00:00:00 → 00:00:02 พฤติกรรมเลียนแบบการก่อเหตุรุนแรงนั้น

00:00:02 → 00:00:05 ปัจจุบันได้มีมากขึ้นค่ะภาวะนี้เรียกว่า

00:00:05 → 00:00:08 Copy Cat เราไปรู้จักกันว่าภาวะนี้คือ

00:00:08 → 00:00:12 อะไรค่ะพฤติกรรมเลียนแบบ Copy Cat คือ

00:00:12 → 00:00:14 การแพร่กระจายของปรากฏการณ์ต่างๆหรือส่ง

00:00:14 → 00:00:17 ผลกระทบต่อกันเป็นทอดๆซึ่งใช้ได้กับ

00:00:17 → 00:00:20 วิกฤตการทางการเงินปรากฏการณ์ทางสังคมการ

00:00:20 → 00:00:23 ส่งต่อทางอารมณ์หรือแม้กระทั่งการก่อเหตุ

00:00:23 → 00:00:26 กราดยิงเพราะคนๆนั้นได้รับอิทธิพลอย่าง

00:00:26 → 00:00:28 ต่อเนื่องอิทธิพลที่ว่านี้มาจากเทคโนโลยี

00:00:28 → 00:00:31 และสื่อเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของผู้กระทำ

00:00:31 → 00:00:33 ความผิดกระตุ้นทำให้ความรู้สึกอยกระทำ

00:00:33 → 00:00:36 ความผิดรุนแรงขึ้นและสร้างแรงจูงใจให้

00:00:36 → 00:00:39 เกิดการลงมืออาการติดต่อเพราะสื่อต่างจาก

00:00:39 → 00:00:41 การเลียนแบบพฤติกรรมเพราะอาการติดต่อมัน

00:00:41 → 00:00:44 ไม่ใช่แค่การตั้งใจเลียนแบบแต่เป็นผล

00:00:44 → 00:00:46 กระทบจากการติดตามสื่อแบบต่อเนื่องจน

00:00:46 → 00:00:49 กระทบต่อจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกให้ลงมือ

00:00:49 → 00:00:52 แบบเดียวกันไม่เฉพาะสื่อโซเชียลเท่านั้น

00:00:52 → 00:00:54 ที่ทำให้เกิดอาการติดต่อสื่อกระแสหลักก็

00:00:54 → 00:00:57 มีส่วนอย่างมากเพราะมักจะรายงานกันทุกแง่

00:00:57 → 00:01:00 ทุกมุมจนมากเกินไปเช่นการกราดยิงที่โรง

00:01:00 → 00:01:02 เรียนโคลบเมื่อปี

00:01:02 → 00:01:07 1999 การวิจัยในปี 2015 พบว่ากรณีกราด

00:01:07 → 00:01:10 ยิงที่โรงเรียนโคลัมไบเป็นแรงบันดาลใจให้

00:01:10 → 00:01:13 เกิดการกราดยิงเลียนแบบอย่างน้อย 21

00:01:13 → 00:01:15 ครั้งที่ลงมือทำไปแล้วและวางแผนที่จะ

00:01:15 → 00:01:20 เลียนแบบ 53 ครั้งในระยะ 15 ปีระหว่างปี

00:01:20 → 00:01:23 1999 จนถึง

00:01:23 → 00:01:26 2015 ดังนั้นค่ะเพื่อลดพฤติกรรมการเลียน

00:01:26 → 00:01:30 แบบการก่อเหตุความรุนแรงนะคะ Who มีคำแนะ

00:01:30 → 00:01:34 นำในการป้องกันดังนี้ค่ะ 7 เทคนิคทาง

00:01:34 → 00:01:36 จิตวิทยาในการป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบก็

00:01:36 → 00:01:40 เห็ดรุนแรง 1 ลดการใช้อารมณ์ในการโพสต์

00:01:40 → 00:01:43 ถึงเหตุการณ์รุนแรงเป็นเรื่องปกติธรรมดา

00:01:43 → 00:01:45 นะคะที่เมื่อเรารู้สึกสะเทือนใจกับเหตุ

00:01:45 → 00:01:48 การณ์อะไรเป็นพิเศษก็อดไม่ได้ที่จะใส่

00:01:48 → 00:01:50 อารมณ์ลงไปในเนื้อหาของข้อความที่เรา

00:01:50 → 00:01:54 โพสต์ซึ่งนักจิตวิทยาให้ข้อแนะนำว่าการ

00:01:54 → 00:01:57 โพสต์ด้วยอารมณ์ที่รุนแรงนั้นให้ผล 2

00:01:57 → 00:02:00 อย่างคือสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนที่อ่าน

00:02:00 → 00:02:03 เช่นถ้าเราใส่อารมณ์โกรธแค้นผู้ก่อเหตุใน

00:02:03 → 00:02:06 การโพสต์คนที่เข้ามาอ่านโพสต์เราก็จะรู้

00:02:06 → 00:02:09 สึกทางลบต่อผู้ก่อเหตุแต่ในทางกลับกันค่ะ

00:02:09 → 00:02:13 บุคคลที่มีบุคลิกแบบต่อต้านสังคมหรือแนท

00:02:13 → 00:02:16 โซเชียลหรือคนที่นิยมความรุนแรงเมื่อได้

00:02:16 → 00:02:19 อ่านโพสต์ของเราแล้วเขาจะรู้สึกปลื้มผู้

00:02:19 → 00:02:22 ก่อเหตุที่สามารถสร้างอารมณ์โกรธให้คน

00:02:22 → 00:02:25 อื่นได้ขนาดนี้แล้วก็มีพฤติกรรมเลียนแบบ

00:02:25 → 00:02:28 Copy Cat ไปก่อเหตุในลักษณะคล้ายกันตาม

00:02:28 → 00:02:31 มาอีกดังนั้นเพื่อลดการก่อเหตุซ้ำนัก

00:02:31 → 00:02:34 จิตวิทยาจึงแนะนำว่าขอให้โพสต์ถึงเหตุ

00:02:34 → 00:02:36 การณ์อย่างเป็นกลางที่สุดหรือหากอดที่จะ

00:02:36 → 00:02:40 ใส่อารมณ์ลงไปไม่ได้ขออย่าโพสต์เลยดีกว่า

00:02:40 → 00:02:43 ค่ะ 2 ลดการให้รายละเอียดของเหตุการณ์รุน

00:02:43 → 00:02:46 แรงบางครั้งบางเหตุการณ์เราก็อาจอยู่ใน

00:02:46 → 00:02:50 ฐานะของคนวงในของบุคคลในข่าวถึงแม้ว่าการ

00:02:50 → 00:02:53 นำข้อมูลเชิงลึกของการก่อเหตุมาเผยแพร่ใน

00:02:53 → 00:02:56 สังคมออนไลน์ทำให้เราดูเจ๋งดูเท่ก็จริง

00:02:56 → 00:02:59 แต่ก็ทำให้คนที่มีพฤติกรรมเลียนแบบหรือ

00:02:59 → 00:03:02 ว่า Copy Cat นั้นได้เก็บรายละเอียดของ

00:03:02 → 00:03:05 ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นชุดที่ใส่วิธีการก่อ

00:03:05 → 00:03:08 เหตุอาวุธในการก่อเหตุและนำไปใช้ก่อเหตุ

00:03:08 → 00:03:12 ซ้ำเพื่อให้ตัวเองเป็นข่าวในเวลาต่อมาได้

00:03:12 → 00:03:16 ค่ะข้อที่ 3 หยุดการเผยแพร่หยุดการแชร์

00:03:16 → 00:03:19 คลิปวิดีโอที่ก่อเหตุรุนแรงตามโซเชียล

00:03:19 → 00:03:23 Network ถึงแม้ว่าการแชร์คลิปวิดีโอเหตุ

00:03:23 → 00:03:25 การณ์รุนแรงใน Facebook ใน LINE จะทำให้

00:03:25 → 00:03:28 เราได้ยอดไลฟก็ตามแต่นั่นไม่คุ้มเลยค่ะ

00:03:28 → 00:03:31 กับการที่เรากลายเป็นขยายความรุนแรงไม่

00:03:31 → 00:03:33 ว่าจะในแง่การเผยแพร่วิธีการก่อเหตุ

00:03:33 → 00:03:37 รุนแรงแบบถึงลูกถึงคนให้คนที่มีพฤติกรรม

00:03:37 → 00:03:39 เลียนแบบ copycat ได้เรียนรู้เรายังทำ

00:03:39 → 00:03:42 ร้ายเหยื่อที่รอดชีวิตหรือผู้ที่สูญเสีย

00:03:42 → 00:03:45 คนที่เขารักจากเหตุการณ์รุนแรงซ้ำๆค่ะ

00:03:45 → 00:03:48 เวลาที่เขาได้มาเห็นวดีโอคิดถึงใจเขาใจ

00:03:48 → 00:03:51 เรานะคะแค่เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่

00:03:51 → 00:03:54 เห็นคลิปวดีโออย่างสะเทือนใจเลยค่ะแล้วคน

00:03:54 → 00:03:56 ที่เขาผ่านเหตุการณ์นั้นมาหรือสูญเสียคน

00:03:56 → 00:04:00 รักเพราะเหตุการณ์นั้นใจจะสลายแค่ไหน

00:04:00 → 00:04:04 4 ไม่เผยแพร่ชื่อของผู้ก่อเหตุซึ่งสอด

00:04:04 → 00:04:06 คล้องกับแนวทางของนักจิตวิทยาที่ว่าถ้า

00:04:06 → 00:04:09 เกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมวิธีการลด

00:04:09 → 00:04:12 พฤติกรรมนั้นก็คือการไม่ให้แรงเสริมไม่

00:04:12 → 00:04:15 ให้รางวัลกับพฤติกรรมนั้นๆซึ่งในกรณีนี้

00:04:15 → 00:04:19 รางวัลก็คือการให้ชื่อเสียงการประคมข่าว

00:04:19 → 00:04:23 การพูดถึงผู้ก่อเหตุทำให้คนที่มีความคิด

00:04:23 → 00:04:26 บุคลิกสภาพจิตแบบเดียวกับผู้ก่อเหตุทำ

00:04:26 → 00:04:28 พฤติกรรมเลียนแบบ Copy Cat เพื่อให้ได้

00:04:29 → 00:04:32 ชื่อเสียงมาแต่ถ้าเราไม่แม้แต่จะเอ่ยชื่อ

00:04:32 → 00:04:35 ผู้ก่อเหตุพฤติกรรมเลียนแบบ cy Cat ก็มี

00:04:35 → 00:04:39 แนวโน้มที่จะลดลงค่ะ 5 สร้างค่านิยมค่ะ

00:04:39 → 00:04:41 ว่าพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุนั้นเป็นสิ่งที่

00:04:41 → 00:04:44 แย่เป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่เหมาะไม่ควรค่ะและ

00:04:44 → 00:04:47 เป็นการไม่ให้คุณค่ากับผู้ก่อเหตุค่ะ

00:04:47 → 00:04:49 สำหรับคนที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และมี

00:04:49 → 00:04:52 วุฒิภาวะสมวัยคงไม่ต้องเน้นย้ำกันเลยค่ะ

00:04:52 → 00:04:55 ว่าสิ่งที่ผู้ก่อเหตุได้ทำลงไปนั้นเลว

00:04:55 → 00:04:58 ร้ายเกินจะบรรยายได้แต่กับเด็กเล็กและวัย

00:04:58 → 00:05:01 รุ่นที่เขากำลังค้นหาตัวตนของตัวเองเขาา

00:05:01 → 00:05:04 อาจไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ผู้ก่อเห็ดทำนั้น

00:05:04 → 00:05:07 เป็นเรื่องไม่ดีแล้วยิ่งมีคนพูดถึงผู้ก่อ

00:05:07 → 00:05:10 เหดุมากสำนักข่าวทุกสำนักประโคมข่าวติด

00:05:10 → 00:05:12 ต่อกันยาวนานเด็กๆและวัยรุ่นที่ขาดผู้

00:05:12 → 00:05:15 ใหญ่ให้คำแนะนำก็อาจเข้าใจไปว่านี่คือ

00:05:15 → 00:05:18 ไอดอลเราต้องทำพฤติกรรมเลียนแบบเขาเพื่อ

00:05:18 → 00:05:21 ให้มีชื่อเสียงมีคนพูดถึงเขาเพราะฉะนั้น

00:05:21 → 00:05:23 แล้วเพื่อป้องกันการสร้างอสูรร้ายขึ้นมา

00:05:23 → 00:05:26 เพิ่มนะคะเราที่เป็นผู้ใหญ่ต้องอธิบายให้

00:05:26 → 00:05:30 เด็กๆและวัยรุ่นเข้าใจว่าเหตุการ์เช่นนี้

00:05:30 → 00:05:33 ไม่ดีอย่างไรและไม่ควรเลียนแบบเพราะอะไร

00:05:33 → 00:05:38 ค่ะ 6 แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการลงโทษซ้ำๆ

00:05:38 → 00:05:41 หากการแชร์ข้อมูลของผู้ก่อเหตุเป็นการให้

00:05:41 → 00:05:44 รางวัลนักจิตวิทยาเลยแนะนำว่าเราต้องแชร์

00:05:44 → 00:05:47 ข้อมูลตรงข้ามเพื่อเป็นการลงโทษผู้ก่อ

00:05:47 → 00:05:50 เหตุและเป็นการป้องกันการเกิดพฤติกรรม

00:05:50 → 00:05:52 เลียนแบบข้อมูลที่ว่านั่นก็คือการแช์บทลง

00:05:52 → 00:05:55 โทษที่ผู้กระทำความผิดจะได้รับค่ะและข้อ

00:05:55 → 00:05:58 มูลที่แชร์นั้นจะต้องเป็นรูปธรรมเพื่อ

00:05:58 → 00:06:01 สิ่งที่คนอื่นเห็นภาพก็กลัวที่จะทำตาม

00:06:01 → 00:06:05 ด้วย 7 การไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแรงจูงใจ

00:06:05 → 00:06:08 ในการก่อเหตุเวลาเกิดเหตุการรุนแรงขึ้นมา

00:06:08 → 00:06:11 หนสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการจะรู้ก็คือทำ

00:06:11 → 00:06:14 ไปเพื่ออะไรซึ่งคนที่ตอบได้ดีที่สุดก็คือ

00:06:14 → 00:06:17 ผู้ก่อเห็ดนั่นเองและโดยส่วนมากแล้วมักจะ

00:06:17 → 00:06:20 ไม่รอดชีวิตมาให้คำตอบนี้ค่ะดังนั้นจึงทำ

00:06:20 → 00:06:23 ให้มีคนมากมายที่พยายามอธิบายมูลเหตุจูง

00:06:23 → 00:06:26 ใจของผู้กเหตุทั้งอ้างอิงทฤษฎีจิตวิทยา

00:06:26 → 00:06:31 บ้างอ้างอิงทฤษฎีอาชยาบ้างหรือคนวงในผู้

00:06:31 → 00:06:34 ใกล้ชิดออกมาให้ข่าวเองว่าเคยได้ยินผู้

00:06:34 → 00:06:37 ก่อเหตุบนเรื่องนี้บ่อยๆเรื่องนั้นบ่อยๆ

00:06:37 → 00:06:40 เลยคาดการณ์ว่าเหตุจูงใจมาจากเรื่องนี้

00:06:40 → 00:06:43 แน่ๆซึ่งการที่เราพยายามเผยแพร่แนวคิด

00:06:43 → 00:06:46 เรื่องเหตุจูงใจนี้ก็อาจทำให้เกิด

00:06:46 → 00:06:49 พฤติกรรมเลียนแบบตามมาได้ค่ะเพราะบางแนว

00:06:49 → 00:06:52 คิดอาจจะไปโดนใจกับคนที่มีชะตากรรมแบบ

00:06:52 → 00:06:56 เดียวกันเช่นถูกปดดันจากนายจ้างเหมือนกัน

00:06:56 → 00:06:58 ถูกโกงเหมือนกันมีโรคทางจิตเวทเหมือนกัน

00:06:58 → 00:07:01 ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบออกมาก่อเห็น

00:07:01 → 00:07:04 เหมือนกันและแน่นอนว่าทำให้เกิดความสูญ

00:07:04 → 00:07:07 เสียขึ้นมาเช่นเดียวกันขอบคุณนะคะสำหรับ

00:07:08 → 00:07:11 การรับชมรายการ TNN Health ค่ะและอย่า

00:07:11 → 00:07:14 ลืมค่ะกด Subscribe กดไลคกดแชร์ในทุกช่อง

00:07:14 → 00:07:18 ทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะ

00:07:18 → 00:07:21 ไม่พลาดการรับชมรายการสดคลิปวีีดีโอที่

00:07:21 → 00:07:24 น่าสนใจของทาง TNN นะ

00:07:25 → 00:07:28 คะ