00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีค่ะคุณหมอคะสวัสดีครับคุณหมอครับ
00:00:02 → 00:00:05 สวัสดีครับสวัสดีนะครับคุณหมอขอขอบพระคุณ
00:00:05 → 00:00:08 คุณหมอมากๆนะครับที่สละเวลาในยามค่ำคืน
00:00:08 → 00:00:11 แบบนี้มาให้ความรู้กับเรารวมทั้งคุณผู้
00:00:11 → 00:00:14 ฟังด้วยนะครับวันนี้เราคุยกันในเรื่องของ
00:00:14 → 00:00:16 นิ่วในทางเดินปัสสาวะครับคุณหมอครับก่อน
00:00:16 → 00:00:21 อื่นก่อนใดถามก่อนเลยว่าลูกนี้ถือว่ามัน
00:00:22 → 00:00:25 น่ากังวลน่ากลัวขนาดไหนครับในปัจจุบันกับ
00:00:25 → 00:00:28 สถิติที่คุณหมอพอจะมีอยู่ในมือฮะคุณหมอฮะ
00:00:28 → 00:00:33 ค่ะอืมก็เอ่อโรคนิ่วในทางเดือดปัสสาวะก็
00:00:33 → 00:00:36 ถือว่าเป็นเอ่อโรคที่พบได้บ่อยเหมือนกัน
00:00:36 → 00:00:38 นะครับครับเอก็
00:00:39 → 00:00:42 เอ่อความอันตรายของโลกนี้ครับคือมันก็
00:00:42 → 00:00:45 อยู่ที่ว่าถ้าเกิดนิ่วมันเกิดการอุดตัน
00:00:45 → 00:00:48 ท่อไตทำให้ไตมันขับปัสวะไม่ได้เครับมันก็
00:00:49 → 00:00:52 อาจจะทำมีความเสี่ยงทำให้อันตรายไปถึง
00:00:52 → 00:00:56 ขั้นไตวายได้นะครับโอนี่คือเปิดมาก็เรียก
00:00:56 → 00:01:00 ว่าไตวายไตวายซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่ามันทำ
00:01:00 → 00:01:01 อ
00:01:01 → 00:01:07 ิคำว่านิ่ในทางเดินปัสสาวะมันนำไปสู่จุด
00:01:07 → 00:01:10 จุที่จะเป็นเอเขาเรียกว่าเ้าเ้าหลอมใหญ่
00:01:10 → 00:01:14 ของเรื่องของระบบปัสสาวะคือไตทีนี้การจะ
00:01:14 → 00:01:16 เกิดเนี่ยมันคือมันมาจากยังไงอ่ะคะคุณหมอ
00:01:16 → 00:01:20 คะนิ้วเนี่ยมันก็เกิดจากการที่สารในใน
00:01:20 → 00:01:24 ปัสสาวะนะครับมันจับตัวกันเป็นผลึกขึ้นมา
00:01:24 → 00:01:30 อืปกติคือถ้าถ้าเราดื่มน้ำปริมาณพอเหมาะ
00:01:30 → 00:01:32 สมเ่อถ้าเกิดมีผลึกพวกนี้เล็กๆอ่ะครับมัน
00:01:32 → 00:01:35 ก็จะออกไปกับปัสสาวะเราแต่ถ้าเราดื่มน้ำ
00:01:35 → 00:01:39 น้อยปัสสาวะน้อยมันเ่อมันก็การจับผลึกมัน
00:01:39 → 00:01:41 ก็จะเกิดง่ายขึ้นครับแล้วมันก็อาจจะอยู่
00:01:41 → 00:01:45 ในอยู่ในอยู่ในไตเราโดยที่ถ้าเราปัสสวะ
00:01:45 → 00:01:48 น้อยมันก็อาจจะทำให้มีเวลาที่มันโตขึ้น
00:01:48 → 00:01:51 ขึ้นมาได้ครับพอมันโตขึ้นเยอะที่เราขับ
00:01:51 → 00:01:54 เอาไว้ไม่ได้มันก็จะสร้างปัญหาได้เราต้อง
00:01:54 → 00:01:57 นึกภาพของในลำน้ำลำทานอะไรก็แล้วแต่มันก็
00:01:57 → 00:02:00 จะมีกระแสน้ำซึ่งก็เหมือนเหมือนกับเอ่อ
00:02:00 → 00:02:03 ปัสสาวะเนี่ยถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่น้ำมัน
00:02:03 → 00:02:06 น้อยในฤดูแล้งที่อาจจะน้ำแห้งน้ำน้อยมัน
00:02:06 → 00:02:09 ก็จะมีความที่ไม่ใสมันก็ขุ่นใช่มั้ยคะ
00:02:09 → 00:02:12 อย่างงั้นก็จะเป็นก้อนกรวดก้อนอะไรเกิด
00:02:12 → 00:02:15 ขึ้นมานึกถึงตามลำธารนะที่การอาการเกิด
00:02:15 → 00:02:18 กรวดนึกยากหน่อยใช่มั้ยคะนึกยากนิดกำลัง
00:02:18 → 00:02:19 นึกตามอยู่กำลังนึกตามอยู่กำลังนึกตาม
00:02:19 → 00:02:23 อยู่ก็คือก็คือสาเหตุคือการดื่มน้ำน้อย
00:02:23 → 00:02:26 นั่นเองใช่มั้ยคะคุณหมอพูดง่ายๆอืเ่าดื่ม
00:02:26 → 00:02:28 น้ำน้อยก็เป็นสาเหตุหลักอันนึงครับอ่าคุณ
00:02:28 → 00:02:31 หมอแล้วไอ้เจ้าเจ้าผลึกที่ว่าเนี่ยมันมัน
00:02:31 → 00:02:35 มันมันเกิดขึ้นยังไงครับมันมีเป็นปกติ
00:02:35 → 00:02:38 อยู่แล้วหร่ะครับคุณหมอครับอมันมีสารอะไร
00:02:38 → 00:02:41 คะคุณหมอเอ่อจริงๆนิ่วในทางปัสวะมันมันมี
00:02:41 → 00:02:44 หลายชนิดครับแต่ที่พบได้บ่อยที่สุดน่าจะ
00:02:44 → 00:02:48 เป็นเ่อตัวแคลเซียมออกซาเลตครับอืก็คือมี
00:02:48 → 00:02:50 ส่วนประกอบของแคลเซียมเป็นหลักครับ
00:02:50 → 00:02:54 ออกซาเลตแคลเซียมออกซาเลตมันอยู่ในมันมี
00:02:54 → 00:02:56 อยู่แล้วในร่างกายของเราเหรอครับคุณหมอ
00:02:56 → 00:02:59 ครับสังเคราะห์ขึ้นมายังไงคะครับมันก็มัน
00:02:59 → 00:03:02 ก็เ่อมันก็ขึ้นอยู่กับอาหารด้วยครับค
00:03:02 → 00:03:05 อาหารที่อาจจะทำให้เราขับสารพวกนี้ออกมา
00:03:05 → 00:03:08 ในปัสสาวะเยอะคือถ้าเราขับมาในปริมาณที่
00:03:08 → 00:03:10 มันไม่เยอะมันก็อาจจะไม่ได้สร้างปัญหา
00:03:10 → 00:03:13 อะไรถ้าทำมาเยอะมันก็จับกันเป็นผลึกได้
00:03:13 → 00:03:16 ง่ายขึ้นนะครับในคนปกติทั่วไปที่เขาก็ทาน
00:03:16 → 00:03:20 อาหารปกติเขาก็ทานดื่มน้ำปกติ 6-8 แก้ว
00:03:20 → 00:03:22 ต่อวันเขาจะมีโอกาสเกิดโรคนี้มคะเขาไม่
00:03:22 → 00:03:24 ได้ทานน้ำน้อยเลยนะคะสารแคลเซียมออกซาเลต
00:03:24 → 00:03:28 มันจะมีมคะอืจริงๆต้องบอกว่าเอ่อโรคนิ่ว
00:03:28 → 00:03:32 เนี่ยบางส่วนก็มีมีลักษณะที่อ่าบางอย่าง
00:03:32 → 00:03:35 ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่ทำให้อาจจะเป็น
00:03:35 → 00:03:39 เ่าเป็นเป็นคนที่เป็นนิ่วง่ายกว่าคนอื่น
00:03:39 → 00:03:41 เงี้ครับถ้ายิ่งถ้ามีประวัติครอบครัวคุณ
00:03:41 → 00:03:45 พ่อคุณแม่หรืออะไรอย่างงั้นนะครับโอ้โห
00:03:45 → 00:03:49 มันมันมาทางกรพันธ์ได้อีกอืใชครับการ
00:03:49 → 00:03:52 สังเคราะห์ให้เอ่อร่างกายที่ทำให้เกิดสาร
00:03:52 → 00:03:54 นี้มากกว่าคนอื่นอือก็คือหลักๆก็คือมันมา
00:03:54 → 00:03:57 จากเรื่องของการดื่มน้ำใช่มั้ยคุณหมอครับ
00:03:57 → 00:04:00 ดื่มน้ำน้อยก็ใช่เรื่องของพันธุกรรม
00:04:00 → 00:04:03 พันธุกรรมก็ใช่คือถ้ามีคุณพ่อคุณแม่หรือ
00:04:03 → 00:04:05 ว่าญาติพี่น้องอะไรอย่าเงี้ยที่เคยมี
00:04:05 → 00:04:10 ปัญหาเรื่องของนิ่วอเราก็มีโอกาสที่จะสืบ
00:04:10 → 00:04:13 รับอืสิ่งนี้มาได้ใช่มั้ยคุณหมอฮะเรียก
00:04:13 → 00:04:15 เรียกว่าถ้ามีประวัติครอบครัวเนี่ยก็จะทำ
00:04:15 → 00:04:18 ให้เหมือนเอ่อความเสี่ยงที่จะเป็นมันจะ
00:04:18 → 00:04:20 เยอะกว่าคนที่ไม่มีประวัติครอบครัวตรง
00:04:20 → 00:04:24 เนี้ยครับอโอแต่ว่าจริงๆแล้วถึงไม่เคยมีป
00:04:24 → 00:04:26 ครอบครัวเราก็มีโอกาสเป็นได้ถ้าเรามี
00:04:26 → 00:04:30 ปัจจัยเสียงเช่นเราดื่มน้ำน้อยถ้าเรากิน
00:04:30 → 00:04:32 เค็มมีอาหารที่มีโซเดียมเยอะอย่างเงี้ย
00:04:32 → 00:04:35 ครับออืพูดถึงเรื่องของอาหารคุณหมอครับ
00:04:35 → 00:04:39 อาหารแบบไหนชนิดไหนที่ค่ะนำไปสู่การเกที่
00:04:39 → 00:04:43 มันมีโอกาสที่จะทำเออทำให้เราเกิดอเผลึก
00:04:43 → 00:04:45 ไอ้พวกเยมันตกอยู่ในร่างกายของเราได้เยอะ
00:04:45 → 00:04:48 ๆ่ะครับคุณหมอครับเผื่อว่าโหฟังแล้วนี่จะ
00:04:48 → 00:04:52 ได้ไปลดละเลิกคุณหมอฮะหลีกครับจริงๆอย่าง
00:04:52 → 00:04:54 อย่างที่บอกว่านิ่้วมันมีหลายหลายชนิด
00:04:54 → 00:04:58 แล้วนะครับทีนี้เอ่อถ้าจะพูดกว้างๆเรื่อง
00:04:58 → 00:05:01 เรื่องการคุมอาหารให้ให้ลดความเสี่ยงใน
00:05:01 → 00:05:04 การเป็นนิ่วนะครับก็จะต้องบอกว่าเอ่อลด
00:05:04 → 00:05:06 อาหารเค็มเรียงอาหารเค็มนะครับอหารเค็ม
00:05:06 → 00:05:10 มาดก็อาจจะต้องเรื่องอ่าเนื้อสัตว์เนื้อ
00:05:10 → 00:05:13 สัตว์ก็อาจจะอย่ากินเยอะมากกินพอประมาณ
00:05:13 → 00:05:17 อือหือครับโอ้โหงั้นสายชาบู
00:05:17 → 00:05:22 เอ่อหมูกระทะนี่ไม่ไหวเลยนะคะไม่พอประมาณ
00:05:22 → 00:05:25 เลยใช่มั้ยคะคุณหกินโปรตีนจากสัตว์เยอะๆ
00:05:25 → 00:05:27 ก็เพิ่มความเสี่ยงเป็นนิ้วได้เหมือกัน
00:05:27 → 00:05:31 เนื่องจากว่าในในเอ่อเนื้อสัตว์มันมีสาร
00:05:31 → 00:05:33 ที่จะเป็นเหนี่ยวนำให้เกิดตัวนี้ใช่มั้ย
00:05:33 → 00:05:36 คะเรื่องเนื้อสัตว์เนี่ยมันก็มีตั้งแต่
00:05:36 → 00:05:39 อ่ากินเนื้อสัตว์เยอะๆมันก็ทำให้อ่า
00:05:39 → 00:05:42 ปัสสาวะเราเป็นกรดมากขึ้นอ๋อพอปัสสาวะ
00:05:42 → 00:05:45 เป็นกรดมากขึ้นก็เป็นปัจจัยเสี่ยงตัวนึง
00:05:45 → 00:05:48 ของการเกิดนิ่วชนิดนี้เหมือนกันครับอโอ
00:05:48 → 00:05:51 เนื้อสัตว์มันมีส่วนประกอบแบบนั้นเนื้อ
00:05:51 → 00:05:52 ใช่มีเนื้อชนิดไหนมั้ยครับที่มันมีความ
00:05:52 → 00:05:55 สูบเสี่ยงอย่างเนื้อวัวเนื้อหมูเนื้อไก่
00:05:55 → 00:05:57 หรือว่าแต่ละชนิดทุกประเภทมันมีความ
00:05:58 → 00:06:00 เสี่ยงเท่าๆกันหมดเลยครับ
00:06:00 → 00:06:02 หมก็จริงๆถ้าเป็น
00:06:02 → 00:06:06 เอ่อคือเค้าจะใช้คำว่าโปรตีนจากเนื้อ
00:06:06 → 00:06:08 สัตว์ที่ไม่ใช่โปรตีนจากเนื้อสัตว์ครับ
00:06:08 → 00:06:10 มันก็จะเป็นมันก็จะเป็นพวกเนื้อสัตว์พวก
00:06:10 → 00:06:12 เครื่องในพวกอะไรอย่างเงี้ยครับที่ทำให้
00:06:12 → 00:06:15 ทำให้มันอ่ามีความเสี่ยงในการเกิดหิ้ว
00:06:15 → 00:06:21 เครื่องในด้วยครับอือีกอันนึงก็เ่าอาจจะ
00:06:21 → 00:06:24 ทำให้กินเนื้อกินเนื้อเยอะเยอะเนี่ยมันจะ
00:06:25 → 00:06:28 ไปสัมพันธ์กับพวกทำให้มียูริกสูงอ่ะครับ
00:06:28 → 00:06:31 ครับยูริกสูงก็คือตัวเดียวกับเรื่องโรค
00:06:31 → 00:06:33 เก๊าซึ่งยูริกสูงเนี่ยมันก็เป็นความ
00:06:33 → 00:06:36 เสี่ยงของนิ่วเหมือนกันครับอืออเนื้อ
00:06:36 → 00:06:40 สัตว์เป็นตัวนำมาซึ่งเอ่อกรดนะคะในร่าง
00:06:40 → 00:06:44 กายเอ่อยูริกแล้วก็นำสู่เรื่องของนิ่วใน
00:06:44 → 00:06:48 ทางเดินปัสสาวะได้การกินเนื้อให้อยู่ใน
00:06:48 → 00:06:51 ลักษณะพอเหมาะพอควรเนี่ยคุณหมอพอจะบอกได้
00:06:51 → 00:06:56 มว่าใน 1 1 วันในเอ่อ 1 สัปดาห์ควรทาน
00:06:56 → 00:06:58 แค่ไหนอย่างไรคะไม่ควรทานทุกมื้อเลยใช่
00:06:58 → 00:07:01 มั้ยคะคุณหมออจริงๆจริงๆกินทุกมื้อได้
00:07:01 → 00:07:04 ครับมันอยู่ก็ก็อยู่ที่ปริมาณผมว่าถ้าเรา
00:07:04 → 00:07:06 กะเอาเป็นว่าอื
00:07:06 → 00:07:09 เอ่อถ้าถ้าเนื้อสัตว์อาจจะมื้อละประมาณ
00:07:09 → 00:07:12 เท่าฝ่ามือเราอย่างเงี้ยครับก็ถือว่าโอเค
00:07:12 → 00:07:16 ครับอืเท่าฝมือแผแๆแผ่ออกมาเป็นชิ้นนะคะ
00:07:16 → 00:07:18 เท่าฝ่ามือหมายถึงอาจจะเป็นเหมือนอย่าง
00:07:18 → 00:07:21 เช่นอถ้าถ้าแผ่เป็นชิ้นมันก็อาจจะหมายถึง
00:07:21 → 00:07:26 มันจะบางมันบางบางมันจะน้อยครับอืคือถ้า
00:07:26 → 00:07:30 ถามในแง่ของคนที่เชอบทานเนื้ออ่ะอย่างผมเ
00:07:30 → 00:07:33 เออทมากกว่านั้นนะพี่มอผมเวลาไปกินชาบูที
00:07:33 → 00:07:36 คุณหมอครับร้านเชนสุเอ่อช้านเชนพวกชาบู
00:07:36 → 00:07:40 ชื่อดังร้านนึงผมกินทีถ้าเทียบมันเป็น
00:07:40 → 00:07:43 เป็นเป็นถาดอ่ะถ้าเป็นถาดเล็กนะผมก็เคย
00:07:43 → 00:07:47 กินได้มากสุดประมาณ 100 ถาดโอ๊ยโหไม่ไหว
00:07:47 → 00:07:50 อ่ะหมายถึงว่าไอ้เป็นถาดเล็กนะคุณหมอดใช่
00:07:50 → 00:07:53 ถาดเล็กอ่ะผมเคยทำชานตัวเองคุณหมอโอ้ยผม
00:07:53 → 00:07:56 กินที 100 ถาดอ่ะสั่งมาทีละ 10 10 10
00:07:56 → 00:07:58 อ่ะคุณหมอแล้วผมก็กินอย่างเงี้ยมันจะแบ
00:07:58 → 00:08:01 แผะแผแผ่บางนะพี่ว่าคงจะแผ่บางเออผมก็ไม่
00:08:01 → 00:08:03 รู้แต่ผมกินได้ 100 ถาด 100 ถาดเพื่อความ
00:08:03 → 00:08:06 คุ้มค่าคุณหมอในลัทธิของการทานบุฟเฟ่ต์
00:08:06 → 00:08:08 ยุคนี้ใช่แล้วแล้วถ้าผมถามเงี้ยคือในแง่
00:08:08 → 00:08:11 ของคนที่ชอบทานเนื้อมากๆอะไรเงี้ยเนื้อ
00:08:11 → 00:08:14 มากกว่าผักแล้วถ้าผมบอกว่าทำยังไงดีทาน
00:08:14 → 00:08:17 น้ำเยอะเยอะเพื่อที่จะขับไอ้พวกสาอะไร
00:08:17 → 00:08:20 เหล่าเนี้ยใช่มันมันพอจะช่วยได้มั้ยคุณ
00:08:20 → 00:08:23 หมอครับอ่าก็พอจะช่วยได้คือผมกังจะบอกว่า
00:08:23 → 00:08:26 เมื่อกี้เราเราพูดถึงในแง่มุมเดียวคือใน
00:08:26 → 00:08:28 แง่มุมของโปรตีนจากเนื้อสาสตรแต่ว่าเรา
00:08:28 → 00:08:31 พูดถึงเรื่องอื่นครับเช่นถ้าเราจะช่วยลด
00:08:31 → 00:08:34 ความเสี่ยงก็คืออ่าดื่มน้ำเยอะๆดื่มน้ำ
00:08:34 → 00:08:37 เนี่ยจริงๆก็จะแนะนำว่าอย่างน้อยอย่าง
00:08:37 → 00:08:42 น้อยวันละ 2 ลิตรครึ่งครับครับอู้ห 2
00:08:42 → 00:08:46 ลิตรครึ่งก็คือถ้าเป็นขวดเอ่อ 600 ลิตร
00:08:46 → 00:08:49 ขวดไซส์มาตรฐานเนี่ยที่เราดื่มกัน 600
00:08:49 → 00:08:53 มิลลก็ 4 ขวด 4 ขวดสบายๆเออสบายแป๊บเดียว
00:08:53 → 00:08:56 ก็หมดแล้ว 1 ขดเล็กนนะคะใช่ใช่ๆก็คือพอพอ
00:08:56 → 00:08:59 จะทดแทนกันได้ใช่มยครับสำหรับคนที่แบบว่า
00:08:59 → 00:09:01 ได้พวกสายเนื้ออะไรเงี้ยที่ชอบทานเนื้อ
00:09:01 → 00:09:06 อะไรงี้ใช่มั้ยฮะอสายร้อยถาดได้ว่าแต่ว่า
00:09:06 → 00:09:09 จริงๆเรื่องดื่มน้ำเนี่ยมันอ่าจะต้องพูด
00:09:09 → 00:09:11 ถึงอีกเรื่องนึงก็คือการที่สิ่งแวดล้อม
00:09:11 → 00:09:14 ที่เราอยู่นะครับอืคือถ้าเราอยู่ในที่ที่
00:09:14 → 00:09:16 อากาศร้อนอากากาศแห้งเงี้ยครับมันทำให้
00:09:16 → 00:09:19 เราเสียงน้ำไปทาเหเยอะขึ้นเพราะฉะนั้นเรา
00:09:19 → 00:09:23 จะเหลือปัสสาวะน้อยลงถ้าเป็นกรณีนั้นเรา
00:09:23 → 00:09:25 ก็อาจจะต้องดื่มน้ำขึ้นก็ไปอีกให้ให้
00:09:25 → 00:09:28 ปัสสาวะมันเจือจางนะครับอืถ้าอยู่ในห้อง
00:09:28 → 00:09:31 แอร์ก็ว่าไปอย่างคออใช่ๆคุณหมอแล้วเรื่อง
00:09:31 → 00:09:34 ของช่วงวัยเนี่ยมันมีผลต่อการเป็นนิ่วใน
00:09:34 → 00:09:36 กระเพาะปัสสาวะด้วยมั้ยครับในทางเดิน
00:09:36 → 00:09:40 ปัสสาวะด้วยมั้ยฮะค่ะอคือเ่อช่วงอายุที่
00:09:40 → 00:09:43 พบนิ่วเยอะนะครับก็จะอยู่ประมาณ
00:09:43 → 00:09:48 30-60 ปีครับ 30 ถึง 60 ปีเอออยู่ในวัย
00:09:48 → 00:09:52 ทำงานเลยนะคะอืใช่ครับแต่ว่าจะมีพิเศษอีก
00:09:52 → 00:09:55 นิดนึงคือในในคนไข้ผู้หญิงเนี่ยค่ะถ้า
00:09:55 → 00:09:58 ช่วงเ่อช่วงหลัง 60 ปีหลังหมดประจำเดือน
00:09:58 → 00:10:02 ก็อาจจะพบโอกาสเจอนิลได้เยอะขึ้นกว่าตอน
00:10:02 → 00:10:06 ทำไมหมอทำไมต้องเป็นผู้หญิงด้วยคือผู้
00:10:06 → 00:10:08 หญิงในในอายุมากๆเนี่ยก็คือตอนนั้นเหมือน
00:10:08 → 00:10:11 ขาดฮอร์โมนครับตัวตัวฮอร์โมนเอสโตเจน
00:10:11 → 00:10:13 เนี่ยมันก็มีมีผลกับเรื่องเรื่องพวกนี้
00:10:13 → 00:10:16 เหมือนกันครับมันก็ก็จะขาดตัวเอสโตรเจน
00:10:16 → 00:10:19 ซึ่งทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นนิ้ว
00:10:19 → 00:10:21 มากขึ้นเพราะว่าเคยเห็นคนใกล้ชิดนะคะก็
00:10:21 → 00:10:24 คือพี่สาวนี่แหละก็เกิดเกิดนิ้วขึ้นมา
00:10:24 → 00:10:27 แล้วเก็ไปสลายก็คือปัสสวะมีขัดมีอะไร
00:10:27 → 00:10:30 ประมาณนี้ก็ไปตรวจก็เจอก้อนนิ่้วแล้วก็ไป
00:10:30 → 00:10:34 สลายทำการอันซาวแล้วก็แล้วก็หายได้นะคะ
00:10:34 → 00:10:39 คุณหมอออครับออก็คือก็คือออกมาเป็นเป็นวะ
00:10:39 → 00:10:43 ขับออกมาอืไปสลายเป็นเหมือนไปสั่นน่ะไป
00:10:43 → 00:10:46 ใช้ระบบสั่นสะเทือนอ๋ออ๋อแบบนี้การรักษา
00:10:46 → 00:10:48 นี่คือเบื้องต้นใช่มั้ยคะคุณหมออืการ
00:10:48 → 00:10:51 รักษาก็ใช่ครับอันนี้ที่พูดถึงน่าจะเป็น
00:10:51 → 00:10:54 การใช้การสลนิด้วยช็อกเวฟครับอก็คือเป็น
00:10:54 → 00:10:59 ใช้คลื่นความถี่สูงส่งพลังงานเพื่อไปไปทำ
00:10:59 → 00:11:01 ให้นิ่วแตกเป็นเสียเล็กๆให้มันไหลออกมา
00:11:01 → 00:11:04 ง่ายขึ้นกับปัสสาวะนะครับออืเมื่อกี้เรา
00:11:04 → 00:11:06 คุยกันเรื่องของตัวเลขไปแล้วครับคุณหมอ
00:11:06 → 00:11:09 ช่วงอายุก็คือ 30-60 แต่ว่าถ้าเป็นคุณผู้
00:11:09 → 00:11:12 หญิงเนี่ยถ้า 60 ปีขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะ
00:11:12 → 00:11:15 เสี่ยงมากกว่าช่วงก่อนหน้านี้เพะขาด
00:11:15 → 00:11:17 เอสโตรเจนอแล้วเรื่องเพศอ่ะครับคุณหมอ
00:11:17 → 00:11:20 ครับคือถ้าถ้าเป็นช่วง 30-60 ปีมักจะเจอ
00:11:20 → 00:11:23 ในกลุ่มผู้หญิงหรือว่าผู้ชายได้มากกว่า
00:11:23 → 00:11:25 กันฮะคุณหมออเอ่าถ้าเทียบผู้หญิงกับผู้
00:11:25 → 00:11:28 ชายเนี่ยผู้ชายจะพบได้เยอะกว่าครับป่าอัน
00:11:28 → 00:11:30 นี้ก็เคยเจอเหมือนกันคนอยู่ในวัยนี้แหละ
00:11:30 → 00:11:33 เออผู้ชายเป็นนิ่วที่บอกปัสสาวะขัดๆๆกัน
00:11:33 → 00:11:37 เยอะนะเพราะอะไรครับคุณหมอเพราะอะไรหล่ะ
00:11:37 → 00:11:39 ครับถ้าเป็นผู้ชายฮคุณหมอฮะอเรื่องของการ
00:11:39 → 00:11:42 รับประทานเนื้อหรือเปล่าฮะเกี่ยวมั้ยคะเ
00:11:42 → 00:11:44 จริงๆก็ไม่มีข้อมูลว่าผู้หญิงอาจจะรับ
00:11:44 → 00:11:46 ประทานเนื้อเยอะเหมือน
00:11:46 → 00:11:50 กันค่ะอ๋อแต่คือส่วนใหญ่ที่ที่เจอเนี่ยก็
00:11:50 → 00:11:53 คือถ้าอยู่ในวัยนี้ผู้ชายเยอะเป็นผู้ชาย
00:11:53 → 00:11:55 มากกว่าใช่มั้ยครับคุณหมอใช่ครับแล้วมัน
00:11:55 → 00:11:57 จะมีเรื่องของภาวะติดเชื้อในทางเดิน
00:11:57 → 00:11:59 ปัสสาวะเนี่ยมันจะส่งผลให้เราเนี่ยมี
00:11:59 → 00:12:02 ปัญหาเรื่องของนิ่วตามมาได้ด้วยมั้ยฮะ
00:12:02 → 00:12:07 เอ่อได้ครับก็คือว่าเ่อจริงๆมันจะมีเชื้อ
00:12:07 → 00:12:09 เชื้อบางอย่างอ่าบางชนิดนะครับการติด
00:12:09 → 00:12:12 เชื้อทางเดินปัสวะบางชนิดมันจะเป็นตัวที่
00:12:12 → 00:12:14 เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นนิ่วอืได้เหมือน
00:12:14 → 00:12:18 กันครับแต่ว่าส่วนใหญ่แล้วคือถ้าพูดถึง
00:12:18 → 00:12:20 ความสัมพันธ์ระหว่างการติดเชื้อทางเดิน
00:12:20 → 00:12:23 ปัสวะเนี่ยมันมักจะเป็นมักมักจะเป็นตัว
00:12:23 → 00:12:26 ที่นำมาให้คนไข้มาเจอเราว่าเามีนิ้วอยู่
00:12:26 → 00:12:29 อะไรอย่าเงี้ยครับอ๋อเหรอคะครับเหมือนมา
00:12:29 → 00:12:32 ตรวจด้วยมีติดเชื้อทั้งดปัสสาวะแล้วก็ไป
00:12:32 → 00:12:36 ตรวจเจอนิวครับอืมทั้งๆที่เไม่ได้มีอาการ
00:12:36 → 00:12:40 อะไรเลยก็ตรวจเจอได้ด้วยอะไรคะคุณหมอออ
00:12:40 → 00:12:43 คือนิ่วนิ่เนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยถ้าถ้า
00:12:43 → 00:12:46 สมมุติมันเม็ดเล็กๆไม่ได้อุดตันบางทีก็
00:12:46 → 00:12:47 คือไม่มีอาการ
00:12:47 → 00:12:51 ปวใช่ครับก็อาจจะเจอด้วยกันตรวจตรวจ
00:12:51 → 00:12:55 สุขภาพอืตรวจปัสสาวะแล้วอาจจะเจอเลือดปน
00:12:55 → 00:12:57 ในปัสสาวะโดยที่โดยที่เราไม่เห็นเป็นสี
00:12:57 → 00:13:00 แดงออกมาครับคือมันปนมันไม่เยอะอ๋อครับ
00:13:00 → 00:13:03 หรือว่าอุลตร้าซาวหรือเซลเซอร์ก็ได้ครับอ
00:13:03 → 00:13:07 อทีนี้ถ้าเกิดนิ่้วมันขนาดใหญ่มากขึ้นมี
00:13:07 → 00:13:10 มีอุดตันอะไรเงี้ยครับคนไข้อาจจะมาหาเรา
00:13:10 → 00:13:13 ด้วยการที่มีอาการปวดปวดจากการที่นิ่้ว
00:13:13 → 00:13:16 มันอุดตันหรือว่ามีปัสสาวะปนเลือดก็คือคน
00:13:16 → 00:13:19 ไข้เห็นสีแดงปนมาในปัสสาวะเี้ครับก็เป็น
00:13:19 → 00:13:22 อาการนำที่ทำให้มาเจอได้ครับนั่นคือสิ่ง
00:13:22 → 00:13:25 ที่บอกว่ามีอาการเตือนหรือสังเกตได้ก็คือ
00:13:25 → 00:13:28 เรื่องของมีอาจจะมีเลือดปัสสาวะนี่มีสี
00:13:28 → 00:13:32 ที่เปลี่ยนไปใช่มั้ยคะออ่าครับก็อาจจะ
00:13:32 → 00:13:35 เป็นสีสีเหมือนน้ำลำเป็นสีแดงอะไรอย่าง
00:13:35 → 00:13:38 งั้นครับอันนี้คือลักษณะอาการเบื้องต้น
00:13:38 → 00:13:40 ที่ที่ควรจะต้องสังเกตได้ทั้งคุณผู้หญิง
00:13:40 → 00:13:42 แล้วก็คุณผู้ชายเลยใช่มั้ยครับคุณหมอครับ
00:13:42 → 00:13:45 สกใช่ครับอืก็คือสีปัสสวะเนี่ยจะมีความ
00:13:45 → 00:13:48 ผิดปกติสีเหมือนแบบพวกล้างเนื้ออะไร
00:13:48 → 00:13:51 ประมาณนี้อืขุ่นๆหน่อยอล้างเนื้อถ้าเรา
00:13:51 → 00:13:54 ได้ตรวจสุขภาพประจำปีแล้วก็นำปัสสาวะไป
00:13:54 → 00:13:57 ตรวจด้วยเคก็บอกว่าเอ่อสันส่วนประกอบเป็น
00:13:57 → 00:14:00 แบบนี้แบบนี้ไม่มีอะไรผิดปกติปัสสาวะสีใส
00:14:01 → 00:14:02 อะไรอย่าเงี้ยก็คือสบายใจได้ใช่มั้ยคะคุณ
00:14:02 → 00:14:06 หมออ่าส่วนใหญ่ส่วนใหญ่ถ้าถ้าเป็นอย่าง
00:14:06 → 00:14:10 งั้นเนี่ยน่าจะสบายใจได้ครับอืมีอาการนิ
00:14:10 → 00:14:12 มันมักจะทำให้ผลปัสสาวะมันผิดปกติมีเมด
00:14:12 → 00:14:15 เลือดแดงเมดเลือดขาวหรือว่าหรือว่าบางที
00:14:15 → 00:14:17 ก็คือเขาตรวจเจอผลึกนิ่วออกมาในปัสสาวะ
00:14:17 → 00:14:20 เลยก็ได้ครับออืบางคนมีอาการเหมือน
00:14:20 → 00:14:23 ปัสสาวะไม่ออกเนี่ยมันเป็นอาการที่บ่งบอก
00:14:23 → 00:14:25 ได้ด้วยมั้ครับคุณหมอครับที่เาเรียก
00:14:25 → 00:14:29 ปัสสาวะขัดใช่มั้ยคะอือ่าอันถ้าปปัสสวะ
00:14:29 → 00:14:31 ขัดถ้าเป็นจากนิ่วนะครับก็คืออาจจะมีนิ่ว
00:14:31 → 00:14:34 อยู่ในกระเพาะปัสสาวะโอหพอพอเราปัสสาวะ
00:14:34 → 00:14:37 แล้วนิ่วมันก็กลิ้งมาอุดตรงท่อปัสสวะพอดี
00:14:37 → 00:14:41 มันก็เลยทำให้เหมือนปัสวะมันขัดนะครับอื
00:14:41 → 00:14:43 อ๋อนี่คือถ้า้าก็เป็นได้อ๋อเป็นไปได้
00:14:43 → 00:14:46 เหมือนกันคือถ้าถ้าเราแบบว่าเหมือนกับปวด
00:14:46 → 00:14:49 ปัสสาวะอะไรอย่างเงี้ยเวลาไปเข้าห้องน้ำ
00:14:49 → 00:14:52 ละจะไปทำภารกิจถ่ายออกแต่ว่ามันไม่ค่อย
00:14:52 → 00:14:54 ออกสักทีไม่ค่อยออกสักทีเนี่ยก็ค่อให้
00:14:54 → 00:14:56 อนุมานได้ว่ามีโอกาสที่จะเป็นนิ่วเหมือน
00:14:56 → 00:15:00 กันอก็มีโอกาสไม่ควรเบ่งมันเหมือนคล้ายๆ
00:15:00 → 00:15:03 อาการของปัสสาวะเฉพะปัสสาวะอักเสบเนาที่อ
00:15:03 → 00:15:06 ที่ถ่ายไม่สุดสมมุติอนะคะมันจะต้องก็ก็
00:15:06 → 00:15:10 คล้าๆครับคล้าๆมันจะต้องนานขนาดไหนครับ
00:15:10 → 00:15:13 คุณหมอถึงจะต้องไปพบแพทย์ดีกว่าอะไรเงี้ย
00:15:13 → 00:15:18 อืคือจริงๆถ้าถ้าในคนไข้ผู้ชายนะครับในคน
00:15:18 → 00:15:20 ไข้ผู้ชายเนี่ยโอกาสเจอเรื่องทางเดิน
00:15:20 → 00:15:24 ปัสสาวะอักเสบค่อนข้างน้อยเพราะฉะนั้นถ้า
00:15:24 → 00:15:26 เป็นถ้าเป็นผู้ชายเนี่ยครับมีการติดเชื้อ
00:15:26 → 00:15:31 ในทางปัสสาวะก็แนะนำให้ให้ตรวจเลยครับอื
00:15:31 → 00:15:33 ครับส่วนถ้าเป็นคนไข้ผู้หญิงนะครับคนไข้
00:15:33 → 00:15:36 ผู้หญิงเนี่ยอ่าการอักสบติดเชื้อเช่น
00:15:36 → 00:15:38 กระเพาะประสาอักเสบเนี่ยครับในผู้หญิงจะ
00:15:38 → 00:15:42 ถือว่าเป็นเป็นภาวะที่ไม่ได้พบยากนักก็
00:15:42 → 00:15:46 คือเหมือนพบได้ทั่วๆไปใช่พบบ่อยก็ถ้าถ้า
00:15:46 → 00:15:49 เป็นแล้วกินยาแล้วหายอือก็อาจจะยังไม่
00:15:50 → 00:15:53 จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมครับแต่ว่าถ้ากิน
00:15:53 → 00:15:55 ยาแล้วไม่หายหรือว่ากินยาแล้วหายแต่ว่า
00:15:55 → 00:15:59 เป็นซ้ำบ่อยๆเป็นซ้ำบ่อยๆอื
00:15:59 → 00:16:01 เดือน 2 เดือนเป็นอีกแล้วเป็นอีกแล้ว
00:16:01 → 00:16:03 อย่างเงี้ยครับควรควรมาตรวจดูว่าเอ๊ะเรา
00:16:03 → 00:16:05 มีเป็นนิ่้วมั้ยใช่เพราะว่านิ่้วก็เป็น
00:16:05 → 00:16:07 สาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงในการอักเสบติด
00:16:07 → 00:16:10 เชื้อในทางปทางเดินปัสสาวะครับอสำสำหรับ
00:16:10 → 00:16:12 คุณผู้หญิงเพื่อนั้นเตือนกันไว้ว่าถ้า
00:16:12 → 00:16:16 อยู่ในวย 60 ขึ้นถ้าดื่มน้ำให้ได้ยิ่งมาก
00:16:16 → 00:16:19 มากก็คือมากกว่าปกติสัก 20% อย่างเงี้ย
00:16:19 → 00:16:22 น่าจะดีดีกว่าใช่มั้ยคะคุณหมอไม่ต้องไป
00:16:22 → 00:16:24 ห่วงเรืื่องการต้องเข้าห้องน้ำบ่อยมันจะ
00:16:24 → 00:16:26 ช่วยได้เยอะมั้คะเรื่องของการที่ไม่ให้
00:16:26 → 00:16:29 เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะอ่าในทางเดิน
00:16:29 → 00:16:33 ปัสสาวะได้ครับอืครับคือถ้าในคนไข้นิ่ว
00:16:33 → 00:16:36 ส่วนใหญ่ผมจะแนะนำว่าดื่ม 3 ลิตรไปเลยตว
00:16:36 → 00:16:41 อู้แต่ก็เป็นไปได้นะคะเพราะว่า 3 เลด 638
00:16:41 → 00:16:45 64 2 6 5 35 ขวดเล็กมันมันเป็น
00:16:45 → 00:16:47 เรื่องยากมยครับกับคนไทยกับการที่จะต้อง
00:16:47 → 00:16:50 ให้ดื่มน้ำกันเยอะๆขนาดนี้ครับเท่าที่คุณ
00:16:50 → 00:16:53 หมอได้ทำการรักษาหรือว่าดูแลคนไข้มาฮะคุณ
00:16:53 → 00:16:56 หมอครับคนยุโรปไม่ดื่มเหรอ
00:16:56 → 00:17:01 คะก็เอ่อเอ่อจริงๆก็เป็นเป็นเรื่องที่
00:17:01 → 00:17:03 สามารถทำได้นะครับคือต้องบอกว่าส่วนตัว
00:17:03 → 00:17:05 เนี่ยเมื่อก่อนผมก็ดื่มน้ำน้อยครับครับ
00:17:05 → 00:17:09 เออแต่ว่าคนเราจะไม่ค่อยอืดื่มพยายามว่า
00:17:09 → 00:17:13 จะจัดว่าอ่ะตื่นเช้ามาผมจะดื่มเท่านี้ก็
00:17:13 → 00:17:16 ระหว่างวันก็ดื่มไปเรื่อยๆคือการดื่มน้ำ
00:17:16 → 00:17:18 วันละ 2 ลิตรึ่งถึง 3 ลิตรอย่างเงี้ยครับ
00:17:18 → 00:17:21 คืออ่าก็คือให้กระจายทั่วๆไปในใช่คเราจะ
00:17:21 → 00:17:23 ดื่มเป็นช่วงแล้วก็เยอะเยอะไปเลยซึ่งไม่
00:17:23 → 00:17:26 ไม่ถูกต้องใช่มั้ยคะคุณหมอใช่ครับถ้าถ้า
00:17:26 → 00:17:30 ดื่มกระจกระจท่ัจะดีกว่าครับอืตั้งน้ำไว้
00:17:30 → 00:17:33 ที่โต๊ะสมมุติว่านั่งทำงานหรืออาจจะพกติด
00:17:33 → 00:17:37 ตัวนะคะอครับแล้วก็ติดไปเรื่อยๆี้ก็ได้
00:17:37 → 00:17:40 ครับอืนึกได้ก็ดื่มไปเรื่อยๆอืครับเอ่อ
00:17:40 → 00:17:44 คุณหมอครับแล้วถ้ามีอาการทั้งหมดทั้งมวล
00:17:44 → 00:17:48 ที่เราว่ามาเนี่ยฮะเอ่อควรจะต้องไปพบ
00:17:48 → 00:17:51 แพทย์ในทันทีทันใดมั้ครับหรือว่าเราพอจะ
00:17:51 → 00:17:54 ไปหาซื้อยาหยูกยาเนี่ยมาทานเองอะไรอย่า
00:17:54 → 00:17:57 เงี้ยมั้ยฮะปวะอืที่เค้าบอกยาขับปัสาวะ
00:17:57 → 00:17:59 ค่ะคุณหมอ
00:17:59 → 00:18:03 ครับคือผมว่าอ่าก็คือประเด็นมันน่าจะเป็น
00:18:03 → 00:18:07 คือตอนแรกที่ที่เราเป็นแล้วยังไม่ได้ตรวจ
00:18:07 → 00:18:09 ยังไม่ได้ไปตรวจเราก็อาจจะไม่แน่ใจว่าเรา
00:18:09 → 00:18:15 เป็นอะไรกันแน่ครับอมันก็เลยถ้าถ้าเหมือน
00:18:15 → 00:18:18 ถ้าไปตรวจมันก็จะได้รู้ว่าเป็นเป็นอะไรก็
00:18:18 → 00:18:20 จะได้รักษาถูกทางถ้าสมมุติว่ามีอาการ
00:18:20 → 00:18:24 ปัสสาวะไม่ไม่ปกติละติดๆขาดๆเราดื่มน้ำไป
00:18:24 → 00:18:29 ก่อนเราลองดื่มแล้วมันหายอันนั้นก็ก็ช่วย
00:18:29 → 00:18:33 ได้อใช่ครับใช่คะเบื้องต้นแต่ถ้ามันยัง
00:18:33 → 00:18:36 ไม่หายหรือว่ามันมีเอ่อที่คุณหมอบอกว่า
00:18:36 → 00:18:38 ก้อนนิ่วมันไปอุดที่กระเพาะเออาจจะเป็น
00:18:38 → 00:18:41 ก้อนนิ่วแล้วอ่ะก็ควรไปหาหมอเลยอย่าทิ้ง
00:18:41 → 00:18:46 ไว้ถ้าปัสสาวะเป็นสีโดยเฉพาะถ้ามีสีช้ำมี
00:18:46 → 00:18:49 ล้างสีไม่ไม่ใช่สีปกติแล้วน้ำล้างเนื้อ
00:18:50 → 00:18:53 เนี่ยเนื้อหาหมอเลยอืใช่ครับอืเป็นอย่างง
00:18:53 → 00:18:56 นี้นะครับคุณหมออย่าไปอั้นด้วยนะการอั้น
00:18:56 → 00:18:59 ก็เป็นอีกส่วนนึงนะอย่างวิธีการรักษาครับ
00:18:59 → 00:19:01 คุณหมอคือถ้าถ้ารู้สึกว่ามันไม่ไหวะไปหา
00:19:01 → 00:19:04 หมอแล้วก็พบว่าเป็นนิ่วละในทางเดิน
00:19:04 → 00:19:07 ปัสสาวะวิธีการรักษาคุณหมอครับเดี๋ยวนี้ณ
00:19:07 → 00:19:11 ปัจจุบันเนี่ยมันมีหลากหลายรูปแบบหลาก
00:19:11 → 00:19:13 หลายวิธีมั้ยครับเมื่อกี้พูดถึงชอเวฟก่อน
00:19:13 → 00:19:16 ออครับก็ก็มีหลายวิธีครับวิธีแรกก็คือชอก
00:19:16 → 00:19:19 เวฟอย่างที่เราคุยกันไปเมื่อกี้นะครับอ่า
00:19:19 → 00:19:22 วิธีต่อมาก็จะเป็น 2 กล้องอื 2 กล้องเข้า
00:19:22 → 00:19:26 ไปในท่อปัสสวะนะครับอแล้วก็เอาอาจจะเอา
00:19:26 → 00:19:30 เลเซอร์ไปยิงนิ่วให้มันแตกเป็นผงครับหรือ
00:19:30 → 00:19:32 ว่าถ้าเป็นนิ่้วที่ไตเนี่ยก็จะมีอีกวิธี
00:19:32 → 00:19:36 ก็คือเจาะเจาะเข้าไปตรงด้านหลังหรือด้าน
00:19:36 → 00:19:38 ข้างนะครับเข้าไปที่ไตแล้วก็เอากล้องเข้า
00:19:38 → 00:19:41 ไปกรอนิ่วออกมาครับออือคุณหมอจะรู้เอ่อ
00:19:41 → 00:19:45 ขนาดของก้อนนิ่วก่อนที่จะทำวิธีใดๆใช่
00:19:45 → 00:19:48 มั้ยคะคุณหมอใช่ครับก็คืออ่าขนาดและ
00:19:48 → 00:19:50 ตำแหน่งของนิ้วเนี่ยก็จะเป็นเป็นปัจจัย
00:19:50 → 00:19:54 ที่อ่าส่งผลต่อการตัดสินใจว่าจะเลือกวธี
00:19:54 → 00:19:57 ลักษาวิธีไหนครับอแล้วก็แต่ถ้านิ้วที่มัน
00:19:57 → 00:20:00 เล็กมากๆบางทีเราก็อาจจะให้กินยาเพื่อให้
00:20:00 → 00:20:03 คนไข้ปัสสาวะออกมาอครับคือค่าเฉลี่ยของ
00:20:03 → 00:20:07 ตัวเจ้าก้อนนิ่วเนี่ยคุณหมอครับมันจะอยู่
00:20:07 → 00:20:09 ที่ประมาณักักใหญ่กันแค่ขนาดไหนครับเผื่อ
00:20:09 → 00:20:12 ว่าใครที่โอเคเคยได้ยินแหละแต่ว่าอาจจะ
00:20:12 → 00:20:15 นึกภาพไม่ออกว่าเอ่อก้อนหิเนี่ยเออมันจะ
00:20:15 → 00:20:17 อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่อะไรเงี้ยฮะคุณหมอ
00:20:17 → 00:20:20 ฮะออจริงๆมันก็เจอได้ตั้งแต่เล็กๆยังไม่
00:20:20 → 00:20:24 ถึงเซ็นครึ่งประมาณ 5 มม 4 มมอย่างงี้ก็
00:20:24 → 00:20:27 เจอได้ครับพวกเนี้ยบางทีคนไข้ก็จะปัสสาวะ
00:20:27 → 00:20:29 ออกมาแล้วเอามาให้เราดูดูว่ามีนิ่้วออกมา
00:20:29 → 00:20:34 อย่าเงี้ยครับอุส่วนถ้านิ่้วที่ใหญ่เก่งอ
00:20:34 → 00:20:37 สามารถนำมาให้คุณหมอดูได้ด้วยนที่ใหญ่มัน
00:20:37 → 00:20:40 ก็เจอได้หลายขนาดเหมือนครับบางคนเป็นเยอะ
00:20:40 → 00:20:44 คือเป็นเป็นเต็มทั้งไตเลยก็มีครับอื้อหือ
00:20:44 → 00:20:47 โอ้โหคือคือไอ้พวกก้อนๆมันมันผ่านออกมา
00:20:47 → 00:20:51 ยังไงเนาะเออมันมันออกมามันใหญ่อ่ะคือถ้า
00:20:51 → 00:20:53 ถ้าเป็นทั้งไตก็คือมันมันค้างอยู่ข้างใน
00:20:53 → 00:20:57 ไตครับอืเราก็ต้องมาประเจาะกรอดูดออกมา
00:20:57 → 00:21:00 ครับคือถ้าอย่างผมนึกภาพจินตนาการไม่ออก
00:21:00 → 00:21:03 จริงๆคุณหมอคือถ้าเป็นก้อนเล็กๆเนี่ยที่
00:21:03 → 00:21:06 คุณหมอบอกว่าเขาเอามาให้คุณหมอดูได้เนี่ย
00:21:06 → 00:21:11 คือมันจะสามารถออกมาเวลาเราปัสสาวะใช่
00:21:11 → 00:21:13 ทั้งคุณผู้หญิงแล้วก็คุณผู้ชายเลยเหรอฮะ
00:21:13 → 00:21:15 คุณหมอฮะใช่ครับใช่
00:21:15 → 00:21:18 ครับเป็นเม็ดๆเลยเหรอฮะใช่ครับเป็นเป็น
00:21:18 → 00:21:20 เม็ดเหมือนเหมือนกรวดอะไรอย่าเงี้ยค
00:21:20 → 00:21:23 เหมือนกรวดๆเล็กๆครับอุ้ยกรวดกรวดใหญ่ๆใน
00:21:23 → 00:21:26 ในทรายในกองทรายสมมุติโอประทานโทษครับคุณ
00:21:26 → 00:21:29 หมอแบบนี้มันไม่เจ็บแย่คณหมอครับมันจะ
00:21:29 → 00:21:31 เสียงดังเมื่อกระทบกับเออมันจะเป็นยังไง
00:21:31 → 00:21:34 ครับคุณหมอครับกับโถปัสสาวะเลยนะคุณหมออื
00:21:34 → 00:21:37 ครับคนไข้บางคนบอกว่าคือคนไข้ที่นิ่้วเ
00:21:37 → 00:21:39 เล็กๆแล้วผมให้ยาไปกินอย่างเงี้ยนะครับ
00:21:39 → 00:21:42 เวลากลับมาแล้วเอ่อเขาบอกว่าบางคนก็จะ
00:21:42 → 00:21:46 เก็บนิ่วมาให้ดูบางคนก็บอกว่าไม่เห็นแต่
00:21:46 → 00:21:49 ว่าได้ยินเสียงมันกระแทกโถนแก๊กอย่าง
00:21:49 → 00:21:52 เงี้ยครับนัมันต้องเป็นก้อนกรวดอ่ะครับ
00:21:52 → 00:21:56 แล้วเเจ็บมั้ยคะคุณหมอก็มีแป๊บๆก็จะมีแบบ
00:21:56 → 00:21:59 เหมือนบอกว่าปัสวะคุณใจะบอกว่าปัสสวะมัน
00:21:59 → 00:22:04 แสบๆขัดๆหน่อยช่วงที่มันจะออกมานะครับคือ
00:22:05 → 00:22:07 เวลาอคือธรรมชาติอ่ะมันก็จะขับสิ่งพวกนี้
00:22:07 → 00:22:12 ออกมาอยู่ที่ว่าออเวลาออกมาออกมาเราจะ
00:22:12 → 00:22:15 เก็บกันไหวเยอะขนาดไหนฮคุณหมอครับเยอะ
00:22:15 → 00:22:18 มั้ยฮะถ้าอย่างอย่าอย่างคนปกติทั่วไปที่
00:22:18 → 00:22:21 แบบอาจจะไม่ได้อาจจะไม่ได้แบบว่าเต็มเต็ม
00:22:21 → 00:22:25 ไตอะไรอย่างเงี้ยคุณหมอฮะอืคือคือส่วน
00:22:25 → 00:22:28 ใหญ่คนที่เจอนิ่วเนี่ยอ่ามักจะไม่ได้มี
00:22:28 → 00:22:31 นิ่วเยอะอะนะครับเพราะฉะนั้นเวลาที่มัน
00:22:31 → 00:22:34 ออกมาก็อาจจะทีละเม็ด 2 เม็ดอะไรเงี้ย
00:22:34 → 00:22:37 ครับหรือคนไขบางคนเนี่ยเขาบอกว่าเค้าศวะ
00:22:37 → 00:22:39 แล้วมีนิ่วหลุดออกมาเรื่อยๆมาหลายปีแล้ว
00:22:39 → 00:22:42 มานานแล้วอะไรเงี้ยครับก็คือเหมือนพอเป็น
00:22:42 → 00:22:45 นิ่วแล้วมันหลุดสักพักก็เป็นใหม่แล้วก็
00:22:45 → 00:22:49 หลุดไปใหม่อะไรอย่าเงี้ยครับอืคืออือๆ
00:22:49 → 00:22:52 อย่างกรณีที่จะต้องถึงขั้นผ่าตัดนะครับ
00:22:52 → 00:22:56 คุณหมอคือเื่อถึงจุดไหนชเวก็ไม่ได้ไปเจาะ
00:22:56 → 00:23:00 ดูก็เอาไม่ไหวผ่าตัดนี่มันต้องต้องต้อง
00:23:00 → 00:23:03 หนักจริงๆหนักที่สุดเลยใช่มั้ครับคุณหมอ
00:23:03 → 00:23:06 หรือยังไงเอ่ยอ่าถ้าถ้าพูดถึงการผ่าตัด
00:23:06 → 00:23:09 เปิดเพื่อไปไปกรีดไปเพื่อควักนิ่้วออกมา
00:23:09 → 00:23:11 อันนั้นก็ถือว่าเป็นเรียกว่าเป็นการรักษา
00:23:11 → 00:23:15 ที่ที่สำรองไว้สำหรับคนที่ที่เป็นเยอะจน
00:23:15 → 00:23:20 ไอ้วิธีพวกวิธีพวกที่ว่าบาดเจ็บหน่อส่อง
00:23:20 → 00:23:22 กล้องหรือว่าเจาะแล้วมันมันไม่ไม่ไม่
00:23:23 → 00:23:25 ประสบผลสำเร็จเครับมีเยอะมั้ยคะคนที่ต้อง
00:23:25 → 00:23:28 ผ่าแบบนี้อ่าเดี๋ยวเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อย
00:23:28 → 00:23:33 เยอะครับอืออมีการวิธีที่จะทำให้นิ้วสลาย
00:23:33 → 00:23:37 ออกไปก่อนได้ครับแสดงว่าเคถ้าคนที่ก้อน
00:23:37 → 00:23:40 ใหญ่ขนาดนี้เต้องทนทรมานนานเลยใช่มั้ยคะ
00:23:40 → 00:23:44 คุณหมอกว่าถึงจะมารู้ตัวว่าจะต้องทำการ
00:23:44 → 00:23:47 ผ่าตัดคือคือคนไข้บางคนที่นิ่้วใหญ่ๆ
00:23:47 → 00:23:49 เนี่ยครับคือว่าเหมือนตรวจเจอโดยบังเอิญ
00:23:49 → 00:23:53 นะครับอ๋อคือว่าไม่มีอาการอะไรเลยแต่ว่า
00:23:53 → 00:23:57 เเรเจอไม่รู้ออก็เลยได้ก็เลยได้ส่งตัวมา
00:23:58 → 00:24:00 เจอผมเงี้ยครับแต่ก็ไม่ปวดปัสสาวะไม่มี
00:24:00 → 00:24:04 อะไรก็ก็เจอได้บ้างครับที่ว่าใหญ่อ่ะคุณ
00:24:04 → 00:24:07 หมอครับที่แบบว่าใหญ่สุดถึงก็ต้องผ่าตัด
00:24:07 → 00:24:11 ใช่ๆอยากจะให้ลองให้ผมรวมทั้งคุณผู้ฟังใน
00:24:11 → 00:24:13 จินตนาการสักนิดนึงเส้นผ่าศูนย์กลางมัน
00:24:13 → 00:24:16 เบอร์ไหนมันใหญ่เท่าเท่าขนาดไหนที่พอจะ
00:24:16 → 00:24:19 แบบให้เห็นภาพว่าโอ้โหก้อนนิ่วก้อนมันไป
00:24:19 → 00:24:22 สะสมอยู่ในไตอะไรอย่างเงี้ยคุณหมอฮะออคือ
00:24:22 → 00:24:26 ถ้าถ้าในไตถ้านิ้วที่อยู่ในไตแล้วมันเต็ม
00:24:26 → 00:24:30 ไตนะครับมันจะเป็นมันจะเป็นกิ่งตามกรวยไต
00:24:30 → 00:24:33 อ่ะครับมันจะไม่ได้เป็นเม็ดกลมๆอ๋ออัน
00:24:33 → 00:24:36 นั้นอยู่ในไตครับบางทีเขาจะเรียกว่านิ่ว
00:24:36 → 00:24:38 เขากวางเพราะว่ามันเป็นมีหลายๆแฉกอ่ะนะ
00:24:38 → 00:24:42 ครับอูแต่ถ้านิ่วในกระเพาะปัสสาวะเนี่ย
00:24:42 → 00:24:46 มันก็จะเป็นก้อนกลมๆกลมๆใหญ่ๆหมายถึงอ่า
00:24:46 → 00:24:48 ถ้าถ้ามันอยู่นานๆมันก็จะใหญ่นะครับใหญ่
00:24:48 → 00:24:52 เป็นเท่ากำปั้นก็ก็มีครับอุ้ยใหญ่เท่า
00:24:52 → 00:24:55 กำปั้นเหรอครับคุณหมอครับใช่ครับเ็นน่ะ
00:24:55 → 00:24:58 ว่าเท่าไข่เท่าอะไรอย่างเงี้ยแบบนี้นี่
00:24:58 → 00:25:02 มันจะมันจะส่งผลกันขนาดไหนบ้างครับถ้า
00:25:02 → 00:25:04 ปล่อยให้มันแบบใหญ่เท่ากำปั้นขนาดนั้นน่ะ
00:25:04 → 00:25:09 คุณหมอฮะครับก็จะทำให้มีอ่าเรื่องการ
00:25:09 → 00:25:11 ปัสสาวะติดขัดครับอืแล้วก็อาจจะรู้สึก
00:25:12 → 00:25:14 เหมือนปัสสาวะไม่้สูดปัสสาวะเจ็บอะไร
00:25:14 → 00:25:17 อย่างเงี้ยครับทรมานน่ะเคุณหมอเคยเจอเคส
00:25:17 → 00:25:21 ขนาดนี้มั้ยครับอือออเคยเคยเจอครับเจอก็
00:25:21 → 00:25:24 เจอหลายหลายคนอยู่ครับแล้วเมื่อผ่าตัด
00:25:24 → 00:25:27 เมื่ออะไรแล้วเหายได้หายขาดเลยมั้ยคะคุณ
00:25:27 → 00:25:31 หมอหายหายได้ครับอแต่ว่าเราก็คือพอหาย
00:25:31 → 00:25:34 แล้วเนี่ยก็ต้องก็ต้องปรับพฤติกรรมก็คือ
00:25:34 → 00:25:36 อาจจะต้องดื่มน้ำให้เยอะเลี่ยงอาหารเค็ม
00:25:36 → 00:25:39 ตามคุมอาหารตามที่บอกอนะครับมันก็จะช่วย
00:25:39 → 00:25:41 ลดความเสี่ยงในการที่จะนิ่วนิ่้วมันจะ
00:25:41 → 00:25:44 เกิดกับเป็นซ้ำขึ้นมาได้ครับครับคือคนที่
00:25:45 → 00:25:48 คุณหมอไปเจอแบบว่าก้อนนิ่วเนี่ยใหญ่แบบ
00:25:48 → 00:25:52 ขนาดเบอ์นั้นน่ะอเอ่อส่วนใหญ่ที่เจอฮะ
00:25:52 → 00:25:56 พฤติกรรมที่นำไปสู่ก้อนนิ่วเบอ์ใหญ่ขนาด
00:25:56 → 00:25:58 นั้นน่ะมันมาจากจากอะไรซะส่วนใหญ่นะคุณ
00:25:58 → 00:26:01 หมอออถ้าถ้าเป็นนิ่้วในกระเพาะปัสวะที่
00:26:01 → 00:26:04 ใหญ่ๆเนี่ยครับส่วนใหญ่จะเจอในคนไข้ผู้
00:26:04 → 00:26:07 ชายอายุมากๆที่เป็นที่มีปัญหาเรื่องต่อม
00:26:07 → 00:26:10 ลูกหมากโตต่อมลูกหมากโตครับต่อมลูกหมากโต
00:26:10 → 00:26:13 ก็คือทำให้อ่าปัสสาวะออกไม่ดีบางบางคนก็
00:26:13 → 00:26:15 คือออกยากจนปัสวะมันเหลือค้างในกระเพาะ
00:26:16 → 00:26:19 ปัสวะเยอะอ่ะครับตมลูกหมากอืก็คือต้อง
00:26:19 → 00:26:22 เป็นต้องเป็นคนที่อายุค่อนข้ามีอายุมั้ย
00:26:22 → 00:26:25 ฮะใช่ครับส่วนใหญ่ต่อำลุหักโตก็จะเจอใน
00:26:25 → 00:26:29 ผู้ชายอายุมากๆพอปมันค้างเยอะมันก็เลยทำ
00:26:29 → 00:26:34 ให้มันจับเป็นผลึกแล้วมันก็เกาะเป็นนิ่ว
00:26:34 → 00:26:36 ขึ้นมานะครับ
00:26:36 → 00:26:40 โอเป็นอย่างงี้เป็นอย่างงี้นี่เองเออใช่อ
00:26:40 → 00:26:43 ฟังๆังดูแล้วเมื่อเราได้รับการรักษาไปตาม
00:26:43 → 00:26:46 เอ่อวิธีของเขาคทั้งการช็อกเวฟไปจน
00:26:46 → 00:26:49 กระทั่งถึงการผ่าตัดแล้วเาก็หายได้นะคะ
00:26:49 → 00:26:52 เรื่องของนิ่วในทางเดินปัสสาวะเนี่ยมี
00:26:53 → 00:26:55 ขั้นที่แบบเป็นอีกแล้วอันตรายไปสู่อะไร
00:26:55 → 00:26:59 ที่ร้ายแรงที่สุดได้บ้างมั้ยครับเหรอคะอื
00:26:59 → 00:27:02 ที่ร้ายแรงที่สุดเ่อสำหรับนิ่วเนี่ยผมมอง
00:27:02 → 00:27:05 ว่าน่าจะเป็นเรื่องเรื่องไตวายนะครับเออ
00:27:06 → 00:27:09 ที่คุณหมอได้บอกเอาไว้ตอนต้นใช่ครับอืแต่
00:27:09 → 00:27:14 แต่ว่าเอ่อคนไข้ที่จะเป็นนิ่วแล้วคือคือ
00:27:14 → 00:27:16 ถ้าเป็นนิ่วแล้วมันจะส่งผลให้ไตวก็คือมัน
00:27:16 → 00:27:20 อุดตันจนไตมันขับบัซไม่ได้นะครับอืแต่ว่า
00:27:20 → 00:27:23 ส่วนใหญ่คนไข้ที่จะเป็นอย่างนั้นจนจนไ
00:27:23 → 00:27:26 วาายเนี่ยก็ไม่ได้เจอเยอะครับเพราะว่าคน
00:27:26 → 00:27:29 ไข้ส่วนใหญ่ก็จะมาเพราะมีอาการเบื้องต้น
00:27:29 → 00:27:31 อยู่แล้วเราก็จะรักษาก่อนที่มันจะถึงจุด
00:27:31 → 00:27:34 นั้นนะครับอือครับแต่ว่ายกเว้นบางคนที่
00:27:34 → 00:27:37 ที่ผมบอกว่าคนค่อยไม่มีอาการเลยแต่ว่า
00:27:37 → 00:27:41 ตรวจเจอนิ่วเฉยๆบางคนก็คือเป็นนิ่วอุดจน
00:27:41 → 00:27:43 ไตมันวายข้างนั้นมันวายไปแล้วเหลืออีก
00:27:43 → 00:27:46 ข้างนึงที่ทำงานอยู่ปกติอย่างเงี้ยครับก็
00:27:46 → 00:27:51 มีเจอได้บ้างครับออมันก็พร้อมจะมีได้บ้าง
00:27:51 → 00:27:54 นะก็ระมัดระวังกันใช่เออตั้งแต่เริ่มของ
00:27:54 → 00:27:56 ปัสสาวะขัดตั้งแต่เริ่มของเอ๊ะเรากินเค็ม
00:27:56 → 00:27:58 มั้ยเรากินน้ำน้น้ไม้เราเป็นผู้อยู่ใน
00:27:58 → 00:28:01 กลุ่มเสี่ยงไม้แล้วก็มันมีบอกกันไว้ด้วย
00:28:01 → 00:28:03 ว่าเอ่ออย่างที่คุณหมอบอกว่าแคลเซียม
00:28:03 → 00:28:07 ออกซาเลตมันทำให้เกิดตรงนี้แล้วก็มันมี
00:28:07 → 00:28:10 อาหารบางอย่างด้วยเช่นลูกเนียงอะไรอย่าง
00:28:10 → 00:28:14 งี้ใช่มั้ยคะคุณหมอยอดเอ่อของผักเงี้ยบาง
00:28:14 → 00:28:17 คนบอกอย่าไปกินยอดผักนะเดี๋ยวจะเป็นเป็น
00:28:17 → 00:28:20 นิ่วในกระพปัสสาวะนิ่วเป็นไตไม่ดีอย่าง
00:28:20 → 00:28:23 เงี้ยค่ะครับถ้าพวกยอดผักเนี่ยก็อาจจะ
00:28:23 → 00:28:26 เกี่ยวกับพวกเรื่องยูริกอ่ะครับเรื่องกรด
00:28:26 → 00:28:29 ยูริกสูงอครับครับส่วนถ้าอาหารอย่างอื่น
00:28:29 → 00:28:32 ถ้าพูดถึงเรื่องนิ่วจะมีจะพูดถึงอาหารที่
00:28:32 → 00:28:37 ออกซาเลตสูงครับเช่นอ่าช็อกโกแลตอืพวก
00:28:37 → 00:28:41 ถั่วหึอุ้ยไม่รู้เลยอ่ะคุณหมอพวกชาครับถ
00:28:41 → 00:28:45 ชาดืมเยอะๆถเออหรือว่าถั่วลิสงนี่เมีมั้ย
00:28:45 → 00:28:50 คะเเถั่วรสงคือถั่วถ้ากินเยอะๆมันก็น่าจะ
00:28:50 → 00:28:53 ส่งผลคำว่าเยอะนี่แค่ไหนคุณหมอ
00:28:53 → 00:28:58 เอ่อกินทุกวันทุกวันแต่ถ้าเรากินปริมาณ
00:28:58 → 00:29:01 ไม่เยอะมันก็ไม่เป็นไรครับออืกินกันแค่พอ
00:29:01 → 00:29:05 ประมาณสมมุติว่าถั่วถุงนึงถุงประมาณคุณ
00:29:05 → 00:29:08 กินถุงละ 10 บาทก็พอคุณไม่ใช่ไปกินถุงละ
00:29:08 → 00:29:11 99 บาทเอ 40 ถุง 40 ไม่ได้เลยโห 40 ก็
00:29:11 → 00:29:13 เยอะนะอ่านั้นเยอะต้องแบ่งกใหญ่นะเคบอก
00:29:13 → 00:29:15 ว่าให้แบ่งกินหลายโหนเออค่อนข้างใหญ่อยู่
00:29:15 → 00:29:17 กิน 10 10 บาทไม่เป็นไรใช่มเออถึงว่า 10
00:29:17 → 00:29:20 บาทอ่ะพอได้อยู่ผมว่านะโอ้ยไม่ไหวคืออยาก
00:29:20 → 00:29:24 กินอะไรเยอะมากอ่ะเออใช่เรียกเรียกว่ากิน
00:29:24 → 00:29:27 ให้สมดุลน่าจะดีกว่าครับอคุณหมอพอดีสด
00:29:27 → 00:29:30 เยอะก็จะมีมีบีดรูหรือว่าพวกปวยเล้งอีก
00:29:30 → 00:29:34 ครับอ๋อพวกนี้ก็ก็ก็โอ้โหปวยเล้งนี่ถ้า
00:29:34 → 00:29:36 มันมันไม่ได้มีบ่อยแต่ถ้าเจอนี่ทานอย่าง
00:29:36 → 00:29:40 มากเลยเออส่วนใหญ่พวกซุกกี้รู้เลยว่าสารเ
00:29:40 → 00:29:43 เข้มข้นเอ๋อๆใช่ก็ก็นั่นแเ่าหลักๆคือ
00:29:44 → 00:29:47 พยายามกินให้มันสมดุลอืแต่เราไม่ได้ทาน
00:29:47 → 00:29:50 บ่อยค่ะครับคุณหมอพอดีมีคำถามจากทางบ้าน
00:29:50 → 00:29:54 ถามมาครับเรื่องของเอ่ออุปกรณ์ที่ใช้ใน
00:29:54 → 00:29:57 การต้มน้ำหม้อต้มน้ำร้อนไฟฟ้าที่มันเป็น
00:29:57 → 00:30:00 สแตนเลสครับมันมักจะมีพวกตะกอนสีขาวๆผงๆ
00:30:01 → 00:30:03 หรือเเรียกว่าตะกันอะไรอย่างงี้ฮะมันเป็น
00:30:03 → 00:30:06 ตัวที่ก่อให้เกิดนิ่วได้มครับคือถ้าเรา
00:30:06 → 00:30:10 ต้มไปเรื่อยๆโดยที่อาจจะละเลยไม่ได้ทำ
00:30:10 → 00:30:13 ความสะอาดมันเลยเนี่ยก็ 5 ปี 6 ปีก็ต้ม
00:30:13 → 00:30:15 มันไปอย่างงั้นต้มไปเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆ
00:30:15 → 00:30:18 เงี้ยแล้วกดน้ำมากินเนี่ยมันมีโอกาสทำให้
00:30:18 → 00:30:21 เกิดนิ่้วได้ด้วยมยครับอ๋อเห็นตะกันในน้ำ
00:30:21 → 00:30:25 ใช่ๆๆๆอตรงตรงนี้เนี่ยไม่น่าจะส่งผลทำให้
00:30:25 → 00:30:28 เกิดนิ่วนะครับครับเ่อจริงๆเรื่องน้ำ
00:30:28 → 00:30:31 เนี่ยหปัจจัยหลักอยู่ที่ปริมาณมากกว่า
00:30:31 → 00:30:35 ครับครับครับเรื่องเ่อเรื่องเหมือนพวกน้ำ
00:30:35 → 00:30:38 บาดาลอะไรพวกเนี้ยไม่ไม่ได้ให้เกิดนิ่ว
00:30:38 → 00:30:43 มากกว่าน้ำปกติอ่ะครับออืคือค่อนข้างที่
00:30:43 → 00:30:46 จะให้ความควรจะต้องให้ความสำคัญกับปริมาณ
00:30:46 → 00:30:50 ที่ดื่มในแต่ละวันมากกว่าใช่ครับอืครับๆๆ
00:30:50 → 00:30:53 ได้คุณหมอมีคำถามเพิ่มเติมจากทางบ้านด้วย
00:30:53 → 00:30:58 ครับว่าท่านนี้ถามมาว่าผมปัสสาวะทั้งวัน
00:30:58 → 00:31:05 เลยเพราะว่าผมกินพวกกาแฟนะกินโกโก้กินเอ
00:31:05 → 00:31:06 น้ำ
00:31:06 → 00:31:09 เอ่อนมถั่วเหลืองอ่านมถั่วเหลืองแล้วก็
00:31:09 → 00:31:12 ทานน้ำเนี่ยอย่างต่ำวันละ 2 ลิตรเมื่อไป
00:31:12 → 00:31:14 ตรวจค่า
00:31:14 → 00:31:20 egfr ได้ 1.43 ถือว่าดียครับคุณหมอครับ
00:31:20 → 00:31:25 egfr อันนี้น่าจะเป็นคือถ้าคาด egfr มัน
00:31:25 → 00:31:27 น่าจะเป็นไม่น่าจะเป็น 1.4 ครับครับอัน
00:31:27 → 00:31:31 นี้อาไม่แน่ใจว่าเป็นตัวอาจจะผิดมาใช่มั้
00:31:31 → 00:31:34 อาจจะคนละตัวกันใช่มั้คุณหมค่า egfr คือ
00:31:34 → 00:31:36 ค่าอะไรครับคุณหมอครับอ่าเผื่อว่าใครอาจ
00:31:36 → 00:31:39 จะสงสัยอยู่ครับคุณหมอฮค่า GFR ก็เป็นค่า
00:31:39 → 00:31:42 ที่บอกเราถึงประอ่าเหมือนเป็นอัตราการ
00:31:42 → 00:31:47 กรองของไตอ่ะครับถ้าตัว GFR เนี่ยถ้าคน
00:31:47 → 00:31:51 ปกติเนี่ยจะ 90 ขึ้นไปมากกว่า 90 ก็ถือ
00:31:51 → 00:31:54 ว่าปกติอ๋อน้อยกว่า 90 เนี่ยก็คืออาจจะ
00:31:54 → 00:31:57 เริ่มมีเหมือนการกรองของไตที่มันน้อยกว่า
00:31:57 → 00:31:58 กว่าปกติ
00:31:58 → 00:32:02 egfr อ๋อเดี๋ยวเราต้องไปดูก็คือถ้าผลค่า
00:32:02 → 00:32:05 egfr ต่ำเค้าก็จะแบ่งเป็นระยะเหมือนเจะ
00:32:05 → 00:32:07 เรียกว่าเป็นไตเสื่อมระยะ 1 ระยะ 2 ระยะ 3
00:32:08 → 00:32:11 อะไรอย่างเงี้ครับอ๋อไอ้ผลอันเนี้ยเนี่ย
00:32:11 → 00:32:13 คือเวลาเราไปตรวจสุขภาพประจำปีเนี่ยมันจะ
00:32:13 → 00:32:15 มีบอกด้วยมั้ยครับคุณหมออันนี้เป็นค่าที่
00:32:15 → 00:32:19 ผมเพิ่งจะเคยได้ยินเลยครับคุณหมอครับมีๆ
00:32:19 → 00:32:21 มีใช่มั้ยฮะมีค่ะแต่เราไม่ได้สังเกตมีบอก
00:32:21 → 00:32:23 ครับมันมีบอกไม่ได้สังเกตเลยเออมันจะมี
00:32:23 → 00:32:26 ค่าละเอียดส่วนใหญ่ก็จะไปให้ความสำคัญกับ
00:32:26 → 00:32:29 พวกคอเลสเตอรอลไขมันน้ำตี้มากกว่าคือ
00:32:29 → 00:32:31 จำเป็นควรจะต้องดูใช่มคุณหมอครับไอ้พวก
00:32:31 → 00:32:34 ค่าตงค่าไตอะไรเงี้คุณหมอฮะค่าค่าไตเนี่ย
00:32:34 → 00:32:37 หลักๆผมอ่าที่ชอบที่เรามักจะดูกันก็น่าจะ
00:32:37 → 00:32:42 เป็นตัว CR นะครับเตีนครับแล้วก็คินเครับ
00:32:42 → 00:32:44 มันก็จะสัมพันธ์กับตัว GFR นี่ครับอืคือ
00:32:44 → 00:32:47 เตีนเนี่ยยิ่งน้อยยิ่งดีหมายถึงเตีนถ้า
00:32:47 → 00:32:50 ถ้าไตไม่ดีคือเตีนมันจะคั่งมันจะทำให้้า
00:32:50 → 00:32:54 เตินสูงในเลือดนะครับอ๋อก็คือพูดง่ายๆคือ
00:32:54 → 00:32:57 ค่า egfr ถ้าคนปกติก็คจะต้องต้องมากกว่า
00:32:57 → 00:33:00 90 แต่ถ้าน้อยน้อยกว่านั้นก็คืออ่าคุณ
00:33:00 → 00:33:04 อาจจะมีปัญหาเรื่องของค่าการกรองอไปเนาะ
00:33:04 → 00:33:08 คุณหมอมีคำถามอีกครับอคือดื่มน้ำมากเกิน
00:33:08 → 00:33:11 ไปจะเป็นผลเสียต่อไตไมครับระบบปัสสาวะม
00:33:11 → 00:33:13 ครับมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของนิ้วม 3
00:33:13 → 00:33:14 ลิตร
00:33:14 → 00:33:19 นี่อืจริงๆเรื่องเรื่องการดื่มน้ำมากไปจน
00:33:19 → 00:33:22 เป็นอันตรายเนี่ยมันก็คือดื่มน้ำมาไปมัน
00:33:22 → 00:33:28 เป็นอันตรายได้ครับแต่ว่าในคนปกติที่
00:33:28 → 00:33:31 ในคนเอ่อมันจะไม่เจอในคนปกติหมายถึงถ้า
00:33:31 → 00:33:33 ถ้าเราโดนจับกรอกน้ำอย่างเงี้ยครับมี
00:33:33 → 00:33:37 โอกาสที่จะจะมีภาวะน้ำเกินจนถึงอันตรายทำ
00:33:37 → 00:33:40 ให้เกือแร่ในร่างกายผิดปกติอะไรเงี้ยได้
00:33:40 → 00:33:44 ครับอืแต่ถ้าเราดื่มเองเนี่ยมันไม่น่าไม่
00:33:44 → 00:33:47 น่าจะถึงจุดนั้นถ้าถ้าการทำงานของเอ่า
00:33:47 → 00:33:52 ระบบสมองอะไรของเราปกติอนะครับอือืก็คือ
00:33:52 → 00:33:53 ดื่ม
00:33:53 → 00:33:57 ได้มากไปดีมากคือเกินดีกว่าขาด
00:33:57 → 00:34:00 คิดในหลักการเหลือดีกว่าขาดพูดใช่ๆอย่าง
00:34:00 → 00:34:03 คุณหมอบอกอ่ะในความสามารถของเราในการดื่ม
00:34:03 → 00:34:05 อ่ะมันไม่มีทางที่เราจะไม่ถูกถ้าไม่ถูก
00:34:06 → 00:34:09 จับไม่ถูกบังคับกรอกน้ำเนี่ยเราไม่เราจะ
00:34:09 → 00:34:12 ดื่มพอดีของเราอยู่แล้วมันจะอิ่มท้องมัน
00:34:12 → 00:34:16 จะป่องหรืออะไรประมาณนี้ออืครับคุณหมอน่า
00:34:16 → 00:34:18 จะเป็นช่วงท้ายๆแล้วคุณหมอครับคือถ้ามี
00:34:18 → 00:34:22 อะไรฝากถึงคุณผู้ฟังโดยเฉพาะคนที่อยู่ใน
00:34:22 → 00:34:26 ช่วงเนี่ยวัย 30 - 60 ที่ไม่มีฮอรโมน
00:34:26 → 00:34:29 แล้วอย่าผู้หญิงเออที่เสี่ยงมากอะไเงี้ย
00:34:29 → 00:34:33 นะคะผู้แนะนำยังไงดีครับคุณหมอครับอ่าก็
00:34:33 → 00:34:37 เอ่อผมก็อยากจะแนะนำเรื่องดื่มน้ำนะครับ
00:34:37 → 00:34:41 ค่ะก็ถ้าโดยทั่วไปก็อาจจะสัก 2 ลิตรครึ่ง
00:34:41 → 00:34:43 อถึง 3 ลิตรต่อวันประมาณนี้ถ้าทำได้นะ
00:34:43 → 00:34:48 ครับเลี่ยงอาหารเค็มนะครับแล้วก็เอ่อก็
00:34:48 → 00:34:51 กินอาหารให้สมดุลอยากกินเนื้อสัตเยอะเกิน
00:34:51 → 00:34:55 ไปครับอืแล้วก็เอจริงๆจะมีพูดถึงสารยับ
00:34:55 → 00:34:58 ยั้งกันก่อนิ่้ว่ะครับซึ่งจะพบบได้ใน
00:34:58 → 00:35:01 เอ่อผลไม้เช่น
00:35:01 → 00:35:06 อ่อมะนาวส้มอู้มีสารตัวช่วยด้วยใช่ครับ
00:35:06 → 00:35:10 มันมนาวส้มเอ่อแล้วก็เกปฟุเปฟมันจะเป็น
00:35:10 → 00:35:14 เ่อผลไม้น่าจะพวกตระกูนไส้มโออะไรเงี้ย
00:35:14 → 00:35:17 ครับพวกเยเาจะมีสารพูดไปละลายสลายนิ่ว
00:35:17 → 00:35:19 เหรอคะคุณหมอพูดกันเหว่าเเปรี้ยวเป็นเป็น
00:35:19 → 00:35:22 สารยับยั้งกันการจับตัวเป็นผลึกของนิ้ว
00:35:22 → 00:35:24 เออของแคลเซียมนิ้วแคลเซียมอ่ะครับั้น
00:35:24 → 00:35:28 ว่างๆก็ทำน้ำมะนาวดื่มกันบ้างก็ได้ได้ี
00:35:28 → 00:35:31 แต่ว่าอย่าใส่น้ำตาลเยอะนะครับอ๋อาใส่น้ำ
00:35:31 → 00:35:34 ผึ้งเอออ่าอันนี้ก็คือที่แนะนำนะครับผ
00:35:34 → 00:35:36 ละมุงผลไม้พฤติกรรมพฤติกรรมมีอะไรอย่าง
00:35:36 → 00:35:39 อื่นมั้ยครับคุณหมอครับอย่าไปทำนู่นนั่น
00:35:39 → 00:35:41 นี่มั้ยครับมีมั้ยฮะคุณหมอครับก็ยอดผัก
00:35:41 → 00:35:46 อย่าไปทานสวาปลามากเกินอืก็หลักๆก็น่าจะ
00:35:46 → 00:35:48 เป็นเรื่องเรื่องอาหารนะครับแล้วก็ถ้า
00:35:48 → 00:35:53 เกิดว่ามีอาการผิดปกติปัสสาวะแสบขัดหรือ
00:35:53 → 00:35:58 มีเลือดอืก็สเกสีปัสสวะไว้ออย่าอย่าไป
00:35:58 → 00:36:02 เอ่อเข้าห้องน้ำแล้วก็เฉยเบยก้มดูด้วยอื
00:36:02 → 00:36:05 นะครับตรวจสุขภาพนี่จำเป็นมั้ยครับคุณหมอ
00:36:05 → 00:36:07 ครับอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งเพื่อที่จะดู
00:36:07 → 00:36:11 ความผิดปกติอะไรอย่างงี้คุณหมอครับครับก็
00:36:11 → 00:36:13 ผมว่าก็เป็นเป็นเรื่องที่ดีครับเพราะว่า
00:36:13 → 00:36:16 การจริงๆการตรวจตรวจปัสสาวะเหมือที่ตรวจ
00:36:16 → 00:36:18 สุขภาพประจำปีก็คือเก็บปัสสาวะง่ายๆแต่
00:36:18 → 00:36:21 ว่าถ้าเกิดมันมีอะไรเราก็ได้เจอแต่เนิๆก็
00:36:21 → 00:36:23 รักษาง่ายครับแล้วก็อย่าอั้นปัสสาวะด้วย
00:36:23 → 00:36:27 ใช่มั้ยคะคุณอือั้นปัสสาวะครับอั้น
00:36:27 → 00:36:29 ปัสสาวะก็อั้น 5 นาทีอย่างงี้ไม่เป็นไร
00:36:29 → 00:36:31 ครับแต่ถ้าอั้นเป็นชั่วโมงก็จะเพิ่มความ
00:36:31 → 00:36:35 เสี่ยงอือในการเกิดทางเร้าอักเสบได้ครับ
00:36:35 → 00:36:38 อืได้ครับคุณหมอครับวันนี้ต้องขอกราบ
00:36:38 → 00:36:40 ขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับที่มาให้ความ
00:36:40 → 00:36:42 รู้กับเราในค่ำคืนวันนี้นะครับคุณหมอครับ
00:36:42 → 00:36:47 ขอครับยินดีครับสวัสดีสวัสดีครับ