00:00:00 → 00:00:02 สเตมเซลล์หรือว่าเซลล์ต้นกำเนิดเนี่ยนะ
00:00:02 → 00:00:04 ครับเป็นความหวังของวงการวิทยาศาสตร์แล้ว
00:00:04 → 00:00:07 ก็การแพทย์เลยนะครับในการที่จะรักษาผู้
00:00:07 → 00:00:10 ป่วยเวลาที่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งเนี่ยมัน
00:00:10 → 00:00:13 ได้รับความเสียหายหรือว่าเป็นโรคนะครับ
00:00:13 → 00:00:15 และในปัจจุบันเนี่ยในประเทศไทยก็มีหลาย
00:00:15 → 00:00:18 ธุรกิจเลยที่นำเอาสเตมเซลล์เนี่ยมาให้
00:00:18 → 00:00:21 บริการกับคนไข้นะฮะไม่ว่าจะเป็นการฉีด
00:00:21 → 00:00:24 สเตมเซลล์เข้าหน้าเพื่อหวังว่าจะให้หน้า
00:00:24 → 00:00:26 เด็กลงนะครับฉีดสเตมเซลล์เข้าหัวเข่า
00:00:27 → 00:00:29 เพื่อช่วยในการรักษาข้อเข่าเสื่อมฉีด
00:00:29 → 00:00:31 สเตมเซลล์เข้าหนังศีรษะเพื่อช่วยในการ
00:00:31 → 00:00:34 รักษาโรคผมบางนะครับหรือฉีดสเต็มเซลเข้า
00:00:34 → 00:00:37 เส้นเลือดเพื่อหวังที่จะฟื้นฟูอวัยวะภาย
00:00:37 → 00:00:39 ในร่างกายรวมไปถึงการฉีดสเต็มเซล์เข้า
00:00:39 → 00:00:42 อวัยวะเพศชายเพื่อช่วยรักษาโรคที่อวัยวะ
00:00:42 → 00:00:44 เพศชายเนี่ยไม่แข็งตัวนะฮะแล้วยังมี
00:00:44 → 00:00:47 ธุรกิจเก็บสเตมเซลล์ด้วยนะครับที่เก็บสาย
00:00:47 → 00:00:49 สะดือของลูกของเราหลังจากคลอดเพื่อหวัง
00:00:49 → 00:00:52 ว่าในอนาคตเนี่ยจะสามารถใช้ในการรักษาโรค
00:00:52 → 00:00:55 ในอนาคตได้เมื่อจำเป็นนะครับผมเองในฐานะ
00:00:55 → 00:00:57 ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานวิจัยด้าน
00:00:57 → 00:01:02 สเตมเซลล์มา 15 ปีเวลาที่ได้ยินโฆษณาจาก
00:01:02 → 00:01:04 ธุรกิจที่ทำสเตมเซลล์นะครับหรือการสื่อ
00:01:04 → 00:01:08 สารเนี่ยหลายๆครั้งผมบอกตามตรงว่าผมช็อ
00:01:08 → 00:01:12 แล้วก็ตกใจเพราะว่าหลายๆครั้งคำโฆษณามัน
00:01:12 → 00:01:15 เกินจริงไม่รอบด้านบางครั้งเนี่ยก็ผิด
00:01:15 → 00:01:17 หลักวิชาการนะครับกฎหมายในเมืองไทยเนี่ย
00:01:17 → 00:01:20 ก็ยังตามไม่ทันเทคโนโลยี STEM sal ทำให้
00:01:20 → 00:01:22 ทุกวันเนี้ยธุรกิจ STEM sal เนี่ยมัน
00:01:22 → 00:01:24 เป็น Gray Business ก็คือค่อนข้างเป็นสี
00:01:24 → 00:01:26 เทาซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายแล้วก็ไม่
00:01:26 → 00:01:28 ควรจะเกิดขึ้นในเมืองไทยเลยนะครับเพราะ
00:01:28 → 00:01:31 สเตมเซลล์มีประโยชน์มากๆวันเนี้ผมก็เลย
00:01:31 → 00:01:33 อยากจะมาเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ
00:01:33 → 00:01:35 STEM Sell นะครับเป็นข้อมูลที่อัปเดต
00:01:35 → 00:01:38 แล้วก็ถูกต้องตามหลักวิชาการมากที่สุดนะ
00:01:38 → 00:01:40 ครับทุกอย่างที่คนไทยควรจะรู้ไม่ว่าจะ
00:01:40 → 00:01:43 เป็นการฉีดเเซลเนี่ยมันปลอดภัยหรือเปล่า
00:01:43 → 00:01:45 การฉีดเเซลที่เขาฉีดกันเนี่ยมันเวิร์คย
00:01:45 → 00:01:48 ตัวผมเองเนี่ยกล้าที่จะฉีดเมซหรือเปล่า
00:01:48 → 00:01:51 วันนี้อาจจะแชร์กันยาวๆนิดนึงนะครับแต่
00:01:51 → 00:01:54 รับรองว่าคุณจะหาฟังจากไหนไม่ได้เพราะว่า
00:01:54 → 00:01:56 อันเนี้ยเป็นเรื่องเล่าจากคนที่ทำงาน
00:01:56 → 00:01:59 วิจัยด้าน STEM sal ตัวจริงครับ this
00:01:59 → 00:02:02 The Stand podcast Eye Opening for
00:02:02 → 00:02:03 your
00:02:03 → 00:02:07 ears Top to Toe podcast สุขภาพที่
00:02:07 → 00:02:11 ใช้วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด
00:02:11 → 00:02:14 เท้าผมอยากจะเริ่มด้วยการเล่าความว้าวของ
00:02:14 → 00:02:17 STEM เซลก่อนนะครับว่าสเตมเซลล์เนี่ยมัน
00:02:17 → 00:02:20 มันมีดีอะไรทำไมผมถึงหลงใหลแล้วก็ตัดสิน
00:02:20 → 00:02:23 ใจที่จะเลือกเรียนแล้วก็ทำงานวิจัยเกี่ยว
00:02:23 → 00:02:25 กับสตมเซลล์แล้วก็พยายามใช้มันในการสร้าง
00:02:25 → 00:02:28 เป็นอวัยวะหรือว่าเนื้อเยื่อเพื่อรักษาคน
00:02:28 → 00:02:31 ไข้นะครับจริงๆย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีที่
00:02:31 → 00:02:34 แล้วอ่ะผมไม่เคยรู้จักสเตมเซลมาก่อนเลยนะ
00:02:34 → 00:02:37 ฮะแต่ตอนนั้นเนี่ยผมมีความฝันที่อยากจะ
00:02:37 → 00:02:40 สร้างหัวเข่าเทียมขึ้นมาเพื่อรักษาคนไข้
00:02:40 → 00:02:43 ที่มีข้อคาวอักเสบแต่ว่าเมืองไทยเนี่ยยัง
00:02:43 → 00:02:46 ไม่มีมหาวิทยาลัยไหนเนี่ยเปิดสอนสาขานี้
00:02:46 → 00:02:48 ผมเลยตัดสินใจที่จะสอบชิงทูนรัฐบาลนะครับ
00:02:48 → 00:02:52 ไปเรียนปญาตรีโทเอกสาขาวิศวการแพทย์หรือ
00:02:52 → 00:02:54 ว่า biomedical engineering ที่
00:02:54 → 00:02:56 มหาวิทยาลัยเคม brd ประเทศอังกฤษซึ่งพอไป
00:02:56 → 00:02:59 เรียนเนี่ยครับมีวันนึงก็ได้เจอกับกับ
00:02:59 → 00:03:02 อาจารย์คนนึงครับเมาสอนเรื่องหัวเขาเทียม
00:03:02 → 00:03:04 พอดีตื่นเต้นมากๆรีบไปหาอาจารย์เลยแล้วก็
00:03:04 → 00:03:06 ไปแชร์แพชั่นให้อาจารย์รู้ว่านี่คือสิ่ง
00:03:07 → 00:03:09 ที่ผมอยากทำงานวิจัยสิ่งที่อาจารย์เตอบผม
00:03:09 → 00:03:14 กลับมาเนี่ยเตอบว่าข้าวยูจะเรียนการสร้าง
00:03:14 → 00:03:16 หัวเข่าเทียมไปทำไมในเมื่อมันเป็น
00:03:16 → 00:03:18 เทคโนโลยีที่เก่าและมันมีข้อจำกัดค่อน
00:03:19 → 00:03:22 ข้างเยอะในอนาคตเนี่ยคนก็จะไม่ใช้มันและ
00:03:22 → 00:03:26 ถ้าอยากจะทำแนะนำให้ไปเรียนการสร้าง
00:03:26 → 00:03:28 กระดูกอ่อนขึ้นมาใหม่ในห้องแลบจาก
00:03:28 → 00:03:31 สเตมเซลล์ของคนไข้ดีกว่าเพราะว่าเนื้อ
00:03:31 → 00:03:33 เยื่อกระดูกอ่อนนั้นเนี่ยสามารถที่จะเอา
00:03:33 → 00:03:36 ไปใช้รักษาข้อเข่าที่มีปัญหาแล้วก็สามารถ
00:03:36 → 00:03:38 ที่จะอยู่กับคนไข้ได้จนเสียชีวิตหลังจาก
00:03:38 → 00:03:41 ที่ผมฟังพุผมทึ่งมากเป็นวันแรกที่ผมได้
00:03:41 → 00:03:44 รู้จักกับสเต็มเซลและหลังจากที่ได้รู้จัก
00:03:44 → 00:03:47 กันมากขึ้นก็ยิ่งว้าวครับเมื่อได้รู้ว่า
00:03:47 → 00:03:50 เราสามารถที่จะเอาสเตมเซลล์เนี่ยออกมาจาก
00:03:50 → 00:03:53 คนไข้แล้วไปเพิ่มจำนวนในห้องแหละจากนั้น
00:03:53 → 00:03:56 เนี่ยเราก็สามารถที่จะควบคุมให้คำสั่งมัน
00:03:56 → 00:03:59 ให้มันเติบโตไปเป็นเซลล์หรืออวัยวะเนื้อ
00:03:59 → 00:04:02 เยื่อที่ที่เราต้องการจะรักษาได้จากนั้น
00:04:02 → 00:04:04 หลังจากที่เราสร้างมาเป็นเนื้อเยื่อหรือ
00:04:04 → 00:04:06 อวัยวะในห้องแลบได้แล้วเนี่ยเราถึงเอา
00:04:06 → 00:04:09 กลับเข้าไปใส่ในร่างกายของคนไข้อวัยวะที่
00:04:09 → 00:04:11 สร้างในห้องแลบเนี่ยก็จะผสมผสานแล้วก็
00:04:12 → 00:04:14 สามารถกลับไปทำงานแล้วก็ช่วยให้อวัยวะของ
00:04:14 → 00:04:16 คนไข้เนี่ยทำงานได้อย่างปกติอยู่กับเขาไป
00:04:16 → 00:04:18 จนเขาเสียชีวิตครับเรียกได้ว่า potential
00:04:18 → 00:04:21 ของสเตมเซลล์ในการรักษาโรคเนี่ยมันเยอะ
00:04:21 → 00:04:23 มากแล้วมันไปได้ไกลมากเลยนะครับผมจึง
00:04:24 → 00:04:25 เริ่มเข้าไปทำงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ
00:04:25 → 00:04:28 สเตมเซลล์แล้วก็ค่อยๆเริ่มสร้างเนื้อ
00:04:28 → 00:04:31 เยื่อหรือว่าอวัยวะต่างๆต่านะครับตลอด 15
00:04:31 → 00:04:33 ปีที่ผ่านมาเนี่ยผมมีโอกาสได้ทำงานวิจัย
00:04:33 → 00:04:38 ในการสร้างกระดูกกระดูกอ่อนกระจกตานะครับ
00:04:38 → 00:04:40 กระจกตาเนี่ยเป็นโปรเจคตอนที่ผมเรียน
00:04:40 → 00:04:43 ประยาเอกเนาะหลังจากกลับมาไทยก็มีการขยาย
00:04:43 → 00:04:46 ไปสร้างเซลล์ประสาทรวมถึงสร้างเส้นผมด้วย
00:04:46 → 00:04:49 นะครับจากประสบการณ์ที่สร้างทิชชูมาหลาก
00:04:49 → 00:04:53 หลายรูปแบบมากเนี่ยนะครับก็ทำให้เรียนรู้
00:04:53 → 00:04:57 1 อย่างครับว่าการควบคุมให้สเต็มเซลล์
00:04:57 → 00:05:00 เนี่ยมันพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื่อหรือเอาอวะ
00:05:00 → 00:05:03 ที่เราต้องการมันยากมากเลยครับไม่ง่ายเลย
00:05:03 → 00:05:05 เพราะว่าสเตมเซลล์มันเรื่องมากมากๆเรา
00:05:05 → 00:05:07 จำเป็นที่ต้องเอาใจใส่มันมากๆดูแลมัน
00:05:07 → 00:05:11 อย่างดีแล้วก็ให้สัญญาณที่เหมาะสมในเวลา
00:05:11 → 00:05:13 ที่เหมาะสมด้วยเถึงจะยอมเปลี่ยนไปเป็น
00:05:13 → 00:05:15 อวัยวะที่เราต้องการครับถ้ามันง่ายเนี่ย
00:05:15 → 00:05:18 นะครับตลอด 15 ปี 20 ปีที่ผ่านมาเนี่ยมัน
00:05:18 → 00:05:23 คงจะมีบริษัทใหญ่ๆที่สามารถที่จะรับการ
00:05:23 → 00:05:25 สร้างเนื้อเยื่อหรืออวัยวะจากสเตมเซลล์
00:05:25 → 00:05:27 ได้แล้วแต่จนถึงปัจจุบันเนี่ยมีไม่ถึง 10
00:05:27 → 00:05:29 บริษัททั่วโลกเท่านั้นนะครับที่สามารถที่
00:05:29 → 00:05:32 จะนำเมเซลลคนมาสร้างเป็นอวัยวะก่อนที่จะ
00:05:32 → 00:05:34 ปลูกถ่ายเข้าไปคนไข้ได้งานวิจัยส่วนใหญ่
00:05:34 → 00:05:37 จึงอยู่ในระดับการทดลองในสัตว์หรือว่าการ
00:05:37 → 00:05:39 ทดลองในมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นเฟส 2 หรือว่า
00:05:39 → 00:05:42 เฟส 3 นั่นเองครับทีนี้คำถามคือทำไมการ
00:05:42 → 00:05:45 ควบคุมสเตมเซลล์ให้มันเป็นเนื้อเยื่อหรือ
00:05:45 → 00:05:48 อวัยวะที่ต้องการเนี่ยมันยากถ้าคุณเข้าใจ
00:05:48 → 00:05:51 คำตอบของคำถามเนะครับคุณจะมองเกมแล้วก็
00:05:51 → 00:05:56 อ่านธุรกิจของเมซได้อย่างทะลุปรุปรงเลย
00:05:56 → 00:05:59 ฮะผมอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับสเตมเซล
00:05:59 → 00:06:02 เพิ่มนิดนึงครับสเตมเซลล์เนี่ยนะครับมัน
00:06:02 → 00:06:05 มีหลายชนิดครับแต่ละชนิดเนี่ยก็มีความ
00:06:05 → 00:06:08 สามารถที่จะพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื่อหรือ
00:06:08 → 00:06:11 อวัยวะได้แตกต่างกันนะครับผมอยากให้ทุกคน
00:06:11 → 00:06:13 จริงในการว่าสเตมเซลล์เนี่ยเหมือนกับเด็ก
00:06:13 → 00:06:16 นักเรียนที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำอาชีพ
00:06:16 → 00:06:19 อะไรนะครับเราสามารถจะแบ่งนักเรียนเนี่ย
00:06:19 → 00:06:22 ออกเป็น 3 กลุ่มตามความสามารถของเขาคครับ
00:06:22 → 00:06:25 กลุ่มแรกครับคือเด็กที่เรียนไม่ค่อยเก่ง
00:06:25 → 00:06:28 ไม่ค่อยมีทางเลือกในอาชีพมากสามารถประกอบ
00:06:28 → 00:06:30 อาชีพได้เพียงอาชีพเดียวก็คือพัฒนาไปเป็น
00:06:31 → 00:06:33 เนื้อเยื่อหรืออวัยวะได้แค่ชนิดเดียวนะ
00:06:33 → 00:06:36 ครับเราเรียก Stemcell กลุ่มนี้ว่า uni
00:06:36 → 00:06:38 potent Stem Cell uni แปลว่า 1 ก็คือ
00:06:38 → 00:06:41 สามารถที่จะรับจ๊อบได้ 1 งานหรือว่าเป็น
00:06:41 → 00:06:43 เนื้อเยื่อหรืออวัยวะได้แค่ชนิดเดียวเท่า
00:06:43 → 00:06:45 นั้นนะครับตัวอย่างคืออะไรครับถ้าเกิดว่า
00:06:45 → 00:06:48 ใครเคยโดนกระดาษบาดตานะครับบาดกระจกตา
00:06:48 → 00:06:51 แล้วรู้สึกตาระคายเคืองแล้ววัน 2 วันรู้
00:06:51 → 00:06:54 สึกว่าเอ้ยดีขึ้นแล้วนั่นแหละครับบริเวณ
00:06:54 → 00:06:56 ขอบของตาดำเนี่ยครับมันจะมี Stemcell
00:06:56 → 00:06:58 อยู่ตัวนึงชื่อว่า limble epithelial
00:06:58 → 00:07:00 STEM Cells เมื่อไหร่ก็ตามที่ผิวกระจก
00:07:00 → 00:07:03 ตามันถลอกไปเนี่ยนะครับไอ้เจ้าสเตมเซลล์
00:07:03 → 00:07:06 ตัวเมันจะรู้ว่ามันต้องซ่อมแซมันก็เลย
00:07:06 → 00:07:08 แบ่งตัวเพิ่มจำนวนแล้วก็คลืบคลานเข้ามา
00:07:08 → 00:07:11 ซ่อมแซมแผลของกระจกตาวัน 2 วันมันถึงจะดี
00:07:11 → 00:07:14 ขึ้นแต่สเตมเซลล์ตัวเนี้ยมันพัฒนาไปเป็น
00:07:14 → 00:07:16 epal เซลล์ที่กระจกตาได้แค่อย่างเดียว
00:07:16 → 00:07:18 เท่านั้นมันถึงเป็น unip potent
00:07:18 → 00:07:20 Stemcell ครับ Stemcell กลุ่มที่ 2 อัน
00:07:21 → 00:07:22 นี้เป็นเด็กนักเรียนที่เรียนเก่งมากยิ่ง
00:07:22 → 00:07:26 ขึ้นเพราะฉะนั้นมีโอกาสทางเลือกในอาชีพ
00:07:26 → 00:07:27 ที่หลากหลายมากกว่าสามารถจะ Entrance
00:07:27 → 00:07:30 หรือว่า Admission เข้าไปเป็นทางทั้งหมอ
00:07:30 → 00:07:33 วิศวะหรือว่าจะเป็นสถาปัตย์ก็ได้นะครับ
00:07:33 → 00:07:35 แต่ว่ามันมีข้อจำกัดอยู่ไม่ใช่ว่าคนที่
00:07:36 → 00:07:38 อยากจะเรียนหมอวิศวะสถาปัตย์เนี่ยจะเป็น
00:07:38 → 00:07:40 ใครก็ได้แต่ต้องเป็นเด็กที่เรียนสายวิทย์
00:07:40 → 00:07:42 ถูกมยถ้าเกิดว่าเรียนสายสินมาเนี่ยอาจจะ
00:07:42 → 00:07:45 เลือกเรียนต่ออาชีพสายวิชาชีพเหล่านี้ไม่
00:07:45 → 00:07:47 ได้ multipotent Stem Cell ก็เช่นกันนะ
00:07:47 → 00:07:49 ครับในบรรดา multipotent STEM cells
00:07:49 → 00:07:52 เนี่ยนะครับมีอยู่ 2 เซลล์ที่คุณควรจะรู้
00:07:52 → 00:07:54 จักครับตัวแรกมันชื่อว่า
00:07:54 → 00:08:00 msc ย่อมาจากมีน ky Stemcell หรือ meen
00:08:00 → 00:08:02 kyal stromal Cell นะครับเจ้า msc
00:08:02 → 00:08:04 เนี่ยครับเป็นเซลล์ที่ทุกคนควรจะจำให้
00:08:04 → 00:08:08 แม่นเลยเพราะว่าไอ้เจ้าเมเซลลที่มีขายมี
00:08:08 → 00:08:10 บริการฉีตามคลินิกทุกวันเนี้ยครับหรือ
00:08:10 → 00:08:13 ธนาคารที่เขาให้เก็บสายซื้อเนี่ยมันคือ
00:08:13 → 00:08:16 การเก็บ msc ทั้งสิ้นนะครับที่ถามว่า msc
00:08:16 → 00:08:18 เนี่ยมันสามารถจะพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื่อ
00:08:18 → 00:08:20 หรืออวัยวะอะไรได้บ้างนะครับโดยเนเจอร์
00:08:20 → 00:08:22 ของมันเนี่ยมันสามารถที่จะพัฒนาไปได้ 3
00:08:22 → 00:08:25 เนื้อเยื่อครับอย่างแรกคือกระดูกอย่างที่
00:08:25 → 00:08:28 2 คือกระดูกอ่อนและสุดท้ายนะครับคือไข
00:08:28 → 00:08:32 มันครับแต่ว่าการเลี้ยง msc ในห้องปฏิบัต
00:08:32 → 00:08:34 การเนี่ยด้วยความรู้ที่มากขึ้นนะครับเรา
00:08:34 → 00:08:36 ก็เจอว่าจริงๆแล้ว msc เนี่ยสามารถที่จะ
00:08:36 → 00:08:39 ควบคุมหรือ Control มันให้มันพัฒนาไปเป็น
00:08:39 → 00:08:41 กล้ามเนื้อรวมไปถึงเซลล์ประสาทได้ด้วยนะ
00:08:41 → 00:08:44 ครับอ่ะนั่นคือ msc อีกตัวนึงที่อยากให้
00:08:44 → 00:08:47 รู้จักคือ H SC ครับย่อมาจาก
00:08:47 → 00:08:50 hematopoietic STEM cells นะครับเจ้า
00:08:50 → 00:08:52 hsc เนี่ยสามารถที่จะพัฒนาไปเป็นเซลล์
00:08:52 → 00:08:54 อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเลือดไม่ว่าจะ
00:08:54 → 00:08:57 เป็นเม็ดเลือดขาวเม็ดเลือดแดงหรือว่า
00:08:57 → 00:08:59 เกล็ดเลือดแต่ไม่สามารถที่จะพัฒนาไปเป็น
00:08:59 → 00:09:01 กระดูกหรือว่ากระดูกอ่อนได้แบบ msc นะ
00:09:02 → 00:09:05 ครับพอจะเห็นภาพมยว่า multipotent สามารถ
00:09:05 → 00:09:07 จะพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื่อหรืออวัยวะได้
00:09:07 → 00:09:10 หลากหลายก็จริงแต่ไม่ใช่ทุกชนิดนะครับ
00:09:10 → 00:09:12 เพราะฉะนั้นมันถึงมีนักเรียนกลุ่มที่ 3
00:09:12 → 00:09:15 ที่เรียกว่าเป็นตัวท็อปเลยเป็นอัจฉริยะ
00:09:15 → 00:09:17 มากๆนะครับสามารถที่จะทำงานประกอบอาชีพ
00:09:17 → 00:09:20 ได้ทุกอาชีพเลยเพราะว่าเก่งมากนะครับเรา
00:09:20 → 00:09:23 เรียกมันว่า plu potent Stemcell นะ
00:09:23 → 00:09:25 ครับ py มันแปลว่าหลากหลายมากๆนะเรียได้
00:09:25 → 00:09:29 ว่าเมเซกลุ่มเยคือสุดยอดคือมีค่ามากๆถาม
00:09:29 → 00:09:31 ว่าหาได้จากไหนอ่ะตัวแรกครับมันคือ
00:09:31 → 00:09:34 embryonic Stemcell embryo คือเป็น
00:09:34 → 00:09:36 สเตมเซลล์ที่เจอในระยะที่เราเป็นตัวอ่อน
00:09:36 → 00:09:39 หรือริโอตอนที่อยู่ในร่างกายคุณแม่เท่า
00:09:39 → 00:09:41 นั้นนะครับในปัจจุบันเนี่ยแม้ว่าเจ้า
00:09:41 → 00:09:43 embryonic Stemcell เนี่ยสามารถที่จะ
00:09:43 → 00:09:45 พัฒนาเป็นทุกข์อวัยวะเลยแต่ในปัจจุบัน
00:09:45 → 00:09:47 เนี่ยกฎหมายก็ไม่อนุญาตให้เอา embryonic
00:09:47 → 00:09:49 Stem Cell มาใช้งานได้นะครับแต่ทีนี้
00:09:49 → 00:09:51 นักวิทยาศาสตร์เนี่ยก็ไม่ยอมแพ้ครับรู้
00:09:52 → 00:09:54 ว่าไอ้เจ้า embryonic STEM เซลเนี่ยมัน
00:09:54 → 00:09:57 สุดยอดมากๆก็เลยมีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนึง
00:09:57 → 00:10:00 นะครับเค้าคิดค้นวิธีมีการเปลี่ยนไอ้เจ้า
00:10:00 → 00:10:02 เซลล์ของเรานี่แหละที่เป็นเซลล์ผู้ใหญ่
00:10:02 → 00:10:04 แล้วที่ทำหน้าที่เฉพาะแล้วนะครับไปล้าง
00:10:04 → 00:10:07 สมองของมันทำให้มันเนี่ยกลับไปเป็นเด็ก
00:10:07 → 00:10:10 นักเรียนในเลเวลเทียบเท่ากับ embryonic
00:10:10 → 00:10:12 Stem Cell คือสามารถที่จะพัฒนาไปเป็น
00:10:12 → 00:10:15 อวัยวะอะไรก็ได้นะครับเราเรียกเ์ Cell
00:10:15 → 00:10:16 นั้นว่า
00:10:16 → 00:10:20 ipsc ย่อมาจาก induced ply potent
00:10:20 → 00:10:22 STEM cells ครับ induced คือเหนี่ยวนำ
00:10:22 → 00:10:24 คือเหนี่ยวนำให้เซลล์ร่างกายอย่างเซลล์
00:10:24 → 00:10:27 ผิวหนังเนี่ยมันย้อนไวเลยกลับไปเป็น plu
00:10:27 → 00:10:29 potent Stemcell อีกครครั้งนึงนะครับ
00:10:29 → 00:10:32 นี่คือเทคโนโลยีในปัจจุบันเพราะฉะนั้นเรา
00:10:32 → 00:10:35 สามารถที่จะเอาเซลล์ร่างกายของเรานี่แหละ
00:10:35 → 00:10:37 ไปจูนสมองใหม่นั่นคือการตัดต่อจีนบาง
00:10:37 → 00:10:40 อย่างเข้าไปนะครับทำให้มันกลับกลายไปเป็น
00:10:40 → 00:10:43 สเตมเซลล์ที่สามารถจะสร้างอวัยวะอะไรก็
00:10:43 → 00:10:45 ได้ครับทีนี้ทุกคนพอจะเริ่มรู้จัก
00:10:45 → 00:10:48 สเตมเซลล์แต่ละชนิดแล้วนะครับสมมุติว่าผม
00:10:48 → 00:10:51 ต้องการสร้างกระดูกอ่อนขึ้นมาแสดงว่าผม
00:10:51 → 00:10:54 ต้องมี msc ในมือเพราะว่าต้องเป็น msc
00:10:54 → 00:10:57 เท่านั้นที่จะพัฒนาไปเป็นกระดูกอ่อนได้นะ
00:10:57 → 00:11:00 ครับแต่การมี msc ในมืออย่างนะครับโอ้โห
00:11:00 → 00:11:02 มันไม่ง่ายเลยที่จะสั่งให้มันเป็นกระดูก
00:11:02 → 00:11:04 อ่อนอย่างแรกเนี่ยผมต้องเพิ่มจำนวน msc
00:11:04 → 00:11:06 ด้วยการเลี้ยงอยู่ใน culture Media หรือ
00:11:06 → 00:11:09 ว่าน้ำยาเพาะเลี้ยงเซลล์นะครับพอมันเพิ่ม
00:11:09 → 00:11:12 จำนวนแข็งแรงได้มากขึ้นจนผมพอใจแล้วสเต็ป
00:11:12 → 00:11:15 ต่อไปเคือคีย์ที่สำคัญเลยผมต้องใส่สารบาง
00:11:15 → 00:11:18 อย่างหรือให้สัญญาณอะไรบางอย่างกับมันกับ
00:11:18 → 00:11:21 ไอ้เจ้า msc บอกมันว่าถึงเวลาแล้วที่เธอ
00:11:21 → 00:11:25 ต้องเลือกทำจ๊อบใดจ๊อบหนึ่งใส่สารชุดนึง
00:11:25 → 00:11:28 มันจะแปลงร่างไปเป็นกระดูกอ่อนใส่สารอีก
00:11:28 → 00:11:30 ชุดนึงมันจะแปลงร่างไปเป็นกระดูกเพราะ
00:11:30 → 00:11:34 ฉะนั้นสารที่ผมใส่เข้าไปต้องถูกต้องแม่น
00:11:34 → 00:11:37 ยำในจังหวะเวลาที่เหมาะสมด้วย msc ของผม
00:11:37 → 00:11:40 ถึงจะถูกเปลี่ยนไปเป็นเซลล์กระดูกอ่อนใน
00:11:40 → 00:11:42 ห้องแลบนะครับแต่การเปลี่ยน msc ไปเป็น
00:11:42 → 00:11:44 กระดูกอ่อนในห้องแลบได้อย่างเดียวยังไม่
00:11:44 → 00:11:46 พอนะครับเพราะว่าเนื้อเยื่อของเราหรือเอา
00:11:46 → 00:11:48 ไว้ของเราเนี่ยมันซับซ้อนกว่านั้นเซลล์
00:11:48 → 00:11:50 กระดูกอ่อนหลายๆเซลล์เนี่ยมันต้องมาเรียง
00:11:50 → 00:11:52 ตัวในรูปแบบที่มันเหมาะสมแล้วก็ถูกต้อง
00:11:52 → 00:11:54 เท่านั้นมันถึงจะทำงานเป็นเนื้อเยื่อ
00:11:55 → 00:11:56 กระดูกอ่อนได้ฮะเพราะฉะนั้นนัก
00:11:56 → 00:11:58 วิทยาศาสตร์อย่างผมนะครับหรือว่าวิศวกร
00:11:58 → 00:12:00 อย่างผมเนี่ยก็ต้องหาวิธีว่าเอ๊ะเราจะ
00:12:00 → 00:12:04 สร้างวัสดุมาซัพพอร์ตมันยังไงดีที่จะทำ
00:12:04 → 00:12:07 ให้มันรู้ว่ามันต้องโตมาเป็นเชฟแบบนี้
00:12:07 → 00:12:09 เป็นเชฟเดียวกับกระดูกอ่อนเป็นแผ่นๆนะ
00:12:09 → 00:12:11 หลังจากนั้นเนี่ยผมก็ต้องเอาไอ้แผ่นๆเย
00:12:11 → 00:12:14 ครับไปเข้าในตู้อบผมเรียกง่ายๆว่าตู้อบ
00:12:14 → 00:12:16 แล้วกันชื่อจริงของมันคือ bioreactor นะ
00:12:16 → 00:12:18 ครับคือไปจำลองสถานการณ์เนี่ยให้มัน
00:12:18 → 00:12:20 เหมือนอยู่ในร่างกายมนุษย์จริงๆว่าให้มัน
00:12:20 → 00:12:23 เจอกับเหตุการณ์เช่นมีน้ำมาพัดมันให้มัน
00:12:23 → 00:12:25 เจอแรงมาดึงมันเหมือนกับของจริงเพื่อให้
00:12:25 → 00:12:27 มันปรับตัวและพร้อมที่จะทำงานเมื่อใส่
00:12:28 → 00:12:30 เข้าไปในขอนไคเมื่อเรามั่นใจแล้วว่าเรา
00:12:30 → 00:12:32 ได้ทิชชูกระดูกอ่อนที่เหมาะสมนะครับเราก็
00:12:32 → 00:12:35 จะผ่าตัดเย็บมันกลับเข้าไปตรงบริเวณหัว
00:12:35 → 00:12:38 เขาเพื่อทดแทนไอ้เต้ากระดูกอ่อนที่มัน
00:12:38 → 00:12:39 ถลอกไปนะครับแล้วเมื่อเนื้อเยื่อมัน
00:12:39 → 00:12:42 เชื่อมกันนะครับมันก็ทำงานได้ไปเรื่อยๆจน
00:12:42 → 00:12:45 เราเสียชีวิตนั่นเองนะครับนั่นคือหลักการ
00:12:45 → 00:12:48 ในการควบคุมให้สเตมเซลล์เนี่ยมันกลายเป็น
00:12:48 → 00:12:50 เนื้อเยื่อที่เราต้องการนะครับสิ่งที่ผม
00:12:50 → 00:12:52 อยากจะบอกก็คือว่าขนาดเราอยู่ในห้องแลบ
00:12:52 → 00:12:55 เนี่ยครับการควบคุมให้สเตมเซลล์มันทำใน
00:12:55 → 00:12:57 สิ่งที่เราอยากให้ทำอ่ะมันยังยากเลยอ่ะ
00:12:57 → 00:13:00 แล้วการที่เราฉีดสเต็มเซลล์เข้าไปในร่าง
00:13:00 → 00:13:02 กายแล้วหวังว่ามันจะไปทำนู่นทำนี่ทำนั่น
00:13:02 → 00:13:06 ในขณะที่เราควบคุมอะไรไม่ได้เลยอ่ะมันจะ
00:13:06 → 00:13:09 ยากแค่ไหนคำตอบมันก็เลยยากมากๆนั่นเองที่
00:13:09 → 00:13:13 จะควบคุมให้ msc มันทำงานอย่างที่เรา
00:13:13 → 00:13:15 ต้องการนั่นเองครับในเมื่อมันยากขนาดนี้
00:13:15 → 00:13:18 แล้วทำไมมันถึงเกิดธุรกิจที่เขาเอา msc
00:13:18 → 00:13:20 มาใช้ทำนู่นทำนี่ได้ล่ะแล้วก็มีคนไปใช้
00:13:20 → 00:13:23 บริการด้วยคำตอบก็คือว่าจริงๆแล้วครับจาก
00:13:23 → 00:13:26 งานวิจัยที่เขาทำกันมาโอ้โหเป็น 10 ๆปีเ
00:13:26 → 00:13:29 ครับการฉีด msc เข้าไปในร่างกายเนี่ยมี
00:13:29 → 00:13:31 Positive outcomes มั้ยมีนะครับที่จะ
00:13:31 → 00:13:34 ช่วยในรักษาโรคต่างๆหรือว่าฟื้นฟูการทำ
00:13:34 → 00:13:37 งานของอวัยวะต่างๆแค่บางทีมันเวิร์คบางที
00:13:38 → 00:13:40 มันไม่เวิร์คเพราะว่าองค์ความรู้ในการที่
00:13:40 → 00:13:42 จะควบคุม msc หรือทำให้มันมีประสิทธิภาพ
00:13:42 → 00:13:44 ที่สุดเมื่อมันเข้าไปในร่างกายของเรา
00:13:44 → 00:13:46 เนี่ยมันยังมีไม่ครบถ้วนยังไม่มากพอนั่น
00:13:47 → 00:13:49 เองมันยังเป็นการลองผิดลองถูกนะครับเพราะ
00:13:49 → 00:13:52 ฉะนั้นในปัจจุบันเองนะครับทั่วโลกมีเพียง
00:13:52 → 00:13:56 แค่ไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่อนุญาตให้มี
00:13:56 → 00:14:00 การฉีด msc เข้าไปในร่างกายเพื่อรักษาโรค
00:14:00 → 00:14:03 บางโรคเท่านั้นนะครับอย่างเช่นโรค gvhd
00:14:03 → 00:14:06 นะครับคือ graft verus Host disease
00:14:06 → 00:14:08 มันเป็นโรคที่เราอ่ะต่อต้านเนื้อเยื่อตัว
00:14:08 → 00:14:10 เองนะครับมันจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นหลังจาก
00:14:10 → 00:14:13 ที่มีการปลูกถ่ายไขกระดูกหรว่า B marrow
00:14:13 → 00:14:15 นะครับเป็น Side effect ซึ่งเขาก็มีการ
00:14:15 → 00:14:19 ยอมให้ใช้ msc ได้เฉพาะในประเทศแคนาดา
00:14:19 → 00:14:22 ประเทศญี่ปุ่นเท่าที่ผมทราบนะครับอาจจะ
00:14:22 → 00:14:24 ไม่ใช่ทั่วโลกเนาะหรือโรคบางโรคอย่างเช่น
00:14:24 → 00:14:26 การฉีด msc เข้าไปในหัวเขาเพื่อที่จะ
00:14:26 → 00:14:29 รักษาโรค OA หรือว่าออสอ
00:14:29 → 00:14:31 คืออาการที่ข้อเข่าเสื่อมเนี่ยครับตอนเก็
00:14:31 → 00:14:34 มีเพียงแค่ประเทศเกาหลีใต้เท่านั้นที่มี
00:14:34 → 00:14:37 การอนุญาตจาก fda ให้มีการฉีด msc ในการ
00:14:37 → 00:14:40 รักษาหัวเข่าได้นะครับทีนี้ในเมืองไทยล่ะ
00:14:40 → 00:14:43 เมืองไทยนะครับยังไม่มีการอนุญาตให้ใช้
00:14:43 → 00:14:46 msc ในการฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อรักษา
00:14:46 → 00:14:48 โรคอะไรเลยก็ตามนะครับมีเพียงแค่การยอม
00:14:48 → 00:14:52 ให้ฉีด hsc เท่านั้นในการรักษาโรคที่
00:14:52 → 00:14:54 เกี่ยวกับโรคเลือดอย่างเช่นโรคมะเร็งเม็ด
00:14:54 → 00:14:56 เลือดขาวนะครับถึงแม้ว่าในปัจจุบันนะครับ
00:14:56 → 00:14:58 กฎหมายในเมืองไทยเนี่ยยังไม่ approve
00:14:58 → 00:15:01 หรือว่ายอยอมรับให้มีการฉีด msc เข้าไปใน
00:15:01 → 00:15:04 ร่างกายเพื่อรักษาโรคใดโรคหนึ่งนะครับแต่
00:15:04 → 00:15:08 ก็ไม่ได้ห้ามให้ฉีดมันมีแปของกฎหมายอยู่
00:15:08 → 00:15:10 เป็นช่องโหวทางกฎหมายอยู่ครับที่บอกว่า
00:15:10 → 00:15:14 ถ้าคุณหมอที่เป็นเจ้าของไข้เนี่ยพิจารณา
00:15:14 → 00:15:17 แล้วว่าคนไข้คนนั้นควรได้รับทรีทเมนด้วย
00:15:17 → 00:15:19 การฉีด STEM เซลล์เข้าไปรักษาเนี่ยสามารถ
00:15:19 → 00:15:21 ที่จะ prescribe แล้วก็สามารถจะฉีด STEM
00:15:21 → 00:15:24 เซลล์เข้าไปได้นะครับงั้นความเสี่ยงของ
00:15:24 → 00:15:27 การรักษาด้วย Stemcell therapy แบบนี้ก็
00:15:27 → 00:15:30 จะไปตกที่คนที่ operate ก็คือคุณหมอซึ่ง
00:15:30 → 00:15:32 โดยปกติแล้วคุณหมอก็จะให้คนไข้เนี่ยเซ็น
00:15:33 → 00:15:36 ยินยอมมี consent ก่อนว่ายอมรับในการ
00:15:36 → 00:15:39 รักษาแบบนี้นะทีนี้การฉีดเมเซลล์เข้าไปใน
00:15:39 → 00:15:42 ร่างกายจะปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัยจะเวิร์ค
00:15:42 → 00:15:45 หรือไม่เวิร์คเนี่ยมันขึ้นอยู่กับหมอแล้ว
00:15:45 → 00:15:48 ล่ะครับ Episode นี้ผมอาจจะขออนุญาตฟอร
00:15:48 → 00:15:51 ถึงหมอเยอะสักนิดนึงนะครับเพราะว่ามัน
00:15:51 → 00:15:54 หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยเพราะคุณหมอเนี่ยเป็น
00:15:54 → 00:15:57 stakeholder ที่สำคัญของธุรกิจสเตมเซลล์
00:15:57 → 00:16:01 ยังไงหมอคืออาชีพเดียวที่สามารถที่จะฉีด
00:16:01 → 00:16:04 สเตมเซลล์เข้ามาในคนไข้ได้นะครับทีนี้ก็
00:16:04 → 00:16:07 ต้องยอมรับว่าทุกๆอาชีพเนี่ยครับก็มีความ
00:16:07 → 00:16:09 เก่งมีความเชี่ยวชาญที่ไม่เหมือนกันนะ
00:16:09 → 00:16:14 ครับคุณหมอที่ฉีดเต็มเซลล์หลายๆท่านก็อาจ
00:16:14 → 00:16:16 จะไม่ได้มีความรู้ด้านสเตมเซลล์ดีเท่ากับ
00:16:16 → 00:16:20 คนที่พัฒนาเทคโนโลยีหรือว่าคุณหมอที่ทำ
00:16:20 → 00:16:22 งานวิจัยนะครับความเสี่ยงมันถึงตกที่คน
00:16:22 → 00:16:25 ไข้แล้วก็ประชาชนทั่วไปทีนี้คำถามที่น่า
00:16:25 → 00:16:28 สนใจคือแล้ว msc ที่เขาฉีดกันเนี่ยมันป
00:16:28 → 00:16:31 ปลอดภัยหรือเปล่าจริงๆเรื่องนี้เป็นคำถาม
00:16:31 → 00:16:33 ใหญ่มากที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามหา
00:16:33 → 00:16:36 คำตอบนะครับจากการที่เาศึกษามาเป็น 10 ปี
00:16:36 → 00:16:39 20 ปีเนี่ยนะครับสิ่งที่เขากังวลเนี่ย
00:16:39 → 00:16:41 คือด้วยความที่สเตมเซลล์เนี่ยมันมีความ
00:16:41 → 00:16:44 สามารถในการแบ่งตัวแล้วก็เพิ่มจำนวนได้
00:16:44 → 00:16:47 ไม่หยุดเลยมันมีความคล้ายกับเซลล์มาเร็ง
00:16:47 → 00:16:49 เพราะเซลล์มาเร็งสามารถจะแบ่งตัวได้ถูก
00:16:49 → 00:16:51 มั้ยครับแต่ตลอดระยะเวลาที่เศึกษาเนี่ย
00:16:51 → 00:16:53 เขาคเจอว่าการฉีดเซมเซลเข้าไปในร่างกาย
00:16:53 → 00:16:56 เนี่ยมี Side เเฟคที่ค่อนข้างน้อยครับ
00:16:56 → 00:17:00 น้อยมากๆเลยนะครับถามว่ามีเคสที่มันเกิด
00:17:00 → 00:17:02 Side เอฟเฟคมั้ยมีนะครับส่วนใหญ่ที่เขา
00:17:02 → 00:17:04 จะเจอคือการเกิด fibrosis ก็คือการเกิด
00:17:04 → 00:17:07 พังผืดขึ้นในอิวะไดวะหนึ่งในร่างกายนะ
00:17:07 → 00:17:10 ครับหรือเกิดอาการที่เรียกว่าลิ่มเลือด
00:17:10 → 00:17:12 อุตันในเส้นเลือดดำนะครับพอมีอยู่บ้างแต่
00:17:12 → 00:17:15 ไม่ได้เยอะแล้วก็ยังไม่มี evidence ที่
00:17:15 → 00:17:18 บอกว่าการฉีดสเตมเซลล์อย่าง msc เข้าไปใน
00:17:18 → 00:17:21 ร่างกายเนี่ยทำให้เกิดเป็นมะเร็งนะครับ
00:17:21 → 00:17:24 แต่ต้องโน้ตไว้ว่าอันนี้คือความรู้ณปี
00:17:24 → 00:17:27 2024 เท่านั้นนะครับในอนาคตยังไม่รู้นะ
00:17:27 → 00:17:29 ครับเมื่อมีข้อมูลมากขึ้นข้อมูลตงนี้อาจ
00:17:29 → 00:17:31 จะเปลี่ยนก็ได้นะครับเพราะฉะนั้นคำตอบของ
00:17:31 → 00:17:34 คำถามนี้คือฉีด msc ค่อนข้างเซฟแต่มีข้อ
00:17:34 → 00:17:39 แม้ว่า msc ที่ฉีดต้องมีคุณภาพด้วยนะครับ
00:17:39 → 00:17:41 มันขึ้นอยู่กับมาตรฐานการผลิต msc แล้วนะ
00:17:41 → 00:17:45 ครับคำถามต่อมาแล้วเวลาเราฉีดสเตมเซลล์
00:17:45 → 00:17:47 ที่เป็น msc เข้าไปในร่างกายแล้วเนี่ยมัน
00:17:47 → 00:17:51 มันเกิดอะไรขึ้นมันมันตายมั้ยแล้วมันจะ
00:17:51 → 00:17:53 รู้ได้ไงว่ามันต้องวิ่งไปตรงไหนแล้วมันจะ
00:17:53 → 00:17:56 ช่วยร่างกายเราได้ยังไงนะครับจริงๆคำถามเ
00:17:56 → 00:17:59 เป็นคำถามที่สำคัญมากแล้วถ้าคุณเข้าใจมัน
00:17:59 → 00:18:01 จะสนุกมากเลยนะครับเรื่องนี้การตอบคำถาม
00:18:01 → 00:18:03 นี้นะครับผมอยากให้ทุกคนเนี่ยจินตนาการ
00:18:03 → 00:18:06 ว่าเจ้า msc เนี่ยจริงๆแล้วมันก็คือยา
00:18:06 → 00:18:08 ครับมันคือการฉีดยาบางอย่างที่เข้าไปใน
00:18:08 → 00:18:11 ร่างกายแต่แค่ไอ้เจ้ายาตัวเนี้ยมันดัน
00:18:11 → 00:18:14 เป็นสิ่งที่มีชีวิตนะครับเพราะงั้นด้วย
00:18:14 → 00:18:18 ความที่เขามอง msc หรือเซลเนี่ยเป็นยากฎ
00:18:18 → 00:18:21 หมายเนี่ยเขาก็เลยตั้งกฎหมายออกแบบกฎหมาย
00:18:21 → 00:18:23 มาสำหรับควบคุมดูแล produc เหล่าเนี้ยว่า
00:18:23 → 00:18:26 produc atmp หรือว่า Advance therapy
00:18:26 → 00:18:28 medicinal product ครับมันคือยาอะไรก็
00:18:28 → 00:18:31 ตามที่ทำจากเซลล์หรือว่าส่วนประกอบส่วนใด
00:18:31 → 00:18:34 ส่วนหนึ่งของเซลล์อย่างเช่นจีนนะครับหรือ
00:18:34 → 00:18:35 จะเป็นเนื้อเยื่อก็ได้เพราะว่าเกิดจากการ
00:18:35 → 00:18:38 เอาเซลล์หลายๆชนิดมารวมกันนะครับเข้าไปใน
00:18:38 → 00:18:40 ร่างกายเพื่อรักษานะครับทีนี้ถามว่าเกิด
00:18:40 → 00:18:42 อะไรขึ้นกับสเต็มเซลล์บ้างนะครับสมมุติ
00:18:42 → 00:18:45 ว่าเริ่มจากการฉีด msc เข้าไปในกระแส
00:18:45 → 00:18:46 เลือดนะครับเราจะฉีกเข้าทางเส้นเลือดดำ
00:18:46 → 00:18:49 อยู่แล้วนะครับพอเซลล์วิ่งเข้าร่างกายไป
00:18:49 → 00:18:52 ทางหลอดเลือดดำนะครับอย่างแรกมันจะวิ่งไป
00:18:52 → 00:18:54 ที่หัวใจแล้วหัวใจก็จะปั๊มมันไปที่ปอด
00:18:54 → 00:18:57 ครับเราจะเจอ msc อยู่ที่ปอดเต็มไปหมดเลย
00:18:57 → 00:19:00 ตอนแรกนะครับแล้วที่ปอดเนี่ยเป็นพื้นที่
00:19:00 → 00:19:03 ที่ msc ค่อนข้างชอบด้วยนะเพราะว่าเป็น
00:19:03 → 00:19:05 จุดที่มีการแลกเปลี่ยนแก๊สค่อนข้างเยอะ
00:19:05 → 00:19:08 แล้วมันก็ต้องใช้แก๊สในการดำรงชีวิตถูก
00:19:08 → 00:19:10 มั้ยครับที่ปอร์ดนี่เองครับที่ msc ไป
00:19:10 → 00:19:13 อยู่จุดแรกเนี่ยเป็นจุดที่ msc เนี่ยกว่า
00:19:14 → 00:19:17 ครึ่งจะถูกกำจัดทิ้งไปครับเรียกได้ว่าตาย
00:19:17 → 00:19:19 เรียบเลยครับซึ่งอาจจะขัดแย้งกับ
00:19:19 → 00:19:21 Marketing หลายๆอย่างที่คนมักจะบอกว่า
00:19:21 → 00:19:24 โอ้การที่เราสามารถจะฉีด msc เข้าไปใน
00:19:24 → 00:19:27 ร่างกายได้เพราะว่า msc เนี่ยมันมี
00:19:27 → 00:19:30 คุณสมบัติพิเศษคือมันสามารถที่จะหลบหลีก
00:19:30 → 00:19:32 เม็ดเลือดขาวไม่ให้เม็ดเลือดขาวจัดการมัน
00:19:32 → 00:19:35 ได้ครับเพราะปกติแล้วเซลล์ของเราทุกเซลล์
00:19:35 → 00:19:37 ในร่างกายเนี่ยครับมันจะมีโปรตีนอยู่
00:19:37 → 00:19:39 กลุ่มนึงครับที่ผิวเพื่อที่จะบอกว่านี่
00:19:39 → 00:19:42 อันนี้คือเซลล์ของฉันนะเม็ดได้ขาวอย่ามา
00:19:42 → 00:19:44 ทำร้ายเซลล์ตัวเองเนาะเพราะฉะนั้นเวลาที่
00:19:44 → 00:19:46 มีการปลูกถ่ายอวัยวะเนี่ยครับเา้าถึง
00:19:47 → 00:19:49 จำเป็นต้องมีการแชไอ้เจ้าโปรตีนตัวเนี้ย
00:19:49 → 00:19:51 ระหว่างผู้บริจาคกับผู้รับนะครับถ้ามัน
00:19:51 → 00:19:54 ตรงกันเยอะเยอะโอกาสที่พอปลูกถ่ายเอาไว้
00:19:54 → 00:19:56 เข้าไปเนี่ยร่างกายจะไม่ค่อยต่อต้านนั่น
00:19:56 → 00:19:59 เองนะครับเจ้าโปรตีนตัวเนี้มันมีมีชื่อ
00:19:59 → 00:20:02 ว่า hla Human Lite antigen หรือว่า
00:20:02 → 00:20:05 บางทีเนี่ยก็เรียกว่า mhc นะครับซึ่งเจ้า
00:20:05 → 00:20:07 mhc เครับความพิเศษของมันคือมันมีโปรตีน
00:20:08 → 00:20:10 ตัวเนี้ยในปริมาณที่ต่ำมากคือมันมี mhc
00:20:10 → 00:20:13 Class 1 เนี่ยต่ำมากแล้วก็ไม่มี mhc
00:20:13 → 00:20:15 Class 2 เลยอันนี้จะลึกนิดนึงนะครับไม่
00:20:15 → 00:20:17 เป็นไรเอาเป็นว่ามันมีไอ้เจ้าโปรตีนที่
00:20:17 → 00:20:20 บอกว่ามันเป็นของของใครเนี่ยน้อยทำให้ตาม
00:20:20 → 00:20:24 ทฤษฎีแล้วมันสามารถที่จะหลบหลีกการจัดการ
00:20:24 → 00:20:27 ของเม็ดเลือดขาวได้นะครับแต่นักวิทยาศาสต
00:20:27 → 00:20:29 ก็สงสัยว่ามันหลบได้จริงหรือเปล่าจึงมี
00:20:29 → 00:20:31 การ label ไอ้เจ้า msc เนี่ยด้วยสารอะไร
00:20:31 → 00:20:35 บางอย่างฉีดเข้าไปแล้วก็ใช้ imaging
00:20:35 → 00:20:38 Technology อย่างเช่นเครื่อง MRI
00:20:38 → 00:20:40 เครื่อง CT เครื่อง Pet scan เนี่ย
00:20:40 → 00:20:42 มอนิเตอรดูซิว่าไอ้เซลล์ที่มันฉีเข้าไป
00:20:42 → 00:20:44 เนี่ยมันวิ่งไปตรงไหนแล้วมันอยู่รอดได้
00:20:44 → 00:20:48 นานแค่ไหนจนเขาเจอว่าแค่มันไปที่ปอดณ
00:20:48 → 00:20:50 โมเมนต์แรกเนี่ยครับ 50% มันไม่รอดเพราะ
00:20:51 → 00:20:53 ว่าเม็ดเลือดขาวของเรามันเก่งกว่าที่เรา
00:20:53 → 00:20:55 คิดครับมันสามารถที่จะจับได้ว่าไอ้เนี่ย
00:20:55 → 00:20:58 มันไม่ใช่เซลล์ของเรานะครับเท่านั้นยัง
00:20:58 → 00:21:00 ไม่พอครับเวลาที่มันเข้าไปในร่างกายปึ๊บ
00:21:00 → 00:21:02 เจอกับเลือด msc เนี่ยมัน sensitive มาก
00:21:02 → 00:21:04 ตอนที่เราเลี้ยงมาในห้องแลบอ่ะครับเราฟุม
00:21:04 → 00:21:08 ฟักมันอย่างดีอยู่ในน้ำยาเลี้ยงที่สะอาด
00:21:08 → 00:21:11 ไม่มีความเครียดเลยแต่พอมันเข้าไปในร่าง
00:21:11 → 00:21:13 กายเราเจอเลือดที่เต็มไปด้วยสารเคมีมาก
00:21:13 → 00:21:15 มายเต็มไปหมดสารหลายๆอย่างเนี่ยทำให้
00:21:15 → 00:21:17 เซลล์มันเกิดอาการเครียดนะครับมันทำให้
00:21:17 → 00:21:20 เซลล์เนี่ยเสียหายแล้วพอเซลล์เสียหายหรือ
00:21:20 → 00:21:21 เป็นแผลเกิดขึ้นปุ๊บเนี่ยครับคราวเนี้ย
00:21:21 → 00:21:24 มันจะยิ่งล่อให้เม็ดเลือดขาวเี่มาจัดการ
00:21:24 → 00:21:27 แล้วก็กินเขมือบมันเหมือนแคมแล้วก็ไม่ก็
00:21:27 → 00:21:29 ปล่อยสารบางอย่างข้ามมันให้ตายไปหรือเม
00:21:29 → 00:21:31 เซลล์บางอย่างเนี่ยครับพอมันได้รับความ
00:21:31 → 00:21:34 เครียดปึ๊บเนี่ยครับมันเหมือนกับท้อใจ
00:21:34 → 00:21:37 แล้วมันก็ไม่ทำงานและกลายเป็นเซลล์แก่ที่
00:21:37 → 00:21:41 เรียกว่า Cent cell หรือผมมักจะเรียกติด
00:21:41 → 00:21:43 ปากว่า Zombie Cell นะครับซึ่งเจ้า
00:21:43 → 00:21:45 ซอมบี้เซลล์เนี่ยครับมันเป็นเซลล์แก่ที่
00:21:45 → 00:21:47 ไม่ทำงานและแล้วบางครั้งเนี่ยมันก็เป็น
00:21:47 → 00:21:49 อันตรายกับเซลล์รอบข้างด้วยเพราะว่ามัน
00:21:49 → 00:21:52 สามารถที่จะปล่อยสารที่ทำร้ายเซลล์อื่นๆ
00:21:52 → 00:21:54 รอบข้างได้เราไม่อยากให้มันเกิดขึ้นนะ
00:21:54 → 00:21:56 เพราะฉะนั้น 100% ของ msc ที่ฉีดเข้าไปใน
00:21:57 → 00:21:59 โมเมนแรกสเต็ปแรกเนี่ยมันต้องพยายามทำยัง
00:21:59 → 00:22:01 ไงก็ได้ให้มันรอดปลอดภัยแล้วยังมีชีวิต
00:22:01 → 00:22:04 อยู่และสิ่งที่เขาเจอกันนะครับไม่ถึง
00:22:04 → 00:22:07 ครึ่งครับที่จะรอดนะครับทีนี้เซลล์ msc
00:22:07 → 00:22:09 ที่มันรอดเนี่ย Next Step คือคราวเนี้ย
00:22:09 → 00:22:13 มันจะวิ่งและไปทั่วร่างกายคำถามคือมันจะ
00:22:13 → 00:22:15 รู้ได้ไงอ่ะมันจะต้องวิ่งไปตรงไหนสมมุติ
00:22:15 → 00:22:18 เราฉีกเข้าไปเพื่ออยากจะรักษาหัวใจอยากจะ
00:22:18 → 00:22:21 รักษาตับเนี่ยมันรู้มยมันไม่รู้ครับเพราะ
00:22:21 → 00:22:23 ว่าเลือดของเราเนี่ยมันวิ่งไปหมดทั่วร่าง
00:22:23 → 00:22:26 กายตามการปั๊มของหัวใจเพราะฉะนั้นเรียก
00:22:26 → 00:22:29 ได้ว่ามันจะไปเอวยไหนเนี่ยมัน Random มาก
00:22:29 → 00:22:33 ๆแล้วแต่โชคเลยครับแล้วแต่จังหวะและโอกาส
00:22:33 → 00:22:35 เลยครับเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้แต่มันก็
00:22:35 → 00:22:39 จะมีบางอวยวะที่ msc มักจะวิ่งไปส่วนใหญ่
00:22:39 → 00:22:41 จะเป็นอวัยวะที่เลือดไปเลี้ยงค่อนข้าง
00:22:41 → 00:22:46 เยอะอย่างเช่นตับไตแล้วก็สมองนะครับก็จะ
00:22:46 → 00:22:48 มีเปอร์เซ็นต์ของ msc ที่ยังรอดอยู่เนี่ย
00:22:48 → 00:22:51 วิ่งไปเยอะหน่อยนะครับถามว่าเยอะเนี่ย
00:22:51 → 00:22:54 เท่าไหร่หรอที่เเจอกันเนี่ยประมาณอวัยวะ
00:22:54 → 00:22:57 ไม่เกิน 5% ครับก็เรียกว่าฉีดไป 100% อาจ
00:22:57 → 00:22:59 จะถึงอวัยวะที่ต้องการเพียงแค่ 5% เท่า
00:22:59 → 00:23:02 นั้นเองนะครับทีนี้มันจะมีอีกเคสนึงที่
00:23:02 → 00:23:05 สามารถที่จะล่อให้เจ้า msc เนี่ยวิ่งไป
00:23:05 → 00:23:08 ได้คือถ้ามีอวัยวะไหนนะครับมันเป็นโรค
00:23:08 → 00:23:11 อยู่พอดีหรือว่าได้รับบาดเจ็บมีการอักเสบ
00:23:11 → 00:23:13 นะครับอวัยวะที่อักเสบเนี่ยครับมันจะส่ง
00:23:13 → 00:23:16 สัญญาณช่วยหน่อยแบบเพื่อล่อให้เม็ดเล็ด
00:23:16 → 00:23:18 ขาวเนี่ยวิ่งเข้ามาช่วยในการรักษานะครับ
00:23:18 → 00:23:20 msc เองก็สามารถจะเซ้นสัญญาณความช่วย
00:23:20 → 00:23:22 เหลือของอวะที่กำลังมีปัญหาเหล่านั้นได้
00:23:22 → 00:23:24 พอวิ่งผ่านปึ๊บเนี่ยมันเหมือนจะเห็นไฟหวอ
00:23:24 → 00:23:26 เรียกมันอยู่มันก็จะแวะแล้วก็เข้าไปที่
00:23:26 → 00:23:29 อวยวะนั้นได้เราเรียกกบวนการที่ msc
00:23:29 → 00:23:31 เนี่ยตัดสินใจที่จะจอดแวะหยุดที่อวัยวะใด
00:23:32 → 00:23:34 อวัยวะ1ึเนี่ยเรียกว่า hing Home ที่มา
00:23:34 → 00:23:37 จากคำว่าบ้านเนี่ยแหะครับมันคือการกลับ
00:23:37 → 00:23:39 บ้านนั่นเองครับเพราะเราต้องการจะส่ง
00:23:39 → 00:23:41 สเต็มเซลไปที่อวัยวะหรือส่งมันกลับบ้าน
00:23:41 → 00:23:43 เพื่อไปดูแลบ้านหลังนั้นนั่นเองนะครับ
00:23:43 → 00:23:46 เมื่อกี้ผมพูดไปเนาะว่าอวัยวะหลักๆอย่าง
00:23:46 → 00:23:49 สมองไตแล้วก็ตับเนี่ยครับ msc อาจจะไปได้
00:23:49 → 00:23:53 มากถึง 5% แล้วอวัยวะอื่นๆล่ะมันไปมย
00:23:53 → 00:23:55 อย่างหัวใจเครับสิ่งที่เขาเจอคือช็อกมาก
00:23:55 → 00:23:57 นะครับไปแค่ประมาณ 1-2 per เท่านั้นคือ
00:23:57 → 00:24:01 น้อยมามากๆที่มันจะโฮมไปที่หัวใจหรือฉีด
00:24:01 → 00:24:03 เข้าไปทางเสื้อือดำแล้วมันไปที่ผิวหนังมย
00:24:03 → 00:24:06 เข้าเจอว่าแทบจะไม่ไปที่ผิวหนังเลยยกเว้น
00:24:06 → 00:24:09 ว่าผิวหนังของเราเนี่ยเกิดแผลแล้วก็ได้
00:24:09 → 00:24:12 รับบาดเจ็บอยู่มันอาจจะวิ่งไปนะครับเรียก
00:24:12 → 00:24:16 ได้ว่าการควบคุมกระบวนการฮิคือให้ msc
00:24:16 → 00:24:18 เนี่ยมันวิ่งไปยังอิวะที่เราต้องการเนี่ย
00:24:18 → 00:24:21 ทำได้ยังไม่มีประสิทธิภาพในปัจจุบันและ
00:24:21 → 00:24:23 นั่นคือหนึ่งในปัญหาที่ผมบอกว่ามันเป็น
00:24:23 → 00:24:25 ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ msc ครับเอาล่ะไม่
00:24:25 → 00:24:27 เป็นไรสมมุติว่า msc เนี่ยมันวิ่งไปถึง
00:24:27 → 00:24:30 อวัยวะที่ต้องการได้แล้วมันจะไปทำอะไร
00:24:30 → 00:24:33 บ้างนะครับ msc เองมีคุณสมบัติดีๆหลาย
00:24:33 → 00:24:36 อย่างเลยจะเป็นว่าทำไมคนถึงพยายามจะเลือก
00:24:36 → 00:24:39 ใช้มันมาใช้ในการรักษาโรคนะครับอย่างแรก
00:24:39 → 00:24:42 มันสามารถที่จะควบคุมการทำงานของเม็ด
00:24:42 → 00:24:45 เลือดขาวได้นะครับคือมันสามารถที่จะลดการ
00:24:45 → 00:24:48 เติบโตลดการอักเสบรวมถึงไปบอกหรือไป
00:24:48 → 00:24:52 กระตุ้นให้เมลอขาวเมันช่วยในการซ่อมแซม
00:24:52 → 00:24:55 เซลล์หรือว่าอวัยวะที่กำลังเสียหายได้
00:24:55 → 00:24:57 อย่างที่ 2 นะครับเจ้า msc เนี่ยมัน
00:24:57 → 00:25:01 สามารถที่จะจะปล่อยสารที่เราเรียกว่าสาร
00:25:01 → 00:25:03 ที่มันใช้ในการสื่อสารกันอย่างเช่นคีโค
00:25:03 → 00:25:06 ไซโค grose Factor ต่างๆไอ้สารเคมีเหล่า
00:25:06 → 00:25:09 นี้นะครับมันคือสิ่งที่เซลล์ใช้ในการพูด
00:25:10 → 00:25:12 คุยกันอยู่และในร่างกายนะครับทีนี้ msc
00:25:12 → 00:25:15 ที่มันวิ่งไปที่อวะที่มีแผลเนี่ยมันก็อาจ
00:25:15 → 00:25:17 จะปล่อยสารบางอย่างออกมาในรูปที่อยู่ใน
00:25:17 → 00:25:21 ถุงอ่าถุงนั้นคือเซมนะครับคนอาจจะเคยได้
00:25:21 → 00:25:23 ยินคำนี้เนาะในเซมเนี่ยก็มีสารที่ผมว่าไป
00:25:23 → 00:25:26 เนี่ยครับที่สามารถจะบอกได้ว่าเฮ้ยถึง
00:25:26 → 00:25:29 เวลาที่จะซ่อมแซมแล้วเฮ้ยรถการอักเสบเอ้ย
00:25:29 → 00:25:31 มาช่วยกันทำให้อวัยวะนี้มันทำงานดีขึ้น
00:25:31 → 00:25:33 เนี่ยคือสิ่งที่มันจะช่วยฟื้นฟูอวัยวะ
00:25:33 → 00:25:35 เหล่านั้นได้นะครับอย่างที่ 3 ที่มันจะ
00:25:35 → 00:25:38 ช่วยได้คือมันกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้น
00:25:38 → 00:25:41 เลือดใหม่มาที่อวัยวะนั้นๆการสร้างเส้น
00:25:41 → 00:25:43 เลือดในจุดที่เหมาะสมเนี่ยเป็นประโยชน์
00:25:43 → 00:25:45 มากนะครับเพราะว่าสารทางชีวเคมีที่ต้อง
00:25:45 → 00:25:48 ใช้ในการซ่อมแซมอวยวะเนี่ยมันวิ่งมาทาง
00:25:48 → 00:25:50 เลือดอยู่แล้วนะครับเพราะฉะนั้นจึงสังเกต
00:25:50 → 00:25:53 ได้นะว่าสมมุติว่าเวลาที่เรากระดูกหัก
00:25:53 → 00:25:56 แป๊บเดียวเนี่ยเดี๋ยวกระดูกมันก็ซ่อมแซม
00:25:56 → 00:25:57 แล้วก็เชื่อมกันได้นะครับแต่ถ้าเกิดว่า
00:25:58 → 00:26:01 ใครกระดูกอ่อนเสียหายเนี่ยซ่อมแซมไม่ได้
00:26:01 → 00:26:03 ซ่อมแซมยากมากเพราะว่าสิ่งที่ต่างกัน
00:26:03 → 00:26:04 ระหว่างกระดูกกับกระดูกอ่อนคือกระดูก
00:26:04 → 00:26:07 เนี่ยมันมีเส้นเลือดแต่กระดูกอ่อนมันไม่
00:26:07 → 00:26:09 มีเส้นเลือดนั่นเองนะครับเพงั้นสารที่มา
00:26:09 → 00:26:12 ช่วยในการฮีลแล้วก็รักษาอวต่างๆมันมาทาง
00:26:12 → 00:26:14 เส้นเลือดนั่นเองครับอย่างที่ 4 คือคือ
00:26:14 → 00:26:16 ตัวมันเองสามารถที่จะเหนี่ยวนำคือ
00:26:16 → 00:26:18 differentiate คือเปลี่ยนไปทำหน้าที่
00:26:18 → 00:26:21 เฉพาะที่เป็นเซลล์หนึ่งในอวัยวะนั้นๆได้
00:26:21 → 00:26:24 เช่นอยากจะรักษาเซลล์หัวใจมันกลายแเป็น
00:26:24 → 00:26:27 เซลล์หัวใจได้นะครับซึ่ง sinar เนี้ยหรือ
00:26:27 → 00:26:30 เหตุเนี้ยเป็นสิ่งที่เกิดได้ค่อนข้างยาก
00:26:31 → 00:26:33 นะครับเพราะอย่างที่ผมบอกไปว่าขนาดพวกเรา
00:26:33 → 00:26:35 เองนักวิทยาศาสตร์เนี่ยควบคุมมาในห้องแลบ
00:26:35 → 00:26:38 ยังยากเลยแล้วการที่จะปล่อยให้มันน่ะไป
00:26:38 → 00:26:40 ได้รับสารที่จะ induce มาหรือเหนี่ยวน้ำ
00:26:40 → 00:26:43 มันให้มันไปเป็นเซลล์ที่ต้องการในร่างกาย
00:26:43 → 00:26:46 ของเราเนี่ยยากมากๆครับและสเต็ปสุดท้ายนะ
00:26:46 → 00:26:48 ครับสมมุติว่า msc เนี่ยมันปล่อยสารสำคัญ
00:26:48 → 00:26:50 สำคัญสารดีๆที่ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซม
00:26:50 → 00:26:54 อวัยวะแล้วนะครับสุดท้ายมันควรจะโดนกำจัด
00:26:54 → 00:26:56 ทิ้งไปจากร่างกายนะครับจริงๆมันมีงาน
00:26:56 → 00:26:58 วิจัยได้ข้อมูลหลากหลายมากเลยนะครับบางคน
00:26:58 → 00:27:01 เจอว่าสเตมเซลล์เนี่ยอยู่ได้เพียงแค่ 24
00:27:01 → 00:27:03 ชมก็ตายหมดแล้วหรือบางครั้งเนี่ก็เจอว่า
00:27:03 → 00:27:06 สามารถจะอยู่ได้นานถึงระดับ 3-4 เดือน
00:27:06 → 00:27:09 ด้วยซ้ำไปนะครับมี Factor ที่เกี่ยวข้อง
00:27:09 → 00:27:11 เยอะมากที่จะเป็นตัวกำหนดว่ามันจะอยู่ได้
00:27:11 → 00:27:14 นานแค่ไหนแต่โดยทฤษฎีแล้ว msc จะเป็น
00:27:14 → 00:27:16 ประโยชน์ก็แต่เมื่ออยู่ในร่างกายระยะเวลา
00:27:16 → 00:27:19 นึงไม่สั้นมากจนเกินไปเพราะมันยังไม่ได้
00:27:19 → 00:27:21 ช่วยอะไรกับไม่อยู่นานมากจนเกินไปเพราะ
00:27:21 → 00:27:24 ถ้ามันอยู่นานมากเกินไปเพิ่มความเสี่ยง
00:27:24 → 00:27:27 ที่มันจะกลายไปเป็น Cent Sales แล้วก็
00:27:27 → 00:27:29 ความเสี่ยงที่มันจะพัฒนาไปเป็นเซลล์
00:27:29 → 00:27:32 มะเร็งนั่นเองนะครับเพราะฉะนั้น ideal
00:27:32 → 00:27:34 scenario ของการฉีด msc แล้วจะให้เกิด
00:27:34 → 00:27:37 ประโยชน์เนี่ยคือฉีดเข้าไปปึ๊บให้มันรอด
00:27:37 → 00:27:40 ให้ได้มากที่สุดแล้วอย่างที่ 2 ต้องควบ
00:27:40 → 00:27:43 คุมให้มัน hing คือไปยังอวัยวะที่เรา
00:27:43 → 00:27:46 ต้องการให้ได้และอย่างที่ 3 นะครับสามารถ
00:27:46 → 00:27:48 ทำให้มันมีคุณสมบัติที่จะปล่อยสารดีๆที่
00:27:49 → 00:27:52 ช่วยซ่อมแซมแล้วก็สุดท้ายให้มันโดนกำจัด
00:27:52 → 00:27:55 ทิ้งออกไปจากร่างกายได้ถ้าเราสามารถจะควบ
00:27:55 → 00:27:58 คุม 4 สต็ปนี้ให้มันแม่นยำขึ้นมี
00:27:58 → 00:28:01 ประสิทธิภาพมากขึ้นการฉีด msc เข้าไปใน
00:28:01 → 00:28:03 ร่างกายเนี่ยก็จะเป็นประโยชน์มากๆเลยครับ
00:28:04 → 00:28:06 แต่ challeng ในปัจจุบันเนี่ยครับการฉีด
00:28:06 → 00:28:08 msc ยังมีประสิทธิภาพไม่มากเท่าไหร่
00:28:08 → 00:28:11 เพราะว่าเรายังไม่สามารถจะควบคุม msc ให้
00:28:11 → 00:28:14 ทำ 4 สต็ปที่ผมว่ามาเนี่ยมีประสิทธิภาพ
00:28:14 → 00:28:18 ยังไม่ได้นะ
00:28:18 → 00:28:21 ครับเดี๋ยวผมจะลองวิเคราะห์การนำเมเซล์
00:28:21 → 00:28:24 เนี่ยไปฉีดเพื่อที่จะรักษาโรคต่างๆที่มี
00:28:24 → 00:28:27 การเคลมตามคลินิกในเมืองไทยนะครับว่าเอ๊ะ
00:28:27 → 00:28:28 แต่ละอันเนี่ยมันน่าจะเวิร์คหรือไม่
00:28:28 → 00:28:31 เวิร์คครับเริ่มจากอย่างแรกเลยครับคือการ
00:28:31 → 00:28:34 ฉีด msc เข้าไปผ่านทางกระแสเลือดเพื่อ
00:28:34 → 00:28:37 ช่วยในการฟื้นฟูอวัยวะที่อยู่ภายในไม่ว่า
00:28:37 → 00:28:40 จะเป็นอวัยวะอะไรก็ตามนะครับส่วนใหญ่จะ
00:28:40 → 00:28:43 เป็นผู้สูงอายุครับที่นิยมแล้วก็สนใจที่
00:28:43 → 00:28:46 จะฉีด msc เข้าทางเส้นเลือดเพื่อบำรุง
00:28:46 → 00:28:49 ฟื้นฟูอวัยวะภายในนะครับจริงๆอย่างที่ผม
00:28:49 → 00:28:52 เล่าไปเลยครับปัญหาคือว่า msc มันมี
00:28:52 → 00:28:54 ประโยชน์เนาะตามศักยภาพของมันเนี่ยมันควร
00:28:54 → 00:28:57 จะช่วยบำรุงแล้วก็ฟื้นฟูอวัยวะภายในของ
00:28:57 → 00:29:01 เราได้แต่ปัญหาคือเราอ่ะยังไม่สามารถควบ
00:29:01 → 00:29:04 คุมให้มันวิ่งไปที่อวัยวะที่เราต้องการ
00:29:04 → 00:29:06 ได้มันเป็นเหมือนกล่องสุ่มอ่ะครับมัน
00:29:06 → 00:29:09 Random มากๆเลยนะครับยังต้องใช้
00:29:09 → 00:29:12 เทคโนโลยีแล้วก็องค์ความรู้อีกพอสมควรใน
00:29:12 → 00:29:14 การที่จะควบคุมหรือว่าเหนี่ยวนำมันให้มัน
00:29:14 → 00:29:17 วิ่งไปจุดที่เราต้องการถ้าทำได้มันจะ
00:29:17 → 00:29:19 เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามากอย่างที่ 2
00:29:19 → 00:29:22 ครับอย่างที่บอกว่า 100% ของสมเซลล์ที่
00:29:22 → 00:29:25 ฉีดไปเนี่ยครึ่งนึงมันตายแล้วอ่ะทำยังไง
00:29:25 → 00:29:28 ที่จะทำให้มันอยู่รอดได้อันเนี้ยต้องรอ
00:29:28 → 00:29:32 เทคโนโลยีอีกแล้วทำยังไงให้สัดส่วนของเตม
00:29:32 → 00:29:34 เซลลที่อยู่รอดเนี่ยมันวิ่งไปยังอวัที่
00:29:34 → 00:29:36 ต้องการได้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากที่สุด
00:29:36 → 00:29:39 อันเนี้ยคือ challeng ครับเพราะฉะนั้น
00:29:39 → 00:29:41 สิ่งที่คุณหมอที่เขาฉีดเนี่ยอาจจะไม่บอก
00:29:41 → 00:29:45 คนไข้ก็คือว่าการแก้ปัญหาคือการใช้โดสของ
00:29:45 → 00:29:48 สเตมเซลล์ที่สูงมากๆเลยครับเพราะว่าเขา
00:29:48 → 00:29:50 รู้ว่าฉีดเข้าไปเนี่ยมันจะไปถึงเอลนั้น
00:29:50 → 00:29:52 น้อยมากมันก็ฉีดเยอะไว้ก่อนเพื่อคิดว่า
00:29:52 → 00:29:55 ฉีดเยอะมันก็จะไปถึงเยอะหน่อยมันก็จะได้
00:29:55 → 00:29:57 เห็นผลบ้างนะครับไม่ใช่ฉีดไปแล้วไม่เห็น
00:29:57 → 00:29:59 อะไรผลอะไรเลยนะถามว่าตัวเลขที่เขาใช้
00:29:59 → 00:30:01 เนี่ยอยู่ใน Range เท่าไหร่นะครับทุกวัน
00:30:01 → 00:30:04 นี้ครับตัวเลขโอ้โห Range ค่อนข้างกว้าง
00:30:04 → 00:30:07 มากตั้งแต่ 100,000 เซลล์จนถึง 10 ล้าน
00:30:08 → 00:30:11 เซลล์ต่อน้ำหนัก 1 กกของคนไข้นะครับถาม
00:30:11 → 00:30:13 ว่า Range ทำไมมันถึงกว้างขนาดนี้ก็เพราะ
00:30:13 → 00:30:16 ว่ามันยังไม่มี Standard โคอนั่นเองครับ
00:30:16 → 00:30:18 เพราะความรู้มันยังไม่นิ่งมันยังเป็นการ
00:30:18 → 00:30:21 ลองผิดลองถูกอยู่แล้วแต่คนเลยแล้วแต่หมอ
00:30:21 → 00:30:24 ตำราไหนบอกมาไปอ่านตรงไหนมาแล้วก็มาลอง
00:30:24 → 00:30:27 ฉีดเอาแล้วก็คำนวณเลือกตัวเลขสักตัวนึง
00:30:27 → 00:30:30 เพื่อที่จะสั่งสเตมเซลล์มาชีดให้กับคนไข้
00:30:30 → 00:30:33 นั่นคือความอันตรายเพราะว่าความรู้มันยัง
00:30:33 → 00:30:35 ไม่นิ่งนั่นเองนะครับแต่ก็มีผู้ใหญ่หลาย
00:30:35 → 00:30:38 คนที่ผมรู้จักที่เขาก็ไปฉีดสเตมเซลล์เข้า
00:30:38 → 00:30:41 ร่างกายแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่ามาบอกว่าโอ้
00:30:41 → 00:30:43 มันเวิร์คมันแบบทำให้รู้สึกมีกำลังวังชา
00:30:43 → 00:30:47 กระปรี้กระเปารู้สึกแข็งแรงผมพอฟังเนี่ย
00:30:47 → 00:30:49 ผมก็ไม่ได้ัอะไรนะครับเพราะว่ามันก็มี
00:30:49 → 00:30:52 สิทธิ์เป็นไปได้แต่สิ่งที่ผมอาจจะมีคำถาม
00:30:52 → 00:30:55 ก็คือว่ามันเป็น plb effect หรือเปล่า
00:30:55 → 00:30:58 plb effect คือเราคิดไปเองเพราะเราเสีย
00:30:58 → 00:31:00 ตังค์แล้วเนาะการที่เราเสียตังค์ซื้ออะไร
00:31:00 → 00:31:02 ก็ตามฉีดอะไรเข้าไปเนี่ยเราก็มักจะเข้า
00:31:03 → 00:31:04 ข้างตัวเองว่าเฮ้ยมันดีขึ้นเพื่อให้เรา
00:31:04 → 00:31:07 รู้สึกสบายใจว่าเราเสียตังค์ซื้อสิ่งนั้น
00:31:07 → 00:31:09 นะครับจริงๆแล้วสิ่งที่จะบอกได้ว่ามัน
00:31:09 → 00:31:11 เวิร์คหรือไม่เวิร์คมันคือการทำ clinical
00:31:11 → 00:31:13 studies ที่มีการแบ่งกลุ่มทดลองเป็น
00:31:13 → 00:31:16 Random contr Control คือไม่รู้ว่าได้
00:31:16 → 00:31:18 รับหรือไม่ได้รับแล้วถ้ากลุ่มที่ได้รับ
00:31:18 → 00:31:21 เนี่ยมันมีประสิทธิภาพหรือว่ารักษาสุขภาพ
00:31:21 → 00:31:23 ดีขึ้นชัดเจนแตกต่างจากกลุ่มที่ไม่ได้รับ
00:31:23 → 00:31:26 อันนั้นแหละถึงจะเป็นการยืนยันที่มั่นใจ
00:31:26 → 00:31:28 ได้ว่ามันมีประโยชน์จริงๆครับครับอันต่อ
00:31:28 → 00:31:32 มาครับคือการฉีด msc เข้าไปยังอวัยวเพพศ
00:31:32 → 00:31:34 ครับเขาจะฉีดเข้าไปที่โคนอวัยวเพพศเพื่อ
00:31:34 → 00:31:37 รักษาโรค Ed หรือว่า erectile dun ก็คือ
00:31:37 → 00:31:41 อวเพทเนี่ยไม่แข็งตัวนะครับทนี้ก็ต้องมา
00:31:41 → 00:31:43 พูดคุยกันนิดนึงว่าอวเพทไม่แข็งตัวมัน
00:31:44 → 00:31:46 เกิดจากอะไรมันเกิดจากการที่ Smooth
00:31:46 → 00:31:48 Muscle หรือว่ากล้ามเนื้อเรียบบริเวณตรง
00:31:48 → 00:31:51 องชาติข้างในองคชาติเนี่ยครับมันทำงานได้
00:31:51 → 00:31:54 ไม่ดีมันรีกไม่พอที่จะทำให้เกิดโพรงภายใน
00:31:54 → 00:31:57 องชาติและทำให้เกิดความต่างของ Pressure
00:31:57 → 00:31:59 หรือว่าความดันเลือดแล้วก็ล่อให้เลือด
00:31:59 → 00:32:03 เนี่ยมันวิ่งเข้ามาขังอยู่ในตัวแกนองชาติ
00:32:03 → 00:32:05 ทำให้องชาติมันใหญ่ขึ้นนะครับเพราะฉะนั้น
00:32:05 → 00:32:09 การฉีด msc เข้าไปมันพอจะช่วยอะไรมยอืตาม
00:32:09 → 00:32:12 ที่ซีแล้วเนี่ยมันอาจจะช่วยในการเหนี่ยว
00:32:12 → 00:32:14 นำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดเพิ่มมากขึ้น
00:32:14 → 00:32:16 ก็อาจจะเป็นประโยชน์และจริงๆแล้วในห้องบ
00:32:16 → 00:32:18 เนี่ยก็เจอว่า msc สามารถที่จะถูกเหนี่ยว
00:32:18 → 00:32:21 นำให้พัฒนาไปเป็นกล้ามเนื้อเรียบได้แต่
00:32:21 → 00:32:24 อย่างที่ผมบอกไปพอฉีดเข้าไปแล้วในร่างกาย
00:32:24 → 00:32:26 เนี่ยมันไม่มีอะไรที่มันไปควบคุมและ
00:32:26 → 00:32:28 การันตีได้เลยว่ามันจะพัพัฒนาไปเป็นเซลล์
00:32:28 → 00:32:30 กล้ามเนื้อเรียบแล้วก็ไปเป็นส่วนหนึงของ
00:32:30 → 00:32:33 องชาตินะครับเพราะฉะนั้นณตอนนี้ปี 2024
00:32:33 → 00:32:36 เนี่ยนะครับในวงการรักษาโรค Ed ด้วย msc
00:32:36 → 00:32:39 เนี่ยก็บอกว่าบางงานวิจัยเจอว่ามี
00:32:39 → 00:32:41 Positive outcome แต่ยังต้องการการ
00:32:41 → 00:32:43 ศึกษาที่มากกว่านี้ก่อนแล้วก็ต้องมีการ
00:32:43 → 00:32:46 develop protocol ที่มีมาตรฐานมากกว่า
00:32:46 → 00:32:48 นี้ก่อนที่จะถูกนำไปใช้งานจริงครับอย่าง
00:32:48 → 00:32:49 ที่ 3 ครับอันนี้หลายคนน่าจะสนใจคือการ
00:32:49 → 00:32:53 ฉีด msc เข้าไปที่หน้าเพื่อที่จะช่วยให้
00:32:53 → 00:32:56 หน้าของเราเนี่ยเด็กลงนะครับถามว่ามันมี
00:32:56 → 00:32:58 งานวิจัยที่ฉีด msc เข้าไปในสกินหรือผิว
00:32:58 → 00:33:01 หนังเยอะมยต้องบอกว่าเยอะมากๆครับเป็น
00:33:01 → 00:33:04 ทั้งในการรักษาโรคแล้วก็ในเชิงของความสวย
00:33:04 → 00:33:06 ความงามนะครับแล้วเขาก็เจอว่า msc เนี่ย
00:33:06 → 00:33:10 สามารถที่จะช่วยฟื้นฟูเวลาที่ผิวหนังของ
00:33:10 → 00:33:12 เราเนี่ยได้รับบาดเจ็บหรือมีแผลเนี่ยฉีด
00:33:12 → 00:33:14 สเตมเซลล์เข้าไปแล้วเนี่ยมันทำให้แผล
00:33:14 → 00:33:17 เนี่ยสมาแล้วก็หายเร็วมากยิ่งขึ้นอันนี้
00:33:17 → 00:33:20 เป็นที่ยอมรับเลยนะครับแต่การฉีด msc
00:33:20 → 00:33:23 เข้าไปเพื่อหวังว่ามันจะช่วยไปกระตุ้นให้
00:33:23 → 00:33:26 เซลล์ชนิดนึงที่อยู่ในผิวหน้าของเราที่
00:33:26 → 00:33:29 เรียกว่าไบสมันจะสร้างคอลลาเจนมากขึ้น
00:33:29 → 00:33:33 เนี่ยก็มีทั้งบอกว่าเวิร์คแล้วก็ไม่
00:33:33 → 00:33:34 เวิร์คความรู้มันยังไม่นิ่งนะครับเรียก
00:33:35 → 00:33:36 ว่าฉีดเข้าไปเนี่ยก็แล้วแต่ดวงแหละว่ามัน
00:33:36 → 00:33:38 จะเวิร์คหรือไม่นะครับมันอาจจะช่วยได้
00:33:38 → 00:33:40 มั้ยก็อาจจะช่วยได้บ้างเพราะว่ามันสามารถ
00:33:40 → 00:33:43 จะปล่อยสารที่เป็น GR Factor อาจจะไปบอก
00:33:43 → 00:33:46 ให้เจ้าไบสเนี่ยมันช่วยสร้างคอลลาเจน
00:33:46 → 00:33:48 เพิ่มขึ้นหน่อยผิวจะได้ตึงมากยิ่งขึ้นนะ
00:33:48 → 00:33:50 ครับแต่ปัญหาคือมันยังควบคุมไม่ได้นั่น
00:33:50 → 00:33:53 เองขอพูดถึงไบบนิดนึงนะครับการที่เราอยาก
00:33:53 → 00:33:55 ให้ผิวหนังหน้าของเราเนี่ยมันมีคอลลาเจน
00:33:55 → 00:33:57 มากขึ้นเพื่อให้หน้าตึงเนี่ยครับผมอยาก
00:33:57 → 00:33:59 บอกว่าการสร้างคอลลาเจนนั้นน่ะต้องเป็น
00:33:59 → 00:34:01 การสร้างคอลลาเจนที่ถูกต้องด้วยนะครับ
00:34:01 → 00:34:18 ไฟโบรบลาสต์
00:34:18 → 00:34:21 ผืดอยู่ในผิวหนังของเรานะครับเป็นสิ่งที่
00:34:21 → 00:34:23 เรายังไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะฉะนั้นสิ่ง
00:34:23 → 00:34:26 ที่เรายังควบคุมไม่ได้คือยังไม่รู้เลยว่า
00:34:26 → 00:34:29 ฉีด msc เข้าไปแล้วมันไปสั่งไบสให้ทำงาน
00:34:29 → 00:34:33 ยังไงถ้ามันดันไปสั่งไบสให้มันทำงานโดย
00:34:33 → 00:34:35 การสร้างคอลลาเจนแบบไม่เป็นระเบียบเราจะ
00:34:35 → 00:34:38 ได้พังผืนแทนที่จะได้คอลลาเจนที่ช่วยให้
00:34:38 → 00:34:40 หน้าเนี่ยมันเด้งดึงนั่นเองนะครับต่อมา
00:34:40 → 00:34:42 ครับคือการฉีด msc เข้าไปที่ข้อเข่านะ
00:34:42 → 00:34:45 ครับเพื่อรักษาอาการ OA หรือว่าข้อเข่า
00:34:45 → 00:34:47 เสื่อมนะครับจริงๆอันนี้น่าสนใจเพราะว่า
00:34:47 → 00:34:50 โดยเนเจอร์แล้ว msc เองสามารถที่จะพัฒนา
00:34:50 → 00:34:53 ไปเป็นเซลล์กระดูกอ่อนได้นะครับมีงาน
00:34:53 → 00:34:55 วิจัยเยอะมากเลยะในปัจจุบันเนี่ยอย่างที่
00:34:55 → 00:34:57 ผมบอกมีบางประเทศยอมรับแล้วอย่างเช่น
00:34:57 → 00:35:00 เกาหลีใต้ที่ให้ฉีด msc เข้าไปเพื่อไป
00:35:00 → 00:35:03 ช่วยรักษาโรค OA นะครับทีนี้ถามว่ามี
00:35:03 → 00:35:04 สิทธิ์ที่มันจะช่วยได้มั้ยมีสิทธิ์ช่วย
00:35:04 → 00:35:06 ได้ครับเพราะว่ามันมันตรงประเด็นเลยเนาะ
00:35:06 → 00:35:08 มันถูกตัวฉีด mlc เข้าไปที่เข่าแล้วมัน
00:35:08 → 00:35:10 สามารถที่จะปล่อยสารพวก GR Factor
00:35:10 → 00:35:13 กระตุ้นการ Repair เพราะโดยปกติ่ะกระดูก
00:35:13 → 00:35:15 อ่อนน่ะไม่มีเลือดที่จะนำพาสารสัญญาณ
00:35:15 → 00:35:18 เหล่านี้ไปนะครับการฉีดสเตมเซลล์เข้าไป
00:35:18 → 00:35:20 เนี่ยก็เป็นอีกหนึ่งความหวังที่มันจะช่วย
00:35:20 → 00:35:22 ไปกระตุ้นน่ะให้ซ่อมแซมเถอะได้นะครับ
00:35:22 → 00:35:24 เพราะฉะนั้นเในเมืองไทยจึงมีคลินิคที่
00:35:24 → 00:35:26 เกี่ยวข้องกับกระดูกและข้อเนี่ยรับการฉีด
00:35:26 → 00:35:29 msc ในการเข้าไปในหัวเข่าคนไข้เยอะแยะ
00:35:29 → 00:35:31 มากเลยเดี๋ยวนี้นะครับมันก็จะมีเทคโนโลยี
00:35:31 → 00:35:33 ที่จะเสริมประสิทธิภาพในการฉีด MC เข้าไป
00:35:33 → 00:35:35 ในหัวเข่าครับอย่างผมเองเนี่ยผมพัฒนา
00:35:35 → 00:35:37 เทคโนโลยีที่เรียกว่า injectable
00:35:37 → 00:35:40 hydrogel คือเราจะฉีดไม่ใช่แค่แต่เซลล์
00:35:40 → 00:35:43 แลแต่เราจะฉีดสิ่งที่เรียกว่าเป็นสาร
00:35:43 → 00:35:46 ละลายที่มันสามารถจะเจลได้คือแข็งตัวได้
00:35:46 → 00:35:48 เมื่อเข้าไปในหัวเข่านะครับถามว่ามันช่วย
00:35:48 → 00:35:50 ยังไงอ่ะคือถ้าเกิดเราฉีด injectable
00:35:50 → 00:35:53 hydrogel คือเจลพร้อมกับเซลล์เข้าไปแล้ว
00:35:53 → 00:35:55 นะครับฉีดเข้าไปปุ๊บมันสามารถจะเจลได้
00:35:55 → 00:35:57 เมื่อเจอความอุ่นเนาะมันก็จะบล็อกให้ไอ้
00:35:57 → 00:36:00 เจ้า msc เนี่ยมันอยู่ที่หัวเข่าได้นาน
00:36:00 → 00:36:03 มากยิ่งขึ้นไม่ยอมให้ msc มันวิ่งไปที่
00:36:03 → 00:36:06 อื่นแล้วพอ msc อยู่ที่หัวเข่านานมากยิ่ง
00:36:06 → 00:36:07 ขึ้นเนี่ยก็เพิ่มโอกาสที่ msc เนี่ยจะ
00:36:07 → 00:36:10 ปล่อยสารได้ดีแล้วก็กระตุ้นการซ่อมแซมนะ
00:36:10 → 00:36:13 ครับแต่การรักษาหัวเข่าด้วย tissue
00:36:13 → 00:36:15 engineering ที่ดีที่สุดณวันนี้มันคือ
00:36:15 → 00:36:18 การเอา msc เนี่ยมาเลี้ยงบนวัสดุที่เหมาะ
00:36:18 → 00:36:21 สมในห้องแลบแล้วก็เหนี่ยวนำให้มันพัฒนาไป
00:36:21 → 00:36:24 เป็นเนื้อเยื่อแผ่นกระดูกอ่อนก่อนที่จะนำ
00:36:24 → 00:36:27 มันกลับเข้าไปเย็บติดกับเนื้อเยื่อกระดูก
00:36:27 → 00:36:29 อ่อนที่เหลือในหัวเขาผมเองที่เรียนมาทาง
00:36:29 → 00:36:32 ด้านนี้นะครับผมเชื่อว่าการที่เราเหนี่ยว
00:36:32 → 00:36:34 นำให้สเตมเซลล์เนี่ยมันเป็นอวัยวะหรือ
00:36:34 → 00:36:37 เนื้อเยื่อที่เราต้องการชัวร์ๆในห้องแลบ
00:36:37 → 00:36:39 ก่อนที่จะนำมันกลับเข้าไปในร่างกายเนี่ย
00:36:39 → 00:36:42 มันการันตีว่าการรักษานั้นน่ะจะมี
00:36:42 → 00:36:44 ประสิทธิภาพแล้วก็ successful มากกว่า
00:36:44 → 00:36:49 ครับสุดท้ายครับคือการฉีด msc เข้าไปที่
00:36:49 → 00:36:53 หนังศีรษะเพื่อกระตุ้นในการรักษาคนที่
00:36:53 → 00:36:55 เป็นโรคผมบางนะครับการรักษาโรคผมบางหรือ
00:36:55 → 00:36:57 ว่าหัวล้านด้วยการฉีด msc นะครับเป็นสิ่ง
00:36:57 → 00:37:00 ที่ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยนะครับเพราะว่า
00:37:00 → 00:37:02 ผมเองทำงานวิจัยเรื่องนี้โดยตรงคือผมอ่ะ
00:37:02 → 00:37:07 เอาสเตมเซลล์ของคนไข้มาจากเส้นผมของคนไข้
00:37:07 → 00:37:10 แล้วก็เอาไปสร้างเป็นตอเส้นผมเราเรียกว่า
00:37:10 → 00:37:13 Hair follicle ในห้องบเพื่อจะเอากลับมา
00:37:13 → 00:37:15 ปลูกถ่ายเข้าไปในคนไข้นะครับเพราะฉะนั้น
00:37:15 → 00:37:18 การฉีด msc เข้าไปเในมือมของผมผมคิดว่า
00:37:18 → 00:37:19 มันไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่นะครับสิ่งที่มัน
00:37:19 → 00:37:22 พอจะช่วยได้โอเคมันอาจจะไปเหนี่ยวนำให้
00:37:22 → 00:37:25 เกิดการสร้างเส้นเลือดมากขึ้นและพอมีเส้น
00:37:25 → 00:37:27 เลือดเยอะขึ้นก็จะมีสารอาหารดีๆมาเยอะ
00:37:27 → 00:37:30 เยอะรากผมก็อาจจะแข็งแรงมากยิ่งขึ้นนะ
00:37:30 → 00:37:33 ครับแต่ msc เนี่ยไม่สามารถที่จะพัฒนาไป
00:37:33 → 00:37:35 เป็นเนื้อเยื่อที่เป็นตุ่มรากผมหรือว่า
00:37:35 → 00:37:38 Hair follicle ได้ต้องใช้เซลล์อื่นที่
00:37:38 → 00:37:40 เหมาะสมแล้วก็ไม่ใช้เซลล์เดียวด้วยนะครับ
00:37:40 → 00:37:44 งั้นคนที่ตัดสินใจไปฉีดสตมเซลล์เข้าหนัง
00:37:44 → 00:37:46 ศีรษะเนี่ยก็ต้องเรียกได้ว่าแล้วแต่ดวง
00:37:46 → 00:37:49 ครับว่า msc ที่ฉีเข้าไปนั้นเนี่ยมันจะ
00:37:49 → 00:37:52 สามารถจะเหนี่ยวนำให้เกิดการสร้างเส้น
00:37:52 → 00:37:55 เลือดหรือเปล่าหรือว่าไปปล่อยสารบางอย่าง
00:37:55 → 00:37:58 สำคัญำคัญที่จะไปช่วยกระตุ้นการเติบโตแล
00:37:58 → 00:38:00 ก็การทำงานของเซลล์รากผมหรือเปล่านั่นเอง
00:38:00 → 00:38:02 นะครับทีนี้มันยังมีอีก 2 ธุรกิจที่
00:38:02 → 00:38:04 เกี่ยวข้องกับสเตมเซลล์ที่ผมอยาก mention
00:38:04 → 00:38:07 ถึงนะครับอย่างแรกคือธุรกิจเก็บสเตมเซล
00:38:07 → 00:38:09 หรือว่า Stemcell Bank นะครับใครก็ตาม
00:38:09 → 00:38:11 ที่ติดตามเทคโนโลยีแล้วก็มีลูกนะครับก็
00:38:12 → 00:38:14 อาจจะรู้ว่าตอนนี้เราสามารถที่จะฝากสาย
00:38:14 → 00:38:17 สะดือของลูกเอาไว้เก็บแช่ไว้ในอุณหภูมิ
00:38:17 → 00:38:19 ติดลบนะครับในลิควิดไนโตรเจนหนาวๆฟรีซเอา
00:38:19 → 00:38:21 ไว้เป็นเจ้าทายนิทานะครับเพื่อหวังว่าใน
00:38:21 → 00:38:25 อนาคตถ้าเกิดว่าลูกของเราเนี่ยแก่ไปแล้ว
00:38:25 → 00:38:27 เป็นโรคอะไรสักอย่างหนึ่งเขาสามารถที่จะ
00:38:27 → 00:38:30 ไปเอา msc ที่อยู่ในสายดือของเขาคเนี่ยมา
00:38:30 → 00:38:33 เพิ่มจำนวนแล้วก็เอาไปใช้ในการรักษา
00:38:33 → 00:38:37 อวัยวะที่เสียหายได้นะครับถามว่าโดยทฤษฎี
00:38:37 → 00:38:39 เนี่ยมันเป็นไปได้ไหมโดยทฤษฎีเป็นไปได้
00:38:39 → 00:38:42 ครับแต่แค่ณวันนี้เนี่ยเทคโนโลยี msc ที่
00:38:43 → 00:38:45 จะไปรักษาโรคต่างๆเนี่ยมันยังควบคุมไม่
00:38:45 → 00:38:48 ได้และก็ยังไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่มัน
00:38:48 → 00:38:50 ควรจะเป็นนะครับเพราะฉะนั้นการที่เราเสีย
00:38:50 → 00:38:53 เงินฝากสายสะดือไว้ที่ธนาคารเนี่ยมันคือ
00:38:53 → 00:38:56 การซื้อความหวังมันคือการซื้อความอุ่นใจ
00:38:56 → 00:39:00 Security ว่าเออในอนาคตถ้ามันเกิดจำเป็น
00:39:00 → 00:39:02 จริงๆต้องใช้เราก็ยังมี resource ที่
00:39:02 → 00:39:04 สำคัญนะครับถ้าเกิดเงินคุณเหลือแล้วคุณ
00:39:04 → 00:39:06 รู้สึกว่าคุณอยากจะซื้อความอุ่นใจนี้ได้
00:39:06 → 00:39:08 เลยครับไม่ได้ผิดอะไรนะครับแต่ถ้าเกิด
00:39:09 → 00:39:12 สำหรับใครที่ไม่ได้คิดจะตัดสินใจที่จะฝาก
00:39:12 → 00:39:16 สายสะดือของลูกผมอยากจะบอกว่าในอีก 10 ปี
00:39:16 → 00:39:19 20 ปีข้างหน้าเนี่ยครับ ipsc ที่ผมพูดไป
00:39:19 → 00:39:22 ตอนต้นว่าเราสามารถที่จะเปลี่ยนเซลล์ผิว
00:39:22 → 00:39:25 หนังอะไรก็ตามกลับไปเป็น embryonic STEM
00:39:25 → 00:39:28 Sales ที่สามารถจะสร้างได้ทุกอวได้เนี่ย
00:39:28 → 00:39:31 มันจะใช้กันอย่างแพร่หลายแน่นอนครับแล้ว
00:39:31 → 00:39:33 เจ้า ipsc เนี่ยมันมีประสิทธิภาพมากกว่า
00:39:33 → 00:39:36 msc ด้วยซ้ำไปเพราะ msc เนี่ยไม่สามารถ
00:39:36 → 00:39:39 ที่จะรักษาได้ทุกโรคนะครับแต่ว่า ipsc
00:39:39 → 00:39:41 เนี่ยสามารถที่จะทำได้เพราะฉะนั้นอย่า
00:39:41 → 00:39:44 กังวลเสียใจน้อยใจโอเราไม่ได้ฝากหรือว่า
00:39:44 → 00:39:47 เราไม่ได้มีลูกเราจะทำยังไงล่ะคุณเองก็
00:39:47 → 00:39:49 สามารถที่จะใช้เซลล์ตัวคุณเองในการรักษา
00:39:49 → 00:39:52 ตัวคุณได้นะครับเมื่อเทคโนโลยี ipsc มัน
00:39:52 → 00:39:55 นิ่งขึ้นในอนาคตครับอีกหนึธุรกิจที่ขอพูด
00:39:55 → 00:39:57 หน่อยเหอะนั่นคือธุรกิจ skin care นะ
00:39:57 → 00:40:01 ครับครับที่จะเจอ Marketing เมที่ผิดเยอะ
00:40:01 → 00:40:03 ที่สุดแล้วนะครับสิ่งที่ผมมักจะเห็นก็คือ
00:40:03 → 00:40:06 ว่ามีโฆษณาว่าครีมเนี้ยเป็นครีมสเต็มเซล
00:40:06 → 00:40:09 สดถ้าคุณเจอคำว่าสเตมเซลล์สดเมื่อไหร่คุณ
00:40:09 → 00:40:11 บล็อกไปได้เลยนะครับเพราะว่ามันผิดแน่นอน
00:40:11 → 00:40:13 ครับ STEM เซล์เนี่ย sensitive มากแล้วก็
00:40:13 → 00:40:16 ตายง่ายมากนะครับแค่เอาออกจากห้องแลบแป๊บ
00:40:16 → 00:40:17 เดียวเนี่ยมันก็ตายแล้วถ้ามันอยู่ในสิ่ง
00:40:17 → 00:40:19 แวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเพราะฉะนั้นไม่มีทาง
00:40:19 → 00:40:22 เลยที่มันจะมาอยู่ในครีมได้แล้วให้คุณทา
00:40:22 → 00:40:24 แล้วมันจะซึมเข้าไปในผิวหนังหน้าของคุณ
00:40:24 → 00:40:27 ได้นะครับสิ่งที่มันอาจจะพอเป็นไปได้
00:40:27 → 00:40:30 และคนที่สื่อสารทางการตลาดอาจจะเข้าใจผิด
00:40:31 → 00:40:34 มันคือสิ่งที่สเตมเซลล์มันสร้างอย่างเช่น
00:40:34 → 00:40:37 พวกเซมครับคือเวลาที่เลี้ยงสเตมเซลล์ msc
00:40:37 → 00:40:40 เนี่ยครับมันก็จะปล่อยเซมออกมาแล้วตาม
00:40:40 → 00:40:42 สัญชาตญาณของมันเนาะเพื่อใช้ในการสื่อสาร
00:40:42 → 00:40:45 พูดคุยผมเองเนี่ยก็ทำครับเวลาที่พวกเรา
00:40:45 → 00:40:47 เลี้ยงสเตมเซลล์เซลล์เองเนี่ยโดย
00:40:47 → 00:40:50 สัญชาตญาณของมันเนี่ยมันก็จะปล่อยถุงที่
00:40:50 → 00:40:52 เต็มไปด้วยสารเคมีดีๆไม่ว่าเป็น Gold
00:40:52 → 00:40:54 Factor ต่างๆออกมาแล้วคือพวกเซมเรา
00:40:55 → 00:40:57 สามารถที่จะสกัด pfy ไอ้้เจ้า x เซมออกมา
00:40:58 → 00:41:00 ได้นะครับแล้วเจ้าเอมเนี่ยมันมี shelf
00:41:00 → 00:41:03 Life ก็คือมันอยู่รอดได้นานกว่าเซลล์ตัว
00:41:03 → 00:41:05 ผลิตภัณฑ์ skin care เนี่ยเขาอาจจะเอา
00:41:05 → 00:41:08 เซมที่สกัดมาจากสเตมเซลล์ต่างชนิดแล้วก็
00:41:08 → 00:41:11 มาใส่แต่แค่ว่าตอนที่ทำ Marketing เม
00:41:11 → 00:41:13 เนี่ยครับเขาใช้คำผิดเพราะว่าอาจจะมีความ
00:41:13 → 00:41:15 รู้ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนั่นเองนะ
00:41:15 → 00:41:18 ครับไม่มีทางที่จะเป็นสเตมเซลล์ไม่ว่าจะ
00:41:18 → 00:41:21 จากคนจากแกะจากกระต่ายจากสัตว์อะไรก็ตาม
00:41:21 → 00:41:23 มันตายเรียบแน่นอนนั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะ
00:41:23 → 00:41:25 บอกให้ทุกคนทราบไว้นะครับฟังมาถึงจุดนี้
00:41:25 → 00:41:27 เนี่ยทุกคนอาจจะเริ่มเห็นภาพนะครับว่า
00:41:27 → 00:41:29 โอเคเข้าใจแหละว่าเทคโนลยี STEM Sell
00:41:29 → 00:41:31 เนี่ยมีประโยชน์แล้วก็มี potential เยอะ
00:41:31 → 00:41:34 มากเลยแต่ว่ามันอาจจะยังไม่นิ่งเท่าไหร่
00:41:34 → 00:41:36 แล้วณวันเนี้ยถ้าให้ผมฉีดสเตมเซลล์เนี่ย
00:41:36 → 00:41:41 ผมจะฉีดมคำตอบคือผมไม่ฉีดครับผมยังไม่ฉีด
00:41:41 → 00:41:45 msc เข้าไปในร่างกายแน่นอนเพราะด้วยความ
00:41:45 → 00:41:47 ที่เรารู้ว่าเทคโนโลยีมันยังไม่นิ่งแล้ว
00:41:47 → 00:41:50 คอนดิของร่างกายผมยังมีสุขภาพที่ดีอยู่
00:41:50 → 00:41:53 ยังไม่ได้เป็นโรคอะไรพิเศษหรือจำเป็นที่
00:41:53 → 00:41:56 จะต้องลองแล้วก็เลือกใช้การฉีด msc แต่
00:41:56 → 00:41:57 อนาคตไม่แน่เมื่อทุกอย่างอย่างมันดีขึ้น
00:41:57 → 00:42:00 ผมก็สนใจที่จะฉีดเพราะว่ามันมีประโยชน์นะ
00:42:00 → 00:42:02 ครับทีนี้สำหรับคุณผู้ชมทุกคนนะครับคือ
00:42:02 → 00:42:05 ถ้าฟังมาแล้วรู้สึกว่าโอเคเข้าใจรับรู้
00:42:05 → 00:42:08 ว่ามันมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้างแล้วอยากจะ
00:42:08 → 00:42:11 ตัดสินใจฉีดดูซะหน่อยนะเผื่อว่ามันอาจจะ
00:42:11 → 00:42:15 ช่วยให้ร่างกายของเรามันดีขึ้นคุณควรจะ
00:42:15 → 00:42:18 รู้อะไรบ้างผมสรุปมาให้ 5 ข้อที่คุณควรจะ
00:42:18 → 00:42:22 รู้ถ้าคุณอยากจะตัดสินใจในการฉีด msc นะ
00:42:22 → 00:42:23 [เพลง]
00:42:23 → 00:42:29 ครับข้อแรกครับเซล์ msc C ควรจะมาจากไหน
00:42:29 → 00:42:33 ระหว่าง msc ที่มาจากตัวเราหรือ msc ที่
00:42:33 → 00:42:35 มาจากคนอื่นเช่นไปเก็บสายสะดือของเด็ก
00:42:35 → 00:42:38 ทารกคนไหนมาก็ได้นะครับแล้วก็ไปซื้อมา
00:42:38 → 00:42:40 แล้วก็มาฉีกเข้าตัวเรานะครับคำตอบนะครับ
00:42:40 → 00:42:44 คือณวันนี้ยังไม่มีข้อสรุปครับว่าการใช้
00:42:44 → 00:42:47 msc ของตัวเองหรือ msc ของคนอื่นดีกว่า
00:42:47 → 00:42:50 กันนะครับมันขึ้นอยู่กับโรคหรือคอนดิที่
00:42:50 → 00:42:53 เราต้องการเอาไปแก้ไขครับบางโรคหรือบาง
00:42:53 → 00:42:56 คอิเนี่ยจำเป็นที่ต้องใช้เซลล์ของตัวเอง
00:42:56 → 00:43:00 เรียกว่า thus msc จะดีกว่าแต่ในบางโรค
00:43:00 → 00:43:04 ก็เจอว่าการใช้ msc ของคนอื่นเรียกว่า
00:43:04 → 00:43:06 allogeneic msc เนี่ยให้ผลที่ดีกว่า
00:43:06 → 00:43:09 เพราะฉะนั้นยังไม่มีข้อสรุปอยู่ที่หน้า
00:43:09 → 00:43:12 งานเลยว่าคุณฉีดไปเพื่ออะไรอย่างที่ 2
00:43:12 → 00:43:16 ควรจะใช้ msc ที่เอามาจากอวัยวะอะไรต้อง
00:43:16 → 00:43:19 บอกว่าทุกวันเนี้ยเราสามารถเก็บ msc ได้
00:43:19 → 00:43:22 จากหลายอวัยวะนะครับคือสายสะดือเป็นที่
00:43:22 → 00:43:23 นิยมมากเพราะว่ามันง่ายเพราะว่าเด็กคลอด
00:43:23 → 00:43:25 มาปุ๊บตัดแล้วก็เก็บได้เลยนะครับอย่างที่
00:43:25 → 00:43:28 2 คือไขมันครับไขมันเนี่ยการที่เราดูดไข
00:43:28 → 00:43:30 มันหรือว่าทำ rp suu เนี่ยครับก็คือ
00:43:30 → 00:43:33 สามารถจะดูดไขมันแล้วไปสกัดเอา msc ได้นะ
00:43:33 → 00:43:36 ครับเพรางั้นใครที่มีเก็บสะสม Fat ทิชชู
00:43:36 → 00:43:38 ไว้เยอะเนี่ยคุณก็มีซอสของ msc อยู่ในตัว
00:43:38 → 00:43:40 ค่อนข้างเยอะนะครับนั่นคือข้อดีนะครับ
00:43:40 → 00:43:42 อย่างที่ 3 คือเอามาจาก bmo อย่างที่ 4
00:43:42 → 00:43:45 คือเอามาจากรากฟันนะครับอย่างที่ 5 เนี่ย
00:43:45 → 00:43:48 ก็มีการเจอว่าสามารถจะเอา msc มาจากเยื่อ
00:43:48 → 00:43:51 บุโพรงมดลูกได้คือเวลาที่ผู้หญิงเนี่ยมี
00:43:51 → 00:43:53 ประจำเดือนแล้วโมดูเนี่ยมันร่อนออกมา
00:43:53 → 00:43:55 สามารถที่จะสกัดเอา msc ได้เช่นกันนะครับ
00:43:55 → 00:43:57 แต่ทีนี้ด้วยความที่ msc เนี่ยมันมาจาก
00:43:57 → 00:44:00 หลายแหล่งมากๆก็อยากจะบอกว่ายังไม่มีคำ
00:44:00 → 00:44:03 ตอบที่ตายตัวครับว่า msc จากแหล่งไหนเป็น
00:44:03 → 00:44:05 แหล่งที่ดีที่สุดเพราะมันขึ้นอยู่กับว่า
00:44:05 → 00:44:07 คุณจะเอา msc นั้นไปใช้ในการรักษาโรคอะไร
00:44:07 → 00:44:10 นะครับ msc ที่มาจากแต่ละอวัยวะมีความ
00:44:10 → 00:44:13 สามารถที่แตกต่างกันมีความสามารถในการหลบ
00:44:13 → 00:44:17 หลีกเมขาวไม่เท่ากันความสามารถในการมิคือ
00:44:17 → 00:44:20 วิ่งไปตามอวัยวะต่างๆที่ไม่เท่ากันนะครับ
00:44:20 → 00:44:22 ถึงแม้ว่าจะเอามาจากอวัยวะเดียวกันแต่
00:44:22 → 00:44:25 ต่างคนน่ะยังมีความสามารถไม่เท่ากันเลย
00:44:25 → 00:44:29 หรือเอามาจากสายสเดียวกันแต่เลี้ยงด้วยคน
00:44:29 → 00:44:33 ละโปรโตคอลเลี้ยงด้วยคนละ Media อ่าดูแล
00:44:33 → 00:44:35 ด้วยสิ่งวรอบที่ต่างกันด้วยมือคนทำคนละคน
00:44:36 → 00:44:38 ประสิทธิภาพของ msc นั้นยังไม่เท่ากันเลย
00:44:38 → 00:44:41 นะครับนี่คือ variation ที่เกิดขึ้นจาก
00:44:41 → 00:44:44 อ่า source ของ msc ที่คุณควรจะรู้ไว้นะ
00:44:44 → 00:44:46 ครับอีกอย่างนึงที่ผมอยากจะพูดนะครับคือ
00:44:46 → 00:44:51 msc ขนาดเอามาจากคนที่เป็นสัตว์สซเดียว
00:44:51 → 00:44:53 กันได้เป็นมาจากคนอื่นที่ให้ตัวเราเนี่ย
00:44:53 → 00:44:57 มันยังควบคุมไม่ได้เลยนะครับการที่จะเอา
00:44:57 → 00:45:01 msc ที่มาจากสัตว์อื่นๆต่างสีสนะครับ
00:45:01 → 00:45:03 อย่างเช่นกระต่ายอย่างเงี้นะครับเป็นสิ่ง
00:45:03 → 00:45:07 ที่อันตรายแลก็เป็นสิ่งที่ควรจะ conc และ
00:45:07 → 00:45:09 ควรจะระมัดระวังอย่างยิ่งนะครับเวลาที่
00:45:10 → 00:45:12 พวกผมเลี้ยงสเตมเซลล์ในห้องแลบเนี่ยครับ
00:45:12 → 00:45:15 สารอาหารทุกอย่างที่ใส่เข้าไปในสเตมเซลล์
00:45:15 → 00:45:19 เราต้องควบคุมให้มันเป็นซีนฟรีคือจะไม่มี
00:45:19 → 00:45:22 สารอะไรเลยตกค้างที่มาจากสัตว์ species
00:45:22 → 00:45:24 อื่นนะครับเพราะถ้ามันเข้าไปในร่างกาย
00:45:24 → 00:45:27 แล้วเนี่ยมันอาจทำให้เกิด immune RE ที่
00:45:27 → 00:45:30 อันตรายได้นะครับเพราะฉะนั้นการนำเซลล์
00:45:30 → 00:45:32 จากสปีอื่นที่เป็น mammal หรือว่าสัตว์
00:45:33 → 00:45:34 เลี้งรุด้วยนมเนี่ยนะครับเป็นสิ่งที่ต้อง
00:45:34 → 00:45:37 ระมัดระวังมากและควรจะทำในระดับการศึกษา
00:45:38 → 00:45:41 ในห้องบเท่านั้นไม่ควรจะเอามาใช้ในการทำ
00:45:41 → 00:45:44 comercial ณเวลานี้นะครับสิ่งที่ผมอยาก
00:45:44 → 00:45:46 จะบอกไว้ถ้าคุณเจอผมแนะนำให้คุณเรี่ยงนะ
00:45:46 → 00:45:49 ครับคำถามข้อที่ 2 ที่คุณควรจะรู้ครับ
00:45:49 → 00:45:51 แล้วเราควรจะเลือกบริษัทผลิตสเตมเซลล์
00:45:51 → 00:45:55 เจ้าไหนดีเรื่องเนี้ยเป็นเรื่องที่ใหญ่
00:45:55 → 00:45:57 มากๆนะครับเพราะเพราะว่าผมเองเนี่ยมี
00:45:57 → 00:46:00 ประสบการณ์ในการต้องวางแผนการก่อสร้างโรง
00:46:00 → 00:46:03 งาน atmp ของตัวเองเพื่อใช้ในการผลิต
00:46:03 → 00:46:05 เนื้อเยื่อที่ผมพัฒนาขึ้นเพื่อไปใช้ในคน
00:46:05 → 00:46:09 ไข้นะครับผมอยากจะเล่าให้ฟังว่าโรงงาน
00:46:09 → 00:46:13 atmp เนี่ยครับต้นทุนมันสูงสูงแบบมากๆ
00:46:13 → 00:46:15 เลยนะครับเพราะมันต้องสะอาดมากๆการที่จะ
00:46:15 → 00:46:18 ต้องทำให้โรงงานเนี่ยมันสะอาดคือสะอาดมาก
00:46:18 → 00:46:21 เรียกว่าเป็น Clean Room Class ที่มี
00:46:21 → 00:46:25 ฝุ่นได้น้อยมากๆนะครับมีค่าใช้จ่ายในการ
00:46:25 → 00:46:27 ก่อสร้างว่าแพงแล้วค่าใช้จ่ายในในการ
00:46:27 → 00:46:30 maintain รายเดือนเนี่ยแพงกว่าอีกนะครับ
00:46:30 → 00:46:32 เท่านั้นยังไม่พอครับการเลี้ยงสเตมเซลล์
00:46:32 → 00:46:35 เนี่ยตั้งแต่การเพิ่มจำนวนมันฟูมฟักมัน
00:46:35 → 00:46:37 ให้มันแข็งแรงการทำให้มันเนี่ยพัฒนาไป
00:46:37 → 00:46:41 เป็นเซลล์ที่ถูกต้องได้การตรวจสอบ QC
00:46:41 → 00:46:43 กระบวนการต่างๆทั้งหมดสารทุกอย่างที่ต้อง
00:46:43 → 00:46:46 ใช้แพงหมดเลยนะครับเพราะฉะนั้นทุกขั้นตอน
00:46:46 → 00:46:49 ในการผลิตสเตมเซลล์ในโรงงานมีผลต่อ
00:46:49 → 00:46:52 ประสิทธิภาพของ msc แล้วก็ความปลอดภัยของ
00:46:52 → 00:46:54 msc นั้นที่จะวิ่งเข้าไปในร่างกายคนนะ
00:46:54 → 00:46:57 ครับถ้าจะให้แนะนำว่าคนจะเลือกโรงงานอะไร
00:46:57 → 00:47:00 อย่างแรกโรงงานนั้นเนี่ยต้องมีมาตรฐานใน
00:47:00 → 00:47:02 การก่อสร้างได้รับการรับรอง GMP หรือ
00:47:02 → 00:47:05 ระดับ pix GMP ยิ่งดีครับเป็นระดับการ
00:47:05 → 00:47:08 ผลิตยาหรือว่าวัคซีนนะครับอย่างที่ 2
00:47:08 → 00:47:11 ครับคือโรงงานนั้นนะครับคนที่ทำงานที่
00:47:11 → 00:47:13 เป็นเจ้าของหรือว่าคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ
00:47:13 → 00:47:16 เนี่ยต้องมีความรู้ทางด้านสเตมเซลล์จริงๆ
00:47:16 → 00:47:19 ทุกวันนี้ครับส่วนใหญ่เ่อคนที่ทำโรงงาน
00:47:19 → 00:47:21 ผลิตสเตมเซลล์เนี่ยมักจะเป็นคุณหมอด้วย
00:47:22 → 00:47:24 ความที่คุณหมอเองเนี่ยนะครับสามารถที่จะ
00:47:24 → 00:47:27 เข้าถึงอวัยวะหรือเนื้อเยื่อที่สามารถจะ
00:47:27 → 00:47:29 เก็บสเตมเซลล์ได้ไม่ว่าจะเป็นการเก็บสาย
00:47:29 → 00:47:32 สะดือการเก็บไขมันออกมาจากคนไข้ผมเองเป็น
00:47:32 → 00:47:34 นักวิทยาศาสตร์ผมก็ทำไม่ได้ส่วนใหญ่เป็น
00:47:34 → 00:47:36 คุณหมอเท่านั้นนะครับคุณหมอจึงเห็นโอกาส
00:47:36 → 00:47:40 ทางธุรกิจแล้วก็สร้างโรงงาน ATM เหล่านี้
00:47:40 → 00:47:43 เพื่อที่จะใช้ในการผลิต produc ส่งขายตาม
00:47:43 → 00:47:45 คลินิกหรือว่าใช้ฉีดด้วยตัวเองนะครับก็
00:47:45 → 00:47:48 ต้องบอกว่าถ้าคุณหมอท่านนั้นมีความรู้
00:47:48 → 00:47:50 ความเชี่ยวชาญเรื่องสเตมเซลล์ก็เป็น
00:47:50 → 00:47:52 เรื่องที่ดีเพราะฉะนั้นการที่เราดู
00:47:52 → 00:47:55 มาตรฐานดู by certificate จากเวลาที่เรา
00:47:55 → 00:47:57 สั่งสเตมเซลล์นะครับสิ่งที่คุณจะได้
00:47:57 → 00:47:59 สเตมเซลล์จะมาเป็นหลอดแล้วก็จะได้
00:47:59 → 00:48:02 certificate บอกว่าหน้าตาของเซลล์ในหลอด
00:48:02 → 00:48:04 เนี่ยเป็นยังไงมีเซลล์อยู่ปริมาณเท่าไหร่
00:48:05 → 00:48:07 มีการตรวจว่ามาจากคนที่ไม่เป็นโรคยังไง
00:48:07 → 00:48:10 แต่ผมจะบอกได้เลยครับณปัจจุบันเครับการ
00:48:10 → 00:48:13 ตรวจยังไม่พอ QC ยังไม่พอนะครับจริงๆแล้ว
00:48:13 → 00:48:15 การตรวจ msc ก่อนที่จะส่งให้คนไข้เนี่ย
00:48:15 → 00:48:17 จำเป็นต้องมีการตรวจด้วยว่า msc นั้น
00:48:17 → 00:48:19 สามารถจะ differentiate หรือพัฒนาเป็น
00:48:19 → 00:48:23 อวัยวะอะไรได้บ้างครบที่ต้องการมหรือได้
00:48:23 → 00:48:26 อวัยวะที่เราต้องการมนะครับอย่างที่ 2
00:48:26 → 00:48:28 คือว่า msc นั้นน่ะมีความสามารถที่จะจัด
00:48:28 → 00:48:31 การหรือว่าควบคุมไอ้เจ้าเม็ดเลดเขาได้
00:48:31 → 00:48:33 จริงหรือเปล่า msc นั้นน่ะมีประสิทธิภาพ
00:48:33 → 00:48:36 ในการเติบโตได้วดเร็วแค่ไหนนะครับเทส
00:48:36 → 00:48:38 เหล่านี้ยครับต้องเป็นคนที่รู้จริงเท่า
00:48:38 → 00:48:40 นั้นน่ะถึงจะทำได้แล้วมีค่าใช้จ่ายมีต้น
00:48:40 → 00:48:42 ทุนทั้งนั้นที่จะทำนะครับเพราะฉะนั้นเป็น
00:48:42 → 00:48:45 สิ่งที่หลายๆเจ้ามักจะไม่ทำการเพิ่มจำนวน
00:48:45 → 00:48:47 msc หรือว่า STEM sale เพื่อขายเนี่ยทำ
00:48:47 → 00:48:52 ไม่ยากครับแต่การทำให้ msc นั้นมีคุณภาพ
00:48:52 → 00:48:54 อันเนี้ยยากกว่าและหลายๆครั้งเนี่ยตาม
00:48:54 → 00:48:57 คลินิคทั่วไปเนี่ยเขาต้องลดต้นทุนของการ
00:48:57 → 00:49:01 สั่งซื้อสเตมเซลทำให้กดราคาคนขายทำมาแล้ว
00:49:01 → 00:49:05 ก็อยากจะขายก็อาจจะจำเป็นต้อง sacrifice
00:49:05 → 00:49:09 คือลดทอนค่าใช้จ่ายบางอย่างเพื่อทำให้
00:49:09 → 00:49:11 ราคาเนี่ยมันจับต้องได้คลินิกสามารถที่จะ
00:49:11 → 00:49:13 ซื้อเอาไปใช้ได้ซึ่งผมจะบอกเลยว่านั่น
00:49:13 → 00:49:15 เป็นสิ่งที่อันตรายมากๆนะครับจึงนำมาถึง
00:49:15 → 00:49:20 ข้อที่ 3 ครับเซลล์ที่ถูกและดีไม่มีในโลก
00:49:20 → 00:49:22 นะครับเท่าที่ผมเห็นในปัจจุบันเคลินิคที่
00:49:22 → 00:49:25 เขาซื้อมาขายหรือว่าแพ็คเกจที่ฉีดเนี่ย
00:49:25 → 00:49:27 ครับ 1 ล้านเซลล์เนี่ยครับอยู่ราคาเป็น
00:49:27 → 00:49:31 1000 ต้นๆเองซึ่งถูกมากครับถูกแบบมากๆ
00:49:31 → 00:49:33 เลยต่อให้จะอัพสเกลในการผลิตอะไรก็ตาม
00:49:33 → 00:49:35 แล้วนะครับถ้าจะทำให้มีมาตรฐานเนี่ยเป็น
00:49:35 → 00:49:38 ไปไม่ได้เลยนะครับเพราะฉะนั้นถ้าคุณตัด
00:49:38 → 00:49:40 สินใจที่อยากจะเลือกคลินิคนี้เพราะว่า
00:49:40 → 00:49:43 ราคามันถูกแพ็คเกจมันดีอ่ะผมอยากให้คน
00:49:43 → 00:49:46 เอ๊ะไว้ก่อนมันไม่มีทางทำของดีในราคาถูก
00:49:46 → 00:49:48 ได้นะครับผมบอกเลยอย่างที่ผมเล่าให้ฟัง
00:49:48 → 00:49:51 เนาะเพราะตลอดกระบวนการผลิตเนี่ยค่าใช้
00:49:51 → 00:49:53 จ่ายสูงมากๆครับอย่างที่ 4 ที่ผมอยากจะ
00:49:53 → 00:49:56 บอกนะครับคือสม sal เนี่ยมันตายทันทีที่
00:49:56 → 00:49:59 ออกมาจากห้องแลบนะครับเวลาที่ผู้ผลิต
00:49:59 → 00:50:01 เนี่ยเขาได้รับ prescription มาแล้วว่าจะ
00:50:01 → 00:50:03 ต้องให้ผลิตเมเซลล์ให้ 5 ล้านเซลล์ 4
00:50:03 → 00:50:05 ล้านเซลล์หลังจากที่เาแอมปคือเพิ่มจำนวน
00:50:05 → 00:50:07 เสร็จแล้วนะครับก็จะรีบแพ็คอยู่ใน Package
00:50:07 → 00:50:09 แล้วก็ใส่ในภาชนะที่เก็บความเย็นได้แล้ว
00:50:09 → 00:50:12 ก็ขนส่งแบบโคชนนะครับคือต้องให้มันอยู่ใน
00:50:12 → 00:50:14 สภาพแวดล้อมที่จะ preserve คือรักษาให้
00:50:15 → 00:50:17 มันมีชีวิตได้ได้เยอะที่สุดนะครับเพราะ
00:50:17 → 00:50:19 ตั้งแต่วินาทีแรกที่มันออกจากห้องแลบ
00:50:19 → 00:50:21 เนี่ยสเตมเซลล์มันจะเริ่มตายทันทีกว่าที่
00:50:21 → 00:50:24 มันจะมาถึงคลินิกกว่าที่คุณหมอจะฉีดเนี่ย
00:50:24 → 00:50:26 มันตายไปไม่รู้เท่าไหร่แล้วนะครับเพราะฉะ
00:50:27 → 00:50:29 นั้นดีที่สุดเลยในการใช้บริการการฉีด
00:50:29 → 00:50:33 สเตมเซลล์เนี่ยคลินิคควรจะมีแลบของตัวเอง
00:50:33 → 00:50:35 คือผลิตด้วยตัวเองอันนั้นน่ะดีที่สุดเลย
00:50:35 → 00:50:37 หรือว่าโรงงานการผลิตเตมเซลล์นั้นเนี่ย
00:50:37 → 00:50:39 อยู่ติดกับคลินิกที่ให้บริการในการฉีดเลย
00:50:39 → 00:50:42 นะครับมันก็จะลดระยะเวลาของโลจิสติกในการ
00:50:42 → 00:50:45 เดินทางสเตมเซลล์ที่ไปถึงมือของคนไข้
00:50:45 → 00:50:47 เนี่ยก็จะมีโอกาสที่จะอยู่รอดมากที่สุดนะ
00:50:47 → 00:50:49 ครับเพราะว่าเซลล์ถ้าเกิดว่ามันตายแล้ว
00:50:50 → 00:50:52 ฉีดเซลล์ที่ตายเข้าไปในร่างกายเนี่ยนอก
00:50:52 → 00:50:53 จากมันจะไม่มีประโยชน์แล้วเนี่ยมันอาจจะ
00:50:53 → 00:50:55 มีโทษก็ได้นะครับสุดท้ายอย่างที่ 5 ที่ผม
00:50:55 → 00:50:58 อยากจะให้ทุกคนรู้ครับคือกฎหมายที่เกี่ยว
00:50:58 → 00:51:01 ข้องกับสเตมเซลล์ครับในปัจจุบันนะครับมี
00:51:01 → 00:51:05 เพียงแค่สเตมเซลล์ hsc เท่านั้นที่อนุญาต
00:51:05 → 00:51:08 ให้ฉีดในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับโรค
00:51:08 → 00:51:11 เลือดนะครับที่มั่นใจได้เลยว่ามันมี
00:51:11 → 00:51:13 Standard medical procedure คุณหมอ
00:51:13 → 00:51:16 องค์ความรู้เนี่ยมัน solid แล้วนะครับ
00:51:16 → 00:51:19 แล้วก็มี procedure ที่ชัดเจนเป็นมาตรฐาน
00:51:19 → 00:51:22 เพราะงั้นโอกาสที่คุณเข้ารับการรักษา
00:51:22 → 00:51:24 บำบัดในโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคเลื่อน
00:51:24 → 00:51:26 เนี่ยโอกาสที่จะประสบความสำเร็จหรือ
00:51:26 → 00:51:29 success ก็จะสูงแล้วก็ปลอดภัยนะครับแต่
00:51:29 → 00:51:31 ถ้าเกิดว่าเป็นโรคอื่นๆในเมืองไทยเนี่ย
00:51:31 → 00:51:34 ครับก็บอกว่าจริงๆมันมี clinical studies
00:51:34 → 00:51:37 เกิดขึ้นในเมืองไทยหลายแห่งเลยนะครับใน
00:51:37 → 00:51:40 โรงพยาบาลแพทย์ผมเองเนี่ยก็ทำ clinical
00:51:40 → 00:51:42 studies ไม่ว่าจะเป็นกระจกตาถ้าใครติด
00:51:42 → 00:51:45 ตามผมเนี่ยจะรู้ว่าผมเองก็เป็นอเอนะครับ
00:51:45 → 00:51:49 แล้วก็อ่ามีนักลงทุนมาร่วมพัฒนากระจกตา
00:51:49 → 00:51:51 แล้วก็ปัจจุบันอยู่ในพ clinical studies
00:51:51 → 00:51:53 นะครับทำงานร่วมกับคุณหมอที่โรงพพานจุฬา
00:51:53 → 00:51:56 นะครับถ้าเกิดว่าเราเป็นคนไข้ที่ได้รับ
00:51:56 → 00:52:00 การรูทเข้าไปอยู่ในอ่าการทดลองเป็น
00:52:00 → 00:52:01 clinical studies เนี่ยครับแม้ว่ามัน
00:52:01 → 00:52:04 เป็นเทคโนโลจีใหม่ที่ยังต้องเรียนรู้และ
00:52:04 → 00:52:07 ศึกษาอยู่แต่ว่าด้วยความที่เราทำด้วยผู้
00:52:07 → 00:52:10 เชี่ยวชาญทั้งหมอเองทั้งนักวิศาสตร์เองมี
00:52:10 → 00:52:13 การ ign experiment ที่ถูกต้องตามหลัก
00:52:13 → 00:52:17 วิชาการถูกต้องตามสารดจริยธรรมทาการแพทย์
00:52:17 → 00:52:19 มันค่อนข้างจะการันตีว่าค่อนข้างจะปลอด
00:52:20 → 00:52:22 ภัยกับคนไข้นะครับเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่า
00:52:22 → 00:52:25 วันนึงคุณเกิดเป็นโรคร้ายอะไรสักอย่างนึง
00:52:25 → 00:52:28 แล้วมีโอกาสที่จะได้รับการรูเข้าไปเป็น
00:52:28 → 00:52:31 หนึ่งในผู้ทดลองใน clinical studies นะ
00:52:31 → 00:52:33 ครับก็ผมคิดว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสแล้วก็
00:52:33 → 00:52:36 เป็น้อยที่ถือว่าค่อนข้างปลอดภัยที่จะทำ
00:52:36 → 00:52:39 ได้นะครับเพราะผมมั่นใจว่าคุณหมอที่รับ
00:52:39 → 00:52:41 ผิดชอบโปรเจคนั้นเนี่ยจะให้ข้อมูลที่ครบ
00:52:41 → 00:52:43 ถ้วนรอบด้านบอกทั้งข้อดีและความเสี่ยง
00:52:43 → 00:52:46 ก่อนที่คุณจะตัดสินใจอยู่แล้วนะครับแต่
00:52:46 → 00:52:49 ถามว่ามันจะมีสักกี่คนน่ะที่จะมีโอกาสได้
00:52:49 → 00:52:51 รับการรูตเข้าไปทาง clinical studies นะ
00:52:51 → 00:52:53 ครับเพราะฉะนั้นการเข้าถึงการฉีด
00:52:53 → 00:52:55 สเตมเซลล์ณปัจจุบันในเมืองไทยเนี่ยจึง
00:52:55 → 00:52:58 เกิดขึ้นที่คลินิคเอกชนผมอยากจะบอกว่าผม
00:52:59 → 00:53:01 ไม่แอนตี้นะครับผมไม่ได้แอนตี้เลยที่
00:53:01 → 00:53:04 คลินิกเอกชนหรือโรงพยาบาลเอกชนจะนำสตม
00:53:04 → 00:53:06 Sales เนี่ยมาใช้ในการรักษาคนไข้อย่าง
00:53:06 → 00:53:09 ที่ผมบอกในฐานะที่เป็นคนพัฒนาเทคโนโลยี
00:53:09 → 00:53:13 เนี่ยผมอยากให้สเตมเซลล์ไปช่วยรักษาคนไข้
00:53:13 → 00:53:14 ได้จริงๆครับและจริงๆแล้วเนี่ยผมอยากให้
00:53:14 → 00:53:18 เอกชนเนี่ยนะครับมาร่วมกันผลักดันให้
00:53:18 → 00:53:20 เทคโนโลยีเนี้ยมันก้าวกระโดดไปข้างหน้า
00:53:20 → 00:53:22 รวมถึงร่วมกันผลักดันให้มีมาตรฐานในการ
00:53:22 → 00:53:24 ใช้สเตมเซลล์ในการรักษาด้วยนะครับเพราะ
00:53:24 → 00:53:27 บางอย่างเนี่ยรัฐบาลอย่างเดียวไดฟไม่พอ
00:53:27 → 00:53:29 เอกชนคือกลุ่มสำคัญที่จะช่วยไดฟให้
00:53:29 → 00:53:31 เทคโนโลยีมันไปได้นะครับแต่สิ่งที่ผมอยาก
00:53:31 → 00:53:33 จะแนะนำก็คือว่าถ้าคุณเลือกที่จะเข้ารับ
00:53:33 → 00:53:36 บริการในคลินิกเอกชนหรือว่าโรงพยาบาล
00:53:36 → 00:53:40 เอกชนนะครับผมอยากให้คุณเนี่ยพูดคุยสอบ
00:53:40 → 00:53:43 ถามคุยกับคุณหมอเยอะๆนะครับแล้วลอง
00:53:43 → 00:53:46 พิจารณาดูซิว่าคุณหมอเนี่ยเค้าได้ให้ข้อ
00:53:46 → 00:53:49 มูลเราที่ครบถ้วนรอบด้านหรือเปล่าพูดแต่
00:53:49 → 00:53:52 ข้อดีหรือเปล่าได้เล่าข้อเสีย Side
00:53:52 → 00:53:54 เอฟเฟคสิ่งที่มันจะอาจจะเกิดขึ้นได้มยนะ
00:53:55 → 00:53:57 ครับการคุยกับคุณหมอหมอเนี่ยครับจะพอบอก
00:53:57 → 00:54:00 ได้ว่าคุณหมอเนี่ยมีความรู้ทางด้าน
00:54:00 → 00:54:03 สเตมเซลล์เนี่ยถูกต้องถูกตามหลักวิชาการ
00:54:03 → 00:54:06 หรือเปล่าแล้วก็คุณหมอเนี่ยมีความจริงใจ
00:54:06 → 00:54:09 ที่จะดูแลให้บริการเราหรือเปล่าถ้าเจเจอ
00:54:09 → 00:54:11 คุณหมอกลุ่มนั้นนะครับที่ที่ดีแล้วก็จริง
00:54:11 → 00:54:14 ใจกับเรานะครับผมก็คิดว่าก็สามารถที่จะ
00:54:14 → 00:54:16 เลือกใช้บริการได้นะครับเพราะเอาจริงๆ
00:54:16 → 00:54:19 แล้วการที่เราจะไปลองเสียเงินฉีดเมเซ
00:54:19 → 00:54:21 เนี่ยการเสียเงินแล้วไม่เวิร์คเนี่ยผมคิด
00:54:21 → 00:54:24 ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยแต่การเสียใจภาย
00:54:24 → 00:54:26 หลังเพราะว่าฉีดเข้าไปแล้วเนี่ยมันเกิด s
00:54:26 → 00:54:29 เฟเฟหรือเกิดผลเสียอะไรตามมาทั้งๆที่เรา
00:54:29 → 00:54:31 ไม่ควรจะได้รับความเสี่ยงนั้นอันนั้น
00:54:31 → 00:54:33 เนี่ยเป็นเรื่องที่น่าเสียใจกว่าครับจาก
00:54:33 → 00:54:35 ที่เล่ามาทั้งหมดนะครับจะเห็นว่า
00:54:35 → 00:54:38 เทคโนโลยีการฉีดสเตมเซลล์โดยเฉพาะการฉีด
00:54:39 → 00:54:41 msc เนี่ยนะครับมันยังมีข้อจำกัดหลาย
00:54:41 → 00:54:44 อย่างมากเลยทั้งข้อจำกัดทางด้านการผลิต
00:54:44 → 00:54:47 ข้อจำกัดในการควบคุมประสิทธิภาพที่ทำให้
00:54:47 → 00:54:51 msc เนี่ยมันไปช่วยซ่อมแซมอวัยวะที่เสีย
00:54:51 → 00:54:53 หายครับยังไม่นิ่งเลยครับยังไม่มี
00:54:53 → 00:54:56 โปรโตคอลที่เป็น Standard นะครับแต่ผมไม่
00:54:56 → 00:54:59 อยากให้ทุกคนกลัวกับเทคโนโลยีนี้นะครับผม
00:54:59 → 00:55:02 เองเชื่อมั่นมากว่าสเตมเซลล์เนี่ยคือความ
00:55:02 → 00:55:06 หวังในวงการการแพทย์ที่สามารถที่จะช่วยยก
00:55:06 → 00:55:10 ระดับคุณภาพชีวิตของคนทุกคนบนโลกนี้เลยนะ
00:55:10 → 00:55:13 ครับอย่างผมเองเนี่ยยังพัฒนาแล้วก็พยายาม
00:55:13 → 00:55:15 ที่จะสร้างทิชชูอย่างเช่นเส้นผมเพื่อหวัง
00:55:15 → 00:55:18 ว่าจะมาปลูกผมตัวเองเลยนะครับเพราะฉะนั้น
00:55:18 → 00:55:20 การที่ณปัจจุบันมันเป็น Grey market มัน
00:55:20 → 00:55:23 ยังไม่มีสนารหน้าที่ของเราทุกคนรวมถึงผม
00:55:23 → 00:55:26 เองเนี่ยก็คืออยากผลักดันผมผมเชื่อว่าคน
00:55:26 → 00:55:28 ในวงการทุกคนเพื่อนๆในวงการไม่ว่าจะเป็น
00:55:28 → 00:55:31 นักวิทยาศาสตร์คุณหมอที่เป็นคุณหมอวิจัย
00:55:31 → 00:55:34 ภาคเอกชนที่ทำงานด้านสเต็มเซลเองเนี่ยทุก
00:55:34 → 00:55:36 คนอยากเห็น Standard มันเกิดขึ้นเพราะ
00:55:36 → 00:55:38 งั้นหน้าที่ของเราเนี่ยคือการช่วยทำให้
00:55:38 → 00:55:41 มันมีสนารแล้วก็จะได้ยกคุณภาพการรักษาทาง
00:55:41 → 00:55:43 การแพทย์ด้วยสเตมเซลในเมืองไทยนะครับ
00:55:43 → 00:55:45 สำหรับพวกเราที่เป็นประชาชนทั่วไปนะครับ
00:55:45 → 00:55:48 ก็สามารถจะมีส่วนร่วมในการยกระดับมาตรฐาน
00:55:48 → 00:55:51 ของการใช้สเตมเซลล์ในการรักษาทางการแพทย์
00:55:51 → 00:55:53 ได้นะครับเวลาที่คุณได้ยินหรือว่าได้รับ
00:55:53 → 00:55:55 ข้อมูลอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ Stemcell
00:55:55 → 00:55:58 therapy นะครับผมอยากให้คุณเอ๊ะไว้ก่อน
00:55:58 → 00:56:01 ตั้งคำถามไว้ซะหน่อยว่าสิ่งที่คุณได้ยิน
00:56:01 → 00:56:04 เนี่ยมันถูกต้องมั้ยแล้วก็มันเป็นโฆษณา
00:56:04 → 00:56:07 ที่เกินจริงหรือเปล่านะครับเพราะว่า msc
00:56:07 → 00:56:08 หรือว่า Stemcell therapy เนี่ยมันมี
00:56:08 → 00:56:11 ประโยชน์ครับแต่การฉีด msc เข้าไปในร่าง
00:56:11 → 00:56:13 กายของเราเนี่ยผลจะออกมาปังหรือพังเนี่ย
00:56:13 → 00:56:16 มันขึ้นอยู่กับว่าคุณมีความรู้มากพอหรือ
00:56:16 → 00:56:19 เปล่าที่จะใช้ตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์หรือ
00:56:19 → 00:56:22 ว่า service ต่างๆนะครับสิ่งที่ผมแชร์ใน
00:56:22 → 00:56:25 วันนี้ผมหวังว่าจะเป็นความรู้พื้นฐานที่
00:56:25 → 00:56:28 จะช่วยให้คุณเอาไปต่อยอดแล้วก็สามารถที่
00:56:28 → 00:56:31 จะใช้ในการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
00:56:31 → 00:56:34 ให้กับตัวคุณนะ
00:56:34 → 00:56:37 ครับ Top to Toe The Standard
00:56:37 → 00:56:43 podcast Eye Opening for your ears