00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีคุณผู้ชม Top tut ทุกคนนะครับตอน
00:00:02 → 00:00:06 นี้เราเดินทางมาถึง ep 100 แล้ว
00:00:06 → 00:00:08 เย้ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันแล้วก็ติดตาม
00:00:09 → 00:00:11 สนับสนุนมาตลอดนะครับมีหลายคนเลยที่
00:00:11 → 00:00:14 donate แล้วก็ส่งหัวใจกด Thanks มาให้
00:00:14 → 00:00:17 ขอบคุณมากๆนะครับแล้วก็ขอบคุณที่หลายๆคน
00:00:17 → 00:00:21 แนะนำให้ฟีดแบคกับทีมงานว่าเอ้อยากให้เรา
00:00:21 → 00:00:24 ปรับปรุงยังไงหรือว่ามีประเด็นอะไรที่รู้
00:00:24 → 00:00:26 สึกว่าอยากให้ทำแล้วก็เป็นประโยชน์กับทุก
00:00:26 → 00:00:28 คนนะครับเราต้องการฟีดแบคเหล่านั้นมากเลย
00:00:29 → 00:00:31 นะครับจะได้ทำรายการให้ตอบโจทย์ทุกคนมาก
00:00:31 → 00:00:34 ขึ้นเพื่อให้เราทุกคนสุขภาพดีไปพร้อมๆกัน
00:00:34 → 00:00:35 นะครับอย่างที่บอกว่า Top to เนี่ยเกิด
00:00:36 → 00:00:40 ขึ้นมาเพื่อที่อยากจะแชร์ทิปแล้วก็แฮก
00:00:40 → 00:00:42 ต่างๆที่ทำให้ร่างกายเราเนี่ยมีสุขภาพดี
00:00:42 → 00:00:45 เพราะฉะนั้นฟังแล้วอย่าเอาแต่ทฤษฎีไปเอา
00:00:45 → 00:00:47 ไปปฏิบัติด้วยนะครับนั่นคือสิ่งที่เรา
00:00:47 → 00:00:50 อยากจะเห็นทุกคนเนี่ยเอาไปลงมือทำจริงๆ
00:00:50 → 00:00:53 แล้วก็จะได้มีสุขภาพที่ดีไปพร้อมๆกัน Ep
00:00:53 → 00:00:56 ที่ 100 ก็ค่อนข้างจะพิเศษนิดนึงเราก็
00:00:56 → 00:00:59 พยายามจะคิดว่าจะทำตอนอะไรดีผมก็ไปนั่งดู
00:00:59 → 00:01:02 ครับครับ 99 Ep ที่ผ่านมาเนี่ยมันมีอยู่
00:01:02 → 00:01:06 ประเด็นนึงที่เราเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาไม่ได้
00:01:06 → 00:01:09 เริ่มทำแบบจริงๆจังๆทั้งทีทั้งๆที่มัน
00:01:09 → 00:01:13 เป็นทอิที่เชื่อว่าหลายๆคนเนี่ยสนใจเพราะ
00:01:13 → 00:01:15 มันเกี่ยวข้องแล้วก็เป็นความเป็นความตาย
00:01:15 → 00:01:18 ของทุกคนเลยนั่นคือโรคมะเร็งนะครับเพราะ
00:01:18 → 00:01:20 ฉะนั้นเราจะใช้โอกาส ep 100 นี่แหละเป็น
00:01:20 → 00:01:23 celebrate เป็นการ Kick Off Series
00:01:23 → 00:01:26 ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งแล้วกันนะครับแล้ว
00:01:26 → 00:01:28 ตอนนี้เนี่ยเราจะมาพูดถึงต้นเหตุเรียกว่า
00:01:28 → 00:01:31 เป็นต้นเหตุเลยที่ทำให้เกิดมะเร็งนั่นคือ
00:01:31 → 00:01:35 จีนกลุ่มที่เรียกว่าโคจีนหรือว่ายีนก่อ
00:01:35 → 00:01:38 มะเร็งครับไปดูซิว่าไอ้เจ้าอโคจีนเนี่ย
00:01:38 → 00:01:41 อยู่ๆมันทำงานขึ้นมาได้ยังไงแล้วเราจะมี
00:01:41 → 00:01:44 วิธีให้มันทำงานน้อยลงหรือว่าห้ามปราม
00:01:44 → 00:01:46 หรือหยุดให้มันทำงานได้ยังไงเพราะถ้าเรา
00:01:46 → 00:01:49 จัดการกับมันได้เนี่ยเราก็จะไม่เป็น
00:01:49 → 00:01:51 มะเร็งตั้งแต่เริ่มต้นนะครับเดี๋ยวเราไป
00:01:51 → 00:01:53 ดูกันเลยฮะ This is the Standard
00:01:53 → 00:01:57 podcast Eye Opening for your
00:01:57 → 00:02:01 ears Top to Toe podcast สุขภาพที่
00:02:01 → 00:02:05 ใช้วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด
00:02:05 → 00:02:08 เท้าก่อนอื่นพูดถึงมะเร็งเนี่ยผมอยากจะ
00:02:08 → 00:02:10 ค่อยๆปูพื้นก่อนหลายๆคนเนี่ยอาจจะได้ยิน
00:02:10 → 00:02:14 คำว่า tumor ทูเอกับแคนเซอร์เนี่ยมันใกล้
00:02:14 → 00:02:17 เคียงกันแต่มันไม่เหมือนกันนะครับทูเอคือ
00:02:17 → 00:02:19 เนื้องอกเมื่อไหร่ก็ตามที่มันมีเซลล์ที่
00:02:19 → 00:02:21 เพิ่มจำนวนเยอะมากเกินไปมันอาจจะกลายเป็น
00:02:21 → 00:02:24 เนื้องอกแต่เนื้องอกทุกอันเนี่ยไม่ได้
00:02:24 → 00:02:27 ร้ายทั้งหมดมันจะมีเนื้องอกที่ไม่ได้เป็น
00:02:27 → 00:02:30 อันตรายกับร่างกายเราเรียกมันว่าบายหรือ
00:02:30 → 00:02:32 ว่าไม่ได้ Active นะครับคือไม่เป็น non
00:02:32 → 00:02:35 cancerous tumor เนื้องอกพวกนี้ครับต่อ
00:02:35 → 00:02:37 ให้มันจะเป็นเซลล์ที่เพิ่มจำนวนขึ้นมา
00:02:37 → 00:02:39 เยอะเกินเป็นก้อนหรืออะไรก็ตามเนี่ยความ
00:02:39 → 00:02:41 แตกต่างคือตัวมันเนี่ยมันจะอยู่กับที่มัน
00:02:41 → 00:02:43 จะไม่กระจายไปยังจุดอื่นๆแล้วก็ลามนะครับ
00:02:43 → 00:02:46 ตรงกันข้ามถ้าเกิดว่าเนื้องอกอีกกลุ่มนึง
00:02:46 → 00:02:49 เป็น cancerous tumor คือนอกจากมันจะ
00:02:49 → 00:02:51 เคลื่อนที่กระจายไปตามจุดต่างๆแล้วเนี่ย
00:02:51 → 00:02:54 มันก็ไปทำให้เกิดเนื้องอกจุดใหม่ตามทั่ว
00:02:54 → 00:02:56 ร่างกายไปเรื่อยแล้วก็ทำให้อวัยวะแต่ละ
00:02:56 → 00:02:59 จุดเนี่ยมันค่อยๆเสื่อมแล้วก็ทำงานได้ไม่
00:02:59 → 00:03:01 มีประสประสิทธิภาพอันนั้นเ่ะถึงจะเรียก
00:03:01 → 00:03:04 ว่ามะเร็งนะครับทีนี้มะเร็งเนี่ยหลายๆคน
00:03:04 → 00:03:07 อาจจะไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันเกิดจากการแค่
00:03:07 → 00:03:09 เพียงเซลล์เซลล์เดียวในร่างกายของเรานะ
00:03:09 → 00:03:11 ครับที่มันทำงานผิดเพี้ยนไปเท่านั้นใน
00:03:11 → 00:03:15 ร่างกายเรามีอยู่เป็นหลายสิบล้านล้าน
00:03:15 → 00:03:17 เซลล์เลยนะครับซึ่งถ้าทุกเซลล์เนี่ยทำงาน
00:03:17 → 00:03:19 ได้ปกติแล้วล่ะก็เนี่ยเราก็จะไม่เป็น
00:03:19 → 00:03:21 มะเร็งแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเพียงแค่
00:03:21 → 00:03:25 เซลล์เดียวที่มันเพี้ยนขึ้นมามันเกิดแบ่ง
00:03:25 → 00:03:28 ตัวเยอะขึ้นเยอะขึ้นแบบไม่หยุดในขณะที่
00:03:28 → 00:03:30 โดยปกติทั่วไปแล้วเวลาเราตบขึ้นมาเนี่ย
00:03:30 → 00:03:32 เซลล์ผู้ใหญ่เนี่ยมันจะไม่ค่อยแบ่งตัว
00:03:32 → 00:03:36 หรอกนานๆมันจะแบ่งตัวทีเมื่อมันเกิดแพล
00:03:36 → 00:03:39 แล้วมันจำเป็นต้องมีการซ่อมแซมนะครับแต่
00:03:39 → 00:03:41 ถ้ามีเซลล์ที่มันเพี้ยนแล้วมันก็แบ่ง
00:03:41 → 00:03:44 เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นแบบหยุดไม่อยู่อะไรก็
00:03:44 → 00:03:46 ห้ามไม่อยู่เนี่ยอันนั้นแหละถึงจะเกิด
00:03:46 → 00:03:48 เป็นมะเร็งนะครับแล้วทำไมมันถึงแบ่งตัว
00:03:48 → 00:03:52 ล่ะมันแบ่งตัวเพราะว่ามันเกิดจีน Mutation
00:03:52 → 00:03:55 ในเซลล์ๆลนั้นเซลล์ทุกเซลล์นะครับมันจะมี
00:03:55 → 00:03:58 DNA ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้ DNA เนี่ย
00:03:58 → 00:04:01 มันคือคู่มือในการทำงานของเซลล์ทุกเซลล์
00:04:01 → 00:04:04 ในร่างกาย 10 ล้านล้านเซลล์เนี่ยมันมี DNA
00:04:04 → 00:04:07 เหมือนกันเลยมีคู่มือเล่มเดียวกันทีนี้
00:04:07 → 00:04:09 ตอนที่เราเป็นเด็กเนี่ยคู่มือเนี่ยมันก็
00:04:09 → 00:04:11 เป็นคู่มือที่สมบูรณ์สามารถที่จะอ่านแล้ว
00:04:11 → 00:04:14 ก็ทำความเข้าใจ Follow ตามสต็ป ST ได้
00:04:14 → 00:04:16 เวลาจะทำงานอะไรนะครับแต่เมื่อไหร่ก็ตาม
00:04:16 → 00:04:19 ที่เราแกะขึ้นแกะขึ้นเซลล์มีการแบ่งตัว
00:04:19 → 00:04:21 ทุกครั้งที่เซลล์มีการแบ่งตัวเนี่ยไอ้
00:04:21 → 00:04:24 เจ้าคู่มือเล่มเนี้ยมันก็จะถูก ocy หรือ
00:04:24 → 00:04:27 ว่าถ่ายเอกสารตามไปด้วยไปอยู่กับเซลล์
00:04:27 → 00:04:29 ใหม่ด้วยแล้วทุกครั้งที่มันมีการถ่าย
00:04:29 → 00:04:31 เอกสารสาเนี่ยนะครับบางทีมันเกิดข้อผิด
00:04:31 → 00:04:35 พลาดเช่นหน้าเกินหน้าขาดบางทีตัวหนังสือ
00:04:35 → 00:04:37 เรือนหลายๆครั้งเนี่ยความผิดพลาดที่มัน
00:04:37 → 00:04:39 เกิดขึ้นเนี่ยมันไม่ได้เกิดผลร้ายกับร่าง
00:04:39 → 00:04:42 กายยกตัวอย่างเช่นถ้าเกิดว่าตอนเด็กๆ
00:04:42 → 00:04:45 เนี่ยผมสามารถที่จะดื่มนมวัวได้เพราะว่า
00:04:45 → 00:04:47 จีนที่ทำหน้าที่ในการสร้างเอนไซม์ที่จะ
00:04:47 → 00:04:49 ย่อยแลคโตสที่อยู่ในนมเนี่ยนะครับมันทำ
00:04:49 → 00:04:52 งานได้ปกติแต่วันนึงจีนเนี้ยของผมเนี่ย
00:04:52 → 00:04:55 มันเกิด Mutation ขึ้นมาผมไม่สามารถจะ
00:04:55 → 00:04:58 สร้างเอนไซม์ที่จะย่อยแลคโตสที่อยู่ในนม
00:04:58 → 00:05:01 วัวได้อีกต่อไปผมก็ไม่สามารถจะกินนมวัว
00:05:01 → 00:05:04 ได้ถามว่ามันร้ายแรงถึงขั้นเป็นอันตราย
00:05:04 → 00:05:07 กับชีวิตมยอาจจะไม่นะครับเพราะฉะนั้นจริง
00:05:07 → 00:05:09 ๆแล้วเนี่ยตลอดเวลาที่เราใช้ชีวิตเนี่ย
00:05:09 → 00:05:12 จีนทั้ง 20,000 จีนของเราเนี่ยนะครับมัน
00:05:12 → 00:05:15 เกิด Mutation ตลอดเวลาเลยแต่หลายๆครั้ง
00:05:15 → 00:05:17 เนี่ยจีนนั้นเนี่ยต่อให้เกิด Mutation
00:05:17 → 00:05:19 แล้วเนี่ยมันก็ไม่เกิดอันตรายกับร่างกาย
00:05:19 → 00:05:22 ร่างกายยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติเพราะจีนๆ
00:05:22 → 00:05:25 นั้นเนี่ยมันไม่ได้ tical ที่จะทำให้เกิด
00:05:25 → 00:05:28 มะเร็งนั่นเองนั่นก็เท่ากับว่ามันจะมีแค่
00:05:28 → 00:05:31 จีนกลุ่มนึงที่เมื่อไหร่ก็ตามเกิด
00:05:31 → 00:05:34 Mutation แล้วล่ะก็มันจะนำไปสู่โรค
00:05:34 → 00:05:36 มะเร็งครับนักวิทยศาสตร์เนี่ยเคก็มีการ
00:05:36 → 00:05:39 ศึกษากันแล้วนะว่าในจากทั้งหมด 20,000
00:05:39 → 00:05:42 จีนเนี่ยไอ้จีนกลุ่มไหนบ้างล่ะที่เมื่อ
00:05:42 → 00:05:45 ไหร่ก็ตามที่มันเกิด Mutation เกิดผิด
00:05:45 → 00:05:47 เพี้ยนไปแล้วเนี่ยมันจะนำพาไปสู่โรค
00:05:47 → 00:05:49 มะเร็งตอนนี้เขาเจอแล้วนะครับมีอยู่
00:05:49 → 00:05:51 ประมาณ
00:05:51 → 00:05:54 1,8 จีนันนี้ตัวเลขที่ผมไปค้นมาเลยนะ
00:05:54 → 00:05:56 ครับยังไม่รู้ว่าตัวเลขมีการอัปเดตแล้ว
00:05:56 → 00:05:58 หรือยังแต่ตอนเประมาณ 1,000 กว่าจีนจาก
00:05:58 → 00:06:01 20,000 ถ้าคิดเป็นประเนี่ยก็ประมาณ 5%
00:06:01 → 00:06:05 ในบรรดาจีนทั้งหมดถ้าเกิด Mutation ในจีน
00:06:05 → 00:06:08 กลุ่มเนี้ยไอ้ 5% เนี้ยเรามีสิทธิ์ที่จะ
00:06:08 → 00:06:11 เป็นมะเร็งครับและหนึ่งในนั้นเนี่ยก็คือ
00:06:11 → 00:06:14 โจีนก็คือจีนก่อมะเร็งนั่นเองนะครับ
00:06:14 → 00:06:18 เดี๋ยวผมจะค่อยๆเล่าให้ฟังว่าใน 1,000
00:06:18 → 00:06:21 กว่าจีนเนี่ยมันแบ่งเป็นกลุ่มไหนบ้างมี
00:06:21 → 00:06:24 ทั้งหมด 4 กลุ่มครับกลุ่มแรกเนี่ยมันเป็น
00:06:24 → 00:06:26 กลุ่มจีนที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการเติบ
00:06:26 → 00:06:30 โตการแบ่งเซลล์การเพิ่มจำนวนเซลลล์นะครับ
00:06:30 → 00:06:32 โดยปกติถ้าเกิดว่าจีนกลุ่มเนี้ยมันทำงาน
00:06:32 → 00:06:35 ได้ปกติไม่เกิด Mutation เนี่ยถ้าเกิดว่า
00:06:35 → 00:06:36 เป็นสเตมเซลล์เนี่ยไอ้เจ้าจีนกลุ่มเนี้ย
00:06:36 → 00:06:37 มันจะทำงานได้ดีอยู่แล้วเพราะว่า
00:06:38 → 00:06:40 สเตมเซลล์มีหน้าที่ในการเพิ่มจำนวนเมื่อ
00:06:40 → 00:06:42 ไหร่ก็ตาที่มีแผลร่างกายต้องการการซ่อม
00:06:42 → 00:06:45 แซมเนี่ยสเตมเซลล์ก็จะแบ่งเซลล์เพื่อไปทด
00:06:45 → 00:06:48 แทนนะครับแต่สำหรับเซลล์ผู้ใหญ่แล้วคือ
00:06:48 → 00:06:50 เซลล์ที่เติบโตจากสเตมเซลล์เรียบร้อยแล้ว
00:06:50 → 00:06:53 เนี่ยนะครับปกติมันจะไม่แบ่งตัวและจีน
00:06:53 → 00:06:56 กลุ่มเนี้ยมันจะไม่ค่อย Active มันจะอยู่
00:06:56 → 00:07:00 เฉยๆของมันนะครับเราเรียกมันว่า prot
00:07:00 → 00:07:03 อจนทำงานปกตินะครับแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่
00:07:03 → 00:07:08 ไอ้เจ้าจีนกลุ่มโจนเนี่ยมันได้รับการ
00:07:08 → 00:07:11 กระตุ้นบางอย่างมีอะไรมาทริกเกอร์มันแล้ว
00:07:11 → 00:07:14 ทำให้มันเปิดสวิตช์จากที่มันอยู่เฉยๆนิ่ง
00:07:14 → 00:07:17 ๆเงียบๆเนี่ยกลายเป็น Active ขึ้นมาจาก
00:07:17 → 00:07:19 เซลล์ที่ไม่แบ่งตัวกลายเป็นเซลล์นั้น
00:07:19 → 00:07:21 เนี่ยจะถูกสั่งให้มันแบ่งตัวแล้วก็เพิ่ม
00:07:21 → 00:07:24 จำนวนทั้งๆที่มันไม่ควรจะแบ่งตัวและเพิ่ม
00:07:24 → 00:07:27 จำนวนอันนั้นแหละมันจะสามารถกลายเป็น
00:07:27 → 00:07:32 มะเร็งได้นั่นเองนะครับเมื่อโจีนที่ถูก
00:07:32 → 00:07:34 ปลุกให้ตื่นหือถูกทำให้ Active เนี่ยแล้ว
00:07:34 → 00:07:36 กลายเป็นเซลล์ก่อมะเร็งเนี่ยมันจะถูก
00:07:36 → 00:07:40 เรียกว่าโจีนหรือว่ายีนก่อมะเร็งนั่นเอง
00:07:40 → 00:07:42 ตอนเนักวิศาสตร์เคพยายามเก็บข้อมูลว่าตอน
00:07:42 → 00:07:45 เนี้ยในร่างกายเรามันมีอคีนตัวไหนบ้างมี
00:07:45 → 00:07:48 ทั้งหมดกี่ตัวจากตัวเลขที่ผมได้มาเนี่ยมี
00:07:48 → 00:07:51 ประมาณ 400 กว่าโจีนแล้วนะครับซึ่งถ้า
00:07:51 → 00:07:54 เกิดว่าใน 400 กว่าจีนเนี้ยมันเกิด
00:07:54 → 00:07:56 Mutation เมื่อไหร่มันจะทำให้เซลล์เนี่ย
00:07:56 → 00:07:59 มันเพิ่มจำนวนแบบหยุดไม่อยู่แล้วสามารถจะ
00:07:59 → 00:08:01 เป็นมะเร็งได้นะครับถ้าเราอยากจะ
00:08:01 → 00:08:05 จินตนาการเนาะว่าเซลล์มันคือเหมือนกับรถ
00:08:05 → 00:08:07 ที่มันต้องแล่นเนี่ยโดยปกติรถนี่มันจะ
00:08:07 → 00:08:11 แล่นด้วยสปีดปกติถ้าจีนกลุ่มเนี้ยมัน
00:08:11 → 00:08:13 แอคทีมันก็เหมือนเราจะเหยียบคันเร่งครับ
00:08:13 → 00:08:16 ถ้าเกิดว่าโกจีมันถูก Activate หรือ
00:08:16 → 00:08:18 Active เนี่ยมันเหมือนกับคันเร่งที่ถูก
00:08:18 → 00:08:20 เหยียบแล้วมันค้างไว้แล้วมันเป็นคันเร่ง
00:08:20 → 00:08:23 จมด้วยก็จะกระตุ้นให้เซลล์เนี่ยแบ่งตัว
00:08:23 → 00:08:26 แบบหยุดไม่อยู่แล้วมันก็จะกลายเป็นมะเร็ง
00:08:26 → 00:08:29 นั่นเองนะครับนั่นคือกลุ่มแรกคือโจีนคือ
00:08:30 → 00:08:32 ยีนก่อมะเร็งทีนี้จริงๆแล้วร่างกายดีไซน์
00:08:32 → 00:08:34 จีนอีก 3 กลุ่มที่เป็นเหมือนกับระบบ
00:08:34 → 00:08:37 นิรภัยเป็น Safety 3 กลุ่มนี้มีอะไรบ้าง
00:08:37 → 00:08:41 กลุ่มแรกครับมันเรียกว่า DNA Repair
00:08:41 → 00:08:45 gans ก็คือเป็นจนที่ทำหน้าที่ในการซ่อม
00:08:45 → 00:08:48 DNA หรือง่ายๆคือการซ่อม Mutation ที่
00:08:48 → 00:08:51 เกิดขึ้นกับไอ้เจ้าจีนกลุ่ม unc gans
00:08:51 → 00:08:53 นั่นเองนะครับจริงเร่างกายเนี่ยมันจะมี
00:08:53 → 00:08:55 ระบบมอนิเตอร์อยู่แล้วมีทีมคอยส่องอยู่
00:08:55 → 00:08:57 แล้วว่าเอ๊ะตอนเนี้ย DNA ของเราเนี่ยมี
00:08:57 → 00:08:58 ตรงไหนที่มันผิดเพี้ยนไปบ้างแล้วเมื่อ
00:08:59 → 00:09:01 ไหร่ก็ตามที่มันตรวจตาเจอปึ๊บมันก็จะสั่ง
00:09:01 → 00:09:04 งานให้มีเจ้าหน้าที่เนี่ยเอาไปซ่อมแซม DNA
00:09:04 → 00:09:07 นั้นทันทีเพื่อให้ DNA ของเราเนี่ยมัน
00:09:07 → 00:09:10 ปกติคล้ายกับตอนที่เราเป็นเด็กน้อยให้มาก
00:09:10 → 00:09:12 ที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเนี่ยมัน
00:09:12 → 00:09:15 ทำงานผิดปกตินะครับแต่ถ้าเกิดว่ายิงกลุ่ม
00:09:15 → 00:09:18 เนี้ยมันเกิดผิดเพี้ยนไปคือมันทำงานได้
00:09:18 → 00:09:20 ไม่เต็มที่หรือตัวมันเองเกิด Mutation
00:09:20 → 00:09:24 เนี่ยนะครับแทนที่มันจะซ่อม DNA ของกลุ่ม
00:09:24 → 00:09:27 อังคจีนได้เนี่ยมันดันซ่อมไม่ได้หรือมัน
00:09:27 → 00:09:30 ก็ซ่อมได้แหละแต่เผอิญ Mutation ที่มัน
00:09:30 → 00:09:32 เกิดขึ้นเนี่ยมันเกิดขึ้นมาเยอะมากเกิด
00:09:32 → 00:09:35 การสะสมมากขึ้นมากขึ้นสะสมจากอะไรเกิดจาก
00:09:35 → 00:09:37 การที่เราได้รับสารกระตุ้นพวกคาซ inogen
00:09:37 → 00:09:40 หรือว่าใช้ร่างกายแบบไม่ Healthy เลยแบบ
00:09:40 → 00:09:42 ดูแลร่างกายไม่ดีเลยนะครับทำให้ Mutation
00:09:42 → 00:09:46 เเกิดขึ้นเยอะมากจนไอ้ยีนกลุ่มเนี้ยมันทำ
00:09:46 → 00:09:50 งานสู้ต้านทานในอคีนไม่ไหวสุดท้ายโจน
00:09:50 → 00:09:52 เนี่ยก็จะ Active ขึ้นมานะครับนั่นคือ
00:09:52 → 00:09:55 กลุ่มที่เรียกว่า DNA Repair Gen จีน
00:09:56 → 00:09:57 อีกกลุ่มนึงที่เกี่ยวข้องกับการเกิด
00:09:57 → 00:09:59 มะเร็งคือ tumor suppressor gans ถ้า
00:09:59 → 00:10:02 unc gans เปรียบเหมือนกับคันเร่ง tumor
00:10:02 → 00:10:05 suppressor gans เปรียบเหมือนกับเบรก
00:10:05 → 00:10:08 ซึ่งไม่ใช่เบรกธรรมดาด้วยนะครับเรียกได้
00:10:08 → 00:10:10 ว่าเป็น Emergency Stop หรือเบรกมือเลย
00:10:10 → 00:10:12 นะฮะสมมุติว่าอคีเนี่ยมัน Active คือมัน
00:10:12 → 00:10:14 เหยียบคันเร่งแล้วคันเร่งจมมากเร่งให้
00:10:14 → 00:10:17 เซลล์เนี่ยมันโอแบ่งตัวอย่างรวดเร็วทั้ง
00:10:17 → 00:10:20 ที่ไม่ควรจะแบ่งตัวเนี่ยแต่เบรกมืออ่ะมัน
00:10:20 → 00:10:24 ทำงานดีคืออ๋อเธอ Active หรอแบ่งตัวหรอ
00:10:24 → 00:10:27 ฉันเกิดกดปุ่ม Emergency Stop เลยมันจะ
00:10:27 → 00:10:29 หยุดแบ่งตัวทันทีเซล์มาเรงนั้นเนี่ยก็จะ
00:10:30 → 00:10:32 ไม่ Active แล้วก็จะไม่เพิ่มจำนวนนะครับ
00:10:32 → 00:10:34 ถ้าจีนกลุ่ม tumor suppressor gans
00:10:34 → 00:10:36 เนี่ยทำงานได้ปกติไม่ผิดเพี้ยนไม่เกิด
00:10:36 → 00:10:39 Mutation เนี่ยมันก็สามารถจะเบรคเซลล์
00:10:39 → 00:10:42 มะเร็งได้แล้วก็ไม่ทำให้มะเร็งรามนะครับ
00:10:42 → 00:10:44 แต่ทีนี้จีนกลุ่มเยมันสามารถจะเกิด
00:10:44 → 00:10:46 Mutation ได้เช่นกันแล้วนักวิทยาศาสต์เค
00:10:46 → 00:10:48 ก็เจอแล้วว่าอ้อบางทีการที่เราเกิดมะเร็ง
00:10:49 → 00:10:52 เนี่ยไม่ใช่แค่ว่าโคจมันทำงานอย่างเดียว
00:10:52 → 00:10:54 นะไอ้เจ้าจีนที่ทำให้ที่ควรจะเป็นเบรกมือ
00:10:54 → 00:10:56 เนี่ยมันดันไม่ทำงานซะด้วยนะครับคือบาง
00:10:56 → 00:10:59 จีนเนี่ยมันหายไปมีจีนนึงที่แบบโด่งดัง
00:10:59 → 00:11:03 มากนะครับเขาเรียกว่าจีน p53 ส่วนเจะเจอ
00:11:03 → 00:11:05 ว่าเออคนที่เป็นมะเร็งเนี่ยเซลล์มะเร็ง
00:11:05 → 00:11:08 อ่ะมักจะมีจีน p53 ที่หยุดทำงานหรือหรือ
00:11:08 → 00:11:10 เกิด Mutation ทำงานได้ไม่ปกติเพราะ
00:11:10 → 00:11:12 ฉะนั้น Emergency Stop เนี่ยมันเลยทำงาน
00:11:12 → 00:11:15 ไม่ได้ oncogenes ก็เลย Active แล้วก็ไม่
00:11:15 → 00:11:18 มีใครไปห้ามปรามมันนะครับนั่นคือจีนกลุ่ม
00:11:18 → 00:11:20 ที่ 2 ที่ทำหน้าที่เป็น Safety เนาะนี่มี
00:11:20 → 00:11:23 จีนกลุ่มที่ 3 ด้วยสมมุติว่าซ่อมแล้วก็
00:11:23 → 00:11:25 ช่วยไม่ได้ช่างซ่อมทำงานไม่สำเร็จ
00:11:25 → 00:11:28 Emergency Stop ก็ผิดเพี้ยนไปทำงานไม่
00:11:28 → 00:11:31 ได้มีจีนอีกกลุ่มนึงครับที่เป็น Safety
00:11:31 → 00:11:34 กลุ่มนี้เรียกว่า Self destruction gans
00:11:34 → 00:11:38 นะครับเป็นจีนที่บอกให้เซลล์เนี่ยตายทัน
00:11:38 → 00:11:40 ทีคือทำที่เหมือนกับเป็นราคิอ่ะครับเมื่อ
00:11:40 → 00:11:42 ไหร่ก็ตามเห็นว่าเฮ้ยดูท่าไม่ดีแล้วเซลล์
00:11:42 → 00:11:45 เยมันเริ่มผิดปกติแล้วะเราต้องฆ่าตัวตาย
00:11:45 → 00:11:48 เพื่อที่จะปกป้องเซลล์อื่นๆที่เหลือใน
00:11:48 → 00:11:50 ร่างกายก่อนที่ไอ้เจ้าเซลล์เยมันจะไป
00:11:50 → 00:11:53 ทำลายเซลล์อื่นๆรอบข้างนะครับทีนี้ไอ้
00:11:53 → 00:11:56 เจ้าราคิจีนผมขอเรียกว่าราคิจีนแล้วกันนะ
00:11:56 → 00:11:59 ครับไอ้เจ้าราคิจีนเนี่ยปกติมันก็ทำทำงาน
00:11:59 → 00:12:01 ได้แหละแต่ถ้าเกิดว่ามันเกิด Mutation
00:12:01 → 00:12:05 ที่ยีนกลุ่มเนี้ยมันก็ไม่สามารถที่จะหยุด
00:12:05 → 00:12:08 การทำงานของอองโคจีนได้เพราะฉะนั้นเมื่อ
00:12:08 → 00:12:10 ไหร่มีการแบ่งเซลล์ปึ๊บมันไม่สามารถจะฆ่า
00:12:10 → 00:12:13 และกำจัดได้เซลล์ก็จะถูกแบ่งแบบหยุดแล้ว
00:12:13 → 00:12:17 ก็กู่ไม่กลับนั่นเองนะครับเพราะฉะนั้นจีน
00:12:17 → 00:12:19 ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งเนี่ยมี
00:12:19 → 00:12:22 ทั้งหมด 4 กลุ่มกลุ่มนึงคือโจีนจีนกรอ
00:12:22 → 00:12:25 มะเร็งเปรียบเทียบได้กับคันเร่งของรถนะ
00:12:25 → 00:12:27 ครับซึ่งเป็นคันเร่งจมด้วยหยุดไม่อยู่
00:12:27 → 00:12:30 แล้วแต่มีอีก 3 กลุ่มที่ทำหน้าที่เป็น
00:12:30 → 00:12:33 Safety ตัวแรกนะครับก็คือ DNA Repair
00:12:33 → 00:12:35 gans ทำหน้าที่ในการเป็นเหมือนช่างซ่อม
00:12:35 → 00:12:38 ซ่อมจีนของโจีนซิถ้ามันซ่อมได้เนี่ยโจีน
00:12:38 → 00:12:40 จะไม่ Active แต่ถ้ามันเสียแล้วซ่อมไม่
00:12:40 → 00:12:42 ได้เนี่ยเอาและ Safety ตัวแรกเนี่ย fail
00:12:42 → 00:12:45 ในการทำงานนะครับจีนกลุ่มที่ 3 ก็คือ
00:12:45 → 00:12:47 tumor suppressor gans เป็นเหมือนกับ
00:12:47 → 00:12:50 Emergency Stop คอยเบรกเลยถ้าเกิดว่า
00:12:50 → 00:12:53 ต่อให้อคีนจะทำงานแต่ถ้า E เบรกมือทำงาน
00:12:53 → 00:12:56 ได้ดีก็จะสามารถหยุด unc jeans ได้และ
00:12:56 → 00:12:57 ตัวสุดท้ายคือกลุ่ม Self destruction
00:12:57 → 00:13:01 gans ก็คือ har อีจีนครับทำหน้าที่ในการ
00:13:01 → 00:13:03 ฆ่าเซลล์นั้นทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้
00:13:03 → 00:13:06 มะเร็งเนี่ยมันลุกลามซึ่งถ้าทั้ง 4 กลุ่ม
00:13:06 → 00:13:09 นี้หรือ 2 ใน 4 3 ใน 4 เนี่ยมันเกิด
00:13:09 → 00:13:12 Mutation หรือทำงานผิดเพี้ยนไปเนี่ยนะ
00:13:12 → 00:13:16 ครับก็จะทำให้เกิดมะเร็งได้นั่นเองครับท
00:13:16 → 00:13:18 นี้ถามว่าโอเคตอนเเราเริ่มมีองค์ความรู้
00:13:18 → 00:13:21 แล้วนะว่าไอ้จีน 4 กลุ่มเก็คือ 1000 กว่า
00:13:21 → 00:13:23 จีนเนี่ยเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเซลล์
00:13:23 → 00:13:26 มะเร็งนะครับแล้วเราจะจัดการกับมันได้ยัง
00:13:26 → 00:13:29 ไงบ้างนะครับทีนี้ก็ต้องไปดูว่าไอ้ 4 4
00:13:29 → 00:13:31 ตัวเนี้ยมันมีทริกเกอร์อะไรบ้างล่ะที่ทำ
00:13:31 → 00:13:34 ให้มันเกิด Mutation แล้วมันทำงานได้ผิด
00:13:34 → 00:13:36 เพี้ยนไปจริงๆพูดถึงทริกเกอร์ที่ทำให้
00:13:36 → 00:13:40 เกิดมะเร็งเนี่ยหลายๆคนน่าจะผ่านหูพอมี
00:13:40 → 00:13:43 ความรู้กันมาอยู่แล้วบ้างนะครับผมจะไล่
00:13:43 → 00:13:45 เรียงให้ทีละตัวเลยเนาะจริงๆแล้ว
00:13:45 → 00:13:48 ทริกเกอร์เนี่ยมันแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม
00:13:48 → 00:13:50 กว้างๆทริกเกอร์ตัวแรกนะครับมันคือ
00:13:50 → 00:13:53 inherited jeans คือจนมะเร็งนี่แหละที่
00:13:53 → 00:13:56 ถูกถ่ายทอดมาจากพันธุกรรมมาจากคุณพ่อคุณ
00:13:56 → 00:13:59 แม่มาจากสายเลือดปู่ย่าตายายเราเนี่ยเคย
00:13:59 → 00:14:01 เป็นมะเร็งแล้วก็มีจีนส์มะเร็งเนี่ยซ่อน
00:14:01 → 00:14:04 อยู่แล้วมันก็ถูกถ่ายทอดมายังลูกหลานนะ
00:14:04 → 00:14:07 ครับทีนี้บางคนเนี่ยอาจจะมีจีนมะเร็งอยู่
00:14:07 → 00:14:09 เยอะกว่าคนอื่นเพรานั้นก็จะมีความเสี่ยง
00:14:09 → 00:14:12 ในการเกิดมะเร็งมากกว่าเพื่อนนั่นเองนะ
00:14:12 → 00:14:13 ครับทริกเกอร์อีกกลุ่มนึงเนี่ยเป็น
00:14:14 → 00:14:16 ทริกเกอร์ที่เกิดจากไล Style มันคือการ
00:14:16 → 00:14:18 ใช้ชีวิตนะครับมันคือการได้รับ
00:14:18 → 00:14:21 คาร์ซิโนเจนหรือว่าสารพิษต่างๆหรือการใช้
00:14:21 → 00:14:23 ชีวิตที่ไม่ Healthy นี่แหละมันสามารถจะ
00:14:23 → 00:14:25 ทริกเกอร์ให้จีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง
00:14:25 → 00:14:27 ทั้ง 4 กลุ่มเนี่ยมันเกิด Mutation ได้
00:14:27 → 00:14:29 และส่งผลมาให้เกิดมะเร็งได้นะครับครับที
00:14:29 → 00:14:31 นี้ทางวิทยาศาสตร์เนี่ยเคคก็มีการศึกษา
00:14:31 → 00:14:34 กันเนาะว่าระหว่างทริกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง
00:14:34 → 00:14:36 กับพันธุกรรมกับทริกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง
00:14:36 → 00:14:38 กับไลฟ์สไตล์ก็คือแต้มบุญกับการดูแลตัว
00:14:38 → 00:14:41 เองเนี่ยอันไหนมีน้ำหนักมากกว่ากันเคก็
00:14:41 → 00:14:43 เจอว่าจริงๆแล้วเนี่ยสาเหตุทริกเกอร์หลัก
00:14:43 → 00:14:46 ๆที่ทำให้พาไปสู่มะเร็งเนี่ยมันเกิดจาก
00:14:46 → 00:14:49 ไสลมากกว่าเพราะฉะนั้นต่อให้คุณจะมีจีน
00:14:50 → 00:14:52 มะเร็งมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งมาก
00:14:52 → 00:14:55 กว่าคนอื่นแต่ถ้าคุณดูแลตัวเองได้ดีๆ
00:14:55 → 00:14:58 เนี่ยนะครับเผลอๆแล้วเนี่ยโอกาสที่คุณจะ
00:14:58 → 00:15:00 เป็นมเร็งเนี่ยอาจจะจะน้อยกว่าเพื่อนที่
00:15:00 → 00:15:02 แม้จะไม่ค่อยมีจีนมะเร็งแต่ดันใช้ชีวิต
00:15:02 → 00:15:05 แบบไม่ Healthy ไม่ระมัดระวังมันก็สามารถ
00:15:05 → 00:15:07 จะทริกเกอร์ให้ไอ้เจ้าจีนที่เกี่ยวข้อง
00:15:07 → 00:15:10 กับมะเร็งเนี่ยมันทำงานแล้วก็ส่งผลให้
00:15:10 → 00:15:13 เกิดเซลล์มะเร็งได้นะครับทีนี้มาเจาะกัน
00:15:13 → 00:15:16 ว่าทริกเกอร์ที่เป็นไลฟ์สไตล์เนี่ยมันมี
00:15:16 → 00:15:19 อะไรบ้างนะมาดูซิว่าเรารู้ครบทุกตัวหรือ
00:15:19 → 00:15:23 เปล่าตัวแรกนะครับคือรังสีต่างๆนะครับ
00:15:23 → 00:15:26 รังสีที่อยู่ใกล้ตัวมากก็คือแสงแดดแต่
00:15:26 → 00:15:29 ก่อนเนี่ยผมเป็นคนสู้แดดมากเลยแบบเป็นคน
00:15:29 → 00:15:32 ลุยลุยๆมากแล้วก็ไม่อยากทำตัวสำอางนะครับ
00:15:32 → 00:15:36 แบอ้าแสงแดดหรอเราไม่กลัวแต่พอเราเริ่มมี
00:15:36 → 00:15:38 ความรู้มากขึ้นแล้วก็เจอว่าโหจริงๆแล้ว
00:15:38 → 00:15:41 แสงแดดเนี่ยมันเป็นภัยกับร่างกายเรามาก
00:15:41 → 00:15:44 แล้วเราก็ควรจะป้องกันตัวเองทุกครั้งที่
00:15:44 → 00:15:46 เราออกจากบ้านเราเจอแสงแดดนะครับรังสี UV
00:15:46 → 00:15:48 จากแสงแดดเนี่ยน่ากลัวจริงๆนะครับเป็นตัว
00:15:48 → 00:15:51 หลักเลยที่กระตุ้นอโคจีนให้คันเร่งเนี่ย
00:15:51 → 00:15:53 มันจมแล้วก็ไปกระตุ้นให้ Emergency Stop
00:15:53 → 00:15:56 เนี่ยมันหยุดทำงานนะครับเพราะฉะนั้นก่อน
00:15:56 → 00:15:59 ออกจากบ้านควรจะทากันแดดไม่ได้เพียงแต่
00:15:59 → 00:16:02 หน้านะครับตัวด้วยซ้ำไปบางทีถ้าแดดแรงแๆ
00:16:02 → 00:16:05 เนี่ยผิวหนังที่มันต้อง expose กับแสงแดด
00:16:05 → 00:16:08 เนี่ยเราควรจะทาซัน screen เพื่อปกป้อง
00:16:08 → 00:16:10 มันนะครับนอกจาก UV แล้วเนี่ยรังสีอื่นๆ
00:16:10 → 00:16:13 เนี่ยก็อันตรายไม่แพ้กันนะครับอย่าง xray
00:16:13 → 00:16:15 radiation ต่างๆเนี่ยสามารถที่จะ
00:16:15 → 00:16:17 ทริกเกอร์ให้จีนเกิด Mutation ได้ทั้ง
00:16:17 → 00:16:21 นั้นครับอย่างที่ 2 ครับอันเนี้ยผมเดาว่า
00:16:21 → 00:16:24 หลายๆคนเนี่ยอาจจะมองข้ามลืมไปนะครับว่า
00:16:24 → 00:16:27 เป็นทริกเกอร์ที่ทำให้เกิด Mutation ได้
00:16:27 → 00:16:30 นะครับนั่นคือไวรัสครับจริงๆการติดเชื้อ
00:16:30 → 00:16:34 ไวรัสเนี่ยก็สามารถนำไปสู่มะเร็งได้หลาก
00:16:34 → 00:16:37 หลายโลกเลยนะครับไอ้เจ้าไวรัสที่สามารถจะ
00:16:37 → 00:16:39 Lead ไปสู่มะเร็งเนี่ยเขาจะเรียกว่าอโค
00:16:39 → 00:16:42 ไวรัสคือเป็นเรียกรวมๆว่าไวรัสที่นำไปสู่
00:16:42 → 00:16:45 โรคมะเร็งนะครับมีอะไรบ้างตัวแรกตัวสำคัญ
00:16:45 → 00:16:48 เลยนะครับคือ hpv นะครับชื่อเต็มเต็มของ
00:16:48 → 00:16:51 มันเนี่ยคือ Human papilloma virus นะ
00:16:51 → 00:16:54 ครับ hpv เนี่ยหลายๆคนเนี่ยน่าจะเคยได้
00:16:54 → 00:16:57 ยินแล้วก็มีการณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีน hpv
00:16:57 → 00:17:00 ด้วยเพราะว่าไวรัสตัวเนี้ยมันสามารถจะติด
00:17:00 → 00:17:02 ต่อทางเพศสัมพันธ์ได้นะครับถ้าเกิดว่าเรา
00:17:02 → 00:17:05 มีภูมิคุ้มกันเนี่ยช่วยได้เยอะเลยถามว่า
00:17:05 → 00:17:07 ถ้าเราติดไอ้เจ้า hpv มาแล้วแล้วมันอยู่
00:17:07 → 00:17:08 ในร่างกายของเราเนี่ยมันจะทำให้เกิด
00:17:08 → 00:17:12 มะเร็งอะไรได้บ้างโอ้โหเยอะมากครับ 7-8
00:17:12 → 00:17:15 มะเร็งเลยนะครับซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับ
00:17:15 → 00:17:17 เพศสัมพันธ์ด้วยอย่างแรกคือมะเร็งปากนะ
00:17:17 → 00:17:20 ครับถ้ามีการเมีเพศสัมพันธ์ผ่านการ oral
00:17:20 → 00:17:23 เนี้ยแล้วเกิดติดเชื้อไวรัสมาเนี่ยสามารถ
00:17:23 → 00:17:26 ทำให้เกิดมะเร็งที่บริเวณช่องปากได้และีด
00:17:26 → 00:17:30 ไปสู่มะเร็งปากนะครับมะเร็งปากมดลูกนะ
00:17:30 → 00:17:33 ครับมะเร็งในช่องคลอดมะเร็งในทวารหนัก
00:17:33 → 00:17:36 มะเร็งในอวัยวะเพศชายอวัยวะเพศหญิงนะครับ
00:17:36 → 00:17:39 หรือว่าโรคต่างๆอย่างเช่นพวกหูดหงอนไก่
00:17:39 → 00:17:41 เนี้ยมันเกิดมาจาก hpv ทั้งสิ้นเพราะ
00:17:41 → 00:17:44 ฉะนั้นป้องกันตัวเอง make sure ว่าเรามี
00:17:44 → 00:17:48 ภูมิต้านทานต่อไวรัส hpv เนี่ยก็จะลดความ
00:17:48 → 00:17:50 เสี่ยงในการเกิดมะเร็งกับอวัยวะเหล่านี้
00:17:50 → 00:17:53 ที่ผมพูดไปได้นะครับตัวที่ 2 ครับคือ
00:17:53 → 00:17:57 ไวรัสตับอักเสบ B หรือว่าเทิส B ชื่อย่อ
00:17:57 → 00:17:59 คือ hb นะครับ hb เนี่ยก็เป็นอีกหนึ่ง
00:17:59 → 00:18:03 ไวรัสที่มีการลลงให้ฉีดวัคซีน hb กระตุ้น
00:18:03 → 00:18:07 เรื่อยๆนะครับใครที่มีภูมิคุ้มกันต่อ hb
00:18:07 → 00:18:10 เนี่ยก็จะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ
00:18:10 → 00:18:13 น้อยกว่าคนที่ติดเชื้อ hepatitis B นะ
00:18:13 → 00:18:15 ครับเพราะงั้นถ้าไม่อยากเป็นมะเร็งตับ
00:18:15 → 00:18:18 เนี่ย make sure ว่าคุณมีภูมิต้านทานต่อ
00:18:18 → 00:18:21 hb ก็จะดีมากนะครับมีอีกหนึ่งไวรัสที่
00:18:21 → 00:18:23 สามารถนำไปสู่มะเร็งได้เช่นกันนะครับชื่อ
00:18:23 → 00:18:26 อาจจะไม่คุ้นนะครับชื่อมันคือ f CB
00:18:26 → 00:18:30 virus หรือว่า E B นะครับเจ้า ebv
00:18:30 → 00:18:32 เนี่ยเวลาที่ติดไปแล้วเนี่ยมันสามารถทำ
00:18:32 → 00:18:35 ให้เกิดเป็นโรคที่มีอาการคล้ายๆกับไข้
00:18:35 → 00:18:37 หวัดหรือว่าไข้หวัดใหญ่บางทีเนี่ยเราไม่
00:18:37 → 00:18:39 รู้ตัวเลยนะครับจริงๆแล้วโรคเนี้ยเขา
00:18:39 → 00:18:43 เรียกมันว่าโรคติดต่อจากการจูบชื่อทางการ
00:18:43 → 00:18:47 มันคือโรคโนนิคินะครับซึ่งเจ้าเชื้อตัวเ
00:18:47 → 00:18:50 จริงๆมันก็รักษาตามอาการนะครับต่อให้
00:18:50 → 00:18:51 เหมือนกับว่ามันจะไม่กำเริบแล้วมันก็จะ
00:18:52 → 00:18:54 ซ่อนอยู่ในร่างกายของเราเมื่อไหร่ก็ตาม
00:18:54 → 00:18:56 ที่ร่างกายเราอ่อนแอเนี่ยมันก็จะกำเริบ
00:18:56 → 00:18:59 ได้ถามว่าไวรัสกลุ่มเนี้ยมันแบบจำเพาะ
00:18:59 → 00:19:01 เจาะโจงที่ทำให้เกิดมะเร็งอะไรมั้ยมันอาจ
00:19:01 → 00:19:03 จะไหม้ขนาดนั้นแต่มันสามารถทำให้ร่างกาย
00:19:03 → 00:19:05 อ่อนแอแล้วเมื่อไหร่ที่ร่างกายอ่อนแอ
00:19:06 → 00:19:09 เนี่ยมันอาจจะเกิดไวรัสเข้ามาติดแทรกซ้อน
00:19:09 → 00:19:11 แล้วก็นำไปสู่มะเร็งได้นะครับเช่นเดียว
00:19:11 → 00:19:15 กับไวรัส HIV ที่คนน่าจะคุ้นเคยดีนะครับ
00:19:15 → 00:19:19 แล้วเจ้า HIV เนี่ยครับมันก็เป็นเชื้อที่
00:19:19 → 00:19:21 สามารถจะซ่อนตัวอยู่ในร่างกายตัวมันเอง
00:19:21 → 00:19:23 เนี่ยสามารถทำให้ร่างกายเนี่ยภูมิคุ้มกัน
00:19:23 → 00:19:25 น่ะต่ำลงอ่อนแอลงพอร่างกายอ่อนแอลงเนี่ย
00:19:26 → 00:19:28 มันก็มีความเสี่ยงที่จะไปติดเชื้อไวรัส
00:19:28 → 00:19:30 อื่นๆเช่นเป็น hpv หรือว่า hb ได้นะครับ
00:19:30 → 00:19:33 ซึ่งไอ้เจ้า 2 ตัวเนี้ยีดไปสู่โรคมะเร็ง
00:19:33 → 00:19:38 เพราะฉะนั้นทั้ง hpv hb ebv HIV พวก
00:19:38 → 00:19:41 เนี้ยทั้งหมดเลยหรือแม้กระทั่ง herp
00:19:41 → 00:19:43 ไวรัสที่ทำให้เกิดเริมทั้งหลายเนี่ยนะ
00:19:43 → 00:19:45 ครับสามารถที่จะเป็นต้นเหตุเป็นทริกเกอร์
00:19:45 → 00:19:47 ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้เพราะฉะนั้นเรา
00:19:48 → 00:19:50 สามารถที่จะป้องกันการติดไวรัสพวกนี้ได้
00:19:50 → 00:19:52 เพราะฉะนั้นป้องกันสระนะครับเพื่อลดความ
00:19:52 → 00:19:55 เสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งครับทริกเกอร์
00:19:55 → 00:19:57 กลุ่มที่ 3 ผมเรียกว่าเป็นทริกเกอร์ที่มา
00:19:57 → 00:20:00 กับอากาศแล้วกันนะครับซึ่งโอ้โหทุกวันนี้
00:20:00 → 00:20:03 น่าจะทุกคนซัฟเฟอร์มากเนาะเพราะอย่างแรก
00:20:03 → 00:20:06 คือฝุ่นมลพิษต่างๆพิิต่างๆที่รออยู่ใน
00:20:06 → 00:20:09 อากาศนะครับสามารถที่จะสูดเข้าไปแล้วแล้ว
00:20:09 → 00:20:11 มันก็ไปกระตุ้นทำให้เกิดจีน Mutation ได้
00:20:11 → 00:20:15 ทั้งนั้นฝุ่นมาแล้วสารเคมีในบุหรี่เนี่ย
00:20:15 → 00:20:17 มันเยอะมากเนาะเป็นสารที่แบบไอระเหยทั้ง
00:20:17 → 00:20:19 นั้นเลยรวมกันน่ะโอไม่รู้กี่ชนิดมันเยอะ
00:20:19 → 00:20:21 มากเป็นหลายร้อยหลายพันชนิดเอยู่ในบุหรี่
00:20:21 → 00:20:23 นะครับทั้งบุหรี่ปกติแล้วก็บุหรี่ไฟฟ้า
00:20:23 → 00:20:26 ด้วยนะครับอันตรายทั้งคู่เพราะงั้นใครที่
00:20:26 → 00:20:30 ไม่อยากเป็นมะเร็งเนี่ยผมแนะนำเลยจุดนึง
00:20:30 → 00:20:32 เลิกครับสู้กับตัวเองพยายามตัดใจแล้วก็
00:20:32 → 00:20:35 เลิกกับบุหรี่ให้ได้ครับถ้าคุณเลิกบุหรี่
00:20:35 → 00:20:37 เนี่ยความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเนี่ยมัน
00:20:37 → 00:20:39 จะลดลงแบบฮวบเลยนะครับเพราะว่ามันเป็น
00:20:39 → 00:20:42 ทริกเกอร์หลักที่ทำให้เกิดมะเร็งได้เลยนะ
00:20:42 → 00:20:45 ครับสารเมิอื่นๆครับไอระเหยจัดควันรสคำ
00:20:45 → 00:20:49 เหม่าอ่าไอระเหยมิฮายจากสารเคมีสารทำความ
00:20:49 → 00:20:51 สะอาดบ้านอย่างเงี้ยต่างๆนะครับพวกกลาง
00:20:51 → 00:20:54 ห้องน้ำสารเคมีเหล่าเนี้ยถ้าเกิดเราสูดดม
00:20:54 → 00:20:58 ไปเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆมันสามารถที่จะไปกระต
00:20:58 → 00:21:00 ตุ้นให้เกิดจน Mutation ได้เช่นกันนะครับ
00:21:00 → 00:21:03 เพราะฉะนั้นต้องระวังทริกเกอร์มาจากอากาศ
00:21:03 → 00:21:06 ได้นะครับต่อมาทริกเกอร์มาจากอาหารแล้วก็
00:21:06 → 00:21:08 เครื่องดื่มครับคืออ่าเครื่องดื่มหลายๆคน
00:21:08 → 00:21:11 อาจจะไม่ถูกใจคำนี้นะครับแต่ว่าแอลกอฮอล
00:21:11 → 00:21:13 เนี่ยก็เป็นทริกเกอร์ที่ทำให้เกิดจีน
00:21:13 → 00:21:16 Mutation ได้เช่นกันนะดื่มพอดีๆๆเนาะ
00:21:16 → 00:21:18 อาหารมาจากไหนล่ะอาหารเรามักจะคุ้นเคยว่า
00:21:18 → 00:21:21 อาหารที่มันไหม้เนี่ยดำๆเนี่ยเป็น
00:21:21 → 00:21:24 คาร์ซิโนเจนแน่นอนเลี่ยงได้เลี่ยงอาหาร
00:21:24 → 00:21:28 ทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำๆซ้ำๆๆๆน่ะก็เป็น
00:21:28 → 00:21:31 คาร์ซิโนเจนได้เช่นกันอาหารแปรรูปที่เป็น
00:21:31 → 00:21:35 process Meat process Food ต่างๆ
00:21:35 → 00:21:37 เนี่ยครับก็สามารถจะทำให้เกิดมะเรงได้
00:21:37 → 00:21:39 เพราะว่ากระบวนการ process หลายๆขั้นตอนเ
00:21:39 → 00:21:42 เนาะมันต้องใช้สารเคมีหรือว่ามันมีการ
00:21:43 → 00:21:45 เปลี่ยนรูปโครงสร้างทางเคมีของอาหารเนี่ย
00:21:45 → 00:21:48 ไอ้การเปลี่ยนรูปอันนั้นแหละมันมีความ
00:21:48 → 00:21:50 เป็น Free Radical กินเข้าไปแล้วแล้วมัน
00:21:50 → 00:21:53 สามารถที่จะไปกระตุ้นให้เกิดจีน mation
00:21:53 → 00:21:55 ได้นะครับสารพิษจากเชื้อรา alra ทอกซิน
00:21:55 → 00:21:58 คือสารพิษที่เกิดจากเชื้อรามันก็สามารถ
00:21:58 → 00:22:00 ที่จะกระตุ้นให้เกิดจีน mation ได้เช่น
00:22:00 → 00:22:03 กันนะครับนอกจากนี้ยังมีสารพิษตกค้างที่
00:22:03 → 00:22:06 อยู่ในธรรมชาติตามดินตามแหล่งน้ำยกตัว
00:22:06 → 00:22:08 อย่างเช่นอาร์เซนิกหรือว่าสารหนูนะครับ
00:22:08 → 00:22:12 ซึ่งมันปนเปื้อนอยู่ในยา่าแมลงเวลาที่มี
00:22:12 → 00:22:14 การใช้ยา่าแมลงในการปลูกพืชเนี่ยแล้วมัน
00:22:14 → 00:22:17 ก็กระจายแล้วก็สมสั่งสมอยู่ในดินอยู่ใน
00:22:17 → 00:22:20 น้ำดินน้ำไหลเข้ามาจากน้ำในดินน้ำบาดาล
00:22:20 → 00:22:22 เราไปใช้เนี่ยแล้วเราได้รับเข้ามาในร่าง
00:22:22 → 00:22:25 กายเนี่ยแน่นอนสารเหล่านี้ทั้งหมดมันคือ
00:22:25 → 00:22:28 คาร์ซิโนเจนง่ายๆคาร์ซิโนเจนมันคือสารพิษ
00:22:28 → 00:22:32 แหละซึ่งมาได้จากทุกทิศทุกทางรอบตัวเรา
00:22:32 → 00:22:35 ถ้าเราพยายามกันตัวเองให้เราได้รับสารพิษ
00:22:35 → 00:22:37 น้อยที่สุดเนี่ยมันก็จะลดความเสี่ยงในการ
00:22:37 → 00:22:40 เกิดมะเร็งนั่นเองนะครับเพรางั้นอย่างแรก
00:22:40 → 00:22:44 เลยถามว่าอยากจะลดปิดสวิตชไอ้เจ้าโคจไม่
00:22:44 → 00:22:48 ให้มันทำงานเทำยังไงล่ะเราก็ต้องลดโอกาส
00:22:48 → 00:22:51 ที่เราจะได้รับทริกเกอร์ต่างๆเข้ามาใน
00:22:51 → 00:22:53 ร่างกายทริกเกอร์ต่างๆก็พูดไปแล้วนะครับ
00:22:53 → 00:22:55 แต่ในความเป็นจริงเนี่ยเนาะต่อให้เราจะดู
00:22:55 → 00:22:58 แลตัวเองดีแค่ไหนอ่ะมันไม่มีทางเลยอ่ะที่
00:22:58 → 00:23:00 จะป้องกันไม่ให้ทริกเกอร์เนี่ยมันบุกเข้า
00:23:00 → 00:23:04 มาในร่างกายจนมันกระตุ้นให้ร่างกายของเรา
00:23:04 → 00:23:08 เนี่ยมันเกิด Mutation ได้นะครับเลี่ยง
00:23:08 → 00:23:11 ไม่ได้เลยแต่นอกจากจะกั้นทริกเกอร์ไม่ให้
00:23:11 → 00:23:14 มันเข้ามาแล้วเนี่ยการที่เรามีไ Lifestyle
00:23:15 → 00:23:17 ที่ดี maintain ให้ร่างกายเรามีสุขภาพที่
00:23:17 → 00:23:19 ดีให้เซลล์ของเราเนี่ยมันเป็นเซลล์ที่มี
00:23:19 → 00:23:22 เซลล์ Healthy เยอะๆนะครับมันช่วยป้องกัน
00:23:22 → 00:23:25 ได้นะครับเพราะว่าเเจอว่าจริงๆแล้วเซลล์
00:23:25 → 00:23:28 เนี่ยมันเหมือนกับเหมือนกับคนเลยอ่ะถ้า
00:23:28 → 00:23:31 เกิดว่าเราอ่ะลายล้อมไปด้วยเพื่อนเราที่
00:23:31 → 00:23:35 เป็นเพื่อนที่ดีมันก็จะเหมือนกับ Build
00:23:35 → 00:23:38 กันเหนี่ยวนำกันให้ให้เราอ่ะเป็นคนดีไป
00:23:38 → 00:23:40 ด้วยนะครับเช่นกันเลยอ่ะเซลล์ที่มัน
00:23:40 → 00:23:43 เหมือนจะเริ่ม unhealthy แล้วอ่ะแต่มัน
00:23:43 → 00:23:46 ถูกลายล้อมไปด้วยเซลล์ที่ Healthy เยอะๆ
00:23:46 → 00:23:48 เนี่ยนะครับเซลล์ Healthy เยอะๆเนี่ยจริง
00:23:48 → 00:23:50 ๆแล้วมันก็สามารถจะส่งสัญญาณต่างๆมาที่
00:23:50 → 00:23:53 ช่วยในการซ่อมแซมไอ้เซลล์ที่มันกำลังจะ
00:23:53 → 00:23:56 ป่วยและจะกลายเป็นมะเร็งได้เช่นกันนะครับ
00:23:56 → 00:23:57 เพราะฉะนั้นการที่เราดูแลตัวเองทำให้เ
00:23:57 → 00:24:00 Healthy เนี่ยมีเยอะๆเนี่ยมันก็เป็นการ
00:24:00 → 00:24:03 ปกป้องแล้วก็ลดความเสี่ยงให้เซลล์มะเร็ง
00:24:03 → 00:24:05 เนี่ยมัน Active ได้ตามไปด้วยเพราะงั้นดู
00:24:05 → 00:24:07 แลตัวเองให้ Healthy เนี่ยเป็นประโยชน์
00:24:07 → 00:24:10 อยู่แล้วนะครับทั้งทางตรงและทางอ้องั้น
00:24:10 → 00:24:13 อย่างแรกปิดสวิตช oncogenes ด้วยการลด
00:24:13 → 00:24:16 ทริกเกอร์และดูแลตัวเองให้ดีอย่างที่ 2
00:24:16 → 00:24:19 ครับอันเนี้ยมันจะเริ่มเริ่มใช้ประโยชน์
00:24:19 → 00:24:23 ก็ต่อเมื่อจนเนี่ยมัน Active แล้วอันแรกเ
00:24:23 → 00:24:25 มันคือการป้องกันเนาะแต่เนี้ยมันคือเป็น
00:24:25 → 00:24:28 การ Treatment มันเป็นการรักษาและถ้าวัน
00:24:28 → 00:24:28 นึง
00:24:28 → 00:24:31 จีนที่เป็นจีนมะเร็งนะครับหรือว่าโกจีเ
00:24:31 → 00:24:33 มัน Active นะครับแล้วมะเร็งมันเริ่มเกิด
00:24:33 → 00:24:36 ขึ้นในร่างกายของเราแล้วเนี่ยแล้วเราไป
00:24:36 → 00:24:39 เจอคุณหมอแล้วคุณหมอวินิจฉัยแล้วว่าโอเค
00:24:39 → 00:24:41 ตอนนี้มะเร็งเกิดขึ้นสิ่งที่คุณหมอจะ
00:24:41 → 00:24:43 เริ่มทำในขั้นตอนแรกๆถ้าเกิดเป็นมะเร็ง
00:24:43 → 00:24:45 ระยะแรกๆเนี่ยนะครับเค้าจะเริ่มต่อสู้กับ
00:24:45 → 00:24:48 มะเร็งก่อนเนาะแน่นอนเจะแนะนำให้เราเริ่ม
00:24:48 → 00:24:50 ดูแลตัวเองเพราะการดูแลตัวเองเนี่ยมัน
00:24:50 → 00:24:52 สามารถจะห้ามปรามให้มะเร็งเนี่ยมันลาม
00:24:52 → 00:24:55 น้อยลงได้กับหมอเนี่ยจะเริ่มจ่ายยาต้าน
00:24:55 → 00:24:57 มะเร็งนะครับทีนี้ไอ้เจ้ายาต้านมะเร็ง
00:24:57 → 00:25:00 เนี่ยแหละครับครับมันเกิดมาจากองค์ความ
00:25:00 → 00:25:03 รู้เรื่องอจนนักวิทยาศาสเเ identify ได้
00:25:03 → 00:25:05 แล้วใช่ไหมมว่าอจนเนี่ยมันมีจีนอะไรบง
00:25:05 → 00:25:07 เพราะเขเริ่มดูแล้วว่าโอเคถ้าเราเป็น
00:25:07 → 00:25:11 มะเร็งตับแสดงว่าโจีนตัวนี้ตัวนี้ตัวนี้
00:25:11 → 00:25:14 มันอาจจะทำงานเพราะเรู้ว่าจีนตัวไหนมันทำ
00:25:14 → 00:25:19 งานผิดปกติเนี่ยเา้าก็จะใช้ยาไปจัดการกับ
00:25:19 → 00:25:22 จีนตัวนั้นนะครับซึ่งไอ้เจ้ายากลุ่มเนี้ย
00:25:22 → 00:25:25 เรียกว่า cancer Growth blockers หรือ
00:25:25 → 00:25:28 ว่า cancer Growth inhibitor นะครับ
00:25:28 → 00:25:30 blocker กับอิอเนี่ยแปลตรงตัวก็คือแบบไป
00:25:30 → 00:25:33 บล็อกมันไปห้ามไม่ให้มันทำงานได้เต็มที่
00:25:33 → 00:25:35 โกจีเนี่ยมันทำงานโดยการทำให้เซลล์มัน
00:25:36 → 00:25:39 เพิ่มใช่มยยากลุ่มเนี้ยก็ไปทำงานทำหน้า
00:25:39 → 00:25:42 ที่ในการเบรคไม่ให้มันเพิ่มให้มันหยุด
00:25:42 → 00:25:45 เพิ่มนั่นเองนะครับถามว่ายากลุ่มเนี้จริง
00:25:45 → 00:25:47 ๆแล้วปัจจุบันเนี่ยมันมีคนคิดค้นยามาหลาย
00:25:47 → 00:25:50 ตัวแล้วนะครับมีการรับรองด้วยหน่วยงานแบบ
00:25:50 → 00:25:53 fda หรืออยระดับโล่เนี่ยหลายตัวเลยรักษา
00:25:53 → 00:25:55 กันเป็นทางการมีการจ่ายยาแล้วนะครับ
00:25:55 → 00:25:58 แทคติกนึงของยากลุ่มเมันคือการไปบล็อก
00:25:58 → 00:26:01 โปรตีนตัวนึงที่อยู่ในเซลล์ที่ทำหน้าที่
00:26:01 → 00:26:03 ในการไปบอกโปรตีนตัวอื่นๆแล้วก็ไปบอก
00:26:03 → 00:26:06 เซลล์ว่าเฮ้ยแบ่งตัวแบ่งตัวเถอะแบ่งตัว
00:26:06 → 00:26:09 โปรตีนตัวเนี้ยมันเรียกว่าไทโรซีนไนสเป็น
00:26:09 → 00:26:12 เอนไซมนะครับเพราะฉะนั้นยากลุ่มเเราเรียก
00:26:12 → 00:26:16 ว่าไทโรซีนไนส inhibitor หรือว่ายากลุ่ม
00:26:16 → 00:26:20 tki ก็เป็นหนึ่งในยาต้มะเร็งกลุ่มสำคัญ
00:26:20 → 00:26:22 เลยที่คุณหมอเนี่ยจะจ่ายในการรักษามะเร็ง
00:26:23 → 00:26:27 หลายๆชนิดนะครับผมก็เข้าไปดูว่าเอ๊ไอ้ยา
00:26:27 → 00:26:30 ตัวเนี้ยสารกัดเหล่าเนี้ยจริงๆแล้วมัน
00:26:30 → 00:26:33 สกัดมาจากอะไรหรอเพื่อที่จะว่าถ้าเกิดเรา
00:26:33 → 00:26:36 รู้ว่ามันสกัดมาจากอะไรเนี่ยถ้าเราไปกิน
00:26:36 → 00:26:39 อาหารที่มีไอ้เจ้าสารที่เป็น Active
00:26:39 → 00:26:40 compound เหล่านี้เยอะๆเนี่ยมันก็น่าจะ
00:26:40 → 00:26:43 ช่วยร่างกายเราเนาะเพราะบางทีเนี่ยเราไม่
00:26:43 → 00:26:46 รู้หรอกว่าโจีนเี่มัน Active แล้วเพราะ
00:26:46 → 00:26:48 บางทีอ่ะโรคมันยังไม่เกิดแล้วเรายังไม่ไป
00:26:48 → 00:26:51 หาคุณหมอคุณหมอยังไม่ได้วินิจฉัยเลยว่า
00:26:51 → 00:26:54 มันแคีแต่ถ้าเกิดเราแอคทีโดยไม่รู้ตัวแต่
00:26:54 → 00:26:57 เรากินอาหารที่มันจะมีสารคล้ายๆกันที่มัน
00:26:57 → 00:27:00 มีรทคล้ายๆกับยากลุ่มเนี้ยมันก็น่าจะช่วย
00:27:00 → 00:27:04 ในการไปเบรกไปห้ามปราอจนไม่ให้ทำงานได้
00:27:04 → 00:27:06 ถูกต้องมมครับก็ไปเจอว่าจริงๆแล้วยากลุ่ม
00:27:06 → 00:27:09 เนี้ยกลุ่ม tyrosine kes inhibitor
00:27:09 → 00:27:11 หรือว่า tki เนี่ยอ่ะเดี๋ยวบอกชื่อยานิด
00:27:11 → 00:27:14 นึงนะครับเผื่อใครจะลองไปเสิร์ชเนาะมันมี
00:27:14 → 00:27:19 dasatinib นะครับมี imin มี nalin แล้ว
00:27:19 → 00:27:22 ก็ uin จริงๆมีอีกหลายตัวเลยนี่ยกตัว
00:27:22 → 00:27:24 อย่างมาให้เผื่อใครจะลองไปเสิร์ชดูได้นะ
00:27:24 → 00:27:26 ครับผมก็ไปดูว่าเออไอ้เจ้ายากลุ่มเมันไป
00:27:26 → 00:27:29 สกัดมาจากอะไรซึ่งแทรกไปแทกมาเนี่ยก็เจอ
00:27:29 → 00:27:32 ว่าไอ้เจ้ายากลุ่มเนี้ยมันก็สกัดมาจากพืช
00:27:32 → 00:27:35 นี่แหละซึ่งพืชเนี่ยมันจะมีไฟต Chemical
00:27:35 → 00:27:39 ก็คือสารที่อยู่ในพืชนะครับกลุ่มสำคัญๆั
00:27:39 → 00:27:41 เลยนะที่เขาไปสกัดมาแล้วมีคุณสมบัติ
00:27:41 → 00:27:45 เหมือนกับยากลุ่มนี้เลยก็คือานอยครับพืช
00:27:45 → 00:27:48 ที่มีานอยก็คือผักผลไม้นั่นแหละนั้นเถึง
00:27:48 → 00:27:51 มีการพูดกันว่าานอยเนี่ยมีคุณสมบัติเป็น
00:27:51 → 00:27:54 แอนตี้ cancer ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
00:27:54 → 00:27:55 นะครับแล้วก็มีการแนะนำว่าเราควรจะกินผัก
00:27:55 → 00:27:59 ผลไม้เยอะๆให้มันหลากหลายทีนี้ผมตั้งใจ
00:27:59 → 00:28:02 ว่าจะทำตอนนึงที่เป็นวอยรวมๆแต่เพื่อหลาย
00:28:02 → 00:28:05 คนน่าจะอยากรู้แล้วอ่ะผมก็เลยยกมาคร่าวๆ
00:28:05 → 00:28:08 แล้วกันว่าสารกลุ่มานอยเนี่ยมันมีอะไร
00:28:09 → 00:28:11 บ้างนะครับหลายตัวเคยพูดไปแล้วนะครับมา
00:28:11 → 00:28:16 ตัวแรกเลยนะครับคือสารที่ชื่อว่า EG CG
00:28:16 → 00:28:19 ชื่อเต็มๆของมันเนี่ยคืออิพิแกลคาชิน
00:28:19 → 00:28:24 garet คาชินคุณๆมคาเทชินเนี่ยอยู่ในชา
00:28:24 → 00:28:27 เขียวนะครับอยู่ในชาเยอะนะครับเพราะงั้น
00:28:27 → 00:28:29 ชาเขียวแล้วก็ชาหลายๆชนิดเนี่ยมี
00:28:29 → 00:28:33 คุณสมบัติเป็นแี้ cancer นะครับตัวที่ 2
00:28:33 → 00:28:36 curtin curtin เคยพูดไปใน Episode
00:28:36 → 00:28:39 ซอบี้ sal นะครับอยู่ในผักผลไม้หลายชนิด
00:28:39 → 00:28:43 เลยนะครับอิิิอิิินี่เพิ่งพูดล่าสุดเลยไป
00:28:43 → 00:28:47 ในตอนแมกนีเซียมเพะเพราะว่าอิจิเนี่ยเป็น
00:28:47 → 00:28:50 หนึ่งในสารเคมีที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึก
00:28:50 → 00:28:52 อยากพักผ่อนไปเสริมการทำงานของเมลาโทนิน
00:28:52 → 00:28:56 นะครับอิิิก็คือมีในเซลารี่มีในคมมมีใน
00:28:56 → 00:29:02 องุ่นมีในอ g นะครับไิไิเนี่ยน่าจะพูดใน
00:29:02 → 00:29:05 ตอนของเซลล์ซอมบี้นะครับก็มีคุณสมบัติแี้
00:29:05 → 00:29:07 แคนเซอร์เหมือนกันเจอในผลไม้หลายชนิดเช่น
00:29:07 → 00:29:12 แอปเปิลสตอเบอร์รี่ลูกพับแตงกวานะครับ
00:29:12 → 00:29:15 lolin นะครับอยู่ในแครอทเซเลอรี่แล้วก็
00:29:15 → 00:29:19 พริกไทยนะครับมี Cam สารตัวนี้อยู่ใน
00:29:19 → 00:29:24 คะน้าผักโขมถั่วแล้วก็ชาอีกตัวนึงนะครับ
00:29:24 → 00:29:28 คือ naringin นะครับอยู่ในเฟฟรุทก็คือ
00:29:28 → 00:29:32 ผลไม้ตระกูลส้มนะครับมี anticancer านอย
00:29:32 → 00:29:34 เช่นกันนะถ้าลองไล่มาทั้งหมดเนี่ยก็จะ
00:29:34 → 00:29:36 เห็นว่ามันมีอยู่ในไหนส่วนใหญ่มันก็อยู่
00:29:36 → 00:29:40 ในไม่ผักก็ผลไม้แล้วก็ผักผลไม้ที่มีหลาก
00:29:40 → 00:29:42 หลายสีสันหลากหลายตระกูลด้วยนะครับเพราะ
00:29:42 → 00:29:45 ฉะนั้นเอาจริงๆอ่ะจำไม่หมดหรอกดีที่สุดก็
00:29:45 → 00:29:49 คือเราพยายามกินผักผลไม้ที่มันหลักสีหลัก
00:29:49 → 00:29:52 ประเภทกินหัวกินรากกินใบบ้างกินเยอะที่
00:29:52 → 00:29:54 สุดยิ่งเยอะยิ่งดีเพราะว่ามันไม่มีสาร
00:29:54 → 00:29:57 เคมีตัวใดตัวนึงที่เป็นแบบ Superman ตัว
00:29:57 → 00:30:00 เดียวที่ที่เอาอยู่อยู่แล้วมันคือหลายๆ
00:30:00 → 00:30:03 ตัวมาช่วยกันทำงานเป็นทีมในการต้านทั้ง
00:30:03 → 00:30:06 แคนเซอร์คือต้านมะเร็งต้านทั้ง Free
00:30:06 → 00:30:09 Radical มีคุณสเป็น antioxidant นะครับ
00:30:09 → 00:30:12 ถามว่ากินไอ้เจ้าานอยไปเนี่ยมันมีฤทธิ์
00:30:12 → 00:30:14 ยังไงบ้างนะครับเขาบอกว่าจากการศึกษา
00:30:14 → 00:30:17 เนี่ยถ้าเรากินานอยเข้าไปเนี่ยมันสามารถ
00:30:17 → 00:30:20 ที่จะไปช่วยเพิ่มกระบวนการ apoptosis
00:30:20 → 00:30:23 apoptosis มันคือการที่เซลล์เนี่ยถูก
00:30:23 → 00:30:26 สั่งให้ฆ่าตัวตายก็คือฮาคิเมื่อไหร่ก็ตาม
00:30:26 → 00:30:30 ที่มันผิดปกตินะครับก็จะช่วยเป็นระบบ
00:30:30 → 00:30:34 Safety ได้ช่วยลด metastasis metastasis
00:30:34 → 00:30:37 คือการที่เซลล์มางเนี่ยมันแพร่จากจุดนึง
00:30:37 → 00:30:40 ไปยังอีกจุดนึงเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเรา
00:30:40 → 00:30:44 ลดการแพร่ได้เนี่ยครับเวลาคุณหมอไปเจอ
00:30:44 → 00:30:46 มะเร็งเนี่ยการจัดการเนี่ยมันก็จะง่าย
00:30:46 → 00:30:48 กว่าเพราะว่าถ้าเกิดว่าเราไปอสมมุติไปฉาย
00:30:48 → 00:30:50 รังสีจุดนี้แล้วมันหมดเลยโดยที่ไม่มีจุด
00:30:51 → 00:30:53 อื่นแอบแฟงเนี่ยเราก็อาจจะเซฟแล้วก็จัด
00:30:53 → 00:30:57 การมะเร็งได้ได้สิ้นซากนะครับมันจะไปลด
00:30:57 → 00:30:59 การเพิ่มำนวนแน่นอนมะเร็งคือการที่เซลล์
00:30:59 → 00:31:01 แบ่งตัวไม่หยุดถ้ามันหยุดแบ่งตัวได้ก็จะ
00:31:02 → 00:31:04 สามารถป้องกันการลุกลามจากมะเร็งก้อนเล็ก
00:31:04 → 00:31:07 ๆแค่ไหนก็ให้มันอยู่แค่นั้นไม่ได้ใหญ่
00:31:07 → 00:31:09 เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นนะครับและที่สำคัญ
00:31:09 → 00:31:12 เนี่ยมันลดการสร้างเส้นเลือดมาเลี้ยงที่
00:31:12 → 00:31:15 กลุ่มเซลล์มะเร็งด้วยจริงๆเการสร้างเส้น
00:31:15 → 00:31:16 เลือกเนี่ยเป็นเรื่องใหญ่แล้วก็เป็น
00:31:16 → 00:31:19 เรื่องสำคัญที่นักวิทยาศาสตร์เนี่ยเขาใช้
00:31:19 → 00:31:22 ในการสร้าง target เปีเป็นการจัดการเลยนะ
00:31:22 → 00:31:23 ครับเพราะเซลล์มาเร็งเนี่ยเป็นเซลล์ที่
00:31:23 → 00:31:26 แทีมากมันต้องการพลังงานเยอะพอมันต้องการ
00:31:26 → 00:31:29 พลังงานเยอะเนี่ยมันมันก็จะ ild ให้เส้น
00:31:29 → 00:31:31 เลือดเนี่ยสร้างมาหามันเพราะเส้นเลือด
00:31:31 → 00:31:34 เนี่ยจะนำพามาซึ่งอาหารนำพามาซึ่ง
00:31:34 → 00:31:37 ออกซิเจนแล้วก็เป็นเส้นทางในการกำจัดของ
00:31:37 → 00:31:40 เสียไปนะครับเพราะงั้นถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม
00:31:40 → 00:31:42 มีมะเร็งเนี่ยเส้นเลือดจะวิ่งเข้าไปตรง
00:31:42 → 00:31:45 นั้นเยอะถ้ามันลดป้องกันไม่ให้เส้นเลือดเ
00:31:45 → 00:31:47 วิ่งเข้าไปได้เนี่ยมะเร็งก็จะขาดอาหารตาย
00:31:47 → 00:31:49 ไปได้เช่นกันเพราะฉะนั้นการกินอาหารกลุ่ม
00:31:49 → 00:31:51 านอยเนี่ยเราทุกคนเนี่ยสามารถจะกินแล้วก็
00:31:51 → 00:31:54 ดูแลตัวเองได้เลยเพราะเราไม่รู้เลยนะครับ
00:31:54 → 00:31:56 ว่าณวันนี้ตอนนี้เนี่ยอโคจรของเราเนี่ย
00:31:56 → 00:31:58 มันเกิดขึ้นแล้วหรือยังอย่างเพรานั้นเรา
00:31:58 → 00:32:01 กินเพื่อที่จะไปสู้กับอองโคจีนได้ตั้งแต่
00:32:01 → 00:32:04 วันนี้เลยนะครับนอกจากที่พูดมานะครับที่
00:32:04 → 00:32:06 เหลือมันคือไลฟ์สไตล์แบบรวมๆและอ่าหลายๆ
00:32:07 → 00:32:08 คนอาจจะไม่รู้ว่าถ้าเกิดว่าเราน้ำหนัก
00:32:08 → 00:32:11 เยอะเกินไปน้ำหนักเกินเนี่ยมีความเสี่ยง
00:32:11 → 00:32:13 ในการที่จะเป็นมะเร็งได้นะครับเพราะว่า
00:32:14 → 00:32:16 มะเร็งเนี่ยจริงๆแล้วต้องการน้ำตาลเยอะ
00:32:17 → 00:32:20 มากเพราะฉะนั้นใครที่กินอาหารหวานๆเยอะ
00:32:20 → 00:32:23 แล้วก็เป็นเบาหวานมีภาวะต่อต้านอินซูลิน
00:32:23 → 00:32:27 เนี่ยนะครับมีอินซูลินสปตลอดๆดเนี่ย
00:32:27 → 00:32:29 เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งนะครับกินอาหารที่
00:32:29 → 00:32:32 ดีคุมน้ำหนักก็จะช่วยได้และล่าสุดเรา
00:32:32 → 00:32:34 เพิ่งพูดไปถึงเรื่อง nkc ใช่มั้ยผมพยายาม
00:32:34 → 00:32:38 บอกว่า NK เซลล์เนี่ยมันคือภูมิคุ้มกัน
00:32:38 → 00:32:41 แอนติบอดี้ที่คอยสอดส่องแล้วก็จัดการ
00:32:41 → 00:32:43 เซลล์มะเร็งให้เราถ้าเกิดเราดูแลตัวเอง
00:32:43 → 00:32:45 ให้ดี OST ให้ระบบภูมคุ้มกันเนี่ยมันทำ
00:32:45 → 00:32:48 งานได้เต็มที่มันก็จะช่วยจัดการ cancer
00:32:48 → 00:32:51 เซลล์ให้เราได้ด้วยนะครับถามว่าบูสภูมิ
00:32:51 → 00:32:53 คุ้มกันได้ยังไงแน่นอนออกกำลังกายพักผ่อน
00:32:53 → 00:32:56 ให้เพียงพอจัดการความเครียดในตอน nkc ผม
00:32:56 → 00:32:59 เชียร์ให้ทุกคนไปอาบป่านะครับและสุดท้าย
00:32:59 → 00:33:01 หมั่นตรวจสุขภาพครับการตรวจสุขภาพแล้วก็
00:33:01 → 00:33:05 เป็นการตรวจหาแคนเซอร์มาเกอร์เรื่อยๆเป็น
00:33:05 → 00:33:07 ประจำเนี่ยนะครับก็จะทำให้เรา detect ได้
00:33:07 → 00:33:10 ว่าเอ้ตอนเนี้ยมันมีจีนไม่ว่าจะเป็น unc
00:33:10 → 00:33:12 จีนหรือว่าจีนกลุ่มอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ
00:33:12 → 00:33:15 มะเร็งเนี่ยมันเกิด Mutation แล้วผิด
00:33:15 → 00:33:17 เพี้ยนไปแล้วหรือยังถ้ามันผิดเพี้ยนไป
00:33:17 → 00:33:20 แล้วแล้วเราเกิดมะเร็งระยะแรกๆแล้วยิ่ง
00:33:20 → 00:33:23 เราเจอเร็วก็สามารถจะรักษาได้ทันท่วงที
00:33:23 → 00:33:26 บางทีในการกินยาเพียงอย่างเดียวก็อาจจะ
00:33:26 → 00:33:28 ห้ามมันได้ถ้าเกิดว่าว่ามะเร็งยังเป็น
00:33:28 → 00:33:31 ระยะเริ่มต้นนะครับรู้เร็วรักษาได้เร็ว
00:33:31 → 00:33:35 แล้วก็โอกาสรอดจากการเสียชีวิตจากมะเร็ง
00:33:35 → 00:33:36 เนี่ยก็จะมีมากยิ่งขึ้นเพราะฉะนั้นเดี๋ยว
00:33:37 → 00:33:39 ตอนต่อๆไปเนี่ยรอติดตามได้เลยนะครับเราจะ
00:33:39 → 00:33:42 มาพูดกันถึงเรื่องการไปตรวจ cancer
00:33:42 → 00:33:45 มาเกอร์อย่างแน่นอนนะครับสุดท้ายแล้วขอ
00:33:45 → 00:33:48 สรุปนิดนึงครับวันนี้เราพูดถึงอองโคจีน
00:33:48 → 00:33:51 คือยีนที่ก่อมะเร็งนะครับซึ่งยีนก่อ
00:33:51 → 00:33:53 มะเร็งเนี่ยปกติแล้วเนี่ยมันทำงานปกติเลย
00:33:53 → 00:33:56 นะครับแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันได้ทิอมัน
00:33:56 → 00:33:59 จะ Active แล้วมันจะเริ่มแบ่งตัวแบบหยุด
00:33:59 → 00:34:02 ไม่อยู่วิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกัน
00:34:02 → 00:34:04 คือป้องกันไม่ให้มัน Active หรือป้องกัน
00:34:04 → 00:34:06 triggers นะครับทริกเกอร์มาจากทั้ง
00:34:06 → 00:34:10 กรพันธ์และมาจากไสลไสลสำคัญกว่าและเป็น
00:34:10 → 00:34:13 สิ่งที่เราสามารถจะคอนโทรลได้ควบคุมอยู่
00:34:13 → 00:34:15 ในมือเราเลยครับอยู่ในมือเราทุกคนว่าเรา
00:34:15 → 00:34:18 จะดูแลตัวเองดีมากเพียงพอที่จะลดความ
00:34:18 → 00:34:20 เสี่ยงให้อองโคมันทำงานหรือเปล่านะครับ
00:34:20 → 00:34:23 เพราะฉะนั้นคุณสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วย
00:34:23 → 00:34:26 มือคุณเองเพราั้นลงือทำตั้งแต่วันนี้
00:34:26 → 00:34:28 เพื่อที่จะปิดสวิต oncogenes หรือว่า
00:34:28 → 00:34:31 เซลล์กอมารง
00:34:31 → 00:34:34 ครับ Top to Toe The Standard
00:34:34 → 00:34:39 podcast Eye Opening for your ears
00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีคุณผู้ชม Top tut ทุกคนนะครับตอน
00:00:02 → 00:00:06 นี้เราเดินทางมาถึง ep 100 แล้ว
00:00:06 → 00:00:08 เย้ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันแล้วก็ติดตาม
00:00:09 → 00:00:11 สนับสนุนมาตลอดนะครับมีหลายคนเลยที่
00:00:11 → 00:00:14 donate แล้วก็ส่งหัวใจกด Thanks มาให้
00:00:14 → 00:00:17 ขอบคุณมากๆนะครับแล้วก็ขอบคุณที่หลายๆคน
00:00:17 → 00:00:21 แนะนำให้ฟีดแบคกับทีมงานว่าเอ้อยากให้เรา
00:00:21 → 00:00:24 ปรับปรุงยังไงหรือว่ามีประเด็นอะไรที่รู้
00:00:24 → 00:00:26 สึกว่าอยากให้ทำแล้วก็เป็นประโยชน์กับทุก
00:00:26 → 00:00:28 คนนะครับเราต้องการฟีดแบคเหล่านั้นมากเลย
00:00:29 → 00:00:31 นะครับจะได้ทำรายการให้ตอบโจทย์ทุกคนมาก
00:00:31 → 00:00:34 ขึ้นเพื่อให้เราทุกคนสุขภาพดีไปพร้อมๆกัน
00:00:34 → 00:00:35 นะครับอย่างที่บอกว่า Top to เนี่ยเกิด
00:00:36 → 00:00:40 ขึ้นมาเพื่อที่อยากจะแชร์ทิปแล้วก็แฮก
00:00:40 → 00:00:42 ต่างๆที่ทำให้ร่างกายเราเนี่ยมีสุขภาพดี
00:00:42 → 00:00:45 เพราะฉะนั้นฟังแล้วอย่าเอาแต่ทฤษฎีไปเอา
00:00:45 → 00:00:47 ไปปฏิบัติด้วยนะครับนั่นคือสิ่งที่เรา
00:00:47 → 00:00:50 อยากจะเห็นทุกคนเนี่ยเอาไปลงมือทำจริงๆ
00:00:50 → 00:00:53 แล้วก็จะได้มีสุขภาพที่ดีไปพร้อมๆกัน Ep
00:00:53 → 00:00:56 ที่ 100 ก็ค่อนข้างจะพิเศษนิดนึงเราก็
00:00:56 → 00:00:59 พยายามจะคิดว่าจะทำตอนอะไรดีผมก็ไปนั่งดู
00:00:59 → 00:01:02 ครับครับ 99 Ep ที่ผ่านมาเนี่ยมันมีอยู่
00:01:02 → 00:01:06 ประเด็นนึงที่เราเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาไม่ได้
00:01:06 → 00:01:09 เริ่มทำแบบจริงๆจังๆทั้งทีทั้งๆที่มัน
00:01:09 → 00:01:13 เป็นทอิที่เชื่อว่าหลายๆคนเนี่ยสนใจเพราะ
00:01:13 → 00:01:15 มันเกี่ยวข้องแล้วก็เป็นความเป็นความตาย
00:01:15 → 00:01:18 ของทุกคนเลยนั่นคือโรคมะเร็งนะครับเพราะ
00:01:18 → 00:01:20 ฉะนั้นเราจะใช้โอกาส ep 100 นี่แหละเป็น
00:01:20 → 00:01:23 celebrate เป็นการ Kick Off Series
00:01:23 → 00:01:26 ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งแล้วกันนะครับแล้ว
00:01:26 → 00:01:28 ตอนนี้เนี่ยเราจะมาพูดถึงต้นเหตุเรียกว่า
00:01:28 → 00:01:31 เป็นต้นเหตุเลยที่ทำให้เกิดมะเร็งนั่นคือ
00:01:31 → 00:01:35 จีนกลุ่มที่เรียกว่าโคจีนหรือว่ายีนก่อ
00:01:35 → 00:01:38 มะเร็งครับไปดูซิว่าไอ้เจ้าอโคจีนเนี่ย
00:01:38 → 00:01:41 อยู่ๆมันทำงานขึ้นมาได้ยังไงแล้วเราจะมี
00:01:41 → 00:01:44 วิธีให้มันทำงานน้อยลงหรือว่าห้ามปราม
00:01:44 → 00:01:46 หรือหยุดให้มันทำงานได้ยังไงเพราะถ้าเรา
00:01:46 → 00:01:49 จัดการกับมันได้เนี่ยเราก็จะไม่เป็น
00:01:49 → 00:01:51 มะเร็งตั้งแต่เริ่มต้นนะครับเดี๋ยวเราไป
00:01:51 → 00:01:53 ดูกันเลยฮะ This is the Standard
00:01:53 → 00:01:57 podcast Eye Opening for your
00:01:57 → 00:02:01 ears Top to Toe podcast สุขภาพที่
00:02:01 → 00:02:05 ใช้วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด
00:02:05 → 00:02:08 เท้าก่อนอื่นพูดถึงมะเร็งเนี่ยผมอยากจะ
00:02:08 → 00:02:10 ค่อยๆปูพื้นก่อนหลายๆคนเนี่ยอาจจะได้ยิน
00:02:10 → 00:02:14 คำว่า tumor ทูเอกับแคนเซอร์เนี่ยมันใกล้
00:02:14 → 00:02:17 เคียงกันแต่มันไม่เหมือนกันนะครับทูเอคือ
00:02:17 → 00:02:19 เนื้องอกเมื่อไหร่ก็ตามที่มันมีเซลล์ที่
00:02:19 → 00:02:21 เพิ่มจำนวนเยอะมากเกินไปมันอาจจะกลายเป็น
00:02:21 → 00:02:24 เนื้องอกแต่เนื้องอกทุกอันเนี่ยไม่ได้
00:02:24 → 00:02:27 ร้ายทั้งหมดมันจะมีเนื้องอกที่ไม่ได้เป็น
00:02:27 → 00:02:30 อันตรายกับร่างกายเราเรียกมันว่าบายหรือ
00:02:30 → 00:02:32 ว่าไม่ได้ Active นะครับคือไม่เป็น non
00:02:32 → 00:02:35 cancerous tumor เนื้องอกพวกนี้ครับต่อ
00:02:35 → 00:02:37 ให้มันจะเป็นเซลล์ที่เพิ่มจำนวนขึ้นมา
00:02:37 → 00:02:39 เยอะเกินเป็นก้อนหรืออะไรก็ตามเนี่ยความ
00:02:39 → 00:02:41 แตกต่างคือตัวมันเนี่ยมันจะอยู่กับที่มัน
00:02:41 → 00:02:43 จะไม่กระจายไปยังจุดอื่นๆแล้วก็ลามนะครับ
00:02:43 → 00:02:46 ตรงกันข้ามถ้าเกิดว่าเนื้องอกอีกกลุ่มนึง
00:02:46 → 00:02:49 เป็น cancerous tumor คือนอกจากมันจะ
00:02:49 → 00:02:51 เคลื่อนที่กระจายไปตามจุดต่างๆแล้วเนี่ย
00:02:51 → 00:02:54 มันก็ไปทำให้เกิดเนื้องอกจุดใหม่ตามทั่ว
00:02:54 → 00:02:56 ร่างกายไปเรื่อยแล้วก็ทำให้อวัยวะแต่ละ
00:02:56 → 00:02:59 จุดเนี่ยมันค่อยๆเสื่อมแล้วก็ทำงานได้ไม่
00:02:59 → 00:03:01 มีประสประสิทธิภาพอันนั้นเ่ะถึงจะเรียก
00:03:01 → 00:03:04 ว่ามะเร็งนะครับทีนี้มะเร็งเนี่ยหลายๆคน
00:03:04 → 00:03:07 อาจจะไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันเกิดจากการแค่
00:03:07 → 00:03:09 เพียงเซลล์เซลล์เดียวในร่างกายของเรานะ
00:03:09 → 00:03:11 ครับที่มันทำงานผิดเพี้ยนไปเท่านั้นใน
00:03:11 → 00:03:15 ร่างกายเรามีอยู่เป็นหลายสิบล้านล้าน
00:03:15 → 00:03:17 เซลล์เลยนะครับซึ่งถ้าทุกเซลล์เนี่ยทำงาน
00:03:17 → 00:03:19 ได้ปกติแล้วล่ะก็เนี่ยเราก็จะไม่เป็น
00:03:19 → 00:03:21 มะเร็งแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเพียงแค่
00:03:21 → 00:03:25 เซลล์เดียวที่มันเพี้ยนขึ้นมามันเกิดแบ่ง
00:03:25 → 00:03:28 ตัวเยอะขึ้นเยอะขึ้นแบบไม่หยุดในขณะที่
00:03:28 → 00:03:30 โดยปกติทั่วไปแล้วเวลาเราตบขึ้นมาเนี่ย
00:03:30 → 00:03:32 เซลล์ผู้ใหญ่เนี่ยมันจะไม่ค่อยแบ่งตัว
00:03:32 → 00:03:36 หรอกนานๆมันจะแบ่งตัวทีเมื่อมันเกิดแพล
00:03:36 → 00:03:39 แล้วมันจำเป็นต้องมีการซ่อมแซมนะครับแต่
00:03:39 → 00:03:41 ถ้ามีเซลล์ที่มันเพี้ยนแล้วมันก็แบ่ง
00:03:41 → 00:03:44 เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นแบบหยุดไม่อยู่อะไรก็
00:03:44 → 00:03:46 ห้ามไม่อยู่เนี่ยอันนั้นแหละถึงจะเกิด
00:03:46 → 00:03:48 เป็นมะเร็งนะครับแล้วทำไมมันถึงแบ่งตัว
00:03:48 → 00:03:52 ล่ะมันแบ่งตัวเพราะว่ามันเกิดจีน Mutation
00:03:52 → 00:03:55 ในเซลล์ๆลนั้นเซลล์ทุกเซลล์นะครับมันจะมี
00:03:55 → 00:03:58 DNA ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้ DNA เนี่ย
00:03:58 → 00:04:01 มันคือคู่มือในการทำงานของเซลล์ทุกเซลล์
00:04:01 → 00:04:04 ในร่างกาย 10 ล้านล้านเซลล์เนี่ยมันมี DNA
00:04:04 → 00:04:07 เหมือนกันเลยมีคู่มือเล่มเดียวกันทีนี้
00:04:07 → 00:04:09 ตอนที่เราเป็นเด็กเนี่ยคู่มือเนี่ยมันก็
00:04:09 → 00:04:11 เป็นคู่มือที่สมบูรณ์สามารถที่จะอ่านแล้ว
00:04:11 → 00:04:14 ก็ทำความเข้าใจ Follow ตามสต็ป ST ได้
00:04:14 → 00:04:16 เวลาจะทำงานอะไรนะครับแต่เมื่อไหร่ก็ตาม
00:04:16 → 00:04:19 ที่เราแกะขึ้นแกะขึ้นเซลล์มีการแบ่งตัว
00:04:19 → 00:04:21 ทุกครั้งที่เซลล์มีการแบ่งตัวเนี่ยไอ้
00:04:21 → 00:04:24 เจ้าคู่มือเล่มเนี้ยมันก็จะถูก ocy หรือ
00:04:24 → 00:04:27 ว่าถ่ายเอกสารตามไปด้วยไปอยู่กับเซลล์
00:04:27 → 00:04:29 ใหม่ด้วยแล้วทุกครั้งที่มันมีการถ่าย
00:04:29 → 00:04:31 เอกสารสาเนี่ยนะครับบางทีมันเกิดข้อผิด
00:04:31 → 00:04:35 พลาดเช่นหน้าเกินหน้าขาดบางทีตัวหนังสือ
00:04:35 → 00:04:37 เรือนหลายๆครั้งเนี่ยความผิดพลาดที่มัน
00:04:37 → 00:04:39 เกิดขึ้นเนี่ยมันไม่ได้เกิดผลร้ายกับร่าง
00:04:39 → 00:04:42 กายยกตัวอย่างเช่นถ้าเกิดว่าตอนเด็กๆ
00:04:42 → 00:04:45 เนี่ยผมสามารถที่จะดื่มนมวัวได้เพราะว่า
00:04:45 → 00:04:47 จีนที่ทำหน้าที่ในการสร้างเอนไซม์ที่จะ
00:04:47 → 00:04:49 ย่อยแลคโตสที่อยู่ในนมเนี่ยนะครับมันทำ
00:04:49 → 00:04:52 งานได้ปกติแต่วันนึงจีนเนี้ยของผมเนี่ย
00:04:52 → 00:04:55 มันเกิด Mutation ขึ้นมาผมไม่สามารถจะ
00:04:55 → 00:04:58 สร้างเอนไซม์ที่จะย่อยแลคโตสที่อยู่ในนม
00:04:58 → 00:05:01 วัวได้อีกต่อไปผมก็ไม่สามารถจะกินนมวัว
00:05:01 → 00:05:04 ได้ถามว่ามันร้ายแรงถึงขั้นเป็นอันตราย
00:05:04 → 00:05:07 กับชีวิตมยอาจจะไม่นะครับเพราะฉะนั้นจริง
00:05:07 → 00:05:09 ๆแล้วเนี่ยตลอดเวลาที่เราใช้ชีวิตเนี่ย
00:05:09 → 00:05:12 จีนทั้ง 20,000 จีนของเราเนี่ยนะครับมัน
00:05:12 → 00:05:15 เกิด Mutation ตลอดเวลาเลยแต่หลายๆครั้ง
00:05:15 → 00:05:17 เนี่ยจีนนั้นเนี่ยต่อให้เกิด Mutation
00:05:17 → 00:05:19 แล้วเนี่ยมันก็ไม่เกิดอันตรายกับร่างกาย
00:05:19 → 00:05:22 ร่างกายยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติเพราะจีนๆ
00:05:22 → 00:05:25 นั้นเนี่ยมันไม่ได้ tical ที่จะทำให้เกิด
00:05:25 → 00:05:28 มะเร็งนั่นเองนั่นก็เท่ากับว่ามันจะมีแค่
00:05:28 → 00:05:31 จีนกลุ่มนึงที่เมื่อไหร่ก็ตามเกิด
00:05:31 → 00:05:34 Mutation แล้วล่ะก็มันจะนำไปสู่โรค
00:05:34 → 00:05:36 มะเร็งครับนักวิทยศาสตร์เนี่ยเคก็มีการ
00:05:36 → 00:05:39 ศึกษากันแล้วนะว่าในจากทั้งหมด 20,000
00:05:39 → 00:05:42 จีนเนี่ยไอ้จีนกลุ่มไหนบ้างล่ะที่เมื่อ
00:05:42 → 00:05:45 ไหร่ก็ตามที่มันเกิด Mutation เกิดผิด
00:05:45 → 00:05:47 เพี้ยนไปแล้วเนี่ยมันจะนำพาไปสู่โรค
00:05:47 → 00:05:49 มะเร็งตอนนี้เขาเจอแล้วนะครับมีอยู่
00:05:49 → 00:05:51 ประมาณ
00:05:51 → 00:05:54 1,8 จีนันนี้ตัวเลขที่ผมไปค้นมาเลยนะ
00:05:54 → 00:05:56 ครับยังไม่รู้ว่าตัวเลขมีการอัปเดตแล้ว
00:05:56 → 00:05:58 หรือยังแต่ตอนเประมาณ 1,000 กว่าจีนจาก
00:05:58 → 00:06:01 20,000 ถ้าคิดเป็นประเนี่ยก็ประมาณ 5%
00:06:01 → 00:06:05 ในบรรดาจีนทั้งหมดถ้าเกิด Mutation ในจีน
00:06:05 → 00:06:08 กลุ่มเนี้ยไอ้ 5% เนี้ยเรามีสิทธิ์ที่จะ
00:06:08 → 00:06:11 เป็นมะเร็งครับและหนึ่งในนั้นเนี่ยก็คือ
00:06:11 → 00:06:14 โจีนก็คือจีนก่อมะเร็งนั่นเองนะครับ
00:06:14 → 00:06:18 เดี๋ยวผมจะค่อยๆเล่าให้ฟังว่าใน 1,000
00:06:18 → 00:06:21 กว่าจีนเนี่ยมันแบ่งเป็นกลุ่มไหนบ้างมี
00:06:21 → 00:06:24 ทั้งหมด 4 กลุ่มครับกลุ่มแรกเนี่ยมันเป็น
00:06:24 → 00:06:26 กลุ่มจีนที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการเติบ
00:06:26 → 00:06:30 โตการแบ่งเซลล์การเพิ่มจำนวนเซลลล์นะครับ
00:06:30 → 00:06:32 โดยปกติถ้าเกิดว่าจีนกลุ่มเนี้ยมันทำงาน
00:06:32 → 00:06:35 ได้ปกติไม่เกิด Mutation เนี่ยถ้าเกิดว่า
00:06:35 → 00:06:36 เป็นสเตมเซลล์เนี่ยไอ้เจ้าจีนกลุ่มเนี้ย
00:06:36 → 00:06:37 มันจะทำงานได้ดีอยู่แล้วเพราะว่า
00:06:38 → 00:06:40 สเตมเซลล์มีหน้าที่ในการเพิ่มจำนวนเมื่อ
00:06:40 → 00:06:42 ไหร่ก็ตาที่มีแผลร่างกายต้องการการซ่อม
00:06:42 → 00:06:45 แซมเนี่ยสเตมเซลล์ก็จะแบ่งเซลล์เพื่อไปทด
00:06:45 → 00:06:48 แทนนะครับแต่สำหรับเซลล์ผู้ใหญ่แล้วคือ
00:06:48 → 00:06:50 เซลล์ที่เติบโตจากสเตมเซลล์เรียบร้อยแล้ว
00:06:50 → 00:06:53 เนี่ยนะครับปกติมันจะไม่แบ่งตัวและจีน
00:06:53 → 00:06:56 กลุ่มเนี้ยมันจะไม่ค่อย Active มันจะอยู่
00:06:56 → 00:07:00 เฉยๆของมันนะครับเราเรียกมันว่า prot
00:07:00 → 00:07:03 อจนทำงานปกตินะครับแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่
00:07:03 → 00:07:08 ไอ้เจ้าจีนกลุ่มโจนเนี่ยมันได้รับการ
00:07:08 → 00:07:11 กระตุ้นบางอย่างมีอะไรมาทริกเกอร์มันแล้ว
00:07:11 → 00:07:14 ทำให้มันเปิดสวิตช์จากที่มันอยู่เฉยๆนิ่ง
00:07:14 → 00:07:17 ๆเงียบๆเนี่ยกลายเป็น Active ขึ้นมาจาก
00:07:17 → 00:07:19 เซลล์ที่ไม่แบ่งตัวกลายเป็นเซลล์นั้น
00:07:19 → 00:07:21 เนี่ยจะถูกสั่งให้มันแบ่งตัวแล้วก็เพิ่ม
00:07:21 → 00:07:24 จำนวนทั้งๆที่มันไม่ควรจะแบ่งตัวและเพิ่ม
00:07:24 → 00:07:27 จำนวนอันนั้นแหละมันจะสามารถกลายเป็น
00:07:27 → 00:07:32 มะเร็งได้นั่นเองนะครับเมื่อโจีนที่ถูก
00:07:32 → 00:07:34 ปลุกให้ตื่นหือถูกทำให้ Active เนี่ยแล้ว
00:07:34 → 00:07:36 กลายเป็นเซลล์ก่อมะเร็งเนี่ยมันจะถูก
00:07:36 → 00:07:40 เรียกว่าโจีนหรือว่ายีนก่อมะเร็งนั่นเอง
00:07:40 → 00:07:42 ตอนเนักวิศาสตร์เคพยายามเก็บข้อมูลว่าตอน
00:07:42 → 00:07:45 เนี้ยในร่างกายเรามันมีอคีนตัวไหนบ้างมี
00:07:45 → 00:07:48 ทั้งหมดกี่ตัวจากตัวเลขที่ผมได้มาเนี่ยมี
00:07:48 → 00:07:51 ประมาณ 400 กว่าโจีนแล้วนะครับซึ่งถ้า
00:07:51 → 00:07:54 เกิดว่าใน 400 กว่าจีนเนี้ยมันเกิด
00:07:54 → 00:07:56 Mutation เมื่อไหร่มันจะทำให้เซลล์เนี่ย
00:07:56 → 00:07:59 มันเพิ่มจำนวนแบบหยุดไม่อยู่แล้วสามารถจะ
00:07:59 → 00:08:01 เป็นมะเร็งได้นะครับถ้าเราอยากจะ
00:08:01 → 00:08:05 จินตนาการเนาะว่าเซลล์มันคือเหมือนกับรถ
00:08:05 → 00:08:07 ที่มันต้องแล่นเนี่ยโดยปกติรถนี่มันจะ
00:08:07 → 00:08:11 แล่นด้วยสปีดปกติถ้าจีนกลุ่มเนี้ยมัน
00:08:11 → 00:08:13 แอคทีมันก็เหมือนเราจะเหยียบคันเร่งครับ
00:08:13 → 00:08:16 ถ้าเกิดว่าโกจีมันถูก Activate หรือ
00:08:16 → 00:08:18 Active เนี่ยมันเหมือนกับคันเร่งที่ถูก
00:08:18 → 00:08:20 เหยียบแล้วมันค้างไว้แล้วมันเป็นคันเร่ง
00:08:20 → 00:08:23 จมด้วยก็จะกระตุ้นให้เซลล์เนี่ยแบ่งตัว
00:08:23 → 00:08:26 แบบหยุดไม่อยู่แล้วมันก็จะกลายเป็นมะเร็ง
00:08:26 → 00:08:29 นั่นเองนะครับนั่นคือกลุ่มแรกคือโจีนคือ
00:08:30 → 00:08:32 ยีนก่อมะเร็งทีนี้จริงๆแล้วร่างกายดีไซน์
00:08:32 → 00:08:34 จีนอีก 3 กลุ่มที่เป็นเหมือนกับระบบ
00:08:34 → 00:08:37 นิรภัยเป็น Safety 3 กลุ่มนี้มีอะไรบ้าง
00:08:37 → 00:08:41 กลุ่มแรกครับมันเรียกว่า DNA Repair
00:08:41 → 00:08:45 gans ก็คือเป็นจนที่ทำหน้าที่ในการซ่อม
00:08:45 → 00:08:48 DNA หรือง่ายๆคือการซ่อม Mutation ที่
00:08:48 → 00:08:51 เกิดขึ้นกับไอ้เจ้าจีนกลุ่ม unc gans
00:08:51 → 00:08:53 นั่นเองนะครับจริงเร่างกายเนี่ยมันจะมี
00:08:53 → 00:08:55 ระบบมอนิเตอร์อยู่แล้วมีทีมคอยส่องอยู่
00:08:55 → 00:08:57 แล้วว่าเอ๊ะตอนเนี้ย DNA ของเราเนี่ยมี
00:08:57 → 00:08:58 ตรงไหนที่มันผิดเพี้ยนไปบ้างแล้วเมื่อ
00:08:59 → 00:09:01 ไหร่ก็ตามที่มันตรวจตาเจอปึ๊บมันก็จะสั่ง
00:09:01 → 00:09:04 งานให้มีเจ้าหน้าที่เนี่ยเอาไปซ่อมแซม DNA
00:09:04 → 00:09:07 นั้นทันทีเพื่อให้ DNA ของเราเนี่ยมัน
00:09:07 → 00:09:10 ปกติคล้ายกับตอนที่เราเป็นเด็กน้อยให้มาก
00:09:10 → 00:09:12 ที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเนี่ยมัน
00:09:12 → 00:09:15 ทำงานผิดปกตินะครับแต่ถ้าเกิดว่ายิงกลุ่ม
00:09:15 → 00:09:18 เนี้ยมันเกิดผิดเพี้ยนไปคือมันทำงานได้
00:09:18 → 00:09:20 ไม่เต็มที่หรือตัวมันเองเกิด Mutation
00:09:20 → 00:09:24 เนี่ยนะครับแทนที่มันจะซ่อม DNA ของกลุ่ม
00:09:24 → 00:09:27 อังคจีนได้เนี่ยมันดันซ่อมไม่ได้หรือมัน
00:09:27 → 00:09:30 ก็ซ่อมได้แหละแต่เผอิญ Mutation ที่มัน
00:09:30 → 00:09:32 เกิดขึ้นเนี่ยมันเกิดขึ้นมาเยอะมากเกิด
00:09:32 → 00:09:35 การสะสมมากขึ้นมากขึ้นสะสมจากอะไรเกิดจาก
00:09:35 → 00:09:37 การที่เราได้รับสารกระตุ้นพวกคาซ inogen
00:09:37 → 00:09:40 หรือว่าใช้ร่างกายแบบไม่ Healthy เลยแบบ
00:09:40 → 00:09:42 ดูแลร่างกายไม่ดีเลยนะครับทำให้ Mutation
00:09:42 → 00:09:46 เเกิดขึ้นเยอะมากจนไอ้ยีนกลุ่มเนี้ยมันทำ
00:09:46 → 00:09:50 งานสู้ต้านทานในอคีนไม่ไหวสุดท้ายโจน
00:09:50 → 00:09:52 เนี่ยก็จะ Active ขึ้นมานะครับนั่นคือ
00:09:52 → 00:09:55 กลุ่มที่เรียกว่า DNA Repair Gen จีน
00:09:56 → 00:09:57 อีกกลุ่มนึงที่เกี่ยวข้องกับการเกิด
00:09:57 → 00:09:59 มะเร็งคือ tumor suppressor gans ถ้า
00:09:59 → 00:10:02 unc gans เปรียบเหมือนกับคันเร่ง tumor
00:10:02 → 00:10:05 suppressor gans เปรียบเหมือนกับเบรก
00:10:05 → 00:10:08 ซึ่งไม่ใช่เบรกธรรมดาด้วยนะครับเรียกได้
00:10:08 → 00:10:10 ว่าเป็น Emergency Stop หรือเบรกมือเลย
00:10:10 → 00:10:12 นะฮะสมมุติว่าอคีเนี่ยมัน Active คือมัน
00:10:12 → 00:10:14 เหยียบคันเร่งแล้วคันเร่งจมมากเร่งให้
00:10:14 → 00:10:17 เซลล์เนี่ยมันโอแบ่งตัวอย่างรวดเร็วทั้ง
00:10:17 → 00:10:20 ที่ไม่ควรจะแบ่งตัวเนี่ยแต่เบรกมืออ่ะมัน
00:10:20 → 00:10:24 ทำงานดีคืออ๋อเธอ Active หรอแบ่งตัวหรอ
00:10:24 → 00:10:27 ฉันเกิดกดปุ่ม Emergency Stop เลยมันจะ
00:10:27 → 00:10:29 หยุดแบ่งตัวทันทีเซล์มาเรงนั้นเนี่ยก็จะ
00:10:30 → 00:10:32 ไม่ Active แล้วก็จะไม่เพิ่มจำนวนนะครับ
00:10:32 → 00:10:34 ถ้าจีนกลุ่ม tumor suppressor gans
00:10:34 → 00:10:36 เนี่ยทำงานได้ปกติไม่ผิดเพี้ยนไม่เกิด
00:10:36 → 00:10:39 Mutation เนี่ยมันก็สามารถจะเบรคเซลล์
00:10:39 → 00:10:42 มะเร็งได้แล้วก็ไม่ทำให้มะเร็งรามนะครับ
00:10:42 → 00:10:44 แต่ทีนี้จีนกลุ่มเยมันสามารถจะเกิด
00:10:44 → 00:10:46 Mutation ได้เช่นกันแล้วนักวิทยาศาสต์เค
00:10:46 → 00:10:48 ก็เจอแล้วว่าอ้อบางทีการที่เราเกิดมะเร็ง
00:10:49 → 00:10:52 เนี่ยไม่ใช่แค่ว่าโคจมันทำงานอย่างเดียว
00:10:52 → 00:10:54 นะไอ้เจ้าจีนที่ทำให้ที่ควรจะเป็นเบรกมือ
00:10:54 → 00:10:56 เนี่ยมันดันไม่ทำงานซะด้วยนะครับคือบาง
00:10:56 → 00:10:59 จีนเนี่ยมันหายไปมีจีนนึงที่แบบโด่งดัง
00:10:59 → 00:11:03 มากนะครับเขาเรียกว่าจีน p53 ส่วนเจะเจอ
00:11:03 → 00:11:05 ว่าเออคนที่เป็นมะเร็งเนี่ยเซลล์มะเร็ง
00:11:05 → 00:11:08 อ่ะมักจะมีจีน p53 ที่หยุดทำงานหรือหรือ
00:11:08 → 00:11:10 เกิด Mutation ทำงานได้ไม่ปกติเพราะ
00:11:10 → 00:11:12 ฉะนั้น Emergency Stop เนี่ยมันเลยทำงาน
00:11:12 → 00:11:15 ไม่ได้ oncogenes ก็เลย Active แล้วก็ไม่
00:11:15 → 00:11:18 มีใครไปห้ามปรามมันนะครับนั่นคือจีนกลุ่ม
00:11:18 → 00:11:20 ที่ 2 ที่ทำหน้าที่เป็น Safety เนาะนี่มี
00:11:20 → 00:11:23 จีนกลุ่มที่ 3 ด้วยสมมุติว่าซ่อมแล้วก็
00:11:23 → 00:11:25 ช่วยไม่ได้ช่างซ่อมทำงานไม่สำเร็จ
00:11:25 → 00:11:28 Emergency Stop ก็ผิดเพี้ยนไปทำงานไม่
00:11:28 → 00:11:31 ได้มีจีนอีกกลุ่มนึงครับที่เป็น Safety
00:11:31 → 00:11:34 กลุ่มนี้เรียกว่า Self destruction gans
00:11:34 → 00:11:38 นะครับเป็นจีนที่บอกให้เซลล์เนี่ยตายทัน
00:11:38 → 00:11:40 ทีคือทำที่เหมือนกับเป็นราคิอ่ะครับเมื่อ
00:11:40 → 00:11:42 ไหร่ก็ตามเห็นว่าเฮ้ยดูท่าไม่ดีแล้วเซลล์
00:11:42 → 00:11:45 เยมันเริ่มผิดปกติแล้วะเราต้องฆ่าตัวตาย
00:11:45 → 00:11:48 เพื่อที่จะปกป้องเซลล์อื่นๆที่เหลือใน
00:11:48 → 00:11:50 ร่างกายก่อนที่ไอ้เจ้าเซลล์เยมันจะไป
00:11:50 → 00:11:53 ทำลายเซลล์อื่นๆรอบข้างนะครับทีนี้ไอ้
00:11:53 → 00:11:56 เจ้าราคิจีนผมขอเรียกว่าราคิจีนแล้วกันนะ
00:11:56 → 00:11:59 ครับไอ้เจ้าราคิจีนเนี่ยปกติมันก็ทำทำงาน
00:11:59 → 00:12:01 ได้แหละแต่ถ้าเกิดว่ามันเกิด Mutation
00:12:01 → 00:12:05 ที่ยีนกลุ่มเนี้ยมันก็ไม่สามารถที่จะหยุด
00:12:05 → 00:12:08 การทำงานของอองโคจีนได้เพราะฉะนั้นเมื่อ
00:12:08 → 00:12:10 ไหร่มีการแบ่งเซลล์ปึ๊บมันไม่สามารถจะฆ่า
00:12:10 → 00:12:13 และกำจัดได้เซลล์ก็จะถูกแบ่งแบบหยุดแล้ว
00:12:13 → 00:12:17 ก็กู่ไม่กลับนั่นเองนะครับเพราะฉะนั้นจีน
00:12:17 → 00:12:19 ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งเนี่ยมี
00:12:19 → 00:12:22 ทั้งหมด 4 กลุ่มกลุ่มนึงคือโจีนจีนกรอ
00:12:22 → 00:12:25 มะเร็งเปรียบเทียบได้กับคันเร่งของรถนะ
00:12:25 → 00:12:27 ครับซึ่งเป็นคันเร่งจมด้วยหยุดไม่อยู่
00:12:27 → 00:12:30 แล้วแต่มีอีก 3 กลุ่มที่ทำหน้าที่เป็น
00:12:30 → 00:12:33 Safety ตัวแรกนะครับก็คือ DNA Repair
00:12:33 → 00:12:35 gans ทำหน้าที่ในการเป็นเหมือนช่างซ่อม
00:12:35 → 00:12:38 ซ่อมจีนของโจีนซิถ้ามันซ่อมได้เนี่ยโจีน
00:12:38 → 00:12:40 จะไม่ Active แต่ถ้ามันเสียแล้วซ่อมไม่
00:12:40 → 00:12:42 ได้เนี่ยเอาและ Safety ตัวแรกเนี่ย fail
00:12:42 → 00:12:45 ในการทำงานนะครับจีนกลุ่มที่ 3 ก็คือ
00:12:45 → 00:12:47 tumor suppressor gans เป็นเหมือนกับ
00:12:47 → 00:12:50 Emergency Stop คอยเบรกเลยถ้าเกิดว่า
00:12:50 → 00:12:53 ต่อให้อคีนจะทำงานแต่ถ้า E เบรกมือทำงาน
00:12:53 → 00:12:56 ได้ดีก็จะสามารถหยุด unc jeans ได้และ
00:12:56 → 00:12:57 ตัวสุดท้ายคือกลุ่ม Self destruction
00:12:57 → 00:13:01 gans ก็คือ har อีจีนครับทำหน้าที่ในการ
00:13:01 → 00:13:03 ฆ่าเซลล์นั้นทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้
00:13:03 → 00:13:06 มะเร็งเนี่ยมันลุกลามซึ่งถ้าทั้ง 4 กลุ่ม
00:13:06 → 00:13:09 นี้หรือ 2 ใน 4 3 ใน 4 เนี่ยมันเกิด
00:13:09 → 00:13:12 Mutation หรือทำงานผิดเพี้ยนไปเนี่ยนะ
00:13:12 → 00:13:16 ครับก็จะทำให้เกิดมะเร็งได้นั่นเองครับท
00:13:16 → 00:13:18 นี้ถามว่าโอเคตอนเเราเริ่มมีองค์ความรู้
00:13:18 → 00:13:21 แล้วนะว่าไอ้จีน 4 กลุ่มเก็คือ 1000 กว่า
00:13:21 → 00:13:23 จีนเนี่ยเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเซลล์
00:13:23 → 00:13:26 มะเร็งนะครับแล้วเราจะจัดการกับมันได้ยัง
00:13:26 → 00:13:29 ไงบ้างนะครับทีนี้ก็ต้องไปดูว่าไอ้ 4 4
00:13:29 → 00:13:31 ตัวเนี้ยมันมีทริกเกอร์อะไรบ้างล่ะที่ทำ
00:13:31 → 00:13:34 ให้มันเกิด Mutation แล้วมันทำงานได้ผิด
00:13:34 → 00:13:36 เพี้ยนไปจริงๆพูดถึงทริกเกอร์ที่ทำให้
00:13:36 → 00:13:40 เกิดมะเร็งเนี่ยหลายๆคนน่าจะผ่านหูพอมี
00:13:40 → 00:13:43 ความรู้กันมาอยู่แล้วบ้างนะครับผมจะไล่
00:13:43 → 00:13:45 เรียงให้ทีละตัวเลยเนาะจริงๆแล้ว
00:13:45 → 00:13:48 ทริกเกอร์เนี่ยมันแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม
00:13:48 → 00:13:50 กว้างๆทริกเกอร์ตัวแรกนะครับมันคือ
00:13:50 → 00:13:53 inherited jeans คือจนมะเร็งนี่แหละที่
00:13:53 → 00:13:56 ถูกถ่ายทอดมาจากพันธุกรรมมาจากคุณพ่อคุณ
00:13:56 → 00:13:59 แม่มาจากสายเลือดปู่ย่าตายายเราเนี่ยเคย
00:13:59 → 00:14:01 เป็นมะเร็งแล้วก็มีจีนส์มะเร็งเนี่ยซ่อน
00:14:01 → 00:14:04 อยู่แล้วมันก็ถูกถ่ายทอดมายังลูกหลานนะ
00:14:04 → 00:14:07 ครับทีนี้บางคนเนี่ยอาจจะมีจีนมะเร็งอยู่
00:14:07 → 00:14:09 เยอะกว่าคนอื่นเพรานั้นก็จะมีความเสี่ยง
00:14:09 → 00:14:12 ในการเกิดมะเร็งมากกว่าเพื่อนนั่นเองนะ
00:14:12 → 00:14:13 ครับทริกเกอร์อีกกลุ่มนึงเนี่ยเป็น
00:14:14 → 00:14:16 ทริกเกอร์ที่เกิดจากไล Style มันคือการ
00:14:16 → 00:14:18 ใช้ชีวิตนะครับมันคือการได้รับ
00:14:18 → 00:14:21 คาร์ซิโนเจนหรือว่าสารพิษต่างๆหรือการใช้
00:14:21 → 00:14:23 ชีวิตที่ไม่ Healthy นี่แหละมันสามารถจะ
00:14:23 → 00:14:25 ทริกเกอร์ให้จีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง
00:14:25 → 00:14:27 ทั้ง 4 กลุ่มเนี่ยมันเกิด Mutation ได้
00:14:27 → 00:14:29 และส่งผลมาให้เกิดมะเร็งได้นะครับครับที
00:14:29 → 00:14:31 นี้ทางวิทยาศาสตร์เนี่ยเคคก็มีการศึกษา
00:14:31 → 00:14:34 กันเนาะว่าระหว่างทริกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง
00:14:34 → 00:14:36 กับพันธุกรรมกับทริกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง
00:14:36 → 00:14:38 กับไลฟ์สไตล์ก็คือแต้มบุญกับการดูแลตัว
00:14:38 → 00:14:41 เองเนี่ยอันไหนมีน้ำหนักมากกว่ากันเคก็
00:14:41 → 00:14:43 เจอว่าจริงๆแล้วเนี่ยสาเหตุทริกเกอร์หลัก
00:14:43 → 00:14:46 ๆที่ทำให้พาไปสู่มะเร็งเนี่ยมันเกิดจาก
00:14:46 → 00:14:49 ไสลมากกว่าเพราะฉะนั้นต่อให้คุณจะมีจีน
00:14:50 → 00:14:52 มะเร็งมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งมาก
00:14:52 → 00:14:55 กว่าคนอื่นแต่ถ้าคุณดูแลตัวเองได้ดีๆ
00:14:55 → 00:14:58 เนี่ยนะครับเผลอๆแล้วเนี่ยโอกาสที่คุณจะ
00:14:58 → 00:15:00 เป็นมเร็งเนี่ยอาจจะจะน้อยกว่าเพื่อนที่
00:15:00 → 00:15:02 แม้จะไม่ค่อยมีจีนมะเร็งแต่ดันใช้ชีวิต
00:15:02 → 00:15:05 แบบไม่ Healthy ไม่ระมัดระวังมันก็สามารถ
00:15:05 → 00:15:07 จะทริกเกอร์ให้ไอ้เจ้าจีนที่เกี่ยวข้อง
00:15:07 → 00:15:10 กับมะเร็งเนี่ยมันทำงานแล้วก็ส่งผลให้
00:15:10 → 00:15:13 เกิดเซลล์มะเร็งได้นะครับทีนี้มาเจาะกัน
00:15:13 → 00:15:16 ว่าทริกเกอร์ที่เป็นไลฟ์สไตล์เนี่ยมันมี
00:15:16 → 00:15:19 อะไรบ้างนะมาดูซิว่าเรารู้ครบทุกตัวหรือ
00:15:19 → 00:15:23 เปล่าตัวแรกนะครับคือรังสีต่างๆนะครับ
00:15:23 → 00:15:26 รังสีที่อยู่ใกล้ตัวมากก็คือแสงแดดแต่
00:15:26 → 00:15:29 ก่อนเนี่ยผมเป็นคนสู้แดดมากเลยแบบเป็นคน
00:15:29 → 00:15:32 ลุยลุยๆมากแล้วก็ไม่อยากทำตัวสำอางนะครับ
00:15:32 → 00:15:36 แบอ้าแสงแดดหรอเราไม่กลัวแต่พอเราเริ่มมี
00:15:36 → 00:15:38 ความรู้มากขึ้นแล้วก็เจอว่าโหจริงๆแล้ว
00:15:38 → 00:15:41 แสงแดดเนี่ยมันเป็นภัยกับร่างกายเรามาก
00:15:41 → 00:15:44 แล้วเราก็ควรจะป้องกันตัวเองทุกครั้งที่
00:15:44 → 00:15:46 เราออกจากบ้านเราเจอแสงแดดนะครับรังสี UV
00:15:46 → 00:15:48 จากแสงแดดเนี่ยน่ากลัวจริงๆนะครับเป็นตัว
00:15:48 → 00:15:51 หลักเลยที่กระตุ้นอโคจีนให้คันเร่งเนี่ย
00:15:51 → 00:15:53 มันจมแล้วก็ไปกระตุ้นให้ Emergency Stop
00:15:53 → 00:15:56 เนี่ยมันหยุดทำงานนะครับเพราะฉะนั้นก่อน
00:15:56 → 00:15:59 ออกจากบ้านควรจะทากันแดดไม่ได้เพียงแต่
00:15:59 → 00:16:02 หน้านะครับตัวด้วยซ้ำไปบางทีถ้าแดดแรงแๆ
00:16:02 → 00:16:05 เนี่ยผิวหนังที่มันต้อง expose กับแสงแดด
00:16:05 → 00:16:08 เนี่ยเราควรจะทาซัน screen เพื่อปกป้อง
00:16:08 → 00:16:10 มันนะครับนอกจาก UV แล้วเนี่ยรังสีอื่นๆ
00:16:10 → 00:16:13 เนี่ยก็อันตรายไม่แพ้กันนะครับอย่าง xray
00:16:13 → 00:16:15 radiation ต่างๆเนี่ยสามารถที่จะ
00:16:15 → 00:16:17 ทริกเกอร์ให้จีนเกิด Mutation ได้ทั้ง
00:16:17 → 00:16:21 นั้นครับอย่างที่ 2 ครับอันเนี้ยผมเดาว่า
00:16:21 → 00:16:24 หลายๆคนเนี่ยอาจจะมองข้ามลืมไปนะครับว่า
00:16:24 → 00:16:27 เป็นทริกเกอร์ที่ทำให้เกิด Mutation ได้
00:16:27 → 00:16:30 นะครับนั่นคือไวรัสครับจริงๆการติดเชื้อ
00:16:30 → 00:16:34 ไวรัสเนี่ยก็สามารถนำไปสู่มะเร็งได้หลาก
00:16:34 → 00:16:37 หลายโลกเลยนะครับไอ้เจ้าไวรัสที่สามารถจะ
00:16:37 → 00:16:39 Lead ไปสู่มะเร็งเนี่ยเขาจะเรียกว่าอโค
00:16:39 → 00:16:42 ไวรัสคือเป็นเรียกรวมๆว่าไวรัสที่นำไปสู่
00:16:42 → 00:16:45 โรคมะเร็งนะครับมีอะไรบ้างตัวแรกตัวสำคัญ
00:16:45 → 00:16:48 เลยนะครับคือ hpv นะครับชื่อเต็มเต็มของ
00:16:48 → 00:16:51 มันเนี่ยคือ Human papilloma virus นะ
00:16:51 → 00:16:54 ครับ hpv เนี่ยหลายๆคนเนี่ยน่าจะเคยได้
00:16:54 → 00:16:57 ยินแล้วก็มีการณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีน hpv
00:16:57 → 00:17:00 ด้วยเพราะว่าไวรัสตัวเนี้ยมันสามารถจะติด
00:17:00 → 00:17:02 ต่อทางเพศสัมพันธ์ได้นะครับถ้าเกิดว่าเรา
00:17:02 → 00:17:05 มีภูมิคุ้มกันเนี่ยช่วยได้เยอะเลยถามว่า
00:17:05 → 00:17:07 ถ้าเราติดไอ้เจ้า hpv มาแล้วแล้วมันอยู่
00:17:07 → 00:17:08 ในร่างกายของเราเนี่ยมันจะทำให้เกิด
00:17:08 → 00:17:12 มะเร็งอะไรได้บ้างโอ้โหเยอะมากครับ 7-8
00:17:12 → 00:17:15 มะเร็งเลยนะครับซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับ
00:17:15 → 00:17:17 เพศสัมพันธ์ด้วยอย่างแรกคือมะเร็งปากนะ
00:17:17 → 00:17:20 ครับถ้ามีการเมีเพศสัมพันธ์ผ่านการ oral
00:17:20 → 00:17:23 เนี้ยแล้วเกิดติดเชื้อไวรัสมาเนี่ยสามารถ
00:17:23 → 00:17:26 ทำให้เกิดมะเร็งที่บริเวณช่องปากได้และีด
00:17:26 → 00:17:30 ไปสู่มะเร็งปากนะครับมะเร็งปากมดลูกนะ
00:17:30 → 00:17:33 ครับมะเร็งในช่องคลอดมะเร็งในทวารหนัก
00:17:33 → 00:17:36 มะเร็งในอวัยวะเพศชายอวัยวะเพศหญิงนะครับ
00:17:36 → 00:17:39 หรือว่าโรคต่างๆอย่างเช่นพวกหูดหงอนไก่
00:17:39 → 00:17:41 เนี้ยมันเกิดมาจาก hpv ทั้งสิ้นเพราะ
00:17:41 → 00:17:44 ฉะนั้นป้องกันตัวเอง make sure ว่าเรามี
00:17:44 → 00:17:48 ภูมิต้านทานต่อไวรัส hpv เนี่ยก็จะลดความ
00:17:48 → 00:17:50 เสี่ยงในการเกิดมะเร็งกับอวัยวะเหล่านี้
00:17:50 → 00:17:53 ที่ผมพูดไปได้นะครับตัวที่ 2 ครับคือ
00:17:53 → 00:17:57 ไวรัสตับอักเสบ B หรือว่าเทิส B ชื่อย่อ
00:17:57 → 00:17:59 คือ hb นะครับ hb เนี่ยก็เป็นอีกหนึ่ง
00:17:59 → 00:18:03 ไวรัสที่มีการลลงให้ฉีดวัคซีน hb กระตุ้น
00:18:03 → 00:18:07 เรื่อยๆนะครับใครที่มีภูมิคุ้มกันต่อ hb
00:18:07 → 00:18:10 เนี่ยก็จะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ
00:18:10 → 00:18:13 น้อยกว่าคนที่ติดเชื้อ hepatitis B นะ
00:18:13 → 00:18:15 ครับเพราะงั้นถ้าไม่อยากเป็นมะเร็งตับ
00:18:15 → 00:18:18 เนี่ย make sure ว่าคุณมีภูมิต้านทานต่อ
00:18:18 → 00:18:21 hb ก็จะดีมากนะครับมีอีกหนึ่งไวรัสที่
00:18:21 → 00:18:23 สามารถนำไปสู่มะเร็งได้เช่นกันนะครับชื่อ
00:18:23 → 00:18:26 อาจจะไม่คุ้นนะครับชื่อมันคือ f CB
00:18:26 → 00:18:30 virus หรือว่า E B นะครับเจ้า ebv
00:18:30 → 00:18:32 เนี่ยเวลาที่ติดไปแล้วเนี่ยมันสามารถทำ
00:18:32 → 00:18:35 ให้เกิดเป็นโรคที่มีอาการคล้ายๆกับไข้
00:18:35 → 00:18:37 หวัดหรือว่าไข้หวัดใหญ่บางทีเนี่ยเราไม่
00:18:37 → 00:18:39 รู้ตัวเลยนะครับจริงๆแล้วโรคเนี้ยเขา
00:18:39 → 00:18:43 เรียกมันว่าโรคติดต่อจากการจูบชื่อทางการ
00:18:43 → 00:18:47 มันคือโรคโนนิคินะครับซึ่งเจ้าเชื้อตัวเ
00:18:47 → 00:18:50 จริงๆมันก็รักษาตามอาการนะครับต่อให้
00:18:50 → 00:18:51 เหมือนกับว่ามันจะไม่กำเริบแล้วมันก็จะ
00:18:52 → 00:18:54 ซ่อนอยู่ในร่างกายของเราเมื่อไหร่ก็ตาม
00:18:54 → 00:18:56 ที่ร่างกายเราอ่อนแอเนี่ยมันก็จะกำเริบ
00:18:56 → 00:18:59 ได้ถามว่าไวรัสกลุ่มเนี้ยมันแบบจำเพาะ
00:18:59 → 00:19:01 เจาะโจงที่ทำให้เกิดมะเร็งอะไรมั้ยมันอาจ
00:19:01 → 00:19:03 จะไหม้ขนาดนั้นแต่มันสามารถทำให้ร่างกาย
00:19:03 → 00:19:05 อ่อนแอแล้วเมื่อไหร่ที่ร่างกายอ่อนแอ
00:19:06 → 00:19:09 เนี่ยมันอาจจะเกิดไวรัสเข้ามาติดแทรกซ้อน
00:19:09 → 00:19:11 แล้วก็นำไปสู่มะเร็งได้นะครับเช่นเดียว
00:19:11 → 00:19:15 กับไวรัส HIV ที่คนน่าจะคุ้นเคยดีนะครับ
00:19:15 → 00:19:19 แล้วเจ้า HIV เนี่ยครับมันก็เป็นเชื้อที่
00:19:19 → 00:19:21 สามารถจะซ่อนตัวอยู่ในร่างกายตัวมันเอง
00:19:21 → 00:19:23 เนี่ยสามารถทำให้ร่างกายเนี่ยภูมิคุ้มกัน
00:19:23 → 00:19:25 น่ะต่ำลงอ่อนแอลงพอร่างกายอ่อนแอลงเนี่ย
00:19:26 → 00:19:28 มันก็มีความเสี่ยงที่จะไปติดเชื้อไวรัส
00:19:28 → 00:19:30 อื่นๆเช่นเป็น hpv หรือว่า hb ได้นะครับ
00:19:30 → 00:19:33 ซึ่งไอ้เจ้า 2 ตัวเนี้ยีดไปสู่โรคมะเร็ง
00:19:33 → 00:19:38 เพราะฉะนั้นทั้ง hpv hb ebv HIV พวก
00:19:38 → 00:19:41 เนี้ยทั้งหมดเลยหรือแม้กระทั่ง herp
00:19:41 → 00:19:43 ไวรัสที่ทำให้เกิดเริมทั้งหลายเนี่ยนะ
00:19:43 → 00:19:45 ครับสามารถที่จะเป็นต้นเหตุเป็นทริกเกอร์
00:19:45 → 00:19:47 ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้เพราะฉะนั้นเรา
00:19:48 → 00:19:50 สามารถที่จะป้องกันการติดไวรัสพวกนี้ได้
00:19:50 → 00:19:52 เพราะฉะนั้นป้องกันสระนะครับเพื่อลดความ
00:19:52 → 00:19:55 เสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งครับทริกเกอร์
00:19:55 → 00:19:57 กลุ่มที่ 3 ผมเรียกว่าเป็นทริกเกอร์ที่มา
00:19:57 → 00:20:00 กับอากาศแล้วกันนะครับซึ่งโอ้โหทุกวันนี้
00:20:00 → 00:20:03 น่าจะทุกคนซัฟเฟอร์มากเนาะเพราะอย่างแรก
00:20:03 → 00:20:06 คือฝุ่นมลพิษต่างๆพิิต่างๆที่รออยู่ใน
00:20:06 → 00:20:09 อากาศนะครับสามารถที่จะสูดเข้าไปแล้วแล้ว
00:20:09 → 00:20:11 มันก็ไปกระตุ้นทำให้เกิดจีน Mutation ได้
00:20:11 → 00:20:15 ทั้งนั้นฝุ่นมาแล้วสารเคมีในบุหรี่เนี่ย
00:20:15 → 00:20:17 มันเยอะมากเนาะเป็นสารที่แบบไอระเหยทั้ง
00:20:17 → 00:20:19 นั้นเลยรวมกันน่ะโอไม่รู้กี่ชนิดมันเยอะ
00:20:19 → 00:20:21 มากเป็นหลายร้อยหลายพันชนิดเอยู่ในบุหรี่
00:20:21 → 00:20:23 นะครับทั้งบุหรี่ปกติแล้วก็บุหรี่ไฟฟ้า
00:20:23 → 00:20:26 ด้วยนะครับอันตรายทั้งคู่เพราะงั้นใครที่
00:20:26 → 00:20:30 ไม่อยากเป็นมะเร็งเนี่ยผมแนะนำเลยจุดนึง
00:20:30 → 00:20:32 เลิกครับสู้กับตัวเองพยายามตัดใจแล้วก็
00:20:32 → 00:20:35 เลิกกับบุหรี่ให้ได้ครับถ้าคุณเลิกบุหรี่
00:20:35 → 00:20:37 เนี่ยความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเนี่ยมัน
00:20:37 → 00:20:39 จะลดลงแบบฮวบเลยนะครับเพราะว่ามันเป็น
00:20:39 → 00:20:42 ทริกเกอร์หลักที่ทำให้เกิดมะเร็งได้เลยนะ
00:20:42 → 00:20:45 ครับสารเมิอื่นๆครับไอระเหยจัดควันรสคำ
00:20:45 → 00:20:49 เหม่าอ่าไอระเหยมิฮายจากสารเคมีสารทำความ
00:20:49 → 00:20:51 สะอาดบ้านอย่างเงี้ยต่างๆนะครับพวกกลาง
00:20:51 → 00:20:54 ห้องน้ำสารเคมีเหล่าเนี้ยถ้าเกิดเราสูดดม
00:20:54 → 00:20:58 ไปเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆมันสามารถที่จะไปกระต
00:20:58 → 00:21:00 ตุ้นให้เกิดจน Mutation ได้เช่นกันนะครับ
00:21:00 → 00:21:03 เพราะฉะนั้นต้องระวังทริกเกอร์มาจากอากาศ
00:21:03 → 00:21:06 ได้นะครับต่อมาทริกเกอร์มาจากอาหารแล้วก็
00:21:06 → 00:21:08 เครื่องดื่มครับคืออ่าเครื่องดื่มหลายๆคน
00:21:08 → 00:21:11 อาจจะไม่ถูกใจคำนี้นะครับแต่ว่าแอลกอฮอล
00:21:11 → 00:21:13 เนี่ยก็เป็นทริกเกอร์ที่ทำให้เกิดจีน
00:21:13 → 00:21:16 Mutation ได้เช่นกันนะดื่มพอดีๆๆเนาะ
00:21:16 → 00:21:18 อาหารมาจากไหนล่ะอาหารเรามักจะคุ้นเคยว่า
00:21:18 → 00:21:21 อาหารที่มันไหม้เนี่ยดำๆเนี่ยเป็น
00:21:21 → 00:21:24 คาร์ซิโนเจนแน่นอนเลี่ยงได้เลี่ยงอาหาร
00:21:24 → 00:21:28 ทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำๆซ้ำๆๆๆน่ะก็เป็น
00:21:28 → 00:21:31 คาร์ซิโนเจนได้เช่นกันอาหารแปรรูปที่เป็น
00:21:31 → 00:21:35 process Meat process Food ต่างๆ
00:21:35 → 00:21:37 เนี่ยครับก็สามารถจะทำให้เกิดมะเรงได้
00:21:37 → 00:21:39 เพราะว่ากระบวนการ process หลายๆขั้นตอนเ
00:21:39 → 00:21:42 เนาะมันต้องใช้สารเคมีหรือว่ามันมีการ
00:21:43 → 00:21:45 เปลี่ยนรูปโครงสร้างทางเคมีของอาหารเนี่ย
00:21:45 → 00:21:48 ไอ้การเปลี่ยนรูปอันนั้นแหละมันมีความ
00:21:48 → 00:21:50 เป็น Free Radical กินเข้าไปแล้วแล้วมัน
00:21:50 → 00:21:53 สามารถที่จะไปกระตุ้นให้เกิดจีน mation
00:21:53 → 00:21:55 ได้นะครับสารพิษจากเชื้อรา alra ทอกซิน
00:21:55 → 00:21:58 คือสารพิษที่เกิดจากเชื้อรามันก็สามารถ
00:21:58 → 00:22:00 ที่จะกระตุ้นให้เกิดจีน mation ได้เช่น
00:22:00 → 00:22:03 กันนะครับนอกจากนี้ยังมีสารพิษตกค้างที่
00:22:03 → 00:22:06 อยู่ในธรรมชาติตามดินตามแหล่งน้ำยกตัว
00:22:06 → 00:22:08 อย่างเช่นอาร์เซนิกหรือว่าสารหนูนะครับ
00:22:08 → 00:22:12 ซึ่งมันปนเปื้อนอยู่ในยา่าแมลงเวลาที่มี
00:22:12 → 00:22:14 การใช้ยา่าแมลงในการปลูกพืชเนี่ยแล้วมัน
00:22:14 → 00:22:17 ก็กระจายแล้วก็สมสั่งสมอยู่ในดินอยู่ใน
00:22:17 → 00:22:20 น้ำดินน้ำไหลเข้ามาจากน้ำในดินน้ำบาดาล
00:22:20 → 00:22:22 เราไปใช้เนี่ยแล้วเราได้รับเข้ามาในร่าง
00:22:22 → 00:22:25 กายเนี่ยแน่นอนสารเหล่านี้ทั้งหมดมันคือ
00:22:25 → 00:22:28 คาร์ซิโนเจนง่ายๆคาร์ซิโนเจนมันคือสารพิษ
00:22:28 → 00:22:32 แหละซึ่งมาได้จากทุกทิศทุกทางรอบตัวเรา
00:22:32 → 00:22:35 ถ้าเราพยายามกันตัวเองให้เราได้รับสารพิษ
00:22:35 → 00:22:37 น้อยที่สุดเนี่ยมันก็จะลดความเสี่ยงในการ
00:22:37 → 00:22:40 เกิดมะเร็งนั่นเองนะครับเพรางั้นอย่างแรก
00:22:40 → 00:22:44 เลยถามว่าอยากจะลดปิดสวิตชไอ้เจ้าโคจไม่
00:22:44 → 00:22:48 ให้มันทำงานเทำยังไงล่ะเราก็ต้องลดโอกาส
00:22:48 → 00:22:51 ที่เราจะได้รับทริกเกอร์ต่างๆเข้ามาใน
00:22:51 → 00:22:53 ร่างกายทริกเกอร์ต่างๆก็พูดไปแล้วนะครับ
00:22:53 → 00:22:55 แต่ในความเป็นจริงเนี่ยเนาะต่อให้เราจะดู
00:22:55 → 00:22:58 แลตัวเองดีแค่ไหนอ่ะมันไม่มีทางเลยอ่ะที่
00:22:58 → 00:23:00 จะป้องกันไม่ให้ทริกเกอร์เนี่ยมันบุกเข้า
00:23:00 → 00:23:04 มาในร่างกายจนมันกระตุ้นให้ร่างกายของเรา
00:23:04 → 00:23:08 เนี่ยมันเกิด Mutation ได้นะครับเลี่ยง
00:23:08 → 00:23:11 ไม่ได้เลยแต่นอกจากจะกั้นทริกเกอร์ไม่ให้
00:23:11 → 00:23:14 มันเข้ามาแล้วเนี่ยการที่เรามีไ Lifestyle
00:23:15 → 00:23:17 ที่ดี maintain ให้ร่างกายเรามีสุขภาพที่
00:23:17 → 00:23:19 ดีให้เซลล์ของเราเนี่ยมันเป็นเซลล์ที่มี
00:23:19 → 00:23:22 เซลล์ Healthy เยอะๆนะครับมันช่วยป้องกัน
00:23:22 → 00:23:25 ได้นะครับเพราะว่าเเจอว่าจริงๆแล้วเซลล์
00:23:25 → 00:23:28 เนี่ยมันเหมือนกับเหมือนกับคนเลยอ่ะถ้า
00:23:28 → 00:23:31 เกิดว่าเราอ่ะลายล้อมไปด้วยเพื่อนเราที่
00:23:31 → 00:23:35 เป็นเพื่อนที่ดีมันก็จะเหมือนกับ Build
00:23:35 → 00:23:38 กันเหนี่ยวนำกันให้ให้เราอ่ะเป็นคนดีไป
00:23:38 → 00:23:40 ด้วยนะครับเช่นกันเลยอ่ะเซลล์ที่มัน
00:23:40 → 00:23:43 เหมือนจะเริ่ม unhealthy แล้วอ่ะแต่มัน
00:23:43 → 00:23:46 ถูกลายล้อมไปด้วยเซลล์ที่ Healthy เยอะๆ
00:23:46 → 00:23:48 เนี่ยนะครับเซลล์ Healthy เยอะๆเนี่ยจริง
00:23:48 → 00:23:50 ๆแล้วมันก็สามารถจะส่งสัญญาณต่างๆมาที่
00:23:50 → 00:23:53 ช่วยในการซ่อมแซมไอ้เซลล์ที่มันกำลังจะ
00:23:53 → 00:23:56 ป่วยและจะกลายเป็นมะเร็งได้เช่นกันนะครับ
00:23:56 → 00:23:57 เพราะฉะนั้นการที่เราดูแลตัวเองทำให้เ
00:23:57 → 00:24:00 Healthy เนี่ยมีเยอะๆเนี่ยมันก็เป็นการ
00:24:00 → 00:24:03 ปกป้องแล้วก็ลดความเสี่ยงให้เซลล์มะเร็ง
00:24:03 → 00:24:05 เนี่ยมัน Active ได้ตามไปด้วยเพราะงั้นดู
00:24:05 → 00:24:07 แลตัวเองให้ Healthy เนี่ยเป็นประโยชน์
00:24:07 → 00:24:10 อยู่แล้วนะครับทั้งทางตรงและทางอ้องั้น
00:24:10 → 00:24:13 อย่างแรกปิดสวิตช oncogenes ด้วยการลด
00:24:13 → 00:24:16 ทริกเกอร์และดูแลตัวเองให้ดีอย่างที่ 2
00:24:16 → 00:24:19 ครับอันเนี้ยมันจะเริ่มเริ่มใช้ประโยชน์
00:24:19 → 00:24:23 ก็ต่อเมื่อจนเนี่ยมัน Active แล้วอันแรกเ
00:24:23 → 00:24:25 มันคือการป้องกันเนาะแต่เนี้ยมันคือเป็น
00:24:25 → 00:24:28 การ Treatment มันเป็นการรักษาและถ้าวัน
00:24:28 → 00:24:28 นึง
00:24:28 → 00:24:31 จีนที่เป็นจีนมะเร็งนะครับหรือว่าโกจีเ
00:24:31 → 00:24:33 มัน Active นะครับแล้วมะเร็งมันเริ่มเกิด
00:24:33 → 00:24:36 ขึ้นในร่างกายของเราแล้วเนี่ยแล้วเราไป
00:24:36 → 00:24:39 เจอคุณหมอแล้วคุณหมอวินิจฉัยแล้วว่าโอเค
00:24:39 → 00:24:41 ตอนนี้มะเร็งเกิดขึ้นสิ่งที่คุณหมอจะ
00:24:41 → 00:24:43 เริ่มทำในขั้นตอนแรกๆถ้าเกิดเป็นมะเร็ง
00:24:43 → 00:24:45 ระยะแรกๆเนี่ยนะครับเค้าจะเริ่มต่อสู้กับ
00:24:45 → 00:24:48 มะเร็งก่อนเนาะแน่นอนเจะแนะนำให้เราเริ่ม
00:24:48 → 00:24:50 ดูแลตัวเองเพราะการดูแลตัวเองเนี่ยมัน
00:24:50 → 00:24:52 สามารถจะห้ามปรามให้มะเร็งเนี่ยมันลาม
00:24:52 → 00:24:55 น้อยลงได้กับหมอเนี่ยจะเริ่มจ่ายยาต้าน
00:24:55 → 00:24:57 มะเร็งนะครับทีนี้ไอ้เจ้ายาต้านมะเร็ง
00:24:57 → 00:25:00 เนี่ยแหละครับครับมันเกิดมาจากองค์ความ
00:25:00 → 00:25:03 รู้เรื่องอจนนักวิทยาศาสเเ identify ได้
00:25:03 → 00:25:05 แล้วใช่ไหมมว่าอจนเนี่ยมันมีจีนอะไรบง
00:25:05 → 00:25:07 เพราะเขเริ่มดูแล้วว่าโอเคถ้าเราเป็น
00:25:07 → 00:25:11 มะเร็งตับแสดงว่าโจีนตัวนี้ตัวนี้ตัวนี้
00:25:11 → 00:25:14 มันอาจจะทำงานเพราะเรู้ว่าจีนตัวไหนมันทำ
00:25:14 → 00:25:19 งานผิดปกติเนี่ยเา้าก็จะใช้ยาไปจัดการกับ
00:25:19 → 00:25:22 จีนตัวนั้นนะครับซึ่งไอ้เจ้ายากลุ่มเนี้ย
00:25:22 → 00:25:25 เรียกว่า cancer Growth blockers หรือ
00:25:25 → 00:25:28 ว่า cancer Growth inhibitor นะครับ
00:25:28 → 00:25:30 blocker กับอิอเนี่ยแปลตรงตัวก็คือแบบไป
00:25:30 → 00:25:33 บล็อกมันไปห้ามไม่ให้มันทำงานได้เต็มที่
00:25:33 → 00:25:35 โกจีเนี่ยมันทำงานโดยการทำให้เซลล์มัน
00:25:36 → 00:25:39 เพิ่มใช่มยยากลุ่มเนี้ยก็ไปทำงานทำหน้า
00:25:39 → 00:25:42 ที่ในการเบรคไม่ให้มันเพิ่มให้มันหยุด
00:25:42 → 00:25:45 เพิ่มนั่นเองนะครับถามว่ายากลุ่มเนี้จริง
00:25:45 → 00:25:47 ๆแล้วปัจจุบันเนี่ยมันมีคนคิดค้นยามาหลาย
00:25:47 → 00:25:50 ตัวแล้วนะครับมีการรับรองด้วยหน่วยงานแบบ
00:25:50 → 00:25:53 fda หรืออยระดับโล่เนี่ยหลายตัวเลยรักษา
00:25:53 → 00:25:55 กันเป็นทางการมีการจ่ายยาแล้วนะครับ
00:25:55 → 00:25:58 แทคติกนึงของยากลุ่มเมันคือการไปบล็อก
00:25:58 → 00:26:01 โปรตีนตัวนึงที่อยู่ในเซลล์ที่ทำหน้าที่
00:26:01 → 00:26:03 ในการไปบอกโปรตีนตัวอื่นๆแล้วก็ไปบอก
00:26:03 → 00:26:06 เซลล์ว่าเฮ้ยแบ่งตัวแบ่งตัวเถอะแบ่งตัว
00:26:06 → 00:26:09 โปรตีนตัวเนี้ยมันเรียกว่าไทโรซีนไนสเป็น
00:26:09 → 00:26:12 เอนไซมนะครับเพราะฉะนั้นยากลุ่มเเราเรียก
00:26:12 → 00:26:16 ว่าไทโรซีนไนส inhibitor หรือว่ายากลุ่ม
00:26:16 → 00:26:20 tki ก็เป็นหนึ่งในยาต้มะเร็งกลุ่มสำคัญ
00:26:20 → 00:26:22 เลยที่คุณหมอเนี่ยจะจ่ายในการรักษามะเร็ง
00:26:23 → 00:26:27 หลายๆชนิดนะครับผมก็เข้าไปดูว่าเอ๊ไอ้ยา
00:26:27 → 00:26:30 ตัวเนี้ยสารกัดเหล่าเนี้ยจริงๆแล้วมัน
00:26:30 → 00:26:33 สกัดมาจากอะไรหรอเพื่อที่จะว่าถ้าเกิดเรา
00:26:33 → 00:26:36 รู้ว่ามันสกัดมาจากอะไรเนี่ยถ้าเราไปกิน
00:26:36 → 00:26:39 อาหารที่มีไอ้เจ้าสารที่เป็น Active
00:26:39 → 00:26:40 compound เหล่านี้เยอะๆเนี่ยมันก็น่าจะ
00:26:40 → 00:26:43 ช่วยร่างกายเราเนาะเพราะบางทีเนี่ยเราไม่
00:26:43 → 00:26:46 รู้หรอกว่าโจีนเี่มัน Active แล้วเพราะ
00:26:46 → 00:26:48 บางทีอ่ะโรคมันยังไม่เกิดแล้วเรายังไม่ไป
00:26:48 → 00:26:51 หาคุณหมอคุณหมอยังไม่ได้วินิจฉัยเลยว่า
00:26:51 → 00:26:54 มันแคีแต่ถ้าเกิดเราแอคทีโดยไม่รู้ตัวแต่
00:26:54 → 00:26:57 เรากินอาหารที่มันจะมีสารคล้ายๆกันที่มัน
00:26:57 → 00:27:00 มีรทคล้ายๆกับยากลุ่มเนี้ยมันก็น่าจะช่วย
00:27:00 → 00:27:04 ในการไปเบรกไปห้ามปราอจนไม่ให้ทำงานได้
00:27:04 → 00:27:06 ถูกต้องมมครับก็ไปเจอว่าจริงๆแล้วยากลุ่ม
00:27:06 → 00:27:09 เนี้ยกลุ่ม tyrosine kes inhibitor
00:27:09 → 00:27:11 หรือว่า tki เนี่ยอ่ะเดี๋ยวบอกชื่อยานิด
00:27:11 → 00:27:14 นึงนะครับเผื่อใครจะลองไปเสิร์ชเนาะมันมี
00:27:14 → 00:27:19 dasatinib นะครับมี imin มี nalin แล้ว
00:27:19 → 00:27:22 ก็ uin จริงๆมีอีกหลายตัวเลยนี่ยกตัว
00:27:22 → 00:27:24 อย่างมาให้เผื่อใครจะลองไปเสิร์ชดูได้นะ
00:27:24 → 00:27:26 ครับผมก็ไปดูว่าเออไอ้เจ้ายากลุ่มเมันไป
00:27:26 → 00:27:29 สกัดมาจากอะไรซึ่งแทรกไปแทกมาเนี่ยก็เจอ
00:27:29 → 00:27:32 ว่าไอ้เจ้ายากลุ่มเนี้ยมันก็สกัดมาจากพืช
00:27:32 → 00:27:35 นี่แหละซึ่งพืชเนี่ยมันจะมีไฟต Chemical
00:27:35 → 00:27:39 ก็คือสารที่อยู่ในพืชนะครับกลุ่มสำคัญๆั
00:27:39 → 00:27:41 เลยนะที่เขาไปสกัดมาแล้วมีคุณสมบัติ
00:27:41 → 00:27:45 เหมือนกับยากลุ่มนี้เลยก็คือานอยครับพืช
00:27:45 → 00:27:48 ที่มีานอยก็คือผักผลไม้นั่นแหละนั้นเถึง
00:27:48 → 00:27:51 มีการพูดกันว่าานอยเนี่ยมีคุณสมบัติเป็น
00:27:51 → 00:27:54 แอนตี้ cancer ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
00:27:54 → 00:27:55 นะครับแล้วก็มีการแนะนำว่าเราควรจะกินผัก
00:27:55 → 00:27:59 ผลไม้เยอะๆให้มันหลากหลายทีนี้ผมตั้งใจ
00:27:59 → 00:28:02 ว่าจะทำตอนนึงที่เป็นวอยรวมๆแต่เพื่อหลาย
00:28:02 → 00:28:05 คนน่าจะอยากรู้แล้วอ่ะผมก็เลยยกมาคร่าวๆ
00:28:05 → 00:28:08 แล้วกันว่าสารกลุ่มานอยเนี่ยมันมีอะไร
00:28:09 → 00:28:11 บ้างนะครับหลายตัวเคยพูดไปแล้วนะครับมา
00:28:11 → 00:28:16 ตัวแรกเลยนะครับคือสารที่ชื่อว่า EG CG
00:28:16 → 00:28:19 ชื่อเต็มๆของมันเนี่ยคืออิพิแกลคาชิน
00:28:19 → 00:28:24 garet คาชินคุณๆมคาเทชินเนี่ยอยู่ในชา
00:28:24 → 00:28:27 เขียวนะครับอยู่ในชาเยอะนะครับเพราะงั้น
00:28:27 → 00:28:29 ชาเขียวแล้วก็ชาหลายๆชนิดเนี่ยมี
00:28:29 → 00:28:33 คุณสมบัติเป็นแี้ cancer นะครับตัวที่ 2
00:28:33 → 00:28:36 curtin curtin เคยพูดไปใน Episode
00:28:36 → 00:28:39 ซอบี้ sal นะครับอยู่ในผักผลไม้หลายชนิด
00:28:39 → 00:28:43 เลยนะครับอิิิอิิินี่เพิ่งพูดล่าสุดเลยไป
00:28:43 → 00:28:47 ในตอนแมกนีเซียมเพะเพราะว่าอิจิเนี่ยเป็น
00:28:47 → 00:28:50 หนึ่งในสารเคมีที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึก
00:28:50 → 00:28:52 อยากพักผ่อนไปเสริมการทำงานของเมลาโทนิน
00:28:52 → 00:28:56 นะครับอิิิก็คือมีในเซลารี่มีในคมมมีใน
00:28:56 → 00:29:02 องุ่นมีในอ g นะครับไิไิเนี่ยน่าจะพูดใน
00:29:02 → 00:29:05 ตอนของเซลล์ซอมบี้นะครับก็มีคุณสมบัติแี้
00:29:05 → 00:29:07 แคนเซอร์เหมือนกันเจอในผลไม้หลายชนิดเช่น
00:29:07 → 00:29:12 แอปเปิลสตอเบอร์รี่ลูกพับแตงกวานะครับ
00:29:12 → 00:29:15 lolin นะครับอยู่ในแครอทเซเลอรี่แล้วก็
00:29:15 → 00:29:19 พริกไทยนะครับมี Cam สารตัวนี้อยู่ใน
00:29:19 → 00:29:24 คะน้าผักโขมถั่วแล้วก็ชาอีกตัวนึงนะครับ
00:29:24 → 00:29:28 คือ naringin นะครับอยู่ในเฟฟรุทก็คือ
00:29:28 → 00:29:32 ผลไม้ตระกูลส้มนะครับมี anticancer านอย
00:29:32 → 00:29:34 เช่นกันนะถ้าลองไล่มาทั้งหมดเนี่ยก็จะ
00:29:34 → 00:29:36 เห็นว่ามันมีอยู่ในไหนส่วนใหญ่มันก็อยู่
00:29:36 → 00:29:40 ในไม่ผักก็ผลไม้แล้วก็ผักผลไม้ที่มีหลาก
00:29:40 → 00:29:42 หลายสีสันหลากหลายตระกูลด้วยนะครับเพราะ
00:29:42 → 00:29:45 ฉะนั้นเอาจริงๆอ่ะจำไม่หมดหรอกดีที่สุดก็
00:29:45 → 00:29:49 คือเราพยายามกินผักผลไม้ที่มันหลักสีหลัก
00:29:49 → 00:29:52 ประเภทกินหัวกินรากกินใบบ้างกินเยอะที่
00:29:52 → 00:29:54 สุดยิ่งเยอะยิ่งดีเพราะว่ามันไม่มีสาร
00:29:54 → 00:29:57 เคมีตัวใดตัวนึงที่เป็นแบบ Superman ตัว
00:29:57 → 00:30:00 เดียวที่ที่เอาอยู่อยู่แล้วมันคือหลายๆ
00:30:00 → 00:30:03 ตัวมาช่วยกันทำงานเป็นทีมในการต้านทั้ง
00:30:03 → 00:30:06 แคนเซอร์คือต้านมะเร็งต้านทั้ง Free
00:30:06 → 00:30:09 Radical มีคุณสเป็น antioxidant นะครับ
00:30:09 → 00:30:12 ถามว่ากินไอ้เจ้าานอยไปเนี่ยมันมีฤทธิ์
00:30:12 → 00:30:14 ยังไงบ้างนะครับเขาบอกว่าจากการศึกษา
00:30:14 → 00:30:17 เนี่ยถ้าเรากินานอยเข้าไปเนี่ยมันสามารถ
00:30:17 → 00:30:20 ที่จะไปช่วยเพิ่มกระบวนการ apoptosis
00:30:20 → 00:30:23 apoptosis มันคือการที่เซลล์เนี่ยถูก
00:30:23 → 00:30:26 สั่งให้ฆ่าตัวตายก็คือฮาคิเมื่อไหร่ก็ตาม
00:30:26 → 00:30:30 ที่มันผิดปกตินะครับก็จะช่วยเป็นระบบ
00:30:30 → 00:30:34 Safety ได้ช่วยลด metastasis metastasis
00:30:34 → 00:30:37 คือการที่เซลล์มางเนี่ยมันแพร่จากจุดนึง
00:30:37 → 00:30:40 ไปยังอีกจุดนึงเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเรา
00:30:40 → 00:30:44 ลดการแพร่ได้เนี่ยครับเวลาคุณหมอไปเจอ
00:30:44 → 00:30:46 มะเร็งเนี่ยการจัดการเนี่ยมันก็จะง่าย
00:30:46 → 00:30:48 กว่าเพราะว่าถ้าเกิดว่าเราไปอสมมุติไปฉาย
00:30:48 → 00:30:50 รังสีจุดนี้แล้วมันหมดเลยโดยที่ไม่มีจุด
00:30:51 → 00:30:53 อื่นแอบแฟงเนี่ยเราก็อาจจะเซฟแล้วก็จัด
00:30:53 → 00:30:57 การมะเร็งได้ได้สิ้นซากนะครับมันจะไปลด
00:30:57 → 00:30:59 การเพิ่มำนวนแน่นอนมะเร็งคือการที่เซลล์
00:30:59 → 00:31:01 แบ่งตัวไม่หยุดถ้ามันหยุดแบ่งตัวได้ก็จะ
00:31:02 → 00:31:04 สามารถป้องกันการลุกลามจากมะเร็งก้อนเล็ก
00:31:04 → 00:31:07 ๆแค่ไหนก็ให้มันอยู่แค่นั้นไม่ได้ใหญ่
00:31:07 → 00:31:09 เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นนะครับและที่สำคัญ
00:31:09 → 00:31:12 เนี่ยมันลดการสร้างเส้นเลือดมาเลี้ยงที่
00:31:12 → 00:31:15 กลุ่มเซลล์มะเร็งด้วยจริงๆเการสร้างเส้น
00:31:15 → 00:31:16 เลือกเนี่ยเป็นเรื่องใหญ่แล้วก็เป็น
00:31:16 → 00:31:19 เรื่องสำคัญที่นักวิทยาศาสตร์เนี่ยเขาใช้
00:31:19 → 00:31:22 ในการสร้าง target เปีเป็นการจัดการเลยนะ
00:31:22 → 00:31:23 ครับเพราะเซลล์มาเร็งเนี่ยเป็นเซลล์ที่
00:31:23 → 00:31:26 แทีมากมันต้องการพลังงานเยอะพอมันต้องการ
00:31:26 → 00:31:29 พลังงานเยอะเนี่ยมันมันก็จะ ild ให้เส้น
00:31:29 → 00:31:31 เลือดเนี่ยสร้างมาหามันเพราะเส้นเลือด
00:31:31 → 00:31:34 เนี่ยจะนำพามาซึ่งอาหารนำพามาซึ่ง
00:31:34 → 00:31:37 ออกซิเจนแล้วก็เป็นเส้นทางในการกำจัดของ
00:31:37 → 00:31:40 เสียไปนะครับเพราะงั้นถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม
00:31:40 → 00:31:42 มีมะเร็งเนี่ยเส้นเลือดจะวิ่งเข้าไปตรง
00:31:42 → 00:31:45 นั้นเยอะถ้ามันลดป้องกันไม่ให้เส้นเลือดเ
00:31:45 → 00:31:47 วิ่งเข้าไปได้เนี่ยมะเร็งก็จะขาดอาหารตาย
00:31:47 → 00:31:49 ไปได้เช่นกันเพราะฉะนั้นการกินอาหารกลุ่ม
00:31:49 → 00:31:51 านอยเนี่ยเราทุกคนเนี่ยสามารถจะกินแล้วก็
00:31:51 → 00:31:54 ดูแลตัวเองได้เลยเพราะเราไม่รู้เลยนะครับ
00:31:54 → 00:31:56 ว่าณวันนี้ตอนนี้เนี่ยอโคจรของเราเนี่ย
00:31:56 → 00:31:58 มันเกิดขึ้นแล้วหรือยังอย่างเพรานั้นเรา
00:31:58 → 00:32:01 กินเพื่อที่จะไปสู้กับอองโคจีนได้ตั้งแต่
00:32:01 → 00:32:04 วันนี้เลยนะครับนอกจากที่พูดมานะครับที่
00:32:04 → 00:32:06 เหลือมันคือไลฟ์สไตล์แบบรวมๆและอ่าหลายๆ
00:32:07 → 00:32:08 คนอาจจะไม่รู้ว่าถ้าเกิดว่าเราน้ำหนัก
00:32:08 → 00:32:11 เยอะเกินไปน้ำหนักเกินเนี่ยมีความเสี่ยง
00:32:11 → 00:32:13 ในการที่จะเป็นมะเร็งได้นะครับเพราะว่า
00:32:14 → 00:32:16 มะเร็งเนี่ยจริงๆแล้วต้องการน้ำตาลเยอะ
00:32:17 → 00:32:20 มากเพราะฉะนั้นใครที่กินอาหารหวานๆเยอะ
00:32:20 → 00:32:23 แล้วก็เป็นเบาหวานมีภาวะต่อต้านอินซูลิน
00:32:23 → 00:32:27 เนี่ยนะครับมีอินซูลินสปตลอดๆดเนี่ย
00:32:27 → 00:32:29 เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งนะครับกินอาหารที่
00:32:29 → 00:32:32 ดีคุมน้ำหนักก็จะช่วยได้และล่าสุดเรา
00:32:32 → 00:32:34 เพิ่งพูดไปถึงเรื่อง nkc ใช่มั้ยผมพยายาม
00:32:34 → 00:32:38 บอกว่า NK เซลล์เนี่ยมันคือภูมิคุ้มกัน
00:32:38 → 00:32:41 แอนติบอดี้ที่คอยสอดส่องแล้วก็จัดการ
00:32:41 → 00:32:43 เซลล์มะเร็งให้เราถ้าเกิดเราดูแลตัวเอง
00:32:43 → 00:32:45 ให้ดี OST ให้ระบบภูมคุ้มกันเนี่ยมันทำ
00:32:45 → 00:32:48 งานได้เต็มที่มันก็จะช่วยจัดการ cancer
00:32:48 → 00:32:51 เซลล์ให้เราได้ด้วยนะครับถามว่าบูสภูมิ
00:32:51 → 00:32:53 คุ้มกันได้ยังไงแน่นอนออกกำลังกายพักผ่อน
00:32:53 → 00:32:56 ให้เพียงพอจัดการความเครียดในตอน nkc ผม
00:32:56 → 00:32:59 เชียร์ให้ทุกคนไปอาบป่านะครับและสุดท้าย
00:32:59 → 00:33:01 หมั่นตรวจสุขภาพครับการตรวจสุขภาพแล้วก็
00:33:01 → 00:33:05 เป็นการตรวจหาแคนเซอร์มาเกอร์เรื่อยๆเป็น
00:33:05 → 00:33:07 ประจำเนี่ยนะครับก็จะทำให้เรา detect ได้
00:33:07 → 00:33:10 ว่าเอ้ตอนเนี้ยมันมีจีนไม่ว่าจะเป็น unc
00:33:10 → 00:33:12 จีนหรือว่าจีนกลุ่มอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ
00:33:12 → 00:33:15 มะเร็งเนี่ยมันเกิด Mutation แล้วผิด
00:33:15 → 00:33:17 เพี้ยนไปแล้วหรือยังถ้ามันผิดเพี้ยนไป
00:33:17 → 00:33:20 แล้วแล้วเราเกิดมะเร็งระยะแรกๆแล้วยิ่ง
00:33:20 → 00:33:23 เราเจอเร็วก็สามารถจะรักษาได้ทันท่วงที
00:33:23 → 00:33:26 บางทีในการกินยาเพียงอย่างเดียวก็อาจจะ
00:33:26 → 00:33:28 ห้ามมันได้ถ้าเกิดว่าว่ามะเร็งยังเป็น
00:33:28 → 00:33:31 ระยะเริ่มต้นนะครับรู้เร็วรักษาได้เร็ว
00:33:31 → 00:33:35 แล้วก็โอกาสรอดจากการเสียชีวิตจากมะเร็ง
00:33:35 → 00:33:36 เนี่ยก็จะมีมากยิ่งขึ้นเพราะฉะนั้นเดี๋ยว
00:33:37 → 00:33:39 ตอนต่อๆไปเนี่ยรอติดตามได้เลยนะครับเราจะ
00:33:39 → 00:33:42 มาพูดกันถึงเรื่องการไปตรวจ cancer
00:33:42 → 00:33:45 มาเกอร์อย่างแน่นอนนะครับสุดท้ายแล้วขอ
00:33:45 → 00:33:48 สรุปนิดนึงครับวันนี้เราพูดถึงอองโคจีน
00:33:48 → 00:33:51 คือยีนที่ก่อมะเร็งนะครับซึ่งยีนก่อ
00:33:51 → 00:33:53 มะเร็งเนี่ยปกติแล้วเนี่ยมันทำงานปกติเลย
00:33:53 → 00:33:56 นะครับแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันได้ทิอมัน
00:33:56 → 00:33:59 จะ Active แล้วมันจะเริ่มแบ่งตัวแบบหยุด
00:33:59 → 00:34:02 ไม่อยู่วิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกัน
00:34:02 → 00:34:04 คือป้องกันไม่ให้มัน Active หรือป้องกัน
00:34:04 → 00:34:06 triggers นะครับทริกเกอร์มาจากทั้ง
00:34:06 → 00:34:10 กรพันธ์และมาจากไสลไสลสำคัญกว่าและเป็น
00:34:10 → 00:34:13 สิ่งที่เราสามารถจะคอนโทรลได้ควบคุมอยู่
00:34:13 → 00:34:15 ในมือเราเลยครับอยู่ในมือเราทุกคนว่าเรา
00:34:15 → 00:34:18 จะดูแลตัวเองดีมากเพียงพอที่จะลดความ
00:34:18 → 00:34:20 เสี่ยงให้อองโคมันทำงานหรือเปล่านะครับ
00:34:20 → 00:34:23 เพราะฉะนั้นคุณสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วย
00:34:23 → 00:34:26 มือคุณเองเพราั้นลงือทำตั้งแต่วันนี้
00:34:26 → 00:34:28 เพื่อที่จะปิดสวิต oncogenes หรือว่า
00:34:28 → 00:34:31 เซลล์กอมารง
00:34:31 → 00:34:34 ครับ Top to Toe The Standard
00:34:34 → 00:34:39 podcast Eye Opening for your ears