00:00:09 → 00:00:28 [เพลง]
00:00:28 → 00:00:33 เทำความรู้จักโรคหัวใจหลากหลายประเภทคน
00:00:33 → 00:00:37 แข็งแรงก็เป็นได้เช็คอาการเสี่ยงก่อน
00:00:37 → 00:00:41 สายรู้ทันภาวะหัวใจวายเฉียบพลันป้องกัน
00:00:41 → 00:00:44 ก่อนเกิด
00:00:44 → 00:00:48 โรคอยากแข็งแรงต้องกิน 7 อาหารดีต่อหัวใจ
00:00:48 → 00:00:51 ช่วยบำรุงหลอดเลือดติดตามเรื่องราวทั้ง
00:00:51 → 00:00:55 หมดได้ในรายการ TNN วัน
00:00:55 → 00:00:57 [เพลง]
00:00:57 → 00:01:01 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ TNN
00:01:01 → 00:01:04 Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ
00:01:04 → 00:01:08 คุ้มกันรู้ทันโรคไปกับ TNN Health ค่ะ
00:01:08 → 00:01:11 และดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงฉัตดาวจังวังกร
00:01:11 → 00:01:14 แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อม
00:01:14 → 00:01:16 ที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการเพื่อ
00:01:16 → 00:01:24 ที่จะพาคุณผู้ชมเข้าถึงทุกสาระสุขภาพกัน
00:01:24 → 00:01:27 [เพลง]
00:01:27 → 00:01:30 ค่ะในสัปดาห์นี้ค่ะเราจะมาพูดถึงเรื่อง
00:01:30 → 00:01:35 ของเช็คก่อนสายภาวะหัวใจวายเฉียบพลันคน
00:01:35 → 00:01:38 แข็งแรงก็เป็นได้ค่ะสำหรับเรื่องของภาวะ
00:01:38 → 00:01:41 หัวใจนะคะหรือว่าโรคหัวใจและหลอดเลือด
00:01:41 → 00:01:45 นั้นนะคะพบเลยค่ะว่ามีอุบัติกานะคะที่ทาง
00:01:45 → 00:01:48 Who หรือองค์การอนามัยโลกได้ระบุไว้เลย
00:01:48 → 00:01:49 ว่าในปี
00:01:49 → 00:01:54 2563 มีผู้ที่เสียชีวิตค่ะกว่า 17.9
00:01:54 → 00:01:57 ล้านคนในทั่วโลกแต่สำหรับในประเทศไทยนะคะ
00:01:57 → 00:02:00 ความน่ากลัวค่ะคือตัวเลขที่ 6 60,000 คน
00:02:01 → 00:02:03 นั่นหมายถึงว่าใน 1 ชั่วโมงจะมีคนที่เสีย
00:02:03 → 00:02:06 ชีวิตด้วยภาวะโรคหัวใจและหลอเลือดถึง 2
00:02:06 → 00:02:09 คนค่ะมาถึงตรงนี้แล้วก่อนที่เราจะพูดถึง
00:02:09 → 00:02:12 ภาวะโรคหัวใจวายเรามาทำความรู้จักกันดี
00:02:12 → 00:02:14 กว่าค่ะว่าโรคหัวใจนั้นมีกี่ชนิดมีอะไร
00:02:14 → 00:02:18 บ้างไปฟังกันค่ะโรคหัวใจหรือ Heart
00:02:18 → 00:02:21 disease หมายถึงโรคต่างๆที่ส่งผลกระทบ
00:02:21 → 00:02:24 ต่อการทำงานของหัวใจโดยความผิดปกติที่
00:02:24 → 00:02:27 เกิดขึ้นในส่วนของหัวใจที่ต่างกันทำให้
00:02:27 → 00:02:31 โรคหัวใจมีอาการแตกต่างกันไปในแต่ละชนิด
00:02:31 → 00:02:34 ดังนี้ 1 โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะผู้ป่วยจะ
00:02:34 → 00:02:37 มีอาการหัวใจอาจเต้นเร็วหรือช้ากว่าปกติ
00:02:38 → 00:02:40 ใจสั่นเหนื่อยง่ายแน่นหน้าอกเวียนศีรษะ
00:02:40 → 00:02:44 หรือคล้ายจะเป็นลม 2 โรคหลอดเลือดหัวใจ
00:02:44 → 00:02:47 ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหรือแน่นหน้าอกร้าวไป
00:02:47 → 00:02:50 ตามกรามแขนลำคอเหนื่อยอ่อนเพลียหรือหมด
00:02:50 → 00:02:54 สติได้ 3 โรคกล้ามเนื้อหัวใจจะมีอาการ
00:02:54 → 00:02:57 เหนื่อยง่ายหายใจไม่อิ่มมักมีอาการมาก
00:02:57 → 00:03:01 ขึ้นเมื่อต้องออกแรงหนักๆบมตามแขนขานอน
00:03:01 → 00:03:05 ราบไม่ได้ตื่นขึ้นมาไอในเวลากลางคืน 4
00:03:05 → 00:03:08 โรคหัวใจพิการแตกกำเนิดเป็นโรคที่เกิด
00:03:08 → 00:03:11 ขึ้นตั้งแต่เมื่อทารกอยู่ในคันมารดาทารก
00:03:11 → 00:03:15 จะมีอาการเหนื่อยขณะให้นมและเลี้ยงไม่โต 5
00:03:15 → 00:03:18 โรคลิ้นหัวใจหากผู้ป่วยมีความผิดปกติของ
00:03:18 → 00:03:21 ลิ้นหัวใจมากจะมีอาการเหนื่อยง่ายและเกิด
00:03:21 → 00:03:25 ภาวะหัวใจวายหรือน้ำท่วมปอดได้ค่ะ 6 โรค
00:03:25 → 00:03:29 ติดเชื้อบริเวณหัวใจจะมีอาการไข้เรื้อรัง
00:03:29 → 00:03:33 อ่อนเหนื่อยล้าหัวใจเต้นผิดปกติหายใจหอก
00:03:33 → 00:03:36 เหนื่อยไอเรือรังแห้งๆขาหรือช่องท้องบวม
00:03:37 → 00:03:39 รวมถึงมีผืนหรือจุดขึ้นตามผิว
00:03:39 → 00:03:44 หนังทั้งนี้นะคะคุณผู้ชมยังมีภาวะโรคที่
00:03:44 → 00:03:46 ทำให้เป็นปัจจัยเสี่ยงของภาวะโรคหลอด
00:03:46 → 00:03:50 เลือดหัวใจได้แก่ 1 ภาวะไขมันในเลือดสูง
00:03:50 → 00:03:53 หรือดิสไลปิดค่ะซึ่งหลายท่านนะคะประสบ
00:03:53 → 00:03:55 อยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไขมันไตรกีสไล
00:03:55 → 00:03:57 ในเลือดที่สูงหรือคอเลสเตอรอลในเลือดที่
00:03:57 → 00:04:00 สูงอันดับที่ 2 ค่ะคือภาวะความดันโลหิต
00:04:00 → 00:04:03 สูงอันดับที่ 3 นะคะก็คือเรื่องของน้ำตาล
00:04:03 → 00:04:06 ในเลือดสูงหรือว่าโรคเบาหวานนั่นเอง
00:04:06 → 00:04:08 อันดับที่ 4 นะคะได้แก่เรื่องของความอ้วน
00:04:08 → 00:04:12 มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน 5 ความเครียด 6 การ
00:04:12 → 00:04:16 ไม่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 7 ซูบุรี่
00:04:16 → 00:04:19 หรือพิ่งเลิกสูบบุหรี่ได้ไม่เกิน 2 ปี
00:04:19 → 00:04:21 หรือแม้กระทั่งได้รับควันบุหรี่สม่ำเสมอ
00:04:21 → 00:04:24 แม้ตนเองไม่ได้สูบบุหรี่ก็ตามหรือที่
00:04:24 → 00:04:26 เรียกว่า Second Hand Smoking ควัน
00:04:26 → 00:04:30 บุหรี่มือสองค่ะ 8 เพศชายอายุ 40 ปีขึ้น
00:04:30 → 00:04:33 ไปหรือเพศหญิงอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือวัยทอง
00:04:33 → 00:04:37 หลังหมดประจำเดือนนั่นเองได้ทราบข้อมูล
00:04:37 → 00:04:39 กันไปถึงเรื่องของปัจจัยเสี่ยงในเรื่อง
00:04:39 → 00:04:42 ภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือดกันไปแล้วนะคะ
00:04:42 → 00:04:44 ลองตรวจสอบดูตัวเองนะคะคุณผู้ชมว่าเรา
00:04:44 → 00:04:47 เนี่ยมีปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นตรงนี้
00:04:47 → 00:04:49 หรือเปล่าเพราะถ้าเราเนี่ยมีปัจจัยเสี่ยง
00:04:49 → 00:04:52 ที่เกิดขึ้นนะคะนั่นหมายถึงว่าเราอาจจะมี
00:04:52 → 00:04:55 ภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือดขึ้นได้และใน
00:04:55 → 00:04:57 ช่วงหน้านะคะเราจะไปพบกับแพทย์ผู้เชี่ยว
00:04:57 → 00:05:01 ชาญทางด้านโรคหัวใจค่ะคุณหมอจะมาแนะนำพวก
00:05:01 → 00:05:04 เราในเรื่องของการป้องกันภาวะหัวใจวาย
00:05:04 → 00:05:06 เฉียบพลันและหากมีเหตุเกิดขึ้นจริงๆจะ
00:05:06 → 00:05:09 ต้องปฐมพยาบาลอย่างไรกันบ้างติดตามได้ใน
00:05:09 → 00:05:13 รายการ TNN ช่วงหน้า
00:05:13 → 00:05:28 [เพลง]
00:05:28 → 00:05:31 ค่ะ
00:05:31 → 00:05:46 [เพลง]
00:05:46 → 00:05:49 กลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ tn and
00:05:49 → 00:05:52 Health ค่ะในสัปดาห์นี้นะคะเราจะมาพูด
00:05:52 → 00:05:55 ถึงเรื่องของเช็คก่อนส้าภาวะหัวใจวาย
00:05:55 → 00:05:58 เฉียบพลันคนแข็งแรงก็เป็นได้และอย่างที่
00:05:58 → 00:06:01 เกริ่นไปในช่วงที่แล้วนะคะว่าวันนี้เราจะ
00:06:01 → 00:06:04 มาพบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจ
00:06:05 → 00:06:07 และหลอดเลือดกันอาจารย์จะมาให้ความรู้
00:06:07 → 00:06:10 ความเข้าใจในเรื่องของภาวะหัวใจไวและการ
00:06:10 → 00:06:12 ป้องกันนะคะว่าแล้วก็ไปพบกับอาจารย์กันดี
00:06:12 → 00:06:14 กว่าค่ะสวัสดีค่ะ
00:06:14 → 00:06:24 [เพลง]
00:06:24 → 00:06:29 อาจารย์อาจารย์คะภาวะหัวใจวายคืออะไรคะ
00:06:29 → 00:06:31 ครับก่อนอื่นนะครับต้องเข้าใจว่าคำว่าหัว
00:06:32 → 00:06:35 ใจวนเนี่ยเป็นคำที่ประชาชนทั่วไปหรือชาว
00:06:35 → 00:06:37 บ้านใช้กันนะครับเพราะว่าถ้าเราไปดูความ
00:06:37 → 00:06:40 หมายคำว่า Y เนี่ยนะราชบัณฑิตนะฮะบัญญัติ
00:06:40 → 00:06:45 ไว้ว่าเป็นภาวะที่สิ้นไปนะตามกำหนดเวลา
00:06:45 → 00:06:48 เช่นไตวายหรือว่าตลาดวายเงี้ยนะครับแต่
00:06:48 → 00:06:51 หัวใจถ้าสิ้นไปก็คือตายไปเลยนะครับเพราะ
00:06:51 → 00:06:54 หัวใจไม่ทำงานนะเพราะฉะนั้นเป็นภาวะซึ่ง
00:06:54 → 00:06:57 ในทางการแพทย์เราไม่ได้ใช้คำนี้โดยตรงเรา
00:06:57 → 00:07:00 ใช้คำว่าเฉพาะลงไปเลยเลยเช่นมีภาวะหลอด
00:07:00 → 00:07:03 เลือดหัวชเฉียบพันธอย่างเงี้ยเป็นต้นนะ
00:07:04 → 00:07:07 ครับที่เราเจอกันบ่อยนะหรือมีความผิดปกติ
00:07:07 → 00:07:10 ของการเต้นหัวใจรุนแรงจนกระทั่งมีอาการ
00:07:10 → 00:07:12 เฉียบพันอะไรอย่าเงี้ยซึ่งส่วนใหญ่มัน
00:07:12 → 00:07:14 หมายถึงภาวะที่เฉียบพันเพราะเรามีภาวะ
00:07:14 → 00:07:17 ซึ่งเป็นเรื้อรังด้วยนะครับอย่างเช่นไตร
00:07:17 → 00:07:20 วายเฉียบพันธไตรวายเรื้อรังก็มีนะแต่หัว
00:07:20 → 00:07:23 ใจวายเนี่ยความหมายหมายถึงภาวะหัวใจต่างๆ
00:07:23 → 00:07:27 ที่ผิดปกติอย่างเฉียบพันก็คงเป็นความหมาย
00:07:27 → 00:07:29 นั้นนะครับนะซึ่งบางครั้งถ้าเป็นเรื้อลัง
00:07:29 → 00:07:32 เราอาจะมีกชื่อนึงเช่นเรียกว่าหัวใจล้ม
00:07:32 → 00:07:35 เหลวพวกนี้หัวใจล้มเหลวเฉียบพันธุก็มีหัว
00:07:35 → 00:07:37 ใจล้มเหลวเรื้อรังก็มีอย่างเงี้เป็นต้นนะ
00:07:37 → 00:07:39 ครับเพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องเข้าใจความหมาย
00:07:39 → 00:07:43 ตรงนี้นะครับสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจ
00:07:43 → 00:07:47 วายเกิดจากอะไรคะครับการที่เกิดภาวะผิด
00:07:47 → 00:07:50 ปกติของหัวใจเฉียบพันธนะครับซึ่งเราเรียก
00:07:50 → 00:07:52 กันว่าหัวใจวายอ่ะพูดง่ายๆนะครับชาทั่วๆ
00:07:52 → 00:07:56 ไปนะก็ตั้งแต่ว่าดูการทำงานของหัวใจเป็น
00:07:56 → 00:07:59 หลักนะครับเช่นหัวใจมีหน้าที่บีบกับคาย
00:07:59 → 00:08:02 ใช่มั้ครับบีบกับคายแล้วมันอันที่ 2 คือ
00:08:02 → 00:08:05 ต้องตามจังหวะนะครับเพราะฉะนั้นการบีบ
00:08:05 → 00:08:09 หรือคายที่ผิดปกติไปนะครับหรือการเต้นของ
00:08:09 → 00:08:13 การจังหวะที่ผิดปกติไปก็ทำให้การทำงานเย
00:08:14 → 00:08:16 ไม่ได้สามารถถูกฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง
00:08:16 → 00:08:20 ๆร่างกายไม่พอนะครับเช่นหลอดเลือดหัวใจนะ
00:08:20 → 00:08:23 ถึงเจอกันบ่อยถ้าเกิดหลอดเลือดหัวใจมัน
00:08:23 → 00:08:26 เกิดตีบตันเฉียบพันขึ้นมาทันทีนะครับหัว
00:08:26 → 00:08:29 ใจก็ขาดเลือดภาวะหัวใจขาดเลือดเ่ะทำให้
00:08:29 → 00:08:33 หัวใจมันร้องขึ้นมานะผมเรียกว่าหัวใจเป็น
00:08:33 → 00:08:36 อวะที่ร้องได้เวลามันขาดเลือดเพราะฉะนั้น
00:08:36 → 00:08:38 มันก็จะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเวลาเราทำ
00:08:38 → 00:08:42 อะไรยกของเดินขึ้นบันไดนะใช้แรงขึ้นมา
00:08:42 → 00:08:44 เนี่ยมันมีอาการแน่นหน้าอกอันนี้เป็น
00:08:44 → 00:08:47 ลักษณะของหัวใจขาดเลือดนะครับนอกจากนี้
00:08:47 → 00:08:49 แล้วก็จะมีอาการที่หัวใจบีบและคายที่ผิด
00:08:50 → 00:08:53 ปกติไปไม่ว่าจะด้วยของกล้ามเนื้อหัวใจนะ
00:08:53 → 00:08:56 ครับหรือลิ้นหัวใจนะครับหรือแม้แต่เยื่อ
00:08:56 → 00:08:59 หุ้มหัวใจอย่างเงี้ยนะครับผิดปกติหรือการ
00:08:59 → 00:09:02 เต้นผิดจังหวะที่ผิดจังหวะรุนแรงมากก็ทำ
00:09:02 → 00:09:05 ให้ช้าเกินไปเร็วเกินไปเต้นผิดจังหวะมาก
00:09:05 → 00:09:07 เลือดที่ออกจากหัวใจก็น้อยลงเพราะฉะนั้น
00:09:07 → 00:09:10 ก็ไปเลี้ยงส่วนต่างๆน้อยลงไปเลี้ยงสมอง
00:09:10 → 00:09:13 น้อยลงก็จะหมึ่นๆซึมๆนะครับไปเลี้ยงอวั
00:09:13 → 00:09:16 ต่างๆน้อยลงนะก็จะเกิดอาการเหนื่อยมาก
00:09:16 → 00:09:19 ขึ้นในขณะที่เลือดมันออกจากหัวใจน้อยลง
00:09:19 → 00:09:22 มันก็ไปค้างอยู่ที่ปอดนะะค้างอยู่ที่ที่
00:09:22 → 00:09:25 เท้าเราก็จะเหนื่อยมากขึ้นมีอาการของน้ำ
00:09:25 → 00:09:28 ท่วมปอดอย่างที่เราคงทราบนั้นนอนลาบไม่
00:09:28 → 00:09:30 ได้นะครับหรือนอนไปแล้วหายใจไม่สะดวกต้อง
00:09:30 → 00:09:33 ลุกมานั่งนะครับหรือถ้าภาวะที่หัวใจเต้น
00:09:33 → 00:09:37 ผิดจังหวะรุนแรงนะะเราธรรมดามันก็เต้นเรา
00:09:37 → 00:09:39 ไม่รู้สึกนะครับแต่อะไรก็ตามมันอยู่มัน
00:09:39 → 00:09:41 เต้นเร็วจี๋เลยหรือมันช้าเกินไปหรือไม่ก็
00:09:42 → 00:09:44 เต้นผิดจังหวะเราจะรู้สึกรู้สึกว่าใจมัน
00:09:44 → 00:09:47 สั่นใจมันเต้นไม่ไม่เหมือนปกติอ่ะอย่าง
00:09:47 → 00:09:50 เงี้ยนะครับถึงอาจจะมีอาการพร้อมกับอาการ
00:09:50 → 00:09:53 เจ็บหน้าอกเวนศีรษะหรือแม้แต่เลือดไป
00:09:53 → 00:09:56 เลี้ยงสมองไม่พอนะครับหรือว่าเหนื่อยมาก
00:09:56 → 00:09:59 ขึ้นนะอันนี้ก็เป็นอาการใหญ่ๆที่ที่เรา
00:09:59 → 00:10:01 เจอนะครับในภาวะเฉียบพันธุ์เี่ครับ
00:10:01 → 00:10:04 อาจารย์คะแล้วผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจไว้จะ
00:10:04 → 00:10:08 มีอาการอย่างไรบ้างคะครับอาการก็ที่เจอ
00:10:09 → 00:10:11 บ่อยๆแล้วแต่สาเหตุใช่มั้ยครับถ้าสาเหตุ
00:10:11 → 00:10:15 จากหลอดเลือดมันติดตันนะครับตรงนี้เลือด
00:10:15 → 00:10:18 ไปเลี้ยงส่วนต่างๆนะร่างกายโดยเฉพาะหัวใจ
00:10:18 → 00:10:21 ไม่พอก็จะเกิดการเจ็บแน่นหน้าอกขึ้นมานะ
00:10:21 → 00:10:24 ครับบางคนก็บอกมันเหมือนอะไรมาทับที่หน้า
00:10:24 → 00:10:28 อกแต่บางครั้งก็ไม่แน่ฮะอาการถ้าสงสัยเรา
00:10:28 → 00:10:30 ก็ต้องสงสัยไว้ก่อนว่าเป็นภาวะหัวใจเฉียบ
00:10:30 → 00:10:33 พันธนะครับอันที่ 2 ก็คือมีภาวะที่เลือด
00:10:33 → 00:10:36 ไปเลี้ยงส่วนต่างๆร่างกายไม่พอนะครับก็
00:10:36 → 00:10:40 เช่นว่าเวียนหัวลุกขึ้นมาจะหน้ามืดเป็นลม
00:10:40 → 00:10:42 นะครับอย่างเงี้ยแล้วก็ในขณะเดียวกัน
00:10:42 → 00:10:46 เลือดมันก็ผ่านหัวใจไม่ได้ดีนะครับก็ค้าง
00:10:46 → 00:10:49 อยู่ที่ปอดเราก็จะเหนื่อยง่ายขึ้นทำอะไร
00:10:49 → 00:10:51 ไม่เคยเหนื่อยเดินขึ้นบันไดยกของก็จะรู้
00:10:51 → 00:10:53 สึกเหนื่อยมากขึ้นอย่างเงี้ยเวลาเราใช้
00:10:53 → 00:10:56 หัวใจทำงานมากขึ้นให้มันเต้นเร็วขึ้นแรง
00:10:56 → 00:10:59 ขึ้นเนี่ยจะรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นนะครับ
00:10:59 → 00:11:01 แล้วถ้าภาวะที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
00:11:01 → 00:11:04 เป็นมากพออาจจะมีอาการจะเป็นลมบางทีึง
00:11:04 → 00:11:07 หมือสติโดยเฉพาะถ้ามีภาวะหัวใจเต้นผิด
00:11:07 → 00:11:09 จังหวะร่วมด้วยเนี่ยนะบางคนเสียชีวิต
00:11:09 → 00:11:12 เฉียบพันธก็มีล้มหมดสติไปเลยอย่างเงี้ยนะ
00:11:12 → 00:11:15 ครับแล้วถ้าเราไม่ได้ช่วยกลับมาก็อาจจะ
00:11:15 → 00:11:19 ถึงกับเสียชีวิตได้นะครับภาวะหัวใจวายมี
00:11:19 → 00:11:23 วิธีการรักษาหรือไม่คะครับวิธีการดูแล
00:11:23 → 00:11:26 รักษานะครับก็คือการไปแก้ที่ต้นเหตุเป็น
00:11:26 → 00:11:29 หลักนะครับเพราะบางครั้งการแก้ไปเหตุก็
00:11:29 → 00:11:32 กรณีที่ฉุกเฉินมากๆเลยนะฉุกเฉินมากที่สุด
00:11:32 → 00:11:36 ก็คือคนไข้หมดสติทำชีพจอไม่ได้นะหลุดหาย
00:11:36 → 00:11:39 ใจอะไรอย่างี้นะครับก็ต้องปั๊มหัวใจกันนะ
00:11:39 → 00:11:42 ครับอันนั้นก็เป็นเรื่องของการกู้ชีวิตนะ
00:11:42 → 00:11:45 ครับซึ่งจะช่วยทำให้คนไข้รอดพ้นจากภาวะ
00:11:45 → 00:11:48 ที่เลือดไม่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆร่างกาย
00:11:48 → 00:11:51 เพียงพอนะครับแล้วรองลงมาก็เป็นเรื่องของ
00:11:51 → 00:11:54 การที่มีต้นเหตุจากหลอดเลือดมันตีบบ้าง
00:11:54 → 00:11:57 กล้ามเนื้อหัวใจลิ้นหัวใจนะครับมันทำงาน
00:11:57 → 00:12:01 ผิดปกติทำให้เกิดอาการเจ็บแม่่นหน้าอกนะ
00:12:01 → 00:12:04 ฮะอย่างเงี้ยหรืออาการที่เลือดค้างอยู่ใน
00:12:04 → 00:12:07 ปอดพวกนี้ก็ต้องรับตาตามต้นเหตุตรงนั้น
00:12:07 → 00:12:10 เช่นให้ขยายหลอดเลือดให้ยาละลายลิ่มเลือด
00:12:10 → 00:12:13 หรือแม้แต่ให้ใช้บรูนเข้าไปถ่างหลอดเลือด
00:12:13 → 00:12:16 ที่มันตีบมันตันอย่างเงี้ยอันนี้ก็จะช่วย
00:12:16 → 00:12:19 นะครับหรือว่าน้ำในปอดมันมากเกินไปเราก็
00:12:19 → 00:12:23 อาจจะต้องให้ออกซิเจนช่วยแลให้ขับน้ำออก
00:12:23 → 00:12:27 ขับส่วนที่เกินออกคนไข้ก็จะอาการดีขึ้น
00:12:27 → 00:12:29 อันนี้ก็เป็นอาการรักษาโดยททั่วไปสุดท้าย
00:12:29 → 00:12:33 ก็ไปรักษาต้นเหตุครับว่าเหตุปัจจัยที่ทำ
00:12:33 → 00:12:34 ให้เกิดตรงเนี้ยต้องไปแก้ป้องกันไม่ให้
00:12:34 → 00:12:38 มันเป็นครับอาจารย์คะแล้วการปฐมพยาบาล
00:12:38 → 00:12:41 เบื้องต้นเมื่อพบผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจ
00:12:41 → 00:12:45 วายจะต้องทำอย่างไรบ้างคะครับก็ขึ้นอยู่
00:12:45 → 00:12:48 กับสถานการณ์ของผู้ป่วยที่เราไปพบนะครับ
00:12:48 → 00:12:51 โดยทั่วไปอันที่รุนแรงที่สุดนะครับก็คือ
00:12:51 → 00:12:54 ลักษณะที่คนไไม่รู้ตัวอย่างเช่นนอนอยู่
00:12:54 → 00:12:57 กับพื้นอย่างเงี้ยแล้วเราก็ไม่รู้นะครับ
00:12:57 → 00:13:00 แรกก็คือต้องไปปลุกดูว่าตื่นมอย่างงี้นะ
00:13:00 → 00:13:03 ครับนะหรือลองยกแข้งยกขาถ้าตกลงมาเลย
00:13:03 → 00:13:05 อย่างเงี้ยก็เป็นอันที่บอกว่าเไม่ไม่รู้
00:13:05 → 00:13:08 ตัวอย่างเงี้ยเป็นต้นนะครับและถ้าเรา
00:13:08 → 00:13:11 สามารถที่จะคำชีพจรได้หรือรู้การเต้นหัว
00:13:11 → 00:13:13 ใจได้เราก็ประเมินแต่ถ้าประเมินไม่ได้ก็
00:13:13 → 00:13:16 ไม่เป็นไรครับนะถ้าปลูกไม่ตื่นอะไรอย่า
00:13:16 → 00:13:19 เงี้ยก็ดูที่ว่าเราจะต้องทำกู้ชีวิตมยโดย
00:13:19 → 00:13:21 การปั๊มหัวใจอย่างเงี้ยเป็นต้นนะครับอัน
00:13:21 → 00:13:24 นั้นเป็นเรื่องของการกู้ชีวิตซึ่งตรงนั้น
00:13:24 → 00:13:29 ก็จะเป็นมีอ่าวิธีการทลำดับนะฮะเราๆลงมา
00:13:29 → 00:13:32 ก็เป็นเรื่องของผู้ป่วยที่มีเ้าเรียกว่า
00:13:32 → 00:13:35 สัญญาณชีพที่ผิดปกติค่ะนะครับก็คืออย่า
00:13:35 → 00:13:38 เช่นเราวัดความดันแล้วมันต่ำนะโดยเฉพาะ
00:13:38 → 00:13:41 ต่ำกว่า 100 ตัวบนนะครับลงมาเนี่ยนะครับ
00:13:41 → 00:13:44 แล้วคนไข้ไม่ค่อยรู้ตัวหรือว่าเนี่ยเลือด
00:13:44 → 00:13:47 ไปเลี้ยงถ่วนต่างๆไม่พอละนะครับอันนี้ถ้า
00:13:47 → 00:13:50 เป็นไปได้ก็ต้องนอนลาบยกเถาวสูงเพื่อให้
00:13:50 → 00:13:52 เลือดกับหัวใจมากขึ้นแต่เพิ่มความดัน
00:13:52 → 00:13:55 อย่างเงี้เป็นต้นหรือเรามีสาเหตุอะไรที่
00:13:55 → 00:13:58 ทำให้เกิดการเต้นผิดจังหวะอย่างเงี้ยนะ
00:13:58 → 00:14:01 ครับเราก็ต้องหลีกเลี่ยงหรือแก้ไขนะฮะตรง
00:14:01 → 00:14:05 นี้นะอันนั้นก็จะเป็นอันที่เราต้อง
00:14:05 → 00:14:07 ประเมินดูแล้วดูสาเหตุตรงนั้นแล้วก็รักษา
00:14:07 → 00:14:10 ตามชนเหตุนะเดียวกันถ้าอันไหนที่รุนแรง
00:14:10 → 00:14:13 เราต้องทำตรงนั้นก่อนนะเพื่อที่ให้เขรอด
00:14:13 → 00:14:17 พ้นจากภาวะที่อันตรายฉุกเฉินแล้วก็มาดูิ
00:14:17 → 00:14:19 ว่าเราจะช่วยป้องกันตรงไหนได้แค่ไหนนะ
00:14:19 → 00:14:22 ครับโดยทั่วไปหลักการง่ายๆก็คือผู้ป่วย
00:14:22 → 00:14:25 กำลังคิดพูดทำอะไรอยู่แล้วเกิดอาการนะ
00:14:25 → 00:14:27 ครับให้หยุดสิ่งนั้นหยุดสิ่งนั้นไว้ก่อน
00:14:27 → 00:14:31 แล้วถ้าเป็นได้นอนลาภยกเท้าสูงโดยเฉพาะใน
00:14:31 → 00:14:34 ส่วนที่ความดันต่ำมันจะผิดจังหวะเงี้ยนะ
00:14:34 → 00:14:37 อันต่อไปที่ผู้ป่วยจะดูแลตนเองได้ก็คือ
00:14:37 → 00:14:41 คุณหมอเคยบอกไมยว่าถ้าเกิดกรณีฉุกเฉินให้
00:14:41 → 00:14:43 ทำอะไรบ้างตัวอย่างเช่นคนไข้หล่อเรือ่อง
00:14:43 → 00:14:46 หัวใจตีบหัวใจขาดเลือดเนี่ยหรือเคยเป็น
00:14:46 → 00:14:48 กล้ามนืหัวใจตายคุณหมอมักจะให้ยาอมใต้
00:14:49 → 00:14:51 ลิ้นติดตัวไว้เลยหรือบางคนก็เป็นพ่นใช่ม
00:14:51 → 00:14:54 ครับพ่นปากเงี้ยนะครับซึ่งตรงนั้นน่ะก็จะ
00:14:54 → 00:14:56 เป็นอันนึงซึ่งถ้าเราคิดอะไรอยู่พูดอะไร
00:14:56 → 00:14:58 อยู่ทำอะไรอยู่ให้หยุดพักแล้วจะนั่งพัก
00:14:58 → 00:15:00 พักหรือนอนพักก็ได้แล้วแต่อันไหนสบายกว่า
00:15:00 → 00:15:03 กันนะครับบางคนนอนแล้วอาจจะไม่สบายก็ได้
00:15:03 → 00:15:07 นะครับแล้วเสร็จแล้วก็อมจะอมใต้ลิ้นอ่าม
00:15:07 → 00:15:09 ใ้ลิ้นนี่อมแล้วต้องซ่าถ้าไม่ซ่าแปลว่า
00:15:09 → 00:15:12 มันหมดอายุแล้วเอามาเปลี่ยนนะครับแล้วก็
00:15:12 → 00:15:15 รอสัก 10 นาทีแล้วดูอาการมันดีขึ้นมยถ้า
00:15:15 → 00:15:18 อาการไม่ดีขึ้นอมอเม็ดนึงรอ 10 นาทีนะ
00:15:18 → 00:15:21 ครับแต่เวลาอมนี่ห้ามยืนนะครับเพราะความ
00:15:21 → 00:15:24 ดันอาจจะต่ำเพราะจะเป็นลมเพราะฉะนั้นเวลา
00:15:24 → 00:15:26 จะอมยาอมใต้ลิ้นต้องนั่งหรือนอนนะครับ
00:15:26 → 00:15:30 เพราะฉะนั้นถ้าอมไปแล้ว 2 เม 20 นาทีอัน
00:15:30 → 00:15:33 นั้นเป็นตัวบอกคนไข้ว่าไปโรงพยาบาลครับนะ
00:15:33 → 00:15:35 ครับเพราะอันนั้นเป็นภาวะฉุกเฉินซึ่งเขา
00:15:35 → 00:15:38 ดูแลตัวเองไม่ได้แล้วตรงนี้ต้องรีบไปหรือ
00:15:38 → 00:15:41 ไปตรงไหนก็ได้ที่ทำขึ้นไฟฟ้าหัวใจได้คุณ
00:15:41 → 00:15:43 หมอก็จะรู้ว่าเกิดอะไรเฉียบพันธขึ้นซึ่ง
00:15:43 → 00:15:46 บางครั้งเราต้องแก้ไขภายใน 4-6 ช่วโมง
00:15:46 → 00:15:49 อย่างเงี้ยเป็นต้นนะครับอันนี้ก็เป็นการ
00:15:49 → 00:15:52 ดูแลคร่าวๆในแง่ของการดูแลเบื้องต้นครับ
00:15:52 → 00:15:55 อาจารย์คะแล้วเราจะมีวิธีป้องกันไม่ให้
00:15:55 → 00:15:58 เกิดภาวะหัวใจไววายได้อย่างไรบ้างครับ
00:15:58 → 00:16:01 ครับส่วนใหญ่ปัญหาที่หัวใจจเฉียบพันธุนะ
00:16:01 → 00:16:03 ครับเป็นเรื่องของหลอดเลือดหัวใจที่มัน
00:16:03 → 00:16:06 ตีบตันเฉียบพันธุ์น่ะนะครับตัวการใหญ่ๆ
00:16:06 → 00:16:10 หรือปัจจัยสำคัญเลยก็มี 5 ตัวนะครับเบา
00:16:10 → 00:16:13 หวานความดันไขมันบุหรี่อ้วนพลีมีพุง 5
00:16:13 → 00:16:15 ตัวนะครับเพราะฉะนั้นตรงเนี้ย 5 ตัวถ้า
00:16:16 → 00:16:18 ใครมีครบนะฮะก็เตรียมพร้อมที่อาจจะมี
00:16:18 → 00:16:21 อาการพวกนี้ได้นะครับเบาหวานน้ำตาลสูงใช่
00:16:21 → 00:16:24 มครับเพราะฉะนั้นมันเกิดการอักเสบของหลอด
00:16:24 → 00:16:26 เลือดได้ง่ายเนื่องจากน้ำตาลที่สูงนะครับ
00:16:26 → 00:16:29 นะความดันที่สูงก็จะเป็นอันที่ทำให้หลอด
00:16:30 → 00:16:34 เลือดมันหนาตัวขึ้นตรงนี้นะครับนะไขมัน
00:16:34 → 00:16:37 ที่ผิดปกติไขมันที่ไม่ดี ldl ก็จะไปพอก
00:16:37 → 00:16:40 หลอดเลือดพอกตรงที่อักเสบแล้วครับมันไป
00:16:40 → 00:16:43 พอกมากๆนะครับความดันสูงกระแทกหลอดเลือด
00:16:43 → 00:16:47 อยู่ตลอดนะครับปอดเลือดก็จะเป็นแผลในหลอด
00:16:47 → 00:16:49 เลือดพอเป็นแผลปั๊บก็มีลิ่มเลือดมาปิดปาก
00:16:49 → 00:16:53 แผลเหมือนเราตัวมีดบาดแล้วมีเลือดมาปิด
00:16:53 → 00:16:55 ิ่มเลือดก็จะโตขึ้นถ้าเราเป็นคนที่เลือด
00:16:56 → 00:16:59 ข้นหรือเราไม่ได้กินอ่าผักผลไม้เลยเนี่ย
00:16:59 → 00:17:02 เลือดมันจะข้นแล้วก็มันจะละลาลิ้มเลือด
00:17:02 → 00:17:05 ได้ช้านะครับเพราะฉะนั้นก้อนเลือดก็จะโต
00:17:05 → 00:17:07 ขึ้นเรื่อยๆถ้าตันไปเลยนะครับกล้ามเนื้อ
00:17:07 → 00:17:10 หัวใจนะไม่เกิน 6 ช่วโมงก็ตายอย่างเงี้
00:17:10 → 00:17:14 เป็นต้นบางคนถึงกับขาดเลือดนะครับแล้วบาง
00:17:14 → 00:17:17 คนก็เต้นผิดๆจังหวะเสียชีวิตทันทีก็มีนะ
00:17:17 → 00:17:20 ครับและในส่วนอ่าบุหรี่ก็เป็นตัวทำให้
00:17:20 → 00:17:23 หลอดเลือดมันข้นขึ้นความอ้วนก็เป็นคนทำ
00:17:23 → 00:17:26 ให้น้ำตาลสูงไขมันผิดปกติความดันขึ้นเห็น
00:17:26 → 00:17:29 มั้ยฮะเพราะฉะนั้น 5 ตัวครับตัวหลักถ้า
00:17:29 → 00:17:31 เราจะป้องกันตัวเองฮะให้มีสุขภาพดีโดย
00:17:31 → 00:17:34 เฉพาะสุขภาพหัวใจหลอดเรือนก็เบาหวานความ
00:17:34 → 00:17:37 ดันไขมันบุหรี่อ้วนพีมีพุง 5 ตัวเดูแลให้
00:17:37 → 00:17:41 ดีครับขอบคุณอาจารย์ที่มาให้ความรู้ความ
00:17:41 → 00:17:44 เข้าใจในเรื่องของภาวะหัวใจวายนะคะและ
00:17:44 → 00:17:46 ช่วงหน้าห้ามพลาดค่ะคุณผู้ชมเพราะเราจะมา
00:17:46 → 00:17:49 รู้กันว่าเราจะรับประทานอาหารอย่างไร
00:17:49 → 00:17:52 เพื่อที่จะบำรุงหัวใจป้องกันโรคหลอดเลือด
00:17:52 → 00:17:57 กัน
00:17:57 → 00:17:58 ค่ะ
00:17:58 → 00:18:27 [เพลง]
00:18:27 → 00:18:30 กลับเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของรายการ TNN
00:18:30 → 00:18:33 Health ค่ะดงที่บอกไปนะคะว่าในช่วงนี้
00:18:33 → 00:18:36 เราจะพาคุณผู้ชมมารู้จักกับอาหารที่มี
00:18:36 → 00:18:38 ส่วนช่วยในการดูแลเรื่องของหัวใจและหลอด
00:18:38 → 00:18:42 เลือดเป็นอย่างไรไปฟังพร้อมๆกันค่ะ 1 ชา
00:18:42 → 00:18:45 เขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่
00:18:45 → 00:18:48 ชื่อว่าคาเทชินสามารถช่วยชะลอความเสื่อม
00:18:48 → 00:18:51 ของร่างกายและยังช่วยป้องกันไม่ให้สาร
00:18:51 → 00:18:54 อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์หัวใจและหลอด
00:18:54 → 00:18:58 เลือดค่ะ 2 Dark ช็อกโกแลตใน Dark
00:18:58 → 00:19:01 ช็อกโกแลตมีสารโพลีฟีนอลที่ช่วยปกป้องเรา
00:19:01 → 00:19:04 จากอาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองได้
00:19:04 → 00:19:07 ค่ะอีกทั้งยังช่วยควบคุมความดันโลหิตทำ
00:19:07 → 00:19:09 ให้เลือดไหลเวียนได้ดีลดระดับของ
00:19:09 → 00:19:13 โคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด 3
00:19:13 → 00:19:16 ลูกหม่อนช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ
00:19:16 → 00:19:19 ได้ดีเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ
00:19:19 → 00:19:23 ว่าแอนโทไซยานินและโคซินซึ่งเป็นสารที่
00:19:23 → 00:19:25 ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดซึ่งเป็น
00:19:25 → 00:19:31 สาเหตุของโรคหัวใจ 4 ทับทิมทับทิมจะมีสาร
00:19:31 → 00:19:34 ต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญก็คือแอนโทนินและ
00:19:34 → 00:19:37 อจิเอซิดค่ะซึ่งมีส่วนช่วยในการเรื่องของ
00:19:37 → 00:19:41 ป้องกันภาวะโรคหลอดเลือดหัวใจนะคะ 5 แปะ
00:19:41 → 00:19:45 ก๊วยแปะก๊วยจะมีสารสำคัญในการช่วยป้องกัน
00:19:45 → 00:19:48 เรื่องของภาวะเลือดอุตันช่วยบำรุงหลอด
00:19:48 → 00:19:51 เลือดแดงและทำให้หลอดเลือดแข็งแรงค่ะ 6
00:19:51 → 00:19:54 น้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
00:19:54 → 00:19:57 ต่างๆที่สำคัญต่อร่างกายมีโพแทสเซียมที่
00:19:57 → 00:20:00 ช่วยในในการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจช่วย
00:20:00 → 00:20:03 ทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติช่วยลดความดัน
00:20:03 → 00:20:07 โลหิตรวมถึงยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะหัว
00:20:07 → 00:20:11 ใจล้มเหลวได้ 7 ถั่วูอุดมไปด้วยวิตามิน
00:20:11 → 00:20:15 และแร่ธาตุทั้งวิตามินเอวิตามินซวิตามิน
00:20:15 → 00:20:18 อีรวมถึงยังมีโปรตีนสูงช่วยลดคอเลสเตอรอล
00:20:18 → 00:20:21 ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็น
00:20:21 → 00:20:24 สาเหตุของโรคหัวใจและโรคเบาหวานค่ะเป็น
00:20:24 → 00:20:27 อย่างไรกันบ้างคะสำหรับอาหารที่หมอดาวนำ
00:20:27 → 00:20:30 มาเสนอในวันนี้หากินได้ง่ายๆนะคะและแน่
00:20:30 → 00:20:35 นอนค่ะดีต่อหัวใจของเราและคนที่เรารักค่ะ
00:20:35 → 00:20:38 และในวันนี้นะคะ TNN ก็มอบสาระสุขภาพดีๆ
00:20:38 → 00:20:40 ให้คุณผู้ชมหวังเป็นอย่างยิ่งค่ะว่าคุณ
00:20:40 → 00:20:43 ผู้ชมจะสามารถนำสาระดีๆของเราไปดูแล
00:20:43 → 00:20:46 สุขภาพเพื่อตัวเราเองและครอบครัวที่เรา
00:20:46 → 00:20:49 รักและแน่นอนนะคะจะต้องติดตามรายการ TNN
00:20:49 → 00:20:52 Health ได้เป็นประจำค่ะทุกวันเสาร์เวลา
00:20:52 → 00:20:58 ดี15ถ 15:30 นและถ้าใครนะคะอยากจะชมชมรัน
00:20:58 → 00:21:02 ได้เลยค่ะทุกวันจันทร์เวลา 14:30 น -
00:21:02 → 00:21:05 15:00 นไม่เพียงเท่านี้ค่ะเอาใจคนตื่น
00:21:05 → 00:21:10 เช้าวันเสาร์นะคะ 600 น- 6:30 นกับ TNN
00:21:10 → 00:21:13 ช่อง 16 ค่ะและอย่าลืมค่ะต้องติดตามชมราย
00:21:13 → 00:21:16 การ TNN He ได้ย้อนหลังทาง YouTube และ
00:21:16 → 00:21:19 ท่ารายการสดค่ะ Facebook TNN Life และ
00:21:19 → 00:21:22 TNN help และแน่นอนค่ะสาระดีๆทาง tiktok
00:21:22 → 00:21:25 เราก็มีนะคะ tiktok TNN Health ค่ะติด
00:21:25 → 00:21:28 ตามให้ได้เช่นกันและถ้าใครอยากมีคุณหมอ
00:21:28 → 00:21:31 อยู่ใกล้ตัวใกล้ใจหยิบโทรศัพท์มือถือของ
00:21:31 → 00:21:34 ท่านขึ้นมาเข้าไปใน LINE แอปพลิเคชันค่ะ
00:21:34 → 00:21:40 พิมพ์ @s TNN h a t @t nn Heal
00:21:40 → 00:21:43 และง่ายไปกว่านั้นค่ะใช้วิธีสแกน QR coe
00:21:43 → 00:21:46 ที่มุมจอด้านล่างก็ได้เพียงเท่านี้ค่ะ
00:21:46 → 00:21:48 ท่านก็จะมีคุณหมออยู่ใกล้ตัวใกล้ใจท่าน
00:21:48 → 00:21:51 แล้วกับสาระดีๆที่ TNN มอบให้ท่านค่ะ
00:21:51 → 00:21:54 สำหรับวันนี้นะคะหมอดาวและทีมงานต้องขอ
00:21:54 → 00:21:57 ตัวลาไปก่อนขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็ง
00:21:57 → 00:22:02 แรงสมบูรณ์ค่ะสำหรับวันนี้สวัสดี
00:22:02 → 00:22:26 [เพลง]
00:22:26 → 00:23:03 ค่ะ
00:23:03 → 00:23:06 อ