00:00:00 → 00:00:03 ลดน้ำหนักแบบ If 16/8 นะครับเสี่ยงเป็น
00:00:03 → 00:00:06 โรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น 91% จริง
00:00:06 → 00:00:08 หรือไม่จริงนะครับเพราะว่าเมื่อวานเพิ่ง
00:00:08 → 00:00:10 มีงานวิจัยจริงๆก็อย่าพูดว่าเป็นงานวิจัย
00:00:10 → 00:00:12 เลยนะครับมันเป็นโปสเตอร์ในงานวิชาการงาน
00:00:12 → 00:00:16 นึงเนาะซึ่งอยู่ดีๆก็มีการเอามาเผยแพร่นะ
00:00:16 → 00:00:18 ครับแล้วหลายคนก็ตกใจกันมากว่าเฮ้ยทำ If
00:00:18 → 00:00:20 แล้วจะเป็นโรคหัวใจหรอมันจริงหรือไม่จริง
00:00:20 → 00:00:22 ยังไงเดี๋ยววันนี้หมอหนึ่งเอางานวิจัย
00:00:22 → 00:00:25 นั้นมาพูดให้ฟังนะครับชมให้จบนะคุณจะได้
00:00:25 → 00:00:27 เข้าใจว่าอีกหน่อยเวลามีงานวิจัยออกมาเรา
00:00:27 → 00:00:29 ต้องดูอะไรบ้างเราจะเชื่อได้หรือเชื่อไม่
00:00:29 → 00:00:31 ได้เพราะอะไรยังไงไม่งั้นเราจะกลายเป็นคน
00:00:31 → 00:00:34 ที่อ่านแต่สรุปเสร็จปั๊บก็เอามาใช้เลยนะ
00:00:34 → 00:00:36 ครับเพราะฉะนั้นตั้งใจฟังให้จบนะครับ
00:00:36 → 00:00:38 เดี๋ยวม 1 สอนละเอียดเลยคลิปนี้นะครับไม่
00:00:38 → 00:00:41 มีใครสอนแบบนี้แน่นอนสวัสดีครับผมหมอ 1
00:00:41 → 00:00:43 Healthy ฮีโร่นะครับลดน้ำหนักครั้งสุด
00:00:43 → 00:00:45 ท้ายในชีวิตคิดถึงหมอ 1 Healthy ฮีโร่นะ
00:00:45 → 00:00:47 ครับสำหรับวันนี้นะจะเป็นเรื่องที่เราจะ
00:00:47 → 00:00:49 คุยเกี่ยวกับเรื่องของงานวิจัยเมื่อวานนะ
00:00:49 → 00:00:52 ครับที่มีคนเอางานวิจัยออกมาบอกว่าทำ If
00:00:52 → 00:00:54 แบบ 16/8 แล้วจะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจนะมัน
00:00:54 → 00:00:55 จริงหรือไม่จริงยังไงนะครับเดี๋ยวเราเอา
00:00:55 → 00:00:58 งานวิจัยนั้นมาคุยกันแต่ก็จะเป็นการพูด
00:00:58 → 00:01:00 คุยในแบบของม 1 เนาะก็คือจะเป็นพยายามใช้
00:01:00 → 00:01:03 ศัพท์ทางการแพทย์ให้น้อยที่สุดเพราะอยาก
00:01:03 → 00:01:05 ให้ทุกคนที่เป็นคนประชาชนทั่วไปธรรมดา
00:01:05 → 00:01:07 เนี่ยสามารถเข้าใจงานวิจัยได้คร่าวๆแล้ว
00:01:07 → 00:01:10 ก็เอาไปปรับใช้ได้โอเคมยนะครับแล้วเดี๋ยว
00:01:10 → 00:01:12 ตอนท้ายหมอหนึจะสอดแทรกให้ด้วยว่าจริงๆ
00:01:12 → 00:01:14 แล้วเนี่ยมันมีแบบไหนบ้างที่ทำแล้วเนี่ย
00:01:14 → 00:01:17 ปลอดภัย If มันมีทั้งแบบที่ปลอดภัยและไม่
00:01:17 → 00:01:19 ปลอดภัยแล้วก็มีแบบที่ทำแล้วผอมแล้วก็ไม่
00:01:19 → 00:01:22 ผอมด้วยนะครับเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังเนาะ
00:01:22 → 00:01:24 ตั้งใจฟังให้จบนะครับสำหรับใครที่ยังไม่
00:01:24 → 00:01:26 ได้กดติดตามอย่าลืมกดติดตามนะอ่ะคราวนี้
00:01:26 → 00:01:28 ปกติเราจะเริ่มกันด้วยตัวอย่างคนผอมใช่
00:01:28 → 00:01:30 มั้ยเดี๋ยววันนี้เราจะเริ่มเริ่มกันด้วย
00:01:30 → 00:01:32 งนวิจัยก่อนแล้วกันเนาะนะครับสำหรับหลายๆ
00:01:32 → 00:01:34 คนเนี่ยพอขึ้นชื่อว่างานวิจัยอาจจะรู้สึก
00:01:34 → 00:01:36 ว่าเฮ้ยมันเข้าใจยากอ่ะแต่หมอหนึ่งจะ
00:01:36 → 00:01:39 พยายามอธิบายในแง่มุมของคนทั่วไปนะอันนี้
00:01:39 → 00:01:42 มันเป็นโปสเตอร์นะครับในงานวิชาการงานนึง
00:01:42 → 00:01:45 ซึ่งเขาคบอกว่าเฮ้ยถ้าเรากินอาหารแค่ 8
00:01:45 → 00:01:47 ชั่วโมงเนี่ยนะต่อวันแล้วหยุดกิน 16
00:01:48 → 00:01:51 ช่วโมงเนี่ยมีความสัมพันธ์กันกับการที่จะ
00:01:51 → 00:01:54 เป็นโรคหลอดเลือดและหัวใจมากขึ้น 91% พอ
00:01:54 → 00:01:56 ฟังแบบนี้ปั๊บเมื่อวานคนแชร์กันกระหน่ำ
00:01:56 → 00:01:58 เลยเสร็จปั๊บคุณก็กลัวว่าฉันทำ If อยู่
00:01:58 → 00:02:00 ฉันจะเป็นโรคหัวใจหรือเปล่าแต่บางคนก็เอะ
00:02:00 → 00:02:03 ในใจว่าเฮ้ยฉันทำ If อยู่แต่ฉันผอมลงนะ
00:02:03 → 00:02:05 โรคประจำตัวฉันก็หายฉันจะเสี่ยงเป็นโรค
00:02:05 → 00:02:07 หัวใจจริงๆหรอไอ้ตอนอ้วนมันไม่เสี่ยงเป็น
00:02:07 → 00:02:10 โรคหัวใจมากกว่าหรอเห็นมั้ยหลายคนอาจจะ
00:02:10 → 00:02:12 รู้สึกแบบนั้นคราวนี้มาดูนะครับไอ้เจ้า
00:02:12 → 00:02:14 โปสเตอร์งานวิจัยนี้เนี่ยทุกครั้งเวลาเรา
00:02:14 → 00:02:18 ดูงานวิจัยสิ่งแรกที่เราจะต้องดูก่อนอย่า
00:02:18 → 00:02:20 เพิ่งไปอ่านสรุปนะเนี่ยถ้าเราอ่านสรุป
00:02:20 → 00:02:23 เสร็จปั๊บอ้อทำไป f 16/8 เสร็จปั๊บจะ
00:02:23 → 00:02:25 เป็นโรคหัวใจถ้าเราอ่านแบบนี้ปั๊บเราจะ
00:02:25 → 00:02:27 หยุดทำไอทันทีโดยที่เรายังไม่รู้เลยว่า
00:02:27 → 00:02:31 งานวิจัยนี้น่าเชื่อถือแค่ไหนอ่าในการดู
00:02:31 → 00:02:33 งานวิจัยเราต้องดูข้อที่ 1 ก่อนว่าน่า
00:02:33 → 00:02:35 เชื่อถือมน่าเชื่อถือมดูจากอะไรได้บ้าง
00:02:35 → 00:02:37 อันนี้หมอหนึ่งบอกว่าบอกเลยนะว่ามันดู
00:02:37 → 00:02:39 หลายอย่างมากๆนะครับแต่สำหรับใครที่ไม่
00:02:39 → 00:02:42 ได้อยู่วงการแพทย์เนี่ยให้เราดูง่ายๆก่อน
00:02:42 → 00:02:45 เลยว่าเค้าทำงานวิจัยเนี่ยเค้าทำยังไงนะ
00:02:45 → 00:02:48 ครับในงานวิจัยนี้เนี่ยเคเก็บคนมาทั้งหมด
00:02:48 → 00:02:51 นะครับ 20,000 คนนะเอาคนมา 20,000 คนแล้ว
00:02:51 → 00:02:54 20,000 คนนี้เคเก็บโดยใช้อะไรรู้มั้ยเา
00:02:54 → 00:02:57 ใช้อันนี้ครับ dietary recall question
00:02:57 → 00:03:00 หมายความว่าอะไร recall คือเตือนความจำ
00:03:00 → 00:03:02 เรียกความจำ question na คือแบบสอบถาม
00:03:02 → 00:03:05 เพราะฉะนั้นอันเนี้ยเป็นการเก็บข้อมูลจาก
00:03:05 → 00:03:07 แบบสอบถามเท่านั้นเพราะฉะนั้นในวงการ
00:03:07 → 00:03:10 แพทย์เราจะรู้กันเลยว่าการทำงานวิจัยหรือ
00:03:10 → 00:03:13 อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการใช้แบบสอบถามความ
00:03:13 → 00:03:15 น่าเชื่อถือจะค่อนข้างต่ำอันนี้ต้องเข้า
00:03:15 → 00:03:17 ใจก่อนนะมันจะมีหลายแบบนะครับมีแบบที่เรา
00:03:17 → 00:03:19 เก็บข้อมูลย้อนหลังอันนี้จะเป็นเก็บข้อ
00:03:19 → 00:03:21 มูลย้อนหลังเพราะไปถามคน 20,000 คนว่า
00:03:21 → 00:03:24 เฮ้ยตอนนั้นคุณกิน If หรือเปล่า 1 ปีที่
00:03:24 → 00:03:26 ผ่านมาคุณทำ AF มั้ย 1 ปีที่ผ่านมาคุณกิน
00:03:26 → 00:03:29 อะไรบ้างคุณคิดว่าใน 1 ปีที่ผ่านมาคนเรา
00:03:29 → 00:03:32 จำได้มยว่าเราทำไวันละเท่าไหร่บ้างหรือ
00:03:32 → 00:03:34 เรากินอะไรบ้างในแต่ละวันไม่มีทางจำได้
00:03:34 → 00:03:36 เลยเพราะฉะนั้นความน่าเชื่อถือของข้อมูล
00:03:36 → 00:03:39 เลยค่อนข้างต่ำโอเคมยแล้วความน่าเชื่อถือ
00:03:40 → 00:03:42 ของข้อมูลที่ดีเป็นยังไงครับหมอ 1 อ่ะ
00:03:42 → 00:03:44 เดี๋ยวหมอ 1 เขียนให้ดูแบบนี้ะกันความน่า
00:03:44 → 00:03:46 เชื่อถือที่ดีของข้อมูลจริงๆจะต้องเป็น
00:03:46 → 00:03:48 แบบนี้ครับถ้าสมมุติเราอยากจะรู้ว่า If
00:03:48 → 00:03:51 มีผลกับสุขภาพของเรายังไงบ้างสิ่งที่เรา
00:03:51 → 00:03:55 ควรจะทำคืออะไรรู้มั้ยเอาคนมา 2 กลุ่มนะม
00:03:55 → 00:03:58 1 บอกว่าสมมุติเอาคนมา 2 กลุ่มนะอ่าคนมา
00:03:58 → 00:04:00 2 กลุ่มแล้วคน 2 กลุ่มนี้รูปร่างหน้าตา
00:04:00 → 00:04:03 ควรจะเป็นไงด้วยควรจะเหมือนกันด้วยนะคำ
00:04:03 → 00:04:05 ว่าเหมือนกันคืออะไรรู้มครับเหมือนกัน
00:04:05 → 00:04:07 ทั้ง 1
00:04:07 → 00:04:10 อายุเฉลี่ยแล้วอายุ 2 กลุ่มควรจะพอๆกัน
00:04:10 → 00:04:12 ไม่งั้นเราก็บอกไม่ได้สมมุติเราบอกว่า
00:04:12 → 00:04:15 กลุ่มนึงอายุมากกลุ่มนึงอายุน้อยแล้ว
00:04:15 → 00:04:17 กลุ่มที่อายุมากอัตราตายมากกว่าเราบอกว่า
00:04:17 → 00:04:21 เอ้ยกลุ่มอายุมากทำไอแล้วเลยตายไม่ใช่สิ
00:04:21 → 00:04:23 เาอายุเยอะอยู่แล้วอัตราตายเขาเลยมากกว่า
00:04:23 → 00:04:25 ถูกมยเพราะฉะนั้น 2 กลุ่มเลยจำเป็นที่จะ
00:04:25 → 00:04:28 ต้องให้อายุใกล้เคียงกันนะมีอะไรอีกที่
00:04:28 → 00:04:31 ควรจะใกล้เคียงกันเพศเพราะอะไรเพราะว่า
00:04:31 → 00:04:33 บางทีผู้ชายอาจจะมีโอกาสที่จะเป็นโรคหลอด
00:04:33 → 00:04:35 เลือดและหัวใจมากกว่าเพศหญิงก็ได้ถูกมั้ย
00:04:35 → 00:04:37 เพราะผู้ชายอาจจะสุบบุหรี่มากกว่าอาจจะ
00:04:37 → 00:04:40 กินเหล้ามากกว่านะครับเพราะฉะนั้นงาน
00:04:40 → 00:04:42 วิจัยที่น่าเชื่อถือจริงๆจะไม่ใช่งาน
00:04:42 → 00:04:44 วิจัยที่ย้อนกลับไปถามข้อมูลย้อนหลังแต่
00:04:44 → 00:04:47 จะต้องเอาคนมา 2 กลุ่มถ้ามี 20,000 คนจะ
00:04:47 → 00:04:50 ต้องเป็นกลุ่มแรก 10,000 คนกลุ่มที่ 2
00:04:50 → 00:04:53 อีก 10,000 คนแล้วต้องอายุใกล้เคียงกัน
00:04:53 → 00:04:58 ต้องเพศเท่าๆกันด้วยและสิ่งสำคัญคือโรค
00:04:58 → 00:05:01 ประจำตัวด้วยนะนะอ่าโลกประจำตัวไม่ใช่ว่า
00:05:01 → 00:05:04 กลุ่มนึงเนี่ยสุขภาพดีเลยและอีกกลุ่มนึง
00:05:04 → 00:05:07 เนี่ยเป็นเบาหวานความดันไขมันหัวใจมัน
00:05:07 → 00:05:08 อย่างนี้มันจะไม่แฟร์เพราะอะไรเพราะกลุ่ม
00:05:08 → 00:05:10 นึงมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าอยู่แล้วโอเค
00:05:10 → 00:05:13 ั้ยครับเนาะอีกกลุ่มนึงจะมีโอกาสเสีย
00:05:13 → 00:05:14 ชีวิตมากกว่าอยู่แล้วอยู่ดีๆเราไปให้
00:05:14 → 00:05:17 กลุ่มที่เ้ามีเบาหวานไขมันความดันหัวใจทำ
00:05:17 → 00:05:19 If โอกาสเสียชีวิตเมากกว่าอยู่แล้วเพราะ
00:05:19 → 00:05:22 ทุนเดิมเไม่ดีโอเคป่าเนาะมีอะไรอีกสำคัญ
00:05:22 → 00:05:26 ที่สุดนะงานวิจัยที่เค้าจะเปรียบเทียบ If
00:05:26 → 00:05:28 ได้เนี่ยใครฟังหัวหนึ่งมานานจะรู้เลยว่า
00:05:28 → 00:05:30 สิ่งสำคัญคือ
00:05:30 → 00:05:33 อาหารที่คน 2 กลุ่มกินต้องเหมือนกันเพราะ
00:05:33 → 00:05:36 อะไรรู้มยคุณลองนึกภาพนะว่าคนกลุ่มนึง
00:05:36 → 00:05:41 10,000 คนนี้นะไม่ทำ If อ่าไม่ทำ If นะ
00:05:41 → 00:05:44 สมมุติว่าคนกลุ่มแรกไม่ทำ If ส่วน 10,000
00:05:44 → 00:05:47 คนหลังอันนี้ทำ If
00:05:47 → 00:05:52 16/8 แต่คนกลุ่มหลังที่ทำ If 16/8
00:05:52 → 00:05:57 อาหารที่กินคือจัง Food แต่คนที่ไม่ทำ If
00:05:57 → 00:06:00 อาหารที่กินคืออาหาร
00:06:00 → 00:06:03 Healthy คุณคิดว่ามันเกิดการได้เปรียบ
00:06:03 → 00:06:06 เสียเปรียบมั้ยถามว่าแบบนี้โอกาสที่กลุ่ม
00:06:06 → 00:06:09 ทำ If จะเสียชีวิตมากกว่ามีมั้ยมีแน่นอน
00:06:09 → 00:06:12 เพราะอะไรเพราะอาหารเขาคไม่ดีเพราะฉะนั้น
00:06:12 → 00:06:15 ถ้าเราจะทำวิจัยแล้วบอกว่า If ดีหรือไม่
00:06:15 → 00:06:18 ดีเราต้องควบคุมทั้งอายุทั้งเพศทั้งโรค
00:06:18 → 00:06:21 ประจำตัวและอาหารที่กินของคน 2 กลุ่มต้อง
00:06:21 → 00:06:24 เหมือนกันด้วยเพราะฉะนั้นในงานวิจัยก่อนๆ
00:06:24 → 00:06:26 นะครับหมอหนึ่งเลยจะเชื่องานวิจัยที่ทำใน
00:06:26 → 00:06:28 สัตว์มากกว่าด้วยซ้ำนะเพราะอะไรบางทีเรา
00:06:28 → 00:06:30 ทำในหนูอ่ะเราควบคุมได้ว่าเราให้หนูกิน
00:06:30 → 00:06:33 อาหารเหมือนกันทั้ง 2 กลุ่มแต่พอทำในคน
00:06:33 → 00:06:35 เนี่ยมันจะยากมากๆเพราะอะไรเราไม่สามารถ
00:06:35 → 00:06:37 ไปบังคับให้คนเนี่ยใน 1 ปีกินอาหารให้
00:06:37 → 00:06:40 เหมือนกันได้หมดเพราะแต่ละคนมีความชอบไม่
00:06:40 → 00:06:42 เหมือนกันเพราะฉะนั้นในงานวิจัยที่เกี่ยว
00:06:42 → 00:06:45 กับ If เลยทำค่อนข้างยากมากๆที่ทำแล้วน่า
00:06:45 → 00:06:48 เชื่อถือโอเคมอยากให้เข้าใจตรงนี้คร่าวๆ
00:06:48 → 00:06:50 ก่อนว่าอ๋องานวิจัยที่น่าเชื่อถือต้อง
00:06:50 → 00:06:52 เป็นแบบนี้นะเพราะฉะนั้นย้อนกลับไปนะครับ
00:06:52 → 00:06:55 นะย้อนกลับไปย้อนกลับไปถามว่างานวิจัยนี้
00:06:55 → 00:06:57 น่าเชื่อถือมั้ยก่อนก่อนที่เราจะไปบอกว่า
00:06:57 → 00:06:59 เออเฮ้ยทำม f 16/8 แล้วอัตราตายมากกว่า
00:06:59 → 00:07:01 คำตอบก็คือไม่น่าเชื่อถือเพราะข้อที่ 1
00:07:01 → 00:07:05 คืออะไรงานวิจัยนี้ไม่ได้เป็นการเอาคนมา 2
00:07:05 → 00:07:08 กลุ่มแล้วทำให้คน 2 กลุ่มมีอายุเพศโรค
00:07:08 → 00:07:10 ประจำตัวอาหารการกินเหมือนกันแต่มันเป็น
00:07:11 → 00:07:13 การเก็บข้อมูลย้อนหลังถ้าเก็บข้อมูลย้อน
00:07:13 → 00:07:15 หลังแสดงว่าแต่ละคนกินเหมือนกันมยกินไม่
00:07:15 → 00:07:18 เหมือนกันแน่ๆโอเคมยและอีกอันนึงนะครับนะ
00:07:18 → 00:07:20 คือตารางนี้หมอหนึแคปตารางนี้มาให้ดูดู
00:07:20 → 00:07:22 ไม่เป็นไม่เป็นไรแต่เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง
00:07:22 → 00:07:24 เท่าที่จำเป็นต้องรู้นะครับอันเนี้ยให้ดู
00:07:24 → 00:07:26 บรรทัดแรก Sample size Sample size
00:07:26 → 00:07:29 คือในคน 20,000 คนเนี่ยนะเค้าบอกบอกว่า
00:07:29 → 00:07:32 ระยะเวลาการกินน้อยกว่า 8 ช่มคำว่าน้อย
00:07:32 → 00:07:35 กว่า 8 ช่มก็คือคนเนี้ยเคทำ If 16/8 โดย
00:07:36 → 00:07:39 ประมาณหรืออาจจะทำ 20/4 อะไรก็ว่ากันไปนะ
00:07:39 → 00:07:43 เนี่ยอันเนี้ยใน 20,000 คนมีกลุ่มที่ทำ If
00:07:43 → 00:07:47 อยู่แค่ 400 กว่าคนเองนะส่วนกลุ่มที่ไม่
00:07:47 → 00:07:50 ได้ทำคือกินตะบี้ตะบันกินวันนึงกินเกิน 12
00:07:50 → 00:07:53 ช่มด้วยกินตั้งแต่ตื่นนอนยันก่อนนอนเลย
00:07:53 → 00:07:56 กลุ่มเนี้ยมี 10,000 คนเราจะมาเปรียบ
00:07:56 → 00:07:58 เทียบกันได้มยว่ากลุ่มคน 2 กลุ่มนี้เนี่ย
00:07:58 → 00:08:02 นะมันมีความแตกต่างเรื่องอัตราการตายหรือ
00:08:02 → 00:08:04 ว่าเรื่องของการเกิดโรคหัวใจต่างกันไมมัน
00:08:04 → 00:08:07 เปรียบเทียบยากเพราะอะไรจำนวนคนมันมัน
00:08:07 → 00:08:11 ต่างกันเยอะเกินไปเห็นภาพป่าเนาะและที่
00:08:11 → 00:08:14 เขาบอกว่าคนที่ทำไ 16/8 อัตราการเสีย
00:08:14 → 00:08:17 ชีวิตสูงมากเราจะบอกแบบนั้นไม่ได้เพราะ
00:08:17 → 00:08:19 สังเกตตรงนี้นะครับ current Smoking แปล
00:08:19 → 00:08:25 ว่าปัจจุบันเสูบบุหรี่ยอัตราการสูบบุหรี่
00:08:25 → 00:08:28 27.1 มากกว่ากลุ่มอื่นโดยชัดเจนดังนั้น
00:08:28 → 00:08:31 หมายความว่าถ้างานวิจัยนี้อยู่ดีๆคนทำ If
00:08:31 → 00:08:33 16/8 อัตราเสียชีวิตมากกว่าเราจะบอกว่า
00:08:33 → 00:08:36 เป็นจาก If ไม่ได้เด็ดขาดเพราะเรารู้อยู่
00:08:36 → 00:08:39 แล้วว่าการสูบบุหรี่ทำให้เป็นโรคหัวใจก็
00:08:39 → 00:08:41 ในเมื่อ 400 กว่าคนนี้เนี่ยมีการสูบ
00:08:41 → 00:08:43 บุหรี่อยู่ในกลุ่มนี้เยอะมากเขาอาจจะเสีย
00:08:43 → 00:08:45 ชีวิตจากโรคหัวใจก็ได้ไม่ได้เกี่ยวอะไร
00:08:45 → 00:08:48 กับ AF เลยโอเคป่าเพราะฉะนั้นถามว่างาน
00:08:48 → 00:08:51 วิจัยนี้น่าเชื่อถือมพอพูดแบบนี้ปั๊บบอก
00:08:51 → 00:08:53 เลยว่าความน่าเชื่อถือต่ำเพราะะนั้นพอหมอ
00:08:53 → 00:08:55 หนึอ่านตรงนี้เสร็จปั๊บผมไม่อ่านอะไรต่อ
00:08:55 → 00:08:58 แล้วเพราะผมรู้ว่างานวิจัยนี้ไม่น่าเชื่อ
00:08:58 → 00:09:01 ถือโอเคโอเคมคราวนี้มาดูกันต่อดีกว่านะ
00:09:01 → 00:09:03 ครับหมอ 1 บอกไปแล้วว่าการทำ If 16/8
00:09:03 → 00:09:05 ไม่ได้มีการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรค
00:09:05 → 00:09:08 หัวใจถูกมยแล้วอะไรบ้างล่ะที่เป็นความ
00:09:08 → 00:09:10 เสี่ยงนะครับอ่ะเรามาดูใครบ้างที่มีความ
00:09:10 → 00:09:14 เสี่ยงนะในการเป็นโรคหลอดเลือดและหัวใจ
00:09:14 → 00:09:16 โรคหลอดเลือดและหัวใจคืออะไรคะคุณหมอหลอด
00:09:16 → 00:09:18 เลือดเนี่ยหลักๆของเราเนี่ยนะครับที่
00:09:18 → 00:09:21 สำคัญำคัญแลมักจะอุดตันเนี่ยมันจะมีอยู่ 2
00:09:21 → 00:09:24 ที่ด้วยกันอันที่ 1 คือหลอดเลือดสมองอ่า
00:09:24 → 00:09:26 หลอดเลือดสมองถ้าไปอุดตันที่หลอดเลือด
00:09:26 → 00:09:30 สมองเราก็จะเป็นอะไรเป็นอัมพฤกษอัมพาตถูก
00:09:30 → 00:09:32 มั้ยเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตคือพูดง่ายๆคือ
00:09:32 → 00:09:36 สมองขาดเลือดหรือถ้าไปที่หัวใจก็จะเป็น
00:09:36 → 00:09:39 หัวใจขาดเลือดนะครับหรือเราจะใช้คำว่า
00:09:39 → 00:09:41 กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดใช้คำนี้ก็ได้ถ้า
00:09:41 → 00:09:45 ภาษาหมอเราก็จะเรียก mi นะเป็นโรค mi อัน
00:09:45 → 00:09:47 นี้ก็จะเรียกว่าเป็นสกจำชื่อไม่ได้ไม่
00:09:47 → 00:09:48 เป็นไรแต่สกนี่น่าจะเคยได้ยินชื่ออยู่
00:09:48 → 00:09:51 เนาะนะครับคราวนี้ความเสี่ยงจริงๆเนี่ย
00:09:51 → 00:09:53 มันมีอะไรบ้างที่เป็นความเสี่ยงแน่ๆที่ใน
00:09:53 → 00:09:55 โลกปัจจุบันของการแพทย์เรารู้อยู่แล้วข้อ
00:09:55 → 00:09:59 ที่ 1 คนอ้วนโอ้โหคุณหมอคะนี่คือเหตุผล
00:09:59 → 00:10:02 เลยที่ผมต้องออกมาทำเรื่องลดน้ำหนักเพราะ
00:10:02 → 00:10:03 แต่ก่อนเนี่ยหมอ 1 ทำงานอยู่ในห้อง
00:10:03 → 00:10:06 ฉุกเฉินเป็นหลักนะครับผมจะเจอแต่คนที่หัว
00:10:06 → 00:10:10 ใจวายมาแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกอธิบายอาการ
00:10:10 → 00:10:11 ก่อนแล้วกันเนาะเผื่อเป็นประโยชน์กับหลาย
00:10:11 → 00:10:14 ๆคนที่ที่บ้านมีผู้สูงอายุนะโรคพวกนี้
00:10:14 → 00:10:16 ส่วนใหญ่เนี่ยมันเป็นความเสื่อมของหลอด
00:10:16 → 00:10:19 เลือดนะแล้วก็มักจะมีอาการในคนที่สูงอายุ
00:10:19 → 00:10:21 แต่ปัจจุบันเราเจอนะว่าคนที่อายุน้อยๆก็
00:10:21 → 00:10:24 เจออาการแบบนี้เหมือนกันถ้าเป็นสมองขาด
00:10:24 → 00:10:26 เลือดนะครับนะอาการที่มีจะมีอะไรได้บ้าง 1
00:10:26 → 00:10:30 ปากเบี้ยวโอเคมยพูดไม่ชัดนะปากเบี้ยวพูด
00:10:30 → 00:10:33 ไม่ชัดแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกคือทั้งแขน
00:10:33 → 00:10:35 ทั้งขายกไม่ได้เลยข้างเดียวกันซ้ายก็ซ้าย
00:10:35 → 00:10:38 ขวาก็ขวาทั้งแขนทั้งขาบางคนอาจจะมีแบบ
00:10:38 → 00:10:41 เดินเซทรงตัวไม่ได้พวกนี้เป็นอาการของ
00:10:41 → 00:10:43 สมองขาดเลือดหมดเลยเพราะสมองมันสูญเสีย
00:10:43 → 00:10:46 การทำงานไปส่วนพวกหัวใจขาดเลือดล่ะหัวใจ
00:10:46 → 00:10:48 ขาดเลือดอาการจะแน่นหน้าอกแน่นหน้าอกตรง
00:10:48 → 00:10:51 หัวใจข้างซ้ายแน่นยังไงคะคุณหมอแน่น
00:10:51 → 00:10:53 เหมือนมีช้างมานั่งทับแล้วก็อาจจะมีอาการ
00:10:53 → 00:10:56 ร้าวไปที่คอหรือร้าวไปที่แขนได้อันนี้คือ
00:10:56 → 00:10:59 อาการของหัวใจขาดเลือดทั้ง 2 อันนี้เริ่ม
00:10:59 → 00:11:01 มีอาการอย่าอยู่บ้านเฉยๆไปโรงพยาบาลเข้า
00:11:01 → 00:11:04 ห้องฉุกเฉินทันทีโอเคไยนะครับซึ่งปัจจัย
00:11:04 → 00:11:06 เสี่ยงที่หมอนึงบอกคนอ้วนเพราะฉะนั้น
00:11:07 → 00:11:08 เมื่อไหร่ก็ตามที่เราลดน้ำหนักได้โอกาส
00:11:08 → 00:11:11 ที่จะเป็นโรคพวกนี้เป็นไงครับลดลงโอเคมย
00:11:11 → 00:11:15 อ่ะอันที่ 2 นะเรียงตามลำดับเลยนะคนที่
00:11:15 → 00:11:19 เป็นเบาหวานอ่าคนที่เป็นเบาหวานมักจะหลอด
00:11:19 → 00:11:22 เลือดไม่ดีเพราะอะไรหมอหนึ่งบอกแล้วเบา
00:11:22 → 00:11:23 หวานคือในเลือดเราเนี่ยมันมีน้ำตาลไหล
00:11:23 → 00:11:25 อยู่เยอะมากน้ำตาลมันจะทำให้เกิดการ
00:11:25 → 00:11:28 อักเสบน้ำตาลไปที่ไหนที่นั่นจะอักเสบน้ำ
00:11:28 → 00:11:31 ตาลค้างในหลอดเลือดหลอดเลือดก็อักเสบนะพอ
00:11:31 → 00:11:33 มันอักเสบเกิดอะไรขึ้นลองดูนะพอมันอักเสบ
00:11:33 → 00:11:36 ผนังหลอดเลือดมันอักเสบเนี่ยมันจะเกิดการ
00:11:36 → 00:11:38 ซ่อมตัวเองพอซ่อมตัวเองปั๊บนะครับมันก็จะ
00:11:38 → 00:11:41 มีเนี่ยๆๆมีการเกิดการซ่อมซ่อมแล้วก็หนา
00:11:41 → 00:11:44 ตัวซ่อมแล้วก็หนาตัวซ่อมแล้วก็หนาตัวพอณ
00:11:44 → 00:11:46 วันนึงมันซ่อมแล้วมันหนาตัวเกิดอะไรขึ้น
00:11:46 → 00:11:49 สังเกตมั้ยตันมั้ยเลือดมันไหลดีมั้ยเลือด
00:11:49 → 00:11:52 ไหลไม่ดีเพราะณวันนึงมันตันพอมันตันเส้น
00:11:52 → 00:11:54 เลือดที่ไปเลี้ยงสมองตันก็เลยเป็นอัมพาต
00:11:54 → 00:11:56 เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตันก็เลยกลาย
00:11:56 → 00:11:57 เป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเพราะฉะนั้น
00:11:57 → 00:12:00 เบาหวานเนี่ยความเสี่ยงสูงปมากๆนะโอเค
00:12:00 → 00:12:03 มั้ยสูงกว่าไขมันในเลือดสูงอีกนะโอเคป่า
00:12:04 → 00:12:07 มีอะไรอีกนะครับความดันสูงความดันสูงคือ
00:12:07 → 00:12:10 มันมาควบคู่กันหมดเลยอ่ะนะแล้วก็มีอะไร
00:12:10 → 00:12:13 อีกนะครับบุหรี่โอ้โหตัวนี้นี่สุดยอดเลย
00:12:13 → 00:12:16 นะแต่ปัจจุบันที่สุดยอดกว่าบุหรี่คืออะไร
00:12:16 → 00:12:19 รู้เป่า PM
00:12:19 → 00:12:22 2.5 PM 2.5 นี่เหมือนสูบบุหรี่เป็นพัน
00:12:22 → 00:12:25 ๆมวลเลยนะเพราะฉะนั้นเราเลยพบว่าคนที่
00:12:25 → 00:12:28 อยู่ในเมืองที่ PM 2.5 ค่อนข้างเยอะพบ
00:12:28 → 00:12:31 อัตราการเป็นโรคหัวใจมากขึ้นอันตรายมั้ย
00:12:31 → 00:12:34 อันตรายนะครับแต่ปัจจัยที่เราควบคุมได้
00:12:34 → 00:12:38 เราก็ควบคุมเช่นสูบบุหรี่เราก็เลิกสูบ PM
00:12:38 → 00:12:40 2.5 มันจะย้ายบ้านมันก็อาจจะยากเนาะอาจ
00:12:40 → 00:12:42 จะติดพืพวกเครื่องกรองอากาศออกนอกบ้านก็
00:12:42 → 00:12:45 ใส่หน้ากากกรองเท่าที่กรองได้แต่อันที่คน
00:12:45 → 00:12:49 เราทำได้นะคืออะไรรู้เปล่าลดน้ำหนักลดน้ำ
00:12:49 → 00:12:54 หนักสำคัญมากเลยเพราะฉะนั้นถามว่าการทำ If
00:12:54 → 00:12:58 มีประโยชน์กับโรคหลอดเลือดหัวใจมยมีสิผม
00:12:58 → 00:13:01 ถึงพยายามสอนตลอดเลยแต่มันมีการทำ If แบบ
00:13:01 → 00:13:04 ที่ไม่ดีต่อสุขภาพก็มีนะโอเคมั้ยอยากรู้
00:13:04 → 00:13:07 มั้ยอยากรู้ฟังต่อนะครับอ่ะคราวนี้มาดู
00:13:07 → 00:13:09 ให้ดูกำลังใจจากเพื่อนๆก่อนก่อนที่เราจะ
00:13:09 → 00:13:12 ไปดูว่า If มันดีกับชีวิตเราขนาดไหนบางคน
00:13:12 → 00:13:14 ไม่เคยทำไงแล้วพอฟังข่าวปั๊บก็เลยรู้สึก
00:13:14 → 00:13:17 กลัวนะครับแต่เพื่อนคนนี้เนี่ยนะครับเข้า
00:13:17 → 00:13:19 ไปเรียนในกลุ่มลดน้ำหนัก VIP กับหมอ 1
00:13:19 → 00:13:22 เนี่ย 1 เดือนผ่านไปเดือนเดียวนะจาก 80
00:13:22 → 00:13:26 เหลือ 73 ลดไปกี่กล 7 กเลยแล้วปกติเวลา
00:13:26 → 00:13:28 หมอหนึ่งสอนในกลุ่มเนี่ยจะให้นักเรียน
00:13:28 → 00:13:30 เนี่ยเวลาเค้าลดน้ำหนักได้มาแชร์เป็น
00:13:30 → 00:13:32 กำลังใจให้เพื่อนๆเนาะเนี่ยคนเนี้ยหลัง
00:13:32 → 00:13:36 จากลดไปเป็นไงใจสู้นะจากที่เคยไม่คิดว่า
00:13:36 → 00:13:38 จะทำได้ตอนนี้จะทำให้ได้จะกลับไปเหลือน้ำ
00:13:38 → 00:13:40 หนัก 55 ให้ได้เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไป
00:13:40 → 00:13:42 เชื่อข่าวหรือจริงๆก็อย่าเพิ่งเชื่อผม
00:13:42 → 00:13:45 ด้วยซ้ำนะแต่ให้ได้ลองลงมือทำก่อนอะไรที่
00:13:45 → 00:13:47 มันไม่ได้อันตรายนะครับเพราะฉะนั้นถ้าเรา
00:13:47 → 00:13:50 เคยเห็นตัวอย่างมาแล้วว่าถ้าเราทำ If
00:13:50 → 00:13:52 แล้วผอมลงถ้ามีคนทำ If แล้วโรคประจำตัว
00:13:52 → 00:13:54 หายจากเบาหวานไม่ต้องกินยาตลอดชีวิตแสดง
00:13:54 → 00:13:57 ว่ามันไม่ได้มีพิษมีภัยหรอกโอเคมยแต่เรา
00:13:57 → 00:14:02 จะต้องรู้ก่อนว่าทำแบบไหนถึงได้ผลทำแบบ
00:14:02 → 00:14:04 ไหนถึงอันตรายอ่ะตั้งใจฟังนะใครที่ไม่เคย
00:14:04 → 00:14:07 ดูหมอ 1 มาก่อนหมอ 1 ก็จะทวนให้สิ่งที่จะ
00:14:07 → 00:14:10 ทำให้ชีวิตคุณเนี่ยสุขภาพดีคือคุณต้องลด
00:14:10 → 00:14:12 น้ำหนักง่ายที่สุดเลยนะครับบางคณบอกโคุณ
00:14:12 → 00:14:15 หมอยากจะตายฟังผมก่อนแล้วมันจะง่ายโอเคมย
00:14:15 → 00:14:18 นะครับสิ่งแรกที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การทำ
00:14:18 → 00:14:21 If บางคนไปฟังว่าเฮ้ยทำ If แล้วผอมพอไป
00:14:21 → 00:14:23 ทำตามเค 16/8 ก็บอกเอ้ยไม่เห็นผอมเลยจริง
00:14:23 → 00:14:27 ๆ If ไม่ได้ทำแล้วผอมสิ่งที่ทำให้ If ได้
00:14:27 → 00:14:30 ผลแล้วผอมลงคือสิ่งที่เรียกว่าว่าการปรับ
00:14:30 → 00:14:34 สารอาหารหรือภาษาชาวบ้านเราใช้คำว่ากิน
00:14:34 → 00:14:38 อะไรดีคุณหมอคะกินอะไรถึงจะลดน้ำหนักได้
00:14:38 → 00:14:40 ในที่นี้คำว่ากินอะไรมันคือเรื่องของสาร
00:14:40 → 00:14:42 อาหารนะโอเคป่ะไม่ใช่เมนูอาหารนะนะครับ
00:14:42 → 00:14:44 อ่ะหมอ 1 เคยพูดไปแล้วว่าในเรื่องของสาร
00:14:44 → 00:14:46 อาหารก็จะมี 3 อย่างคือโปรตีน
00:14:46 → 00:14:50 คาร์โบไฮเดรตไขมันถูกมยแต่สิ่งที่จะทำให้
00:14:50 → 00:14:53 คุณเนี่ยหายจากการเป็นความเสี่ยงในเรื่อง
00:14:53 → 00:14:56 หลอดเลือดต่างๆเนี่ยคือสารอาหารที่ชื่อ
00:14:56 → 00:14:59 ว่าคาร์โบไฮเดรตคาร์โบไฮเดรตได้แก่อะไร
00:14:59 → 00:15:06 ตั้งใจฟังดีๆนะน้ำตาลแป้งและใยอาหารถ้า
00:15:06 → 00:15:08 ใครไม่อยากเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจสิ่งที่
00:15:08 → 00:15:12 ต้องทำคืออะไรน้ำตาลถ้าเลี่ยงได้ให้
00:15:12 → 00:15:14 เลี่ยงไปเลยเพราะม1ึบอกแล้วว่าคนที่จะ
00:15:14 → 00:15:16 เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจคือคนที่เป็น
00:15:16 → 00:15:18 เบาหวานเพราะฉะนั้นถ้าเรากินน้ำตาลเยอะๆ
00:15:18 → 00:15:19 เราก็เสี่ยงเบาหวานเพราะเสี่ยงเบาหวาน
00:15:19 → 00:15:21 เป็นโคหลอดเลือดหัวใจมั้ยเป็นเป็น
00:15:21 → 00:15:23 อัมพฤกษ์มั้ยเป็นเพราะฉะนั้นต้องงด
00:15:23 → 00:15:25 เครื่องดื่มอะไรก็ได้ที่มีน้ำตาลงดไปก่อน
00:15:25 → 00:15:27 ส่วนพวกน้ำตาลที่ใส่มาในอาหารอันนั้นมัน
00:15:27 → 00:15:29 เรียกไม่ได้ก็พยายามอย่าไปกินตรงที่มัน
00:15:29 → 00:15:31 เป็นน้ำแกงน้ำซุปหรือว่าเป็นน้ำน้ำของกับ
00:15:31 → 00:15:35 ข้าวนะครับส่วนแป้งเนี่ยไม่จำเป็นต้องงด
00:15:35 → 00:15:37 นะถ้างดแป้งเดี๋ยวจะมีปัญหาเกี่ยวกับ
00:15:37 → 00:15:40 ฮอร์โมนแต่ให้เราลดปริมาณมันลงเฉยๆคำว่า
00:15:40 → 00:15:42 ลดปริมาณลงคืออะไรหมอนึงบอกไปแล้วหลายคน
00:15:42 → 00:15:45 นะโดยเฉพาะเด็กๆบางคนที่อ้วนน่ะอ้วนจาก
00:15:45 → 00:15:47 การกินแต่ขนมถุงมันมีแต่แป้งถูกมั้ยมัน
00:15:47 → 00:15:50 ฝรั่งเนี่ยนะอ้วนจากการที่กินนมเป็นกล่อง
00:15:50 → 00:15:52 ๆเติมแล้วเติมอีกหรือผู้ใหญ่บางคนอ้วนจาก
00:15:52 → 00:15:54 การที่กินข้าวจนอิ่มอิ่มแล้วก็เติมข้าว
00:15:54 → 00:15:57 อีกบางคนเติมได้ 6 ทัพพีต่อวันบางคนอ้วน
00:15:57 → 00:16:00 จากการที่กินข้าวแล้วก็ยังกินผลไม้ตามอีก
00:16:00 → 00:16:02 พวกนี้มันคือแป้งทั้งนั้นเลยเราไม่ได้
00:16:02 → 00:16:04 ห้ามกินแป้งแต่เราต้องลดปริมาณมันลงเพราะ
00:16:04 → 00:16:06 ฉะนั้นจเคยกินข้าว 2 ทัพพีหรือ 1 ทัพพี
00:16:06 → 00:16:09 ต่อมื้อได้มั้อ่าจะเคยกินขนมปังแล้วก็กิน
00:16:09 → 00:16:11 ข้าวด้วยเลือกแป้งอย่างใดอย่างหนึ่งได้มย
00:16:11 → 00:16:15 ถูกมั้ยข้าวกับข้าวขนมปังก็ขนมปังหรือบาง
00:16:15 → 00:16:17 ทีเรากินข้าวเย็นเสร็จเราชอบตามด้วยผลไม้
00:16:17 → 00:16:19 เป็นกิโลอ่ะลดปริมาณผลไม้ได้มยหรือมื้อ
00:16:19 → 00:16:22 เย็นอยากกินผลไม้ไม่กินข้าวได้มยเห็นภาพ
00:16:22 → 00:16:25 มยมันจะทำให้แป้งลดลงพอแป้งลดลงน้ำตาลใน
00:16:25 → 00:16:27 เลือดก็จะลดลงเพราะแป้งเวลามันย่อยมันจะ
00:16:27 → 00:16:30 ย่อยเป็นน้ำตาลนะโอเคป่ะพอความเสี่ยงใน
00:16:30 → 00:16:32 การเป็นเบาหวานลดลงความเสี่ยงในการเป็น
00:16:32 → 00:16:35 หลอดเลือดหัวใจก็จะลดลงน้ำหนักก็จะลดลง
00:16:35 → 00:16:37 ด้วยพอหมอหนึ่งเคยบอกไปแล้วว่าระบบพลัง
00:16:37 → 00:16:39 งานในร่างกายมี 2 ระบบคือใช้น้ำตาลกับใช้
00:16:39 → 00:16:42 ไขมันพอน้ำตาลมันใช้ไม่หมดมันก็จะถูกเอา
00:16:42 → 00:16:44 ไปสะสมเป็นไขมันนะเพราะฉะนั้นถ้าเราอยาก
00:16:44 → 00:16:47 ผอมเราก็เลยกต้องลดน้ำตาลลงจะได้ไม่เกิด
00:16:47 → 00:16:49 การเอาไปสะสมเป็นไขมันแล้วพอร่างกายมี
00:16:49 → 00:16:51 พลังงานใช้ไม่พอมันจะเอาไขมันเก่าสะสมมา
00:16:51 → 00:16:53 ใช้ด้วยนะครับแล้วส่วนเรื่องใยอาหารอัน
00:16:53 → 00:16:55 นี้ก็เป็นอันนึงที่ทำให้คุณสุขภาพดีนะ
00:16:55 → 00:16:59 เพราะฉะนั้นถ้าได้กินผักบ้างก็จะดีโอเคม
00:16:59 → 00:17:01 นะครับเนาะคราวนี้คุณหมอคะโถ้าเราลด
00:17:01 → 00:17:03 ปริมาณแป้งลงเราก็ไม่อิ่มสิคะสิ่งสำคัญ
00:17:03 → 00:17:05 ที่จะทำให้เราอิ่มคือสารอาหารที่เรียกว่า
00:17:05 → 00:17:08 อะไรเอ่ยจำได้มั้ยโปรตีนถูกป่าเนื้อสัตว์
00:17:08 → 00:17:11 นมไข่ถ้าเป็นพวกโปรตีนพืชก็เป็นเต้าหู้
00:17:11 → 00:17:14 ธัญพืชพวกนี้ต่างหากที่จะทำให้คุณเนี่ย
00:17:14 → 00:17:17 อิ่มพออิ่มเสร็จปั๊บเราจะได้ทำอะไรได้ลด
00:17:17 → 00:17:19 แป้งได้นักเรียนในกลุ่ม VIP ผมจะรู้เลยผม
00:17:19 → 00:17:21 สอนตั้งแต่บทแรกๆเลยว่ากินโปรตีนยังไงให้
00:17:21 → 00:17:23 อิ่มเสร็จปั๊บเราจะได้เป็นลดแป้งได้คราว
00:17:23 → 00:17:25 นี้คีย์เวิร์ดคือตรงนี้แหละนะครับคนที่ทำ
00:17:25 → 00:17:27 ไ f แล้วไม่ผอมเพราะอะไรเพราะ 1 กิน
00:17:27 → 00:17:31 โปรตีนไม่อิ่ม 2 ไม่เคยลดแป้งพอไม่ได้ลด
00:17:31 → 00:17:34 แป้งการทำไอจะไม่มีประโยชน์เลยเพราะอะไร
00:17:34 → 00:17:36 เพราะร่างกายยังมีน้ำตาลอยู่เยอะทำไอไปก็
00:17:36 → 00:17:38 เท่านั้นร่างกายยังเคลียร์น้ำตาลไม่หมด
00:17:38 → 00:17:40 เพราะฉะนั้นปรับสารอาหารก่อนใครเรียนลด
00:17:40 → 00:17:42 น้ำหนักกับผมจะรู้เลยว่าที่หลายคนหายจาก
00:17:42 → 00:17:45 เบาหวานหายจากโรคต่างๆได้ขายมันพอกตับได้
00:17:45 → 00:17:48 เพราะเปรับสารอาหารก่อนคราวนี้พอคุณไปทำไ
00:17:48 → 00:17:51 อ่ะมันถึงจะมีประโยชน์โอเคมยบรรทัดที่ 2
00:17:51 → 00:17:55 คือกินตอนไหนดีนะกินตอนไหนคำว่ากินตอนไหน
00:17:55 → 00:17:58 ภาษาคนลดน้ำหนักก็คือทำ If นั่นเองคราว
00:17:58 → 00:18:00 นี้ข้อผิดผพลาดของการทำ If คืออะไรครับ
00:18:00 → 00:18:04 บางคนเข้าใจว่าเฮ้ยทำ If 16/8 เขาว่ากัน
00:18:04 → 00:18:06 ว่าทำแล้วผอมแต่ฉันทำแล้วไม่ผอมฉันจะทำ
00:18:06 → 00:18:08 ยังไงดีเฮ้ยฉันทำแล้วไม่ผอมเดี๋ยวฉันจะทำ
00:18:08 → 00:18:13 If 20/4 เฮ้ยฉันทำ If 20/4 แล้วฉันผอม
00:18:13 → 00:18:16 ช้าจังเลยฉันจะทำอะไรดีฉันจะทำ 23/1
00:18:16 → 00:18:18 อันเนี้ยคือสิ่งที่คนลดน้ำหนักแล้วไม่
00:18:18 → 00:18:20 เข้าใจวิธีลดอ่ะเขาทำกันคืออะไรรู้มยถ้า
00:18:20 → 00:18:23 16/8 ยังไม่ผอมจะทำ 20/4 20/4 ไม่รอมจะ
00:18:24 → 00:18:27 ทำ 23/1 พอ 23/1 ไม่รอมทำไงล่ะทีนี้จะอด
00:18:27 → 00:18:29 อาหาร 3 วันหรอมันทำไม่ได้ทั้งๆที่จริงๆ
00:18:29 → 00:18:32 ถ้า 16/8 ไม่ผอมอ่ะไม่ใช่ต้องเพิ่ม If นะ
00:18:32 → 00:18:34 แต่ต้องไปแก้อะไรไปแก้สาร
00:18:34 → 00:18:38 อาหารเข้าใจเปล่าแล้วสุขภาพคุณถึงจะดีแต่
00:18:38 → 00:18:40 ถ้าคุณทำไ f 16/8 รักสาอาหารคุณไม่ดีมัน
00:18:40 → 00:18:43 จะไม่เรียกไนะมันจะเรียกว่าอดอาหารเพราะ
00:18:43 → 00:18:46 บางคนทำไ f 16/8 แต่ใน 8 ชมงที่คุณกิน
00:18:46 → 00:18:48 เนี่ยแป้งคุณก็ไม่กินโปรตีนก็กินไม่ถึงไข
00:18:48 → 00:18:50 มันคุณก็ไม่กินถูกมยสุดท้ายมันไม่ได้
00:18:50 → 00:18:53 เรียกไหรอกมันเรียกอดอาหารเพราะถ้าเป็น
00:18:53 → 00:18:57 การทำไที่แท้จริง 16 ชมงที่อดจะมีคุณภาพ
00:18:57 → 00:19:00 ก็ต่อเมื่อ 8 ช่วโมงที่คุณกินโปรตีนคุณ
00:19:00 → 00:19:03 กินถึงและน้ำตาลคุณกินน้อยแป้งคุณกินไม่
00:19:03 → 00:19:06 เยอะเห็นป่ะง่ายมยเอ้อเพราะฉะนั้น If ที่
00:19:06 → 00:19:09 ดีร่างกายต้องไม่เครียดใช้คำนี้แล้วกันคำ
00:19:09 → 00:19:11 ว่าเครียดคืออะไรเครียดคือสารอาหารไม่ถึง
00:19:11 → 00:19:14 ถ้า If 16/8 แล้วสารอาหารไม่ถึงโอกาสที่
00:19:14 → 00:19:17 คุณจะป่วยจะมีเยอะมากแต่ถ้า If 16/8 และ
00:19:17 → 00:19:20 สารอาหารถึงคุณจะได้ประโยชน์จากมันมากๆ
00:19:20 → 00:19:23 โอเคไหครับเพราะฉะนั้น If ไม่ได้ผิดแต่
00:19:23 → 00:19:25 ผิดที่สารอาหารไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ
00:19:25 → 00:19:28 หรือเรื่องการลดน้ำหนักนะโอเคเนาะเคลียร์
00:19:28 → 00:19:30 นะหมอหนึ่งคิดว่าคลิปนี้น่าจะอธิบายให้
00:19:30 → 00:19:33 ฟังคุณฟังแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมงานวิจัย
00:19:33 → 00:19:36 ที่เาพูดออกมาเมื่อวันก่อนเนี่ยนะหมอ
00:19:36 → 00:19:38 หนึ่งถึงไม่ให้น้ำหนักมันเลยเพราะว่าการ
00:19:38 → 00:19:40 เก็บข้อมูลงานวิจัยเาไม่ได้น่าเชื่อถือ
00:19:40 → 00:19:43 ความน่าเชื่อถือน้อยนะครับและเราจะรู้เลย
00:19:43 → 00:19:45 ว่าคนที่มีโอกาสเป็นโรคหัวใจเนี่ยมักจะ
00:19:45 → 00:19:48 เกิดจากการที่มีโรคประจำตัวอยู่เดิมและมี
00:19:48 → 00:19:51 การสูบบุหรี่หรือมี PM 2.5 ถ้าเราไปแก้
00:19:51 → 00:19:54 พวกความอ้วนนะครับแก้เบาหวานแก้ความดัน
00:19:54 → 00:19:57 ได้ความเสี่ยงในการเป็นหลอดเลือดหัวใจก็
00:19:57 → 00:20:00 จะน้อยลงมากๆเนาะนะครับเพราะฉะนั้นใครที่
00:20:00 → 00:20:03 อ้วนเบาหวานความดันไขมันพอกตับอะไรต่างๆ
00:20:03 → 00:20:05 เนี่ยลดน้ำหนักนะแล้วคุณจะรู้เลยว่าถ้าทำ
00:20:05 → 00:20:08 If ถูกวิธีคุณจะได้ประโยชน์มากๆแต่ถูก
00:20:08 → 00:20:11 วิธีกับผิดวิธีต่างกันตรงไหนต่างกันตรง
00:20:11 → 00:20:13 สิ่งที่เรียกว่าอะไรครับสารอาหารนะโอเคมย
00:20:13 → 00:20:15 เพราะฉะนั้นถ้าสารอาหารดีคุณจะได้
00:20:15 → 00:20:17 ประโยชน์จาก If ถ้าสารอาหารคุณไม่ดีคุณจะ
00:20:17 → 00:20:19 ไม่ได้ประโยชน์เลยเนาะส่วนใครที่เพิ่งมา
00:20:20 → 00:20:21 ติดตามหมอหนึ่งก็ไปดูคลิปอื่นๆได้นะหมอ
00:20:21 → 00:20:23 หนึ่งเคยทำเรื่องสารอาหารไว้เยอะมากเลย
00:20:23 → 00:20:26 แต่ใครที่อยากเป็นนักเรียนของหมอ 1 นะ
00:20:26 → 00:20:27 ครับอยากได้ผลลัพธ์แบบเนี้ยเนี่ยคนเนี้ย
00:20:27 → 00:20:29 เพิ่งเข้าไปเรียนกับหมอ 1 เมื่อ 1 เดือน
00:20:29 → 00:20:31 ที่แล้วเองลดไป 7 กกแล้วก็ทำไแบบถูกวิธี
00:20:31 → 00:20:34 แหละถูกวิธีคืออะไรย้ำสารอาหารถูกต้อง
00:20:34 → 00:20:36 โอเคมั้ยอาหารที่ลดน้ำหนักได้มันคืออาหาร
00:20:36 → 00:20:38 ในชีวิตประจำวันเลยนะไม่จำเป็นต้องทำ
00:20:38 → 00:20:40 อาหารเองด้วยนะครับและไม่จำเป็นต้องมา
00:20:40 → 00:20:43 นั่งจดเมนูอาหารว่าจะกินอะไรด้วยแต่ขอให้
00:20:43 → 00:20:45 คุณเข้าใจว่าไอ้คำว่าสารอาหารเนี่ยใน
00:20:45 → 00:20:49 กลุ่มแป้งเช่นข้าวเส้นขนมปังผักหัวต่างๆ
00:20:49 → 00:20:53 ผลไม้มันกินยังไงอ่าโปรตีนเนื้อสัตว์นม
00:20:53 → 00:20:56 ไข่ถั่วเต้าหู้ธัญพืชมันกินยังไงน้ำมันไข
00:20:56 → 00:20:59 มันมันเลือกยังไงเห็นภาพ้าป่ะแค่เข้าใจ
00:20:59 → 00:21:02 ตรงนี้นะผอมแล้วตลอดชีวิตเลยโอเคมยส่วน
00:21:02 → 00:21:04 เรื่อง If ในกลุ่มเรียนเนี่ยนะหมอหนึ่งมี
00:21:04 → 00:21:06 ตัวอย่างให้ดูว่าหลายคนเนี่ยทำงานเป็นกะ
00:21:06 → 00:21:09 บางคนทำงานกะดึกบางคนทำงานประจำมีตัว
00:21:09 → 00:21:12 อย่างให้ดูหมดเลยนะครับเนาะและพอเราทำ 2
00:21:12 → 00:21:16 ขั้นตอนแรกเสร็จปั๊บเราไปสร้างระบบเผา
00:21:16 → 00:21:19 ผลาญนะครับด้วยการออกกำลังกายคราวนี้อัน
00:21:19 → 00:21:21 นี้เป็นจุดๆนึงที่ทำให้บางคนทำ If แล้ว
00:21:21 → 00:21:24 ไม่เห็นผลนะออกกำลังกายในการลดน้ำหนักกับ
00:21:24 → 00:21:26 ออกกำลังกายแบบนักกีฬาไม่เหมือนกันนะครับ
00:21:26 → 00:21:28 บางคนออกกำลังกายอยากลดน้ำหนักวันแรกออก
00:21:28 → 00:21:30 เป็นชั่วโมงเลยชั่วโมง 2 ชั่วโมงร่างกาย
00:21:30 → 00:21:32 มันเครียดเกินไปอารมณ์เหมือนคุณทำ is
00:21:32 → 00:21:35 23/1 อ่ะกินวันละ 1 มื้ออ่ะนะความเครียด
00:21:35 → 00:21:38 มันมากเกินไปน้ำหนักจะลงช้านักเรียนหมอ 1
00:21:38 → 00:21:40 เริ่มต้นออกกำลังกาย 10-15 นาทีต่อวันเอง
00:21:40 → 00:21:43 ทำไมผอมล่ะคะคุณหมอหัวลถต้อง 7 กลเดือน
00:21:43 → 00:21:45 เดียวสารอาหารครับย้อนกลับมาที่ฐาน
00:21:45 → 00:21:48 พีระมิดเลยตารางนี้ไม่ต้องไปหาที่ไหนนะ
00:21:48 → 00:21:50 เป็นสูตรของผมเองในอินเทอร์เน็ตไม่มีขาย
00:21:50 → 00:21:53 ไม่มีสอนแน่นอนนะครับเนาะแล้วก็ขั้นที่ 4
00:21:53 → 00:21:56 ทุกคนที่ลดน้ำหนักต้องเจอปัญหาอะไรเอ่ย
00:21:56 → 00:21:59 แก้ปัญหาน้ำหนักนิ่งนะน้ำหนักนิ่งอันนี้
00:21:59 → 00:22:02 เป็นภาวะปกติของร่างกายที่จะพยายามเบรค
00:22:02 → 00:22:04 ไม่ให้น้ำหนักเราลงเร็วเกินไปถ้าแก้ผิด
00:22:04 → 00:22:07 วิธีน้ำหนักคุณก็จะเด้งกลับไปที่เดิมโยโย
00:22:07 → 00:22:09 เพราะงั้นต้องมีความรู้เรื่องนี้นะครับ
00:22:09 → 00:22:11 แล้วสุดท้ายพอได้น้ำหนักที่พอใจแล้วทำยัง
00:22:11 → 00:22:14 ไงให้ระบบเผาผลาคนดียั่งยืนกลับไปกิน
00:22:14 → 00:22:17 ไอติมได้กลับไปกินแป้งเยอะขึ้นได้โอเคมย
00:22:17 → 00:22:19 เพราะฉะนั้นตรงนี้ต่างหากเป็นสิ่งสำคัญ
00:22:19 → 00:22:21 ที่จะทำให้คุณสุขภาพดีนะครับเนาะเพราะ
00:22:22 → 00:22:24 ฉะนั้นหวังว่าวันนี้จะคลายความกังวลจาก
00:22:24 → 00:22:26 ไอ้ตัวงานวิจัย If มาแล้วเนาะหมหนึอธิบาย
00:22:26 → 00:22:28 ให้ฟังหมดแล้วว่าจริงๆแล้วหมอหนึไม่ได้
00:22:28 → 00:22:30 ให้ความคามสำคัญกับงนวิจัยนี้เท่าไหร่เลย
00:22:30 → 00:22:32 เพราะว่าวิธีเก็บข้อมูลของเขานี่ไม่ได้ดี
00:22:32 → 00:22:35 พอนะครับนะส่วนใครที่อยากลดน้ำหนักอยาก
00:22:35 → 00:22:37 เข้าใจ If โดยเฉพาะเรื่องสารอาหารอย่าง
00:22:37 → 00:22:40 ถูกต้องนะครับไปดูคลิปอื่นๆก็ได้หรือใคร
00:22:40 → 00:22:41 ที่อยากเป็นนักเรียนหมอ 1 ก็หมอ 1 ยังมี
00:22:42 → 00:22:43 กลุ่มเรียนยังเปิดอยู่นะนะครับกลุ่มเรียน
00:22:43 → 00:22:45 ชื่อกลุ่มลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิต
00:22:45 → 00:22:47 กลุ่ม VIP นะครับเราจะเรียนกันใน Facebook
00:22:47 → 00:22:50 กลุ่มปิดนะครับนะใครที่สมัครเรียนตอนนี้
00:22:50 → 00:22:52 เนี่ยจะได้สิทธิ์อัปเกรดเป็นคอร์สตลอดชีพ
00:22:52 → 00:22:54 ด้วยนะแล้วก็ได้สิทธิ์ในการปรึกษาหมอ 1
00:22:54 → 00:22:56 ในกลุ่มด้วยนะครับทุกๆท้ายบทก็จะมีโพสต์
00:22:56 → 00:22:59 ให้ถามคำถามเนาะซึ่งก็จะสอนละเอียดเลยคือ
00:22:59 → 00:23:00 หมอ 1 ทำคอร์สนี้ขึ้นมาเนี่ยเพราะพบว่า
00:23:00 → 00:23:02 ปัญหาของคนส่วนใหญ่ในการลดน้ำหนักหรือการ
00:23:02 → 00:23:04 ดูแลสุขภาพคืออะไรรู้มั้ยเราไม่รู้ว่าเรา
00:23:04 → 00:23:07 จะทำอะไรก่อนคือฟังหมอ 1 เสร็จปั๊บวัน
00:23:07 → 00:23:09 เนี้ยรู้แล้วโหวันนึงเห็นภาพเลยว่าเรา
00:23:09 → 00:23:11 สามารถสุขภาพดีได้แต่พรุ่งนี้ฉันจะทำอะไร
00:23:11 → 00:23:13 ก่อนดีอันเนี้ยคือปัญหาของคนส่วนใหญ่
00:23:13 → 00:23:15 เพราะฉะนั้นผมซอยมาให้แล้วว่าน้ำหนักเท่า
00:23:15 → 00:23:18 นี้วันแรกคุณต้องทำอันนี้วันที่ 2 ทำอัน
00:23:18 → 00:23:19 นี้ทำเสร็จปั๊บจะเจอปัญหาวันที่ 3 ทำอัน
00:23:20 → 00:23:21 นี้ 4 ทำอันนี้มันเหมือนคุณดูซีรีส์ไป
00:23:21 → 00:23:24 เรื่อยๆอ่ะมันจะมีตัวเอกโผล่ออกมาเรื่อยๆ
00:23:24 → 00:23:27 ๆๆๆๆในแต่ละตอนว่าคุณต้องทำอะไรพอดูอีกที
00:23:27 → 00:23:29 ผ่านไป 1 เดือนปั๊บน้ำหนักลดไป 7 กล
00:23:29 → 00:23:32 เหมือนเพื่อนคนเมื่อกี้โอเคป่ะนะครับเนาะ
00:23:32 → 00:23:34 เพราะฉะนั้นใครที่สนใจเรียนนะครับนะก็
00:23:34 → 00:23:36 สามารถสมัครได้นะเราเรียนกันใน Facebook
00:23:36 → 00:23:38 กลุ่มปิดนะครับแล้วก็ในกลุ่มจะมีวีีดีโอ
00:23:38 → 00:23:40 ลงไว้ให้แล้วสามารถเรียนได้เลยไม่ว่าจะ
00:23:40 → 00:23:42 อยู่ที่ไหนของโลกนี้ก็ตามหมอหนึมีนัก
00:23:42 → 00:23:43 เรียนอยู่ต่างประเทศด้วยนะครับสะดวกตอน
00:23:43 → 00:23:45 ไหนเข้าเรียนตอนนั้นนะครับเข้าเรียนผ่าน
00:23:45 → 00:23:47 ทั้งมือถือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ได้หมดเลย
00:23:47 → 00:23:49 นะครับไม่ได้จำกัดเวลาเรียนเนาะแล้ว
00:23:49 → 00:23:52 สำหรับใครที่มีโรคประจำตัวนะมันจะมีบทแถม
00:23:52 → 00:23:54 ด้วยที่เกี่ยวกับเรื่องของการอ่านผลเลือด
00:23:54 → 00:23:55 นะครับสามารถปรึกษาผลเลือดหมอ 1 ได้ด้วย
00:23:55 → 00:23:58 เนาะค่าสมัครปกติจริงๆจะอยู่ที่ 9,900
00:23:58 → 00:24:00 บาทนะครับแต่สำหรับใครที่เห็นโพสต์นี้นะ
00:24:00 → 00:24:02 ครับนะหมอหนึ่งยังไม่ได้ขึ้นค่าสมัครนะก็
00:24:02 → 00:24:05 ยังเป็นโปรโมชั่น 3,900 บาทอยู่เหมือน
00:24:05 → 00:24:07 เดิมนะครับบอกแล้วว่าคอร์สนี้ผมตั้งใจทำ
00:24:07 → 00:24:09 ขึ้นมาเพราะอยากให้คนทุกกลุ่มอ่ะเข้าถึง
00:24:09 → 00:24:12 ความรู้สุขภาพที่ครั้งนึงในชีวิตคุณควรจะ
00:24:12 → 00:24:14 ได้เรียนเพราะมันไม่มีที่ไหนสอนโอเคมยแต่
00:24:14 → 00:24:17 ก่อนม 1 เจอคนที่เขาไปซื้อยาลดน้ำหนักกิน
00:24:17 → 00:24:19 น่ะเดือนนี้ซื้อไป 1,500 ไม่พร้อมเดือน
00:24:19 → 00:24:21 นี้ซื้ออีก 1,500 ไม่พร้อม 3 เดือนก็
00:24:21 → 00:24:23 4,500 แล้วยังไม่ผอมเลยซึ่งเอาจริงๆคุณ
00:24:23 → 00:24:25 ก็รู้อยู่แล้วว่าอาหารเสริมอ่ะมันไม่ได้
00:24:25 → 00:24:27 ทำให้คุณผอมหรอกเพราะอะไรเพราะเราอ้วนจาก
00:24:28 → 00:24:29 การกนเราก็ต้องเข้าใจเรื่องการกินเข้าใจ
00:24:30 → 00:24:31 ร่างกายของเราเราถึงจะผอมเพราะฉะนั้นแทน
00:24:31 → 00:24:34 ที่จะคุณจะเอาเงิน 45,000 ไปซื้ออาหาร
00:24:34 → 00:24:36 เสริมคุณเอามาลงทุนกับความรู้คุณเถอะแล้ว
00:24:36 → 00:24:39 คุณจะรู้ว่ามันคุ้มค่ามากๆที่คุณตั้งใจ
00:24:39 → 00:24:41 เรียนตั้งใจทำเพื่อตัวเองโอเคเนาะนะครับ
00:24:41 → 00:24:43 สำหรับใครที่สนใจสมัครก็โปรโมชั่นนี้นะ
00:24:43 → 00:24:44 ครับถ้าโปรโมชั่นหมดแล้วหมอหนึ่งก็จะตัด
00:24:44 → 00:24:46 คลิปนี้ออกจากระบบทันทีเนาะเพราะฉะนั้น
00:24:46 → 00:24:48 ใครที่สนใจก็สามารถโอนค่าสมัครเรียนได้นะ
00:24:48 → 00:24:50 ครับที่เลขบัญชีนี้นะครับแล้วก็ส่งสลิปไป
00:24:50 → 00:24:53 ที่ LINE @th Hero เนาะโอเคมยนะครับแต่
00:24:53 → 00:24:55 ดูถูกตัวเองว่าจะทำไม่ได้นะมีนักเรียนใน
00:24:55 → 00:24:57 กลุ่ม 20,000 กว่าคนเนี่ยที่เขาผอมแล้ว
00:24:57 → 00:25:00 ผอมอีกเนี่ยเนี่ยหมอ 1 มั่นใจเลยว่าลดน้ำ
00:25:00 → 00:25:01 หนักให้คนมาเกิน 100,000 กลแล้วเพราะ
00:25:02 → 00:25:04 ฉะนั้นของคุณอีกประมาณ 10 กล 20 กลไม่ใช่
00:25:04 → 00:25:07 เรื่องยากแน่นอนถ้าคุณตั้งใจนะครับสำหรับ
00:25:07 → 00:25:09 ใครที่จะเข้าไปลุยกันในกลุ่มก็เจอกันใน
00:25:09 → 00:25:11 กลุ่มนะครับแล้วพบกันคลิปถัดไปนะครับชม
00:25:11 → 00:25:13 คลิปหมอ 1 จบแล้วนะครับอย่าลืมกดติดตาม
00:25:13 → 00:25:15 เพื่อที่จะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆจากหมอ 1
00:25:15 → 00:25:17 นะครับส่วนคลิปอื่นๆที่น่าสนใจกดดูจากทาง
00:25:17 → 00:25:19 ซ้ายมือได้เลยครับส่วนใครที่อยากลดน้ำ
00:25:19 → 00:25:21 หนักครั้งสุดท้ายในชีวิตในกลุ่มเรียนกับ
00:25:21 → 00:25:23 หมอ 1 นะครับกดดูรายละเอียดจากทางขวามือ
00:25:23 → 00:25:24 หรือดูรายละเอียดจากลิงก์ในคอมเมนต์ได้
00:25:24 → 00:25:28 เลยนะครับแล้วพบกันในกลุ่มเรียนนะครับ