เป็นไขมัน
02:44:54 → 02:44:55 ไม่ได้เป็น
02:44:55 → 02:44:59 อะไรนี่เ้าถามว่ามีแมกนีเซียมอันไหนแนะนำ
02:44:59 → 02:45:01 มครับคุณ
02:45:01 → 02:45:03 กิตติศักดิ์
02:45:03 → 02:45:06 แมกนีเซียมเหรอ
02:45:06 → 02:45:11 เอ่อก็เป็นไอ้ไกินฮะนะตัวแมกนีเซียมไิน
02:45:11 → 02:45:15 หรือบี
02:45:15 → 02:45:19 Gate แมกนีเซียมบิกิตนะฮะ
02:45:19 → 02:45:21 ใบอ่ะใบ
02:45:21 → 02:45:25 ไซต
02:45:25 → 02:45:31 อือันเนี้ยตัวเนี้ยเป็นมีขายทั่วไปแต่ถ้า
02:45:31 → 02:45:34 ไม่ได้กินกินเสริมอะไรนี้มันก็อยู่ในผัก
02:45:34 → 02:45:39 ใบใช่มพี่หมออ๋อก็เป็นขึนช่ายฝรั่งขึ้น
02:45:39 → 02:45:42 ช่ายฝรั่งเนี่ยเ่อมันจะเป็นตัวขับกด
02:45:42 → 02:45:47 ยูริกอ่ากินเป็นเม็ดก็ได้นะฮะมีมีขายเป็น
02:45:47 → 02:45:52 เม็ดนะเป็นแคปซูลฮะในติตอกไม่ใช่ในช้อปี้
02:45:52 → 02:45:53 พี่
02:45:53 → 02:45:58 เออเพราะว่าบางทีเราจะไปกินขึ้นขึ้นใช่มา
02:45:58 → 02:46:01 ชงเป็นน้ำเป็นผัดผงบางทีมันเหม็นเขียวอ่ะ
02:46:01 → 02:46:04 แต่มันมีเป็น
02:46:04 → 02:46:09 แคปซูลอ๋อคุณโอฬานครับวคุณโอฬานมาด้วย
02:46:09 → 02:46:13 เฮ้ยวันนี้บอกเเป็นบ้านหมุนครับแล้วก็หมอ
02:46:13 → 02:46:15 บอกให้งดทานเค็มโดยเฉพาะเกลือแต่ผมไม่ได้
02:46:15 → 02:46:19 ทำตามหมอครับไม่รู้ว่าหายหรือเปล่าแ
02:46:19 → 02:46:23 คือต้องลดอินซูลินน่ะไม่ใช่ลดเกลือนะลด
02:46:23 → 02:46:26 อินซูลินต้องเพิ่มเกลือนะฮะนะต้องเพิ่ม
02:46:26 → 02:46:30 ด้วนะหมอให้คนไข้ไปกินเกลือนะฮะหมอแจก
02:46:30 → 02:46:35 เกลือชมพูนะฮะนะแจกเกลือด้วยไม่ได้แจกปี
02:46:35 → 02:46:40 อ่ะ 6 บาท 6 มีอะไรนี่ล่ะ 6 บาทนะก็คือ
02:46:40 → 02:46:45 ให้เป็นกระปุกไปนะกระปุกประมาณ 60 กรันะ
02:46:45 → 02:46:49 ฮะแล้วไปผสมน้ำอุ่นจิบดื่มบ่อยๆนะจะบีบ
02:46:49 → 02:46:53 มะนาวใส่นิดๆหน่อยๆก็ได้ครับกินไว้ตลอด
02:46:53 → 02:46:57 เลยนะแล้วใส่อาหารกินก็ได้คือต้องเพิ่ม
02:46:57 → 02:47:00 เกลือแล้วก็ต้องตัดไอ้พวกคาร์โบไฮเดรตนะ
02:47:00 → 02:47:02 โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตที่จะเกิดการสวิง
02:47:03 → 02:47:07 ก้าวร้าวทั้งหลอืๆแต่คาร์โบไฮเดรตที่พุ่ง
02:47:07 → 02:47:11 เฉยๆแล้วเดี๋ยวมันก็ลดลงตามมิ่ง 2-4
02:47:11 → 02:47:14 ช่วโมงเนี่ยเออก็ไม่เป็นไรนะฮะที่เรากิน
02:47:15 → 02:47:17 มื้อเย็นใช่มครับปกติเออที่เรากินมื้อ
02:47:17 → 02:47:21 เย็นเนี่ยนะที่เป็นกนะเอ่อก to get C
02:47:21 → 02:47:23 เนี่ยได้แต่ถ้าเป็นคาร์โบไฮเดรตที่จะไป
02:47:23 → 02:47:29 เกิดการสวิงไม่ได้นะฮะนะก็เพิ่งไลฟไปเร็ว
02:47:29 → 02:47:32 ๆเนี้ยกบดอะไรสวิงไม่สวิงอะไรอย่างเงี้ย
02:47:32 → 02:47:38 เอออือๆๆๆถ้าหากจำเป็นต้องกินคาฟแต่
02:47:38 → 02:47:43 ถ้าถ้าตัดได้ก็ลองดูอ่ะนะว่าอินซูลินลดลง
02:47:43 → 02:47:46 แล้วเนี่ยมันจะมันจะลดมันจะลดเรื่องวิน
02:47:46 → 02:47:49 เวียนมึนวงโกงงนะ
02:47:49 → 02:47:52 เพราะเหล่าเนี้ยมันมีปัญหาอินซูลิน
02:47:52 → 02:47:57 ฮอร์โมนตัวนี้มีผลกกับไอ้ตัวปลายประสาทนะ
02:47:57 → 02:48:01 ฮะนะอืแต่คุณโอฬนี่เ้าตัวมันก็ทรงผอมๆ
02:48:01 → 02:48:04 เหมือนกับผมเี่คะก็จะเป็นสายแป้งนี่แหละ
02:48:04 → 02:48:09 เออสายแป้งอ่ะเค้าทรงผอม
02:48:09 → 02:48:12 ๆเดี๋ยวต้องมาลองแชร์กันดูว่าเป็นยังไง
02:48:12 → 02:48:15 บ้างเออระวังเรื่องการดื้ออินซูลินแล
02:48:15 → 02:48:20 อินซูลินมันก้าวร้าวนะอตัวปลายประสาท
02:48:20 → 02:48:25 เนี่ยที่จะให้เกิดภาวะอินซูลินเ่อมีการ
02:48:25 → 02:48:30 ตอบสนองในทิศทางที่ดีที่ดีนะเอ่อถ้าเราไป
02:48:30 → 02:48:32 ใช้นิวโรเบียน
02:48:32 → 02:48:36 B1 3B อะไรต่างๆมันไม่ได้ผลนะฮะนะเพราะ
02:48:36 → 02:48:41 พวกเมันเข้าไปไม่ได้นะนะอก็จะต้องเป็นตัว
02:48:42 → 02:48:46 B1 นะที่ละลายในไขมันนั่น
02:48:46 → 02:48:50 แหละตอนนั้นเคยบอกไปแล้วอะไรเนาะลืมไป
02:48:50 → 02:48:56 แล้วนะเนโฟไทอามีนนะฮะเนฟไทอามีนนะ 300
02:48:56 → 02:49:00 มิลลิกรัมบางคนต้องกิน 3 เท่านะวันละ 900
02:49:00 → 02:49:04 มิลลิกรัมนะช่วงวัน 2 วันแรกเนี่ยนะวัน 2
02:49:04 → 02:49:07 วัน 3 วันแรกหรือ 72 ชั่วโมงแรกบางทีต้อง
02:49:07 → 02:49:10 1 เมด 3 เวลาเมดละ 300 มิลิกรัมแล้วหลัง
02:49:11 → 02:49:14 จากนั้นค่อยๆเทป Off ค่อยๆลดลงนะเหลือ
02:49:14 → 02:49:18 เช้าเย็นเหลือวันละครั้งอะไรครับคือเฟแมี
02:49:18 → 02:49:21 เนี่ยเนี่ยมันเป็นวิตามิน B1 ที่ละลายใน
02:49:21 → 02:49:24 ไขมันแล้วถ้าเรากินก helpy Fat กินทีอง
02:49:24 → 02:49:27 ที Oil เหล่าเนี้ยนะตัวเนี้ยมันจะไปที่ไป
02:49:27 → 02:49:30 ปรับความสมดุลของไอ้ตัวปลายประสาทแถว
02:49:30 → 02:49:34 บริเวณอวัยวะการทรงตัวเนี่ยนะให้มันทำงาน
02:49:34 → 02:49:37 ดีขึ้นนะไอ้ความ
02:49:37 → 02:49:41 hens อันที่ 1 นะอันที่ 2 ต้องมีโอเมก้า
02:49:41 → 02:49:45 3 นะแล้วก็มีแมกนีเซียมโปแทสเซียมแล้วก็
02:49:45 → 02:49:49 วิตามิน D ดอกนะฮะนะอันนี้สำคัญคือ
02:49:49 → 02:49:52 วิตามินดีเนี่ยมันจะทำหน้าที่เหมือนค้ายๆ
02:49:52 → 02:49:55 คล้ายๆฮอร์โมนตัวแม่คอร์ติซอลนี่แหละนะเ
02:49:55 → 02:49:59 จะไปเหมือนคเป็นลดการอักเสบแต่เขจะเป็นลด
02:49:59 → 02:50:02 สารที่เกิดการอักเสบได้มันจะต้องมี 5 ตัว
02:50:02 → 02:50:06 เนี้ยที่หมอแนะนำก็คือวิตามิน B1 ในรูป
02:50:06 → 02:50:10 แบบของการละลายในไขมันคือ
02:50:10 → 02:50:15 เฟทอันต่อมาต้องมีโอเมก้า 3 นะโอเมก้า 3
02:50:15 → 02:50:22 นะเอออันต่อมาก็คือวิตามินดอกดอกนะอันต่อ
02:50:22 → 02:50:27 มาคือ 2 เกลือแรกคือแมกนีเซียม
02:50:27 → 02:50:30 โปแตสเซียมแมกนีเซียมโปแตสเซียมต้องมี
02:50:30 → 02:50:34 ต้องมีนะครับเพราะว่าอ่าวิตามินที่บอก
02:50:34 → 02:50:37 แล้วว่าอินซูลินเนี่ยเขาจะตอบสนองในทาง
02:50:37 → 02:50:40 ที่ดีในทางที่ไม่ก้าวแล้วไม่ดุดันเนี่ย
02:50:40 → 02:50:43 การลดลาวาสอบของตัวอินซูลินเนี่ยต้องใช้
02:50:43 → 02:50:48 วิตามินบีนะเกือแรกต้องใช้โปแตสเซียมนะฮะ
02:50:48 → 02:50:52 นะแล้วก็โอเมก้า 3 นะที่เป็นมิตรกับเา้า
02:50:52 → 02:50:58 วิตามินดีนะแล้วก็ถ้าเป็นเบาหวานก็ต้องมี
02:50:58 → 02:51:01 โครเมียมเพราะพวกนี้มันเกิดเป็นที่นี่
02:51:02 → 02:51:02 แหละ
02:51:02 → 02:51:08 [เพลง]
02:51:08 → 02:51:14 บอืครับผมแหมมามาปล่อยของต่อกลางคืนนะ
02:51:14 → 02:51:19 เเอออนี้เจอประจำเลยไงเจอประจำเลยไอ้ๆไอ
02:51:19 → 02:51:21 เรื่องบ้านหมุนอะไรพวกนี้ใช่มั้ยพี่หมอ
02:51:21 → 02:51:25 ใช่ฮะใช่เอ้าเรามีหมายถึงว่ามี Op เคส
02:51:25 → 02:51:28 เนี่ยเต็มไปหมดเลยฮะนะเพราะว่ามันดื้อ
02:51:28 → 02:51:31 อินซูลินเยอะไงแล้วภาวะดื้ออินซูลินแล้ว
02:51:31 → 02:51:35 เนี่ยมันก็เล่นงานแถวหัวและคอเนี่แหละนะ
02:51:35 → 02:51:38 ทำไมเป็นหวัทำไมไอไม่หายสักกทีจะไอ 100
02:51:38 → 02:51:42 วันแล้วนะเนี่ยนะเออทำไมศาลคัดหล่งมูก
02:51:42 → 02:51:45 เมือขี้คอขี้เสดจขี้กระเทอบานเบิกไปหมด
02:51:45 → 02:51:49 ขี้หูขี้ตาขี้ปันเต็มไปหมดนะเต็มหัวเต็ม
02:51:49 → 02:51:53 คอเนี่ยแหละแล้วอย่างงี้หมออทเค้ารู้มั้ย
02:51:53 → 02:51:57 เนี่ยพี่หมออ๋ออันนี้คุยกันได้ก็แนะนำเ
02:51:57 → 02:52:02 อยู่แต่เเหรอเปากไม่ไวเท่าหมอหรอกคือคน
02:52:02 → 02:52:05 ได้เวลามันเยอะๆเนี่ยคุณต้องเร็วฮะแล้ว
02:52:05 → 02:52:08 ถ้าคุณเร็วไม่ได้คุณต้องสอนเจ้าหน้าที่
02:52:08 → 02:52:11 หมอจะสอนเจ้าหน้าที่อูยเจ้าหน้าที่ของหมอ
02:52:11 → 02:52:14 นี่โอ้ออเสร็จแล้วเนี่ยถ้าวันไหนเหนื่อยๆ
02:52:14 → 02:52:19 พากันไปเลี้ยงต้องพาไปเลี้ยงนะนะแล้วมัน
02:52:19 → 02:52:22 ก็เป็นงานรูีอย่างเงี้นะบางทีหมอบอกกุไก่
02:52:22 → 02:52:26 มาแล้วเอาคนนี้ไปแนะนำหนอินหน่อยเดี๋ยว
02:52:26 → 02:52:31 หมอมีอีก 3-4 เคสเนี่ยอะไเงี้ๆๆไปเลยป้าๆ
02:52:31 → 02:52:34 ๆทาง
02:52:34 → 02:52:38 นี้ก็มีชาร์จมีอะไรให้ดูนะ้าๆเอามานะมี
02:52:38 → 02:52:42 ลูกมามั้ยให้ลูกมาฟังด้วยนะมือถือมีมั้ย
02:52:42 → 02:52:45 มือถือมีมั้ยเอาถ่าๆๆเนี่ย 2-3 หน้าเไป
02:52:45 → 02:52:48 อ่านเลยทำตามเนี้ยนะดูซิมันจะหายจะเบา
02:52:48 → 02:52:53 มั้ยอ่าๆๆอย่างเงี้ยเหมือนเหมือนกับเต็ม
02:52:53 → 02:52:56 ทีมเลยนะมองตาบรู้เลยต้องทำอะไรใช่นะโอ้ย
02:52:56 → 02:53:00 ไม่งั้นเราก็เป็นผีบ้าออกงิ้วทั้งวันทั้ง
02:53:00 → 02:53:04 คืนงี้ตายพอ
02:53:04 → 02:53:09 ดีโอ๊ยเอ้อคุณหมอคุณอทีถามว่ามีความเห็น
02:53:09 → 02:53:15 เรื่องการตรวจจุลินทรีย์ในนำไส้มั้ยคะ
02:53:15 → 02:53:19 โอ้ไม่มีความเห็นหรอกฮะน้เพราะว่า
02:53:19 → 02:53:24 อืมมันมันเยอะอ่ะมันเยอะมากตอนแม่หมอป่วย
02:53:24 → 02:53:27 อ่ะอืก็ส่งไปตรวจต่างประเทศอ่ะนะก็ราคา
02:53:27 → 02:53:28 เยอะอยู่
02:53:28 → 02:53:32 อ่ะราคาเยอะนะแล้วก็มันก็ไม่ค่อยได้ผล
02:53:32 → 02:53:34 อะไรนัก
02:53:34 → 02:53:36 อื
02:53:36 → 02:53:40 นะก็ไม่จำเป็นนะฮะถ้าเป็นหมอหๆไม่แนะนำอื
02:53:40 → 02:53:44 ก็รีบปฏิบัติตัวไปเลยใช้น้ำซุปต้มกระดูก
02:53:44 → 02:53:49 นี่แหละนะตัวการสำคัญนะน้ำซุปส้มกระดูก
02:53:49 → 02:53:53 เกลือนะน้ำส้มใายชูนะแล้วหลังจากนั้นจะ
02:53:53 → 02:53:56 แอดออจุลินทรีย์สายพันธุ์อะไรที่ที่ดีๆ
02:53:56 → 02:54:00 นี่ก็มีขายกันเยอะเพราะมันมีงานวิจัยออก
02:54:00 → 02:54:03 มาเยอะอยู่คือไอ้พวกนี้มันเป็นความหลาก
02:54:03 → 02:54:06 หลายแบบเป็นความหลากหลายมากแบบมัน
02:54:06 → 02:54:09 กระจุ๊กกระจิ๊กแ่ะอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ
02:54:09 → 02:54:11 ซึ่งแต่ละคนมันไม่เหมือนกันเลยอ่ะนะพี่
02:54:11 → 02:54:17 หมอใช่ฮะอือเออมันมันก็เลยแบบถ้าปรับตั้ง
02:54:17 → 02:54:19 แต่ต้นทางมันมันก็จะปรับสมดุลของมันเอง
02:54:19 → 02:54:22 อ่ะผมก็คิดแบบนั้นนะอื
02:54:22 → 02:54:27 เออคุณโอ๊ตอคุณโอ๊ตยังไม่หลับครับยังสู้
02:54:27 → 02:54:31 ครับบอกว่าถ้ากิน D3 แล้วก็ K2 เสริม
02:54:31 → 02:54:33 เนี่ยคุณกินแบบที่มีน้ำมันมะพร้าวมั้ยคะ
02:54:33 → 02:54:38 เห็นมีบางยี่ห้อ D3 + K2 เนี่ยอ่ะมีมี
02:54:38 → 02:54:41 เพิ่มน้ำมันมาให้ด้วย
02:54:41 → 02:54:47 เออคือ AD ในรูปแบบเนี้ยเ้าละลายในน้ำมัน
02:54:47 → 02:54:50 นะมีเพิ่มน้ำมันก็กินเข้าไปเลยเพราะว่า
02:54:50 → 02:54:54 น้ำมันที่ที่เป็นเค้าเรียกว่าเป็นเหมือน
02:54:54 → 02:54:57 เป็นตัวกลางอยู่เนี่ยนะในแคปซูลอะไรอย่าง
02:54:57 → 02:55:00 เงี้ยไม่มีผลอะไรน้อยน้อยมากคือมันเป็น
02:55:00 → 02:55:04 แค่ตัวตัวประคองทำให้ไอ้ตัววิตามินเข้าไป
02:55:04 → 02:55:08 ได้ใช่มั้มันละลายได้เออกินเพราะมันอยู่
02:55:08 → 02:55:11 ในไขมันใช่เออเออกินได้เลยครับกินได้เลย
02:55:11 → 02:55:16 กินไปเลยะเห็นลูของโอ๊ตน่ะนะของโอ๊ตเนี่ย
02:55:16 → 02:55:21 มีปัญหาเรื่องวิตามินดีนะต้องเสริมอ่ะ
02:55:21 → 02:55:25 เออต้องเสริมต้องตากดงตากแดดหรือจะกินก็
02:55:25 → 02:55:30 ได้นะถ้ากลัวแดดเดี๋ยวผิวไม่
02:55:30 → 02:55:34 สวยแต่วัยเนี้ยวัย 50 เนี่ยเอ่อเนี่ย
02:55:34 → 02:55:37 วิตามินดีเนี่ยก็ต้องกินเสริมหมอก็กินทุก
02:55:37 → 02:55:42 คืนเออพี่หมอกินกี่อายูอ่ะครับอ๋อวิตามิน
02:55:42 → 02:55:48 ดีที่กินก็คือ 5,000 อ 125 มกร 5,000 i
02:55:48 → 02:55:52 ค่ะๆแล้วจะเว้นจะเว้นแค่วันนึงสัปดาห์นึง
02:55:52 → 02:55:56 พักตับนะ
02:55:56 → 02:56:00 [ปรบมือ]
02:56:00 → 02:56:06 อืเห็นพี่หมอเข้าไปตอบคุณพัอะไร
02:56:06 → 02:56:11 เนี่ยที่เ้าไปเมืองนอกบ่อยๆอ่ะครับคุณ
02:56:11 → 02:56:15 พัชลีผู้ชายอ่ะครับออก็ถามว่าอ่านดูไที
02:56:15 → 02:56:19 สไลนสูงต่ำนี่ไม่ใช่ปัญหาเออเออเรื่อง
02:56:19 → 02:56:24 ไลโปโปรตีนเซนทเค้าทำงานที่โตเกียวเเชื่อ
02:56:24 → 02:56:27 อะไรนะพี่พี่พี่หมอโต้งเค้าชื่อเล่นชื่อ
02:56:27 → 02:56:31 พี่โก้เออพี่โก้ใช่มั้ยอ่าเคเเเไปกับ
02:56:31 → 02:56:35 โตเกียวประจำ
02:56:35 → 02:56:39 เออผมผมเห็นตารางแล้วนะวันนี้คือผมเพิ่ง
02:56:39 → 02:56:43 อธิบายไปว่าอย่างเรื่องสมัยใหม่เเคเพูด
02:56:43 → 02:56:45 เรื่องกระสุนใช่มั้ยอย่างเรื่อง Apple B
02:56:45 → 02:56:48 อะไรพวกเนี้ยมันเป็นเรื่องกระสุนน่ะนะอื
02:56:48 → 02:56:51 แล้วก็เรื่องไลโปโปรตีนเซนทริกที่พวกภาวะ
02:56:51 → 02:56:54 เรื่องอินซูลินสูบบุหรี่อะไรสารพัดพวก
02:56:54 → 02:56:57 นั้นน่ะมันเป็นเรื่องของสมนสภาพแวดล้อม
02:56:57 → 02:57:01 อ่ะก็เลยมาตกผลึกว่าเออมันมันก็แยกตามที่
02:57:01 → 02:57:05 พี่หมอบอกอนะอืเพียงแต่ว่าสมัยใหม่นี้เขา
02:57:05 → 02:57:07 ให้ความสำคัญกับไอ้ตัวกระสุนมากกว่าคือ
02:57:07 → 02:57:10 พวกอะไรกโปรตีนพวกเรือพวกนี้มากกว่าพี่
02:57:10 → 02:57:11 หมอ
02:57:12 → 02:57:16 อือืที่จริงเคามสพันมาตั้งแต่ปี 2020
02:57:16 → 02:57:19 แล้วเดือนกันยายนเประกาศเป็นคอนเซนซัส
02:57:19 → 02:57:24 เป็นฉันทามติอืๆๆๆๆแต่ในทั่วโลกอ่ะใครจะ
02:57:24 → 02:57:27 เอาไม่เอาจะทำไม่ทำอะไรต่างๆเพราะว่าพวก
02:57:27 → 02:57:31 นี้มันต้องใช้เวลาคือบทความพี่หมอบทความ
02:57:31 → 02:57:34 นี้ก็ค่อนข้างแบบใครอ่านไม่เข้าใจนี่ก็จะ
02:57:34 → 02:57:37 เขวไปเลยอย่างงั้นนะใช่ฮะไอ้ 8 ดัชนี
02:57:37 → 02:57:42 เนี่ยอืเออแล้วบางคนก็จะเข้าใจว่าเฮ้ยเรา
02:57:42 → 02:57:48 กลายเป็นพวกกระแสหลักไปแล้วเหรอวะ
02:57:48 → 02:57:51 ไม่ใช่มันมีอะไรมากกว่านั้นใช่มครับเออ
02:57:51 → 02:57:54 ใช่มันมีเลมแน้นมันมี TG index มันคือ
02:57:54 → 02:57:58 มันเรามาวิเคราะห์เค้าเรียก
02:57:58 → 02:58:03 ไตน Centric เอ่อ analysis เนี่ยก็คือ
02:58:03 → 02:58:08 เป็นการวิเคราะห์เอ่อความสัมพันธ์นะซึ่ง
02:58:08 → 02:58:12 มันเป็นความเป็นไดนามินะมีความเป็นไดนามิ
02:58:12 → 02:58:15 มากกว่าคือไม่ได้เป็นวิเคราะห์เป็นแบบตัว
02:58:15 → 02:58:19 ๆตัวๆนะอือยู่ในระดับเซลล์หรือโลกูลหรือ
02:58:19 → 02:58:22 เซลลูล่าอะไรเงี้ไม่ใช่อันนี้เป็นการ
02:58:22 → 02:58:27 วิเคราะห์ที่เป็นระบบอ่าไดนามิ analis
02:58:27 → 02:58:28 เ้าเรียกว่า
02:58:28 → 02:58:32 โนนิครับซึ่งมันก็จะเกี่ยวข้องกับไอ้พวก
02:58:32 → 02:58:36 การเข้าสูตรหรือแอปหรือการเทียบอัตราส่วน
02:58:36 → 02:58:38 อ้อๆๆ
02:58:38 → 02:58:44 ๆแล้วก็อัตราส่วนที่ตกกระป๋องไปนะตามคำ
02:58:44 → 02:58:48 บอกเล่าก็คือไกนหารด้วย hdl เพราะ
02:58:48 → 02:58:52 มันมีความคลาดเคลื่อนสูงเขาจึงถือว่ามัน
02:58:52 → 02:58:57 มีความบกพร่องนะเอาไปใช้แปรผลได้แต่น้ำ
02:58:57 → 02:59:01 หนักของความน่าเชื่อถือจะลดลงเรื่อยๆอื
02:59:01 → 02:59:03 อือ
02:59:03 → 02:59:07 ๆอืก็คือเอาไปเอาดูประกอบอ่ะได้อยู่แต่
02:59:08 → 02:59:11 เอาไว้ชื่อชัดแต่ว่าเฮ้ยกูรอดละกูไม่เป็น
02:59:11 → 02:59:16 แน่แล้วอย่างงี้ไม่ได้ไม่ได้ฮะเไม่ได้
02:59:16 → 02:59:19 อือื
02:59:19 → 02:59:23 คือมันไปไกลมากอ่ะคิดว่านะปลายปีที่แล้ว
02:59:23 → 02:59:27 เือช่วงเนี้ยที่เราทำแผนภาพหรือว่าเราทำ
02:59:27 → 02:59:31 แต่ถ้าให้เทียบระหว่างขอาให้เทียบระหว่าง
02:59:31 → 02:59:32 inin
02:59:32 → 02:59:37 resistance กับ ldl ี่เลยเนี่ยจะบอกว่า
02:59:37 → 02:59:41 ldl มีหลักฐานแล้วก็ชัดเจนกว่าเนี่ยแปล
02:59:41 → 02:59:43 ว่า ldl สูงเนี่ยอันตรายกว่า ins
02:59:43 → 02:59:46 resistance มันก็ไม่น่าใช่มครับ
02:59:46 → 02:59:50 อาจารย์ในเมื่อหรือว่าใช่ฮะใช่แล้วใช่
02:59:50 → 02:59:54 แล้วเพราะว่างานวิจัยในระดับเป็นล้านเป็น
02:59:54 → 02:59:59 35 ล้านคนและและเปเปอร์รายงานเนี่ยที่
02:59:59 → 03:00:03 ที่เเรียกว่าไชถูกอ้างอิงเนี่ยอันนี้มัน
03:00:03 → 03:00:07 เยอะมากเลยนะเพราะฉะนั้นตอนนึงอ่ะพี่พี่
03:00:07 → 03:00:10 ถึงได้โพสต์ไปว่าตอนเทางการแพทย์ประแส
03:00:10 → 03:00:14 หลักเนี่ยเาเอาเรื่องราวเหล่าเนี้ยมา
03:00:14 → 03:00:19 analise แล้วแล้วก็เผยแพร่นะว่าของเขามี
03:00:19 → 03:00:23 น้ำหนักมากกว่านะอะไรอย่างเงี้ยนะมันมัน
03:00:23 → 03:00:29 เป็นความจริงแสดงว่าเอ่อถ้า ldl สูง
03:00:29 → 03:00:33 เนี่ยไม่ว่าจะ in resistance หรือไม่
03:00:33 → 03:00:36 หรือบางคนอาจจะอ resistance หรือบาหวาอะไ
03:00:36 → 03:00:39 แล้วแต่มาก่อนเนี่ยแล้วมากินโขา ketogenic
03:00:39 → 03:00:43 แล้วแล้วก็ิัได้แก้ปัญหาอินซูลินได้อะไร
03:00:43 → 03:00:46 ได้เบาวงเบาหวานสงบแต่ ldl ขึ้นน่ะมัน
03:00:46 → 03:00:49 กลายเป็นว่ามันยิ่งแยกแเหรอถ้าอย่างงั้น
03:00:49 → 03:00:54 มันมันยมันยังไม่ปลอดภัยมันยังไม่ดี
03:00:54 → 03:00:57 จริงมันยังไม่ดีจริงหรือหรหรหรือมันอาจจะ
03:00:57 → 03:01:02 อนุมานได้ว่าไอ้ udl ที่มันสูงมากๆจริงๆ
03:01:02 → 03:01:05 อ่ะมันมันมันมัน relate กับการเกิด svd
03:01:05 → 03:01:09 จริงโดยโดยที่ in resistance เนี่ยอาจจะ
03:01:09 → 03:01:13 ชัดไม่เท่าด้วยอย่างงี้ใชมใช่ใช่เพราะว่า
03:01:13 → 03:01:16 มันเป็น independent Factor คือมันเป็น
03:01:16 → 03:01:22 Factor แล้วลี่แล้วถ้าอย่างเงี้ยถ้าหาก
03:01:22 → 03:01:25 ว่าข้อมูลของของอันเนี้ยมันไปซัพพอร์ต
03:01:25 → 03:01:28 กระแสหลักถูกมที่่งเขาคค่อนข้างกลัว ldl
03:01:28 → 03:01:32 มากกว่ากลัวน้ำตาแบบพวกเราอ่ะแล้วเา้าก็
03:01:32 → 03:01:35 ชอบจ่ายยาโดยเฉพาะสตินเลยก็ว่าไปเนี่ยอือ
03:01:36 → 03:01:39 เราเราจะอนุมานได้ตามเค้าเลยเหรอครับ
03:01:39 → 03:01:43 ว่าถ้า ldl สูงก็ต้องกินสตินอยู่ดีเหรอ
03:01:43 → 03:01:46 ถ้าอย่างงั้นน่ะไม่ในแนวทางเพราะว่าแนว
03:01:46 → 03:01:49 ทางเราเนี่ยเราปรับอาหารน่ะมันได้ผลมาก
03:01:49 → 03:01:52 กว่าด้วยซ้ำถูกมั้ยเราแนะนำให้ปรับอาหาร
03:01:52 → 03:01:56 เนี่ยแต่ถ้าปรับอาหารอย่างเคร่งครัดแน่ว
03:01:56 → 03:02:01 แน่ถูกต้องดีแล้วนะดีแล้วถูกต้องด้วยนะ
03:02:01 → 03:02:07 นะก็อาจจะแอดเสริมเข้าไปนะตามความคิดเห็น
03:02:07 → 03:02:10 ที่ต้องพูดคุยตกลงกันก่อนเอามั้ยก็ก็คือ
03:02:10 → 03:02:14 เคส by เสถูกมั้ยฮะเช่นใช่ตัวเลข ldl มัน
03:02:14 → 03:02:17 อาจจะสูงมากมันอาจจะมีเติมาเกี่ยวหรือว่า
03:02:17 → 03:02:20 คนเนี้ยมันมันมันอาจจะไม่เคยเป็น as cvd
03:02:20 → 03:02:22 มันอาจจะเป็น Primary prevention แต่ว่า
03:02:22 → 03:02:25 มัน High rist เหลือเกินน่ะแกสกอสูงมาก
03:02:25 → 03:02:28 อะไรก็ว่าไปติดบุหรี่มานานอะไรก็ว่าไป
03:02:28 → 03:02:32 อย่างงี้มยฮะอืเราก็พิจารณาให้ให้ยาอยู่
03:02:32 → 03:02:39 ดีอืแต่ไม่ต้องหรอกต้องลองพูดตรงนี้นะว่า
03:02:39 → 03:02:41 สมมุติว่าเค้าไม่ดื้ออินซูลินไม่ได้เป็น
03:02:41 → 03:02:45 ไรเลยไม่อ้วนไม่อะไรเลยนะแต่เขมากิน ow C
03:02:45 → 03:02:48 High Fat หรือ ow C ทั่วไปเนี่ยเนี่ย
03:02:48 → 03:02:51 ปรากฏว่า ldl เขสูถ้าอย่างเงี้ยเค้าก็มี
03:02:51 → 03:02:55 ความเสี่ยงแล้วะเพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็น
03:02:55 → 03:02:57 ต้องกินยาก็ได้คุณก็ไปปรับอาหารให้มันถูก
03:02:57 → 03:03:01 ต้องททีนี้ทีนี้อ่าถ้าเราบอกว่าโอเคงั้น
03:03:01 → 03:03:03 งั้นตรงเนี้ยเราก็เห็นด้วยกับกระแสหลักเ
03:03:03 → 03:03:07 เหมือนกันว่า ldl ก็มีผลเสียที่ชัดเจนนะ
03:03:07 → 03:03:09 เพราะว่า ldlc มัน relate กับ ldl P ใช่
03:03:09 → 03:03:12 มยกับ Apple B ที่เรารู้อยู่แล้วเนี่ย
03:03:12 → 03:03:16 ใช่แต่แต่ว่าเราจะเราจะใช้เกณฑ์แบบของ
03:03:16 → 03:03:20 เค้ามเพะของของของหมอหมอกระคาร์ดิโอหมอ
03:03:20 → 03:03:24 กระแสหลักเนี่ยไม่มีลิสอะไรเลยเนี่ย 190
03:03:24 → 03:03:27 เนี่ยเ้าจับกินยาหมดอ่ะแต่ถึงแม้เราจะไม่
03:03:27 → 03:03:31 ให้กินยาเนี่ยแต่ 190 ในมุมของโ C เนี่ย
03:03:31 → 03:03:35 หลายๆคนมันก็ไม่ได้สูงมากอ่ะถ้าเอาตาม
03:03:35 → 03:03:39 เกณฑ์ของของหมออะไรนะผมจำชื่อไม่ได้ที่
03:03:39 → 03:03:41 เป็นจอกเกอร์จ๊อกเกอร์เออหมอจ๊อกเกอร์ที่
03:03:41 → 03:03:44 ว่าเ้าเป็นหมอหมอผ่าตัดใช่มั้ยแล้วเชำนาน
03:03:44 → 03:03:46 เรื่องเรื่องเรื่องเรือง In resistance
03:03:46 → 03:03:48 เลยเนี่ยเป็นนริ
03:03:48 → 03:03:52 เหมือนกิคาโฮอ่ะเป็นหมอนิวตริเเป็นเ้า
03:03:52 → 03:03:54 เป็นเซอร์จเก่าด้วยไม่ใช่หรอรู้สึกจะเป็น
03:03:54 → 03:03:58 เซจิเอ่ออันนี้ไม่รู้แต่ว่าเป็นนิติแล้ว
03:03:58 → 03:04:02 ก็เป็นหมอทางน้านแหลบนั่นนั่นัดิแล้วที
03:04:02 → 03:04:04 เนี้ยเราเราจะดูเราจะเราจะต้องยึดเกณฑ์
03:04:04 → 03:04:08 แบบนี้เลยมยอย่างเช่นว่าอ่าถ้าเอาเกณฑ์
03:04:08 → 03:04:12 ของของกระแสหลักเนาะกระแสหลักเนี่ยไม่มีิ
03:04:12 → 03:04:14 อะไรเลยนะฮะอ่าไม่อ้วนไม่เบาหวานไม่
03:04:14 → 03:04:17 บุหรี่ไม่อะไรทั้งสิ้นแต่ ldl คุณเกิน 100
03:04:17 → 03:04:20 190 เนี่ยเ classify ว่าสูงแล้วอ่ะแต่
03:04:20 → 03:04:23 ถ้าเอาตามแนวของหมอจ็อกเกอร์เนี่ย 190
03:04:23 → 03:04:25 ถ้าสมมุติว่า sdl 80 อย่างเงี้ยเราก็ิล
03:04:25 → 03:04:28 ชิถูกมั้ยฮะ ldl อาจจะ 220 เราก็ไม่ได้
03:04:28 → 03:04:31 เดือดเราก็ไม่ได้ไอจะตื่นเต้นเลยกับเค้า
03:04:31 → 03:04:33 อ่ะเราก็น่าจะเอาเกณฑ์ของเรามากกว่ามคือ
03:04:33 → 03:04:36 หมายถึงว่าเราใช้ L เราบอกว่า LD สูงเรา
03:04:36 → 03:04:40 ก็เราก็ห่วงนะแต่เราใช้เกณฑ์ของโการาฟต่ำ
03:04:40 → 03:04:42 เช่นอาจจะเป็นของหมอจอกเกอร์หรือหรือหรือ
03:04:42 → 03:04:44 ท่านอื่นอะไรก็แล้วแต่ซึ่งมันไม่ใช่ตัว
03:04:44 → 03:04:47 เลข 190 ของกระแสหลักเ้าอ่ะใช่แล้วแล้ว
03:04:47 → 03:04:50 แล้วแล้วมันจะมีอีกจุดนึงที่ผมรู้สึกว่า
03:04:50 → 03:04:53 มันจะสับสนมากเลยเวลาที่ผมจะเอาไปไปพูด
03:04:53 → 03:04:55 กับคนไข้ซึ่งเขาอาจจะไปเจอหมอกระแสหลัก
03:04:55 → 03:04:58 ด้วยหรือเขาอาจจะไม่ได้รักษากับเราอ่ะอือ
03:04:58 → 03:05:00 มันจะมีเคสที่แบบว่าสมมติเมีความดันเบา
03:05:00 → 03:05:04 หวานเมีโรคเรื้อรังอ่ะมีเอาว่าเสี่ยงอ่ะ
03:05:04 → 03:05:08 เสี่ยงเนาะซึ่งถ้าเสี่ยงเนี่ยกระแสหลัก
03:05:08 → 03:05:10 มันมันไม่เอา 190 ด้วยมันจะให้ต่ำกว่า 100
03:05:10 → 03:05:12 ด้วยซ้ำหรือ้าเป็นโรคหัวใจไปแล้วเนี่ยมัน
03:05:12 → 03:05:16 จะให้ต่ำกว่า 70 เลยนะออย่างเงี้ยแต่เรา
03:05:16 → 03:05:20 ก็รู้อยู่แก่ใจว่าว่าถ้ากินลขาบใช่มฮะต่อ
03:05:20 → 03:05:23 ให้กินโลขาบไ Fat ทีออยกินถูกต้องโอ้โห
03:05:23 → 03:05:26 เป๊ะเลยเนี่ยยังไง ldl มันก็ต้องเด้งสูง
03:05:26 → 03:05:28 ขึ้นมาบ้างครับในคนที่เขา insulin
03:05:28 → 03:05:30 resistance มาก่อนถูกมั้ยฮะยังไง ldl
03:05:30 → 03:05:31 มันต้องขึ้นน่ะแต่มันอาจจะขึ้นมากขึ้น
03:05:31 → 03:05:33 น้อยแล้วแต่อาจจะแค่ส่วนน้อยที่ขึ้นเยอะ
03:05:33 → 03:05:37 แต่มันต้องขึ้นน่ะอืแต่แต่หมอหลักหมอ้า
03:05:37 → 03:05:40 หมอหลักหมอหัวใจหมออะไรเบอกเฮ้ยไม่ได้คุณ
03:05:40 → 03:05:43 เส้นเลือตีบไปแล้วชันจะเอา 70 คุณเบาหวาน
03:05:43 → 03:05:46 คำดันบุหรี่มาครบทุกอย่างเลยคุณต้องอย่าง
03:05:46 → 03:05:48 น้อย 100 นึงไม่เกินอย่างเงี้ยแล้วมันจะ
03:05:48 → 03:05:52 ไปคุมขนาดนั้นได้ยังไงกินโขาบยังไง ldl
03:05:52 → 03:05:53 ต้องขึ้นบ้างอยู่แล้ว
03:05:53 → 03:05:57 อ่ะใช่แต่
03:05:57 → 03:06:02 ว่าแต่ว่าเราก็จะบอกเตามเกณฑ์ของโคว่าเรา
03:06:02 → 03:06:06 ยอมรับหรือโอเคที่ตรงนี้และอธิบายว่า
03:06:06 → 03:06:08 อย่างนี้เพราะฉะนั้นก็แปลก็แปลว่าเราก็
03:06:08 → 03:06:10 ใช้เหตุผลของเค้าแต่ว่าเราไม่ต้องไปยึด
03:06:10 → 03:06:15 ยึดตัวเลขที่ที่ที่ที่มันจะเอา ldl ต่ำ
03:06:15 → 03:06:18 เวอร์ตในในทางของเค้าถูกนะฮเพื่อจะได้
03:06:18 → 03:06:21 จ่ายยาเราไม่ได้ยึดเราจะยึดแนวทางของเรา
03:06:21 → 03:06:24 และเราจะบอกเรื่องอาหารการกินและคุณจะ
03:06:24 → 03:06:28 เป็นแนวไหนก็ตามคุณทำได้มั้ยล่ะให้ร่าง
03:06:28 → 03:06:29 กายคุณกี่
03:06:29 → 03:06:35 โถ้าคุณอ่าโอ้โหเหนือขึ้นไปจาก Flash
03:06:35 → 03:06:37 adap เป็นคี adap ได้คุณจะไม่ต้องไป
03:06:37 → 03:06:43 เถียงกับหมอฝั่งไหนเลยนะฮะอ่าลองทำคือคือ
03:06:43 → 03:06:45 ทางเราก็ทางเราก็ไม่มีปัญหาส้างกระแสหลัก
03:06:45 → 03:06:48 เก็ accept ได้เก็ไม่บังคับกินหนาไครที่
03:06:48 → 03:06:51 คีต adap เนี่ยตัวเลขมันจะสวยงามแบบที่
03:06:51 → 03:06:56 เราเอามาโพสต์โชว์ให้ดูอถ้าทำได้นะอัน
03:06:56 → 03:07:00 นั้นคือเป้าหมายเลยล่ะนะฮะแล้วการทำได้
03:07:00 → 03:07:04 เนี่ยคุณจะกินเอ่อโชการแบบไหนก็ตามเนี่ย
03:07:04 → 03:07:08 แต่เป้าหมายคือกี่ตัวแล้วเออจะได้ไม่ต้อง
03:07:08 → 03:07:12 มานั่งเถียงกันแต่ถ้ายังเหแต่ในทาง
03:07:12 → 03:07:15 ปฏิบัติเนี่ยเราก็เห็นกันอยู่ไงฮว่า
03:07:15 → 03:07:18 อาจารย์ว่ามีมีมีมนุษย์กี่คนในกี่
03:07:18 → 03:07:21 เปอร์เซ็นต์ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ดีกว่าในใน
03:07:21 → 03:07:24 ยุคเนี้ยที่เป็นผู้ใหญ่เนาะก็คี่โตแดปอ่ะ
03:07:24 → 03:07:28 ก็คือมันน้อยมากผมว่ามันเรี่ very rare
03:07:28 → 03:07:32 เลยวแบบเี่ rare สุดๆมฮะมันนส่วนใหญ่แล้ว
03:07:32 → 03:07:36 แล้วดูเนี่ยจากที่ผมผมผมสรุปจากที่ที่ที่
03:07:36 → 03:07:39 ที่ศึกษากันพวกของเราเนี่ยกับของอาจารย์
03:07:39 → 03:07:43 เนี่ยคนที่เป็นเป็นสายเนื้อหรือหรือคนที่
03:07:43 → 03:07:45 เขาอ้วนง่ายแบบผมอย่าเงี้ยหรือว่า
03:07:45 → 03:07:48 อินซูลินมันเด่นๆเนี่ย Fat adap มันยัง
03:07:48 → 03:07:51 adap ไม่ค่อยจะดีเลยใช่มนนอกจากว่านอก
03:07:51 → 03:07:54 จากเป๊ะจริงๆเแล้วก็ใจเย็นๆค่อยๆลดคุง
03:07:54 → 03:07:57 ค่อยๆลดไปเรื่อยๆเห็นผลก็ยังค่อนข้างช้า
03:07:57 → 03:08:03 กับอีกสายแป้งสายผอมเนี่ยมันอะไรขาดนิด
03:08:03 → 03:08:06 เกินหน่อยอะไรเดี๋ยวคอร์ติซอลมันมันมัน
03:08:06 → 03:08:08 เล่นตลอดอ่ะเดี๋ยวมันก็นอนไม่ดีเดี๋ยวมัน
03:08:08 → 03:08:12 ก็นั่นนี่โนมันชาตินี้มันจะคีโตแด
03:08:12 → 03:08:16 อมันมันยากทั้ง 2 สายเลยนะททั้งสายเนื้อ
03:08:16 → 03:08:19 สายแป้งสายผอมอ้วนเลยนะผม
03:08:19 → 03:08:24 ว่าไม่แกทุกอย่างเนี่ยมันจะสูงหรือมันจะ
03:08:24 → 03:08:27 ต่ำหรือมันจะ adapt ได้ฝั่งไหนมากกว่ากัน
03:08:27 → 03:08:32 เนี่ยนะแต่อย่างนึงก็คือเนี่ยก็คือคือการ
03:08:32 → 03:08:37 ประเมินอ่าผลลัพธ์โดยรวมเที่เรียกว่า Hey
03:08:37 → 03:08:41 Performance เนี่ยทุกอย่างมันจะดีขึ้น
03:08:41 → 03:08:44 เอ่อมันจะเสียอย่างเดียวก็คือไอ้ตัวชี้
03:08:44 → 03:08:48 วัดที่มันเป็นเกี่ยวกับราปปิดโปรไฟล์หรือ
03:08:48 → 03:08:52 ไลโปโปรตีนเซนิอะไรต่างๆทั้งสติทั้ง
03:08:52 → 03:08:56 ไดนามิคือมันจะเป็นการเสียตรงเนี้ยนะเป็น
03:08:56 → 03:08:59 จุดที่บอกในเรื่องของการใช้พลังงานในรูป
03:08:59 → 03:09:00 ของความเป็นไข
03:09:00 → 03:09:04 มากแต่อย่างอื่นเนี่ยเดี๋ยวเราจะดีขึ้น
03:09:04 → 03:09:09 หมดนะตับจะดีไตจะดีน้ำตาลจะดีตับอ่อนจะดี
03:09:09 → 03:09:12 นะแล้วถ้าออกกำลังกายออกแรงอะไรดีๆด้วย
03:09:12 → 03:09:15 กล้ามเนื้อก็จะดีแต่มันไม่ดีอย่างเดียว
03:09:15 → 03:09:18 อ่ะในที่สุดแล้วมันจะลงเอยที่ไม่จะเรียก
03:09:18 → 03:09:19 ว่าดีหรือไม่ดีก็ไม่รู้่ะนะแต่มันก็จะ
03:09:20 → 03:09:22 เป็นเรื่องอะไรปิดโปรไฟล์ 3 ตัว 4 ตัว
03:09:22 → 03:09:27 หรือลมาเข้าอัตราส่วนแล้วมันก็จะสูงๆต่ำๆ
03:09:27 → 03:09:30 อะไรอย่าง
03:09:30 → 03:09:34 เงี้ยแต่ก็ไม่ไม่ก็ไม่เป็นไรอ่ะไม่เป็นไร
03:09:34 → 03:09:37 นะเพราะมันเป็นแนวทางเพราะว่าตามที่บอก
03:09:37 → 03:09:41 โภชนาการทุกอย่างโดยเฉพาะในแนวฟเนี่ยมัน
03:09:41 → 03:09:43 มันหลายกลุ่มหลายค่ายก็จริงแต่ว่ามันก็จะ
03:09:43 → 03:09:45 ไปในทางที่ดีทั้ง
03:09:45 → 03:09:48 นั้นหลักการก็ก็คือการควบคุมฮอร์โมนการ
03:09:49 → 03:09:51 set up ฮอร์โมนเ่อ Balance หรือฮอร์โมน
03:09:51 → 03:09:55 set up นะแล้วหลังจากนั้นก็ไปต่อเรื่อง
03:09:56 → 03:09:59 Body type Diet Set set
03:09:59 → 03:10:03 up เราเราแนวทางก็วางไว้อย่างเงี้ยถ้าเ
03:10:03 → 03:10:09 ไม่หยุดเรียนรู้นะพี่
03:10:09 → 03:10:13 หมอแต่ว่าหนักใจที่ว่าส่วนใหญ่นะส่วนใหญ่
03:10:13 → 03:10:16 ก็คือคนเนี่ยยังไม่รู้เรื่องรายละเอียด
03:10:16 → 03:10:20 ว่าคาฟโปรตีนไขมันอะไรต่างๆเนี่ยมันแยก
03:10:20 → 03:10:23 แยะยังไม่ลงตัวยังไม่ตรง
03:10:23 → 03:10:27 กันเพราะฉะนั้นเวลาเวลาทำเนี่ยเวลา
03:10:27 → 03:10:30 ปฏิบัติแล้วเนี่ยก็ไปเอานั่นเอานี่มากิน
03:10:30 → 03:10:33 แล้วมันก็เลยมีไอ้โน่นไอ้นี่มาแทรกมาแซม
03:10:33 → 03:10:38 มาแถมนิดแถมหน่อยมามาเจือนั่นเจือนี่อะไร
03:10:38 → 03:10:41 ซะเราก็ไม่รู้ล่ะว่า
03:10:41 → 03:10:44 มันออกมาเป็นคำข้าวที่จะเข้าท้องเข้าไส้
03:10:45 → 03:10:49 แล้วมันจะไปออกนิดยังไงต่อฮอร์โมนมันวัด
03:10:49 → 03:10:54 ยากอครับคือเราก็ได้แหละแต่พวก AI
03:10:54 → 03:10:57 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันแคลอรี่โอเมก้า 3
03:10:57 → 03:11:00 โอเมก้า 6 เอ่อแฟตอัตราส่วนเท่านั้นเท่า
03:11:00 → 03:11:04 นี้นะแล้วฮอร์โมนตอบสนองเป็นไ
03:11:04 → 03:11:08 เออคือมันวัดได้คร่าวๆท่านั้น่ะพี่หมอเออ
03:11:08 → 03:11:11 เออแต่คร่าวๆอย่างงี้ก็ดีใจมากแล้วล่ะ
03:11:11 → 03:11:14 เพราะว่าทุกอย่างเนี่ยมันไปตามทฤษฎีอ่ะนะ
03:11:15 → 03:11:18 ครับดีกว่าเดิมที่คุณไปกินแปลรูปคุณไปกิน
03:11:18 → 03:11:22 มั่วซั่มั่วซั่แล้วกินมื้อแรกไม่เป็นกิน
03:11:22 → 03:11:26 มื้อหลังไม่เป็นไม่มีหลักการไม่รู้เรื่อง
03:11:26 → 03:11:29 เออพูดพูดถึงเรื่อง AI วันนั้นผมถาม
03:11:29 → 03:11:31 เรื่องของอะไรนะที่มันอยู่ในเปลือกกุ้ง
03:11:31 → 03:11:33 อ่ะพี่หมออะไรนะ
03:11:33 → 03:11:39 ไินไอซานอ่าอะไรนะนเป่าแซนทินเออใช่ครับ
03:11:39 → 03:11:42 คือคือผมถามว่าอ่าคนปกติอ่ะถ้าจะกินเพื่อ
03:11:42 → 03:11:45 เป็นสต้าหรือมูอิสระเนี่ยคุณควรจะกินเท่า
03:11:45 → 03:11:48 ไหร่มันคำนวณให้ไม่ออกมานะพี่หมอกินนกุ้ง
03:11:48 → 03:11:51 เนี่ยกินกุ้งเหมือนถึงกินทั้งเปลือกอ่ะนะ
03:11:51 → 03:11:54 เออประมาณัก 5-6 ตัวเองนะพี่หมอต่อวัน
03:11:54 → 03:11:59 น่ะเออได้ปริมาณแสตเซินเพียงพอต่อการที่
03:11:59 → 03:12:02 แบบว่าต้างอนุอุสได้แล้วแต่ถามว่าจะมีใคร
03:12:02 → 03:12:05 กี่คนครับที่กินกุ้งทั้งเปลือกอ้ามีผม
03:12:05 → 03:12:08 เนี่ยแหละแล้วก็คืออะไรนะสามารถเอาไปต้ม
03:12:08 → 03:12:13 ได้นะอือไม่ๆคือที่จะบอกก็คือว่าคือ AI
03:12:13 → 03:12:16 มันทำให้เราแบบเข้าถึงอะไรที่แบบว่าอะไร
03:12:16 → 03:12:19 แบบนี้ได้อ่ะเอออะไรที่เราไม่ไม่คิดว่า
03:12:19 → 03:12:22 มันจะมันจะทดแทนกันได้หรืออะไรอย่างเงี้ย
03:12:22 → 03:12:25 มันก็จะหาตัวตัวเลือกอื่นมาให้เราได้อะไ
03:12:25 → 03:12:30 อย่างเงี้ยฮะอื
03:12:30 → 03:12:34 ๆเอความหลาก
03:12:34 → 03:12:39 หลายเที่ยงคืนกว่าแล้วพี่มอเออมีคุณอรุณ
03:12:39 → 03:12:44 ทิศยังถามมาอีกยังไงดีพี่หมอเราจะไปลมที
03:12:44 → 03:12:49 เดียวมั้ยลมทีเดียวดีกว่านะนะก็จะมีอยแบบ
03:12:49 → 03:12:53 ค่อนข้างละเอียดสักประมาณวันเสาร์ฮะครับๆ
03:12:53 → 03:12:58 ไ้จะคุยเรื่องของด้าด้วยเนาะอ่าได้ๆครับ
03:12:58 → 03:13:04 ผมด้าก็มีโพส์มีรายละเอียดโพชอยู่มั้ยลไป
03:13:04 → 03:13:07 หาแว่นขยายดูก่อเพราะว่าถ้าต่อนี่ผมว่า
03:13:07 → 03:13:10 น่าจะมีถึง 1 2:00 แใช่เดี๋ยวมันจะยาวไป
03:13:10 → 03:13:14 แบบเอ่อพุงพุงเครียดนน่าจะตาสว่างใช่มั้ย
03:13:14 → 03:13:20 ครับตอนนี้พี่หมอกับพี่หมอโต
03:13:20 → 03:13:23 เราก็จะอยู่ถึงที่ 1 ที่ 2 อยู่แล้วเออ
03:13:23 → 03:13:27 เออเ้ยแต่ผมผมไอ้เนี่ยป่วยอ่ะหายเกือบจะ
03:13:27 → 03:13:30 100% แล้วล่ะเพราะว่าเหนือแต่ว่าอายนิด
03:13:30 → 03:13:35 หน่อยครับพี่หมออ๋อกินต้มกระดูกใส่เกลือ
03:13:35 → 03:13:39 เออใส่น้ำส้มใายชูอ่ะนะฮะครับก็คือกดใน
03:13:39 → 03:13:43 น้ำส้มใายชูอ่ะมันล้างปากล้างคอได้ดีครับ
03:13:43 → 03:13:47 นะ
03:13:47 → 03:13:51 อนี้ก็หายเร็วแล้วฮะอือ
03:13:51 → 03:13:53 โอเค
03:13:53 → 03:13:59 งั้นปิดไลฟแค่นี้ก่อนิดไลฟเลยนะไยังมีคน
03:13:59 → 03:14:01 ตามดูเราอยู่ตั้ง 11 คนนะเนี่ยตอนเนี้ย
03:14:01 → 03:14:05 โอ้นะสุดยอดเดี๋ยวเจอกันใหม่นะเจอกันใหม่
03:14:05 → 03:14:08 แล้วกันนะฮะนะยังจะอยู่ในเรื่องไทลอยอยู่
03:14:08 → 03:14:10 ครับวันนี้เฉพาะกิจจริงๆไม่ได้บอกก่อน
03:14:10 → 03:14:11 ล่วง
03:14:11 → 03:14:17 หน้าตน 2 ตอน 20:00 นเหรอครับผมอตอน 2100
03:14:17 → 03:14:21 นครับพี่พี่หมออ๋อ 21:00 นเพิ่ง 21:00 น
03:14:21 → 03:14:25 คือผมกำลังจะขึ้นกำลังจะขึ้นแล้วพี่หมอ
03:14:25 → 03:14:28 เ่อทักเข้ามาบอกครุท่าอยู่
03:14:28 → 03:14:35 มทักไปเปิดอววันเสาร์ก็ 3
03:14:35 → 03:14:39 เนาะเดี๋ยวนัดนัดเวลาอีกทีนึงนัดเวลาอีก
03:14:39 → 03:14:43 ทีแล้วกันใครจะว่างบ้างหรืออาจเผมจะเดิน
03:14:43 → 03:14:49 ทางไปตาคลีแต่ก็คิดว่าน่าจะกลับมาทัน
03:14:49 → 03:14:54 คุณจามรบอกพึ่งมาครับพี่หมอจคุณจามรได้
03:14:54 → 03:14:58 มั้ยโอ๊ยแต่ละคนไอ้พรุ่งนี้พวกนอนดึกกัน
03:14:58 → 03:15:00 ทั้งนั้นเลยนี่
03:15:00 → 03:15:01 หว่า
03:15:01 → 03:15:02 [เพลง]
03:15:02 → 03:15:06 เออโอเคครับงั้นอ้าวันนี้แนะพรุ่งนี้
03:15:06 → 03:15:09 พรุ่งนี้เหมือนเดิมนะพี่หมอเอาอะไรนะตัดด
03:15:09 → 03:15:13 ต่อแล้วก็เอาขึ้นเพราะว่าตอนนี้ไลฟ์ไลฟ์
03:15:13 → 03:15:16 Facebook เก็จะเก็บไว้ได้แค่ 30 วันครับ
03:15:16 → 03:15:20 พี่หมอเออเราต้องหาทางออกนะที่จะทำไม่ไอ้
03:15:20 → 03:15:22 ของเราไม่มีปัญหาเพราะว่าผมตัดต่อทุกทุก
03:15:22 → 03:15:27 ครั้งอยู่แล้วไงอ๋อเออก็อันนี้ไม่ไม่สดง
03:15:27 → 03:15:31 สมมิเหรอเออใช่พวกสตีมมิ่งอ่ะพวกพวกที่
03:15:31 → 03:15:33 แบบว่าไรฟแล้วทิ้งไปเลยอย่างเงี้ยไม่ได้
03:15:33 → 03:15:35 มาตัดต่ออัพขึ้นอะไอย่าเงี้ยก็จะจะมี
03:15:35 → 03:15:39 ปัญหาหมดเลยอุ้ยเออเขาเปลี่ยนนโยบายหมด
03:15:39 → 03:15:42 ผู้ประกาศันเนี้ยครับเห็นอยู่เห็นอยู่
03:15:42 → 03:15:45 อยู่เออแต่ของเราของเราไม่เป็นไรครับพี่
03:15:45 → 03:15:47 หมออื
03:15:47 → 03:15:51 อืโอเคครับราตรีสวัสดิ์ทุกกคนครับสวัสดี
03:15:51 → 03:15:54 ครับครับสวัสดีครับพี่หมอสวัสดีครับทุกคน
03:15:54 → 03:15:57 ครับสวัสดี
03:15:57 → 03:16:15 [เพลง]
03:16:15 → 03:16:18 ครับ y
03:16:18 → 03:16:23 [เพลง]