00:00:00 → 00:00:01 World vi The
00:00:01 → 00:00:05 Voice สวัสดีครับผมวีรพงษ์ทวีศักดิ์
00:00:05 → 00:00:09 ดิฉันสุธิราพรปรีเเปรมและนี่คือศัลกรรม
00:00:09 → 00:00:12 ความสุขรายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความ
00:00:12 → 00:00:16 สุขมากขึ้นมีความทุกข์น้อย
00:00:16 → 00:00:20 ลงพี่อ้อยครับในชีวิตประจำวันเรานี้เรา
00:00:20 → 00:00:23 ต้องติดต่อกับผู้คนเยอะเหมือนกันนะฮะเยอะ
00:00:23 → 00:00:27 ค่ะแล้วก็ต้องไปยิ่งเวลาที่เราต้องไปเอ่อ
00:00:27 → 00:00:30 บรรยายไปทำกิจกรรมู่มันต้องมีการติดต่อ
00:00:30 → 00:00:32 ประสานงานเยอะแยะมากมายายกองเยอะเลยค่ะ
00:00:32 → 00:00:36 ยิ่งประสานงานกันแล้วก็เค้าก็จะมีเรื่อง
00:00:36 → 00:00:38 ราวมาแจ้งให้เราอย่างเงี้ยอันนี้มี
00:00:38 → 00:00:41 ประโยชน์นะใช่เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่
00:00:41 → 00:00:44 เราต้องทำอืก็ยิ่งชัดเจนก็ยิ่งมีประโยชน์
00:00:44 → 00:00:47 แต่วันเนี้ยผมมีใช่วลีอยู่วลีนึงนะค่ะ
00:00:47 → 00:00:51 เป็นวลีที่ผมก็ไม่แน่ใจว่าพี่อ้อยได้ยิน
00:00:51 → 00:00:54 แล้วรู้สึกยังไงหรือว่าเคยได้ยินวลีแบบ
00:00:54 → 00:00:59 นี้มั้ยอ้ออ่าวลีที่ว่านี่ก็คือค่ะจึง
00:00:59 → 00:01:02 เรียนมาเพื่อไม่จำเป็นจะต้อง
00:01:02 → 00:01:06 [เพลง]
00:01:06 → 00:01:11 ทราบอุ้ยไม่เคยได้ยินล่ะค่ะไม่เคยได้ยิน
00:01:11 → 00:01:15 เหรอฮเคยเคยเห็นเป็นประจำก็คือจึงเรียนมา
00:01:15 → 00:01:18 เพื่อทราบอยู่ท้ายจดหมายอะไรอย่างเงี้ย
00:01:18 → 00:01:22 เหลือเมลหรอะไรเงี้ยค่ะอันนั้นก็คือเค้า
00:01:22 → 00:01:25 ก็บอกว่าอันนั้นเรื่องจริงจังงี้ใช่มั้
00:01:25 → 00:01:27 เออจริงจังก็คือเค้าเรียนมาเพื่อทราบแล้ว
00:01:27 → 00:01:29 พี่อ้อยไม่เคยได้ยินเลยเหรอว่าจริงเรียน
00:01:29 → 00:01:32 มาเพื่อไม่จำเป็นต้องทราบเนี่ยไม่มีเพิ่ง
00:01:32 → 00:01:36 ได้ยินวันนี้เองผมก็ว่าอย่างงั้นแหละนะ
00:01:36 → 00:01:38 แต่แต่เป็นเรื่องหน้าแปลกเกี่ยวกับเรื่อง
00:01:38 → 00:01:40 นี้คืออะไรแล้วมพี่อ้อยค่ะเราไม่เคยได้
00:01:40 → 00:01:45 ยินวลีนี้เลยใช่แต่หน้าแปลกก็คือว่าแต่ใน
00:01:45 → 00:01:48 ความเป็นจริงอืเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตาม
00:01:48 → 00:01:53 วลีที่ว่าเนี่ยยอืเกิดขึ้นอยู่ประจำใน
00:01:53 → 00:01:58 ชีวิตประจำวันแบบดาดดื่นมากอืทั่วไปหมด
00:01:58 → 00:02:00 เลยนึกนึกออกแล้วนึกออกออกลนึกออกแล้ว
00:02:00 → 00:02:04 เหรอฮะค่ะๆเราไม่เคยได้ยินว่าลีนี้แต่ว่า
00:02:04 → 00:02:07 ดีไม่ดีเราปฏิบัติอเราก็ทำด้วยป่ะเราก็ทำ
00:02:07 → 00:02:11 ด้วยเอเราก็เป็นสิ่งนั้นด้วยค่ะเออมัน
00:02:11 → 00:02:14 เป็นเรื่องแปลกนะค่ะเออพี่อ้อยนึกถึงอะไร
00:02:14 → 00:02:16 แล้วตอนนี้อ่ะเดี๋ยวนะคุณผู้ฟังก่อนที่
00:02:16 → 00:02:19 พี่อ้จะอธิบายนะคุณผู้ฟังต้องอย่างงี้ค่ะ
00:02:19 → 00:02:21 ผมต้องบอกต้องเรียนคุณผู้ฟังเนื่องจากเรา
00:02:21 → 00:02:24 ไม่เห็นกันนะค่ะผมก็จะเล่าภาพที่ผมเห็น
00:02:24 → 00:02:27 ให้ฟังนะค่ะบอกว่าจึงเรียนมาเพื่อมา
00:02:27 → 00:02:30 จำเป็นต้องทราบเนี่ยพี่อ้อยบอกไม่เคยได้
00:02:30 → 00:02:33 ยินค่ะเคยได้ยินแต่จึงเรียนมาเพื่อทราบ
00:02:33 → 00:02:37 ใช่มั้ยแต่พอผมแค่สะกิดทบทวนนิดเดียวว่า
00:02:38 → 00:02:41 เราไม่เคยได้ยินวาลีนี้แต่ว่าทำเราทำแล้ว
00:02:41 → 00:02:44 เราเห็นดาดดื่นมากในชีวิตคุณผู้ฟังเชื่อ
00:02:44 → 00:02:47 มั้ยว่าผมเห็นแววตาพี่อ้อยแบบเฮ้ยจริง
00:02:47 → 00:02:49 ด้วยอย่า
00:02:49 → 00:02:54 เงี้คืออะไรบ้างนะฮะค่ะก็ที่ชัดที่สุดก็
00:02:54 → 00:02:57 คือในโซเชียลอืม
00:02:57 → 00:03:03 เออก็ทุกคนเล่าเข้าเรื่องของตัวเองเออเออ
00:03:03 → 00:03:07 แต่ว่าพี่อ้อยอาจจะเป็นแตกต่างนิดนึงฮะๆ
00:03:07 → 00:03:09 ถ้าไม่มีความจำเป็นอะไรพี่อ้อยไม่ค่อย
00:03:10 → 00:03:14 เล่าเออพี่อ้อยไปเรียนไปทำกิจกรรมไปอะไร
00:03:14 → 00:03:19 เขาก็ลงกันลงหมดเแต่ว่าพี่ก็ไม่ลงเออเออ
00:03:19 → 00:03:21 ยกเว้นบางเรื่องที่แบบโอ้โหมันเป็นเรื่อง
00:03:21 → 00:03:25 ดีๆของใครบางคนอะไรอย่างงี้นะคะก็จะลงๆ
00:03:25 → 00:03:29 แต่ว่าสิ่งที่พี่วีบอกว่าจึงเรียนมาเพื่อ
00:03:30 → 00:03:33 ไม่จำเป็นต้องทราบเนี่ยพี่้นึกภาพของคน
00:03:33 → 00:03:34 รู้จักอื
00:03:34 → 00:03:40 เอ่อแกก็ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรนะคะก็คือ
00:03:40 → 00:03:43 เอ่อเป็นแม่บ้านเลี้ยงหลานอะไรก็ว่าไป
00:03:43 → 00:03:46 เนาะเออแต่
00:03:46 → 00:03:51 ว่าสิ่งที่เขาทำอ่ะไม่เราจะไม่ัว่านี่คือ
00:03:51 → 00:03:55 ผิดไม่ผิดควรไม่ควรเพราะอันนั้นมันเป็น
00:03:55 → 00:04:00 สิทธิของส่วนบุคคลคือแกก็จะลงภาพตัวเอง
00:04:00 → 00:04:04 อือๆเช้าเย็นเช้าเย็นก็คือไปถ่ายมุมนู้น
00:04:04 → 00:04:09 มุมนี้หรือว่าไปร้านกาแฟหรือว่าไปอ่าอะไร
00:04:09 → 00:04:11 ก็ตามเนี่ยไปสถานที่ต่างๆหรือว่าแม้แต่
00:04:11 → 00:04:16 อยู่ในครัวที่บ้านนแกก็จะลงก็จะลงอลงทุก
00:04:16 → 00:04:18 วันอือๆๆหรือว่าบางทีไปเล่นเค้าเรียกว่า
00:04:18 → 00:04:23 อะไรแอปพลิเคชั่นอะไรที่มันคำถามอะไร
00:04:23 → 00:04:25 อย่างงี้ใช่มั้ยมันมันจะสร้างภาพเราเป็น
00:04:25 → 00:04:31 คนสวยเป็นเป็นสาวเป็นอเป็นผู้บริหารเออแก
00:04:31 → 00:04:34 ก็จะลงเพราะฉะนั้นเนี่ยแกก็จะลงภาพของตัว
00:04:34 → 00:04:38 เองเช้าเย็นเชเย็นทุกวันเออๆอันเนี้ยพี่
00:04:38 → 00:04:40 อ้อยมีความรู้สึกว่าอันเนี้ยไม่จำเป็น
00:04:40 → 00:04:44 ต้องทราบแล้วพี่อ้อยก็จะไม่คอมเมนต์โพสต์
00:04:44 → 00:04:48 แบบนี้อ๋อเลยไม่ไม่ใช่เฉพาะคนนี้นะคะทุก
00:04:48 → 00:04:50 คนที่พี่อ้อยมีความรู้สึกว่าไม่จำเป็น
00:04:50 → 00:04:53 ต้องทราบแต่ถ้าเป็นเรื่องที่ควรทราบหรือ
00:04:53 → 00:04:57 ต้องทราบอันเนี้ยพี่อ้อยจะคอมเมนต์อออ่า
00:04:57 → 00:05:00 นึกภาพนี้ออกก่อนโอ้โหประเด็นนี้ก็น่าสน
00:05:00 → 00:05:03 ใจครับเพราะว่ามันทำให้เราเห็นอะไรบาง
00:05:03 → 00:05:06 อย่างว่าเมื่อกี้นี้พี่อ้อยพูดกับว่าถ้า
00:05:06 → 00:05:08 พี่อ้อยเจอแบบนั้นแล้วพี่อ้อยรู้สึกว่า
00:05:08 → 00:05:11 อันนั้นคือไม่จำเป็นต้องทราบเนี่ยพี่อ้อย
00:05:11 → 00:05:13 ก็เลยจะไม่กดไม่คอมเมนต์ไม่อะไรทั้งสิ้น
00:05:13 → 00:05:17 ไม่ไม่อะไรทั้งสิ้นแล้วก็ซึ่งพี่อ้อย
00:05:17 → 00:05:20 ปฏิบัติตัวถูกต้องตามกฎมากเลยนะออเหรอคะ
00:05:20 → 00:05:23 มีกฎด้วยเหรอคะเอมีๆเป็นกฎที่ไม่มีไม่รู้
00:05:23 → 00:05:25 มีใครตั้งขึ้นหรือเปล่าแต่ว่ามันเป็นกฎ
00:05:25 → 00:05:28 ที่เรับรู้กันนะเอ่อพี่อลองฟังดูใช่มั้ย
00:05:28 → 00:05:33 ก็คือว่าเวลาที่เราดูในโซเชียลมีเดียเรา
00:05:33 → 00:05:35 เห็นอะไรต่ออะไรมากมายกับกองเนี่ย
00:05:35 → 00:05:40 อการที่เราไปกดไลค์เนี่ยแปลว่าเราชอบอือ
00:05:40 → 00:05:45 หรือเปล่าเสมอไปมั้ยอไม่บางทีก็มารยาทอ่า
00:05:45 → 00:05:48 นี่ไงการกดไลก์นี่แปลว่าอะไรรมั้แปลว่า
00:05:48 → 00:05:51 ทราบแล้วเปลี่ยนอ๋อคือการกดไลก์ในความ
00:05:52 → 00:05:56 เป็นจริงไม่ได้แปลว่าชอบออแปลว่ารับทราบ
00:05:56 → 00:05:58 ทราบแล้วต้องเปลี่ยนด้วยมั้ยคะแล้วก็
00:05:58 → 00:06:00 เปลี่ยนไม่เปลี่ยนแล้วแต่แต่ว่าเป็นการ
00:06:00 → 00:06:03 ทราบแล้วเออว่าเห็นราบทราบทราบแล้วอ๋อ
00:06:03 → 00:06:06 อ้าวพี่อ้อยก็ไม่รับทราบสิอันเนี้ยเออนี่
00:06:06 → 00:06:10 ไงก็คือไม่รับทราบก็ก็ก็เราไม่จำเป็นต้อง
00:06:10 → 00:06:12 ทราบเราก็ไม่ทราบก็ไม่เป็นไรอะไอย่าง
00:06:12 → 00:06:16 เงี้ยเราอย่างเงี้ยก็แต่ว่าเค้าเคจะแจ้ง
00:06:16 → 00:06:19 เราเพื่ออะไรก็แล้วแต่เค้านะแต่ว่า
00:06:19 → 00:06:22 ประเด็นตรงนี้นี่พี่อ้อยเอออออที่ว่ากด
00:06:22 → 00:06:25 เราก็จะไม่ไปตัดสินเ้าหรืออะไรก็ตามทีอ่า
00:06:25 → 00:06:27 เพราะเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินเขาเราก็
00:06:27 → 00:06:30 ไม่รู้เหตุผลของเาเลยก็เป็นสิใชใชใช่
00:06:30 → 00:06:34 เนี่ยอันนี้คือเจึงเรียนมาเพื่อไม่จำเป็น
00:06:34 → 00:06:36 ต้องทราบอ้าแต่ประเด็นของเราในโลกใน
00:06:36 → 00:06:39 โซเชียลมีเดียเวลาที่เราอยู่กับเหล่านี้
00:06:39 → 00:06:42 เนี่ยอือจึงเรียนมาเนี่ยเป็นหน้าที่ของ
00:06:42 → 00:06:46 เขคอือ๋อคนละหน้าที่เพื่อไม่จำเป็นเนี่ย
00:06:46 → 00:06:49 เป็นสิ่งที่มันเป็นโอ้โหเดี๋ยวนะคะจึง
00:06:49 → 00:06:53 เรียนมานี่คือเป็นหน้าที่เหน้าที่เคเค้า
00:06:53 → 00:06:56 เป็นคนโพสต์ไงอ่าแต่ว่าเพื่อไม่มันจะ
00:06:56 → 00:06:59 จำเป็นหรือไม่จำเป็นเนี่ยมันก็แล้วแต่ว่า
00:06:59 → 00:07:02 ไอ้ที่เโพสต์น่ะมันจะจำเป็นหรือไม่จำเป็น
00:07:02 → 00:07:04 มันก็เป็นตัวของมันน่ะอ่ามันเป็นลักษณะ
00:07:04 → 00:07:08 ของโพสต์นั้นอ่าแต่ว่าจะต้องทราบหรือไม่
00:07:08 → 00:07:12 ทราบเนี่ยเราเราอันนี้เป็นหน้าที่เราอออ
00:07:12 → 00:07:15 ใช่มั้ยมันเป็นระหว่างหน้าที่เค้าตัว
00:07:15 → 00:07:20 โพสต์กับหน้าที่เราโอ้มันลึกซึ้งมาก
00:07:20 → 00:07:25 เลยจะงงนิดนึงเดี๋ยวผมจะเขียนภาพประกอบ
00:07:25 → 00:07:28 ไม่ต้องนะเอคุณผู้ฟังฟังทันมั้ยคะอืก็แค่
00:07:28 → 00:07:32 อยากจะบอกบว่าอืเค้าก็ทำหน้าที่เค้าแต่
00:07:32 → 00:07:36 ว่าเราจะไปรับต้องทราบหรือไม่ทราบจะไป
00:07:36 → 00:07:38 คอมเมนต์อะไรอย่างเงี้ยเป็นหน้าที่เรา
00:07:38 → 00:07:41 เป็นสิทธิ์ของเรานั่นหมายความว่าเราต้อง
00:07:41 → 00:07:46 รู้จักคิดพิจารณาและเลือกออือแต่ที่ต้อง
00:07:46 → 00:07:49 พูดอย่างงี้เพราะว่าเราอยู่ในโลกที่คือ
00:07:49 → 00:07:52 โลกยุคนี้เป็นอย่างนี้นะครับพี่อ้อยก็คือ
00:07:52 → 00:07:56 ว่าคการสื่อสารเนี่ยมันเปลี่ยนตั้งแต่
00:07:56 → 00:07:59 สมาร์ทโฟนเกิดขึ้นเนี่ยอืทำให้การสื่อสาร
00:07:59 → 00:08:02 เปลี่ยนหมดเลยอ้อทฤษฎีการสื่อสารทั้งหมด
00:08:02 → 00:08:05 ที่เรียนมาเนี่ยของนักสื่อสารมวลชนเนี่ย
00:08:05 → 00:08:10 ไม่รู้พลิกกี่ตลบเลยออพี่วขยายความหน่อย
00:08:10 → 00:08:13 คือยกตัวอย่างเช่นสมัยก่อนนะพี่อ้อยเวลา
00:08:13 → 00:08:17 ที่ผมผมเคยอยู่ในคณะกรรมการของสื่อมวลชน
00:08:17 → 00:08:20 อะไรต่ออะไรอย่าเงี้ยในในหลายองค์กรสมัย
00:08:20 → 00:08:24 ก่อนนะออือเวลาที่เรามีงานกิจกรรมสสำคัญ
00:08:24 → 00:08:29 ใดๆค่ะนะฮะแล้วเราบอกว่าโหงานนี้เป็นงาน
00:08:29 → 00:08:33 ใหญ่มากเลยค่ะเราอยากจะแบบถ่ายทอดสดราย
00:08:33 → 00:08:37 การของเราเนี่ยอือถ่ายทอดสดทีวีเลยนะค่ะ
00:08:37 → 00:08:40 สมัยก่อนถ้าเราอเราจัดงานงานนึงนะแล้วเรา
00:08:40 → 00:08:43 จะถ่ายทอดสดออกทีวีนะพี่อ้อยทเป็นเรื่อง
00:08:43 → 00:08:45 ใหญ่มากอือเสียตังค์เยอะมากเสียตังค์เยอะ
00:08:45 → 00:08:49 มากค่ะเราจะต้องเลือกว่าเราจะถ่ายทอดผ่าน
00:08:49 → 00:08:53 ทางทีวีช่องไหนอาฮะแล้วทำเรื่องขออนุญาต
00:08:53 → 00:08:58 ออแล้วเอนุมัติอือแล้วเก็จะมีค่าใช้จ่าย
00:08:58 → 00:09:01 อือเพราะการการถ่ายทอดสดสมัยก่อนเนี่ยจะ
00:09:01 → 00:09:05 ต้องมีรถถ่ายทอดสด ob คันใหญ่ๆโอ้ไปเหรอ
00:09:05 → 00:09:08 คะแล้วเจ้าหน้าที่อีกเป็นตันเลยอ๋อเหมือน
00:09:08 → 00:09:11 ถ่ายหนังไไอ้รถคันรถถ่ายทอดสัญญาณเนี่ย
00:09:11 → 00:09:13 ต้องมีรถคันใหญ่ๆเเรียกว่ารถถ่ายทอดสด
00:09:13 → 00:09:16 เนี่ยค่ะออรถถ่ายทอดสดแล้วก็โอ้โหเป็น
00:09:16 → 00:09:19 เรื่องใหญ่มากแล้วต้องใช้เงินเยอะมากพี่
00:09:19 → 00:09:23 อ้อยอออค่ะแต่สมัยนี้การถ่ายทอดสดไม่ต้อง
00:09:23 → 00:09:27 ขออนุญาตใครอมีมือถือเครื่องเดียวแล้วก็
00:09:27 → 00:09:31 ไม่ต้องใช้แค่กดไฟเท่านั้นโหยมันง่ายขนาด
00:09:31 → 00:09:35 นั้นน่ะใช่มันง่ายจนกระทั่งพี่พอพี่วี
00:09:35 → 00:09:37 เล่าเรื่องนี้แล้วพี่อ้อยแอบนึกพี่บีเล่า
00:09:37 → 00:09:40 เสร็จยังรเออเสร็จแล้วเส็
00:09:40 → 00:09:47 แล้วนึกถึงเคสดาราเออๆพี่อ้อยงงเอองงกับ
00:09:47 → 00:09:51 สังคมยุคนี้อือคือน้องดาราเนี่ยเขาคก็
00:09:51 → 00:09:53 เป็นมีความน่ารักของเขาเนาะเอเขาคก็ทำ
00:09:53 → 00:09:57 หน้าที่จึงเรียนมาอย่างที่พี่วีีพูดเนาะ
00:09:57 → 00:10:00 ก็คือหน้าที่เคเอแต่เข้าไลฟ์ Facebook
00:10:00 → 00:10:02 วันละ
00:10:02 → 00:10:07 10-2 ช่วโมงเออมันแปลว่าอะไรแปลว่าฉันจะ
00:10:07 → 00:10:10 ทำอะไรในบ้านฉันจะนั่งนอนฉันจะอะไรก็ตาม
00:10:10 → 00:10:14 เนี่ยฉันถ่ายทอดสดหมดเลยโดยมือถือเครื่อง
00:10:14 → 00:10:18 เดียวที่บอกเปลี่ยนชีวิตอันนี้แล้วที่น่า
00:10:18 → 00:10:23 แปลกใจก็คือเออมีคนติดตามเยอะมากเออๆๆพี่
00:10:23 → 00:10:24 อยสงสัยว่าเค้าดู
00:10:24 → 00:10:29 อะไรนี่ไงค่ะคือเห็นป่ะไอ้สถานในการจึง
00:10:30 → 00:10:33 เรียนมาเนี่ยอือเพื่อไม่จำเป็นต้องทราบ
00:10:33 → 00:10:36 เนี่ยมันเกิดขึ้นได้เพราะว่าเทคโนโลยีมัน
00:10:36 → 00:10:39 เปลี่ยนแปลงอืการถ่ายทอดสดสมัยก่อนจะต้อง
00:10:39 → 00:10:43 ขออนุญาตแบบมันยากแล้วมันยากสมัยนี้เนี่ย
00:10:43 → 00:10:47 คือใครอยากถ่ายทอดสดยกมือถือกดไลฟไปเลย
00:10:47 → 00:10:50 ใช่เห็นป่ะมันง่ายจนกระทั่งมันเกิด
00:10:50 → 00:10:54 สถานการณ์จึงเรียนมาเพื่อไม่จำเป็นนี่
00:10:54 → 00:10:58 เยอะมากอ่าใช่แต่ว่าเราไปกดไลค์คอมเมนต์
00:10:58 → 00:11:02 รับรทราบเนี่ยคือเป็นหน้าที่เราไงแต่ว่า
00:11:02 → 00:11:05 เราอ่ะโดยที่เราก็ไม่รู้ตัวแล้วเราก็เลย
00:11:05 → 00:11:09 หลงเข้าไปอยู่ในกระแสเนี้ยเออโดยที่เรา
00:11:09 → 00:11:11 ไม่รู้ตัวงงั้นก่อนที่จะไปต่อเนี่ยถามพี่
00:11:11 → 00:11:15 วีว่าในมุมพี่วีอ่ะพี่วีว่าเรื่องที่เอ่อ
00:11:15 → 00:11:19 ไม่ต้องทราบเออเช่นอะไรบ้างเรื่องที่ต้อง
00:11:19 → 00:11:23 ทราบหรือควรทราบเออเช่นอะไรบ้างเออเราไม่
00:11:24 → 00:11:26 สามารถที่จะบอกได้ 1 2 3 4 อ๋อเหรอคะ
00:11:26 → 00:11:29 ตัวอย่างตัวอย่าเพราะเพราะยกตัวอย่างเช่น
00:11:29 → 00:11:31 อ่าอย่างเงี้ยพี่อ้อยอันนี้ชัดมากเลยนะ
00:11:31 → 00:11:33 พี่อ้อยสมมุติว่ามีคนคนนึงเราจะเห็นแม้
00:11:33 → 00:11:37 กระทั่งหลายคนก็เป็นนะค่ะกินข้าวปั๊บสั่ง
00:11:37 → 00:11:42 อาหารมาถ่ายรูปเอ้อนี่เป็นเนี่ยเห็นป่ะ
00:11:42 → 00:11:46 แล้วก็โพสต์แล้วๆเราก็ไม่โพสต์เอแต่พี่
00:11:46 → 00:11:48 อ้อยนะใช่มถ่ายรูปอ่าแล้วแต่นะแต่ว่าถ่าย
00:11:48 → 00:11:51 รูปโพสตเยอะมั้ยบงโพสน้อยก็เป็นคนอย่าง
00:11:51 → 00:11:55 ที่บอกไม่ถึงคนอื่นน่ะอ๋ออุยทั่วไปจะบอก
00:11:55 → 00:11:58 ว่าแทบจะทุกมื้อก็ได้มั้งถ้าถ้าในมุมของ
00:11:58 → 00:12:02 ว่าไปทานร้านหรือว่าทำเองแล้วดีหน้าตาดี
00:12:02 → 00:12:05 หน่อยอะไรอย่าเงี้ยก็จะอย่างเงี้ยอันนี้
00:12:05 → 00:12:07 จึงเรียนมาแต่จำเป็นหรือไม่จำเป็นเดี๋ยว
00:12:07 → 00:12:09 ดูนะเรื่องเดียวกันเลยนะพี่อ้อยบางคน
00:12:09 → 00:12:12 เนี่ยไม่ได้แค่ถ่ายรูปอาหารค่ะแต่ว่าตั้ง
00:12:12 → 00:12:16 กล้องไลฟ์เลยเออตั้งกล้องไลฟ์เลยแล้วก็
00:12:16 → 00:12:18 ตอนที่กำลังตักก๋วยเตี๋ยวเข้าปากเนี่ก็
00:12:18 → 00:12:22 เห็นเลยอย่างเงี้ยไลฟ์ตอนกินด้วยอ่าค่ะ
00:12:22 → 00:12:24 อย่างเงี้ยก็เห็นเยอะมั้ยครับเยอะค่ะ
00:12:24 → 00:12:26 อย่างเงี้ยพี่อ้อยว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น
00:12:26 → 00:12:30 ไม่ไม่จำเป็นใช่่มยแต่มีคนผมผมถึงบอกว่า
00:12:30 → 00:12:32 เราไม่สามารถบอกว่าสิ่งนี้ไม่จำเป็นเพะ
00:12:32 → 00:12:36 อะไรเพราะมีบางคนอผมก็มีเพื่อนอีกคนนึง
00:12:36 → 00:12:39 อือเวลาถ้าไปกินข้าวกับเานะผมเคยเจอเค้า
00:12:39 → 00:12:43 ในงานที่ต้องกินอาหารกับเาเนี่ย 23 ครั้ง
00:12:43 → 00:12:50 ค่ะอ่านะปึ๊บอาหารมาปึ๊บเค้ามีมือถืออ่ะ
00:12:50 → 00:12:53 นะแต่มือถือเค้าเนี่ยก็เป็นมือถือธรรมดา
00:12:53 → 00:12:57 นี่แหละแต่เขาจะมีไฟเพิ่มเพื่อให้เห็นชัด
00:12:57 → 00:12:59 เจนอแล้วก็ถ่ายอาหาร
00:12:59 → 00:13:01 แล้วก็บอกว่านี่อาหารอะไรอย่างเงี้ยแล้ว
00:13:02 → 00:13:04 ก็ตั้งกล้องแล้วก็เห็นตอนกินเลยแล้วก็
00:13:04 → 00:13:08 ก่อนกินก็ตั้งแล้วก็โชว์ด้วยนี่ออโอโหนี่
00:13:08 → 00:13:11 นะเส้นก๋วยเตี๋ยวที่นี่เบเกอรี่ที่นี่มัน
00:13:11 → 00:13:14 แบบว่าแล้วก็กินๆๆๆเลยเนี่ยถามว่าอันนี้
00:13:14 → 00:13:18 จำเป็นมั้ยถ้าอย่างที่พี่วีถามครั้งแรก
00:13:18 → 00:13:21 พี่อ้อยตอบว่าสำหรับเราไม่จำเป็นแต่ถ้า
00:13:21 → 00:13:23 เขาเป็นเหมือน
00:13:24 → 00:13:27 influencer หรือเอ่อคนแนะนำร้านอาหาร
00:13:27 → 00:13:30 เป็นเชฟเป็นอะไรเงี้ยเออเค้าก็จำเป็นเห็น
00:13:30 → 00:13:33 ป่ะอ่าโออันนี้ชัดเลยมั้ยว่าสิ่งใดสิ่ง
00:13:33 → 00:13:35 หนึ่งมันจะจำเป็นหรือไม่จำเป็นเนี่ยเรา
00:13:35 → 00:13:39 ไม่สามารถฟันธงได้ออออแต่ว่าเค้านี่เป็น
00:13:39 → 00:13:42 อาชีพเ้าเป็นอาชีพก็คือเป็นเป็น
00:13:42 → 00:13:45 influencer เป็นบอกเกอร์ที่แนะนำร้าน
00:13:45 → 00:13:48 อาหารหรืออาหารอย่างเงี้ยอโอเคมันเป็น
00:13:48 → 00:13:52 อาชีพเ้าเลยนะถ้าๆพี่อ้อยบอกว่าเรื่องไม่
00:13:52 → 00:13:55 จำเป็นต้องทราบเช่นเรื่องชาวบ้านอ่ะ
00:13:55 → 00:13:59 เรื่องคนข้างบ้านเรื่องป้าข้างบ้านเรื่อง
00:13:59 → 00:14:03 าเรื่องข่าวอะไรอย่างเงี้ยพี่อ้อยจะพูด
00:14:03 → 00:14:07 อย่างงี้ได้มั้ยคะก็ไม่ได้อีกอ๋อโอเคมัน
00:14:07 → 00:14:09 ผมถึงบอกไงว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็นต้อง
00:14:09 → 00:14:12 ทราบเนี่ยมันขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นใคร
00:14:12 → 00:14:16 บริบทของการเอาไปใช้งานเออแล้วเราจะเรา
00:14:16 → 00:14:20 เป็นใครอเราไปฟังสิ่งนั้นแล้วเราจะเอาไป
00:14:20 → 00:14:24 ทำอะไรเราใช่เราเกิดแง่คิดมุมมองอืหรือ
00:14:24 → 00:14:26 แม้กระทั่งอย่างสมมุติว่าเราบอกว่าเฮ้ย
00:14:26 → 00:14:29 เรื่องดารามันไม่สนใจหรอกเงี้ยอืแต่ถ้า
00:14:30 → 00:14:33 ถามผมผมสนใจมั้ยพี่อ้อยพี่วีไม่สนใจสนใจ
00:14:33 → 00:14:39 อ้าวเหรอคะเออสนใจเพราะรู้ชีวิตหรอคะเอ
00:14:39 → 00:14:41 เรื่องราวเหล่านั้นเี่มันจะให้แง่คิดมุม
00:14:41 → 00:14:44 มองกับเราเสมออืแต่ผมไม่ได้สนใจเพราะว่า
00:14:44 → 00:14:46 สนใจว่าเฮ้ยแล้วจะเป็นังไงต่อไปเตียงหัก
00:14:46 → 00:14:49 อะไรอย่าเงี้ยเออไม่ๆๆๆแต่ว่าเราจะสนใจใน
00:14:49 → 00:14:53 มิติของความเป็นไปของสังคมเงี้ยอืหรือบาง
00:14:53 → 00:14:57 ทีผมก็สนใจในความเป็นไปของอเรื่องการสื่อ
00:14:57 → 00:15:01 สารในยุคปัจจุบันอืเพราะเวลาที่ผมไป
00:15:01 → 00:15:04 บรรยายเรื่องการสื่อสารให้กับเด็กๆผมก็จะ
00:15:04 → 00:15:07 ได้มีตัวอย่างค่ะตัวอย่างไปเล่าให้เฟัง
00:15:07 → 00:15:10 อะไรอย่างเงี้ยอค่ะมันฟันธงไม่ได้ 1 2 3
00:15:10 → 00:15:13 4 ว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็นแต่สำหรับ
00:15:13 → 00:15:16 สำหรับผู้ฟังนะผมคิดว่าประเด็นมันอยู่แค่
00:15:16 → 00:15:20 ตรงนี้ว่าเราอยู่ในกระแสแบบนี้อเราต้อง
00:15:20 → 00:15:24 รู้ตัวและเราต้องเลือกอ้าพอพอพี่วีใช้คำ
00:15:24 → 00:15:28 ว่าต้องรู้ตัวอือแล้วก็ต้องเลือกอใช่มั้ย
00:15:28 → 00:15:31 คะอืพี่อ้อยนึกถึงเลยว่าเรื่องจำเป็นต้อง
00:15:31 → 00:15:35 ทราบอือคือเรื่องของตัว
00:15:35 → 00:15:39 เองใช่เอ้อคือเรื่องของตัวเองนั่นแหละค่ะ
00:15:39 → 00:15:41 แต่ว่าตัวเองนี่หมายความว่าอะไรหมายความ
00:15:41 → 00:15:45 ว่าเราเป็นใครอาชีพเราคืออะไรนะหรือว่า
00:15:45 → 00:15:48 เรามีบทบาทหน้าที่อะไรอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:15:48 → 00:15:50 แล้วเรื่องนั้นมันอาจจะเป็นเรื่องไม่
00:15:50 → 00:15:53 เกี่ยวข้องกับเราก็ได้อือแต่มันเกี่ยวกับ
00:15:53 → 00:15:56 บทบาทหน้าที่ของเราออย่างเงี้ยหรือมันจะ
00:15:56 → 00:15:59 มีเคสอยู่เคสนึงนะพี่อ้อยที่เวลาผมไป
00:15:59 → 00:16:03 บรรยายเนี่ยผมก็มันมาจากข่าวเลยค่ะเป็น
00:16:03 → 00:16:06 ข่าวซึ่งเกี่ยวกับผมมไม่เกี่ยวเลยอเป็น
00:16:06 → 00:16:09 ข่าวของผู้หญิงคนนึงที่ประสบอุบติเหตุตก
00:16:09 → 00:16:12 ลงไปในลังรถไฟแล้วโดนรถไฟทับเสียชีวิตไม่
00:16:12 → 00:16:15 ได้เกี่ยวข้องกับเราเลยออย่างเงี้ยแล้วก็
00:16:15 → 00:16:19 มีคนคนนึงก็เอาคลิปไปเปิดเอาคลิปจากกล้อง
00:16:19 → 00:16:21 วงจรปิดแล้วไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย
00:16:21 → 00:16:24 อย่างเงี้ยเรา
00:16:24 → 00:16:29 ก็เอามาเผยแพร่ได้ยังไงเอามาจากไหนออแล้ว
00:16:29 → 00:16:31 เผยแพร่เพื่ออะไรอย่าเงี้อคนก็เข้าไป
00:16:31 → 00:16:34 คอมเมนต์คนที่เห็นเนี่ยพี่อ้อยอย่างเงี้ย
00:16:34 → 00:16:37 จึงเรียนมาปุ๊บดูทันทีเลยค่ะแต่ว่าไม่รู้
00:16:37 → 00:16:40 เลยว่ามันจำเป็นหรือไม่จำเป็นหลังจากนั้น
00:16:40 → 00:16:43 กระโดดเข้าไปคอมเมนต์ด้วยอืใช่รับทราบ
00:16:43 → 00:16:47 ปุ๊บคอมเมนต์ตัวประจำเลยไปตำหนิอืตำหนิ
00:16:47 → 00:16:51 ใครบ้างเห็นแล้วแต่ว่าเาจะเห็นอะไรเคก็
00:16:51 → 00:16:54 ตำหนิสิ่งนั้นเลยค่ะตำหนิผู้คนที่ไม่ช่วย
00:16:54 → 00:16:57 ตำหนิสถานีที่หละหลวมตำหนิรัฐบาลก็ว่า
00:16:58 → 00:17:00 แล้วแต่พี่อืออือตำหนิไปเลยอย่างเงี้อัน
00:17:00 → 00:17:03 นี้ก็คือไปเรื่อยผมก็ดูหมดเลยนะพี่อ้อย
00:17:03 → 00:17:06 ค่ะสังเกตอะไรสังเกตปรากฏการณ์
00:17:07 → 00:17:10 อ๋อเพราะว่าปรากฏการณ์เนี้ยมันมีแง่คิด
00:17:10 → 00:17:13 มุมมองในแง่ของการสื่อสารค่ะอย่างเงี้ย
00:17:13 → 00:17:16 แล้วเราก็เอาสิ่งเนี้ยปรากฏการณ์เนี้ยไป
00:17:16 → 00:17:20 ให้เด็กได้เรียนรู้อืมันก็จะเกิดประโยชน์
00:17:20 → 00:17:24 เงี้ยคือเราสังเกตเราใส่ใจหาแง่คิดมุมมอง
00:17:24 → 00:17:29 ในมิติของเรานะอ๋อโอเคเข้าใจล่ะเพราะ
00:17:29 → 00:17:31 ฉะนั้นพอพูดถึงเรื่องจึงเรียนมาเพื่อมัน
00:17:31 → 00:17:33 จำเป็นต้องทราบเนี่ยผมถึงแยกให้พี่อ้อย
00:17:33 → 00:17:36 เห็นว่ามันมีผู้เกี่ยวข้องคือคนโพสต์
00:17:37 → 00:17:40 เนี่ยเขาเป็นคนจริงเรียนมาอืจำเป็นหรือ
00:17:40 → 00:17:44 ไม่จำเป็นบอกไม่ได้บอกไม่ได้บอกไม่ได้แต่
00:17:44 → 00:17:47 ว่าต้องทราบหรือไม่ต้องทราบเนี่ยเราเรา
00:17:47 → 00:17:49 อ่ะเลือก
00:17:49 → 00:17:52 อืเรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นกับกับคนอื่น
00:17:52 → 00:17:56 แต่กับเราจำเป็นอย่างเงี้ยอแล้วแล้ว
00:17:56 → 00:17:59 เชื่อมโยงจากสิ่งที่เราต้องทราบหรือหรือ
00:17:59 → 00:18:02 ไม่ต้องทราบเนี่ยอืจากตัวเราเนี่ยอือไป
00:18:02 → 00:18:05 ที่เมื่อกี้พี่วีบอกว่าเขาจะคอมเมนต์เคส
00:18:05 → 00:18:09 ที่เ่อตกรางรถไฟเนี่ยเขาจะคอมเมนต์ในสิ่ง
00:18:09 → 00:18:13 ที่เขาเห็นเห็นเออก็เลยมองว่าแล้วก็ที่
00:18:13 → 00:18:17 บอกว่าตำหนิรัฐบาลตำหนิคนที่เสียชีวิต
00:18:17 → 00:18:21 ตำหนิคนโพสต์ตำหนิสารพัดตำหนิเนี่ยจริงๆ
00:18:21 → 00:18:24 แล้วเนี่ยคือประเด็นแรกคือมันไม่ใช่
00:18:24 → 00:18:27 เรื่องของเราก่อนเออๆเออแล้วคุณเอาพาตัว
00:18:27 → 00:18:30 เข้าไปแล้วไปตไปตัดสินแล้วก็ตำหนิว่าคน
00:18:30 → 00:18:34 นู่นไม่ดีคนนี้อะไรอย่างเงี้ยซึ่งซึตรง
00:18:34 → 00:18:37 เนี้ยแสดงว่าคุณมองเห็นแต่สิ่งที่ไม่ดี
00:18:37 → 00:18:41 แล้วคุณก็เลยตัดสินแล้วก็ไปตำหนิเคตำหนิ
00:18:41 → 00:18:44 เออซึ่งจริงๆตตรงเนี้ยก็คือเราไม่ใช่
00:18:44 → 00:18:49 เรื่องที่เราควรคือคือเราแค่พอราทราบเฉยๆ
00:18:49 → 00:18:53 ก็พอแล้วแต่พาตัวเข้าไปเข้าไปเอซึ่งไม่
00:18:53 → 00:18:57 ควรก็มันก็ทำให้เกิดผลเสียอย่างอันดับแรก
00:18:57 → 00:18:59 เลยถึงว่าคนที่เไปตำหนิอย่างเงี้ยอันดับ
00:18:59 → 00:19:02 แรกคือตัวเองก็ขุ่นมัวละใช่ใช่มั้ยแล้ว
00:19:02 → 00:19:05 ยังไม่พอนะพี่อ้อยเข้าไปอย่างเงี้ยเห็น
00:19:05 → 00:19:07 ปุ๊บเี่ตำหนิตำหนิเค้านี่นะเพราะขุ่นมวล
00:19:07 → 00:19:10 ไม่พอนะคค่ะสิ่งที่เราตำหนิหรือไปนั่นน่ะ
00:19:10 → 00:19:13 ดีไม่ดีเนี่ยอะไรนะเป็นการไปเค้าเรียกว่า
00:19:13 → 00:19:17 อะไรนะที่โดนฟ้องกลับอ่ะเค้าเรียกว่าอะไร
00:19:17 → 00:19:20 นะใช่ไปละเมิดเค้าไปแบบว่าไปใช่คำว่าอะไร
00:19:21 → 00:19:23 นะเวลาที่โดนฟ้องทั้งหายเเราลืมคำนี้ไป
00:19:23 → 00:19:27 เออลืมเฉยเลยนะคำเนี้ยเราไปพูดถึงเค้าใน
00:19:27 → 00:19:31 แง่ไม่ดีนะใช่ค่ะหมิ่นประมาทอ่าไปหมิ่น
00:19:31 → 00:19:33 ประมาทเ้าโอหคุณผู้ฟังเห็นมั้ยคำง่ายๆเลย
00:19:33 → 00:19:36 นึกไม่ออกคำว่าหมิ่นประมาทใช่กลายเป็นว่า
00:19:36 → 00:19:39 สิ่งนั้นเป็นการไปหมิ่นประมาทเค้าอือโดน
00:19:39 → 00:19:43 ฟ้องอีกใช่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแท้ๆเห
00:19:43 → 00:19:45 เออค่ะแล้วอย่างผมเวลาที่ผมเล่าเล่าพี่
00:19:46 → 00:19:48 อ้อยฟังว่าเวลาที่ผมอยู่ในโซเชียลมีเดีย
00:19:48 → 00:19:52 ผมดูจึงเรียนมาเนี่ยผมจำเป็นหรือไม่
00:19:52 → 00:19:55 จำเป็นผมดูหมดเลยนะอืแต่ว่าเพื่อทราบ
00:19:55 → 00:19:58 เนี่ยพอผมทราบแล้วเนี่ยอือผมจะไม่ไปกด
00:19:58 → 00:20:01 คอมเมนต์ไม่กดไลก์ไม่อะไรทั้งสิ้นเลยราบ
00:20:01 → 00:20:04 ก็คือราบแต่ผมเก็บละเอียดเลยนะอือเพราะผม
00:20:04 → 00:20:08 จะเอาไปใช้เอาปรากฏการไปใช้ค่ะมันก็เลย
00:20:08 → 00:20:10 กลายเป็นว่าเรื่องจริงเรียนมาเพื่อไม่
00:20:10 → 00:20:14 จำเป็นต้องทราบเนี่ยมันอมันทีแรกที่เมื่อ
00:20:14 → 00:20:16 กี้อธิบายแล้วพี่อ้อยบอกว่าโอ้โหลึกจัง
00:20:16 → 00:20:18 เลยเนี่ยแสดงว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจยาก
00:20:18 → 00:20:22 เหมือนกันนะจริงๆแต่ตอนนี้เข้าใจชัดขึ้น
00:20:22 → 00:20:26 มั้ยพี่อ้อยชัดขึ้นค่ะใช่มั้ยชัดขึ้นก็
00:20:26 → 00:20:29 คือมันต้องกลั่นกรองเนาะอ่าใช่เอเหมือน
00:20:29 → 00:20:34 กับเรื่องไหนแค่ผ่านอืหรือเรื่องไหนที่มี
00:20:34 → 00:20:37 วัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์
00:20:37 → 00:20:41 ไม่ว่าเป็นประโยชน์ฝั่งไหนก็ตามออือเออ
00:20:41 → 00:20:43 ถ้ามันเป็นประโยชน์อ่ะคุณก็เก็บได้แต่
00:20:43 → 00:20:46 เก็บแล้วเพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์อแต่ว่า
00:20:46 → 00:20:52 ถ้าเก็บมาเพื่อมามีอารมณ์ร่วมแล้วก็ไปไป
00:20:53 → 00:20:56 คอมเมนต์ไปขุ่นมัวไปอะไรไม่ใช่ละออืค่ะ
00:20:56 → 00:20:59 เนี่ยเห็นมั้ยเพะงั้นก็เป้าเป้าหมายของ
00:20:59 → 00:21:01 ของประเด็นนี้ที่นำมาเสนอก็แค่อยากจะบอก
00:21:01 → 00:21:04 นิดเดียวว่าในสังคมยุคปัจจุบันที่การสื่อ
00:21:04 → 00:21:07 สารมันเปลี่ยนหมดเทคโนโลยีมันเปลี่ยนหมด
00:21:07 → 00:21:09 ทำให้เรื่องที่ต้องสื่อสารกันสมัยก่อน
00:21:09 → 00:21:12 เรื่องยากเหลือเกินถ่ายทอดสดเนี่ยโหเป็น
00:21:12 → 00:21:15 เรื่องใหญ่เลยเนี่ยทุกวันเนี้ยสามารถถ่าย
00:21:15 → 00:21:18 ทอดสดพร้อมๆกันได้ทั่วประเทศเลยอืเยอะมาก
00:21:18 → 00:21:22 เพราะมันง่ายมากสะดวกมากถูกมากพี่อ้อยมอง
00:21:22 → 00:21:26 เห็นความเร็วอืเรื่องความเร็วพี่วีความ
00:21:26 → 00:21:29 เร็วคือฉันอยากทำสิ่งเนี้ยชันไลฟ์เดี๋ยว
00:21:29 → 00:21:32 นั้นเลยปึ๊บขึ้นมาแล้วความเร็วอีกมุมนึง
00:21:32 → 00:21:37 ก็คือคนรับอืพอเห็นปุ๊บเอาเลยปึ๊บตัดสิน
00:21:37 → 00:21:40 เลยดีไม่ดีผิดถูกนู่นนี่คอมเมนต์แล้วก็
00:21:40 → 00:21:43 เป็นเรื่องใช่อ้าเนี่ยทั้งหมดนี่มีแค่นี้
00:21:43 → 00:21:47 เลยว่าเราอยู่กับมันในกระแสเนี้ยอือโดย
00:21:47 → 00:21:50 ที่เราไม่รู้ตัวอ่าแล้วมันก็ส่งผลกับเรา
00:21:50 → 00:21:53 ขุ่นมัวทุกข์บางคนก็เอาไปนอนไม่หลับเอาไป
00:21:53 → 00:21:57 เครียดบางคนก็บอกว่าเนี่ยผมเคยเห็นโพสต์
00:21:57 → 00:22:00 บางโพสต์นะพี่อ้อยเกี่ยวกับเรื่องดาราที่
00:22:00 → 00:22:04 แบบเตียงหักเพอเริ่มมีคนปล่อยมาปุ๊บแล้ว
00:22:04 → 00:22:08 มีคนบอกว่าเฮ้ยบอกมาเลยเนี่ยตามตั้งแต่
00:22:08 → 00:22:10 เช้านอนไม่หลับแล้วเนี่ยอะไรอย่าเงี้ยบอก
00:22:10 → 00:22:15 มาไอ้สบอะไรย่อมาจากอะไรอะไรอย่างี้มเอ
00:22:15 → 00:22:17 เนี่ยตามทั้งคืนเลยเนี่ยยังนยังไม่รู้เลย
00:22:17 → 00:22:20 เนี่ยนอนไม่หลับเลยเนี่ยอย่างเงี้ยอเนี่ย
00:22:20 → 00:22:23 ก็คืออยู่ในกระแสของจึงเรียนมาเพื่อไม่
00:22:23 → 00:22:26 จำเป็นต้องทราบทั้งสิ้นนะฮะเออแล้วก็มัน
00:22:26 → 00:22:28 ไม่ได้ว่าถูกผิดแวดีแต่ว่ามันมันทำให้เรา
00:22:29 → 00:22:32 ขุ่นมัวแค่เราเอ๊ะนิดนึงเรารู้สึกตัวเรา
00:22:32 → 00:22:35 มีสติแล้วเราก็เลือกบางทีมันไม่ไม่ไม่ใช่
00:22:35 → 00:22:40 แค่ขุ่นมัวนะพี่วีบางคนเนี่ยที่ที่เห็น
00:22:40 → 00:22:44 ข้อมูลแล้วก็ไปพาตัวเองเข้าไปซะลึกเลย
00:22:44 → 00:22:49 เนี่ยอือือมีแบบรักชอบเกลียดเวลาใครไอ้
00:22:49 → 00:22:54 ฟั่งที่ไม่ชอบทำก็โอ้โหไปนอกจากขุ่นมัว
00:22:54 → 00:22:58 ตัวเองแล้วยังอ่ายังอารมณ์ยังไปโมโหคน
00:22:58 → 00:23:02 ข้างๆที่อ้าทำไมแกไปอ่าอยู่กับฝั่งนู้น
00:23:02 → 00:23:06 อะไรพานเสียความสัมพันธ์เสียอะไรเยอะแยะ
00:23:06 → 00:23:09 ไปหมดพี่เคยเจอถึงขนาดที่ว่าเป็นคนที่
00:23:09 → 00:23:13 ธุรกิจตัวเองอ่ะเสียหายเลยนะพี่วี่เพราะ
00:23:13 → 00:23:16 ว่าอินมากกับเรื่องบางเรื่องที่อยู่บน
00:23:16 → 00:23:20 โซเชียลเนี่ยชอบฝั่งนี้ไม่ชอบฝั่งนู้น
00:23:20 → 00:23:24 โอ้โหแบบเสียหายมากเนี่ยลามไปไม่รู้ถึง
00:23:24 → 00:23:27 ไหนถึงไหนเลยนะใช่อ่ะค่ะเพราะฉะนั้นก็คุณ
00:23:27 → 00:23:29 ผู้ฟังครับเรื่องที่ผมเล่ามาทั้งหมดเนี่ย
00:23:29 → 00:23:32 ก็บอกเลยนะครับว่ามันเป็นเรื่องที่จึง
00:23:32 → 00:23:35 เรียนมาจำเป็นหรือไม่ไม่รู้แต่จะทราบหรือ
00:23:35 → 00:23:38 ไม่คุณเอ่อในวันนี้เรื่องของเราวันนี้ใช่
00:23:38 → 00:23:42 มั้ยคะพี่ว่าจำเป็นต้องทราบนะจำพี่เข้า
00:23:43 → 00:23:46 ข้างตัวเองนี่ไงเห็นมั้ยค่ะไม่รู้แหละ
00:23:46 → 00:23:49 จำเป็นหรือไม่จำเป็นคุณผู้ฟังต้องตัดสิน
00:23:49 → 00:23:52 อืเออค่ะตัดสินแล้วก็สังเกตแล้วก็เลือกนะ
00:23:52 → 00:23:55 ฮะเพราะฉะนั้นวันนี้ก็ศัลยกรรมความสุขใน
00:23:55 → 00:23:58 วันนี้โอ้ชื่อเราแบบว่าสุ่มเสี่ยงมากเลย
00:23:58 → 00:23:59 นะ
00:23:59 → 00:24:01 ว่าเราคงตกลงว่าเราจำเป็นหรือไม่จำเป็น
00:24:01 → 00:24:04 เนี่ยนะแต่ยังไงก็ตามคุณผู้ฟังต้องเลือก
00:24:04 → 00:24:08 ค่ะมีสติคิดแล้วก็เลือกค่ะในส่วนของผมก็
00:24:08 → 00:24:12 พี่อ้อยและพี่วีเราก็จะทำหน้าที่ของเราไป
00:24:12 → 00:24:15 เรื่อยๆทุกสัปดาห์นะแต่ว่าวันนี้เวลาหมด
00:24:15 → 00:24:17 แล้วต้องลาไปก่อนนะครับสวัสดีครับค่ะ
00:24:17 → 00:24:19 สวัสดี
00:24:19 → 00:24:22 ค่ะติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:24:22 → 00:24:26 แอปพลิเคชันของไย PBS podcast spotify
00:24:26 → 00:24:30 Sou Cloud Google Apple podcast และ
00:24:30 → 00:24:33 YouTube Channel Thai PBS podcast
00:24:33 → 00:24:36 Thai PBS podcast View the world
00:24:36 → 00:24:38 via The Voice
00:24:38 → 00:24:43 [เพลง]