00:00:00 → 00:00:03 คุณ
00:00:03 → 00:00:06 แนทเสี้ยมยูพาสฟังเฟิร์สเฮ้าส์
00:00:06 → 00:00:08 [เพลง]
00:00:08 → 00:00:12 ฟัง for Health cod Cash รายการที่จะ
00:00:12 → 00:00:15 มาพูดคุยเรื่องราวของสุขภาพและแบ่งปัน
00:00:15 → 00:00:18 ประสบการณ์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขา
00:00:18 → 00:00:20 ต่างๆของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:00:20 → 00:00:22 เชียงใหม่
00:00:22 → 00:00:23 [เพลง]
00:00:23 → 00:00:27 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา
00:00:27 → 00:00:29 [เพลง]
00:00:29 → 00:00:33 สวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง for
00:00:33 → 00:00:36 Health พอดแคสต์รายการที่จะมาพูดคุย
00:00:36 → 00:00:38 เรื่องราวของสุขภาพนะคะแล้วก็แบ่งปัน
00:00:38 → 00:00:41 ประสบการณ์จากแพทย์เฉพาะทางในสาขาต่างๆ
00:00:41 → 00:00:44 ของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ
00:00:44 → 00:00:47 อยู่กับดิฉันฟ้าธัญลักษณ์สดสวยๆนัก
00:00:47 → 00:00:49 ประชาสัมพันธ์คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:00:49 → 00:00:52 เชียงใหม่พอดแคสต์นะคะก็เป็นอีกหนึ่งช่อง
00:00:52 → 00:00:55 ทางที่คณะแพทย์มชจัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ที่
00:00:55 → 00:00:59 ชื่นชอบในการฟังและรักในการดูแลสุขภาพนะ
00:00:59 → 00:01:02 คะจะโน้ทถึงข้อมูลที่ถูกต้องในการดูแลตัว
00:01:02 → 00:01:05 เองและคนที่คุณรักค่ะเรียนที่จะมาพูดคุย
00:01:05 → 00:01:08 กันในวันนี้นะคะเป็นเรื่องของอาหารการกิน
00:01:08 → 00:01:12 ค่ะอาหารการกินที่ส่งผลทำให้เราเป็นโรค
00:01:12 → 00:01:15 อาหารเป็นพิษได้ค่ะอากาศที่ร้อนจัดในช่วง
00:01:15 → 00:01:19 นี้ส่งผลให้อาหารต่างๆบูดได้เร็วขึ้นนะคะ
00:01:19 → 00:01:22 อาจมีสารพิษและก็แบบทีเรียในปากบนอยู่นะ
00:01:22 → 00:01:25 คะหากใครรับประทานเข้าไปก็อาจจะก่อให้
00:01:25 → 00:01:28 เกิดโรคอาหารเป็นพิษที่ทำให้เกิดอาการปวด
00:01:28 → 00:01:32 ท้องนะคะท้องเสียคลื่นไส้อาเจียนซึ่งถ้า
00:01:32 → 00:01:35 หากอาการรุนแรงขึ้นมีเชื้อโรคปนเปื้อน
00:01:35 → 00:01:37 เข้าเป็นกระแสเลือดนะคะก็อาจจะเป็นอาราย
00:01:37 → 00:01:40 ได้ถึงชีวิตค่ะร้องอาหารเป็นพิษนะคะถือ
00:01:40 → 00:01:43 เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆสามารถเกิดขึ้น
00:01:43 → 00:01:45 ได้กับทุกเพศทุกวัยเลยนะคะตั้งแต่เด็กจน
00:01:46 → 00:01:48 ถึงผู้สูงอายุค่ะดังนั้นเราต้องมาทำความ
00:01:48 → 00:01:50 รู้เกี่ยวกับโรคนี้แล้วเตรียมพร้อมรับมือ
00:01:50 → 00:01:53 กับโรคนี้กันไว้ดีกว่าค่ะซึ่งผู้ที่จะมา
00:01:53 → 00:01:56 ให้ข้อมูลกับเรานะคะท่านนั่งอยู่ตรงนี้
00:01:56 → 00:01:58 กับดิฉันแล้วค่ะขอต้อนรับผู้ช่วย
00:01:58 → 00:02:02 ศาสตราจารย์แพทย์หญิงอ.นรินี่ยิ่งชาญกุล
00:02:02 → 00:02:06 อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัวคณะ
00:02:06 → 00:02:09 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่อาจารย์
00:02:09 → 00:02:12 หมอคะสวัสดีคะวันนี้ค่ะอย่างที่เกิดข้อ
00:02:12 → 00:02:14 ให้การมาเลยค่ะสำหรับอาการของโรคอาหาร
00:02:14 → 00:02:17 เป็นพิษแท้จริงแล้วเป็นยังไงเกิดขึ้นได้
00:02:17 → 00:02:20 ยังไงค่ะเรื่องของอาหารเป็นพิษนะคะจริงๆ
00:02:20 → 00:02:23 เกิดจากการรับประทานอาหารหรือว่าน้ำดื่ม
00:02:23 → 00:02:25 นะคะที่ปนเปื้อนกับเชื้อโรคหรือว่าสารพิษ
00:02:26 → 00:02:28 เข้าไปเนอะแบ่งง่ายๆก็คือเชื้อโรคกันสาร
00:02:28 → 00:02:31 พิษเชื้อโรคมาจากไหนก็อย่างเช่นแบคทีเรีย
00:02:31 → 00:02:34 ไวรัสนะคะถามว่าถ้าสารพิษเนี่ยอย่างเช่น
00:02:34 → 00:02:37 อยู่ในพวกเห็ดพิษสัตว์พิษก็จะเจอได้ในพวก
00:02:37 → 00:02:41 ปลาปั๊กเป้าหรือว่าคางคกหรือว่าบางทีเป็น
00:02:41 → 00:02:43 พวกยาฆ่าแมลงค่ะพรุ่งนี้ก็จะเป็นกลุ่มสาร
00:02:43 → 00:02:46 พิษหรือโลหะหนักเนอะก็แยกเป็น 2 ประเภท
00:02:46 → 00:02:49 ง่ายๆค่ะอาการที่เราจะเจอได้ก็อย่างเช่น
00:02:49 → 00:02:52 ที่อาการเด่นนะคะก็จะเป็นเรื่องของอาการ
00:02:52 → 00:02:54 ปวดบิดท้องแล้วก็อาเจียนเนื่องจากว่าเรา
00:02:54 → 00:02:57 ต้องการขับสารพิษออกจากร่างกายอ่ะค่ะหาก
00:02:57 → 00:02:59 ถ้านอกเหนือจากนั้นเนี่ยก็จะมีเรื่องของ
00:02:59 → 00:03:02 อาการถ้าหิวนะคะบางคนก็อาจจะถ่ายเยอะมากๆ
00:03:02 → 00:03:06 ประมาณ 8-10 ครั้งต่อวันหานี่คืออาการจับ
00:03:06 → 00:03:08 หลักๆสำหรับโลกนี้ค่ะสามารถเกิดขึ้นได้
00:03:08 → 00:03:11 ตลอดทั้งปีไหมคะหาเรื่องของอาหารเป็นพิษ
00:03:11 → 00:03:13 เกิดได้ทั้งปีเลยนะคะแต่ว่าที่เราพบเจอ
00:03:13 → 00:03:16 หน้าร้อนบ่อยเนื่องจากว่าอากาศร้อนทำให้
00:03:16 → 00:03:18 พวกเชื้อโรคในมันเติบโตได้เร็วอาหารบูด
00:03:18 → 00:03:21 ง่ายค่ะก็เลยทำให้เราเจอว่าคนไข้มีอาการ
00:03:21 → 00:03:24 ของอาหารเป็นพิษได้มากความทุกข์เยอะใน
00:03:24 → 00:03:27 เรื่องของหน้าร้อนอาจจะเป็นอาหารข้ามคืน
00:03:27 → 00:03:30 ไว้ใช่ไหมคะตรงนี้มันทำให้ท้องเสียเกิด
00:03:30 → 00:03:33 อาการอาหารเป็นพิษขึ้นมาอย่างนี้ค่ะมัน
00:03:33 → 00:03:36 เกิดจากอาหารที่เราดูหน้าตาแล้วไม่น่าจะ
00:03:36 → 00:03:39 มีการปู่เสียเนี่ยเป็นไปได้ไหมคะเป็นไป
00:03:39 → 00:03:41 ได้นะคะเพราะว่าจริงๆ 555 ถ้ามันจะถึง
00:03:41 → 00:03:44 ขั้นมีรสชาติที่เปลี่ยนหรือว่าเปรี้ยว
00:03:44 → 00:03:46 ขึ้นหรือว่ารสชาติเปลี่ยนไปจากเดิมเนี่ย
00:03:46 → 00:03:48 ก็คือมันเริ่มเน่าแล้วค่ะแต่ว่าจริงๆถ้า
00:03:48 → 00:03:50 เริ่มต้นก่อนที่จะเน่าในบางทีนี้
00:03:50 → 00:03:53 แบคทีเรียจะมีการหมักไก่อนหรือว่าอาจจะ
00:03:53 → 00:03:56 ผลิตสารพิษออกมาก่อนซึ่งตอนนั้นอาหารอาจ
00:03:56 → 00:03:59 จะลดชาติยังไม่เปลี่ยนก็ได้นะคะถ้าเรา
00:03:59 → 00:04:02 ด้านของการแก้ไขอาการอาหารเป็นพิษเนี่ย
00:04:02 → 00:04:06 เป็นยังไงบ้างคะเอ่ออาการเนี่ยก็จะตรงการ
00:04:06 → 00:04:09 วินิจฉัยจะตามอาการเลยค่ะก็คือจะมีอาการ
00:04:09 → 00:04:12 แบบอาเจียนเยอะเนอะแล้วก็บางคนก็จะมีไข้
00:04:12 → 00:04:14 ร่วมด้วยหรือว่าท้องเสียเยอะๆร่วมด้วยอ่ะ
00:04:14 → 00:04:18 ค่ะถ้าสมมุติว่าเป็นกรณีที่ห้องเสียถ่าย
00:04:18 → 00:04:20 เหลวหรืออาเจียนเยอะจนรับประทานอาหารไม่
00:04:20 → 00:04:23 ได้และมีอาการอ่อนเพลียมีหนาวสั่นหรือว่า
00:04:23 → 00:04:26 หอบเหนื่อยร่วมด้วยอันนี้ก็คือสูญเสียน้ำ
00:04:26 → 00:04:29 หรือเกลือแร่ค่อนข้างมากค่ะกรณีเหล่านี้
00:04:29 → 00:04:32 ก็ควรที่จะมารักษาที่โรงพยาบาลค่ะสำหรับ
00:04:32 → 00:04:35 ผู้ฟังเองที่เคยมีอาการเหล่านี้นะคะเราจะ
00:04:35 → 00:04:38 มองว่าอาการอาหารเป็นพิษเนี่ยเป็นเรื่อง
00:04:38 → 00:04:42 ที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะแต่ขอเป็นทีนึงก็
00:04:42 → 00:04:44 ทรมานเป็นหลายวันเหมือนกันค่ะตรงนี้
00:04:44 → 00:04:47 สำหรับวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้นเลยค่ะ
00:04:47 → 00:04:50 เมื่อเรามีอาการอาหารเป็นพิษต้องทำยังไง
00:04:50 → 00:04:54 บ้างคะจริงๆกันรักษาตัวเองเบื้องต้นเนี่ย
00:04:54 → 00:04:57 สามารถทำได้นะคะแล้วก็หมอก็อยากให้รักษา
00:04:57 → 00:04:59 ตัวเองเบื้องต้นก่อนที่จะมาโรงพยาบาลเนาะ
00:04:59 → 00:05:02 ถ้าจะมีการมีอาการอาเจียนเล็กน้อยหรือว่า
00:05:02 → 00:05:04 ถ่ายไม่มากนะคะอยากให้เบื้องต้นแล้ว
00:05:04 → 00:05:08 ประทานน้ำหรือว่าน้ำตาลผสมเกลือแร่เยอะๆ
00:05:08 → 00:05:11 เลยเอา OS น่ะเนาะหรือน้ำผสมเกลือแร่นะ
00:05:11 → 00:05:14 ค่ะก็คือดื่มทดแทนน้ำที่เราสูญเสียไปแต่
00:05:14 → 00:05:17 อาการไหนที่ต้องมาโรงพยาบาลนะคะอย่างเช่น
00:05:17 → 00:05:19 ว่าถ้าสมมติว่าเราอาเจียนมากหรือว่าถ่าย
00:05:19 → 00:05:22 มากจนกระทั่งเราเริ่มรู้สึกว่าอ่อนเพลีย
00:05:22 → 00:05:25 นั่งลุกขึ้นนั่งแล้วมีหน้ามืดหรือว่านั่ง
00:05:25 → 00:05:27 เริ่มโครงเครงและอันนี้แปลว่าเราสูญเสีย
00:05:27 → 00:05:29 น้ำและเกินแรกค่อนข้างมากแล้วเราดื่มชด
00:05:29 → 00:05:32 เชยเข้าไปไม่ทันนะคะหรือมาคนอาจจะมีอาการ
00:05:32 → 00:05:36 ซึมลงมีไข้อ่ะหรือว่ามีหอบเหนื่อยร่วม
00:05:36 → 00:05:38 ด้วยนะคะหรือเริ่มเบลอๆนี้แปลว่าเราสูญ
00:05:38 → 00:05:41 เสียเกลือแร่ไปค่อนข้างเยอะแล้วเราก็กิน
00:05:41 → 00:05:43 ทดแทนได้ไม่ทันเพราะฉะนั้นพวกเนี้ยควรที่
00:05:43 → 00:05:46 จะมาโรงพยาบาลเพราะฉะนั้นเวลาที่มีอาการ
00:05:46 → 00:05:50 ท้องเสียการกินเกลือแร่เป็นสิ่งที่ถูก
00:05:50 → 00:05:54 ต้องแล้วต้องแล้วค่ะคุณหมอขาแต่หลายคนที่
00:05:54 → 00:05:58 มีอาการท้องเสียมีไข้มีความแบบ Panic ว่า
00:05:58 → 00:06:02 ตัวเองจะเป็นโควิช 19 ฤจะเอาอันนี้ค่ะแต่
00:06:02 → 00:06:04 จะให้คุณมองเล่าให้พวกเราฟังข่าววัดว่า
00:06:04 → 00:06:06 แท้จริงแล้วอาการมาต่างกันตรงไหนสังเกตุ
00:06:06 → 00:06:09 ยังไงจริงๆถ้าเป็นเรื่องของโควิชนะคะที่
00:06:09 → 00:06:11 มีอาการท้องเสียด้วยโควิชเด่นๆจะเป็น
00:06:11 → 00:06:15 เรื่องของอาการทางเดินหายใจตอนบนน็อคค่ะ
00:06:15 → 00:06:18 อาจจะมีเจ็บคอมีน้ำมูกมีไออย่างนี้ค่ะแต่
00:06:18 → 00:06:20 เรื่องของอาการท้องเสียบางทีเกิดจาก
00:06:20 → 00:06:23 ปฏิกิริยาจากไวรัสที่ทำให้อาจจะมีอาการ
00:06:23 → 00:06:27 เป็นไข้ลุมหรือว่ามีลำไส้แปรปรวนแล้วก็ทำ
00:06:27 → 00:06:29 ให้เราถ่ายเร็วได้แต่วิธีแยกกันเนี่ยก็
00:06:29 → 00:06:32 คืออาหารเป็นพิษจะเด่นในเรื่องของอาเจียน
00:06:32 → 00:06:35 เยอะแล้วก็ถ่ายเยอะแล้วก็ก็มักจะหายได้
00:06:35 → 00:06:39 เองภายใน 2 วันค่ะศอกมันก็อาคารจะหายไป
00:06:39 → 00:06:42 เองใช่หรือวันนี้ควรจะเบาบางลงละนะคะแต่
00:06:42 → 00:06:44 ถ้าเป็นมากกว่านั้นเนี่ยก็ควรมาโรงพยาบาล
00:06:44 → 00:06:46 แต่สำหรับโควิชเนี่ยก็จะเป็นด้านของทาง
00:06:46 → 00:06:50 เดินหายใจเป็นหลักค่ะก็ตอนนี้ค่ะเป็นอะไร
00:06:50 → 00:06:52 อาการอะไรที่เขาก็จะมีความแพนอีกแล้วอ่ะ
00:06:52 → 00:06:55 ไอ้หรือว่าจะเป็นคอวี 19 นะเพราะว่าอาการ
00:06:55 → 00:06:58 ท้องเสียเองหรืออาหารเป็นพิษเนี่ยมีการ
00:06:58 → 00:07:01 ถ่ายเหลวแล้วก็มีความรู้สึกว่าเป็นไข้
00:07:01 → 00:07:04 ด้วยร่วมด้วยเนี่ยหลายคนก็จะคิดว่ามีอาจ
00:07:04 → 00:07:06 จะเกี่ยวกันหรือเปล่าอันนี้ก็อย่างที่คุณ
00:07:06 → 00:07:10 หมอบเล่าให้เราฟังนะคะว่าก็วิธี 9 นี้
00:07:10 → 00:07:12 เป็นเกี่ยวกับด้านทางเดินหายใจเลยนอกจาก
00:07:12 → 00:07:16 นี้ค่ะการรักษาเบื้องต้นที่ตัวเองทำแล้ว
00:07:16 → 00:07:18 ยังไม่ดีขึ้นถึงขั้นตอนที่ต้องมาพบแพทย์
00:07:18 → 00:07:21 ตรงนี้แพทย์จะต้องรักษาโดยวิธีการไหนคะ
00:07:21 → 00:07:25 ส่วนใหญ่ถ้ามาพบแพทย์นะคะก็จะมีอยู่ 2
00:07:25 → 00:07:27 กรณีน้องกรณีที่แบบยังเป็นไม่มากเนี่ยค่ะ
00:07:27 → 00:07:30 ส่วนใหญ่แพทย์ก็จะให้รักษาตามอาการนะคะ
00:07:30 → 00:07:33 อย่างเช่นอาการที่เราเจอบ่อยก็คือถ้าถ่าย
00:07:33 → 00:07:35 เหลวเราก็จะให้ OS เหมือนกันนะคะเหมือน
00:07:35 → 00:07:37 ที่แนะนำว่าให้ดูแลตัวเองที่บ้านโดยวิธี
00:07:37 → 00:07:40 นี้ก่อนนะคะแต่ถ้าสมมติมีอาการอื่นเช่น
00:07:40 → 00:07:43 นี้ไข้ก็จะให้ยาลดไข้หรือว่าถ้ามีอาเจียน
00:07:43 → 00:07:46 คลื่นไส้หรือปวดบิดท้องก็จะให้ยาตามอาการ
00:07:46 → 00:07:49 ที่มีอ่ะค่ะแต่ถ้ากรณีที่เป็นเยอะๆหรือ
00:07:49 → 00:07:52 ว่าบางคนไข้บางกลุ่มอ่ะที่อย่างเช่นมี
00:07:52 → 00:07:54 ภูมิคุ้มกันบกพร่องเนี่ยก็อาจจะเสี่ยงใน
00:07:54 → 00:07:56 การติดเชื้อทั่วร่างกายได้ง่ายนี้อาจจะ
00:07:56 → 00:08:00 พิจารณาให้ยาปฏิชีวนะค่ะ
00:08:00 → 00:08:02 พบกับอีกแบบนึงก็คือคนที่รับประทานน้ำ
00:08:02 → 00:08:04 เกลือแร่ไม่ค่อยได้อย่างเช่นรับประทาน
00:08:04 → 00:08:07 เข้าไปแล้วก็อ้วกออกมาหรือว่าถ่ายออกมา
00:08:07 → 00:08:09 หมดนี้ค่ะก็อาจจะให้สัตว์น้ำทางหลอดเลือด
00:08:09 → 00:08:14 แทนกรณีพวกนั้นก็ต้องแอดมิดนะคะค่ะขึ้นบ่
00:08:14 → 00:08:17 คาร่าแบบนี้อาการในผู้ใหญ่กับอาการไอเด็ก
00:08:17 → 00:08:21 เนี่ยต่างกันไหมคะไม่สร่างเลยนะคะการเด่น
00:08:21 → 00:08:24 ก็คือมีปวดท้องอาเจียนถ่ายเหลวเหมือนกัน
00:08:24 → 00:08:27 เลยเด็กก็ใช้วิธีการโรงพยาบาลเมืองต้นมา
00:08:27 → 00:08:30 ค่ะแต่ว่าน้ำเกลือแรกเวลาเลือกนะคะมันก็
00:08:30 → 00:08:32 จะมีแบบชนิดที่เป็นของเด็กอันเด่นของผู้
00:08:32 → 00:08:35 ใหญ่เพราะใช้เวลาถ้าไปเลือกซื้อก็ต้องบอก
00:08:35 → 00:08:37 เภสัชกรด้วยนะว่าอันนี้จะซื้อไปให้เด็ก
00:08:37 → 00:08:39 หรือซื้อไปให้ผู้ใหญ่รสชาติบางอย่างที่
00:08:39 → 00:08:42 แบบเด็กรับไม่ได้ไงคะน้องเป็นพริกนะที่
00:08:42 → 00:08:45 ว่าการที่เรามีเกลือแร่ติดที่บ้านก็ต้อง
00:08:45 → 00:08:48 แยกด้วยนะว่านี่ของเด็กนะอันนี้ของผู้
00:08:48 → 00:08:50 ใหญ่ค่ะเป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจเหมือน
00:08:50 → 00:08:54 กันค่ะก็หมอค้าเราอย่างชนิดอาหารที่พบเจอ
00:08:54 → 00:08:57 บ่อยน่ะค่ะที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ
00:08:57 → 00:09:00 นี่มีอะไรบ้างคะก็ถ้าเกี่ยวร้านอาหารนะคะ
00:09:00 → 00:09:03 ที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษบ่อยๆก็ต้องดู
00:09:03 → 00:09:07 ว่าอาหารพวกสุกดิบๆอย่างนี้ค่ะก็มาจะไม่
00:09:07 → 00:09:09 ถูกฆ่าเชื้อด้วยความร้อนเนาะก็อาจจะทำให้
00:09:09 → 00:09:13 มีอาการติดเชื้อหรือมีพิษสารพิษได้ค่อน
00:09:13 → 00:09:18 ข้างๆค่าอย่างเช่นอ่ากินพวกลาบก้อยดิบ
00:09:18 → 00:09:21 หรือว่ายำทะเลเลยน่ะค่ะที่แบบยังไม่ได้
00:09:21 → 00:09:23 สูบเฟรมที่อย่างนี้ค่ะบางทีก็จะท้องเสีย
00:09:23 → 00:09:27 ได้ง่ายเนอะก็เป็นเมนูยอดฮิตจะด้วยนะคะใน
00:09:27 → 00:09:30 หน้าร้อนเป็นของโปรดของหลายๆคนไหนนะคะแต่
00:09:30 → 00:09:33 ว่าพอของอร่อยที่เรารับประทานเนี่ยเป็น
00:09:33 → 00:09:36 ของที่ไม่ถูกสุขอนามัยตรงนี้ก็ทำให้เรา
00:09:36 → 00:09:39 เจ็บป่วยได้เช่นกันก็ต้องระมัดระวังนะคะ
00:09:39 → 00:09:42 หาใช่นะคะนอกนั้นก็จะมีเกี่ยวกับเรื่อง
00:09:42 → 00:09:45 ของอาหารหมักดองนะคะหรือว่าอาหารกระป๋อง
00:09:45 → 00:09:47 นะคะถ้าสมมติว่าเราจะไปเลือกซื้อแล้ว
00:09:47 → 00:09:50 กระป๋องมาดูลักษณะบุกบ้างบวมบ้างหรือมี
00:09:50 → 00:09:53 สนิมอันนี้ก็แปลว่าอาจจะมีการรั่วแล้วก็
00:09:53 → 00:09:56 ทำให้อาหารนั้นนะไม่อาจจะมีสารพิษเกิด
00:09:56 → 00:10:00 ขึ้นได้ค่ะเค้าควรระวังที่
00:10:00 → 00:10:02 จะต้องสังเกตนะคะเมริการเลือกรับประทาน
00:10:02 → 00:10:05 หรือการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บางอย่างนะคะ
00:10:05 → 00:10:08 ถ้าเราจะนี้มีอีกไหมคะคุณหมอคะก็จะเป็น
00:10:08 → 00:10:12 พวกอาหารที่บูดง่ายค่ะอย่างเช่นพวกกะทิ
00:10:12 → 00:10:15 เนาะหรือว่าพวกอาหารที่ผ่านการปั้นด้วย
00:10:15 → 00:10:18 มืออย่างเช่นขนมปังหรือว่าซูชิต่างๆนะคะ
00:10:19 → 00:10:22 อันนี้ก็อาจจะเสี่ยงได้ง่ายเลยน้ำแข็งที่
00:10:22 → 00:10:25 ผ่านโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐานนี้ค่ะที่มีผล
00:10:25 → 00:10:28 เปื้อนเชื้อโรคขณะนี้ก็ต้องระมัดระวังค่ะ
00:10:28 → 00:10:31 เราจากนี้ค่ะเมนูยอดฮิตเลยพี่ทำให้มีความ
00:10:31 → 00:10:34 เสี่ยงที่จะทำให้เกิดเป็นอาการอาหารเป็น
00:10:34 → 00:10:38 พิษมีอะไรบ้างคะห่าก็เมนูที่เราเจอบ่อยใน
00:10:38 → 00:10:40 หน้าร้อนนะคะก็อย่างเช่นลาบก้อยดิบเลยนะ
00:10:40 → 00:10:43 คะอาหารสุกๆดิบๆก็ควรเลี่ยงนะคะแล้วก็พวก
00:10:43 → 00:10:47 ยำทะเลต่างๆนะคะกับอาหารหรือขนมที่มี
00:10:47 → 00:10:49 กระทิฮะถ้าเกิน 1 วันส่วนใหญ่จะบูดแล้ว
00:10:49 → 00:10:52 ค่ะก็ต้องเลี้ยงเนอะอากับอันที่เจอบ่อยก็
00:10:52 → 00:10:56 จะเป็นพวกข้าวมันไก่หรือว่าสลัดที่มี
00:10:56 → 00:10:59 ธัญพืชอย่างนี้ค่ะตัวธัญพืชจะบูดง่ายค่ะ
00:10:59 → 00:11:03 ขนมแปลจีนส้มตำหรือว่านมที่ไม่ผ่านการฆ่า
00:11:03 → 00:11:06 เชื้อนะคะอันนี้ก็จะเจอได้บ่อยน้องจาก
00:11:06 → 00:11:08 ทำไมหนูอาหารทั่วไปอย่าให้คุณหมอช่วย
00:11:08 → 00:11:11 เตือนถึงโรคอาหารเป็นพิษที่เกิดจากเหตุ
00:11:11 → 00:11:14 ด้วยค่ะก็สำหรับเรื่องเหตุนะคะเห็นมันก็
00:11:14 → 00:11:16 จะมีทั้งเห็ดที่มีพิษและไม่มีพิษค่ะแล้ว
00:11:16 → 00:11:18 ก็ทางเหนือแล้วก็เจอเยอะใช่ไหมคะว่าใน
00:11:18 → 00:11:21 ช่วงหน้าร้อนก็จะรับประทานเห็ดพิษมาแล้ว
00:11:21 → 00:11:24 เข้าโรงพยาบาลหรือบางคนก็ท้องเสียเนื่อง
00:11:24 → 00:11:26 จากว่าเห็ดเนี่ยหน้าตาคล้ายๆกันระหว่าง
00:11:26 → 00:11:28 เหตุผิดกับไม่มีพิษเพราะฉะนั้นเวลาจะรับ
00:11:28 → 00:11:31 ประทานจริงๆต้องศึกษาหาข้อมูลดีๆแล้วก็
00:11:31 → 00:11:34 ให้คนที่เขาดูออกอะน้องเป็นคนเลือกให้เรา
00:11:34 → 00:11:38 นะคะแล้วก็เห็ดเนี่ยค่อนข้างจะเสียง่ายนะ
00:11:38 → 00:11:41 คะเพราะฉะนั้นเนี่ยก็ถ้าได้มาสดๆก็ควรที่
00:11:41 → 00:11:43 จะปรุงรับประทานเลยไม่ควรเก็บในตู้เย็น
00:11:43 → 00:11:47 หลายวันหรือว่ากรุงทิ้งไว้อย่างนี้ค่ะวัน
00:11:47 → 00:11:50 นึงก็อาจจะบูดได้แล้วก็บอกเค้าในกลุ่ม
00:11:50 → 00:11:53 เพื่อนที่รับประทานด้วยกันอ่ะถ้ามีเราคน
00:11:53 → 00:11:56 เดียวที่เป็นเราคนอื่นได้เป็นอย่างนี้ค่ะ
00:11:56 → 00:11:59 เป็นไปได้ไหมคะเป็นไปได้นะคะอย่างที่บอก
00:11:59 → 00:12:02 ว่าแต่บางคนเนี่ยก็หายได้เองบางคนก็อาจจะ
00:12:02 → 00:12:05 เป็นหนักเป็นเบาไม่เท่ากันหรือบางคนที่มี
00:12:05 → 00:12:08 ภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติหรือบกพร่องนะคะก็
00:12:08 → 00:12:11 อาจจะเสี่ยงในการติดเชื้อง่ายขึ้นค่ะแล้ว
00:12:11 → 00:12:13 ก็อาจจะกังวลว่าเราไปกินตัวอื่นมาหรือ
00:12:13 → 00:12:15 เปล่าแต่ว่าในทั้งวันเนี่ยเราลองสังเกต
00:12:15 → 00:12:18 อาการตัวเองว่ากินกับเพื่อนๆแต่เพื่อไม่
00:12:18 → 00:12:20 มีใครเป็นอะไรแต่ตัวเราเองพบว่ามีอาการ
00:12:20 → 00:12:24 มันอาหารเป็นพิษนี่ล่ะค่ะแต่แท้จริงแล้ว
00:12:24 → 00:12:28 ก็เป็นไปได้นะที่มาจากอาหารจานเดียวกัน
00:12:28 → 00:12:31 นี่แหละแต่อีกคนนึงมีภูมิคุ้มกันร่างกาย
00:12:31 → 00:12:34 ของเขาต้านได้ง่ายบางคนก็หายได้เองนะคะ
00:12:34 → 00:12:38 ร่างกายต้านได้หายได้เองแต่บางคนก็พอเจอ
00:12:38 → 00:12:41 แล้วก็อาการหนักอาการรุนแรงเลยค่ะอยากให้
00:12:42 → 00:12:44 คุณหมอฝากถึงผู้ฟังประมาทระวังตัวเอง
00:12:44 → 00:12:46 เกี่ยวกับเรื่องของอาการอาหารเป็นพิษค่ะ
00:12:46 → 00:12:50 จริงๆข้อควรระวังที่อยากจะเตือนก่อนนะคะ
00:12:50 → 00:12:53 ก็คือเวลาอาหารเป็นพิษเนี่ยห้ามกินยาหยุด
00:12:53 → 00:12:55 ถ่ายค่ะเพราะว่าหลักๆของการรักษาอาหาร
00:12:55 → 00:12:58 เป็นพิษเราอยากขับเชื้อออกใช่ไหมคะอยาก
00:12:58 → 00:13:00 ขับสารพิษออกแต่ว่าถ้าเรามีอายุท้ายเนี่ย
00:13:00 → 00:13:03 มันจะทำให้สารพี่ถือว่าเชื้อโรคยังอยู่ใน
00:13:03 → 00:13:05 ตัวเราบางทีจะติดเข้ากระแสเลือดได้และ
00:13:05 → 00:13:09 เสียชีวิตได้ก็คือห้ามทานยาหยุดถ่ายนะคะ
00:13:09 → 00:13:12 อ่ากับอีกอันก็คืออย่าซื้อยาปฏิชีวนะมา
00:13:12 → 00:13:15 รับประทานเองค่ะเพราะว่าบางคนทานผิดทาน
00:13:15 → 00:13:18 ถูกหรือว่าทานๆหยุดหยุดทำให้เชื้อดื้อยา
00:13:18 → 00:13:21 ได้ง่ายอ้ากับบางคนเนี่ยถ้าเป็นอาหารเป็น
00:13:21 → 00:13:24 พิษบ่อยๆแล้วก็กินยาตัวเดิมซ้ำๆบางทีมัน
00:13:24 → 00:13:26 จะมีเชื้อเเบคทีเรียที่เปลี่ยนแปลงไปและ
00:13:26 → 00:13:28 เกิดเป็นเชื้อที่รุนแรงขึ้นอันนี้ก็
00:13:28 → 00:13:30 อันตรายกับชีวิตเหมือนกันเพราะฉะนั้นแนะ
00:13:30 → 00:13:33 นำว่าให้ทานแค่ OS ก็พอค่ะไม่ต้องรีบทาน
00:13:33 → 00:13:37 ยาปฏิชีวนะนะคะค่ะก็สำหรับอาการอาหารเป็น
00:13:37 → 00:13:39 พิษนะคะพูดถึงแล้วเราเป็นเรื่องเล็กๆน้อย
00:13:39 → 00:13:42 ๆไม่น่าจะรุนแรงถึงขั้นต้องมาพบแพทย์ได้
00:13:42 → 00:13:45 แต่ก็เป็นเรื่องที่กังวลใจเหมือนกันนะคะ
00:13:45 → 00:13:47 เป็นทีนึงก็พอระมาณเหมือนอาการอยู่กับ
00:13:47 → 00:13:50 ขึ้นมานั่นเองนะคะเชื่อว่าผู้ฟังหลายทัน
00:13:50 → 00:13:52 ทีเคยมีอาการเหล่านี้จะได้ของแล้วก็โอ๊ย
00:13:52 → 00:13:56 พ่อเป็นทีรุนแรงเลยค่ะคุณหมอมีอะไรอยากจะ
00:13:56 → 00:13:59 ฝากถึงผู้ฟังที่กำลังฟังพอดแคสต์อยู่บ้าง
00:13:59 → 00:14:03 คะอ่ะสิ่งที่อยากฝากนะคะก็วิธีการดูแลตัว
00:14:03 → 00:14:05 เองค่ะต่อเนื่องจากอาหารเป็นพิษก็เกิดจาก
00:14:05 → 00:14:08 ที่เรารับประทานเข้าไปใช่ไหมคะฉะนั้นเรา
00:14:08 → 00:14:10 ต้องดูตั้งแต่กระบวนการรับประทานเลยตั้ง
00:14:10 → 00:14:13 แต่ 1 เลยล้างมือนะคะก่อนหยิบจับรับ
00:14:13 → 00:14:16 ประทานอาหารข้าวผัดตอนต้นนะคะเราจะต้อง
00:14:16 → 00:14:18 ล้างมือให้สะอาดคล้ายๆโควิชเลยค่ะก็คือ
00:14:18 → 00:14:22 ล้างมือบ่อยๆเนอะด้วยน้ำสบู่นะคะแล้วก็ทำ
00:14:22 → 00:14:25 มือให้สะอาดก่อนอ่ะถัดมาก็จะเป็นขั้นตอน
00:14:25 → 00:14:27 ที่เราอาจจะติดเชื้อได้อย่างเช่นภาชนะใน
00:14:27 → 00:14:30 การใส่อาหารนี้ค่ะภาชนะเนี่ยควรที่จะแยก
00:14:30 → 00:14:33 ระหว่างอาหารสดอย่างเช่นเนื้อดิบอะไร
00:14:33 → 00:14:36 เงี้ยนะคะที่ก่อนกรุงกับภาชนะที่ปรุงแล้ว
00:14:36 → 00:14:40 นะคะก็ใช้ภาชนะที่สะอาดนะคะแล้วก็ถัดจาก
00:14:40 → 00:14:42 นั้นก็จะเป็นเรื่องของอาหารแล้วค่ะที่เรา
00:14:42 → 00:14:44 ได้พูดถึงในตอนต้นนะคะว่าอาหารต้องปรุง
00:14:44 → 00:14:48 สุกแล้วก็ใช้อาหารที่สดใหม่นะคะถ้าสมมติ
00:14:48 → 00:14:50 ว่าเป็นอาหารที่เราซื้อมายเช่นเกิน 4
00:14:50 → 00:14:52 ชั่วโมงละอันนี้ถ้าจะรับประทานควรที่จะ
00:14:52 → 00:14:56 อุดซ้ำหาแล้วก็ถ้ารับประทานไปโลชั่นมัน
00:14:56 → 00:14:58 เปลี่ยนแปลงไปอันนี้แปลว่ามันเน่ารักก็
00:14:58 → 00:15:01 ต้องทิ้งเลยนะคะไม่ต้องเสียดายแต่ก่อนรับ
00:15:01 → 00:15:03 ประทานก่อนเลือกซื้ออาหารในก็ต้องดูทั้ง
00:15:03 → 00:15:06 วันผลิตวันหมดอายุทั้งก่อนซื้อและก่อนรับ
00:15:06 → 00:15:09 ประทานทุกครั้งค่ะกับสุดท้ายเลยก็คือ
00:15:09 → 00:15:12 เรื่องของอาหารเป็นที่บางทีจะติดจากแบบ
00:15:12 → 00:15:15 อุจจาระได้นะคะเพราะได้เวลาหลังเข้าห้อง
00:15:15 → 00:15:16 น้ำทุกครั้งก็ควรที่จะล้างมือให้สะอาด
00:15:16 → 00:15:20 เช่นกันขาวันนี้โชคดีมากๆเลยค่ะที่ได้มา
00:15:20 → 00:15:23 พูดคุยกับอาจารย์หมอนะทำให้เราได้เข้าใจ
00:15:23 → 00:15:25 และก็มีความรู้จักกับโลกของอาหารเป็นพิษ
00:15:25 → 00:15:29 มากขึ้นเพื่อที่จะได้นำไปใช้นะคะป้องกัน
00:15:29 → 00:15:32 ตัวเองไม่ให้เกิดเป็นโรคอาหารเป็นพิษนะคะ
00:15:32 → 00:15:34 แล้วก็คอยระมัดระวังในเรื่องของการรับ
00:15:34 → 00:15:37 ประทานให้ดีมากขึ้นกว่าเดิมค่ะสำหรับวัน
00:15:37 → 00:15:39 นี้เวลาหมดแล้วค่ะต้องขอขอบคุณผู้ช่วย
00:15:39 → 00:15:43 ศาสตราจารย์แพทย์หญิงนลินียิ่งชันกุล
00:15:43 → 00:15:46 อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัวชนะ
00:15:46 → 00:15:49 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต้องขอ
00:15:49 → 00:15:53 ขอบพระคุณมากๆเลยนะคะสวัสดีคะค่ะดีค่ะและ
00:15:53 → 00:15:55 ขอขอบคุณผู้ฟังทุกท่านที่อยู่ด้วยกันตรง
00:15:55 → 00:15:58 นี้ค่ะนอกจากนี้นะคะผู้ฟังยังสามารถติด
00:15:58 → 00:16:01 ตามข่าวสารโทรหาป้าเที่ยวศาสตร์
00:16:01 → 00:16:03 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้อีกหลายช่องทาง
00:16:03 → 00:16:06 ค่ะไม่ว่าจะเป็นบนเว็บไซต์ Facebook
00:16:06 → 00:16:10 YouTube Twitter ธนากำ Instagram
00:16:10 → 00:16:13 พอดแคสต์เพียงพิมพ์คำที่ช่องค้นหาว่า
00:16:13 → 00:16:18 med.cmu นะคะ mee D cmu เพียงเท่านี้
00:16:18 → 00:16:20 ค่ะก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
00:16:20 → 00:16:24 อีกมากมายเลยค่ะสำหรับวันนี้นะคะต้องลา
00:16:24 → 00:16:26 ทุกท่านไปก่อนครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไร
00:16:26 → 00:16:31 อย่าลืมติดตั้งนั้นต่อนะคะสวัสดีค่ะเสี่ย
00:16:31 → 00:16:34 ยูพอน Cash ฟังเฟิร์สเฮ้าส์เพราะสุขภาพ
00:16:34 → 00:16:39 ที่ดีเริ่มได้จากตัวเราเอง