00:00:00 → 00:00:06 สนับสนุนโดยแอปหมอดีหมอประจำบ้านในมือ
00:00:06 → 00:00:10 คุณเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการนะคะค่ะ
00:00:10 → 00:00:12 อย่างที่บอกไปค่ะว่าในตอนนี้นะคะเราจะพา
00:00:12 → 00:00:15 คุณผู้ชมค่ะไปพบกับคุณหมอแพทย์ผู้เชี่ยว
00:00:15 → 00:00:18 ชาญจากแอปพลิเคชันหมอดีค่ะอาจารย์จะมาไข
00:00:18 → 00:00:21 ข้อข้องใจในเรื่องของฤสีดวงทวารกันไปฟัง
00:00:21 → 00:00:24 พร้อมๆกันค่ะ
00:00:24 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:32 → 00:00:35 สวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรกนะคะ
00:00:35 → 00:00:38 ริสีดวงทวารค่ะมีสาเหตุมาจากอะไรคะ
00:00:38 → 00:00:41 อาจารย์โรครสีดวงทวารนะคะเกิดจากหลอด
00:00:41 → 00:00:44 เลือดดำบริเวณปลายรูทวารเนี่ยมีการขยาย
00:00:44 → 00:00:47 ตัวขึ้นโดยสาเหตุของรีสีดวงเนี่ยมีหลาย
00:00:47 → 00:00:50 สาเหตุสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดเลยค่ะก็
00:00:50 → 00:00:53 คือสาเหตุของการเบ่งถ่ายอุจจาระในกลุ่มคน
00:00:53 → 00:00:56 ไข้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรังหรือว่า
00:00:56 → 00:00:59 อุจจาระแข็งมากๆอ่ะค่ะพวกนี้อาจจะเกิดจาก
00:00:59 → 00:01:02 การที่ดึ่มน้ำน้อยหรือว่าทานอาหารจำพวก
00:01:02 → 00:01:05 ที่มีกากใยหรือว่าผักผลไม้น้อยเมื่อ
00:01:05 → 00:01:07 อุจจาระแข็งเนี่ยค่ะเราก็ต้องพยายามเบ่ง
00:01:07 → 00:01:10 อุจจาระออกมาเมื่อมีการเบ่งเนี่ยก็จะเป็น
00:01:10 → 00:01:13 สาเหตุที่สำคัญของการเกิดภาวะฤทธิ์สีดวง
00:01:13 → 00:01:16 นอกจากนี้ค่ะกลุ่มคนไข้ที่ต้องการเข้า
00:01:16 → 00:01:18 ห้องน้ำให้เสร็จอย่างรวดเร็วเลยพยายามจะ
00:01:18 → 00:01:20 เบ่งอุจจาระให้มันออกมาให้หมดเร็วๆอย่าง
00:01:21 → 00:01:23 เงี้ยค่ะก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้เกิด
00:01:23 → 00:01:26 ภาวะฤาษีดวงหรือในกรณีคนไข้ที่มีอาการ
00:01:26 → 00:01:30 ท้องเสียหรือว่าถ่ายบ่อยๆนะคะก็อาจจะเกิด
00:01:30 → 00:01:32 การระคายเคืองตรงบริเวณปลายรูทวารก่อให้
00:01:32 → 00:01:36 เกิดวิสีดวงได้นอกจากนี้นะคะในกลุ่มที่
00:01:36 → 00:01:39 เป็นภาวะบางอย่างอ่ะคะที่มีการเพิ่มความ
00:01:39 → 00:01:43 ดันของช่องท้องรวมถึงเพิ่มความดันของตัว
00:01:43 → 00:01:46 อุ้งเชิงกรานก็จะเพิ่มความดันของตัวปลาย
00:01:46 → 00:01:48 รูทวารซึ่งก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึงของ
00:01:48 → 00:01:51 ภาวะริสีดวงกลุ่มคนไข้เหล่านี้ได้แก่
00:01:51 → 00:01:54 กลุ่มคนไข้ที่ตั้งครรภ์ค่ะหากมีการตั้ง
00:01:54 → 00:01:57 ครรภ์เนี่ยมดลูกก็จะมีการขยายตัวขึ้นขยาย
00:01:57 → 00:02:00 ตัวขึ้นก็จะเกิดความดันตรงบริเวณช่องท้อง
00:02:00 → 00:02:03 และอุ้งเชิงกลางที่เพิ่มมากขึ้นนอกจากนี้
00:02:03 → 00:02:06 กลุ่มคนไข้ที่น้ำหนักเกินหรือว่าอ้วนค่ะ
00:02:06 → 00:02:08 กลุ่มพวกเนี้ยก็จะมีความดันในช่องท้องที่
00:02:08 → 00:02:11 เพิ่มมากขึ้นสุดท้ายคือกลุ่มคนไข้ที่เป็น
00:02:11 → 00:02:14 โรคตับแข็งค่ะแล้วมีภาวะแทรกซ้อนของภาวะ
00:02:14 → 00:02:17 ตับแข็งที่เราเรียกว่ามีน้ำในช่องท้อง
00:02:17 → 00:02:20 หรือว่าท้องมารอันนี้ก็เป็นอีกสาเหตุนึง
00:02:20 → 00:02:23 ที่ทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้นก็
00:02:23 → 00:02:26 จะทำให้ความดันตรงบริเวณปลายรูทวารเนี่ย
00:02:26 → 00:02:28 เพิ่มมากขึ้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึงของการ
00:02:29 → 00:02:32 เกิดรสิดวงสุดท้ายก็คืออายุค่ะอายุที่
00:02:32 → 00:02:37 เพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้ตัวผนังของบริเวณรู
00:02:37 → 00:02:40 ทวารเนี่ยมีคาวะที่อ่อนแอลงก็จะทำให้หลอด
00:02:40 → 00:02:42 เลือดบริเวณแถวนั้นเนี่ยโปร่งพองได้ง่าย
00:02:42 → 00:02:45 ขึ้นเพราะฉะนั้นจะเห็นว่ากลุ่มคนไข้ที่
00:02:45 → 00:02:48 สูงอายุก็จะพบการเกิดริสีดวงได้เพิ่มมาก
00:02:48 → 00:02:52 ขึ้นค่ะแล้วริสีดวงทวารมีอาการเป็นอย่าง
00:02:52 → 00:02:55 ไรคะอาการของคนไข้ที่เป็นฤสีดวงอ่ะค่ะ
00:02:55 → 00:02:58 ส่วนใหญ่ที่มาพบแพทย์เลยนะอาการหลักเลย
00:02:58 → 00:03:01 คือถ่ายเป็นเลือดค่ะกลุ่มคนไข้แบบไหนที่
00:03:02 → 00:03:04 เราเรียกว่าถ่ายเป็นเลือดจากฤิสีดวงกลุ่ม
00:03:04 → 00:03:06 คนไข้เหล่าเนี้ยมักจะถ่ายอุจจาระออกมา
00:03:06 → 00:03:09 เป็นก้อนปกติก่อนหลังจากนั้นเนี่ยก็อาจจะ
00:03:09 → 00:03:13 มีเลือดสดสีแดงสดเลยหยดตามลงมาหลังถ่าย
00:03:13 → 00:03:15 อุจจาระหรือในกลุ่มคนไข้บางคนอาจจะถ่าย
00:03:15 → 00:03:18 อุจจาระออกมาเป็นก้อนพร้อมกับเลือดก็ได้
00:03:18 → 00:03:20 แต่ว่าเนื้ออุจจาระเนี่ยจะต้องเป็นสี
00:03:20 → 00:03:22 เหลืองค่ะแล้วอาจจะเป็นเลือดที่เคลือบ
00:03:22 → 00:03:25 อยู่กลุ่มคนไข้ที่เป็นริสีดวงจะต้องถ่าย
00:03:25 → 00:03:28 แล้วไม่มีมูกค่ะนะหรือว่าคนไข้บางคนถ้ามา
00:03:28 → 00:03:31 ได้ไม่ได้ไม่ได้มาด้วยถยเป็นเลือดก็อาจจะ
00:03:31 → 00:03:34 มาด้วยอาการที่รู้สึกระคายเคืองตรงบริเวณ
00:03:34 → 00:03:38 รูทวารอาจจะรู้สึกคันเจ็บตรงวนปลายรูทวาร
00:03:38 → 00:03:41 ได้หรือในบางคนมาด้วยมีความรู้สึกว่ามี
00:03:41 → 00:03:44 ติ่งยื่นหรือมีก้อนตรงเรนรูทวารหากก้อน
00:03:44 → 00:03:47 ยังไม่ใหญ่มากติ่งเนื้อไม่ใหญ่มากพวกเจะ
00:03:47 → 00:03:50 รู้สึกตอนที่เราเบ่งถ่ายอุจจาระพอเราเลิ
00:03:50 → 00:03:52 เลิกเบ่งติ่งเนื้อเหล่าเนี้ยสามารถกลับ
00:03:52 → 00:03:56 เข้าไปได้แต่หากตัวริสีดวงเนี่ยมีขนาดมาก
00:03:56 → 00:03:59 ขึ้นอันเนี้ยติ่งเหล่านี้ไม่สามารถกลับ
00:03:59 → 00:04:02 เข้าไปเองได้อาจจะจำเป็นต้องใช้มือช่วย
00:04:02 → 00:04:05 ดันกลับเข้าไปหรือหากระยะของริสีดวงเป็น
00:04:05 → 00:04:08 มากขึ้นคนไข้เนี่ยเอ่อหลอดเลือดบริเวณแถว
00:04:09 → 00:04:12 นั้นเค่ะมีอาการบวมมากๆแม้กระทั่งใช้มือ
00:04:12 → 00:04:15 ดันกลับเนี่ยก็ไม่สามารถดันกลับได้ก็จะมี
00:04:15 → 00:04:18 ติ่งยื่นคายอยู่ตรงวนรูทวารเลยกลุ่มคนแข
00:04:18 → 00:04:21 เหล่าเนี้ก็จะมาด้วยอาการปวดก้นปวดรูทวาร
00:04:21 → 00:04:24 เป็นอย่างมากค่ะอาจารย์คะแล้วถ้าเราเนี่ย
00:04:24 → 00:04:26 ถ่ายอุจจาระออกมาเป็นเลือดสดจะทราบได้
00:04:26 → 00:04:28 อย่างไรคะว่านี่คือมะเร็งหรือว่าริสีดวง
00:04:29 → 00:04:31 ทวารคะการไถ่เป็นเลือดเนี่ยค่ะเป็นอาการ
00:04:31 → 00:04:34 นำของภาวะทั้งมะเร็งลำไส้แล้วก็ริสีดวง
00:04:34 → 00:04:37 ได้เหมือนกันโดยไถ่เป็นเลือดจากริสีดวง
00:04:37 → 00:04:39 เนี่ยคนไข้อาจจะถ่ายอุจจาระออกมาเป็นก้อน
00:04:39 → 00:04:42 ปกติก่อนเลยแล้วหลังจากนั้นเนี่ยอาจจะมี
00:04:42 → 00:04:45 เลือดสีแดงสดๆเลยค่ะหยดตามลงมาหรือถ่าย
00:04:45 → 00:04:48 เป็นอุจจาระพร้อมกับเลือดนี่แหละแต่ตัว
00:04:48 → 00:04:50 อุจจาระจะต้องเป็นสีปกติแล้วเป็นเลือด
00:04:50 → 00:04:54 เคลือบนะคะแต่หากเนื้ออุจจาระเนี่ยไม่ใช่
00:04:54 → 00:04:59 ไม่ใช่สีปกติแต่เป็นสีแดงแดงดำหรือว่าแดง
00:04:59 → 00:05:02 ขี้นกอันนี้ต้องสงสัยว่าไม่ใช่ถ่ายเป็น
00:05:02 → 00:05:05 เลือดจากริสีดวงต้องสงสัยภาวะมะเร็งลำไส้
00:05:05 → 00:05:07 หรือเลือดที่ออกมาเนี่ยมีลักษณะมีความ
00:05:07 → 00:05:10 เป็นมูกร่วมด้วยอันนี้ต้องสงสัยมะเร็งลำ
00:05:10 → 00:05:13 ไส้ไม่ควรคิดถึงภาวะริสีดวงหรือคนไข้ที่
00:05:13 → 00:05:16 ถ่ายเป็นเลือดแล้วมีอาการบางอย่างที่ทำ
00:05:16 → 00:05:18 ให้เราต้องสงสัยภาวะมะเร็งลำไส้เช่นอะไร
00:05:18 → 00:05:21 บ้างเช่นการขับถ่ายที่ผิดปกติและเปลี่ยน
00:05:21 → 00:05:24 แปลงไปจากเดิมเช่นท้องผูกเปลี่ยนแปลงไป
00:05:24 → 00:05:27 จากเดิมท้องเสียเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือ
00:05:27 → 00:05:30 บางคนมีท้องผูกบ้างสลับท้องเสียบ้างรู้
00:05:30 → 00:05:33 สึกว่าตัวยังถ่ายไม่สุดหรือว่าลำอุจจาระ
00:05:33 → 00:05:35 เนี่ยมันเล็กลงอย่างต่อเนื่องอันนี้
00:05:35 → 00:05:38 จำเป็นต้องสงสัยภาวะมะเร็งลำไส้หรือคนไข้
00:05:38 → 00:05:41 ที่มีภาวะน้ำหนักลดค่ะลดแบบไม่ตั้งใจอ่ะ
00:05:42 → 00:05:44 ลดแบบผิดปกติลดแบบพั่ภาพอ่ะอันนี้ก็ต้อง
00:05:44 → 00:05:47 ระวังภาวะมะเร็งลำไส้ด้วยหรือคนไข้ที่มี
00:05:48 → 00:05:50 อาการเหนื่อยอ่อนเพลียสังเกตว่าตัวเองซีด
00:05:50 → 00:05:53 ลงหรือว่ามีคนทักว่าเราซีดลงอันนี้ก็เป็น
00:05:53 → 00:05:56 อาการที่สับสวนของภาวะมะเร็งลำไส้มากกว่า
00:05:56 → 00:05:59 หรือในคนไข้ที่ถ่ายเป็นเลือดแล้วมีปัจจัย
00:05:59 → 00:06:02 ใจเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้เช่นอายุ
00:06:02 → 00:06:05 เยอะโดยทั่วไปอายุเกิน 50 ปีต้องสงสัย
00:06:05 → 00:06:08 ภาวะมะเร็งลำไส้ร่วมด้วยหรือในกลุ่มคนไข้
00:06:08 → 00:06:11 ที่ไถ่เป็นเลือดแล้วมีประวัติครอบครัวโดย
00:06:11 → 00:06:14 เฉพาะญาติสายตรงเป็นมะเร็งล้ำไส้นะคะหาก
00:06:14 → 00:06:17 มีไถยเป็นเลือดร่วมกับมีอาการและปัจจัย
00:06:17 → 00:06:19 เสี่ยงเหล่านี้ต้องคิดถึงภาวะมะเร็งลำไส้
00:06:19 → 00:06:23 ร่วมด้วยค่ะอาจารย์คะแล้วริสีดวงทวารมี
00:06:23 → 00:06:26 กี่ประเภทคะริสีดวงทวารนักแบ่งเป็นประเภท
00:06:26 → 00:06:30 ใหญ่ๆได้ 2 ประเภทก็คือภายใน
00:06:30 → 00:06:32 กับภายนอกเดี๋ยวเรามาเริ่มที่ภายในก่อน
00:06:32 → 00:06:36 ภายในก็คือหลอดเลือดดำบริเวณภายในรูทวาร
00:06:36 → 00:06:39 มีอาการโป่งพองซึ่งพวกเนี้เนี่ยหากเป็น
00:06:39 → 00:06:42 นรยาเริ่มต้นเนี่ยไม่รู้ค่ะมองไม่เห็นคลำ
00:06:42 → 00:06:46 ไม่ได้นะคะโดยริสยงภายในเนี่ยแบ่งได้เป็น
00:06:46 → 00:06:50 4 ระยะระยะที่ 1 คือเล็กสุดเลยคำไม่ได้
00:06:50 → 00:06:52 มองไม่เห็นแพทย์จะต้องตรวจเท่านั้นเพราะ
00:06:52 → 00:06:54 ฉะนั้นคนนไข้จะมาด้วยอาการอะไรอาการก็คือ
00:06:54 → 00:06:57 มาด้วยถ่ายเป็นเลือดนะคะแต่หากหัวริสีดวง
00:06:58 → 00:07:00 นั้นโตขึ้นเข้าสู่ระยะที่ที่ 2 อันเนี้ย
00:07:00 → 00:07:02 อาจจะเห็นแล้วว่าติ่งเนื้อมันอาจจะยื่น
00:07:02 → 00:07:04 ออกมาที่รูทวารได้โดยเฉพาะช่วงที่เราเบ่ง
00:07:04 → 00:07:08 ถ่ายอุจจาระแต่หากเราเลิกเบ่งติ่งเนื้อ
00:07:08 → 00:07:11 ตรงเนี้ยกลับเข้าไปเองได้นะคะพวกนี้ก็จะ
00:07:11 → 00:07:13 มาด้วยถ่ายเป็นเลือดที่ถี่มากขึ้นได้กว่า
00:07:13 → 00:07:17 เดิมส่วนระยะที่ 3 หัวริสีดวงที่โตขึ้น
00:07:17 → 00:07:20 เนี่ยจากเดิมที่กลับเข้าไปได้ด้วยตัวเอง
00:07:20 → 00:07:23 ไม่สามารถกลับเข้าไปได้เราจำเป็นต้องใช้
00:07:23 → 00:07:27 มือดันตัวติ่งเนื้อเนี่ยกลับเข้าไปพวกนี้
00:07:27 → 00:07:29 ก็จะมาด้วยถยเป็นเลือดที่บ่อยมากขึ้นแล้ว
00:07:29 → 00:07:32 ก็อาจจะเริ่มรู้สึกระคายเคืองก้นเจ็บก้น
00:07:32 → 00:07:36 ได้สุดท้ายระยะที่ 4 หากติ่งเนื้อริสีดวง
00:07:36 → 00:07:40 ใหญ่่ขึ้นมีการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณ
00:07:40 → 00:07:42 รอบรูทวารหรือหลอดเลือดบริเวณรูทวารเป็น
00:07:42 → 00:07:45 อย่างมากทำให้แม้กระทั่งจะดันกลับก็ดัน
00:07:45 → 00:07:48 กลับไม่ได้พวกนี้ติ่งเนื้อก็จะคายอยู่ที่
00:07:48 → 00:07:52 บริเวนรูทวารคนไข้จะมาด้วยอาการปวดหน่วง
00:07:52 → 00:07:55 บริเวณก้นเป็นอย่างมากส่วนอีกแบบนึงคือริ
00:07:55 → 00:07:58 สีดวงภายนอกค่ะริสดวงภายนอกก็คือหลอด
00:07:58 → 00:07:59 เลือดดำ
00:08:00 → 00:08:02 บริเวณปากร้อยย่นของรูทวารด้านนอกเนี่ยมี
00:08:03 → 00:08:05 การโป่งพองขึ้นพวกนี้ก็จะเห็นชัดเลยมา
00:08:05 → 00:08:09 ด้วยติ่งเนื้อที่มองเห็นได้คลำได้และหาก
00:08:09 → 00:08:12 มีการอักเสบพวกนี้จะมีอาการปวดมากแล้วก็
00:08:12 → 00:08:16 รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันค่ะอาจารย์ขา
00:08:16 → 00:08:19 แล้วริสีดวงทวารรักษาได้อย่างไรคะการ
00:08:19 → 00:08:22 รักษาริสีดวงเนี่ยขึ้นกับอาการแล้วก็ระยะ
00:08:22 → 00:08:25 ของโรคซึ่งจะแตกต่างไปแต่ละบุคคลนะคะใน
00:08:25 → 00:08:28 ระยะที่ 1 และ 2 หัวริสีดวงมีขนาดเล็กการ
00:08:28 → 00:08:32 รักษาเนี่ยก็คือการทายาหรือว่าเหน็บยาที่
00:08:32 → 00:08:36 รูทวารในเฉพาะช่วงที่มีไทยเป็นเลือดร่วม
00:08:36 → 00:08:38 กับปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเอง
00:08:38 → 00:08:42 ท้องผูกเช่นดื่มน้ำให้เยอะขึ้นทานผัก
00:08:42 → 00:08:46 ผลไม้ทานธัญพืชให้เยอะขึ้นแต่หากรักษา
00:08:46 → 00:08:49 ด้วยยาและปรับพฤติกรรมแล้วไม่ดีขึ้นก็อาจ
00:08:49 → 00:08:52 จะมีทางเลือกอื่นอีก 2 วิธีในการรักษา
00:08:52 → 00:08:56 รีสีดวงในระยะที่ 1 และ 2 ก็คือการฉีดยา
00:08:56 → 00:08:58 ค่ะเข้าไปที่หัวริสีดวงเพื่อทำให้หัว
00:08:58 → 00:09:02 ริสีดวงฝ่อลงหรืออีกวิธีนึงคือการใช้ยาง
00:09:02 → 00:09:05 อ่ะค่ะรัดที่คั่วหัวริสีดวงเพื่อทำให้
00:09:05 → 00:09:10 เา้าเอ่อฝ่อแล้วก็หลุดไปได้นะส่วนในระยะ
00:09:10 → 00:09:12 ที่ 3 อ่ะค่ะเมื่อเข้าสู่ระยะที่ 3 เนี่ย
00:09:12 → 00:09:15 หัวริสีดวงจะเริ่มโตขึ้นจะไม่ค่อยตอบสนอง
00:09:15 → 00:09:19 ต่อการฉีดยาละแต่ยังพอตอบสนองต่อการรัด
00:09:19 → 00:09:22 หัวรัดขั้วหัวรือสีีดวงอยู่ดังนั้นเนี่ย
00:09:22 → 00:09:25 เราอาจจะพิจารณาทำการรักษาโดยการรัดขั้ว
00:09:25 → 00:09:28 หัวริสีดวงสัก 2-3 ครั้งหากอาการไม่ดี
00:09:28 → 00:09:31 ขึ้นอันนี้อาจจะจำเป็นต้องพิจารณาผ่าตัด
00:09:31 → 00:09:34 เพื่อตัดหัวริสีดวงออกซึ่งการผ่าตัด
00:09:34 → 00:09:37 เดี๋ยวนี้มีหลายประเภทตั้งแต่วิธีธรรมดา
00:09:37 → 00:09:39 นะคะหรือในปัจจุบันเนี่ยก็จะมีวิธี
00:09:39 → 00:09:42 เครื่องตัดแบบอัตโนมัติหรือว่าใช้เลเซอร์
00:09:42 → 00:09:45 ตัดค่ะซึ่งในระยะหลังเนี่ยการใช้วัฒนาการ
00:09:45 → 00:09:47 อันใหม่เนี่ยก็จะทำให้การผ่าตัดริสีดวง
00:09:47 → 00:09:50 ง่ายขึ้นแล้วก็เจ็บต่อการหลังผ่าตัดเนี่ย
00:09:50 → 00:09:54 ลดลงส่วนระยะที่ 4 ก็คือระยะสุดท้ายเนี่ย
00:09:54 → 00:09:57 ค่ะหัวริสีดวงเนี่ยไม่สามารถดันกลับเข้า
00:09:57 → 00:10:00 ไปได้หากมีการอักเสบก็จะคาอยู่อักเสบคา
00:10:00 → 00:10:03 อยู่ตรงเรือนรูทวารดังนั้นเนี่ยการรักษา
00:10:03 → 00:10:06 ริสีดวงระยะที่ 4 หรือริสีดวงภายนอกเนี่ย
00:10:06 → 00:10:10 ส่วนใหญ่แนะนำให้ทำการผ่าตัดค่ะอาจารย์คะ
00:10:10 → 00:10:12 แล้วถ้าหากตัวเราเนี่ยเป็นฤษีดวงทวาร
00:10:12 → 00:10:15 สามารถที่จะรักษาได้ตัวเองมั้คะถ้าเรา
00:10:15 → 00:10:17 เป็นไม่มากค่ะแล้วจะต้องปฏิบัติตัวอย่าง
00:10:17 → 00:10:21 ไรบ้างคะการรักษาฤสีดวงในระยะแรกที่เรา
00:10:21 → 00:10:24 ควรปฏิบัติก็คือหลีกเลี่ยงทำไงก็ได้ให้
00:10:24 → 00:10:27 เราไม่ท้องผูกค่ะนะอันนี้เป็นปัจจัยที่
00:10:27 → 00:10:30 สำคัญมากการป้องกันทำให้เราเราไม่ท้องผูก
00:10:30 → 00:10:34 ก็คือ 1 ดื่มน้ำน้ำสำคัญมากที่จะทำให้
00:10:34 → 00:10:37 อุจจาระนุ่มโดยปกติแล้วเราจะแนะนำให้ดื่ม
00:10:37 → 00:10:40 น้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวันหรือ 8 แก้วต่อ
00:10:40 → 00:10:45 วันรวมทั้งเพิ่มปริมาณสัดส่วนของกากใยจาก
00:10:45 → 00:10:48 อาหารเช่นเพิ่มปริมาณผักเพิ่มปริมาณผลไม้
00:10:48 → 00:10:50 หรือว่าธัญพืชเพิ่มมากขึ้นเพราะตัว
00:10:50 → 00:10:53 ไฟเบอร์เนี่ยจะทำให้อุจจาระเนี่ยมันนุ่ม
00:10:53 → 00:10:55 ขึ้นนอกจากนี้เนี่ยพฤติกรรมบางอย่างควร
00:10:55 → 00:10:57 หลีกเลี่ยงค่ะเพื่อป้องกันให้การเกิดริสี
00:10:57 → 00:11:00 ดวงเช่นพฤติกรรมที่เราต้องพยายามรีบเบ่ง
00:11:00 → 00:11:03 อุจจาระอย่างรวดเร็วเพื่อให้มันเสร็จเร็ว
00:11:03 → 00:11:05 ๆอย่างเงี้ยค่ะเราควรจะต้องหลีกเลี่ยง
00:11:05 → 00:11:08 หรือหลีกเลี่ยงการนั่งเข้าห้องน้ำนานๆไม่
00:11:08 → 00:11:10 ควรนำโทรศัพท์หรือนั่งอ่านหนังสือในห้อง
00:11:10 → 00:11:13 น้ำเพลินๆเงี้ยก็จะทำให้เรานั่งถ่ายนาน
00:11:13 → 00:11:16 กว่าความเป็นจริงหรือการนั่งหรือยืนอยู่
00:11:16 → 00:11:19 ในอริยาบถใดอริยาบถนึงซ้ำๆควรเปลี่ยน
00:11:19 → 00:11:22 อริยาบถเพื่อทำให้รีสีดวงเนี่ยเป็นได้
00:11:22 → 00:11:25 น้อยลงนอกจากนี้เนี่ยพฤติกรรมบางอย่างจะ
00:11:25 → 00:11:28 ทำให้อุจจาระแข็งค่ะเช่นการอั้นอุจจาระ
00:11:28 → 00:11:30 เพราะฉะนั้นเนี่ยคหลีกเลี่ยงการอั้น
00:11:30 → 00:11:33 อุจจาระถ้าไม่จำเป็นนะคะสุดท้ายเนี่ยเรา
00:11:33 → 00:11:36 ควรออกกำลังกายค่ะเพราะว่าการออกกำลังกาย
00:11:36 → 00:11:39 เนี่ยค่ะจะทำให้เพิ่มการบีบตัวของตัวลำ
00:11:40 → 00:11:43 ไส้จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะท้องผูก
00:11:43 → 00:11:47 โดยแนะนำให้ออกกำลังกายครั้งนึงสัก 45-60
00:11:47 → 00:11:50 นาทีสัปดาห์นึงสัก 2-3 ครั้งซึ่งถ้าเรา
00:11:50 → 00:11:52 ปฏิบัติตัวแบบเยค่ะก็จะเป็นการรักษา
00:11:52 → 00:11:55 ริสีดวงเบื้องต้นได้ค่ะอาจารย์ขาแล้ว
00:11:55 → 00:11:58 สำหรับคนที่เป็นริสีดวงทวารแล้วจะต้อง
00:11:58 → 00:12:00 หลีกเลี่ยงอย่างไรปรับพฤติกรรมอย่างไร
00:12:00 → 00:12:02 บ้างคะอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นริ
00:12:02 → 00:12:05 สีดวงทวารก็คืออาหารที่จะทำให้เราท้องผูก
00:12:05 → 00:12:08 ค่ะนะซึ่งอาหารอะไรบ้างที่จะทำให้ท้องผูก
00:12:08 → 00:12:11 เอ่ออาหารประเภทกลุ่มที่เป็นโปรตีนที่
00:12:11 → 00:12:15 ย่อยยากค่ะถ้าคนถ้าเรากินโปรตีนที่ย่อย
00:12:15 → 00:12:18 ยากปริมาณมากๆเช่นโปรตีนจากเนื้อแดงเนื้อ
00:12:18 → 00:12:20 หมูเนื้อสัตว์โปรตีนที่ย่อยยากเนี่ยพวก
00:12:20 → 00:12:23 เนี้ยมันจะมีกากใยที่น้อยอ่ะค่ะดงนั้น
00:12:23 → 00:12:26 เนี่ยถ้ากินปริมาณมากเราอาจจะท้องผูกได้
00:12:26 → 00:12:28 หรือว่าในบางคนน่ะค่ะดื่มเครื่องดื่มบาง
00:12:28 → 00:12:31 อย่างจะท้องผูกเช่นชากาแฟแอลกอฮอล์เพราะ
00:12:32 → 00:12:35 ว่าคาเฟอีนจากกาแฟหรือว่าแทนนินจากชาค่ะ
00:12:35 → 00:12:38 บางคนที่กินเนี่ยอาจจะบางคนกินชากาแฟแล้ว
00:12:38 → 00:12:40 ท้องผูกอันนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงหรือว่า
00:12:40 → 00:12:43 อาหารบางอย่างมันจะระคายเคืองต่อบริเวณลำ
00:12:43 → 00:12:47 ไส้ค่ะโดยเฉพาะอาหารรสจัดเช่นรสเผ็ดค่ะ
00:12:47 → 00:12:50 บางคนกินอาหารรสเผ็ดแล้วจะเกิดภาวะที่เรา
00:12:50 → 00:12:53 เรียกว่าลำไส้แปรปรวนบางคนท้องผูกบาคน
00:12:53 → 00:12:55 ท้องเสียซึ่งการที่มีท้องผูกหรือว่าท้อง
00:12:55 → 00:12:58 เสียบ่อยๆเนี่ยก็จะเป็นตัวนึงที่กระตุ้น
00:12:58 → 00:13:01 ทำให้เกิดสีดวงได้ดังนั้นคนไข้ที่กิน
00:13:01 → 00:13:04 อาหารประเภทของเผ็ดแล้วมีการขับถ่ายที่
00:13:04 → 00:13:06 ผิดปกติก็ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้
00:13:06 → 00:13:09 อาจารย์คะสุดท้ายค่ะเราจะดูแลตัวเองอย่าง
00:13:09 → 00:13:12 ไรให้ห่างไกลจากริสีดวงทวารคะการห่างไกล
00:13:12 → 00:13:16 จากริสีดวงทวารเนี่ยสามารถทำได้ในกิจกรรม
00:13:16 → 00:13:19 กิจวัตรทั่วไปนะคะสิ่งที่สำคัญที่สุดทำไง
00:13:19 → 00:13:21 ก็ได้ให้เราไม่ท้องผูกนะเพฉะนั้นน้ำนะคะ
00:13:21 → 00:13:25 สำคัญมากเกิน 8 แก้วต่อวันหรือ 2 ลิตรต่อ
00:13:25 → 00:13:29 วันเพิ่มปริมาณสัดส่วนของอาหารที่มีกะย
00:13:29 → 00:13:33 ให้เพิ่มมากขึ้นทานผักทานผลไม้ให้เพิ่ม
00:13:33 → 00:13:36 มากขึ้นนะคะหลีกเลี่ยนกิจกรรมกิจวัตรที่
00:13:36 → 00:13:39 ทำให้ท้องผูกหรือถ่ายแข็งคือพยายามหลีก
00:13:39 → 00:13:41 เลี่ยงการอั้นอุจจาระเมื่อไหร่ก็ตามปวด
00:13:41 → 00:13:44 เข้าห้องน้ำเสียเวลาไปเข้าห้องน้ำเลยอย่า
00:13:44 → 00:13:46 พยายามอั้นอุจจาระไว้เพราะจะทำให้อุจจาระ
00:13:46 → 00:13:49 แข็งหรือเรื่องพฤติกรรมที่รีบเข้าห้องน้ำ
00:13:49 → 00:13:52 เร็วๆรีบเบ่งเร็วๆในทางกลับกันก็ไม่ควร
00:13:52 → 00:13:55 เอาหนังสือหรือเอาโทรศัพท์มานั่งเล่นขณะ
00:13:55 → 00:13:58 ที่เราเข้าห้องน้ำนะคะนอกจากนี้การออก
00:13:58 → 00:14:01 กำลังกายที่เป็นประจำและสม่ำเสมอก็จะทำ
00:14:01 → 00:14:03 ให้การขับถ่ายดีขึ้นสุดท้ายหากน้ำหนัก
00:14:03 → 00:14:07 เกินนะภาวะอ้วนจะทำให้ความดันในช่องท้อง
00:14:07 → 00:14:09 เพิ่มขึ้นจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดริ
00:14:09 → 00:14:12 สวงดังนั้นกลุ่มคนไข้ที่มีน้ำหนักเกินหมอ
00:14:12 → 00:14:15 แนะนำให้ลดน้ำหนักเพื่อป้องกันการเกิดฤิ
00:14:15 → 00:14:19 สีดวงค่ะขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ
00:14:19 → 00:14:21 TNN Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด
00:14:21 → 00:14:25 Subscribe กดไกดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์
00:14:25 → 00:14:29 ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการ
00:14:29 → 00:14:32 รับชมรายการสดคลิปวีีดีโอที่น่าสนใจของ
00:14:32 → 00:14:36 ทาง TNN นะคะ
00:00:00 → 00:00:06 สนับสนุนโดยแอปหมอดีหมอประจำบ้านในมือ
00:00:06 → 00:00:10 คุณเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการนะคะค่ะ
00:00:10 → 00:00:12 อย่างที่บอกไปค่ะว่าในตอนนี้นะคะเราจะพา
00:00:12 → 00:00:15 คุณผู้ชมค่ะไปพบกับคุณหมอแพทย์ผู้เชี่ยว
00:00:15 → 00:00:18 ชาญจากแอปพลิเคชันหมอดีค่ะอาจารย์จะมาไข
00:00:18 → 00:00:21 ข้อข้องใจในเรื่องของฤสีดวงทวารกันไปฟัง
00:00:21 → 00:00:24 พร้อมๆกันค่ะ
00:00:24 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:32 → 00:00:35 สวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรกนะคะ
00:00:35 → 00:00:38 ริสีดวงทวารค่ะมีสาเหตุมาจากอะไรคะ
00:00:38 → 00:00:41 อาจารย์โรครสีดวงทวารนะคะเกิดจากหลอด
00:00:41 → 00:00:44 เลือดดำบริเวณปลายรูทวารเนี่ยมีการขยาย
00:00:44 → 00:00:47 ตัวขึ้นโดยสาเหตุของรีสีดวงเนี่ยมีหลาย
00:00:47 → 00:00:50 สาเหตุสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดเลยค่ะก็
00:00:50 → 00:00:53 คือสาเหตุของการเบ่งถ่ายอุจจาระในกลุ่มคน
00:00:53 → 00:00:56 ไข้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรังหรือว่า
00:00:56 → 00:00:59 อุจจาระแข็งมากๆอ่ะค่ะพวกนี้อาจจะเกิดจาก
00:00:59 → 00:01:02 การที่ดึ่มน้ำน้อยหรือว่าทานอาหารจำพวก
00:01:02 → 00:01:05 ที่มีกากใยหรือว่าผักผลไม้น้อยเมื่อ
00:01:05 → 00:01:07 อุจจาระแข็งเนี่ยค่ะเราก็ต้องพยายามเบ่ง
00:01:07 → 00:01:10 อุจจาระออกมาเมื่อมีการเบ่งเนี่ยก็จะเป็น
00:01:10 → 00:01:13 สาเหตุที่สำคัญของการเกิดภาวะฤทธิ์สีดวง
00:01:13 → 00:01:16 นอกจากนี้ค่ะกลุ่มคนไข้ที่ต้องการเข้า
00:01:16 → 00:01:18 ห้องน้ำให้เสร็จอย่างรวดเร็วเลยพยายามจะ
00:01:18 → 00:01:20 เบ่งอุจจาระให้มันออกมาให้หมดเร็วๆอย่าง
00:01:21 → 00:01:23 เงี้ยค่ะก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้เกิด
00:01:23 → 00:01:26 ภาวะฤาษีดวงหรือในกรณีคนไข้ที่มีอาการ
00:01:26 → 00:01:30 ท้องเสียหรือว่าถ่ายบ่อยๆนะคะก็อาจจะเกิด
00:01:30 → 00:01:32 การระคายเคืองตรงบริเวณปลายรูทวารก่อให้
00:01:32 → 00:01:36 เกิดวิสีดวงได้นอกจากนี้นะคะในกลุ่มที่
00:01:36 → 00:01:39 เป็นภาวะบางอย่างอ่ะคะที่มีการเพิ่มความ
00:01:39 → 00:01:43 ดันของช่องท้องรวมถึงเพิ่มความดันของตัว
00:01:43 → 00:01:46 อุ้งเชิงกรานก็จะเพิ่มความดันของตัวปลาย
00:01:46 → 00:01:48 รูทวารซึ่งก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึงของ
00:01:48 → 00:01:51 ภาวะริสีดวงกลุ่มคนไข้เหล่านี้ได้แก่
00:01:51 → 00:01:54 กลุ่มคนไข้ที่ตั้งครรภ์ค่ะหากมีการตั้ง
00:01:54 → 00:01:57 ครรภ์เนี่ยมดลูกก็จะมีการขยายตัวขึ้นขยาย
00:01:57 → 00:02:00 ตัวขึ้นก็จะเกิดความดันตรงบริเวณช่องท้อง
00:02:00 → 00:02:03 และอุ้งเชิงกลางที่เพิ่มมากขึ้นนอกจากนี้
00:02:03 → 00:02:06 กลุ่มคนไข้ที่น้ำหนักเกินหรือว่าอ้วนค่ะ
00:02:06 → 00:02:08 กลุ่มพวกเนี้ยก็จะมีความดันในช่องท้องที่
00:02:08 → 00:02:11 เพิ่มมากขึ้นสุดท้ายคือกลุ่มคนไข้ที่เป็น
00:02:11 → 00:02:14 โรคตับแข็งค่ะแล้วมีภาวะแทรกซ้อนของภาวะ
00:02:14 → 00:02:17 ตับแข็งที่เราเรียกว่ามีน้ำในช่องท้อง
00:02:17 → 00:02:20 หรือว่าท้องมารอันนี้ก็เป็นอีกสาเหตุนึง
00:02:20 → 00:02:23 ที่ทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้นก็
00:02:23 → 00:02:26 จะทำให้ความดันตรงบริเวณปลายรูทวารเนี่ย
00:02:26 → 00:02:28 เพิ่มมากขึ้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึงของการ
00:02:29 → 00:02:32 เกิดรสิดวงสุดท้ายก็คืออายุค่ะอายุที่
00:02:32 → 00:02:37 เพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้ตัวผนังของบริเวณรู
00:02:37 → 00:02:40 ทวารเนี่ยมีคาวะที่อ่อนแอลงก็จะทำให้หลอด
00:02:40 → 00:02:42 เลือดบริเวณแถวนั้นเนี่ยโปร่งพองได้ง่าย
00:02:42 → 00:02:45 ขึ้นเพราะฉะนั้นจะเห็นว่ากลุ่มคนไข้ที่
00:02:45 → 00:02:48 สูงอายุก็จะพบการเกิดริสีดวงได้เพิ่มมาก
00:02:48 → 00:02:52 ขึ้นค่ะแล้วริสีดวงทวารมีอาการเป็นอย่าง
00:02:52 → 00:02:55 ไรคะอาการของคนไข้ที่เป็นฤสีดวงอ่ะค่ะ
00:02:55 → 00:02:58 ส่วนใหญ่ที่มาพบแพทย์เลยนะอาการหลักเลย
00:02:58 → 00:03:01 คือถ่ายเป็นเลือดค่ะกลุ่มคนไข้แบบไหนที่
00:03:02 → 00:03:04 เราเรียกว่าถ่ายเป็นเลือดจากฤิสีดวงกลุ่ม
00:03:04 → 00:03:06 คนไข้เหล่าเนี้ยมักจะถ่ายอุจจาระออกมา
00:03:06 → 00:03:09 เป็นก้อนปกติก่อนหลังจากนั้นเนี่ยก็อาจจะ
00:03:09 → 00:03:13 มีเลือดสดสีแดงสดเลยหยดตามลงมาหลังถ่าย
00:03:13 → 00:03:15 อุจจาระหรือในกลุ่มคนไข้บางคนอาจจะถ่าย
00:03:15 → 00:03:18 อุจจาระออกมาเป็นก้อนพร้อมกับเลือดก็ได้
00:03:18 → 00:03:20 แต่ว่าเนื้ออุจจาระเนี่ยจะต้องเป็นสี
00:03:20 → 00:03:22 เหลืองค่ะแล้วอาจจะเป็นเลือดที่เคลือบ
00:03:22 → 00:03:25 อยู่กลุ่มคนไข้ที่เป็นริสีดวงจะต้องถ่าย
00:03:25 → 00:03:28 แล้วไม่มีมูกค่ะนะหรือว่าคนไข้บางคนถ้ามา
00:03:28 → 00:03:31 ได้ไม่ได้ไม่ได้มาด้วยถยเป็นเลือดก็อาจจะ
00:03:31 → 00:03:34 มาด้วยอาการที่รู้สึกระคายเคืองตรงบริเวณ
00:03:34 → 00:03:38 รูทวารอาจจะรู้สึกคันเจ็บตรงวนปลายรูทวาร
00:03:38 → 00:03:41 ได้หรือในบางคนมาด้วยมีความรู้สึกว่ามี
00:03:41 → 00:03:44 ติ่งยื่นหรือมีก้อนตรงเรนรูทวารหากก้อน
00:03:44 → 00:03:47 ยังไม่ใหญ่มากติ่งเนื้อไม่ใหญ่มากพวกเจะ
00:03:47 → 00:03:50 รู้สึกตอนที่เราเบ่งถ่ายอุจจาระพอเราเลิ
00:03:50 → 00:03:52 เลิกเบ่งติ่งเนื้อเหล่าเนี้ยสามารถกลับ
00:03:52 → 00:03:56 เข้าไปได้แต่หากตัวริสีดวงเนี่ยมีขนาดมาก
00:03:56 → 00:03:59 ขึ้นอันเนี้ยติ่งเหล่านี้ไม่สามารถกลับ
00:03:59 → 00:04:02 เข้าไปเองได้อาจจะจำเป็นต้องใช้มือช่วย
00:04:02 → 00:04:05 ดันกลับเข้าไปหรือหากระยะของริสีดวงเป็น
00:04:05 → 00:04:08 มากขึ้นคนไข้เนี่ยเอ่อหลอดเลือดบริเวณแถว
00:04:09 → 00:04:12 นั้นเค่ะมีอาการบวมมากๆแม้กระทั่งใช้มือ
00:04:12 → 00:04:15 ดันกลับเนี่ยก็ไม่สามารถดันกลับได้ก็จะมี
00:04:15 → 00:04:18 ติ่งยื่นคายอยู่ตรงวนรูทวารเลยกลุ่มคนแข
00:04:18 → 00:04:21 เหล่าเนี้ก็จะมาด้วยอาการปวดก้นปวดรูทวาร
00:04:21 → 00:04:24 เป็นอย่างมากค่ะอาจารย์คะแล้วถ้าเราเนี่ย
00:04:24 → 00:04:26 ถ่ายอุจจาระออกมาเป็นเลือดสดจะทราบได้
00:04:26 → 00:04:28 อย่างไรคะว่านี่คือมะเร็งหรือว่าริสีดวง
00:04:29 → 00:04:31 ทวารคะการไถ่เป็นเลือดเนี่ยค่ะเป็นอาการ
00:04:31 → 00:04:34 นำของภาวะทั้งมะเร็งลำไส้แล้วก็ริสีดวง
00:04:34 → 00:04:37 ได้เหมือนกันโดยไถ่เป็นเลือดจากริสีดวง
00:04:37 → 00:04:39 เนี่ยคนไข้อาจจะถ่ายอุจจาระออกมาเป็นก้อน
00:04:39 → 00:04:42 ปกติก่อนเลยแล้วหลังจากนั้นเนี่ยอาจจะมี
00:04:42 → 00:04:45 เลือดสีแดงสดๆเลยค่ะหยดตามลงมาหรือถ่าย
00:04:45 → 00:04:48 เป็นอุจจาระพร้อมกับเลือดนี่แหละแต่ตัว
00:04:48 → 00:04:50 อุจจาระจะต้องเป็นสีปกติแล้วเป็นเลือด
00:04:50 → 00:04:54 เคลือบนะคะแต่หากเนื้ออุจจาระเนี่ยไม่ใช่
00:04:54 → 00:04:59 ไม่ใช่สีปกติแต่เป็นสีแดงแดงดำหรือว่าแดง
00:04:59 → 00:05:02 ขี้นกอันนี้ต้องสงสัยว่าไม่ใช่ถ่ายเป็น
00:05:02 → 00:05:05 เลือดจากริสีดวงต้องสงสัยภาวะมะเร็งลำไส้
00:05:05 → 00:05:07 หรือเลือดที่ออกมาเนี่ยมีลักษณะมีความ
00:05:07 → 00:05:10 เป็นมูกร่วมด้วยอันนี้ต้องสงสัยมะเร็งลำ
00:05:10 → 00:05:13 ไส้ไม่ควรคิดถึงภาวะริสีดวงหรือคนไข้ที่
00:05:13 → 00:05:16 ถ่ายเป็นเลือดแล้วมีอาการบางอย่างที่ทำ
00:05:16 → 00:05:18 ให้เราต้องสงสัยภาวะมะเร็งลำไส้เช่นอะไร
00:05:18 → 00:05:21 บ้างเช่นการขับถ่ายที่ผิดปกติและเปลี่ยน
00:05:21 → 00:05:24 แปลงไปจากเดิมเช่นท้องผูกเปลี่ยนแปลงไป
00:05:24 → 00:05:27 จากเดิมท้องเสียเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือ
00:05:27 → 00:05:30 บางคนมีท้องผูกบ้างสลับท้องเสียบ้างรู้
00:05:30 → 00:05:33 สึกว่าตัวยังถ่ายไม่สุดหรือว่าลำอุจจาระ
00:05:33 → 00:05:35 เนี่ยมันเล็กลงอย่างต่อเนื่องอันนี้
00:05:35 → 00:05:38 จำเป็นต้องสงสัยภาวะมะเร็งลำไส้หรือคนไข้
00:05:38 → 00:05:41 ที่มีภาวะน้ำหนักลดค่ะลดแบบไม่ตั้งใจอ่ะ
00:05:42 → 00:05:44 ลดแบบผิดปกติลดแบบพั่ภาพอ่ะอันนี้ก็ต้อง
00:05:44 → 00:05:47 ระวังภาวะมะเร็งลำไส้ด้วยหรือคนไข้ที่มี
00:05:48 → 00:05:50 อาการเหนื่อยอ่อนเพลียสังเกตว่าตัวเองซีด
00:05:50 → 00:05:53 ลงหรือว่ามีคนทักว่าเราซีดลงอันนี้ก็เป็น
00:05:53 → 00:05:56 อาการที่สับสวนของภาวะมะเร็งลำไส้มากกว่า
00:05:56 → 00:05:59 หรือในคนไข้ที่ถ่ายเป็นเลือดแล้วมีปัจจัย
00:05:59 → 00:06:02 ใจเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้เช่นอายุ
00:06:02 → 00:06:05 เยอะโดยทั่วไปอายุเกิน 50 ปีต้องสงสัย
00:06:05 → 00:06:08 ภาวะมะเร็งลำไส้ร่วมด้วยหรือในกลุ่มคนไข้
00:06:08 → 00:06:11 ที่ไถ่เป็นเลือดแล้วมีประวัติครอบครัวโดย
00:06:11 → 00:06:14 เฉพาะญาติสายตรงเป็นมะเร็งล้ำไส้นะคะหาก
00:06:14 → 00:06:17 มีไถยเป็นเลือดร่วมกับมีอาการและปัจจัย
00:06:17 → 00:06:19 เสี่ยงเหล่านี้ต้องคิดถึงภาวะมะเร็งลำไส้
00:06:19 → 00:06:23 ร่วมด้วยค่ะอาจารย์คะแล้วริสีดวงทวารมี
00:06:23 → 00:06:26 กี่ประเภทคะริสีดวงทวารนักแบ่งเป็นประเภท
00:06:26 → 00:06:30 ใหญ่ๆได้ 2 ประเภทก็คือภายใน
00:06:30 → 00:06:32 กับภายนอกเดี๋ยวเรามาเริ่มที่ภายในก่อน
00:06:32 → 00:06:36 ภายในก็คือหลอดเลือดดำบริเวณภายในรูทวาร
00:06:36 → 00:06:39 มีอาการโป่งพองซึ่งพวกเนี้เนี่ยหากเป็น
00:06:39 → 00:06:42 นรยาเริ่มต้นเนี่ยไม่รู้ค่ะมองไม่เห็นคลำ
00:06:42 → 00:06:46 ไม่ได้นะคะโดยริสยงภายในเนี่ยแบ่งได้เป็น
00:06:46 → 00:06:50 4 ระยะระยะที่ 1 คือเล็กสุดเลยคำไม่ได้
00:06:50 → 00:06:52 มองไม่เห็นแพทย์จะต้องตรวจเท่านั้นเพราะ
00:06:52 → 00:06:54 ฉะนั้นคนนไข้จะมาด้วยอาการอะไรอาการก็คือ
00:06:54 → 00:06:57 มาด้วยถ่ายเป็นเลือดนะคะแต่หากหัวริสีดวง
00:06:58 → 00:07:00 นั้นโตขึ้นเข้าสู่ระยะที่ที่ 2 อันเนี้ย
00:07:00 → 00:07:02 อาจจะเห็นแล้วว่าติ่งเนื้อมันอาจจะยื่น
00:07:02 → 00:07:04 ออกมาที่รูทวารได้โดยเฉพาะช่วงที่เราเบ่ง
00:07:04 → 00:07:08 ถ่ายอุจจาระแต่หากเราเลิกเบ่งติ่งเนื้อ
00:07:08 → 00:07:11 ตรงเนี้ยกลับเข้าไปเองได้นะคะพวกนี้ก็จะ
00:07:11 → 00:07:13 มาด้วยถ่ายเป็นเลือดที่ถี่มากขึ้นได้กว่า
00:07:13 → 00:07:17 เดิมส่วนระยะที่ 3 หัวริสีดวงที่โตขึ้น
00:07:17 → 00:07:20 เนี่ยจากเดิมที่กลับเข้าไปได้ด้วยตัวเอง
00:07:20 → 00:07:23 ไม่สามารถกลับเข้าไปได้เราจำเป็นต้องใช้
00:07:23 → 00:07:27 มือดันตัวติ่งเนื้อเนี่ยกลับเข้าไปพวกนี้
00:07:27 → 00:07:29 ก็จะมาด้วยถยเป็นเลือดที่บ่อยมากขึ้นแล้ว
00:07:29 → 00:07:32 ก็อาจจะเริ่มรู้สึกระคายเคืองก้นเจ็บก้น
00:07:32 → 00:07:36 ได้สุดท้ายระยะที่ 4 หากติ่งเนื้อริสีดวง
00:07:36 → 00:07:40 ใหญ่่ขึ้นมีการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณ
00:07:40 → 00:07:42 รอบรูทวารหรือหลอดเลือดบริเวณรูทวารเป็น
00:07:42 → 00:07:45 อย่างมากทำให้แม้กระทั่งจะดันกลับก็ดัน
00:07:45 → 00:07:48 กลับไม่ได้พวกนี้ติ่งเนื้อก็จะคายอยู่ที่
00:07:48 → 00:07:52 บริเวนรูทวารคนไข้จะมาด้วยอาการปวดหน่วง
00:07:52 → 00:07:55 บริเวณก้นเป็นอย่างมากส่วนอีกแบบนึงคือริ
00:07:55 → 00:07:58 สีดวงภายนอกค่ะริสดวงภายนอกก็คือหลอด
00:07:58 → 00:07:59 เลือดดำ
00:08:00 → 00:08:02 บริเวณปากร้อยย่นของรูทวารด้านนอกเนี่ยมี
00:08:03 → 00:08:05 การโป่งพองขึ้นพวกนี้ก็จะเห็นชัดเลยมา
00:08:05 → 00:08:09 ด้วยติ่งเนื้อที่มองเห็นได้คลำได้และหาก
00:08:09 → 00:08:12 มีการอักเสบพวกนี้จะมีอาการปวดมากแล้วก็
00:08:12 → 00:08:16 รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันค่ะอาจารย์ขา
00:08:16 → 00:08:19 แล้วริสีดวงทวารรักษาได้อย่างไรคะการ
00:08:19 → 00:08:22 รักษาริสีดวงเนี่ยขึ้นกับอาการแล้วก็ระยะ
00:08:22 → 00:08:25 ของโรคซึ่งจะแตกต่างไปแต่ละบุคคลนะคะใน
00:08:25 → 00:08:28 ระยะที่ 1 และ 2 หัวริสีดวงมีขนาดเล็กการ
00:08:28 → 00:08:32 รักษาเนี่ยก็คือการทายาหรือว่าเหน็บยาที่
00:08:32 → 00:08:36 รูทวารในเฉพาะช่วงที่มีไทยเป็นเลือดร่วม
00:08:36 → 00:08:38 กับปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเอง
00:08:38 → 00:08:42 ท้องผูกเช่นดื่มน้ำให้เยอะขึ้นทานผัก
00:08:42 → 00:08:46 ผลไม้ทานธัญพืชให้เยอะขึ้นแต่หากรักษา
00:08:46 → 00:08:49 ด้วยยาและปรับพฤติกรรมแล้วไม่ดีขึ้นก็อาจ
00:08:49 → 00:08:52 จะมีทางเลือกอื่นอีก 2 วิธีในการรักษา
00:08:52 → 00:08:56 รีสีดวงในระยะที่ 1 และ 2 ก็คือการฉีดยา
00:08:56 → 00:08:58 ค่ะเข้าไปที่หัวริสีดวงเพื่อทำให้หัว
00:08:58 → 00:09:02 ริสีดวงฝ่อลงหรืออีกวิธีนึงคือการใช้ยาง
00:09:02 → 00:09:05 อ่ะค่ะรัดที่คั่วหัวริสีดวงเพื่อทำให้
00:09:05 → 00:09:10 เา้าเอ่อฝ่อแล้วก็หลุดไปได้นะส่วนในระยะ
00:09:10 → 00:09:12 ที่ 3 อ่ะค่ะเมื่อเข้าสู่ระยะที่ 3 เนี่ย
00:09:12 → 00:09:15 หัวริสีดวงจะเริ่มโตขึ้นจะไม่ค่อยตอบสนอง
00:09:15 → 00:09:19 ต่อการฉีดยาละแต่ยังพอตอบสนองต่อการรัด
00:09:19 → 00:09:22 หัวรัดขั้วหัวรือสีีดวงอยู่ดังนั้นเนี่ย
00:09:22 → 00:09:25 เราอาจจะพิจารณาทำการรักษาโดยการรัดขั้ว
00:09:25 → 00:09:28 หัวริสีดวงสัก 2-3 ครั้งหากอาการไม่ดี
00:09:28 → 00:09:31 ขึ้นอันนี้อาจจะจำเป็นต้องพิจารณาผ่าตัด
00:09:31 → 00:09:34 เพื่อตัดหัวริสีดวงออกซึ่งการผ่าตัด
00:09:34 → 00:09:37 เดี๋ยวนี้มีหลายประเภทตั้งแต่วิธีธรรมดา
00:09:37 → 00:09:39 นะคะหรือในปัจจุบันเนี่ยก็จะมีวิธี
00:09:39 → 00:09:42 เครื่องตัดแบบอัตโนมัติหรือว่าใช้เลเซอร์
00:09:42 → 00:09:45 ตัดค่ะซึ่งในระยะหลังเนี่ยการใช้วัฒนาการ
00:09:45 → 00:09:47 อันใหม่เนี่ยก็จะทำให้การผ่าตัดริสีดวง
00:09:47 → 00:09:50 ง่ายขึ้นแล้วก็เจ็บต่อการหลังผ่าตัดเนี่ย
00:09:50 → 00:09:54 ลดลงส่วนระยะที่ 4 ก็คือระยะสุดท้ายเนี่ย
00:09:54 → 00:09:57 ค่ะหัวริสีดวงเนี่ยไม่สามารถดันกลับเข้า
00:09:57 → 00:10:00 ไปได้หากมีการอักเสบก็จะคาอยู่อักเสบคา
00:10:00 → 00:10:03 อยู่ตรงเรือนรูทวารดังนั้นเนี่ยการรักษา
00:10:03 → 00:10:06 ริสีดวงระยะที่ 4 หรือริสีดวงภายนอกเนี่ย
00:10:06 → 00:10:10 ส่วนใหญ่แนะนำให้ทำการผ่าตัดค่ะอาจารย์คะ
00:10:10 → 00:10:12 แล้วถ้าหากตัวเราเนี่ยเป็นฤษีดวงทวาร
00:10:12 → 00:10:15 สามารถที่จะรักษาได้ตัวเองมั้คะถ้าเรา
00:10:15 → 00:10:17 เป็นไม่มากค่ะแล้วจะต้องปฏิบัติตัวอย่าง
00:10:17 → 00:10:21 ไรบ้างคะการรักษาฤสีดวงในระยะแรกที่เรา
00:10:21 → 00:10:24 ควรปฏิบัติก็คือหลีกเลี่ยงทำไงก็ได้ให้
00:10:24 → 00:10:27 เราไม่ท้องผูกค่ะนะอันนี้เป็นปัจจัยที่
00:10:27 → 00:10:30 สำคัญมากการป้องกันทำให้เราเราไม่ท้องผูก
00:10:30 → 00:10:34 ก็คือ 1 ดื่มน้ำน้ำสำคัญมากที่จะทำให้
00:10:34 → 00:10:37 อุจจาระนุ่มโดยปกติแล้วเราจะแนะนำให้ดื่ม
00:10:37 → 00:10:40 น้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวันหรือ 8 แก้วต่อ
00:10:40 → 00:10:45 วันรวมทั้งเพิ่มปริมาณสัดส่วนของกากใยจาก
00:10:45 → 00:10:48 อาหารเช่นเพิ่มปริมาณผักเพิ่มปริมาณผลไม้
00:10:48 → 00:10:50 หรือว่าธัญพืชเพิ่มมากขึ้นเพราะตัว
00:10:50 → 00:10:53 ไฟเบอร์เนี่ยจะทำให้อุจจาระเนี่ยมันนุ่ม
00:10:53 → 00:10:55 ขึ้นนอกจากนี้เนี่ยพฤติกรรมบางอย่างควร
00:10:55 → 00:10:57 หลีกเลี่ยงค่ะเพื่อป้องกันให้การเกิดริสี
00:10:57 → 00:11:00 ดวงเช่นพฤติกรรมที่เราต้องพยายามรีบเบ่ง
00:11:00 → 00:11:03 อุจจาระอย่างรวดเร็วเพื่อให้มันเสร็จเร็ว
00:11:03 → 00:11:05 ๆอย่างเงี้ยค่ะเราควรจะต้องหลีกเลี่ยง
00:11:05 → 00:11:08 หรือหลีกเลี่ยงการนั่งเข้าห้องน้ำนานๆไม่
00:11:08 → 00:11:10 ควรนำโทรศัพท์หรือนั่งอ่านหนังสือในห้อง
00:11:10 → 00:11:13 น้ำเพลินๆเงี้ยก็จะทำให้เรานั่งถ่ายนาน
00:11:13 → 00:11:16 กว่าความเป็นจริงหรือการนั่งหรือยืนอยู่
00:11:16 → 00:11:19 ในอริยาบถใดอริยาบถนึงซ้ำๆควรเปลี่ยน
00:11:19 → 00:11:22 อริยาบถเพื่อทำให้รีสีดวงเนี่ยเป็นได้
00:11:22 → 00:11:25 น้อยลงนอกจากนี้เนี่ยพฤติกรรมบางอย่างจะ
00:11:25 → 00:11:28 ทำให้อุจจาระแข็งค่ะเช่นการอั้นอุจจาระ
00:11:28 → 00:11:30 เพราะฉะนั้นเนี่ยคหลีกเลี่ยงการอั้น
00:11:30 → 00:11:33 อุจจาระถ้าไม่จำเป็นนะคะสุดท้ายเนี่ยเรา
00:11:33 → 00:11:36 ควรออกกำลังกายค่ะเพราะว่าการออกกำลังกาย
00:11:36 → 00:11:39 เนี่ยค่ะจะทำให้เพิ่มการบีบตัวของตัวลำ
00:11:40 → 00:11:43 ไส้จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะท้องผูก
00:11:43 → 00:11:47 โดยแนะนำให้ออกกำลังกายครั้งนึงสัก 45-60
00:11:47 → 00:11:50 นาทีสัปดาห์นึงสัก 2-3 ครั้งซึ่งถ้าเรา
00:11:50 → 00:11:52 ปฏิบัติตัวแบบเยค่ะก็จะเป็นการรักษา
00:11:52 → 00:11:55 ริสีดวงเบื้องต้นได้ค่ะอาจารย์ขาแล้ว
00:11:55 → 00:11:58 สำหรับคนที่เป็นริสีดวงทวารแล้วจะต้อง
00:11:58 → 00:12:00 หลีกเลี่ยงอย่างไรปรับพฤติกรรมอย่างไร
00:12:00 → 00:12:02 บ้างคะอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นริ
00:12:02 → 00:12:05 สีดวงทวารก็คืออาหารที่จะทำให้เราท้องผูก
00:12:05 → 00:12:08 ค่ะนะซึ่งอาหารอะไรบ้างที่จะทำให้ท้องผูก
00:12:08 → 00:12:11 เอ่ออาหารประเภทกลุ่มที่เป็นโปรตีนที่
00:12:11 → 00:12:15 ย่อยยากค่ะถ้าคนถ้าเรากินโปรตีนที่ย่อย
00:12:15 → 00:12:18 ยากปริมาณมากๆเช่นโปรตีนจากเนื้อแดงเนื้อ
00:12:18 → 00:12:20 หมูเนื้อสัตว์โปรตีนที่ย่อยยากเนี่ยพวก
00:12:20 → 00:12:23 เนี้ยมันจะมีกากใยที่น้อยอ่ะค่ะดงนั้น
00:12:23 → 00:12:26 เนี่ยถ้ากินปริมาณมากเราอาจจะท้องผูกได้
00:12:26 → 00:12:28 หรือว่าในบางคนน่ะค่ะดื่มเครื่องดื่มบาง
00:12:28 → 00:12:31 อย่างจะท้องผูกเช่นชากาแฟแอลกอฮอล์เพราะ
00:12:32 → 00:12:35 ว่าคาเฟอีนจากกาแฟหรือว่าแทนนินจากชาค่ะ
00:12:35 → 00:12:38 บางคนที่กินเนี่ยอาจจะบางคนกินชากาแฟแล้ว
00:12:38 → 00:12:40 ท้องผูกอันนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงหรือว่า
00:12:40 → 00:12:43 อาหารบางอย่างมันจะระคายเคืองต่อบริเวณลำ
00:12:43 → 00:12:47 ไส้ค่ะโดยเฉพาะอาหารรสจัดเช่นรสเผ็ดค่ะ
00:12:47 → 00:12:50 บางคนกินอาหารรสเผ็ดแล้วจะเกิดภาวะที่เรา
00:12:50 → 00:12:53 เรียกว่าลำไส้แปรปรวนบางคนท้องผูกบาคน
00:12:53 → 00:12:55 ท้องเสียซึ่งการที่มีท้องผูกหรือว่าท้อง
00:12:55 → 00:12:58 เสียบ่อยๆเนี่ยก็จะเป็นตัวนึงที่กระตุ้น
00:12:58 → 00:13:01 ทำให้เกิดสีดวงได้ดังนั้นคนไข้ที่กิน
00:13:01 → 00:13:04 อาหารประเภทของเผ็ดแล้วมีการขับถ่ายที่
00:13:04 → 00:13:06 ผิดปกติก็ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้
00:13:06 → 00:13:09 อาจารย์คะสุดท้ายค่ะเราจะดูแลตัวเองอย่าง
00:13:09 → 00:13:12 ไรให้ห่างไกลจากริสีดวงทวารคะการห่างไกล
00:13:12 → 00:13:16 จากริสีดวงทวารเนี่ยสามารถทำได้ในกิจกรรม
00:13:16 → 00:13:19 กิจวัตรทั่วไปนะคะสิ่งที่สำคัญที่สุดทำไง
00:13:19 → 00:13:21 ก็ได้ให้เราไม่ท้องผูกนะเพฉะนั้นน้ำนะคะ
00:13:21 → 00:13:25 สำคัญมากเกิน 8 แก้วต่อวันหรือ 2 ลิตรต่อ
00:13:25 → 00:13:29 วันเพิ่มปริมาณสัดส่วนของอาหารที่มีกะย
00:13:29 → 00:13:33 ให้เพิ่มมากขึ้นทานผักทานผลไม้ให้เพิ่ม
00:13:33 → 00:13:36 มากขึ้นนะคะหลีกเลี่ยนกิจกรรมกิจวัตรที่
00:13:36 → 00:13:39 ทำให้ท้องผูกหรือถ่ายแข็งคือพยายามหลีก
00:13:39 → 00:13:41 เลี่ยงการอั้นอุจจาระเมื่อไหร่ก็ตามปวด
00:13:41 → 00:13:44 เข้าห้องน้ำเสียเวลาไปเข้าห้องน้ำเลยอย่า
00:13:44 → 00:13:46 พยายามอั้นอุจจาระไว้เพราะจะทำให้อุจจาระ
00:13:46 → 00:13:49 แข็งหรือเรื่องพฤติกรรมที่รีบเข้าห้องน้ำ
00:13:49 → 00:13:52 เร็วๆรีบเบ่งเร็วๆในทางกลับกันก็ไม่ควร
00:13:52 → 00:13:55 เอาหนังสือหรือเอาโทรศัพท์มานั่งเล่นขณะ
00:13:55 → 00:13:58 ที่เราเข้าห้องน้ำนะคะนอกจากนี้การออก
00:13:58 → 00:14:01 กำลังกายที่เป็นประจำและสม่ำเสมอก็จะทำ
00:14:01 → 00:14:03 ให้การขับถ่ายดีขึ้นสุดท้ายหากน้ำหนัก
00:14:03 → 00:14:07 เกินนะภาวะอ้วนจะทำให้ความดันในช่องท้อง
00:14:07 → 00:14:09 เพิ่มขึ้นจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดริ
00:14:09 → 00:14:12 สวงดังนั้นกลุ่มคนไข้ที่มีน้ำหนักเกินหมอ
00:14:12 → 00:14:15 แนะนำให้ลดน้ำหนักเพื่อป้องกันการเกิดฤิ
00:14:15 → 00:14:19 สีดวงค่ะขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ
00:14:19 → 00:14:21 TNN Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด
00:14:21 → 00:14:25 Subscribe กดไกดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์
00:14:25 → 00:14:29 ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการ
00:14:29 → 00:14:32 รับชมรายการสดคลิปวีีดีโอที่น่าสนใจของ
00:14:32 → 00:14:36 ทาง TNN นะคะ