00:00:00 → 00:00:02 หลายๆ คนต้องฟอกไตทั้งๆ ที่อายุยังน้อย
00:00:02 → 00:00:07 เพราะฉะนั้นถ้าท่านมีประวัติความดันสูง มีประวัติเบาหวาน
00:00:07 → 00:00:10 แนะนำให้ตรวจค่าการทำงานของไตสม่ำเสมอ
00:00:19 → 00:00:23 สวัสดี ผมหมอท๊อป และนี่คือ DOCTOR TOP Channel
00:00:23 → 00:00:26 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระ
00:00:28 → 00:00:32 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง โรคไต
00:00:33 → 00:00:39 อาหาร 3 ชนิดที่อาจจะทำให้ท่านต้องฟอกไตตลอดชีวิต
00:00:39 → 00:00:46 ถ้าท่านเขาเรียกว่าไม่ควบคุมอาหาร 3 ชนิดหรือ 3 กลุ่มนี้
00:00:46 → 00:00:51 หรือกินผิดวิธี กินมากไป กินน้อยไป
00:00:51 → 00:00:55 อาจจะทำให้ท่านโดนฟอกไตได้
00:00:55 → 00:01:00 ผมจะเน้นไปที่ผู้ป่วยที่มี เขาเรียกว่าภาวะไตวายเรื้อรังแล้ว
00:01:00 → 00:01:05 ซึ่งภาวะไตวายเรื้อรังจะมีอยู่ 5 ขั้นใหญ่ๆ
00:01:05 → 00:01:10 ขั้น 1 2 3 4 5 มี 5 ขั้น
00:01:10 → 00:01:15 แล้วก็น่าตกใจจริงๆ ประชากรไทยประมาณ 70 ล้านคน
00:01:15 → 00:01:24 เป็นไตวายเรื้อรังขั้นที่ 3 ขึ้นไป มีทั้งสิ้นชัดๆ 10 ล้านคน
00:01:24 → 00:01:27 แล้วท่านอาจจะเป็นคนหนึ่งในนั้นแล้วไม่ได้ตรวจ
00:01:27 → 00:01:31 ขออนุญาติ ถ้าท่านเริ่มมีอายุเกิน 35 ปีขึ้นไป
00:01:31 → 00:01:33 แนะนำให้ไปตรวจเช็คอัพดูหลายๆ อย่าง
00:01:33 → 00:01:38 ว่าเรามีโอกาสที่เป็นโรคไตรึเปล่า บางทีมันซ่อนอยู่
00:01:38 → 00:01:42 บางทีท่านเป็นความดันสูงบ้างเป็นเบาหวานบ้าง
00:01:42 → 00:01:45 แต่ว่าไม่เคยไปตรวจเลือดเลยปล่อยเอาไว้
00:01:45 → 00:01:48 หลายคนที่ต้องฟอกไตทั้งๆ ที่อายุยังน้อย
00:01:48 → 00:01:51 30 20 มี เยอะแยะ
00:01:51 → 00:01:56 เพราะฉะนั้นถ้าท่านมีประวัติความดันสูง มีประวัติเบาหวาน
00:01:56 → 00:01:59 แนะนำให้ตรวจค่าการทำงานของไตสม่ำเสมอ
00:01:59 → 00:02:03 แล้วท่านจะรอดพ้นจากการฟอกไตไปได้อย่างสวยงาม
00:02:03 → 00:02:07 คราวนี้เรามาดูการรอดพ้นโดยการรู้จักอาหาร 3 กลุ่มนี้กัน
00:02:07 → 00:02:10 อันดับแรกเขาเรียกว่ากลุ่มน้ำดื่ม
00:02:10 → 00:02:14 กลุ่มน้ำดื่มก็คือน้ำทั่วไปของเราแหละ
00:02:14 → 00:02:17 ก็คือน้ำเปล่า เราจะไม่พูดถึงน้ำอย่างอื่น
00:02:17 → 00:02:21 น้ำสมุนพรงสมุนไพร น้ำวิเศษ น้ำบำรุง
00:02:21 → 00:02:24 น้ำใส่กลูต้า น้ำอะไรเงี้ยไม่อะ
00:02:24 → 00:02:25 เอาน้ำเปล่าอย่างเดียว
00:02:25 → 00:02:28 น้ำอย่างอื่นไม่มีวิจัยเลยว่าทานแล้ว
00:02:28 → 00:02:31 มันจะดีเลิศประเสริฐศรีมณีเด้งอะไรทั้งสิ้น
00:02:31 → 00:02:32 น้ำเปล่าโอเคแล้ว
00:02:33 → 00:02:35 คราวนี้ในกลุ่มน้ำดื่ม
00:02:35 → 00:02:40 คนปกติเอาคนปกติก่อนคือกินได้วันละ 2 ลิตร
00:02:40 → 00:02:45 หรือเอาน้ำหนักตัวคูณ 30 เช่น น้ำหนัก 50 คูณ 30
00:02:45 → 00:02:48 ก็กินได้ 1,500 cc ก็คือลิตรครึ่ง
00:02:48 → 00:02:54 ถ้าน้ำหนัก 70x30 ก็ได้ 2,100 cc ก็ประมาณ 2 ลิตรนิดๆ
00:02:54 → 00:02:57 หรือดูที่สีปัสสาวะว่ามีปัสสาวะสีอ่อนๆ
00:02:57 → 00:02:59 เหลืองอ่อนๆ นี่ถือว่ากินน้ำได้กำลังดี
00:02:59 → 00:03:01 ถ้าสีเข้มไปแปลว่ากินน้อยไป
00:03:01 → 00:03:04 ถ้าสีใสปิ๊งเลยแปลว่ากินเยอะไป
00:03:04 → 00:03:08 ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะที่ 4-5
00:03:08 → 00:03:12 คือค่าการทำงานของไตเหลือแบบ 20-30%
00:03:12 → 00:03:14 สมมุติว่ามันเต็ม 100 เหลืออยู่ 20%
00:03:14 → 00:03:18 ไตของเราสองข้าง สมมุติว่าผมเอาไตโยนทิ้งไปข้างหนึ่ง
00:03:18 → 00:03:21 ซึ่งสมมุติเฉยๆ นะ ไม่ทิ้งจริง
00:03:21 → 00:03:24 โยนทิ้งไปข้างหนึ่งก็ยังทำงานได้ 100% เลย
00:03:24 → 00:03:28 เพราะฉะนั้นถ้าเหลือแค่ 20% แปลว่ามันแย่มาก
00:03:28 → 00:03:30 ใช้ป๊ะ เออมันแย่มาก
00:03:30 → 00:03:32 ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามท่านตรวจแล้วท่านพบว่า
00:03:32 → 00:03:35 ท่านเป็นไตวายเรื้อรังระยะที่ 4-5
00:03:35 → 00:03:40 การควบคุมน้ำ เขาเรียกว่าโคตรสำคัญเลยในชีวิตของท่าน
00:03:40 → 00:03:44 การควบคุมน้ำ ถ้าท่านเป็นไตวายเรื้อรังระยะที่ 4
00:03:44 → 00:03:48 ถ้าท่านควบคุมน้ำได้ดีบางทีอาจจะยืดระยะการฟอกไต
00:03:48 → 00:03:50 ไปเป็นแบบ 10 ปีเลยก็ได้นะ
00:03:50 → 00:03:53 หรือว่าท่านอาจจะแบบอาการดีขึ้่นจนกลับมา
00:03:53 → 00:03:55 อยู่ในไตวายเรื้อรังระดับที่ 3
00:03:55 → 00:03:57 ซึ่งก็อาจจะไม่ต้องฟอกไตเลยตลอดชีวิตก็ยังได้
00:03:57 → 00:03:59 เพราะฉะนั้นต้องควบคุมให้ดี
00:03:59 → 00:04:04 คราวนี้ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านเป็นไตวายเรื้อรังระยะที่ 4-5
00:04:04 → 00:04:09 ท่านสามารถกินน้ำได้ในปริมาณที่จำกัด
00:04:09 → 00:04:10 จำกัดเท่าไหร่
00:04:10 → 00:04:16 ก็คือท่านฉี่ออกไปเท่าไหร่ต่อวันให้บวกไปได้ 500 cc
00:04:16 → 00:04:20 ถ้าสมมุติว่าท่านฉี่ออกไปได้วันละ 1,000 cc ซึ่งเยอะนะ
00:04:21 → 00:04:25 ท่านก็บวกไปอีก 500 แปลว่าท่านกินน้ำได้วันละ 1.5 ลิตรนั่นเอง
00:04:25 → 00:04:28 ถ้าท่านฉี่ได้วันละ 2,000 cc ซึ่งแบบเยอะมากและ
00:04:29 → 00:04:31 ก็เป็น 2,000+500 เป็น 2.5 ลิตร
00:04:31 → 00:04:33 ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่เยอะขนาดนั้น
00:04:33 → 00:04:38 ก็มักจะฉี่ประมาณซัก 700 cc ถึง 1,000 cc ประมาณนี้
00:04:38 → 00:04:39 ก็ถือว่าเยอะแล้ว
00:04:39 → 00:04:42 คาวนี้จะรู้ได้ไงว่าฉี่เราวันหนึ่งเท่าไหร่
00:04:42 → 00:04:44 ก็แนะนำอย่างนี้ว่า
00:04:44 → 00:04:47 ฉี่ในแต่ละวันของเรามันอาจจะไม่เท่ากัน
00:04:47 → 00:04:50 เพราะฉะนั้นจะมีวิธีคำนวณง่ายๆ ดังนี้
00:04:52 → 00:04:56 สำหรับวิธีการคำนวณฉี่ของเราในแต่ละวัน
00:04:56 → 00:05:03 ว่าได้เท่าไหร่ก็คือการฉี่ทั้งหมด 7 วันเลย
00:05:03 → 00:05:06 สมมุติว่าวันนี้เราฉี่เราก็ตวงเอานะ
00:05:06 → 00:05:10 คือเราต้องตวง อาจจะต้องมีหาแบบเขาเรียกว่า
00:05:10 → 00:05:12 ถ้าเป็นผู้ชายก็อาจจะเป็นคอมฟอร์ทร้อยมันก็ตวงได้เนอะ
00:05:12 → 00:05:14 ฉี่วันหนึ่งก็เก็บดูว่าวันหนึ่งเราฉี่ได้เท่าไหร่
00:05:14 → 00:05:17 ผู้หญิงก็อาจจะหาอุปกรณ์แล้วก็มาเทชั่งตวง
00:05:17 → 00:05:19 คือไม่ต้องทำทุกวันนะ คือทำแค่รอบเดียว
00:05:19 → 00:05:21 คือหมายความว่าทำอย่างเงี้ย 7 วัน
00:05:21 → 00:05:25 แล้วก็รวมกัน 7 วัน แล้วเอามาหาร 7
00:05:25 → 00:05:28 ดูว่าเฉลี่ยวันละเท่าไหร่คือเราดูค่าเฉลี่ยเอาแล้วกัน
00:05:28 → 00:05:30 ไม่ใช่แบบมานั่งตัวเลขเป๊ะๆ มันก็ไม่ไหว
00:05:30 → 00:05:33 ก็เฉลี่ยว่า 7 วันเท่าไหร่ ถ้าเฉลี่ยออกมาสมมุติว่า
00:05:33 → 00:05:36 เฉลี่ย 7 วัน ออกมาเหลือวันละ 1,000 cc
00:05:36 → 00:05:38 คือฉี่ออกมาวันละ 1,000 cc ท่านก็บวกไปเลย 500
00:05:38 → 00:05:41 ท่านก็กินน้ำได้วันละ 1.5 ลิตร
00:05:41 → 00:05:46 ซึ่งจะต้องมีข้อควรระวังหลายข้อมากๆ เลย
00:05:46 → 00:05:49 เพราะว่ามักจะพลาดกันไป
00:05:49 → 00:05:55 1. ระวังอาหารที่มีน้ำผสมอยู่
00:05:55 → 00:05:58 เช่น แกงจงแกงจืด
00:05:58 → 00:06:01 หรือซุป น้ำมันมีอยู่เยอะ อันนี้มันต้องนับด้วย
00:06:01 → 00:06:04 เพราะฉะนั้นค่าเฉลี่ยที่ผมจะให้จริงๆ สมมุติว่า
00:06:05 → 00:06:09 ในอาหาร 1 มื้อ น้ำประมาณ 100 cc
00:06:09 → 00:06:12 แปลว่าถ้าท่านคำนวณออกมาได้ว่า
00:06:12 → 00:06:15 ท่านสามารถดื่มน้ำได้วันละ 1,500 cc
00:06:15 → 00:06:19 ท่านก็ลบไป 300 ท่านก็กินน้ำได้วันละ 1,200 cc
00:06:20 → 00:06:23 คิดง่ายๆ ไม่ต้องไปนั่งตวงอะไรมากมายเวียนหัว
00:06:23 → 00:06:25 แล้วก็สิ่งที่สำคัญคือท่านควรจะต้องมี
00:06:25 → 00:06:27 เขาเรียกว่าขวดน้ำประจำตัว
00:06:27 → 00:06:32 คือมันก็เป็นขวดแบบ เช่น ไปซื้อขวดแบบสิงห์ น้ำเนสท์เล่
00:06:32 → 00:06:35 แล้วแต่ยี่ห้อมันก็มีขวดแล้วมันก็จะมีเขียน cc เอาไว้ใช่ไหม
00:06:35 → 00:06:39 ท่านก็พกขวดนั้นเป็นประจำตัว ถ้าท่านกินได้วันละ 1,200 cc
00:06:39 → 00:06:42 ท่านก็ไปซื้อขวด 600 cc มา 2 ขวด
00:06:42 → 00:06:45 ก็กินได้เท่าเนี้ย 2 ขวด มันก็เป๊ะๆ ไงชัดเจน
00:06:45 → 00:06:48 ไม่มากไปไม่น้อยไป พอดีๆ
00:06:48 → 00:06:51 อย่าลืม น้ำแกงก็นับ น้ำข้าวต้มก็นับ
00:06:51 → 00:06:53 น้ำแข็งก็นับ น้ำผลไม้ก็นับ
00:06:53 → 00:06:56 ไม่ใช่แบบน้ำผลไม้ มันเป็นผลไม้นี่หว่ามันไม่นับ
00:06:56 → 00:06:58 นับหมดอะไรที่เป็นน้ำ
00:06:58 → 00:07:01 กินแล้วมันไหลลื่นลงคอก็นับหมด
00:07:01 → 00:07:05 เพราะว่าดูเล็กน้อยทีละนิดรวมกันมันก็เยอะ
00:07:06 → 00:07:10 แล้วก็อีกอันหนึ่งถ้าท่านรู้สึกว่าท่านกินน้ำเยอะเกินไป
00:07:10 → 00:07:14 บางทีต้องมาดูที่อาหารเพราะว่าอาหารไทยมันค่อนข้างรสจัด
00:07:14 → 00:07:18 ถ้ารสจัดมากๆ เช่น เค็มมากๆ เผ็ดมากๆ
00:07:18 → 00:07:19 มันกระตุ้นให้ท่านทานน้ำเยอะ
00:07:19 → 00:07:24 เพราะฉะนั้นถ้าท่านจำเป็นที่ต้องจำกัดน้ำ
00:07:24 → 00:07:27 ก็จะต้องกินอาหารที่รสจัดน้อยลง
00:07:27 → 00:07:29 แล้วมันก็จะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยโรคไตด้วยนะ
00:07:29 → 00:07:32 เพราะว่ายิ่งกินเค็มไตมันก็ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ
00:07:32 → 00:07:34 เราก็กินเค็มให้น้อยลง สักพักเรามันก็จะชิน
00:07:34 → 00:07:36 คือไม่อร่อยแต่มีชีวิตรอดไม่ต้องฟอกไต
00:07:36 → 00:07:39 ผมว่ามันก็โอเคและบางทีมันก็ต้องแลกกันนิดนึง
00:07:39 → 00:07:42 มันจะมาอร่อยและสุขภาพดีตลอดมันเป็นไปไม่ได้
00:07:42 → 00:07:46 ก็ต้องเขาเรียกว่าดูแลตัวเองนิดนึง
00:07:46 → 00:07:50 ยากลำบากตรงคุมอาหารแต่ไม่ต้องยากลำบากไปฟอกไตนะ
00:07:50 → 00:07:51 อันนี้สำคัญ
00:07:51 → 00:07:54 คราวนี้มาดู เมื่อกี้กลุ่มแรกก็แค่กลุ่มน้ำ
00:07:54 → 00:07:56 ใช้เวลาไปหลายนาทีแล้วนะ
00:07:56 → 00:07:59 แต่ผมว่าทุกคนที่นั่งฟังมาถึงจุดนี้
00:07:59 → 00:08:02 เขาเรียกว่าน่าจะได้ประโยชน์แล้วก็อย่าลืม
00:08:02 → 00:08:05 ฟังมาตั้งนานแล้วนะ อย่าลืมกด Like กด Share
00:08:05 → 00:08:07 กด Subscribe แล้วก็กดกระดิ่ง
00:08:07 → 00:08:09 ไม่ได้พูดตอนแรกลืม
00:08:10 → 00:08:11 อย่าลืม แชร์ไปให้เพื่อนๆ ด้วย
00:08:11 → 00:08:13 ถ้าฟังมาถึงจุดนี้แล้ว
00:08:13 → 00:08:17 คราวนี้อาหารกลุ่มที่ 2 ที่ต้องรู้จักดีเลย
00:08:17 → 00:08:19 โดยเฉพาะผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะท้ายๆ
00:08:19 → 00:08:22 ก็คือกลุ่มอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง
00:08:22 → 00:08:23 เพราะว่าผู้ป่วยไตวาย
00:08:23 → 00:08:26 มักจะขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายไม่ค่อยได้
00:08:26 → 00:08:30 แล้วอีตัวโพแทสเซียมที่สูงมันสามารถทำให้ท่านตายได้เลย
00:08:30 → 00:08:32 เพราะไร เพราะว่าโพแทสเซียมที่สูง
00:08:32 → 00:08:34 สามารถทำให้หัวใจเราเต้นผิดจังหวะ
00:08:34 → 00:08:37 บางคนมาด้วยหัวใจเต้นผิดจังหวะปุ๊บเสียชีวิตเลย
00:08:37 → 00:08:42 โอ้โห อันนี้หนักเลย เพราะฉะนั้นอันตรายมาก
00:08:42 → 00:08:45 คือผู้ป่วยไตวายระยะ 4-5
00:08:45 → 00:08:48 ผมบอกเลยมากกว่า 90% ต้องคุมโพแทสเซียม
00:08:48 → 00:08:52 แล้วผู้ใดที่ตรวจแล้วผลเลือดมีโพแทสเซียมสูงมากกว่า 5.2
00:08:53 → 00:08:55 คือสูงมากกว่า 5 ให้ถือว่าสูงแล้ว
00:08:55 → 00:08:57 ต้องคุมอาหารที่มีโพสแทสเซียมเยอะๆ เลย
00:08:57 → 00:09:00 คราวนี้อาหารอะไรที่มีโพแทสเซียมเยอะมาดู
00:09:00 → 00:09:05 คือผัก ผักที่มีสีเขียวเข้มปี๋ๆ เลยโพแทสเซียมเยอะมาก
00:09:05 → 00:09:07 เพราะฉะนั้นแนะนำให้กินผักสีอ่อนมากกว่าผักสีเข้ม
00:09:07 → 00:09:10 แต่ถ้าท่านอยากกินผักสีเข้มจริงๆ มีวิธีแนะนำ
00:09:10 → 00:09:13 ท่านต้องสับมันหรือตัดให้มันเป็นชิ้นเล็กลูกเต๋า
00:09:13 → 00:09:14 เสร็จแล้วเอาไปต้มน้ำ
00:09:14 → 00:09:17 โพแทสเซียมจะออกไปแล้วท่านก็เชิญกินตามสบาย
00:09:17 → 00:09:20 แต่กินแต่ผักน้ำต้มห้ามกิน เพราะโพแทสเซียมอยู่ในน้ำต้ม
00:09:20 → 00:09:23 โอ้โห ซดเข้าไปโพแทสเซียมกระฉูด
00:09:23 → 00:09:24 ต่อมาก็ผลไม้
00:09:24 → 00:09:28 ผลไม้ก็แบ่งเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงกับต่ำ
00:09:28 → 00:09:31 ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงผมก็ยกตัวอย่างง่ายๆ แล้วกัน
00:09:31 → 00:09:34 เช่น กล้วย ทุเรียนหนักเลย
00:09:34 → 00:09:36 มะพร้าว ลำไย ส้ม อันนี้ก็ไม่ค่อยแนะนำ
00:09:36 → 00:09:39 ถ้าแนะนำก็กินผลไม้ที่มีโพแทสเซียมต่ำ
00:09:39 → 00:09:42 เช่น แอปเปิ้ล แตงโม องุ่น สับปะรด
00:09:44 → 00:09:46 มาต่อกันที่กลุ่มที่ 3
00:09:46 → 00:09:49 อาหารที่อาจจะทำให้ท่านโดนฟอกไตได้โดยไม่รู้ตัว
00:09:49 → 00:09:52 ก็คืออาหารกลุ่มโปรตีนนั่นเอง
00:09:53 → 00:09:56 อาหารกลุ่มโปรตีนโดยเฉพาะผู้ที่ป่วยที่มี
00:09:56 → 00:09:59 เขาเรียกว่าอยู่ในไตเรื้อรังระยะที่ 4-5
00:09:59 → 00:10:02 เป็นอะไรที่ต้องควยคุมแบบจี๊ดๆ เลยมากๆ
00:10:02 → 00:10:05 แต่สำหรับคนปกติก็เชิญทานตามสะดวก
00:10:05 → 00:10:08 แล้วแต่ท่านชอบ แต่ว่าก็ระวังเรื่องความอ้วน
00:10:08 → 00:10:11 การกินอาหารที่มีโปรตีนมากไป บางทีมันเหน็บไขมันเราด้วย
00:10:11 → 00:10:15 เช่น เนื้อย่างติดมันอย่างเงี้ย
00:10:15 → 00:10:18 มันโปรตีนสักครึ่งหนึ่ง ไขมันสักครึ่งหนึ่งกินไปมันก็อ้วน
00:10:18 → 00:10:22 ไก่ย่างแต่ว่ามีหนังอย่างเงี้ยเยอะๆ มันก็อ้วนได้
00:10:22 → 00:10:25 หรือว่าไก่ทอด KFC งี้นะ โอ้โห มันก็แบบ
00:10:26 → 00:10:29 เขาเรียกมันอร่อยไงแต่ว่ามันก็มันเยอะนิดนึง
00:10:29 → 00:10:30 มันก็ต้องระมัดระวัง
00:10:30 → 00:10:34 คราวนี้สำหรับผู้ป่วยไตระยะที่ 4-5
00:10:34 → 00:10:36 ต้องบอกเลยว่าต้องคุมโปรตีนสูงมาก
00:10:36 → 00:10:39 เพราะว่าไตของท่านไม่สามารถขับโปรตีนออกมาได้
00:10:39 → 00:10:41 โปรตีนที่เรากินไปมันเสริมสร้างร่างกายนะ
00:10:41 → 00:10:44 แต่ถ้ามันคั่งอยู่ในร่างกายมันจะเป็นพิษ
00:10:44 → 00:10:47 ทำให้เราเสียชีวิตได้เลยนะ เพราะว่าพิษไอ้ตัวโปรตีน
00:10:47 → 00:10:49 ที่มันคั่นอยู่ในร่างกายเราแหละ
00:10:49 → 00:10:51 เพราะฉะนั้นปริมาณโปรตีนที่แนะนำให้กิน
00:10:51 → 00:10:59 ก็คือ 0.5 กรัมต่อกิโลต่อวันนั่นเอง แปลเป็นไทย
00:10:59 → 00:11:02 ก็ต้องไปคำนวณตามน้ำหนักของท่าน แล้วก็ลองเอามาชั่งดู
00:11:02 → 00:11:07 ให้ประมาณแล้วกัน โปรตีนมื้อละประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
00:11:07 → 00:11:09 ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะที่ท่านจะทานได้
00:11:09 → 00:11:12 2 ช้อนโต๊ะ เช่น ไก่ 2 ช้อนโต๊ะ
00:11:12 → 00:11:16 ทั้งวันก็ 6 ช้อนโต๊ะ ก็กินได้น้อยหน่อยพูดตามตรง
00:11:16 → 00:11:19 แต่ว่าต้องอย่าลืมว่าถ้าท่านโปรตีนได้น้อย
00:11:19 → 00:11:21 ท่านอาจจะต้องทานอาหารอย่างอื่นเสริม
00:11:21 → 00:11:22 เช่น คาร์โบไฮเดรตหรือไขมัน
00:11:22 → 00:11:25 เพื่อให้ร่างกายของท่านมีแคลอรี่เพียงพอ
00:11:25 → 00:11:27 ไม่งั้นร่างกายได้รับแคลอรี่ไม่เพียงพอ
00:11:27 → 00:11:29 แต่ว่าจะได้โปรตีนมากเกินไปก็ไม่ได้อีก
00:11:29 → 00:11:31 โอ้โหชีวิตอยู่ยากเหมือนกัน
00:11:31 → 00:11:34 สำหรับระยะ 4 หรือระยะ 5
00:11:34 → 00:11:37 แต่ถ้าท่านไม่อยากฟอกไตมันจำเป็นที่จะต้องควบคุม
00:11:37 → 00:11:39 ก็โปรตีนแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ
00:11:39 → 00:11:43 ก็เป็นกลุ่มเนื้อสัตว์ ไข่
00:11:43 → 00:11:47 แล้วก็กลุ่มที่ 2 ก็เป็นกลุ่มถั่วและธัญพืช
00:11:47 → 00:11:49 ในกลุ่มที่เป็นเนื้อสัตว์แล้วก็ไข่
00:11:49 → 00:11:54 คือสำหรับเนื้อสัตว์ผมก็แนะนำว่าถ้าทานได้ก็จะดี
00:11:54 → 00:11:56 เพราะว่ามีกรดอะมิโนครบถ้วนเลย
00:11:56 → 00:11:58 แต่ว่าไม่แนะนำพวกเนื้อสัตว์แปลรูป
00:11:58 → 00:12:01 พวกแฮม พวกไส้กรอกไม่ค่อยแนะนำ
00:12:01 → 00:12:04 หรือว่าพวกฟรีซพวกอะไรเงี้ยมันมีโซเดียมสูง
00:12:04 → 00:12:08 คือมันบางจำเป็นต้องกินก็กินเนอะ
00:12:08 → 00:12:11 แต่ว่าถ้าเกิดไม่จำเป็นหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงแล้วกัน
00:12:11 → 00:12:16 เนื้อสัตว์จะเป็นโปรตีนชั้นดี แล้วก็แนะนำให้กิน
00:12:16 → 00:12:19 เช่น พวกอกไก่หรือว่าพวกปลา
00:12:19 → 00:12:22 พวกกุ้ง พวกปลาหมึกก็ยังพอทานได้
00:12:22 → 00:12:24 คอเลสเตอรอลนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร
00:12:24 → 00:12:26 ก็ทานได้แล้วทานไม่ได้เยอะ
00:12:26 → 00:12:28 ก็ทานได้ แต่ว่าพวกเนื้อติดมัน
00:12:28 → 00:12:31 หรืออะไรที่ติดมันก็ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่
00:12:31 → 00:12:33 ไข่ขาวก็เป็นโปรตีนที่ดีพอสมควร
00:12:33 → 00:12:35 แต่กินบ่อยๆ มันก็เบื่อใช่ป๊ะ
00:12:35 → 00:12:38 เออมันจืด ก็กินสลับกันไปได้
00:12:38 → 00:12:42 ไม่ใช่ว่าไข่ขาวคือสุดยอดอะไรงี้ก็กินได้หมด
00:12:42 → 00:12:45 คราวนี้มาที่ถั่วและธัญพืช
00:12:45 → 00:12:47 คือถั่วและธัญพืชก็ต้องบอกว่า
00:12:47 → 00:12:50 คือก็กินได้นิดหน่อย แต่ว่าไม่ค่อยแนะนำพูดตามตรง
00:12:50 → 00:12:53 เพราะไร เพราะว่าในถั่วและธัญพืชมันมีข้อเสีย
00:12:53 → 00:12:54 เพราะว่ามันมีฟอสฟอรัสอยู่สูง
00:12:54 → 00:12:57 แล้วคนไข้โรคไตมันขับฟอสฟอรัสไม่ออกไง
00:12:57 → 00:13:02 ฟอสฟอรัสมันก็คั่งในร่างกายมันจะคันไปทั้งแบบ
00:13:02 → 00:13:04 กินยาแก้คันก็ไม่หาย เกาทั้งวันอะ
00:13:04 → 00:13:06 เกาจนเป็นแผลถลอกทั้งตัว
00:13:06 → 00:13:10 เพราะฉะนั้นเรื่องของฟอสฟอรัสต้องระมัดระวังมากๆ เลย
00:13:10 → 00:13:13 สำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะ 4-5
00:13:13 → 00:13:18 เพราะฉะนั้นถ้าให้แนะนำก็แนะนำเนื้อสัตว์มากกว่าธัญพืช
00:13:19 → 00:13:24 ก็สำหรับ 3 กลุ่มที่อาจจะทำให้ท่านต้องฟอกไตได้โดยไม่รู้ตัว
00:13:24 → 00:13:28 โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ในไตวายเรื้อรังระยะ 4-5
00:13:28 → 00:13:29 3 กลุ่ม ขอเน้นย้ำอีกครั้ง
00:13:29 → 00:13:34 1. กลุ่มน้ำดื่มที่จะต้องไม่เกินวันละ 500 cc ต่อวัน
00:13:34 → 00:13:36 บวกกับปริมาณที่ท่านปัสสาวะ
00:13:36 → 00:13:41 2. อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงหรือผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง
00:13:41 → 00:13:44 ไม่แนะนำโดยเฉพาะผักสีเขียวเค้มมากๆ
00:13:44 → 00:13:47 หรือว่าผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงมากๆ
00:13:47 → 00:13:51 เช่น ทุเรียน กล้วย ส้มอะไรอย่างเงี้ย
00:13:51 → 00:13:53 แต่ว่าถ้าเกิด....
00:13:53 → 00:13:56 มันก็ยังมีอีกหลายอาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำ
00:13:56 → 00:13:58 ซึ่งสามารถกดดูในกูเกิ้ลได้เลย
00:13:58 → 00:13:59 กดไปเลยว่าอาหารโพแทสเซียมต่ำ
00:13:59 → 00:14:02 อาหารโพแทสเซียมสูงเขียนภาษาไทยเลย
00:14:02 → 00:14:04 ก็จะพบเจอท่านก็ลิสต์เอาไว้
00:14:04 → 00:14:06 ว่าท่านกินอะไรได้กินอะไรม่ได้มันมีเยอะมากอะ
00:14:06 → 00:14:08 พูดไม่หมด
00:14:08 → 00:14:12 3. กลุ่มโปรตีนก็ต้องกินให้พอเหมาะพอดี
00:14:12 → 00:14:15 ก็อย่างที่บอกมื้อหนึ่งก็ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
00:14:15 → 00:14:18 สำหรับท่านไตระยะที่ 4-5 ก็กินได้ประมาณเท่านั้นเอง
00:14:18 → 00:14:21 แล้วก็แนะนำเนื้อสัตว์มากกว่าธัญพืช
00:14:21 → 00:14:24 ก็ขอให้ทุกท่านสุขภาพดีขึ้นทุกคน
00:14:24 → 00:14:26 แล้วอย่าลืมกด Like กด Share สวัสดีครับ