00:00:00 → 00:00:04 แลคตาซอยงาดำเข้มประโยชน์ทุกคำหอมงาดำ
00:00:04 → 00:00:09 อร่อยมากทำความรู้จักโรคลืมใบหน้าความผิด
00:00:09 → 00:00:12 ปกติทางสมองที่จำไม่ได้แม้กระทั่งหน้าของ
00:00:12 → 00:00:17 ตัวเองไขข้อสงสัยโรคลืมใบหน้าและโรค
00:00:17 → 00:00:20 อัลไซเมอร์แตกต่างกันอย่าง
00:00:20 → 00:00:24 ไรฟิตเต็มร้อยกับ bufc พาไปทำความรู้จัก
00:00:24 → 00:00:27 ตัวช่วยป้องกันการบาดเจ็บในกีฬาฟุตบอลติด
00:00:27 → 00:00:31 ตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในราการ T Health
00:00:31 → 00:00:32 วัน
00:00:32 → 00:00:36 [เพลง]
00:00:36 → 00:00:40 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ TNN
00:00:40 → 00:00:43 Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ
00:00:43 → 00:00:46 คุ้มกันรู้ทันโรคกับ TNN Health ค่ะและ
00:00:46 → 00:00:48 ดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงชัดดาวจังวังกรแพทย์
00:00:49 → 00:00:52 เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อมที่จะ
00:00:52 → 00:00:54 รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณผู้ชม
00:00:54 → 00:00:59 มาเข้าถึงสาระสุขภาพดีๆกันค่ะ
00:00:59 → 00:01:10 [เพลง]
00:01:10 → 00:01:13 สำหรับสัปดาห์นี้นะคะเราจะมาพูดถึงโรคนึง
00:01:13 → 00:01:15 ค่ะที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นแต่ก็เกิด
00:01:15 → 00:01:19 ขึ้นแล้วนั่นก็คือโรคลืมใบหน้าลืมแม้
00:01:19 → 00:01:22 กระทั่งใบหน้าของตัวเองไปฟังพร้อมๆกันค่ะ
00:01:22 → 00:01:27 โรคลืมใบหน้าหรือซแคนเซเป็นความผิดปกติ
00:01:27 → 00:01:30 ทางสมองซึ่งเป็นอาการที่ไม่พบบ่อยนักมี
00:01:30 → 00:01:33 โอกาสพบได้เพียงร้อยละ 2 จากประชากรโลก
00:01:33 → 00:01:37 ซึ่งทำให้ผู้ป่วยจะมีภาวะไม่สามารถจดจำใบ
00:01:37 → 00:01:39 หน้าบุคคลได้ซึ่งอาจรวมถึงใบหน้าของ
00:01:39 → 00:01:43 สมาชิกในครอบครัวและถ้าหากมีอาการรุนแรง
00:01:43 → 00:01:45 อาจจะไม่สามารถจดจำใบหน้าของตัวเองใน
00:01:45 → 00:01:49 กระจกได้อีกด้วยสำหรับอาการของโรคลืมใบ
00:01:49 → 00:01:51 หน้านะคะจุดเด่นของอาการเลยค่ะก็คือการ
00:01:51 → 00:01:55 ลืมใบหน้าลืมใบหน้ารวมถึงการแสดงสีหน้า
00:01:55 → 00:01:59 ท่าทางของใบหน้าด้วยโรคลืมใบหน้าค้นพบมา
00:01:59 → 00:02:03 นาแล้วคือราว 150 ปีก่อนค่ะโดยยังไม่พบ
00:02:03 → 00:02:06 ผู้ป่วยโรคนี้มากนักแต่ภายหลังกลับได้รับ
00:02:06 → 00:02:09 ความสนใจและมีผู้ศึกษาเกี่ยวกับสาเหตุของ
00:02:09 → 00:02:13 การเกิดโรคนี้มากยิ่งขึ้นจากการเปิดเผย
00:02:13 → 00:02:15 ของนักแสดงรุ่นใหญ่ฮอลลีวูดค่ะ Brad pit
00:02:15 → 00:02:18 ว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าวสำหรับเรื่องของ
00:02:18 → 00:02:21 อาการที่เด่นชัดที่สุดของโรคลืมใบหน้า
00:02:21 → 00:02:25 นั้นก็คือความสามารถในการจำใบหน้าค่ะก็
00:02:25 → 00:02:28 คือเขาไม่สามารถที่จะจำแนกแบ่งได้ว่าใบ
00:02:28 → 00:02:31 หน้านั้นเป็นอย่างไรค่ะการแสดงออกทางสี
00:02:31 → 00:02:34 หน้าอายุหรือเพศของผู้อื่นได้โดยเฉพาะ
00:02:34 → 00:02:37 เมื่อไม่ได้พบหน้ากันในสถานการณ์หรือสภาพ
00:02:37 → 00:02:41 แวดล้อมที่คุ้นเคยมาก่อนในผู้ป่วยบางราย
00:02:41 → 00:02:44 อาจมีปัญหาในการจดจำวัตถุสถานที่และเส้น
00:02:44 → 00:02:48 ทางด้วยผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยอาจมี
00:02:48 → 00:02:50 ปัญหาในการบอกความแตกต่างของใบหน้าของคน
00:02:50 → 00:02:53 แปลกหน้าหากอาการรุนแรงขึ้นอาจไม่สามารถ
00:02:53 → 00:02:56 จดจำใบหน้าของคนที่คุ้นเคยเช่นเพื่อนสนิท
00:02:56 → 00:03:00 และคนในครอบครัวบางคนที่อาการรุนแรงแรง
00:03:00 → 00:03:02 มากอาจไม่สามารถจดจำใบหน้าของตัวเองขณะ
00:03:02 → 00:03:05 ส่องกระจกหรือดูรูปถ่ายตัวเองได้เลย
00:03:05 → 00:03:09 สำหรับเด็กที่มีภาวะนี้อาจจำหน้าพ่อแม่
00:03:09 → 00:03:12 ญาติหรือเพื่อนไม่ได้ต้องรอให้พ่อแม่ทัก
00:03:12 → 00:03:15 ทายก่อนเข้าหาหรือทักคนแปลกหน้าโดยเข้าใจ
00:03:15 → 00:03:18 ว่าเป็นพ่อแม่หรือคนรู้จักไม่ยอมห่างจาก
00:03:18 → 00:03:21 พ่อแม่เมื่ออยู่ในที่สาธารณะมีปัญหาในการ
00:03:21 → 00:03:24 ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่และไม่อยากไป
00:03:24 → 00:03:26 โรงเรียนแต่เมื่ออยู่ที่บ้านจะมั่นใจจและ
00:03:26 → 00:03:30 กลับร่าเริงโพโซแพนเซียอาจทำให้ผู้ป่วย
00:03:30 → 00:03:33 หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกับผู้อื่นซึ่งอาจ
00:03:33 → 00:03:36 นำไปสู่โรคกลัวการเข้าสังคมหรือ Social
00:03:36 → 00:03:39 anxiety และโรคซึมเศร้าอีกทั้งอาจทำให้
00:03:40 → 00:03:42 ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบากมีปัญหา
00:03:43 → 00:03:46 ในการทำงานและความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
00:03:46 → 00:03:51 โรคลืมใบหน้าแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ 1
00:03:51 → 00:03:54 โรคลืมใบหน้าแตกกำเนิดเป็นสาเหตุที่พบได้
00:03:54 → 00:03:57 บ่อยในผู้ที่มีภาวะนี้โดยเชื่อว่าเกิดจาก
00:03:57 → 00:04:00 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมเนื่องจากมักพบคน
00:04:00 → 00:04:02 ในครอบครัวมีอาการของภาวะลืมใบหน้าเช่น
00:04:03 → 00:04:05 เดียวกันโดยผู้ป่วยเด็กอาจไม่ทราบว่าตัว
00:04:05 → 00:04:08 เองมีภาวะนี้จนกว่าจะโตขึ้นและเริ่มเข้า
00:04:08 → 00:04:12 สังคมนอกจากนี้โรคลืมใบหน้าแต่กำเนิดอาจ
00:04:12 → 00:04:16 พบในเด็กที่เป็นโรคอิสติโรค asper กลุ่ม
00:04:16 → 00:04:19 อาการเนอรและกลุ่มอาการิมส่งผลให้เด็กมี
00:04:19 → 00:04:22 ความผิดปกติทางร่างกายและพฤติกรรมซึ่ง
00:04:22 → 00:04:25 เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันและการ
00:04:25 → 00:04:28 เข้าสังคมยิ่งขึ้น 2 โรคลืมใบหน้าจากการ
00:04:28 → 00:04:31 ได้รับความกระทบบกระเทือนทางสมองอาจเกิด
00:04:31 → 00:04:34 จากการได้รับแรงกระแทกบริเวณศีรษะจาก
00:04:34 → 00:04:37 อุบัติเหตุโรคหลอดเลือดสมองรวมถึงโรคที่
00:04:37 → 00:04:39 เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ประสาทเช่นโรค
00:04:39 → 00:04:43 จิตเภทโรคอัลไซเมอร์และโรคซึมเศร้าหลัง
00:04:43 → 00:04:46 จากได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองผู้
00:04:46 → 00:04:48 ป่วยจะรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียความ
00:04:48 → 00:04:52 สามารถในการจดจำใบหน้าคนรู้จักไปและแม้จะ
00:04:52 → 00:04:55 ได้รับการรักษาก็อาจไม่สามารถกลับมาจดจำ
00:04:55 → 00:04:58 ใบหน้าได้เหมือนเดิมและในช่วงนี้ค่ะคุณ
00:04:58 → 00:05:02 ผู้ชมเราจะมารู้กันว่าโรคลืมใบหน้ากับโรค
00:05:02 → 00:05:05 อัลไซเมอร์นั้นมีความเหมือนหรือว่าแตก
00:05:05 → 00:05:07 ต่างกันอย่างไรซึ่งเราจะไปพูดคุยกับ
00:05:07 → 00:05:10 อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:05:10 → 00:05:13 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มต้นที่คำถาม
00:05:13 → 00:05:14 แรกเลยนะ
00:05:14 → 00:05:21 [เพลง]
00:05:22 → 00:05:26 คะทำไมผู้ป่วยโรคลืมใบหน้าถึงจำไม่ได้แม้
00:05:27 → 00:05:30 กระทั่งหน้าของตัวเองคะคือผมอยากให้ให้
00:05:30 → 00:05:35 นึกภาพตามงี้นะครับว่าเวลาเราจะจำอะไรอ่า
00:05:35 → 00:05:38 เราจะใช้แต่ละบริเวณของสมองเนี่ยทำงานคน
00:05:39 → 00:05:43 ละอย่างกันนะปกติคำว่าโปแนียคือเราแนีย
00:05:43 → 00:05:45 เนี่ยคือเราจำอะไรไม่ได้เนี่ยเรานึกอะไร
00:05:45 → 00:05:49 ไม่ออกเนี่ยนะครับมันเกิดจากบริเวณนึงของ
00:05:49 → 00:05:52 สมองคือด้านหลังสมองด้านหลังเนี่ยจะเป็น
00:05:52 → 00:05:56 ที่ที่เราใช้ในการเห็นภาพอ่าพอเราเห็นภาพ
00:05:56 → 00:05:58 เสร็จเรียบร้อยปั๊บเราจะจำว่าอันนี้คือ
00:05:58 → 00:06:01 อะไรเช่นเห็นใบหน้าแล้วจะจำว่าคนนี้ชื่อ
00:06:01 → 00:06:05 อะไรเราก็จะส่งสัญญาณจากตรงนี้ไปที่จุด
00:06:05 → 00:06:08 ที่ 2 จุดที่ 2 เนี้ยจะเป็นจุดที่เป็น
00:06:08 → 00:06:11 ชื่อของเา้าที่เรา
00:06:11 → 00:06:16 เคยรู้มาก่อนอ่าไปแชกันอ่ากับใบหน้านี้
00:06:16 → 00:06:19 กับชื่อนี้เราก็จะรู้ว่าเขาชื่ออะไรซึ่ง
00:06:19 → 00:06:22 อันนี้เจอบ่อยกว่านะครับบางทีเราทุกวัน
00:06:22 → 00:06:25 นี้เราก็เคยเป็นเนาะเห็นหน้าตรงนี้เจอ
00:06:25 → 00:06:28 บ่อยเจอแต่พอนึกหน้านึกนึกเอ่อจำหน้าได้
00:06:28 → 00:06:30 แต่ว่าพอนึกชื่อนึกไม่ออกมันจะเป็นส่วน
00:06:30 → 00:06:33 ที่มีปัญหาเยอะเวลาที่เรามีปัญหาเรื่อง
00:06:33 → 00:06:38 ของนอนไม่หลับเราเครียดงานยุ่งอ่าหรือทำ
00:06:38 → 00:06:40 อะไรก็ตามที่มันต้องใช้ความคิดเยอะๆแต่
00:06:40 → 00:06:45 อย่างโซแนียเนี่ยมันคือการที่บริเวณสมอง
00:06:45 → 00:06:48 ส่วนหลังนะครับที่คุมเรื่องของการมองเห็น
00:06:48 → 00:06:51 ผ่านมาที่ Face recognition คือบริเวณ
00:06:51 → 00:06:55 ที่คุมเรื่องการจำใบหน้ามันผ่านไปบริเวณ
00:06:55 → 00:06:57 เนี้ยแล้วมันมีความผิกติบริเวณนี้เกิด
00:06:57 → 00:07:00 ขึ้นตำแหน่งนี้ในสมองเรียกว่าว่า sate
00:07:00 → 00:07:02 jus นะครับจำชื่อไม่ไม่ต้องจำชื่อก็ได้
00:07:02 → 00:07:05 ครับเอาเป็นว่าฟังไว้คร่าวๆี้ไอ้ตำแหน่ง
00:07:05 → 00:07:08 เนี้ยครับพอมันผ่านไปบริเวณนี้ไม่ได้มัน
00:07:08 → 00:07:10 เลยทำให้เ้าเห็น
00:07:10 → 00:07:14 หน้าเครู้ว่านี่คือใบหน้าอันนี้คือผมตา
00:07:14 → 00:07:18 คิ้วทุกอย่างแต่พอมันผ่านไปบริเวณที่ไปจด
00:07:18 → 00:07:21 จำหน้าไม่ได้เขาก็เลยจำไม่ได้ว่าหน้านี้
00:07:22 → 00:07:25 คืออะไรอ่านะครับในคนที่เป็นมันมีหลาย
00:07:25 → 00:07:29 ขั้นนะครับอ่า 2 ขั้นหลักๆขั้นหนึ่งคือจำ
00:07:29 → 00:07:32 ไม่ได้แบบรุนแรงเลยไม่รู้เลยแม้กระทั่ง
00:07:32 → 00:07:36 เพศชายเพศหญิงเอ่อสีหน้ากำลังทำอะไรอยู่
00:07:36 → 00:07:40 กำลังยิ้มกำลังเอ่อโกรธกำลังแสดงสีหน้าก็
00:07:40 → 00:07:43 ไม่ได้เลยหรืออีกกลุ่มนึงที่เป็นอาจจะ
00:07:43 → 00:07:46 น้อยกว่าก็คือเขายังสามารถจะรู้พวกนั้น
00:07:46 → 00:07:48 ได้แต่เขาจำไม่ได้ว่าคนเนี้ยคือใครคนที่
00:07:48 → 00:07:52 เขาเคยเห็นอ่ามันเกิดจากความิติของบริเวณ
00:07:52 → 00:07:55 ที่สมองส่วนที่กล่าวไปแล้ว
00:07:55 → 00:07:58 ครับแล้วผู้ที่ป่วยเป็นโรคลืมใบหน้าส่วน
00:07:58 → 00:08:02 ใหญ่เป็นคนกลุ่มใดบ้างคะจริงๆเกิดได้ทุก
00:08:02 → 00:08:04 คนนะครับเพราะว่าอย่างที่ผมบอกไปคือมัน
00:08:04 → 00:08:07 เป็นความยุติของบริเวณนั้นมันขึ้นอยู่กับ
00:08:07 → 00:08:11 ว่าบริเวณนั้นถูกทำลายด้วยอะไรอ่านะครับ
00:08:11 → 00:08:13 เช่นถ้าเป็นว่าเป็นสตกคือเป็นเส้นเลือด
00:08:13 → 00:08:16 สมองตีบเป็นเลือดออกแล้วไปดมบริเวณนั้นก็
00:08:16 → 00:08:19 เกิดอาการนี้ได้เป็นจากมีเนื้องอกบริเวณ
00:08:19 → 00:08:22 นั้นก็เกิดอาการนี้ได้หรือบางคนถ้าเมือง
00:08:22 → 00:08:26 นอกอาที่เจอบ่อยก็ ms MS คือเป็นโรคที่
00:08:26 → 00:08:30 มีความเสื่อมของตัวไอ้ตัวเนื้อสมองบริเวณ
00:08:30 → 00:08:33 นั้นก็ทำให้เป็นอาการนี้ได้หรือเป็นโรค
00:08:33 → 00:08:36 อัลไซเมอร์แต่ว่าโรคอัลไซเมอร์ก็ไม่ได้
00:08:36 → 00:08:38 เจอตรงนี้เยอะนะครับอัลไซเมอร์จะไปเป็น
00:08:38 → 00:08:41 อย่างอื่นมากกว่าเพียงแต่ว่าโอเคในคนที่
00:08:41 → 00:08:43 เป็นอัลไซเมอร์เยอะๆเป็นนานๆก็อาจจะมาโดน
00:08:44 → 00:08:46 บริเวณเนี้ยแล้วทำให้เกิดอาการนี้ได้มัน
00:08:46 → 00:08:48 แล้วแต่นะครับบางคนเป็นจากหลังจาก
00:08:48 → 00:08:51 อุบัติเหตุกระทบกระแทกอ่าแล้วไปดมบริเวณ
00:08:51 → 00:08:54 นี้พอดีก็ทำให้มีปัญหานี้ได้คือจริงๆเกิด
00:08:54 → 00:08:58 ได้กับทุกคนอสาเหตุของการเกิดโรคนี้ค่ะมา
00:08:58 → 00:09:01 จากอะไรคือมันเกิดจากว่าความผิดปกติ
00:09:01 → 00:09:04 ตำแหน่งนึงของสมองแล้วตรงที่ความผิดกติ
00:09:04 → 00:09:07 ตรงนั้นเนี่ยมันเกิดจากอะไรมันมีอะไรมา
00:09:07 → 00:09:10 เกี่ยวข้องได้บ้างนะครับส่วนอีกกลุ่มนึง
00:09:10 → 00:09:11 จะเป็นกลุ่มที่เรียกว่า congenital
00:09:11 → 00:09:14 prosopagnosia คือเป็นมาตั้งแต่เกิดอัน
00:09:14 → 00:09:17 นี้ยิ่งน้อยลงไปอีกนะครับเจอแล้วแต่ตำรา
00:09:17 → 00:09:22 นะครับบางที่ก็ 1.5% บางที่ก็ 2% ครับพวก
00:09:22 → 00:09:24 นี้เขาจะจำหน้าไม่ได้ตั้งแต่เกิดเลยก็มี
00:09:24 → 00:09:28 ครับอาจารย์คะผู้ป่วยโรคลืมใบหน้าจะยังจด
00:09:28 → 00:09:31 จำเรื่องราวของการใช้ชีวิตประจำวันหรือ
00:09:31 → 00:09:34 เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้หรือไม่คะ
00:09:34 → 00:09:36 มันไม่เกี่ยวกันครับเหมือนที่ผมเล่าให้
00:09:36 → 00:09:40 ฟังว่าพอเขาคนที่ความปิติคือจากที่เขามอง
00:09:40 → 00:09:44 เห็นแล้วพอผ่านไปบริเวณที่จำใบหน้ามัน
00:09:44 → 00:09:46 ผ่านไปไม่ได้คือตรงนั้นมันถูกเหมือนตัด
00:09:46 → 00:09:49 ทางเดินไปแต่จริงๆเนี่ยสมองเนี่ยเวลาเขา
00:09:49 → 00:09:52 ทำงานเนี่ยที่เราเรียกว่า synap ถ้าเคย
00:09:52 → 00:09:54 ได้ยินคำนี้นะครับ snaps เนี่ยเขาเหมือน
00:09:54 → 00:09:57 เหมือนต้นไม้ผมอธิบายเหมือนรากต้นไม้ที่
00:09:57 → 00:10:01 เขาแตกันแหนงไปนะครับไอ้ตรงตำแหน่งเนี้ย
00:10:01 → 00:10:05 ไปไม่ได้แต่เขาไปตรงอื่นได้ค่ะจาก
00:10:05 → 00:10:09 เอ่อเห็นเห็นใบหน้าเอ่อเหเห็นรูปเห็นอะไร
00:10:09 → 00:10:11 ก็ตามนะครับแต่ว่าถ้าเขาไปตรงที่เกี่ยว
00:10:11 → 00:10:15 กับจำชื่อเา้าก็อาจจะจำชื่อได้ส่วนถ้า
00:10:15 → 00:10:18 เป็นอย่างอื่นเช่นเอ่อความจำอย่างอื่นนะ
00:10:19 → 00:10:21 ครับมันจะใช้บางบริเวณของสมองซึ่งไม่ได้
00:10:21 → 00:10:23 เกี่ยวกับเอ่อการจำใบหน้าอะไรพวกเยก็ไม่
00:10:23 → 00:10:25 มีผลครับเขาก็ใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือน
00:10:25 → 00:10:28 ปกติความจำอะไรเขก็ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่อง
00:10:28 → 00:10:32 เนี้ยก็จำได้หมดและโรคลืมใบหน้าค่ะ
00:10:32 → 00:10:34 อาจารย์มีความเหมือนหรือว่าแตกต่างกับ
00:10:34 → 00:10:38 อัลไซเมอร์อย่างไรคะคือคำว่าโแคนเซียหรือ
00:10:38 → 00:10:41 โรคืมไอ้ไอไอ้คำว่าลืมใบหน้าเนี่ยเป็น
00:10:41 → 00:10:44 อาการครับเป็นอาการส่วนอัลไซเมอร์เป็น
00:10:44 → 00:10:49 สาเหตุอ่าสาเหตุของการเกิดอาการอย่างที่
00:10:49 → 00:10:53 บอกไปว่าพอเป็นอาการก็แปลว่ามีหลายสาเหตุ
00:10:53 → 00:10:55 ที่ทำให้เป็นได้แต่ถามว่าในกรณีที่เป็น
00:10:55 → 00:10:58 อัลไซเมอร์เยอะๆเป็นมานานๆเนี่ยความ
00:10:58 → 00:11:00 เสื่อมเขาจะเกิดไปทุกบริเวณของสมองก็เลย
00:11:00 → 00:11:03 ทำให้เกิดอาการนี้ได้ครับเพราะฉะนั้นถาม
00:11:03 → 00:11:05 ว่ามันต่างกันมยคือมันคนละเรื่องกันครับ
00:11:05 → 00:11:09 อัลไซเมอร์คือโรคอ่าซึ่งอาจจะมีอาการ
00:11:09 → 00:11:13 เนี้ยเกิดขึ้นได้ในระยะหลังของโลกครับ
00:11:13 → 00:11:16 วิธีการสังเกตค่ะว่าคนใกล้ตัวเนี่ยป่วย
00:11:16 → 00:11:18 เป็นโรคลืมใบหน้าจะสังเกตได้จากอะไรบ้าง
00:11:18 → 00:11:22 คะอาจารย์สังเกตไม่ได้ครับเราไม่รู้ของ
00:11:22 → 00:11:25 เราเองไม่เราหมายถึงว่าเราไม่รู้ว่าเา
00:11:25 → 00:11:29 เป็นอเข้าก็จะเป็นคนบอกมาเองตัวคนที่เ
00:11:29 → 00:11:32 เป็นอยู่เขาจะทราบเองเลยว่าเค้าเจำไม่ได้
00:11:32 → 00:11:34 คนอื่นไปสังเกตเนี่ยเราจะไม่มีทางรู้เลย
00:11:34 → 00:11:37 ครับว่าเจำไม่ได้อ่าเขอาจจะใช้วิธีอื่นใน
00:11:37 → 00:11:40 การนั่นไปหรือว่าคนไข้เต้องพูดออกมาว่า
00:11:40 → 00:11:43 เออเขาคเป็นอันนี้นะอ่าเหมือนก่อนหน้านี้
00:11:43 → 00:11:47 ที่มีมีคนดังคนนึงบอกมาพูดถึงว่าเขาเป็น
00:11:47 → 00:11:49 โรคนี้อยู่เนี่ยอ่าอันเนี้ยคือเขาต้องบอก
00:11:49 → 00:11:53 เ้ามาเองเราไม่มีทางสังเกตได้เลยครับอื
00:11:53 → 00:11:55 ผู้ป่วยโรคลืมใบหน้าค่ะหากไม่ได้รับการ
00:11:55 → 00:11:59 รักษาจะนำพาการเกิดโรคอื่นๆตามมาได้หรือ
00:11:59 → 00:12:02 ไม่คะเอ่อเหมือนที่บอกเมื่อกี้นี้นะครับ
00:12:02 → 00:12:06 ว่าขึ้นอยู่กับว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เป็น
00:12:06 → 00:12:10 อาการนี้จริงๆผมไม่อยากให้ใช้คำว่าโรคลืม
00:12:10 → 00:12:13 ใบหน้าด้วยซ้ำมันคืออาการในอาการนึงอ่ะ
00:12:13 → 00:12:16 ซึ่งแล้วแต่ว่าสาเหตุคือเป็นจากอะไรการ
00:12:16 → 00:12:18 รักษาคือเรารักษาสาเหตุที่เกิดขึ้นเช่น
00:12:18 → 00:12:22 เส้นเรือดสมองตีบก็คือรักษาเรื่องนั้น
00:12:22 → 00:12:25 เลือดออกในสมองบางเคสก็ต้องผ่าตัดก็ใช้
00:12:25 → 00:12:27 การรักษาอย่างงั้นนะครับถ้าเป็นจาก
00:12:27 → 00:12:31 อัลไซเมอร์ก็อืจะทำอะไรไม่ได้มากนะเป็น
00:12:31 → 00:12:33 จากเนื้องอกก็บางเคสก็ต้องผ่าตัดหรือว่า
00:12:33 → 00:12:37 ฉายรังสีหรือให้ยาเคมีบำบัดก็คือแล้วแต่
00:12:37 → 00:12:39 ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้คืออะไร
00:12:39 → 00:12:43 แล้วรักษาตามนั้นครับโรคลืมใบหน้ารักษา
00:12:43 → 00:12:47 ได้หรือไม่มีวิธีการรักษาอย่างไรบ้างคะก็
00:12:47 → 00:12:50 รักษาได้ก็คือตามที่กล่าวไปว่าแล้วแต่ว่า
00:12:50 → 00:12:53 เขาเป็นสาเหตุของอะไรอะไรที่เป็นสาเหตุ
00:12:53 → 00:12:56 ที่ทำให้เกิดอาการการรักษาคือรักษาได้ตาม
00:12:56 → 00:12:59 นั้นนะครับตามแต่ละตำแหน่งแต่แต่ในกรณี
00:12:59 → 00:13:03 ที่เอ่อตไม่ไม่ใช่ตามแต่ละตำแหน่งคือการ
00:13:03 → 00:13:07 รักษาก็คือตามแต่ละโรคที่เาเกิดขึ้นนะ
00:13:07 → 00:13:09 ครับส่วนอันนึงที่รักษาไม่ได้คือคนที่
00:13:09 → 00:13:12 เป็นมาตั้งแต่เกิดที่บอกว่า congenital
00:13:12 → 00:13:15 prcn นี่คือเขาก็จะมีอาการอย่างเงมาตั้ง
00:13:15 → 00:13:17 แต่เกิดและแล้วก็รักษาอันเนี้ยรักษาไม่
00:13:17 → 00:13:19 ได้
00:13:19 → 00:13:22 ครับคำแนะนำค่ะสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคลืมใบ
00:13:22 → 00:13:26 หน้าทำได้อย่างไรบ้างในการที่จะมีชีวิตใน
00:13:26 → 00:13:29 สังคมอยู่ได้อย่างปกติค่ะจรครับเใช้ชีวิต
00:13:29 → 00:13:31 ได้เหมือนปกตินั่นแหละครับนะไม่ได้มี
00:13:31 → 00:13:34 ปัญหากับการใช้ชีวิตอะไรเท่าไหร่นะครับ
00:13:34 → 00:13:37 เพียงแต่ว่าอยากให้ทราบว่ามันมีภาวะนี้
00:13:37 → 00:13:40 เกิดเอ่ออยู่เนาะเพราะว่าสมมุติว่าคุณ
00:13:40 → 00:13:44 เป็นคุณก็จะสามารถที่ว่าอ่ามาปรึกษาแพทย์
00:13:44 → 00:13:47 ได้ว่าจะทำยังไงนะครับแต่จริงๆคือส่วน
00:13:47 → 00:13:50 ใหญ่ในคนที่เป็นเนี่ยเขาจะรู้ของเขาเอง
00:13:50 → 00:13:53 ว่าเออเขาคมีปัญหานะในคเาก็จะบอกเจะพูด
00:13:53 → 00:13:56 เลยเจะบอกว่าเค้าจำหน้าไม่ได้หรืออะไร
00:13:56 → 00:13:59 อย่างเงี้ยคือให้คนที่ได้รับฟังก็ทราบว่า
00:13:59 → 00:14:01 เออมันมีภาวะนี้จริงนะเาไม่ได้คิดไปเองเ
00:14:01 → 00:14:03 ไม่ได้แกล้งเไม่ได้อะไรอย่างนี้มากกว่า
00:14:03 → 00:14:06 ครับส่วนถ้าจำอย่างอื่นก็อาจจะใช้วิธีจด
00:14:06 → 00:14:11 วิธีเขียนอ่าจดจำอย่างอื่นของของใบหน้า
00:14:11 → 00:14:15 เค้านะครับอ่าก็อาจจะพอช่วยได้ครับถ้าเรา
00:14:15 → 00:14:18 รู้สาเหตุว่ามันเกิดอันนี้เกิดจากอะไรนะ
00:14:18 → 00:14:20 ครับเพราะว่าพอเวลาเรามีภาวะนี้เกิดขึ้น
00:14:20 → 00:14:23 เนี่ยสิ่งที่ต้องมาตรวจคือตรวจว่าตำแหน่ง
00:14:23 → 00:14:25 ตรงนั้นน่ะครับที่ทำให้เกิดอาการเนี่ยมัน
00:14:25 → 00:14:29 มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นมยถ้าเรารักษาตต่ง
00:14:29 → 00:14:33 ตรงนั้นได้อาการพวกนี้ดีขึ้นได้อาจารย์คะ
00:14:33 → 00:14:35 คนรอบข้างเนี่ยจะมีส่วนช่วยเหลือผู้ป่วย
00:14:35 → 00:14:39 โรคลืมใบหน้าได้หรือไม่อย่างไรคะทั้งตัว
00:14:39 → 00:14:41 คนไข้เองตัวคนที่เป็นเองนะครับคนที่อยู่
00:14:41 → 00:14:46 รอบข้างให้คำปรึกษาหรือว่ามามาเอ่อให้คำ
00:14:46 → 00:14:49 แนะนำกันได้ว่าอ่าอาการแบบนี้ต้องไปพบ
00:14:50 → 00:14:53 แพทย์นะอ่าเพื่อไปหาสาเหตุว่าอะไรที่มัน
00:14:53 → 00:14:57 เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้ครับหรือ
00:14:57 → 00:14:59 ถ้าในกรณีที่บางคนที่เเป็นมาตั้งแต่เกิด
00:14:59 → 00:15:02 อันนั้นเนี่ยเค้าก็จะเค้าก็จะมีวิธีในการ
00:15:02 → 00:15:05 จัดการของเค้าเองมาตั้งแต่เด็กและว่าเค้า
00:15:05 → 00:15:09 จะต้องจำทุกคนยังไงอาจจะจำด้วยเสียงที่
00:15:09 → 00:15:13 สำคัญคือถ้ามีอาการนี้รู้ว่ามันมีจริง
00:15:13 → 00:15:16 แล้วก็มาพบแพทย์นะครับอ่าอาจจะต้องมาหา
00:15:16 → 00:15:18 แพทย์เฉพาะทางทางเรื่องทางสมองนะครับ
00:15:18 → 00:15:21 เพื่ออธิบายให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้ว
00:15:21 → 00:15:23 ก็ให้คำแนะนำได้ถูกต้องขอบพระคุณอาจารย์
00:15:23 → 00:15:26 ที่มาให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของโรค
00:15:26 → 00:15:29 ลืมใบหน้านะคะและในช่วงนี้นะคะเป็นช่วง
00:15:29 → 00:15:32 ใหม่ของรายการเรานั่นก็คือฟิตเต็มร้อยกับ
00:15:32 → 00:15:35 bufc ค่ะซึ่งเป็นช่วงที่ TE andel นะคะ
00:15:35 → 00:15:37 ร่วมมือกับสโมสรฟุตบอล True Bangkok
00:15:37 → 00:15:41 United หรือว่า bufc และในช่วงนี้เราจะ
00:15:41 → 00:15:44 มารู้กันว่าอุปกรณ์ป้องกันนะคะในการบาด
00:15:44 → 00:15:47 เจ็บสำหรับนักกีฬาฟุตบอลมีอะไรบ้างไปฟัง
00:15:47 → 00:15:51 พร้อมๆกันค่ะ
00:15:51 → 00:15:52 [เพลง]
00:15:52 → 00:15:53 [ปรบมือ]
00:15:53 → 00:15:57 [เพลง]
00:15:57 → 00:15:59 [ปรบมือ]
00:15:59 → 00:16:05 [เพลง]
00:16:05 → 00:16:08 สวัสดีครับผมแจคนะครับวัชรชัยราชแพทยาคม
00:16:08 → 00:16:10 ครับก็เป็นฟิตเนสโค้ชนะครับของสโมสร True
00:16:10 → 00:16:17 Bangkok United
00:16:17 → 00:16:20 ครับครับผมวันนี้เราจะมาพูดถึงอุปกรณ์นะ
00:16:20 → 00:16:23 ครับที่ช่วยในการป้องกันเอ่อให้ไม่เกิด
00:16:23 → 00:16:26 การบาดเจ็บในนักกีฬานะครับซึ่งแน่นอนแหละ
00:16:26 → 00:16:28 นะครับหลังจากที่เรามีการออกกำลังกายไป
00:16:28 → 00:16:31 แล้วแล้วนะครับมักจะเกิดแรงต้านกับทาง
00:16:31 → 00:16:33 ร่างกายนะครับซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย
00:16:33 → 00:16:35 บางอย่างนะครับจะนำมาซึ่งอาการปวดนะครับ
00:16:35 → 00:16:38 เมื่อยหรือตึงบริเวณต่างๆภายในร่างกาย
00:16:38 → 00:16:41 ซึ่งการฝึกในลักษณะลักษณะนี้นะครับ
00:16:41 → 00:16:43 อุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้เนี่ยสามารถที่จะ
00:16:43 → 00:16:46 ช่วยทำให้เราลดอาการบาดเจ็บได้แล้วก็ป้อง
00:16:46 → 00:16:48 กันความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บซึ่งไม่
00:16:48 → 00:16:50 ใช่เพียงแค่นักกีฬาอย่างเดียวนะครับเอ่อ
00:16:50 → 00:16:52 สำหรับคนทั่วไปที่ออกกำลังกายด้วยเช่นกัน
00:16:52 → 00:16:55 นะครับก็สามารถที่จะเอาไปทำตามได้นะครับ
00:16:55 → 00:17:02 เพื่อลดความเสี่ยงตรงนี้ได้นะครับ
00:17:02 → 00:17:03 [เพลง]
00:17:03 → 00:17:06 ตัวที่ 1 นะครับเป็นอุปกรณ์ที่เราเรียก
00:17:06 → 00:17:09 กันว่าโฟม Roller นะครับก็เอ่อเป็น
00:17:09 → 00:17:11 อุปกรณ์ที่ช่วยในการลดอาการเมื่อยนะครับ
00:17:11 → 00:17:13 อาการตึงตามจุดต่างๆของร่างกายนะครับ
00:17:13 → 00:17:15 อุปกรณ์ตัวเนี้เราสามารถหาซื้อได้ทั่วไป
00:17:15 → 00:17:17 ตามท้องตลาดนะครับแล้วก็มีหลายประเภทนะ
00:17:18 → 00:17:20 ครับโดยทั่วไปแล้วนะครับก็จะเป็นอุปกรณ์
00:17:20 → 00:17:22 ที่เป็นเหมือนอุปกรณ์ทรงกลมนะครับโดยที่
00:17:22 → 00:17:24 ด้านนอกเนี่ยจะหุ้มไปด้วยอุปกรณ์ที่เป็น
00:17:24 → 00:17:27 ยานนะครับซึ่งมีความนิ่มแตกต่างกันนะครับ
00:17:27 → 00:17:30 ซึ่งก็สามารถเลือกเล่นได้นะครับใครที่ชอบ
00:17:30 → 00:17:33 ให้นิ่มๆก็สามารถใช้แบบที่นิ่มได้หรือว่า
00:17:33 → 00:17:36 ใครที่ชอบเอ่อแบบแข็งๆเลยนะครับกล้าม
00:17:36 → 00:17:38 เนื้อแข็งแรงมากต้องการให้มันเอ่อกดได้
00:17:38 → 00:17:41 แน่นๆๆเนี่ยก็ใช้อุปกรณ์ที่มันแข็งขึ้น
00:17:41 → 00:17:43 ได้นะครับโดยอุปกรณ์ลักษณะที่เป็นโฟม
00:17:43 → 00:17:46 Roller เนี่ยนะครับก็จะใช้เอ่อวางบนพื้น
00:17:46 → 00:17:48 นะครับโดยที่เราเนี่ยสามารถเอาส่วนต่างๆ
00:17:48 → 00:17:50 ของกล้ามเนื้อเอ่อบริเวณที่เราเมื่อยหรือ
00:17:50 → 00:17:52 ตึงเนี่ยไปวางบนนั้นได้นะครับเราใช้น้ำำ
00:17:52 → 00:17:55 หนักตัวเนี่ยกดลงไปนะครับโดยที่เราสามารถ
00:17:55 → 00:17:58 ค่อยๆเอ่อไถนะครับค่อยๆกดในบริเวณที่ที่
00:17:58 → 00:18:01 เรารู้สึกเมื่อยได้นะครับโดยตัวโฟม Roller
00:18:01 → 00:18:04 เนี่ยก็จะเอ่อกดในบริเวณที่เราเจ็บพอดีนะ
00:18:04 → 00:18:07 ครับแล้วก็มีการไถไปเรื่อยๆนะครับช่วยลด
00:18:07 → 00:18:09 อาการตึงต่างๆที่เราตึงบริเวณกล้ามเนื้อ
00:18:09 → 00:18:12 ส่วนต่างๆเหล่านั้นเนี่ยให้นิ่มลงได้นะ
00:18:12 → 00:18:14 ครับให้เมื่อยน้อยลงได้โดยกิจกรรมนะครับ
00:18:14 → 00:18:17 ก็จะเป็นตามภาพที่คุณผู้ชมได้เห็นอยู่ตรง
00:18:17 → 00:18:22 นี้เลยนะ
00:18:22 → 00:18:26 ครับตัวอุปกรณ์ถัดมานะครับก็จะเป็น
00:18:26 → 00:18:31 อุปกรณ์ที่เรียกกันว่ามินิแบนนะครับ
00:18:32 → 00:18:34 เป็นยางที่เป็นแรงต้านนะครับตัวเนี้ยนะ
00:18:34 → 00:18:36 ครับก็จะเป็นอุปกรณ์ที่มักจะทำจากยางนะ
00:18:36 → 00:18:39 ครับหรือว่าอาจจะเป็นอุปกรณ์ที่ทำมาจาก
00:18:39 → 00:18:42 ผ้านะผสมยางยืดก็ได้นะครับตัวเนี้ยนะครับ
00:18:42 → 00:18:45 ก็จะใช้ในการเอ่อสร้างแรงต้านเล็กๆขึ้นนะ
00:18:45 → 00:18:48 ครับซึ่งเราจะนำตัวมินิแบนเนี่ยนะครับไป
00:18:48 → 00:18:52 เอ่อคล้องไว้ในบริเวณต่างๆนะครับแล้วเอ่อ
00:18:52 → 00:18:55 มีการขยับร่างกายนะครับเพื่อให้เกิดแรง
00:18:55 → 00:18:57 ต้านนะครับขึ้นในบริเวณนั้นนะครับกล้าม
00:18:57 → 00:18:59 เนื้อจะถูกออกแรงเล็กเล็กนะครับไม่ได้
00:18:59 → 00:19:01 เป็นกิจกรรมที่ยากมากแต่ว่าจะเป็นการ
00:19:01 → 00:19:04 กระตุ้นนะครับกลุ่มกล้ามเนื้อต่างๆให้ทำ
00:19:04 → 00:19:06 งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนะครับซึ่งนัก
00:19:06 → 00:19:09 กีฬาเองก็จะใช้กิจกรรมกับมินินเนี่ยค่อน
00:19:09 → 00:19:11 ข้างเยอะนะครับใช้ได้ค่อนข้างหลากหลาย
00:19:11 → 00:19:14 แล้วก็สามารถทำได้เอ่อรอบๆร่างกายเลยนะ
00:19:14 → 00:19:16 ครับไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นบริเวณข้อเท้า
00:19:17 → 00:19:19 นะครับบริเวณที่เป็นน่องหรือบริเวณที่
00:19:19 → 00:19:21 เป็นต้นขาด้านหน้าหรือต้นขาด้านหลังนะ
00:19:21 → 00:19:23 ครับซึ่งตรงเนี้ยสามารถช่วยทำให้ป้องกัน
00:19:23 → 00:19:25 อาการบาดเจ็บกระตุ้นการทำงานของร่างกาย
00:19:25 → 00:19:28 ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมถึงการทำงาน
00:19:28 → 00:19:30 ของกลุ่มกล้ามเนื้อมัดเล็กๆนะครับซึ่ง
00:19:30 → 00:19:32 อยู่ลึกๆด้านในเนี่ยอ่าทำงานได้ดีขึ้น
00:19:32 → 00:19:34 ด้วยนะครับซึ่งเราต้องการให้ร่างกายเนี่ย
00:19:34 → 00:19:36 มีความพร้อมนะครับเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด
00:19:36 → 00:19:41 การบาดเจ็บนั่นเอง
00:19:41 → 00:19:46 ครับเอ่ออุปกรณ์สุดท้ายนะครับอุปกรณ์ที่ 3
00:19:46 → 00:19:49 ของเรานะครับเรื่องของเอ่อการทรงตัวนะ
00:19:49 → 00:19:51 ครับซึ่งอุปกรณ์เนี้ยนะครับเราจะเรียกกัน
00:19:51 → 00:19:55 ว่าโบซูนะครับหรือเป็นลักษณะของเอ่อลมนะ
00:19:55 → 00:19:57 ครับที่ใส่เข้าไปในอุปกรณ์ที่เป็นยางมี
00:19:57 → 00:20:00 ลักษณะเป็นครึ่งงงงซึ่งบริเวณพื้นผิวของ
00:20:00 → 00:20:02 โบซูเนี่ยนะครับก็ค่อนข้างที่จะมามีความ
00:20:02 → 00:20:05 นิ่มนะครับแล้วก็ทำให้เกิดการทรงตัวที่
00:20:05 → 00:20:07 ยากขึ้นนะครับตรงเนี้ยเราจะสามารถขึ้นไป
00:20:07 → 00:20:10 ยืนนะครับบนหน้า Surface ที่เป็นเอ่อลูก
00:20:10 → 00:20:13 โค้งได้นะครับซึ่งจะฝึกให้เราทรงตัวได้ดี
00:20:13 → 00:20:16 ขึ้นนะครับคือเอ่อจะต้องพยายามที่จะยืน
00:20:16 → 00:20:19 ทรงตัวอยู่บนอุปกรณ์ที่มีความไม่เรียบนะ
00:20:19 → 00:20:21 ครับให้ได้นานๆมากที่สุดเพื่อที่จะฝึกให้
00:20:21 → 00:20:24 ข้อเท้านะครับริเวณหัวเข่าหรือว่าบริเวณ
00:20:24 → 00:20:27 ข้อสะโพกต่างๆเนี่ยเกิดการทำงานร่วมกัน
00:20:27 → 00:20:29 ให้เรายืนทรงตัวได้นะครับซึ่งก็จะเป็นการ
00:20:30 → 00:20:32 ฝึกเวลาที่เราไปยืนบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ
00:20:32 → 00:20:34 เนี่ยอ่าสามารถที่จะป้องกันอาการเข้าแทว
00:20:34 → 00:20:37 พลิกนะครับหรือเอ่อการบาดเจ็บที่จะลงพื้น
00:20:37 → 00:20:40 มาแล้วทรงตัวไม่ได้นะครับโดยโบซูเนี่ยนะ
00:20:40 → 00:20:42 ครับสามารถที่จะพลิกเป็นอีกด้านนึงได้
00:20:42 → 00:20:44 เช่นกันนะครับเอ่อด้านที่เป็นด้านโค้ง
00:20:44 → 00:20:46 เนี่ยสามารถวางบนพื้นได้แล้วเราไปยืนบน
00:20:46 → 00:20:49 ด้านที่เป็นด้านแบนแทนนะครับซึ่งจะทำให้
00:20:49 → 00:20:51 กิจกรรมในการทรงตัวเนี่ยยากขึ้นไปอีกนะ
00:20:51 → 00:20:53 ครับตรงเนี้ยเอ่อใครที่สามารถฝึกแล้วนะ
00:20:54 → 00:20:56 ครับในบริเวณที่ท่าที่ง่ายๆได้แล้วเนี่ย
00:20:56 → 00:20:59 ก็แนะนำให้ลองฝึกยากขึ้นนะครับซึ่งทำให้
00:20:59 → 00:21:01 ป้องกันอาการบาดเจ็บได้มากขึ้นด้วยเช่น
00:21:01 → 00:21:04 กันนะครับโดยกิจกรรมก็จะเป็นกิจกรรมตาม
00:21:04 → 00:21:06 ที่เราได้สาธิตไปเมื่อสักครู่นี้นั่นเอง
00:21:06 → 00:21:06 นะ
00:21:06 → 00:21:15 [เพลง]
00:21:15 → 00:21:16 [ปรบมือ]
00:21:16 → 00:21:21 [เพลง]
00:21:21 → 00:21:25 ครับเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระสุขภาพดี
00:21:25 → 00:21:28 ๆที่ tn นำมาฝากคุณผู้ชมในวันนี้หวังเป็น
00:21:28 → 00:21:30 อย่างยิ่งว่าคุณผู้ชมจะสามารถนำสาระ
00:21:30 → 00:21:33 สุขภาพดีๆที่ได้ไปดูแลตัวเองและครอบครัว
00:21:33 → 00:21:36 กันนะคะและขอบคุณคุณผู้ชมค่ะที่ติดตามรับ
00:21:36 → 00:21:39 ชมรายการ TNN Health มาโดยตลอดค่ะคุณผู้
00:21:39 → 00:21:42 ชมสามารถติดตามรับชมรายการ TNN Health
00:21:42 → 00:21:46 ได้เป็นประจำนะคะทุกวันเสาร์เวลาดี 15 น-
00:21:46 → 00:21:50 15:30 นที่นี่ TNN ช่อง 16 และต้องไม่
00:21:50 → 00:21:53 ลืมค่ะกดไลค์กดแชร์กด Subscribe กด
00:21:53 → 00:21:56 กระดิ่งกดกิ๊งๆเป็นกำลังใจให้หมอดาวและ
00:21:56 → 00:21:58 ทีมงาน TNN Health ในช่องทางโซเชียล
00:21:58 → 00:22:00 networ ต่างๆไม่ว่าจะเป็น YouTube
00:22:00 → 00:22:03 tiktok Facebook Instagram LINE
00:22:03 → 00:22:05 official เพื่อที่จะเข้าถึงทุกสาระ
00:22:05 → 00:22:08 สุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันโรคไปด้วย
00:22:08 → 00:22:11 กันค่ะและสำหรับวันนี้นะคะหมอดาวและทีม
00:22:11 → 00:22:14 งาน t&n ต้องขอตัวลาคุณผู้ชมไปก่อนสำหรับ
00:22:14 → 00:22:17 วันนี้สวัสดีค่ะ
00:22:17 → 00:22:34 [เพลง]
00:22:34 → 00:22:39 ส
00:22:39 → 00:22:45 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:04 แลคตาซอยงาดำเข้มประโยชน์ทุกคำหอมงาดำ
00:00:04 → 00:00:09 อร่อยมากทำความรู้จักโรคลืมใบหน้าความผิด
00:00:09 → 00:00:12 ปกติทางสมองที่จำไม่ได้แม้กระทั่งหน้าของ
00:00:12 → 00:00:17 ตัวเองไขข้อสงสัยโรคลืมใบหน้าและโรค
00:00:17 → 00:00:20 อัลไซเมอร์แตกต่างกันอย่าง
00:00:20 → 00:00:24 ไรฟิตเต็มร้อยกับ bufc พาไปทำความรู้จัก
00:00:24 → 00:00:27 ตัวช่วยป้องกันการบาดเจ็บในกีฬาฟุตบอลติด
00:00:27 → 00:00:31 ตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในราการ T Health
00:00:31 → 00:00:32 วัน
00:00:32 → 00:00:36 [เพลง]
00:00:36 → 00:00:40 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ TNN
00:00:40 → 00:00:43 Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ
00:00:43 → 00:00:46 คุ้มกันรู้ทันโรคกับ TNN Health ค่ะและ
00:00:46 → 00:00:48 ดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงชัดดาวจังวังกรแพทย์
00:00:49 → 00:00:52 เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อมที่จะ
00:00:52 → 00:00:54 รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณผู้ชม
00:00:54 → 00:00:59 มาเข้าถึงสาระสุขภาพดีๆกันค่ะ
00:00:59 → 00:01:10 [เพลง]
00:01:10 → 00:01:13 สำหรับสัปดาห์นี้นะคะเราจะมาพูดถึงโรคนึง
00:01:13 → 00:01:15 ค่ะที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นแต่ก็เกิด
00:01:15 → 00:01:19 ขึ้นแล้วนั่นก็คือโรคลืมใบหน้าลืมแม้
00:01:19 → 00:01:22 กระทั่งใบหน้าของตัวเองไปฟังพร้อมๆกันค่ะ
00:01:22 → 00:01:27 โรคลืมใบหน้าหรือซแคนเซเป็นความผิดปกติ
00:01:27 → 00:01:30 ทางสมองซึ่งเป็นอาการที่ไม่พบบ่อยนักมี
00:01:30 → 00:01:33 โอกาสพบได้เพียงร้อยละ 2 จากประชากรโลก
00:01:33 → 00:01:37 ซึ่งทำให้ผู้ป่วยจะมีภาวะไม่สามารถจดจำใบ
00:01:37 → 00:01:39 หน้าบุคคลได้ซึ่งอาจรวมถึงใบหน้าของ
00:01:39 → 00:01:43 สมาชิกในครอบครัวและถ้าหากมีอาการรุนแรง
00:01:43 → 00:01:45 อาจจะไม่สามารถจดจำใบหน้าของตัวเองใน
00:01:45 → 00:01:49 กระจกได้อีกด้วยสำหรับอาการของโรคลืมใบ
00:01:49 → 00:01:51 หน้านะคะจุดเด่นของอาการเลยค่ะก็คือการ
00:01:51 → 00:01:55 ลืมใบหน้าลืมใบหน้ารวมถึงการแสดงสีหน้า
00:01:55 → 00:01:59 ท่าทางของใบหน้าด้วยโรคลืมใบหน้าค้นพบมา
00:01:59 → 00:02:03 นาแล้วคือราว 150 ปีก่อนค่ะโดยยังไม่พบ
00:02:03 → 00:02:06 ผู้ป่วยโรคนี้มากนักแต่ภายหลังกลับได้รับ
00:02:06 → 00:02:09 ความสนใจและมีผู้ศึกษาเกี่ยวกับสาเหตุของ
00:02:09 → 00:02:13 การเกิดโรคนี้มากยิ่งขึ้นจากการเปิดเผย
00:02:13 → 00:02:15 ของนักแสดงรุ่นใหญ่ฮอลลีวูดค่ะ Brad pit
00:02:15 → 00:02:18 ว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าวสำหรับเรื่องของ
00:02:18 → 00:02:21 อาการที่เด่นชัดที่สุดของโรคลืมใบหน้า
00:02:21 → 00:02:25 นั้นก็คือความสามารถในการจำใบหน้าค่ะก็
00:02:25 → 00:02:28 คือเขาไม่สามารถที่จะจำแนกแบ่งได้ว่าใบ
00:02:28 → 00:02:31 หน้านั้นเป็นอย่างไรค่ะการแสดงออกทางสี
00:02:31 → 00:02:34 หน้าอายุหรือเพศของผู้อื่นได้โดยเฉพาะ
00:02:34 → 00:02:37 เมื่อไม่ได้พบหน้ากันในสถานการณ์หรือสภาพ
00:02:37 → 00:02:41 แวดล้อมที่คุ้นเคยมาก่อนในผู้ป่วยบางราย
00:02:41 → 00:02:44 อาจมีปัญหาในการจดจำวัตถุสถานที่และเส้น
00:02:44 → 00:02:48 ทางด้วยผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยอาจมี
00:02:48 → 00:02:50 ปัญหาในการบอกความแตกต่างของใบหน้าของคน
00:02:50 → 00:02:53 แปลกหน้าหากอาการรุนแรงขึ้นอาจไม่สามารถ
00:02:53 → 00:02:56 จดจำใบหน้าของคนที่คุ้นเคยเช่นเพื่อนสนิท
00:02:56 → 00:03:00 และคนในครอบครัวบางคนที่อาการรุนแรงแรง
00:03:00 → 00:03:02 มากอาจไม่สามารถจดจำใบหน้าของตัวเองขณะ
00:03:02 → 00:03:05 ส่องกระจกหรือดูรูปถ่ายตัวเองได้เลย
00:03:05 → 00:03:09 สำหรับเด็กที่มีภาวะนี้อาจจำหน้าพ่อแม่
00:03:09 → 00:03:12 ญาติหรือเพื่อนไม่ได้ต้องรอให้พ่อแม่ทัก
00:03:12 → 00:03:15 ทายก่อนเข้าหาหรือทักคนแปลกหน้าโดยเข้าใจ
00:03:15 → 00:03:18 ว่าเป็นพ่อแม่หรือคนรู้จักไม่ยอมห่างจาก
00:03:18 → 00:03:21 พ่อแม่เมื่ออยู่ในที่สาธารณะมีปัญหาในการ
00:03:21 → 00:03:24 ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่และไม่อยากไป
00:03:24 → 00:03:26 โรงเรียนแต่เมื่ออยู่ที่บ้านจะมั่นใจจและ
00:03:26 → 00:03:30 กลับร่าเริงโพโซแพนเซียอาจทำให้ผู้ป่วย
00:03:30 → 00:03:33 หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกับผู้อื่นซึ่งอาจ
00:03:33 → 00:03:36 นำไปสู่โรคกลัวการเข้าสังคมหรือ Social
00:03:36 → 00:03:39 anxiety และโรคซึมเศร้าอีกทั้งอาจทำให้
00:03:40 → 00:03:42 ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบากมีปัญหา
00:03:43 → 00:03:46 ในการทำงานและความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
00:03:46 → 00:03:51 โรคลืมใบหน้าแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ 1
00:03:51 → 00:03:54 โรคลืมใบหน้าแตกกำเนิดเป็นสาเหตุที่พบได้
00:03:54 → 00:03:57 บ่อยในผู้ที่มีภาวะนี้โดยเชื่อว่าเกิดจาก
00:03:57 → 00:04:00 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมเนื่องจากมักพบคน
00:04:00 → 00:04:02 ในครอบครัวมีอาการของภาวะลืมใบหน้าเช่น
00:04:03 → 00:04:05 เดียวกันโดยผู้ป่วยเด็กอาจไม่ทราบว่าตัว
00:04:05 → 00:04:08 เองมีภาวะนี้จนกว่าจะโตขึ้นและเริ่มเข้า
00:04:08 → 00:04:12 สังคมนอกจากนี้โรคลืมใบหน้าแต่กำเนิดอาจ
00:04:12 → 00:04:16 พบในเด็กที่เป็นโรคอิสติโรค asper กลุ่ม
00:04:16 → 00:04:19 อาการเนอรและกลุ่มอาการิมส่งผลให้เด็กมี
00:04:19 → 00:04:22 ความผิดปกติทางร่างกายและพฤติกรรมซึ่ง
00:04:22 → 00:04:25 เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันและการ
00:04:25 → 00:04:28 เข้าสังคมยิ่งขึ้น 2 โรคลืมใบหน้าจากการ
00:04:28 → 00:04:31 ได้รับความกระทบบกระเทือนทางสมองอาจเกิด
00:04:31 → 00:04:34 จากการได้รับแรงกระแทกบริเวณศีรษะจาก
00:04:34 → 00:04:37 อุบัติเหตุโรคหลอดเลือดสมองรวมถึงโรคที่
00:04:37 → 00:04:39 เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ประสาทเช่นโรค
00:04:39 → 00:04:43 จิตเภทโรคอัลไซเมอร์และโรคซึมเศร้าหลัง
00:04:43 → 00:04:46 จากได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองผู้
00:04:46 → 00:04:48 ป่วยจะรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียความ
00:04:48 → 00:04:52 สามารถในการจดจำใบหน้าคนรู้จักไปและแม้จะ
00:04:52 → 00:04:55 ได้รับการรักษาก็อาจไม่สามารถกลับมาจดจำ
00:04:55 → 00:04:58 ใบหน้าได้เหมือนเดิมและในช่วงนี้ค่ะคุณ
00:04:58 → 00:05:02 ผู้ชมเราจะมารู้กันว่าโรคลืมใบหน้ากับโรค
00:05:02 → 00:05:05 อัลไซเมอร์นั้นมีความเหมือนหรือว่าแตก
00:05:05 → 00:05:07 ต่างกันอย่างไรซึ่งเราจะไปพูดคุยกับ
00:05:07 → 00:05:10 อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:05:10 → 00:05:13 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มต้นที่คำถาม
00:05:13 → 00:05:14 แรกเลยนะ
00:05:14 → 00:05:21 [เพลง]
00:05:22 → 00:05:26 คะทำไมผู้ป่วยโรคลืมใบหน้าถึงจำไม่ได้แม้
00:05:27 → 00:05:30 กระทั่งหน้าของตัวเองคะคือผมอยากให้ให้
00:05:30 → 00:05:35 นึกภาพตามงี้นะครับว่าเวลาเราจะจำอะไรอ่า
00:05:35 → 00:05:38 เราจะใช้แต่ละบริเวณของสมองเนี่ยทำงานคน
00:05:39 → 00:05:43 ละอย่างกันนะปกติคำว่าโปแนียคือเราแนีย
00:05:43 → 00:05:45 เนี่ยคือเราจำอะไรไม่ได้เนี่ยเรานึกอะไร
00:05:45 → 00:05:49 ไม่ออกเนี่ยนะครับมันเกิดจากบริเวณนึงของ
00:05:49 → 00:05:52 สมองคือด้านหลังสมองด้านหลังเนี่ยจะเป็น
00:05:52 → 00:05:56 ที่ที่เราใช้ในการเห็นภาพอ่าพอเราเห็นภาพ
00:05:56 → 00:05:58 เสร็จเรียบร้อยปั๊บเราจะจำว่าอันนี้คือ
00:05:58 → 00:06:01 อะไรเช่นเห็นใบหน้าแล้วจะจำว่าคนนี้ชื่อ
00:06:01 → 00:06:05 อะไรเราก็จะส่งสัญญาณจากตรงนี้ไปที่จุด
00:06:05 → 00:06:08 ที่ 2 จุดที่ 2 เนี้ยจะเป็นจุดที่เป็น
00:06:08 → 00:06:11 ชื่อของเา้าที่เรา
00:06:11 → 00:06:16 เคยรู้มาก่อนอ่าไปแชกันอ่ากับใบหน้านี้
00:06:16 → 00:06:19 กับชื่อนี้เราก็จะรู้ว่าเขาชื่ออะไรซึ่ง
00:06:19 → 00:06:22 อันนี้เจอบ่อยกว่านะครับบางทีเราทุกวัน
00:06:22 → 00:06:25 นี้เราก็เคยเป็นเนาะเห็นหน้าตรงนี้เจอ
00:06:25 → 00:06:28 บ่อยเจอแต่พอนึกหน้านึกนึกเอ่อจำหน้าได้
00:06:28 → 00:06:30 แต่ว่าพอนึกชื่อนึกไม่ออกมันจะเป็นส่วน
00:06:30 → 00:06:33 ที่มีปัญหาเยอะเวลาที่เรามีปัญหาเรื่อง
00:06:33 → 00:06:38 ของนอนไม่หลับเราเครียดงานยุ่งอ่าหรือทำ
00:06:38 → 00:06:40 อะไรก็ตามที่มันต้องใช้ความคิดเยอะๆแต่
00:06:40 → 00:06:45 อย่างโซแนียเนี่ยมันคือการที่บริเวณสมอง
00:06:45 → 00:06:48 ส่วนหลังนะครับที่คุมเรื่องของการมองเห็น
00:06:48 → 00:06:51 ผ่านมาที่ Face recognition คือบริเวณ
00:06:51 → 00:06:55 ที่คุมเรื่องการจำใบหน้ามันผ่านไปบริเวณ
00:06:55 → 00:06:57 เนี้ยแล้วมันมีความผิกติบริเวณนี้เกิด
00:06:57 → 00:07:00 ขึ้นตำแหน่งนี้ในสมองเรียกว่าว่า sate
00:07:00 → 00:07:02 jus นะครับจำชื่อไม่ไม่ต้องจำชื่อก็ได้
00:07:02 → 00:07:05 ครับเอาเป็นว่าฟังไว้คร่าวๆี้ไอ้ตำแหน่ง
00:07:05 → 00:07:08 เนี้ยครับพอมันผ่านไปบริเวณนี้ไม่ได้มัน
00:07:08 → 00:07:10 เลยทำให้เ้าเห็น
00:07:10 → 00:07:14 หน้าเครู้ว่านี่คือใบหน้าอันนี้คือผมตา
00:07:14 → 00:07:18 คิ้วทุกอย่างแต่พอมันผ่านไปบริเวณที่ไปจด
00:07:18 → 00:07:21 จำหน้าไม่ได้เขาก็เลยจำไม่ได้ว่าหน้านี้
00:07:22 → 00:07:25 คืออะไรอ่านะครับในคนที่เป็นมันมีหลาย
00:07:25 → 00:07:29 ขั้นนะครับอ่า 2 ขั้นหลักๆขั้นหนึ่งคือจำ
00:07:29 → 00:07:32 ไม่ได้แบบรุนแรงเลยไม่รู้เลยแม้กระทั่ง
00:07:32 → 00:07:36 เพศชายเพศหญิงเอ่อสีหน้ากำลังทำอะไรอยู่
00:07:36 → 00:07:40 กำลังยิ้มกำลังเอ่อโกรธกำลังแสดงสีหน้าก็
00:07:40 → 00:07:43 ไม่ได้เลยหรืออีกกลุ่มนึงที่เป็นอาจจะ
00:07:43 → 00:07:46 น้อยกว่าก็คือเขายังสามารถจะรู้พวกนั้น
00:07:46 → 00:07:48 ได้แต่เขาจำไม่ได้ว่าคนเนี้ยคือใครคนที่
00:07:48 → 00:07:52 เขาเคยเห็นอ่ามันเกิดจากความิติของบริเวณ
00:07:52 → 00:07:55 ที่สมองส่วนที่กล่าวไปแล้ว
00:07:55 → 00:07:58 ครับแล้วผู้ที่ป่วยเป็นโรคลืมใบหน้าส่วน
00:07:58 → 00:08:02 ใหญ่เป็นคนกลุ่มใดบ้างคะจริงๆเกิดได้ทุก
00:08:02 → 00:08:04 คนนะครับเพราะว่าอย่างที่ผมบอกไปคือมัน
00:08:04 → 00:08:07 เป็นความยุติของบริเวณนั้นมันขึ้นอยู่กับ
00:08:07 → 00:08:11 ว่าบริเวณนั้นถูกทำลายด้วยอะไรอ่านะครับ
00:08:11 → 00:08:13 เช่นถ้าเป็นว่าเป็นสตกคือเป็นเส้นเลือด
00:08:13 → 00:08:16 สมองตีบเป็นเลือดออกแล้วไปดมบริเวณนั้นก็
00:08:16 → 00:08:19 เกิดอาการนี้ได้เป็นจากมีเนื้องอกบริเวณ
00:08:19 → 00:08:22 นั้นก็เกิดอาการนี้ได้หรือบางคนถ้าเมือง
00:08:22 → 00:08:26 นอกอาที่เจอบ่อยก็ ms MS คือเป็นโรคที่
00:08:26 → 00:08:30 มีความเสื่อมของตัวไอ้ตัวเนื้อสมองบริเวณ
00:08:30 → 00:08:33 นั้นก็ทำให้เป็นอาการนี้ได้หรือเป็นโรค
00:08:33 → 00:08:36 อัลไซเมอร์แต่ว่าโรคอัลไซเมอร์ก็ไม่ได้
00:08:36 → 00:08:38 เจอตรงนี้เยอะนะครับอัลไซเมอร์จะไปเป็น
00:08:38 → 00:08:41 อย่างอื่นมากกว่าเพียงแต่ว่าโอเคในคนที่
00:08:41 → 00:08:43 เป็นอัลไซเมอร์เยอะๆเป็นนานๆก็อาจจะมาโดน
00:08:44 → 00:08:46 บริเวณเนี้ยแล้วทำให้เกิดอาการนี้ได้มัน
00:08:46 → 00:08:48 แล้วแต่นะครับบางคนเป็นจากหลังจาก
00:08:48 → 00:08:51 อุบัติเหตุกระทบกระแทกอ่าแล้วไปดมบริเวณ
00:08:51 → 00:08:54 นี้พอดีก็ทำให้มีปัญหานี้ได้คือจริงๆเกิด
00:08:54 → 00:08:58 ได้กับทุกคนอสาเหตุของการเกิดโรคนี้ค่ะมา
00:08:58 → 00:09:01 จากอะไรคือมันเกิดจากว่าความผิดปกติ
00:09:01 → 00:09:04 ตำแหน่งนึงของสมองแล้วตรงที่ความผิดกติ
00:09:04 → 00:09:07 ตรงนั้นเนี่ยมันเกิดจากอะไรมันมีอะไรมา
00:09:07 → 00:09:10 เกี่ยวข้องได้บ้างนะครับส่วนอีกกลุ่มนึง
00:09:10 → 00:09:11 จะเป็นกลุ่มที่เรียกว่า congenital
00:09:11 → 00:09:14 prosopagnosia คือเป็นมาตั้งแต่เกิดอัน
00:09:14 → 00:09:17 นี้ยิ่งน้อยลงไปอีกนะครับเจอแล้วแต่ตำรา
00:09:17 → 00:09:22 นะครับบางที่ก็ 1.5% บางที่ก็ 2% ครับพวก
00:09:22 → 00:09:24 นี้เขาจะจำหน้าไม่ได้ตั้งแต่เกิดเลยก็มี
00:09:24 → 00:09:28 ครับอาจารย์คะผู้ป่วยโรคลืมใบหน้าจะยังจด
00:09:28 → 00:09:31 จำเรื่องราวของการใช้ชีวิตประจำวันหรือ
00:09:31 → 00:09:34 เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้หรือไม่คะ
00:09:34 → 00:09:36 มันไม่เกี่ยวกันครับเหมือนที่ผมเล่าให้
00:09:36 → 00:09:40 ฟังว่าพอเขาคนที่ความปิติคือจากที่เขามอง
00:09:40 → 00:09:44 เห็นแล้วพอผ่านไปบริเวณที่จำใบหน้ามัน
00:09:44 → 00:09:46 ผ่านไปไม่ได้คือตรงนั้นมันถูกเหมือนตัด
00:09:46 → 00:09:49 ทางเดินไปแต่จริงๆเนี่ยสมองเนี่ยเวลาเขา
00:09:49 → 00:09:52 ทำงานเนี่ยที่เราเรียกว่า synap ถ้าเคย
00:09:52 → 00:09:54 ได้ยินคำนี้นะครับ snaps เนี่ยเขาเหมือน
00:09:54 → 00:09:57 เหมือนต้นไม้ผมอธิบายเหมือนรากต้นไม้ที่
00:09:57 → 00:10:01 เขาแตกันแหนงไปนะครับไอ้ตรงตำแหน่งเนี้ย
00:10:01 → 00:10:05 ไปไม่ได้แต่เขาไปตรงอื่นได้ค่ะจาก
00:10:05 → 00:10:09 เอ่อเห็นเห็นใบหน้าเอ่อเหเห็นรูปเห็นอะไร
00:10:09 → 00:10:11 ก็ตามนะครับแต่ว่าถ้าเขาไปตรงที่เกี่ยว
00:10:11 → 00:10:15 กับจำชื่อเา้าก็อาจจะจำชื่อได้ส่วนถ้า
00:10:15 → 00:10:18 เป็นอย่างอื่นเช่นเอ่อความจำอย่างอื่นนะ
00:10:19 → 00:10:21 ครับมันจะใช้บางบริเวณของสมองซึ่งไม่ได้
00:10:21 → 00:10:23 เกี่ยวกับเอ่อการจำใบหน้าอะไรพวกเยก็ไม่
00:10:23 → 00:10:25 มีผลครับเขาก็ใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือน
00:10:25 → 00:10:28 ปกติความจำอะไรเขก็ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่อง
00:10:28 → 00:10:32 เนี้ยก็จำได้หมดและโรคลืมใบหน้าค่ะ
00:10:32 → 00:10:34 อาจารย์มีความเหมือนหรือว่าแตกต่างกับ
00:10:34 → 00:10:38 อัลไซเมอร์อย่างไรคะคือคำว่าโแคนเซียหรือ
00:10:38 → 00:10:41 โรคืมไอ้ไอไอ้คำว่าลืมใบหน้าเนี่ยเป็น
00:10:41 → 00:10:44 อาการครับเป็นอาการส่วนอัลไซเมอร์เป็น
00:10:44 → 00:10:49 สาเหตุอ่าสาเหตุของการเกิดอาการอย่างที่
00:10:49 → 00:10:53 บอกไปว่าพอเป็นอาการก็แปลว่ามีหลายสาเหตุ
00:10:53 → 00:10:55 ที่ทำให้เป็นได้แต่ถามว่าในกรณีที่เป็น
00:10:55 → 00:10:58 อัลไซเมอร์เยอะๆเป็นมานานๆเนี่ยความ
00:10:58 → 00:11:00 เสื่อมเขาจะเกิดไปทุกบริเวณของสมองก็เลย
00:11:00 → 00:11:03 ทำให้เกิดอาการนี้ได้ครับเพราะฉะนั้นถาม
00:11:03 → 00:11:05 ว่ามันต่างกันมยคือมันคนละเรื่องกันครับ
00:11:05 → 00:11:09 อัลไซเมอร์คือโรคอ่าซึ่งอาจจะมีอาการ
00:11:09 → 00:11:13 เนี้ยเกิดขึ้นได้ในระยะหลังของโลกครับ
00:11:13 → 00:11:16 วิธีการสังเกตค่ะว่าคนใกล้ตัวเนี่ยป่วย
00:11:16 → 00:11:18 เป็นโรคลืมใบหน้าจะสังเกตได้จากอะไรบ้าง
00:11:18 → 00:11:22 คะอาจารย์สังเกตไม่ได้ครับเราไม่รู้ของ
00:11:22 → 00:11:25 เราเองไม่เราหมายถึงว่าเราไม่รู้ว่าเา
00:11:25 → 00:11:29 เป็นอเข้าก็จะเป็นคนบอกมาเองตัวคนที่เ
00:11:29 → 00:11:32 เป็นอยู่เขาจะทราบเองเลยว่าเค้าเจำไม่ได้
00:11:32 → 00:11:34 คนอื่นไปสังเกตเนี่ยเราจะไม่มีทางรู้เลย
00:11:34 → 00:11:37 ครับว่าเจำไม่ได้อ่าเขอาจจะใช้วิธีอื่นใน
00:11:37 → 00:11:40 การนั่นไปหรือว่าคนไข้เต้องพูดออกมาว่า
00:11:40 → 00:11:43 เออเขาคเป็นอันนี้นะอ่าเหมือนก่อนหน้านี้
00:11:43 → 00:11:47 ที่มีมีคนดังคนนึงบอกมาพูดถึงว่าเขาเป็น
00:11:47 → 00:11:49 โรคนี้อยู่เนี่ยอ่าอันเนี้ยคือเขาต้องบอก
00:11:49 → 00:11:53 เ้ามาเองเราไม่มีทางสังเกตได้เลยครับอื
00:11:53 → 00:11:55 ผู้ป่วยโรคลืมใบหน้าค่ะหากไม่ได้รับการ
00:11:55 → 00:11:59 รักษาจะนำพาการเกิดโรคอื่นๆตามมาได้หรือ
00:11:59 → 00:12:02 ไม่คะเอ่อเหมือนที่บอกเมื่อกี้นี้นะครับ
00:12:02 → 00:12:06 ว่าขึ้นอยู่กับว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เป็น
00:12:06 → 00:12:10 อาการนี้จริงๆผมไม่อยากให้ใช้คำว่าโรคลืม
00:12:10 → 00:12:13 ใบหน้าด้วยซ้ำมันคืออาการในอาการนึงอ่ะ
00:12:13 → 00:12:16 ซึ่งแล้วแต่ว่าสาเหตุคือเป็นจากอะไรการ
00:12:16 → 00:12:18 รักษาคือเรารักษาสาเหตุที่เกิดขึ้นเช่น
00:12:18 → 00:12:22 เส้นเรือดสมองตีบก็คือรักษาเรื่องนั้น
00:12:22 → 00:12:25 เลือดออกในสมองบางเคสก็ต้องผ่าตัดก็ใช้
00:12:25 → 00:12:27 การรักษาอย่างงั้นนะครับถ้าเป็นจาก
00:12:27 → 00:12:31 อัลไซเมอร์ก็อืจะทำอะไรไม่ได้มากนะเป็น
00:12:31 → 00:12:33 จากเนื้องอกก็บางเคสก็ต้องผ่าตัดหรือว่า
00:12:33 → 00:12:37 ฉายรังสีหรือให้ยาเคมีบำบัดก็คือแล้วแต่
00:12:37 → 00:12:39 ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้คืออะไร
00:12:39 → 00:12:43 แล้วรักษาตามนั้นครับโรคลืมใบหน้ารักษา
00:12:43 → 00:12:47 ได้หรือไม่มีวิธีการรักษาอย่างไรบ้างคะก็
00:12:47 → 00:12:50 รักษาได้ก็คือตามที่กล่าวไปว่าแล้วแต่ว่า
00:12:50 → 00:12:53 เขาเป็นสาเหตุของอะไรอะไรที่เป็นสาเหตุ
00:12:53 → 00:12:56 ที่ทำให้เกิดอาการการรักษาคือรักษาได้ตาม
00:12:56 → 00:12:59 นั้นนะครับตามแต่ละตำแหน่งแต่แต่ในกรณี
00:12:59 → 00:13:03 ที่เอ่อตไม่ไม่ใช่ตามแต่ละตำแหน่งคือการ
00:13:03 → 00:13:07 รักษาก็คือตามแต่ละโรคที่เาเกิดขึ้นนะ
00:13:07 → 00:13:09 ครับส่วนอันนึงที่รักษาไม่ได้คือคนที่
00:13:09 → 00:13:12 เป็นมาตั้งแต่เกิดที่บอกว่า congenital
00:13:12 → 00:13:15 prcn นี่คือเขาก็จะมีอาการอย่างเงมาตั้ง
00:13:15 → 00:13:17 แต่เกิดและแล้วก็รักษาอันเนี้ยรักษาไม่
00:13:17 → 00:13:19 ได้
00:13:19 → 00:13:22 ครับคำแนะนำค่ะสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคลืมใบ
00:13:22 → 00:13:26 หน้าทำได้อย่างไรบ้างในการที่จะมีชีวิตใน
00:13:26 → 00:13:29 สังคมอยู่ได้อย่างปกติค่ะจรครับเใช้ชีวิต
00:13:29 → 00:13:31 ได้เหมือนปกตินั่นแหละครับนะไม่ได้มี
00:13:31 → 00:13:34 ปัญหากับการใช้ชีวิตอะไรเท่าไหร่นะครับ
00:13:34 → 00:13:37 เพียงแต่ว่าอยากให้ทราบว่ามันมีภาวะนี้
00:13:37 → 00:13:40 เกิดเอ่ออยู่เนาะเพราะว่าสมมุติว่าคุณ
00:13:40 → 00:13:44 เป็นคุณก็จะสามารถที่ว่าอ่ามาปรึกษาแพทย์
00:13:44 → 00:13:47 ได้ว่าจะทำยังไงนะครับแต่จริงๆคือส่วน
00:13:47 → 00:13:50 ใหญ่ในคนที่เป็นเนี่ยเขาจะรู้ของเขาเอง
00:13:50 → 00:13:53 ว่าเออเขาคมีปัญหานะในคเาก็จะบอกเจะพูด
00:13:53 → 00:13:56 เลยเจะบอกว่าเค้าจำหน้าไม่ได้หรืออะไร
00:13:56 → 00:13:59 อย่างเงี้ยคือให้คนที่ได้รับฟังก็ทราบว่า
00:13:59 → 00:14:01 เออมันมีภาวะนี้จริงนะเาไม่ได้คิดไปเองเ
00:14:01 → 00:14:03 ไม่ได้แกล้งเไม่ได้อะไรอย่างนี้มากกว่า
00:14:03 → 00:14:06 ครับส่วนถ้าจำอย่างอื่นก็อาจจะใช้วิธีจด
00:14:06 → 00:14:11 วิธีเขียนอ่าจดจำอย่างอื่นของของใบหน้า
00:14:11 → 00:14:15 เค้านะครับอ่าก็อาจจะพอช่วยได้ครับถ้าเรา
00:14:15 → 00:14:18 รู้สาเหตุว่ามันเกิดอันนี้เกิดจากอะไรนะ
00:14:18 → 00:14:20 ครับเพราะว่าพอเวลาเรามีภาวะนี้เกิดขึ้น
00:14:20 → 00:14:23 เนี่ยสิ่งที่ต้องมาตรวจคือตรวจว่าตำแหน่ง
00:14:23 → 00:14:25 ตรงนั้นน่ะครับที่ทำให้เกิดอาการเนี่ยมัน
00:14:25 → 00:14:29 มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นมยถ้าเรารักษาตต่ง
00:14:29 → 00:14:33 ตรงนั้นได้อาการพวกนี้ดีขึ้นได้อาจารย์คะ
00:14:33 → 00:14:35 คนรอบข้างเนี่ยจะมีส่วนช่วยเหลือผู้ป่วย
00:14:35 → 00:14:39 โรคลืมใบหน้าได้หรือไม่อย่างไรคะทั้งตัว
00:14:39 → 00:14:41 คนไข้เองตัวคนที่เป็นเองนะครับคนที่อยู่
00:14:41 → 00:14:46 รอบข้างให้คำปรึกษาหรือว่ามามาเอ่อให้คำ
00:14:46 → 00:14:49 แนะนำกันได้ว่าอ่าอาการแบบนี้ต้องไปพบ
00:14:50 → 00:14:53 แพทย์นะอ่าเพื่อไปหาสาเหตุว่าอะไรที่มัน
00:14:53 → 00:14:57 เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้ครับหรือ
00:14:57 → 00:14:59 ถ้าในกรณีที่บางคนที่เเป็นมาตั้งแต่เกิด
00:14:59 → 00:15:02 อันนั้นเนี่ยเค้าก็จะเค้าก็จะมีวิธีในการ
00:15:02 → 00:15:05 จัดการของเค้าเองมาตั้งแต่เด็กและว่าเค้า
00:15:05 → 00:15:09 จะต้องจำทุกคนยังไงอาจจะจำด้วยเสียงที่
00:15:09 → 00:15:13 สำคัญคือถ้ามีอาการนี้รู้ว่ามันมีจริง
00:15:13 → 00:15:16 แล้วก็มาพบแพทย์นะครับอ่าอาจจะต้องมาหา
00:15:16 → 00:15:18 แพทย์เฉพาะทางทางเรื่องทางสมองนะครับ
00:15:18 → 00:15:21 เพื่ออธิบายให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้ว
00:15:21 → 00:15:23 ก็ให้คำแนะนำได้ถูกต้องขอบพระคุณอาจารย์
00:15:23 → 00:15:26 ที่มาให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของโรค
00:15:26 → 00:15:29 ลืมใบหน้านะคะและในช่วงนี้นะคะเป็นช่วง
00:15:29 → 00:15:32 ใหม่ของรายการเรานั่นก็คือฟิตเต็มร้อยกับ
00:15:32 → 00:15:35 bufc ค่ะซึ่งเป็นช่วงที่ TE andel นะคะ
00:15:35 → 00:15:37 ร่วมมือกับสโมสรฟุตบอล True Bangkok
00:15:37 → 00:15:41 United หรือว่า bufc และในช่วงนี้เราจะ
00:15:41 → 00:15:44 มารู้กันว่าอุปกรณ์ป้องกันนะคะในการบาด
00:15:44 → 00:15:47 เจ็บสำหรับนักกีฬาฟุตบอลมีอะไรบ้างไปฟัง
00:15:47 → 00:15:51 พร้อมๆกันค่ะ
00:15:51 → 00:15:52 [เพลง]
00:15:52 → 00:15:53 [ปรบมือ]
00:15:53 → 00:15:57 [เพลง]
00:15:57 → 00:15:59 [ปรบมือ]
00:15:59 → 00:16:05 [เพลง]
00:16:05 → 00:16:08 สวัสดีครับผมแจคนะครับวัชรชัยราชแพทยาคม
00:16:08 → 00:16:10 ครับก็เป็นฟิตเนสโค้ชนะครับของสโมสร True
00:16:10 → 00:16:17 Bangkok United
00:16:17 → 00:16:20 ครับครับผมวันนี้เราจะมาพูดถึงอุปกรณ์นะ
00:16:20 → 00:16:23 ครับที่ช่วยในการป้องกันเอ่อให้ไม่เกิด
00:16:23 → 00:16:26 การบาดเจ็บในนักกีฬานะครับซึ่งแน่นอนแหละ
00:16:26 → 00:16:28 นะครับหลังจากที่เรามีการออกกำลังกายไป
00:16:28 → 00:16:31 แล้วแล้วนะครับมักจะเกิดแรงต้านกับทาง
00:16:31 → 00:16:33 ร่างกายนะครับซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย
00:16:33 → 00:16:35 บางอย่างนะครับจะนำมาซึ่งอาการปวดนะครับ
00:16:35 → 00:16:38 เมื่อยหรือตึงบริเวณต่างๆภายในร่างกาย
00:16:38 → 00:16:41 ซึ่งการฝึกในลักษณะลักษณะนี้นะครับ
00:16:41 → 00:16:43 อุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้เนี่ยสามารถที่จะ
00:16:43 → 00:16:46 ช่วยทำให้เราลดอาการบาดเจ็บได้แล้วก็ป้อง
00:16:46 → 00:16:48 กันความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บซึ่งไม่
00:16:48 → 00:16:50 ใช่เพียงแค่นักกีฬาอย่างเดียวนะครับเอ่อ
00:16:50 → 00:16:52 สำหรับคนทั่วไปที่ออกกำลังกายด้วยเช่นกัน
00:16:52 → 00:16:55 นะครับก็สามารถที่จะเอาไปทำตามได้นะครับ
00:16:55 → 00:17:02 เพื่อลดความเสี่ยงตรงนี้ได้นะครับ
00:17:02 → 00:17:03 [เพลง]
00:17:03 → 00:17:06 ตัวที่ 1 นะครับเป็นอุปกรณ์ที่เราเรียก
00:17:06 → 00:17:09 กันว่าโฟม Roller นะครับก็เอ่อเป็น
00:17:09 → 00:17:11 อุปกรณ์ที่ช่วยในการลดอาการเมื่อยนะครับ
00:17:11 → 00:17:13 อาการตึงตามจุดต่างๆของร่างกายนะครับ
00:17:13 → 00:17:15 อุปกรณ์ตัวเนี้เราสามารถหาซื้อได้ทั่วไป
00:17:15 → 00:17:17 ตามท้องตลาดนะครับแล้วก็มีหลายประเภทนะ
00:17:18 → 00:17:20 ครับโดยทั่วไปแล้วนะครับก็จะเป็นอุปกรณ์
00:17:20 → 00:17:22 ที่เป็นเหมือนอุปกรณ์ทรงกลมนะครับโดยที่
00:17:22 → 00:17:24 ด้านนอกเนี่ยจะหุ้มไปด้วยอุปกรณ์ที่เป็น
00:17:24 → 00:17:27 ยานนะครับซึ่งมีความนิ่มแตกต่างกันนะครับ
00:17:27 → 00:17:30 ซึ่งก็สามารถเลือกเล่นได้นะครับใครที่ชอบ
00:17:30 → 00:17:33 ให้นิ่มๆก็สามารถใช้แบบที่นิ่มได้หรือว่า
00:17:33 → 00:17:36 ใครที่ชอบเอ่อแบบแข็งๆเลยนะครับกล้าม
00:17:36 → 00:17:38 เนื้อแข็งแรงมากต้องการให้มันเอ่อกดได้
00:17:38 → 00:17:41 แน่นๆๆเนี่ยก็ใช้อุปกรณ์ที่มันแข็งขึ้น
00:17:41 → 00:17:43 ได้นะครับโดยอุปกรณ์ลักษณะที่เป็นโฟม
00:17:43 → 00:17:46 Roller เนี่ยนะครับก็จะใช้เอ่อวางบนพื้น
00:17:46 → 00:17:48 นะครับโดยที่เราเนี่ยสามารถเอาส่วนต่างๆ
00:17:48 → 00:17:50 ของกล้ามเนื้อเอ่อบริเวณที่เราเมื่อยหรือ
00:17:50 → 00:17:52 ตึงเนี่ยไปวางบนนั้นได้นะครับเราใช้น้ำำ
00:17:52 → 00:17:55 หนักตัวเนี่ยกดลงไปนะครับโดยที่เราสามารถ
00:17:55 → 00:17:58 ค่อยๆเอ่อไถนะครับค่อยๆกดในบริเวณที่ที่
00:17:58 → 00:18:01 เรารู้สึกเมื่อยได้นะครับโดยตัวโฟม Roller
00:18:01 → 00:18:04 เนี่ยก็จะเอ่อกดในบริเวณที่เราเจ็บพอดีนะ
00:18:04 → 00:18:07 ครับแล้วก็มีการไถไปเรื่อยๆนะครับช่วยลด
00:18:07 → 00:18:09 อาการตึงต่างๆที่เราตึงบริเวณกล้ามเนื้อ
00:18:09 → 00:18:12 ส่วนต่างๆเหล่านั้นเนี่ยให้นิ่มลงได้นะ
00:18:12 → 00:18:14 ครับให้เมื่อยน้อยลงได้โดยกิจกรรมนะครับ
00:18:14 → 00:18:17 ก็จะเป็นตามภาพที่คุณผู้ชมได้เห็นอยู่ตรง
00:18:17 → 00:18:22 นี้เลยนะ
00:18:22 → 00:18:26 ครับตัวอุปกรณ์ถัดมานะครับก็จะเป็น
00:18:26 → 00:18:31 อุปกรณ์ที่เรียกกันว่ามินิแบนนะครับ
00:18:32 → 00:18:34 เป็นยางที่เป็นแรงต้านนะครับตัวเนี้ยนะ
00:18:34 → 00:18:36 ครับก็จะเป็นอุปกรณ์ที่มักจะทำจากยางนะ
00:18:36 → 00:18:39 ครับหรือว่าอาจจะเป็นอุปกรณ์ที่ทำมาจาก
00:18:39 → 00:18:42 ผ้านะผสมยางยืดก็ได้นะครับตัวเนี้ยนะครับ
00:18:42 → 00:18:45 ก็จะใช้ในการเอ่อสร้างแรงต้านเล็กๆขึ้นนะ
00:18:45 → 00:18:48 ครับซึ่งเราจะนำตัวมินิแบนเนี่ยนะครับไป
00:18:48 → 00:18:52 เอ่อคล้องไว้ในบริเวณต่างๆนะครับแล้วเอ่อ
00:18:52 → 00:18:55 มีการขยับร่างกายนะครับเพื่อให้เกิดแรง
00:18:55 → 00:18:57 ต้านนะครับขึ้นในบริเวณนั้นนะครับกล้าม
00:18:57 → 00:18:59 เนื้อจะถูกออกแรงเล็กเล็กนะครับไม่ได้
00:18:59 → 00:19:01 เป็นกิจกรรมที่ยากมากแต่ว่าจะเป็นการ
00:19:01 → 00:19:04 กระตุ้นนะครับกลุ่มกล้ามเนื้อต่างๆให้ทำ
00:19:04 → 00:19:06 งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนะครับซึ่งนัก
00:19:06 → 00:19:09 กีฬาเองก็จะใช้กิจกรรมกับมินินเนี่ยค่อน
00:19:09 → 00:19:11 ข้างเยอะนะครับใช้ได้ค่อนข้างหลากหลาย
00:19:11 → 00:19:14 แล้วก็สามารถทำได้เอ่อรอบๆร่างกายเลยนะ
00:19:14 → 00:19:16 ครับไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นบริเวณข้อเท้า
00:19:17 → 00:19:19 นะครับบริเวณที่เป็นน่องหรือบริเวณที่
00:19:19 → 00:19:21 เป็นต้นขาด้านหน้าหรือต้นขาด้านหลังนะ
00:19:21 → 00:19:23 ครับซึ่งตรงเนี้ยสามารถช่วยทำให้ป้องกัน
00:19:23 → 00:19:25 อาการบาดเจ็บกระตุ้นการทำงานของร่างกาย
00:19:25 → 00:19:28 ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมถึงการทำงาน
00:19:28 → 00:19:30 ของกลุ่มกล้ามเนื้อมัดเล็กๆนะครับซึ่ง
00:19:30 → 00:19:32 อยู่ลึกๆด้านในเนี่ยอ่าทำงานได้ดีขึ้น
00:19:32 → 00:19:34 ด้วยนะครับซึ่งเราต้องการให้ร่างกายเนี่ย
00:19:34 → 00:19:36 มีความพร้อมนะครับเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด
00:19:36 → 00:19:41 การบาดเจ็บนั่นเอง
00:19:41 → 00:19:46 ครับเอ่ออุปกรณ์สุดท้ายนะครับอุปกรณ์ที่ 3
00:19:46 → 00:19:49 ของเรานะครับเรื่องของเอ่อการทรงตัวนะ
00:19:49 → 00:19:51 ครับซึ่งอุปกรณ์เนี้ยนะครับเราจะเรียกกัน
00:19:51 → 00:19:55 ว่าโบซูนะครับหรือเป็นลักษณะของเอ่อลมนะ
00:19:55 → 00:19:57 ครับที่ใส่เข้าไปในอุปกรณ์ที่เป็นยางมี
00:19:57 → 00:20:00 ลักษณะเป็นครึ่งงงงซึ่งบริเวณพื้นผิวของ
00:20:00 → 00:20:02 โบซูเนี่ยนะครับก็ค่อนข้างที่จะมามีความ
00:20:02 → 00:20:05 นิ่มนะครับแล้วก็ทำให้เกิดการทรงตัวที่
00:20:05 → 00:20:07 ยากขึ้นนะครับตรงเนี้ยเราจะสามารถขึ้นไป
00:20:07 → 00:20:10 ยืนนะครับบนหน้า Surface ที่เป็นเอ่อลูก
00:20:10 → 00:20:13 โค้งได้นะครับซึ่งจะฝึกให้เราทรงตัวได้ดี
00:20:13 → 00:20:16 ขึ้นนะครับคือเอ่อจะต้องพยายามที่จะยืน
00:20:16 → 00:20:19 ทรงตัวอยู่บนอุปกรณ์ที่มีความไม่เรียบนะ
00:20:19 → 00:20:21 ครับให้ได้นานๆมากที่สุดเพื่อที่จะฝึกให้
00:20:21 → 00:20:24 ข้อเท้านะครับริเวณหัวเข่าหรือว่าบริเวณ
00:20:24 → 00:20:27 ข้อสะโพกต่างๆเนี่ยเกิดการทำงานร่วมกัน
00:20:27 → 00:20:29 ให้เรายืนทรงตัวได้นะครับซึ่งก็จะเป็นการ
00:20:30 → 00:20:32 ฝึกเวลาที่เราไปยืนบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ
00:20:32 → 00:20:34 เนี่ยอ่าสามารถที่จะป้องกันอาการเข้าแทว
00:20:34 → 00:20:37 พลิกนะครับหรือเอ่อการบาดเจ็บที่จะลงพื้น
00:20:37 → 00:20:40 มาแล้วทรงตัวไม่ได้นะครับโดยโบซูเนี่ยนะ
00:20:40 → 00:20:42 ครับสามารถที่จะพลิกเป็นอีกด้านนึงได้
00:20:42 → 00:20:44 เช่นกันนะครับเอ่อด้านที่เป็นด้านโค้ง
00:20:44 → 00:20:46 เนี่ยสามารถวางบนพื้นได้แล้วเราไปยืนบน
00:20:46 → 00:20:49 ด้านที่เป็นด้านแบนแทนนะครับซึ่งจะทำให้
00:20:49 → 00:20:51 กิจกรรมในการทรงตัวเนี่ยยากขึ้นไปอีกนะ
00:20:51 → 00:20:53 ครับตรงเนี้ยเอ่อใครที่สามารถฝึกแล้วนะ
00:20:54 → 00:20:56 ครับในบริเวณที่ท่าที่ง่ายๆได้แล้วเนี่ย
00:20:56 → 00:20:59 ก็แนะนำให้ลองฝึกยากขึ้นนะครับซึ่งทำให้
00:20:59 → 00:21:01 ป้องกันอาการบาดเจ็บได้มากขึ้นด้วยเช่น
00:21:01 → 00:21:04 กันนะครับโดยกิจกรรมก็จะเป็นกิจกรรมตาม
00:21:04 → 00:21:06 ที่เราได้สาธิตไปเมื่อสักครู่นี้นั่นเอง
00:21:06 → 00:21:06 นะ
00:21:06 → 00:21:15 [เพลง]
00:21:15 → 00:21:16 [ปรบมือ]
00:21:16 → 00:21:21 [เพลง]
00:21:21 → 00:21:25 ครับเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระสุขภาพดี
00:21:25 → 00:21:28 ๆที่ tn นำมาฝากคุณผู้ชมในวันนี้หวังเป็น
00:21:28 → 00:21:30 อย่างยิ่งว่าคุณผู้ชมจะสามารถนำสาระ
00:21:30 → 00:21:33 สุขภาพดีๆที่ได้ไปดูแลตัวเองและครอบครัว
00:21:33 → 00:21:36 กันนะคะและขอบคุณคุณผู้ชมค่ะที่ติดตามรับ
00:21:36 → 00:21:39 ชมรายการ TNN Health มาโดยตลอดค่ะคุณผู้
00:21:39 → 00:21:42 ชมสามารถติดตามรับชมรายการ TNN Health
00:21:42 → 00:21:46 ได้เป็นประจำนะคะทุกวันเสาร์เวลาดี 15 น-
00:21:46 → 00:21:50 15:30 นที่นี่ TNN ช่อง 16 และต้องไม่
00:21:50 → 00:21:53 ลืมค่ะกดไลค์กดแชร์กด Subscribe กด
00:21:53 → 00:21:56 กระดิ่งกดกิ๊งๆเป็นกำลังใจให้หมอดาวและ
00:21:56 → 00:21:58 ทีมงาน TNN Health ในช่องทางโซเชียล
00:21:58 → 00:22:00 networ ต่างๆไม่ว่าจะเป็น YouTube
00:22:00 → 00:22:03 tiktok Facebook Instagram LINE
00:22:03 → 00:22:05 official เพื่อที่จะเข้าถึงทุกสาระ
00:22:05 → 00:22:08 สุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันโรคไปด้วย
00:22:08 → 00:22:11 กันค่ะและสำหรับวันนี้นะคะหมอดาวและทีม
00:22:11 → 00:22:14 งาน t&n ต้องขอตัวลาคุณผู้ชมไปก่อนสำหรับ
00:22:14 → 00:22:17 วันนี้สวัสดีค่ะ
00:22:17 → 00:22:34 [เพลง]
00:22:34 → 00:22:39 ส
00:22:39 → 00:22:45 [เพลง]