00:00:11 → 00:00:17 [เพลง]
00:00:25 → 00:00:28 จริงๆเหตุของการปวดหลังเนี่ยมีหลายสาเหตุ
00:00:28 → 00:00:30 มากนะครับที่เราพบบ่อยมากที่สุดสุดก็เป็น
00:00:30 → 00:00:33 น่ะเนื่องจากว่ามีการอ่ากล้ามเนื้อที่มี
00:00:33 → 00:00:35 การอักเสบหรือเส้นเอ็นบริเวณหลังที่มีการ
00:00:35 → 00:00:37 อักเสบอเ่าถ้าเป็นมากกว่านั้นก็อาจจะมี
00:00:37 → 00:00:40 เหตุมาจากหมอนรองกระดูกหรือตัวกระดูกเอง
00:00:40 → 00:00:43 ที่มีการเสื่อมงั้นโดยทั่วไปเราแบ่งเป็น 2
00:00:43 → 00:00:45 กลุ่มนะครับคืออาการปวดหลังในวัยทำงาน
00:00:45 → 00:00:49 หรือไุงสาวแกะที่ 2 เรียกว่าการปวดหลังใน
00:00:49 → 00:00:52 คนไข้ที่สูงอายุมากขึ้นนะครับซึ่งสาเหตุ
00:00:52 → 00:00:54 ก็อาจจะต่างกันในวัยทำงานที่เราเจอบ่อยๆ
00:00:54 → 00:00:56 ก็คือ Office syndrome พวกอเกิดจากกล้าม
00:00:56 → 00:00:59 เนื้อซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ Position การ
00:00:59 → 00:01:03 เ่าทำทำงานซึ่งพวกนี้แม้จะไม่ได้น่ากังวล
00:01:03 → 00:01:05 แต่มักจะเป็นโรคที่เรื้อรังแล้วก็ต้องให้
00:01:05 → 00:01:09 ความสำคัญเหมือนกันอที่เจอมากขึ้นในในวัย
00:01:09 → 00:01:11 ทำงานอีกอย่างนึงก็คือว่าอาจจะมีปัญหา
00:01:11 → 00:01:14 เรื่องหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทซึ่งอัน
00:01:14 → 00:01:17 นี้เจอได้นะครับตั้งแต่วัย 20 30 40
00:01:17 → 00:01:19 เอ่อเหตุอันเนี้ยมันเกิดจากหมอรองกระดูก
00:01:19 → 00:01:22 มันปลิ้นมาทับเส้นประสาทซึ่งตัวแปรที่
00:01:22 → 00:01:24 สำคัญคือกลุ่มพวกนี้มักจะมีอาการปวดและ
00:01:24 → 00:01:26 ร้าวลงขาด้วยเมื่อไหร่ก็ตามมีการร้าวลงขา
00:01:26 → 00:01:30 มีการชาขาอ่อนแรงขาอาจจะเป็นสื่อที่บอก
00:01:30 → 00:01:32 แล้วว่าต้องให้ความสำคัญมากขึ้นบการปวด
00:01:32 → 00:01:35 หลังธรรมดาอค่ะอีกกลุ่มนึงก็คือปวดหลัง
00:01:35 → 00:01:37 อันเกิดจากคนไข้ที่สูงอายุละอันนี้ส่วน
00:01:37 → 00:01:39 ใหญ่จะเป็นเรื่องของการเสื่อมของกระดูกสล
00:01:39 → 00:01:41 อาจจะมีกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทร่วม
00:01:41 → 00:01:45 ด้วยหรือเปล่าอันนี้ก็เป็นอีกเรื่อง
00:01:45 → 00:01:49 [เพลง]
00:01:49 → 00:01:53 นึงตัวแปรที่เราต้องพึงอ่าให้ความสำคัญก็
00:01:53 → 00:01:55 คือเมื่อไหร่ก็ตามที่เราปวดหลังเกินกว่า 3
00:01:55 → 00:01:58 เดือนโดยที่อาการไม่ดีขึ้นหอาการมีแนว
00:01:58 → 00:02:01 โน้มจะแย่ลงอันนี้ควจะปรึกษาแพทย์นะครับ
00:02:01 → 00:02:03 อันดับที่ 2 ก็คือเมื่อไหร่ก็ตามที่ปวด
00:02:03 → 00:02:05 หลังไม่ได้อยู่แค่แกนกลางตัวแต่มันเป็น
00:02:05 → 00:02:09 การปวดที่มีการร้าวไปบริเวณของขาหรือมี
00:02:09 → 00:02:12 การชาหรืออ่อนแรงร่วมด้วยพวกนี้เราต้อง
00:02:12 → 00:02:15 ให้ความสำคัญมากขึ้นหรือเมื่อไหร่ก็ตาม
00:02:15 → 00:02:17 ที่การปวดหลังนั้นกระทบต่อการใช้ชีวิตและ
00:02:17 → 00:02:19 การทำงานค่ะเพะฉะนั้นเราก็ต้องพึงที่จะ
00:02:19 → 00:02:22 ต้องเข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์ครับ
00:02:22 → 00:02:27 [เพลง]
00:02:27 → 00:02:30 ผมที่ดีที่สุดของการนั่งเนี่ยเนื่องจาก
00:02:30 → 00:02:33 กระดูกสันหลังของมนุษย์เนี่ยถูกดีไซน์ให้
00:02:33 → 00:02:35 ตั้งตรงครับงั้นสิ่งที่สำคัญก็คือเราต้อง
00:02:35 → 00:02:38 มีความอ่าเรียกว่า Balance ของร่างกายก็
00:02:38 → 00:02:41 คือตัวควรจะตั้งตรงที่เราจะเจอบ่อยๆก็คือ
00:02:41 → 00:02:43 เวลานั่งทำงานไปตัวจะไหลเอียงไปเรื่อยๆ
00:02:43 → 00:02:46 แล้วก็อยู่ในท่าที่โค้งเมื่อไก็ตามที่ตัว
00:02:46 → 00:02:48 โค้งหรือคร่อมไปด้านหน้าเนี่ยหมอนรอง
00:02:48 → 00:02:50 กระดูกจะรับน้ำหนักมากขึ้นอันนั้นก็เป็น
00:02:50 → 00:02:52 เหตุที่อาจจะมีการเสื่อมของหมอนรองกระดูก
00:02:52 → 00:02:54 เร็วขึ้นหรือกล้ามเนื้อหลังก็ต้องออกแรง
00:02:54 → 00:02:57 เพื่อทำให้บานของเราดีขึ้นงั้นก็เป็นสิ่ง
00:02:57 → 00:03:00 ที่พึงจะต้องระมัดระวังพูดง่ายๆคือคือควร
00:03:00 → 00:03:03 จะนั่งหลังตรงหลังพิชิพนักค่ะแล้วก็แน่
00:03:03 → 00:03:05 นอนว่าอย่านั่งนานเกินไปนั่งึงจุดนึง
00:03:05 → 00:03:07 เปลี่ยนท่าบ้างเพื่อให้กล้ามเนื้อได้มี
00:03:07 → 00:03:10 การผ่อนคลาย
00:03:10 → 00:03:13 [เพลง]
00:03:14 → 00:03:17 คตัวที่เรากังวลมากที่สุดอาจจะไม่ใช่แค่
00:03:17 → 00:03:20 Position มันคดหงอกเรากังวลที่สุดในแง่
00:03:20 → 00:03:22 ของการทับเส้นประสาทเพราะเส้นประสาทมี
00:03:22 → 00:03:25 ชีวิตเมื่ออะไรก็ต่ำมาเส้นประสาทนานเกิน
00:03:25 → 00:03:27 ไปมันก็มีอาจจะมีผลทำให้เกิดการเสื่อมต่อ
00:03:27 → 00:03:30 เส้นประสาทได้แต่พวกนี้ไม่ต้องกังวลมากนะ
00:03:30 → 00:03:32 ครับมันไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใดมันจะมี
00:03:32 → 00:03:35 รางบอกเหตุมันจะมีความค่อยเป็นค่อยไปของ
00:03:35 → 00:03:38 โลกงั้นตัวที่พึงระมัดระวังก็คือว่าเมื่อ
00:03:38 → 00:03:41 เส้นประสาทเส้นนึงถูกกดทับเนี่ยมันจะ
00:03:41 → 00:03:44 เริ่มมาเริ่มต้นด้วยปวดกันค่ะมากขึ้นอาจ
00:03:44 → 00:03:47 จะช้านะฮะหลังจากนั้นถ้าเกิดรุนแรงมาก
00:03:47 → 00:03:49 กว่านั้นก็อาจจะอ่อนแรงร่วมด้วยงั้นใน
00:03:49 → 00:03:52 กรณีที่เริ่มมีชาโดยเฉพาะถ้าชาต่อเนื่อง
00:03:52 → 00:03:55 หรืออ่อนรนจนกระทั่งเรารู้สึกได้เนี่ยอัน
00:03:55 → 00:03:57 นั้นก็เป็นสิ่งที่พึงจะต้องระมัดระวังล่ะ
00:03:57 → 00:03:59 แต่ว่าคนไข้มักจะกังวลว่าจะจะเกี่ยวกับ
00:04:00 → 00:04:02 อัมพฤกอัมพาตมั้ยจริงๆเป็นคนละโรคนะครับ
00:04:02 → 00:04:04 อัมพฤกอัมพาตคือโรคเส้นเลือดสมองพวกนี้
00:04:04 → 00:04:07 ฉับพันทันทีทันใดแต่โรคของหมอนรองกระดูก
00:04:07 → 00:04:10 เนี่ยเป็นโรคที่ค่อยเป็นค่อยไปงั้นเรารู้
00:04:10 → 00:04:12 ถึงพิษภัยของมันแต่ไม่ต้องตื่นตระหนกครับ
00:04:12 → 00:04:17 เราเราน่าจะสามารถที่จะดูแลมันได้ทันท่วง
00:04:17 → 00:04:21 [เพลง]
00:04:21 → 00:04:25 ทีโรคของกระดูกโรคของหมอรองกระดูกโรคของ
00:04:25 → 00:04:27 กล้ามเนื้อจริงๆเราต้องรู้ก่อนว่าจริงๆ
00:04:27 → 00:04:29 แล้วเป็นอะไรกันแน่งั้นเมื่อไหรก็ตามที่
00:04:29 → 00:04:32 การปวดหลังมีอาการอันบอกเหตุว่าอาจจะมี
00:04:32 → 00:04:34 เรื่องของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทด้วย
00:04:34 → 00:04:36 เนี่ยก็ต้องวินิจฉัยให้แน่นอนก่อนว่ามัน
00:04:36 → 00:04:39 ใช่หรือเปล่าการวินิจฉัยที่ช่วยบอกได้คือ
00:04:39 → 00:04:42 ทำ MRI สแกนเพราะว่ามีหมอนรองกระดูกทับ
00:04:42 → 00:04:45 เส้นประสาทแน่หรือเปล่าอย่างไรก็ตามเนี่ย
00:04:45 → 00:04:47 เราพบว่าถึงแม้จะมีหมอนรองกระดูกทับเส้น
00:04:47 → 00:04:50 ประสาทเนี่ย 95% ของคนไข้รักษาได้โดยวิธี
00:04:50 → 00:04:52 ที่ไม่ต้องผ่าตัดค่ะงั้นหมายความว่ายังไง
00:04:52 → 00:04:55 ครับหมายความว่าเราต้องปรับเปลี่ยน
00:04:55 → 00:04:57 พฤติกรรมพฤติกรรมอะไรก็ตามที่ทำให้หมอน
00:04:57 → 00:05:00 รองกระดูกทับเส้นประสาทมากขึ้นต้องหลีก
00:05:00 → 00:05:03 เลี่ยงอื 1 2 3 อย่างที่อาจจะต้องระมา
00:05:03 → 00:05:05 สำคัญที่สุดคือน้ำหนักตัวน้ำหนักตัวคือ
00:05:05 → 00:05:07 สิ่งที่เรารับอยู่ตลอดเวลานะครับอันดับ
00:05:07 → 00:05:11 ที่ 2 ก็คือว่าท่าที่เราก้มไปยกของน้ำ
00:05:11 → 00:05:13 หนักที่เรายกตลอดเวลาเนี่ยก็ไปโหลดกับ
00:05:13 → 00:05:16 หมอนรองกระดูกงั้นต้องหลีกเลี่ยงการยกของ
00:05:16 → 00:05:18 หนักอันดับที่ 3 คือต้องทำให้กล้ามเนื้อ
00:05:18 → 00:05:20 หลังเราแข็งแรงครับกล้ามเนื้อหลังเราจะ
00:05:20 → 00:05:23 แข็งแรงได้เนี่ยตัวที่สำคัญก็คือเราก็
00:05:23 → 00:05:25 ต้องมี Exercise หรือการออกกำลังายที่
00:05:25 → 00:05:28 ช่วยใช่ครับอการออกกำลังกายที่ดีที่สุด
00:05:28 → 00:05:30 คือการว่ายน้ำเพราะว่ายน้ำทำให้กล้าม
00:05:30 → 00:05:32 เนื้อหลังได้ออกแรงแบบที่ไม่ต้องรับเท
00:05:32 → 00:05:35 ด้วยมันก็เป็นวิธีการที่เรามักจะแนะนำคน
00:05:35 → 00:05:37 ไข้ที่สามารถทำ
00:05:37 → 00:05:41 [เพลง]
00:05:41 → 00:05:44 ได้โดยทั่วไปเนี่ยการที่หมอนรองกระดูกมัน
00:05:44 → 00:05:47 ปีมันทับเส้นประสาทเนี่ยอย่างที่บอก 95%
00:05:47 → 00:05:49 ดีขึ้นได้หมายถึงอาการของคนไข้ดีขึ้นได้
00:05:49 → 00:05:53 จนกลับสู่ภาวะปกติได้แต่ถามว่าหมอนรองที่
00:05:53 → 00:05:55 ปริออกมาแล้วมันก็อาจจะยังปริอยู่งั้น
00:05:55 → 00:05:58 หรือลดลงนิดหน่อยได้นะครับเพียงแต่ว่า
00:05:58 → 00:06:01 เมื่อไหร่ก็ตามที่การกดทับมันน้อยลงนะ
00:06:01 → 00:06:04 ครับเส้นประสานอักเสบน้อยลงอาการก็ดีขึ้น
00:06:04 → 00:06:06 ได้งั้นไม่ได้จำเป็นที่ทุกคนที่เป็นหมอ
00:06:06 → 00:06:09 รองกระดูกทับเส้นประสาสจะต้องผัดปัดยก
00:06:09 → 00:06:12 เว้นว่ากลุ่มคนที่อาการไม่ดีขึ้นด้วยการ
00:06:12 → 00:06:14 ที่เราพยายามรักษาด้วยวิธีต่างๆอย่างเต็ม
00:06:14 → 00:06:17 ที่ละที่นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็
00:06:17 → 00:06:20 ยังมียาที่ใช้ในการรักษาทำกายภาพบำบัดนะ
00:06:20 → 00:06:23 ครับร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็
00:06:23 → 00:06:25 เรียกว่า 90 กว่าเปของคนไข้ประสบความ
00:06:25 → 00:06:28 สำเร็จด้วยวิธีเหล่านี้มีแค่กลุ่มน้อย
00:06:28 → 00:06:30 เท่านั้นนะครับที่ต้องเข้าไปสู่การรักษา
00:06:30 → 00:06:33 ที่คนไข้ต้องเจ็บตัวไม่ว่าจะเป็นฉีดยาไม่
00:06:33 → 00:06:35 ว่าจะเป็นผ่าตัดอันนี้ก็เป็นเรื่องสุด
00:06:35 → 00:06:38 ท้ายที่ที่จะพูดถึงกัน
00:06:38 → 00:06:41 [เพลง]
00:06:42 → 00:06:46 ค่ะในแง่ของการป้องกันเนี่ยเราคอนโทรลใน
00:06:46 → 00:06:48 สิ่งที่เราคอนโทรลได้นะครับงั้นก็คือ
00:06:48 → 00:06:50 ปัจจัยเสียงที่ทำให้เกิดหมอนรองกระดูกทับ
00:06:50 → 00:06:53 เส้นประสาทเนี่ยเมนหลักๆเนี่ยขึ้นอยู่กับ
00:06:53 → 00:06:56 23 ปัจจัยนะครับปัจจัยที่ 1 เป็นปัจจัย
00:06:56 → 00:06:58 ที่เราอาจจะควบคุมไม่ได้คือกรรมพันธ์โลก
00:06:58 → 00:06:59 นี้เเรียกว่าภาษาอังกฤษเคเรียก
00:06:59 → 00:07:02 multifactorial หมายความว่าไม่มีสาเหตุ
00:07:02 → 00:07:05 ใดสาเหตุหนึ่งที่อธิบายทั้งหมดแต่กรมพรก็
00:07:05 → 00:07:07 เชื่อว่าอาจจะเป็นเหตุหนึ่งเช่นคนที่เกิด
00:07:07 → 00:07:10 มาด้วยหมอนรองกระดูกที่อาจจะแข็งแรงน้อย
00:07:10 → 00:07:12 กว่าคนอื่นเมื่อเกิดอะไรนิดๆหน่อยๆก็อาจ
00:07:12 → 00:07:15 จะเกิดปัญหาได้ง่ายกว่าคนอื่นนะครับแต่
00:07:15 → 00:07:18 สาเหตุนี้ก็อาจจะเป็นสาเหตุเพียงเล็กน้อย
00:07:18 → 00:07:21 สาเหตุอื่นๆก็อย่างเช่นคนคนไข้ที่อ้วนค่ะ
00:07:21 → 00:07:25 คนที่รับน้ำหนักมากที่ยกน้ำหนักรุนแรงบาง
00:07:25 → 00:07:27 คนยกเวทรุนแรงตั้งแต่วัยหนุ่มสาวค่ะก็มี
00:07:28 → 00:07:30 ความที่ต้องพึงละหมัดลออสาเหตุที่สำคัญ
00:07:30 → 00:07:33 อีกอย่างที่เรามักจะไม่ทราบกันก็คือการ
00:07:33 → 00:07:35 สูบบุหรี่นะครับอ๋อสูบบุหรี่เนี่ยเป็น
00:07:35 → 00:07:39 เหตุนึงที่ทำให้หมอนรองกระดูกมีปัญหาได้
00:07:39 → 00:07:41 เนื่องจากว่าอย่างงี้ครับสูบบุหรี่เนี่ย
00:07:41 → 00:07:43 จะทำให้เส้นเลือดที่ไปซ่อมแซมหมอนรอง
00:07:43 → 00:07:45 กระดูกเนี่ยมันไม่ดีครับงั้นเมื่อไหร่ก็
00:07:45 → 00:07:48 ตามที่เกิดหมอนรองกระดูกปริหมอนรองกระดูก
00:07:48 → 00:07:51 เสื่อมบ้างเนี่ยการเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่
00:07:51 → 00:07:54 มันสึกหรอเนี่ยมันไม่ดีเท่าที่ควรงั้นสูบ
00:07:55 → 00:07:57 บุหรี่เป็นปัจจัยที่พิสูจน์แล้วครับว่า
00:07:57 → 00:07:59 เป็นผลที่ทำให้หมอนรองกระดูกทับเสเส้น
00:07:59 → 00:08:01 ประสาทมากขึ้นงั้นก็เป็นเหตุที่ต้องหลีก
00:08:01 → 00:08:05 เลี่ยงครับโดยสรุปคือห้ามอ้วนห้ามยกเวท
00:08:05 → 00:08:08 มากต้องออกกำลังกายกล้ามเนื้อหลังและสุด
00:08:08 → 00:08:10 ท้ายคือห้ามสูบบุหรี่อันนี้คือสิ่งที่เรา
00:08:10 → 00:08:13 ควบคุมได้อย่างอื่นก็อาจจะควบคุมไม่ได้
00:08:13 → 00:08:15 ทั้งหมดนะครับ
00:08:15 → 00:08:18 [เพลง]
00:08:18 → 00:08:22 อครับคราวนี้พอคนที่อายุมากขึ้นเนี่ยมัน
00:08:22 → 00:08:24 ก็จะเกิดการเสื่อมคราวนี้การเสื่อมมัน
00:08:25 → 00:08:27 เกิดที่ข้อครับข้อของกระดูกสั่นหลังเมื่อ
00:08:27 → 00:08:29 เสื่อมขึ้นเนี่ยมันก็ทำให้เกิดการที่ร่าง
00:08:29 → 00:08:32 กายต้องปรับตัวเพื่อทำให้ข้อมั่นคงขึ้น
00:08:32 → 00:08:35 งั้นการที่ทำให้ข้อมั่นคงขึ้นก็อาจจะเกิด
00:08:35 → 00:08:38 การไปพอกของหินปูนต่างๆหรือเกิดการหนาตัว
00:08:38 → 00:08:41 ขึ้นของเนื้อเยื่อกลุ่มพวกเยมันจะเข้าไป
00:08:41 → 00:08:44 เบียดหรือเข้าไปอยู่ในที่ที่ควรจะเป็นที่
00:08:44 → 00:08:46 อยู่ของเส้นประสาทเขาเรียกว่าโรคกระดูก
00:08:46 → 00:08:50 สันหลังโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบอออันนี้
00:08:50 → 00:08:52 มักจะเกิดขึ้นในคนที่อายุมากขึ้นเรื่อยๆ
00:08:52 → 00:08:54 เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมคนไข้จะมา
00:08:54 → 00:08:57 แสดงอาการที่ต่างจากหมอรองกระดูกทับเส้น
00:08:57 → 00:09:00 ษาเล็กน้อยครับคือแม้การอาจจะเกิดปวดชา
00:09:00 → 00:09:03 อ่อนแรงลงขาเหมือนกันแต่อาการมักจะค่อย
00:09:03 → 00:09:07 เป็นค่อยไปามอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆงั้นก็
00:09:07 → 00:09:09 เป็นกลุ่มที่เราก็ต้องให้ความสำคัญเพราะ
00:09:09 → 00:09:12 ว่าในปัจจุบันสังคมเราเนี่ยมีผู้สูงอายุ
00:09:12 → 00:09:14 ที่มากขึ้นเรื่อยๆงั้นคนที่เป็นโรคนี้ก็
00:09:14 → 00:09:17 เยอะขึ้นเรื่อยๆตามอีด้วย
00:09:17 → 00:09:20 [เพลง]
00:09:20 → 00:09:24 ครับปกติกระดูกฝลังเราเนี่ยจะมีโพรงตรง
00:09:24 → 00:09:26 กลางครับโพรงตรรงกลางมันเป็นที่อยู่ของ
00:09:26 → 00:09:29 เส้นประสาทงั้นในตอนที่เราเกิดใหม่ๆเนี่ย
00:09:29 → 00:09:32 โพรงมันก็จะเหมาะสมับเส้นประสาทเรียกว่า
00:09:33 → 00:09:34 เหมือนเส้นประสาทเหมือนคนที่อยู่ในบ้านก็
00:09:34 → 00:09:37 จะอยู่ได้แบบไม่แออัดค่ะเมื่อเราอายุมาก
00:09:37 → 00:09:40 ขึ้นมากขึ้นถ้าเกิดการพอกของหินปูนเกิด
00:09:40 → 00:09:42 การหนาตัวของเนื้อเยื่อค่ะไปอยู่ใน
00:09:42 → 00:09:45 ตำแหน่งที่ควรจะอยู่ของเส้นประสาทมันก็
00:09:45 → 00:09:47 เหมือนมีคนมาเบียดบาในบ้านของเราเรียกว่า
00:09:47 → 00:09:50 เส้นประสาทก็จะแออัดมากขึ้นแโรคที่เกิดมา
00:09:50 → 00:09:53 ก็คือเป็นการที่มันมีอะไรก็ตามมาทับต่อ
00:09:53 → 00:09:55 เส้นประสาทแล้วก็ก่อให้เกิดอาการอันเกิด
00:09:55 → 00:10:03 จากการทับเส้นประสาทนั้นตามมาอ
00:10:03 → 00:10:05 ของกลุ่มพวกเนี้ยจะมาด้วยอาการที่เรียก
00:10:05 → 00:10:06 ว่า
00:10:06 → 00:10:10 อ่าอาจจะมีอาการปวดก็ได้ช้าก็ได้อ่อนแรง
00:10:10 → 00:10:14 ก็ได้ไปตามขาครับแต่สิ่งที่เอ่อค่อนข้าง
00:10:14 → 00:10:16 จะเฉพาะสำหรับโลกนี้ก็คือมักจะมาด้วยเดิน
00:10:16 → 00:10:20 ไกลไม่ได้คนไข้กลุ่มนี้จะมาด้วยเดินถึง
00:10:20 → 00:10:22 จุดนึงต้องหยุดพักเนื่องจากว่ายิ่งเดิน
00:10:22 → 00:10:25 การทับเส้นจะยิ่งมากขึ้นมากขึ้นจนถึงจุด
00:10:25 → 00:10:27 ที่มันทับเส้นมากคนไข้ทนไม่ไหวจะพักสัก
00:10:28 → 00:10:30 ครู่พอพักสักครู่ทุกอย่างเริ่มรีกกลับ
00:10:30 → 00:10:33 เข้าที่มันข้าจะเดินได้อีกสักระยะหนึ่ง
00:10:33 → 00:10:36 อันนี้คือลักษณะเฉพาะของโลกโพรงกระดูกสัน
00:10:36 → 00:10:38 หลังตีบแคบในวัยสูงอายุนะครับเป็นด้วย
00:10:38 → 00:10:40 ลักษณะ
00:10:40 → 00:10:44 [เพลง]
00:10:44 → 00:10:47 อย่างอ่าจะมีภาวะบางอย่างที่เราเรียกว่า
00:10:47 → 00:10:50 Red Flag Red Flag ในภาษาอังกฤษซึ่ง
00:10:50 → 00:10:52 ในความหมายของเราก็คือเมื่อเจอสิ่งเหล่า
00:10:52 → 00:10:55 เนี้ยเป็นภาวะที่ต้องเร่งด่วนค่ะเช่นคน
00:10:55 → 00:10:58 ไข้มีการทับเส้นประสาทจนกระทั่งอุจจระ
00:10:58 → 00:11:00 ปัสวะคอนโทรลไม่ได้อย่างนี้ถือว่าเร่ง
00:11:00 → 00:11:03 ด่วนมากอคเช่นการทับเส้นประสาทจนกระทั่ง
00:11:03 → 00:11:07 เกิดการอ่อนแรงของขาคนไข้เดินลำบากอันนี้
00:11:07 → 00:11:09 ก็ถือเป็นภาวะเร่งด่วนซึ่งถ้ามี 2 อย่าง
00:11:09 → 00:11:11 นี้เนี่ยถือว่าเป็นข้อบ่งชี้ที่ต้องผ่าน
00:11:11 → 00:11:15 ตัดแต่ถ้าไม่มี 2 อย่างนี้เนี่ยการกดทับ
00:11:15 → 00:11:18 มันจะไม่ได้ถือว่าเป็นอะไรที่เรียกว่าถึง
00:11:18 → 00:11:21 ชีวิตหรือว่าอะไรที่รุนแรงเพียงแต่ว่ามัน
00:11:21 → 00:11:24 จะกระทบการใช้ชีวิตของคนไข้คนไข้มักจะมี
00:11:24 → 00:11:27 ปัญหาว่าก็ไปได้แหละแต่เดินได้ถึงจุดนึง
00:11:27 → 00:11:31 ต้องหยุดอก็ไม่ทรมานมากถ้าไม่เดินไกลงั้น
00:11:31 → 00:11:33 สิ่งที่สำคัญคือเราเริ่มต้นต้องปรับการ
00:11:33 → 00:11:36 ใช้ชีวิตอยู่กับอันที่ 1 ค่ะอันที่ 2
00:11:36 → 00:11:39 ครับคล้ายๆกันคือต้องปรับการใช้ชีวิตที่
00:11:39 → 00:11:42 จะไปมีโหลดต่อกระดูกสันหลังครับน้ำหนัก
00:11:42 → 00:11:44 ตัวมีความสำคัญเสมอไม่ว่าคนอายุเท่าไหร่
00:11:45 → 00:11:47 นะครับรวมถึงการใช้งานกระดูกสันหลังที่
00:11:47 → 00:11:51 หนักหน่วงแล้วก็ผิดท่าก็มีความสำคัญท่า
00:11:51 → 00:11:53 ที่ไม่ดีสำหรับกระดูกสันหลังคือท่าที่ก้ม
00:11:53 → 00:11:57 เยอะๆค่ะยกบิดอันเนี้ยครับก็มีส่วนที่ทำ
00:11:57 → 00:11:59 ให้มันเสื่อมได้เร็วขึ้นอ
00:11:59 → 00:12:04 [เพลง]
00:12:04 → 00:12:07 กินอะไรให้ไม่อ้วนครับอันที่ 1 แต่ว่าถาม
00:12:07 → 00:12:10 ว่าการกินอะไรและมียาที่จะไปสลายการับ
00:12:10 → 00:12:12 เส้นประสาทในปัจจุบันเนี่ยยังไม่มีอะไร
00:12:12 → 00:12:15 ที่ยืนยันว่าจะชั่วอย่างนั้นได้นะครับ
00:12:15 → 00:12:18 เพียงแต่ว่าเราดูแลได้แค่ปัจจัยเสี่ยงที่
00:12:18 → 00:12:21 จะไม่ทำให้การดำเนินโรคนั้นเร็วขึ้น
00:12:21 → 00:12:23 กระดูกสัหลังเสื่อมทับเส้นประสาทมันเป็น
00:12:23 → 00:12:26 การเสื่อมของข้อค่ะแต่การที่เราพยายามจะ
00:12:26 → 00:12:29 รักษาให้กระดูกเราแข็งแรงคือทำให้กระดูก
00:12:29 → 00:12:32 เราไม่พุนไม่ปอกงั้นหมายความว่าเราจะป้อง
00:12:32 → 00:12:36 กันไม่ให้เกิดการยุบหรือการหักของกระดูก
00:12:36 → 00:12:39 ค่ะง่ายกว่าปกติยกตัวอย่างเช่นคนที่อายุ
00:12:39 → 00:12:41 มากขึ้นถ้ากระดูกบางเนี่ยลมนิดๆหน่อยๆ
00:12:41 → 00:12:44 กระดูกสันหลังหักค่ะลมนิดๆหน่อยๆกระดูก
00:12:44 → 00:12:46 สะโพกหักซึ่งอันนั้นก็มีผลต่อการใช้ชีวิต
00:12:46 → 00:12:50 มากแต่มันเป็นคนละกลุ่มโลกกับการที่มี
00:12:50 → 00:12:53 กระดูกสัหลังเสื่อมทับเส้นประสาทั้นถาม
00:12:53 → 00:12:55 ว่าควรจะต้องรักษาไควรจะต้องรักษาแต่คง
00:12:55 → 00:12:57 ไม่เกี่ยวกับโรคนี้ครับมันเป็นเรื่องของ
00:12:58 → 00:13:00 การบำรุงกันกระดูกเพื่อไม่ให้กระดูกหัก
00:13:00 → 00:13:02 ง่ายกว่าปกติเพื่อไม่ให้กระดูกยุบง่าย
00:13:02 → 00:13:04 กว่าปกติดนั้นเราก็ต้องเรียกว่าโรคกระดูก
00:13:04 → 00:13:07 พรุนอันนั้นก็เป็นอีกกลุ่มโลค
00:13:07 → 00:13:10 [เพลง]
00:13:11 → 00:13:14 นึงขึ้นอยู่กับการตีความครับอัมพฤษอัมภาต
00:13:14 → 00:13:17 ในความหมายทางการแพทย์เนี่ยมักจะใช้
00:13:17 → 00:13:20 สำหรับในกรณีที่มันเกิดจากเหตุจากโรคของ
00:13:20 → 00:13:22 เส้นเลือดในสมองเพราะมันหมายถึงภาวะที่
00:13:22 → 00:13:25 เกิดขึ้นฉับพันทันทีทันใดเรียกว่าตื่น
00:13:25 → 00:13:27 เช้ามาขยับแขนขยับขาไม่ได้กลุ่มพวกนั้น
00:13:27 → 00:13:31 มักจะเป็นซึ่งซี่ที่เรารู้กันกลุ่มโรค
00:13:31 → 00:13:33 เนี่ยอย่างที่บอกเป็นโรคอันเกิดจากการ
00:13:33 → 00:13:36 เสื่อมค่ะงั้นถามว่าเกิดการทับเส้นจนคน
00:13:36 → 00:13:38 ไข้เดินไม่ได้ได้ไมันเป็นไปได้ครับถ้าเรา
00:13:38 → 00:13:42 ปล่อยไว้จนนานมากๆแต่ความต่างก็คือว่ามัน
00:13:42 → 00:13:45 เป็นโรคที่ค่อยเป็นค่อยไปหมายความว่าใน
00:13:45 → 00:13:48 ปัจจุบันเนี่ยเราก็มักจะวินิจฉัยได้ก่อน
00:13:48 → 00:13:51 ให้การรักษาได้ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นใน
00:13:51 → 00:13:53 อดีตอาจจะมีครับก็คือว่าเรียกว่าไม่รักษา
00:13:53 → 00:13:58 จนกระทปดอยู่ั้นแหเลยซึ่งซึ่งในอดีก็คนใ
00:13:58 → 00:14:01 ก็ทนจริงๆแล้วก็อยู่กับมันได้แต่ว่าก็จะ
00:14:01 → 00:14:04 เดินสั้นลงสั้นลงเรื่อยๆจนึงนึงอ่อนแรงก็
00:14:04 → 00:14:07 จะเดินไกลไม่ค่อยได้อันนี้ก็เป็นอีกกลุ่ม
00:14:07 → 00:14:10 นึแต่ถ้าอัมพฤษอัมพาในในความเข้าใจของเรา
00:14:10 → 00:14:13 ก็คือว่าอยู่ดีๆตื่นมาเดินเหิดไม่ได้เลย
00:14:13 → 00:14:15 ซึ่งจริงๆแล้วคงไม่ใช่โรคกลุ่ม
00:14:15 → 00:14:20 [เพลง]
00:14:20 → 00:14:23 นี้สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราทำได้คือการ
00:14:23 → 00:14:28 ป้องกันความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแย่ลง
00:14:28 → 00:14:31 ของภาวะของกระดูกสันหลังเราในวัยหนุ่มสาว
00:14:31 → 00:14:35 สิ่งที่ต้องดูแลตัวเองมากๆเลยก็คือการ
00:14:35 → 00:14:39 ปรับการใช้ชีวิตท่านั่งท่านอนนะครับหลีก
00:14:39 → 00:14:42 เลี่ยงการสูบบุหรี่นะครับแล้วก็อาจจะต้อง
00:14:42 → 00:14:44 ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อหลังให้
00:14:44 → 00:14:47 แข็งแรงในคนที่อายุมากขึ้นก็ต้องรู้จัก
00:14:47 → 00:14:51 ใช้กระดูกสันหลังอย่างเหมาะสมไม่รุนแรง
00:14:51 → 00:14:53 เกินไปและแน่นอนน้ำหนักตัวก็มีผลสำหรับ
00:14:53 → 00:14:56 ทุกอายุทุกเพศทุกวัยปัจจุบันการออกกำลัง
00:14:56 → 00:14:59 กายในคนสูงอายุมากขึึ้นก็ก็ก็มีการทำกัน
00:14:59 → 00:15:01 มากขึ้นซึ่งก็เป็นเรื่องดีครับที่จะทำให้
00:15:01 → 00:15:04 กล้ามเนื้อหลังแข็งแรงซึ่งน่าจะช่วยป้อง
00:15:04 → 00:15:06 กันสิ่งเหล่านี้
00:15:06 → 00:15:08 [เพลง]
00:15:09 → 00:15:12 ได้ tn and Health เราจะรวบรวมความรู้
00:15:12 → 00:15:15 ทางด้านสุขภาพจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อ
00:15:16 → 00:15:18 ถือพร้อมก่อติดความเคลื่อนไหวจากทุก
00:15:18 → 00:15:22 ประเด็นสุขภาพรอบโลกสะท้อนผ่านความคิดมุม
00:15:22 → 00:15:25 มองของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและองค์ความรู้
00:15:25 → 00:15:29 ทางด้านต่างๆ tn and Health เข้าถึงทุก
00:15:29 → 00:15:33 สาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทัน
00:15:33 → 00:15:46 [เพลง]
00:15:46 → 00:15:57
00:15:57 → 00:16:01 โรค y