00:00:00 → 00:00:03 คุณหมอครับก่อนที่เราจะไปถามเรื่องของการ
00:00:03 → 00:00:05 ออกกำลังกายครับก็เลยอยากจะถามคุณหมอก่อน
00:00:05 → 00:00:10 ว่าไอ้ภาวะความจำเสื่อมเนี่ยมันเกิดได้
00:00:10 → 00:00:16 กับคนในช่วงวัยไหนบ้างเป็นเป็นไปได้กับคน
00:00:16 → 00:00:18 ที่มีอายุเยอะๆอย่างเดียวหรือเปล่าฮะคุณ
00:00:18 → 00:00:22 หมอฮะครับอ่าสมองเสื่อมเนี่ยจริงๆผมอยาก
00:00:22 → 00:00:25 จะให้เข้าใจว่ามันเป็นภาวะนะครับจริงๆ
00:00:25 → 00:00:28 แล้วตัวภาวะสมองเสื่อมเนี่ยจริงๆสามารถ
00:00:28 → 00:00:31 เกื่อได้จากโรคหลายๆโรคนะครับเราอาจจะเคย
00:00:31 → 00:00:33 ได้ยินคุ้นเคยกันอัลไซเมอร์นะครับหรือว่า
00:00:34 → 00:00:36 สมองเสื่อมจากการที่เคยเป็นเส้นเลือดสมอง
00:00:36 → 00:00:39 ตีบหรือเส้นเลือดสมองแตกนะครับผมส่วนใหญ่
00:00:39 → 00:00:41 สมองเสื่อมเนี่ยเราก็จะคุ้นเคยกันอยู่
00:00:41 → 00:00:43 แล้วว่าอ่าคนไทยอาจจะมีอาการหลงลืมอะไร
00:00:43 → 00:00:46 พวกนี้นะครับส่วนใหญ่เนี่ยเพราะฉะนั้นมัก
00:00:46 → 00:00:49 จะเจอในคนที่ค่อนข้างสูงอายุหน่อยนะครับ
00:00:49 → 00:00:51 ส่วนใหญ่จะมีเกณฑ์ตรัสว่ามักจะอายุตั้ง
00:00:51 → 00:00:54 แต่ประมาณ 65 ปีขึ้นไปนะครับแต่ว่าก็จะ
00:00:54 → 00:00:57 สามารถเจอได้ตั้งแต่ 60 กว่าปีขึ้นไปละก็
00:00:57 → 00:01:00 จะมีสมองเสื่อมส่วนใหญ่ส่วนใหญ่นะครับที่
00:01:00 → 00:01:03 เป็นพวกอัลไซเมอร์หรือว่าสมองเสื่อมเี
00:01:03 → 00:01:05 เนี่ยส่วนใหญ่จะเป็นในอายุที่เยอะนะครับ
00:01:05 → 00:01:07 แต่ก็จะมีไม่น้อยเหมือนกันที่เป็นสมอง
00:01:07 → 00:01:10 เสื่อมในวัยที่อาจจะเป็นช่วงปลายของวัยทำ
00:01:10 → 00:01:14 งานช่วงวัยกลางคนนะครับอายุประมาณ 40-50
00:01:14 → 00:01:16 ปีเนี่ยก็อาจจะมีภาวะสมองเสื่อมได้แต่
00:01:16 → 00:01:19 เป็นประชากรส่วนน้อยนะครับกลุ่มนี้เนี่ย
00:01:19 → 00:01:22 ส่วนใหญ่จะมีอาจจะมีโรคที่เกี่ยวข้องบาง
00:01:22 → 00:01:24 อย่างหรือเมื่อมีความเสี่ยงบางอย่างเช่น
00:01:24 → 00:01:26 เป็นเส้นเลือดสมองตีดหรือเส้นเลือดสมอง
00:01:26 → 00:01:28 แตกเร็วกลุ่มนี้ก็สามารถเป็นกลุ่มที่ทำ
00:01:28 → 00:01:31 ให้สมองเสื่อมตอนอายุน้อยๆได้เช่นกันครับ
00:01:31 → 00:01:37 อือืครับคือถ้าจะเจอเนี่ยครับคุณหมอฮะคือ
00:01:37 → 00:01:40 อาการที่มันจะสังเกตเห็นได้ชัดเนี่ยฮะว่า
00:01:40 → 00:01:44 ว่าอยู่ในภาวะของสมองเสื่อมแล้วเนี่ยมัน
00:01:44 → 00:01:47 มันมีอะไรที่เราจะสังเกตได้แบบว่าชัดๆ
00:01:47 → 00:01:51 บ้างฮะครับผมอ่าส่วนใหญ่เนี่ยเวลาสมอง
00:01:51 → 00:01:54 เสื่อมเนี่ยเรามักจะได้ประวัติจากญาติที่
00:01:54 → 00:01:56 เป็นคนใกล้ชิดแล้วเพราะว่าคนไข้เนี่ยอาจ
00:01:56 → 00:01:59 จะไม่ค่อยอาจจะจำไม่ค่อยได้แล้วว่า
00:01:59 → 00:02:01 ประวัติหรือว่าอาการตัวเองเป็นยังไงนะ
00:02:01 → 00:02:04 ครับอาการที่เรานักจะได้ยินบ่อยที่สุดก็
00:02:04 → 00:02:07 คือจะเป็นอาการของเรื่องหลงลืมนะครับหลง
00:02:07 → 00:02:10 ลืมเนี่ยส่วนใหญ่ถ้าเอามาถามเป็นประวัติ
00:02:10 → 00:02:12 จริงๆเนี่ยมักจะเป็นอาการของโรงลืมใน
00:02:12 → 00:02:17 ลักษณะที่อาจจะมีการพูดซ้ำๆถามซ้ำๆนะครับ
00:02:17 → 00:02:20 หรือว่าอาจจะมีการลืมเหตุการณ์ที่เพิ่ง
00:02:20 → 00:02:22 ผ่านไปไม่นานเช่นเพิ่งพูดคุยเรื่องเมื่อ
00:02:22 → 00:02:26 กี้ผ่านไปอีกไม่กี่นาทีไม่กี่ชั่วโมงต่อ
00:02:26 → 00:02:29 มาเริ่มกลับมาถามเรื่องเดิมต่อนะครับหรือ
00:02:29 → 00:02:32 ว่าอาจจะมีอาการหลงลืมในลักษณะที่บางคน
00:02:32 → 00:02:35 อาจจะถึงขั้นอ่าจัดยามีโรคประจำตัวอยู่
00:02:35 → 00:02:39 จัดยาแล้วจัดยาไม่ถูกกินแล้วกินยาแล้วบอก
00:02:39 → 00:02:41 ว่ายังไม่ได้กินหรือบางคนเอาจจะถงข่านกิน
00:02:41 → 00:02:43 ข้าวแล้วบอกว่ายังไม่ได้กินนะครับอันนี้
00:02:43 → 00:02:47 ก็เป็นลักษณะของหลงลืมนะครับอาการของสมอง
00:02:47 → 00:02:49 เสื่อมเนี่ยจริงๆแล้วไม่ได้จำกัดเฉพาะหลง
00:02:49 → 00:02:51 ลืมอย่างเดียวนะครับจริงๆแล้วอาจจะมี
00:02:51 → 00:02:54 อาการของอย่างอื่นด้วยได้เช่นบางคนถ้าอาจ
00:02:55 → 00:02:57 จะเป็นสมองเสื่อมตอนอายุยังน้อยเช่น
00:02:57 → 00:03:00 ประมาณ 50 ขึ้นไปอาจจะเป็นวัยที่ยังยังทำ
00:03:00 → 00:03:03 งานอยู่ไม่เกษียณนะครับอาจจะมาด้วยอาการ
00:03:03 → 00:03:07 ของภาวะที่การวางแผนการตัดสินใจแย่ลงนะ
00:03:07 → 00:03:09 ครับเดิมเคยทำงานได้ดีตอนหลังความสามารถ
00:03:10 → 00:03:13 ในการทำงานถดถอยลงไปในช่วงวัยปลายๆของวัย
00:03:13 → 00:03:16 กลางคนละอันเนี้ยก็จะเป็นตัวบ่งชี้ถึง
00:03:16 → 00:03:18 อาการของภาวะสมองเสื่อมได้เช่นเดียวกันนะ
00:03:18 → 00:03:21 ครับอันอื่นที่อาจจะเจอได้เช่นอาจจะมี
00:03:21 → 00:03:24 ปัญหาด้านการรับรู้ทิศทางนะครับบางคนเคย
00:03:24 → 00:03:28 ขับรถได้อยู่ๆมาวันดีคืนดีอยู่ๆเริ่มมี
00:03:28 → 00:03:31 หลงทิศหลงทางขับรถไม่ถูกนะครับอันนี้ก็จะ
00:03:31 → 00:03:33 เป็นตัวอย่างอีกอันนึงอีกอันนึงที่สามารถ
00:03:33 → 00:03:35 เจอได้แล้วก็เจอบ่อยเหมือนกันที่เราอาจจะ
00:03:35 → 00:03:38 เคยได้ยินนะฮะก็คืออาจจะเคยได้ยินบางคน
00:03:38 → 00:03:41 เรียกว่าเท่าตัณหากลับอ่ะครับันเองก็เจอ
00:03:41 → 00:03:43 ได้ก็คือเหมือนกับผู้สูงอายุที่อาจจะ
00:03:43 → 00:03:46 เริ่มมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมนะครับเรื่อง
00:03:46 → 00:03:49 มีปัญหาเรื่องอ่าสมัยก่อนเคเป็นคนเรียบ
00:03:49 → 00:03:51 ร้อยมาตลอดตอนหลังเนี่ยกลายเป็นมีปัญหา
00:03:51 → 00:03:54 เรื่องพฤติกรรมไม่สามารถยับยั้งชั้งใจได้
00:03:54 → 00:03:56 มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมีที่สาธารณะอัน
00:03:56 → 00:03:58 นี้ก็จะเป็นอาการที่บ่งชี้ถึงโรคสมอง
00:03:58 → 00:04:02 เสื่อมเช่นกันครับผมอ๋อตัณหากลับที่ว่า
00:04:02 → 00:04:05 เนี่ยฮะมันมันนอกจากความกากลั่นของ
00:04:05 → 00:04:07 พฤติกรรมแล้วมันมันจะมีอย่างอื่นอะไร
00:04:07 → 00:04:09 เพิ่มเติมด้วยมั้ยฮะคุณหมอฮอันนี้อันนี้
00:04:09 → 00:04:12 ผมถามด้วยความสงสัยเพราะถ้าใช้คำว่าตัณหา
00:04:12 → 00:04:14 กลับเนี่ยหลายคนผมมองว่าเฮ้ยมันอาจจะมอง
00:04:14 → 00:04:17 ในแง่ลบมากกว่านี้หรือเปล่าฮะคุณหมออ่า
00:04:17 → 00:04:20 อันนี้เป็นประเด็นที่สำคัญฮะเพราะว่าบาง
00:04:20 → 00:04:22 ทีเนี่ยเราจะเข้าใจมาเราจะเข้าใจผิดมาก
00:04:22 → 00:04:25 เลยว่าผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่อง
00:04:25 → 00:04:27 พฤติกรรมเดียวเพะอาจจะแสดงออกไม่เหมาะสม
00:04:27 → 00:04:30 ทางเพศเนี่ยครับอ่าเป็นโรคทั้งทางจิตเวท
00:04:30 → 00:04:32 มั้ยหรือว่าจริงๆแล้วเป็นนิสัยส่วนตัวของ
00:04:32 → 00:04:35 เขาหรือเปล่าจริงๆแล้วมีจำนวนไม่น้อยเลย
00:04:35 → 00:04:38 นะครับที่ต้นเหตุมาจากปัญหาสมองเสื่อม
00:04:38 → 00:04:40 เพราะว่าสมองเสื่อมเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ย
00:04:40 → 00:04:42 เราจะไม่ได้มีความเสียหายด้านเกี่ยวกับ
00:04:42 → 00:04:45 ความจำความหลงลืมอย่างเดียวบางครั้งเนี่ย
00:04:45 → 00:04:48 มันจะมาด้วยอาการทางด้านพฤติกรรมอาการทาง
00:04:48 → 00:04:50 ด้านจิตประสาทเป็นอาการเด่นได้เช่นกัน
00:04:50 → 00:04:53 ครับเพราะฉะนั้นบางครั้งเนี่ยผู้สูงอายุ
00:04:53 → 00:04:55 กลุ่มเนี้ยเราอาจจะมองว่าเออจริงๆแล้วเค
00:04:55 → 00:04:58 แกล้งธรมั้ยหรือว่าจริงๆแล้วเนี่ยเค้า
00:04:58 → 00:05:01 เหมือนกับเดิมเป็นคนมีนิสัยดีมาตลอดไม่
00:05:01 → 00:05:03 อยู่นิสัยไม่ดีเนี่ยเป็นตามอายุที่เพิ่ม
00:05:03 → 00:05:06 ขึ้นมั้ยจริงๆแล้วเนี่ยไม่น้อยครับที่มา
00:05:06 → 00:05:08 จากสมองเสื่อมนะครับซึ่งจริงๆแล้วเนี่ย
00:05:08 → 00:05:11 ถ้าได้รับการแก้ไขได้รับการรักษาบำบัด
00:05:11 → 00:05:13 อย่างถูกต้องเนี่ยอาจจะทำให้อาการกลุ่ม
00:05:13 → 00:05:15 นี้ดีขึ้นมาได้นะครับเพราะฉะนั้นจริงๆ
00:05:15 → 00:05:17 แล้วเนี่ยเป็นจุดที่ผมเน้นเหมือนกันว่า
00:05:17 → 00:05:20 ถ้ามีผู้สูงอายุมีอาการแบบเนี้ยบางกลุ่ม
00:05:20 → 00:05:22 จะเป็นสมองเสื่อมเนี่ยควรเข้าสู่กระบวน
00:05:22 → 00:05:25 การรักษาครับเอ่อการควบคุมพฤติกรรมไม่ได้
00:05:25 → 00:05:27 นะคะอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องทางเพศที่
00:05:27 → 00:05:30 อาจารย์บอกยกตัวอย่างให้ให้ให้เห็นภาพอีก
00:05:30 → 00:05:32 สักนิดนึงได้มั้ยคะว่ามันจะเป็นแนวไหนอ่ะ
00:05:32 → 00:05:36 คะครับอย่างเช่นที่เจอที่เจอบ่อยนะครับก็
00:05:36 → 00:05:38 คือว่าเดิมเนี่ยจะเป็นผู้สูงอายุที่อาจจะ
00:05:38 → 00:05:41 มีประวัติว่าสมัยก่อนเนี่ยก็คือเป็นคน
00:05:41 → 00:05:44 เรียบร้อยนะครับเป็นคนที่เข้าสังคมได้
00:05:44 → 00:05:47 ปกติมาตลอดวันดีคืนดีเนี่ยอาจจะมีปัญหา
00:05:47 → 00:05:50 เรื่องพฤติกรรมที่เสื่อมถอยลงแย่ลงอย่าง
00:05:50 → 00:05:53 เช่นอ่าอาจจะมีการพูดไม่เหมาะสมในที่
00:05:53 → 00:05:56 สาธารณะนะครับไม่สามารถยับยั้งสร้างใจได้
00:05:56 → 00:05:59 อาจจะเป็นคนที่พูดเรื่องเพศหรือว่าอาจจะ
00:05:59 → 00:06:01 มีมีพฤติกรรมเดินออกไปข้างนอกบ้านไม่ใส่
00:06:01 → 00:06:04 เสื้อผ้านะครับหรือว่าอาจจะมีพฤติกรรม
00:06:04 → 00:06:08 ล้วงจับเ่าเทศตรงข้ามนะครับหรือว่าใช้คำ
00:06:08 → 00:06:10 พูดไม่เหมาะสมกับเทศตรงข้ามกลุ่มเนี้ย
00:06:11 → 00:06:13 หลายคนมาจากสมองเสื่อมซึ่งถ้าแก้ไขเนี่ย
00:06:13 → 00:06:16 พฤติกรรมพวกนี้จะดีขึ้นได้ครับกลัวว่า
00:06:16 → 00:06:19 ก่อนแก้ไขจะถูกซัดซะก่อนนสินะทำไปลวง
00:06:19 → 00:06:25 จับเออกมากเลยเออนะฮะก็คืออ่าเราเราก็พอ
00:06:25 → 00:06:27 จะได้เห็นแล้วนะว่าพฤติกรรมที่มันจะเกิด
00:06:27 → 00:06:31 ขึ้นเนี่ยมันมันมันอมันพอจะสังเกตอะไรได้
00:06:31 → 00:06:36 บ้างทีนี้เรามาดูเรื่องของการการออกกำลัง
00:06:36 → 00:06:38 กายครับคุณหมอครับที่ที่เราได้เกริ่นไป
00:06:38 → 00:06:42 กันตั้งแต่ช่วงต้นแล้วว่ามันสามารถช่วย
00:06:42 → 00:06:47 ลดภาวะสมองเสื่อมได้ได้จริงมยหรือถ้ามัน
00:06:47 → 00:06:50 จริงเนี่ยมันมันจะลดได้มากน้อยขนาดไหนฮะ
00:06:50 → 00:06:54 คุณหมอฮะครับผมอ่าการออกกำลังกายนะครับ
00:06:54 → 00:06:56 จริงๆแล้วอันนี้เป็นจุดเน้นก่อนว่าการออก
00:06:56 → 00:06:58 กำลังกายเนี่ยจริงๆแล้วมันคือการดูแล
00:06:58 → 00:07:01 สุขภาพองครวของเราพื้นฐานนะครับมันก็
00:07:01 → 00:07:03 เหมือนกับคำแนะนำของเราปกติที่ให้กิน
00:07:03 → 00:07:06 อาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่นะครับบสาร
00:07:06 → 00:07:09 อาหารให้ดีนะครับทำจิตใจให้แจ่มใสออก
00:07:09 → 00:07:11 กำลังกายนี่ก็จะอยู่ในคำแนะนำพื้นฐานของ
00:07:11 → 00:07:15 เราอยู่ะในการรักษาสุขภาพปกติแต่ทีนี้
00:07:15 → 00:07:17 เนี่ยถามว่าออกกำลังกายเนี่ยมีส่วนในการ
00:07:17 → 00:07:19 ออกประโยชน์กับสมองหรือไม่นะครับอันนี้
00:07:19 → 00:07:22 เนี่ยอ่าผมแบ่งออกเป็นส่วนง่ายๆอยู่ 2
00:07:22 → 00:07:25 ส่วนคือ 1 ออกกำลังกายเนี่ยมีประโยชน์ต่อ
00:07:25 → 00:07:27 ร่างกายโดยรวมอยู่แล้วนะครับอันนี้ก็
00:07:27 → 00:07:29 อย่างเป็นที่รู้กันว่าถ้าสมมติสตว่าเรา
00:07:30 → 00:07:32 ออกกำลังกายนะครับสุขภาพร่างกายโดยรวมของ
00:07:32 → 00:07:38 เราหัวใจนะครับเอ่อกล้ามเนื้อกระดูกนะ
00:07:38 → 00:07:40 ครับระบบการไหลเวียนเลือดมีความแข็งแรง
00:07:40 → 00:07:44 จากการออกกำลังกายนะครับเราควบคุมพวกโรค
00:07:44 → 00:07:48 เบาหวานความดันโลหิตสูงนะครับไขมันจากการ
00:07:48 → 00:07:50 ออกกำลังกายได้ดีนะครับพอสภาพร่างกายโดย
00:07:50 → 00:07:53 รวมดีนะครับการสูบฉีดเลือดการเต้นของหัว
00:07:53 → 00:07:57 ใจก็ดีเพราะฉะนั้นพวกนี้เนี่ยโดยภาพรวมก็
00:07:57 → 00:07:59 จะทำให้สภาพร่างกายดีสมองก็จะดีตามด้วย
00:07:59 → 00:08:01 อยู่แล้วครับอีกส่วนนึงที่สำคัญก็คือพอ
00:08:01 → 00:08:04 เวลาเราออกกำลังกายเนี่ยโรคประจำตัวที่
00:08:04 → 00:08:06 เป็นโรคที่เป็นความเสี่ยงของการก่อสมอง
00:08:06 → 00:08:08 เสื่อมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดสมอง
00:08:08 → 00:08:12 ตีซึ่งทำให้เอ่อไขมันสูงเนี่ยทำให้เส้น
00:08:12 → 00:08:14 เลือดแดงแข็งนะครับตีดง่ายเบาหวานที่มี
00:08:14 → 00:08:16 การทำลายเส้นเลือดความดันโลหิตสูงที่ทำ
00:08:16 → 00:08:18 ให้เส้นเลือดไม่ดีเนี่ยพวกนี้ได้รับการ
00:08:19 → 00:08:21 ควบคุมเนี่ยทำให้ก็จะทำให้ลดความเสี่ยงใน
00:08:21 → 00:08:24 การเกิดสมองเตื่อมได้จากการที่โรคพวกนี้
00:08:24 → 00:08:27 ถูกควบคุมได้ดีความเสี่ยงการเกิดเส้นเลือ
00:08:27 → 00:08:30 ตีบเส้นเลือแตกลดลงสมองเสียงก็จะลดงครับ
00:08:30 → 00:08:33 ประเด็นที่ 2 ก็คือปัจจัยโดยตรงกับสมอง
00:08:33 → 00:08:36 ครับถ้าอ่ะถ้าเราสมมุติว่าเราไม่สนใจว่า
00:08:36 → 00:08:38 อ่ะสมองมีผลทำให้สภาพร่างกายโดยรวมดีเอ่อ
00:08:38 → 00:08:41 การออกกำลังกายจะไม่สภาพร่างกายโดยรวมดี
00:08:41 → 00:08:44 แล้วก็ช่วยควบคุมสมองเสี่ยมมันมีผลกับ
00:08:44 → 00:08:47 สมองโดยตรงมั้ยนะครับในแง่ของผลเราจะมอง
00:08:47 → 00:08:50 โดยตรงจริงๆก็มีการศึกษามานานแล้วครับว่า
00:08:50 → 00:08:53 มีนะครับก็คือว่าการออกกำลังกายเนี่ยจริง
00:08:53 → 00:08:56 ๆอย่างที่อธิบายไปแล้วว่ามันมีกลไกทั้งใน
00:08:56 → 00:08:58 ส่วนของการไหลเวียนเลื่อนนะครับถ้าออก
00:08:58 → 00:09:01 กำลังกายพอเหมาะเหมาะสมไม่มากเกินไปไม่
00:09:01 → 00:09:04 น้อยเกินไปเลือดสูบฉีดไปเี้ยงสมองได้ดีนะ
00:09:04 → 00:09:07 ครับจริงๆดีกว่าการที่เราชอบพูดกันว่าใช้
00:09:07 → 00:09:09 ยาทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองดีขึ้นมั้ยอะไร
00:09:09 → 00:09:12 ด้วยซ้ำนะครับจริงๆการออกกำลังกายดีเลือด
00:09:12 → 00:09:14 สุกฉีดดีเนี่ยคือเลือดไปเลี้ยงสมองดีนะ
00:09:14 → 00:09:17 ครับนอกจากนี้เนี่ยยังมีส่วนในการควบคุม
00:09:17 → 00:09:20 การทำงานของระบบประสาทซิมพาเทติกนะครับ
00:09:20 → 00:09:22 ซึ่งมันเป็นระบบประสาทที่อาจจะทำให้เกิด
00:09:22 → 00:09:25 ความดันโลหิตสูงหัวใจเต้นเร็วมากเกินไป
00:09:25 → 00:09:28 ได้ถ้าเราออกกำลังกายสม่ำเสมอเนี่ยระบบ
00:09:28 → 00:09:30 ประสาทส่วนเนี้ยจะได้รับการควบคุมให้มี
00:09:30 → 00:09:33 ความบาานเพื่อมีความพอเหมาะพอดีก็คือไม่
00:09:33 → 00:09:37 ทำงานเกินไปไม่ทำงานน้อยเกินไปนะครับซึ่ง
00:09:37 → 00:09:39 พอระบบประสาทกลุ่มเนี้ยทำงานได้ดีความดัน
00:09:39 → 00:09:42 โลหิตจะได้รับการควบคุมซึ่งทำให้การเลือด
00:09:42 → 00:09:45 ไปเลี้ยงสมองโดยรวมก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน
00:09:45 → 00:09:48 ครับนอกจากนี้เนี่ยการออกกำลังกายสม่ำ
00:09:48 → 00:09:51 เสมอพอเหมาะนะครับยังเพิ่มสารสื่อประสาท
00:09:51 → 00:09:53 นะครับซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่มีคุณต่อ
00:09:53 → 00:09:55 สมองบางคนอาจจะเคยได้ยินครับเช่นเอนโดฟิน
00:09:55 → 00:09:58 เคยได้ยินมั้ยครับเอินเเคฮะครับซึ่งเป็น
00:09:58 → 00:10:01 สารสุเนี่ยสารสุกเอนโดฟินเนี่ยก็จะช่วยทำ
00:10:01 → 00:10:04 ให้สมองเนี่ยได้รับความผ่อนคลายนะครับ
00:10:04 → 00:10:07 เพิ่มความสุขยิ่งเรามีความสุขจากการออก
00:10:07 → 00:10:09 กำลังกายเนี่ยเราก็ยิ่งออกกำลังกายมาก
00:10:09 → 00:10:12 ขึ้นยิ่งออกกำลังกายมากขึ้นสารสุขก็จะมี
00:10:12 → 00:10:14 มากขึ้นนะครับซึ่งได้ประโยชน์กว่าการใช้
00:10:14 → 00:10:17 สารเสพติดด้วยซ้ำคือเอนโดฟินเนี่ยจริงๆ
00:10:17 → 00:10:19 แล้วมันเป็นสารเสพติดอย่างอ่อนนะครับแต่
00:10:19 → 00:10:21 มันเป็นสารเสพติดที่ร่างกายเราเนี่ยสร้าง
00:10:21 → 00:10:23 ขึ้นมาเองได้เพราะฉะนั้นอันเนี้ยมันเป็น
00:10:23 → 00:10:26 สารเสพติดที่มีประโยชน์คือถ้าเราออกกำลัง
00:10:26 → 00:10:30 กายสารเสพติดเบาๆในร่างกายออกมาจากสมองทำ
00:10:30 → 00:10:32 ให้เรามีความสุขอันเนี้ยไม่มีพิษต่อร่าง
00:10:32 → 00:10:35 กายเลยครับยิ่งทำยิ่งมีประโยชน์นะครับ
00:10:35 → 00:10:38 เพราะฉนั้นก็มีข้อมูลชัดเจนครับว่าองค์
00:10:38 → 00:10:40 ประกอบด้วยปัจจัยเหล่าเนี้ยทำให้ตัวสมอง
00:10:40 → 00:10:44 เนี่ยได้รับความฟื้นฟูแล้วก็มีโอกาสลด
00:10:44 → 00:10:46 ความเสียงของการเกิดสมองเสื่อมได้โดยตรง
00:10:46 → 00:10:50 เช่นกันครับอืแล้วต้องเป็นออกกำลังกาย
00:10:50 → 00:10:52 ประเภทไหนคะอาจารย์ที่อาจารย์บอกว่าพอ
00:10:52 → 00:10:54 เหมาะพอดีอ่ะวิ่งหรือว่าอะไรอย่างงี้ถือ
00:10:54 → 00:10:58 ว่าได้หมดครับทีนี้อันเนี้ยต้องยอมรับว่า
00:10:58 → 00:11:01 การออกกกลังกายเนี่ยความเหมาะสมเนี่ยต้อง
00:11:01 → 00:11:04 ดูปัจจัยประกอบหลายอย่างครับเช่นอายุอายุ
00:11:04 → 00:11:07 เี่สำคัญที่สุดนะครับเพราะว่าเราคงเอา
00:11:07 → 00:11:10 เด็กอายุ 20 มาเทียบกับการออกกำลังกายของ
00:11:10 → 00:11:13 ผู้ใหญ่อายุ 70 80 ไม่ได้นะครับครับ
00:11:13 → 00:11:15 ปัจจัยอันอื่นที่สำคัญที่ต้องคิดถึงด้วย
00:11:15 → 00:11:18 คือโรคประจำตัวนะครับเช่นบางคนมีปัญหา
00:11:18 → 00:11:21 เรื่องเข่าอยู่แล้วนะครับจะให้ปั่นจักยาน
00:11:21 → 00:11:25 ระยะไกลก็คงปวดเข่านะครับแล้วก็ปัจจัย
00:11:25 → 00:11:27 ประกอบอีกหลายๆอย่างนะครับไม่ว่าจะเป็น
00:11:27 → 00:11:31 บางทีสถานที่ที่บ้านเนี่ยเหมาะสมเอื้อ
00:11:31 → 00:11:33 อำนวยหรือเปล่านะครับผมสรุปง่ายๆก็คือการ
00:11:33 → 00:11:35 ออกกำลังกายเนี่ยจริงๆจะมีการออกกำลังกาย
00:11:35 → 00:11:38 สำคัญำคัญอยู่ 2 ส่วนนะครับเรียกว่าการ
00:11:38 → 00:11:40 ออกกำลังกายแบบไดนามิคนะครับการออกกำลัง
00:11:40 → 00:11:43 กายแบบไดนามิคเนี่ยจะเป็นการออกกำลังกายโ
00:11:43 → 00:11:45 ในการขยับกล้ามเนื้อขยับข้อต่อเคลื่อนไหว
00:11:45 → 00:11:47 ตลอดกับอีกกลุ่มนึงจะเป็นกลุ่มการออก
00:11:47 → 00:11:50 กำลังกายแบบสติก็คือการออกกำลังกายโดยไม่
00:11:50 → 00:11:52 ขยับไม่เคลื่อนไหวนะครับอยู่กับที่นะครับ
00:11:52 → 00:11:55 การออกกำลังกายไดนามิเนี่ยจะมีแบ่งย่อย
00:11:55 → 00:11:57 เป็นอันนึงที่สำคัญคือการออกกำลังกายที่
00:11:57 → 00:11:59 เรียกว่า Aerobic Exercise ครับ aic
00:11:59 → 00:12:01 exer ที่เราคุ้นเคยกันก็คือการออกกำลัง
00:12:01 → 00:12:04 กายที่หัวใจเส้นนั่นเองที่ทำให้หัวใจเต้น
00:12:04 → 00:12:06 เร็วขึ้นนะครับเพื่อให้เลือดสูบฉีดทั่ว
00:12:06 → 00:12:09 ร่างกายนะครับการออกกำลังกายที่สร้างความ
00:12:09 → 00:12:12 แข็งแรงอันนึงอันที่น่าจะนิยมที่สุดก็คือ
00:12:12 → 00:12:14 ส่วนของแอโรบินี่เองที่เป็นการออกกำลัง
00:12:14 → 00:12:16 การเส้นหัวใจนะครับปกติแล้วเนี่ยเราก็จะ
00:12:17 → 00:12:19 แบ่งเรทของการออกกำลังกายมีการแบ่งหลาย
00:12:19 → 00:12:21 วิธีนะครับอาจจะเคยได้ยินมครับว่าบางคนจะ
00:12:21 → 00:12:24 แบ่งเรทของแอโรบิ Exercise เป็นโซนนะครับ
00:12:24 → 00:12:27 บางคนอาจจะเคยได้ยินแลเคยออกกำลังกายนะ
00:12:27 → 00:12:30 ครับก็คือแบ่งตามการเล่นหัวใจนะครับว่า
00:12:30 → 00:12:34 ถ้าโซนน้อยก็คือวิ่งไม่เหนื่อยมากอัตรา
00:12:34 → 00:12:37 การเล่นหัวใจไม่ได้แรงมากโซนเยอะก็คือพวก
00:12:37 → 00:12:40 ที่วิ่งแบบวิ่งเร็ววิ่งเอาความเร็ววิ่ง
00:12:40 → 00:12:42 ระยะทางสั้นๆนะครับอันเนี้ยก็คืออัตราการ
00:12:42 → 00:12:46 เล่นหัวใจจะสูงนะครับออ่าในในระยะที่
00:12:46 → 00:12:48 เหมาะสมเนี่ยต้องบอกว่าแต่ละคนเนี่ยไม่
00:12:48 → 00:12:51 เท่ากันบางคนเนี่ยก็คือเป็นนักวิ่งมาตลอด
00:12:51 → 00:12:53 ชีวิตเลยเป็นนักวิ่งที่แบบวิ่งมาทุกปี
00:12:54 → 00:12:56 วิ่งมา 10-2 ปีะอันเนี้ยอาจจะออกกำลังกาย
00:12:56 → 00:12:59 โซนสูงได้ซึ่งโซนสูงมันจะทำให้การเผาผ่าน
00:12:59 → 00:13:02 พลังงานเนี่ยเกิดขึ้นได้ดีหัวใจสูบฉีดดี
00:13:02 → 00:13:05 ในเวลารวดเร็วขณะเดียวกันถ้าเป็นคนที่ออก
00:13:05 → 00:13:07 กำลังกายนานๆทีเนี่ยอาจจะออกกำลังกายแค่
00:13:08 → 00:13:10 โซนต่ำก่อนซึ่งโซนต่ำเนี่ยหัวใจเต้นจะไม่
00:13:10 → 00:13:13 ได้เต้นเร็วมากคืออาจจะเป็นแค่ 50-60 per
00:13:13 → 00:13:16 ของชีพจรที่เต้นแรงที่สุดอันเนี้ยจรริง
00:13:16 → 00:13:19 อยู่ที่หัวใจมันเต้นไม่ได้เร็วขนาดนั้น
00:13:19 → 00:13:21 การเผาผ่านพลังงานช้าแต่ถ้าสมมุติว่าออก
00:13:21 → 00:13:25 นานออกสม่ำเสมอเนี่ยจริงๆก็ให้ผลไม่ต่าง
00:13:25 → 00:13:28 กับการออกกำลังกายโจนสูงระยะสั้นนะครับอ
00:13:28 → 00:13:30 เพราะฉะนั้นอันนี้เนี่ยยในกรณีของผู้สูง
00:13:30 → 00:13:32 อายุนะครับเพราะว่าอันนี้เราจะพูดถึงคน
00:13:32 → 00:13:34 สูงอายุที่เราจะป้องกันกันในสมองเสื่อมนะ
00:13:34 → 00:13:37 ครับครับส่วนใหญ่เนี่ยจะไม่แนะนำให้ออก
00:13:37 → 00:13:39 กำลังกายแรงมากเพราะว่าถ้าใครรู้กันนะ
00:13:39 → 00:13:42 ครับว่าบางคนผู้สูงอายุแบบถ้าหากโหมเกิน
00:13:42 → 00:13:45 ไปวิ่งออกกำลังกายเร็วเกินไปนะครับอาจจะ
00:13:45 → 00:13:48 มีโรคหัวใจที่ซ่อนเล้นโผล่มามีหัวใจล้ม
00:13:48 → 00:13:51 เหลวได้นะครับหรือบางคนมีโรคปอดอยู่แล้ว
00:13:51 → 00:13:53 เราก็คุ้นเคยกันที่ผู้ตอนต้นรายการนะครับ
00:13:53 → 00:13:57 กลุ่น PM 2.5 ครับถ้ามีโรคหอบอยู่แล้ว
00:13:57 → 00:14:00 หายใจหอบเหนื่อยออกกำลังกายเกินไปมีก็มี
00:14:00 → 00:14:02 โอกาสเป็นลมหมดสติได้นะเพราะงั้นจริงๆ
00:14:02 → 00:14:05 แล้วผู้สูงอายุเนี่ยส่วนใหญ่จะแนะนำว่า
00:14:05 → 00:14:07 ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอแบบนักกีฬา
00:14:07 → 00:14:10 จริงๆออกแค่โซนกลางก็พอครับประมาณโซน 2
00:14:10 → 00:14:14 ถึงโซน 3 โซน 2 โซน 3 มันจะประมาณยังไงนะ
00:14:14 → 00:14:17 ครับก็คือประมาณว่าออกกำลังในลักษณะที่
00:14:17 → 00:14:21 ออกเต็มที่ละยังสามารถพูดคุยได้ดีคือพูด
00:14:21 → 00:14:24 คุยเป็นประโยคได้นะครับพูดคุยเป็นประโยค
00:14:24 → 00:14:26 และยังไม่เหนื่อยจนเกินไปอันเนี้ยเป็น
00:14:26 → 00:14:28 ระยะที่น่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้สูง
00:14:28 → 00:14:31 อายุซึ่งส่วนใหญ่เราจะไม่แนะนำให้ออกใน
00:14:31 → 00:14:34 ลักษณะเป็นวิ่งนะครับผู้สูงอายุเนี่ยส่วน
00:14:34 → 00:14:36 ใหญ่จะแนะนำเป็นการเดินเร็วนะครับซึ่งการ
00:14:36 → 00:14:40 เดินเร็วโซนไม่ได้สูงมากแค่โซน 2 ถึงโซน 3
00:14:40 → 00:14:43 แต่เน้นระยะเวลายาวนานหน่อยอาจจะประมาณ
00:14:43 → 00:14:47 30-60 นาทีนะครับทำสม่ำเสมอทุกสัปดาห์นะ
00:14:47 → 00:14:50 ครับสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งหรือว่า 5 ครั้ง
00:14:50 → 00:14:52 ต่อสัปดาห์นะครับอันเนี้ยให้ประโยชน์ไม่
00:14:52 → 00:14:57 ต่างจะออกโนสูงระยะสั้นครับอืนะคะก็คือ
00:14:57 → 00:14:59 อย่าต้องหอบเหนื่อยพูดไม่เป็นประยประโย
00:14:59 → 00:15:02 ไม่ได้นะอือันนี้คือโซน 2 ที่เหมาะสมนะ
00:15:02 → 00:15:04 เอ๊ะแล้วผมถามนิดนึงครับไอ้การที่จะมาออก
00:15:04 → 00:15:08 กำลังกายเนี่ยสมมุติถ้าอย่างคนที่ออยู่ใน
00:15:08 → 00:15:10 กลุ่มของผู้สูงอายุแล้วกัน 60 ปีขึ้นไป
00:15:10 → 00:15:15 ตลอดชีวิตที่ผ่านมาแทบจะไม่ได้สัมผัสกับ
00:15:15 → 00:15:20 คำว่าออกกำลังกายเลยถ้าจะมาทำในช่วงช่วง
00:15:20 → 00:15:22 ช่วงเวลาแบบนี้เนี่ยมันมันยังทันอยู่มั้ย
00:15:22 → 00:15:23 ฮะคุณหมอ
00:15:24 → 00:15:28 ฮะโดยรวมเนี่ยโอเคครับมันถามว่าการออก
00:15:28 → 00:15:30 กำลังกายการสมองเสื่อมหการออกกำลังกาย
00:15:30 → 00:15:32 เนี่ยการได้ดีที่สุดก็คือต้องออกตั้งแต่
00:15:32 → 00:15:36 สมัยวัยหนุ่มหรือว่าวัยกลางคนเลยแต่ถาม
00:15:36 → 00:15:38 ว่ามาออกตอนสูงอายุจะช้าไปมั้ยมันก็ยังมี
00:15:38 → 00:15:41 ประโยชน์ครับเพราะอย่างที่อธิบายก็คือว่า
00:15:41 → 00:15:44 มันทำให้สภาพร่างกายโดยรวมดีนะครับทำให้
00:15:44 → 00:15:46 ข้อตอของเราความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเรา
00:15:46 → 00:15:49 ดีนะครับรดความเปี่ยนในการหกล้มง่ายนะ
00:15:49 → 00:15:53 ครับรวดควบคุมความดันเบาหวานไขมันทำให้
00:15:53 → 00:15:55 สุขภาพโดยรวมดีโอกาสเสี่ยงเส้นเลือดสมอง
00:15:55 → 00:15:58 ตีบเส้นเลือดสมองแตกเส้นเลือดหัวใจตีบ
00:15:58 → 00:16:00 น้อยนะครับเพราะนั้นจริิงๆแล้วการออกตอน
00:16:00 → 00:16:03 ที่อายุเยอะแล้วก็ยังมีประโยชน์แต่จุด
00:16:03 → 00:16:06 เน้นก็คืออายุยิ่งมากต้องออกอย่างเหมาะสม
00:16:06 → 00:16:09 ครับอย่ามากเกินไปอย่าน้อยเกินไปจุดเน้น
00:16:09 → 00:16:12 ของผมก็คือว่าหลายคนจะบอกว่าโอ้ยุคนี้
00:16:12 → 00:16:14 เป็นยุคของการกระตุ้นให้ออกกำลังกายทุกคน
00:16:14 → 00:16:16 ก็ล้วนอยากไปวิ่งในสวนสาธารณะกันหมดนะ
00:16:16 → 00:16:20 ครับแต่เราก็จะได้ยินข่าวประจำครับว่าอ้า
00:16:20 → 00:16:23 หัวใจอยู่เต้นล้มต้องปั๊มหัวใจที่ประจร
00:16:23 → 00:16:26 ข้างทางนะครับอันเนี้ยถ้าสมมุติว่าอ่ามัน
00:16:26 → 00:16:29 เกิดขึ้นโดยที่ไม่เคยมีการมาก่อนอันนี้
00:16:29 → 00:16:31 ต้องยอมรับเลยว่าอาจจะเป็นเหตุผุดวิสัย
00:16:31 → 00:16:34 แต่ว่ายอมรับว่าส่วนนึงเนี่ยไม่น้อยนะ
00:16:34 → 00:16:36 ครับที่เกิดจากการที่ออกกำลังกายหักโหม
00:16:36 → 00:16:39 เกินไปนะครับก็คือบางครั้งเี่เราไปตั้งโก
00:16:39 → 00:16:42 สูงมากเช่นจะออกกำลังกายโซนสูงหรือว่าจะ
00:16:42 → 00:16:45 ออกกำลังกายแบบเกินหลายๆชั่วโมงทั้งที่
00:16:45 → 00:16:49 ร่างกายรับไม่ไหวอันเนี้ยผมคิดว่าออกพอดี
00:16:49 → 00:16:51 อย่าเหมาะสมอย่าเหนื่อยเกินไปพูดยังเป็น
00:16:51 → 00:16:55 ประโยคได้ดีที่สุดฮะแต่เน้นความสม่ำเสมอ
00:16:55 → 00:16:58 เนระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควรแต่เมื่อไหร่
00:16:58 → 00:17:01 ก็ตามที่รู้สึกว่าเหนื่อยต้องหยุดพักนะ
00:17:01 → 00:17:04 ครับอย่าหักโหมเกินตัวเด็ดขาดเพราะว่าอาจ
00:17:04 → 00:17:07 จะตั้งความบาดเจ็บอาจจะทำให้หัวใจแย่ลง
00:17:07 → 00:17:10 ได้คือกลายเป็นได้โทษมากกว่าได้ประโยชน์
00:17:10 → 00:17:13 ส่วนสุดท้ายก็คืออย่างที่อ่าถามเมื่อกี้
00:17:13 → 00:17:16 อ่ะครับว่าถ้าคนไม่เคยออกเลยตลอดชีวิตออก
00:17:16 → 00:17:19 สักนิดนึงดีกว่ามั้ยออกสักนิดนึงถึงจะได้
00:17:19 → 00:17:22 ประโยชน์ไม่เท่าออกเต็มที่ก็ดีกว่าไม่ออก
00:17:22 → 00:17:25 เลยครับเพราะฉะนั้นจริงๆแล้วคือออกสักนิด
00:17:25 → 00:17:27 ก็ยังดีครับสำหรับผมเนี่ยผมก็ยังแนะนำว่า
00:17:27 → 00:17:30 อ่ะคนไม่เคยเดินเลยทั้งชีวิตอย่างน้อย
00:17:30 → 00:17:32 เดินรอบบ้านก็ยังดีะเวลาได้ไม่เท่าเป้า
00:17:32 → 00:17:35 หมายก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยฮะค่ะพอ
00:17:35 → 00:17:37 อาจารย์พูดแบบเนี้ยปุ๊บเนี่ยค่ะหยกในฐานะ
00:17:37 → 00:17:40 ตัวแทนหมู่บ้านของคนที่ไม่ค่อยได้ออกตัว
00:17:40 → 00:17:42 แทนหมู่บ้านเหรอครับใช่ๆใครทำตัวแทนหมู่
00:17:42 → 00:17:44 บ้านกันโดนประนามหยันเหยียดมาหลายรอบะก็
00:17:44 → 00:17:46 เลยว่าจะถามอาจารย์สักนิดนึงคามว่าที่
00:17:46 → 00:17:48 อาจารย์บอกว่าเนี่ยถ้าเรามีสารเอนโดฟิน
00:17:48 → 00:17:51 เนาะมันจะแบบช่วยแบบแบบเอ่อสารหลัความสุข
00:17:51 → 00:17:54 ออกมาเราจะแบบนั่นแต่พอดีศารแบบนี้มันไม่
00:17:54 → 00:17:56 ได้ออกเลยค่ะอาจารย์ทุกครั้งออกไปปุ๊บมัน
00:17:56 → 00:18:00 ก็รู้สึกเ้อทรมานก็จะหมดชั่วโมงสักทีอะไร
00:18:00 → 00:18:04 อย่างเงี้ยค่ะอาจารย์ครับตนี้อาจารย์ผม
00:18:04 → 00:18:06 หลายคนครับบอกว่าจริงๆแล้วเนี่ยตานศุข
00:18:06 → 00:18:08 เนี่ยอันนี้อันนี้อันนี้ฟังจากผู้มี
00:18:08 → 00:18:11 ประสบการณ์นะครับที่ออกออกกำลังกายสม่ำ
00:18:11 → 00:18:13 เสมอผมว่าว่าจะไม่ได้ออกสม่ำเสมอมากแต่
00:18:13 → 00:18:16 ว่าจะมีอาจารย์ผมบางคนเนี่ยเคยบอกว่าอ่า
00:18:16 → 00:18:18 เอนดอร์ฟินเนี่ยมันจะไม่หล่านะถ้าออกไม่
00:18:18 → 00:18:21 บ่อยเพราะว่าเราเราจะไม่รู้สึกว่ามีความ
00:18:21 → 00:18:23 สุขเท่าไหร่จะรู้สึกทรมานมากกว่าถ้าเรา
00:18:23 → 00:18:27 ไม่ออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ว่าพอพอถึงวัน
00:18:27 → 00:18:30 ที่สักคนนึงออกสม่ำเสเเนี่ยมันจะรู้สึก
00:18:30 → 00:18:32 ว่ามันมีความสุขกับการออกครับก็คือคล้ายๆ
00:18:32 → 00:18:35 กับว่าเอนโดฟินบลังออกมาดีะจะรู้สึกว่า
00:18:35 → 00:18:37 เหมือนชีวิตเนี้ยวันนั้นถ้าไม่ออกกำลัง
00:18:37 → 00:18:40 กายขึ้นมาเนี่ยจะเหมือนกับว่ามันขาดอะไร
00:18:40 → 00:18:43 สักอย่างประมาณนั้นฮะเพราะฉะนั้นผมคิดว่า
00:18:43 → 00:18:45 ความสม่ำเสมอน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญอย่าง
00:18:45 → 00:18:48 ดดีเลยที่ทำให้มันยมีหรือไม่มีอ่ะอืค่ะ
00:18:48 → 00:18:50 อาจารย์แต่ว่าสม่ำเสมอเนี่ยเริ่มสตาร์ท
00:18:50 → 00:18:53 เนี่ยค่ะอาจารย์ 3 ครั้ง 5 ครั้งงจะเริ่ม
00:18:53 → 00:18:56 สม่ำเสมอยังอ่ะคะอาจารย์ครับผมผมผมคนนึง
00:18:57 → 00:18:59 ในฐานะที่คนนี้ก็ไม่ได้ออกเหมือนกันเนี่ย
00:18:59 → 00:19:01 จะมีโคอันนึงที่สำคัญคือส่วนมากจะเริ่ม
00:19:01 → 00:19:03 จากการที่เบาก่อนครับคือเหมือนกับว่าอย่า
00:19:03 → 00:19:07 ตั้งโคไว้นานตั้งแต่แรกคือเรารู้ดีครับ
00:19:07 → 00:19:09 ว่าการออกกำลังกายกินอาจจะต้องกินยะเวลา
00:19:09 → 00:19:13 เป็นชั่วโมงนะครับถึงจะได้ผลดีในการลดน้ำ
00:19:13 → 00:19:15 หนักในการเพิ่มเลือสูดฉีดอะไรอย่าเงี้ย
00:19:15 → 00:19:18 แต่ว่าถ้าเราสตาร์ทนะครับจริงๆแล้วเราไม่
00:19:18 → 00:19:21 ต้องตั้งโไมากไม่ต้องตั้งว่าโอโหวิ่ง
00:19:21 → 00:19:25 ประมาณ 5 ก 10 กลในครั้งแรกเลยหรือว่ากิน
00:19:25 → 00:19:28 แล้วเวลาชั่วโมงนึงบางทีเริ่มที่ 30 นาที
00:19:28 → 00:19:31 ฮะเริ่มที่ 2 กลพอแล้วนะครับอันเนี้ยก็
00:19:31 → 00:19:34 อาจจะเพียงพอแล้วเพราะว่าพอเราเริ่มคุ้น
00:19:34 → 00:19:37 ไปสักระยะนึงร่างกายมันปรับตัวได้เนี่ย
00:19:37 → 00:19:40 การเพิ่มขึ้นเนี่ยมันจะเกิดขึ้นเองครับ
00:19:40 → 00:19:42 แต่ถ้าสมมุติว่าเราตั้งโกไว้ตั้งแต่แรก
00:19:42 → 00:19:44 สูงแล้วเนี่ยบางทีวิ่งกลับมาแล้วโอ้โหไม่
00:19:44 → 00:19:47 ได้อกหุดร่างกายปวดกล้ามเนื้อปวดเมื่อย
00:19:47 → 00:19:50 พรุ่งนี้ไม่วิ่งละจบอใช่ๆนั่นน่ะค่ะ
00:19:50 → 00:19:54 ประโยคท้ายเลยค่ะออกมากพี่อปวดเริ่มะโอ๊ย
00:19:54 → 00:19:57 ๆก็ก็หยุดก็หยุดยาวกันไปเออทดทดเวลาเพราะ
00:19:57 → 00:20:01 ว่ารู้สึกว่าได้ทำแล้วไงอืนะคุณหมอครับ
00:20:01 → 00:20:03 เมื่อกี้ก็คือที่คุณหมอแนะนำมาก็คือมัน
00:20:03 → 00:20:05 เป็นลักษณะเหมือนไดนามิกคือการเคลื่อนไหว
00:20:06 → 00:20:08 ของร่างกายและถ้าแบบสติที่แบบอยู่กับที่
00:20:08 → 00:20:12 เนี่ยถ้าอ่าถ้าอาจจะเหมาะกับผู้ที่อายุ
00:20:12 → 00:20:15 เยอะๆเนี่ยคุณหมอมีวิธีแนะนำยังไงบ้าง
00:20:15 → 00:20:19 ครับคือสิเนี่ยจริงๆมันจะเป็นการออกกำลัง
00:20:19 → 00:20:21 กายดไม่มีการเคลื่อนไหวครับจริงๆมันจะ
00:20:21 → 00:20:24 เป็นลักษณะของพวกการยกเวรอันนี้พอเลภาพ
00:20:24 → 00:20:26 ออกแล้วก็คือยกเวรเนี่ยอโอเบางบางคนอาจจะ
00:20:27 → 00:20:29 ยกดำบลคิดง่ายๆคือยกดำบล
00:20:29 → 00:20:33 เพะอมันไม่ื่อนไหวนะครับเ่อจริงๆสิเนี่ย
00:20:33 → 00:20:36 มันจะมีประโยน์ในการเพิ่มความแข็งแรงของ
00:20:36 → 00:20:39 กล้ามเนื้อนะครับอาจจะเหมาะสมในบางกรณี
00:20:39 → 00:20:42 หลายๆกรณีอันนึงที่สำคัญอย่างเช่นอาจจะ
00:20:42 → 00:20:44 เคยได้ยินว่ามันมีการออกกำลังกายเพื่อ
00:20:44 → 00:20:48 เสริมความแข็งแรงของขาต้นขาเพราะว่าคนที่
00:20:48 → 00:20:50 อาจจะมีปัญหาเรื่องเผ่าเสื่อมอะไรประมาณ
00:20:50 → 00:20:52 นี้เนี่ยการออกกำลังกายด้วยการยืดเหยียด
00:20:52 → 00:20:55 เขาจะเขาจะเรียกเป็นภาษาเทคนิคว่าคครับ
00:20:55 → 00:20:58 ภาษาไทยง่ายๆก็คือเป็นการออกกำลังกายกลาย
00:20:58 → 00:21:01 ึงความแข็งแรงต้นขาพอต้นขาเราแข็งแรง
00:21:01 → 00:21:04 เนี่ยเคเชื่อว่าต้นขาเนี่ยมันจะช่วยพยุง
00:21:04 → 00:21:07 กระดูกข้อตรงบริเวณข้อเข่านะครับทำให้ข้อ
00:21:07 → 00:21:10 เข่าที่เสื่อมเนี่ยมันมีตัวก้ำเมาช่วยยึด
00:21:10 → 00:21:12 ไว้เพราะมันช่วยพยุงไว้เนี่ยอาการปวดเข่า
00:21:13 → 00:21:16 จะน้อยลงนะครับแล้วก็จะทำให้เดินเนี่ย
00:21:16 → 00:21:19 คล่องตัวมากขึ้นนะครับก็จะมีวิธีคำแนะนำ
00:21:19 → 00:21:21 ง่ายๆสามารถไปเปิดอินเทอร์เน็ตได้นะครับ
00:21:21 → 00:21:24 บังเอิญผมไม่มีรูปประกอบก็คือเค้าจะให้คน
00:21:24 → 00:21:26 ไข้เยืดขานะครับก็คือนั่งอยู่บนเก้าอี้นะ
00:21:26 → 00:21:30 ครับแล้วก็ยืดแล้วก็ยืดขาออกไปนะครับอ่อ
00:21:30 → 00:21:32 ยืดเข่าออกไปนะครับขนานไปกับพื้นเนี่ย
00:21:32 → 00:21:35 แล้วก็ให้ตึงไว้นะครับพอประมาณทิ้งแล้วย
00:21:35 → 00:21:38 เวลาไว้ประมาณ 10 วินาทีนะครับแล้วก็ค่อย
00:21:38 → 00:21:40 ๆคลายออกช้าๆทำอย่างเงี้ยประมาณ 10 ครั้ง
00:21:40 → 00:21:43 เช้ากลางวันเย็นนะครับอันเนี้ยจะช่วย
00:21:43 → 00:21:45 เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขาได้ดี
00:21:45 → 00:21:48 นะครับซึ่งก็จะทำให้อาการปวดเข่าลดน้อยลง
00:21:48 → 00:21:50 ด้วยอันนี้ก็จะเป็นตัวอย่างของ stic
00:21:50 → 00:21:52 Exercise ที่สามารถช่วยได้จริงๆมีอีก
00:21:52 → 00:21:55 หลาย static Exercise ที่ตามทำให้กล้าม
00:21:55 → 00:21:57 เนื้อแขนดีทำให้กล้ามเนื้อคอดีนะครับก็จะ
00:21:57 → 00:22:00 มีแตกต่างกันไปสามารถศึกษาได้กับอ่าแพทย์
00:22:00 → 00:22:04 กายภาพลำบาดหมอวิทยาศาสตร์ฟื้นฟูหรือว่า
00:22:04 → 00:22:06 ศึกษาได้ตามอินเทอร์เน็ตหลายๆแหล่งครับ
00:22:06 → 00:22:09 เพราะว่าก็จะมีแนะนำอยู่ทั่วๆไปครับผมอื
00:22:09 → 00:22:11 ก็นี่ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่เป็น
00:22:11 → 00:22:14 ประโยชน์กับกล้ามเนื้อของเราอ่าไปช่วย
00:22:14 → 00:22:17 ส่วนตงๆนะครับให้สามารถใช้การใช้งานได้ดี
00:22:17 → 00:22:20 ขึ้นยืดอายุการใช้งานได้มากยิ่งขึ้นนะฮะ
00:22:20 → 00:22:23 เออครับมีคำถามเพิ่มเติมมั้ยให้อยู่อจาก
00:22:23 → 00:22:25 ทางบ้านพอดีมีคุณผู้ฟังเนี่ยค่ะถามแบบ
00:22:25 → 00:22:26 เนี่ยอย่างที่คล้ายๆกับที่อาจารย์เพิ่ง
00:22:26 → 00:22:29 บอกไปเลยอ่ะค่ะว่าผู้สูงอายุค่ะใช้การออก
00:22:29 → 00:22:31 กำลังกายให้เป็นประโยชน์กับกล้ามเนื้อ
00:22:31 → 00:22:33 เนี่ยควรใช้วิธีไหนคะก็คืออันเมื่อกี้
00:22:34 → 00:22:36 ครับอืก็ก็ก็อย่างที่อธิบายเมื่อกี้ครับ
00:22:36 → 00:22:39 ของของผู้สูงอายุเนี่ยคือบังเอิญอ่าอัน
00:22:39 → 00:22:41 นี้ผมออกตัวไว้ก่อนว่าผมไม่ใช่หมอชตะื้นู
00:22:41 → 00:22:45 นะครับผมอาจจะไม่ใช่ไม่ใช่หมอส Medicine
00:22:45 → 00:22:48 ที่แนะนำได้แบบคเียทีเดียวแต่ว่าอผมเนี่ย
00:22:48 → 00:22:51 ก็จะพอแนะนำเบื้องต้นได้ในฐานะที่ดูคนไข้
00:22:51 → 00:22:54 สูงอายุแล้วก็มีคนไข้สมองเสื่อมด้วยเนี่ย
00:22:54 → 00:22:56 ก็คือที่ผมจะแนะนำส่วนมากก็คือจะเป็นพวก
00:22:56 → 00:22:59 เนี่ยครับออกกำลังกายรถเข่าเสื่อมนะครับ
00:22:59 → 00:23:02 ที่เป็นออกกำลังกายหยยืดเยียดก้ำจะต้นขา
00:23:02 → 00:23:04 นะครับอีกอันนึงที่อาจจะช่วยได้คือพวก
00:23:04 → 00:23:07 Balance Exercise Balance เซอร์สนี่
00:23:07 → 00:23:09 คือการออกกำลังกายที่เน้นการส่งตัวนะครับ
00:23:09 → 00:23:12 บางทีเราอาจจะเคยเห็นตอนเย็นๆบ่อยๆมั้ย
00:23:12 → 00:23:15 ครับที่รวมกลุ่มกันอาจจะหน้าสำนักงานหน้า
00:23:15 → 00:23:19 ที่ทำงานที่มีการรำไทยเก๊กหรือว่ากำลกาย
00:23:19 → 00:23:22 แอโรบิกเบาๆนะครับเอ่อพวกไทยเกกอะไรพวก
00:23:22 → 00:23:24 เนี้ยมันจะมีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อแต่
00:23:24 → 00:23:27 มันจะสร้างการทรงตัวด้วยถ้าทำให้หักโหม
00:23:27 → 00:23:29 เกินไปอันนี้จุดเน้นของผมเลยคืออย่าหักผม
00:23:29 → 00:23:32 เกินไปถ้าไม่หักผมเกินไปเนี่ยมันจะสร้าง
00:23:32 → 00:23:34 การทรงตัวที่ดีซึ่งพอมันสร้างการทรงตัว
00:23:34 → 00:23:37 ที่ดีเสร็จปุ๊บเนี่ยทำให้ผู้สูงอายุคน
00:23:37 → 00:23:39 นั้นเนี่ยความเสี่ยงในการเดินและโลมง่าย
00:23:39 → 00:23:42 จะต่ำนะครับก็คือความแข็งแรงถูกสร้างละ
00:23:42 → 00:23:45 จากการยืดเหยียดนะครับสร้าง Balance
00:23:45 → 00:23:48 เซอร์สด้วยการทรงตัวดีพอแข็งแรงดีทรงตัว
00:23:48 → 00:23:51 ดีโอกาสล้มก็น้อยลงครับพอล้มน้อยเนี่ยทุก
00:23:51 → 00:23:54 อย่างก็ดีขึ้นมาครับการเดินก็คล่องนะครับ
00:23:54 → 00:23:58 แล้วก็ทำกิจวัตประจำวันได้สะดวกครับผมอื
00:23:58 → 00:24:00 อืมเอออันนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทาง
00:24:00 → 00:24:04 นะครับเออในการที่จะใช่ถ้าหากใครที่อาจจะ
00:24:04 → 00:24:07 รู้สึกว่าเอออาจจะประสิทธิภาพของร่างกาย
00:24:07 → 00:24:10 ตัวเองอาจจะทำอะไรได้ไม่มากเนาะเออนะฮะอ
00:24:10 → 00:24:14 เออมีอีก1ึคำถามฮะคุณหมอครับอันนี้น่า
00:24:14 → 00:24:17 จะสงสัยกันมาเหมือนกันทำงานบ้านเฉยๆนี่
00:24:17 → 00:24:19 ถือว่าเป็นการออกกำลังกายได้มั้ยครับคุณ
00:24:19 → 00:24:21 หมอฮะเออใช่ค่ะอาจารย์เพราะว่าคนส่วนใหญ่
00:24:21 → 00:24:23 บอกว่าถ้าสมมุติว่าสมองเสิร์ฟเนี่ยอย่า
00:24:23 → 00:24:26 ให้แบบหยุดอ่าทำอาหารเพราะบอกว่าการทำกับ
00:24:26 → 00:24:28 ข้าวเนี่ยมันเป็นช่วยการฝึกคิดแล้วก็วาง
00:24:28 → 00:24:32 แผนแก้ไขปัญหาสมมุติหม้อไหม้น้ำไม่พอเออ
00:24:32 → 00:24:35 อันนี้เค็มไปอะไรเงี้ยมันมันใช่จสูตรอะไร
00:24:35 → 00:24:38 เงี้เออเออมันมันด้วยหรือเปล่าคะอันนี้คำ
00:24:38 → 00:24:40 ถามที่ดีครับจริงๆอยากจะพูดเหมือนกันบางเ
00:24:40 → 00:24:42 มีเวลาเพราะก็ดีเลยครับก็คือมีครับ
00:24:42 → 00:24:45 อาจารย์ครับเชิญได้เลยฮะบางบางทีการออก
00:24:45 → 00:24:47 กำลังเนี่ยบางทีเนี่ยมันไม่ใช่แค่การออก
00:24:47 → 00:24:49 กำลังกายอย่างเดียวฮะถ้าสมมุติว่าการออก
00:24:49 → 00:24:53 กำลังมีการใช้ทักษะของสมองร่วมด้วยนะครับ
00:24:53 → 00:24:56 อย่างเช่นโอเคจริงๆทำงานบ้านเนี่ยถ้าเป็น
00:24:56 → 00:25:00 เราๆนะครับคนอายุไม่ได้เยอะมากเนี่ยถ้าือ
00:25:00 → 00:25:02 ว่ามันช่วยหัวใจเต้นเยอะมั้ยออกทำงานบ้าน
00:25:02 → 00:25:05 มันไม่ได้เหนื่อยมากครับมันก็สู้วิ่งไม่
00:25:05 → 00:25:08 ได้อยู่ละมันก็ถ้าสมมุติว่าเราคาดหวังว่า
00:25:08 → 00:25:10 จะให้เลสูบผีดีหวังจะวิ่งเพะลดน้ำหนัก
00:25:10 → 00:25:12 จริงๆเนี่ยการทำงานบ้านมันไม่พออีกแล้ว
00:25:12 → 00:25:15 แต่ว่าสำหรับผู้สูงอายุเองที่ผมเน้นครับ
00:25:15 → 00:25:17 ว่าการออกกำลังแม้เพียงเล็กน้อยเนี่ยจริง
00:25:17 → 00:25:19 ๆก็มีประโยชน์แล้วนะครับเพราะฉะนั้นการทำ
00:25:19 → 00:25:22 งานบ้านเนี่ยก็มีประโยชน์ละทีนี้ถ้าถาม
00:25:22 → 00:25:25 ว่าการทำงานบ้านและใช้ทักษะมันช่วยใน
00:25:25 → 00:25:27 เรื่องสมองได้มช่วยเยอะเลยครับเพราะว่า
00:25:27 → 00:25:30 การทำงานบ้านเนี่ยบางครั้งเราก็ต้องวาง
00:25:30 → 00:25:32 แผนว่าจะทำยังไงถูกมั้ยครับอันนึงที่ง่าย
00:25:32 → 00:25:35 ๆเลยก็คืออ่าการทำอาหารเนี่ยยกที่ยกตัว
00:25:35 → 00:25:38 อย่างง่ายๆโอเคครับทำอาหารเนี่ยมันไม่ได้
00:25:38 → 00:25:41 เหนื่อยมากอยู่ละมันอาจจะไม่ได้กับเป็นบิ
00:25:41 → 00:25:43 Exercise อะไรมากแต่ว่ามันเป็นการ
00:25:43 → 00:25:46 กระตุ้นสมองครับผู้สูงวัยเนี่ยถึงจะมี
00:25:46 → 00:25:48 สมองเสื่อมแล้วนะครับหรือบางคนที่ยังไม่
00:25:48 → 00:25:51 มีสมองเสื่อมเนี่ยการกระตุ้นให้มีกิจกรรม
00:25:51 → 00:25:54 ที่ฝึกสมองอยู่ตลอดเวลานะครับไม่ว่าจะ
00:25:54 → 00:25:57 เป็นการทำงานบ้านนะครับบางคนแค่หั่นผัก
00:25:57 → 00:26:00 หรืออะไรพวกนี้ง่ายๆเลยครับหรือว่าบางคน
00:26:00 → 00:26:02 ก็จะต้องมานั่งนึกถูกมั้ยครับว่าวันนี้จะ
00:26:02 → 00:26:04 ปรุงแกงสักคันนึงนะครับต้องใส่ส่วนผสม
00:26:04 → 00:26:07 อะไรก่อนต้องปรุงขนาดไหนต้องก่าระยะนะ
00:26:07 → 00:26:10 ครับซักผ้าเองก็ต้องมีลำดับถูกมั้ยครับ
00:26:10 → 00:26:12 ว่าใส่ผ้าสีไหนก่อนกดกลุ่มไหนถูกมั้ยครับ
00:26:12 → 00:26:15 ซึ่งอันเนี้ยมันเป็นการฝึกให้ผู้สูงอายุ
00:26:15 → 00:26:18 ได้ใช้สมองตลอดเวลาแม้เาจะเริ่มมีสมอง
00:26:18 → 00:26:20 เสื่อมบางส่วนละเราก็ควรจะให้เขาทำเองถ้า
00:26:21 → 00:26:24 เขายังทำได้แต่เราแค่ส่อส่องดูแลเอย่าให้
00:26:24 → 00:26:26 เคทำผิดจนเป็นอันตรายนะครับแต่พยายาม
00:26:27 → 00:26:29 ปล่อยให้เคทำเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะ
00:26:29 → 00:26:32 เป็นไปได้นะครับอันเนี้ยจะเป็นการฝึกการ
00:26:32 → 00:26:35 ใช้ร่างกายการใช้ทักษะตามสมองการวางแผนก็
00:26:35 → 00:26:38 มีข้อมูลชัดเจนครับว่ากลุ่มที่ทำพวกนี้
00:26:38 → 00:26:40 มากเนี่ยกับกลุ่มที่ไม่ทำอะไรเลยนะครับ
00:26:40 → 00:26:43 กลุ่มที่ทำกิจกรรมพวกนี้มากเนี่ยโอกาสที่
00:26:43 → 00:26:45 สมองจะเตื่อมถอยเนี่ยน้อยลงอยู่แล้วนะ
00:26:45 → 00:26:47 ครับเพราะฉะนั้นอันเนี้ยก็จะมีประโยชน์นะ
00:26:47 → 00:26:50 ครับการออกกำลังกายเนี่ยบางทีการวิ่งการ
00:26:50 → 00:26:52 ออกเอ้ยการออกไปเดินเร็วนอกบ้านอะไร
00:26:52 → 00:26:54 ประมาณเนี้ยก็ทำให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาส
00:26:54 → 00:26:58 ผ่อนคลายเพราะว่าได้ไปเจอเพื่อนไว้เดียว
00:26:58 → 00:27:01 กันที่อาจจะออกมาเดินเร็วร่วมกันนะครับ
00:27:01 → 00:27:04 ได้เจอบรรยากาศที่ถ้าถ้าอากาศดีหน่อยนะ
00:27:04 → 00:27:09 ครับได้เจอได้เจออ่าได้เจอเหมือนกับอาจจะ
00:27:09 → 00:27:12 เป็นสภาพแวดล้อมที่ดีนะครับได้เจอแบบผู้
00:27:12 → 00:27:15 คนนะครับอันเนี้ยก็ช่วยทั้งเรื่องสุขภาพ
00:27:15 → 00:27:18 สมองแล้วก็สุขภาพจิตด้วยนะครับทำให้
00:27:18 → 00:27:22 สุขภาพใจสบายพอสุขภาพจิตดีสมองก็ดีไปด้วย
00:27:22 → 00:27:25 นะครับเพราะฉะนั้นการทำกิจกรรมจะกระตุ้น
00:27:25 → 00:27:28 สมองการออกกำลังกายและมีการกระตุ้นสมอง
00:27:28 → 00:27:30 ร่วมด้วยไม่หักโหเกินไปมีประโยชน์แน่นอน
00:27:30 → 00:27:33 ครับอืเออค่ะอาจารย์เคยได้ยินอันเนี้ยค่ะ
00:27:33 → 00:27:35 ไม่รู้ว่ามันถูกต้องหรือเปล่าเขาบอกว่า
00:27:35 → 00:27:39 ถ้าเราอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิมๆเราก็จะทำ
00:27:39 → 00:27:41 ทักด้วยทักษะเดิมของเราแต่ว่าถ้าเรา
00:27:41 → 00:27:44 สมมุติว่าเราไปเปลี่ยนสถานที่ใหม่สมมุติ
00:27:44 → 00:27:45 ไปเจอท่องเที่ยวอย่างที่เมื่อกี้อาจารย์
00:27:45 → 00:27:48 บอกค่ะได้พบปากพูดคุยกับคนอื่นเนี่ยทำให้
00:27:48 → 00:27:51 ชุดความคิดจากที่ถามว่าไปตลาดเป็นยังไง
00:27:51 → 00:27:53 บ้างซื้ออะไรบ้างก็จะเป็นเดิมๆแต่ถ้าเรา
00:27:53 → 00:27:56 ไปถามว่าเราไปเที่ยวตรงอื่นแล้วปรากฏร้าน
00:27:56 → 00:27:58 นี้ไม่มีมันจะมีประโยคที่ยาวมามากขึ้น
00:27:58 → 00:28:00 อย่างเงี้ยค่ะหรือฝึกให้เขาคิดว่าถ้า
00:28:00 → 00:28:03 สมมุติของอันนี้หมดเราต้องไปซื้อตรงไหน
00:28:03 → 00:28:04 ตรงนี้มันจะช่วยกระตุ้นความคิดหรือ
00:28:04 → 00:28:07 เปลี่ยนทักษะหรือว่าเหมือนว่าให้เขาตื่น
00:28:07 → 00:28:10 เต้นมันจะช่วยลดเรื่องของอ่าสมองเสื่อมม
00:28:10 → 00:28:14 คะอาจารย์ก็ช่วยครับเพราะว่าก็คือคนที่
00:28:14 → 00:28:16 อยู่เฉยๆอย่างที่อธิบายฮคนที่อยู่เฉยๆไม่
00:28:16 → 00:28:20 ทำอะไรเนี่ยแย่กว่าคนที่ทำกิจกรรมเยอะ
00:28:20 → 00:28:22 อยู่แล้วครับถ้าผู้สูงวัยยังช่วยงานได้
00:28:23 → 00:28:25 บางทีเนี่ยไซตของคนไทยเราจะรู้สึกว่าผู้
00:28:25 → 00:28:30 สูงวัยควรจะอยู่เฉยๆอยู่กับบ้านูใช่จริงๆ
00:28:30 → 00:28:32 แล้วเนี่ยคือเราควรจะเน้นครับว่าทักษะ
00:28:32 → 00:28:36 อะไรก็ตามที่เยังทำได้ควรให้เาทำต่อนะ
00:28:36 → 00:28:39 ครับแค่เราคอยสอดส่องเสมอว่าอย่าให้มัน
00:28:39 → 00:28:43 ผิดพลาดหรือว่าอย่าให้มันเสียหายอย่าเป็น
00:28:43 → 00:28:45 อันตรายนะครับเช่นถ้าสมมุติว่าเ้ายังไป
00:28:45 → 00:28:48 ซื้อของได้เนี่ยบางคนก็จะรู้สึกว่าโอ๊ย
00:28:48 → 00:28:51 แม่ไม่ต้องซื้อแล้วแม่แก่แล้วเดินทางออก
00:28:51 → 00:28:54 ไปลำบากจริงๆแล้วถ้าเราประเมินแล้วว่าเ้า
00:28:54 → 00:28:56 ไม่เป็นอันตรายเขาไม่ได้แย่มากไม่ได้จะไป
00:28:56 → 00:29:00 เดินแล้วล้มนอกบ้านเคยไปซื้อของได้พยายาม
00:29:00 → 00:29:02 ให้เค้าไปซื้อเถครับเพราะว่า 1 มันเป็น
00:29:02 → 00:29:05 การเพิ่มทักษะของเค้าเค้าสามารถไปซื้อของ
00:29:05 → 00:29:07 เค้าจดจำสิ่งที่จะซื้อได้เสามารถทอนเงิน
00:29:07 → 00:29:10 ได้คิดคำนวณถูกต้องอันที่ 2 นะครับมันอัน
00:29:10 → 00:29:13 นี้อันนี้อาจจะสำคัญกว่าข้อแรกด้วยำคือ
00:29:13 → 00:29:17 มันสร้างความรู้สึกที่ดีครับว่าเค้ายังมี
00:29:17 → 00:29:20 ประโยชน์คือมันสร้างความรู้สึกที่รู้สึก
00:29:20 → 00:29:22 ว่าเ้ายังมีประโยชน์ต่อคนในครอบครัวสร้าง
00:29:22 → 00:29:25 ความรู้สึก S esteem ที่ดีอ่ะครับก็คือ
00:29:25 → 00:29:29 รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่านะครับตัวเอง
00:29:29 → 00:29:33 ู้สงที่ทำอะไไม่นะครับการที่ยังรู้สึกว่า
00:29:33 → 00:29:36 ตัวเองมีคุณนี่แหลครับจะทำให้สุขภาพจดี
00:29:36 → 00:29:39 แล้วก็ทำให้บรรยากาศในครอบครัวเองก็ดี
00:29:39 → 00:29:41 ด้วยครับเพราะว่าก็คือเขาก็รู้สึกว่าตัว
00:29:41 → 00:29:44 เองอยู่กับคนในครอบครัวได้แบบมีคุณค่า
00:29:44 → 00:29:47 สามารถมีประโยชน์ในครอบครัวช่วยช่วยหลาน
00:29:47 → 00:29:49 ช่วยลูกได้เนี่ยครับอันนี้ก็จะเป็นส่วน
00:29:49 → 00:29:53 ที่ดีเช่นกันอใช่พสผู้สูนยุสชอบคิดว่าตัว
00:29:53 → 00:29:56 เองมีค่ายาค่าหมอจะเกรงใจลูกแต่ว่าถ้าเขา
00:29:56 → 00:29:59 คือสรุปคือเราต้องใช้พ่อใช้แม่ให้ทำอย่าง
00:29:59 → 00:30:02 อื่นช่วยเหลือตัวเองไปแต่เราแค่จับตาดู
00:30:02 → 00:30:04 เหมือนว่าเหมือนจะแบบไม่ได้ช่วยซะในทีแต่
00:30:04 → 00:30:07 ว่าฉันกำลังเฝ้ามองคุณอยู่นะเงี้ยใช่มั้ย
00:30:07 → 00:30:10 คะอาจารย์ต้องให้เขาทำเองบ้างครับผมครับ
00:30:10 → 00:30:13 ผมเน้นให้เค้าทำเองครับเน้นให้เขาพยายาม
00:30:13 → 00:30:17 ทำทักษะที่เขายังทำได้ถ้าเายังทำงานได้
00:30:17 → 00:30:20 บางคนยังอาจจะให้แบบขายของอะไรพวกนี้ง่าย
00:30:20 → 00:30:23 ๆครับเล็กๆน้อยๆอาจจะมีถูกบ้างผิดบ้างนะ
00:30:23 → 00:30:26 ครับตามคนที่หลงลืมมากขึ้นแต่ว่าเราก็คอย
00:30:26 → 00:30:29 ส่อส่องดูแลอยู่ห่างนะครับเคจะมีความภูมิ
00:30:29 → 00:30:33 ใจในอาชีพที่เเคยทำเยังรู้สึกว่าเนี่ยต่อ
00:30:33 → 00:30:35 ให้ชั้น 60 70 แล้วเนี่ยฉันยังขายของได้
00:30:35 → 00:30:38 นะฉ่านยังช่วยลูกขายได้ถึงแม้ว่ากิจการ
00:30:38 → 00:30:40 ฉันจะให้ลูกเป็นคนดูแล้วเนี่ยเค้าจะรู้
00:30:40 → 00:30:42 สึกมีความสุขครับอันเนี้ยเป็นส่วนที่
00:30:42 → 00:30:44 สำคัญที่สุดเอออันอันเนี้ยจริงๆนะเพราะ
00:30:44 → 00:30:47 ว่าส่วนผู้สูงยุส่วนใหญ่บางคนชอบแบบบ่น
00:30:47 → 00:30:49 แล้วแบบเอ๊ตื่นมาทำอะไรต้องพึ่งลูกพึ่ง
00:30:49 → 00:30:52 หลานเบื่อจังเลยเชอบพูดอย่างเงี้ยจรงๆเออ
00:30:52 → 00:30:55 เข้าใจว่าคนเคยหาเงินไงหาเงินให้เราตอน
00:30:55 → 00:30:58 ไมู่้จะทำอะไรอะไรอย่างเงี้ยเออเออครับ
00:30:58 → 00:31:00 แล้วตอย่างเงี้ยค่ะอาจารย์อย่างงี้เวลา
00:31:00 → 00:31:02 แก้ปัญหาในเรื่องของการสร้างความภาคภูมิ
00:31:02 → 00:31:05 ใจให้กับแบบให้เขามีคุณค่าในตัวเองเนี่ย
00:31:05 → 00:31:07 ตรงเนี้ยแก้ยากยคะในครอบครัวแบบที่
00:31:07 → 00:31:09 อาจารย์เผชิญเกี่ยวกับเรื่องของสมอง
00:31:09 → 00:31:13 เรื่องอะไรอย่างเงี้ยค่ะครับจากประสบด้าน
00:31:13 → 00:31:16 ที่เจอมานะครับคือเป็นอันที่ผมบอกเลยว่า
00:31:16 → 00:31:20 50 50 ผมจะเจอทั้งครอบครัวที่อ่า
00:31:20 → 00:31:23 กระตุ้นเต็มที่นะครับคือบางทีเนี่ยจริงๆ
00:31:23 → 00:31:26 หน้าที่ของหมอในสายที่ดูสมองเสื่อมแบบผมอ
00:31:26 → 00:31:28 ครับจริงๆบางครั้งเนี่ยผมผมพูดตรงๆเลยคือ
00:31:28 → 00:31:30 ผมอาจจะไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้เพราะว่า
00:31:31 → 00:31:33 สมองเสื่อมเนี่ยหลายครั้งหลายโรคนะครับ
00:31:33 → 00:31:37 ที่คนไข้อาจจะเสื่อมมากแล้วนะฮะครับอ่า
00:31:37 → 00:31:39 บางครั้งในการใช้ยาไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
00:31:39 → 00:31:42 นะครับการแต่ปรากฏว่าการดูแลของครอบครัว
00:31:42 → 00:31:46 เนี่ยครับการดูแลของลูกของหลานของคนใกล้
00:31:46 → 00:31:48 ชิดบางครั้งอยู่ในรูกของผู้ดูแลนะครับไม่
00:31:48 → 00:31:50 จำเป็นต้องเป็นคนในครอบครัวก็ได้ผู้ที่ดู
00:31:50 → 00:31:52 แลใกล้ชิดเค้าเนี่ยซึ่งบางครั้งอาจจะเป็น
00:31:52 → 00:31:55 คนที่มาช่วยคนในครอบครัวดูเนี่ยอันเนี้ย
00:31:55 → 00:31:59 อาจจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดผมเจอตั้งแต่
00:31:59 → 00:32:02 ครอบครัวที่สามารถดูแลได้ดีมากนะครับซึ่ง
00:32:02 → 00:32:04 ทำให้อาการสมองเสื่อมบางคนนี่คือเข้าสู่
00:32:04 → 00:32:07 ระยะที่รุนแรงมากแล้วนะครับแต่สามารถปลด
00:32:07 → 00:32:10 ปล่อยให้มันเบาลงไปได้เพราะว่าการช่วยกัน
00:32:10 → 00:32:12 ดูแลของคนในครอบครัวหลายๆคนนะครับ
00:32:12 → 00:32:15 อันเนี้ยก็จะเป็นปัจจัยสำคัญอันนึงเลยแต่
00:32:15 → 00:32:18 ว่าผมก็เจอตั้งแต่อีกแบบนึงเลยก็คืออาจจะ
00:32:19 → 00:32:22 เป็นคนในครอบครัวไม่มีเวลาดูแลมีคนดูแล
00:32:22 → 00:32:24 แค่คนเดียวนะครับึคนดูแลคนเดียวต้องดูแล
00:32:24 → 00:32:26 ตลอด 24 ชั่วโมงเพราะว่าผู้ป่วยเริ่มมี
00:32:26 → 00:32:29 อาการรุนแรงแล้วนะครับบางทีไม่มีคนสับ
00:32:29 → 00:32:31 เสี่ยนเลยหรือมีคนสับเสี่ยนอาจจะไม่เข้า
00:32:31 → 00:32:35 ใจกันมีปัญหาในครอบครัวอันเนี้ยผมบอกเลย
00:32:35 → 00:32:39 ว่าเกือบ 100% ถ้าซีนแบบนี้เกิดขึ้นเนี่ย
00:32:39 → 00:32:42 สมองเสียบคนไข้จะแย่ลงแล้วปัญหาการดูแล
00:32:42 → 00:32:44 ปัญหาพฤติกรรมอะไรเนี่ยจะตามมาเยอะมาก
00:32:44 → 00:32:48 ซึ่งผมเลยเน้นเลยครับว่าจริงๆแล้วเนี่ย
00:32:48 → 00:32:51 ถ้ามีผู้ดูแลเนี่ยควรจะมีผู้ดูแลไม่ใช่
00:32:51 → 00:32:53 แค่คนเดียวนะครับควรจะมีผู้ดูแลหลายๆคนคน
00:32:53 → 00:32:56 ในครอบครัวควรช่วยร่วมกันดูแลหลายๆคน
00:32:56 → 00:32:59 เพราะว่าถ้าช่วยกันการดูแลดีเนี่ยยาเนี่ย
00:32:59 → 00:33:02 มีความสำคัญน้อยมากครับการดูแลของคนใน
00:33:02 → 00:33:04 ครอบครัวเนี่ยเป็นปัจจัยหลักเลยที่ทำให้
00:33:04 → 00:33:09 ประสบความสำเร็จครับผมอืออการดูแลของคนใน
00:33:09 → 00:33:11 ครอบครัวนะใช่มันไม่ใช่แค่กำลังกายมัน
00:33:11 → 00:33:14 ต้องกำลังใจด้วยเนาะเออแบบว่าเออนก็ต้อง 2
00:33:14 → 00:33:17 อย่างคู่กันเอออันนี้อาจจะมีอีกคำถามน่า
00:33:17 → 00:33:19 จะเป็นคำถามสุดท้ายครับคุณหมอครับอันนี้
00:33:19 → 00:33:22 น่าจะเป็นคุณผู้ฟังที่ฟังอยู่ก็สนใจอยาก
00:33:22 → 00:33:25 จะหันมาออกกำลังกายแล้วแหละอ่าถามว่าถ้า
00:33:25 → 00:33:27 ตื่นตอนเช้าเลยอ่าซึ่งเป็นธรรมชาติของผู้
00:33:27 → 00:33:30 สูงอายุนะฮะควรจะต้องทานอะไรรองท้องก่อน
00:33:30 → 00:33:32 มยครับหรือว่าแค่ดื่มน้ำนิดหน่อยก็สามารถ
00:33:32 → 00:33:37 ออกไปเดินออกไปวิ่งเบาๆวิ่งเหยาะๆไปพบเจอ
00:33:37 → 00:33:40 ผู้คนอย่างที่คุณหมอแนะนำเนี่ยได้มั้ยฮะ
00:33:40 → 00:33:43 อันนี้อันนี้ต้องยอมรับเลยครับว่าสูตรการ
00:33:43 → 00:33:46 ออกกำลังกายนี่ค่อนข้างจะแล้วแต่คนครับ
00:33:46 → 00:33:48 แต่ว่าคำแนะนำในปัจจุบันนะครับก็คือ
00:33:48 → 00:33:50 อันเนี้ยต้องดูโรคประจำตัวอีกแหละเพราะ
00:33:50 → 00:33:53 ว่าต้องดูว่าคนนนั้นน่ะแข็งแรงมากแค่ไหน
00:33:54 → 00:33:56 ครับบางคนที่เป็นเบาหวานนะครับบางคนที่
00:33:56 → 00:33:59 เป็นเบาหวานผมยตัวอย่าง่ายๆอาจจะต้องอาจ
00:33:59 → 00:34:02 จะกินยาเบาหวานก่อนกินข้าวอะไรประมาณเนะ
00:34:02 → 00:34:05 ครับหรือว่าอกินยาเบาหวานมาตอนเย็นเมื่อ
00:34:05 → 00:34:08 วานละแล้วไม่ได้กินอะไรเลยตอนกาทืนตื่น
00:34:08 → 00:34:11 เช้ามาถ้าไม่กินอะไรเลยแล้วไปวิ่งผมมั่น
00:34:11 → 00:34:14 ใจครับว่าความเสี่ยงในการสลบข้างทางสูงบ
00:34:14 → 00:34:16 น้ำตาลต่ำนะครับเพราะว่าเเป็นเบาหวานที่
00:34:16 → 00:34:18 กินยาเบาหวานอยู่เพราะฉะนั้นคำถามเนี้ย
00:34:18 → 00:34:21 เ่อผมต้องยอมรับเลยว่าไม่มีคำถามที่เป็น
00:34:21 → 00:34:24 Universal คือไม่มีไม่มีเป็นโจทย์สากล
00:34:24 → 00:34:27 สำหรับทุกคนนะครับเพราะว่าต้องมีปัจจัย
00:34:27 → 00:34:29 ตั้งแต่คคนนั้นออกกำลังกายสม่ำเสมอมั้ย
00:34:29 → 00:34:32 อายุประมาณเท่าไหร่โรคประจำตัวเป็นยังไง
00:34:32 → 00:34:34 ครับแต่ในกรณีเยสมมุติว่าถ้าเป็นคนที่ออก
00:34:34 → 00:34:36 กำลังกายสม่ำเสมอเนี่ยบางคนอาจจะไม่ต้อง
00:34:36 → 00:34:39 กินอะไรเลยไปลุได้เลยก็ได้ครับอันนี้สบาย
00:34:39 → 00:34:42 ๆแต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ออกสม่ำเสมอเนี่ย
00:34:42 → 00:34:45 ผู้สูงอายุแล้วเนี่ยมันก็มีคำแนะนำในยุค
00:34:45 → 00:34:47 นี้ครับว่าจริงๆแล้วกินอะไรรองท้องไว้สัก
00:34:47 → 00:34:50 นิดนึงก็ดีบางคนอาจจะเคยได้ยินเป็นสนคอ่ะ
00:34:50 → 00:34:52 ครับคล้ายๆกับว่าเป็นพวกแบบช็อกโกแลตแท่ง
00:34:53 → 00:34:56 หรือว่าพาเวอร์บารหรือว่าเป็นขนมเบาๆที่
00:34:56 → 00:34:59 เพิ่มน้ำตาลสักนิดนึงเพราะว่าเวลาเราวิ่ง
00:34:59 → 00:35:02 ช่วงแรกอ่ะครับมันจะพอใช้มันจะใช้น้ำตาล
00:35:02 → 00:35:04 ไปอยู่ในกระแสเลือดเราก่อนครับบางครั้งเ
00:35:04 → 00:35:06 ถ้าสมมุติว่าเราเริ่มวิ่งแล้วน้ำตาลเรา
00:35:06 → 00:35:08 ต่ำมากอย่างเช่นอย่างที่กรณีอย่างที่ผม
00:35:08 → 00:35:11 แนะนำเสนอไปคือเบาหวานแล้วแบบกินยาเบา
00:35:11 → 00:35:13 หวานแล้วไม่ได้กินอะไรเลยตลอดตอนเช้า
00:35:13 → 00:35:15 เนี่ยอ่าร่างกายเราไม่ไหวครับมันล้าครับ
00:35:16 → 00:35:18 เพราะว่าร่างกายมีน้ำตาลในเลือดต่ำมาก
00:35:18 → 00:35:20 เฉพาะช่วงนั้นนะครับเพราะฉนั้นการกินอะไร
00:35:20 → 00:35:24 เบาๆแนคบารหรือว่าบางคนอาจจะแบบแต่ๆเน้น
00:35:24 → 00:35:26 นะครับว่าอย่ากินเยอะเกินไปกล้วย
00:35:26 → 00:35:29 ช็อกโกแลตแท่งเบาๆแต่กล้วยอย่ากินหมายถึง
00:35:29 → 00:35:30 ว่าไม่ต้องกินมากนะครับไม่ต้องกินแบบหลาย
00:35:30 → 00:35:33 ฝนเกินช็อกโกแลตพาเวอร์บารหรือว่า
00:35:33 → 00:35:36 ช็อกโกแลตแท่งเบาๆหรือขนมเล็กๆน้อยๆนะ
00:35:36 → 00:35:39 ครับไม่ให้จุกเกินไปไม่ให้จุกเกินไปเ
00:35:39 → 00:35:42 เดี๋วจะเดินหรือออกกำลังวิ่งไม่ได้นะครับ
00:35:42 → 00:35:44 อันเนี้ยก็ช่วยให้น้ำตาลมันฟูขึ้นมาพอน้ำ
00:35:44 → 00:35:46 ตาลมันฟูขึ้นมาเสร็จปุ๊บเนี่ยเราก็จะมี
00:35:46 → 00:35:50 แรงออกกำลังละนะครับอืก็นี่คือว่าคำแนะนำ
00:35:50 → 00:35:54 นะจากคุณหมอนะครับวันนี้เรียกว่าเราได้
00:35:54 → 00:35:57 โอ้โหกำลังใจนะเรียกว่าแล้วก็ถือว่าเป็น
00:35:57 → 00:36:00 เป็นนำแบบรอบด้านสิ่งที่พอจะกระตุ้นให้
00:36:00 → 00:36:03 ใครหลายๆคนเนี่ยหันมาใส่ใจสุขภาพร่างกาย
00:36:03 → 00:36:05 ของตัวเองโดยเฉพาะเรื่องของการออกกำลัง
00:36:05 → 00:36:08 กายนอกจากจะทำให้สุขภาพองค์รวมเนี่ยมันดี
00:36:08 → 00:36:11 ขึ้นและแน่นอนว่ามันส่งผลกระทบไม่มันส่ง
00:36:11 → 00:36:13 ผลต่อต่อเรื่องของสมองเรื่องของความจำ
00:36:13 → 00:36:16 ด้วยวันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะ
00:36:16 → 00:36:17 ครับที่มาให้ความรู้กับเราในค่ำคืนวันนี้
00:36:17 → 00:36:20 นะครับคุณหมอครับค่ะขอบพระคุณค่ะอาจารย์
00:36:20 → 00:36:22 ครับขอบพระคุณมากๆครับคุณหมอครับสวัสดีนะ
00:36:22 → 00:36:25 ครับครับค่ะสวัสดีค่ะครับผมสวัสดีครับ
00:36:25 → 00:36:28 สวัสดี