00:00:12 → 00:00:14 สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ
00:00:14 → 00:00:17 เหมือนที่หมอบอกนะครับ ตอนเรื่องโรคอ้วนอีกยาวนะ
00:00:17 → 00:00:20 เพราะหมอบอกแล้วเป็นรากฐานของการเกิดโรค
00:00:20 → 00:00:23 อาทิตย์นี้นะครับ เรากลับมาต่อกันเรื่องฮอร์โมน
00:00:23 → 00:00:25 ที่เกี่ยวกับเรื่องการเผาผลาญในร่างกาย
00:00:25 → 00:00:27 ถ้าเราปรับให้ร่างกายเราดี
00:00:27 → 00:00:30 เราเข้าใจการทำงานของสารสื่อประสาท
00:00:30 → 00:00:32 ฮอร์โมนต่างๆ นี้
00:00:32 → 00:00:34 เราก็จะมีความรู้ขึ้น
00:00:34 → 00:00:36 กลุ่มต่อไปที่หมอจะเล่าให้ฟัง
00:00:36 → 00:00:38 คือกลุ่มฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากไขมัน (Fat)
00:00:38 → 00:00:41 หรือฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากไขมันนี่แหละ
00:00:41 → 00:00:45 ไขมันก็เหมือนกับสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งนะ เป็นลูกเรานี่แหละ
00:00:45 → 00:00:47 เราเลี้ยงเขาเองใช่ไหม
00:00:47 → 00:00:48 เวลาอ้วนอย่าว่าใครนะ
00:00:48 → 00:00:49 เหมือนมีลูก 2 คน
00:00:49 → 00:00:54 ให้คนนึงกินผักกินดี เขาก็เป็นกล้ามเนื้อ เป็นร่างกาย
00:00:54 → 00:00:58 เป็นโปรตีน เป็นถั่วสร้างของดีให้เรา
00:00:58 → 00:01:02 เราเลี้ยงลูกอีกคนนึงด้วย ของผัด ของมัน ของทอด
00:01:02 → 00:01:02 โอ้โห ไม่ต้องพูด
00:01:02 → 00:01:05 เขาก็โตมาเป็นไขมันไง
00:01:05 → 00:01:08 ไขมันนี่พอเวลาเขาโตเสร็จเนี่ยเขาจะมีเส้นเลือดเยอะ
00:01:08 → 00:01:10 เขาจะมีฮอร์โมนของเขาเองด้วยนะ
00:01:10 → 00:01:13 เพราะฉะนั้นแล้ว แสดงว่าเวลาเราจะบอกเลิกกับไขมัน
00:01:13 → 00:01:15 เหมือนเราบอกเลิกกับลูกเรานี่ไม่ง่ายนะ
00:01:15 → 00:01:18 เราต้องใจแข็ง เราต้องเข้าใจ
00:01:18 → 00:01:21 ว่าเราไปเลี้ยงเขาแบบนั้น เขาก็กลับมาทำร้ายตัวเรา
00:01:21 → 00:01:23 เริ่มต้นจากเรานี่แหละที่ผิด
00:01:23 → 00:01:26 ฮอร์โมนที่หลั่งมาจากไขมัน วันนี้เอาสัก 2-3 ตัวพอ
00:01:26 → 00:01:28 ตัวที่ 1 ชื่อ เลปติน
00:01:28 → 00:01:31 ตัวนี้ก็เป็นฮอร์โมนตัวหนึ่งที่หลั่งมาจากไขมัน
00:01:31 → 00:01:34 ประกอบด้วยโปรตีนต่อกันประมาณ 167 ตัว
00:01:34 → 00:01:36 ฮอร์โมนเลปติน หลายๆ ท่านไปอ่านดูนะครับ
00:01:36 → 00:01:39 คล้ายๆ เรียกเป็นภาษาไทยเขาเรียก ฮอร์โมนอิ่ม
00:01:39 → 00:01:41 หรือว่าฮอร์โมนหยุดความหิว
00:01:41 → 00:01:45 เพราะฉะนั้นแล้ว ตัวนี้เองเนี่ยถ้ามีอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
00:01:45 → 00:01:47 พออาหารเข้าไปปุ๊บ เราก็อิ่ม
00:01:47 → 00:01:50 ฮอร์โมนก็หลั่ง เราก็หยุดกิน
00:01:50 → 00:01:54 ถ้ามีน้อย เราก็จะอิ่มยาก เราก็จะกินเยอะ
00:01:54 → 00:01:57 แสดงว่าถ้ามีน้อย มีสิทธิ์พัฒนาไปเป็นโรคอ้วนนะ
00:01:57 → 00:01:59 แล้วถ้ามีเยอะเกินไปล่ะ
00:01:59 → 00:02:04 ร่างกายมนุษย์น้อยไปก็ไม่ดี เยอะไปก็ไม่ดี
00:02:04 → 00:02:06 ทางสายกลางนี่ทำยากนะ
00:02:06 → 00:02:09 ถ้าเยอะเกินไปเขาเรียก Leptin Resistance นะครับ
00:02:09 → 00:02:11 คล้ายๆ กับ Insulin Resistance
00:02:11 → 00:02:13 ก็คือโรคเบาหวาน
00:02:13 → 00:02:15 ถ้าเยอะไปร่างกายก็กลายเป็นโรคอ้วน
00:02:15 → 00:02:18 อันนี้ฮอร์โมนโรคอ้วนตัวที่ 1
00:02:18 → 00:02:20 ตัวที่ 2 ชื่อ Adiponectin
00:02:20 → 00:02:24 ประกอบด้วยโปรตีนต่อกัน 244 ตัว
00:02:24 → 00:02:26 แล้วขึ้นมาเป็นฮอร์โมนตัวนี้
00:02:26 → 00:02:29 หลั่งมาจากไขมันเหมือนกัน แต่ตัวนี้ตรงกันข้าม
00:02:29 → 00:02:33 ถ้าหลั่งมาเยอะคือดี ถ้าหลั่งมาน้อยคือไม่ดี
00:02:33 → 00:02:36 คนที่ไขมันในตัวไม่เยอะ กลับมีตัวนี้เยอะ
00:02:36 → 00:02:38 ถ้าคนอ้วนๆ มีตัวนี้น้อย
00:02:38 → 00:02:40 ในเมืองนอกหลายประเทศ
00:02:40 → 00:02:43 ใช้ตัวนี้เป็นตัวชี้วัดภาวะการเกิดโรคนะ
00:02:43 → 00:02:45 แสดงว่าถ้า Adiponectin น้อยๆ มาหมดเลย
00:02:45 → 00:02:48 โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอักเสบนะครับ
00:02:48 → 00:02:52 โรคภูมิต้านทานตก โรคต่างๆ ที่ตามมาจากโรคอ้วน
00:02:52 → 00:02:53 เพราะว่าฮอร์โมนตัวนี้น้อย
00:02:53 → 00:02:55 แสดงว่าถ้าเยอะคือดีนะครับ
00:02:55 → 00:02:58 เพราะฉะนั้นคนน้ำหนักเยอะๆ ไขมันเยอะๆ
00:02:58 → 00:03:00 ฮอร์โมน Adiponectin จะมีน้อย
00:03:00 → 00:03:02 คนที่แข็งแรงออกกำลังกายดี กินดี
00:03:02 → 00:03:04 จะมี Adiponectin เยอะ
00:03:04 → 00:03:05 นี่ตัวที่ 2
00:03:05 → 00:03:08 ต่อมามาเจออีก เจอฮอร์โมนชื่อ Resistin
00:03:08 → 00:03:11 ยิ่งเอาไขมันมาวิจัยยิ่งเจอเยอะ ถึงเข้าใจ
00:03:11 → 00:03:15 ว่าเขาปล่อยของเสียมานะ เขาปรับสมดุลร่างกายเรานะ
00:03:15 → 00:03:17 เขามีผลกระทบกับร่างกายนะ
00:03:17 → 00:03:21 ใครที่คิดว่าอ้วนแล้วดีนะ เหมือนมีเสื้อหนาว ไม่ใช่นะครับ
00:03:21 → 00:03:24 คนเป็นโรคอ้วนก่อให้เกิดภาวะเยอะเต็มไปหมด
00:03:24 → 00:03:26 แล้วเสียสตางค์เยอะมากนะครับ
00:03:26 → 00:03:28 Resistin ปี ค.ศ. 2001 เจอ
00:03:28 → 00:03:31 ประกอบไปด้วยโปรตีนประมาณ 108 ตัว
00:03:31 → 00:03:32 ประกอบกันขึ้นมาฮอร์โมน
00:03:32 → 00:03:35 ตัวนี้เอาง่ายๆ มีเยอะไม่ดี
00:03:35 → 00:03:38 ถ้าอ้วนมาก Resistin เยอะอันตรายก่อให้เกิดโรค
00:03:38 → 00:03:41 ถ้าแข็งแรงดี มี Resistin น้อย
00:03:41 → 00:03:43 มี 3 ตัวเนอะ มีการบ้านนะ
00:03:43 → 00:03:46 ใครมีคอมเมนท์ส่งเข้ามา เดี๋ยวทีมหมอและหมอเอง
00:03:46 → 00:03:48 จะมาช่วยกันตอบ ช่วยกันแชร์
00:03:48 → 00:03:50 บางอย่างก็ต้องช่วยหมอด้วยนะครับ
00:03:50 → 00:03:53 หมอบอกแล้วว่าทุกคนเป็นผู้รู้ได้นะครับ
00:03:53 → 00:03:56 ทุกคนเป็นกูรูได้ ทุกคนสามารถรักสุขภาพได้
00:03:56 → 00:03:59 ไม่ผิดกฎหนิใช่ไหมครับ เพราะเรารักตัวเอง
00:03:59 → 00:04:03 ตัวต่อไป ก่อนจะจบอาทิตย์นี้ขออีก 2 ตัวเนอะ
00:04:03 → 00:04:06 ไขมันพอเขาวิจัยเสร็จมี 2 ชนิดนะ
00:04:06 → 00:04:09 มี Brown Fat ไขมันสีน้ำตาล
00:04:09 → 00:04:12 แล้วก็มี White Fat ไขมันสีขาว
00:04:12 → 00:04:14 น้ำตาลดี ขาวไม่ดี
00:04:14 → 00:04:18 ขาวมีเยอะ เอาไว้ป้องกันได้ดีอย่างเดียว
00:04:18 → 00:04:19 เวลาล้มแล้วป้องกันกระแทก
00:04:19 → 00:04:21 แต่ที่เหลือก่อโรคเยอะมาก
00:04:21 → 00:04:24 ไขมันสีน้ำตาลเป็นไขมันดีนะครับ
00:04:24 → 00:04:27 ไขมันดีนี่ก็คือ ถ้ามีเยอะ ให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
00:04:27 → 00:04:30 อันนี้เราไปอ่านเพิ่มเติม เราจะได้รู้ว่า
00:04:30 → 00:04:34 เออบางทีบางอย่างนี่มีความลึกลับซับซ้อนนะครับ
00:04:34 → 00:04:37 แต่พอเราเข้าใจเสร็จปุ๊บ เราจะรู้นะครับว่า
00:04:37 → 00:04:39 ภาวะโรคอ้วนไม่สนุกหรอกครับ
00:04:39 → 00:04:43 เพราะว่าหมอรักษาโรคอ้วนมาเยอะพอสมควร
00:04:43 → 00:04:45 คนที่เป็นโรคอ้วนแล้วมาปรึกษา
00:04:45 → 00:04:46 เขามักจะพูดเสมอว่า
00:04:46 → 00:04:48 รู้ตัวอีกทีก็อ้วนไปแล้ว
00:04:48 → 00:04:50 แสดงว่าเขาค่อยๆ มานะ
00:04:50 → 00:04:53 ภาวะน้ำหนักเกินนี่เหมือน Silent Killer
00:04:53 → 00:04:56 ภาษาไทยแปลว่า เพชฌฆาตแบบเงียบๆ
00:04:56 → 00:04:58 ส่องกระจกทุกวัน เรารู้ไหมตัวเองหน้าแก่
00:04:58 → 00:05:00 ไม่รู้นะครับ เราดูทุกวัน
00:05:00 → 00:05:01 อ้วนขึ้นวันละนิด
00:05:01 → 00:05:04 เดือนนึงขีดเดียว ปีนึงกิโลกรัมกว่า
00:05:04 → 00:05:07 2 ปี 2 กิโลกรัม 3 ปี 3 กิโลกรัม
00:05:07 → 00:05:11 และอย่าลืมนะ คนเราเวลาอายุมากขึ้น กระดูกก็พร่องไป
00:05:11 → 00:05:15 กล้ามเนื้อก็ฝ่อไป น้ำหนักบนตาชั่งก็ลดลง
00:05:15 → 00:05:20 หลายคนก็เลยหลอกตัวเองว่า ฉันหนักเท่าเดิมมา 10 ปีแล้ว
00:05:20 → 00:05:22 หมอบอกเอากางเกงตัวเดิมมาใส่สิ
00:05:22 → 00:05:24 ใส่ไม่ได้สักคน
00:05:24 → 00:05:26 เพราะกล้ามเนื้อก็ลด กระดูกก็ลด
00:05:26 → 00:05:29 ไขมันก็เพิ่ม ก็เท่าทุนน่ะสิ
00:05:29 → 00:05:31 แต่แสดงว่า ถ้าเราเอา Fat Scan มาดู
00:05:31 → 00:05:33 ไขมันเขาเยอะขึ้นนะครับ
00:05:33 → 00:05:35 นี่คือหลักการว่า
00:05:35 → 00:05:37 ต่อจากนี้ไปนะครับ ใครดูรายการหมอแอมป์เนอะ
00:05:37 → 00:05:40 เวลาเราคุยกันเรื่องลดน้ำหนักนะ
00:05:40 → 00:05:43 หมอหมายถึงลดไขมันในตัว ไม่ใช่ลดกล้ามเนื้อ
00:05:43 → 00:05:46 ไม่ใช่ลดน้ำหนักบนตาชั่ง ไม่ได้ลดกระดูก
00:05:46 → 00:05:49 ไม่ใช่กินยาขับปัสสาวะแล้วผอม แล้วเราดีใจใช่ไหม
00:05:49 → 00:05:51 กล้ามเนื้อเวลาลดไปก็หน้าเหี่ยวสิ
00:05:51 → 00:05:55 หลายคนพอถึงจุดหนึ่งอยากจะผอมเนี่ย อดอาหาร
00:05:55 → 00:05:58 พออดอาหารปุ๊บเนี่ย กล้ามเนื้อไปก่อนเลยนะครับ
00:05:58 → 00:06:00 ดีไม่ดีเสียกระดูกด้วย
00:06:00 → 00:06:03 คนทักหมดเลยว่าป่วยหรือเปล่าพี่ เป็นเบาหวานหรือเปล่าครับ
00:06:03 → 00:06:05 ดีไม่ดีทักเป็นมะเร็งหรือเปล่าคุณ
00:06:05 → 00:06:07 เพราะเสียของดีไปไง
00:06:07 → 00:06:11 กล้ามเนื้อ ถ้าเราหนักขึ้น 2 กิโลกรัม เพราะเราไปเล่นกล้ามมานี่ดีนะ
00:06:11 → 00:06:15 เพราะเราไปวิดพื้นมานี่ดีนะ เพราะเราไปวิ่งมานี่ดีนะ
00:06:15 → 00:06:16 ตีแบต ว่ายน้ำมานี่ดีนะ
00:06:16 → 00:06:19 เขาเรียกน้ำหนักขึ้นแบบมีคุณภาพ
00:06:19 → 00:06:20 เพราะเขาวัดเป็นเปอร์เซ็นต์
00:06:20 → 00:06:22 ถ้าหมอแอมป์น้ำหนักขึ้น 1 กิโลกรัม และเป็นกล้ามเนื้อ
00:06:22 → 00:06:25 แสดงว่าเปอร์เซ็นต์ไขมันหมอต้องลดลงถูกไหม
00:06:25 → 00:06:26 เพราะกล้ามเยอะขึ้น
00:06:26 → 00:06:28 ถ้าหมอไปออกกำลังกายและกระดูกแข็งแรงขึ้น
00:06:28 → 00:06:31 น้ำหนักขึ้นอีก อย่างนี้ก็เรียกดี
00:06:31 → 00:06:33 หลายคนตัวเบาๆ ใช่ไหม คนทักว่าผอม
00:06:33 → 00:06:37 ทำไงครับ กิน พอไปสแกนไขมันอีกที
00:06:37 → 00:06:39 พุงใหญ่กว่าเดิมอีก อย่างนี้เรียกไม่ดีนะครับ
00:06:39 → 00:06:42 เพราะฉะนั้นขอหมอจบตอนโรคอ้วนไว้ประมาณนี้
00:06:42 → 00:06:43 พอหอมปากหอมคอนะ
00:06:43 → 00:06:46 เพราะฉะนั้นสัปดาห์นี้ขอบคุณมากทุกคน
00:06:46 → 00:06:50 วันนี้กลับไปดูสิเราให้อะไรร่างกายเราบ้างเป็นรางวัล ใช่ไหม
00:06:50 → 00:06:53 ถ้าอร่อยปากลำบากเขา
00:06:53 → 00:06:55 ถ้าเราอร่อยน้อยหน่อยนะครับ
00:06:55 → 00:06:57 ร่างกายก็คงจะดีใจขึ้นเยอะนะครับ
00:06:57 → 00:06:58 เพราะฉะนั้นลาเท่านี้
00:06:58 → 00:06:59 สวัสดีครับ
00:00:12 → 00:00:14 สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ
00:00:14 → 00:00:17 เหมือนที่หมอบอกนะครับ ตอนเรื่องโรคอ้วนอีกยาวนะ
00:00:17 → 00:00:20 เพราะหมอบอกแล้วเป็นรากฐานของการเกิดโรค
00:00:20 → 00:00:23 อาทิตย์นี้นะครับ เรากลับมาต่อกันเรื่องฮอร์โมน
00:00:23 → 00:00:25 ที่เกี่ยวกับเรื่องการเผาผลาญในร่างกาย
00:00:25 → 00:00:27 ถ้าเราปรับให้ร่างกายเราดี
00:00:27 → 00:00:30 เราเข้าใจการทำงานของสารสื่อประสาท
00:00:30 → 00:00:32 ฮอร์โมนต่างๆ นี้
00:00:32 → 00:00:34 เราก็จะมีความรู้ขึ้น
00:00:34 → 00:00:36 กลุ่มต่อไปที่หมอจะเล่าให้ฟัง
00:00:36 → 00:00:38 คือกลุ่มฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากไขมัน (Fat)
00:00:38 → 00:00:41 หรือฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากไขมันนี่แหละ
00:00:41 → 00:00:45 ไขมันก็เหมือนกับสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งนะ เป็นลูกเรานี่แหละ
00:00:45 → 00:00:47 เราเลี้ยงเขาเองใช่ไหม
00:00:47 → 00:00:48 เวลาอ้วนอย่าว่าใครนะ
00:00:48 → 00:00:49 เหมือนมีลูก 2 คน
00:00:49 → 00:00:54 ให้คนนึงกินผักกินดี เขาก็เป็นกล้ามเนื้อ เป็นร่างกาย
00:00:54 → 00:00:58 เป็นโปรตีน เป็นถั่วสร้างของดีให้เรา
00:00:58 → 00:01:02 เราเลี้ยงลูกอีกคนนึงด้วย ของผัด ของมัน ของทอด
00:01:02 → 00:01:02 โอ้โห ไม่ต้องพูด
00:01:02 → 00:01:05 เขาก็โตมาเป็นไขมันไง
00:01:05 → 00:01:08 ไขมันนี่พอเวลาเขาโตเสร็จเนี่ยเขาจะมีเส้นเลือดเยอะ
00:01:08 → 00:01:10 เขาจะมีฮอร์โมนของเขาเองด้วยนะ
00:01:10 → 00:01:13 เพราะฉะนั้นแล้ว แสดงว่าเวลาเราจะบอกเลิกกับไขมัน
00:01:13 → 00:01:15 เหมือนเราบอกเลิกกับลูกเรานี่ไม่ง่ายนะ
00:01:15 → 00:01:18 เราต้องใจแข็ง เราต้องเข้าใจ
00:01:18 → 00:01:21 ว่าเราไปเลี้ยงเขาแบบนั้น เขาก็กลับมาทำร้ายตัวเรา
00:01:21 → 00:01:23 เริ่มต้นจากเรานี่แหละที่ผิด
00:01:23 → 00:01:26 ฮอร์โมนที่หลั่งมาจากไขมัน วันนี้เอาสัก 2-3 ตัวพอ
00:01:26 → 00:01:28 ตัวที่ 1 ชื่อ เลปติน
00:01:28 → 00:01:31 ตัวนี้ก็เป็นฮอร์โมนตัวหนึ่งที่หลั่งมาจากไขมัน
00:01:31 → 00:01:34 ประกอบด้วยโปรตีนต่อกันประมาณ 167 ตัว
00:01:34 → 00:01:36 ฮอร์โมนเลปติน หลายๆ ท่านไปอ่านดูนะครับ
00:01:36 → 00:01:39 คล้ายๆ เรียกเป็นภาษาไทยเขาเรียก ฮอร์โมนอิ่ม
00:01:39 → 00:01:41 หรือว่าฮอร์โมนหยุดความหิว
00:01:41 → 00:01:45 เพราะฉะนั้นแล้ว ตัวนี้เองเนี่ยถ้ามีอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
00:01:45 → 00:01:47 พออาหารเข้าไปปุ๊บ เราก็อิ่ม
00:01:47 → 00:01:50 ฮอร์โมนก็หลั่ง เราก็หยุดกิน
00:01:50 → 00:01:54 ถ้ามีน้อย เราก็จะอิ่มยาก เราก็จะกินเยอะ
00:01:54 → 00:01:57 แสดงว่าถ้ามีน้อย มีสิทธิ์พัฒนาไปเป็นโรคอ้วนนะ
00:01:57 → 00:01:59 แล้วถ้ามีเยอะเกินไปล่ะ
00:01:59 → 00:02:04 ร่างกายมนุษย์น้อยไปก็ไม่ดี เยอะไปก็ไม่ดี
00:02:04 → 00:02:06 ทางสายกลางนี่ทำยากนะ
00:02:06 → 00:02:09 ถ้าเยอะเกินไปเขาเรียก Leptin Resistance นะครับ
00:02:09 → 00:02:11 คล้ายๆ กับ Insulin Resistance
00:02:11 → 00:02:13 ก็คือโรคเบาหวาน
00:02:13 → 00:02:15 ถ้าเยอะไปร่างกายก็กลายเป็นโรคอ้วน
00:02:15 → 00:02:18 อันนี้ฮอร์โมนโรคอ้วนตัวที่ 1
00:02:18 → 00:02:20 ตัวที่ 2 ชื่อ Adiponectin
00:02:20 → 00:02:24 ประกอบด้วยโปรตีนต่อกัน 244 ตัว
00:02:24 → 00:02:26 แล้วขึ้นมาเป็นฮอร์โมนตัวนี้
00:02:26 → 00:02:29 หลั่งมาจากไขมันเหมือนกัน แต่ตัวนี้ตรงกันข้าม
00:02:29 → 00:02:33 ถ้าหลั่งมาเยอะคือดี ถ้าหลั่งมาน้อยคือไม่ดี
00:02:33 → 00:02:36 คนที่ไขมันในตัวไม่เยอะ กลับมีตัวนี้เยอะ
00:02:36 → 00:02:38 ถ้าคนอ้วนๆ มีตัวนี้น้อย
00:02:38 → 00:02:40 ในเมืองนอกหลายประเทศ
00:02:40 → 00:02:43 ใช้ตัวนี้เป็นตัวชี้วัดภาวะการเกิดโรคนะ
00:02:43 → 00:02:45 แสดงว่าถ้า Adiponectin น้อยๆ มาหมดเลย
00:02:45 → 00:02:48 โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอักเสบนะครับ
00:02:48 → 00:02:52 โรคภูมิต้านทานตก โรคต่างๆ ที่ตามมาจากโรคอ้วน
00:02:52 → 00:02:53 เพราะว่าฮอร์โมนตัวนี้น้อย
00:02:53 → 00:02:55 แสดงว่าถ้าเยอะคือดีนะครับ
00:02:55 → 00:02:58 เพราะฉะนั้นคนน้ำหนักเยอะๆ ไขมันเยอะๆ
00:02:58 → 00:03:00 ฮอร์โมน Adiponectin จะมีน้อย
00:03:00 → 00:03:02 คนที่แข็งแรงออกกำลังกายดี กินดี
00:03:02 → 00:03:04 จะมี Adiponectin เยอะ
00:03:04 → 00:03:05 นี่ตัวที่ 2
00:03:05 → 00:03:08 ต่อมามาเจออีก เจอฮอร์โมนชื่อ Resistin
00:03:08 → 00:03:11 ยิ่งเอาไขมันมาวิจัยยิ่งเจอเยอะ ถึงเข้าใจ
00:03:11 → 00:03:15 ว่าเขาปล่อยของเสียมานะ เขาปรับสมดุลร่างกายเรานะ
00:03:15 → 00:03:17 เขามีผลกระทบกับร่างกายนะ
00:03:17 → 00:03:21 ใครที่คิดว่าอ้วนแล้วดีนะ เหมือนมีเสื้อหนาว ไม่ใช่นะครับ
00:03:21 → 00:03:24 คนเป็นโรคอ้วนก่อให้เกิดภาวะเยอะเต็มไปหมด
00:03:24 → 00:03:26 แล้วเสียสตางค์เยอะมากนะครับ
00:03:26 → 00:03:28 Resistin ปี ค.ศ. 2001 เจอ
00:03:28 → 00:03:31 ประกอบไปด้วยโปรตีนประมาณ 108 ตัว
00:03:31 → 00:03:32 ประกอบกันขึ้นมาฮอร์โมน
00:03:32 → 00:03:35 ตัวนี้เอาง่ายๆ มีเยอะไม่ดี
00:03:35 → 00:03:38 ถ้าอ้วนมาก Resistin เยอะอันตรายก่อให้เกิดโรค
00:03:38 → 00:03:41 ถ้าแข็งแรงดี มี Resistin น้อย
00:03:41 → 00:03:43 มี 3 ตัวเนอะ มีการบ้านนะ
00:03:43 → 00:03:46 ใครมีคอมเมนท์ส่งเข้ามา เดี๋ยวทีมหมอและหมอเอง
00:03:46 → 00:03:48 จะมาช่วยกันตอบ ช่วยกันแชร์
00:03:48 → 00:03:50 บางอย่างก็ต้องช่วยหมอด้วยนะครับ
00:03:50 → 00:03:53 หมอบอกแล้วว่าทุกคนเป็นผู้รู้ได้นะครับ
00:03:53 → 00:03:56 ทุกคนเป็นกูรูได้ ทุกคนสามารถรักสุขภาพได้
00:03:56 → 00:03:59 ไม่ผิดกฎหนิใช่ไหมครับ เพราะเรารักตัวเอง
00:03:59 → 00:04:03 ตัวต่อไป ก่อนจะจบอาทิตย์นี้ขออีก 2 ตัวเนอะ
00:04:03 → 00:04:06 ไขมันพอเขาวิจัยเสร็จมี 2 ชนิดนะ
00:04:06 → 00:04:09 มี Brown Fat ไขมันสีน้ำตาล
00:04:09 → 00:04:12 แล้วก็มี White Fat ไขมันสีขาว
00:04:12 → 00:04:14 น้ำตาลดี ขาวไม่ดี
00:04:14 → 00:04:18 ขาวมีเยอะ เอาไว้ป้องกันได้ดีอย่างเดียว
00:04:18 → 00:04:19 เวลาล้มแล้วป้องกันกระแทก
00:04:19 → 00:04:21 แต่ที่เหลือก่อโรคเยอะมาก
00:04:21 → 00:04:24 ไขมันสีน้ำตาลเป็นไขมันดีนะครับ
00:04:24 → 00:04:27 ไขมันดีนี่ก็คือ ถ้ามีเยอะ ให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
00:04:27 → 00:04:30 อันนี้เราไปอ่านเพิ่มเติม เราจะได้รู้ว่า
00:04:30 → 00:04:34 เออบางทีบางอย่างนี่มีความลึกลับซับซ้อนนะครับ
00:04:34 → 00:04:37 แต่พอเราเข้าใจเสร็จปุ๊บ เราจะรู้นะครับว่า
00:04:37 → 00:04:39 ภาวะโรคอ้วนไม่สนุกหรอกครับ
00:04:39 → 00:04:43 เพราะว่าหมอรักษาโรคอ้วนมาเยอะพอสมควร
00:04:43 → 00:04:45 คนที่เป็นโรคอ้วนแล้วมาปรึกษา
00:04:45 → 00:04:46 เขามักจะพูดเสมอว่า
00:04:46 → 00:04:48 รู้ตัวอีกทีก็อ้วนไปแล้ว
00:04:48 → 00:04:50 แสดงว่าเขาค่อยๆ มานะ
00:04:50 → 00:04:53 ภาวะน้ำหนักเกินนี่เหมือน Silent Killer
00:04:53 → 00:04:56 ภาษาไทยแปลว่า เพชฌฆาตแบบเงียบๆ
00:04:56 → 00:04:58 ส่องกระจกทุกวัน เรารู้ไหมตัวเองหน้าแก่
00:04:58 → 00:05:00 ไม่รู้นะครับ เราดูทุกวัน
00:05:00 → 00:05:01 อ้วนขึ้นวันละนิด
00:05:01 → 00:05:04 เดือนนึงขีดเดียว ปีนึงกิโลกรัมกว่า
00:05:04 → 00:05:07 2 ปี 2 กิโลกรัม 3 ปี 3 กิโลกรัม
00:05:07 → 00:05:11 และอย่าลืมนะ คนเราเวลาอายุมากขึ้น กระดูกก็พร่องไป
00:05:11 → 00:05:15 กล้ามเนื้อก็ฝ่อไป น้ำหนักบนตาชั่งก็ลดลง
00:05:15 → 00:05:20 หลายคนก็เลยหลอกตัวเองว่า ฉันหนักเท่าเดิมมา 10 ปีแล้ว
00:05:20 → 00:05:22 หมอบอกเอากางเกงตัวเดิมมาใส่สิ
00:05:22 → 00:05:24 ใส่ไม่ได้สักคน
00:05:24 → 00:05:26 เพราะกล้ามเนื้อก็ลด กระดูกก็ลด
00:05:26 → 00:05:29 ไขมันก็เพิ่ม ก็เท่าทุนน่ะสิ
00:05:29 → 00:05:31 แต่แสดงว่า ถ้าเราเอา Fat Scan มาดู
00:05:31 → 00:05:33 ไขมันเขาเยอะขึ้นนะครับ
00:05:33 → 00:05:35 นี่คือหลักการว่า
00:05:35 → 00:05:37 ต่อจากนี้ไปนะครับ ใครดูรายการหมอแอมป์เนอะ
00:05:37 → 00:05:40 เวลาเราคุยกันเรื่องลดน้ำหนักนะ
00:05:40 → 00:05:43 หมอหมายถึงลดไขมันในตัว ไม่ใช่ลดกล้ามเนื้อ
00:05:43 → 00:05:46 ไม่ใช่ลดน้ำหนักบนตาชั่ง ไม่ได้ลดกระดูก
00:05:46 → 00:05:49 ไม่ใช่กินยาขับปัสสาวะแล้วผอม แล้วเราดีใจใช่ไหม
00:05:49 → 00:05:51 กล้ามเนื้อเวลาลดไปก็หน้าเหี่ยวสิ
00:05:51 → 00:05:55 หลายคนพอถึงจุดหนึ่งอยากจะผอมเนี่ย อดอาหาร
00:05:55 → 00:05:58 พออดอาหารปุ๊บเนี่ย กล้ามเนื้อไปก่อนเลยนะครับ
00:05:58 → 00:06:00 ดีไม่ดีเสียกระดูกด้วย
00:06:00 → 00:06:03 คนทักหมดเลยว่าป่วยหรือเปล่าพี่ เป็นเบาหวานหรือเปล่าครับ
00:06:03 → 00:06:05 ดีไม่ดีทักเป็นมะเร็งหรือเปล่าคุณ
00:06:05 → 00:06:07 เพราะเสียของดีไปไง
00:06:07 → 00:06:11 กล้ามเนื้อ ถ้าเราหนักขึ้น 2 กิโลกรัม เพราะเราไปเล่นกล้ามมานี่ดีนะ
00:06:11 → 00:06:15 เพราะเราไปวิดพื้นมานี่ดีนะ เพราะเราไปวิ่งมานี่ดีนะ
00:06:15 → 00:06:16 ตีแบต ว่ายน้ำมานี่ดีนะ
00:06:16 → 00:06:19 เขาเรียกน้ำหนักขึ้นแบบมีคุณภาพ
00:06:19 → 00:06:20 เพราะเขาวัดเป็นเปอร์เซ็นต์
00:06:20 → 00:06:22 ถ้าหมอแอมป์น้ำหนักขึ้น 1 กิโลกรัม และเป็นกล้ามเนื้อ
00:06:22 → 00:06:25 แสดงว่าเปอร์เซ็นต์ไขมันหมอต้องลดลงถูกไหม
00:06:25 → 00:06:26 เพราะกล้ามเยอะขึ้น
00:06:26 → 00:06:28 ถ้าหมอไปออกกำลังกายและกระดูกแข็งแรงขึ้น
00:06:28 → 00:06:31 น้ำหนักขึ้นอีก อย่างนี้ก็เรียกดี
00:06:31 → 00:06:33 หลายคนตัวเบาๆ ใช่ไหม คนทักว่าผอม
00:06:33 → 00:06:37 ทำไงครับ กิน พอไปสแกนไขมันอีกที
00:06:37 → 00:06:39 พุงใหญ่กว่าเดิมอีก อย่างนี้เรียกไม่ดีนะครับ
00:06:39 → 00:06:42 เพราะฉะนั้นขอหมอจบตอนโรคอ้วนไว้ประมาณนี้
00:06:42 → 00:06:43 พอหอมปากหอมคอนะ
00:06:43 → 00:06:46 เพราะฉะนั้นสัปดาห์นี้ขอบคุณมากทุกคน
00:06:46 → 00:06:50 วันนี้กลับไปดูสิเราให้อะไรร่างกายเราบ้างเป็นรางวัล ใช่ไหม
00:06:50 → 00:06:53 ถ้าอร่อยปากลำบากเขา
00:06:53 → 00:06:55 ถ้าเราอร่อยน้อยหน่อยนะครับ
00:06:55 → 00:06:57 ร่างกายก็คงจะดีใจขึ้นเยอะนะครับ
00:06:57 → 00:06:58 เพราะฉะนั้นลาเท่านี้
00:06:58 → 00:06:59 สวัสดีครับ