00:00:00 → 00:00:03 5 อาหารเช้านะครับเสี่ยงไตวายแบบสุดๆ
00:00:03 → 00:00:06 แล้วบอกตรงนี้เลยครับบอกตรงนี้เลยคนไทย
00:00:06 → 00:00:10 ชอบทานมากๆนะครับผลไม้ที่ห้ามทานเด็ดขาด
00:00:10 → 00:00:16 ถ้าท่านไม่อยากฟอกไตไปตลอดชีวิต
00:00:16 → 00:00:20 [เพลง]
00:00:20 → 00:00:22 สวัสดีครับผมหมอท๊อปนะครับและนี่คือ
00:00:22 → 00:00:23 Doctor Top Channel ครับรายการสุขภาพ
00:00:23 → 00:00:26 ที่ทั้งสนุกและมีสาระครับ
00:00:26 → 00:00:29 วันนี้ครับเราจะมาคุยกันเรื่อง 5 อาหาร
00:00:29 → 00:00:32 เช้านะครับเสี่ยงไตวายแบบสุดๆแล้วบอกตรง
00:00:32 → 00:00:36 นี้เลยครับบอกตรงนี้เลยคนไทยชอบทานมากๆนะ
00:00:36 → 00:00:38 ครับโอเคครับก่อนไปครับอย่าลืมกดไลค์กด
00:00:38 → 00:00:40 แชร์กด Subscribe และกดกระดิ่งครับสำหรับ
00:00:40 → 00:00:43 ท่านที่มีเวลาน้อยผมขออนุญาตให้กระโดดไป
00:00:43 → 00:00:45 ที่ 3 นาทีสุดท้ายครับผมสรุปไว้ให้เรียบ
00:00:45 → 00:00:47 ร้อยแล้วส่วนท่านที่มีเวลาเราไปลุยพร้อมๆ
00:00:47 → 00:00:51 กันเลยครับสำหรับเรื่องของอาหารเช้านะ
00:00:51 → 00:00:54 ครับต้องบอกตามนี้เลยครับว่าถ้าอาหารเช้า
00:00:54 → 00:00:56 ที่ผมจะมาพูดนะครับเสี่ยงไตวายแบบสุดๆ
00:00:56 → 00:00:59 จริงๆและคนไทยชอบทานมากๆทำไมผมถึงบอกว่า
00:00:59 → 00:01:02 มันเสี่ยงไตวายแบบสุดๆนะครับเพราะว่าผม
00:01:02 → 00:01:05 ถามมาจากคนไข้ที่มาผ่าตัดหลอดเลือดเพื่อ
00:01:05 → 00:01:07 ฟอกไตกับผมนี่แหละครับคือเมื่อไหร่ก็ตาม
00:01:07 → 00:01:10 ที่มาหาผมมาผ่าตัดหลอดเลือดนะครับเพื่อนำ
00:01:10 → 00:01:12 ไปฟอกไตแปลว่าตอนนั้นเนี่ยเป็นไตวาย
00:01:12 → 00:01:14 เรื้อรังระยะสุดท้ายแล้วนะครับแล้วผมก็
00:01:14 → 00:01:16 มักคุยนู่นคุยนี่ถามนู่นถามนี่ไปเรื่อย
00:01:16 → 00:01:20 ครับและก็มักจะได้ใจความสำคัญว่าอาหารที่
00:01:20 → 00:01:23 แทบจะแบบหลายๆคนเลยเกือบทุกคนเลยที่ทานมี
00:01:23 → 00:01:25 อะไรบ้างนะครับและ 5 อย่างเด็ดๆวันนี้
00:01:25 → 00:01:26 ครับ
00:01:26 → 00:01:29 ที่ทานกันบ่อยมากๆและเสี่ยงไตวายแบบสุดๆ
00:01:29 → 00:01:31 มีดังนี้ครับตั้งใจฟังให้ดีนะครับอันดับ
00:01:31 → 00:01:35 ที่ 1 ครับปาท่องโก๋จิ้มนมข้นหวานครับ
00:01:35 → 00:01:37 เป็นไงครับ
00:01:37 → 00:01:41 อาหารเช้าอ่ะปาท่องโก๋จิ้มนมข้นหวานอากาศ
00:01:41 → 00:01:45 เย็นๆยามเช้าตามด้วยน้ำเต้าหู้ร้อนๆหวาน
00:01:45 → 00:01:49 เจี๊ยบๆเป็นไงครับสุดยอดฟินกว่านี้ไม่มี
00:01:49 → 00:01:52 อีกแล้วนี่แหละชีวิตที่ใช่ชีวิตที่ฉัน
00:01:52 → 00:01:55 เลือกนะครับโอ้โหไตเสื่อมครับถามว่าเพราะ
00:01:55 → 00:01:58 อะไรเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังครับคือตัว
00:01:58 → 00:02:01 ปาท่องโก๋นะครับก็ทำมาจากแป้งนะครับแล้ว
00:02:01 → 00:02:03 เป็นแป้งที่ขัดสีขาวจั๊วะเลยเห็นไหมเวลา
00:02:03 → 00:02:06 ที่เขาปั้นปาท่องโก๋ทำนะครับยังไม่พอครับ
00:02:06 → 00:02:08 น้ำมันที่ใช้ทอดนะครับก็มักจะเป็นน้ำมัน
00:02:08 → 00:02:11 พืชที่ผ่านโปรเซสสูงการผ่าน process สูง
00:02:11 → 00:02:14 ก็จะมีโอเมก้า 6 สูงซึ่งจะทำให้เกิดการ
00:02:14 → 00:02:16 อักเสบของหลอดเลือดเกิดการอักเสบของเซลล์
00:02:16 → 00:02:19 ต่างๆได้มากนะครับพวกแป้งที่เป็น Ultra
00:02:19 → 00:02:22 process ที่นำมาทำปาท่องโก๋เป็นไงครับก็
00:02:22 → 00:02:25 ทำให้อินซูลินในร่างกายพุ่งกระฉูดเลยครับ
00:02:25 → 00:02:29 พอพุ่งนะครับมันจะเกิดอินซูลิน spiking
00:02:29 → 00:02:31 นะครับแล้วจะเกิดภาวะ Roller coaster
00:02:31 → 00:02:34 คืออินซูลินขึ้นลงขึ้นลงขึ้นลงขึ้นลงแบบ
00:02:34 → 00:02:38 นี้บ่อยๆซึ่งจะทำให้เราหิวง่ายอิ่มยากและ
00:02:38 → 00:02:41 ดื้อต่ออินซูลินทำให้เกิดภาวะเบาหวานใน
00:02:41 → 00:02:43 อนาคตและเมื่อไหร่ก็ตามครับถ้าท่านเป็น
00:02:43 → 00:02:46 เบาหวานไตวายเรื้อรังถามหาแน่นอนนะครับ
00:02:46 → 00:02:49 อันตรายมากๆนะครับคราวนี้ตัวนมข้นหวานล่ะ
00:02:49 → 00:02:53 โอ้โหนะครับเป็นไงฮะน้ำตาลกระฉูดฟ้าครับ
00:02:53 → 00:02:57 อร่อยสุดๆนะครับหวานมันสุดๆนะครับบางคนก็
00:02:57 → 00:02:59 จิ้มแยมบางคนก็จิ้มสังขยาบางคนก็จิ้ม
00:02:59 → 00:03:02 ช็อกโกแลตนะครับเอากันให้เต็มที่นะครับ
00:03:02 → 00:03:05 แบบนี้นะครับอันตรายมากๆผมไม่ได้ห้ามท่าน
00:03:05 → 00:03:09 ทานนะครับนานๆทีสักอาทิตย์สองอาทิตย์ทาน
00:03:09 → 00:03:10 สักชิ้นสองชิ้นเอ๊ะอย่างนี้มันไม่เป็นไร
00:03:10 → 00:03:13 หรอกแต่บางท่านเล่นทานกันทุกวันแบบนี้
00:03:13 → 00:03:16 อันตรายมากๆนะครับและถ้าท่านไม่อยากให้
00:03:16 → 00:03:19 ลูกหลานของท่านนะครับเสี่ยงเบาหวานเสี่ยง
00:03:19 → 00:03:22 ไตวายเรื้อรังแล้วในอนาคตนะครับทานแต่
00:03:22 → 00:03:25 น้อยนะครับเลือกของที่มีประโยชน์ดีกว่านะ
00:03:25 → 00:03:28 ครับโอเคครับมาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 2
00:03:28 → 00:03:31 ครับผมบอกเลยครับอาหารชนิดนี้นะครับถ้า
00:03:31 → 00:03:34 เปิดตู้เก็บของนะครับหรือว่าตู้อาหารใน
00:03:34 → 00:03:36 บ้านของหลายๆท่านผมว่ามีเยอะมากๆนะครับ
00:03:36 → 00:03:39 ซื้อตุนกันมาเลยทีเดียวอันตรายมากนะครับ
00:03:39 → 00:03:43 นั่นก็คือซีเรียลครับซีเรียลต่างๆนะครับ
00:03:43 → 00:03:47 ไม่ว่าจะรสชาติไหนไม่ว่าจะผสมสารอะไรบาง
00:03:47 → 00:03:51 คนก็บอกโอ้โหอันนี้ซีเรียลผสมดี HA epa
00:03:51 → 00:03:55 Omega โอผสมทุกสิ่งทุกอย่างครับคือมัน
00:03:55 → 00:03:57 ไม่ได้มีประโยชน์อะไรครับในการผสมสารอะไร
00:03:57 → 00:03:59 พวกนี้เข้ามานะฮะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
00:03:59 → 00:04:01 เพราะตัวของมันเนี่ยมันเปรียบเทียบได้กับ
00:04:01 → 00:04:04 เอาพูดตรงๆนะคล้ายๆยาพิษชนิดหนึ่งเลยอ่ะ
00:04:04 → 00:04:07 เพราะอะไรครับเพราะว่าตัวซีเรียลเนี่ยมัน
00:04:07 → 00:04:10 ผลิตจากกระบวนการที่ Ultra process มากๆ
00:04:10 → 00:04:13 นะครับป่นออกมาจนไม่รู้ว่ามันมาจากอะไร
00:04:13 → 00:04:16 อ่ะ Serial มันทำมาจากอะไรอ่ะเออนั่นแหละ
00:04:16 → 00:04:18 คือดูไม่ออกแบบนี้เขาเรียกอัลตร้าโปรเซส
00:04:18 → 00:04:21 อาหารแบบนี้ครับจะทำให้ร่างกายเราเกิดการ
00:04:21 → 00:04:23 อักเสบตลอดเวลาหลอดเลือดไปเลี้ยงไตเกิด
00:04:24 → 00:04:26 การอักเสบนะครับแล้วก็เซลล์หน้าต่าง
00:04:26 → 00:04:29 อักเสบเซลล์ของไตอักเสบไตเสื่อมได้ง่าย
00:04:29 → 00:04:31 หลอดเลือดตีบได้ง่ายนะครับมีหลอดเลือดอุด
00:04:31 → 00:04:34 ตันไตวายเรื้อรังเป็นเบาหวานได้เยอะแยะ
00:04:34 → 00:04:36 มากๆเลยแล้วยังไม่พอซีเรียลนะครับเพื่อ
00:04:36 → 00:04:39 ความอร่อยเคลือบน้ำตาลอีกครับเอากันให้
00:04:39 → 00:04:41 สุดเอากันให้เต็มที่นะครับเพราะฉะนั้น
00:04:41 → 00:04:44 แล้วนะครับอันตรายมากๆนะครับมีแต่แป้งมี
00:04:44 → 00:04:47 แต่น้ำตาลมีแต่โปรเศษ Food โปรตีนก็ไม่มี
00:04:47 → 00:04:50 ไขมันชั้นดีก็ไม่มีเพราะฉะนั้นนะครับลดละ
00:04:50 → 00:04:53 เลิกนะครับลดละเลิกนะครับผมนี่ไม่เคยให้
00:04:53 → 00:04:55 ลูกสาวทานซีเรียลเลยนะครับไม่เคยนะครับ
00:04:55 → 00:04:58 ตอนนี้นี่หนักเลยเด็กๆนี่เขาอาจจะทานนิดๆ
00:04:58 → 00:05:01 หน่อยๆนะแต่ว่าในปัจจุบันเนี่ยตอนนี้ 6
00:05:01 → 00:05:03 ขวบครึ่งเนี่ยไม่ได้ทานซีเรียลอีกเลยนะ
00:05:03 → 00:05:05 ครับเพราะผมคิดว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพอัน
00:05:05 → 00:05:09 นี้ส่วนตัวเลยนะเออผมก็มาบอกพวกท่านผมทำ
00:05:09 → 00:05:11 อะไรผมก็บอกอย่างนั้นนะครับโอเคครับมาต่อ
00:05:11 → 00:05:14 กันที่อาหารชนิดที่ 3 ครับนั่นก็คือขนม
00:05:14 → 00:05:20 ปังปิ้งทาแยมไส้กรอกทอดโหเป็นไงอาหารเช้า
00:05:20 → 00:05:23 แบบนี้เฮ้ยมันสวรรค์ชัดๆในเช้าที่สบายๆ
00:05:23 → 00:05:25 เสาร์อาทิตย์ที่ไม่ต้องทำงานไม่ต้องติดรถ
00:05:25 → 00:05:30 ติดมันดีจริงๆนะครับมันสบายใจดีแต่มันไม่
00:05:30 → 00:05:33 ดีต่อสุขภาพเพราะอะไรขนมปังนะครับเป็นไง
00:05:33 → 00:05:36 ครับคาร์โบไฮเดรตสูงมากแถมถ้าเป็นขนมปัง
00:05:36 → 00:05:38 ขาว High process Food ขัดสีแบบนี้ไม่
00:05:38 → 00:05:41 ค่อยดีนะครับแยมเป็นไงครับน้ำตาลล้วนๆ
00:05:41 → 00:05:44 ครับแหมไม่ต้องมาแยมนู่นแยมนี่มันน้ำตาล
00:05:44 → 00:05:47 ทั้งนั้นนะครับเพราะฉะนั้นก็ต้องระมัด
00:05:47 → 00:05:51 ระวังนะครับต่อมาครับไส้กรอกเป็นไงครับ
00:05:51 → 00:05:54 process Food ชัดๆนะครับเพราะฉะนั้นตัว
00:05:54 → 00:05:56 ไส้กรอกเห็นไหมเราก็ยังได้ยินข่าวมาเนอะ
00:05:56 → 00:05:58 ไส้กรอกผสมสารนู่นสารนี่นะเราก็จะไป
00:05:58 → 00:06:00 เสี่ยงกับมันนะครับถ้าไม่จำเป็นยังไม่พอ
00:06:00 → 00:06:02 ครับบางคนบอกโอ้ยนี่ไงไส้กรอกตัวพิมพ์สูง
00:06:02 → 00:06:05 นะโอ้มีไขมันสูงด้วยโดยส่วนใหญ่แล้วกันนะ
00:06:05 → 00:06:08 ครับไส้กรอกเนี่ยมักจะเป็นครัว Quality
00:06:08 → 00:06:11 โปรตีนนะครับก็คือโปรตีนที่มันแบบไม่ได้
00:06:11 → 00:06:13 มีคุณภาพมากนักอ่ะมันไม่เหมือนเนื้อหมู
00:06:13 → 00:06:16 เนื้อไก่เนื้อเป็ดเนื้ออะไรที่เราเห็นชัด
00:06:16 → 00:06:19 ๆชัดเจนนะครับแล้วก็ไขมันก็ไม่ใช่ไขมัน
00:06:19 → 00:06:21 ชั้นดีเพราะเวลาอะไรก็ตามที่ผ่าน process
00:06:21 → 00:06:23 เนี่ยจากไขมันชั้นดีไม่ว่าจะเป็นไขมัน
00:06:24 → 00:06:25 อิ่มตัวไขมันไม่อิ่มตัวเนี่ยมันจะกลาย
00:06:25 → 00:06:26 เป็นไขมันชั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะ
00:06:26 → 00:06:29 ฉะนั้นไม่แนะนำนะครับไม่ได้ห้ามนะครับนาน
00:06:29 → 00:06:32 ๆทานทีโอเคนะครับแต่ไม่ใช่ทานทุกวันนะ
00:06:32 → 00:06:35 โอเคครับมาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 4 ครับ
00:06:35 → 00:06:38 อันนี้ก็จี๊ดจ๊าดเหมือนกันครับและหลายๆ
00:06:38 → 00:06:40 ท่านคิดว่ามันดีต่อสุขภาพ
00:06:40 → 00:06:44 ผมก็เป็นคนนึงครับเมื่อหลายปีก่อนนะครับ
00:06:44 → 00:06:46 ก่อนที่จะศึกษาเรื่องพวกนี้เรื่องอาหาร
00:06:46 → 00:06:50 เรื่องโภชนาการเพราะปกติตอนเรียนหมอไม่มี
00:06:50 → 00:06:53 ใครสอนมันก็สอนแต่รักษาคนไข้สอนผ่าตัดสอน
00:06:53 → 00:06:56 นู่นสอนนี่โภชนาการเลี้ยงแค่ไม่กี่
00:06:56 → 00:06:58 ชั่วโมงหรอกตอนเรียนหมออ่ะมันต้องมาศึกษา
00:06:58 → 00:07:02 เองศึกษามาเป็นปีๆๆๆดูจากต่างประเทศเขา
00:07:02 → 00:07:05 เออดูแบบระดับโลกเขาว่ายังไงเพื่อมีชีวิต
00:07:05 → 00:07:08 ที่ยืนยาวอันที่ 4 ครับน้ำผลไม้และ
00:07:08 → 00:07:11 โยเกิร์ตลดผลไม้ต่างๆอันตรายมากต้องระมัด
00:07:11 → 00:07:14 ระวังนะครับน้ำผลไม้ 100% นี่แหละไอ้พวก
00:07:14 → 00:07:16 ไม่ 100% นี่โยนทิ้งไปไกลๆอยู่แล้วแต่
00:07:16 → 00:07:20 100% ให้ท่านดูนะน้ำผลไม้น้ำส้มคั้น 1
00:07:20 → 00:07:23 แก้วเอาแบบคั้นสดเลยนะอร่อยไหมอร่อยดีอ่า
00:07:23 → 00:07:25 อร่อยผมไม่ได้ห้ามท่านทานนะอย่างที่บอก
00:07:25 → 00:07:29 ทานได้แต่นานๆทีนะครับมีส้มเนี่ย 10 ลูก
00:07:29 → 00:07:32 ถ้าเกิดท่านทานส้ม 10 ลูกหรือ 10 ผลท่าน
00:07:32 → 00:07:35 อิ่มไหม 3 ลูกก็จอดแล้วผมบอกให้แต่น้ำส้ม
00:07:36 → 00:07:39 คั้นล่ะ 2 แก้วเหมือนกินส้ม 20 ลูกกากใย
00:07:39 → 00:07:41 ไม่มีเพราะโอกาสยายไปทิ้งหมดแล้วแต่น้ำ
00:07:41 → 00:07:44 ตาลเน้นๆนะครับน้ำส้ม 1 แก้วน้ำตาลเท่า
00:07:44 → 00:07:46 น้ำอัดลม 1 กระป๋องครับไม่แตกต่างกันเลย
00:07:46 → 00:07:51 ท่านทานน้ำส้มคั้นสด 100% กับทานน้ำอัดลม
00:07:51 → 00:07:54 ยกซดน้ำตาลเท่ากันนะครับน้ำตาลเท่ากัน
00:07:54 → 00:07:57 โยเกิร์ตรสผลไม้ต่างๆท่านพลิกดูน้ำตาล
00:07:57 → 00:08:01 แล้วท่านจะใช้คำว่าสยองขวัญครับสยองขวัญ
00:08:01 → 00:08:06 ครับน้ำตาล 20 กรัมพระเจ้านะครับกิน
00:08:06 → 00:08:09 โยเกิร์ต 1 ถ้วยนะครับก็เท่ากับกินข้าว
00:08:09 → 00:08:11 ทัพพีนึงอ่ะประมาณนั้นเลยนะครับน้ำตาลที่
00:08:11 → 00:08:14 ได้นะประโยชน์ก็แบบโทษเท่านี้ประโยชน์
00:08:14 → 00:08:17 เท่านี้นะก็ว่ากันไปนะครับโยเกิร์ตทานได้
00:08:17 → 00:08:19 นะครับผมแนะนำประเภทโยเกิร์ตที่ถ้าเป็น
00:08:19 → 00:08:23 ธรรมชาติแล้วก็น้ำตาลต่ำกว่า 5 กรัมต่อ
00:08:23 → 00:08:28 ถ้วยนั่นเองนะครับโอเคครับมาต่อกันข้อที่
00:08:28 → 00:08:32 5 สุดท้ายนะครับอันนี้ถ้าเวลาเราไปโรง
00:08:32 → 00:08:35 แรมเอยไปเที่ยวเอยนะครับมันต้องมีเพราะ
00:08:35 → 00:08:39 มันอร่อยมากๆครับนั่นก็คือแพนเค้กวาฟเฟิล
00:08:39 → 00:08:40 ครัวซองครับ
00:08:40 → 00:08:43 ครบเซ็ตครับ Ultra High process สุดๆ
00:08:43 → 00:08:47 ยังไม่พอแพนเค้กต้องราดน้ำเชื่อมราดอะไร
00:08:47 → 00:08:51 นะน้ำผึ้งธรรมชาติคือน้ำผึ้งอ่ะมันมาจาก
00:08:51 → 00:08:54 ธรรมชาติก็จริงครับแต่ว่าสุดท้ายมันก็
00:08:54 → 00:08:56 เป็นน้ำตาลเยอะๆเพราะฉะนั้นเล็กๆน้อยๆนาน
00:08:56 → 00:08:59 ๆครั้งได้แต่ทานทุกวี่ทุกวันมันก็ไม่ไหว
00:08:59 → 00:09:02 พวกแพนเค้กพวกวาฟเฟิลพวกครัวซองต์นะครับ
00:09:02 → 00:09:05 มันก็ทำมาจากแป้งที่เกิดผ่านกระบวนการที่
00:09:05 → 00:09:07 เป็น Ultra High process นะครับค่อน
00:09:07 → 00:09:11 ข้างสูงซึ่งก็จะทำให้เกิดการอักเสบต่อพวก
00:09:11 → 00:09:13 หลอดเลือดต่อเซลล์ต่างๆได้ง่ายนะครับผมก็
00:09:13 → 00:09:16 ชอบฮะครัวซองต์นานๆทานทีนะครับไม่ใช่ว่า
00:09:16 → 00:09:18 จะไม่ทานเลยนะครับแพนเค้กนานๆผมก็ทานที
00:09:18 → 00:09:22 วาฟเฟิลนานๆผมก็ทานจีนคือเวลาผมสอนเนี่ย
00:09:22 → 00:09:24 ผมไม่ได้ห้ามท่านทานนะครับผมให้ท่านรู้
00:09:24 → 00:09:27 ว่ามันอันตรายแล้วท่านก็เลือกเอาว่าท่าน
00:09:27 → 00:09:30 อยากจะอันตรายแค่ไหนท่านนิดๆหน่อยๆมันไม่
00:09:30 → 00:09:31 เป็นไรอยู่แล้วถ้าท่านทานเยอะๆมันก็
00:09:31 → 00:09:33 อันตรายอยู่แล้วมันก็ต้องเลือกเองชีวิต
00:09:33 → 00:09:35 นี้ต้องเลือกเองไม่มีใครไปดูแลหรอกต้องดู
00:09:35 → 00:09:39 แลตัวเองเนาะเอ้อโอเคครับและนี่ก็คือ 5
00:09:39 → 00:09:40 อาหารเช้านะครับ
00:09:40 → 00:09:43 แกงไตวายสุดๆเลยนะครับเพราะว่ามันทำให้
00:09:43 → 00:09:46 หลอดเลือดอักเสบมันทำให้เราเสี่ยงเบาหวาน
00:09:46 → 00:09:49 นะครับแล้วก็ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ต้อง
00:09:49 → 00:09:52 ฟอกไตตลอดชีวิตที่ผมดูแลนะครับ 10 คนนะ
00:09:52 → 00:09:54 ครับ 9 คนเป็นเบาหวานถ้าท่านไม่อยากไตวาย
00:09:54 → 00:09:56 เรื้อรังก็หลีกหนีเบาหวานหลีกหนีอาหาร
00:09:56 → 00:10:00 หวานนะครับชัดเจนนะครับเบาหวานก็ชื่อตาม
00:10:00 → 00:10:02 นี้ก็ต้องหลีกหนีอาหารหวานหลีกหนีอาหาร
00:10:02 → 00:10:05 ที่มันเป็นแป้งเป็นเบาหวานจะไปนั่งกิน
00:10:05 → 00:10:08 ผลไม้เยอะๆจะไปนั่งกินแป้งเยอะๆแล้วจะหาย
00:10:08 → 00:10:10 เบาหวานแหมฝากไว้มันแปลกๆเนาะเออประมาณ
00:10:10 → 00:10:13 นั้นโอเคแหละครับนี่ก็คือ 5 อาหารเช้า
00:10:13 → 00:10:15 เสี่ยงแต่ไวสุดๆนะครับก่อนไปครับอย่าลืม
00:10:15 → 00:10:17 กดไลค์กดแชร์กด Subscribe และกดกระดิ่ง
00:10:17 → 00:10:21 ขอบคุณครับสวัสดีครับผมหมอท๊อปนะครับราย
00:10:21 → 00:10:24 การสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระครับวู้ฮู้
00:10:24 → 00:10:28 วันนี้ครับเราจะมาคุยกันเรื่องผลไม้นะ
00:10:28 → 00:10:31 ครับที่ห้ามทานเด็ดขาดถ้าท่านไม่อยากนะ
00:10:31 → 00:10:34 ครับฟอกไตไปตลอดชีวิตนะครับอันนี้สำคัญ
00:10:34 → 00:10:38 มากๆเลยนะครับเพราะว่านะครับมีเหตุการณ์
00:10:38 → 00:10:41 จริงเกิดขึ้นจริงนะครับมีเคจริงๆกับการ
00:10:41 → 00:10:45 ทานผลไม้ 5 ชนิดนี้นะครับทั้งๆที่ไตก็ไม่
00:10:45 → 00:10:48 ได้แย่อะไรมากนะครับก็จำเป็นที่จะต้องฟอก
00:10:48 → 00:10:50 ไตไปตลอดชีวิตเลยนะครับก็น่าสงสารมากๆ
00:10:50 → 00:10:53 ครับโอเคครับก่อนไปครับอย่าลืมกด like กด
00:10:53 → 00:10:55 Share กด Subscribe และกดกระดิ่งขอบคุณ
00:10:55 → 00:10:57 ครับสำหรับท่านที่มีเวลาน้อยผมขออนุญาต
00:10:57 → 00:11:00 ให้กระโดดไปที่ 3 นาทีสุดท้ายครับผมสรุป
00:11:00 → 00:11:02 ไว้ให้เรียบร้อยแล้วส่วนท่านที่มีเวลาเรา
00:11:02 → 00:11:06 ไปลุยพร้อมๆกันเลยครับโดยปกติแล้วนะครับ
00:11:06 → 00:11:10 โรคไตวายมีอยู่ 2 อย่างใหญ่ๆก็คือไตวาย
00:11:10 → 00:11:12 เฉียบพลันแล้วก็ไตวายเรื้อรังครับถ้าเป็น
00:11:12 → 00:11:15 ไตวายเรื้อรังมักจะมีอาการนำมาก่อนอยู่
00:11:15 → 00:11:17 แล้วนะครับเช่นเบาหวานความดันไขมันพอเป็น
00:11:17 → 00:11:20 มานานๆไตเสื่อมต้องฟอกไตตลอดชีวิตนะครับ
00:11:20 → 00:11:22 ต่างกับไตวายเฉียบพลันครับไตวายเฉียบพลัน
00:11:22 → 00:11:25 เขาเรียกว่าจะมีสาเหตุนะครับปัจจุบันทัน
00:11:25 → 00:11:28 ด่วนมาทำให้เราต้องฟอกไตแบบฉุกเฉินนะครับ
00:11:28 → 00:11:32 ซึ่งแบบโคตรอันตรายฮะผมบอกเลยว่าอันตราย
00:11:32 → 00:11:34 มากๆนะครับไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เสีย
00:11:34 → 00:11:37 เลือดมากนะครับหรือว่าการได้รับยาผิดปกติ
00:11:37 → 00:11:39 นะครับทำให้ไตของเราเนี่ยพังไปเลยนะครับ
00:11:39 → 00:11:42 หรือหรือว่าการทานอาหารนะครับที่เราจะมา
00:11:42 → 00:11:45 คุยกันวันนี้นะครับเป็นผลไม้ต่างๆหลาย
00:11:45 → 00:11:48 ชนิดทำให้ไตวายเฉียบพลันต้องฟอกไตหรือบาง
00:11:48 → 00:11:51 คนครับโดนผึ้งต่อยเพิ่งกัดสัตว์กัดหรือ
00:11:51 → 00:11:54 บางอย่างแล้วแพ้นะครับเขาเรียกฟิลแลคติก
00:11:54 → 00:11:56 ช็อคนะครับทำให้แบบว่าช็อคไปทั้งร่างกาย
00:11:56 → 00:11:59 เลยไตก็ช็อคไปด้วยต้องฟอกไตแบบทันทีเลย
00:11:59 → 00:12:01 ครับอันนี้ถือว่าอันตรายมากๆครับแล้วคราว
00:12:01 → 00:12:04 นี้เราจะไปลุยกันครับว่าผลไม้ 5 ชนิดนั้น
00:12:04 → 00:12:06 มีอะไรบ้างผมบอกเลยว่าสำคัญมากๆและท่าน
00:12:06 → 00:12:08 ต้องตั้งใจฟังจนจบนะครับถ้าท่านไม่อยาก
00:12:08 → 00:12:11 ฟอกไตไปตลอดชีวิตครับสำหรับรายละเอียด
00:12:11 → 00:12:13 ผลไม้นะครับที่อาจจะทำให้ท่านเสี่ยงไตวาย
00:12:13 → 00:12:15 ได้นะครับในคลิปนี้นะครับก็ต้องขอขอบคุณ
00:12:15 → 00:12:18 นะครับเว็บไซต์ของโรงพยาบาลสี่ศิริราช
00:12:18 → 00:12:21 ปิยมหาการุณย์นะครับที่มีรายละเอียดที่
00:12:21 → 00:12:22 ยอดเยี่ยมนะครับเพราะว่าผมไปอ่านเจอมา
00:12:22 → 00:12:25 แล้วแล้วเนี่ยแบบยังไงต้องเอามาเล่าสู่
00:12:25 → 00:12:28 กันฟังนะครับเพราะว่าดีจริงๆดีจริงๆนะ
00:12:28 → 00:12:30 ครับก็ขอบคุณมากๆนะครับโอเคครับเราไปลุย
00:12:30 → 00:12:33 กันเลยครับผลไม้ชนิดแรกนะครับที่เสี่ยงไต
00:12:33 → 00:12:36 วายเฉียบพลันแบบมากๆเลยนะครับนั่นก็คือ
00:12:36 → 00:12:37 มะเฟืองนั่นเองครับเดี๋ยวชื่อภาษาอังกฤษ
00:12:37 → 00:12:40 เรียกว่า Star Fruit นะครับซึ่งมีราย
00:12:40 → 00:12:43 ละเอียดดังก็คือว่าถ้าเป็นมะเฟืองที่มีรส
00:12:43 → 00:12:45 เปรี้ยวนะครับจะมีความเสี่ยงมากกว่า
00:12:45 → 00:12:47 มะเฟืองที่มีรสหวานนั่นเองนะครับเพราะ
00:12:47 → 00:12:50 อะไรครับเพราะว่ามะเฟืองที่มีรสเปรี้ยว
00:12:50 → 00:12:52 นั้นมีสารที่ชื่อว่า oxalate นะครับสูง
00:12:52 → 00:12:55 กว่ามะเฟืองที่มีรสหวานนะครับถึง 4 เท่า
00:12:55 → 00:12:58 นะครับ 4 เท่านะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยการ
00:12:58 → 00:13:01 ที่เราทานมะเฟืองรสเปรี้ยวนะครับโดยเฉพาะ
00:13:01 → 00:13:04 การคั้นน้ำมาทานนะครับก็จะได้ออกซาเลตสูง
00:13:04 → 00:13:07 มากๆโอเคถ้าท่านทานแบบเป็นผลเป็นลูกเป็น
00:13:07 → 00:13:09 ชิ้นนะครับแล้วไม่เยอะเท่าไหร่ก็ไม่ค่อย
00:13:09 → 00:13:11 เป็นอะไรครับแต่พอเราคั้นน้ำออกมาทานแล้ว
00:13:11 → 00:13:14 มันเหมือนทานทีหลายๆลูกแบบนี้นะครับ
00:13:14 → 00:13:17 ออกซาเลตในร่างกายจะสูงมากแล้วมันไปจับ
00:13:17 → 00:13:20 ตัวกับแคลเซียมในร่างกายเป็นแคลเซียม
00:13:20 → 00:13:22 ออกซาเลตซึ่งในที่สุดเนี่ยมันก็จะกลาย
00:13:22 → 00:13:26 เป็นนิ่วและอุดตันทอดไตทำให้เกิดไตวาย
00:13:26 → 00:13:28 เฉียบพลันทำให้ต้องฟอกไตเร่งด่วนได้นั่น
00:13:28 → 00:13:30 เองครับเพราะฉะนั้นแล้วถือว่าอันตรายมากๆ
00:13:30 → 00:13:33 ครับและยังไม่พอนะครับต้องบอกว่ามันไม่
00:13:33 → 00:13:35 ใช่แค่ตัวมะเฟืองครับที่มีสารออกซาเลต
00:13:35 → 00:13:39 เยอะนะครับยังมีอย่างอื่นอีกเช่นผักโขมกด
00:13:39 → 00:13:42 น้ำเต้าบีบรู้มันสำปะหลังเผือกอัลมอนด์
00:13:42 → 00:13:44 แล้วโกโก้นะครับคือไม่ได้บอกว่าท่านห้าม
00:13:44 → 00:13:48 ทานนะครับคราวนี้คือโดยปริมาณเราไม่ควรจะ
00:13:48 → 00:13:50 ทานมากดังนั้นการเลือกทานอาหารในแต่ละ
00:13:50 → 00:13:53 อย่างนั้นควรจะสลับสลับกันทานหลายๆอย่าง
00:13:53 → 00:13:56 เพื่อไม่ให้มันสะสมในร่างกายและต้องบอก
00:13:57 → 00:13:59 เลยครับมีวิธีป้องกันด้วยนั่นคือการดื่ม
00:13:59 → 00:14:02 น้ำนะครับเมื่อไหร่ก็ตามในวันหนึ่งท่าน
00:14:02 → 00:14:05 ดื่มน้ำ 8-10 แก้วนะครับก็จะสามารถลดความ
00:14:05 → 00:14:08 เสี่ยงนะครับในการสะสมของตัวออกซาเลตใน
00:14:08 → 00:14:11 ร่างกายได้ก็ทำให้โอกาสที่จะเกิดนิ่วใน
00:14:11 → 00:14:14 ร่างกายจนไปอุดทางเดินปัสสาวะนะครับหรือ
00:14:14 → 00:14:17 อุดท่อไตนั้นลดลงและโอกาสเสี่ยงไตวาย
00:14:17 → 00:14:21 เฉียบพลันลดลงนั่นเองครับมาต่อกันที่
00:14:21 → 00:14:24 ผลไม้ชนิดที่ 2 ครับนั่นก็คือเชอรี่ครับ
00:14:24 → 00:14:27 ถูกต้องครับเชอรี่ครับฟังไม่ผิดครับตัว
00:14:27 → 00:14:30 เชอรี่เนี่ยครับที่ดูแบบเฮ้ยอร่อยแล้วก็
00:14:30 → 00:14:32 ทานแล้วก็มีประโยชน์มีสารแอนตี้
00:14:32 → 00:14:35 ออกซิแดนท์ที่สูงมากๆแต่ทำไมนะครับถึงจะ
00:14:35 → 00:14:38 เสี่ยงไตวายเฉียบพลันจะต้องฟอกไตนะครับ
00:14:38 → 00:14:41 วันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังนะครับมันมีราย
00:14:41 → 00:14:43 ละเอียดอย่างนี้ครับคือโดยตัวเชอรี่เนี่ย
00:14:43 → 00:14:46 เป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงอยู่แล้วถ้า
00:14:46 → 00:14:48 ท่านไตเสื่อมนะครับเช่นไตเสื่อมระดับ 4
00:14:48 → 00:14:52 ระดับ 5 นะครับผลไม้นะครับที่มีสีส้มมากๆ
00:14:52 → 00:14:54 สีแดงมากๆอย่างนี้เราไม่ค่อยแนะนำให้ทาน
00:14:54 → 00:14:57 เพราะโพแทสเซียมสูงแบบนี้ก็จะทำให้มี
00:14:57 → 00:14:59 โอกาสต้องฟอกไตอยู่แล้วแต่คราวนี้ราย
00:14:59 → 00:15:01 ละเอียดของมันคือตัวเม็ดของเชอร์รี่นี่
00:15:01 → 00:15:04 แหละครับตัวเม็ดของเชอร์รี่เนี่ยนะครับมี
00:15:04 → 00:15:06 สารพิษที่ซ่อนอยู่ในเมล็ดของมันที่ชื่อ
00:15:06 → 00:15:09 ว่าไฮโดรเจนไซยาไนด์นะครับคือถ้าท่านไม่
00:15:09 → 00:15:12 กินเมล็ดมันมันก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าท่านไปบด
00:15:12 → 00:15:16 ไปกัดให้มันแตกแล้วนะครับกลืนมันกินมัน
00:15:16 → 00:15:18 เข้าไปแบบนี้จะได้รับสารพิษที่ชื่อว่า
00:15:18 → 00:15:21 ไฮโดรเจนไซยาไนด์นั่นเองครับแล้วต้องบอก
00:15:21 → 00:15:23 เลยว่าไม่ใช่แค่มีในเมล็ดของเชอร์รี่เท่า
00:15:23 → 00:15:26 นั้นนะครับยังมีใน Apple ยังมีในแอปติคอต
00:15:26 → 00:15:28 นะครับเพราะฉะนั้นแล้วนะครับต้องระมัด
00:15:28 → 00:15:30 ระวังนะครับสารตัวนี้นะครับไฮโดรเจน
00:15:30 → 00:15:33 ไซยาไนด์นะครับจะทำให้ท่านมีอาการปวดหัว
00:15:33 → 00:15:36 เวียนหัวสับสนวิตกกังวลและอาเจียนได้นะ
00:15:36 → 00:15:39 ครับถ้าทานในปริมาณมากๆนะมีปัญหาเรื่อง
00:15:39 → 00:15:42 หัวใจความดันโลหิตไตวายแล้วก็ชักได้เพราะ
00:15:42 → 00:15:45 ฉะนั้นอันตรายจริงๆครับก็ต้องระมัดระวัง
00:15:45 → 00:15:47 นะครับกินแต่เนื้อของเชอร์รี่แล้วกันนะ
00:15:47 → 00:15:49 ครับเม็ดก็ไม่ควรจะไปเคี้ยวไปกัดนะครับ
00:15:49 → 00:15:52 เพราะว่ามันพิสดารเหลือเกินมันต่อกันที่
00:15:52 → 00:15:54 ผลไม้ชนิดที่ 3 กันบ้างครับนั่นก็คือ
00:15:54 → 00:15:57 ลูกเนียงครับอ่าถ้าอยู่ภาคใต้นี่จะต้อง
00:15:57 → 00:15:59 คุ้นเคยกันมากนะครับสำหรับลูกเนียนนะครับ
00:15:59 → 00:16:02 เพราะว่าเป็นพืชที่นิยมรับประทานกันมากนะ
00:16:02 → 00:16:06 ครับในภาคใต้ของประเทศไทยนะครับคือสารที่
00:16:06 → 00:16:08 ก่อให้เกิดพิษของลูกเนียงนะครับมีชื่อว่า
00:16:08 → 00:16:11 กรดเก่งโคลิคนั่นเองนะครับกรดจึงโคลิก
00:16:11 → 00:16:15 เนี่ยจะทำให้เรามีภาวะไตวายเฉียบพลันจน
00:16:15 → 00:16:18 ต้องฟอกไตได้นั่นเองนะครับเป็นสารที่เกิด
00:16:18 → 00:16:21 จากกรดอะมิโนที่มีกำมะถันสูงนะครับคือมี
00:16:21 → 00:16:24 รายงานนะครับว่าจำนวนเม็ดที่ทำให้เกิด
00:16:24 → 00:16:27 อาการแบบนี้ได้มีตั้งแต่ 1 เม็ดนะครับจน
00:16:27 → 00:16:30 ถึง 20 เม็ดนะครับคือถ้าท่านทาน 1 เม็ด
00:16:30 → 00:16:32 แล้วท่านโชคร้ายอาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะ
00:16:32 → 00:16:33 โอ้โหน่ากลัวเหมือนกันนะครับเพราะฉะนั้น
00:16:33 → 00:16:36 ระมัดระวังนิดนึงแล้วกันนะครับก็ค่อนข้าง
00:16:36 → 00:16:39 อันตรายเลยคือต้องบอกว่าพิษที่จะเกิดขึ้น
00:16:39 → 00:16:41 เนี่ยก็อาจจะเกิดขึ้นภายใน 2-14 ชั่วโมง
00:16:41 → 00:16:44 ด้วยซ้ำไปนะครับซึ่งถือว่ารวดเร็วมากๆนะ
00:16:44 → 00:16:46 ครับมีอาการปวดบริเวณขาหนีบนะครับปัสสาวะ
00:16:46 → 00:16:49 ลำบากปวดปัสสาวะมากบางรายไม่มีปัสสาวะออก
00:16:49 → 00:16:51 เลยนะครับเขาเรียกว่ามันเป็นแบบเหมือน
00:16:51 → 00:16:54 คลิปนี้ Shut Down อ่ะครับคือตัวไตหยุด
00:16:54 → 00:16:56 ทำงานไปเลยนะครับหรือว่าปัสสาวะขุ่นข้น
00:16:56 → 00:16:58 หรือปัสสาวะเป็นเลือดนะครับบางรายปวดท้อง
00:16:58 → 00:17:01 ปวดท้องเกร็งนะครับปวดหลังมีคลื่นไส้
00:17:01 → 00:17:04 อาเจียนความดันโลหิตสูงได้โอ้โหนะครับ
00:17:04 → 00:17:07 ปัจจัยที่ทำให้เกิดพิษเพิ่มขึ้นคือท่าน
00:17:07 → 00:17:09 ดื่มน้ำน้อยนะครับหรือรับประทานเมล็ดดิบ
00:17:09 → 00:17:12 หรือว่าผู้ป่วยที่มีไตวายเรื้อรังอยู่
00:17:12 → 00:17:14 แล้วแล้วไปกินลูกเนียงซ้ำเข้าไปอีกนะครับ
00:17:14 → 00:17:16 เสร็จเลยนะครับเสร็จเลยนะครับยิ่งเป็น
00:17:16 → 00:17:18 เยอะนะครับคราวนี้ห้ามกินเลยหรือเปล่าบอก
00:17:18 → 00:17:20 ไม่ใช่นะครับมีวิธีลดสารพิษของมันนะครับ
00:17:20 → 00:17:23 สามารถทานได้นะครับถ้าชอบนั่นคือการนำลูก
00:17:23 → 00:17:26 เนียงมาหั่นเป็นแผ่นแผ่นบางๆนะครับแล้วนำ
00:17:26 → 00:17:29 ไปตากแดดหรือต้มในน้ำที่ผสมเบกกิ้งโซดา 10
00:17:29 → 00:17:32 นาทีนะครับจะสามารถลดกรดเกร็งโคลิกได้
00:17:32 → 00:17:34 ประมาณครึ่งหนึ่งก็สามารถทานได้นะครับ
00:17:34 → 00:17:38 โอเคประมาณนี้ก็ทานได้นะครับอย่างระมัด
00:17:38 → 00:17:40 ระวังนั่นเองครับมาต่อกันที่ชนิดที่ 4
00:17:40 → 00:17:43 กันบ้างนะครับนั่นก็คือหญ้าไผ่น้ำนะครับ
00:17:43 → 00:17:47 หญ้าไผ่น้ำเนี่ยจริงๆแล้วนะครับเป็นพืชนะ
00:17:47 → 00:17:50 ครับที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงไตขับปัสสาวะซะ
00:17:50 → 00:17:52 ด้วยซ้ำนะครับคือทำให้เราขับปัสสาวะได้ดี
00:17:52 → 00:17:55 ขึ้นนะครับลดอาการอักเสบของทางเดิน
00:17:55 → 00:17:57 ปัสสาวะนะครับบำบัดอาการต่อมลูกหมากโต
00:17:57 → 00:18:00 บรรเทาอาการบวมได้นะครับสรรพคุณเป็นไง
00:18:00 → 00:18:02 ครับดูดีน่าจะช่วยให้ไตทำงานดีใช่ไหมครับ
00:18:02 → 00:18:06 นั่นก็คือสำหรับคนที่ไม่ได้มีภาวะไต
00:18:06 → 00:18:08 เสื่อมเรื้อรังครับแต่เมื่อไหร่ก็ตามถ้า
00:18:08 → 00:18:11 ท่านมีภาวะไตเสื่อมเรื้อรังนะครับแล้วทาน
00:18:11 → 00:18:13 หญ้าไผ่น้ำเข้าไปเยอะๆนะครับสิ่งที่เกิด
00:18:13 → 00:18:16 ขึ้นก็คือว่าไตของท่านจะทำงานหนักมากกว่า
00:18:16 → 00:18:19 ปกติเหมือนเอาคนที่ไม่สบายนะครับไปออก
00:18:19 → 00:18:21 กำลังกายเยอะๆนะครับก็จะทำให้ไตของท่าน
00:18:21 → 00:18:25 เกิดเขาเรียกว่าภาวะไตวายเฉียบพลันนะครับ
00:18:25 → 00:18:28 ทับถมมากับภาวะไตวายเรื้อรังแทนที่จะไม่
00:18:28 → 00:18:32 ต้องฟอกไตยืดอายุไตได้กลับต้องฟอกไตเร่ง
00:18:32 → 00:18:34 ด่วนนะครับแล้วก็โอกาสที่จะกลับมาไม่ต้อง
00:18:34 → 00:18:37 ฟอกน้อยมากๆนะครับเพราะว่าเมื่อไหร่ได้
00:18:37 → 00:18:40 ฟอกแล้วโอกาสกลับมาน้อยมากๆในผู้ป่วยที่
00:18:40 → 00:18:41 มีภาวะไตเสื่อมเรื้อรังนั่นเองนะครับ
00:18:41 → 00:18:44 เพราะฉะนั้นแล้วนะครับต้องระมัดระวังจริง
00:18:44 → 00:18:46 ๆนะครับต้องบอกว่าไม่ใช่เพียงแค่หญ้าไผ่
00:18:46 → 00:18:49 น้ำเท่านั้นนะครับที่มีฤทธิ์ในการขับ
00:18:49 → 00:18:51 ปัสสาวะนะครับยังมีอย่างอื่นอีกเยอะแยะ
00:18:51 → 00:18:54 เลยนะครับเช่นย่านหนวดแมวกระเจี๊ยบว่าน
00:18:54 → 00:18:56 หางม้านะครับเพราะฉะนั้นแล้วต้องระมัด
00:18:56 → 00:18:58 ระวังโดยเฉพาะผู้ป่วยไตเสื่อมนะครับที่มี
00:18:58 → 00:19:02 ภาวะไตเสื่อมไตไม่ดีนะครับจะทานอะไรนะ
00:19:02 → 00:19:04 ครับต้องปรึกษาแพทย์นะครับสมุนไพร
00:19:04 → 00:19:09 ไทยนั้นดีนะครับแต่ต้องเหมาะกับคนที่ทาน
00:19:09 → 00:19:12 ด้วยนะครับไม่ใช่ว่าดีสำหรับทุกคนนะครับ
00:19:12 → 00:19:14 ไม่มีอะไรที่ดีที่สุดในโลกและเหมาะสำหรับ
00:19:14 → 00:19:17 ทุกคนนะครับโอเคครับก็ไปต่อกันนะครับที่
00:19:17 → 00:19:21 ผลไม้ชนิดที่ 5 ครับผลไม้ชนิดที่ 5 นะ
00:19:21 → 00:19:24 ครับนั่นก็คือผลไม้ที่มีสีเหลืองนั่นเอง
00:19:24 → 00:19:27 ครับกลุ่มผลไม้ที่มีสีเหลืองทั้งหลายครับ
00:19:27 → 00:19:31 หรือสีออกส้มออกแดงนะครับแบบนี้นะครับผู้
00:19:31 → 00:19:34 ป่วยที่มีภาวะไตเสื่อมต้องระมัดระวังโดย
00:19:34 → 00:19:36 เฉพาะไตเสื่อมขั้น 4 ขั้น 5 ขึ้นไปนะครับ
00:19:36 → 00:19:40 สำหรับผู้ที่มีภาวะไตปกติก็สามารถทานได้
00:19:40 → 00:19:42 ในระดับที่เหมาะสมนะครับเพราะว่าผลไม้
00:19:42 → 00:19:44 กลุ่มนี้มักจะมีน้ำตาลสูงอยู่แล้วนะครับ
00:19:44 → 00:19:47 ไม่ว่าจะเป็นกล้วยนะครับเป็นไงครับสี
00:19:47 → 00:19:49 เหลืองนะครับทุเรียนเป็นไงครับสีเหลืองนะ
00:19:49 → 00:19:54 ครับมะม่วงสุกนะครับลูกพลับนะครับสี
00:19:54 → 00:19:56 เหลืองหมดเลยนะครับเห็นไหมครับโดยกลุ่ม
00:19:56 → 00:19:59 พวกนี้นะครับถ้าท่านพบผลไม้ที่มีสีเหลือง
00:19:59 → 00:20:03 สีส้มนะครับสีแสดสีแดงนะครับพวกนี้มักจะ
00:20:03 → 00:20:07 มีโพแทสูงเมื่อไหร่ก็ตามมีโพแทสเซียมสูง
00:20:07 → 00:20:10 นะครับผู้ป่วยที่มีภาวะไตเสื่อมอยู่แล้ว
00:20:10 → 00:20:13 ก็จะมีภาวะที่การขับโพแทสเซียมไม่ค่อยดี
00:20:13 → 00:20:15 อยู่แล้วนะครับก็จะมีโพแทสเซียมสูงใน
00:20:15 → 00:20:18 เลือดด้วยนะครับไตก็ทำงานได้ไม่ค่อยดีนะ
00:20:18 → 00:20:21 ครับผลไม้ก็เข้าไปทับถมอีกนะครับก็อาจจะ
00:20:21 → 00:20:23 ทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันด้วยนะครับ
00:20:23 → 00:20:26 ภาวะที่ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติจากที่
00:20:26 → 00:20:29 โพแทสเซียมในเลือดในเลือดนั้นสูงเกินไป
00:20:29 → 00:20:31 นั่นเองครับเพราะฉะนั้นระมัดระวังครับไม่
00:20:31 → 00:20:35 ได้ห้ามท่านทานนะครับผลไม้นะครับทานได้นะ
00:20:35 → 00:20:37 ครับแต่ว่าในปริมาณที่ไม่มากเกินไปเพราะ
00:20:37 → 00:20:42 ผลไม้นั้นดีต่อระบบขับถ่ายมีกากใยที่ดี
00:20:42 → 00:20:46 แต่น้ำตาลในผลไม้นั้นก็จะทำให้เกิดการ
00:20:46 → 00:20:49 อักเสบในร่างกายดังนั้นทานแค่พออร่อยนะ
00:20:49 → 00:20:52 ครับอย่าไปทานเอาอิ่มอย่าไปทานแทนมื้อ
00:20:52 → 00:20:55 อาหารแบบนี้ไม่ดีครับยิ่งเสี่ยงเบาหวาน
00:20:55 → 00:20:58 ความดันไขมันทับถมกับภาวะไตเสื่อมของท่าน
00:20:58 → 00:21:01 จะยิ่งแย่กันเข้าไปอีกนั่นเองครับโอเค
00:21:01 → 00:21:04 ครับคราวนี้ผมขออนุญาตสรุปนะครับ 5 อาหาร
00:21:04 → 00:21:07 เช้าเสี่ยงไตวายสุดๆและคนไทยชอบทานมากๆ
00:21:07 → 00:21:10 ครับแล้วมันอร่อยมากๆด้วยนะโอเคมาดูกันนะ
00:21:10 → 00:21:14 ครับอันแรกครับนั่นก็คือปาท่องโก๋จิ้มนม
00:21:14 → 00:21:17 ข้นหวานถ้าให้ดีต้องแถมน้ำเต้าหู้ร้อน
00:21:17 → 00:21:22 หวานๆด้วยเป็นไงสุดยอดไหมสุดยอดครับโอ้โห
00:21:22 → 00:21:25 จี๊ดเลยครับน้ำตาลพุ่งสุดยอดเลยเพราะอะไร
00:21:25 → 00:21:28 ปาท่องโก๋ครับเป็นแป้งที่ Ultra High
00:21:28 → 00:21:31 process มากๆผ่านกระบวนการสูงมากๆทำให้
00:21:31 → 00:21:33 เซลล์เราอักเสบได้ง่ายหลอดเลือดเราตีบตัน
00:21:33 → 00:21:35 ได้ง่ายนะครับยังไม่พอมักจะทอดในน้ำมัน
00:21:35 → 00:21:38 พืชที่มีโอเมก้า 60 ทำให้เซลล์เราอักเสบ
00:21:38 → 00:21:41 นะครับแถมจิ้มนมข้นหวานเข้าไปก็เป็นนมที่
00:21:41 → 00:21:45 แบบถ้านับแบบว่านมอันไหนดีสุดนมข้นหวาน
00:21:45 → 00:21:49 เนี่ยมันก็อยู่แทบล่างสุดนะเออมันก็ยิ่ง
00:21:49 → 00:21:50 ทำให้ร่างกายเราแย่ขึ้นเรื่อยๆนะครับ
00:21:50 → 00:21:53 เพราะฉะนั้นต้องบอกเลยครับว่าถ้าท่านทาน
00:21:53 → 00:21:55 แบบนี้บ่อยๆนะครับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไต
00:21:55 → 00:21:58 มักจะตีบแคบได้และทำให้ไตท่านเสื่อมได้
00:21:58 → 00:22:01 หรือบางครั้งหลอดเลือดทั่วร่างกายก็จะตีบ
00:22:01 → 00:22:04 แคบไปหมดและเซลล์ต่างๆก็จะมีปัญหาเสี่ยง
00:22:04 → 00:22:06 เบาหวานในอนาคตนั่นเองนะครับมาต่อกันที่
00:22:06 → 00:22:09 อาหารชนิดที่ 2 ครับผมมั่นใจครับว่าอาหาร
00:22:09 → 00:22:13 ชิ้นนี้ชนิดนี้นะมักจะอยู่ในตู้ที่บ้าน
00:22:13 → 00:22:14 ของท่านนั่นก็คือ Serial นั่นเองนะครับ
00:22:14 → 00:22:17 ซีเรียลต่างๆไม่ว่าจะรสชาติอะไรก็ตามไม่
00:22:17 → 00:22:22 ว่าเขาจะใส่ dha epa Omega 3 Super
00:22:22 → 00:22:26 โคตรวิตามินเอถึง Z 3 รอบนะครับมันก็คือ
00:22:26 → 00:22:29 ซีเรียลที่เป็น Ultra High process
00:22:29 → 00:22:32 Food ครับซึ่งก็จะทำให้ร่างกายของท่านทำ
00:22:32 → 00:22:35 งานหนักเซลล์เสื่อมสลายได้ง่ายนะครับซึ่ง
00:22:35 → 00:22:38 ผมไม่ค่อยแนะนำนะครับนานๆสักครั้งโอเคผม
00:22:38 → 00:22:41 ไม่ให้ลูกสาวผมทานเลยนะครับเพราะว่าผมคิด
00:22:41 → 00:22:43 ว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพนั่นเองครับโดยเฉพาะ
00:22:43 → 00:22:45 ซีเรียลที่เคลือบน้ำตาลหวานๆนะครับโอ้โห
00:22:45 → 00:22:49 นะครับมันจึงทำให้เด็ดในปัจจุบันในโลกของ
00:22:49 → 00:22:54 เราใบนี้นะครับมีภาวะโรคอ้วนนะครับ 50%
00:22:54 → 00:22:56 และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
00:22:56 → 00:22:59 ยังไม่ทันอายุเยอะเป็นโรคซะแล้วนะครับถ้า
00:22:59 → 00:23:03 เรารักลูกหลานของเราเราอย่าเอาอาหารที่
00:23:03 → 00:23:04 เปรียบเสมือน
00:23:04 → 00:23:06 ยาพิษที่ถูกกฎหมายให้เขาครับอันนี้ผมแนะ
00:23:06 → 00:23:09 นำเลยนะครับโอเคครับอาหารชนิดที่ 3 ครับ
00:23:09 → 00:23:12 นั่นก็คือขนมปังปิ้งทาแยมบวกไส้กรอกโอ้โห
00:23:12 → 00:23:15 เป็นไงสุดยอดทั้งขนมปังทั้งแยม
00:23:15 → 00:23:18 คาร์โบไฮเดรตสูงมากน้ำตาลสูงมากก็ผ่าน
00:23:18 → 00:23:20 กระบวนการเยอะมากนะครับไส้กรอกนะครับ
00:23:20 → 00:23:22 process Food นะครับมีขาวออกมาเยอะแยะ
00:23:22 → 00:23:25 ใช่ไหมไส้กรอกผสมนู่นผสมนี่นะครับหลีก
00:23:25 → 00:23:28 ห่างจากมันครับนานๆครั้งอย่าบ่อยนะครับ
00:23:28 → 00:23:30 ไม่ห้ามกันนะผมไม่ห้ามอะไรทั้งนั้นน่ะ
00:23:30 → 00:23:33 ท่านฟังแล้วเอาไปใช้เอาเองนะไม่อยากจะ
00:23:33 → 00:23:35 ห้ามใครอยู่แล้วมันไม่ใช่หน้าที่ผมนะครับ
00:23:35 → 00:23:39 โอเคมาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 4 ครับน้ำ
00:23:39 → 00:23:42 ผลไม้และโยเกิร์ตลดผลไม้ต่างๆเฮ้ยฟังแล้ว
00:23:42 → 00:23:44 เฮ้ยมันน้ำผลไม้มันต้องดีต่อสุขภาพเนี่ย
00:23:44 → 00:23:48 ผมใช้คำนี้ฮะผลไม้ดีต่อสุขภาพถ้าทานใน
00:23:48 → 00:23:51 ปริมาณไม่มากเช่นส้มสับผลนึงแอปเปิ้ลสัก
00:23:51 → 00:23:54 ลูกนึงกล้วยสักครึ่งลูกให้อย่างนี้โอเค
00:23:54 → 00:23:57 น้ำตาลมันไม่พุ่งกระฉูดได้อยู่อาจจะนานๆ
00:23:57 → 00:24:00 ทุเรียนสักคำโอเคสักชิ้นนึงไม่ว่ากันนะ
00:24:00 → 00:24:03 ครับแต่ถ้าท่านน้ำผลไม้น้ำส้ม 1 แก้วเท่า
00:24:03 → 00:24:06 กับส้ม 10 ลูกซดที 2 แก้วแบบนี้ผมไม่แนะ
00:24:06 → 00:24:10 นำโยเกิร์ตรสผลไม้ต่างๆน้ำตาล 20 กรัมต่อ
00:24:10 → 00:24:13 ถ้วยนึงท่านทานโยเกิร์ตถ้วยนึงก็เหมือน
00:24:13 → 00:24:16 ท่านทานน้ำอัดลมกระป๋องนึงอย่างนี้เป็น
00:24:16 → 00:24:19 ต้นแล้วมันจะดีต่อสุขภาพยังไงผมไม่ค่อย
00:24:19 → 00:24:21 แนะนำแต่ถ้าเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่น้ำ
00:24:21 → 00:24:24 ตาลต่ำกว่า 5 อย่างนี้โอเคนะครับมาต่อกัน
00:24:24 → 00:24:27 ที่ข้อที่ 5 ครับถ้าไปโรงแรมนี้ต้องสั่ง
00:24:27 → 00:24:31 แน่นอนนะครับแพนเค้กวาฟเฟิลครัวซองง่ายๆ
00:24:31 → 00:24:35 อร่อยมากๆนะครับราดน้ำเชื่อม
00:24:35 → 00:24:39 อย่างนี้สุดยอดนะครับก็มันอร่อยแต่ว่ามัน
00:24:39 → 00:24:42 ค่อนข้างที่จะทำลายเซลล์ต่างๆของเราเพราะ
00:24:42 → 00:24:44 ว่ามันเป็น Ultra High process Food
00:24:44 → 00:24:46 แล้วก็เป็น High คาร์โบไฮเดรตหรือแป้งสูง
00:24:46 → 00:24:48 น้ำตาลสูงนั่นเองนะครับถ้าลดละเลิกได้ก็
00:24:48 → 00:24:51 ดีนะครับคือทุกอย่างที่ผมบอกมามันทานได้
00:24:51 → 00:24:54 นะแต่ว่านานๆครั้งนะครับก็ไม่แนะนำให้ทาน
00:24:54 → 00:24:56 บ่อยเพราะว่ามันจะกระตุ้นอินซูลินของท่าน
00:24:56 → 00:24:58 เมื่อมันกระตุ้นอินซูลินของท่านบ่อยๆท่าน
00:24:58 → 00:25:00 จะดื้ออินซูลินแล้วเมื่อไหร่ดื้ออินซูลิน
00:25:00 → 00:25:03 ท่านก็จะเป็นเบาหวานเมื่อท่านเป็นเบาหวาน
00:25:03 → 00:25:06 ท่านก็จะมีเป็นภาวะไตเสื่อมเรื้อรังนะ
00:25:06 → 00:25:08 ครับคนไข้ที่ผมผ่าตัดหลอดเลือดฟอกไตเพื่อ
00:25:08 → 00:25:11 ฟอกไตตลอดชีวิตนั้นนะครับ 10 คนนะครับ 9
00:25:11 → 00:25:13 คนเป็นเบาหวานถ้าท่านไม่อยากต้องฟอกไต
00:25:13 → 00:25:16 ตลอดชีวิตท่านก็หลีกหนีเบาหวานให้ดีนะ
00:25:16 → 00:25:19 ครับโอเคครับคราวนี้ผมขออนุญาตสรุปนะครับ
00:25:19 → 00:25:23 ผลไม้ 5 ชนิดนะครับไตวายห้ามทานนะครับก็
00:25:23 → 00:25:26 อาจจะทำให้ท่านนะครับต้องฟอกไตตลอดชีวิต
00:25:26 → 00:25:29 อย่างที่ท่านแบบคาดไม่ถึงนั่นเองครับ
00:25:29 → 00:25:31 สำหรับผลไม้ชนิดแรกนะครับนั่นก็คือ
00:25:31 → 00:25:33 มะเฟืองนะครับหรือชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า
00:25:33 → 00:25:36 Star Fruit นั่นเองนะครับถามว่ามะเฟือง
00:25:36 → 00:25:38 มันน่ากลัวยังไงครับมะเฟืองมีสารที่ชื่อ
00:25:38 → 00:25:41 ว่าออกซาเลตครับซึ่งถ้าท่านทานมะเฟืองไป
00:25:41 → 00:25:44 เยอะๆนะครับสารที่ชื่อว่า oxalate จะไป
00:25:44 → 00:25:46 รวมกับแคลเซียมในร่างกายเกิดเป็นสารที่
00:25:46 → 00:25:49 ชื่อว่าแคลเซียมออกซาเลตนั่นเองแล้วก็จะ
00:25:49 → 00:25:52 อุดท่อทางเดินปัสสาวะของท่านทำให้นะครับ
00:25:52 → 00:25:55 เราไม่สามารถที่จะขับถ่ายปัสสาวะออกมาได้
00:25:55 → 00:25:58 และเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันจนต้องฟอกไต
00:25:58 → 00:26:00 นั่นเองนะครับตัวมะเฟืองโดยเฉพาะมะเฟือง
00:26:00 → 00:26:03 เปรี้ยวนะครับจะมีสารออกซาเลตนะครับสูง
00:26:03 → 00:26:05 กว่ามะเฟืองหวานประมาณ 4 เท่านะครับเพราะ
00:26:05 → 00:26:08 ฉะนั้นแล้วนะครับแนะนำเลยนะครับว่าตัว
00:26:08 → 00:26:11 มะเฟืองเปรี้ยวนั้นควรจะทานให้น้อยหน่อย
00:26:11 → 00:26:14 และไม่แนะนำให้คั้นมาทานนะครับถ้าคั้นมา
00:26:14 → 00:26:17 ทานจะได้ออกซาเลตสูงมากๆเลยนะครับเพราะ
00:26:17 → 00:26:20 ฉะนั้นระมัดระวังด้วยนะครับโอเคครับมาต่อ
00:26:20 → 00:26:23 กันที่นะครับผลไม้ชนิดที่ 2 ครับนั่นก็
00:26:23 → 00:26:27 คือเชอร์รี่นั่นเองครับใช่ครับฟังไม่ผิด
00:26:27 → 00:26:28 ครับเชอร์รี่นี่แหละครับจริงๆเชอร์รี่
00:26:28 → 00:26:31 เนี่ยนะครับเป็นผลไม้ที่ดีมากๆแล้วก็มี
00:26:31 → 00:26:33 สารต้านอนุมูลอิสระนะครับผลไม้กลุ่ม
00:26:33 → 00:26:35 เบอร์รี่นี่ผมแนะนำให้ทานอยู่แล้วนะครับ
00:26:35 → 00:26:38 ทั้งน้ำตาลต่ำลดเสียงเบาหวานแล้วก็มีสาร
00:26:38 → 00:26:42 ต้านอนุมูลอิสระครับเพียงแต่ว่าเมล็ดของ
00:26:42 → 00:26:45 เบอร์รี่นี่แหละครับจะมีสารพิษที่ชื่อว่า
00:26:45 → 00:26:48 ไฮโดรเจนไซยาไนด์นั่นเองนะครับคือโดยปกติ
00:26:48 → 00:26:51 เราก็คงไม่กินใช่ไหมครับตัวเมล็ดนะครับ
00:26:51 → 00:26:55 แต่มันก็มีคนกินนะครับคือเอาเมล็ดไป
00:26:55 → 00:26:57 เคี้ยวเล่นนะครับแล้วพอเมล็ดแตกออกมา
00:26:57 → 00:26:59 เนี่ยสารไฮโดรเจนไซยาไนด์มันออกมาครับ
00:26:59 → 00:27:03 แล้วก็จะเกิดอาการต่างๆเช่นนะครับปวด
00:27:03 → 00:27:06 ศีรษะเวียนร้อยสับสนคลื่นไส้อาเจียนนะ
00:27:06 → 00:27:09 ครับและถ้าเกิดรับประทานในปริมาณมากๆอาจ
00:27:09 → 00:27:12 จะมีภาวะหัวใจวายได้ความดันโลหิตตกไตวาย
00:27:12 → 00:27:14 ชักเสียชีวิตนะครับเพราะฉะนั้นอันตราย
00:27:14 → 00:27:16 จริงๆแล้วต้องบอกเลยครับว่าไม่ใช่แค่
00:27:16 → 00:27:18 เชอรี่นะครับไม่ว่าจะเป็นเมล็ดแอปเปิ้ล
00:27:18 → 00:27:20 หรือ appicot นะครับก็มีสารที่ชื่อว่า
00:27:20 → 00:27:23 ไฮโดรเจนไซยาไนด์เช่นกันดังนั้นนะครับไม่
00:27:23 → 00:27:26 ควรที่จะไปเคี้ยวแตกเล่นแล้วกลืนมันลงไป
00:27:26 → 00:27:29 นะครับอันตรายจริงๆนะครับต้องระมัดระวัง
00:27:29 → 00:27:32 มาต่อกันที่ผลไม้ชนิดที่ 3 ครับนั่นก็คือ
00:27:32 → 00:27:35 ลูกเนียงนั่นเองนะครับทางฝั่งภาคใต้ของ
00:27:35 → 00:27:37 เรานิยมทานกันมากครับก็ต้องบอกเลยว่าต้อง
00:27:37 → 00:27:39 ระมัดระวังครับเพราะในลูกเนียงมีกรดที่
00:27:39 → 00:27:42 ชื่อว่ากรดจริงโคลิคครับตัวกรดจึงโคลิค
00:27:42 → 00:27:44 เนี่ยแหละครับก็จะเป็นกรดอะมิโนที่มี
00:27:45 → 00:27:47 กำมะถันสูงนะครับมีรายงานนะครับว่าทำให้
00:27:47 → 00:27:50 เกิดพิษนะครับตั้งแต่ท่านทาน 1-20 เมล็ด
00:27:50 → 00:27:52 เพราะฉะนั้นทานน้อยทานมากไม่เกี่ยวนะครับ
00:27:52 → 00:27:56 ถ้าสวยขึ้นมาแล้วก็นะครับมีโอกาสทำงานนะ
00:27:56 → 00:27:58 ครับอาการที่จะเกิดขึ้นเนี่ยมักพบ 2 ถึง
00:27:58 → 00:28:01 14 ชั่วโมงหลังรับประทานนะครับเช่นปวดขา
00:28:01 → 00:28:04 หนีบปัสสาวะลำบากปัสสาวะมากบางรายไม่มี
00:28:04 → 00:28:06 ปัสสาวะเลยนะครับไตเลิกทำงานไปเลยปัสสาวะ
00:28:06 → 00:28:08 ขุ่นข้นปัสสาวะเป็นเลือดนะครับเพราะ
00:28:08 → 00:28:10 ฉะนั้นแล้วนะครับต้องระมัดระวังนะครับ
00:28:10 → 00:28:14 สามารถลดปัญหาสารพิษของพวกลูกเนียงได้นะ
00:28:14 → 00:28:16 ครับโดยการดื่มน้ำให้มากนะครับหรือนำ
00:28:16 → 00:28:19 ลูกเนียงมาหั่นเป็นแผ่นบางๆตากแดดหรือต้ม
00:28:19 → 00:28:21 ในน้ำที่ผสมเบกกิ้งโซดาประมาณสัก 10 นาที
00:28:21 → 00:28:25 นะครับพวกสารหรือกรดเกร็งโคลิคจะลดไปได้
00:28:25 → 00:28:27 ประมาณครึ่งหนึ่งเลยทีเดียวนะครับมาต่อ
00:28:27 → 00:28:30 กันที่นะครับอาหารชนิดที่ 4 ครับนั่นก็
00:28:30 → 00:28:33 คือหญ้าไผ่น้ำนั่นเองครับโดยปกติหญ้าไข่
00:28:33 → 00:28:36 น้ำนี่นะครับเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วย
00:28:36 → 00:28:37 บำรุงไต
00:28:37 → 00:28:40 ขับปัสสาวะลดการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ
00:28:40 → 00:28:43 ได้ด้วยนะครับบำบัดอาการต่อมลูกหมากโต
00:28:43 → 00:28:46 เฮ้ยแล้วฝั่งเรางงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับไต
00:28:46 → 00:28:48 วายต้องบอกงี้ฮะว่าคือสรรพคุณเนี่ยมัน
00:28:48 → 00:28:51 ช่วยขับปัสสาวะนะครับแต่ถ้าเมื่อไหร่ผู้
00:28:51 → 00:28:55 ป่วยที่มีไตเสื่อมมากๆทานพวกอ่าหญ้าไผ่
00:28:55 → 00:28:58 น้ำเข้าไปเยอะๆเนี่ยนะครับก็จะเกิดการที่
00:28:58 → 00:29:00 ไตของเราทำงานหนักมากเกินไปให้ท่านคิด
00:29:00 → 00:29:03 สภาพว่าไตเสื่อมเนี่ยก็เหมือนคนป่วยแล้ว
00:29:03 → 00:29:06 เอาคนป่วยมาทำงานหนักๆมันก็แบบแย่พอแย่
00:29:06 → 00:29:09 ปุ๊บมันก็ไตเขาเรียกว่าดับไปเลยมันชัดดาว
00:29:09 → 00:29:12 คอมพิวเตอร์ครับก็ต้องฟอกไตตลอดชีวิตอัน
00:29:12 → 00:29:14 นี้ก็คืออันตรายจริงๆเพราะฉะนั้นแล้วต้อง
00:29:14 → 00:29:16 ระมัดระวังนะครับมาต่อกันที่ผลไม้กลุ่ม
00:29:16 → 00:29:18 ที่ 5 ครับคราวนี้เป็นกลุ่มใหญ่เลยครับ
00:29:18 → 00:29:21 คือผลไม้นะครับที่มีสีเหลืองหรือสีส้ม
00:29:21 → 00:29:24 หรือสีแสดหรือสีแดงเพราะว่าผลไม้กลุ่มนี้
00:29:24 → 00:29:27 มีโพแทสเซียมสูงมากๆครับใครก็ตามนะครับ
00:29:27 → 00:29:31 ที่มีภาวะไตเสื่อมมากๆแล้วทานผลไม้ที่มี
00:29:31 → 00:29:33 โพแทสเซียมสูงนะครับมักจะขับโพแทสเซียม
00:29:33 → 00:29:35 ไม่ได้นะครับอันตรายอันแรกคือจะทำให้หัว
00:29:35 → 00:29:37 ใจเต้นผิดจังหวะอาจเสียชีวิตได้อันตราย
00:29:37 → 00:29:40 ที่ 2 ก็คือไตจะทำงานหนักมากขึ้นอาจจะมี
00:29:40 → 00:29:42 ภาวะไตวายเฉียบพลันในอนาคตขึ้นมาได้ด้วย
00:29:42 → 00:29:44 เพราะฉะนั้นแล้วก็ต้องระมัดระวังในเรื่อง
00:29:44 → 00:29:48 ของผลไม้ที่มีสีเหลืองสีส้มสีแสดสีแดง
00:29:48 → 00:29:51 นั่นเองครับและนี่ก็คือ 5 ผลไม้นะครับที่
00:29:51 → 00:29:54 ไตวายห้ามกินถ้าท่านไม่อยากต้องฟอกไตตลอด
00:29:54 → 00:29:56 ชีวิตนั่นเองครับโอเคครับก่อนไปครับอย่า
00:29:56 → 00:29:58 ลืมกด like กด Share กด Subscribe และกด
00:29:58 → 00:30:01 กระดิ่งขอบคุณครับ
00:00:00 → 00:00:03 5 อาหารเช้านะครับเสี่ยงไตวายแบบสุดๆ
00:00:03 → 00:00:06 แล้วบอกตรงนี้เลยครับบอกตรงนี้เลยคนไทย
00:00:06 → 00:00:10 ชอบทานมากๆนะครับผลไม้ที่ห้ามทานเด็ดขาด
00:00:10 → 00:00:16 ถ้าท่านไม่อยากฟอกไตไปตลอดชีวิต
00:00:16 → 00:00:20 [เพลง]
00:00:20 → 00:00:22 สวัสดีครับผมหมอท๊อปนะครับและนี่คือ
00:00:22 → 00:00:23 Doctor Top Channel ครับรายการสุขภาพ
00:00:23 → 00:00:26 ที่ทั้งสนุกและมีสาระครับ
00:00:26 → 00:00:29 วันนี้ครับเราจะมาคุยกันเรื่อง 5 อาหาร
00:00:29 → 00:00:32 เช้านะครับเสี่ยงไตวายแบบสุดๆแล้วบอกตรง
00:00:32 → 00:00:36 นี้เลยครับบอกตรงนี้เลยคนไทยชอบทานมากๆนะ
00:00:36 → 00:00:38 ครับโอเคครับก่อนไปครับอย่าลืมกดไลค์กด
00:00:38 → 00:00:40 แชร์กด Subscribe และกดกระดิ่งครับสำหรับ
00:00:40 → 00:00:43 ท่านที่มีเวลาน้อยผมขออนุญาตให้กระโดดไป
00:00:43 → 00:00:45 ที่ 3 นาทีสุดท้ายครับผมสรุปไว้ให้เรียบ
00:00:45 → 00:00:47 ร้อยแล้วส่วนท่านที่มีเวลาเราไปลุยพร้อมๆ
00:00:47 → 00:00:51 กันเลยครับสำหรับเรื่องของอาหารเช้านะ
00:00:51 → 00:00:54 ครับต้องบอกตามนี้เลยครับว่าถ้าอาหารเช้า
00:00:54 → 00:00:56 ที่ผมจะมาพูดนะครับเสี่ยงไตวายแบบสุดๆ
00:00:56 → 00:00:59 จริงๆและคนไทยชอบทานมากๆทำไมผมถึงบอกว่า
00:00:59 → 00:01:02 มันเสี่ยงไตวายแบบสุดๆนะครับเพราะว่าผม
00:01:02 → 00:01:05 ถามมาจากคนไข้ที่มาผ่าตัดหลอดเลือดเพื่อ
00:01:05 → 00:01:07 ฟอกไตกับผมนี่แหละครับคือเมื่อไหร่ก็ตาม
00:01:07 → 00:01:10 ที่มาหาผมมาผ่าตัดหลอดเลือดนะครับเพื่อนำ
00:01:10 → 00:01:12 ไปฟอกไตแปลว่าตอนนั้นเนี่ยเป็นไตวาย
00:01:12 → 00:01:14 เรื้อรังระยะสุดท้ายแล้วนะครับแล้วผมก็
00:01:14 → 00:01:16 มักคุยนู่นคุยนี่ถามนู่นถามนี่ไปเรื่อย
00:01:16 → 00:01:20 ครับและก็มักจะได้ใจความสำคัญว่าอาหารที่
00:01:20 → 00:01:23 แทบจะแบบหลายๆคนเลยเกือบทุกคนเลยที่ทานมี
00:01:23 → 00:01:25 อะไรบ้างนะครับและ 5 อย่างเด็ดๆวันนี้
00:01:25 → 00:01:26 ครับ
00:01:26 → 00:01:29 ที่ทานกันบ่อยมากๆและเสี่ยงไตวายแบบสุดๆ
00:01:29 → 00:01:31 มีดังนี้ครับตั้งใจฟังให้ดีนะครับอันดับ
00:01:31 → 00:01:35 ที่ 1 ครับปาท่องโก๋จิ้มนมข้นหวานครับ
00:01:35 → 00:01:37 เป็นไงครับ
00:01:37 → 00:01:41 อาหารเช้าอ่ะปาท่องโก๋จิ้มนมข้นหวานอากาศ
00:01:41 → 00:01:45 เย็นๆยามเช้าตามด้วยน้ำเต้าหู้ร้อนๆหวาน
00:01:45 → 00:01:49 เจี๊ยบๆเป็นไงครับสุดยอดฟินกว่านี้ไม่มี
00:01:49 → 00:01:52 อีกแล้วนี่แหละชีวิตที่ใช่ชีวิตที่ฉัน
00:01:52 → 00:01:55 เลือกนะครับโอ้โหไตเสื่อมครับถามว่าเพราะ
00:01:55 → 00:01:58 อะไรเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังครับคือตัว
00:01:58 → 00:02:01 ปาท่องโก๋นะครับก็ทำมาจากแป้งนะครับแล้ว
00:02:01 → 00:02:03 เป็นแป้งที่ขัดสีขาวจั๊วะเลยเห็นไหมเวลา
00:02:03 → 00:02:06 ที่เขาปั้นปาท่องโก๋ทำนะครับยังไม่พอครับ
00:02:06 → 00:02:08 น้ำมันที่ใช้ทอดนะครับก็มักจะเป็นน้ำมัน
00:02:08 → 00:02:11 พืชที่ผ่านโปรเซสสูงการผ่าน process สูง
00:02:11 → 00:02:14 ก็จะมีโอเมก้า 6 สูงซึ่งจะทำให้เกิดการ
00:02:14 → 00:02:16 อักเสบของหลอดเลือดเกิดการอักเสบของเซลล์
00:02:16 → 00:02:19 ต่างๆได้มากนะครับพวกแป้งที่เป็น Ultra
00:02:19 → 00:02:22 process ที่นำมาทำปาท่องโก๋เป็นไงครับก็
00:02:22 → 00:02:25 ทำให้อินซูลินในร่างกายพุ่งกระฉูดเลยครับ
00:02:25 → 00:02:29 พอพุ่งนะครับมันจะเกิดอินซูลิน spiking
00:02:29 → 00:02:31 นะครับแล้วจะเกิดภาวะ Roller coaster
00:02:31 → 00:02:34 คืออินซูลินขึ้นลงขึ้นลงขึ้นลงขึ้นลงแบบ
00:02:34 → 00:02:38 นี้บ่อยๆซึ่งจะทำให้เราหิวง่ายอิ่มยากและ
00:02:38 → 00:02:41 ดื้อต่ออินซูลินทำให้เกิดภาวะเบาหวานใน
00:02:41 → 00:02:43 อนาคตและเมื่อไหร่ก็ตามครับถ้าท่านเป็น
00:02:43 → 00:02:46 เบาหวานไตวายเรื้อรังถามหาแน่นอนนะครับ
00:02:46 → 00:02:49 อันตรายมากๆนะครับคราวนี้ตัวนมข้นหวานล่ะ
00:02:49 → 00:02:53 โอ้โหนะครับเป็นไงฮะน้ำตาลกระฉูดฟ้าครับ
00:02:53 → 00:02:57 อร่อยสุดๆนะครับหวานมันสุดๆนะครับบางคนก็
00:02:57 → 00:02:59 จิ้มแยมบางคนก็จิ้มสังขยาบางคนก็จิ้ม
00:02:59 → 00:03:02 ช็อกโกแลตนะครับเอากันให้เต็มที่นะครับ
00:03:02 → 00:03:05 แบบนี้นะครับอันตรายมากๆผมไม่ได้ห้ามท่าน
00:03:05 → 00:03:09 ทานนะครับนานๆทีสักอาทิตย์สองอาทิตย์ทาน
00:03:09 → 00:03:10 สักชิ้นสองชิ้นเอ๊ะอย่างนี้มันไม่เป็นไร
00:03:10 → 00:03:13 หรอกแต่บางท่านเล่นทานกันทุกวันแบบนี้
00:03:13 → 00:03:16 อันตรายมากๆนะครับและถ้าท่านไม่อยากให้
00:03:16 → 00:03:19 ลูกหลานของท่านนะครับเสี่ยงเบาหวานเสี่ยง
00:03:19 → 00:03:22 ไตวายเรื้อรังแล้วในอนาคตนะครับทานแต่
00:03:22 → 00:03:25 น้อยนะครับเลือกของที่มีประโยชน์ดีกว่านะ
00:03:25 → 00:03:28 ครับโอเคครับมาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 2
00:03:28 → 00:03:31 ครับผมบอกเลยครับอาหารชนิดนี้นะครับถ้า
00:03:31 → 00:03:34 เปิดตู้เก็บของนะครับหรือว่าตู้อาหารใน
00:03:34 → 00:03:36 บ้านของหลายๆท่านผมว่ามีเยอะมากๆนะครับ
00:03:36 → 00:03:39 ซื้อตุนกันมาเลยทีเดียวอันตรายมากนะครับ
00:03:39 → 00:03:43 นั่นก็คือซีเรียลครับซีเรียลต่างๆนะครับ
00:03:43 → 00:03:47 ไม่ว่าจะรสชาติไหนไม่ว่าจะผสมสารอะไรบาง
00:03:47 → 00:03:51 คนก็บอกโอ้โหอันนี้ซีเรียลผสมดี HA epa
00:03:51 → 00:03:55 Omega โอผสมทุกสิ่งทุกอย่างครับคือมัน
00:03:55 → 00:03:57 ไม่ได้มีประโยชน์อะไรครับในการผสมสารอะไร
00:03:57 → 00:03:59 พวกนี้เข้ามานะฮะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
00:03:59 → 00:04:01 เพราะตัวของมันเนี่ยมันเปรียบเทียบได้กับ
00:04:01 → 00:04:04 เอาพูดตรงๆนะคล้ายๆยาพิษชนิดหนึ่งเลยอ่ะ
00:04:04 → 00:04:07 เพราะอะไรครับเพราะว่าตัวซีเรียลเนี่ยมัน
00:04:07 → 00:04:10 ผลิตจากกระบวนการที่ Ultra process มากๆ
00:04:10 → 00:04:13 นะครับป่นออกมาจนไม่รู้ว่ามันมาจากอะไร
00:04:13 → 00:04:16 อ่ะ Serial มันทำมาจากอะไรอ่ะเออนั่นแหละ
00:04:16 → 00:04:18 คือดูไม่ออกแบบนี้เขาเรียกอัลตร้าโปรเซส
00:04:18 → 00:04:21 อาหารแบบนี้ครับจะทำให้ร่างกายเราเกิดการ
00:04:21 → 00:04:23 อักเสบตลอดเวลาหลอดเลือดไปเลี้ยงไตเกิด
00:04:24 → 00:04:26 การอักเสบนะครับแล้วก็เซลล์หน้าต่าง
00:04:26 → 00:04:29 อักเสบเซลล์ของไตอักเสบไตเสื่อมได้ง่าย
00:04:29 → 00:04:31 หลอดเลือดตีบได้ง่ายนะครับมีหลอดเลือดอุด
00:04:31 → 00:04:34 ตันไตวายเรื้อรังเป็นเบาหวานได้เยอะแยะ
00:04:34 → 00:04:36 มากๆเลยแล้วยังไม่พอซีเรียลนะครับเพื่อ
00:04:36 → 00:04:39 ความอร่อยเคลือบน้ำตาลอีกครับเอากันให้
00:04:39 → 00:04:41 สุดเอากันให้เต็มที่นะครับเพราะฉะนั้น
00:04:41 → 00:04:44 แล้วนะครับอันตรายมากๆนะครับมีแต่แป้งมี
00:04:44 → 00:04:47 แต่น้ำตาลมีแต่โปรเศษ Food โปรตีนก็ไม่มี
00:04:47 → 00:04:50 ไขมันชั้นดีก็ไม่มีเพราะฉะนั้นนะครับลดละ
00:04:50 → 00:04:53 เลิกนะครับลดละเลิกนะครับผมนี่ไม่เคยให้
00:04:53 → 00:04:55 ลูกสาวทานซีเรียลเลยนะครับไม่เคยนะครับ
00:04:55 → 00:04:58 ตอนนี้นี่หนักเลยเด็กๆนี่เขาอาจจะทานนิดๆ
00:04:58 → 00:05:01 หน่อยๆนะแต่ว่าในปัจจุบันเนี่ยตอนนี้ 6
00:05:01 → 00:05:03 ขวบครึ่งเนี่ยไม่ได้ทานซีเรียลอีกเลยนะ
00:05:03 → 00:05:05 ครับเพราะผมคิดว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพอัน
00:05:05 → 00:05:09 นี้ส่วนตัวเลยนะเออผมก็มาบอกพวกท่านผมทำ
00:05:09 → 00:05:11 อะไรผมก็บอกอย่างนั้นนะครับโอเคครับมาต่อ
00:05:11 → 00:05:14 กันที่อาหารชนิดที่ 3 ครับนั่นก็คือขนม
00:05:14 → 00:05:20 ปังปิ้งทาแยมไส้กรอกทอดโหเป็นไงอาหารเช้า
00:05:20 → 00:05:23 แบบนี้เฮ้ยมันสวรรค์ชัดๆในเช้าที่สบายๆ
00:05:23 → 00:05:25 เสาร์อาทิตย์ที่ไม่ต้องทำงานไม่ต้องติดรถ
00:05:25 → 00:05:30 ติดมันดีจริงๆนะครับมันสบายใจดีแต่มันไม่
00:05:30 → 00:05:33 ดีต่อสุขภาพเพราะอะไรขนมปังนะครับเป็นไง
00:05:33 → 00:05:36 ครับคาร์โบไฮเดรตสูงมากแถมถ้าเป็นขนมปัง
00:05:36 → 00:05:38 ขาว High process Food ขัดสีแบบนี้ไม่
00:05:38 → 00:05:41 ค่อยดีนะครับแยมเป็นไงครับน้ำตาลล้วนๆ
00:05:41 → 00:05:44 ครับแหมไม่ต้องมาแยมนู่นแยมนี่มันน้ำตาล
00:05:44 → 00:05:47 ทั้งนั้นนะครับเพราะฉะนั้นก็ต้องระมัด
00:05:47 → 00:05:51 ระวังนะครับต่อมาครับไส้กรอกเป็นไงครับ
00:05:51 → 00:05:54 process Food ชัดๆนะครับเพราะฉะนั้นตัว
00:05:54 → 00:05:56 ไส้กรอกเห็นไหมเราก็ยังได้ยินข่าวมาเนอะ
00:05:56 → 00:05:58 ไส้กรอกผสมสารนู่นสารนี่นะเราก็จะไป
00:05:58 → 00:06:00 เสี่ยงกับมันนะครับถ้าไม่จำเป็นยังไม่พอ
00:06:00 → 00:06:02 ครับบางคนบอกโอ้ยนี่ไงไส้กรอกตัวพิมพ์สูง
00:06:02 → 00:06:05 นะโอ้มีไขมันสูงด้วยโดยส่วนใหญ่แล้วกันนะ
00:06:05 → 00:06:08 ครับไส้กรอกเนี่ยมักจะเป็นครัว Quality
00:06:08 → 00:06:11 โปรตีนนะครับก็คือโปรตีนที่มันแบบไม่ได้
00:06:11 → 00:06:13 มีคุณภาพมากนักอ่ะมันไม่เหมือนเนื้อหมู
00:06:13 → 00:06:16 เนื้อไก่เนื้อเป็ดเนื้ออะไรที่เราเห็นชัด
00:06:16 → 00:06:19 ๆชัดเจนนะครับแล้วก็ไขมันก็ไม่ใช่ไขมัน
00:06:19 → 00:06:21 ชั้นดีเพราะเวลาอะไรก็ตามที่ผ่าน process
00:06:21 → 00:06:23 เนี่ยจากไขมันชั้นดีไม่ว่าจะเป็นไขมัน
00:06:24 → 00:06:25 อิ่มตัวไขมันไม่อิ่มตัวเนี่ยมันจะกลาย
00:06:25 → 00:06:26 เป็นไขมันชั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะ
00:06:26 → 00:06:29 ฉะนั้นไม่แนะนำนะครับไม่ได้ห้ามนะครับนาน
00:06:29 → 00:06:32 ๆทานทีโอเคนะครับแต่ไม่ใช่ทานทุกวันนะ
00:06:32 → 00:06:35 โอเคครับมาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 4 ครับ
00:06:35 → 00:06:38 อันนี้ก็จี๊ดจ๊าดเหมือนกันครับและหลายๆ
00:06:38 → 00:06:40 ท่านคิดว่ามันดีต่อสุขภาพ
00:06:40 → 00:06:44 ผมก็เป็นคนนึงครับเมื่อหลายปีก่อนนะครับ
00:06:44 → 00:06:46 ก่อนที่จะศึกษาเรื่องพวกนี้เรื่องอาหาร
00:06:46 → 00:06:50 เรื่องโภชนาการเพราะปกติตอนเรียนหมอไม่มี
00:06:50 → 00:06:53 ใครสอนมันก็สอนแต่รักษาคนไข้สอนผ่าตัดสอน
00:06:53 → 00:06:56 นู่นสอนนี่โภชนาการเลี้ยงแค่ไม่กี่
00:06:56 → 00:06:58 ชั่วโมงหรอกตอนเรียนหมออ่ะมันต้องมาศึกษา
00:06:58 → 00:07:02 เองศึกษามาเป็นปีๆๆๆดูจากต่างประเทศเขา
00:07:02 → 00:07:05 เออดูแบบระดับโลกเขาว่ายังไงเพื่อมีชีวิต
00:07:05 → 00:07:08 ที่ยืนยาวอันที่ 4 ครับน้ำผลไม้และ
00:07:08 → 00:07:11 โยเกิร์ตลดผลไม้ต่างๆอันตรายมากต้องระมัด
00:07:11 → 00:07:14 ระวังนะครับน้ำผลไม้ 100% นี่แหละไอ้พวก
00:07:14 → 00:07:16 ไม่ 100% นี่โยนทิ้งไปไกลๆอยู่แล้วแต่
00:07:16 → 00:07:20 100% ให้ท่านดูนะน้ำผลไม้น้ำส้มคั้น 1
00:07:20 → 00:07:23 แก้วเอาแบบคั้นสดเลยนะอร่อยไหมอร่อยดีอ่า
00:07:23 → 00:07:25 อร่อยผมไม่ได้ห้ามท่านทานนะอย่างที่บอก
00:07:25 → 00:07:29 ทานได้แต่นานๆทีนะครับมีส้มเนี่ย 10 ลูก
00:07:29 → 00:07:32 ถ้าเกิดท่านทานส้ม 10 ลูกหรือ 10 ผลท่าน
00:07:32 → 00:07:35 อิ่มไหม 3 ลูกก็จอดแล้วผมบอกให้แต่น้ำส้ม
00:07:36 → 00:07:39 คั้นล่ะ 2 แก้วเหมือนกินส้ม 20 ลูกกากใย
00:07:39 → 00:07:41 ไม่มีเพราะโอกาสยายไปทิ้งหมดแล้วแต่น้ำ
00:07:41 → 00:07:44 ตาลเน้นๆนะครับน้ำส้ม 1 แก้วน้ำตาลเท่า
00:07:44 → 00:07:46 น้ำอัดลม 1 กระป๋องครับไม่แตกต่างกันเลย
00:07:46 → 00:07:51 ท่านทานน้ำส้มคั้นสด 100% กับทานน้ำอัดลม
00:07:51 → 00:07:54 ยกซดน้ำตาลเท่ากันนะครับน้ำตาลเท่ากัน
00:07:54 → 00:07:57 โยเกิร์ตรสผลไม้ต่างๆท่านพลิกดูน้ำตาล
00:07:57 → 00:08:01 แล้วท่านจะใช้คำว่าสยองขวัญครับสยองขวัญ
00:08:01 → 00:08:06 ครับน้ำตาล 20 กรัมพระเจ้านะครับกิน
00:08:06 → 00:08:09 โยเกิร์ต 1 ถ้วยนะครับก็เท่ากับกินข้าว
00:08:09 → 00:08:11 ทัพพีนึงอ่ะประมาณนั้นเลยนะครับน้ำตาลที่
00:08:11 → 00:08:14 ได้นะประโยชน์ก็แบบโทษเท่านี้ประโยชน์
00:08:14 → 00:08:17 เท่านี้นะก็ว่ากันไปนะครับโยเกิร์ตทานได้
00:08:17 → 00:08:19 นะครับผมแนะนำประเภทโยเกิร์ตที่ถ้าเป็น
00:08:19 → 00:08:23 ธรรมชาติแล้วก็น้ำตาลต่ำกว่า 5 กรัมต่อ
00:08:23 → 00:08:28 ถ้วยนั่นเองนะครับโอเคครับมาต่อกันข้อที่
00:08:28 → 00:08:32 5 สุดท้ายนะครับอันนี้ถ้าเวลาเราไปโรง
00:08:32 → 00:08:35 แรมเอยไปเที่ยวเอยนะครับมันต้องมีเพราะ
00:08:35 → 00:08:39 มันอร่อยมากๆครับนั่นก็คือแพนเค้กวาฟเฟิล
00:08:39 → 00:08:40 ครัวซองครับ
00:08:40 → 00:08:43 ครบเซ็ตครับ Ultra High process สุดๆ
00:08:43 → 00:08:47 ยังไม่พอแพนเค้กต้องราดน้ำเชื่อมราดอะไร
00:08:47 → 00:08:51 นะน้ำผึ้งธรรมชาติคือน้ำผึ้งอ่ะมันมาจาก
00:08:51 → 00:08:54 ธรรมชาติก็จริงครับแต่ว่าสุดท้ายมันก็
00:08:54 → 00:08:56 เป็นน้ำตาลเยอะๆเพราะฉะนั้นเล็กๆน้อยๆนาน
00:08:56 → 00:08:59 ๆครั้งได้แต่ทานทุกวี่ทุกวันมันก็ไม่ไหว
00:08:59 → 00:09:02 พวกแพนเค้กพวกวาฟเฟิลพวกครัวซองต์นะครับ
00:09:02 → 00:09:05 มันก็ทำมาจากแป้งที่เกิดผ่านกระบวนการที่
00:09:05 → 00:09:07 เป็น Ultra High process นะครับค่อน
00:09:07 → 00:09:11 ข้างสูงซึ่งก็จะทำให้เกิดการอักเสบต่อพวก
00:09:11 → 00:09:13 หลอดเลือดต่อเซลล์ต่างๆได้ง่ายนะครับผมก็
00:09:13 → 00:09:16 ชอบฮะครัวซองต์นานๆทานทีนะครับไม่ใช่ว่า
00:09:16 → 00:09:18 จะไม่ทานเลยนะครับแพนเค้กนานๆผมก็ทานที
00:09:18 → 00:09:22 วาฟเฟิลนานๆผมก็ทานจีนคือเวลาผมสอนเนี่ย
00:09:22 → 00:09:24 ผมไม่ได้ห้ามท่านทานนะครับผมให้ท่านรู้
00:09:24 → 00:09:27 ว่ามันอันตรายแล้วท่านก็เลือกเอาว่าท่าน
00:09:27 → 00:09:30 อยากจะอันตรายแค่ไหนท่านนิดๆหน่อยๆมันไม่
00:09:30 → 00:09:31 เป็นไรอยู่แล้วถ้าท่านทานเยอะๆมันก็
00:09:31 → 00:09:33 อันตรายอยู่แล้วมันก็ต้องเลือกเองชีวิต
00:09:33 → 00:09:35 นี้ต้องเลือกเองไม่มีใครไปดูแลหรอกต้องดู
00:09:35 → 00:09:39 แลตัวเองเนาะเอ้อโอเคครับและนี่ก็คือ 5
00:09:39 → 00:09:40 อาหารเช้านะครับ
00:09:40 → 00:09:43 แกงไตวายสุดๆเลยนะครับเพราะว่ามันทำให้
00:09:43 → 00:09:46 หลอดเลือดอักเสบมันทำให้เราเสี่ยงเบาหวาน
00:09:46 → 00:09:49 นะครับแล้วก็ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ต้อง
00:09:49 → 00:09:52 ฟอกไตตลอดชีวิตที่ผมดูแลนะครับ 10 คนนะ
00:09:52 → 00:09:54 ครับ 9 คนเป็นเบาหวานถ้าท่านไม่อยากไตวาย
00:09:54 → 00:09:56 เรื้อรังก็หลีกหนีเบาหวานหลีกหนีอาหาร
00:09:56 → 00:10:00 หวานนะครับชัดเจนนะครับเบาหวานก็ชื่อตาม
00:10:00 → 00:10:02 นี้ก็ต้องหลีกหนีอาหารหวานหลีกหนีอาหาร
00:10:02 → 00:10:05 ที่มันเป็นแป้งเป็นเบาหวานจะไปนั่งกิน
00:10:05 → 00:10:08 ผลไม้เยอะๆจะไปนั่งกินแป้งเยอะๆแล้วจะหาย
00:10:08 → 00:10:10 เบาหวานแหมฝากไว้มันแปลกๆเนาะเออประมาณ
00:10:10 → 00:10:13 นั้นโอเคแหละครับนี่ก็คือ 5 อาหารเช้า
00:10:13 → 00:10:15 เสี่ยงแต่ไวสุดๆนะครับก่อนไปครับอย่าลืม
00:10:15 → 00:10:17 กดไลค์กดแชร์กด Subscribe และกดกระดิ่ง
00:10:17 → 00:10:21 ขอบคุณครับสวัสดีครับผมหมอท๊อปนะครับราย
00:10:21 → 00:10:24 การสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระครับวู้ฮู้
00:10:24 → 00:10:28 วันนี้ครับเราจะมาคุยกันเรื่องผลไม้นะ
00:10:28 → 00:10:31 ครับที่ห้ามทานเด็ดขาดถ้าท่านไม่อยากนะ
00:10:31 → 00:10:34 ครับฟอกไตไปตลอดชีวิตนะครับอันนี้สำคัญ
00:10:34 → 00:10:38 มากๆเลยนะครับเพราะว่านะครับมีเหตุการณ์
00:10:38 → 00:10:41 จริงเกิดขึ้นจริงนะครับมีเคจริงๆกับการ
00:10:41 → 00:10:45 ทานผลไม้ 5 ชนิดนี้นะครับทั้งๆที่ไตก็ไม่
00:10:45 → 00:10:48 ได้แย่อะไรมากนะครับก็จำเป็นที่จะต้องฟอก
00:10:48 → 00:10:50 ไตไปตลอดชีวิตเลยนะครับก็น่าสงสารมากๆ
00:10:50 → 00:10:53 ครับโอเคครับก่อนไปครับอย่าลืมกด like กด
00:10:53 → 00:10:55 Share กด Subscribe และกดกระดิ่งขอบคุณ
00:10:55 → 00:10:57 ครับสำหรับท่านที่มีเวลาน้อยผมขออนุญาต
00:10:57 → 00:11:00 ให้กระโดดไปที่ 3 นาทีสุดท้ายครับผมสรุป
00:11:00 → 00:11:02 ไว้ให้เรียบร้อยแล้วส่วนท่านที่มีเวลาเรา
00:11:02 → 00:11:06 ไปลุยพร้อมๆกันเลยครับโดยปกติแล้วนะครับ
00:11:06 → 00:11:10 โรคไตวายมีอยู่ 2 อย่างใหญ่ๆก็คือไตวาย
00:11:10 → 00:11:12 เฉียบพลันแล้วก็ไตวายเรื้อรังครับถ้าเป็น
00:11:12 → 00:11:15 ไตวายเรื้อรังมักจะมีอาการนำมาก่อนอยู่
00:11:15 → 00:11:17 แล้วนะครับเช่นเบาหวานความดันไขมันพอเป็น
00:11:17 → 00:11:20 มานานๆไตเสื่อมต้องฟอกไตตลอดชีวิตนะครับ
00:11:20 → 00:11:22 ต่างกับไตวายเฉียบพลันครับไตวายเฉียบพลัน
00:11:22 → 00:11:25 เขาเรียกว่าจะมีสาเหตุนะครับปัจจุบันทัน
00:11:25 → 00:11:28 ด่วนมาทำให้เราต้องฟอกไตแบบฉุกเฉินนะครับ
00:11:28 → 00:11:32 ซึ่งแบบโคตรอันตรายฮะผมบอกเลยว่าอันตราย
00:11:32 → 00:11:34 มากๆนะครับไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เสีย
00:11:34 → 00:11:37 เลือดมากนะครับหรือว่าการได้รับยาผิดปกติ
00:11:37 → 00:11:39 นะครับทำให้ไตของเราเนี่ยพังไปเลยนะครับ
00:11:39 → 00:11:42 หรือหรือว่าการทานอาหารนะครับที่เราจะมา
00:11:42 → 00:11:45 คุยกันวันนี้นะครับเป็นผลไม้ต่างๆหลาย
00:11:45 → 00:11:48 ชนิดทำให้ไตวายเฉียบพลันต้องฟอกไตหรือบาง
00:11:48 → 00:11:51 คนครับโดนผึ้งต่อยเพิ่งกัดสัตว์กัดหรือ
00:11:51 → 00:11:54 บางอย่างแล้วแพ้นะครับเขาเรียกฟิลแลคติก
00:11:54 → 00:11:56 ช็อคนะครับทำให้แบบว่าช็อคไปทั้งร่างกาย
00:11:56 → 00:11:59 เลยไตก็ช็อคไปด้วยต้องฟอกไตแบบทันทีเลย
00:11:59 → 00:12:01 ครับอันนี้ถือว่าอันตรายมากๆครับแล้วคราว
00:12:01 → 00:12:04 นี้เราจะไปลุยกันครับว่าผลไม้ 5 ชนิดนั้น
00:12:04 → 00:12:06 มีอะไรบ้างผมบอกเลยว่าสำคัญมากๆและท่าน
00:12:06 → 00:12:08 ต้องตั้งใจฟังจนจบนะครับถ้าท่านไม่อยาก
00:12:08 → 00:12:11 ฟอกไตไปตลอดชีวิตครับสำหรับรายละเอียด
00:12:11 → 00:12:13 ผลไม้นะครับที่อาจจะทำให้ท่านเสี่ยงไตวาย
00:12:13 → 00:12:15 ได้นะครับในคลิปนี้นะครับก็ต้องขอขอบคุณ
00:12:15 → 00:12:18 นะครับเว็บไซต์ของโรงพยาบาลสี่ศิริราช
00:12:18 → 00:12:21 ปิยมหาการุณย์นะครับที่มีรายละเอียดที่
00:12:21 → 00:12:22 ยอดเยี่ยมนะครับเพราะว่าผมไปอ่านเจอมา
00:12:22 → 00:12:25 แล้วแล้วเนี่ยแบบยังไงต้องเอามาเล่าสู่
00:12:25 → 00:12:28 กันฟังนะครับเพราะว่าดีจริงๆดีจริงๆนะ
00:12:28 → 00:12:30 ครับก็ขอบคุณมากๆนะครับโอเคครับเราไปลุย
00:12:30 → 00:12:33 กันเลยครับผลไม้ชนิดแรกนะครับที่เสี่ยงไต
00:12:33 → 00:12:36 วายเฉียบพลันแบบมากๆเลยนะครับนั่นก็คือ
00:12:36 → 00:12:37 มะเฟืองนั่นเองครับเดี๋ยวชื่อภาษาอังกฤษ
00:12:37 → 00:12:40 เรียกว่า Star Fruit นะครับซึ่งมีราย
00:12:40 → 00:12:43 ละเอียดดังก็คือว่าถ้าเป็นมะเฟืองที่มีรส
00:12:43 → 00:12:45 เปรี้ยวนะครับจะมีความเสี่ยงมากกว่า
00:12:45 → 00:12:47 มะเฟืองที่มีรสหวานนั่นเองนะครับเพราะ
00:12:47 → 00:12:50 อะไรครับเพราะว่ามะเฟืองที่มีรสเปรี้ยว
00:12:50 → 00:12:52 นั้นมีสารที่ชื่อว่า oxalate นะครับสูง
00:12:52 → 00:12:55 กว่ามะเฟืองที่มีรสหวานนะครับถึง 4 เท่า
00:12:55 → 00:12:58 นะครับ 4 เท่านะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยการ
00:12:58 → 00:13:01 ที่เราทานมะเฟืองรสเปรี้ยวนะครับโดยเฉพาะ
00:13:01 → 00:13:04 การคั้นน้ำมาทานนะครับก็จะได้ออกซาเลตสูง
00:13:04 → 00:13:07 มากๆโอเคถ้าท่านทานแบบเป็นผลเป็นลูกเป็น
00:13:07 → 00:13:09 ชิ้นนะครับแล้วไม่เยอะเท่าไหร่ก็ไม่ค่อย
00:13:09 → 00:13:11 เป็นอะไรครับแต่พอเราคั้นน้ำออกมาทานแล้ว
00:13:11 → 00:13:14 มันเหมือนทานทีหลายๆลูกแบบนี้นะครับ
00:13:14 → 00:13:17 ออกซาเลตในร่างกายจะสูงมากแล้วมันไปจับ
00:13:17 → 00:13:20 ตัวกับแคลเซียมในร่างกายเป็นแคลเซียม
00:13:20 → 00:13:22 ออกซาเลตซึ่งในที่สุดเนี่ยมันก็จะกลาย
00:13:22 → 00:13:26 เป็นนิ่วและอุดตันทอดไตทำให้เกิดไตวาย
00:13:26 → 00:13:28 เฉียบพลันทำให้ต้องฟอกไตเร่งด่วนได้นั่น
00:13:28 → 00:13:30 เองครับเพราะฉะนั้นแล้วถือว่าอันตรายมากๆ
00:13:30 → 00:13:33 ครับและยังไม่พอนะครับต้องบอกว่ามันไม่
00:13:33 → 00:13:35 ใช่แค่ตัวมะเฟืองครับที่มีสารออกซาเลต
00:13:35 → 00:13:39 เยอะนะครับยังมีอย่างอื่นอีกเช่นผักโขมกด
00:13:39 → 00:13:42 น้ำเต้าบีบรู้มันสำปะหลังเผือกอัลมอนด์
00:13:42 → 00:13:44 แล้วโกโก้นะครับคือไม่ได้บอกว่าท่านห้าม
00:13:44 → 00:13:48 ทานนะครับคราวนี้คือโดยปริมาณเราไม่ควรจะ
00:13:48 → 00:13:50 ทานมากดังนั้นการเลือกทานอาหารในแต่ละ
00:13:50 → 00:13:53 อย่างนั้นควรจะสลับสลับกันทานหลายๆอย่าง
00:13:53 → 00:13:56 เพื่อไม่ให้มันสะสมในร่างกายและต้องบอก
00:13:57 → 00:13:59 เลยครับมีวิธีป้องกันด้วยนั่นคือการดื่ม
00:13:59 → 00:14:02 น้ำนะครับเมื่อไหร่ก็ตามในวันหนึ่งท่าน
00:14:02 → 00:14:05 ดื่มน้ำ 8-10 แก้วนะครับก็จะสามารถลดความ
00:14:05 → 00:14:08 เสี่ยงนะครับในการสะสมของตัวออกซาเลตใน
00:14:08 → 00:14:11 ร่างกายได้ก็ทำให้โอกาสที่จะเกิดนิ่วใน
00:14:11 → 00:14:14 ร่างกายจนไปอุดทางเดินปัสสาวะนะครับหรือ
00:14:14 → 00:14:17 อุดท่อไตนั้นลดลงและโอกาสเสี่ยงไตวาย
00:14:17 → 00:14:21 เฉียบพลันลดลงนั่นเองครับมาต่อกันที่
00:14:21 → 00:14:24 ผลไม้ชนิดที่ 2 ครับนั่นก็คือเชอรี่ครับ
00:14:24 → 00:14:27 ถูกต้องครับเชอรี่ครับฟังไม่ผิดครับตัว
00:14:27 → 00:14:30 เชอรี่เนี่ยครับที่ดูแบบเฮ้ยอร่อยแล้วก็
00:14:30 → 00:14:32 ทานแล้วก็มีประโยชน์มีสารแอนตี้
00:14:32 → 00:14:35 ออกซิแดนท์ที่สูงมากๆแต่ทำไมนะครับถึงจะ
00:14:35 → 00:14:38 เสี่ยงไตวายเฉียบพลันจะต้องฟอกไตนะครับ
00:14:38 → 00:14:41 วันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังนะครับมันมีราย
00:14:41 → 00:14:43 ละเอียดอย่างนี้ครับคือโดยตัวเชอรี่เนี่ย
00:14:43 → 00:14:46 เป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงอยู่แล้วถ้า
00:14:46 → 00:14:48 ท่านไตเสื่อมนะครับเช่นไตเสื่อมระดับ 4
00:14:48 → 00:14:52 ระดับ 5 นะครับผลไม้นะครับที่มีสีส้มมากๆ
00:14:52 → 00:14:54 สีแดงมากๆอย่างนี้เราไม่ค่อยแนะนำให้ทาน
00:14:54 → 00:14:57 เพราะโพแทสเซียมสูงแบบนี้ก็จะทำให้มี
00:14:57 → 00:14:59 โอกาสต้องฟอกไตอยู่แล้วแต่คราวนี้ราย
00:14:59 → 00:15:01 ละเอียดของมันคือตัวเม็ดของเชอร์รี่นี่
00:15:01 → 00:15:04 แหละครับตัวเม็ดของเชอร์รี่เนี่ยนะครับมี
00:15:04 → 00:15:06 สารพิษที่ซ่อนอยู่ในเมล็ดของมันที่ชื่อ
00:15:06 → 00:15:09 ว่าไฮโดรเจนไซยาไนด์นะครับคือถ้าท่านไม่
00:15:09 → 00:15:12 กินเมล็ดมันมันก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าท่านไปบด
00:15:12 → 00:15:16 ไปกัดให้มันแตกแล้วนะครับกลืนมันกินมัน
00:15:16 → 00:15:18 เข้าไปแบบนี้จะได้รับสารพิษที่ชื่อว่า
00:15:18 → 00:15:21 ไฮโดรเจนไซยาไนด์นั่นเองครับแล้วต้องบอก
00:15:21 → 00:15:23 เลยว่าไม่ใช่แค่มีในเมล็ดของเชอร์รี่เท่า
00:15:23 → 00:15:26 นั้นนะครับยังมีใน Apple ยังมีในแอปติคอต
00:15:26 → 00:15:28 นะครับเพราะฉะนั้นแล้วนะครับต้องระมัด
00:15:28 → 00:15:30 ระวังนะครับสารตัวนี้นะครับไฮโดรเจน
00:15:30 → 00:15:33 ไซยาไนด์นะครับจะทำให้ท่านมีอาการปวดหัว
00:15:33 → 00:15:36 เวียนหัวสับสนวิตกกังวลและอาเจียนได้นะ
00:15:36 → 00:15:39 ครับถ้าทานในปริมาณมากๆนะมีปัญหาเรื่อง
00:15:39 → 00:15:42 หัวใจความดันโลหิตไตวายแล้วก็ชักได้เพราะ
00:15:42 → 00:15:45 ฉะนั้นอันตรายจริงๆครับก็ต้องระมัดระวัง
00:15:45 → 00:15:47 นะครับกินแต่เนื้อของเชอร์รี่แล้วกันนะ
00:15:47 → 00:15:49 ครับเม็ดก็ไม่ควรจะไปเคี้ยวไปกัดนะครับ
00:15:49 → 00:15:52 เพราะว่ามันพิสดารเหลือเกินมันต่อกันที่
00:15:52 → 00:15:54 ผลไม้ชนิดที่ 3 กันบ้างครับนั่นก็คือ
00:15:54 → 00:15:57 ลูกเนียงครับอ่าถ้าอยู่ภาคใต้นี่จะต้อง
00:15:57 → 00:15:59 คุ้นเคยกันมากนะครับสำหรับลูกเนียนนะครับ
00:15:59 → 00:16:02 เพราะว่าเป็นพืชที่นิยมรับประทานกันมากนะ
00:16:02 → 00:16:06 ครับในภาคใต้ของประเทศไทยนะครับคือสารที่
00:16:06 → 00:16:08 ก่อให้เกิดพิษของลูกเนียงนะครับมีชื่อว่า
00:16:08 → 00:16:11 กรดเก่งโคลิคนั่นเองนะครับกรดจึงโคลิก
00:16:11 → 00:16:15 เนี่ยจะทำให้เรามีภาวะไตวายเฉียบพลันจน
00:16:15 → 00:16:18 ต้องฟอกไตได้นั่นเองนะครับเป็นสารที่เกิด
00:16:18 → 00:16:21 จากกรดอะมิโนที่มีกำมะถันสูงนะครับคือมี
00:16:21 → 00:16:24 รายงานนะครับว่าจำนวนเม็ดที่ทำให้เกิด
00:16:24 → 00:16:27 อาการแบบนี้ได้มีตั้งแต่ 1 เม็ดนะครับจน
00:16:27 → 00:16:30 ถึง 20 เม็ดนะครับคือถ้าท่านทาน 1 เม็ด
00:16:30 → 00:16:32 แล้วท่านโชคร้ายอาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะ
00:16:32 → 00:16:33 โอ้โหน่ากลัวเหมือนกันนะครับเพราะฉะนั้น
00:16:33 → 00:16:36 ระมัดระวังนิดนึงแล้วกันนะครับก็ค่อนข้าง
00:16:36 → 00:16:39 อันตรายเลยคือต้องบอกว่าพิษที่จะเกิดขึ้น
00:16:39 → 00:16:41 เนี่ยก็อาจจะเกิดขึ้นภายใน 2-14 ชั่วโมง
00:16:41 → 00:16:44 ด้วยซ้ำไปนะครับซึ่งถือว่ารวดเร็วมากๆนะ
00:16:44 → 00:16:46 ครับมีอาการปวดบริเวณขาหนีบนะครับปัสสาวะ
00:16:46 → 00:16:49 ลำบากปวดปัสสาวะมากบางรายไม่มีปัสสาวะออก
00:16:49 → 00:16:51 เลยนะครับเขาเรียกว่ามันเป็นแบบเหมือน
00:16:51 → 00:16:54 คลิปนี้ Shut Down อ่ะครับคือตัวไตหยุด
00:16:54 → 00:16:56 ทำงานไปเลยนะครับหรือว่าปัสสาวะขุ่นข้น
00:16:56 → 00:16:58 หรือปัสสาวะเป็นเลือดนะครับบางรายปวดท้อง
00:16:58 → 00:17:01 ปวดท้องเกร็งนะครับปวดหลังมีคลื่นไส้
00:17:01 → 00:17:04 อาเจียนความดันโลหิตสูงได้โอ้โหนะครับ
00:17:04 → 00:17:07 ปัจจัยที่ทำให้เกิดพิษเพิ่มขึ้นคือท่าน
00:17:07 → 00:17:09 ดื่มน้ำน้อยนะครับหรือรับประทานเมล็ดดิบ
00:17:09 → 00:17:12 หรือว่าผู้ป่วยที่มีไตวายเรื้อรังอยู่
00:17:12 → 00:17:14 แล้วแล้วไปกินลูกเนียงซ้ำเข้าไปอีกนะครับ
00:17:14 → 00:17:16 เสร็จเลยนะครับเสร็จเลยนะครับยิ่งเป็น
00:17:16 → 00:17:18 เยอะนะครับคราวนี้ห้ามกินเลยหรือเปล่าบอก
00:17:18 → 00:17:20 ไม่ใช่นะครับมีวิธีลดสารพิษของมันนะครับ
00:17:20 → 00:17:23 สามารถทานได้นะครับถ้าชอบนั่นคือการนำลูก
00:17:23 → 00:17:26 เนียงมาหั่นเป็นแผ่นแผ่นบางๆนะครับแล้วนำ
00:17:26 → 00:17:29 ไปตากแดดหรือต้มในน้ำที่ผสมเบกกิ้งโซดา 10
00:17:29 → 00:17:32 นาทีนะครับจะสามารถลดกรดเกร็งโคลิกได้
00:17:32 → 00:17:34 ประมาณครึ่งหนึ่งก็สามารถทานได้นะครับ
00:17:34 → 00:17:38 โอเคประมาณนี้ก็ทานได้นะครับอย่างระมัด
00:17:38 → 00:17:40 ระวังนั่นเองครับมาต่อกันที่ชนิดที่ 4
00:17:40 → 00:17:43 กันบ้างนะครับนั่นก็คือหญ้าไผ่น้ำนะครับ
00:17:43 → 00:17:47 หญ้าไผ่น้ำเนี่ยจริงๆแล้วนะครับเป็นพืชนะ
00:17:47 → 00:17:50 ครับที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงไตขับปัสสาวะซะ
00:17:50 → 00:17:52 ด้วยซ้ำนะครับคือทำให้เราขับปัสสาวะได้ดี
00:17:52 → 00:17:55 ขึ้นนะครับลดอาการอักเสบของทางเดิน
00:17:55 → 00:17:57 ปัสสาวะนะครับบำบัดอาการต่อมลูกหมากโต
00:17:57 → 00:18:00 บรรเทาอาการบวมได้นะครับสรรพคุณเป็นไง
00:18:00 → 00:18:02 ครับดูดีน่าจะช่วยให้ไตทำงานดีใช่ไหมครับ
00:18:02 → 00:18:06 นั่นก็คือสำหรับคนที่ไม่ได้มีภาวะไต
00:18:06 → 00:18:08 เสื่อมเรื้อรังครับแต่เมื่อไหร่ก็ตามถ้า
00:18:08 → 00:18:11 ท่านมีภาวะไตเสื่อมเรื้อรังนะครับแล้วทาน
00:18:11 → 00:18:13 หญ้าไผ่น้ำเข้าไปเยอะๆนะครับสิ่งที่เกิด
00:18:13 → 00:18:16 ขึ้นก็คือว่าไตของท่านจะทำงานหนักมากกว่า
00:18:16 → 00:18:19 ปกติเหมือนเอาคนที่ไม่สบายนะครับไปออก
00:18:19 → 00:18:21 กำลังกายเยอะๆนะครับก็จะทำให้ไตของท่าน
00:18:21 → 00:18:25 เกิดเขาเรียกว่าภาวะไตวายเฉียบพลันนะครับ
00:18:25 → 00:18:28 ทับถมมากับภาวะไตวายเรื้อรังแทนที่จะไม่
00:18:28 → 00:18:32 ต้องฟอกไตยืดอายุไตได้กลับต้องฟอกไตเร่ง
00:18:32 → 00:18:34 ด่วนนะครับแล้วก็โอกาสที่จะกลับมาไม่ต้อง
00:18:34 → 00:18:37 ฟอกน้อยมากๆนะครับเพราะว่าเมื่อไหร่ได้
00:18:37 → 00:18:40 ฟอกแล้วโอกาสกลับมาน้อยมากๆในผู้ป่วยที่
00:18:40 → 00:18:41 มีภาวะไตเสื่อมเรื้อรังนั่นเองนะครับ
00:18:41 → 00:18:44 เพราะฉะนั้นแล้วนะครับต้องระมัดระวังจริง
00:18:44 → 00:18:46 ๆนะครับต้องบอกว่าไม่ใช่เพียงแค่หญ้าไผ่
00:18:46 → 00:18:49 น้ำเท่านั้นนะครับที่มีฤทธิ์ในการขับ
00:18:49 → 00:18:51 ปัสสาวะนะครับยังมีอย่างอื่นอีกเยอะแยะ
00:18:51 → 00:18:54 เลยนะครับเช่นย่านหนวดแมวกระเจี๊ยบว่าน
00:18:54 → 00:18:56 หางม้านะครับเพราะฉะนั้นแล้วต้องระมัด
00:18:56 → 00:18:58 ระวังโดยเฉพาะผู้ป่วยไตเสื่อมนะครับที่มี
00:18:58 → 00:19:02 ภาวะไตเสื่อมไตไม่ดีนะครับจะทานอะไรนะ
00:19:02 → 00:19:04 ครับต้องปรึกษาแพทย์นะครับสมุนไพร
00:19:04 → 00:19:09 ไทยนั้นดีนะครับแต่ต้องเหมาะกับคนที่ทาน
00:19:09 → 00:19:12 ด้วยนะครับไม่ใช่ว่าดีสำหรับทุกคนนะครับ
00:19:12 → 00:19:14 ไม่มีอะไรที่ดีที่สุดในโลกและเหมาะสำหรับ
00:19:14 → 00:19:17 ทุกคนนะครับโอเคครับก็ไปต่อกันนะครับที่
00:19:17 → 00:19:21 ผลไม้ชนิดที่ 5 ครับผลไม้ชนิดที่ 5 นะ
00:19:21 → 00:19:24 ครับนั่นก็คือผลไม้ที่มีสีเหลืองนั่นเอง
00:19:24 → 00:19:27 ครับกลุ่มผลไม้ที่มีสีเหลืองทั้งหลายครับ
00:19:27 → 00:19:31 หรือสีออกส้มออกแดงนะครับแบบนี้นะครับผู้
00:19:31 → 00:19:34 ป่วยที่มีภาวะไตเสื่อมต้องระมัดระวังโดย
00:19:34 → 00:19:36 เฉพาะไตเสื่อมขั้น 4 ขั้น 5 ขึ้นไปนะครับ
00:19:36 → 00:19:40 สำหรับผู้ที่มีภาวะไตปกติก็สามารถทานได้
00:19:40 → 00:19:42 ในระดับที่เหมาะสมนะครับเพราะว่าผลไม้
00:19:42 → 00:19:44 กลุ่มนี้มักจะมีน้ำตาลสูงอยู่แล้วนะครับ
00:19:44 → 00:19:47 ไม่ว่าจะเป็นกล้วยนะครับเป็นไงครับสี
00:19:47 → 00:19:49 เหลืองนะครับทุเรียนเป็นไงครับสีเหลืองนะ
00:19:49 → 00:19:54 ครับมะม่วงสุกนะครับลูกพลับนะครับสี
00:19:54 → 00:19:56 เหลืองหมดเลยนะครับเห็นไหมครับโดยกลุ่ม
00:19:56 → 00:19:59 พวกนี้นะครับถ้าท่านพบผลไม้ที่มีสีเหลือง
00:19:59 → 00:20:03 สีส้มนะครับสีแสดสีแดงนะครับพวกนี้มักจะ
00:20:03 → 00:20:07 มีโพแทสูงเมื่อไหร่ก็ตามมีโพแทสเซียมสูง
00:20:07 → 00:20:10 นะครับผู้ป่วยที่มีภาวะไตเสื่อมอยู่แล้ว
00:20:10 → 00:20:13 ก็จะมีภาวะที่การขับโพแทสเซียมไม่ค่อยดี
00:20:13 → 00:20:15 อยู่แล้วนะครับก็จะมีโพแทสเซียมสูงใน
00:20:15 → 00:20:18 เลือดด้วยนะครับไตก็ทำงานได้ไม่ค่อยดีนะ
00:20:18 → 00:20:21 ครับผลไม้ก็เข้าไปทับถมอีกนะครับก็อาจจะ
00:20:21 → 00:20:23 ทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันด้วยนะครับ
00:20:23 → 00:20:26 ภาวะที่ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติจากที่
00:20:26 → 00:20:29 โพแทสเซียมในเลือดในเลือดนั้นสูงเกินไป
00:20:29 → 00:20:31 นั่นเองครับเพราะฉะนั้นระมัดระวังครับไม่
00:20:31 → 00:20:35 ได้ห้ามท่านทานนะครับผลไม้นะครับทานได้นะ
00:20:35 → 00:20:37 ครับแต่ว่าในปริมาณที่ไม่มากเกินไปเพราะ
00:20:37 → 00:20:42 ผลไม้นั้นดีต่อระบบขับถ่ายมีกากใยที่ดี
00:20:42 → 00:20:46 แต่น้ำตาลในผลไม้นั้นก็จะทำให้เกิดการ
00:20:46 → 00:20:49 อักเสบในร่างกายดังนั้นทานแค่พออร่อยนะ
00:20:49 → 00:20:52 ครับอย่าไปทานเอาอิ่มอย่าไปทานแทนมื้อ
00:20:52 → 00:20:55 อาหารแบบนี้ไม่ดีครับยิ่งเสี่ยงเบาหวาน
00:20:55 → 00:20:58 ความดันไขมันทับถมกับภาวะไตเสื่อมของท่าน
00:20:58 → 00:21:01 จะยิ่งแย่กันเข้าไปอีกนั่นเองครับโอเค
00:21:01 → 00:21:04 ครับคราวนี้ผมขออนุญาตสรุปนะครับ 5 อาหาร
00:21:04 → 00:21:07 เช้าเสี่ยงไตวายสุดๆและคนไทยชอบทานมากๆ
00:21:07 → 00:21:10 ครับแล้วมันอร่อยมากๆด้วยนะโอเคมาดูกันนะ
00:21:10 → 00:21:14 ครับอันแรกครับนั่นก็คือปาท่องโก๋จิ้มนม
00:21:14 → 00:21:17 ข้นหวานถ้าให้ดีต้องแถมน้ำเต้าหู้ร้อน
00:21:17 → 00:21:22 หวานๆด้วยเป็นไงสุดยอดไหมสุดยอดครับโอ้โห
00:21:22 → 00:21:25 จี๊ดเลยครับน้ำตาลพุ่งสุดยอดเลยเพราะอะไร
00:21:25 → 00:21:28 ปาท่องโก๋ครับเป็นแป้งที่ Ultra High
00:21:28 → 00:21:31 process มากๆผ่านกระบวนการสูงมากๆทำให้
00:21:31 → 00:21:33 เซลล์เราอักเสบได้ง่ายหลอดเลือดเราตีบตัน
00:21:33 → 00:21:35 ได้ง่ายนะครับยังไม่พอมักจะทอดในน้ำมัน
00:21:35 → 00:21:38 พืชที่มีโอเมก้า 60 ทำให้เซลล์เราอักเสบ
00:21:38 → 00:21:41 นะครับแถมจิ้มนมข้นหวานเข้าไปก็เป็นนมที่
00:21:41 → 00:21:45 แบบถ้านับแบบว่านมอันไหนดีสุดนมข้นหวาน
00:21:45 → 00:21:49 เนี่ยมันก็อยู่แทบล่างสุดนะเออมันก็ยิ่ง
00:21:49 → 00:21:50 ทำให้ร่างกายเราแย่ขึ้นเรื่อยๆนะครับ
00:21:50 → 00:21:53 เพราะฉะนั้นต้องบอกเลยครับว่าถ้าท่านทาน
00:21:53 → 00:21:55 แบบนี้บ่อยๆนะครับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไต
00:21:55 → 00:21:58 มักจะตีบแคบได้และทำให้ไตท่านเสื่อมได้
00:21:58 → 00:22:01 หรือบางครั้งหลอดเลือดทั่วร่างกายก็จะตีบ
00:22:01 → 00:22:04 แคบไปหมดและเซลล์ต่างๆก็จะมีปัญหาเสี่ยง
00:22:04 → 00:22:06 เบาหวานในอนาคตนั่นเองนะครับมาต่อกันที่
00:22:06 → 00:22:09 อาหารชนิดที่ 2 ครับผมมั่นใจครับว่าอาหาร
00:22:09 → 00:22:13 ชิ้นนี้ชนิดนี้นะมักจะอยู่ในตู้ที่บ้าน
00:22:13 → 00:22:14 ของท่านนั่นก็คือ Serial นั่นเองนะครับ
00:22:14 → 00:22:17 ซีเรียลต่างๆไม่ว่าจะรสชาติอะไรก็ตามไม่
00:22:17 → 00:22:22 ว่าเขาจะใส่ dha epa Omega 3 Super
00:22:22 → 00:22:26 โคตรวิตามินเอถึง Z 3 รอบนะครับมันก็คือ
00:22:26 → 00:22:29 ซีเรียลที่เป็น Ultra High process
00:22:29 → 00:22:32 Food ครับซึ่งก็จะทำให้ร่างกายของท่านทำ
00:22:32 → 00:22:35 งานหนักเซลล์เสื่อมสลายได้ง่ายนะครับซึ่ง
00:22:35 → 00:22:38 ผมไม่ค่อยแนะนำนะครับนานๆสักครั้งโอเคผม
00:22:38 → 00:22:41 ไม่ให้ลูกสาวผมทานเลยนะครับเพราะว่าผมคิด
00:22:41 → 00:22:43 ว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพนั่นเองครับโดยเฉพาะ
00:22:43 → 00:22:45 ซีเรียลที่เคลือบน้ำตาลหวานๆนะครับโอ้โห
00:22:45 → 00:22:49 นะครับมันจึงทำให้เด็ดในปัจจุบันในโลกของ
00:22:49 → 00:22:54 เราใบนี้นะครับมีภาวะโรคอ้วนนะครับ 50%
00:22:54 → 00:22:56 และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
00:22:56 → 00:22:59 ยังไม่ทันอายุเยอะเป็นโรคซะแล้วนะครับถ้า
00:22:59 → 00:23:03 เรารักลูกหลานของเราเราอย่าเอาอาหารที่
00:23:03 → 00:23:04 เปรียบเสมือน
00:23:04 → 00:23:06 ยาพิษที่ถูกกฎหมายให้เขาครับอันนี้ผมแนะ
00:23:06 → 00:23:09 นำเลยนะครับโอเคครับอาหารชนิดที่ 3 ครับ
00:23:09 → 00:23:12 นั่นก็คือขนมปังปิ้งทาแยมบวกไส้กรอกโอ้โห
00:23:12 → 00:23:15 เป็นไงสุดยอดทั้งขนมปังทั้งแยม
00:23:15 → 00:23:18 คาร์โบไฮเดรตสูงมากน้ำตาลสูงมากก็ผ่าน
00:23:18 → 00:23:20 กระบวนการเยอะมากนะครับไส้กรอกนะครับ
00:23:20 → 00:23:22 process Food นะครับมีขาวออกมาเยอะแยะ
00:23:22 → 00:23:25 ใช่ไหมไส้กรอกผสมนู่นผสมนี่นะครับหลีก
00:23:25 → 00:23:28 ห่างจากมันครับนานๆครั้งอย่าบ่อยนะครับ
00:23:28 → 00:23:30 ไม่ห้ามกันนะผมไม่ห้ามอะไรทั้งนั้นน่ะ
00:23:30 → 00:23:33 ท่านฟังแล้วเอาไปใช้เอาเองนะไม่อยากจะ
00:23:33 → 00:23:35 ห้ามใครอยู่แล้วมันไม่ใช่หน้าที่ผมนะครับ
00:23:35 → 00:23:39 โอเคมาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 4 ครับน้ำ
00:23:39 → 00:23:42 ผลไม้และโยเกิร์ตลดผลไม้ต่างๆเฮ้ยฟังแล้ว
00:23:42 → 00:23:44 เฮ้ยมันน้ำผลไม้มันต้องดีต่อสุขภาพเนี่ย
00:23:44 → 00:23:48 ผมใช้คำนี้ฮะผลไม้ดีต่อสุขภาพถ้าทานใน
00:23:48 → 00:23:51 ปริมาณไม่มากเช่นส้มสับผลนึงแอปเปิ้ลสัก
00:23:51 → 00:23:54 ลูกนึงกล้วยสักครึ่งลูกให้อย่างนี้โอเค
00:23:54 → 00:23:57 น้ำตาลมันไม่พุ่งกระฉูดได้อยู่อาจจะนานๆ
00:23:57 → 00:24:00 ทุเรียนสักคำโอเคสักชิ้นนึงไม่ว่ากันนะ
00:24:00 → 00:24:03 ครับแต่ถ้าท่านน้ำผลไม้น้ำส้ม 1 แก้วเท่า
00:24:03 → 00:24:06 กับส้ม 10 ลูกซดที 2 แก้วแบบนี้ผมไม่แนะ
00:24:06 → 00:24:10 นำโยเกิร์ตรสผลไม้ต่างๆน้ำตาล 20 กรัมต่อ
00:24:10 → 00:24:13 ถ้วยนึงท่านทานโยเกิร์ตถ้วยนึงก็เหมือน
00:24:13 → 00:24:16 ท่านทานน้ำอัดลมกระป๋องนึงอย่างนี้เป็น
00:24:16 → 00:24:19 ต้นแล้วมันจะดีต่อสุขภาพยังไงผมไม่ค่อย
00:24:19 → 00:24:21 แนะนำแต่ถ้าเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่น้ำ
00:24:21 → 00:24:24 ตาลต่ำกว่า 5 อย่างนี้โอเคนะครับมาต่อกัน
00:24:24 → 00:24:27 ที่ข้อที่ 5 ครับถ้าไปโรงแรมนี้ต้องสั่ง
00:24:27 → 00:24:31 แน่นอนนะครับแพนเค้กวาฟเฟิลครัวซองง่ายๆ
00:24:31 → 00:24:35 อร่อยมากๆนะครับราดน้ำเชื่อม
00:24:35 → 00:24:39 อย่างนี้สุดยอดนะครับก็มันอร่อยแต่ว่ามัน
00:24:39 → 00:24:42 ค่อนข้างที่จะทำลายเซลล์ต่างๆของเราเพราะ
00:24:42 → 00:24:44 ว่ามันเป็น Ultra High process Food
00:24:44 → 00:24:46 แล้วก็เป็น High คาร์โบไฮเดรตหรือแป้งสูง
00:24:46 → 00:24:48 น้ำตาลสูงนั่นเองนะครับถ้าลดละเลิกได้ก็
00:24:48 → 00:24:51 ดีนะครับคือทุกอย่างที่ผมบอกมามันทานได้
00:24:51 → 00:24:54 นะแต่ว่านานๆครั้งนะครับก็ไม่แนะนำให้ทาน
00:24:54 → 00:24:56 บ่อยเพราะว่ามันจะกระตุ้นอินซูลินของท่าน
00:24:56 → 00:24:58 เมื่อมันกระตุ้นอินซูลินของท่านบ่อยๆท่าน
00:24:58 → 00:25:00 จะดื้ออินซูลินแล้วเมื่อไหร่ดื้ออินซูลิน
00:25:00 → 00:25:03 ท่านก็จะเป็นเบาหวานเมื่อท่านเป็นเบาหวาน
00:25:03 → 00:25:06 ท่านก็จะมีเป็นภาวะไตเสื่อมเรื้อรังนะ
00:25:06 → 00:25:08 ครับคนไข้ที่ผมผ่าตัดหลอดเลือดฟอกไตเพื่อ
00:25:08 → 00:25:11 ฟอกไตตลอดชีวิตนั้นนะครับ 10 คนนะครับ 9
00:25:11 → 00:25:13 คนเป็นเบาหวานถ้าท่านไม่อยากต้องฟอกไต
00:25:13 → 00:25:16 ตลอดชีวิตท่านก็หลีกหนีเบาหวานให้ดีนะ
00:25:16 → 00:25:19 ครับโอเคครับคราวนี้ผมขออนุญาตสรุปนะครับ
00:25:19 → 00:25:23 ผลไม้ 5 ชนิดนะครับไตวายห้ามทานนะครับก็
00:25:23 → 00:25:26 อาจจะทำให้ท่านนะครับต้องฟอกไตตลอดชีวิต
00:25:26 → 00:25:29 อย่างที่ท่านแบบคาดไม่ถึงนั่นเองครับ
00:25:29 → 00:25:31 สำหรับผลไม้ชนิดแรกนะครับนั่นก็คือ
00:25:31 → 00:25:33 มะเฟืองนะครับหรือชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า
00:25:33 → 00:25:36 Star Fruit นั่นเองนะครับถามว่ามะเฟือง
00:25:36 → 00:25:38 มันน่ากลัวยังไงครับมะเฟืองมีสารที่ชื่อ
00:25:38 → 00:25:41 ว่าออกซาเลตครับซึ่งถ้าท่านทานมะเฟืองไป
00:25:41 → 00:25:44 เยอะๆนะครับสารที่ชื่อว่า oxalate จะไป
00:25:44 → 00:25:46 รวมกับแคลเซียมในร่างกายเกิดเป็นสารที่
00:25:46 → 00:25:49 ชื่อว่าแคลเซียมออกซาเลตนั่นเองแล้วก็จะ
00:25:49 → 00:25:52 อุดท่อทางเดินปัสสาวะของท่านทำให้นะครับ
00:25:52 → 00:25:55 เราไม่สามารถที่จะขับถ่ายปัสสาวะออกมาได้
00:25:55 → 00:25:58 และเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันจนต้องฟอกไต
00:25:58 → 00:26:00 นั่นเองนะครับตัวมะเฟืองโดยเฉพาะมะเฟือง
00:26:00 → 00:26:03 เปรี้ยวนะครับจะมีสารออกซาเลตนะครับสูง
00:26:03 → 00:26:05 กว่ามะเฟืองหวานประมาณ 4 เท่านะครับเพราะ
00:26:05 → 00:26:08 ฉะนั้นแล้วนะครับแนะนำเลยนะครับว่าตัว
00:26:08 → 00:26:11 มะเฟืองเปรี้ยวนั้นควรจะทานให้น้อยหน่อย
00:26:11 → 00:26:14 และไม่แนะนำให้คั้นมาทานนะครับถ้าคั้นมา
00:26:14 → 00:26:17 ทานจะได้ออกซาเลตสูงมากๆเลยนะครับเพราะ
00:26:17 → 00:26:20 ฉะนั้นระมัดระวังด้วยนะครับโอเคครับมาต่อ
00:26:20 → 00:26:23 กันที่นะครับผลไม้ชนิดที่ 2 ครับนั่นก็
00:26:23 → 00:26:27 คือเชอร์รี่นั่นเองครับใช่ครับฟังไม่ผิด
00:26:27 → 00:26:28 ครับเชอร์รี่นี่แหละครับจริงๆเชอร์รี่
00:26:28 → 00:26:31 เนี่ยนะครับเป็นผลไม้ที่ดีมากๆแล้วก็มี
00:26:31 → 00:26:33 สารต้านอนุมูลอิสระนะครับผลไม้กลุ่ม
00:26:33 → 00:26:35 เบอร์รี่นี่ผมแนะนำให้ทานอยู่แล้วนะครับ
00:26:35 → 00:26:38 ทั้งน้ำตาลต่ำลดเสียงเบาหวานแล้วก็มีสาร
00:26:38 → 00:26:42 ต้านอนุมูลอิสระครับเพียงแต่ว่าเมล็ดของ
00:26:42 → 00:26:45 เบอร์รี่นี่แหละครับจะมีสารพิษที่ชื่อว่า
00:26:45 → 00:26:48 ไฮโดรเจนไซยาไนด์นั่นเองนะครับคือโดยปกติ
00:26:48 → 00:26:51 เราก็คงไม่กินใช่ไหมครับตัวเมล็ดนะครับ
00:26:51 → 00:26:55 แต่มันก็มีคนกินนะครับคือเอาเมล็ดไป
00:26:55 → 00:26:57 เคี้ยวเล่นนะครับแล้วพอเมล็ดแตกออกมา
00:26:57 → 00:26:59 เนี่ยสารไฮโดรเจนไซยาไนด์มันออกมาครับ
00:26:59 → 00:27:03 แล้วก็จะเกิดอาการต่างๆเช่นนะครับปวด
00:27:03 → 00:27:06 ศีรษะเวียนร้อยสับสนคลื่นไส้อาเจียนนะ
00:27:06 → 00:27:09 ครับและถ้าเกิดรับประทานในปริมาณมากๆอาจ
00:27:09 → 00:27:12 จะมีภาวะหัวใจวายได้ความดันโลหิตตกไตวาย
00:27:12 → 00:27:14 ชักเสียชีวิตนะครับเพราะฉะนั้นอันตราย
00:27:14 → 00:27:16 จริงๆแล้วต้องบอกเลยครับว่าไม่ใช่แค่
00:27:16 → 00:27:18 เชอรี่นะครับไม่ว่าจะเป็นเมล็ดแอปเปิ้ล
00:27:18 → 00:27:20 หรือ appicot นะครับก็มีสารที่ชื่อว่า
00:27:20 → 00:27:23 ไฮโดรเจนไซยาไนด์เช่นกันดังนั้นนะครับไม่
00:27:23 → 00:27:26 ควรที่จะไปเคี้ยวแตกเล่นแล้วกลืนมันลงไป
00:27:26 → 00:27:29 นะครับอันตรายจริงๆนะครับต้องระมัดระวัง
00:27:29 → 00:27:32 มาต่อกันที่ผลไม้ชนิดที่ 3 ครับนั่นก็คือ
00:27:32 → 00:27:35 ลูกเนียงนั่นเองนะครับทางฝั่งภาคใต้ของ
00:27:35 → 00:27:37 เรานิยมทานกันมากครับก็ต้องบอกเลยว่าต้อง
00:27:37 → 00:27:39 ระมัดระวังครับเพราะในลูกเนียงมีกรดที่
00:27:39 → 00:27:42 ชื่อว่ากรดจริงโคลิคครับตัวกรดจึงโคลิค
00:27:42 → 00:27:44 เนี่ยแหละครับก็จะเป็นกรดอะมิโนที่มี
00:27:45 → 00:27:47 กำมะถันสูงนะครับมีรายงานนะครับว่าทำให้
00:27:47 → 00:27:50 เกิดพิษนะครับตั้งแต่ท่านทาน 1-20 เมล็ด
00:27:50 → 00:27:52 เพราะฉะนั้นทานน้อยทานมากไม่เกี่ยวนะครับ
00:27:52 → 00:27:56 ถ้าสวยขึ้นมาแล้วก็นะครับมีโอกาสทำงานนะ
00:27:56 → 00:27:58 ครับอาการที่จะเกิดขึ้นเนี่ยมักพบ 2 ถึง
00:27:58 → 00:28:01 14 ชั่วโมงหลังรับประทานนะครับเช่นปวดขา
00:28:01 → 00:28:04 หนีบปัสสาวะลำบากปัสสาวะมากบางรายไม่มี
00:28:04 → 00:28:06 ปัสสาวะเลยนะครับไตเลิกทำงานไปเลยปัสสาวะ
00:28:06 → 00:28:08 ขุ่นข้นปัสสาวะเป็นเลือดนะครับเพราะ
00:28:08 → 00:28:10 ฉะนั้นแล้วนะครับต้องระมัดระวังนะครับ
00:28:10 → 00:28:14 สามารถลดปัญหาสารพิษของพวกลูกเนียงได้นะ
00:28:14 → 00:28:16 ครับโดยการดื่มน้ำให้มากนะครับหรือนำ
00:28:16 → 00:28:19 ลูกเนียงมาหั่นเป็นแผ่นบางๆตากแดดหรือต้ม
00:28:19 → 00:28:21 ในน้ำที่ผสมเบกกิ้งโซดาประมาณสัก 10 นาที
00:28:21 → 00:28:25 นะครับพวกสารหรือกรดเกร็งโคลิคจะลดไปได้
00:28:25 → 00:28:27 ประมาณครึ่งหนึ่งเลยทีเดียวนะครับมาต่อ
00:28:27 → 00:28:30 กันที่นะครับอาหารชนิดที่ 4 ครับนั่นก็
00:28:30 → 00:28:33 คือหญ้าไผ่น้ำนั่นเองครับโดยปกติหญ้าไข่
00:28:33 → 00:28:36 น้ำนี่นะครับเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วย
00:28:36 → 00:28:37 บำรุงไต
00:28:37 → 00:28:40 ขับปัสสาวะลดการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ
00:28:40 → 00:28:43 ได้ด้วยนะครับบำบัดอาการต่อมลูกหมากโต
00:28:43 → 00:28:46 เฮ้ยแล้วฝั่งเรางงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับไต
00:28:46 → 00:28:48 วายต้องบอกงี้ฮะว่าคือสรรพคุณเนี่ยมัน
00:28:48 → 00:28:51 ช่วยขับปัสสาวะนะครับแต่ถ้าเมื่อไหร่ผู้
00:28:51 → 00:28:55 ป่วยที่มีไตเสื่อมมากๆทานพวกอ่าหญ้าไผ่
00:28:55 → 00:28:58 น้ำเข้าไปเยอะๆเนี่ยนะครับก็จะเกิดการที่
00:28:58 → 00:29:00 ไตของเราทำงานหนักมากเกินไปให้ท่านคิด
00:29:00 → 00:29:03 สภาพว่าไตเสื่อมเนี่ยก็เหมือนคนป่วยแล้ว
00:29:03 → 00:29:06 เอาคนป่วยมาทำงานหนักๆมันก็แบบแย่พอแย่
00:29:06 → 00:29:09 ปุ๊บมันก็ไตเขาเรียกว่าดับไปเลยมันชัดดาว
00:29:09 → 00:29:12 คอมพิวเตอร์ครับก็ต้องฟอกไตตลอดชีวิตอัน
00:29:12 → 00:29:14 นี้ก็คืออันตรายจริงๆเพราะฉะนั้นแล้วต้อง
00:29:14 → 00:29:16 ระมัดระวังนะครับมาต่อกันที่ผลไม้กลุ่ม
00:29:16 → 00:29:18 ที่ 5 ครับคราวนี้เป็นกลุ่มใหญ่เลยครับ
00:29:18 → 00:29:21 คือผลไม้นะครับที่มีสีเหลืองหรือสีส้ม
00:29:21 → 00:29:24 หรือสีแสดหรือสีแดงเพราะว่าผลไม้กลุ่มนี้
00:29:24 → 00:29:27 มีโพแทสเซียมสูงมากๆครับใครก็ตามนะครับ
00:29:27 → 00:29:31 ที่มีภาวะไตเสื่อมมากๆแล้วทานผลไม้ที่มี
00:29:31 → 00:29:33 โพแทสเซียมสูงนะครับมักจะขับโพแทสเซียม
00:29:33 → 00:29:35 ไม่ได้นะครับอันตรายอันแรกคือจะทำให้หัว
00:29:35 → 00:29:37 ใจเต้นผิดจังหวะอาจเสียชีวิตได้อันตราย
00:29:37 → 00:29:40 ที่ 2 ก็คือไตจะทำงานหนักมากขึ้นอาจจะมี
00:29:40 → 00:29:42 ภาวะไตวายเฉียบพลันในอนาคตขึ้นมาได้ด้วย
00:29:42 → 00:29:44 เพราะฉะนั้นแล้วก็ต้องระมัดระวังในเรื่อง
00:29:44 → 00:29:48 ของผลไม้ที่มีสีเหลืองสีส้มสีแสดสีแดง
00:29:48 → 00:29:51 นั่นเองครับและนี่ก็คือ 5 ผลไม้นะครับที่
00:29:51 → 00:29:54 ไตวายห้ามกินถ้าท่านไม่อยากต้องฟอกไตตลอด
00:29:54 → 00:29:56 ชีวิตนั่นเองครับโอเคครับก่อนไปครับอย่า
00:29:56 → 00:29:58 ลืมกด like กด Share กด Subscribe และกด
00:29:58 → 00:30:01 กระดิ่งขอบคุณครับ