00:00:00 → 00:00:10 [เพลง]
00:00:10 → 00:00:14 เคยสงสัยไหมว่ายาแก้ปวดรู้ได้ยังไงว่าเรา
00:00:14 → 00:00:17 ปวดตรงไหนและยาแก้ปวดแต่ละชนิดต่างกัน
00:00:17 → 00:00:20 อย่างไรบ้างประเด็นแรกก่อนเลยยาแก้ปวดรู้
00:00:20 → 00:00:24 ได้ยังไงว่าเราปวดตรงไหนจริงๆแล้วยาแก้
00:00:24 → 00:00:27 ปวดไม่รู้หรอกว่าเราปวดตรงไหนแต่สมองของ
00:00:27 → 00:00:30 เราต่างหากที่เป็นคนบอกเมื่อเราได้รับบาด
00:00:30 → 00:00:33 เจ็บหรือเกิดการอักเสบร่างกายของเราก็จะ
00:00:33 → 00:00:37 ปล่อยสารเคมีที่เรียกว่าพส gin ที่จะส่ง
00:00:37 → 00:00:40 สัญญาณไปบอกสมองว่าฉันปวดตรงนี้นะส่วนยา
00:00:40 → 00:00:43 แก้ปวดก็จะทำหน้าที่เข้าไปยับยั้งการเกิด
00:00:43 → 00:00:46 พสตแกิและเมื่อร่างกายของเราผลิตสารนี้
00:00:46 → 00:00:50 ได้น้อยลงก็จะช่วยลดการส่งสัญญาณความเจ็บ
00:00:50 → 00:00:54 ปวดไปยังสมองได้นั่นเองซึ่งยาแก้ปวดก็มี
00:00:54 → 00:00:56 ด้วยกันอยู่หลายประเภทซึ่งสามารถลดอาการ
00:00:57 → 00:01:00 ปวดได้ทั่วทั้งร่างกายแต่ก็มียาแก้ปวดบาง
00:01:00 → 00:01:03 ประเภทที่ไม่ควรซื้อกินเองเพราะนอกจากลด
00:01:03 → 00:01:06 อาการปวดแล้วอาจลดประสิทธิภาพในการทำงาน
00:01:06 → 00:01:09 ของไตได้ด้วยนั่นคือยาต้านการอักเสบกลุ่ม
00:01:09 → 00:01:16 ที่ไม่ใช่สเตียรอยเช่นแพนไอบูเฟนนานไดก
00:01:16 → 00:01:21 constant บิ cbx และอียเป็นต้นเนื่องจาก
00:01:21 → 00:01:25 ยากลุ่มนี้มีผลทำให้เลือดไปเลี้ยงไตลดลง
00:01:25 → 00:01:28 ส่งผลให้การทำงานของไตแย่ลงหากว่าใช้ต่อ
00:01:28 → 00:01:32 เนื่องเป็นระยะเวลานานและใช้หลายตัวซ้ำ
00:01:32 → 00:01:36 ซ้อนกันหรือดื่มน้ำน้อยขณะใช้ยาอาจส่งผล
00:01:36 → 00:01:39 ให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้เพราะฉะนั้น
00:01:39 → 00:01:43 ใครที่มีอาการปวดเรื้อรังก็ไม่ควรซื้อยา
00:01:43 → 00:01:47 ทานเองควรทานยาตามคำแนะนำของแพทและเพสกร
00:01:47 → 00:01:50 และที่สำคัญต้องติดตามการรักษาเป็นประจำ
00:01:50 → 00:01:53 เพื่อบรรเทาอาการและลดความเสี่ยงที่จะ
00:01:53 → 00:01:55 เกิดผลเสียต่อตายได้นั่น
00:01:55 → 00:01:58 [เพลง]
00:01:58 → 00:02:02 เอง y
00:02:02 → 00:02:09 [เพลง]